หอประชุมกลางวันนี้คับแน่นไปด้วยทั้งบุคลากรและนักศึกษารวมถึงผู้เข้าร่วมชมงานเพราะมีการแสดงจากทุกคณะ รวมถึงบางชมรมที่ร่วมด้วย ไฮไลท์สำคัญก็คือละครเวที ‘มาเลฟิเซนต์’ ที่จะแสดงในตอนบ่ายโมงตรง เป็นละครเวทีใหญ่ของมหาลัยที่รวมนักแสดง ‘หน้าตาดี’ จากทุกคณะ
เต็งหนึ่งรีบจอดแลมโบกินี่ทันทีที่ได้ที่จอด แม้จะห่างไกลหอประชุมไปเยอะเพราะวันนี้คนพากันมาหอประชุม …. อาจารย์ดันให้ไปเป็นวิทยากรพาเด็กมัธยมทัวร์คณะ นี่บ่ายโมงตรงเป๊ะ! เดี๋ยวมาไม่ทันดู ‘นักเปียโน’
เมื่อเช้ามาพร้อมกันเลยเอารถมาซะเลย มาส่งมันเตรียมตัวที่หอประชุมก็ไปงานคณะต่อใครจะนึกว่าจะถูกใช้งานทั้งๆที่รอบโชว์ฟอมูล่ามันตั้งสามโมง
“แม่งจะได้นั่งตรงไหนวะ…”
ที่เต็ม! หน้าเวทีก็มีแต่พวกอาจารย์ กลางๆก็เต็มแน่น เหลือแต่ด้านหลังที่ห่างไกลสุดลูกหูลูกตา…
“เอ้าพี่มึงพึ่งมาหรอ”
นทีเดินเข้ามาพอดี!
“เออ แม่งที่เต็ม มึงมีที่นั่งยัง?”
“โหไอ้หมูมาจองตั้งแต่สิบเอ็ดโมง ได้ช่วงกลางไปหน้าๆ ไปนั่งด้วยกันดิพี่มึง จองไว้พอดีแต่นั่งเบียดกันหน่อยก็ได้ ดีกว่าไปนั่งไกลๆ”
“ก็ได้ๆ”
เดี๋ยวไม่เห็นหน้าเมีย…
“แล้วไม่มีของมาให้มันบ้างหรอ?”
“ห้ะ?”
“เอ้าละครเวที แสดงจบมอบช่อดอกไม้ไง ดูดิแฟนคลับไอ้เอกถือมากันเป็นสิบยี่สิบช่อ”
“เอ่อ…ช่างมันแล้วกัน กูจะหาเวลาที่ไหนไปซื้อวะ พึ่งหนีอาจารย์มาได้”
ไอ้แมท สก๊อต ก็ดอดมาอยู่ก่อนแล้วแต่ไม่ได้เอามือถือมาด้วยเลยติดต่อไม่ได้ว่าไปนั่งกันอยู่มุมไหนของหอประชุม
“ฮ่าๆ ช่างมันเหอะพี่มึง พวกผมก็หุ้นกันแค่ตุ๊กตาหมี อยากให้มันรู้เฉยๆว่าเพื่อนมาให้กำลังใจ พี่ก็เดินไปพร้อมกันนี่แหละ”
“เอางั้นก็ได้…”
สุดท้ายก็ไปนั่งเบียดกับเพื่อนเป็นเอกอีกสามคน แต่เอาเก้าอี้ต่อกันเลยพอจะนั่งได้
ทันทีที่พิธีกรประกาศชื่อการแสดงเสียงกริ๊ดก็ดังลั่นหอประชุม มีทั้งตะโกนชื่อคนแสดงที่ถูกใจบ้างก็มียกป้ายเชียร์จนพิธีกรต้องบอกให้เอาลงเพราะบังคนด้านหลัง
ขนาดนั่งตรงกลางยังมองเวทีลำบาก…แล้วเป็นเอกที่ประจำอยู่หลังแกรนด์เปียโนสีดำตัวใหญ่ก็ยิ่งมองเห็นยากเพราะจากมุมนี้ฉากบัง …
แต่ถ้านั่งอีกฝั่งคงเห็นชัดเจนเพราะมีคนยกกล้องถ่ายกันเป็นแถวทันทีที่เริ่มบรรเลงเพลงเปิดตัว
ขนาดนักแสดงยังไม่ออก…นักเปียโนดันขายดีซะแล้ว
มาเลฟิเซนต์ก็เป็นฉบับเจ้าหญิงนิทราเวอร์ชั่นความรักระหว่างแม่กับลูกของแม่มดกับเจ้าหญิงน้อย ฉากแสงสีทำได้ดีทีเดียว แถมเปียโนก็เล่นซะลื่นหูน่าฟัง…
กว่าไอ้ปุ้นในชุดเจ้าชายจะได้ออกก็เกือบจบเรื่องเพราะบทเด่นไม่ใช่เจ้าชาย…
แล้วคนดูก็กริ๊ดอีกรอบในฉากที่ปุ้นจะก้มหน้าลงจุมพิตเจ้าหญิง…แต่ให้เจ้าชายหันหลังให้คนดูแล้วก้มหน้าลงก็เลยไม่เห็นว่าจูบจริงหรือเปล่า
แต่คงไม่จริง…เพราะไม่งั้นไอ้แมทคงกระทืบเจ้าชายตาย
สุดท้ายก็จบอย่างสวยงาม…
นักแสดงทยอยออกมายืนเรียงแถวพร้อมกับทุกฝ่ายที่ร่วมทำงานกันมาหลายเดือน ไอ้พวกศิลปกรรมวาดฉากก็อยู่ในสภาพ…ดูดีขึ้นมานิดเดียว
เป็นเอกเดินมายืนรวมกลุ่มเป็นคนสุดท้ายที่ปลายแถวนักแสดง เสียงกริ๊ดลั่นทันทีที่เดินมายืนจนไอ้ปุ้นเดินมาลากไปยืนกอดคอคู่กัน
“ขอบคุณมากครับทุกคน”
ผู้กำกับจากคณะสถาปัตย์กล่าวขอบคุณก่อนทุกคนจะยกมือไหว้พร้อมกัน
“โอ้โห ละครเวทีมาเลฟิเซนต์สุดยอดมากจริงๆค่ะพี่พิชคะ”
“ใช่แล้วครับน้องหยก เรียกว่าคุ้มค่ากับที่ซ้อมกันมาเป็นเดือนเลยนะครับ วันนี้เรามาสัมภาษณ์ทีมงานและนักแสดงกันหน่อยดีกว่า”
พิชจากวิศวะ..และน้องหยกรับหน้าที่พิธีกร…
“ได้ค่ะ เริ่มจากพี่ผู้กำกับเลยนะคะ สวัสดีค่า”
สัมภาษณ์ผู้กำกับไปเรื่อยจนมาถึงนักแสดงหลักฝ่ายหญิงที่เรียกเสียงเป่าปากจากผู้ชายที่มาดู แต่ก็แพ้เสียงกริ๊ดของผู้หญิงที่มาดูเจ้าชายที่แทบไม่มีบท
“สวัสดีครับ ชาร์ลครับ รับบทเจ้าชายสองฉาก”
ฮาครืน…เพราะมันออกแค่สองฉากจริงๆ
“ขนาดสองฉากนะคะยังเรียงเสียงกริ๊ดได้ขนาดนี้ ขอถามแทนสาวๆเลยว่าระหว่างซ้อมกันนี่มีหวั่นไหวกับเจ้าหญิงบ้างมั้ยคะ?”
“โอ้โห สวยขนาดนี้….หวั่นไหวครับ ฮ่าๆ…แต่แฟนมาคุมซ้อมทุกวันเลยไม่กล้าแสดงออกมากครับ เดี๋ยวโดนซ้อมปางตายซะก่อน ฮ่าๆ”
ฮากระจาย…
“เรียกว่าสาวๆหมดสิทธ์ในตัวน้องชาร์ลคนหล่อของเรานะครับ ฮ่าๆ เอ้ามาถึงอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ใช่นักแสดงแต่ดันมีโปสเตอร์เป็นรูปเขาคนนี้โปรโมทละครเวทีเรื่องนี้ด้วยครับน้องหยก”
“ใช่แล้วค่ะ ขนาดหยกยังไปแอบเซลฟี่กับโปสเตอร์เขามาแล้ว นักเปียโนของเราค่า!”
เสียงกริ๊ดมาอีกรอบ พร้อมป้ายไฟป้ายเชียร์เมื่อครู่ยกกันอีกรอบ…รู้แล้วว่านี่มันถิ่นแฟนคลับใคร
“ผมชื่อเป็นเอก”
“เฮ้ยยิ้มหน่อยดิ จะไปฆ่าคนรึไง”
เสียงเจ้าชายลอดเข้ามา…ฮา…
“เสือก”
เสียงกระซิบกลับไปแต่ดันดังลอดไมค์
ฮากว่า…
“เป็นไงบ้างคะเป็นเอกสำหรับการแสดงครั้งนี้ รู้สึกตื่นเต้นหรือเปล่าคะ”
“ครับ”
“ซ้อมนานแค่ไหนคะ”
“เกือบสองเดือนครับ”
“เป็นคนพูดน้อยนะคะเนี่ย”
“ทุกคนไม่ต้องแปลกใจครับ เป็นเอก เป็นคนพูดน้อยอยู่แล้วเพราะมีแฟนพูดมากอยู่คณะวิศวะ สงสัยจะแย่งแฟนพูดไม่ค่อยทัน”
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
“ไอ้เชี่ยพี่พิช!”
ชงน้องตัวเองซะงั้น!!!
“เอ้ะมีแฟนเพจด้วยนี่คะพี่พิช ชื่ออะไรนะ”
“อ๋อ เฟิร์สเลิฟ… ไปดูกันได้ครับ มีให้จิ้นอีกเยอะ เอาล่ะนักเปียโนเราเขินแล้วครับ ฮ่าๆ”
เขิน…คือกลอกตาไปมา พิธีกรดีเด่นจริงๆ
“มาถึงช่วงมอบช่อดอกไม้ของขวัญให้นักแสดง ให้เวลาสิบนาทีนะคะ เชิญเลยค่า”
คนแห่กันไปมอบของขวัญกันหน้าเวทีจนแน่น เห็นแมทกับสก๊อตแล้วเพราะไอ้แมทเดินนำถือตุ๊กตาเดินตามฝูงชนไปทีหลัง
“ป่ะพี่มึงไปด้วยกัน”
“โห ไม่มีไรจะให้ว่ะ พวกมึงไปเหอะ”
กลุ่มเพื่อนเป็นเอกก็ถือตุ๊กตาหมีเดินกันไปเหลือเต็งหนึ่งนั่งคนเดียวอยู่ตรงกลางหอประชุม
พึ่งรู้ว่าตัวเองนั่งตรงกลาง…แม้จะค่อนไปทางริมนิดหน่อยก็เถอะ แต่ก็ถือว่าอยู่ตรงกลางพอดี… ไหนไอ้นทีว่ามันค่อนไปข้างหน้าวะ?
พรึ่บ!!!
แสงไฟหอประชุมดับลงก่อนแชนเดอร์เลียกลางหอประชุมจะเปิดออก ซึ่งมันตรงกับ…หัวเต็งหนึ่งพอดี
Happy Birthday to you….
เสียงร้องเพลงวันเกิดดังขึ้น ก่อนจะมีกลุ่มไฟดวงเล็กค่อยๆเดินออกมาจากความมืด…
เป็นเอกกับเค้ก….
“เฮ้ย… ไม่ใช่วันเกิดกู วันเกิดกูวันที่… เฮ้ยวันนี้นี่หว่า”
Happy Birthday to you….
เสียงเพลงจบพอดีกับที่คนถือเค้กมายืนตรงหน้า
“เล่นไรเนี่ย…”
“สุขสันต์วันปีใหม่”
“สัส…ไปเตี๊ยมกันตอนไหน…”
“ทำไมมาช้า”
“อาจารย์ให้ทำงาน….เอ้ะ? นี่ไปเส้นอาจารย์คณะกูเลยหรอ”
“……ที่ปรึกษาการแสดง”
“กูยอมมึงเลย ทำไงให้คนร่วมมือด้วยเนี่ย”
“…พี่พิช”
พี่พิชจัดการให้หมด? เออดี…
เขินชิบหาย…
หน้าเห่อร้อนจนเสียงแซวเริ่มตะโกนมาเพราะหน้าแดงก่ำจนเห็นได้ชัด
“เป่าเลยนะ”
“อธิษฐาน…”
“เออลืม…ขอให้….”
คำอธิษฐานหายไปในลำคอก่อนจะลืมตาอีกครั้งแล้วเป่าเทียน…
“ขอบคุณ”
“อื้อ…”
แล้วคนถือเค้กก็วางเค้กบนมือหนา…แล้วเอานิ้วจิ้มกระต่ายสีครีมตัวอ้วนที่บอกให้หนึ่งฤทัยพี่สาวเจ้าของวันเกิดบรรจงทำมาให้เข้าปาก…
“อร่อยมั้ยน่ะ”
พยักหน้า…พร้อมรอยยิ้มจางๆ
“ป่ะ ไปกินเค้กกัน”
ถือเค้กด้วยมือเดียว อีกมือลากคนตัวซีดให้เดินตามออกมา…ท่ามกลางเสียงโห่แซว…
และคลิปเซอร์ไพรส์เต็มโซเชียลเน็ตเวิร์ค…
===================
เป็นเอกพัฒนาค่ะบอกเลย!! นางน่ารัก มีกระต่ายมาในเค้กเพราะตัวเองอยากกิน 555+
ทุกคน...ตกลงเราเลือกรสมาม่าได้แล้วนะอิอิ