[♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]  (อ่าน 283989 ครั้ง)

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ยังมีอีกเรอะ เดาว่าชื่อน้ำอิงละกัน ฮา เหมือนจะเคยได้ยิน (จากละคร) อยู่ ถ้าให้แต่งเองเห็นจะไม่รอด ฮา

ออฟไลน์ Bradly

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ใช่แม่น่านจริงๆด้วย  o22

ชอบ ที่อาฝนพูดจริงๆ
"ไม่มีประโยชน์ที่น่านจะต้องมานั่งคิดนั่งหาเหตุผล
ให้กับการกระทำในอดีตนะลูก ทิ้งมันไปแล้วเดินไปข้างหน้า

ใครที่เขาไม่รักเราไม่ต้องการเราก็ปล่อยเขาไป
ให้มองคนที่รักเราและอยู่เคียงข้างเราก็พอ

       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1
รอพี่เดียว :m13:

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ตอนนี้ไม่มีเรื่องความรู้สึกของคุณแม่
แต่เราว่าแม่รักน่านนะ เพราะได้ยินชื่อก็ถามเลย
คงคิดถึงน่านแน่ๆ
ใช่มั้ย?  :z10:

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ตามอ่านทันแร้วววว
อ่านตอนแรก น่านนี่นึกว่ารุก ไปๆมาๆ โดนรุกซะงั้น 5555
นรักดีค่ะ ตอนรักกันแล้ว ค่อยๆปรับตัวกันเนอะ

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
ว้าว ไม่เจอกันนานเลยน้ำน่าน คิดตึ๋งงงง

น้ำ...รึป่าว? อุ๊ฟ!! นั้นเคยออกแล้วนี้! วะฮ่าๆๆ :hao6: //อย่าใส่ใจหนูเลย...

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero





- 38 -


   วันนี้อากาศดีมาก เพราะเมื่อคืนฝนตกเลยทำให้ตอนเช้าอากาศเย็นกว่าปกติ ตอนเช้าที่ตื่นขึ้นมามองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นหมอกจางๆอยู่ตามแนวเขา จนต้องวิ่งไปหยิบกล้องมาถ่ายไว้ คิดไม่ผิดที่หอบมันกลับบ้านมาด้วย แต่อ้อยอิงชมความงดงามของธรรมชาติได้ไม่นานผมก็ต้องรีบอาบน้ำแต่งตัว ขับรถเข้าเชียงใหม่เพื่อมารับไอ้คนข้างๆที่ขึ้นรถมาก็หลับตาเฉย เดาว่าเมื่อคืนมันไม่ได้นอนแน่ๆหรือไม่ก็นอนไม่เกินสองชั่วโมง ผิดกับสองคนด้านหลังที่ตาใส ส่องสาวจีนที่สนามบินตาเป็นมัน ขึ้นรถมายังชวนกันส่องนมสาวในไอจี




   “ทำไมพวกพี่ดูหิวกันวะ”




   “พวกกูอดเปรี้ยวไว้กินหวานเว้ย กะว่ามาเชียงใหม่จะกินไม่ซ้ำหน้าทุกคืน ฟาดแม่งทุกชาติ”




   “นี่กะจะมาอยู่กี่วันเนี่ย”




   “ห้า กูมาเพื่อสำรวจตลาดโดยเฉพาะ”ยอมใจพี่ทักษ์




   “พวกพี่นี่ว่างกันเนอะ”




   “รวยแล้วก็ให้เงินทำงานมั่ง จะนั่งหลังขดหลังแข็งทำงานไปทำไม”อันนี้กูยอมกว่า แต่พี่ยอดมันรวยจริงๆครับ ที่เคยไปกินเหล้าด้วยกันก็ป๋าตลอด เวลาเจอเด็กก็จ่ายหนัก




   “แบ่งมาให้ผมใช้มั่งก็ได้”




   “ไอ้ห่า กูรู้ว่ามึงก็รวยใช่เล่นอย่ามาทำเป็นเด็กขาดเงิน แต่ถ้าการเงินมึงมีปัญหาก็ใส่ชุดนักศึกษาแล้วไปหาไอ้เดียวดิ รับรองสบายไปทั้งชาติ สบายตูดด้วย”




เชี่ย!




“เหอะๆ ผมมีเหลือใช้แล้วพี่”ไม่น่าเลยกู เข้าตัวเองไปอีก




“รีบเลยนะมึง กลัวอะไร เป็นแฟนกันแล้วยังไงมึงก็หนีไม่พ้น นอกจากมึงจะเสียบเพื่อนกู ฮ่าๆ”




เออ ตลกกันเข้าไป ผมเริ่มอยากจะเลี้ยวรถกลับแล้วเอาพวกพี่เขาไปทิ้งไว้ที่เชียงใหม่แทนที่จะพากลับมาที่ไร่ด้วย




“พวกมึงไม่มีเรื่องจะคุยกันแล้วหรือไงวะ”คนที่ผมคิดว่าไปเฝ้าพระอินทร์แล้วพูดทั้งที่ยังหลับตาอยู่




“ไร หลับก็หลับไปดิ ไม่เสือกสิจ๊ะ”เอ่อ ผมว่าพี่ทักษ์ควบอกตัวเองมากกว่านะ จากวีรกรรมที่พี่เดียวเคยเล่าให้ฟัง




“น่าน ขับรถไปทิ้งพวกมันไว้ที่เชียงใหม่ดิ ให้มันไปล่อซะให้ติดเอดส์ตายๆไปซะ”



“เพื่อนครับ คุณมึงจะเคืองไรพวกกูหนักหนา แค่มาเป็นก้างขวางคว...วันสองวันเอง”ไอ้คำในช่องว่างที่พี่ยอดเว้นไว้ ทำเอาผมคิ้วกระตุกเพราะเหลือบมองกระจกหลังแล้วเห็นปากพี่เขาขยับพอดี แหมะ พี่ครับเขาเรียกว่าก้างขวางคอปะวะ




“สัด”มันด่าแค่นั้นก็กอดอกหันหน้าไปนอกรถ ตั้งท่าจะหลับจริงจังตัดรำคาญเพื่อนตัวเอง




   ตอนแรกพี่สองคนเขาก็จะพักที่เชียงใหม่เลย แต่พอผมเอ่ยชวนไปพักที่บ้านก่อน ก็ไม่มีปฏิเสธ ยิ้มกรุ้มกริ่มกันใหญ่ เหมือนกับว่าเข้าทางพวกพี่เขาซะงั้น แต่ก็มาพักด้วยแค่คืนเดียวเท่านั้นแหละครับ เพราะพวกพี่เขาตั้งใจโดดงานกันมาหาเด็กโดยเฉพาะ จริงใจแค่ไหน แค่ไหนเรียกจริงจัง




   พอใกล้ถึงไร่ผมก็สะกิดคนข้างๆให้ตื่นขึ้นมา ตอนนี้อาฝนเตรียมต้อนรับอย่างใจจดจ่อ ตื่นเต้นยิ่งกว่าผมจะกลับมาบ้านอีก




   “ไร่มึงนี่กี่ไร่วะ ทางเข้าแม่งไกลเป็นกิโลแล้วมั้ง”




   “ก็ไม่เท่าไหร่หรอกพี่”




   “ไม่เท่าไหร่ของมึงนี่เป็นพันใช่มั้ยไอ้สัด”




   “ฮ่าๆ ก็ประมาณนั้นมั้ง”




   “แล้วทำไมมึงไม่เรียนอะไรที่เกี่ยวกับเกษตรว้า มาเรียนออกแบบทำไม”




   “ก็ผมชอบอ่ะพี่ แต่ไร่ผมก็ทำได้เหมือนกันนะ”เพียงแต่ไม่คิดว่าจะต้องมารับช่วงต่อเร็วขนาดนี้




ผมไม่คิดว่าพ่อจะมาด่วนจากไป สิ่งที่วางแผนไว้เลยรวนไปหมด แต่ด้วยความที่คลุกคลีในไร่มาแต่เด็ก ตามพ่อไปทำงานในไร่เสมอเลยทำให้ผมรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่การรับรู้กับการลงมือทำจริงมันก็ต่างกัน ในช่วงแรกผมเองก็มืดแปดด้าน ยังทำใจเรื่องพ่อไม่ได้ซ้ำยังรู้สึกมีภาระหนักอึ้งวางไว้บนบ่า แต่อาฝนก็เป็นหญิงแกร่งที่ประคับประคองทุกอย่างให้ดำเนินไปด้วยดี อีกทั้งยังมีลุงเสริม พี่วิทย์คอยช่วยผมเลยผ่านมันมาได้




   “ไร่มึงปลูกอะไรมั่งวะ”




   “หลายอย่างพี่ แต่หลักๆคือดอกไม้เพื่อส่งออก ลำไย แล้วก็เพิ่งเปิดไลน์ผักปลอดสารพิษ”




   “แล้วร้านที่ผ่านมาเมื่อกี้อ่ะ”




   “ร้านขายของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ของไร่พี่ คือเพิ่งเปิดเป็นร้านต้นแบบ อากับผมมีโครงการว่าจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมไร่ในอนาคต ไอ้พายมันเลยเสนอไอเดียเรื่องทำพวกครีม น้ำหอม ของที่ระลึกโดยใช้วัตถุดิบในไร่ขึ้นแล้วทดลองขายให้ติดตลาดก่อน”




   “เจ๋งสัด มีการต่อยอด”ผมยิ้มรับคำชมจากพี่ยอด




   “กูแนะนำว่าถ้าอยากไปไกลกว่านี้ปรึกษาผัวมึงได้ ไอ้เดียวมันเทพ”คือแค่แฟนก็พอมั้งครับพี่ มันก็จั๊กจี้หัวใจพอแล้ว ใช้คำว่าผัวนี่ผมรับไม่ค่อยได้ แสลงใจ




   ผมจอดรถที่หน้าบ้านแล้วอัญเชิญแขกผู้เกียรติลงจากรถ พี่ทักษ์ดูจะชื่นชอบกับบ้านของผมมาก ร้องอู้หู้ โอ้โห อยู่หลายรอบ พี่ยอดก็ดูจะถูกใจบรรยากาศรอบๆ ส่วนอีกคนยืนถูจมูกจนแดง ทำฟุดฟิดๆ ก่อนจะจามเสียงดังออกมาติดๆกัน




   “เห้ย พี่ไม่สบายเหรอวะ”จามจนหน้าดำหน้าแดง



   “เปล่า...ฮะ...ฮัดเช่ย!!!!”แล้วก็จามต่อทันที แสรด ยังจะปฏิเสธอีก




   “ตอนมาก็ปกตินี่หว่า จู่ๆทำไมมึงป่วยวะ”ไอ้พี่ทักษ์เดินเข้ามาดูเพื่อนมัน




   “เดี๋ยวๆ ไอ้น่าน ที่มึงบอกว่าปลุกดอกไม้เนี่ย ดอกอะไรวะ”พี่ยอดจะมาอยากรู้อะไรตอนนี้วะ ไปดูเพื่อนพี่มั้ยครับ จามจนปอดจะหลุดออกมาแล้วนั่น




   “กุหลาบแปดสิบเปอร์เซ็นอ่ะพี่ นอกนั้นก็...”




   “พอ ก็ดอกแรกก็จบแล้ว ฮ่าๆ”แล้วพี่มันก็หัวเราะขึ้นมา พี่มึงครับช่วยอธิบายให้กูเข้าใจด้วย




   “ไม่ต้องงง ฮ่าๆ ไอ้เหี้ยนี่ แพ้เกสรกุหลาบ”พี่ทักษ์เฉลย ผมนี่ตาเหลือก ฉิบหาย! แล้วมึงจะใช้ชีวิตอยู่ยังไงวะไอ้พี่เดียว ที่นี่มีกุหลาบเป็นร้อยๆไร่เลยนะเว้ย!!!





   X





   “พี่เขาเป็นไงมั่งลูก”



   “หลับไปแล้วครับ เมื่อคืนไม่ได้นอน มาเจอพิษกุหลาบไปอีกน็อคเลยครับ”




   “ตายจริง น่านไม่ได้บอกพี่เขาก่อนเหรอว่าไร่เราปลูกกุหลาบ”




   “ก็น่านไม่รู้นี่ว่าแพ้ เลยไม่ได้บอก”เคยบอกไปแค่ว่าไร่ปลูกดอกไม้ ปลูกผักแต่ก็ไม่ได้ถามต่อนี่หว่าว่าดอกอะไร เจอแจ็คพอตเลยเป็นไง สงสารก็สงสารนะ แต่ก็ขำมันอยู่เหมือนกัน ตัวอย่างควายมาแพ้อะไรเล็กแบบนี้




   หลังจากมันจามเสียงดังลั่นไร่ อาฝนก็ออกมาเจอพอดี พอรู้ว่าแพ้เกสรกุหลาบเท่านั้นแหละวิ่งวุ่นให้หายาแก้แพ้แล้วให้ผมพามันไปพัก ส่วนพี่อีกสองคนที่ขำในความซวยของเพื่อนตัวเองก็ถูกเด็กๆพาไปห้องพักสำหรับแขกเพื่อเก็บสัมภาระ ล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น



   “น่าน อาว่าพาเดียวไปพักโรงแรมดีมั้ย ขืนอยู่ที่นี่คงแย่แน่”อาฝนดูเป็นห่วงไอ้พี่เดียวมาก ประหนึ่งเป็นหลานในไส้




   “ไม่ต้องหรอกครับคุณอา ให้กินยาแก้แพ้ก็พอครับ เดี๋ยวมันตื่นมาก็ดีขึ้นเอง แต่ยังไงขอผ้าปิดปากให้มันก็พอครับ”พี่ทักษ์เดินเข้ามาพอีแล้วอธิบายกับอาฝน ท่าทางจะรู้อาการของเพื่อนตัวเองดี



   “งั้นเหรอ”อาฝนมีท่าทางลังเล




   “ครับ คุณอาไม่ต้องเป็นกังวลนะครับ ความจริงมันถึกไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอกครับ แต่ถ้านอนไม่พอมันก็จะออกอาการหนักหน่อย”



   “งั้นเหรอจ๊ะ ถ้าเป็นแบบนั้นอาก็ค่อยสบายใจหน่อย แล้วนี่หิวกันหรือยัง เดี๋ยวอาให้เด็กไปตั้งโต๊ะให้”




   “ก็นิดนึงครับ”พี่ทักษ์ว่า หัวเราะแหะๆ ยิ้มประจบ



   “รอแป๊บนะ เดี๋ยวอาจัดการให้ ส่วนน่านไปเตรียมสำรับแล้วยกไปทานกับพี่เขาที่บ้านเล็กไป”



   “โหย อาครับ มะ..เอ้ย พี่เขาหลับไปแล้วอ่ะ ขอน่านกินกับอาด้วยนะ”



   “ไม่ได้ จะทิ้งให้เดียวอยู่คนเดียวได้ไง แล้วเราทำไมไม่หาอะไรให้พี่เขาทานก่อน ปล่อยให้หลับไปทั้งอย่างนั้นตื่นมาหิวแย่”



   “แต่...”




   “ไปเดี๋ยวนี้เลย”



   “คร้าบๆ”ผมรับคำอย่างจำใจ ก็คนมันหลับไปแล้วจะให้ปลุกมากินหรือไง ปลุกแล้วจะตื่นขึ้นมาหรือเปล่าเหอะ แล้วทำไมพี่สองคนต้องมองผมยิ้มๆด้วยว้า



   “อ้าว ไม่ได้หลับเหรอ”พอยกสำรับเข้ามาในห้องก็เจออีกคนนอนตาใสอยู่บนเตียง



   “ไปไหนมา”มันลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ผ้าห่มไปกองบนตัก เสียงที่เปล่งออกมาฟังดูขึ้นจมูก



   “ไปเอาข้าวมาให้กิน ไม่หลับก็ดีแล้ว กินก่อนแล้วค่อยนอน”ผมวางถาดอาหารไว้ตรงชุดนั่งเล่นเล็กๆตรงมุมห้องก่อนจะเดินมานั่งข้างมันบนเตียง ตาแดงๆแหะ



   “กินด้วยกันดิ”



   “แน่อยู่แล้ว”อาฝนบังคับมานี่นะ ส่วนแขกอีกสองคนก็สำเริงสำราญกับเมนูอาหารเหนือที่พี่แก้วทำไว้ต้อนรับขับสู้พร้อมกับหยอดคำหวานชมฝีมือไม่ขาด ป่านนี้พี่แก้วตัวลอยทะลุเพดานแล้วมั้ง



   “หยุดจามแล้วใช่มั้ย?”



   “อืม แต่ก็คันจมูกนิดๆ”



   “ตัวก็โต ไม่น่าเป็นอะไรแบบนี้นะ แล้วแพ้อะไรอีกป่ะเนี่ย”



   “แพ้คนแถวนี้ละมั้ง”พูดจบก็ยิ้มมุมปาก แสรดดดด



   “ไปกินข้าวไปแล้วก็หลับๆไปสักที เมื่อคืนบอกแล้วว่าให้นอนๆ”



   “เขินทีไรเปลี่ยนเรื่องทุกที”



   “เขินไร ใครเขิน พูดมากว่ะ”



   “กินออเดิร์ฟก่อนแล้วกัน”



   “ไหน ไม่เห็นมี”ที่ยกมามีแต่จานหลักทั้งนั้นแหละ



   “นี่ไง”



   “หะ..อื้อ!”ฮาร์ดคอร์ไปมั้ย กระชากคอไปจูบเนี่ย ดีที่ปากไมได้กระแทกแรงไม่งั้นมีต่อยแน่ ไอ้พี่เดียวมันละเอียดชิมปากผมอยู่นาน ทำเอาเคลิ้มไปเหมือนกัน



   “คิดถึงว่ะ”มันพูดชิดริมฝีปาก ใบหน้าคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ ผมเผยอปากหายใจเบาๆ ก่อนจะถูกปิดปากอีกครั้ง เป็นจูบที่รู้สึกอุ่นๆในใจ มันไม่ได้ดุเดือดร้อนแรง แต่นุ่มๆหวานๆเต็มไปด้วยความรู้สึกคิดถึงอะไรแบบนั้น ดีว่ะ...



   “อื้อ! อะไรวะ”จู่ๆมันก็ผลักผมออกอย่างแรง



   “ฮัดเช่ย!”



   เวร! หมดกัน



   “ไปกินข้าวได้แล้วไปแล้วก็นอนพักซะ”



   “ปลูกไว้กี่ไร่วะเนี่ย”ดูท่าทางมันหงุดหงิดอ่ะ ฮ่าๆ



   “หึหึ ตายแน่ๆ”



   “ไม่ยอมตายง่ายๆหรอก ยังไมได้เจ้าของไร่เป็นเมียอีกรอบเลย”



   “มึงจะตายเพราะกูนี่แหละไอ้พี่เดียว!”



   “โว๊ะ ขึ้นมึงขึ้นกูเลยนะ ล้อเล่นน่า ไปๆไปกินข้าว”



   “เดินไปดิ”ผมหลีกให้มันเดินไปนั่งก่อน แต่ตอนที่มันกำลังจะเดินผ่านผมไปก็ยังไม่วายกระซิบข้างหูผม



   “คืนนี้เสียตัวแน่ หึหึ”



   ควายเอ๊ย!







   X






   พอมื้อกลางวันจบลงผมก็ให้พี่เดียวมันนอนพักไป ส่วนตัวเองก็พาแขกอีกสองคนเที่ยวชมไร่กุหลาบ ที่สร้างรายได้หลักให้กับไร่ ที่นี่ถึงแม้จะไม่ใช่ไร่กุหลาบที่ใหญ่ที่สุดในปะเทศ แต่กูกินพื้นที่หลายร้อยไร่ มีกุหลาบหลายสายพันธุ์ ที่ออกดอกให้เก็บเกี่ยวทุกวันไม่ขาด



   “มึงสนใจส่งกุหลาบให้โรงแรมกูที่เชียงใหม่บ้างมั้ย”พี่ทักษ์เอ่ยขึ้น ทำเอาผมหูผึ่ง




   “ได้ก็ดีสิพี่”



   “เห็นว่ามีผักปลอดสารด้วย  พากูไปดูหน่อยดิ”



   “ได้เลยครับ”



   “มึงโคตรเจ๋งวะ อายุแค่นี้ก็ทำงานใหญ่ได้ขนาดนี้”พี่ยอดท่าทางจะชอบมาก เห็นถ่ายรูปใหญ่เลย เอาหน้าไปแนบอีกต่างหาก เอาจริงๆนะต่อให้เป็นผู้ชายแมนแค่ไหน มาเจอกุหลสบดอกโตๆสวยๆเป็นดงแบบนี้ก็อดใจที่จะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกไม่ได้



   “คนที่เจ๋งคือพ่อผมต่างหาก”



   “เออแล้วพ่อมึงไปไหนวะ”



   “เสียไปแล้วพี่ เมื่อปีก่อน”



   “กูเสียใจด้วยนะเว้ย”



   “ขอบคุณมากพี่”



   “มึงก็อยู่กับอาแค่สองคนเองเหรอวะ”



   “ใช่พี่ เรามีกันแค่นี้ ถ้าไม่มีอาผมก็แย่เหมือนกัน แต่ก็มีคนเก่คนแก่ที่ทำงานร่วมกันมาช่วยด้วย ทุกอย่างเลยยังเป็นไปด้วยดี”



   “ดีแล้ว แต่ถ้ามึงไม่ไหวหรือต้องการที่ปรึกษา เพื่อนกูช่วยมึงได้นะเว้ย อย่าลืมมัน”



   “เหอะๆ ปล่อยเพื่อนพี่ทำงานตัวเองไปเถอะ แค่นี้ก็ไม่ค่อยจะได้นอนแล้ว เดี๋ยวจะตายไปซะก่อน”



   “เออก็จริง แต่ก็อย่าลืมมันแล้วกัน”



   ผมไม่ตอบอะไรได้แต่ยิ้มรับ ใครจะไปลืมแฟนคนแรกได้ เรื่องปรึกษาก็คิดไว้เหมือนกัน แต่รอจังหวะเหมาะสมก่อน เพราะก็ไม่คิดว่าจะต้องเลิกรากันไปในเร็วๆนี้



   ตลอดบ่ายผมพาพี่ทักษ์กับพี่ยอดทัวร์ไร่ แล้วพาไปเที่ยวลำธารที่อยู่ตรงท้ายไร่ ก่อนจะแวะเก็บลำไยสดๆจากต้นมากินที่บ้าน กลับมาก็เจอไอ้พี่เดียวนั่งคุยจ้ออยู่กับอาฝนที่ชานเรือน



   “มากันแล้ว”อาฝนยิ้มรับ ผมทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ




   “ไปอาบน้ำกันก่อนเลย เกสรกุหลาบน่าจะติดเสื้อผ้ามาด้วย เดี๋ยวเดียวก็อาการกำเริบอีก”




   “แหม อาครับ ห่วงอยู่คนเดียวเนี่ย”ส่วนไอ้พี่เดียวที่คุยจ้อเมื่อกี้พอเห็นพวกผมเดินเข้ามาก็ดึงผ้าปิดปากขึ้นมาปิดไปครึ่งหน้า



   “เอ๊ น้ำน่านนี่ ไปเลย”อาฝนยกมือขึ้นจะตีแต่ผมหลบทัน จึงได้แต่ค้อนให้ขวับใหญ่ ก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้สองหนุ่มหล่อ
“ไปอาบน้ำกันนะจ๊ะ จะได้มาทานข้าวเย็นกัน”ผมเดินแยกตัวออกมาแต่เหมือนจะมีคนตามมาจนถึงห้องไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าเป็นใคร



   “ตามมาทำไม ไม่นั่งคุยกับอาฝนไปอ่ะ”



   “คุยจบแล้ว”



   “คุยไรกัน”



   “หลายเรื่อง คุยไปเรื่อย อาฝนน่ารักดี”



   “อย่าแม้แต่จะคิดนะ”ผมปิดประตูห้องแล้วหันไปชี้หน้ามัน



   “คิดอะไรเนี่ย หึงแม้กระทั่งอาของตัวเองเหรอ”



   “ไม่ได้หึงเว้ย แต่ห้ามคิดอะไรไม่ดีกับอานะ”อาฝนเป็นคนน่ารัก ใครได้เห็นได้คุยก็อยากจะสานสัมพันธ์ต่อทั้งนั้น แต่ก็ไม่มีใครมาไปไกลกว่าคำว่าเพื่อน เพราะทุ่มเทเวลาทั้งหมดที่มีเพื่อพ่อ เพื่องานและเพื่อผม



   “ประสาท”มันดีดหน้าผากผมอย่างแรงหนึ่งที




   “เจ็บนะเว้ย!”แดงแน่ๆ ทำไมชอบดีดหน้าผากผมนักวะ



   “สม อยากคิดอะไรไร้สาระ”มันส่ายหน้าแล้วเดินไปนั่งบนเตียง ผมถอดเสื้อที่ใส่อยู่ออกปาใส่หน้ามันด้วยความหมั่นไส้ล้วน มันมองหน้านิ่งก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มเจ้าเล่ห์มองตรงหน้าอกผมที่ไม่มีอะไรปกปิด ก่อนจะลุกขึ้นเดินมาหาทันที แต่เรื่องอะไรผมจะอยู่รอ รีบหนีเข้าห้องน้ำทันที ไม่ได้แอ้มกูร๊อกกก



   “หนีได้ก็หนีไป หึหึ”เสียงของมันดังผ่านประตูเข้ามา ไอ้บ้าเอ๊ย นับวันผมก็ยิ่งเหมือนเด็กสาวที่กลัวลุงแก่ๆจะมาทำมิดีมิร้ายตัวเอง




   X




   
   มีพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่วางอยู่หน้าที่เก็บกระดูกของพ่อและธูปยังไม่หมดดอก คนที่มาไหว้คงเพิ่งจากไปไม่นาน ผมวางพวงมาลัยของตัวเองลงไปข้างกันก่อนจะขยับให้คนที่มาด้วยทำเช่นเดียวกัน พี่เดียวยกมือไหว้พ่อนานจนผมสงสัยว่ากำลังคุยอะไรกับพ่ออยู่ ส่วนผมแค่บอกพ่อว่าพี่เดียวเป็นใครและพามาไหว้เท่านั้น เมื่อคืนผมเล่าเรื่องครอบครัวตัวเองให้พี่เดียวฟังไปแล้ว อีกฝ่ายดูประหลาดใจไม่น้อยเมื่อรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นมีความเกี่ยวข้องอะไรกับผม ผมเลยได้ข้อมูลมาอีกนิดหน่อยว่า พี่เดียวกับทางฝั่งนั้นมีความเกี่ยวข้องกันทางธุรกิจเป็นคู่ค้ากันอยู่ ที่สำคัญบ้านของสามีใหม่ของผู้หญิงคนนั้นสนิทกับคุณหญิงป้าของพี่เดียว



   “ไหว้นานจัง คุยอะไรกับพ่อเนี่ย”



   “ไม่ได้คุย แค่บอกเฉยๆว่าให้พ่อหมดห่วงได้เพราะต่อไปนี้พี่จะดูแลน่านให้เอง”



   “พระเอกไปอีก”ผมเบ้ปากใส่



   “เพิ่งรู้หรือไง”



   “ลืมไรไปป่ะพี่ ผมผู้ชายนะ ดูแลตัวเองได้”



   “รู้ แต่ก็อยากดูแลด้วย พี่เองก็อยากได้คนดูแลหมือนกัน”



   “จะบอกให้ช่วยกันดูว่างั้น”



   “ได้มั้ยล่ะ?”



   มาถึงขนาดนี้แล้วก็คงต้องได้แล้วล่ะมั้ง การที่มีคนมาใส่ใจดูแลเรามันก็เป็นเรื่องที่ดี ในบางครั้งผมก็อยากอ่อนแอบบ้าง อยากพึ่งพิงบ้าง ถึงผมจะมีอาฝนแต่ผมก็ไม่อยากเอาเรื่องหนักใจไปกวนอา อาเหนื่อยกับผมมามากแล้ว



   “ไม่ชอบดูแลใคร”



   “ไม่เป็นไรพี่ดูแลคนเดียวก็ได้”



   “แล้วจะรอดู”ของแบบนี้ต้องดูกันไปนานๆ เรื่องระหว่างผมกับไอ้พี่เดียวมันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ดีกว่า และผมเองก็แฟร์พอ ใครให้ใจมาผมก็ให้ใจกลับไปอยู่แล้ว



   “อยากไปไหนมั้ย”ผมหันไปถามคนที่นั่งข้างๆ เราออกมาจากวัดแล้ว วันนี้ว่างทั้งวัน ตอนนี้เพิ่งเก้าโมงเช้าเอง อาฝนไม่ยอมให้ผมกลับไร่บอกให้พาไอ้พี่เดียวไปเที่ยว แต่ผมโนไอเดียมากๆ ไม่รู้ว่ามันชอบเที่ยวแนวไหน



   “ไหนๆก็ไหนๆแล้วไปไหว้พระธาตุกัน”



   “ที่เชียงใหม่?”



   "ที่นี่แหละ ชื่ออะไรนะ พระธาตหริภุญชัย?”



   “อ๋อ เอาดิ”



   “แล้วค่อยไปเชียงใหม่ขึ้นดอยสุเทพ แล้วก็เดินถนนคนเดินกัน”



   “นี่ทำการบ้านมาก่อนป่ะเนี่ย”ดูรู้เยอะ ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ค่อยอยู่ไทย



   “ไอ้ทักษ์มันบอกตอนอยู่บนเครื่อง”



   “โถ่ นึกว่ารู้จริง”ผมขับรถไปเรื่อยๆ ไม่ได้รีบร้อน หิวก็แวะ ง่วงก็จอด เจออะไรน่าสนใจก็ซื้อมากิน บางอย่างก็อยากแกล้งไอ้พี่เดียวมันให้กินของแปลกๆ แต่มันก็ไม่ได้สะทกสะท้าน เราใช้เวลาทั้งวันจนมาจบที่ถนนคนเดินที่คนยั้วเยี้ยอย่างกับหนอน แทบไม่ได้เดินเองเรพาะต้องไหลไปตามฝูงชน ไอ้พี่เดียวไม่สู้เลยชวนผมกลับ มาถึงบ้านอาฝนกำลังจะเข้านอนพอดี คนที่นี่นอนเร็วปกติสองทุ่มก็นอนกันหมดแล้ว ส่วนอาฝนจะนอนช่วงสามทุ่มสี่ทุ่มแล้วแต่งานที่ค้างอยู่



   “หิวมั้ย จะทานอะไรกันมั้ยเดี๋ยวอาไปทำให้”อาฝนถาม รอยยิ้มแต้มบนใบหน้า แต่คนที่ถูกถามไม่ใช่หลานรักอย่างผม รู้สึกจะห่วงใยไอ้พี่เดียวเหลือเกินจนผมหมั่นไส้มันตงิดๆ



   “เรียบร้อยกันมาแล้วครับ”



   “อาไปนอนเถอะครับ ไม่ต้องห่วงอยากได้อะไรเดี๋ยวน่านจัดการเอง มาๆเดี๋ยวน่านไปส่ง”ผมรีบประคองอาฝนไปส่งที่ห้อง ไม่รอให้ร่ำลากัน



   “เอ๊ น้ำน่านนี่ ยังไงกันเด็กคนนี้ เป็นอะไรเนี่ย”



   “อายังคุยไม่เสร็จเลย”



   “ดึกแล้วครับ ค่อยมาคุยต่อพรุ่งนี้เช้า ตอนนี้นอนได้แล้ว”



   “เด็กขี้อิจฉา”



   “ใคร๊ ไหนขี้อิจฉา ไม่มี๊ไม่มี”อารู้ทันอีก แต่เรื่องอะไรจะยอมรับ ผมไม่ได้ขี้อิจฉา แต่ผมหวงอาของผมต่างหาก



   “ย่ะ อาไปนอนแล้ว เราก็ดูแลพี่เขาด้วย อย่าลืมให้กินยา หน้าต่างประตูก็ปิดให้สนิทลมจะได้ไม่พัดเอาเกสรเข้าห้อง”



   “คร้าบๆ ฝันดีครับ ฟอด!”แก้มอานี่ชื่นใจกว่าแก้มสาวอีกครับ ฮ่าๆ



   ส่งอาฝนเสร็จก็เดินกลับห้อง เห็นไอ้พี่เดียวใส่แว่นนั่งเขี่ยเมียไอแพดของมันอยู่ เปลือยท่อนบน ส่วนท่อนล่างคือกางเกงที่ใส่วันนี้



   “ทำไมไม่อาบน้ำอ่ะ”



   “เช็คงานแป๊บ น่านไปอาบก่อนเลย”



   งานตลอด ขนาดวันหยุดยังต้องทำงาน ผมรีบจัดการตัวเองเพื่อจะได้รีบเข้านอน ขับรถทั้งวันรู้สึกเพลียๆ อันที่จริงพี่เดียวมันก็อาสาจะขับให้แต่ผมขี้เกียจบอกทางมันเลยขับเองดีกว่า พรุ่งนี้ก็ต้องเดินทางกลับแล้วว่าจะกลับเย็นๆหน่อย ตอนเช้าตั้งใจจะพาพี่เดียวไปดูไร่ แต่คงไม่ไปโซนกุหลาบ ผมยังไม่อยากเป็นฆาตกร



   “ไปอาบน้ำได้แล้ว”



   “อีกแป๊บเดียว ถ้าง่วงก็นอนก่อนได้เลย”



   “แน่นอน”ผมง่วงมากไม่คิดจะรอใครอยู่แล้ว รู้สึกว่าตัดสินใจถูกที่รีบกลับกันมาไม่รอให้ดึกกว่านี้



พอล้มตัวลงบนเตียงหัวถึงหมอนความเหนื่อยล้ามันก็แสดงอาการอย่างชัดเจน แต่โทรศัพท์ที่สั่นอยู่ข้างตัวทำให้ผมต้องหยิบขึ้นมาดู ไลน์ผมแจ้งเตือนรัวๆ มาจากกรุ๊ปของพวกไอ้เต้ มันคุยเรื่องไปเที่ยวกัน ตอนแรกตกลงกันได้แล้วแต่จองที่พักไม่ได้ พอไม่ได้ที่พักที่ต้องการเลยเปลี่ยนที่กะทันหัน ไอ้หมวยมันส่งที่เที่ยวมาให้ดูหลายที่ แต่ละที่สวยๆทั้งนั้น บางที่ก็อยู่ทางใต้ แต่จะไปทะเลใต้ช่วงนี้มันจะเจอมรสุมหรือเปล่า ผมไล่อ่านไปเรื่อยพวกมันคุยกันเยอะมากเกือบสี่ร้อยข้อความได้ จนสุดท้ายมันได้ข้อสรุปว่าจะไปเกาะกูดขากลับแวะค้างบ้านไอ้หมวยที่จันทบุรีสองคืนแล้วค่อยกลับกรุงเทพ พวกมันรอให้ผมยืนยันกลับไปอีกที ผมเปิดดูที่พักและที่เที่ยวที่ไอ้หมวยมันส่งมา เห็นว่าสวยและน่าสนใจดี คงได้รูปสวยๆกับมาเพียบเลยส่งสติ๊กเกอร์โอเคกลับไปก่อนจะปิดเครื่องชาร์จแบตแล้วนอนเสียที



   “อ้าว อาบเสร็จแล้ว?”พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นพี่เดียวมันเดินออกมาจากห้องน้ำใส่ชุดนอนเรียบร้อยแล้ว



   “อืม ทำไรอยู่เห็นจ้องแต่โทรศัพท์”



   “ดูที่เที่ยวอยู่ กลับไปแล้วจะไปเที่ยวกับพวกไอ้เต้ต่อนะ”



   “ไปไหนกัน?”



   “เกาะกูด ขากลับแวะบ้านไอ้หมวยที่จันท์ด้วยบ้านมันเป็นสวนผลไม้”



“แล้วจะไปเมื่อไหร่ กี่วัน ไปกันยังไง”



“ใจเย็นครับพี่ อะไรจะถามรัวขนาดนี้”ถามจนผมขำ



“พุธหน้า ไปอาทิตย์นึงอ่ะ ขับรถกันไปนี่แหละคงเอารถไอ้เต้ไปมั้ง”



“เอาฟอร์จูนเนอร์พี่ไปสิ คันใหญ่หน่อยจะได้นั่งกันสบายๆ ขนของได้เยอะ”



“เป็นความคิดที่ดี แล้วไม่ได้ใช้เหรอ”



“ทำงานก็ใช้อยู่แค่สองคัน”สองคันที่ว่าคือคัมรี่กับแอสตัน แต่แอสตันนี่จะงานสำคัญๆอย่างไปงานเลี้ยงหรือไม่ก็ออกเที่ยวกลางคืน เอาไว้ล่อสาว เหอะๆ



“งั้นขอน้ำมันเต็มถังด้วยดิ”



“หึ งั้นจะเอาไรมาแลก”มันนั่งลงข้างเตียงฝั่งที่ผมนอนอยู่ ยิ้มเลวเชียว แล้วทำไมต้องมานั่งตรงนี้ด้วยเนี่ย ฝั่งของตัวเองก็ว่าง ตอนแรกอาฝนจะจัดห้องให้มันนอนคนเดียวสบายๆ แต่ผมให้มันมานอนด้วยนี่แหละ เพราะรู้ว่ามันไม่ยอมนอนคนเดียวแน่ๆ



“โห่ ไรว้า ต้องแลกด้วยเหรอ แค่น้ำมันเอง”



“ไม่มีอะไรได้มาฟรี”



“จะแลกกับอะไร?”



“น้ำมันเต็มถังกับ...หนึ่งน้ำเป็นไง?”



“ไอ้หื่นนนนนนน”



“ฮ่าๆๆ หื่นบ้าอะไร มันเรื่องธรรมชาติ พี่ไม่ได้จ้องจะทำตลอดเวลาถึงมาว่าหื่นเนี่ย”



“ถ้าจ้องจะทำตลอดเวลานั่นเรียกบ้ากามแล้ว”



“อย่ามาทำตัวเป็นเด็กน้อย เมื่อก่อนก็ทำข้ามวันข้ามคืนเลยไม่ใช่ไง”



เมื่อก่อนกับตอนนี้มันเหมือนกันที่ไหนวะ ลองมาแก้ผ้านอนคว่ำดูสิ พ่อจะทำมันสามเวลาหลังอาหารเลย แต่คิดอีกทีก็ขนลุกละ ผมไม่ได้พิศวาสประตูหลังไอ้พี่เดียวเลยสักนิด ส่วนไอ้เสาประตูด้านหน้ายิ่งแล้วใหญ่



“เดี๋ยวเติมน้ำมันเองก็ได้วะ”



“หึ พี่จะเติมให้ เดี๋ยวให้พ็อคเกตมันนี่ติดตัวไปด้วย...”



ก็นั่นแหละครับ จะปฏิเสธไปมันก็ไม่ฟัง จะเรียกให้ถูกคือปฏิเสธไม่ได้มากกว่าเพราะมันปิดปากผมด้วยปากมัน ตกลงคืนนี้จะได้นอนกี่โมงกี่ยามกัน



“อืม...”ทุกครั้งที่ได้จูบกันผมรู้สึกว่าตัวเองยิ่งถลำลึกลงไปทุกที เหมือนกับสารเสพติดที่ค่อยๆต้องการมันทีละน้อยๆแต่เสพติดมันในที่สุด



“พี่อยู่กับน่านเสมอนะ”



“?”



“จะดีใจ เสียใจ ทุกข์ใจอะไรมาก็ขอให้จำไว้ว่ายังมีพี่ที่พร้อมจะรับฟังทุกอย่างนะ”



“มาดึงซึ้งทำไมเนี่ย”แววตาของพี่เดียวอ่อนโยนแต่ก็ดูมั่นคง



“เปล่าสักหน่อย แค่อยากบอกให้รู้ แล้วก็อยากจะบอกอีกว่าอย่าเอาความรักของคนที่ไม่สมหวังมาตัดสินว่าความรักมันไม่ดีหรือไม่มีจริง”
“ความรักทำให้เจ็บปวด”ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมคงกลัวจริงๆ ไมได้กลัวความรักแต่กลัวความเจ็บปวดและสูญเสียต่างหาก



“ความรักไม่ทำให้เจ็บปวดหรอก แต่อย่างอื่นต่างหากที่ทำให้เจ็บ...”นั่นไง ลากลงล่างอีกแล้ว แววตาอบอุ่นเปลี่ยนเป็นแพรวพราวเจ้าเล่ห์ เปลี่ยนไวยิ่งกว่าจิ้งจกเปลี่ยนสี แต่เอาก็เอาวะ







ครั้งนี้ผม...ยอมเจ็บ

   
   




--------------------------------

อีกไม่กี่ตอนจะจบแล้วนะคะ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Bradly

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ไหนๆก็จะจบแล้วขอหสวีทหวานๆสักตอนเถอะค่ะ 555 :pig4:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
น่านยอมเจ็บไปเถอะลูก เพราะเจ็บที่น่านผ่านมายังไงก็ผ่านจุดคุ้มค่าคืนทุนแถมกำไรมาแล้ว
คนเจ็บจริงๆแถมไม่รู้จะหาจุดแค่จะเสมอตัวได้เมื่อไรคงต้องไปรอถามพาย
นี่ป้าอ่านน่านไปยังหลอนถึงพายตลอดนะ ของน่านแค่เจ็บเล็กๆป้ายังสงสารขนาดนี้ :mew6:
เรื่องของพายป้าต้องใช้พลังใจในการอ่านขนาดไหนนี่  :o12:
รออ่านต่อนะคะ
ขอบคุณค่า^^ :กอด1:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
อยากให้แม่น่านเจ็บบ้าง

ออฟไลน์ sarano123

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
รู้สึกค้างงงงง ละมุนใจมากกก

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
ประกาศจากผู้แต่ง

ตอนต่อไปจะอัปเดตเดือน พ.ย. นะคะ
ขอโทษที่ให้รอกันนานเลย
ช่วงนี้จะขอแต่งเก็บเอาไว้ก่อนค่ะ
อดใจรอกันก่อนน้าาาา

 :L1: :pig4: :L1: :pig4: :L1: :pig4:



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Bradly

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
รอค่ะๆ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero




- 39 -





   “วู้วววววววว~~~~ทะเลจ๋าพี่มาแล้ว”



   “เชี่ยๆ มึงดูนั่นๆ อื้อหือแม่ให้มาเยอะจังเลยคร้าบ ขาวด้วย”ไอ้โอ๊คมองสาวชุดบิกินี่สีฟ้าแบบเหลียวหลัง



   “ควาย มองโจ่งแจ้งไม่มีศิลปะเลยมึงเดี๋ยวเขาก็ด่าแม่มึงหรอก”




   “แหม พออาร์ตทิส เมื่อกี้ใครวะที่มองนมน้องคนนั้นจนแฟนเขาแทบจะเข้ามากระทืบ แล้วมาว่ากู”



   “กูไม่ได้มองนมเว้ย กูมองมะพร้าวที่น้องเขาถืออยู่ กูอยากกิน”



   “เหรอออออ”



   “พวกมึงจะเถียงกันอีกนานมั้ย ไอ้หมวยแม่งลงไปลอยคอในทะเลแล้ว”ผมยืนฟังไอ้โอ๊คกับไอ้เต้เถียงกัน พลางเหลือบมองไอ้คนตัวขาวที่ส่งเสียงร่าเริงเกินเหตุวิ่งถลาลงทะเลเหมือนเด็กน้อยทั้งที่มันก็อยู่ใกล้ชิดติดทะเลตั้งแต่เกิด มาทะเลก็บ่อยแทนที่จะเบื่อกลับชอบมาก



   “ปล่อยมันไป”



   “มึงรับปากผัวมันไว้ไม่ใช่เหรอว่าจะช่วยดูมันไอ้โอ๊ค นั่นๆ มีฝรั่งเข้าไปคุยกับมันแล้ว”คลาดสายตาแป๊บเดียวเป็นได้เรื่อง ช่วงนี้ฟีโรโมนเรียกเพศเดียวกันของไอ้หมวยทำงานหนักมาก หนุ่มๆเข้ามาจีบเหมือนแมลงวันตอมขี้ ก่อนปิดเทอมก็มีคนเข้าหาอยู่หลายคนแต่มาแค่แป๊บๆก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย โดนคนที่คุณก็รู้ว่าใครจัดการเรียบ



   “มึงก็ไปดิว้า”



   “มึงเป็นคนรับปากมึงก็ไป กูจะนอน”ผมถีบตูดไอ้โอ๊คจนมันเซไปข้างหน้าก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ชายหาดหน้าบ้านพักพร้อมกับน้ำสับปะรดปั่น ส่วนไอ้เต้มีน้ำมะพร้าวที่มันอยากกินหนึ่งลูกมาจิบแก้กระหาย พวกผมตกลงกันว่าทริปนี้จะงดแอลกอฮอล์ เหล้าเมื่อไหร่ก็กินได้ กินมาเยอะแล้วด้วย เลยงดเด็ดขาด ครั้งนี้มาเพื่อพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ชาร์จพลังให้เต็มที่ก่อนจะเปิดเรียนไปเจอกับขุมนรก เทอมสองเรียนหนักขึ้น เนื้อหาเข้มข้นมาพร้อมกับงานที่ถาโถมอย่างไม่ต้องสงสัย



   “โทรศัพท์มึงสั่น”พอไอ้เต้บอกผมเลยมองโทรศัพท์ที่เปิดเพียงระบบสั่นบนโต๊ะ คนที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใครอื่น



   “ว่างายยย”ผมแกล้งรับแบบกวนๆ ปลายสายเลยหัวเราะสองหึ ก่อนจะบอกว่าได้ถึงฝรั่งเศสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



ไอ้พี่เดียวมันบินไปกลับฝรั่งเศสบ่อยมากเหมือนบินไปกรุงเทพเชียงใหม่จนผมคิดว่ามันมีเมียมีลูกซ่อนอยู่ที่นั่น พอพูดไปเลยโดนโบกหัวมาหนึ่งที ก่อนจะได้รับคำอธิบายว่าดีไซน์เนอร์มือหนึ่งที่ออกแบบเครื่องประดับให้บริษัทมันเป็นคนฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเพื่อนของมันเอง อีกไม่นานก็จะมีคอลเลคชั่นใหม่ออกมา มันเลยต้องบินไปคุยงาน ไปคัดสรรเพชรพลอยเม็ดงามด้วยตนเอง ส่วนพี่เดียวเองก็ต้องออกแบบด้วยแต่เห็นบอกว่าน้อยคนนักที่จะรู้เรื่องนี้



ผมเห็นงานมันแต่ละอย่างก็เบ้ปากใส่อะไรจะเยอะแยะมากมาย จะทำให้เงินทองทับตัวตายเลยหรือไง พอถามมันก็ดันบอกว่าไม่อยากให้บริษัทที่ได้รับการสืบทอดต้องมาพังในมือตัวเอง ซึ่งผมก็เข้าใจได้ดีเลย เพราะตัวผมเองก็ตกอยู่ในสถานะนั้นเหมือนกัน ผมชอบการออกแบบแต่ไม่ได้การทำไร่ทำสวน แต่วันหนึ่งที่ผมต้องมารับผิดชอบผมก็จะทำให้เต็มที่ เรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมันเพราะไม่อยากให้สิ่งที่พ่อสร้างมาต้องย่อยยับด้วยน้ำมือผม



“รีบทำงานแล้วรีบกลับมา”



“จะรีบกลับไปทำไม ตัวเองก็ลัลล้าอยู่ทะเล”



“ช่วยไม่ได้อยากไม่ว่างเอง เดี๋ยวเที่ยวเผื่อแล้วกัน”ผมจะถ่ายรูปไปเยอะ เอาไปอวดให้มันเจ็บใจที่พลาดของสวยๆงามๆไป



“ทำตัวดีๆอย่าวอกแวกไปกับสิ่งล่อตาล่อใจ”ทำมาเป็นรู้ทัน มีมาให้มองผมก็มอง แต่ไม่ได้คิดจะไปสานต่อหรือทำอะไร เข็ดแล้ว ผมไม่ชอบความรู้สึกแบบในตอนนั้นเลยสักนิดเดียว



“บอกตัวเองด้วยนะ แค่นี้นะ เบื่อคุยด้วยเล่า”แค่รู้ว่ามันถึงอย่างปลอดภัยผมก็โอเคแล้ว



“เบื่อคุยด้วยเล่า”ไอ้เต้ๆ ผมวางสาย ก็ได้ยินมันพูดล้อเลียน ลอยหน้าลอยตาน่าถีบ



 “เดี๋ยวนี้มุ้งมิ้งนะมึงเนี่ย”



“มิ้งบ้านพ่อง”



“โห เล่นถึงพ่อกูเลยไอ้สัด แต่กูพูดจริงๆนะเนี่ย”



“กูก็ปกติป่ะวะ”



“ไม่อ่ะ มึงดูซอฟต์ลง แล้วก็เหมือนจะอ้อนๆขึ้นด้วย”ผมว่าผมปกตินะ แต่ที่เปลี่ยนอาจจะเป็นเพราะคุยดีๆกับพี่เดียวมากขึ้น แต่อ้อนนี่ไม่นะ ถ้าจะอ้อนก็อ้อนแต่อาฝนกับพี่แก้วนั่นแหละ



“กูไม่ไหวจะสู้รบด้วย อยู่กันแบบสงบๆอย่างนี้ก็สบายใจดี”ได้เพื่อน ได้พี่ ได้ที่ปรึกษา ชีวิตก็ดีขึ้นมานิดนึง หลังๆนี่ก็ประหยัดเงินได้เยอะ จะกินอะไรหรือซื้ออะไรมีป๋าออกให้ตลอดผมก็รับมั่งไม่รับมั่ง จะเอาเปรียบมันอย่างเดียวไม่ได้ บางอย่างผมก็ซื้อให้มันเหมือนกัน แต่ก็นานๆทีนะ



“หึหึ ส่วนไอ้เหี้ยโฟมจะวอร์กับพี่เขาทุกวัน”



“แต่ก็สู้เขาไม่ได้ไงเก่งแต่ปาก”ผมเห็นมันด่าพี่เขาทุกวัน แต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ พอเขาดุก็ทำตาโตใส่ ปากขมุบขมิบสาปแช่ง



“จริง พอพี่เขามองมันนิดเดียวก็หงอเป็นลูกแมวเชื่องๆ”



   “เหมือนลูกแมวกับราชสีห์”



   “แล้วมึงอ่ะเหมือนอะไร”



   แล้ววกเข้าเรื่องกูทำไมเนี่ย!



   
   X




   “โหย ไอ้เชี่ย ทำไมมันดำขนาดนี้วะ”



   พวกผมเหลือบมองคนที่โวยวายก่อนจะหันกลับมาสนใจ ข้าวต้มทะเลอาหารเช้ามื้อสุดท้ายบนเกาะนี้ เวลาสี่วันสามคืนผ่านไปไวมากเหมือนผมเพิ่งมาเมื่อวานนี้เอง พวกเราสนุกกันมาก ทำทุกกิจกรรมที่รีสอร์ทมี และกินอาหารทะเลทุกมื้อสะใจมากๆ



   “มึงดูแขนกูดิ”ยัง ยังไม่จบเดินมานั่งข้างผมแล้วก็ยื่นแขนให้ดู



   “มึงจะโวยวายทำไมเนี่ย มาทะเลก็ต้องดำเป็นปกติ”



   “แต่มันดำเกินไปแล้ว”



   “ก็ใครใช้ให้มึงเอะอะวิ่งลงทะเล เล่นเองดำเองมึงจะโทษใคร”ใครห้ามก็ไม่ฟัง เช้าลงทะเล บ่ายลงทะเล เย็นลงทะเล ไหนจะดำน้ำอีก ไม่ดำให้รู้ไป



   “บอกให้ขึ้นไม่ขึ้น ไม่อยากดำแล้วเสือกถอดเสื้อเล่นอีกต่างหาก รับกรรมของมึงไป”



   “พวกเชี่ย ดีแต่ซ้ำเติมกู”



   “แดกๆไปอย่าพูดมาก พูดไปก็ไม่ขาวขึ้นมาหรอกของมันดำไปแล้ว”ผมเลื่อนถ้วยข้าวต้มให้มัน รำคาญหูบ่นอยู่ได้ มันก็หน้าง้ำหน้างอแต่ก็ตักข้าวกิน ที่จริงมันไม่ได้ดำขึ้นเลยนะ แค่แดงนิดๆตามประสาคนขาว ส่วนผมเองไม่ค่อยได้ถูกแดดเท่าไหร่



หลังจากกินอิ่มพวกผมก็เช็คเอ้าท์แล้วเดินทางกลับจากเกาะ ตรงไปบ้านไม่หมวยไม่แวะที่ไหน ยิงยาวไปเพื่อไปกินมื้อเที่ยงฝีมือแม่ไอ้หมวยที่คุยนักหนาว่าอร่อยมาก แล้ววันนี้พี่สาวมันกลับมาบ้านพอดีเลยมีขนมอร่อยๆกินด้วย พี่สาวไอ้หมวยเปิดร้านเบเกอร์รี่อยู่ที่สัตหีบ สามีเป็นทหารเรือ นานๆกลับบ้านที



   สองชั่วโมงกว่าๆที่ผมเหยียบมาในที่สุดก็มาถึงบ้านไอ้หมวย ทางเข้าบ้านมันมีต้นไม้ที่คาดว่าจะเป็นผลไม้สักอย่างสลับกับต้นอินทนิลจนถึงประตูรั้ว มันลงไปเปิดประตูให้ผมขับรถเข้าไปจอดที่ลานหิวกรวดกว้าง พวกเราขนของลงจากรถแล้วมองไปรอบๆ ตรงหน้าผมคือบ้านไม้ทั้งหลังยกใต้ถุนสูง ด้านล่างก่อปูนเป็นห้องครัวกินพื้นที่หนึ่งในสาม นอกนั้นก็มีชุดรับแขกไม้สักตั้งอยู่ และมีโต๊ะกินข้าวอยู่หน้าครัว บริเวณพื้นที่หน้าบ้านเต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายสีสัน ด้านขวามือเป็นสระบัวมีศาลาไม้ยื่นลงไปในน้ำ มองเห็นบัวกอใหญ่ลอยเหนือผิวน้ำหลายกอ มีเรือลำเล็กผูกอยู่กับบันไดศาลา รอบสระมีต้นมะพร้าวไม่สูงมากปลูกเรียงกันอยู่



   “หวัดดีค้าบ”พวกผมยกมือสวัสดีแม่ไอ้หมวยที่ออกมาต้อนรับ ใครเห็นครั้งแรกก็รู้ได้ทันทีว่าสองคนนี้เป็นแม่ลูกกัน ถอดแบบออกมาเหมือนกันเปี๊ยบ เพียงแต่แม่ไอ้หมวยจะดูอวบๆเจ้าเนื้อตามประสาคนมีอายุ



   “ม๊าอ้วนขึ้นป่ะเนี่ย”ไอ้หมวยมันเข้าไปนัวเนียแล้วบีบพุงแม่มันเล่น



   “เอ๊ เรานี่ทักผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไง เดี๋ยวตีตายเลย”



   “แหย่เล่นน่า มีน้ำมีนวลแบบนี้ดีแล้วกอดถนัดมือดี”



   “หึ ชอบกอดแบบมีน้ำมีนวลแล้วไหงถึงได้แบบนั้นมาฝากม๊าล่ะ”แม่ไอ้หมวยพยักหน้าไปด้านบนทำให้เห็นว่ามีอีกคนยืนอยู่ เชรดดดด เปิดตัวกันแล้วเหรอวะ ทำไมหนุ่มสุดเซอร์จากสถาปัตย์ถึงมายืนเท่บนบ้านไอ้หมวยได้ พวกผมได้แต่มองหน้ากัน ส่วนไอ้หมวยยักไหล่เหมือนไม่ใส่ใจแล้วเดินเข้าครัวไป ทิ้งให้แม่มันส่ายหน้ายิ้มๆก่อนจะหันมาพูดกับพวกผม



   “หนุ่มๆเอาของขึ้นไปเก็บบนบ้านไปลูก เดี๋ยวให้เจ้าเงาะพาไป เงาะ เงาะเอ๊ย พาพี่ๆเขาไปที่ห้องหน่อยลูก”



   ‘เจ้าเงาะ’ ที่ว่าโผล่หน้ามาจากในครัวได้ยินเสียงตำโป๊กตั้งแต่มาละ ตอนแรกคิดว่าเป็นผู้ชายตัวดำถึกบึกบึนแบบเจ้าเงาะรจนาเสียอีก ที่ไหนได้เป็นเด็กผู้ชายตัวขาวจั๊วะหน้าตาจิ้มลิ้ม ดูแล้วน่าจะอยู่ม.ต้น



   “สมชื่อเงาะจริงๆว่ะ”ไอ้เต้ยิ้มมองตาพราว เจอของถูกใจสินะ



   “ยังไงวะ”



   “ก็ขาวเหมือนเนื้อเงาะไง อยากรู้จะหวานมั้ย โอ๊ย! เชี่ยน่านตบหัวเพื่อ?”



   “เก็บหูปิดฝาให้ดีอย่าหน้าม่อนักมึง ดูด้วยว่านั่นอ่ะเด็ก คุกๆๆ มึงรู้จักมั้ย”



   “เชี่ย กูยังไม่ได้คิดอะไรเลย แค่บอกว่าน้องมันขาวสมชื่อ”



   “อมวัดมาพูดกูก็ไม่เชื่อ”ไอ้โอ๊คก็คิดเหมือนผม สันดานเป็นยังไงรู้ๆกันอยู่



   “หวัดดีฮะ พี่ๆตามผมมาทางนี้เลยฮะ”เด็กน้อยเชื้อเชิญอย่างมีมารยาท เสียงพูดก็นิ่มๆ ยิ้มก็หวาน ดูน่ารักมุ้งมิ้งจนจั๊กจี้หัวใจ เหมาะจะเป็นรจนามากกว่าเจ้าเงาะจริงๆ แต่ระหว่างนี้คงต้องระวังไอ้เต้ให้ดีๆ อย่าเผลอเชียวเดี๋ยวมันได้แกะเนื้อเงาะชิม งานนี้ไปนอนคุกข้อหาพรากผู้เยาว์แน่ๆ
   



X




   “โอ่ยยย”



ผมทิ้งตัวลงบนโซฟา รู้สึกเหมือนร่างจะแหลก เหน็ดเหนื่อยกับการขับรถมาก ตอนแรกว่าจะเปลี่ยนกันขับแต่ไปๆมาๆผมก็เหมาคนเดียวหมด เห็นพวกมันหลับกันแล้วก็ขี้เกียจปลุก ตอนไปสี่คนแต่ตอนกลับเหลือแค่สาม ไอ้หมวยมันอยู่บ้านต่อ แน่นอนว่าพี่ไวท์ต้องอยู่เฝ้า ดูเขาเข้ากันได้ดีกับครอบครัวของไอ้หมวยไม่มีใครตั้งแง่รังเกียจการรักชอบเพศเดียวกัน ทั้งที่สังคมต่างจังหวัดไม่ค่อยเปิดรับเรื่องทำนองนี้สักเท่าไหร่ก็นับว่าเป็นเรื่องที่โชคดี



ค้างบ้านไอ้หมวยสองคืนรู้สึกเหมือนน้ำหนักจะขึ้นเพราะอาหารการกินมีไม่ขาดมากกว่าสามมื้อ แถมยังมีผลไม้ไม่ซ้ำให้กินทุกมื้อ อุดมสมบูรณ์มาก พพี่สาวไอ้หมวยทำขนมมาให้กินอีก คือกินกันจนกระเพาะย่อยไม่ทันอ่ะครับ พี่สาวไอ้หมวยสวยมาก หน้าหวานๆมองดูคือไอ้หมวยฉบับผู้หญิงจริงๆ ตอนกลับยังฝากขนมให้เอากลับมากินอีก ผลไม้ก็เต็มรถ กินเองไม่หมดต้องแจกบ้างไม่งั้นเน่าแน่ๆ



ผมวนส่งไอ้เต้กับไอ้โอ๊คเสร็จแล้วก็กลับมาตายที่บ้าน ข้าวของยังอยู่บนรถไม่มีแรงจะขนลง ขอหลับสักตื่นแล้วค่อยมาจัดการแล้วกัน แอร์เย็นๆโซฟานิ่มๆไม่นานสติผมก็หลุดลอย



“อื้อ...อ๊ะ”



เฮือก!



 ผมลุกขึ้นนั่งตาเหลือก ความรู้สึกเมื่อกี้เหมือนกำลังจะตาย หายใจไม่ออก มันหนักๆเหมือนมีอะไรมาทับบนอก แต่ตอนนี้รู้สึกว่ามีอะไรดุ๊กดิ๊กอยู่บนตัก พอก้มลงมอง....เชี่ยยยยยย



“น่าร้ากกกกกกกกกกกก”ผมจับไอ้ตัวเล็กที่ล่วงไปกองบนตักขึ้นมาอุ้ม มายังไงวะ โคตรของโคตรน่ารัก หน้าตาแบบนี้ หูแบบนี้ และขาสั้นๆอันเป็นเอกลักษณ์แบบนี้ คอร์กี้!



“กูว่าแล้วว่ามึงต้องชอบ”



“สัดพาย!”ผมตกใจหันขวับไปมองมันที่นั่งยองจ้องผมอยู่ มันมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย



“มึงมาตอนไหน?”



“สักพักละ กูกลับจากทำงานก็เห็นมึงนอนอยู่เนี่ย จนทำกับข้าวเสร็จมึงก็ยังไม่ตื่น”



“แล้วนี่?”ผมจับไอ้ตัวเล็กชูขึ้นมาอีกรอบ มันแลบลิ้นยาว ขาสั้นๆก็กระตุกยิกๆ ตามันแวววาวมาก โอ่ย น่ารักโว้ย!



“มีคนให้มา”



“ใคร?”



“คนที่กูคุยๆอยู่”



“งั้นไอ้นี่ก็ของรักแทนใจ?”



“ประมาณนั้นอ่ะ”



“ได้กันยัง?”



“เห็นกูเป็นคนยังไงวะ ถึงจะอดอยากมานานแต่กูก็ไม่ได้ง่ายนะเว้ย”



“ดูกันไปยาวๆ มึงเริ่มมีชื่อเสียงแล้ว บางคนเขาอาจจะเข้าหาแบบไม่บริสุทธิ์ใจ”



“กูรู้ ขอบใจที่เป็นห่วง”



“ถามใหม่แค่คุยจริงๆหรือว่าคบกันแล้วแต่เสือกตอบแบบดารา”เดี๋ยวนี้ฟังอะไรต้องคิดให้ลึก ยิ่งพวกคำตอบของดารานี่ยังตีความ



“แค่คุยเว้ย”



“แค่คุยแต่ก็ได้ไอ้นี่มาซะแล้ว”ถ้าคบกันจริงๆ มันจะได้ตัวอะไรมาอีกมั้ย



“เขาซื้อให้มาแล้วกูก็ต้องเลี้ยง ว่าจะถามมึงก่อนเหมือนกัน แต่เห็นหน้ามันแล้วกูคิดว่ามึงต้องชอบแน่ๆไม่น่ามีปัญหาเลยไม่ได้ถาม”



“เออ กูชอบน่ารักดี แต่หมามึง มึงต้องอยู่เลี้ยงด้วยนะ”ต้องดักคอมันไว้ก่อน เพราะมันไม่ค่อยอยู่บ้าน ถ้าจะเลี้ยงจริงๆก็ต้องดูแลจะทิ้งให้เป็นหน้าที่ผมไม่ได้ เพราะเปิดเทอมมางานเยอะแน่นอน ยิ่งเรียนยิ่งเข้มข้นงานก็หนักหน่วง



“ถ้ากูอยู่กูก็เลี้ยงไง ถ้าไม่อยู่ก็ต้องเป็นมึงแล้วล่ะ”



“สัด!”มีแววว่าจะเป็นมากกว่าที่ต้องเลี้ยง เป็นภาระเลยทีนี้จะไปไหนแต่ละทีก็ต้องมาคอยห่วงไอ้หมานี่


 
“แล้วมันชื่ออะไรวะ?”



“ออร์ดี้”



“โอ้โหชื่อดีมีคลาสนะมึงเนี่ย”จับเขย่ามันเบาๆ



“แอ้ก!”เสียงตอบรับแบบหมาเด็กโคตรตลก



“มันชอบมึงๆ”ไอ้พายหัวเราะใหญ่ ผมมองด้วยหางตา จะประเหลาะให้เลี้ยงสิไม่ว่า เอาเถอะมีหมาก็ดีบ้านจะได้ไม่เงียบเหงาแต่อาจจะปวดหัวแทนเพราะความซนของมัน เคยเห็นในคลิปไอ้พันธุ์นี้มันซนมากด้วยนะ



“มึงไปขนของบนรถลงมาดิ แม่ไอ้หมวยให้ผลไม้มาเยอะเลย มีพวกของทะเลแห้งด้วยกูซื้อมากิน”ผมโยนกุญแจให้มันแล้ววางไอ้เตี้ยลงบนพื้นมันใช้ขาสั้นๆตะกุยพื้นวิ่งไปหาเจ้านายของมันที่เดินไปทางหน้าบ้าน ผมขึ้นมาอาบน้ำให้สดชื่นแต่ยังไม่ทันได้แต่งตัว เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เหลือบมองนาฬิกาที่วางอยู่ตอนนี้ก็สองทุ่มแล้ว หลับไปนานเหมือนกันมิน่าถึงได้หิวมาก



“อยู่ไหนแล้ว”



“บ้านดิ”ผมกรอกเสียงลงไป มือก็หยิบกางเกงในขึ้นมาใส่ แต่ไม่ค่อยถนัดเพราะใช้ไหล่หนีบโทรศัพท์คุยไปด้วย



“เหนื่อยหรือเปล่า พอมีแรงอยู่มั้ยเนี่ย”



“ก็เหนื่อยนิดนึง ทำไมอ่ะจะชวนไปไหน”เพลียๆ ถึงจะนอนไปแล้วแต่ก็ยังอยากนอนอีก ดีที่ไอ้พายปลุกขึ้นมาไม่งั้นคงนอนตื่นเที่ยงคืนขึ้นมาหิวก็ลำบากต้องมาทำอะไรกินดึกๆดื่นๆอีก



“ร้านไอ้เสก พวกเพื่อนพี่นัดกัน”



“แล้วจะเอาผมไปด้วยทำไม”



“อยากเจอ คืนนี้มานอนคอนโดพี่นะ”



“แล้วไมไม่มานอนที่บ้านอ่ะ”ปกติก็มานอนจนจะเป็นบ้านของตัวเองอยู่แล้ว



“มีอะไรจะให้ดูด้วย”



“อะไร?”



“เถอะน่า”จะให้ดูอะไรวะ ทำไมต้องลีลา ผมมองนาฬิกาอีกทีก่อนจะตัดสินใจรับปากไป ออกไปเจอแสงสีบ้างก็ดี อีกอย่างได้กินฟรีแน่ๆถ้าไปนั่งกับพวกพี่มัน ผมแต่งตัวเสร็จก็ลงมารอข้างล่าง ไอ้พายตั้งโต๊ะเสร็จพอดี มีปลาหมึกแห้งที่ผมซื้อมาไอ้พายจัดการทอดอย่างรวดเร็วแกล้มกับแกงส้มที่มันทำไว้ เห็นแล้วน้ำลายสอ ไม่รอช้าเข้าประจำที่ให้ไอ้พายตักข้าวให้



“จะไปไหนวะ?”



“ร้านเฮียเสก”



“กับพวกไอ้เต้?”



“หึ กับพี่เดียว”



“อ่อ คืนนี้จะกลับบ้านมั้ย?”



“ไม่กลับ มึงล็อกบ้านเลย”



“ถามจริง หลังจากคบกันมึงนอนกับพี่เขายังวะ”



“ก็นอนด้วยกันบ่อยๆ”



“กูหมายถึงมีอะไรกันอ่ะ อย่ามาทำไร้เดียงสา”



“ถามส้นตีนอะไรเนี่ย”



“อย่ามาหน้าบาง ตอบๆมา”



“ไม่เสือกดิเพื่อน”



“แบบนี้แสดงว่ายังอ่ะดิ หึหึ ทำไมว้าไม่ติดใจเหรอ หรือว่าพี่เดียวไม่เด็ด แต่กูว่าน่าจะเผ็ดอยู่นะ”



“แดกๆไปพูดมากอยู่ได้”เผ็ดบ้าเผ็ดบออะไรวะ



“แล้วสักวันมึงจะต้องพึ่งกู”มันเอาช้อนชี้หน้าก่อนจะกินข้าวต่อ ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าจะต้องพึ่งอะไรมันในเรื่องแบบนี้ เพ้อเจ้อไปเรื่อย



“มึงดูที่กูส่งไลน์ไปให้ดิ”



ตอนนี้อิ่มแล้วผมมานั่งดูละครหลังข่าวระหว่างรอพี่เดียวที่กลับคอนโดไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วค่อยมารับผม ไอ้พายมานั่งข้างๆ นั่งแชทนั่งเล่นเกมไปเรื่อย บนตักมีสมาชิกใหม่ของบ้านนอนหลับพริ้ม กินอิ่มนอนหลับอนาคตมึงกลายร่างเป็นหมูแน่ๆ



“ส่งไรมา”



“ดูๆ”



ผมจิ๊ปากแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู มันส่งมาสามสี่ข้อความ เป็นลิงค์ของเว็บไซต์พอจิ้มขึ้นมาดูก็แทบจะปาโทรศัพท์ใส่หน้ามัน



“ส่งเชี่ยไรมาเนี่ย!”



“มันจำเป็น กูไม่ได้กวนตีนเลยนะเนี่ย”ผมเลื่อนอ่านคร่าวๆแล้วก็รู้สึกแปลกๆ



“ยังไงเรื่องพวกนี้ก็หนีไม่พ้น แล้วมึงก็ไม่เคยด้วย อ้อ เคยแล้วสินะแต่ก็ครั้งเดียวถือว่าประสบการณ์เป็นศูนย์ มันมีเรื่องที่มึงควรรู้จะได้ปฏิบัติตัวถูก”



“คบกันใช่จะต้องทำเรื่องอย่างว่า”เดี๋ยวผมจะชวนพี่เดียวไปเตะบอล เข้าวัดฟังเทศน์ สนทนาธรรมกับหลวงพ่อ ปล่อยนกปล่อยปลา ปั่นจักรยาน จะได้ไม่หมกมุ่น



“ถุย”มันทำหน้าเหยียดหยามผมมาก ทำเป็นรับสิ่งที่ผมพูดไม่ได้



“อยากจะปลอบใจยังไงก็เรื่องของมึงเถอะ ชี้ทางสว่างให้แล้วก็ไม่เอา”



ผมผลักหัวมันไปที สาระแนนัก ผมรู้ดีว่ามันหนีไม่พ้นหรอกเรื่องนี้ แต่ก็ไม่เห็นว่ามันจะต้องเตรียมตัวอะไรเลยนี่หว่า แค่เตรียมใจให้พร้อมก็พอ ซึ่งไม่อยากพร้อมเลย



“กูไปละ”ไลน์พี่เดียวมันขึ้นเตือนมาพอดี บอกว่าจอดรอหน้าบ้านแล้ว เดี๋ยวนี้มันไลน์มาบ่อยๆ ส่งรูปส่งสติ๊กเกอร์ เหมือนคนเห่อของใหม่ คือปกติมันไม่ค่อยตอบใคร ได้แต่อ่านๆ เลื่อนผ่านไปเพราะมันงานเยอะ แต่หลังจากที่คบกันมันก็เริ่มติด จะต้องส่งอะไรมาหาผมเกือบทุกชั่วโมงแม่งบ้ามาก



“เออ ขอให้สนุกสุขสันต์วันเข้าหอ มึงไม่รอดแน่ๆคืนนี้”



ผมยกนิ้วกลางให้ไปหนึ่งทีถ้วน แล้วเดินมาขึ้นรถที่จอดรออยู่ พอเห็นคนขับแล้วก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจด้วยความแปลกตา



“ผมยาวไปมั้ย?”ไม่เจอกันแค่อาทิตย์เดียวเองนะ



“ก็ว่าจะไปตัดอยู่ แต่มันก็ยาวจากที่เจอครั้งก่อนไม่มากนะ สงสัยพี่ไม่ได้เอาผมขึ้น”



“ก็จริง”มลองเอามือจับๆผมพี่เดียวดูก็นิ่มดีหรอกนะ แต่ยาวๆแบบนี้ไม่โอเคเท่าไหร่ หน้าดูโทรมด้วย



“พรุ่งนี้หยุดนี่ไปตัดผมด้วยนะ”



“ไปด้วยกันดิ”



“ก็ได้ อยากทำสีใหม่เหมือนกัน”



“ไม่ต้องทำ สีนี้ดีแล้ว พี่ชอบ”



“เบื่อ”



“ถ้าจะทำก็ไม่เอาสีเงินๆนั่นนะ แรงเกินไป”สีตอนที่ผมทำช่วงเปิดเทอมใหม่ๆ เป็นช่วงที่เจอมันตอนแรกเท่จะตายแรงเริงอะไรกัน



“งั้นแดงนะ”แล้วพี่มันก็มองแรงใส่ผม อะไรว้า แดงไม่ดีตรงไหน นักร้องเกาหลีเขาทำกันเยอะแยะไป นักร้องไทยยังทำผมชมพูเลย เขียวก็มี ผมก็ออกจะหน้าตาดี ทำสีไหนก็ผ่านฉลุยอยู่แล้ว





X





ผมมาถึงเพื่อนๆพี่เดียวก็พร้อมหน้ากันที่โต๊ะประจำของพวกพี่เขาอยู่แล้ว พอเห็นหน้าผมก็พากันหยุดกิจกรรมทุกอย่างตั้งท่าจะแซว แต่โดนพี่เดียวชี้หน้าไว้ก่อน ก็เลยไม่มีใครขยับปากพูดอะไร แต่ก็เว้นไว้อยู่หนึ่งคน



“มาคุมไอ้เดียวมันหรือไง”



“เพื่อนพี่เป็นนักโทษเหรอ”จากที่ไปบ้านผม ก็เลยเริ่มคุ้นเคยกันจนพอรู้ว่าพี่ทักษ์เป็นคนยังไง



“เอ้า ไอ้นี่กวนตีนกูละ”



“เปล่าเลยพี่ แค่ถามว่าเพื่อนพี่เป็นนักโทษเหรอแค่นั้นเอง ประโยคคำถามครับไม่ใช่ประโยคกวนตีน”พอผมพูดจบพวกพี่ๆเขาก็หัวเราะชอบใจกันใหญ่



“กูว่ามึงเงียบๆไปเหอะไอ้ทักษ์ นั่งส่องนมไปแบบเดิมก็ดีแล้ว”พี่บอสว่า ส่วนคนที่ไม่มีใครเข้าข้างก็ได้แต่จิ๊ปากแล้วหันไปส่องสาวตามเดิม



พี่เดียวดึงให้ผมนั่งลงข้างมัน พี่ยอดจัดการชงเหล้าให้ ตอนนี้ผมเริ่มไม่ค่อยอยากเท่าไหร่ ทั้งที่ตอนนั่งรถมาก็ตั้งใจว่าจะเอาให้เมาสักหน่อยพรุ่งนี้ตื่นสายได้ อีกอย่างมีคนขับรถจะเมาแค่ไหนก็ไม่ต้องกังวล แต่พอมาถึงเห็นแก้วเหล้าวางตรงหน้ากลับไม่อยากซะงั้น




(มีต่อ)



.


.


.

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
(ต่อ)



.



.



.




พวกพี่ๆเขาก็คุยกันไป มีพี่ยอดหันมาคุยกับผมบ้างแต่สักพักก็ได้เหยื่อเลยลุกออกไป ไอ้พี่เดียวมันหายไปไหนไม่รู้เห็นมีเด็กเสิร์ฟมากระซิบอะไรสักอย่าง ผมไม่มีอะไรทำไม่รู้จะคุยอะไรกับคนอื่นด้วย เลยนั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อย รู้สึกเซ็งที่ไม่ปฏิเสธพี่เดียวไป ไม่อย่างนั้นตอนนี้คงได้หลับไปหลายตลบแล้ว เซ็งมากถึงขั้นอ่านเว็บที่ไอ้พายส่งมา เหมือนเปิดโลกใหม่ ก้าวไปสู่ดินแดนสนธยา ได้แต่ร้องด่าอยู่ในใจกับโลกที่ผมเหยียบย่างเข้ามา ไอ้ที่เคยโดนมามันแทบจะลืมเลือนไปแล้ว แต่พอได้มาอ่านก็รู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาอีกครั้ง



“เห้ย!”ตกใจหมด อ่านอยู่ดีๆก็โลกมืด มีคนมาดึงฮู้ดที่ผมดึงขึ้นมาคลุมหัวลงจนปิดตา



“อ่านอะไรจ้องขนาดนั้นเสียสายตาหมด”ไอ้พี่เดียวมันกลับมาก็บ่นทันที ไม่ให้ผมอ่านก็อย่าทิ้งกันไปดิวะ ถึงผมจะเจอกับพวกเพื่อนมันบ่อยๆ แต่ก็ใช่ว่าจะมีเรื่องอะไรให้คุยนักหนา เหล้าก็ไม่ค่อยได้กิน สาวก็ส่องไม่ได้เพราะเดี๋ยวเพื่อนมันเอาไปฟ้อง



“อ่านไปเรื่อย”



“ไม่สนุกหรือไง ไม่เห็นดื่มเลย แก้วนี้ยุงลงไปวางไข่แล้วมั้ง”



“ไม่อยากอ่ะ”



“ไม่อยากก็ดีละไม่เสียสุขภาพ”โอ้โห อย่าพูดถึงเรื่องสุขภาพ มันเสียต้องแต่ชวนมาแล้วมั้ย แต่ผมก็ไม่เห็นไอ้พี่เดียวมันดื่มเท่าไหร่ ก่อนที่มันจะหายตัวไปก็แค่ยกจิบสองสามครั้งเอง



“ไปไหนมา”



“ไปคุยงานกับไอ้เสกที่ห้องทำงานมัน”



“อ่อ”



“ถ้าไม่ดื่มก็กลับกัน”



“อือ”



พี่เดียวมันบอกกับเพื่อนว่าขอกลับก่อนก็ไม่มีใครรั้งไว้ แต่มองผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์กันทั้งนั้น มองอะไรกันครับพี่! ผมยกมือไหว้แล้วเดินออกมาก่อนไม่อยากอยู่เป็นเป้านิ่ง พอมาถึงรถพี่เดียวก็ตามมาติดๆ



“หิวมั้ย จะแวะซื้ออะไรเข้าไปกินป่ะ”



“ไม่เอาอ่ะ”รู้สึกง่วง อยากนอนมากกว่า พอผมตอบ พี่เดียวเลยยิงยาวถึงคอนโด ห้องมันสะอาดสะอ้านเหมือนไม่ได้ใช้งานเหมือนเดิม ผมตรงเข้าห้องนอน ถอดเสื้อผ้าเข้าไปอาบน้ำ ปล่อยให้พี่เดียวมันวุ่นวายอยู่ในครัวไป



“อ้าว อาบน้ำแล้วเหรอ?”



พอออกมาก็เห็นพี่เดียวมันนั่งอยู่บนเตียงมีผ้าขนหนูพันท่อนล่างตามตัวมีน้ำเกาะพราว ผมว่าก็ไม่ได้อาบนานนะ แต่ไอ้พี่เดียวไวกว่า



“อาบจริงป่ะเนี่ย”



“อาบจริง”มันตอบพร้อมกับกลั้วหัวเราะเพราะผมมองมันด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อสุดๆ



“ห้องน้ำห้องนอนเล็กซ่อมแล้วพี่เลยไปอาบในนั้น พี่เพิ่งอาบไปตอนหัวค่ำเอง ออกไปแป๊บเดียวยังไม่ทันสกปรกหรอก ไม่ต้องอาบนาน”


“งั้นก็ไปแต่งตัวดิ”มานั่งอวดหุ่นอยู่ได้ เพิ่งสังเกตว่ามันเอาไวน์มานั่งจิบด้วย อารมณ์ไหนวะ



“หยิบให้หน่อย”มันบอก ผมไม่ได้ว่าอะไรเพราะจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าอยู่แล้ว



“เห้ย!”สะดุ้งสิครับ จู่ๆมันก็เข้ามากอดจากข้างหลัง เนื้องี้แนบเนื้อเลย เพราะผมก็มีแค่ผ้าขนหนูปิดส่วนล่างไว้ หลังสัมผัสกับแผ่นอกเรียบตึงคนด้านหลัง น้ำจากตัวมันก็มีเปียกตัวผมที่เช็ดจนแห้งไปแล้วรอบนึง



“อื้อ ทำไรวะ”ขนลุกขึ้นมาทันที มันจูบที่ไหล่ไล่มาถึงคอ โอ่ย มาอิหรอบนี้สงสัยจะสมพรปากไอ้พาย



“หอม”เสียงพร่าดังอยู่ข้างหู มือก็เริ่มลูบจากด้านข้างอ้อมมาจนถึงด้านหน้าผมเกร็งตัวทันที เมื่อฝ่ามืออุ่นลูบเบาๆที่หน้าท้อง มันวูบวาบไปทั้งตัว ใจเต้นตึกตัก



“พะ...พี่ เดี๋ยวก่อนๆ”ผมต้องเบรกมันไว้ก่อน อยากจะบ้า จู่ๆก็มาทำอะไรแบบนี้ แถมไม่พูดไม่จา กลัวนะเว้ย!



“ไม่ได้เหรอ”มันทำเสียงผิดหวัง มือที่ยุ่มย่ามกับตัวผมก็ทำท่าจะละออกไปจนผมต้องคว้ามันไว้ที่เดิม แต่มันจะเหมือนดูว่าผมว้อนท์ป่าววะ แต่ช่างมันก่อน



“คือ ตกใจเฉยๆ จู่ๆก็มาทำ อะไรวะพี่ไม่ได้ตั้งตัวเลย”



“ก็แค่อยากทำ อยากกอด อยากทำต่อจากวันนั้น”



อ่า...วันนั้น...หมายถึงคืนสุดท้ายที่ไร่ คืนนั้นผมรู้ดีเลยว่าถ้าปล่อยไปมันต้องไปไกลแบบกู่ไม่กลับ ตอนนั้นผมก็คล้อยตามมันไปง่าย ในหัวไม่ได้คิดอะไร เหมือนตัดสินใจแบบคนที่อยู่ตรงหน้าผาแล้วคิดว่าเป็นไงเป็นกันแล้วก็กระโดดลงไปทันที แต่ที่มันไปไม่ถึงไหนเพราะไอ้พี่เดียวมันตัดโอกาสตัวเองด้วยการจามแบบชุดใหญ่ไฟกะพริบ จนอารมณ์กระเจิงกันไปทั้งคู่



“วางแผนไว้แล้วดิ”ดูมันพร้อมรบมาก อาบน้ำรอ บิ๊วด้วยไวน์ ให้ทายว่าล้วงไปใต้หมอนมันต้องเจออุปกรณ์ประกอบกิจกรรม



“ตอนแรกก็ไม่ แต่พอมาถึงห้องแล้วก็คิดว่าทำดีกว่า”



“ไม่ถามกันสักคำ”



“ถามอยู่นี่ไงว่าได้มั้ย”ไม่ถามธรรมดานะ เสียงโคตรอ้อน มือก็ไม่อยู่นิ่งเลยแทบจะล้วงเข้าไปใต้ผ้าขนหนู มาถึงขั้นนี้แล้วยังไงก็ต้องให้มันเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น คือยังไงดีล่ะ มนุษย์เพศผู้อย่างผมนี่ก็ต้องการเรื่องอย่างว่าอยู่นะ แล้วผมคบกับพี่เดียว รู้ตัวแล้วว่ารู้สึกยังไงกับมัน จะไม่ให้ทำกับมันแล้วจะไปทำกับใคร



“ถ้าทำผมเจ็บพี่อดยาวๆแน่ จะไม่ให้ทำอีกเลย”ขู่มันไว้ก่อน



“คุณครับ ครั้งแรกๆมันต้องมีเจ็บกันบ้าง หยวนหน่อยนะ สัญญาเลยว่าจะพยายามเบาที่สุด”



นี่เราคุยเรื่องอะไรกัน ทำไมต้องมีการต่อรอง แต่ก็ยังดีที่เอาความจริงมาพูดกันมันไม่พยายามปลอบใจผมว่ามันจะไม่เจ็บเหมือนในนิยาย ใครบ้างจะไม่เจ็บ ยิ่งเจอไอ้พี่เดียวที่เป็นลูกครึ่งเข้าไป คนที่ชอบซาดิสม์เท่านั้นแหละที่จะปลาบปลื้มยินดี แค่คิดอารมณ์ก็เหือดหาย กูจะตายมั้ย...



“ดูทำหน้าเข้า เชื่อใจพี่ดิ”



“เออแม่ง”



“หึหึ งั้นก็ไม่ต้องหาเสื้อแล้ว ยังไงก็ไม่ได้ใส่”



ครับ ไม่ได้ใส่ แล้วไอ้ที่ใส่อยู่ชิ้นเดียวก็ถูกปลดลงไปกองกับพื้นอย่างรวดเร็วผมคว้าไว้ไม่ทัน แต่มืออีกคนนั้นไวมากจับของกลางผมไว้เป็นตัวประกันเพื่อไม่ให้ผมเปลี่ยนใจ เสียววูบไปทั้งตัว ไอ้ลูกชายก็ห่างหายเรื่องนี้มานานมันก็สู้มือทันทีไม่ไว้หน้าพ่อมันบ้างเลย มือพี่เดียวใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม ผมเลยคล้อยตามไปง่ายๆ เผลอตัวทิ้งน้ำหนักใส่พี่เดียวไปทั้งตัว หัวหนุนไหล่คนด้านหลังพอดี เปิดโอกาสให้จมูกโด่งซุกไซ้ลงมาที่ลำคอ ตอหนวดสั้นๆสีไปมารู้สึกจั๊กจี้และเสียววูบแปลกๆ



“อะ....”ขึ้นรอยแน่ๆดูดแรงขนาดนี้ กัดอีกต่างหาก เสียงจุ๊บดังข้างๆหูทำเอาหน้าร้อน แต่ไม่เท่ากับที่มืออีกข้างย้ายมาบีบคลึงที่สะโพกคล้ายจะมันเขี้ยว โดนไปทั้งหน้าและหลัง ขาสั่น...



“ไปที่เตียงเหอะ”ผมบอกเพราะไม่ไหวแล้ว จะยืนไม่อยู่ อีกอย่างผมไม่อยากโดนตรงนี้ หน้าตู้เสื้อผ้า ไม่อยากถูกทำในท่านี้หรือบนพื้นแข็งๆ ขอแบบเบสิกก่อนอย่าเพิ่งผาดโผนหรือวิบาก เหมือนจะขำแต่ตอนนี้ผมโคตรเครียดเลย



พี่เดียวมันทำตามที่ผมขอ พอถึงเตียงมันก็ดันให้นอนลงและตามมาทาบทับทันที ผ้าขนหนูของมันก็กองอยู่ที่เดียวกับผมนั่นแหละ อาวุธก็พร้อมทำงานมากๆ เมื่อกี้ผมถึงได้ขอให้มันเปลี่ยนที่เพราะโดนจี้ระยะประชิด



“หน้านิ่วคิ้วขมวด อย่าเครียดดิ”มันเย้ายิ้มๆ ลองมาเป็นกูดูมั้ยล่ะ จะได้รู้ว่ามันสมควรเครียด!



ฟอด...



เอาเข้าไป! คือจูบยังไม่เขินเท่ากับถูกหอมแก้มเลยนะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ยิ่งเห็นมันยิ้มเอ็นดู ผมยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กน้อย ใบหน้าที่ค่อยๆเคลื่อนลงมาจนปลายจมูกจนชนกันทำเอาการมองเห็นพร่าเบลอ



รสชาติของน้ำองุ่นหมักถูกส่งผ่านริมฝีปากและปลายลิ้น มันเริ่มด้วยจูบนุ่มๆ เชื่องช้า เหมือนกับต้องการให้ผมละเลียดชิมความหอมหวานทีละนิดจนเริ่มเมาไปกับจูบที่ยาวนาน



“อืม...อะ”พอได้เป็นอิสะก็ต้องรีบหายใจเข้าปอด ริมฝีปากร้อนก็เคลื่อนย้ายไปยังจุดหมายใหม่ พี่เดียวมันทำเหมือนร่างกายผมเป็นขนมหวาน เที่ยวชิมไปทั่ว แต่บริเวณที่มันชอบมากที่สุดคงจะเป็นไหล่ด้านขวาทั้งดูด ทั้งขบกัด



“ย...อย่ากัด”



“เซ็กซี่จนพี่จะบ้าอยู่แล้ว”มันกระซิบเสียงพร่า ผมไม่เข้าใจ เซ็กซี่อะไรของมันวะ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย



“อื้อ...อืม”ผมหลุดคราง เสียววูบที่มันเคลื่อนตัวลงไปอยู่ตรงกลางลำตัว จูบย้ำๆแถวต้นขา ส่วนมือก็ขยับปลุกปั่นอารมณ์ให้กระเจิดกระเจิง โอ่ย ผมเกร็งไปทั้งตัวเมื่อถูกครอบครองด้วยความอุ่นร้อน รังสีความร้อนแผ่ออกมาจากทุกรูขุมขนจนรู้สึกได้



“โอ๊ย...เจ็บ...เอาออกไป”



เชี่ย! จากที่เคลิ้มๆล่องลอยอยู่บนสวรรค์ก็ถูกฉุดกระชากลงนรกทันที



“ชู่ววว ใจเย็นๆ”มันขยับตัวขึ้นมาจูบปลอบและหอมแก้มผมเบาๆ แต่นิ้วก็ยังดันเข้ามาในตัวผม เจ็บจริงอะไรจริง ตอนนั้นกูรอดตายมาได้ไงวะ



“อย่าเกร็งสิ”



ทำไมได้โว้ยยย ผมได้แต่โวยวายอยู่ในใจ แม่ง อยากจะร้องไห้ ได้แต่หลับตาเอาหน้าซุกหมอน



“น้ำน่าน...”พี่เดียวทิ้งตัวเอาหน้าซบแถวซอกคอผม



“พี่ไม่ทำแล้วก็ได้”



ผมลืมตาขึ้นทันที เพิ่งรู้สึกว่ามันไม่ได้ทำอะไรกับร่างกายผมแล้วนอกจากนอนกอดไว้เฉยๆ



“ทำไม?”คือหมูขึ้นเขียงแล้วอ่ะ เป็นผมไม่มีทางหยุดแน่ๆ



“ก็น่านยังไม่พร้อมจริงๆ”มันเงยหน้าขึ้นมาตอบ แววตาที่มองมา รอยยิ้มของมันอ่อนโยนมาก จะพระเอกไปไหนวะ ใจผมอ่อนยวบ




“อยากเป็นพระเอก?”ผมลูบหน้ามันเบาๆ ทำไมหล่อจังวะ




“ไม่ได้อยากเป็นพระเอก แต่อยากเป็นคนที่จะไม่ทำให้น่านเสียใจอีก”




“เลี่ยนโคตร”เลี่ยนจนผมต้องดึงมันลงมาจูบแก้เลี่ยน




“ทำต่อเถอะพี่”












------------------------------


สวัสดีค่ะไม่เจอกันนานเลย ตอนนี้ค่อนข้างยาว แล้วก็ถูกตัดฉับๆ เหมือนแกล้งคนอ่าน 55555
เอามาลงให้หายคิดถึงค่ะ แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้า

 :mew1:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
อย่าแพนก้องไปที่โคมไฟนะคนเขียน รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ flyingploy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อร๊ายยยยยยย มาแล้วๆๆๆ อย่าแกล้งกันนานนะค้า 555

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ aukuzt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ตัดฉับ :ling1: :ling1: สตั้นไป1วิ เฮ้ย...จบแล้ว  อ่านเพลินๆๆ  :hao7:  กลับมาไวไวๆนะคะ ยังไม่หายคิดถึงพี่เดียวน้องน่านเลย

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ถถถถถถถถ ค้างเลย  :z3: :z3: :z3:
รอฉากนี้มานานมากๆๆ เลย  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

น่าน ดูยอมรับเดียวมากขึ้น
รู้ตัวว่าทำแบบไหนจะไม่ดีต่อกัน
ไม่ชอบความห่างเหิน ระหว่างกันที่เกิดเพราะตัวเองทำแบบไม่คิด

ทั้งคู่มีความสนิทสนม ผูกพันกันแล้ว
เดียว อบอุ่น จริงจังกับความสัมพันธ์
พี่เดียว น้ำน่าน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด