✜✜✜▶ Ex or Next? เมื่อผมจีบ... มนุษย์แฟนเก่า ◀✜✜✜
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✜✜✜▶ Ex or Next? เมื่อผมจีบ... มนุษย์แฟนเก่า ◀✜✜✜  (อ่าน 642403 ครั้ง)

ออฟไลน์ XVIII.88

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
    • XVIII.88
(ตามอ่านจนทัน)

จะว่าสงสารโปรก็สงสาร สงสารซีก็สงสาร(แต่ก็แอบรู้สึกว่าคำพูดซีทำร้ายจิตใจโปรมาก)
ต้องรู้สาเหตุว่าทำไมซีทิ้งโปรไป (เจ้าตัวดั๊นนนจำไม่ได้ซะงั้น ไม่ได้รักโปรจริงๆสินะ)

ตอนเลิกกันไปต่างคนมันก็ต่างมีแฟนใหม่ โปรมันแย่หน่อยตรงคุยกับซีแต่ก็ยังเอาชะนีอยู่เหมือนกัน
แต่ 2 คนมันก็ยังไม่ได้คบกันนิช่วงนั้น  :katai1: โอยย ปวดหัว

รอฟังเหตุผลนายอยู่นะ โปร

ออฟไลน์ Dark_Noah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
เราชอบแคปซูลอ่ะ  :-[

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
เอิ่มมมมม อิฉันนี่ขอข้ามตอนหน่วงไปก่อนล่ะ... เอาเป็นขอฟินตอนได้กันทั้งก่อนและหลังอกหักนี่พอแระ   :z1:

ออฟไลน์ Kominum

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ลำไยพอกันเลยจ้า รอๆ  :a5:

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
จะว่าไป เรื่องแบบนี้มันก็เป็นประเด็นที่เราเจอบ่อยๆในชีวิตจริงนะครับ เรียกว่าเป็น topic of all times เลย

มัน...พูดยากนะครับ เอาตรงๆเลยคือผมว่ามันมองได้สองมุม แต่ผิดด้วยกันทั้งคู่ ซีผิดตรงเห็นแก่ตัว โปรตอนผิดที่ไม่ชัดเจนครับ

ซีผิดตรงไหน? อันดับแรก เราต้องมาคุยกันก่อนครับ ว่าในชีวิตจริง แนวโน้มผู้ชายส่วนมากมักสนใจเรื่องกามารมณ์มากกว่าเรื่องความรู้สึก ที่ยังแอบไปมีกิ๊กมีภริยาน้อยมีสารพัด มันก็เพราะว่าผู้ชายมีความรู้สึกเบื่อจำเจ อยากหาความตื่นเต้น ชอบในเซ็กซ์ อันนี้เป็นความจริงซึ่งเราปฏิเสธไม่ได้ว่าโลก 'กำลังเป็นอยู่' เรื่องแบบนี้เราว่าเขาไม่ได้ครับ เพราะสังคมเราถูกปูพื้นให้มองความรักแบบราคะ ถ้าเราถูกปูให้มองรักแบบเมตตา เมื่อเรามีความรัก เราจะถูกสอนให้สนใจในมุมมองอื่นๆมากกว่าเซ็กซ์

ดังนั้น ถ้าพิจารณาความจริงข้างต้น ถ้าถามความเห็นผม ผมว่าเราต้องยอมรับสภาพนะครับ เช่น ในกรณีซี ตอนแรกซีก็รู้ว่าเรื่องจ้ำจี้กันนี่เรื่องธรรมดา คุณเธอไม่ได้รู้สึกเป็นพิเศษว่าเซ็กซ์ต้องมาจากความรัก ดังนั้น เมื่อคุณแฟร์มาตั้งแต่ต้นว่าเราจะจีบโปรตอน แล้วโอเค มีเซ็กซ์ได้ ก็จบครับ คุณเป็นแฟนเก่าอยากรีเทิร์น แยกไว้เรื่องหนึ่ง ดังนั้นถ้าโปรตอนจะยังไปนอนกับพี่พริ้มอยู่ ผมว่าเราก็ต้องรับสภาพครับ เพราะนั่นคืออีกเรื่องแล้ว คุณไม่ได้มีความสำคัญระดับที่จะห้ามเขาคุยกับคนอื่นได้ เพราะคุณไม่ใช่แฟน แล้วขนาดเรื่องเซ็กซ์ คุณมีคุณยังเฉยๆเลย แล้วถ้าเขามี กับคนที่มาก่อนคุณ มันไม่แฟร์ตรงไหน?

เช่นเดียวกัน ถ้าคุณเป็นพริ้ม โอเค คุณมีความสัมพันธ์แบบเปิด จะไปนอนกับคนอื่นก็ไม่ได้ว่า แต่ก็แบบเดียวกัน ถ้าโปรตอนไปจีบคนอื่นแล้วชอบมากกว่า พริ้มก็ต้องยอมรับในการเลิกครับ

การจะสนใจว่าเซ็กซ์เป็นเรื่องใหญ่หรือไม่ มันขึ้นอยู่กับทัศนคติของคนที่มีต่อมันครับ ในมุมพริ้ม คุยกันแบบเปิด ดังนั้นเซ็กซ์ไม่ใช่ตัวยืนยันความรัก เช่นเดียวกัน ในมุมซี ซีก็แค่อยากได้ตัวแฟนเก่า เซ็กซ์ไม่ใช่สิ่งสำคัญ มีก็ได้ไม่มีก็ได้ ดังนั้นเซ็กซ์ก็ไม่ใช่ตัวยืนยันความรักของซีอีกเช่นกัน (ลองดูบทความคิดซีหลังจากที่จ้ำจี้กันแล้วน่ะครับ จะเห็นว่าคุณเธอค่อนข้างชิว)

ฉะนั้น ในความเห็นของทั้งสองคน เซ็กซ์ไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ แต่ซีทำให้มันกลายเป็นปัญหาขึ้นมาได้ เพราะซียอมรับสภาพไม่ได้ครับ ซีมีความเห็นแก่ตัวเกิดขึ้นว่าคุณควรจะคุยกับเขาเพียงคนเดียว อันนี้ผมว่าเค้าค่อนข้างมองแคบไปหน่อย ทั้งๆที่คุณก็รู้ว่าแฟนเก่าคุณฮ็อตขนาดนั้น มันต้องมีคนคุยด้วยอยู่แล้วแหละ ไม่มีทางโสดมาจนถึงปัจจุบันหรอก ถ้าคุณจะไม่อยากทับเส้นใคร คุณควรจะจบตั้งแต่ก่อนที่คิดจะรีเทิร์นแล้ว ไม่ใช่มาปล่อยคาราคาซังแล้วมาดราม่าแตกเอาตอนถูกคนที่เค้าคุยด้วยอยู่ด่าครับ ผมว่าอันนี้ไม่แฟร์ ทำตัวเองครับ แล้วยังทำร้ายโปรตอนด้วย ตรงที่ว่ามาทำเหมือนให้ความหวัง ให้เค้าคิดว่าความรักครั้งแรกของเขาจะไม่ผิดหวังเหมือนเมื่อก่อน มาให้ความรักแล้ววิ่งหนีหายไปไม่ต่างกับครั้งที่แล้ว กรีดแผลเดิมเค้าซ้ำๆซากๆ อันนี้ไม่ควรจะทำอย่างยิ่งครับ

อย่างไรก็ตาม โปรตอนเองก็ใช่ว่าจะเป็นเฉพาะฝ่ายถูกกระทำนะครับ โปรตอนเองก็กลัวเกินไป ไม่ชัดเจนเกินไปจนทำให้เกิดปัญหา ผมเข้าใจว่าโปรตอนมีความรักที่ผิดหวังมาตั้งแต่แรกกับซี เข้าทำนองรักฝังใจ อีกทั้งซียังเป็นรักแรกของโปรตอนด้วย ปกติแล้ว รักแรกมักมีผลต่อการสร้างกลไกป้องกันตัวเองครับ โปรตอนจึงคิดว่าซีเป็นคน 'ไม่รักใครจริง'

ดังนั้น เมื่อซีกลับมาอยู่ในวงโคจรอีกครั้ง ใจหนึ่งก็รัก แต่ใจหนึ่งก็กลัวว่าเค้าจะเข้าใจขยี้หัวใจเราทิ้งอีกรอบ จึงทำให้ต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดเอาไว้ ซึ่งไอ้จุดนี้แหละ คือจุดผิดของสังคมควรจะเป็นครับ

การที่เราจะกลัว ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การที่คุณกลัว แล้วทำให้คนหลายคนต้องมามีผลกระทบไปด้วย มันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะทำครับ สุภาพบุรุษต้องมีความชัดเจนในตัวเอง ถ้าคุณคบกับพริ้มอยู่ ก็ควรบอกซีไปตรงๆว่ามีคนคบอยู่แล้ว แล้วก็บอกว่าทำไมถึงไม่กล้าที่จะคุยกับซีอีกครั้ง จากนั้นคุณก็ต้องตัดสินใจเลือกให้ชัดเจนครับ จะคบพริ้ม หรือจะกล้าลองเสี่ยงกับซี ไม่ใช่ว่าเหยียบเรือสองแคมครับ นอนกับพริ้มด้วย แล้วก็คุยกับซีด้วย กะว่าถ้าซีรักกูจริงก็ทิ้งพี่พริ้ม เพราะวินๆ อันนี้ค่อนข้างแย่นะครับ คุณไม่ได้คิดถึงจิตใจซีกับพริ้มเลย ต่อให้คุณมีความสัมพันธ์แบบเปิด คุณก็ควรบอกเขาว่าตอนนี้คุณไม่ได้รักเขาแล้วนะ อาจจะชอบอีกคน แล้วคุณก็ไม่ได้คิดถึงซี ว่าถ้าเค้ารู้ว่าความรักที่เค้าทุ่มให้กับคุณ คุณกลับทรยศมันด้วยการมานอนพริ้ม คุณคิดว่าเค้าจะยังศรัทธากับตัวคุณอยู่รึเปล่า เค้าจะคิดว่าคุณจะยังซื่อสัตย์กับเขาไหม

การที่คุณถูกทำร้ายมาในอดีต ไม่ใช่เหตุผลที่ถูกต้อง ในการทำแบบนั้นกลับใส่คนอื่นนะครับ สิ่งที่ควรจะทำจริงๆคือก้าวข้ามและเอาชนะมันให้ได้ด้วยความคิดที่ดีครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-11-2015 11:56:03 โดย Grey Twilight »

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
รำคาญทั้งคู่ misbehave มันทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ คนนึงก็หลบๆซ่อนๆไม่พูดตรงๆไม่แฟร์ อีกคนก็กลับมาทำให้เจ็บแล้วก็ทิ้งซ้ำแผลเก่า
ตอนเอากันทั้งๆที่สถานการณ์เป็นแบบนี้นี่ช็อคมาก งงสุดๆว่าเอากันลงได้ไง
ไม่รู้จะเม้นอะไรละ แค่นี้แหละ พอ

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
เหมือนน้องอิ๊วไปฟันเขาแล้วทิ้งชอบกล 555555

ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2
อ่านแล้วรู้สึกว่า ซีเห็นแก่ตัวนะ สนใจแต่ความรู้สึกตัวเอง
รักตัวเองมากกว่า พอโปรมีคนนอนด้วยเลยเกิดภาวะรับไม่ได้
เพราะของแบบนี้ พูดคุยกันได้ ดูท่าทางโปรแล้วถ้าซีขอให้เลือกตัวเอง
แล้วเลิกกับพริ้ม โปรเลือกซีแน่

สงสารโปร

ออฟไลน์ Achew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รักเพื่อนโปรว่ะ#ทีมแคปซูล
เรื่องนี้เขียนดีไปนะ อินลึก
อ่านแล้วไม่เข้าข้างใคร
ตัดสินใจยากจริงๆค่ะจุดนี้

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ycrazy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ DKTime

  • ขอบเขตความรู้สึกยิ่งใหญ่ ความเสียใจอาจแฝงไว้ในความเฉยชา....
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-2
    • https://twitter.com/UKnowJJTime_DK
อ่านรวดเดียวจบ บอกเลยว่าชอบสุด
ตอนล่านี่ หน่วงอกเลยครับ!

ออฟไลน์ †คุณเขียด

  • ♣ เป็นคนดีแล้วค่ะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +376/-1
Chapter 14 no one is perfect
 
     ผมยังจำครั้งแรกที่เจอมันได้ดี ไอ้เด็กผอมๆดูขี้โรค หน้าตาซื่อๆ ใส่เหล็กดัดฟันที่เวลายิ้มทีก็เห็นฟันแม่งแทบครบทุกซี่ ตอนนั้นมันมาเรียนดรอว์อิ้งกับม๊าทุกวันเสาร์ ตอนที่ผมเห็นมันครั้งแรกก็ไม่ได้สะดุดตาอะไร อาจจะแอบคิดบ้างว่าคนเหี้ยอะไรจืดจางได้ขนาดนี้ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย

     แต่ถึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมันมาก แต่ผมก็ยังคงจำหลายๆเรื่องได้ดี ตอนนั้นไอ้ซีเป็นเด็กผู้ชายวัยหัวเกรียนที่พูดเพราะที่สุดเท่าที่ผมรู้จัก แต่ถึงมันจะพูดจาไพเราะเสนาะหูทุกคำ แต่ผมก็รู้ว่าลึกๆในใจแล้ว ไอ้เหี้ยที่แม่งต้องหยาบคาย และแน่นอนว่าต้องแอบด่ากูอยู่ด้วย

     ตอนที่ไอ้ซีมันมาบอกชอบผม ผมก็ยังเฉยๆนะ หน้าตาโดยรวมมันก็ดี ตามันสวยดี ปากก็เล็กๆ แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรหรอกตอนแรก เพราะไม่ใช่แค่มันที่มาบอกแบบนี้ ถึงจะดูน่าหมันไส้ไปหน่อย แต่ก็ต้องยอมรับแหละว่าผมแม่งเด่นมาตั้งแต่เด็ก
แต่เห็นความพยายามของมันมั้ง ผมก็เลยเปิดใจดู อีกอย่างช่วงนั้นเบื่อพวกงี่เง่า อยากมีแฟนแบบไม่ต้องเอาใจมาก ดูแลตัวเองได้ ไม่ง๊องแง๊ง แล้วไอ้ซีมันก็ดันเป็นแบบที่ผมต้องการพอดี ผมก็เลยตกหลุมพลางมันไปง่ายๆ

     ตอนคบกันถ้าจะทำให้ง่ายมันก็ง่าย แต่ผมชอบทำอะไรให้มันสมบูรณ์ไปตั้งแต่ตอนแรก ขี้เกียจมาแก้ปัญหาทีหลัง ถามว่าตอนนั้นรักมันไหม ผมว่าไม่ ก็แค่ชอบนิสัย ชอบสไตล์ชีวิต ชอบวิธีการคิดที่โคตรจะใสซื่อ ชอบความไม่มั่นใจ ชอบความหัวอ่อน คงเพราะมันมีสิ่งที่ผมไม่มีด้วยมั้ง ผมก็เลยเหมือนถูกดึงดูดเข้าไปได้ง่าย

     ส่วนความรัก ผมว่ามันก่อมาตอนช่วงคบกันมากกว่า แต่ถ้าถามว่าเริ่มตอนไหน ผมก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีคือรักมันไปแล้ว ผมก็ไม่รู้หรอกว่าความรักสำหรับคนอื่นมันเป็นแบบไหน แต่สำหรับผม ผมว่าความรักมันคือการที่เราอยากจะทำให้คนคนนั้นมีความสุข ไม่อยากให้เสียใจ ซึ่งมันก็คล้ายๆที่ผมรู้สึกกับป๊าม๊านั่นแหละ ถึงอาจจะไม่เท่าป๊ากับม๊า แต่เชื่อเถอะว่าผมแคร์มันมากกว่าที่มันคิดเยอะ
     
     แต่ถ้าจะให้พรรณามากกว่านี้ ก็อธิบายไม่ถูกว่ะ รู้ว่ารักมัน แต่ไม่รู้จะพูดยังไง เอาเป็นรักนั่นแหละ ไม่ต้องมาถามเพิ่ม ขี้เกียจอธิบาย

     ส่วนเรื่องสังคมที่มอง ผมเชื่อว่ามันมีทั้งคนที่เห็นด้วยกับไม่เห็นด้วย โลกมันก็เป็นสีเทาแบบนี้แหละ มันไม่มีอะไรที่ขาวไปหมดหรือดำไปหมด แต่ถึงวันหนึ่ง โลกมันจะกลายเป็นสีดำสนิทเพราะไม่มีคนเห็นด้วย ผมก็ไม่แคร์หรอก ป๊าม๊าผมก็เป็นผู้ชายทั้งคู่ เขาก็รักกันดี ดูแลผมดี ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ไม่ได้ไปเอากันบนหัวพ่อใครนี่หว่า ไม่ชอบแล้วไง จะด่าผิดเพศแล้วไง กูต้องสนไหม?
 

...รับได้ก็รับ...
...รับไม่ได้ก็ไปให้พ้นหน้ากูสิ...
...เหอะ!...

 
     "โปรตอน มีอะไรอยากบอกม๊าไหม"ม๊ามองมาอย่างคาดคั้น "ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร"ม๊าเอื้อมมือมาลูบหัวในขณะที่ผมยังคงถือสายยางรดน้ำต้นไม้อยู่ "แต่อย่าเศร้าให้มันมากนัก หมันไส้"หยิกรักแร้ผมไปที

     "เจ็บนะม๊า"เขยิบตัวหนี

     "ก็หยิกให้เจ็บน่ะสิ แล้วทำไมวันนี้อยู่บ้านได้ฮะ"เท้าแขนกับบ่าผม "ไม่ง้อน้องซีแล้วไง"ม๊าถาม
 

     ผมว่าที่จริงม๊าก็ไม่รู้เรื่องลึกๆหรอก แต่คงจับกระแสบางอย่างได้นั่นแหละ ต้องเข้าใจนะครับ ม๊าผมเป็นคุณนายรุดี หรืออีกนัยหนึ่งก็คือรู้ดี รู้เรื่องตั้งแต่ในบ้าน ไปจนนอกบ้าน ตั้งแต่หน้าหมู่บ้านจรดท้ายหมู่บ้านเนี่ย...รู้หมด
 

     "มันไม่ให้ไปแล้ว"

     "อ้าว แล้วเราก็ทำตามงี้หรอ"ม๊าทำหน้างง "นี่ซื่อหรือโง่เนี่ย บางทีคนเรามันก็ต้องมีมารยาบ้างนะลูกชาย ด้านได้อายอดน่ะรู้เปล่า"

     "ไม่เอาอ่ะ มารยาแบบม๊าใช้ได้แค่กับป๊าเท่านั้นแหละ"ผมหันมามองม๊าที่ตอนนี้กำลังหรี่ตามองผมอย่างกดดัน

     "อย่ามาดูถูกนะ ข้ามาอยู่จุดนี้ได้ก็เพราะมารยานี่แหละเว้ย"แล้วก็ยืนหัวเราะคนเดียว
 

     ผมว่าป๊าก็ดูออกแหละเวลาม๊าใช้มารยา แต่ที่ทำเป็นไม่รู้แล้วเล่นตามน้ำไป คงเพราะไม่อยากไปลดความมั่นใจในตัวนายใหญ่ของบ้านนั่นแหละ อีกอย่างผมคิดว่าป๊าคงรู้สึกบันเทิงดี เหมือนดูละครน้ำเน่าอะไรประมาณนั้น

     ก็ยอมรับนะว่าการเล่นละครของม๊า ในบางครั้งก็ทำให้อะไรหลายๆอย่างมันง่าย แต่ผมไม่ทำหรอก ผมเรียนวิศวะเครื่องกล ไม่ใช่วิศวกรรมศาสตร์เอกการแสดง
 

     "แล้วสอบเป็นไงบ้าง"

     "ก็พอได้อ่ะม๊า"ถึงความรักมันจะเหี้ย แต่ชีวิตมึงไม่จำเป็นต้องเหี้ยตามนะ ประชดไปมันไม่มีประโยชน์หรอก ...ไม่รักก็คือไม่รัก

     "แสดงว่าทำได้เยอะอยู่"ม๊าพยักหน้าพร้อมพรึมพรำอยู่คนเดียว "แล้วจะไปบ้านแคปซูลกี่โมง"

     "ค่ำๆอ่ะม๊า ไปเร็วก็ต้องไปช่วยมันเตรียมงานอีก"วันนี้เลี้ยงต้อนรับความโสดให้มันครับ ทำเป็นกระแดะต้อนรับความโสด ความจริงแม่งแค่โดนทิ้งมาก็เท่านั้นแหละ

     "ทำดีๆ ไปช่วยกินแค่นั้นก็พอเนอะ"ไม่รู้ประชดหรือเปล่า แต่ไม่สน
 

     สองทุ่มผมก็ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ แล้วเดินเรื่อยๆมาจนบ้านไอ้แคปที่ตอนนี้กำลังเปิดเครื่องเสียงดังลั่นจนหนรู้สึกวกหูฉิบหาย ดีนะที่แต่ละบ้านอยู่ไกลกัน ไม่งั้นคงมีมวยกันแน่ เพื่อนผมเวลาบ้าแล้วปากมันธรรมดาที่ไหนล่ะ

     กดกริ่งแล้วรอสักพัก น้องแคลน้องสาวไอ้แคปที่อ่อนกว่าพวกผมประมาณสองปีก็เดินมาเปิดประตูให้ กล่าวทักทายกันตามมารยาทแบบคนไม่สนิทกันจบ ผมก็เดินตรงไปที่สระว่ายน้ำ ส่วนน้องก็เข้าบ้านไป
 

     "มาแล้วโว้ยยยย!!!"เสียงโหวกเหวกโวยวายทำให้ผมได้แต่ทำหน้าเบื่อๆแล้วเดินไปนอนนิ่งๆบนเตียงนอนสระน้ำสีขาวที่มันว่างอยู่
 

     นับๆดูตอนนี้ก็มีแค่พวกเพื่อนในกลุ่มตอนมัธยม เพื่อนในกลุ่มผมที่มหา'ลัย แล้วก็เพื่อนของไอ้แคปที่ตามมาจากเชียงใหม่สองสามคน นอนมองพวกมันเล่นน้ำกินเหล้ากันไปเรื่อยๆผมก็ชักจะเบื่อ เลยเปลี่ยนไปนอนมองไอ้แบล็ค หมาพันธ์ลาบาดอร์ตัวสีดำที่นอนแทะไก่ทอดอยู่ใกล้ๆแทน

     ตอนเลิกกันผมรู้นะว่าเหตุผลจริงๆแล้วมันคืออะไร ซีมันเหมือนคนไม่คิดอะไร แต่จริงๆผมรู้ว่าไม่ใช่ มันชอบคิดเองเออเอง บางทีผมก็อยากจะอธิบายหลายอย่างที่มันไม่เข้าใจ ให้มันเข้าใจ แต่ผมก็ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน เพราะเรื่องราวในชีวิตผมกับมันนั้นเยอะฉิบหาย

     ตอนรักกันผมรู้สึกว่ามันสุขที่สุด แต่ตอนเลิกกันก็รู้สึกทุกข์ที่สุดเหมือนกัน ตอนนั้นผมเลือกมหาลัยที่ใกล้บ้านมัน เพราะคิดว่ามันเองก็คงอยากเรียนใกล้บ้าน อย่างน้อยถึงจะไม่ได้ยืนข้างมันแล้ว แต่ให้ผมได้เห็นมันในระยะสายตาบ้างก็ยังดี แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นแบบที่หวัง ไอ้ซีไม่เลือกมหา'ลัยนั้น มันก็เลยทำให้เราได้หลุดวงโคจรกันไปอย่างสมบูรณ์

     เวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นนั้นคือประโยคที่ตอแหลสุด ยอมรับนะว่าเวลาเหมือนจะช่วยได้จริงๆตอนที่ผ่านไปปีสองปี ผมไม่ได้ลืมมันนะ ก็แค่แผลมันเหมือนเจ็บน้อยลงจนแทบไม่รู้สึกแล้ว แต่นั่นมันก็ไม่ได้หมายความว่ามันหายสนิท เพราะวินาทีที่ผมเจอมันอีกครั้งมันเหมือนความทรงจำต่างๆมันกลับมา มันทั้งดีใจทั้งปวดใจ ใจผมเต้นเร็วจนแทบหายใจไม่ทัน

     แต่พอคิดดูดีๆอีกที ต่อให้แผลมันหายสนิทจนไม่เหลือรอย แล้วให้เจอมันอีกครั้ง ผมว่าผมก็คงรู้สึกเหมือนเดิม เพราะถึงแม้ผมจะไม่เจ็บแล้ว แต่ผมก็ยังจำได้อยู่ดีว่าตรงไหนนี่มันเคยมีแผล ทำไงได้ ก็คนทำมันไม่จำ แต่คนโดนทำมันไม่ลืม

     ผมไม่ใช่พวกคิดเล็กคิดน้อย แต่ผมเองก็ไม่ลืมสิ่งที่มันทำกับผมเหมือนกัน ผมพยายามทิ้งระยะห่าง กันมันให้อยู่ในสถานะแฟนเก่า แต่มันก็กลับไม่ให้ความร่วมมือ พยายามทำลายกำแพงที่ผมใช้เวลาก่อขึ้นเป็นเวลาหลายปี ผมคิดมาตลอดว่ากำแพงของผมมันแข็งแรงจนยากที่จะพังลงมา แต่ผมคิดผิด เพราะไม่กี่วัน ใจผมมันก็กลับไปรู้สึกแบบเดิม

     สามปีตั้งแต่เลิกกับมัน ผมก็ไม่ได้คบใคร ไม่ใช่ว่าไม่มีคนเข้ามา แต่ผมว่าการคบใครสักคนทั้งที่ไม่ลืมใครอีกคนมันไม่ยุติธรรมทั้งกับคนที่คบและตัวเราเอง 

     ความรักกับเซ็กส์มันคือหนังคนม้วน ไม่ปฏิเสธนะว่ามีผู้ชายส่วนหนึ่งมีเซ็กส์เพราะรัก แต่เชื่อเถอะ ส่วนมากมีเซ็กส์เพราะเงี่ยน ซึ่งผมก็เป็นแบบหลัง

     ผมเริ่มความสัมพันธ์กับพี่พริ้ม ตอนประมาณผมปีสองส่วนพี่เขาก็ปีสี่ ความสัมพันธ์มันเป็นแบบ Open relationship ใครจะเรียกอย่างไงไม่รู้นะ แต่ผมเรียกว่าคู่นอนขาประจำ จริงๆก็ไม่ต่างจาก sex buddy เท่าไหร่ แต่ก็เรียกOpen relationship เพื่อให้มันฟังดูดีก็เท่านั้นแหละ

     ผมไม่ได้รักเขา เขาก็ไม่ได้รักผม ติดต่อกันแค่เวลาอยากเท่านั้น ไอ้ไปเดทหรือนัดกินข้าวแบบนั้นมันไม่มีหรอก อาจทักกันตามประสาเวลาเจอกันบ้าง เพื่อนเขาก็ชอบแซวว่าเราเป็นแฟนกัน ผมไม่ได้ยอมรับ แต่ก็ไม่เคยปฏิเสธอยู่ดี เพราะเราต่างก็รู้ดีว่าเราเป็นแค่คู่นอนที่ถูกคอกันเท่านั้น
 

     "จะนอนเป็นพระเอกเอ็มวีอีกนานไหมห๊า!!"เสียงไอ้แคป เพื่อนตั้งแต่สมัยผมอนุบาลประถมจนมัธยมเรียกทำให้ผมต้องหันไปมองแบบเบื่อหน่าย "แดกเข้าไปเยอะๆเลยมึง ได้ตามพวกกูทัน"เหล้าสีเข้มที่ไม่แน่ใจว่าพวกแม่งมิกกับโซดาหรือยังถูกยื่นมาตรงหน้า

     "เออ"ผมยันตัวขึ้นนั่งแล้วรับแก้วมา
 

     ตอนเลิกกับซี ผมยอมรับว่าโกรธมันมาก แต่ผมก็แค่โกรธ จะให้แก้แค้นหรือเกลียดมัน ผมทำไม่ลง ก็นะ ถึงจะเลิกกันแล้ว ก็ไม่ได้ความว่าผมจะต้องเลิกรักมันด้วยนี่

     วันที่มันได้กลับมาในวงโคจรของผมอีกครั้ง หลังจากที่หายหน้าหายตาจากกันไปคือวันที่น้าอ้อมโทรมาขอร้องให้ผมช่วยตามหาซีให้ ก็ยอมรับแหละว่าเป็นห่วงมัน หัวใจผมตอนนั้นแทบไม่เป็นจังหวะ กลัวมันจะเป็นอะไร แต่ลึกก็ตื่นเต้นเหมือนกัน ที่จะได้เจอมัน 

     ซีที่ผมได้พบอีกครั้งนั้นดูสูงขึ้น ดูดีขึ้น และก็อ้วนขึ้น ทั้งที่คิดว่าผมทำใจได้แล้ว แต่วินาทีที่ผมดึงแขนมัน แล้วสบตาคมที่ล้อมด้วยแพรขนตาหนานั้นอีกครั้ง ใจผมก็เหมือนกลับไปเป็นของมันอีกครั้ง... ใจง่ายฉิบหาย

     อย่างที่บอกไปแล้วว่าผมพยายามฝืนตัวเอง พยายามเป็นแค่แฟนเก่าคนหนึ่งที่โคจรมาพบกันอีกครั้งของมันเท่านั้น พยายามอยู่ในที่ของผม อยู่ในโลกของผม แต่มันก็พยายามเข้ามา พยายามทำลายความตั้งใจทุกอย่าง ใจหนึ่งผมก็อยากดึงมันมากอด ให้อภัยทุกอย่างแล้วเริ่มต้นใหม่

     แต่อีกใจ ผมก็กลัวที่จะต้องเจ็บอีกครั้ง ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าถ้าเจ็บครั้งนี้ผมจะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ในการทำใจ ต้องใช้เท่าไหร่ ตลอดชีวิตเลยหรือเปล่า ในเมื่อแผลเก่านั้นมันก็ยังคงไม่หายดีอย่างที่ผมพยายามหลอกตัวเอง

     ผมชอบหลายๆองค์ประกอบที่มาประกอบเป็นตัวมัน มันที่ทำหน้างงๆ ดูสับสนกับชีวิต แต่บางทีก็กลับชัดเจนกับความรู้สึกทางเพศ ทั้งที่ตอนนั้นมันก็ยังใสๆ มันเป็นพวกที่แบบว่าเงี่ยนก็บอกว่าเงี่ยน ไม่ใช่ประเภทที่ชวนไปแดกข้าวต้มแต่เสือกเอาตีนเขี่ยขากูอยู่นั่นแหละ ผมไม่ชอบพวกมารยาเยอะ อาจเป็นเพราะผมเห็นม๊าจนจับทางได้หมด แต่พอเป็นมันที่ทำตัวแรดๆมารยาใส่ผม ผมก็ไม่ปฏิเสธหรอกว่ามันส่งผลต่อผมมาก... สงสารหมอนข้างฉิบหาย

     ช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมานั้น ทุกครั้งที่เจอกัน ผมอยากจะกลับคบกับมันใจจะขาด อยากจะกอด อยากดูดกลืนริมฝีปากเล็กๆนั่น อยากบีบเค้นเนื้อนิ่มๆของมันไปทั้งตัว อยากจะกระแทกแรงๆเข้าไปในตัวมันจนสาแก่ใจ แต่ในความอยากผมก็ยังมีความกลัว แต่ผมว่าผมโรคจิตอ่อนๆ อะไรที่เสี่ยงมากมันเหมือนยิ่งดึงดูด เอาเถอะอกหักอีกครั้งแม่งก็ไม่ตายหรอก ผมเคยผ่านมันมาได้ และถ้าต้องผ่านอีกครั้ง ผมก็ต้องทำใจ

     ผมขอจบความสัมพันธ์กับพี่พริ้มวันที่ผมไปรับเขาที่สนามบิน ซึ่งพี่เขาจะกลับมาไทยเดือนละครั้ง ปกติเราก็จะมีอะไรกันช่วงนั้นแหละ ตอนที่ผมบอกตอนแรก พี่พริ้มก็ไม่ได้โวยวายอะไร ไม่รู้อะไรดลใจผมในตอนนั้นให้ไปหาไอ้ซี ความสัมพันธ์ทางกายที่ห่างหายไปสามปีได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง ยอมรับว่ากินเบียร์กับพวกไอ้ธันไปนิดหน่อย แต่สาบานว่าไม่ได้เมา แต่ที่ตอนนั้นยังไม่คบไม่ได้ติดเรื่องพี่พริ้ม เพราะคิดว่าจบกันได้แล้ว แต่ที่ไม่คบเพราะอยากรอดูท่าทีมันสักพักก่อน

     แต่เหมือนทุกอย่างมันจะไม่จบง่ายๆ ยอมรับว่าผมอาจจะผิดตรงที่เวลาใครแซวว่าผมคบกับพี่เขา ถึงผมจะไม่เคยยอมรับ แต่ผมก็ไม่เคยปฏิเสธ เพราะผมคิดว่ามันคงไม่มีปัญหาอะไร เราคงอยู่กันแบบนี้มานานไป จนพี่เขาลืมไปแล้วมั้ง ว่าตอนก่อนเริ่มความสัมพันธ์แบบนี้ พี่เขาพูดว่าอะไร
 

     'เรามีสิทธิ์เลิกตอนไหนก็ได้'
 

     แต่ความจริงก็คือความจริง ไม่ว่าจะคบกับพี่พริ้มแบบไหน แต่การที่ผมไม่ยอมปล่อยมืออีกคนก่อนจะคว้ามืออีกคน ผลสุดท้ายมันก็คว้าไว้ไม่ทัน ผมอยากไปเจอมัน แต่ในเมื่อมันไม่พร้อม ผมก็จะไม่ไป ถึงแม้ใจผมก็เจ็บไม่ต่างกันที่เรื่องมันเป็นแบบนี้
 

     "ขอบุหรี่ตัวดิ"ผมสะกิดไอ้ตี๋ตาสองชั้นที่นอนกระดิกตีนสูบบุหรี่อยู่เตียงข้างๆ
 

     จริงๆเมื่อก่อนมันก็ตาชั้นเดียวนะ แต่พอมันไปหาหมอแล้วเก็บตัวอยู่บ้านสองสามอาทิตย์ พอเจอกันอีกที ตามันก็มีสองชั้นขึ้นมาซะงั้น
 

     "เอาไป"มันโยนซองบุหรี่กับไฟแช็คมาที่อกผม
 

     หยิบมวนบุหรี่ที่นานๆจะสูบทีมาคาบไว้ แล้วจุดไฟที่ปลายมวน ก่อนสูดควันเข้าไปให้เต็มปอด ค่อยๆเผยอปากออกเมื่อรู้สึกว่านิโคตินและคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไประงับระบบความคิดให้ช้าลงแล้ว ควันที่พวยพุ่งนั้นฟุ้งราวกับความสุขที่กำลังสลายหายไปในอากาศ

     ผมที่เหยียดตัวลงนอนบนเก้าอี้ริมสระน้ำ เงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำที่เป็นสีดำสนิทเหมือนในใจผม ก่อนจะจรดปลายมวนแล้วอัดบุหรี่เข้าไปอีกรอบ มองไปที่สระว่ายน้ำก็คิดถึงเรื่องสมัยก่อนขึ้นมา ได้แต่ยกยิ้มขึ้นฝืนๆ ไอ้ซีมันว่ายน้ำไม่เป็น แต่มันก็ชอบไปนั่งเล่นรอผมว่ายน้ำตลอด มันน่ารักนะ แต่ให้มันทำกับผมยังไง ผมก็ยังมองว่ามันน่ารัก และผมก็รักมัน คิดไปคิดมา กูก็ชักจะเริ่มสงสัยแล้วว่านี่กูสูบบุหรี่หรือกัญชา
 

     ...เพ้อสัตว์!...
 

     "โย่ว มายเฟรนด์"เสียงโหวกเหวกโวยวายทำให้ผมเหลือบมองพวกไอ้โจที่เล่นลิงชิงบอลอยู่ในสระด้วยหางตา ก่อนจะยกบุหรี่ขึ้นดูดอีกรอบแบบไม่สนใจ 

     "มึงสองตัวนี่โดนเมียทิ้งที ถึงกับนั่งเหี่ยวเป็นค-ยไอ้ธันเลยเว้ย"หันไปมองไอ้ทีมที่ปากดีวอนตีนตั้งแต่ยังไม่หัวค่ำ

     "เดี๋ยวกูเอาฟาดหัวแตก"พวกมันพยายามตลกแดก ซึ่งไอ้แคปมันก็หัวเราะสนุกสนาน แต่ขอโทษ กูไม่ขำ
 

     ผมเอื้อมมือหยิบรีโมตที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา ก่อนจะกดเร่งเสียงลำโพงให้ดังกลบเสียงพวกเหี้ยนี่สักที รู้ว่ารักกูกันนะ แต่เวลากูเข้าโหมดเศร้า มึงก็ช่วยปล่อยให้กูเศร้าอย่างสงบหน่อยจะได้ไหม
 

     'ก็ไม่มีแล้วความรัก ไม่มีแล้วอะไรที่เคยมี...'เมื่อเพลงมาถึงท่อนนี้ผมก็รู้สึกกระบอกตามันร้อนผ่าว
 

     ...กดเปลี่ยนแม่งเลยไอ้สัตว์!...
 

     ปล่อยน้ำตาให้มันไหลลงมาช้าๆ ก่อนที่จะยกบุหรี่ขึ้นดูดจนเกือบหมด แล้วปาออกไปที่สระน้ำสุดแรง ผมปิดเปลือกตาลงช้าๆ พร้อมเผยอปากให้ควันสีขาวขาวค่อยๆลอยฟุ้งขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศ เวลายังคงเดินต่อไปอย่างช้าๆ
 
 

     'วันเวลาที่ผ่านมา จะเร็วจะช้าไม่เคยลบเลือนไป ภาพวันที่เคยสุข ฉันรู้สึกว่ายังมีฉันและเธอเสมอ ไม่ว่าดวงใจจะเจ็บช้ำ ภาพความทรงจำยังคอยย้ำ ให้คิดถึงเธออยู่...'สาบานว่านี่เพลงที่เปิดในงานเลิกกับเมียของพวกมึง
 

     ผมจุดบุหรี่สูบอีกมวนส่วนไอ้แคปก็กระโดดลงสระไปแล้ว
 

     "มึงเป็นพระเอกเอ็มวีหรอเหี้ยโปร"ไม่รู้ใครกวนตีน แต่กูไม่สน

     "กูนึกว่ามึงเลิกกับพี่พริ้มแล้วซะอีก ตกลงยังไงกันแน่วะ"ไอ้ธันที่ตัวเปียกโชกเดินโฉบเสนอหน้าเข้ามาใกล้ผม

     "ก็เลิกแล้ว"ตอนคบก็คบง่ายๆ แต่ทำไมตอนตอนเลิกแม่งยากเย็นแท้วะ

     "มึงสต๊อปความเศร้าไว้ก่อนเว้ย วันนี้งานเชี่ยแคป มึงก็ต้องปล่อยให้มันเศร้าสุดดิ อย่าแย่งซีนกัน"ไอ้ธันตบบ่าผมแปะๆ
 

     ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะถอดเสื้อยืดและกางยีนส์ออก จนตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวผมเหลือแค่บ๊อกเซอร์โดนัลดั๊กสีฟ้า กระโดดลงไปร่วมวง เล่นเกมส์ ตั้งเตาหมูกระทะ แดกเหล้ากันไปตามประสา รู้ตัวอีกทีแม่งก็นอนเรื้อนกันเต็มห้องชั้นล่างบ้านไอ้แคปแล้ว

     ตื่นมาอีกทีก็ตอนบ่าย เพื่อนๆเริ่มทยอยกลับบ้าน จะมีเหลือก็แค่ไอ้โจเพื่อนผมสมัยมัธยม กับเพื่อนไอ้แคปอีกสองคนที่ผมก็ลืมชื่อแล้วเหมือนกัน ชื่อแม่งติดอยู่ที่ปากนี่แหละ แต่คิดไม่ออก
 

     "มึงยังไม่สร่างอีกหรอวะ"ไอ้โจถามผมในขณะที่เรายังนั่งมึนอยู่กลางบ้าน

     "อือ... แม่งไม่ยอมอ้วก"บอกจบก็ไหลไปนอนบนโซฟา "ไม่ไหวแล้วว่ะ"ผมลุกขึ้นนั่ง 

     "มึงจะไปไหน"ไอ้แคปถาม

     "ไปตากแดดให้แอลกอฮอล์มันระเหย"ผมพูดจบแม่งก็หัวเราะคิกคักอย่างน่ารำคาญ
 

     ผมเดินไปนอนคว่ำหน้าตรงพื้นบริเวณขอบสระว่ายน้ำ ก็รู้นะว่าเวลาแดกเหล้าแล้วผมจะบ้า ทำอะไรแต่ละอย่าง ก็ไม่รู้ว่ากูคิดได้ไงเหมือนกัน แต่รู้ตัวอีกทีแม่งก็ทำไปแล้ว

     ผมนอนเคลิ้มอยู่สักพักก็รู้สึกเหมือนโดนกระชากให้ตื่น และพอตื่นมาอีกทีนี่ผมแทบตาย ไอ้สัตว์ กูกลั้นหายใจไม่ทัน ให้ขึ้นไปได้ก่อนนะ กูจะกระทืบให้ไส้ไหลเลย ไอ้เหี้ย! หลังจากสำลักน้ำไปหลายอึกก็เห็นไอ้แคปว่ายเข้ามาช่วย

     พอเห็นใครที่นั่งร้องไห้อยู่ริมสระ ไอ้อารมณ์ที่จะอาละวาดในตอนแรกก็เปลี่ยนเป็นอารมณ์สำออยทันที ก็ไม่อยากโกหกมันหรอกนะ แต่กูก็ทำไปแล้วไง




ต่อรีล่าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2015 23:49:46 โดย †คุณเขียด »

ออฟไลน์ †คุณเขียด

  • ♣ เป็นคนดีแล้วค่ะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +376/-1
     หลังจากโดนไอ้แคปจับพาดบ่าแล้วเขย่า ผมก็รู้สึกพะอืดพะอมฉิบหาย แต่ก็ยังไม่อ้วกนะ แค่รู้สึกว่ามันมาแล้ว นอนฟังพวกมันเถียงกันโดยที่ผมไม่เข้าใจเท่าไหร่ไปสักพัก ไอ้แคปก็ออกไป ซีมันก็ลงมานอนกับผมบนเตียง ผมแกล้งบอกว่าหนาว กะจะอ่อยให้มันกอด แต่ใครแม่งจะคิดว่ามันจะซื่อเพิ่มอุณหภูมิแอร์ให้กูแทน

     ผมบ่นปวดหัว อันนี้กูปวดหัวจริง ถ้าย้อนเวลาไปได้ จะไม่แดกขนาดนั้นเลยจริงๆ ซีมันจะเดินออกไป แต่ผมไม่อยากให้มันไปเลย ผมเมา ผมอ่อนแอ อารมณ์ผมก็อ่อนไหว อยากอยู่กับมันนานมากกว่า ผมกอดมันจากด้านหลัง ไม่ได้อยากจะร้องไห้ แต่น้ำตามันไหลออกมาเอง แต่ไม่เป็นไร ผมหล่อ เชื่อว่าร้องไห้ก็ยังหล่อ

     ไม่รู้ทำอะไรลงไปบ้าง แต่มารู้สึกตัวอีกทีก็เพราะแรงเขย่าของมัน ผมกินโจ๊กเละๆไปไม่กี่คำ ไอ้ความรู้สึกพะอืดพะอมก็กลับมาอีกครั้ง ผมวิ่งไปอ้วกแทบไม่ทัน อ้วกเละเสื้อด้วยแม่ง ขยะแขงจนอยากอ้วกอีกรอบเลย... ไอ้ฉิบหาย!!

     ไอ้ซีอาบน้ำ สระผม แปรงฟัน เช็ดหัว เช็ดตัวให้ผมเสร็จ มันก็ไปจัดการตัวเอง วินาทีที่เห็นมันเดินแก้ผ้าออกมานั้นผมรู้สึกตัวมันร้อนไปหมด ซีมันไม่ได้ขาวมาก มันขาวเหลือง ตัวซีดๆ แต่ผิวมันเนียนนะ นิ่มมากด้วย ผมรู้ว่าไอ้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่ะเพราะมันเคลิ้ม ส่วนผมนี่เงี่ยนล้วนๆ

     ผมตื่นก่อนมันได้สักพัก แต่พอเห็นมันปรือตาขึ้น ผมก็แกล้งหลับต่อ มันกำลังจะจากไปอีกแล้ว ใจผมแม่งเหมือนลืมวิธีเต้น จมูกก็เหมือนลืมวิธีหายใจ ความสุขก็หายไปเร็วแบบนี้แหละ
 

     "เราไม่จีบโปรต่อแล้วนะ" 
 

     นั่นไม่ใช่คำพูดที่รุนแรง แต่โคตรสะเทือนความรู้สึก... แต่อย่างน้อยเหมือนเรื่องของเรามันยังมีหวัง ถามว่าผมเหนื่อยไหมกับเรื่องนี้ ผมเหนื่อยนะ เหนื่อยมาก แต่ก็ไม่ได้ยอมแพ้ ไอ้ซีมันก็เป็นแบบนี้ แล้วผมก็ชอบที่มันเป็นแบบนี้ ดังนั้นมันไม่ต้องทำเหี้ยไรหรอก รออยู่นิ่งๆนั่นแหละ เดี๋ยวที่เหลือผมจัดการเอง

     มันอยากให้เรื่องซาใช่ไหม เดี๋ยวกูจัดให้ซาจนเรียบกริบเลย คอยดู

     ซีเดินออกไปไม่นาน ไอ้สี่ตัวที่เหลือก็โผล่กันเข้ามาด้วยความเสือก ผมเปิดถุงที่มันให้ขึ้นมาดู หยิบกล่องแหวนที่ผมให้มันออกมา ยอมรับนะว่าวันที่ให้มัน ผมตั้งใจจะกลบเกลื่อนเรื่องออกไปข้างนอก วันนั้นผมออกไปเคลียร์กับพี่พริ้มที่ร้านเหล้าสักร้าน เธอกำลังเมาอยู่กับกลุ่มเพื่อน ผมโดนรุมด่า แต่ถามว่าแคร์ไหม ก็ไม่ค่อย ด่าไปสักพักเหมือนไม่มีอะไรดี เพื่อนพี่เขาก็เลยสาดเหล้าเข้าหน้าผม พร้อมบอกว่า 'เลิกไปเถอะ คนเหี้ยๆแบบนี้'

     ยอมรับว่าโกรธบ้าง แต่ก็ไม่มากหรอก อารมณ์เหมือนโดนมดกัดที่ส้นตีน ถึงจะคันๆแต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรมดมัน ก็เข้าใจว่าเพื่อนๆพี่เขาคิดว่าผมกับพี่พริ้มเป็นแฟนกัน ซึ่งพี่เขาก็คงลืมเหมือนกัน ช่างเถอะ อยากทำอะไรกับผมก็ทำ อย่าไปยุ่งกับไอ้ซีมันก็พอ

     ตอนนั้นผมกลับไปไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน โชคดีว่าผมมีเสื้อคล้ายๆกันหลายๆตัวก็เลยใส่กลบเกลื่อนไปได้ ผมรู้ว่ายังไงซีมันก็ต้องรู้ว่าผมออกไป เพราะหน้าบ้านมันมีกล้องวงจรปิด อีกทั้งคนในบ้านมันเยอะแยะ ยังไงก็ต้องรู้ ผมก็เลยไปค้นแหวนที่ซื้อไว้นานแล้วแต่ไม่มีโอกาสได้ให้ออกมา

     จะเรียกว่าผมเบี่ยงเบนความสนใจก็ได้ แต่ผมก็อยากให้มันจริงๆ ตอนนั้นผมกะว่าขอดูมันไปสักพัก ผมถึงจะคบมัน แต่เหมือนทุกอย่างมันผิดพลาดไปหมด... ไม่รู้นะว่าใครผิดยังไง แต่ผมคิดแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วว่าถ้าผมทำมันเสียใจ ผมถือว่าเรื่องนั้นผมผิด และต้องแก้ไข

     ตอนเห็นมันขึ้นรถไปนั้นผมเสียใจนะ ไม่ได้เสียใจที่มันรู้เรื่อง เพราะรู้ว่าสักวันมันก็ต้องรู้ แต่เสียใจที่มันไม่คิดจะฟังอะไรผมบ้างหรอ แต่ผมก็เข้าใจ ผมกับมันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ผมพูดน้อยไป มันก็ฟังน้อยไป เหมือนผมมีปากไว้ประดับหน้า ส่วนมันก็คงมีหูไว้ประดับหัว

     อย่าว่าแต่พูดอธิบายเลย บางทีแค่คิดเรื่องจะอธิบาย กูยังขี้เกียจเลย
 

     "ดีนะพ่อแม่กูไปทำงาน ไอ้แคลก็ออกไปกับเพื่อน"แคปเปิดเรื่อง "นี่มึงเอากัน หรือกำลังจะฆ่ากัน กำแพงบ้านกูแทบร้าวเลยไอ้เชี่ย!"ถึงจะรอบเดียว แต่ก็เห็นว่ามันเดินขัดๆอยู่
 

     ยอมรับว่าใส่อารมณ์ไปหน่อย ไม่ได้โกรธ... ก็แค่น้อยใจไง
 

     "เอาน้ำออกนี่อารมณ์ดีขึ้นหน้าตาสดใสเปล่งปลั่งเลยเว่ย"ไอ้โจดึงแก้มผมที

     "เดี๋ยวกูถีบกลิ้ง"ผมปัดมือมันออกแล้วยิ้มแบบร้ายๆ

     "แต่ไอ้ซีมันเซื่องดีนะ นี่กูเก็บกดแล้วมาใส่อารมณ์กับมัน มันยังเงียบเลย"เพราะมันซื่อๆงงๆนี่แหละ ผมเลยชอบมัน
 

     หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วรีบโทรหาไอ้ธัน รีบสอบถามเรื่องในโซเชียลว่ามีใครด่าอะไรไอ้ซีบ้าง ไม่นานไลน์ผมก็มีภาพที่แคปเจอร์จากหน้าเฟซบุ๊คเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งในสาขาผมที่มีคนติดตามอยู่เยอะพอควร
 

     'รถหาย ไม่เจ็บเท่าผู้ชายแย่งผัว... พี่พริ้มไม่ได้กล่าว กูกล่าวของกูเอง'
 
     ผมไล่อ่าน มีคนเข้ามาแสดงความเห็นมากมาย ส่วนมากก็ด่าผมนั่นแหละ ไปๆมาๆก็เริ่มตามหาว่าผู้ชายที่แย่งนั่นเป็นใคร จนมีคนโพสต์รูปผมที่ใส่รองเท้าให้ไอ้ซี ทุกอย่างก็เหมือนระเบิดลง

     เลื่อนดูรูปไปเรื่อยๆ จนเป็นภาพจากหน้าเฟซบุ๊คไอ้ซี ที่ผมไม่เคยรู้ว่ามันมี เพราะวันๆผมไม่เคยเห็นมันเล่น รูปนั้นเป็นรูปปลาไหลที่อยู่ในน้ำ ตอนแรกก็มีเพื่อนๆมันเข้ามาคอมเม้นท์ ไปๆมาๆมีคนเข้ามาด่าเต็มไปหมด ซึ่งผมว่าดีนะ ที่ไม่มีใครตอบโต้ เพราะมันจะยิ่งทำให้เรื่องลุกลาม
 

     "ไอ้ธัน มึงมีรูปคลิปพี่พริ้มที่ไอ้เต้มันส่งมาในกรุ๊ปไหม"ไม่คิดว่าจะได้ใช้ก็ลบแชทไปแล้วไง

     /"มึงจะเอา?"/

     "อืม"

     /"เดี๋ยวกูส่งให้"/
 

     หลังจากวางสายไปไม่นาน ผมก็ได้รูปที่ผมขอไป มันเป็นภาพที่แคปเจอร์มาจากคลิปๆหนึ่ง ที่มีตัวแสดงคือพี่พริ้มและไอ้เต้เพื่อนในกลุ่มที่ตอนนี้มันย้ายสาขาไปแล้ว

     ก็อย่างที่เข้าใจว่าพี่พริ้มกับผมคบกันแบบเปิด จะนอนกับใครก็ได้ ดังนั้นการที่เธอไปนอนกับเพื่อนผมก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่มันดันเป็นเรื่องพลาดว่ะ ไม่ใช้ไอ้เต้มันคิดหักหลังอะไรผมนะ เพื่อนผมทุกคนรู้หมอว่าผมกับพี่พริ้มคบกันแบบไหน
 

     "กูยืมโทรศัพท์หน่อยดิ"เอาตีนเขี่ยไอ้แคปที่ยืนอยู่ไม่ไกล

     "เอาไปทำไร"แต่ก็ยื่นให้

     "ฟัง... แล้วก็เงียบๆ"ผมเปิดดูเบอร์พี่พริ้ม ก่อนจะกดโทรออก

     "ค่ะ"

     "สบายดีไหมครับ"ผมถาม ได้ยินปลายสายถอนหายใจ

     "มีอะไร"เปิดประเด็นด้วยเสียงนิ่งๆ

     "พี่ทำอย่างนั้นทำไม"ผมอยากถามมานานแล้ว แต่โดนบล็อคหมดทุกทางติดต่อ

     "ฉันทำอะไร"

     "พี่ไปยุ่งกับซีมันทำไม ทำไมไม่ยอมจบกันดีๆวะ"ยิ่งคิดถึงวันนั้นก็ยิ่งโมโห

     "ไม่รู้สิ สนุกดี"แล้วก็หัวเราะ "อย่าบอกนะว่าพังแล้ว"

     "..."

     "ซอร์รี่แล้วกัน ตอนนั้นเแฮงค์ๆ"เสียงราบเรียบแบบไม่ยินดียินร้ายอะไร "เอาเบอร์น้องคนนั้นมาสิ เดี๋ยวโทรไปอธิบายให้"อธิบายแล้วไง ในเมื่อเรื่องที่เป็นปัญหาตอนนี้เพราะเรื่องที่มันโดนด่า

     "พี่โพสต์ช่วยมันได้ไหม บอกว่าเราเลิกกันนานแล้ว"ผมพยายามพูดดีๆ เพราะไม่อยากใช้ไม้แข็ง ยังไงซะ เมื่อก่อนเราก็ยังดีๆกัน แม้ว่าไม่นานนี้พี่เขาจะบ้าไปแล้วก็ตาม

     "ไว้พรุ่งนี้แล้วกัน ตอนนี้กำลังขับรถ"พอเขาเจอเพื่อน เดี๋ยวเขาก็เปลี่ยน ผมรู้ พี่เขาโคตรเหมือนไผ่ลู่ลม เอนไปเอนมา เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ แต่เอาจริงๆ พี่เขาร้ายไหม ผมว่าไม่หรอก เพื่อนเขาก็ด้วย แต่เวลารวมกลุ่มกันเขาก็จะเก่งกันขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง

     "เดี๋ยวนี้"

     "สั่งมากนัก ไม่ทำแม่งแหละ"

     "พี่จำไอ้เต้ได้ไหม จำได้ไหมว่าถ่ายคลิปอะไรกับมันไว้"ผมรอเวลาสักพักจนคิดว่าน่าจะจำไม่ได้ "พี่ปลดบล็อคไลน์ เดี๋ยวผมจะส่งอะไรให้ดู"

     "ปลดแล้ว"ปลายสายว่า ผมก็หยิบโทรศัพท์ตัวเองมาส่งรูปที่ได้มาสดๆร้อนๆ "จะแบล็คเมลล์ใช่ไหม"ดูเหมือนจะเริ่มโมโห

     "เรียกแบบนั้นก็ได้ แต่ถ้าพี่ช่วยผมแต่แรก ผมก็ไม่ต้องใช่มันปะวะ"

     "จะให้โพสต์อะไร"เสียงนิ่งๆ

     "เดี๋ยวส่งให้ในไลน์ พี่ก็ก๊อบแล้ววางแค่นั้น"

     "ถ้าโพสต์จะลบคลิปใช่ไหม"ไม่นะ เพราะไม่มีให้ลบตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

     "ผมลบ แต่เพื่อนกลุ่มผมยังมีอีกหลายคนว่ะ ผมคงตามลบให้ไม่หมด"บอกไว้ก่อน เพื่อเดี๋ยวคลิปหลุด หาว่ากูทำอีก

     "งั้นไม่โพสต์"

     "งั้นผมไรท์ลงแผ่นแล้วส่งไปที่บ้านพี่นะ"หัวเราะเบาๆตบท้าย ทำไมกูดูชั่วจัง

     "ไอ้เหี้ย"ด่าเบาๆ แต่ได้ยินว่ะ ไม่แคร์ด้วย

     "พี่คิดดูนะ ขืนพี่อัดเสียงผมไว้ ผมทำไงวะ โดนสังคมประนามเลยนะ"ถามว่าวินาทีนี้คิดสงสารเขาไหม ก็นิดหน่อย แต่ไม่มากเท่าไหร่ "แต่ถ้าพี่ทำตามเงื่อนไข แล้วเลิกแล้วต่อกัน คลิปพี่ไม่มีทางหลุดจากผมแน่"ไม่ว่าจะพูดให้ดูดียังไง สิ่งที่จะสื่อคือพี่ไม่มีทางเลือกอยู่ดี

     "อยากให้โพสต์อะไรก็ส่งมา"
 
     หลังจากวางสายไปแล้ว ผมก็มานั่งเรียบเรียงข้อความอย่างตั้งใจ ได้ยินเพื่อนๆผมสรรเสริญว่าอะไร เหี้ยๆนี่แหละ แต่ก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ ผมพิมพ์เสร็จก็กดส่งไป แล้วให้ไอ้ธันหน่วยข่าวของผมไปสืบอีกที บอกให้เพื่อนผมช่วยรีทวิต ช่วยแชร์เสร็จ ผมก็ได้ฤกษ์กลับบ้านซะที

     ผมรู้นะว่าผมเลว เลวแบบที่บางทีใครด่าว่าเหี้ย ผมยังรู้สึกสงสารเหี้ยเลยก็มี แต่กับคนที่ผมแคร์ ผมก็พยามยามที่จะทำทุกอย่างเพื่อเขา ไม่ใช่แค่ครอบครัวหรือเพื่อน แต่ไอ้ซีก็ด้วย ถึงใครจะด่าว่าผมชั่วผมเลวยังไงผมก็ไม่สนหรอก 

    ที่ทำไปเนี่ยก็ไม่ได้อยากให้มันมาซาบซึ้ง ไม่อยากให้รู้ด้วยซ้ำ เพราะไอ้เรื่องที่ผมข่มขู่ผู้หญิงมันไม่ใช่เรื่องน่าสรรเสริญ แต่ถ้าวันหนึ่งมันรู้ขึ้นมา ผมก็แค่หวังว่ามันจะเข้าใจผม...ก็แค่นั้น

-----
เออเว้ย จัดหน้านิยายครึ่งค่อนชั่วโมง :katai4:

น้องโปรนางไม่ได้เรียนวิศวกรรมศาสตร์การแสดงนะคะ
นางไม่ชอบใช้มารยา

กูนี่อยากจะขากกกกกกก มึงติดอิคนเลี้ยงมึงมาแล้วจ้า

คิดว่าเคลียร์ทุกประเด็นนะคะ
นางไม่ใช่คนดีค่ะ จัดว่าเลวเลย แบดมาก
แต่นางเป็นประเภทดีมากกับคนที่แคร์ค่ะ
น้องโปรนี่ไม่มีห่าไรเลย
มีดีแค่สองอย่างค่ะ สารร่าง กับมั่นคง(ทรัพย์สิน จิตใจ และความเลว)

ส่วนพี่พริ้ม เรามองมุมอิโปรอยู่ค่ะ
แต่เขียดคงไม่เขียนมุมนางนะเว้ย
แต่อยากให้เข้าใจโมเม้นที่บางทีผู้ชายมันไม่ชัดเจน
ผู้หญิงเราก็มโนคิดเองเออเองค่ะ :hao5:
นางไม่เมานางก็ดีค่ะ แต่พอพี่แกเมา แกบ้าค่ะ ไอ้สิ่งที่เก็บไว้ในใจมันก็ออกมา
ดังนั้นอย่าไปด่านางเลย ถือว่านางได้บทเรียนไป

เพราะไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบไปเสียหมด นั่นแหละค่ะ คือเหตุผลที่มนุษย์ต้องสร้างยางลบมาหลังดินสอ
ทุกคนมีความผิดพลาดในชีวิตหมดค่ะ อยู่ที่ว่าคุณจะปล่อยไว้หลอกหลอน หรือว่าจะลบแล้วเขียนแก้ไขขึ้นมาใหม่
นี่เขียดเขียนเรียลไลฟ์เรื่องที่สองนะ ปกติเขียดชื่นชอบและคลั่งไคล้ความเซอร์เรียล :laugh:


อัพตอนนี้แล้วคงหายไปราวๆอาทิตย์หนึ่งค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ทุกคนคือกำลังใจเลยค่ะ :กอด1:

ไงช่วยกันดันหน่องซีกับหมีขาวด้วยเน้อ :impress2:

ปล. คบว่ายากแล้ว คบให้รอดนี่ยากกว่า :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2015 12:13:27 โดย †คุณเขียด »

ออฟไลน์ apisaraa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มาม่าจะหมดแล้วววววว 

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
รอวันที่สองคนคืนดีกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2015 00:16:20 โดย ssipra »

ออฟไลน์ lipure

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
น้องโปรทำได้ดีมากกก

ติดตามตอนต่อปายยย

ปล. ชอบประโยคนี้ของเฮียมาก(อัพเกรดให้เปนเฮีย) "คนทำมันไม่จำ แต่คนโดนทำมันไม่ลืม " จึ๊ดมาก  :katai2-1: :katai2-1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2015 00:31:59 โดย lipure »

ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2

ออฟไลน์ Viewonohm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 843
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-5
โอ่ยย พี่โปรนี่มัน... :ling3:

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
ยังคงแม่ยกอิหมี  นี่สินะเค้าถึงว่าผู้หญิงนั้นชอบคนเลว

รีบไปง้อเมียเถอะ หมี!!!  รอมุ้งมิ้งอยู่

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
เคลียร์แล้วก็เดินหน้าไปจีบซีเลยค่ะโปร

ออฟไลน์ Aoya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 906
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-3
อ่านตอนนี้แล้วกลับไปลูบหัวปลอบโปรทันไหม :กอด1:

คิดว่าพี่พริ้มโดนแค่นั้นน้อยไปอะ
โปรโดนรุมด่า โดนเหล้าสาด
ซีโดนขุดคุ้ยกับรุมด่าโดยคนที่ไม่รู้จักกันเลย
ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้ด้วยซ้ำ
อยากให้พริ้มกับเพื่อนได้รับบทเรียนเยอะๆ  :beat:

ออฟไลน์ Tatangth

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อีพี่พริ้มนี่น่าตบอยู่เหมือนกัน

ออฟไลน์ คุณอัง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เห๋ยยย  มันก็ดีนะโปรรร    แบบว่าเริ่มเองก็เคลียร์ปัญหาให้จบเอง
ดีๆ แมนขึ้นมาอีกหน่อย  ..

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เลวจนต้องขอยกนิ้วให้ o13

แต่โปรทำเพื่อหน่องซีเราให้อภัย :กอด1:

ออฟไลน์ 4life

  • R.I.P KT 5-5-13
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 995
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
น่านนนนนน ว่าเเล้ว อิโปรมันไปบอกเลิก เเต่ชะนีไม่ยอมจบ
เเต่อิโปรก็ผิดอีกนั่นเเหละ ที่เวลาโดนเเซวว่าเป็นเเฟนมันเสือกเงียบ
ส่วนนังซี นางเป็นเกย์โลกสวยอ่ะ เลยรับไม่ได้คิดว่าตัวเองไปเเย่ง"คนรัก"ชะนีพริ้ม
เเต่นางก็คงไม่รู้สันดารชะนีอีกนั่นเเหละ ว่าตกลงกันเป็นเเค่คู่นอน
เเต่ชะนีดันมโน เเล้วทำเหมือนตัวเองเสียหาย เป็นเมียหลวงโดนเมียน้อยมาเเย่งหัว เเหม.....
ทีวันนั้นเหมือนจะจบ เเต่ทำไมยังกระเเดะเสี้ยมเพื่อนให้ด่าว่าซีไปเเย่งผัวตัวเอง โถๆๆๆๆ

ถ้าชะนีพริ้มไม่โวยวายวันนั้น ป่านนี้นังซีคงกำลังเอาใจผัวอยู่5555
เเต่ก็ดี อยากเห็นการจีบของอิโปร 555 :hao3:

อ่านตอนนี้ก็เข้าใจอิโปร ว่ามันชอบคันเลยมีคู่นอนเเก้ขัด
ส่วนเรื่องเลว เลวเเบบนี้ไม่ว่าไร เพราะไม่งั้นชะนีคงไม่จบ
เเต่นิสัยไม่ยอมรับไม่ปฏิเสธเนี่ย เลิกเถอะ
คบกันไปเวลามีชะนีมากอดมาเกาะเเล้วเเกทำเฉยๆ เดี๋ยวเมียเเกก็โมโหเสียหรอก
นังซีก็ด้วย ชอบหนีปัญหา ปล่อยไว้มายอมเคลียร์ให้จบๆ
เเต่อยู่กันไป เรียนรู้กันไป คงปรับเข้าหากันได้

ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
อีพริ้ม ทำอย่างนี้ทำไม

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
งี้ก็รีบไปง้อหน่องซีได้แล้ววววว

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
เชื่อแล้วว่าเรื่องนี้มีอิโปรร้ายคนเดียว 5555
ถือว่าใช้คุ้ม เป็นพระเอกควบตัวร้ายไปเลยทีเดียว

ขอบคุณคุณเขียดนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด