รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero
- 24 -
บางทีก็น่าสงสัยนะว่าผมมีชีวิตรอดมาได้ยังไงจนถึงเย็นวันนี้ เพราะตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมานอนแทบจะนับชั่วโมงได้ ส่วนข้าวถ้าไม่ได้ไอ้ธันว์หรือไอ้คิมมาคอยส่งให้ก็คงต้องกินมาม่าจนหัวโตเพราะมีเวลาแค่สามนาทีในการปรุงอาหารเท่านั้น ชวนให้สงสัยอีกอย่างว่านี่ผมเรียนปีสองหรือว่าเป็นนักศึกษาทำโปรเจคจบกันแน่ แต่ใช่ว่าส่งงานแล้วชีวิตจะสบายได้พักเต็มที่ นอนข้ามวันข้ามคืนอย่างที่ตั้งใจได้ ผมมีเวลาประมาณสามชั่วโมงหลังจากส่งงานในคาบสุดท้ายเสร็จเพื่อกลับบ้านมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วมารวมตัวอีกครั้งที่ใต้ตึกคณะตามคำสั่งของรุ่นพี่ คืนนี้ผมต้องเดินทางไปหัวหินเพื่อไปเตรียมสถานที่สำหรับรับน้องในวันพรุ่งนี้ ที่จริงมีรุ่นพี่บางคนได้ล่วงหน้าไปแล้วตั้งแต่เช้า แต่เหมือนอะไรๆจะยังไม่ค่อยเรียบร้อยดีพวกผมจึงต้องตามไปสมทบ แล้วก็มารอต้อนรับน้องเช้าพรุ่งนี้ด้วย
ก่อนแยกกันกลับบ้าน ยังจะเจอพี่กั๊กตรงหน้าตึกมายืนตีหน้ายักษ์ข่มขวัญพร้อมกับพูดข่มขู่ว่าถึงเวลานัดไม่เห็นหัวใครจะตามไปกระทืบถึงห้อง แล้วใครมันจะกล้าถ้าท้ายไม่มาได้
“กูจะไปเซเว่นพวกมึงจะเอาอะไรมั้ย”ไอ้เต้ถามแล้วลุกขึ้นยืนเอาโทรศัพท์ยัดใส่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง ตอนนี้เวลาสองทุ่มครึ่งโดยประมาณอีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลาล้อหมุน พวกเราจะไปกันโดยรถตู้ที่พี่ๆเขาหามา ส่วนพี่หลงจะขับรถตัวเองไปตอนแรกผมก็ว่าจะขับรถไปเองเผื่อวันกลับจะแว่บไปไหนบ้าง แต่เนื่องจากสังขารไม่เอื้ออำนวยผมนั่งรถตู้สบายๆไปดีกว่า กะนอนยาวจนถึงหัวหินเลย
“กูหิวอะไรกินแล้วอิ่มเอามาให้หมดเลย” ไอ้หมวยเงยหน้าขึ้นมาจากท่อนแขนที่มันนอนซบอยู่ หน้าตาอ่อนระโหยโรยแรง โทรมแบบสุดๆ ตาคล้ำอย่างกับเป็นญาติหลินปิง
ตุบ!
ทันทีที่สั่งเสร็จถุงจากร้านสะดวกซื้อชื่อดังก็วางลงกลางโต๊ะม้าหินที่พวกผมนั่งอยู่ จะเรียกว่าวางก็ไม่ถูกต้องนักต้องเรียกว่าโยนลงมาเลยดีกว่า ของที่อยู่ของในกระเด็นออกมานอกถุง ของกินทั้งนั้น ขนมปัง ขนมขบเคี้ยว น้ำ นม
“อะไรของพี่วะ”ไอ้หมวยหันไปชักสีหน้าใส่พี่รหัสตัวเอง มันเกือบโดนของในนั้นกระแทกหน้า ดีที่เด้งตัวหลบออกมาทัน
“ของมึง”พี่กั๊กนิ่งทั้งหน้าทั้งเสียงเหมือนกำลังโกรธใครอยู่ ตางี้ขวางปกติคุยกับน้องรหัสตัวเองทีไรตานี่เป็นประกายเหมือนสิงโตเห็นกระต่ายน้อยน่ากิน
“พี่ซื้อให้?”ไอ้นี่ก็ยิ้มร่า เห็นของฟรีเป็นไม่ได้ สักวันเขาเอายาเบี่อผสมมาให้กินเพื่อฆ่าหมาในปากแล้วจะรู้สึก
“มีคนฝากมาให้”พี่กั๊กบอกแล้วหันหลังเดินไปทันที ผิดวิสัยพี่รหัสจอมเนียน ปกติต้องอยู่แหย่ ลูบคลำไอ้หมวยจนพอใจนั่นแหละถึงจะยอมไปได้
“ใครวะ แต่ช่างแม่งของชอบกูทั้งนั้นเลย”มันรื้อของดูแล้วก็ยิ้มร่าตาเป็นประกาย
“ตกลงมีใครจะฝากอะไรมั้ยเนี่ย กูจะไปแล้ว”ไอ้เต้ถามอีกรอบผมเลยฝากมันซื้อโค้กมาขวดดื่มสักหน่อยเผื่อจะสดชื่นขึ้น
“ของใครฝากมาให้ก็ไม่รู้มึงก็ยังจะกล้าแดกอีก”อดปากไม่ได้จริงๆ เห็นมันแฮปปี้กับของกินจนน่าหมั่นไส้
“คนดีๆหน้าตาดีๆอย่างกูไม่มีศัตรูปองร้ายหรอก จะมีแต่แฟนคลับสาวๆกูนี่แหละที่ส่งมา”มันพูดอย่างภาคภูมิใจและมั่นหน้ามาก ถ้าเปลี่ยนจากแฟนคลับสาวๆมาเป็นหนุ่มๆยังจะน่าเชื่อกว่าอีก ผมแหวกๆในถุงดูมีแต่ของที่มันชอบจริงๆ ต้องรู้จักมันดีในระดับหนึ่งทีเดียว
“อ๊ะ ไอ้เหี้ย”จู่ๆมันก็ด่าขึ้นมา ด่าใครวะ ทั้งโต๊ะมีแค่ผมกับมัน
“ด่ากูทำเหี้ยอะไร กูไม่แย่งของมึงหรอก”
“ไม่ใช่ กูไม่ได้ด่ามึง”มันพูดแต่ตาไม่ละจากหน้าจอโทรศัพท์นิ้วพิมพ์ยิกๆๆ มีสมาธิจดจ่อมากจนผมยื่นหน้าเข้าไปอ่านแล้วมันยังไม่รู้ตัว
“กินไม่หมดก็แบ่งเพื่อนบ้าง กินข้าวด้วยอย่ากินแต่ขนมเดี๋ยวก็ปวดท้องอีก ถึงแล้วโทรหาพี่ด้วยนะ นอนกับเพื่อนก็แยกเตียงด้วยเข้าใจมั้ยน้องโฟม... ใครวะไอ้ห่า ผัวมึงเหรอ”มันชวนสงสัยจริงๆ
“อะ...ไอ้เหี้ย”อันนี้ด่าผมแน่ๆ มันรีบเอาโทรศัพท์แอบไว้ใต้โต๊ะ แต่ช้าไปแล้วผมอ่านหมดทุกข้อความที่เห็นในหน้าจอนั่นแหละ
“หน้าแดงนะน้องโฟม”
“ไอ้! ใครน้องมึง”ยิ่งแดงเข้าไปอีก เห็นแล้วน่าแกล้ง ผมว่าผมเดาได้ว่าคู่สนทนาเป็นใครถึงจะเขาจะใช้รูปดิสเพลย์เป็นรูปหมาสีขาวขนฟูฟ่องก็ตาม
“หึหึ ไม่ต้องปิดกูหรอก มึงก็รู้ว่ากูเดาได้ แต่เรื่องสถานะมึงจะให้กูเดาหรือจะบอกเอง ถ้าให้กูเดานี่อาจจะเกินจริงอย่างเช่นมึงตกเป็น เมียเขาแล้ว”
“ยังเว้ย กูไม่ได้อ่อนขนาดนั้น!”หลุดมาเต็มๆ ผมนี่กลั้นยิ้มไว้แทบไม่ทัน
“เดี๋ยว ไอ้สัด! มึงหลอกให้กูพูด”แต่มันก็รู้ตัวเร็วดี
“ฮ่าๆ กูไปหลอกมึงตอนไหน มึงพูดของมึงเอง”
“กูเกลียดมึงไอ้น่าน อย่าให้ถึงทีกูบ้างกูจะซักเรื่องพี่เดียวให้ขาวสะอาดเลย”มันถลึงตาโตๆใส่ รับกับปากแดงๆส้มๆของมัน ไม่ได้ดูน่ากลัวเลย
“เรื่องของกูมันไม่มีอะไรทั้งนั้น”
“อมวัดมาพูดกูก็ไม่เชื่อ”
“เชื่อกูเหอะ กูยังไม่คิดจะเปลี่ยนตำแหน่งตัวเอง ว่าแต่มึงเหอะทำอิท่าไหนถึงได้ผัวมา”
“เชี่ย กูบอกว่าไม่ใช่”
“ตอนนี้ยังแต่อนาคตกูว่าไม่น่ารอด”ผมเพิ่งเก็ทตอนนี้เองว่าทำไมพี่กั๊กถึงได้หน้าตาไม่สบอารมณ์ตอนเอาขนมมาให้มัน เพราะต้องรับฝากมาจากหนุ่มสถาปัตย์คนนั้นโดยตรงแน่ๆ
“มึงอย่ามาปากเสีย”
“สรุปว่าเป็นแฟนกันแล้ว”
“ยัง”
“แต่เท่าที่กูอ่านเมื่อกี้มันใช่นะ”
“ไม่ใช่เว้ย มันบ้า ชอบบังคับขู่เข็ญ อย่าให้ถึงทีกูบ้างนะ”มันทำเสียงจิ๊จ๊ะ ท่าทางอยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อเอาคืนเขา ตัวเท่าเมี่ยงจะไปทำอะไรใครได้เขาดีดทีเดียวก็กระเด็นละ
โอกาสในการแกล้งไอ้หมวยจบลงเมื่อไอ้เต้กับไอ้โอ๊คกลับมา ผมปลีกตัวออกมาสูบบุหรี่พร้อมกับโค้กที่ฝากซื้อ ช่วงนี้ชักจะเริ่มติดบุหรี่แล้วสิ ตอนทำงานเครียดก็สูบตลอด แทบจะมีติดนิ้วตลอดเวลา สงสัยคงต้องเพลาๆลงบ้างไม่งั้นเดี๋ยวโดนไอ้พี่เดียวมันบ่นอีก จะว่าไปผมก็ไม่ได้เจอมันเลยไม่รู้แผลที่หัวหายหรือยัง หลังจากวันนั้นที่มันสั่งให้ผมเอาข้าวเอาน้ำไปส่งให้ผมก็ไม่ได้เจอมันเลย ไม่ใช่ว่าผมไม่ได้ไปหามันตามที่สั่ง แต่ไปแล้วไม่เจอใคร มารู้จากไอ้พายให้หลังไปสามวันแล้วว่ามันบินไปต่างประเทศ นัดสอนเพิ่มนอกเวลาแทนเพื่อจะได้สอนทันวันกำหนดปิดคอร์ส
“ตายยากจริงเว้ย”ผมหยิบโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในกระเป๋าหลังกางเกงมาดูเห็นชื่อไอ้คนที่ผมกำลังนึกด่าอย่าในใจ หายหัวไปนานจู่ๆก็นึกจะโทรมาหรือไงวะ ไม่รับแม่ม แต่ก็ใช่ว่ามันจะละความพยายามโทรมาอยู่นั่นแหละ ผมไม่ได้รับปล่อยจนสายตัดไป ก่อนจะปิดเสียงแล้วเตรียมตัวขึ้นรถจะได้ออกเดินทาง
X
มาถึงหัวหินตอนห้าทุ่มกว่าเกือบเที่ยงคืน ช่วยกันขนของเข้าที่พักแล้วก็นำพวกอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการทำกิจกรรมไปเก็บอีกที่ แล้วช่วยกันทำงานที่ยังไม่เสร็จเรียบร้อยดีจนเกือบตีสามถึงแยกย้ายกันไปนอน ทั้งผมทั้งไอ้หมวยเราตกลงกันไว้ว่าจะอาบน้ำทีเดียวตอนเช้าเลย เพราะเดี๋ยวหกโมงก็ต้องตื่นขึ้นมาช่วยพี่ๆในแต่ละฐาน ต้อนรับน้องๆที่จะมาถึงตอนเก้าโมงเช้า ไอ้หมวยมันรีเควสที่จะนอนกับผมเอง ทั้งที่ปกติมันจะต้องนอนกับไอ้โอ๊ค เพราะผมไปรู้ความลับมันเข้าละมั้ง ถ้าพักห้องเดียวกับผมมันก็ไม่ต้องระแวดระวังอะไรมากนัก
ในระหว่างที่ผมกำลังเคลิ้มก็ได้ยินเสียงงุ้งงิ้งดังมาจากอีกเตียง ท่ามกลางแสงสลัวผมเห็นแสงไฟจากหน้าจอโทรศัพท์รางๆมาจากเตียงไอ้หมวย ผมเลยคิดอะไรดีๆออก คนบนเตียงสะดุ้งตกใจเมื่อผมล้มทับมันไปครึ่งตัวแล้วกอดมันไว้
“อืม...โฟม เลิกคุยสักทีสิ กูไม่ไหวแล้วนะ อ่า”
“ไอ้!...อื้อ!”ผมเอามือปิดปากมันที่กำลังจะอ้าปากด่า ก่อนจะกระซิบเสียงกระเส่าชวนให้คิดลึกจงใจให้คนปลายสายได้ยิน ไอ้หมวยดิ้นขลุกขลักพยายามจะผลักผมออก ผมเห็นว่าปลายสายกดวางไปแล้ว เลยเลิกแกล้งปล่อยมันเป็นอิสระ
“ไอ้สัด ไอ้เหี้ย ไอ้เลวมึงทำส้นตีนอะไรเนี่ย!”มันกดเปิดไฟหัวเตีงแล้วโวยวายแทบจะมาแหกอกผมที่นั่งขำมันอยู่บนเตียงของตัวเอง
“โกรธเหรอน้องหมวย แค่แหย่เล่นน่า”
“แหย่เหี้ยไรแบบนี้มึงไม่อยากตายดีใช่มั้ย มึงเตรียมโดนตีนมันเลย ควาย! อยู่ดีๆก็หาเรื่องนะมึงเนี่ย”มันบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ทำหน้าเหมือนโลกจะถล่ม
“ผัวมึงนี่โหดใช่ย่อย”
“ไม่ใช่ผัวเว้ย!”มันโวย แต่มือนี่จิ้มโทรศัพท์รัวๆ
“แล้วไมต้องกลัวขนาดนี้วะ”
“มึงไม่เป็นกูไม่เข้าใจหรอก ห่า นอนไปเลย นี่แม่งก็ปิดโทรศัพท์ใส่กู ฟาย”
“เหอะ สงสัยจะงอนมึงไปแล้วมั้ง ไรวะงอนเป็นตุ๊ดเลย”
“สัด เดี๋ยวมึงได้เจอตีนตุ๊ด กูจะสมน้ำหน้าให้”
ผมยักไหล่ไม่ใส่ใจคำขู่ ไม่ได้กลัวสักนิด แต่ขำท่าทางไอ้หมวยมากกว่า ดูมันแคร์เขามากเลยถึงได้ร้อนรนขนาดนี้ ผมสงบศึกกับไอ้หมวยแล้วปิดไฟนอนอีกรอบ คราวนี้หลับจริงจังตอนได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกยังไม่อยากจะตื่นเลย แต่กลัวจะถูกพี่กั๊กมากระทืบจมเตียงเลยต้องรีบตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปรวมกับพี่ๆตรงจุดนัดพบ สภาพของแต่ละคนเหมือนศพเดินได้ ไอ้เต้ซัดกาแฟโฮกๆหมดไปสองกระป๋องแล้ว ส่วนคนอื่นก็นั่งอึนเมาขี้ตากันอยู่ พอถูกรุ่นพี่กระตุ้นจึงได้แยกย้ายกันไปทำงาน เจ็ดโมงกว่าๆทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย จึงได้ทานอาหารเช้ากัน
รีสอร์ทที่มาทำกิจกรรมเป็นของรุ่นพี่ที่จบไปแล้วหลายปี แต่ก็ยังให้สิทธิพิเศษกับน้องร่วมคณะในการใช้สถานที่ประกอบกิจกรรม และลดค่าที่พักให้เป็นพิเศษ ดังนั้นไม่ว่ารุ่นไหนๆก็จะมาที่นี่เสมอ นอกจากสถานที่จะเป็นส่วนตัว ติดชายหาดแล้ว อาหารยังอร่อยมากอีกต่างหาก ข้าวต้มหอยเชลล์ทำเอาผมเบิ้ลไปสามรอบ
“กูว่าผู้ชายคนนั้นหน้าตาคุ้นๆว่ะ”ไอ้โอ๊คบุ้ยใบ้ไปทางโต๊ะที่อยู่ถัดไปอีกสามโต๊ะ ผมนี่แอบสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อสบตากับสายตาดุๆนั่นอย่างจัง หอยติดคอเลยแม่ม ไอ้หมวยเองก็ตาค้างเพรามันไม่คิดว่าจะได้เห็นผัวตัวเองมานั่งทำหน้าโหดตั้งแต่เช้าขนาดนี้ได้
“เพราะมึงเลยไอ้สัดมันถึงแล่นมาที่นี่”ไอ้หมวยเค้นเสียงต่ำกระซิบอยู่ข้างหูผม ก็ใครจะคิดว่าพี่มันจะบ้าจี้ตามมากระทืบจริงไม่ใช้ตัวแสดงแทนแบบนี้ เพื่อนผมนี่มันเด็ดจริงว่ะ ทำไงให้เขารักเขาหลงขนาดนี้วะ
ตลอดเวลาที่ทำกิจกรรมกันอยู่ไอ้หมวยมันผูกติดกับผมเหมือนเงาตามตัว ไหนว่ากลัวผมจะถูกผัวมันกระทืบตายไงวะ แต่ที่ทำอยู่นี่เหมือนเพิ่มโอกาสตายให้ผมยิ่งขึ้นไปอีก แต่พี่เขาก็ไม่ได้เข้ามาวุ่นวายอะไรกับพวกเรา ไม่ได้ตามติดไปทุกฝีก้าว แต่ก็ไม่ได้หายไปไหนนานจนต้องถามหา เพราะมักจะโผล่หน้ามาให้เห็นอยู่เป็นพักๆ เหมือนมาเช็คว่าไอ้หมวยมันอยู่ดีมีสุขมั้ย บางทีผมก็เห็นพี่กั๊กเดินไปคุยอะไรกับพี่เขา ท่าทางจะรู้จักกันมาก่อน
ตกบ่ายแดดก็แรงจนผมแสบผิวและเหนียวตัวหนึบหนับจากลมทะเลจนอยากจะหนีไปอาบน้ำ แต่ก็ต้องยืนขาแข็งช่วยพวกปีเดียวกันดูแลสวัสดิการให้พี่น้องทั้งหลาย
“เห้ย!”กระติกน้ำแทบหลุดจากมือ หัวหินนี่มันใกล้เหมือนพารากอนหรือยังไงวะ ทำไมใครๆถึงได้มากันง่ายจัง
“โทรมาก็ไม่รับเลยนะ โทรศัพท์นี่มีไว้ประดับบารมีหรือไง”เจอหน้าก็ใส่กูเลยนะ
“ไม่อยากรับก็ไม่รับไง เข้าใจยากตรงไหน”
“ปากดีจังเลยน้า”
“อื้อ!”ผมปัดมือมันออก แม่ง เจ็บนะเว้ยดึงมาได้นี่ปากคนไม่ใช่หนังสติ๊ก จะได้ดึงยืดๆ
“มาทำไมเนี่ย”
“ก็มาหาไง คิดถึงจะแย่ กลับมานึกว่าจะได้เห็นหน้า ที่ไหนได้หนีมาหัวหินซะงั้น”
“ไม่ได้หนีเฟ้ย แล้วนี่รู้ได้ไง”
“เก่งไง”
“เหอะ ไอ้พายบอกก็พูดมา”ทำเป็นเต๊ะท่า น่าหมั่นไส้
“แสนรู้จังครับน้องน้ำน่าน”มันยังเล่นไม่เลิก เอามือมาลูบหัวอีก ปั๊ดเตะผ่าหมากซะนี่ แต่ไม่เจอกันหลายวันไอ้พี่เดียวมันดูซูบไปนะ ตาก็คล้ำๆ งานหนักไปป่ะวะ
“ไอ้น่านนนน อุ้ย หวัดดีคร้าบ ตามมาเฝ้าถึงที่เลยนะพี่”ไอ้หมวยวิ่งทะเร่อทะร่าเข้ามา พอเห็นใครยืนอยู่กับผมก็ทำเป็นแกล้งตกใจได้น่าถีบ
“ควาย เฝ้าห่าไร แล้วมึงมาทำไร”
“พี่วาวให้มาตามน้ำแข็ง ได้ยังอ่ะ”
“ยัง”ถ้าไม่เจอไอ้บ้านี่ ก็คงได้นานแล้ว
“ให้ไวๆ ก่อนที่องค์เจ้าแม่จะลง”ผมกำลังจะเดินไป แต่มือหนาก็รั้งเอาไว้ ไอ้หมวยก็อำนวยความสะดวกให้เหลือเกิน คว้ากระติกน้ำในมือผมไปแล้วเดินลิ่ว เห็นจากหางตาว่ามีใครบางคนเดินตามมันไปด้วย
“อะไรเนี่ย ปล่อยดิ ไม่ได้วางนะเนี่ย”
“คุยแป๊บเดียว ห้านาที”
“ให้ไว”
“เลิกกิจกรรมกี่โมง”
“ไม่รู้ สองสามทุ่มมั้ง”หรืออาจจะยาวกว่านั้น เพราะวันนี้จะมีบายศรีสู่ขวัญ ผูกข้อมือจากนั้นก็มีปาร์ตี้ตามประสาพี่น้อง เรียกว่าเมากันยาวๆไป
“งั้นเดี๋ยวหกโมงโทรหา รับด้วย ไม่รับนี่จะเข้าไปตามถึงตัวเลยนะ”
“ขู่จัง เออ ถ้าว่างก็จะรับ ถ้าไม่รับแสดงว่าไม่ว่าง ไม่ต้องเสนอหน้ามาตามเลยนะ”ต้องสั่งไว้ก่อน เผื่อมันเกิดบ้าทำอย่างที่พูดขึ้นมาจริงจะซวยเอา มันพยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจ ก็ขอให้มันเข้าใจและปฏิบัติตามจริงๆ
พอกลับมาที่ฐานไอ้หมวยก็ทำหน้าทำตาล้อเลียน น่าหมั่นไส้จนอยากจะถีบให้ตกทะเล แต่หวั่นว่าจะถูกรุ่นพี่สถาปัตย์เอาคืนอย่างสาสม ผมไม่อยากเสี่ยงเลยต้องปล่อยมันไป ประมาณสี่โมงเย็นกิจกรรมตามฐานต่างๆก็เสร็จเรียบร้อย เหน็ดเหนื่อยกันทั้งรุ่นน้องรุ่นพี่ อ่อนเพลียเสียแรงกันไปมากทั้งจากกิจกรรมและแสงแดดที่แผดเผา ขนาดสี่โมงเย็นแล้วยังร้อนอยู่เลย มีน้องผู้หญิงเป็นลมสองคน กิจกรรมตอนบ่ายส่วนใหญ่จึงให้น้องผู้ชายเล่น ส่วนผู้หญิงแกล้งให้เต้นหรือทำอะไรนิดหน่อยก็เลยให้มาพักกับพวกพี่ๆ อันที่จริงมันก็กะจะหยอดน้องหน้าตาน่ารักกัน
ค่ำนี้จะเป็นการสั่งลาการรับน้องที่ต่อเนื่องยาวนานเกือบสามเดือน แม้ว่าช่วงหลังสอบกลางภาคจะไม่ได้คุมเข้ม เข้มข้นเหมือนช่วงแรกๆ แต่ก็ใช่ว่ารุ่นพี่จะปล่อยปละละเลย น้องๆยังคงต้องทำตามกฏ ปฏิบัติตัวตามคำสั่งของรุ่นพี่เหมือนเคย ทว่าวันนี้จะเป็นการปิดกิจกรรมรับน้องอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นการสร้างสถานการณ์เพื่อกดดันน้องๆจึงเริ่มขึ้นหลังจากมื้อเย็นที่ทุกคนกำลังอิ่มหนำและผ่อนคลายเต็มที่ โดยมีพี่กั๊กสวมวิญญาณพี่ว้ากสุดโหด เรียกรวมทุกคน จากนั้นพี่ว้ากชั้นปีอื่นและพี่ที่จบไปแล้วจะเข้ามาร่วมกดดันน้องๆด้วย ส่วนพวกผมปีสองมีหน้าที่เตรียมการรับขวัญผูกข้อมือน้องๆที่ชายหาด รอพวกพี่สันทนาการปีสามพาน้องๆมา
“กูว่ามันต้องมีแฟน”ไอ้โอ๊คพูดขึ้นตามันหรี่มองไอ้หมวยที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ตรงต้นมะพร้าวริมหาด เอามือป้องปากเหมือนกระซิบกระซาบคุย
“แล้วกูคิดว่าแฟนมันต้องเป็นผู้ชายแน่ๆ”ผมนี่อยากจะหัวเราะดังๆกับข้อสันนิษฐานของไอ้โอ๊ค
“ทำไมมึงคิดงั้นวะ อาจจะเป็นผู้หญิงเซ็กซี่นมบึ้มๆอย่างที่มันชอบก็ได้นะ”ไอ้หมวยผู้ไม่เจียมบอดี้ ชอบพูดว่าสาวในสเป็คของตัวเองต้องหุ่นน่ากินนมเป็นนมก้นเป็นก้น แบบเนื้อนมไข่ แต่ซึ่งตอนนี้มันก็ได้มาแต่ไข่อ่ะนะ
“น้ำหน้าอย่างมันนะจะได้แฟนเป็นผู้หญิง ถ้าได้จริงๆกูให้มึงเหยียบหน้าเลย”ชาตินี้ทั้งชาติก็ไม่ได้เหยียบ
“รอก่อนเหอะ เดี๋ยวกูจะจับให้ได้คาหนังคาเขาเลย”ไอ้โอ๊คหมายมั่นปั้นมือมาก ซึ่งผมก็จะเงียบๆไว้ ไม่บอกเรื่องไอ้หมวยกับไอ้โอ๊ค และไม่บอกเรื่องไอ้โอ๊คจะจับผิดกับไอ้หมวยด้วย รอดูอะไรสนุกๆดีกว่า
“น่านมาอยู่นี่เอง ให้กูหาตั้งนาน”เอเชียครับ เดินหน้ามันเหงื่อซึมมาเลย
“หาทำไม”
“กูจะมาบอกให้มึงระวังตัวไว้ มีชะนีอยากมีผัวจะรวบหัวรวบหางมึง”
“หะ? ใครวะ”
“นางชื่อน้ำผึ้งเป็นดาวปีนี้ นางมั่นหน้ามาก ภูมิใจในความสวยของตัวเองมาก อ่อยไปทั่ว นางเคยมีเรื่องกับน้องรหัสมึงด้วยไม่รู้เหรอ”
“ไม่รู้ กูไม่ได้สนใจ แล้วยังที่ว่าจะรวบหัวรวบหาง”
“ก็กูไปได้ยินว่าคืนนี้นางจะเผด็จศึกมึง”ผมไม่อยากจะเชื่อที่มันพูด แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงมันจะพูดทำไม
“เห็นกูง่ายขนาดนั้นเลยเหรอวะ”
“เขาคงไม่ได้เห็นมึงง่าย แต่แค่ได้หมด”
“หลอกด่ากูป่ะเนี่ย กูก็เลือกเว้ย”
“เลือกที่จะเอาทุกคนสิไม่ว่า”
“ไม่ทุกคนหรอก ไม่งั้นกูเอามึงไปละ”แหม่ ขอสักหน่อยแขวะกูจังเลยนะครับ ไอ้โอ๊คนี่ขำก๊ากเลย
“ไอ้เลว!”
“หึหึ คนไหนวะ กูไม่รู้จัก”อยากจะเห็นหน้าจริงๆ
“กูจำได้ละ คนที่มาขอลายเซ็นมึงแล้วก็ทิ้งเบอร์ไว้ให้ไง”ไอ้โอ๊คบอก ผมลองนึกดูก็จำได้แค่รางๆ คือจำเรื่องได้แต่จำหน้าไม่ได้
“ชี้ให้กูดูด้วยแล้วกัน”
“ทำไม มึงจะได้ฟันถูกคนเหรอ”
“เห็นกูเป็นคนยังไงเนี่ย กูจะได้ระวังตัวถูกเว้ย”
เดี๋ยวนี้เอเชียมันไม่ค่อยมองผมในแง่ดีเท่าไหร่ มีช่วงนึงที่ผมเสียศูนย์เรื่องไอ้เหี้ยพี่เดียวไปนิด แล้วจีบดะ คุยกับสาวๆไปทั่ว เอเชียมันรับรู้พฤติกรรมแล้วรับไม่ค่อยได้ ประมาณว่าไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ ถ้าเป็นเพื่อนมันก็คุยนั่นแหละครับ แต่เจอหน้าชอบหาเรื่องแขวะ จิกกัดประมาณนั้น ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาแอนตี้
“กูพูดจริง กูจะระวังตัวไม่อยากมีปัญหาว่ะ”มันทำหน้าไม่เชื่อ จนผมต้องออกปากอีกรอบ
“เออๆ เดี๋ยวกูชี้ให้ดู ไปล่ะ พวกมึงก็เตรียมได้ละ พี่กั๊กเรียกรวมน้องแล้ว อีกแป๊บคงพากันมา”
ผมเดินไปตามไอ้หมวยที่แทบแทรกเข้าไปในต้นมะพร้าว ก่อนจะพากันกลับไปที่จุดที่เตรียมไว้ ช่วยกันดูอีกรอบว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว มีคนวิ่งมาให้สัญญาณว่าให้จุดเทียนได้ ไม่นานพี่สันทนาการปีสามก็พาน้องๆเดินจับมือกันมาเป็นแถว มีผ้าสีดำปิดตากันทุกคน น้องผู้หญิงบางคนก็เหมือนจะร้องไห้กันด้วย พวกผมและรุ่นพี่คนอื่นๆก็เข้าไปนั่งประจำที่ ส่งต่อสายสิญจน์ที่ถูกตัดไว้สำหรับผูกข้อมือ ในขณะที่พี่หลงบอกให้น้องๆแกะเชือกผูกตาออก เสียงเพลงรับขวัญก็ดังขึ้นจากพี่เชียร์ทุกชั้นปี น้องผู้หญิงบางคนที่ร้องไห้อยู่แล้วก็ร้องหนักขึ้นไปอีก ร้องจากความตื้นตันไม่ใช่ความกดดัน
“ขอให้ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้นะครับ ตั้งใจเรียนล่ะ”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะพี่น่าน”ผมเงยหน้าขึ้นมองน้องตรงหน้า เธอยิ้มหวานมาให้
“น้ำผึ้งนะคะ จำได้หรือเปล่า หนูให้เบอร์พี่ไปไม่เห็นโทรมาบ้างเลย”
อื้อหือ ของเขาแรงจริงเว้ย หน้าตาก็สวยหวานอ่ะนะ ผมพอจะจำได้แล้ว แต่พุ่งเข้าหาขนาดนี้พี่ว่าน้องเปรี้ยวมากเลยครับ
“เสร็จแล้วก็ไปค่ะ คนอื่นจะได้ต่อ นั่งแช่จะรอให้รากงอกหรือไง”
“เอ๊ะ ผิงมายุ่งอะไรด้วย”
“ก็จะยุ่งอ่ะ ทำไม นี่พี่รหัสเรา เราจะให้พี่รหัสผูกข้อมือ”สองสาวส่งสายตาฟาดฟันอย่างไม่ยอมกัน ผมกลัวว่าจะมีตบกัน เลยต้องรีบคลี่คลายสถานการณ์
“มาๆ ผิง พี่ผูกให้”ไอ้ตัวดีหันไปยิ้มเยาะเย้ยใส่อีกคนที่เม้มปากแน่นก่อนจะสะบัดหน้าเดินหนีไป
“พี่น่าน!”ตกใจนะเว้ย จู่ๆก็หันมาแว้ดใส่
“อะไรของแก”
“ชิ พี่ไปคุยกับมันทำไม”
“เอ้า ก็เขาคุยด้วยนี่หว่า”
“ที่หลังไม่ต้องไปคุยกับมัน เกลียดขี้หน้า”เกลียดขี้หน้าคนอื่นไปทั่วเลยเว้ย สร้างแต่ศัตรูจริงๆน้องผมคนนี้
“พาลนะเรา มายื่นแขนมาดิ”มันยื่นแขนมา มือแทบจะกระแทกหน้า ความอ่อนหวานไม่เคยจะมี
“พี่จะเอาใครก็ได้แต่อย่าไปเอามันนะ มันแรด”
“ปากคอเราะร้าย”
“พูดเรื่องจริง มันคุยไปทั่วนะว่ามันจะเอาพี่เป็นแฟนให้ได้ มโนมากกกก”
เรื่องนี้มีมูลจริงสินะ คือผมก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้เขาประทับใจเลยนะ อ่อยสักนิดก็ไม่มี มาติดใจอะไรผมกันเนี่ย ไม่เข้าใจจริงๆ
“พี่ไม่ง่ายนะเว้ย”ไม่ง่ายถ้าไม่ใช่ทาง แต่ถ้าเข้าทางนี่ก็ถึงไหนถึงกัน ทั้งวันทั้งคืนก็ไหว
“เออ ไม่ง่ายก็ดีแล้วค่ะ ถนอมเนื้อตัวไว้บ้าง ชิ”พูดเสร็จก็สะบัดตูดไป อะไรของมัน งอนกูซะงั้น ไอ้เด็กบ้า
กิจกรรมซึ้งๆได้จบลง พี่หลงกล่าวปิดการรับน้องและชี้แจงเหตุผลต่างๆสำหรับการกระทำทุกอย่างที่ผ่านมาเพื่อให้น้องๆรับทราบ เรียกว่าเป็นการเคลียร์ใจกัน เพราะรู้ว่ามีน้องๆบางส่วนที่ไม่เห็นกับการเข้ากิจกรรม หลังจากนี้ไปก็เป็นการดื่มกินกันเต็มที่ ผมไม่ได้สนใจโทรศัพท์ตัวเองตั้งแต่เย็นแล้ว เพราะไม่ว่างจริงๆ พอหยิบมาดูก็เห็นมีมิสคอลมาแค่ครั้งเดียวจากเจ้ากรรมนายเวร ซึ่งก็เป็นที่น่าแปลกใจ ปกติอย่างน้อยๆก็ต้องโทรสามครั้งเป็นอย่างต่ำ หรือว่าครั้งนี้ไอ้พี่เดียวมันจะเชื่อฟังตามที่สั่งไว้
“ไอ้น่านมานี่เลยมึง”
ผมเดินมาที่โต๊ะของพี่ว้ากตามคำร้องเรียกของพี่หลง หลังจากนั้นก็ยาวๆไป ใครมาขอชนแก้วก็ชนไปกับเขาหมด ไม่เช้าไม่เลิก ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วเพราะพรุ่งนี้ไม่มีโปรแกรมอะไร แค่ตื่นมาเช็คเอ้าท์ให้ทัน แวะซื้อของฝากเจ้าดัง แล้วมุ่งหน้ากลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพเป็นอันจบ
เป็นอันจบจริงๆ ผมตื่นมาก็ปาเข้าไปบ่ายสองแล้ว ยังงงตัวเองว่านอนหรือซ้อมตาย ยอมรับเลยว่าเมื่อคืนดื่มไม่ยั้ง ทั้งที่ตั้งใจไว้หลายครั้งแล้วว่าจะไม่เมาเป็นหมาอีก แต่บรรยากาศมันพาไป รุ่นพี่รุ่นน้องสนุกสนานเลยเพลินไปหน่อย มาฟื้นคืนสติเมื่อครู่นี้เอง ตอนแรกก็มึนงงๆ ไม่ได้สังเกตอะไร แต่ตอนนี้ตื่นเต็มตาแล้วแม้จะยังแฮงค์ทว่าก็ยังแยกออกว่านี่ไม่ใช่ห้องพักของผมกับไอ้หมวย สมองผมเริ่มทำงานว่าเมื่อคืนหลังจากชนแก้วกับพวกสาวๆปีหนึ่งแล้วเกิดอะไรขึ้น แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก คำเตือนของเอเชียลอยเข้ามาในหัว หรือผมจะพลาดท่าจนได้ ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะเสียหายอะไร แต่ไม่อยากพบเจอกับความยุ่งยากที่น่าปวดหัว เพราะผมรู้ว่าเรื่องมันจะไม่จบง่ายๆ ในขณะที่ผมกำลังคิดไปต่างๆนานา คนที่ผมไม่คิดว่าจะได้เจอก็เดินเข้ามาในห้องนอน สีหน้าเรียบนิ่งจนเดาอารมณ์ไม่ถูก
แต่เชื่อมั้ยผมดีใจมากๆที่ได้เห็นหน้า ดีใจที่คนที่ยืนอยู่ตรงนี้คือมัน
“พี่เดียว...”
“ไปอาบน้ำแต่งตัว เรามีเรื่องต้องคุยกันยาว”
---------------------------------------------------
