SS2 ep 3
เปิดเทอมใหม่…เต็งหนึ่งฝึกงานผ่านไปได้ด้วยดี เหมือนกับที่เป็นเอกเริ่มเป็นนายแบบ แต่ก็มีโฆษนาหลายตัวมาดึงไปเล่นให้เห็นบ้างประปราย
ผู้ชายผมยาวจอดเวสป้าใกล้ตึกคณะวิศวะ กรามขบแน่น คิ้วขมวดมุ่น…อารมณ์เสียตั้งแต่เปิดเทอมวันแรก เดินผ่านรุ่นนอกแต่ละคนไม่มีใครเข้าหน้าติด
กระแทกตัวนั่งลงข้างเพื่อนแว่นที่ผมเริ่มยาวจนมัดจุกเปิดเหม่งได้
“หงุดหงิดไรมาวะ”
“ไอ้เอก…แม่งเอ้ย”
มือทุบโต๊ะดังลั่นจนคนแถวนั้นสะดุ้ง ก่อนจะลุกอีกครั้ง หยิบบุหรี่มาจุดสูบอยู่หน้าตึกปล่อยให้ควันเทาๆลอยขึ้นฟ้าเพื่อระงับอารมณ์ตัวเอง
เป็นนายแบบอ่ะรับได้! ไปเดินแบบก็รับได้! แต่ไปรับงานถ่ายกางเกงยีนส์ที่แม่งโหลดต่ำซะจนหวาดเสียวทั้งข้างหน้าข้างหลังแถมเปลือยท่อนบนนี่รับไม่ได้!!!
ถ้าไม่มีมือปิดข้างหน้า…มันก็เห็นหมดแล้วโว้ย!!!
แถมไอ้ภาพโฆษณาตัวนี้ยังได้รับความนิยมในอินเตอร์เน็ตอีกต่างหาก!!!
ตอนนี้ประวัติเป็นเอกกับรูปโคตรเซ็กซี่เลยกระจายไปทั่ว…ทั้งๆที่ไอ้โฆษณานี่มันเป็นแบรนด์ของเมืองนอก!! แล้วคนไทยจะไปยุ่งอะไรวะห้ะ!
เมื่อเช้าพอเห็นภาพที่เด้งในเฟสบุค ก็ไปกระชากลากปลุกคนมีเรียนบ่ายมาทะเลาะแต่เช้า ยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่…
‘เอก ตอบกู นี่มันอะไร’
‘ง่วง’
‘ใครให้ถ่าย?’
‘ง่วง’
คนง่วงก็ทิ้งตัวหลับสนิทตรงบ่ากว้างของคนโกรธจัด…
กลายเป็นนั่งให้เอกใช้ตัวเองเป็นหมอน…
‘ถ้ายังไม่สำนึก กูจะไม่กลับบ้าน!!’
‘…’
ไม่มีสัญญาณตอบรับ… เออดี ถือว่าบอกแล้วนะ!
ตอนนี้คนไม่กลับบ้านเลยหงุดหงิดมายืนสูบบุหรี่…จนเห็นเพื่อนฝรั่งขับมอไซต์…สกูปปี้ไอมาจอด ส่ายหัวเบาๆไม่เชื่อสายตา เพื่อนฝรั่งที่ขับเบนซ์ทะเบียนสถานทูตมาด้วยรถมอไซต์สีฟ้าหวานแหวว
“อันยองเพื่อนรัก”
ยังไม่ทิ้งความเกาหลี…
“รถใครวะก๊อต”
“รถกู เป็นไง น่ารักปะล่ะ หมวกสีฟ้าด้วยนะ”
ถอดหมวกกันน็อคแขวนไว้บนแฮน ดึงกุญแจยัดใส่กระเป๋าแล้วเดินมายืนข้างเต็งหนึ่ง
“เครียดหรอมึง คิ้วขมวดเชียว ไอ้แมทอ่ะ?”
“ข้างใน หงุดหงิดไอ้เอก”
“อ๋อ โฆษณากางเกงยีนส์ปะวะ กูเห็นละ เด็ดดวงมาก ผัวมึงอย่างขาว”
“ผัวเหี้ยไร เมียโว้ย!!!”
ยักไหล่…สงสัยเพื่อนจะเขิน
“แต่เซ็กซี่ดีนะเว่ย คนกดไลค์เป็นแสน”
“แม่งเอ้ย…”
บุหรี่มวนไมถูกจุดทันทีที่มวนแรกหมดลง…เครียด เครียดจริงอะไรจริง
ช่วงปิดเทอมทำให้แฟนเพจเฟิร์สเลิฟของเต็งหนึ่งเป็นเอกซบเซาไปหลายเดือน เพราะไม่มีโมเม้นรูปคู่ใดๆ อินสตาแกรมเป็นเอกก็อัพแต่รูปหมาลิ้นห้อย พอเป็นเอกเริ่มมีภาพออกมาในงานถ่ายแบบจึงเหมือนเป็นเพจเป็นเอกไปโดยปริยาย
แต่เกือบเที่ยงก็มีภาพเต็งหนึ่งโพสในที่สุด…ผู้ชายผมยาวในชุดช็อปยืนสูบบุหรี่อยู่หน้าคณะ คิ้วขมวด…แต่เพราะมีลมพัดทำให้ผมยาวปลิวเล็กน้อย…จนกลายเป็นหนุ่มเซอร์หน้ามอง
พร้อมแคปชั่น…. ‘คิดถึงเต็งหนึ่งจังเลยยยย ได้เจอแล้วจ้า’
ช่วงเที่ยงคนก็มากองกันที่โรงอาหาร แมท สก๊อต และเต็งหนึ่งก็เป็นหนึ่งกลุ่มที่เดินเข้ามาปะปนความวุ่นวาย ไม่ต้องลำบากหาที่นั่งเพราะปุ้นเสนอหน้าเดินเข้ามาลากแขนเมียตัวเองไปนั่งที่โต๊ะด้วยกัน
“ลากทำไมวะ”
บ่นแต่ก็ไม่ดึงมือออก
“รออยู่นี่ไง เลิกเร็วเลยมาจองให้ นั่งเลยๆ”
ปุ้นกับแมทเข้าสู่โลกสีชมพู สก๊อตก็จดจ่อกับการแชทในมือถือ…เต็งหนึ่งผู้เบื่อโลกเลยเดินไปหาข้าวกินคนเดียว มีหลายคนเมียงๆมองๆแต่ก็ไม่กล้าสบตาเพราะวันนี้ดูเจ้าตัวจะหงุดหงิดสุดๆ
อีกฟากหนึ่งของโรงอาหาร เริ่มเกิดเสียงซุบซิบเพราะนายแบบเซ็กซี่คนใหม่เดินเข้ามาพร้อมกลุ่มเพื่อน…เป็นเอกก็ยังเหมือนเดิม เสื้อเชิ้ตนักศึกษาแขนยาวพับไว้ที่ข้อศอก กางเกงยีนส์สีน้ำเงินที่ตัวเองเป็นพรีเซ็นเตอร์กับรองเท้าผ้าใบอะดิดาสสีขาว…ผมสีน้ำตาลอ่อนที่เพิ่งทำมาใหม่เซ็ตเปิดหน้าซ่อนตาสวยไว้ใต้แว่นสีเงินเมทัลลิค
เต็งหนึ่งเบือนหน้าหนีออร่าความดูดีที่พุ่งข้ามฝากโรงอาหารมา
“เอาไรจ๊ะพ่อหนุ่ม”
“ข้าวมันไก่พิเศษครับป้า”
กินดีกว่า หงุดหงิด!
เต็งหนึ่งถือข้าวมันไก่เดินกลับไปที่โต๊ะ ทุกคนแยกย้ายไปหาข้าวกินหมดแล้ว ส่วนปุ้นพอเห็นเขากลับมานั่งก็เดินไปหาแมททันที
“หนึ่ง”
เสียงเรียกคุ้นเคย…
“อะไร”
เงยหน้ามอง
“ไม่มีที่”
เป็นเอกแอนด์เดอะแก๊งที่ยืนส่งยิ้มอยู่ข้างหลัง
“เต็ม”
“อือ”
“เจอกันเฮีย”
เสียงทักทายจากเดอะแก๊งก่อนจะพากันเดินไปหาโต๊ะต่อ เหลือเป็นเอกที่ยังยืนอยู่
“อะไรอีก”
มือยาวเท้ากับขอบโต๊ะแล้วโน้มตัวลงมาจนหน้าใกล้กัน…
“กลับบ้านด้วย”
แสดงว่าเมื่อเช้าได้ยินไม่ได้หลับ
“เสือก”
“ไม่งอนนะ”
“ไม่ได้งอน”
“ง้อ”
“กูจะแดกข้าว!”
“กลับ”
“ไปไกลๆ”
เอาส้อมที่จิ้มไก่ชี้หน้าเป็นเอก คนถูกชี้หน้าเลิกคิ้วก่อนจะอ้าปากกินไก่…
“ไอ้สัส….”
หน้าเห่อร้อนขึ้นมา…มีเสียงกริ๊ดเบาๆจากสาวๆโต๊ะใกล้ๆ
“อร่อยดี”
แล้วก็เดินตามเพื่อนไป
“…โว้ย ไม่แดกแม่งละ”
ลุกขึ้นหยิบจานจะเอาไปเก็บ
“มาจีบไรกันกลางโรงอาหารวะพวกมึงนี่”
สก๊อตวางขนมจีนน้ำยาป่าลง ยักคิ้วแซว
“แม่งรำคาญว่ะ”
“เรื่องถ่ายแบบอ่ะหรอ”
“เออ”
“ก็บอกมันดีๆดิวะ”
“บอกละแต่แม่งกวนตีน”
“มันชอบให้เฮียมึงหึงหรือเปล่า”
ปุ้นแทรกขึ้นมา
“ยังไง?”
“แบบเห็นเฮียเหวี่ยง เฮียโกรธแล้วอารมณ์ดีไง มันมีนะคนประเภทนี้อ่ะ”
คิ้วเข้มขมวดแน่น….ประเด็นนี้ก็น่าคิดแฮะ
“ลองสังเกตดูดิ”
เต็งหนึ่งพยักหน้าหมายมาดว่าจะต้องศึกษาพฤติกรรมเป็นเอก…ตั้งแต่เริ่มดีขึ้นอารมณ์เป็นเอกก็ดูจะแรนดอมมาก อาจจะมีความคิดแปลกๆอยู่ก็ได้
หลังเลิกเรียนกำลังคิดว่าจะไปไหนดี บ้านก็ยังไม่อยากกลับตอนนี้เลยตัดสินใจไปห้าง…ไปเลอบู ไปช่วยงานที่ร้านดีกว่าเผื่อจะแก้เซ็งได้
“อ้าวหนึ่ง มาได้ไง”
“ทำไมอ่ะเจ๊ทัย มาช่วยงาน”
“เออดีเลย คนกำลังเยอะ ถอดชอปออกซะมาใส่ผ้ากันเปื้อนแทน”
ไม่รอช้า รีบถอดชอปเก็บใส่ผ้ากันเปื้อนสกรีนโลโก้เลอบู มัดผมเป็นหางม้าเรียบร้อยก็ออกไปรับออเดอร์ลูกค้า บางคนก็ยังจดจำใบหน้าได้จากข่าวรถยนต์ที่คอนโดถูกตัดเบรกคราวก่อนก็ถามไถ่ว่าใช่คุณเต็งหนึ่ง ชวนันท์มั้ย
สาวๆหลายโต๊ะเริ่มเมียงมองเพราะไม่คิดว่าลูกเจ้าของจะมาทำงานเสิร์ฟเอง
“งั้นก็เป็นลาเต้เย็นสอง กับบลูเบอร์รี่ชีสเค้กและเครปเค้กสตอเบอร์รี่นะครับ รับอะไรเพิ่มอีกมั้ยครับ”
“ไม่แล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ”
เต็งหนึ่งเกาหัวเพราะรับมือลูกค้าสาวๆที่ยิ้มตาปรอยไม่ไหว ได้แต่ยิ้มเขินๆแล้วรีบเดินกลับไปเคาน์เตอร์
“โดนสาวจีบมาหรอยะ”
“ไม่ช่ายยยย เอ้อเจ๊ เห็นเอกว่ามันอยากทำงาน เจ๊ลองหาตำแหน่งให้หน่อยดิ”
“อ้าว ไม่ไปเป็นนายแบบแล้วหรอ”
คนฟังแยกเขี้ยว
“ไม่เอา ไม่อยากให้เป็น!”
“ลองไปคุยกันก่อนไป๊ แล้วเอกยังไม่กลับบ้านอีกหรอ”
“ยากอ่ะเจ๊ ดูมันจะอยากใช้ชีวิตด้วยตัวเองมาก ทุกวันนี้ยังหัดนั่งบีทีเอสไปเรียน ขึ้นเป็นที่ไหน วันแรกนั่งเลยสถานีตัวเองไปโน่นนน แบริ่ง!”
ยังจำได้ดีในวันที่คนตัวซีดโทรมาถามน้ำเสียงเนิบนาบ
‘นั่งจนสุดสายแล้วทำไมยังไม่ถึงอีก’
ได้แต่กุมขมับ
“เฮ้อ ฉันก็เป็นห่วงนะ อาลัลเขาก็มาที่นี่บ่อย มาถามว่าหนึ่งกับเอกเป็นไงบ้าง พี่ก็ได้แต่บอกว่าสบายดี อาลัลท้องแก่แล้วล่ะ เห็นว่าลูกสาว”
“หือ อาลัลท้องหรอครับ?”
ข่าวใหม่ทำให้แปลกใจ เอกกำลังจะมีน้อง?
“ใช่ อารมณ์อ่อนไหวน่าดู พูดถึงเอกทีก็ร้องไห้ที อ้อนให้เอกกลับบ้านบ้างสิ พี่เห็นบ่อยๆแล้วสงสารอาลัล”
หนึ่งฤทัยถอนหายใจ เพราะเข้าใจทั้งฝ่ายเป็นเอกว่าเรื่องนี้มันก็ยากจะทำใจ แต่ในฐานะผู้หญิงก็รู้สึกสงสารวลัลลนาที่นั่งร้องไห้บ่อยๆเพราะไปเจอลูกไม่ได้
“ทำไมอาลัลไม่มาหาเอกเองล่ะครับ”
“ก็อาดินน่ะสิ กลัวไปร้องไห้แล้วเป็นลมเป็นแล้งไปอีก เคยมาเป็นลมที่นี่อยู่ กับอาดินอาอัครยังไม่ต้องหายโกรธก็ได้ แต่เว้นอาลัลไว้หน่อยได้มั้ย เขาดูเป็นคนหัวอ่อนนะ ผู้หญิงตัวเล็กๆนุ่มนิ่ม”
“ใครจะถึกเหมือนเจ๊ทัยล่ะใช่ปะ”
“เอ๊ะไอ้น้องบ้า มากัดฉันทำไมยะ ไปเสิร์ฟเค้กไปๆๆๆๆ เดี๋ยวฆ่าให้ตายคาร้านเลย”
กลับไปหัวเราะเหมือนเดิม แต่เต็งหนึ่งก็คิดว่าควรพูดกับเป็นเอกเหมือนกัน…การมีครอบครัวที่นิสัยแปลกๆก็ได้แต่ต้องยอมรับให้ได้เพราะไม่มีใครเลือกเกิดได้ว่าอยากจะอยู่เป็นลูกใคร
คำพูดอาจจะดูไม่แฟร์ แต่ยังไงก็ครอบครัวตัวเอง แค่เจอกันบ้างก็คงดีกว่าหมางเมินกันไปเลย
แต่จะพูดยังไงให้เอกมันยอมใจอ่อนสักนิดนะ?
ความคิดของเต็งหนึ่งหยุดลงตอนที่เวสป้าจอดเมื่อติดไฟแดงใกล้คอนโด แล้วเงยหน้าไปเห็นป้ายโฆษณาที่กำลังฉายอยู่ในจอแอลซีดีจอใหญ่มุมถนน…
นายแบบใบหน้าคุ้นเคยเดินอยู่ในทางดางเดินยาวๆแล้วถอดเสื้อออกเหลือกางเกงยีนส์ตัวเดียว ก่อนจะเริ่มถอดกางเกงยีนส์จนหลุดล่วงลงมาเกาะสโพกที่เห็นเนินก้นขาวผ่องอยู่รำไร กับช่วงตัวด้านหน้าที่หันมาก็จะเห็นว่าทั้งซิบทั้งกระดุมถูกแกะออกจนหมด ส่วนสำคัญมีมือเรียวปิดบังไว้ก่อนภาพจะสต๊อปไว้แค่นั้นแล้วมีข้อความยี่ห้อกับสโลแกนเด้งขึ้นข้างๆ….
โฆษณาตัวเต็มแม่ง….
ไฟเขียว...เต็งหนึ่งกัดฟันบิดรถไปคนละทางกับคอนโด ไม่กลับไปหาแม่งละหงุดหงิด! กลับไปนอนบ้านดีกว่าโว้ย!!!
==================================
ใครรอบทสลับก็...ไม่มีนะคะ 555555 พี่หนึ่งจะยังเป็นเมะขี้อาย โวยวาย ตัวเตี้ยเหมือนเดิม ส่วนเคะเราก็จะ....เป็นเอกต่อไป (หาคำจำกัดความเป็นเอกไม่ได้สักที 5555)
#ขอโทษที่มาช้านะฮ้าป
ปล. มีสารบัญแล้วนะคะ ขอบคุณ คุณ Namob Thp อีกครั้งนะคะ จุ้บบบบ
