ค่ำคืนอันวุ่นวายผ่านไปอย่างทุลักทุเล แน่นอนว่าไม่มีใครตื่นขึ้นมาในตอนเช้าตรู่ของวันใหม่ พวกครูประจำโรงเรียนก็ไม่ได้มาเคาะกระดิ่งปลุกเพราะรู้ว่าเมื่อคืนทั้งสิบหกคนต้องผจญภัยกันหนักหนาสาหัสมากขนาดไหน จนกระทั่งถึงเวลาสิบโมงกว่าๆ เหล่านักศึกษาจึงเริ่มฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง
พวกปีสองกับปีสามผลัดกันเดินโซเซออกมาตั้งหลักอาเจียนกันที่ตรงท่อน้ำข้างห้องส้วม จากนั้นจึงรับประทานยาแล้วรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เสียงฝีเท้ากับเสียงโวยวายของพวกเขาปลุกให้อีกห้องตื่นขึ้นด้วย
ตั้งใจลุกขึ้นพร้อมกับเอามือกุมศีรษะ “ทำไมกูโป๊แบบนี้วะ ไอ้เหี้ย ปวดหัวฉิบหาย!” เขาหันไปปลุกรุ่นน้องสองคนที่นอนโป๊อยู่ข้างๆ กัน “เฮ้ย ตื่นๆ” ก่อนจะลุกขึ้นมองไปรอบๆ ห้อง
“หวัดดีเว้ยบุญชม” พอทักทายกับเจ้าของห้องเรียบร้อยก็เดินไปปลุกเพื่อนพ้องซึ่งนอนกระจัดกระจายกันอยู่ราวกับถูกรถขนอ้อยเทกระจาดมาหมาดๆ จนกระทั่งไปถึงตรงที่สองหนุ่มนอนกอดกันอยู่ใต้ผ้าห่ม เขาเบะปากอย่างหมั่นไส้ แต่ก็เดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือมาเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก เสร็จแล้วจึงใช้ปลายเท้าเขี่ยให้เพื่อนรักตื่นขึ้น
“เฮ้ย สิบโมงกว่าแล้ว รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมไปทำมื้อเที่ยงให้เด็กๆ ได้แล้ว”
เพราะเหลือเวลาอยู่ร่วมกันไม่มากแล้ว มื้อเที่ยงนี้เหล่านักศึกษาจึงตั้งใจทำให้เป็นมื้อพิเศษ ถึงแม้บางคนจะยังเมาค้างอยู่ก็ตามที หลังเสร็จจากมื้ออาหารก็เริ่มต้นกิจกรรมที่เตรียมไว้เมื่อวาน พวกเขาใส่ปลอกนิ้วเล่นละครสั้นๆ จากนั้นก็มอบปลอกนิ้วเหล่านั้นให้เป็นของที่ระลึกกับเด็กนักเรียน
บรรยากาศในตอนบ่ายอึมครึม มีฝนตกพรำๆ อยู่ตลอด พอใกล้ถึงเวลาเลิกเรียน พวกนักเรียนก็เก็บรวบรวมจดหมายที่พวกเขาเขียนถึงคุณครูทั้งสิบหกคนมาส่งมอบให้ แม้จะได้พบกันในช่วงเวลาสั้นๆ เพียงแค่สามวันเท่านั้น แต่พวกเขาก็สนุกมาก
เมื่อเก็บกวาดทำความสะอาดห้องเรียนเสร็จแล้ว บรรดาผู้ปกครองของนักเรียนก็เอาร่มมารับบุตรหลานของตัวเองกลับบ้าน ส่งผลให้ภายในเรือนไม้เงียบกริบลงไปในทันใด
ครูฉลุย ครูแห้วและครูสมคิดยังคงอยู่ที่ห้องเรียนกับนักศึกษาทั้งสิบหกคน พวกเขากล่าวขอบคุณและอวยพร ก่อนจะชักชวนไปรับประทานมื้อเย็นกัน
“พรุ่งนี้รถจะมารับตอนตีห้านะ ตอนนี้ก็ไปอาบน้ำเก็บข้าวของซะให้เรียบร้อย เสร็จแล้วสักห้าโมงค่อยมาที่ศาลาบำเพ็ญกุศลกัน เจ้าภาพเขาฝากมาเชิญไปทานข้าว”
“เหวย! อีกแล้วเหรอครับ!”
“รอบนี้ไม่มีการเลี้ยงกระแช่แน่นอน ไม่ต้องกังวลน่ะ”
ตั้งใจยกมือขึ้นลูบท้ายทอยพลางหัวเราะเจื่อนๆ “ค่อยยังชั่ว ผมยังเมาค้างอยู่เลย”
“รอบนี้ถ้าเมาอีกกูไม่ไปตามเก็บศพพวกมึงให้แล้วนะ” น้ำบอกกับเพื่อนรักทุกคน “เป็นพี่ประสาอะไรวะ นำน้องเมาซะอีก แย่จริงพวกมึงนี่”
พวกของตั้งใจยกมือไหว้ประชดพร้อมกับค้อนใส่วงใหญ่ “ครับๆ สำนึกผิดแล้ว ขอโทษครับพ่อ”
เมื่อพูดคุยกันเสร็จแล้วกลุ่มนักศึกษาก็เคลื่อนย้ายกันกลับไปยังบ้านพัก พอไปถึงตั้งใจก็หันไปบอกกับรุ่นน้อง “พวกมึงไปอาบน้ำก่อนไป เดี๋ยวพวกกูจะรออาบหลังสุดเอง”
“ครับพี่” พวกรุ่นน้องทั้งสามชั้นปีรับคำ จากนั้นก็รีบเข้าไปหยิบสบู่แชมพูกับเสื้อผ้าที่ในห้องแล้วตรงไปยังห้องอาบน้ำ
ระหว่างที่รุ่นพี่ปีสี่กำลังเก็บของกันอยู่ จู่ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“โทรศัพท์กูเอง” ตั้งใจเอ่ยปากพลางเอื้อมมือไปหยิบมากดรับสาย “สวัสดี หือ? ครับ ผมอยู่ที่ค่ายอาสาที่สุราษฏร์ครับ ครับ ไอ้น้ำก็อยู่ รอสักครู่นะครับ” เขาส่งโทรศัพท์ให้กับเพื่อนรัก “พี่ไม้โทรมา”
น้ำขมวดคิ้วพร้อมกับรับโทรศัพท์มาจากอีกฝ่าย “สวัสดีครับพี่ไม้ ทำไมไม่โทรเข้าเครื่องผม...”
“โทรแล้ว โทรเท่าไหร่ก็ไม่ติดน่ะ พี่เลยลองโทรหาเพื่อนของน้ำดู” คนที่อยู่ปลายสายตอบ
“งั้นเหรอครับ แต่เครื่องผมก็มีสัญญาณเต็มนะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน”
“แล้วพี่ไม้มีอะไร”
“ก็ไม่มีไร แค่คิดถึงเลยโทรมาหา ไปค่ายเหนื่อยมั้ย”
“ก็นิดหน่อยครับ”
“มีคนอื่นๆ อยู่ด้วยรึเปล่า”
“คนอื่น? พี่หมายถึงใคร? ถ้าหมายถึงเต้าหู้ ป๊อกเด้ง ใบตอง ไข่ย้อยก็อยู่ครบครับ” พอน้ำพูดจบเขาก็ยื่นโทรศัพท์ออกไปให้เพื่อนพ้องส่งเสียงทักทาย
“อ้อ โอเค พรุ่งนี้กลับแล้วใช่มั้ย เดินทางดีๆ มีอะไรขาดเหลือก็โทรหาเลขาพี่เลย”
“ครับ ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มยังคงคิ้วขมวดเป็นปม เขาหันไปบอกเพื่อนๆ “พวกมึงโทรเข้าโทรศัพท์กูหน่อย”
เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นหลายๆ ครั้ง จนน้ำมั่นใจว่าโทรศัพท์เขาไม่ได้มีปัญหาอะไร “......”
“พี่ไม้แม่งเช็กอะไรแหง” ไข่ย้อยพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน “เหมือนอยากจะรู้ว่ามึงมาค่ายกับพวกกูจริงรึเปล่า”
“ปกติกูไปไหนมาไหน ไม่เคยเห็นพี่ไม้เคยถาม น่าแปลก...”
“มึงทำตัวน่าสงสัยอะดิ” ป๊อกเด้งพูดกลั้วหัวเราะ ก่อนจะเอื้อมมือไปตบไหล่ “เฮ้ย คิดมาก พี่ห่วงน้องก็เรื่องธรรมดาปะวะ”
“เออ คิดมากไม่เข้าเรื่อง” ใบตองช่วยเสริม
ในระหว่างนั้นบานประตูห้องก็เปิดออกกว้าง ก่อนเด็กหนุ่มชั้นปีหนึ่งทั้งสามคนจะเดินกลับเข้ามา
“อ้าว อาบเสร็จกันแล้วเรอะ แล้วห้องนั้นเสร็จกันยัง”
“เพิ่งเข้าไปอาบต่อจากพวกผมอะพี่ พี่เขาบอกเดี๋ยวเสร็จจะมาเรียก”
“เออ โอเค”
“พี่ พวกผมต้องออกไปก่อนนะ เมื่อกี้ครูสมคิดแวะมาถามเรื่องคอมฯ เลยว่าจะไปคุยกันที่ห้องคอมฯ ก่อนอะ”
พวกรุ่นพี่พยักหน้าหงึกหงัก “โอเค ฝากด้วยละกัน”
TBC~*วุ่นวายจริงๆ ค่ะค่ายนี้ บุญชมกับอุไรคงจะจดจำไปอีกนานแสนนาน 555555
ส่วนเรื่องของน้องเมฆกับพี่น้ำนั้น ใจเย็นๆ คร้าาา 5555 เขาได้กันแน่นอน (แต่ไม่รู้เมื่อไหร่)
ขอบคุณคนอ่านทุกคนค่ะ แฮร่ๆๆๆ
ปล. ถ้าหากสนใจสั่งซื้อ Nisreen & Ganymede ฉบับรีพรินต์ ติดตามรายละเอียดได้ในเพจของฮัสกี้นะค้า ขอบคุณค่ะ