✜✜✜▶ Ex or Next? เมื่อผมจีบ... มนุษย์แฟนเก่า ◀✜✜✜
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✜✜✜▶ Ex or Next? เมื่อผมจีบ... มนุษย์แฟนเก่า ◀✜✜✜  (อ่าน 642363 ครั้ง)

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ง้อวววว!!.....ไหวนะหนู สู้ๆจ้ะ

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
เกิดอะไรขึ้นคะ มันดูเกิดขึ้นเร็วมาก
ดิฉันตามไม่ทันคะ5555555

แต่นังโปร....ระวังตัวไว้

ออฟไลน์ Gapompom

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
อย่างที่ซีบอก "โกงความรู้สึก"
ทั้งๆที่ซีบอกแล้วนะถ้าโปรมีแฟนแล้วก็จะหยุดความรู้สึกนี้ไว้
แต่ในเมื่อโปรไม่บอกแล้วจนในที่สุดดันทำเหมือนเป็นแฟนกัน แต่ยังคบไม่ได้
ในเมื่อโปรเล่นไม่แฟร์ (แต่ก็เข้าใจนะตรงที่ไม่แย่ใจว่าซีจะทิ้งไปอีกรึป่าว)
แล้วซีจะอยู่รอทำไมในเมื่อรู้ความจริงแล้ว
แต่จะรอตอนของโปรนะว่ารู้สึกยังไงกันแน่

ออฟไลน์ alien.aiiwz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
คือโปรมันยังรักหน่องซี พอกลับมาหาก็อยากจะอยู่ด้วย
อยากรั้งไว้ ถึงตอนสุดท้ายจะเลือกหน่องซี
แต่ก็ยังไม่คิดจะเคลียตัวเอง ไม่อธิบายอะไรให้เข้าใจ
แถมยังมีอะไรกันไปแล้ว
ทั้งๆ ที่ตัวเองก็มีพันธะ ถึงจะเป็นแบบปล่อยๆ ก็เหอะ
ไม่แฟร์เนอะ ไม่ผิดที่หน่องซีมันจะช้ำใจเลยอ่ะ
เหมือนจะเข้าใจอารมณ์ทั้งคู่นะ
แต่มันก็ยังไม่เคลีย
ไหนบอกแม่สิลูกกก นุ้งโปร?!!
พาร์ตหน้าแม่ให้โอกาสมาอธิบายค่ะ
ขอสวยๆ
ไม่งั้นจะตัดออกจากกองมรดกละนะ
  :a14: :a14: :a14:

ออฟไลน์ GenZ

  • ummm
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ถึงกับจุก เป็นคนประเภทเดียวกับซีค่ะ เจออะไรกูหนีไว้ก่อน แบบเข้าใจเลยอ่ะ มันแบบ อื้อหือออออออ อีเหี้ย ได้แต่ตะโกนในใจไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ แต่เรารอโปรมาพูดนะ อ่านทอล์คแล้วคิดว่าควรรอ ฮ้าาาาาา ซีอิ๊วสู้ๆ  :sad4:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
อืมมมมม นะ... ก็ยังรักกันอยู่น่ะแหล่ะที่ทำไปทุกอย่างเพราะอยากรั้งให้มันอยู่แบบเดิม แบบไม่พร้อมจะปล่อยให้จากกันได้อีก แต่มันมาพร้อมกับคำว่ายังมีอีกคนนี่มันจัดอยู่ในฐานะคบซ้อน หรือยัดคำว่าชู้ ให้อีกคนแบบจงใจเลยนะ   :z3:

ออฟไลน์ nijikii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ขอคัดลอกมาจากช่วงท้าย

ปล. ที่น้องซีลืมที่เลิกกันไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุค่ะ โง่ล้วนๆ

.
.
เนี่ย ก็อยากจะถามหน่องซีว่าเลิกทำไมเนี่ย สุดท้ายคุณเขียดตอบมาแบบเนี่ย
#ยอมใจ + #ลำไย
5555555555555

คือเราเข้าใจโปรนะ
แบบก็เลิกกันไปนานแล้ว แต่พอกลับมาเจอกันอีกมันก็เหมือนหวนคืนเวลาอะ
ซีน่าจะเป็นรักแรกของโปรปะ ถึงขนาดพูดกับพ่อหน่องซีไปแล้วอะ
แล้วบับ โปรก็ผู้ชายสายเหลืองคนนึง(ที่ชอบสีเหลือง)
มันก็ต้องมีอุ๊อะอิ๊เอะโอ๊ะปลดปล่อยบ้างงะ

แล้วก็เข้าใจหน่องซีที่แบบ กลับมาครั้งนี้ ซีให้ทั้งตัวให้ทั้งใจไปแล้ว
ยิ่งเป็นคนที่แบบ ถ้าโปรมีอยู่แล้วซีก็จะไม่ยุ่งอีก

อิโปรมันก็แบบ รักเต็มอกอะ
ถึงขนาดเอาแหวนมาให้มันก็จริงจังแหละไป๊

สรุป เราจะไม่ด่าอิโปร
เราจะด่าหน่องซีแทน
"เลิกกันทำม๊ายยยยยยยยยย"

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ออฟไลน์ minmin96

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
คบกันครั้งแรก.ซีผิดเต็มๆที่งี่เง่าบ้าบอ
แต่พอเจอกันอีกครั้ง..เกลียดอีโปรว่ะ!!คือถ้าตอนแรกไม่อยากคบ ซีจีบ ก้อควรบอกอย่างจริงจังว่ามีคนคบด้วยแล้ว เชื่อว่าซีต้องเข้าใจ!!
แต่นี่โปรมาพัวพันใกล้ชิด มันคืออะไร??ได้กันแล้วไม่คบ??ไม่ปล่อย กั๊กซีไว้พร้อมคบกับคนอื่น..มันจะเหี้ยไปไหม??
เป็นเรื่องแรกเลยที่อยากให้ดราม่า ผิดหวัง จากกันไปตลอดกาลเลย

ออฟไลน์ modisvip

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ที่โปรทำจะว่าผิดก็ผิดนะ ไม่ผิดก็ไม่ผิด
ผิดนี่เพราะไม่ชัดเจน ในเมื่อไม่ใช่แฟนทำไมไม่บอกซีไปตรงๆ อมพะนำอยู่ได้ วุ่นวายเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Banarot

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
...กับอิโปร เลิกยุ่งกับมันไปเลย

ออฟไลน์ Kominum

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ lipure

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
โปรมาเคลียร์ด่วนเลย

แล้วน้องซี มันก็จีบแกอยู่ตั้งนาน

ถ้าคิดอยากจะรีเทิร์น  ทะไมไม่เคลียร์ยัยพริ้มก่อนคร๊ะ

แต่โปรเคยบอกว่าเจ้พริ้มนี่เปนรุ่นพี่ในคณะ ที่ไปต่อโทที่ญี่ปุ่น ไม่ใช่หรอ

มาเคลียร์น่ะคะ  :mew5: :really2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-11-2015 15:43:52 โดย lipure »

ออฟไลน์ ketddy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
น้องโปรทำไมทำตัวเยี่ยงนี้ ใครสั่งใครสอนกันจ๊ะ ม๊าบลูมาจัดการด่วนทำกับน้องซีอย่างนี้ได้ไง


ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
โปรจะจับปลาสองมือเหรอ

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ตัวละครทั้ง 3 ก็ล้วนแต่เห็นแก่ตัวกันทั้งนั้นแหละ แล้วแต่จะมากหรือน้อย ไม่ใช่แค่โปรคนเดียวที่เห็นแก่ตัว

ออฟไลน์ ycrazy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
ยังไงเราก็รู้สึกว่าโปรไม่แฟร์อยู่ดีอะ ทำไมมีใครอยู่แล้วกั๊กเอาไว้
เหมือนจับปลาสองมือ :m16:

ออฟไลน์ nsai.ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
ก่อนอื่นเลย...คนขับรถคนนั้นเป็นใคร??? แล้วคนขับรถคนนั้นไม่ได้ชอบหรือแอบมองซีอยู่แล้วใช่มั้ยหรือยังไง
โปรเอ๊ยยย...แกทำอะไรลงไป๊~~~  :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook

ป้าว่าเรื่องนี้มันต้องมีเงี่ยนงำ!!
รออ่านเลยค่ะ อยากรู้ว่าน้องโปรจะว่ายังไง
หวังก็แต่หน่องซีจะไม่เตลิดไปไหนเสียก่อนนะคะ
ไม่งั้นน้องโปรต้อง 'แย่' อีกแน่ๆเลย

เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^  :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Bellze12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ใครจะว่าไงไม่รู้ 
แต่เราคิดแค่ว่าโปรไม่ผิด
ไม่ผิดที่จะเลือกคนที่ตนเองรัก
บอกเลยว่า ถ้าซีจะทิ้งโปรอีกนี่ใจร้ายมาก
เอาตัวเขาไปจีบเขาก่อน
ทั้งที่ตอนแรก  ไม่ได้คิดจะหาคำตอบเลยว่าเขามีแฟนอยู่หรือเปล่า
พอมารู้ว่าเขามีก็คิดจะจากไปอีก
มันไม่ใจร้ายเกินไปหรอ
กลับมาทำให้เขารักอีก แล้วก็จะจากไปแบบนี้

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ †คุณเขียด

  • ♣ เป็นคนดีแล้วค่ะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +376/-1
Chapter 13  Can you hear me?
 
    เหี้ยกว่าการอกหัก ก็คงจะเป็นอกหักตอนช่วงสอบนี่แหละ อยากจะหนีแม่งก็หนีไม่ได้ อยากจะอ่อนแอดราม่านอนร้องไห้กระซิกแบบเงียบๆอยู่ริมทะเลกูก็ทำไม่ได้ ต้องทนนั่งน้ำตาหยดแหมะๆจนชีทชุ่มอยู่กับบ้านเนี่ย 

    มนุษย์แฟนเก่าไม่โทรมาสามวันแล้ว หลังจากเกิดเรื่องมาเมื่ออาทิตย์ก่อน มันมาหาผมที่บ้านทุกวัน แต่ผมก็ไม่ออกไปเจอ ไม่ใช่ว่าเล่นตัวชิงดราม่าอะไร แต่ผมรู้ว่าผมคงเข้มแข็งไม่พอที่จะเผชิญหน้า แบบแผลมันยังสดเกินไป เลือดมันยังซิบๆอยู่ ให้เจอกันเลย แผลผมคงเละเทะยิ่งกว่าเดิมแน่ๆ 

    ผมไม่ใช่คนเข้มแข็ง ไม่ชอบความเจ็บปวด ไม่ชอบเหี้ยๆเลยให้ตายดิ แต่นี่เรื่องมันเกิดขึ้นแล้วไง ถึงจะอยากร้องไห้ให้ตายห่ากันไปข้างหนึ่ง แต่พอมองไปรอบๆตัวผมก็ต้องลุกขึ้นให้ไวที่สุด ความสัมพันธ์ของพ่อแม่ผมกำลังเป็นไปด้วยดี ผมไม่อยากให้เขาต้องมาห่วงเรื่องของผมอีก

    ถามว่าโกรธเรื่องนี้ที่โปรมันทำแค่ไหน ผมคงบอกว่าผมไม่รู้ ผมรู้แค่ผมเสียใจ และก็ผิดหวัง คือที่มันเก็บผมไว้นี่เผื่ออะไร ไว้เอาฟรีไรงี้หรอ สำหรับผมเรื่องเซ็กส์ผมไม่เสียดายอะไร เพราะผมเต็มใจเอง ให้มันเอง แต่แม่งเอ๊ย! ทำไมน้ำตากูมันไหลอีกแล้ววะ

    ไม่รู้ว่าตอนอกหักคนอื่นจะรู้สึกสับสน เบลอๆ งงๆกับชีวิตแบบผมไหม แบบตอนมันมาง้อก็ไล่แม่งไป แต่พอไม่มากูก็ดราม่าอีก อยากจะให้อภัย แต่จะอภัยอะไร ในเมื่อตอนนี้ใจผมแม่งยังโกรธมันไม่ลงเลย เอาแต่ร้องไห้เสียใจจนบางทีกูก็สับสนว่านี่กูเป็นดาวพระศุกร์กลับชาติมาเกิดหรือเปล่า คนอะไรแม่งจะดีเกินคนขนาดนี้

    ได้แต่นั่งด่าตัวเองว่าอีโง่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดนทำขนาดนี้แล้วยังไม่เข็ด เอาแต่คิดถึงช่วงนี่มีความสุขแล้วโหยหามัน จนบางครั้งมันก็มีความคิดชั่ววูบเล็กๆที่แบบ เออกูเป็นอะไรก็ได้ กูยอม ไม่อยากร้องไห้ ไม่อยากทรมานแบบนี้อีกแล้ว

    แต่พอครั้นจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปหาต้นเหตุ ผมก็ฉุกคิดว่า ถ้าเป็นแบบนั้นผมจะมีความสุขแน่ๆหรอ ผมจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วหลอกตัวเองว่ามีความสุขดีได้อีกหรอ

    ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลามากแค่ไหนที่จะทำให้ความรู้สึกผมมันจะกลับมาเหมือนเดิม ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองนั้นโดนกรีดด้วยมีดแล้วทิ้งให้จมกองเลือด ถึงวันหนึ่งแผลผมจะหายสนิท แต่ว่าคราบเลือดที่มันเปรอะเปื้อนก็จะยังแห้งกรังติดตามตัวผมไปอยู่ดี
 

    ...กูนี่เพ้อดีเนอะ...
 

    เก็บตัวแบบนี้ต่อไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ผมควรออกไปข้างนอก หาอะไรทำสักอย่างเพื่อจะได้ยุติความฟุ้งซ่านของผม คว้าโทรศัพท์ขึ้นมากะว่าจะโทรชวนเพื่อนไปด้วย แต่ถ้าไปด้วยกัน ผมว่าพวกมันต้องรู้แน่ ผมขี้เกียจร้องไห้ต่อหน้าเพื่อน ผมไม่อยากให้มันมาสงสาร ไม่ต้องมาอินกับผม เพราะแค่เรื่องเรียนเรื่องงานก็เครียดจะตายห่ากันอยู่แล้ว 

    ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะคว้ากระเป๋าสตางค์และกุญแจรถแล้วเดินลงไปชั้นล่าง วันนี้พ่อผมไม่อยู่ ผมจึงได้แค่โบกมือลาเล่าแม่บ้านที่ยังคงฉีกยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตรเฉกเช่นทุกวัน

    ผมขับรถไปเรื่อยๆ ถนนตอนนี้ค่อนข้างโล่ง ผมตัดสินใจจะหาหนังดูสักเรื่องเพื่อฆ่าเวลาฟุ้งซ่านของตัวเอง หลังจากจอดรถเรียบร้อย ผมก็มายืนมองโปรแกรมหนังอย่าครุ่นคิด หนังแนวตลาดกับหนังรักที่ตัดไปเลย วินาทีเห็นใครรักกันกูนี่หงุดหงิดมาก
ผมยังคงยืนลังเลระหว่างหนังระทึกขวัญต่างประเทศสองเรื่อง แต่จะให้ดูทั้งสองเรื่องเลย ชีวิตกูก็แลว่างไปนะ อีกอย่างชีทเรียนก็ยังสรุปไม่เสร็จอีกวิชาหนึ่งด้วย
 

    "เฮ้ย!"แรงสะกิดที่แขนทำให้ผมหันไปมอง "มาคนเดียวหรอมึง"ไอ้เพลสที่ไม่ได้เจอกันประมาณชาติเศษทักผม

    "มึงเห็นใครอีกไหมล่ะ"คือจะบอกว่าผมพาลก็ได้นะ โคตรนิสัยเสียเลยเนอะกูเนี่ย "แล้วมึงมาคนเดียวหรือไง"ผมถามมันกลับ

    "มากับเพื่อน"มันเสตามองไปที่ผู้หญิงที่กำลังต่อแถวซื้อป๊อบคอนอยู่ริบๆ อาจสงสัยว่าไกลขนาดนี้ แล้วผมรู้ได้ไงว่าคนไหน แต่เชื่อเถอะ ให้เด็กป.5มายืนอยู่ตรงกูก็รู้ว่าคนไหน

    "เพื่อนเหี้ยไรใส่เสื้อคู่รองเท้าคู่ เมียก็บอกว่าเมีย"ผมหันไปมองโปรแกรมหนังอีกครั้ง

    "มึงไปดูกับพวกกูไหมล่ะ"ผมโบกมือปฏิเสธ
 

    ให้ไปทนดูพวกมึงสวีทกันให้กูดราม่าอีกรอบหรือไง เห็นใครรักกันแล้วหงิดหงุดโว้ย แล้วอิเด็กมัธยมที่ยืนจับมือกระหนุงกระหนิงนั่นคืออะไร แล้วอิน้องผู้หญิงที่เดินเกาะหลังแฟนแม่งตาบอดหรอถึงต้องต้องมีคนนำทางให้น่ะ แล้วนั่นรองเท้าคู่อีก กลัวคนไม่รู้หรือไงว่ามึงเป็นแฟนกัน เห็นแล้วหมันไส้ มีโอกาสรักก็รักกันซะนะ... เดี๋ยววันหนึ่งมึงก็เลิกกัน

    แล้วนี่กูเป็นอะไรขึ้นมาอีกเนี่ย เดี๋ยวดราม่า เดี๋ยวคลุ้มคลั่ง จนกูงงไปหมดแล้วเนี่ย นี่ตกลงกูอกหักหรือเป็นบ้า หรือว่ากูจะเป็นทั้งสองอย่าง เกลียดตัวเองจังโว้ย
 

    "กูขอตัวก่อนนะ อยากไปวัด"นี่คืออยากไปจริงๆ ไม่ใช่ข้ออ้างจะปลีกตัว
 

    ในเมื่อพึ่งตัวเองไม่ได้ ผมหันมามุ่งหน้าสู่พระธรรมแทนแล้วกัน ถ้าอกหักแล้วหนีบวช พ่อแม่ญาติพี่น้องกูจะรู้สึกยังไง จริงๆผมก็เคยบวชแล้วนะ บวชเจ็ดวันเมื่อตอนซัมเมอร์ปีสอง แต่ตอนนั้นเหมือนไม่ได้อะไรเท่าไหร่ เพราะขนาดเขาห้ามอาหารยามวิกาล ผมก็ยังนั่งต้มมาม่าตอนสี่ทุ่มอยู่ดี

    ผมขับรถไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีจุดหมายที่แน่นอน คิดแค่ว่าเจอวัดไหนก่อนก็แวะวัดนั้น ผมขับรถเข้าไปที่วัดเทวราชกุญชรซึ่งผมเองก็เคยมาครั้งแรก

    ตัววัดนั้นมีต้นไม้ใหญ่พอร่มรื่น ผมเข้าไปกราบพระในอุโบสถเสร็จก็ออกมาเดินเล่นเพื่อสงบใจ บริเวณที่ปล่อยปลานั้นมีคนพลุกพล่าน ส่วนผมก็ได้แต่ยืนมองผู้คนที่สัญจรไปมาอย่างเงียบๆเพราะไม่รู้จะไปที่ไหน

    หลังจากสอบถามคุณป้าที่เดินผ่านมา ผมก็เดินเรื่อยๆมาจนถึงตลาดเทเวศน์ที่อยู่ไม่ไกล ยืนหยุดอยู่หน้าแผงขายปลา แต่ก็ไม่รู้จะซื้อปลาอะไรดี จนมีพี่สาวที่แต่งตัวด้วยสไตล์พนักงานออฟฟิศมาทักนั้นแหละ ผมถึงได้เบิกโลกใหม่
 

    ...ชนิดปลาแม่งเสริมดวงไม่เหมือนกันนะเว้ย...
 

    "เนี่ยค่ะน้อง ถ้าปล่อยตะพาบก็จะช่วยให้อายุยืน"ไม่พูดเปล่ายื่นแผ่นกระดาษเอสี่ที่จดด้วยรายมือโคตรเรียบร้อยมาให้ผมอีกด้วย
 

    โอโห ตาพี่นี่ลายเลยครับ จดอะไรมากมายขนาดนี้ เชื่อแล้วแหละว่าผู้หญิงกับความเชื่อนี่เป็นของคู่กัน ผมว่ามันไม่มีผลหรอกนะ เพราะจริงๆจุดประสงค์ที่เรามาปล่อยปลากันเนี่ยก็เพื่อไถ่ชีวิต ไอ้ที่ว่าจะช่วยเรื่องอะไรนั้นน่ะ ผมไม่ค่อยเชื่อหรอก 
แต่ไหนๆพี่เขาหวังดีขนาดนี้ ก็ดูสักหน่อยแล้วกัน อะไรบ้างเนี่ย ปลาไหลช่วยให้ชีวิตราบรื่น ปลาหมอช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ปลานิลทรัพย์สินเพิ่มพูล กบอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร หอยขมทิ้งความขมขื่นช่วยให้ชีวิตเป็นสุข...
 

    "น้าครับ หอยขมสองกิโล กบหนึ่งกิโล ปลาไหลหนึ่งกิโล"หึๆ นี่ขนาดกูไม่เชื่อนะ
 

    หลังจากซื้อปลากันเสร็จผมกับคุณพี่สาวใจดีที่แบ่งปันเรื่องการปล่อยปลาก็แยกกัน เพราะพี่เขาจะไปปล่อยปลาที่วัดราชาธิวาส ส่วนผมต้องกลับไปวัดเทวราชกุญชรครับ เพราะจอดรถทิ้งเอาไว้

    ผมเดินลงมาที่สาลาริมน้ำ ก่อนจะเดินเลยไปที่โป๊ะเทียบเรือ นั่งคุกเข่า เปิดถุง แล้วค่อยๆปล่อยปลาหอยกบที่ซื้อมาจากตลาดลงไปในแม่น้ำ แดดยามเย็นที่อ่อนคล้อยเต็มที่ทำให้ผมเหมือนสงบลง ใจที่ร้อนรุ่มทรมานเหมือนรู้สึกดีขึ้น

    มองปลาไหลที่ยังคงว่ายวนตรงหน้าผมเหมือนกำลังดีใจอีกครั้งก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความตื่นตัน อย่างน้อยในวันที่รู้สึกเหี้ยๆ ผมก็ยังสามารถทำอะไรดีๆได้

    ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายเจ้าปลาในน้ำนั่นอีกครั้ง ก่อนจะอัพลงไปในเฟซบุ๊คที่ไม่ได้อัพเดตห่าอะไรมาประมาณห้าเดือน มีเพื่อนแค่ประมาณสามร้อยกว่าคน แต่เสือกมีคนติดตามสองพันกว่าๆ คือกูก็ไม่เข้าใจนะว่ามาตามกูกันทำไมในเมื่อไม่เคยอัพห่าอะไรเลย

    ปรับแสงนู้นนี่นั่นในแอพพลิเคชั่นแต่งรูปเสร็จก็อัพโหลดลงไปพร้อมแคปชั่นดาดๆแบบไม่ได้คิดห่าอะไรเลยว่า 'good luck' จากนั้นก็ล็อกเอาท์ออกทันทีแบบไม่ต้องรอดูอะไร 

    ผมขับรถกลับบ้านด้วยใจที่สงบและสองที่มีสติ โลกยังคงหมุนไปแบบเดิม ทุกอย่างมันยังคงเหมือนเดิม รถติดเหมือนเดิม ผู้คนพลุกพล่านเหมือนเดิม แค่เพิ่มเติมตรงที่กูอกหัก

    ผมมองสัญญาณไฟจราจรที่ยังคงเป็นสีแดง ก่อนจะจ้องไปที่ผู้คนที่กำลังข้ามถนน กดเปิดFMจากปุ่มที่พวงมาลัย เพื่อฟังเพลง เสียงบีทสนุกๆกับเสียงใสๆที่ผมฟังไม่เข้าใจนั้นดังขึ้น แต่ก่อนที่สมองจะได้ประมวลส้นตีนอะไรได้ น้ำตาผมแม่งก็ทะลักออกมาอีกแล้ว
 

    ...เอ ดร็อกส์...
    ...เพลงเกาหลี...
 

    "ฮืออออ"
 

    ผมร้องไห้ออกมาสุดเสียงอย่างไม่ต้องกลัวใครเห็น ไม่ต้องกลัวใครได้ยิน ไม่ต้องกลัวใครมาสมเพช ไม่ต้องกลัวใครมาสงสาร สัญญาณไฟสีแดงที่ผมคิดว่าแม่งโคตรยาวนานในแต่ละวัน เหมือนจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว

    ผมหยิบทิชชู่มาเช็ดน้ำมูกน้ำตา แต่พอเช็ดอีกก็ไหลอีก ไหลอีกก็เช็ดอีก เช็ดๆดึงๆกระดาษอยู่สักพัก ผมก็ได้ค้นพบว่า ถ้ากระดาษทิชชู่เอาไปเผาใช้เป็นเชื้อเพลิงในนรกได้ กระดาษทิชชู่ที่กูมี ก็คงช่วยนรกได้อีกหลายขุม

    กลับเข้ามาในบ้านผมก็ต้องปั้นหน้าร่าเริง แม้ขอบตาที่บวมแดงจะไม่ได้ร่าเริงกับกูด้วยก็ตาม นั่งทานมื้อเย็นกับพ่อแ่เสร็จผมก็ขอตัวไปอ่านหนังสือต่อ คือก็รู้นะว่าพ่อแม่ดูออก แต่บ้านผมเป็นแบบนี้แหละ ถ้ารู้ว่าผมไม่อยากพูดเขาก็ไม่ถาม ซึ่งผมก็ชอบให้มันเป็นแบบนี้ เพราะถ้าโดนคาดคั้นถาม ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือน

    ไม่รู้จะพูดอย่างไรให้พ่อแม่ไม่โกรธโปร ไม่ว่าโปร ผมก็ไม่รู้จะนิยามตัวเองว่าโง่หรือดีกันแน่ โคตรก่ำกึ่งเลยว่ะ สับสนด้วย หรือบางทีผมควรจะจัดการเรื่องนี้ให้มันเด็ดขาดไปเลย จะได้ไม่ต้องมานั่งสับสนแบบนี้
.
.
.

    สอบวันนี้คือตัวสุดท้ายของภาคเรียน ก่อนจะมานั่งมึนๆกันอยู่ในร้านเค้กหน้าม.เพื่อเป็นการฉลองที่ได้เจ็บแต่จบกับอาจารย์หลายๆคนในเทอมนี้เสียที และแน่นอนว่า เพ็ญประศรีไม่ได้อยู่ในนั้น เทอมหน้า เทอมต่อๆไปจนกระทั่งเทอมสุดทกูก็ยังต้องเจอ
 

    ...หน่องซีจิคราย...
 

    "พาร์ทอาจารย์ออยนี่กูมั่วเลยจ้ะ เหมือนไม่เคยได้เรียนมาก่อนในชีวิต"แจนที่ยังไม่จบไม่สิ้นกับข้อสอบเริ่มทึ้งหัวตัวเองอย่างวิตกจริต

    "อย่างน้อยมึงยังเขียนอะไรไง กูเนี่ยนั่งสเก็ตควายเลย"ไอ้เอ็มว่า

    "ขอซีขึ้นเหอะ ขี้เกียจรี"ไอ้เปอร์พูดจบก็หันไปคุยกระหนุงกระหนิงกับอลิสแฟนมันที่มีมานะพยายามมานั่งรอมันสอบกว่าสามชั่วโมง... คือน่ารักนะ แต่ไม่เข้าใจ ทำไมกูต้องหมันไส้

    "แล้วมึงโอเคนะ"ไอ้ธามหันมาถามผมที่นั่งนิ่งมานาน

    "อือ"ผมพยักหน้า "ก็ตรงกับที่อ่านมาอยู่"คิดไปตอนอ่านหนังสือก็อยากจะครายออกมาอีกรอบ กูนี่อ่านหนังสือไปร้องไห้ไปจนหลอนไปหมดแล้วเนี่ย

    "ไม่ใช่เรื่องสอบดิ"ผมเลิกคิ้วมองไอ้ธาม

    "เรื่องโปรตอน"จีจี้พูดขึ้น ผมก็ยิ้มเหมือนไม่มีอะไร ทั้งที่ในใจนี่น้ำตาแม่งเอ่อขึ้นมาราวกับมีใครไปไขเปิดวาล์วอีกแล้ว

    "ก็ปกตินี่ ทำไมต้องไม่โอเควะ"ผมหัวเราะขึ้นแบบ... โคตรเสแสร้ง

    "มึง... พวกกูอ่ะรู้เรื่องแล้วนะ มึงจะปิดพวกกูไปถึงไหน"ฟอยด์พูดทั้งที่ยังเคี้ยวพานาคอตต้าชาเขียวอยู่เต็มปาก

    "ตกลงมันหลอกมึงหรือยังไง"ไอ้เปอร์ถามอีก

    "ไม่รู้ดิ กูก็ยังงงๆ จริงๆกูไม่อยากคิดถึงเรื่องนั้นด้วยซ้ำ"เหมือนเสียงผมมันจะสั่นขึ้น ตาก็ร้อนๆ

    "อย่าร้องดิมึง"เพื่อนผมรีบโผเข้ามาดู... นี่กูร้องไห้อีกแล้วหรอ

    "กูว่ากูโอเค"ผมหัวเราะแห้งๆ แล้วดึงทิชชู่บนโต๊ะมาซับๆที่เบ้าตาที่ตอนนี้คงบอบช้ำบรรลัย สงสารนะ แต่ต้องทำใจว่ะ เกิดเป็นเบ้าตากู ต้องอดทนนะ "จริงๆกูจะถามมึงตั้งแต่เช้าแล้ว ทำไมคนแม่งมองกูแล้วก็ซุบซิบวะ"พอผมพูดถึงตรงนี้ พวกมันก็ดูจะอึกอักกันขึ้นมาทันที
 
    จริงๆผมก็พอรู้แหละ ว่าคงไม่พ้นเรื่องผมกับโปร เพราะขนาดเพื่อนผมเองยังรู้เรื่องเองโดยที่ผมไม่พูดอะไร นับประสาอะไรกับคนนอก แถมวันเกิดเรื่องก็มีสักขีพยานอยู่ต้องเยอะแยะ
 

    "อย่าไปสนใจเลย"อลิสที่นั่งฟังอยู่นานเริ่มพูดบ้าง "เราว่าซีไปคุยกับโปรให้เคลียร์ก่อนไหม เราก็ไม่รู้เรื่องไรหรอก แต่ตอนเรียนอยู่พี่พริ้มก็ไม่ธรรมดาอ่ะ"

    "ยังไงอ่ะอิลิส"ที่นี่อีพวกขี้เสือกก็มุ่งความสู่รู้ไปที่อลิสทันที
 

    ผมก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง เพราะผมรู้สึกว่าเรื่องพี่พริ้มน่ะไม่ใช่ประเด็นใหญ่อะไรสำหรับผม ประเด็นที่ผมเป็นแบบนี้น่ะ มันเหมือนว่าผมไม่รู้เรื่องห่าอะไรเลย ทั้งที่ผมเองกลับเปิดทุกอย่าง เออ ผมอาจจะผิดที่ผมไม่ถามตรงๆ แต่มันมีอะไรก็น่าจะบอกปะวะ ไม่ใช่ให้ความหวังผมแบบนี้ ยอมรับนะว่างี่เง่า แต่กูอกหักไง กูเศร้า กูไม่แคร์
   
    ส่วนเรื่องที่คนเขานินทาอะไรผมกัน ถเาเพื่อนผมไม่เล่าแบบนี้ แสดงว่าเรงเอาเรื่อง แต่ผมไม่คาดคั้นหรอกนะครับ เพราะผมไม่ชอบเอาอะไรที่ทำให้ไม่สบายใจมาเก็บไว้กับตัว เรื่องบ้างเรื่องถ้ารู้แล้วเป็นทุกข์... กูไม่รู้ก็ได้เนอะ

    การที่ใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนราวๆสองชั่วโมงนั้นทำให้ผมเหมือนลืมความทุกข์ใจไปชั่วขณะ แต่ก็ชั่วครั้งชั่วคราว เพราะเมื่อผมกลับมาอยู่คนเดียว ความทุกข์ความเสียใจก็กลับมาเหมือนเดิม

    ผมขับรถมาจอดที่หน้ารั้วบ้านหลังใหญ่ที่คุ้นเคย ยืนลังเลใจอยู่นานเอาการว่าจะกดกริ่งแล้วเคลียร์ให้จบๆ หรือว่าจะกลับบ้านไปนอนเปื่อยๆแล้วให้เวลามันรักษาตัวเองดี
 
    "น้องซีคะ"เสียงหวานๆราวกับนักร้องของโบสถ์นั้นดังขึ้นให้ผมหลุดจากถวังค์ความคิดที่ฟุ้งซ่าน

    "พี่จอยสวัสดีครับ"ยกมือไหว้คุณแม่บ้านที่หน้าจักรยานมีของสดเต็มไปหมด

    "สวัสดีค่ะ มาหาน้องโปรหรอคะ"ผมกัดปากอย่างประหม่า ก่อนจะพยักหน้าตอบไป

    "น้องโปรไม่อยู่หรอกค่ะ อยู่บ้านน้องแคปนู้นแหละค่ะ"แคป ไอ้แคปซูลเพื่อนสนิทโปรอ่ะนะ

    "แคปซูลกลับมาแล้วหรอครับ"เหมือนว่าแคปซูลมันจะแอดติดที่เชียงใหม่นะ ถ้าผมจำไม่ผิดนะ

    "กลับมาเกือบอาทิตย์แล้วค่ะ"

    "ขอบคุณครับพี่จอย"
 

    หลังจากสอบถามเส้นทางและร่ำลาพี่จอยเสร็จ ผมก็ขับรถถัดไปไม่กี่ซอยก็เจอบ้านเป้าหมาย ไม่ทันต้องทำใจกดกริ่งอะไร ไอ้คนที่ผมไม่ได้เจอมาเกือบสามปีก็กำลังเปิดประตูเล็กตรงรั้วพอดี
 

    "อ้าว"ไอ้ตี๋ตาสองชั้นมองผมแบบงงๆ "หวัดดี"

    "หวัดดี"ผมยิ้มแหยๆ อึดอัดเนอะ ไม่รู้จะทักเหี้ยอะไรดี

    "เข้ามาดิ ไอ้โปรอยู่ข้างใน"

    "ไม่ต้องหรอก เราคุยไม่นาน"

    "นานไม่นานก็ต้องเข้าไปเอง ไอ้เหี้ยโปรมันออกมาไม่ไหวหรอก"อธิบายด้วยหน้านิ่งๆ... คือกูสงสัยว่ามึงเป็นแบบนี้ทั้งกลุ่มเลยปะเนี่ย

    "โปรเป็นอะไรหรอ"ก็ยอมรับนะว่าห่วง

    "แค่เมาเป็นหมามาสามวัน"ขยี้หัวแบบง่วงๆ

    "จริงๆเราแค่จะเอาของมาให้โปร เราฝากแคปเอาไปให้โปรหน่อยได้ไหม ฝากบอกด้วยว่าเรา..."ไม่ทันที่ผมจะได้สาธยายอะไรให้จบ

    "ไม่ใช่ไปรษณีย์ ไม่รับฝาก อยากพูดอะไรก็พูดกับมันเอง"เบือนหน้าหนีแบบรำคาญเต็มทน "ไปคุยกันให้จบไป กูรำคาญ"
 

    ผมชั่งใจอยู่ชั่วครู่ก่อนกลับไปหยิบถุงกระดาษในรถที่มีกล่องรองเท้าและกล่องแหวนอยู่ในนั้น ก่อนก้าวย่างข้ามประตูเหล็กเข้าไปในเขตบ้านที่ถูกจัดตกแต่งด้วยสวนและศาลาแบบไทยๆ เดินตามมนุษย์ตัวผอมสูงที่ผมเพ้ากระเซอะกระเซิงไปเรื่อยๆ จนมาหยุดที่บริเวณสระว่ายน้ำที่มีสิ่งมีชีวิตสีแดงกำลังนอนแผ่อยู่ริมสระอยู่ไม่ได้สติ
 

    "โปร!!"ผมรีบวิ่งเข้าไปดูคนที่ไม่ได้สติทันที "ทำไมกินเยอะขนาดนี้อ่ะ"ผมมองไปรอบๆที่มีขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลากหลายยี่ห้อหลากหลายดีกรีวางเกลื่อนอยู่

    "มันคงกลัวตอนเข้าเมรุเผาแล้วไม่ติดไฟมั้ง"แคปเกาหัวแล้วก็เดินไปหลบแดด 
 

    แม้ตอนนี้แดดจะไม่แรงเท่าไหร่เพราะปาเข้าไปจะสี่โมงเย็นอยู่แล้ว แต่การที่คนไม่ได้สติจะตัวร้อนระอุแถมตัวแดงก่ำขนาดนี้ ผมว่าต้องตากแดดมาไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงแน่
 

    "แคปช่วยพาโปรเข้าร่มที"ผมบอกคนที่ยืนหลบแดดอยู่ด้วยเสียงเครียด

    "เอาเข้าทำไม ในเมื่อกูเอามันออกมาตากเอง"ไอ้เชี่ยแคป นี่เพื่อนมึงมันเป็นคนนะ ไม่ใช่เนื้อแดดเดียว ที่จะได้ตากให้เหนียวพอเคี้ยวให้อร่อยน่ะ

    "เมาขนาดนี้แล้วเจอแดดเดี๋ยวช็อคนะ"ผมบอกเสียงนี่สั่นไปหมด ไม่ได้อยากขอร้องอะไรมันมากหรอก แต่ถ้าให้แบกเอง ผมว่า
ผมคงพาอิหมีขาวมันลงไปว่ายน้ำทั้งที่เมาแน่ และถ้าเป็นแบบนั้น ผมก็ไม่รู้จะพามันขึ้นมายังไง ในเมื่อ...กูว่ายน้ำไม่เป็น

    "ถ้าจะช็อคก็คงช็อคตั้งแต่คราวก่อนแล้วหรือเปล่า"ทำหน้ากวนตีนใส่อีก

    "แคป... ช่วยที เราขอร้อง"คนฟังถอนหายใจแต่ไม่มีท่าทีจะเข้ามาช่วย

    "ถ้ามึงจะดีกับมันแค่ตอนนี้ ก็ไม่ต้องหรอก ปล่อยแม่งไว้นี่แหละ เดี๋ยวมันก็ยืนขึ้นเอง"ไม่ใช่ว่าไม่รู้นะว่าอีกคนต้องการสื่อถึงอะไร แต่จะให้ปล่อยโปรไว้แบบนี้ผมก็ทำไม่ได้ ไม่ชอบแบบนี้เลย 
 

    ...กูจะร้องไห้แล้วนะ...
    ...ไอ้เหี้ย!!...
 

    "ฮึก ช่วยโปรที ฮึก"ไม่รู้เหมือนกันว่าร้องไห้เรื่องไหน แต่มันกลั้นไม่อยู่แล้วจริงๆ

    "หลบไป"ผมโดนผลักให้ออกไปให้พ้นทาง ก่อนที่ตัวโตๆของคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรจะโดนดึงให้ลุกขึ้นแล้วเหวี่ยงลงไปในสระน้ำ
 

    ตูม!!
    พื้นน้ำแตกกระจายด้วยแรงกระแทกของวัตถุ
 

    "โปร!!!"ผมหวีดเสียงดังลั่น น้ำหูน้ำตานี่ไหลทะลักอาบหน้าไปหมด "โปร!! แคป มึงทำอะไร ฮือออ ทำอะไร"
 

    ผมเหมือนทำอะไรไม่ได้ อยากจะลงไปช่วย แต่ก็รู้ว่าทำอะไรไม่ได้ ทุกอย่างมันสับสน มันเจ็บปวด มันกลัว มันทรมาน มันเกินที่ผมจะรับได้อีกต่อไป ทำไมใจผมมันเจ็บปวดขนาดนี้ เจ็บปวดที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้ ช่วยอะไรไม่ได้
 

    ...เหมือนจะขาดใจ...
 

    ตูม!!
    คนที่ยืนนิ่งอยู่ชั่วครู่ กระโดดลงไปก่อนล็อกแขนเข้าใต้รักแร้ของคนที่ยังไม่ได้สติ แล้วว่ายถอยหลังมาที่ริมสระ
 

    "โปร!!! ฮือออ"ผมรีบช่วยดึงคนที่ยังคงไม่รู้เรื่องห่าอะไรขึ้นมา ก่อนจะกอดคนตรงหน้าเอาไว้โดยไม่กลัวเปียก

    "นะ หนาว"ปากที่ซีดจนแทบไม่มีสีนั้นขยับพูดเสียงเบา

    "หลบ"มนุษย์ตัวยาวหน้าตี๋อุ้มโปรพลาดบ่าก่อนจะโดดเบาๆเพื่อให้คนที่ตัวเริ่มซีดนั้นสำลักน้ำออกมาให้หมด
 

    เมื่อโปรตอนสำลักน้ำออกมาหมดแล้ว อิฆาตรกรก็เปลี่ยนมาแบกขึ้นหลัง แล้วเดินเร็วๆเข้าไปในบ้าน โดยมีผมวิ่งตามไปติดๆ
มนุษย์แฟนเก่าถูกทิ้งไว้ที่ห้องนอนชั้นล่าง ผมรีบตามไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเช็ดผมให้ที่นอนปากสั่นอยู่บนเตียง เมื่อดูว่าหมีขาวไม่เป็นอะไรมาก ผมก็หันมามองเพื่อนมันด้วยความโมโหถึงขีดสุด
 

    "มึงทำบ้าอะไร!!"ผมตะโกน แต่อีกคนกลับยังยืนด้านด้านๆแบบไม่สะทกสะท้านอะไรอยู่ที่เดิม

    "อันนี้ถามตัวเองหรือถามใคร"ผมว่าโปรมันกวนตีนหนักแล้วนะ เจอเพื่อนมันเข้าไปนี่ ไอ้โปรดูสุภาพเรียบร้อยปกติจิตขึ้นมาทันทีเลย "กูแค่ช่วยมันหักดิบ ที่มึงเห็นเนี่ยยังเบา ถ้าทนไม่ได้ก็กลับบ้านไป อย่ามาทำอะไรเล่นๆ รำคาญ"

    "พูดเหมือนกูผิด กูผิดอะไรหรอแคป"ผมถามอย่างพยายามควบคุมอารมณ์

    "กูถามกลับ แล้วเพื่อนกูผิดอะไร"

    "โปรมีแฟนแล้ว ทำไมต้องให้ความหวังกูอีก"พอผมพูดจบ ไอ้แคปก็หัวเราะเลย

    "เดี๋ยวนะ กูถามหน่อย ใครเป็นคนเริ่มก่อน มึงหรือมัน"

    "..."

    "ยังไงกูก็ต้องเข้าข้างเพื่อนกูอยู่ดี"แคปยกมือขึ้นกอดอก "ถามอีกอย่าง แค่มันมีแฟน การที่มันบอกว่ารักมึงเนี่ย มันต้องกลายเป็นเรื่องโกหกเสมอหรอ"

ต่อรีล่าง

ออฟไลน์ †คุณเขียด

  • ♣ เป็นคนดีแล้วค่ะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +376/-1
    "แล้วมันแฟร์กับเราหรอแคป"รู้สึกเหมือนขอบตามันร้อนๆอีกแล้ว

    "แล้วที่มึงทิ้งเพื่อนกูซ้ำซากแบบนี้...คือแฟร์หรอ"จากที่จะดราม่า กูนี่สะอึกเลย "มึงฟังไอ้โปรมันหน่อยได้ไหมวะ ไม่ต้องฟังมากกว่าที่มึงฟังคนอื่นก็ได้ แต่มึงฟังมันบ้างได้ไหม"แคปซูลมันคงเหนื่อยแล้วเหมือนกัน

    "..."

    "ตอนที่กูโยนมันลงไปในน้ำ มึงรู้สึกยังไง"เหมือนจะขาดใจตาย พูดตรงๆเลยว่าไอ้ความดราม่าเสียใจในหลายอาทิตย์ที่ผ่านมานั้นเทียบไม่ได้กับความรู้สึกเพียงเสี้ยววินาทีในตอนนั้นด้วยซ้ำ

    "..."

    "กูว่ามันไม่ต่างจากที่ไอ้โปรมันรู้สึกตอนที่มึงทิ้งมันหรอก"คนพูดถอนหายใจ"กูจะออกไปข้างนอก ถ้าจะกลับก็ล็อกรั้วให้ด้วย"
 
   
    แคปซูลเดินออกไปแล้ว ภายในห้องตอนนี้เหลือเพียงแค่ผมกับคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่นเตียงเท่านั้น ผมลงไปซุกตัวนอนด้วยอีกคน ก่อนจะดึงตัวโปรเข้ามากอดไว้

    มันเหมือนความกังวล ความสับสน มันจะมลายหายไปจนหมดสิ้น ผมอบอุ่น แม้ลึกๆผมจะยังกลัวก็ตาม แต่ผมชอบเวลานี้ เวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ถึงมันจะมีทั้งทุกข์ทั้งสุขปนๆกันไป แต่ผมว่ามันก็ดีกว่าทุกข์อย่างเดียวนะ
 

    "นะ หนาว"ผมคว้ารีโมทย์มากดปิดเครื่องปรับอากาศ ก่อนจะกอดคนที่ตัวรุมๆนั่นอีกครั้ง "อิ๊ว..."
 

    ใจผมเต้นระรัว มันเป็นชื่อที่ผมเคยบังคับให้มันเรียกผมเมื่อสมัยก่อน ด้วยเหตุผลที่ว่า เวลาทำปากจู๋มันน่ารักดี แต่มันก็เรียกไม่บ่อยหรอก นอกจากเวลาจะอ้อนจริงๆ
 

    "ปวด หัว"ปรือตาฉ่ำๆขึ้น

    "งั้นกินยานะ"ผมยันตัวลุกขึ้น กะว่าจะไปเอายาที่หน้ารถผมมาให้
 

    แต่ยังไม่ทันจะหย่อนตีนลงพื้นด้วยซ้ำ ไอ้คนที่ควรจะนอนแปล้เป็นปลาหมึกตากแห้งอยู่นิ่งๆ ก็เสือกลุกขึ้นมาสวมกอดเอาหน้าผากซบบ่าผมจากด้านหลัง
 

    "ไม่ไปได้ไหม"เสียงแผ่วเบา แต่ผมกลับได้ยินชัดเต็มสองรูหู

    "เราแค่ไปเอายา"ผมบีบแขนขาวๆที่กอดผมอยู่เบาๆ

    "อย่าทิ้ง ได้ไหม อย่าทิ้ง..."ผมรู้สึกถึงความเปียกชื้นที่ซึมเข้ามาตรงบ่า "จะทน ไม่ไหว แล้ว"

    "..."
 

    รู้ว่าอีกคนร้องไห้และเสียใจไม่แพ้กัน แต่ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้จะปลอบยังไง ในเมื่อทุกวันนี้ผมยังปลอบตัวเองไม่เคยสำเร็จเลยสักครั้ง

    นั่งซบบ่าผมปล่อยน้ำตาไหลไปเงียบๆไปสักพัก ไอ้คนที่อุณหภูมิร่างกายร้อนกว่าปกติก็เหมือนจะเหนื่อยอ่อน จนต้องทิ้งตัวลงไปนอนอีกรอบ ผมเอาผ้าชุบน้ำที่ถูกบิดจนหมาดมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้คนที่นอนเปลี้ยไม่รู้เรื่องรู้ราวอีกรอบ

    ออกมาเอากล่องยาที่รถและถุงกระดาษที่วางลืมไว้ข้างสระเสร็จ ผมก็ถือวิสาสะเอาโจ๊กสำเร็จรูปมาต้ม ใส่หมูสักผักเพิ่มพอประมาณ รินน้ำอุ่นใส่แก้วแล้วยกทุกอย่างกลับมาในห้อง
 

    "โปร"เขย่าแขนคนที่หลับอยู่ให้ลุกขึ้นมา

    "อือ..."ลืมตาอย่างงัวเงีย

    "กินโจ๊กหน่อยนะ จะได้กินยา"คนที่ยังทำหน้าลอยๆเหมือนคนที่แดกยากันยุงไปสามขดลุกขึ้นนั่งแล้วมองมาที่ผมด้วยสายตาที่ผมก็ด้วยสายตาที่ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันมีสติดีอยู่หรือเปล่า
 

    ผมป้อนโจ๊กไปได้สามสีคำ ไอ้คนที่นั่งตาลอยก็เกิดอาการพะอืดพะอม ก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ แล้วกอดชักโครกโก่งคอขย้อนของเก่าออกมาซะเต็มที่... เมื่อคืนนี้หมูกระทะสินะ
 

    ...ผักบุ้งมึงยังไม่ย่อยเลย...
 

    "ไหวไหมโปร"ผมลูบหลังย้อนขึ้นให้หมีขาวมันอ้วกออกมาให้หมด

    "แหวะ.."ผมส่งแก้วน้ำให้ไอ้คนที่ตอนนี้สภาพเละเทะเต็มทนได้บ้วนปาก

    "ดีขึ้นไหม"คนโดนถามนั้นเหมือนไม่มีสติ เพราะยังนั่งแน่นิ่งเอาหัวซบกับชักโครกอย่างหมดสภาพ "ตัวเลอะอ้วกหมดเลย"ผมยิ้มขำ ตั้งแต่รู้จักกันมา เพิ่งเคยเห็นมันเมาเป็นหมาก็คราวนี้แหละ
 

    ผมเอาแขนช้อนใต้ปีกคนเมาแล้วลากมาใต้ฝักบัวในตู้อาบน้ำ ก่อนจะเปิดน้ำล้างซากออกจากเสื้อกล้ามแขนเว้าลึกที่โชว์ไปยันเอวของคนเมา เมื่อเปลื้องผ้าไอ้คนที่นอนแผ่ตาลอยเสร็จ ผมก็อาบน้ำสระผมแปรงฟันให้อย่างรวดเร็ว

    ถอดเสื้อนักศึกษาที่เปียกซกของตัวเองออก แล้วลากคนเมาออกมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวไดร์ผม ก่อนจะออกไปเอาเสื้อผ้าชุดใหม่ของเพื่อนมันนั่นแหละมาเปลี่ยนให้ 

    เมื่อคนที่เมาแบบสิ้นสภาพเหมือนจะมีสติขึ้นมาบ้าง ผมก็จัดการพยุงมันกลับไปที่เตียง แล้วกลับมาเคลียร์ห้องน้ำอีกครั้ง ดีนะที่ไม่อ้วกลงพื้น ไม่งั้นกูนี่ขัดพื้นซักพรมกระจายจ้า

    ผมถอดเสื้อผ้าล้างตัวเสร็จก็เดินโทงเทงเปลือยกายออกมาจากห้องน้ำเพราะผ้าเช็ดตัวแม่งหมด แต่ไม่ทันที่ผมจะเอาผ้าเช็ดตีนเช็ดตามรอยน้ำที่หยดจากตัว หรือได้ขโมยเสื้อผ้าเจ้าบ้านมาใส่ให้สาแก่ใจ ไอ้คนที่น่าจะนอนง่อยเป็นปลาเค็มก็เสือกเข้ามากอดผมจากด้านหลัง

    คือก็รู้นะว่าชอบด้านหลัง แต่นานๆทีมึงเข้าด้านหน้าบ้างได้ไหม... กูตกใจ
 

    "โปรอย่า.."ผมบอกเมื่อจมูกโด่งนั้นคลอเคลียอยู่ที่ซอกคอ "ไม่เอานะ"แต่ถามว่าว่าขัดขืนไหม... ก็ไม่

    "อิ๊ว..."กดจูบลงที่บ่าผม
 

    คนที่เหมือนมีสติขึ้นมานิดหน่อยพลิกตัวผมให้หันไปเผชิญหน้าแล้วกดจูบลงมาอย่างหนังหน่วง เหมือนผมเองก็เมาจูบตามไปเหมือนกัน เพรารู้ตัวอีกทีก็นู้น นอนถ่างขาเกี่ยวเอวหมีขาวอยู่บนเตียงแล้ว

    ผมรู้ว่าลึกๆในใจผมก็โหยหา แต่ว่าผมก็ไม่อยากถูกตราหน้าว่าแย่งของใครมาเหมือนกัน แม้ว่าคนคนนั้นจะเคยเป็นของผมมาก่อนก็ตาม

    นิ้วเรียวสอดเข้ามาเพื่อขยายช่องทาง ในขณะที่ปากของเราก็ยังคงดูดกลืนกันและกันอย่างโหยหา จำนวนนิ้วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนผมนั้นแน่นไปหมด ก่อนที่ทั้งหมดจะโดนถอนออกไปจนช่องทางนั้นรู้สึกโล่งจนน่าอาย กลางกายของอีกคนถูไถตรงปากทางจนผมรู้สึกหนาวๆร้อนๆ
 

    "ไม่เอาสดนะ"ผมรับบอกเมื่อเห็นอีกคนกำลังจะสอดเข้ามาในตัว
 

    กระเป๋าสตางค์ที่อยู่ใต้หมอนถูกเปิดออก ซองฟอยด์สีเหลืองที่มีรูปรีลัคคุมะหน้าตาบ๊องแบ๊วถูกหยิบออกมาฉีก ถุงยางสีเหลืองอ่อนที่กลิ่นหวานๆเหมือนขนมถูกสวมเข้าที่ดาบเลเซอร์ของคนตรงหน้า ก่อนจะแทงพรวดเข้ามา จนผมนั้นสะดุ้งแล้วร้องออกมาอย่างลืมตัว

    ช่องว่างในใจที่สับสนของผมนั้นเหมือนถูกเติมเต็มด้วยจังหวะกายที่ถูกสอดประสาน มันมีทั้งความสุข ทั้งความทุกข์ ทั้งยังรู้สึกผิดแปลกๆ เข้าใจอารมณ์พวกที่รู้ว่าผิดแต่ก็ยังทำก็วันนี้แหละ

    จริงๆโปรอยากจะต่อยกสอง แต่ผมไม่ยอม เพราะว่าไม่มีถุงยางแล้ว ไอ้เรื่องสดนี่ตัดไปเลย ผมไม่ชอบให้มันแตกใน ผมว่ามันล้างออกยาก ล้างไม่สะอาดผมก็ไม่สบายตัว แถมบางที่เข้าไปลึกเกินผมก็หน่วงท้องแปลกๆอีก

    อีกอย่างหนึ่ง เรายังไม่ได้ตรวจเลือดว่ะ คุณต้องเข้าใจนะ ชีวิตผมมันยังมีครอบครัวมีอะไรอีกหลายอย่าง ผมไม่ได้หมายความว่าอีกคนไม่สะอาด แต่ผมแค่ไม่ประมาทเท่านั้นเอง

    นอนพักไปราวๆชั่วโมงกว่าๆ ผมก็ต้องตื่นขึ้นเพราะเสียงจ้อกแจ้กจอแจจากด้านนอก ขยับตัวหยิบกางเกงแสลคที่พาดตากไว้บนเก้าอี้มาใส่
 

    "จะกลับแล้วหรอ"เสียงทุ้มๆดังขึ้น แต่ผมไม่ได้หันไปมองหรอก

    "อือ วันนี้มีนัดทานข้าวกับพ่อแม่น่ะ"หยิบเสื้อนักศึกษาที่ยังชื้นนิดๆมาใส่ตาม

    "กูกับพี่พริ้มไม่ได้คบกันนะ คือกูยอมรับว่าตอนคุยกับมึง กูก็ยังนอนกับเขาอยู่ แต่..."

    "เรื่องนั้นช่างมันเถอะ"ผมหันมายิ้ม ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นยิ้มแบบไหนเหมือนกัน "เราเอาของมาคืน"ผมก้มลงไปหยิบถุงกระดาษที่วางอยู่บนพื้นข้างเก้าอี้ แล้วส่งให้คนที่นั่งหัวยุ่งอยู่บนเตียง

    "อย่าทิ้งกันได้ไหม"เมื่อเห็นน้ำตาที่ไหลลงมาของอีกคน ใจผมมันก็เหมือนจะอ่อนยวบทันที

    "เราไม่ได้ทิ้งโปรไปไหนนะ แต่เราก็ยอมรับว่าเราแคร์สังคม เราค่อนข้างไม่โอเค ถ้ามีใครไปพูดว่าเราแย่งอะไรใครมา ตัวเราน่ะเฉยๆ แต่เราไม่อยากให้พ่อแม่เรารู้สึกไม่ดี ไม่อยากให้ใครว่าถึงพ่อแม่ด้วย โปรเข้าใจเราใช่ไหม"

    "..."

    "ถ้าวันหนึ่งเรื่องมันซาลง แล้วเรากับโปรยังรู้สึกเหมือนเดิม...เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ"ผมคลี่ยิ้มออกมาบางๆ แต่ตาผมมันกลับร้อนผ่าว บางทีผมก็ไม่เข้าใจว่าผมกำลังทำอะไรลงไป

    "..."

    "เราไม่จีบโปรต่อแล้วนะ"

-----
เรื่องของมึงเลยจ้า
 o22

อารมณ์เหมือนอิหมีมันโดนฟันแล้วทิ้งเลยเนอะ :laugh:

สับสนหนักกว่าอิน้องซีก็อิเขียดนี่แหละ
ไม่ได้สับสนทางความรู้สึกนะ
สับสนทางสติ  :o12:

ขอบคุณทุกคนนะคะที่ติดตาม นี่ปลื้มปริ่มดีใจมากนะ  :กอด1:

ตอนหน้าพาร์ทน้องโปรล๊าวนะ
เอาอิคนไม่ชัดเจนออกมาแล้ว
ตอนหน้าเดี๋ยวรอเคลียร์กับอิคนชัดเจนนะคะ :ruready

 :katai4:

มาอีดิทเพิ่มหลังจากกินข้าวแล้ว :really2:
ทุกคนยังคงเห็นแก่ตัวอย่างต่อเนื่อง
แคปก็เห็นแก่ตัวค่ะ คืออิสองตัวนี้เป็นพวกสปอยด์เพื่อนสุดฤทธิ์ค่ะ
มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว

ส่อนอิโปรไมไม่กลับบ้านกลับช่อง
มันหักดิบอยู่ค่ะ ไม่อยากให้พ่อแม่เห็นแล้วไม่สบายใจ

ส่วนเรื่องพี่พริ้มนี่กะใจให้โปรเล่า แต่เขียดบอกเลยดีกว่า
พี่พริ้มนางกลับไทยเดือนล่ะครั้งค่ะ
นางก็เยิบกันตอนนั้นแหละเนอะ :katai5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-11-2015 22:17:40 โดย †คุณเขียด »

ออฟไลน์ valenna yy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
จิ้มมมมม


เหมือนไอ่หมีขาวโดนฟันแล้วทิ้ง
แต่มึงก้ชั่วจริงๆแหละ จะบอกว่าไม่ได้คบกัน แต่มึงก้ฟันทั้งคู่ป่ะละ ไม่โออย่างแรงนะหมี

หน่องซีลูก บางทีป้าก้คิดนะ ว่าหนุเคลิ้มง่ายไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-11-2015 21:29:08 โดย valenna yy »

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:   สะใจ
น้องซีนางแกร่งนะเห็นนางเจ้าน้ำตาแบบดาวพระศุกร์แบบนี้. เราเข้าใจซีแบบถ่องแท้เลยอะ
แต่แบบโปรค่อลงกับขวดเหล้า. นอนตากแดดเป็นปลาหมึกแดดเดียว อืมมมม พ่อแม่ไม่คิดถึงว่างั้น
ก็สงสารแต่แบบยังไม่ได้ให้อภัยเต็มร้อย.
ให้มันเป็นเรื่องของอนาคตแล้วกันโนะ
ว่าแต่อีถุงยางสีเหลืองคือของนำโชคหรืออะไร?เชื่อเค้าเลย
ขอบคุณค่ะคุณเขียด.  :mew1: 

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
อ่านไปน้ำตาไหลไป

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
บางทีแคป ความคิดวิบัติไปนะ ซีเคยทิ้ง โปรก็จริง แต่ซีไม่ได้คบใครซ้อนไว้นิ

ทิ้งเพราะเรื่องส่วนตัว ที่พ฿ดมาทั้งหมดน่ะข้ออ้างที่เข้าข้างเพื่อนตัวเองมากกว่า

ส่วนซี บางทีก็แคร์คนอื่นมากไปนะ แคร์คนอื่นมากนักก็ไม่ต้องมีความสุขหรอก ไปแคร์คนรอบข้างเถอะปล่อยโปรไป  เพราะในเมื่อ โปรบอกแล้วว่าไม่ได้คบ แต่เลือกเอว อย่ามาดราม่า บางทีอม่งน่าลำคาญ ทำตัวเองดราม่าเอง อิบร้าาาา

ออฟไลน์ JK

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เอ้ย ถ้าคบอยู่ยังเบากว่ามีอะไรกับอีกคนในขณะที่คบกับอีกคนเลยนะ -*-
ในเมื่ออีกฝ่ายก็มีอะไรด้วยอ่ะ ทำไมถึงต้องนอกกายอีก ??
ใครกันแน่ที่โดนหลอกฟัน (ถึงจะเต็มใจก็เถอะ) ถ้ารักกันจริงคงไม่ไปมีอะไรกับอีกคนหรอกมั้ง
 :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด