ตอนพิเศษ 2
ความลับไม่มีในโลกผมนอนมองคนตัวขาวที่กำลังหลับสบายอยู่บนเตียงในหอพักของผมมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว
เมื่อคืนเราไปดูบอลที่ละเมอเมากัน จู่ๆไอ้เด็กน้อยก็พรวดพราดมาลากผมออกจากร้านพร้อมกับคำสั่งให้ส่งมันที่บ้าน ส่วนแฟนผมก็ได้แต่ยิ้มแหยก่อนจะมุดเข้าไปนั่งที่เบาะข้างคนขับ ผมได้แต่เกาหัวแบบงงๆก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่งเมื่อคนออกคำสั่งที่นั่งเบาะหลังมันเคาะกระจกเร่ง
“รีบไปไหนวะ ยังไม่เที่ยงคืนเลย”
ส่งไอ้แฮนด์ที่หน้าบ้านแล้วก็วนรถกลับไปที่ม. หอผมอยู่ติดรั้วมหาวิทยาลัยคั่นกลางด้วยถนนสายเล็กๆที่รถเยอะไม่ต่างจากถนนใหญ่ เลี้ยวเข้าจอดที่ประจำ หันไปมองแฟนอีกครั้งก็เห็นว่ามันหลับไปแล้ว
“เปรม” เขย่าแขนเบาๆ คนหลับก็ปรือตาขึ้น ผงกหัวมองไปรอบๆแล้วค่อยลงจากรถ ผมหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์ทั้งของตัวเองและของเปรมก่อนจะล็อกรถแล้วรีบวิ่งตามคนที่กำลังแตะคีย์การ์ดเข้ากับประตูหน้าลิฟต์ เวลาเปรมง่วงๆมันไม่ค่อยสนอะไร สนใจแต่จะนอนเท่านั้น
“เดี๋ยวอย่าเพิ่งนอน ไปอาบน้ำก่อน” ผมรีบฉุดแขนขาวไว้เมื่อเจ้าของมันทำท่าจะทิ่มหัวลงกับเตียง กดจมูกลงกลางกระหม่อมก่อนจะลูบเบาๆบนเส้นผมนิ่มเหมือนขนแมว “..หัวเหม็นบุหรี่”
“ก็มึงไม่ใช่หรือไงที่สูบรมหัวกูอ่ะ” เจ้าตัวบ่นแต่ก็ยอมหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำแต่โดยดี ผมถอดเสื้อเหลือแต่ยีนส์ตัวโปรด คว้าผ้าขนหนูอีกผืนแล้วตามมันเข้าไป
เปรมมันรู้ว่าผมจะเข้ามาเพราะเราอาบน้ำด้วยกันบ่อยมันเลยไม่ได้ล็อกประตู มองตามตัวขาวๆใต้สายน้ำเย็นๆพร้อมๆกับจัดการกางเกงของตัวเองแล้วเดินเข้าไปยืนซ้อนหลังมัน กดยาสระผมจากขวดปั๊มมาขยี้เส้นผมสีดำสนิทเบาๆ เปรมโคลงหัวไปตามแรงมือของผมสักพักมันก็แตะปลายนิ้วลงบนหลังมือเป็นการบอกให้พอก่อนจะเปิดน้ำล้างอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ปล่อยให้มันถูสบู่ไป ส่วนผมก็จัดการหัวและร่างกายตัวเองบ้าง ให้อาบตัวให้มันไม่ได้หรอก เดี๋ยวอารมณ์มาจะลำบากกันไปหมด
“ง่วงอะไรนักหนาวะ” ผมถามหลังจากที่เปรมหาวออกมาเป็นรอบที่สามทั้งที่ยังเป่าผมอยู่หน้าพัดลม
“ก็กูง่วง เมื่อเย็นกูก็บอกมึงแล้วว่าจะนอนมึงก็ไม่ให้กูนอน ทำบ้าอะไรอยู่ได้ไม่รู้” มันบ่นหงุงหงิงก่อนจะโยนผ้าขนหนูใส่หน้าผมแล้วขยับขึ้นไปนอนเหยียดยาวบนเตียง เอาผ้าไปตากที่ระเบียงแล้วเดินไปปิดพัดลมปิดไฟ ฝ่าความมืดกลับมาที่เตียงแฟนผู้ประเสริฐก็ห่อตัวเองด้วยผ้านวมหนาไปแล้ว นอนลงข้างๆ กระตุกผ้าห่มแรงๆไปทีนึงเปรมเลยยอมปล่อยชายผ้าห่มให้ผมได้สอดตัวเข้าไปกอดเจ้าตัว นอนฟังเสียงลมหายใจของอีกคนจนกระทั่งมันสม่ำเสมอ เปรมคงหลับแล้ว
ผมกับเปรมเราคบกันมาได้ครึ่งปีแล้ว
ด้วยความสะดุดตากับยิ้มกว้างและลักยิ้มข้างแก้มซ้ายของเปรมบวกกับเพื่อนที่ติดสอยห้อยตามกันมามันยุ ผมเลยแอบจีบเปรมแบบเนียนๆตั้งแต่ช่วงกิจกรรมรับน้อง อาศัยว่าอยู่กลุ่มกิจกรรมเดียวกับมันแถมเรียนสาขาเดียวกันเข้าไปตีสนิทกับผู้ชายตัวขาวเสนอเบอร์โทรและไอดีไลน์ให้มันเสร็จสรรพก่อนจะกลับไปนอนคิดแผนจีบมันทั้งคืน
จากนั้นด้วยความซวย ในบรรดาผู้ชายในรุ่นทั้งเจ็ดสิบเจ็ดคนผมถูกเลือกเป็นเดือนสาขา ต้องไปเข้าคอร์สบุคลิกเหี้ยไรไม่รู้ก่อนแข่งกับเดือนสาขาอื่นๆในคณะ ทำให้เวลาที่จะเอาไปจีบเปรมลดลงเหลือเพียงแค่แชทไลน์กับโทรหาตอนกลางคืน แต่อย่างน้อยในความซวยก็ยังมีความโชคดีที่นอกจากจะได้แค่รองเดือนคณะแล้วรหัสนักศึกษาของผมกับมันยังห่างกันแค่ไอ้แพรคั่น
แต่ไม่รู้ว่าผมจีบมันเนียนเกินไปหรือยังไง ผ่านไปเทอมนึงมันก็ยังไม่รู้ตัว เปรมมันไม่มีเซ้นส์เรื่องพวกนี้เอาซะเลย เพื่อนกันที่ไหนมันจะมาโทรหากันตอนดึกๆวะ แม่งไม่เคยจีบหญิงรึไง
จนวันนึงผมชวนมันไปผับ ไอ้เหี้ยที่ไหนไม่รู้แม่งมาสีคนของผมต่อหน้าต่อตา ก็อย่างที่บอกว่าคนของเราแม่งก็ไม่มีเซ้นส์ ปล่อยให้ไอ้หน้าเหี้ยนั่นจีบจนผมทนไม่ไหวลากมันออกมานอกผับ
‘อะไรของมึงเนี่ย’ เปรมทำหน้างงผสมกับไม่พอใจที่ผมกระชากแก้วจากมือมันแล้วลากมันลิ่วๆออกมาที่ลานจอดรถ มันพยายามบิดข้อมือออกจากมือผมแต่ขอโทษ ตอนนี้โคตรโมโหไอ้เชี่ยนั่นเลย
‘ปล่อยสิวะ’‘ไม่ปล่อย! กลับบ้าน’‘เอ๊า บังคับกูทำไมเนี่ย ยังไม่ได้ลาพี่เต้เลย เค้าอุตส่าห์เลี้ยงเหล้ากูนะมึง อยู่ดีๆก็หนีเค้าออกมาแม่งโคตรเสียมารยาท’ ดูคำพูดมัน
ผมที่โมโหหึงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งทวีความไม่พอใจเข้าไปอีกเป็นเท่าตัว กระแทกตัวมันเข้ากับประตูรถของใครไม่รู้ที่จอดอยู่ใกล้ที่สุดในตอนนั้นก่อนเบียดตัวเข้าหาจนร่างกายแนบสนิทกัน เปรมร้องโอ๊ยเบาๆก่อนจะเบะปากมองหน้าผม
‘มารยาทห่าไรกูไม่สนทั้งนั้นแหละ รู้ไว้ด้วยว่ากูไม่พอใจ มึงปล่อยให้มันมาสีมึงได้ไงวะ ขนาดกูจีบมึงมาตั้งนานกูยังไม่ทำแบบมัน มันมีสิทธิ์อะไรมาวุ่นวายกับมึงมิทราบ’ ไม่ได้หลุดปาก ไม่ได้โมโหจนลืมตัว ผมตั้งใจบอกมันให้มันรู้ตัวสักทีว่าผมชอบมัน
เปรมอ้าปากค้างมองหน้าผมเหมือนไม่อยากจะเชื่อก่อนที่ใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีเรื่อเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์จะเปลี่ยนเป็นแดงจัดถึงใบหู มันเม้มปากก่อนจะก้มหน้าลงปล่อยให้ผมแตะคางลงกลางกระหม่อมมัน
‘กูชอบมึงนะเปรม ขอร้องอย่าทำเหมือนไม่รู้ตัว หรือถ้ามึงไม่รู้จริงๆตอนนี้กูก็บอกให้มึงรู้แล้ว อย่าปล่อยให้ใครยุ่งกับมึงแบบวันนี้ได้ไหม กูหวง’
‘มึงเป็นใครล่ะ ไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย’ มันพูดอุบอิบอยู่ในคอก่อนจะผลักผมออกแล้วเดิมก้มหน้ากลับไปที่รถ ผมจำได้ว่ากลั้นยิ้มจนปวดแก้ม อย่างน้อยมันก็ไม่ได้มองผมด้วยสายตารังเกียจ แล้วประโยคนั้นอีกล่ะ ขอเข้าข้างตัวเองว่ามันเปิดทางให้แล้วกัน
เปรมมันก็คงจะรู้สึกดีๆกับผมบ้างแหละ ไม่อย่างนั้นอีกอาทิตย์ถัดมามันคงไม่ยอมตกลงคบกับผมหรอก จริงมั้ย?
หลังจากคบกันผมกับเปรมก็มีข้อตกลงกันว่าเราจะคบแบบลับๆเพราะเปรมยังไม่อยากให้ใครรู้ ผ่านไปจนขึ้นปีสองทุกอย่างยังคงเงียบ ไม่มีใครสงสัย แต่สุดท้ายความลับก็ไม่มีในโลก
ไอ้แพรมันรู้จนได้
บังเอิญว่ามันย้ายมาอยู่หอเดียวกับผม บ่ายวันนั้นมันมาเรียกให้ผมไปช่วยขนของ ผมเปิดประตูห้องให้มันด้วยสภาพกางเกงขายาวตัวเดียวตอนที่เปรมกำลังอาบน้ำ ไม่คิดว่าแพรมันจะพรวดพราดเข้ามาในห้องซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เปรมเดินออกมาในสภาพผ้าขนหนูผืนเดียว ไอ้คนที่เป็นผู้หญิงคนเดียวในห้องก็ไม่ได้สำเหนียกว่าตัวเองเป็นผู้หญิง มันจ้องอกขาวๆของแฟนผมด้วยสายตามีเลศนัย ตอนนั้นนึกออกแค่คำว่าชิบหาย
เปรมขอไม่ให้ผมทำรอยไว้ที่คอเพราะมันไม่อยากให้ใครเห็น
แต่รอยจูบสีชมพูสองสามรอยที่หน้าอกและไหปลาร้าฟ้องได้ดีว่าอะไรเป็นอะไร
ไอ้แพรจุ๊ปาก เหล่มองผมกับเปรมสลับกันไปมา แค่นั้นก็รู้แล้วว่ามันประติดประต่อความสัมพันธ์ของผมกับแฟนได้แบบไม่ต้องถาม สุดท้ายมันก็ลอยออกจากห้องไปพร้อมกับประโยคที่ทำให้เปรมทุบหลังผมแรงๆไปที
‘แหมๆ ไม่กวนเวลาคนรักกันดีกว่า ถึงว่าล่ะน้า ตกเย็นทีไรปล่อยน้องแฮมสเตอร์กลับบ้านคนเดียวตลอดดด’จากนั้นก็ต้องคอยระแวงไอ้แพรว่ามันจะหลุดปากป่าวประกาศให้คนรู้เมื่อไหร่ ที่จริงผมไม่ซีเรียสเลยซักนิด แต่เปรมคงยังไม่พร้อมซึ่งผมก็เข้าใจนะ มันคงห่วงไอ้แฮนด์ กลัวไอ้เด็กน้อยนั่นจะคิดมากว่าถูกทิ้งไปมีแฟน
อืม รำลึกความหลังมาพอแล้ว ราตรีสวัสดิ์แล้วกันนะครับ พรุ่งนี้ค่อยเจอกัน
.
.
“เพิ่มแอร์หน่อย ..หนาว” ผมลืมตาขึ้นมาตอนหกโมงเช้าเพราะเสียงเรียกพร้อมกับแรงเขย่าเบาๆของคนข้างๆ เปรมขดตัวอยู่ในอ้อมแขนผม พูดทั้งที่ยังหลับตา มือก็ม้วนเอาผ้าห่มเข้าไปกอด ผมเดินลงจากเตียงไปปรับแอร์ให้แล้วกลับลงไปนอนเหมือนเดิม ส่วนไอ้คนที่มันเริ่มสบายตัวก็หลับอุตุต่อไป
แต่แหม ตื่นมาเช้าๆอะไรๆก็ตื่นไปหมด เห็นหน้าขาวๆหลับตาพริ้มของแฟนตัวเองนอนอยู่ข้างตัวแล้วชักจะมีอารมณ์ แกล้งแม่งดีไหม
ความคิดน่ะแค่นั้น แต่การกระทำนี่นำหน้าไปแล้ว
ก้มลงจูบซอกคอขาว ไต่ไปตามผิวเนื้อพร้อมกับเป่าลมหายใจอุ่นๆใส่ลงไปทุกที่ที่ปลายจมูกและริมฝีปากลากผ่าน หยุดอยู่ที่ยอดอกสีอ่อนก่อนจะเหลือบตามองคนที่เริ่มหายใจหอบ เปรมขมวดคิ้วน้อยๆ ยื่นมีมาปัดหน้าผมออกแต่เรื่องอะไรจะยอมวะ
“อื้อ .. อย่ากวน” เสียงพร่าขนาดนี้ไม่กวนได้ไง
“ไม่ได้กวนครับ ตื่นหน่อยน่า เมื่อคืนก็ไม่ได้ทำ” กระซิบชิดอกขาวแล้วแตะปลายลิ้นกระตุ้นไปที เปรมหรี่ตามองแบบไม่พอใจเต็มที่ ยกมือมาตะปบแก้มสองข้างของผมแรงๆ เชี่ย โคตรเจ็บ
“ไอ้เหี้ยย เมื่อคืนไม่ได้ทำแต่ก่อนออกไปก็ทำไปแล้วไงโว้ยย ไม่ต้องมาเนียน” ก็นะ นี่แหละสาเหตุที่เมื่อวานมันหาวทั้งคืน
“เอาน่า ซักรอบเนอะ”
“อ. . ไอ้” จูบปิดปากซะก็ปฏิเสธไม่ได้แล้ว จริงไหม?
สิบโมงตรง
แต่งตัวเสร็จก็เดินไปหาเปรมที่หลับสนิทไปอีกรอบ ก้มลงจูบหน้าผากกับรอยย่นระหว่างคิ้ว เขียนโน้ตบอกมันไว้เผื่อตื่นมาก่อนที่ผมจะกลับว่าเที่ยงจะซื้อข้าวมาให้แล้วเปิดประตูออกไป
“ไงมึง หายหัวเลยนะเมื่อคืน” ไอ้แพรเจ้าเก่า นั่งแคะเล็บอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าลิฟต์ มันเห็นผมเดินออกมาก็ลุกมาแขวะทันที แม่ง ลืมไปเปล่าวะว่าอาศัยรถกูไปเรียนทุกวัน
“เสือกไง”
“หยาบคายกับสตรีนะมึง โด่ว รีบกลับไปกกเมียอ่ะดิ แล้วมันไปไหนล่ะ เมื่อคืนไม่ได้นอนกับมึงหรือไง” ด่าไปนี่ไม่ได้สะเทือนอะไรเลยสินะ
“ยังไม่ตื่น”
ไอ้แพรหลิ่วตาจุ๊ปาก หมั่นไส้ท่าทางมันชิบหายเลยว่ะ ต่อยซะทีดีมั้ย “หนักล่ะสิมึง แหมถนอมแฟนบ้างก็ดีนะเธอ อุ๊ยตาย วันนี้ขอซ้อนฟีโน่คุณไส้เดือนอวดชะนีการจัดการหน่อยนะคะ”
มันจีบปากจีบคอพูดเมื่อเงยหน้าเห็นสาวการจัดการคู่อริมันเดินมาตามระเบียงชั้นสองของหอ “ฟีโน่สีชมพูมันมีอะไรน่าอวดวะ”
“อิโง่ กูไม่ได้อวดรถ กูอวดคน แหมๆถึงมึงจะเป็นแค่เดือนสาขาแต่ก็เดือนนะคะ เหม็นขี้หน้าอิพิ้ง แหม เห็นว่าอยู่หอเดียวกันแล้วจะอ่อยยังไงก็ได้สินะนาง ไม่ได้รู้เล้ยว่าเมียเค้านอนอยู่บนห้อง นี่มึงรู้ป่ะ กูจะเล่าให้ฟัง..” ปล่อยมันเจื้อยแจ้วไป ใส่หมวกกันน็อกเข้าไปก็ไม่ได้ยินแล้ว ติดอยู่อย่างเดียวเนี่ย ..กอดเอวกูเพื่อ? ขนลุก
แว้นมาจอดหน้าคณะเจอไอ้แฮนด์เด็กน้อยยืนหน้าเอ๋ออยู่กับพี่แอนนี่ จะเข้าไปทักพวกไอ้โก้บริหารก็ตะโกนเรียกซะก่อน คุยกับมันเพลินจนลืมเวลา มองนาฬิกาอีกทีก็เลยเวลาเข้าเรียนไปห้านาทีแล้ว วิ่งตาเหลือกขึ้นชั้นสาม แอบย่องเข้าหลังห้องตอนที่อาจารย์กำลังก้มหน้าก้มตาเปิดสไลด์ ฟังอาจารย์สอนไปเรื่อยๆแบบลืมเลคเชอร์ตามจนหมดคาบก็งานเข้าอีกแล้ว
“นายกานต์กวีมาคุยกับอาจารย์เรื่องเปิดร้านด้วยนะ”
โถ่อาจารย์ ผมจะกลับไปกอดแฟน
บ่ายโมงตรงเป๊ะตอนผมไขกุญแจเข้าห้อง ผ้าม่านหนาที่ผมเอามาเปลี่ยนทำหน้าที่ได้ดีมาก ห้องมืดจนแทบเดาไม่ถูกว่าตอนนี้กี่โมงกันแน่ รอจนสายตาปรับกับความมืดได้ก็เดินเข้าไปหาก้อนกลมๆบนเตียง ตอนออกไปท่าไหนกลับมาก็ยังท่าเดิม โผล่มาแค่หัวยุ่งๆกับหน้าขาวๆ
“เปรม ตื่นได้แล้ว” เขย่าแขนมันจนอีกฝ่ายขยุกขยิกปรือตาตื่น มันบ่นในลำคอแต่ก็ยอมพยุงตัวลุกขึ้นนั่งหน้าเบ้ พึมพำว่าเมื่อยพร้อมกับทำปากยื่น ขยี้หัวฟูฟ่องไปทีแล้วเดินไปลากม่านให้เปิดออกรับแสงสว่าง หันกลับมาอีกทีเปรมก็ยังนั่งหน้ามุ่ยอยู่ที่เดิม
“อาบน้ำสิครับคุณ หรือต้องให้อาบให้ครับ” ปากว่าไปนั่นแต่มือสอดเข้าใต้รักแร้อุ้มมันขึ้นในท่าอุ้มเด็กไปแล้ว มันด่าเบาๆแต่มือสองข้างกลับกอดคอผมแน่นพร้อมกับอ้าปากกัดไปที เจ็บจี๊ดเลยทีเดียว ..ขยันสร้างอารมณ์ให้กูจังวะแฟน
วางร่างเปลือยลงกับพื้นจะผละออกจากไปมันก็ดันมาดึงเสื้อไว้อีก ก้มลงเอาหน้าผากแนบกับคนเตี้ยกว่า “เอาอะไร?”
“ปวดอ่ะ เมื่อยด้วย”
คืออ้อนสินะ ..โอเค วันนี้ยอมเปียกอีกวัน
ไม่ได้ทำอะไรกันครับ แค่อาบน้ำให้ ลากยีนเปียกๆออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับกระเตงแฟนที่ผันตัวเองมาเป็นลูกออกมาทิ้งไว้ที่เตียง โยนผ้าขนหนูกับเสื้อผ้าให้ก่อนจะจัดการกับกางเกงตัวเองบ้าง หันมาอีกทีเปรมก็นั่งรอกินข้าวหน้าทีวีเรียบร้อย
“ไม่ปลุกกูไปเรียนด้วยวะ อาจารย์เช็คชื่อป่ะ” ส่ายหัวตอบมันแล้วลงมือกินข้าวที่เปรมเปิดใส่จานไว้ให้ ข้อดีของมันอีกอย่างคือมันเป็นคนที่ใส่ใจคนอื่น อะไรที่มันคิดว่าไม่ได้ยุ่งยากลำบากมันก็จะทำเอง ยกเว้นแต่เวลาไม่ปกติเหมือนอย่างที่อ้อนให้อาบน้ำให้เมื่อกี๊ แต่ผมชอบนะ ได้ลวมลามมันไปด้วย ถือโอกาสซักกางเกงไปในตัว ไม่เจอน้ำมานานละ
“เจอไอ้แฮนด์ด้วย คุยกับพี่แอนนี่อยู่หน้าตึก”
“แฟนพี่เคทอ่ะนะ หรือมันจะเชื่อกูไปเข้าทางพี่แอนนี่จริงๆวะ”
“มั่วละ พี่แอนนี่เค้ามีแฟนอยู่แล้วเว้ย” แฟนสุดที่รักหรี่ตามองเหมือนจับผิด หึงกูล่ะมั้งแบบนี้ “เค้าเคยเล่าให้กูฟังตอนเลือกเดือน”
“ให้มันจริง”
ไอ้เหี้ย แฟนกูหึงจริงๆด้วยครับ ชาตินึงจะหึงที หัวเราะหึๆใส่มันแล้วเก็บเอาจานออกไปล้าง กลับเข้ามาเปรมมันก็เก็บพื้นที่เรียบร้อยขึ้นไปนั่งเล่นโทรศัพท์ผมบนเตียงแล้ว ส่วนโทรศัพท์มันปิดเสียงซ่อนไว้ไหนไม่รู้ “เชี่ย วันนี้มีเรียนบ่ายด้วยนี่หว่า”
เออว่ะ วันนี้อาจารย์นัดชดนี่หว่า มองนาฬิกาก็บ่ายสองกว่าแล้ว กว่าจะถึงคณะก็บ่ายสามพอดี แทนที่จะได้หน้าว่ามาเรียนมันจะกลายเป็นโดนหักคะแนนมากกว่า เอาคำว่ามาช้าดีกว่าไม่มามาใช้ในกรณีนี้ไม่ได้หรอกเชื่อผม
“นั่งเฉยนี่จะไม่ไปใช่มั้ย?”
“ไปตอนนี้อ่ะนะ ไปเพื่อ? อาจารย์ไม่เช็คชื่อหรอก”
เปรมเบะปากใส่แล้วทิ้งตัวลงเกลือกกลิ้งกับเตียง ผมเห็นแล้วแอบยิ้ม โถมตัวลงไปฟัดมันจนเจ้าตัวร้องโวยวาย ตะเกียกตะกายปีนขึ้นมานอนทับผมแทน เปรมวางคางลงบนอกผม ตาก็จ้องหน้าเขม็ง
“มึง” เอาละเริ่มส่อแววดราม่า “มึงชอบกูตรงไหนวะ?”
“หืม? อยากรู้จริงอ่ะ” โดนต่อยไหล่ไปทีนึง “..ก็ มึงน่ารัก แน่น ท่าไหนก็ได้ เสียงครางก็เพราะ โอ๊ย” ล้อเล่นหน่อยเดียวหมัดมันมาเป็นชุด ทั้งขำทั้งเจ็บจนต้องล็อกข้อมือมันไว้ ผงกหัวขึ้นจูบหน้าผากมันก่อนจะบอกล้อเล่น ในที่สุดมันก็หยุดดิ้น ยอมนอนนิ่งๆอยู่บนตัวผมเหมือนเดิม
“กูชอบที่มึงเป็นมึงไง เป็นแบบนี้ ห่วงคนอื่น เอาใจใส่ทุกคน ถึงมันจะเหมือนมึงละเลยกูไปบ้างแต่กูก็เข้าใจเพราะมึงเป็นคนแบบนี้ ถึงจะห่วงคนอื่นแต่ก็มีเวลามาอยู่กับกูเสมอ ยอมให้กูเอาแต่ใจได้ ตัดสินใจเองได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ ..” เปรมอมยิ้ม
“กูรักมึงเพราะมึงไม่เคยขอให้กูเปลี่ยนเพื่อมึง ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อกูแต่พยายามปรับตัวจนเราอยู่ด้วยกันได้ .. แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับเหตุผลที่กูรักมึง อ้อ ..” ผงกหัวขึ้นจูบลักยิ้มข้างแก้มซ้ายของมัน
“.. รักรอยยิ้มของมึง ถ้าไม่มีมันกูคงไม่ได้จีบมึง”เปรมพลิกหน้าแนบลงบนอกผม รู้สึกได้ถึงแก้มมันที่ขยับยุกยิกเบียดผ่านเนื้อผ้า มันคงยิ้มอยู่เลยไม่อยากให้ผมมอง ไม่ต่างจากผมที่ยิ้มกว้างให้กลุ่มผมสีดำสนิทบนอก ลูบหัวกลมๆของเปรมไปด้วย
เอาเถอะ ไม่ให้มองลักยิ้มก็ไม่เป็นไร มองหูแดงๆของมันไปพลางๆก่อนละกัน ^_______^
.
.
ผับ DNC
กลับมารำลึกความหลังกันครับ
เมื่อวานเป็นครั้งสุดท้ายของการเปิดร้านขายน้ำ พี่เคทหน้าสวยยังคงเต๊าะแฟนเด็กน้อยของตัวเองด้วยการวนเวียนมาซื้อนมเย็นที่เก่าเวลาเดิมทุกสัปดาห์ จนตอนนี้เค้ารู้กันทั้งคณะแล้วว่าพี่เคทกับไอ้แฮนด์เป็นแฟนกัน ดีไม่ดีจะรู้ทั้งมหาลัยแล้วมั้ง ก็คนของประชาชนนี่นะ
เหนื่อยกับการขัดเกลาภาษาในรายงานที่เขียนส่งอาจารย์วันนี้ก็เลยชวนแฟนมาเที่ยวซักหน่อย ผับเดิมที่เดียวกันกับที่ผมเคยบอกชอบมันนั่นแหละ งานนี้ไม่มีตัวแถมหน้าไหนทั้งนั้น ดื่ม เต้น สี กันสองคนทั้งมืดๆนี่แหละ สะดวกดีไม่ต้องระวังสายตาใคร
“ไอ้เหี้ยนั่นมองมึงทำไมนักหนาวะ” เกือบอารมณ์ดีแล้วเชียวถ้าไม่ติดว่ามีไอ้ตัวนึงมันจ้องคนของผมมาสักพักแล้ว แม่ง เหตุการณ์คุ้นๆ อย่าลุกมานะมึง
“เฮ้ยทำไร!?” เปรมสะดุ้งเมื่อผมยกแขนโอบเอวมันไว้ ตีหน้าเฉยยกแก้วขึ้นจิบ มันไม่ได้ว่าอะไรหันไปส่งสายตาให้สาวสวยชุดขาวโต๊ะถัดไป ตาถึงจริงวะแฟนผม โคตรเซ็กซี่เลย
“หวัดดีครับ” นั่นไง โอบเอวขนาดนี้แม่งยังกล้า “ผมไอซ์นะ”
เปรมละสายตาจากสาวชุดขาวหันกลับมางงๆตอนที่ไอ้นั่นมันนั่งลงข้างแฟนผมอีกฝั่ง มันเบียดตัวเข้าหาอกผมนิดๆเมื่อไอ้ไอซ์มันโน้มตัวยื่นแก้วมาขอชน แม่งผับนี้มันเหี้ยอะไรเนี่ย ดีดน้ำมันพรายไว้หน้าประตูหรือไงวะ ครั้งที่แล้วก็ไอ้เหี้ยพี่เต้อะไรนั่น
“ทำไมเพื่อนทำหน้าดุจังครับ” เพื่อนพ่อมึงสิไอ้ห่า
ผมรัดเอวเปรมแน่นจนมันทำหน้าเบ้ เปรมมันไม่รู้วิธีปฏิเสธอะไรแบบนี้หรอก อย่างที่บอกว่ามันไม่มีเซ้นส์ มันคิดแค่ว่าตัวเองเป็นผู้ชาย การที่ผู้ชายเข้ามาขอชนแก้วก็แค่ทักทาย มันคงลืมไปว่ามันก็เคยยุไอ้แฮนด์ให้ไปเนียนทักพี่เคทแบบนี้เหมือนกัน
“ไม่ใช่เพื่อนครับ นี่..”
“ไอซ์!!”ยังตอบไม่จบประโยคเสียงเรียกชื่อไอ้นี่ก็ขึ้นด้านหลังมัน ในแสงสลัวผมเห็นมันสะดุ้งก่อนจะค่อยๆหันกลับไปหาคนเรียก “.. ไปทำงานไม่กี่วันมึงหนีเที่ยวเหรอห้ะ! แล้วนี่ทำไร จีบเมียชาวบ้าน? มีผัวอยู่แล้วยังคิดจะไปเป็นผัวคนอื่นอีกหรือไงวะ”
“พี่ท้อป” หน้าซีดๆของมันเห็นแล้วสะใจดีแท้ มันหันมาทำคอตกใส่ไอ้เปรมแล้ววิ่งตามผัวมันออกไป
“มีแบบนี้ด้วยเหรอมึง” เปรมกะพริบตาปริบๆใส่จนผมอดไม่ได้ต้องก้มลงจูบหน้าผากมันแรงๆ
“ข้างหน้าคงไม่ได้ใช้งานนานแล้วมั้ง อาจจะอยากบริหาร” มันหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ ผมอมยิ้มตามจ้องลักยิ้มมันไปด้วย อยากจูบมันจัง
“ทำไรมึงเดี๋ยวคนเห็น” เปรมว่า มันยกมือมาดันปากผมไว้ตอนที่ผมก้มหน้าลงไปหา ทำตาอ้อนขอจูบมันสุดท้ายมันก็ยอม
แตะปากลงบนมุมปากสีชมพูก่อนจะเม้มริมฝีปากล่างมันเบาๆ ไล่ลิ้นไปตามรอยแยกแล้วสอดเข้าไปด้านใน ควานหาลิ้นนุ่มนิ่มของอีกคน เกี่ยวพันกันเล่นจนเปรมครางออกมาเบาๆ หรี่ตามองใบหน้าขึ้นสีเรื่อที่กำลังหลับตาพริ้มรับสัมผัส เบี่ยงองศาให้ริมฝีปากแนบสนิทยิ่งขึ้น เก็บเกี่ยวความหวานผสมรสเฝื่อนของแอลกอฮอล์จนพอใจถึงได้ยอมละออกมา จูบแค่ภายนอกย้ำๆอีกหลายครั้งก่อนจะยอมถอยออกจริงๆ เปรมค่อยๆปรือตาขึ้นมองก่อนจะเสหลบไปมองด้านข้างก่อนจะสะดุ้งตาโต
“ไอ้แฮนด์!”
.
.
“แหม เปิดตัวได้สักทีนะพวกมึง ไอ้กูก็กลัวจะหลุดอยู่ตั้งนาน สุดท้ายก็หลุดเอง ฮ่าๆ” ไอ้แพรหัวเราะสะใจเมื่อมันเห็นผมกับเปรมเดินเข้ามาในคณะพร้อมกัน ในมือมันถือโทรศัพท์ที่หน้าจอเปิดแอพเฟซบุ๊คหรา ส่วนพวกที่นั่งรอขึ้นเรียนอยู่รอบๆก็พร้อมใจกันส่งเสียงแซวกันโหวกเหวก
สรุปคือคืนนั้นไอ้แฮนด์กับแฟนมันก็หนีเที่ยวกันสองคนเหมือนกัน แล้วก็โคตรบังเอิญที่ดันมาผับเดียวกัน เด็กน้อยมันบอกว่าเห็นพวกผมตั้งแต่ผัวไอ้ไอซ์มาตามแล้วแต่เพิ่งฝ่าดงมนุษย์เมาทั้งหลายมาถึงโต๊ะพวกผมได้ตอนที่ปากเราแนบกันไปแล้ว มันได้แต่ยืนตาค้างมองจนเปรมหันมาเจอนั่นแหละถึงได้สติ ส่วนแฟนมันก็ยืนอมยิ้มอยู่ข้างหลัง
หลังจากถูกเค้นถามเปรมก็เลยเล่าให้ฟังจนหมดเปลือก เว้นแต่สถานะบนเตียงที่มันไม่เล่าแต่ไอ้แฮนด์ก็น่าจะรู้ได้จากขนาดตัวผมกับเปรม เพราะแทนที่จะโกรธไอ้แฮนด์กลับหัวเราะฮ่าๆ แล้วบอกเพื่อนมันให้หน้าแดงเล่น
‘มิน่า ตอนมันเลือกขายน้ำมึงถึงบอกไม่เอาน้ำมัน กินจนเบื่อนี่เอง ฮ่าๆ’แล้วที่มันรู้กันทั้งคณะเนี่ยก็เพราะว่าคืนนั้นมันดันมีมือดีที่เสือกจำผมกับไอ้เปรมได้แอบถ่ายรูปตอนกำลังนัวกันไว้อีก คืนเดียวแม่งไลค์กันถล่มทลาย โดนเปรมค่อนขอดว่าไม่น่ามีแฟนเป็นรองเดือนคณะไปอีกค่อนคืน ..ก็แฟนคุณหล่อ แฟนก็ทำใจหน่อยสิครับ
‘หลักฐานจ้า พี่กันเดือนเศรษฐศาสตร์เค้ามีแฟนแล้วนะ สวีทกันสุดๆ ปากว่าไม่เท่าตาเห็นนะยูวว’ with – Karnkawee Surakasemsuk and Prem Arreesakul“ดีแล้ว กูก็ไม่อยากปิดแล้ว ไม่อยากทำเหมือนแอบคบกัน”
เปรมวางโทรศัพท์ที่หน้าจอเป็นรูปเราสองคนตอนอยู่ในผับลงกับตักแล้วเอียงหัววางซบไหล่ผม พยักหน้าหงึกทั้งหูแดงจัด ผมแอบหอมหัวมันไปที มีไอ้แพรกับไอ้แฮนด์จุ๊ปากแซวไม่หยุด
“อือ ไม่ปิดแล้ว ก็ความลับไม่มีในโลกนี่เนอะ”
“ใช่ มีแต่ความรัก” ได้ยินเสียงอ้วกเป็นแถว ฮะๆ ดีใจว่ะ อย่างนี้มันน่าตบรางวัลให้คนแอบถ่าย
“แต่รูปนี้สวยเนอะ หน้ามึงเคลิ้มได้ที่เลย แบบนี้ต้องตั้งเป็นล็อกสกรีนแล้วมั้ง” โดนไปหนึ่งตุ้บ ฮ่าๆ
รักแฟนผมจัง
FINอีกตอนนึงงง
คุณ nevergoodbye รู้ได้ไงอ้ะว่าเค้าจะมีอีกคู่ 555
ตอนสุดท้ายแล้ว หมดมุกแล้วค่ะ
หวังว่าจะไม่งงนะ คุณกันเนี่ยเค้าเป็นเดือนสาขาเศรษฐศาสตร์ และเศรษฐศาสตร์เป็นสาขาหนึ่งในคณะ... (ไม่บอกหรอก ฮี่) คุณกันก็เลยเป็นเดือนสาขา แต่เป็นรองเดือนคณะ ไม่มีใครงงเนอะๆ
ฝากคุณกันจัญ... ของเพื่อนๆกับน้องเปรมไว้อีกคู่น้าา
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านจ้า คิดอยู่ตั้งนานว่าจะลงดีมั้ย เขินอ่ะ 555