✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59  (อ่าน 244674 ครั้ง)

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
เธอหลงเค้าแล้วคนดี~ จนลืมไปว่าตรงนี้~ ยังมมีพี่ยักษ์อีกตน~ โว้ว~ โว้ว~ เย้~ เย้~

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
เราชอบชื่อนี้นะคะ แต่มณีสมุทรมันแปลกๆยังไงชอบกล

พี่ยักษ์เราน่าจะรุ้นี่ว่านางละเวงเป่ามนต์ใส่น้องมณี พี่ไม่แก้มนต์ให้หน่อยเหรอเคอะ -..--

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
อเลนจะปล้ำมณีเหรอ? อย่าบอกนะว่าอเลนเป็นสาวดุ้น! 55555

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
หรือว่ามนต์ตราจะคลายได้ก็ในวันที่ละเวงจะลงมือแก้แค้นกันคะ

ออฟไลน์ mimasopu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
มณีเอ้ยเอาสั้นๆนะ "โง่เตือนแล้วไม่ฟัง" ทีนี้ละเวงจะเอาไปทำอะไรต่อละเนี่ย
พาร์ทนี้สงสารพี่ยักษ์ คาดว่าเดี่ยวพี่ยักษ์ก็ต้องมาช่วยอีกนั่นแหละ
(อย่าเปลี่ยนชื่อเลยเราชอบชื่อนี้อะ)

ออฟไลน์ KoTo_Nat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ให้ธาราจับขังและข่มขืนเลย

หมั่นใส้ 55555 

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
ให้ธาราจับขังและข่มขืนเลย

หมั่นใส้ 55555

ใจเยนๆจ้าาาา
 :hao7:


ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ white_destiny

  • รักไม่เคยมีจริง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 873
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +378/-199
ธาราาช่วยด่วนนนน
 มณีแย่แล้ว :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
ธารามาเร็วววววววว

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1758
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
น่าลุ้นมาก ๆ รู้สึกมี
อะไรน่าค้นหา

ออฟไลน์ momoji

  • จะอ่านวายจนกว่าโลกจะแตก
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
พี่ธารา ช่วยน้องมณีด้วย :sad4:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
สมควรน่ะ ดื้อ ไม่หยุด

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
14740


** ชดใช้ครั้งที่ 12 คืนเดือนมืด **


   ในคืนเดือนมืดที่แสงจันทร์เหือดหายไร้ซึ่งแสงที่สาดส่อง ความมืดมิดได้ก่อตัวขึ้นหลังจากที่ตะวันลับขอบฟ้า

   แสงจันทร์ที่เคยอาบไล้ลงมาหายไปราวกับถูกความมืดแห่งรัตติกาลลักพาไปซ่อนเอาไว้ไม่ให้ใครได้พบเจอ


   ร่างสูงใหญ่นัยน์ตาสีดำสนิทปรากฏตัวขึ้นภายในห้องนอนของบ้านไม้สีขาวครีมสองชั้นแถบชานเมือง

   พร้อมกับร่างที่สูงใหญ่ไม่แพ้กันยืนอยู่เคียงข้าง

   “ท่านแน่ใจได้อย่างไรท่านอาว่าของที่ต้องมนต์ดำนั้นจักอยู่ภายในห้องของมณี”ร่างสูงใหญ่กว่าถามขึ้นภายใต้เงามืดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบยากที่จะเดาอารมณ์

   “อาแน่ใจ ภายในห้องนี้มีเงาดำมืดมิดกระจายไปทั่ว เจ้าจงค้นดูให้ดีเถิดธารา ก่อนที่คนในบ้านนี้จะมาเจอเรา”คนที่ถือศักดิ์เป็นอาพูดก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆห้องที่มีข้างของวางเกลื่อนกระจายอยู่เต็มไปหมด

   รวมถึงไวโอลินที่ทำจากไม้เนื้อเงาวางแน่นิ่งอยู่บนเตียง ทับกับกระดาษโน้ตเพลงที่เปิดทิ้งเอาไว้


   ...นี่คงจะเป็นโชคชะตา...


   ใบหน้าสะอาดเกลี้ยงเกลามีรอยเหี่ยวย่นประปรายบ่งบอกถึงช่วงวัยกลางคน หากแต่อายุขัยที่แท้จริงกลับสูงวัยยิ่งกว่าภาพลักษณ์ยืนมองสิ่งนั้นอย่างชั่งใจ

   “ใช่นี่หรือไม่ท่านอาวสิน”ธารายื่นกระดาษการ์ดลายกุหลาบสองใบยื่นให้แก่คนสูงวัยกว่า

   วินาทีที่ผู้สูงวัยที่คร่ำเคร่งในการภาวนาศีลปรายตามอง เงาดำที่ฟุ้งกระจายไปทั่ววัตถุแผ่นบางสองใบก็ปรากฏ

   “เผามันทิ้งเสียในคืนเดือนมืด คืนที่จันทร์ไร้แสง ลอยเด่นอยู่ตรงกลางฟ้า เช่นนั้นมนต์ดำจักคลาย รีบเร่งเข้า อีกไม่กี่เพลา จันทร์ก็จักตรงหัว”

   “แล้วมณีเล่า ท่านอา ข้าควรทำอย่างไร”ใบหน้าคมคายสมบุรุษถามผู้เป็นอาด้วยท่าทีเป็นกังวล

    “เจ้าจงไปชิงตัวอภัยมณีมา ไปก่อนที่แผนการของเราจะถูกขัดขวางโดยศัตรูที่กลับชาติมาเกิด”

   “แล้วของต้องมนต์นี่เล่า ท่านอาจะให้ข้าทำเช่นไร”

   “ข้าจักทำลายมันเอง”

   “งั้นข้าขอฝากไว้กับท่านด้วย ท่านอา”



***////***////***/////***/////***////***////***////***////***////***////***


   ผมรู้สึกตัวขึ้นมาด้วยความมึนงง แล้วกระพริบตาถี่ๆปรับข้ากับแสงสลัว ไอ้เหตุการณ์ที่ผมรู้สึกตัวขึ้นมาอีกทีโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนคงจะเป็นเรื่องปกติไปซะแล้ว

   สายตาพลางมองไปรอบรอบห้องนอน ที่ไม่คุ้นตาเอาซะเลย ผ้าห่มและผ้าปูเตียงเป็นสีชมพูหวานเข้ากับการตกแต่งห้องที่เน้นเป็นสีชมพูสวย

   ดูดูไปแล้ว การตกแต่งห้องแบบนี้คงจะไม่ใช่ห้องของผู้ชายหรอกมั้ง ถ้าจะให้ผมคิด

   เสียงน้ำกระทบลงบนพื้นเรียกให้ผมละสายตาไปมองยังประตูที่คาดว่าเป็นห้องน้ำถูกปิดเอาไว้

   แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงทำให้ผมมองไปที่ประตูห้องน้ำนั่นด้วยความสงสัย

   ไม่นานเสียงน้ำก็หยุดลง....

   แล้วนี่ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง...ที่นี่ที่ไหน...หลายครั้งแล้วที่ผมต้องตั้งคำถามเดิมๆซ้ำๆ และรู้สึกตัวขึ้นในที่ที่ไม่คุ้นเคย

   ทำไมชีวิตวัยรุ่นของผมมันต้องมีแต่เรื่องน่าสงสัยเข้ามาตลอด...

   แล้วทำไมผมถึงได้รู้สึกมึนหัว แล้วก็เหนื่อยเหมือนไปวิ่งมาราธอนมาทั้งวันอย่างนี้

   ร่างกายมันอ่อนแรงมันล้าจนรู้สึกว่ายากที่จะพยุงตัวให้ลุกขึ้นมา แม้แต่จะยันตัวขึ้นลุกยังทำได้ยากลำบาง

   
   จนสุดท้ายผมก็ถอดใจที่จะพยายามพยุงตัวขึ้นมา...ความรู้สึกว่าอ่อนล้าทำให้ผมนอนแผ่ราบลงไปกับเตียง

   ไม่นานแสงสว่างจ้าจากห้องน้ำก็สาดออกมาพร้อมกับประตูห้องน้ำที่เปิดออก

   ร่างสูงโปร่งในชุดคลุมอาบน้ำทำเอาหัวใจผมแทบหยุดเต้น

   ชุดคลุมอาบน้ำที่แทบจะหลุดออกจากไหล่ถูกใส่อย่างหมิ่นเหม่

   พะ...พี่อเลน

   
   ช่วงคอกับช่วงไหล่โผล่พ้นออกมาวับวับแวบๆทำเอาร่างกายของผมร้อนผ่าวอย่างบอกไม่ถูก

   มันไม่ใช่อารมณ์แบบวัยรุ่น แต่มันเป็นอารมณ์ตกใจมากกว่า

   ...ทำไมพี่เขาถึงอยู่ในสภาพนี้ล่ะ...

   “ตื่นแล้วเหรอ”เสียงลากยาวเหมือนยั่วยวนถาม พลางเดินก้าวขามาที่เตียงเผยให้เห็นเรียวขาอ่อนที่โผล่ออกมาเวลาที่สาบเสื้อเปิดออก

   ผมสะดุ้งเฮือกพยายามกระถดตัวหนี ทันทีที่พี่อเลนนั่งลงบนเตียง

   ความรู้สึกของผมมันรู้สึกแปลกไป ผมไม่ได้รู้สึกว่าอยากจะใกล้ชิดพี่อเลนเหมือนเก่า ผมรู้สึกโล่งใจแบบแปลกๆ มันรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นอิสระในแบบที่ผมไม่เข้าใจตั้งแต่ที่ผมลืมตาขึ้นมา ทำให้ผมถอยหนีพี่เขาเพื่อที่จะออกห่าง

   “ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”ผมถามไปงั้นๆ ทั้งที่คิดได้ว่าครั้งสุดท้ายผมดื่มน้ำส้มที่พี่เขาเอามาให้ผม

   ไม่อยากจะคิดเข้าข้างความหล่อของตัวเองเลยว่าพี่เขาวางยาในน้ำส้มให้ผมกิน

   “พอดีน้องมณีหลับไป...พี่ก็เลย...อุ้มขึ้นมา”พี่อเลนพูดพลางนั่งลง

    นิ้วเรียวยาวของพี่เขากรีดลงบนแผ่นอกที่เปลือยเปล่าของผมไปมาคล้ายหยอกล้อ

   แต่เดี๋ยวนะ!!

   ผมกำลังเปลือยงั้นเหรอ!!

   ผมเลิกผ้าห่มขึ้นแล้วก้มลงมองข้างใน    

   ไม่มี...ไม่มีแม้แต่กางเกงใน...นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย ผมกำลังแก้ผ้า

   แล้วใครจะเป็นคนแก้ผ้าผมล่ะ นอกจากพี่อเลน..งั้นพี่เขาก็เห็นมณีน้อยของผมแล้วสิ

   ผมเงยหน้ามองหน้าพี่อเลนตาค้าง...เหมือนพี่เขาจะเข้าใจความคิดผม

   เขาหัวเราะเบาเบา ดวงตาของเขากำลังเป็นประกายเจ้าเล่ห์ในแบบที่ผมเองก็อธิบายไม่ถูก

   แต่เดี๋ยวนะ...พี่เขาบอกว่าเขาอุ้มผมขึ้นมาอย่างนั้นเหรอ....

   มันจะเป็นไปได้ยังไง..นี่ผมตัวเบาขนาดให้ผู้หญิงอุ้มขึ้นมาบนห้องนอนได้ที่ไหนล่ะ

   บ้าไปแล้ว!!

   “มณีรู้ไหม ว่ามณีกวนใจพี่มานานมากเลยนะ”เสียงกระเส่าบอกผมพลางจ้องมองมาทำให้ผมขนลุก

   พลางนิ้วเรียวนาวของพี่อเลนลูบไปมาบนกรอบกน้าของผมทำเอาผมเกร็งจนตัวแข็งทื่อ

   ผมกำลังกลัว...ใช่เลย...ผมกำลังกลัวผู้หญิงอยู่

   ทำไมพี่เขาโรคจิตชะมัด…ความรู้สึกของผมตอนนี้มันต่างจากเก่า ทำให้ผมอยากจะตีตัวออกห่างจากพี่เขา

   “พะ พี่อเลนพูดอะไร ผมไม่เข้าใจเลย เอ่อ พี่เห็นเสื้อผ้าผมไหม คือ...ผม หนาวน่ะ”ผมตอบพลางยิ้มแหยๆ

   พยายามจะโยกหน้าหลบนิ้วเรียวกับเล็บยาวๆที่กรีดลงมาบนหน้าอย่างหวาดเสียว

   “มณีน่ะ เข้ามาอยู่ในฝันของพี่ ตั้งแต่พี่อายุครบสิบแปด ตั้งแต่นั้นมาแทบทุกคืน พี่ก็เอาแต่เห็นหน้ามณีอยู่ในฝัน เป็นอย่างนี้มาตลอด”

   พี่อเลนบอกเสียงเบาราวกับกระซิบ ทำให้ผมเงยหน้ามองพี่เอาแน่นิ่ง....นี่เขากำลังพูดถึงอะไร?

   “พี่..พูดเรื่องอะไร”ผมถามเสียงเบา

   รู้สึกว่าตกใจกับสิ่งที่พี่เขาพูดออกมา

   หมายความว่ายังไง ที่ว่าผมไปอยู่ในฝันของพี่เขา...นี่มันเรื่องบ้าใช่ไหม...เพราะอย่างนี้พี่อเลนถึงเข้ามาในชีวิตของผมรึเปล่า

   “พี่ฝันเห็นมณีแทบทุกคืน ตลอดเวลาสี่ปีที่ผ่านมา...รู้ไหมว่าพี่ทรมานมากแค่ไหนที่ต้องในเห็นคนคนเดียวที่ไม่เคยเจอหน้าซ้ำไปซ้ำมาตลอด”

   พี่อเลนพูดพร้อมกับมองมาที่หน้าผม มือของเขาไล้วนบนหน้าผมไปมาเหมือนกำลังสำรวจ

   ดวงตาของเขาตอนนี้มันดูน่ากลัวเหมือนพวกโรคจิตจนผมเองก็รู้สึกได้ ว่าใบหน้าที่สวยงามแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่ชวนขนลุก

   “พี่ยอมอยู่ที่นี่ก็เพื่อที่จะรอเจอกับมณี คนที่อยู่ในฝันพี่มาตลอด จนสุดท้ายที่ก็เจอ  ที่ท้ายหาดตอนที่พี่ไปนั่งดูพระอาทิตย์ตก พี่เห็นมณีเดินผ่านไป แวบแรกที่เห็น พี่รู้เลยว่าเป็นมณี ถึงแม้ว่าจะเห็นแค่ด้านหลัง”

   ด้วยน้ำเสียงราบเรียบยังคงพูดไม่หยุด ทั้งที่ยังไม่ละสายตาไปจากผม...สายตาที่จ้องมาทำให้ผมรู้ว่าพี่เขาไม่ได้โกหก

   ...แล้วทำไมเขาถึงฝันเห็นผมล่ะ...หรือว่าเขาจะเป็นคนที่กลับชาติมาเกิดเหมือนผม

    จริงสิ...เขาอาจจะเป็นละเวงกลับชาติมาเกิด

   เพราะพี่เขาเคยบอกว่าชื่อไทยเขาชื่อละเวง...ผมไม่ได้คิดไปเองใช่ไหม....เหมือนกับชื่อผม...อภัยมณี

   “พี่..เอ่อ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้พี่เข้ามาหาผมอย่างนั้นเหรอ”

   ผมถามออกไป...ถ้าพี่อเลนคือละเวงกลับชาติมาเกิดจริง..ผมคงจะถูกตามล้างแค้น...และคงจะต้องชดใช้หนี้แบบที่พี่ธาราเคยบอก
   “ใช่...พี่ทนไม่ได้กับการที่ฝันเห็นใครที่ไม่เคยเห็นหน้าซ้ำไปซ้ำมา”

   “ผมขอโทษ”ผมพูดออกไป ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร แต่ก็รู้สึกผิด

   “มณีไม่ต้องขอโทษพี่หรอก...ตั้งแต่วันนี้ไป ฝันของพี่ก็จะกลายเป็นจริง...ในที่สุด พี่ก็ได้มณีมาครอบครองสักที..ต่อจากนี้ไป มณีจะมีตัวตนทั้งในความฝันและในความจริงของพี่”

   สิ้นเสียงพูดของ  ริมฝีปากเล็กก็จูบลงมาบนหน้าฝากของผม พี่อเลนจูบไล่ลงมาเรื่อยๆตามสันจมูกของผม จนมาถึงปลายจมูก และกำลังจะจรดลง บนริมฝีปากของผม

   แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ!!

   ผมดันพี่ออกพี่เขาออก..

   แต่เดี๋ยวนะ!!...

   ทำไมหน้าอกแบน แถมแข็งๆแบบแปลกๆ หรือว่าผมจะคิดไปเอง...แต่นี่ผมกำลังจับหน้าอกพี่เขา

   ผมสะดุ้งชักมือกลับออกมาทันทีพลางหน้าแดง...ทำให้พี่อเลนหัวเราะเบาเบา

   ผ้าห่มผืนใหญ่ถูกกระชากออกจากตัวผม ทำให้ตอนนี้ผมไม่มีอะไรปกปิดร่างกาย...

   ผมคว้ามือสองข้างปิดส่วนสำคัญเอาไว้ทั้งหน้าที่กำลังแดงก่ำ

   ร่างสูงโปร่งของพี่อเลนเคลื่อนขึ้นมาทาบทับ ใบหน้าสวยหวานกำลังฉายแววเจ้าเล่ห์ทำให้ผมยิ่งหน้าแดงหนักเข้าไปอีก

   ผมไม่ได้ต้องการแบบนี้....ไม่ได้อยากมีอะไรกับพี่เขา โดยที่ผมไม่เต็มใจอย่างนี้

   นี่ผมกำลังถูกผู้หญิงปลุกปล้ำอยู่อย่างนั้นเหรอ....ถ้ารู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น

   “พะ พี่อเลน ผมว่า เอ่อ พี่กำลังอยู่ผิดที่”ผมพูดอ้อมแอ้มเมื่อเสื้อคลุมของพี่อเลนกำลังเลื่อนหลุด

   ผมรีบเงยหน้าหนี หัวใจของผมเต้นแรง ผมเกือบจะเห็นหน้าอกของพี่เขาแล้ว..

   ผมยกมือขึ้นดันไหล่ของเขาให้ออกห่าง แต่เรี่ยวแรงของผมมันมีน้อยเต็มตน จากความรู้สึกที่เหนื่อยล้าราวกับผ่านการออกแรงมามาก

   “ไม่ต้องอายหรอกน่า..พี่จะไม่ทำให้มณีเจ็บ พี่สัญญา..”เสียงหวานกระซิบข้างหู

   ตอนนี้ตัวผมกำลังสั่น ผมหลับตาสนิท รู้สึกได้ว่าพี่อเลนกำลังขยับตัวเพื่อถอดเสื้อคลุมออก

   ถ้าพี่เขาถอดเสื้อคลุมออกก็หมายความว่า....เราสองคนกำลังแก้ผ้า

   นี่เรากำลังจะ...กันจริงๆเหรอ

   ไม่นะ ชีวิตวัยรุ่นของผมผมต้องเป็นคนนำสิ...แล้วอะไรกับไอ้คำพูดที่บอกว่าจะไม่ทำให้ผมเจ็บ ผมไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์นะเออ

   “น่ารักจังเลยน้า มณีเนี่ย”

   ผมรู้สึกได้ว่ามือของพี่อเลนกำลังลูบไล้อยู่ทั่วตัว แล้วไปหยุดอยู่ตรงบั้นเอว

   มือนั้นค่อยๆวนไปที่ท้องน้อย...สะดือของผมถูกเกลี่ยเล่นเบาเบาอย่างหยอกล้อ

   ผมกำลังจะขาดใจอยู่แล้ว มันรู้สึกหวิว..รู้สึกว่ามันขนลุกไปทั้งตัว...แต่เหนือสิ่งอื่นใด

   ...ผมกำลังกลัว และกังวล

   มันต่างจากสัมผัสของใครอีกคน สัมผัสที่ดุดัน...แต่เต็มไปด้วยความรู้สึก..ต่างจากตอนนี้ลิบลับ

   “พะ พี่อเลน คือผม...ยัง..”

   “จุ๊ จุ๊ ถ้าพูดมากจะเป็นเด็กไม่ดีนะ รู้ไหม”คำพูดของผมถูกยุดเอาไว้ด้วยนิ้วเดียวนิ้วเดียวที่ยกขึ้นมาจรดปากผม

   รอยยิ้มเหยียดบนริมฝีปากเล็ก ทำให้ผมนึกหวั่น ขาของผมถูกจับให้อ้ากว้างตามด้วยลำตัวของพี่อเลนเข้ามาแทรกระหว่างกลาง
   แต่เดี๋ยว!!ผมกำลังอ้าขาโดนที่พี่เขาแทรกกลางอย่างนั้นเหรอ!?

   ผมก้มลงไปมองเบื้องล่างทันที...ไอ้ความรู้สึกร้อนๆเหมือนมีอะไรมาดุนดันอยู่ตรงโคนขาทำให้ผมเริ่มสังหรณ์ใจอะไรแปลกๆ
   แล้วก็เป็นอย่างที่คิด...ดุ้นอันเบ้อเริ้มกำลังถูไถกับต้นขาของผมอยู่

   ผมเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าสวยหวานของพี่อเลนทันที

   แล้วพี่เขาก็กำลังยิ้ม ยิ้มแบบกำลังขบขัน เหมือนเป็นเรื่องตลก

   “พะ พะ พี่...ผู้ชาย”ผมพูดขึ้นอย่างตกใจ

   “อื้อ..แปลกใจเหรอ”พี่อเลนยิ้ม ดวงตาเป็นประกาย

   นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย!!

   ยังไม่ทันที่ผมจะโวยวายดี ขาของผมก็ถูกจับให้อ้ากว้างยิ่งกว่าเก่า

   “เดี๋ยวสิ เฮ้ย...ไม่ได้นะพี่..ผมไม่ใช่..”

   ผมพยายามดิ้นทั้งที่อ่อนแรง เรื่องราวมันกลับตาลปัตรไปหมด ยังไงผมก็จะถูกทะลวงเหมืองทองจริงๆใช่ไหม

   ทั้งพี่ธารา ทั้งพี่อเลน...เป็นอะไรกันไปหมด


   ปัง!!!!!!!

   เสียงประตูดังขึ้นทำให้ผมและพี่อเลนสะดุ้งหันไปมองประตูที่เปิดค้าง



   “พี่ธารา!”ผมพูดเสียงเบาเมื่อเห็นพี่ธาราปรากฏตัวอยู่หน้าประตู

   ดวงตาสีดำสนิททอประกายสีเขียววาวโรจน์ทันทีที่เห็นผมกับพี่อเลนในสภาพที่ล่อแหลมขนาดนี้

   ร่างสูงใหญ่ตรงมาที่เราสองคนก่อนที่พี่ธาราจะกระชากร่างสูงโปร่งของพี่อเลนแล้วเหวี่ยงลงไปที่มุมห้อง

   ร่างของสูงโปร่งไร้อาภรณ์กระแทกตัวเข้ากับกำแพงอย่างแรงก่อนจะตกลงกองลงกับพื้น

   ทำให้ผมเห็นพี่อเลนชัดเจนกว่าเก่า ร่างสูงโปร่งของเขากับหัวไหล่มนที่กว้างกว่าผู้หญิงทั่วไปเล็กน้อยกับช่วงเอวคอดที่พอดีตัวโปร่งบาง

   อีกทั้งยังดุ้นอันใหญ่นั่นอีกที่ทำให้ผมเหวอ...เป็นผู้ชายที่สวยจนผมดูไม่รู้เลยสักนิด

   พี่อเลนยันตัวขึ้นนั่งชันเข่าข้างหนึ่งโดยไม่อายพร้อมกับเช็ดเลือดที่ไหลลงมาจากมุมปากพร้อมกับแสยะยิ้ม

   โดยที่ผมรีบคว้าผ้าห่มมาคลุมท่อนล่างเอาไว้

   “เป็นอย่างที่คิด....กะแล้วว่าต้องมีเจ้าของ น่าเสียดายจริงๆหึหึ”เสียงหวานแปรเปลี่ยนเป็นเสียงแหบทุ้มพูดประชดพลางมองหน้าพี่ธาราด้วยท่าทีเยาะเย้ยทั้งที่กำลังเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

   “อย่าพูดมากความ!!”พี่ธาราตวาดพลางเดินเข้าหาพี่อเลนที่นั่งกองอยู่ที่พื้น

   ด้วยท่าทีที่กำลังโกรธ บางทีพี่เขาอาจจะทำร้ายพี่อเลนก็เป็นได้

   แต่ให้ผมคิดอีกทีถ้าไม่นับรวมกับที่พี่อเลนพยายามยิงประตูผมทั้งที่ผมไม่ยินยอม...ผมคิดว่าสิ่งที่พี่เขาทำก็ไม่ได้ผิดอะไรมากมาย

   เขาทำเพียงเพราะผมไปปรากฏตัวหลอกหลอนอยู่ในฝันของเขาก็แค่นั้น...ผมเองก็มีส่วนผิด ที่ชาติที่แล้วผมไปทำร้ายจิตใจเขาเอาไว้

   “พี่ธารา... อย่าทำพี่เขาเลย ผมขอร้อง”ผมเรียกพี่ธาราเอาไว้ก่อนที่พี่เขาจะลงมือทำร้ายพี่อเลนไปมากกว่านี้

   ไม่ใช่ว่าผมสงสารหรือว่าพระเอกอะไร แต่ว่า...

   ผมไม่ต้องการที่จะจบเรื่องด้วยการทำร้ายกัน...มันจะกลายเป็นเวรกรรมที่ไม่มีที่สิ้นสุด

   ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันอาจจะเป็นผลกรรมที่พี่เขากับผมทำร่วมกันมา

   “มั่นใจได้อย่างไร หากจะปล่อยเจ้านี่ไป”พี่ธาราหันมาถามผมด้วยแววตาขุ่นเคืองก่อนสะหันกลับไปมองพี่อเนที่นั่งพิงร่างกับผนังห้องอย่างหมดสภาพ

   “ผมไม่อยากให้ทำร้ายพี่เขา มันจะเกิดเวรกรรมกันไม่สิ้นสุด ผมอยากจะให้มันจบลงแค่เวลานี้...อยากให้เลิกแล้วต่อกันด้วยดี”
   ผมบอกพลางเหลือบมองพี่อเลนที่จ้องมองมาที่ผมด้วยแววตาที่อ่อนลง

   “ในที่สุดเจ้าของก็มาตามเอาของคืน  เราคงทำกรรมด้วยกันมาน้อยไปละมั้ง”พี่อเลนพูดพลางหัวเราะ

   “ผมแค่อยากให้เราเลิกแล้วต่อกันด้วยดี ผมจะไม่เอาเรื่องพี่ ถ้าพี่สัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้กับผมอีก”

   “คงจะไม่อยู่ทำหรอกนะ อาทิตย์หน้าพี่ต้องบินกลับไปที่นิวเจอซีแล้ว...เวลาตามหาคนในฝันของพี่มันหมดลงแล้วล่ะ ในที่สุดก็ได้เจอตัวสักที ต่อไปนี้พี่คงจะนอนหลับสบายโดยที่ไม่มีใครมารบกวน”ใบหน้าสวยหวานยิ้มออกมา

   คำพูดที่แสดงออกถึงความจริงใจทำให้ผมรู้สึกโล่งอก

   “นายทำลายเสน่ห์ที่ทำเอาไว้แล้วสินะ”พี่อเลนหันไปถามพี่ธารา

   ทำให้ผมนึกสงสัยขึ้นมาทันที

   เสน่ห์อะไร?

   ทำไมพี่ธาราถึงได้แค่พยักหน้าตอบรับ

   “พี่อเลน...เสน่ห์อะไร ผมไม่เข้าใจ”ผมถามกลับบ้าง

   “ดูเหมือนจะซื่อจนไม่รู้อะไรเลยสินะ...ไม่รู้ต่อไปน่ะแหละดีแล้ว”

   “ไหงงั้นล่ะ”ผมแย้งขึ้นมา เพราะว่าไม่ได้คำตอบที่ต้องการ

   “พี่จะคิดเอาเองนะว่ามณียกโทษให้พี่”พี่อเลนบอกเสียงเรียบ

   “ผม...ผมไม่ได้โกรธพี่สักหน่อย...เพียงแค่ ผมไม่ต้องการให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ผมเองก็ไม่ได้เป็นอะไร”ผมพูด

   รู้สึกได้ว่าพี่ธารากำลังจะจ้องมองผมเขม็งเหมือนกับจะโกรธผมอยู่ไม่น้อย

   สิ่งที่ผมทำเอาไว้ตอนก่อนหน้าทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าพูดไม่ดีเอาไว้กับพี่เขาเยอะ ความเอาแต่ใจและอารมณ์ที่ไม่ควรที่ผมแสดงเอาไว้ทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมา

   แต่ผมก็ยอมรับว่าดีใจที่พี่ธาราโผล่มาในตอนที่ผมกำลังต้องการความช่วยเหลือ...เหมือนกับตอนนั้น ตอนที่ผมกำลังจะถูกรถชน


***////***////***/////***/////***/////***/////***/////***/////***/////***/////***/////***


มีต่อนะจร๊ะ รอแปบนุง

   เอาแฟนเพจมาแปะจ้า พึงจะมี เอาไว้ทวงนิยาย อัพเดทนิยาย ฝากไว้ด้วยนะคร้า

แฟนเพจของโซอึนจ้า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-10-2015 01:04:00 โดย โซ อึน »

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
ต่อกันเลย

“พะ พะ พี่จะพาผมไปไหน”ผมถามเสียงสั่นหลังจากถูกโยนขึ้นมาบนที่นั่งข้างคนขับโดยไม่ออมแรงเลยสักนิด

   เสี้ยวหน้าหล่อคมคายภายใต้แสงสะท้อนของไฟถนนทำให้ผมจ้องมองอย่างรู้สึกผิด

   พอรู้สึกตัวว่าผิดมันก็สายไปแล้ว ผมใส่พี่เขาซะเต็มที่ในตอนก่อนหน้าที่ผ่านๆมา

   ทั้งด่า ทั้งว่า ทั้งไล่ ทั้งสะบัด ทั้งทุบทั้งตี สารพัด ต่างๆนานาที่ผมคิดว่ามันเลวร้ายมาก

   “เอ่อ นี่ไม่ใช่ทางไปบ้านผม น่ะ คือ เผื่อพี่จะจำไม่ได้”ผมพูดเสียงแผ่วหลังจากปลายสายไม่มีเสียงตอบรับ

   มีเพียงความเงียบที่เข้าปกคลุมภายในรถสปอร์ตคันหรูที่นั่งได้เพียงแค่สองคน

   “เจ้ากลับบ้านทั้งสภาพนี้ไม่ได้หรอก พ่อแม่ของเจ้าคงจะสงสัยแน่”

   ในที่สุดพี่ธาราก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

   จริงสิ..ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในสภาพผ้าห่มผืนสีชมพูหวานแหววคลุมร่างกายโดยที่ภายในไม่ได้สวมใส่อะไรเลย

   ก็อะไรซะอีกถ้าพี่อเลนไม่ได้บอกว่าทิ้งเสื้อผ้าของผมไปหมดแล้ว กันผมหนี...ทำให้ผมต้องอยู่ในสภาพดักแด้แบบนี้

   ว่าแต่พี่ธาราจะพาผมไปไหน...อย่างนี้ผมรู้สึกว่ามันล่อแหลมชะมัด

   ถ้าเกิดว่าพี่เขาคิดจะทำอะไรผมขึ้นมาอีกคนผมก็แย่น่ะสิ...

   ผมไม่อยากจะคิดเลยว่า บรรดาเมียที่เหลืออีกสามคนของพระอภัยมณีจากชาติที่แล้วจะเวียนมาเกิดกันครบรึเปล่า

   ไม่งั้นผมคงต้องเจอเรื่องวุ่นๆอีกแน่...แค่พี่อเลนคนเดียวก็ทำเอาผมป่วนมากพ่อแล้ว

   ไหนจะพ่อกับเพื่อนๆที่ผมเมินในระหว่างที่ผมอยู่ในช่วงหลงพี่อเลนอีก

   ผมคงต้องไปขอโทษพวกเขาอีกยาวที่ทำเมินใส่กันแบบนั้น



   ในที่สุดพี่ธาราก็ขับรถเข้ามาจอดภายในตัวบ้านหลังใหญ่ที่ผมเคยมาแล้วหลายรอบ แต่ก็ไม่รู้สึกคุ้นเคยสักที

   “คือว่า ผมต้องนอนที่นี่จริงๆเหรอ”ผมถามเสียงแผ่ว

   ครั้งที่แล้วที่นอนที่นี่ ผมเกือบจะโดนพี่ธาราบังคับให้เป็นเมียโดยไม่จำยอม ดีที่พี่เขาหยุด ไม่งั้นผมคงเสียเอกราชให้พี่ไปแล้ว

   “วางใจได้ คืนนี้คืนเดือนมืด ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก”

   พี่ธาราบอกก่อนจะเปิดประตูลงจากรถแล้วอ้อมมาเปิดฝั่งผมบ้าง

   ผมเงยหน้ามองพี่ธาราพลางกระชับผ้าห่มที่คลุมกายแน่น

   จะเชื่อได้จริงเหรอ.....

   “เดี๋ยวสิ ผมเดินเองได้”ผมคัดค้านทันทีที่จะโดดอุ้มขึ้นพาดบ่าอีกรอบ

   นี่ตัวผมเบาขนาดนั้นเลยรึยังไง ทั้งพี่อเลนและพี่ธาราถึงได้อุ้มผมโยนกันเป็นว่าเล่น

   “เจ้าเดินเองไม่ไหวหรอก มณี ถ้าไม่เชื่อเจ้าก็ลองดูก็ได้”พี่ธาราถอยออกไปหนึ่งก้าวก่อนจะยักไหล่

   “ผมเดินเองได้หรอกน่า”ผมบอกเสียงเบาพลางลุกขึ้นยืน

   แต่เหมือนกับโชคชะตาเล่นตลกให้ผมเสียฟอร์ม ดันสวมบทนางเอกในละครน้ำเน่าซะงั้น

   ทันทีที่เท้าที่สองแตะพื้น ร่างทั้งร่างมันก็โงนเงนไร้แรงพยุง ดีที่อ้อมกอดแข็งแรงคว้าผมเอาไว้ก่อนจะอุ้มผมขึ้นพาดบ่าอย่างง่ายดาย

   เดี๋ยวสิ ทำไมร่างกายผมถึงไม่มีเรี่ยวแรงอย่างนี้...พี่ธาราใช้คาถากับผมอีกแล้วใช่ไหม

   “พี่ทำอะไรกับผม ทำไมผมถึงไม่มีแรงล่ะ”ผมว่าพลางทิ้งตัวอย่างไร้เรี่ยวแรงหัวสั่นครอนตามแรงเดินของพี่ธารา

   “ข้าไม่ได้ทำ มันเป็นผลข้างเคียงของมนต์ดำที่เจ้าโดนเข้าไป”

   “มนต์ดำอะไร”

   ผมไปโดนมนต์ดำตอนไหน...ไม่เห็นจะรู้เรื่อง

   “เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้...คืนนี้เจ้าพักผ่อนไปก่อน วันพรุ่งข้าจะไปส่งเจ้าที่บ้านเอง”

   “พูดอย่างกับผมเป็นเด็กไปได้...ไอ้ยักษ์บ้า”ผมบ่นเสียงเบา ไม่วายแอบเหน็บตอนท้ายด้วยความที่หมั่นไส้ในความไร้อารมณ์ของพี่ธารา
   “ข้าได้ยิน”พี่ธาราพูดขัดทำเอาผมสะดุ้ง

   นอกจากจะเย็นชา ขี้มึนแล้วยังหูดีอีก


   ในที่สุดผมก็ถูกเอามาโยนไว้บนเตียง โดยที่ไม่ผ่อนแรงเลยสักนิด ทำเอาทั้งจุกทั้งเจ็บ

   ดูจากใบหน้าที่เฉยเมยกับการประหยัดคำพูดของเขาแล้ว ดูท่าพี่ธาราคงจะโกรธผม

   ...หรือว่าผมคิดไปเอง..

   ผมนอนมองพี่ธาราหายเข้าไปในห้องน้ำ สักพักก็ได้ยินเสียงน้ำดังออกมา

   ว่าแต่...นี่ไม่ใช่ห้องนอนที่ผมเคยนอนเมื่อครั้งที่แล้ว

   พอนึกได้ว่าครั้งที่แล้วผมเล่นอาละวาดซะเละก็เริ่มละอายใจขึ้นมา...ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมก้าวร้าวได้ขนาดนั้น


   ไม่นานเสียงน้ำก็หยุดลงพร้อมกับพี่ธาราที่ออกมาจากห้องน้ำในสภาพกางเกงนอนขายาวตัวเดียวพร้อมกับกะละมังขนาดย่อมกับผ้าขนหนูผืนเล็ก

   ร่างสูงใหญ่ที่อวดมัดกล้ามแน่นขนันสมชายกับแผ่นอกเต่งตึงทำให้ผมกลืนน้ำลายลงคอเบาเบา

   “พี่ จะทำอะไรน่ะ”ผมถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเอามาเช็ดตัว

   หน้าของพี่ธารายังไม่คงหายมึนตึงกับผมสักที

   มือใหญ่บรรจงชุบน้ำกับผ้าเช็ดตัวในน้ำอุ่นก่อนจะบิดมันหมาดน้ำ โดยไร้คำตอบในคำถามที่ผมถามไป

   “ผะ ผมเช็ดเองได้น่า ไม่ได้ง่อยสักหน่อย”ผมว่าพลางเบี่ยงหน้าหลบผ้าขนหนู

   “งั้นก็ตามใจเจ้า”

   พี่ธาราบอกแล้วยื่นผ้าขนหนูใส่มือผม...ว่าแต่ทำไม พี่เขาถึงได้นั่งจ้องผมอยู่ข้างๆไม่ไปไหนล่ะ

   จะบอกให้ออกไปก็กระไรอยู่ เพราะนี่มันบ้านเขา

   ทำให้ผมจำใจคลายผ้าห่มที่พันตัวออกเผยเห็นเห็นร่างกายสมส่วนตามภาษาวัยรุ่น

   ผมเช็ดตัวไปพลางรู้สึกร้อนวูบแบบแปลกๆเมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกสายตาคู่คมกร้าวจ้องมองผมอยู่ไม่วางตา

   ผมกำลังประหม่าได้จากมือที่พยายามไม่ให้สั่นเทา...รู้สึกเขินต่างจากตอนที่พี่อเลนจ้อง

   ใจมันเต้นแรง จนรู้สึกว่ามันจะหลุดออกมา

   “หัวใจเจ้า...เต้นแรง”เสียงราบเรียบเอ่ยขึ้นทำเอาผมหน้าแดงด้วยความอาย

   ทั้งอายทั้งเสียหน้า

   “ระ รู้แล้วน่า ก็แค่ หนาวเฉยๆ”ผมแก้ตัว

   “งั้นหรอกรึ”พี่ธารายิ้มที่มุมปากพลางลุกขึ้นไปหยิบรีโมทเบาแอร์ลง

   นี่ผมตาฝาดไปรึเปล่า เมื่อกี้พี่ธารายิ้ม ถึงจะแค่ยิ้มที่มุมปาก แต่มันก็ยิ้มล่ะนะ

   ผมเช็ดตัวไปพยายามไม่สนใจร่างสูงใหญ่ที่กำลัง ขะมักเขม้นเม้น ค้นตู้เสื้อผ้าตัวเองอย่างใจจดใจจ่อ

   ไม่นานพี่ธาราก็เดินกลับมาที่เตียงพร้อมกับเสื้อผ้าที่ดูเหมือนจะใหญ่ไปเล็กน้อยสำหรับผม

   กางเกงหูรูดที่ผมดึงเชือกให้มันรัดแน่นจนเชือกที่ถูกดึงออกมามันยาวไปจนเกือบถึงเข่า

   เสื้อนอนแขนยาวที่ใส่แล้วปลายนิ้วไม่แม้จะโผล่พ้นออกมาทางชายแขนเสื้อให้เห็น

   ถึงพี่ธาราจะเป็นยักษ์ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องตัวใหญ่กว่าผมขนาดนี้!!


   “เรียบร้อยแล้วเจ้าก็ควรจะพักผ่อน”

   เสียงทุ้มต่ำพร้อมกับไฟที่ถูกปิดลงทำให้ภายในห้องมืดสนิท

   พี่ธาราเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียงแล้วนั่งลงพลางจัดที่นอน

   “เดี๋ยวสิ!! ทำไมพี่ไม่ออกไปล่ะ”ผมถามด้วยท่าทีตื่นตระหนก

   ไงพี่เขายังอยู่อีกล่ะ แล้วทำท่าทางเหมือนจะล้มตัวลงนอนข้างผม

   “นี่ห้องนอนข้า ข้านอนบนเตียงข้ามันผิดตรงไหน”พี่ธาราพูดพลางยิ้มมุมปาก

   เริ่มรู้สึกแล้วสิว่าไอ้ความเจ้าเล่ห์เหมือนเก่าของพี่เขาเริ่มจะคืนกลับมา พอพอกับอารมณ์ร้ายของผมที่หายไป

   “แล้วทำไมผมต้องมานอนห้องนี้ด้วยล่ะ ให้ผมนอนห้องเดิมก็ได้นะ”

   “ไม่ได้หรอก ข้าไม่ไว้ใจเจ้านั่น มันอาจจะกลับมาลักเอาตัวเจ้าไปอีก”

   “แล้วทำไมพี่ต้องไปช่วยผมไว้ด้วย”ผมถามทั้งที่นอนหันหลังให้พี่เขา

   ทั้งที่ผมพูดไม่ดีเอาไว้กับเขาตั้งเยอะ แต่เขากลับช่วยผม และอยู่กับผมในเวลาที่ผมกำลังตกที่นั่งลำบาก

   รู้สึกได้เลยว่า เวลาที่อยู่กับพี่เขา ผมรู้สึกว่าตัวเองอุ่นใจ และสามารถหลับตาลงได้โดยที่ไม่ต้องกลัวอะไร....หรือผมจะคิดไปเองอีกแล้ว

   ผ้าห่มผืนหนาสีเข้มถูกยกมาคลุมกายผมตามด้วยตัวพี่ธาราสอดเข้ามาภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน

   ถึงจะรู้สึกประหม่า แต่ผมก็รู้สึกวางใจ...ถ้าหากว่าไม่เป็นคืนที่ประจันทร์เต็มดวง ผมคงจะไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก

   “เจ้าสำคัญต่อข้า และเผ่าพันธุ์ของข้า ข้าไม่ยอมให้เจ้ามีอันตราย หรือยอมให้ใครมาขัดขวางโชคชะตา จากนี้ไป เจ้าจะอยู่ในความดูแลของข้า”

   “เพราะผลกรรมที่ผมทำเอาไว้ชาติที่แล้วสินะ”

   พี่ธาราถึงตามปกป้องผม เพราะผมจำเป็นต่อเขาและยักษ์ตนอื่นๆ ทำให้ผมพูดตัดพ้อออกไป

   “เจ้ามีค่าต่อข้า มากกว่าที่เจ้าคิด หลับตาเสียเถิดมณี ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องคิดมาก”
   สิ้นเสียง ร่างของผมถูกโอบกอดจากทางด้านหลัง ความอบอุ่นแผ่นซ่านเข้ามาภายในใจทำให้ผมไม่รู้วางใจและหลับตาลง
   วันนี้ผมคงจะเหนื่อยเกินไปที่จะคิดอะไร


***////***////***/////***/////***/////***/////***/////***/////***/////***/////***/////***

   
   ผมตื่นเช้ามาพร้อมกับอาการกระปี้กระเป่าเกินกว่าทุกวัน อาจจะเป็นเพราะได้พักผ่อนเต็มที่

   คนข้างกายผมเมื่อคืนไม่อยู่แล้วตอนที่ผมตื่นขึ้นมา

   ผมเดินลงมาข้างล่าง พร้อมกับได้กลิ่นโจ๊กหอมฉุยกับโกโก้ร้อนควันกรุ่นวางอยู่บนโต๊ะ พร้อมเจ้าตัวที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์จิบกาแฟด้วยท่าประจำ

   “รีบกินเถอะ ข้าต้องเอาตัวเจ้าไปส่งให้ทันเวลาที่รับปากกับพ่อของเจ้า”พี่ธาราพูดเสร็จก็หันไปอ่านหนังสือพิมพ์อย่างเก่า

   ดูเหมือนว่าพี่เขาก็ยังคงน่าหมั่นไส้อยู่ดี หลงคิดว่าดูดีไปได้


   ไม่นานผมกับพี่ธาราก็มาถึงบ้านของผมด้วยรถคันหรูสีแดงสด คันใหม่ ที่ไม่รู้ว่าพี่เขามีคันนี้ด้วย

   พี่ธาราก็ยังคงประจบแม่ของผมเหมือนเก่า ต่างจากผมที่ถูกเมินในสภาพเสื้อผ้าหลวมโครก

   “แม่ต้องรบกวนพ่อธาราอีกแล้ว ลูกมณีนี่ก็จริงๆเลย ตอนเรียนก็ไม่สนใจเรียนเดือดร้อนพี่เขาต้องติวหนังสือให้ตลอด”แม่ผมว่าพลางยิ้มให้พี่ธาราพร้อมกับรับถุงขนมไทยที่พี่ธารายื่นให้

   ยังไงพี่ธาราก็คือพี่ธารา ขี้ตู่แถมขี้ประจบอีก เรื่องพูดเองปั้นเรื่องเองเนี่ยที่หนึ่ง

   “แม่ สนใจลูกตัวเองบ้างสิ เอาแต่สนใจพี่ธาราอยู่ได้”ผมว่าเหน็บไปเรียกให้คุณแม่ยังสวยหันมามองค้อนผมพร้อมกับยิงคำถามทันที

   “แล้วเสื้อผ้าอะไรล่ะนั่น เสื้อผ้าตัวเองไปไหน”

   “พอดีเสื้อน้องมณีเลอะน่ะครับ ผมเลยให้แม่บ้านซักให้ แล้วยังไม่แห้งดี เลยให้น้องมณีใส่ชุดนี้มาก่อน”พี่ธาราพูดแทรกช่วยเอาไว้ทัน
   ความเออออเอาเองของพี่เขารู้สึกว่ามีประโยชน์ก็คราวนี้ล่ะ

   “ว่าแต่พ่อไปไหนล่ะแม่ มณีไม่เห็นเลย”

   ปกติถ้ารู้ว่าพี่ธารามาก็จะมาคุยด้วยแท้ๆ

   “อยู่โรงซ้อมแน่ะ เห็นว่าคนจ้างมาดูไว้ก่อนขึ้นแสดง เห็นว่าเป็นแมวมองด้วยอะไรเนี่ยล่ะ รีบรีบขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว ชักช้าพ่อจะว่าเอา”

   “ครับๆ เดี๋ยวมณีไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วกัน แม่ก็คุยกับลูกชายคนโปรดแม่ไปแล้วกัน”ผมว่าไม่วายทิ้งท้ายเอาไว้

   ซึ่งดูท่าแม่จะชอบที่ผมว่าอย่างนั้น ยกมือยกไม้ป้องปากใหญ่

   แม่ไม่ได้รู้เลยว่าไอ้พี่ธาราตัวดีเขากำลังคิดหวังเหมืองทองลูกชายแม่อยู่


   ไม่นานผมก็เดนเข้ามาในโรงฝึกพร้อมกับกางเกงวอร์มขายาวและเสื้อยืดธรรมดาโดยที่มียักษ์ตัวใหญ่เดินตามมาอย่างมึนมึนทั้งที่ผมไม่ได้เชิญ

   ถ้าเขาจะกลับไปหรือไปไหนผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเลย ถ้าพี่เขาไม่ได้มาตามติดผมแบบนี้

   “ทำไมพี่ต้องตามผมด้วย”ผมกระซิบกระซาบพลางมองใบหน้าเรียบเฉยของเขา

   เห็นแล้วมันหงุดหงิด

   “ข้าไม่ไว้ใจเจ้า เกรงว่าเจ้าจะสร้างความวุ่นวายด้วยการเชื้อเชิญเจ้ากรรมจากชาติที่แล้วให้เข้าหาอีก”

   น้ำเสียงราบเรียบแต่คำพูดเหมือนจะเสียดแทงทำเอาคิ้วขวาผมกระตุก

   แล้วใครจะรู้ว่ามันจะมีเจ้ากรรมจากชาติที่แล้วโผล่มาทวงคืนอย่างนี้...ไม่รู้ว่านอกจากพี่อเลนแล้วจะยังมีใครโผล่มาอีกไหม


   ผมกับพี่ธาราเดินไปทางด้านหน้าเวที มองเห็นพ่อกำลังยืนคุยอยู่กับคนแปลกหน้าที่ท่าทางจะเป็นนายจ้างอย่างที่แม่บอก

   ดูท่าอายุคงไม่น่าจะเกินสามสิบ ใบหน้าที่ไม่ได้จัดว่าดี แต่ดูมีความน่าเชื่อถือ กับรูปร่างสูงโปร่ง โดยรวมแล้วดูมีภูมิฐานน่าไว้วางใจ

   พ่อและนายจ้างหันมามองทางผมแล้วพูดคุยอะไรกันสักอย่างก่อนที่พ่อจะโบกมือเรียก

   ทำให้ผมเดินไปหาแล้วทิ้งให้พี่ธารานั่งลงที่เก้าอี้ที่วางเรียงอยู่ด้านหน้าเวทีทั้งที่ยังมองตามผมไม่วางตา

   “มีอะไรเหรอพ่อ”ผมถามพลางยิ้มให้อีกคนอย่างเป็นมารยาท

   “นี่พ่อวาลีเขาเป็นคนของนายจ้าง มาดูเราก่อนขึ้นแสดง ไหว้พี่เขาสิ”พ่อแนะนำ

   ผมยกมือไหว้พี่เขาตามมารยาท รู้สึกว่าสายตาคมกริบที่ดูเหมือนมีเลศนัยน์กำลังมองผมไม่วางตา

   วินาทีที่ผมจ้องตาเขา ผมรู้สึกได้เลยว่าเขาเป็นคนที่ดูฉลาดและน่านับถือมากคนหนึ่ง

   “นี่มณีลูกพ่อเอง รับบทเป็นพระอภัย ตามที่นายจ้างเขาขอไว้”

   “งั้นเหรอครับ รูปงามสมกับบทบาทนะครับ”เขาว่าพลางรับไหว้ผม

   คำว่ารูปงามทำเอาคิ้วผมกระตุก..มันเหมือนกับผมเคยได้ยินมาจากไหน เหมือนว่าเคยโดนชมว่ารูปงามมาครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้

   ว่าชื่อวาลี...ชื่อนี้มันคุ้นๆอีกแล้ว


***////***////***////***////***////***////***////***////***////***////***////***////***////***////


โผล่มาอีกแล้วจ้าาาา นางวาลี เดี๋ยวตอนหน้าเรามาทำความรุ้จักกับนางวาลีผู้มีปัญญาเป็นเลิศ หนึ่งในเมียของพระอภัยมณีกันนะค่ะ

วันนี้ลงยาว เพราะฉะนั้น กำลังใจมาให้รัวจร้าาาา หหุหุ โจ้รุ่งอีกแย้ว สามีเผลอ(หลับ)เราก็แอบนั่งพิมพ์ พยายามมาก กลัวนางจับได้

 :katai4: พิมพ์ไป  :hao4: เหลือบมองนางไป  :katai4: พิมพ์ไป  :call: ภาวนาไปว่าอย่าให้นางตื่นมาเจอ  :เฮ้อ: สุดท้ายก็เสร็จ
ใจไม่รักทำไม่ได้นะเออ


ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
พี่ธาราคะ งานเข้าอีกแล้ว.. :try2:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
55555+

เมียของมณีชาติที่แล้ว กลับมาเกิดใหม่เป็นผชกันหมดเลยรึ


น้องมณีระวังประตูหลังดีๆล่ะ :p

ออฟไลน์ mimasopu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
พี่ธาราคะจับรวบหัวรวบหางเลอะเถิด
เล็งเห็นแล้วว่ามณีจะซื่อจนเซ่อเหมือนอีรอบเดิม =_=

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ white_destiny

  • รักไม่เคยมีจริง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 873
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +378/-199
โผล่มาอีกแล้ว :a5:
คราวนี้พี่ธาราทำไงต่อ
อย่างนี้ต้องมีปล้ำ

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
แล้วงานนี้จะรับมือกันยังไง  :ruready

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :ling2:

พ่อจะถวายน้องมณีใส่พานให้พี่ธาราเลยไหมเนี่ย ลูกเขยดีงามครบสูตรแบบนี้จะไปหาได้ที่ไหนอีก??????

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
เกิดเป็นธารานี่ปวดหัวจริงๆ เมียเก่าของว่าที่เมีย(?!)เยอะมาก 55555 :hao7:

รีบๆปล้าจับทำเมียเถอะ คึๆ

ออฟไลน์ mimasopu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ดีค่ะพ่ออย่างงี้มันผิดผีก็ให้พี่ธารารับผิดชอบยกน้องมณีให้พี่เขาเลยค่ะ
พี่ธาราไม่ต้องรอวันเพ็ญละเดี๋ยวคู่แข่งโผล่มาเรื่อยๆ

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ


เกร็ดความรู้ นางวาลีเป็นเด็กกำพร้า อาศัยอยู่กับตายาย แต่รูปร่างหน้าตาที่ไม่งามของนางทำให้คนอื่นๆมักดูแคลน ต่อมานางได้เพียรพยายามหาความรู้การศึกษาเล่าเรียนเพื่อที่จะมีปัญญาและมีความสามารถที่โดดเด่นกว่าใคร ต่อมานางจึงใช้ความรู้ความฉลาดของตนเข้าหาพระอภัยมณีจนสำเร็จ แล้วต่อรองกับพระอภัยให้แต่งตั้งนางเป็นนางสนมเพื่อที่จะช่วยให้พระอภัยต่อกรกับท้าวอุศเรน(พี่ชายของนางละเวง) พระอภัยมณีจึงแต่งตั้งนางวาลีเป็นสนมเอก จนท้าวอุศเรนอกแตกตายด้วยคำพูดของนางวาลี แล้วนางวาลีก็ถูกวิญญาณของท้าวอุศเรนที่ตายไปแล้วเข้าสิงจนป่วยตายนั่นเอง


ชดใช้ครั้งที่ 13 ใกล้อีกนิด

   พอรู้ข่าวเจ้าเมืองผลึกใหม่

   พระอภัยพูลสวัสดิ์รัศมี

   งามประโลมโฉมเฉิดเลิศโลกีย์

   นางวาลีลุ่มหลงปลงฤทัย   

**เป็นกลอนบทที่นางวาลีเจอพระอภัยมณีซึ่งได้กับนางสุวรรณมาลีแล้วขึ้นเป็นเจ้าเมืองผลึก


   หลังจากที่เสียงเพลงจากเครื่องเล่นเทปจบลง ผมก็หยุดการเคลื่อนไหวแล้วถอนหายใจพรูออกมา ไม่ใช่ว่าผมเต้นแรโรบิกแล้วเหนื่อยอะไรหรอกนะ

   ตอนนี้ผมกำลังซ้อมรำฉุยฉายพราหมณ์ให้เจ้าของงานที่เขามาดูความคืบหน้าของงานได้รับชมต่างหาก

   ดวงตาคมกริบของคุณวาลีผู้จัดการในเรื่องการจ้างวานจ้องมองมาที่ผมอย่างไม่วางตาทำให้ผมรู้สึกอึดอัดและอยากจะให้มันจบจับไปสักที

   ...มันแปลกๆ มันเหมือนว่ามีอะไรซ่อนอยู่ภายในดวงตาของเขาทำให้ผมรู้สึกว่ากลืนไม่เข้าคลายไม่ออกเวลาจ้องตอบกับมัน

   “เป็นไงบ้างพ่อ”ผมถามหลังจากเดินลงมาจากเวทีพื้นไม้ยกระดับแล้วเดินไปคว้าผ้าเช็ดหน้าบนโต๊ะข้างๆพี่ธาราเพื่อซับเหงื่อ

   ดวงตาคมที่กำลังจ้องมองผมอยู่แล้วฉายแววระริบระยับก่อนจะยกยิ้มที่มุมปาก

   ไม่เข้าใจว่าพี่เขาจะตามติดอะไรผมนักหนากัน

   ตั้งแต่มีเรื่องพี่อเลน พี่ธาราก็ดูจะตามติดผมทั้งวัน พอนึกถึงเรื่องนั้นแล้ว ผมก็พึ่งจะคิดออก

   ผมยังไม่ได้ขอโทษที่พูดไม่ดีกับพี่ธาราเลย...


   “ดีแล้ว แต่ต้องอ่อนๆมากกว่านี้หน่อยเอ็งน่ะยิ่งโตก็ยิ่งแข็ง ว่างๆก็ดัดมือดัดไม้เพิ่มบ้าง แล้วพ่อวาลีว่ายังไงล่ะ จะให้ปรับตรงไหนบ้างอีกไหมล่ะ”พ่อหันไปถามคนที่นั่งไขว้ขากับเก้าอี้วางมาดอย่างน่าเกรงขาม

   แต่เขาเพียงแค่หันมายิ้มตอบพ่ออย่างวางเชิง

   “ไม่ครับ...แค่นี้ก็เพอร์เฟกแล้วครับ น้องมณีทำเอาผมอึ้งไปเลย ผมว่าพอถึงวันแสดงจริง คนที่มาดูจะต้องชมกันไม่หยุดปากแน่เลยครับ นึกไม่ถึงว่าน้องจะเก่งขนาดนี้”

   “พ่อวาลีก็ชมเกินไป ไอ้มณีลูกชายพ่อมันฝึกร้องฝึกรำมาตั้งแต่เด็กแล้ว มันก็เป็นธรรมดาของเขาล่ะ เกิดมาในครอบครัวลิเก”
   ทำเป็นถ่อมตัวนะพ่อ...แต่จริงๆนี่ยิ้มปากบานเลย

   “น้องมณีเนี่ย เก่งจังเลยนะครับ ทั้งที่ยังเด็กแต่ทำได้ถึงขนาดนี้”คุณวาลีหันมาพูดกับผมเสียงเรียบ

   สายตาคมกริบจ้องมองมาทางผมทำให้ผมรู้สึกเสียงสันหลังยังไมก็ไม่รู้

   “อ่า ขอบคุณครับ”

   ผมได้แต่เกาหัวแกรกๆ รู้สึกตัวอีกทีด้านหลังก็รู้สึกถึงเงาดำทะมึนมาทาบทับ แล้วมีออร่าอำมหิตแผ่กระจายยังไงก็ไม่รู้

   หันไปอีกทีพี่ธาราก็มายืนซ้อนทับแล้ววางมือบนไหล่ผมคล้ายกับแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของผมซะแล้ว

   อะไรของไอ้ยักษ์ขี้ตู่นี่อีกแล้ว...ผมล่ะไม่เข้าใจ  ใจคอเขากะจะแยกเขี้ยวใส่ทุกคนที่เข้าใกล้ผมเลยรึยังไง

   สายตาคู่ดำสนิทจ้องมองไปยังผู้ว่าจ้างของพ่ออย่างไม่วางตา นัยน์ตาคมแสดงออกถึงความไม่พอใจและไม่ไว้วางใจอีกฝ่าย

   ผมเงยหน้าขึ้นไปมองพี่ธารา ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวก็กำลังจ้องหน้ากับคุณวาลีไม่วางตา ด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรซะด้วย

   นี่พ่อผมยังไม่ได้ว่าอะไรเลย...แต่พี่เขานี่ออกตัวแรงกว่าพ่อผมอีก

   “ดูแล้วน้องมณีน่าจะมีแววทางด้านการแสดงนะครับ ผมว่าน้องน่าจะลองหันมาเอาดีทางด้านการแสดงดู”

   มันก็แน่อยู่แล้วไม่ใช่รึไง จะไม่ให้ผมถนัดการแสดงได้ยังไง ในเมื่อผมคลุกคลีอยู่กับเรื่องพวกนี้มาตั้งแต่เกิด แต่ว่าทำไมเขาต้องพูดเรื่องนี้ขึ้นมาด้วย

   “อันนั้นก็เห็นกันอยู่หรอก แต่ตอนนี้มณีมันเรียนอยู่ พ่อก็อยากให้สนใจแต่เรื่องเรียนมากกว่า ถ้าทำอย่างอื่นกลัวว่าจะเสียการเรียนเอาได้”

   “ไม่หรอกครับ ดาราตังหลายคนเขาก็เรียนไปด้วย รับงานแสดงไปด้วย ผมร้อยละร้อยก็ประสบความสำเร็จนะครับคุณสุทัศน์”

   ดูท่าเขาคงกำลังเกลี้ยกล่อมพ่ออยู่...ว่าแต่ทำไมเขาต้องมาเกลี้ยกล่อมพ่อด้วยล่ะ

   ถึงผมจะหล่อจะดูดี แต่ก็ไม่ได้น่าสนใจขนาดเห็นปุ๊บจะต้องสนใจปั๊บนี่นา

   “เออ เรื่องนี้พ่อเองก็ไม่ค่อยรู้หรอก แต่เรื่องแบบนี้พ่อเองก็ตัดสินใจแทนมณีมันไม่ได้หรอก ต้องให้เจ้าตัวเขาตัดสินใจเอาเองว่าสนใจรึเปล่า”

   อ่าวพ่อ!!โยนมาให้ผมเฉยเลย

   แต่ว่าก็ดีแล้ว ดูจากท่าทาง ดูท่าคุณวาลีอะไรของพ่อเนี่ย ท่าทางจะโน้มน้าวใจเก่งพูดเก่งน่าดู ทำเอาพ่อเคลิ้มจนยิ้มไม่หุบแล้ว
   ดีที่พ่อยังเคารพการตัดสินใจของผมอยู่บ้าง ถึงจะปรายตามามองอยู่บ้างแล้วทำให้ผมเกร็งๆก็เถอะ

   “น้องมณีสนใจจะเข้าวงการไหมครับ พี่คิดว่าบางทีน้องมณีอาจจะเป็นที่รู้จักของผู้คนด้วยการแสดงนาฏศิลป์ที่น้องมณีถนัด คุณสุทัศน์ว่ายังไงล่ะครับ ถ้าหากว่าผมจะดึงน้องมณีไปลองแคสงาน เพื่อที่จะได้เอาศิลปะดั้งเดิมไปเผยแพร่”คุณวารีพูดพลางหันไปขอความเห็นจากพ่อ

   มีเหรอที่คนอย่างพ่อที่รักในเรื่องที่ทำสืบทอดกันมาจะไม่สนใจ ขานี่เขายิ่งอวยง่ายอยู่
   ยิ่งไปยกเขาเขาก็ลอยสิเออ

   “จะว่าอย่างที่พ่อว่าลีพูดพ่อก็เห็นด้วย เด็กสมัยนี้มันแทบจะไม่รู้จักการร้องรำของสมัยก่อน พ่อเองก็อยากให้ศิลปะของเราเราเผยแพร่ให้คนรู้จักกันทั่ว”

   พอเขาโน้มน้าวเข้าหน่อยก็เอาใหญ่เชียวนะพ่อ ดูท่า อีกฝ่ายท่าจะพูดโน้มน้าวได้เก่งกว่าพี่ธาราเสียอีก

   ว่าแต่พูดถึงพี่ธารา...ผมก็ลืมไปว่าเจ้าตัวกำลังยืนซ้อนหลังวางมือไว้บนไหล่ผมอยู่

   ก็แล้วทำไมต้องมายืนซ้อนทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของผมด้วย

   “แล้วพ่อธาราล่ะ ว่ายังไง พ่อเองก็ไม่มั่นใจหรอกนะว่าจะตัดสินใจยังไง ใจหนึ่งก็อยากให้วนใจแต่เรื่องเรียน ในฐานะที่พ่อธาราเรียนอยู่คณะเดียวกัน พ่อธาราว่ายังไงดี”พ่อหันมาถามความเห็นพี่ธารา

   แทนที่จะถามความเห็นจากผมนะพ่อ...นี่ตกลงใครลูกพ่อกันแน่ ผมล่ะไม่เข้าใจ

   นี่ตกลงพ่อรับพี่ธาราเขาเป็นลูกแล้วใช่ไหมพ่อ...

   ผมได้แต่ยิ้มแหยๆให้กับสายตาคู่คมกริบที่มองมาที่ผม

   “ถ้าถามผมในฐานะรุ่นพี่ของน้องมณี ผมเองก็คิดว่าอยากให้น้องเขาสนใจแต่เรื่องเรียนมากกว่า เพราะว่าบางวิชาน้องเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจแล้วเอามาให้ผมติมอยู่บ่อยครั้ง ถ้าหากว่าคุณพ่อให้น้องมณีเข้าวงการ วันข้างหน้าน้องอาจจะไม่มีเวลาพอจะใส่ใจเรื่องการเรียนแล้วจะพาให้การเรียนแย่นะครับ”

   แล้วผมไปไม่เข้าใจเรื่องเรียนตอนไหน แล้วเมื่อไรที่ผมให้พี่เขาติวให้

   อะไรของพี่เขาเนี่ย...นี่ใจคอพี่เขาจะไม่เลิกนิสัยขี้ตู่บ้างรึไง อยากจะบ้าตาย

   แต่ละคน

   พ่อก็อวยง่ายเหลือเกิน ส่วนพี่ธาราก็ขี้ตู่ ยิ่งคุณวาลีอะไรของพ่ออีก พูดเก่งเสียเหลือเกิน ทำเอาพ่อนี่เคลิ้มตาม

   ถึงพี่ธาราจะช่วยเบรก หรือสกัดก็ไม่แน่ใจ แต่มันก็เกินไปแล้ว ผมไม่ได้เรียนแย่ขนาดนั้น

   มีแค่เรียนไม่ทันคนอื่นตรงที่เอาเวลาไปคิดกับเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นต่างหาก

   “นั่นสิ พ่อเองก็คิดเหมือนพ่อธารา อยากจะให้เจ้ามณีมันสนใจแต่เรื่องเรียน ลำพังมันก็ยิ่งเซ่อๆซ่าๆป้ำๆเป๋อๆลำบากให้พ่อธาราคอยช่วยเหลือตลอด เลยไม่ค่อยจะมั่นใจสักเท่าไร”

   พ่อพูดเหมือนจะอวยผมรึว่าอย่างไร ทำไมมันเหมือนทำให้ลูกพ่อดูเป็นตัวอะไรไปเลย

   ว่าแต่...นี่ตกลงว่าไม่มีใครสนใจจะถามความคิดเห็นผมเลยเหรอ คุยข้ามหัวผมกันไปมาเนี่ย

   “เรื่องเรียนผมว่าไม่น่าจะมีปัญหานะครับคุณสุทัศน์ เพราะว่าทางผมสามารถจัดการตารางเวลาเพื่อไม่ให้กระทบกับการเรียนของน้องได้ ผมว่าคุณพ่อน่าจะลองเอาไปคิดดูก่อน ผมเองก็อยากให้น้องเอาศิลปะเก่าแก่ไปนำเสนอให้คนทั่วไปได้รู้จักกันมากขึ้นนะครับ”ฝ่ายคุณวาลีของพ่อก็ไม่ยอมหยุดเหมือนกัน

   “แต่ถ้าทำอย่างนั้นเวลาพักผ่อนของน้องก็อาจจะไม่เพียงพอแล้วกระทบต่อสุขภาพของน้องนะครับคุณพ่อ”พี่ธาราแย้ง
   แล้วหันไปจ้องตาตอบกับคุณวาลี

   ตกลงสองคนนี้อะไรกัน จะไม่อมกันเลยใช่ไหมเนี่ย...จะมีใครถามความคิดเห็นผมบ้าง

   ใจคอชีวิตวัยรุ่นของผมจะตัดสินใจอะไรเองบ้างไม่ได้เลยรึยังไง

   “นั่นสินะ แล้วเอ็งล่ะจะว่ายังไงมณี”พ่อเออออกับพี่ธาราแล้วหันมาถามผม

   นี่พ่อเพิ่งจะรับรู้ได้เหรอว่าลูกตัวเองยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้

   “ผม ว่าผม ยังไม่แน่ใจ”ผมตอบไป

   ไม่ใช่อะไรหรอก ก็ไอ้สายตาคมกริบของพ่อวาลีของพ่อท่านมองมาที่ผมอย่างกับคาดหวังยังไงยังงั้น

   ทำเอาผมปฏิเสธไม่ลงเลย

   “ถ้ายังไงแล้ว ถ้าน้องมณีสนใจก็ติดต่อไปที่ผมก็ได้ครับ นี่ครับนามบัตรผม”คุณวาลีพูดตัดบทพลางปรายตามองไปทางพี่ธาราเพราะกลัวว่าจะโดนแย้งอะไรขึ้นมาอีก

   “เออ งั้นจะลองคิดดูก่อนแล้วกัน”พ่อรับมาก่อนจะยัดมันใส่กระเป๋าเสื้อ

   “นี่ครับน้องมณี อันนี้เป็นเบอร์ส่วนตัวพี่เลย ถ้าสนใจยังไงก็โทรมาหาพี่ได้ตลอดเวลานะครับ”

   ไม่พูดเปล่า เจ้าตัวยังคะยั้นคะยอยัดนามบัตรใส่มือผมอีก

   จะว่าผมเซ่อๆซ่าๆแบบที่พ่อว่าตอนนี้ผมก็ยอมรับเลย เพราะว่าผมกำลังยืนนิ่งอึ้งให้คุณวาลีเขายัดเอานามบัตรใส่มือมาเรียบร้อยแล้ว

   ทำอะไรไม่ได้แล้ว นอกจากยืนมองพ่อกับคุณวาลีเดินออกไปจากโรงซ้อม

   ทิ้งให้ผมอยู่กับพี่ยักษ์ขี้ตู่สองต่อสองอีกแล้ว

   นี่ใจคอจะไม่ให้ผมคิดเองกันบ้างรึยังไง คนพวกนี้

   ทำไมชีวิตวัยรุ่นของผมต้องเจอกับเรื่องชวนปวดหัวอยู่ตลอดก็ไม่รู้



   “แล้วพี่จะมาใกล้ผมทำไมเนี่ย”ผมว่าพลางหันไปบ่นคนตัวสูงที่ยังยืนซ้อนหลังผมไม่ยอมถอยออกไปสักที

   “เจ้าเขินข้าอย่างนั้นรึ”พี่ธาราก้มลงมากระซิบข้างหูทำเอาหูผมร้อนวาบวาบเพราะลมหายใจร้อนๆทันที

   “อะ อะไรของพี่ ผมเปล่าเขนสักหน่อย แค่...แค่ไม่ชินเวลาคนอื่นอยู่ใกล้ๆต่างหาก”ผมก็ว่าไป

   ไม่ใช่ไม่ชินอะไรหรอก แค่มันระแวง กลัวว่าจะโดนเข้าข้างหลังไม่รู้ตัวต่างหาก


   พอนึกถึงเรื่องนี้แล้วก็นึกถึงพี่อเลนขึ้นมาเลย
   ภาพมันยังติดตาผมไม่หายเลย เจ้าดุ้นใหญ่ยักษ์นั่น นึกไม่ถึงว่าบอบบางอย่างพี่เขาจะใหญ่ปานนั้น แค่คิดก็ขนลุกไปทั้งตัวแล้ว

   ถ้าหากวันนั้นผมพลาดท่าแล้วพี่ธาราไม่มาช่วยขึ้นมา ผมคงจะเดินไม่ได้อีกหลายวันถ้าหากโดนเข้าไป

   
   “เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่อย่างนั้นรึ”พี่ธาราถาม พร้อมกับแรงกดจมูกลงมาบนหัวของผม

   อย่าบอกนะว่าพี่เขาแอบดมผมผมอยู่น่ะ นี่ผมยังไม่ได้สระมาสองวันแล้วนะ

   “ปะ เปล่าคิดสักหน่อย แล้วพี่จะมาใกล้ผมอะไรนักหนาเนี่ย”ผมว่าพร้อมหันไปกะจะชี้หน้าด่าสักหน่อยข้อหาแอบลักลอบดมหัวเหม็นๆ

   แต่ใจเจ้ากรรมเหมือนกับโดนแกล้ง

   จมูกของผมดันไปจิ้มโดนเอาคางพี่ธาราในระยะประชิด ทำเอาผมถอยกรูดออกมาแทบไม่ทัน

   “พี่ จะยื่นหน้ามาทำไมเล่า”ผมว่าพลางลูบจมูกแก้เขินแล้วหลุบตาลงหนีดวงตาคมกริบที่จ้องมองมา

   รู้สึกว่าหน้ามันร้อนๆยังไงก็ไม่รู้

   “เจ้าเองที่หันมาชนข้า”

   “เออ นั่นแหละ แล้วพี่จะมาใกล้ผมทำไมล่ะ ดูสิ ผมเกือบชนหน้าพี่เลย นี่หน้าผมเอาไว้ทำมาหากินนะเนี่ย ดูสิยังไม่ทันไรก็มีแมวมองมาทาบทามซะแล้ว”

   ผมพูดพร้อมกอดยกยืดทันที

   จะว่าไปเรื่องทาบทามเข้าวงการอะไรนั่นผมก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอก เพราะว่าหากเข้าวงการอะไรนั่นจริงๆเวลาส่วนตัวของผมคงหมดไป

   แล้วคราวนี้ชีวิตวัยรุ่นจ๊าบๆของผมก็จะหายไปในทันที

   แต่อีกใจก็อดเห็นใจพ่อไม่ได้ รู้อยู่ว่าพ่ออยากจะให้คนรู้จักสิ่งที่สืบทอดกันมายาวนานตั้งแต่รุ่นปู่ทวดของปู่ทวดที่นับลำดับยังไม่ถูก

   แต่ถ้าจะให้ทำงานกับคนที่พูดจาโน้มน้าวคนเก่งแบบนั้น แล้วท่าทางเจ้าเล่ห์ไม่น่าไว้ใจ ผมเองก็รู้สึกไม่สบายใจ แล้วก็คงอึดอัดน่าดู



      “แล้วทำไมพี่ต้องมาเฝ้าผมด้วย...บ้านช่องไม่กลับรึไง”ผมอดค่อนขอดไม่ได้เมื่อเราเงียบกันไปสักพักเพราะพี่ธาราไม่ตอบอะไร

   “อีกไม่กี่เพลาสิ่งที่ข้ารอคอยก็จะมาถึง ข้าจะไม่ปล่อยให้บรรดาเมียในอดีตชาติของเจ้ามาขัดขวางหรอก”พี่ธาราบอกเสียงเรียบ
   บรรดาเมียๆเหรอ...ก็คิดอยู่หลอกว่าคุณว่าลีอาจจะเป็นหนึ่งในบรรดาเมียที่มาจากชาติที่แล้ว

   แต่ว่า ถึงท่าทางเขาจะดูสุขุม น่าเชื่อถือ แต่ดูจากภายนอกแล้วอายุก็ไม่น่าจะต่ำกว่าสามสิบเลย

   แล้วเขาจะใช่หนึ่งในเมียของพระอภัยมณีในชาติก่อนจริงรึเปล่า

   แล้วที่พี่ธาราพูดมันหมายความว่ายังไง ว่าอีกไม่นานส่งที่รอคอยก็กำลังจะมาถึง

   ยิ่งผมรับรู้เรื่องราวแปลกๆนี่มากเท่าไร ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าผมไม่เข้าใจมากเท่านั้น

   “พี่คิดว่าพี่จะมีลูกกับผมได้จริงๆเหรอ”

   “ได้สิ เจ้ากังวลเรื่องอะไรกัน”

   “เปล่ากังวลสักหน่อย ผมแค่ไม่คิดว่าผมจะท้องได้ อีกอย่าง ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าผมจะยอมทำตามที่พี่พูดน่ะ พี่ยังจีบผมไม่ถึงไหนเลยด้วยซ้ำ”ผมพูดปนหัวเราะ

   พลางเชิดหน้าขึ้นเหมือนจะเยาะเย้ย ถึงในใจลึกๆจะเริ่มรู้สึกว่าเวลาที่อยู่กับพี่ธาราไม่อึดอัดเหมือนครั้งก่อนๆก็เถอะ

   ถ้าไม่นับรวมในคืนวันเพ็ญที่พี่เขาเกือบจะยิงประตูผมเอา

   “ข้ามั่นใจว่าใจเจ้าไปไหนไม่รอดหรอก นอกจากตกเป็นของข้า”พี่ธาราพูดพร้อมกับยิ้ม

   ดวงตาคู่ดำสนิทฉายแวววิบวับทำเอาผมรู้สึกใจสั่นในประโยคที่เขาพูดออกมา

   ใจของผมจะต้องเป็นของเขาอย่างนั้นเหรอ...นี่พี่เขาไปเอาความมั่นใจนี่มาจากไหน

   แต่ว่าทำไมผมร้องรู้สึกว่าเหมือนถูกสารภาพรักยังไงยังงั้น

   “ผมไปดีกว่า...หิวข้าวแล้ว ไม่รู้ว่าแม่ทำอะไรไว้รอ พี่เองก็กลับบ้านไปได้แล้ว อยู่นานเดี๋ยวพ่อแม่ผมจะหลงผิดคิดว่ายักษ์อย่างพี่เป็นลูกอีกคนเอา”

   ผมว่าพลางโบ้ยมือใส่แก้เก้อ ไม่อยากจะยอมรับว่าใจกำลังเต้นแรง

   “เดี๋ยวก่อน”

   “อะไรอีกล่ะ ผมหิวแล้ว”ผมหันไปมองหน้า

   “เจ้าไม่จำเป็นต้องใช่สิ่งนี้ มันจะนำพาความวุ่นวายมาสู้เจ้าอีก”

   พอพี่ธาราพูดจบ นามบัตรที่อยู่ในมือของผมก็ถูกดึงไปโดยที่ผมเองก็ไม่ทันได้แย้งอะไรเลยสักนิด

   นี่ตกลงผมมีพ่อเพิ่มมากอีกคนใช่ไหม

   “อะไรของพี่เนี่ย จะดึงของจากมือคนอื่นมันเสียมารยาทน่า ยักษ์เขาไม่ได้สอนมารยาทกันรึไง”

   ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ผมก็ดันยอมเอาง่ายๆซะได้
   

   
   “นี่ ผมบอกแล้วไงว่ากลับบ้านไปได้แล้ว จะเดินตามผมมาทำไม”

   ผมออกปากไล่ยักษ์ตัวใหญ่ที่เดินตามผมมาจากโรงซ้อมจนจะถึงบ้านอยู่แล้ว

   “แม่เจ้าชวนข้ากินมื้อเย็นด้วย”ที่ธาราตอบพลางยิ้ม

   ยิ้มที่ผมรู้สึกว่ามันกวนประสาท

   “แล้วเรื่องอะไรพี่จะต้องมาประจบพ่อแม่ผมด้วย แค่นี้เขาก็จะลืมว่าผมเป็นลูกอยู่แล้ว”

   “ข้าเปล่าประจบ ข้าแค่ทำความรู้จักต่างหาก แค่จันทร์เพ็ญ เจ้าก็จักเมียข้า ข้าต้องรีบตีสนิทกับพ่อแม่ของเจ้า”

   พี่ธาราพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ทำเอาผมแทบจะตาถลนหลุดออกจากเข้าทีเดียว

   จันทร์เพ็ญเดียว เมื่อคืนเป็นคืนเดือนมืด งั้นก็อีกสิบสี่วัน ถึงจะถึงคืนเพ็ญอีกรอบ                        

            แล้วคืนเพ็ญเดือยอ้ายใช่ไหมที่พี่ธาราบอกว่าจะทำลูกกับผม

   สิบสี่วันก็สองอาทิตย์

   เวลาอะไรมันจะผ่านไปไวขนาดนั้น

   “เดี๋ยวสิ พี่ แต่...ผมยังไม่ได้ชอบพี่ยังไม่ได้อะไรพี่เลย”ผมแย้ง...ถึงแม้ว่าเขาจะเริ่มจีบผมแล้วก็เถอะ

   “ไม่ต้องกังวล ข้าจะทำให้ร่างกายเจ้าจดจำสัมผัสข้าได้เอง”

   จบคำพูดของพี่ธารา ผมก็ชะงักเท้าที่กำลังเดินย่ำสวนข้างบ้านทันทีแล้วหันไปมองหน้าพี่ธาราแบบอึ้งๆ

   ร่างกายจดจำสัมผัส...คืออะไร

   แล้วทำไมพี่ธาราต้องเดินเข้ามาใกล้จนชิดแบบนี้

   พี่จะทำอะไรผมมมมม

   นี่มันในบ้านผมนะ ถ้าบรรพบุรุษที่เขาเคยอยู่ในบ้านนี้รู้เข้าผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

   ในขณะที่ผมกำลังกระวนกระวายใจแต่ร่างกายแข็งทื่อนั่นเอง

   แขนแข็งแรงก็โอบเอาเอวผมคว้าเข้าไปหาตัวจนชิด

   ใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตรโน้มลงมาใกล้ ทำเอาใจผมนี่กระหน่ำรัวเป็นกลองในงานคอนเสิร์ตเลยทีเดียว

   “พะ พี่จะทำอะไรน่ะ”ผมว่าพลางยันอกแข็งๆของพี่ธาราไว้ไม่ให้เข้ามาใกล้ไปมากกว่านี้

   “ข้าก็กำลังทำให้ร่างกายเจ้าจกจำสัมผัสอย่างไร”พี่ธาราตอบพร้อมกับยิ้ม

   ยิ้มที่แทบจะกระชากวิญญานผมออกจากร่างพร้อมกับประโยคล่อแหลมที่หลุดออกมาจากปากอิ่มๆนั่น

   ใบหน้าคมคายของพี่ธาราก้มลงมาใกล้จนเกือบชิดทำให้ผมมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่ดำสนิท

   เอวผมถูกกระชับให้แน่นกว่าเก่าทำให้แนบชิดร่างกายเข้าหากันมากขึ้น หัวใจผมเต้นโครมครามอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

   พ่อแก้วแม่แก้ว ใจคอจะให้ลูกช้างถูกลวนลามในบ้านเลยเหรอเนี่ย

   ผมมองไปรอบรอบอย่างหวาดระแวง โชคดีที่ฤดูนี้ดอกพูดกำลังเบ่งบานเต็มที่จนบดบังทัศนียภาพโดยรอบพร้อมกับส่งกลิ่นหอมตลบอบอวล
   มันเป็นเกราะกำบังสายตาได้ดีเลิศ แต่ว่า...เขาจะมาทำกับผมอย่างนี้ในบ้านผมไม่ได้นะเฮ้ย!!
   
   “ปะ ปล่อยผมได้แล้ว พี่จะกอดผมอีกนานไหม”ผมว่าพลางดันอกพี่ธาราออก

   “ข้าจะปล่อยเจ้าก็ต่อเมื่อข้าได้ลิ้มรสจูบจากเจ้าเสียก่อน”

   “อะ อะไรนะ จะจูบเหรอ พี่จะบ้าเหรอ  อื้อ”ผมยังไม่ทันโวยวายจบ ริมฝีปากพี่ธาราก็กดจูบลงมาบนปากผมเป็นการปิดปากทันที
   อารมณ์ไหนของเขา...แล้วทำไมเขาต้องมาจูบผมด้วย

   ร่างกายของผมสะดุ้งทันทีที่ลิ้นร้อนถูกกวาดต้อนเข้ามาในโพลงปาก ความอุ่นร้อนมันแผ่ซ่านไปทั้งร่างกาย

   นี่ผมกำลังเคลิ้มไปกับจูบครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้....เรื่องนี่มันไม่สำคัญเท่ากับผมกำลังจูบผู้ชายอยู่ในบ้านของตัวเองโดยที่ไม่ได้ขัดขืนอะไรเขามากมายเลย

   ความจริงผมน่าจะต่อพี่เขาไปสักหมัดสองหมัด หรือไม่ก็ปลักออกก็ยังดี แต่นี่อะไร ผมกลับยอมให้เขาจูบง่ายๆซะงั้น

   ถึงปากจะพูดมากความอย่างนั้นอย่างนี้ก็เถอะ

   ยังไงซะพี่ธารานี่ก็กำลังจ้องจะขุดเหมืองผมในอีกสองสัปดาห์อยู่รอมร่อ




   แต่แล้ว.....






   พ่อผมก็เดินย้อนกลับมาแล้วเห็นผมกับพี่ธาราจูบกันพอดี....




   อะไรมันจะวุ่นวายขนาดนี้...นี่ไม่ใช่ชีวิตวัยรุ่นที่ผมต้องการเลยสักนิดดดด!!


***////***////***////***////***////***////***////***////***////***////***////***////***////***////***


   คนเขียนจะเคืองแล้วนะเออ :m16: โน๊ตบุ๊คเจ็งต้องต่อเข้ากะทีวี ลำบากในการพิมพ์มาก ปกติก็พิมพ์ผิดเป็นอาจินแล้ว
นี่ยิ่งกว่าเก่าอีก เง้อ ยังไงก็อย่าลืมกำลังใจคนเขียนนะคร้าาา แบบว่าตอนที่แล้วอุตส่าห์ลงตั้งยี่สิบกว่าหน้า มีรีพลายตอบแค่หากรีพลาย ร้องให้เบาเบาเบยง่า แต่ยังไงก็ยังรักคนอ่านเหมือนเดิมน้าาา

ฝากเพจด้วยจ้า
แฟนเพจของโซอึนจ้า

มีแพลนจะซื้อโน๊ตบุ๊คใหม่ด้วย ซื้อที่ไหนดี ใครพอจะแนะนำได้บ้างเอ่ย


ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
พี่ธาราต้องรู้อยู่แล้วแน่เลยว่าคุณพ่อจะต้องเดินมา ^^

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด