เหนือเมฆ [บทที่ 55 : เหนือเมฆ (จบ)][p.80][260716]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เหนือเมฆ [บทที่ 55 : เหนือเมฆ (จบ)][p.80][260716]  (อ่าน 806454 ครั้ง)

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
น้ำจับเมฆกดเลยเหอะน้องมันจะได้ไม่ต้องคิดมากหึหึ

 :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เป็นตอนที่ฮามาก

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
เราว่าพี่น้ำกดไปเลยค่ะเราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาลุ้น5555

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
พี่ตฤณนี่แลเชียร์น้ำรุกอยู่ตลอด แหม    ^○^

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
5555  คู่รักมือใหม่แน่ใจแล้วเหรอเรื่องที่ปรึกษาพี่แกก็เอาตัวเองไม่ค่อยจะรอดเลยนะได้ข่าว

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
จะเชียร์ใครดีเนี่ย
ตัดสินใจยังไม่ได้ 5555

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
เสือก็คือเสือ  ถึงจะสวมหนังแมว แต่ลายของเสือน้ำก็โผล่ให้เห็นตลอด






น้องเมฆ ไปปรึกษาพี่ตฤณ เรื่องจับกด






แต่พี่ ตฤณ กลับสอน เรื่อง กล้วย และเทคนิค อมกล้วย มันคือ อารายยยยยยยย






องค์ความรู้ที่สอนน้องมันไปนี่ มันจะรอด คืนนี้ใหม พี่น้ำจะอดทนใหวใหม ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
เสือยังไงก้อเป็นเสือ เนอะ ! :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ไม่รู้จะขำหรือสงสารพี่ตฤณดี  :laugh:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
แต่ละคน แต่ละคน
อยู่ในช่วงสอบกันนะ แตาดูเรื่องที่คุยกันอย่างจิงจังสิ 555555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ลั่นมากกกกก

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
555 พี่ตฤณ น่าสงสาร

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
น้องเมฆเทคนิคแบบพี่ตฤณนี่จะได้กดตอนไหนกันหว่า

ออฟไลน์ NuTonKaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เมฆก็พร้อมรุกพี่น้ำยิ่งพร้อมกว่า ฮา :hao7: :hao7: o13

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ MissMay

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี่ตฤณเป็นคนตลก55555
ส่วนน้องเมฆจ๊ะ เลี้ยงเสือไว้ใกล้ตัวยังไม่รู้ตัวอีก
ระวังนะ รู้ตัวอีกทีก็เสร็จพี่น้ำละ :hao6:

ออฟไลน์ AdLy

  • ไม่ได้ Korea Fever แค่รัก ดงบังและเอสเจ เท่านั้น
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 555
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
พี่ตฤนแม่งพลาดละ 55555555
ที่หลวมตัวผัวผัว(?) คู่นี้

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ขำแรงทั้งตอนเลยจริงๆ อ่านแล้วสงสารพี่ตฤนตงิดๆที่โดนปรึกษาทั้งพี่น้ำทั้งเมฆเลย
พี่น้ำแกก็ไม่อยากให้น้องกลัว ไอ้ตัวน้องก็ซื่อบื้อเรี่ยราด คือจะได้กันมั้ยเนี่ย?555555

ออฟไลน์ newone

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณ Husky น่ารักซำเหมอแหละค่ะ ยิ่งลงเรื่องนี้ต่อเนื่องยิ่งน่ารัก 5555555
สนุกฮา อีกแล้วนะคะ เมฆกะน้ำก็ใจตรงกันนะแต่แบบยังจูนไม่ติดเนอะ
เรารอได้ รีบตัดสินใจเร็วๆนะก๊ะ รอเชียร์นะเมฆนะ :-[
อ้อ เมฆน้ำจงเจริญค่าาาาาาาาาาาา :L2:

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
ท่านที่ปรึกษาตฤณ ฮ่าๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 39 : ปลาหิมะ


บ่ายของวันเสาร์ซึ่งอากาศไม่ได้สดใสเท่าไรนัก ท้องฟ้าดูหมองหม่นมีเมฆสีเทาดำลอยต่ำ สายฝนโปรยปรายลงมาตั้งแต่เมื่อตอนเที่ยง อากาศเย็นสบายชวนให้ง่วงเหงาหาวนอน บรรยากาศภายในมหาวิทยาลัยออกจะดูเงียบเหงาไปสักหน่อย เพราะนักศึกษาส่วนใหญ่เก็บตัวกันอยู่ในห้องพัก ยกเว้นก็แต่ที่ใต้ตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ซึ่งมีนักศึกษาจากทั้งปีหนึ่งจนถึงปีสี่นั่งรวมกันอยู่หลายคน เสียงพูดคุยกันดึงอื้ออึง

เมฆนั่งอยู่กับกลุ่มนักศึกษาปีหนึ่งที่จะเข้าร่วมในค่ายอาสาครั้งนี้ ส่วนเพื่อนรักอีกสองคนไม่อยู่ที่นั่นด้วย แหนมไปประชุมกับหัวหน้าภาคทั้งในรุ่นเดียวกันและปีอื่นๆ ส่วนตำลึงเมื่อเช้าที่บ้านมารับไปรับประทานมื้อเที่ยงด้วยกันในโรงแรมสุดหรูริมหาดพัทยา เห็นว่าจะกลับมาตอนบ่ายสามพอดี บนโต๊ะข้างหน้าเขามีถุงใส่มะยมที่ซื้อมาจากโรงอาหาร เด็กหนุ่มหยิบใส่ปากแล้วใช้ลิ้นเดาะไปมาอยู่ในปากตามที่ได้ร่ำเรียนมา บางทีก็ใช้ลิ้นพลิกไปพลิกมาบ้าง แต่เมื่อรับประทานไปเยอะๆ เข้าความเปรี้ยวก็ทำให้รู้สึกแสบลิ้น เขาจึงคายทิ้ง “เฮ้อ เมื่อไหร่ไอ้ตำลึงจะมาซะทีวะ”

“หายใจทิ้งใหญ่เลยนะมึง” ตำลึงร้องทักขณะที่วิ่งเข้าไปหาตรงที่เมฆนั่งอยู่ เนื้อตัวเขาเปียกฝนเล็กน้อย “แดกมะยมอีกแล้ว มึงแพ้ท้องรึไงเนี่ย”

เมฆเงยหน้าขึ้น “อ้าว มาแล้วเหรอมึง ที่บ้านพาไปแดกไรมาล่ะ” ...เพิ่งจะนึกถึงก็มาเลย ตายยากฉิบหาย 

“บุพเฟต์อาหารทะเล หรูมาก กูแดกปลาหิมะไปเยอะมาก น่าจะเป็นโลเลย อิ่มโคตรๆ สะใจชะมัด”

“คุ้มเลยสิมึง”

“เออดิ ญาติกูเลี้ยง เขาบอกเต็มที่ กูก็เลยเต็มที่ แล้วยังสั่งใส่ห่อแยกมาไว้กินต่อมื้อเย็นด้วย เอามาเผื่อพวกมึงด้วยนะ”

“เออ ดีๆ”

แหนมเพิ่งประชุมเสร็จพอดี เขาจึงเดินเข้ามาสมทบพร้อมกับบอกเล่าถึงการประชุมให้เพื่อนๆ ที่นั่งรอกันอยู่ฟัง

“สรุปว่าเป็นค่ายอาสาช่วงสั้นๆ แค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น ไม่ใช่โครงการใหญ่เหมือนตอนปิดเทอมใหญ่อะ แบ่งออกเป็นสิบกลุ่ม กลุ่มละไม่เกินยี่สิบคน ใครสนใจจะเข้าร่วมก็ให้ไปลงชื่อไว้ แล้วก็แยกย้ายเอาของไปแจกกันไปตามโรงเรียนในชนบท แต่ละโรงเรียนที่จะไปมีโครงการไม่เหมือนกัน มีให้ไปช่วยทาสี ช่วยทำแปลงปลูกผัก บางที่ก็ไปติดคอมพิวเตอร์หรือตั้งเครื่องกรองน้ำไรงี้ แล้วก็ขอให้หาอะไรไปสอนและเล่นกับเด็กๆ หนึ่งวัน”

“กลุ่มละไม่เกินยี่สิบคน จะดูแลเด็กไหวเหรอวะ” หนึ่งในกลุ่มปีหนึ่งถามขึ้น

“นักเรียนทั้งโรงเรียนมีมากสุดสี่สิบหรือห้าสิบคนเองว่ะ มีห้องเรียนแค่ไม่กี่ห้อง บางโรงเรียนก็มีที่ให้นอนในโรงเรียน บางแห่งก็ต้องไปอาศัยชาวบ้านนอน นอกจากนี้ทางคณะก็กำลังช่วยกันหาสปอนเซอร์กับเงินทุนด้วย แต่ก็มีงบส่วนหนึ่งที่ได้มาจากงานลอยกระทงแล้ว เดี๋ยวพวกมึงก็เลือกดูเอาว่าถ้าจะไป จะไปกับกลุ่มไหน แล้วก็ลงชื่อไว้ซะ พวกพี่ๆ เขาจัดกลุ่มไว้แล้ว”

หลังจากบอกรายละเอียดกับกลุ่มปีหนึ่งที่สนใจจะเข้าร่วมค่ายอาสาครั้งนี้แล้ว แหนมจึงเดินไปนั่งลงข้างๆ เพื่อนรักทั้งสอง

“กลุ่มของพี่ตั้งใจจะไปโรงเรียนวัดในหมู่บ้านชาวประมงที่สุราษฎร์ เห็นพี่เขาว่าใส่ชื่อกูกับพวกมึงไว้แล้ว”

ตำลึงเอ่ยอย่างตื่นเต้น “โห สุราษฎร์ฯ เลยเหรอมึง หอยใหญ่ ไข่แดง เปิดโลกทัศน์สุด เกิดมากูยังไม่เคยลงใต้เลย”

“อือ แต่พวกพี่ตั้งใจยังไม่เห็นมาเลยว่ะ ไอ้เมฆ มึงว่าเอาไงดี จะไปตามหาพวกพี่เขา...” แต่พอสองหนุ่มหันไปทางเพื่อนรัก อีกฝ่ายกลับเอาแต่นั่งมองเหม่อ “ไอ้ห่าเมฆ มึงฟังอยู่เปล่าวะ นั่งนับน้ำหยดจากหลังคาอยู่รึไง”

“โทษที เมื่อคืนอ่านหนังสือดึก กูง่วง”

เสียงประธานรุ่นปีสี่ดังขึ้นแทรก เพื่อบอกกล่าวให้ทุกคนแยกย้ายไปประชุมกันตามกลุ่ม ทั้งสามจึงลุกขึ้นแล้วหันมองไปรอบๆ

“กลุ่มพี่ตั้งใจไม่อยู่จริงๆ นะ”

“คนอื่นในกลุ่มมีใครบ้างวะ บางทีพี่เขาอาจจะติดธุระเลยให้ใครมาแทน”

ขณะที่สามหนุ่มกำลังหมุนเป็นแมวติดจั่นก็มีเสียงคุ้นเคยดังขึ้น

“ไอ้เมฆ มึงหมุนหาอะไรวะ ทางนี้ๆ”

เมฆหันขวับไปทางต้นเสียง เขาหรี่ตามองคนเรียกแล้วขมวดคิ้ว “ใครวะ” แต่ก็หันไปสะกิดเพื่อนทั้งสองให้เดินเข้าไปหา

ที่ตรงโต๊ะตัวนั้นมีรุ่นพี่นั่งอยู่สิบสองคนแล้ว มีรุ่นพี่ปีสองสามคน เป็นชายสอง ทอมหนึ่ง ปีสามสี่คน เป็นตุ๊ดบึกบึนหนึ่ง ชายหนึ่ง ทอมอีกสอง ล้วนแต่มาจากภาคเครื่องกลทั้งหมด ส่วนที่เหลืออีกห้าคน พวกเขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน

“ทำไมมึงทำหน้าแปลกๆ แบบนั้นวะ”

เสียงเหมือนพี่ตั้งใจกับพี่ๆ ในกลุ่มเพื่อนของพี่น้ำ แต่หน้าตาไม่ใช่ เมฆยกมือขึ้นชี้อย่างไม่มั่นใจนัก “เอ่อ... พี่ตั้งใจเหรอครับ”

“เอ๊า จำกูไม่ได้ซะอีก” ตั้งใจหัวเราะ

พวกรุ่นพี่คนอื่นในโต๊ะเอ่ยแซว “ประชุมเชียร์จบไปแล้ว พี่ว้ากตกน้ำในงานลอยกระทงก็จบไปแล้ว พวกพี่ตั้งใจก็ตัดผมโกนหนวดน่ะสิโว้ย”

“เป็นไงล่ะ บอยแบนด์มั้ยล่ะค้า” มดดำ อดีตพี่ว้ากปีสามเจ้าเก่าก็อยู่ในกลุ่มด้วย

ไข่ย้อยชี้ไปที่มดดำ “แล้วจำได้มั้ยนี่ใคร”

ปีหนึ่งทั้งสามคนพยักหน้ารัว “จำได้ครับ พี่มดดำ”

“ทำไมพวกมึงจำพวกกูไม่ได้ แต่จำอีมดดำได้เนี่ย”

“โห ก็พี่มดดำเขามีเอกลักษณ์” ตำลึงตอบแทนให้ “แต่พวกพี่อะ จากลุงแอ๊ดคาราบาวมาเป็นเจมส์จิ ใครจำได้ก็บ้าแล้ว!”

“แหม! ทำเป็นปากดี พวกกูไม่หลงคารมพวกมึงหรอก” พูดไปเช่นนั้นแต่ก็ยิ้มปากบานจนเกือบถึงใบหู

ไม่นานการประชุมตระเตรียมการสำหรับค่ายอาสาในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก็เริ่มขึ้น พวกเขาแบ่งแยกหน้าที่กันพร้อมกับนัดวันประชุมกันอีกสัปดาห์ละครั้ง ยกเว้นสัปดาห์ก่อนสอบไฟนอลกับช่วงปิดเทอม ซึ่งทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้าน และจะกลับมารวมตัวกันก่อนวันออกค่ายสองวัน

เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมแล้ว กลุ่มของเมฆไปรวมตัวกันที่ห้องของแหนมเพื่อจัดการกับมื้อเย็น หลังจากนั้นจึงไปหาที่เงียบๆ สำหรับอ่านหนังสือไว้เตรียมสอบกัน แม้จะยังเหลือเวลาอีกเป็นเดือนก่อนจะสอบปลายภาค แต่พวกเขามีเวลาว่างไม่มากสักเท่าไหร่ เนื่องจากยังต้องแบ่งเวลาให้กับกิจกรรมต่างๆ อีกด้วย ดังนั้นเมื่อมีเวลาก็อยากที่จะตักตวงทำแบบฝึกหัดไว้ให้พร้อมที่สุด และสำหรับเมฆแล้ว พรุ่งนี้เขาจะได้ไปเดตอย่างสบายๆ ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง

ขณะที่กำลังอ่านหนังสือกัน ตำลึงเริ่มนั่งบิดตัวไปมา แล้วเอาก้นไถไปกับม้านั่งตัวที่เขานั่งอยู่ด้วยกันกับเมฆ

เด็กหนุ่มตวัดสายตาขึ้นมอง “พยาธิไชตูดเหรอวะไอ้เหี้ย”

“กูไปห้องน้ำแป๊บ เดี๋ยวมา” ตำลึงลุกขึ้นพรวดแล้ววิ่งออกไปทันที สักพักก็เดินขาถ่างกลับมา

“มึงเป็นอะไร”

“เปล่า” ตำลึงตอบเสียงแผ่ว ทว่าสีหน้าดูไม่สู้ดีนัก เขาชำเลืองมองเพื่อนรักทั้งสองพลางยิ้มแหยๆ “ไม่มีอะไรจริงๆ”

“มึงทำหน้าเหมือนไปโดนใครข่มขืนในส้วมมา”

คนถูกกล่าวหาขึงตาใส่ “ไอ้พวกห่า ปากเสีย อ่านหนังสือต่อไปได้แล้ว!”

“คนเป็นห่วงก็ว่า”

“กูไม่ได้เป็นอะไร”

เมื่ออีกฝ่ายยืนยันเช่นนั้น เมฆกับแหนมจึงไม่ได้คะยั้นคะยอถามอะไรอีก หลังจากอ่านหนังสือกันจนดึกดื่น เกือบถึงเวลาหอปิดแล้ว พวกเขาจึงแยกย้ายกันกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง


ในตอนเช้าของวันใหม่ ท้องฟ้าสดใสราวกับเป็นใจให้กับทั้งสองหนุ่มที่นัดกันไว้ในวันนี้

“เฮ้อ...” ถึงนี่จะเป็นการเดตครั้งที่สองแล้ว แต่เขาก็สงบจิตสงบใจไม่ได้เลย

เมฆตื่นแต่เช้ามาอาบน้ำแต่งตัวเสริมหล่อ วันนี้จะไปเดตกันในห้าง ไปดูหนัง เพราะงั้นข้างในคงจะเย็นๆ พอให้แต่งตัวได้หล่อหน่อย แต่หลังจากเลือกเสื้อผ้าอยู่นานก็มาจบลงที่เสื้อผ้าแบบเดิมๆ

อนิจจา หนุ่มวิศวะเช่นเขาราวกับถูกสาปให้ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนและรองเท้าผ้าใบแล้วดูเท่ที่สุด

เมื่อใกล้ถึงเวลานัดเขาก็ลงไปรอรุ่นพี่ที่ชั้นล่าง ทว่ารองเท้ายังไม่ทันได้แตะบันไดขั้นสุดท้ายก็มีข้อความเข้ามาในโทรศัพท์มือถือ บอกว่ารถมาจอดรออยู่ที่ตรงทางเท้าตรงด้านหน้าหอแล้ว เด็กหนุ่มแทบจะกระโดดแผล็วออกไปที่นั่น

เมฆวิ่งตรงไปที่รถ BMW คันที่เขาคุ้นตา พอเปิดประตูขึ้นไปนั่งก็ได้กลิ่นน้ำหอมบางเบาจากรุ่นพี่ ซึ่งวันนี้ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนเหมือนกัน แต่ทำไมพี่น้ำใส่แล้วดูไฮโซกว่าเขาเยอะจังวะ?

“สวัสดีครับพี่...”

แต่เดี๋ยว...

นัยน์ตาสีนิลเหลือบไปเห็นสร้อยห้อยจี้เกียร์ที่บนลำคอของชายหนุ่ม ในสายตาของเขา ราวกับมันเปล่งประกายได้ เด็กหนุ่มยิ้มกว้างออกมาทันที “พี่น้ำใส่เกียร์ผมด้วย”

เจ้าของชื่อยิ้มรับ “เอาไว้หลอกคนอื่นว่าพี่เป็นเด็กวิดวะไง”

“โธ่! พี่น้ำอะ”

“คาดเข็มขัดก่อน” น้ำเอื้อมมือไปตบลงบนตักของคนที่นั่งอยู่ข้างกัน ก่อนจะเคลื่อนรถออกไปช้าๆ 

พอรถยนต์คันหรูแล่นออกไปพ้นเขตมหาวิทยาลัยไปเล็กน้อย เด็กหนุ่มก็หันไปชวนเจ้าของรถพูดคุย “ตกลงพี่น้ำอยากเป็นเด็กวิดวะเหรอ”

“ก็... คงงั้นมั้ง”

“หรืออยากเป็นเด็กของเด็กวิดวะอะคร้าบ” เมฆยื่นหน้าเข้าไปกะลิ้มกะเหลี่ย

ชายหนุ่มแทบจะหลุดหัวเราะพรืด หากก็พยายามทำหน้านิ่ง แล้วยิ้มแค่ตรงมุมปากเท่านั้น “ไม่รู้สิ”

เสียงโทรศัพท์มือถือของเมฆดังขึ้นขัดการสนทนา เด็กหนุ่มขมวดคิ้วอย่างงุนงง ก็ใครกันล่ะจะโทรมาในช่วงเช้าวันอาทิตย์แบบนี้

“หือ ไอ้แหนม” พอเขากดรับสาย คนที่อยู่ปลายสายก็ตะโกนเสียงดัง

“ไอ้เมฆโว้ย ไอ้ตำลึงแย่แล้วมึงงง~”

ขณะที่แหนมโวยวายก็มีเสียงอื้ออึงดังอยู่ทางด้านหลัง จนทำให้เมฆแทบจะฟังเพื่อนไม่รู้เรื่อง

“อะไรวะ เกิดอะไรขึ้น!”

“$§%&/=*+#$%&”

“กูฟังไม่รู้เรื่องโว้ย”

น้ำเห็นท่าไม่ค่อยดี เขาหันไปมองสีหน้าของเด็กหนุ่มอยู่หลายครั้ง ก่อนจะเบี่ยงรถเข้าจอดข้างทาง “กลับไปดูเพื่อนก่อนมั้ย”

เมฆขมวดคิ้ว “เดี๋ยวผมลองถามดูให้รู้เรื่องก่อนดีกว่า” แล้วจึงพยายามเงี่ยหูฟังคำพูดจากปลายสาย “มึงหาที่เงียบๆ คุยก่อนได้มั้ยวะ”

สักพักเสียงทางด้านหลังก็เบาบางลง หากมีเสียงหอบหายใจของแหนมเข้ามาแทนที่ “ตอนนี้กูออกมาข้างนอกห้องแล้ว โอย กูจะบ้า!”

“เกิดอะไรขึ้นมึง”

“คือว่าเมื่อเช้าเว้ย ไอ้ตำลึงมันตื่นมาแล้วก็ตีโพยตีพาย มันบอกว่ามันไปเข้าส้วมแล้วมีน้ำสีขาวๆ ขุ่นๆ ไหลออกมาจากตูดมัน มันคิดว่ามีใครมาลักหลับมันเมื่อคืนว่ะ”

“ฮะ!?” เด็กหนุ่มอ้าปากค้าง “ใครจะลักหลับแม่งวะ!”

“แม่งก็โวยวายใส่เมตมันใหญ่เลยเว้ย แทบจะเล่นมวยกันเลยอะ แต่ทุกคนก็ยืนยันว่าไม่ได้พิศวาสตูดแม่งแน่ๆ กูก็เห็นด้วยนะ ขนยึ่บออกจะขนาดนั้น”

“เวรกรรม แล้วมันทำไรอยู่วะตอนนี้”

“แม่งนอนร้องไห้ซุกอยู่ในผ้าห่ม กูไม่รู้จะทำยังไงกับแม่งแล้วเนี่ย”

เมฆชักจะเป็นห่วงเพื่อนหนักขึ้น เขาหันไปประสานสายตากับรุ่นพี่ ถึงแม้เขาจะตั้งหน้าตั้งตารอคอยการเดตนี้มานานเต็มที หากในเวลาที่เพื่อนรักลำบากก็ไม่อาจทอดทิ้งกันไปได้

น้ำยิ้มบางอย่างรู้ใจ “กลับไปมหาลัยกันก่อนนะ เผื่อมีอะไรที่เราจะช่วยได้”

“ขอโทษนะครับ”

“ไม่เป็นไรน่ะ” รุ่นพี่เอื้อมมืออกไปตบลงบนตักของเด็กหนุ่มเบาๆ

น้ำเคลื่อนรถออกไปช้าๆ เพื่อหาจุดที่เขาพอจะกลับรถได้ จากนั้นก็มุ่งหน้ากลับไปยังมหาวิทยาลัยที่เพิ่งจากมา

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เมฆรีบกดรับสาย “ว่าไงวะ”

“มึง...” ปลายสายอ้ำอึ้ง แต่ก็มีเสียงหลายคนแข่งกันพูดอยู่ทางด้านหลังจนฟังไม่ได้ศัพท์ “ไอ้พวกเหี้ย เงียบๆ ก่อน” เขาหันไปดุ ก่อนจะพูดเสียงอ่อย “ไอ้เมฆ ใกล้ถึงรึยังวะ”

“ใกล้แล้ว พี่น้ำเพิ่งกลับรถได้แป๊บเดียวมึงก็โทรมาเนี่ย”

“แวะซื้อผ้าอนามัยด้วยสิ”

“ฮะ!”

“ไอ้ตำลึงมันบอกว่า ไอ้น้ำขาวๆ อะ แม่งไหลออกมาจากตูดมันไม่หยุดเลยมึง คงต้องเอาผ้าอนามัยมารองไว้ก่อน”

เมฆเลิกคิ้วขึ้น “เหี้ยแล้ว อาการแบบนี้มันควรจะไปหาหมอมั้ย”

“กูก็รอมึงมาดูอาการมันเนี่ย”

“กูไม่ใช่หมอนะมึง”

“กูรู้ แต่มึง มันไม่ฟังใครเลย มึงมาช่วยกูกล่อมมันทีเถอะ มันเอาแต่นอนซุกผ้าห่ม อากาศก็ร้อนจะตายห่า”

“เออๆ กูจะรีบไป” เมฆตอบรับพร้อมกับหันไปหาคนที่ขับรถอยู่ “พี่น้ำครับ แวะเซเว่นหน่อยนะ”

“ได้สิ ข้างหน้ามีพอดีเลย” เจ้าของรถเคลื่อนรถเข้าไปจอดเทียบทางเท้าด้านหน้าร้าน โดยให้เด็กหนุ่มวิ่งลงไปซื้อของที่จำเป็น พออีกฝ่ายกลับมาที่รถแล้วจึงรีบเดินทางต่อ


เมื่อกลับมาถึงหอพัก เมฆและน้ำก็ตรงไปยังหอห้าซึ่งเป็นหอพักของตำลึง บานประตูห้องของอีกฝ่ายเปิดกว้าง รูมเมตทั้งสามยังอยู่ที่นั่น พวกเขาเดินเข้าเดินออกกันขวักไขว่ เมื่อคนหนึ่งหันมาเจอกับเมฆก็ถลาเข้ามาหา

“ไอ้เมฆ มาดูใจเพื่อนมึงหน่อยเร็ว”

เมฆเลิกคิ้วขึ้น แล้วปราดเข้าไปภายในห้องทันที โดยที่มีรุ่นพี่ต่างคณะคนดังเดินตามไปติดๆ “ไอ้แหนม! ไอ้ตำลึง!”

แหนมนั่งอยู่บนพื้น เกาะอยู่ข้างเตียงของตำลึง “ไอ้เมฆ! ไอ้ตำลึงแม่งแย่แล้ว”

“ไอ้ตำลึง มึงเป็นอะไร” เมฆเอื้อมมือไปแตะคนที่ซุกอยู่ในผ้าห่ม “ปวดท้องมั้ยวะ อาการเป็นยังไงบ้าง”

ไม่มีเสียงตอบมาจากคนถูกถาม “.....”

“ไอ้ตำลึง!” เมฆขึ้นเสียง “มึงอยากเป็นผีตูดรั่วตายอยู่ที่หอเรอะ โผล่หัวมึงออกมาเดี๋ยวนี้” แถมยังฟาดลงไปบนกองผ้าห่มอย่างไม่เบามือนัก

ตำลึงสะดุ้งเฮือก เพราะไม่บ่อยครั้งนักที่เมฆจะแสดงอาการโกรธเกรี้ยวเช่นนี้ เขาโผล่ศีรษะออกมาจากกองผ้าห่มช้าๆ ใบหน้าที่ซีดเผือดมีเม็ดเหงื่อเกาะเต็มไปหมด “ท้องไม่ปวด แต่... แต่เมื่อกี้ กูไปขี้มา แล้ว...”

“แล้วทำไม”

“มันออกมาเป็นสีขาว แล้วมันเยิ้มเลย เหมือนเป็นก้อนน้ำมัน แล้วก็มีเมือก...”

“แล้วยังมีอะไรไหลออกมาจากตูดอยู่มั้ยวะ”

“มันก็... เยิ้มๆ บ้าง...”

เมฆส่งถุงพลาสติกที่มีตราของร้านสะดวกซื้อให้ “ก่อนอื่นเลย มึงเอานี่ไปใส่ก่อน จะได้ไม่เลอะเทอะ”

ตำลึงรับถุงมาแล้วขมวดคิ้ว แต่ก็ยังไม่ยอมลุกขึ้นจากเตียง “.....”

“รีบไปสิวะ จะนั่งรอให้มันไหลออกมาเลอะเตียงรึไง!”

“เออๆ แล้วมันใส่ยังไงล่ะวะ”

“ก็แกะพลาสติกออก แล้วเอาตรงกาวแปะกับกางเกงในมึงไง อย่าเสือกแปะผิดด้านล่ะ” แหนมเสนอหน้าเข้าไปช่วยสอน พลางดึงแขนเพื่อนรักขึ้น “ไปๆ กูพยุงมึงไปเอง เร็วๆ”

“หยิบกางเกงในตัวใหม่ให้กูด้วย”

รุ่นพี่ต่างคณะคนดังยืนดูลาดเลาอยู่ห่างๆ ในตอนแรก พอแหนมพาตำลึงออกจากห้องไปแล้วเขาจึงพูดขึ้น “พี่ว่าควรจะพาตำลึงไปหาหมอนะ ดูท่าทางไม่ดีเลย”

“ผมก็อยากให้มันไปหาหมอเหมือนกัน”

พอเห็นสีหน้าสลดของรุ่นน้องแล้วก็สงสาร เขาเดินเข้าไปลูบศีรษะเด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยน “เดี๋ยวพี่พาไปเอง”

เมฆพยักหน้าหงึกหงัก “ครับ”


หลังจากที่ตำลึงเดินขาถ่างกลับมาจากห้องส้วมแล้ว เขาจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่ารุ่นพี่คนดังอยู่ภายในห้องตนเองด้วย วินาทีนี้อายจนไม่รู้จะมุดดินหนีไปไหนแล้ว ใครต่อใครก็คงรู้เรื่องของเขาหมดแล้วสิวะเนี่ย

“พี่น้ำ” ตำลึงทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

น้ำทำหน้านิ่ง เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกอับอายมากไปกว่านี้ “เดินไหวใช่มั้ย ไปเถอะ ไปหาหมอกัน เดี๋ยวผมจะเอารถมารับที่หน้าหอ”

“คือผม...”

“เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเตรียมบัตรนักศึกษาไว้ด้วย แล้วเมฆกับแหนมรีบพาเพื่อนลงมาข้างล่างนะ” รุ่นพี่พูดเสียงขรึม จากนั้นจึงเดินออกจากห้องไป

“ไอ้เมฆ กูขอโทษ” ตำลึงหันไปทางเจ้าของชื่อ “มึงมีนัดกับพี่เขาใช่มั้ย”

เมฆตบไหล่เพื่อนรักเบาๆ “ไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมากน่ะ พี่เขาก็ห่วงมึงเหมือนกัน” ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหาเสื้อผ้ามาให้อีกฝ่ายเปลี่ยน “เร็วเข้าเถอะ หาหมอก่อนดีที่สุด”

แหนมหันไปคว้ากระเป๋าเป้ของตำลึง เปิดดูกระเป๋าสตางค์ว่ามีบัตรที่สำคัญอยู่ครบแล้วจึงเอาห่อผ้าอนามัยยัดใส่ไว้ด้วย เสร็จแล้วก็ปราดเข้าไปช่วยเมฆประคองตำลึงออกจากห้องไป

โชคดีของตำลึงที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยอยู่ใกล้ๆ ทว่ายังไม่ทันที่พวกเขาจะไปถึง ตำลึงซึ่งนั่งอยู่ที่เบาะหลังก็เริ่มบิดตัวไปมาอย่างกระสับกระส่าย

“เป็นอะไรวะ จะขี้แตกเหรอ” แหนมหันไปถาม เล่นเอาเจ้าของรถสะดุ้งเฮือก

น้ำชำเลืองมองในกระจกมองหลัง “จะแวะเข้าห้องน้ำก่อนมั้ย”

“เปล่า... เปล่าครับพี่ คือมันเย็น... เย็นมากด้วย”

“แอร์เย็นไปเหรอ”

“เปล่าครับ เย็นที่ตูดผมนี่แหละ เย็นจนแสบไข่นิดหน่อยแล้วด้วย”

เมฆหันขวับไปหาเพื่อนรัก “เหอ!? ทำไมถึงเย็นวะ เย็นยังไง วูบๆ วาบๆ หรือหวิวๆ”

“เย็นแบบ... เหมือนทาแป้งเย็นเลยมึง” ตำลึงเริ่มหน้าซีด นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันวะเนี่ย

แหนมขมวดคิ้ว แต่แล้วก็ฉุกใจนึกขึ้นมาได้ เขาเอื้อมมือไปหยิบเป้มาเปิดออก แล้วรื้อหาถุงพลาสติกที่ใส่ผ้าอนามัยออกมาดู “โซฟี... cooling fresh”

ตำลึงเหงื่อตก ทั้งที่ลมจากเครื่องปรับอากาศในรถก็ออกจะเย็นสบาย “ไอ้เมฆ มึงซื้อผ้าอนามัยอะไรมาให้กูวะ มี cooling fresh ด้วยเนี่ย!”

“ฮะ!? กู... กูก็ไม่รู้ กูบอกคนขายว่าให้หยิบผ้าอนามัยมาให้หน่อย แบบไหนก็ได้ พี่คนขายบอกแบบนี้อะกำลังฮิตสุด”

“ใช่แบบเย็นๆ ที่เขาพูดถึงกันรึเปล่าวะ” แหนมเอ่ยขึ้น

“ฉิบหายแล้ว” ตำลึงครางหงิง

น้ำส่ายหน้าไปมา สงสารรุ่นน้องก็สงสาร ขำก็ขำ แต่จะหัวเราะออกมาคงจะไม่ดีนัก เขาพยามยามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ “อีกเดี๋ยวก็ถึงแล้วล่ะ อดทนหน่อยนะ”

ใช้เวลาเพียงไม่กี่อึดใจ รถยนต์คันหรูก็เคลื่อนเข้าไปจอดเทียบที่ด้านหน้าโรงพยาบาล น้ำบอกให้เด็กหนุ่มทั้งสามลงจากรถไปก่อน ส่วนตัวเขาจะนำรถไปจอด แล้วจะรีบตามไป

ชายหนุ่มขับรถวนหาที่จอดอยู่สักพัก เมื่อจอดได้แล้วจึงรีบรุดเข้าไปในโรงพยาบาล เขาหยุดถามที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ แล้วรีบรุดไปยังแผนกอายุรกรรมซึ่งกลุ่มของเมฆอยู่ที่นั่น

แหนมกับเมฆนั่งจ๋องอยู่บนเก้าอี้ที่ด้านหน้าห้องตรวจ สีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนักเพราะเป็นห่วงเพื่อน พวกเขากำลังปรึกษากันว่าควรจะโทรศัพท์ไปบอกที่บ้านของตำลึงดีหรือไม่

น้ำก้าวเข้าไปยืนเคียงข้างเมฆ ลูบศีรษะเบาๆ อย่างต้องการปลอบประโลมแล้วจึงนั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่างข้างๆ กัน

“พี่น้ำ” เด็กหนุ่มคว้ามือของรุ่นพี่ไว้ เขาลืมนึกถึงอีกคนที่กำลังจ้องมองเขาอย่างสาปแช่งอยู่ไปเสียสนิท

แหนมนึกอยากจะลุกหนีไปให้พ้นๆ จะเข้าห้องตรวจไปพร้อมกับไอ้ตำลึงด้วยก็กลัวว่าจะเห็นภาพที่ทำให้เขารับประทานอะไรไม่ลงยิ่งกว่าไอ้เมฆสวีตกับแฟนมัน เขาจึงเบือนหน้าไปมองพยาบาลตรงเคาน์เตอร์ของแผนกอายุรแพทย์แทน ถึงจะไม่เห็นแล้วแต่หูเจ้ากรรมก็ยังได้ยินอยู่ดี

“ถึงมือหมอแล้วตำลึงไม่เป็นอะไรหรอก” น้ำบอกกับเด็กหนุ่มพร้อมกับบีบมืออีกฝ่าย

“พี่น้ำว่าผมควรจะโทรบอกที่บ้านมันดีมั้ย”

“ไม่ได้ฉุกเฉินอะไรไม่ใช่เหรอ งั้นก็รอผลการตรวจก่อนสิ แล้วเดี๋ยวให้เจ้าตัวเขาโทรเองดีกว่า ถ้าเมฆเป็นคนโทรเดี๋ยวที่บ้านเขาจะตกใจว่าเป็นหนักจนโทรเองไม่ได้นะ”

“จริงด้วย... เฮ้อ... ไม่รู้ไอ้ตำลึงมันไปทำอะไรมานะครับ”

ไม่ทันขาดคำบานประตูห้องตรวจก็เปิดออกกว้าง ตำลึงก้าวออกมาช้าๆ พร้อมยิ้มแหยๆ

แหนมถลาเข้าไปช่วยประคอง “เป็นไงบ้างวะมึง”

“ไม่เป็นไร”

เมฆรีบเข้าไปช่วยประคองอีกข้าง “ต้องไปเอายาอะไรมั้ยวะ”

ตำลึงส่ายหน้า “ไม่ต้องว่ะ”

“อ้าว” เพื่อนรักทั้งสองขมวดคิ้วอย่างงุนงง ก่อนจะพาอีกฝ่ายไปนั่งลงด้วยกัน “หมอว่าไงวะ มึงเป็นอะไร”

“คือ...” ตำลึงหัวเราะแหะๆ เขาเหลือบมองรุ่นพี่ต่างคณะแล้วยกมือขึ้นลูบท้ายทอยอย่างเขินๆ “คือว่าเมื่อวานอะ กูแดกปลาหิมะไปเยอะมาก แดกตั้งแต่เที่ยงยันบ่ายกว่าๆ แล้วมื้อเย็นก็ยังเอามาแดกกับพวกมึงอีกไง”

“เออๆ กูจำได้”

“คือปลาหิมะอะ มันอยู่ในน้ำลึกแล้วก็เย็นมากๆ ใช่ป่ะ ไขมันแม่งก็เลยเยอะมากไง”

แหนมเริ่มจะเข้าใจ “อ้อ แล้วมึงก็ตะบี้ตะบันทั้งแดกทั้งยัดเข้าไป”

“เออ หมอบอกว่า เพราะแดกเข้าไปเยอะมาก น้ำมันส่วนเกินเลยถูกขับออกมา เดี๋ยวร่างกายขับออกหมดก็หายเอง”

“ไอ้เหี้ยยยย!!” สองหนุ่มหลุดปากด่าเสียงดัง จากนั้นจึงรีบยกมือขึ้นปิดปากไว้

เมฆชำเลืองมองเคาน์เตอร์นางพยาบาลซึ่งหันขวับมาทางพวกเขาแล้วส่งสายตาดุๆ ให้ “ไอ้ห่า มึงแดกไปเยอะขนาดไหนวะถึงตูดรั่วเลยเนี่ย”

“ก็เยอะ... เยอะมากๆ ไอ้เหี้ย ปลาแม่งแพง แล้วของฟรี กูก็เลยแดกห่า...” ตำลึงหันไปทางรุ่นพี่ต่างคณะซึ่งได้แต่อมยิ้มแบบปลงๆ “ขอโทษที่ทำให้เดือดร้อนนะครับพี่”

“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ได้เจ็บป่วยอะไรก็ดีแล้ว” น้ำยิ้มบาง “ถ้างั้นจะไปหาอะไรกินตอนเที่ยงด้วยกันเลยมั้ย”

เพื่อนรักทั้งสองของเมฆส่ายหน้ารัวอย่างรู้หน้าที่ “ไม่ดีกว่าครับ ขอบคุณพี่น้ำมาก แค่นี้ก็รบกวนพี่มากแล้ว”

“เมื่อคืนผมนอนไม่หลับเลย ขอกลับไปนอนดีกว่า”

“ผมก็เหนื่อยเพราะมันเนี่ยแหละ” แหนมชี้ไปทางตัวต้นเหตุของความวุ่นวายทั้งหมดนี้ “พี่กับเมฆไปกันเถอะครับ”

“ก็ตามใจ งั้นเดี๋ยวผมไปส่งที่หอนะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วเราก็ไปกันเถอะ” น้ำลุกขึ้นเดินนำออกไป โดยมีสามหนุ่มเดินตามหลังไปติดๆ

“มึงยังใส่ผ้าอนามัยอยู่ป่าววะ” แหนมกระซิบถาม

“เอาออกไปแล้ว ทั้งหมอทั้งพี่พยาบาลแม่ง หัวเราะกันแบบไม่เกรงใจกูเลย”

“แล้วไข่มึงล่ะ”

“เออ หมอก็จับพลิกๆ ดูแล้ว มีผื่นแดงๆ นิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรมาก” ตำลึงเล่าพลางหันไปประสานสายตากับเมฆ เขาทำท่าอึกอัก ชำเลืองมองรุ่นพี่ที่เดินนำอยู่ข้างหน้าแล้วโน้มเข้าไปกระซิบ “ไอ้เมฆ กูมีเรื่องสำคัญต้องคุยกับมึง แต่เอาไว้วันหลังนะ”

“หือ มีเรื่องอะไรวะ บอกเลยไม่ได้เหรอ”

“ไม่ได้ กูต้องทำใจก่อน”

เมฆขมวดคิ้ว “ถึงขนาดต้องทำใจเลย” 

ตำลึงค้อนขวับ “เออสิวะ”

“แล้วเสือกบอกให้กูอยากรู้ตอนนี้ทำไมวะ”

“กูกลัวลืม มึงเตือนกูด้วยแล้วกัน”

“อะไรของมึงเนี่ย เออๆ” เด็กหนุ่มพยักหน้าอย่างงงๆ เขาจ้องมองใบหน้าเพื่อนอย่างสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรอีก


(มีต่อค่า)

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


กว่าจะพาเพื่อนของเมฆไปส่งที่หอเสร็จก็เลยเวลาเที่ยงไปแล้วนิดหน่อย หากน้ำกับเมฆตกลงกันว่าจะไปหาอะไรรับประทานกันในห้างก่อน และหลังจากนั้นค่อยไปดูหนังกันต่อ

ในตอนบ่ายของวันอาทิตย์เช่นนี้ภายในห้างมีคนมาเดินกันหนาแน่น เป็นพวกเป็นคู่รักหรือครอบครัวเสียส่วนใหญ่ ตามร้านอาหารมีคนนั่งเต็มเกือบทุกร้าน ส่วนน้ำกับเมฆก็ไม่ได้รับประทานอะไรมาตั้งแต่เช้า ด้วยความหิว ประกอบกับที่ขี้เกียจรอคิว พวกเขาจึงตกลงกันว่าจะรับประทานพวกฟาสฟู้ดเป็นอาหารกลางวัน

“พี่น้ำนั่งรอที่โต๊ะนะครับ เดี๋ยวผมไปซื้ออะไรมาให้กิน”

“โอเค” น้ำยัดธนบัตรใส่ในมือรุ่นน้อง “เดี๋ยวพี่จะจองตั๋วหนังให้”

เมฆไม่ยอมรับเงินจากอีกฝ่าย “ไม่เอาครับ พี่น้ำไปหาที่นั่งจองตั๋วหนังเถอะ”

น้ำไม่อยากขัดใจเด็กหนุ่ม เขาจึงพยักหน้ารับแล้วเดินไปหาโต๊ะว่าง “เอางั้นก็ได้”

ชายหนุ่มเดินไปนั่งลงตรงโต๊ะที่ว่างโดยไม่ได้สนใจโต๊ะข้างๆ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ตโฟนขึ้นมากดเปิดเว็บไซต์ของโรงภาพยนตร์เพื่อจัดการจองที่นั่ง ขณะที่กำลังจะกดจองนั้นก็มีเสียงของใครบอกคนเรียกชื่อเขา

“น้ำ น้ำนี่นา”

เจ้าของชื่อเรียกเงยหน้าขึ้นแล้วหันไปทางต้นเสียง เขาหรี่ตามองใบหน้าของหญิงสาวซึ่งนั่งอยู่กับเพื่อนหญิงด้วยกันอีกสองสามคน แต่เขาดันจำเธอไม่ได้... ใครกันวะ?

“จำหญิงไม่ได้แล้วเหรอ”

จะว่าไป... ก็คุ้นๆ ว่าตอนอยู่ปีหนึ่งเคยคบกับคนชื่อหญิงอยู่สามคน “.....” น้ำจ้องมองเธอนิ่ง พยายามนึกย้อนกลับไปว่าเธอคือหญิงเบอร์ไหน

“จำไม่ได้ก็ไม่แปลกหรอก หญิงสวยขึ้นใช่มั้ยล่า” เธอยิ้มกว้าง “ไม่ได้เจอกันนาน น้ำเป็นยังไงบ้างอะ”

ชายหนุ่มตอบโดยที่ไม่ได้เงยหน้า “อือ ก็ดี”

“หญิงก็สบายดีน้า นี่... มีคนมาทักหญิงว่าหน้าสวยเหมือนสาวเกาหลีด้วยล่ะ น้ำคิดว่าไง”

“อือฮึ... ก็คงงั้น” ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกหงักไปตามเรื่อง เขาฝืนยิ้มตอบแล้วก้มลงกดจองตั๋วภาพยนตร์ให้เสร็จ แต่พอเงยหน้าขึ้นอีกครั้งก็พบว่าเธอถือวิสาสะมานั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ เขาแล้ว หนำซ้ำยังหนีบกระเป๋าหนังพร้อมกับยกแก้วกาแฟมาดื่มด้วยเสร็จสรรพ “เอ่อ ขอโทษนะ คือผมไม่ได้มาคนเดียว”

“อ้าวเหรอ ไม่เป็นไรนะ หญิงก็ไม่ได้มาคนเดียวเหมือนกัน” เธอชี้ไปที่โต๊ะของเธอซึ่งมีหญิงสาววัยเดียวนั่งอยู่อีกสามคนพลางหัวเราะคิก “น้ำมากับใครอะ”

“มากับผมเองครับ” เสียงตอบจากคนที่ถือถาดใส่อาหารมาวางลงบนโต๊ะ เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง “เพื่อนเหรอครับพี่น้ำ”

“เปล่า คนเคยรู้จักน่ะ” น้ำตอบเสียงเรียบ

หญิงสาวค้อนขวับใส่ชายหนุ่ม ก่อนจะหันไปหาคนที่เดินเข้ามาสมทบ ในตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะแกล้งตัดพ้อต่อว่าน้ำให้เพื่อนของเขาฟังเสียหน่อย แต่พอเห็นใบหน้าของเมฆเข้าก็เลิกคิ้วขึ้น เธอรีบปรับสีหน้าให้เป็นมิตรพร้อมยิ้มหวาน “โอ้ สวัสดีค่ะ”

“สวัสดีครับ”

“เพื่อนของน้ำเหรอคะ ทำไมไม่เคยเห็นหน้าเลย”

“ผมเป็นรุ่นน้องพี่น้ำครับ”

“ชื่ออะไรเอ่ย”

“ชื่อเมฆครับ”

“น่ารักจังเลย ไม่ยักรู้ว่าน้ำมีรุ่นน้องน่ารักแบบนี้อะ”

ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก แล้วถามออกไปเสียงเรียบ “รู้แล้วจะทำไมเหรอ”

“ก็...” หญิงสาวชะงัก เธอยังจำสีหน้านิ่งเฉยกับน้ำเสียงแบบนี้ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเมื่อครั้งที่เธอบอกรักเขา หรือเมื่อตอนที่บอกเลิกกันอีกฝ่ายก็ทำหน้านิ่งเช่นนี้ พอเห็นแล้วก็ยังคงรู้สึกเจ็บแปลบเฉกเช่นในวันเก่า “น้ำไม่เปลี่ยนไปเลยนะ” เธอตอบพลางพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ

“ทำไมผมจะต้องเปลี่ยนด้วยล่ะ” น้ำถามสวนกลับไปทันควัน คราวนี้น้ำเสียงของเขาขรึมขึ้นอีกเล็กน้อย นัยน์ตาดูว่างเปล่า และรอยยิ้มน้อยๆ ตรงมุมปากนั้นก็ได้จางหายไปแล้ว “เพื่อนคุณรออยู่ที่โต๊ะนะ”

หญิงสาวรู้ดีถึงความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดเหล่านั้น เธอยิ้มบาง “หญิงดีใจนะที่ได้เจอน้ำอีก” จากนั้นเธอจึงลุกขึ้น เดินกลับไปที่โต๊ะก่อนที่อีกฝ่ายจะเอ่ยปากไล่ออกมาอย่างชัดเจน

เมฆจ้องสีหน้าและท่าทางของทั้งสองเขม็ง ไม่ต้องเดาให้ยากก็พอจะรู้ว่าพวกเขาเคยมีความสัมพันธ์กันแบบไหนมาก่อน

ในตอนแรกที่เห็นรุ่นพี่นั่งอยู่กับเธอที่โต๊ะตามลำพังก็นึกว่าเป็นแค่คนรู้จักกันเข้ามาคุยธุระหรือไม่ก็มาหาดาวน์ไลน์ แต่พอรู้เธอเป็นใครก็ออกจะโมโหเสียด้วยซ้ำ ทว่าเมื่อได้เห็นท่าทีที่น้ำมีต่อเธอแล้ว เขากลับรู้สึกเจ็บในหัวใจชอบกล


ภายในร้านอาหารมีผู้คนเนืองแน่น เสียงพูดคุยปะปนกับเสียงหัวเราะดังลั่นจากทุกมุม ยกเว้นที่โต๊ะซึ่งเมฆกับน้ำนั่งอยู่ด้วยกัน ชายหนุ่มนั่งนิ่งราวกับตุ๊กตาหิน ไม่สบสายตากับเมฆเลยแม้แต่น้อย เขาเบือนหน้ามองผ่านผนังกระจกออกไปทางด้านนอกร้าน

เด็กหนุ่มยิ้มเจื่อนๆ “พี่น้ำครับ กินกันเถอะ เดี๋ยวเย็นหมดนะ”

น้ำหันหน้ากลับมาช้าๆ “อืม” แล้วหยิบแฮมเบอร์เกอร์ในถาดขึ้นมารับประทานไปอย่างเงียบเชียบ

เมฆพยายามทำตัวให้เป็นปกติ แต่เวลานี้ควรจะพูดอะไรก็ยังนึกไม่ออก เขาจึงก้มหน้าก้มตาจัดการกับอาหารในถาดไปเรื่อยๆ สลับเหลือบมองคนที่นั่งอยู่ด้วยกันบ้าง

“มีอะไรจะถามก็ถามมาเถอะ”

“ทำไมถึงเลิกกันอะครับ” เด็กหนุ่มถามเสียงเรียบ พลางหยิบเฟรนช์ฟรายส์ใส่ปาก

ท่าทางของเมฆทำให้รุ่นพี่แปลกใจเล็กน้อย เขายิ้มบาง “คราวนี้ไม่หึงพี่เหรอ”

“ผิดหวังเหรอครับ”

“ก็นิดหน่อย”

เมฆประสานสายตากับดวงตาเรียว ซึ่งในยามที่อีกฝ่ายมองเขานี่ แตกต่างไปจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง แบบนี้เขาก็ไม่ควรจะหึงงี่เง่าให้รุ่นพี่คิดมากหรอกใช่ไหม “เอาจริงๆ นะ ตอนแรกที่เห็นเขามานั่งกับพี่น้ำอะ ผมนึกว่าเขามาขายตรง...”

น้ำแทบจะพ่นแฮมเบอร์เกอร์ออกจากปาก เขารีบเคี้ยวแล้วกลืนลงคอจนสำลัก “แคกๆ” จากนั้นก็หัวเราะจนน้ำตาไหล

“อ้าว พี่น้ำ เป็นอะไรครับเนี่ย” เด็กหนุ่มถลาเข้าไปช่วยลูบหลังให้ เขาขมวดคิ้วอย่างงุนงงที่อีกฝ่ายมีท่าทีเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังเท้าได้แบบนี้ เมื่อกี้ยังนั่งทำหน้าบูดบึ้งอยู่เลย

“นึกได้นะว่าเขามาขายตรง”

“ก็ท่าให้นี่ครับ ถือแก้วกาแฟแล้วก็หนีบกระเป๋าเปียแชร์มาด้วย แล้วยังบอกว่าชีวิตดี๊ดีงั้นงี้ ผมเห็นพี่น้ำนั่งทำหน้าเครียดๆ ก็นึกว่าเพราะเขาตื๊อให้เป็นดาวน์ไลน์ ผมถึงได้รีบเสนอหน้าเข้าไปขัดจังหวะ...” ยิ่งเด็กหนุ่มอธิบาย อีกฝ่ายก็ยิ่งหัวเราะไม่หยุด เขาไม่เคยเห็นพี่น้ำหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังขนาดนี้เลยนะเนี่ย “แต่พอรู้ว่าเขาเป็นแฟนเก่าพี่น้ำก็หึงนิดหน่อยอะครับ”

“สรุปว่าก็หึง”

“หึงสิครับ ใครเข้าใกล้พี่น้ำผมก็หึงหมดแหละ” เด็กหนุ่มตอบไปตามตรง

น้ำเอื้อมมือไปลูบศีรษะรุ่นน้อง นัยน์ตาเรียวอ่อนแสงลงและฉายแววอ่อนโยน อีกครั้งที่นึกขึ้นได้ว่าที่ตัวเขาสามารถยิ้มและหัวเราะได้อย่างเป็นธรรมชาติเช่นนี้ก็เพราะเด็กหนุ่มนี่ล่ะ

สำหรับตัวเขาแล้ว เมฆเป็นคนแรกที่สามารถเปลี่ยนความคิดและความรู้สึกเขาได้แบบนี้

“ที่เลิกกันก็คงเพราะพี่ผิดเองล่ะมั้ง พอคบกันไปสักพักแล้วเห็นว่าเข้ากันไม่ได้เราก็ห่างๆ กันไป พี่เห็นว่าเขาไปไหนมาไหนกับคนอื่นบ่อยๆ ก็เลยนึกว่าเราเลิกกันแล้ว พี่เลยไปคบกับคนอื่นบ้าง แต่พอเขาเห็นแบบนั้นก็เลยมาบอกเลิก”

เมฆอ้าปากค้าง ไม่อยากจะเชื่อว่าว่ารุ่นพี่ในอดีตจะเป็นคนที่เคยใจร้ายแบบนี้ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจสักเท่าไหร่ เพราะดูจากสีหน้าของหญิงสาวแล้ว นั่นคงเป็นประสบการณ์ที่เธอยังคงลืมไม่ลง “.......” เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก

“ตอนปีหนึ่งพี่ทำอะไรไม่ค่อยคิด แต่ตอนนี้ไม่เป็นแบบนั้นแล้วล่ะ”

“งั้น... งั้นเหรอครับ” เมฆจ้องมองเข้าไปในดวงตารูปเมล็ดอัลมอนด์คู่สวยซึ่งทำให้เขาเชื่อว่าอีกฝ่ายหมายความอย่างที่พูดจริงๆ เขาผ่อนลมหายใจออกยาว แม้จะสบายใจขึ้นแต่ก็ยังรู้สึกหน่วงๆ แปลกๆ ในอก

“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ” น้ำยิ้มบาง พลางหยิกแก้มเด็กหนุ่มเบาๆ “เดี๋ยวเอาไว้หลังสอบเสร็จ ช่วงปีใหม่นี้เราไปเที่ยวกันดีมั้ย ไปหาที่เคาท์ดาวน์กันดีกว่าเนอะ”

“เอ๋! ไปสิครับ!”

“เมฆอยากไปเที่ยวไหน”

เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง “อยากพาพี่น้ำไปบ้านผม แล้วเราไปเคาน์ดาวน์กันบนภูทับเบิกดีมั้ยพี่ อากาศต้องกำลังดีมากแน่ๆ ชวนไอ้แหนมกับไอ้ตำลึงไปช่วยทำอาหารด้วย”

“อื้ม ก็น่าสนุกดีนะ เดี๋ยวพี่จะลองชวนพวกไอ้ตั้งใจดูด้วย เห็นพวกมันว่าอยากไปเที่ยวไหนก่อนไปค่ายอาสาเหมือนกัน”

“พวกพี่ตั้งใจคงเบื่อหน้าพวกผมแย่ เจอกันทั้งเปิดเทอมปิดเทอม”

พอเห็นเมฆอารมณ์ดีขึ้นแล้วเขาก็โล่งใจ “รีบกินให้อิ่มเถอะ เดี๋ยวต้องไปเอาตั๋วหนังก่อนด้วย”

เด็กหนุ่มพยักหน้าหงึกหงัก “ครับ”

พวกเขานั่งจัดการกับอาหารไปอีกสักพัก เสร็จแล้วจึงลุกขึ้นนำถาดไปเก็บ จากนั้นจึงพากันเดินไปยังโรงภาพยนตร์


TBC~*


น้องเมฆจะมีลิ้นที่แข็งแกร่ง 555555 พี่น้ำต้องอ่อนระทวยแน่นวล!

ขอบคุณตำลึงที่รับบทหนัก และขอขอบคุณเพื่อนสาว(ไม่แท้) เจ้าของประสบการณ์ปลาหิมะที่ได้เสียสละให้ฮัสกี้นำชีวิตจริงของนางมาเผยแพร่ในเหนือเมฆตอนนี้ด้วยค่ะ :jul3:

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามด้วยน้าาาา~ อย่ากินปลาหิมะกันเยอะเกินไปนะค้า ฮัสกี้เป็นห่วงแรง กร๊ากกก

ปล. ตอนนี้ยาวเมิ้ก ต้องแบ่งสองโพสต์เลยอ้ะ ฮัสกี้ขยันจิมๆ เลย น่ารักชิมิ๊  :katai2-1:



ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: เหนือเมฆ [บทที่ 39 : ปลาหิมะ][p.58][260416]
«ตอบ #1732 เมื่อ26-04-2016 19:38:18 »

ฮาตำลึง 5555555  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: เหนือเมฆ [บทที่ 39 : ปลาหิมะ][p.58][260416]
«ตอบ #1733 เมื่อ26-04-2016 19:49:45 »

ฮู่วววน่ากลัวจริงๆปลาหิมะ :katai5:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: เหนือเมฆ [บทที่ 39 : ปลาหิมะ][p.58][260416]
«ตอบ #1734 เมื่อ26-04-2016 20:06:32 »

เมฆเอ้ยยย หมาน้อยในกำมือแท้ๆ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: เหนือเมฆ [บทที่ 39 : ปลาหิมะ][p.58][260416]
«ตอบ #1735 เมื่อ26-04-2016 20:13:14 »

ตำลึงคงเข็ดปลาหิมะไปอีกนาน  :jul3: :jul3: :jul3: :jul3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ fahsida

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: เหนือเมฆ [บทที่ 39 : ปลาหิมะ][p.58][260416]
«ตอบ #1736 เมื่อ26-04-2016 20:14:22 »

คือ เรื่องของตำลึงนี่ก็น่าสงสารอยู่นะถึงจะขำนิดๆ ก็เถอะ แต่พอรู้สาเหตุปุ๊บความสงสารทั้งหมดทั้งมวลหายจ้าาา ฮาอย่างเดียวเลย

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: เหนือเมฆ [บทที่ 39 : ปลาหิมะ][p.58][260416]
«ตอบ #1737 เมื่อ26-04-2016 20:23:48 »

 :กอด1: :pig4:

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
Re: เหนือเมฆ [บทที่ 39 : ปลาหิมะ][p.58][260416]
«ตอบ #1738 เมื่อ26-04-2016 20:27:30 »

นึกว่าตำลึงจะเสียซิงซะแล้วหึหึ


แต่เมฆเนี่ยมะไรจะเสียซิงให้พี่น้ำซะทีลุ้นนะเนี่ย!! :hao6:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: เหนือเมฆ [บทที่ 39 : ปลาหิมะ][p.58][260416]
«ตอบ #1739 เมื่อ26-04-2016 20:30:51 »

 :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด