✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59  (อ่าน 244047 ครั้ง)

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
คนเขียนค่ะ คนอ่านจะลงแดงแล้วน้าาาาาาา :z3: :z3:

ออฟไลน์ plengpit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
ทวงครั้งที่ 10 กุหลาบแห่งท้องทะเล

   “ฉันไม่อยากให้นายไปเลย ชลาสินธุ์”เจ้าของกายสูงใหญ่ดึงรั้งเอาร่างบอบบางของเงือกหนุ่มเข้ามากกกอด  จมูกโด่ง
จรดลงบนพวงแก้มสีระเรื่อจ้องมองนัยน์ตาสีฟ้าครามของผู้เป็นที่รักด้วยความห่วงใย

   “ปล่อยข้าเถิดพี่วรรณ ข้าไปไม่นานนักหรอก ท่านอย่าได้ห่วงข้าไปเลย”ชลาสินธุ์ตอบเสียงก้องไปทั่งบริเวณถ้ำใต้น้ำด้าน
ล่างของเกาะกลางทะเล ดึงรั้งแขนแข็งแรงที่กำลังโอบกอดออก ทว่าแขนนั้นยังคงโอบรัดเอวแน่น

   “แต่ฉันเป็นห่วงนาย ไม่อย่างให้นายไปไกลจากสายตาของฉัน”

   “ได้โปรดเถิดพี่วรรณ ท่านธารากับท่านวสินมีบุญคุณต่อครอบครัวของข้า ข้าคงจะเมินเฉยยามที่เขาเดือดร้อนไม่ได้”

   ชลาสินธุ์พูดเสียงอ่อนซบหน้าลงบนอกเปลือยของศรีสุวรรณอย่างเอาใจ มือใหญ่ตะโบมลูบไล้แนวเกร็ดสีฟ้าครามเป็นการ
หยอกล้อเรียกให้เงือกหนุ่มหน้าแดงระเรื่อ

   “ก็ได้ แต่นายต้องกลับมาก่อนมื้อเย็น แล้วก็”พูดทิ้งท้ายเป็นปริศนาก่อนจะกดจูบลงบนริมฝีปากนุ่ม

   “อื้อ พี่วรรณ”

   ถูกจู่โจมเข้าจนได้ สะโพกกลมปกคลุมเกร็ดสวยกำลังถูกสัมผัสด้วยฝ่ามือร้อนจนร่างกายบางสั่นเทาเล็กๆช้อนตาขึ้นมอง
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่

   ศรีสุวรรณพรมจูบไปทั่วดวงหน้าหวานล้ำตักตวงเอาความหอมหวานจนหนำใจแต่มือปลาหมึกก็ยังคงไม่หยุด ดึงรั้งเอวบาง
เข้ามาหาจับให้ชลาสินธุ์นั่งบนตักของตน

   “พี่วรรณ”

   หางสวยสะบัดไปมาในน้ำมีเพียงช่วงสะโพกที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา เสียงหอบหายใจของชายหนุ่มหอบกระเส่าดังก้องทั่วโถง
ถ้ำใต้น้ำยิ่งปลุกความกำหนัดได้เป็นอย่างดี

   “บอกฉันหน่อยสิชลาสินธุ์…ถ้าฉันอยากจะทำรักกับนายในร่างนี้ฉันจะต้องเข้าไปทางไหน”ศรีสุวรรณยิ้มกริ่มเรียกให้ชลา
สินธุ์สะดุ้งช้อนตามองหน้าแดงก่ำ

   “พะ พี่วรรณ”

   “ว่าไง ตรงนี้ หรือตรงนี้”มือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วอ้อมไปยังด้านหน้าจับเอาเครื่องเพศที่โผล่ออกมาหยอกล้อจนมันตั้งรับ

   “อะ อา ตะ ตรงนี้”ชลาสินธุ์เอื้อมมือแหวกเกร็ดสีคราวยังเบื้อหลังเผยให้เห็นช่องทางสีอ่อนด้วยท่าทางเขินอาย “อะ อื้อ”
กายเล็กกว่าผวาเกาะลาดไหล่ของชายหนุ่มเมื่อนิ้วแข็งสอดลุกล้ำเขามาขยับวนราวกับกำลังสำรวจภายใน

   “รู้สึกมากกว่าเดิมใช่ไหม”

   “อื้อ พี่วรรณ ท่านช่าง อะ เจ้าเล่ห์นัก”ต่อว่าแต่ก็เอื้อมแขนกอดก่ายคนรักแน่น ซุกใบหน้าลงบนอกกว้างเบียดเข้าหาไออุ่น

   “ถ้ารู้ว่าทำแบบนี้ได้ ฉันน่าจะทำตั้งนานแล้ว”ยังคงพูดหยอกให้ชลาสินธุ์ได้เขินอาย จ้องมองท่าทีอ่อนเดียงสาจนไม่อยาก
จะปล่อยให้ร่างนี้ห่างกายไปไหน

   “หื้อ ข้าไม่อยากให้ท่านโลภมาก อะ อา พี่วรรณ เรามีสุวรรณสินธุ์แล้ว ขะ ข้า อา หยุดหยอกล้อข้าสักทีเถิด ข้าแทบทนไม่
ไหว”

   ชลาสินธุ์จิกนิ้วลงบนลาดไหล่แน่นเมื่อนิ้วที่ขยับอยู่ภายในกำลังคว้าลึกจนเมือกของเหลวที่ถูกขับออกมาไหลย้อนออกมา
จากช่องทาง

   “ฉันคงจะคิดถึงนายมาก”ถอนนิ้วชุ่มเมือกเหลวใสออกก่อนจะกดจูบลงบนขมับชื้นเหงื่อ มือใหญ่รวบเอาผมสีดำขลับให้พาด
ลงที่ลาดไหล่ของเจ้าของ

   “ขะ ข้าไปไม่นาน อะ อื้อ พี่วรรณ”เงือกหนุ่มสะดุ้งเฮือกเมื่อร่างกายถูกจัดให้อยู่ในท่าทางตั้งรับกายแข็งขืนของชายหนุ่ม
สอดเข้ามาผ่านช่องทางสีหวานง่ายดาย

   ร่างกายบอบบางถูกอุ้มให้นั่งทับอยู่บนตัก สะโพกสอบขยับดันเอาท่อนเนื้อร้อนดุจเหล็กนาบไฟกระทั้นเข้ามา

   “ฉันแทบไม่อยากจะปล่อยให้นายไป”ศรีสุวรรณกระซิบข้างหูเสียงหอบ มือใหญ่กอดรัดเอวบางจับให้ขยับรับกายของเขาที่
แทรกอยู่ข้างใน

   “ขะ ข้าต้องไป”

   ชลาสินธุ์หันไปโอบคอของคนรัก หางสวยตวัดไปมารู้สึกแทบขาดใจยามที่ศรีสุวรรณกดกายเข้ามาลึก

   “ฉันรักนาย”

   “อะ อา พี่วรรณ ข้า อื้อ รัก ท่าน เหลือเกิน ข้า แทบขาดใจ อา”ชลาสินธุ์กรีดร้องกับรสรักอันเร่าร้อนที่คนรักมอบให้ ราวกับ
เรือสำเภาที่กำลังแล่นอยู่บนท้องทะเลในช่วงมรสุม

   ในที่สุดมันก็ถูกคลื่นลงพัดพามันมาจนถึงฝั่ง เสียงหอบหายใจของสองร่างต่างเผ่าพันธุ์ดังกระเส่าก้องไปทั่ว

   “คนเจ้าเล่ห์”ต่อว่าอย่างเหนื่อยใจกับความโลภมากที่มีแทบทุกวันของชายหนุ่ม

   หากคืนเพ็ญเขาไม่ห้ามเอาไว้ป่านนี้คงมีลูกดกเป็นลูกหมาลูกแมวเป็นแน่

   “นายเป็นฝ่ายยั่วฉันก่อน”

   “ข้าเปล่า”ชลาสินธุ์เบ้หน้า

   “นี่ไง นายกำลังยั่วฉัน ไม่ว่านายจะทำหน้าแบบไหน มันก็ยั่วฉันหมดนั่นแหละ”ดึงรั้งเอาร่างของเงือกหนุ่มเข้ามากอด

   “ข้าถึงบอกไง ว่าท่านเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก พี่วรรณ”





   ชลาสินธุ์แยกจากคนรักได้ไม่นาน กายบางราวกับรูปปั้นของเทพยาดาท่อนร่างเป็นปลาแหวกว่ายไปตามสายน้ำ

   แสงอาทิตย์ร้อนแรงในยามบ่ายส่องลงมากระทบพื้นน้ำเป็นประกายระยับ แต่ก็ไม่เป็นผลให้กับร่างที่แหวกว่ายผ่านสายน้ำที่
เย็นเฉียบ ท่วงท่าสง่างามราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย

   ดวงตาสีน้ำทะเลลึกหวานล้ำทอดมองเกาะเบื้องหน้าที่เห็นอยู่ลิบตาเหนือแนวเส้นขอบฟ้า

   ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มออกมาด้วยความดีใจหลังจากที่ว่ายน้ำออกจากเกาะมานานนับชั่วโมง



   ชลาสินธุ์ดำดิ่งสู่เบื้องล่างของเกาะใหญ่ หากจำไม่ผิดถ้ำที่เคยบังเอิญพบเจอครั้งแอบมาเที่ยวอยู่ไม่ไกลจากด้านหน้าสัก
เท่าไร

   ไม่นานก็เห็นปากทางเข้า ของถ้ำเห็นแสงสว่างของสีฟ้าอ่อนส่องออกมา

   พื้นเบื้องล่างของตัวถ้ำเต็มไปด้วยดอกไม้สีฟ้าครามละลานตา กลีบของมันบางจนเกือบใสคล้ายกับผลึกแก้วส่องแสงสว่าง
ให้มองเห็นจนทั่วตัวถ้ำ

   ชลาสินธุ์โน้มกายเพื่อจะเด็ดเจ้าดอกไม้สีฟ้าสว่างด้วยท่าทางดีใจ หากแต่ข้อมือก็ถูกฉุดรั้งจากมือที่แข็งกร้าวราวกับก้อน
หิน

   “ไม่นึกว่าเจ้าจะมาหาข้าถึงที่”กระแสจิตถูกส่งผ่านทำเอาดวงตาสีฟ้าครามของเงือกหนุ่มเบิกกว้าง หันมาตามแรงดึงให้มอง
เห็นร่างของผู้มาเยือนได้ถนัดถนี่ ร่างสูงโปร่งของเงือกอีกตัวทำให้ชลาสินธุ์ชะงัก เกร็ดสีน้ำเงินเข้มดูคุ้นตาปลุกความทรงจำให้
นึกออกว่าเงือกตรงหน้าคือใคร

   “มาทำอันใดที่นี่กัน น่านนที”ส่งกระแสจิตถามพยายามดึงมือที่ถูกจับเอาไว้แน่นออก

   “ที่นี่เป็นที่ของข้า”

   “อย่าปดข้าน่านนที ที่นี่มิมีผู้ใดครอบครอง”

   “นั่นมันเมื่อก่อน แต่เวลานี้ไม่”คำตอบทำให้ชลาสินธุ์เริ่มไม่พอใจ น่านนทียังคงไม่ปล่อยมือออกอีกทั้งบีบจนแน่น แม้ว่าจะ
พยายามออกแรงจนร่างคลอนผมสยายไปตามสายน้ำแต่ก็สู้แรงของอีกฝ่ายไม่ได้เลย

   “ปล่อยข้า”

   “เหตุใดข้าต้องปล่อยผู้บุกรุก”

   “เจ้าต้องการอันใด”

   “เจ้าถามหาสิ่งที่ข้าต้องการเช่นนั้นหรือ”เงือกหนุ่มนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มไถ่ถาม อวดยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์

   “ใช่”

   “หากเจ้าทวงถามสิ่งที่ข้าต้องการ สิ่งเดียวที่ข้าจักตอบก็คือ…ตัวเจ้า”นิ้วยาวกรีดลงบนลาดไหล่ของชลาสินธุ์แผ่วเบาเรียก
ให้ชลาสินธุ์ถอยกายหนีอย่างรังเกียจโดยไม่ได้ตั้งใจ

   “ข้ามีคู่ชีวิตแล้วน่านนที”

   “เรื่องนั้นข้ารู้แก่ใจดีชลาสินธุ์”

   “หากเจ้ารู้แก่ใจเจ้าจงปล่อยมือข้าเสีย”

   “ข้าไม่ถือความมากมายเจ้าน่าจะรู้”

   “เจ้ากำลังผิดประเวณี”ชลาสินธุ์ถอยกายออกห่างร่างของเงือกอีกตนที่เคลื่อนเข้ามาใกล้

   “ข้าไม่ใส่ใจประเวณี หากว่าเจ้าเลือกคู่เป็นมนุษย์ชั้นต่ำ”

   “จะ เจ้ารู้”

   “ข้ารู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเจ้า ชลาสินธุ์ เจ้าก็รู้แก่ใจว่าข้านี้หลงรักเจ้ามาแสนนาน แต่เหตุใดเจ้าจึงเลือกคู่เป็นมนุษย์ชั้นต่ำนั่น
กัน”

   “มนุยย์มิใด้ต่ำต้อยอย่างที่เจ้าคิด น่านนที”

   “ช่างเถิด ข้าไม่นึกจะใส่ใจ”ราวกับสิ้นบทสนทนา บ่วงเชือกควันสีดำทะมึนก็เข้ามารุมล้อมฉุดให้ร่างของชลาสินธุ์ถูก
พันธนาการไว้ให้ไร้ทางสู้ ดวงตาสีฟ้าครามเบิกกว้าง พยายามดิ้นรนหากแต่บ่วงเชือกเงาทะมึนยิ่งรัดแน่น กายถูกดึงให้โผล่พ้น
เหนือผืนน้ำภายใต้ถ้ำ

   “เจ้ามีสิ่งนี้ได้อย่างไร”ชลาสินธุ์ถามออกมาทันทีที่โผล่พ้นเหนือน้ำ บ่วงเชือกเงาดำเป็นมนต์ดำของเดรัจฉานที่มีผลต่อผู้ใช้
มันจะกัดกินวิญญาณไปเรื่อยๆจนกว่าผู้นั้นจะสิ้นใจ

   “ข้ายอมแลกหากได้เจ้ามาเป็นคู่ครอง รอให้ถึงคืนเพ็ญชีวิตของเจ้ากับข้าจะเป็นของกันและกัน ข้าแทบอดทนรอคอยมัน
แทบไม่ไหว”

   “เจ้าบ้าไปแล้วรึไงน่านที หากเจ้าปล่อยข้าไปเสียตอนนี้ข้าจะไม่เคืองใจอันใดต่อเจ้า”

   ชลาสินธุ์ร้องเรียก ทว่าเงือกหนุ่มอีกตนกลับว่ายน้ำดำดิ่งหายลับไปกับท้องทะเลทิ้งให้เขานอนคู้กายอยู่บนผืนถ้ำใต้น้ำตื้น



------------------------------------------------------------------------------------------------------



   ชายหนุ่มผู้ได้รับลมหายใจของเงือกดำดิ่งสู่ท้องทะเลลึก ดวงตาคมกริบจ้องมองแสงสีฟ้าสว่างส่องผ่านออกมาจากปาก
ทางเข้าถ้ำ เมื่อเห็นดังนั้นศรีสุวรรณก็ว่ายเข้าไปด้านในทันที

   ดวงตาของชายหนุ่มเบิกกว้างเมื่อเข้าไปด้านในของถ้ำใต้น้ำ ร่างของชลาสินธุ์นอนคู้กายอยู่บนพื้นเหนือน้ำไม่ได้สติ เขา
แทบจะเป็นบ้าเพราะความเป็นห่วงที่กำลังเอ่อล้นจิตใจ

   ทว่าก่อนที่ชายหนุ่มจะเคลื่อนกายเข้าหาคนรัก ขาก็ถูกมือที่มองไม่เห็นดึงกระชากให้จมดิ่งลงไปในน้ำอีกครั้ง

   คราวนี้ศรีสุวรรณมองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจนเงือกหนุ่มอีกตนจ้องมองมาที่เขาด้วยท่าทางมุ่งร้าย ดวงตาสีน้ำเงินเข้ม
มองมาที่เขาอย่างเกรี้ยวกราด

   “อย่าได้บังอาจมาแตะต้องชลาสินธุ์ของข้าอีก”เสียงหนึ่งก้องเข้ามาในหัว

   หากแต่ลมหายใจของเขากำลังจะขาดห้วงลงเพราะมือที่ฉุดดึงเอาไว้ไม่ให้โผล่พ้นขึ้นเหนือน้ำ

   “ข้าจะทำให้เจ้าหายไปจากโลกนี้ เจ้ามนุษย์ชั้นต่ำ ข้าจะแย่งชลาสินธุ์ของข้าคืนมาจากเจ้า”

   เสียงนั้นตวาดก้องแต่ศรีสุวรรณพอได้รับฟังกลับรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที ชื่อนั้นที่ถูกเอ่ยเป็นคนรักของเขาไม่ใช่ของใคร เขา
จะไม่ยอมให้ใครแย่งชลาสินธุ์ไปอย่างเด็ดขาด

   พอคิดได้ดังนั้นโทสะก็บัลดาลดึงกระชากเส้นผมยาวสยายของเงือกหนุ่มผู้ปองร้ายเข้ามาใกล้ดวงตาดุดันจ้องมองลึก
เข้าไปในดวงตาคู่สีน้ำเงิน

   “เจ้าคิดว่าจะทำอะไรข้าได้เจ้ามนุษย์อ่อนแอ”

   เสียงดูถูกของเงือกยังคงดังก้อง แต่ศรีสุวรรณกลับไม่ใส่ใจ สร้อยประดับอัญมณีสีอำพันบนคอส่องแสงเหลืองทอง
สว่างไสวแสบตาจนเงือกหนุ่มตนนั้นปล่อยมือออกจากเขา ยกมือขึ้นปัดป้องแสงนั้นๆทันที

   “นี่เจ้า”

   หมดสิ้นคำที่จะเอื้อนเอ่ยเมื่อเห็นสร้อยอัญมณีบนคอของอีกฝ่าย สร้อยที่สามารถป้องกันภัยจากอมนุษย์ได้หากผู้สวมใส่นั้น
กำลังมีภัย ศรีสุวรรณได้รับมันมาจากทศกัณฐ์ก่อนที่จะลงมาใต้ท้องทะเลแห่งนี้

   “เจ้าจะเอาชลาสินธุ์ไปจากข้าไม่ได้”เงือกหนุ่มผู้นั้นยังคงดื้อรั้นคว้าแขนของศรีสุวรรณเอาไว้ในตอนที่เขาโผล่พ้นขึ้นมายัง
ผืนน้ำอีกเพียงเอื้อมมือที่คนรักอยู่ห่างออกไป เงือกหนุ่มก็คว้าแขนของชายหนุ่มให้ดำดิ่งลงไปอีกครั้ง ถึงแม้จะเจ็บแสบผิวกาย
จากฤทธิ์ของสร้อยบุษราคัมแต่น่านนทีก็กัดฟันทนจำยอมปล่อยชลาสินธุ์ไปไม่ได้เด็ดขาด

   จิตใจที่ฝังรักอันโลภมากและเห็นแก่ตนเอาไว้ผลักดันให้น่านนทียังคงยื้อยุดกับชายหนุ่ม

   แต่ในที่สุดความเจ็บปวดทั้งกายและใจก็ไม่อาจจะทำให้ฝืนต่อไปได้ไข่มุกสีน้ำเงินมันวาวร่วงหล่นออกจากดวงตาสีเข้มดุจ
ท้องทะเลยามรัตกาลก่อนร่างนั้นจะจมดิ่งสู่อ้อมกอดความมืดมิดของมหาสมุทร



   ===============================================



   “โอ๊ะ!! มากันแล้ว”ผมอุทานออกมาเมื่อเห็นเรือสปีดโบทแล่นเข้ามาเทียบท่าเรือหน้าเกาะ

   ตอนนี้ผมปล่อยให้คุณวาลีกับพี่อเลนรับหน้าที่ดูแลเด็กๆส่วนพ่อๆทั้งหลายกับคุณอาวสินออกไปตามชลาสินธุ์กลับมา

   ร่างไร้สติมีเงาดำทะมึนรัดรอบตัวของชลาสินธุ์ทำให้ผมเริ่มเป็นกังวล พี่วรรณอุ้มชลาสินธุ์เข้ามาในบ้านวางร่างไร้สติลงบน
โซฟาอย่างเบามือถึงแม้ว่ากำลังกระวนกระวายอยู่ก็ตาม

   “ไอ้นี่มันอะไรกัน ทำไมถึงได้ติดมาด้วยล่ะ”ผมถาม แต่พอแตะมือเข้ากับเงาหมอกดำทะมึนนั่นมันก็เหมือนถูกฟ้าช็อตจน
เจ็บแปลบ

   “นี่เป็นบ่วงมนต์ดำอย่าแตะต้องมันสุ่มสี่สุ่มห้าเชียว”อาวสินบอก

   “จะทำยังไงให้มันหลุดออกครับ ช่วยชลาสินธุ์ได้ไหม”พี่วรรณถามกระวนกระวาย

   “ส่งสร้อยที่เจ้าใส่มาสิ”

   “นี่ครับ”

   พี่วรรณส่งสร้อยให้คุณอาวสิน สร้อยถูกสวมลงบนคอของชลาสินธุ์อย่างเบามือ ฉับพลันมันก็ส่องแสงสีเหลืองทองสว่าง
ก่อนที่เงาดำรอบกายชองชลาสินธุ์จะหายไป

   “ตอนนี้ก็ให้ชลาสินธุ์ไปพักผ่อนเสียก่อนตะวันตกดินแล้วก็จะฟื้นเอง”

   “ขอบคุณมากครับ”พี่วรรณตอบรับก่อนจะอุ้มชลาสินธุ์ไป

   “เอ่อ ว่าแต่ คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงอีกแล้ว”ผมบอกเสียงแห้งๆ อดยอมรับไม่ได้ว่าคาดหวังถึงแม้ว่าชลาสินธุ์จะกลับมาด้วย
สภาพนั้นก็ตาม

   “ฉันได้มาแล้ว”คุณหมอทศยกดอกไม้สีฟ้าสว่างกับขวดแก้วใสบรรจุน้ำเมือกสีฟ้าเข้มเอาไว้ เดาว่าน่าจะเป็นเลือดของชลา
สินธุ์

   

   ===========================================



   “เอานี่ให้ธารากินซะแล้วก็จูบเจ้านั่น”คุณหมอทศส่งแก้วยาสีฟ้าสว่างมาให้อันนี้ผมเข้าใจ แต่ว่าทำไมต้องให้จูบด้วย อันนี้
ผมไม่เข้าใจ

   “ทำไมต้องจูบล่ะครับ”

   “ลมหายใจผู้แลกเปลี่ยน เจ้านั่นจะต้องใช้มัน”

   ถึงจะไม่เข้าใจแต่ก็พยักหน้าเออออประคองแก้วยาเอาไว้ ทว่าก่อนจะเดินจากไปแขนก็ถูกดึงเอาไว้ให้หันไปมอง

   “ครับ?”

   “เจ้านั่นหลงลืมเรื่องในอดีต ตอนนี้มีเพียงส่วนเล็กน้อยเท่านั้นที่ชีวิตของนายผูกติดกับอยู่ เพราะฉะนั้นเจ้านั้นอาจจะคลั่ง
แล้วทำร้ายนายตอนที่พระจันทร์เต็มดวง”

   “ทะ ทำร้ายเลยเหรอ ทำร้ายนี่ไม่ได้หมายความว่าจะฆ่ากันหรืออะไรหรอกนะครับ”

   “ฆ่าไม่ได้หรอกเจ้าบ้านั่นย่อมรู้ดี แต่ว่าอาจจะมีบางช่วงที่เจ้านั่นจะจำนายไม่ได้ แต่นั่นมันก็เป็นแค่การคาดเดาของฉัน
เพราะฉันไม่รู้ว่าความทรงจำที่หายไปจะส่งผลกระทบต่อภาวะอารมณ์ในคืนเพ็ญรึเปล่า”

   “แต่ยังไงผมก็ต้องทำให้พี่ธาราความจำกลับมาให้ได้อยู่ดี”ผมส่งยิ้มให้คุณหมอก่อนจะหันหลังกลับ

   ถึงแม้ว่าเวลานี้อาจจะไม่มั่นใจว่าความทรงจำของพี่ธาราจะกลับมาหรือไม่ แต่ผมก็จะพยายามให้ถึงที่สุด ต่อให้พี่ธาราจะ
ทำร้ายผมยังไง แต่สิ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงก็คือความรักของผมที่มีต่อพี่ธารา



   บรรยากาศด้านนอกเริ่มมืดสนิทผมเดินขึ้นมายังชื้นดาดฟ้าของตัวบ้านซึ่งเป็นเขตพื้นที่ของพี่ธารา

   บรรยากาศข้างในห้องมืดสนิทมีเพียงแสงจันทร์เท่านั้นที่สาดส่องลงมาจากเบื้องบนผ่านหลังคากระจกใส

   ผมวางแก้วยาเอาไว้บนโต๊ะด้านข้างควานหาสวิตซ์ไฟแล้วเปิดมัน แวบแรกที่เปิดก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นว่าพี่ธารานั่งหันหลังให้
อยู่บนเตียง ดวงตาสีดำสนิทกลายเป็นสีมรกตเหลือบดำบ่งบอกถึงสภาพที่กำลังจะเปลี่ยนแปลง

   “ทำไมถึงอยู่มืดๆล่ะครับ”ผมถามหยิบแก้วยาแล้วเดินไปนั่งข้างๆร่างสูง

   พี่ธาราหันมาดวงตาสีดำเหลืบเขียวพราวระยิบ ตอนนี้พระจันทร์เพิ่งะเริ่มขึ้นทำให้อารมณ์ของพี่ธารายังคงตัว

   “ฉันกำลังคิดอะไรบางอย่าง”

   “แล้วอะไรที่ว่าคืออะไร บอกผมได้ไหม”

   “ถ้าบอกนายจะเชื่อใจฉันรึเปล่า”

   “พี่ก็บอกผมมาดิ”

   “นายออกจากห้องนี้ไปซะ”

   “ไม่ตลกนะพี่ ทำไมผมต้องออกไปด้วย”ผมไม่เข้าใจ ทำไมต้องทำเหมือนไล่กันทั้งที่กำลังจะทำให้ความทรงจำกลลับคืน
มา

   “ฉันบอกให้ออกไปนายก็ออกไปเถอะ อย่าให้ฉันพูดมากจะได้ไหม ก่อนที่ฉันจะควบคุมตัวเองไม่ได้”คราวนี้เสียงของพี่
ธาราเริ่มแข็งกร้าว

   “ไม่เอาหรอก ผมทำใจไว้แล้วว่ายังไงก็จะต้องทำให้พี่จำเรื่องในอดีตของเราให้ได้ ผมไม่สนหรอกว่าพี่จะไล่ผมยังไง เอานี่
คุณหมอทศเขาบอกให้พี่กินนี่”

   ผมยื่นแก้วยาสีฟ้าสว่างให้กับพี่ธารา ดวงตาของพี่เขาเริ่มสีเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเรือนผมที่ยาวจนถึงกลางหลังอยู่แล้ว
บัดนี้กลับแผ่สยายยาวถึงบั้นเอวสอบ คิ้วขนงกำลังแปรเปลี่ยนเป็นลวดลาย แต่ผมเห็นว่าพี่ธารากำลังกัดฟันคล้ายกำลังอดทน มือ
ใหญ่เล็กน้อยรับแก้วยาจากมือของผมแล้วดื่มจนหมดแก้วในที่สุด

   ฉันพลันที่ผมถอนหายใจเพราะขึ้นตอนแรกจบลง ราวกับความชั่วร้ายได้ถูกปลดปล่อยออกมา กดสวิตซ์ปลุกให้มันตื่นขึ้น
จากความมืดมิด

   ร่างของผมลอยหวือไปปะทะผนังห้องอีกฟากอย่างแรงแล้วร่วงหล่นลงมา ทั้งจุกทั้งเจ็บจนต้องขดตัวแล้วกุมท้อง เงยหน้า
มองพี่ธาราที่บัดนี้ร่างกายขยายใหญ่กลายเป็นร่างของยักษ์เต็มตัว

   ร่างสูงใหญ่เบื้องหน้าดวงตาสีเขียวมรกตวาบจ้องมองมาด้วยความดุดันและน่ากลัว พี่ธาราคนเดิมไม่อยู่แล้วอย่างที่หมอทศ
เตือนเอาไว้

   คราวนี้ร่างของผมลอยขึ้นไปอีกครั้งกระแทกกับหัวเตียงแล้วถูกตรึงเอาไว้ด้วยสิ่งที่มองไม่เห็น

   ผมพยายามที่จะไม่สั่นเทากับสายตาเสมือนสัตว์ดุร้ายกำลังจะล่าเหยื่อ เสียงคำรามในลำคอดังก้องไม่ต่างอะไรกับมัจจุราช
ที่กำลังกระหายที่จะฉุดดึงวิญญาณให้หลุดออกจากร่าง

   “พี่ ธ ธารา ตั้งสติสิ อย่า”ผมร้องห้าม

   ร่างกายใหญ่ย่างก้าวขึ้นมาบนเตียงคร่อมทับร่างกายของผมเอาไว้ ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาจนชิด ลมหายใจร้อนผ่าว
กำลังเป่ารดใบหน้าของผมขณะที่จมูกโด่งลากผ่านแก้มไปมา

   ผมพยายามขยับตัวเพื่อที่จะหนีจากการทาบทับอันคุกคามนี้ แต่มือที่มองไม่เห็นก็ตรึงร่างของผมเอาไว้แน่น ใบหน้าถูกจับ
เอาไว้ไม่ให้เบือนหนี จ้องตอบกับดวงตาสีเขียวดุดัน

   เสียงคำรามดังเครืออยู่ในลำคอของพี่ธารา ผมหายใจเข้าออกลึกๆอย่างยากลำบางเพราะลมหายใจตอนนี้มันเหมือนกับจะ
ขากห้วงคล้ายกำลังถูกช่วงชิง แต่ฉับพลันที่เผยอปากขึ้นโกยลมหายใจเข้าปอด

   ริมฝีปากหยักก็กดจูบลงมาบดเบียดลงมาไร้ความปราณี ลิ้นร้อนกวาดเข้ามาตักตวง กอบโกยอากาศของผมไปจนเกือบ
หมด

   ถึงแม้ว่าพี่ธาราจะถอนจูบออกไปแล้ว แต่ลมหายใจมันเหมือนกับกำลังถูกดูดออกไป ผมเหลือบตามองเห็นแสงสีเขียว
ขางๆกำลังออกมาจากปากของผมและเข้าไปในปากของพี่ธารา

   ข้างในเริ่มรู้สึกอึกอัดมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ราวกับใกล้จะขาดใจตายอยู่เต็มทน ลมหายใจกำลังถูกช่วงชิง สติของผมพร่า
เลือนลงไปในที่สุด

   เหมือนกับถูกฉุดให้ออกมาจากโลกความเป็นจริง รอบกายมืดสนิทมองไม่เห็นอะไร

   ร่างกายสัมผัสได้ถึงความเย็นเฉียบของอากาศที่ห่อหุ้มกาย แต่แล้วก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีมือหลายมือลูบไล้ร่างกายผมไปทั่ว
ทั้งหัวไหล่ ช่วงท้อง เอว ขา คอ หรือแม้กระทั่งฝ่าเท้า ผมลืมตาขึ้นมองเบื้องล่า มองเห็นร่างสูงใหญ่ทะมึนกำลังก้มลงจรดริม
ฝีปากบรรจงจูบลงบนฝ่าเท้าของผม

   “พะ พี่ธารา”ผมเรียกด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือแต่พี่ธารากลับไม่ตอบ เลื่อนมือลูบไล้ฝ่าเท้าไปมา

   แต่แล้วผมก็รู้สึกไหววูบที่ช่วงขา มองหันไปมองเงาทะมึนอีกคนแล้วหรี่ตาจับจ้องที่ใบหน้าของอีกฝ่าย

   “พะ พี่ธารา” มีพี่ธาราสองคนจริงๆ พี่ธาราอีกคนกำลังลูบไล้ช่วงขาของผมอย่างเบามือ บรรจงจูบลงบนขาอ่อนแล้วส่งยิ้ม
มาให้

   แล้วผมก็รู้สึกเย็นวาบที่ช่วงคอ ใบหน้าถูกจับให้หันไปทางด้านข้าง แล้วดวงตาของผมก็ต้องเบิกกว้างกับสิ่งที่ได้เห็น

   “พี่ธารา!!”มีพี่ธาราอีกคนแล้ว คนนี้โน้มหน้าเข้ามาใกล้ ตวัดลิ้นเลียลงมาที่ช่วงคอ ฝ่ามือลูบไล้ไปที่บั้นเอวของผมแผ่วเบา
แต่ก็รู้สึกวาบหวิว

   ความรู้สึกเหมือนกับมีมือนับสิบลูบอยู่ทั่วร่างทำให้ผมมองรอบกาย มีพี่ธาราอยู่เกือบสิบคนที่กำลังพยายามโลมผมอยู่

   แล้วคนไหนล่ะคือพี่ธาราตัวจริง!! ร่างกายของผมเริ่มสั่นเทาเมื่อถูกลุกล้ำอย่างหนักหน่วง ช่วงขาถูกจับให้อ้ากว้าง มีคน
หนึ่งกำลังส่งสายตาจ้องมองมาที่ช่องทางของผมด้วยความกระหายจนน่าหวาดกลัว

   “ไม่นะ ไม่ใช่ อย่าทำ”ผมส่ายหน้า

   ไม่ว่าจะคนไหน ทำไมผมถึงไม่รู้สึกเลยว่าจะมีใครเป็นตัวจริงหรือคล้ายเลยสักนิด

   “เลือกฉันสิ”คนหนึ่งกระซิบข้างหู

   “ฉันต่างหาก”คนหนึ่งกระซิบที่หูอีกข้างพลางเป่าลมหายใจรดต้นคอ

   “เลือกฉันสิ”อีกคนกำลังไล้เลียอยู่บนร่างกาย

   “ฉันต่างหาก”อีกคนกำลังพรมจูบอยู่ตรงช่วงขา

   เสียงพูดดังระงมต่างคนต่างกำลังเรียกร้องให้ผมเลือกจนรู้สึกว่าสมองกำลังถูกบีบเอาไว้จนแทบระเบิด

   ทั้งหมดกำลังจ้องมองมาที่ผมด้วยสายตาของพี่ธารา แต่แววตาที่มองมานั้นกลับไม่ใช่

   “เลือกฉัน”

   “เลือกฉัน”

   “เลือกฉัน”

   ประโยคซ้ำกันวนเวียนไปคล้ายกับไม่มีจุดสิ้นสุดไม่รู้ว่ามันจะจบลงเมื่อไร ผมยกมือขึ้นอุดหูแต่เสียงนั้นก็ยังคงดังก้องอยู่ใน
หู

   ร่างกายถูกลูบไล้ไปมา ทั้งลิ่นร้อนและริมฝีปากขบเม้มลงลิ้นไปทั่วร่างกายแม้กระทั่งช่องช่างด้านหลังกำลังถูกเลียจนชุ่ม

   “อย่าทำ ไม่เอา อย่าทำ ช่วยด้วย พะ พี่ธารา”

   ผมร้องห้ามเสียงสั่น

   “ชะช่วยด้วย ไม่ใช่  อย่าทำ พะพี่ธารา พี่ธารา ฮึก พี่ธารา!!!!”มตะโกนจนสุดเสียง

   ความรู้สึกกลัวและต้องการพี่ธาราเอ่อล้นจนเต็มไปหมด ผมกำลังกลัว กำลังหวาดกลัวพี่ธาราทั้งหมดที่อยู่รอบกาย

   ไม่มีเลย ไม่มีคนไหนที่ใช่ ความรู้สึกของผมมันบอกแบบนั้น

   “พะ พี่ธารา ฮึก พี่อยู่ไหน พี่อยู่ไหนกันแน่”ผมสะอื้น พยายามปัดป้องมือทั้งหลายออกจากร่างกาย





   “มณี เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไรกัน”





================================================================
ทวงครั้งที่11 จะลงให้ตอนเช้านะคะ ไม่อยากให้ค้าง แต่มันจบบทพอดี๊ จริงจริ๊งงงงงง(เสียงสูงมาก)


ออฟไลน์ plengpit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
กรี๊ดดดด มาแล้วววว

10คน... หือออออ คนเดียวก็หนักละ
//รอคุณอาวสินกับวาลี  :z1:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
ทวงครั้งที่ 11 โหยหา


   “เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไรกันมณี”เสียงนั้นดังออกมาจากมุมมืด

   น้ำเสียงนุ่นทุ้มหูที่ฟังทีไรใจผมมันก็ยังคงสั่นระรัวไม่เคยจางหาย ผมจ้องมองไปยังต้นเสียง มองเห็นผนังอิฐเก่าสีซีดผุพัง
โซ่ตรวนห้อยระโยงระยางพันกันไปมาดูแล้วน่ามึนงง

   แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่ทำให้หัวใจของผมเต้นราวกับผืนกลองที่ถูกกระหน่ำตีก็คงเป็นเพราะพี่ธารายืนอยู่ตรงนั้น เรือนกาย แขน
ขามีโซ่คล้องเอาไว้ระโยงรยางค์ตรึงให้อยู่ติดชิดกับผนังอิฐเก่า

   นี่ใช่ไหมสาเหตุที่ทำให้พี่ธารากลับไปไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรผมถึงได้เชื่อมั่นว่าพี่ธาราคนนั้นคือพี่ธาราตัวจริง ทั้งที่ผม
ยังไม่ได้จับต้องเขาเลยแม้แต่น้อย

   “พี่ธารา”ผมเรียกชื่อนี้อีกครั้งด้วยอารมณ์ที่ต่างกันออกไป

   แต่แล้วก็ได้ยินเสียงหวีดร้องเสียคำรามน่าขนลุกดังอยู่ชิดหูและรอบตัว พี่ธาราคนอื่นๆทั้งสิบคนค่อยๆกลายเป็นเงาดำทะมึน
ไร้ตัวตนไม่มีรูปหน้าไม่มีกายที่คงตัวแต่เงาพวกนั้นกำลังขยับเข้ามาใกล้

   ผมได้แต่ตะเกียกตะกายลุกขึ้นด้วยความหวาดกลัว

   “เจ้ากลับไปเถิดมณี เจ้าไม่ควรมาที่นี่”เสียงพี่ธาราตะโกนก้อง

   เหมือนกับว่าร่างกายของผมถูกฉุดดึงให้ออกห่างพี่ธาราไกลขึ้นเรื่อยๆ ผมยกมือขึ้นหมายจะคว้าพี่ธาราเอาไว้ ต้องการจะดึง
โซ่ตรวนที่ล่ามพี่ธาราเอาไว้ออก ทว่ายิ่งพยายามไขว่คว้าก็ยิ่งห่างไกล

   “พี่ธารา อึก พี่ธารา”ผมเรียกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าจะพยายามยังไงก็เอื้อมไม่ถึงสักที

   “กลับไปเถอะ เจ้าอย่าได้มาที่นี่อีกเลย”

   “ปล่อยนะ ผมไม่กลับ พี่ต้องกลับไปกับผมด้วย ไปหาลูกของเรา”

   เงาดำทะมึนกำลังดึงข้อเท้าของผมและลากออกไปไกลจากพี่ธารามากขึ้นทุกที ถึงแม้ว่าจะขืนเอาไว้ แต่ก็ยังถูกดึงไปไกล
ขึ้นเรื่อยๆ

   “หยุด อย่าดึง บอกให้หยุด ออกไป”

   “รีบกลับไปเถอะมณีของข้า เจ้าจะอยู่ที่นี่นานกว่านี้ไม่ได้”พี่ธารายังคงออกปากไล่ ผมรู้ว่าพี่ธาราเป็นห่วง แต่ผมเองก็จะ
ยอมไม่ได้เด็ดขาด

   “ก็ผมบอกว่าผมไม่ไปไง!!ถ้าผมจะกลับพี่ก็ต้องกลับไปกับผม ทุกคนรอพี่อยู่ ลูกของเรากำลังรอพี่อยู่!!”

   “มณี”พี่ธาราเรียกเสียงแผ่วเมื่อได้ยินเสียงของผมตวาดก้อง

   ใบหน้าหล่อเหลาของพี่ธารายังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่รอยยิ้มบางที่ส่งมาทั้งที่ดวงตาคู่นั้นกำลังเศร้าสร้อย

   “กลับไปเถอะนะ กลับไปกับผม”ในที่สุดผมก็เก็บกั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวหยดน้ำตาไหลร่วงลงไปในความมืด

   น่าแปลกที่ผมเห็นแสงสว่างสีเขียวสว่างวาบออกมาจากตัวของพี่ธารา โซ่ตรวนรอบกายค่อยๆจางหายไปราวกับไม่มีตัวตน

   “อย่าร้องไห้เลย ยอดรับของข้า”

   เวลานี้ระยะทางที่เหมือนจะห่างไกลกลับถูกร่นลงในพริบตา มือใหญ่ยื่นมาที่เบื้องหน้ารอให้ผมไปสัมผัส

   เงาดำทะมึนรอบกายบัดนี้หายไปจนสิ้น ความมืดถูกแทนทีด้วยแสงสว่างสดใด

   ผมจ้องมองกายเปลือยเปล่าสมส่วนเบื้องหน้าด้วยความดีใจ ส่งมือแตะลงบนฝ่ามือนั้นทั้งที่น้ำตายังคงไหลอาบหน้าถึงแม้
จะมีคำปลอบประโลมกระซิบอยู่ข้างหูก็ตาม

   “ผม คิดถึงพี่”

   ผมบอกเมื่อถูกดึงเข้าไปกอด ความอุ่นกำลังเข้ามาแทนที่ความหนาวเย็นในหัวจนจนสิ้น

   “ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน มณีของข้า”เสียงนุ่มกระซิบข้างหู

   “ผม ผมขอโทษ”

   “กลับกันเถอะ”พี่ธาราก้มกระซิบโอบรัดกายของผมเอาไว้ ให้ผมจมดิ่งสู่อ้อมกอดแข็งแรง หลับตารับความรู้สึกปลอดภัยเอา
ไว้





=============================================================



   “ตื่นเถิด ดวงใจของข้า”เสียงกระซิบข้างหูพร้อมกับลมหายใจร้อนทำให้ผมจั๊กจี้หดคอหนีพลิกกายหนี

   “หากเจ้าไม่ตื่นข้าคงจะต้องเปลี่ยนวิธีปลุก”เสียงนุ่มหูยังคงกระซิบคราวนี้รู้สึกเหมือนมีอะไรนุ่มๆแตะลงที่คอย้ำไปมาให้รู้สึก
สยิว

   “เจ้าอย่าได้โกรธข้าทีหลังก็แล้วกัน”

   เสียงของพี่ธารายังคงนุ่มหูเสมอถึงแม้ประโยคพวกนั้นจะกำกวม นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ยินภาษานี้ด้วยน้ำเสียงนุ่มหูแบบนี้

   เหมือนจริงมากหากว่านี่เป็นความฝัน เหมือนจริงจนรู้สึกว่าร่างกายกำลังถูกสำรวจด้วยมือใหญ่ ขาทั้งสองข้างถูกจับให้แยก
ออก ตามด้วยกายใหญ่เข้ามาแทรกเอาไว้

   ทำไมความฝันถึงได้เหมือนจริงจนแยกแทบไม่ออก ผมครางอือรับในลำคอเมื่อรู้สึกเหมือนกำลังถูกจูบลงที่ต้นคอ

   “ขี้เซาเสียจริงเมียรัก”คราวนี้พี่ธาราในฝันบังอาจเรียกผมด้วยคำต้องห้ามเสียด้วยสิ

   “หากเจ้าไม่ยอมตื่นขึ้นมาข้าคงต้องลักหลับเจ้าจริงๆ”

   หืออออ ลักหลับ? ลักหลับทำไมในเมื่อนี่คือความฝัน หรือว่าผมกำลังเข้าใจอะไรผิด

   “อะ อื้อออออ”ชัดเจน ความแข็งขืนที่สอดเข้ามาผ่านช่องทางด้านหลังทำเอาผมสะดุ้งเบิกตาโผล่ง

   มองเห็นท้องฟ้าเบื้องบนยังคงเหมือนเดิมดำมืดแต่ก็มีแสงของดวงดาวประดับ พระจันทร์ยังคงลอยเด่นอยู่เหนือสุดเช่นเคย

   หกแต่เมื่อเบือนหน้ามาอีกแค่เพียงนิดเดียวจมูกของผมก็จะแตะกับริมฝีปากหยักนั้นแล้ว พระจันทร์ที่ว่าสวยยังไม่สู้กับ
ดวงตาสีมรกตตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

   “พี่ธารา”ผมเรียกเสียงแผ่ว นิ้วข้างในกายขยับเข้าออก เกี่ยวกระหวัดกับผนังภายในให้ได้ตอดรัดผวาเข้ากอดไหล่ของพี่
ธาราเอาไว้

   “ดูเหมือนข้าอยากจะได้ลูกเพิ่มอีกสักคนสองคน”พี่ธารากระซิบด้วยประโยคย้อนยุคที่ในครั้งแรกเจอทำให้ผมขำกับประโยค
พวกนั้น

   “พี่ธารา!”คราวนี้ผมเรียกเสียงดัง


   ผมไม่ได้หูฝาดใช่ไหม รอยยิ้มอ่อนโยนที่ไม่ใช่รอยยิ้มกรุ่มกริ่มดูเจ้าชู้นั่นผมก็ไม่ได้ตาฝาด

   “จะเรียกเสียงดังไปใยเล่า เก็บเสียงไว้ร้องครวญให้ข้าฟังเสียจะดีกว่า”

   พี่ธารากระซิบเกลี่ยจมูกลงบนแก้มขยับนิ้วสอดเข้าไปเพิ่มอีกนิ้ว


   “ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม”ผมถามเสียงสั่นระริกความรู้สึกกระสันกำลังแล่นวูบอยู่ในช่องท้อง

   “เจ้าคงต้องตัดสินเอาด้วยตนเอง”คราวนี้ริมฝีปากร้อนผ่าวประกบจูบลงมา

   ไม่มีเหตุผลที่ผมจะต้องต่อต้านในเมื่อผมคิดถึงเขา ผมยอมเปิดปากรับลิ้นร้อนนั้นเข้ามาโดยง่ายกอดรัดกายสูงเอาไว้ด้วย
ความโหยหา

   ความรักในเวลานี้กำลังล้นปรี่ออกมาจนแทบทำให้ผมหลอมละลายเพราะมัน

   จากนิ้วแข็งกร้านถูกแทนที่ด้วยแก่นกายใหญ่โตและร้อนผ่าวประหนึ่งท่อนเหล็กลนไฟ

   “อื้อ จะ เจ็บ”

   “ทนหน่อยนะ”เสียงอ่อนโยนกระซิบปลอบ

   ต่อให้เจ็บราวกับเอามีดมาทิ่มแทงผมก็จะทน เพื่อให้ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่ผมรัก อยู่ใกล้ชิดกับลูกของเรา ต่อให้ต้องเจ็บ
เจียนตายผมก็ยอม

   พี่ธาราโถมกายเข้ามาจากเบาเป็นกระชั้น แสงสีนวลจากพระจันทร์ที่ลอยเด่นกำลังปลุกเร้าให้พี่ธารามอบบทรักที่ร้อนแรง
ให้ผม


   และผมก็ยอมรับมันด้วยความสุขล้นที่ไม่อาจจะคะเนได้ จะไม่ยอมปล่อยไปอีกแล้ว ไม่ว่าจะด้วยอะไร ผมจะจับมือของพี่
ธาราเอาไว้ไม่ให้จากไปไหนอีกแน่นอน

   แต่เหมือนผมจะลืมอะไรบางอย่าง บางอย่างที่อาจจะนำมาซึ่งความลำบากของตัวเองอีกรอบ



=============================================================

แถม

   “อลันเบื่อแล้ว เจ็บแก้มแล้ว อลันลำคาญสินกับสุด”ร่างจ้ำม่ำผิวขาวสะอาดอายุน้อยกว่าแฝดร่างอ้วนสมบูรณ์หนึ่งปีเต็มผลัก
สองแฝดออกก่อนจะเดินหนี

   “ห้ามรำคาญ”

   “ใช่ห้ามำคาญ อลันรำคาญไม่ได้”

   “ทำไมจะรำคาญไม่ได้ ทำไมต้อแกล้งอลันด้วย อลันเบื่อ”

   “เบื่อก็ไม่ได้”

   “ห้ามเบื่อ”

   “ทำไมจะเบื่อไม่ได้ อลันจะไปฟ้องพ่อทศ”อลันเดินหนีแต่เจ้าสองแฝดก็เดินตามแถมยังพากันกอดอลันเอาไว้ไม่ให้เดินหนี

   “ห้ามเบื่อเพราะอลันจะต้องเป็นเจ้าสาวของพวกเรา”

   “ใช่อลันเป็นเจ้าสาวของพวกเรา”

   “ไม่ใช่ อลันจะเป็นเจ้าบ่าวของมีนา”

   “ไม่ได้ อลันต้องเป็นเจ้าสาวของสินกับสุด”

   “อลันห้ามแต่งงานกับใคร สินกับสุดจองอลันแล้ว”ว่าแล้วเจ้ายักษ์แฝดก็ผลัดกับหอมแก้มป่องๆสีชมพูระเรื่อจนแทบช้ำซ้ำ
แล้วซ้ำเล่า

   มณีเฝ้าได้แต่เฝ้ามองแล้วส่ายหน้าเบาๆไอ้นิสัยชอบจองแล้วตามบังคับเอาจนได้นี่ไม่รู้ว่าได้ใครมา



   ===============================================

รู้สึกว่าพี่ธาราจะชอบพูดอะไรน้ำเน่าขึ้นเยอะ 555 ยังไม่จบตอนนะเออ แต่รอขึ้นคู่วาลีกับอาวสิน แต่ขอลำลึกชาติก่อน



ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ดีใจที่มาต่อแล้ว

คืนพระจันทร์เต็มดวงทีไรเหมือนคืนชิงศึกอะไรสักอย่างเลย :hao7:

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
เย้ พี่ธารากลับมาแล้วววววววววววววววววววววววววววววววววววว
อัพอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :mew1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
คราวนี้เราจะมีเด็กๆ มาวิ่งเล่นเพิ่มขึ้นอีกแล้ว  :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ gatenutcha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
 :z6:
สินกับสุดน่ารักอะ  แต่ที่น่าหนักใจแทนคือหนู อลัน  เจอ 3P  แต่เราชอบมว๊ากกกo13

ออฟไลน์ plengpit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
แฝด2-3ละนั่นยิ่งเก็บกดอยู่

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
  :z1: เอาอีกๆๆๆๆ

ออฟไลน์ plengpit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
//นั่งรออดีตวาสิน  :katai2-1:

ออฟไลน์ plengpit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2

   “ใช่ห้ามำคาญ อลันรำคาญไม่ได้” <<ห้ามรำคาญ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
จัดมาเต็ม พ่อธารากลับมาแล้วววววว คราวนี้ขอลูกสาวดีไหม?
พี่ธาราไว้หนวด
สงสารอลันเนาะ ทำใจมีผัวแฝดเถอะลูก

ออฟไลน์ plengpit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
ยังรออยู่นาจาา :katai2-1:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Atroce

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สนุกกกก ขอเป็นกำลังใจให้คนเขียน

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
ชอบคู่ (?) อลัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
11.2 หึงหวง

“ตื่นแล้วเหรอ”เสียงทุ้มนุ่มหูของศรีวุวรรณไถ่ถามเงือกหนุ่มแทบจะทันทีที่เปลือกตาสีขาวซีดปรือขึ้นมาเผยให้เห็นดวงตาสีฟ้าสวย

   “พี่วรรณ”

   ชลาสินธุ์เรียกเสียงเครือโผเข้ากอดร่างสูงใหญ่ของคนรักแทบจะทันที เม็ดอัญมณีสีท้องทะเลลึกล่วงผล็อยลงสู่ผืนเตียง

   “เป็นอะไรไป”

   “ขะ ข้านึกว่าจะไม่ได้เจอท่านอีกเสียแล้ว ข้ากลัวเหลือเกิน ข้ากลัวว่าหากข้าต้องตกเป็นของน่านนทีพี่จะหมดสิ้นรักข้า”

   “ทำไมฉันจะต้องเลิกรักนายด้วยล่ะ เลิกร้องไห้ได้แล้ว ยังไงฉันก็ไม่มีวันเลิกรักนาย ต่อให้นายจะเป็นอะไร อยู่ที่ไหน ฉันก็
ยังจะรักนาย”กระซิบคำรักข้างหูปลอบโยนเงือกหนุ่มที่สะอื้นไห้

   “จริงๆนะ อย่าได้ปดข้าเลยนะพี่วรรณ ข้าคงตรอมใจแน่หากพี่หมดรักข้า”

   “ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันไม่มีวันเลิกรักนาย ต่อให้อีกสิบปี ยี่สิบปี หรือตลอดชีวิตฉันก็ยังรักนาย”

   “ฮึก ข้าดีใจที่พี่รักข้า”

   ชลาสินธุ์เงยหน้าช้อนดวงตาคู่สวยจ้องมองนัยน์ตาคมนิ่งของชายหนุ่มเบื้องหน้า ใบหน้าหวานโน้มเข้าหาประทับริมฝีปาก
ลงบนริมฝีปากของคนรักแผ่วเบาเนิบนาบ

   “นายแน่ใจนะ”ศรีสุวรรณผละออกก่อนจะทวงถามเพื่อความมั่นใจ

   คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง ต่างก็รู้ดีหากเขากับชลาสินธุ์ร่วมรักกันจะต้องเกิดชีวิตของสองเผ่าพันธุ์เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง

   “ได้โปรดรักข้าเถิด พี่วรรณ ให้ข้าได้จดจำรักของพี่ ให้รักของพี่ตราตรึงอยู่ในใจของข้า”เอ่ยเสียงหวานคลอเคลียใบหน้า
ลงบนแผงอกคนรักท่าทางออดอ้อนมากจริตยามที่แสงจันทร์ส่องผ่านเข้ามาในห้อง

   เส้นผมยาวสลวยนุ่มลื่นแผ่กระจายทั่วผืนเตียงเมื่อร่างบอบบางถูกดันให้นอนราบลงบนผืนเตียง กายเปลือยเปล่าปรากฏอยู่
เบื้องหน้า ขาเรียวสวยแยกออกกว้าง ดวงตาสีฟ้าสวยหรี่ปรือปรอยจ้องมองคนรักอย่างเชิญชวน

   (แพลนกล้องตัดไปที่ดวงจันทร์บนท้องฟ้า จินตนาการว่ามีดาวประดับสวยงาม 555)

   



   =============================================

   หนึ่งเดือนต่อมา

   “อะ อะไรนะ! ท้องอีกแล้วเรอะ เอ็งนี่มันอะไร ไอ้มณี เจ้าสินกับสุดยังไม่ทันโตก็ท้องอีกแล้ว”เสียงเอ็ดตะโรยามเช้าของพ่อ
ทำให้ผมต้องยกมือขึ้นอุดหู

   “พูดเบาๆก็ได้พ่อ

   กลับมาที่บ้านไม้สีครีมสองชั้นที่เดิม ผมพยักหน้าหงึกๆพลางเคี้ยวขนมในปากตุ้ยๆ กลับมากินเยอะอีกแล้ว ทั้งที่ลูกในท้อง
พึ่งจะอายุได้หนึ่งเดือน ข้างๆมีพี่ธารานั่งยิ้มแป้นภูมิอกภูมิใจกับผลงานตัวเองยกใหญ่

   “แล้วครั้งนี้เป็นแฝดรึเปล่าล่ะพ่อธารา แค่นี้ก็เจี๊ยวจ๊าวกันไม่หวาดไม่ไหว”แม่ถามพลางโบกพัดในมือไปมา

   “ครั้งนี้แค่คนเดียวครับคุณแม่”

   “เห้อ โล่งอก หวังว่าชลาสินธุ์คงจะยังไม่มีเจ้าตัวเล็กโผล่มาอีกล่ะ ไม่งั้นแม่เลี้ยงไม่หวาดไม่ไหวแน่”

   “ขอแสดงความเสียใจกับแม่ล่วงหน้าเลยนะแม่ เมื่อวานพี่วรรณเพิ่งจะบอกว่าชลาสินธุ์ก็ท้องเหมือนกัน”บอกไปพลางเคี้ยว
ขนมต่อ

   คิดว่าลูกของชลาสินธุ์น่าจะอายุเท่ากับลูกของผมแน่นอนร้อยเปอร์เซ็น

   “นี่พวกเอ็งนัดกันมีลูกรึไง นึกจะมีก็มีกันนี่ฮะ”

   “ก็ประมาณนั้น”ผมไหวไหล่ เริ่มจะชินกับการตั้งต้องขึ้นมาบ้างแล้ว

   หันไปเอนตัวพึงพี่ธารา พอเห็นอย่างนั้นมือให้ก็เอื้อมมาลูบท้องทั้งที่ท้องของผมมันยังไม่ได้ป่องขึ้นมาแต่อย่างใด เป็นคุณ
พ่อขี้เห่ออีกตามเคย

   หลังจากความจำกลับมา พี่ธาราไม่ได้กลับไปเรียนต่อแต่อย่างไร แต่เข้าทำงานรับช่วงต่อกิจการต่างๆของครอบครัวต่อ
จากคุณอาวสิน แต่ก็แค่นานๆครั้งจะโผล่ไปเซ็นเอกสาร เพราะส่วนมากก็เอาแต่คอยดูแลผมกับลูกๆอยู่ตลอด

   ยิ่งช่วงนี้สินสมุทรกับสุดธารากำลังจะต้องไปโรงเรียน พี่ธาราก็สรรหาทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นของเล่น ชุดนักเรียน ต่างๆนานา
นั่นทำให้ผมวางใจว่าถึงแม้กว่าสามปีที่พี่ธาราไม่ได้อยู่กับลูก แต่พี่ธาราก็รักลูกไม่ได้น้อยไปกว่าผม

   ยิ่งช่วงนี้เด็กๆต่างก็เห่อพ่อ อีกทั้งชอบอ้อนให้พาไปนั่นไปนี่ กินนั่นกินนี่ด้วยกัน ทำอะไรที่ครอบครัวทำกัน ชีวิตมันถูกเติม
เต็มจนล้น คิดว่าไม่มีอะไรที่มุขมากกว่าการใช้เวลาอยู่กับครอบครัวที่ดีพร้อมแบบนี้แล้ว

   “พี่ว่าลูกของเราจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”

   “ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายข้ายังไงข้าก็รัก”

   “ผมไม่ได้ถามว่ารักหรือไม่รัก ผมถามว่าคิดว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย”

   “แล้วเจ้าเล่า อยากได้หญิงหรือชาย”

   “ผู้หญิงบ้างก็ดี”ผมยิ้ม

   “ถ้าหากครั้งนี้เป็นชายครั้งหน้าข้าจักทำให้ใหม่”ยิ้มกริ่มกดจมูกลงมาบนแก้มของผมไม่ถามไม่ไถ่

   “ไม่ได้ขอให้ทำใหม่สักหน่อย แค่สามคนก็พอแล้ว”

   “สิบคนข้าก็เลี้ยงไหว”

   “ลองมาท้องดูไหมล่ะ”ผมหันไปค้อน

   คนนะไม่ใช่หมูหมากาไก่จะได้มีลูกเป็นคอกๆแบบนั้น ถึงลูกจะเป็นครึ่งคนครึ่งยักษ์ก็เถอะ เชื่อว่าพี่เขาเลี้ยงไหว แต่ให้ผม
ได้พักบ้างเถอะ ใจคอจะให้ผมท้องอย่างเดียวไม่ทำอะไรเลยรึไง

   “ข้าล้อเจ้าเล่น”

   “พอๆ ผมต้องไปคลาสแล้ว”ผมดันหน้าของพี่ธาราออกแล้วเดินไปยังโรงฝึกเล็กๆข้างบ้านที่ผมต่อเติมเป็นที่สำหรับเปิด
สอนนาฏศิลป์

   “หากเจ้าขัดใจข้าข้าจักจูบเจ้าต่อหน้าแม่ของเด็กนั่น”

   “แม่ของเด็กนั่นที่ว่าก็คือแม่ของเด็กในคลาสของผม เธอเอาลูกสาวมาเข้าคลาสเรียนเพราะอยากให้ลูกสาวฝึกสมาธิและ
ใจเย็น ปกติแล้วผู้ปกครองจะเอาเด็กมาฝากเอาไว้พอถึงเวลาก็จะมารับกลับ แต่คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคนนี้ชอบมานั่งเฝ้าและชอบจ้อง
ผมตลอด

   เดือดร้อนพี่ธาราที่ชอบมานั่งเฝ้าผมเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันนั่งหน้าบึ้งไม่พอใจตลอดเวลา บางครั้งเวลาจบคลาสคุณแม่ยังสาว
และโสด?ก็จะเข้ามาคุยกับผม มีบ้างที่แตะไม้แตะมือกันและนั่นก็ทำให้ยักษ์หน้าบึ้งแทบจะกระโดดมากัดคอคุณแม่หากว่าผมไม่
ห้ามเอาไว้

   “สวัสดีคุณครูมณีสิลูก”วันนี้ก็อีกเช่นเคย เธอมาพร้อมกับลูกสาวของเธอ

   “สวัสดีครับคุณเรย์ น้องรินไปนั่งรอกับเพื่อนก่อนนะครับ”

   “แหม บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกพี่เรย์ก็พอ”แล้วก็ทำแก้เขินด้วยการตีมาที่แขนของผมเบาๆอย่างสนิทสนม

   “อ่า ครับๆ พี่เรย์”

   “ว่าแต่วันนี้จะสอนเพลงอะไรเหรอคะ”

   “วันนี้จะสอนรำอธิษฐานครับ”

   “งั้นเหรอคะ อ้อ เกือบลืม พอดีพี่เรย์ผ่านร้านขนมก็เลยซื้อมาฝากครูมณี เห็นน้องรินบอกว่าช่วงครูมณีชอบกินขนม”

   “อ่าขอบคุณครับ”จะไม่รับก็ไม่ได้ พอยื่นมือไปรับสาวเจ้าก็ถือโอกาสจับมือผม ผมกระพริบตาปริบๆ รู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิต
จากมุมห้องขึ้นมาทันทีทันใด

   “มือครูมณีนุ่มจังเลยนะคะ”

   “อ่าครับ ผะ ผมว่าปล่อยดีกว่านะครับ เด็กๆเยอะจะดูไม่ดีเอา”ผมยิ้มแห้ง ดึงมือออกมา กว่าจะหลุดได้ เล่นเอาเหงื่อตก
เหมือนมีอะไรมันแทงอยู่ข้างหลัง

   “ครูมณีนี่น่ารักจังเลยนะคะ”

   “ขอบคุณครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วพี่เรย์ไปนั่งรอที่โซฟาเลยนะครับ ผมจะเริ่มสอนแล้ว”

   “ได้ค่ะ”ยิ้มหวานให้ผมอีกตามเคย ก่อนจะเดินอ้อยอิ่งออกไป ทว่า “ว๊ายยยยย”

   เสียงกรี๊ดเรียกให้ผมหันกลับไปมอง เด็กๆเกือบสิบคนในคลาสต่างก็มองไปที่เธอเป็นตาเดียวเมื่อเธอล้มลงไปกองอยู่บน
พื้นไม้มันวับ

   “เป็นอะไรไหมครับ”ตามสัญชาติญาณผมรีบเข้าไปดู “เจ็บตรงไหนรึเปล่าครับ”

   “มะ ไม่เป็นไรค่ะ แต่เมื่อกี้พี่รู้สึกเหมือนมีใครผลักพี่เลยค่ะ”ดวงตาของเธอหลุกหลิกไปมา

   “อะ อะไรนะครับ พะ พื้นลื่นรึเปล่า”ผมถาม ปรายตาไปมองหน้าของใครอีกคนที่นั่งอยู่ตรงที่ประจำของผม ดวงตาคมดุก
รอกตาหนีไม่ยอมสบตา

   “จริงๆนะคะ”

   “พื้นลื่นรึเปล่าครับ”

   “แต่พี่ไม่ได้ลื่นนะคะ มันเหมือนโดนผลักจริงๆนะ”

   “คิดมากไปแล้วครับ พื้นน่าจะลื่น เดี๋ยวผมพาไปนั่งพักนะครับ”ผมพยุงเธอไปนั่งที่โซฟา ไม่วายมองค้อนไปยังตัวต้นเหตุ
อย่างคาดโทษ

   ก่อนจะละความสนใจไปเริ่มสอนเด็กๆ หันไปมองพี่ธาราเป็นพักๆ ตอนนี้พี่ธาราไม่ได้สนใจจ้องผมแล้วเพราะมีเจ้าลูกชาย
สองแสบพากันมาชวนเล่นให้ได้รับบทคุณพ่อยามที่คุณแม่อย่างผมทำงาน

   จนเลิกคลาสตอนเที่ยง

   “พี่กลับแล้วนะคะ”พี่เรย์โบกมือลา กลับมายิ้มกว้างให้ผมเหมือนเดิม

   “รินไปแล้วนะสินสุดพรุ่งนี้รินจะมาหาใหม่นะ”ส่วนลูกสาวของเธอก็โบกมือลาสินสมุทรกับสุดธารา เด็กสมัยนี้นี่โตเร็วกัน
จริงๆ

   “มาบอกทำไมไม่ได้อยากรู้สักหน่อย”

   “แบร่”แสบไหมล่ะ ลูกชายผมแต่ล่ะคน คิดว่าเจ้าลูกแฝดนี่คงไม่สนใจใครนอกจากอลันแล้วล่ะ ดันไปจองตัวลูกเขาตั้งแต่
เล็กแต่น้อย

   “สินสุดไปหาคุณตาคุณยายได้แล้วครับ”ผมดันตัวแสบเข้าไปในโรงฝึก

   “แต่พ่อธาราบอกให้สินกับสุดเฝ้าแม่มณี”

   “พ่อธาราสั่งมา”สินกับสุดกอดอก

   “แต่นี่แม่สั่งครับ ไปหาคุณตาคุณยายได้แล้วครับ”พอเจ้าสองแสบหน้ามุ่ยเดินดุ่มๆกลับบ้านไป ผมก็ได้แต่หันไปยิ้มแห้งให้
กับพี่เรย์

   “เรียกครูมณีว่าแม่พี่ก็ว่าแปลกแล้วนะ ทำไมถึงได้เรียกคนนั้นว่าพ่อล่ะ”

   “แหะๆ เรื่องมันยาวนะครับ กลับดีดีนะครับ”รีบออกปากในเชิงไล่เชิงไล่เพราะผู้ปรกครองคนอื่นๆมารับลูกหลานเขากลับกัน
หมดแล้วเหลือก็แต่พี่เรย์ที่ยังอยู่ไม่ยอมกลับสักที

   “พรุ่งนี้เจอกันนะคะ”



   สุดท้ายเธอก็ยอมไปจนได้ ผมได้แต่ถอนหายใจออกมา หันหลังเดินกลับเข้าไปในโรงฝึก มองเห็นพี่ธารายืนเป็นเงาทะมึน
อยู่กลางห้อง

   “ไม่ต้องมาหน้าบึ้งใส่ผมเลย ทำไมถึงไปลักพี่เรย์เขาแบบนั่นล่ะครับ”

   “ข้าไม่ชอบให้ใครมาแตะต้องคนรักของข้า”จริงๆมันก็เขินอยู่หรอกที่พูดบอกกันแบบนี้ แต่ไอ้เรื่องนี้มันก็เรื่องหนึ่ง ไม่เกี่ยว
กับเรื่องพี่พี่ธาราใช้มนต์คาถาทำร้ายคนอื่น ถึงแม้จะเพราะถึงก็เถอะ

   “จะยังไงพี่ก็ไม่น่าจะไปทำร้ายคนอื่นแบบนั้นนี่”

   “ทำไมเจ้าต้องปกป้องคนเขาด้วยเล่า”พี่ธาราไม่พอใจเดินเข้ามาใกล้

   “ไม่ต้องมาใกล้เลย ผมจะไปกินข้าวแล้ว”ผมเดินถอยหนี แต่พี่ธาราก็เดินเข้ามาจนแผ่นหลังผมชิดกับกระจกบานใหญ่ที่เอา
ไว้ดูเวลาซ้อม

   “เมื่อไรเจ้าจะเลิกหว่านเสน่ห์ไปทั่วเสียที เจ้าเป็นเมียข้านะ”

   “ผมก็อยู่ของผมเฉยๆ พี่อย่ามาหวงไม่เข้าเรื่องได้ไหม แล้วก็ถอยไปได้แล้ว ผมหิว”

   “เจ้าอยากจะไปกินขนมนั่นใช่ไหม”ชี้ไปที่ถังขยะเล่นเอาผมตาโต เผลอแวบเดียวถุงขนมที่เพิ่งได้มาลอยคว้างลงถังขยะไป
แล้ว

   “ยักษ์นี่พูดไม่ค่อยจะรู้เรื่องจริงๆ”ผมขมวดคิ้ว แต่ก็ต้องตาโตเมื่อพี่ธาราจูบลงมาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง ถูกดันให้แผ่นหลัง
ชิดกระจก ใบหน้าถูกจับให้เงยขึ้นรับจูบได้ถนัดถนี่ แต่ถึงกระนั้นจูบที่ถูกป้อนมามันก็เป็นจูบที่ทั้งหวานล้ำและตะกละตะกลามจน
แทบจะทรงตัวไม่ไหว

   นานแล้วที่ไม่ได้ถูกพี่ธาราจูบแบบนี้ นานจนนึกแปลกใจ แต่แล้วก็หายสงสัย

   “ครูมณีคะ พอดีพี่เรย์ลืม คะ ของ อะ เอ้อ คือ”

   ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆประตูก็เปิดเข้ามา ความตกใจทำให้ผมดันพี่ธาราออก ทว่าพี่ธารากลับยิ่งตรึงร่างของผมเอาไว้แล้วจูบ
ต่อไม่สนใจแขกไม่ได้รับเชิญ

   ดันจูบร้อนเข้ามาลึกล้ำกว่าเก่าอวดสายตาที่ดูตกใจของพี่เรย์

   “อื้อ ปล่อย”ในที่สุดพี่ธาราก็ยอมปล่อย

   “คือ พี่ไม่รู้ว่าครูมณีกำลัง เอ่อ ยุ่ง พี่ลืมโทรศัพท์เอาไว้”เธอเอื้อมหยิบโทรศัพท์ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเดินหน้าแดงออกไป

   ปัง!!!ทันทีที่พี่เขาเดินออกไปจากโรงฝึก ประตูโรงฝึกก็ถูกปิดอย่างแรงด้วยแรงที่มองไม่เห็น

   “ทำไมพี่ต้องทำแบบนี้ด้วย!!”ผมหันมาว่าพี่ธาราทันที “พี่รู้ใช่ไหมว่าพี่มาเอาของ พี่ถึงได้จูบผม”

   “หากข้าไม่ทำเช่นนี้เขาก็จะยิ่งหลงเสน่ห์เจ้า ข้าไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่”

   “คราวหลังอย่าทำแบบนี้ก็แล้วกัน”ผมถอนหายใจออกมาแตะมือลงบนแผ่นอกของพี่ธาราเบามือ

   ผมรู้ว่าพี่ธารารักผมมาก แต่ถ้าให้ผมต้องถูกจูบต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ผมก็รู้สึกอาย

   “ไปกินข้าวได้แล้ว”ผมดึงแขนพี่ธาราให้เดินตาม

   ทว่าพี่ธารากลับไม่เดินตาม แต่กลับดันให้ผมหันหน้าเข้ากระจก ทำให้ผมเลี่ยงไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมากั้นไม่ให้ตัวเองแนบ
หน้าเข้ากับกระจก

   “จะทำอะไร”ถามเสียงสั่นเมื่อใบหน้าหล่อเหลาที่สะท้อนอยู่บนกระจกก้มลงมาซุกลงบนต้นคอ จมูกโด่งคลอเคลียไปมา
ทำเอาผมขนลุก

   “ลงโทษที่เจ้าหว่านเสน่ห์ไปทั่วอย่างไรเล่า”

   เสียงนุ่มหูกระซิบบอก มือสอดเข้าไปในเสื้อลูบไล่บั้นเอวของผมแล้ววกขึ้นไปกรีดนิ้วลงบนแอ่งสะดือ ไม่นานปลายนิ้วก็ไป
หยุดลงที่เม็ดเล็กๆกลางแผ่นอก บีบขยี้จนผมสะดุ้ง

   “อะไร ผมท้องอยู่นะพี่”

   “ท้องเจ้ายังอ่อนนัก”กระซิบบอก มืออีกข้างจับใบหน้าของผมให้แหงนมองกระจกเบื้องหน้า

   มันยิ่งทำให้ผมอับอายเมื่อเห็นใบหน้าแดงก่ำของตัวเองสะท้อนอยู่บนกระจก กระดุมเสื้อเริ่มถูกปลดทะเม็ดจนหมด เม็ด
เล็กๆบนแผ่นอกขึ้นสีเข้มจนเห็นชัด

   “อย่าน่า นะ นี่มันห้องเรียน”

   “ช่างประไรเล่า”

   “คนอื่นจะมาเห็น”ผมอ้าง ทว่าทันทีก็ได้ยินเสียงล็อกประตูดังแกร๊ก เป็นเมียยักษ์นี่มันสะดวกสบายจริงๆ

   “ให้ข้าได้ฟังเสียงของเข้าเถิด เมียรักของข้า”ริมฝีปากพรมจูบลงบนแผ่นหลังขาของผมแทบจะไม่เหลือแรงทรงตัวหาก
ไม่มีแรงที่มองไม่เห็นคอยโอบอุ้มเอาไว้ กางเกงร่วงลงไปกองอยู่บนพื้นตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ รู้แค่ว่าความรู้สึกมันเอ่อล้นออกมา เสียง
ครางอื้ออึงถูกปล่อยออกมาเรื่อยๆยามที่มือนั้นรูดรั้งอยู่เบื้องหน้า

   “พี่ธารา อะ อา”

   มันยากที่จะขัดขืนคนที่ตัวเองรัก กายใหญ่ที่ฝังอยู่ในร่างกายสอดเข้ามาแผ่วเบา แต่ก็หวามจนรู้สึกว่ากำลังจะละลาย

   “ข้ารักเจ้า มณีของข้า ของข้าคนเดียว”เสียงนั้นก้องกังวานอยู่ในหูตอกย้ำถึงความรักอันมีค่าที่ผมได้รับมาจากเขา

   “ผมก็รักพี่”



   =================================================

   ทางด้านทศกัณฐ์ที่กำลังโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงกับตัวเอง ข้างข้องในห้องกระจัดกระจาย เมื่อตื่นขึ้นมาพบว่ากายทั้งสองที่
กกกอดเอาไว้   เมื่อคืนหายไป แม้จะตามหาไปทั่วแต่ก็ไม่เจอ กระเป๋าเสื้อผ้าของใช้ต่างๆถูกเก็บจนเกลี้ยง

   ดวงตาสีเหลืองสว่างวาบ นัยน์ตาวาวโรจน์โกรธเคืองความโง่เขลาของตัวเองอีกแล้วที่ปล่อยให้สองแม่ลูกหนีไป

   รู้ตัวอีกทีก็ตามกลิ่นไม่เจอแม่กระทั่งกลิ่นยักษ์ด้วยกันของลูกชาย



   =================================================

   
ไม่รู้ว่าจะมีใครไม่พอใจไหมที่พี่ธาราซั่มมณีตอนท้องหนึ่งเดือน แต่แบบ แหม มันอดไม่ได้นี่นา

ออฟไลน์ Natsuki-ChaN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อลันกับอเลน หนีไปแล้ววว เฮียทศ ตามเร็ววว  :z3:

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2

ออฟไลน์ plengpit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
ธาราเอ๋ย ขี้หึงจัง
หนีอีกแล้วเราะเดี๋ยวๆๆ ทศไปทำไรมา


ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ทศเอ้ยรีบตามเมียเอ็งกลับมาให้ไวนะ

แอบดีใจแทนคุณตาคุณยาย กำลังจะมีสมาชิกเพิ่มอีกสองคน ครึกครื้นแน่ :hao7:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
ทวงครั้งที่ 12 กุหลาบแดงข้างกาย

   “ทำไมพ่อทศไม่มากับเราด้วยล่ะฮะ อลันคิดถึงพ่อทศ”เด็กน้อยผิวขาวแก้มใสเอียงคอถาม

   นานนับอาทิตย์แล้วที่พาลูกชายหนีคนคนนั้นมาอีกครั้ง เหมือนกันแต่แตกต่างกันที่ความรู้สึก ความทรงจำที่เกิดขึ้นในช่วง
สั้นๆยังคงค้างคา รอยจูบในคืนสุดท้ายที่เคียงข้างกายยังคงตราตรึงอยู่ข้างในใจ

   “เขาเขาติดธุระ ไม่ว่างมากับเรา”

   ทั้งหมดที่ทำลงไปเกิดขึ้นจากความสับสน อีกหนึ่งชีวิตที่กำลังเกิดมาในร่างกายของเขา สิ่งที่เชื่อมต่อความสัมพันธ์ของ

เขาให้ต่อติดกับทศกัณฐ์กำลังฝังอยู่ภายในร่างกายของเขาอีกครั้ง

   อเลนยังคงไม่ยอมรับตัวเอง และแน่นอนว่าทำใจให้ยอมรับในการมีตัวตนของทศกัณฐ์ไม่ได้ง่ายๆ

   “แต่อลันคิดถึงพ่อทศ เรากลับไปหาพ่อทศไม่ได้เหรอฮะ”

   “ไม่ได้หรอก อลันไม่คิดถึงคุณตากับคุณยายเหรอครับ”

   “คิดถึงฮะ แต่อลันก็คิดถึงพ่อทศ เราบอกคุณตากับคุณยายไม่ได้เหรอฮะว่าอลันมีพ่อแล้ว”อลันมุ่ยหน้า ถามออกมาอย่างไร้
เดียงสา

      “ไม่ได้ครับ อลันห้ามบอกใครเด็ดขาด”เพราะทศกัณฐ์เป็นยักษ์ ไม่มีทางที่ครอบครัวของเขาจะยอมรับทศกัณฐ์ได้
แน่นอน

   “ฮะ อลันไม่บอกก็ได้”ตอบเสียงอ่อย “แต่อลันบอกได้ไหมฮะว่าอลันกำลังมีน้อง”

   คำตอบของอลันทำให้อเลนชะงัก ปากกาในมือร่วงหล่นลงไปบนสมุดโน้ต ดวงตาคมสวยจ้องมองลูกชายทันทีด้วยความ
ประหลาดใจ

   “ใครเป็นคนบอกอลัน”

   “ก็อลันเห็นน้องในนี้”มือป้อมเล็กแตะลงบนหน้าท้องของอเลนอย่างเบามือ แก้มป่องใสยิ้มจนแก้มเกือบจะปริแตก

   “อลันอย่างพึ่งบอกใครนะครับ เรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเราสองคน ตกลงไหม”

   “ตกลงฮะ เอาไว้เซอไพรส์คุณตาคุณยาย”เกี่ยวก้อยสัญญากันเสร็จสรรพ

   หัวใจที่อยู่ในอกของอเลนกำลังสั่นถึงแม้จะนานนับอาทิตย์แต่ชื่อของทศกัณฐ์ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว ราวกับว่ากลิ่นกายเจือ
กลิ่นบุหรี่ของอีกฝ่ายตามหลอกหลอนเขาไปทุกที่ทำให้นึกถึงอีกฝ่ายแทบตลอดเวลา แต่นั่นมันก็เป็นเพียงแค่ความทรงจำที่ยังคง
หลงเหลืออยู่ เขาคิดเพียงแค่นั้น



   เช้าวันถัดมา ทั้งที่เป็นหน้าหนาวแต่อากาศภายนอกทำให้อเลนประหลาดใจ แสดงแดดอุ่นส่องผ่านเข้ามาทางบานหน้าต่าง
ที่เปิดทิ้งเอาไว้ เรียวคิ้วบางขมวดมุ่น หรือว่าเขาจะคิดไปเองว่าเมื่อคืนเขาได้ปิดหน้าต่างทุกบานในห้องแล้ว

   พลันกายโปร่งบางกำลังจะลุกขึ้นมือก็สัมผัสถึงอะไรบางอย่างทำให้สะดุ้งเล็กน้องก่อนจะหยิบยกมันขึ้นมาดูอย่างเบามือ

   ดอกกุหลาบไร้หนามสีแดงสด กลีบของมันราวกับสีของเลือดก็ไม่ปาน ทว่ามันมานอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียงของเขาได้ยังไง
กัน

   ถามคนในบ้านไม่มีใครรู้ที่มาของดอกไม้สีแดงสดแม้สักคนเดียว ความสงสัยยังไม่จบเพียงแค่นั้น ในเมื่อเช้าวันแล้ววันเล่า

ตื่นมาเขาจะพบกับดอกกุหลาบสีแดงเสมือนเลือดวางอยู่บนเตียงข้างกายทุกวัน

   เกือบเดือนจนดอกไม้ดอกแรกเริ่มแห้งเหี่ยว อเลนจ้องมองดอกกุหลาบดอกแรกในแจกันที่นำดอกไม้ใส่เอาไว้ กลีบของมัน
ค่อยๆร่วงโรยลงมา และเขาก็จ้องมองมันเช่นนี้ทุกวัน จนกระทั่งกลีบสุดท้ายร่วงหล่นลงสู่พื้น

   “อเลน ตื่นรึยังลูก มีคนมาหาแน่ะ”เสียงของพ่อปลุกให้ละสายตาจากกลีบกุหลาบสีน้ำตาลอมแดงบนพื้น

   “ใครเหรอครับ”ถามพลางเดินไปเปิดประตู สบตากับผู้เป็นพ่อแล้วส่งยิ้มให้ตามปกติ

   “พ่ออยากให้ลงไปดูเองมากกว่า”

   “เดี๋ยวผมลงไปครับ”

   “เร็วเข้าล่ะ ก่อนที่แม่เขาจะเป็นอะไรไปซะก่อน”คำที่พ่อทิ้งท้ายทำให้เลิกคิ้วแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ คิดว่าคงจะเป็นเพื่อนหรือญาติ
พี่น้อง ใครสักคนที่มาที่บ้านตามปกติ

   ทว่าเพียงก้าวเดียวที่เหยียบย่างเข้าไปในห้องรับแขก ดวงตาคู่สวยก็เบิกกว้าง ร่างสูงของอมนุษย์ที่คุ้นเคยทำให้หัวใจดวง
เล็กในอกหล่นวูบ นัยน์ตาสั่นระริกกับภาพที่ได้เห็น ถึงแม้จะตอกย้ำว่าเบื้องหน้านั้นคือภาพลวงตา แต่ยิ่งเพ่งมองภาพกลับยิ่งพล่า
เบลอ

   ทศกัณฐ์อยู่เบื้องหน้า กำลังจ้องมองมาที่เขาพร้อมกับรอยยิ้มคุ้นเคย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? อเลนกวาดสายตาเมื่อทศกัณฐ์นั้นนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นพรมหนา จ้องมองพานดอกไม้ธูปเทียนเบื้องหน้าของทศกัณฐ์

   “มานั่งก่อนสิ ส่วนพ่อหนุ่มก็ลุกขึ้นได้แล้วล่ะ”

   “ขอบคุณครับ”

   “มานี่สิอเลน”เมื่อลูกชายนิ่งอึ้งราวกับสติหลุด ผู้เป็นพ่อจึงได้เรียกให้มานั่งข้างกายมารดาผู้มีเชื้อสายต่างชาติ

   “แล้วนึกยังไงถึงมารับผิดเอาตอนนี้เสียล่ะ”

   “ที่ผ่านมาผมอยากที่จะดูแลอเลนกับลูกมาตลอด ติดแค่ผมหาพวกเขาไม่เจอ”ยักษ์หนุ่มตอบด้วยความสัจจริง ถึงแม้กลิ่น
ของยักษ์นั้นจะรับรู้ได้ไม่อยาก หากแต่การอยู่คนละผืนแผ่นดินทำให้ยากต่อการติดตามลูกเมียได้ง่ายๆ

   “แล้วฉันจะเชื่อใจได้ยังไงว่าคุณจะไม่ทำร้ายลูกของเรา”หญิงชาวต่างชาติถามด้วยสำเนียงชัดถ้อยชัดคำราวกับเป็นเจ้าของ
ภาษา ดวงตาสีน้ำข้าวจ้องยักษ์หนุ่มแน่นิ่งราวคล้ายพยายามจะอ่านความคิดเสียให้ได้

   “ไม่ว่าจะชาติที่แล้วหรือว่าชาตินี้ ไม่มีวันที่ผมจะทำร้ายเขากับลูกของเรา”

   “งั้นก็ดี ดอกธูปเทียนนี่พวกเราจะรับเอาไว้ก็แล้วกัน”

   “พ่อ!!”จากที่นั่งเงียบอยู่นานแย้งทันควัน เด็กหนุ่มลูกครึ่งเกร็งตัวเมื่อดวงตาของยักษากำลังจ้องมองมาที่เขา พลันหัวใจก็
เต้นระรัว

   “เด็กที่อยู่ในท้องนั่น คิดว่าเมื่อไรจะบอกแม่กับพ่อล่ะ”

   “ระ เรื่องนั้น”

   “พ่อกับแม่จะรับเอาไว้แค่คำขอขมาและยกโทษในสิ่งที่เขาได้สำนึกผิด พร้อมที่จะให้โอกาสกับคนที่ต้องการ แต่ลูกจะให้
หรือไม่นั้นมันขึ้นอยู่กับลูก แต่ยังไงก็ต้องดูอลันกับลูกในท้องอีกคนที่กำลังจะเกิดมา”

   “ครับ”

   ตอบเพียงแค่นั้นก็ตวัดสายตาไปมองทศกัณฐ์

   “พ่อกับแม่ต้องไปธุระข้างนอก อย่างน้อยตอนนี้เขาก็เป็นแขก ดูแลเขาให้ดี  ส่วนอลันเดี๋ยวเสร็จธุระแล้วพ่อกับแม่จะรับมา
จากบ้านพี่อลิสเขาให้เอง”

   สุดท้ายทั้งที่ไม่ต้องการเผชิญหน้า แต่ก็จำยอมกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เสี้ยววินาทีที่ถูกปล่อยให้อยู่กันตามลำพัง

   ความร้ายกาจของยักษ์หนุ่มมากหน้าก็ปรากฏ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์คลี่ออกมา ดวงตาสีเหลืองอำพันทอประกายวาววับ

   “นายหนีฉันสองรอบแล้วนะ รู้ใช่ไหมว่านายตัดโอกาสของตัวนายเอง”

   เขาแค่กระพริบตาแค่นั้น อเลนสาบานกับตัวเอง เพียงชั่ววูบร่างกายสูงใหญ่ก็อยู่เบื้องหน้า ร่างของเขาถูกดันจนแผ่นหลัง
บางชิดพนักพิงโซฟา

   “จะทำอะ อื้อ”

   ริมฝีปากร้อนผ่าวกดจูบลงทัณฑ์ลงมาอย่างโหยหา หัวใจที่เก็บซ่อนเอาไว้ข้างในอกเต้นระรัว รสจูบที่คุ้นเคยปลุกกระตุ้นให้
ความคิดสับสนจนแทบบ้า

   เนิ่นนานจนรอยจูบนั้นตราตรึง กลิ่นบุหรี่คุ้นเคยคุกกรุ่นอยู่ในโพลงปากชัดเจนจนคิดว่าต่อให้ทำความสะอาดสักแค่ไหนก็คง
ไม่หมดไป

   “นายทำให้ฉันเกือบบ้า”

   คุณหมอยักษ์บอกเสียงห้วน ปลายนิ้วสากแตะลงที่คางมนดันให้เงยขึ้นมาสบเข้ากับตาคู่สีอำพัน

   “อย่า”

   “ฉันควรจะทำยังไงกับนายดี”จะลงโทษยังไงที่ทำให้ทศกัณฐ์คนนี้คลั่งจนฟาดงวงฟาดงากับความโง่ของตัวเอง

   “ไม่ คุณไม่ต้องทำอะไร แล้วกลับไปซะ”

   “นายคิดว่าฉันถ่อมาถึงที่นี่เพื่อที่จะให้นายไล่รึไง ห่ะ”น้ำเสียงยังคงบ่งบอกถึงความดิบเถื่อนที่มีมานานไม่เคยเสื่อมคลาย

   “ต้องการอะไรกันแน่”

   “ฉันจะจับนายขังเอาไว้เหมือนที่เคยทำก็ได้ แต่รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงไม่ทำ”

   “ผมไม่อยากรู้”ตอบเสียงเครือ เบือนหน้าหนี แต่ก็ถูกปลายนิ้มนั้นบังคับให้หันกลับมามอง

   “แต่นายต้องรู้”

   “ผมบอกว่าผม…ไม่อยากรู้ไงล่ะ เลิกยุ่งและไปจากชีวิตผมกับลูกสักที”

   “ดูเหมือนว่าเวลาที่ฉันให้นานมันจะไม่ได้ช่วยอะไร”

   “ต่อให้สิบปี ยี่สิบปี หรือแม้กระทั่งหมดชาตินี้มันก็ไม่มีทางช่วยอะไร มันไม่มีทางช่วยให้ผมเลิกเกลียดคนที่ทำให้ชีวิตผม
เป็นแบบนี้”

   ทั้งที่ความรักของเขาควรจะได้สมหวังกับคนที่อยู่ในฝันมาตลอด กักขังหัวใจของเขาเอาไว้ให้ไม่มีอิสระ อีกทั้งยังทำให้มัน
สั่นคลอนจนเสียความเป็นตัวตน และคนเดียวที่เขาโทษก็คือทศกัณฐ์

   “แล้วฉันจะมาใหม่”

   รอยจูบประทับลงบนหน้าผากมน อเลนหลับตาลงเมื่อริมฝีปากนั้นแนบชิด จะต้องทำอย่างไรในเมื่อยิ่งใกล้ชิดหัวใจดวงนี้
มันยิ่งควบคุมไม่อยู่

   ถึงแม้สัมผัสของจูบนั้นจะจางลง แต่รอยจูบยังคงตราตรึง เพียงลืมตายักษ์หนุ่มเบื้องหน้าก็อันตรธานหายไป ทิ้งเอาไว้เพียง
กลิ่นกายหอมบุหรี่กับเบื้องหน้าที่ว่างเปล่า หยดน้ำตาเพียงหยดเดียวแต่กลับเปี่ยมไปด้วยสิ่งต่างๆมากมายร่วงหล่นลงมา


ความจริงแล้วทศกัณฐ์แอบมาหาลูกเมียทุกคืน จูบพุงอเลนทุกวัน แต่มาแบบย่องเบา 55
รู้ว่าโคตรสั้น แต่แบบโคตรง่วง ยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อวาน ขอตัวไปสลบเหมือดก่อน ขอโทษแม่ยกคุณวาลีที่เบี้ยวนัด ขอจบ
คู่นี้ก่อนนะคะ เพราะว่าคู่วาลีนั้นยาวเพราะเหลือเยอะกว่าคู่อื่น ไปละๆ ถ้าฝนตกก็จะมาไม่คืนนี้ก็พรุ่งนี้ เน้อ โซอึนรักทุกคน เตรียมต่อภาคสามกันนะ









ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2

ออฟไลน์ plengpit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
ิอเลนเอ้ยยยยยยยยยย  แต่ก็แอบไม่แปลก ตอนแรกทศน่ากลัวชิบผาย 55555555555555555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด