✪❂❂>>>>✪{ จำนนหัวใจ }✪<<<<❂❂✪ ✥ ตอนจบ ✥ หน้า 4 Up. (22/10/58)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✪❂❂>>>>✪{ จำนนหัวใจ }✪<<<<❂❂✪ ✥ ตอนจบ ✥ หน้า 4 Up. (22/10/58)  (อ่าน 29711 ครั้ง)

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
เขตนี่อาภัพเหมือนกันนะ ได้รู้ใจตัวเองละ  แต่คลาดตลอด5555   :laugh:

ออฟไลน์ loveice

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตอนที่ 19.1



        เขตขับรถมาถึงบ้านด้วยท่าทางเร่งรีบ ร่างหนาลงจากรถตรงดิ่งเข้ามาในบ้าน ทุกคนในบ้านต่างตกใจเล็กน้อยสำหรับการปรากฏตัวที่รวดเร็วเกินไปอย่างคาดไม่ถึง


“คุณเขต!  ทำไมมาถึงเร็วจังคะ” กล้วยไม้ถามเจ้านายด้วยสีหน้าตกใจ


“คุณพ่ออยู่ไหน!” เค้าไม่ฟังเสียงทักของกล้วยไม้แม้แต่น้อย


“อยู่หลังบ้านค่ะ พักผ่อนที่เตียงขอบสระว่ายน้ำ” กล้วยไม้รีบบอกทันทีหลังจากเห็นสีหน้าของเจ้านายที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่



   ภูธเนศเดินทะลุบ้านไปถึงประตูด้านหลังก็พบภัครพิชัยนอนพักอยู่บนเก้าอี้จริงๆ แต่หนุ่มวัยกลางคนหันมาหาลูกชายด้วยสีหน้า

กลุ้มใจที่จะเล่า แต่มันจำเป็นแล้วจริงๆ


“คุณพ่อครับ  สรุปน้ำไปที่วังฉัตรอรุณทำไมครับ”


“คืออย่างนี้นะเจ้าเขต  มันอาจจะฟังดูตลกแต่มันเป็นเรื่องจริง” เขตยิ่งทำสีหน้างุนงงเข้าไปใหญ่


“อะไรกันครับคุณพ่อ ผมงงไปหมดแล้วนะ แล้วนี่ทำไมทุกคนต้องทำท่าทีเหมือนมันเป็นความลับ หรือเรื่องใหญ่โตขนาดนี้” เขต
แสดงท่าทีไม่เข้าใจ


“น้ำ  จริงๆแล้ว ชาติกำเนิดคือ  หม่อมเจ้านทีพิสุทธิ์ ไกลเกียรติขจรกุล หรือท่านชายน้ำ โอรสของพระองค์เจ้าฉัตรอรุณ องค์ที่ 3 ”


“ผมไม่มีเวลามาฟังละครจากคุณพ่อหรอกนะครับ บอกผมมาเถอะว่าน้ำไปที่วังนั้นทำไม”


“เขต  พ่อพูดความจริงตอนนี้ ท่านชายเสด็จกลับวังแล้ว   ท่านชายไม่ประทับที่นี่อีกต่อไปแล้ว”


   เขตจ้องแววตาของผู้เป็นพ่ออย่างแน่วแน่ในประโยคที่ภัครพิชัยบอกเมื่อครู่ มันยากมากกับการที่จะต้องแยกแยะ  หรือเพราะตอน

นี้เค้ายังไม่กล้าที่จะรับความจริง ถ้าหากเป็นอย่างที่พ่อเค้าพูด แล้วเขตจะทำยังไงต่อไป ในเมื่อตอนนี้ทุกอย่างที่เค้ากับน้ำได้

สร้างสัมพันธ์กันขึ้น มันก็ไม่มีประโยชน์อย่างนั้นสินะ แล้วเค้าจะอยู่อย่างไร  ตอนนี้เขตกำลังพยายามเข้าข้างตัวเองอย่างที่สุด


“ไม่มีทางหรอกครับคุณพ่อ น้ำจะไปเป็นพระโอรสองค์ที่ 3 ได้ยังไง”


“ได้สิ เพราะท่านชายเป็นลูกที่ประสูติแต่ หม่อมพิมลกับ เสด็จพระองค์ ”


“ไม่จริง ไหนคุณพ่อบอกผมตอนเด็กๆไงครับว่า พระโอรสสิ้นชีพิตักษัยตั้งแต่แรกประสูติ”


“พ่อก็เชื่อแบบลูกมานาน แต่ความจริงเรื่องนี้พ่อเพิ่งรู้ และพ่อรู้เรื่องนี้จากชื่นกับเวท”


“ชื่น เวท?” เขตทวนคำพูดของพ่ออีกครั้ง


“ใช่ ชื่นกับเวท เป็นคนรับใช้ของวังฉัตรอรุณเมื่อ 20 กว่าปีก่อน แต่ถัดจากนั้นมาหม่อมบุหลันเป็นใหญ่ในวัง เวทจึงทนไม่ไหวเลย

ตัดสินใจออกมาก่อน และตามด้วยชื่น ที่หนีออกมาพร้อมกับพระโอรส กลับไปเลี้ยงที่บ้านนอกชนบท”


“แล้วทำไม ทำไมเค้าต้องปิดเรื่องนี้ด้วยครับ ทำไมครับคุณพ่อ  ทำไม!!!”  เขตเริ่มตั้งสติตัวเองไม่อยู่ เค้าตะหวาดเสียงดังลั่นใน

ขณะที่คนใช้ในบ้านทุกคนได้ยินเสียงดังเข้ามาในบ้านทีเดียว





“พี่สงกรานต์ ฉันว่าคุณเขตคงจะรู้ความจริงแล้วล่ะ”


“ก็แน่ล่ะ เสียงดังโวยวายขนาดนั้น”


“แต่ฉันไม่เห็นเข้าใจเลยนะ พี่กล้วยไม้ว่าคุณเขตจะโวยวายทำไม ไม่ชอบท่านชายน้ำแต่ทีแรกอยู่แล้ว ตอนนี้พระองค์ก็ไม่ประทับที่นี่แล้ว ควรจะดีใจมากกว่านะ  ว่าไหมพี่กล้วยไม้”


“ฉันไม่รู้หรอกเรื่องแบบนี้ แต่เท่าที่ดูๆมา ที่แกพอก็ถูกนะใบหลิว ”


“ทีแรกก็ใช่อยู่หรอกนะ แต่หลังๆมาคุณเขต เอ็นดู เป็นห่วงและหวงท่านชายน้ำยิ่งกว่าอะไร”


“ว่าไงนะ เป็นไปได้ยังไง” ใบหลิวทำสีหน้าไม่น่าเชื่อ


“พี่สงกรานต์ ที่พี่พูดหมายความว่ายังไง คุณเขตคงไม่ใช่…”


              กล้วยไม้พยายามพูดถามตรงๆแต่อีกใจก็ไม่อยากได้ยินคำตอบนั้นหลุดออกมาจากปากของสงกรานต์เช่นกัน ว่าเจ้านายเค้ารักเพศเดียวกัน


“ใช่แล้ว กล้วยไม้  คุณเขตรักและชอบท่านชายน้ำ แบบไม่รู้ตัว ตั้งแต่ครั้งไปส่งท่านชายกลับบ้านเกิดเมื่อครั้งนั้นแล้ว”


“ไม่จริง โอ้ยจะเป็นลม” กล้วยไม้ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่สงกรานต์พูดเลยแม้แต่น้อย



“ผมไม่เชื่อคุณพ่อหรอกครับ ผมจะพิสูจน์ให้คุณพ่อได้ดูว่าน้ำไม่ได้เป็นหม่อมเจ้า อย่างที่คุณพ่อปั้นเรื่องขึ้น”

เขตตะโกนลั่นต่อหน้าภัครพิชัยผู้เป็นพ่อ แล้วเดินออกไปทันที



“เขต ลูกจะไปไหน เขต กลับมาหาพ่อก่อน”


       เขตไม่ฟังที่ภัครพิชัยเอ่ยเรียกเลยแม้แต่น้อย เค้าเดินเข้ามาในบ้านเพื่อที่ตรงออกประตูหน้าบ้านทันที ผ่านหน้าของคนในบ้าน 3 คนที่ยืนฟังบทสนทนาเมื่อครู่ไม่ไปไหน


“คุณเขต จะรีบไปไหนหรอครับ” สงกรานต์เอ่ยถามทันที


“ไปวังฉัตรอรุณ”เขตตอบสงกรานต์แบบปัดๆไป


“ให้ผมขับรถให้ไหมครับ”


“ไม่ต้องแกอยู่ที่นี่แหละ เดี๋ยวฉันจะรีบกลับ ”


“เอ่อ.. ตะ…แต่ว่า” สงกรานต์ตะกุกตะกัก


“ไม่มีแต่ สงกรานต์!  ฉันขอสั่งในนายอยู่ที่นี่ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น”


“ครับคุณเขต”



ภัครพิชัยเดินตามเข้ามาในบ้านติดๆ แล้วก็หยุดเดินตามลูกชายที่ 3 คนนั้นยืนดูรถเก๋งขับออกจากบ้านไป


“นั่นเขตเค้าจะไปไหนกัน” ภัครพิชัยเอ่ยถามจากทั้ง 3 คน


“เมื่อครู่คุณเขตบอกว่าจะไปวังฉัตรอรุณครับคุณชาย”


“อะไรนะ เจ้าเขตจะไปวัง  เรื่องใหญ่แน่ ขอแค่ไม่ไปทำเรื่องวุ่นวายหรอกนะ”


“ผมก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นครับคุณชาย”








      ที่มหาวิทยาลัย ช่วงท้ายเทอม 1 ทางชมรมรักษ์สัตว์ได้จัดกิจกรรมทัศนศึกษาครั้งแรกของปีที่ ป่าชายเลนจันทบุรี เป็นเวลา

3 วัน 2 คืน  ฟ้ามอญ เฌอตา ต่อ และอังกอ ก็ร่วมเดินทางครั้งนี้ด้วย พวกเค้าตื่นเต้นกันกับกิจกรรมครั้งนี้มาก เพราะไม่คิดว่าที่

มหาวิทยาลัยจะมีกิจกรรมแบบนี้ด้วย 


   และแล้วรถทัวร์เพียง 1 คันก็พาทุกคนมาถึงเป้าหมาย โดยพวกเค้าจะพักที่ห้องของสถานที่เตรียมไว้ให้  ฟ้ามอญดีใจมากที่ได้

เห็นทะเลแล้ว และมันสวยมากจริงๆ มีหลายคนแถบภาคเหนือที่ยังไม่เคยไปเที่ยวทะเลเลย แม้แต่น้อย  แต่ฟ้ามอญยังคิดว่าเค้า

นั้นโชคดีมากที่ได้มา

   คลื่นทะเลซัดเข้าริมฝั่งในขณะที่ลมทะเลพัดกระทบร่างบางอยู่นานไม่น้อยทีเดียว  ฟ้ามอญเดินเล่นที่ชายหาดก่อนใครเพื่อน ต่อ

มองเห็นฟ้ามอญเลี่ยงตัวออกไปก็ตามไปติดๆ



“นี่  ข้าวของไม่ไปเก็บหรอ” ประโยคแรกที่เค้าถามร่างบางทันที  ฟ้ามอญหันหน้ามามองเจ้าของเสียงก่อนจะตอบกลับคืนไป


“ยังหรอก ดูเพื่อนๆสิ เยอะขนาดนั้น ขี้เกียจไปแย่งเค้า รอให้คนเริ่มทยอยเข้าที่พักก่อนแล้วกัน”


“ฟ้า! ฟ้าชอบทะเลหรอ”


“อืมใช่  ชอบมากๆด้วย และฉันเองก็ไม่มีโอกาสบ่อยๆแบบนี้หรอกนะ อ้อ ที่นี่เค้าเรียกว่าหาดอะไรนะ”


“เค้าเรียกแหลมเสด็จ” ต่อ ตอบคำถามฟ้ามอญ


“อย่างนั้นหรอกหรอ อืม น่าสนใจดีนะ  ว่าแต่นายไม่ไปเก็บของหรอ”


“ก็แฟนไม่ไปเก็บของ แล้วเราจะไปก่อนได้ยังไง” ต่อ พูดลอยๆแต่จงใจให้ฟ้ามอญรับรู้


“แฟน!  แล้วใครกันล่ะ แฟนนาย เดี๋ยวนี้มีแฟนด้วยหรอ” ฟ้ามอญหันมามองร่างหนาที่เดินขนาบข้าง


“ฟ้า!  นี่นายแกล้งหรือว่าไม่รู้จริงๆเนี่ย” ภูวนนท์เริ่มหัวเสียทันที


“ก็… ไม่รู้สิ  มันแปลกๆ”


             ร่างบางพูดพลางหันไปมองทะเลที่ไกลสุดลูกหูลูกตา แทบไม่อยากหันกลับมามองต่อด้วยซ้ำ เพราะเค้าคิดไม่ออกเลยว่าหากหันกลับมาแล้ว ชายร่างสูงข้างๆเค้าจะทำสีหน้ายังไง



“ฟ้า!”


         ร่างหนาใช้มือใหญ่ๆ คว้าแขนฟ้ามอญแล้วดึงให้ร่างบางนั้นหันกลับมาที่เค้า แต่ด้วยแรงที่มีมากไปหน่อย มันทำให้การ

พลิกตัวกลับมาของฟ้ามอญ เสียหลักและเซไปกระแทกร่างหนาๆของเค้าอย่างแรง  และมันแรงพอที่จะทำให้ ต่อ  เสียหลักใน

การรับน้ำหนักตัวของฟ้ามอญเช่นกัน ทั้งสองคนล้มลงไปกองอยู่พื้นทราย โดยมีร่างหนาๆของต่อ รองรับฟ้ามอญไม่ให้เจ็บตัว


   สายตาของหนุ่มทั้งสองมองกัน ราวกับสื่อสารกันได้โดยปราศจากภาษาพูด ฟ้ามอญกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความรักไปโดย

ปริยาย  แรงดึงดูดของ ต่อ มีอิทธิพลมากมายสำหรับร่างบางอย่างมาก ไม่นึกเลยว่าระยะเวลาที่ผ่านมาเพียงไม่ถึง 4 เดือน ความ

ผูกพันของต่อ ที่มีให้กับฟ้ามอญจะมีมากขนาดนี้



“เอ่อ…นาย  ฉันว่าเราควรจะลุกไปเก็บของได้แล้วนะ”


           ฟ้ามอญพูดเสร็จก็รีบลุกขึ้นจากตัวอุ่นๆที่รองรับร่างเค้าไว้ แต่ไม่ง่ายเลยที่จะหลุดพ้นออกไป เพราะตอนนี้ ภูวนนท์ ได้ใช้

สองแขนทรงพลังนั้นกอดรัดตัวเพื่อนหนุ่มเอาไว้แน่น พร้อมกับส่งสายตาของคนได้ชัยชนะอะไรบางอย่าง



“ไม่ให้ไป  กอดนายอยู่ที่พื้นทรายแบบนี้ ก็ดีอยู่นะว่าไหม?”


“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ต่อ”


“ไม่ปล่อย คนอะไรเล่นตัวฉิบหาย จากนี้ไปถ้าพูดไม่ฟัง เราจะไม่ตามตื้อแล้วนะ”


“เอ่อ…” ฟ้ามอญเขินอายกับคำพูดของคนด้านล่างตัวเค้ามาก แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากจะหันหน้าหนีไม่สบตาของเค้า ไม่อย่าง

นั้นหัวใจของเค้าต้องแย่แน่ๆ


“ทำอะๆไรกันน่ะ!”



       เสียงที่คุ้นเคย ฟ้ามอญแทบไม่ต้องหันไปมองเลยด้วยซ้ำ  ร่างบางพยายามลุกออกจากตัวของต่ออีกครั้ง แต่พยายามแค่

ไหนก็ไม่มีผลอะไรเลย มิหนำซ้ำเค้ากอดรัดตัวของร่างบางแน่นกว่าเดิมอีก



“ฉันถามว่าทำอะไรกันอยู่” เสียงนั้นตะโกนเสียงดังแล้วเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ


“อ้าว อังกอ ก็แฟนกันเค้ากำลังกอดกันไงครับ” ต่อ หันไปตอบคำถามอังกอ ที่ตอนนี้อึ้งอยู่ไม่น้อย


“อะไรนะ ทำไมนายทำแบบนี้ล่ะ ไอ้นี่มันมาทีหลังเรานะ ต่อ  นายจะทำแบบนี้กับเราไม่ได้!”


“อะไร!  ทำไมจะทำไม่ได้  ก็ฟ้ามอญเป็นแฟนเราเอง”


“ไม่จริง  นายโกหก  แฟนนายก็คือเรา  เรานี่ไง ต้องเป็นเรา  ไม่ใช่ไอ้หน้าจืดนี่” อังกอตะหวาดเสียงดังกว่าเดิม พร้อมกับเอามือชี้
หน้าฟ้ามอญอย่างจริงจัง


“มันจะมากไปแล้วนะ อังกอ เรากะจะไม่พูดเรื่องนี้แล้วนะ นายควรจะเลิกทำตัวแบบนี้ ใส่ร้ายเราให้ฟ้ามอญเข้าใจเราแบบผิดอีกต่อไปไม่ได้แล้ว”


“เข้าใจผิดหรอ  ไม่จริง เรากำลังทำเพื่อนายอยู่นะต่อ  นายไม่รู้หรือไงว่าฟ้ามอญแค่จะเอาชนะเรา  แต่เราไม่ได้ต้องการแบบนั้น
เรารักนายจากใจจริง รักมานานมาก รักไม่เปลี่ยนแปลงนะต่อ”


“หมายความว่าไงฟ้า  นายแค่คิดจะเอาชนะอังกอหรอ” ต่อ เริ่มไขว้เขว โดยมีสายตาเยาะเย้ยของอังกอที่ยืนมองความแตกหักของทั้งสองคน


“ไม่จริงนะต่อ  จริงๆแล้วฉัน…..ฉัน….”


“ฉันอะไรฟ้า….”


“ฉันรักนาย!” ฟ้ามอญตัดสินใจพูดออกไป เพราะสถานการณ์บังคับ และไม่อยากให้คนที่เค้ารักต้องเสียใจ


“นายว่าไงนะ?” ร่างหนาถามฟ้ามอญอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ  คราวนี้ร่างบางหันมาสบตากับต่อแล้วพูดประโยคนั้นอีกครั้ง


“เรา  รัก  นาย  ”


“เย้!   ในที่สุดนายก็รับรัก ต่อ แล้ว ยินดีด้วยนะ ไอ้เพื่อนหม่อมหลวง”


   อังกอเดินเข้ามายิ้มให้ทั้งสองคน  ทำเอาฟ้ามอญงงไปหมด อังกอมาแสดงความดีใจหมายความยังไงกันแน่ เค้างงไปหมดแล้ว




“นี่มันเรื่องอะไรกันน่ะ ต่อ”




   ต่อยิ้มยักคิ้วให้อังกอ  ก่อนที่อังกอจะหันหลังให้ทั้งสองคนแล้วเดินกลับไปที่พัก ปล่อยให้สองคนนี้เคลียร์กันเองให้เรียบร้อย   

ฟ้ามอญทำสีหน้างุนงงและต้องการคำตอบอย่างมากจากร่างหนาที่เอาแต่ยิ้มให้เค้า





มาต่อแล้วนะ  ต้องขอโทษจริงๆ วันนี้มีแต่ธุระเต็มไปหมด  แต่ก็ยังดีกว่าไม่มาต่อตามสัญญาเนาะ  เอาครึ่งแรกไปก่อนส่วนครึ่งหลังจะตามมาน้า   อย่าเพิ่งโกรธเค้าน้า ผู้อ่านทุกคน รักเธอเหลือเกิน  :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ต้มซะเปื่อยเลย

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
ตกลงอังกอร่วมมือกับต่อหรอ? :katai1:

ออฟไลน์ loveice

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
19.2




     ฟ้ามอญรีบลุกออกจากร่างหนาอย่างรวดเร็ว แล้วรีบเดินตามอังกอไป  ฟ้ามอญงุนงงกับคำพูดของคนที่คิดว่าเป็นศัตรูกับเค้า

มานานแสนนาน แต่ทำไมวันนี้มันกลับตาละปัด ไปหมด


“เดี๋ยว นาย!” ฟ้ามอญเดินเข้าไปดึงแขนไว้ทัน


“อะไรของนายอีกล่ะ ฟ้ามอญ  หมดเวลาที่ฉันจะรังควานนายแล้วนะ” อังกอยิ้มให้กับคนตรงหน้า


“หมดเวลา หมายความว่ายังไง บอกฉันมานะอังกอ เรื่องนี้ไม่ตลกซักนิดเลยนะ”


“ใช่ มันไม่ตลก  ต่อ เค้ารักนายจริงๆ แต่นายปากแข็งเอง ฉันก็จนปัญญา  พอมีอะไรจะช่วยได้ฉันก็ช่วย”


“นี่พวกนายสองคนหลอกฉัน”


“ผิดแล้ว ฟ้ามอญ ฉันกับต่อไม่ได้หลอกนาย แต่นายต่างหากที่กำลังหลอกตัวเอง เข้าใจใหม่นะ”


“ฉันไม่เข้าใจ!”


“ต่อ เค้ารู้มานานพอสมควรแล้ว ว่านายก็ชอบต่อเค้าเหมือนกัน  แต่ดูเหมือน ต่อ เค้าจะรุกนายฝ่ายเดียวมันไม่ไหวหรอกนะ เลย
มาขอร้องฉันนี่ไง”


“แล้วนี่…นายไม่ได้ชอบต่อหรอ”


“ชอบสิ  ทำไมจะไม่ชอบล่ะ  แต่นิสัยฉันจริงๆแล้ว ไมได้โหดร้ายกับใครหรอกนะ  ที่นายเห็นไปทั้งหมดเป็นเพียงความต้องการ
ของ ต่อ  เท่านั้นเอง”


“ต่อ?  วันนี้ยาวแน่…” ฟ้ามอญรู้สึกหมั่นไส้ชายหนุ่มร่างหนาขึ้นมาทันที


“เดี๋ยว อย่าไปโทษต่อเลย  ต่อเค้าน่าสงสารออก กว่าจะรู้ว่านายคิดอะไรกับเค้า  เค้าต้องทำตั้งหลายสิ่งหลายอย่าง ฉันเองก็ช่วย
คิดทุกวิถีทางจนจะแย่อยู่แล้ว   ตอนนี้นายก็ดีแล้วนี่ รู้หัวใจตัวเอง และมีคนที่ดีๆอย่างหม่อมหลวงภูวนนท์ ธำรงอาภรณ์นิช ชอบและเป็นห่วงนาย”


“เอ่อ…”


“ให้โอกาสเพื่อนชายคนนี้ของฉันสักครั้งนะ  ฉันเห็นเค้ามาตั้งแต่มัธยมต้น เค้าเป็นคนที่สุภาพบุรุษมากๆ และที่สำคัญเค้าเลือกนาย ไม่ใช่ฉัน  ”


“ขอบใจนะ อังกอ”


“ไม่หรอก ฉันเองต่างหากที่ต้องขอโทษนาย แกล้งนายสารพัด ทั้งๆที่ไม่อยากจะทำเท่าไหร่ แต่ฉันเห็นว่ามันเป็นการณ์ดี ที่จะ
ทำให้พวกนายสองคนรู้ใจตัวเองมากขึ้น”


“ฉันไม่โกรธนายหรอก  เออแล้วนี่ นายได้ห้องพักยัง ถ้ายังไม่ได้ ก็มานอนกับฉันได้นะ  ไม่อยากอยู่ร่วมห้องสองคนกับไอ้คนเจ้า
เล่ห์”


“ฮ่าๆ นายนี่ก็แสบไม่เบานะ  ห้องพักไม่ต้องห่วงฉันได้แล้ว คงไม่ได้ไปพักด้วยหรอก ฉันขอตัวก่อนนะ ยังมีเสื้อผ้าอีกมากมายที่
ยังไม่ได้เอาเข้าตู้  กิจกรรมมีถึง 3 วัน ฉันคิดว่าจะหาเวลาตรงนี้ ทำใจหลายๆเรื่อง”


“เอาน่าอังกอ นายเป็นคนดี สักวันนายจะได้ดี เจอคนที่ใช่ และเฝ้ารอมานานนะ”


“อืม แล้วเจอกันตอนเที่ยง”


“โอเค”


“คุยอะไรกันตั้งนาน หวังว่าไม่ตบกันไปฉาดหนึ่งแล้วนะ”


“บ้าป่ะนาย  ใครจะไปทำแบบนั้น  แต่ก็อย่างว่านะ  ถ้าฉันจะตบจริงๆ ในตอนนี้คือนายนั่นแหละ นายต่อ”


“เฮ้ย ทำไมโหดร้ายแบบนี้ ไม่เอานะฟ้า ”


“จะหนีไปไหนมานี่เลย ตัวแสบ  หลอกเราหรอ ตายแน่ หนีวิ่งหนีนะ มาให้จับซะดีๆ”


          ต่อวิ่งหนีฟ้ามอญสุดฤทธิ์ ท่ามกลางทรายและคลื่นของทะเลที่ซัดเข้าฝั่ง มันเป็นภาพที่งดงามและน่าจดจำมากๆ ท้องฟ้า

ที่แจ่มใสผสมผสานกับสีของทะเลนั้นกำลังกระซิบบอกถึงจุดสิ้นสุดของความวุ่นวายระหว่างต่อและฟ้ามอญลงแล้ว จะไม่มีใคร

และไม่มีเหตุการณ์ใดมาทำให้พวกเค้าต้องเข้าใจผิดหรือมีเหตุการณ์ทะเลาะ และไม่เข้าใจกันอีกต่อไป






           พันเอกทหารหนุ่มขับรถมาเองจนถึงหน้าประตูทางเข้าวังฉัตรอรุณ  เค้าบีบแตรรถดัง 2  3 ครั้งยามเฝ้าประตู 3 คนก็วิ่งกรูออกมาดูทันที


“คุณๆ ห้ามบีบแตรรถนะครับ  ที่นี่เป็นที่ประทับของโอรส ธิดา และชายาของพระองค์เจ้าฉัตรอรุณ ”


“ผมรู้ครับ แล้วตอนนี้ผมมารับ น้ำ  แฟนผมกลับบ้าน”


“น้ำไหนครับ  ถ้าหมายถึง หม่อมเจ้านทีพิสุทธิ์ แล้วละก็  ผมคงให้คุณเข้าไปไมได้หรอกนะครับ”


“ฉันไม่ได้ต้องการมาหาหม่อมเจ้านทีพิสุทธิ์  แต่ฉันมาหา น้ำ ชายธรรมดาๆ แค่นั้น”


“ถ้าอย่างนั้นคุณกลับไปเถอะ เพราะวันนี้ทั้งวันไม่มีคนชื่อนี้มาที่วังแห่งนี้เลย  จะมีก็แต่โอรสองค์ที่ 3 ที่หม่อมเจ้าชยาดลและ
หม่อมรุ้งพราว ไปรับพระองค์กลับวัง หลังจากหายสาบสูญไป 20 ปี”


“ไม่จริง?  ถ้าอย่างนั้นฉันต้องการเข้าพบหม่อมเจ้าชยาดล จะได้ไหม”



   บทสนทนากันจบลงไปได้สักพัก ก็มีขบวนรถ 3 คันกำลังขับออกมาจากด้านในวังฉัตรอรุณ  เขตมองดูคนในรถข้างในอย่างใจจด

ใจจ่อ  แต่ในรถมืดสนิท แทบมองอะไรไม่เห็น   และขบวนรถจอดสนิททันทีขนาบข้างรถของเขต พร้อมกับกดกระจกลง


“คนคนนี้เป็นใคร?” คนขับรถที่เพิ่งลดกระจกลงถามยามเฝ้าประตู


“ไม่รู้ครับ เห็นบอกว่ามาพบ ผู้ชายชื่อน้ำ”
   

“มีอะไรหรอ ทำไมจอดรถ”


“เปล่ากระหม่อม  พอดีเห็นรถข้างๆเค้าต้องการมาพบคนที่ชื่อน้ำ กระหม่อมคิดว่าเค้าอาจจะจำผิดบ้าน”


“น้ำหรอ  เอ๊ะหรือว่าเค้าจะมาหา น้ำ  เดี๋ยวฉันจะลงไปคุยกับเค้าเอง”


“ท่านชายทรงรอสักครู่ กระหม่อมจะลงไปเปิดประตูให้”







   หม่อมเจ้าชยาดลลงจากรถแล้วตรงไปที่รถคันดังกล่าวทันที  ประจวบเหมาะกับเขตเห็นท่านชายพอดี ก็รีบเปิดประตูรถลงมาแล้ว

โค้งคำนับ  ท่านชายเองพอรู้ว่าเป็นใครก็ดีใจ  เพราะไม่คิดว่าจะได้เจอกับเขตอีก


“นายเองหรอเขต  มาทำไม่ไม่บอกฉัน ฉันจะได้ให้ยามพาเข้าไป”


“ไม่เป็นไรกระหม่อม พอดีเพียงแค่แวะมาดูว่า น้ำ มาที่นี่หรือเปล่า”


“อ้อ  นายคงรู้แล้วสินะ  น้ำ เป็นน้องชายของฉันเอง ขอบใจนายและครอบครัวนายมากนะ ที่ดูแลน้ำเป็นอย่างดี”


“หมายความว่า น้ำเป็น หม่อมเจ้านทีพิสุทธิ์จริงๆหรอครับ”


“ใช่แล้ว  แล้วนี่นายเป็นอะไรหรือเปล่า เขต  ดูหน้าตาไม่ดีเลย”


“ปะ…เปล่า กระหม่อม  ถ้าอย่างนั้นกระหม่อมขอตัวก่อน ไว้วันหลังจะมาหาท่านชายใหม่ กระหม่อมทูลลา”


“ที่นี่ยินดีเสมอนะเขต  น้ำ ก็พึมพำถึงนายพอดีเลย ”


“อย่างนั้นหรอกระหม่อม”


     เขตฝืนยิ้มตอบรับท่านชายดลอย่างยากเย็นแสนเข็ญ  ในตอนนี้เค้าเหมือนกับคนที่ไร้หัวใจไปเสียแล้ว น้ำเป็นถึงหม่อมเจ้า

ราชนิกุลแห่งไกลเกียรติขจรกุล เขตมองไม่เห็นหนทางที่คิดเอาไว้อีกแล้ว ต่อไปนี้เค้าคงไม่ต้องมาพบพระพักตร์ของท่านชายน้ำ

อีกต่อไปแล้ว


“แล้วนี่ ได้ข่าวนายจะได้เลื่อนยศเป็น พลตรี ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว ยินดีล่วงหน้านะ”


“ขอบพระทัยท่านชาย  ”


“แล้วนี่ ผู้บังคับบัญชาการเค้าจะย้ายนายไปทำงานที่อื่นหรือเปล่า”


“ย้าย กระหม่อม  ไปที่แถบภาคเหนือเร็วๆนี้กระหม่อม”


“อย่างนั้นหรอ แย่จริงๆ เรื่องนี้คงต้องไปบอกน้ำเสียแล้ว”


“อย่าไปบอกท่านชายน้ำ กระหม่อมขอร้องพระองค์ กระหม่อมไม่อยากให้ท่านชายน้ำทรงคิดมาก”


“อย่างนั้นหรอ ก็ได้  แต่นายต้องสัญญานะว่าจะกลับมาหาน้ำ น้องชายของฉัน”


“เอ่อ…กระหม่อม  กระหม่อมคิดว่าคงไม่อีกแล้ว ฝากท่านชายน้ำไว้กับท่านชายด้วยนะกระหม่อม  กระหม่อมคงต้องไปแล้วจริงๆ
วันนี้มีงานที่กองทัพด้วย กระหม่อมทูลลาอีกครั้ง”


“โชคดี เขต  พลตรีหม่อมหลวงภูธเนศ ชื่อนี้ฉันจะจดจำเอาไว้ ”


           เขตยิ้มให้กับท่านชายดลแล้วขึ้นรถขับออกไปยังถนนใหญ่ทันที  ร่างหนาขับรถด้วยความเร็วสูงและมีน้ำใสๆไหลนอง
เป็นสายไม่หยุด


“ไม่ร้องไห้นะ ไอ้เขต  แกมันเป็นแค่ทหาร อย่าคิดอะไรไปมากกว่านี้ น้ำเค้าไปไกลเกินกว่าที่แกจะมาเพ้อเจ้อนะ”


       เขตบอกตัวเอง แต่น้ำตาเจ้ากรรมยิ่งไหลไปใหญ่ เขตตีไฟเลี้ยวซ้ายจอกรถข้างถนนทันที เพราะขืนขับต่อในสภาพแบบนี้เห็นทีคงจะแย่ได้





“น้ำ  ทำไมต้องเป็นแบบนี้ สวรรค์กลั่นแกล้งผม  ทำไมต้องเป็นแบบนี้!” เขตร้องไห้หนักมากขึ้นเรื่อยๆจนแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว







   ที่วังฉัตรอรุณ  น้ำเข้าพบหม่อมบุหลันผู้เป็นใหญ่ของวัง ตามคำแนะนำของหม่อมรุ้งพราวผู้แสนดีต่อเค้า  ร่างบางเดินเข้าไปใน

เรือนใหญ่  หญิงสูงศักดิ์ดูสง่าสวยงามนั่งพับเพียบดูนิตยาสารอยู่ พร้อมกับขจีที่นั่งพัดให้เธอตลอด


“หม่อมเจ้าขา มีคนเข้ามาเจ้าค่ะ” ขจีรีบบอกทันที


“นังช้อย แกมาใครเข้ามาในเรือนของฉัน” หม่อมบุหลันถามช้อยผู้ที่พาน้ำเข้ามาทันที


“นี่คือ หม่อมเจ้านทีพิสุทธิ์ พระองค์มาขอไหว้สาหม่อมบุหลันเจ้าค่ะ”


“สวัสดีครับ” น้ำไหว้หม่อมบุหลันด้วยท่าทีเกรงๆ


   หม่อมบุหลันพนมมือรับไหว้น้ำทันที  เธอมองน้ำด้วยแววตาวิเคราะห์ตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วค่อยลุกขึ้นจากโต๊ะไม้นั้น


“เหมือนจริงๆ  เหมือนหม่อมพิมล แม่ของเธอไม่มีผิด ฉันจำได้” หม่อมบุหลันรำพรรณเบาๆ


“นี่นะหรอเจ้าคะ หม่อมเจ้านทีพิสุทธิ์ ขจีว่าทรงน่ารักดีนะเจ้าขา”


“อีขจี!” หม่อมบุหลันหันไปตะวาดสาวใช้คนสนิททันที


“เจ้าค่ะๆ ไม่พูดแล้วเจ้าค่ะ” ขจีสีหน้าหงอยไป


“ไหนๆก็เจอตัวแล้ว ไม่นึกว่าเธอจะดูดี มีราศี อันที่จริงวังแห่งนี้ยินดีต้อนรับพระโอรสและพระธิดาของเสด็จพี่อยู่แล้ว คราวหลังไม่
ต้องมากพิธีนะ  แล้วนี่เป็นอะไรไป ยืนตัวเกร็งเชียว ” หม่อมบุหลันถามน้ำด้วยน้ำเสียงอยากรู้


“ปะ…เปล่าครับ  ผมเพียงแค่ได้ยินมาว่า หม่อมบุหลันนั้นอารมณ์ร้อนและน่ากลัวมาก ผมเลย…”


“ใครกันที่พูดแบบนี้ มันน่าเอาหวายลงหลังให้หมด ฉันไมได้โหดร้าย แต่ฉันกำลังกระจายอำนาจ ไม่อย่างนั้นอ้ายอีพวกนี้ก็ฮึกเหิม
ไปกันใหญ่  แล้วเธอเชื่อพวกคนใช้พวกนี้สินะ” หม่อมบุหลันย้อนถามน้ำ


“ไม่หรอกครับ ผมว่า หม่อมบุหลันดูน่าเคารพ สุขุม น่าเกรงขามครับ”


“ฮึๆ  ได้ยินแล้วใช่ไหมอ้ายอีทั้งหลาย พวกแกหาว่าข้าใจยักษ์ใจมาร จริงอยู่ที่ฉันร้าย  แต่ฉันก็เลือกไม่ร้ายกับใครก็ได้”


   หม่อมบุหลันเธอพูดอย่างมีเลศนัยน์ ทำเองสาวใช้คนเก่าแก่ หลายคนในเรือนได้ยินถึงกับผวาไปตามๆกัน แต่ไม่มีใครกล้าพูด

อะไรออกมาแม้แต่คำเดียว



“ฉัน เอ็นดูเด็กคนนี้ ขจี ไปหาน้ำหาขนมหวานมาให้ท่านชายเสวย เดี๋ยวนี้ไป!”


“เจ้าค่ะๆๆ ไปเดี๋ยวนี้แหละเจ้าค่ะ”


“เอ่อ…ไม่เป็นไรครับ ผมอิ่มแล้ว”


“อย่าถือเลยนะ ฉันเอ็นดูเธอจริงๆ  ไหนๆลองเรียกฉันว่า หม่อมป้าสิ”


“หม่อมป้า!”


“ดี  อย่างนั้นแหละ”


   หม่อมบุหลันยิ้มอย่างพอใจ ช้อยมองท่าทางของหม่อมบุหลันที่ยากเกินกว่าจะวางใจ เพราะเธอนั้นเป็นอรพิษตัวจริงที่ใครก็รู้กัน

ทั้งนั้นแต่ไม่มีใครกล้าพูดออกมาเท่านั้นเอง แล้วนี่เธอจะมาไม้ไหนอีก ยากที่จะเดาได้  แต่ถ้าหากเธอพูดตามที่เธอว่าไว้ ก็

เป็นการดีของท่านชายน้ำ





มาต่อแล้วนะ  ต่อกันไปทีละครึ่งตอน เฮ้อ ช่วงนี้ไม่ทันจริงๆ  ต้องขอโทษด้วยนะ คุณผู้อ่าน แต่ไม่ต้องรีบร้อนไปนะ อีก 5 ตอนที่เหลือ  จบบริบูรณ์แน่นอน  ถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง ปล่อยให้เป็นไปตามเรื่องราวที่ผู้แต่งได้วางไว้นะ  อย่าหลั่งน้ำตามากไปไม่ดีนะจ้าาา  :hao5: :hao5: :hao5:

ตอนที่เหลือไม่กล้านัดวันที่เป๊ะๆแล้ว  เอาไว้ถ้าแต่งเสร็จเมื่อไหร่อัพเมื่อนั้น แต่ไม่นานเกิน 2 สัปดาห์หลังจากนี้ จบแน่นอน น้า
าา  :hao7: :hao7: :hao7: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
จบเร็วเหมือนกันนะเนี่ย

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โธ่ คุณเขตอย่าเพิ่งรีบตัดใจซิค่ะ สู้เพื่อรักของเราก่อนซิค่ะ ยังไม่ได้สู้เลยยอมแพ้ซะแล้ว

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
หม่อมบุหลันมีแผนอะไรน้อออ :katai1:

ออฟไลน์ loveice

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตอนที่ 20.1



    เพียงไม่กี่นาที ขนมไทยต่างๆก็ถูกยกมาไว้ที่โต๊ะไม้ตรงหน้าน้ำ  ช้อยมองดูขนมที่อยู่ตรงหน้านั้นด้วยความระแวง เพราะไม่รู้ว่าจะ

มียาพิษหรือเปล่า คนแบบหม่อมบุหลัน ไม่คิดแง่ลบแล้วจะให้ช้อยคิดในแง่บวกได้อย่างไร



“เสวยสิ ท่านชาย ขนมพวกนี้อร่อยมากเลยนะ ไม่หวานมากด้วย” หม่อมบุหลันอ้างรสชาติให้น้ำฟัง


“ไม่ดีกว่าครับ พอดีผมยังไม่หิวเลย ต้องขอโทษหม่อมบุหลันด้วยนะครับ”


“ไม่เป็นไร ไม่เสวยก็ไม่เป็นไร แล้วนี่ไปอยู่กับชื่นและเวทมานาน ลำบากมากสินะ” หม่อมบุหลันยิ้มเยาะ


“เปล่าเลยครับ แม่ชื่นกับพ่อเวท ให้ความอบอุ่นผมดีมากครับ”


“อย่างนั้นสินะ  อ้อ  แล้วเคยพบหม่อมเจ้าหญิงรัมภาพรรณลูกสาวฉันแล้วหรือยังท่านชาย”


“ยังเลยครับ  นี่ผมมีพี่สาวอีกคนหนึ่งหรอครับ”


“จะว่าอย่างนั้นก็ถูกนะ ท่านชายน้ำ  แต่ท่านหญิงรัมภาพรรณ อายุห่างจากท่านชายเกือบ 15 ปี  อย่าริเรียกชื่อเล่นส่งเดช” หม่อม
บุหลันตำหนิน้ำด้วยน้ำเสียง


“ขอโทษครับ”


“เอาล่ะๆ เรื่องของวัง อาจจะยุ่งยากไปหน่อย แต่อยู่ไปเรื่อยๆเดียวก็ชิน ฮึฮึ” หม่อมบุหลันหัวเราะเย้ย ช้อยเห็นท่าทีไม่น่าจะดีเสีย
แล้ว ไม่อยากจะให้น้ำอยู่ต่อที่นี่นานกว่านี้


“ท่านชาย เสด็จกลับเรือนของหม่อมรุ้งพราวเถอะเพคะ”


“ท่านชายเพิ่งจะมา ทำไมถึงรีบร้อนนักเล่า หรือว่าเอ็งไม่ไว้ใจข้า นังช้อย ฮึฮึฮึ” หม่อมบุหลันยิ้มเยาะเย้ยอีกครั้ง


“จริงๆผมคงต้องรีบกลับจริงๆแหละครับ เพราะหม่อมรุ้งพราวจะพาผมไปที่วังทิพย์”


“วังทิพย์?   ไปกันทำไมที่วังทิพย์ มีธุระการณ์ใด ”


“พระอัยยิกา ของท่านชายน้ำ ทรงอยากเห็นพระพักตร์ของท่านชาย องค์เล็กอย่างไรล่ะเจ้าคะ หรือว่าหม่อมบุหลันจะไป”


“อีช้อย อย่ามาเล่นคำแบบนี้อีกนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะลงหวายแก ให้เจ้านายเรือนโน้นแกดู ”


“ดูมันสิเจ้าคะ หม่อมบุหลัน โดนด่าขนาดนี้ยังนั่งนิ่งอย่างกับตอไม้  ” ขจีไม่ชอบช้อยแต่ไหนแต่ไรแล้ว พลางแต่จะยุแยงให้หม่อม
บุหลันลงโทษช้อยสักครั้งเพื่อความสะใจ


“ผมลาแล้วนะครับ หม่อมบุหลัน ไว้ว่างๆผมจะมาหาใหม่”


      น้ำทำลายสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะดีด้วยการออกไปจากที่เรือนใหญ่จะดีกว่า  หม่อมบุหลันเชิดหน้าไปมองอื่นเพราะเธอได้

แต่พูดไปเท่านั้น หากแต่ไม่มีเหตุผลเพียงพอการลงโทษคนรับใช้นอกเรือนใหญ่ มันไม่ใช่เรื่องง่าย


“อ้าว  หม่อมเจ้าขา ท่านชายกับอีช้อย ไปแล้วนะเจ้าคะ ไม่จัดการหรอเจ้าคะ?”


“อีโง่  ถ้าทำอะไรไปโดยพละการ มีหวังหม่อมรุ้งพราวเอาความไปบอก พระอัยยิกาสำเภางาม จะว่ายังไง”


“จริงด้วยเจ้าค่ะ ไม่ยุ่งดีกว่านะเจ้าคะ”


“ไม่ต้องรีบร้อนหรอกขจี  เมื่อใดที่มันตกต่ำ หรือทำอะไรที่งามหน้า เมื่อนี้แหละ ฉันจะเหยียบให้จมดิน ให้เหมือนๆกับที่แม่มัน
แย่งเสด็จพี่ไปจากฉัน”



   แววตาอำมหิตดวงนั้น เปลวเพลิงลุกโชนอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนาน 20 ปีทีเดียว หม่อมบุหลันฝังใจเจ็บแค้นที่ หม่อมพิมล

ต้องพรากความเอาใจใส่และความสนใจของเสด็จพระองค์ชายไปจากเธอ ด้วยเหตุผลนี้เพียงเหตุผลเดียวทำให้เธอต้องเป็นแบบ

นี้ เพราะอะไรนะหรอเพราะอำนาจอย่างไรล่ะ ที่เธออยากได้ครอบครอง แต่เธอก็ดันมามีลุกสาวอีก เทียบไม่ได้กับหม่อมอีกสอง

คนที่มีโอรสให้พระองค์เจ้าฉัตรอรุณ




   รถ 3 คันขับนำทางไปยังวังทิพย์  วังที่นี่เก่าแก่มาก ดูจากสถาปัตยกรรมของวังแล้ว ดูท่าน่าจะไม่มีการทำลายหรือทำลายน้อย

มาก คนมากมายเดินไปมาในวัง น้ำให้ความสนใจมาก เพราะไม่คิดว่าวังของพระอัยยิกาหรือคนทั่วไปจะเรียกว่าคุณย่า  จะ

สวยงามขนาดนี้ ต้นไม้ต้นใหญ่ คาดว่าอายุย่าจะพอๆกับวังแห่งนี้ร่มรื่น น่าอยู่มาก



“มองไม่คาดสายตาเลยนะ ท่านชาย  ชอบไหมเพคะ”


“ชอบมากๆเลยครับ หม่อมป้า  ผมตื่นเต้นจังเลย” น้ำหันไปบอกหม่อมรุ้งพราวด้วยความตื่นเต้น


“โน่นวังไม้เรือนใหญ่ข้างหน้า จะถึงแล้ว  จำที่ฉันสอนเธอได้ไหมท่านชาย” หม่อมรุ้งพราวถามความพร้อมของน้ำ


“จำได้ครับ ว่าต้องกราบเสด็จย่า แล้วทำตัวให้เรียบร้อยที่สุดและเป็นธรรมชาติ กล่าววาจาเฉพาะสิ่งที่พระองค์ต้องการครับ”


“ดีมากเพคะ ท่านชาย”

“ว่าแต่ที่นี่เสด็จย่าทรงประทับที่นี่พระองค์เดียวหรอครับ”


“เปล่าหรอก  เสด็จย่าท่านมีพระโอรส พระธิดา 4 พระองค์ หนึ่งในนั้นคือ พระองค์เจ้าฉัตรอรุณ เสด็จพ่อของท่านชายไงเพคะ”
หม่อมรุ้งพราวยิ้มให้น้ำอย่างเป็นกันเอง

“แสดงว่าผมมีพี่น้องหม่อมเจ้าด้วยกันเยอะเลยสิครับ”


“ก็เยอะ  เอาเป็นว่าค่อยๆจำแล้วกันนะ  แต่จริงๆที่นี่ตอนนี้ก็จะมีแต่ เสด็จลุงที่ทรงประทับที่นี่ดูแลพระอัยยิกา”


“อ่อครับผม”


“รถจอดให้แล้ว  เรารีบลงไปกันเถอะ”


        หม่อมรุ้งพราวลงจากรถเดินนำน้ำเข้าไปในวังที่มีคนรับใช้ยืนรอที่หน้าบันไดขนาดใหญ่ นับสิบคน ทุกคนที่นี่ใบหน้ายิ้มแย้ม

เบิกบาน  น้ำรู้สึกไม่กดดันเท่าไหร่  ภายในวังที่นี่สวยงาม  น้ำคิดว่าเค้าฝันไปจริงๆกับสิ่งที่ได้รับรู้ได้เข้ามาเห็น  มันยากเกินกว่าที่

จะอธิบายได้  น้ำมองไปด้านหน้า เป็นโต๊ะไม้ใหญ่และมีร่างของหญิงชรา เธอยังดูหน้าเกรงขามและน่าเคารพ ด้านข้างก็มีชาย

หนุ่มใส่ชุดธรรมดาๆ ใบหน้ายิ้มให้น้ำอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว


   ร่างบางไม่รีรอที่จะคุกเข่าและคลานๆใกล้ๆหญิงชราตรงหน้า เรื่อยๆพอถึงระยะที่เหมาะสม น้ำก็นั่งพับเพียบและก้มลงกราบไม่

แบมือหนึ่งทีก่อนจะลุกขึ้นมานั่งในท่าพับเพียบ


“น่ารักมากจริงๆ เหมือนหม่อมพิมลไม่มีผิด แววตาเหมือนฉัตรอรุณพ่อของเธอไม่มีผิด”


    หญิงชรากล่าวคำพูดที่สั่นคลอนตามประสาคนแก่ชราทั่วไป น้ำมองพระพักตร์เสด็จย่าด้วยความปราบปลื้ม ที่ได้พบได้เห็นย่า

เหมือนคนอื่นๆที่เค้ามีกัน น้ำน้ำตาคลอทั้งๆที่เค้าไม่ได้เสียใจ แต่มันก็หลั่งออกมาได้


“ดูสิ น้ำตาไหลแล้ว  ลุกมานั่งข้างๆย่านี่มาลูกมา  ”พระอัยยิกาตรัสกับน้ำที่ค่อยๆลุกขึ้นไปนั่งข้างๆ


“20 ปีมานี้ คงลำบากมาก ได้ข่าวว่าไม่ได้เรียนหนังสือต่อ ย่าเองก็ตกใจ แต่ไม่เป็นไร การศึกษาไม่แก่วัยเกินกว่าเรียนหรอกนะ”


“ขอบพระทัยพระอัยยิกาที่ทรงเมตตา”


“พระอัยยิกา อะไรกัน เรียกว่าคุณย่าสิ ”


“ครับ คุณย่า”


“เหอะๆ น่ารักจริงๆ หม่อมรุ้งพราวไปหาตัวหลานชายคนเล็กของฉันได้ยังไงกัน เก่งจริงๆ ”


“เป็นความบังเอิญมากกว่าเพคะ แต่เกล้าหม่อมฉันรู้สึกดีใจที่หาตัวท่านชายจนเจอ ”


“อืมๆ ดีๆ วังนี้หลานคนอื่นๆก็แยกตัวออกไปมีครอบครัวกันหมดแล้ว บางคนก็ออกจากฐานันดร เพื่อแต่งงานกับชายที่ตัวเองรัก 
เอ๊ะว่าแต่หลานย่าคนนี้มีคนรักแล้วหรือยัง”


“เกล้าหม่อมฉัน… เอ่อ…”


“ฮ่าๆ อึกอักอย่างนี้ย่าว่า ไม่รอดหรอก มีแล้วสินะ”


“พะยะค่ะ”


“นั่นไง แล้วคนคนนั้นเป็นใครกันล่ะ บอกย่าได้ไหม”


“เกล้าหม่อมฉันคิดว่าเค้าคงจะไม่ชอบเกล้าหม่อมฉันแล้วล่ะพะยะค่ะ ”


“เลิกพูดคำราชาศัพท์เวลาอยู่กับย่าและคนในครอบครัวเราเอง ไหนบอกย่าใหม่สิทำไมถึงคิดแบบนั้น”


“ในตอนนั้น ผมยังไม่ใช่หม่อมเจ้า เค้ารักและเอ็นดูผมในนามของคนรับใช้ธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น แล้วเราก็เปลี่ยนผันมาเป็นพี่
น้องที่รู้ใจกันมากขึ้นๆ  และจนถึงวันนี้ผมยังไมได้เจอคนคนนั้นเลยครับ”


“ใครกันคนคนนั้น ”


“พันเอกหม่อมหลวงภูธเนศ ธำรงอาภรณ์นิช ครับ”


            น้ำกลั่นใจตอบไปเพราะไม่อยากโกหกตัวเองอีกต่อไป  ท่ามกลางห้องโถงขนาดใหม่ ทุกคนต่างพากันอึ้งไปหมด  มีก็

เพียงแต่พระองค์เจ้าสำเภางามที่ไมได้อึ้งไปด้วย



“ปู่ของคนที่หลานกล่าวถึง เค้าเป็นหม่อมเจ้าและเคยเป็นเพื่อนเล่นกับย่าสมัยยังเด็ก ย่ารู้จักดีเลยแหละ เอาเถอะ ความรักไม่มีขีด

จำกัด ย่าไม่ได้ห้ามอะไร ได้ข่าวมาว่า หม่อมหลวงคนนี้ก็นิสัยดี เอางานเอาการ เห็นทีหลานย่าคงจะตกข่าว ตอนนี้ต้องเรียกเค้า

ใหม่แล้วนะ เพราะตอนนี้เค้าคืนพลตรีหม่อมหลวงภูธเนศ ต่างหาก และตอนนี้ เค้ากำลังจะไปรับตำแหน่งและรับราชการที่ทาง

ภาคเหนือในวันนี้แล้ว”


“อะไรนะครับ”


“นี่ไม่มีใครบอกหลานของย่าหรอ”


“ไม่นี่ครับ พี่เขตไมได้บอก”


“ตายจริง จะทันไม่ไหมนะ หม่อมรุ้งพราว ให้คนของเธอพาหลานของฉันไปที่บ้านธำรงอานิชเดี๋ยวนี้”


“เพคะ พระอัยยิกา”


“รีบไปเถอะหลานรักของย่า ไปหาความรัก ก่อนที่ภูธเนศจะหมดหวัง จะเขยจ้าว ใครๆก็หวั่นวิตกทั้งนั้น ฝากไปบอกเค้าว่า ย่าไม่
ขัด ”


“ขอบพระทัยพระอัยยิกา” น้ำรีบลงจากโต๊ะไม้ขนาดใหญ่แล้วกราบลงที่เท้าของพระองค์เจ้าสำเภางามก่อนจะรีบขึ้นรถไป


“หม่อมรุ้งพราว ไม่ต้องตามไป  ให้หลานชายของฉันจัดการเอง” พระอัยยิกาทรงเห็นว่าหม่อมรุ้งพราวจะตามไปด้วย ก็ได้ห้ามไว้


“เพคะ” หม่อมรุ้งพราวขานรับแต่ก็ยังคงหันหน้าไปมองตามหลังน้ำอยู่ดี







ที่บ้านธำรงอาภรณ์นิช


   พลตรีหนุ่มไฟแรงกำลังนั่งเก็บข้าวของที่พอจะเอาไปใช้ได้ในกองทัพแห่งใหม่แถบภาคเหนือ เค้าเก็บของไปก็คิดถึงใบหน้าของ

น้ำ เด็กหนุ่มที่แสนน่ารักแต่เค้าก็ทำลายแต่กลั่นแกล้งสารพัด ไม่มีชิ้นดี สุดท้ายปลายทางของน้ำก็ไม่ต่างจากลูกเป็ดชี้เหร่เลย

แม้แต่น้อย


“ลาก่อนนะ พญาหงส์ของพี่” เขตรำพันคนเดียวกับรูปถ่ายที่เค้าแอบถ่ายน้ำเอาไว้นานแล้ว




   น้ำมาถึงที่บ้านพอและได้ยินในประโยคที่เขตพูดขึ้นก็ตกใจและน้ำตามันก็คลอเบ้า




“คุณเขต คุณจะไปไหนไมได้นะ” ร่างบางพูดพร้อมกับหลั่งน้ำตา


“น้ำ!” เขตหันหลังกลับมาหาด้วยความตกใจ หนุ่มน้อยร่างบางที่คุ้นเคยตอนนี้เค้าแทบจะโผลเข้ากอด แต่มันไม่ใช่อีกต่อไป



“คุณเขต ทำไมคุณไม่ไปหาผมเลย ปล่อยให้ผมรอ แล้วนี่คุณจะไปไหนอีก” น้ำตัดพ้อเขต  ร่างหนาลุกขึ้นจากเตียง  แล้วคำนับน้ำหนึ่งครั้ง  ยิ่งทำให้น้ำเสียใจยิ่งกว่าเดิม


“ท่านชาย  ท่านไม่ควรเสด็จมาที่นี่อีกนะกระหม่อม”


“คุณเขต!  ได้โปรดอย่าพูดกับผมด้วยถ้อยคำแบบนั้น”


“หามิได้กระหม่อม เรื่องของกระผม มันจบลงแล้ว ได้โปรด  ท่านชายเสด็จกลับวังเถอะ กระหม่อมมีธุระต้องรีบไป”


“ธุระที่คุณเขตว่า คือการจะจากลาผมไปโดยที่ไม่บอกสักคำเลยหรอครับ”


“เปล่านะกระหม่อม กระหม่อมมิได้เจตตาอย่างนั้น เพียงแต่ไม่อยากให้ท่านชายทรงเป็นห่วง”


“คุณเขต ฮือๆ ผมไม่ให้คุณไปไหน..” น้ำร้องไห้ไม่หยุดและอยากเข้าไปกอดเขตมากที่สุด


“อย่าเข้ามานะกระหม่อม ใครเห็นเข้าพระองค์อาจจะเสื่อมเสียชื่อเสียง” เขตกัดฟันพูดทั้งๆที่ในใจแทบขะตายแล้วเหมือนกัน   น้ำ
หยุดเดินทันที และยิ่งร้องไห้หนักมาก


“คุณเขต  คำพูดที่คุณเขตต้องการได้บยินจากปากของผมมาตลอด คุณเขตยังจำได้ไหม”


“กระหม่อมจำได้ แต่ตอนนี้มันคงไม่มีประโยชน์แล้ว  ท่านชายกระหม่อมขอประทานอภัยให้กับความไม่รู้ของกระหม่อมที่ได้ล่วง
เกินทั้งวรกายและพระทัยของท่านชาย  ขอท่านชายลงโทษกระหม่อมด้วย”


“ไม่คุณเขต ไม่มีทาง ผมไม่เคยโกรธหรือคิดอยากเอาคืนเลยนะ คุณเขตได้โปรดยืนขึ้น”


“กระหม่อมจะไม่ยืนจนกว่า ท่านชายจะทรงลงโทษกระหม่อมก่อน”


“ในฐานะที่ผมเป็นหม่อมเจ้านทีพิสุทธิ์ ขอออกคำสั่งให้พลตรีภูธเนศลุกขึ้นเดี๋ยวนี้” น้ำพูดไปก็ปาดน้ำตาไป เขตไม่มีทางเลือก

เพราะเป็นคำสั่งของหม่อมเจ้า เค้าค่อยๆลุกขึ้นและไม่กล้าสบตาน้ำแม้แต่น้อย ไม่อย่างนั้นความอ่อนไหวของเขต จะมีเพิ่มมาก

ขึ้นทันที



“กระหม่อม คงต้องไปแล้ว  ขอท่านชายทรงรักษาพระองค์ด้วย อย่าร้องไห้ให้กับทหารเลวๆอย่างกระหม่อมอีกต่อไปเลย
กระหม่อมทูลลา ”



      เขตกลั่นใจพูดให้จบเพราะไม่อย่างร้องไห้ต่อหน้าน้ำ ให้เค้าเห็นถึงความอ่อนแอ น้ำทรุดลงไปนั่งกับพื้นทันที ด้วยความอ่อน

แรง ความเสียใจที่พรากเค้าไปจากเขตมันมากเกินกว่าที่จะรับไหว ใครจะไปรู้ว่าการรักใครสักคนจากใจจริง เมื่อถึงคราวที่ต้อง

แยกจาก เจอหน้าก็เหมือนไม่รู้จักกันต่อจากนี้ มันเหมือนคนตายทั้งเป็น!





ปล. อิอิ  มาต่อแล้วๆ คำราชาศัพท์พยายามแล้ว ถ้าผิดพลาดขออภัยมากๆๆๆ  เอามาต่อวันละครึ่งๆ  เดี๋ยวก็จบแล้ว  เอาใจช่วยเขตกับท่านชายน้ำด้วยน้าาา   ขอบคุณผู้อ่านทุกคนที่ให้กำลังใจเสมอมาน้าาา

 :hao5: :hao5: :hao5: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
มันก็เข้าใจนะ เขาเป็นเจ้า  แล้วยังเป็นชายทั้งคู่

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ loveice

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตอนที่ 20.2
   


       เขตเดินไปที่รถตู้ที่จอดรถอยู่หน้าบันไดบ้านก่อนหน้านี้แล้ว ความรู้สึกของเค้าตอนนี้มีแต่ความเสียใจแต่ไม่สามารถทำอะไร

ได้ นอกจากเดินจากชีวิตของน้ำไป  และนี่น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้



“สงกรานต์ ขับรถไปส่งฉันที่ดอนเมือง”


“ครับคุณเขต”


   รถตู้คันสีดำขับออกจากรั้วบ้านสีขาวไป ชายที่น้ำรักและรู้สึกอบอุ่นที่สุดกำลังไปจากเค้าแล้ว น้ำตาที่ไหลพรากจากการลาจาก

มันล้นเอ่อไม่ยอมหยุด ร่างบางยืนร้องไห้เกาะขอบหน้าต่างบานใหม่มองดูเขตที่ไม่แม้แต่จะกอดเค้าก่อนลาจากด้วยซ้ำ


   ภัครพิชัยเดินเข้ามาในห้อง ความเห็นใจของเค้ามันมีมาก หากให้ลองคิดดูเค้าเองก็ทำใจยอมรับเรื่องนี้ไมได้ เขตเป็นลูกชายคน

โต ฐานะการงานดี ส่วนน้ำ เด็กหนุ่มที่เค้าเอ็นดูและถูกชะตา นิสัยดีน่ารัก เค้าเองก็รักไม่ต่างกัน จะให้ทำยังไงดี ที่แย่ไปกว่านั้น

คือ คำว่า ราชนิกุล เป็นดั่งโซ่เหล็กที่รัดขังหัวใจของเด็หนุ่มคนนี้อย่างเหนียวแน่น  จะไม่มีใครจะพังมันออกไปได้นอกจากเขต

และน้ำ เค้าสองคนเท่านั้นที่จะทำลายโซ่เหล็กนี้ได้


“ท่านชาย ทูนหัวของกระหม่อม อย่ากรรแสงอีกเลยกระหม่อม ” ภัครพิชัยเดินเข้ามาหาน้ำและกล่าวเบาๆ


“คุณชาย!  คุณเขตเค้าเย็นชากับผมมาก  ผมรั้งเค้าไว้ไม่ได้ ฮือๆ”


   น้ำพูดทั้งน้ำตาแล้วโผลเข้ากอดชายวัยกลางคนที่เค้าเคารพ ภัครพิชัยกอดตอบเพราะเห็นว่านี่น่าจะพอเยียวยาความเสียใจได้


“ฟังกระหม่อมพูดนะท่านชาย ลูกชายของกระหม่อม ทำดีที่สุดแล้ว ท่านชายทรงคิดทบทวนดีๆ เรื่องนี้เรื่องใหญ่ มันเป็นไปไม่ได้

จริงอยู่ที่กระหม่อมอาจจะหวงลูกชาย แต่สำหรับท่านชายแล้ว คุณเขตได้เพชรเม็ดงามที่ทรงคุณค่าที่สุด แต่มันผิดตรงที่ท่านชาย

และลูกชายของกระหม่อมเป็นผู้ชาย ขอทรงไตร่ตรองด้วยกระหม่อม”



“คุณชาย ผมเข้าใจ ผมจะผ่านเวลาอันเลวร้ายนี้ไปให้ได้ ผมสัญญา”


“ดีแล้วท่านชาย เสด็จกลับวังฉัตรอรุณเถอะกระหม่อม ที่โน่นท่านชาย หม่อมรุ้งพราว คงรอท่านชายไปถึง”


“ครับ  คุณชายผมขอแหวนวงนี้ได้ไหมครับ”


   น้ำเดินไปหยิบเอาแหวนธรรมดาๆวงหนึ่งที่วางอยู่บนเตียง สลักด้วยคำว่า น้ำ  ซึ่งเป็นแหวนที่เขตแอบสั่งทำให้น้ำตอนเค้าเข้าโรง

พยาบาล แต่เค้าก็ไม่มีโอกาสได้ให้มันไว้กับเจ้าของ ภัครพิชัยพยักหน้าให้น้ำแล้วเดินออกจากห้องไป



   ร่างบางค่อยๆสวมแหวนวงนี้ที่นิ้วนางด้านขวาเอาไว้ และน้ำตาก็กลั้นไม่อยู่อีกเช่นเคย หากสิ่งที่เขตคิดนั้นจะเป็นทางออกที่ดี

ที่สุด  ถึงวันนี้จะไม่มีเค้าอยู่แต่แหวนวงนี้จะเป็นตัวแทนของเขตตลอดไป












ถัดจากนั้น 5 ปี


   น้ำได้สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีด้านการโรงแรม ตามที่ตั้งใจไว้และมีแดนภพช่วยอีกแรง หลังจากที่ห่างหายไปนาน ถึงทุกๆคน

จะทำให้น้ำลืมเรื่องราวของเขตยังไง แต่เมื่อใดที่น้ำมองดูแหวนวงนี้ก็คิดถึงและไม่ลืมเขตเลย  และที่สำคัญ เขต ไม่ติดต่อกลับ

มาที่บ้านธำรงอาภรณ์นิชเลย


   ที่วังทิพย์ ช่วงนี้น้ำมาหาพระองค์เจ้าสำเภางาม บ่อยๆ เพราะพระองค์ทรงประชวรอยู่บ่อยๆด้วยวัยที่ทรงชราภาพมาก

แล้ว พระองค์ทรงทราบเรื่องของหลานชายคนนี้ดี


“ท่านย่า เกล้าทำต้มจืดใส่ยอดตำลึงและข้าวสวยมาให้ ท่านย่าลองชิมดูนะพะยะค่ะ” น้ำยกเครื่องเสวยมาวางไว้ที่โต๊ะใกล้ๆที่
บรรทม


“หอมมากเลยหลานย่า ฝีมือวันนี้จะอร่อยเหมือนเดิมไหมนะ” หญิงชรายิ้มหน้าบานให้กับน้ำ


“ลองชิมดูนะพะยะค่ะ เกล้าจะป้อนให้”


   น้ำตักหัวไชเท้ากับข้าวสวยพอดีคำป้อนย่าของเค้าด้วยความสุขใจ


“อร่อยมากลูก อร่อยมากจริงๆ นี่ไม่เบื่อบ้างหรือยังไง มาเฝ้ามาดูแลคนแก่อย่างย่าทุกวัน”


“เสด็จย่า ทำไมทรงคิดเช่นนั้นพะยะค่ะ เกล้าหม่อมฉันต้องดูแลเสด็จย่า ช่วยนี้เสด็จย่าประชวรบ่อยๆ เกล้าหม่อมฉันต้องยิ่งเป็น
ห่วงพระองค์มากขึ้นๆนะพะยะค่ะ”


“ย่า มองคนไม่ผิดจริงๆ ”


“เสด็จเพคะ คนที่เสด็จทูลเชิญให้มาเข้าเฝ้า มาแล้วเพคะ”


“อย่างนั้นหรอ บอกเค้าขึ้นมาที่ห้องนอนฉันเลยนะ”


“เพคะ” สาวใช้ชาววังเดินกลับเอาความไปบอก 


   ร่างบางสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าคนนี้เป็นใคร เสด็จย่าถึงได้มีรับสั่งให้เข้าเฝ้าที่ห้องบรรทมขนาดนี้


“เสด็จย่า ไม่ทราบว่าคนที่มาเข้าเฝ้าเป็นใครหรือพะยะค่ะ”


“ย่าบอก ก็ไม่สนุกสิ  รออีกนิดเดียวก็รู้แล้ว”


   น้ำยิ่งทำท่าทีอยากรู้มากขึ้นไปเรื่อยๆจนตอนนี้แทบจะไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว


“เสด็จเพคะ มาแล้วเพคะ”


      หญิงสาวใช้คนเดิมเดินยิ้มเข้ามาบอกที่หน้าประตูห้อง น้ำชะเง้อมองตามไปดูก็ไม่เห็นใครเลย


“หมดธุระแล้วก็ไปทำงานอื่นต่อนะ ” เสด็จพระองค์ตรัสกับหญิงสาวคนนั้น


“เพคะ เสด็จ”


“ไหนครับเสด็จย่า เกล้าไม่เห็นจะเจอใครเลย”


“เข้ามาได้แล้ว ไม่ต้องหลบหรอกนะ”






“พะยะค่ะ”





   ทันทีที่เสียงตอยกลับพระองค์เจ้าสำเภางาม น้ำก็หันไปที่หน้าประตูอีกครั้ง และปรากฏชายหนุ่มที่ใบหน้าค่อนข้างจะเปลี่ยนไป
มาก อาจจะด้วยวัย 35 ปีของชายคนนี้แล้ว แต่น้ำยังจำได้ไม่เคยลืม



“คุณเขต!” น้ำเอ่ยชื่อนี้ออกมาทันทีที่พบ ร่างสูงยืนมองน้ำนิ่ง ไม่มีแม้แต่ความรู้สึกเหมือนดังที่ร่างบางมีเลยแม้แต่น้อย


“เสด็จทรงมีพระอาการดีขึ้นแล้วหรือไม่พะยะค่ะ” ชายตรงหน้าถามเสด็จย่าด้วยความสุภาพอ่อนน้อม


“ไม่เท่าไหร่หรอก ขอโทษด้วยนะที่ต้องไปเรียกตัวมารวดเร็วแบบนี้ ”


“ไม่เป็นไรพะยะค่ะ เกล้าหม่อมฉันเต็มใจ”



“อยู่ที่โน่นสบายดีไหม”



“สบายดีพะยะค่ะ”


“แล้วทำไมไม่ส่งข่าวคราวกลับมาหาคุณชายพ่อของเธอบ้างล่ะ ภูธเนศ”


“เกล้าหม่อมฉัน ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่พะยะค่ะ”


“อย่างนั้นหรอ อืมเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะ  ที่ฉันเรียกเธอมาหาที่นี่ เพราะต้องการให้เธอมาเป็นทหารคนสนิทของหม่อมเจ้านที
พิสุทธิ์ หลานชายสุดที่รักของฉัน ”


   น้ำได้ยินที่เสด็จย่าตรัสออกมา ถึงกับอึ้งและไม่อยากจะเชื่อ



“เสด็จย่า คือเกล้าหม่อมฉัน…” น้ำรีบพูดแทรกขึ้นมาทันที แต่เสด็จย่าก็ปราบขึ้นมาเสียก่อน


“ย่าคิดถูกแล้ว นทีพิสุทธิ์หลานรักของย่า ย่าทำเท่าที่จะพอทำได้ หลานของย่าจะได้ไม่ต้องเหม่อลอยคิดถึงเค้านะ เค้าจะมาอยู่
ข้างเคียงหลานของย่าตลอดไป ”




“เกล้าหม่อมฉันขอตัวนะพะยะค่ะ”


   น้ำลุกขึ้นและคำนับเสด็จแล้วเดินออกจากห้องบรรทมไป


“หลานเขยของฉัน ตามน้องไปสิ”


“พะยะค่ะ เสด็จ” เขตลุกแล้วคำนับออกจากห้องไป


   เขตตามร่างบางมาจนถึงกลางสวนหม่อมที่หอมไปด้วยกลิ่นดอกมะลิซ้อน และจำปา นับ 20 ต้น ร่างบางยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น  เขตถด
อนหายใจออกมาแล้วค่อยๆเริ่มพูดในสิ่งที่อยากจะพูด





“ทำไมท่านชายถึงได้หลบหน้ากระหม่อม”




“คุณเขต!  ผมขอโทษผมไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนี้”



“นึกว่าท่านชายจะทรงพอพระทัยเสียอีก ที่มีกระหม่อมมาเป็นทหารคนสนิท”



   เขตแสร้งพูดยั่วโมโหน้ำต่อไป เพราะเค้าอยากจะให้น้ำโกรธและพูดในสิ่งที่จะทำให้เค้าเจ็บปวดให้ได้ ถ้าหากเค้าเจ็บแสดงว่าเค้า

ยังรักน้ำ หรือท่านชายนทีพิสุทธิ์อยู่ไม่เปลี่ยนแปลง


“คุณเขต!  คุณเขตหนีออกไปจากชีวิตผมเอง และเรื่องนี้เป็นความคิดของเสด็จย่า ผมไม่ได้…”


“แสดงว่า ท่านชายไม่ได้โปรดให้กระหม่อมมาเป็นทหารประจำพระองค์”


“คุณเขต…”


“ดีแล้วกระหม่อม  กระหม่อมจะได้รับรู้ว่า ทหารพลตรีอย่างกระหม่อมมันก็ต่ำต้อย ท่านชายทรงไม่อยากหรือโปรดให้กระหม่อมมา
อยู่รับใช้ใช่หรือไม่กระหม่อม” เขตยังแกล้งยั่วยุต่อไป เพราะไม่เห็นทีท่าว่าน้ำจะโกรธหรือต่อว่าเค้าเลย




   จิตใจที่ดีงามเกินไป ตอนนี้เขตแทบอยากจะกอดน้ำให้หายคิดถึง  เค้าดีใจแค่ไหนแล้วที่ได้รับคำสั่งให้รีบกลับมาเข้าเฝ้าพระองค์

เจ้าสำเภางาม และทราบพระประสงค์ที่แท้จริง และตอนนี้พระองค์เจ้าสำเภางามยินดีและเปิดทางให้สองคนนี้รักกันได้ ที่เหลือก็

อยู่ที่สองคนนี้แล้ว



“เปล่านะครับ คุณเขต อย่าพูดให้ตัวเองแบบนี้ ผมต่างหากที่ไม่ดี ถ้ารู้ว่าเสด็จย่าทรงคิดแบบนี้ ผมจะรีบห้ามพระองค์ซะ”


“อย่างนั้นหรือกระหม่อม  แสดงว่าท่านชายไม่ได้โปรดที่อยากจะพบกระหม่อมจริงๆ แต่ช่วยไม่ได้นะกระหม่อมเพราะว่า พระ
ประสงค์ของเสด็จพระองค์ตรัสแล้วกระหม่อมต้องทำตาม หากท่านชายไม่โปรด ก็กล่าวหาหรือว่ากระหม่อมมิได้”


“คุณเขต!” น้ำเริ่มไม่พอใจเขตขึ้นมาทุกทีๆ และเดินหนีเจตไปอีกทาง


“จะไปไหนหรือกระหม่อม อย่านะว่าท่านชายจะเสด็จไปที่ใด กระหม่อมต้องตามเสด็จไปอารักขาที่นั่น”


“ไม่ต้องตามมา ผมอยากอยู่คนเดียว ”


   น้ำเดินหนีเขตไปอย่างรวดเร็ว มีหรือที่เขตจะเชื่อฟัง อิทธิพลคำสั่งในใจของเค้ารวมทั้งพระประสงค์ของเสด็จมันมีมากกว่าคำสั่ง

ของท่านชายน้ำ ที่แสนดี และเป็นเจ้าหัวใจของทหารหนุ่มคนนี้


“บอกไม่ต้องตามมาไง ไม่ได้ยินหรอคุณเขต”


“ไม่ได้กระหม่อม ถ้าท่านชายไม่โปรดกระหม่อมก็ทรงเสด็จไปบอก พระองค์เจ้าสำเภางามให้มีรับสั่งถอนพระประสงค์สิ
กระหม่อม”


“ถ้าทำแบบนั้น เสด็จย่าก็จะเสียพระทัยแน่ๆ”


“ท่านชายพูดแบบนี้ แสดงว่าท่านชายจะไม่เสียพระทัยเลย หากกระหม่อมไม่ได้อยู่กับท่านชายแล้ว อย่างนั้นหรือกระหม่อม”


   เขตพยายามจะเล่นคำพูดให้น้ำโมโหเต้าให้ได้ หากน้ำทำให้เค้าเจ็บได้ แสดงว่าเค้ารักและคิดถึงน้ำอยู่ตลอดเวลา  น้ำทำสีหน้า

อึกอัก เวลาก็ผ่านมานานในตอนนี้ความรู้สึกนั้นมันจะยังมีอยู่หรือเปล่าตัวเองยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ เขตยืนแกล้งทำหน้านิ่งและสุขุม

อย่างกับทหารหนุ่มที่รู้กฎระเบียบเคร่งครัด เป็นภาพที่น้ำยิ่งหงุดหงิดเพราะเค้าอยากจะได้ คุณเขตพี่ชายที่แสนดีและเป็นห่วงเค้า

เหมือนเดิมจะมากกว่า





มาต่อแล้วๆๆๆ   แก้คำตกและบรรทัดนิดหน่อย ขอโทษผู้อ่านที่เปิดอ่านก่อนหน้านี้ ตอนนี้แก้ไข เรื่องปี พศ แล้ว แอบตกใจ ผ่านไป 25 ปี 5555  แก้เป็น 5 ปีแล้วน้าาา   ขอบคุณที่ติดตามจากใจจริง


 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-10-2015 23:37:57 โดย loveice »

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
5ปี ผ่านไปไวยิ่งนัก
เขตดูสุขุมขึ้น

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ loveice

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตอนที่ 21.1



   น้ำเดินหนีเขตอีกครั้งไปจนถึงลานน้ำพุ ทหารหนุ่มเดินตามมาจนทัน และแอบขำท่าทีของคนตัวเล็กกว่าตรงหน้า น้ำยืนกอดอก

หันหลังให้เขต ทำสีหน้าครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่สักพัก และไม่นานก็ได้ยินเสียงพึมพำของน้ำ



“คิดออกแล้ว!”


   ร่างบางเปรยคำพูดเบาๆ แต่เขตได้ยินแน่ชัด เพราะยืนห่างจากหลังของน้ำเพียงแค่ 2 เมตร และแน่นอนว่าเขตต้องอยากรู้ว่าน้ำกำลังคิดอะไร



“คิดอะไรออกหรือกระหม่อม?” เขตถามน้ำกลับด้วยความอยากรู้


   ร่างบางหันมามองหน้าเขตอย่างหงุดหงิดเพราะไม่คิดว่า เขตจะตามมาที่นี่ แต่ทหารหนุ่มกับทำหน้านิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น



“เรื่องของคุณเขตไงครับ” น้ำตอบกลับแบบไม่ลังเล


“อ้อ จะไปทูลขอเสด็จให้ทรงล้มเลิกพระประสงค์หรือกระหม่อม”


“ไม่บอก รอดูแล้วกันครับคุณทหารหนุ่ม อ้อ ช่วยยืนเฉยๆสีหน้านิ่งๆตรงนี้รอผมนะครับ”


   น้ำพูดเป็นนัยๆ ให้เขตอยากรู้ แล้วเดินยิ้มกลับไปที่วัง ภูธเนศมองตามแผ่นหลังนั้นไป สีหน้าที่นิ่งเฉยเมื่อครู่ตอนนี้กำลังกลุ้มใจ

อย่างหนัก หากน้ำไปบอกล้มเลิกพระประสงค์จะทำยังไง นี่เค้าอุตส่าห์รอคอยเวลามานาน 5 ปีเลยเชียว จะเป็นแบบนั้นไปไม่ได้



“ท่านชาย ทรงรอกระหม่อมด้วย”


“จะตามมาทำไม คุณเขตรออยู่ตรงนั้นแหละครับดีแล้ว”


“ท่านชาย ท่านชายจะไปยกเลิกไมได้นะกระหม่อม”


“เอ๋?  คุณเขตสั่งผมได้ด้วยหรอครับ เอ๊ะหรือว่าทหารรักษาการณ์ประจำตัวของผมคนนี้ จะมีสิทธินี้ด้วยน้า”



   น้ำยิ้มทำสีหน้าครุ่นคิด แกล้งทำท่าทีกวนใจเขต  เพราะเค้าเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเขตจะทนอยู่ในสภาพนิ่งๆแบบนี้ไปได้อีกนานไหม




“ท่านชาย!  ขอทรงอภัยด้วย กระหม่อมผิดไปแล้ว” เขตทำเสียงอ่อนลง เพราะเค้าลืมตัว


“ในเมื่อคุณเขตไม่อยากที่จะอยู่ ผมก็ไม่มีอะไรที่จะบังคับคุณเขตได้ จริงไหมครับ”


“แต่นี่เป็นพระประสงค์ของเสด็จนะกระหม่อม”


“อ้าวหรอครับ แล้วยังไงต่อ…”


“ก็ห้ามไปทูลเสด็จล้มเลิกพระประสงค์ไงกระหม่อม” เขตเริ่มจะห้ามปราม แต่ก่อนหน้านี้ไม่ใช่อย่างนี้ เค้าต้องการแกล้งน้ำ แต่

ตอนนี้ทำไมเป็นน้ำที่แกล้งเค้าคืนเสียแล้ว


“ทำไมผมจะไปบอกเสด็จย่าไม่ได้ครับ บอกหน่อยสิคุณทหารหนุ่มผู้สูงศักดิ์” น้ำยิ้มให้เขตและเป็นยิ้มที่เขตแทบอยากจะดึงมาก

อดและหยิกแก้มเข้าให้



“ไม่ได้ก็คือไม่ได้สิกระหม่อม หรือว่าท่านชายไม่โปรดที่จะมีกระหม่อมเป็นทหารรักษาประจำองค์แล้ว”


“ก่อนหน้านี้ 5 ปี ผมไม่เห็นต้องมี ผมก็อยู่ได้นะ” น้ำพูดแทงใจดำเขตหนักพอควร พอถึงจุดนี้เขตแทบจะสติไม่อยู่กับตัวแล้ว




“….” เขตไม่ตอบกลับ จริงของน้ำ เค้าพูดถูกทุกอย่างก่อนหน้านี้ไม่เขตเค้าก็อยู่ได้ อยู่กับครอบครัวใหญ่ที่รายล้อมไปด้วย

ราชนิกุลทั้งวัง เขตสีหน้าแสดงออกถึงความร้อนรนใจอย่างบอกไม่ถูก




“เอ๋  ดูเหมือนคุณทหารจะร้อนรนใจนะครับ ไม่เห็นทำหน้านิ่งแบบเมื่อก่อนแล้ว” น้ำจับจุดเขตได้ เขตรู้ตัวพยายามกลับมาอยู่ให้

เป็นแบบเดิมมากที่สุด แต่มันทำไมได้แล้ว



“ท่านชาย  หลายปีมานี้ ท่านชายทรง…” เขตไม่ทนต่อคำพูดล้อเล่นอารมณ์ของน้ำแล้ว และเค้าต้องการอยากรู้ความจริงบางข้อ


“อะไรหรอครับ หลายปีมานี้ผมทำไมหรอ?” น้ำรีบถามต่อ ก่อนประโยคจะไม่ต่อเนื่อง


“ท่านชายทรงอยู่ได้โดยไม่มีกระหม่อม แล้วท่านชายคิดถึงกระหม่อมหรือไม่” เขตกลั้นใจถามน้ำออกไป


   น้ำไม่ตอบแต่หันหลังให้ร่างหนาแทน  เขตเห็นน้ำหันหลังให้ไม่กล้าตอบคำถาม เค้าเองก็ยิ่งร้อนรนใจ หรือว่านี่เค้าจะเป็นฝ่ายที่
คิดเองเออเองฝ่ายเดียว



“ท่านชายไม่ตอบกระหม่อมก็ไม่เป็นไร  กระหม่อมเข้าใจแล้วว่า ทั้งหมดกระหม่อมคิดไปเองฝ่ายเดียวตลอดมา กระหม่อมขอตัวก่อน” เขตคำนับร่างบางก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทางหนึ่ง น้ำรีบหันกลับมาหาเขตทันที



“เดี๋ยวก่อนสิครับ!”



“ท่านชายโปรดให้ทำอะไรหรือกระหม่อม” เขตหันกลับมาถามน้ำ แต่ใบหน้าไม่แม้แต่จะมองหน้าน้ำเลย


“ไม่รอฟังคำตอบของผมหน่อยหรอครับ คุณเขต”


“ไม่หรอกกระหม่อม  กระหม่อมรู้ดีว่ากระหม่อมคิดไปเองคนเดียว ต้องขออภัยท่านชายด้วย ที่ทำให้ท่านชายหนักพระทัย”



“คุณเขต  ผมกำลังจะตอบอยู่นี่ไงว่า ผมคิดถึงคุณเขตทุกเวลา ไม่เคยไม่คิดถึง”


   น้ำเดินเข้ามาหาเขตแล้วเอามือสองข้างจับหน้าเขตอย่างอ่อนโยน   เขตสะดุ้งเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าน้ำจะกล้าทำแบบนี้  เขตมองแววตาของน้ำแล้ว ตอนนี้เค้าแทบอยากจะกอดและจูบลงที่หน้าผากของท่านชายในดวงใจเค้าเสียเหลือเกิน




“ยิ้มได้แล้วคุณทหาร   จะเกร็งสีหน้าแบบนี้ไปนานแค่ไหนกันเชียว  ไม่เห็นจะหล่อเลย” น้ำหยิกแก้มเขตเล่นเบาๆ เขตได้แต่ยืน

นิ่งและยิ้มให้กับท่านชาย


“ขอบพระทัยท่านชาย” เขตคำนับน้ำอีกครั้ง



“นี่กะจะพูดเพียงแค่นี้จริงๆหรอครับ ท่านนายพล” 


“แล้วถ้ากระหม่อมจะขออะไรท่านชาย ท่านชายจะทรงอนุญาตหรือไม่กระหม่อม”



“แล้วคุณเขตจะขออะไรล่ะครับ”


“ท่านชาย  กระหม่อมอยากจะขอ  กอดท่านชาย ได้หรือไม่กระหม่อม”


   เขตตัดสินใจขอน้ำทันที แบบไม่ลังเล และไม่กลัวด้วยว่าใครจะมาเห็นหรือคิดยังไง



“ได้  ผมอนุญาต” น้ำตอบกลับพลทหารทันที แบบไม่ไตร่ตรองเช่นกัน  เขตยิ้มกว้างก่อนจะดึงร่างบางเข้ามากอดทันที   





ท่ามกลางพระเนตรของพระอัยยิกาที่ทรงมองลงมาจากวังชั้นสอง โดยมีท่านชายดลยืนอยู่ด้วย


“เห็นที เรื่องแบบนี้ ย่าจะต้องปรึกษาคนทั้งวังเสียแล้ว”


“เกล้าเห็นด้วยพะยะค่ะ เสด็จย่า  น้องชายของเกล้าคนนี้ลำบากมาแต่เด็ก แต่เป็นเด็กที่น่ารัก เกล้าคิดว่าน้องน่าจะได้รับ…”


“ย่ารู้แล้ว ชายดล  ย่ามองคนไม่ผิดหรอก  พลตรีหม่อมหลวงคนนี้ เหมาะที่สุดแล้วที่จะคู่กับหลานชายของย่าคนนี้”


“ขอบพระทัยเสด็จย่า ”









   ข่าวเรื่องการหมั้นหมายของเขตและน้ำดังไปถึง วังฉัตรอรุณโดยมีหม่อมบุหลันรับข่าวอยู่ที่เรือน เธอสีหน้าไม่พอใจทันที เพราะเรื่องแบบนี้ใครจะไปอวยตามน้ำ


“ไมได้  เรื่องแบบนี้มันผิดผี  เสด็จทรงคิดอะไรอยู่นะ ไม่เข้าใจเลย”



“หม่อมเจ้าขา อย่าเพิ่งใจร้อนไปสิเจ้าคะ เดี๋ยวใครมาได้ยินแล้วเอาไปทูลเสด็จจะแย่เอานะเจ้าคะ” ขจีรีบห้ามปรามนายตัวเองทันที



“ก็มันจริงนี่ ยังไงก็ไม่ได้ ฉันคนหนึ่งแหละที่จะต่อต้านเรื่องนี้ ”



“มีอะไรกันหรือคะหม่อมแม่ เสียงดังแต่เช้าเลย”


“มาก็ดีแล้ว แม่รัมภา แกดูสิเนี่ย น้องชายแกจะริไปหมั้นหมายกับพลตรี ชายกับชายจะแต่งกันได้ยังไง แม่ยอมหรอก”



“หม่อมแม่ เรียกว่า ชายน้ำว่าน้องชายหม่อมฉันหรือเจ้าคะ”


“ก็ใช่นะสิ” หม่อมบุหลันตอบกลับมาเชิงหงุดหงิด



“แล้ว ทำไมชายน้ำถึงจะหมั้นหมายกับพลตรีภูธเนศไม่ได้หรือเจ้าคะ”


“ไมได้ คนนี้แม่หวง พลตรีภูธเนศมีอะไรดีเท่าชายน้ำน้องของเธอ บอกแม่มาสิ”


“มีสิเจ้าคะ หม่อมแม่ ”


“แล้วมันคืออะไร”


“ก็ความรักที่มั่นคงอย่างไรล่ะเจ้าคะ” ท่านหญิงรัมภาพรรณตอบมารดาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม


“เอ๊ะ แม่รัมภา พูดอะไรน่าเกลียดจะตาย ยังไงแม่ก็ไม่ยอมหรอกนะ  ยน้ำกลับมาเมือ่ไหร่ แม่จะกักขังบริเวณเลยคอยดู”


“ไม่ดีกระมังเจ้าคะ แล้วใครจะเสด็จไปเฝ้าไปดูแลเสด็จย่าล่ะเจ้าคะ ได้ข่าวมาว่า เสด็จย่าทรงโปรดหลานชายคนนี้ยิ่งนักนะเจ้าคะ หม่อมแม่”



“ก็…ก็เธอไง แม่รัมภา ไปเลยนะ ไปแทนน้องเลย แม่ไม่อยากให้น้องเรานะไปคลุกคลีกับพลตรีอะไรนั่น แยกๆมันออกมา”



“ไม่ดีกระมังเจ้าคะหม่อมแม่ ไปแยกคนรักกันมันบาปนะเจ้าคะ”


“โอ้ย แม่เบื่อจริงๆเลย  ขจี ไปเอาน้ำหวานมาทีสิ ฉันเวียนหัวไปหมดแล้ว”


“ได้เจ้าค่ะ หม่อม รอประเดี๋ยวนะเจ้าคะ”


“เออ!  เร็วๆ”




   ท่านหญิงยิ้มและยักคิ้วให้ขจี แบบรู้กัน เพิ่งจะมารู้ก็วันนี้แหละว่าหม่อมบุหลันเธอก็แอบรักและเป็นห่วงชายน้ำเหมือนๆกัน ใครจะไปทนไหวกับความน่ารักและมีความอ่อนโยน อ่อนน้อมแบบชายน้ำกันล่ะ








   ตอนบ่ายของวันนั้นเองหม่อมเจ้านทีพิสุทธิ์และหม่อมเจ้าชยาดล ประทับรถเก๋งกลับวังฉัตรอรุณ และมีพลตรีอย่างภูธเนศนั่งอยู่

ด้านหน้าข้างคนขับมาด้วย เพียงแค่รถกำลังจะถึงวงเวียนหน้าเรือนใหญ่ ก็พบสาวใช้ของหม่อบุหลันเดินมาตัดหน้ารถทันที เล่น

เอาคนขับแทบจะเบรกไม่ทันทีเดียว





เอี๊ยด!





“โอ้ยยยยยยยยยยย  รอดตายแล้วกู!” เสียงของสาวใช้คนที่ยืนขวางทางรถพูดขึ้นมาทันที หลังจากรอดเหตุการณ์เกือบตายแบบหวุดหวิด


“ดีมากอีขจี  นี่ห้ามขับไปไหนทั้งนั้นนะ ถ้าฉันไม่สั่ง” หม่อมบุหลันเดินตามออกมาอย่างรีบร้อน พร้อมกับเดินไปเปิดประตูรถด้านหลังฝั่งชายน้ำทันที



“อะไรกันครับ หม่อมป้า” ชายดลถามหม่อมบุหลันทันทีด้วยความตกใจ


“ไม่ต้องถามเลยนะชายดล  พาน้องไปเร่ให้คนโน้นคนนี้สนุกพอหรือยัง ชายน้ำ ไปหับป้าเดี๋ยวนี้”


   หม่อมบุหลันดึงแขนน้ำด้วยแรงที่มากพอ  แต่น้ำทำสีหน้างุนงงและหันไปหาพี่ชายดลเพื่อจะเอาคำตอบ แต่เอาไปเอามา ไม่มี

ใครรู้เกินใครจริงๆ น้ำได้แต่เดินตามหม่อมบุหลันไปที่เรือนใหญ่ โดยมีท่านชายดล และ ทหารหนุ่มเดินตามมาติดๆ



“หม่อมป้า  หม่อมป้าจะพาน้องน้ำไปไหนหรือครับ”


“ไม่บอก ไม่ต้องตามมาเลยนะ ฉันว่าฉันจะต้องให้ชายน้ำอยู่กับฉันไม่ให้คลาดสายตาเสียแล้ว  ”


“เอ่อ หม่อมครับ ใจเย็นๆก่อนนะครับ จับแขนน้องแรงแบบนั้นเดี๋ยวน้องเจ็บ” เขตพูดห้ามทันทีโดยไมได้คิด


“นี่ เรียกให้มันดีนะๆ  ใครน้องแก  นี่ท่านชายน้ำ นะยะ แกนี่แหละตัวดี ริจะมาจีบท่านชายของฉัน ไม่มีทาง ชายน้ำเข้าไปใน
เรือน”



   ณ จุดๆนี้ทุกคนยิ่งงงไปกันใหญ่กับท่าทีของหม่อมบุหลันที่เปลี่ยนไปมาก เธอปฏิบัติกับน้ำราวับว่าเป็นลูกเธอเสียอย่างนั้น แล้วนี่

เธอเป็นห่วงและหวงน้ำเสียทั่งแต่เมื่อไหร่ น้ำถูกดึงตัวตามหม่อมบุหลันขึ้นไปชั้นสองอย่างงุนงง และคงไม่มีใครอธิบายเรื่องนี้ให้

เค้าฟังได้ดีเท่ากับหม่อมบุหลันเองแล้วล่ะนะ



“ห้ามใครขึ้นมาเชียวนะ  ชายดล พาไอ้ทหารหน้าหล่อนี่ไปให้พ้นๆเรือนป้าเดี๋ยวเลย”


   งงเข้าไปใหญ่กับประโยคสุดท้ายที่ หม่อมบุหลันตะโกนสั่งเสียงดังแทบไม่หันหน้ามามอง ขจียืนเกาหัวสามที เพราะไม่คิดว่า

หม่อมบุหลันจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ เพียงแค่ว่า เสด็จจะหมายหมั้น เขต กับ ท่านชาย เพียงเท่านั้นเอง






มาต่อแล้วววว   ใกล้เข้ามาแล้วๆๆ   อิอิ  จะได้หมั้นหรือไม่ได้หมั้นนะ  อืมมม  ติดตามกันต่อไป...


 :katai3: :katai3: :katai3: :katai3: :katai3: :katai3:

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
งงกับหม่อมบุหลันจริงๆ  :a5:

จะได้หมั้นมั้ยน้อออ :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
หม่อมบุหลันหลงเสน่ห์ชายน้ำเข้าแล้วสิ จะไม่ให้หลงได้ไงล่ะเนอะ ชายน้ำน่ารักซะขนาดนี้

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
หม่อมแกคงเป็นพวกเอาแต่ใจตัวเองอ่ะนะ
ยิ่งสมัยสาวๆคงอาการหนัก
แต่มาตอนนี้แก่แล้ว  มีทุกอย่างพร้อมแล้ว เลยไม่เลวร้ายเท่าไหร่
เหลือแต่ดันมาเอ็นดูน้ำเข้าให้
อารมณ์คนแก่ที่ลูกๆโตกันหมด  แกคงเหงา555

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ loveice

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตอนที่ 21.2




   หม่อมบุหลัน ดึงตัวน้ำไปจนถึงห้องนอนลำลอง ห้องหนึ่งที่ไม่ได้ใช้งานมานานพอสมควร แต่สภาพยังดีอยู่มาก เธอผลักน้ำ

เข้าไปข้างในแล้วล็อคแม่กุญแจไว้ข้างนอกห้องอย่างรวดเร็ว เธอยิ้มให้ตัวเองอย่างคนมีชัย  ตามมาด้วยเสียงเคาะประตูจากข้าง

ใน พยายามให้ปล่อยตัวเค้าออกไป



“หม่อมป้าครับ  หม่อมป้าขังผมทำไมหรือครับ  ผมทำอะไรผิด”


“อยู่ในนั้นแหละ ท่านชาย แกน่ะเป็นจ้าวจะไปหมายหมั้นกับพลตรีหม่อมหลวงไม่ได้ เข้าใจไหม”


“หม่อมป้าครับ ปล่อยผมออกไปก่อนเถอะนะครับ อย่าทำแบบนี้เลย”


“ไมได้ ก็คือ ไม่ได้ อยู่ในนั้นแหละไม่ต้องออกมานะ”



   หม่อมบุหลันแผดเสียงสูงดังลั่นตอบกลับน้ำ และแน่นอนร่างบางข้างในห้องก็เงียบสงบลงไป  เขตและท่านชายดลวิ่งตาม

ขึ้นมาถึงชั้นสองของเรือน เห็นหม่อมบุหลันยิ้มให้ตัวเธอเอง มองดูแล้วน่าหมั่นไส้เป็นไหนๆ


“หม่อมป้าครับ น้ำอยู่ไหนครับ” ท่านชายดลมองหาน้องชายแต่กลับไม่พบ


“ใครอนุญาตให้พวกเธอสองคนขึ้นมา ท่านชาย ท่านไม่ควรพลุกพล่านที่ชั้นบนของเรือนป้านะเพคะ”


“แต่ว่า ผมไม่ขึ้นมาไม่ได้หรอกนะหม่อมป้า ก็หม่อมป้าดึงตัวน้ำขึ้นมาที่นี่ ผมต้องมาตามน้องชายถึงจะถูก”


“ฉันไม่ให้  และจะไม่มีพิธีหมายหมั้นใดๆทั้งสิ้น  จำเอาไว้นะหม่อมหลวงภูธเนศ ถึงเธอจะเป็นพลตรี แต่คนที่เธอกำลังจะหมั้นด้วย
เป็นหม่อมเจ้า และเป็นบุรุษด้วยกันทั้งคู่ เรื่องบัดสีแบบนี้ฉันไม่อยากจะได้ยิน”


“แต่ผมรักท่านชายมากนะครับ หม่อม”







เพี๊ยะ!



เสียงฝ่ามือที่ตบลงตรงแก้มของเขตดังจนน่าตกใจ แต่เขตกลับยืนนิ่งเหมือนไม่รู้ความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย หม่อมบุหลันยิ้ม

และหัวเราะดังลั่น


“ฮ่าๆๆๆ  เป็นอย่างใด รสชาติฝ่ามือของฉัน คงจะทำให้พลตรีหมายบ้าและคิดได้นะคะ หยุดพูดเรื่องไม่เป็นจริงเสียที” หม่อม

บุหลันแววตาดุดันมองเขตแบบเสือจ้องจับเหยื่อ



“หม่อมป้า  หม่อมป้าตบเพื่อนของผมทำไมครับ หม่อมป้าทำไม่ถูกนะครับ”


“ทำไมฉันจะตบไมได้ อยากมายุ่งกับหลานชายของฉันดีนัก  อีขจี ขึ้นมาชั้นบนเดี๋ยวนี้”


“มาแล้วเจ้าค่ะ หม่อม  ”


“ไปเอาน้ำมาให้ฉัน ”


“เอาน้ำส้มหรือว่าน้ำหวานเจ้าคะ หม่อม”


“อีโง่  ไปเอาน้ำเปล่ามา อีนี่นิ ถามพิรี้พิไร จริงๆเลย ”


“เจ้าค่ะๆ ทราบแล้วเจ้าค่ะ”





ปังๆๆๆๆๆๆ!!!!





เสียงเคาะประตูดังอีกรอบ คราวนี้น้ำส่งเสียงดังออกมาจากอีกฝั่งของประตู เขตและท่านชายดลถึงได้รู้ว่าน้ำถูกขังอยู่ในนั้น




“ช่วยด้วย  พี่ชายดล คุณเขต  ผมอยู่ในนี้ ”


“น้ำ!” ทั้งสองอุทานชื่อน้ำออกมาพร้อมกัน


“หยุดนะ ทั้งสองคน  อย่าได้คิดเดินไปแตะที่กุญแจหน้าห้องเด็ดขาด ไม่มีใครช่วยท่านชายน้ำได้หรอก กลับไปซะ”



   ทั้งสองยืนทำสีหน้าลังเลใจที่จะช่วย หม่อมบุหลันขวางทางไว้แบบนี้ยิ่งไม่เป็นการณ์ดี แล้วนี่วันพรุ่งนี้ไปหาเสด็จแล้วจะ

ตอบพระองค์ว่าอย่างไรกัน




“หม่อมเจ้าขา น้ำมาแล้วเจ้าค่ะ”



“ดี เอามานี่เร็วๆ”






ซ่า!!!!





หม่อมบุหลันยกแก้วน้ำขึ้นมาสาดใส่ตัวของเขตอย่างไม่ลังเลใจ ท่านชายดลถึงกับตกใจเบิกตาโพง เพราะไม่คิดว่าหม่อมบุหลัน

จะกล้าทำอะไรแบบนี้



“เขต!   หม่อมป้าจะทำแบบนี้ไมได้นะครับ”


“ทำไมจะทำไมได้  ที่นี่มันบ้านฉัน และท่านชายก็พาเพื่อนของท่านชายออกไปจากบ้านซะสิเพคะ”


“เขต กลับกัน  เรื่องนี้เราจะไปทูลเสด็จทันที”


“เอาเลย จะไปทูลเสด็จก็เชิญ แต่สิ่งที่ฉันได้ทำไป บอกเลยว่าเสด็จต้องเข้าข้างอย่างแน่นอน”


   ท่านชายดลและน้ำมองหม่อมบุหลันด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างมาก แต่ทำอะไรเธอไมได้เลยแม้แต่น้อย ขจีมองเหตุการณ์

เมื่อครู่ด้วยความหวั่นวิตก เรื่องนี้เรื่องใหญ่ หม่อมบุหลันจะสู้เสด็จได้หรือ


“หม่อมเจ้าคะ ทำถึงขนาดนี้ ไม่กลัวบ้างหรือเจ้าคะ”


“ทำไมต้องกลัว  ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดอยู่ที่เรือนของฉัน ฉันสามารถทำอะไรก็ได้ ฮึฮึ”


“หม่อมจะไปไหนเจ้าคะ”


“อ้าว ก็ไปด้านล่างนะสิถามได้ ”


“แล้วท่านชายน้ำล่ะเจ้าคะ จะปล่อยไว้อย่างนี้หรือ”


“ฮึ แกก็อาสาส่งข้าวส่งน้ำให้ท่านชายซะสิ อีขจี หรือไม่ก็ให้อดตายไปอย่างนั้นแหละ”


“ขจีไม่เข้าใจจริงๆ หม่อมกำลังคิดอะไรอยู่เจ้าคะ”


“ฮึ เดี๋ยวถึงเวลาแกก็รู้ เวรกรรมน่ะ มันกำลังจะตามมาถึงตัวแล้ว ”


“เอ๋ เวรกรรมหรือเจ้าคะ เวรกรรมของผู้ใด  ของท่านชาย หรือว่าของหม่อมบุหลันเองล่ะเจ้าคะ”


“เอ๊ะ อีนี่นิ อยากให้ข้าลงหวายหรือยังไงกัน มีอะไรก็ไปทำไป”


“เจ้าค่ะๆ ไปแล้วเจ้าค่ะ”







“ฉันทำผิดมาหนึ่งครั้งแล้ว ฉันจะไม่ยอมทำผิดกับลูกของเธอ หม่อมพิมล”

   หม่อมบุหลันมองไปประตูที่มีแม่กุญแจใหญ่ล็อคเอาไว้ ก่อนจะเดินลงไปชั้นด้านล่าง  ด้านในห้องนอนที่กว้างใหญ่ ร่างบาง

ค่อยๆชุกขึ้นไปเปิดไฟ  ภายในห้องดูสวยงามมาก รูปของเสด็จพ่อยังอยู่เต็มไปหมด น้ำเริ่มจะแน่ใจแล้วว่าห้องนี้เป็นห้องของ

เสด็จพ่อเมื่อครั้งที่พระองค์โปรดและประทับที่เรือนใหญ่







ที่เรือนฝั่งซ้าย หม่อมรุ้งพราวนั่งเล่นอยู่ที่เก้าอี้ม้าหินอ่อนใกล้ๆสระปลาหางนกยูง เธอกำลังยิ้มให้กับรูปภาพในมือของเธอ เป็น

หนังสือที่เป็นแบบจัดงานหมั้นสไตล์ต่างๆสวยงาม เธอกำลังวางแผนการจัดงานครั้งแรกในชีวิตด้วยตัวเอง


“ขออภัยหม่อมรุ้งพราว หากเป็นการรบกวน”


“อ้าว แดนภพ มาแล้วหรอ มาเร็วเหมือนกันนะเรา”


“เรื่องแบบนี้ เพียงหม่อมรุ้งพราวรับสั่งผมเต็มใจทำให้เต็มที่ครับ ว่าแต่หม่อมเลือกแบบได้หรือยังครับ”


“ได้แล้ว นี่ๆมาดูนี่เร็ว ถ้าฉันจะเลือกสไตล์นี้ จัดที่วังทิพย์จะเป็นอย่างไร”


“สวยมากครับหม่อม ผมว่าเสด็จและราชนิกุลที่มาร่วมงานจะต้องทรงโปรดและประทับใจมากๆเลยครับ”


“อย่างนั้นหรอ  แล้วนี่ว่าแต่เธอเถอะแดนภพ ไม่คิดอยากจะหาคู้ครองหน่อยหรอ นี่ก็ 35 ปีแล้วนะ”


“ไม่หรอกกหม่อม ผมขอโสดแบบนี้ไปเรื่อยๆจะดีกว่า เป็นเพื่อนกับท่านชายดลด้วย ”


“ชายดล จะว่าไปแล้วเห็นทีคงจะไม่มีบุญได้อุ้มหลานเสียแล้วสิ”


“ไม่หรอกหม่อม ถ้าท่านชายพร้อมก็คงจะมีเอง หม่อมอย่าคิดมากเลยครับ”


“ถามจริงๆเถอะนะ แดนภพ  เธอชอบท่านชายน้ำหรือเปล่า”


“ชอบครับ”  แดนภพตอบอย่างไม่ลังเลใจ


“แล้วเธอ…”


“หม่อมไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ  ผมไม่เป็นอะไรมากหรอก ท่านชายเองก็ทรงโปรดเขต เพื่อนของผมมาก ผมดีใจเสียอีกที่อย่าง
น้อยเขตก็ทำหน้าที่นั้นได้ดีกว่าผม”


“ฉันเข้าใจเธอนะ เอาล่ะ เราไปคุยกันเรื่องจัดงานหมั้นดีกว่า ว่าขาดเหลืออะไรบ้าง”


“ครับ หม่อม”






ผ่านไป 2 วัน ร่างบางก็ยังคงได้ใช้ชีวิตอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมกว้างใหญ่ และหรูหรา  แต่มันจะดีกว่านี้หากเค้าจะได้ออกไปรับอากาศ

บริสุทธิ์ข้างนอกห้องบ้าง  สองวันมานี้น้ำได้เจอแต่ใบหน้าของสาวใช้ที่ชื่อ ขจี เท่านั้น ที่คอยเอาข้าวเอาน้ำไปให้ตลอดเวลา และวันนี้ก็เช่นกัน


“ท่านชายเพคะ อาหารเช้าหม่อมฉันวางไว้ตรงนี้นะเพคะ”


“ครับ ผมรู้แล้ว ขอบคุณมาก”


“ท่านชาย อย่าทรงคิดมากนะเพคะ เชื่อขจีเถอะค่ะว่ายังไงซะ ท่านชายดลและคุณเขต ต้องหาทางช่วยท่านชายได้แน่นอน”


“ขจีพูดแบบนี้ไม่กลัว หม่อมบุหลันรู้เรื่องหรอกหรือ”


“ก็กลัวละค่ะ แต่ทำไงได้ ขจีสงสารท่านชาย หม่อมนะทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง เรื่องนี้เสด็จก็ทรงมีรับสั่งออกมาแล้ว หม่อมไม่น่าขัด

พระประสงค์ของเสด็จเลย”



“ช่างเถอะ เราจะรออยู่ในห้องนี้อย่างใจเย็น หม่อมทำแบบนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ ”


“ค่ะ เดี๋ยวตอนเที่ยงหม่อมฉันจะมาอีกนะเพคะ”


“ครับ ไปเถอะ”


   ขจีเดินออกจากห้องไปแล้วล็อคประตูอีกครั้ง แต่แล้วเธอก็ต้องตกใจเมื่อพบว่ามีร่างบางสูงโปร่งมายืนข้างๆเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้


“ว้าย!  ตายแล้ว  ท่านหญิงตกใจหมดเลยเพคะ”


“อะไรของเธอ ขจี  แล้วนี่เข้าไปในห้องเสด็จพ่อทำไม”


“ปะ…เปล่านะเพคะ  ขจีไมได้เข้าไปโดยพละการนะเพคะ เป็นคำสั่งของหม่อมบุหลันต่างหาก”


“หม่อมแม่ หม่อมแม่ใช้ให้เธอทำอะไร แล้วนี่ถาดอาหารนี่  เธอเอาถาดอาหารเข้าไปในห้องนี้ทำไม”


“ท่านหญิงอย่าทรงถามหม่อมฉันมากสิเพคะ หม่อมฉันคิดหนักที่จะตอบ”


“ได้   ไม่ตอบก็หลีกไป ฉันจะดูเอง”


“ว้าย!  ไม่ได้ใหญ่เลยเพคะ ห้ามเพคะ ห้ามเปิด”


“ก็บอกว่าจะขอดูนิดหน่อยเองว่ามีอะไรในห้องนั้น”


“ทำอะไร หญิงรัมภา!”


“หม่อมแม่!”




โอ้ พระเจ้า จะจบแล้ว ดีใจจัง  อีก ไม่กี่ตอนละอิอิ  ขอบคุณที่ติดตามน้า

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
หม่อมป้าทำแบบนี้ทำไมค่ะ ไม่สงสารท่านชายน้ำบ้างเหรอค่ะ

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
เหตุผลอะไรน้อออ ลุ้นๆ :katai1:

ออฟไลน์ Jupiter(Zeus)

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
หม่อมบุหลันจะทำอะไร เอาใจช่วยน้ำกับเขตให้ฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ รักไม่แบ่งแย่งเพศ และชนชั้น

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
หม่อมบุหลันคิดจะทำอะไรน้า?

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
น่าสงสารน้ำ โดนกระทำตลอด

ออฟไลน์ loveice

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตอนที่ 22



“ออกไปจากหน้าของเสด็จพ่อเดี๋ยวนี้นะ”


“ทำไมค่ะหม่อมแม่ หม่อมแม่มีอะไรซุกซ่อนอยู่ในห้องนั้นหรือคะ ”


“แม่ขังชายน้ำ ไว้  รู้อย่างนี้แล้ว ลูกจะทำอย่างใดได้ ออกไปจากตรงนี้ซะ”

“ได้หญิงจะไป  แต่หม่อมแม่ทำไม่ถูก เสด็จย่าทรงถามหาชายน้ำ ถ้าหม่อมแม่ยังไม่ปล่อยชายน้ำ หญิงจะไปกราบทูลเสด็จย่าเอง”


“ดี ไปเลย ไปบอกเลย แม่ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า ถ้าคนจำนวนไม่น้อยทั่วกรุงเทพ ทราบเรื่องพิธีหมั้นระหว่างหม่อมเจ้านทีพิสุทธิ์ ไกลเกียรติขจรกุล กับ พลตรีหม่อมหลวงภูธเนศ ธำรงอาภรณ์นิช จะงามหน้าเพียงใด ”


“หม่อมแม่!”


“ฮึ ไม่ไปกราบทูลเลยหรือ หญิงรัมภาพรรณ ไปสิไปช่วยน้องลูก ”


“หญิงจะไปหา พริ้ม ค่ะ กว่าจะกลับก็คงหัวค่ำ หม่อมแม่ไม่ต้องรอหญิงนะคะ ” ท่านหญิงทรงเปลี่ยนเรื่องทันทีหลังจากที่ทราบที่
ไปที่มาของแม่ตัวเองที่กักขังชายน้ำเอาไว้


“ฝากความคิดถึงไปหา พริ้มด้วยนะ แต่งงานกันมา 5 ปีแล้ว มีลูกถึง 2 คน ว่าแต่ลูกเถอะเมื่อไหร่กันจะเลือกใครสักคน  นี่ก็จะ 40 ชันษาแล้วนะหญิง”


“ไม่ค่ะ หญิงอยากเป็นโสด ไม่ต้องคิดอะไรมากความ เอาว่าหญิงจะบอกพริ้มให้นะคะ สวัสดีค่ะ  ขจีไปกับฉันไหม”


“ไม่เป็นไรเพคะท่านหญิง ขจีต้องอยู่คอยเอาข้าวเอาน้ำไปให้ท่านชายน้ำเพคะ”


“อ้อ ดีเหมือนกัน ฝากชายน้ำด้วยนะ”


“ได้สิเพคะ ท่านหญิงเสด็จเถอะเพคะ ไม่ต้องทรงกังวลพระทัย”



   รัมภาพรรณพยักหน้าให้ขจีสาวใช้ พลางเหลือบมองหม่อมบุหลันผู้เป็นแม่อย่างไม่เข้าใจความคิดและความรู้สึกของเธอ

เสียเท่าไหร่ จะว่าไปรัมภาพรรณเองก็เป็นห่วงน้องชายคนนี้มาก เพราะด้วยวัยและอะไรหลายๆอย่าง เธอไม่อยากให้น้องชายต้อง

มาเศร้าเสียใจไปตลอดชีวิต







   ที่บ้านธำรงอาภรณ์นิช หม่อมหลวงภูวนนท์ หรือ คุณต่อ ได้กลับมาอยู่ที่บ้านทำงานบริษัทช่วยหม่อมราชวงศ์ภัครพิชัย แต่

เร็วนี้ๆก็มีแผนเดินทางไปเชียงใหม่ ไปหาหวานใจของเค้าที่นั่น ไม่ใช่ใครเลยนอกจาก ฟ้ามอญ หลังจากเรียนจบ ฟ้ามอญก็กลับ

ไปทำงานแถวบ้าน โดยมีเงินก้อนหนึ่งจากคุณต่อ เป็นทุนให้สร้างโรงแรมล้านนาไทย และมอบให้ฟ้าเป็นคนดูแล  กิจการก็ไปได้

สวย เปิดมาได้ 4 – 5 ปี แล้ว ลูกค้ามากมายอย่างไม่คาดคิด


“ต่อลูก  พ่อมีอะไรจะปรึกษาหน่อย”


“ครับคุณพ่อ”


“ถ้าสมมติว่า พี่ชายเราเค้าจะได้หมายหมั้นกับเชื้อจ้าว ต่อ คิดว่าดีไหม”


“ดีสิครับ แหม ได้เป็นเขยจ้าว ผมไม่ขัดข้องอยู่แล้วครับ ว่าแต่คนคนนั้นคือใครครับ ธิดา วังไหน”


“ฮ่าๆๆๆ นี่ทำงานที่บริษัทเพลินไปแล้วสินะ ข่าวเค้าออกมาอย่างต่อเนื่อง ยังจำน้ำ ลูกบุญธรรมของพ่อเมื่อ 5 ปีก่อนได้ป่าว”


“อ้อ จำได้สิครับ เพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันกับผม น่ารัก ร่าเริง ตัวเล็ก เหมือนตุ๊กตาเลย ถามคุณพ่อ คุณพ่อก็ไม่ยอมบอกผมว่า

เค้าหายไปไหน”


“เอาล่ะ ต่อไปนี้ ให้เรียกน้ำ ใหม่ ว่าท่านชายน้ำแล้วกันนะ”


“ท่านชาย?  อะไรกันครับ นี่เป็นชื่อเรียกลำลองของ หม่อมเจ้าเลยนะครับ คุณพ่อพูดตลกอีกแล้ว”


“ก็ใช่นะ น้ำ ที่ลูกรู้จัก คือหม่อมเจ้านทีพิสุทธิ์ ไกลเกียรติขจรกุล”


“อ้าว อย่าบอกนะครับ ว่าที่คุณพ่อพูดมาคือ…”


“ใช่ พี่ชายของลูก เค้ากำลังจะหมั้นกับ หม่อมเจ้านทีพิสุทธิ์ โดยเป็นพระประสงค์ของพระองค์เจ้าสำเภางาม”


“พระองค์เจ้า? โหย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมผมไม่รู้เรื่องเลยล่ะครับ”


“ก็รู้ซะตอนนี้เลยสิ ฮ่าๆๆ”


“แหม อารมณ์ดีเชียวนะครับ คุณพ่อไม่ขัดใจอะไรเลยหรอครับที่ลุกชายตัวเองจะหมั้นกับผู้ชายด้วยกัน”


“ปัดโถ่เอ้ย จะให้พ่อเริ่มขัดใจใครก่อนดี ระหว่าง พี่ชายเรา หรือว่าจะเป็นลูกเอง เจ้าต่อ”


“โหย ถ้าอย่างนั้นไม่เอาดีครับ ดีจริงๆครับคุณพ่อที่คุณพ่อไม่ขัดใจอะไร แล้วผมกำลังจะลาคุณพ่อไปที่เชียงใหม่ 2 สัปดาห์นะ
ครับ”


“ไปเชียงใหม่ ไปทำไม?”


“ไปหา…ดวงใจของผมไงพ่อ”


“อ้อ ฟ้ามอญ พ่อลืมไปเลย จะว่าไปแกเองก็ยังไม่ได้หมั้นให้เป็นเรื่องเป็นราว เอาพร้อมๆกับพี่ชายแกเลยไหม”


“ไม่ดีมั้งครับ จัดงานครั้งนี้ถ้าเดาไม่ผิด ผมว่าน่าจะเป็นงานใหญ่ อีกอย่าง ผมทำตัวไม่ถูกหรอกนะเรื่องมารยาทในวังเนี่ย จำได้

เลยโดนหม่อมบุหลันที่วังฉัตรอรุณวิ่งไล่เอาไม้เรียวตี โทษฐานไปวิ่งบนเรือนเสด็จ”


“ฮ่าๆๆๆ เรื่องมันก็นานมาแล้ว หม่อมบุหลันเธอเองก็คงจะลืมไปแล้วล่ะนะ อย่าสนใจเลย”


“ไม่เอาด้วยหรอกครับ เธอโหดจะตายไป คุณพ่อครับ ยังไม่ตอบคำถามผมเลย”


“อ้อ ก็ไปสิ อยากไปหาฟ้ามอญก็ไป แต่ต้องกลับมาให้ทันงานหมั้นพี่ชายเรานะ”


“ได้สิครับ”







   เขตและท่านชายดลเข้าวังทิพย์ ตามพระประสงค์ของเสด็จ ตอนนี้พระองค์มีพระวรกายที่ดีขึ้นมากแล้ว แต่ก็ต้องแปลก

พระทัย ที่ไม่พบชายน้ำอีกเช่นเคย



“อะไรกัน วันนี้ชายน้ำก็ไม่ว่างมาอีกแล้วหรือนี่”


“เอ่อ พะยะค่ะ ” ชายดลตอบเสด็จด้วยท่าทีที่กลุ้มใจ จนครั้งนี้เสด็จย่าจับจุดได้


“ชายดล มีเรื่องอะไรบิดบังย่าหรือเปล่า”


“เอ่อ คือ เกล้าหม่อมฉัน มะ…ไม่มีเรื่องอันใดจะบิดบังเสด็จพะยะค่ะ”


“ชายดล!” เสด็จรับสั่งเสียงดุและดังขึ้นกว่าเดิม จนชายดลต้องตัดสินใจทูลเรื่องจริงไป



“จริงๆแล้ว หลายวันมานี้ที่ชายน้ำ ไม่ได้เสด็จมาหาเสด็จ เพราะหม่อมป้าได้กักกันตัวไว้ที่เรือนของหม่อมป้าเองพะยะค่ะ”


“อะไรนะ มีเรื่องแบบนี้ ทำไมไม่มาบอกย่า  แล้วนี่หม่อมบุหลันมีเหตุผลอะไรที่ทำแบบนั้น”


“หม่อมป้าทำไปเพราะ…” ชายดลกำลังจะทูลตอบจบประโยค ก็มีเสียงหนึ่งต่อประโยคนั้น ด้วยน้ำเสียงที่คุ้นหูทีเดียว




“เพราะหม่อมฉัน ไม่ต้องการให้เรื่อง ชายหมายหมั้นชายเกิดขึ้นเพคะ เสด็จ  ขอเสด็จทรงประทานอภัย ที่หม่อมฉันมาโดยมิได้บอกกล่าว”


“หม่อมบุหลัน  มาก็ดีแล้ว เหตุผลที่เธอว่า ฉันตัดสินใจแล้ว”


“หม่อมฉันทราบเพคะ เสด็จ แต่ที่หม่อมฉันมาที่นี่ เพียงเพราะอย่างให้พระองค์ทรงไตร่ตรองเรื่องนี้ใหม่ด้วยเพคะ  หม่อมฉันเห็น

ว่าเรื่องแบบนี้ หากหม่อมพิมลยังมีชีวิต ก็จะไม่ยินยอมเช่นหม่อมฉันแน่นอนเพคะ”



“พูดเรื่องนี้มาทีไร ฉันเองก็ลำบากใจ ”


“ใช่เพคะ เสด็จ  หม่อมฉันก็ทุกข์ใจ เพราะหม่อมฉันไม่ต้องการให้ชายน้ำ ต้องมาตกเป็นเรื่องขี้ปากชาวบ้านไปทั่ว”


“ขอเสด็จย่าทรงไตร่ตรอง เรื่องนี้ เกล้าหม่อมฉันคิดว่า ชายน้ำไม่ได้รู้สึกอับอายแน่นอนพะยะค่ะ”


“เอ๊ะ ชายดล จะมาตอบแทนชายน้ำได้ยังไง เงียบไปเลยนะ” หม่อมบุหลันหันไปตวาดเสียงดังใส่ชายดล


“เอาล่ะๆ  หม่อมบุหลัน เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนสองคน ในเมื่อเค้าสองคนตกลงปลงใจกันแล้ว ก็คือจบ อีกอย่างฉันเองก็ตัดสินใจไปแล้วด้วย”


“เสด็จ!”


“เสด็จย่า ขอทรงรับสั่งให้ปล่อยตัวชายน้ำด้วยเถอะพะยะค่ะ ชายน้ำ อยู่ในห้องของเสด็จพ่อมานานนับ 3 วันแล้ว ไม่เห็นเดือน
เห็นตะวัน เกล้าสงสารน้องชายพะยะค่ะ”


“อืมๆ หม่อมบุหลัน เธอกลับไปปล่อยตัวชายน้ำได้แล้ว ฉันเองก็คิดถึงหลาน ปล่อยเค้าแล้วให้มาหาฉันที”


“ไม่เพคะ หม่อมฉันขอขัดรับสั่งของเสด็จ!”


“หม่อมป้า!  นี่หม่อมป้ากล้าขัดรับสั่งของเสด็จเชียวหรือครับ”


“ใช่  เสด็จเพคะ เรื่องนี้หม่อมฉันไม่ยอม จะไม่มีพิธีหมายหมั้นใดๆทั้งสิ้น เพราะหม่อมฉันไม่อยากให้หม่อมพิมลต้องเสียใจอีก

ตอนนี้เธอก็ไม่อยู่แล้ว หม่อมฉันกำลังไถ่โทษเธอด้วยการดูแลโอรสองค์เล็กของเสด็จพี่ ให้หม่อมฉันได้ทำในสิ่งที่ถูกด้วยเถอะ

เพคะ”



“อะไรของเธอ สิ่งที่ถูกหรือ?  และไถ่โทษอีก?  พูดออกมาให้หมดนะหม่อมบุหลัน ฉันงงไปหมดแล้ว”


หม่อมบุหลันยืนนิ่ง แววตาเยือกเย็น เธอกำลังรวบรวมความกล้าที่จะพูดในสิ่งต่อไปนี้ และเธอก็คิดว่าถึงเวลาแล้วนี่เธอจะต้องรับ

ผิดชอบ  ถึงแม้เธอจะไม่ชอบหม่อมพิมลเลยก็ตาม แต่ยังไงเะอก็ต้องพูด


“เมื่อ 20 ปีก่อน  หม่อมฉันใช้ให้คนไปวางยาพิษหม่อมพิมลเองเพคะ แต่คนของหม่อมฉันทำผิดแผน เอาไปให้หม่อมพิมลกิน

ตอนเธอคลอดแล้ว และเรื่องนี้หม่อมฉันเข้าใจมาโดยตลอดว่า ลูกของเธอได้ตายไปกับเธอด้วย”



“นี่เรื่องจริงหรือนี่ คุณพระช่วย”



“เสด็จย่า ใครอยู่ข้างนอก เข้ามาที ”


“มาแล้วเพคะ ท่านชาย”


“โทรเรียกหมอมาเร็ว”


“เพคะ ท่านชาย”



“หม่อมป้า  ผมไม่คิดเลยนะครับว่าหม่อมป้าจะทำได้ถึงเพียงนี้” ท่านชายดลหันมาต่อว่าเธอ ที่กำลังยืนนิ่งอย่างคนเลือดเย็น




“ทรงฟังหม่อมฉันนะเพคะ เสด็จ  หม่อมฉันจะไม่ให้ท่านชายน้ำ ได้เข้าพิธีตามที่เสด็จรับสั่ง เพราะหม่อมฉันไม่อยากให้ท่านชาย

น้ำต้องเสียพระทัย ” หม่อมบุหลันยังคงพูดในสิ่งที่เธอคิดว่าเป็นความหวังดีต่อ



“เสียใจหรือ  ผมว่าไม่นะครับหม่อมป้า น้ำไม่เสียใจเรื่องนี้แน่นอน  ผมว่าหม่อมป้าเองต่างหากที่กลัวว่าจะเสียชื่อเสียงของเสด็จพ่อ”


“ไม่จริง  ฉันทำเพื่อชายน้ำนะ  ชายดล  เธออย่าพูดพร่อยๆแบบนี้นะชายดล”


“ทำไมผมจะพูดไม่ได้ หม่อมป้าห่วงแต่ตัวเอง ไม่ห่วงคนอื่นเลย แม้แต่พี่หญิงรัมภาพรรณเอง หม่อมก็ไม่เคยจะสนใจ ”


“พอกันที  ภูธเนศ  ไปที่เรือนของหม่อมบุหลัน แล้วไปเอาชายน้ำออกมา พิธีหมั้นต้องเกิดขึ้น  แม่บุหลัน ถ้าเธอยังมีความเป็น

มนุษย์อยู่บ้าง และถ้าเธออยากจะไถ่บาปครั้งนี้ เธอต้องให้ชายน้ำเข้าพิธีหมั้นกับพลตรีภูธเนศเท่านั้น ” พระองค์เจ้าฉัตรบดินทร์ที่

นั่งฟังเรื่องนี้อยู่นานก็มีรับสั่งกับหม่อมบุหลันทันที



“เสด็จ ไม่นะเพคะ เสด็จ  หม่อมฉันไม่ยอม ”


“ข้างนอกมีใครอยู่บ้าง เอาตัวหม่อมบุหลันออกไป!  เอาไปให้พ้นพระพักตร์เสด็จ เดี๋ยวนี้!”



   พระองค์เจ้าฉัตรบดินทร์ พี่ชายคนโต หรือลุงของชายดลและชายน้ำ ตะโกนรับสั่งทันที จากนั้นไม่นานชายหนุ่ม 5 6 คนก็

รีบเข้ามาข้างในแล้วพาหม่อมบุหลันออกไป  ท่ามกลางความไม่เต็มใจของเธอ


“หม่อมฉัน ไม่ยอมง่ายๆหรอก คอยดูนะเพคะ หม่อมฉันจะทำลายพิธีหมั้น”


“ฟังให้ดีนะ หม่อมบุหลัน ถ้าเธอยังไม่หยุด เรื่องที่เธอเล่ามาทั้งหมด ฉันจะให้ตำรวจเอาเธอไปสอบสวนและไปนอนอยู่ในคุกซะ”


“ไม่นะ ไม่  พระองค์เจ้าฉัตรบดินทร์ เพคะ อย่าบอกตำรวจนะ หม่อมฉันยอมแล้วก็ได้ หม่อมฉันยอมแล้ว”


   หม่อมบุหลันตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน แล้วถูกนำตัวออกไป จนเสียงและตัวหายลับตาไปในที่สุด  สักพักหมอก็มาถึงเพื่อมาดูพระอาการของเสด็จ


“หม่อมหลวงปฐพี?”


“ท่านชาย!  สบายดีหรือกระหม่อม”


“สบายดี  เอ่อ ช่วยดูพระอาการของเสด็จย่าให้ฉันทีนะ”


“ได้กระหม่อม ”



   หมอที่มาครั้งนี้คือ คุณแดนภพนั่นเอง ปัจจุบันเป็นนายแพทย์ใหญ่และเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างถึงความเก่งและเชี่ยวชาญ

ของหมอ และด้วยวัยถึง 35 ปีแล้ว แต่ยังครองโสด เป็นที่จับตาของสาวในโรงบาลไม่น้อย   



   เท้าความหลังสมัยเด็ก หม่อมราชวงศ์ประศิตพ่อของหม่อมหลวงปฐพีของแดนภพ เคยเข้าเฝ้าพระองค์เจ้าฉัตรอรุณอยู่

บ่อยๆ เนื่องจากเป็นเพื่อนกันมานาน ท่านชายดลก็ได้เพื่อนเล่นด้วย นอกจากเขตแล้วก็มีแดนภพนี่แหละที่พอจะเป็นเพื่อนด้วยได้ 

แต่ตอนนี้ไม่นึกว่าจะมาเจอกันอีก หลังจากที่ไม่เจอกันอีกเลยตั้งแต่งานจัดงานฉลองโรงแรมไอยราของเสี่ยสิงห์ เมื่อ 5 6 ปีก่อน


   แดนภพดูพระอาการของเสด็จแล้วไม่มีอะไรน่ากังวลและให้คำแนะนำกับพระองค์เจ้าฉัตรบดินทร์ไป  ก่อนจะขอตัวกลับไป

ทำงานที่โรงพยาบาล  ท่านชายดลก็ขอให้อยู่ต่อสักครู่ เพราะต้องการถามอะไรบางอย่างที่อยากจะรู้มานานแล้ว


“แดนภพ ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม”


“ได้กระหม่อม พอจะมีเวลาอยู่บ้าง 30 นาที ”


“ถ้าอย่างนั้น ไปที่สวนดอกไม้ดีกว่านะ”









“ท่านชายทรงมีเรื่องอะไรหรือกระหม่อม”


“ไม่อ้อมค้อมแล้วนะแดนภพ  จริงๆแล้ว ฉันอยากรู้ว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทำไมนายไม่มีคู่ครองเสียที ทั้งๆที่หม่อมราชวงศ์ประ

ศิต ก็พยายามจะหา หญิงสาวที่มารยาทการศึกษาฐานะดีให้นายเสียมากมาย”


“ไม่หรอกกระหม่อม  คิดไปคิดมาอยู่เป็นโสดแบบนี้จะดีเสียอีก  ว่าแต่ท่านชายเถอะ ทำไมยังไม่มีใครเป็นตัวเป็นตนเลยล่ะ

กระหม่อม”


“ฉันรอคอยใครสักคนอยู่นะสิ”


“รอคอย?  คนคนนั้นเป็นใครหรือกระหม่อม”


“อยากรู้จริงๆหรอแดนภพ”


“อยากรู้สิกระหม่อม แหมคนรักของท่านชาย กระหม่อมยิ่งอยากรู้”






“นายไง แดนภพ!”




   คำตอบของหม่อมเจ้าชยาดล ทำเอาแดนภพหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ เพราะไม่คิดว่าท่านชายจะทรงรับสั่งอะไรเช่นนี้



“แดนภพ!   แดนภพ!” เสียงเรียกสติของท่านชายดล ทำให้แดนภพได้สติ พร้อมกับทำสีหน้าตื่นเต้น หัวใจของแดนภพตอนนี้เต้น

แรงเสียยิ่งกว่ากลองเสียอีก



“ท่านชาย อย่าล้อกระหม่อมเล่นสิ”


“ไม่ได้ล้อเล่น เรารักนายตั้งแต่ยังเด็กๆแล้ว เพียงแต่นายเองต่างหากที่ไม่เปิดใจ”


“กระหม่อมหรือที่ไม่เปิดใจ?”


“ใช่ นายนั่นแหละ เอาแต่เดินหนี ไม่ทักทาย พอฉันแวะไปหาที่โรงพยาบาลนายก็เอาแต่ไม่ว่าง อยู่บ่อยครั้ง”


“ท่านชายเสด็จไปโรงพยาบาลด้วยหรือกระหม่อม”


“อืม ใช่!  แต่ไม่เป็นไรนะ ฉันได้บอกความในใจแล้ว เห็นทีคงไม่ต้องรอให้นายตอบกลับหรอก ขอบใจนะที่รับฟัง”


“ท่านชาย! เอ่อ… ขอบพระทัยที่ทรงรู้สึกแบบนั้นกับกระหม่อม แต่กระหม่อม…”


“ฉันเข้าใจ แดนภพ นายเองก็คงจะมีคนที่นายแอบชอบอยู่แล้ว นายกลับไปทำงานเถอะ”


“เดี๋ยวท่านชาย”


“มีอะไรหรือเปล่า?”


“เกล้าหม่อมฉัน ขออะไรท่านชายได้ไหมกระหม่อม”


“ขออะไรล่ะ”


“ต้องสัญญาก่อนว่าจะทรงอนุญาต”


“ได้อนุญาต  ว่ามา”


“กระหม่อมของกอดท่านชายได้หรือไม่”


“ไม่มีปัญหา ”


   หม่อมเจ้าชยาดล อ้าแขนสองข้างทันที พลางบอกสัญญาณให้แดนภพเข้ามา แดนภพเองไม่ลังเลใจที่จะเข้าไปกอดท่าน

ชาย สรุปแล้ว เค้าไมได้รู้สึกไปเอง ตลอดเวลาที่ผ่านมา เค้าคิดว่ามันเป็นเรื่องเพ้อฝัน เพราะพระองค์เป็นหม่อมเจ้าที่เพียบพร้อม

ในทุกๆด้วย ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา การกีฬา การดนตรี แม้แต่การงาน ณ ตอนนี้ที่ทรงทำงานอยู่ก็กำลังก้าวหน้าและไปได้สวย



“ขอบพระทัย ท่านชาย”



   แดนภพกล่าวขอบคุณท่านชายทั้งๆที่อยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่นนั้น ทั้งสองคนมีความสุขต่างฉีกรอบยิ้ม ความสุขที่ดีที่สุดใน

ชีวิต ที่ไม่คิดว่าจะได้รับแต่ก็ได้รับแล้ว แดนภพเริ่มเปิดใจยอมรับหัวใจตัวเองมากขึ้นเพราะท่านชายผู้นี้ ผู้ที่แสนอบอุ่นที่สุดใน
ชีวิต






ปัง!  ปัง!



เสียงพังประตูดังลั่น จากแรงข้างนอกประตูที่พยายามพังมันเข้ามา ขจีได้ยินเสียงก็รีบวิ่งตามขึ้นมาดุ ปรากฏว่าเป็นพลตรีทหารชั้น

สูงกำลังพังห้องเสด็จ ด้วยความตกใจเธอจึงรีบวิ่งเข้าไปห้ามทันที ก่อนที่ประตูจะพังลงมาเสียก่อน


“ท่านนายพล เจ้าขา ใจเย็นๆเจ้าค่ะ  อย่าพังประตูเลย”


“กุญแจอยู่ไหน ไปเอากุญแจมาเปิดเดี๋ยวนี้”


“ค่ะๆๆๆ ไปแล้วค่ะไปแล้ว  ดุจังเลย”


“ท่านชาย  ท่านชายน้ำ  ดวงใจของกระหม่อม  กระหม่อมมาช่วยแล้ว ”


“คุณเขต!   คุณเขตมาช่วยผมแล้ว  ”


“อดใจรอนะท่านชาย กระหม่อมกำลังให้ขจีเอากุญแจมาเปิดให้”


“ขจี  ได้หรือยัง ทำไมช้าขนาดนี้” เสียงตะโกนของนายพลทหารดังลั่นบ้าน จนขจีตัวสั่นไปทั้งตัว


“มะ…มาแล้วเจ้าค่ะ  อย่าใจร้อนสิเจ้าคะ  มาแล้วๆๆ”


“เปิดเร็วๆสิ”


“ปะ…เปิดแล้วเจ้าค่ะ เปิดแล้ว เข้าไปได้เลยเจ้าค่ะ” ขจีทุลักทุเลในการเปิดประตูเพราะมือไม้ที่สั่นไปหมดด้วยความกลัวเขตมีมาก

เหลือเกิน



“ท่านชาย!”


“คุณเขต”


   น้ำวิ่งเข้ากอดเขตทันทีที่ประตูเปิดออก  เป็นภาพที่ซึ้งมาก ขจีเห็นแล้วแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ความรักนั้นไม่ได้มีเพียง

ชายหญิงจริงๆ  ขจีมองภาพที่สวยงามนั้นก่อนจะเดินเลี่ยงตัว ทิ้งไว้ให้ท่านชายน้ำและเขตอยู่ด้วยกันสองคน


“ท่านชาย กระหม่อมคิดถึงเหลือเกิน”


“ผมก็คิดถึง”


“จริงหรือกระหม่อม”


“ครับ คิดถึงอ้อมกอดแบบนี้มานานเหลือเกิน คุณเขตอย่าทิ้งผมไปไหนอีกนะ”


“ได้ๆ กระหม่อมรับปาก ”


   น้ำยิ้มให้เขต  ร่างสูงทำสีหน้าจริงจัง แววตาดูเป็นห่วงที่สุด ก่อนหน้านี้เค้าอยากช่วยอยู่บ่อยครั้ง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของ

คนในครอบครัว อีกอย่างเค้าไม่ควรไปยุ่งเรื่องของเจ้านายชั้นสูง  ได้แต่เพียงรอคอยเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น แต่สวรรค์ก็เข้าข้าง

เพียงไม่กี่วัน เสด็จก็ทรงรับสั่งให้มาช่วยน้ำทันที ต่อจากนี้ก็คงจะไม่มีใครมาขัดขวางเขาได้อีกแล้ว





มาต่อแล้วๆๆ  จะจบแล้วน้า  อีกตอนเดียวเท่านั้น อิอิ  อ้อๆๆ  ขอมาประชาสัมพันธ์เลยแล้วกัน นิยายเรื่องต่อไป

คือ สู่กลางใจเธอนะจ้ะ  ติดตามให้กำลังเรื่องให้ด้วยนะ
  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด