✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59  (อ่าน 244691 ครั้ง)

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
น้องมณีจะเกิดอาการปิ๊งปั๊งกับนายเงือกไหมคะเนี่ย พี่ล่ะกลัวใจน้องเหลือเกิน :try2:

ออฟไลน์ supizpiz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 692
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-0
มณีจะหลงรักชลาสินธุ์มั้ยละเนี้ยยย โอ้ยยลุ้นมากค่ะ

ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
ความรู้สึกช่างซับซ้อนยิ่งพี่ธารา ทำไหมไม่ตอบมณี เดียวมณี นายรองออกโรงแล้ววหรือเปล่า ^_^ รอๆๆๆ ตอนต่อไปจ้า  :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ white_destiny

  • รักไม่เคยมีจริง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 873
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +378/-199
ถ้าน้องมณีหนีไปพี่ธาราจะทำไงล่ะีนี้
นายเงือกก็โผล่มาอีกนายรองรึเปล่า
รอดูว่าจะหนีไหม

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
พี่ธาราหาเมียใหม่เถอะ คนรักเก่าตามมาเยอะเกิน

คนที่มาจ้างคณะลิเกยังไม่เคลียร์เลย นี่มีมาเพิ่มอีกแล้ว ง้อววววว

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
19750

ครั้งที่ 16 จันทร์เต็มดวง


   “พี่ธารา ใยวันนี้ท่านถึงได้ใจดีกับข้านัก”อภัยมณีถามเมื่อเดินออกมาภายนอกถ้ำยามที่พระอาทิตย์ตกไปได้หลายชั่วยามก่อนหน้าแล้ว ทิ้งให้สินธุ์สมุทรนอนหลับอยู่ภายในถ้ำ

   “ข้าเพียงแต่อยากให้เจ้าได้เห็นความสวยงามของดาวเดือนในยามค่ำคืนบ้าง มิได้มีสิ่งใดแปลกไปนักหรอก”

   ธาราตอบพลางมองเสียวหน้าที่งดงามของชายผู้สูงศักดิ์อย่างอภัยมณี

   นึกรังเกียจใจตัวเองที่ทำตัวเป็นดั่งแมวขโมยเช่นนี้ พอนางผีเสื้อสมุทรน้องสาวของตนไม่อยู่ ตนก็ถือโอกาสเข้าหาคู่ครองของนางแล้วพาออกมา

   คำพูดตัดพ้อของเจ้าของรูปลักษณ์ที่งดงามหาใดเปรียบ มักชอบค่อนขอดอยู่หลายเมื่อหลายเวลาว่าไม่พาออกมาดูเดือนดูตะวันบ้าง จนชักจะจำไม่ได้แล้วว่าเดือนและตะวันรูปร่างเป็นเช่นไรทำให้เขาตัดสินใจพาเจ้าตัวออกมายามที่มีโอกาส

   “แล้วเช่นใดท่านจึงไม่พาข้าออกมาดูวันพรุ่งเล่าพี่ธารา วันพรุ่งต่างหากที่จันทร์จะเต็มดวงสวย”อภัยมณีถามอย่างแปลกใจ

   “ข้าไม่อาจพบเจ้าได้ในคืนข้างขึ้น ข้าไม่อยากทำผิดต่อเจ้า”ธาราสมุทรตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความเจ็บปวด

   “งั้นหรอกรึ ถึงพี่จะพูดเช่นนั้นข้าก็ไม่เข้าใจหรอกว่าพี่พูดถึงสิ่งใด หากแต่ข้าไม่ถือโทษโกรธเคืองพี่หรอก จันทร์คืนนี้ก็
สวยไม่แพ้คืนพรุ่งสักเท่าไรหรอก ข้ากลับดีใจเสียมากกว่าที่พี่มีน้ำใจต่อข้าถึงเพียงนี้ หากเป็นยักษ์ตนอื่นคงจะหมางเมินใส่ข้า หรือไม่ก็จับข้ากินเป็นมืออาหารแน่”

   คำพูดเจื้อยแจ้วของอีกฝ่ายยามที่จ้องมองดวงจันทร์ทำให้จิตใจของยักษ์หนุ่มนั้นสั่นคลอน

   ใจที่เข้มแข็งดุจหินผาที่ยากจะทลายลงบัดนี้มันอ่อนไหวราวกับใบไม้ที่ลู่ไปตามแรงลม

   เสียงลมทะเลพัดพาคลื่นเข้ากระทบฝั่งดังก้อง กลิ่นหอมของดอกมะลินั้นตลบอบอวล แสงจันทร์สีเหลืองนวลวาดส่องไปทั่วบริเวณ

   มือหน้าเอื้อมไปปัดเอาปอยผมที่ถูกพัดไปปรกใบหน้ารูปงามมาทัดหูให้

   เจ้าของเส้นผมหอมนั้นได้แต่หันมามองหน้าคนมีน้ำใจโดยแอบแฝงความต้องการที่จะสัมผัสแม้เพียงเส้นผมเส้นเล็กๆก็ยังดี

   ดอกมะลิสีขาวบริสุทธิ์ดอกบานสะพรั่งถูกเด็ดออกมาจากต้นแล้วทัดเข้าที่ใบหูเล็กอย่างเบามือทำให้เจ้าของดูเงยหน้าช้อน
ตามองด้วยความฉงน

   “ข้ามิใช่สตรีสักหน่อย เช่นใดท่าจึงเอาดอกไม้หอมมาทัดหูข้าล่ะพี่ธารา”น้ำเสียงเอื้อนเอ่ยคล้ายจะตัดพ้อดังแล้วเสนาะหู

   หากแต่ยักษ์หนุ่มกลับไม่ใส่ใจในคำพูดนั้น ใบหน้าที่แดงระเรื่อถูกโอบประคองโดยมือใหญ่เอาไว้ไม่ให้บ่ายหนี

   ใบหน้าคมคายดุจบุรุษชาติโน้มเข้าหาอย่างไม่สามารถที่จะหักห้ามใจได้

   ริมฝีปากได้รูปจุมพิตลงบนริมฝีปากบางเป็นกระจับก่อนจะคลอเคลียไปมา

   แรงบดเบียดราวกับเป็นการล่อหลอก หลอกให้หนุ่มรูปงามเปิดปากรับเอาความหอมหวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งเดือนห้าไปลิ้มลอง

   จิตใจที่อ่อนไหวนั่นไม่อาจหักห้ามหรือขัดขืนใดใดได้เลย ความรู้สึกหวั่นไหวที่มีต่อยักษ์หนุ่มนั้นมันยากที่จะปกปิดไม่ให้เล็ดรอดออกมาได้

   หากแต่มันเป็นสิ่งที่ผิตจารีต ขนบธรรมเนียมที่มีมาแต่ยาวนาน ชาติบุรุษนั้นมิอาจที่จะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อกันได้

   เขาถึงห้องหักห้ามใจมิให้แสดงสิ่งใดออกมา

   หากแต่ยักษ์หนุ่มตนนี้ล่ะ ทำไมถึงทำเช่นนี้กับเขา

   รอยจูบที่อ่อนหวานนั้นประทับลงมา ข้างในนั้นความหวานล้ำที่ยิ่งกว่าขนมหวานชนิดใดมันกำลังแผ่ซ่านไปทั่ว

   อ้อมกอดที่ไม่รู้ว่ายักษ์หนุ่มฉวยโอกาสเอาตอนไหน กระชับจนแน่นไม่อาจจะหลุดรอดออกไปได้

   แม้จะหักห้ามใจได้ แต่ร่างกายนั้นยากยิ่งกว่า มันซื่อตรงเกินกว่าจะบังคับได้

   ดวงตาคมซึ้งจ้องมองยักษ์หนุ่มยามที่ริมฝีปากนั้นถอดถอนออกไป

   ใบหน้ารูปงามนั้นกำลังบ่งบอกถึงความไม่เข้าใจในสิ่งที่ยักษ์หนุ่มนั้นทำกับตน

   “เช่นใดท่านจึงทำเช่นนี้พี่ธารา”อภัยมณีถามออกไป

   หากแต่ธาราสมุทรนั้นไม่ตอบ มีเพียงแววตาตัดพ้อที่ส่งมาเท่านั้น

   “ข้าถามท่าน เหตุใดท่านจึงไม่ตอบข้า พี่ธารา”อภัยมณีถามย้ำ

   ภายในใจอยากจะรู้ว่ายักษ์หนุ่มนั้นคิดยังไงกับเขา จะคิดเหมือนที่เขาคิดหรือไม่

   หากเป็นเช่นนั้น ทั้งเขาและพี่ธาราคงจะเจ็บปวดกันทั้งสองฝ่าย

   “เหตุใดท่านจึงไม่ตอบข้าล่ะพี่ธารา ท่านรู้สึกอย่างไรกับข้ากันแน่”อภัยมณีถามย้ำ

   ถึงอย่างไรก็ต้องเอาคำตอบจากพี่ธาราให้จงได้
   

   “เจ้ากลับเข้าไปในถ้ำเสียเถิด ดึกมากแล้ว น้ำค้างลงเจ้าจักไม่สบายเอา”ธาราบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมกับเดินหนี

   หากแต่นั่นกลับไม่ใช่คำตอบที่อภัยมณีต้องการ เขาไม่ได้ต้องให้ยักษ์หนุ่มเดินหนี

   รสจูบที่หอมหวานนั่นยังคงติดตรึงอยู่ที่ปลายลิ้น แต่ทำไมในหัวใจดวงนี้มันถึงได้รู้สึกเจ็บยิ่งนัก
   

   ธาราสมุทรเดินกลับออกมาจากถ้ำหลังที่ปิดมันลงด้วยหัวใจที่ปวดร้าว ความรักที่ไม่สามารถสานต่อให้มันงอกเงยและเบ่งบานนั้นทำให้หัวใจของยักษ์หนุ่มเหมือนกับถูกบีบจนมันแหลกเหลว

   เขาไม่อาจที่จะเอื้อนเอ่ยคำรักกับอีกฝ่ายได้ ในเมื่อฝ่ายนั้นเป็นคู่ครองของน้องสาว

   การผิดคู่ครองในเผ่าพันธุ์นั้นถือเป็นเรื่องต้องห้าม

   เช่นเดียวกับการรักเพศเดียวกันของมนุษย์ซึ่งผิดจารีตประเพณี

   เขามิอาจทำให้อภัยมณีถูกตีตราว่าเป็นพวกแหกคอกผิตจารีตได้

   รสจูบที่เกิดจากหัวใจของเขาที่ไม่หนักแน่นพอมันยังคงตราตรึงอยู่ข้างในจิตใจ

   ความรักที่ไม่อาจสมหวังมันช่างเจ็บปวดหัวใจยิ่งนัก


===================================================================


   “นี่ ฉันถามอะไรนายหน่อยได้ไหม”ผมถามออกไปพลางมองหน้าเงือกหนุ่มที่กำลังสะบัดหางไปมาอยู่ในน้ำ

   “ได้สิ ท่านมีสิ่งใดจะถามข้ากัน”ชลาสินธุ์ตอบมาแทบจะทันที

   “ตอนที่พระอภัยมณีหนีไปกับนางเงือกน่ะ เขาว่ายน้ำไปยังไงถึงไม่จมล่ะ หรือว่าทำยังไง”ผมถามในสิ่งที่สงสัยออกไป

   “ไม่หรอก ท่านไม่ได้ว่าน้ำ แต่เกาะหลังไปต่างหาก ท่านถามข้าทำไมกัน”ชลาสินธุ์ทำหน้าแปลกใจ

   ผมคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ความไม่มั่นใจของพี่ธาราทำให้ผมเกิดความคิดที่จะคัดค้านการมีสัมพันธ์กับเขา

   เพราะว่าเขาไม่ชัดเจน ทำให้ผมเริ่มคิดว่า ที่เขาทำทั้งหมดก็เพื่อตัวเขาและพวกพ้อง ไม่ใช่เพราะความรู้สึกหรืออะไรเลย

   ผมเงียบอยู่พักหนึ่งจนชลาสินธุ์ยันตัวขึ้นมานั่งบนโขดหินข้างผมแล้วมองมาอย่างสงสัย

   เมื่อชลาสินธุ์ขึ้นมาข้างบนทำให้ผมได้เห็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเงือกได้เต็มตา

   ลำตัวที่ขาวราวกับไข่มุกล้ำค่า กับเส้นผมสีดำสลวยยาวไปจนถึงสะโพก ท่อนบนนั้นเปลือยเปล่าจนเห็นถึงร่างกายที่บอบบางน่าทะนุถนอม หากแต่เป็นร่างกายของผู้ชาย

   ท่อนล่างนั้นเป็นหางที่ยาวสวยคลุมด้วยเกร็ดสีฟ้าอมเขียวสะท้อนกับแสงแดด

   ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ขนาดเงือกหนุ่มยังน่ามองขนาดนี้ แล้วเงือกสาวจะน่ามองขนาดไหน

   ผมคิดพลางเอื้อมมือไปเกลี่ยเอาเส้นผมยาวสลวยมาจับดู

   น่าแปลกใจที่มันไม่เปียกทั้งที่โดนน้ำมาเมื่อครู่ มันนุ่มเหมือนกับเส้นไหมไม่มีผิด

   “ทะ ท่านทำสิ่งใดกัน”ชลาสินธุ์เมื่อเห็นว่าผมจับเส้นผมของตัวเองอยู่ก็ถามอย่างตกใจ

   ใบหน้าขาวสะอาดแดงก่ำขึ้นมาทันที

   “อ้อ นี่เหรอ เปล่าๆแค่จับดูเฉยๆ นุ่มดีนะ”ผมว่าแล้วปล่อยมือออก

   “หากท่านชอบ ท่านจะจับมันเท่าไรก็ได้ ตามที่ท่านต้องการ”เขาหันมาพูดทั้งที่ใบหน้าแดงก่ำ

   ทำไมผมถึงคิดว่ามันน่ารักดี

   แต่ว่าตอนนี้สิ่งที่อยู่ในใจของผมก็คือพี่ธารา ความรู้สึกในชาติที่แล้วของตัวเองที่ผมได้รับรู้มันช่วยผลักดันให้ผมรู้สึกรักพี่ธาราในชาตินี้

   แต่สิ่งสำคัญที่ผมอยากจะรู้ก็คือ เขาคิดยังไงกับผมกันแน่ ทำไมเขาถึงไม่ตอบ

   ผมไม่เข้าใจ เป็นเพราะว่าเขาไม่รู้สึกอะไรกับผมใช่ไหม เขาถึงไม่มีคำตอบ ผมควรจะตัดสินใจยังไงดี


   “นายช่วยพาฉันหนีได้ไหม แบบที่นางเงือกเคยพาพระอภัยมณีหนี”ผมตัดสินใจพูดในสิ่งที่ทำให้ชลาสินธุ์ตกใจออกไป

   เขาหันมามองผมด้วยใบหน้าที่ตกใจคล้ายจะกังวล

   “ท่านจะหนีท่านธาราเช่นนั้นหรือ”

   “ทำไมล่ะ ชาติที่แล้วก็ยังหนีได้เลย ไม่ได้รึไง”ผมตอบไป

   “หากท่านต้องการให้ข้าพาหนีนั่นไม่มีปัญหา หากแต่ว่าคืนนี้เป็นคืนเพ็ญ ข้า เอ่อ ไม่สามารถพาท่านไปได้หรอก”

   “ทำไมล่ะ อย่าบอกนะว่าคืนพระจันทร์เต็มดวงนายก็จะเปลี่ยนไปอีกคน”ผมถามอกไป

   “ชะ ใช่ ข้าไม่สามารถออกมาจากถ้ำข้างใต้ได้ หากอยู่ในคืนเพ็ญ แต่ถ้าท่านจะหนีล่ะก็ ท่านก็ควนจะไปก่อนที่พระอาทิตย์จะลับฟ้า”

   “ได้ ไม่มีปัญหา งั้นอีกหนึ่งชั่วโมงเรามาเจอกันที่นี่นะ”ผมนัดเวลา

   “ได้ ข้าจะมารอท่านที่นี่ งั้นข้าไปก่อนนะ ขึ้นมานานพ่อแม่ข้าจะเป็นห่วง”

   “อืม แล้วเจอกัน”



   ในระหว่างที่ผมกำลังจะลุกเดินออกไป ผมไม่ได้ล่วงรู้มาก่อนเลยว่า ตลอดเวลาที่ผมคุยอยู่กับชลาสินธุ์ มีตาคู่หนึ่งจ้องมองมาที่เราตลอด

   
   ผมกลับไปที่ห้องเพื่อที่จะจัดการให้เวลากับตัวเองเพื่อทำใจและเขียนจดหมายบอกพี่วรรณเพื่อที่เขาจะได้ไม่เป็นห่วง

   ส่วนเขาจะเชื่อผมไหมว่าผมหนีไปกับเงือกก็อีกเรื่องหนึ่ง

   ในเวลานี้คือผมต้องหนี ผมจะไม่ยอมอยู่ใกล้กับคนที่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมเด็ดขาด
   

   กว่าผมจะสรรหาถ้อยคำมาเขียนเพื่ออธิบายในสิ่งที่ผมต้องการจะบอกกับพี่วรรณ เวลาก็ผ่านล่วงเลยไปเกือบชั่วโมงพอดี

   ผมรีบวางกระดาษไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียงแล้วหาอะไรแถวนั้นมาทับไว้


   ผมเดินกลับมาที่โขดหินเดิมที่นัดกับชลาสินธุ์เอาไว้

   ชลาสินธุ์นั่งห้อยหางลงไปในน้ำแล้วตวัดมันไปมา พอเจ้าตัวหันมาเห็นผมก็คลี่ยิ้มอย่างดีใจ

   “ข้านึกว่าท่านจะเปลี่ยนใจ”ชลาสินธุ์บอก

   “ไม่หรอก แค่หาของที่จำเป็นน่ะ”ผมบอกพร้อมกับยกกระเป๋าใบเล็กที่ผมหยิบของจำเป็นที่ต้องใช้ยามที่ไปถึงฝั่งเอาไว้

   อย่างน้อยก็ต้องใช้เงินเพื่อนั่งรถกลับบ้าน



   “ท่าน!!”

   ในระหว่างที่เรากำลังเตรียมตัวจะลงน้ำชลาสินธุ์ก็ทักขึ้นมาทำให้ผมชะงัก

   “มีอะไรเหรอ”ผมถามเมื่อเห็นว่าชลาสินธุ์มองมาที่ผมแล้วหน้าซีด
   

   “เจ้าคิดจะทำอะไรกัน”เสียงแข็งกระด้างถามขึ้นทำให้ผมตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันที

   พี่ธารา!!

   ผมหันไปมองเขาด้วยสีหน้าตกใจ แต่พี่ธารากลับไม่ตกใจเลยสักนิดใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความโกรธเกรี้ยว ดวงตา
ของเขาทอประกายสีเขียวอย่างน่ากลัวเวลาที่เขาโมโห

   ผมนึกคำพูดที่จะพูดไม่ออก นึกก้าวขาเดินถอยหนีก็ไม่ได้

   พี่ธาราดูจะโกรธเคืองผมเอามาก เขากำมือแน่นอย่างไม่พอใจ

   “เจ้าคิดจะทำอะไร!!”พี่ธาราถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น ทำให้ผมสะดุ้งด้วยความตกใจ

   ผมมองไปด้านหลังพี่ธาราก็เจอกับคุณอาวสิน คุณอาของพี่ธารายืนอยู่

   พี่ธาราไม่พูดให้มากความหรือแม้จะรอคำตอบจากผม

   ร่างสูงใหญ่ตรงเข้ามาที่ผมก่อนจะดึงตัวผมเข้าหาแล้วจับผมอุ้มขึ้นพาดบ่า

   “พี่ทำอะไรน่ะ!!ปล่อยผมลงนะ!!”ผมร้องบอกเขาทันที

   ตัวของผมโดนอุ้มขึ้นพาดบ่าแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น ทิ้งให้ชลาสินธุ์มองตามด้วยสายตาที่หวาดกลัวและเป็นกังวล


   “ปล่อยผม”ผมร้องบอกพร้อมกับทุบเข้าที่หลังพี่ธารา

   ในเมื่อเขาไม่มีคำตอบให้ผม ไม่ชัดเจนในความรู้สึกกับผมเขาก็ไม่มีสิทธิจะมาทำอย่างนี้กับผม

   แต่ดูเหมือนว่าพี่ธาราจะไม่สะดุ้งสะเทือนเลยสักนิดที่ผมทุบเขาไป

   กลับตรงกันข้ามที่เขาสาวเท้าขึ้นบันไดเร็วขึ้นกว่าเก่า ตามด้วยคุณอาวสินที่เดินมามาติดๆ



   “ปล่อยผม พี่ไม่มีสิทธิจะมาทำอย่างนี้ โอ้ย”ผมร้องเมื่อถูกโยนลงบนเตียงไม่เบานัก

   “เจ้าไปที่หาดนั่นทำไม เช่นใดถึงไปคุยกับเงือกนั่น”พี่ธาราถามด้วยน้ำเสียงที่แข็ง

   ตอนนี้ดวงตาของเขากลายเป็นสีเขียวมรกตเต็มดวง บ่งบอกให้รู้ว่าเขากำลังโกรธผมมาก

   “ผมไม่จำเป็นต้องตอบ”ในเมื่อก็เห็นๆกันอยู่ว่าผมกำลังจะหนี

   อีกอย่างทีผมถามพี่เขายังไม่ตอบ แล้วเรื่องอะไรผมจะต้องตอบเขา

   ผมลุกขึ้นเพื่อจะหนีไปจากเขา แต่ร่างของผมก็ถูกกดลงกับเตียงด้วยมือของพี่ธาราเพียงมือเดียว

   “ปล่อยสิ อย่ามาจับ”ผมตะโกน มือของผมทั้งสองข้างพยายามที่จะดึงมือพี่ธาราออก

   แต่พี่ธาราก็จับมันรวบเอาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวแล้วตรึงมันลงกับเตียงทำให้ผมขัดขืนไม่ได้

   “ข้าฝากท่านด้วยท่านอา”พี่ธาราหันไปบอกอาของเขา

   แล้วทำไมเขาต้องเรียกอาของเขาแล้วบอกว่าให้ช่วย

   อย่าบอกนะว่าจะลงแขกผม

   ผมพยายามดิ้น แล้วยันตัวเพื่อจะลุก

   แต่ผมก็สู้ไม่ได้เมื่อมือใหญ่อีกข้างของพี่ธารากดลงบนท้องน้อยผม

   มันแรงพอที่จะทำให้ผมจุกและขยับตัวไม่ได้

   อาวสินเดินเข้ามาที่เตียงแล้วนั่นคุกเข่าลงข้างๆผม

   ผมมองเขาด้วยความหวาดกลัว พยายามจะถอยหนี แต่ก็ทำไม่ได้เพราะถูกพี่ธาราตรึงเอาไว้

   ยังดีที่เขาไม่ใช่เวทมนต์กับผมให้ผมไม่รู้สึกตัว

   แต่มันก็เลวร้ายเมื่อผมต้องมาเห็นและรับรู้สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

   เสื้อของผมถูกเลิกขึ้นสูงจนเห็นหน้าท้องที่แบนราบของผม

   ผมมองไปที่คุณอาวสินด้วยสายตาที่ตกใจ

   นี่เขากำลังจะทำอะไรกัน!!

   แทนคำตอบ มือของอาวสินวางลงบนหน้าท้องของผมแล้วกดลงเบาๆ เขาพึมพำในภาษาที่ผมไม่รู้จัก

   แสงสีเขียวอ่อนวาบเปล่งแสงออกมาจากท้องของผม

   ผมมองมันด้วยความตกใจ แต่ไม่นาน ความเจ็บปวดมันก็แทรกลึกเข้ามาภายในช่องท้อง

   มันเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆจนผมแทบจะรู้สึกว่าผมกำลังจะตาย

   “โอ๊ย เจ็บ ปะ ปล่อยนะ ผมเจ็บ”ผมร้องโอดครวญ ร่างกายพยายามบิดไปมาเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด หากแต่มันขยับไปไหนไม่ได้เพราะพี่ธาราตรึงเอาไว้ด้วยแรงที่มีมหาศาล

   “อึก ปล่อย ผมเจ็บ อะ  เจ็บ”ผมร้องออกมาจนเสียงเริ่มจะแหบแห้ง

   ความเจ็บปวดยังคงแทรกลึกเข้าไปภายในช่องท้อง

   มันเจ็บจนผมไม่สามารถที่จะทนมันได้ต่อไป

   ผมไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ผมทนความเจ็บปวดนั้นได้ ไม่นานสติของผมก็หมดไป

   ผมหลับตาลงจากความเจ็บปวดที่ไม่สารถจะทนกับมันต่อไปได้

   ผมไม่รู้ว่าผมจะต้องเจอกับอะไรหลังจากที่ผมหลับตาลงและไม่ได้สติ

   แต่ผมรู้เพียงแค่ว่า…ไม่มีวันที่ผมจะหนีไปจากพี่ธาราได้เลย

   มีเพียงน้ำตาหยดเดียวเท่านั้นที่ไหลลงมาจากหางตาของผม

===================================================================

มีต่อ

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
         ต่อ


         ชลาสินธุ์มองดูเจ้าของร่างสูงโปร่งซึ่งเป็นคนรักของพี่สาวกลับชาติมาเกิดถูกอุ้มไปด้วยสายตาที่ทั้งกลัวทั้งเป็นห่วง

   ถึงแม้เวลานี้ยักษ์จะไม่ทำร้ายเงือกและไม่สนใจที่จะกินเนื้อสัตว์ใหญ่หรือฆ่าแกงใคร

   แต่เขาเองก็รู้สึกว่าเป็นห่วงอภัยมณีไม่หาย

   หากตาสายตาที่จ้องมองไปที่ยักษ์สองตนกับคนที่ถูกอุ้มไปจนลับตานั้น ไม่ได้เอะใจว่ามีอะไรรออยู่

   จนลับตาเงือกหนุ่มจึงได้ถอนหายใจออกมา ครั้นอยากจะไปช่วยก็ไร้สิ้นเรี่ยวแรงจะไปสู้รบกับเผ่ายักษ์ษา ได้แต่เอาใจช่วยอยู่ห่างๆ

   นานจนพระอาทิตย์คล้อยเคลื่อนผ่านจุดเดิมไปไกลที่ชลาสินธุ์จ้องมองไปในทิศทางที่อภัยมณีถูกพาตัวไป

   เงือกหนุ่มถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ถึงมองไปอีกนานแค่ไหนก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้

   ร่างบอบบางไม่ต่างอะไรกับสตรีขยับตัวเพื่อที่จะเคลื่อนตัวลงสู่มหาสมุทร

   หากแต่ข้อมือก็ถูกคว้าเอาไว้แน่นจนต้องหันกลับไปมองด้วยความตกใจ

   “ท่าน!!”ชลาสินธุ์ถามด้วยน้ำเสียงที่ตกใจยามสบตาเข้ากับดวงตาคมกริบของอีกฝ่าย

   ใบหน้านั้นเขาจำมันได้ดี ใบหน้าที่ถึงแม้เวลาจะผ่านไปเป็นหลายปีเขาก็ยังจำได้

   เด็กหนุ่มที่เขาเคยเจอเมื่อครั้งก่อนในตอนนั้น



   ย้อนเวลากลับไปห้าปีกว่า

   ด้วยความไม่ค่อยเชื่อฟังคำของพ่อแม่จึงได้ออกมาว่ายน้ำเล่นไกลจากเกาะอยู่มากพอดู

   ความที่อยากเห็นมนุษย์ตัวเป็นๆเพราะไม่ได้เห็นมานานทำให้ว่ายเข้าไปใกล้เรือของนักท่องเที่ยว

   เคราะห์ดีที่เป็นยามค่ำคืนถึงไม่มีใครเห็นถึงสิ่งที่ผิดปรกติ

   ใบหน้างดงามแฝงอยู่ในความมืดเฝ้ามองผู้คนสังสรรค์กันอยู่บนเรือพร้อมกับรอยยิ้มฉายอยู่บนใบหน้าเมื่อได้ยินเสียงเพลงที่เปิดจนดังแว่วมากดาดฟ้าของเรือ

   เป็นมนุษย์นี่ท่าจะดูสนุกไม่น้อย



   แต่ไม่นานความสนุกของเขาก็หมดลงเมื่อได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรกระทบผิวน้ำอยู่ไม่ไกล

   ตามด้วยเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือเพราะมีเด็กตกน้ำ

   เงือกหนุ่มเริ่มกระวนกระวาย ไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยได้ เพราะกลัวว่ามนุษย์จะเห็นแล้วทำร้ายตน



   แต่แล้วก็มีมนุษย์หนุ่มคนหนึ่งกระโดดลงมาจากเรือทั้งที่ไม่มีใครคิดสนใจลงมาช่วยเด็กที่ตกลงมาเพราะความมืดของท้อง
ทะเลนั้นดูน่ากลัว

   ชลาสินธุ์มองดูด้วยท่าทีเป็นกังวลเพราะความมืดของท้องทะเลนั้น มนุษย์ผู้นั้นไม่สามารถมองเห็นใต้น้ำได้แน่

   หากดันทุรังไปคงจะจมน้ำกันทั้งคู่

   เงือกหนุ่มดำลงไปใต้น้ำแล้วฉุดเอาเด็กเข้ามาในอ้อมกอด แสงไฟจากเรือที่ส่องลงมามีเพียงน้อยนิด

   ชลาสินธุ์ว่ายเข้าหาชายหนุ่มก่อนจะส่งเด็กชายในอ้อมแขนคืน โดยอาศัยความมืดเป็นสิ่งพลางกาย

   แต่กลับไม่รู้เลยว่าคนไฟที่ถูกส่องมาจากบนเรือนั้นจะมีแสงสว่างพอที่จะทำให้ชายหนุ่มเบิกตากว้างกับสิ่งที่เห็น

   แต่ชลาสินธุ์ก็ว่ายน้ำหนีออกมาเสียแล้ว

   เด็กถูกส่งถึงมือพ่อแม่ที่รอรับอยู่อย่างปลอดภัย แต่คลื่นน้ำที่พัดมาแรงทำให้เขาอ่อนแรงแล้วจมดิ่งสู่ท้องทะเล

   ชลาสินธุ์เห็นท่าไม่ดี ความคิดน้อยและความเป็นห่วงชายที่มีน้ำใจต่อผู้อื่นนั้นไม่อาจปล่อยให้ชายผู้นั้นตายได้

   ร่างกายครึ่งปลาแหวกว่ายเข้าไปใกล้ชายหนุ่มที่เกือบจะสิ้นลมหายใจ

   ริมฝีปากเรียวสวยประกบลงบนริมฝีปากได้รูปก่อนจะมอบลมหายใจให้

   ดวงตาคมเบิกโพล่งขึ้นมาทันทีแล้วดันตัวออกห่างด้วยความตกใจ

   ชลาสินธุ์เองก็เช่นกัน ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมองเห็นเขา

   เงือกหนุ่มยกมือขึ้นจรดปาก เป็นการขอร้องว่าไม่ให้บอกใครก่อนจะดำดิ่งลงไปสู่ห้วงสมุทรที่ดำมืด



   ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลจ้องมองชายผู้นั้นก้าวขึ้นเรือไปโดยปลอดภัย

   เรียวปากบางคลี่ยิ้มอย่างดีใจที่ไม่มีใครเป็นอะไร

   สายตาคมซึ้งเหลือบไปเห็นสิ่งแปลกตากำลังจมดิ่งมาที่ท้องทะเล สร้อยข้อมือประดับลูกปัดที่ทำจากนิลสีดำดูแปลกตา
ร่วงลงมาบนฝ่ามือเล็กพอดิบพอดี

   คงจะเป็นของแทนคำขอบคุณที่ทำให้เงือกหนุ่มยิ้มออกมาด้วยความดีใจ



   “ท่านจะทำสิ่งใด”ชลาสินธุ์ถามออกมาด้วยความตกใจ

   ลำตัวถูกช้อนช้อนอุ้มแนบอดจนตัวลอยขึ้นมาทำให้แขนเล็กคว้าเอาคอของคนที่กระทำการอุกอาจด้วยที่กลัวตก

   หากแต่เงือกหนุ่มไม่ได้รับคำตอบ

   “ท่านจะทำเช่นนี้กับข้าไม่ได้ อาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว ข้าอยู่ที่นี่ไม่ได้”

   ชลาสินธุ์พยายามดิ้น แต่หางยามอยู่บนบกนั้นอ่อนแรงนัก อีกทั้งหากตกไปแล้วแตะพื้นดินร่างกายก็จะกลายสภาพ กว่าจะ
กลับคืนก็ล่วงเลยไปอีกวันที่พระอาทิตย์จะโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมา

   เขารอไม่ได้แน่

   “ได้โปรด ปล่อยข้าไปเถอะ ข้าขอร้อง คืนนี้เป็นคืนจันทร์เพ็ญ ข้าจะต้องแย่แน่หากอยู่ที่นี่”

   “ได้โปรดเถิด ข้าขอร้อง จะให้ข้าทำอะไรข้าก็ยอม จะให้ข้าร้องไห้แล้วเอาน้ำตาของข้าไป หรือจะเอาเลือดของข้าไปก็ได้ ข้าให้ท่านได้หมด เพียงแต่ปล่อยข้าไปเถอะนะ”

   เงือกหนุ่มร้องขอ

   น้ำตาของเลือกนั้นเมื่อร้องไห้ออกมาจะเป็นอัญมณี ล้ำค่าที่หาได้ยาก เลือดของเงือกนั้นถ้าหากมนุษย์ได้กินเข้าไปก็จะเป็นยารักษาโรคได้ทำให้แข็งแรง

   ยิ่งร้องขอก็ยิ่งเปล่าประโยชน์เมื่อชายหนุ่มร่างสูงนั้นไม่ได้สนใจที่จะปล่อยร่างของเขาเลยสักนิด
   

   ไม่นานก็มาหยุดที่ร่มไม้ข้างบ้านหลังใหญ่ลับตาคนเขาวางเงือกหนุ่มลงบนพื้นหญ้าอย่างเบามือ

   “ไม่ ไม่นะ ท่าน ข้าขอร้อง อย่าปล่อยข้าลง”

   เหมือนคำขอจะไม่ได้ช่วยอะไรเมื่อร่างกายครึ่งปลานั้นถูกวางลงบนพื้นหญ้า

   หางที่เป็นปลานั้นค่อยๆกลายสภาพเป็นขายาวเรียว จนทั้งร่างนั้นกลายเป็นร่างของมนุษย์ในสภาพที่ไร้อาภรณ์ปกปิด
   

   แต่ถึงจะมีขาก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีเรี่ยวแรงในเร็วไว ขาที่ได้มาใหม่นั้นจะอ่อนเปลี้ยไม่มีแรง จะต้องรออีกนับหลายชั่วโมงกว่าจะยืนขึ้นได้

   เม็ดพลอยสีน้ำทะเลร่วงหล่นบนพื้นหญ้า จากหนึ่งเม็ดหลายเป็นสองเม็ด แล้วมากขึ้นเรื่อยๆ

   น้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความหวาดกลัวนั้นกลายเป็นเม็ดพลอยสีสวยเหมือนกับสีตาของเงือกหนุ่ม จนชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงมองอย่างอดทึ่งไม่ได้

   “ข้าทำสิ่งใดผิดกัน ท่านถึงได้ทำกับข้าเช่นนี้”

   ใบหน้าหวานราวกับนางสวรรค์เอ่ยถามด้วยความน้อยใจ ริมฝีปากขบเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรงเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ในลำคอ

   ดวงตาสีน้ำทะเลจ้องมองไปยังชายหนุ่มร่างสูงด้วยแววตาตัดพ้อแล้วปลดสร้อยข้อมืดที่ทำจากนิลสีดำคืนให้

   “ฉันไม่ได้อยากได้มันคืน แต่ฉันอยากได้สิ่งนี้”สิ้นเสียงชายหนุ่มก็ชี้ไปที่ร่างกายที่เปลือยเปล่าของเงือกหนุ่มทำให้ชลาสินธุ์เบิกตาด้วยความตกใจ
   


=================================================================

เอร๊ยยยยยย คนเขียนใจรัายยยยยย

คราวนี้ล่ะพ่อเอ้ย
ลูกเขยเป็นยักษ์ ลูกสะไภ้เป็นเงือก
งามหน้าไหมล่ะเจ้าค่ะ  ขุ่นพ่อ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2015 19:48:16 โดย โซ อึน »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ชอบคู่รอง~


งานนี้ลูกสะใภ้ ลูกเขยหน้าตาดีทั้งคู่  ขุ่นพ่อต้องดีใจแน่แท้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ต๊ายยยยยย พี่วรรรณเมียสาม จะเอาน้องเงือกแล้วเจ้าข้า
ขณะที่มณีคงจะโดนทำพิธีกรรมบางอย่าง
รอตอนต่อไปปปปปป
ปล.คู่รองโผล่มาแล้วน่ารักอะะะะะ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ชัดเจนมากเลยค่ะพี่วรรณ :hao7:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
เอาละวุ้ย เขยเป็นยักษ์ สะใภ้เป็นเงือก  :hao3:

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
ชวนลุ้นมากเลย >< ตายละงานนี้สงสัยจะได้ (หลาน) ทีถึงสอง!!!

ออฟไลน์ KoTo_Nat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อร๊ากกกกก เมื่อไหร่จะถึงฉาก

ร่วมรักของพระอภัยมณีกับพี่ธารา

จะรอนะคร๊าฟฟ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ RELAXED

  • ทำไงได้ก็ Y มันเรียกร้อง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ทำไมบางตอนก้ออ่านไม่ได้อ่ะคะ

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
ทำไมบางตอนก้ออ่านไม่ได้อ่ะคะ
เป็นเพราะรีไรส์แล้วก็ลงใหม่
แต่ทำลิ้งค์ไว้แล้วจ้า
คิดว่าลงครบแล้วน้า เด่วดูให้เนอะ

ตอนที่ 3 4 5 6 7 8 อยู่หน้า 6 จ้า
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2015 10:52:53 โดย โซ อึน »

ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
รอฉากนั้นอยู่นะ  :hao7: :hao7:

ปล. เหมือนคนเขียนจะลืมเปลี่ยนตอนจาก 15 เป็น 16 หรือเปล่าคะ  :confuse:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
20700

ครั้งที่  17  คำสัญญา


   “อะ อือ”

   ผมครางอือในลำคอเสียงเบา รู้สึกหนักหัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

   นี่ผมหลับไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมามองดูเพดานห้อง

   แต่กลับมองเห็นท้องฟ้าที่กำลังกลายเป็นสีแดงอมส้มของยามเย็นผ่านเพดานกระจกใสแทน

   จริงสิ ตอนนี้ผมอยู่ในบ้านพี่ธารา ครั้งสุดท้ายที่ผมจำได้ ผมถูกพี่ธาราอุ้มมาจากชายหาดก่อนที่ผมจะหนีไปกับชลาสินธุ์ นายเงือกรูปงามแล้วถูกพามาโยนลงบนเตียงนี่

   แล้วก็ถูกพี่ธาราจับกดเอาไว้ และคุณอาวสินก็ทำอะไรแปลกๆกับผม ทำให้ผมรู้สึกเจ็บท้องมาก เหมือนมีอะไรมันแทรกเข้าไปข้างใน

   พอนึกได้ผมก็ยกมือคลำที่ท้องตัวเองทันที แต่แปลกที่มันไม่รู้สึกว่าเจ็บปวดหรืออะไรเลยสักนิด

   หรือว่าผมจะฝัน ไม่สิ ไม่ใช่ฝันแน่นนอน

   ผมก้มลงมองตัวเองที่อยู่ในสภาพชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาดด้วยความตกใจ โดยที่ด้านในชุดคลุมอาบน้ำนั้น ผมไม่มีอะไรปกปิดร่างกายเลยสักนิด

   นี่มันหมายความว่ายังไงกัน ผมอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำนี่ได้ยังไง

   ต้องเป็นพี่ธาราแน่ที่ฉวยโอกาสเปลี่ยนให้ผมตอนที่ผมหมดสติไป

   ผมสำรวจตัวเองทันที ผมรีบเปิดเสื้อคลุมอาบน้ำออก แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ แถมก้นก็ไม่เจ็บ

   เลยได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาเบา ถึงจะงงว่าพวกขำอะไรกับผม แต่มันไม่ใช่เวลาจะมานั่งคิดแล้ว

   ผมต้องหนี จะต้องหนีให้ได้ ไม่งั้นผมจะต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำมากที่สุดในตอนนี้

   พอนึกถึงมันผมก็รู้สึกเคืองพี่ธาราขึ้นมาทันที ในเมื่อเขาไม่มีความรู้สึกอะไรต่อผมแล้วเขาไปพาผมกลับมาทำไมล่ะ

   หรือเป็นเพราะแค่หน้าที่และสิ่งที่พวกเขาต้องการเท่านั้น เขาถึงได้ดูโกรธเคืองผมมาก

   ผมยันตัวขึ้นลุกเตรียมจะหาเสื้อผ้าใส่ แต่คนที่ก้าวออกมจากห้องน้ำก็ทำเอาผมแทบจะหงายเงิบ

   พี่ธาราออกมาจากห้องน้ำในสภาพชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาดตาเหมือนกันกับผม ต่างกันที่ขนาดเท่านั้น

   หยดน้ำยังคงเกาะพราวอยู่บนตัวเขา บ่งบอกว่าเขาพึ่งจะอาบน้ำเสร็จ เสื้อคลุมแหวกออกกว้างและลึกจนเห็นถึงแผงอกล่ำสี
เข้มกับหน้าท้องเป็นลอนที่ทำให้ผมกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่

   พี่ธารามองมาที่ผมด้วยสายตาที่ว่างเปล่าแล้วค่อยๆเดินเข้ามาหาผมที่ยืนอยู่ข้างเตียง

   ดวงตาสีดำสนิทของเขาทอประกายสีเขียวอ่อน รับกับแสงของดวงอาทิตย์สีแดงอมส้มที่กำลังจะลับขอบฟ้า

   ท้องฟ้าเบื้องบนกำลังจะเปลี่ยนสีกลายเป็นสีฟ้าเข้มและกำลังจะมืดลง ดาวมากมายเริ่มทอแสงออกมาให้เห็นอยู่ประปราย

   อีกทั้งพระจันทร์ดวงกลมโตที่กำลังจะขึ้นอยู่อีกฟากตรงกันข้าวในทิศที่ดวงอาทิตย์กำลังจะตกดิน

   ผมถอยหลังหนีพี่ธาราอย่างหวาดระแวง โดยไม่ทันระวังว่าด้านหลังจะเป็นขอบเตียง ทำให้ผมล้มลงไปนั่งอยู่บนขอบเตียงพอดิบพอดี

   ผมสุดทางหนีอยู่ที่เตียงโดยที่พี่ธาราก้าวเข้ามายืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าของเขาโน้มเข้ามาหาจนชิด จมูกโด่งคลอเคลียกับจมูกของผมโดยที่สายตาของเขายังคงว่างเปล่า ไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใดใด

   ผมของเขาค่อยๆยาวลงมาเรื่อยๆจนถึงลาดไหล่ของเขา คิ้วหนาเข้มค่อยๆเปลี่ยนเป็นลวดลายอย่างที่ผมเคยเห็นตอนแรกเจอกับพี่ธารา ดวงตาที่ยังเป็นสีดำอยู่ก่อนหน้าตอนนี้กลายเป็นสีเขียวมรกตเต็มดวง ถึงแม้จะเป็นสีที่ยังไม่เข้มจัดเหมือนเวลาที่เขาโกรธ

   แต่มันก็ยังดูน่ากลัวอยู่ดี

   จมูกของเขาไล้ลงมาที่แก้มผมเบาเบา ผมได้ยืนเสียงสูดหายใจของพี่ธารา ทำให้ผมหลับตาลงด้วยความกลัว

   เหลือแค่เขี้ยวเท่านั้นที่ยังไม่โผล่ออกมา รูปร่างของพี่ธาราเหมือนจะใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

   รู้ตัวอีกทีจมูกที่คลอเคลียผมอยู่พักใหญ่ก็ถอนออกไป ทำให้ผมลืมตาขึ้นมอง แต่นั่นผมก็ต้องตกใจอีกรอบ

   ท้องฟ้ากลายเป็นสีฟ้าเข้มไปแล้ว พี่ธาราอุ้มช้อนขึ้นมาโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้ผมกอดคอเขาแน่นเพราะกลัวตก

   ในเวลานี้พี่ธาราตัวใหญ่กว่าเดิม ทำให้ขนาดของร่างกายผมกับเขาต่างกันโดยสิ้นเชิง

   “พี่จะทำอะไรน่ะ!!”ผมถามเมื่อเขาอุ้มผมขึ้นแล้วกำลังเดินไปที่นอกระเบียงห้องซึ่งเป็นส่วนของสระน้ำ

   “ปล่อยผมนะ จะพาผมไปไหน”ผมเริ่มดิ้น และดันอกเขาออก

   ถึงแม้ว่าจะกลัวตก แต่ผมก็กลัวว่าพี่ธาราจะทำอะไรผมมากกว่า

   “ปล่อยผมสิ พี่ไม่มีสิทธิมาทำกับผมอย่างนี้นะ”ผมโวยวาย

   แต่พี่ธาราก็ไม่สะดุ้งสะเทือนกับคำพูดของผมเลยสักนิด

   ผมถูกอุ้มมาถึงสระน้ำ

   ภาพที่ผมเห็นทำให้ผมตาโตขึ้นมา น้ำในสระถูกลอยด้วยดอกมะลิสีขาวจนเต็ม ทำให้มันส่งกลิ่นหอมกรุ่นไปทั่ว เหมือนจะถูกเตรียมเอาไว้

   ดอกมะลิสีบริสุทธิ์ขยับไปตามแรงเคลื่อนไหวของน้ำเมื่อพี่ธาราก้าวลงไปในสระส่วนที่ตื้นที่สุดที่มีไว้สำหรับนั่งแช่

   ผมถูกวางนั่งลงพิงขอบสระ โดยที่พี่ธาราเองก็ตามลงมาไม่ไกล

   เขากำลังจะทำอะไรกัน?

   ครั้งสุดท้ายที่เขาทำสิ่งที่ผมไม่เข้าใจคือ ความเจ็บปวดที่แทรกเข้ามาในท้อง

   แสงของพระจันทร์ที่เต็มดวงกำลังสาดลงมาที่เราสองคน

   พี่ธารามองมาที่ผมด้วยสายที่ที่เปลี่ยนไปจากเดิม….สายตาที่ผมไม่เข้าใจ

   และไม่คิดว่าจะอยากเข้าใจมันด้วยในเมื่อผมไม่ได้ต้องการที่จะเข้าใจมันเองโดยที่เจ้าตัวไม่ได้บอกถึงความรู้สึกของเขาที่มี
ต่อผม

   ผมลุกขึ้นถอยหนีมือที่กำลังเอื้อมเข้ามาหา ผมปัดมันออก

   แต่พี่ธาราก็เร็วเกินกว่าที่ผมจะลุกหนีไปได้ มือของผมถูกคว้าเอาไว้ ทำให้ผมหันไปมองเขาด้วยสายตาที่โกรธเคือง

   ในเมื่อเขาปฏิเสธในคำถามที่ผมต้องการคำตอบ

   ผมเองก็จะปฏิเสธในสิ่งที่เขาต้องการเหมือนกัน

   “อย่ามายุ่งกับผม ผมไม่อยากจะอยู่ใกล้กับพี่”จบคำพูดผมก็ดึงมือของตัวองออกจากมือใหญ่ที่กุมไว้

   “อย่าคิดหนีไปจากข้า”พี่ธาราพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

   แต่นั่นมันก็สายไปแล้วในเมื่อผมคิดหนีแล้วหนีเขาไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่มันก็ไม่สำเร็จ

   เขาลุกตามผมมาทำให้ผมเลี่ยงไม่ได้ที่จะถอยไปในสระส่วนที่ลึกขึ้น

   “ปล่อยผมสิ อย่ามายุ่งกับผม”ผมพยายามผลักเขาออกเมื่อมือใหญ่นั้นมาคว้าผมอีกครั้ง

   คราวนี้มันแรงพอที่จะดึงรั้งผมเอาไว้ ผมถลาเข้าไปหาเขาตามแรงดึง

   การเคลื่อนไหวในน้ำไม่ใช่เรื่องง่าย

   ดอกมะลิที่ลอยอยู่เหนือน้ำกระจายไปตามแรงผลักดันของผมที่พยายามจะหลุดออกจากอ้อมออดของพี่ธารา

   “ปล่อยสิวะ พี่ไม่มีสิทธิจะมาจับผมด้วยซ้ำ อย่ามาทำเหมือนว่าตัวเองมีสิทธิที่จะทำอะไรกับผมก็ได้น่า”

   ใช่ เขาทำเหมือนว่าผมไม่มีความรู้สึก ทั้งที่เขากอดผม จูบผม ทำให้ผมรักแบบนี้

   แต่เขากลับไม่เคยแม้แต่จะบอกความรู้สึกของเขาที่มีต่อผม

   สำหรับเขาผมเป็นอะไรกัน

   “อย่าให้ข้าต้องบังคับเจ้า ”เขากระชับอ้อมกอดแน่นจนผมรู้สึกอึดอัด

   “พี่ก็ดีแต่บังคับ ดีแต่พูดเอาเองทั้งที่พี่ไม่เคยบอกอะไรผมเลย ปล่อยผมสิ”ผมทุบเข้าที่ไหล่พี่ธาราอย่างแรงเพื่อหวังให้เขา
ปล่อยผม

   “สิ่งนั้นหาได้จำเป็นไม่”

   “ใช่สิวะ ก็พี่เป็นยักษ์นี่ ถึงได้ไร้หัวใจแบบนี้ ไม่คิดถึงความรู้สึกของคนอื่น ว่าเขาจะคิดยังไง ปล่อยสิเว้ย บอกให้ปล่อย”ผมเริ่มหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเก่าแล้วเริ่มที่จะพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดออกไป



   พอผมพูดจบพี่ธาราก็นิ่ง ปล่อยให้ผมทุบตีเขาอยู่อย่างนั้นเหมือนกับเขาไม่ได้สะดุ้งสะเทือนเลยสักนิด

   “ข้าไม่ได้ไร้หัวใจ”เขาบอกเสียงเบา

   แต่นั้นก็ยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดเข้าไปใหญ่

   เขากล้าพูดได้ยังไงว่าเขาไม่ได้ไร้หัวใจ ในเมื่อเขาไม่เคยบอกเลยว่าเขาผม ไม่ว่าจะทั้งในชาติที่แล้วหรือชาตินี้

   เขามันเป็นยักษ์ใจร้าย เป็นยักษ์ที่ไร้หัวใจมากที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา

   “ถ้าพี่ไม่ได้ไร้หัวใจ พี่ก็ตอบผมมาสิ…ว่าพี่คิดยังไงกับผม”

   น้ำอุ่นๆมันไหลออกมาจากดวงตาของผมโดยที่ผมไม่รู้ว่ามันออกมาได้ยังไง มาไหลลงมาผ่านแก้มของผม แล้วจรดลงที่คาง ก่อนจะร่วงหล่นลงสู่ผืนน้ำที่โรยไปด้วยดอกไม้ขาวสะอาด

   ความเงียบเข้าปกคลุมเราทั้งสองคน อ้อมแขนของพี่ธาราค่อยๆคลายออก สายตาของพี่ธารามองมาที่ผมด้วยแววตาที่เหมือนกับตัดพ้อ

    ตอนนี้แสงจันทร์ค่อยๆจัดเจนขึ้น ผมถือโอกาสที่อ้อมแขนนั้นคลายออกถอยห่างจากพี่ธารา

   ระดับน้ำในสระที่แตกต่างกันทำให้ผมจมลงสู่ก้นสระที่ลึกกว่าเป็นเท่าตัว ผมมองไปเบื้องบน

   จิตใจของผมตอนนี้มันรู้สึกตีรวนจนวุ่นวายไปหมด ในขณะที่ร่างกายของผมมันกลับตรงกันข้าว มันไร้เรี่ยวแรงจนไม่อยากที่จะขยับ และค่อยๆจมดิ่งสู่ก้นสระ

   ร่างกายของผมถูกฉุดเข้าไปกอดอีกครั้ง ครั้งนี้ทั้งรุนแรงและแน่นหนากว่าเก่าจนผมรู้สึกเจ็บ

   ริมฝีปากร้อนผ่าวเบียดจูบลงมาที่ริมฝีปากของผม ทำให้ผมลืมตาขึ้นมองด้วยตาที่เบิกกว้าง

   อ้อมแขนที่กอดรัดจนแน่นทำให้ผมหนีไปไหนไม่ได้ แรงบดเบียดที่บดขยี้ลงมาทำให้ผมรู้สึกว่าแทบไม่มีช่องว่างระหว่างปาก
ของเราหลงเหลืออยู่

   ผมพยายามทั้งผลักทั้งดันพี่ธาราออกไป แต่มันไม่ขยับเลยสักนิด

   ผมถูกดึงขึ้นมาในส่วนที่น้ำตื้นอยู่แค่ช่วงสะโพก  แรงบีบที่แขนทำให้ผมรู้ทันทีว่าพี่ธาราเริ่มจะเปลี่ยนไปเพราะแสงของดวง
จันทร์ที่เริ่มจะส่องมามากขึ้น

   “อื้อ ปะ ปล่อย”ผมพยายามดิ้นและห้ามเขา แรงจูบและลิ้นร้อนที่บดเบียดเข้ามามันไม่น้อยเลยจนทำให้ผมรู้สึกเจ็บ

   “อย่าหนีข้าไปอีก”เสียงคำรามดังขึ้นในลำคอของเขา พร้อมกับแรงบีบและริมฝีปากขยี้ซุกไซร้ลงที่บนลำคอ

   “อึก อย่า ปล่อยผม”ผมร้องขอ

   แต่มันเหมือนกับไม่เป็นผล

   สาบเสื้อคลุมอาบน้ำถูกแหวกออก ขาของผมถูกดันให้อ้ากว้างตามด้วยร่างกายที่สูงใหญ่แทรกเข้ามาระหว่างกลาง

   ใบหน้าคมกร้านมองมาที่ผมด้วยสายตาที่เหมือนกับโกรธเคือง

   “อย่าบังอาจหนีข้าไปอีก”คำราม เสื้อคลุมของผมถูกดึงออกแล้วโยนทิ้งไว้ที่ขอบสระ มือของพี่ธาราลูบลงมาที่บั้นเอวของผมแล้วเคล้นคลึงมันอย่างหนักหน่วง

   ความเย็นของน้ำเริ่มอุ่นขึ้นเมื่อร่างกายของผมและพี่ธาราเริ่มที่จะร้อนจนเหมือนเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้

   “อย่า อือ อย่าทำผม”ผมเบือนหน้าหนีริมฝีปากของพี่ธาราที่ฉกจูบลงมาอีกรอบ

   “อื้อ”ผมร้องในลำคออย่างไม่พอใจ

   เขากำลังใช้กำลัง โดยที่ผมไม่ยินยอม ทั้งที่เขายังไม่มีคำตอบให้กับผม

   แผ่นอกของผมกำลังถูกเคล้นคลึงเช่นเดียวกับริมฝีปากที่กำลังถูกบดเบียด และเรียวลิ้นกำลังถูกกวาดต้อน

   ปลายยอดทั้งสองข้างถูกบีบขยี้คล้ายกับกำลังจะหยอกล้อทำให้ผมขนลุกไปทั่วร่าง

   เท้าของผมจิกเกร็งขึ้นมาทันทีเมื่อพี่ธาราผละริมฝีปากออก แล้วก้มลงบดเบียดลิ้นร้อนกับยอดอกอย่างหื่นกระหาย

   “อือ ปล่อย ยะ อย่า อย่าทำอย่างนี้”ผมร้อง มือทั้งสองพยายามจะดึงทึ้งหัวเขาออกมาแผ่นอก

   แต่มันดูเหมือนจะผมจะจิกทึ้งมันระบางอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นมากกว่า

   ความจุกเสียดเกิดขึ้นที่แก่นกายของผมจนมันตั้งชันท้าทายสายตาของพี่ธาราที่มองมันผ่านสายน้ำที่ใส่จนเห็นทะลุปรุโปร่ง

   เสียงคำรามในลำคออย่างพึงพอใจแว่วมาตลอดเวลาที่ริมฝีปากนั้นลิ้มรสกับเม็ดสีอ่อนจนมันเริ่มบวมช้ำและขึ้นสีแดงก่ำ

   “ปล่อย ผม อึก พอ แล้ว พี่จะทำ กับผมแบนี้ มะ ไม่ได้”ผมพยายามดันหัวพี่ธาราออก

   ขาของผมถูกจับให้ยกขึ้นไปเกาะเกี่ยวเอาเอวหนาของพี่ธาราเอาไว้ ทำให้ร่างกายของเราแนบชิดกว่าเก่า

   ความร้อนของพี่ธาราส่งผ่านมาทางผิวกายของเขา

   มือหนาลูบไล้และบีบเค้นไปทั่วร่างกาย พร้อมกับเสียงครางอย่างพึงพอใจกับรสชาติที่เขาได้ลิ้มลอง

   ผมขมวดคิ้วเมื่อถูกยกตัวขึ้นให้นั่งขนหน้าขาแข็งแรงนั่น ก่อนที่ริมฝีปากของพี่ธาราจะประกบจูบลงมาอีกรอบ

   แต่รอบนี้มันดูจะร้อนแรงและกระหายมากกว่าเดิม

   ทั้งเนื้อทั้งตัวผมถูกลูบไล้อย่างหื่นกระหาย ร่างกายสูงใหญ่บดเบียดเข้ามาหา โถมเข้ามาจนผมรู้สึกว่าผมหนีไปไหมไม่ได้อีกแล้ว

   “อะ อื้อ”ผมยังคงพยายามดิ้น

   เล็บของผมจิกลงบนลาดไหล่ของหนาของเขา และพยายามผลักมันออก สลับกับทุบลงไป

   มือของเขาบีบขยี้ลงบนเผ่นอกของผม ไล่ลงไปที่บั้นเอว ก่อนจะหยุดแล้วบีบเคล้นที่แก้มก้นอันกลมกลึงของผม

   มันถูกบีบเคล้นซ้ำไปซ้ำมาอยู่แบบนั้น และถูกแหวะออกด้วยเรียวนิ้วจนผมสะดุ้งผละตัวออก

   “จะ ทำอะไรน่ะ มะ ไม่ได้นะ”ผมส่ายหน้า

   หลบริมฝีปากที่พยายามฉกฉวยลงมา

   “อย่าดื้อน่า ข้าไม่อยากขืนใจเจ้า”เขาเค้นเสียงทั้งที่ยังซุกหน้าลงบนซอกคอของผม

   “ไม่ พี่กำลังทำอยู่  ปล่อยผมสิ อื้อ”ผมสะอื้นในลำคอ

   “กายเจ้าช่างหวานนัก”เขาพูดขณะที่ลิ้นของเขากำลังไล้เลียอยู่ที่ต้นคอของม

   เขาแตกต่างออกไปจากพี่ธาราคนเดิมที่อ่อนโยน เพราะแสงจันทร์ที่ส่องลงมา

   “พี่ไม่มีสิทธิ จะ ทำแบบนี้ ในเมื่อพี่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมเลย ปล่อยผมนะ พี่ไม่ได้รักผม ได้รู้สึกอะไรกับผม พี่ก็อย่าทำกับผมแบบนี้ ผมเป็นคน ที่มีหัวใจ ไม่ใช่ยักษ์ ในเมื่อพี่ไม่ได้รู้สึกอะไรต่อผมพี่ก็ไม่มีสิทธิที่จะทำกับผมอย่างที่พี่ทำอยู่ ผมเกลียดพี่ เกลียด
ที่พี่ไร้หัวใจแบบนี้”

   ผมพูดพร้อมกับจ้องมองสายตาสีเขียวมรกตคู่นั้นที่มองมา แค่ฉับพลันมันก็แปรเปลี่ยนเป็นแววตาที่เกรี้ยวกราดเมื่อผมพูดจบ

   “ข้าไม่ได้ไร้หัวใจ!!”

   เขาประกาศกร้าวก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากลงมา

   “อื้อ”คราวนี้มันทั้งหนักหน่วงและรุ่นแรงจนผมรู้สึกเจ็บ

   เรียวขาของผมถูกดันให้ยกขึ้นอ้ากว้างก่อนที่นิ้วร้อนจะสอดแทรกเข้ามาแหวกเอาแก้มก้นออกจากกันเผยให้เห็นช่องทางของ
ผมต่อสายตาของเขา

   “ข้าจำเป็นต้องทำ”สิ้นเสียง นิ้วร้อนแข็งกระด้างก็สอดแทรกเข้ามาในร่างกายของผมจนสุด

   ความร้อนของนิ้วมือบวกความความจุกเสียดทำเอาผมหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด

   เจ็บที่ร่างกายก็ไม่เท่ากับเจ็บที่หัวใจ

   ผมไม่เข้าใจ และไม่เคยเข้าใจว่าสิ่งที่เขาทำกับผมมาตลอดมันคืออะไร แม้กระทั่งตอนนี้

   จากหนึ่งนิ้วกลายเป็นสองนิ้ว

   “อึก จะ เจ็บ”ผมร้องเมื่อนิ้วเริ่มขยับไปมา

   ความเสียดและความรู้สึกร้อนข้างในมันทำให้ผมรู้สึกแย่

   ผมผวาคว้าเอาไหล่ของพี่ธาราเกาะเอาไว้เพื่อพยุงตัว นิ้วที่อยู่ข้างในตัวของผมเพิ่มเป็นสามโดยที่ผมเริ่มยังคงรู้สึกถึงความ
เจ็บจนต้องขบเม้มริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียง

   เท้าของผมพยายามถีบไปมาเพื่อที่จะหลุดออกจากเรียวนิ้วของพี่ธาราที่สอดเข้ามา แต่มันก็ไร้ผล

   “อึก พะ พอแล้ว ไม่เอา”ผมร้องขอออกไปทั้งที่รู้ว่าพี่ธาราคงจะไม่ฟัง

   นิ้วทั้งสามขยับเข้าออกไปมา จากที่รู้สึกแสบก็เริ่มรู้สึกหน่วงๆอยู่ข้างไปจนต้องจิกเล็บเท้าลงกับพื้นสระ

   กลิ่นหอมอ่อนๆของดอกมะลิที่ลอยอยู่เต็มผืนน้ำช่วยบรรเทาให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง

   แต่มันก็ได้เพียงแค่เศษเสี้ยวเมื่อนิ้วทั้งสามถูกถอดถอนออก

   ผมเงยหน้ามองพี่ธาราด้วยความไม่เข้าใจ แล้วถอยหลังหนีเมื่อพี่ธาราถอดเสื้อคลุมตัวเองออกบ้างทั้งที่แผ่นหลังผมชิดริมสระ
อยู่แล้ว

   ผมแทบจะอยากหายเข้าไปในผนังของสระน้ำเมื่อร่างกายเปลือยเปล่าของพี่ธาราปรากฏอยู่เบื้องหน้า

   ร่างกายกำยำเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสมบุรุษ กับผิวสีแทนที่ถูกสาดด้วยแสงจันทร์เหลืองนวล

   ผมไม่รู้ว่าเขี้ยวของพี่ธารางอกออกมาเมื่อไร รู้ว่าแค่สิ่งที่อยู่กึ่งกลางร่างกายของพี่ธารากำลังตั้งตระหง่านทักทายกับสายตา
ของผมอยู่

   ความใหญ่โตของมันทำให้ความกลัวแล่นเข้าสู่ก้นบึ้งของจิตใจทันที

   ขาของผมถูกจับแยกออก แทนที่ด้วยลำตัวของพี่ธาราที่กดลงมาระหว่างกลาง

   “ยะ อย่า”ผมร้องเสียงเบา แล้วกลืนน้ำลายลงคอ

   ความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่ช่องทางเบื้องหลังเมื่อกายสูงใหญ่นั้นกดลงมาที่ปากทางเข้าของผม

   มันดันลึกเข้าไปจนผมรู้สึกว่าด้านหลังแทบจะฉีกขาด

   “จะ เจ็บ อึก ผมเจ็บ”ผมพยายามดันอกพี่ธาราไว้เพื่อให้เขาหยุด

   หากแต่พี่ธาราไม่ฟังมัน

   กลับกดแก่นกายลึกเข้าไปอีก ความรู้สึกเจ็บมันแล่นเข้าสู่ทุกอนุของร่างกายทำให้ผมจิกเล็บลงบนลาดไหล่ของเขาเพื่อ
ระบายมันออกมา

   “อะ อึก ผมเจ็บ ฮึก”ผมสะอื้น

   พี่ธาราขยับมันเข้าไปจนสุดแล้วเริ่มขยับมันเข้าออก บั้นเอวของเขาขยับมันจากช้าๆเริ่มกลายเป็นถี่ขึ้น

   เหมือนกับความรู้สึกเจ็บของผมที่ค่อยๆกลับกลายเป็นรู้สึกแปลกใหม่

   “ฮึ่ม”พี่ธาราครางในลำคออย่างพึงพอใจ ในขณะที่ผมเริ่มที่จะกรีดร้องออกมาด้วยความรู้สึกแปลกกับสิ่งที่ได้รับ

   “ปะ ปล่อย อ๊ะ พี่ ปล่อยผม”ทั้งที่ผมอยากจะให้เข้าหยุด แต่แขนของผมกำลังโอบรอบคอของเขา

   แรงกระแทกเข้ามาในร่างกายของผมเริ่มหนักหน่วง ทั้งเร่าร้อนและรุนแรง จนน้ำในสระกระเพื่อมไปตามแรงกระแทก

   ความกระสันมันก่อตัวขึ้นตรงจุดกึ่งกลางของร่างกายผม ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ถูกกระแทกกระทั้นเข้ามาในร่างกาย ความสุขมันก็ถูกเติมเต็มจนแทบจะล้น ส่วนลึกในใจที่รู้สึกดีกำลังต่อต้นอยู่กับจิตใต้สำนึกที่คัดค้าน

   เรียวขาของผมกอดรัดบั้นเอวหนาที่กำลังกระแทกเร็วรัวเข้ามาอย่าบ้าคลั่ง

   “อะ อ๊ะ ปล่อย อื้อ มะ ไม่ไหวแล้ว”ผมกรีดร้องสุดเสียง

   ในที่สุดผมก็ยอมพ่ายแพ้ให้กับสิ่งที่ถูกเติมเต็มจนล้นออกมา ผมสำลักความกระสันแล้วปลดปล่อยมันออกมาผ่านสายน้ำที่กำลังกระเพื่อมไปมาอย่างบ้าคลั่งเหมือนกับคลื่นน้ำในทะเลที่กำลังเจอพายุ

   ลำตัวของผมกระตุกเกร็งเบาเบาก่อนจะกอดรัดพี่ธาราแน่น ทั้งที่ร่างกายยังถูกสอดใส่เข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน

   แสงจันทร์เหลืองนวลยังคงสาดส่องมาที่เราสองคนแม้ว่ามันจะเคลื่อนที่จนเกือบจะตรงหัวของเรา

   เสียงร้องครวญครางของผมก็ยังคงดังแว่วทั้งที่รู้สึกเหนื่อยจนแทบขาดใจ แต่ดูเหมือนว่าพี่ธารายังคงไม่พอสำหรับมัน

   กายที่แข็งขืนสอดเข้ามาภายใน ครั้งแล้วครั้งเล่า ใบหน้าของเขาซบลงที่ลำคอของผม พร้อมกับเสียงครางคำรามอย่างพึงใจ

   ความบ้าคลั่งในอารมณ์ของพี่ธารายังไม่ยอมจบสิ้น ร่างกายของเขายังคงขยับเข้าออกอยู่ภายในร่างกายของผมเรื่อยๆ

   จนผมถูกช่วยให้เติมเต็มจนล้นออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า

   “อะ พะ พี่ธารา ผะ ผมไม่ไหวแล้ว อึก ผะ ผม ฮึก พอแล้ว”

   ผมทั้งร้องขอทั้งคราญครางไปพร้อมๆกัน

   “อะ อือ อย่าหนีข้าไปอีก”พี่ธารากระซิบข้างหู

   “อือ”ผมตอบรับ เพราะถึงยังไง ผมก็หนีเขาไปไม่พ้นอยู่ดี

   “ข้า….”




   พี่ธาราเหมือนจะพูดแต่ก็เงียบไป ร่างกายของเขาเริ่มเกร็งและขยับเร็วรัวกว่าเก่า เหมือนพายุที่กำลังโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง
ก่อนจะสิ้นสุด

   “ข้า…รัก…”

   ถึงคำพูดของเขามันจะแผ่วเบาคล้ายกับสายลมที่พัดผ่าน

   “เจ้า…”

   แต่ผมก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน

   “อย่าหนีข้า….ไปอีก”

   พี่ธารากระแทกกายเข้ามาอย่างรุนแรง พร้อมกับความกระสันของผมที่กำลังจะล้นเอ่อออกมาอีกครั้ง

   น้ำในสระขยับไปมาจนล้นขอบสระในขณะที่เราสองคนกำลังขยับกายสอดประสานเข้าหากัน

   น่าแปลกที่รอบนี้ผมกลับเต็มใจที่จะโอบกอดพี่ธารา หัวใจของผมกลับสุขล้นราวกับถูกเติมเต็ม ในที่สุดมันก็ล้นเอ่อออกมาอีกครั้ง ตามด้วยเสียงหอบหายใจของผมที่ดังขึ้นตามมาติดๆ

   แรงโหมกระหน่ำของพี่ธารายังคงส่งเข้ามาในร่างกายจนครั้งสุดท้ายที่พายุได้สิ้นสุดลง พร้อมกับน้ำอุ่นจนร้อนถูกสาดเข้ามาข้างในกายผมจนผมรู้สึกอุ่นวาบอยู่ข้างใน

   ใบหน้าของผมแดงก่ำทันทีที่รับรู้ว่ามันคืออะไร พี่ธาราหยุดนิ่งแล้วกอดผมเอาไว้พร้อมกับลมหายใจถี่รัวเป่ารดใบหูผม

   “ข้าขอร้อง อย่าหนีข้าไปอีก ได้หรือไม่”พี่ธารากระซิบพร้อมกับจูบซับลงที่ข้างหู

   “อะ อือ”ผมก้มหน้าพยักหน้าเบาเบา

   ใบหน้าของผมรู้สึกว่าร้อนวาบอย่างบอกไม่ถูกที่พึ่งจะนึกขึ้นได้ว่าเราพึ่งจะทำอะไรกันในสระน้ำนี่


   “สัญญากับข้าได้หรือไม่ มณีของข้า”พี่ธาราก้มหน้าลงมาแล้วมองผมด้วยดวงตาที่อ่อนลงจากเมื่อครู่

   “อือ อะ ออกไป ได้แล้ว”ผมตอบไป ทั้งที่ใบหน้าแดงก่ำ

   ร่างกายของพี่ธารา ร่างกายของพี่ธารายังคงค้างคาอยู่ภายในร่างกายของผม ความอุ่นร้อนมันไหล่เวียนอยู่ด้านในจนรู้สึกว่า
มันทั้งชื้นและแฉะ

   “สัญญากับข้าได้หรือไม่ คู่ครองของข้า”

   “อะ อะไรนะ คู่ครอง?”ผมเงยหน้าถามอย่างแปลกใจกับไอ้คำว่าคู่ครอง นี่ผมได้ยินไม่ผิดใช่ไหม

   “ใช่คู่ครอง เมื่อใดที่ร่วมรักในคืนจันทร์เพ็ญ จักถือว่าเป็นคู่ครองซึ่งกันกัน ชีวิตจะผูกติดกันตลอดไป”เขาตอบแล้วยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์

   หมายความว่าไง เมื่อกี้ยังไม่ใช่อย่างนี้เลย

   ทำไมถึงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างนี้ล่ะ

   “มะ หมายความว่าไง งั้น พี่ก็จะตายตามผมอะดิ เวลาที่ผมตายน่ะ ไม่ได้นะ พี่มีอายุยาวนานกว่าผม จะมาตายพร้อมผมได้ไง”ผมโวยวาย

   “ข้าไม่อยากอยู่อย่างเดียวดายอีกคราหากไร้สิ้นเงาของเจ้า”

   คำพูดของพี่ธาราทำเอาผมอายยิ่งกว่าเก่า นี่เขาเรียกว่าสารภาพรักใช่ไหม แล้วทำไมก่อนหน้าเขาถึงไม่ยอมบอกกับผมล่ะ

   “ทำไมก่อนหน้าพี่ไม่ยอมบอกผม”

   “ข้ารู้สึกละอายต่อเจ้า ที่ทำให้เจ้าผิดต่อจารีต ทั้งชาติที่แล้วและชาตินี้”

   นี่คงเป็นสาเหตุที่เขาไม่ยอมตอบรับพระอภัยมณีในชาติที่แล้วและผมในชาตินี้สินะ

   “แล้วทำไมพี่ถึงยอมบอกผมล่ะ”ผมถามพลางเบือนหน้าหนีริมฝีปากของเขาที่ฉกจูบแก้มผมอีกรอบ

   “ข้าทนต่อไปไม่ได้ ถ้าหากจะเสียเจ้าไปอีกครั้ง แล้วเจ้าเล่ามณี คิดอย่างไรกับข้า”เขาถามทั้งที่จมูกยังคลอเคลียอยู่บนพวง
แก้ม

   “มะ ไม่ได้คิด สักหน่อย”ผมตอบไป เรื่องอะไรจะยอมบอกง่ายๆ

   ทีเขากว่าจะบอกผมก็เล่นซะผมเสียหายไปหลายรอบ

   “เจ้าอายข้าเช่นนั้นหรือ”พี่ธาราจ้องตาผมทำให้ผมหลบตาวูบหลุบตาลงมองผืนน้ำที่เต็มไปด้วยดอกมะลิ

   “มะ ไม่ได้อาย”

   “แล้วใยเจ้าจึงไม่บอกข้าเล่า ว่ารู้สึกเช่นไรกับข้า”

   “ไม่บอก ไม่อยากบอก”ผมเบือนหน้าหนีแล้วยกมือขึ้นกอดอก

   “ก็ได้ งั้นข้าจักทำให้เจ้าสารภาพเอง”สิ้นเสียงพี่ธาราก็ยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์

   พี่ธาราช้อนแขนเข้ากับข้อพับขาของผมแล้วยกมันขึ้น ทำเอาผมกอดคอเขาแทบไม่ทันเพราะกลัวตก

   “ทะ ทำอะไรน่ะ”ผมถามทั้งหน้าแดงก่ำ

   พี่ธาราลุกขึ้นยืนทั้งที่ส่วนนั้นของเรายังเชื่อมติดกันอยู่ กลายเป็นว่าตอนนี้ผมกำลังถูกอุ้มและกอดคอพี่ธาราอยู่ โดยที่กายของเขายังฝังอยู่ข้างในร่างกายของผม

   และดูเหมือนว่ามันจะตื่นขึ้นมาอีกครั้งจนผมรู้สึกแน่นข้างในไปหมด



   “ซ้ำอีกครั้งเผื่อไม่ติด ข้าเกรงว่าสินธุ์สมุทรจักไม่ได้มาเกิดใหม่”

   พูดจบ พี่ธาราก็อุ้มผมเข้าไปด้านในแล้ววางลงบนเตียง

   “ดะ เดี๋ยว มะ ไม่เอาแล้ว พอแล้ว ตะติดแล้ว”ผมพูดไป ทั้งที่ยังไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าจะท้องอย่างที่พี่ธาราบอกได้หรือไม่

   แต่ตอนนี้ผมได้แต่ยอมให้พี่ธาราขยับกายเข้ามาในตัวอีกครั้ง โดยไม่รู้เลยว่าเมื่อไรจะได้นอน ถึงแม้พระจันทร์เคลื่อนผ่านหัวเราไปไกลมากแล้วก็ตาม
   


==================================================================


ไม่รู้จะดีพอไหม ไม่ค่อยถนัดฉากมโนเลย
ขาดเหลือตรงไหนติชมเอาเน้อ เขิลๆยังไงไม่รุ พยายามใช้คำไม่ลามก  ไม่รู้ว่าเปลี่ยนอารมณ์ไวไปไหม
กะจะให้ออกมาแบบ ง้อกันในมุ้ง ประมาณนั้น

ออฟไลน์ qilarsy39

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ ไร้เงา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ RELAXED

  • ทำไงได้ก็ Y มันเรียกร้อง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: ต่ออีกๆ555 สายหื่นมาเอง :z1:

ออฟไลน์ supizpiz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 692
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-0
อุ้ย มีการซ้ำ 5555555

รบกวนช่วยใส่หน้ากำกับให้ด้วยนะคะ เวลาจะย้อนกลับไปหานี่หาย๊ากยาก นิยายสนุกมากค่ะ สู้ๆเนอะ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ได้กำไรไปเป็นกอบเป็นกำเลยนะคะ
พี่ธารา :hao7:

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
พี่ยักษ์กินเรียบแล้วคร๊าบ
น้องเงือกละจิโดนกินด้วยป่าว
 :hao6:  :pighaun:  :impress2:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
เจ้ว่าถ้าทำคืนนี้ทั้งคืน น้องสินธุ์สมุทรมาเกิดใหม่แน่ๆ :hao7:
เดี๋ยวๆ อย่าลืมคู่รองนะคะะะะะะะ นี่ก็คืนเพ็ญเหมือนกัน
รอตอนต่อไปน้าาาา มาไวๆ

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด