[♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]  (อ่าน 283623 ครั้ง)

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
55555ตัดฉับเลยนะ  เหอๆๆ

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
ฮือออออ ตัดฉับไปอีกกกก :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ Peterpanmama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ม่ายยยยยยยยย มาต่อเดี๋ยวเน้ ได้โปรดดดด

ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เหมือนเป็นไปกับไกด์นำเที่ยวแล้วถูกลอยแพ5555555

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
แว้ก ค้าง ฮ่า ๆๆๆๆ รออยู่จ้า

ออฟไลน์ aiirada

  • miKapleXD
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • [Premier Сasual Dating  Verified Females]
คิดถึงอ่า มารอทู้กวัน จงมาๆๆๆๆ  :call:  :call:  :call:

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
 :katai2-1:รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero




- 40 -




   “อือ...”




   เสียงครางคล้ายรำคาญใจ พร้อมกับขมวดคิ้วพลิกตัวหนีแต่พอหนีไม่ได้ก็ซุกหน้าอยู่กับหมอนนิ่ง ทำเอาอดยิ้มออกมาไม่ได้ นับวันก็ยิ่งเห็นถึงมุมน่ารักๆ เมื่อคืนที่ผ่านมาก็ยิ่งน่ารัก ผมไล่มองตั้งแต่คิ้ว เปลือกตา จมูก และริมฝีปากแดงทั้งที่ชอบบุหรี่ แต่ช่วงหลังก็ลดลง แต่ผมรู้ว่าเขามักจะแอบสูบตอนอยู่มหาวิทยาลัย โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เครียดจากงานที่ต้องทำส่ง ซึ่งผมก็ไม่เห็นว่ามันจะช่วยคลายเครียดตรงไหนดีแต่ทำลายสุขภาพ แต่ก็เข้าใจว่าคนเคยสูบจะให้เลิกไปในทันทีก็คงยาก ปากบอกไม่ได้ติด แต่พอให้เลิกก็อิดออด หรือเป็นเพราะอยากจะต่อต้านผมก็ไม่รู้



ถึงจะอ่อนลงมากตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งนั้น แต่น้ำน่านก็ยังคงเป็นน้ำน่านที่เป็นตัวของตัวเอง เชื่อมั่นในความคิดของตนเองและกวนประสาทผมอยู่เนืองๆ แต่ทำไมไม่รู้ว่าผมมองว่ามันน่ารักและเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ผมตกหลุมจนปีนขึ้นมาไม่ไหว ยิ่งเมื่อคืนได้ผ่านเหตุการณ์ที่ทำให้เราผูกพันกันมากขึ้น ความรู้สึกข้างในใจก็เอ่อล้นออกมา นึกถึงสัมผัสที่ได้รับ ความอบอุ่นตอนร่างกายได้แนบชิด ความร้อนเร่ายามขยับสอดประสาน ผิวขาวแดงเรื่อตามอารมณ์ที่ไต่สูง เสียงครางเครือที่ไม่ได้หวานล้ำ หากแต่เซ็กซี่จนเผลอถาโถมแรงเข้าใส่ครั้งแล้วครั้งเล่ากระทั่งจับจูงกันไปจนถึงจุดสูงสุดของอารมณ์ น้ำน่านเป็นของผมแล้วจริงๆด้วยความเต็มใจ


รัก...แบบที่ไม่เคยคิดว่าจะรัก



“อื้อ...”



ผมคลายวงแขนออกเมื่อเขาร้องประท้วงอีกครั้ง เด็กอะไรขี้งกแม้กระทั่งตอนหลับแต่กอดนิดจูบหน่อยก็ต้องหวงตัว แต่ถึงจะหวงยังไง พื้นที่ผิวขาวๆก็ถูกแต่งแต้มเป็นจุดแดงจางๆ ไม่ได้มากมายไปทั้งตัวแต่ทุกจุดที่ผมสัมผัสก็ต้องมีสักรอยสองรอยฝากไว้ แต่ช่วงไหล่ขวาจะมากเป็นพิเศษ ตรงที่มีรอยสักคือส่วนที่ผมชอบที่สุด เซ็กซี่อย่าบอกใคร แต่ร่องรอยแผลเป็นที่ท้องก็ทำให้ผมใจหาย อดคิดไม่ได้ว่าถ้าวันนั้นช่วยเขาไว้ไม่ทันจะเป็นอย่างไร เราจะต้องจากกันทั้งที่ยังค้างคาใจแบบนั้นหรือ มันเลยทำให้ฉุกคิดได้ว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน เราอย่าเสียเวลาไปกับทิฐิโง่ๆ นั่นเลยทำให้ผมให้อภัยเขาอย่างง่ายดายและเริ่มต้นกันใหม่ ซึ่งมันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด เราถึงได้มีวันนี้




ผมขยับผ้าขึ้นคลุมตัวเขาถึงคอ เพราะมองไปมองมาก็อยากจะทำอะไรต่อมิอะไรอีกรอบแต่ต้องหักห้ามใจไว้ แค่เมื่อคืนทำติดต่อไปกันไปสองรอบอีกฝ่ายก็หมดแรงไปดื้อๆ ท่าทางจะเจ็บไม่น้อยผมเลยไม่อยากซ้ำอีก สงสารเด็ก ผมหอมแก้มขาวๆนั่นอีกทีสองทีแล้วตัดใจลุกขึ้นจากเตียงอันแสนสุขเพื่อไปอาบน้ำและสั่งอาหารเช้ารวบอาหารกลางวันให้ตัวเองและคนที่หลับอยู่ ตอนนี้ก็ปาเข้าไปสิบเอ็ดโมงกว่าแล้ว กว่าจะเรียบร้อยก็คงเกือบบ่ายได้เวลาปลุกเด็กขี้เซาขึ้นมาอาบน้ำกินข้าวกินยา



   อาบน้ำเสร็จก็โทรสั่งอาหารจากร้านใต้คอนโด เป็นอาหารไทยที่น้ำน่านชอบทั้งหมด ก่อนจะเดินไปเปิดทีวีช่องข่าวต่างประเทศทิ้งไว้ ปิดโทรศัพท์เครื่องที่เกี่ยวกับงานทุกเครื่อง วันนี้ผมจะพักเรื่องงานไว้ทั้งหมด ให้วันหยุดได้เป็นวันของการพักผ่อนจริงๆ



   “น้ำน่านครับตื่นได้แล้วนะ”ผมนั่งลงข้างเตียงสะกิดเรียกคนที่พลิกตัวนอนคว่ำตั้งแต่เมื่อไม่รู้ หายใจออกได้ยังไงกัน



   “น้ำน่าน”ก้มลงไปกระซิบพร้อมกับจูบแก้มขาวๆอีกที เด็กบ้าหน้าตาดีแม้กระทั่งตอนหลับ



   “น้ำน่านครับ”ผมลองเรียกอีกที เปลือกตาบางเริ่มขยุกขยิก



   “เที่ยงกว่าแล้วนะ ตื่นมาอาบน้ำกินข้าวแล้วค่อยนอนต่อ”



   “อื้อ...”



   “ตื่นเร้ว”ผมเร่ง รู้แล้วล่ะว่าเขารู้สึกตัวแล้ว สติก็เริ่มมาแล้วด้วย เพราะหน้าเขาเริ่มขึ้นสีจางๆตอนผมไล่จูบไปตามลาดไหล่ หอมจังน้า



   “ไม่ตื่นพี่ต่ออีกรอบนะ”



   “ถอยไป”เสียงแหบแห้งเอ่ยไล่ เปลือกตาค่อยๆเปิดขึ้นมา นิ่งไปอึดใจกว่าจะยอมขยับตัว



   “พี่ช่วยพยุง”



   “ไม่ต้อง แค่ถอยไปก็พอ”



ผมลุกขึ้นยืนข้างเตียง เพื่อให้เขามีพื้นที่ขยับตัว แต่ใบหน้าที่บิดเบี้ยวบ่งบอกถึงการเจ็บช่วงล่างทำให้ผมต้องถลาเข้าไปช่วย พอนั่งพิงหัวเตียงได้ก็ผลักผมออกอีก เมื่อคืนกอดแน่นอยู่เลย



“โอ๊ย แม่ง เจ็บฉิบหาย”เขาบ่นหน้าตาบู้บี้ ทั้งน่ารักและตลกแต่ผมต้องกลั้นยิ้มไว้ ไม่งั้นจะซวยได้



“เดี๋ยวกินยาก็หาย”หันมาค้อนเมื่อผมพูดจบ



“ไม่โดนก็พูดได้ดิ ไปไกลๆเลยไป”หน้างอง้ำแต่ก็ยังน่ารักในสายตาผม



“ไปไกลๆแล้วใครจะช่วยพาเข้าห้องน้ำล่ะ”



“ไปเองได้”



“แน่ใจ?”



เขามองผมตาขวางเหมือนแค้นเคืองมาเป็นสิบชาติ แต่ผมยิ้มสู้ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บปากเบาๆ เขาตาโต อ้าปากค้างหน่อยๆ หน้าเริ่มสีเข้มขึ้นกว่าเดิม



“จำไว้นะ อย่าให้มีโอกาสบ้าง”นิ้วเรียวๆชี้หน้าผมแต่ก็ไม่ได้นึกโกรธหรอกคว้ามาจูบเสียเลย ทำให้เขาถลึงตาใส่



“ปล่อย จะไปอาบน้ำ! โอ๊ย...แม่ง”



“นั่นไง มาพี่ช่วย”เขาพยายามจะลุกขึ้นเอง แต่ร่างกายไม่อำนวยก็ทรุดลงบนที่นอนอีกรอบ น่าสงสาร ตอนนั้นที่ผมทำเขายังไม่เห็นหนักเหมือนครั้งนี้เลย หรือเมื่อคืนผมทำรุนแรงเกินไป ผมว่าผมยั้งตัวเองไว้สุดๆแล้วนะ



“ไม่ต้องอุ้ม พยุงไปก็พอ”



ผมพาเขาไปส่งในห้องน้ำ ใจจริงอยากจะช่วยอาบให้ แต่อีกฝ่ายปฏิเสธเสียงแข็งด้วยใบหน้าแดงๆน่ารังแก ผมเลยต้องออกมาก่อนที่เขาจะเขินและโกรธไปมากกว่านี้ ระหว่างที่รอเขาอาบน้ำ อาหารที่สั่งไว้ก็มาส่งพอดี พอจัดโต๊ะเสร็จก็เดินกลับเข้ามาดูข้างในห้องนอน เลยทันได้เห็นเจ้าตัวดีเดินด้วยท่าทางแปลกๆ



“ยิ้มทำไม”เขาหันมาถามเสียงเขียวตาขวาง



“มีความสุขก็ต้องยิ้มสิ”



“อ๋อ มีความสุขบนความทุกข์คนอื่น”



“มาโกรธอะไรพี่เนี่ย เมื่อคืนเราก็มีความสุขด้วยกัน ร่วมมือกันแท้ๆ ไหงตื่นมาเคืองพี่ซะงั้น”



“ก็ถ้ารอบเดียวจะเป็นแบบนี้มั้ย ห้ามก็ไม่ฟัง ไอ้บ้านี่ ทีหลังไม่ให้แล้ว”



“เอ้ยได้ไงอ่ะ”



“ไม่ให้คือไม่ให้จบนะ”



“โอเค จบก็ได้”แต่ในใจผมไม่จบแน่ๆ ตอนนี้ต้องรับปากไปก่อน รอให้อารมณ์ดีๆ บรรยากาศเป็นใจค่อยเข้าคลุกวงในเอาก็ได้



“ไปนั่งรอที่เตียงไปเดี๋ยวพี่หาเสื้อผ้าให้”ผมเดินไปหยิบเสื้อผ้ารวมถึงชั้นในมาวางไว้ให้บนเตียง ไม่อยากให้ขยับตัว เพราะท่าทางจะเจ็บมาก



“มาพี่ช่วยใส่ให้”เห็นเขากำลังจะใส่ชั้นในแต่ดูท่าทางจะไม่ถนัด แต่พออาสาจะทำให้ก็เจอสายตาพิฆาตเลยต้องยืนดูเฉยๆจนแต่งตัวเสร็จ แล้วก็ออกมาทานข้าว กับข้าวสี่อย่างบนโต๊ะถูกกวาดเรียบอย่างรวดเร็วทดแทนพลังงานที่เสีย



พอทานข้าวทานยาเสร็จน้ำน่านก็ย้ายตัวเองไปประจำที่โซฟาหน้าทีวี ส่วนผมเรียกพนักงานมาเก็บจานกลับไป ว่าจะหาขนมผลไม้ว่ามาเอาใจเด็กแต่ลืมไปว่าผมไม่ค่อยได้อยู่ห้องตู้เย็นเลยว่างเปล่า



“อ้าว”ตอนแรกว่าจะชวนน้ำน่านไปด้วย แต่ดันหลับปุ๋ยไปแล้ว ผมเลยปิดทีวีแล้วหยิบกระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถเพื่อออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์ใกล้ๆ



“จะไปไหน”



“อ้าวทำไมตื่นไว”ยังไม่ทันไปไหนเลย



“ไม่ได้หลับ แค่พักสายตา จะออกไปไหน”



“ไปซุปเปอร์ใกล้ๆ ตู้เย็นไม่มีอะไรกินเลย”



“งั้นพากลับบ้านดิ ของกินเพียบเลย เพิ่งเอากลับมาจากบ้านไอ้หมวย”



“งั้นพี่แวะไปเอาให้”



“ไม่เอาจะกลับบ้าน”เอาแล้วไง เริ่มเอาแต่ใจและดูท่าจะไม่ยอมลงให้ผมด้วย หน้านิ่งมาก



“ค้างกับพี่อีกคืนไม่ได้เหรอ”



“ก็ไปค้างที่บ้านดิ จะไม่พาไป กลับเองก็ได้”



“โอเคๆ พี่พากลับ รอแป๊บนะ พี่หยิบของก่อน”คือผมมีบางอย่างจะให้เขา วางแผนไว้นิดหน่อยว่าจะใช้ห้องนี้ทำเซอร์ไพรส์ แต่ไม่เป็นไรเปลี่ยนสถานที่ก็ได้



“วันนี้พายไม่อยู่บ้านเหรอ”ผมไม่เห็นตั้งแต่รถจอดที่โรงรถ บ้านก็เงียบ



“อือ มีงานมั้ง”น้ำน่านตอบเสียงอู้อี้เพราะเพิ่งตื่นแม้จะไม่ถึงสิบห้านาทีที่ขับรถมาแต่เขาก็หลับได้ ตอนนี้ก็เดินโซเซเตรียมจะทิ้งตัวที่โซฟาแต่ผมไปดึงแขนเอาไว้ก่อน



“อะไร คนจะนอน”



“ไปนอนบนห้องดีๆ จะได้สบายตัว”



“ขี้เกียจ”



“งั้นพี่อุ้ม”



“ตกบันไดคอหักตายพอดี หลบดิ”ผมอมยิ้มเมื่อเห็นเขาเดินตุปัดตุเป๋ไปทางบันได เลยเดินตามไปเพราะกลัวเขาจะก้าวพลาดตกลงมา



“ห้าโมงปลุกด้วย”



“โอเค”



“ทำกับข้าวไว้ด้วยนะ ของในครัว ในตู้อยากกินไรก็กิน”



“ครับ หลับซะเดี๋ยวพี่ปลุกมากินข้าวกินยาอีก”



“อือ”เวลาเขาเซื่องซึมแบบนี้โคตรน่ารัก ให้ทำอะไรก็ทำแม้จะเถียงบ้างแต่ส่วนมากจะว่าง่าย อดไม่ได้ที่จะกดจูบลงบนหน้าผากสักที
ผมปล่อยให้เขานอนตามสบาย หลับเท่าที่เขาอยากหลับเพราะจะได้มีเวลาเตรียมเซอร์ไพรส์ ผมโทรหาพายว่าจะกลับมาบ้านหรือไม่เจ้าเด็กนั่นบอกไม่กลับเพราะจะไปค้างห้องเพื่อน บอกให้ผมใช้ทุกส่วนของบ้านได้ตามสะดวก แต่อย่าจัดหนักจัดเต็มเพื่อนเขามากนัก แต่ดูเหมือนคำเตือนนั้นสายเกินไป



ผมลงมือทำอาหารไทยง่ายๆที่พอทำได้จากวัตถุดิบที่อัดแน่นเต็มตู้เย็น เนื่องจากใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่เลยผมถนัดอาหารฝรั่งมากกว่า แต่ตั้งแต่รู้จักกับน้ำน่านและรู้ว่าเขาชอบอาหารไทย ผมเลยไปฝึกฝีมือมา ดูจากเน็ตบ้าง ถามคุณหญิงป้าบ้าง ท่านก็สงสัยแต่ผมก็แถไปเรื่อยว่าอยากทำกินเองบ้าง จริงๆผมก็พร้อมที่จะพาน้ำน่านไปเปิดตัวแล้ว แต่ยังหาช่วงเวลาเหมาะๆไม่ได้ ที่บ้านมีเฟิร์สกับวินที่รู้ว่าผมคบกับน้ำน่าน ส่วนคนอื่นเขาก็รู้ว่าผมได้ทั้งหญิงและชาย แต่คุณหญิงป้าก็คงอยากให้ผมมีครอบครัวเหมือนผู้ชายทั่วไปมากกว่า



ห้าโมงนิดๆที่ผมทำทุกอย่างเสร็จพอดีกับข้าวสี่อย่างและผลไม้ที่ปอกเปลือกคว้านเม็ดแช่เย็นไว้ ผมยกมาจัดโต๊ะที่ริมสระ พร้อมสำหรับดินเนอร์จึงย่องไปอาบน้ำเปลีย่นเสื้อผ้าแล้วค่อยปลุกไอ้ตัวแสบขึ้นมา



“หึ ไปล้างหน้าล้างตาไป”



“อยากอาบน้ำอ่ะ”



“งั้นก็อาบ ให้พี่ช่วยมั้ย”



“ไม่ต้อง ตลอดเลยนะ”เขาค้อนผมเบาๆ น่ารักอ่ะ



“อะไรเล่า พี่กลัวอาบไม่ถนัดไง”



“เหอะ”เขาทำหน้าไม่เชื่อสุดๆ ซึ่งตอนที่พูดผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆ แต่ถ้าได้ทำจริงๆมันก็อาจจะเกินเลยอ่ะนะ



“งั้นพี่ลงไปรอข้างล่างนะ”



“อือ”



ผมนำกับข้าวไปอุ่นอีกรอบจะได้ทานร้อนๆ มีไวน์ที่ผมเอาติดมือมาด้วยเป็นเครื่องดื่ม ถึงมันจะไม่เข้ากับอาหารบนโต๊ะก็ตาม และของที่ผมจะให้เขาก็จัดเตรียมไม่เรียบร้อยแล้ว รอไม่นานนักก็เห็นเจ้าของบ้านเดินงงๆออกมาพร้อมกับเรียกชื่อผมไปด้วย พอเห็นโต๊ะที่ผมจัดไว้ริมสระอีกฝ่ายก็ยิ้มออกมา



“อะไรเนี่ย”



“ดินเนอร์ริมสระไง”



“ไวน์กับผัดกะเพรา ต้มจืด หมูทอด ยำปลากระป๋องนี่เข้ากันมากเลยนะ”



“ก็เอาความชอบเราสองคนมารวมกันไง”อาหารไทยของน้ำน้าน ไวน์ของผม



“มานั่งๆ”ผมเลื่อนเก้าอี้ให้เขานั่ง



“ไม่ต้องก็ได้พี่ โอ๊ยอย่าทำแบบนี้ดิว้า”ไอ้ตัวดีคว้าเก้าอี้ไว้แน่น หน้าแดง เขินกับเรื่องแบบนี้เหรอเนี่ย



“พี่อยากทำให้แฟนพี่ นะครับ”



“พี่แม่ง”พอจับทางได้แล้วนะครับ ถ้าผมอ้อนนิดๆพร้อมกับน้ำเสียงนุ่มๆ น้ำน่านจะอ่อนลง น่าจะเรียกว่าแพ้ทาง แต่ผมจะไม่ทำบ่อยเดี๋ยวไม่ขลัง



“แล้วนี่ไปเด็ดดอกไม้มาอีก มือบอน”หาเรื่องบ่นกลบเกลื่อนความเขินใช่มั้ย ก็แค่ดอกลีลาวดีที่ร่วงกับพื้นผมก็เลยเก็บมาใส่ถ้วยเล็กๆลอยน้ำไว้เพื่อให้โต๊ะดูสดชื่น



“มันร่วงแล้วเหอะ กินๆ เดี๋ยวขะเขินจนไม่ได้กอนกันพอดี”



“เงียบไปเลย”



ผมรินไวน์ ตักอาหารให้เขาก่อนจะลงมือทานของตัวเอง น้ำน่านดูเจริญอาหาร รสชาติคงถูกปาก ผมเองก็ดีใจ ถ้าเราทำอะไรให้คนที่รักแล้วเขาพอใจมันเป็นอะไรที่มีความสุขมาก



“นึกไงมาทำแบบนี้”



“ก็ไม่นึกไง แค่อยากทำอะไรโรแมนติกๆบ้าง”



“เหอะๆ ไม่ต้องทำบ่อยนะ”



“ทำไม?”



“มันแปลกๆ ไม่ชิน”



“เขินก็บอกมา”



“.....”ไม่ตอบ ก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียว น่ารัก



“ไม่ต้องเอาไปเล่าให้ใครฟังนะ”



“ไม่เล่าหรอกเก็บไว้เป็นเรื่องที่รู้กันสองคนก็พอ”



“อือหึ”ผมรู้ว่าเขาเขิน ก็นะคนไม่เคยถูกทำแบบนี้ อีกอย่างเรื่องที่ผมทำในวันนี้ก็ไม่คิดจะบอกใครอยู่แล้ว



เราทานกันไปคุยกันไปส่วนมากก็เป็นเรื่องระหว่างที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน เรื่องที่น้ำน่านไปเที่ยวทะเล ค้างบ้านเพื่อนแล้วก็เรื่องตลกๆของเพื่อนแต่ละคน ทำให้ผมรู้จักเด็กกลุ่มนี้มากขึ้น ส่วนผมก็ไม่มีอะไรมากวันๆก็ทำแต่งาน



“ครั้งหน้าไปกับพี่มั้ย”



“ไปไหน ฝรั่งเศสอ่ะนะ”



“ใช่”



“เอาดิ ถ่ายรูปคงสวย”



“หึ ชอบถ่ายรูปขนาดนี้ไม่เรียนตรงไปเลยล่ะ”



“ไม่เอาอ่ะ ชอบออกแบบมากกว่า ส่วนถ่ายรูปแค่งานอดิเรกก็พอ”



“แล้วงานที่ไร่”



“งานที่ไร่เป็นหน้าที่ ไม่ได้ชอบแต่ก็ไม่ได้เกลียด แล้วก็คิดว่าจะทำให้ดีไม่แพ้สิ่งที่ชอบด้วย”



ผมชอบความคิดเขามากๆ เป็นเด็กที่มีความคิดดี เก่ง และลงมือทำจริงๆไม่ใช่แค่วาดฝันไว้ จะมีสักกี่คนที่อายุเท่านี้แล้วต้องรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่างและทำออกมาได้ดีขนาดนี้



“แล้วพี่อ่ะชอบงานบริหารหรืออกแบบมากกว่า”



“ก็ต้องออกแบบอยู่แล้ว แต่บริษัทพ่อแม่พี่สร้างมาพี่ก็ต้องสานต่อ”



“แล้วก็ทำได้ดีด้วยใช่มั้ยล่ะ”เรายิ้มให้กัน จะว่าไปแล้วเราทั้งคู่ก็มีอะไรที่คล้ายกันหลายอย่าง ผมดีใจที่ได้รู้จักและรักเขา



“อ่ะ กินเยอะๆ”



“พอแล้ว ตะ....เห้ย!”เขาร้องตกใจเมื่อสิ่งที่อยู่บนข้าวในจานไม่ใช่กับข้าวที่ผมทำ แต่เป็นสิ่งที่ผมอยากให้ น้ำน่านมองของในจานกับหน้าผมสลับกันไปมา ใบหน้าเริ่มมีสีเลือดนิดๆ ผมลุกขึ้นไปนั่งคุกเข่าอยู่ข้างเด็กแสบ ที่ไม่ยอมสบตายกมือขึ้นปิดปากเบือนหน้าหนีไปทางอื่น




“ทำบ้าอะไรของพี่วะ”




“แสดงความเป็นเจ้าของไง”ผมจับมือข้างซ้ายของเขาไว้พร้อมกับหยิบแหวนสีเงินเกลี้ยงแต่ด้านในสลักอักษรย่อชื่อเล่นของเราทั้งคู่ไว้ ใจจริงผมอยากออกแบบให้มีลูกเล่นมากกว่านี้ แต่ดูจากไลฟ์สไตล์ของผมกับน้ำน่านแล้ว แบบเรียบๆน่าจะเหมาะกว่า



“นี่หันมามองพี่หน่อย”



“ลงไปนั่งทำไมเนี่ย พี่อย่าทำแบบนี้ได้มั้ย”พอหันมาเห็นผมที่นั่งคุกเข่าข้างเดียวอยู่ เขาก็โวยวายด้วยความเขิน



“น้ำน่าน”ผมเรียกเขาด้วยน้ำเสียงจริงจังมั่นคง และเขาก็คงรับรู้ว่าผมไม่อยากให้เขาโยกโย้อิดออดอะไร จึงนั่งนิ่ง เม้มปากแน่น สายตาค่อยๆจับจ้องมาที่ผม ดวงตาคู่นั้นไหวระริก



“พี่รักน่านนะ”



“อืม...”



“คบกับพี่ไปนานๆนะ อยู่กับพี่ไปจนแก่จนเฒ่านะ”



“ก็ต้องดูความประพฤติกันไป”เล่นตัวอีกนะ



“พี่น่ะดีอยู่แล้ว เรานั่นแหละ อย่าให้จับได้นะ คราวนี้พี่จะไม่ปล่อยแต่จะอัดให้เละทั้งคู่เลย”




“แต่ถ้าจับไม่ได้ก็โอเคใช่ป่ะ”



“น่าน!”



“ล้อเล่น พี่ก็อย่านอกใจอ่ะ ไหนแหวนอีกวงอ่ะ มันต้องเป็นคู่แน่ๆ”เขาแบมือกระดิกนิ้วรัวๆ



“แสนรู้”



“จิ๊ งั้นไปใส่เองเลย”



“โอ๋ ใส่ให้พี่ก่อน”ผมหัวเราะ รีบหยิบแหวนอีกวงที่ใหญ่กว่าออกมา แหย่มากกว่านี้เดี๋ยวจะอด



“หึ ใส่ให้แล้วห้ามถอด ถ้าถอดถือว่าจบกัน”



“โหดจริง”



“แน่นอน นี่ไม่ได้มาเล่นๆ”



“ไม่เห็นบอกรักพี่เลย”



“ไปกินข้าวไป”



“น้ำน่านครับ”



“อย่ามาเซ้าซี้ได้มั้ย”นิ่งทั้งหน้าและน้ำเสียง เด็กบ้านี่จะยอมให้สักนิดก็ไม่ได้



“ใจร้ายกับพี่จังเลย”



เคร้ง!



“เก็บให้หน่อย”กวนประสาทจริงๆ เห็นๆอยู่ว่าจงใจทำช้อนตก เป็นการเปลี่ยนเรื่องที่น่าบีบคอนัก



“เดี๋ยวไปหยิบคันใหม่ อื้อ...!!!”



“น่ารำคาญ ทีนี้ไปกินต่อได้ยัง?”



“โอเคครับ แต่พี่ชักอิ่มๆแล้วสิ หึหึ”



“งั้นจะไปไหนก็ไปเลย”



ไอ้ตัวแสบเอ๊ย ถึงไม่ได้ยินคำบอกรัก แต่จูบหวานๆที่ได้มาก็ทำให้ผมอิ่มอกอิ่มใจ จนไม่นึกอยากอะไรอีก วันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขมากอีกวันหนึ่ง และขอให้สุขแบบนี้ไปทุกๆวัน







-------------------------------------------------


กรี๊ดดดดดดดด เอาพาร์ทพี่เดียวมาเสิร์ฟค่า สั้นหน่อย ตอนหน้าจะมายาวๆนะคะ 5555
ส่วนฉากนั้นก็นะ...แพนที่หัวเตียง ผ้าม่าน โคมไฟ อะไรก็ว่าไปค่ะ 555555555555555
คนที่เฝ้ารอก็ขอกระซิบบอกไว้ว่า วันพระไม่ได้มีหันเดียวค่ะ อิอิ เปล่าให้ความหวังน้าาา

เจอกันตอนหน้าค่ะ ฟิ้วววว  :hao7:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-11-2017 20:41:54 โดย phoenixes »

ออฟไลน์ Bradly

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
น้ำน่านน่ารักขึ้นเยอะเลย  :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบบบบบ   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

น่าน น่ารัก แพ้ทางเวลาพี่เดียวพูดเสียงอ่อน นุ่ม  :ling1: :ling1: :ling1:
พี่เดียว อบอุ่น รักน่าน หลงน่าน
พี่เดียว น่าน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

อยากอ่านพาร์ทน่าน ความรู้สึกเวลาอย่างนั้นกับพี่เดียวอ่ะ  :z3: :z3: :z3:
รอ nc ไม่ชอบมองเพดาน โคมไฟ ฯลฯ
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
หวานมากที่สุด  หวานๆๆ  ชอบจ้า
หวานเรื่อยๆ  ไปนะจ๊ะน้องน่าน  อิอิ
น้องน่านเขินน่ารักดีนะเนี่ย

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
มาแบบหวานๆ ตั้งรับแทบไม่ทัน น่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
หวานจุงงง

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
งุ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :impress2:

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ :)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
น่ารักทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ flyingploy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
หวานมากกกกเลยค่าาา

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
น่ำน่าน.... นู๋้ก้อหวานๆ กับพี่เค้ามั่ง

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
แลกแหวนแทนใจ น่ารัก หวานๆๆๆ เหม็นความรัก ชิ

ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
คิดถึงแล้วค่าาา เมื่อไหร่จะมา ฮื้อๆๆ

ออฟไลน์ aiirada

  • miKapleXD
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • [Premier Сasual Dating  Verified Females]
คิดถึงพี่เดียว น้องน้ำน่านเด้น้อ

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero




- 41 -





   ใครวะ?


   คนที่ยืนอยู่หน้ากระจกตอนนี้มันเป็นใครกัน นี่ตัวผมจริงใช่มั้ย ทำไมถึงยิ้มไม่หุบอย่างนี้ ดีใจอะไรนักหนากับแหวนวงเดียว ไอ้พี่เดียวแม่ง ทำไมต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย ผมรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลยเอาแต่จ้องตัวเองในกระจกห้องน้ำนานสองนาน ไม่กล้าออกไปเจอหน้าคนด้านนอก ยังรู้สึกขัดเขินกับเหตุการณ์ตอนค่ำ แล้วก็เรื่องเมื่อคืนด้วย ก็รู้ว่าต้องยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงนี้ให้ได้ แต่มันยากจริงๆ
แล้วตอนนี้ก็... โอ๊ยยยย ไม่อยากออกไปเลยยยย




ผมเกลียดสายตาไอ้พี่เดียวชะมัด ตั้งแต่ตื่นมามันก็มองผมด้วยตาแวววาว เวลาเข้าใกล้แล้วรู้สึกเหมือนจะถูกตะปบกินหัวกินหางยังไงก็ไม่รู้ เหมือนเสือเห็นเหยื่ออันโอชะ




   ก๊อก ก๊อก ก๊อก




   ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูที่เหมือนระฆังตีบอกว่าหมดเวลาพักต้องออกไปได้แล้ว ผมหันมองกระจกอีกครั้งเพื่อปรับสีหน้าตัวเองให้เรียบนิ่งเข้าไว้ อย่าให้ศัตรูล่วงรู้ความคิด ไม่อย่างนั้นจะโดนตีป้อมแตก เช็คสีหน้าตัวเองจนแน่ใจแล้วจึงค่อยๆเปิดประตู




   “ไร?”ทำเสียงแข็งเข้าข่ม




   “เห็นว่าเข้าไปนาน เป็นห่วงเฉยๆ”




   “ก็อาบน้ำนานเป็นปกติอยู่แล้ว”อย่างน้อยก็ครึ่งชั่วโมงอ่ะครับ ผมเดินจับนั่นนี่หน้ากระจก คิดไม่ออกว่าจะทำอะไรดี มือไม้มันเกะกะไปหมด เกลียดความรู้สึกสาวน้อยจับใจ แต่พี่เดียวมันก็ตามมาคลอเคลียจากด้านหลัง สองแขนโอบรอบเอวผมไว้ ลมหายใจอุ่นๆรินรดที่ใบหู




   “เหรอ นึกว่าเขินจนไม่อยากออกมา”



เกลียดคนรู้ทัน!




“ระดับนี้แล้วไม่มีคำว่าเขิน”




“ครับไม่เขินก็ไม่เขิน แค่หน้าแดงแล้วไม่ยอมสบตาพี่เลย”




ผมหันไปจ้องตาทันที แล้วก็รู้ตัวว่าพลาดเผลอเหยียบหลุมพลางที่อีกฝ่ายขุดไว้ ไอ้ที่แกล้งนิ่งข่มความเขินเอาไว้ พอได้สบตากำแพงก็ทลายลง หน้าร้อนวูบวาบไปกับสายตากรุ้มกริ่ม




“หึหึ น่ารัก”



ฟอด....หนึ่งทีเน้นๆที่แก้ม ได้แต่ยืนตัวแข็งให้อีกฝ่ายกินแก้มกินหู



“นอนกัน”



“นอนเฉยๆนะ”




“นอนกอด”



“แค่กอด”



“ขอจูบอีกนิดหน่อย”ได้คืบจะเอาศอก ได้ศอกไม่พอ เดี๋ยวจัดเข่าให้ซะเลย



“ไปนอนห้องแขกไป”




“หึหึ โอเค นอนกอดเฉยๆก็ได้ค้าบ”




ผมเผลอถอนหายใจเมื่อพี่เดียวผละออกไป ต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนถึงจะคุ้นเคยกับความใกล้ชิดขั้นลึกซึ้งนี้




พอล้มตัวลงนอนปุ๊บอีกฝ่ายก็เข้ามาประกบทันที ไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัวเลย รู้สึกได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่รัวเร็วขึ้น คนที่กอดผมอยู่ต้องรู้แน่ๆ




“พี่แค่กอดเองนะ ตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น”




“ตกใจต่างหากเล่า”ผมก็ไหลไปได้นั่นแหละ




“น้ำน่าน...คืนนี้ไม่ได้จริงเหรอ”เสียงกระซิบถามแผ่วเบาข้างหู



“อืม...เจ็บ”ยอมรับแบบแมนๆเลย ถ้าถูกซ้ำอีก สภาพคงไม่ต่างจากหมาถูกรถทับขาหลัง กูต้องเดินไม่ได้แน่ๆ



“พี่ขอโทษ”



“อือ”ผมก็เข้าใจดีนะ ในฐานะที่เป็นฝ่ายกระทำมาตลอด ของแบบนี้ให้ทำทุกวันก็ยังไหว ก่อนหน้าที่เคยนอนกับพวกกวางตัวน้อยทั้งหลายผมเองก็ใส่ไม่ยั้ง กลางคืนไม่พอต่อตอนเช้า ความรู้สึกตอนนั้นคืออยากทำไปเรื่อยๆเพราะมันปลดปล่อยได้แบบสุดๆ พี่เดียวมันก็เป็นผู้ชายวัยเจริญพันธุ์ที่ไม่เคยขัดสนเรื่องทำนองนี้ การที่มันอยากจะทำทุกครั้งที่มีโอกาสมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าคนที่มันอยากทำด้วยคือผมไง ซึ่งผมไม่ได้บอร์นทูบีมานะเฟ้ย ต้องให้เวลากันบ้าง




“อีกสองสามวันค่อยว่ากันใหม่”




“หะ?”




“นอนๆ”




“โอเคครับ นอนๆ เวลาจะได้ผ่านไปเร็วๆ หึหึ”




อยากจะย้อนเวลาเอาคำพูดเมื่อครู่กลับคืนมา ไม่น่าเปิดโอกาสเลย เปิดประตูรับข้าศึกเข้าบ้านเฉยเลย แต่เอาเถอะ ถึงเวลาค่อยว่ากันใหม่






X







เลขที่เปลี่ยนไปตามระดับชั้นที่ขึ้นสูงเรื่อยๆ เป็นสิ่งเดียวที่ผมโฟกัสอยู่ในตอนนี้ หลังจากที่แจ้งความจำนงแก่พนักงานต้อนรับด้านล่างว่าจะขอขึ้นมาชั้นบนสุดเพื่อพบท่านประธาน เธอก็มีสีหน้ากังขาทันที คงคิดว่าไอ้เด็กนี่มันบ้าหรือเปล่า เดินดุ่มๆเข้ามาเพื่อพบผู้บริหารระดับสูงแบบไม่มีหมายนัด ก็จะให้มีได้อย่างไร เมื่อผมเพิ่งได้รับคำสั่งจากท่านว่าให้มาหาที่ทำงานเพื่อนจะได้ออกไปทานข้าวเที่ยงด้วยกัน ก่อนที่มันจะต้องเดินทางไปจันทบุรีพรุ่งนี้ ส่วนเย็นนี้มันต้องไปงานเลี้ยงลูกค้า ซึ่งจะทำให้เราไม่ได้เจอกันอีกสองวัน ผมโอเคมากเลยนะที่จะไม่ได้เจอกัน สองวันก็แค่แป๊บเดียวแต่ไอ้พี่เดียวมันไม่คิดอย่างนั้น แถมยังขู่ด้วยว่าถ้าไม่มาหาตอนนี้ มันกลับมาเมื่อไหร่จะจัดหนักให้ผมลุกไม่ขึ้น ผมชั่งใจอยู่ว่าจะมาดีหรือไม่มาดี แต่สุดท้ายก็มากลัวมันบ้าทำขึ้นมาจริงๆ ผมนี่แหละที่จะลำบาก




พอผมมาถึงก็ต้องติดต่อด้านล่างตามปกติ แต่ติดที่ผมไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปหานี่แหละ ทำให้อดหงุดหงิดไม่ได้ให้มาหาแล้วไม่จัดการเคลียร์ทางให้ด้วย ต้องให้โทรไปโวยก่อนถึงได้ส่งเลขามันลงมารับ




 “ทางนี้ค่ะคุณชลธร”




“ขอบคุณครับ แต่พี่เรียกผมว่าน้ำน่านก็ได้ครับ”รู้สึกเกรงใจยังไม่รู้ เธอดูจะอ่อนน้อมถ่อนตนกับผมมาก ไม่รู้ว่าไอ้พี่เดียวมันบอกเธอไว้ว่ายังไงบ้าง ผมเคยเห็นตอนที่มาถ่ายรูปกับพี่ยศนะ และคิดว่าเธอเองก็น่าจะจำผมได้ด้วย ตอนที่ลงไปรับเมื่อครู่นี้ผมแอบเห็นว่าเธอมีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยก่อนจะปรับให้เป็นปกติ




“ไม่ได้หรอกค่ะ คนสำคัญของบอส”




“ว่าไงนะครับ?”เหมือนจะได้ยินไม่ถนัด แต่เธอก็ไม่พูดซ้ำ ทำแค่เพียงยิ้มให้และกดอินเตอร์คอมแจ้งคนด้านในว่าผมมาถึงแล้ว พี่เดียวไม่ได้ตอบอะไรกลับมาแต่เพียงแค่ไม่กี่วินาทีประตูห้องก็ถูกเปิดออกแล้วผมก็ถูกลากเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว




“โอ๊ย อะไรของพี่เนี่ย เดินเองได้ไม่ต้องลาก”เซหลุนๆเดินตามแรงควายของมันมา ขาขวิดกันเกือบจะล้ม




“มาช้า”




“รีบอะไรนักหนาเล่านี่ก็ยังไม่เที่ยงเลย”นี่ถือว่าเร็วแล้วนะ ผมอยู่ข้างนอกใกล้ๆกับออฟฟิศมันพอดีด้วย ตอนแรกกะว่าจะลากไอ้เต้ออกมาหาอะไรกินแก้เซ็ง แต่พี่ท่านก็มาเร่งๆให้ผมมาหาเสียก่อน




“อยากเจอหน้าไวๆ เมื่อวานก็ไม่ได้เจอกัน”เมื่อวานไอ้พี่เดียวมันกลับไปบ้านใหญ่ เห็นว่านัดทานข้าวกันครบทุกคน มันจะให้ผมไปด้วยแต่ผมก็ปฏิเสธมันไปแทบจะทันที ผมไม่พร้อม ยังไม่อยากเผชิญหน้ากับครอบครัวไอ้พี่เดียวมัน ขอให้อะไรๆมันลงตัวกว่านี้ก่อนดีกว่า




“บ้าบอว่ะพี่ ฟุ้งซ่านนักก็ไปทำงานไป ไหนว่างานเยอะ”




“หึหึ โอเค งั้นนั่งรอไปไปก่อนนะขอเวลาเคลียร์งานอีกครึ่งชั่วโมงแล้วเราค่อยไปกินข้าวกัน




พอสิ้นคำผมก็ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว เพราะไอ้พี่เดียวมันมีสมาธิกับงานมากผมก็ได้นั่งส่องนั่นนี่ในอินสตาแกรมไปพลางๆ มีสาวๆน่ารักเต็มไปหมด ไอ้เต้กับไอ้โอ๊คมันส่งมาให้ดู รอจนเกือบจะหลับไอ้พี่เดียวก็เรียกพอดี มันพาผมมากินข้าวร้านใกล้ๆออฟฟิศเป็นอาหารอิตาเลี่ยน รสชาติดีถูกปากพอสมควร ราคาก็โอเค การตกแต่งร้านก็เก๋ดี




“แล้วจะไปไหนต่อ ถ้าไม่ได้ไปไหนก็มานั่งเฝ้าพี่ทำงานมา”




“เรื่อง เฝ้าเพื่อ? เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า”




“เดี๋ยวก็ไม่ได้เจอกันตั้งสองวัน”




“พี่เป็นอะไรมากมั้ยเนี่ย”ผมก็ไม่ได้เอายาสเน่ห์อะไรให้กินนะ มันต้องบ้าแน่ๆที่ชอบมานัวเนียคลอเคลียและอยากอยู่ใกล้ชิดตลอดเวลา




“ก็ช่วงนี้พี่ไม่ค่อยมีเวลาให้ น่านว่างยังไม่เปิดเทอมก็มาอยู่กับพี่ดิ มาให้นั่งมองก็ยังดี”




“ประสาท อยากมองก็นั่งดูรูปไปดิ”




“มันเหมือนกันที่ไหนเล่า”




“พนักงานพี่รู้มั้ยเนี่ย ว่าท่านประธานบ้าบอแบบนี้”




“อะไรว้า ถ้าพี่ไม่มีเวลาให้ ไม่ได้เจอกันนานๆก็อย่ามางอแงก็แล้วกัน”




“เหอะๆ ไม่เจอกันเดือนนึงยังไหวอ่ะ”คิดว่าไหวนะ ถ้าไม่ไหวก็ค่อยว่ากันอีกที ฮ่าๆ




“ใจแข็งจริงๆ สรุปว่าวันนี้ก็จะไม่อยู่กับพี่ใช่มั้ย”




“ถ้าจะให้อยู่มีอะไรมาแลกเปลี่ยนมั้ยล่ะ”




“หัวใจพี่ไง”




“......”อยากจะคายอาหารกลางวันที่กินเข้าไปออกมาเสียจริง




“หึหึ อย่าทำหน้างั้นดิ”




“อายมั้ยเนี่ยที่พูดมา”ผมขำ ตัวมันเองก็ดูเหมือนจะรับไม่ค่อยได้เหมือนกันเหอะ




สุดท้ายผมก็มานั่งๆนอนๆอยู่ในห้องทำงานพี่มัน เพราะไม่รู้จะไปไหนเหมือนกัน ไม่มีอารมณ์ออกไปเที่ยวเล่นแล้ว ผมถ่ายรูปวิวจากหลังโต๊ะทำงานพี่เดียวอัปลงอินสตาแกรมของตัวเอง มีไอ้หมวยเข้ามากดไลค์คนแรก ช่วงนี้ผมก็ลืมมันไปเลย ไม่ได้ถามด้วยว่ามันกลับมาจากบ้านหรือยัง เพิ่งรู้ตัวว่าจริงๆแล้วขาดการติดต่อกับเพื่อนๆไปหลายคน ไอ้ธันว์ ไอ้คิม ส่วนไอ้พายเจอหน้ากันแค่แป๊บๆ ไม่มันก็ผมต้องออกไปข้างนอกไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ ไม่ได้การละ ต้องเรียกรวมพลก่อนจะเปิดเทอม




“กลับแล้วนะ”ผมลุกขึ้นบอกไอ้พี่เดียวที่นั่งจมอยู่กับเอกสารกองโตตลอดช่วงบ่าย




“รีบไปไหน อีกแป๊บพี่จะเลิกงานแล้ว”




“เลิกงานแต่ก็ไปงานเลี้ยงต่ออยู่ดีจะให้อยู่ต่อทำไมเนี่ย คุยก็ไม่ได้คุยกัน ไม่อยู่เล่า จะกลับ”




“โอเค กลับก็กลับ ไม่งอแงนะ”




“ใครงอแง”อะไรๆก็หาว่าผมงอแงทำเหมือนเป็นเด็กเล็กไปได้




“ไม่งอแงก็ได้ อยากได้อะไรเป็นของฝากมั้ย”




“ไม่เอาอ่ะ”ของฝากจากเมืองจันท์ที่บ้านผมยังมีอยู่เยอะแยะเลย




“แค่เดินทางปลอดภัยก็พอ”คำพูดผมคงถูกใจมันมาก ยิ้มปากจนจะฉีกถึงหู




“ขอบคุณครับ ไหนมาให้ชื่นใจก่อนสิ”




แล้วผมก็ต้องเสียจูบไปอีกหลายครั้ง กว่าจะถูกปล่อยตัวออกมาจากห้องได้กก็กินเวลาหลายนาที ก็ได้แต่คิดปลอบใจตัวเองว่าเสียจูบก็ยังดีกว่าเสียตัว ผมยังไม่อยากได้ประสบการณ์ใหม่ๆในห้องทำงานมันเหมือนกัน





X





บ้านผมกลายเป็นสถานที่ส่องสุมของบรรดาเหล่าเพื่อนชั่วทั้งหลายในวันถัดมา สมาชิกครบทีม ทั้งเพื่อนเก่า เพื่อนใหม่ ยกเว้นไอ้หมวยที่ยังกบดานอยู่ที่บ้านมัน แต่ไร้วี่แววขององค์รักษ์พิทักษ์หมวย เห็นมันบอกว่าพี่ไวท์ต้องไปต่างประเทศกับพ่อเรื่องงานอะไรสักอย่างทิ้งให้มันโดดเดี่ยวคนเดียว พอผมบอกว่าจะมีปาร์ตี้จัดหนักกันที่บ้านมันก็โทรมาโวยใส่ผมทันทีว่าไม่รอมัน สงสัยคงคิดถึงแสงสีจะแย่แล้ว อยู่บ้านมันก็เห็นแต่ต้นไม้ผลไม้




“อะไรเสร็จแล้วมั่งวะ กูหิวแล้วเนี่ย”ไอ้ธันว์โผล่หัวเข้ามาในครัว ขณะที่ผม ไอ้พาย ไอ้คิมกำลังทำอาหาร มีสั่งหมูกระทะมาสี่ชุด รอให้เขามาส่ง แล้วก็มีที่ทำเองอีกส่วนหนึ่ง ไอ้เต้ ไอ้โอ๊ค จัดสถานที่อยู่ริมสระ ไอ้โก้ ไอ้อ๊อด ไอ้อั้มที่เพิ่งเลิกกับแฟนก็มาแจมกำลังเดินทางกันมาอยู่พร้อมเครื่องดื่มอีกจำนวนหนึ่ง เพราะที่ผมเตรียมไว้น่าจะไม่พอในคืนนี้




“ยังไม่เสร็จสักอย่าง หิวมึงก็มาช่วยทำห่า ไม่ใช่กระดิกตีนรอกินอย่างเดียว”




“มึงนี่ขี้บ่นไม่เปลี่ยน ไหนจะให้ทำอะไร”




“เอาผักนี่ไปหั่นจัดใส่จาน คงไม่ยากเกินว่าที่วิศวกรอย่างมึงหรอกนะ”ไอ้พายมันกำลังเตรียมเครื่องสุกี้อยู่ สารพัดผักและเนื้อสัตว์กำลังถูกจัดเตรียม ส่วนผมทำพวกยำอยู่ ไอ้คิมทำประเภทต้ม แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน




“เออเชี่ย บ่นมากเดี๋ยวจับทำเมีย”




“เสียใจด้วยไอ้ธันว์ มึงช้า มีคนสอยไปแล้ว”




“ไอ้น่านเงียบไปเลยมึง”




“ไม่นานมันก็ต้องรู้บอกๆไป ทีเรื่องกู มึงนี่สาระแนนัก”




“เรื่องมึงมันน่าใส่ใจมากกว่าเรื่องของกูอยู่แล้ว”




“ตกลงมึงมีผัวใหม่แล้ว?”ไอ้ธันว์หันไปถามไอ้พาย มือมันก็หั่นผักไปด้วย มึงจะหั่นนิ้วตัวเองไปด้วยมั้ย



“แค่คุยเฉยๆ ผัวบ้าอะไรเล่า”




“อีกไม่นานก็ใช่ พวกมึงยังไม่เห็นออร์ดี้กันนี่หว่า”ลืมไปเลย ไอ้พายชอบขังหมาไว้ในห้องนอนมันเอง คืนไหนกลับมานอนบ้านก็เอาไอ้เตี้ยขึ้นไปนอนด้วย แต่ถ้าวันไหนอยู่ออร์ดี้มันอยู่กับผม ที่นอนมันคือบ้านหมาหลังเล็กตรงห้องซักล้างนั่นแหละ แต่มันเป็นหมาที่รู้เรื่องขับถ่ายเป็นที่




“ออร์ดี้??”




“หมาไอ้พายมัน สื่อรักแทนใจ”




“แค่คุยจริงๆใช่มั้ย”เห็นมั้ย ไอ้สองตัวนี้ก็สงสัยเหมือนผม




“จริงๆ ไม่หลอก”




“ใครวะ?”




“เอาไว้กูชัวร์ก่อนแล้วจะบอกพวกมึงแล้วกัน ไม่ได้คิดจะปิดอยู่แล้ว กูขอเวลาหน่อย”




“เออ ก่อนจะตัดสินใจอะไรลงไปอย่าลืมมาให้พวกกูสแกน”ไอ้คิมกำชับ มันไม่อยากเห็นไอ้พายเสียใจอีก พวกผมก็เหมือนกัน
ปาร์ตี้ของเราเริ่มขึ้นเกือบหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ทุกคนมากันครบแล้วก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง จัดกันทันที กินกันไปเรื่อยๆ พออิ่มข้าว ของคาวหมดก็เหลือแต่แอลกอฮอร์ล้วน บางคนก็โดดลงสระ เล่นน้ำกันจนกระเด็นขึ้นมาถึงที่ผมนั่งอยู่




“ถ้ามีสาวๆด้วยจะดีมากๆ อวบๆอึ๋มๆเหมือนพริตตี้มอเตอร์โชว์”




“เออ น่าสนใจ น่าโทรเรียกมาสักสามสี่คน”




“พริตตี้ไม่ใช่พิซซ่าโทรเรียกถึงมา”




“มึงไม่รู้อะไร กูเคยมาแล้ว เด็ดมากกูพูดเลย”




ผมส่ายหน้าให้ไอ้โอ๊คกับไอ้อ๊อดที่เข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย




“อยากมากมึงไปหาแดกกันข้างนอก ห้ามเอาเข้าบ้านกู”ผมปาน้ำแข็งใส่หัวพวกมันที่หันมาค้อนใส่แล้วลากกันไปอีกฝั่ง ปรึกษาหารือกัน ไม่แคล้วได้ลากกันออกไปหาของหวานกินกันแน่ๆ




ไม่ถึงเที่ยงคืนดีก็สลายตัวกันหมด ไอ้ธันว์กลับไปก่อนใคร เหมือนจะมีใครโทรตามคงไม่พ้นเด็กในสังกัด ไอ้โอ๊คอ๊อดจูงมือกันไปแพ็คคู่สงสัยจะได้เด็ก นอกนั้นก็ทยอยกันกลับ มีไอ้คิมที่อยู่ค้างมันนั่งดูหนังต่อกับไอ้พายข้างล่าง ผมง่วงแล้วเลยขึ้นมาอาบน้ำนอนเลยเพิ่งนึกได้ว่าเอาโทรศัพท์วางไว้บนเตียงแล้วก็ลืมมันไปเลย ไอ้พี่เดียวโทรมาเป็นสิบสาย ครั้งล่าสุดคือเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว มีข้อความไลน์บ่นมาอีกสิบข้อความ ผมขี้เกียจโทรไปมันอาจจะหลับแล้วเลยไลน์ไปบอกว่าลืมโทรศัพท์ไว้บนห้องพรุ่งนี้ค่อยคุย จากนั้นก็อาบน้ำเข้านอน




เช้ามาผมโทรไปหามันช่วงสายแต่ไม่รับก็เลยไม่ได้สนใจอีก คนงานเยอะบางทีก็น่าสงสาร กินนอนไม่ค่อยเป็นเวลา ไหนจะต้องเหนื่อยกับการเดินทางอีก ผมไม่รู้ว่ามันจะยุ่งแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน แต่ผมก็ไม่ได้อะไร ตอนนี้รู้สึกเฉยๆถ้าจะเจอกันบ้างไม่เจอกันบ้าง แต่บางครั้งก็ยอมรับว่าเหงานิดหน่อยแต่ก็พอมีกิจกรรมทำให้ลืมๆไปได้บ้าง




ไอ้พายตื่นมาก็ลากผมกับไอ้คิมไปห้าง มันจะไปตัดผมทำสีใหม่และทำทรีตเม้นท์หน้า แล้วบังคับให้ผมกับไอ้คิมไปทำเป็นเพื่อนมันด้วย มันบอกว่าไอ้คิมเรียนหนักหน้าโทรมเกินไป ส่วนผมต้องทำเอาไว้มัดใจผัว ผมนี่แทบอยากจะถีบมันตกบันไดเลื่อน 




ครั้งแรกกับการดูแลรักษาหน้าในร้านแบบนี้ก็รู้สึกดีเหมือนกัน มันสบายแล้วก็รู้สึกว่าผิวหน้าดีขึ้น เรตติ้งต้องพุ่งขึ้นแน่ๆ ไอ้คิมก็เหมือนจะพอใจนั่งส่องหน้าตัวอย่างใหญ่ หลังจากเสียเวลามาครึ่งค่อนวัน เราก็มาจบที่ร้านบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ผมนั่งเฉยๆให้ไอ้พายบริการ ระหว่างนั้นก็เล่นโทรศัพท์ เช็คอะไรไปเรื่อยเพราผมปิดเสียงปิดสั่นไว้ตอนที่ทำหน้าอยู่ น่าแปลกที่พี่เดียวมันไม่โทรมาเลย ปกติมันต้องหาเวลาโทรมาหยอดครั้งละนิดละหน่อย นี่มีแต่ไอ้หมวยที่โทรมาห้าสาย ผมเลยโทรกลับ




“มึงมีเรื่องอะไรวะโทรมาตั้งหลายครั้ง”




“ไม่ใช่เรื่องของกู แต่เป็นเรื่องของมึง กูช่างใจอยู่ว่าจะบอกมึงดีมั้ย แต่กูเพื่อนมึง กูอยากให้มึงรับรู้ไว้ แต่มึงต้องใจเย็นๆนะเว้ย”



“เรื่องเชี่ยอะไรของมึงเนี่ย”ทำเอาผมใจไม่ดีไปด้วย




“กูจะเล่า แต่มึงต้องใจเย็น”




“ว่ามา”



“เมื่อวานค่ำๆกูมางานเลี้ยงเป็นเพื่อนม๊าที่โรงแรม...ก็กินกันจนเกือบสี่ทุ่มอ่ะ ตอนจะกลับกูเจอพี่เดียว ตอนแรกไม่แน่ใจเพราะเห็นด้านข้าง แต่มีจังหวะหนึ่งพี่เขาหันมา กูเห็นหน้าตรงก็เลยมั่นใจ แต่เขาไม่เห็นกูหรอกนะ”




“อ้อ มันไปคุยงานที่นั่นอ่ะ พี่มันบอกอยู่เหมือนกัน น่าจะพักโรงแรมนั้นกูก็จำไม่ค่อยได้”



“เหรอ...เออ”




“เอ้า สรุปมึงจะบอกกูแค่ว่ามึงเจอพี่เดียวมันแค่นั้นเหรอ”




“ก็...มันไม่แค่นั้นว่ะ”




“เล่ามาให้หมด มึงจะเว้นช่วงทำเชี่ยไร”ไม่รู้ว่ามันไปเจออะไร แต่ใจผมตอนนี้มันเต้นรัวขึ้นมา เคยเป็นกันมั้ยครับที่มีคนเกริ่นมาขนาดนี้แล้ว แต่ยังไม่ถึงไคลแม็กซ์สักที เราก็ลุ้นไปเถอะ แน่นอนว่าเป็นไปในทางที่ไม่ดีสักเท่าไหร่



“กูเจอเขากลับเข้ามากับผู้หญิง แบบโอบประคองกันมา แล้วก็พากันขึ้นห้องกันไป”




“.......”ผมนิ่งกำลังประมวลผล และสำรวจอารมณ์ตัวเอง ไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไร เฉยๆ โกรธ ผิดหวังหรืออะไร ที่แน่ๆไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็พยายามรั้งสติตัวเองเอาไว้ บอกตัวเองว่ามันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้




“แล้วเมื่อสักชั่วโมงก่อนนี้กูมากินโต๊ะแชร์กับม๊าที่โรงแรมนี้เหมือนเดิม กูเจอพี่เขาลงมากับผู้หญิงคนเมื่อคืนพอดี ผู้หญิงดูท่าทางไม่ดี เดินประคองกันออกไปอีก”




“อืม”




“มึง ใจเย็นไว้ก่อนนะเว้ย ที่กูบอกคืออยากให้มึงรับรู้ แต่มันก็อาจจะไม่มีอะไรไปมากกว่าที่กูเห็นก็ได้ เขาอาจจะไม่ได้พักด้วยกัน ไม่ได้มีอะไรในกอไผ่ก็ได้ โอ๊ย กูว่ากูไม่ควรบอกมึงแต่แรกแล้ว”เหมือนมันจะสติแตกไปแล้ว




“มึงไม่ต้องคิดมาก มึงคิดทำถูกแล้ว มึงเป็นเพื่อนกู ขอบใจที่บอก สมมติว่าถ้ามันมีอะไรขึ้นมาจริงๆแล้วกูมารู้ทีหลังว่ามึงไม่บอกกู กูจะรู้สึกแย่มากๆ”




“อืม มึงจะไม่ทะเลาะกับพี่เขาใช่มั้ยวะ แต่กูว่าพี่เดียวไม่ใช่คนทำอะไรลับหลังมึงหรอก”




“แต่ซึ่งๆหน้าก็ไม่แน่ใช่มั้ย”



“เห้ย ไม่ใช่เว้ย มึงอ่ะ กูขอโทษ มึงอย่าคิดมากนะเว้ย”ขณะที่ไอ้หมวยมันคร่ำครวญไอ้พายกับไอ้คิมก็กลับมาที่โต๊ะพร้อมกับอาหารที่มันไปตักกันมา ทั้งสองคนมองหน้าผมแล้วขมวดคิ้ว สงสัยสีหน้าผมตอนนี้คงไม่ดี



“มึงจะขอโทษกูทำไม มึงนั่นแหละไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวกูกินข้าวก่อน แค่นี้นะ”



“ใครวะ?”



“ไอ้โฟม โทรมาปรึกษาเรื่องผัว”ผมบอกปัดไป ไม่อยากให้พวกมันมาเป็นห่วงด้วยเรื่องไร้สาระ




“หึหึ เดี๋ยวนี้มึงปรึกษาปัญหาผัวกันแล้วเหรอวะ พัฒนาไปไกลมาก”



“สัด กินๆไป”



ผมพยายามทำตัวให้ปกติ และบอกว่ามันคงไม่ได้มีอะไรหรอก แต่ในใจลึกๆแล้วก็อดคิดไม่ได้ และช่วงเวลาแบบนี้มันเป็นอะไรที่แย่มาก และผมก็ผ่านมันไปให้ได้ไวๆ ผมจะยังไม่ตัดสินใคร อยากให้ความยุติธรรมกับอีกฝ่ายก่อน แม้ว่าการจัดการกับความรู้สึกแย่ๆในตอนนี้จะเป็นเรื่องที่ยากมากก็ตาม




หลังจากกินเสร็จพวกผมสามคนก็แยกย้ายกันไป ไอ้คิมกับห้องมันขับรถมาเอง ส่วนไอ้พายมันจะไปหาคนของมัน แต่จะแวะมาส่งผมที่บ้านก่อนเพราะผมมาคันเดียวกับมัน แต่ผมไม่อยากให้มันขับวนไปมาให้เสียเวลาเลยโบกแท็กซี่กลับเอง พอถึงบ้านก็เจอออร์ดี้เสนอหน้าเข้ามาหา สงสัยจะหิว อาหารที่ไอ้พายให้ก่อนออกไปคงหมดแล้ว



“กินเก่งไปแล้วมึง ตัวใหญ่ขึ้นเยอะแล้วเนี่ย”บ่นไปก็เท่านั้นมันไม่รู้สึกอะไร ก้มหน้าก้มตากินอาหารเอาจมูกไถๆจนจานเลื่อนวนเป็นวงกลม



“เอาตีนจับดิว้า ทำไมมึงโง่”แต่ผมคงโง่กว่าที่มานั่งคุยกับหมาแบบนี้ ผมนั่งมองไอ้ตัวอ้วนกินอาหารจนอิ่ม ก่อนจะชวนมันออกไปวิ่งเล่นในสนามหญ้าหน้าบ้าน ตอนนี้ห้าโมงกว่าแล้ว เหลือแสงอีกนิดหน่อยก่อนจะหมดวัน ออร์ดี้วิ่งเล่นไปมา เอาจมูกดันดินเหมือนค้นหาอะไรสักอย่าง ก่อนจะวิ่งไปอีกที่แล้วทำแบบเดียวกัน ท่าทางร่าเริงดี ผมยิ้มให้กับภาพนั้น แต่ในใจกลับว่างเปล่า



ไม่ชอบเลย...




ที่ไม่อยากมีความรักก็แบบนี้ ไม่ชอบความรู้สึกที่ควบคุมไม่ได้แบบนี้



ครืด ครืด ครืด...



ผมสะดุ้งเมื่อโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่น คนที่ผมกำลังนึกถึงโทรมาพอดี ช่างใจอยู่ว่าจะรับดีหรือไม่ แต่ผมได้บอกกับตัวเองไว้แล้วว่าต้องให้ความยุติธรรมกับอีกฝ่ายก่อนจึงกดรับในที่สุด




“น่าน โทษทีที่เพิ่งโทรหา พอดีวันนี้พี่ยุ่งมากเลย”




“อือ ไปทำอะไรมาบ้างล่ะ”




“ก็คุยงานกับพวกเจ้าของบ่อพลอยอ่ะ แต่ทำคนเดียวเลยวุ่นๆ พอดีคุณทิชาฝ่ายจัดซื้อไม่สบายตั้งแต่เมื่อคืน แพ้อาหารทะเลที่ลูกค้าจัดเลี้ยง พาไปหาหมอแล้วกลับมาพักที่โรงแรม วันนี้พี่เลยให้เขาพักแล้วไปคุยงานเอง พอกลับมาตอนบ่ายเขายังอาการไม่ดีขึ้น แถมท้องเสียเพิ่มอีกเลยพาไปโรงพยาบาลอีกรอบ แล้วพี่ก็ต้องไปคุยงานต่ออีกที่เพิ่งเสร็จเนี่ย”




พี่เดียวมันร่ายยาวเหมือนเก็บกด เล่าเสร็จก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่เหมือนคนที่เหน้ดเหนื่อยมาก แต่ผมกลับยิ้มออกมา มันไม่ได้มีอะไรจริงๆสินะ ถ้าถามว่าผมเชื่อพี่เดียวมันมั้ย ผมเชื่อนะ ก็ผมยังไม่ทันได้ซักอะไร แล้วมันก็ไม่รู้ด้วยว่าผมไปรู้อะไรมา แต่มันกลับเล่าหมดและช่วงเวลาก็สอดคล้องกับที่ไอ้หมวยเล่า




 “หัวหมุนไปหมด เพราะมากับเขาแค่สองคน คุณอ้อมทำงานให้พี่อยู่ที่บริษัท เหนื่อยจัง”ท้ายประโยคฟังดูอ้อนๆยังไงไม่รู้




“ถ้าเหนื่อยก็หยุดบ่นสิ แล้วตอนนี้อยู่ไหน”




“อยู่โรงแรมเดี๋ยวจะไปอาบน้ำแล้วค่อยไปดูคุณทิชาที่โรงพยาบาลอีกรอบ พรุ่งนี้เช้าหมอบอกว่าให้ออกจากโรงพยาบาลได้”




“อืม ก็ดูแลเขาดีๆ งานเสร็จแล้วใช่มั้ย”




“ครับ พรุ่งนี้เช้าพี่ก็กลับแล้ว ใจจริงว่าจะกลับเย็นนี้เลยแต่คุณทิชาดันป่วยผิดแผนไปหมด ว่าจะรีบทำงานรีบกลับสักหน่อย”




“พรุ่งนี้ก็ได้กลับแล้ว ไม่ต้องขับรถตอนกลางคืนก็ดีแล้ว”บางทีมันควรมีคนขับรถส่วนตัวเหมือนผู้บริหารทั่วไปนะ เดินทางบ่อยแบบนี้ผมไม่อยากให้ขับรถเองเลย




“ก็อยากกลับไปนอนกอดแฟนนี่ครับ”




“กลับแล้วจะเข้าบริษัทเลยมั้ย”ผมไม่ใส่ใจคำออดอ้อนที่ทำให้หน้าร้อน




“อืม คงต้องแวะเข้าไปเซ็นเอกสารที่ค้างอยู่ พรุ่งนี้ว่างมั้ย มาหาพี่หน่อยสิสักเที่ยงๆ”อ้อนมาอีกระลอก




“ได้ เดี๋ยวไปหา”




“เอ๊ะ ทำไมว่าง่าย”



“ไม่ชอบหรือไง”



“อืมไม่ชอบ”



“..............”




“แต่รักเลย”




“หึ รักให้จริงเถอะ อย่าให้รู้ว่าไปมีคนอื่น หรือจับได้ว่าไม่ได้ไปทำงานแต่ไปกกอิหนูที่ไหนนะ”ผมแกล้งทำเสียงเข้ม




“ทำไมครับ น้ำน่านจะทำอะไรพี่”




“ไม่ทำหรอก แค่เลิก”เลิกจริงๆนะ ถ้าจับได้คาหนังคาเขา




“เดี๋ยวๆ มีอะไรหรือเปล่าเนี่ย ไม่ได้คิดว่ามีคนอื่นจริงๆใช่มั้ย”




“เปล่า”




“น้ำน่าน เชื่อใจพี่ได้นะ”มันปรับน้ำเสียงจริงจังทันที




“อืม ก็เชื่อใจอยู่”ยิ่งอยู่ห่างก็ต้องยิ่งเชื่อใจกันสินะ มันคือบททดสอบที่เราต้องผ่านไปให้ได้ เพื่อให้ความรักของเราแข็งแรงขึ้น




“คิดถึงนะ พี่จะรีบกลับไปหา”




“อืม รีบกลับมา”










คิดถึงเหมือนกัน


   
   






---------------------

เจอกันตอนหน้าค่ะ  :กอด1:
   


ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
หวีดดดดดดดด น้ำน่านกระทำอะไรซักอย่างออกมาให้เป็นกิจลักษณะให้พี่เดียวรับรู้เถอะว่าน่านรักเค้า ชั้นรู้สึกไม่มั่นคงกับความสัมพันธ์ของพวกเธอเลย กลัว ยังคงเห็นว่าหนทางรักของพวกเธอทั้งสองยังเป็นถนนดินลูกรังขรุขระ มีหลุมมีบ่อ มีแอ่งน้ำอยู่เลยหนูเอ้ยยย กลัวซักวันจะเหนื่อยที่จะข้ามหลุมข้ามบ่อจนยอมแพ้ซะก่อน เป็นคนแฟนกันมันก็ต้องปรับตัวเป็นเรื่องธรรมดาอยู่
่แล้วลูก คิดถึงใจอีกฝ่ายที่รักหนูให้มากๆ ใจเย็นๆ มีสติ ใตรตรองให้ดีนะลูกก่อนจะทำอะไรลงไป//ลูบมือปลอบ

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
เชื่อใจ  ท่องไว้นะน้ำน่าน  อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด