ต่อจ้า
โชคดีที่บาดแผลของมาลีไม่ได้ถึงกับลึกจนเป็นอันตราย แต่ก็ต้องเย็บหลายเข็มและต้องอยู่ดูอาการที่โรงพยาบาลอย่าง
น้อยหนึ่งคืน
ผมกลับบ้านมาด้วยสภาพร่างกายที่เหนื่อยอ่อนเต็มทนกับการที่ต้องเจอเรื่องราวที่สุดจะบรรยายต่างๆนานาติดต่อกันมาเป็น
เวลานาน
อีกทั้งความไม่เข้าใจเกี่ยวกับตัวของพี่ธาราเองทำให้ผมค่อนข้างที่จะค้างคาใจเป็นอย่างมาก
ผมไม่รู้ว่าตกลงแล้วพี่ธาราเป็นคนยังไงกันแน่
ทันทีที่ก้าวเข้าไปในตัวบ้าน แผ่นหลังที่คุ้นเคยของคนที่ผมไม่อยากเจอมากที่สุดในตอนนี้ปรากฏสู่สายตา
“ข้าเป็นห่วงเจ้า”พี่ธาราทักทันทีที่เห็นหน้าผม
ภายในบ้านบรรยากาศเงียบงันเนื่องจากพ่อกับแม่มีซ้อมลิเกอยู่ที่โรงซ้อมที่ตั้งอยู่ข้างตัวบ้าน
“พี่กลับไปก่อนดีกว่า ตอนนี้ผมยังไม่อยากคุยกับใคร”
“เจ้ากำลังเข้าใจข้าผิดอยู่ มณี ข้าไม่ได้ทำอย่างที่เจ้าเห็นเลย”พี่ธาราอธิบาย
“ถ้าพี่ไม่ทำแล้วใครจะทำ มาลีจะลุกขึ้นมาเอามีดกรีดหน้าตัวเองทำไม”
“ใช่ นางทำตัวนางเอง”พี่ธาราเดินเข้ามาใกล้
“จะเป็นไปได้ยังไง ไม่มีใครที่จะทำร้ายตัวเองแบบนั้นแน่นอน พี่กำลังโกหกผมอยู่”ผมถอยหนี
“ข้าพูดความจริง”
“ไม่ อย่าเข้ามา ผมไม่มั่นใจว่าพี่จะเปลี่ยนไปแล้วลุกขึ้นมาทำร้ายผมกับลูกตอนไหน”ผมว่า
ซึ่งนั่นทำให้พี่ธาราชะงักมือที่กำลังเอื้อมมาหมายจะคว้าเอาผมไปกอด
มือนั้นชักกลับไปพร้อมกับใบหน้าที่แสดงออกถึงความผิดหวัง
ผมหลบสายตาคู่หมองก่อนจะเหลือบไปเห็นข้อมือที่พันด้วยผ้าพันแผล มันทำให้ผมตกใจเล็กน้อย แต่พอนึกได้ว่าพี่ธารา
เป็นยักษ์แล้วแผลของเขาหายเร็วมากแค่ไหนก็ทำให้คลายกังวลลงไปบ้าง
แต่ก็ยังคงกังวลอยู่ดี ทว่าความหวาดกลัวและความไม่เชื่อใจทำให้ผมหยุดความคิดที่จะถามไถ่ได้แต่มองข้อมือที่พันผ้าสี
ขาวเอาไว้นิ่ง
“พี่กลับไปก่อนดีกว่า ผมอยากจะพักผ่อน”ผมออกปากไล่
“รับปากกับข้าได้หรือไม่ง่าดูแลตัวเองกับลูกให้ดี อย่าได้ออกไปข้างนอกคนเดียวเป็นอันขาด”
“ครับ ผมจะดูแลลูกเป็นอย่างดี”ผมตอบรับ
ใบหน้าคมคายพยักหน้าเล็กหน่อยก่อนจะเดินผ่านตัวผมไป ทิ้งให้ผมได้แต่มองตามด้วยความเป็นห่วง
แรงดิ้นเล็กๆในช่องท้องเคลื่อนเสียดกันไปมาทำเอาต้องรีบทรุดนั่งลงกับโซฟา ยิ่งนานวันเข้าลูกๆในท้องก็ยิ่งมีปฏิกิริยามาก
ขึ้น
ความสับสนที่เกิดขึ้นทำให้ผมนึกหนักใจขึ้นมา
เช้าวันรุ่งขึ้น ผมตื่นขึ้นมาด้วยสภาพสมองที่ยังไม่พร้อมจะทำงานเลยสักนิด นอกหน้าต่างที่อึมครึมบ่งบอกถึงมรสุมที่ยังคง
ก่อนตัวอยู่เรื่อยในฤดูนี้
ในช่วงเช้าของวันหยุดสุดสัปดาห์อีกวันของวันนี้เริ่มต้นด้วยความสงบสุข สงบจนนึกเบื่อขึ้นมา
อาจจะเป็นเพราะเคยเจอแต่เรื่องราวประหลาดและปวดหัวอยู่เรื่อย เรื่องธรรมดาทั่วไปจึงกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อขึ้นมาทันที
ในเช้าของวันไร้วี่แววของพี่ธาราต่างจากทุกทีทำให้พ่อกับแม่อดไม่ได้ที่จะถาม แต่คำตอบของผมก็คงมีแค่คำว่าไม่รู้คำ
เดียวที่จะบอกุกอย่างได้ดีที่สุดในตอนนี้
ในช่วงสายพ่อกับแม่ก็พากันไปคุมลูกคณะซ้อมลิเกกันตามเคย ทิ้งให้ผมนั่งกินของว่างอยู่หน้าทีวี กดรีโมทเปลี่ยนช่องไป
มาทั้งที่ไม่รู้ว่าจะโฟกัสดูรายกันใด
เสียงสั่นครืดของโทรศัพท์บนโต๊ะกลางเรียกให้ผมหยิบยกมันขึ้นมาดู หน้าจอแสดงเบอร์ของมาลีทำให้ขมวดคิ้วขึ้นมาด้วย
ความสงสัย
“ว่าไงครับ หมอให้ออกจากโรงพยาบาลวันไหนครับ”ผมทักทายพร้อมถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง
‘ฮึก มณี ฮึก มาหามาลีหน่อย มาลีเจ็บ’แว่วเสียงสะอื้นตอบมาจากปลายสาย
“ทำไมไม่เรียกพยาบาลล่ะครับ”
‘ไม่มี ฮึก ไม่มีพยาบาล’เธอสะอื้น
ทำให้ผมนึกสงสัย อีกทั้งเสียงลมที่พัดแรงแทรกมาจากปลายสายนั่นอีก
“เดี๋ยวสิครับ ตอนนี้อยู่ที่ไหน ทำไมเสียงลมถึงได้แรงแบบนั้นล่ะ”
‘ฮึก มาหามาลีหน่อยนะ ต้องมานะ มาลีเจ็บมากเลย มาลีกลัว ไม่นะ ช่วยมาลีด้วย มณี กึก กึก’
เสียงกุกกักดังแทรกขึ้นมาทั้งที่มาลียังพูดไม่จบทำเอาตกใจ
“ที่ท่าเรือสุดหาด…. มีเรือจอดอยู่ถ้าไม่อยากให้นังนี่เป็นอะไรไปซะก่อนก็รีบมา”เสียงแข็งกร้าวพูดกระชากเสียงห้วนดัง
แทรก
“คุณเป็นใคร นี่ เดี๋ยว” ยังไม่ทันจะถามไถ่ ปลายสายก็ถูกตัด
พอโทรกลับก็ไม่มีสัญญาณ
ผมได้รับโทรศัพท์อีกครั้งเพื่อขู่ว่าห้ามแจ้งตำรวจหรือบอกใคร ซึ่งนั่นมันทำให้ผมยิ่งกดดัน
มันมากเกินไปที่จะช่างน้ำหนักระหว่างผู้หญิงที่อ่อนแอกับลูกในท้อง
ผมเป็นห่วงลูกในท้องมากจนหยุดที่จะกังวลไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกัน ความเป็นมนุษย์ก็ทำให้ผมละทิ้งคนคนหนึ่งไม่ได้
เช่นกัน
ลมทะเลเริ่มพัดแรงเพราะพายุที่ใกล้จะพัดเข้ามาอีกระรอก คลื่นทะเลขึ้นสูง กลิ่นอายของฝนใกล้เข้ามาทุกที
ท่าเรือด้านหน้าเป็นสะพานทอดยาวออกไปถึงเรือลำใหญ่สีขาวดูมีราคา
เป็นเรือลำเดียวที่จอดอยู่ที่ท่านี้เพราะค่อนข้างจะไกลห่างจากแหล่งท่องเที่ยว
เรืองลำใหญ่โคลงเคลงไปตามแรงคลื่นที่ซัดเข้ามา ฝนเม็ดเล็กเริ่มหยดปะปรอยลงมามากขึ้น
กรี๊ดดดดดด!!
เสียงกรีดร้องราวกับย้ำเตือนว่าผมมาที่นี่เพื่ออะไรทำให้ผมต้องรีบรุดเข้าไปที่เรือลำนั้น
ทันทีที่ขึ้นไปบนเรือ ไร้วี่แววของใครอยู่ข้างบน
ผมก้าวอย่างระมัดระวังเผื่อว่าคนร้ายจะอยู่แถวนี้
ผมเดินมาหยุดหน้าประตูที่จะพาลงไปในท้องของตัวเรือ พอชะโลกหน้าเข้าไปก็เจอกับความว่างเปล่าทำให้นึกสงสัย
แต่ไม่ทันไร มือก็ถูกกระชากดึงไปทางด้านหลังแรงจนเกือบล้มลงไป แขนอีกข้างเองก็ถูกจับเอาไว้ไพร่หลังจากแรงที่มีอยู่
มากจนไร้ทางจะตอบโต้
ผู้ชายผิวขาวสะอาดท่าทางดูดีและสุภาพแต่แววตากลัวดูน่ากลัวและโหดเหี้ยมจับผมเอาไว้ทำให้ผมดิ้นไม่หลุด
“ปล่อย คุณเป็นใครกันแน่ ต้องการอะไร ถ้าไม่ปล่อยผมจะเรียกให้คนช่วย”
ผมขู่ไปแต่ก็ไร้เสียงตอบจากอีกฝ่าย หรือแม้กระทั่งท่าทีกังวลใดใดนอกจากท่าทีแข็งทื่อเหมือนเก่า
“หากคุณไม่ปล่อยล่ะก็ ผมจะแจ้งตำรวจให้มาจัดการคุณ”ผมขู่
“หึ คิดว่าทำได้ก็ลองดูซิ คิดว่าแถวนี้จะมีใครผ่านมารึไง อีกอย่าง แกลองแหกตามองดูซะบ้างมาตอนนี้แกอยู่ที่ไหน เรือมัน
ออกป่างจากฝั่งมาไกลแล้ว โง่จริงๆเลย”
เสียงแหลมเล็กพูดสะบัดเสียง ทำให้แทบไม่เชื่อหูจนต้องหันไปมองทางต้นเสียง
แล้วก็เป็นจริง มาลีเดินเข้ามาจากทางท้ายเรือพร้อมกับมีดวาววับปลายแหลมจนสะท้อนแสง
ผมมองไปยังฝั่งตามที่มาลีบอก แล้วก็เป็นจริงอย่างที่ว่า เรือได้เคลื่อนตัวออกมาจากฝั่งตั้งแต่เมื่อไรก็ไม้รู้
“ทำไมถึง”ผมพูดไม่ออกได้แต่มองหญิงสาวที่มีผ้าพันแผลแปะอยู่ครึ่งใบหน้า
“หึ ไม่เสียแรงจริงๆที่ลงทุนกรีดหน้าตัวเองเพื่อเรียกร้องความสนใจ แกมันโง่กว่าที่คิดเอาไว้จริงๆ ส่วนไอ้ยักษ์นั่นก็โง่ยิ่งกว่า
ที่รักแกจนยอมเจ็บเพื่อที่จะช่วยแก”
“หมายความว่ายังไง”
ในตอนนี้ผมงงไปหมด ถ้ามาลีบอกว่ากรีดหน้าตัวเอง นั่นก็แสดงว่าพี่ธาราไม่ได้ทำร้ายมาลี ทั้งหมดนี้เกิดจากมาลี
เธอโกหกทุกอย่าง เธอหลอกผมมาตลอด
แล้วที่แย่ไปกว่านั้น
ผมกลับไม่เชื่อใจพี่ธารา ทั้งที่พี่ธาราพยายามจะปกป้องผมอยู่ตลอด
“แกมันโง่ไง แต่ก็ดี ฉันจะได้จัดการเอาสิ่งที่ฉันต้องการมาง่ายๆ”
“สิ่งที่ต้องการ พูดถึงอะไรกัน!!”
ผมพยายามดิ้นให้หลุดจากมือแข็งที่จับแขนของผมเอาไว้
มาลีเดินเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับเงื้อมีดสีเงินวับในมือ
“สิ่งที่อยู่ในตัวของแกยังไงล่ะ เด็กที่มีเลือดของยักษ์อยู่น่ะ มันน่าจะแข็งแกร่งไม่น้อย”
“อย่าแม้แต่จะคิด อย่ามาแตะลูกของผม คิดจะทำอะไรกันแน่”
เธอรู้มาตลอดว่าในตัวของผมมีอะไรอยู่ ที่เธอเข้าหาผมตั้งแต่แรกก็เพื่อจะเข้ามาทำร้ายลูกของผมกับพี่ธารา ทำไมผมถึง
ไม่รู้เรื่องนี้และไม่เอะใจมาก่อน
ผมมันแย่ เกินกว่าที่จะให้อภัยตัวเองได้เลย
“แกไม่ต้องห่วง ลูกๆของแก จะต้องกลายเป็นลูกกรอกที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยล่ะ”เธอพูดพร้อมแสยะยิ้ม ยืนอยู่
เบื้องหน้า
ทั้งที่พยายามดิ้นจนสุดแรงแต่ก็ไม่สามารถจะหลุดออกไปได้เลย
มือที่ถือมีดปลายแหลมเงื้อขึ้นจนสุดแขนก่อนจะจ้วงแทงลงมาบนท้องของผม
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!
=================================================================
รอบนี้ไม่ค้างนะ มาต่อให้เลย อ่านต่อข้างล้างนะจ๊ะ