เมื่อเวลาเที่ยงมาถึง น้ำพานภเกตน์มานั่งด้วยกันที่โต๊ะอาหารประจำซึ่งปกติแล้วจะมีเพียงแค่น้ำและกลุ่มเพื่อนของเขา ชายหนุ่มรู้ดีว่าเมฆจะต้องมารอพบตนที่นี่แน่ๆ เนื่องจากอีกฝ่ายโทรศัพท์มาหลายต่อหลายครั้ง เขาชำเลืองมองโทรศัพท์มือถือที่วางไว้บนโต๊ะข้างตัวแล้วอมยิ้ม
ขณะที่นั่งรอให้เพื่อนๆ ของน้ำไปซื้ออาหารมาให้ นภเกตน์หันไปเห็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของคนที่นั่งอยู่ข้างกัน เขาจึงใช้ข้อศอกสะกิดเบาๆ “นี่! อย่าแกล้งเขาเพลินล่ะ เดี๋ยวก็โดนโกรธจริงๆ หรอก”
“อีกนิดนะพี่นภ แล้วเดี๋ยวผมจะรีบไปเคลียร์ ถ้าไม่ทำแบบนี้เขาก็ไม่รู้สึกหรอกว่าผม...”
“หึง?”
น้ำส่งสายตาขุ่นๆ ใส่อีกฝ่าย “...ไม่ชอบครับ ที่เขาไปสนิทกับพี่ตฤณ”
“หึงก็บอกว่าหึง ผมยังยอมรับตัวเองเลยว่าหึงน่ะ”
“พี่นภ พี่ตฤณงอนจนลุกหนีไปแล้วนะ”
“หือ?” นภเกตน์รีบหันไปมองโต๊ะที่อยู่ข้างๆ ซึ่งตอนแรกตฤณกับวิศวกรคนอื่นๆ นั่งรวมกันอยู่ที่นั่น แต่ตอนนี้เหลือเพียงแค่โต๊ะเปล่าๆ “อ้าว ได้กินอะไรบ้างรึยังเนี่ย” เขาเปรยเสียงเบา
“เป็นห่วงเหรอครับ” คราวนี้น้ำแกล้งนภเกตน์คืนบ้าง “พี่ตฤณหึงหนักมากเลยนะเนี่ย วันนี้จะทำงานได้มั้ย”
“คุณตฤณเขาแยกแยะได้ เวลาทำงานเขาจริงจังมากนะ”
“แล้วพี่นภสบายใจขึ้นบ้างรึยังครับ”
เจ้าของชื่อเรียกยิ้มบาง “ก็นิดหน่อย มันอาจจะไม่ดีนัก แต่ผมดีใจที่เห็นเขาหึง”
น้ำตบมือลงบนแขนเรียวเบาๆ เขาเข้าใจความรู้สึกของนภเกตน์ดี เพราะการที่ได้เห็นคนที่เรารักแสดงออกว่ารักและแคร์เรามากๆ นั้น ทำให้รู้สึกมั่นใจในความสัมพันธ์มากขึ้น บางทีเขาเองก็ควรจะแสดงออกกับเมฆให้มากกว่านี้เช่นกัน
“น้ำ สงสัยว่าเมฆจะมาแล้วล่ะ ยืนอยู่ตรงนั้นน่ะ” นภเกตน์โน้มเข้าไปกระซิบ เขาจำหน้าตาของเมฆไม่ค่อยได้เพราะเคยเห็นแต่จากที่ไกลๆ ทว่าท่าทางของเด็กหนุ่มบ่งบอกชัดเจน ก็เล่นยืนจังก้า จ้องมาที่โต๊ะด้วยสายตาพิฆาตแบบนั้น
น้ำพยักหน้า เขายกมือขึ้นโอบไหล่นภเกตน์พร้อมโน้มใบหน้าเข้าหา สักพักจึงทำเป็นหันมองไปทางที่เมฆยืนอยู่ เขาอมยิ้มแล้วโบกมือให้เด็กหนุ่ม ทำเหมือนว่าสิ่งที่เขาทำอยู่เป็นเรื่องปกติ
ในขณะเดียวกัน เพื่อนๆ ของน้ำก็ถือจานใส่อาหารหลายต่อหลายจานเข้ามาเสิร์ฟตามคำสั่งของเพื่อนรัก พวกเขาจึงเริ่มต้นรับประทานอาหารกัน
สำหรับน้ำแล้ว ไม่ยากนักที่จะปลุกปั่นเพื่อนของตนให้ตื่นเต้นไปกับผู้มาเยือนด้วย แล้วโพรไฟล์ของนภเกตน์ก็ใช่ย่อยเสียที่ไหน หลังจากได้แนะนำอีกฝ่ายให้ทุกคนรู้จักแล้ว ทั้งโต๊ะก็ส่งเสียงฮือฮากันไม่หยุดหย่อน
“พี่นภจบตรีกับโทวิศวะสื่อสารจากมหาลัยโคลัมเบีย เจ๋งมั้ยล่ะพวกมึง” น้ำแนะนำสรรพคุณของแขกคนพิเศษกับเพื่อนรักในโต๊ะ
“โอ้โห พี่นภเก่งเว่อร์ๆ ที่นั่นมันเข้ายากมากเลยนี่นา” ตั้งใจยื่นมือออกไปขอเชคแฮนด์ “ขอผมจับมือหน่อยนะ”
“ผมจับด้วย โห... เรียนเป็นภาษาอังกฤษหมดเลยด้วยสินะครับ”
นภเกตน์หัวเราะ พร้อมกับส่งมือให้อย่างเป็นมิตร “มันก็ไม่ได้ยากอะไรหรอก ผมเรียนที่เมกามาตั้งแต่เด็กแล้ว”
“แต่พี่นภพูดไทยชัดมากมาย สุดยอด”
“แรกๆ ก็ลำบากนิดหน่อย แต่ลูกน้องผม...”
“โอ้โหหหหห~ มีลูกน้องด้วยอ้ะ”
เสียงดังโวยวายลั่นไปทั่วบริเวณ ได้ยินไปถึงโต๊ะที่เด็กหนุ่มนั่งอยู่กับเพื่อนๆ เมฆใช้ช้อนในมือเขี่ยอาหารในจานไปมา ตักใส่ปากบ้างหากไม่รับรู้ถึงรสชาติของอาหารเลยแม้แต่น้อย เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาส่งข้อความไปหารุ่นพี่ต่างคณะหลายๆ ครั้ง
“พี่น้ำอยู่กับใครเหรอ ทำไมผมไม่เคยเห็นมาก่อน”
“พี่น้ำ ตอบผมหน่อยสิ”
“พี่น้ำ...”
โทรศัพท์มือถือของน้ำปิดเสียงไว้ แต่หน้าจอก็สว่างวาบทุกครั้งที่มีข้อความเข้า
“ได้ผลแล้วใช่มั้ย” นภเกตน์เอ่ยถาม พลางหัวเราะเบาๆ “เร็วเหมือนกันนะเนี่ย รีบตอบเขาไปสิ”
น้ำส่ายหน้าไปมา “รออีกสักพักดีกว่า”
“คนใจร้าย”
“พี่นภก็ใจร้ายกับพี่ตฤณเหมือนกันนั่นแหละ”
“ผมว่าเมฆคงเกลียดผมแล้วแน่ๆ” นภเกตน์ถอนหายใจ
“เมฆไม่เคยเกลียดใครหรอกครับ เขาเป็นเด็กดีจะตายไป” คนอ่อนวัยกว่ายิ้มบาง เขารอจนหมดเวลาพักเที่ยงไปแล้ว พอไปส่งนภเกตน์ที่ห้องประชุมเรียบร้อยจึงค่อยส่งข้อความไปบอกกับเด็กหนุ่มเพื่อนัดให้ไปเจอกันที่โรงยิมในตอนบ่าย
TBC~*โอ้โหหหหห เอามาลงเร็วมากกก ขอเสียงตบมือหน่อยค่ะ กรี๊ดดดด 
อย่าเพิ่งด่าพี่น้ำกันเลย 5555555555555 ถ้าจะด่าก็ขอให้ด่าพี่ตฤณค่า กร๊ากกก (ตฤณงงหนักมากว่าเกี่ยวอะไร)
เดี๋ยวตอนหน้าจะเป็นวันลอยกระทงแล้วล่ะ ฮัสกี้จะลงพร้อมกับตอนจบของ "ยังเบลอ" ด้วยนะคะ พบกันใหม่อาทิตย์หน้าค่า
ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม จุ๊ฟฟฟ 