>.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ  (อ่าน 75152 ครั้ง)

ออฟไลน์ ลูกกุญแจ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
ตอนที่  ๒๗

 :mc4:



“ บีน  วันนี้โอ๊ตนัดกิ๊บไว้ที่ร้านไอติมนะ” อยู่ดีๆโอ๊ตก็บอกผมขณะที่เรากำลังเก็บสมุดหนังสือเข้ากระเป๋าเตรียมกลับบ้าน

“ อ้าวแล้วทำไมหรอ ”  ผ่านมาจากวันที่กิ๊บไปวุ่นวายที่ร้านหนังสือ  ยัยเด็กคนนี้ก็พยายามเข้าหาโอ๊ต  ผมก็ได้แค่ดูอยู่ห่างๆจะลองดูว่าโอ๊ตจะแก้ปัญหายังไง  ดีที่โอ๊ตไม่ได้ไปหากิ๊บหรือกิ๊บเองก็ยังไม่พุ่งเข้าหาโอ๊ตแบบขั้นสุดยอด

“ จะให้ไปด้วย ”

“ แน่ใจหรอ ”

“ แน่ใจว่าไงวะบีน  งง ”

“ ก็เผื่ออยากคุยส่วนตัวไง ”

“ ไม่อะ  ให้บีนไปเป็นเพื่อนดีกว่าและก็ไปเป็นแฟนด้วย ”  น่ารักจริงผมเอื้อมมือไปเกาคางโอ๊ตโดยไม่อายนักเรียนคนอื่น




“อ้าว   กิ๊บนึกว่าโอ๊ตจะมาคนเดียว ” เด็กสาวใส่ชุดนักเรียนแขนยาวนั่งรออยู่ก่อนแล้วแต่ก็ต้องทำหน้าตาผิดหวังเมื่อผมเดินตามก้นโอ๊ตแล้วเข้าไปนั่งโต๊ะเดียวกัน

“ โอ๊ตก็ไม่ได้บอกนี่นาว่าจะไม่มีเพื่อนตามมาด้วย ”

“ อ่ะๆกิ๊บไม่เถียง ” กิ๊บทำท่ายอมๆโอ๊ต  ก่อนจะหันมาทางผม “ อ่ะนี่เธอสั่งไอติมให้ฉันกับโอ๊ตทานด้วยกันหนึ่งถ้วยนะ  เออว่าแต่วันนี้มีอะไร  หรือว่าคิดถึงเรา”  กิ๊บหันมาสั่งงานผม   ผมจึงเลือกรสไอติมแล้วเขียนบิลส่งให้พนักงานไปหนึ่งถ้วย

“ ใช่เราคิดถึงกิ๊บเลยชวนมา  เรามีเรื่องจะถามและก็มีเรื่องจะบอก ” ถ้าไม่มีประโยคหลังนี่ผมคงส่งสายตาพิฆาตไปหาโอ๊ตแล้วนะ

“ มีเรื่องอะไรจะถามหรอ  แต่กิ๊บว่ามันไม่ส่วนตัวเลยนะมีคนอื่นอยู่ด้วย ” กิ๊บบ่นกับโอ๊ตก่อนจะมองมาที่ผม  ผมที่หล่อนคงคิดว่าเป็นส่วนเกิน  ผมก็ได้แค่ยิ้มนิดๆให้กิ๊บเพราะเตรียมกับโอ๊ตไว้ว่าจะไม่เถียงกับกิ๊บเป็นอันขาด

“ ไม่เป็นอะไรหรอกบีนเขาไม่เอาไปบอกใครหรอก  บีนเป็นคนไม่เรื่องมาก ”

“ แน่นะ  แหมวันก่อนยังเถียงกับเราฉอดๆเลย ” กิ๊บบ่นอย่างเสียอารมณ์ก่อนจะถามโอ๊ตว่าจะถามว่าอะไร “ ว่าแต่โอ๊ตจะถามเรื่องอะไรหรอ”

“ อืม  เราจะถามว่ากิ๊บรู้สึกอย่างไรกับเราหรอ  คือเราอยากรู้จะได้ทำตัวถูก ”

“ ถามตรงๆแบบนี้ก็เขินแย่สิ  อ่ะๆตอบก็ได้ ” กิ๊บมีท่าทีเขินที่ผมดูแล้วก็แทบกลั้นขำไม่อยู่ “ กิ๊บชอบโอ๊ตและก็ชอบมานานแล้วด้วยตั้งแต่โอ๊ตยังไม่ไปเป็นแฟนกับกี้  คือกิ๊บไม่ซีเรียสนะที่โอ๊ตเคยคบกับเกย์มาก่อน  โอ๊ตคงโดนหลอกแน่ๆกิ๊บคิดว่าอย่างนั้นนะ  มันแค่ครั้งเดียวกิ๊บไม่ว่าอะไรหรอกเพราะยังไงโอ๊ตก็ยังเป็นผู้ชายอยู่ ”

“ อ่าฮะ  แล้วคือจะจีบเราหรอ ”

“ แหมโอ๊ต  โอ๊ตก็ไม่เห็นจีบเราก่อนเราก็เลยจีบโอ๊ตก่อนเลยไง  เราว่าเราเข้ากันได้นะ ” กิ๊บตอบด้วยตาที่เป็นประกายอย่างมีความหวัง

“ ใช่  เข้ากันได้ถ้าอยู่ในฐานะเพื่อนนะ”  กิ๊บตกใจทำหน้านิ่งไปก่อนที่โอ๊ตจะพูดต่อ  “ เราห้ามไม่ให้กิ๊บหยุดชอบเราไม่ได้หรอกนะ  แต่ถ้ากิ๊บอยากจะจีบเราอันนี้เราคงให้จีบไม่ได้เพราะโอ๊ตมีแฟนแล้ว ”

“ ห๊ะ  อะไรนะ  โอ๊ตมีแฟนแล้ว  ใครอีกล่ะโอ๊ต  ทำไมเราไม่รู้ ”

“ นี่ไงแฟนเรา ” โอ๊ตวาดแขนมาโอบไหล่ผม “ เราคบกันมาจะสองเดือนแล้ว ”

“ ไม่เชื่ออ่ะ  กิ๊บไม่เชื่อ  โอ๊ตอย่ามาอำกันนะ ”

“ ไม่ได้อำครับ ” โอ๊ตตอบไปซึ่งตรงกับจังหวะที่พนักงานมาเสิร์ฟไอติมพอดี

“ นี่ตกลงโอ๊ตเป็นเกย์จริงๆหรอ  นี่โอ๊ตเปลี่ยนไปขนาดนี้เลยหรอ  กิ๊บไม่เข้าใจจริงๆว่ามันดีมากเลยหรือไงกับการที่เดี๋ยวนี้พวกเกย์พวกผู้ชายถึงชอบคบกัน  ทุเรศ  กิ๊บรับไม่ได้ ”  กิ๊บบ่นอย่างๆไม่พอใจแล้วกอดอกมองไปนอนร้าน

“ ถ้ารับไม่ได้อย่างนั้นเราขอตัวก่อนนะ ป่ะบีน” โอ๊ตสะกิดผมให้ลุก

“ โอ๊ต ” กิ๊บเรียกโอ๊ตแต่ทางนั้นไม่มีท่าทีสนใจแล้วเดินออกจากร้านไป  เหลือแต่ผมยังไม่ลุกจากเก้าอี้เพราะอยากจะคุยกับกิ๊บสักหน่อย

“ ไอติมที่สั่งให้เป็นรสเรนโบว์นะ” ผมเลื่อนถ้วยไปใกล้ๆฝั่งกิ๊บก่อนจะบอกต่อว่า “ กินเลยนะไอติมสีรุ้ง  จะได้เข้าใจพวกรักร่วมเพศอย่างเราๆมากขึ้น ”

ผมพูดเสร็จก็ยิ้มมุมปากเล็กๆ  เอียงคอไปทางซ้ายนิดๆเป็นเชิงบอกว่า  พี่ชนะหนูนะ  แล้วเดินออกไปหาโอ๊ตอย่างสบายใจโดยที่อีกฝ่ายก็ยังไม่ทันได้ตอบโต้อะไรเพราะยังช็อคอยู่ 


.........................................................................................


“ มีเรื่องอะไรหรอครับอาบิ๊ก ”
อยู่ๆ คุณบิ๊กก็นัดผมกับโอ๊ตไว้ให้ไปเจอกันที่คอนโดผม  พอคุณบิ๊กมาถึงโอ๊ตก็เดินไปเปิดประตูพร้อมกับถามอา

“ เออเดี๋ยวอาจะคุยตอนนี้แหละ ” คุณบิ๊กถอดรองเท้าก่อนเดินเข้ามานั่งที่โซฟา “ คือว่าอาจะให้บีนเรียนเป็นเพื่อนเราเทอมนี้เป็นเทอมสุดท้ายนะ ” จริงด้วยคุณบิ๊กเคยบอกกับผมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว  ผมก็ลืมไปเลย

“ อ้าว  ทำไมไม่ให้เรียนจนจบ ม.๖ไปด้วยกันล่ะครับ ”

“ มันมีเหตุผล  มันปลอมแปลงยากขึ้นเพราะถ้าขึ้นม.๖ เราก็ต้องสอบนู่นนี่นั่นเยอะแยะ  สอบเข้ามหาลัยบางอย่างมันต้องใช้คะแนนที่มาจากการสอบบังคับ   แล้วคือบีนจะไปแอบอ้างเป็นนักเรียนไม่ได้แล้ว  อาไม่ได้เส้นใหญ่ขนาดจะให้บีนสอบโอเน็ต  แกตแพตได้  เข้าใจนะ ” โอ๊ตที่ตอนแรกเหมือนจะไม่เข้าใจเหตุผลแต่พอได้ฟังก็ยอมอ่อนลง

“ แล้วจะให้บีนทำอะไรต่อครับ ”

“ ก็ต่อไปก็ปิดเทอมพักผ่อนแล้วพอเราเปิดเทอมอาจะให้บีนไปทำงานที่บริษัทเราเป็นไง  โอเคไหม ”

“ ก็โอเคครับ  แต่อาไม่ต้องให้บีนไปทำแผนกที่งานหนักนะ  ตอนเย็นๆหรือวันหยุดผมอยากเจอบ้าง ”

“ ได้  บีนก็โอเคนะ  พักสักสองเดือนก่อนแล้วค่อยทำงาน  คอนโดนี้จะให้อยู่ฟรีเหมือนเดิมแล้วกัน ”

“ ขอบคุณคุณบิ๊กมากครับ ”

“ ไม่เป็นไร   ยังไงหลังเลิกงานบีนก็ต้องช่วยโอ๊ต  ไม่สิ  ควบคุมโอ๊ตให้ทำการบ้านส่งครูเหมือนเดิมด้วยอยู่แล้ว ”


ดีว่าทุกอย่างมันเริ่มจะผ่านไปด้วยดีเพราะผมได้เจอคนดีๆอย่างคุณบิ๊ก  โอ๊ตและก็เพื่อนๆ  นี่ต้องโทรไปขอบคุณป่านมันอีกทีเลยนะว่าถ้าไม่ได้มันชีวิตผมก็คงไม่ได้ดีขนาดนี้ 


วันต่อมาผมก็บอกอ๊อฟกับไบท์ว่าคงไม่ได้เรียนต่อ ม.๖ แล้ว สองคนนั้นก็บ่นเสียดายแต่พอรู้ว่าผมไม่ได้ไปไหนไกลก็โล่งใจ  ช่วงอาทิตย์สุดท้ายของการเรียนก็คือช่วงสอบคุณบิ๊กก็ทำเรื่องลาออกให้ผมพร้อมบอกเหตุผลว่าผมย้ายไปเรียนที่ต่างจังหวัดแต่เรื่องนี้คงเก็บเงียบไม่ให้เพื่อนในห้องรู้ก่อนจะถึงเปิดเทอมหน้า




และแล้วก็ถึงวันสอบเสร็จโอ๊ตได้ชวนผม ไบท์และก็อ๊อฟไปทานข้าวที่บ้านของโอ๊ตเองเพราะวันนี้คุณปู่คุณย่าท่านได้เป็นคนชวนและได้สั่งแม่บ้านให้ทำกับข้าวชุดใหญ่เพื่อฉลองที่หลานและเพื่อนๆสอบจบ ม.๕  กันเสร็จ  เราสี่คนนั่งทานข้าวกันกับคุณปู่กับคุณย่าของโอ๊ตซึ่งพวกท่านใจดีมากพร้อมกับบอกว่าวันนี้ไม่ต้องกลับบ้านให้นอนที่บ้านโอ๊ตนี่แหละ  เสียดายแค่คุณบิ๊กที่ไม่ได้มาฉลองด้วยเพราะติดงานด่วนที่ต่างประเทศ 

“ วันนี้แม่บ้านทำความสะอาดห้องรับแขกแล้วนะ   พวกมึงสองคนไปนอนได้เลย ” โอ๊ตบอกไบท์กับอ๊อฟขณะที่พวกเรากำลังจะเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้านเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำนอน

“ แหมกูรู้แล้วล่ะครับโอ๊ต ” อ๊อฟตอบโอ๊ตขึ้นทันควัน   

“ หลับให้สบายนะบีนคืนนี้ ” ไบท์บอกกับผมแล้วยักคิ้วกวนๆก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าห้องไปทั้งสองคน  ได้ทีแซวใหญ่เลยนะเด้กพวกนี้ 



“  โอ๊ตไปอาบก่อนเถอะ ”

“ อย่างนั้นก็ได้  เสื้อผ้าอยู่ในตู้นะ   ค้นๆดูอันไหนใส่ได้บ้าง ”
ผมที่กำลังค้นเสื้อผ้าอยู่ก็ได้ยินเสียงมือถือดังขึ้น  ใครโทรมานะ  ว่าแล้วก็เลยเดินไปดูมือถือที่วางอยู่ยนเตียง

“ สวัสดีครับ ” เป็นเบอร์แปลก

“ บีน ”

“ ใครหรอ ” ปกติไม่มีใครรู้จักเบอร์ปลอมผมนอกจากเพื่อนพวกนี้นะ




“ บอย ” 
ผมตกใจและนิ่งไปชั่วขณะก่อนคนในสายจะพูดต่อ  “ ตอนนี้บีนสะดวกไหม  บอยมีเรื่องจะพูดด้วย ”

“ เอ่อ  ได้ ” ผมเดินออกไประเบียงห้องก่อนจะพูดกับบอยต่อ “ แต่ไม่นานนะบอย  บีนง่วงแล้ว” ผมโกหกไปว่าง่วงเพราะกลัวโอ๊ตจะออกมาจากห้องน้ำก่อน

“ ได้ๆ  คือบอยจะไปกรุงเทพพรุ่งนี้นะ  ลงเครื่องประมาณ ๑๑ โมง  บีนอยู่ห้องไหม  มีเรื่องจะปรึกษาและบอยก็อยากเจอบีนด้วย  ”

“ บอยมีปัญหาอะไรหรือเปล่า  บอกทางนี้ก็ได้ไม่ต้องมาหรอก ”

“ ทำไมหรอบีน  ดูเหมือนบีนไม่อยากให้เราไปหา  ให้เราไปเถอะนะเราจองตั๋วไว้แล้ว ”  ถ้ามาก็ยุ่งอีกล่ะสิ  กลัวโอ๊ตจะรู้เข้าและถ้าโอ๊ตเจอบอยล่ะ  คงต้องได้อธิบายกันยาวแน่ๆ

“ เออได้ๆ  อย่างนั้นเจอกันที่ห้องเรานั่นแหละ ” ผมต้องโกหกโอ๊ตเสียแล้วว่ากลับบ้านไปหาแม่

.........................................................................................

วันรุ่งขึ้นผมออกจากบ้านโอ๊ตไม่สายมากเพราะกลัวว่าบอยจะมาถึงคอนโดก่อนโดยไม่ลืมที่จะบอกกับโอ๊ตว่าจะกลับบ้านไปสักสองวันทางนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไร  ลืมบอกไปครับว่าโอ๊ตรู้แล้วนะครับว่าบ้านผมอยู่ที่แถวนน

ติ้ง  ติ้ง ติ้ง

ถึงห้องได้ไม่ถึงสองชั่วโมงบอยก็มากดกริ่งหน้าห้องผมจึงออกไปเปิดประตู


แกรก


ผมมองคนที่อยู่ตรงหน้า  นั่นคือ คนที่ผมเคยรักมาก่อนถึงจะเป็นช่วงเวลาที่ไม่นานเท่าไหร่  บอยดูผมยาวขึ้นและดูผอมลงกว่าเดิม  หน้าตาดูซีดเซียวขอบตาคล้ำๆดูเหมือนคนนอนไม่หลับมาหลายวัน

“ เข้ามาในห้องก่อน ”  บอยเดินสะพายเป้เข้าไปในห้องก่อนที่ผมจะปิดประตูลง

“ อยู่คนเดียวหรอ ปิดเทอมยัง แล้วยังทำงานนี้อยู่อีกหรอบีน ”

“ ปิดเทอมแล้ว  เราก็อยู่คนเดียวในห้องปกติอยู่แล้ว  ส่วนงานก็เลิกทำแล้วแต่คุณบิ๊กให้อยู่ห้องนี้ต่อเพราะคุณบิ๊กจะให้เราไปทำงานบริษัทแทน ” ผมตอบบอยไปตามที่เจ้าตัวถามมา

“ อ้าว  ถ้าบีนไปทำงานบริษัทคุณบิ๊กไม่กลัวว่าโอ๊ตจะเห็นหรอ ”

“ เด็กรู้ความจริงแล้ว ”

“ จริงหรอ  แล้วน้องเขาไม่โกรธบีนหรอ ”

“ ไม่หรอก  น้องเขาเข้าใจ ” ผมพยายามจะเลี่ยงไม่บอกความสัมพันธ์ของผมกับโอ๊ตตอนนี้ว่าไปถึงไหนเพราะคิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะบอกแต่ตอนนี้ที่อยากรู้คือบอยมาทำไม “ ว่าแต่บอยมากรุงเทพทำไมหรอ ”

บอยถอนหายใจยาวก่อนจะค่อยพูดขึ้นมา “ ความจริงก็ไม่ได้อยากมารบกวนอะไรบีนหรอกนะ  แต่เราไม่รู้จะไปไหนจริงๆ ”

“ เล่ามาเถอะ ” บอยดูเหนื่อยลงทันทีเมื่อต้องเล่าเรื่องที่ดูจากท่าทางแล้วคงไม่สบายใจ

“ บีนจำได้ใช่ไหมว่าเราแต่งงานไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนแล้ว เพราะทางพ่อแม่เราไปปรึกษากับทางพ่อตาแล้วเขาบอกว่ามีฤกษ์แต่งดีเลยเร่งให้เราแต่ง  พอแต่งไปได้เดือนกว่าดาก็คลื่นไส้และบอกเราว่าท้องเพราะไปตรวจมาแล้วกะจะเซอร์ไพรส์เราทีหลัง  ตอนนั้นคือบอยดีใจมากนะที่มีลูก  พ่อแม่ของบอยและก็พ่อของดาก็ดีใจ  ทุกคนคอยประคบประหงมดาเป็นอย่างดีแต่เรื่องมันก็มาเกิดเมื่ออาทิตย์ก่อนตอนที่เรากำลังนอน  อยู่ๆก็ตื่นขึ้นมากลางดึกและไม่เห็นดานอนอยู่ข้างๆเลยว่าจะลงไปกินน้ำที่ครัวแล้วจะไปหาดาด้วยว่าอยู่ไหน  แต่ก้าวบันไดลงไปไม่ถึงสามขั้นก็ได้ยินเสียงดาคุยกับพ่อของดาอยู่ชั้นล่างของบ้านเราเลยชะงัก  พ่อของดาถามดาว่า สรุปไอ้ชายมันจะไม่มายุ่งกับแกแล้วใช่ไหม  แล้วดาก็ตอบว่า  ไม่แล้วล่ะพ่อให้เงินมันไปเป็นแสน ประโยคคำถามโต้ตอบกันนี้คงไม่ทำให้บอยแทบจะล้มทั้งยืนถ้าสองพ่อลูกไม่พูดกันต่อว่า  ทีหน้าทีหลังก็คิดดีๆนะดาก่อนจะทำอะไรลงไป  ดีนะที่ได้บอยมันมาช่วยรับลูกในท้องและบอยมันก็ไม่สงสัยอะไรเลยทั้งๆที่มันก็รู้ว่าแกพึ่งเลิกกับไอ้ชายก่อนแต่งไปไม่นาน  บอยได้ยินเท่านี้  เท่านี้จริงๆบีนแล้วบอยก็หูอื้อไปเลย  แทบจะเดินกลับห้องไม่ได้  ไม่มีคืนไหนเลยที่บอยจะหลับสนิทและตอนกลางวันยังต้องเก็บความรู้สึกนี้ไว้  ต้องยิ้มแย้ม  ต้องทำตัวเป็นลูกเขยที่ดีทดแทนบุญคุณพ่อตาที่ออกสินสอดให้ทั้งหมดในวันแต่งงานแลกกับการที่บอยไปช่วยกิจการที่บ้านของดา ” 

น้ำตาของคนที่โดนหลอกไหลออกจากดวงตาไม่ขาดสายขณะที่บอยเล่าโดยไม่มีเสียงสะอื้นใดๆ  ผมที่นั่งฟังอยู่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้น  ใช่ว่ารีบแต่งงานกันมันก็ต้องมีเรื่องให้นินทากัน เช่น ท้องก่อนแต่ง ซึ่งทางนั้นก็คงท้องก่อนแต่งจริงๆ แต่พ่อของเด็กกลับกลายเป็นคนอื่น

“ ทุกวันบอยต้องฝืนมองหน้า ร่วมโต๊ะอาหารหรือไม่ก็นอนเตียงเดียวกันกับเมียตัวเองที่เป็นคนหลอกลวง  ซึ่งมันเจ็บนะ  บอยเหมือนตกอยู่ในสถานะที่ทำอะไรไม่ได้เลย  ถ้าบอยโวยวายบอกทุกอย่างไปว่าบอยรู้ความจริงหมดแล้วมันจะเป็นอย่างไรหรือบีน ”

“ บอย  ถ้ามันอัดอั้นมากก็ร้องเถอะร้องไห้ออกมาให้เต็มที่ ”

“ บีน ” 

บอยขยับมากอดผมที่นั่งอยู่ข้างๆ  กอดที่รู้ว่าต้องการให้ผมกอดปลอบประโลมตอบ  ผมกอดบอยตอบก่อนจะพูดกับคนที่ร้องไห้จนไหล่ผมเปียกว่า

“ ไม่เป็นอะไรแล้ว  ไม่ต้องกลัวบีนอยู่ข้างบอยเสมอ ”

ผมนั่งโอ๋ไปพร้อมกับคิดไปว่าถ้าบอยขอหย่าล่ะ  มันก็ต้องรอให้เด็กคลอดแล้วไปตรวจดีเอ็นเอก่อนสินะ  ผมอยากให้บอยมีชีวิตที่ดีกว่านี้ซึ่งตอนที่ผมทำใจเรื่องบอยไปแต่งงานได้ใหม่ๆก็คิดเหมือนกันนะว่ามันเร็วไปหรือเปล่ากับการที่ต้องมีแต่งงานในช่วงที่บอยก็ไม่ได้โตพอ  แถมแต่งในลักษณะคลุมถุงชนอีก  บางครั้งการเป็นลูกที่ดีเชื่อพ่อแม่มากเกินไปจนลืมจุดยืนของตัวเองว่าต้องการอะไรในชีวิตมันก็ทำให้เขวได้นะ

“ เหนื่อยไหมบอย ”

คนที่พึ่งหยุดร้องไห้ลุกขึ้นนั่งท่าปกติแล้วเช็ดหน้าที่เปื้อนน้ำตา  “ เหนื่อย ”

“ ถ้าอย่างนั้นไปนอนก่อนก็ได้ ” ดุแล้วบอยยังคงเหนื่อยจากการเดินทางอยู่

“ ขอบคุณนะที่เป็นห่วงเรา ”
 

ผมเดินตามบอยที่เดินเข้าไปนอนบนเตียงนอนผมก่อนจะนั่งลงริมเตียง

“ นอนให้เต็มอิ่มนะ  เดี๋ยวอีกสักสองชั่วโมงเราจะมาปลุก ”

“ ขออย่างหนึ่งได้ไหมบีน ”  บอยยังไม่ได้บอกว่าอยากได้อะไรแต่เจ้าตัวกลับดึงตัวผมที่นั่งอยู่ให้ล้มลงไปแล้วนอนกอดผมไว้  ตอนนี้หน้าเราห่างกันไม่ถึงคืบ “ กล่อมเรานอนหน่อยนะ  เราคิดถึงบีน  คิดถึงกอดของบีน ” พูดเสร็จบอยก็ยื่นหน้าเข้ามาเตรียมจะจูบแต่ผมใช้มือบังไว้ทัน

“ นอนเถอะนะ  กอดเราได้แต่อย่าทำอย่างอื่นเลย ” บอยฟังผมเสร็จก็ส่งสายตาผิดหวังปนรู้สึกผิดกลับมา

“ ขอโทษนะ  เราคงไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้เพราะเราเลือกที่จะหนีบีนไปเอง ”

“ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามารื้อฟื้นอดีตกันหรอกนะ  นอนเถอะ ” ผมเอามือลูบไปที่หัวคนที่แก่กว่าสามปีจนหลับไปอย่างรวดเร็วก่อนจะ
เอื้อมมือไปข้างหลังเพื่อหยิบมือถือมาตอบไลน์ที่เตือนมาเมื่อกี้


โอ๊ต  -  ถึงบ้านหรือยัง

บีน  -   ถึงแล้ว

โอ๊ต -  โอเค  คืนนี้ขอไปเที่ยวกับไบท์นะ

บีน  -  ได้  ดูแลตัวเองด้วย

โอ๊ต - รักครับ




เฮ้อ  นี่ถ้าโอ๊ตรู้เข้าว่ามีคนนอนกอดผมอยู่ตอนนี้คงโดนโกรธอีกแน่ๆ 



.....................................................................................


โจทก์เก่ากลับมาแล้วนะครับ  น่าสงสารบอยเนอะโดนสองพ่อลูกต้มตุ๋นจนเปื่อยแต่จะทำยังไงได้ล่ะใครแฟนคลับบอยแสดงตัวหน่อยเร้ววววววววว

บีนนี่ก็ใจกว้างจริงเพราะบีนก็คงสงสารบอยจริงๆ

มาช่วยลุ้นกันว่าบอยจะมาทำให้ชีวิตบีนวุ่นวายไหมแล้วโอ๊ตจะว่ายังไงถ้าเกิดรู้ว่าบอยกลับมาเพราะโอ๊ตยังคงคิดว่าบอยเป็นเด็กมัธยมอยู่นะ

ขอบคุณผู้อ่านทุกๆคนเช่นเคยนะครับที่เข้ามาอ่านเข้ามาเม้นเดี๋ยวจะตอบกลับคนที่มาเม้นเช่นเคยนะ  น่าจะดึกๆของพรุ่งนี้
วันนี้ย่องมาดึกๆ ฝันดีนะทุกคน

เจอกันตอนที่ ๒๘ จ้า  :bye2: :pig4:




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-11-2015 22:26:28 โดย ลูกกุญแจ »

ออฟไลน์ Psongtt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
บอยอดทนได้ขนาดนี้ถือว่า เก่ง แต่ก็น่าสงสารนะ
คนเขียนบอกว่าฝันดีแต่ความจริงคงนอนอ่านนิยายโต้รุ่งสินะ
ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่นครับ
นอนตีพุงรอตอนต่อไปเน้อ

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
ชีวิตต้องเดินหน้าบอย สู้ๆๆ

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
สงสารบอยอะ น้ำท่วมปาก ไหนจะสถานะครอบครัวอีก
เราแค่หวังว่าทุกๆอย่างจะดีขึ้นนะทั้งฝั่งบีนและบอย
โอ๊ตเป็นเด็กดีไปตลอดนะ โอเค๊. ฮ่าๆ  :mew1:   อย่าให้เสียแรงที่เชียร์
ขอบคุณคนเขียนค่ะ

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
      ตอนแรกๆก็ไม่รู้จะแก้ไขยังไงหรอก พอเวลาผ่านไปสักพักบอยจะรู้วิธีแก้ปัญหาเองแหละ ใจเย็นๆบอย ไม่แน่บอยอาจจะเจอแฟนใหม่ก็ได้หนา   รอ รออ่านตอนใหม่ มาเร็วๆนะคับ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
“ บีน  วันนี้โอ๊ตนัดกิ๊บไว้ที่ร้านไอติมนะ” อยู่ดีๆโอ๊ตก็บอกผมขณะที่เรากำลังเก็บสมุดหนังสือเข้ากระเป๋าเตรียมกับบ้าน >>> เตรียมกลับบ้าน
“ ไม่อะ  ให้บีนไปเป็นเพื่อนดีกว่าและก็ไปเป็นแฟนด้วย ”  น่ารักจริงผมผมเอื้อมมือไปเกาคางโอ๊ตโดยไม่อายนักเรียนคนอื่น

คิดว่าถ้าโอ๊ตรู้แล้วโกรธบีนอาจทำให้โอ๊ตต้องปวดตัวจนไข้ขึ้นอีก  :oo1: :oo1: :oo1:
สงสารบอยนะ แต่บอยเลือกเองที่จะทิ้งบีนไปแต่งงาน
และดูท่าคงจะมีความสุขถ้าเป็นลูกของตัวเอง ไม่ใช่ลูกของแฟนเก่า
ถ้าไม่ทุกข์บอยคงไม่กลับมาหาบีน
หวังว่าโอ๊ตจะยอมฟังโกรธน่ะได้แต่อย่าโกรธจนเลิกกับบีนนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
บีนน่าจะบอกน้องโอ๊ดนะว่าจะไปเจอกับบอย มาม่า มาแต่ไกล

ออฟไลน์ ลูกกุญแจ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
บอยอดทนได้ขนาดนี้ถือว่า เก่ง แต่ก็น่าสงสารนะ
คนเขียนบอกว่าฝันดีแต่ความจริงคงนอนอ่านนิยายโต้รุ่งสินะ
ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่นครับ
นอนตีพุงรอตอนต่อไปเน้อ

รู้ได้ไงเนี่ยว่าเมื่อคืนเราลงนิยายเสร็จก็นอนอ่านนิยายคนอื่นต่อ
ฮ่าๆ ขอบคุณมากนะครับ

ชีวิตต้องเดินหน้าบอย สู้ๆๆ

ติดตามบอยกันต่อไปครับ บอยมาให้ทุกคนหายคิดถึง
สู้ๆนะบอย

ติดตามบอยกันต่อไปครับ ขอบคุณที่ติดตามกันนะครับ

สงสารบอยอะ น้ำท่วมปาก ไหนจะสถานะครอบครัวอีก
เราแค่หวังว่าทุกๆอย่างจะดีขึ้นนะทั้งฝั่งบีนและบอย
โอ๊ตเป็นเด็กดีไปตลอดนะ โอเค๊. ฮ่าๆ  :mew1:   อย่าให้เสียแรงที่เชียร์
ขอบคุณคนเขียนค่ะ

ขอบคุณคนอ่านครับ  เอาใจช่วยว่าโอ๊ตกับบีน 

เมื่อมีบอยเข้ามาจะเป็นอย่างไรต่อไปครับ

      ตอนแรกๆก็ไม่รู้จะแก้ไขยังไงหรอก พอเวลาผ่านไปสักพักบอยจะรู้วิธีแก้ปัญหาเองแหละ ใจเย็นๆบอย ไม่แน่บอยอาจจะเจอแฟนใหม่ก็ได้หนา   รอ รออ่านตอนใหม่ มาเร็วๆนะคับ

จะพยายามรีบมาต่อนะครับ  ขอบคุณมากนะครับ

“ บีน  วันนี้โอ๊ตนัดกิ๊บไว้ที่ร้านไอติมนะ” อยู่ดีๆโอ๊ตก็บอกผมขณะที่เรากำลังเก็บสมุดหนังสือเข้ากระเป๋าเตรียมกับบ้าน >>> เตรียมกลับบ้าน
“ ไม่อะ  ให้บีนไปเป็นเพื่อนดีกว่าและก็ไปเป็นแฟนด้วย ”  น่ารักจริงผมผมเอื้อมมือไปเกาคางโอ๊ตโดยไม่อายนักเรียนคนอื่น

คิดว่าถ้าโอ๊ตรู้แล้วโกรธบีนอาจทำให้โอ๊ตต้องปวดตัวจนไข้ขึ้นอีก  :oo1: :oo1: :oo1:
สงสารบอยนะ แต่บอยเลือกเองที่จะทิ้งบีนไปแต่งงาน
และดูท่าคงจะมีความสุขถ้าเป็นลูกของตัวเอง ไม่ใช่ลูกของแฟนเก่า
ถ้าไม่ทุกข์บอยคงไม่กลับมาหาบีน
หวังว่าโอ๊ตจะยอมฟังโกรธน่ะได้แต่อย่าโกรธจนเลิกกับบีนนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ขอบคุณที่ช่วยตรวจคำผิดให้นะครับ  ตอนนี้แก้ไขแล้ว
ยังไงก็ฝากติดตามกันต่อไปนะครับ  ขอบคุณมากๆครับ

ปล. โอ๊ตต้องเป็นเด็กดีของบีนครับ อิอิ

บีนน่าจะบอกน้องโอ๊ดนะว่าจะไปเจอกับบอย มาม่า มาแต่ไกล

คนเขียนไม่ชอบกินมาม่าครับ555 แต่อาจจะมีติดมานิดๆนะ

ออฟไลน์ ลูกกุญแจ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
ตอนที่  ๒๘


ผมตื่นเช้ามาก็โดนคนที่นอนข้างๆแย่งผ้าห่มไปผมเกือบหมดผืนจึงลุกขึ้นไปปิดแอร์แล้วเปิดระเบียงให้อากาศระบายก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ ทำธุระส่วนตัวจนเสร็จ  ออกมาบอยก็ไม่อยู่บนเตียงแล้วแต่ได้ยินเสียงทีวีข้างนอกห้องเปิดอยู่

“ เราปลุกบอยหรือเปล่า  นอนอิ่มไหม ”

“ อืม  เราดีขึ้นแล้ว ”

“ ไปอาบน้ำก่อนไป  เดี๋ยวออกไปหาอะไรกินแถวนี้กัน  พอดีของในตู้เย็นมันหมด ”
บอยว่าง่ายเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำก่อนจะแต่งตัวออกมาใช้เวลาไม่เกินสิบห้านาที

“ กินอาหารตามสั่งแถวๆคอนโดแล้วกัน ” ผมเดินนำบอยลงลิฟต์มาชั้นล่างก่อนจะเดินไปกินข้าวแถวๆคอนโด 
หลังจากสั่งอาหารกันเสร็จผมก็รินน้ำให้บอยและตัวเองก่อนที่บอยจะพูดขึ้นว่า

“ คิดถึงตอนที่เรายังเรียนด้วยกันนะ   ตอนนั้นเย็นๆถ้าไม่ได้ทำกับข้าวเราก็จะมากินที่นี่ ”

ผมยิ้มให้บอยที่ดูท่าทางสภาพจิตใจจะดีขึ้นกว่าเมื่อวานนี้มาก “ ตอนนี้เราก็อยู่ด้วยกันแล้วนี่ ”

“ บอยตัดสินใจแล้วนะบีน  บอยว่าจะรอให้เด็กคลอดออกมาแล้วขอตรวจดีเอ็นเอ  ถ้ามันไม่ตรงจริงๆตามที่เราคิดก็คงจะขอหย่า ” ลืมไปว่าบอยจดทะเบียนสมรสด้วยแฮะ

“ แล้วทางพ่อตาจะไม่ว่าอะไรหรอ ”

“ ไม่รู้สิ  บอยจะลองสู้ดูสักครั้ง  ยังไงมันก็เป็นความจริง ”

“ แล้วถ้าหย่าแล้วจะไปอยู่ไหนพ่อแม่บอยก็แก่แล้วนะ ”

“ พ่อแม่น่าจะอยู่ได้  บอยว่าจะกลับมาสมัครงานที่บริษัทคุณบิ๊กนี่แหละ บอยอยากให้บีนช่วยพูดให้หน่อยเพราะกลางๆปีบอยก็มาแล้ว  บอยอยากกลับมาหาบีน ” บอยไม่พูดเปล่าแต่เอามือมากุมมือผมที่วางอยู่บนโต๊ะไว้

ผมค่อยๆดึงมือตัวเองออกมาจากมือบอย “ บอย  ตอนนี้ระหว่างเรามันเป็นได้แค่เพื่อนนะ ” ระหว่างที่พูดแม่ค้าก็มาเสิร์ฟข้าวพอดี “ กินข้าวก่อนเถอะแล้วค่อยคุยกัน ”




“ บีน ” บอยเรียกผมทันทีที่เรากลับมาถึงห้อง

“ มาๆ มานั่งคุยกันก่อน ” ผมเรียกบอยให้ไปนั่งคุยที่โซฟา

“ บอยยอมรับว่าบอยทิ้งบีนไปแต่บีนให้โอกาสบอยได้กลับมาแก้ตัวอีกครั้งได้ไหม  ขอแค่รอเราหน่อยสักห้าหกเดือน ”  ผมมองลึกเข้าไปในดวงตาที่อ้อนวอนของบอย

“ คงไม่ทันแล้วล่ะบอย ”

“ หมายความว่ายังไงบีน  บีนมีคนอื่นแล้วหรอ   มันเป็นใคร ”  ดุท่าแล้วบอยก็น่าจะเดาออก

“ โอ๊ต   ตอนนี้บีนคบกับโอ๊ต ” บอยหยุดนิ่งไปทันทีที่ผมเฉลยความจริงออกไป “ บอย  ไม่ต้องเสียใจหรือตกใจหรือจะไปคิดว่ามันเป็นความผิดของใครหรอกนะ  ยังไงเราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ ”

“ คบกันมานานแล้วหรอ ”

“ จะสองเดือนแล้ว ”
บอยก้มหน้าลงมองพื้น  ผมจึงเอื้อมมือไปจับที่ปลายคางให้เงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มให้บอย

“ ไม่ต้องเศร้า  บอยคิดดีแล้วใช่ไหมที่จะกลับมาหรืออยากกลับมาเพราะว่าเรา ”

“ ก็มันไม่ใช่ลูกของบอย  บอยเหมือนถูกหลอก ”

“ แล้วบอยจะปฏิเสธไหมว่าถ้าในท้องนั้นเป็นลูกของบอย  บอยก็คงจะอยู่ที่หนองคายอย่างมีความสุข  เราอยากให้บอยกลับไปที่นั่นนะเพราะมันอยู่ง่าย  กลับมานี่มันลำบาก  ไปอยู่ที่หนองคายดีไม่ดีบอยอาจได้สืบทอดกิจการของทางพ่อตาก็เป็นได้  เรื่องลูกมันไม่สำคัญหรอกถ้าเด็กเกิดมาแล้วเรียกเราว่าพ่อ  บอยก็คือพ่อ ”

บอยพยักหน้าตามผมอย่างเนือยๆ “ บอยกลับไปนะ  ไปคุยกับดาให้รู้เรื่อง  คุยตอนที่คลอดก็ได้ถ้ากลัวทะเลาะกัน  เราอยากให้บอยบอกไปว่าบอยรู้ความจริงหมดแล้วแต่บอยก็ยอมรับเด็กคนนั้นเป็นลูก  แค่นี้ก็ยิ่งมีแต่ได้กับได้นะบอยเพราะทางนั้นเขาก็ดูรักและเอ็นดูบอย ”

น้ำตาจากการที่อัดอั้นตันใจของบอยไหลมาเต็มหน้าอย่างไม่ขาดสาย

“ เราเป็นห่วงบอยนะและหวังว่าบอยจะเข้าใจ ”

“ ขอบคุณมากนะบีน  เอาเป็นว่าเราจะจองตั๋วกลับพรุ่งนี้ก็แล้วกัน  ไม่อยากรบกวนบีนนาน ”

“ สู้ๆนะบอย  มีปัญหาอะไรก็โทรหาเรา  คืนนี้ก็นอนที่นี่ต่ออีกคืนแล้วกัน ” ความใจดีของผมก็ลืมไปว่าบอกกับโอ๊ตไปว่าพรุ่งนี้จะกลับจากบ้าน  ถ้าโอ๊ตเกิดดันมาหาที่คอนโดตั้งแต่เช้าล่ะ

ผมจึงรีบโทรไปหาโอ๊ตว่าจะกลับมาจากบ้านเย็นๆ ไม่อยากให้รถไฟชนกันโดยไม่มีเหตุจำเป็น


........................................................................................


ผมเดินลงมาส่งบอยขึ้นแท็กซี่ที่หน้าคอนโดตั้งแต่เก้าโมงเช้าเพราะบอยเองก็ดูอยากรีบกลับบ้านเมื่อได้รับคำแนะนำจากผม  ผมมองบอยที่นั่งอยู่ในแท็กซี่ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไป  ตอนนี้เราอยู่ในสถานะเพื่อน ผมจึงกล้ามองบอยจากไปจนกว่าจะลับสายตา  สักวันก็ต้องได้เจอกัน



เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว กลางเดือนธันวาคมอากาศในกรุงเทพก็หนาวได้ไม่กี่วัน  ผมอยู่ในคอนโดกับโอ๊ตที่งอแงอ้อนผมให้ช่วยติวหนังสือให้  แต่ผมก็คงช่วยอะไรไม่ได้เท่าไหร่เพราะมันสอบคนละแบบกันกับที่ผมเคยสอบมาจริงๆพูดง่ายๆรุ่นผมมันแก่แล้วบวกกับเด็กมันพัฒนาขึ้นเยอะมากๆครับ  ข้อสงสัยหรือคำถามที่น้องมันไม่ได้  อันนี้มันก็เกินความสามารถผมและผมก็หาคำตอบให้น้องไม่ได้เช่นกัน   

เกรดที่เห็นว่าได้เยอะขึ้นตอนเรียนด้วยกันตอนนี้โอ๊ตขึ้นมาติดหนึ่งในสิบของห้องแล้วนั่นมันคือสัญญาณที่ดีและมันก็ดีมากขึ้นไปอีกเมื่อโอ๊ตสอง GAT/PAT ไปเมื่อต้นเดือนก็เห็นบอกว่าทำได้นะ  ผมจึงทำได้แค่เป็นกำลังใจให้กับการเตรียมสอบ ๗ วิชาสามัญในต้นปีหน้าก็คงพอ

ในส่วนของงานของผม  คุณบิ๊กก็ให้ผมไปเป็นผู้ช่วยของเลขาแกอีกทีหนึ่งก็คือ พี่ปุ๋ย นั่นเอง  งานก็ไม่หนักไม่เบามากแค่นั่งประจำออฟฟิศช่วยงานพี่ปุ๋ย   ถ้าพี่ปุ๋ยไปข้างนอกกับคุณบิ๊กผมก็ต้องนั่งรับงานดูงานแทนทั้งสองที่ออฟฟิศ  ผมสบายใจขึ้นนะได้ทำงานแบบจริงๆจังๆไม่ต้องปกปิดปลอมตัวให้เหนื่อยอีก 

แต่บางวันนั่งทำงานก็ไม่วายมีเด็ก ม.๖ มานั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆไม่ก็มากวนผมทั้งๆที่เมื่อก่อนโอ๊ตไม่เห็นเข้ามาในออฟฟิศเลยจนผมโดนเพื่อนร่วมงานแผนกอื่นแซวกันเกือบทุกวันว่าเส้นใหญ่บ้างล่ะ  หลานสะใภ้บริษัทบ้างล่ะ โดยหัวโจกในการมาแซวกันอย่างสนุกปากก็คือป่านนั่นเอง  ตอนแรกก็อายๆหลังเฉยๆครับ  มีแค่โอ๊ตที่โดนอาดุบ้างว่าอย่ามากวนบีนเขา 

แต่ถึงที่สุดแล้วความตั้งใจในการเรียนของโอ๊ตก็ไม่สูญเปล่า   โอ๊ตสอบได้ในคณะและสาขาบริหารธุรกิจบัณฑิตตามที่อยากเรียนแถมยังเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐชื่อดังด้วย  ผมกับไบท์ อ๊อฟ ก็มาฉลองกันที่บ้านโอ๊ต  คุณปู่คุณย่าท่านดีใจมากๆ เมื่องานเลี้ยงใกล้จะจบคุณบิ๊กจึงเรียกผมกับโอ๊ตไปนั่งคุยในห้องทำงานด้านบนของบ้าน

“ มาแล้วครับ ”  ผมกับโอ๊ตเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับคุณบิ๊ก

“ ที่เรียกมาคุยตอนนี้เพราะมีเรื่องอยากให้บีนทำนะ  คือ  ผมจะให้บีนหยุดทำงานไปก่อนนะเพราะมีหน้าที่อยากให้ทำ ”

“ ทำอะไรครับ ”

“ ผมอยากให้บีนไปเรียนต่อเกี่ยวกับบริหารธุรกิจเหมือนๆกับโอ๊ตนี่แหละ  ต่อโท  จะเรียนไหม ”

“ เอ่อ ” เอายังไงดี

“ เรียนเถอะบีน  นะๆ เรียนไปด้วยกัน  อาบิ๊กจะให้เราไปเรียนที่เดียวกันเลยจะให้บีนหยุดทำงานไปก่อน ”

โอ๊ตเองก็ช่วยอาโน้มน้าวจิตใจผมอีกคน  แต่ถ้าเรียนก็ไม่เสียหายนะ  มีความรู้ติดตัวเพิ่มขึ้นอีก

“ ได้ครับ  ผมจะเรียน ”

“ เย้ๆ ” โอ๊ตกระโจนเข้ามากอดผมอย่างดีใจ

“ เฮ้ยๆใจเย็นโอ๊ต ” คุณบิ๊กเบรคหลานก่อนจะพูดต่อว่า “ เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องเป็นห่วงนะ  เดี๋ยวผมจะออกให้หมด   แต่ถ้าไปเรียนกับโอ๊ตก็ขอฝากหลานผมไว้กับคุณเหมือนเดิมนะบีน ”

“ ได้ครับ ”  ตายแล้ว  ทำไมสองปีมานี้ผมโชคดีจังเลย

“ แล้วโอ๊ตไปอยู่กับบีนได้ไหมครับอาบิ๊ก ”

“ ไม่ได้  โอ๊ตก็อยู่บ้านนี่แหละ  คิดถึงค่อยไปหากันเข้าใจไหม  ยังไงในหนึ่งอาทิตย์ก็คงมีเรียนตรงกันอยู่หรอก”

“ ครับ ” โอ๊ตตอบไปอย่างเสียดาย  ดีแล้วล่ะครับ  แยกกันอยู่จะดูดีกว่าเพราะถ้าอยู่ด้วยกันคงเบื่อกันแน่ๆ

“ อีกเดือนโอ๊ตก็จะจบ ม.๖ แล้ว บีนก็เหลือเวลาทำงานอีกหนึ่งเดือนเหมือนกันนะ  ระหว่างที่ปิดเทอมก็พักผ่อนให้เต็มที่แล้วกัน  จะไปเที่ยวกันก็ได้แต่ต้องปลอดภัยนะ ”

วันนี้เป็นวันดีจริงๆครับ  นอกจากโอ๊ตจะมีที่เรียนต่อแล้ว  ผมก็จะได้เรียนต่อปริญญาโทด้วย  มหาลัยเดียวกันอีกต่างหาก
“ นอนกันดีกว่าบีน  มาๆมากอดกัน  พรุ่งนี้จะได้ตื่นมาเลือกที่เที่ยวตอนปิดเทอมกันโอเคไหม ”

ผมนอนหลับไปในอ้อมกอดของว่าที่นิสิตใหม่ป้ายแดง  ต่อจากนี้ก็เป็นการเริ่มต้นในอีกเส้นทางแล้วสินะผมเองก็สัญญากับตัวเองว่าจะตั้งใจสอบเข้าเรียนแล้วก็จะตั้งใจเรียนให้จบไม่ให้คนส่งเรียนต้องผิดหวังเป็นอันขาด


...


ปลายหน้าหนาวและต้นฤดูร้อน ผมกับโอ๊ตนั่งศึกษาข้อมูลการเดินทางและวางแผนกันว่าจะไปเที่ยวอันไหนก่อนหลังดี  ผมนั่งมองโอ๊ตที่ดูจริงจังกับการแบ็คแพ็คไปเที่ยวกันสองคนโดยเราตกลงกันว่าจะไปภาคเหนือกันก่อน  ทั้งจังหวัดแพร่และน่าน  ดูแล้วโอ๊ตดูจะตื่นเต้นกว่าผมอีกที่จะได้ออกผจญภัย

“ เราต้องจัดกระเป๋ากันนะบีน  โอ๊ตไปอ่านมาในเน็ตแล้วต้องมี  ยา  แผนที่  ไฟฉาย  มีดพกเอนกประสงค์  พวกของใช้ส่วนตัว ”

“ อย่างนั้นก็จัดกันเลย  ขาดเหลืออะไรจะได้ไปหาซื้อตอนเย็น ”


การที่ผมกับโอ๊ตไปเที่ยวภาคเหนือครั้งนี้โดยผมก็แกล้งโง่  ทำเป็นไม่หาข้อมูลหรือไม่ค่อยได้แสดงบทบาทการเป็นผู้นำก็เพราะอยากเห็นโอ๊ตได้ฝึกในเรื่องการวางแผนการเป็นผู้นำศึกษาเส้นทาง  มันเป็นการฝึกอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ให้เจ้าตัวนั้นรู้ตัวซึ่งก็ได้ผลออกมาดีมาก  อีกทั้งโอ๊ตไม่เห็นจะบ่นจะเรื่องมากเหมือนสมัยแต่ก่อน  กินนอนอยู่แบบวิถีชาวบ้านก็ยังได้  กลายเป็นผมเสียอีกที่บางครั้งต้องเดินแบ็คแพ็คไกลๆก็เป็นฝ่ายที่ขอหยุดพักเสียหรือไม่ก็อู้เสียเอง

“ ต่อไป  ไปไหนดี ” ปลายเดือนมีนาหลังจากผมสอบภาษาอังกฤษเพื่อเอาคะแนนไปยื่นสมัครเรียนปริญญาโทเสร็จโอ๊ตก็ถามถึงการเดินทางของเราต่อ

“ ไปใกล้ๆนี่แหละโอ๊ตเมืองกาญไหมล่ะ  ไปเที่ยวรถไฟสายมรณะ  ช่องเขาขาดอะไรแบบนี้  ได้ความรู้ด้วย ”

“ เออดีๆ ครั้งนี้จะชวนไบท์ไปด้วยแล้วกัน  เสียดายไอ้อ๊อฟว่ะแต่ก็หมั่นไส้มัน  มันหนีไปเที่ยวกับญาติมันที่สิงคโปร์โน่น ”

ครั้งนี้ไปเที่ยวกาญจนบุรีสามสี่วันก็จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งและผมก็ยังเป็นตัวถ่วงเด็กอีกสองคนเหมือนเดิมในการที่ต้องเดินไกลๆ นี่กลับมาครั้งนี้ต้องออกกำลังกายให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงเหมือนตอนที่เรียนป.ตรีเสียแล้ว



“ นี่ถ้าไม่ได้ลุงชัยไปรับมาผมก็ไม่รู้ว่าจะออกมาจากซอยหน้าบ้านผมยังไงเหมือนกันครับ  รถก็ไม่ค่อยมี  เดินไปอีกนิดก็คงเปียก ”  ลุงชัยแกรับคำสั่งจากโอ๊ตว่าให้ไปรับผมจากบ้านที่นนท์ให้ไปส่งที่คอนโดซึ่งโอ๊ตก็ไปรอผมที่คอนโดอยู่แล้ว

“ ไปเล่นเถอะนะๆบีน ”

“ แล้วถ้าไปเจอเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกันล่ะโอ๊ต ”

“ ก็ไม่เห็นยาก  ก็บอกว่ากลับมาเที่ยวกรุงเทพก็แค่นั้น ”
โอ๊ตยังไม่หยุดอ้อนให้ผมไปเล่นสงกรานต์ด้วยตั้งแต่ก่อนผมกลับไปบ้านเมื่ออาทิตย์ก่อน  กลับมาที่คอนโดก็ยังตามตื้ออยู่

“ ไม่เอา  ไม่อยากเปียก ” ผมตอบออกไปก่อนจะเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัว

โอ๊ตก็เดินตามก้นผมมา  “ ถ้าไม่ไปเดี๋ยวโอ๊ตโดนสาวที่ไหนดึงไปปะแป้งหรือดึงไปกอดไม่รู้ด้วยนะบีน ” จริงด้วยสิ  เด็กสมัยนี้ยิ่งกล้าๆกันอยู่

“ อย่างนั้นก็ไป  โอเคไหม ” ผมรีบตอบกลับไปทันทีที่คิดได้

“ เย้ๆ ”

“ เออ บีนเปลี่ยนชุดก่อน ”

ผมเปลี่ยนใส่กางเกงว่ายน้ำขาสั้นแทนกางเกงในก่อนจะใส่กางเกงผ้าขาสั้นทับอีกรอบ  แบบนี้ค่อยไม่คันไม่ชื้นเวลาเปียกน้ำนานๆ เรื่องอุปกรณ์เล่นน้ำไม่ต้องห่วงครับทางโอ๊ตเตรียมปีนฉีดน้ำมากดดันผมให้ไปด้วยตั้งแต่แรกแล้ว 

“ แล้วจะไปกี่โมงล่ะ  นี่พึ่งสิบเอ็ดโมงเอง ”

“ เถอะน่าบีนไปเล่นที่ข้าวสารก่อนแล้วกัน  มีถุงใส่มือถือแล้วใช่ไหม ”

“ เออจริงไม่มี   เดี๋ยวค่อยไปซื้อ ”




เราไปเล่นน้ำที่ถนนข้าวสารกันก่อน  เดินๆฉีดน้ำใส่คนโน้นคนนี้ไปเรื่อยๆก็เย็นและสนุกดีครับ  ส่วนโอ๊ตนั้นจะเป็นที่สนใจของสาวๆเป็นพิเศษถึงผมจะคิดว่าดูไปดูมาโอ๊ตก็ไม่ได้หล่ออะไรเหมือนสมัยที่เจอกันครั้งแรกๆก็ตาม 

“ หาอะไรกินกันบีนหิวแล้ว ”

“ กี่โมงแล้วล่ะ ”

“ บ่ายโมง   อย่างนั้นไปกินไก่กัน  กินเสร็จแล้วไปเล่นที่สีลมแล้วกัน ”

การเล่นสงกรานต์ก็เหมือนการผจญภัยในฝูงชนขนาดใหญ่ครับ  ไปสองคนนี่กลัวหลงกันมากจนบางครั้งต้องจับมือกันไว้  บางคนก็มองเราด้วยสายตาแปลกๆไม่ก็มองยิ้มๆ  เอาจริงๆก็อายนะเพราะเวลามีแฟนผมไม่ค่อยชอบจูงมือกันเท่าไหร่



หลุด


ในที่สุดตรงสีลมมันเบียดเสียดกันมากจนมือเราหลุดจากกันครับ  ผมจึงเดินออกมาตรงข้างทางมองดูโอ๊ตที่ไหลไปกับผู้คน  รอสักพักคงโทรมา

“ เดี๋ยวบีนรออยู่หน้าซอยแล้วกันโอ๊ต ”  ผมรับสายโอ๊ตก่อนจะเดินย้อนกลับไปยืนรอใกล้ๆหน้าซอย

“ มาคนเดียวหรอครับน้องหรือว่าหลงกับเพื่อน ” ผมหันไปทางพี่ผู้ชายสองสามคนที่นั่งกินเบียร์อยู่ตรงเก้าอี้ทางเดิน  ท่าทางคงจะเมานิดๆ  ด้วยความที่ไม่อยากพูดกับคนแปลกหน้าและกลัว  ผมเลยยิ้มๆแล้วจะเดินเลี่ยงออกแต่โดนหนึ่งในนั้นลุกขึ้นมาดึงแขนไว้เสียก่อน

“ จะไปไหนครับถามไม่ตอบ  มากินเบียร์กับพี่ก่อนเร็ว ” นี่ไม่ใช่ดึงแขนแล้วครับเรียกว่าลากมากกว่า  พี่ผู้ชายกอดอกผมด้วยแขนข้างเดียวจากข้างหลังแล้วดึงผมไปนั่งตักตัวเองที่เก้าอี้ก่อนจะขยำนมผมแรงๆหนึ่งที

“ ปล่อยก่อนพี่  ผมรอเพื่อนผมอยู่ ”

“ มาให้หอมแก้มก่อนนะมาๆ ” ฟอด หอมไปแล้วหนึ่งที  “ ท่าทางอ้อนแอ้นแบบนี้มีจู๋ไหมนี่  มึงลองจับดูซิ ” ไม่นะมันบอกให้เพื่อนเอื้อมมือมาจับที่เป้าผมแต่ผมยังคงมีบุญอยู่เมื่อมีเสียงทักขึ้นมาก่อน

“ ไอ้ตี๋  มึงทำอะไร ”

“ อ้าว  สวัสดีครับพี่กฤช ”
 
“ มึงปล่อยน้องเขาก่อนสิวะ  กูรู้จักน้องเขา ”  พี่กฤชจริงๆไม่ได้เจอกันนานอยู่นะ  พี่แกมากับเพื่อนอีกสามสี่คนท่าทางดูมีอำนาจถึงกล้าสั่งพี่พวกนี้ได้

“ ปล่อยแล้วครับพี่ ”

“ แล้วมึงไปทำเหี้ยอะไรน้องเขาวะ ”

“ ก็ผมเห็นน้องมันน่ารักดีเลยอยากแกล้งเสียหน่อยก็แค่นั้นเองพี่  ขอโทษครับ ”
ท่าทางพี่ผู้ชายที่ชื่อตี๋คงกลัวพี่กฤชเอามากๆ

“ ลูกน้องเก่าพี่เอง  ขอโทษด้วยนะบีน ” เป็นหัวหน้าฟิตเนสนี่มีอำนาจขนาดนี้เลยหรอวะ

“ ขอบคุณครับ ”

ผมยกมือไหว้ก่อนจะหันหน้าไปมองดูโอ๊ตว่าออกมาหรือยัง  นั่นไงเดินมาพอดีอยู่ห่างๆไปประมาณ๑๐๐เมตร  โอ๊ตมองมาทางผมแล้ววิ่งเหยาะๆมาก่อนที่ผมจะโดนพี่กฤชดึงตัวไปกอดคอแล้วขู่กับลูกน้องเก่าอีกว่า

“ คนนี้เด็กกู  เห็นที่ไหนก็ห้ามยุ่ง  เข้าใจตรงกัน ” พี่กฤชพูดออกมาอย่างไม่เกรงกลัวใคร  เสียงดังฟังชัด  นี่มันนักเลงขึ้นมากเลยนะนี่ไม่เหมือนสมัยก่อนเลย

“ บีนไปก่อนนะพี่  ” ผมบอกพี่กฤชแค่นั้นก็วิ่งไปหาโอ๊ตที่หยุดยืนห่างจากผมไม่ไกล  หวังว่าคงจะไม่ได้ยินนะว่าใครเป็นเด็กใคร

“ โอ๊ต  คือ เราเจอคนรู้จักน่ะเลยคุยกันนิดหน่อย  ป่ะ ”

โอ๊ตมองหน้าผมนิ่ง  เหมือนจะโกรธอะไรสักอย่าง


“ กลับ  เรามีเรื่องต้องคุยกันนะบีน ” กำข้อมือผมแน่นแล้วพาเดินออกไปขึ้นรถกลับคอนโด



เฮ้ย  นี่โอ๊ตจะไปเข้าใจผิดเรื่องที่ผมเป็นเด็กพี่กฤชไม่ได้นะ  จะว่าไปก็ไม่กล้าอธิบายหรอกครับหน้าโอ๊ตตอนนี้จะกินผมไปทั้งคนก็ยังได้  หน้าโหดเย็นชาสุดๆ ถึงคอนโดค่อยพูดกันดีๆจะดีกว่า




.........................................................................................


บีนมาแล้วพร้อมเคลียร์ปัญหาชีวิตให้บอย  ได้เรียนต่อโทอีกแต่ก็ยังไม่วายมีปัญหาเล็กๆน้อยๆเข้ามาอีก
 
อย่างนี้แหละนะคนเป็นแฟนกัน ฮ่าๆ

วันนี้มาไม่ดึกมาก  ไม่ดึกสำหรับเรานะ  ยังไงก็ขอบคุณที่คอยติดตามกันมาตลอดนะครับ เรื่องนี้ใกล้จะจบแล้วนะครับ

ฝากเม้นแสดงความคิดเห็นกันได้เลยเดี๋ยวเราจะมาตอบกลับ  คืนนี้ฝันดีครับ  ส่วนเราแอบไปอ่านนิยายคนอื่นต่อก่อนแล้วกัน จุ๊บๆ


 :bye2: o13


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
หื้มมมม อีตากฤชนี่มายังไง ชอบบีน?

นึกว่าจะได้สวีทกับโอ๊ตต่อแล้วเชียว



(คุณบิ๊กนี่พ่อพระรองดีเด่นเหลือเกิน~)

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
อ้าวเด็กหึงซะแล้ว 55555+
ทำไมบีนมันไม่สู้คนที่มาลวนลามเลยเห็นหลายทีแหล่ะ
กับพวกเด็กๆ เก่งจัง 555555+

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เราว่าบีนทำถูกนะ. เข้าข้างสุดๆ
เรื่องบอยก็ทำถูก มีระยะห่างแถมชี้ทางให้ อย่าทำให้เขากลายเป็นคนหนีปัญหาเลย ต่อไปจะดูแลใครได้
เรื่องโอ๊ต. ตามเด็กไปเรียนด้วย ไปดูแลก็แค่บทบาทหนึ่ง แต่ในฐานะแฟนต้องยอมแกล้งโง่บ้าง อ่อนแอบ้างให้เขาเอาใจเรา. กราบขอบคุณคุณบิ๊กคอยสนับสนุนหลานสะใภ้มาตลอด อิอิ
อีกเรื่องก็ที่สีลม แก๊งนั้นมีมีดมีปืนมียาหรือเปล่าไม่รู้ตัวคนเดียวอ้อนแอ้นแบบนั้นสู้แรงเขาไม่ไหวหรอก ค่อยๆใช้ไม่อ่อนก็ถูกแล้ว
พอเจอพี่กฤชแล้วรีบชิ่งแต่ก็ใช้ประโยชน์จากการที่เป็นเด็กพี่กฤชเอาตัวรอดมาได้. ที่เหลือก็อ้อนเด็กโอ้ตมันเข้าไป. เอาให้ไปไหนไม่รอดเลย. ฮ่าาาาา. เสร็จบีนหมด. แฟนเก่าก็ดูท่าจะอยากรีเทิร์นนะ
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
โอ๊ตระหว่างทางที่กลับ ก็คิดให้ดีก่อนที่จะโกรธบีนเรื่องกฤชนะ
หึงได้แต่ก็ให้รับฟังเหตุผลด้วย เดี๋ยวจะโกรธจนปวดตัวอีก :oo1:
ว่าแต่คุณอายอมรับเรื่องโอ๊ตบีน แล้วคุณปู่คุณย่าน้องโอ๊ตล่ะรู้เรื่องรึยังว่า
หลานชายหาหลานสะใภ้มาไว้รอแล้ว

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
โอ๊ดได้ยินชัวร์ ท่าจะโกรธบีนด้วย ยังงัยก็อย่ารุนแรงกับพี่บีนนะค่ะน้องโอ๊ด^^ :hao3:

ออฟไลน์ ลูกกุญแจ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
หื้มมมม อีตากฤชนี่มายังไง ชอบบีน?

นึกว่าจะได้สวีทกับโอ๊ตต่อแล้วเชียว



(คุณบิ๊กนี่พ่อพระรองดีเด่นเหลือเกิน~)

คุณบิ๊กคือคนที่ดีเกินไปไหมครับ ฮ่าๆ รอดูว่าพี่กฤชแกทำไปทำไม

อ้าวเด็กหึงซะแล้ว 55555+
ทำไมบีนมันไม่สู้คนที่มาลวนลามเลยเห็นหลายทีแหล่ะ
กับพวกเด็กๆ เก่งจัง 555555+

เป็นจุดอ่อนของบีนที่บีนได้บ่นๆให้ฟังในตอนก่อนหน้านู้นนนนนน  ว่า

เจอเด็กกล้าข่ม  แต่กับคนที่แก่กว่านี่ไม่กล้าหือเลย

เราว่าบีนทำถูกนะ. เข้าข้างสุดๆ
เรื่องบอยก็ทำถูก มีระยะห่างแถมชี้ทางให้ อย่าทำให้เขากลายเป็นคนหนีปัญหาเลย ต่อไปจะดูแลใครได้
เรื่องโอ๊ต. ตามเด็กไปเรียนด้วย ไปดูแลก็แค่บทบาทหนึ่ง แต่ในฐานะแฟนต้องยอมแกล้งโง่บ้าง อ่อนแอบ้างให้เขาเอาใจเรา. กราบขอบคุณคุณบิ๊กคอยสนับสนุนหลานสะใภ้มาตลอด อิอิ
อีกเรื่องก็ที่สีลม แก๊งนั้นมีมีดมีปืนมียาหรือเปล่าไม่รู้ตัวคนเดียวอ้อนแอ้นแบบนั้นสู้แรงเขาไม่ไหวหรอก ค่อยๆใช้ไม่อ่อนก็ถูกแล้ว
พอเจอพี่กฤชแล้วรีบชิ่งแต่ก็ใช้ประโยชน์จากการที่เป็นเด็กพี่กฤชเอาตัวรอดมาได้. ที่เหลือก็อ้อนเด็กโอ้ตมันเข้าไป. เอาให้ไปไหนไม่รอดเลย. ฮ่าาาาา. เสร็จบีนหมด. แฟนเก่าก็ดูท่าจะอยากรีเทิร์นนะ
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ  รอดูเหตุผลพี่กฤชกันว่ามันจะเป็นยังไง

โอ๊ตระหว่างทางที่กลับ ก็คิดให้ดีก่อนที่จะโกรธบีนเรื่องกฤชนะ
หึงได้แต่ก็ให้รับฟังเหตุผลด้วย เดี๋ยวจะโกรธจนปวดตัวอีก :oo1:
ว่าแต่คุณอายอมรับเรื่องโอ๊ตบีน แล้วคุณปู่คุณย่าน้องโอ๊ตล่ะรู้เรื่องรึยังว่า
หลานชายหาหลานสะใภ้มาไว้รอแล้ว

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

นั่นสินะ  คุณปู่คุณย่าจะว่ายังไงล่ะทีนี้

ขอบคุณครับ


โอ๊ดได้ยินชัวร์ ท่าจะโกรธบีนด้วย ยังงัยก็อย่ารุนแรงกับพี่บีนนะค่ะน้องโอ๊ด^^ :hao3:

คนที่รุนแรงอาจจะเป็นบีนก็ได้นะ ฮ่าๆ บีนชอบเก่งกับเด็ก

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
ดันๆๆๆ รอมาต่ออยู่น่ะ

ออฟไลน์ ลูกกุญแจ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
ตอนที่ ๒๙

ความเงียบที่อยู่ในห้องผมขณะนี้มันไม่สัมพันธ์กันกับบรรยากาศข้างนอกห้องที่มีแต่คนสนุกสนานกับงานเทศกาลสงกรานต์สักเท่าไหร่   เราสองคนกลับเข้าห้องมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันได้สักพัก  โอ๊ตก็ได้แต่เปิดทีวีดูแล้วเล่นมือถือไปด้วย   จากการเดาของผมน้องคงอยากจะฟังเหตุผลสินะ 

ผมเดินเข้าไปนั่งข้างโอ๊ตก่อนจะดึงมือถือออกจากมือหนุ่มน้อยเบาๆแล้ววาดแขนไปกอดคอ  ขยับตัวมาใกล้ๆกัน

“ เป็นอะไรไป ”

“ พี่คนนั้นเป็นใคร ”

“ แฟนเก่า   ได้ยินหรอว่าเขาพูดว่าอะไร ”

“ พูดดังเสียขนาดนั้น  ไม่ได้หูหนวกสักหน่อย ”  โอ๊ตหน้างอคอหักเป็นปลาทู 

“ โอ๊ต  นั่นแฟนเก่าบีนนะ  แล้วพี่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรจริงจัง  ที่พูดออกไปว่าบีนเป็นเด็กพี่เขาเพราะเขาต้องการจะปกป้องเบีนจากไอ้พวกที่มันนั่งกินเบียร์กันอยู่ตรงนั้น  พอดีบีนก็ยืนรอโอ๊ตนั่นแหละแต่มันมาลวนลามเรา   เข้าใจยัง ”

“ อ้าว  แล้วบีนเป็นอะไรไหม ”  น้องหน้าตาตื่นหันมาถามผม  นี่หายโกรธหรือยัง  “ แล้วจะมั่นใจได้ยังไงว่าพี่คนนั้นไม่อยากจะมาขอคืนดีกับบีน ”

“ มั่นใจสิ  นี่ดูๆจะเปิดเฟสพี่กฤชให้ดูแล้วกัน ”

ผมหยิบมือถือมากดๆเปิดเฟสพี่กฤชให้โอ๊ตดู  ในเฟสถึงแม้จะเป็นคนไม่รู้จักมาเห็นก็รู้ว่ามีแฟนแล้วครับเพราะพี่กฤชแกก็เล่นถ่ายรูปกับแฟนอัพลงเฟสทุกวัน  ผมยังคิดอยู่เลยว่าถ่ายรูปไปเยอะๆไม่เผื่อจะเลิกกันบ้างเลยหรอ  สมัยคบกับผมไม่เห็นเป็นแบบนี้

“ เชื่อยัง ” น้องแย่งมือถือผมไปกดเปิดดูรูปดูสถานะของพี่กฤช  เลื่อนดูจนพอใจก็พยักหน้าหงึกๆน่ารักเสียจริง  ผมอดใจไม่ไหวดึงหน้าโอ๊ตมาจุ๊บปากหนึ่งที

“ ขอโทษด้วยแล้วกันที่ทำหน้าดุ โมโหว่ะ  นึกว่าบีนจะโกหกโอ๊ตอีก ”

“ ไม่หรอกน่า   ว่าแต่เย็นนี้จะอยู่ห้องหรือออกไปเที่ยวต่อดี ”

“ ไปเที่ยวต่อสิ ” โอ๊ตตอบด้วยตาที่เป็นประกาย  เด็กๆนี่มันกระหายการเล่นน้ำสงกรานต์กันขนาดนั้นเชียว



 “ ขอให้คุณปู่  คุณย่า  มีความสุข  สุขภาพแข็งแรง  อยู่กับหลานไปนานๆอยู่จนไปเป็นคุณทวดเลยนะครับ ”

วันนี้วันที่ ๑๔  เป็นวันครอบครัว  ผมกับโอ๊ตกลับมาที่บ้านเพื่อรดน้ำดำหัวคุณปู่คุณย่า  โดยผมได้รดเป็นคนสุดท้ายของบ้านนี้  จะว่าไปก็เขินอยู่นะครอบครัวเขาก็ไม่ใช่   คุณปู่คุณย่าหลังจากฟังผมอวยพรรดน้ำดำหัวแล้วแกก็เอามือชุ่มๆมาพรมที่หัวผมก่อนที่คุณปู่จะพูดว่า

“ บีนเองก็ต้องตั้งใจเรียนนะ  เจ้าบิ๊กมันบอกปู่ว่าเราเป็นเด็กดี  ปู่ก็เห็นดีด้วยเรียนจบแล้วมาช่วยครอบครัวเราทำงานกัน”

“ ขอบคุณครับ ”

“ ย่าก็ขอให้บีนเรียนจบเร็วๆมีร่างกายแข็งแรงเช่นกันนะลูก  แต่ย่าคงได้เป็นทวดแค่ลูกของหนูฟ้าหรอกมั้ง ” ฟ้าเป็นลูกพี่ลูกน้องก็คือลูกของลุงของโอ๊ตครับ “ ดูแล้วตาโอ๊ตคงมีเหลนให้ย่าไม่ได้ ” ย่าว่าไปพร้อมมองไปทางหลาน  ญาติๆก็หัวเราะกันคิกคัก  นี่เขารู้กันหมดแล้วหรอว่าเราสองคนคบกัน  “ ฝากดูแลเจ้าโอ๊ตหลานรักของย่ากับปู่ด้วยนะหนูบีน ”

“ ขอบคุณครับ ” ผมก้มไหว้ไปที่ตักของคุณย่าทั้งๆที่แก้มยังแดงอยู่บวกกับมือของคุณปู่ก็ลูบๆหัวผมอยู่ก็ยิ่งทำให้น้ำตาเหมือนจะซึมๆออกมาด้วยความปริ่มสุข   

...................................................................................................

บ่ายวันจันทร์ผมนั่งรอโอ๊ตอยู่แถวๆคณะ  วันนี้ผมไม่มีเรียนครับเรียนอีกทีก็สองอาทิตย์ถัดไป   ว่าแต่นี่ผมก็นั่งรอมานานแล้วนะ

“ น้องๆ คณะนี้เขารับน้องกันเสร็จหรือยัง ”

“ เสร็จแล้วนะคะ  นั่นไงพี่เริ่มทยอยออกมากันแล้ว ” ผมมองไปที่เด็กปีหนึ่งหลายๆคนที่ยังใส่ชุดมหาลัยแบบเด๋อๆด๋าๆอยู่เดินออกมาจากห้องประชุม  แล้วโอ๊ตล่ะ
โทรไปก็ติดนะครับ  แต่ไม่รับ  เหมือนน้องจะปิดเสียงไว้  ด้วยความที่ผมยังเป็นคนใจเย็นมากๆเลยนั่งรออยู่ที่เดิมเกือบหนึ่งชั่วโมง  ลุกไปเข้าห้องน้ำก็ยังไม่มาอีก 

“ มาแล้ว ” ผมนั่งก้มเล่นเกมในมือถือก็เงยหน้าขึ้นมาตามเสียงคนทัก

“ ไปไหนมา ”

“ ก็อยู่ข้างในห้องเชียร์นั่นล่ะ   พอดีพี่ๆเขาอยากได้เดือนคณะเลยเรียกเราไป ”

“ แล้วได้เป็นเดือนคณะหรอ”  แฟนผมหล่อขนาดนั้นเลยหรือ

“ เปล่า  คัดไปดูๆไปสัมภาษณ์เกือบสิบคน  แต่โอ๊ตว่าโอ๊ตหล่อสุดนะ ”  โอ๊ตพูดออกมาอย่างมั่นใจ

“ แหวะ  ป่ะๆ  ไปกินข้าวกว่าจะขับรถออกไปกว่ารถจะติด  มานั่งรอตั้งนานรู้ไหมนี่ ”

“ ไม่เอาไม่งอนนะ  เดี๋ยวโอ๊ตเลี้ยงข้าว ”

“ แล้วจะประกาศผลวันไหนล่ะ ”

“ อาทิตย์หน้าก็รู้ ”







¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨¨


ภาค   ....โอ๊ต....




“ โอ๊ต  ฟังอานะ   พ่อแม่เกิดอุบัติเหตุ  ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล ”

ประโยคนี้ผมจำได้ดีและไม่มีวันลืม  พ่อแม่บอกกับผมว่าจะไปทำธุระที่เชียงใหม่  ผมก็ไม่ได้จะอยากไปด้วยเสียเท่าไหร่จึงอยู่บ้านนอนเล่นเกมส์ดีกว่า  ในช่วงปิดเทอมก่อนขึ้น ม.๑ก็อยากจะพักผ่อน  เล่นเกมส์ตามประสาเด็กอายุ ๑๒  แต่อาบิ๊กกลับเดินมาบอกข่าวพ่อแม่ที่ผมก็ไม่ได้ตกใจอะไรเพราะนึกว่าอาจจะแค่อุบัติเหตุเล็กน้อยแต่มันไม่ใช่เลย


“ เดี๋ยววันจันทร์แม่ก็กลับมา  เป็นเด็กดีนะลูก ”

คำสุดท้ายที่ผมได้ยินจากปากของแม่  ผมเห็นหน้าพ่อกับแม่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ทั้งสองจะไปเชียงใหม่ในเย็นวันศุกร์แล้วเย็นวันจันทร์จะกลับมา  การที่พ่อแม่กลับมาวันอาทิตย์นั่นแสดงว่ากลับมาก่อนกำหนดแต่มันไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเลยสักนิด  เหตุการณ์ตอนนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วคุณย่าร้องไห้กอดผมที่ดูเหมือนจะนิ่งไปเพราะยังงงๆอยู่ว่าแม่กับพ่อตายแล้วจริงๆหรือ


ภาพของโลงศพที่ตั้งเป็นคู่อยู่ที่ศาลาวัด  ผมในวัย ๑๒  ก็ได้แต่ภาวนาว่านั่นไม่ใช่พ่อแม่ตัวเองหรอกที่นอนอยู่ในนั้น  ผมหันหน้าไปซ้ายขวาพยายามมองหาพ่อแม่เผื่อนี่จะเป็นงานศพคนอื่นแล้วพ่อแม่มาร่วมงานแต่ก็ไม่ใช่อย่างที่ได้หวังไว้


งานผ่านไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับสุขภาพจิตใจผมที่อ่อนแอไปด้วย  ผมนอนฝันอยู่ทุกคืนว่าพ่อแม่กลับมาพ่อแม่ยังไม่ตายแต่ก็ไม่เป็นอย่างในฝัน  ความจริงมันโหดร้ายจนผมต้องย้ายไปนอนกับคุณย่าบ้าง  อาบิ๊กบ้าง  แต่ก็ยังรับความจริงไม่ได้อยู่ดี  ก็คงมีแค่เกมส์ที่ช่วยทำให้ผมลืม


ผมติดเกมส์อย่างบ้าคลั่งจนทำให้นิสัยเปลี่ยน  เปลี่ยนเป็นก้าวร้าว  ดื้อรั้น  เอาแต่ใจมากขึ้น  ผมไม่ยอมเข้าเรียน ม.๑  คุณปู่คุณย่าจะดุจะว่าอย่างไรก็ไม่ฟัง  อาบิ๊กจึงตกลงกับผมว่าจะให้ผมหยุดพักไม่ต้องเรียนแล้วค่อยไปเริ่มเรียนปีหน้าเพราะตอนนั้นมันเลยเวลาเปิดเรียนมาสองสามเดือนแล้วแต่การเล่นเกมส์ของผมมันก็เริ่มน่าเบื่อขึ้นเรื่อยๆด้วยความที่เห็นเพื่อนๆเรียนหนังสือก็เริ่มอย่างเรียนขึ้นมา  คุณปู่คุณย่าท่านจึงส่งผมไปเที่ยวและไปติวที่เมืองนอกก่อนจะกลับมาเรียน ม.๑ ในปีถัดมา


ตอนมัธยมต้นผมรู้ตัวว่าตัวเองเรียนเก่งเลยไม่จำเป็นต้องขยันเรียนหรืออ่านหนังสือทำการบ้านทบทวนให้มาก เลยเอาเวลาส่วนมากไปเที่ยวเล่นเสียจะดีกว่าซึ่งทีแรกผมก็คิดแบบนั้นแต่ก็ลืมไปว่าคะแนนทั้งหมดมันไม่ได้มาแค่จากการสอบปลายภาคเสียหมด  แต่ก็ไม่ทำให้ผมเครียดอะไรมากเพราะบ้านรวยอยู่แล้ว


ความเป็นวัยรุ่นอยากรู้อยากลองมันเริ่มมาตั้งแต่ตอน ม.ต้นแล้วครับ  ถึงจะเรียนโรงเรียนดังแต่ผมก็แอบลองกินเหล้า สูบบุหรี่มาหมดแต่ยังไม่เคยมีแฟนกับเขาเสียที  ถ้าจะบอกว่าครั้งแรกที่อยากมีแฟนก็คือ  ตอนขึ้นม.๔  ในวันเปิดเทอมวันแรก  ผมกลับชอบเด็กผู้ชายด้วยกันเสียอย่างนั้น  เพื่อนผู้ชายที่ผมไปตีสนิทเอามาเป็นเพื่อนในกลุ่ม   เพื่อนคนนั้นชื่อ  มิคกี้  กี้เป็นผู้ชายที่ดูภายนอกน่ารัก  ใส  สะอาด  พูดจาดี  ใจเย็น  ทำให้ผมหลงเป็นเดือนๆก่อนจะมารู้ความจริงว่ากี้มีแฟนอยู่แล้วเป็นนักร้องตามผับแต่ก็ไม่ทำให้ผมลดละเลิก  ผมยังเอาใจใส่ดูแลกี้ดีหมดทุกอย่างระหว่างที่อยู่ในโรงเรียน  ถึงกับเพื่อนคนอื่นผมจะไม่ได้ดีอย่างนี้ก็เถอะนะ  แต่จะทำอย่างไรได้คนมันหลงรักไปแล้ว


ข้อเสียของกี้มันจะเป็นเด็กที่หัวอ่อนไปสักนิด  ปิดเทอมเล็กตอน ม.๔  ผมยังจำได้ว่าแอบเห็นกี้โดนแฟนด่าหลังผับว่าให้กลับได้แล้วอย่าเข้าไปหาเพื่อนอีกแล้วยังโดนแฟนตบหัวอีก   เหี้ยแบบนั้นมันทนได้ยังไงนะ  รู้อย่างนี้ผมจึงทำดีกับกี้มากขึ้นเพื่อที่จะดึงกี้มาเป็นแฟนกับผมแทนที่จะไปเป็นแฟนกับนักร้องเถื่อนๆแบบนั้นแต่กี้ก็ปฏิเสธผมเกือบจะทุกครั้งที่จะได้ไปไหนมาไหนด้วยกันแค่สองคน


ม.๔  เทอม ๒  ผมกับอาบิ๊กทะเลาะกันเล็กน้อยด้วยเรื่องที่อาจับได้ว่าผมแอบไปเที่ยวผับและก็แอบกินเหล้า  อาบอกให้ผมตั้งใจเรียนแต่ผมก็ไม่ได้จะคิดจะทำตามอาจเป็นเพราะความดื้อรั้นและความคึกคะนองในตอนนั้น  อะไรที่อาห้ามผมทำหมดจนเลยเถิดไปถึงเรื่องผู้หญิง  ในช่วงปิดเทอมจะขึ้น ม.๕  เป็นช่วงที่ผมได้ลองมีอะไรกับผู้หญิงเป็นครั้งแรก  ทำหลายๆครั้งกับหลายๆคนอย่างไม่มีเบื่อด้วยฮอร์โมนที่มันพลุกพล่านขึ้นในขณะนั้นแต่ก็ไม่ลืมที่จะป้องกันนะ     จนอาบิ๊กทำท่าเบื่อหน่ายไม่พูดกับผมอยู่เป็นเดือน



เพื่อนใหม่อย่างนั้นหรือ   ผมทำหน้าเบื่อๆเมื่อครูประจำชั้นพานักเรียนใหม่มาแนะนำหน้าห้องโดยที่ผมไม่สนใจมันเลยสักนิด  แต่ตอนเที่ยงของอีกวันไบท์กลับพาเด็กใหม่มานั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกับเราเสียอย่างนั้น  รู้แค่ว่ามันชื่อ  บีน   อย่างอื่นผมไม่ได้สนใจเพราะดูมันก็ไม่มีอะไรมาก  ถ้าเทียบกับกี้ที่ดูตัวเล็ก  ตัวบาง  ผิวขาวซีด หน้าตาน่ารัก  ตากลมๆ แต่บีนที่ดูมันตัวสูงกว่ากี้หลายเซ็น (แต่ก็ยังเตี้ยกว่าผมอยู่ดี )  ผิวที่ดูปกติไม่ขาว  ออกสีนวลๆ   หน้าตาจัดว่าปกติแต่แอบเห็นว่าในห้องมีคนมาชอบมันเสียแล้ว 


บีนย้ายมานั่งที่ข้างๆผมเพราะวันนั้นผมทะเลาะกับกี้เรื่องพี่แทนไปแต่กลายเป็นว่าบีนก็ต้องนั่งข้างผมถาวรเพราะกี้อยากมีสมาธิในการเรียนมากกว่าจะมานั่งข้างผมซึ่งผมก็กวนกี้อยู่ตลอดเวลาจริงๆ   ผมก็ยอมนะเพราะไอ้เด็กใหม่มันดีตรงที่ว่าช่วยสอนผมทำแบบฝึกหัดแถมยังกึ่งบังคับให้ผมทำการบ้านด้วย  กี้ก็เห็นดีเห็นงามกับมัน  เอาวะกี้ว่าไงก็ว่าตามแล้วกัน


อยู่มาวันหนึ่งเหมือนกี้จะเริ่มอดทนเป็นแฟนกับพี่แทนไม่ไหว  กี้จึงมาบอกผมว่าจะเลิกกับพี่แทน  ความรู้สึกผมตอนนั้นก็ไม่ได้ดีใจอะไรมากแต่กลับเป็นห่วงมันด้วยซ้ำว่าจะโดนพี่แทนมันทำร้ายอะไรหรือเปล่าและก็เป็นตามที่ผมคิดไว้  บอยโทรมาบอกผมหลังจากที่ผมติดต่อกี้และก็บีนไม่ได้มาเกือบหนึ่งวันว่าบีนกับกี้อยู่ที่พัทยา  ทั้งสองโดนลักพาตัวไปแต่บอยก็ไปรับสองคนในคืนนั้นกลับมาอย่างปลอดภัย   กี้เล่าให้ผมฟังว่าบีนดีกับกี้มากๆช่วยเหลือทุกอย่างแถมยังฉลาดอีกต่างหาก  ซึ่งผมก็คิดว่าอย่างนั้นเมื่อได้รู้จักกับบีนอย่างใกล้ชิดขึ้น  บีนมันเป็นคนดี  ช่วยกลุ่มเราทำงานทำการบ้าน  แถมยังรับฟังปัญหาของผมอีกและผมสังเกตเห็นความตั้งใจของบีนที่พยายามจะพาเพื่อนที่ไม่ค่อยจะดีอย่างผมให้กลับมาสนใจการเรียนให้มากขึ้น


ผมกับบีนเกิดวันเดียวกันเดือนเดียวกันเป๊ะๆ แค่คนละปีกันแค่นั้น  ผม บีน กี้ ไบท์และก็อ๊อฟไปฉลองวัยเกิดด้วยกัน  บีนมันอวยพรให้ผมว่าขอให้ได้แฟนที่น่ารักอย่างที่หวังไว้ซึ่งมันคงหมายถึงกี้  ผมก็ไม่ยอมเลยอวยพรมันด้วยว่า  ขอให้มันได้แฟนเป็นคนที่ชอบช็อคโกแลตให้มันกิน  เราทั้งสองต่างอวยพรให้กันโดยไม่รู้ว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไร


ผมเริ่มมานอนค้างคืนกับกี้บ่อยๆเพราะกี้ย้ายออกจากห้องพี่แทนนานแล้ว  เราตกลงเป็นแฟนกัน  หลับนอนด้วยกันหลายต่อหลายครั้งแต่มันยิ่งทำให้ผมเศร้าขึ้นเรื่อยๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่กี้ไม่ค่อยพอใจในกิจกรรมบนเตียงที่เรามีร่วมกัน  มีหลายๆครั้งกี้ก็ขึ้นควบจังหวะเสียเองหรือทำท่าหงุดหงิดเมื่อผมเล้าโลมไม่ได้ดั่งใจ   นี่ผมไม่เก่งเรื่องนี้จริงๆหรอวะ  หรือไม่ก็เรื่องกี้แอบดมขวดเล็กๆสีน้ำตาลที่ผมมารู้ทีหลังว่ามันเป็นสารที่ทำให้เคลิ้มและไม่เจ็บ  ยิ่งทำให้ผมเริ่มจะห่างๆกี้ออกไปหลังอยู่คลุกคลีกันมาเป็นเดือน  กี้ดูไม่น่ารักเหมือนตอนที่เรายังไม่เป็นแฟนกันและเรื่องที่ทำให้ผมตกใจก็คือตอนที่เราไปผับกันแล้วกี้แอบไปคุยกับผู้ชายในซอกแคบๆข้างๆผับเหมือนจะส่งของให้กัน  แถมโดนผู้ชายคนนั้นลวนลามแล้วยังเคลิ้มไปกับเขาอีก  กี้ไม่น่ารักเหมือนที่รู้จักแบบผิวเผินจริงๆจนผมอดไม่ได้จะต้องคุยกับกี้เรื่องนี้ก่อนจะสอบวิชาสุดท้ายในวัดถัดไป  เราทะเลาะกันเรื่องที่กี้มีผู้ชายคนอื่น   จนทำให้ผมตื่นสายเกือบไปสอบไม่ทัน



สอบวันสุดท้ายผมจึงตัดสินใจจะบอกเลิกกับกี้ให้มันจบๆ  ผมว่ากี้พัวพันเรื่องต่างๆหลายอย่างทั้งส่งยา  เสพยา  มั่วผู้ชายซึ่งแต่ก่อนจะมาว่าผมมั่วผู้หญิงเหมือนกันก็ได้แต่ตอนนี้มีแฟนผมก็เลิกไปจนหมดแล้ว   เราขึ้นไปคุยกันที่ดาดฟ้าผมถามกี้ไปหลายๆครั้งว่าเป็นตามที่ผมพูดออกไปจริงหรือเปล่าแต่กี้ก็ปฏิเสธไปสองสามครั้งก่อนจะทนไม่ไหวพูดความชั่ว  ความร้ายกาจของตนเองออกมาจนหมดและยังไปใส่ร้ายบีนว่าบีนเอาข่าวเรื่องที่ตัวเองส่งยามาบอกผมอีกซึ่งผมก็ไม่เห็นว่าบีนมันจะมามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ยังไง  หลังจากวันนั้นก็ทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้ตัดเนื้อร้ายออกไปจากตัวแต่ก็ไม่วายเศร้าอยู่ดี


วันต่อมาอาการเสียใจยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆผมจึงตัดสินใจบอกอาว่าจะไปค้างบ้านเพื่อนแล้วออกไปกินเหล้ากับไบท์จนเมาไม่ได้สติ  มารู้ตัวอีกทีก็เห็นว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงของบีน  ผมรู้สึกเวียนหัวโลกหมุนอยู่ตลอดเวลา   มือไม้อ่อนไปหมดแต่ก็อยากอาบน้ำเลยวานให้บีนถอดเสื้อแล้วเช็ดตัวให้   บีนก็ทำให้ผมอย่างไม่รังเกียจซึ่งเรื่องแบบนี้กี้ไม่ทำให้ผมหรอก  ถ้าอยู่ด้วยกันก็คงเมาไปด้วยกันแน่ๆ



ผมรู้สึกดีขึ้นหลังจากบีนเช็ดตัวจึงบ่นเรื่องต่างๆให้บีนฟังและทางนั้นก็ช่วยอธิบายเรื่องต่างๆให้ผมเข้าใจชีวิตเราได้ดีขึ้น  ทำให้ผมไม่ยึดติดกับคนที่จากไปแล้วและคืนนั้นถ้าจะให้ผมทำใจได้จริงๆคงคิดว่าต้องได้นอนกอดบีนที่อุตส่าห์ช่วยเหลือผมทุกอย่างจนถึงวันนี้โดยสัญญากับบีนว่าจะไม่ไปบอกบอยเด็ดขาด  บีนหลับไปในอ้อมกอดผมก่อนที่ผมจะหลุดปากพูดออกไปว่า     

“กูเริ่มชอบมึงแล้วว่ะ กูอิจฉาไอ้บอยจังเลย”
ซึ่งก็ได้แต่หวังว่ามันคงหลับไปแล้วและคงไม่ได้ยินนะ


ในตอนปิดเทอมตอนนั้นเราหกคนไปภาคใต้เที่ยวกันผมก็ไม่วายหาวิธีเข้าไปใกล้ชิดกับบีนทั้งเรื่องเข้าไปช่วยบีนเพราะมันว่ายน้ำไม่เป็น  ล็อคผลจับฉลากให้ผมได้นอนกับบีน  ทำเกือบหมดทุกอย่างและจะมองว่าผมนิสัยไม่ดีก็ได้นะ   ก็คนมันชอบไปแล้ว


และวันเปิดเทอม ม.๕ เทอม ๒  ก็มาถึงแต่กลายเป็นว่าไม่ใช่แค่กี้ที่ลาออกจากโรงเรียน  บอยมันก็ลาออกด้วย  โดยไม่มีเหตุผลกำกับไว้ว่าลาออกทำไม  สุวิทย์ก็โทรหาไม่ติด  บีนยิ่งแล้วใหญ่เพราะได้ข่าวว่ามันติดต่อบอยไม่ได้มาหนึ่งวันเต็มๆแล้วและหลังจากครูประจำชั้นออกจากห้องไปบีนก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำแต่ไม่ทันครับ  บีนหมดสติเป็นลมไปแล้ว  ผมจึงได้แบกบีนที่ดูเหมือนจะตัวเบาๆแต่หนักมากขึ้นหลังไปส่งที่ห้องพยาบาล


ผมพยายามช่วยเหลือทุกอย่างนะครับ  พาบีนไปตามหาบอยถึงหอเก่าแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร  ผมจึงช่วยบีนโดยเริ่มเข้าใกล้บีนมากขึ้นเรื่อยๆเพราะความชอบบีนด้วยแหละจึงชวนบีนไปดูหนัง  กินข้าวเย็นด้วยกัน  ตัวติดกันมากขึ้น     บีนก็มียอมบ้างปฏิเสธบ้างและผมก็หึงบีนมากขึ้นเพราะมันก็มีคนมาชอบเยอะเหมือนกัน งบีนมันก็ดูหน้าตาธรรมดาอย่างที่ผมบอกไปตั้งแต่ที่แรกจริงๆแต่พอได้รู้จักกันมันมีอะไรที่พิเศษมากขึ้นที่ช่วยทำให้มันดูดีขึ้นในพริบตา   


ผมยอมเอาใจปลอบใจบีนเหมือนที่บีนปลอบใจผม   ยอมไปนอนกับบีนบ่อยๆถึงมันจะเรียกว่าผมต้องการกับนอนกับบีนเองก็เถอะ   และคำพูดก่อนนอนในคืนนั้นที่ผมบอกว่า

“  กูเต็มใจ  นอนเถอะบีน  กูจะกอดมึงไว้ทั้งคืนไม่หนีหายไปไหน ”
ผมก็ได้รู้ถึงปฏิกิริยาของบีนที่ไม่กล้าตอบสนองความหวังดีของผมเสียเท่าไหร่แต่มันทำให้ผมรุ้ได้ว่าบีนหวังดีเพราะไม่อยากเอาผมไปเป็นเครื่องมือที่ช่วยทำให้บีนลืมบอยได้


แต่ถึงอย่างนั้นผมก็อดไม่ไหวจูบบีนไปในคืนที่เราไปทำรายงานสังคมกันที่บ้านผม  ผมคิดไว้ว่าบีนคงโกรธแน่ๆแต่ไม่เลยบีนไม่โกรธ  จะมีก็แค่ตกใจเล็กๆ  ทำให้ผมเอามาคิดเข้าข้างตัวเองว่าบีนก็คงมีใจให้ผม


การที่บีนขัดขืนผมบ่อยๆ ผมกลับมองว่าน่ารักดีนะ  ยิ่งตอนไปเที่ยวเขาค้อคือบรรยากาศมันดีมาก  เรานอนกอดกันทุกคืน  กอดแน่นๆกับอากาศหนาวๆจนทำให้ผมเลยเถิดจะขอมีอะไรกันกับบีนแต่บีนก็ห้ามเอาไว้ก่อนพร้อมกับเหตุผลต่างๆนานาที่ผมต้องกลับไปคิดทบทวนใหม่ว่าบางเรื่องเราก็ต้องหักห้ามเอาไว้บ้าง


แต่กลายเป็นว่าต่อมาผมไม่รู้ตัวเองว่าเป็นอะไรครับ  อยู่ดีๆก็หวิวๆอาจเป็นเพราะตอนที่ไปเดินเล่นสวนสาธารระแล้วก็คิดถึงพ่อแม่ขึ้นมาเลยพูดกับบีนไปในทำนองว่าอย่าทิ้งผมไปไหนนะและช่วงนั้นอยู่ดีๆกี้ก็โทรมาหาผมบอกอยากคุยเรื่องสำคัญเสียอย่างนั้นแต่ทางบีนก็อ้อนผมบอกไม่ให้ไป  แล้วผมจะไม่เชื่อบีนได้ยังไงจนเราสองคนต้องหาสิ่งที่มายึดเหนี่ยวเราไว้ว่าจะเชื่อใจกันคือการเป็นของกันและกันโดยยินยอมกันทั้งสองฝ่าย



และวันที่ทำให้ผมสับสนที่สุดในชีวิตนับตั้งแต่พ่อแม่เสียไปก็มาถึง  เมื่อบีนบอกว่าตัวเองไม่ใช่เด็กมัธยมเสียอย่างนั้น  บีนบอกว่าต้องปลอมตัวมาช่วยผมให้ผมกลับไปเป็นเด็กดี  ผมก็ได้แต่ถามซ้ำๆว่ามันโกหกหรือเปล่าแต่ไม่เลย  มันคือเรื่องจริงทั้งหมด  ผมผิดหวังและดูเหมือนตัวเองโง่ไปหมดจนอาบิ๊กมาบอกว่าอาเป็นคนจ้างบีนเอง


“ อาเป็นคนจ้างเขามาเอง ”  อาบิ๊กเดินตามผมเข้ามาในห้องนอนหลังจากที่เรากลับจากคอนโดบีน

“ อาทำแบบนั้นทำไมครับ ”

“ อาขอโทษ  ถ้าเรื่องนี้มันจะผิดอาขอรับผิดทุกอย่างเอง  อาขอโทษที่ดูแลโอ๊ตไม่ดีแต่อาก็อยากจะชดเชยโดยหาเพื่อนที่อาไว้ใจไปให้ ”

“ แต่เพื่อนที่อาไว้ใจให้มาเป็นเพื่อนผมเขาจะจริงใจเป็นเพื่อน ไม่สิ  ตอนนี้บีนเป็นแฟนกับผมแล้ว   อาคิดว่าเขาจะจริงใจกับผมหรือครับถ้าไม่ทำไปก็เพราะเงิน ”

“  โอ๊ตฟังอานะ  ทุกอย่างในโลกนี้ก็อยู่ได้ด้วยเงิน  ถ้าไม่มีเงินจะเอาอะไรกิน  เราอาศัยในเมืองใหญ่นะ  อายอมรับแทนบีนแล้วกันว่าตอนแรกเขาอยากได้งานทำแต่พอได้งานนี้มาบีนก็ทำมันเต็มที่   ถ้าหากโอ๊ตจะไปมองว่าเขาไม่เต็มใจแล้วแม่บ้านที่บ้านเราที่เขารับใช้เราอยู่ทุกวันก็คงไม่เต็มใจทำอาหารให้เรากินทุกวันหรอกนะ   การทำงานมันก็ต้องมีใจรักและบีนเขาก็รักโอ๊ตนะ  คิดดูให้ดีแล้วกัน ”

ผมใช้เวลาคิดนานพอสมควรโดยไม่ยอมคุยกับบีนตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์  ไม่ใช่ไม่คิดถึงนะครับ  ผมคิดถึงและอยากเข้าไปกอดและบอกว่าผมเข้าใจแล้วมาก  ผมยอมรับในตัวบีนที่อาจจะแก่กว่าผมแต่ก็ไม่ทำให้ความชอบลดน้อยลงเพราะบีนเป็นคนเก่ง  มีความคิดที่ดี  เป็นคนดี  คนแบบนี้ผมคงไม่อยากปล่อยไปง่ายๆ  ผมใช้เวลาคิดและอยู่กับตัวเองจนถึงวันศุกร์อาบิ๊กจึงมาบอกกับผมว่า  ถ้าคิดถึงมากก็ไปหาเขาสิ  อารู้นะว่าเรานอนไม่หลับ   พูดแค่นี้ผมก็แอบออกไปหาบีนตอนกลางคืน  คืนแรกผมก็ไม่พูดมากเพราะยังไม่รู้จะแทนตัวเองว่ายังไงปกติก็เรียกบีนว่า มึง  แทนตัวเองว่า  กู  เกือบจะทุกครั้งและคืนต่อมาผมก็เลยต้องยอมสยบกับรสรักที่บีนได้มอบให้  แล้วผมก็สนองไปเสียจนตื่นมามีไข้นิดๆ

ผมอยากบอกว่าการเจอกับบีนเป็นอะไรที่พิเศษในชีวิต  บีนมีทั้งในส่วนของตอนเป็นเด็กมัธยมและตอนเป็นผู้ใหญ่ที่ผมได้เห็นทั้งสองด้านเหมือนเราได้โตมาด้วยกันและการที่บีนอยู่เคียงข้างผมมาเสมอไม่ว่าจะออกจากโรงเรียนไปทำงานที่บริษัทแต่ก็ไม่เหนื่อยที่จะมาช่วยและเป็นกำลังใจให้ผมในการนั่งอ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัยและผมเองก็เป็นคนเสนอความคิดว่าอยากให้บีนต่อปริญญาโทให้กับอาบิ๊กเองซึ่งอาก็เห็นด้วยเพราะในอนาคตถ้าผมไปทำงานที่บริษัทผมอยากให้บีนมาเป็นผู้ช่วยผมและเราก็จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป


ตอนนี้ผมมองบีนที่นอนอยู่ในอ้อมกอดของผมจนแขนผมเหน็บกินชาไปหมดแต่ก็ไม่บ่นสักคำเพราะเราอยู่ด้วยความเข้าใจกัน  ปัญหาต่างๆที่มันจะเกิดขึ้นต่อไปในชีวิตก็คงต้องแก้ไขช่วยกัน   ผมก็มั่นใจว่าบีนจะช่วยผมและผมก็จะช่วยบีนทำให้ความรักของเราอยู่กับเราไปนานแสนนาน


...




ติดตอนง้อกันมานิดหน่อยในตอนแรกๆและทั้งตอนก็เป็นความรู้สึกของโอ๊ตโดยรวมๆนะครับ 

ฟังจากมุมพระเอกที่ตอนแรกไม่ค่อยจะมีคนเก็งว่าเป็นพระเอก ฮ่าๆ ก็ได้จะอีกมุมแต่มาแบบรวบๆนิดๆนะครับ



สำหรับตอนหน้าก็จะจบแล้วอย่าลืมเข้ามาอ่านกันต่อเน้อ  ตอนที่ ๓๐ ตอนจบไม่เกินวันที่ ๙ แน่นอนเพราะหลังจากนั้นเราติดธุระยาวววววว

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ  สัญญาว่าจะตอบเม้นกลับเหมือนทุกครั้งเช่นเดิม  ไม่เจอกันนานคิดถึงและขอโทษที่หายไปนานเป็นอาทิตย์   :mew1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:   โอ๊ตเป็นเด็กดีจริงๆด้วยน่ารักๆๆๆๆๆ
ขอบคุณมากๆค่ะใหล้จบแล้วเน้อ ขออย่าให้มีเรื่องผิดใจกันอีกเลย ทางบ้านก็ไฟเขียวแล้ว
ฟินค่ะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ถ้าจบแล้วขอตอนพิเศษ หลังโอ๊ตอยู่วัยทำงานนะคะ :D

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ถ้าจะบอกว่าตอนหน้าจบแล้วเราแค่สงสัยโอ๊ตจะได้เป็นเดือนไหม
แล้วชีวิตในรั้วมหาลัยของทั้งคู่จะเป็นยังไง คนหนึ่งเรียนป.ตรี อีกคนเรียนป.โท
จะมีมือที่สามมาทำให้วุ่นวายหรือเปล่า
คนแต่งจะใจดีช่วยเราให้หายสงสัยได้หรือเปล่า :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
คู่นี้หวานๆ ง๊องแง๊งกันหน่อยๆ เป็นรสชาติชีวิตคู่

ออฟไลน์ ลูกกุญแจ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
:katai2-1:   โอ๊ตเป็นเด็กดีจริงๆด้วยน่ารักๆๆๆๆๆ
ขอบคุณมากๆค่ะใหล้จบแล้วเน้อ ขออย่าให้มีเรื่องผิดใจกันอีกเลย ทางบ้านก็ไฟเขียวแล้ว
ฟินค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะครับ
โอ๊ตมีเขวแค่ตอนวัยรุ่นแรกๆนั่นแหละครับ


ถ้าจบแล้วขอตอนพิเศษ หลังโอ๊ตอยู่วัยทำงานนะคะ :D

มีให้แน่นอนครับ รอหน่อยนะครับ

ถ้าจะบอกว่าตอนหน้าจบแล้วเราแค่สงสัยโอ๊ตจะได้เป็นเดือนไหม
แล้วชีวิตในรั้วมหาลัยของทั้งคู่จะเป็นยังไง คนหนึ่งเรียนป.ตรี อีกคนเรียนป.โท
จะมีมือที่สามมาทำให้วุ่นวายหรือเปล่า
คนแต่งจะใจดีช่วยเราให้หายสงสัยได้หรือเปล่า :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:



ตอนหน้าจะเคลียร์ให้หมดแน่นอนครับ ขอบคุณนะครับ

คู่นี้หวานๆ ง๊องแง๊งกันหน่อยๆ เป็นรสชาติชีวิตคู่

เด็กมันน่ารักก็งี้แหละเนาะ

ออฟไลน์ ลูกกุญแจ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
ตอนที่ ๓๐

ผมนั่งอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายในหอประชุม  วันนี้เป็นวันประกวดดาวเดือนมหาวิทยาลัยหลังจากเปิดเทอมมาเกือบสองเดือนได้  ส่วนโอ๊ตนะหรอ  ไม่ได้เป็นเดือนคณะหรอกครับ  โอ๊ตมาบอกกับผมว่ามันได้ที่สอง  ก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่าแต่น้องมันต้องมาเชียร์กับทางคณะเมื่อเย็นเราเลยมาที่นี่ด้วยกันแต่ก็ต้องแยกกันเพราะน้องไปนั่งกับทางพี่เลี้ยงดาวเดือนคณะตัวเอง   หลังจากเสร็จงานผมก็รอน้องอยู่แถวๆหอประชุมแต่ก็ไม่วายเจอสิ่งที่ไม่อยากเห็นนั่นคือ  รุ่นพี่คนที่เป็นพี่เลี้ยงดาวเดือนแทนที่จะไปดูดาวเดือนแต่กลับมาเกาะแกะโอ๊ต   ผมรู้มาสักพักแล้วล่ะเพราะโอ๊ตบอกแต่โอ๊ตก็คงมีวิธีจัดการเองอยู่หรอก  คงไม่ต้องให้รอดมาถึงมือผมและผมก็ชินชาไปกับเรื่องแบบนี้เอง

การเรียนของผมและโอ๊ตออกไปในแนวๆช่วยๆกันมากกว่า  ถ้าวันว่างๆเสาร์อาทิตย์เราจะไปอ่านหนังสือด้วยกันที่ห้องสมุดหรือไปนั่งเปลี่ยนบรรยากาศทำงานในร้านกาแฟ  จะมีในช่วงสอบบ้างที่โอ๊ตต้องแยกไปอ่านกับเพื่อนหรือเวลาผมทำงานวิจัยกลุ่มก็ต้องแยกไปทำงานกับเพื่อนที่รู้จักกันตอนเรียนป.โท   ซึ่งเรียนโทมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คนอื่นบอกไว้จริงๆครับผมใช้เวลาเรียนเกินมา ๑ ปีหรือเรียกง่ายๆ  เรียน ๓ ปีถึงจบ  ทำเอาซะใจหายใจคว่ำเกรงใจคุณบิ๊กก็เกรงใจ  คงมีแต่โอ๊ตที่ดีใจที่ผมได้เรียนต่ออีกปีหนึ่งแต่มันไม่สบายผมนี่สิ  บางช่วงที่แก้ Thesis แทบจะไม่เจอกันเลยผมเจอแต่อาจารย์ประจำวิชาที่ก็มีท่าทางชอบพอผมจนแกกลัวผมไม่จบก็ยอมช่วยนิดๆนิดเดียวนะจริงๆนะแต่ไม่มากและก็ไม่วายเกิดเรื่องจนได้เมื่อโอ๊ตจับได้ว่าผมแอบไปกินข้าวกับอาจารย์กว่าจะง้อกว่าจะเข้าใจกันก็โดนงอนไปเกือบหนึ่งอาทิตย์

หลังจากที่ผมเรียนจบผมก็เข้าไปทำงานในแผนกของคุณบิ๊กแถมทำในตำแหน่งที่สูงกว่าแต่ก่อน  เงินเดือนเยอะกว่าแต่งานไม่หนักมากเพราะเป็นหัวหน้าเขาอีกทีเลยกลายเป็นว่าโอ๊ตไม่มีผมไปเรียนด้วยเหมือนแต่ก่อน   บางทีคนที่เข้ามาหาโอ๊ตก็นึกว่าน้องมันโสดแล้วไม่เห็นมีแฟนไปอ่านหนังสือหรือทำงานทำการบ้านด้วยก็เข้ามาจีบเข้ามาคุยมันก็ลำบากโอ๊ตไปที่ต้องปฏิเสธแต่ถ้าคนไหนที่พุ่งเข้าหามากๆผมก็ต้องลงมือปฏิบัติด้วยตัวเอง

เรื่องความรักของเรามันไม่ได้จืดจางไปไหนเลยสำหรับสี่ห้าปีที่คบกันมาถึงจะมีคนมาพยายามแย่ง  ยุแยงตะแคงรั่วก็เถอะแต่เราก็ยังมั่นคง   อาจเป็นเพราะไม่ได้พักอยู่ด้วยกันจึงรู้สึกคิดถึงหรือตื่นเต้นที่ได้เจอกันตลอดเวลา

เวลาผ่านไปอีกปี   ผมมองโอ๊ตผ่านเลนส์กล้องโปรที่ผมเองก็ใช้ไม่เป็นหรอกแต่ไปยืมคุณบิ๊กมาถ่ายรูปน้องรับปริญญา  วันนี้ดูโอ๊ต  คุณบิ๊กและคุณปู่คุณย่ามีความสุขกับหลานที่ประสบความสำเร็จและก็มีมาขอบใจผมบ้างที่คอยดูแลหลานให้  โอ๊ตบอกผมว่าหลังจากนี้จะเข้าไปทำงานบริษัทแล้วจะเรียนปริญญาโทเสาร์อาทิตย์ควบคู่ไปด้วย  ทีแรกคุณอายังหนุ่มกะจะให้ไปเรียนนอกแต่โอ๊ตก็คงไม่ยอมให้เราห่างกันแน่ๆคุณบิ๊กจึงยอมให้หลานเรียนที่ไทยต่อ   คุณบิ๊กเองแกก็ขึ้นตำแหน่งประธานบริษัทเต็มตัวแทนคุณปู่ที่ไปเป็นที่ปรึกษาบริษัทแทนและให้โอ๊ตเข้ามาเป็นกรรมการบริหารบริษัทก่อนซึ่งก็ไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบมากเพราะแกคงอยากฝึกๆหลานไปด้วยและให้เรียนไปด้วย


“ เฮ้ออออ ”  โอ๊ตบิดขี้เกียจทันทีที่เดินเปิดประตูเข้ามาที่ห้องผม

“  นึกว่าโอ๊ตจะไปกินข้าวที่บ้าน ” ผมที่กลับมาจากบริษัทก่อนตั้งแต่สี่โมงเย็นกลับมาก็กินโน่นกินนี่คนเดียวไม่ได้ทำอะไรไว้เผื่อโอ๊ตที่พึ่งจะปรับตัวกับการทำงานในอาทิตย์แรกและเลิกช้ากว่าคนอื่นไปเกือบสองชั่วโมง

“ ก็อยากมากินกับบีนไง   มีอะไรให้กินหรือเปล่า ”

“ หมดแล้วมีแค่นม   สิ้นเดือนพอดีบีนยังไม่ได้ไปซื้อของ ”

“ แล้วถ้าเป็นนมนี้ล่ะ  ดูดได้หรือเปล่า ” โอ๊ตกระโจนเข้ามากอดผมพร้อมกับเอามืออีกข้างมาบีบนมผมเบาๆ  นี่มันเจ็บนะ

“ ไม่  พอๆ ”

“ โอ๊ตเครียดว่ะ  อยากหาอะไรผ่อนคลายทำ   นะๆ ” ก็แบบนี้ทุกทีถึงเราจะไม่ได้เล่นกันบ่อยๆเหมือนสมัยมัธยมด้วยภาระหน้าที่แต่ก็ไม่ได้ไม่ทำอะไรกันเลยเสียทีเดียว 

...........................................................................................
 


วันนี้เป็นวันเกิดของป่าน  ผมรีบกลับมาจากที่ทำงานกลับมาแต่งตัวกับห่อของขวัญเพราะลืมให้ทางร้านที่ไปซื้อห่อให้จึงต้องมาห่อกระเป๋าสตางค์ที่เห็นมันบ่นๆว่าอยากได้  งานวันเกิดป่านมันเลือกไปจัดที่ร้านเหล้า  เป็นร้านประมาณนั่งกินชิวๆสบายๆ ผมเดินลงจากแท็กซี่แล้วหยิบมือถือโทรบอกโอ๊ตว่ามาถึงร้านแล้วคงจะกลับดึกหน่อยแต่ไม่ต้องเป็นห่วง  ทางนั้นก็ไม่ว่าอะไรแต่บอกกับผมว่าให้ไปบอกเพื่อนๆในกลุ่มว่าถ้าผมเมาให้โทรหาโอ๊ตให้มารับ  รอบคอบดีจริงๆ

“ อ้าว  มึงทางนี้ ”  ป่านเรียกผมเบาๆเพราะผมเดินเซ่อซ่าหาเพื่อนๆไม่เจอ

“ อ่ะ  ของขวัญ ”

“ ขอบคุณมึงมากบีน ”



“ อ้าว   ชนนนนนน ”

หลังจากเป่าเค้กให้ของขวัญเราก็ชนแก้วเหล้าไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งทั้งเพื่อนของป่านและเพื่อนๆที่ผมรู้จักหกเจ็ดคนนี่มีแต่คนคอแข็งๆกันทั้งนั้น  มีแค่ผมที่แอบเทเหล้าใต้โต๊ะบ้างล่ะ  แอบเทโซดาให้แก้วเต็มอยู่ตลอดเวลาบ้างล่ะเพราะกลัวเมา

“ กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะนัท ”  ผมบอกนัทไปก่อนจะลุกขึ้นไปฉี่    ขากลับผมเดินออกมาจากห้องน้ำก่อนจะเจอกับผู้ชายที่ทำให้ผมมีปัญหาเล็กๆกับโอ๊ตไปช่วงหนึ่ง

“ สวัสดีครับ  น้องบีน  นั่งตรงไหนหรอครับ ”

ปฏิเสธหรือเลี่ยงไม่ได้จริงๆครับ “ สวัสดีครับอาจารย์กร ”

“ บอกแล้วไงว่าเรียกพี่กรก็ได้ ”

“ มันไม่ชินนี่ครับ  ผมนั่งอยู่มุมทางนู้นครับโต๊ะที่มีผู้หญิงเยอะๆ ” ผมชี้ให้อาจารย์กรดูก่อนเจ้าตัวจะเอื้อมมือมาบีบที่ไหล่ผม

“ ไม่เจอหลายเดือนเลย  ทักไปในไลน์ก็ไม่ตอบ  สบายดีใช่ไหม ”

“ ครับ   อย่างนั้นผมขอตัวนะครับ ”

“ เดี๋ยวสิ ”  มืออาจารย์ยังจับแขนผมอยู่  “ พี่ขอไปนั่งด้วยนะ  พอดีพี่มาคนเดียว ”

“ เอ่อ ” ผมยืนเอ๋ออยู่แต่เจ้าตัวเดินไปใกล้จะถึงโต๊ะผมแล้ว
“ สวัสดีครับพี่เคยเป็นอาจารย์ของบีนพอดีมาคนเดียวขอนั่งด้วยนะครับ ”
ทั้งโต๊ะมองมาที่ผมคนเดียว  ผมก็ได้แค่ยิ้มแห้งๆให้เพื่อนๆแล้วก็นั่งลงตาม  สถานการณ์ก็เป็นไปตามปกติเหมือนไม่มีอาจารย์กรมานั่งอยู่ด้วย
“ ไม่เห็นดื่มเหมือนเพื่อนเลย  ไม่ชอบหรอ ”  เกลียดการกระซิบใกล้ๆกับหูมากทั้งๆที่เพลงในร้านก็ไม่ได้เสียงดังมาก

“ ไม่ครับ  กลัวเมา ”

“ พี่คะ  เพื่อนหนูมีแฟนแล้วนะอย่าไปใกล้เลย  เดี๋ยวแฟนเด็กมันหวงนะ ” ขอบคุณนะป่านที่ช่วย

“ อ้าวหรอ  ยังคบกันอยู่หรอนี่พี่นึกว่าเด็กนั่นจีบเราเล่นๆ ”

“ คบกันมานานก่อนหน้านั้นแล้วครับ ” ผมตอบอาจารย์ไปเป็นการยืนยันอีกหนึ่งที

“ เถอะน่าไม่ต้องคิดมากเมาเดี๋ยวพี่ไปส่งเอง    อ้าวชนครับน้องๆ ชนบีน ”

เพื่อนๆก็ไม่ได้ห้ามอะไรกันเลยครับ  ตามประสาคนไม่ได้กินเหล้ามานานผมก็เริ่มจะตึงๆบ้างแล้วและอีกชั่วโมงกว่าพวกเราก็เริ่มทยอยกลับจนเหลือผม  อาจารย์กร  ป่านและก็นัท

“ เอ่อ  เดี๋ยวพี่พาบีนกลับเองก็ได้พี่พอจะรู้จักคอนโดบีนอยู่ ”  อะไรนะอาจารย์จะไปส่งผมหรอ  แต่ป่านมันโทรบอกโอ๊ตให้มารับผมแล้วนี่นา  ผมทำอะไรไม่ค่อยได้ครับตอนนี้จะยืนเต็มตัวก็ยังลำบากแต่ยังได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่  ตายังมองชัดแต่ยืนไม่ไหวเท่านั้นเอง

“ แต่แฟนบีนจะมารับนะพี่รอหน้าร้านก่อนก็ได้ค่ะ ”

“ อย่างนั้นน้องไปส่งเพื่อนเลยก็ได้ครับ  เดี๋ยวพี่จะอยู่เป็นเพื่อนบีนก่อน ”

“ ค่ะอย่างนั้นก็ได้ ”  ป่านตอบอาจารย์กรไปก่อนจะหิ้วปีกนัทไปอีกคน

“ ป่าน  อย่าพึ่งปายยย ”  ป่านทำไมเชื่อคนง่ายจัง  แล้วผมทำไมต้องพูดยานคางขนาดนั้นด้วยนะ  ไม่ชอบตัวเองตอนเมาเสียจริงๆ

“ ป่ะๆ บีน ”

“ อื้อจะไปไหน  ผมจะรอแฟนมารับครับอาจารย์ ”

“ ไปกับพี่เถอะน่า  นะๆ ”

“ ไม่อาววว ” ไม่ไหวครับผมโดนแกอุ้มพาดบ่าออกจากหน้าร้านไปแล้ว   พอถึงรถแกก็เปิดเบาะหลังแล้วจับผมยัดเข้าไป

“ นี่อาจารย์จะทำอะไร ”

“ เดี๋ยวก็รู้ ”  ตามประสาคนเมาผมหัวแตะที่นั่งข้างหลังก็เผลอหลับไปโดยอัตโนมัติ  มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่แกจอดรถ

“ ฮึบ  อย่าดิ้นๆ ”

“ ปล่อยสิ ”

“ เออน่า  เดี๋ยวก็ได้นอนแล้วครับพี่เปิดห้องก่อน ”  นี่ไม่ใช่คอนโดผมนี่นา  ผมพยายามผงกหัวเงยหน้าขึ้นก็เจอรถอาจารย์แต่หลังรถอาจารย์นั่นมันเป็นม่านสีดำ

“ เฮ้ย  ปล่อย ” อาจารย์แบกผมเข้ามาในห้องก่อนจะเหวี่ยงผมลงเตียงแล้วเดินไปปิดประตู  เดินกลับมาอีกทีแกก็ถอดเสื้อเชิ้ตออกเรียบร้อย  “ อาจารย์อย่า ”  ผมพยายามคลานลงเตียงแต่ก็ไม่วายโดนแกดึงเท้ากลับขึ้นไป  หัวก็ปวด  โลกก็หมุนติ้วๆ  เคลื่อนตัวก็ช้า  ผมสู้แรงคนไม่เมาไม่ได้หรอกครับ

“ อืม  ซีด   ทำไมผิวเนียนจังครับหืม ”  อาจารย์แกใช้ลิ้นเลียไปตามซอกคอผมไปเรื่อยๆจนถึงใบหูแต่ก็ต้องชะงักเพราะเสียงเคาะประตูดัง ปัง ปัง  อาจารย์กรหงุดหงิดก่อนลุกขึ้นกำลังจะเปิดประตูแต่ไม่ทันแล้วประตูโดนถีบเข้ามาจนพัง

“ เฮ้ย  มึงทำอะไรบีน ”  โอ๊ต   โอ๊ตซัดหมัดไปที่หน้าอาจารย์หลายครั้งก่อนจะถีบแกจนล้มสลบไปแล้วเดินมาที่เตียงกับพนักงานอีกคนประคองผมขึ้น



“ โอ๊ต  โอ๊ตจริงด้วย ”

“ กลับคอนโดกันบีน ”  โอ๊ตพาผมที่ได้สติบ้างไม่ได้สติบ้างกลับคอนโดจับผมถอดเสื้อผ้าเหลือแต่กางเกงในแล้วประคองผมเข้าไปใต้ฝักบัว  น้ำที่ไหลเป็นฝอยแรงๆช่วยทำให้ผมสร่างเมาขึ้นผมจึงดึงโอ๊ตที่ยังไม่ได้ถอดเสื้อผ้ามาเปียกด้วยกัน

“ ขอโทษนะที่ทำให้เกิดเรื่อง ”

“ ไม่มีใครผิดหรอกบีน  แต่ไปต้องระวังนะ  ดีที่โอ๊ตเห็นมันตอนแบกบีนขึ้นรถพอดีแต่ขอโทษนะที่ตามไปช้า  โอ๊ตติดไฟแดงไปช่วงหนึ่ง ”

“ บีนกลัวว่ะ   ตอนนี้ดีขึ้นแล้วล่ะ  อาบน้ำให้บีนหน่อยนะ ”  ผมลูบกล้ามหน้าท้องและหน้าอกของโอ๊ตผ่านเสื้อเชิ้ตที่เปียก  ทำไมมันดูเซ็กซี่แบบนี้นะ  คนข้างหน้าก็เริ่มหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ ทนไม่ไหวจนต้องดึงหน้าโอ๊ตมาจูบหนักๆหนึ่งทีพร้อมกับเอามือไปบีบคลึงเป้าโอ๊ตเบาๆ

“ มันทำตรงไหนบีนบ้างล่ะ  โอ๊ตจะได้ลบรอยตรงนั้นให้ ”

“ มีแค่ตรงคอและก็ตรงหู   แต่ทำให้บีนทั้งตัวเลยได้เปล่า ”  ตายๆ ต้องเมาจริงๆผมถึงพูดยั่วแบบนั้นไปได้และเราสองคนก็สร้างรอยผูกพันซึ่งกันและกันในห้องน้ำจนตื่นเช้ามาก็จามเป็นหวัดกันทั้งคู่



...




หลังจากโอ๊ตเรียนจบก็ได้ช่วยงานของประธานบริษัทมากขึ้นเพราะว่าตอนนี้ประธานบริษัทกำลังจะมีแฟนครับ  ใช่แล้วครับคุณบิ๊กกำลังจีบโปรดิวเซอร์สาวสวยของค่ายเพลงชื่อดัง  นี่ตกลงคุณบิ๊กเป็นผู้ชายนะไม่ใช่เกย์  ที่แกเคยชอบผมเพราะคงหลงผิดแน่ๆ
 
ไม่รู้ว่าคุณบิ๊กจะลงเอยหรือแต่งงานกันกับแฟนแกเมื่อไหร่เพราะอีกปีสองปีคุณบิ๊กก็ขึ้นเลขสี่แล้วแต่ที่แน่ๆ  ตอนนี้หลานอย่างโอ๊ตก็แซงหน้าอาตัวเองไปก่อนแล้วครับ  เราตัดสินใจจัดงานหมั้นกันในเช้าวันที่อากาศสดใสไม่ร้อนไม่หนาวที่บ้านโอ๊ต  แขกมาร่วมงานเป็นสักขีพยานกันเยอะพอสมควร  มีนักข่าวมาทำข่าวด้วยผมนี่อายแทบแย่  แม่กับน้องผมก็มานะ  สองคนนั้นยิ่งดีใจใหญ่เพราะข่าวผมดังในโลกออนไลน์อยู่ช่วงหนึ่ง  สินสอดที่ได้รับผมก็ยังไม่ดีใจเท่ากับทุกคนในบ้านโอ๊ตยอมรับและเข้าใจผมและรักครอบครัวผมด้วย 

ส่วนตอนเย็นก็เป็นงานเลี้ยงที่สวนหลังบ้านเป็นงานแต่งแบบง่ายๆที่ผมอยากให้จัดนั่นเอง  วันนี้ผมกับโอ๊ตบอกกันและกันว่ามีความสุข  เราสองยิ้มให้แขกที่มาร่วมงานด้วยความอิ่มใจ  สุดท้ายวันนี้มันก็มาถึงจนได้  ไม่นึกไม่ฝันครับว่าจะเป็นจริงกับเกย์อย่างผมที่คิดว่าชีวิตคู่มันไม่แน่นอนแต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว  ผมในวัย ๒๙ ยืนจับมือกับเจ้าบ่าววัย ๒๕ บนเวทีร้องเพลงคู่กันมองตากันและกันเป็นสัญญาณว่าเราจะรักกันตลอดไป




ติ้ง


เสียงไลน์เตือนในมือถือผมว่ามือข้อความเข้า  ผมกดดูแล้วเป็นบอยส่งวิดีโอมาให้เป็นภาพของลูกสาวบอยที่เรียนอยู่อนุบาล ๓  กำลังวาดรูประบายสีอวดคุณพ่ออยู่  ผมส่งข้อความกลับไปว่า  ว่างๆก็พาลูกมาเที่ยว กทม.นะ  ผมเก็บมือถือแล้วลงไปหาโอ๊ตที่นั่งกับน้องนายลูกชายของพี่ฟ้าพี่สาวโอ๊ต (ลูกพี่ลูกน้อง) อยู่ห้องรับแขก

“ สวัสดีครับน้องนาย   ตื่นเช้าจังเลยวันนี้ ”  ผมทักทายเด็กชายนายวัยสองขวบไป

“  เดี๋ยวเอาน้องนั่งตักนะโอ๊ต  เดี๋ยวฟ้าถ่ายรูปให้  บีนขยับไปนั่งใกล้โอ๊ต ”
พี่ฟ้าสั่งให้เราสามคนถ่ายรูปด้วยกัน  ผมชูมือเด็กเป็นเชิงหยอกเล่น 

“ อีกรูปนะ ”

“ จุ๊บ  จุ๊บ ” 

“ เป็นไงติดไหมพี่ฟ้า ” โอ๊ตหันหน้ามาจุ๊บแก้มผมสองทีตอนที่พี่ฟ้ากดถ่ายภาพ

“ บ้าโอ๊ต  อายพี่เขา ”

“ อาทำอารายหยอ ” น้องนายถามอย่างสงสัย  น่ารักเสียจริงผมจับน้องมาหอมแก้มฟัดสักสองสามทีก่อนจะส่งตัวเล็กคืนแม่ไป

“ ฮ่าๆ ทำอะไรเกรงใจหลานบ้างสิโอ๊ต  ป่ะน้องนายไปทานข้าวกันครับ ” พี่ฟ้าพาลูกไปกินข้าวในครัวตอนนี้เหลือแค่โอ๊ตกับผม   โอ๊ตมองหน้าผมก่อนจะลูกขึ้นถือกุญแจรถแล้วดึงผมขึ้นตาม

“ จะไปไหน ”

“ ตามมา “
โอ๊ตลากผมเข้าไปนั่งในรถแล้วออกรถทันทีก่อนจะยื่นผ้าปิดตามาให้ผม

“ เอาให้ทำไมไม่ง่วง ”

“ ให้ใส่ ”

“ ใส่ทำไม ”

“ ใส่เถอะน่า  จะพาไปเซอร์ไพรส์  ตามเกมหน่อยบีน ” อ่ะใส่ก็ใส่  ผมใส่ผ้าปิดตาแล้วก็หลับไปแบบอัตโนมัติ



“ ถึงแล้วลงๆบีน  แต่อย่าพึ่งถอดผ้านะ ”

โอ๊ตจูงมือผมที่ตอนนี้เหมือนคนตาบอดเดินเข้าไปในที่ไหนสักแห่ง  เดาว่าเป็นอาคารก่อนจะพาขึ้นลิฟต์ไปอีก 

“ ที่ไหนนี่ ”

“ ใกล้แล้วๆ ”  ครืด  เหมือนเดินเข้าไปในห้องอะไรสักอย่าง

“ ถอดได้ครับ ”  ผมถอดผ้าปิดตาออกก่อนจะมองไปรอบ กระดานไวท์บอร์ด  โต๊ะนักเรียน  ห้องสี่เหลี่ยมติดแอร์  นี่มันห้องเรียนนี่นา

“ พามาทำไมอ่ะ ”

“ อยู่ดีๆ โอ๊ตก็นึกถึงวันที่เราเจอกันครั้งแรกว่ะ ”

“ มีอารมณ์แบบนั้นด้วยหรอ ”

“ มีสิ  เดี๋ยวยืนหน้าชั้นนะ  ยืนตรงนี้ ” โอ๊ตบอกให้ผมยืนหน้าชั้นก่อนที่ตัวเองจะไปนั่งโต๊ะหลังห้องตัวที่เคยนั่ง  “ มุมนี้เลย  ตอนที่บีนแนะนำตัวครั้งแรก  แต่โอ๊ตไม่ได้สนใจบีนว่ะ  ฮ่าๆ ”  มันก็แน่อยู่แล้วตอนนั้นสนใจอีกคนนี่นาแต่ไม่พูดถึงหรอก

“ ไปไหนต่อทีนี้ ”

“ ไปโรงยิมที่เข้าแถว ”


โอ๊ตพาผมมายืนแถวๆโรงยิมที่เข้าแถว “ ตรงนี้คือ ”

“ ตรงนี้คือที่ที่โอ๊ตทักตอบบีนครั้งแรกว่า   หวัดดี ”

“ เออจำได้  หน้าโคตรไร้อารมณ์เลย  ตอนนั้นเป็นอะไร ”

“ คงไม่ได้สนใจอะไรมาก   ไปต่อกันเถอะ” โอ๊ตจูงมือผมเข้าไปโรงอาหารก่อนจะพาไปนั่งโต๊ะที่เราเคยนั่งกินข้าวเที่ยง



“ ตรงนี้คือที่ที่เรานั่งกินข้าวด้วยกันครั้งแรกสินะ ”

“ ใช่ ” โอ๊ตตอบก่อนจะก้มหน้ากดมือถือ

“ รู้เปล่าวันแรกบีนไม่มีที่กินข้าวนะ  ต้องไปนั่งข้างๆสนามโน่น ”

“ จริงดิ      บีนๆ ”

“ อะไร ”

“ อย่าพึ่งหันหลังนะ ” โอ๊ตบอกผมด้วยสีหน้าจริงจัง

“ เฮ้ย  อะไร มีอะไรเกาะหรือเปล่า ” ผมเริ่มกลัวแล้วนะ

“ จ๊ะ  เอ๋ ”  มีคนมากอดจากทางด้านหลังผมสองคน  อ๊อฟและก็ไบท์  “ เฮ้ยมาได้ไง ”

“ เซอร์ไพรส์ไงบีน   ฮ่าๆ ”

อ๊อฟกลับมาจากเมืองนอกก่อนกำหนดหลังเรียนจบโท  ส่วนไบท์ก็ลาพักร้อนมาเที่ยวกรุงเทพหลังจากไปประจำตำแหน่งเป็นหมอสูติที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด

“ ว่าแต่โรแมนติกเนาะมึง  พาแฟนไม่ใช่สิ  ตอนนี้เรียกเมียได้เต็มปากแล้วสินะ ฮ่าๆ พามาดูที่ที่เจอกันครั้งแรกด้วย ”

“ แต่โอ๊ตบีนมีเรื่องจะบอก ”

“ หืมอะไร ”

“  เราเคยเจอกันก่อนหน้านั้นอีก ”

“ อ้าวจริงหรอบีน ” เป็นไบท์เสียอีกที่ดูตกใจ  แต่โอ๊ตยังทำหน้างงๆ

“ ที่ไหนวะบีน ” อ๊อฟถามขึ้นอีกคน

“ ที่ผับ .......  ตอนนั้นอาบิ๊กพาบีนไปแอบดูโอ๊ตก่อนทำงาน  ครั้งนั้นโอ๊ตไปผับกับไบท์สองคนบีนจำได้ ”

“ เฮ้ยบีนทำโอ๊ตหน้าแตกนะนี่  ทำไมไม่เคยบอกกันเลยวะ ยอมๆ ” โอ๊ตยกสองมือขึ้นอย่างกับผู้แพ้ 

“ เอาอย่างนี้  เย็นนี้พวกเราก็ไปฉลองที่ผับนั้นสิวะ ”  อ๊อฟเสนอความคิดเห็นขึ้นคนอื่นก็เห็นดีเห็นงามตามกันไปผมก็เออออตามพวกนี้ไป  พวกเราเดินเล่นกันรอบๆโรงเรียน  วันนี้เป็นวันหยุดเลยเงียบเป็นพิเศษ

ผมมีความสุขมากครับกับความรู้สึกตอนนี้  ผมได้อยู่กับแฟนและก็เพื่อนที่ๆถามสารทุกข์สุกดิบกัน  จนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

“ เฮ้ย  น้ำตาบีนไหล  เป็นอะไรเปล่า ”  อ๊อฟถามผมขึ้น

“ มีความสุขว่ะ ”  โอ๊ตดึงผมเข้ากอดก่อนที่สองคนนั้นจะกอดผมตามๆกัน  ผมบอกกับตัวเองเป็นพันๆครั้งว่าผมมีความสุขมาก 

ภาพความทรงจำต่างๆหลั่งไหลเข้ามาหาผมทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย  ทุกๆอย่างมันทำให้เราได้เห็น

มิตรภาพหรือได้ความรักติดมาด้วย  ขอบคุณทุกอย่างในชีวิตผมจริงๆครับ

ขอบคุณโชคชะตาที่นำพา

ขอบคุณบริษัทที่ผมเคยสมัครงานตอนจบแรกๆไปแล้วไม่รับผมทำงาน

ขอบคุณคุณบิ๊กที่มีส่วนสร้างชีวิตใหม่ผมขึ้นมา

ขอบคุณเพื่อนๆในชีวิตที่อยู่เคียงข้างกัน

ขอบคุณโอ๊ตที่รักกันและเราสัญญา

ว่า




จะรักกัน




ตลอดไป


                                                                                      จบแล้วครับ 



””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””


จบไปแล้วครับสำหรับบีนและโอ๊ต  หวังว่าทุกคนที่ได้อ่าน  เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ จะมีความสุขไปกับการผจญภัยในโรงเรียนของบีนหรือการปลอมตัว  แม้กระทั่งได้เป็นแฟนกับเด็ก  ฮ่าๆ   




สุดท้ายก็ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและเข้ามาให้กำลังใจทางคอมเม้นด้วยนะครับ  ขอบคุณมากจริงๆเวลาเราลงนิยายแต่ละตอนเราก็จะเช็คเกือบทุกชั่วโมงว่าคนอ่านมาแสดงความคิดเห็นอะไร  ติชมตรงไหนบ้างเพราะคำคอมเม้นต่างๆหรือแม้กระทั่งยอดจำนวนคนเข้ามาอ่านทำให้ผู้แต่งรู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง  สำหรับนิยายเรื่องนี้คิดพล็อตไว้ตั้งแต่มีนาปีที่แล้วพึ่งได้มีโอกาสลงปีนี้ในรูปแบบที่เล่าผ่านตัวละครหรือที่เรียกว่าแนวเรื่องเล่าเพราะว่าเรียนจบเลยมีเวลาว่างช่วงรอรับปริญญาและดีใจมากๆที่เป็นนิยายเรื่องแรกในชีวิตของเราและก็สามารถลงจนจบเรื่อง  ที่ลงแนวเรื่องเล่าเราว่ามันดูจะแต่งง่ายกว่าเล่าโดยบุคคลที่สามแบบบรรยาย ฮ่าๆ  (แต่ผู้แต่งก็แอบเล่าเรื่องเร็วไปนิดใช่มั้ย  บางครั้งก็คิดว่ามันรวบรัดไปหรือเปล่า )


สุดท้ายแล้วจริงๆอย่าลืมเม้นติชมกันนะครับ อันไหนดีอันไหนต้องแก้ไขบอกเราด้วยนะจะได้ไปปรับปรุงในเรื่องใหม่เพราะ ปีหน้าอาจจะเดือนมกราเราจะลงนิยายด้วยนะอย่าลืมติดตามกันนะครับ  อย่าลืมกันนะ  อย่าลืม ลูกกุญแจ เด้อ




ออฟไลน์ Youi_chin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 166
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
สนุกมากๆคับ อ่านแล้วติดใจเลย  เรื่องนี้จบแล้วคงจะทำให้คิดถึงอีกแน่นอน  ขอบคุณผู้แต่งที่แต่งนิยายดีๆซึ้งๆแบบนี้ให้ได้อ่านกันคับ

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
อ๊าย หวานชื่นจริงๆคู่นี้ อิจฉา5555+

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ  :pig4:

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
น่ารัก
ขอบคุณสำหรับนิยายนะ ~

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :mew1:  ขอบคุณมากๆค่ะ เป็นเรื่องที่อบอุ่นน่ารักดี
ในที่สุดคุณบิ๊กก็จะมีทายาทให้วงศ์ตระกูล ได้เมียแล้ว ดีใจด้วยนะคะ

โอ๊ตน่ารักจัง ดีใจที่เชียร์น้องมาตลอด สรุปบีนเป้นอมตะ อิอิ อิจฉา


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด