Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=  (อ่าน 228662 ครั้ง)

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
ตอนที่ 13

ครึ่งหลัง






“สวัสดีครับคุณขจร ขออภัยที่ไม่ได้อยู่ต้อนรับด้วยตัวเอง”

“อ้าว? คุณรามมาแล้วเหรอครับ ผมต่างหากที่ต้องขอโทษที่มาไม่บอกก่อนล่วงหน้า” เห็นขจรยอมให้แบบนี้ร่างแกร่งก็ถึงกับตกใจมองหน้าอินทัชที่เบือนหน้าหนีเขา

แต่ก็ไม่ไว้ใจอยู่ดี...

“ตอนนี้ผมมีธุระกับอินทัช ขอตัว ‘คนของผม’ ได้หรือเปล่าครับ เดี๋ยวผมให้คุณภพมาดูแล”

“หืม...ก็ได้ครับไม่มีปัญหา แต่เย็นนี้ภรรยากับลูกชายผมจะเดินทางมาที่นี่ ขอให้คุณอินทัชมาดูแลลูกชายของผมหน่อยนะครับ” ขจรไม่ได้ขอแต่เป็นการบังคับมากกว่า ร่างสูงกัดแฟนแน่นทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ส่งยิ้มธุรกิจกลับไปให้

“ได้ครับ ไม่มีปัญหา”

“ขอบคุณครับ”

“งั้นผมขอตัวก่อน คุณภพต้อนรับแขกดีๆ นะครับ” รามินทร์หันไปสั่งผู้จัดการของที่นี่ด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ก่อนจะไปจับแขนที่เล็กกว่าอย่างอินทัชแน่นจนรู้สึกเจ็บ “ตามสบายเลยนะครับ”

ใบหน้าสวยเหยเกเพราะถูกบีบแน่น อยากจะบิดหนีแต่ก็กลัวจะเจ็บเพิ่ม เลยทำได้เพียงเดินตามคนเจ้าอารมณ์ไป

“แล้วพี่จะกลับมาทำโทษจอม!! ส่วนมึงมานี่เลย!” ร่างสูงคาดโทษน้องชายที่ทำหน้าแบบรู้สึกผิดอยู่ตรงหน้าประตู เจ้าจอมรู้สึกผิดกับอินทัชที่ช่วยอะไรไม่ได้ ไม่ใช่รู้สึกผิดกับพี่ชายตัวเอง

“ขอโทษนะฮะพี่อิน”

เจ้าจอมได้แต่มองตามอย่างนึกเป็นห่วง


ปึก!!!

“โอ๊ย!! เบาๆ ไม่เป็นหรือไงวะ ถ้าหลังกูหักขึ้นมา มึงมีปัญญารับผิดชอบไหม!!!” อินทัชด่ารามินทร์ดังลั่นเมื่อโดนผลักกระแทกกำแพงห้องทำงานของรามินทร์

“ทำไมกูต้องรับผิดชอบ!! แล้วใครให้มึงสะเออะไปรับแขกของกู คิดจะหนีหรือไง คิดจะท้าทายกูใช่ไหม อยากรู้ใช่ไหมว่ากูจะกล้าทำอะไรไอ้จักรกับหมอเงินจริงๆ หรือเปล่า!!!” เสียงทุ้มตวาดลั่นจนอินทัชขมวดคิ้วไม่พอใจ

อยากจะเถียงแต่เถียงไปก็แพ้

“ทำเป็นเงียบ กูพูดถูกล่ะสิ มึงบอกอะไรคุณขจรไปบ้าง!!!”

“มึงจะขึ้นเสียงหี้ยอะไรนักหนาวะ กูไม่ได้บอกอะไรทั้งนั้น กูรับแขกให้มึงเฉยๆ เพราะเจ้าจอมขอมา กูจำได้ดีว่ามึงขู่เหี้ยอะไรกูไว้บ้าง!! และกูก็ไม่มีวันทำให้คนที่ ‘ดี’ กับกูเดือดร้อน!!!” เขาเองก็ตะคอกใส่หน้ารามินทร์กลับไปด้วยความโกรธ

อะไรๆ เขาก็ผิด...จะมีบ้างไหมที่ได้ยินคำว่าขอบคุณจากปากของมัน...

คนเขาช่วย ก็ยังมาว่า มาด่า...

“กูจะทำอะไรก็เรื่องของกู...แต่กูไม่เชื่อว่ามึงจะไม่บอกอะไรคุณขจร...โอกาสอยู่ตรงหน้าขนาดนั้น กูไม่เชื่อว่ามึงจะไม่พูดอะไร!!”

“มึงนี่มัน!!” อินทัชด่าต่อไปไม่ถูก หันหน้าหนีอีกคนที่จ้องมองเขาด้วยสายตาดุร้ายเหมือนสัตว์ป่า

“หึ! กูพูดถูกล่ะสิ มึงบอกอะไรคุณขจร มึงบอกให้เขาแจ้งตำรวจมาจับกูใช่ไหม!!”

“แล้วสภาพของกูตอนนั้น ถ้าพูดไปแล้วคุณขจรจะเชื่อไหม ในเมื่อกูดูไม่มีอะไรเหมือนคนโดนจับตัวมาเลย เจ้าจอมก็พูดบอกคุณขจรว่ากูแค่มาเที่ยว เจ้าจอมก็อยู่ กูจะพูดอะไรได้ ไหนตอบกูมาสิ! ว่ากูจะพูดอะไรได้!!!”

ร่างสูงสะอึกแล้วนิ่งไป ครุ่นคิดตามที่อินทัชพูด พลางมองการแต่งกายของอินทัชที่อยู่ในชุดที่ดูดีกว่าชุดที่เขาให้ใส่มาก บอกไปก็คิดว่าอำเล่นแน่ๆ

แล้วคนที่ถูกจับตัวมา ใครจะปล่อยไปให้เจอคนอื่นง่ายๆ

“มึงไม่ได้พูดแน่นะ”

“เออ!! กูไม่ได้พูด”

“แล้วตอนที่เจ้าจอมอยู่ข้างนอกล่ะ”

“กูมีสัจจะมากพอ...ถ้ามึงต้องการให้กูชดใช้ กูจะชดใช้ให้ ชาตินี้เราจะได้ไม่ต้องมีอะไรข้องเกี่ยวกันอีก!!”

“เออ!! งั้นก็อยู่ให้กูทรมานก่อนก็แล้วกัน...”

“หึหึ...จนวันนี้กูเริ่มชินแล้วว่ะ...อยากจะทำอะไรก็ตามสบาย ตอนนี้กูไม่รู้สึกอะไรแล้ว” อินทัชว่า

น้ำเสียงและสีหน้าของร่างโปร่งดูเหนื่อยจนรามินทร์เห็นได้ชัด

“ก็ดี ถ้างั้นก็ทำตัวเป็นหุ่นยนต์ไปก็แล้วกัน ถ้ามึงไม่บอกก็แล้วไป แต่ถ้ากูเดือดร้อนเมื่อไหร่ กูเอามึงตายแน่ๆ”

“เออ!!! ทำคุณบูชาโทษจริงๆ” ร่างโปร่งบางพึมพำ แต่รามินทร์ก็ได้ยิน จนต้องมองคนตรงหน้าตาขวาง

“กูขอเหรอ!!!”

ได้ยินแบบนั้น อินทัชก็เม้มปากแน่น มันก็จริงอย่างที่รามินทร์พูด มันไม่ได้ขอเขาจริงๆ เขาผิดเองที่เข้าไปช่วย เขาผิดเองที่ใจดีกับเจ้าจอมมากเกินไป

ต่อจากนี้เขาจะไม่ยุ่งเรื่องของมันอีกแล้ว

“เออ!! กูขอโทษ กูยุ่งเอง กูเสือกเอง!! กูน่าจะปล่อยให้คุณขจรลดเครดิตมึงไปซะ ขอตัวก่อน จะไปทำงานทาสต่อ!!!” เขาผลักอกมันออกไปจากตรงหน้าแรงๆ จนร่างสูงเสียหลักไปตามแรงผลักของคนที่ตัวบางกว่า

อินทัชออกไปแล้ว ทิ้งให้ร่างสูงหงุดหงิดอยู่แบบนั้น

“โธ่เว้ย!!!”

ร่างสูงทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ของตนอย่างแรง หลับตาลงด้วยความปวดศีรษะ แล้วก็หงุดหงิดใจที่ตัวเองต้องมาติดหนี้บุญคุณอินทัช

“ทำไมต้องมาติดหนี้บุญคุณมันวะ”

ยอมรับว่าถ้าอินทัชไม่ไปต้อนรับขจรแทนเขา รับรองได้ว่าเขาได้เสียรายได้และเสียเครดิตจากคนใหญ่คนโตไปเยอะแน่ เนื่องจากเครือข่ายของขจรที่มาพักรีสอร์ทของเขานั้นมีค่อนข้างเยอะ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“เข้ามา”

“เอ่อ...พี่รามฮะ” เสียงกล้าๆ กลัวๆ ของเจ้าจอมเรียกพี่ชายพร้อมกับเดินมาหาด้วยความไม่มั่นใจ

“มาแล้วเหรอตัวดี”

“จอมขอโทษ ก็มันจำเป็นจริงๆ นี่ฮะ”

“หึ! แล้วทำไมไม่รู้จักรับหน้าเอง”

“ก็จอมไม่เคยทำนี่ แล้วคุณขจรก็เป็นคนใหญ่โตขนาดนั้น เขาคงพอใจหรอกที่จอมไปต้อนรับเขา” ที่เจ้าจอมเถียงมามันก็มีเหตุผล ส่วนผู้จัดการก็มีเหตุให้มาช้า

แล้วคนที่พอรับหน้าได้ก็มีแค่อินทัช...คนที่มีประสบการณ์ด้านนี้โดยตรง

“เอาเถอะๆ ถือว่ามันสุดวิสัยจริงๆ”

“แต่ว่าพี่อินไม่ได้พูดอะไรออกไปจริงๆ นะ จอมรับประกันได้ แถมยังดูมืออาชีพสุดๆ ด้วย” เจ้าจอมแก้ต่างให้กับจำเลยของรามินทร์

ร่างสูงไม่พอใจที่เห็นลูกพี่ลูกน้องทำหน้าตาปลื้มนักปลื้มหนากับความสามารถของอินทัช เรื่องนี้รามินทร์ไม่ขอเถียงเลยเพราะตลอดเวลาที่เขาซุ่มจับตามองอินทัช คนๆ นี้ดูดีมากเวลาอยู่ในชุดสูตร และดูจริงจัง น่าเชื่อเถือ เป็นคนที่เกิดมาเป็นนักธุรกิจโดยแท้เลย

“ชมมันต่อหน้าพี่นี่คิดดีแล้วใช่ไหม”

“จอมขอโทษ”

“ช่างมันเถอะ...มันไม่ได้บอกก็ดีไป”

มันดีกับพี่ล่ะสิ...เจ้าจอมคิดในใจ แอบไม่พอใจอยู่ที่พี่เขาทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ แต่ทำยังไงได้ล่ะ เมื่อรามินทร์โกรธจริงๆ แล้วร้ายแค่ไหน

“แต่จอมว่าเรื่องนี้พี่ควรขอบคุณพี่อินเขานะฮะ ไม่มีใครที่โดนทำร้ายขนาดนี้แล้วจะมาช่วยคนที่ทำร้ายตัวเองหรอกนะครับ พี่อินถือเป็นคนดีคนหนึ่งเลย”

“ถ้ามันดีจริง มันจะทำร้ายรินได้ยังไง”

“แล้วพี่รามรู้จักน้องสาวตัวเองดีแค่ไหนครับ”

“จอมพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง!!” รามินทร์ขึ้นเสียงไม่พอใจ ที่โดนถามแบบนี้ มันให้ความรู้สึกว่าอินทัชกำลังจะบอกว่าน้องสาวเขาเป็นต้นเหตุ

“จอมก็ไม่ได้หมายความว่ายังไง”

“พี่รู้จักรินดี!!! น้องสาวของพี่ถูกกระทำ คิดจะให้พี่อยู่เฉยๆ ทั้งๆ ที่มันทำให้พี่เกือบเสียน้องสาวไปเนี่ยนะ!!”

“สิ่งที่พี่รู้อาจจะไม่ถูกทั้งหมดก็ได้”

“นี่จอมเถียงพี่เหรอ”

“จอมแค่อยากพี่มองสองด้าน” ไม่รู้เจ้าจอมเอาความกล้าแบบนี้มาจากไหน กล้าที่จะเถียงรามินทร์ กล้าที่จะพูดออกไปว่าความจริงแล้วรินลณีไม่ใช่อย่างที่รามินทร์คิด

แต่จะเชื่อหรือไม่นั้น...มันก็อีกเรื่อง

“พี่จะมองไปทำไมสองด้าน มันก็ยอมรับนี่...ถึงได้ยอมให้พี่โขกสับทุกๆ วันนี้”

“พี่อินยอมรับ...เพราะว่าพี่ยัดเยียดหรือเปล่า”

“ทำไมวันนี้จอมทำตัวไม่น่ารักเลย”

“จอมก็แค่ไม่อยากให้คนดีต้องมาเจอเรื่องเลวทรามพวกนี้ต่างหาก และจอมก็เป็นห่วงพี่ราม ไม่อยากให้พี่ทำผิดไปมากกว่านี้แล้ว ขอตัวก่อนนะฮะ” เจ้าจอมเอ่ยเสียงจริงจัง ก่อนจะเดินหนีพี่ชายที่ทำว่าจะต่อว่าเขา

ร่างบางเดินออกมาจากห้องทำงานของรามินทร์ ก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าจอมกล้าที่จะพูดกับพี่ชายตนเองถึงขนาดนี้

“พี่อินเป็นคนดีจริงๆ นะฮะ”

เขาพึมพำก่อนจะเดินออกไป...

ทางด้านรามินทร์ที่กำลังตกใจก็ได้แต่นั่งคิดถึงคำพูดของเจ้าจอม มันก็จริงที่เขาควรจะขอบคุณอินทัช เพราะถ้ามองในมุมเขาโดนกระทำบ้าง ก็คงไม่อยากจะช่วยศัตรูหรอก

“เฮ้อ...”

“เรื่องนี้กับเรื่องของริน มันไม่ใช่เรื่องเดียวกัน”

เพราะฉะนั้น มันไม่ควรที่จะเอามาเกี่ยวกันได้!!! เรื่องที่มันช่วยเขา เขาจะตอบแทนมันแน่เพื่อไม่ให้เป็นการติดหนี้บุญคุณกัน...

รามินทร์ไม่ยอมติดหนี้บุญคุณคนอย่างอินทัชแน่ๆ!!


“นั่นมึงกำลังทำอะไร…” เสียงที่ถามขึ้นเป็นเสียงที่ทำให้ร่างโปร่งถึงทำหน้าเอือมระอา ก่อนจะหันจากการจุดไฟมามองรามินทร์

“ซักผ้ามั้ง มีตาก็แหกดูสิ” ตอบเสร็จก็นั่งลงจุดไฟใหม่ เพื่อทำอาหารเย็นทาน...

สำหรับอินทัชก็เริ่มทำอาหารเล็กๆ น้อยๆ เป็นแล้ว ทอดไข่เป็น แต่หุงข้าวยังแฉะอยู่ หากแต่ก็พยายามที่จะฝึกฝนอยู่กับป้ารีทุกๆ เช้า

“อากาศมันเริ่มชื้น เพราะเข้าสู่หน้าฝนแล้ว กูคิดว่ามันคงจะจุดติดยาก”

“กูรู้ ไม่ต้องให้ใครหน้าไหนสะเออะมาบอกหรอก”

“ก็ไม่ได้อยากยุ่งนักหรอกนะ”

“แล้วมึงจะโผล่หน้ามาที่นี่ทำไมไม่ทราบ”

“กูมาชวนมึงไปกินข้าว” สิ้นเสียงของรามินทร์ มือขาวที่กำลังใช้ไม้ขีดก็ชะงัก ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืน หันมามองร่างสูงด้วยความแปลกใจ

มองหน้าคนหน้าเข้มที่แสดงสีหน้าเรียบเฉย ในมือมีถุงบางอย่างติดมาด้วย

“มึงมาไม้ไหน...” อดจะระแวงไม่ได้

“ก็ไม่ได้จะมาไม้ไหน แค่เพียงคุณขจรขอให้มึงไปร่วมโต๊ะอาหารเย็นด้วยก็เท่านั้น” รามินทร์บอกพลางยื่นถุงนั่นไปตรงหน้าของร่างโปร่งบาง

มือขาวหยิบมันมาดูด้วยความแปลกใจ มันเป็นชุดธรรมดาๆ แต่ดูดีกว่าเสื้อยืดกางเกงเลแบบที่เขาใส่ในตอนนี้

“เอามาทำไม กูไม่อยากได้”

“แล้วมึงจะใส่ชุดแบบนี้ไปกินข้าวกับคุณขจรหรือไง”

“มึงก็ไปบอกว่ากูไม่อยู่ก็ได้”

“ไม่ได้...กูไม่ยอมให้แขกของกูไม่พอใจอีกครั้งแน่ๆ” ใบหน้าคมเข้มมองสบกับดวงตาสวยของอินทัชอย่างจริงจัง คราวนี้พวกเขาสองคนคุยกันแบบไม่มีเสียงตะคอก ไม่มีการขึ้นเสียง

คุยด้วยน้ำเสียงธรรมดาเป็นครั้งแรก...

“แล้ว? หน้าที่กูก็ไม่ใช่”

“ในเมื่อมึงทำให้มันเป็นแบบนี้ มึงก็ต้องรับผิดชอบ”

อีกแล้ว...คำว่า ‘รับผิดชอบ’ อีกแล้ว ทำไมชีวิตนี้อินทัชต้องมารับผิดชอบอะไรหลายอย่างด้วยก็ไม่รู้ ทั้งครอบครัว ทั้งธุรกิจ ทั้งปัญหา แล้วก็เรื่องของคนอื่น...

“กูแก้ไขสถานการณ์ของรีสอร์ทมึงให้ดีขึ้น...ใช้คำว่ารับผิดชอบนี่ถูกแล้วหรือไง”

“กูจะใช้อะไรมันก็เรื่องของกู ขึ้นไปเปลี่ยนชุดซะ เดี๋ยวคุณขจรจะรอนาน” น้ำเสียงที่ใช้สั่งราบเรียบจนอินทัชมองแล้วก็ยากที่จะปฏิเสธต่อไป เพราะแววตาของามินทร์จริงจังขนาดนั้น ร่างสูงโปร่งก็ได้แต่เดินถือถุงในมือไปบนบ้านพักเพื่อเปลี่ยนชุด ส่วนรามินทร์ก็เอาบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบรออินทัช

ร่างสูงเคยคิดนะ ว่าไม่วันที่เขากับอินทัชจะคุยกันดีๆ ได้

“ความรู้สึกอะไรวะเนี่ย”

วุ่นวาย...ทำไมถึงรู้สึกวุ่นวายแบบนี้นะ


ทางด้านของอินทัชที่กำลังเปลี่ยนชุดก็ได้แต่รู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ ที่รามินทร์มาแบบไม่ด่า ไม่ว่า ไม่ขึ้นเสียง ไม่ตะคอก...มองชุดในมือก็รู้ได้ว่ามันเป็นชุดใหม่ที่เพิ่งซื้อ เพราะป้ายราคายังไม่แกะออกไปเลย ที่สำคัญมันเป็นชุดของแบรนด์ดังแบรนด์หนึ่ง

“เฮอะ!! กำลังตบหัวแล้วลูบหลังหรือไง”

ไม่รู้ว่ารามินทร์คิดอะไรถึงได้ซื้อเสื้อผ้าแพงๆ มาให้อินทัช อาจจะเป็นเพราะอยากจะให้เขาดูดีต่อหน้าแขกสำคัญ หรืออาจจะเป็นเพราะสาเหตุอื่นที่เขาไม่รู้ว่าสาเหตุอะไร

แต่ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม...เขาไม่ได้กำลังดีใจแน่!!

“หรือว่าจะตอบแทนที่ช่วย...หึ อย่างมันเนี่ยนะ เลิกคิดเถอะว่ะไอ้อิน”

มันทำก็เพราะมันต้องมีประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งแน่ๆ ไม่ใชเพราะอยากจะขอบคุณแบบที่มึงเผลอคิดเลยไอ้อิน คนอย่างรามินทร์ทำดีกับคนอื่นได้ แต่กับมึงไม่มีวัน!!

เขาลงเดินไปข้างล่างก็พบว่ารามินทร์กำลังยืนพิงเสาเก่าๆ สูบบุหรี่รออยู่

“นานนะมึง”

“ใครใช้ให้รอล่ะ...”

“เฮอะ!! ตามกูมา...” เขาทิ้งบุหรี่ลงพื้นดินแล้วใช้เท้าขยี้มันก่อนจะเดินล้วงกระเป๋ากางเกงนำอินทัชไป ทางที่เริ่มมืดทำให้อินทัชเดินลำบาก เพราะเขาไม่เคยต้องเดินออกมาข้างยามมืดแบบนี้

“อ๊ะ!!”

หมับ!!

ในจังหวะที่เขากำลังจะลื่นเพราดินที่เปียกน้ำจากการรดต้นไม้ มือแกร่งของรามินทร์ก็จับเอาไว้ในก่อนที่เขาจะล้มลงไป ส่งผลให้ร่างแกร่งเซเล็กน้อยเพราะต้องคอยรับน้ำหนักของอินทัชที่เซไปหากายแกร่งเต็มๆ และเขาก็รับเอาไว้โดยไม่ปล่อยให้อินทัชล้ม

เพราะมันมืด เขาเลยไม่เห็นว่ารามินทร์ทำหน้าแบบไหน แต่ที่แน่ๆ อินทัชทำอะไรไม่ถูก เลยได้แต่ผละออกจากอ้อมแขนแกร่งนั่น พร้อมกับใจที่เต้นแรงราวกับกำลังวิ่งมาราธอน...

ขวับ!!

รามินทร์หมุนตัวเดินนำไปอีกครั้งโดยไม่พูดอะไรสักคำ ส่วนอินทัชก็เดินตามไปแบบไม่ปริปากอะไรเช่นกัน...





100%

 :katai4: :katai4: :katai4:

   ครบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้วล่ะตัว อิอิ...เป็นยังไงก็คอมเม้นท์กันด้วยนะคะ เจอกันตอนต่อไปค่า...


ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
อร๊ายยยยย
เอาแล้ววววววว
หวั่นไหวคร่าาาาา บอกเลยว่าหวั่นไหว
55555+
แย่แล้ว เราเขินจัง
..>\\\<

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ลูกชายคุณขจรน่าจะมาเป็นตัวแปลสำคัญนะ ทำให้รามินทร์รู้ตัวเร็วขึ้น

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
จับรามไปถ่วงน้ำค่ะ คนอะไรตาบอด

อินน่าสงสาร ทำไงก็ไม่รอด สักวันรามจะโดนเอาคืน

แล้วให้คนของตัวไปรับหน้าแบบนั้น มีคนได้ตาร้อน หึงโหดแน่

รามงี่เง่า

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 14
คำขอบคุณจากคนใจร้าย




“ดีใจจริงๆ ที่คุณอินทัชมาร่วมรับประทานอาหารในมื้อนี้ ขอบคุณคุณรามมากจริงๆ นะครับ” ขจรเอ่ยขึ้นมา ขณะที่ผายมือเชิญให้ทั้งสองร่างสูงนั่ง

“สวัสดีค่ะคุณอินทัช ไม่เจอกันนาน สบายดีนะคะ” ภรรยาของขจรทักทายอินทัชราวกับสนิทสนม ร่างโปร่งก็ได้แต่ยิ้มการค้าส่งไปให้

“สบายดีครับ แล้วคุณกิ่งละครับ”

“ดิฉันสบายดีค่ะ”

“พี่อินไม่ทักทายกรเหรอฮะ” เด็กหนุ่มที่นั่งตรงข้ามกับอินทัชถามขึ้นด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่ดูจะงอนเต็มที ทำเอาร่างโปร่งส่งยิ้มหวานไปให้จนเด็กหนุ่มหน้าแดง

“พี่กำลังจะทักทายนี่ไงครับ เป็นยังไงคนเก่ง”

“ก็ดีฮะ แต่กรคิดถึงพี่อิน” สายตาที่ดูจะยั่วยวนเชิญชวนอย่างปิดไม่มิดนั่นทำเอาอินทัชยิ้มโปรยเสน่ห์ไปให้ รามินทร์ที่นั่งมองก็ได้แต่รู้สึกหงุดหงิดใจแปลกๆ

“เด็กคนนี้นี่จริงๆ เลย พูดแบบนี้ไม่ดีเลยนะลูก” คนเป็นพ่อติลูกอย่างไม่จริงจังนัก

“อย่าว่าน้องกรเลยครับ”

“จริงๆ ก็กรคิดถึงพี่อินนี่ฮะพ่อ...กรก็พูดไปตามที่คิด จริงไหมฮะ” หันมายิ้มหวานให้

ถ้าหากว่าอินทัชอยู่กันตามลำพังกับน้องรับรองได้ว่ากรไม่รอดแน่ๆ ทุกครั้งที่ผ่านมา...กรตามตื๊อ ตามให้ท่าเขาถึงที่ทำงาน เขาก็ไม่คิดจะสนใจ แต่พอห่างหายเรื่องนี้ไปนานก็ชักอยากจะปลดปล่อย...

ถ้าไม่ติดว่ามีไอ้หน้ายักษ์ข้างๆ นี่นะ!

“ผมว่าเราทานอาหารกันเถอะครับ วันนี้ทางรีสอร์ทมีเมนูหลากหายมาแนะนำ ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อทั้งนั้นเลยครับ ทั้ง...” รามินทร์พูดขัดการสนทนาของทุกคนบนโต๊ะโดยการชวนให้รับประทานอาหารแล้วก็แนะนำเมนูขึ้นชื่อของรีสอร์ทไปด้วย

ทุกคนเริ่มรับประทานอาหารกันโดยที่รามินทร์ถูกขจรซักถามบ้างอะไรบ้าง ส่วนกรก็เอาใจอินทัชโดยการตักนั่นตักนี่ให้ จนร่างโปร่งต้องตักให้คืนตามมารยาท

ภายใต้รอยยิ้มของรามินทร์ ในใจเต็มไปด้วยความหงุดหงิดที่อินทัชเอาแต่โปรยเสน่ห์...

สันดานมันนี่จริงๆ เลย...นี่แหละมั้งที่ทำให้รินต้องเจ็บช้ำใจน่ะ!!


“คุณราม...ผมมีเรื่องที่จะคุยกับคุณต่ออีกเยอะเลย ยังไงให้คุณอินทัชพาตากรไปเดินเล่นได้ไหมครับ”

เมื่อรับประทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว กรก็มีสีหน้าเบื่อหน่ายเพราะผู้ใหญ่เอาแต่พูดในเรื่องที่เขาไม่รู้เรื่องเลยสะกิดพ่อเป็นนัยๆ ที่รู้กันเองสองพ่อลูก ขจรเลยขอออกมาแบบนั้น อินทัชหันมองสบตาคนด้านข้างทันที

“ผมเกรงว่าคงจะไม่เหมาะมั้งครับ เพราะอินเองก็เป็นแขกที่นี่”

อินทัชแอบหัวเราะ...

แขก...พูดมาได้...

“หืม...ไม่มีอะไรเหมาะไปกว่านี้แล้วล่ะครับ นะครับคุณราม”

“เอ่อ...ต้องถามเจ้าตัวน่ะครับ” รามินทร์บอกไปแบบนั้น ก่อนจะยื่นมือไปบีแขนขาวแน่นเชิงบังคับให้ปฏิเสธไป แต่พอร่างโปร่งเห็นท่าทางแบบนั้นก็ยิ่งอยากจะประชด

“ด้วยความยินดีครับ”

“เย้!!! ไปกันเถอะฮะพี่อิน กรมีเรื่องจะเล่าให้พี่ฟังเยอะแยะเลย”

“ฝากด้วยนะครับคุณอินทัช”

“อย่าดื้อกับพี่เขานะกร”

“คร้าบคุณพ่อ คุณแม่”

ร่างสูงจำเป็นต้องปล่อยมือนั่นไปเมื่อร่างโปร่งลุกขึ้นยืนโดยที่มีคนตัวเล็กน่ารักยืนกอดแขนอินทัชเอาไว้ด้วยความดีใจ รามินทร์ไม่ได้ระแวงว่าอินทัชจะพูดบอกเด็กนั่น

แต่กลัวมันจะทำอะไรไม่งามในรีสอร์ทของเขาต่างหาก!! ก็เด็กนั่นเล่นให้ท่าขนาดนั้นแล้ว ใครบ้าจะไม่ทำอะไร เพราะถ้าเป็นรามินทร์ เขาก็เอา!!!

“อย่าเดินนานกันนะครับ กลางคืนน้ำค้างค่อนข้างเยอะ เดี๋ยวเป็นหวัดเอา”

สองคนไม่สนใจเสียงเตือนของเขาเลยสักนิดนั่นทำให้รามินทร์เก็บความโกรธเอาไว้ ถ้าหลุดจากตรงนี้เมื่อไหร่ มันโดนดีแน่!!!

“พอดีผมอยากให้สองคนนั้นคบกันน่ะครับ มีลูกชายชอบผู้ชายก็ต้องหาคนที่เหมาะสมให้ลูก คนเป็นพ่อทำได้แค่นี้แหละครับ” ขจรเอ่ยขึ้นมายิ้มๆ มองตามสองคนนั้นไปอย่างพอใจ

ส่วนภรรยาก็ทำได้แค่ยิ้มให้ไม่แพ้กัน... อย่าถามว่ารามินทร์อยู่ในอารมณ์ไหน...เพราะเขาโมโหมา โมโหแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!!!


ทางด้านอินทัชที่เดินออกมาด้านนอกกับกรลูกชายของขจรก็ต้องฟังน้องเจื้อยแจ้วไม่หยุดอย่างรำคาญหน่อยๆ เพราะตนเป็นคนไม่ชอบฟังใครพูดสักเท่าไหร่

“พี่อินมาเนี่ย...ไม่คิดจะบอกกรเลยเหรอ ทุกคนเขาตามหาพี่กันหมดเลยนะ”

“พี่แค่อยากพักผ่อนน่ะครับ กรสัญญากับพี่ก่อนนะว่าจะไม่บอกใคร พี่อยากอยู่เงียบๆ คนเดียวน่ะ” เพื่อป้องกันไม่ให้รามินทร์ทำอะไรกับจักรและหมอเงิน เขาก็ต้องปิดเรื่องบ้าๆ นี้เอาไว้เป็นความลับต่อไป

“ได้สิฮะ...แต่ว่ามีข้อแลกเปลี่ยนน้า...” ร่างเล็กเดินมายืนอยู่ตรงหน้าของอินทัชพูดด้วยดวงตาแพรวพราว นิ้วชี้กรีดไปมาบนอกของอินทัช

“จะเอาอะไรครับคนดี” ร่างสูงโปร่งยิ้มเจ้าเล่ห์ มองร่างเล็กกว่าด้วยสายตาที่โลมเลียอย่างเต็มที่

“อยากได้พี่อิน...”

“ตรงนี้ไม่ได้ครับ คนเยอะ” เขาหยุดนิ้วชี้ที่ลากต่ำมาที่สะดือเอาไว้ พูดบอกด้วยรอยยิ้มหวาน คนเป้นน้องยู่ปากอย่างไม่สบอารมณ์

ให้ท่ามาก็หลายที ทำไมอินทัชถึงไม่สนใจ...

“พี่อินเลี่ยงกรตลอดเลย ทีกับคนอื่นทำไมได้ล่ะ”

“น้องกรเด็กอยู่เลย เพิ่งเรียนมัธยมเองนะ”

“น้า...ถ้าอย่างนั้นกรเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นจริงๆ ด้วย” อินทัชทำท่าคิดหนัก...

ตอนนี้ก็อยากทำนะ เพราะไม่ได้ปลดปล่อยมานานแล้ว แต่ตรงนี้มันไม่ได้น่ะสิ จะให้ไปที่ห้องของน้องก็กะไรอยู่ ร่างสูงมองไปยังซอกตึกมืดๆ ที่อยู่ในมุมอัพ ต้นไม้บัง คนไม่เดินผ่านในตอนกลางคืน

“ตามพี่มา แล้วพี่จะให้ในสิ่งที่กรแลกเปลี่ยน”

กรยิ้มกว้าง เดินตามอินทัชไปยังที่มืดๆ จนน่ากลัว แต่ว่ามากับอินทัชเขาไม่กลัวอะไรทั้งนั้นแหละ...

“คนดีเก็บเสียงได้ขนาดไหนครับ” เขาถามเสียงอ่อนโยน

ไม่แปลกใจเลยที่คู่นอน คู่ควงของเขาจะหลงและชอบเขามากขนาดที่เคยมีเรื่องมีราวกัน เพราะอินทัชช่างเอาอกเอาใจ พูดหวาน...

“กรเก็บเสียงไม่เก่งหรอกครับ ชอบครางดังๆ ด้วยสิ” น้องยิ้มยั่ว แม้จะอยู่ในมุมมืดแต่ก็พอมองเห็นหน้ากัน แขนเรียวเล็กโอบรอบคอของอินทัชอย่างรวดเร็วจนไม่ทันได้ตั้งตัวเนื่องจากอินทัชกำลังคิดวิธีเก็บเสียงของกรอยู่

“แต่พี่อินก็ปิดปากกรด้วยปากพี่อินสิฮะ” ว่าแล้วก็โน้มคอคนที่สูงกว่าลงมือแล้วประกบริมฝีปากไปอย่างรวดเร็ว อินทัชที่ยังไม่ทันตั้งตัวก็ได้แต่ตกใจสักพักก็หันมาจูบตอบมือไม้ก็ลูบไปทั่ว...


“ผมว่าท่านไปพักผ่อนดีกว่าครับ วันนี้ท่านก็เดินทางมาเหนื่อยๆ” รามินทร์เอ่ยขึ้นมาเมื่อผ่านมาเกือบสิบห้านาทีแล้วขจรก็ไม่เห็นจะคุยเรื่องธุรกิจสักที

และเขาเองก็รีบร้อนมากที่จะตามอินทัชไปด้วย

“ก็ดีเหมือนกันนะ ยังไงผมขอตัวไปนอนก่อนก็แล้วกัน พรุ่งนี้เราค่อยคุยกันก็แล้วกันนะคุณราม ขอโทษที่รบกวนเวลานานขนาดนี้”

“ด้วยความยินดีครับ”

“ไปเถอะกิ่ง” เขาหันไปชวนภรรยาของตน

“ค่ะ”

“ราตรีสวัสดิ์นะครับ” รามินทร์บอกก่อนจะเดินออกไปยังประตูฝั่งที่อินทัชกับกรออกไปเมื่อเห็นว่าขจรกับภรรยาเดินออกไปแล้ว

พอออกมาข้างนอกก็ไม่เห็นวี่แววของทั้งคู่ ร่างสูงคิดอย่างเดียวว่าอินทัชมันลากไปกินแล้วแน่ๆ

“ไอ้เหี้ยนี่!!”

ร่างสูงครุ่นคิดว่าอินทัชจะพากรไปที่ไหน ที่แน่ๆ ไม่ไปที่ห้องพักของกรแน่ๆ แล้วเรื่องแบบนี้มันทำโจ่งแจ้งไม่ได้...ยังไม่ทันที่เขาจะคิดอะไรมากมาย สายตาก็เหลือบไปเห็นเงาตะคุ่มๆ ที่อยู่ในซอกตึกมืดๆ ที่ถ้าไม่เข้าไปใกล้ก็มองไม่เห็นแน่ว่ามีคนอยู่

“หึ! เข้าใจคิดดีนี่”

ร่างสูงสาวเท้าตรงไปยังตรงนั้นทันทีอย่างเร่งรีบ ยิ่งเข้าใกล้ ก้ยิ่งเห้นชัดเจนว่าทั้งสองคนกำลังทำอะไรอยู่

“อ๊า...พ่ะ อิน อ๊า...”

“ชู่วววว...เบาๆ สิครับ เดี๋ยวใครก็มาได้ยินหรอก”

มึงยังกลัวอีกเหรอวะ!! รามินทร์ที่แอบฟังอยู่ถึงกับกัดฟันกำหมัดแน่นด้วยความโมโห

“จะ ...อ๊า จะ ออก อ๊ะ อึก แล้ว อื้อออ...” เสียงสุดท้ายเป็นเสียงครางที่โดนอะไรบางอย่างปิดปากอยู่ รามินทร์ยอมรับว่าได้ยินเสียงครางนั่นทำให้เกิดอารมณ์

แต่ความโกรธ ความโมโหมีมากกว่า

“พอใจแล้วนะครับ...”

“ต่ะ แต่ว่า...”

“ควรจะพอแล้วมั้ง!!” รามินทร์เอ่ยขึ้นมาเสียงเข้ม ก่อนจะโผล่ตัวไปให้เห็น ซึ่งอินทัชก็ตกใจที่ได้ยินเสียงแบบนั้น ส่วนกรก็ได้แต่หันหลังแล้วรูดซิปกางเกงให้เรียบร้อยด้วยความอาย

“มึง!!”

“ทำไม...ตกใจอะไร เดี๋ยวมึงกูจัดการทีหลัง คุณหนูครับ...กลับห้องไปพักผ่อนได้แล้วนะครับ” รามินทร์หันไปพูดบอกลูกชายของลูกค้าด้วยน้ำเสียงดุๆ

“แต่ว่า...”

“ไปนอนก่อนนะครับกร...พี่มีเรื่องจะคุยกับเจ้าของที่นี่หน่อยน่ะ”

“ฮะ...พี่อิน” ร่างเล็กเดินออกมาจากเงามืดด้วยสีหน้าแดงๆ ก่อนจะเดินเร็วๆ ออกไปจากตรงนั้นเพราะอายที่มีคนมาเห็นและได้ยิน

ทั้งสองสบตากันผ่านความมืดอย่างไม่มีใครยอมใคร...ร่างสูงเห็นว่าอินทัชยังอยู่ในสภาพดีเรียบร้อยราวกับว่าไม่ได้ผ่านเรื่องอย่างว่ามา

“มึงนี่ทำตัวมั่วจริงๆ เอาไม่เลือกที่”

“แล้วไง...ยังไงก็มันก็พวกคนเลวอยู่แล้วนี่ จะเลวว่านี้ ต่ำกว่านี้ก็ไม่เห็นเป็นไร”

“ออกมานี่เลยไอ้สัตว์ อยากมากใช่ไหม!! ได้!! กูจัดการให้!!!”

เขากระชากแขนร่างบางกว่าให้เดินตามตนมา ทางที่ร่างสูงพาไปเป็นทางกลับบ้านพักของเขา แต่พอถึงทางเข้าบ้านของรามินทร์ ร่างสูงก็ดันอีกคนไปกระแทกกับต้นไม้ใหญ่ มือไม้เริ่มดึงเสื้อผ้าของอินทัชออกไป

ผลัก!!

“อึก...เจ็บนะ อ๊ะ...แล้วมึงถอดเสื้อผ้ากูทำไม ไอ้เหี้ย อย่านะเว้ย!!!” ร่างโปร่งพยายามห้าม แต่แรงของรามินทร์มีมากกว่าเลยทำให้เขาขัดมันไม่สำเร็จ

“อยากมากนักกูจะสนองให้!! เห็นเอาไม่เลือกที่ก็เอากับกูตรงนี้เลยก็แล้วกัน”

“ไม่!! อ๊ะ...อย่านะไอ้สัตว์ ไอ้ราม ไอ้เหี้ย อย่านะ อื้อ” กางเกงของเขาถูกปลดลงไปกองที่อยู่ปลายขา มือแกร่งยกขาข้างหนึ่งของเขาขึ้นมาแล้วแล้วจัดการแทรกเข้าไปหว่างขาขาวโดยที่ร่างโปร่งไม่ทันตั้งตัว

อินทัชคิดถึงภาพในวันนั้นที่เขาโดนร่างสูงกระทำอย่างโหดร้ายและรุนแรงก็เริ่มสั่นกลัว มือที่กำลังสั่นพยายามที่จะดันร่างของคนตรงหน้าออกไป

“มึงอย่าทำกูนะ...”

“มึงอยากไม่ใช่เหรอ!! กูจะสนองให้ไง!!!”

“กูไม่ได้อยาก!!”

“แล้วที่มึงเอากับเด็กนั่นเมื่อกี้ล่ะ มึงยังไม่เรียกว่าอยากอีกหรือไง นิสัยร่านๆ อย่างมึงนี่คงแก้ไม่หายสินะ เอาทุกที่!!! ขนาดถูกจับตัวมายังมีอารมณ์เอาคนอื่น!!”

อินทัชไม่เข้าใจว่าทำไมอีกคนถึงต้องโมโห...

“กูไม่ได้เอากับกร!!! ไอ้สัตว์ราม...กูแค่ใช้มือช่วย ถ้ากูเอากับกรจริงๆ กูคงไม่มีสภาพอย่างนี้หรอก!!” เขาพยายามที่จะเอาขาลงจากการถูกยกสูงแต่ก็ไม่เป็นผล

ความเย็นวูบๆ ที่ช่วงล่างทำให้หน้าขาวๆ ของอินทัชแดงด้วยความอาย แม้จะมืดแต่แสงไฟจากบ้านของรามินทร์ก็ทำให้เห็นกันอยู่รำไร

“แต่มึงก็ทำบัดสี!! นั่นหมายความว่ามึงเงี่ยน...แล้วถ้ามึงเงี่ยนนัก กูจะสนองให้ไง!!! สำหรับมึงน่ะเหมาะกับถูกเอามากกว่าที่จะไปเอาเขา”

“แล้วมึงเอาที่ไหนมาตัดสินว่ากูเหมาะ ปล่อยกูเดี๋ยวนี้ กูไม่มีวันปล่อยให้มึงทำกูเป็นครั้งที่สองแน่!!!”

“หึ...ห้ามได้ก็ลองดู”

“อ๊ะ...ไอ้สัตว์ อึก...อย่าจับนะเว้ย อา...” เขาร้องเสียงหลงเมื่อถูกมือใหญ่ร้อนของรามินทร์คว้าเข้าที่ส่วนอ่อนไหวซึ่งกำลังหลับใหลราวกับว่าก่อนหน้านั้นมันไม่เคยมีอารมณ์เลย

ช่วยคนอื่น...แต่ตัวเองไม่มีอารมณ์...เป็นไปได้เหรอวะ!!

“รู้สึกเร็วนี่หว่า”

“อ่ะ ไอ้...อะ ไอ้สัตว์!” คนตัวเล็กกว่าด่าออกมาเสียงสั่น เมื่อรู้สึกตัวว่ามีสิ่งแปลกปลอมกำลังลุกล้ำที่ช่องทางด้านหลังของเขา ก็ก้มหน้าลงกัดเข้าที่บ่าแกร่งอย่างแรงจนร่างสูงร้องออกมาด้วยความเจ็บแต่ก็ไม่ยอมปล่อย

“โอ้ย!!! ไอ้อิน!!”

“มึงปล่อยกูเลย”

“เล่นอย่างนี้ใช่ไหม ได้!!”

เพราะโมโหที่โดนกัดลงมาเต็มแรง ร่างสูงเลยคิดจะเอาคืนอย่างสาสมนั่นคือการเปลี่ยนท่าทางให้ร่างโปร่งบางตรงหน้าหันไปยังต้นไม้ใหญ่ บังคับให้สะโพกงอนโก่งมาด้านหลัง ส่วนเขาก็ปลดกางเกงตัวเองอย่างเร็ว เอาความเป็นชายออกมาด้านนอกแล้วขยับมันสองสามทีก่อนจะจ่อที่ปากทาง

“ไอ้รามอย่านะเว้ย!! อ๊า...” เสียงครางดังลั่นด้วยความเจ็บที่ถูกเสียบพรวดเดียวโดยไม่มีการเบิกทางไม่มีสารหล่อลื่น รามินทร์เองก็ครางออกมาไม่แพ้กันเพราะแรงรัดของอินทัชทำให้เขาแทบจะปลดปล่อย

“อึก...กูเจ็บ อ๊ะ!! เจ็บ”

“หึ นี่คือบทลงโทษที่มึงสำส่อน อืม...แน่นดีนี่หว่า”

จะไม่แน่นได้ยังไงก็มีมึงเคยเข้าอยู่คนเดียว คิดแล้วอินทัชก็ได้แต่เจ็บใจ...

“อึก...อ๊ะ เอาออก”

“ถ้ามึงไม่ผ่อนคลายกูไม่รับประกันนะว่ามึงจะไม่เจ็บ เพราะกูจะไม่อ่อนโยนให้” ว่าแล้วก็สวนสะโพกเข้าไปจนตัวของคนที่รับแรงกระแทกถึงกับตัวสั่น ขาสั่น

“อ๊ะ...เจ็บ ไอ้เหี้ย กูเจ็บ อึก”

“หึหึ...” เสียงหัวเราะเสียงต่ำดังขึ้นมาทำให้อินทัชรู้สึกรังเกียจ...มันหัวเราะเหมือนคนโรคจิตกำลังจะข่มขืนคน และตอนนี้มันก็ไม่ต่างจากการข่มขืนเลยสักนิด

อินทัชโดนข่มขืนเป็นครั้งที่สอง......

อินทัชทำตัวให้ผ่อนคลายไม่เช่นนั้นเขาจะบีบรัดส่วนนั้นของรามินทร์มากจนเกินไป นั่นทำให้รามินทร์สวนกายเข้าออกได้อย่างง่ายขึ้นและรุนแรง จากความเจ็บปวดกลายเป็นความเสียวกระสันจนต้องร้องครางออกมาหากแต่อินทัชก็เอามือข้างหนึ่งยันต้นไม้ส่วนอีกข้างปิดปากตัวเองเพื่อไม่ให้หลุดเสียงน่าอับอายของตนออกไป

“อืม...อา...” เสียงครางต่ำของรามินทร์ดังออกมาด้วยความพึงพอใจ

ร่างทั้งสองกรตุกเกร็งเมื่อแรงกระแทกครั้งสุดท้ายของรามินทร์ทั้งแรงทั้งเน้นแช่อยู่แบบนั้นจนน้ำกามปล่อยเข้าไปด้านในช่องทางเต็มๆ ร่างสูงถอนแก่นกายออกมาแล้ว ดึงกางเกงขึ้นสวมแล้วเดินออกไปเงียบๆ ไม่สนใจอะไรคนตรงหน้าอีก ปล่อยให้ร่างโปร่งค้างอยู่ท่านั้นด้วยความเหน็ดเหนื่อย น้ำตาของอินทัชไหลรินออกมาด้วยความรู้สึกอัปยศ ก่อนจะเริ่มจัดการเสื้อผ้าของตัวเองแล้วเดินกลับบ้านพักของตนไปอย่างยากลำบาก

ความเจ็บปวดที่ถูกกระทำรุนแรงที่ช่องทางทำให้ต้องกัดแฟนทุกครั้งที่มันสะเทือน...

“ฮึก…”

เมื่อไหร่เขาจะพ้นจากคนใจร้าย ป่าเถื่อนพรรค์นี้สักที...

...

...

...







50%

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

   เป็นยังไงก็คอมเม้นท์ให้ยูกิด้วยนะคะ ^_^ หากต้องการติดตามข่าวสารการลงนิยายของยูกิ ทวงนิยาย หรือพูดคุยกับคนแต่งกากๆ (ฮ่าๆ)  ไปที่แฟนเพจเลยนะขอรับ https://www.facebook.com/sawachiyuki/


ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :sad4: :sad4: :o12: :o12: สงสารอิน

ออฟไลน์ bencup9443

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อยากใหพลิกเกมแล้วอะ  :z3: อยากให้รามโดนอินเมินใส่จัง

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
ราม มึง..เกลียดมึง..
สักวันเหอะราม มึงจะต้องเจ็บ ยิ่งกว่าที่อินเจ็บ!!
#แค้นแทนอิน

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
ยังจะใจดีไปช่วยอีกกกกก


จนตอนนี้นึกไม่ออกแล้วว่า อินจะเอาคืนรามแบบไหน ?


หนีเถอะ !


 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ไอ้เลว ไอ้เหี้ยราม แม่งไม่ฟังเหตุผลอะไรเลยนะ แม่งหึงจนหน้ามืดข่มขืนอินอีกแล้วอ่ะ ไรท์ต้องเอาคืนให้หนักเลยนะ สงสารอินมากๆ เลย

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
อีกนานไหมกว่าอินจะได้เอาคืนแต่ของอย่างนะไม่เอาแล้วพอสำนึกผิดแล้วก็มาขอโทษคนมันเหี้ยแบบนี้ควรไล่ไปตาย

ออฟไลน์ viewier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
ต้องสู้ ต้องสู้จึงจะชนะ อินสู้เว่ย
รามไม่ควรทำอย่างนี้อะ คือถ้าเห็นว่าอินทำอย่างนั้น แสดงว่าทำให้น้องเจ็บ
แล้วทำไมต้องมาทำอย่างนั้นกับอินด้วย ตัวเองก็ไม่ต่างอะไรกันเลย
ข้ออ้างชัดๆ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
จะหึงจะหวงก็ทำดีๆ ทำไม่ดีก็ไม่ต่างกับที่รามว่าให้อินนะ

สงสารอินทัช
ราม ถ้ารู้ใจตอนสายไป จะสมน้ำหน้าให้

น้องกรแรดมากบอกเลย มัธยมเองนะ

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
รามทำแบบนี้ก็ไม่ต่างจากที่เคยว่าอินทร์เลยนะ
แถมยังจะทำมากกว่าที่ว่าอินทร์ด้วย อย่างน้อยอินทร์ก์ไม่เคยข่มขืนน้องตัวเองซักหน่อย

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง



อินทัชตื่นขึ้นมาตอนเช้าตรู่ของวันใหม่ด้วยความรู้สึกไม่สบายตัวเลยสักนิด วันนี้สายหน่อยเพราะคงจะเป็นเวลาตีห้าเกือบหกโมงแล้ว ที่เขารู้เพราะมีนาฬิกาปลุกเรือนเล็กๆ ที่รามินทร์เอามาทิ้งไว้ให้อยู่บนหัวนอน

“สายขนาดนี้คงไปโรงครัวไม่ทันแล้ว” ได้แต่พึมพำเบาๆ ก่อนจะลุกไปหยิบผ้ากับเสื้อผ้าเพื่อไปอาบน้ำในห้องน้ำ

“น้ำจะหมดแล้ว ต้องไปตักมาไว้อีกแล้วสินะ”

มีแต่งานหนักๆ ทั้งนั้นเลยวันนี้...

สองเท้าก้าวลงมาจากบนบ้านเก่าๆ ที่พร้อมจะพังทุกเมื่อเพื่อจะมาทำอาหารเช้าทาน แต่เมื่อลงมาก็เจอกับร่างสูงของคนที่เขาไม่อยากเจอนั่งอยู่บนแคร่ด้วยสีหน้านิ่งๆ ข้างๆ มีปิ่นโตวางอยู่ด้วย

“มีอะไร...”

รามินทร์มองร่างโปร่งอย่างสำรวจนิดๆ ก่อนจะเบือนหน้าหนี ทำเอาอินทัชถึงกับอารมณ์เสียแต่เช้า

“ถ้าไม่มีก็ช่วยใสหัวไปที่อื่น กูรำคาญตา”

“ก็ไม่ได้อยากมานักหรอก”

“งั้นก็เชิญ...” เขาผายมือไปยังทางกลับบ้านพักของรามินทร์ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

“กูไปแน่...ไม่อยากอยู่นานเหมือนกัน”

“งั้นมึงมีอะไรก็พูดมา”

“กูแค่เอาข้าวเช้ามาให้” สิ้นเสียงของรามินทร์ อินทัชก็ตกอยู่ในตะลึงมองคนตรงหน้าตาค้างอ้าปากหวอ ใบหน้างงงวยอย่างเห็นได้ชัดจนรามินทร์รู้สึกเขินๆ แต่ก็ฟอร์มทำหน้าเงียบขรึมใส่

“เนื่องด้วย?”

“ขอบคุณที่มึงช่วยเรื่องคุณขจรไง แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวเพราะกูไม่อยากติดหนีบุญคุณคนอย่างมึง”

พอรู้คำตอบก็ร้องอ๋อออกมาเบาๆ

“ที่จริงมึงแค่พูดออกมาก็พอ ไม่ต้องเอาข้าวมาให้กูก็ได้...เพราะกูทำกูไม่ได้หวังอะไรอยู่แล้ว แค่ช่วยเจ้าจอมเท่านั้น” เขาว่าออกมาจากใจ

แต่ก็โดนมองสำรวจอย่างจับผิดจากคนตรงหน้าอยู่ดี

“เออ!! มึงคงไม่เชื่อ งั้นวางปิ่นโตไว้ตรงนั้น เสร็จแล้วก็กลับไปซะ”

“กูพึ่งรู้ว่ามึงมีสิทธิ์ไล่กูด้วย?”

“กูก็พึ่งรู้ว่ามึงมีสิทธิ์ทำร้ายกูได้ด้วยเหมือนกัน…ถือว่าเจ๊ากันไป แม้จะเป็นการเจ๊าที่กูเสียเปรียบก็ตาม” ประโยคสุดท้ายเจ้าของหน้าสวยพึมพำกับตัวเองเบาๆ

“กินเสร็จมึงอย่าลืมทำงานตัวเองก็แล้วกัน แล้วที่ตื่นสายวันนี้กูจะอนุโลมให้”

“ใจดีจังเนอะ” พูดประชดออกไป

“อย่ามีอีกก็แล้วกัน กูไปล่ะ” รามินทร์เดินออกไปโดยที่ไม่หาเรื่องด่า ไม่ว่าอะไรทั้งที่ปกติไม่เป็นแบบนี้ แต่ก็ช่างมันเถอะ ได้ข้าวมากินดีๆ มื้อหนึ่งก็ถือว่าดีแล้ว

อินทัชไม่รู้หรอกว่ารามินทร์มานั่งรอตัวเองตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง...ก็ได้แต่เปิดปิ่นโตแล้วทานอาหารดีๆ อย่างไม่ได้คิดอะไรมาก

ส่วนทางด้านรามินทร์ก็เดินไปที่สำนักงานด้วยความรู้สึกรำคาญใจแปลกๆ ที่ตัวเองดันตื่นขึ้นมาแต่เช้าให้ป้ารีทำอาหารให้สองสามอย่างแล้วไปนั่งรอมันอยู่จนฟ้าสว่าง...

“อะไรของมึงวะ”

มันก้ำกึ่งกับคำขอบคุณและคำขอโทษ เมื่อคืนเขาทำแรงไปจริงๆ การที่ทิ้งให้อินทัชอยู่แบบนั้นตอนที่เขา ‘ทำ’ เสร็จนั้น มันจะทำให้อินทัชรู้สึกแย่ขนาดไหน

การข่มขืน...ไม่ได้อยู่ในวัตถุประสงค์ที่เขาจะแก้แค้นเลยสักนิด

แล้วเขาทำไปได้ยังไงตั้งสองครั้ง...

“อ้าว? พี่ราม...”

“จอม? ทำไมมาเช้าจังเลย เวลางานคือแปดโมงไม่ใช่หรือครับ” เขาถามเสียงนุ่มทุ้มเป็นพี่ชายที่แสนดีเหมือนเดิม

“จอมตื่นเช้า...เลยมาเดินเล่นที่รีสอร์ทดีกว่า”

“ใช่เหรอ...ไม่ใช่มีอะไรแอบแฝงนะ”

“เปล๊า!!” น้องชายปฏิเสธเสียงสูง ทำเอาพี่ชายยิ้มให้อย่างเอ็นดู “เมื่อกี้จอมเห็นพี่ขรรค์ด้วยแหละ พี่หล่อๆ ที่อยู่กับพี่ขรรค์เป็นใครเหรอฮะ” เจ้าจอมถามด้วยความอยากรู้

“นี่เรายังไม่รู้จักเหรอ”

“ไม่อ่ะ จอมเพิ่งจะเคยเห็นเอง”

“นั่นหมอเงิน เป็นคนรักของขรรค์มัน” พอตอบไป เจ้าจอมก็ทำสีหน้าตกใจ ไม่คิดว่าคนตัวยักษ์ๆ หน้านิ่งๆ แบบนั้นจะมีคนรักที่ทั้งหล่อ ทั้งขาวแล้วก็ดูสุภาพบุรุษ

“ไม่คิดว่าพี่ขรรค์จะชอบผู้ชาย”

“เขาคบกันมาเกือบสิบปีได้แล้วล่ะมั้ง แต่ก็มีปัญหากัน”

“แต่ที่จอมเห็น เขาสองคนสวีทกันมานะพี่ราม ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรกันเลย”

“สงสัยเคลียร์กันแล้วล่ะมั้ง” มีอะไรไม่ยอมบอกยอมกล่าวกันเลยนะ...ต่อประโยคในใจ

“งั้นล่ะมั้งฮะ แต่เห็นพี่ขรรค์มีความสุขได้ก็สบายใจ”

“จะไปสบายใจอะไรแทนเขาล่ะเรา เอาตัวเองรอดหรือยัง” ขยี้ผมนุ่มของน้องชายด้วยความหมั่นเขี้ยว เจ้าจอมก็ได้แต่ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้

“ระดับไหนแล้ว...”

“ตอนนี้ไอ้จักรมันโกนหนวด คนงานผู้หญิงกรี๊ดมันตรึมเลยนะ ระวังแล้วกัน”

เป็นไปตามที่รามินทร์พูดนั่นแหละ แต่หนวดของจักรก็ขึ้นแล้วนะ ขึ้นเร็วมาก แต่ไม่รุงรังหน้าโจรเหมือนที่ผ่านมาแล้ว คงเป็นอินทัชที่บอกให้จัดการล่ะมั้ง

ไม่เห็นจะมีปัญหาตรงไหน ของๆ ของก็ต้องเป็นของเขา...

“รู้แล้ว ว่าแต่พี่ไปขอบคุณพี่อินหรือยัง”

ร่างสูงเงียบไป ปากที่ฉีกยิ้มอยู่ก็หุบราวกับไม่พอใจที่ได้ยินสิ่งที่ไม่อยากได้ยิน แต่มันไม่ใช่...อินทัชทำให้เขารู้สึกแปลกๆ

“ว่าไงฮะพี่ราม”

“ขอบคุณแล้ว”

“ดีแล้วฮะ เพราะเรื่องนี้ถ้าไม่ได้พี่อินเราแย่นะฮะ”

“อืม...พี่รู้”

“งั้นจอมขอไปเดินเล่นต่อนะฮะ อากาศวันนี้กำลังดีเลย”

“ครับ”

เจ้าจอมเดินไปแล้ว เหลือแค่รามินทร์ที่กำลังยืนนิ่ง...ก่อนจะสลัดศีรษะแรงๆ ไล่ความฟุ้งซ่านออกไปแล้วเดินตรวจงานต่อ...

“ช่างมันเถอะ...”



“อิน...”

“อ้าว? หมอเงิน แล้วก็ขรรค์ อรุณสวัสดิ์” ร่างโปร่งบางที่กำลังรถน้ำผักอยู่วางบัวรถน้ำแล้วทักทายทั้งสองที่ยืนอยู่เคียงคู่กัน อีกคนหน้านิ่งเรียบเฉย มือถือจอบส่วนหมอเงินก็ยืนฉีกยิ้มมาให้

“อรุณสวัสดิ์ครับ”

“อือ...อรุณสวัสดิ์”

“เป็นไง คืนดีกันหรือยัง” เขาถามออกไปตรงๆ เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะปิด ยังไงก็แล้วแต่เขาก็ต่างรู้กันดี

“อื้อ ขอบคุณอินมากๆ เลยนะที่ช่วย”

“เฮ้ย!! ผมยังไม่ทันทำอะไรเลย จะขอบคุณทำไม” เขาได้แต่โบกมือไปมา เพราะตัวเองก็ไม่ได้ทำอะไรมากมายที่ทั้งสองดีกันนั่นเป็นเพราะความรักของทั้งคู่ต่างๆ

“ต้องขอบคุณสิ เนอะขรรค์เนอะ”

“อืม...ขอบคุณที่ยุ่ง”

“นายนี่ก็ปากจัดเหมือนกันแฮะ” คนหน้าสวยแขวะร่างสูงใหญ่อย่างขรรค์ไป เรียกเสียงหัวเราะจากหมอเงินได้เป็นอย่างดี

“ขอบใจ”

“กูด่าเถอะ” พึมพำกับตัวเองเบาๆ

“แล้วอินเป็นยังไงบ้าง ไม่เจอกันตั้งสองวันแน่ะ”

“ผมก็เหมือนเดิม ยังแย่แบบไหนก็แบบนั้นแหละ”

“เห็นคนงานเล่ากันให้ทั่วเลยว่าเมื่อวานอินไปรับแขกสำคัญของรีสอร์ทนี่ คุณรามได้ว่าหรือทำอะไรอินไหมครับ” หมอเงินถามด้วยสีหน้าจริงจังแฝงไปด้วยความเป็นห่วงจนอินทัชซึ้งใจ

ในเรื่องที่โหดร้ายยังมีเรื่องที่ดีอยู่...

“คนอย่างมันมีหรือจะไม่ทำอะไรผม”

“คุณรามทำอะไร...”

“อย่าไปรู้เลยครับ มาคุยเรื่องของหมอดีกว่า ยินดีด้วยนะครับ หวังว่านายคงไม่ปอดแหก ขี้ขลาดอีกเป็นครั้งที่สองหรอกนะ แหกตาดูบ้างว่าคนที่รักนายต้องทำเพื่อนายขนาดไหน” ร่างโปร่งเปลี่ยนเรื่องโดยการที่พูดถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง ประโยคท้ายๆ ก็ยังแอบแขวะขรรค์อยู่เนืองๆ

ก็อินทัชไม่ชอบคนขี้ขลาดตาขาว...

แต่ก็เข้าใจว่าที่ขรรค์ทำนั่นก็เพราะว่ารัก...

“รู้แล้ว นายอย่าพูดมากดีกว่านะ”

“ทำไมขรรค์คนนี้ ไม่เหมือนกับขรรค์คนที่ฉันรู้จักวันแรกๆ ที่มาที่นี่วะ”

“เขาก็เป็นแบบนี้แหละครับอิน...พอสนิทกันก็เริ่มเผยธาตุแท้” หมอเงินตอบให้

“อ้อ! ที่ผ่านมาคือละครสินะ เก่งดีนะขรรค์ เป็นดาราได้เลย”

“นายก็เหมือนกัน...แขวะเก่ง กัดเก่งแบบนี้ อย่าลืมฉีดยาล่ะ ไม่อยากติดเชื้อ”

“เฮ้ย!! ฉันไม่ได้เป็นหมาบ้านะเว้ย!!”

“เฮอะ!!” ร่างสูงใหญ่ส่งเสียงขึ้นจมูก กระตุกยิ้มอย่างสะใจให้กับอินทัชก่อนจะเดินไปจากตรงนี้ ปล่อยให้คนรักของตนยืนอยู่กับอินทัชตามลำพัง

“ขรรค์ก็เป็นแบบนี้แหละครับ อินอย่าถือสา”

“ไม่หรอกหมอ...ผมไม่ซีเรียส ดีเสียอีกที่รู้จักในอีกมุมหนึ่งของมัน” อินทัชพูดยิ้มๆ

“ยังไงผมก็ขอบคุณอินมากนะ”

“ยินดีครับ...หมอเงินเป็นเพื่อนไม่กี่คนของผมที่อยู่ที่นี่ อีกคนมันชื่อจักรครับ ถ้าหมอได้รู้จักก็ต้องชอบมันแน่ๆ มันหน้าโหดๆ เถื่อนๆ แต่นิสัยมันโง่ๆ ซื่อๆ พูดกับมันแล้วสบายใจดี อยากให้หมอลองเจอ”

“ลองอินพูดแบบนี้ คนนั้นคงดีจริงๆ นั่นแหละ...ว่างๆ ผมจะเข้าไปคุยด้วยนะ” หมอเงินยิ้มให้ ในใจก็นึกโล่งใจที่อย่างน้อยอินทัชก็มีเพื่อนที่นอกเหนือจากเขา

มันทำให้เงินเชื่อเลยว่า...คนดีน่ะ...ยังไงก็ไม่มีทางอับจนหนทางหรอก

“งั้นผมขอตัวก่อนนะ เดี๋ยวจะถึงเวลาเข้าเวรแล้ว ขอไปอยู่กับขรรค์ก่อน” หมอเงินขอตัว ใบหน้าเปื้อนยิ้มมีความสุข

“ฮ่าๆ เชิญครับ อิจฉาจริงๆ คนมีความรัก”

“อินเองก็มีคนรักเยอะนะ ในฐานะเพื่อนก็มีผมคนหนึ่ง”

“ขอบคุณครับ ผมก็รักหมอเหมือนกัน”

“ฮ่าๆ เรารักกันเนอะ! ไปนะ แล้วเจอกัน”

“ครับ” เขาโบกมือให้ร่างโปร่งที่วิ่งตามคนรักของตนไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข ก่อนที่ตัวเองจะเริ่มรถผักที่ยังเหลือต่อให้เสร็จ...

ระหว่างที่ร่างโปร่งกำลังรถผัก ร่างเล็กของน้องชายเจ้าของรีสอร์ทที่เดินเล่นจนมาถึงนี่ก็ทำหน้าฉงนที่เห็นอินทัชทำงานหนักแบบนั้นอยู่

รู้ว่าพี่ชายใช้งานอินทัชหนัก แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ แล้วบ้านเก่าๆ หลังนั้น ก็คงจะเป็นบ้านที่พี่อินนอนอยู่ทุกๆ วันนี้แน่ๆ

“พี่อิน...”

“เอ๊ะ! น้องจอม!! มาได้ยังไงครับ” ร่างโปร่งที่ตกใจหันมาถามคนตัวเล็กเสียงดัง

“จอมเดินเล่นเลยมาถึงที่นี่”

“นึกว่ามีธุระกับพี่เสียอีก”

“แปลงผักนี่...พี่อินทำเองเหรอฮะ” คนอายุน้อยกว่าถามพลางใช้สายตากวาดมองไปยังแปลงผักด้านหน้าที่มีผักเจริญเติบโตขึ้นมาบ้างแล้ว

“ใช่แล้วน้องจอม...ถ้าพี่ไม่ทำเองจะเอาอะไรที่ไหนกินล่ะครับ”

“พี่รามทำขนาดนี้เลยหรือฮะ”

“น้องจอมไม่ต้องเครียดหรอก ได้ทำอะไรแบบนี้ก็ท้าทายดี...ชีวิตพี่ไม่ค่อยได้เจอแบบนี้เท่าไหร่หรอก ถือว่าผ่อนคลายไปด้วย”

รอยยิ้มของคนสวยตรงหน้าทำให้เจ้าจอมรู้สึกอิจฉาแล้วก็รู้สึกประทับใจในความคิดไปในแง่ดีของคนที่ถูกจับมาแก้แค้น

“ทำไมพี่อินถึงได้ดีขนาดนี้นะ”

“ฮ่าๆ น้องจอมก็ว่าไป ถ้าพี่ดีขนาดนี้ พี่จะถูกจับมาทำไมครับ” แอบที่จะตัดพ้อรามินทร์ไม่ได้ ทำเอาร่างเล็กถึงกับน้ำตาคลอด้วยความสงสาร

“สำหรับจอม พี่อินเป็นคนดี”

“ขอบคุณครับ”

“ถ้ามีอะไรที่จอมช่วยได้บอกมาเลยนะฮะ”

“ช่วยรับรักไอ้จักรมันสักที พี่ขี้เกียจช่วยมันแล้ว...” สิ้นเสียงคำขอก็ทำเอาเจ้าจอมหน้าแดงซ่านขึ้นมาทันที...มองหน้าที่กึ่งแซวกึ่งจริงจังของอินทัชแล้วไม่รู้จะเริ่มพูดตรงไหนก่อนดี

แต่ก่อนที่เจ้าจอมจะพูดอะไรออกมา คนตรงหน้าก็พูดมาอีกประโยคหนึ่ง ซึ่งทำเอาคนตัวเล็กสะอึกไป

“เล่นกับความรักน่ะ มันไม่สนุกหรอกนะครับเจ้าจอม”






100%


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


    แม้ที่นี่จะไม่ค่อยมีคนอ่านก็ไม่ท้อค่ะ แหะๆ...ตอนนี้ยูกิแต่งเรื่องนี้ไปได้แล้วประมาณหนึ่ง แต่ก็ลงตามสเต็ปเดิมนะคะทีละ 50% เว้นวันหนึ่งหรือสองวันแล้วก็ลงอีกครึ่ง (ส่วนใหญ่เว้นสอง) แล้วจะเว้นอีกสองวันอีก แบบนี้นะคะ ^_^

   ถ้าคุณไม่อยากพลาดข่าวสารสำคัญ กดไลค์แฟนเพจหรือกดรับการแจ้งเตือนด้วยก็ได้ค่ะ https://www.facebook.com/sawachiyuki/


ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
แล้วมาไรความดีของพี่อินจะไปถึงรามินทร์ซักทีนะ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
สงสารอินเมื่อไหร่ธีร์จะมาช่วยซักที และเมื่อไหร่ไอ้เหี้ยรามมันจะรู้ความจริงซักที ไรท์เอาคืนให้ไอ้เหี้ยรามมันกระอักเลยนะ แต่อย่างอินทัชผู้แสนดีอาจมองผ่านมันไปก็ได้แบบแล้วไปแล้วแต่อย่ามาให้เห็น อย่ามาให้เจอกันอีกแน่ๆ เลย

ออฟไลน์ viewier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
สงสารอิน มองโลกในแง่ดี จริง ๆ แล้วก็น่าจะปลงละอะ
เพราะคงคิดว่าไม่ได้ออกไปง่ายๆแน่  สู้!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :serius2:


เมื่อไหร่จะหลุดพ้น

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
น่าสงสารอ่ะเจอคนประเภทข้างในเป็นสัตว์แบบนี้

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
อยากกอดอินทัชแน่นๆ สงสารน้ำตาจะท่วมป่าแล้ว นี่ร่ำๆว่าจะเป็นผีไปเข้าฝันพี่ธีร์บอกว่าน้องอินอยู่ไหน แล้วเลยไปเข้าฝันหลอกหลอนรามกับน้องสาวให้จับไข้สักที!!!!!!

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เมื่อไหร่น้อออออเฮียรามจะรู้ใจตัวเอง กลัวถึงวันนั้นแล้วมันจะสายไป สงสารอินมากๆ อย่าเพิ่งหมดความอดทนจนกว่าเฮียแกจะรู้ตัวนะอิน

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
เราอ่านนะยูกิ
เรารอเรื่องนี้ตลอดเลย
เราปลื้ม...
ปล.ความรักของทุกคนก้าวหน้ามาก
แต่ความรันทดของอินทัชยังเท่าเดิม
เพิ่มเติมคือความเลวของราม!! แง่มๆๆๆ

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
พี่อิน..เปลี่ยนคู่ดีไหมมมมม..น้องจอมก็น่ารักนร๊าาาาาาาาาาา... :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ Porttgas D. Acs

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
อยากแพ่นกระบาลรามจริงๆ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
มีไม่เยอะแต่ยังมีอยู่นะจ๊ะ  เป็นกำลังใจให้ค่ะ  รออ่านอยู่นะ

อินทัชน่าสงสาร ดีที่อาการไม่หนักมากแต่ไม่รู้จะทนพ้นวันไหม
มีแต่คนมองเห็นว่าอินทัชดี แต่รามก็บื้อไม่เลิกนะ

รามไม่รู้ตัวเลยหรอว่าทำไปทำไม หรือแค่ไม่ยอมรับว่าคิดไกลไปแล้ว

อินสู้ๆนะคะ หมอเงินน่ารัก 555 ขรรค์คนบ้า กวนประสาท
เจ้าจอมช่วยพี่อินด้วยนะ

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 15
น้อยใจและหวง



‘เล่นกับความรักน่ะ มันไม่สนุกหรอกนะครับเจ้าจอม’

เสียงของอินทัชยังดังอยู่ในหัวของเจ้าจอมซ้ำไปซ้ำมาจนปวดหัวไปหมด...อยากรู้ว่าทำไมอินทัชถึงได้พูดแบบนั้น อยากรู้ว่าทำไมอินทัชพูดเหมือนรู้ออกมาอย่างนั้น

สิ่งที่เจ้าจอมรู้นั่นคืออินทัชเป็นคนดี...

แต่ก็เพิ่งจะมารู้เอาตอนนี้เหมือนกันว่าอินทัช...เป็นคนที่น่ากลัว น่ากลัวมากๆ เลยสำหรับเขา

“อะไรคือการเล่นกับความรักนะ...”

ร่างบางเดินไปตามทางซึ่งเป็นเส้นทางที่พาเขาไปที่สำนักงานเพื่อลงเวลาเข้างาน เดี๋ยวโดนพี่ชายหักเงินเดือน...เพราะเจ้าจอมเป็นถึงน้องชายของเจ้าของรีสอร์ท การเข้างานส่ายถือเป็นสิ่งไม่สมควร จะถูกหักเงินเดือนมากกว่าเป็นพิเศษ และไม่มีการรับฟังเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าจะเข้างานช้าต้องบอกล่วงหน้า...นั่นคือสิ่งที่รามินทร์กำหนดให้กับเจ้าจอม

“สวัสดีค่ะคุณจอม”

“สวัสดีครับ” เขาทักทายพนักงานที่เดินตามทางเดินบ้างสวนกันบ้างไปทางเดียวกัน

เขาเดินเข้าห้องทำงานไปแล้วสแกนนิ้วมือลงเวลางานก่อนเวลาแปดโมงเช้าประมาณสิบนาที ร่างเล็กเดินไปนั่งประจำโต๊ะของตัวเองแล้วเริ่มทำงานในส่วนที่รามินทร์เร่งให้เสร็จก่อน

Rrrrrr

“ฮะพี่ราม” เขารับดทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงสุภาพ

(เดี๋ยวพี่จะออกไปข้างนอก กลับประมาณสิบโมง ตอนนั้นเอาบัญชีมาให้พี่นะ)

“ได้ฮะพี่ราม...”

เจ้าจอมวางโทรศัพท์เอาไว้ข้างมือแล้วลงมือทำงานที่ได้รับมอบหมายต่อไป โดยที่พยายามสลัดคำพูดของอินทัชออกไปจากความคิดด้วย


“ตามนี้เลยฮะพี่ราม...ถ้ามีอะไรดูแปลกไป พี่รามรีบบอกเลยนะ” มือเล็กยื่นแฟ้มข้อมูลบัญชีที่พิมพ์ออกมาให้รามินทร์ตรวจสอบไปยังเจ้าของรีสอร์ทที่นั่งอยู่ตรงหน้า

“อืม...พี่ขอดูแป๊บนะครับ”

“ฮะ…”

“เป็นอะไรไปหรือเปล่าครับเจ้าจอม ตอนเช้าเรายังดูอารมณ์ดีอยู่เลย ทำไมตอนนี้ทำหน้าเครียดๆ ล่ะครับ” รามินทร์ที่สังเกตเห็นความผิดปกติของลูกพี่ลูกน้องหนุ่มก็เอ่ยปากถามอย่างนึกห่วง

“เปล่าฮะ จอมแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ไม่มีอะไรสำคัญหรอกฮะ”

“แน่ใจนะ มีอะไรบอกพี่ได้”

“ไม่มีจริงๆ ฮะพี่ราม”

“ถ้าอย่างนั้นจอมไปพักดีกว่าไป เดี๋ยวพี่จะตรวจอีกสักพัก ถ้ามีอะไรผิดปกติหรือผิดพี่จะไปหาที่ห้องนะ” รามินทร์อยากให้น้องชายพักเลยเสนอให้เจ้าจอมไป ซึ่งคนเป็นน้องก็พยักหน้าจำยอม...

“ฮะพี่ราม งั้นจอมขอตัว”

“ครับ”

เจ้าจอมเดินออกจากห้องทำงานของรามินทร์แล้วตรงออกไปยังด้านนอก ก่อนจะตรงไปยังไซต์งานเพื่อที่จะได้เห็นหน้าจุลจักร เผื่อจะอารมณ์ดีกว่านี้

แต่เมื่อไปถึงเขากลับได้เห็นภาพบาดตาบาดใจ...คนที่เจ้าจอมชอบกำลังรับของบางอย่างจากหญิงสาวคนหนึ่งด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“พี่จักร แก้วทำกับข้าวมาให้จ้ะ ลองกินดูนะจ้ะ ฉันทำมาสุดฝีมือเลย”

“ขอบใจนะแก้ว พี่จะกินมันให้หมด ไม่ให้เสียน้ำใจเลยล่ะ”

อะไรก็ไม่น่าเจ็บใจเท่าที่จุลจักรยินดีที่จะรับมันแล้วยิ้มแบบไม่รู้สึกรู้สาเลยว่าผู้หญิงกำลังให้ท่า เรียกสั้นๆ ว่าอ่อยนั่นแหละอยู่...

“ถ้าพี่ชอบ พรุ่งนี้ฉันจะทำมาอีกนะจ้ะ”

“เอาเวลาว่างทำอาหารให้ผู้ชายไปทำงานดีกว่าไหม!!”

“ค่ะ คุณจอม” สองเสียงหนุ่มสาวเรียกชื่อของคนที่พูดขึ้นมาขัดด้วยน้ำเสียงที่ติดจะไม่พอใจอย่างนึกกลัว...

“ที่นี่ก็มีบริการอาหารให้กับคนงานอย่างดี...แล้วที่เธอทำมาใช้ของที่ไหนทำ ของที่บ้านตัวเอง หรือของโรงครัว” เจ้าจอมถามด้วยน้ำเสียงและสีหน้าหาเรื่อง

“ค่ะ คือแก้ว...แก้วใช้ของครัวค่ะ”

“หึ...ของทุกอย่างมีต้นทุน มิน่าล่ะ ค่าใช้จ่ายของรีสอร์ทถึงได้เยอะนัก เพราะมีคนงาน พนักงานเอาของของรีสอร์ทมาใช้ส่วนตัวนี่เอง” ที่พูดมามีส่วนเป็นจริง เจ้าจอมไม่ได้หาเรื่องเพราะเหตุผลส่วนตัวอย่างเดียว แต่ค่าใช้จ่าของรีสอร์ทมันเพิ่มมากขึ้นจริงๆ

“ข่ะ ขอโทษค่ะคุณจอม แก้ว…แก้วจะไม่ทำอีกแล้วค่ะ”

“เอ่อ...คุณจอมครับ อย่าตำหนิแก้วนักเลยครับ แก้วคงทำไปด้วยความไม่รู้” จุลจักรช่วยพูดขึ้นมาทำเอาทั้งสองหันไปมองเป็นตาเดียว หญิงสาวมองด้วยความขอบคุณและซึ้งใจ และคิดไปไกลว่ากำลังช่วยปกป้องเธออยู่ ส่วนเจ้าจอมมองด้วยความโมโหที่จุลจักรพูดช่วยผู้หญิงคนนั้น ทั้งๆ ที่ทำผิด

“เรื่องพวกนี้ไม่ต้องมีใครบอกก็ควรรู้เอาไว้ ถ้าเธอทำ แสดงว่ามีคนอื่นก็ทำด้วย ถ้าอย่างนั้นเธอไม่กล้าทำหรอกจริงไหม!”

เจ้าจอมกำลังโมโหและโกรธ ทั้งอยากจะร้องไห้ออกมาที่คนซื่อบื้ออย่างจักรไม่เข้าใจอะไรเลย แถมยังมองว่าเขาเป็นคนใจร้ายอีกด้วย

“ฮึก...ก่ะ แก้ว ข่ะ ขอโทษค่ะ แก้วจะไม่ทำอีกแล้ว ฮึก” เธอร้องไห้ออกมาเพราะกลัวน้ำเสียงที่ติดดุของเจ้าจอมที่สำคัญมันยังดังขึ้นเหมือนตะคอก

ทางด้านจักรเองที่มองอยู่ก็นึกสงสาร เลยช่วยพูดเท่าที่ช่วยได้

“คุณจอม...อย่าว่าแก้วนักเลยนะครับ ผมก็รับมายังไงผมก็ขอโทษแทนน้องมันด้วย”

เจ้าจอมมองหน้าร่างสูงแล้วเม้มปากแน่น...

ทำไมถึงไม่มีใครเข้าใจเขา...เขาแค่ทำตามหน้าที่เพราะรู้ต้นตอของการทำให้ค่าใช้จ่าของรีสอร์ทมันเพิ่มมากขึ้น แต่คนพวกนี้ทำเหมือนว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่...

“อืม...ฉันจะรับคำขอโทษของนายแล้วก็เธอเอาไว้ อย่าให้เจออีกก็แล้วกัน”

“ข่ะ ขอบคุณค่ะคุณจอม ขอบคุณค่ะ” เธอเงยหน้าทั้งน้ำตายกมือไหว้ขอบคุณร่างบางยกใหญ่ ส่วนจักรเองก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจที่ช่วยน้องเอาไว้ได้

“ขอบคุณนะจ้ะพี่จักร”

“ไม่เป็นไร พี่ก็ไม่ได้ทำอะไร” จักรยิ้มให้แก้วอย่างไม่คิดอะไร แต่คนคิดคือคนที่มองภาพบาดตาบาดใจอยู่ตอนนี้อย่างเจ้าจอมต่างหาก

ถ้าจะโง่จนไม่เข้าใจความรู้สึกเขาแบบนี้นะ...

“นี่เป็นเวลางาน ไม่ใช่เวลาจีบกัน...ถ้าจะจีบก็ต้องรอให้เลิกงานก่อน ฉันขอตัวล่ะ” ร่างบางหมุนตัวเดินหนีหลังจากทิ้งระเบิดเอาไว้

จุลจักรที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่ยืนนิ่งค้างทำอะไรไม่ถูก ไม่คิดว่าจะโดนเข้าใจผิด แต่พอจะแก้ตัว เจ้าจอมก็เดินหนีไปแล้ว...

“เอ่อ...คือว่า”

“เองไม่ต้องคิดมาแก้ว พี่ไม่ได้คิดอะไรกับเองเกินกว่าน้องสาวหรอก สบายใจได้ เดี๋ยวพี่จะไปพูดบอกคุณจอมใหม่ไม่ให้เข้าใจเราผิด” จักรพูดแบบนั้นเมื่อเห็นว่าแก้วทำสีหน้าอึกอัก หน้าแดงด้วยความอาย ก้คิดว่าน้องมันกำลังอายที่โดนเข้าใจผิดแน่ๆ

คนที่ไม่เคยเข้าใจความรู้สึกใคร เข้าใจแต่ความรู้สึกตัวเองอย่างจักร ไม่รู้เลยว่ากำลังทำร้ายจิตใจคนถึงสองคนด้วยกัน หญิงสาวมองจักรด้วยสายตาที่เศร้าสร้อย ส่วนจักรก็มองตามร่างบางของคนที่กุมหัวใจตนเอาไว้ด้วยความกังวล ประจวบเหมาะกับอินทัชเดินเข้ามาหา

“มึงโง่จริงๆ ว่ะจักร ถ้ามึงยังไม่ฉลาดขึ้นนะ กูแนะนำว่ามึงอย่าเพิ่งจีบน้องจอมเลย...รังแต่จะทำให้ไม่เข้าใจกันเปล่าๆ” เสียงทุ้มเสน่ห์ของอินทัชดังขึ้นมาจากด้านหลังของคนทั้งสอง หลังจากที่แอบดูอยู่นานแล้ว

เจ้าจอมทำถูกแล้วที่ตำหนิพนักงาน เพราะน้องไม่ได้ใช้การตะคอก แค่ขึ้นเสียงปกติเวลาตำหนิใคร แล้วก็ยังมีเหตุผลด้วย ซึ่งอินทัชก็เป็นแบบนั้นเวลาลูกน้องผิดพลาด

“ไอ้อิน...”

“พ่ะ พี่อิน...เอ่อ คือ อะไร” แก้วมองอินทัชสลับกับมองจุลจักรที่เธอแอบชอบ คิดไปคิดมาก็เข้าใจว่าทำไมจักรถึงอยากจะอธิบายเรื่องที่เจ้าจอมเข้าใจผิดนัก

ที่แท้พี่จักรก็ชอบคุณจอมนี่เอง...

“แก้วไปทำงานเถอะไป แล้วก็กล่องอาหารนี่พี่ขอคืนนะ มันเป็นอาหารที่ไม่ควรทำมา”

“เอ่อ...จ้ะ พี่จักร” ร่างบางหยิบกล่องข้าวกลับคืนมาด้วยสีหน้าเจื่อนๆ เพราะผิดหวัง...ก่อนจะเดินออกจากตรงนั้นไปอย่างเศร้าใจ...

พอเหลือกันสองคน จักรก็หันไปมองอินทัชอย่างต้องการคำตอบ

“มึงหมายความว่ายังไง”

“กูก็หมายความตามนั้น ก็มึงโง่ไงจักร มึงเลยไม่รู้ว่าเมื่อกี้น้องจอมเสียใจขนาดไหน”

“เสียใจ? เสียใจอะไรวะ” พอได้ยินคำว่าเจ้าจอมเสียใจ จักรก็กระวนกระวายทันที

“น้องจอมทำถูกแล้วที่ตำหนิพนักงานที่ทำผิด น้องเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรแรงเลย ไม่ขึ้นเสียง ไม่ตะคอกใส่ เป็นเจ้านายที่ดีออกแบบนั้น แต่มึงดันเห็นใจขอร้องไม่ให้น้องจอมตำหนิแก้ว...เจ้าจอมเห็นแก่มึงเลยยอมถอย แต่มึงไม่รู้หรอกว่าน้องจอมเขาคิดยังไง”

“คิดยังไง…”

“คิดว่ามึงปกป้องแก้วไง คิดว่ามึงชอบ เลยปกป้อง และน้อยใจที่มึงไม่ยอมเข้าใจว่าเจ้าจอมทำไปเพราะอะไร ก็เพราะหน้าที่ไง หน้าที่ของคนเป็นเจ้านายกับสถานะของมึงมันไม่เหมือนกัน มึงอาจจะมีความเห็นใจ แต่ในฐานะที่น้องจอมเป็นคือเห็นใจไม่ได้ ต้องเด็ดขาด หากคนๆ นั้นทำผิดจริงๆ น้องเขาก็ต้องว่า เชื่อเถอะว่าตอนนี้แก้วกำลังถูกน้องจอมตำหนิต่อแน่ๆ แต่ที่ยอมทำตามที่มึงขอเพราะน้องเขาไม่อยากให้มึงมองเขาไม่ดีไง” จุลจักรนิ่งค้างไปเมื่อคิดตามสิ่งที่อินทัชบอกมา

เขาไม่รู้จริงๆ เขามองสีหน้าของเจ้าจอมไม่ออกจริงๆ เขารู้เพียงแต่ว่าเขาสงสารแก้วที่โดนว่า เลยช่วยเท่านั้น ไม่ได้คิดเลยว่าเจ้าจอมจะคิดมากไปขนาดนั้น

“จริงหรือวะ”

“มึงจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่มึง...”

“กูควรทำยังไง”

“อย่างแรกคือมึงต้องฉลาดไง!!”

“แล้วทำยังไงถึงจะฉลาดล่ะ!!!” ขึ้นเสียงถาม เพราะตัวเองชักจะหงุดหงิดแล้วนะที่โดนด่าว่าบ้าอย่างนั้น โง่อย่างนี้ เขาไม่ได้โง่ แค่ไม่รู้...

“อย่างแรกเลยนะ มึงต้องรู้...ดูสถานการณ์ให้เป็น อ่านสีหน้าและฟังน้ำเสียงให้ออก”

“เรื่องแบบนั้นมีแต่เทพที่ทำได้เว้ย!!!” แย้งขึ้นมาอย่างโมโห

“งั้นกูก็เทพสิวะ เพราะกูมองทุกคนออก ไม่เหมือนมึง!!” อดจะด่าเพื่อนไม่ได้จริงๆ

“เออๆ ไอ้อิน มึงนี่หลอกด่ากูตลอดเวลาจริงๆ”

“ทีแบบนี้ทำมาเป็นฉลาด!!!”

“คุณจอมโกรธกูมากไหมวะ” จู่ๆ จักรก็เข้าสู่โหมดเครียดอย่างจริงจัง ทำเอาร่างโปร่งบางถึงกับส่ายหน้าไปมาด้วยความหน่ายใจ

ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าจอมไม่รับรักจักรเร็วๆ

เพราะถ้ามีแฟนที่ใจกว้างเป็นแม่น้ำ ใจดีรับของที่ผู้หญิงอื่นเอามาให้ด้วยหน้าชื่อตาบาน คงจะต้องไม่มีความสุขแน่ๆ ล่ะ

“โกรธไหมไม่รู้ แต่ถ้าน้อยใจไหม เสียใจไหม ตอบเลยว่า...มาก!!” หน้าของจักรเจื่อนไปเลยเมื่ออินทัชตอบแบบนั้น

“ทำไงดีวะ”

“ถ้าอยากให้น้องจอมเขารับรักมึง อย่างแรกมึงต้องฉลาด มองหน้า มองสายตาให้ออกว่า ณ ตอนนั้นเจ้าจอมรู้สึกอะไร อย่าทำตัวใจดีกับคนอื่นต่อหน้าเขา...แล้วกูบอกไว้เลยนะว่า ความเชื่อที่เจ้าจอมเชื่อว่ามึงรักเค้าจริงๆ น่ะมันลดฮวบลงมาแล้วรู้ไหม”

ก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอก เขาแค่กระตุ้นให้จักรมันฉลาดขึ้นเท่านั้นเอง...

“จริงเหรอวะ”

“มึงไม่ควรให้ความหวังผู้หญิงคนไหน อย่างแก้วเมื่อกี้เขาก็ชอบมึง แต่มึงก็ทำเหมือนให้ความหวัง เจ้าจอมก็รู้ ก็ดูออกเลยคิดว่ามึงสองคนจีบกันไง...”

ดวงตาคมเบิกกว้างอย่างตกใจเพราะไม่รู้มาก่อนว่าแก้วชอบเขา แต่พอคิดดีๆ แล้วมันก็มีเค้าที่จะเป็นจริง นั่นทำให้จักรรู้สึกผิดเข้าไปอีก... ใจของเขาลอยตามคนครอบครองไปแล้ว แต่ร่างกายยังคงต้องทำงานหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง

“แล้วกูจะทำได้ยังไง”

“งั้นมึงไม่ต้องฉลาดแล้วไอ้จักร”

“อะไรของมึงเนี่ย สรุปจะให้กูทำยังไงกันแน่วะ!!” ร่างสูงใหญ่ชักจะอารมณ์ไม่ดีที่อินทัชเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนสับสนไปหมดแล้วตอนนี้

อินทัชที่เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าจักรคงไม่มีทางดูความเจ้าเล่ห์ของเจ้าจอมออกแน่ๆ เลยเปลี่ยนวิธีใหม่ และคิดเอาไว้ว่าต้องโดนด่า

“ก็ไหนๆ มึงก็ฉลาดไม่ได้ ก็โง่ต่อไปแล้วกัน แต่โง่กับน้องจอมคนเดียว ส่วนคนอื่นมึงต้องมองให้ออกมาเขาเข้าหามึงเพราะจุดประสงค์อะไร เพราะถ้าหากว่ามึงกับน้องจอมคบกัน เป็นแฟนกัน ทั้งๆ ที่มึงยังใจดีแบบนี้ อย่าหวังเลยว่าความรักมึงจะชื่นมื่น มีความสุข”

“อะไรวะ?”

“นี่กูพูดอย่างเยอะมึงไม่เข้าใจ?”

“เออดิ พูดอะไร งงไปหมดแล้ว”

“งั้นมึงจับใจความได้ว่ายังไง”

“ให้กูโง่กับคุณจอมคนเดียว นอกนั้นก็ต้องดูให้ออก แค่นี้” เขาตอบไปตามที่ตัวเองจับใจความได้จริงๆ อย่างอื่นมีแต่ประโยคที่ต้องแปลเป็นไทยอีกรอบ

“ดีหน่อยที่อย่างน้อยก็ฟังได้เนื้อ” อินทัชพึมพำเบาๆ อย่างเหนื่อยใจ

เขาไม่น่าให้ไอ้จักรมันโกนหนวดโกนเคราจริงๆ ไม่คิดว่าจะทำให้เรื่องของเจ้าจอมกับจุลจักรมันวุ่นวายกว่าเดิมแบบนี้ นี่เป็นการคำนวณที่ผิดพลาดไปจริงๆ

ช่างเถอะ...มีทางแก้ไขอยู่ก็ไม่เท่ากับผิดพลาดมากมายเท่าไหร่

“สรุปคือกูต้องยอมคุณจอม ชี้ไม้เป็นนกก็ต้องว่านกใช่ไหม”

“เออ!! แบบนั้นแหละ”

ก็ไม่ใช่ทุกเรื่องนะ แต่เอาเถอะ ถ้าไอ้จักรได้อยู่กับเจ้าจอมนานๆ มันอาจจะซึมซับและรู้จักคนที่มันรักเยอะกว่านี้แน่ๆ

คราวนั้นก็คงจะตามเจ้าจอมทันแล้วล่ะมั้ง...คนเราคงไม่ซื่อบื้ออยู่อย่างนี้นานๆ หรอก


ทางด้านเจ้าจอมที่รู้สึกหงุดหงิด โมโห ไม่สบอารมณ์ เดินเข้าโรงครัวไปด้วยความไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้เหวี่ยงใส่ใครแต่อย่างไร หลายคนที่รู้จักเจ้านายตัวเองดีก็ได้แต่ทำงานของตัวเองเงียบๆ เพราะถ้าไปสะกิดต่อมระเบิดเมื่อไหร่ องค์ลงเมื่อนั้นแน่ๆ

“ที่นี่มีพนักงานที่เอาวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารให้กับลูกค้าและคนงานไปใช้เพื่อการส่วนตัว นั่นคือการทำอาหารออกไปให้ผู้ชาย!!! ผมจับได้คนหนึ่ง แล้วได้ตำหนิไปแล้ว เตือนไปแล้ว ไม่อยากจะเห็นอีกเป็นครั้งที่สอง พวกคุณรู้บ้างไหมว่าการที่ใช้วัตถุดิบเพื่อส่วนตัวมันทำให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ผมหวังว่าจะไม่เจอแบบนี้อีก ครั้งนี้ผมจะไม่รายงานพี่รามแต่ถ้าพี่รามรู้ ผม...ช่วยอะไรไม่ได้นะครับ” เจ้าจอมว่ากล่าวตักเตือนพนักงานที่ต่างพากันทำหน้ากลืนไม่ได้คายไม่ออก ซึ่งก็ประจวบเหมาะกับแก้วที่เดินกลับมา เธอเดินก้มหน้าเข้ามาด้วยความเจียมเนื้อเจียมตัว

ส่วนร่างบางก็มองเธอแบบไม่พอใจ แต่ก็ไม่คิดจะหาเรื่อง

“อย่าให้มีอีกก็แล้วกัน ส่งใบซื้อวัตถุดิบ เช็คขายเช็คเสียให้ผมด้วยทุกวันด้วยนะครับป้ารี” เขาหันไปบอกหัวหน้าแม่ครัว ซึ่งเธอเป็นคนงานเก่าแก่ รู้ดีว่าอะไรควรทำและต้องทำยังไง

“ได้ค่ะคุณจอม เดี๋ยวป้าจะให้เด็กๆ จัดการเรื่องนี้อย่างเคร่งครัดเลยค่ะ แล้วจะเตือนเด็กๆ อีกครั้งค่ะ”

“ขอบคุณนะครับป้ารี ยังไงก็ทำงานต่อเถอะครับ ผมไม่รบกวนเวลาแล้ว”

ร่างเล็กเดินออกมาจากโรงครัวตรงไปยังห้องทำงานของตัวเองเพื่อทำงานที่ค้างอยู่ให้เสร็จ จากที่คิดว่าจะไปเจอหน้าจักรให้หายหงุดหงิด ดันกลายเป็นว่าหงุดหงิดมากกว่าเดิมเสียอีก

...

...

...






50%

 :hao5: :hao5: :hao5:


   เม้นท์ๆ ด้วยนะคะนักอ่านที่น่ารัก ^_^ ตอนนี้มาเร็วหน่อยความเป็นจริงต้องลงพรุ่งนี้ แต่ทนคิดถึงทุกคนไม่ไหว อยากลงให้อ่านกันไวๆ
หากมีคำถามหรืออยากพูดคุยไปที่แฟนเพจของยูกินะเจ้าคะ https://www.facebook.com/sawachiyuki/


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด