[♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]  (อ่าน 283548 ครั้ง)

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
รัก...ไม่ได้ออกแบบ  by zero





- 27 -




   
   “โอ๊ย ไอ้สัดตีนกู!”ผมร้องลั่นเมื่อไอ้ธันว์เหยียบลงบนเท้าข้างที่เป็นแผลแบบเต็มแรง ไอ้ห่า คนก็นั่งอยู่ตัวเท่าควาย มองไม่เห็นหรือไงวะ เหยียบมาได้




   “ขอโทษๆ กูขอโทษไอ้เหี้ย ไม่ได้ตั้งใจเว้ย”มันยกมือไหว้ปลกๆ แล้วทำท่าจะเข้ามาจับเท้า ผมนี่ยกหนีแทบไม่ทัน




   “นี่ถ้ามึงตั้งใจกูคงขาขาด”




   “ก็พูดเกินไป แหม เดี๋ยวนี้บอบบางนะครับคุณชลธร”สีหน้าสำนึกผิดเปลี่ยนเป็นยิ้มล้อๆ อยากเอาหัวแม่เท้ายัดปากมันจริงๆ




   “_วย”ผมแจกจ่ายความรักให้ มันก็ยิ้มรับหน้าระรื่น พร้อมกับส่งความรักกลับคืนมาด้วยนิ้วมือที่ยาวที่สุดหนึ่งนิ้วเฉกเช่นเดียวกัน




   วันนี้ผมหยุดเรียนหนึ่งวันเพราะเมื่อคืนเป็นไข้ จากคำบอกเล่าของไอ้พี่เดียวที่ปลุกผมขึ้นมากินข้าวกินยาในตอนเช้า หน้าตามันก็ดูมึนๆอึนๆเหมือนคนไม่ได้นอน พอผมกินข้าวกินยาเสร็จมันก็ออกไปทำงาน แต่มิวายส่งพยาบาลน่ารักมาดูแลแทน ก็พี่เฟิร์สนั่นแหละครับ รายนั้นก็เชื่อไปแล้วว่าผมกับไอ้พี่เดียวคบกัน เอาเถอะ ผมไม่คิดจะแก้ตัวอะไรอยากเข้าใจว่ายังไงก็เอาที่สบายใจเลย พี่เฟิร์สกลับไปตอนเที่ยงเพราะมีเรียนช่วงบ่าย แต่ก็ไม่ทิ้งช่วงให้ผมต้องนอนเหี่ยวเฉาเป็นผักรอวันเขี่ยลงจากแผง ไอ้พวกนี้มันก็พากันมาสร้างความวุ่นวาย ไอ้พายบอกว่าไอ้พี่เดียวมันบอกให้มาอยู่เป็นเพื่อน จะทำให้ผมไข้กลับหรือเปล่าวะ เอาจริงๆนี่ก็ยังไม่สร่างไข้ดีเลย หัวยังหนักๆ แต่ที่หนักกว่าคงเป็นแผลที่เท้านี่แหละ เดี๋ยวโดนนั่นโดนนี่ ไอ้เชี่ยธันว์ยังมาเหยียบซ้ำอีก กรรมเวรอะไรของผมก็ไม่รู้




   “เอ้า กินซะ แล้วยามึงอยู่ไหน พี่เดียวสั่งไว้ให้กินยาให้ครบ”ไอ้พายมันวางจานข้าวลงตรงหน้าผม มันซื้อกับข้าวมาหลายอย่างเพื่อกินด้วยกัน ตอนนี้เลยตั้งวงกันอยู่หน้าทีวี ดูหนังที่ฉายทางเคเบิ้ล ทำตัวสบายเหมือนอยู่บ้านตัวเอง




   “อยู่ในห้องนอน”




   “ห้องไหน?”ผมชี้ไปทางห้องนอนใหญ่ให้ไอ้พายไปหยิบยาให้




   “มึงหยิบหมอนสีเทาบนเตียงมาด้วยนะ”ผมตะโกนบอกมันไป นั่งห้อยขาแล้วรู้สึกปวดแผลขึ้นมา เลยไถลตัวลงจากโซฟาลงไปนั่งพื้นรอไอ้พายมันหยิบหมอนมารองเท้า




   “มองห่าไร”ผมกำลังจะตักข้าวเข้าปากแต่ก็ชะงักเพราะรับรู้ถึงการจ้องอย่างแรงกล้า ไอ้สองตัวที่นั่งอยู่บนโซฟามันจ้องผมเขม็ง




   “จะถามอะไรก็ถามมา จ้องอยู่นั่นกูแดกข้าวไม่ลง”มันมากันได้สักพักแล้วนะ ผมคิดว่ามันน่าจะถามตั้งแต่เจอหน้า แต่พอมันไม่ถามผมก็เลยคิดว่ามันไม่ติดใจอะไรกันที่ไหนได้รอจังหวะอยู่นี่เอง วันนี้ดันว่างตรงกันอีกนะ ปกติไม่เคยเห็นหัว




   “มึงนั่นแหละไอ้สัดมีอะไรก็เล่ามา”ไอ้ธันว์กอดอกเอาเท้าถีบขาผม ดีที่ไม่ใช่ข้างที่เจ็บ แต่ก็แอบหวาดเสียวขยับขาหนีโดยอัตโนมัติ




   “มึงไม่ได้ถามไอ้พายไปหมดแล้วหรือไงวะ”




   “มันบอกให้พวกกูถามมึงเอง”




   ผมถอนหายใจ คิดไว้แล้วว่าต้องมีวันนี้ที่ต้องฉายหนังซ้ำ แต่มาถึงขนาดนี้แล้วก็ไม่ได้อยากจะปิดบังอะไรอีก ผมเล่าให้พวกมันฟังว่าไอ้พี่เดียวมันจีบผมอยู่ แต่เรื่องที่พลาดท่าเสียทีก็คงต้องเก็บไว้ ไม่ใช่อะไรนะ ผมอาย!




    ไอ้พายมันมานั่งข้างๆผมพร้อมกับถุงยาและหมอน แอบเห็นว่ามันกระตุกยิ้มรู้ทันว่าผมเลี่ยงที่จะเล่าถึงเรื่องอะไร แต่มันก็ไม่ได้ขัดขึ้นมา




   “ห่า เรื่องแค่เนี๊ยะ กูนึกว่ามึงได้กับพี่เขาแล้ว”




แค่ก แค่ก! ผมสำลักน้ำต้มยำทันทีที่ไอ้ธันว์มันพูดแทงใจดำ ส่วนไอ้พายนี่หัวเราะจนลงไปกลิ้งกับพื้น ไอ้นี่ก็เต็มที่ไป




“เดี๋ยวๆ อย่าบอกนะว่าจริง?”ไอ้คิมเสือกฉลาดขึ้นมาอีก มันหรี่ตามองผมนิ่ง ไอ้ธันว์ที่กำลังจะตักข้าวกินก็ถึงกับชะงักหันขวับมามองเช่นกัน




“กูว่าแน่ๆ ดูท่าทางมึงกับไอ้เชี่ยพายแล้ว”




“สงสัยห่าไรพวกมึงเนี่ย แดกๆไป ไม่แดกก็กลับไป โอ๊ย! ไอ้สัด!”หน้าผมเกือบทิ่มลงไปในจานข้าว ไอ้ธันว์แม่มตบหัวผมแบบไม่ออมแรงเลย




“ปิดกูทำซากอะไร กูไม่ใช่เพื่อนมึงเหรอ”มันทำหน้าจริงจังมาก จนผมกลัวว่ามันจะโกรธจริง




“กูอายยยยยย ไอ้เหี้ย!”สุดท้ายก็ต้องยอมรับ ซึ่งทำให้หน้าผมเหมือนจะไหม้ ผมกับไอ้ธันว์ไม่เคยมีความลับต่อกัน อย่างที่เคยบอกนอนกับผู้หญิงพร้อมกันยังเคยทำไม่เคยอายด้วยซ้ำ แต่กับเรื่องนี้ไม่ไหวอ่ะ หน้าผมบางขึ้นมากะทันหัน




“เออ ก็แค่เนี้ยะ”มันตบหัวผมอีกทีแต่คราวนี้เบาๆ คล้ายเอ็นดู ถุย!




“ไอ้สัด”




“น่ารักขึ้นนะมึงเนี่ย รู้จักอายเป็น”ยังๆ ยังไม่จบมันเอามือมาเชยคางผมแล้วจับหน้าหันไปมา สีหน้ามันสนุกสนานมากกับการได้แหย่ให้ผมอายมากกว่าเดิม




“เพื่อนเล่นมึงเหรอ”ผมปัดมือมันทิ้ง รำคาญ!




“มึงก็อีกตัว หยุดหัวเราะได้แล้วสัด”




“อะไรๆ พาลนะมึงเนี่ย กินซะ จะได้กินยา”ไอ้พายวางกุ้งตัวโตที่แก้ผ้าล่อนจ้อนแล้วใส่จานผม




“มึงสองตัวดูไม่ตกใจเลย มึงรู้กันอยู่แล้วใช่มั้ย?”ผมหันไปไล่บี้ ไอ้คิมมันแค่ยิ้มๆส่ายหน้าไปมา ส่วนไอ้ธันว์ซัดข้าวแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น




“กูเพิ่งรู้เมื่อกี้ที่มึงยอมรับนั่นแหละ”ไอ้คิมว่า




“มันน่าตกใจยังไงวะ กูคิดเอาไว้แล้วว่าสักวันมึงต้องโดน แต่แค่ไม่คิดว่าเร็วแบบนี้”ไอ้ธันว์บอก




“ทำไมถึงคิดว่ากูต้องโดนวะ”เอาสมองส่วนไหนคิดกันวะเนี่ย




   “ก็มึงเป็นพวกดึงดูดทั้งผู้ชายผู้หญิงไง แล้วผู้ชายที่เข้าหามึงก็ไม่ได้มีแต่เกย์น้อยอ้อนแอ้นแบบดีดทีเดียวปลิว ล่ำๆกล้ามปูที่จะเคลมมึงก็เยอะแยะไอ้สาด”ไอ้ธันว์อธิบาย




   “ถูกต้องแล้วคร้าบบบ”ไอ้พายเสริม




   “มึงเป็นพวกที่ไม่ค่อยยอมรับตัวเอง คิดว่าแมนสัดใครก็กดมึงไม่ลง”ไอ้คิมเพิ่มเติม เอาเข้าไปพวกมึง เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเรื่องฝังกลบกูเนี่ย




   “แล้วสุดท้ายก็มีคนกดมึงลงจนได้ ไม่ธรรมดาๆ”หนุ่มวิศวะ



   “ถ้าเป็นพี่เดียว เป็นกูก็ยอมให้กดล่ะวะ”หนุ่มบริหาร




   “มึงมันใจง่ายไง”ว่าที่หมอยา



“ไอ้สัด ด่ากู”ซี้ตีกันเองละ




แล้วเรื่องมันก็ไหลออกอ่าวออกทะเล ซึ่งผมก็ไม่ขัดเลย ให้มันออกไปไกลตัวผมเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ผมนั่งกินข้าวเงียบๆเสร็จแล้วก็กินยาที่ไอ้พายเตรียมไว้ให้ แต่ยังไม่คิดจะนอนเพราะตาสว่างมากนอนมาทั้งคืนกับอีกครึ่งวันเช้า เลยออกมานั่งเล่นที่ระเบียงด้านนอก อย่างน้อยก็มีต้นไม้ใบหญ้า ดอกไม้สีขาวๆที่ไอ้พี่เดียวปลูกไว้ให้มองแก้เบื่อ




“ขยับดิ๊ กูนั่งด้วย”นั่งสงบไม่ทันไรก็มีคนมาก่อกวน ผมขยับเว้นที่ให้ไอ้ธันว์นั่งบนเดย์เบดตัวเดียวกัน มันขยับไม้เท้าที่ผมใช้พยุงตัวเองไปไว้อีกมุม




“มีไรจะถามกูอีกอ่ะ”



“หึหึ กลัวกูจะซักอะไรมึงหะ กูไม่ถามหรอกว่ามึงได้กับพี่เขาท่าไหน”



“_วย”ผมด่ามันก็หัวเราะร่วน แล้วก็หยุดหัวเราะไปเสียเฉยๆ




“ตอนนี้มึงมีความสุขป่ะวะ”ไม่บ่อยนักที่ผมกับมันจะมานั่งซีเรียสคุยอะไรกันจริงจัง แต่ไอ้ธันว์มันคงรู้ว่าผมอยู่ในช่วงเวลาที่ผมกำลังคิดอะไรหลายอย่างๆ อาจจะต้องคำปรึกษา ชี้แนะ หรือด่าสักคำเพื่อกระตุ้นให้ความคิดตกตะกอนไวๆแต่สำหรับเรื่องที่ผมคิดอยู่ในตอนนี้เป็นเรื่องที่ยากมากเรื่องหนึ่งในชีวิตของผมเลย




“กูไม่รู้”




“อะไรที่มีความสุขก็ทำไป ไม่ต้องแคร์ใครหรือะไรเหมือนที่มึงทำมาตลอดนั่นแหละ”




“อืม”




 “จำได้ใช่มั้ยที่กูเคยพูดไว้ว่ากูรู้สึกว่ามึงเองก็สนใจพี่เดียวเหมือนกัน กูก็ไม่อยากชี้นำอะไร อยากให้มึงคิดได้เอง คิดแบบที่ใช้ใจคิด ให้รู้ว่ามึงรู้สึกยังไงแล้วก็ลองทำตามความรู้สึกของตัวเองดู”




ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพราะตอนนี้ยังคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองรู้สึกยังไงกันแน่ มีแต่คำพูดคนนั้นคนนี้เต็มหัวไปหมด ผมขอเวลาให้ตัวเองจัดการกับสิ่งที่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างนี้ก่อน




“แต่กูว่ามึงลองเปิดใจหน่อยก็ดี ไหนๆมึงก็หญิงก็ได้ชายก็ไม่เกี่ยง ยิ่งมาทางด้านนี้แล้ว กูว่าพี่เดียวแม่งก็เหมาะกับมึงดี”




“เหมาะยังไงไอ้สัด”




“ก็แก่กว่าแบบที่มึงชอบ ดูแลตัวเองได้ หาเงินใช้เองได้ รวยกว่ามึงอีกไม่ต้องห่วงว่าเขาจะเข้าหาเพราะหวังเงินมึง กลับกันเขาเลี้ยงมึงได้สบาย เขาเป็นได้ทั้งพ่อ ทั้งพี่ชายแล้วก็ผัวให้มึงได้ด้วย”




“หยุดพล่ามเลยไอ้เชี่ย คิดส้นตีนไรเนี่ย”ไหนว่ามันไม่อยากชี้นำอยากให้ผมคิดเองได้ แล้วที่พูดมานี่คืออะไรวะ เหมือนกำลังปูพรมแดงให้ผมเดินสู่เส้นทางสายรับแบบวันเวย์ไม่มียูเทิร์นกลับ แล้วผมก็ดันเสือกคิดตามมันด้วยนะ อยากจะตบตัวเองแรงๆเพื่อเรียกสติจริงๆ




“หรือไม่จริง ไอ้สัด มึงไม่ต้องคิดเหี้ยไรละ กว่าจะคิดได้กูว่าแก่ตายพอดี กูคิดให้แล้วเนี่ย หลับหูหลับตาให้พี่เขาเอาๆไปเดี๋ยวก็ดีเอง”



“มึงมาโดนเอาเองมั้ย ไอ้สัด ไปไกลๆตีนกูเลยไป มาทำให้กูเครียดกว่าเดิมอีก _วยธันว์เอ๊ย”ผมโมโหมันจริงๆแล้วนะ พูดมาได้ให้หลับหูหลับตา โดนเข้าไปแบบนั้นมีแต่ตาเหลือกทั้งนั้นแหละ




“ฮ่าๆ ไอ้สัด เครียดทำไมว้า ลองดูดิกูไม่ได้แนะนำให้มึงไปตายนะเว้ย ถ้าเกิดมันไม่เวิร์ค มันไม่ใช่ มึงไม่มีความสุขมึงก็ก้าวออกมาดิ ถ้ากลัวจะเสียใจมึงก็เลยคิดเลย เสียใจอยู่แล้วถ้ามีเรื่องความรู้สึกมาเกี่ยวข้อง แต่แค่มึงหันหลังกลับมา ก็จะเจอพวกกูที่คอยปลอบมึงอยู่ เดี๋ยวกูแดกเหล้าเป็นเพื่อน พามึงไปฟันหญิงให้ลืมเศร้าเอง”




เหมือนจะซึ้งแต่ทำไมผมอยากด่ามันวะ ทว่าที่ทำก็คือหัวเราะออกมากับสิ่งที่มันพูด มาถึงตรงนี้ผมเพิ่งรู้สึกตัวว่าที่มานั่งเครียดแบบนี้ เพราะใจผมเริ่มรู้สึกอะไรๆกับไอ้พี่เดียวมันแล้วสินะ จู่ๆผมก็นึกถึงคำพูดใครสักคนที่เคยพูดไว้ได้ขึ้นมา ‘เรื่องของหัวใจต้องใช้ใจคิด ไม่ใช่สมอง’




“พูดอะไรแบบนี้ก็เป็นเหรอวะไอ้สัด เหมือนเชี่ยวชาญเรื่องความรักนะมึงอ่ะ”




“กูก็จำๆเขามา ไอ้อั้มมันเพ้อกรอกหูกูทุกวันจนกูแทบจะบรรลุ”




“แนะนำกูให้เปิดใจแล้วตัวมึงอ่ะ แล้วมึงอ่ะกะจะฟันไปเรื่อยๆอย่างนี้เหรอวะ”




“หึหึ กูยังไม่เจอใครที่ทำกูรู้สึกอย่างอื่นนอกจากจะลากขึ้นเตียงนี่หว่า”




“แบบนั้นก็ดีแล้วไม่ปวดหัว”




“ตอนนี้มึงปวดหัว ต่อไปเดี๋ยวมึงก็ปวดตูด”



“_วย”วกเข้าเรื่องนี้เฉย ไอ้เพื่อนเลว



“แจกกูบ่อยเหลือเกินนะ เหลือกินเหลือใช้นะเดี๋ยวนี้”




“ไสหัวไปเลยไอ้สัด”




“ฮ่าๆ กูไปก็ได้ เออ ไอ้น่าน แต่ก็ไม่แน่นะ”




“อะไร?”




“กูอาจจะบรรลุเรื่องความรักเร็วๆนี้ก็ได้”



“ห๊ะ”แล้วมันก็ไม่อยู่ให้ผมถามรายละเอียด เดินเข้าห้องไปเฉย




“ไอ้ควาย มาทำให้อยากรู้แล้วก็ไปสันดานนะมึง” เอาเถอะ มันคงยังไม่พร้อม ผมรอได้ แต่ถ้ารอไม่ไหวกูสืบเองก็ได้วะ!





X






   ดาวบนดินที่เรียงรายเป็นสายสีแดงยามค่ำคืน ถือเป็นทัศนียภาพที่สวยงามไปอีกแบบสำหรับชีวิตคนเมือง แต่ก็จะไม่มีโอกาสได้เห็นเลย ถ้าหากไม่ยืนอยู่บนตึกศูงอย่างในตอนนี้ ผมนึกถึงกล้องคู่ใจที่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ถูกหยิบออกมาใช้งานเลย เพราะแค่เวลาทำงานส่งอาจารย์ยังไม่พอเลย




   “น่านกินข้าวได้แล้ว”ไอ้พี่เดียวโผล่หน้ามาเรียกผมที่นั่งเล่นระหว่างรอมันทำอาหารมื้อเย็นที่เลทมาจนค่ำแล้ว แขนเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนถูกพับลวกๆมากองไว้เหนือข้อศอก ส่วนกางเกงยังเป็นกางเกงสแล็คที่มันใส่ไปทำงานเมื่อเช้า บนตัวมันมีผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลลายแม่เป็ดตัวเหลืองอ๋อยมีลูกเป็ดสีเดียวกันอีกสามตัวเดินตามสวมทับอีกชั้น ใครเลือกผ้ากันเปื้อนให้วะ ผมอยากรู้มากแต่ก็ไม่ได้ถาม ผมพยักหน้าให้มันเป็นการตอบรับแล้วพยุงตัวเองลุกขึ้น



อันที่จริงจะสั่งอาหารขึ้นมากินก็ทำได้แต่ดันกระแดะอยากจะทำเอง ผมเลยต้องหิ้วท้องรอมาจนถึงตอนนี้




   “ให้ช่วยพยุงมั้ย?”   




   “ไม่อ่ะ มีไม้”ผมใช้ไม้คล่องขึ้นบ้างแล้ว หลังจากอยู่กับมันมาทั้งวัน วันนี้ไม่มีใครแวะเวียนมาเยี่ยมที่ห้องเหมือนวันแรก ข้าวปลาอาหารไอ้พี่เดียวก็จัดการไว้เสร็จสรรพไม่รู้ตื่นมาทำตั้งแต่กี่โมง แต่คงเช้ามากๆ ไม่อย่างนั้นมันคงไปทำงานสายแน่ๆ เพราะทำไว้หลายอย่างทั้งมื้อเช้ามื้อกลางวัน ฝีมืออาหารไทยของมันดีขึ้น แถมทำได้หลายอย่างด้วย เอาเวลาไปหัดทำก็ไม่รู้




   “ทำไรเยอะแยะเนี่ย”เอาจริงนะข้าวไข่เจียวกับน้ำปลาพริกก็พอแล้ว นี่พี่ท่านเล่นต้มยำกุ้ง ไข่เจียวหมูสับ ผัดผักรวม หมึกผัดผงกะหรี่ จัดเต็มไปมั้ย แล้วกลิ่นผงกะหรี่นี่อบอวลไปทั่วห้องเลยนะ




   “กินๆไปเหอะน่า”




   ผมนั่งลงประจำที่รอพ่อบ้านตักข้าวมาให้ อยู่กับไอ้พี่เดียวก็สบาย งานการไม่ต้องทำ ข้าวถ้าป้อนได้มันคงป้อนด้วย ไม่รู้จะบ้าอะไรเบอร์นั้น



 
   “อร่อยมั้ย?”สีหน้าลุ้นมาก ผมแกล้งเคี้ยวนานๆกว่าจะกลืนลงคอแล้วตอบมันสั้นๆ




   “อืม”




   “แค่อืมเองเหรอ”




   “ก็ดีอ่ะ เออๆ อร่อยๆ”แม่ม ผมกลับคำพูดแทบไม่ทัน ก็มันเล่นทำหน้าทำตาผิดหวังซะขนาดนั้น กลัวมันเอาไปทิ้งด้วย เหมือนที่ผมเคยบอกเรื่องเครื่องประดับที่มันออกแบบว่างั้นๆแล้วมันก็ขยำทิ้ง คือมันก็ไม่ได้อร่อยแบบอร่อยมากกินคำแรกแล้วร้องว้าวหรืออะไรประมาณนั้น แต่มันก็ไม่ได้รสชาติแย่ จัดอยู่ในระดับที่กินได้ค่อนข้างไปทางอร่อยนิดหน่อย




   “ไม่ต้องตอบเอาใจกันหรอก ถ้าไม่อร่อย”



   “ประสาทป่ะเนี่ย ต้องการไรจากสังคมวะพี่ กินๆเข้าไป”ผมตักหมึกผัดผงกะหรี่ให้มัน ซึ่งเป็นผัดผงกะหรี่พิการเนื่องจากไม่มีคื่นช่ายสักใบ ก็คนทำมันไม่ชอบกินไง




   “พรุ่งนี้เช้าไปส่งบ้านด้วยนะ”ผมค้างห้องไอ้พี่เดียวมาสองคืนแล้ว ถ้านับคืนนี้ก็เป็นคืนที่สามซึ่งเพียงพอแล้ว นานกว่านี้คงไม่ไหวยังมีงานอีกหลายอย่างที่ผมต้องกลับไปจัดการ ขาดเรียนไปสองวันไม่รู้มีงานอะไรบ้าง พรุ่งนี้บ่ายไม่มีเรียนผมเลยให้ไอ้หมวยกับไอ้เต้มันเอางานกับสมุดจดมาให้ที่บ้าน ช่วงเช้าก็คงต้องโดดไปตามระเบียบ แต่ไอ้พี่เดียวมันก็เอาใบลาไปส่งให้ผมแล้ว ตอนแรกผมจะฝากไอ้พายเอาไปให้พวกไอ้เต้จัดการให้ แต่คนทางนี้เขาดันเป็นธุระจัดการให้ทุกอย่าง ผมก็เลยปล่อยเลยตามเลย




   “ทำไม?”




   “คนเขามีบ้านมีช่องให้กลับบ้างสิ”จะให้อยู่นี่ไปตลอดชีวิตเลยหรือไง แล้วอีกอย่างนะ ตอนกลางวันก็อยู่คนเดียวไม่รู้จะคุยกับใครประสาทจะกิน สู้กลับไปอยู่บ้านทำนั่นทำนี่ดีกว่า ว่าจะกล้องออกมาเช็คสภาพด้วย ใกล้วันแต่งงานของพี่แชมป์กับพี่นลินเข้ามาทุกทีแล้ว




   “มีงานให้กลับไปทำเยอะแยะ”



   “เอามาทำนี่สิ”




   “ไม่เอา”




   “ตามใจ”




   หลังจากนั้นมันก็ไม่พูดอะไรอีกเลย ผมก็ไม่พูดกินข้าวไปเงียบๆจนอิ่มมันก็เก็บล้างตามปกติ ผมเลยเดินไปนั่งเล่นที่ริมระเบียงซึ่งกลายเป็นมุมโปรดผมไปแล้ว ถ้าได้กีตาร์สักตัว เบียร์สักขวดจะดีมาก บรรยากาศโคตรดีอ่ะ นั่งอยู่พักใหญ่ก็รู้สึกผิดปกติเพราะไม่มีคนออกมาตาม ทุกทีไม่ถึงสิบนาทีก็ถูกตามให้กลับเข้าด้านในเพราะกลัวไข้จะกลับ แต่วันนี้เงียบกริบ ผมแอบมองลอดผ่านผ้าม่านระเบียงที่ปิดไม่สนิท ก็ไม่เห็นไอ้พี่เดียวอยู่ด้านใน ปกติจะนั่งๆเดินๆคุยโทรศัพท์เรื่องงานอยู่แถวโซฟาแต่วันนี้ไม่เห็น จะว่าล้างจานยังไม่เสร็จก็ไม่ใช่ เลยตัดสินใจเดินเข้ามาดูแล้วก็พบว่าเจ้าของห้องนอนหมดสภาพอยู่บนโซฟา ในมือมีโทรศัพท์ถือค้างไว้ บนอกมีแฟ้มงานวางคว้ำอยู่




   “พี่...พี่เดียว”ผมเขย่าตัวมันแรงๆ ปลุกแบบทะนุถนอมไม่ได้หรอกครับ มันไม่สะเทือน




   “อื้อ...อะ...น่านมีไร”มันงัวเงียลุกขึ้นนั่งสภาพมึนเต็มที่ ไปอาบน้ำนอนดีกว่ามั้งแบบนี้




   “ไปอาบน้ำแล้วนอนเถอะ”



   “งานยังไม่เสร็จเลย”




   “แต่เมื่อกี้ก็ไม่เห็นจะได้งาน ถ้าจะทำต่อก็ไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อนดีกว่ามั้ย”




   “อืม ก็ได้”มันเดินมึนๆเข้าห้องไป ผมเลยจัดแฟ้มที่กองบนพื้นให้เป็นระเบียบ ปิดไฟด้านนอกแล้วตามเข้าไปในห้อง ไม่คิดจะให้มันทำงานต่อหรอก ดูท่าจะไม่ไหว เดี๋ยวก็ได้นอนเฝ้ากองแฟ้มอีก




ผมล้มตัวลงนอน ที่นอนไอ้พี่เดียวมันนุ่มได้ใจมาก นอนแล้วไม่อยากลุกเลย อยากขโมยกลับไปนอนที่บ้าน นอนกลิ้งไปมาบนเตียงรอไอ้พี่เดียวอาบน้ำ




ผมนอนกับมันมาสามคืนผมก็ยังไม่สามารถให้คำตอบกับตัวเองได้ว่าจะเอายังไงต่อไปดี คำพูดไอ้ธันว์ยังชัดเจนเหมือนมันมาพูดกรอกหูซ้ำๆทุกนาที ผมเข้าใจที่มันบอก และเข้าใจความรู้สึกตัวเองดี ความรู้สึกที่ลอยขุ่นทำให้ใจสับสนตอนนี้มันตกตะกอนแล้ว เหลือแค่ตัดสินใจเท่านั้น ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ยากมาก




ที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดถึงความสัมพันธ์ในลักษณะนี้ ยิ่งกับผู้ชายด้วยแล้วก็ยิ่งไปกันใหญ่ นึกไม่ออกเลยว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร คิดไปคิดมาก็กลายเป็นว่าผมจริงจังกับเรื่องนี้เกินไป จริงจังจนผิดวิสัยคนที่ไม่แคร์เรื่องความสัมพันธ์อย่างที่ผมควรจะเป็น ก็คนมันไม่เคยรัก ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้รักมันหรอก ยอมรับว่าก็รู้สึกดีๆกับสิ่งที่มันทำให้แล้วก็ไม่อยากเสียมันไปในตอนนี้ อยากรู้ว่ามันจะพัฒนาต่อได้อีกมั้ย แต่อีกใจก็ไม่กล้าที่จะก้าวต่อไป




“คิดอะไร หน้านิ่วคิ้วขมวดเชียว”




“เอ้ย!”ผมตกใจ คิดเพลินไปหน่อยจนไม่รู้ว่ามันมาค้ำแขนคร่อมผมไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ น้ำจากเส้นผมสีดำหยดลงบนแก้มผม




มันหัวเราะสองหึแล้วก็ลุกขึ้นนั่งริมขอบเตียง ผมรีบขยับลุกขึ้นนั่งหลังพิงหัวเตียง แล้วพี่ท่านก็นุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว อวดร่างหนาๆที่ตอนนี้ลดความหนาลงมานิดหน่อยแต่ก็หนากว่าผมอยู่ดีเพราะตอนผมน้ำหนักลดเพราะทั้งสอบทั้งทำงานส่งอาจารย์จนไม่มีเวลาจะฟิตร่างกาย ลายสักกราฟฟิครูปมังกรที่สีข้างด้านขวาของไอ้พี่เดียวทำให้ผมอยากไปสักเพิ่มอีก แต่กลัวอาฝนจะบ่น แค่ลายที่อยู่บนตัวตอนนี้ผมก็โดนบ่นเป็นเดือนๆ



“มองพี่ตาเป็นมันขนาดนี้ เข้ามาปล้ำพี่เลยดีกว่า”




“ได้เหรอ พี่ยอมให้ผมเสียบใช่ป่ะ”




“หึหึ ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดู”มันยิ้มมุมปากน่าต่อยมาก ดูท้าทายความสามารถผมสุดๆ




“เหอะ”ไม่ใช่ว่าผมจะทำไม่ได้นะ แต่ไม่อยากทำ เพราะผมไม่ได้พิศวาสอยากจะทำอย่างนั้นกับมัน แค่คิดภาพตามก็ขนลุกแล้ว ไม่ไหวๆ




“ทำหน้าประหลาดอย่างนี้คิดอะไรพิเรนทร์อยู่หืม?”มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ สายตาเจ้าชู้แพรวพราว มันเป็นคนตาดุ แต่เวลาทำตาแบบนี้แล้วก็นะ...เป็นผู้หญิงคงระทวย ยอมมันทุกราย




“คิดตอนที่พี่โดนผมเสียบไง โคตรสยอง”




“หึหึ ถ้าจะคิด คิดตอนที่พี่ทำน่านดีกว่ามั้ยครับ”




“เอ้ยๆ ถอยไปๆ”ผมรีบผลักมันพัลวัน ตอนที่มันเอนตัวเข้าหาจนผมขยับหนีไม่ได้ หลังติดหัวเตียง อีกนิดเดียวมันจะจูบผมอยู่แล้ว ปากว่ามือถึงตลอด




“ฮ่าๆ”มันหัวเราะอารมณ์ดี เลิกนอยด์ที่ผมจะกลับบ้านพรุ่งนี้แล้วสิ แต่ผมนี่อกสั่นขวัญแขวน กลายเป็นคนกลัวถูกมันปล้ำไปเฉย




“ออกไปทำงานเลยไป”ผมไล่ ก็สถานการณ์มันไม่ค่อยปลอดภัย




“ไม่ทำแล้ว นอนกอดน่านดีกว่า พรุ่งนี้ก็ไม่อยู่ให้กอดแล้ว”นี่ก็เหมือนกันไม่มีคืนไหนที่มันไม่กอดผม ข้ออ้างก็เดิมๆกลัวผมนอนดิ้นโดนแผลตัวเอง ผมก็ยอมๆมันไปเป็นการพิสูจน์ความรู้สึกตัวเองไปด้วย แล้วก็ตกใจอยู่เหมือนกัน ผมคุ้นกับสัมผัสมันตั้งแต่เมื่อไหร่ เลิกรังเกียจหรือขนลุกตั้งแต่เมื่อไหร่




เฮ้อ...ท่าทางมึงจะไม่ไหวแล้วไอ้น่าน







--------------------------------------------------


มาแล้วค่าาาา ไม่ได้ตั้งใจจะมาช้า หลังจากไปเที่ยวก็ดันลืมกระเป๋าใส่พวกเมมกับทั้มไดร์ฟไว้ในรถเพื่อนแล้วเพิ่งได้เจอได้ส่งของคืนกัน ถถถ
ขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้รอกันนานเลย ลืมกันไปหรือยังคะ ใครที่ลืมตอนเก่าย้อนกลับไปอ่านได้ค่ะ ฮ่าาาา (ยังไม่สำนึก)
เอ้อ ลืมเลย สวัสดีปีใหม่นะคะ คนอ่านที่น่ารักทุกท่าน ขอให้เป็นปีที่ดีอีกปีนะคะ
ขอให้สุขสมหวังในทุกเรื่องและมีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่แข็งแรงสดใสนะคะ
ปีระกาปีไก่ ไม่ใช่ปีนก ปีนี้เราจะไม่นกกันนะคะ (อะไรของแก๊ 55555)  :hao3:

ในส่วนของน้ำน่านกับพี่เดียวนั้นก็ค่อยๆพัฒนาไปทีละขั้นเนอะ เรื่องนี้มันอาจจะยาว หรือเนื้อหายืดเยื้อในความคิดของใครหลายคน
ดูไม่ค่อยน่าติดตาม แต่เราตั้งใจให้เห็นพัฒนาการของตัวละคร ไม่อยากรีบเร่ง อยากให้ค่อยๆผูกพัน ซึมซับกันไปทีละน้อย
ด้วยบุคลิกของน้ำน่านเองก็ไม่ใช่คนที่จะตกหลุมรักใครง่ายๆ ก็เด็กมันกลัวความรักอ่ะเนอะ
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรู้สึกแบบไหนที่เรียกว่ารัก คนแต่งก็ไม่รู้ #อ้าว 555 ดังนั้นการที่จะลงเอยกันภายในสิบตอน(??) มันก็คงไม่ใช่
เรื่องของเพื่อนๆก็มีเข้ามาในเรื่องค่อนข้างเยอะ พอๆกับฉากที่น่านกับพี่เดียวจะอยู่ด้วยกันเลย ใครเบื่อบ้าง 555
เราอยากให้เห็นว่าชีวิตจริงคนเราไม่ได้มีแค่พระเอก นายเอก มันมีตัวแปรหลายอย่างทำให้รักเกิดขึ้น
แม้ว่ารักนั้นจะเป็นเรื่องของคนสองคนก็ตาม เพื่อนๆเป็นตัวชูโรงให้รักอร่อยขึ้นนะคะ
(ชอบกลุ่มเพื่อนน้ำน่านมาก ก๊ากกก แอบเทใจให้น้องหมวยไปครึ่งดวง  :กอด1:)


พล่ามมาเยอะ ใจจริงแค่อยากจะบอกว่า ถ้าหากที่ผ่านมาเราทำไม่ดีพอ เราก็จะพยายามทำให้มันดีขึ้นนะคะ รักคนอ่านทุกคน
คนอ่านคือกำลังใจของเรา ทุกครั้งที่เห็นคอมเมนต์เห็นการติดตามทวงถามให้อัพเราก็อยากจะอัพทันทีเลย
แต่เวลาเราไม่ค่อยอำนวยเท่าไหร่เลยมาอัพช้าตลอด ขอโทษอีกครั้งที่ทำให้รอกันนานๆนะคะ  :hao5:



ปล. ใครนึกรอยสักพี่เดียวไม่ออกเดี๋ยวจะอัพรูปไว้ในเพจนะคะ จะอัพในนี้ก็กลัวมันจะประเจิดประเจ้อไป รูปมันก็ค่อนข้างจะเซ็กซี่(??) 555

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-01-2017 08:40:59 โดย phoenixes »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ fsbeentaken

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
มาแล้วววววว ชอบเรื่องนี้มากกกกกก ขอบคุณนะคะะะะ :mew1:

ออฟไลน์ natt teng

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-3
ดีใจที่มาต่อนะ ชอบมากจร้า อยากอ่านต่อเร็วๆ จร้า  :mew1:

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
รอตอนต่อไป ไรท์อย่าหายไปนานน้าาา~~~ :hao3:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
เราก็ชอบแบบนี้ค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ได้กันทีเดียวแล้วจากรุกแมนๆอยู่ๆดีๆก็ไปหวั่นไหวกับเขาซะงั้น
รอติดตามตอนต่อไปจ้า
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Bradly

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
รอตอนต่อไปป

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
❤️ HAPPY NEW YEAR 2017 ❤️
สวัสดีปีไหม่ ๒๕๖๐
ขอให้ไรท์ มีความสุข มากๆ
。◕‿◕。
น่าน เลิกสับสน คิดมากได้และ
รู้ตัวว่าเริ่มมีใจ ก็ปล่อยไปตามเสียงของหัวไจเถอะ
พี่เดียว ดีงาม อบอุ่น น่ารัก น่ากอด
แหะๆ............คนอ่านก็ชอบบบบบ :impress2:
น่าน ยอมรับรักพี่เดียวได้แล้ว  :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ pe-ar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
เรายังรออยู่ คิดถึงจังเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุุณ :)

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
สวัสดีปีใหม่เช่นกันค่ะ
เพิ่งมีโอกาสได้อ่านเรื่องนี้ สนุกมากค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ   :katai2-1:

ออฟไลน์ aeecd

  • :: 8018 ::
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-0
รอวันที่น่านเปิดใจ :mew1:
รอว่าเมื่อไหร่จะได้กัน..............อีก :hao6:
เด็กที่ชื่อปายนี่เป็นน้องคนละพ่อกับน่านปะ?

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
มาแล้ว ๆ

ออฟไลน์ natt teng

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-3
รอๆๆๆ นะ รอเสมอไม่เคยลืม

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero






- 28 -







   แผลจานบาดนี่ร้ายแรงกว่าที่คิดไว้ บางอย่างที่เคยทำได้ตอนนี้ก็ทำไม่ได้ อย่างเช่นการขับรถไปเรียน เมื่อเช้าก็ลองพยายามแล้วครับแต่มันไม่เวิร์ค คือมันก็พอถูไถไปได้แต่ไม่ถนัดไอ้พายก็บ่นผมใหญ่ว่าดันทุรัง ไม่เจียมสังขาร สุดท้ายลากเข้าดราม่ากลัวว่าผมจะไปประสบอุบัติเหตุเลยจับผมยัดใส่รถมันแล้วขับมาส่งถึงคณะ พอดีเจอกับไอ้เต้ที่หน้าคณะมันเลยฝากฝังให้ไปส่งผมตอนเลิกเรียนด้วย



   ไม่ได้มาเรียนหลายวัน พอกลับมาก็มีอุปกรณ์เสริมแบบพกพา ไปไหนต้องถือติดมือไว้ไม่งั้นจะเดินไม่ได้ต้องคลานเอา เลยเป็นที่สนอกสนใจของชาวคณะทุกชั้นปี ต่างเข้ามาทักทายเหมือนผมเป็นเซเลปทำคลิปหลุด เท่านั้นยังไม่พอขอลองอุปกรณ์เสริมผมด้วย เออ ลองกันไปเมื่อไหร่มีเป็นของตัวเองแล้วจะรู้สึกว่าชีวิตมันอยู่ยาก ลำบาก เป็นภาระสุดๆ



   “กูว่ามึงนั่งวีลแชร์อาจจะดีกว่า”



   “ห่า กูไม่ได้สาหัสขนาดนั้น”



   “แต่จะสาหัสแน่ถ้ามึงตกบันได คราวนี้คอหักแทนขาแน่ๆ ลำบากคนมาเก็บศพอีก”วันนี้ผมเรียนตึกเก่า มีสามชั้นซึ่งไม่มีลิฟต์ต้องลากสังขารเป๋ๆของตัวเองขึ้นลงบันได โดยมีไอ้พวกชั่วนี่คอยจิกกัดเป็นระยะทั้งขาขึ้นขาลง ไม่ช่วยแล้วยังจะซ้ำเติมกันอีกนะพวกมึง



   “ปากมึงนี่นะ กับผัวมึงพูดแบบนี้มั้ย”



   “ไอ้สัดกูไม่มีผัว! เดี๋ยวกูยันตกบันได”ไอ้หมวยโวยวายใหญ่ อะไรวะ ป่านนี้แล้วรุ่นพี่สถาปัตย์ยังไม่ได้กินเพื่อนผมอีกหรือยังไง



   “หึหึ อย่าให้พวกกูจับได้คาหนังคาเขาก็แล้วกัน”



ผมไม่ได้พูดนะ ไอ้เต้นู่น ไอ้นี่ก็น่ากลัว มันรู้เยอะเกินไปแล้ว นี่คงไปรู้อะไรดีๆมาแน่ ไม่งั้นไม่พูดแบบนี้ ไอ้โอ๊คก็น่าจะรู้ดูจากสีหน้าและรอยยิ้มมุมปากอันแสนกวนตีนของมัน ส่วนเจ้าของเรื่องได้แต่อ้าปากพะงาบๆ พูดอะไรไม่ออก



   “ทำหน้าเหมือนหมาขาดอากาศ เอาน่ามึงจะมีผัวหรือมีเมียยังไงก็เพื่อนกู”ไอ้โอ๊คมันตบบ่าซี้มันปุๆ ก่อนจะเดินลากคอกันลงไป ไอ้หมวยหาเสียงเจอแล้วก็โวยวายไปตลอดทาง



   “มึงไปรู้อะไรกันมา”ผมถามไอ้คนที่เหลือ



   “เห็นกับตาว่ามันถูกผัวมันกระชากคอมาจูบที่สะพานการเวก”



   “ห๊ะ กล้ากันขนาดนั้น”โจ่งแจ้งกันในสถานศึกษาเลยนะ



   “คงไม่ได้ตั้งใจมั้ง น่าจะทะเลาะกันอยู่ เมื่อวานตอนค่ำกูกับไอ้โอ๊คจะเดินไปเซเว่นพอดี บังเอิญเห็นโคตรดุเดือด พี่เขาจูบแล้วเดินหนีทิ้งเพื่อมึงให้ยืนเป็นตอไม้ สงสัยไปกระตุ้นต่อมโมโหพี่เขามั้งเลยเจอดี”



   “เหอะๆ กูว่าแล้วว่าสักวันมันต้องโดนจับได้”



   “มึงก็รู้มาก่อนแล้ว?”



   “เออเจอกับตัวมาสองสามครั้งแล้ว แต่ไม่เด็ดเท่าที่พวกมึงเห็น”ก็มารับมาส่ง ตามไปเฝ้าที่หัวหิน



   “ผัวมันไม่ทำธรรมดานะ พี่ไวท์เฮดว้ากสถาปัตย์ปีนี้ โหดกว่าพี่กั๊กอีก ที่สำคัญพี่เขาดังมาก รวยมากทายาทเอสพีเอ็มกรุ๊ป สาวตรึม ผู้ชายก็ตามต้อยๆ”ข้อมูลไอ้เต้มาเต็ม ไปเรียนพวกสื่อสารมวลชนหรือควรจะเป็นนักสืบบ้านเล็กอะไรพวกนี้น่าจะรุ่ง ผมบอกแล้วว่าอย่าให้พวกมันจับได้ ต่อไปนี้ไอ้หมวยมันโดนเละแน่ๆ แต่ชีวิตมันคงหนีไม่พ้นพี่ว้ากเกลียดอะไรมักจะได้อย่างนั้น



   “กว่าจะมาถึงนะไอ้พวกเชี่ย มึงแดกเต่าเป็นอาหารหรือไง”ไอ้คนพูดมานั่งจองโต๊ะหน้าบึ้งหน้างอที่โรงอาหารคณะสงสัยระหว่างทาคงโดนไอ้โอ๊คไปหลายดอก



   “จะด่าก็ช่วยดูสังขารกูด้วย อย่ามาพาลกลบเกลื่อน เดี๋ยวมึงจะโดนไม่ใช่น้อย”ผมผลักหัวมันด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะหันไปสั่งไอ้เต้ให้ซื้อข้าวมาให้ ไอ้หมวยมันอยากกินข้าวมันไก่ที่โรงอาหารกลางโดยไม่สงสารร่างกายผมเลยสักนิด ที่มาช้าก็กว่าจะยัดไม้เท้าเข้ารถไอ้เต้แล้ววนมาหาที่จอดแถวโรงอาหารได้ก็ใช้เวลานานเหมือนกัน



   “ไหนเอาสมุดจดงานมึงมาดูสิ”เมื่อวานที่ผมนัดพวกมันไปที่บ้านก็ไม่ได้ไปเพราะอยู่ทำงานกันจนดึก แต่มันก็ส่งรายละเอียดงานคร่าวๆมาให้ทางไลน์บ้างแล้ว



   “เอาไปเลย กูให้”ไอ้หมวยส่งกระดาษที่มันจดงานอย่างละเอียดมาให้ ถึงจะปากสุนัขชอบกัดไปทั่วแต่มันก็เป็นคนใจดี   



“แต๊งกิ้วน้องหมวยขอให้ผัวรักผัวหลง”



   “เก็บไว้บอกตัวเองเถอะ”



   “เดี๋ยวกูโบก”ผมยกมือขึ้นจะตบกบาลมันแต่ก็มีใครมาดึงมือไว้ซะก่อน พอหันไปมองก็ต้องสะดุ้ง หน้าโหดมาก ตาจะดุไปไหนวะ



   “พี่มาไมเนี่ย”ไอ้หมวยมองซ้ายมองขวาเหมือนกลัวจะมีใครมาเห็น แต่แค่พี่เขาเหยียบเท้าเข้ามาในโรงอาหารกลางก็เป็นจุดสนใจแล้วป่ะวะ เห็นกันทุกคนนั่นแหละ



   “แล้วทำไมจะมาไม่ได้”พี่ไวท์นามที่ผมรู้จักจากไอ้เต้พูดขึ้นพร้อมกับวางถุงที่มีสัญลักษณ์ร้านสะดวกซื้อชื่อดังลงบนโต๊ะ ในนั้นมีขนมขบเคี้ยวที่ไอ้หมวยชอบอัดแน่นเต็มถุง เลี้ยงดูกันดีเหลือเกิน



   “มึงไม่ต้องกลัวไอ้เต้กับไอ้โอ๊คเห็นหรอก เพราะไม่ทันแล้ว”ผมบอกมันยังทำหน้างง จ้องหน้าผมนิ่ง



   “ก็เมื่อวานมึงเล่นจูบโชว์พวกมันไปเองนะ”



   “หะ!”มันร้องเสียงหลง อ้าปากพะงาบๆ หน้าค่อยๆแดงลามไปถึงหูโคตรตลกและน่าแกล้ง



   “หึหึ รู้กันหมดแล้วใช่มั้ย?”ถึงพี่แกจะหน้าโหดแต่เวลายิ้มแล้วโคตรจะดูดี แถมยังดูอบอุ่นขึ้นมาทันตาเมื่อมือใหญ่ลูบหัวไอ้หมวยอย่างเอ็นดู ไอ้ตัวดีตวัดตามองค้อนตาคว่ำหน้างอ



   “ใช่พี่”



   “ดี กูจะได้ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆ ทำเหมือนเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน เมียกูแท้ๆ”



   “ไม่ใช่เมียเว้ย!”เถียงทันควัน



   “จับปล้ำทำเมียเลยพี่จะได้หายปากดี”ผมบอกไม่สนใจเสียงหมาเห่า พี่ไวท์ก็ยังเอามือลูบหัวหมาเล่นพี่แกก็คงเพลินมือ ขน เอ้ย ผมมันนิ่มนะผมเคยจับ



   “ไอ้เชี่ยน่านหุบปากไปเลย”มันถลึงตาโตๆใส่ผม ไม่ได้น่ากลัวเลย เหมือนชิสุที่พยายามคิดว่าตัวเองเป็นเยอรมันเชฟเฟิร์ด



   “ก็อยากอยู่แต่สงสาร”สายตาพี่เขาโคตรอ่อนโยน เอ้อ ผมรู้สึกจั้กจี้ ทำไมต้องมาเห็นอะไรแบบนี้ด้วยนะ



   “กลับไปได้แล้ว รู้จักกันหรือไง คุยกันอยู่ได้”



   “พาลนะ ไปก็ได้ ตอนเย็นแวะไปหาด้วยล่ะ”พี่ไวท์ใช้เสียงสองในการคุยกับไอ้หมวย



   “ทำไมต้องไป...เออๆ เดี๋ยวไป”ผมกลั้นขำแทบตาย อยากจะงัดข้อกับเขาแต่แค่เขาจ้องหน้าทำตาดุใส่ก็หงอทันที ไอ้ลูกหมาเอ๊ย



   “ของกินด้วย”



   “เออ”



   “หึหึ เหมาะกับมึงดี”ผมพูดหลังจากพี่เขาเดินเท่จากไป โต๊ะข้างเคียงนี่มองกันเหลียวหลัง คนอะไรวะโคตรเท่



   “เงียบไปเลยไอ้สัด”



   “เอ้ามาด่ากูอีก”



   “ระวังตัวมึงไว้ด้วย”



   ผมยักไหล่ รู้ว่ามันหมายถึงเรื่องอะไร แต่ไม่สนและไม่แคร์ด้วยว่าใครจะรู้เรื่อง ระหว่างที่ผมนั่งฟังไอ้หมวยบ่นไอ้สองตัวที่หายไปนานมากก็กลับมาพร้อมกับจานข้าวมันไก่แบบพิเศษสี่จาน



   “เมื่อกี้กูเห็นใครมาแว๊บๆวะ”



   “คนที่พวกมึงเห็นจูบปากกับไอ้หมวยเมื่อคืนไง”ผมบอกไอ้หมวยหยิบกล่องป๊อกกี้ปาผมทันทีแต่รับไว้ทัน



   “อ๋อออออออออ”ไอ้สองตัวร้องยาว สีหน้ากรุ้มกริ่ม



   “เสาร์หน้าแดกเหล้าร้านเฮียเสกพามาแนะนำอย่างเป็นทางการกับพวกกูด้วยครับมึง”



   “ทำไมกูต้องทำงั้น”



   “ถ้าไม่คิดว่าพวกกูเป็นเพื่อนก็ไม่ต้องทำ”



   เจอไม้เด็ดไอ้โอ๊คไปไอ้หมวยก็นิ่งไป พวกผมก็เงียบนั่งกินข้าวไม่พูดไม่คุยเหมือนปกติ สร้างความกดดันให้ไอ้หมวยมัน ตอนแรกมันก็ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ แต่ผ่านไปสักพักมันก็นั่งไม่เป็นสุข



    “เออๆ ไอ้พวกเชี่ย รุมกูนะ”



   “รุมห่าอะไร ก็แค่พามาแค่นี้ ทำเป็นท่ามากนะมึง เก็บท่าไว้เล่นกับผัวมึงเถอะ”



   “ไม่ใช่เว้ย!”



   “ไม่ใช่แล้วยังไง มึงคบกับพี่เขายังไงก็ไม่รอด”ไอ้เต้ว่า



   “มึงไม่คิดว่ากูจะเป็นผัวมั่งไง?”



   พวกผมนี่ถึงกับวางช้อนลงยกมือขึ้นกอดอก พร้อมใจกันมองหน้ามัน ก่อนจะพูดออกมาอย่างพร้อมเพรียงโดยมิได้นัดหมาย




    “ถุย!!!”






X






“กูคงไม่ต้องไปส่งมึงแล้วสินะ”



พอลงมาจากห้องเรียนกำลังจะเดินไปขึ้นรถไอ้เต้ ก็เห็นคัมรี่ไฮบริดสีขาวมุกจอดเด่นอยู่หน้าคณะ เจ้าของรถเปิดประตูลงมาพอดี ได้ยินเสียงเปรตเพศเมียแถวนี้กรี๊ดขอส่วนบุญแสบแก้วหูชะมัด นี่มันก็เย็นมากแล้ว แดดก็ไม่มีไม่รู้พี่ท่านจะใส่แว่นกันแดดทำไม ชุดทำงานสุดเนี๊ยบเหลือเพียงแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวที่ถูกพับแขนมาถึงข้อศอกปลดกระดุมบนสองเม็ดกับกางเกงแสล็คสีเทาอ่อนแบบพอดีตัว ดูดีจนน่าหมั่นไส้ เหมือนจะไปเที่ยวกลางคืนต่อ



“พี่มารับ”



“มาได้ไง”



“พายบอก”



“วุ่นวายจริงๆ”เมื่อเช้ามันก็สั่งไอ้เต้ไว้แล้วจะบอกไอ้พี่เดียวให้มารับทำไมวะ



“ผมฝากมันด้วยนะพี่”ไอ้เต้มันรีบชิ่งพร้อมกับส่งกระเป๋ากับซูมของผมให้พี่เดียวเฉย แต่เอาเถอะบ้านผมกับคอนโดมันคนละทางไปกับไอ้พี่เดียวก็ได้ เดี๋ยวคนมารับจะเสียน้ำใจ



ไอ้พี่เดียวมันเอาของผมไว้ด้านหลัง ส่วนผมก็เดินไปเปิดประตูข้างคนขับแล้วยัดตัวเองเข้าไปก่อนแล้วส่งไม้ค้ำให้ไอ้พี่เดียวไปเก็บ ก่อนจะปิดประตูก็เห็นไอ้โอ๊คมันยืนกอดคอไอ้หมวยมองผมมาจากบันไดขั้นบนสุดหน้าอาคาร ไอ้หมวยยักคิ้วให้ผม ส่วนไอ้โอ๊คหรี่ตามองเหมือนกำลังจับผิดเมียที่กำลังมีชู้



พอรถเคลื่อนตัวออก โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงผมก็สั่นครืดๆทันที พอหยิบออกมาดูก็เป็นกรุ๊ปแชทที่ไอ้หมวยมันรัวข้อความพร้อมสติ๊กเกอร์มาไม่ยั้ง ผมอ่านข้อความแล้วถึงกับหลุดหัวเราะ คำพูดที่ไอ้โอ๊คใช้กดดันไอ้หมวยเมื่อตอนเที่ยงถูกมันเอามาย้อน แต่เรื่องของผมกับมันมันไม่เหมือนกัน ผมอ่านแต่ไม่ได้ตอบอะไร ปิดสั่นเปิดเสียงแล้ววางโทรศัพท์ไว้ตรงช่องด้านข้างประตู



“ขำอะไร”



“เพื่อนมันบ้า แล้วนี่ไม่ไปกินเลี้ยงกับลูกค้าหรือไง”



“วันนี้ไม่มี อยากกินไรเดี๋ยวพี่พาไป”



“ผัดไทย จำที่เคยบอกได้ป่ะว่ามีร้านขายอาหารเยอะๆแถวบ้านอ่ะ”



“อาหะ”



“เดี๋ยวบอกทางให้”ผมอยากกินใกล้ๆบ้านรีบกินรีบกลับ ไม่ใช่อะไรงานเยอะต้องรีบกลับมาเคลียร์



“ดีนะวันนี้เอาคันนี้มา”



พี่เดียวมันมีรถหลายคันมาก คนมันรวยอ่ะนะนึกแล้วก็หมั่นไส้ คันที่มันขับไปไหนมาไหนในชีวิตประจำวันจะมีอยู่สองคันคือคัมรี่คันนี้กับเบนซ์ SLK ส่วนแอสตันมีไว้ขับล่อสาวใช้ตอนเที่ยวหรือไปงานเลี้ยงหรู ซึ่งผมก็คิดว่าดีแล้วที่มันเอาคันนี้มา ขืนเอาแอสตันมาแล้วไปจอดแวะกินข้าวข้างทางกลับมารถเป็นรอยคงเสียดายแย่ ส่วนฟอร์จูนเนอร์ที่เคยเอามาใช้เป็นของพี่หมอวิน



“เดี๋ยวพี่มารับมาส่งดีกว่า จะได้ไม่ลำบาก”



“ไม่ต้อง เทียวไปเทียวมาทำไม ที่ทำงานกับมหาลัยก็คนละทาง”



“ก็ไม่ได้มาทุกวัน วันไหนมีเรียนเช้าพี่ก็ไปส่ง ตอนเย็นถ้าไม่ติดงานพี่ก็ไปรับไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ถ้าวันไหนมาไม่ได้พี่จะโทรมาบอก”



“ตามใจ”



“หืม?”



“อะไร?”หยุดมือที่กำลังเลื่อนไปปรับแอร์แล้วหันไปมองหน้ามัน



“ทำไมว่าง่ายจัง”



“เอ้า งั้นไม่ก็ไม่ต้อง”



“ไม่เอา แค่แปลกใจปกติต้องด่าให้แสลงหูสักยกสองยก”



 “ขี้เกียจ ด่าไปก็ไม่รู้สึก ชอบบังคับอยู่แล้วนี่”จริงๆผมแค่อยากลองทำอะไรที่ไม่เคยทำบ้างก็เท่านั้น ลองดูสักครั้งให้รู้กันไปว่าดีหรือไม่ดี
พี่เดียวมาส่งผมที่บ้านหลังจากมื้อเย็นที่อิ่มจนท้องจะแตกเพราะกินทุกอย่างที่อยากกิน กินไม่หมดก็ให้คนพามาช่วยกินด้วย ไอ้พี่เดียวดูตื่นตาตื่นใจมาก ไม่เคยกินร้านข้างทางแบบนี้สินะ พลาดแล้ว



“ทำเองก็ได้”ผมบอกไอ้พี่เดียวที่กำลังล้างแผลเปลี่ยนผ้าพันให้ใหม่ กลับมาถึงมันก็ไล่ผมไปอาบน้ำ ข้าวยังไม่ทันย่อยดีด้วยซ้ำ แต่ผมก็เหนียวตัวเลยยอมทำตาม อาบเสร็จไอ้พี่เดียวก็นั่งรอบนเตียงผมพร้อมกับอุปกรณ์ทำแผลครบมือ มันบอกแวะซื้อก่อนจะไปรับผมที่คณะ



“ทำเองจะไปถนัดได้ยังไง นั่งเฉยๆเถอะจะดีเอง”พอมันว่าอย่างนั้น ผมก็เลยยื่นเท้าไปให้มันอย่างแรงด้วยความหมั่นไส้ เท้าเกือบโดนหน้าอกมัน ไอ้พี่เดียวเลยทำตาดูใส่แล้วดีดตาตุ่มผม ไม่เจ็บแต่ก็อยากทำเท้ากระตุกใส่อีกสักรอบ



“พรุ่งนี้มีเรียนเช้านะ”



“พี่รู้ ตอนบ่ายไม่มีเรียน มีเรียนอีกทีสี่โมงเย็นเลิกหนึ่งทุ่ม”



“รู้ดี”



“เจ็ดโมงพี่มารับที่บ้าน เลิกเรียนแล้วก็รอด้วยนะ”



“อืม”



“ว่าง่ายๆ แบบนี้สิดีพี่ชอบ”



“ชอบให้ได้ตลอดเหอะ”



“ก็รอดูกันต่อไป”มันยิ้มมุมปาก เก็บอุปกรณ์ทำแผลลงกล่องก่อนจะเดินไปล้างมือในห้องน้ำ ส่วนผมก็ขยับตัวเองลงมานั่งทำงานบนพื้นบริเวณปลายเตียง ใจจริงอยากจะลงไปทำที่ห้องนั่งเล่น พื้นที่กว้างๆแต่ก็ขี้เกียจยิ่งเท้ายังไม่หายก็ไม่อยากเดินเยอะลำบากตัวเอง พี่เดียวมานั่งลงข้างๆ มือก็คอยลูบหัวผมไปด้วย เป็นอะไรมากมั้ยเนี่ย รบกวนสมาธิจริงๆ



“ไม่เหนื่อยหรือไง ไม่รีบกลับไปอาบน้ำนอน”ผมพูดโดยไม่ได้หันไปมองหน้า เพราะกำลังอ่านรายละเอียดงานที่จะต้องทำส่งชิ้นแรกอยู่



“นอนนี่ได้มั้ยล่ะ”



“โซฟาข้างล่างว่าง”



“อะไรว้า เตียงตั้งกว้างให้พี่นอนด้วยไม่ได้เหรอ”



ผมหันไปแสยะยิ้มให้มัน




“ฝัน!”





X






ช่วงนี้มีมรสุมเข้าฝนตกทุกวัน ถ้าไม่ตกเช้าในเวลาเร่งด่วนที่ทุกคนรีบเร่งไปทำงาน ก็ตกเย็นเวลาเลิกงานพอดิบพอดีราวกับตั้งโปรแกรมไว้ รถที่ติดอยู่แล้วยิ่งสาหัสเข้าไปอีก ขนาดมีคนขับให้นั่งเฉยๆผมยังรู้สึกหงุดหงิดขนาดนี้ ขนมขบเคี้ยวที่กินฆ่าเวลาไม่ช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้นเลย



“พี่แวะห้างข้างหน้าเหอะ หาอะไรกิน ดึกกว่านี้ค่อยกลับ”ผมบอกสารถีส่วนตัวที่ช่วงนี้ก็ดูว่างแปลกๆ ปกติจะบินไปนั่นไปนี่ หายตัวครั้งละหลายวัน แต่ตั้งแต่ผมเจ็บเท้าก็เช้าถึงเย็นถึงรับส่งไม่ขาด ไอ้พวกเพื่อนชั่วทั้งหลายก็แซวจนเลิกแซว เพราะผมไม่เต้นไปตามพวกมัน หมดสนุกก็เลิกกันไป



“ดีเหมือนกันพี่หิวมากเลย กลางวันไม่ได้กินข้าว”



“แล้วทำไมไม่กิน”



“มีประชุมยาวเลย เสร็จอีกทีก็บ่ายต้องออกไปดูโรงงานที่นครนายกด้วยเลยไม่มีเวลา”



“ถ้างานยุ่งแบบนี้ก็ไม่ต้องมารับดิ แทนที่จะเอาเวลาไปทำอย่างอื่น”



“ไม่อ่ะ ทำอย่างอื่นก็ไม่ดีเท่าอยู่กับน่าน”



“ต้องเขินมั้ย?”หยอดเหมือนผมเป็นผู้หญิงเลยนะ



“แล้วอยากเขินมั้ย?”



มันหันมาทั้งตัว เอามือวางที่ต้นขาผมแล้วลูบขึ้นลงเบาๆพร้อมกับสายตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่ม ใบหน้าโน้มเข้ามาใกล้จนผมต้องเอนตัวหนี



“ใกล้ไปแล้วๆ”



“โอ๊ยๆ น่านเลอะหมดแล้ว ฮ่าๆ”ผมรีบเอามันฝรั่งทอดแผ่นหยักยัดปากมัน เผลอไม่ได้จ้องจะลวนลามตลอด นับวันผมก็ยิ่งสงสัยว่าตัวเองมีอะไรให้ผู้ชายอย่างไอ้พี่เดียวมาพิศวาส หรือมันจะติดใจลีลาผมวะ โอ่ย แค่คิดก็ขนลุก



ใช้เวลาอีกเกือบยี่สิบนาทีกว่าจะมาถึงทางเข้าห้างสรรพสินค้าที่ผมหมายตาไว้ แล้วก็มาเสียเวลาวนหาที่จอดอีกร่วมสิบนาที ผมนึกอยากให้พี่เดียวมันขับแอสตันมาวันนี้เหลือเกิน



“ให้พี่ช่วยพยุงมั้ย”



“ไม่เป็นไร แค่เดินช้าๆก็พอ”ตอนนี้ผมทิ้งอุปกรณ์เสริมไว้ที่บ้านเพราะแผลเริ่มดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังลงน้ำหนักเต็มๆไม่ได้ ยังรู้สึกเจ็บแปล๊บๆอยู่บ้าง เวลาเดินก็ต้องเดินช้าๆ



“สุกี้นะ”ผมตัดสินใจเอง อากาศเย็นๆแบบนี้ได้กินอะไรร้อนๆก็คงดี



“ได้ทั้งนั้น”



โชคดีที่ร้านสุกี้ชื่อดังคิวไม่เยอะมาถึงเลยได้โต๊ะเลย ผมจิ้มรายการอาหารที่ต้องการแบบรัวๆ ตอนแรกก็ไม่หิวเท่าไหร่ แต่พอเข้าร้านมาได้กลิ่นอาหารก็หิวมากขึ้นมาทันที



“เอาไรเพิ่มมั้ย?” ผมกวาดสายตามองรายการอาหารที่กดสั่งไป



“เอาหมูกรอบจานเล็กมาด้วยพี่อยากกิน แล้วก็บะหมี่ผัก”



นั่งรอไม่นานทุกอย่างที่สั่งก็มาเสิร์ฟจนโต๊ะไม่มีพื้นที่ว่างผมเลยรีบจัดการเอาทุกอย่างลงหม้อ ราดไข่เป็นอย่างสุดท้ายแล้วปิดฝา ส่วนไอ้พี่เดียวพอหมูกรอบกับบะหมี่ผักมามันก็ไม่สนใจอะไร ตั้งหน้าตั้งตากินท่าทางจะหิวมากจริงๆเห็นแล้วก็สงสาร



“ค่อยๆกินดิ เดี๋ยวก็ติดคอ”ผมคีบเป็ดใส่จานพี่เดียวไปสองชิ้น แล้วนั่งมองมันกิน พอน้ำในหม้อเดือดของทุกอย่างสุกก็ตักสุกี้ให้จนเต็มถ้วย



“ร้อนนะ”



“ขอบคุณนะ”มันยิ้มให้



“กินเหมือนเด็กเลยพี่ อะไรจะหิวขนาดนั้น”



“ทั้งวันได้กินกาแฟกับแซนด์วิชไปชิ้นเดียวเอง”



ช่วงแรกก็นั่งกินกันไปเงียบๆ แต่พอไอ้พี่เดียวเริ่มอิ่มมันก็ชวนผมคุยพร้อมกับบริการตักอาหารให้ ของที่สั่งมาหมดเกลี้ยงทุกอย่าง น้ำซุปเหลือติดหม้อพอไม่ให้ไหม้ พ่อครัวมาเห็นคงจะร้องไห้ด้วยความปลาบปลื้ม



“ไปเดินย่อยกันพี่”ผมยังไม่อยากกลับ อยากเดินดูของใช้สักหน่อย เหมือนไม่ได้มาเดินห้างนานแล้ว



“เหมือนมาเดทกันเลย”คนข้างๆพูดขึ้นมา ผมทำหน้าเอือมใส่ ไม่สนใจรอยยิ้มที่มันมอบให้ แต่พอมาคิดดูแล้วก็เหมือนจะใช่ กินมื้อเย็นด้วย เดินเล่น ถ้ามีดูหนังด้วยก็ครบเลย ผมเดินเข้าออกอยู่หลายร้านแต่ได้ของมาแค่สองอย่าง ส่วนไอ้พี่เดียวได้เสื้อโปโลยี่ห้อเดียวกับผมมาหนึ่งตัว ใจจริงผมอยากได้รองเท้าด้วยแต่เท้าเจ็บลองไม่ได้เลยต้องผ่านไปก่อน ตอนนี้ก็เริ่มเจ็บขึ้นมานิดๆแล้วเพราะเดินเยอะ เลยต้องเกาะแขนไอ้พี่เดียวไว้เป็นหลัก



“นั่งพักก่อนมั้ย”



“พี่จะไปดูหนังสือไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวค่อยไปนั่งในนั้น”



พี่เดียวพาผมมาปล่อยไว้ตรงที่นั่งอ่านหนังสือในร้าน ส่วนตัวมันก็หายไปกับชั้นหนังสือต่างประเทศ ระหว่างนั่งพักขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู มีข้อความจากโปรแกรมแชทสีเขียวขึ้นเตือนหลายข้อความ ผมเลือกเข้าไปอ่านกรุ๊ปไอ้เต้ก่อนเพราะมีอยู่ยี่สิบแปดข้อความ พอไล่ดูขึ้นไปเรื่อยจึงรู้ว่าผมเป็นหัวข้อสนทนาของพวกมันอยู่ โดยมีรูปหนึ่งรูปใช้เปิดประเด็น เป็นรูปที่ผมเกาะแขนไอ้พี่เดียวเดินออกจากร้านเสื้อเมื่อสิบนาทีก่อน คนส่งคือไอ้หมวย ผมกดโทรหามัน เหมือนมันจะรออยู่แล้วเลยกดรับแทบจะทันที



“ว่างนะมึงไอ้สัด ตอนนี้อยู่ไหน ไสหัวมาให้กูตบซะดีๆ”



“อะไรๆ จะตบหัวกูเรื่อง?”แล้วมันก็หัวเราะลั่น



“อย่าให้กูทำมั่งนะมึง กูจะเอาให้หนักเลย”



“อย่าๆ มึงอย่ามาขู่กูซะให้ยาก กูไม่กลัวเว้ย ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว”



“เดี๋ยวกูจะส่งรูปที่วันนี้ไอ้ฐามันเอาขนมมาให้มึงส่งให้พี่ไวท์”



“เชี่ย อย่ามาขู่มึงไม่มีหรอก แล้วมึงก็ไม่มีไลน์พี่ไวท์ด้วย”



“แน่ใจ?”



ใครว่าผมไม่มี พี่ไวท์มันแอดไลน์ผมมาเองเลย มีเบอร์ด้วย ไม่รู้ไปเสาะหามาจากไหน พอเปิดตัวแล้วก็ใช้ผมเป็นสายซะงั้น ให้สอดส่องและรายงานความประพฤติของไอ้หมวย แต่ผมก็ไม่ได้รายงานอะไร คนคบกันก็ต้องไว้ใจกันสิ แล้วเพื่อนผมมันก็ดูแลตัวเองได้ พวกลิ้นไรที่มาตอมก็มีไอ้โอ๊คคอยปัดเป่า ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ถ้ามันมีอะไรที่พวกผมจัดการไม่ได้เมื่อนั้นช่องทางการติดต่อที่มีก็คงได้ใช้



“ไอ้น่าน มึงอย่าทำนะเว้ย กูยังอยากมีชีวิตอยู่”



“พี่เขาจะทำอะไรมึง ดูเขารักมึง เอ็นดูมึงขนาดนั้น”



“มันขี้หึง โหดด้วย”



“หึหึ ไม่แน่จริงนี่หว่า”



“เออๆ กูป๊อด กูยอมรับ มึงอย่าส่งนะเว้ย”



“แล้วมึงถ่ายรูปกูทำไม ตกลงอยู่ไหน”



“อยู่ในห้างนี้แหละมากินข้าวกับพี่มัน กูเห็นมึงพอดี ควงกันขนาดนี้มึงยังปฏิเสธว่ายังไม่คบกันอีกเหรอวะ”



“เออ ไม่ได้คบ”



“แล้วในรูป แล้วที่กูเห็นคืออะไร”



“กูเจ็บตีน กูเลยจับมันไว้ มึงก็มโนไอ้สัด”ผมด่ามันก็หัวเราะก่อนจะชิงวางสายไป ได้ยินเสียงที่ลอดเข้ามาว่าให้มันรีบกินได้แล้ว พอผมวางสายไอ้พี่เดียวก็เดินกลับมาพร้อมหนังสืออ่านเล่นภาษาอังกฤษสองเล่ม



“แค่นี้?”หายไปนานคิดว่าจะได้มากกว่านี้ แอบไปหลับมาหรือเปล่าเนี่ย



“ครับ กลับกันเลยมั้ย น่านอยากได้อะไรอีกมั้ย แต่พี่ว่ารอให้หายดีก่อนมั้ย เดี๋ยวแผลไม่หาย”



“อืม กลับก็ได้ รถคงเลิกติดแล้ว”กว่าจะไปถึงบ้านก็คงดึก แล้วกว่าไอ้พี่เดียวจะกลับคอนโดตัวเองอีก จากที่ไปอยู่ร่วมห้องมาหลายวัน พี่เดียวมันไม่เคยนอนเร็ว กลับห้องไปก็ยังต้องทำงานอีก จะว่าบ้างานก็คงไม่ใช่ แต่พี่ท่านก็ทำงานหลายอย่าง รวยจนไม่รู้จะรวยยังไงแล้วยังจะทำงานเหมือนกลัวว่าพรุ่งนี้เงินในบัญชีจะหมด



ถึงรถจะยังคงหนาแน่นอยู่ในบางช่วงแต่ก็ยังดีกว่ารถติดไม่เคลื่อนที่ไปไหนเลย พี่เดียวพาผมมาส่งบ้านในเวลาไม่ถึงชั่วโมง แต่แทนที่จะรีบกลับก็ยังต้องมานั่งรอผมอาบน้ำแล้วทำแผลให้ ไอ้พี่เดียวทำอย่างนี้ทุกวัน ทุกครั้งที่มาส่ง การที่มีใครสักคนมาคอยดูแลเป็นห่วงเป็นใยมันรู้สึกดีแบบนี้เอง



“เหนื่อยมั้ย?”



ใบหน้าของคนที่คุกเข่าก้มหน้าตั้งอกตั้งใจทำแผลให้ค่อยๆเงยขึ้นมอง ทำให้ระยะห่างระหว่างผมกับพี่เดียวนั้นลดลง เราสบตากันในระยะประชิด ก่อนที่อีกฝ่ายจะคลี่ยิ้มบางๆ คิดว่าคงจะเข้าใจคำถามที่ผมส่งไป



“ไม่เหนื่อยหรอก”



“โม้”



“งั้นก็เหนื่อยนิดหน่อย ขอกำลังใจหน่อยสิ”พูดไม่พอหันหันแก้มมาให้ด้วย ผมผลักออก เจ้าของแก้มก็หัวเราะเบาๆ



“ทำดีหวังผล?”มือผมหยุดค้างอยู่ข้างแก้มคนตรงหน้า สายตาที่ส่งตรงมามีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้ใจผมเต้นผิดจังหวะ



“อาหะ หวังผลระยะยาวด้วย”มันยิ้มมุมปาก ยกมือขึ้นแตะแก้มผมกลับมาบ้าง ทำไมต้องมาใจดี ต้องมาอ่อนโยนใส่ มาใส่ใจห่วงใยกันด้วยนะ มาทำให้ระบบชีวิตของผมรวนทำไมกัน



“อยากหายกลัวหรือยัง?”




“ผม...ไม่ได้นิสัยดีหรอกนะ ในอนาคตไม่รู้ว่าจะแย่กว่าที่เป็นอยู่หรือเปล่า”ผมนึกภาพตัวเองไม่ออกเลยว่าถ้าหากจริงจังกับใครขึ้นมาสักคนตัวเองจะเป็นคนยังไง ผมจะทำให้คนตรงหน้าหายไปหรือเปล่า ถึงจะยังไม่ได้รัก ถึงจะไม่รู้ว่าจักคำว่ารัก แต่ถ้าใครสักคนที่ดีกับเราหายไป มันก็คงเป็นเรื่องที่น่าเศร้า



“ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตสิ ตอนนี้เราก็ค่อยๆศึกษากันไป พี่เองก็มีส่วนไม่ดี ไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอก”



“...”



“พี่จะพูดอีกแค่ครั้งเดียวนะ”




“...”



“เป็นแฟนกันนะ”




ชีวิตคนเรามักจะพบกับจุดเปลี่ยนหลายครั้งหลายหน การที่ต้องเลือกเส้นทางเดินที่รออยู่ข้างหน้าซึ่งไม่รู้ว่าแต่ละเส้นทางนั้นต้องเจอกับอะไรบ้าง มันทำให้เราวิตกกังวล บางครั้งก็สับสนและลังเลที่จะเลือก ความกลัวเริ่มเข้ามาครอบงำจิตใจ สมองคิดไปไกลกว่าตรงจุดที่เท้ายืนอยู่







ก้าวแรกมักจะยากเสมอ แต่ผมก็ตัดสินใจที่จะก้าวออกไป












-----------------------------------------------

ในที่สุดดดดดดดดดด คนบางคนก็เริ่มจะหายกลัวแล้วววว :hao5:

#รักไม่ได้ออกแบบ
#รักทุกคนนะคะ
#กอดเรียงตัว  :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-02-2017 21:26:34 โดย phoenixes »

ออฟไลน์ natt teng

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-3
ดีใจที่มานะ เม้นต์ว่ารอ พอกดอีกทีเห็นมาเลย เย้ แต่คำตอบนี่ต้องรอเรื่องมาต่ออีกหลายวันหรือเป็นเดือนไหมนะ  :mew6: อยากอ่านต่ออ่ะ

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ได้อ่านแล้ว  ดีใจจัง  มาบ่อยๆนะ 
น่านใจอ่อนให้พี่เดียวแล้ว  เป็นนิมิตหมายอันดี
พี่เดียวน่ารักมาก  ดูแลน่านดีมาก
คู่น้องหมวยก็น่ารัก  อิอิ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ตอบตกลงสิคะ ไม่ต้องรอ ไม่ต้องคิดมันล่ะค่ะ

ทิ้งความกลัว แล้วก้าวออกมาจ่ะ เด็กน้อยของเจ้

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
ในที่สุดวันนี้ที่รอคอย....นิยาย#ผิดๆ ต้องเป็นรอคอย....น้ำน่านก้าวเดิน  :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
มีพัฒนาการอย่างแรงกล้า ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ 555555

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ Bradly

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
อยากได้แบบพี่เดียวบ้าง หาได้ที่ไหน

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
โอ้ จุดพลุฉลองด่วนๆ

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
โอ้ยยย ปิดร้านสุกี้เลี้ยงเล้ยยยย กว่าจะคบกั๋นนนน

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
น่าน รู้ตัวแล้วว่ามีความรู้สึกดีๆกับพี่เดียว
ซึ้งกับการที่มีใครสักคนมาคอยดูแลเป็นห่วงเป็นใยมันรู้สึกดี
น่าน ก็ยอมเป็นแฟนกับพี่เดียวได้ละ
พี่เดียว คงเสียหน้าแย่ ถ้าน่านเมิน
พี่เขาเคยขอเป็นแฟนน่านมาแล้วนี่
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ fsbeentaken

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ชอบความพยายามของพี่เดียวจีง ถึงแม้จะเริ่มความสัมพัธ์แบบกระท่อนกระแท่นก็ตาม แต่พี่เดียวเป็นพระเอกที่สมบูรณ์แบบมากๆเลยอ่ะ

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero





- 29 -





   
   “อื้อ...อย่ากวน”




   ผมพลิกตัวหนีความเย็นที่สัมผัสใบหน้า แต่สิ่งนั้นก็ยังคงตามมารบกวนการนอน จนต้องลืมตาแล้วพลิกตัวกลับมามอง ที่มาของความเย็นคือขวดน้ำเปล่าที่มีไอน้ำเกาะพราว มองไล่ขึ้นไปก็เห็นไอ้พี่เดียวยืนยิ้มอยู่ เสื้อที่ใส่ปลดกระดุมทุกเม็ดโชว์กล้ามท้องเป็นลอนกับอกแน่นๆ ถ้าเปลี่ยนจากน้ำเปล่าเป็นเบียร์สักประป๋องคงจะเหมาะกว่านี้



   “กินข้าวได้แล้ว เผลอไม่ได้เลย หลับตลอด”



   ผมลุกขึ้นนั่งลูบหน้าลูบตาตัวเองเพื่อไล่ความง่วง ช่วงนี้เร่งทำงานให้ทัน เพราะเสียเวลาตอนป่วยไปเยอะ สามวันที่ผ่านมาผมนอนวันสามสี่ชั่วโมงเห็นจะได้ แล้ววันนี้ก็เพิ่งได้เจอไอ้พี่เดียวหลังจากวันนั้นที่ยอมตกลงคบกันมันไป




   สถานะตอนนี้คือ ‘แฟน’ เป็นสถานะที่ผมไม่คิดว่าจะได้ใช้กับใครในชีวิตนี้ แล้วก็ไม่คิดว่าคนแรกที่ได้ใช้จะเป็นไอ้พี่บ้านี่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าแฟนมันต้องเป็นกันยังไง แต่ผมก็ยังทำตัวปกติเหมือนเดิม ส่วนพี่เดียวที่ทำตัวว่างมานาน หลังจากผมตอบตกลงปุ๊บคิวงานต้องบินไปต่างประเทศก็เข้ามาปั๊บเหมือนรู้จังหวะ มันเพิ่งกลับมาเมื่อคืน เช้ามาก็ไปทำงานและเพิ่งได้เจอกันเมื่อเย็นนี้เอง




   “ก็คนมันง่วงอ่ะ”




   “พี่อุ่นกับข้าวไม่ถึงสิบนาทีก็ยังจะหลับได้นะ ไปล้างหน้าไป”




ผมลากตัวเองมาล้างหน้าไล่ความง่วง วันนี้หลังเลิกเรียนไอ้พี่เดียวไปรับที่คณะมาที่คอนโดมัน เมื่อเช้าผมติดรถไอ้พายไป รถตัวเองไม่ได้แตะเลยตั้งแต่เท้าเจ็บ ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากเกือบจะหายสนิทแล้ว และพบว่าการมีคนขับรถให้นั่งนี่มันโคตรสบายเลย




“โห บ้านพี่ทำกับข้าวทีเยอะขนาดนี้เลยเหรอ”ผมมองกับข้าวห้าหกอย่างที่วางเรียงบนโต๊ะแทบไม่มีพื้นที่ว่าง แล้วปริมาณแต่ละอย่างมันไม่น้อยเลย




“ป้าให้เด็กทำให้โดยเฉพาะ พี่บ่นๆไปว่าอยากกิน เลยจัดมาให้ชุดใหญ่เลย”




“อร่อยอ่ะ!”ยำสามกรอบนี่อร่อยสุดๆ ตัวเอกทั้งสามยังกรอบอยู่เลยสงสัยพี่เดียวมันจะเอามาคลุกเอง




“งั้นกินเยอะๆ”




พอคำแรกเข้าปากไปก็รู้ตัวว่าหิวโซมาก อาหารบนโต๊ะอร่อยทุกอย่างจนผมกินเพลินเติมข้าวไปสามจาน เสร็จแล้วก็ต้องนั่งนิ่งขยับตัวไม่ไปไหนไม่ไหว




“เดี๋ยววันหลังพาไปกินที่บ้านใหญ่”



“ไม่เอา”




“ทำไม มีแต่คนดีใจอยากจะให้พี่พาเข้าบ้านทั้งนั้น”




“งั้นก็ไปพาคนที่เขาอยากไปดิ”แม่งพูดจาไม่เข้าหู




“อะไรๆ งอนหรือไง ทำไมทำหน้าอย่างนั้น”




“ใครงอน พูดมาก ล้างจานไปเลย”




ไอ้พี่เดียวหัวเราะน่าหมันไส้ ผมเดินหนีมานั่งดูทีวีที่โซฟา รอไอ้พี่เดียวไปส่งที่บ้าน คืนนี้มีนัดกันกับพวกเพื่อนชั่วที่ร้านเฮียเสก ไอ้พี่เดียวมันก็นัดเพื่อนมันเหมือนกัน แต่ไม่ได้มีการรวมโต๊ะนั่งแต่อย่างใด




“อย่าแต่งให้มันหล่อมากนัก”ผมกำลังจะเดินขึ้นห้องเพื่อไปอาบน้ำแต่งตัว ไอ้พี่เดียวก็ตะโกนบอกมา มันนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นในบ้านผม ตัวมันเองอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วถึงได้มาส่งผมที่บ้าน ตอนแรกผมจะขับรถไปเองแต่มันไม่ยอม เถียงกันอยู่นานสุดท้ายผมก็ต้องยอมมัน ผมจะกินให้เต็มที่เลยไหนๆก็มีคนพากลับอยู่แล้ว ส่วนเรื่องที่มันจะปล้ำผมตอนเมานั้นผมไม่กลัว เพราะบอกมันไปแล้วถ้าทำก็ถือว่าขาดกัน ผมพูดจริงทำจริง




“ทำไม?”



“หวง!”



ผมแสยะยิ้ม กูจัดเต็มแน่ครับคืนนี้




X





“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นปวดท้องไง?”คนข้างๆผมหน้าตาไม่สบอารมณ์ หน้าหงิกตั้งแต่เห็นผมแต่งตัวเสร็จ ก็บอกแล้วคืนนี้จะจัดเต็ม จะเอาให้สาวๆเหลียวหลังจนคอเคล็ดไปเลย




“ยังจะมาถามอีก”




“ก็มาเที่ยวอ่ะ จะให้ใส่เสื้อกล้ามกางเกงขสั้นลากแตะมาไง”ผมถามมันกวนๆ ไอ้พี่เดียวทำเสียงจิ๊จ๊ะม่พอใจ เห็นมันอารมณ์ไม่ดีแล้วมีความสุข ถึงใครจะเข้าหาแต่ถ้าผมไม่เล่นด้วยใครจะมาทำอะไรได้ แค่นี้ทำไมคิดไม่ได้นะ




“มาเที่ยวครับคุณ ยิ้มหน่อยๆ โต๊ะคุณยังไงก็มองเห็นโต๊ะผมนี่ ระแวงไรวะ”ผมตบแก้มมันเบาๆ โต๊ะประจำของมันอยู่ด้านบน เป็นส่วนตัว มองลงมาก็เห็นด้านล่างเกือบทุกโต๊ะ




“ไม่ได้ระแวง แต่หวงเข้าใจมั้ย”




“เออๆ เข้าไปข้างในไป ทำหน้าดีๆด้วยพี่ หน้าบึงแบบนี้สาวๆหนีหมดจะหาว่าไม่เตือน”




“อยากให้ได้สาว?”




“ก็แล้วแต่นะ”ถ้ามันได้ผมก็จะเอามั่ง ควบสองคนไปเลย




“หึ ระวังตัวด้วยล่ะ แล้วท่องไว้ด้วยว่ามีแฟนแล้วนะครับคุณน้ำน่าน”มันชี้หน้าผมเป็นเชิงขู่ คิดว่ากลัวไงวะ ผมขี้เกียจพูดด้วยก็เลยเดินเข้ามาก่อน ร้านเฮียเสกเปลี่ยนของตกแต่งใหม่ บรรยากาศแปลกตาไปอีกแบบ แต่มุมการจัดวางโต๊ะยังเหมือนเดิม ผมเดินตรงไปที่โต๊ะประจำ เห็นแวบๆว่าไอ้พี่เดียวเดินขึ้นไปชั้นบนแล้ว ตอนนี้สามทุ่มคนเริ่มหนาตา แต่ถ้าดึกกว่านี้จะยิ่งเยอะขึ้น เพลงก็จะมันขึ้นด้วย




“ช้านะไอ้สัด”ยังไม่ทันหย่อนก้นนั่ง ไอ้หมวยก็สรรเสริญทันที




“มึงรีบมากไง?”ผมย้อน ที่จริงเรานัดกันวันเสาร์ แต่จู่ๆเปลี่ยนกะทันหัน เพราะร่างกายมันเรียกร้องอยากจะได้รับแอลกอฮอล์ แต่เพราะวันนี้เป็นวันธรรมดาที่แต่ละคนก็ติดภารกิจนั่นนี่กันเลยไม่ได้ระบุเวลาที่แน่นอนใครมาก่อนก็เริ่มก่อนได้เลย ตอนนี้ไอ้คิมก็มาแล้วนั่งกดโทรศัพท์อยู่ข้างไอ้หมวย




“เออ ไอ้เชี่ย ไหนพี่เดียววะ”




“ถามหามันทำไม คิดถึงมันหรือไง”




“เออ คิดถึงม๊ากมาก”ท่าทางน่าหมั่นไส้จนอยากดีดกระโหลก




“ข้างบนนู่น คิดถึงก็ขึ้นไปหา แล้วผัวมึงล่ะ”




“ไม่ใช่ผัว! เดี๋ยวมันมา”ตลกมากครับเพื่อน ถึงจะแย้งแต่อีกคำตอบก็เหมือนจะยอมรับ ผมส่ายหน้าแล้วรับแก้วมาจากไอ้เต้ที่นั่งหัวเราะกับคำตอบของไอ้หมวย ไม่ถึงสิบนาทีแก๊งวิศวะก็ตามมาช่วยกันเรียกเรตติ้งให้โต๊ะผม เริ่มมีสาวๆเข้ามาคุยด้วย แต่ผมเฉยๆ พวกนี้เป็นนักศึกษามหาลัยเดียวกับพวกผมรู้จักกับพวกไอ้ธันว์ มีส่งสายตาให้ผมบ้างแต่ผมไม่ค่อยสนแนวนี้




“ผมไม่ได้สั่งนะพี่โต้ง”ผมบอกพี่พนักงานเสิร์ฟที่คุ้นกันดี เหล้าสองขวดพร้อมมิกซ์อีกจำนวนหนึ่งที่ถูกยกมาทำเอาพวกผมงง




“อภินันทนาการจากด้านบนครับ”ทั้งโต๊ะเงยหน้าขึ้นไปทันที มีใครบางคนทำตัวเป็นพระเอกยืนเท้ากับราวกั้นด้านบนพร้อมทั้งยกแก้วเหล้าทักทาย ผมเบ้ปากทันที ทำตัวเป็นป๋านะ แต่เสนอมาจะไม่สนองกลับไปก็กระไรอยู่ ของฟรีใครบ้างไม่ชอบ




“เฮียเขาฝากบอกมาว่าวันนี้กินให้เต็มที่ครับ เฮียเลี้ยง แต่คุณน่านห้ามเมานะครับ”




“อะไรวะพี่ เต็มที่แต่ห้ามเมา”




“หมายถึงเพื่อนๆคุณน่านที่เต็มที่ครับ ส่วนคุณน่านห้าม มีอะไรเคลียร์กับเฮียเอง ผมไม่เกี่ยวนะ”แล้วพี่โต้งก็เดินจากไป




“กูพลาดอะไรไปหรือเปล่าวะ”ไอ้อ๊อดมองหน้าผมแล้วอมยิ้ม พอผมหันกลับมา ไอ้พวกเลวทั้งหลายก็ส่งสายตาสอดรู้สอดเห็นกันเต็มที่




“มองกูทำซากอะไร มีของฟรีให้แดกก็แดกไปดิ”




“อะไรยังไงครับมึง อย่ามาเฉไฉ ตกลงคบกับพี่เขาแล้ว?”ไอ้เต้พุ่งตรงเข้าประเด็นไม่มีการอ้อมค้อม




“การที่เขาเลี้ยงเหล้า หมายความว่าต้องคบเหรอวะ?”




“ให้ตอบไม่ได้ให้ย้อนถามไอ้สัด”ไอ้โอ๊คปาเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาแต่พลาดไปโดนไอ้ธันว์ที่นั่งข้างๆ มันก็เสือกเก็บไปกินอีกนะ




“เออ ไอ้สัด หายข้องใจกันยัง ถามกันอยู่ได้ รู้แล้วพ่อมึงจะได้เป็นนายกกันรึไง”คือผมก็ไม่ได้จะปิดอะไรพวกมันอยู่แล้ว แต่ขอกวนตีนสักหน่อยเหอะ




“เออ ก็แค่เนี๊ยะ”ไอ้โอ๊คว่า ส่วนไอ้เต้ก็หัวเราะอยู่ข้างๆ ไอ้ธันว์ ไอ้คิมก็เฉยๆเหมือนมันจะเดาได้อยู่แล้ว




“จริง ยึกยักอยู่ได้ แดกเหล้าดีกว่า”




“แหมไอ้คุณโฟม อย่าไปว่ามันมึงเองก็ใช่ย่อย ถ้าพวกกูไม่จับได้เองมึงจะยอมบอกมั้ยไอ้ลูกหมา”ไอ้โอ๊คตบกบาลเพื่อนมันด้วยความเอ็นดู คนถูกตบค้อนตาคว่ำ




“อะไรวะ มึงก็มีแฟนแล้วเหรอไอ้โฟม ใครวะ”ไอ้โก้ที่นานๆจะพูดสักทีถึงกับเอ่ยปากถาม




“นั่นไง มานั่นแล้ว”ทุกคนพร้อมใจกันหันไปมองทางที่ไอ้เต้บุ้ยปาก ถึงคนจะเยอะแค่ไหนแต่พี่ไวท์ก็โคตรมีออร่าเห็นเด่นมาแต่ไกล อาจเพราะด้วยความสูงด้วยละมั้งที่ทำให้เป็นจุดสนใจของคนได้ไม่ยาก



“พี่ไวท์?”คนข้างๆผมพูดขึ้น



“มึงรู้จัก?”




“ก็เคยคุยด้วยไม่ได้สนิทอะไร เป็นเพื่อนในกลุ่มเพื่อนพี่รหัสกู”ไอ้ธันว์ตอบ ผมรู้สึกว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นแต่ก็ไม่ได้ถามไป คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเพราะอีกฝ่ายไม่ได้หันมามองพวกผมเลยสักนิด พี่ไวท์เดินเข้ามาถึงโต๊ะก้มคุยอะไรกับไอ้หมวยสองสามประโยคแล้วก็แยกตัวไปนั่งกับเพื่อนตัวเอง ทุกการกระทำตกอยู่ในสายตาพวกผมตลอด ส่วนไอ้หมวยก็ดูสงบเสงี่ยมไม่ปากดีเหมือนตอนแรก เพราะมีผู้ปกครองตามมาคุมถึงที่



“งานนี้ต้องฉลองแล้ว เพื่อนกูมีผัวตั้งสองคน”




“ควาย!”ผมกับไอ้หมวยด่าออกมาพร้อมกัน แต่ไอ้โอ๊คกลับหัวเราะชอบใจ คนอื่นๆก็ด้วย




“ไอ้โฟมกูไม่แปลกใจนะเว้ย แต่มึงดิไอ้น่าน ทำไมถึงเปลี่ยนแนววะ”ไอ้อ๊อดดูข้องใจมาก แต่เอาจริงนะไม่ว่าใครก็ตามที่รู้จักผมก็ต้องแปลกใจทั้งนั้น ผมยังแปลกใจตัวเองเลย




“กูอ่ะผัว”ผมแก้ต่าง แต่ทันทีที่พูดจบทั้งไอ้เต้และไอ้ธันว์ที่นั่งขนาบข้างก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน



“จริง?”ไอ้อ๊อดดูทำหน้าไม่เชื่อสุดๆ ทำไมวะ ผมจะเป็นผัวไอ้พี่เดียวไม่ได้หรือไง เกย์ควีนร่างยักษ์มีถมเถไป



“เชื่อมันเมียมึงก็ออกลูกเป็นลิงแล้วไอ้สัด”บางทีก็ไม่เข้าใจว่าไอ้ธันว์คือเพื่อนรักหรือศัตรูในหมู่มิตรกันแน่ ผมเลยถีบมันไปนั่งกับแก๊งมันที่เอาแต่หัวเราะ





X





“เมายัง?”




“เมาบ้าอะไร กินไปนิดเดียวเอง”ตั้งใจว่าจะซัดให้หมอบเลย แต่ดูเหมือนคืนนี้พวกผมจะมีเรื่องคุยกันเยอะ เลยไม่ค่อยได้กินสักเท่าไหร่ เหล้าที่ชงไว้ยุงแทบจะลงไปวางไข่ได้ สงสัยที่มีคนเลี้ยงต้องเก็บไว้กินคราวหน้า ผมเดินมาเข้าห้องน้ำพอทำธุระเสร็จก็เจอไอ้พี่เดียวดักรออยู่หน้าห้องน้ำ




“ไหนมาพิสูจน์ดิ”มันลากผมออกมาด้านหลังขึ้นไปบนชั้นสองที่เป็นห้องพักของเฮียเสก ยังไม่ทันตั้งตัวมันก็ประกบปากลงมา เมาหรือเปล่าวะเนี่ย ตาเยิ้มแปลกๆ รสจูบยังชวนให้มึนงงอีกต่างหาก




“อืม...”ไอ้พี่เดียวมันครางเบาๆก่อนจะถอนจูบออก ผมหอบเล็กน้อยกับจูบที่กินเวลานานหลายนาที จูบกันเหมือนตายอดตายอยาก




“อยากกลับว่ะน่าน”มันบอกเสียงกระเส่า ปลายจมูกคลอเคลียแถวคอผมก่อนจะวกกลับมากดจูบมุมปาก




“ก็กลับไปดิ แต่ไม่กลับด้วยนะจะกินต่อ”ผมพูดโดยไม่สนใจสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาของมัน




“อย่าพูดเหมือนไม่รู้”




“ขึ้นเองก็เอาลงเองนะครับคุณ ผมไม่เกี่ยว”ผมก็เริ่มรู้สึกนิดๆแต่ก็ยังพอทนไหวกับมันผมต้องใจแข็งมากๆเพราะมันไม่เหมือนกับคนอื่นๆที่ผ่านมา เพราะถ้าปล่อยไปตามอารมณ์ผมจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบแน่ ผมผลักมันออกแต่ยังไม่ทันได้ไปไหนก็ถูกมันรั้งเข้าไปอีกแล้วจูบกันอีกรอบ
ปึง!




“อ่าว เห้ย เชิญเลยๆ เชิญมึงสองคนตามสบาย”




ผมผลักไอ้พี่เดียวกระเด็น โคตรตกใจที่เห็นเฮียเสกเปิดประตูเข้ามา เจ้าของสถานที่ทำท่าขอโทษขอโพยแล้วก็ปิดประตูล็อกให้ด้วยความปรารถนาดี โดยที่ผมไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ




“ไอ้เหี้ยเสก!”ไอ้พี่เดียวสบถออกมามันดูหัวเสียที่ถูกขัดจังหวะ แต่ผมนี่สิโคตรอายอยากจะแทรกพื้นกระเบื้องหนี




“แม่ม เพราะพี่เลย!”ไม่รู้เฮียเสกจะคิดไปถึงไหนแล้ว




“เพราะพี่อะไร? พวกมันรู้กันทุกคนแหละ จูบกับแฟนผิดตรงไหน หรือไม่อยากให้ใครรู้ว่าเป็นแฟนกัน”




“จิ๊ พูดสักคำยังวะ อย่ามามองแบบนั้นนะเว้ย”ผมแค่อาย ก็สถานะผมกับมันตอนนี้มันไม่เหมือนกับคนอื่นๆที่ผ่าน กับพวกผู้หญิงหรือพวกที่ผมเหนือกว่าผมไม่อายเลยที่จะจูบโชว์ แต่นี่มันไม่ใช่นี่หว่า




“อย่ามาวะเว้ยกับพี่นะ เห็นไม่ว่านี่เอาใหญ่”กลับมาเป็นแบบนี้อีกแล้ว ขี้บ่น โคตรน่าเบื่อ




“งั้นก็ไม่ต้องมาคุยกัน”ไม่ได้อยากทะเลาะด้วยนะเว้ย คืนนี้ตั้งใจมาสนุกให้เต็มที่ผ่อนคลายความเครียด ไม่ใช่มาหาเรื่องปวดหัวเพิ่ม




“อย่าเดินหนี”




“แล้วจะอยู่ให้ทะเลาะกันหรือไง”อย่าให้ผมต้องหงุดหงิดมากไปกว่านี้เลย อะไรๆที่เพิ่งเริ่มต้นมันจะสะดุดได้ ผมสะบัดแขนออก กลับเข้ามาในร้าน พอถึงโต๊ะเพื่อนผมก็หายไปบางคน คงได้สาวๆกันแล้ว ไม่ก็ออกไปสูบบุหรี่ อารมณ์สนุกหายไปกว่าครึ่ง รู้สึกเซ็งขึ้นมาทันที




“ไปเข้าห้องน้ำที่ไหนมาวะ นานสัดแล้วหน้าหงิกมาขนาดนี้ใครทำไรมึง”




“ไม่มีอะไร”




“หึ มาๆแดกๆ ของฟรีทั้งนั้น อย่ามานั่งทำหน้าเซ็งเสียบรรยากาศหมด”ไอ้ธันว์เลื่อนแก้วใบใหม่มาให้รู้สึกจะชงเข้มมากดูจากสีน้ำในแก้ว



 
“แล้วไมมึงยังอยู่ ไม่ออกไปล่าแหยื่อวะ”เป็นที่น่าแปลกใจสุดๆ ปกติมันจะลุกออกไปคนแรกของกลุ่มด้วยซ้ำ ฮอตจนไฟลุก แต่คำตอบของมันทำให้ผมแปลกใจยิ่งกว่า




“ช่วงนี้กูเบื่อๆ”




“หึ เบื่อบ้างก็ดี”




“ทำไม หาพวกหรือไง ถอดเล็บหรือไงวะ อ้อ มีคนเฝ้าเลยเริงร่าไม่ได้”




“หุบปากไปไอ้สัด อย่าทำให้กูหงุดหงิดขึ้นมาอีก”




“เอ้า ทำไมวะ เมื่อกี้ไปตีกันมาหรือไง”




“เออ ปัญญาอ่อนฉิบหาย”ว่าแล้วก็กระดกเหล้าที่มันเอามาให้เป็นการแก้แค้น คืนนี้กูจกินแม่งให้หมดร้านเลย เอาให้กระเป๋าฉีก ผมกับไอ้ธันว์นั่งดวลกันอยู่สองคน ส่วนคนอื่นๆก็ไปตามทางของตัวเอง ไอ้หมวยโดนพี่ไวท์ลากไปนั่งด้วยตอนนี้โดนแซวจนพรุนไปหมดแล้วมั้ง ไอ้เต้เจอเด็กเก่าเลยไปรำลึกความหลัง ไอ้อ๊อด ไอ้โก้ ไอ้คิม ไอ้โอ๊คหายหัว




“เมาแล้ว”




“.....”ผมปรายตามองคนที่ถือวิสาสะมานั่งตรงที่ว่างข้างผมแบบไม่ได้รับเชิญ ไอ้ธันว์ก็ขยับออกไปนั่งอีกฝั่งทันที




“เชิญง้อกันตามสบายเลยครับพี่”




ง้อบ้าบออะไร ผมไม่ได้งอนใครสักหน่อย




“บอกว่าอย่าเมาไง”




“ยังไม่เมา”




“เห็นยกเอาๆ เข้มขึ้นทุกที”สายตาจะดีไปแล้วนั่งข้างบนจะมาเห็นได้ไงว่าชงเข้มไม่เข้ม มั่วชะมัด



“กลับกันเถอะ ดึกแล้ว”พอมันพูดแบบนี้แล้วผมเลยต้องก้มดูนาฬิกา เที่ยงคืนกว่าแล้ว เหมือนเวลามันผ่านไปช้าผิดปกติ ผมแค่มึนๆยังไม่เมา อยากดื่มต่ออีกหน่อยแต่เหมือนไอ้พี่เดียวจะไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น




“ไม่กลับไปนั่งกับเพื่อนอ่ะ”



“อยากนั่งกับแฟน ทำไมมีปัญหาหรือไง?”



“เออ เรตติ้งตกหมด”ผมแสยะยิ้มให้มันกวนๆ




“หึหึ ให้เวลาอีกครึ่งชั่วโมงร่ำลากับเพื่อนซะ จะได้กลับกัน”พูดจบมันก็เดินไปทางหลังร้าน




ห่า! ครึ่งชั่วโมงจะไปทำอะไรได้วะ แค่รินเหล้าก็หมดเวลาแล้ว




“มีเคอร์ฟิวด้วยเว้ย”




“พูดมาก รินเพียวๆมาให้กูเลย สัดต้องทำเวลา”




“ฮ่าๆ กูก็นึกว่ามึงจะไม่ทำตาม กลัวผัวนะมึงเนี่ย”




“ผัวพ่อง!”




   ด้วยความที่รีบเร่งทำเวลาทำให้ผมเกือบอ้วก ตอนนี้มึนหัวไปหมด รู้สึกว่าพื้นที่ยืนอยู่มันหมุนได้ คือผมรู้เรื่องทุกอย่างนะ แต่บังคับตัวเองไม่ได้แต่กระทั่งการยืนตรงๆ ดีที่มีไอ้พี่เดียวมันคอยพยุงอยู่



   “อยากนอนอ่ะ อยากนอน”



   “รู้แล้วๆ นี่มันหน้าบ้านจะนอนตรงนี้หรือไง”



   “ไม่นอน! จะเอาเตียงนุ่มๆ”



   “งั้นก็ยืนดีๆก่อนสิ”



   “ดีแล้วเนี่ยๆ”ผมกระทืบเท้าให้ดูด้วย ให้เห็นชัดๆว่ายืนดีแล้วแม้จะไม่ตรงเท่าไหร่



   “เมาแล้วปัญญาอ่อนนะเราน่ะ”



   “ว่าใคร”



   “ว่าน่านนั่นแหละ”



“ไม่ได้ชื่อน่าน”



“แล้วชื่ออะไร”



“ชน ละ ทอน”ชื่อผมเพราะมาก พ่อตั้งให้ ผมชอบมากเลยนะ



“อ๋อ ครับๆ น่านนี่ชื่อหมาเนอะ”




“ช่าย”



“ฮ่าๆ”



“หัวเราะอะไร?”



”หัวเราะหมาครับ”




“ไหน?”



“มันวิ่งหนีไปแล้ว เอ้า นั่งลงก่อนพี่ถอดรองเท้าให้”



“ถอดกางเกงด้วยนะ อึดอัด”



“ได้ครับ จะถอดให้เกลี้ยงทั้งตัวเลย”



“ดีๆ”



“น่าน อย่าเพิ่งหลับ ลุกขึ้นก่อน ไปนอนบนห้อง”



“อื้อ ยังไม่ถอดกางเกงเลย”



“เดี๋ยวไปถอดข้างบนไง”



ก็ได้วะ แต่ขี้เกียจเดินอ่ะ ทำไงดี ทำไมที่บ้านไม่มีทางเลื่อนเหมือนที่สนามบินบ้าง บันไดก็ควรเลื่อนได้ด้วยนะ ให้เดินขึ้นเองมันเมื่อย แล้วทำไมขั้นบันไดมันถึงได้มีซ้อนกันเยอะแบบนี้ด้วยนะ



“โอ๊ย!”



“เดินดีๆ ยกเท้าสูงๆจะได้ไม่เตะมัน”



“สูงแล้วๆ”




“เอ้อ ไม่น่าเผลอเลย”



“เผลออะไร?”



ถามก็ไม่ตอบ ยังมายิ้มใส่อีก แล้วจะลากผมไปไหนเนี่ย อยากจะขัดขืนมันนะ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย แค่จะดึงมือออกยังไม่มีแรง โชคดีที่มันไม่ได้พาผมไปไหนไกล พอผมเห็นเตียงที่คุ้นเคยก็รีบถลาลงไปหาทันที ความนุ่มแบบนี้ที่ผมชอบ กลิ่นแบบนี้ที่ช่วยให้หลับสบายจนถึงเช้า





X






ตึก ตึก...ตึก ตึก



เสียงดังน่ารำคาญข้างหูมันคืออะไรก็ไม่รู้ แต่มันทำให้ผมต้องตื่นขึ้นมาพบกับความปวดหัวหนึบๆและลำคอแห้งผากเหมือนอยู่ในทะเลทราย พอลืมตาก็เจอกับกำแพงที่ทำจากหนังมนุษย์ สติสัมปชัญญะกลับเข้าสู่ร่างผมทันที ที่มาของเสียงตึกๆดังหนวกหูผมมาจากด้านในกำแพงที่ว่านั่นเอง ผมขยับตัวออกห่าง เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของแผ่นอกล่ำๆที่ยังหลับสนิท พอผมลุกขึ้นนั่งแขนที่พาดเอวผมไว้ก็ล่วงผล็อยลงไป เมื่อคืนมาส่งแล้วก็ตีเนียนนอนด้วยสินะ ผมฟาดมือลงบนอกมันไปหนึ่งที เห็นมันคิ้วกระตุกก็รู้สึกพอใจ ว่าจะลงไปดื่มน้ำข้างล่างแต่เหลือบมองที่ข้างเตียงก็เห็นมีขวดน้ำวางอยู่เลยไม่ต้องลงไปด้านล่างให้เสียเวลานอน ไม่ต้องคิดให้เปลืองสมองว่าขวดน้ำมาตั้งอยู่ตรงนี้ได้ยังไง ผมพลิกตัวลงนอนอีกรอบแขนปลาหมึกก็ตวัดมารัดทันที ไอ้พี่เดียวมันตื่นแล้วแน่ๆ




“มาตีพี่ทำไมหืม”มึนงึมงำถามจมูกซุกอยู่หลังคอ




“ไม่กลับไปนอนที่คอนโดอ่ะ”




“ที่คอนโดไม่มีน่านให้นอนกอด”




“หึ...เดี๋ยวซื้อตุ๊กตายางให้กอด”




“ตุ๊กตาจะสู้คนจริงได้ยังไง หอมกว่า อุ่นกว่า แถมยังทำให้ตื่นตัวดีกว่าด้วย”




ครับ ตื่นตัวจริงด้วย ไอ้สิ่งที่ทิ่มขาผมอยู่มันน่าจะจับหักเป็นสองท่อนจริงๆ




“ไปไกลๆเลยแม่ง”ใช้ศอกถองท้องมันไปหนึ่งทีแต่ไม่แรงมากเพราะมันรัดผมแน่นเกินไปไม่มีที่ให้ขยับตัวมากพอ




“อยากอยู่ใกล้ๆ”




“ไปจัดการตัวเองก่อนไป”จะให้มานอนทิ่มกันแบบนี้มันรู้สึกแปลกๆ ถึงมันจะเป็นเรื่องปกติในยามเช้าของผู้ชาย แต่ไอ้การที่เหมือนมีอะไรมาจี้ตัวเองคล้ายเป็นตัวประกันอย่างนี้มันไม่ปกติ




“เดี๋ยวมันก็สงบไปเองแหละ เชื่อใจพี่ได้นะ นอนเถอะ”




ไอ้เชื่อมันก็เชื่อได้อยู่ แต่มันขนลุกป่ะวะ ผมถอนใจออกมาเฮือกใหญ่เพราะรู้แน่ว่าไอ้พี่เดียวมันคงกอดผมไม่ปล่อยแน่ แล้วอากาศเย็นๆยามเช้าเพราะฝนพรำแบบนี้ก็ดีเกินกว่าจะมาต่อปากต่อคำกับมัน พยายามไม่สนใจร่างกายของอีกฝ่าย หลับหูหลับตาเดี๋ยวมันก็หลับไปเอง
ผมตื่นอีกทีก็บ่ายโมง ไม่เห็นไอ้พี่เดียวอยู่บนเตียงแล้ว ที่นอนด้านข้างก็เย็นเฉียบแสดงว่ามันลุกไปนานแล้ว ผมจัดการตัวเองที่หมักหมมมาทั้งคืนก่อนจะเดินลงไปหาอะไรกินข้างล่าง พอได้นอนเต็มอิ่มอาการปวดหัวก็หายไป ความหิวก็มาเยือนแทน ไอ้พายไปต่างจังหวัดตั้งแต่เมื่อวานกลับอีกทีก็พรุ่งนี้ค่ำๆ บ้านเลยเงียบเชียบ แต่ที่แย่คือไม่มีคนทำกับข้าวไว้ให้กินนี่สิ




“อ่าว นึกว่ากลับไปแล้ว”ผมเห็นไอ้พี่เดียวเดินเข้ามาพอดี




“กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามา หิวยัง พี่ซื้อของกินมาเยอะเลย”มันยกของในมือให้ดูมีหลายถุงเลย




“หิวมาก”ผมเข้าไปช่วยมันถือถุงของ มีกับข้าวหลายอย่าง ขนมกับผลไม้ก็มี




“แล้วนั่นอะไร?”กระเป๋าสะพายใบไม่ใหญ่มากที่มันสะพายมาแต่ก็สะดุดตาจนทำให้ต้องถาม




“เสื้อผ้า”




“จะไปไหน?”




“เอามาไว้ที่นี่ไง ถ้าพี่มาค้างจะได้มีใส่”




“ถามเจ้าของบ้านยัง?”




“ไม่ต้องถาม ยังไงก็อนุญาตอยู่แล้ว จริงมั้ย หรือจะใจร้ายกับแฟนตัวเอง”มันเน้นย้ำคำว่าแฟนกระแทกใส่หน้าผม เหมือนกลัวว่าผมจะลืมสถานะระหว่างกัน




“เออ อยากทำไรก็ทำ”




ผมประชดแต่สำหรับพี่เดียวมันคงคิดว่าผมอนุญาตเลยเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บด้านบน ผมขี้เกียจท้วงเลยเอากับข้าวที่มันซื้อมาเทใส่จาน เพิ่งเห็นว่ามันหุงข้าวทิ้งไว้ด้วย รอบคอบไม่เบา ระหว่างรอไอ้พี่เดียวผมก็เอาชมพู่กับฝรั่งมาหั่นแช่ตู้เย็นไว้กินหลังอาหาร




“วันนี้ไม่ไปไหนหรือไง”ผมถามไอ้พี่เดียวที่นั่งลงประจำที่




“ไม่ล่ะ ขี้เกียจ อีกอย่างอยากอยู่กับน่านมากกว่า”หยอดได้หยอดดี คิดว่าผมจะรู้สึกอะไรหรือไง จะว่าไปมันก็เป็นคนปากหวานเหมือนกัน คิดถึงอย่างนั้นคิดถึงอย่างนี้ อยากอยู่ด้วย แป๊บๆเดี๋ยวก็ชมน่ารัก ถ้ามันจีบผู้หญิงผู้หญิงคนติดใจมันมาก ผมไม่รู้เลยว่าอะไรที่ทำให้มันคิดกับผมเกินเลย ทั้งที่ตอนแรกแทบจะต่อยปากกัน แต่ตอนนี้สิสายตาของมันเหมือนอยากจะจับผมจูบตลอดเวลา ฮึ่ย ขนลุก




“หยุดพูดอะไรที่มันชวนกินข้าวไม่ลงได้มั้ยพี่ เลี่ยน”



“พูดจริงก็หาว่าเลี่ยน”



“พี่เป็นคนติดแฟนเหรอวะ”ผมก็ไม่เคยมีแฟน เลยไม่รู้ว่าเขาต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลามั้ย แต่เห็นคนอื่นที่มีแฟนเขาก็ไม่ได้เป็นแบบไอ้พี่เดียว มันทำเหมือนคลั่งผมมาก หวงแบบไร้สาระ แค่แต่งตัวหล่อก็ไม่พอใจ ชอบคลอเคลียนัวเนียให้รำคาญใจเล่น แล้วที่บอกว่าคิดถึงๆนี่ก็ไม่รู้จะอะไรนักหนา ผมไม่มีความรู้สึกแบบนั้นกับมันเลยสักนิด ไอ้พี่เดียวในตอนนี้กับตอนที่เจอกันแรกแทบจะกลายเป็นคนละคนกันเลย




“ไม่รู้สิ ไม่เคยมีแฟนเหมือนกัน”



“จริง?”หน้าอย่างมันเนี่ยนะ



“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น”



“ก็ไม่น่าเชื่ออ่ะดิ แฟนไม่มีแต่คู่นอนนี่เพียบใช่หรือเปล่า”



“หึหึ แต่น้อยกว่าเราแน่นอน”



“เอ้า มีของดีก็ต้องใช้ให้คุ้มดิ”



“แต่หลังจากนี้ไปก็เอามาใช้กับพี่แค่คนเดียว คนอื่นห้าม”



“เหอะๆ”




   จากใจเลยนะ กับมันเนี่ยผมไม่เคยคิดจะเอามาใช้เลย!










----------------------------------------------

มาแล้วค่าาาา มาช้ามีสองสาเหตุคือทำงานกับเที่ยวค่า 555555
นี่เพิ่งออกจากป่าเขามา เพลินเลยอ่า  :hao7:


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด