Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=  (อ่าน 228681 ครั้ง)

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
อยากอ่านตอนของอินอ่ะแบบช้าไม่ทันใจ 5555

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ง่าวแท้จักร เราว่าแบบนี้ ถ้าจอมไม่พูดเอง จักรก็ไม่เข้าใจหรอก
เล่นตัวไปไย? รุกไปก่อนสิคะ!!!!!

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อีจักรนี้โง่จริงๆๆๆๆ. เฮ้อออ

ออฟไลน์ viewier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
คือจักรก็นะ จริง ๆ ก็ทั้งจักรทั้งจอมอะ จอมก็รู้ว่าเค้าชอบ
ลองใจกันไปถึงเมื่อไหร่หนอ จักรมันยิ่งไม่ฉลาดอยู่
อยากอ่านอินแล้วค่ะ ค้างคาใจมากเลย

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
จักรจะซื่อบื้อเกินไปหรือเปล่าถึงดูไม่ออกเลยว่าแก้วทำอาหารมาจีบเนี่ยหืม จอมคงน้อยใจแย่เลย ไปตามง้อเลยนะจักร

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เอิ่มมมม จักรได้สักครึ่งอินทัชจะดีมากก
บื้อโลกแตกได้อีก 555

อินก็รู้ทางเค้าไปหมด

เจ้าจอมคะ อย่าเครียดนะ พี่อินแค่เป็นห่วง
ไม่เข้าใจก็กลับไปถามเหอะ
เรื่องตัวเองบางครั้งก็บื้ิอเกินเข้าใจได้นะ

รอตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
โธ่..จักร ซื่อบื้อจนได้เรื่อง
ปล. อิน แบบนี้หละเทพ มองออกไปหมด
แต่เดี๋ยวพแเจอกับตัว อาจจะหน้ามืดตามัวไปพักใหญ่ๆเลยก้อได้นะ

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
ลุ้นกะคู่นี้จริงๆ... :ling1:

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง



ตกเย็น

เลยเวลาเลิกงานของเจ้าจอมมาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว วันนี้เจ้าจอมไม่ไปจ่ายเงินให้คนงานที่ไซต์งานให้คนอื่นไปแทนเพราะไม่อยากเจอหน้าคนซื่อบื้อ แต่ไม่คิดว่าคนที่ตัวเองไม่อยากจะเจอหน้ามานั่งรออยู่ตรงหน้าประตูสำนักงานแบบนี้ ร่างเล็กถึงกับผงะตกใจ แต่ก็ปั้นหน้าไร้ความรู้สึกมองคนตัวใหญ่ที่กำลังมองเขาด้วยสายตาง้องอน

“คุณจอม...” เรียกชื่อคนตัวเล็กเสียงอ่อย

“มีธุระอะไร”

“ไอ้จักรอยากขอโทษคุณจอม”

“ขอโทษ? เรื่องอะไรล่ะ เอาไว้ทีหลังก็แล้วกัน ฉันเหนื่อย อยากพักผ่อน” พอเห็นว่าคุณจอมของตนมีท่าทีที่ห่างเหินเหมือนกับตอนที่จักรยังไม่ได้โอกาส

คนตัวเล็กเดินหนี แต่จักรก็เดินตามไม่ยอมแพ้

“ผมไม่ส่งนะครับ เดี๋ยวผมถือกระเป๋าให้”

“ไม่ต้องมาทำเป็นใจดีกับฉัน เก็บความใจดีพร่ำเพรื่อของนายเอาไว้เถอะ”

เป็นไปตามที่ไอ้อินบอกจริงๆ ด้วย คุณจอมไม่พอใจที่เขาใจดีเกินไป ก็มันเป็นนิสัยนี่นา จะให้ทำยังไงได้กันล่ะ

“คุณจอม ผมขอโทษจริงๆ ครับ ผมจะไม่ทำอีกแล้ว”

“จะไม่ทำอะไรของนาย” หยุดถามคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง เพราะโดนดักหน้าเอาไว้ เจ้าจอมเลยจำเป็นต้องเท้าเอวมองคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง

ร่างสูงดึงกระเป๋าของคนตัวเล็กไปถืออย่างถือวิสาสะ แต่เจ้าจอมกลับทำหน้าไม่พอใจแค่นั้น ไม่ได้ต่อว่าอะไร

“ก็ที่คุณจอมไม่พอใจไงครับ”

“แล้วมันอะไรบ้างล่ะ”

“ก็...เอ่อ...ไอ้จักรคนนี้มันโง่ มันซื่อบื้อ ไม่เคยเข้าใจคุณจอม ถ้าคุณจอมไม่ชอบให้ผมรับของใคร ผมก็จะไม่ทำอีก แล้วก็เรื่องที่คุณจอมต่อว่าคนงาน ผมจะไม่เข้าไปยุ่งอีก ผมรู้ว่ามันเป็นหน้าที่ของคุณจอม” ประโยคหลังคนตัวใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงหงอยๆ

“ทำไมถึงมาฉลาดเอาตอนนี้ ใครบอกมา”

“ไอ้อิน...”

ว่าแล้วเชียว...พี่อินอีกแล้ว

แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเขาจะได้ไม่ต้องแสดงออกมากมายว่า ‘หวง’ จุลจักรมากแค่ไหน

“เรื่องแบบนี้รู้เองไม่ได้ ต้องให้คนอื่นบอกเหรอ? ฉันควรจะคิดเรื่องที่ให้โอกาสนายใหม่ไหม” ถามออกไปเสียงเข้ม แกล้งขู่อีกคนไปแบบนั้นแหละ ไม่ได้จะทำจริงอะไร

“ไม่นะครับ อย่านะครับคุณจอม ยกโทษให้ไอ้โง่คนนี้ด้วย”

“เฮ้อ...เลิกว่าตัวเองโง่สักทีจะได้ไหม” ถึงจะโง่จริงๆ ก็เถอะ...

“ก็...”

“พอๆ หลีกไป ฉันจะกลับบ้าน เหนื่อย!”

“ครับๆ” ร่างแกร่งหลีกทางให้คนน่ารักของเขาที่กำลังเริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง สองเท้าเดินตามคนด้านหน้าไปด้วยอย่างมีความหวังที่เจ้าจอมจะยกโทษให้

พอถึงบ้านหลังน้อยของเจ้าจอม เจ้าของบ้านก็เปิดประตูเข้าไปในบ้านโดยไม่เรียกจักรเลยสักนิด แต่ร่างสูงก็เดินเข้าไปในบ้านอย่างเกร็งๆ เพราะในมือมีประเป๋าของเจ้าจอมอยู่

“ช่วยทำอาหารมาให้ที่บ้านหน่อย...ประมาณสามสิบนาทีเอาเข้ามาเลย” เจ้าจอมกำลังคุยโทรศัพท์สั่งคนในครัวให้ทำอาหารมาให้เพราะเขาเหนื่อยเกินกว่าที่จะทำเอง

“เอาข้าวมาเยอะๆ เลยนะ กับข้าวก็พอดีๆ สองคน”

ร่างบางวางโทรศัพท์บนโต๊ะ หันมามองคนตัวใหญ่ที่ยังทำหน้าสลดอยู่ด้วยความรู้สึกที่ดีกว่าเดิมหน่อย อารมณ์ดีที่อย่างน้อยอีกคนก็ตามง้อแบบนี้

ความอยากแกล้งก็ขึ้นมาในความรู้สึก

“นั่งรออยู่นี่ ฉันจะไปอาบน้ำ”

“ครับ”

เจ้าจอมเดินไปยังห้องนอนของตน สักพักก็ออกมาในสภาพที่อาบน้ำเรียบร้อย อยู่ในชุดกางเกงขาสั้นโชว์เรียวขาสวยกับเสื้อยืดตัวใหญ่ จุลจักรจ้องมองร่างนั้นอย่างไม่วางตา

“มองอะไร” ถามขึ้นด้วยสีหน้าที่แสร้งทำเป็นไม่พอใจ

“อ่ะ...เอ่อ ป่ะ เปล่าครับๆ” เขาปฏิเสธออกมาเสียงสั่นด้วยความตกใจ จะให้บอกได้ยังไงว่ามองขา มองหุ่นของเจ้าจอมอยู่ ไม่งั้นโดนด่าตายเลย

“ก็เห็นมองอยู่ชัดๆ”

“ป่ะ เปล่า...ผมมองไปเรื่อยแหละครับ” หลบตาคนถาม พอเจ้าจอมเห็นคนตัวใหญ่แต่ใจเสาะแล้วก็อยากจะแกล้งมากขึ้นไปอีก สาวเท้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของจักรที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว

“เหรอ...นึกว่ามองฉันซะอีก เห็นจ้องเอาจ้องเอา ไม่ใช่เหรอ”

“เปล่านะครับ เอ่อ...”

“ไม่ได้มอง?”

“ก็...เอ่อ” พยักหน้าโกหกไปว่าตัวเองไม่ได้มอง ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองมอง

“ทำไม ขาฉันไม่สวยเหรอ?” สิ้นคำถาม เสียงทุ้มก็ตอบสวนขึ้นมาอย่างรวดเร็วและเสียงดัง

“ไม่ใช่นะครับ!!”  แต่พอรู้ว่าตัวเองเผลอตอบก็ก้มหน้ามองมือตัวเองที่พันกันไปมาเพราะไม่รู้ว่าจะเอาไปวางตรงไหน

“’งั้นก็แปลว่าสวย” ร่างเล็กนั่งลงข้างๆ กับจักร จนคนตัวใหญ่ขยับชิดด้านข้างเพราะต้องการทิ้งระยะห่าง แต่ก็ชิดจนไม่มีที่ไป จะเปลี่ยนที่นั่งก็เสียมารยาทอีก

“ว่าไง...สวยหรือเปล่า” ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“เอ่อ...สวยครับ”

“แล้วอยากรู้ว่ามันเนียนหรือเปล่าไหม” ถามเสียงยั่วๆ จักรหันมามองคนเป็นนายทันทีอย่างตกใจ พอหันมาก็ยิ่งเบิกตากว้างหนักเข้าไปอีกเพราะขาขาวๆ ยื่นมาวางพาดบนตักของเขา ส่วนเจ้าของขาก็นอนราบไปกับโซฟาศีรษะก็หนุนหมอนอิง

“คุณจอม...ท่ะ ทำอะไรครับ”

“ก็ให้นายทดสอบไง ว่าเนียนหรือเปล่า”

“อึก...ไม่ดีมั้งครับ” ร่างสูงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ สบตาคนที่ยิ้มอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวด้วยใจที่สั่นๆ มือก็สั่น ทุกอย่างสั่นไปหมด มือไม่กล้าโดนขาที่วางพาดเลยสักนิด

“ทำไม...ไม่อยากจับเหรอ หืม...”

เจ้าจอมทำในสิ่งที่จักรตัวแข็งค้างนั่นคือลากนิ้วเท้าไปตามหน้าท้อง ขึ้นไปแผ่นอก แล้ววนอยู่แบบนั้น จักรกลืนน้ำลายด้วยรู้สึกที่มีอารมณ์ ลำคอแห้งผาก มองภาพยั่วยวน กับขาขาวเนียนอย่างหลงใหล พยายามคิดว่าตัวเองกำลังฝันอยู่ ปลายเท้าสะอาดเลื่อนขึ้นมาจนเกือบถึงปากก็ถูกมือใหญ่คว้าค้างเอาไว้ตรงหน้าตัวเอง

“คุณจอม...” เรียกชื่อคนที่ตนรักเสียงแหบพร่า ทำให้มุมปากของเจ้าจอมยิ้มอย่างพึงพอใจ

“ว่าไง...ไม่อยากจับมันเหรอ ไม่อยากลูบขาฉันเหรอ...”

“อึก...มันไม่สมควร”

“ทำไมล่ะ”

“อา...คุณจอม อย่าโดนมันนะครับ” ในเมื่อขาอีกข้างถึงจับเอาไว้ อีกข้างก็ยังว่าง ร่างบางใช้ขาอีกข้างถูส่วนนั้นที่ซ่อนใต้ร่มผ้าเบาๆ จนรู้สึกว่ามันสู้ฝ่าเท้าเขา

อ่า...ตื่นไวจัง...

“อะไรกัน แข็งแล้วเหรอ”

“อึก...อา คุณจอม โถ่ อย่าครับ”

“ให้ช่วยไหม”

“ม่ะ มันไม่เหมาะ...คุณจอม อย่าครับ อึก” ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ร่างสูงเลยจับขาทั้งสองข้างเอาไว้แน่นก่อนจะวางลงบนโซฟาเมื่อเขาลุกขึ้นยืน

“อะไรกัน...คนอุตส่าห์หวังดีจะช่วยเหลือน้า...”

“ผ่ะ ผม...สกปรก เอ่อ เหงื่อเติมไปหมดเลย คุณจอมอย่าอยู่ใกล้มาดีกว่าครับ มันเหม็น”

“งั้นเหรอ...แต่ว่านายท่าจะแย่นะ” ร่างบางยิ้มออกมาเมื่อได้ฟังเหตุผลของจักร

จริงอย่างที่พี่รามว่าเลย จักรเป็นคนสุภาพบุรุษ...แต่ก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีอารมณ์ ต้องการปลดปล่อย...

“ผมขอใช้ห้องน้ำนะครับ”

“ได้สิ...อาบน้ำไปเลยก็แล้วกัน ชุดก็มีของพี่รามที่เอามาทิ้งไว้น่ะ หาๆ ดู”

อันที่จริงก็เตรียมเอาไว้เพื่อการนี้แหละ...

“ขอบคุณครับ...” จักรโค้งให้นิดๆ ก่อนจะเดินหนีไปด้วยสีหน้าแดงๆ อย่างเขินอาย

ผู้ชายผิวเข้มแต่หน้าแดงกับเรื่องแบบนี้ทำให้เจ้าจอมรู้สึกตกหลุมรักอีกครั้ง...จักรมีเสน่ห์ มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง...

“น่ารักจริงๆ หึหึ”


เวลาผ่านไปเกือบสามสิบนาที ร่างสูงเดินออกมาก็เห็นว่าเจ้าจอมกำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่ สงสัยตอนที่เขากำลังทำ ‘ธุระ’ อยู่ คนงานจะเอามาส่งแล้ว

จักรอดคิดด้วยความเพ้อฝันไม่ได้ว่านี่มันเหมือนภรรยาที่กำลังเตรียมอาหารรอสามีกลับมาจากทำงานเลย...

“คิดอะไรทะลึ่งๆ อยู่หรือไง” เสียงนุ่มน่าฟังของเจ้าจอมดังขึ้น ทำเอาคนตัวใหญ่สะดุ้งด้วยความตกใจทันที

“ไม่ใช่นะครับ...ผมไม่ได้คิดอะไรทะลึ่งๆ”

“เหรอ? แต่หน้านายมันฟ้องมากเลยนะ”

“จริงๆ นะครับ” ใบหน้าเถื่อนๆ แสดงความจริงจังออกมาจนร่างเล็กต้องพยักหน้าเชื่อ

“โอเคๆ ฉันเชื่อ มากินข้าวเถอะ ฉันหิวแล้ว”

“ให้ผมกินด้วยหรือครับ” ชี้นิ้วมาที่ตัวเองด้วยความงงงวย

“ฉันก็เรียกนาย มีนายอยู่ในบ้านคนเดียว ให้ฉันไปเรียกหนุ่มๆ อื่นมากินไหมล่ะ” ถามด้วยน้ำเสียงประชดประชัน เล่นทำเอาจักรถลาไปหาทันที

“โถ่...คุณจอมอย่าทำแบบนั้นเลยครับ ไม่งั้นไอ้จักรคนนี้ขาดใจตายแน่ๆ”

“แหวะ! เสี่ยวตลอดเลย ฉันนึกว่านายจะไม่เล่นมุกจีบเสี่ยวๆ นี่แล้วซะอีก”

“มันไม่ใช่มุกจีบเสี่ยวๆ นะครับ แต่มันมาจากหัวใจของผมเลย”

“ลิเกมาก....”

“ถ้าคุณจอมไม่ชอบ...ผมไม่พูดแล้วก็ได้” น้ำเสียงกับสีหน้าของจักรดูเสียใจจนคนตัวเล็กถึงกับกลอกตาไปมาอย่างหน่ายใจ

“ฉันพูดตอนไหนว่าไม่ชอบ อยากพูดก็พูดไป...แต่ถ้าได้ยินพูดกับคนอื่น ฉันจะไม่เชื่อคำพูดนายอีก”

“ไม่แน่นอนครับ ผมรักคุณจอม...”

เจ้าจอมไม่คิดว่าตัวเองจะโดนบอกรักจังๆ แบบนี้ก็ได้แต่นิ่งค้าง สักพักหน้าเริ่มแดง ไม่กล้าสบตากับคนตัวใหญ่ทีมีสีหน้าแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยว่าทำให้คนตัวเล็กเขินอยู่

“เอ่อ...รู้แล้วน่า!”

“คุณจอม...ทำไมหน้าแดงจังครับ ไม่สบายหรือเปล่า ไอ้จักรเรียกหมอให้ไหม” ร่างสูงมีรู้สึกร้อนใจที่เห็นใบหน้าขาวใสมีสีแดงของเลือดฝาดเต็มหน้าเลยเป็นห่วง

“เปล่าๆ ฉันร้อนน่ะ นั่งๆ กินข้าวได้แล้ว ฉันหิว”

“ครับๆ”

ทั้งสองคนนั่งลงทานอาหารมื้อเย็นกันอย่างเงียบๆ โดยที่มีจักรลอบมอง ลอบสังเกตคนน่ารักอยู่ตลอดเวลา...ส่วนเจ้าจอมก็แอบมองบ้างตอนที่คนตัวสูงเผลอ

แอบมองกันไป แอบมองกันมา...

พอรับประทานอาหารเย็นเสร็จ จุลจักรก็ล้างจานชามทุกใบอย่างสะอาดเรียบร้อย...เดินกลับมาที่ห้องนั่งเล่นของบ้านก็เห็นเจ้าจอมกำลังนอนดูทีวีอยู่

“เกือบจะสองทุ่มแล้ว ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ...”

“หืม...จะกลับแล้ว?”

“ครับ...”

“งั้นก็ไปเถอะ ขอบคุณมากที่ล้างจานให้”

“ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณ ที่คุณจอมให้เกียรติผมร่วมกินข้าวด้วยอีกแล้ว”

จะขอบคุณทำไม เดี๋ยวก็ต้องมากินทุกวันๆ อยู่ดี เจ้าจอมคิดในใจ ไม่ได้พูดออกไป ได้แต่เพียงส่งยิ้มหวานไปให้เจ้าคนตัวสูงหวั่นไหวเล่นเท่านั้น

อย่าทำแบบนี้สิคุณจอม...เดี๋ยวไอ้จักรคนนี้ทนไม่ไหวจับคุณปล้ำขึ้นมา โทษกันไม่ได้นะครับ...

จักรกำหมัด และกัดฟันแน่นอย่างอดทนก่อนจะยิ้มกว้างไปให้คนเป็นเจ้านาย

“ปิดประตูบ้านดีๆ นะครับ...มีอะไรโทรหาผมได้”

“ฉันไม่มีเบอร์นายหรอก” เจ้าจอมบอก ทั้งๆ ที่ความเป็นที่เขามี...

“งั้นเดี๋ยวไอ้จักรจดให้”

“อื้อ...”

คนตัวใหญ่กระตือรือร้นหากระดาษกับปากกามาเขียนชื่อของตัวเองลงไป...ก่อนจะยื่นมันให้กับเจ้าจอมด้วยความตื่นเต้นดีใจ จึงไม่แปลกที่มีจะสั่นตอนยื่นให้

“นี่ครับ โทรได้ตลอดเวลา สำหรับคุณจอม ผมพร้อมมาหาทุกเมื่อครับ”

“เหรอ...ดีจัง”

“ครับ...งั้นผมลาล่ะครับ”

“อื้อ เดี๋ยวไปส่งหน้าประตู” เจ้าจอมเดินไปส่งจักรที่หน้าประตู

“พรุ่งนี้เจอกันนะครับ อย่าหลบหน้าผมอีกนะ”

“รอดูความประพฤตินายก่อน” เจ้าจอมว่า ทำเอาร่างสูงหน้าสลดทันที

“ผมทำตัวดีนะครับ”

“หึ! วันนี้ยังไม่ดีเลย”

“ขอโทษครับ ผิดไปแล้ว จากนี้ไปผมจะเชื่อฟังคุณจอม ไม่ขัดคุณจอมเลยครับ อยากได้อะไร ไอ้จักรจะหามาให้หมด”

ผู้ชายอะไร...น่ารักจัง...

“ขอบคุณนะ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ฉันจะไปให้เห็นหน้าก็แล้วกัน”

“ขอบคุณครับ...”

“ไปได้แล้ว มันมืดแล้ว อันตราย”

“ครับ”

ร่างบางมองร่างสูงเดินไปจนลับตาก่อนจะปิดประตูบ้านลงกลอนแน่นหนา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำอย่างตื่นเต้น มองเบอร์มือถือในมือก่อนจะเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกอย่างดี...

“นายเป็นของฉัน...”





100%

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

   อ่านแล้วเม้นท์ด้วยน้า...ถือว่าแลกกันนะคะ ^_^ เจอกันตอนหน้านะคะ หากมีคำถามหรืออยากจะคุยกับยูกิ หรือว่าอยากจะติดตามข่าวการลงนิยาย ก็ไปที่แฟนเพจนะคะ ขอบคุณที่มาอ่านเรื่องนี้ แม้จะไม่สนุกหรือสนุกบ้างก็ขอบคุณค่ะ อาจจะแต่งไม่ดีเท่าไหร่เพราะยังไงยูกิก็เป็นเพียงมือสมัครเล่น ติได้น้า แต่อย่าด่า ยูกิเซ้นซิทีฟมาก T^T

   https://www.facebook.com/sawachiyuki/



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ wika

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ผู้ชายแบบนี้ ขออิกสักคนได้ไหม 5555 :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ we.jinkyu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
น่ารักดี... o13

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
จอม.....ลูก...
อย่าเล่นกับความรักน้าาาาา
มันไม่สนุกหรอก #มีคนเคยบอกไว้
แบบเบาๆ ซอฟๆ ได้อยู่
อย่าเยอะไปน้า เค้าแอบสงสารจักร 555

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ยั่วมากกกก คุณจอม

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
น่ารักมาก เจ้าจอมแผนสูงมาก
แต่ก็ดี ไม่งั้นจักรจะบื้อไปอีกนาน

เจ้าจอมจะเผด็จศึกตอนไหนน้า
ลุ้นว่าจักรจะทนไหวไหม

ออฟไลน์ viewier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
จักรคนซึน ยังซึนอยู่ร่ำไป เมื่อไหร่จะหายซึนก็ไม่รู้
อาจจะเป็นตอนสุดท้ายหล่ะมั้ง จอมเจ้าวางแผนมากอะ
จักรมันยิ่งไม่รู้เรื่องอยู่ เมื่อไหร่จะได้กัน เอ้ย เมื่อไหร่จะลงเอยกันซักที

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
กลัวเมียน่าดู

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 16
บรรยากาศเดิมๆ




เงินเดินมานั่งที่โต๊ะหินอ่อนเก่าๆ ใต้ต้นไม้ไม่ห่างจากที่ขรรค์กำลังทำงานเท่าไหร่ แม้ว่าตัวเองจะมีงานต่อ แต่ก็ขอมาอยู่กับคนรักในคุ้มกับเวลาที่สุด

ขนาดเจอกับอินทัชเมื่อกี้ ยังคุยกันได้ไม่เท่าไหร่ ก็ต้องขอตัวมาก่อน ทั้งๆ ที่เขาน่าจะช่วยอินทัชรดน้ำผักเมื่อกี้ก็ได้ แต่เงินก็กลัว...กลัวว่าเวลาแบบนี้มันจะไม่มีอีก

ยังกลัวขรรค์นี้เขาไปอีก...

“ไม่ไปเข้าเวร เดี๋ยวก็สายหรอก”

“สายแต่มีความสุขเงินก็ยอมนะขรรค์” หมอหนุ่มตอบทั้งๆ ที่กำลังนั่งเท้าคางมองคนรักในชุดเสื้อกล้ามอวดแขนและอกที่แข็งแรง... ขุดดินท่ามกลางแสงแดด มันดูมีเสน่ห์มาก...

ผู้ชายบ้านๆ ตัวใหญ่ๆ ผิวเข้มๆ หน้าตาก็หล่อเข้มแบบไทยๆ

“ขรรค์ไม่อยากเป็นสาเหตุที่ทำให้เงินเกงานนะ”

“เงินไม่ได้จะเกซะหน่อย เดี๋ยวก็ไปแล้วเถอะ”

“จริงๆ แล้วเงินไม่ต้องตื่นแต่เช้ามาหาขรรค์ก็ได้นะ ค่อยมาตอนเลิกงาน จะได้พักผ่อนแบบเต็มที่” ร่างสูงพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่จริงจัง

เพราะหลังจากที่กลับจาบ้านสวนของขรรค์วันนั้น เงินก็มาหาเขาที่บ้านพักตอนเช้าตรู่ตลอด เห็นแล้วเขาก็เหนื่อยแทนคนรัก

“ก็เงินอยากเห็นหน้าขรรค์นี่นา อยากเห็นทั้งตอนเช้า กลางวัน เย็นเลย ตลอดเวลาเลย”

ถึงจะกลับมาคบกันแต่ขรรค์ก็ไม่ได้เอ่ยชวนคนรักมาอยู่ด้วยกันแบบแต่ก่อน เพราะกลัวว่าตัวเองจะเอาแต่ใจกับเงินมาก จนเงินไปทำงานไม่ได้ เพราะการได้อยู่ใกล้ๆ คนที่เรารัก แบบที่สามปีไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวกันมันจะมีความต้องการมากขนาดไหน

ขรรค์ก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีความต้องการกับคนที่ตัวเองรัก

“ขรรค์ก็อยากเห็นเงินตลอดเวลาเหมือนกัน”

ไม่มีวันไหนเลยที่สามปีมานี้ขรรค์จะไม่ปรารถนาที่อยากจะเห็นรัก อยากโอบกอด อยากเช็ดน้ำตา ไม่เคยลืมรักนี้เลย นั่นเป็นเพราะว่าเกือบสิบปีที่เรารู้จักกัน สิบปีที่ได้รักกัน มันกลายเป็นความผูกพันไปแล้ว

“ไม่จริงหรอก...” เงินแย้ง

“ข่ะ...”

ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะแย้งร่างโปร่งกลับไป หมอหนุ่มที่มองนาฬิกาข้อมือตัวเองอยู่ถึงกับอุทานออกมาเสียงดัง ก่อนจะมองหน้าเขาอย่างลนลาน

“อ๊ะ!!”

“มีอะไรหรือเงิน”

“ใกล้ถึงเวลาเข้าเวรแล้ว เงินไปก่อนนะขรรค์ อย่าลืมหาอะไรกินด้วยล่ะ อย่าทำแต่งานอย่างเดียว”

“ครับ...เงินก็เหมือนกัน อย่าทำงานหนักจนลืมเวลา”

“ครับผม!” ร่างโปร่งลุกขึ้นแล้วส่งยิ้มหวานให้ขรรค์ ส่วนขรรค์ก็ยิ้มน้อยๆ ให้ตามฉบับของตนเอง มองร่างของหมอตัวขาวเดินจากไปด้วยสายตาที่ทอดมองอย่างอบอุ่น

อะไรในตัวของเขาถึงให้ผู้ชายสมบูรณ์แบบอย่างเงินมารัก เงินเป็นผู้ชายในฝันของสาวๆ ผู้ชายที่ผู้ชายหลายๆ คนต่างก็อิจฉา...ทั้งหน้าตา รูปร่าง ฐานะ

ขรรค์ไม่ได้คิดน้อยเนื้อต่ำใจแล้วนะเงิน ขรรค์แค่รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของเงิน


“หน้าตาอิ่มเอม มีความสุขเชียวนะ”

“ครับคุณราม”

“ก็ดีแล้ว ดีใจที่แกมีความสุข ยอมรับแล้วก็สู้กับมันบ้าง ตอนนี้แกมีทุกอย่างแล้วนะเว้ย ไม่ใช่ขรรค์คนจนๆ บ้านนอกๆ คนนั้นแล้วนะ” รามินทร์พูด

“ผมก็ยังเป็นผมนั่นแหละครับคุณราม”

“เออๆ ฉันไม่เถียงคนชอบถ่อมตัวเองแบบแกแล้ว”

“ไม่ทราบว่าคุณรามเรียกผมมาทำไมหรือครับ” ขรรค์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับผู้เป็นนายถามขึ้นมาเมื่อไม่เห้นว่านายท่านของตนไม่ยอมพูดธุระที่เรียกเขาเข้ามาสักที

“เออใช่! พอดีว่าที่โรงพยาบาลเขาจะจัดสวนน่ะ ไว้ให้คนไข้ผ่อนคลายพักผ่อน ทางโรงพยาบาลมีงบน้อย ไม่อยากจ้างพวกผู้รับเหมา หมอเงินก็เลยเสนอมาว่าทางรีสอร์ทเราสามารถช่วยได้ แต่ฉันกะจะทำให้โรงพยาบาลฟรีเป็นการบริจาคซึ่งมันก็เป็นการดีนะ...รีสอร์ทได้ชื่อเสียงด้วย ได้บุญด้วย เลยกะจะส่งแกกับไอ้จักรไปดูแลงานนี้ แกคิดว่ายังไง”

พอได้ฟังที่เจ้านายพูดตาเขาก็ลุกวาวขึ้นมาทันที ได้ทำงานใกล้ๆ กับคนรัก เป็นอะไรที่ไม่ต้องปฏิเสธแล้วล่ะ

“ผมจะทำครับ แล้วไซต์งานก่อนสร้างล่ะครับ ให้พี่จักรมามันจะดีเหรอครับ” ขรรค์ทำหน้าสงสัย

“ไม่หรอก ที่นั่นใกล้จะเสร็จแล้วล่ะ ที่เหลือก็ให้พวกคมมันจัดการไป”

“ถ้าอย่างนั้นจะให้ผมเริ่มงานวันไหนครับ”

“แล้วแต่แก...แต่งานนี้ฉันต้องการให้แกสองคนทำด้วยกันเพราะมันงานถนัดของทั้งแกแล้วก็ไอ้จักรมัน แล้วก็เป็นหน้าตาของรีสอร์ทด้วย ไว้ใจคนอื่นไม่ได้ ผลงานของแกสองคนก็เยอะ ฉะนั้นก็ฝากด้วย ฉันไม่ดูแบบแปลนอะไรทั้งนั้น จะรอเซ็นอนุมัติงบอย่างเดียว ที่เหลือ แล้วแต่พวกแก” รามินทร์ตอบแล้วก็อธิบาย

ร่างสูงใหญ่ไม่แปลกใจหรือรู้สึกอะไรกับคำสั่งของรามินทร์เลยสักนิด เพราะคำสั่งแบบนี้มีมาบ่อยๆ รามินทร์ไว้ใจให้ขรรค์ทำงานโดยที่ไม่ต้องตรวจสอบอะไร รอเซ็นงบประมาณอย่างเดียว ซึ่งนั่นมันทำให้ขรรค์ ไม่กล้าคิดทรยศผู้มีพระคุณอย่างรามินทร์

ผู้เป็นทั้งนาย และเจ้าชีวิต...

“ขอบคุณที่ไว้ใจผมนะครับ ผมสัญญาว่าจะทำงานนี้ให้ดีที่สุด”

“อืม...ไปบอกไอ้จักรด้วยก็แล้วกัน ยังไงแกก็เป็นหัวหน้าคนงานอยู่แล้ว อยากได้ใครไปช่วยก็เอาไป ยกเว้นไว้คนเดียว...อย่ายุ่งกับ ‘มัน’ เข้าใจนะ” รามินทร์เน้นเสียงคำว่ามัน จ้องตากับขรรค์อย่างจริงจัง ซึ่งขรรค์ก็รู้ว่านั่นหมายถึงอะไร แล้วก็หมายถึงใคร

เพราะอินทัชค่อนข้างจะสนิทกับจักรและเงิน ก็เลยเลี่ยงที่จะไม่ให้สามคนนี้อยู่ด้วยกันสินะ

“รับทราบครับ”

“อือ...เริ่มงานได้แล้วไป มีอะไรก็บอก”

“ครับ ขอบคุณครับ”

ขรรค์ยืนขึ้นแล้วโค้งสี่สิบห้าองศาให้กับเจ้านายก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานของรามินทร์ไปเพื่อไปหาจักรมาคุยรายละเอียดของงานโดยไม่ปล่อยให้เสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์


“พี่จักร!”

“อ้าว? ไอ้ขรรค์ มีอะไรวะ เราไม่ได้เจอกันมานานแล้วนะว่าไหม” จักรที่กำลังทำงานอยู่หยุดงานนั้นแล้วเดินมาหาขรรค์ทันที

“มีงานว่ะพี่!”

“ก็ทักทายกันหน่อยก็ไม่ได้เนอะ เฮ้อ...ว่ารายละเอียดมา” จากนั้นสองร่างสูงก็ยืนคุยงานกันอยู่สักพักก่อนจะตกลงทุกอย่างได้อย่างลงตัว

“ตามนี้ใช่ไหม แค่นี้นะ?”

“อือ...”

“งั้นพรุ่งนี้ไปดูสถานที่ กูจะได้ร่างแบบได้” จักรบอก

“อืม ตามนั้น” ขรรค์พยักหน้าเบาๆ ด้วยสีหน้านิ่งๆ

“ได้ข่าวว่าดีกับคนรักแล้วเหรอวะ เลี้ยงฉลองกันมะ” จักรยักคิ้วอย่างกะล่อนไปให้ขรรค์ ซึ่งคนตัวสูงกว่าก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างระอา

“ไม่เอาดีกว่าพี่”

“ทำไม...”

“เขาไม่ชอบให้ฉันกินเหล้า” สิ้นคำตอบของขรรค์ก็ทำให้จักรเบะปากอย่างหมั่นไส้

“เออๆ งั้นก็เชิญมึงแสนดีไปก็แล้วกัน กูไปทำงานต่อล่ะ วันสุดท้ายแล้วนี่” จักรหัวเราะที่จู่ๆ ตัวเองก็ได้ทำงานที่ไซต์งานเป็นวันสุดท้ายแบบกระทันหัน

แต่ก็ยังดีที่มีงานเข้ามาเพิ่ม แถมยังเป็นงานที่ชอบอีกด้วย...


ตกเย็น

ขรรค์กลับไปบ้านพักของคนงานที่อยู่ในรีสอร์ทประมาณห้าโมงกว่าๆ ซึ่งบ้านเขาจะแยกออกมาจากคนงานอื่นๆ เนื่องจากมีความเป็นส่วนตัวสูงมาก เขาเก็บอุปกรณ์ทำงานเอาไว้แล้วถอดรองเท้าเปิดประตูเข้าไปใบบ้านเล็กๆ แคบๆ แต่เพราะเขาไม่ค่อยอยู่กับบ้านเท่าไหร่เลยไม่รู้สึกว่ามันแคบ


ร่างสูงอาบน้ำเสร็จแล้ว อยู่ในชุดกางเกงขายาวแล้วก็เสื้อกล้ามสีดำมันเป็นชุดนอนของเขาเอง กะว่าจะออกไปทานข้าวที่โรงครัวแล้วค่อยกลับมาเตรียมงานในวันพรุ่งนี้

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“เงินเหรอ” พึมพำชื่อคนรักเบาๆ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูบ้าน สิ่งที่เห็นคือคนรักที่มาในชุดเดี๋ยวกับเมื่อเช้า สองมือถือถุงกับข้าวมาด้วย

“ขรรค์! เราซื้อข้าวมาฝาก ไปกินกันเถอะ เงินหิวมากๆ เลย” ร่างโปร่งเดินผ่านร่างสูงเข้าไปในบ้านของคนรักอย่างเคยชิน เดินไปที่ห้องครัวแล้วก็จับนั่นนี่ เทนู่เทนี่จนโต๊ะอาการเต็มไปด้วยอาหารมากมายที่ขรรค์รู้ดีว่ามันเป็นของโปรดเขาทั้งนั้น มีอยู่อย่างเดียวที่เป็นของโปรดของเงิน

“เป็นไง น่ากินใช่ไหมล่า กินเถอะ เงินหิวม๊ากมาก นี่เป็นข้าวเที่ยงเลยนะ” คุณหมอหนุ่มนั่งลงอย่างรีบร้อน เพราะความหิวกำลังจะทำให้เขาตาลาย

“ก็บอกให้หาอะไรกินไม่ใช่หรือ ทำงานจนลืมกินหรือว่าไม่ใส่ใจตัวเอง” เสียงดุๆ ของขรรค์ถามขึ้น ทำเอาคนรักไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง ขรรค์เลยต้องนั่งลงตรงกันข้ามเผื่อว่าเงินจะเห็นหน้าเขาบ้าง

แต่คนสูงสองเมตรอย่างเขาแม้จะนั่งเงินก็มองไม่เห็นหน้าหรอก

“ก็เงินไม่ว่าง ไม่เป็นไรหรอกตอนอยู่ที่กรุงเทพบางวันก็ไม่ได้กินด้วยซ้ำ” คำบอกเล่าของเงินทำให้ขรรค์ไม่พอใจ

“ทำไมถึงต้องอด”

“เอ่อ...ก็มันไม่ว่างนี่นา ขรรค์ก็รู้ว่าเคสที่กรุงเทพเยอะขนาดไหน เงินไม่ได้พักหรอก”

“ต่อจากนี้เงินต้องกินข้าวให้ครบทุกมื้อ ขรรค์จะเป้นคนควบคุมเอง”

“แล้วตอนเที่ยงล่ะ” เงยหน้าจากอาหารขึ้นสบตากับคนรัก

“ขรรค์ก็จะไปบังคับถึงที่โรงพยาบาลเลย”

“ว่างเหรอ...”

“ทำเป็นไม่รู้ เงินไปเสนออะไรทางโรงพยาบาลล่ะ คุณรามจะให้ขรรค์ไปจัดสวนให้น่ะ” พอขรรค์พูดจบ เงินก็ยิ้มออกมาตาหยี

“จริงเหรอ! เงินก็แค่แนะนำเอง ไม่คิดว่าทางโรงพยาบาลจะจัดการตามที่บอก”

“อือ...แล้วเป็นทางรีสอร์ทบริจาคไปด้วยนะ ไม่ใช้งบโรงพยาบาล”

“ว้าว!! คุณรามนี่ใจดีจังนะ ถ้าตัดเรื่องอินออกไปคงจะดีที่สุดเลยล่ะ” เงินพูดชื่นชมก่อนที่ประโยคสุดท้ายจะทำหน้าแบบไม่พอใจออกมา

“ทุกอย่างมันมีเหตุ และมีผลนะเงิน สิ่งที่คุณรามทำมันก็ไม่ถูกหรอก แต่นั้นก็เพราะเขาเลือกแล้ว รอดูผลที่จะตามเถอะ ขรรค์ว่าคุณรามคงรู้ดี”

“อือ...กินข้าวเถอะขรรค์ เดี๋ยวจะเย็น”

“ครับ”

ทั้งสองนั่งคุยกันไปทานอาหารเย็นกันไปอย่างมีความสุขและสนุกสนาน ส่วนใหญ่จะเป็นหมอเงินที่ชวนคุยนั่น พูดนี่ ขรรค์มีหน้าที่ฟังอย่างเดียว แต่ใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

รอยยิ้มที่มีความสุข...ที่หายไปนานถึงสามปี...ตอนนี้เขายิ้มได้อีกครั้ง

พอทานอาหารเสร็จแล้ว เจ้าของบ้านก็ทำหน้าที่เอาจานไปล้างเพราะไม่อยากให้เงินที่เพิ่งเลิกงานเหนื่อยๆ มาทำ คุณหมอสุดหล่อนั่งมองขรรค์เดินไปมาทำนู่นทำนี่ด้วยรอยยิ้ม

มันจะดีมากเลยถ้าได้อยู่ด้วยกัน...

แล้วเงินจะไม่รอให้ขรรค์ชวนแล้ว ถ้าขรรค์ชวนคงจะเฉาตายไปก่อนพอดีล่ะสิ

“ขรรค์...”

“หืม...ว่าไง” ร่างสูงที่กำลังกลาดบ้านหันมาถามคนรักที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวเก่าๆ ของเขา

“เงินมาอยู่ด้วยได้ไหม”

ร่างสูงชะงักกึก ค่อยๆ วางไม้กวาดก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ กับคนรัก เอื้อมมือคว้ามือขาวๆ เนียนของหมอหนุ่มมาจับเอาไว้

“เงิน...ฟังนะ”

“อือ...เงินเข้าใจแล้ว ขรรค์ไม่อยากให้มาก็ไม่เป็นไร...เงินก็ขอไปงั้นๆ แหละ ไม่ซีเรียส” ร่างโปร่งยิ้มออกมาอย่างไม่ใส่นัก ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงกำลังรู้สึกผิดหวังอยู่

คนตัวใหญ่ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าคนรักกำลังฝืนยิ้มออกมา

“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะเงิน”

“อ่าใช่...เงินเข้าใจๆ ไม่ต้องพูดแล้วขรรค์ เงินเข้าใจ”

“เงินเข้าใจอะไร? ขรรค์ยังไม่พูดเลย”

“ก็เข้าใจว่าขรรค์ไม่อยากให้เงินอยู่ด้วยไง ขรรค์ชอบความเป็นส่วนตัว ถ้ามีเงินอยู่ด้วยอาจจะไม่มีความสุขก็ได้ แล้ว...อื้อ!!”

ปากช่างจ้อที่ชอบพูดอะไรแบบไม่ฟังเหตุผลถูกปิดด้วยริมฝีปากหนาของขรรค์ที่กำลังโมโหเพราะเงินไม่ฟังเหตุผลเขาเลย คิดเป็นตุเป็นตะเอาเอง จากที่คิดว่าจูบปิดปาก ขรรค์ก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกเดิมๆ ที่เคยมีมาตลอดเจ็ดปีที่คบกัน เรื่องกอด หอม จูบ แล้วก็เรื่องบนเตียงมันเป็นเรื่องธรรมดาของเขาสองคน

แต่นี่เป็นครั้งแรกในรอบสามปีที่จูบกัน หัวใจของทั้งสองคนเลยเต้นแรกผิดปกติอย่างตื่นเต้น ริมฝีปากของทั้งคู่หยอกล้อกันและกันตามแรงอารมณ์ที่พาไป กลิ่นกายหอมสะอาดของหมอเงินทำให้ร่างสูงใหญ่อยากสูดดมเรื่อยๆ ปลายลิ้นทั้งสองเกี่ยวกันไปมา ผลัดกันไล่ต้อน มือไม้ก็ลูบไล้ไปตามร่างกายของคนรัก จนทั้งคู่ผละออกมามองตากันอย่างมีความหมาย ไม่ทันไรก็รู้สึกถึงพลังดึงดูดที่ดึงดูดให้พวกเขาสองคนแลกสัมผัสหวานกันอีกครั้ง

อีกครั้ง...

และอีกครั้งอย่างไม่รู้เบื่อ

จุ๊บ! จ๊วบ...

“อืม...”

“อือ”

เสียงครางในลำคออย่างพึงพอใจของทั้งสองดังออกมา ต่างก็พากันจมปลักอยู่กับสัมผัสที่อ่อนหวานนี้ กอบโกยราวกับว่าจะไม่มีครั้งต่อไป...

ผ่านไปเกือบสิบนาทีกว่าที่ทั้งคู่จูบกันอยู่บนโซฟาตัวเก่าในบ้านพักของขรรค์ พอต่างคนรู้สึกว่ามันนานเกินไปก็ต่างผละออกมา ร่างโปร่งหน้าแดงซ่านหลบสายตาขรรค์ ส่วนขรรค์เองก็เขินไม่ต่างกัน หันหน้าหนี ทั้งสองคนนั่งมองไปยังทีวีที่ไม่ได้เปิดแบบเงียบ ไม่มีใครเปิดปากพูดขึ้น

“เอ่อ/เอ่อ” พอจะพูดก็ดันพร้อมกันอีก

“ขรรค์พูดก่อน/เงินพูดก่อน”

หมอเงินกับขรรค์หันมามองหน้ากันแล้วก็หัวเราะเสียงดังออกมา เงินกุมท้องตัวเองเพราะหัวเราะมากจนเกินไป จนขรรค์เองก็หัวเราะแต่ไม่ได้มากขนาดท้องแข็งเหมือนคนรักของตน

“ตลกเนอะ ฮ่าๆ”

“หึหึ...ขรรค์ก็ว่างั้น”

พอทั้งสองหัวเราะกันเสร็จ เงินก็พูดขึ้นมา

“ทั้งๆ ที่แต่ก่อนเราไม่เห็นต้องเขิน ต้องอายเลย”

“นั่นเป็นเพราะเราไม่ได้เจอกันนาน ไม่ได้ทำกันนานเหรือเปล่า”

“อื้อ เงินก็คิดว่างั้น”

“เงินน่ะดื้อ...ไม่ชอบฟังขรรค์แบบไหนก็ยังเหมือนเดิม” ขรรค์พูดเสียงจริงจัง ทำเอาร่างโปร่งต้องหันมามองด้วยสีหน้าสงสัย

“ก็มันจริงไหมล่ะ แล้วขรรค์เองก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเหมือนกัน ชอบปิดปากเงินยังไงก็ปิดแบบนั้น” เถียงกลับไปอย่างไม่ยอม

บรรยากาศเก่าๆ เริ่มกลับเข้ามาอีกครั้ง...

“ได้ผลดีไหมล่ะ”

“เฮอะ!! กลับบ้านดีกว่า พรุ่งนี้มีเวรเช้า” ร่างโปร่งว่าพลางลุกขึ้น แต่ก็ถูกมือใหญ่คว้าแขนเอาไว้ ทำให้คนที่ยืนอยู่ต้องหันมามองขรรค์ด้วยสีหน้างงๆ

หมับ!






50%

 :z6: :z6: :z6: :z6:

   ตัดให้ค้าง...สวัสดีนักอ่านชาวเล้านะคะ ขอบคุณที่หลงมาอ่านเรื่องกากๆ พล็อตบ้านๆ เรื่องนี้น่อ คนเขียนเป็นแค่มือสมัครเล่นอาจจะดูหลวมหรือไม่ดียังไง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
       
        ถ้ามีอะไรอยากจะถาม หรืออยากจะไปคุยเล่นไปที่แฟนเพจน้า คุยกันได้ ยูกิฉีดยาแล้ว ฮ่าๆ https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ viewier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
คู่นี้ไม่มีอุปสรรคแล้วใช่มั้ย ถ้ามีอีกนี่เศร้าแทนเลยนะ
กว่าจะเจอกัน กว่าจะคุยกัน กว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
ร้องไห้กันไปหลายยกละ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ไม่กากจ้า สนุกดี รออ่านตอนต่อไปนะคะ

เงินขรรค์ลงตัวแล้วนะ ลงเอยด้วยดี อย่ามีมารอีกเลยนะ เสียเวลาไปหลายปี
ขรรค์ทุ่มเทมาก ดีจังเลย ไม่น้อยหน้าใครหรอกนะ
เงินก็น่ารัก รุกหนักมาก ขี้งอนมากด้วย 555

จักรกวนประสาท สม คุณจอมยั่วให้อยากหนักเลย

ราม จะคิดได้ตอนไหน

ธีร์รีบหาอินให้เจอนะ

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง






“มีอะไรหรือ? เงินจะกลับไปอาบน้ำนอนแล้ว”

“กลับยังไง” ขรรค์ถามกลับเสียงเข้ม

“ก็เดินกลับไง ถามแปลกๆ”

“มันมืดนะ จะเดินกลับได้ยังไง นี่ก็เกือบสองทุ่มแล้ว” ร่างสูงมองนาฬิกาแล้วพูดกับเงินไปด้วย

“อ้าว? แล้วจะให้เงินทำยังไง งั้นยืมไฟฉายหน่อยสิ”

“ไม่มีถ่าน”

“งั้นก็ต้องเดินกลับทั้งอย่างนี้แหละ ไม่เป็นไรขรรค์ เงินเดินบ่อย เพราะตอนแรกๆ เงินก็มามองขรรค์แถวนี้จนดึกๆ แล้วค่อยกลับประจำ” พอคำบอกเล่าออกมาจากปากของเงินมันทำให้คนที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าคนรักต้องมาทำอะไรเสี่ยงอันตรายแบบนี้ก็เพราะตน

ทั้งโกรธเงินก็แล้วก็โกรธตัวเอง...

“ทำไมต้องทำแบบนี้ มันอันตรายนะเงิน”

“ก็ทำไงได้ เงินอยากเห็นหน้าขรรค์นี่ อะไรที่เงินสามารถมองหน้าหรือเห็นขรรค์ได้นานที่สุดเงินก็จะทำ” คนตัวเล็กกว่าช้อนมองตากับขรรค์อย่างจริงจังจนขรรค์เถียงไม่ได้

เขาเข้าใจ...

เข้าใจดีเลยล่ะ

“ขรรค์ไปส่งนะ”

ประโยคนี้ทำเอาเงินน้อยใจและเสียความรู้สึกมาก คิดว่าขรรค์จะให้นอนที่นี่แล้วพาไปส่งที่บ้านพักหมอตอนเช้า จิตใจทำด้วยอะไร ทำไมถึงใจแข็งนัก

“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวเงินกลับเอง”

“อย่าดื้อสิเงิน”

“ไม่ได้ดื้อสักหน่อย”

“ไม่ดื้อก็ให้ไปส่งสิ...”

“ไม่เอาหรอก เงินจะไปเอง เบื่อคนใจร้าย” เงินสะบัดข้อมือแรงๆ จนหลุดจากการเกาะกุม เดินหนีไปยังประตูบ้าน

“เดี๋ยวก่อนเงิน ขรรค์ใจร้ายอะไร?” ร่างแกร่งวิ่งตามคนรักไป เงินกำลังสวมรองเท้าเตรียมจะเดินออกจากหน้าบ้านทันทีถ้าสวมรองเท้าเสร็จ

คนตัวขาวไม่ตอบคำถามของร่างแกร่ง เดินหนีจากหน้าบ้านพักของขรรค์อย่างไม่เกรงกลัวต่อความมืด แต่อย่างน้อยมีแสงจากรีสอร์ทส่องให้อยู่ แต่ก็เปลี่ยนน่ากลัวอยู่ดี

“เงิน...เดี๋ยวก่อนสิ ไม่พอใจอะไรหรือเปล่า” ขรรค์ที่รีบปิดไฟบ้านล็อกประตูเสร็จก็ก้าวเท้ายาวๆ มาถึงตัวของคนรักอย่างเร็วเพราะความได้เปรียบทางส่วนสูงที่มีถึงเกือบสองเมตร

“เปล่า...ขรรค์กลับบ้านไปเถอะ เงินกลับเองได้จริงๆ”

“ขรรค์จะไปส่ง เงินห้ามดื้อ!” รางสูงสั่งเสียงเข้มจนเงินไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมาอีก ได้แต่นำร่างสูงไปยังบ้านพักที่ทางโรงพยาบาลจัดการให้

พอมาถึงหน้าบ้านพักหลังเล็กๆ ของเงิน ร่างสูงโปร่งก็หันมาพูดกับขรรค์เมื่อตนไขกุญแจเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“ขรรค์ก็กลับได้แล้วนะ”

“อืม...ฝันดีนะเงิน”

“ครับ...ฝันดีเช่นกันนะ” เงินยิ้ม หายเคืองคนรักแล้วอย่างง่ายดาย เพราะอย่างน้อยขรรค์ก็มาส่งถึงหน้าบ้านพักแล้วก็ยังบอกฝันดีด้วย

ตอนนี้...ได้แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว

ขรรค์ทำเป็นเดินออกไปเมื่อเห็นว่าเงินยังไม่ยอมเข้าบ้านเพราะต้องการให้เขากลับไปก่อนสินะ ตัวเองถึงจะเข้า พอถึงทางเลี้ยวที่สามารถซ่อนตัวได้ ขรรค์ก็หยุดอยู่แบบนั้น จนแอบเห็นว่าเงินเข้าบ้านไปแล้ว

ร่างสูงยืนอยู่แบบนั้นนานมาก...จนกระทั่งคุณหมอหนุ่มปิดไปในตัวบ้านพักไปแล้ว ขรรค์ถึงได้เดินกลับบ้านพักตัวเองไป ถ้าปั่นจักรยาน ขับมอเตอร์ไซค์แน่นอนว่าบ้านพักของเงินอยู่ใกล้มาก แต่ถ้าเดินก็กินเวลาเกือบสิบห้านาทีเหมือนกัน

เงินขยันเดินไปมาหาเขาได้ยังไงตั้งเกือบสองอาทิตย์

เห็นที...ขรรค์คงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว...แบบนี้มันเป็นอันตรายต่อเงินมาก แล้วก็เสี่ยงสุดๆ


เช้าวันต่อมาร่างสูงตื่นแต่เช้ามาอาบน้ำแต่งตัวเตรียมข้าวของลงกระเป๋าผ้าใบใหญ่เพื่อจะไปทำงานที่โรงพยาบาล แต่ก่อนไปเขาก็ต้องจัดการงานต่างๆ ที่รีสอร์ทให้เรียบร้อย นึกแปลกใจที่วันนี้เงินไม่มาหาเขา แต่นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าเงินคงเข้าเวรแต่เช้าไปแล้ว

“พร้อมใช่ไหม ไม่ลืมอะไรนะ”

“กูพร้อมตั้งแต่เมื่อวานแล้วน่า ไม่มีอะไรลืมหรอก” จักรตอบ

“คุณรามให้ใช้รถได้ ก็ไม่มีอะไรน่าห่วง”

เดินทางไปโรงพยาบาลในตัวถ้าเป็นรถยนต์ใช้เวลาสิบห้านาที มอเตอร์ไซค์หรือรถรับส่งใช้เวลายี่สิบถึงสามสิบนาที ตอนแรกหมอเงินมาอยู่ที่โรงพยาบาลในตัวชุมชน แต่เนื่องจากทางโรงพยาบาลใหญ่ในจังหวัดต้องการหมอมากกว่าทำให้เงินต้องย้ายไปประจำที่โรงพยาบาลในตัวเมือง แต่ก็ขอพักที่เดิมเพราะสะดวกใจมากกว่า

ดีที่มีรถขับ เพราะหมอเงินเอารถมาเอง...

เรื่องนี้ ขรรค์ก็เพิ่งรู้เหมือนกัน...

“งั้นก็ไปเถอะ” จักรพูด แต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะเดินไปที่รถ เสียงหนึ่งก็ดังแทรกขึ้นมาจนทั้งคู่ต้องหันไปมอง

“เดี๋ยวก่อน!!!”

“เอ่อ...มีอะไรครับคุณจอม” จักรถามเมื่อเห็นว่าเจ้านายอีกคนของตนเดินหน้าบูดเข้ามา ทางขรรค์เองก็ได้แต่ยืนนิ่งๆ เพราะไม่รู้จะทักอะไร

“ฉันไปด้วย วันนี้ฉันมีธุระ แต่ไม่มีคนขับรถให้ ขอติดรถไปด้วยก็แล้วกัน”

“เอาไง” จักรหันมาถาม

“ก็ได้ครับคุณจอม เชิญเลยครับ” โชคดีที่รถที่พวกเขาใช้เป็นกระบะสี่ประตู ขรรค์เลยเปิดด้านหลังให้เจ้านายตัวเล็กขึ้นไปนั่ง ส่วนขรรค์ก็เป็นคนขับ จักรก็ครอบครองที่นั่งข้างหน้าข้างคนขับไป

ทางสามคนเดินทางไปยังในตัวเมืองโดยเลือกจอดที่ร้านเบเกอรี่ให้เจ้าจอมลงไปทำธุระ เห็นว่านัดเพื่อนที่มาจากกรุงเทพเอาไว้ ส่วนจักรกับขรรค์ก็ไปยังโรงพยาบาลต่อไปเพื่อทำงานที่ได้รับมอบหมาย...


เวลาประมาณเที่ยงกว่าๆ หมอหนุ่มสุดหล่อของโรงพยาบาลเดินออกจากห้องพักแพทย์เพื่อจะไปพักทานข้าว แล้วก็จะไปดูที่สวนด้วยเผื่อจะเจอกับขรรค์

“หมอเงินจะไปทานข้าวเหรอคะ” เสียงของสาวคนหนึ่งที่หมอเงินเพิ่งจะรู้จักทักถาม ใบหน้าสวยหวานปานนางฟ้าเหมาะสมกับอาชีพส่งยิ้มสวยให้คุณหมอสุดหล่อ

“ใช่ครับหมอหวาน” เงินส่งยิ้มให้กับเพื่อนร่วมงาน

“หวานกำลังจะพักพอดีเลย ถ้าไม่รังเกียจขอหวานไปด้วยได้ไหมคะ” คุณหมอคนสวยขอยิ้มๆ ทำสีหน้าที่ผู้ชายไม่กล้าปฏิเสธแน่นอน แต่ก็ต้องผิดหวัง...

“หืม...ต้องขอโทษจริงๆ นะครับคุณหวาน พอดีว่าผมต้องไปทำธุระก่อนน่ะ วันนี้ไม่สะดวกจริงๆ” เงินแสร้งทำสีหน้าเสียดาย แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาแค่กำลังเลี่ยง

ไม่ใช่คนแรกที่เข้าหาเขาแบบนี้ แต่คราวหวานดูแล้วก็ไม่น่าจะมีอะไรมาก ถ้าไม่ได้สนใจ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นหรอก

“ว้า...เสียดายจัง นึกว่าจะได้ไปกินข้าวกับคุณหมอสุดหล่อซะอีก” เธอแสร้งทำหน้าผิดหวัง แต่ในใจก็รู้สึกว่าผิดหวังจริงๆ เพราะเธออยากจะสานสัมพันธ์

ถึงหมอเงินจะผ่านการแต่งงานมาแล้ว แต่ทั้งหล่อ ทั้งรวยแบบนี้...ไม่มีอะไรเสียหายเลยนี่

“เอาไว้โอกาสหน้าเดี๋ยวผมจะเลี้ยงเป็นการขอโทษนะครับ”

รอยยิ้มของหมอเงินก็เหมือนกับรอยยิ้มที่มอบให้กับคนทั่วไป ทั้งคนไข้ คนรู้จัก แต่บางครั้งรอยยิ้มของหมอเงินก็ทำให้คนอื่นคิดไปไกลเหมือนกัน

“หวานจะรอนะคะ”

“ครับ ยังไงผมขอตัวก่อนนะ”

“ค่ะ แล้วเจอกันค่ะ”

ร่างสูงโปร่งของคุณหมอหนุ่มเดินออกจากตรงนั้นทันที สองเท้าก้าวไปตามทางไปสวนของโรงพยาบาลใหญ่ เดินจนกระทั่งถึงสวนที่มีเหล่าคนไข้มาเดินเล่นสูดอากาศบ้าง บางคนรู้จักเขาก็ทักทายตามประสา แต่สายตาของเงินก็สอดส่องหาคนรักตัวเอง

ขรรค์ชอบที่เงียบๆ

“นั่นไง...หืม…นั่งกับใครน่ะ” พอเจอแผ่นหลังที่กว้างใหญ่ของขรรค์เงินก็จำได้ทันที แต่ดันมีผู้ชายอีกคนที่ตัวสูงพอๆ กับขรรค์นั่งอยู่ด้วยเนี่ยสิ

เพื่อนร่วมงานเหรอ?

“ขรรค์…” พอไปถึงก็เรียกชื่อคนรักเบาๆ เมื่อเห็นหน้าของอีกคนชัดๆ ก็ทำหน้านึกว่าเคยเห็นที่ไหนเพราะคุ้นกับคนๆ นี้มาก

“เงิน...พักเหรอ”

“อื้อ...แล้วนี่กินข้าวอยู่เหรอ” ดวงตาสวยของหมอหนุ่มมองกล่องโฟมในมือของทั้งคู่มีอาหารง่ายๆ อยู่

“ใช่แล้ว...ของร้านอาหารหน้าโรง’บาลน่ะ” ขรรค์ตอบ

“อ๋อ...เอ่อ สวัสดีครับ” เงินหันไปทักคนตัวใหญ่หน้าโหดๆ อย่างจักรอย่างประหม่า ไม่เคยเจอใครที่น่ากลัวแบบนี้มาก่อน แต่คนเป็นหมออย่างเขา จะดูแค่ที่หน้าก็ใช่เรื่อง

“สวัสดีครับคุณหมอ ผมจักรนะครับ เป็นลูกน้องของไอ้ขรรค์มัน”

เป็นครั้งแรกที่เห็นคนเป็นลูกน้องเรียกเจ้านายตัวเองว่า ‘ไอ้’ แต่นั่นอาจจะมีเหตุผลก็ได้ คำหยาบคายเขาไม่ว่า ไม่ถือสาอะไรหรอก แค่อย่าพูดหยาบกับเขาก็พอ

“จักร? หรือครับ อ้อ! ผมเงินนะครับ”

“ถ้าทางคุณหมอจะอายุน้อยกว่าผมนะเนี่ย” จักรพูดขึ้น

ทำเอาความกลัวที่เงินมีต่อหน้าของจักรหายไปเลย เพราะจักรก็เป็นคนที่มนุษย์สัมพันธ์ดีคนหนึ่ง

“ฮ่าๆ ผมอายุยี่สิบหกแล้วครับ” ตอบเสียงกลั้วหัวเราะ ส่วนขรรค์ก็อมยิ้มน้อยๆ

“ห๊ะ!! มากกว่าผมตั้งสองปีแหนะ” จักรอุทาน

“อ้าว? จักรอายุมากกว่าขรรค์อีกเหรอ”

“ปีเดียวเองน่า” ขรรค์แย้ง ทำเอาหมอเงินกับจักรหัวเราะออกมา

“แต่หมอหน้าเด็กมากๆ เลยนะครับ” จักรชมอย่างทึ่งๆ มองใบหน้าขาวใสและดูเด็กอย่างน่าอิจฉา

“ขอบคุณครับ” เงินพูดแล้วเงียบไป

“ว่าแต่เงินกินข้าวยังล่ะ” ขรรค์ถามขึ้นเมื่อบรรยากาศเริ่มเงียบ แล้วก็ฉุกขึ้นได้ว่ายังไม่ถามว่าคนรักทานข้าวเที่ยงหรือยัง

“ยังเลย...”

“หือ? ทำไมไม่กิน” น้ำเสียงที่ถามออกไปติดจะดุจนเงินยิ้มออกมา

“ก็รอมากินพร้อมขรรค์ไง”

“แต่ขรรค์ซื้อมาแค่กล่องเดียวเอง แต่เดี๋ยวจะไปซื้อให้ นั่งรอก่อนนะ!” ว่าจบร่างสูงก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปทันทีไม่ให้คนรักได้ทักท้วงอะไรเลย แต่เป็นแบบนั้นก็เรียกเสียงหัวเราะเบาๆ ได้อย่างดี

“ผมเพิ่งจะเคยเห็นมุมนี้ของมันนะครับ” จักรพูดขึ้น ส่วนร่างโปร่งก็นั่งลงตรงที่ของขรรค์ ส่งยิ้มให้กับจักรไป

“เขาก็เป็นแบบนี้แหละครับ”

“กับคุณหมอคนเดียวล่ะสิ ยินดีด้วยนะครับที่ดีกันแล้ว” จักรเอ่ยขึ้น

“หืม?”

“ผมรู้น่ะครับ มองก็ออกแล้ว แล้วยิ่งมีข่าวมาว่าคุณหมอที่เป็นคนรักเก่าของขรรค์มีตามง้อขอคืนดี ตอนแรกผมไม่เชื่อหรอก แต่พอเห็นแล้วก็...คงจะจริง” จักรพูดอธิบายออกมา

“ครับ...แล้วคุณไม่รังเกียจหรือ”

“ฮ่าๆ รังเกียจทำไมครับ คนที่ผมรักก็เป็นผู้ชาย” พอได้ยินแบบนั้นหมอเงินก็เบิกตาโพลง

“พูดเป็นเล่นน่ะ”

“จริงๆ ครับ เขาเป็นน้องชายของคุณราม จริงๆ ก็เป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องน่ะครับ” จักรยิ้มออกมาเมื่อเอ่ยถึงเจ้าจอม นั่นทำให้หมอเงินรับรู้ได้ว่า...คนนี้มีความรักและมีความซื่อสัตย์มากๆ

“คุณจอมน่ะหรือ หื้อ! เอาใจช่วยนะครับ”

“ขอบคุณครับ”

หมอเงินหยุดคิดนิดๆ เพราะชื่อจักรมันคุ้นมากๆ เหมือนเคยได้ยินที่ไหนก็เลยพยายามคิดจนกระทั่งคิดออกว่าอินทัชเคยพูดถึงคนชื่อจักรเมื่อวาน

จะใช่คนเดียวกันไหมนะ?

“คุณจักร...”

“ไม่ต้องเรียกคุณหรอกครับ ผมไม่ค่อยชิน ฮ่าๆ” ร่างสูงว่า

“โอเคครับ...จักรรู้จักอินไหม?” ถามออกไปแล้วเรียกใบหน้าที่ดูจะสงสัยของจักรได้เป็นอย่างดี

“หมอหมายถึงอินทัช ที่คุณรามพามาใช่ไหมครับ ถ้าใช่ผมเป็นเพื่อนมันเองแหละ เพื่อนที่เพิ่งจะรู้จัก แต่สนิทเหมือนรู้จักกันมานาน ฮ่าๆ มันเป็นคนดีนะครับ เก่งแล้วก็ฉลาดด้วย หมอรู้จักมันได้ยังไง?”

“อินเขาชมจักรให้ผมฟังน่ะ ผมก็ดีใจที่นอกจากผมแล้วอินยังมีเพื่อน” ประโยคนี้ทำเอาคนที่ไม่ค่อยจะรู้ทันเท่าไหร่ถึงกับคิดหนัก

“ทำไมหมอพูดแบบนี้น่ะครับ”

“อ้าว? จักรไม่รู้เรื่องของอินเลยหรือ”

“ไม่รู้หรอกครับ มันไม่เคยเล่าให้ฟัง แต่ที่รู้ๆ มามันเป็นคนรักของคุณรามแล้วก็นอกใจคุณรามโกรธก็เลยพามันมา แค่นั้นแหละครับที่คนงานเขาพูดกัน” จักรเล่า

ใบหน้าคมคาย ดิบเถื่อนตึงเครียดเมื่อเห็นว่าใบหน้าของหมอเงินไม่มีรอยยิ้ม

“อินก็ไม่เคยเล่าสาเหตุที่ถูก ‘จับ’ ตัวมาหรอกครับ แต่ที่ผมรู้คืออินเขาไม่ผิด คุณรามจับอินมาทำร้ายด้วยความเข้าใจผิด อินพยายามหนีหลายรอบแล้วแต่ก็ทำไม่ได้ และทุกครั้งก็จะโดนหนักกว่าเดิม...ผมคิดว่าจักรจะรู้เพราะเห็นเขาบอกว่าสบายใจที่ได้อยู่กับคุณ” หมอเงินพูดออกไป

เขาอยากช่วยอินทัช อยากช่วยมากๆ แต่ไม่รู้จะทำยังไงดี...

“ไม่...มันไม่เคยเล่า” มิน่าล่ะ...มันถึงได้ดูเศร้าๆ เป็นบางครั้ง...จักรคิดต่อในใจ

ตอนนี้เงินกับขรรค์ก็เข้าใจกันแล้ว ข้อตกลงของเขากับรามินทร์ก็เป็นโมฆะไป เพราะต่อให้รามินทร์แยกขรรค์ไปจากเขา เขาก็จะตามไปทุกที่ แต่เชื่อว่า...รามินทร์ไม่ทำแบบนั้นหรอก ก็แค่ขู่เท่านั้นแหละ

“และที่ผมสงสัยก็คือ อินบอกว่ายอม...ยอมให้คุณรามแก้แค้นต่อไปเพราะหนีไม่ได้ นั่นก็หมายความว่า คุณรามต้องขู่อินไว้แน่ๆ แล้วคำขู่นั่น...ก็น่าจะเกี่ยวกับผม แล้วจักรด้วย” คุณหมอหนุ่มพูดออกไปตามที่ตนเองคิดมาตลอด

ว่าคนอย่างอินทัชมีหรือจะหนีไม่ได้...แต่พอรู้จักนิสัยของอินทัช ก็รู้ได้เลยว่า คนๆ นี้...เพื่อเพื่อน เพื่อมิตรภาพ เขาทำได้หมด...ทนได้หมด

“ผม?” ชี้ตัวเองแบบงงๆ

“เพราะเราสองคนเป็นเพื่อนของอิน มีความเป็นไปได้ว่าคุณรามเอาเราสองคนไปต่อรอง ประมาณว่า ถ้าอินหนี เราสองคนเดือดร้อนอะไรทำนองนี้...แต่ผมก็แค่สันนิษฐานนะ ต้องรอถามอินให้แน่ชัดไป”

ร่างสูงของจักรนั่งครุ่นคิดต่อไปอีกสักพักเพราะยังไม่เข้าใจในคำพูดของคนเป็นหมอเท่าไหร่ พยายามแปลข้อความต่างๆ ให้เป็นภาษที่ตนเองเข้าใจ สักพักเงินก็มองเห็นร่างคนรักเดินมา แล้วจึงหันไปพูดบอกกับจักรว่าให้เก็บเป็นความลับไม่ให้ขรรค์รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน ซึ่งจักรก็พยักหน้ารับ

เงินยิ้มกว้างออกมารับข้าวกล่องจากมือคนรัก ส่วนขรรค์ก็ยิ้มน้อยๆ แล้วนั่งลงข้างๆ กับเงิน ไม่สนใจที่จะถามหรอกว่าคุยอะไรกันระหว่างรอ เพราะไม่ใช่นิสัยของขรรค์

“ขอบคุณนะขรรค์ น่ารักจังเลย”

“อือ...เพื่อเงินนั่นแหละ กินให้หมดด้วย”

“คร้าบ...”

พอได้อยู่กับขรรค์ เงินก็ลืมไปเลยว่าก่อนหน้านี้กำลังจริงจังกับอะไร นั่งยิ้ม นั่งหัวเราะกับคนรักโดยที่มีจักรนั่งขมวดคิ้วคิดประมวลเรื่องต่างๆ คนเดียว...

 




100%

 :ling3: :ling3: :ling3:

   อ่านแล้วเม้นท์ให้ยูกิด้วยนะคะ จะด่าราม ด่าจักร ก็ด่าตามสบายเลย แหะๆ แล้วเจอกันตอนต่อไปนะคะ
   https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ viewier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
ตอนนี้ไม่ด่ารามค่ะ เพราะรามไม่โผล่55555

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :hao5:


ช่วยอินด้วย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด