"พี่ซี"แรงเขย่าทำให้คนที่หลับลึกค่อยๆปรือตาขึ้นอย่างหงุดหงุด "พี่ซี กู๋ให้มาตามไปทานข้าวครับ"ผมพยายามเพ่งสายตาฝ่าความมืดที่ปกคลุม
"อือ... โบนัสหรอ"พอดีตะกี้เห็นผมไสวๆในความมืด
"ครับ พี่ซีปลุกเฮียด้วยนะครับ"ผมพยักหน้าอย่างงงๆ ก่อนจะพยายามพลิกตัวลุกขึ้น แต่...
เอ๊ะ! ทำไมมันพลิกไม่ได้ แถมขยับยังไม่ได้ จะว่าผีอำก็คงไม่ใช่ เพราะเมื่อกี้ผมยังสามารถพยักหน้าสื่อสารกับมนุษย์คนอื่นได้ แต่ทำไมลุกไม่ได้วะ อึดอัดโว้ย
"ดิ้นทำเหี้ยไรเนี่ย"เสียงงัวเงียที่ปนหงุดหงิดทำให้ผมรู้สาเหตุกับอาการอึดอัดประหลาดได้ในทันที... ถ้ามึงจะขี่ตูดกูขนาดนี้ มึงลุกขึ้นมา-ปี๊บ-กูเลยดีกว่า
"ตื่นได้แล้ว โบนัสมาตามลงไปกินข้าว"ผมเหวี่ยงมือตีแขนแน่นๆที่กำลังรัดเอวผมอยู่
"ห้านาที"
"จะห้านาทีสินาทีก็ตามใจ"ผมยังคงพยายามงัดแงะแกะเกาเอาแขนหนักๆที่รัดผมอยู่ออกไป... คือตอนนี้กุเบลอจนลืมฟินล่ะ
"นอนนิ่งๆดิ"รัดกูแน่นเข้าไปอีก
"เราจะลุกแล้ว"ฮึดฮัดสองสามทีพอเป็นพิธี
"ไหนว่าคิดถึงกู กอดแค่นี้ทำมาเป็นสะดีดสะดิ้ง"มนุษย์แฟนเก่าไม่ว่าเปล่า คลายมือออกก่อนจะถีบผมด้วยรักอย่างเต็มตีนไปหนึ่งที
"โอ้ย!"ผมร้องโอดโอย ถึงจะไม่ได้แรงอะไร แต่กูแก่แล้วไง กูเจ็บ "นี่อยากเป็นแฟนนะ ไม่ใช่กระสอบทรายเดี๋ยวถีบเดี๋ยวผลักเดี๋ยวตบหัว ช้ำไปหมดแล้วเนี่ย"
"..."หันไปนอนก่ายอิเมียหมอนข้างแทน
"โปรอย่างอนดิ เราอ่ะไม่อะไรหรอก แต่ให้ผู้ใหญ่รอนานไม่ดี"อธิบายสุดฤทธิ์ทั้งที่จริงๆแล้วกูแค่หงุดหงิดเพราะยังนอนไม่เต็มอิ่ม
"...."เงียบกริบ
"หันมาคุยกันหน่อยดิ"เขย่าตัวไอ้คนที่พลิกตะแคงไปอีกทาง "อย่างอนน๊า นะโปรนะ"
"..."ยังคงเงียบ
"โปร..."เอื้อมมือไปเปิดโคมไฟ ก่อนจะโน้มหน้าลงไปดูไอ้มนุษย์หมีขาวที่นอนตะแคงตาแป๋วอยู่ "เดี๋ยวเราก็ต้องกลับแล้วอ่ะ อย่างอนเลยเนอะ แล้วเราหลังมิดเทอมเราเรียนหนักด้วย ไม่มีเวลามาง้อแล้วนะ อย่าว่าแต่มาง้อเลยเวลาจะไลน์หาจะมีหรือเปล่าก็ไม่รู้"อธิบายรัวๆอย่างยืดยาวจนเริ่มคอแห้ง
"..."แต่พี่แกยังนิ่ง
"งั้นเรากลับเลยแล้วกัน"จะให้ไปนั่งกินข้าวด้วย บรรยากาศคงจะดำดิ่งสู่ห้วงมืดโคตรๆแน่
"..."ไม่พูดแต่พลิกตัวหันมามองผมที่นั่งทับขาอยู่บนเตียง "ไม่ค้างหรอ"ผมยิ้มแล้วส่ายหน้า
"ไม่ได้บอกพ่อเอาไว้"
"อยู่กับกูไม่ได้หรอ"อะไรคือการที่มันนอนเปลือยอกมองมาที่ผมตาปริบๆ นี่อ่อยใช่ไหม เธอกำลังอ่อยฉันใช่ไหม
"นี่โปรอ้อนเราหรอ"ผมแซว ถึงแม้มันจะไม่ได้อ้อนง้องแง้งแบบเมื่อก่อน แต่ก็นะ ไม่ว่าจะเมื่อก่อนหรือตอนนี้ แค่รู้ว่าไอ้เถื่อนอย่างมันอ้อน ผมก็ใจอ่อนยวบแล้ว "คิดถึงเราหรอ"ไม่ตอบแต่หูนี่แดงแปร๊ดจนผมเผลอหลุดขำออกมา
"..."ค้อนกูซะงั้น
"งั้นเราโทรบอกพ่อก่อนนะ"ผมนี่ก็แรดจังเลยเนอะ แต่ช่างแม่งเหอะ ใจจริงผมก็อยากอยู่กับมันนั่นแหละ แต่จะให้จัดแจงขออยู่เอง ก็จะแลดูหน้าด้านไปไง
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก่อนจะกดปิดนาฬิกาปลุก โทรไปกบอกพ่อว่าไม่กลับบ้าน พ่อก็ไม่ถามอะไรต่อ เพราะพ่อคงจะพอรู้ว่าผมอยู่ที่ไหน แบบนี้แหละ ลุงเขารู้เรื่องชีวิตผมแทบทุกอย่างก้าว... ก็จะไม่รู้ทุกก้าวได้ไง ในเมื่อพ่อจ้างคนให้ตามกูน่ะโถ่ะ
ถึงพี่บลูจะตามให้พวกผมลงมาทานข้าว แต่เอาเข้าจริงคนที่กินก็เหลือแค่พวกเพื่อนไอ้โปร ไอ้โปร แล้วก็ผมเท่านั้น ส่วนป๊าม๊าของมนุษย์แฟนเก่าและโบนัสโบชัวร์ต้องไปงานเลี้ยงวันเกิดใครสักคนนี่แหละ จริงๆไอ้โปรก็ต้องไปด้วย แต่เพราะมันติดสอบ ก็เลยได้ยกเว้นการออกงานในกรณีพิเศษ
ถึงผมพอจะสนิทกับเพื่อนไอ้โปรบ้าง แต่เอาเข้าจริงผมก็อึดอัดนะ ก็แม่งเล่นคุยกันแต่เรื่องข้อสอบ แล้วคนนอกอย่างกูที่ไม่รู้เรื่องก็หมาเลยดิ คือผมงอนไหมที่ไม่มีใครคุยด้วย ก็ไม่นะ แต่ถ้าถามว่าอึดอัดไหม กูนี่ตอบให้ไว... สุดๆ
พอกินข้าวเสร็จ พวกนั้นช่วยกันเก็บจานก่อนจะกลับไปสุมหัวกันในห้องนั่งเล่น ด้วยความไม่มีอะไรทำ ผมเลยเดินขึ้นไปเอากุญแจบ้านแม่ เปิดประตูเล็กออกไปอย่างเงียบเชียบ เดินทอดน่องไปเรื่อยๆจนถึงบ้าน แม่ผมอยู่บ้านนะ แต่ก็ได้คุยกันแค่นิดเดียว เพราะแม่ยังมีงานค้างอยู่
เก็บเสื้อผ้าของใช้ที่จำเป็นลงถุงกระดาษเสร็จ ผมก็เดินกลับมาบ้านมนุษย์แฟนเก่าอีกครั้ง พวกนั้นยังคงอ่านหนังสือกันอยู่อย่างไม่สนสรรพสิ่งรอบตัว เชื่อมะ ผมว่ามันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมออกไปนอกบ้านมา แต่ด้วยความขี้เกียจจะนอนแล้ว ผมเลยขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะลงไปนั่งทอดน่องล่อยุงอยู่ริมสระด้านหลังบ้าน
นอนเล่นพาราไดส์ เบย์ไปอย่างสุขใจ สลับกับตอบไลน์ที่ไม่ได้ตอบมาเป็นชาติ โชคดีที่หลังสอบของพวกผมมันตรงกับวันหยุดของม. ไหนจะวันหยุดนักขัตฤกษ์อีก พวกผมก็เลยเหมือนจะยังมีเวลาพักสมองพักหัวใจที่ร้าวรานจากข้อสอบราวๆหนึ่งอาทิตย์
แต่คือเวลาหยุดแค่นี้ อิแก็งค์สามสาวเพื่อนผมมันก็มีมานะจะไปเกาหลีกันอีกนะ กูนี่ยอมใจแม่งจริงๆ เห็นว่าจะไปพรีออเดอร์ของจากตึกอะไรนี่แหละมาขายเพื่อหาเงินซื้อบัตรคอน
ไอ้เพลสและกลุ่มแด๊กเหล้าก็ยังคงชวนผมปะปราย แต่ผมก็บอกปัดไปนะ ไม่ใช่ว่าปัดหน้าม้าขึ้นเสร็จเดี๋ยวกูตามไปอะไรนะเว้ย คือปัดปฏิเสธไง ไม่ใช่ว่าผีคนดีเข้าสิงอะไร แต่มันเหมือนอิ่มตัวแล้ว เหมือนมันมีหลักอื่นให้ผมยึดแทนเรื่องเที่ยวแล้วก็แค่นั้น
Rrr
โทรศัพท์ที่สั่นเตือนทำให้ผมเหลือบมองข้อความที่ขึ้นบนขอบด้านบนของจอ
Proton : อยู่ไหน
'สระว่ายน้ำ'ผมพิมพ์ตอบไป ไอ้โปรอ่านแล้วนะแต่ไม่ได้ตอบอะไร
เสียงผีเท้าทำให้ผมเงยหน้าไปมองทางประตูบ้าน เห็นมนุษย์แฟนเก่าที่ตอนนี้เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยืดกางเกงบ็อกเซอร์สีน้ำตาลลายกระรอกชิพกับเดลกำลังเดินตรงมาที่ผม
"มึงนั่งอยู่นี่ตลอดเลยหรอ"มันถามเสียงเรียบๆ
"เปล่า เมื่อกี้เราเดินไปเอาชุดที่บ้านมา"เอาตีนแกว่งในน้ำสองสามที "อ่านหนังสือกันเสร็จแล้วหรอ"
"ยัง แต่ตอนนี้พักอยู่"พูดพร้อมกับนั่งลงข้างๆผม
มนุษย์หมีขาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมานั่งเล่นพาราไดส์เบย์เหมือนผม เราสองคนต่างคนต่างเงียบ จนตอนนี้มีเพียงแค่เสียงลม เสียงพูดคุยจากที่ไกลๆ กับเสียงขาที่ตีน้ำเท่านั้น แต่ด้วยบรรยากาศมันวังเวงมากไปหรือสมองไอ้โปรได้รับการกระทบกระเทือนมาผมก็ไม่ทราบได้ เพราะอยู่ดีๆพี่แกก็มาพูดเสียงอ่อนใส่ผมเสียอย่างงั้น
"กูถามอะไรมึงอย่างได้ไหม"
"ถามมาก่อน เดี๋ยวเราจะตอบอีกทีว่าได้หรือไม่ได้"หันไปยิ้มงามๆหนึ่งที
"ทำไมตอนนั้นมึถึงเลิกกับกู มันมีอะไรมากกว่ามึงเบื่อกูหรือเปล่า"ไอ้โปรมองออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ผมรู้นะไอ้สีหน้าแบบไม่แคร์เวิร์ลอะไรของมันน่ะ มันมีอะไรบางอย่าง
"โปรก็รู้ใช่ไหมว่าตอนนั้นพ่อแม่เราจะหย่ากัน ไหนจะเรื่องเรียนต่ออีก ที่เราเลิกกับโปรเพราะเราเบื่อมันก็เรื่องจริง โปรเป็นคนดีนะ ดูแลเราดี เราชอบโปรตรงนั้นมาก แต่บางทีมันมากไป จนเรารู้วึกเหมือนโดนบังคับไงเราก็เลยเบื่อๆ แล้วมันเหมือนกับเราสับสนอ่ะ คิดดูดิ พ่อแม่เราเป็นแฟนกันมาเป็นห้าปีแต่งงานกันมาอีกยี่สิบปีก็ยังเลิกกันได้ วันหนึ่งเราก็ต้องเลิกกัน แต่คือตอนนั้นมันก็แค่ความคิดของเด็กๆนั่นแหละ"ผมถอนหายใจ คือเอาเข้าจริงตอนเลิกกันผมก็แค่บอกมันว่าเบื่อ แต่ไอ้โปรมันก็ยังไม่ยอม จนพอผมบอกว่าผมคิดว่าผมชอบผู้หญิง มันก็ยอมเสียง่ายๆ
"แล้วในเมื่อมึงคิดว่าวันหนึ่งก็ต้องเลิกกัน มึงจะกลับอีกทำไม"น้ำเสียงไม่ได้โมโหนะ ถึงคำพูดจะหาเรื่องกูก็เถอะ
"เอาจริงๆเราก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เราเชื่อนะ ที่คนเราจะเห็นค่าของสิ่งที่เราเสียมันไปแล้ว"ผมยิ้มฝืนๆ
"มึงเคยเสียใจบ้างไหมตอนที่เลิกกับกู"ยังคงจ้องหน้าจอ
"เรานอนร้องไห้เป็นเดือนเลยนะเว่ย แต่พอมันมีเรื่องอื่นให้ทำ มีอะไรให้คิด ความรู้สึกตรงนั้นมันก็จางลง แต่เรายืนยันว่าเราไม่ได้ชอบผู้ชายนะ"พูดจบปุ๊บหันมาจ้องกูเขม็งเลยจ้า "แต่เราชอบโปร"ผมยิ้มในขณะที่ไอ้โปรค่อยๆเบือนหน้าไปมองน้ำแบบไม่ใส่ใจอะไร แต่ก็นะ กูเห็นนะเว้ย ว่าหูมึงแดงแปร๊ดเลยน่ะ "เราตอบโปรไปแล้ว เราขอถามโปรบ้างนะ จะตอบหรือไม่ตอบก็ได้ เราไม่บังคับ"
"ว่ามา"
"โปรคิดว่าเราจะกลับไปคบกันได้อีกไหม"
"กูไม่แน่ใจ... ความรู้สึกเดิมๆมันก็ยังอยู่ ถึงกูไม่ได้โกรธมึง แต่กูก็ไม่อยากเสี่ยงกับมึงอีกแล้ว แต่บางทีกูก็ยังอยากอยู่กับมึง... บางทีกูก็อยากให้มึงหายไปจากชีวิต แต่เอาเข้าจริง กูแม่งใจไม่แข็งพอว่ะ"ไม่ใช่แค่มันที่สับสนหรอก เพราะขนาดผมเป็นคนเข้าหามันก่อน ผมก็ยังสับสนกับชีวิตผมอยู่เลย
"เราไม่ขอให้โปรมาเชื่อมั่นอะไรกับเราหรอกนะ เพราะเราก็ยังไม่เชื่อตัวเองเลย ถ้าวันนี้เราคบกันอีก เราก็รับประกันไม่ได้หรอกว่าเราจะไม่เลิกกัน แต่ที่เรากลับมารุงรังกับโปร เราก็แค่ใฝ่หาความสุขบางอย่าง ที่เราเองก็ไม่รู้ว่ามันจะอยู่กับเราไปนานแค่ไหนก็เท่านั้น"
"แล้วถ้ากูบอกว่ากูไม่มีวันคบกับมึงล่ะ"
"เราก็จีบโปรต่อไปจนกว่าเราจะมีอย่างอื่นทำ หรือไม่โปรก็คบกับใครไปสักคน"ชีวิตกูดูล่องลอยเนอะ
"มึงเคยรักกูไหม"
"ถามซะยากเลย เราเคยบอกโปรแล้วนะว่าเราไม่รู้ว่ารักกับชอบมันต่างกันยังไง แต่เราชอบโปรนะ"กดปิดหน้าจอ ก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้บนเก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกล "โปรคิดว่ารักกับชอบมันต่างกันยังไง"
"กูว่าชอบมันเลิกได้ เหมือนวันนี้มึงชอบคนๆหนึ่ง พอมึงมารู้ข้อเสียของเขาพรุ่งนี้มึงอาจจะเลิกชอบแล้วก็ได้ แต่ถ้ารักกูว่ามันเลิกไม่ได้ เหมือนที่มึงรักพ่อแม่นั่นแหละ ถึงมึงจะรู้ว่าเขามีข้อเสียอะไรมากมาย แต่มึงก็เลิกรักเขาไม่ได้อยู่ดี"
"นั่นสิเนอะ"ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ผมว่าเมื่อก่อนผมคงแค่ชอบมันนั่นแหละ เพราะถ้าผมรักมันจริง ผมคงไม่เลิกเสียใจได้เร็วขนาดนั้นหรอก "สอบเสร็จแล้วโปรว่างไหม"
"ไปบ้านคุณย่า"
"แล้วอาทิตย์ถัดไปอ่ะ"
"ก็ว่าง"หันมามองผมด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"เราขออะไรอย่างสิ"เลิกคิ้วเป็นเชิงว่าอะไรของมึง "นั่งรถไฟไปเที่ยวกับเราได้ไหม นี่ยากลองนั่งรถไฟ"คือเดทกูอินดี้ชิบหาย นั่งรถไฟไปกลับ จบ.
"งั้นกูขออะไรอย่าง"ยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่กูไม่พอยังยื่นหน้าเข้ามาจนจมูกผมกับมันจะชนกันอยู่แล้ว "ขอจูบได้ไหม"รู้สึกเหมือนเลือดลมแม่งสูบฉีดจนผมจะเป็นลม นี่ไอ้โปรมันเมา หรือว่ามันบ้า หรือนี่กูกำลังฝัน แต่ฝันเหี้ยไรจะหนาวตีนขนาดนี้
"อื้ออ"กดปากแนบลงมาเบาๆก่อนจะผละออกไปเล็กน้อย "ยังไม่ได้อนุญาตเลย"
"แล้วได้ไหม"ได้ไม่ได้มึงก็จุ๊บกูมาทีแล้วเอดร็อกกก "ตกลงเอาไง"ขยับเข้ามาจนผมนี่แทบละลายเพราะตาคมสวยของคนตรงหน้า
"ได้"พี่ซีก็เล่นตัวไปวิสองวิเท่านั้นแหละฮะ จริงๆพี่นี่แรดจะตาย "อืออ"ผมเปิดปากเล็กน้อยให้อีกคนสอดลิ้นเข้ามา
สัมผัสนุ่มนวลไม่เร่งรีบทำให้ผมเผลอยกมือขึ้นประครองหน้าเนียนใสที่มีตอหนวดที่กำลังจะขึ้น เสียงเฉอะแฉะน่าอายที่ดังขึ้น กับฝ่ามือที่ล้วงเข้ามาใต้เสื้อยืดของผมกำลังให้อารมณ์บางอย่างกำลังเกิดขึ้น แต่ยังไม่ทันที่เราจะเตลิดไปไหนไกล เสียงไอ้ธันที่ตะโกนเรียกมนุษย์แฟนเก่าของผมก็ทำให้อารมณ์ที่พุ่งสูงนั้นมอดดับไปเสียง่ายๆ
...ไอ้มารหัวขวด...
"ไอ้โปรโว้ย ปี้กันอยู่หรือไง ทำไมไม่ตอบ"เสียงแม่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆจนผมต้องดันตัวไอ้โปรออก
"เออ!! ไปแล้วไอ้สัด"มนุษย์หมีขาวตะโกนโต้ตอบกลับไป
"เออนี่คืออะไร เออปี้กันอยู่งี้หรอ"ไอ้ธันยิ้มกริ่มอย่างมีเลสนัยอยู่ที่ประตู
"แล้วมึงเห็นว่าไง"
"เห็นว่าปากพวกมึงวาวๆ... ดูดปากกันอยู่หรอ"ไม่ต้องรอคำตอบเลยจ้ะ หน้ากูนี่เหมือนเลือดจะสูบฉีดแรงอีกรอบ
"ลากันเสร็จแล้วก็รีบตามกูมาล่ะ"ไอ้ธันเดินสบัดตูดไปอย่างกวนตีนผมก็หันมามองไอ้โปรแบบเขินๆ
"มึงก็อย่านั่งนาน เดี๋ยวจะไม่สบาย"ยันตัวลุกขึ้นยืนหลังจากพูดจบ
"เดี๋ยวสักพักก็ไปนอนแล้ว"
"เมื่อก่อน..."ผมเงยหน้ามองคนที่ยืนค้ำหัวอยู่ "กูรักมึงนะ"เหมือนหัวใจผมกลับมาเต้นโครมครามอีกครั้ง
"แล้วตอนนี้อ่ะ"รู้เลยว่าเสียงกูนี่สั่นรัวๆเพราะความตื่นเต้น
"กูบอกแล้วว่ามันเลิกไม่ได้"
"..."คือหัวใจกูจะวายแล้วจ้า
"แต่กูก็ยังคบกับมึงไม่ได้เหมือนกัน
โปรเดินกลับเข้าไปแล้ว ในขณะที่ผมยังนั่งทบทวนคำพูดมันอยู่ที่เดิม ที่คบไม่ได้นี่เพราะมันยังไม่มั่นใจในตัวผมหรอ แต่คนอย่างผมจะไปสร้างความมั่นใจอะไรให้มันได้วะ ผมก็เป็นผมแบบนี้ นี่ก็พยายามสุดตัวแล้วนะ จะคบไม่คบก็ปล่อยให้มันแล้วแต่เวรแล้วแต่กรรมก็แล้วกัน
------
ได้ลงสักที
คือนี่ไปคุมร้านละขายดีจัดไงเขียนได้บรรทัดคนมาอีกแล้ว
แล้วที่ขายดีไม่ใช่ว่าอินี่สวยจัด มีหนุ่มๆมาซื้ออะไรนะ
คือใช้ความเป็นชะนีขายยาคุมยาระดมพลไปวันๆ
ตอนน้องอิเขียดอยู่นี่ร้านเงียบกริ๊บ ลูกค้าคงช่างใจว่าถ้ากูเข้าไปกูจะโดนปล้นหรือเปล่า
เข้าเรื่องหน่องซี หนทางสมหวังนั้นไม่ใกล้แต่ก็ไม่ไกล
โปรยังมีโซ่ล่ามขามันไว้อยู่ ทั้งที่ใจมันที่ไปกะอีตูดใหญ่เรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณมากๆเลยที่ยังคงติดตาม
และก็ขอโทษสุดๆเลยที่มาช้ามากๆ