เมื่อผมต้องกลายเป็นแม่พันธุ์ {ตอนผลผลิตจากแม่พันธุ์} ร่างสูงนั่งกอดอกหันหลังให้เมียรักที่นั่งอยู่อีกฟากหนึ่งของเตียงด้วยใบหน้าบึ้งตึง สายตาคมเหลือบหันไปมองคนที่นั่งก้มหน้าก้มตากินชมพู่ผลสีชมพูอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่สนใจตนเลยสักนิด พออีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาจ้องตาปริบๆ ตนก็รีบหันกลับมาตามเดิมราวกับเมื่อสักครู่ไม่ได้หันไปมอง
อมฤทธิ์ไม่เข้าใจอาการที่ตนกำลังเป็นอยู่ แค่รู้สึกขัดใจมากๆถึงมากที่สุดในเวลานี้ สาเหตุที่เป็นก็เพราะตั้งแต่ที่เขาบอกมะเหมี่ยวว่าในท้องของเด็กหนุ่มมีเด็กตัวเล็กๆอาศัยอยู่ อากัปกิริยาที่เมียรักแสดงออกคือประหลาดใจไม่ถึงขั้นตกใจไปซะทีเดียวแต่ที่เห็นได้ชัดคือรอยยิ้มยินดีที่ปรากฏให้เห็นบนหน้าขาวนวลนั้น และมันทำให้เขาพลอยสุขใจตามไปด้วย
เมียรักคอยแต่ถามว่ารู้ได้อย่างไร แล้วเกิดขึ้นตอนไหน ซึ่งตนก็ค่อยๆเล่ารายละเอียดให้ฟัง พอฟังจบมะเหมี่ยวที่แสนว่าง่ายคอยตามใจตนมาตลอดก็กลับเปลี่ยนไป จากที่เคยได้ร่วมเรียงเคียงหมอนและหลับนอนกันวันละหลายยกกลับกลายเป็นไม่ได้สักยกหรือแม้แค่แตะต้องตัวยังไม่ได้แม้กระผีกริ้นเดียว
สามวันมาแล้วที่เขาไม่ได้อะไรๆกับเมียรักเลย ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิดพาลให้เครียดจนต้องออกไประบายอารมณ์ข้างนอกออกจะบ่อย ไม่ใช่ไปร่วมเสพสุขกับผู้ใด แต่เขาไประบายกับพวกสัตว์ป่าน้อยใหญ่โดยการฉีกทึ้งเนื้อและกัดดูดโลหิตเป็นว่าเล่น จนสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในอาณาบริเวณนี้ต่างหลบลี้หนีภัยกันไปอยู่ที่อื่นด้วยความหวาดกลัวเพราะไม่เคยเห็นเทพพิทักษ์ป่าพิโรธถึงเพียงนี้ และลงความเห็นว่าเขาในตอนนี้ความเป็นปีศาจชักจะอยู่ในสายเลือดมากกว่าเทพเสียแล้ว
ทั้งที่แต่ก่อนเขาไม่ใช่คนที่โหดร้ายเช่นนี้ การล่าและฆ่าก็เพื่อการอยู่รอดเพราะถึงจะเป็นอมตะแต่เขาก็หิวเป็น แต่ตอนนี้ไม่ใช่เสียแล้ว ราวกับตัวตนที่เป็นอยู่ถูกครอบงำด้วยตัณหาจนหน้ามืดตามัวไปเสียหมด เขามีความต้องการและกระหายมันมากขึ้นทุกที มันเป็นความรู้สึกคล้ายกับของอร่อยที่เพิ่งเคยได้กินแล้วพอกินเข้าบ่อยๆมันยิ่งติดใจจนแทบขาดไม่ได้ พอวันนึงต้องละหรือเว้นจากการกินชั่วคราวมันทำให้เขารู้สึกเหมือนอกจะแตกตายวันละหลายรอบ แม้อีกฝ่ายจะเพียรย้ำว่าการร่วมรักจะเป็นอันตรายต่อบุตรตัวน้อย แต่เขาก็ยังหวังให้มะเหมี่ยวเมตตาเขาสักหนสองหนหรือหลายหน เขาคงจะกลับมาเป็นปกติกว่านี้
“นี่อมฤทธิ์” เสียงเรียกจากอีกฟาก ทำให้คนที่นั่งคิดเพลินๆหันกลับมามองด้วยสายตาดุ ดวงตาตอนนี้เป็นสีมืดสนิททั้งดวงเพราะอยู่ในสภาพที่เริ่มจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ อยากฉีกทึ้งเสื้อผ้าของคนตรงข้ามแล้วฝังลำอันร้อนผ่าวลงไปแล้วกระแทกกระทั้นให้สมความอยากที่อดทนอดกลั้นมาสามวันเต็มๆ
คิดแล้วอยากย้อนเวลาไม่น่าจะรีบบอกมะเหมี่ยวเลย
“.........” อมฤทธิ์ไม่ได้ตอบว่าอะไร นั่งนิ่งจ้องตาอีกฝ่ายอยู่อย่างนั้น
มะเหมี่ยวถอนหายใจอย่างระอาในตัวของเทพครึ่งปีศาจจอมเอาแต่ใจ เขาเริ่มชินกับอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียวและการเผยร่างที่เป็นปีศาจของอมฤทธิ์เสียแล้ว
มะเหมี่ยวแค่เป็นห่วงลูกที่อยู่ในท้องจึงได้คอยปฏิเสธความปรารถนาของอีกฝ่ายตลอด เพราะรู้ว่าแรงขับเคลื่อนทางเพศของอมฤทธิ์นั้นเรียกได้ว่าจัดจ้านและรุนแรงซึ่งอาจจะทำให้เจ้าตัวน้อยที่อยู่ในท้องของเขาเป็นอันตรายได้ ความรู้สึกหวงแหนและเป็นห่วงของคนเป็นแม่นั้นรุนแรงแค่ไหนเขาก็เพิ่งได้รู้ จึงพยายามไม่ใจอ่อนให้อีกฝ่ายได้ใจ เพราะหากมีครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สองที่สามอาจตามมาซึ่งนั่นไม่ดีแน่นอนและ..
เขาเองก็ต้องห้ามใจด้วยเช่นกัน
มะเหมี่ยวยื่นผลชมพู่ลูกใหญ่ให้อีกฝ่ายอย่างเอาใจ ผลที่ได้คือฝ่ายนั้นยังนิ่งไม่ขยับส่วนใดของร่างกายไม่แม้แต่กระดิก
อาการหนักกว่าที่คิด
ร่างบางของคนอายุน้อยกว่าขยับเข้าไปใกล้ๆแล้วเอาผลไม้จ่อที่ริมฝีปากหนาพร้อมส่งยิ้มหวานๆให้ พยักหน้ายิกๆแล้วบอก
“อร่อยน้า คุณลองชิมดูสิหว๊านหวาน อร่อยกว่าที่คุณกินอยู่ทุกวันอีกนะผมว่า” เมื่อไม่เห็นปฏิกิริยาใดตอบรับ มะเหมี่ยวก็เอามากินเสียเอง ฟันขาวกัดกร้วมเคี้ยวให้อีกฝ่ายดูพลางทำหน้าว่าสิ่งที่ตนเองกินอยู่ช่างอร่อยเหาะเสียเหลือเกิน
“อื้อ..” อมฤทธิ์หมดความยับยั้งช่างใจยื่นมือไปจับหน้าของเมียรักแล้วกดจูบลงบนริมฝีปากระเรื่อนั้นตามแรงอารมณ์ มะเหมี่ยวกลืนสิ่งที่เคี้ยวอยู่แทบไม่ทัน ลิ้นของอีกฝ่ายก็ดุนดันเปิดปากของเด็กหนุ่มอย่างง่ายดาย เพราะถึงแม้จะตกใจที่อีกฝ่ายจูบกะทันหัน แต่มะเหมี่ยวก็ต้องยอมรับว่าคิดถึงรสจูบของอมฤทธิ์ไม่น้อยเลย
ทั้งสองแลกจูบกันอย่างดุดันสลับเนิบช้าแล้วเปลี่ยนเป็นดูดดื่ม เสียงดูดปากผสมกับครางออกมาอย่างรัญจวนจนมะเหมี่ยวสติแทบกระเจิงไปกับความต้องการที่อีกฝ่ายปลุกปั่นขึ้นมา มือบางผลักอกแกร่งของอมฤทธิ์ออกอย่างแรงจนริมฝีปากทั้งคู่หลุดออกจากกัน
มะเหมี่ยวแก้มร้อนผ่าวหอบหายใจเสียงดัง จ้องมองคนที่มีสภาพไม่ต่างกันแล้วบอกด้วยเสียงแหบพร่า
“ผมบอกคุณแล้วว่าอย่าทำแบบนี้..มันจะหยุดยาก..”
“แค่จูบก็ทำไม่ได้รึ? เจ้าเห็นข้าเป็นก้อนหินแข็งๆที่ไม่รู้สึก ไม่มีความต้องการเลยรึอย่างไร” อมฤทธิ์พูดอย่างหัวเสีย ตอนนี้เขาแทบทนไม่ไหวแล้ว เหตุใดเมียรักถึงไม่เข้าใจเลย เขาทนมาได้ขนาดนี้ถือว่ามันมากเกินไปด้วยซ้ำ แก่นกายของเขาปวดหนึบ และก็ไม่อยากจะหยุดอยู่แค่นี้อีกต่อไปแล้ว
“ขอข้าแค่สักครั้งก็ไม่ได้รึ? เหตุใดเจ้าจึงใจร้ายเช่นนี้ ข้าใกล้จะตายอยู่แล้วนะ” ร่างสูงโอดครวญ
มะเหมี่ยวมองเทพครึ่งปีศาจอย่างนึกสงสารเมื่อเห็นสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาทั้งยังน้ำเสียงที่แสนตัดพ้อนั่น หรือว่าเขาจะยอมตามใจอีกฝ่ายดูสักครั้ง แต่นี่มันเพิ่งสามวันเองเทพพิทักษ์ป่าก็ทำราวจะลงแดงตาย แล้วอีกหลายเดือนที่เหลือจะทำอย่างไร เด็กหนุ่มคิดอย่างกลุ้มใจ
“นะ..ขอข้าอีกแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว แล้วข้าจะไม่กวนใจเจ้าอีกเลย” อมฤทธิ์ยังคงอ้อนวอนร้องขออย่างไม่ยอมแพ้ และก็ต้องยิ้มกว้างอย่างสมใจเมื่อร่างบางพยักหน้าช้าๆ
ร่างสูงพุ่งเข้าหาคนตรงหน้าเมื่อได้รับการยินยอม ร่างบางหงายหลังลงบนพรมขนสัตว์โดยมีอมฤทธิ์คร่อมอยู่ด้านบน ดวงตาของมนุษย์กับปีศาจสลับกันไปมาอย่างควบคุมไม่อยู่ เขาคำรามก้องเสียงสะท้อนไปทั่วทั้งถ้ำก่อนจะก้มลงแนบริมฝีปากกับคนข้างล่างอย่างหมดความอดทน
มะเหมี่ยวครางฮือเมื่อเทพครึ่งปีศาจกดจูบอย่างหนักหน่วงแทบกลืนลมหายใจของเขา เด็กหนุ่มดุนดันลิ้นหยอกล้อเกี่ยวพันกับอีกฝ่ายอย่างวาบหวามใจ แก่นกายเต้นตุบๆในกางเกงผ้าเนื้อบาง หัวใจเต้นรัวเร็ว เลือดบนหน้าสูบฉีดจนขึ้นสีแดง
อมฤทธิ์ถอนจูบออกมาถอดเสื้อของตนออกอย่างรวดเร็ว โดยไม่ลืมที่จะถอดแทบกระชากเสื้อของมะเหมี่ยวให้ด้วย แล้วก้มลงจูบบนยอดอกสีเรื่อ ลากไล้ปลายลิ้นวนดูดดุนราวกับทารกดูดนมจากอกมารดาก็ไม่ปาน
เขาเงยหน้าขึ้นจากอกคนข้างล่างกำลังจะกดจูบบนริมฝีปากสีสดนั่น
“อึก..อ้วกกก” จู่ๆมะเหมี่ยวรู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เขาผลักอกของคนด้านบนออกก่อนจะเบี่ยงตัวออกมาลงจากเตียงมาอาเจียน แต่ไม่มีอะไรสักอย่างออกมาเลย ตอนนี้เขารู้สึกเวียนหัวมากและรู้สึกง่วงขึ้นมาจนแทบทรงตัวไม่อยู่ เด็กหนุ่มหลับตานวดขมับก่อนจะลืมตาโพลงเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรดิ้นอยู่ในท้องของเขา
สิ่งนั้นออกแรงทั้งถีบทั้งเตะ
มะเหมี่ยวก้มมองท้องของเขาที่ค่อยๆนูนขึ้นมาเล็กน้อยแล้วลูบลงไปเบาๆ หันไปยิ้มให้คนตัวสูงที่นั่งอยู่บนเตียง ใบหน้าสีซีดขาวนั้นอยู่ในหมวดมึนงงเพราะปรับอารมณ์ไม่ทัน เด็กหนุ่มขึ้นไปนั่งบนเตียงอีกครั้งพร้อมจับมือทั้งสองข้างของอมฤทธิ์มาวางทาบบนหน้าท้องของตนที่เจ้าตัวน้อยยังคงดิ้นอยู่
“อมฤทธิ์ลูกดิ้นแล้ว เขาถีบท้องผมใหญ่เลย” เด็กหนุ่มพูดอย่างตื่นเต้น นัยน์ตาสะท้อนความรักถึงเด็กน้อยที่อยู่ในครรภ์อย่างมากล้น เขามีความสุขมากจริงๆมันทั้งตื้นตันและดีใจจนอธิบายไม่ถูก มันเป็นสัญญาณที่ดีที่บ่งบอกว่าลูกของพวกเขาแข็งแรงและคงจะแก่นเซี๊ยวน่าดู
อมฤทธิ์รับรู้ถึงแรงที่กระทบบนฝ่ามือ เขายิ้มออกมาอย่างยินดีไม่แพ้เมียรักเลย
ก่อนที่จะแทบหุบยิ้มทันควันเมื่อได้ยินเสียงเล็กๆเอ่ยเข้ามาในความคิดทั้งที่ไม่ปรากฏเสียงมาสามวันแล้ว
'ท่านพ่อไม่รักษาคำพูด! ท่านพ่อจะล่วงเกินท่านแม่!' เสียงเล็กๆพูดอย่างไม่พอใจ
ร่างสูงนิ่งอึ้งก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูเมื่อนึกถึงเด็กแสบที่อยู่ในท้องใต้ฝ่ามือตน
ทำตามที่พูดจริงๆสินะ
'พ่อไม่ได้ผิดคำพูดเสียหน่อย เจ้าก็รู้ว่าแม่ของเจ้าเต็มใจ..' ร่างสูงตอบกลับทางจิต ลูบหน้าท้องเบาๆ
'ไม่รู้ล่ะ ข้าจะขัดขวางท่านพ่อทุกอย่างที่ข้าจะทำได้' เจ้าตัวเล็กบอกเจตจำนง
'หึๆ เจ้าช่างแสบนักลูกของพ่อ แล้วเจ้าคิดว่าทำเช่นนี้จะช่วยแม่ของเจ้าได้รึ?' 'ได้หรือไม่ได้ ข้าก็ทำให้ท่านพ่อหยุดรังแกท่านแม่ได้แล้วกัน'
อมฤทธิ์เงยหน้าขึ้นมาหัวเราะ ยิ้มจนตาปิดทั้งรักและเอ็นดูในความไม่ยอมแพ้ของเจ้าตัวเล็ก
เด็กหนุ่มมองคนรักอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้ทำราวกับถูกใจอะไรนักหนา
“มีอะไรหรือเปล่าครับ” มะเหมี่ยวถามอย่างข้องใจ
ร่างสูงส่ายหน้าไปมาก่อนจะตอบ
“ไม่มีอะไรหรอก เด็กน้อยช่างซนนัก..เจ้าต้องดูแลลูกให้ดีๆนะ เพราะลูกรักเจ้ามากกว่าข้าเสียอีก”
“รู้แล้วน่า ผมก็รักเขามากที่สุดเหมือนกัน” เด็กหนุ่มตอบอย่างมั่นใจ
อมฤทธิ์คิดว่าการพูดคุยกับเจ้าตัวน้อยคงพอจะช่วยทำให้เขาไม่ฟุ้งซ่านมากนัก คงจะดีไม่น้อยถ้าเขาจะทำตามที่ลูกน้อยและเมียรักต้องการ
พ่อที่ดีของลูกและผัวที่ดี(ไม่หื่น)ของเมีย
.
.
.
.
สิ่งที่คิดว่าจะทำได้กลับยากเสียเหลือเกิน แต่เทพพิทักษ์ป่าก็ทำได้สำเร็จ เขายอมรับว่ามันช่างทรมานจิตใจเป็นที่สุดกว่าจะพ้นช่วงที่บังคับจิตใจและฝืนตัวเองมาได้ จนใกล้เวลาที่เด็กน้อยจะออกมาอยู่บนโลกภายนอกหลังจากที่อยู่ในครรภ์มะเหมี่ยวได้สี่เดือน
ท้องที่ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก แต่กลับทำให้คนที่ตัวเล็กกว่าเขาลำบากพอสมควรเพราะเพศที่ไม่ได้ถูกกำหนดมาเพื่อการนี้ แต่เด็กหนุ่มก็ไม่เคยปริปากบ่นเลย มะเหมี่ยวมักจะยิ้มและพูดคุยกับบุตรที่อยู่ในครรภ์อย่างมีความสุข มือบางจะคอยลูบเบาๆไปบนหน้าท้องของตนเองอย่างรักใคร่
อมฤทธิ์คอยอยู่ใกล้ๆเพื่อดูแล ใกล้ถึงกำหนดคลอดแล้ว การคลอดเด็กที่เป็นลูกครึ่งเทพปีศาจทั้งยังมีสายเลือดมนุษย์ปนอยู่ด้วยนั้นไม่ได้ทำให้ยุ่งยาก
เพียงแค่รอเวลาเท่านั้น
“อมฤทธิ์ผมรู้สึกแปลกๆ” มะเหมี่ยวบอกคนที่กำลังนวดขาให้เขาอยู่อย่างตื่นๆ
ร่างสูงละมือจากสิ่งที่ทำอยู่ลุกขึ้นมานั่งเคียงข้างเมียรัก เขาเช็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาบนหน้าผากเนียนออกก่อนจะถาม
“เป็นอย่างไรรึ เจ้าปวดท้อง?”
“มันก็ปวดไม่มาก แต่รู้สึกว่าลูกไม่ค่อยดิ้นเลยจะเป็นอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้” เด็กหนุ่มบอกอย่างกังวลใจ แล้วจู่ๆก็รู้สึกแรงดิ้นที่รุนแรงกว่าทุกครั้งที่ใต้ฝ่ามือของเขาที่กำลังลูบท้องตนเองอยู่ มันรู้สึกเจ็บจนใบหน้าอ่อนเยาว์นั้นเหยเก
“อมฤทธิ์ ตอนนี้เขาดิ้นแล้ว แต่ผมเจ็บท้องมากกว่าเมื่อกี้อีก โอ้ย!!!” เด็กหนุ่มรู้สึกว่าอาการปวดมันมากขึ้นทุกที ร้องออกมาอย่างอดกลั้นไม่ไหว
“เจ้าสูดลมหายใจลึกๆ แล้วผ่อนออกนะ..ข้าคิดว่าเจ้าใกล้จะคลอดแล้วล่ะ” อมฤทธิ์เองก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอหน้าเจ้าตัวน้อยแล้ว แต่ท่าทางที่เมียรักของตนเป็นอยู่กลับทำให้เขารู้สึกสงสาร
มะเหมี่ยวรู้สึกปวดจนหน้ามืดตาลายไม่มีเรี่ยวแรงจนต้องนอนราบลงบนเตียง ลมหายใจที่ถี่กระชั้นนั้นทำให้เขาหายใจไม่ทัน แต่ก่อนที่เขาจะหมดสติไป เขาเห็นแสงสีฟ้าวูบวาบเปล่งประกายจนแสบตาไปหมด พร้อมกับความรู้สึกเจ็บปวดได้มลายหายไปจนหมดสิ้น
“ท่านแม่”
นั่นคือคำพูดสุดท้ายที่เขาได้ยิน ก่อนหลับตาลงพร้อมรอยยิ้มแม้ไม่ได้เห็นหน้าคนพูดแต่เขากลับรู้สึกผูกพันและรักในเสียงเล็กๆนั้นมากเกินจะพรรณนา
อมฤทธิ์จ้องมองเด็กน้อยที่ไม่ใช่ทารกแรกเกิด แต่เป็นเด็กที่น่าจะอายุประมาณสองขวบนั่งคุกเข่าก้มหน้ามองเมียรักของตนอย่างสนใจ ร่างสูงเขยิบเข้าไปใกล้ก่อนจะรวบร่างเล็กนั้นมาไว้ในอ้อมกอดแล้วหอมแก้มยุ้ยๆนั้นอย่างรักใคร่
“อ่า ท่านพ่อข้าตกใจหมดเลย” เสียงเล็กๆของคนตัวเล็กในอ้อมกอดร้องบอก ดวงตากลมโตฉายแววใสซื่อบริสุทธิ์ไม่ต่างไปจากมะเหมี่ยวเลย เทพพิทักษ์ป่ายิ้มกว้างก่อนบอก
“ก็พ่อดีใจที่ได้เจอหน้าเจ้าเสียที..แล้วเจ้าก็ช่างน่าเกลียดน่าชังเช่นนี้อีก” ร่างสูงกดจมูกสูดดมแก้มกลม
“อื้อ..ข้าไม่ได้น่าเกลียดเสียหน่อย ข้าหล่อกว่าท่านพ่อตั้งเยอะ” มือน้อยๆดันหน้าของอมฤทธิ์ออกห่าง นิ้วเล็กๆจิ้มจมูกพ่อของตนจึ๊กๆ
อมฤทธิ์จับมือป้อมๆออกมาแล้วหอมฝ่ามือน้อยๆนั่นอย่างรักใคร่
“พ่อยอมให้เจ้าก่อนก็ได้ แล้วตอนนี้เจ้าหิวหรือไม่?”
“ข้ายังไม่หิวเลย ข้าอยากให้ท่านแม่ตื่นเร็วๆจัง”
“ใจร้อนจริงเชียว เดี๋ยวแม่ของเจ้าก็ตื่นแล้ว”
“ข้าอยากให้ท่านแม่ตื่นตอนนี้” เสียงเล็กๆพูดอย่างดื้อดึง
“แม่ของเจ้ายังอ่อนเพลียอยู่ ปล่อยให้พักผ่อนก่อนเถอะนะ เดี๋ยวพ่อจะพาเจ้าไปเดินเล่นข้างนอกดีไหม?”
“ไม่ ข้าจะรอท่านแม่ตื่นก่อน”
ช่างเอาแต่ใจเสียเหลือเกิน
อมฤทธิ์คิดก่อนจะบอกอย่างยอมจำนน
“ก็ได้ๆ พ่อจะรอเป็นเพื่อนเจ้าเอง”
“มันก็ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว”คนตัวเล็กพูดพร้อมกับซบหัวน้อยๆไปที่อกบิดาแล้วจ้องมองมารดาของตนอย่างรอคอยเวลา ก่อนดวงตาใสแจ๋วคู่นั้นจะคล้อยต่ำและหลับไปด้วยอีกคน
.
.
.
มะเหมี่ยวรู้สึกตัวอีกทีหลังจากที่หลับไปได้ชั่วโมงกว่าๆ เขาสิ่งมีชีวิตที่อยู่ขั้นกลางระหว่างเขาและอมฤทธิ์กำลังนอนดิ้นขาก่ายเกยไปมา จนคนมองต้องหลุดขำออกมาเบาๆ จ้องมองเจ้าตัวน้อยนั้นตาไม่กระพริบ เด็กหนุ่มส่งยิ้มให้กับร่างสูงก่อนจะพูดขึ้นมาเบาๆ
“นี่ลูกของเราจริงๆใช่ไหมอมฤทธิ์” ปฏิกิริยาตอบกลับคือรอยยิ้มก่อนจะพยักหน้า
มะเหมี่ยวไม่รอช้าคว้าคนตัวน้อยๆมากอดไว้แนบอกด้วยความรักทั้งหมดของหัวใจ เขาไม่ได้แปลกใจที่เห็นลูกตัวโตแบบนี้แทนที่จะเป็นทารกแรกเกิด เพราะอมฤทธิ์ได้เคยบอกไว้แล้วว่าลูกของเทพนั้นจะมีพัฒนาการที่ไวกว่าเด็กปกติมาก เจริญเติบโตและเรียนรู้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์
เขายิ้มอย่างตื้นตัน น้ำตาคลอ พูดไม่ออก มันอธิบายไม่ถูก ได้แต่ก้มมองใบหน้ากระจิ๊ดริดนั้นอย่างแสนรัก
เจ้าตัวเล็กปรือตาขึ้นมา ก่อนจะกระพริบจ้องหน้าคนตรงหน้า
“ท่านแม่” ร่างเล็กบอกซุกลงไปที่อกบางของมะเหมี่ยวอย่างขี้อ้อน
“ลูกของแม่” เด็กหนุ่มถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ได้แต่ปล่อยให้มันรินไหลออกมา
ดีใจที่สุด..ดีใจจริงๆ
-----------------------------------------------------------------------------
สวัสดีวันแม่ค่ะ ตอนนี้ซอฟๆหน่อยนะค่ะ ให้เข้ากับบรรยากาศหน่อยเนอะ
เหลืออีกตอนนึงไม่แน่ใจว่าจะแต่งเสร็จเมื่อไร ขอบคุณทุกเม้นและคนอ่านทุกท่านนะค่ะ
เจอกันตอนหน้าค่ะ