✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59  (อ่าน 244713 ครั้ง)

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
 :laugh: กร๊ากกก อย่าพึ่งเป็นลมไปก่อนนะจ๊ะน้องมณีของพี่ธารา
ท้องลูกแฝดนี่สุโค่ยมากง่ะ หนึ่งไม่พอต้องขอเบิ้ล  :haun5:
แล้ววารีนี่จะคู่กะใครง่ะ เล่นร้ายแบบเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวซะขนาดนี้อ่ะ หรือไร้คู่ อยู่บนคาน ? :hao4:

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
อ่านแล้วเขินแทนจริงๆเลย

ออฟไลน์ white_destiny

  • รักไม่เคยมีจริง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 873
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +378/-199
โฮกกกกกกก
ท้องแล้วท้องแฝดด้วย
ข้อดีของการเบิ้ลก้องี้
ทำกลัวไม่ติดดันติดสองคน
วุ่นวายไปใหญ่

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
น่ากลัวว่าน้องมณีจะไม่ได้อ่านสัญญาให้ละเอียดก่อนเซ็นน่ะสิคะเนี่ย ตอนนั้นน้องยิ่งเป็นห่วงพี่ธาราอยู่ด้วย

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
ทำไมตั้งแต่ตอนที่แล้วเราสัมผัสได้ถึง ซัมติ่ง ของหมอทศกับอาวศิน ตอนนี้ก็มีมาแว๊บๆๆๆ

สัญญาไม่น่ากลัวเท่าคนสินะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ญาติ? ภรรเมียคนที่สาม?

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
31213

ครั้งที่ 22 ปรับตัว


   หลังจากคืนพระจันทร์เต็มดวงที่แสนโหดร้ายของเงือกหนุ่ม เขากลับเข้ามาภายในถ้ำใต้ทะเลลึกที่อยู่ด้านล่างของตัวเกาะด้วยหัวใจที่แตกร้าว

   ได้แต่ขังตัวเองเอาไว้ภายในนั้นจนไม่รู้คืนรู้วัน แม้ว่าหัวใจนั้นจะโหยหาให้กลับไปตามที่ส่วนลึกของหัวใจเรียกร้องเพียงใด แต่ความคิดนั้นกลับปฏิเสธมันทิ้งอย่างไม่ใยดี

   เขาหวาดกลัวความรักที่ฉาบฉวยของมนุษย์ ไม่สิ เขาไม่รู้ว่ามนุษย์หนุ่มผู้นั้นรักเขาบ้างหรือไม่

   “ชลาสินธุ์ ใจคอเจ้าจะไม่ออกไปภายนอกถ้ำหน่อยรึ แม่เห็นเจ้าเป็นเช่นนี้แม่เป็นห่วงเจ้าเหลือเกิน”

   “ข้าไม่เป็นไรหรอกท่านแม่ ขาเพียงแต่อยากอยู่เงียบๆ ไม่อยากออกกไปเที่ยวเล่นเหมือนแต่ก่อน”

   เพราะว่าการเจอมนุษย์หนุ่มรูปงามคนนั้นล้วนแล้วแต่มาจากการเที่ยวเล่นของเขาทั้งนั้น

   “แม่รู้ว่าเจ้าคิดอย่างไร แต่การที่เจ้าจะมาอุดอู้อยู่เช่นนี้หาได้ดีแต่ตัวเจ้าไม่ และการที่เจ้าหนีมานั้นมันเป็นการผิดต่อคู่ของ
เจ้า”เงือกผู้แม่กล่าวเตือน

   เมื่อรุ่งสางหลังจากคืนเพ็ญ ลูกชายได้กลับมาพร้อมกับสภาพที่โรยแรงและเกร็ดหางสีอ่อนที่เกิดใหม่นั้นก็รู้ได้ทันทีว่าลูกนั้นได้
ขึ้นไปบนผืนแผ่นดิน

   การที่ไม่ได้กลับมาในคืนวันเพ็ญนั้นย่อมหมายความว่าได้มีการเลือกคู่แล้วเป็นแน่

   หากแต่เมื่อไถ่ถามจึงได้รู้ว่าผู้ที่เป็นคู่ชีวิตของลูกชายนั้นเป็นมนุษย์ มิหนำซ้ำยังเป็นบุรุษ

   “ท่านแม่…ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคิดเช่นไรกับข้า ข้ากลัวว่าเขาคิดกับข้าเพียงแค่เรื่องใคร่มิใช่เรื่องรัก”ชลาสินธุ์บอกด้วยน้ำเสียงที่
แผ่วเบาพลางซบหน้าลงกับโขนหิน

   “เจ้ามิรู้ว่าเขาคิดเช่นไร แล้วเหตุใดเจ้าถึงรีบด่วนตัดสินใจในตัวเขา บางทีเจ้าควรจะไถ่ถามเขาให้ได้ความมิใช่หนีมาเช่นนี้”

   “แต่ท่านแม่บอกว่ามนุษย์นั้นไม่น่าเชื่อถือน้ำใจ ข้ากลัวเหลือเกินท่านแม่”

   “แม่รู้ว่าเขารักลูกของแม่ เขาต้องรักลูกของแม่แน่นอน”เงือกรุ่นแม่ว่ายน้ำเข้าไปใกล้แล้วลูบหัวลูกของตนอย่างแผ่วเบา

   “ท่านแม่จะรู้ได้อย่างไร ในเมื่อข้าเองยังไม่รู้”

   “แม่รู้สิ แม่เห็นเขามานั่งรอเจ้าบนก้อนหินนั่นทุกวัน หากเจ้าไม่เชื่อแม่เจ้าก็ลองขึ้นไปดูสิ เขาคงยังนั่งรอเจ้าอยู่”

   “นั่งรอข้ารึ? ทุกวันเลยรึท่านแม่”

   “ใช่ แม่กับพ่อเจ้าเห็นเขามานั่งรอเจ้าทุกวันจนอาทิตย์อัสดง”

   “เขามารอข้าทุกวันเช่นนั้นหรือ ขะ ข้า”เงือกหนุ่มเบือนหน้าหนี

   หัวใจดวงเล็กเต้นระรัวคล้ายกับมีน้ำหล่อเลี้ยงถูกรดรินให้หัวใจนั้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

   “ไปเถิด อย่างน้อยก็เห็นแก่ลูกของเจ้าที่กำลังจะเกิดมา”

   “แต่ว่า..ท่านแม่ไม่กลัวเขาหรือที่เขาเป็นมนุษย์”

   “จะกลัวไปทำไมเล่าในเมื่อเขาเป็นคู่ของเจ้า ใครที่เจ้ารักแม่ก็รักไม่แตกต่าง"

   “งั้น ข้าจะไปพบเขา”



==================================================================



   ผ่านไปได้หลายวันหลังจากที่พี่ธารอาการดีขึ้น แต่ผมก็ยังคงช็อคกับเรื่องที่บอกว่าผมท้องไม่หาย

   ที่สำคัญไม่ใช่ท้องแบบธรรมดา แต่ดันท้องลูกแฝดซะด้วย

   ผมไม่เข้าใจเลยว่าผมท้องได้ยังไง ทั้งที่มั่นใจอยู่เต็มอกว่าไม่ท้องแน่

   อดคิดไม่ได้ว่าของพี่ธาราเขาดีจริงๆ ผู้ชายอย่างผมถึงได้ท้องได้อย่างนี้

   อยากบ้าบ้าตายถ้าไม่ติดว่าจะพาลูกๆ?ไปตายด้วย

   นี่ผมควรทำยังไงดีกับเจ้าเปี๊ยกครึ่งยักษ์ครึ่งมนุษย์ที่กำลังจะเกิดมา แล้วยังจะพ่อกับแม่อีก

   ผมไม่รู้เลยว่าจะบอกพวกท่านว่ายังไง จะให้บอกว่าพ่อแม่ มณีท้อง นั่นมันก็ตรงเกินไป ไม่มีความน่าเชื่อถือเลยสักนิด



   ผมเดินวนอยู่ภายในห้องนอนของตัวเอง พอยิ่งเดินก็ยิ่งหิว พอหิวแล้วก็ยิ่งกิน

   ไม่รู้ว่าจะบอกพ่อกับแม่ยังไงดี แล้วยังจะสัญญาที่ถูกมัดมือชกให้เซ็นอีกซึ่งผมยังไม่รู้จะหาโอกาสไหนไปบอกพี่ธาราดี

   หากพี่ธารารู้คงจะโกระและรู้สึกผิดแน่ที่ผมตัดสินใจเซ็นสัญญานั่นไป

   

   อีกอย่างหลายวันก่อนหน้าคุณวาลีได้ติดต่อมาทางพ่อว่าต้องการให้ผมถ่ายโฆษณาการชวนเชิญท่องเที่ยว


   การถ่ายทำจะถ่ายในสตูดิโอที่อยู่ในตัวเมือง จะใช้เวลาถ่ายทำเป็นเวลาสองวันซึ่งเป็นวันเสาร์อาทิตย์ไม่กระทบเวลาเรียนของผม
ตามที่เขาตกลงไว้กับพ่อ

   และก็เป็นโชคดีของผมที่สามารถยืดเวลาในการสารภาพบาปกับพี่ธาราออกไปอีกเมื่อพี่ธารามีรายงานกลุ่มที่จะต้องทำกับเพื่อนๆ
จึงไม่ได้มีเวลามาคอยเฝ้าผมเป็นยักษ์หวงไข่ในสองวันหยุดที่จะถึง



   ผมเดินลงมาชั้นล่างของตัวบ้านที่ก็เจอเข้ากับพ่อและแม่กำลังดูละครหลังข่าว

   “อ้าว ดึกดื่นป่านนี้ยังไม่นอนอีกลูกคนนี้ วันพรุ่งนี้จะต้องไปแต่เช้าไม่ใช่รึไง”

   “มณีหิว เลยกะว่าจะมาหาอะไรกินน่ะแม่”ผมตอบก่อนจะเดินเข้าครัวไป

   เชื่อเลยว่าในท้องนี่ลูกยักษ์จริงๆ แถมยังมีถึงสอง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผมถึงกัน กัน และก็กินเป็นบ้าเป็นหลังขนาดนี้

   กล่องปลาแซลมอนสดถูกดึงออกมาจากตู้เย็น เป็นของโปรดที่ไม่รู้ว่าโปรดผมหรือโปรดเจ้าตัวเล็กๆที่อยู่ในท้อง

   ตู้เย็นที่ปกติเต็มอยู่แล้วยิ่งถูกอีกไปด้วยของหวานและของสดมากมายด้วยอภินันทนาการจากว่าที่คุณพ่อที่เอาใจใส่ผมจนผม
รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาตะหงิดๆ

   

   “กินอีกแล้วเหรอ แม่จำได้ว่าก่อนหน้านี้ก็หยิบขึ้นไปบนห้องกล่องหนึ่งนี่ ทำไมช่วงนี้กินเยอะใหญ่ล่ะ เจ้าลูกคนนี้ เดี่ยวก็ได้อ้วน
เป็นหมูเค้าได้ยกเลิกสัญญาเอา”แม่บ่นเมื่อเห็นผมเดินถือกล่องไปทิ้งตัวลงนั่งตรงโซฟาข้างๆ

   “ไม่อ้วนหรอกน่า มณีกินแค่นี้เอง”

   “แค่นี้อะไรกัน เดี่ยวนี้ชักกินเยอะใหญ่ เดือดร้อนพี่ธาราเขาซื้อนั่นซื้อนี่มาให้ จะมีใครดีเท่าพ่อธาราไม่มีอีกแล้ว แม่ล่ะเกรงใจพ่อ
ธาราเขาจริงๆ”

   “เกรงใจอะไรกันล่ะแม่”ที่กินเยอะก็เพราะพี่รานั่นแหละที่เสกเด็กเข้าท้องผมถึงสองคน

   ว่าแล้วก็จิ้มชิ้นแซลมอนสดชิ้นโตเข้าปาก

   “ระวังเถอะอ้วนขึ้นมาแล้วโดนพี่เขาทิ้งแม่ไม่รู้ด้วยล่ะ”

   “ก็บอกแล้วไงว่าไม่อ้วน แม่ก็ขี้บ่น พ่อไม่รำคาญแม่บ้างรึไง”ชักเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาแล้วสิ

   สงสัยจะเป็นเพราะท้องแน่ๆ ให้ตายเถอะ ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าชีวิตประจำวันของผมที่มันป่วนหนักอยู่แล้วมันจะป่วนมากไป
กว่านี้อีกแค่ไหน

   

   “มันก็จริงอย่างที่แม่เอ็งพูด อ้วนขึ้นมาเขายกเลิกสัญญาพ่อไม่เข้าข้างเอ็งหรอกนะ”พ่อละสายตาจากทีวีมาช่วยแม่บ่นอีกแรง

   เอาเข้าจริงก็อยากจะให้มันยกเลิกจะแย่อยู่แล้ว ก็ได้แต่ภาวนาว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาจะเปลี่ยนใจ

      “อยากให้ยกเลิกอยู่แหละ มันตั้งหนึ่งปี”ผมพึมพำพลางจิ้มชิ้นแซลมอนเข้าปากอีก

   “เอาน่า มันก็ดีต่อเรา ดีต่อของที่คนรุ่นก่อนๆเขาทิ้งเอาไว้ให้ จะได้มีคนเห็นความสำคัญของมันมากขึ้นแค่นี้ก็ถือว่าดีเท่าไรแล้ว
เอ็งอย่าบ่นไปเลยน่า”

   “ไม่บ่นก็ไม่บ่น มณีไปนอนแล้วพรุ่งนี้เจอกันนะพ่อ”ผมบอกเมื่อในกล่องนั้นมันว่างเปล่าไม่มีอะไรอยู่แล้ว

   “รีบๆไปนอนแล้วกัน พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้า”

   “รู้แล้วๆ อย่าสวีทกันจนดึกล่ะพ่อ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไม่ตื่นเอา”

   แล้วก็ได้ยินเสียงบ่นไล่หลังก่อนที่จะเดินเข้ามาในครัวเพื่อเอากล่องทิ้งลงถังขยะแล้วหยิบกล่องใหม่ติดมือขึ้นไปอีกกล่อง

   ถ้าหากอ้วนแล้วจะทำให้สัญญาถูกยกเลิกก็อยากจะอ้วนอย่างที่พ่อกับแม่ว่าเหมือนกัน

   ไม่รู้ว่าคนอย่างคุณวาลีจะทำอะไรให้ผมปวดหัวอีก แค่นี้ก็มีเรื่องให้คิดมากพออยู่แล้ว

   ไม่รู้ว่าป่านนี้พี่วรรณจะนั่งรับลมทะเลสบายใจอยู่หรือว่าหลับไปแล้ว ทิ้งผมเอาไว้แล้วสบายอยู่คนเดียวตลอด



   ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเริ่มที่จะเครียดขึ้นมาแล้วสิ หลายเรื่องหลายอย่างที่มันรุมเข้ามา อีกทั้งเรื่องอนาคตที่ยังไม่ได้วางแผน
อีก

   ตอนนี้ชักรู้สึกว่าต้องการใครสักคนมาคอยฟังเรื่องทุกอย่างของผมโดยที่ผมไม่ต้องปกปิด

   ผมหยิบเจ้าตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่มีป้ายชื่อว่าอลันมากอด

   ชื่อคุ้นหูนี่เดาเอาก็รู้เลยว่าเจ้าของตุ๊กตาหมีสีขาวตัวใหญ่นี่คือใคร

   ของขวัญกล่องใหญ่ที่รับมาจากพี่อเลนก่อนที่เขาจะบินไปต่างประเทศภายในกล่องมีเจ้าหมีตัวใหญ่กับสร้อยพระใส่กรอบ
เรียบร้อยอยู่ด้านใน

   





   เช้าวันรุ่งขึ้นผมมาถึงสตูดิโอในตัวเมืองด้วยสภาพที่ไม่ค่อยจะเต็มที่สักเท่าไร

   การมีสิ่งชีวิตที่คอยหารพลังงานอยู่ภายในตัวมันทำให้ค่อนข้างที่จะเหนื่อยง่าย

   นี่แค่เดือนเศษๆยังขนาดนี้ แล้วกว่าจะคลอดนี่จะขนาดไหนกัน

   ผมกุมท้องตัวเองในขณะที่ช่างแต่งหน้ากำลังรุมทึ้งผมเผ้าและใบหน้าของผม

   ตั้งแต่มาผมยังไม่เจอกับคุณวาลี แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังรู้สึกเครียดอยู่ดี ผมจะทำยังไงกับสัญญางี่เง่านั้นดี

   มันเหมือนเวลาของผมถูกเขาผูกมัดให้อยู่กับเขาไปแล้ว

   พอเต่งหน้าเสร็จผมก็แต่งตัวและก็มานัดแนะกับตากล้องแล้วก็ทีมงานเกี่ยวกับมุมกล้อง

   โชคดีที่โฆษณาค่อนข้างเน้นความเป็นธรรมชาติผมจึงไม่ต้องเกร็งและพยายามอะไรมาก

   แต่รู้สึกว่ามันเหนื่อย แล้วก็เหนื่อยมากเลยทีเดียวชุดแรกจะเป็นชุดโขนพระรามได้จบไป ชุดที่สองจะเป็นชุดลิเก ทีมงานได้พาผม
ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งหน้าอีกครั้ง

   วันนี้การถ่ายทำจะมีเพียงผมถ่ายเพียงแค่คนเดียว แต่วันพรุ่งนี้จะมีนักแสดงอื่นมาร่วมด้วยอีกคนสองคนเพื่อให้เนื้อเรื่องนั้นดูมีมุม
มองมากขึ้น

   ในระหว่างที่ผมกำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่นั้นเอง ร่างสูงโปร่งดูสุขุมของคนที่ผมไม่อยากเจอก็เดินเข้ามาภายใน

   มันทำให้ห้องที่ดูไม่มีอะไรอึดอัดขึ้นภายในพริบตา

   ผมมองเขาผ่านกระจกและเขาก็กำลังมองผมอยู่เช่นกัน ช่างแต่งหน้าและฝ่ายเสื้อผ้าต่างก็ทักทายเขาอย่างเอาอกเอาใจ ต่าง
จากผมซึ่งนิ่งเฉย มองดุเขาผ่านกระจกเพียงเท่านั้น

   เขาพยักหน้าให้ทีมงานทั้งหมดที่อยู่ในห้องก่อนที่ทุกคนจะเดินออกจากห้องไปทิ้งให้ผมอยู่กับเขาตามลำพัง

   “ผมนึกว่าคุณจะไม่มา”ในที่สุดผมก็เปิดปากทั้งที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้ากระจกมองดูเขาที่ยืนซ้อนผมอยู่ด้านหลังผ่านกระจกเงา
บานใหญ่

   ใบหน้าของผมถูกลบจนหมดเพื่อที่จะแต่งหน้าใหม่กำลังสะท้อนอยู่ในกระจกอย่างเป็นกังวล

   ผมไม่รู้ทำยังไงดี ผมไม่อยากอยู่ใกล้เขา

   “ฉันต้องมาสิ ในเมื่อเธอเป็นคนที่อยู่ในการดูแลของฉัน”เขาขยับเขามาชิดพนักพิงของเก้าอี้และสบตาผมในกระจกเงา

   “ครับ ผมเข้าใจ”ผมตอบเป็นเชิงบอกว่าไม่ต้องย้ำก็ได้

   “นี่เป็นงานแรกของเธอ แต่งานต่อๆไปเธออาจจะต้องเดินทางไกล แต่ไม่ต้องเป็นห่วงฉันจะอำนวยความสะดวกให้กับเธอเต็มที่
เท่าที่ฉันจะทำได้เลยล่ะ”

   เขาพูด แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมสนใจเท่ากับมือของเขาที่วางลงบนไหล่ของผม

   ไหล่ที่เกือบเปลือยเพราะผมใส่เพียงเสื้อกล้ามปิดเอาไว้

   “ผมว่า เรียกพี่พี่เขามาแต่งตัวดีกว่านะครับ ผมไม่อยากให้พี่พี่เขาเสร็จงานช้า”ผมว่าและเบี่ยงตัวหลบ

   “นั่นสินะ เวลาของเรายังเหลืออีกเยอะ ฉันจะรอดูเธออย่างใกล้ชิดก็แล้วกัน”พูดจบเขาก็เดินออกไปทิ้งให้ผมได้แต่มองตามด้วย
ความไม่ไว้วางใจกับสิ่งที่เขาพูดทิ้งท้ายเอาไว้





   การถ่ายทำสองวันที่แสนจะน่าอึดอัดผ่านไปได้ด้วยดีผมรู้สึกโล่งใจและสบายใจมากขึ้นเมื่องานนี้จบลง อย่างน้อยงานต่อไปก็คง
ยังไม่มาในเร็ววันนี้



   “เอ้ย จะกินอะไรเยอะแยะ”นนท์ทักแล้วเเย่งกล่องแซนวิสทูน่าไปจากมือผมระหว่างที่เราอ่านหนังสือเพื่อรอเข้าสองย่อยช่วงสาย

   “เอามานี่น่า กินเยอะที่ไหนกัน ก็ปกติ”ผมแย่งกล่องแซนวิสคืนมาแล้วหยิบมันใส่ปากเคี้ยว

   “จริงอย่างที่นนท์ว่านะมณี เราว่าแกกินเยอะไป”โมเสริม

   จนผมชักเริ่มหงุดหงิดอีกแล้วจากที่อารมณ์ดีๆอยู่เมื่อครู่

   “มันไม่เยอะหรอกน่าโม ทำเป็นบ่นกันไปได้”ผมบุ้ยปาก

   

   “เอานี่ คิดว่าน่าจะชอบ”เสียงคุ้นเคยทักมาจากด้านหลังพร้อมกับยื่นถุใสที่เต็มไปด้วยขนมเค้กหลายรสชาติเกือบจะสิบชิ้นได้
เรียกให้บรรดาคนที่กำลังตั้งใจอ่านหนังสือร้องหืออย่างตกใจ

   “พี่ธาราเลี้ยงดีอย่างนี้ พี่อยากมีเมียเป็นหมูเหรอไงครับ”เป็นนนท์ที่ถามไปตรงๆ

   ทำให้พี่ธารายิ้มที่มุมปากอย่างอารมณ์ดี

   “ไม่ใช่หมูหรอก แม่หมูต่างหาก”

   แต่คำพูดของพี่ธาราทำเอาผมแทบสำลัก

   ไอ้เห็นเค้กแล้วดีใจมันก็จริงอยู่ แต่ไอ้คำพูดนี่สิ ทำเอาหน้าแดงแล้วแดงอีก ถึงได้หยิกเอวหนาไปเต็มๆแรง เรื่องอะไรมาเรียกผมว่าแม่หมูกัน

   “หรือไม่จริง”พี่ธาราว่าก่อนจะฉวยโอกาสยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนจมูกโด่งนั้นเกือบจะแตะเอาแก้มของผมเล่นเอาเกือบหลบแทบไม่ทัน

   ให้มันได้อย่างนี้สิ ไอ้เรื่องฉวยโอกาสนี่หาใครสู้ไม่ได้เลยสักนิด

   “เป็นยังไงบ้าง เหนื่อยไหม”พี่ธาราถามยกมือยกไม้ขึ้นมาทาบหน้าผากผมต่อหน้าบรรดาเพื่อนๆและคนที่ผ่านไปผ่านมา

   ได้หันมามองค้อนส่งสายตาประมานว่าอิจฉา

   “อย่ามาทำต่อหน้าคนอื่นซี่”ผมปัดมือนั่นออกเบาเบาแล้วเบือนหน้าหนี

   ต่อให้พยายามปรับตัวมากแค่ไหนแต่ใจมันก็ยังเต้นแรงอยู่ดี

   ยิ่งช่วงนี้หลังจากรู้ว่าในตัวผมมีสิ่งมีชีวิตอยู่ พี่ธารายิ่งดูแลเอาใจใส่สรรหานั่นหานี่มาให้ตลอด มันทำให้ผมทั้งเขินทั้งอายไป
พร้อมๆกันที่พี่ธาราดีกับผมขนาดนี้

   “อย่างกับข้าวใหม่ปลามัน”เชียรแขวะ

   “อ่านหนังสือไปเถอะน่า”

   “ทำเป็นหน้าแดงไปได้”

   “ไม่ได้แดง แค่ร้อนต่างหาก”ผมแก้ตัว

   “ร้อนรึ?”พี่ธาราขมวดคิ้วแล้วหยิบสมุดขึ้นมาพัดให้

   “มะ ไม่ร้อนแล้ว”พอยิ่งถูกเอาใจใส่ก็ยิ่งอายเข้าไปอีก

   ชีวิตที่จู่ๆก็เปลี่ยนไปนี่เข้าใจยากจนปรับตัวไม่ทันเลยจริงๆ




   แล้วผ่านไปอีกเกือบหนึ่งเดือนกลายเป็นว่าตอนนี้ผมท้องได้เกือบจะสองเดือนแล้ว

   คุณวาลีก็ได้ติดต่อมาทางพ่ออีกครั้งว่าให้ผมไปถ่ายโปรไฟล์เพื่อเอาไว้เสนองาน

   ซึ่งมันทำให้ผมเริ่มกลับมาคิดมากอีกครั้ง ผมควรจะจัดการเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงดี ควรจะทำยังไงให้เขาถอยห่างจาดชีวิตของผม

   โฆษณาเริ่มถูกปล่อยออกไปทางโลกโซเชียลทั้งมนและต่างประเทศและมันค่อนข้างจะเห็นหน้าผมชัดเจนทำให้คนอื่นๆเริ่มรู้จัก
ผมมากขึ้นและเริ่มมองมาที่ผมมากขึ้น

   มันทำให้ชีวิตส่วนตัวของผมแคบลงและทำให้ผมรู้ว่านี่มันไม่ใช่ชีวิตในแบบที่ผมต้องการ

   ข่าวลือและข่าวซุบซิบในวงการที่เล็กลอดออกมาเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผมเป็นที่รู้จักของคนในวงการมากขึ้นเพราะความใกล้ชิด
ของผมกับคุณวาลีที่เขาคิดไปเอง

   มีเพียงคนรอบข้างผมเท่านั้นที่รู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริงเพราะข้างกายผมมีพี่ธารา

   
   ผมเดินเข้าบ้านพร้อมๆกับพี่ธาราที่เดินตามไม่ห่าง ไม่วายที่มือนั้นจะฉวยโอกาสโอบเอวผมเอาไว้ให้ผมได้มองค้อนแจกไปวงโต

   “แต่เจ้าเป็นเมียข้านะ”ยักษ์ขี้ตู่หันมายิ้ม

   “ปล่อย”ผมขมวดคิ้วมุ่น

   “ข้าไม่ปล่อยหรอก แล้วอีกอย่างเจ้าจะให้ข้าบอกพ่อกับแม่เจ้าได้รึยัง”

   “ไม่ได้นะ พี่จะบอกพ่อกับแม่ตอนนี้ไม่ได้ ผมยังไม่พร้อม”ผมรีบปฏิเสธ

   “งั้นก็ตามใจเจ้าก็แล้วกัน”


   “อ้าวมากันแล้วเหรอ มาพอดีเลย”แม่ร้องทักมาแต่ไกล



   “กลับมาแล้วเหรอ”

   เสียงใสไม่คุ้นหูร้องทักตามด้วยเจ้าตัวที่กระโดดมากอดคอผมแล้วชิดแก้มนั้นลงบนแก้มผมอย่างสนิทสนม

   ใครกัน?

   เด็กผู้ชายหน้าหวานคนนี้

   ผมดันตัวเขาออกแล้วมองใบหน้าขาวเกลี้ยงเกลาเส้นผมสีดำสนิทยาวระต้นคอแต่อีกด้านหนึ่งถูกซอยสั้นจนเปิดให้เห็นหู จมูก
เล็กเชิดรั้นริมฝีปากบางเฉียบ

   ดูจากผิวพรรณและรูปร่างหน้าตาดูยังไงก็เป็นลูกครึ่ง แล้วผมไปรู้จักเขาเอาตอนไหนล่ะเนี่ย

   ผมได้แต่มองเขาตาปริบๆ

   แต่เขากลับยิ้มให้ผมจนตาแทบหยี

   “อะ เอ่อ”ผมได้แต่อ้ำอึ้งปรายตามองพี่ธาราที่เริ่มทำท่าทำทางหงุดหงิด

   “ไม่เจอกันตั้งนาน คิดถึงมณีจังเลย”เขาว่าแล้วทำท่าจะเข้ามากอดผมอีกรอบ

   “ดะ เดี่ยวสิ”ผมดันเอาไว้ไม่ให้เขาเข้ามา

   เป็นใครผมยังไม่เคยรู้จักเลย อีกทั้งการแต่งตัวแนวเกือบๆพั้งนี่อีก เท่าที่รู้มาผมไม่เคยรู้จักผู้ชายที่เป็นลูกครึ่งมาก่อนเลย

   จนพี่ธาราดึงเอาตัวผมไปหลบอยู่ข้างหลังผมถึงได้หายใจหายคอได้สะดวก แล้วลอบมองคนที่จะเข้ามาจู่โจมกอดผมลูกเดียว

   “ใครอะแม่”ผมหันไปถามแม่อย่างสงสัย เป็นใครก็ไม่รู้ จู่ๆก็เข้ามากอดแล้วบอกว่าไม่ได้เจอกันตั้งนาน แล้วบอกว่าคิดถึงอีก ผมได้แต่มองแขกที่ไม่ได้รับเชิญจากด้านหลังของพี่ธารา

   เรื่องเก่ายังไม่จบเลย เรื่องใหม่ก็เข้ามาซะแล้ว ชีวิตผมนี่มันอะไรกันเนี่ยยยยยยย ยังไม่ทันจะปรับตัวได้ก็มีเรื่องเพิ่มขึ้นอีกแล้ว



===================================================================
ให้ทายว่าใคร ?
แต่ไม่ใช่สุวรรณมาลีแน่นอน

แฟนเพจของโซอึนจ้า


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-12-2015 04:02:37 โดย โซ อึน »

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
เย้ยยยย ใครอ่ะ?! อดีตเมียของมณีอีกคน? :mew5:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
มาต่อไวๆนะครับผมรออยู่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
น้องมณียังคงงานเข้าอย่างต่อเนื่อง
ไปทำบุญกันไหมลูก......
อย่าลืมบอกพี่ธาราเรื่องสัญญาล่ะ นี่เรื่องใหญ่นะ :hao4:

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
มีเรื่องเข้ามาอีกแล้วววว

ว่าแต่เด็กที่ไหนเนี่ยยยย :katai1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
มณีนี่เยอะนะ... เมียเก่าเยอะะะะะะ....

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
เขาเป็นใครไม่รู้ แต่หวังว่าจะมาปราบวาลี  :katai5:

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
นางเงือก?
ใครนิ เสน่ห์แแรงขิงๆ เลย

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
คุณวาลียังว่างอยู่นะคะหนุ่มน้อย :hao3:

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
32100


ครั้งที่ 22.2 ลวนลาม

   “ใครอะแม่”
ผมหันไปถามแม่อย่างสงสัย เป็นใครก็ไม่รู้ จู่ๆก็เข้ามากอดแล้วบอกว่าไม่ได้เจอกันตั้งนาน แล้วบอกว่าคิดถึงอีก ผมได้แต่มองแขกที่ไม่ได้รับเชิญจากด้านหลังของพี่ธารา

   เรื่องเก่ายังไม่จบเลย เรื่องใหม่ก็เข้ามาซะแล้ว ชีวิตผมนี่มันอะไรกันเนี่ยยยยยยย ยังไม่ทันจะปรับตัวได้ก็มีเรื่องเพิ่มขึ้นอีกแล้ว



   

   “อะไรกัน ก็ไหนพี่เขาบอกว่ารู้จักกับลูกไง ยังไงกันแน่”แม่เท้าสะเอวส่ายหน้าขมวดคิ้วเป็นเชิงตำหนิแล้วเดินหนีเข้าไปในครัว

   จะหาว่าผมความจำเสื่อมจำคนอื่นไม่ได้ว่างั้น แต่มันไม่ใช่เลย ผมไม่เคยรู้จักมักจี่กับเด็กผู้ชายหน้าลกครึ่งเลยด้วยซ้ำแล้วนี่มาได้ยังไง

   “อะไรกัน จำพี่ไม่ได้รึไง”เขายิ้มแล้วเดินเข้ามาหาผมที่หลบอยู่ด้านหลังพี่ธารา

   “จำไม่ได้”ผมส่ายหน้าพรืด

   ใบหน้าหวานขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่ค่อยพอใจแล้วยกมือขึ้นกอดอกจ้องมองผมคล้ายกับกำลังจะโกรธเคือง

   “อะไรกัน ทั้งที่เคยไปไหนมาไหนด้วยกันตั้งหลายครั้งแท้แท้ อีกทั้งยังเคยเห็นพี่แก้ผ้า ทำไมถึงจำกันไม่ได้ล่ะ”เขาว่า

   แล้วผมไปเห็นเขาแก้ผ้าตอนไหนล่ะนั่น มันบ้าบออะไรกันอีกล่ะเนี่ย

   “ผะ ผมไปเห็นพี่โป๊ตอนไหนกัน ไม่จริงสักหน่อย”

   “อย่าบอกนะว่าลืมไปแล้ว ธารา นายดูแลมณียังไงถึงปล่อยให้ลืมฉันไปได้”แล้วไหงหันไปพูดกับพี่ธาราเหมือนรู้จักกันล่ะ


   “เรื่องความซื่อบื้อมันห้ามกันไม่ได้หรอก”

   พี่ธาราตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แล้วทำไมผมถึงได้รู้สึกว่าถูกเหน็บอยู่ไม่มากก็น้อยนะ

   หรือว่าจะเป็นคนที่รู้จักกับพี่ธารา แต่เขาบอกว่าผมรู้จักเขา แถมเคยเห็นเขาโป๊

   อย่าบอกนะว่า

   คนเดียวที่ผมเคยเห็นว่าโป๊นอกจากพี่ธาราแล้ว ก็มีแค่



   “พี่อเลนนนนนน!!”

   ผมอุทานออกมาเสียงดังพร้อมกับเจ้าตัวที่กอดอกพยักหน้าหงึกๆ

   “จำได้แล้วสินะ”

   “แล้วทำไมพี่ถึงได้ผมสั้นล่ะ เอ่อ ผมหมายถึงเป็นผู้ชาย”ผมมองเขาหัวจรดเท้าอย่างงงงงแล้วเดินออกมาจากทางด้าน
หลังพี่ธารา

   “พอกลับไปพ่อพี่ก็บอกว่าพี่หมดกรรมกับเจ้ากรรมนายเวรแล้วอะไรเนี่ยแหละ ถึงได้แต่งตัวเป็นผู้ชายได้”เขาอธิบาย

   จำได้ว่าเขาเคยบอกว่าตั้งแต่ตอนเกิดมาร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเลยต้องแต่งเป็นผู้หญิงมาตลอด

   “แล้วทำไมพี่ถึงได้อยู่ที่นี่ล่ะ”

   ผมถามยังไม่วายมองสำรวจพี่อเลนหัวจรดเท้าอีกทีด้วยความทึ่ง จากผู้หญิงสวยที่เคยทำให้ผมหลงหัวปักหัวปำ ตอนนี้
กลับกลายเป็นหนุ่มลูกครึ่งหน้าหวานไปซะแล้ว

   “พอดีพี่เห็นโฆษณาที่มันออกอากาศ พอเห็นมณีปุ๊บพี่ก็คิดถึงปั๊บ แล้วก็ว่างๆด้วยเลยตัดสินใจบินกลับมากะว่าจะมาเที่ยว
สักหน่อย ตอนอยู่ที่นี่ไม่เคยได้เที่ยวแถวนี้เลย กะว่าจะให้มณีเป็นไกด์กิติมาศักดิ์ เนอะ”เขายิ้ม

   “อะ เรื่องนั้นมันก็ไม่มีปัญหาหรอกครับ แต่ว่า”

   ผมหันไปมองพี่ธาราที่กำลังขมวดคิ้วมุ่นเหมือนจะไม่พอใจอะไร อีกทั้งยังจ้องมาทางผมเขม็ง

   “อะไรกัน ธาราไม่ว่าหรอก ใช่ไหม ว่าแต่ทำไมมณีดูแลอ้วนขึ้น หรือว่าพี่จะคิดไปเอง ถ้าเป็นผู้หญิงพี่คงคิดว่ามณีท้องแล้
วนะเนี่ย”พี่อเลนตบไหล่ผมเบาเบา

   แต่มันทำให้ผมเกือบจะสำลักกับข้อสันนิษฐานของเขาเลยทีเดียว

   “เอ่อ จะ จะท้องได้ยังไงล่ะครับ ก็เป็นผู้ชายนี่”ผมกรอกตา

   “ก็นั่นสินะ พี่ก็พูดไปเรื่อย ว่าแต่ทำไมถึงได้ไปอยู่ในโฆษณานั่นได้ล่ะ น่ารักไม่ใช่เล่นเลยเนอะ”

   พี่อเลนชวนคุยไปเรื่อยไม่วายดึงเอาผมไปนั่งที่โซฟาอย่างกับเป็นบ้านตัวเอง

   แล้วไอ้กระเป๋าเดินทางสองใบใหญ่ๆนี่มันอะไร มันเหมือนมีเค้าลางอะไรทะแม่งๆ

   แล้วทำไมถึงได้รู้สึกถึงรังสีทะมึนๆแปลกๆมาจากพี่ธารา หรือว่าผมจะคิดไปเอง

   

   “อ่ะ นี่จ้า น้ำส้ม แม่พึ่งจะคั้นเมื่อตอนบ่ายนี้เอง”แม่ยกน้ำส้มมาให้ให้พี่ธารากับพี่อเลน

   “แล้วของมณีล่ะแม่”

   “พอเลย จะกินอะไรนักหนา พักนี้อ้วนใหญ่แล้ว งดๆซะบ้าง”

   “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่แม่ลำเอียงด้วยเล่า”

   เป็นแบบนี้ตลอด พอมีคนอื่นแม่ก็ชอบลืมลูกตัวเองตลอด

   แล้วเรื่องที่ผมอ้วนขึ้นมันความผิดผมที่ไหน นั่นมันความผิดของพี่ธาราที่เสกลูกยักษ์มาอยู่ในท้องผมต่างหาก

   ว่าแล้วก็รู้สึกหิวของสดๆขึ้นมาอีกแล้ว

   “พูดความจริงมาทำเป็นหน้างอไป ว่าแต่หนูอเลน ที่บอกว่าบ้านที่อยู่แต่ก่อนถูกขายไปแล้วแล้วคืนนี้จะนอนที่ไหนล่ะเนี่ย
ถ้าไม่รังเกียจก็นอนกับมณีก็ได้ ถึงจะแคบแต่ก็ดีกว่าไปเดินหาโรงแรมเอาตอนเย็นป่านนี้”

   “จะดีเหรอครับ”พี่อเลนยิ้มหวานส่งไปให้แม่

   เดี่ยวนะ ที่พูดถึงกันนี่มันคืออะไร ใครจะมาอยู่ที่ไหน บ้านใครถูกขาย ผมไม่เข้าใจ

   “ไม่เป็นไรหรอก คิดซะว่าแม่มีลูกเพิ่มมาอีกคน”

   “เดี๋ยวสิแม่ พูดเรื่องอะไรกัน มณีไม่รู้เรื่อง”

   “เอ้า ลูกคนนี้ เข้าใจอะไรยากตลอด ก็พี่เขาพึ่งจะบินมาจากต่างประเทศ แต่ดันลืมไปว่าบ้านที่อยู่ที่นี่ประกาศขายไปแล้ว
ก็เลยยังไม่ไม่ที่พัก แต่พี่เขาก็ยังมีกะจิตกะใจจะแวะมาทักทายเราก่อน เห็นไหมว่าเขาคิดถึงเราแค่ไหน”


   แม่สาธยาย พอหันไปมองหน้าพี่อเลน ทำไมผมถึงได้คิดว่ามันเป็นแผนที่ถูกวางมาอย่างดีแล้วนะ หรือว่าจะคิดไปเองอีก
แล้ว

   “ยังไงก็รบกวนด้วยนะครับ”พี่อเลนยิ้ม



   “บ้านผม มีห้องว่างเยอะนะครับคุณแม่”

   จู่ๆคนที่นั่งเงียบมาตลอดก็พูดแทรกขึ้นมาทำเอาทุกคนหันไปมองพี่ธาราเป็นตาเดียว

   “หือ จะดีเหรอ จริงสิ หนูอเลนก็รู้จักพ่อธารานี่เนอะ”แม่พยักหน้าพูดเองเออเอง

   แม่ก็ไม่รู้อะไร ว่าเขาเกือบจะไฟว้กันมาก่อนแล้ว ขืนปล่อยไปมีหวัง เละ แล้วอีกอย่าง

   ตอนนี้บ้านพี่ธาราก็มียักษ์สิบหน้าอยู่ด้วยอีกตนหนึ่ง ขืนปล่อยให้พี่อเลนไปมีหวังถูกจับหักคอกินเป็นอาหารว่างแน่

   “ผมว่ามันน่าจะดีกว่า ผมกลัวว่ามันเป็นจะการรบกวนน้องมณี เพราะว่าช่วงนี้น้องมีสอบน่ะครับคุณแม่”พี่ธาราส่งยิ้มบาง

   ว่าแต่ช่วงนี้ผมมีสอบด้วยเหรอ ทำไมไม่เห็นรู้เรื่อง

   “นั่นสินะ แม่ล่ะดีใจจริงๆ คิดว่าหนูอเลนจะไม่มีที่พักซะแล้ว”

   ว่าแต่ว่าทำไมพี่อเลนถึงได้ยิ้มแหยแบบนั้นล่ะ แล้วทำไมผมถึงรู้สึกสึกว่ามันไม่ชอบมาพากลกับออร่าที่แผ่ออกมาจากพี่
ธารา ถึงแม้ใบหน้าหล่อเหลานั้นกำลังยิ้มอยู่ก็เถอะ

   


   แล้วมื้อเย็นก็จบลงไปด้วยดีอย่างมีความสุขตามที่พ่อกับแม่คิด แต่สำหรับผมแล้วมันเปล่าเลย แขกที่ไม่ได้รับเชิญแต่ก็มาทุกวันกลับไม่ค่อยพูดค่อยจา

   ส่วนแขกที่ไม่ได้รับเชิญและไม่คิดว่าจะมาก็กำลังประจบประแจงพ่อกับแม่ยกใหญ่ ดูยังไงมันก็เหมือนวางแผนล่วงหน้ามาแล้วชัดเจน

   แต่คงจะผิดแผนเพราะพี่ธาราที่เสนอตัวอออกมา ไม่ว่าจะด้วยอะไร แต่มันก็อดรู้สึกว่าพี่ธารากำลังหึงอยู่ไม่ได้
   

   ก็แล้วตอนนี้ทำไมผมถึงได้มาอยู่ที่บ้านของพี่ธาราล่ะ ผมควรที่จะต้องนอนพักผ่อนกับอาหารว่างอร่อยๆอยู่บนเตียงของตัวเองไม่ใช่รึไง

   เป็นเพราะพี่ธาราแท้ๆพี่บอกว่าผมจะมาค้างด้วยโดยอ้างเหตุผลว่าติวหนังสือ มันจะมากเกินไปแล้วกับไอ้ความขี้ตู่ของพี่ธาราที่เอาแต่ใจเกินเหตุแบบนี้

   แต่จะปล่อยให้พี่อเลนเข้ามาในรังยักษ์ที่มียักษ์อยู่ด้วยตั้งสองตัวตามลำพังก็ดูจะโหดร้ายเกินไป ถึงได้ยอมตามมาง่ายๆ

   ผมเดินตามพี่ธาราเข้ามาในบ้านพร้อมกับพี่อเลนที่หอบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ตามมาติดๆ

   “กลับมาแล้วเหรอเจ้ายักษ์โลภมากอ่ะ อ้อ วันนี้มีแขกเพิ่มมาสินะ”หมอทศกัณฐ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก

   ผมยังคงสงสัยมาถึงทุกวันนี้ว่าทำไมเขาถึงยังอยู่ที่นี่ แล้วคนไข้ ไม่สิ ไม่ใช่คน จะตัวอะไรก็แล้วแต่ เขาไม่ไปทำหน้าที่
หมอของเขารึยังไง

   “วันนี้มีแขก ยังไงนายก็ช่วยเงียบปากไปด้วยแล้วกัน”พี่ธาราเปลี่ยนสรรพนาม

   “หืม เป็นมนุษย์งั้นเหรอ”

   หมอทศกัณฐ์เดินเข้าใกล้พี่อเลนที่มองมาที่เขาด้วยสายตาไม่ค่อยไว้ใจตามประสาคนไม่เคยรู้จักกัน



   “ฮะ เฮ้ย จะทำอะไร”พี่อเลนปัดมือของหมอทศกัณฐ์ออก

   เป็นผมผมก็ตกใจ จู่ๆหมอยักษ์สิบหน้าก็ดันไปจับหน้าอกของพี่อเลน แถมยังบีบเอาแบบเต็มไม้เต็มมืออีก

   ตกลงยักษ์พวกนี้มันเต็มกันรึเปล่าเนี่ย

   “นึกว่าจะเป็นผู้หญิงซะอีก”หมอทศกัณฐ์ยักไหล่แล้วเดินไปนั่งที่โซฟา ไม่วายหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดไฟ

   “ไอ้บ้าเอ้ย”อเลนบ่นอุบ ยืน ทำท่าทาจะเข้าไปทึ้งหัวคุณหมอให้ได้

   ตอนเป็นผู้หญิงคงไม่เคยโดนแบบนี้ พอมาเป็นผู้ชายแล้วโดนแบบนี้ คงจะโกรธไม้น้อย ถึงได้ยืนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่คุณ
หมอที่นั่งกระดิกเท้าดูดบุหรี่อย่างสบายอารมณ์หลังจากบีบหน้าอกคนอื่นไปแล้ว

   

   ผลั๊วะ!!!

   กระเป๋าสัมภาระของผมที่พี่ธาราเป็นคนถือให้ถูกโยนไปตกลงบนหัวของหมอยักษ์โรคจิตอย่างไม่ออมแรงด้วยน้ำมือของ
ยักษ์อีกตัว

   “ทำบ้าอะไรของนายวะ”คุณหมอหันมาบ่นใส่

   “นายกำลังทำร้ายลูกของฉันอยู่ โง่จริง ไปสูบข้างนอกไป”พี่ธาราไล่ด้วยถ้อยคำเจ็บแสบ

   ดูเหมือนคู่นี้เขาจะเป็นคู่กัดกันมาตั้งแต่เป็นเด็กสินะ ตามที่คุณอาวสินเคยบอก

   “หึ ทำเป็นกลัวไปได้ แค่บุหรี่มันทำอะไรไม่ได้หรอกน่า ฮึ่ย น่าโมโห!!”

   พูดจบคุณหมอก็ดับบุหรี่ลงกับซองบุรี่ แต่ไอ้คำว่าน่าโมโหนี่ ถ้าผมมองไม่ผิด เขาจงใจที่จะหันไปทางพี่อเลน หรือว่าผมจะ
คิดไปเองอีกแล้วนะ




   หลังจากที่ต่างฝ่ายต่างแยกย้าย แล้วถ้าจำไม่ผิด คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง

   อีกแล้ว แล้วไม่เข้าใจว่าในคืนที่ความหื่นของเขาจะทำงานทำไมเขาต้องเอาผมมาอยู่ด้วยเนี่ย

   “เอ่อ พี่ ไม่ทำอะไรผมนะ”ผมเกาหัวแกรกๆหลังจากที่อาบน้ำเสร็จไปสักพัก

   เริ่มไม่มั่นใจว่าอาจจะมีแฝดคนที่สามตามมารึเปล่า

   “วางใจได้ ตราบใจที่แสงจันทร์ไม่ได้ส่องผ่านม่านนั้นมาข้าก็จะไม่เป็นอะไร”

   “งั้นเหรอ ผมนึกว่าพี่จะ เอ่อ”ผมหยุดพูดเมื่อพี่ธาราทิ้งตัวลงมานั่งบนขอบเตียงจนชิดกับผม

   “ลูกๆข้าเป็นอย่างไรบ้าง”



   จู่ๆพี่ธาราก็ถามเสียงเบาพร้อมกับดึงเสื้อนอนของผมเปิดขึ้นมา ท้องที่นูนออกมาเล็กๆถูกมือใหญ่ลูบลงอย่างเบามือพร้อมกับริมฝีปากหยักประทับจูบลงไป

   หัวใจผมเต้นระรัวกระหน่ำราวกับกลองชุดที่กำลังถูกตีอย่างแรง

   ความรู้สึกดีมันเอ่อขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

   

   “ดะ เดี๋ยวสิ ผมไม่อยากให้ทำแบบนั้น อะ อื้อ”ยังไม่ทันจะห้ามได้จบ

   พี่ธาราก็เงยหน้าขึ้นมาจูบปิดปากผมไม่ให้พูดต่อ

   ปลายลิ้นร้อนแทรกเข้ามาภายในโพลงปากพร้อมกับอ้อมกอดที่ผลักดันผมให้นอนราบลงไปบนผืนเตียง

   “อะ อื้อ”ผมพยายามทักท้วง

   ไหนบอกว่าไม่ทำอะไร แล้วตอนนี้ผมก็ท้องอยู่

   มือของผมถูกดึงให้ไปจับส่วนที่ร้อนราวกับเล็กนาบไป มันกำลังแข็งขืนอย่างน่ากลัว

   รสจูบที่ร้อนผ่าวทำเอาสมองผมมันเบลอไปหมด พี่ราไม่พูดอะไรนอกจากความรุนแรงที่มีมากกว่าปกติเล็กน้อย

   แต่ทำไมกัน ผมถึงได้รู้สึกว่าพี่ธาราแปลกไป เหมือนกับจะถูกบังคับด้วยอารมณ์ที่ไม่พอใจ

   แต่ก็ไม่ได้มีแววตาสีเขียวที่แสดงออกถึงความโกรธ ทำไมผมถึงได้รู้สึกว่าเขากำลังเคืองอะไรผมอยู่

   “เจ้าเป็นเมียของข้า เรื่องของเจ้าคือเรื่องของข้า ข้าควรรู้ทุกอย่าง”

   เขากระซิบด้วยน้ำเสียงพร่าข้างหูของผม ผมไม่เข้าใจว่าเข้ามีความหมายอะไรแอบแฝงหรือไม่

   หากแต่ความแตกต่างจากทุกๆทีทำให้ผมเริ่มคิดว่ามันต้องมีอะไรแน่นอน



===================================================================

===================================================================


เรื่องนี้มันเริ่มจะรั่วตั้งเเต่ดันไปดึงเอาทศกัณฐ์เข้ามาแระ หลายคนอาจจะผิดหวังที่ละเวงไม่ได้กลับมาเพื่อจะคู่กับวาลี
ยังไงก็ขออภัยล่วงหน้าเน้อออออ แต่ยังรักคนอ่านเหมือนเดิมมมมมมม ไม่เปลี่ยนแปลงจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-12-2015 04:10:25 โดย โซ อึน »

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ธาราขี้หึงจังเลย

ว่าแต่คุณหมอแอบสนใจอเลนอยู่ใช่ม้าาาาา. คึๆ :hao7:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ละเวงจะมาเสร็จทศกัณฑ์แทนละหรือ  :hao7:

เห็นคำผิดอยู่ประปรายค่ะ

ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
เอ้าาาา บอกเรื่องโฆษณายังไอ้บื้อออ

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
ละเวงคู่กับทศกัณฑ์ก็น่าสนุกนะ อิอิ :mew1:

ว่าแต่ พี่สุวรรณกับเงือกเป็นไงบ้างเนี่ยยย อยากรู้ววววว :hao3:

มณียังไม่ได้บอกเรื่องถ่ายโฆษณากับธารานี่เนอะ  :hao4:

ออฟไลน์ mimasopu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
งั้นก็เอาละเวงมาให้ทศกัณฑ์แล้วกัน
พ่อยักษ์มีตั้ง10หน้า20มือคุ้มจะตายยย 555 :hao6:

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
พี่ธารารู้ทุกอย่าง แต่รอน้องมณีพูดน่ะสิ ความจำปลาทองจริงลูก แซลมอนไม่ได้ช่วยอะไรเลย
อีกอย่าง..........ถึงทำตอนนี้ก็ปั๊มแฝดอีกคนยัดเข้าไปไม่ได้หรอกมณี๊!!!!!!

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
หรือคุณวาลีจะตัดหน้าบอกความจริงให้พี่ธารารู้ก่อนน้องมณีไปเสียแล้วล่ะคะเนี่ย 

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ


ครั้งที่ 23 ลักหลับ


   บรรยากาศยามค่ำคืนที่หนาวเย็น แสงจันทร์สีเหลืองนวลสาดส่องไปทั่วบริเวณ

   หากแต่มันไม่สามารถเล็ดรอดเข้ามาภายในบ้านหลังใหญ่ที่ไม่ได้มีแค่คนอาศัยอยู่

   ประตูห้องนอนรับรองแขกถูกเปิดออกอย่างเบามือ บนเตียงหนานุ่มปรากฏร่างโปร่งบางใบหน้าสะอาดกำลังหลับสู่ห้วงนิทราอย่างมีความสุข

   ใบหน้าสวยหวานกำลังยิ้มให้กับฝันที่ร่างเจ้าใหญ่โตของเงาดำทะมึนผู้บุกรุกไม่อาจจะหยั่งรู้ได้

   ห้องนี้เป็นห้องเดียวภายในบ้านหลังใหญ่ที่มีแสงจันทร์เล็กลอดผ่านมาทางระเบียงที่ถูกเปิดม่านทิ้งเอาไว้

   ดูเหมือนว่าแขกที่เข้ามาใช้ห้องนี้จะไม่ได้ล่วงรู้เลยสักนิดว่าแสงจันทร์คืนเพ็ญจะเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับคนในบ้านหลังนี้

   

   เจ้าของใบหน้าที่กำลังแสดงออกถึงความสุขค่อยๆขมวดคิ้วมุ่นด้วยความอึดอัด

   จู่ๆความรู้สึกเบาสบายมันก็แปลเปลี่ยนราวกับถูกพันธนาการและทาบทับเอาไว้ด้วยสิ่งที่มองไม่เห็น

   ดวงตาคมซึ้งหรี่ปรือขึ้นมาอย่างหนักอึ้ง ใบหน้าหวานมุ่ยหน้าลงเมื่อสิ่งที่เห็นมันช่างลางเลือนในแสงจันทร์สลัว

   ฉับพลันสิ่งที่เห็นนั้นค่อยๆก่อรูปร่างชัดเจนยิ่งขึ้น เงาดำทะมึนกำลังกดทับอยู่เหนือร่างกาย

   ภาพค่อยๆชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อใบหน้าของร่างเงาดำคือใบหน้าของคนที่เขาพึ่งจะเจอหน้ากันไม่นาน

   หากแต่ดวงตาที่อยู่ภายใต้เงาจันทร์นั้นกลับเป็นสีเหลืองอำพันน่าหวาดกลัว ทั้งที่มันเหลืองสกาวราวกับอัญมณี แต่ทว่ามัน
กลับไม่ใช่สีตาของบุคคลทั่วไป

   “อะ อื้อ”

   พอจะเปิดปากร้องเรียกให้คนช่วยเรียวปากบางฉ่ำก็ถูกประกบปิดย่างจาบจ้วง

   ดวงตาคมซึ้งเบิกกว้างพยายามดันร่างกายใหญ่โตนั้นออก แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อร่างนั้นแข็งแรงกว่าเขามากเกินจะต่อต้าน

   ผ้าห่มที่คิดว่าคลุมกายเอาไว้ได้หายไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่อาจจะรู้ได้ รู้เพียงแค่ความเย็นชืดจากร่ากายที่ทาบทับมันแผ่เข้า
มาจนขนทั่วร่างนั้นลุกชัน

   “ปะ ปล่อ อื้อ”

   ยิ่งพยายามบ่ายเบี่ยงก็ยิ่งถูกมือที่แข็งราวกับหินมานั้นบีบบังคับให้ตอบรับจูบที่แข็งกร้าว

   ดวงตาดุดันสีเหลืองอำพันนั้นกำลังจ้องมองมาที่เขาราวกับกำลังโกรธเกรี้ยวอะไรบางอย่าง

   มือทั้งสองถูกรวบเอาไว้ด้วยมือใหญ่เพียงข้างเดียว

   ลิ้นแฉะชื้นซอกซอนเข้ามาภายในโพลงปากอย่างหยาบโลน

   มือใหญ่ที่ทั้งเย็นชืดกำลังสอดเข้ามาภายใต้เสื้อผ้าทำให้ยิ่งต้องดิ้นรนเพื่อหนีสัมผัสที่ไม่เต็มใจตอบรับ

   ความรู้สึกผิดมันก่อขึ้นมาชั่ววูบเมื่อคิดได้ว่าเคยทำในสิ่งที่คลับคล้ายคลับคลาแบบนี้กับใครบางคนมาก่อน

   ปลายยอดเต่งตึงทั้งสองถูกหยอกเย้าด้วยน้ำหนักมือที่ไม่ผ่อนปรนทำให้สะดุ้งเฮือกครางอือในลำคออย่างตกใจ

   เพราะอะไรกัน มันเกิดอะไรขึ้น เรื่องนี้เขายังไม่เข้าใจ



   จูบรสหวานที่เป็นไปอย่างเร่าร้อนกำลังถูกปรนเปรอครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยฝีมือยักษ์หนุ่มผู้มากรัก

   ใบหน้าหวานราวอัปสรดึงให้เขาฉุกคิดถึงนางผู้ที่เคยหลงรักอย่างสุดหัวใจ

   ผมดำราวกับสีขนของอีกานั้นฉุดดึงให้เขาต้อมองตามอย่างลุ่มหลง เหมือนกันราวกับรูปปั้นที่ถูกแกะออกมาจากพิมพ์
เดียวกัน

   หากแต่มนุษย์คนนี้นั้นเป็นชาย แต่ยักษ์หนุ่มก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมใบหน้าของมนุษย์ที่ตนเคยหลงรักนั้นช่างเหมือน
ใบหน้าของมนุษย์คนนี้นัก

   มันทำให้เขารู้สึกราวกับอยู่ในความฝันเมื่อครั้งแรกเห็น

   มันยากที่จะห้ามใจไม่ให้แตะต้องเจ้าของใบหน้าที่เหมือนกับหญิงคนที่ตนเคยรักได้

   แสงจันทร์ที่สาดส่องเป็นตัวกระตุ้นสัญชาติญาณดิบเถื่อนชั้นดี มันทำให้จิตใต้สำนึกที่อยากจะห้ามในนั้นขาดสะบั้นลง

   เสื้อนอนตัวบางถูกกระชากออกอย่างไม่มีชิ้นดี

   แต่พลันแสงสีเหลืองสว่างก็สาดส่องเมื่อสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านั้นเป็นจี้ที่ทำจากบุษราคัมห้อยกับสร้อยคอเส้นเล็ก

   ริมฝีปากของยักษ์หนุ่มผละออกมาด้วยความตกใจแล้วผงะถอยออกมาเล็กน้อย

   “ทะ ทำบ้าอะไร”

   เจ้าของร่างที่ถูกคุกคามลุกขึ้นถอยหลังไปชิดหัวเตียงอย่างหวาดระแวงพลางกุมเม็ดบุษราคัมสีเหลืองอำพันเอาไว้

   “ไปได้นั่นมาจากไหน”

   ยักษ์หนุ่มถามเสียงร้าวทำท่าทางจะเข้าไปฉุดร่างที่ตั้งใจจะล่วงเกินมาไว้ใต้ร่าง

   “อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นจะเรียกคนอื่นแน่”อเลนส่ายเชิดหน้าขู่ยักษ์ตัวใหญ่

   “คิดว่ากล้าก็ลองสิ บอกมาว่าได้สร้อยนั่นมาจากไหน”

   “เรื่องอะไรต้องบอก ออกไปเดี๋ยวนี้”เจ้าของร่างโปร่งบางรวบรวมความกล้าไล่ผู้บุกรุกออกไป

   “บอกมาว่าได้มันมาจากไหน”

   “ก็บอกว่าอย่างเข้ามาไง”

   พอไม่ตอบคำถามยักษ์ตัวดีเจ้าของตาสีเหลืองอำพันก็กระโจนเข้าไปใกล้ร่างที่คุดคู้กับหัวเตียง

   เป็นอีกครั้งที่แสงสีเหลืองสว่างเปล่งออกมาจากจี้บุษราคัมยามที่ผู้ใส่หวาดกลัวคนตรงหน้าทำให้ยักษ์ผู้บุกรุกถอยออกไป
ยืนคุมเชิงอยู่ปลายเตียง

   ตอนนี้เจ้าของร่างโปร่งบางทั้งสั้นทั้งกลัวเจ้าของตาสีเหลืองสว่าง ดวงตาสีแปลกไปจากคนทั่วไปทำให้ไม่อยากจะคิดไป
ไกลเลยว่าคนคนนี้ไม่ใช่คนแบบปกติทั่วไป

   “บอกมาว่าได้สร้อยนั่นมาจากไหน…แล้วจะไป”ทศกัณฐ์ถามเสียงแข็งจ้องมองร่างเปลือยอกเขม็งอย่างไม่พอใจ

   “ถ้าบอกแล้วจะออกไปจริงใช่ไหม”อเลนถามย้ำอย่างไม่ค่อยวางใจ สร้อยที่พ่อเคยให้ไว้บังคับติดตัวตลอดไขข้อสงสัยได้
ดีว่าทำไมต้องบังคับให้ใส่ตลอดเวลา

   “ถ้านายไม่โกหกฉันล่ะก็ ฉันจะยอมออกไปไป”เขาตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง


   “พ่อฉันเป็นคนให้มา พอใจยัง ถ้ารู้แล้วก็ออกไปได้แล้ว”



   “หึ…อย่าหวังว่าจะรอด”

   พูดจบผู้บุกรุกยามวิกาลก็เดินออกจากห้องไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวที่ยากจะคาดเดาว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร

===================================================================



ขุ่นหมอออกตัวแร๊งงง สั้นไปนิสสส

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-12-2015 16:23:23 โดย โซ อึน »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
อเลนมีคู่แล้ววววว


ดีงามมาก แล้วสร้อยนั่นคืออะไรหรอคะ??

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
คุณหมอโมโหกลบเกลื่อนความผิดนี่นา เนียนเชียวนะคะ :m20:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด