ตอนที่ ๑๒
วันถัดมาเป็นวันเสาร์ ซึ่งไบท์ได้บอกผมไปวันก่อนว่า กี้ชวนไปผับ แต่ผมก็ขอบายแล้วล่ะครับ ผมไม่ชอบหน้ากี้ขึ้นมาแล้ว เด็กอะไรวะ คือจะไปให้โอกาสกลับตัวกลับใจ แต่ไม่ได้นำพา สรุปผมจะไม่เสวนาด้วยหรอกกับคนแบบนี้ จะพูดด้วยเท่าที่จำเป็นแล้วกัน
คุณบิ๊กโทรมาหาผมในเช้าวันอาทิตย์ เรียกว่าโทรมาปลุกจะง่ายกว่ามั้ง โทรมาเช้าเชียว ผมรีบไปอาบน้ำแต่งตัวเพราะเจ้านายจะมาติดตามผลการทำงาน
“คือคุณไปบอกเขาแล้ว แต่ท่าทางเขาคงไม่ทำตามใช่ไหม”
“ใช่ครับ” พอคุณเจ้านายมาถึง ผมก็เล่าให้แกฟัง
“เออคุณ เมื่อคืนนี้ ผมส่งลูกน้องตามไปดูสามคนนั้นไปผับด้วยนะ”
“แล้วเป็นอย่างไรครับ”
“ก็ปกติดี” อ้าวกี้ไม่ส่งยาหรอกหรอ
“ปกตินี่คือ ไม่มีใครทำอะไรผิดใช่ไหมครับ”
“ไม่ๆ ปกติคือ สองคนนั้นปกติ ส่วนเด็กมิคกี้นั่นก็ส่งยาเป็นปกติ” แหม ก็บอกว่ากี้ส่งยาก็จบ
“คงไม่ลด ไม่เลิกมันแล้วล่ะมั้ง แล้วน้องโอ๊ตนี่เขาไม่รู้หรอคุณว่าแฟนตัวเองส่งยา”
“ผมว่าไม่น่าจะรู้ เอาเป็นว่าปล่อยๆไปก่อน ปล่อยนี่คือ ไม่ใช่ว่าปล่อยเลยตามเลยนะ สอดส่องดูแลเหมือนเดิมนะ แต่ไม่ต้องมาก ใกล้สอบปลายภาคแล้วนี่ เห็นทางโรงเรียนเลื่อนสอบเร็วขึ้น” รู้ละเอียดดีจริง
“ใช่ครับ เอาเป็นว่าช่วงนี้ผมติวหนังสือกับน้องแล้วกัน เอาน้องโอ๊ตมาห้องผมได้ไหมครับ”
“เอ้า ได้สิ นี่อย่าบอกนะว่าโอ๊ตยังไม่สนิทกับคุณ”
“ก็ไม่ได้ขนาดไปไหนติดหนึบนะคุณ”
“แล้วเด็กที่มาวันนั้นนี่ใคร เอามาห้องไม่กลัวเขารู้หรอว่าปลอมตัวเป็นเด็ก”
“ไม่รู้หรอกคุณ ผมเก็บของเป็นระเบียบเรียบร้อยดี ไม่ใครรู้หรอก เอาเป็นว่าถ้าโอ๊ตจะไปนอนห้องกี้หรือไปอ่านหนังสือห้องกี้นี่ผมจะชวนมาห้องผมแทนแล้วกัน”
“โอเค ตามนี้”
...
ช่วงติวหนังสือ พวกผมห้าคนก็ติวกันอย่างตั้งใจ มีช่วยกันทำโจทย์ แยกกันไปอ่านแต่ละหัวข้อ แต่ละวิชา แล้วมาสรุปให้เพื่อนฟัง หรือแม้แต่สอนกันในกระดานไวท์บอร์ดเล็กๆ
ที่ติวส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารฟาสต์ฟู๊ด ห้องผมบ้าง หรือแม้กระทั่งบ้านของโอ๊ตเอง ผมก็พึ่งรู้ว่าบ้านโอ๊ตใหญ่มาก แต่คนอยู่กันนิดเดียว มีแค่คุณพ่อคุณบิ๊กหรือปู่โอ๊ต คุณย่า คุณบิ๊ก คุณลุง คุณป้า พี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของโอ๊ตอีกหนึ่งคน และก็น้องโอ๊ต สรุปคือ ไม่ถึงสิบ นอกนั้นก็แม่บ้าน
ตอนแรกผมก็คิดว่าดูอบอุ่นดีนี่นาถึงโอ๊ตจะไม่มีพ่อแม่แล้ว แต่จากที่ไปคลุกคลีสองสามวันก็ได้ความมาว่า ต่างคนต่างอยู่ครับ คุณบิ๊กก็ทำงาน คุณลุงคุณป้ากับลูกสาวเขาก็อยู่ในส่วนของเขา คือ จะเจอกันแค่ทานอาหารเย็นของเย็นวันศุกร์ เสาร์ นอกนั้นตามสบายใครจะทำอะไรก็ทำ จะมีแค่คุณปู่กับคุณย่าที่ดูจะใกล้ชิดน้องเขามากและดูท่าแล้วจะตามใจมากด้วย ตามประสาคนแก่รักหลาน
ส่วนเรื่องโอ๊ตกับกี้นี่ ก็ดูปกติดีครับ แต่ไม่ดูหวานเหมือนตอนแรก โอ๊ตดูจะไม่ติดกี้ แต่มาติดผม ติดไบท์ อ๊อฟแทน ไม่รู้ว่าช่วงติวด้วยหรือเปล่า แถมบางครั้งมีหงุดหงิดและดุกี้ด้วย ผมเห็นก็จะไปทำหน้าสะใจใส่ก็ไม่ได้เพราะกี้นึกว่าผมยังไม่เห็นธาตุแท้ของเขา
การสอบผ่านไปด้วยดีครับ ทุกคนตั้งใจและมีเสียใจมากๆกับบางข้อที่ทำไม่ได้เพราะคิดไม่ออก วันสุดท้ายของการสอบกลางภาคก็มาถึง วันนี้มีสอบสามวิชาครับ ตอนเช้าสอง ตอนบ่ายหนึ่งวิชา ขณะนักเรียนในห้องนั่งรอครูส่งข้อสอบ ผมก็ได้รับรู้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ผมหันหลังไปก็เจอกับเด็กบอยที่อยู่ด้านหลัง พร้อมกับพูดแบบไม่ออกเสียงว่า “ สู้ๆนะ” พร้อมกับส่งจูบให้ เด็กน้อยเอ้ย
“ขอโทษครับ” โอ๊ตยืนอยู่หน้าประตูห้อง
“ทำไมมาช้าล่ะคะ นี่จวนจะสอบอยู่แล้ว ไปนั่งที่เลยค่ะ”
อ้าวผมนึกว่าน้องโอ๊ตมานานแล้ว ก่อนเข้าห้องสอบผมก็มัวแต่ดูหนังสือและก็งีบหลับ ไม่ได้คุยกับเพื่อนคนอื่น เลยไม่ได้สังเกตใคร ดูสีหน้าน้องแล้ว ดูไม่ค่อยดีเลยครับ เหมือนกับตื่นสาย คิ้วขมวดกันเป็นปมเหมือนคิดอะไรอยู่ เป็นอะไรหรือเปล่า
หรือว่าจะกังวลเรื่องสอบ หรืออาจจะเป็นเรื่องกี้
เราสอบกันสองวิชาตอนเช้า พอเที่ยงก็พัก โอ๊ตหายไปครับ พวกผมนั่งกินข้าวกันสี่คน ไบท์บอกว่าโอ๊ตส่งข้อความมาว่า ไปหามุมอ่านหนังสือ ยังไม่เข้าใจบางหัวข้อ ในวิชาที่จะสอบตอนบ่าย
กี้ก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ นั่งกดมือถือเล่นไป นี่จะไม่เป็นห่วงแฟนตัวเองเลยหรอ
“สอบเสร็จไปเจอที่ดาดฟ้าตึกห้า” เสียงที่โอ๊ตเดินมาพูดข้างๆหูกี้ ก่อนจะเข้าห้องสอบ ผมเดินผ่านกี้ไปพอดี ซึ่งโอ๊ตน่าจะไม่ได้ระวังว่าผมจะได้ยิน
เรียกไปคุยเลยหรอ อย่าบอกนะว่าเรื่องยาจริงๆ
สอบเสร็จวิชาสุดท้ายของภาคเรียนนี้ ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
คงเหลือแต่ โอ๊ตที่เดินหายไปทางอาคาร ๕ และกี้ที่กำลังจะเดินตามไป
ผมรีบไปกระซิบบอย วานให้บอยไปด้วย ทางนั้นก็ไม่ปฏิเสธอะไร
เราเดินตามกี้ไปห่างๆ ก่อนที่กี้จะขึ้นไปถึงดาดฟ้า เราก็ขึ้นบันไดตามไปเงียบแล้ว ยืนแอบอยู่ที่ประตูทางออก
“ มันได้ยินเสียงไม่ชัดว่ะบอย ”
“ค่อยๆ แง้มดูสิ บอยว่าสองคนนั้นไม่อยู่แถวนี้หรอก”
เราแง้มประตูอออกไป ก่อนจะเห็นว่าข้างหน้าเราไม่มีใคร โอ๊ตกับกี้คงอยู่อีกฝั่ง
พวกผมเลยย่องไปแอบหลังแท้งค์น้ำถังใหญ่ ก่อนจะแอบส่งผ่านช่องระหว่างแท้งค์น้ำสองถัง นั่นไงโอ๊ตกับกี้กำลังยืนมองหน้ากัน
ได้ยินเสียงชัดแจ๋วครับ
“มีอะไรปิดบังกันหรือเปล่ากี้” โอ๊ตเอ่ยปากขึ้นก่อน
“ เรื่องอะไร กี้ปิดบังอะไรหรอ” กี้ดูเหมือนร้อนตัว ไม่เนียนเลย
“ พูดกันตรงๆนะ กูรู้หมดแล้วว่ามึงทำอะไรบ้างกี้”
“ เรื่องอะไรโอ๊ต กี้ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา”
“ ก็เรื่องที่มึงส่งยาไงล่ะ กูเห็นครั้งแรกก็ไม่คิดอะไร แต่นี่มันสี่ห้าครั้งแล้ว ไปติวที่ห้างมึงก็แอบหนีไปส่งยา แล้วอ้างว่าเข้าห้องน้ำ ไปผับก็อ้างว่าไปห้องน้ำ กูเห็นกูรู้หมด มันบ่อยไปแล้ว ”
“ใครบอก มันต้องมีคนเอาไปบอก ไม่ได้เป็นอย่างที่โอ๊ตเห็นนะ”
“กูบังเอิญไปเห็นยาที่มึงซ่อนไว้ ในห้องมึง กูก็รู้แล้วว่ามึงเล่นยา ใช่แต่ก่อนกูชอบมึงแต่ไม่ได้คลุกคลีมากเพราะมึงมีแฟนอยู่ แต่พอกูได้เข้าไปรู้จักมึง มึงก็แค่คนที่ สวยแต่รูป จูบไม่หอม”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะโอ๊ตกำลังเข้าใจผิดเรานะ”
“อย่าแทรกยังพูดไม่จบ แล้วเรื่องเอาผู้ชายคนอื่นไปนอนหอก็เลิกเถอะ เป็นแฟนกับกูแต่เสือกไปนัดคนอื่นมาเอาที่ห้องนี่ใช่เรื่องไหม หรือถ้ามึงจะทำก็ไม่เนียนเลย เศษถุงยางที่ใช้แล้วไม่ใช่ว่ากูไม่เห็น กูกับมึงมีอะไรกันนับครั้งได้นะ มึงทำไมเลวอย่างนี้ว่ะ ”
แสดงว่าที่คบกันสองเดือนกว่านี่ โอ๊ตก็เริ่มรู้ความจริงแล้ว กี้นี่ทำไมมันร่านผู้ชายจังนะ
“อีบีนมันบอกโอ๊ตใช่ไหม มันกำลังใส่ร้ายกี้นะโอ๊ต มันไปพูดกรอกหูโอ๊ตใช่ไหม ” นี่เรียกกันขึ้นอีเลยใช่ไหม
“กูรู้เอง กูบอกกูรู้เอง มึงหูแตกหรือไง ไปเอาคนอื่นมาเกี่ยวทำไมวะ คนอย่างมึงทำเรื่องไม่ดี ไม่ซื่อสัตย์ ทำผิดกฎหมาย กูก็ขอไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยแล้วกัน”
โอ๊ตระเบิดอารมณ์ออกมา พร้อมกับหันหลังให้แล้วเดินออกมา
แต่สิง่ที่กี้พูดต่อ กลับทำให้โอ๊ตต้องหยุดชะงัก
“เออกูมันไม่ดีเอง เล่นยา ขายยา มั่วผู้ชาย แต่มึงมันโง่ไงโอ๊ต มึงยังโง่ที่มาชอบกู รู้ไหมตอนที่กูคบกันไอ้แทน กูก็ได้กับเพื่อนมันหมด ชีวิตกูมันก็เท่านี้แหละ กูมีความสุขแบบนี้แล้วจะทำไม”
กี้ที่เริ่มหงุดหงิดและไม่พอใจ ก็เล่าความจริงออกมาซะหมดเปลือก เออดีไม่ต้องแอ๊บแล้ว ก่อนที่กี้มันจะเข้าไปใช้มือทุบตีโอ๊ตที่หันหลังให้
“สุดท้ายมึงก็ยอมบอกความจริง” โอ๊ตหันหน้ามาแล้วรวบมือที่ไม่หยุดทุบตีไว้ “ทำไมมึงเลวอย่างนี้วะกี้”
“ก็มึงมันโง่ยังไงล่ะโอ๊ต มึงไม่เข้าใจหรอกว่ากูต้องใช้เงิน ”
“เรื่องนั้นมึงก็ทำงานพิเศษ เอาก็ได้” เออจริง ช่วงก่อนเห็นกี้มันทำงานพิเศษ
“ก็มันไม่พอให้กูซื้อยายังไงล่ะ ป้ากูก็ทำ ตอนคบกับพี่แทนกูก็ติดยา จะให้กูทำยังไงวะ”
“ กูรับไม่ได้ว่ะ กูไม่รู้จะพูดยังไงกับมึง” โอ๊ตดูเหนื่อยใจ
“ก็มึงมันไม่มีน้ำยาไง มึงมันให้ความสุขกูไม่ได้ กูอยากได้คนที่เอาเก่งๆ มึงมันไม่ได้เรื่อง รู้ไหมว่าเวลาไปเที่ยวกลับมาห้องกูก็นัดให้ผู้ชายมาหากูหลังจากที่แยกกับพวกมึง”
“ไอ้เชี่ยเฮ้ย” เพี๊ย โอ๊ตตบหน้ากี้ไปหนึ่งครั้งก่อนพูดขึ้นว่า
“ชาตินี้นะ กูกับมึงขาดกัน มึงไม่ต้องมาคุยด้วย ไม่ต้องมีส่วนร่วมอะไรกับชีวิตกูอีก”
“เออ กูก็ไม่ได้อยากมีผัวห่วยๆแบบมึงหรอก”
โอ๊ตที่เดินจากไปพร้อมกับเสียงตะโกนไล่
ก่อนที่กี้จะยืนอยู่สักพักแล้วค่อยเดินลงไปจากดาดฟ้า
“เฮ้อ ปวดหัว สงสารโอ๊ตว่ะบอย” ผมเอามือกุมหัว ต่อไปโอ๊ตจะเป็นอย่างไรนะ
“เออน่า บีนก็ดูมันดีๆแล้วกัน ดีนะว่าปิดเทอมแล้ว ไอ้โอ๊ตมันคงมีเวลาทำใจ”
“เดี๋ยวเรากับเพื่อนจะช่วยให้โอ๊ตมันดีขึ้นเอง”
“อย่าลืมบอยนะ บอยพร้อมช่วยเสมอ” เด็กบอยมันบอกพร้อมยื่นหน้าจะมาหอมแก้มผม ก่อนที่ผมจะผักหน้ามันออกไป
“ลงไปได้แล้ว อยากกลับแล้ว”
“ถ้าลงไปแล้ว วันนี้ไปทำกับข้าวกินกันที่ห้องบีนนะ แล้วก็ขอนอนด้วยนะ” จะว่าไปผมก็ไม่ได้ทำกับข้าวกินกับบอยนานแล้ว
“ดีๆ แต่ต้องทำตัวดีเหมือนครั้งก่อนนะ ไม่งั้นไม่ให้นอนด้วย ”
“ครับผม”
บอยไปนอนห้องผมได้สามสี่ครั้งแล้วครับ แต่ก็ไม่ได้เกินเลยอะไรมาก นอกจากนอนกอด
แถมตื่นมาอีกทีผมก็นึกว่าบอยจะกอดผมตลอดคืน แต่กลายเป็นว่ามันนอนหันหลังให้ผมหรือไม่ก็นอนคอตกหมอนเสียเอง ดูไปมันก็น่ารักดี ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่ได้ตกลงคบกันเป็นแฟน แต่อยู่แบบนี้ก็ดีนะ
...
วันปิดเทอมวันแรก ผมก็ออกไปเที่ยวกับบอยครับ แต่ก็ไม่ลืมที่จะตามดูความเคลื่อนไหวของโอ๊ตนะครับ เปิดไปดูในไอจีก็เห็นโพสต์ภาพเศร้า พร้อมข้อความภาษาอังกฤษลง เพื่อนในกลุ่มก็ถามในไลน์กัน โดยที่ไม่กลัวว่ากี้จะรู้ เพราะรายนั้นออกจากไลน์กลุ่มไปแล้ว แถมก่อนออกทิ้งท้ายด้วยว่า ไปเที่ยวภูเก็ต แหมคงไปส่งยาล่ะสิ ขอให้โดนตำรวจจับทีเถอะ
ทั้งอ๊อฟและไบท์รู้กันแล้วว่าโอ๊ตกับกี้เลิกกัน แต่โอ๊ตไม่ได้บอกเพื่อนเรื่องยาหรอกครับ บอกแค่ว่ากี้มันนอกใจ สองคนนั้นดูตกใจกันมาก เพราะไม่คิดว่าคนที่ภายนอกใสๆซื่อๆ จะเป็นไปถึงขนาดนี้
วันนี้ผมกับบอยไปวัดพระแก้วมาครับ เพราะว่าไม่ได้ไปหลายปีแล้ว บวกกับบอยที่ไม่เคยไปเพราะย้ายมาจากต่างจังหวัด เที่ยวเสร็จก็ไปหาอะไรกินกันแถววังหลัง กว่าจะถึงห้องก็มืดพอดี โดยที่บอยไม่ตามผมมา มันขอกลับไปนอนที่ห้อง
ผมหยิบมือถือเครื่องที่คุณบิ๊กซื้อให้ออกมาพร้อมกับสายที่ไม่ได้รับห้าสาย มีคุณบิ๊ก และก็ไบท์ ที่โทรมา ผมติดนิสัยชอบปิดเสียงมือถือครับ เป็นเพราะว่าสมัยเรียนมือถือเคยดังในห้องแล้วโดนครูดุ เลยติดว่าต้องปิดเสียงตลอด เพราะจะปิดๆเปิดๆก็กลัวว่าเข้าห้องเรียนแล้วลืมปิดเสียง พอปิดเสียงตลอดจะมาเปิดเสียงอีกที ก็ชอบตกใจเวลาได้ยินเสียงเรียกเข้า ยิ่งถ้ามือถืออยู่ในกระเป๋าแล้วก็ยิ่งแล้วใหญ่ เลยไม่ค่อยได้รับสายถ้าไปไหนมาไหน
ผมเลือกโทรไปหาคุณบิ๊กก่อน ซึ่งแกก็บอกว่า แกจะโทรมาถามว่าน้องโอ๊ตเลิกกับกี้แล้วใช่ไหมอะไรยังไง ผมก็ตอบไป พร้อมกับคุยอะไรนิดหน่อยๆ สุดท้ายเจ้านายก็ย้ำกับผมว่าถึงปิดเทอมแต่แกก็จะยังจ่ายค่าขนมกับเงินเดือนเหมือนเดิมนะ
รายต่อไปคือ ไบท์ ได้ความว่ามันโทรมาชวนไปฉลองปิดเทอม มีสามคนโอ๊ต ไบท์ อ๊อฟ แล้วก็ผมด้วย ผมเลยขอบายพวกนั้นไป เพราะเหนื่อยจากการไปเที่ยว
หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก็แกะบะหมี่เกี๊ยวที่ซื้อมาใส่ถ้วยแล้วเอาเข้าไปเวฟ นั่งกินไปก็นึกไป ว่าจริงๆตามหน้าที่แล้วผมต้องตามไปดูโอ๊ตนี่นา แต่ก็นะ ตอนนี้เกือบสามทุ่มแล้วยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย ผมเลยทำได้แค่โทรไปบอกให้อ๊อฟกับไบท์ ช่วยดูโอ๊ตด้วย คนพึ่งเลิกกับแฟนคงจะดื่มหนักมาก
...
ผมสะดุ้งตื่นเพราะมือถือสั่นอยู่ที่โต๊ะข้างเตียง ผมเอื้อมมือไปหยิบมา ภาพหน้าจอโชว์ว่าไบท์โทรมา
“เฮ้ย บีน นอนยังวะ”
“อืม ว่าไงไบท์”
“มึงช่วยมาดูโอ๊ตได้ไหม มันเริ่มหนักแล้วมึง ตอนนี้ซดเหล้าเพียวๆหมดไปเกือบขวดแล้ว มันเริ่มเมาแล้วมึง”
“แล้วทำไมพวกนายไม่ดูโอ๊ตวะ บอกให้ดูเพื่อนแล้วนะ”
“โถ่บีน มาเถอะ มาช่วยกัน เดี๋ยวออกค่าแท็กซี่ให้”
“นี่กี่โมงแล้ว” ผมรู้สึกเหมือนตัวเองนอนไปนาน
“จะเที่ยงคืนแล้วว่ะ” ไปก็ไป
“เออ ดูโอ๊ตไว้ เดี๋ยวไป” ผมตอบไปแบบหงุดหงิด
“โอเคๆ รีบมาๆ ผับ.......นะ”
โอย ผมรีบลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนที่จะโทรไปบอกพี่ยามข้างล่างให้โบกแท็กซี่ไว้รอ
...
“อยู่ส่วนไหนของผับ” ผมกรอกเสียงไปตามสาย
“อยู่ชั้นสาม เดี๋ยวกูออกไปรับ”
“เดี๋ยวเข้าไปรอแถวๆประตู”
ผมเอาบัตรประชาชนตัวจริงให้เจ้าหน้าที่หน้าผับตรวจ ก่อนที่เดินเข้าไปรอไบท์ข้างใน
เราขึ้นมาที่ห้องคาราโอเกะ เป็นห้องที่หรูเลยทีเดียว ดูเป็นส่วนตัว เดินเข้าไปก็เจอโอ๊ตที่ดูจะยังไม่หยุดดื่มเหล้า เพราะมือที่เอื้อมจะไปหยิบขวดเหล้าที่เหลือมาเทใส่แก้ว โดยทั้งสองข้างของน้องโอ๊ตขนาบข้างไปด้วยสองสาว คงเป็นเด็กนั่งดริ๊งที่มาบริการ ผมหันไปอีกมุมก็เจอเด็กผู้หญิง ดูแล้วน่าจะอยู่ ม.ปลาย
“นี่เพื่อนกูเองนะบีน ชื่อฟ้า ” ไบท์แนะนำเด็กคนนั้นให้ผมรู้จัก
“อืม” ผมตอบรับสั้นๆ ก่อนเดินไปหาโอ๊ต
“เอ่อพี่ เดี๋ยวผมดูเพื่อนผมต่อก็ได้ครับ ไม่รบกวนพี่สองคนแล้ว”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวพวกพี่ดูให้เอง” แหมพวกนี้เห็นผู้ชายหล่อเป็นไม่ได้เชียว
ผมเดินไปหาไบท์อีกมุมที่นั่งสวีทกับเพื่อนหญิงอยู่
“ไบท์ อ๊อฟล่ะ หายไปไหน ”
“มันกลับตั้งแต่ห้าทุ่มครึ่งแล้ว แม่มันโทรมาตาม” แล้วคู่นี้ถ้าเดาไม่ผิดก็ต้องไปกันต่อ เลยโทรมาให้ผมเอาโอ๊ตกลับใช่ไหม
“ให้ทิปพี่สองคนนั้นหรือยัง ” ผมถามไบท์เพราะถ้ายังไม่ให้ก็คงยังไม่ไป แล้วถ้าให้นั่งต่อโอ๊ตคงได้เมียเป็นเด็กนั่งดริ๊งแน่ๆ
“ยังเลย จะกลับแล้วใช่ไหม”
“ใช่ โอ๊ตเมาหนักแล้วนะนั่น”
“เออจริง เงินค่าแท็กซี่ที่กูบอกว่าจะออกให้ไม่มีแบงค์ย่อยว่ะ”
ไบท์มันยื่นค่าแท็กซี่ให้ หนึ่งพัน รวยนักนะ ผมรับจากมันแล้วยื่นไปให้สองสาวที่นั่งข้างโอ๊ต
“ทิปครับ เดี๋ยวพวกผมจะกลับกันแล้ว”
สองคนนั้นรับแล้วออกไป ไบท์บอกผมว่าจะไปเคลียร์บิลกับแฟน ให้ผมกับโอ๊ตไปรอข้างนอก
ผมประคองโอ๊ตออกมาจากผับอย่างทุลักทุเล เวลานี้ผับใกล้จะเลิกแล้ว แต่คนก็ยังแน่นอยู่
น้องโอ๊ตมันตัวหนาและใหญ่ครับ เวลาใส่ชุดนักเรียนนะเสื้อจะคับแน่น แขนขาก็ดูแน่นไปหมด เหมือนคนมีกล้ามเนื้อที่สมส่วน ออกกำลังกายเป็นประจำ ได้ข่าวว่าคุณปู่ของโอ๊ต เห็นหลานอยากออกกำลังกาย ก็ทำห้องฟิตเนสให้หลานที่บ้าน พร้อมจ้างเทรนเนอร์มาเอาใจหลาน ทุ่มทุนจริงๆ กับเด็กคนนี้ เด็กที่ตอนนี้นับฟุบอยู่โต๊ะม้าหินอ่อน แถวที่จอดรถ
“แล้วปกติ โอ๊ตมันเมามากขนาดนี้มันจะอ้วกไหมไบท์ อยู่นิ่งๆโอ๊ต”
ผมถามไบท์ขณะที่มันขับรถอยู่ ส่วนโอ๊ตก็เมาไม่รู้เรื่อง มือไม้ปัดไปมา เราตกลงกันว่าจะไปที่หอผมซึ่งอยู่ใกล้กว่าบ้านโอ๊ต คืนนี้ก็คงให้โอ๊ตนอนที่ห้องผมนี่แหละ ผมส่งข้อความไปบอกคุณบิ๊กแล้วครับว่าโอ๊ตจะค้างที่หอผม หวังว่าเจ้านายคงเข้าใจหลานนะ
พวกเราสามคน รวมทั้งฟ้าช่วยกันแบกโอ๊ตมาที่ห้องผม จะพูดจริงๆคือ ผมกับไบท์ช่วยกันคนละปีก ส่วนสาวน้อยคนนั้นเดินตามมาเป็นกำลังใจ เราเอาโอ๊ตนอนลงบนเตียง ไบท์ก็ขอกลับ ผมเดินไปส่งข้างล่างก่อนกลับขึ้นมาที่ห้อง แล้วตรงไปที่ห้องนอน
ก็เห็นว่าเด็กมัธยมตัวใหญ่นอนตกเตียง คงเมามาก ดิ้นไปมา เอายังไงดี
“โอ๊ตลุก โอ๊ตลุก ขึ้นไปนอนบนเตียงดีๆ ลุก อึ๊บ”
ผมดึงโอ๊ตขึ้นมา ซึ่งก็ดึงได้แค่แขนข้างเดียว
“โอ๊ต นี่เมามากขนาดนี้เลยหรอ ลุกขึ้นแปปเดียวนะๆ”
“อื้อ” โอ๊ตส่งเสียงในลำคอประท้วงเชิงหงุดหงิด แต่ก็ยอมตะกายขึ้นไปบนเตียงแล้วนอนแผ่อ้าซ่าอย่างสบายใจ
เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตาก่อนแล้วกัน ผมคิดอยู่ในใจก่อนจะไปเอาผ้าขนหนูผืนเล็ก ไปชุบน้ำในห้องน้ำ แล้วนั่งลงที่เตียงก่อนจะเอื้อมมือที่มีผ้าขนหนูอยู่ แตะลงไปที่แก้มข้างซ้ายของโอ๊ต โอ๊ตสะดุ้งเล็กน้อย แล้วปล่อยให้ผมเช็ดต่อ
โอ๊ตสะดุ้งอีกที่เมื่อผมเปลี่ยนมาเช็ดที่ลำคอ แต่รอบนี้น้องมันลืมตาขึ้นปรือๆ แล้วเอามือมาจะแขนผมเป็นสัญญานเชิงบอกให้หยุด
“นี่ใครวะ” น้องมันถามเสียงเมาๆ
“บีนเอง นี่ไปรับมาจากผับเลยนะ อย่าบอกนะว่าตลอดทางจำไม่ได้”
“ไม่รู้วะ ไม่ใช่กี้ใช่ไหมวะ”
“บีนๆ บีนเอง”
“อืม ขอบใจมากว่ะบีน” ดูสร่างเมาขึ้นแล้ว คงเป็นเพราะเช็ดหน้าเช็ดหน้าให้ “ ดีแล้วที่ ฮึก กูเมาแล้วมาเจอมึง ไม่อยากเจอคนที่ทำให้กูเจ็บ”
“ไม่ต้องคิดมากนะ เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะ นอนพักก่อนเถอะ” ผมกำลังจะลุกเอาผ้าขนหนูไปตาก
“กูเหนียวตัวว่ะ เช็ดตัวให้หน่อยสิ จะขอบคุณมาก” น้องขอร้องผม คือ เหมือนจะพูดรู้เรื่องนะครับ แต่เสียงที่พูดนี่ดูไม่ค่อยมีสติ เป็นลิ้นรัวๆ
“เอ่อ ไหวไหม เดี๋ยวไปเอาผ้ามาให้ เช็ดเองได้ไหม” ผมยืนถามน้องอยู่ข้างเตียง เผื่อจะเปลี่ยนใจเช็ดเอง
“นะๆ มึง เช็ดตัวให้กูหน่อย กูเหนียวตัว แต่ลุกไม่ไหว ปวดหัว พอลืมตา เพดานห้องมึงก็หมุนติ้วๆเลยว่ะ” ผมแอบขำครับ น้องมันขอร้องผม ขณะที่ตายังหลับอยู่
ผมเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่ขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม แล้วเอาน้ำอุ่นใส่กะละมังเล็กๆมาวางไว้ข้างเตียง ใช้ผ้าชุบน้ำลง
ก่อนจะนั่งลงข้างเตียง แล้วแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตโอ๊ตออกจนหมด เอื้อมมือไปบิดผ้ามาเช็ดที่ลำคอโอ๊ต ไล่มาที่หน้าอก ไล่ลงมาเรื่อยๆจนถึงหน้าท้อง ทุกอย่างดูแน่นไปหมด สมกับที่จ้างเทรนเนอร์ไปฟิตหุ่น แสงไฟสีทองส้มนวลๆ ส่องมายังซิกแพคของโอ๊ต หุ่นนี่เหมือนกันนายแบบในทีวีเลย
“เช็ดต่อดิบีน” ผมลืมตัวไป มัวมองแต่หุ่น
“ช่วยถอดเสื้อให้หน่อยนะ” โอ๊ตพลิกตัวตะแคงก่อนจะยกแขนขึ้นอย่างทุลักทุเล ผมดึงเสื้อเชิ้ตออกจากตัวน้อง ก่อนที่เจ้าตัวจะพลิกตัวกลับมานอนหงายเหมือนเดิม
ผมเช็ดท่อนบนจนเสร็จ ก็เตรียมที่จะเอาของไปเก็บ โอ๊ตก็พูดแบบไม่ลืมตาขึ้นอีกว่า
“ช่วยถอดกางเกงให้หน่อยสิบีน เช็ดข้างล่างให้ด้วย” ผมถอนหายใจยาว ก่อนนั่งลงแล้วปลดเข็มขัดราคาแพง แกะยังไงวะ ดึงอยู่ตั้งนานก็ไม่ออก
“โอ๊ต เข็มขัดนี่ปลดออกยังไง”
“อื้อ ดึงตรงนี้” เอาจนปลดได้
ผมก็รูดซิบกางเกงก่อนดึงลงจุดสุดปลายเท้า ถามว่าตื่นเต้นไหม ตื่นเต้นนะครับ ปกติถ้าไม่ใช่แฟนหรือแฟนเก่า ผมไม่ทำให้ขนาดนี้นะ โอ๊ตใส่กางเกงในทรงทรังค์ คือมันจะไม่อะไรเลยครับ ถ้ากางเกงในที่ใส่มันไม่แน่นมากจนแทบทะลุ ทรงนี้คือดูแล้วรู้เลยว่าไอ้นั่นที่อยู่ใน กกน.คงอยากจะออกมาสูดอากาศของนอก
อ่ะ เช็ดก็เช็ด ผมก้มหน้าก้มตา เช็ดท่อนล่างของโอ๊ต โดยพยายามเลี่ยงไม่ให้ไปใกล้ส่วนนั้นมากที่สุด
“เสร็จแล้ว เดี๋ยวนอนนะ จะห่มผ้าให้หรือจะใส่เสื้อไหม”
“ไม่ว่ะ ขอบคุณนะ” ผมดึงผ้าห่มมาคลุมตัวโอ๊ตที่ไม่ใส่อะไรเลยนอกจากกางเกงใน ก่อนจะเอาของไปเก็บแล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมนอน
ผมแทรกตัวลงนอนข้างๆโอ๊ต ดีว่าเตียงใหญ่ จึงไม่ได้นอนเบียดมาก แต่กลายเป็นว่าผมนอนไม่หลับครับ คนที่นอนข้างๆก็ดิ้นไปมา ดิ้นมา ก่อนจะทำตัวขยุกขยิกใต้ผ้าห่ม คือเราห่มผ้าผืนเดียวกันเลยรู้สึกได้ อ้าวนั่นโอ๊ตดึงอะไรออกจากใต้ผ้าห่มแล้วขว้างไปที่ปลายเตียง
“ นั่นอะไรโอ๊ต ”
“ อึดอัดว่ะ ” ผมชะโงกลงไปดูปลายเตียง
อีบ้า น้องมันถอดกางเกงในออก โอย น้องมันดิ้นไปดิ้นมาอีกแล้วครับ พร้อมกับครั้งนี้ที่ไม่ดิ้นธรรมดา แต่ขยับตัวมาชิดกับตัวผมซะงั้น นี่คงลืมไปว่าตัวเองไม่ได้ใส่อะไรเลย
“ดีขึ้นหรือยังโอ๊ต”
“เหมือนจะหายเมาแล้วว่ะ แต่ปวดหัว” พูดได้ชัดขึ้นแล้วครับ สงสัยหายเมาแล้วจริงๆ
“กูไม่ดีจริงๆหรอว่ะบีน กี้ว่ากูไม่เอาไหน ไม่มีน้ำยา” โอ๊ตถามก่อนจะขยับตัวเข้าใกล้ผมมากขึ้น ก่อนจะลดหัวตัวเองมาซบที่ไหล่ผม
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกโอ๊ต ในชีวิตโอ๊ตมีใครว่าโอ๊ตแบบนี้บ้าง มีใครว่าโอ๊ตแบบนี้กี่คน”
“ก็มีแค่มิคกี้”
“ก็แค่กี้คนเดียว แสดงว่าคนอื่นเขาอาจจะไม่ได้คิดแบบกี้ก็ได้ ถึงโอ๊ตจะเป็นยังไงแต่โอ๊ตอย่าลืมว่าโอ๊ตยังมี คุณปู่ คุณย่า คุณอา และก็เพื่อนๆนะ ไม่ต้องเศร้าแล้ว เดี๋ยวคืนนี้ก็ผ่านไป”
“อย่างนั้นหรอ บีนมึงต้องอยู่ข้างกูนะ”
“อยู่แล้ว สัญญานะว่าพรุ่งนี้ต้องไม่เศร้า พรุ่งนี้ตื่นมาแล้วโอ๊ตต้องยิ้มให้บีนดูนะ”
“ยิ้มตอนนี้ก็ได้นะ นี่ไง” โอ๊ตเงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มให้ผม
“นี่มันยิ้มแบบคนเมาหื่นๆว่ะ ฮ่าๆ”
“ฮ่าๆ” โอ๊ตหัวเราะได้แบบนี้ผมก็เบาใจขึ้นหน่อย
“เอ้า นอนดีๆได้แล้ว ไม่เครียดแล้วนะ”
ผมพยายามผลักโอ๊ตเบาๆให้กลับไปนอนหนุนหมอนตัวเอง
“บีน ทำไมตัวมึงถึงอุ่นจังเลยวะ” โอ๊ตพูดขึ้น
“ก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว”
“หรอ” โอ๊ตพลิกตัวแล้วหันมาทางผมก่อนที่จะดึงเอาตัวผมเข้าไปกอด
“เฮ้ย”
“นะๆ กอดหน่อยนะ ครั้งเดียว”
“แต่นี่ลืมไปแล้วหรอว่าตัวเองไปใส่อะไรเลย”
ผมพูดกับโอ๊ต ซึ่งตอนนี้คือหน้าแทบจะติดกัน แต่ตัวนี่นอนแนบชิดตัวกันเป็นปาท่องโก๋ไปแล้วเรียบร้อย อะไรต่อมิอะไรก็เสียดก็โดนกันไปหมด
“ไม่เป็นไรหรอก หายเมาแล้ว ไม่มีอารมณ์แบบนั้นหรอก เอาน่าไม่บอกบอยหรอก กอดวันเดียวเอง กูรักมึงนะบีน นอนๆ”
โอ๊ตจับหัวผมลงให้ซุกกับอกแน่นๆของน้องมัน ก่อนที่ผมจะเริ่มง่วงและช่วงที่ใกล้จะหลับแหล่ไม่หลับแหล่นั้นกลับได้ยินเสียงโอ๊ตพูดเบาๆ
“ขอบคุณนะบีน มึงดีกับกูมาก”
พร้อมกับริมฝีปากที่ประทับลงบนหน้าผากผม
ก่อนกระซิบเบาๆปิดท้ายอีกว่า
“กูเริ่มชอบมึงแล้วว่ะ กูอิจฉาไอ้บอยจังเลย”
นี่ผมฝันใช่ไหมครับ
ขอให้เป็นแค่ฝันเถอะนะ
..........................................................................................
นี่ตกลงใครเป็นพระเอกกันนะ ฮ่าๆ
หรือคนอ่านรู้อยู่แล้ว บีนดูจะยุ่งขึ้นอีกหรือเปล่านะ
ช่วงนี้ขอพัก ขอตัดเอากี้ออกไปสักพักก่อนนะ ให้มันไปขายยาและหาผัวใหม่ก่อน
หวังว่าคงจะสนุกกันนะ
บ๊ายบาย เจอกันตอนที่ ๑๓ ครับ