<<บัลลังก์รักใต้เงาแค้น >>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <<บัลลังก์รักใต้เงาแค้น >>  (อ่าน 129665 ครั้ง)

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
รอออออออฟ้าฟื้นนนนนนนน

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                            บัลลังก์รักใต้เงาแค้น

                                                                    บทที่  21


               “ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้”


               ฟ้าฟื้นอับอายผู้คนที่เดินผ่านไปมาเหลือเกินเมื่อเดินเข้าสู่เขตชุมชน ข้อมือที่ถูกจับมัดและลากจูงโดยเพชรกล้าต่างทำให้

ผู้คนพากันเหลียวมอง แต่เพชรกล้าก็ยังทำเป็นหูทวนลมลากเขามาจนถึงประตูรั้วกว้างที่ด้านในเป็นบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง เมื่อเพชรกล้า

พาเขาเดินผ่านเข้าไปฟ้าฟื้นจึงเห็นว่าภายในมีผู้คนมากมายกำลังจับกลุ่มพักผ่อนกันในยามค่ำ และเมื่อพวกเขาเห็นเพชรกล้าทุกคนต่างก็

ลุกทำความเคารพ สายตาของทุกคนเต็มไปด้วยความสงสัยเมื่อมองมายังเขา


               “ที่นี่ที่ไหน”


               “บ้านของข้า”


               ฟ้าฟื้นสะท้อนใจยิ่งนัก บ้านของเพชรกล้าใหญ่โตแถมยังมาบริวารอยู่อาศัยเต็มไปหมด ส่วนฟ้าฟื้นนั้นเล่าไม่มีอะไรสักอย่างที่

ควรคู่กับคนใหญ่คนโตอย่างเพชรกล้า มันเป็นความจริงที่ฟ้าฟื้นต้องยอมรับ หากแต่เขาก็นึกน้อยใจในวาสนาของตนเหลือเกิน


               “เพชร กลับมาแล้วหรือลูก อ้าวแล้วนั่นเด็กที่ไหน แล้วทำไมต้องผูกมัดกันขนาดนี้”


               เพชรกล้าพลันหยุดเท้าทันควันจนฟ้าฟื้นที่เดินตามหลังหยุดไม่ทันจึงชนโครมเข้ากับแผ่นหลังกว้าง ฟ้าฟื้นได้แต่ยกมือคลำ

จมูกของเขาที่กระแทกเข้ากับบ่าของเพชรกล้าที่ยิ้มรับหญิงที่เริ่มเข้าสู่วัยชราคนนั้น


               “กลับมาแล้วจ้ะแม่จ๋า”


               เสียงของเพชรกล้าอ่อนโยนยามเอ่ยกับมารดา ก่อนเขาจะหันใบหน้าเข้มมาหาฟ้าฟื้นที่สะดุ้งโหยงเมื่อสบตาด้วย


               “นี่คุณหญิงเพทายแม่ของข้า”


               ฟ้าฟื้นฝืนยิ้มอ่อนพลางยกมือทำความเคารพหญิงชราที่ยังคงงดงามตามวัย มารดาของเพชรกล้ายิ้มรับแต่ยังคงมองด้วยความ

สงสัยจนเพชรกล้าจำเป็นต้องกล่าวตอบ


               “เด็กดื้อคนนี้ชื่อฟ้าฟื้น มันทำความผิดบางอย่างที่ลูกต้องสอบสวนโดยด่วน ลูกขอเวลาเป็นการส่วนตัวห้ามใครเข้าใกล้ห้อง

ของลูกนะครับแม่”


               “ไม่นะ คุณหญิงขอรับ ได้โปรดช่วยกระผมด้วย”


               ฟ้าฟื้นทำหน้าเหมือนกินยาขม เขาหันไปหามองคุณหญิงเพทายอย่างอ้อนวอนขอความเมตตาจนหญิงชราชักจะสงสาร


                “แล้วมันทำผิดอะไรนักหนาจนต้องผูกโยงกันขนาดนี้เล่าพ่อเพชร พูดจากันดีๆไม่ได้เชียวหรือ”


               “แม่อย่าพูดให้ลูกเห็นใจเลยครับ ถึงอย่างไรลูกก็ต้องสืบสวนหาความจริงจากเจ้าเด็กดื้อคนนี้ให้ได้ อย่าลืมนะครับ ห้ามใคร

เข้าใกล้ห้องของลูกอย่างเด็ดขาด”


               พูดจบเพชรกล้าก็กระตุกเชือกที่พันรั้งข้อมือของฟ้าฟื้นให้เร่งเดินตาม ฟ้าฟื้นได้แต่มองคุณหญิงเพทายตาละห้อยแต่หญิงชรา

ก็ไม่อาจฝืนคำสั่งบุตรชายที่เป็นประมุขของบ้านได้




               ฟ้าฟื้นถูกเหวี่ยงให้เสียหลักเข้าไปยังห้องกว้างห้องหนึ่ง ภายในมีเตียงกว้างสร้างจากไม้เนื้อหนา ฟูกที่ปูอยู่บนเตียงก็หนานุ่ม

อย่างที่ฟ้าฟื้นไม่เคยเห็นมาก่อน หากแต่เวลานี้มิใช่เวลาที่เขาจะมาตื่นเต้นกับสิ่งของหรูหราแปลกตาในเมื่อเจ้าของห้องยืนจังก้าจ้องมอง

เขาอยู่


               “ต่อให้ติดปีก เจ้าก็หนีไม่พ้นหรอกฟ้าฟื้น”


               เจ็บใจนัก

               ฟ้าฟื้นมองใบหน้าคมเข้มคล้ำแดดนั้นด้วยความโมโห เขาจะไม่ยอมลงให้เพชรกล้าโดยง่ายเป็นแน่ คิดได้ดังนั้นฟ้าฟื้นจึงยก

ข้อมือที่ยังถูกพันธนาการไว้ขึ้นมาและโผเข้าใส่ร่างของเพชรกล้า แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะมองออก เพชรกล้าเบี่ยงตัวฉากหนีเพียงแค่นิด

เดียวก่อนจะคว้าร่างของฟ้าฟื้นเอาไว้และเหวี่ยงลงไปบนเตียงกว้างทันที


               “ฤทธิ์มากจริงนะเจ้าโจรกระจอก”


               “กระจอกก็อย่ามายุ่งด้วยสิ โอ๊ย!”


               แขนของฟ้าฟื้นถูกดึงขึ้นไปเหนือศีรษะจนชิดติดกับใบหูทั้งสองข้าง ปลายเชือกที่มัดข้อมือถูกดึงรั้งไปมัดแน่นกับท่อนไม้หัว

เตียงอย่างแน่นหนา ฟ้าฟื้นได้แต่ดิ้นรนไปมาและมองเพชรกล้าที่กำลังกระตุกยิ้มด้วยความเจ็บใจ


               “อยู่ในป่าข้าต้องเป็นเชลยของเจ้า มาบัดนี้เจ้ากลับมาเป็นเชลยของข้า”


               “ไอ้คนเลว”


               ฟ้าฟื้นด่าทอออกไปเป็นชุดด้วยความโมโหระคนน้อยใจ เพชรกล้าถึงกับส่ายหน้าเมื่อต้องนิ่งฟังวาจานั้นจนในที่สุดเขาก็หมด

ความอดทน


               “หุบปากเสียทีฟ้าฟื้น”


               ราชองครักษ์คนสำคัญกระโจนเข้าใส่ เพชรกล้าใช้ปลายนิ้วที่แข็งราวกับเหล็กบีบขากรรไกรของฟ้าฟื้นจนอ้ากว้างและหยุด

เสียงด่าทอนั้นด้วยปากของเขา


               “อื้อ ไอ้ อึก”


               ลิ้นร้อนดันลึกทันทีโดยไม่ต้องอารัมภบท ฟ้าฟื้นแทบสำลักเมื่อถูกตวัดเกี่ยวพันเกือบถึงลำคอแต่เขาไม่อาจปฏิเสธเมื่อปากยัง

ต้องอ้ากว้างเพราะเพชรกล้ายังบีบไว้แน่น จนกระทั่งฟ้าฟื้นเกือบจะหมดลมหายใจที่เก็บกักไว้เพชรกล้าจึงได้ยอมถอดถอนปลายลิ้นเพื่อ

ให้โอกาสเขาผวาดูดกลืนอากาศเข้าปอดอีกครั้ง ฟ้าฟื้นไอออกมาจนน้ำตาไหล


               “จะบอกได้หรือยังว่าทำไมถึงเข้ามาในวัง”


               แม้จะถามเช่นนั้นแต่น้ำเสียงกลับอ่อนลง ดวงตาดุก็อ่อนแสงจนเหลือเพียงประกายวับวามยามก้มมอง ฟ้าฟื้นชักไม่แน่ใจว่า

น้ำตาที่ไหลตอนนี้เป็นเพราะเขาสำลักอากาศหรือเป็นเพราะความรู้สึกอ่อนแอในใจกันแน่


               “ก็บอกแล้วไงว่ามาเป็นทหาร ทำไมไม่ฟังกันบ้าง”


               ฟ้าฟื้นหยุดดิ้นรนเพราะรู้ดีว่าดิ้นไปก็เปล่าประโยชน์ เขาเบือนหน้าหนีเพราะไม่อยากให้เพชรกล้ามองเห็นความรู้สึกจาก

ดวงตาของเขา แต่เพชรกล้าก็ไม่ยอมปล่อยให้ทำเช่นนั้นเมื่อปลายคางของฟ้าฟื้นถูกดึงกลับมาในที่สุด


               “จะบอกดีๆหรือว่าจะให้ข้าทรมานเจ้า หือ ฟ้าฟื้น”


               “ข้าไม่มีอะไรจะบอก”


               “ดีล่ะ เจ้าเด็กปากแข็ง ข้าจะทำให้เจ้าต้องคายความจริงออกมาให้ได้”


               “จะทำอะไร อย่านะ”


               ชุดของทหารใหม่ถูกกระชากทิ้งออกจากตัวทันที เหลือเพียงร่างกายหนั่นแน่นในวัยหนุ่มของฟ้าฟื้นอวดสายตาอยู่ เพชร

กล้ามองตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพึงพอใจก่อนที่เขาจะกระโจนเข้าใส่และฝังจมูกโด่งลงไปกับซอกคอที่เขาโหยหา


               “อา ฟ้าฟื้น”


               “อื้อ อย่า...”


               ทั้งที่รู้ว่าห้ามไม่ได้แต่ฟ้าฟื้นก็ต้องลอง เขาพยายามกลั้นใจมิให้อ่อนไหวไปกับการกระทำของเพชรกล้าแต่ก็หักห้ามใจไม่ได้

จริงๆเมื่อตอนนี้เพชรกล้าสำรวจไปทั่วร่างกายของเขาอย่างเป็นเจ้าของ ไม่เว้นแม้แต่ความเป็นชายก็ตกเป็นของลิ้นร้อนที่ไล้โลมเลียจน

ฟ้าฟื้นสั่นสะท้านไปทั้งตัว


               “อา ได้โปรดเถอะ”


               ฟ้าฟื้นยอมแพ้ในที่สุดเมื่อเพชรกล้ากำลังดึงเขาให้ไต่อยู่ตามทางขึ้นสวรรค์ที่ห่างหายไปเป็นเวลาเนิ่นนาน ตอนนี้ฟ้าฟื้นถึงกับ

หอบลึกพร้อมกับแอ่นกายด้วยความเสียวซ่าน เพชรกล้าส่งเสียงลึกๆอย่างพอใจก่อนจะรีบเร่งจัดการดึงกางเกงของตนเองออกขว้างทิ้ง

เหลือไว้แต่ท่อนกายแข็งแกร่งที่ฟ้าฟื้นรู้ฤทธิ์เดชดีอยู่แล้ว


               “คิดถึงกันบ้างไหมฟ้าฟื้น”


               กระซิบถามเสียงกระเส่าพลางวางมือร้อนไล่ลงตั้งแต่ต้นแขนที่ยังคงถูกพันธนาการจนถึงสีข้างเปลือยเปล่า ฟ้าฟื้นผวาตาม

ความอุ่นร้อนจนต้องขยับเปิดทางให้ร่างหนาบึกบึนเบียดลงระหว่างกลาง ท่อนเนื้อแนบชิดทักทายกระทั่งเพชรกล้าลากมันลงมาจนถึง

ปากทางที่ขยับตอบรับอย่างคุ้นเคย


               “ไม่ ใครจะไปคิดถึงคนอย่างเจ้า”


               ตอบกลับเสียงสั่นพร่าไม่แพ้กัน แต่หากร่างกายกลับกระทำการตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงเมื่อกำลังเปิดทางให้เพชรกล้าดันลึก

เข้าไปด้วยความโหยหา


               “อื้อ ขยับเร็วหน่อยมันจะตายไหม”


               ผงกหัวตวาดเมื่อเพชรกล้าดันเอวเข้าไปอย่างไม่รีบร้อนนัก แต่มันกลับทำให้ภายในยิ่งเสียดสีจนฟ้าฟื้นทรมานเหลือเกิน เพชร

กล้ามองใบหน้าอ่อนเยาว์แดงจัดที่กำลังกัดฟันปรือตาเพราะไฟเสน่หาที่เขาจุดอย่างพอใจ มือสากลูบไล้ไปตามกรอบหน้าและหยุดลงที่

มุมปากของฟ้าฟื้น


               “เรียกข้าว่าพี่เพชรก่อนสิ แล้วพูดจาหวานๆให้สมกับความคิดถึงหน่อย”


               “ไม่”


               “งั้นก็หยุดแค่นี้”


               เพชรกล้าหยุดจริงๆ แต่เขาหยุดในขณะที่ท่อนเนื้อเสียดสีจุดอ่อนไหวอยู่ภายในจนฟ้าฟื้นแทบขาดใจ ฟ้าฟื้นถึงกับยกสะโพก

ตนเองเพื่อให้เพชรกล้าดันลึกเข้าไปอีก


               “พี่เพชร พี่เพชรจ๋า”


               ดวงตาฉ่ำน้ำมองออดอ้อนจนเพชรกล้าคลี่ยิ้มอย่างพอใจ เขาโน้มใบหน้าลงไปบดจูบหนักหน่วงแต่ฟ้าฟื้นก็ตอบรับเร่าร้อนไม่

ยอมแพ้  เพชรกล้าช้อนสะโพกแน่นมือขึ้นสูงเพื่อที่เขาจะชันเข่าและกระแทกแรงลงไปจนเสียงดังลั่นห้อง หนทางแห่งสวรรค์ชุ่มชื้นช่วย

เร่งให้เขามองเห็นปลายทางรำไร


               “ตอดดีเหลือเกินฟ้าฟื้นของข้า อา ทนไม่ไหวแล้ว”


               “พี่เพชร อีกนิด อีกนิดเดียวข้าจะ อ๊ะ!”


               ฟ้าฟื้นเกร็งไปทั้งตัวเมื่อในที่สุดเขาก็ปลดปล่อยออกมา เพชรกล้าเห็นดังนั้นก็เร่งความเร็วติดตามไปอย่างทันท่วงที ช่องทาง

ร้อนระอุของฟ้าฟื้นบีบคั้นจนเขาหน้ามืดเมื่ออีกไม่กี่อึดใจเขาก็ติดตามฟ้าฟื้นไปยังปลายทางได้สำเร็จ

               เสียงลมหายใจดังอยู่ใกล้หูของกันและกันเมื่อเพชรกล้าซบหน้าลงไปบนบ่าของฟ้าฟื้น ร่างกายต่างเหนียวหนับไปด้วยเหงื่อ

ไคลและคาวรัก ต่างก็หันหน้าเข้าหาและปรนจูบกันอีกครั้ง


               “จะปล่อยข้าได้หรือยัง เจ็บข้อมือไปหมดแล้ว”


               ฟ้าฟื้นประท้วงเสียงแหบเพราะเขาปล่อยเสียงครางออกไปจนเจ็บคอ เพชรกล้าจึงยอมปลดเชือกที่พันธนาการอยู่ออกให้ เมื่อ

เป็นอิสระฟ้าฟื้นจึงทุบใส่ต้นแขนของเพชรกล้าเสียหลายที


               “ไอ้คนบ้า มัดแน่นเชียว เห็นไหมว่าข้อมือข้าแดงไปหมดแล้ว”


               “จิกหัวเรียกผัวว่าไอ้แถมยังด่าอีก ปากจัดจริงๆนะเจ้า”


               ฟ้าฟื้นมองอย่างน้อยใจก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น


               “ใช่สิ ก็ข้ามันคนต่ำต้อย ไหนเลยจะสูงส่งเป็นผู้ดีอย่างท่านครูฝึกกันเล่า”


               เพชรกล้ามองฟ้าฟื้นอย่างพิจารณา เขาเห็นแววตาน้อยใจฉายชัดอยู่จนพอจะเข้าใจแล้วว่าฟ้าฟื้นคิดอะไรอยู่ เขาจึงก้มลงจูบ

ที่หน้าผากของฟ้าฟื้นอย่างอ่อนโยน


               “นี่ตกลงว่าคิดมากเรื่องนี้เองรึ จะสูงส่งหรือต่ำต้อยมันก็คนเท่ากันทั้งนั้นนะฟ้าฟื้น”


               “แต่ข้า...”


               “อย่าคิดเปรียบเทียบอีก เข้าใจไหม”


               ฟ้าฟื้นยอมหันกลับมาสบตา เพชรกล้าเองก็มองกลับด้วยความจริงใจจนฟ้าฟื้นซาบซึ้งยิ่งนัก เขากลั้นสะอื้นจนเพชรกล้าต้อง

เช็ดน้ำตาให้


               “ตกลงจะบอกพี่ได้หรือยังว่าเข้ามาในวังทำไม”


               “ข้าตามเพื่อนมาเป็นทหารในวัง เท่านั้นจริงๆพี่เพชร ข้าไม่อยากเป็นโจรอีกแล้ว”


               ตอบตามความจริง ในคราแรกที่ตามอัคคีเข้ามาในเมืองใหญ่ ฟ้าฟื้นไม่คิดว่าอัคคีจะเข้ามาสมัครเป็นทหาร ฟ้าฟื้นก็ได้แต่เข้า

มาเป็นทหารตามเพื่อนด้วย แต่เมื่อได้เห็นเพชรกล้าในนามครูฝึกฟ้าฟื้นก็ไม่นึกอยากกลับไปเป็นโจรอีก


               “เพราะถ้าข้าเป็นโจร ข้าก็ต้องต่อสู้กับทหารอย่างพี่”


               คำสารภาพจากปากทำให้เพชรกล้าใจอ่อน เขานึกเอ็นดูกับความคิดของโจรรุ่นเยาว์เสียเหลือเกิน


               “ชื่นใจจริงๆฟ้าฟื้น”


               เขาจูบอ่อนหวานแทนรางวัล ร่างกายที่ยังกอดก่ายแนบแน่นเริ่มขยับอีกครั้ง และฟ้าฟื้นก็ไม่ได้หยุดพักอีกเลยเมื่อเพชรกล้า

ตักตวงจากร่างกายของเขาจนกระทั่งค่ำคืนผ่านล่วงไป




มีต่ออีกนะ...


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-05-2016 23:23:20 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


ต่อกันตรงนี้...




                เสียงเคาะประตูดังขึ้นเมื่อใกล้จะฟ้าสางเต็มที เพชรกล้าขยับกายห่างออกจากฟ้าฟื้นที่นอนหลับอย่างอ่อนแรงเมื่อไม่นานมานี้

หลังจากกรำศึกกับเขามาตลอดทั้งคืน เพชรกล้าสบถอย่างหงุดหงิด


               “นั่นใคร ข้าสั่งแล้วว่าห้ามมารบกวน”


               “นี่แม่เอง พอจะรบกวนได้บางไหม”


               เสียงที่ตอบกลับมาทำให้ฟ้าฟื้นสะดุ้งตื่น เขามองเห็นเพชรกล้าที่มีเพียงผ้านุ่งพันท่อนล่างเดินไปเปิดประตูให้มารดา

ที่ก้าวเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว


                “เอ่อ...”


               พากันวางหน้าไม่ถูกเมื่อเห็นสายตาเข้มงวดของคุณหญิงเพทายที่กวาดสายตามองสภาพที่เกิดขึ้นภายในห้องของบุตรชาย

               เรียกว่าเละเทะก็ว่าได้

                ผ้าปูที่นอนหลุดลุ่ยเต็มไปด้วยคราบคาว เก้าอี้ด้านข้างก็ล้มระเนระนาด แถมลูกชายตัวดีกับคนที่พาเข้าบ้านก็มีสภาพไม่ต่าง

กันนัก คุณหญิงเพทายเงยหน้าจ้องบุตรชายที่เป็นถึงราชองครักษ์พร้อมกับส่งเสียงเข้ม


               “แต่งตัวกันให้เรียบร้อยแล้วไปคุยกับแม่ที่ห้องโถง”


               พูดจบคุณหญิงก็เดินกลับออกไปนั่งรออยู่บนตั่งที่นั่งเป็นประจำ รออยู่ไม่นานนักเพชรกล้าก็จูงมือฟ้าฟื้นมานั่งอยู่กับพื้นข้างตั่ง

นั่นเอง


               “เจ้าตัวดี มีอะไรจะพูดก็พูดมา”


               แม้ว่าจะเป็นถึงราชองครักษ์แต่ยามนี้เพชรกล้าได้แต่กลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อเห็นหน้าดุของมารดา เพชรกล้าก้มลงไปกราบ

แทบเท้าคุณหญิงเพทายทันที ฟ้าฟื้นเห็นดังนั้นเขาก็รีบก้มลงกราบตามอย่างเก้ๆกังๆก่อนจะลุกมาก้มหน้างุด


               “ก็อย่างที่แม่เห็นนั่นแหละจ้ะ”


               ชายชาติทหารกลับไปเป็นเด็กตัวเล็กอีกครั้งยามอยู่กับมารดา เพชรกล้ายิ้มเฝื่อนเหมือนเมื่อครั้งทำผิดในวัยเยาว์


               “ลูกกับฟ้าฟื้น เราเอ่อ... ได้เสียกันแล้ว”


               “แต่เด็กคนนี้เป็นผู้ชายนะเพชร ลูกกำลังบอกแม่ว่าลูกมีเมียเป็นผู้ชายด้วยกันเช่นนั้นรึ”


               คุณหญิงเพทายชี้นิ้วไปยังฟ้าฟื้นที่ได้แต่นั่งเงียบ แม้จะนึกเอ็นดูไม่น้อย แต่คุณหญิงไม่นึกว่าฟ้าฟื้นจะมีความสัมพันธ์กับบุตร

ชายในสภาพนี้


               “แม่จ๋า ลูกเลือกไม่ได้”


               เพชรกล้าเองก็หน้าสลดลงเมื่อรู้ดีว่า สิ่งที่เลือกนั้นอาจทำให้เสียชื่อเสียงแก่วงศ์ตระกูล


               “ลูกรู้ว่าอาจทำให้แม่และพ่อที่จากไปอับอาย แต่ลูกไม่อาจโกหกใจตนเองว่าลูกรักฟ้าฟื้น จะให้ลูกทำเช่นไรในเมื่อลูกรักใน

จิตใจของฟ้าฟื้นที่เป็นชายเช่นเดียวกับลูก”


               ฟ้าฟื้นน้ำตาคลอ เพียงแค่ได้ยินคำว่ารักจากเพชรกล้าที่กล้าหาญยอมรับกับบุพการีเขาก็ดีใจมากแล้ว เพียงเท่านี้เขาก็ไม่

ต้องการสิ่งใดอีก


               “คุณหญิงอย่าได้กังวลเลยขอรับ กระผมจะไม่อยู่ให้เป็นที่อับอายดอก”


               “ไม่ได้”


               เพชรกล้าหันมาดุเขาต่อหน้ามารดา


               “เจ้าเป็นเมียพี่แล้ว จะไปไหนไม่ได้เป็นอันขาด”


               คุณหญิงเพทายนิ่งมองบุตรชายและฟ้าฟื้นสลับกันไปมา เมื่อเห็นความจริงจังบนใบหน้าเพชรกล้าแล้วคุณหญิงก็ถอนหายใจ

ออกมาพลางยกมือห้าม


               “เอาเถอะ อย่าเพิ่งเถียงกัน ไหนลองเล่าให้แม่ฟังว่าทำไมถึงได้พบกันและเกิดเรื่องเช่นนี้ได้”


               เพชรกล้าตัดสินใจเล่าให้มารดาฟังย่อๆว่าเขาและฟ้าฟื้นพบกันในป่าใหญ่และเกิดความผูกพันซึ่งกัน คุณหญิงเพทายนิ่งฟัง

อย่างสงบจนเพชรกล้าเล่าจบฟ้าฟื้นก็ยิ่งสีหน้าสลดลงเรื่อยๆ


               “กระผมรู้ดีขอรับว่าตนเองต่ำต้อย เป็นเพียงลูกของโจรป่าไร้สกุล หาได้ควรคู่กับท่านราชองครักษ์”


               “แต่พี่ก็รักเจ้านะฟ้าฟื้น”


               ศึกหนักเป็นของคุณหญิงเพทายที่ยิ่งต้องคิดหนักเมื่อรู้ที่มา หากแต่บุตรชายแสดงออกชัดเจนเหลือเกินว่ารักอีกฝ่ายเพียงใด


               “ข้ารู้ว่าพี่รักข้า แต่ยอมรับสิว่ามันเป็นไปไม่ได้ พี่เป็นทหารยศใหญ่โตแต่ข้ามันเป็นโจร พี่เปลี่ยนความจริงไม่ได้ ข้าจะไปจาก

พี่เองพี่จะได้ไม่ต้องอายใคร”


               “ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นแหละ”


               คุณหญิงเพทายตัดสินใจ หญิงชราหันไปมองบุตรชายแล้วเอ่ยออกมา


               “ใช่ มันเป็นเรื่องน่าอับอายที่ลูกจะรักกับชายด้วยกัน แต่แม่คงจะทนกับมันได้มากกว่าหากจะต้องเห็นลูกชายของแม่เสียใจ

หากสูญเสียคนที่รักไป”


               “แม่ครับ”


               เพชรกล้ายิ้มอย่างยินดี เขากราบลงไปแทบเท้ามารดาอีกครั้ง คุณหญิงเพทายถอนหายใจออกมาเมื่อเอื้อมมือไปลูบผมเพชร

กล้า


               “ลูกเองก็ต้องทนกับคำครหาต่างๆที่จะถาโถมเข้ามากับสิ่งที่ลูกเลือกเองคราวนี้ จะทนไหวหรือเปล่าเพชรกล้า”


                เพชรกล้ากอดขามารดาไว้ด้วยความรัก


               “มีเพียงคนเดียวในโลกนี้ที่ลูกสนใจก็คือแม่ ถ้าแม่ยอมรับสิ่งที่ลูกเลือกได้ หมดทั้งโลกลูกก็ไม่กลัว”


               ฟ้าฟื้นร้องไห้ออกมาอย่างตื้นตัน เขาขยับเข้าไปเคียงข้างและกราบคุณหญิงเพทายด้วยความเคารพอย่างที่สุด ก่อนจะเงย

หน้าขึ้นมาสบตากับหญิงชราที่มองอย่างเข้าใจมากขึ้น


               “ไหนๆก็คิดจะร่วมชีวิตกันแล้ว เจ้าเองก็ต้องทำตัวให้มีคุณค่านะฟ้าฟื้น มาอยู่ที่นี่แม่จะสอนให้เจ้ารู้หนังสือและวิชาอื่นๆด้วย

เจ้าจะได้เลิกน้อยใจว่าไม่คู่ควรกับพี่เขาเสียทีดีไหม”


               เพชรกล้าและฟ้าฟื้นยิ้มให้กันอย่างดีใจ เมื่อในที่สุดต่างก็เข้าใจกันได้ เพชรกล้าดึงมือฟ้าฟื้นมากุมและเอ่ยคำสัญญาต่อหน้า

มารดาของเขา


               “พี่จะรักเจ้าเพียงคนเดียว ฟ้าฟื้น”



TBC

 :mew1: :mew1:





               
               

               
       

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ปลื้มปริ่ม
ลงเอยไปอีกคู่อย่างสายฟ้าฟาด. ฟ้าฟื้นน่ารักดี เพชรก็กล้าหาญสมชื่อเลย
ขอบคุณคนเขียนค่ะ

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
คุณหญิงแม่ช่างน่ารักเหลือเกิน ความรักแม่ยิ่งใหญ่นัก เพชรกล้า ฟ้าฟื้น เข้าใจในรัก สมหวังแล้ว เหลือแฝดก็ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะเข้าใจกันดีว่ารักกัน เหลือ พ่ออาทิตย์ เอาใจช่วยพ่ออาทิตย์ให้ได้รักกลับคืน อาจจะพ่วงได้เพื่อนเป็นโจรป่ามาด้วย แต่ไม่ต้องหาเมียใหม่ให้พ่ออาทิตย์นะคะ ไม่อยากได้ อยากได้น้าบัวให้พ่ออาทิตย์

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
แฮปปี้กันไปคู่หนึ่งแล้ว~

ออฟไลน์ papanoy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
คู่นี้น่ารักมาก สมหวังละ

   :กอด1: :L1:

        :pig4:

ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
น่ารัก มากพี่เพชร น้องฟ้าได้ยินแล้วชื่นใจมาก

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
หลงรักขุ่นแม่พี่เพชรเข้าแล้ว

ลงเอยด้วยดีไปหนึ่งคู่ฟินจุงค่า

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
กรี๊ดดดดดดดดด มีความสุขขขขขขขขข
ในที่สุดฟ้าฟื้นก็สมหวังงงงงง
ชอบคู่นี้มากๆค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
เมืองนี้ก็น่าจะเปิดกว้างอยู่หรอก  เจ้าเมืองเองก็โปรดไม้ตระกูลเดียวกัน
คู่นี้สมหวังแล้ว ความดีความชอบต้องยกให้ท่านแม่ล้วนๆ

นึกสงสารพ่อสมิงขึ้นมารำไรถ้าหากว่าโกมุทกลับไปหาอาทิตย์นะ  อยู่เคียงข้างกันมาตั้งกี่ปีไร้ความดีงามไร้ความหมาย   กับอาทิตย์ถึงจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดแต่ระหว่างคนสองคนก็มีเรื่องมากมายมาขวาง  เวลาก็ผ่านมาเนิ่นนานแล้ว    โกมุทน่าจะมองในสิ่งที่มีมากกว่าสิ่งที่ควรจะได้หรือสิ่งที่เสียไป

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
อร๊ายยย ตอนนี้ดีงาม ท่านแม่เพทาย กราบค่ะ

แต่เกร็งเหลือเกิน กลัวมาม่ามาไม่ทันตั้งตัว
คือด้วยการปูพื้นมา และปมต่างๆในเรื่อง
อิคนอ่านนี่มโมดราม่าของ2คู่นี้ +คู่รุ่นพ่อได้ร้อยแปดอย่างอ่ะ เง้อออ
คนเขียนขาาา อย่าเยอะนะคะ คนอ่านปวดตับ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
เป็นคุณแม่ที่น่ารักมากเลยอ่ะ
คู่รองเหมือนทางจะโปร่งแล้วน่ะ

ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
อ่านไปอ่านมาแล้วเพลิน 55  :hao7:

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14

ออฟไลน์ papanoy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
รอ...พ่อบัวกับอาทิตย์เจอกัน...พ่วงด้วยพ่อสมิง..
            :katai2-1:

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove



ประกาศลาพักประมาณ 1 เดือนค่ะ


เป็นเพราะว่าตั้งแต่เริ่มแต่งนิยายเอง
รวมถึงต้องทำงานประจำด้วยแล้ว ทำให้คนแต่ง
ไม่มีเวลาได้เสพงานนิยายของนักเขียนท่านอื่นๆเลย


รู้สึกเหมือนลูกศิษย์ที่ออกมาท่องวิทยายุทธลองผิดลองถูกในบู๊ลิ้ม
แล้วไม่มีอาจารย์ชี้แนะ


จึงขอลาพักไปอ่านนิยายนักเขียนในดวงใและหาข้อมูลมาพัฒนาฝีมือ
แล้วจะกลับมาแต่งนิยายตัวเองต่อ


รอเค้ากันด้วยน้าตะเอง


Belove


 :L1: :L1:


ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
แง้ๆๆๆๆๆ รอพ่อบัวกับฟ้าฟื้นเสมออออออออ
อย่าทิ้งเรื่องนี้น่ะค้า

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10

ออฟไลน์ iNcamisang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ PoppyPrince

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
เอาใจช่วยคู่อัคคีกับอินทัชค่ะ

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
รอค่าาาาา ^^
นี่ก็กลับไปอ่านตั้งแต่ต้นอีกรอบ กันลืม
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ ^^

ออฟไลน์ papanoy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1

ออฟไลน์ lolata

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                     บัลลังก์รักใต้เงาแค้น

                                                           บทที่  22



               อัคคีมาพบหน้าฟ้าฟื้นอีกครั้งก็คือที่ลานฝึกอาวุธในยามสาย รู้สึกแปลกตาที่เห็นเพื่อนสนิทมีใบหน้าแจ่มใสขึ้นทั้งที่ผ่านมาฟ้า

ฟื้นมีแต่สีหน้าอมทุกข์มาตลอด


               “มีอะไรดีๆหรือเปล่าฟ้าฟื้น อย่างกับไม้เหี่ยวได้น้ำ”


               “เดี๋ยวเหอะอัคคี”


               ส่งเสียงเขียวใส่เพื่อนเมื่อถูกล้อเลียนแต่ฟ้าฟื้นก็ยังมีรอยยิ้มบนใบหน้า ใครจะนึกว่าเรื่องหัวใจลงเอยได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพชร

กล้าบอกให้เขาเก็บของจากเรือนพักทหารไปอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ มันทำให้ฟ้าฟื้นอิ่มเอมใจจนอยากจะเล่าให้อัคคีฟัง หากแต่เสียงเอ่ย

ขานพระนามเจ้าชายอินทัชธราธิปเสด็จมายังลานฝึกกลับดังขึ้นเสียก่อน


               “โชคดี วันนี้จะได้เห็นหน้าเจ้าชาย”


               ฟ้าฟื้นเอ่ยอย่างตื่นเต้นขณะเข้าแถวรับเสด็จกับเหล่าทหาร เขาไม่ทันเห็นว่าอัคคีกลับขรึมลงอย่างเห็นได้ชัด และยิ่งเมื่อเจ้า

ชายอินทัชมาหยุดยืนอยู่บนแท่นสูงด้านหน้าลานฝึกด้วยแล้ว อัคคีก็ยิ่งก้มหน้าต่ำลงอีก


               “เอ๊ะ ทำไมเจ้าชายถึงมีใบหน้าเหมือน...”


               “ฟ้าฟื้น หยุดพูดได้แล้ว!”


               ปรามเพื่อนเสียงเข้มให้หยุดพูด ฟ้าฟื้นจึงยอมหยุดแต่เขาก็ลอบมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของอัคคีอย่างแปลกใจ เพราะถ้าอัคคี

โกนหนวดเครารุงรังและถอดผ้าคาดตาออกแล้ว เพื่อนสนิทที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่แบเบาะของเขาก็มีใบหน้าไม่ต่างอันใดกับเจ้าชายอิน

ทัชสักนิด ที่สังเกตได้ว่าต่างกันคืออัคคีมีรูปร่างที่แข็งแรงกว่าและผิวคล้ำกว่าเท่านั้น


               “วันนี้จะมีการคัดเลือกองครักษ์คนใหม่สำหรับอารักษาเจ้าชายเนื่องเพราะข้าจะต้องรับผิดชอบงานด้านอื่น”


               เสียงดังของเพชรกล้าที่ทำหน้าที่ครูฝึกกล่าวหน้าแถว


               “ให้โอกาสคนที่มั่นใจในฝีมือสมัครใจออกมาและแข่งกันต่อหน้าพระพักตร์ ผู้ใดยืนหยัดได้จนถึงคนสุดท้ายจะได้รับตำแหน่ง

ราชองครักษ์แทนข้า”


               เสียงฮือฮาดังขึ้นทันที บ้างก็กระเหี้ยนกระหือรือในฝีมือตน บ้างก็ส่ายหน้าเพราะรู้ว่ายังอ่อนด้อย และเมื่อเพชรกล้าส่ง

สัญญาณเหล่าทหารจำนวนหนึ่งที่มั่นใจในความสามารถก็ก้าวออกไปยังลานกว้างด้านหน้ารวมถึงอัคคีด้วย


               เลือกอาวุธเป็นดาบยาวคมกริบที่คุ้นเคยมือที่สุด ร่างสูงแข็งแรงด้วยวัยหนุ่มหันขวับไปมองเจ้าชายสูงศักดิ์ด้วยนัยน์ตาพราว

ระยับพลางตวัดดาบลงแสดงความเคารพ เจ้าชายอินทัชเกร็งกายจนต้องบีบพระหัตถ์แน่นไปด้วยความห่วงใยระคนตื่นเต้นเมื่อการต่อสู้

เริ่มต้นระหว่างอัคคีกับคู่ต่อสู้ที่ยืนจังก้ารออยู่แล้วด้วยหอกยาวคมไม่แพ้กัน

               หอกยาวตรงดิ่งเข้าหา อัคคีตวัดดาบรับคล่องแคล่ว สายตาคมดุจเหยี่ยวเพ่งมองคู่ต่อสู้ไม่วางตาเมื่อเขาขยับตอบโต้อย่าง

ชาญฉลาด เสียงเหล็กเนื้อดีกระทบกันดังก้องบาดหู ประกายไฟพุ่งกระจายออกมาทุกครั้งที่ฟาดฟันท่ามกลางเสียงโห่ร้องของเหล่า

ทหารที่พากันมองด้วยความตื่นตา ไม่นานนักแค่พอได้ออกแรงอัคคีก็จ่อปลายดาบเข้าใส่คู่ต่อสู้ที่ล้มลงไปนอนอยู่บนพื้นอย่างสง่างาม

เจ้าชายอินทัชที่ประทับทอดพระเนตรอยู่ถึงกับเผลอสรวลอย่างดีพระทัยที่อัคคีได้รับชัยชนะ

                เพชรกล้าและบรรดาครูฝึกอีกหลายคนดูแลการประลองฝีมือให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง เจ้าชายอินทัชตื่นเต้นไปกับการประลอง

ต่อสู้โดยเฉพาะเมื่อคนในลานประลองคืออัคคี ได้แต่พยายามระงับอารมณ์ไว้ให้ได้เพื่อไม่ให้ผิดสังเกตที่ทรงเป็นห่วงอัคคี แต่อัคคีก็มี

ฝีมือเก่งกล้าจนสามารถยืนหยัดเอาชนะผู้เข้าประลองอื่นๆในที่สุด เสียงตะโกนโห่ร้องชื่นชมความสามารถของอัคคีดังก้องไปทั่วทั้งลาน

ฝึก


               “เราได้ผู้ชนะแล้วนั่นคืออัคคี จงก้าวมารับพระราชทานเข็มกลัดตำแหน่งราชองครักษ์จากเจ้าชายอินทัชธราธิป”


               อัคคีก้าวอย่างองอาจเข้าไปหา เขาคุกเข่าลงข้างหนึ่งเพื่อให้เจ้าชายอินทัชทรงประทานเข็มกลัดที่หน้าอกของเขา ดวงเนตร

ที่ก้มมองในระยะใกล้บ่งบอกถึงความภาคภูมิใจในตัวอัคคี


               “เก่งมากอัคคี”


               “ผัวเจ้าเก่งอยู่แล้ว”


               “บ้า”


               เสียงกระซิบตอบกลับจากคนที่คุกเข่าทำให้เจ้าชายอินทัชสะบัดสายพระเนตรใส่ด้วยความขัดเขิน ยังไม่ชินเสียทีกับคำพูด

โผงผางของอัคคีแม้จะรู้ว่าเป็นเรื่องจริง ทรงตั้งใจจะฝึกหัดกิริยามารยาทฝาแฝดของพระองค์ให้งดงามกว่านี้ให้ได้หากได้อยู่ใกล้ชิดกัน


               “เยี่ยมเลยอัคคี มิเสียแรงเป็นลูกของจอมโจรสมิงแห่งหุบผากาฬ”


               ฟ้าฟื้นเอ่ยด้วยความชื่นชมเมื่อเจ้าชายอินทัชเสด็จกลับไปแล้วและเพชรกล้าสั่งเลิกแถว อัคคีนึกเป็นห่วงฟ้าฟื้นอยู่ไม่น้อย


               “ข้าต้องไปเป็นองครักษ์แล้ว แต่ยังเป็นห่วงเจ้าหากต้องอยู่โดยไม่มีเพื่อน”


               “อย่าห่วงนักเลย”  ฟ้าฟื้นกล่าวตอบ ใบหน้าของเขาบอกถึงความกระดากอาย


               “ข้าจะไปอยู่บ้านท่านครูฝึก”


               อัคคีได้ยินดังนั้นจึงเลิกคิ้วด้วยความสงสัย แม้จะวางแผนกับเจ้าชายอินทัชแล้วว่าจะฝากฝังฟ้าฟื้นไว้กับเพชรกล้าแต่เขาก็ยัง

มิได้เอ่ยออกไป แล้วเหตุใดฟ้าฟื้นจึงพูดเช่นนั้นเหมือนกับรู้อยู่แล้ว


               “ทำไมถึงจะไปอยู่บ้านท่านครูฝึกได้ เจ้าไปสนิทสนมกับท่านครูฝึกตั้งแต่เมื่อใด”


               “ก็ เอ่อ ตั้งแต่เมื่อครั้งต่อสู้กันกลางป่าคราวนั้นนั่นแหละ”


               อัคคีหรี่ตามองเพื่อนสนิท ใบหน้าแดงก่ำมีพิรุธทำให้รู้ว่าฟ้าฟื้นเก็บงำความลับไว้ อัคคีนึกถึงใบหน้าเศร้าหมองของฟ้าฟื้นแล้ว

ก็เอะใจ


               “อย่าบอกนะ ว่าคนที่ทำให้เจ้าเป็นทุกข์ตั้งแต่วันนั้นคือท่านเพชรกล้า”


               ฟ้าฟื้นไม่ตอบ เขาได้แต่ยกมือลูบท้ายทอยและมีสีหน้าขัดเขินเป็นการยอมรับ อัคคีถึงกับหัวเราะชอบใจ


               “บุญแท้ นี่เจ้าต้องอดทนหลบหลีกท่านครูอยู่เป็นนานเพราะเรื่องนี้ ตอนนี้คงได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว หน้าของเจ้าถึงได้

บานเป็นกระด้งตั้งแต่เมื่อเช้า ยินดีด้วยนะฟ้าฟื้น”


               “พูดมากน่าอัคคี  ข้าเองยังไม่รู้เลยว่าไปอยู่บ้านเขาแล้วจะเป็นเช่นไรบ้าง ในเมื่อข้ากับเขาช่างแตกต่างกันเหลือเกิน”


               ยังกังวลอยู่ไม่น้อยกับความห่างชั้นของฐานะ อัคคีได้แต่ตบบ่าเป็นกำลังใจให้ฟ้าฟื้น


               “อย่าคิดมาก ข้าเชื่อว่าคนอย่างท่านครูฝึกหากไม่จริงจังคงไม่รับเจ้าเข้าบ้านเช่นนี้ ไปเถอะ อย่าทำหน้างอเป็นตะบวย ไปซ้อม

ดาบกันดีกว่า”








               “อย่ารุ่มร่ามนักสิอัคคี อื้อ”


               ทรงทัดทานแต่ก็ไม่สำเร็จเมื่อได้อยู่เพียงลำพังในห้องโถงกว้างก่อนจะถึงห้องบรรทมของเจ้าชายอินทัช อัคคีดึงวรกายโปร่ง

เข้ามากอดและจูบหนักที่ปรางนวลเสียจนฉ่ำใจ เจ้าชายอินทัชได้แต่ปัดป้องเมื่อรู้สึกรำคาญกับหนวดเครารกครึ้มนั่น


               “เมื่อไหร่จะโกนหนวดเสียทีนะ”


               “ไม่ใช่ว่าเจ้าชอบหรอกเหรออินทัช ข้าได้ยินเสียงครางของเจ้าหวานนักยามหนวดเคราของข้ากระทบกายเจ้า”


               “บ้าแล้วอัคคี ชอบพูดลามกเสียจริง”


               พักตร์แดงก่ำแต่เจ้าชายอินทัชก็อดยอมรับไม่ได้ว่า ยามหนวดรกนั่นเสียดสีไปกับเนื้ออ่อนมันสร้างความรัญจวนได้ไม่น้อย


               “ทำเช่นไรได้เล่า ก็เจ้าอยากได้ผัวเป็นโจรป่า จะให้เรียบร้อยนุ่มนิ่มอย่างคนในวังเช่นเจ้าได้อย่างไร”


               คำกล่าวนั้นทำให้เจ้าชายอินทัชทรงชะงักไปชั่วครู่ ทรงเพ่งมองคู่แฝดของพระองค์พลางตรัสเสียงหนักแน่น


               “เจ้าต้องฝึกมารยาทชั้นสูงนะอัคคี”


               อัคคีสะดุ้งโหยง ดวงตาคมกระพริบตาปริบๆเมื่อสบตากับนัยน์ตาแสนหวาน หากแต่ความจริงจังที่เจ้าชายอินทัชทอดพระเนตร

ตอบทำให้อัคคีถึงกับยิ้มแหยด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง


               “ส่งข้าไปสู้กับเสือสางเสียยังดีกว่าให้ข้าฝึกมารยาทขั้นสูงของเจ้า”


               ส่ายพักตร์อย่างระอาให้กับเจ้าชายที่กลายเป็นโจรป่า แต่เห็นสีหน้าของอัคคีแล้วเจ้าชายอินทัชก็อดขำไม่ได้


               “ทำไมทำหน้าเยี่ยงเราบังคับให้เจ้ากลืนยาขม แค่ฝึกมารยาทไม่เห็นจะยากเย็นตรงไหน ตอนต่อสู้ออกแรงยากเข็ญกว่านี้เจ้า

ยังทำได้ กับเพียงแค่ฝึกคำพูดจาให้เสนาะหูและทำตัวให้ห่ามน้อยลงใยถึงต้องเกรงนักเล่าอัคคี อย่าลืมสิว่าแท้แล้วเจ้าเองก็เป็นเจ้าชาย

องค์หนึ่ง เป็นโอรสแห่งเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์และเจ้านางปะวะหล่ำแห่งรัตนปุระนครแห่งนี้”


               ความจริงแม้ว่าจะยังไม่กระจ่างแจ้งทำให้อัคคีต้องขบคิดอยู่ไม่น้อย เขานิ่งมองพักตร์งามของเจ้าชายอินทัชพร้อมกับใช้ปลาย

นิ้วเกลี่ยไล้ไปตามแก้มนวล


               “ข้าไม่ได้อยากเป็นเจ้าชาย ข้าแค่ต้องการหาความจริงและปลดปล่อยพ่อบัวให้พ้นจากความผิดที่ถูกกล่าวหา เพื่อว่าพ่อบัวจะ

ได้หลุดออกจากความโกรธแค้นชิงชังและมีความสุขกับชีวิตอย่างแท้จริง และอีกอย่างก็คือ...”


               อัคคีเกี่ยวเอวคอดเข้าหาตัว มือสากวางแนบไปกับปรางนุ่มมืออย่างจงใจ กลีบโอษฐ์นุ่มถูกลูบไล้ก่อนที่เขาจะคลอเคลียริม

ฝีปากของตนตามไปอย่างหลงใหล


               “...ขอแค่ได้อยู่กับเจ้า ข้าก็พอใจแล้ว”


               จุมพิตหวานกว่าที่เคยบ่งบอกถึงความในใจของอัคคีจนเจ้าชายอินทัชเองก็มิอาจปฏิเสธ ได้แต่ทรงเอียงพระศอรับริมฝีปากให้

กระชับแนบและเปิดทางให้อัคคีเข้าไปดื่มด่ำกับรสหวานของพระองค์ รสจูบพาให้ล่องลอยจนต่างก็สะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงบานประตู

ทางเข้าถูกเปิดออกจนต้องรีบผละจากกัน เสียงเหล่านางกำนัลอ้อนแอ้นกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาด้านในทำให้เจ้าชายอินทัชที่ยังหอบจาก

จุมพิตหนักหน่วงถึงกับต้องเบี่ยงกายหลบเพื่อมิให้ใครเห็นพิรุธ


               “ถึงเวลาสรงน้ำแล้วเพคะ”


               สตรีนางหนึ่งงดงามด้วยใบหน้าและอาภรณ์น้อยชิ้น ตรงเข้ามายอบตัวต่ำเบื้องหน้าเจ้าชายอินทัชก่อนจะค่อยๆเงยหน้าชม้าย

ตาให้อย่างมีจริต รอยยิ้มนั้นเผื่อแผ่ไปให้แก่ชายแปลกหน้าที่ยืนใกล้กับเจ้าชายสูงศักดิ์ด้วย


               “บอกกี่ครั้งแล้วว่าเราอาบน้ำเองเป็น”


               พักตร์งามที่หันกลับมาเมื่อควบคุมพระสติได้แล้วบึ้งตึงเมื่อกวาดพระเนตรมองเหล่า “นางเล็กๆ” ของพระมารดาที่ส่งมาดังเช่น

ทุกวัน หากแต่เจ้าชายอินทัชก็มิได้ทรงเสน่หาอย่างที่พระมารดาต้องการทั้งยังทรงเบื่อหน่ายอีกด้วย


              “แต่จะดีกว่ามากถ้าพวกเราช่วยให้พระองค์สุขสบายพระวรกายเพคะ”


              อีกนางหนึ่งไม่รั้งรอที่จะเดินนำเข้าไปห้องสรงด้านข้างอย่างว่องไวและเทน้ำอุ่นตีเกร็ดหอมลงไปในอ่างน้ำกว้างอย่างชำนาญ

ส่วนนางที่ยังอยู่ใกล้ชิดก็รีบปลดเปลื้องอาภรณ์ของเจ้าชายอินทัชออกก่อนจะรุนพระปฤษฏางค์ให้ก้าวไปยังอ่างสรงที่จัดเตรียม

พรักพร้อม


               “ลงไปสิเพคะเจ้าชาย พวกหม่อมฉันจะถวายการดูแล”


                ตลอดเวลาดังกล่าวอัคคีได้แต่ยืนกอดอกมองอย่างขำขันกับ “พิธี” อาบน้ำของคนในวัง ดวงตาคมพร่างพราวยามมองร่าง

เปลือยเปล่าก้าวลงไปในอ่างน้ำหอมกรุ่นด้วยพักตร์บึ้งตึง


              “เจ้า ออกไปก่อน”


               นางที่เป็นหัวหน้ากรีดนิ้วสั่งเมื่อเห็นอัคคีก้าวตามมายืนพิงกรอบประตูมองไม่ห่าง เจ้าชายอินทัชตวัดเนตรมองพลางย่นพระ

ขนงเมื่อเห็นท่าทางของนาง


              “เขาเป็นองครักษ์ของเราชื่ออัคคี ตั้งแต่นี้ต่อไปเขาจะต้องอยู่ใกล้เราเสมอ”


             คำว่า “องครักษ์” ทำให้สายตาของเหล่าหญิงงามถึงกับแปรเปลี่ยน ร่างกายกำยำด้วยวัยหนุ่มทำให้ต้องลอบกลืนน้ำลายกันอยู่

ไม่น้อยแม้ว่าจะนั่งอยู่ริมอ่างสรงและเอนกายกันลงมาใช้ผ้าผืนนุ่มขัดสีฉวีวรรณให้กับเจ้าชายแห่งรัตนปุระนคร หากแต่สายตาก็

ฉวัดเฉวียนให้แก่ราชองครักษ์คนใหม่จนเจ้าชายอินทัชชักจะหงุดหงิดพระทัย

             ยิ่งเห็นสายตาของอัคคีที่กำลังกวาดมองสาวงามแต่ละคนพร้อมรอยยิ้มกริ่มบนใบหน้าแม้ว่าจะยืนนิ่งเป็นหุ่นปั้นอยู่ที่เดิม ยิ่ง

ทำให้แม่พวกสาวๆถึงกับหัวเราะคิกคักเจ้าชายอินทัชก็หมดความอดทน


                 “ออกไปให้หมดทุกคน!”




มีต่ออีกนิด...


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-06-2016 14:57:17 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


ต่อกันตรงนี้...




              สะดุ้งเฮือกกันถ้วนหน้าจนพากันสีหน้าเลิ่กลั่กกับพระอารมณ์เสียที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน นางหัวหน้ายิ้มแห้งเมื่อกล่าวอย่างอก

สั่นขวัญแขวน


               “พวกหม่อมฉันล่วงเกินสิ่งใดให้ขุ่นข้องพระทัยเพคะ”


               “ไม่รู้ ไม่ต้องถาม หงุดหงิดเข้าใจไหม ออกไปกันให้หมด น้ำนี่ก็จะอาบเอง ออกไป!”


               คำสุดท้ายห้วนจัดจนต้องลนลานคลานเข่ากันออกไปแทบไม่ทัน เหลือเพียงราชองครักษ์คนใหม่ที่เลิกคิ้วมองอย่างสงสัยใน

ห้องสรง อัคคีก้าวไปยังขอบอ่างสรงและเชยคางมนที่ยังบึ้งตึงใส่เขา


             “เป็นอะไรอินทัช หงุดหงิดเรื่องอะไรกันถึงโวยวายจนแม่พวกสาวๆตกใจ”


             เจ้าชายอินทัชทรงปัดมือของอัคคีออกแล้วสะบัดหน้าหนี


              “ทำไม ชอบมากหรือไงพวกสาวๆนุ่งน้อยห่มน้อย ยืนมองตาเป็นมันไม่หลบเลี่ยงเช่นนั้น เราจะหาให้เจ้าสักสิบคนดีไหมอัคคี”


             อ้อ ทรงหึง

             อัคคีแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่


             เขาหย่อนกายลงไปในอ่างสรงโดยไม่สนใจว่าชุดทหารของเขาจะเปียกปอนน้ำในอ่าง และนั่งลงเผชิญหน้ากับเจ้าชายอินทัชที่

ยังไม่หายหงุดหงิด


                "ลงมาทำไม ตามแม่พวกนั้นไปสิ”


                “ใครจะกล้า เมียดุอย่างกับเสือ”


หัวเราะเบาๆก่อนจะดึงกายหอมกรุ่นเขามาแนบข้างทั้งที่เจ้าชายอินทัชยังคงขัดขืนผลักไส แต่อัคคีก็หยุดยั้งพระหัตถ์ทั้งสองไว้ได้ด้วยมือ

เดียว ร่างแกร่งโอบรัดจนดิ้นไม่หลุดและในที่สุดเจ้าชายอินทัชก็ต้องยอดนิ่งอยู่ในอ้อมกอดแน่นหนาและปล่อยให้อัคคึซุกหน้าลงกับซอก

พระศอนุ่มลื่น


                   “ก็เจ้ามองพวกนั้นอย่างกับจะกลืนลงคอ”


สะบัดเสียงใส่แม้ว่าจะยอมให้อัคคีลูบคลำวรกายเปลือยเปล่าให้ทั่ว ทรงเริ่มหอบเพราะจุดอ่อนไหวตกอยู่ในกำมือสากใต้น้ำอุ่น


               “มองอย่างเดียว รักเมีย หลงเมีย ไม่กล้ายุ่งกับใครหรอก เชื่อข้านะเมียจ๋า”


               “บ้าจริง ใครเมียเจ้า”


               “จนถึงตอนนี้ยังไม่รับอีก หรือจะให้ข้าไปหาแม่พวกสาวๆจริงๆหือ อินทัช”


หยอกเย้าพร้อมกับนวดเฟ้นกายล่างจุดไฟร้อนในอ่างน้ำ เจ้าชายอินทัชยกหัตถ์ทั้งสองรั้งต้นคอของอัคคีก่อนจะมองด้วยพระเนตรฉ่ำ


                    “ลองดูสิ เราจะสั่งกุดหัวทุกคน”


หัตถ์นุ่มเลื่อนมือถอดชุดทหารของอัคคีออกอย่างเร่งร้อน เพียงไม่นานจึงเหลือเพียงเนื้อแนบชิดเบียดกายอยู่ในอ่างน้ำหอม ทรงโอบรัด

อัคคีไว้ยามที่เขาลงลิ้นที่ยอดอกแสนสวยพลางขยับพระโสณีให้กว้างเปิดทางให้อัคคีที่เต็มไปด้วยความต้องการดันเอวเข้าหาอย่าง

ชำนาญ


                “อื้อ เบาๆ”


ประท้วงเมื่ออัคคีไม่รอให้ได้พัก สายน้ำช่วยให้อัคคีสอดกายได้ลึกซึ้ง ทรงหอบหนักเมื่อขยับกายคร่อมเอวหนาของอัคคีและกอดก่าย

ปล่อยให้อัคคีขบเม้มไปตามวรกายตามใจชอบ


             “ไหนว่ามารยาทขั้นสูง”


                 อัคคียิ้มแย้มหยอกเย้าก่อนจะขบเม้มกลีบปากสีแดงเรื่อ


                “เจ้าชายกลับกลายร่างเป็นเสือขู่แว้ดเพราะหึงผัว”


                “อยากตายหรือไง”


                 “โอ๊ะ อินทัช”


               อัคคีเผลอร้องเมื่อช่องทางถูกตอดรัดไม่ทันตั้งตัวเพราะเจ้าชายอินทัชทรงกลั่นแกล้ง เขาเกือบจะแตะฝั่งเสียแล้ว


               “ร้ายเหลือเกินเมียข้า”


               “ต่อไปจะกล้ามองคนอื่นอีกไหม”


               ตรัสเสียงดุข่มขู่พลางมองอย่างคาดโทษจนอัคคียิ้มเจื่อน


               “ไม่กล้าแล้วพะย่ะค่ะเจ้าชาย โปรดไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วย”


               “ดีมาก ให้รู้บ้างว่าใครเป็นใคร แล้วนี่จะช้าอยู่ใย เราหนาวเนื้อตัวสั่นแล้วเห็นหรือไม่อัคคี”


                 “ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม” อัคคีหัวเราะชอบใจ


                 “หม่อมฉันจะถวายความอบอุ่นบัดเดี๋ยวนี้”


รั้งเอวบางเข้าหา อัคคีดันร่างลึกสุดทางแล้วขยับวนท่อนเนื้อให้หมุนคว้างเสียดสีเนื้ออ่อนด้านในจนเจ้าชายผวาด้วยความกระสัน เสียงลม

หายใจหอบหนักประสานเมื่อพากันขยับจนน้ำในอ่างสรงกระฉอกเลอะเทอะ หากแต่หยุดยั้งความปรารถนาในกายซึ่งกันไม่ได้เลย


             “อัคคี เสียวมาก แรงๆเลย”


             “อา เมียข้า ตอดเช่นนั้น เอาอีก ดีเหลือเกิน”


ราวกับจูงมือกันอยู่ในสวนดอกไม้และสูงขึ้นไปเหนือจากนั้น เจ้าชายอินทัชพริ้มเนตรเมื่ออัคคีพาพระองค์ล่องลอยไปตามสายรุ้งงดงาม

ก่อนจะกอดรัดแน่นหนากันอยู่ในอ่างสรงที่เหลือน้ำไม่ถึงครึ่ง และยังไม่ทันจะหายเหนื่อย อัคคีก็โอบกอดพระวรกายไว้แน่นหนาและลุก

ขึ้นยืนทั้งที่ยังเชื่อมกายกันอยู่ เจ้าชายอินทัชเงยพักตร์อย่างตกพระทัย


              “อึก อื้อ อะไรอัคคี”


              อัคคีกระชับวงแขนพลางกระแทกเอวซ้ำดึงดันให้ลึกจนสุดโคน


              “ข้าก็จะพาเจ้าไปเช็ดตัวให้อุ่นบนเตียง เจ้าจะได้ไม่หนาว ดีไหมอินทัช”


                “อัคคี อื้อ”


หมดแรงห้ามปรามเมื่ออัคคีก้าวลิ่วราวกับกายของเจ้าชายเบาราวหมอนสักใบตรงไปยังห้องบรรทมและทิ้งกายที่ยังเปียกชื้นทั้งคู่ลงไปบน

เตียงกว้าง อัคคีขยับท่อนขาเรียวแยกออกและโยกเอวเข้าใส่อีกครั้งเมื่อระหว่างทางเดินช่างกระตุ้นให้ความต้องการบังเกิด


                “หวานเหลือเกิน เช่นนี้ข้าจะมีปัญญามองใครได้อีกเล่า”


พึมพำอยู่บนเนื้อกายขาวผ่องที่แอ่นรับให้เชยชมสมใจ เจ้าชายอินทัชมองกลับด้วยพระเนตรแดงฉ่ำ ทรงยกพระโสณีรับแรงทุกหยาดหยด

เมื่อไฟปรารถนาคุโชน


             “อัคคี อา เรารักเจ้า”
   เผยความนัยของหัวใจอย่างกลั้นไม่อยู่ พร้อมกับปล่อยพระทัยให้อัคคีจับจูงไปสู่สรวงสวรรค์บนดินอีกครั้ง


                                       TBC


                         กลับมาแล้ว ยังรักกันอยู่ไหม คิดถึงกันบ้างไหม ^^                                            :กอด1: :กอด1: 








   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-06-2016 15:05:10 โดย Belove »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ Alinrat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หายไปเสียนานเป็นแรมเดือน ได้ฤกษ์ดีกลับมาแล้วนะเพคะ  :-[
EP 22 ทำคนอ่านฟินเหลือเกิน รีบมาต่ออีกนะเพคะ  :mew1:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
โอยยยยยย คิดถึงค่ะ
คิดถึงคนเขียน คิดถึงเจ้าชายแฝด
ตอนนี้ฟินมากกกก
แต่กลัวมาม่าจัง

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
คิดถึงเหมือนเดิมมมมมมมมม
คิดถึงฟ้าฟื้นกับเพชรกล้ามากกกกกกก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด