Chapter 22
"แต่กูอยากกินเลย์"ว่าจบมันก็แย่งรถเข็นไปแล้วเข็นกลับไปทางเดิมโดยไปสนอารงอารมณ์ของเพื่อนมึงสักนิด
"เดี๋ยวๆ ไปแดกเซเว่นก็ได้"ผมรีบวิ่งมายื้อรถเข็นไว้
ยื้อไว้ทำไมน่ะหรอ ก็มนุษย์แฟนแอนด์เดอะแก็งมันอยู่ตรงเลยไงเล่า ไม่นะกร มึงจะทำกับเพื่อนแบบนี้ไม่ได้ เพื่อนมึงไม่พร้อม เพื่อนมึงอ่อนแอ เพื่อนมึงกำลังดราม่านะไอ้สาดดดด
"อ้าว ไอ้ซี"ไอ้ธันที่ไหวตัวเป็นคนแรกเอ่ยทัก ก่อนที่ทั้งกลุ่มก่อนจะหันมามองผมแทบเป็นตาเดียว "คนนี้มังกรใช่ปะ"มันชี้ไปที่ไอ้กรที่กำลังฉีกยิ้มลวงโลกอยู่
"หวัดดีๆ"ไอ้กรโบกมือด้วยท่าทางเป็นมิตร แต่จิตใต้สำนึกน่าจะเป็นภัย
"ขอโทษนะ คนนี้มีแฟนยังอ่ะ"มันชี้ไปที่ผู้หญิงที่เกาะหลังไอ้โปรอยู่
...โถ ไอ้สัตว์...
...กูก็นึกว่าจะมาบู๊...
"ฮิ้วววว อีจอยยจะขายออกแล้วโว้ย"ทุกคนต่างโห่แซว จนคนที่ถูกแซวผละจากอิหมีมายืนเขินบิดไปบิดมาแทน
"ยังค่ะ"เธอตอบเสียงแผ่วอย่างขวยเขิน
"อืม เราก็ยังไม่มี"พอมังกรตอบเธอก็เขินหนักไปกว่าเดิมอีก "แต่คนนี้มีใช่ปะ"มันชี้ไปที่อิหมีที่ยืนนิ่งๆดูเหตุการณ์อย่างไม่ทุกข์ร้อน และไม่ทักกูด้วย...โถ่ะ ไอ้สัตว์
"อ่า..."เธอมองมีที่ผมด้วยอารมณ์ที่คงอยากบอกว่า ก็เพื่อนมึงไม่ใช่หรอ
"แล้วเล่นกันแบบนี้ไม่เกรงใจแฟนเขาบ้างหรอ"กูว่าแล้ว... อิเชี่ย!!!
"ไอ้กร นี่เลย์ที่มึงจะกินไง ไปเหอะ"ผมรีบคว้าแขนไอ้กรให้เดินตามออกมา "ไปก่อนนะ"ผมตะโกนบอก ก่อนจะวิ่งลากไอ้แฝดออกมาอย่างรวดเร็ว
"ไม่ใช่เลย์ นี่มันแคมปัส"
"แดกๆไปเหอะเหมือนกัน"ผมยังคงลากมันไปต่อ
เมื่อวิ่งมาถึงเคาน์เตอร์แคชเชียร์ ผมก็ถึงกับเหนื่อยหอบ ไอ้กรยังยืนมองนู้นมองนี่อย่างไม่ทุกข์ร้อน ทั้งที่เป็นคนเปิดประเด็นไว้ให้กูแท้ๆ
"มึงนี่นะ หาเรื่องให้กูเลยเห็นไหม"
"กูหาเรื่องตรงไหน กูแค่สงสัย"ยังคงลอยหน้าลอยตา
"สาบานให้รถชนตายห่าไหมล่ะ"ผมหรี่ตามองมัน
"เออ กูแดกดันมันเองแหละ ใช้ได้ที่ไหนวะ ทำแบบนั้นอ่ะ"ไอ้กรว่า ก่อนจะส่งการ์ดให้พนักงาน
"กูรู้ว่ามึงหวังดี แต่กูโอเคจริงๆนะเว้ย"ผมบอกเสียงเรียบ
"โอเคที่หน้ามึงดิ"ว่าจบมันก็เซ็นชื่อรับการ์ดคืน แล้วเดินฉับๆออกไป แล้วปล่อยให้ผมแบกหามข้าวของของมันตามไป... ไอ้สังลางนี่
ผมรีบเดินตามมังกรออกมาที่ลานจอดรถ ได้ยินเหมือนเสียงใครเรียกชื่อแว่วๆ แต่ผมก็ไม่ได้หันไปหรอก มัวแต่ตามไอ้กรนี่แหละ
"มึงจะรีบไปตามควายที่ไหน!!!"ผมตะโกนบอกไอ้คนข้างหน้า
"เปล่า กูรีบให้ควายตาม"หยุดสตั้นคิดสองสามวิ
"อ้าว ไอ้สัตว์นี่"รีบวิ่งไปล็อคคอไอ้คนผอมกว่าทันที
"อ่อก ฮ่าๆๆๆ กูบ้าจี้ที่คอ ฮ่าๆๆๆ"ไอ้กรหัวเราะร่วนราวจะขาดใจ
"ซี!!!"เสียงตะโกนเรียกทำให้ผมมั่นใจว่าไม่ได้หูแว่วไปเองแล้ว และเมื่อหันไปมองก็เห็นมนุษย์แฟนกำลังเดินเร็วๆเข้ามาหาผม
"เดี๋ยวกูไปรอที่รถ"ไอ้กรว่าจบก็ฉวยข้าวของไปจากมือผม "กุญแจด้วย"ผมเลยล้วงกุญแจออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วส่งให้มัน
โปรมาหยุดตรงหน้าผม คนตัวขาวที่หน้าแดงและมีหยาดเหงื่อประปราย หอบหายใจแรง ก่อนจะคว้ามือผมไปกุม แล้วยืนหายใจอยู่สักพัก
"กูขอโทษ"โปรบอกทั้งที่ยังดูเหนื่อยๆอยู่
"ขอโทษเรื่องอะไรอ่ะ"ผมใช้มือที่ว่างอยู่เกาหัวแกรกๆจนไม่กลัวว่าผมจะร่วงหรือหนังหัวจะลอก
"เรื่องที่ให้เพื่อนเกาะเมื่อกี้ กูขอโทษ แต่กูลืมคิดจริงๆ"คนไม่รู้ถือว่าไม่ผิดแล้วกัน
"ไม่เป็นไร มังกรมันก็พูดไปงั้นแหละ แต่เราโอเค"ตอแหลคำโตเลยกู
"ถึงอย่างนั้นกูก็ขอโทษ"โปรบีบมือผมเบาๆ "กูไม่รู้ว่าจะทำอะไรนอกจากขอโทษจริงๆว่ะ"
"แค่ขอโทษก็พอแล้ว"ผมยิ้มจนตาหยี ผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ทั้งที่เมื่อกี้อารมณ์ยังหม่นๆ แต่ตอนนี้มันกับสดใสขึ้นมาถนัดตา... สงสัยกูใกล้จะบ้าล่ะ "แล้วนี่โปรมาแค่ซื้อขนมหรอ"
"จริงๆมากินชาบูกัน แต่มาแล้วก็เลยซื้อขนมกลับไปด้วย"ผมพยักหน้ารับรู้ "แล้วมึงล่ะ"
"มก็ังกรมันมาให้ป้าศรีสอนทำเค้กใช่ปะ ก็เลยมาซื้อของกัน"ผมบอก "โปรกลับไปอยู่กับเพื่อนเถอะ"
"แล้วนี่มึงกินข้าวยัง"
"ยังหรอก แต่เดี๋ยวเรากลับไปกินที่บ้าน"โปรพยักหน้ารับรู้
"เราไปแล้วนะ เดี๋ยวถึงบ้านแล้วไลน์ไปนะ"ผมบีบมือโปรเบาๆก่อนจะคลายออก
"อือ ขับรถดีๆ"
ผมพยักหน้า ก่อนจะค่อยๆเดินถอยหลังพร้อมโบกมือให้อีกคนที่ตอนนี้ก็ยกมือโบกให้ผมเบาๆเช่นกัน ผมเดินเรื่อยมาถึงรถ ก็เห็นไอ้กรนั่งเป็นคุณชายอยู่ด้านหลัง... คือนี่กูเป็นคนขับรถของมึงหรือไง
"เป็นไง ทะเลาะกันไหม"โยกหัวหยึกยักกวนตีนกูด้วยจ้า
"ไม่อ่ะ มาขอโทษ"
"โห ไรอ่ะ ไม่มันส์เลย"อินี่ "แต่ก็นะ แสดงว่ามันยังแคร์มึงอยู่"ไอ้กรพูดจบมันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเซลฟี่หน้าตัวเองอย่างหรรษา โดยไม่ได้แคร์สีหน้าเพื่อนมึงเลยสักนิด
กลับถึงบ้าน ผมกับไอ้กรก็พบกับข้าวผัดสัประรดสุดอร่อยของป้าศรีที่ผมกินมาตั้งแต่ตัวเล็กตัวน้อย พอยัดข้าวลงกระเพาะกันเสร็จ เราสามคนอันประกอบด้วย ผม มังกร และป้าศรีสุดที่รัก ก็มาคลุกกันอยู่ในครัว อย่าได้สงสัยว่าพี่พลอยไปไหน พี่พลอยลาไปธุระตอนบ่ายครับ
ในขณะที่ป้าศรีกับไอ้กรกำลังอยู่โหมดแม่บ้านพ่อเรือนกันอยู่นั้น ผมก็มาเฟดตัวมานอนในห้องนั่งเล่นแทน เอาโทรศัพท์ขึ้นมากะจะเล่นเกมส์ แต่ไลน์จากมนุษย์แฟนก็ทำให้ผมต้องกดเข้าไปดู
Proton : ถึงบ้านยัง
'ถึงแล้ว โปรอ่ะ'
ผมพิมพ์ไป ยังไม่ทันจะกดอ่าน ก็เห็นว่าอีกฝ่ายขึ้นรีด แต่รอจนแล้วจนรอด รอจนสามสี่นาทีแล้ว อีกฝ่ายก็ยังไม่ตอบ
'ยุ่งหรอ ถ้ากลับล่ะบอกด้วยน๊า'
กะกดออกละไปนอนสักงีบ แต่ไอ้สิ่งที่ตอบกลับมาก็ทำเอาผมต้องขมวดคิ้ว
Proton : โปรไปห้องน้ำ
Proton : เราส่งรูปในเครื่องโปร แล้วเผลอไปโดน ขอโทษนะคะ
เหมือนทุกอย่างมันสตั้นว่ะ อาจดูงี่เง่า แต่อันนี้ผมไม่ชอบยิ่งกว่าที่เพื่อนมันเกาะหลังอีก
'ครับ'
พิมพ์แค่นั้นผมก็ปิดเครื่องทันที ตอนแรกตั้งใจจะหลับสักงีบเผื่อตื่นมาแล้วอารมณ์ผมจะดีขึ้น แต่เคยไหม หงุดหงิดจนนอนยังไงก็ไม่หลับ
ผมยันตัวลุกจากโซฟา ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปในครัว เห็นไอ้กรกำลังตีแป้งอย่างเหนื่อยอ่อนอยู่ ในขณะที่ป้าศรีกำลังเคี่ยวแยมอยู่บนเตา
"แข็งใจหน่อยค่ะคุณกร เดี๋ยวแป้งไม่ขึ้นมันไม่อร่อยนะ"ป้าศรีบอกยิ้มๆ จนผมต้องยิ้มตามไปด้วย กล้ามขึ้นแน่มึง
"ทำไมป้าไม่ใช้เครื่องตีล่ะครับ"ผมเข้าไปถามป้าศรีเบาๆ
"ใช่เครื่องมันเร็ว เดี๋ยวเธอไม่จำค่ะ"ผมพยักหน้า ก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ไม้ตัวสูงข้างเคาน์เตอร์ครัวที่ไอ้กรเอากะละมังแป้งตั้งไว้
"ตีให้มีจิตวิญญาณหน่อยมึง"ผมบอกมัน
"ให้เปลี่ยนไปตีหน้ามึงแทนไหมล่ะ กูจะได้ใส่จิตวิญญาณลงไปให้เต็มที่"
"เดี๋ยวกูไล่กลับเลยไอ้ห่านี่"
"ล้อเล่นได้ปะเล่า"ไอ้กรยิ้มแฉ่ง ก่อนจะออกแรงตีแป้งอีกครั้ง
ผมนั่งดูไอ้กรกับป้าศรี ก็รู้สึกว่างจนเกินไป เลยลงจากเก้าอี้แล้วไปช่วยทั้งสองคน เหมือนการทำเค้กจะทำทำให้ผมมีความสุขขึ้น เค้กก้อนเล็กๆของผมถูกส่งเข้าเตาอบในขณะที่เรากำลังตีครีมด้วยเครื่องตีท่ามกลางเสียงกรีดร้องของไอ้คนที่ต้องตีแป้งมาร่วมชั่วโมง
เมื่อตัวสปองจ์ออกมาจากเตา ป้าศรีก็มาตัดแต่งสภาพแล้วราดแยมส้มให้เรา รอจนทุกอย่างเซ็ทตัวดีแล้ว ผมกับไอ้กรก็แยกกันแต่งหน้าเค้กกันคนละฟาก
ไอ้กรคงทำไปให้เป็นของฝันวันเกิด ส่วนผมก็คงแด็กเอง เพราะจะเอาให้แฟนผมก็ยังรู้สึกตึงๆกับมันอยู่ หลังจากเก็บเค้กเข้าตู้เย็นผมกลับไอ้กรก็กะว่าจะขึ้นไปอาบน้ำแล้วนั่งอ่านการ์ตูนดูหนังกันตามประสาชายโฉด แต่ยังไม่ทันจะไปไหนไกล ไอ้กรก็เหลือบไปเห็นแกรนเปียโนหลังใหญ่สีขาวสะอาดตาที่ตั้งอยู่ข้างบันได
"มึงเล่นหรอ"ผมได้แต่ส่ายหน้าตอบ
"ของพ่อกู แต่ไม่เห็นเล่นมานานล่ะ"ผมบอก "เล่นได้นะ"ไอ้กรตาเป็นประกาย
"งั้นเล่นนะ"ไม่ทันที่ผมจะตอบ ไอ้คนผอมกว่าผมก็ทิ้งตัวนั่งบนที่นั่ง ก่อนจะจรดนิ้วลงบนแป้น "ถ่ายวีดีโอให้ด้วย เอาแนวตั้ง"มันยื่นโทรศัพท์ที่เปิดกล้องเรียบร้อยแล้วให้ผม
ผมกดเปลี่ยนเป็นถ่ายวีดีโอ นับให้สัญาณมันจบ ถ่วงทำนองเอื่อยๆก็ดังขึ้น ไอ้กรที่ผมมองจากด้านข้างยิ้มน้อยๆ ก่อนจะหันมายิ้มกว้างให้กล้อง ทั้งที่นิ้วมันยังรัวอยู่บนแป้นลิ่มนิ้ว
"I'm not gonna write you a love song... cuz you asked for it... cuz you need one ... you see...I'm not gonna write you to stay... If all you have is leaving... I'm gonna need a better reason to write you a love song... today... today...today"ไอ้กรเปล่งเสียงกังวานออกมา ก่อนจะหยุด "พอล่ะ"หัวเราะนิดๆ ก่อนจะเอื้อมมือมาปิดกล้องแล้วคว้าโทรศัพท์ไป
"โอโห มึงเป็นคุณชายจากวังจุฑาเทพปลอมตัวมาเปล่าวะเนี่ย"ผมยิ้มแซวก่อนจะลงไปนั่งเบียดกับมัน
"คือไร จะบอกว่ากูหล่องี้หรอ"พี่นี่เบ้ปากเลยจ้า
"แล้วมึงเล่นเป็นปะ"ผมส่ายหัว
"โหย เสียดายของ มากูสอน"มันคว้ามือผมไปวางไว้บนแป้น ก่อนจะค่อยๆกดนิ้วผมลงไป
"แข็งทื่อเชียวไอ้สัด เดี๋ยวกดนิ้วตามกู"
ผมกับไอ้กรนั่งเล่นนั่งสอนกันราวชั่วโมง ผมก็เริ่มจะกดได้ท่อนครึ่งท่อน ไอ้ชิบหายยากจังล่ะ แล้วนิ้วกูนี่จะทื่อไปไหน
"twinkle twinkle litle star..."ไอ้กรร้องช้าๆ ผมก็กดตาม "ร้องด้วยสิไอ้สาดดดดด"ไอ้กรหันมาว่า
"twinkle twinkle litle star... อะไรต่อวะ"ผมงง
"how i wonder what you are ไง"
"ไม่ใช่ กูหมายความว่ากดไงต่อ"
"อ้าวเรอะ"ไอ้กรหัวเราะ ก่อนจะกดให้ผมดู
ผมนั่งเล่นกันไปสักพักก็ได้ยินเสียงรถ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคิดว่าเป็นรถพ่อ อีกอย่างไม่ค่อยได้สนใจด้วย เพราะผมมัวแต่สนุกกับการลองอะไรแปลกใหม่ ถ้ารู้ว่าสนุกแบบนี้นะ ผมยอมเรียนตั้งแต่เด็กๆล่ะ
"แล้วท่อนต่อไป มึงเอามือวางแบบนี้"ไอ้กรจับมือผมวาง แล้วเล่นแบบนี้ มันกดนำให้ดู
"อ่อ"
"ไม่ๆ นิ้วกลางก่อน"มันจัดระเบียบนิ้วมือผทอีกครั้ง
แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เล่นท่อนต่อไป เสียงทุ้มๆที่รู้สึกเสียวสันหลังอย่างประหลาดก็เรียกให้ทั้งผมและไอ้กรหันไปมอง
"ซี..."ผมกระพริบตาปริบๆเมื่อเห็นมนุษย์แฟนยืนหน้าแดงก่ำอยู่ที่ประตู "ทำไมปล่อยให้แบตหมด"โปรเดินเข้ามาใกล้ ผมก็ลุกขึ้นเดินไปหา
"อ๋อ..."จะบอกยังไงดีวะ ในเมื่อกูจริงใจปิดเอง
"ช่างเถอะ"โปรผ่อนลมหายใจเข้าออกเหมือนกำลังระงับอารมณ์อยู่ "แล้วกินข้าวยัง"
"แล้ว โปรล่ะ"ผมถามกลับ ไอ้อารมณ์กรุ่นๆก่อนหน้านี้มันเหมือนดีขึ้น
"ซี กูไปอาบน้ำก่อนนะ"ผมหันไปพยักหน้าให้ไอ้กร ก่อนจะดึงแฟนตัวเองไปคุยต่อในห้องนั่งเล่น
"เอาน้ำไหมเดี๋ยวเราไปเอาให้"ผมถาม เพราะดูเหมือนอีกคนเหนื่อยๆ
"ไม่ต้อง กูแค่หงุดหงิด"
"..."ผมเลยนั่งเงียบๆแทน
"พูดตรงๆเลยนะ กูไม่ชอบให้มึงเล่นกับเพื่อนแบบนั้น ถึงจะไม่มีอะไร แต่กูไม่ชอบ"โปรพูดออกมา
"ที่เล่นเปียโนกับไอ้กรเมื่อกี้อ่ะนะ"
"อือ"โปรครางตอบเบาๆ "กูไม่ชอบที่ตัวเองขี้หึงเลยว่ะ"
"...."ผมเอื้อมมือไปจับมือโปรเอาไว้"ไว้ทีหลังเราจะระวังๆนะ"ผมยิ้ม
"แล้วทำไมอยู่ดีๆถึงอยากเล่นเปียโน ปีชาติไม่เห็นมึงจะสนใจ"
"มังกรมันอยากสอนน่ะ แล้วเราก็ก็เครียดๆเลยลองเล่นดู"
"มึงชอบ?"
"ก็สนุกดี"ผมบอกออกไป อีกคนก็ฉุดมือผมให้ลุกขึ้น ก่อนจะพาเดินกลับไปที่เปียโน
"ถ้ามึงจะเล่นเดี๋ยวกูสอนให้เอง"ผมรู้สึกกดดันแปลกๆ "อยากเล่นเพลงอะไร"
"เราเหนื่อยแล้วอ่ะ เราฟังโปรเล่นดีกว่า"ผมบอกแล้วยิ้ม ถึงผมจะมีความสุขที่ได้อยู่กัแฟน แต่อารมณ์ขุ่นมัวก่อนหน้านี้มันก็ยังอยู่
อยากถามว่าทำไมต้องให้คนอื่นเล่นโทรศัพท์ แต่นั่นมันก็สิทธิ์ของโปร แต่โธ่โว้ยยย กูก็หงุดหงิด
"ก็ได้อยากฟังเพลงอะไร"
"ตามใจโปรเลย"เดี๋ยวกูเลือกไม่ถูกใจมึงก็ไม่เล่นอยู่ดี กูรู้ กูจำได้
โปรตอนจรดนิ้วลงบนแป้น ท่วงทำนองช้าๆดังกังวานออกมา เนื้อเพลงที่ผมไม่รู้จักฟังไม่ออกค่อยๆออกมาจากริมฝีปากบาง ถึงโปรตอนจะไม่ได้เสียดีเท่ามังกร แต่สำหรับผมมันเพราะมากนะ และผมก็ชอบมาก ถึงจะฟังไม่รู้เรื่องก็เถอะ
"มายเลิฟ ซารังแฮโย ซารังโย..."คือมันร้องยาวกว่านี้ แต่ผมฟังทันแค่นี้ "ซี"โปรยกนิ้วออกจากแป้น แล้วกุมมือผมแทน
"ไรหรอ"
"กูรู้ว่ากูเป็นแฟนที่แย่ ดูแลมึงก็ไม่ดี แต่กูก็อยากให้มึงอยู่กับกู"โปรบีบมือผมเบาๆ "กูเห็นแก่ตัวเนอะ"
"เราเห็นแก่ตัวกว่าอีก ทั้งที่เราไม่ได้ดีอะไร แต่เราก็อยากให้โปรรักเรามากๆ... เราโลภเนอะ"ผมแค่ไม่อยากให้แฟนผมเศร้า
"มึงดี แต่กูแม่งแย่ เรื่องโทรศัพท์อีก มึงโอเคไหม"
"เราโอเค แต่ถ้าทำได้ ที่หลังใส่รหัสไลน์เถอะ บางเรื่องที่คุย มันก็มีจังไรเนอะ อายเค้า"ผมบอก โปรก็หัวเราะออกมา "โปรกินเค้กส้มไหม เราทำเอง"ผมบอกอย่างหน้าด้าน
ซอสป้าศรีก็ทำ ตัวเค้กไอ้กรก็ตี ส่วนผมนี่แค่เทใส่พิมพ์เอง ยังมีหน้ามาบอกทำ กูนี่ยอมใจตัวเองเลย
"กินได้?"
"ป้าศรีสอนเว้ย กินได้อยู่แล้ว"
"แล้วไป"
ผมพาโปรตอนมาที่ครัว ยกเค้กออกมาจากตู้เย็นก่อนจะตัดวางบนจานแล้วเอามาเสิร์พคนที่นั่งรออยู่ ผมเทน้ำแร่ใส่แก้ว ถึงจะคนละยี่ห้อ แต่คิดว่าคงดื่มได้แหละ
โปรตอนซัดเค้กไปสองชิ้น ผมก็ผัดข้าวให้มันอีกจาน ก่อนจะส่งอีกคนที่หน้าบ้าน GTR สีเหลืองทะยานออกสู่ถนน ผมยืนโบกมือจนรถลับตายตาไป ก็เดินเข้ามาในบ้าน
เดินขึ้นมาบนห้อง ก็เห็นมังกรนอนอ่านการ์ตูนที่มันหอบมาด้วยอยู่บนเตียง ผมหยิบเสื้อผ้าเข้าไปในห้องน้ำ แล้วเริ่มอาบน้ำ ผมรู้สึกดีที่ได้เจอแฟนนะ แต่จะว่าสุขมันก็ไม่สุดว่ะ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรเหมือนกัน
ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลยว่ะ แต่จะให้แก้ตรงไหน ปรับตรงไหน ผมก็ไม่รู้ เพราะขนาดว่าผมเป็นห่าอะไร ผมก็ยังไม่รู้เลย... อนิจจา ชีวิตกู
---
แปะก่อน เขียดเผลอหลับ อีกครึ่งมาอ่านตอนเช้านะ เค้าจะลงให้ก่อนเที่ยง มาแก้เด้อ หกโมงเช้าเขียดไม่ทันเพราะมันมีงานอื่นมาแทรก อย่าเพิ่งหงุดหงิดว่าอินี่ขยันมีงานมาแทรกเวลาเขียนนิยายจัง คือจะอธิบายก่อนเนอะว่าก่อนเขียนนิยายอ่ะ เขียดต้องรับผิดชอบหน้าที่การเรียนให้หมดก่อน
ซึ่งมันก็ไม่เคยหมดเลย สลัด
กล่าวอ้างถึงนิยาย
1. อาจขัดใจตัวละคร อย่างที่เขียดเคยบอก คาแรคเตอร์ซีนั้น นางซีค่อนข้างไม่ชอบปัญหา ไม่ชอบการเข้าสังคมเท่าไหร่ ความมั่นใจในตัวไม่ได้มีมากมาย ดังนั้นลึกๆนางรู้สึกว่านางสู้คนอื่นไม่ได้ นางมีความระแวง แต่นางก็ไม่อยากพูด เพราะนางไม่อยากให้มีปัญหาแคลงใจอะไรกัน
2. ตัวโปรนั้น นางเป็นตัวร้ายที่คุณเขียดรักนะ นางไม่ใช่พระเอกที่เพอร์เฟ็คหรือเจ้าชายของนางซินอยู่แล้ว โปรตอนถูกเลี้ยงมาแบบสปอยด์ ดังนั้นนางจะมั่นใจมั่นหน้าสูงมาก นางมีความเป็นเด็กห้าขวบอยู่ในตัวเสมอค่ะ คือยังติดเพื่อน ติดเล่น และจินตนาการล้มๆแล้งๆว่าแฟนกูเข้าใจทุกสิ่ง
3. ณ.จุดนี้ เขียดเขียนให้โปรตอนมีความคิดความอ่านด้านสังคมสูงกว่าซีค่ะ แต่ด้านความสำพันธ์ของชีวิตคู่นี่ต่ำตมมาก ถ้าถามว่าโปรมึงไม่รู้เลยหรอ เขียดว่าโปรรู้ว่าแฟนมีเรื่องไม่สบายใจ แต่นางยังมีความเป็นเด็กห้าขวบไง นางยังจัดการแก้ไขอะไรไม่ได้ดีเท่าที่ควร
4. เขียดเชื่อว่าความรักคือการที่เราต้องเรียนรู้และปรัไปเรื่อยๆ เหมือนหนังสือเรียน ในเลคเชอร์เรามีแพทเทิร์นที่แน่นอนว่าต้องเป็นแบบนี้แบบนี้ แต่พอเราลงแล็บจริงๆเราจะรู้ว่ามันมีปัญหายิบย่อยที่เราต้องใช้เทคนิคเฉพาะตัวในการแก้ปัญหาไป
5. ขอบคุ๊ณที่อ่านกันนะคะ รู้สึกปลื้มปริ่ม ไม่รู้แต่งดีจนคนอิน หรือกากจนคนอ่านหงุดหงิด แต่คิดว่าอินละกันเว้ย
ว่างๆก็กดบวกให้เค้าด้วยความเอ็นดูด้วยน๊า