[♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]  (อ่าน 284052 ครั้ง)

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เอ้า ใครอีกเนี่ยยย

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
มีอะไรก็คุยกับพี่เขานะน่าน อย่าดื้อมากเหนื่อยแทนไม่ใช่อะไร

ออฟไลน์ temaripik

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เดี๋ยวนี้มีอ้อนด้วยอ่าาาาาา

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ sangzaja122

  • บึนปากให้ทุกๆอย่าง
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอให้หวานกันไปนานๆค่ะ ลดสถิติ3วันดี4วันร้าย ให้เหลือสัก 6วันดี1วันร้ายก็พอ  o9 o9 :try2:

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
น่านอ้อนน่ารักแต่ถ้าพยศมาก เดี๋ยวเก็บตังจ้างพี่เดียวให้หนีไปอีกรอบนะ

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ได้อย่างใจจริงๆ ชอบน่านมากๆๆๆๆ
คิดในแง่คนเป็นแม่นะ
ถ้ามีลูกที่มีการตอบสนองต่อปัญหาในชีวิตแบบน่าน
ป้าว่าป้าประสบความสำเร็จในการเลี้ยงลูกแล้วล่ะ
ขอบคุณค่ะ รออ่านต่ออยู่นะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ชอบนะ ที่มีแง่มุมที่แสดงให้เห็นว่าน้ำน่านไม่ได้มองความรักเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของชีวิต ยังคงรู้ว่ามีวันที่เริ่มรักก็ต้องมีวันรักจืดจาง เเละเลิกรากันไป มองชีวิตเป็นไปตามความจริง นานๆทีเห็นน่านยอมอ่อนลงให้พี่เดียวบ้างก็ดีเหมือนกัน ดูเป็นคนคิดมากดี ในหัวไม่ได้คิดถึงแค่เรื่องความรักอย่างเดียว555 แต่โทนเรื่องมาแนวนี้แล้ว สงสัยคงไม่มีดราม่าแล้วมั้งคะ? ใจจริงอยากเห็นดราม่าอีกซักฉากก่อนจบ เพราะยังเห็นความไม่เเน่นอนในความรู้สึก/อารมณ์ของน้ำน่านอยู่ แต่ถักทอความสัมพันธ์ของคู่นี้มาได้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีแล้วค่ะ อ่านแล้วอินตามเลย ยังไงก็ยังรอพัฒนาการด้านความรู้สึกของน้ำน่านเเละพี่เดียวอยู่นะคะ หกล้มคลุกคลานยังไงแม่ก็จะอยู่ข้างหนูเสมอนะลูก #ทีมน้ำน่าน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-07-2017 14:41:29 โดย BitterCucumber »

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
รัก...ไม่ได้ออกแบบ




- 36 -


(ครึ่งแรก)


ผมมองบ่าวสาวบนเวทีด้วยความรู้สึกที่แตกต่างไปจากเดิม เป็นครั้งแรกที่มางานแต่งงานแล้วรู้สึกดีใจไปกับความรักของคนทั้งคู่ด้วย อาจเป็นเพราะผมได้รู้จักกับพวกเขามากกว่าบ่าวสาวคู่อื่น หรือเป็นเพราะว่าวันนี้ผมได้รู้จักกับความรู้สึกที่เรียกว่ารักแล้วหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ผมยินดีกับพี่แชมป์พี่นลินด้วยจริงๆ



   “กูเพิ่งเคยเห็นมึงแฮปปี้กับการถ่ายรูปงานแต่งก็วันนี้แหละ”



   “แฮปปี้ที่ได้มาทำงานมากกว่าพี่”หลังจากพักไปยาวๆ ผมกลับมาถ่ายงานแรกก็คืองานฉลองมงคลสมรสของพี่แชมป์กับพี่นลินวันนี้แหละครับ พิธียกน้ำชา พิธีหมั้นและพิธีรดน้ำสังข์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมอยู่ในช่วงสอบไฟนอลเลยไม่ได้มาทำหน้าที่



   “แล้วนี่กินไรยังวะ”




“เรียบร้อยแล้วพี่”ก่อนมางานผมจัดการมาเรียบร้อยแล้ว เพราะรู้ว่าถ้างานเริ่มก็คงไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง ขนาดอยากจะเข้าห้องน้ำยังต้องกลั้นไว้ก่อน แต่ตอนนี้รู้สึกว่ามันจะทนไม่ไหวแล้ว




“พี่ยศขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะพี่ อั้นมานานไม่ไหวแล้ว”




“เออๆ อย่ามายืนฉี่ราดตรงนี้ ไปๆ”




พอได้รับคำอนุญาตผมก็ตรงไปห้องน้ำทันที ถ้าช้ากว่านี้อีกนิดคงก้าวขาไม่ออก ห้องน้ำโรงแรมหรูมันใหญ่โตและเงียบเป็นส่วนตัวมาก ผมล้างมือหลังจากทำธุระเสร็จ เห็นตัวเองในกระจกแล้วก็รู้สึกว่าโทรมลงไปเยอะเพราะสอบไฟนอลเอาเวลานอนผมไปหมด เพิ่งจะฟื้นคืนชีพมาได้สองวันเอง ถ้าถามถึงชีวิตรักของผมว่าเป็นยังไงก็ไม่มีอะไรคืบหน้า เพราะหลังจากที่ดีกันพี่เดียวมานอนค้างกับผมแค่สองวันจากนั้นก็กลับไปอยู่บ้านเพราะต้องช่วยงานแต่งของพี่แชมป์แล้วก็มีประชุมบ้าบออะไรก็ไม่รู้เลยไม่ได้เจอกันเลย แค่คุยโทรศัพท์กันวันห้านาทีสิบนาทีพอให้รู้ว่าอีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่ก็เท่านั้น วันนี้ในงานก็แค่มองหน้ากันแล้วต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง แขกเหรื่อในงานก็เยอะแยะละลานตาตามประสางานไฮโซ ผมเห็นผู้หญิงแวะเวียนเข้ามาทักไอ้พี่เดียวไม่ขาดอะไรจะฮอตขนาดนั้น หมั่นไส้!




“เห้ย! อะ....อื้อ!”ใครวะ! ผมไม่มีโอกาสร้องเพราะมือใหญ่ปิดปากผมเลยมาถึงจมูกแทบหายใจไม่ออก แต่กลิ่นน้ำหอมมันคุ้นมาก




“ชู่”




“อะไรของพี่เนี่ย!”ผมสะบัดตัวออกจากวงแขน มือดีที่ลากผมมาจากประตูห้องน้ำไม่ใช่ใครที่ไหน




“อย่าเสียงดังสิ เดี๋ยวคนเขารู้ว่าเราแอบอยู่ตรงนี้”ตรงนี้ของพี่เดียวคือซอกหลืบข้างห้องน้ำติดกับทางหนีไฟ




“เลนส์กระแทกอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้ เล่นบ้าอะไรของพี่วะ”คือเข้าใจมั้ยครับผมมาทำงานถ่ายรูป ตัวผมนอกจากกล้องที่แขวนคออยู่ก็มีกระเป๋าสะพายใส่เลนส์และอุปกรณ์อื่นๆอีก มันไม่ได้รุงรังมากแต่ก็ไม่ได้ตัวเปล่าที่จะขยับตัวโดยไม่ต้องระวังได้ ลำพังแค่เลนส์ที่ติดกล้องอยู่ก็เฉียดแสนแล้ว ยืมพี่ยศมาด้วย



“ถ้าพังเดี๋ยวซื้อให้ใหม่”




“รวยนักนะ”




“ขี้บ่นจัง หืมๆ”




“โอ๊ย เจ็บนะ”พูดอะไรไม่เข้าหู บ่นนั่นนิดนี่หน่อยก็คอยแต่จะดึงปากผมอยู่เรื่อย ดึงจนมันจะห้อยอยู่แล้ว



“ไหนมาจูบทีดิ”



“บ้าป่ะเนี่ย!”จู่ๆมาขอจูบไม่ดูสถานที่เลย ถึงจะเป็นซอกหลืบแต่มันก็ไม่ใช่ที่รโหฐานหรือเปล่าวะ



“คิดถึง”



คำเดียวทำเอาไปไม่เป็นเลย



“ปีศาจจูบชัดๆ”



“หึหึ...”



ผมเอนหน้าหนีเมื่อใบหน้าอีกฝ่ายโน้มลงมาใกล้แต่ก็หนีไปไหนไม่ได้เพราะด้านหลังผมคือผนัง ริมฝีปากอุ่นๆทาบทับลงมาอย่างแผ่วเบา ขบเม้มเหมือนทักทายก่อนจะเพิ่มน้ำหนักขึ้นและความร้อนชื้นก็สอดแทรกเข้ามาในโพรงปากรับรู้ได้ถึงความหอมหวานของแชมเปญ ใจผมเต้นตึกตักหนักหน่วงกับสัมผัสที่ได้รับ พี่เดียวทำเหมือนจะผละออกแต่ก็ไม่ กลับกดย้ำแทรกซ้ำเข้ามาใหม่ ครั้งนี้ไม่ใช่เนิบนาบอ่อนหวานแต่ร้อนแรงชวนให้เมามัว เกือบสองสัปดาห์ที่ไม่ได้เจอกัน ทำให้ผมคิดถึงพี่เดียวเหมือนกันนะ ไม่ดีเลย พอยอมรับความรู้สึกหนึ่งความรู้สึกอื่นๆที่ไม่เคยเกิดก็ผุดขึ้นมาเป็นพรวน ช่างจัดการยากและรับมือยากจริงๆ



“พอ...พอแล้ว”ผมรีบผลักพี่เดียวออกเมื่อได้ยินเสียงคนคุยกันดังใกล้เข้ามาคงจะเป็นแขกในงานที่มาเข้าห้องน้ำ



“ไม่ได้เอารถมาใช่มั้ย”



“อืม”ก็เป็นคนส่งข้อความมาบอกเองว่าให้ผมนั่งแท็กซี่มา



“เลิกงานแล้วรอพี่ที่ล็อบบี้นะ คืนนี้ไปนอนด้วย”



“ไม่ต้องอยู่ช่วยทางนี้หรือไง”



“ไม่มีอะไรแล้วล่ะให้ออแกไนซ์เขาจัดการไป”



“อืม”



พวกผมรอจนแน่ใจว่าคนที่เดินมาเข้าห้องน้ำกันไปหมดแล้วจึงเดินออกมาแล้วกลับเข้าไปในงาน เจอพี่เฟิร์สที่หน้างานกำลังคุยอะไรกับน้องสาวตัวเองอยู่ พอเห็นพวกผมเดินมาก็ส่งสายตาล้อเลียน ผมรีบปลีกตัวกลับเข้าไปในงานปล่อยให้พี่ๆน้องๆเขาสนทนากันตามสบาย ตอนนี้บ่าวสาวกำลังเดินไปทักทายแขกตามโต๊ะ คงเพิ่งลงจากเวทีเพราะยังอยู่แถวโต๊ะผู้ใหญ่ด้านหน้าเวที ผมกำลังจะเข้าไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อแต่ก็ถูกเรียกไว้



“พี่ชล!”



“ปาย”



“พี่ชลจริงๆด้วย”เด็กสาวที่วันนี้แต่งตัวสวยเกินวัยไปหน่อยแต่ก็พอเข้าใจได้ว่าเป็นงานเลี้ยงไฮโซ ที่ต้องแต่งกันมาเต็มตามประสาลูกคนมีเงิน



“ไม่คิดว่าจะเจอพี่ที่นี่”ผมก็ไม่คิดว่าจะได้เจอปายที่นี้ หลังจากที่เขามาหาผมถึงคณะคราวก่อน ปายรู้เรื่องที่ผมโดนแทงเลยอยากมาถามอาการและขอโทษที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมเจ็บตัว ส่วนคดีผมไม่รู้ว่ามันไปถึงไหนแล้วเพราะเงียบไป ตัวผมก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไรถือว่าเป็นคราวซวย



“นั่นสิ”



“พี่เป็นช่างภาพงานนี้เหรอ เท่จังเลย เพิ่งรู้ว่าพี่ทำงานแบบนี้ด้วย”



“ก็แค่รับจ็อบเป็นงานๆไปอ่ะ”



“ปาย!”



น้ำเสียงเข้างวดดังมาจากด้านหลัง เพียงแค่เหลือบตามองก็ทำให้ร่างกายของผมนิ่งงันเหมือนถูกสาป ผมไม่น่าลืมว่างานแบบนี้เด็กสาวมัธยมปลายคงไม่ได้มาเพียงลำพังแน่ๆ



“คุณแม่”



“มาทำอะไรตรงนี้ แล้วนี่ใครรู้จักหรือไงถึงมายืนคุยกับเขา”



“นี่พี่ชลค่ะ ที่ช่วยปายไว้ พี่ชลคะนี่คุณแม่ปายค่ะ”



หลังจากรับไหว้ผมตามมารยาท สายตก็ไล่มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า เหมือนดูสินค้าเพื่อหาตำหนิ ซึ่งเป็นสายตาที่ผมเกลียดมากๆ



“ขอบใจที่ช่วยลูกสาวฉัน แต่แค่ช่วยก็จบแล้วมั้งไม่จำเป็นต้องสานต่ออะไรกัน เธอคงไม่ได้หวังผลอะไรใช่มั้ย”



“คุณแม่คะ”



“เงียบไปน่ะเรา ที่ผ่านมาทำเรื่องไว้ขนาดนั้นยังไม่พอหรือไง ยังมายืนคุยกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ ไม่รู้จักรักษาเกียรติของตัวเองเสียเลย กลับไปนั่งโต๊ะเดี๋ยวนี้”



“แต่คุณแม่คะ”



“แม่บอกให้ไป”ปายดูมีท่าทีฮึดฮัดแต่ก็คงขัดแม่ตัวเองไม่ได้เลยเดินกลับไปยังโต๊ะของตัวเอง พอดึงสายตากลับมาก็เจอกับผู้หญิงตรงหน้าที่จ้องผมเขม็ง ดูก็รู้ว่าคิดอะไรอยู่



“ยังไงฉันก็ไม่ใช่คนที่ไม่รู้คุณคน ได้ข่าวว่าถูกทำร้ายด้วยนี่ ค่ารักษาพยาบาลที่จ่ายไปฉันยินดีจ่ายคืนให้ ไปพบฉันตามนามบัตรนี้แล้วเลขาฉันจะช่วยจัดการให้”



ผมมองนามบัตรสีทองหรูหราที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาวางเปล่า ไม่รู้ว่าตัวเองควรรู้สึกยังไงดี แค่คิดว่าอยากจะออกไปจากตรงนี้เดี๋ยวนี้



“เก็บเงินของคุณไว้เถอะครับ ผมไม่ได้เดือดร้อนอะไร แค่อยากช่วยเท่านั้นไม่ได้หวังเงินทองของใคร”ไม่คิดว่าการช่วยเหลือใครสักคนมันจะทำให้ผมต้องมาเจอเรื่องงี่เง่าแบบนี้



“ฉันก็ไม่ได้จะอะไรนะ แต่เงินนี่อาจจะจำเป็นสำหรับเธอรับไว้เถอะ ทำงานแบบนี้เงินเดือนก็คงไม่มากมายอะไร ถือว่าฉันช่วยเยียวยาตอนที่เธอต้องหยุดงานก็แล้วกัน ยังดูเด็กอยู่เลยนะ ต้องมาทำงานแบบนี้ ฉันก็เห็นใจ”



“ขอบคุณสำหรับความเห็นใจ แต่ถ้าคุณจะรู้สึกขอบคุณใครหรือเห็นใจคนอื่นจริงๆก็ช่วยแสดงมันออกมาจากใจ ไม่ใช่ด้วยท่าทีการดูถูกคนอื่นแบบนี้ เงินจำเป็นในการใช้ชีวิตก็จริงครับ แต่เงินของคุณมันไร้ค่ามากสำหรับผม”



“เธอ!”



“แต่ถ้ามันจะทำให้คุณสบายใจขึ้นก็ช่วยเอาเงินไปบริจาคเอาหน้าตามงานสังคมดีกว่าครับ”



“อวดดีนักนะ ไม่มีใครสั่งสอนหรือไงว่าอย่ามาต่อปากต่อคำกับผู้ใหญ่”ผู้หญิงตรงหน้าผมกำลังโกรธจัดแต่ยังคงระงับอารมณ์และรักษาท่าทีเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม



“ขอตัวนะครับ คุณทำให้ผมเสียเวลาอันมีค่าไปมากเลย”



“ไม่รู้โตมายังไง ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย”



คำตำหนิติเตียนยังดังตามหลังมา ไม่อยากใส่ใจกับคำพูดพวกนี้แต่ก็โกหกตัวเองไม่ได้ว่าผมไม่รู้สึกกับทุกคำพูดที่เขาพูด โชคดีที่เป็นช่วงท้ายของงานแล้วหลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมงแขกก็ทยอยกลับ ผมเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วจึงขอพี่ยศกลับ ส่วนไฟล์รูปจะส่งตามไปให้ ผมส่งข้อความบอกพี่เดียวว่าจะลงไปรอที่ล็อบบี้ทั้งที่ใจจริงผมอยากจะตรงดิ่งกลับบ้านเลยด้วยซ้ำ แต่ไม่อยากมีปัญหายุ่งยากเลยต้องอยู่รอ ซึ่งไม่นานเท่าไหร่




x



“น่านมานี่สิ”ผมกำลังจะเข้าไปอาบน้ำเลยต้องหามามองคนเรียกที่ตอนนี้เปลือยท่อนบนนั่งอยู่ปลายเตียงอวดกล้ามท้องและอก ผมเดินไปหยุดตรงหน้าอย่างเนือยๆ



“ว่า?”



“เป็นอะไรท่าทางซึมๆ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า”



“ทำไมถามอย่างนั้น”



“ก็แปลกไปตอนไปเข้าห้องน้ำยังดีอยู่เลย”



“ปกติ”



“โกหก”พี่เดียวมั่นอกมั่นใจมาก ซึ่งท่าทางผมก็คงแสดงออกมาหมดจริงๆ ถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่ต้องสังเกตอะไรมากก็คงรับรู้ได้ ยิ่งถ้าเป็นคนที่มองผมอยู่ตลอดเวลาด้วยแล้วละก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่รับรู้ถึงความผิดปกติ ในงานผมรู้ว่าพี่เดียวมองมาตลอด เพราะทุกครั้งที่ผมรู้สึกตัวและมองกลับไปทางโต๊ะนั้นก็จะสบตากับพี่เดียวเสมอ



“ขอผมอาบน้ำก่อนได้มั้ย”ผมไม่พร้อม ยังไม่อยากเล่าเพราะยังเรียบเรียงอะไรไม่ได้



“เอางั้นก็ได้”



ผมอยากประวิงเวลาด้วยการอาบนานๆ แต่มันก็ดึกมากแล้วพี่เดียวเหนื่อยมาทั้งวันคงอยากพักผมเลยไม่อยากให้รอนาน พี่เดียวเข้าไปอาบต่อจากผมทันที เหมือนอีกฝ่ายก็ไม่อยากปล่อยเวลาให้ผ่านไปนาน



 นั่งไดร์ผมจนแห้งพี่เดียวก็ออกมาพอดี ผมเลยไม่ได้เก็บไดร์รออีกคนมาใช้ต่อก่อนจะย้ายตัวเองไปนั่งบนเตียง ระหว่างนั้นไม่มีการพูดคุยใดๆ ต่างทำกิจกรรมของตัวเองไปอย่างเงียบๆ ผมหญิบโทรศัพท์ออกมาดูอย่างไม่รู้จะทำอะไร พวกไอ้เต้คุยเรื่องไปเที่ยวกันขึ้นเตือนมาสามร้อยกว่าข้อความแต่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ผมเลื่อนดูผ่านๆเพราะส่วนมากมีแต่คำด่าไร้สาระ ส่วนกรุ๊ปของพวกไอ้ธันว์ก็เงียบเหมือนตายจาก คงกลายเป็นศพหลังไฟนอลกันถ้วนหน้า



“พี่ปิดไฟแล้วนะ”



“อ้าว”



“ทำไม ยังไม่นอนเหรอแต่ดึกแล้วนะ เดินทั้งงานไม่เหนื่อยหรือไง”



“อือ นึกว่าจะคุย...”



“นอนไปคุยไปก็ได้ แต่ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ต้องเล่า นอนๆ”ผมรู้ว่าพี่เดียวอยากรู้แต่ก็เว้นช่องว่างไว้ให้ผมเสมอ



ผมนอนมองเพดานผ่านความมืด ข้างกันมีร่างใหญ่นอนอยู่ ได้ยินเสียงลมหายใจเบาๆ ไออุ่นที่แผ่ออกมาจนรู้สึกได้




ผมไม่ได้อยู่คนเดียว...




อะไรบางอย่างตีตื้นขึ้นมาในอกจนผมต้องเอามือกุมไว้ พยายามฝืนกล้ำกลืนมันลงไป แต่กลับทำให้หลุดสะอื้นออกมา




“น่าน...เป็นอะไร”



“อย่า! อย่าเปิดไฟ”ผมร้องบอก ทั้งที่พยายามบังคับแต่เสียงที่หลุดออกไปก็ยังคงสั่นพร่า ผมเห็นเงาอีกฝ่ายชะงักไปแล้วพลิกตัวกลับมาก่อนจะคว้าตัวผมเข้าไปกอด มันทำให้ผมสะอื้นหนักกว่าเดิม รู้เลยว่าสั่นไปทั้งตัวอย่างห้ามไม่อยู่ พี่เดียวไม่ถามไม่พูดอะไร ทำเพียงแค่กอดผมไว้และลูบหลังเบาๆเพื่อปลอบประโลม เสื้อนอนพี่เดียวเปียกชื้นไปหมดเพราะผมฝั่งหน้าลงบนอกอุ่นๆนั่นไม่ยอมปล่อย



“อยู่กับผมนะ”



“อืม พี่อยู่นี่ไง ไม่ได้ไปไหน”



ผมรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอจนถึงที่สุด แต่ขอแค่คืนนี้ แค่คืนเดียว แล้วผมจะไม่ยอมให้ตัวเองเป็นแบบนี้อีก






--------

พรุ่งนี้มาต่ออีกครึ่งนึงค่ะ ตอนแรกจะลงตอนของพี่ไวท์น้องหมวย แต่เปลี่ยนใจลงน้ำน่านพี่เดียวดีกว่า เลยมาได้แค่ครึ่งเดียวค่ะ
ดราม่าระลอกสุดท้ายค่ะ คิดว่านะ 555555 (จริงๆเป็นคนถนัดแต่งดราม่ามากๆ แต่เรื่องนี้ถือว่าซอฟมากเลย ไม่อยากให้หนักไป พล็อตไม่ได้มาทางดราม่าน้ำตาตก)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-07-2017 23:59:47 โดย phoenixes »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
จริงๆป้าชอบเรื่องนี้เพราะไม่ดราม่านะ
ชอบความเป็นเหตุเป็นผลที่อ่านแล้วไม่หงิดหัวใจ
แต่พอบอกถนัดแต่งม่ามากกว่า นี่รอร้องไห้รอหน่วงเรื่องของพาย?เลย :m15:
ขอบคุณนะคะ ติดตาม ตามติดค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
น่านเป็นอารายจ๊ะ  พี่เดียวปลอบใจด่วนจ้า

ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
อร๊ายยย เรื่องของหมวกก็น่ารักนะ ส่วนคนเขียนจะถนัดแต่งดราม่าเเต่ข้าไม่สนับนนุนกะเรื่องเน๊น้าา 5555

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ปากน่าตบมากป้า

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
นี่เป็นวิธีขอบคุณ คนที่ช่วยลูกสาวตัวเองหรอเนี่ย  :fire:
คำพูด กิริยาท่าที ไมได้บ่งว่าขอบคุณที่มาจากใจเลย
คงคิดว่าน่านเป็นช่างภาพจนๆ โยนเงินให้ไปก็ดีเท่าไรแล้ว

มีหาว่าน่านไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน ถึงแสดงท่าทีไม่ดีต่อผู้ใหญ่
แล้วผู้ใหญ่ที่เลว ไม่มีมารยาทกับเด็กก่อน สมควรได้รับมารยาทดีๆกลับหรือ  :hao3:
     
น่านเปิดใจกับพี่เดียวไปเลย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
น้องน่าน หนูยังมีพี่เดียวอยู่ข้างๆ หนูตรงนี้นะคะ
 :m15:

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
ชื่อคนและสถานที่เป็นสิ่งที่คนแต่งคิดขึ้นมาเอง หากไปตรงกับชื่อคนจริงหรือสถานที่จริงต้องขออภัยด้วยนะคะ



รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero




- 36 -


(ครึ่งหลัง)






วันนี้เป็นวันหยุดที่ผมรู้สึกว่าได้หยุดจริงๆสักที แม้ว่าในตอนแรกที่ลืมตาตื่นขึ้นมายังรู้สึกมึนงงแล้วเผลอตกใจว่ามีเรียนเช้าหรือเปล่า แต่พอตั้งสติได้ก็รู้ว่าวิตกจริตไปเอง นอกจากจะเป็นวันหยุดของผมแล้วก็ยังเป็นวันหยุดของคนข้างๆผมอีกด้วย พี่เดียวยังคงหลับสบายแขนขากอดก่ายผมไว้เหมือนกลัวหาย แต่ผมชินกับมันแล้ว กลายเป็นว่าช่วงเวลาที่พี่เดียวกลับไปนอนที่บ้านผมรู้สึกโหวงๆไปเสียอย่างนั้นเมื่อตื่นมาแล้วข้างกายวางเปล่า ทำไมผมถึงได้เคยชินกับคนข้างๆไวขนาดนี้


ผมขยับตัวนอนตะแคงเพื่อมองหน้าคนที่หลับอยู่ เมื่อคืนผมร้องไห้จนหลับไป ตื่นเช้ามาถึงได้ปวดตาแบบนี้ นึกถึงแล้วก็ขายขี้หน้าแต่ก็ยังปลอบใจได้ว่ามันมืดพี่เดียวไม่เห็นสภาพที่แสนน่าอายนั้นหรอก



   ครืด....ครืด...



   เสียงสั่นของโทรศัพท์ดึงผมออกจากห้วงความคิด ชื่อที่ปรากฏที่หน้าจอทำให้ผมยิ้มออก เหมือนอีกฝ่ายจะมีสัมผัสพิเศษรับรู้ได้ว่าผมกำลังรู้สึกแย่ถึงได้โทรมาได้จังหวะพอดี



   “ครับอาฝน”ผมเดินออกมาที่ระเบียงห้องไม่อยากเสียงดังรบกวนคนที่หลับอยู่ ท่าทางจะเพลียจัดเหนื่อยทั้งงานราษฎร์งานหลวง



   “เพิ่งตื่นหรือไงสิบโมงแล้วนะ”



   “ค้าบ เมื่อคืนน่านกลับดึกไปทำงานมา”



   “อย่าหักโหมนัก ทำแค่พอดีเราไม่ได้ลำบากเรื่องเงินทองนะลูก”



   “รู้ครับ น่านก็ทำแค่สนุกๆอ่ะ”



   ผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองขัดสน แม้ว่าในตอนเด็กๆบ้านผมจะไม่ได้ร่ำรวยมากขนาดนี้ แต่พ่อก็ไม่เคยให้ผมลำบาก พ่อทำงานหนักมากเพื่อครอบครัวของเรา ครอบครัวที่มีพ่อ อาฝนและผม



   “ปิดเทอมแล้วใช่มั้ยจะกลับบ้านมาหาอาหรือว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนๆ”



   “ยังไม่ได้คิดเลยครับก็คงเที่ยวด้วยแล้วก็คงกลับไปหาสักสองอาทิตย์ ยังไงเดี๋ยวน่านบอกอีกทีนะครับ”เพราะมีหลายเรื่องให้ต้องคิดต้องทำเลยยังไม่ได้วางแผนอะไรสักอย่าง แล้วในแผนผมก็คงต้องพ่วงพี่เดียวเข้าไปด้วย ไม่อย่างนั้นคนแก่บางคนจะน้อยอกน้อยใจเป็นบ้าไปอีก



   “อ้าว”



   พอกลับเข้ามาคนบนเตียงก็ตื่นขึ้นมานั่งงัวเงียผมชี้ฟูหมดสภาพผู้บริหารสุดเนี๊ยบ พี่เดียวเอียงมองผมพร้อมกับตบท้ายทอยตัวเองเบาๆ



   “นอนต่อก็ได้นะถ้าพี่ไม่ไหว”อีกฝ่ายไม่ตอบแต่ตบที่วางข้างตัวเบาๆให้ผมต้องเดินเข้าไปนั่ง



   “รู้สึกดีขึ้นหรือยัง”ปลายนิ้วอุ่นลูบไล้ใต้ตาผมเบาๆ



   “อืม”เอาจริงๆก็แค่นิดเดียว มันยังรู้สึกหนักหน่วงในใจอยู่ ซึ่งผมต้องพยายามกำจัดมันออกไปให้ได้ คำพูดไม่ดีของคนอื่นก็เหมือนกับขยะเน่าเหม็น เราไม่ควรเก็บมาใส่ใจ ทั้งที่รู้แต่บางครั้งมันก็ทำไม่ได้อย่างที่คิด



   “ดีขึ้นก็ดีแล้ว พี่เป็นห่วง”



   “เพราะมีพี่อยู่ผมเลยรู้สึกดีขึ้น”แม่ง พูดแล้วก็ขนลุกเอง แต่มันเป็นเรื่องจริง พี่เดียวทำให้ผมไม่รู้สึกว่าอยู่คนเดียว เขาทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นใจ



   “ดีใจจัง”



   “เดี๋ยวๆ ทำไมหูแดง พี่เขินเหรอ”ผมอยากจะหัวเราะดังๆ ทำเป็นหน้านิ่งกลบเกลื่อนแต่หูแดงจัด กลบยังไงก็ไม่มิด



   “อะไร ใครเขิน ไปอาบน้ำไปพี่จะได้อาบมั่ง”



   “ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่องเลย เขินก็ยอมรับมา พูดแค่นี้ก็เขิน อ่อนว่ะ”



   “ว่าใครอ่อนครับน้อง หืมๆๆ”



“เอ้ยๆ ไม่เล่นเว้ยพี่ อ๊ากกกกก”ไอ้พี่เดียวมันใช้กำลังช้างสารกดผมลงบนที่นอน สองแขนถูกตรึง สองขาถูกล็อค ส่วนคอก็ถูกกัด ขึ้นรอยแน่ๆ



“อื้อ!”



เชี่ย!!!! กัดเสร็จก็เลียซ้ำเล่นเอาขนลุกชันไปทั้งตัว



“อ๊ะ ปล่อย อย่าเลีย โอ๊ย พี่อย่ากัด มือๆ อื้อ...”



เสร็จปีศาจจูบอีกจนได้...กว่าจะปล่อยก็เล่นเอาหอบ



 “หึ...ยังอ่อนอยู่มั้ย?”



แสรด...ปืนขึ้นลำขนาดนี้คงจะอ่อนอยู่หรอกนะ เพิ่งตื่นมานัวเนียๆแบบนี้อะไรก็ขึ้นง่ายเป็นธรรมดา ผมว่านี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้ว
“อื้อ อย่าจับ อย่าขยับ อะ...”



ห้ามก็ไม่ทันแล้ว น่านน้อยถูกจับเป็นตัวประกันไปเรียบร้อย แล้วเข้าใจมั้ยว่าผมก็ห่างเรื่องแบบนี้มานาน โดนนิดแตะหน่อยก็สู้มือทันทีแม้จะมีเนื้อผ้ากั้นกลาง ก่อนที่ฝ่ามือร้อนจะสอดผ่านขอบกางเกงเข้าไปสัมผัสเนื้อแท้ด้านในอย่างช้าๆในขณะที่ริมฝีปากเราไม่ห่างออกจากกัน ในหัวผมกำลังขัดแย้งกันอย่างหนักระหว่างให้หยุดเพียงเท่านี้หรือปล่อยไปตามความรู้สึก ไม่อยากยอมแต่มันก็รู้สึกดีเมื่อมีคนทำให้ ผมรู้ดีว่าเป็นแฟนกันเรื่องนี้มันเลี่ยงยาก ยิ่งเป็นผู้ชายด้วยกันแล้วก็ยิ่งเข้าใจกันดีว่าต้องการอะไร แต่ผมยังไม่อยากโดนนี่หว่า ไอ้มือที่ขยับเนิบนาบก็ปั่นป่วนจนผมคิดหาทางหนีทีไล่ไม่ออก



   “น่าน...ช่วยพี่หน่อย”เสียงทุ้มพร่ากระซิบข้างหู ความรู้สึกบางอย่างมันวาบเข้ามาในอก ใจเต้นแรง



   “อย่าเพิ่งทำได้มั้ยพี่...”ผมเลื่อนมือลงจับมือพี่เดียวให้หยุดนิ่ง



   “พี่ไม่เข้าไป แต่ช่วยพี่ด้วย โอเคมั้ย?”



   “.......”มองตาก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร มันฉายชัดในดวงตาคมคู่นั้น ถ้าหากผมจะให้หยุดเขาจะทำตามมั้ย



   “ถ้าไม่ล่ะ”



“.....ก็ได้”สายตาผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าที่ดูทรมานจากความต้องการซุกลงตรงซอกคอผม



“แป๊บนะ ขอเวลาแป๊บนึง”เสียงพูดอู้อี้ดังข้างหู ก่อนที่กลีบปากจะกดย้ำมาตรงลำคอผมแช่นิ่งนาน



“พี่เดียว...”ผมลูบท้ายทอยคนข้างบนเบาๆ



“ก็ได้...แต่ไม่เข้าไปนะ”สุดท้ายผมก็ต้องใจอ่อน ใช่ว่าผมจะไม่ต้องการ แต่การจะทำให้ถึงที่สุดผมเองก็ยังไม่พร้อม ขอเวลาทำใจหน่อยก็แล้วกัน ค่อยๆเริ่มไปทีละขั้น อย่ารีบร้อนเลย เพราะเมื่อถึงที่สุดแล้วผมก็คงไม่สามารถย้อนกลับไปเดินทางเก่าได้อีก ถ้าคบกับพี่เดียวอยู่



   “ถ้าไม่โอเค พี่ไม่ทำก็ได้”



   “ก็โอเคอยู่ ถ้าแค่ข้างนอกอ่ะ พี่แม่ง อย่าให้พูดเยอะสิ”ผมที่ผ่านศึกมาหลายสนามไม่เคยต้องอายแบบนี้มาก่อน  พี่เดียวคำรามในคอเหมือนว่าความอดทนสิ้นสุดลงแล้ว



   “อ๊ะ เห้ย พี่ ใจเย็นๆ”มือใหญ่ดึงเสื้อยืดของเราทั้งคู่ปาลงข้างเตียงอย่างรวดเร็วราวกับกลัวผมจะเปลี่ยนใจ ตามด้วยกางเกงนอนขายาวของเจ้าตัว ทุกสัดส่วนโชว์ตรงหน้าผมชัดแบบฟูลเอชดี จนไม่กล้ามองนานเห็นแล้วใจไม่ดี ทำไมต้องเอามาขู่กันด้วยว้า เปลี่ยนใจทันมั้ยเนี่ย



   “หึหึ...”ไอ้พี่เดียวมันยิ้มมุมปากหน้าตาโคตรเจ้าเล่ห์ ใบหน้าหล่อเลวโน้มต่ำลงมาจนปลายจมูกเราชนกัน



“เย็นกว่านี้ก็น้ำแข็งขั้วโลกแล้วครับน้องน่าน”พูดจบก็ประกบปากลงมาไม่ให้ผมได้โต้แย้งอะไรอีก กางเกงของผมถูกดึงออกไปจนสุดปลายเท้า กายใหญ่ก็แทรกตัวเข้ามาแทน



“ไหนว่าไม่ทำ...”ผมรีบท้วง รู้สึกตัวเองเหมือนสาวน้อยกำลังจะถูกพรากความบริสุทธิ์ไปทั้งที่มันไม่หลงเหลืออยู่แล้ว



   “ไม่ทำจริงๆ”



   “........”อดหวั่นใจไม่ได้ เมื่ออารมณ์มันพีดสุดๆพี่เดียวมันจะคุมตัวเองได้มั้ย กลัวว่ามันจะดึงดันทำถึงที่สุดเหมือนครั้งนั้นอีก



   “เชื่อใจพี่นะ”



   “.....”



   “นะ”



   ผม...ต้องแพ้ทางพี่เดียวแน่ๆ แค่ ‘นะ’ คำเดียวก็ทำให้เสียวยาวๆได้



เราเริ่มจูบกันอีกครั้ง ลึกซึ้งจนทำให้ทั้งร่างร้อนรุ่ม มือใหญ่ลูบไล้ไปทั้วทั้งตัว สัมผัสแตะต้องไปทุกส่วน เน้นย้ำตรงจุดที่ไวสัมผัสทำให้ผมแทบคลั่ง ไม่เคยมีใครทำให้ผมรู้สึกได้มากขนาดนี้ จนกลัวใจตัวเองว่าจะคล้อยตามแล้วยอมไปในที่สุด



“อือ..”ผมหยัดตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อปลายลิ้นไล้วนแถวท้องน้อย เสียงจุ๊บเบาๆทำให้ผมหน้าร้อน ก่อนจะต้องกลั้นเสียงอย่างสุดความสามารถเมื่อโพรงปากร้อนครอบครองผมจนสุด ในหัวมันขาวโพลนไปหมดแต่ก็มีภาพอย่างแทรกเข้ามาเป็นระยะ ราวกับความฝัน เหตุการณ์แบบนี้ ความรู้สึกแบบนี้ เหมือนเคยเกิดขึ้นมาก่อน ในความเลือนลางนั้น แยกไม่ออกว่าจริงหรือฝัน พี่เดียวเคยทำแบบนี้ให้ผมจริงๆ หรือแค่คิดไปเอง...แต่เมื่อไหร่กัน นึกไม่ออกเลย ยิ่งถูกอีกฝ่ายรุกหนักทั้งมือและปาก สมองก็เหมือนจะหยุดทำงานไปเสียดื้อๆ



“พี่...พี่..พี่เดียว อะ...”อยากจะบอกว่าให้ช้าลงหน่อยแต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้ สมองกับร่างกายทำงานสวนทางกันไปหมด ประสาทรับรู้ต่างๆถูกปิดไปทีละส่วน มีเพียงหัวใจก็เต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง จู่ๆก็เหมือนถูกจับเหวี่ยงขึ้นไปในอากาศทะยานขึ้นสูงก่อนจะดิ่งวูบลงมา




“แฮ่ก...พี่แม่ง...”...เกือบตาย...ผมหายใจแรงเหมือนไปวิ่งข้ามเขามาสองลูก ส่วนไอ้พี่เดียวน่ะเหรอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ใช้หลังมือเช็ดปากตัวเองอยู่ โคตรเซ็กซี่ และเป็นผมเองที่โน้มคอคนตัวใหญ่กว่าลงมาอีกครั้ง






X






หลังจากเสร็จภารกิจระดับชาติก็เย็นย่ำ จะไม่ให้เย็นได้ยังไงบนเตียงเสร็จยังไม่พอคนโลภมากยังตามมาระรานต่อในห้องน้ำอีก เรื่องแบบนี้ไอ้พี่เดียวมันหน้าด้านมากจนผมนี่กลายเป็นคนหน้าบางไปเลย กว่าจะเป็นที่พอใจก็ค่ำพอดี ผมนี่หิวซกเพราะไม่ได้กินอะไรมาทั้งวันแถมยังมาเสียงน้ำเสียเหงื่ออีก ผมขี้เกียจทำกับข้าวประกอบกับในตู้ก็ไม่มีของสดเลย พี่เดียวเลยพาผมมานั่งชิลร้านอาหารริมแม่น้ำจิบเบียร์เย็นๆชมบรรยากาศของแม่น้ำเจ้าพระยา อาหารก็อร่อยดี ถ้าไม่อร่อยผมจะด่าจริงๆด้วยเพราะผมทนหิ้วท้องฝ่ารถติดนรกมา



“หุบยิ้มบ้างก็ได้”น่าหมั่นไส้ จะอารมณ์ดีอะไรนักหนา



“เอ้า อารมณ์ดีก็ผิดอีก”



“เอาแบบนั้นอีกจานได้ป่ะ อร่อยอ่ะ”ผมขี้เกียจเถียงให้เสียอารมณ์ หันมาเชยชมอาหารดีกว่า



“อะไร นี่เหรอ กุ้งทอดราดซอสมะขาม?”



“อือ”กุ้งแม่น้ำตัวโตๆ ผ่ากลางแล้วนำไปทอดราดด้วยซอสมะขาม ถือว่าเด็ดมากอร่อยจนลืมโมโห



“เอาอย่างอื่นอีกมั้ย”ผมส่ายหน้า พี่เดียวเลยเรียกพนักงานมาสั่งเพิ่ม ผมหันไปมองวิวอีกครั้ง เห็นพระปรางค์วัดอรุณฯอยู่ฝั่งตรงข้าม เสียดายที่ไม่ได้พกกล้องมาด้วย



“ชื่อน้ำน่านนี่ใครเป็นคนตั้งให้”ความสุนทรีถูกขัดจังหวะลง ทำไมต้องถามคำถามนี้ด้วยวะ



“ถามทำไม”



“อยากรู้ไง เลยถาม ไม่ได้เหรอ?”



“แม่ตั้งให้”สิ่งเดียวที่แม่ทิ้งไว้ให้ผมก็คือชื่อ น้ำน่าน ใครได้ยินก็มีแต่คนชอบมันดูเก๋เมื่อนำมาตั้งเป็นชื่อคน



“แต่เกิดที่ลำพูนนี่ ทำไมไม่ชื่อน้ำปิง”



“พ่อกับแม่เขาไปเจอกันที่น่าน”



“อาหะ”



“แล้วพี่ชื่อเดียวเพราะเป็นลูกคนเดียวสินะ”พี่เดียวทำท่าจะถามต่อ แต่ผมชิงถามกลับไปก่อนเพราะไม่อยากนึกถึงเรื่องพวกนั้นเลย ไม่อยากพูดถึง แต่ผมไม่สามารถบอกอีกฝ่ายตรงๆได้



“ใช่”



“แล้วไม่คิดเหรอว่าพี่จะมีน้องๆตามมาเกิดอีก”



“ไม่มีหรอก พอคลอดพี่แล้วแม่ก็ไม่สามารถมีลูกได้อีก ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงน่ะ”



“แต่พี่ก็ไม่น่าจะเหงานะ ลูกพี่ลูกน้องพี่เต็มบ้านขนาดนั้น”



“หึหึ ปวดหัวซะมากกว่า โดยเฉพาะเฟิร์สแสบมากๆ”บ้านนี้เขาก็มีวิธีการตั้งชื่อลูกแบบแปลกๆ ชื่อเฟิร์สแต่กลับไม่ใช่ลูกคนแรก แต่ดูความหมายโดยรวมแล้วแต่ละคนก็บ่งบอกถึงความเป็นหนึ่ง แชมป์ วิน เฟิร์ส เกรท เดียว ไม่เข้ากันแต่ก็ไม่ได้แปลกแยก



“ถึงจะปวดหัวแต่มันก็ดีใช่มั้ยล่ะ”ผมก็อยากมีเรื่องปวดหัวแบบพี่เดียวเหมือนกัน แต่ก็เป็นไปไม่ได้



“นั่นสินะ”



“โทรศัพท์เข้าอ่ะ”ผมเหลือบไปเห็นหน้าจอที่สว่างขึ้นของพี่เดียวพอดี


“อ้าว ปิดเสียงไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ไอ้ทักษ์น่ะ”



“รับดิ เผื่อมีธุระด่วน”



“โทรมาตอนนี้ธุระเดียวที่มีก็กินเหล้านั่นแหละ”ถึงจะบ่นแต่ก็กดรับ เมื่อคืนพวกเพื่อนพี่เดียวก็ไปกันครบนะ แต่ไม่มีโอกาสได้คุยกันเพราะผมก็ทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ แต่ถึงจะไม่ได้คุยกันก็ยังอุตว่าห์ส่งสายตาล้อเลียนมาให้อีก



พี่เดียวคุยไม่นานก็วางสายไป จากที่ได้ยินก็คงชวนกันไปดื่มมตามปกติแน่ๆ



“มันชวนให้ไปร้านไอ้เสก อยากไปมั้ย”



“ถ้าพี่จะไปก็ไปได้นะ ผมกลับบ้านดีกว่าอยากนอนอ่ะ”



“แวะไปแป๊บเดียวได้มั้ย ไปให้มันเห็นหน้า นั่งสักชั่วโมงแล้วค่อยกลับ ไม่งั้นไม่ก็โทรตามอยู่นั่น”




“บอกแล้วไงพี่จะไปกินกับเพื่อนก็ได้ ผมไม่ไปหรอก พี่จะได้นั่งนานๆ”ตัวไม่ได้ติดกันสักหน่อย ผมโอเคมากนะถ้าพี่มันจะไปมีชีวิตส่วนตัว เที่ยวกับเพื่อนฝูง ผมไม่ได้เป็นคนติดแฟนนะ ไม่ได้อยากมีโมเม้นต์ที่ตัวติดกันยี่สิบสี่ชั่วโมง ถ้าเป็นอย่างนั้นคงบ้าตายไปก่อน ขนาดคนที่เขาแต่งงานกันยังไม่อยู่ด้วยกันตลอดเวลาเลย



“ก็ไม่อยากนั่งนานไงเลยอยากให้ไปด้วย...นะ”



ไอ้ ‘นะ’ นี่ซื้อไปทิ้งได้มั้ย ‘นะ’ ทีไร ยอมทุกทีเลยกู



“ก็ได้ๆ แค่ชั่วโมงเดียวนะ”



หลังจากจัดการกุ้งตัวโตเสร็จ พี่เดียวเรียกพนักงานมาเก็บเงิน ผมเลยขอไปเข้าห้องน้ำ แต่พอออกมาดันเจอแขกที่ไม่ได้รับเชิญที่โต๊ะพอดี พี่เดียวกำลังยืนคุยกับคนที่ผมไม่อยากเจอมากที่สุด อยากจะหันหลังกลับไปแต่พี่เดียวดันหันมาเห็นแล้วเรียกไว้เสียก่อน




น้ำน่าน จะไปไหน”



คนๆนั้นหันมาทางผมทันทีที่ได้ยินพี่เดียวเรียกชื่อผม เราสบตากัน ก่อนที่อีกฝ่ายจะแสดงสีหน้าตกใจออกมาให้เห็น ส่วนผมได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น



“เธอชื่อน้ำน่านเหรอ ไหนยัยปายว่าชื่อชล”



“น้ำน่านคือชื่อเล่นครับ ชื่อจริงชลธร...ชลธร อิทธินันท์





---------------------------------

ช้าไปหนึ่งวันซอรี่ค่ะ เบลอปานกลางถึงเบลอมากเราคิดว่าตัวเองลงครึ่งหลังไปแล้ว
วันนี้เลยเข้ามาทำสารบัญปรากฏว่า เอ้า ไม่ได้ลงนี่นา
มานั่งนึกดูพอจัดหน้าเสร็จกดปิดหน้าเว็บไม่ได้กดบันทึกแล้วปิดคอมไปเลย ถถถถถถถ

ตอนนี้หลายอารมณ์มากค่ะ ตัดตอนไม่ถูกเลย 5555555 อ่านกันไปเพลินๆนะคะ
เจอกันตอนหน้าค่ะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-07-2017 00:20:15 โดย phoenixes »

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ขอโวยวายเล็กน้อยว่า ขอตอนหน้าตอนนี้เลยได้ไหม??? :hao7:
รออ่านต่อนะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ Bradly

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ดูอีโรติกเบาๆ  :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ดูท่าที่น่านเฮิร์ท ไม่ใช่เรื่องเล็กๆละ
แม่ของปาย เป็นแม่น้ำน่านหรือเปล่า ดราม่าและ  :hao5: :z3:
ผู้หญิงที่ทิ้งพ่อกับน่านไป  :z6: :z6: :z6:
น้ำน่านเข้มแข็งนะ  :mew1: :mew1: :mew1:

นี่แหละ ที่ทำให้น่านไม่อยากคุยต่อเรื่องพวกนี้กับเดียว
โอ๊ยยย......อยากอ่านต่อแล้ว  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
โถ่ น้ำน่าน :กอด1:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
กลิ่นมาม่าโชยมาอีกแล้ววว

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
หนูจะเตรียมท้องรอมาม่านะคะ...ฮือๆ :ling3:

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
ตะหงิดๆว่าแม่ปายจะมีต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับน้ำน่านแน่ๆอ่ะ o22

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ Ball

  • He exists now only in my memory.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +239/-0
คิดถึงน่านกับพี่เดียวจังค่ะ

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
อยู่สองทีมเลยค่ะ
อยากอ่านต่อแล้วว  :katai4:

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero




- 37 -



   ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลงแล้ว สนามบินเชียงใหม่จึงคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว บ้านพักบางแห่งคิวยาวไปยันต้นปีหน้าแล้ว พวกเพื่อนผมก็ตั้งใจจะขึ้นมาเที่ยวเหนือช่วงปีใหม่ วางแผนไว้คร่าวๆแล้วแต่ยังตกลงกันไม่ได้ว่าจะขับรถมากันเรื่อยๆหรือจะนั่งเครื่องมาลงที่เชียงใหม่แล้วใช้รถที่บ้านผมตระเวนเที่ยวดี ซึ่งอย่างหลังจะช่วยประหยัดเวลาและสะดวกสบายมากกว่า การขับรถไกลๆมันเหนื่อยมาก ขนาดนั่งเฉยๆยังรู้สึกเหนื่อยเลย แต่ถ้าหากมีเพื่อนร่วมเดินทางด้วยมันก็คงจะสนุกจนลืมเหนื่อยไปเลยก็ได้


   ผมเดินเลี่ยงนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มใหญ่ที่เห็นได้ทั่วไปในเมืองเชียงใหม่ระยะหลังมีมากกว่านักท่องเที่ยวชาติอื่นเท่าตัว กว่าจะไปถึงทางออกก็ใช้เวลาพอดู พอออกมาก็เจอลุงปันที่อาฝนให้มารับ แกทำงานกับพ่อมาหลายปี เมียกับลูกแกก็ทำงานที่ไร่ อยู่กันเหมือนญาติ แกเอ็นดูผมเหมือนลูกเหมือนหลาน



   “พ่อเลี้ยงครับ”


   “ลุงปัน ผมบอกแล้วว่าอย่าเรียกแบบนี้”ได้ยินทีไรรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนแก่พุงพลุ้ยทุกทีและผมก็ยังไม่อยากได้ตำแหน่งทางสังคมแบบนี้ ยังรู้สึกว่ามันควรเป็นของพ่ออยู่



   “ครับๆ นายน้อย”แกยิ้มซื่อๆมาให้ ผมก็จนใจนายน้อยก็ยังดีกว่าพ่อเลี้ยงละนะ   



“จะปิ๊กไฮ่เลย ก๊ะว่าไปแวะไหนก่อนก่อนายน้อย”



   “กลับไร่เลยดีกว่า”คิดถึงอาฝนจะแย่แล้ว...คิดถึงบ้าน



   ผมกำลังจะกลับบ้าน สถานที่ที่ทำให้ผมเป็นสุขที่สุด อาณาจักรของผมที่พ่อสร้างขึ้นมาด้วยแรงกายแรงใจทั้งหมดที่มีเพื่อให้ลูกชายและน้องสาวได้อยู่สุขสบาย ไม่ให้ใครมาดูถูกเราได้แต่พอมีเงินก็มีคนเข้าหวังผลประโยชน์ ผมเห็นการเปลี่ยนแปลงมาตลอดหลายปี จนเอียนและชาชินกับพวกที่มองแค่เปลือก



   ถ้าจะถามถึงเหตุผลที่ทำให้ผมไม่ค่อยจริงจังกับการคบหาผู้หญิงสักคนก็คงเป็นเพราะผมเห็นผู้หญิงมากหน้าหลายตาเข้าหาพ่อผม ปากบอกว่ารักอย่างนั้นอย่างนี้สุดท้ายก็หวังแค่เงิน ความรักมันไม่มีจริง ใครจะมาทนอยู่กับคนแก่ที่บ้างานได้นาน พอสมใจอยากก็จากไป ได้บ้านบ้าง ได้รถบ้าง บางคนพ่อก็ส่งเสียให้เรียนจนจบ



ผมเคยถามพ่อว่าทำไมถึงไม่หยุดสักทีทั้งที่รู้ว่าไม่เคยมีใครจริงใจ และคำตอบที่ได้กลับมาก็คือพ่อไม่ได้มองว่าเป็นการถูกหลอกหรือปอกลอก แต่มันคือการแลกเปลี่ยน  พ่อก็ได้ในสิ่งที่พ่ออยากได้ เขาก็ได้ในสิ่งที่เขาอยากได้จากพ่อ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่อีกฝ่ายล้ำเส้นก็คือจบกันไป เช่นการมาแสดงตัวที่บ้านต่อหน้าผมและทุกคนว่าเป็นอะไรกับพ่อ พยายามจะเข้ามาเจ้ากี้เจ้าการทั้งที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์ ซึ่งทุกรายที่ทำแบบนี้ก็กระเด็นหายไปจากชีวิตพ่อทันที



ทิวทัศน์ด้านนอกค่อยๆเปลี่ยนจากเมืองเข้าสู่เขตเขา ใช้เวลาไม่นานก็ออกจากเชียงใหม่เข้าสู่ลำพูน ผมนั่งมองข้างทางไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเห็นป้ายตรงปากทางเข้า ‘ไร่น่านนที’ สองข้างทางเป็นต้นไม้ใหญ่สลับกับนางพญาเสือโคร่ง พอปลายปีก็จะแข่งกันบานสะพรั่ง ขับเข้ามาประมาณ 100 เมตรจะเจอร้านที่จำหน่ายของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ของไร่ เพิ่งเปิดมาได้สองปี อาฝนคิดว่าถ้าหากเปิดไร่โซนหนึ่งเป็นนักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชมและมีเพิ่มส่วนร้านอาหารเข้าไปด้วยน่าจะเพิ่มรายได้ให้กับไร่ได้ แต่โซนผักปลอดสารพิษก็เพิ่งเป็นรูปเป็นร่าง ผมอยากให้อะไรๆมันเข้าระบบไปก่อน จากนั้นค่อยเริ่มโครงการที่อาฝนเสนอไอเดียมา รายได้หลักของไร่ยังเป็นการส่งออกดอกไม้ ลำไยและน้ำผึ้งจากเกสรลำไยที่เป็นที่นิยม



ผมสูดอากศเข้าเต็มปอด ถึงจะใกล้เที่ยงแล้วแต่ก็ยังรู้สึกเย็นๆนิดหน่อย อากาศก็ปลอดโปร่งต่างจากกรุงเทพ บ้านไร่ผมอยู่ลึกจากถนนสายหลัก เข้ามาจนเกือบจะติดเขา กลางคืนอากาศเย็นแบบไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศ ร่างท้วมของแม่บ้านเดินตรงเข้ามาหาผมพร้อมกับรอยยิ้มก่อนจะสวมกอดผมเอาไว้



   “นายน้อย กึ๊ดเติงหาขนาด ยะหยังมาผอมจะอี้ล่ะเจ้า”



“ผอมตี้ไหนครับ ก็ปกตินะ”



“ผอมก่ะ แก้มก่ะตอบ บ่มีน้ำมีนวลเลย ปิ๊กมาอยู่บ้านปี้แก้วจะขุนหื้ออ้วนเลยเจ้า”




   พี่แก้วกอดรัดฟัดเหวี่ยงผมใหญ่เลย สงสัยจะได้อ้วนขึ้นจริงๆ เพราะฝีมือการทำอาหารของพี่แก้วเนี่ยสุดยอดในแดนเหนือเลย ก่อนกลับก็คงมีอะไรติดไม้ติดมือกลับไปเพียบ หวานหมูไอ้พวกนั้นแน่ๆ




   “เอ้าๆ จะกอดกันอีกนานมั้ย ไม่ขึ้นบ้านหรือไง”




   ผมขึ้นเรือนไปหาอาฝนที่ยืนรออยู่ตรงชานบ้าน ก่อนจะโถมตัวเข้ากอด ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้เป็นที่พักพิงใจ และมีอ้อมกอดที่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย ไม่ใช่แม่ก็เหมือนแม่




   “ไปพักก่อนไป เดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงอาให้คนไปเรียกมาทานกลางวันกัน”




   ผมรับคำเบาๆก่อนแยกตัวออกมา ลงบันไดที่ด้านข้างของเรือนใหญ่ ผ่านสวนดอกไม้และต้นไม้หนาเพื่อตรงไปที่เรือนเล็กของตัวเอง พ่อเป็นคนสร้างให้ตอนผมขึ้นม.ปลาย ช่วงวันหยุดยาวหรือปิดเทอม พวกเพื่อนๆก็จะมาขลุกอยู่ที่นี่ เล่นเกมกันข้ามวัน หรือเมากันข้ามคืนก็ไม่มีใครว่า อาหารการกินมีพร้อมทุกมื้อเงินไม่เสียเงินสักบาท ดียิ่งกว่าโรงแรมห้าดาว




   ผมทิ้งตัวลงบนที่นอนก่อนจะหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมากดโทรออก ได้ยินเสียงรอสายแค่ครั้งเดียวอีกฝ่ายก็กดรับ เหมือนกำลังรออย่างใจจดใจจ่อ



   “ถึงแล้วนะ”



   “กำลังคิดถึงอยู่พอดี ถ้าถึงแล้วก็โอเค พักซะ พี่ต้องเข้าประชุมแล้วเดี๋ยวเลิกงานพี่โทรหาใหม่”



   “อื้อ”



   ต้องโทรรายงานพ่อคนที่สองก่อนไม่งั้นเดี๋ยวจะมีปัญหาได้ แค่ผมกลับบ้านกะทันหันพี่ท่านก็หน้าตึงแล้ว พี่เดียวมันเป็นคนติดแฟนครับ บางทีผมก็ส่องกระจกมองตัวเองว่ามีอะไรให้ผู้ชายตัวถึกๆแบบนั้นมารักมาหลงได้ หวงเว่อร์ ที่จริงผมก็ชวนพี่เดียวมาด้วย แต่รายนั้นเขางานยุ่งมากเห็นว่ามีประชุมสำคัญ พรุ่งนี้ต้องไปฮ่องกงด้วย แต่ก็จะตามมาตอนสุดสัปดาห์ เพื่อมารับผมกลับ



ความจริงผมวางแผนที่จะกลับบ้านตอนสองสัปดาห์ก่อนจะเปิดเทอม แต่เพราะมีเหตุบางอย่างทำให้ต้องเปลี่ยนแผน และเพื่อไม่ให้ชนกับแพลนเที่ยวที่พวกไอ้เต้วางไว้ผมเลยมีเวลาอยู่กับอาฝนแค่สัปดาห์เดียว



ส่วนไอ้พายผู้อยู่ร่วมบ้านแต่ก็เหมือนไม่ได้อยู่ มันโทรมาเม้งใส่ตอนที่ผมกำลังจะขึ้นเครื่องหาว่าผมกลับบ้านแล้วไม่ชวนมัน จะให้ผมชวนได้ยังไง ช่วงนี้มันหายตัวไปไหนบ่อยๆก็ไม่รู้ โทรไปก็ไม่ค่อยจะรับ จะว่าติดงานก็ไม่น่าใช่เพราะช่วงสอบมันบอกพี่บีว่าไม่รับงาน แต่ผมก็ขี้เกียจจะถาม เพราะวุ่นๆกับเรื่องของตัวเองอยู่เหมือนกัน ด้านไอ้ธันว์กับไอ้คิมมันไม่กลับบ้าน ไอ้ธันว์ไปค่ายอะไรก็ไม่รู้ ส่วนไอ้คิมมีเรียนต่อได้พักแค่อาทิตย์เดียวเองมั้ง น่าสงสาร



   “ทำไมจู่ๆก็เปลี่ยนใจกลับมาก่อนล่ะ”



   “่น่านคิดถึงอาไงเลยกลับมาก่อน”



   “จ้า พ่อคนปากหวาน เฉไฉไปเรื่อยนะเรา”อาหรี่ตามองอย่างรู้ทัน



   “หึหึ ทานข้าวก่อนดีกว่า น่านมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง”



   ที่กลับบ้านมาก็เพราะอยากเล่าให้อาฝนฟังว่าผมไปเจอใครมา อยากเล่าแบบต่อหน้าไม่ใช่ทางโทรศัพท์ อีกอย่างผมอยากกลับมาหาพ่อด้วย



   “ท่าทางจะเรื่องสำคัญ ทำเอาอาตื่นเต้นไปด้วย”อาฝนว่ายิ้มๆ แต่ถ้ารู้เรื่องที่ผมเล่าอาจจะยิ้มไม่ออก ผมไม่อยากทำลายบรรยากาศและรสชาติอาหารแสนอร่อยฝีมือพี่แก้ว เลยเลือกที่เงียบไว้ก่อน





X





   พอทานข้าวเสร็จเราก็ย้ายกันมาที่ห้องนั่งเล่น พี่แก้วตามเอาขนมนมเนยมาบริการถึงที่ก่อนจะเลี่ยงออกไปเปิดโอกาสให้ผมกับอาฝนได้คุยกันตามลำพัง



   “ไหนมีอะไรจะเล่าให้อาฟัง”



“น่านเจอแม่มา”ผมไม่อ้อมค้อม อาฝนชะงักไปเล็กน้อยก่อนมองมาที่ผมด้วยสายตาเป็นห่วง



“น่านก็โอเคนะ ไม่ได้อะไร”



“โอเคจริงๆใช่มั้ยน่าน”



“ก็คิดว่าอย่างนั้นนะครับ”มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ที่ผ่านมาผมภาวนาว่าขออย่าให้ได้เจอกับคนที่ให้กำเนิดผมอีกเลย แต่ลึกๆในใจมันก็มีเศษเสี้ยวหนึ่งของความคิดว่าอยากจะเจออีกสักครั้ง



ในความทรงจำของผมมีเรื่องดีๆเกี่ยวกับแม่น้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ ตอนเด็กๆแม่ไม่ค่อยกอดหรืออุ้มผม จะมีแต่พ่อที่จับผมขี่คอแล้วพาไปเที่ยวเล่น แต่พ่อบอกว่าผมติดแม่ไม่รู้ทำไมถึงได้ติดทั้งๆที่แม่ก็ไม่ได้ใจดีกับผมมากนัก ผมเองก็จำไม่ได้เพราะเด็กมาก ทุกอย่างมันดูเลือนลางไปหมด แต่สิ่งที่จำได้ขึ้นใจคือวันที่แม่ทิ้งพวกเราไป ในตอนนั้นผมไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ต้องไปได้แต่ร้องไห้โวยวาย แต่พ่อบอกให้ผมไม่ร้อง อย่าเสียน้ำตาให้กับคนที่ไม่รักเรา ซึ่งมันก็เป็นเหตุผลที่เด็กอย่างผมไม่เข้าใจอยู่ดี ความรักคืออะไร



พอโตขึ้นมาจนรู้ความมากขึ้นผมได้รู้และเข้าใจว่า ที่แม่ทิ้งไปเพราะทนกัดก้อนเกลือกินกับพ่อไม่ไหว แม่เป็นลูกคนรวยเจ้าของห้างทองใหญ่ เจอกับพ่อสมัยเรียนมหาวิทยาลัย พ่อผมเรียนเกษตร แม่ผมเรียนบัญชี เพราะพ่อเป็นคนหน้าตาดี เก่งทุกอย่างจึงเป็นที่ชื่นชมของสาวๆ ติดตรงที่ว่าไม่รวย แต่ตอนนั้นความรักมันบังตาทำให้แม่ตัดสินใจพาผมที่อยู่ในท้องหนีตามพ่อมาหลังจากเรียนจบ และคิดว่ารักจะช่วยให้ทุกอย่างผ่านไปได้
พ่อผมมีที่ดินที่ได้มาจากปู่ก่อนท่านสิ้นใจแค่สามไร่ที่ลำพูนและเงินอีกไม่มาก แต่เพราะที่มันกันดารปลูกอะไรก็ไม่ค่อยได้ผลจึงทำให้เงินเก็บที่มีค่อยๆร่อยหรอ ในตอนนั้นก็เกิดเรื่องกับอาฝนที่ถูกย่าพาไปอยู่กรุงเทพตั้งแต่เลิกกับปู่ไป อาฝนถูกแฟนที่คบกันมาหลายปีหลอกเอาเงินไปแล้วที่ทิ้งไปอยู่กับผู้หญิงคนใหม่ ซ้ำร้ายยังถูกทำร้ายจนแท้ง ย่าอับอายและไล่อาฝนออกจากบ้าน พ่อจึงไปรับอาฝนมาอยู่ด้วย ตอนนั้นสภาพการเงินเริ่มไม่ดี แต่พ่อก็ไม่ละความพยายาม อดทนสู้มาเรื่อย พ่อทำงานหนัก กู้หนี้ยืมสินมาไม่น้อย ทำให้ครอบครัวเราเริ่มลำบากเพราะมีคนมาทวงหนี้บ่อยๆ ทำลายข้าวของทำร้ายร่างกายบ้าง ในที่สุดแม่ทนไม่ไหวจึงทิ้งพวกเราไป กลับไปใช้ชีวิตสุขสบายที่กรุงเทพและแต่งงานใหม่กับเศรษฐีเจ้าของธุรกิจส่งออกที่ตอนนี้เอยชื่อไปใครๆก็รู้จัก



   “อาก็กะไว้แล้วว่าสักวันน่านต้องได้เผชิญหน้ากับเขาหลังจากที่เราไปช่วยน้องไว้”




   “หึ นั่นสินะครับ”ผมไม่คิดว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นที่ผมช่วยไว้จะกลายเป็นคนที่ผมไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว ทั้งๆที่รู้ว่าตั้งแต่ครั้งแรกตอนไปส่งที่บ้านนั้นแล้ว แต่เหมือนโชชะตาจะเล่นตลกทำให้ผมได้เจอกับน้ำปายอีกและอดไม่ได้ที่จะต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือทำให้มีเรื่องให้เราต้องพัวพันกัน



“แล้วได้คุยกับเขามั้ย”




   “นิดหน่อยครับ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน่านเป็นใคร”แม่จำผมไม่ได้ ถ้าที่ร้านอาหารวันนั้นผมไม่บอกชื่อไปเขาก็คงนึกไม่ออกว่าเคยมีลูกชายอีกคนที่เขาทิ้งไป



   “แล้วได้บอกมั้ยว่าน่านเป็นลูก”



   “แค่บอกชื่อ เผื่อว่าเขาจะจำได้ก็แค่นั้น แต่ถึงเขาจะจำไม่ได้มันก็ใช่เรื่องใหญ่นี่ครับ ยอมรับว่าแอบผิดหวัง แต่ก็นั่นแหละ เขากับเราก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันมาตั้งนานแล้ว จะให้ไปบอกว่าน่านเป็นลูกเขานะ ถ้าเขาปฏิเสธว่าไม่ใช่น่านจะต้องทำยังไง”



   “น่าน”



   ผมผิดหวังที่เขาเป็นยิ่งกว่าที่ผมเคยรับรู้ ผมเคยแอบคิดว่าบางทีพ่ออาจจะเข้าใจผิดเรื่องที่แม่ทิ้งไป มันอาจจะมีความจำเป็นอย่างอื่น ไม่ใช่เพราะทนลำบากไม่ไหว ไม่ใช่เพราะพ่อจน มันเป็นความคิดที่หลบอยู่ในซอกมุมเล็กๆ แต่สิ่งที่ผมสัมผัสได้จากเขาในการพูดคุยเพียงแค่ครั้งเดียวมันทำให้ผมรู้ว่า ที่พ่อบอกที่ผมเข้าใจมันมาตลอดนั้นถูกต้องแล้ว เขามีชีวิตที่ดีสุขสบายบนกองเงินกองทองกับครอบครัวใหม่ ทิ้งผู้ชายที่มีแต่ความรักกับลูกชายเพียงแค่ห้าขวบไปให้อยู่กับความลำบากเพียงลำพัง



   “อยากรู้จังตลอดเวลาที่ผ่านมา เขามีความสุขได้ยังไง ไม่รู้สึกอะไรกับการที่ต้องทิ้งพ่อกับน่านไปเลยใช่มั้ย”ผมไม่เชื่อหรอกว่าคนเราจะลืมคนที่เคยอยู่ด้วยกัน จะลืมลูกที่คลอดออกมาเองได้ลง



   “น้ำน่าน ฟังอานะ”อาฝนนั่งลงข้างผมและคว้ามือที่กำกันแน่นของผมไปกุมไว้



   “คนเราย่อมมีเหตุผลของตัวเอง แม้ว่าเหตุผลนั้นจะไม่ถูกใจคนอื่น คนเราย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเอง และพี่ทิพย์ได้เลือกทางเดินของเขาแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่น่านจะต้องมานั่งคิดนั่งหาเหตุผลให้กับการกระทำในอดีตนะลูก ทิ้งมันไปแล้วเดินไปข้างหน้า ใครที่เขาไม่รักเราไม่ต้องการเราก็ปล่อยเขาไป ให้มองคนที่รักเราและอยู่เคียงข้างเราก็พอ”



   “.......”



   “ที่พูดก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้น่านเกลียดแม่เขา มันจะเป็นบาป อาอยากให้น่านปล่อยวางและรู้สึกเฉยๆกับเรื่องที่ผ่านมาเพราะมันจะทำให้น่านไม่ทุกข์ เราอยู่ส่วนเราเขาอยู่ส่วนเขา หากเจอกันอาก็ทักทายในฐานะที่เขาเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง พูดจากับเขาดีๆ เราเป็นเด็ก เราเป็นลูกต้องนอบน้อม ต้องเคารพ อย่าให้เขามาว่าได้ว่าพ่อกับอาเลี้ยงเรามาไม่ดี”



   “น่านจะพยายาม”ผมก็ไม่เคยคิดที่จะพูดจาไม่ดีกับเขา แต่บางครั้งในอารมณ์ชั่ววูบผมก็อยากจะพูดอะไรแรงๆ ให้เขาได้รับรู้ว่าผมกับพ่อเสียใจแค่ไหนกับสิ่งที่เขาทำ



   “ดีมาก พยายามทำให้ได้แล้วมันจะดีกับตัวน่านเองนะลูก”



   “แต่มันทำยากจัง ในหัวผมมีแต่คำถามว่าทำไมๆเต็มไปหมด”



   “คิดแล้วมันจะไดอะไรขึ้นมา ก็มีแต่เราเองที่ต้องแบบความรู้สึกแย่ๆเอาไว้ ในขณะที่เขาอาจจะไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ถ้ามันจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น ก็คิดเสียว่าการที่แม่เขาทิ้งไปมันก็ทำให้พวกเรามีวันนี้นะลูก เขาถือเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ของพี่นที และถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ตรงนี้น่านเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าขาดอะไรไปใช่มั้ย หรือว่าแค่มีพ่อกับอามันไม่พอ”



   “พอสิครับ เกินพอด้วยซ้ำ อาฝนก็เหมือนเป็นแม่น่าน”



   “ดีมาก ไหนมาให้อากอดหน่อยสิสุดหล่อของอา”ผมขยับเข้าไปกอดอาไว้แน่น อ้อมกอดของอาเยียวยาผมได้ดีจริงๆ คำพูดขออาเย็นฉ่ำเหมือนสายฝนที่ชะล้างความขุ่นหมองออกไปจากใจ




   X
   



   หลังจากที่ได้คุยกับอาฝนจนสบายใจแล้ววันต่อมาผมก็ไปหาพ่อที่วัด ที่เก็บกระดูกของพ่อสะอาดสะอ้านและมีดอกไม้มาวางไว้ใหม่ๆ ผมไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนมาทำความสะอาดและมาไหว้พ่อ คงจะเป็นคนที่รู้จักกัน เพื่อนหรือใครที่พ่อเคยช่วยเหลือไว้ ผมรู้สึกดีที่ยังมีคนระลึกถึงพ่ออยู่ พอกลับจากวัดผมก็ไม่เคยได้ว่างอีกเลย เรพาะมีงานหลายอย่างรอผมอยู่ จริงๆแล้วก็มีคนรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่ผมที่รับช่วงต่อมาก็ต้องดูแลเองทุกอย่าง ถึงแม้จะไม่ได้ลงลึกไปจนถึงการปักชำกับมือทุกต้นแต่ก็ต้องรู้รายละเอียดทุกอย่าง ต้องไปเห็นด้วยตาตนเอง ไปให้คนงานเห็นหน้า พบป่ะพูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบบ้าง ผักปลอดสารพิษที่เพิ่งเริ่มทำให้ผลตอบรับดี มีคนมาติดต่อขอซื้อเพิ่มขึ้น จากโรงแรมดังในเชียงใหม่ก็มี แต่เพราะผลผลิตยังไม่มากและไม่คงที่เท่าไหร่ จึงไม่สามารถตอบรับทุกเจ้าได้




   “ลุงเสริมครับ ผมว่าถ้าเราขยายแปลงอีกก็น่าจะดีนะ แต่ต้องหาคนงานเพิ่มด้วย”



   “ลุงก็คิดว่าดีครับ แต่เราต้องปรับพื้นที่หน้าดินใหม่ด้วย”



   “ครับ ถ้ายังไงลุงลองวางแผนมาให้ผมดูก่อนก็ได้ครับ ยังมีพื้นที่ของเราที่ว่างอยู่ ผมไม่อยากให้มันเสียประโยชน์ไป”



   “ได้ครับ เห็นว่าไร่ข้างๆเขาก็อยากจะขายที่ให้เรานะครับ”



   “อ้าว ทำไมละครับ”



   “ตาคำแกแก่แล้ว ทำเองก็ไม่ค่อยไหว ลูกแกก็ไปได้ผัวอยู่เมืองนอกคงไม่คิดจะกลับมา ได้แต่ส่งเงินมาให้ แค่อยากจะแบ่งขายที่ส่วนหนึ่ง เหลือไว้อยู่กับปลูกอะไรเล็กๆน้อยๆไว้กินก็พอ”



   “ถ้าอย่างนั้นก้น่าสนใจนะผมว่า ถ้าแกจะขายผมก็ยินดีซื้อ แล้วถ้าแกเหงาก็ให้แกมาทำงานกับเราก็ได้นะ”คนที่ทำงานมาตลอดชีวิต ถึงแม้ว่าตอนแก่ควรจะพักสบายๆ แต่ผมเข้าใจว่าแกก็คงอยากทำอะไรบ้างไม่ใช่ใช้ชีวิตไปวันๆ



   “เห็นว่าแกมีความรู้เรื่องปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวิภาพดี ผมว่าให้แกมาช่วยดูแลส่วนนี้น่าจะดี”



   “ครับ ยังไงเดี๋ยวลุงไปลองคุยดูให้นะ คุณฝนเองก็เคยเปรยๆไว้เหมือนกัน แต่ก็บอกว่ารอให้คุณน่านมาตัดสินใจเองดีกว่า”



   ผมอยากทำให้ได้เหมือนพ่อจุนเจือชาวบ้านในละแวกนี้ด้วยการให้งานทำและให้ค่าตอบแทนที่เหมาะสม เพื่อที่พวกเขาจะได้เลี้ยงครอบครัวได้สบาย ไม่ต้องดิ้นรนไปหางานต่างถิ่นหรือทำงานในโรงงานให้เสียสุขภาพ ที่สำคัญสามารถใช้เวลาอยู่กับครอบครัวได้เต็มที่ มีสวัสดิการเผื่อแผ่ไปถึงลูกหลานของคนงานในไร่



   “ว่าไงจ๊ะ ไม่เห็นหน้าค่าตาเลยนะ ไหนว่าจะมาอยู่กับอาให้หายคิดถึง เช้ามาก็เข้าไร่ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง กว่าจะกลับอาก็จะนอนแล้วเนี่ย”



   “นี่ก็กลับมาให้เจอแล้วไงครับ วันนี้กลับมาทานข้าวเย็นด้วยนี่ไง”ผมยิ้มแล้วเข้าไปกอดอาฝนอย่างเอาใจ



   “ไม่ต้องมากอดอาเลย ไปทำอะไรมาเนื้อตัวมอมแมมไปหมด”



   “ไปช่วยเขาขนกล้าเก็บครับ คนงานลาไปสองคน เลยทำกันไม่ทันเลยต้องไปช่วย หิวมากเลยมีอะไรให้น่านกินมั่ง”



   “เปอเลอะเปอเต๋อเลยเจ้า ของซ่อบของนายน้อยตึงฮั้นเลย”พี่แก้วรายงาน ผมไปล้างมือล้างหน้าแล้วมานั่งทานข้าวกับอาฝน



    “เดียวเขาจะมาพรุ่งนี้ใช่มั้ย?”



   “ครับ เดี๋ยวน่านขับรถไปรับ”ตอนแรกพี่เดียวมันจะขับรถมาแต่ผมห้ามไว้ หยุดแค่สามวันจะมัวขับรถไปกลับให้เสียเวลาทำไม ผมเลยให้นั่งเครื่องมาแล้วจะขับรถไปรับที่สนามบินเอง ผมอยากให้พี่เดียวมาเพื่อจะได้พาไปหาพ่อและผมจะเล่าเรื่องแม่ให้เขาฟังด้วย ผมรู้ว่าเขาข้องใจตั้งแต่ที่ร้านอาหารแล้ว ที่จริงก็คงสงสัยมาตั้งแต่ที่งานแต่งพี่แชมป์และรอให้ผมเล่าอยู่



   “อาโอเคใช่มั้ยเรื่องน่านกับพี่เดียว”อยากถามให้หายข้องใจอีกครั้ง



   “โอเคสิ อาเชื่อการตัดสินใจน่านนะ ถึงจะแปลกใจในตอนแรกแต่พอมาคิดดูแล้วเขาอาจจะเป็นคนที่เหมาะสมกับน่านมากกว่าใครๆก็ได้”



   “อายังไม่รู้จักเขาดีเลย”



   “อาถึงได้บอกว่าอาจจะไงจ๊ะ ของแบบนี้ต้องดูกันไปเรื่อยๆ แต่ถ้าน่านตกลงเป็นแฟนกับเขาได้ อาก็ถือว่าผ่านในระดับหนึ่งแล้วล่ะ”อาฝนรู้จักผมดีที่สุด อาเลยมั่นใจแบบนี้ ผมก็อยากให้การตัดสินใจของผมนั้นไม่ผิดพลาดเหมือนกัน



   
X




   “พรุ่งนี้พี่จะมาถึงกี่โมงนะ”




   หลังทานข้าวเสร็จอยู่คุยกับอาอีกนิดหน่อยเราก็แยกย้ายกันไป ผมอาบน้ำแล้วเลยมานอนคุยโทรศัพท์กับพี่เดียวที่โทรมาพอดี




   “ไปไฟล์ทเดียวกับน่านอ่ะ”



   “อ่อ”ผมมองนาฬิกาแล้วกะเวลาเอาไว้ว่าจะต้องออกไปรับกี่โมงถึงจะพอดีกัน เหมือนที่ลุงปันไปรับผม



   “เออ ไอ้ทักษ์กับกับไอ้ยอดมันมาด้วยนะ แต่มันจะไปนอนโรงแรมกัน อาจะต้องให้น่านขับรถไปส่งที่โรงแรมก่อน”



   “ไม่มีปัญหาแล้วพี่เขามาทำไมกันอ่ะ”



   “มันจะตามมาเฉยๆ ทีมเสือกเฉพาะกิจ”ผมขำ ยิ่งรู้จักก็ยิ่งรู้ว่าพี่ทักษ์ชอบใส่ใจเรื่องชาวบ้านเป็นพิเศษ แต่ก็เป็นคนฮาๆ ไม่มีพิษมีภัย ตลกดี



   “จองโรงแรมไว้ยังอ่ะ ถ้ายังก็ไม่ต้องจองหรอกพี่ มานอนบ้านผมดิห้องว่างเยอะแยะ เดี๋ยวพาเที่ยวไร่”



   “ปล่อยพวกมันไปตามยถากรรมดีกว่า อยากเสือกดีนัก”พี่เดียวมันว่างั้น ดูมันจะเคืองหรือหมั่นไส้เพื่อนตัวเองมาก ผมคุยเล่นกับพี่เดียวอีกแป๊บเดียวก็ง่วงตาจะปิดวันนี้ใช้แรงงานไปเยอะ



   “ง่วงละอ่ะ”



   “งั้นก็ไปนอนไป เดี๋ยวพี่ไปเคลียร์งานอีกนิดหน่อย”



   “นิดหน่อยตลอดอ่ะ เดี๋ยวก็ตื่นไม่ทันมาขึ้นเครื่อง”



   “หึ เป็ห่วงพี่ก็พูดมาตรงๆ”



   “ขี้มโนว่ะ”



   “เด็กปากแข็งเอ๊ย”



   “วางไปได้เล่า คนจะนอน”



   “ครับๆ ฝันดี”



   “อือ ดีๆ”ผมกระดากปากเกินกว่าจะพูดฝันดี ราตรีสวัสดิ์ได้ เอาแค่นี้ก็พอ



   “เจอกันพรุ่งนี้นะที่รัก”แต่เหมือนพี่เดียวมันจะขยันเสี่ยวใส่ผมเหลือเกิน เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ทักษ์มาผมจะจับล็อกตัวนั่งเสวนาด้วยสักหน่อย ว่าตกลงแล้วพี่เดียวนี่มันเป็นคนยังไงกันแน่ อยากให้พรุ่งนี้มาถึงเร็วๆจัง



อย่าคิดเยอะนะ! ผมแค่อยากคุยกับพี่ทักษ์เท่านั้นเอง!








-------------------------------

เอาน้ำน่านกับพี่เดียวมาส่งค่าตอนนี้เครียดนิดหนึ่งเรื่องของคุณแม่ เฉลยออกมาแล้วนะคะ
หลายคนคงเดาได้ เราปูเรื่องไว้มาตั้งแต่ตอนที่น่านขับรถไปส่งปายแล้ว
อันที่จริงน่าจะเดาได้จากชื่อปายเนอะว่ามันต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกัน น้ำน่าน และ น้ำปายค่ะ และมีอีกหนึ่งน้ำที่ยังไม่ออก 55555
ให้เดาๆ ว่าชื่ออะไร
เจอกันตอนหน้าค่ะ  :mew1:

   

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
อีกชื่อ น้ำปิง หรือป่าวน้า > เดา

มีให้อมยิ้มกรุบกริบ

เป็นกำลังใจให้น่านจ้า คนเขียนด้วยน้าา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด