Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=  (อ่าน 228247 ครั้ง)

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
ตอนที่ 18 ครึ่งหลัง






“คุณรามออกไปแล้วครับ” หมอเงินพูดขึ้นมา จนร่างที่นอนหลับอยู่บนเตียงค่อยๆ ลืมตา มองไปรอบๆ ห้องเพื่อเช็คว่าร่างสูงออกไปแล้วจริงๆ

เสียงถอนหายใจของอินทัชเรียกรอยยิ้มบางๆ จากหมอเงินได้

“ที่จริงแล้วหมอกลับไปพักที่บ้านก็ได้นะครับ”

“ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่าอิน คนกันเอง...มีเพื่อนเป็นนักธุรกิจใหญ่ โก้ดีออก”

“ฮะๆ หมอก็พูดเป็นเล่น” อินทัชหัวเราะออกเป็นครั้งแรก ทำเอาหมอเงินสบายใจ เพราะกลัวจิตใจของอินทัชจะแย่ แต่ก็คงสบายใจได้แล้วล่ะนะ

“แต่วันพรุ่งนี้...ผมคงอยู่ไม่ได้ทั้งวันนะอิน วันนี้ก็ลามาแล้ว ยังไงพรุ่งนี้ก็ต้องไปตรวจคนไข้น่ะ” สีหน้าของหมอเงินติดจะกังวลเอามากๆ

“ไม่เป็นไรหรอกหมอ...พรุ่งนี้ผมก็คงหายแล้วล่ะ”

“ไม่หายหรอกอิน เดินก็ไม่ไหวแน่ๆ ไข้ก็ยังไม่ลด ผมเป็นห่วง”

“มันไม่ทำอะไรผมตอนที่กำลังจะตายแบบนี้หรอกครับ อย่างน้อยมันก็ยังมีความเป็นคนเรียกหมอมารักษาผม” อินทัชพูดยิ้มๆ

ตอนแรกที่รู้ว่ารามินทร์เป็นคนเรียกมาก็แทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง และนั่นมันทำให้รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ มันไม่ได้ตั้งใจ แล้วเขา...ก็ไม่ติดใจเอาความอะไรทั้งนั้น รามินทร์เมามาก ทำไปแบบไม่มีสติ...

เขาเป็นผู้ชาย...โดนทำขนาดนั้นก็ไม่เสียหายอะไร...เขาท้องไม่ได้

แต่ที่บอกว่าไม่ได้จะเอาเรื่องเอาราวอะไร ไม่ได้หมายความว่าไม่โกรธ ไม่เกลียด...

“ทำไมอินถึงได้คิดอะไรง่ายๆ ล่ะครับ” หมอเงินถาม

“ก็มันไม่มีอะไรต้องยุ่งยากนี่ครับ เรื่องก็ผ่านมาแล้ว เจอมาแล้ว จะไปคิดมากกับมันทำไม อยู่กับตอนนี้ดีที่สุดแล้ว”

ปากก็พูดออกไปแบบนั้น ฉีกยิ้มให้กับหมอเงินมากขนาดไหน แต่ตัวของอินทัชรู้ดีว่าข้างในใจเขามันเจ็บ เจ็บมาก...เจ็บจนแทบจะทนไม่ไหว

ไม่รู้ว่าอีกกี่ปี บาดแผลนี้มันจะหายไป หรือมันจะติดเป็นแผลเป็นในใจของเขาตลอดชีวิต

“อิน...ไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งก็ได้นะ อยู่กับผมอ่อนแอบ้างก็ดี เจ็บก็บอกว่าเจ็บ เสียใจก็บอกเสียใจ อยากร้องก็แค่ร้องออกมา อินไม่ต้องฝืนนะครับ”

เงินดูสีหน้าและแววตาของอินทัชออก...

พยายามที่จะเข้มแข็งเพื่อกลบเกลื่อนความอ่อนแอของตัวเอง

“ไม่เป็นไรจริงๆ หมอ”

“เอาเถอะๆ เดี๋ยวผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนก็แล้วกัน” หมอเงินบอกก่อนจะหยิบเสื้อผ้าที่ขรรค์เอามาให้เข้าไปในห้องน้ำทันทีหลังจากที่อินทัชขานรับ

“ครับ”

 ใบหน้าสวยมองออกไปยังนอกหน้าต่าง ด้วยความรู้ที่บอกไม่ถูก เขาอยากร้องไห้นะ แต่เหมือนว่ามันออกมาหมดแล้วกับเมื่อคืนนี้ ยิ่งคิดถึงมันมากเท่าไหร่ มือขาวก็เผลอกำผ้าปูที่นอนแน่น

ทางด้านรามินทร์ที่ยืนอยู่หน้าห้องไม่ไปไหนตั้งแต่ที่เข้ามาเอาของ ร่างสูงได้ยินทุกอย่างเพราะห้องมันไม่เก็บเสียง มันตอกย้ำว่าอินทัชเป็นดีขนาดไหน จะมีใครที่โดน ‘ทำ’ แบบนั้นแล้วยังสามารถพูดแบบนิ่งๆ ได้อย่างอินทัช จะมีสักกี่คนเชียวที่สามารถปล่อยผ่าน ไม่เอาเรื่องได้อย่างอินทัช...

รามินทร์กลายเป็นคนชั่ว เป็นคนเลวเองอย่างที่ตัวเองปรามาสอินทัชเอาไว้

ทุกอย่างย้อนกลับมาที่ตัวของเขาเอง...

“โถ่เว้ย!” สบถกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเดินไปเปิดห้องนอนเล็กที่อยู่ข้างๆ กับห้องนอนใหญ่

พวกเขาอยู่ห่างกันเพียงแค่ผนังกั้นเท่านั้น...


วันต่อมา

ร่างสูงลุกขึ้นเมื่อพระอาทิตย์เริ่มขึ้น เขาไม่มีอาการงัวเงียเลยเพราะไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน...มันนอนไม่หลับ คิดอะไรวุ่นวายเต็มไปหมด

แกร๊ก...

ร่างสูงเปิดประตูมาเจอกับหมอเงินที่ออกมาพอดี ทั้งสองยืนมองหน้ากันนิดๆ ก่อนที่มอเงินจะพูดออกมา

“ห้ามคุณทำอะไรอินอีก”

“รู้แล้ว ผมไม่ได้เลวขนาดนั้น”

“ให้มันจริง ถ้าเกิดว่ามีอะไรขึ้นมาผมแจ้งตำรวจแน่ คงจะรู้นะว่าจะโดนกี่กระทง” หมอเงินถามด้วยน้ำเสียงแข็งๆ อย่างที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน

“เข้าใจแล้วครับ...”

แม้จะแปลกใจที่เห็นรามินทร์ว่าง่ายแบบนี้ แต่ก็ไม่อาจจะเชื่อใจต่อไปได้อีก

“จะดีมากให้อินพักสักหนึ่งอาทิตย์”

“ก็ตามสบาย”

“หึ! เกิดรู้สึกผิดเหรอคุณ”

“แล้วทำไมคนอย่างผมจะรู้สึกผิดไม่ได้ คุณกำลังดูถูกคนนะหมอ” พอรามินทร์พูดออกไปแบบนี้ ร่างโปร่งก็ถึงกับเงียบไป แล้วเดินหนีร่างสูงไปเพื่อจะไปทำงาน

ส่วนรามินทร์คิดว่าอินทัชคงจะยังไม่ตื่นเลยเดินไปตรวจงานยามเช้าก่อน เมื่อถึงเวลาประมาณเจ็ดโมงครึ่งเขาก็ไปที่โรงครัวให้คนงานทำข้าวต้มให้เพื่อจะเอาไปให้คนที่นอนป่วยอยู่ทาน

มือหยาบเปิดประตูเข้าไปก็เห็นว่าคนบนเตียงพยายามจะลุกขึ้น เขาเลยส่งเสียงถามออกไป ร่างนั้นสะดุ้งแรงจนเขาสังเกตชัด

“จะไปไหน”

อินทัชค่อยๆ หันมามองรามินทร์ที่เดินเข้ามาพร้อมถาดข้าวในมือด้วยสีหน้าและแววตาที่พยายามควบคุมไม่ให้มันสั่นหรือแสดงอะไรออกไปมาก

“ห้องน้ำ”

“เดี๋ยวกูช่วย” ร่างสูงวางถาดลง ขยับตัวจะมาประคองคนตัวเล็กกว่าแต่เสียงแหบๆ จากการป่วยของอินทัชก้ห้ามออกมาก่อน

“ไม่ต้อง!!”

กึก…

รามินทร์เลยต้องชะงักตัวอยู่กับที่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะด่าอินทัชว่ามีสิทธิ์อะไรมาปฏิเสธ มีสิทธิ์อะไรมาขึ้นเสียงใส่ แต่ถ้าเขายังทำแบบนั้นล่ะก็...เขาก็คงไม่ใช่คนแล้ว

“กูไปเองได้”

“ลุกไม่ได้ก็ยังจะมาปากเก่งอีกนะ” รามินทร์แขวะ แต่สีหน้านิ่งกว่าครั้งก่อนๆ ที่เคยแขวะ ทั้งแสยะยิ้มสมเพชให้

“เรื่องของกู ต่อให้กูจะเดินไปแล้วล้มลง ก็ยังดีกว่าให้มึงมาแตะต้องตัวกู” อินทัชพูดอย่างมีน้ำโห ใบหน้าแสดงถึงความรังเกียจจนรามินทร์เองก็ชักจะมีอารมณ์เหมือนกัน

อารมณ์ที่ว่าคือไม่พอใจ...ไม่พอใจมากๆ ทั้งๆ ที่ร่างกายนั้นมันเป็นของเขาไปแล้ว

ให้ตายสิวะ! ทำไมมันวุ่นวายใจแบบนี้เนี่ย...

“อย่ามาทำเป็นรังเกียจ มา! กูช่วย อย่าดื้อไอ้อิน อยากแตกตรงนี้หรือไง” อินทัชเม้มปากอย่างขัดใจ แต่ก็ยอมให้ร่างสูงประคองเพราะเขาเองก็ปวดท้องไม่ไว้แล้ว

“เอายานั่นมา” นิ้วสวยชี้ไปยังโต๊ะหัวเตียงที่มียาทาแก้อักเสบวางไว้อยู่ รามินทร์ใช้มือที่ประคองตัวอินทัชมาหยิบเพราะอีกข้างถือน้ำเกลืออยู่ พอหยิบมาแล้วยื่นให้อินทัชตามที่เจ้าตัวต้องการ

ทุกการก้าวเดินเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่ร่างบางก็พยายามที่จะกัดฟันเดินต่อไปโดยที่คนตัวใหญ่กว่าที่เป็นทั้งศัตรูและเป็นทั้งต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องเจ็บคอยประคองอยู่ไม่ห่าง

อินทัชถูกประคองเข้ามาในห้องน้ำได้สำเร็จ รามินทร์เองก็เดินออกจากห้องน้ำไปโดยที่ไม่ต้องให้ร่างโปร่งไล่ จนกระทั่งอินทัชทำธุระส่วนตัวทุกอย่างเสร็จ ก็พยายามเดินไปที่ประตูห้องน้ำ แล้วเปิดมันออก ในจังหวะที่ก้าวเท้าขึ้น ทำเอาร่างทั้งร่างเกือบจะล้มลงไปกองที่พื้น ดีที่ร่างสูงที่ยืนคอยหน้าตูคว้าเอาไว้ได้ก่อน แล้วก็คว้าขวดน้ำเกลือมาถือไว้เอง

“อ๊ะ!”

หมับ!!

“ทำไมไม่เรียก?” รามินทร์ดุพลางจ้องหน้าสวยของอินทัชอย่างไม่พอใจ

ส่วนอินทัชที่อยู่ในอ้อมแขนของรามินทร์พอดิบพอดีก็เงยหน้ามองอีกคนในจังหวะเดียวกันพอดี...ทั้งสองมองสบตากันอยู่แบบนั้นนิ่งๆ หัวใจของทั้งคู่เต้นแรงและสั่นไหวอย่างน่ากลัว

ใบหน้าของทั้งสองค่อยๆ ขยับเข้าหากันแบบไม่รู้ตัว เหมือนมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่างทำให้เขาสองคนลืมเรื่องราวบาดหมางกันออกไป จนกระทั่งริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกันเบาๆ คนที่ได้สติก่อนคืออินทัช ร่างบางกว่าผลักคนตัวสูงออกไปไม่แรงนักเนื่องจากแรงไม่ค่อยจะมี แต่นั่นก็ทำให้รามินทร์ถึงกับหลุดจากภวังค์

อินทัชเม้มปากแล้วผันหน้าหนี พยายามจะเดินแต่คนตัวใหญ่ก็มาประคองเอาไว้อย่างเดิมเงียบๆ ไม่พูดไม่จาอะไรกันอีก

อินทัชสับสน รามินทร์ก็สับสน...

รามินทร์กำลังสับสนว่าทำไมตนเองถึงมีความรู้สึกอยากจะสัมผัสริมฝีปากซีดตรงหน้านี้

“กินข้าวเถอะ เดี๋ยวมันจะเย็น”

พอร่างโปร่งขึ้นไปนั่งบนเตียงได้ รามินทร์ก็ตักข้าวต้มในชามแล้วจ่อไปที่ปากของอินทัช หากแต่อีกคนก็ไม่ให้ความร่วมมือ

“จะกินเอง มึงก็ไปได้แล้ว”

“กูจะป้อน!”

“ไม่!!!”

“เลือกเอาว่าจะกินช้อนหรือจากปากกู” สิ้นคำขู่ คนป่วยก็จิ๊ปากอย่างไม่พอใจ ไม่มองหน้าคนด้านข้างแต่ก็ยอมอ้าปากรับข้าวต้มในช้อนมาทาน

“เป่าบ้างก็ดี”

“ร้อนหรือ?”

“มึงลองจับยัดปากตัวเองดิ”

“ปากดี” แม้จะว่าไปแบบนั้น รามินทร์ก็ยอมเป่าให้แล้วป้อนร่างโปร่งจนหมด ก่อนจะเอายาที่หมอเงินทิ้งไว้มานั่งอ่านแล้วเลือกเอายาหลังอาหารมาให้ร่างโปร่งทานต่อ

“กูกินข้าวกินยาเสร็จแล้ว มึงจะไปได้หรือยัง”

“ไล่กันจัง กูอุตส่าห์มาป้อนข้าวป้อนยา...”

“ต้องขอบคุณไหม?”

“ช่างมันเถอะ...เอาเป็นว่ากูขอโทษเรื่องที่ทำให้มึงเป็นแบบนี้ด้วย กูเมา...กูไม่รู้ตัวจริงๆ” ร่างสูงตัดสินใจพูดออกไป แต่อินทัชเหมือนจะไม่เชื่อ

“หึ! กูจะเชื่อได้ไหมว่ามันออกมาจากใจ มึงก็ต้องการเห็นกูเจ็บกูทรมานอยู่แล้วนี่ จะขอโทษทำไม บรรลุวัตถุประสงค์แล้ว ก็ช่วยปล่อยกูไปที กูขอแค่นี้” อินทัชขอร้อง

“ไม่!!!”

“ทำไมวะ! ยังไม่สาแก่ใจมึงอีกหรือไง จะเอาอะไรอีก!!” อินทัชตะเบ็งเสียงถามทั้งๆ ที่เจ็บขออยู่ รามินทร์กัดฟันกำหมัดแน่น

เขาปฏิเสธอีกคนไปเสียงดังมาก

รามินทร์ไม่อยากปล่อยอีกคนไป ไม่ใช่ว่าต้องการจะแก้แค้นอะไรต่อไป แต่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงอยากให้อินทัชอยู่ที่นี่...

“กูไม่ให้ไป!!”

“ไอ้เลว!!!”

“เออ...มึงต้องอยู่ที่นี่ต่อไป กับคนเลวๆ อย่างกูนี่แหละ”

“ชั่วที่สุด”

“เออ!! กูชั่ว กูเลว...แต่เสียใจด้วยนะ กูไม่ปล่อยมึงไปง่ายๆ แน่”

ไม่ใช่...มึงไม่ได้อยากจะพูดแบบนี้

ปากรามินทร์ไม่ตรงกับใจ รู้สึกแบบไหนก็ไม่เคยพูดออกไปแบบนั้นเลยสักครั้ง...ถ้าการต้องการเป็นคนเลวในสายตาของอินทัชแลกกับการที่ยื้ออีกคนไว้ได้

เขาก็ยอม...จนกว่าจะไถ่โทษความผิดที่ได้ข่มเหงอีกคนไป...

“ฮึก...ไอ้คนเลว”

อินทัชร้องไห้ออกมาต่อหน้ารามินทร์อย่างอดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ร่างสูงยืนมองน้ำตานั่นด้วยใจที่แสนจะเจ็บปวด...

ตัดสินใจหันหลังแล้วเดินออกจากห้องไปซะ...


ก๊อก ก๊อก ก๊อก

แกร๊ก...

“ไอ้จักร...เจ้าจอมเป็นยังไงบ้าง” รามินทร์ถามคนที่เปิดประตูบ้านของเจ้าจอมด้วยสีหน้าเป็นกังวล เขาอยากจะมาเยี่ยมน้องชายตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ไม่กล้า

ไม่กล้าสู้หน้าน้องชายของตน

“ก็ซึมๆ ครับ ทานข้าวได้น้อย เอาแต่โทษว่าตัวเองผิด” จักรตอบ เพราะตัวเองก็ไม่รู้จริงๆ ว่าอะไรที่ทำให้เจ้าจอมดูเศร้าแบบนี้

“งั้นเหรอ ถ้างั้นฉันฝากของไปให้เจ้าจอมหน่อยได้ไหม”

“ทำไมคุณรามไม่เข้าไปเองล่ะครับ ผมคิดว่าคุณจอมต้องรอให้คุณเข้าไปหาอยู่แน่ๆ”

ไม่...มันไม่ใช่อย่างนั้น เจ้าจอมไม่อยากเห็นหน้าพี่ชายเลวๆ อย่างเขา...

“ฉันคิดว่าเจ้าจอมคงไม่อยากเห็นหน้าฉันหรอก เอาไปให้หน่อย แล้วก็ให้เจ้าจอมกินข้าวเยอะๆ ด้วยนะ”

“ทะเลาะกันหรือครับ?” จักรถามออกมาเบาๆ เมื่อรับตะกร้าผลไม้จากมือของรามินทร์มาถือ

“ประมาณนั้นล่ะมั้ง”

“ผมว่าคุณรามยิ่งต้องเข้าไปดูเลย ถ้างั้นคุณจอมอาจจะคิดมากไปกว่านี้ก็ได้นะครับ”

ร่างสูงยืนนิ่งคิดตาม ก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ จำยอมที่จะเดินเข้าไปพบหน้าน้องชายที่มีอาการซึมๆ ไป ต้นเหตุก็เพราะเขา...

เพราะพี่ชายชั่วๆ อย่างเขาทำให้น้องชายต้องผิดหวัง...

“งั้น...แกช่วยเข้าไปเป็นเพื่อนก็แล้วกัน”

“จะดีหรือครับ ผมเป็นคนนอก”

“เดี๋ยวก็จะเป็นคนกันเองแล้ว หรือจะไม่เป็น?” รามินทร์ถาม ซึ่งจักรก็ส่งยิ้มแห้งๆ ให้

ไม่คิดว่ารามินทร์จะรู้เรื่องนี้ด้วย แต่ก็โชคดีที่เจ้านายไม่รังเกียจ แต่จะยอมรับได้มากน้อยขนาดไหนจักรไม่รู้

“เอ่อ...ถ้าคุณรามไม่รังเกียจ”

“เรื่องของหัวใจ ฉันไม่ซีเรียส แต่กับทางครอบครัวของเจ้าจอม แกต้องผ่านไปเองนะ” รามินทร์พูดบอก ซึ่งจักรก็เม้มปากพยักหน้าน้อยๆ

รามินทร์เดินนำจักรไปยังห้องนอนของเจ้าจอม สองเท้าหยุดอยู่หน้าห้องนอนของเจ้าจอมก่อนจะหายใจเข้าลึกแล้วพ่นลมหายใจออกมายาวๆ มือหยาบก็เปิดประตูเข้าไป

แอ๊ด...





100%

 :katai4: :katai4: :katai4:

   มาแล้วจ้า ขอโทษน้า ที่จริงจะลงเมื่อวาน แต่ยูกิดันปวดท้องเลยนอนลูกเดียวเลยเมื่อวาน ฮ่าๆ หลายคนอินจัด เมื่อไหร่รามจะโดนเอาคืน มันเริ่มแล้วล่ะค่ะ เพราะนังรามจะถอยแล้ว (เขาเป็นคนอ่อนโยนจริงๆ นะ เพิ่งมาร้ายกับอินคนแรกนี่แหละ)
   ไปพูดคุยกับยูกิได้ที่แฟนเพจนะคะ ^_^ https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
รอสมน้ำหน้ามันอยู่นะจะเป็นอะไรที่สะใจมากเลย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :katai2-1:


ถึงเวลาเอาคืนได้หรือยัง ?

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
เอาอีก รามต้องเจ็บหนักกว่านี้
แค่นี้มันยังไม่สาค่ะ!!

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เอาคืนให้หนักเลยนะ เอาให้รู้สึกเจ็บไปจนตายเลย

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 19
ผู้ชายคนนี้ของฉัน!




แอ๊ด...

“จอมไม่อยากเห็นหน้าพี่ราม” พอคนบนเตียงเห็นหน้าคนที่เปิดประตูเข้าไปก็พูดขึ้นมาทันทีโดยที่รามินทร์ยังไม่ทันเอ่ยอะไรออกมา

“เจ้าจอมครับ...พี่รามขอโทษนะครับ พี่สำนึกผิดแล้ว” รามินทร์เดินเข้าไปหาน้องนายบนเตียงด้วยสีหน้าที่สำนึกผิดแล้วจริงๆ

“พี่รามขอโทษถูกคนแล้วหรือฮะ” น้องชายถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“อย่าโกรธพี่เลยเจ้าจอม...”

“จอมถาม...ตอบมาก่อน” รามินทร์วางสีหน้าไม่ถูก

“พี่ขอโทษพี่อินหรือยัง” เจ้าจอมถาม ส่วนคนที่ยืนฟังอยู่ห่างๆ ถึงกับขมวดคิ้วแน่น สงสัยว่ามันเกี่ยวอะไรกับอินทัช หรืออินทัชจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้สองพี่น้องทะเลาะกัน

“ขอโทษแล้วครับ”

“ถ้าอย่างนั้นจะปล่อยพี่อินกลับบ้านแล้วใช่ไหมครับ” เจ้าจอมถามอย่างตื่นเต้น แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อรามินทร์หน้านิ่งไม่ยอมตอบอะไรอีก

เป็นอันรู้ว่าพี่ชายเขาไม่คิดจะปล่อยตัวอินทัช

“พี่ราม!!”

“คุณจอมอย่าขึ้นเสียงใส่พี่ชายสิครับ” จักรรีบเอ่ยปรามเพราะไม่ค่อยจะชอบใจเท่าไหร่ที่เห็นอายุน้อยกว่าขึ้นเสียงใส่คนอายุมากกว่า

เจ้าจอมเม้มปากแน่นเมื่อเห็นว่าใบหน้าของจักรติดจะดุๆ ออกมาไม่รู้ตัว

“ช่างจอมเถอะไอ้จักร”

“แต่...”

“ฉันสมควรจะโดนแล้วล่ะ” รามินทร์พูดออกมาเสียงเบา

“ใช่!! พี่รามโดนแค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ ถ้าไม่คิดจะทำให้ทุกอย่างมันถูกต้อง พี่ก็ไม่ควรจะมาให้จอมเห็นหน้า” เจ้าจอมพูดไปตามแรงอารมณ์ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้ออกมาจากใจเลยสักนิด

เจ้าจอมเสียใจที่ต้องพูดแบบนี้...แต่ที่พี่ทำอยู่เจ้าจอมก็ไม่อยากจะสนับสนุน

“พี่ขอโทษ”

“ถ้าวันนั้น ฮึก จอมอยู่ดูแลพี่จนพี่เข้านอน...พี่อินก็คงไม่...ฮือ จอมไม่กล้าไปเจอหน้าพี่อินแล้ว ไม่กล้าไปเจอ” นอกจากที่จะต่อว่าพี่ชายเป็นคนผิด เจ้าจอมก็โทษตัวเองด้วย

นั่นทำให้รามินทร์รีบคว้าร่างเล็กของเจ้าจอมมากอดเอาไว้ สีหน้าของเขาเจ็บปวดมาก ร่างสั่นเทาของน้องชายทำเอาหัวอกของคนเป็นพี่สะเทือน

“พี่ขอโทษ ขอโทษนะครับ”

“ฮือ...ออกไปเลยคนใจร้าย จอมไม่อยากเห็นหน้าพี่ราม ออกไปเลย ฮือ” ร่างเล็กดันอกพี่ชายออก แล้วไล่รามินทร์ออกไปทั้งน้ำตา

“วันนี้จอมก็อยากจะพักแล้ว งั้นพี่ขอตัวกลับก่อน ฝากดูแลเจ้าจอมด้วยนะไอ้จักร” รามินทร์พูดบอกน้องชายด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวด ก็จะหันไปพูดกับจักรจนคนรักฝากถึงกับรับด้วยเสียงแข็งขัน

“ครับ”

“ขอบใจมาก” ร่างสูงเดินหันหลังกลับไป

แต่เสียงของเจ้าจอมก็หยุดชะงักตัวเขาได้นิดหนึ่ง ก่อนที่เท้าแกร่งจะก้าวไปอย่างไม่คิดจะหันหลังกลับ

“ห้ามทำร้ายพี่อินอีกเด็ดขาด!!!”


“คุณจอม อย่าทำหน้าเศร้าสิครับ” จักรที่เห็นว่าเจ้าจอมยังคงนั่งหน้าเศร้าๆ มองไปยังหน้าต่างด้วยความเหม่อลอยก็เป็นกังวล

“ฉันไม่เป็นอะไร”

“อย่าโกหกสิครับ ถึงไอ้จักรจะโง่ แต่ก็ดูคุณออกว่ากำลังรู้สึกยังไง”

“เปล่า...ฉันไม่ได้ว่านายโง่”

“ครับ...”

“นี่...คืนนี้...นอนเป็นเพื่อนฉันอีกคืนนะ” ร่างเล็กที่นั่งอยู่บนเตียงหันมาขอร้องร่างสูงด้วยสีหน้าที่ดูออดอ้อนจนจักรทำตัวไม่ถูก

“ไม่ได้เหรอ งั้นก็ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวให้คนอื่นมานอนแทน”

“ได้ครับ! ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณจอมเอง”

จักรรีบตอบเพราะกลัวว่าคนที่เจ้าจอมจะให้มานอนเป็นเพื่อนจะเป็นผู้ชายคนอื่น เขาไม่ไว้ใจอะไรทั้งนั้นจนกว่าหัวใจของเจ้าจอมจะเป็นของเขา...

เจ้าจอมยิ้มได้เป็นครั้งแรกของวัน ทำเอาจักรถึงกับชื้นใจขึ้นมาหน่อย

“ขอบใจนะ”

“งั้นคุณจอมพักไปนะครับ เดี๋ยวผมจะขอไปทำงานก่อน”

“ไปที่ไหน?”

“ก็นัดกับไอ้ขรรค์ไว้ที่สวนหลังที่พักคนงานน่ะครับ จะไปคุยเรื่องรูปแบบจัดส่วยให้ทางโรงพยาบาล” จักรตอบไปทั้งสีหน้างงงวยว่าเจ้าจอมจะถามทำไม

“งั้นฉันไปด้วย”

“ห๊ะ! คุณจอมนอนพักอยู่ที่บ้านนี่แหละครับ”

“ไม่เอา น่าเบื่อ จะไปด้วย”

“เอ่อ...”

“เดี๋ยวฉันจะไปอาบน้ำก่อน รอแป๊บนะ” เจ้าจอมก้าวลงจากเตียงแล้วเดินไปหยิบเสื้อผ้าแล้วก็ผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป ส่วนจักรที่ร่างเล็กบอให้รอก็ไปพับผ้าห่มแล้วจัดเตียงให้กับเจ้าจอม

จนกระทั่งผ่านไปสิบห้านาทีกว่าๆ เจ้าจอมก็ออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่พร้อมจะออกไปข้างนอก คนเจ้าสำอางอย่างเจ้าจอมต้องทาครีมกันแดดทาแป้งอ่อนๆ ก่อนถึงจะออกข้างนอกได้

“พร้อมแล้ว ป่ะ!”

“ครับ” จักรยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเดินนำร่างเล็กออกไป ร่างสูงทำหน้าที่ล็อกประตูบ้านให้เจ้าจอม แล้วทั้งสองคนก็เดินเคียงข้างกันไปยังสถานที่ที่นัดกับขรรค์เอาไว้

เมื่อไปถึงก็พบว่าขรรค์นั่งรออยู่ก่อนแล้วใต้ต้นไม้ใหญ่ที่แสนร่มรื่น จริงๆ แล้วเจ้าจอมไม่เคยมาที่นี่หรอกเพราะมันเป็นเขตที่พักของคนงาน เจ้านายแบบเจ้าจอมเลยไม่เคยเหยียบมา

“สวัสดีครับคุณจอม หายดีแล้วหรือครับ” ขรรค์ทักทายนิ่งๆ ตามฉบับของตัวเอง

“สวัสดีพี่ขรรค์ จอมดีขึ้นแล้วล่ะ อยากจะมาสูดอากาศเฉยๆ”

“งั้นก็ตามสบายนะครับ อาจจะน่าเบื่อที่ต้องมองพวกเราทำงาน” ขรรค์ว่า เรียกเสียงหัวเราะของเจ้าจอมได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

“ฮ่าๆ ไม่เบื่อหรอกฮะ นอนอยู่แต่กับที่นั่นแหละน่าเบื่อกว่า”

“ผมก็คิดว่างั้น”

“อ่ะแฮ่ม...ทำงานได้แล้วมั้งไอ้ขรรค์”

ใช่ว่าขรรค์จะไม่รู้ว่าจักรจะขัดเขาทำไม ถ้าไม่ใช่เพราะอิจฉาที่เขากับเจ้าจอมดูสนิทเกินเจ้านายกับลูกน้อง ที่จริงแล้วเจ้าจอมก็เห็นเขาเป็นพี่คนหนึ่ง แต่ขรรค์เจียมตัวเองเพราะเป็นลูกน้องเลยไม่ยอมเรียกเจ้าจอมอย่างเป็นกันเองตามที่เจ้าตัวต้องการ

“อะไรติดคอเหรอ?” เจ้าจอมถามยิ้มๆ

“ก็...น้ำลายน่ะครับ น้ำลายมันติดคอ” จักรตอบไปแบบไม่มองหน้าเพราะชักจะอายๆ

จะให้พูดได้ยังไงว่าไอ้จักรคนนี้อิจฉาน่ะหา!!

ร่างสูงไปนั่งตรงข้ามกับขรรค์ บนโต๊ะมีกระดาษกับแท็บเล็ตวางไว้ ร่างเล็กกว่านั่งลงข้างๆ กับจักรโดยที่ไม่พูดอะไรอีก นั่งมองทั้งสองคนงานไปอย่างเงียบๆ อย่างสนใจ

ยอมรับว่าพอเห็นมุมนี้ของจักรมันทำให้เจ้าจอมรู้สึกว่าจักรหล่อและเท่ขึ้นมาก บวกกับหนวดเคราที่เริ่มขึ้นแล้วเขาก็บังคับไม่ให้โกนมันออกอีก แต่ไว้พอดีไม่รกรุงรังเหมือนแต่ก่อน

ไม่รู้สิ แค่คิดว่าหนวดกับเครามันเข้ากับจักรดี...


“คุณจอมหิวไหมครับ”

“หืม...นี่กี่โมงแล้ว” เจ้าจอมถามคนที่นั่งข้างๆ ซึ่งเป็นคนถามคำถามนั้น

“ก็เที่ยงกว่าๆ แล้วครับ”

“ป่านนี้แล้วหรือ...นั่งดูนายกับพี่ขรรค์ทำงานเพลินเลย สนุกดีนะงานแบบนี้” เจ้าจอมยิ้มออกมา

ลืมเรื่องเศร้า เสียใจ และทุกข์ใจเกี่ยวกับพี่ชายและอินทัชไปซะสนิทเลย นี่เป็นเหตุผลที่เจ้าจอมไม่อยากอยู่คนเดียว เพราะมันทำให้ฟุ้งซ่านนี่แหละ

อยู่กับจักรมันทำให้เขาไม่คิดอะไรมาก

“ครับ...พวกเราก็ทำงานเพลินเลย ลืมไปว่าคุณจอมคงจะหิว” จักรว่าอย่าสำนึกผิด

“ที่จริงก็ไม่หิวหรอก แต่พอพูดขึ้นมาก็เริ่มหิวละ”

“งั้นไปกินข้าวกันก่อนเถอะครับ เดี๋ยวฉันจะไปในเมืองต่อ พรุ่งนี้ค่อยมาคุยกันอีกทีก็แล้วกัน วันนี้พอก่อน” ขรรค์บอกเพราะตัวเองมีธุระแล้วก็งานของรีสอร์ทที่ต้องไปดูในฐานะหัวหน้าคนงาน

“เออๆ ตามนี้ก็ได้ กูก็โอเคแล้ว เหลือแค่เลือกแบบ”

“อืม...งั้นผมขอตัวก่อนนะครับคุณจอม” ร่างสูงใหญ่ของขันหันมาลาเจ้าจอม ซึ่งคนที่อายุน้อยกว่าได้แต่ส่งยิ้มกว้างออกไปให้

“แล้วเจอกันฮะ”

พอขรรค์เก็บข้าวของของตัวเองเสร็จก็เดินจากตรงนี้ไปทันที ส่วนจักรเองก็มาแต่ตัวกลับก็กลับแต่ตัวเพราะของทุกๆ อย่างให้ขรรค์เป็นคนเก็บ ส่วนพวกรายละเอียดเขาถ่ายไว้ในแท็บเล็ตเรียบร้อย ทำงานตอนไหนก็ได้

“คุณจอมไปกินข้าวเถอะครับ”

“แล้วนายล่ะ?”

“ผมจะไปกินที่โรงครัว”

“ฉันจะไปด้วย”

“ห๊ะ!! แต่นั่นมันเป็นที่คนงานนะครับ” จักรอุทานอย่างตกใจ

“ทำไม? ฉันไปไม่ได้หรือไง” ถามอย่างเอาเรื่อง

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ แต่มันร้อน ผมไม่อยากให้คุณจอมไปนั่งที่ร้อนๆ อับๆ นั่งกินในห้องอาหารนั่นแหละดีแล้วครับ แอร์เย็นๆ อาหารดีๆ”

“งั้นนายก็มานั่งกินกับฉัน” ร่างเล็กสั่ง

“ไม่เหมาะอย่างยิ่งเลยครับ”

“เพราะ?”

“ผมก็แค่คนงานคนหนึ่งเหมือนกันจะให้เพื่อนร่วมงานมาเสิร์ฟอาหารให้ได้ยังไง” จักรพูดเหตุผลของตัวเองออกไป ซึ่งเจ้าจอมก็พยักหน้าเข้าใจ

คนที่เกรงอกเกรงใจคนอื่น จิตใจดีไม่เข้ากับหน้าโหดๆ ดุๆ ของจักรทำให้เจ้าจอมยิ้ม

“งั้นฉันจะสั่งอาหารกับนายแล้วนายก็เอามาเสิร์ฟให้ฉัน แล้วก็เก็บจานด้วย แบบก็โอเคใช่ไหม”

“แต่มันก็ไม่เหมาะอยู่ดี”

“จะเอาไหมโอกาส ถ้าอยากทำคะแนนก็ห้ามขัด” เจ้าจอมถามเสียงเรียบ กอดอกอย่างเป็นต่อ นั่นทำให้ร่างสูงมีสีหน้าที่กลืนไม่ได้คายไม่ออก

“คุณจอม...”

“คนงานคนอื่นเขากินข้าวที่โรงครัวกันหมด ผมจะสบายคนเดียวได้ยังไง”

“งั้นฉันสั่งในฐานะเจ้านาย แค่นี้ก็ได้แล้วใช่ไหม ตามมา! อย่าเรื่องมาก” เจ้าจอมตัดบทด้วยความโมโห เดินนำคนตัวสูงไปยังห้องอาหารของรีสอร์ท

ส่วนจักรก็เดินตามอย่างหงอๆ เพราะใบหน้าน่ารักของเจ้าจอมมีแต่ความไม่พอใจ


“รับอะไรดีครับคุณจอม”

“ไม่ต้อง เดี๋ยวให้จักรทำ” เจ้าจอมปฏิเสธพนักงานบริการไป

“เอ่อ ครับ” เจ้าจอมหันมาสนใจเมนูทันทีที่พนักงานคนนั้นเลี่ยงออกไปโดยที่จักรยืนทำหน้านิ่งอยู่ข้างๆ จนร่างบางโมโห

นี่ถ้าไม่ใช้สิทธิ์ความเป็นเจ้านาย จักรก็คงไม่คิดจะทำตามสินะ

“ข้าวคลุกกะปิ”

“ครับ”

“เดี๋ยว” ร่างบางเรียกเอาไว้ก่อนเมื่อร่างสูงทำท่าจะเดินไป

“สองจาน ถ้าเอามาไม่ครบ คงรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น” เจ้าจอมถาม ซึ่งจักรก็ทำหน้าอึดอัดแต่ก็พยักหน้ารับไปอย่างช่วยไม่ได้

“ครับ รอสักครู่นะครับ” จักรเดินหายเข้าไปข้างหลังซึ่งเป็นครัว เจ้าจอมถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายใจก่อนจะลุกขึ้นยืน

“เดี๋ยวฉันกลับมา” หันไปบอกพนักงานที่ยืนอยู่แถวนั้น ซึ่งอีกฝ่ายก็โค้งรับน้อยๆ

สองเท้าก้าวตามร่างสูงไปเนื่องจากคิดได้ว่าหญิงสาวที่เคยทำอาหารไปให้จักรก็ทำงานอยู่ในครัวเหมือนกัน ถ้าไม่แสดงตัวอย่างชัดเจน...ก็คงไม่ได้


“ป้ารี!!”

“เอ้ย! ตกใจหมดเลยไอ้จักร ทีหลังอย่ามาแบบนี้นะ ฉันใจคอไม่ดี” ร่างผอมของคนที่อายุมากกว่าสะดุ้งเมื่อร่างสูงเดินไปยืนอยู่ข้างหลังแล้วตะโกนเรียกหัวหน้าแม่ครัวเสียงดัง

“ฮ่าๆ แก่แล้วก็แบบนี้”

“เออๆ รู้ตัวย่ะ ว่าแต่มีอะไร ไม่ไปกินข้าว กับข้าวเสร็จแล้ว วันนี้เป้นแกงจืดกับน้ำพริกนะ”

“สงสัยไม่ได้กินน่ะป้า” จักรตอบ

“อ้าว? ทำไมอ่ะ”

“คุณจอมให้ไปกินข้าวด้วย เออ...เอาข้าวคลุกกะปิสองจานนะป้า จะรอเอาเลยของคุณจอมกับของผมเอง” จักรพูดบอกป้ารี ซึ่งเธอก็มีแววแปลกใจนิดๆ

“ทำไมถึงได้ไปกินข้าวกับคุณจอม”

“ก็คำสั่งอ่ะป้า”

“เออๆ ไม่ถามก็ได้วะ นั่งรอไปก่อนไป” ป้ารีไล่คนตัวใหญ่ออกไป ซึ่งจักรก็เอ่ยขอบคุณเบาๆ แล้วเดินออกไปยังประตูหลังของครัวซึ่งจะเจอกับโรงอาหารที่คนงานเอาไว้มานั่งรับประทานอาหารกัน หญิงสาวที่ตักกับข้าวให้กับคนงานหันมาเจอก็เดินมาหาร่างสูงทันที

“พี่จักร”

“แก้ว...”

เธอคือผู้หญิงคนเดียวกันที่ทำอาหารไปให้จักรในวันที่เจ้าจอมดุเธอ

“มาจ้ะ ฉันตักกับข้าวให้...วันนี้มีของอร่อยทั้งนั้นเลยนะ”

“คือ...พี่ไม่ได้มากินข้าวหรอก” ร่างสูงตอบ

“อ้าว? ทำไมจ้ะ” หญิงสาวถามด้วยความสงสัย

“พอดีพี่ต้องรีบไปน่ะ” จักรตอบ โดยเลี่ยงที่จะพูดออกไปตรงๆ ว่าตัวเองต้องไปทานข้าวกับเจ้าจอม ซึ่งคำตอบนี้ทำเอาคนที่ยืนอยู่ข้างหลังถึงกับแสดงสีหน้าไม่พอใจ

“ไปไหนจ้ะ ทำงานหรือ เห็นมีคนบอกว่าพี่จักรกับพี่ขรรค์กำลังทำงานใหญ่อยู่ คงเหนื่อยแย่” แก้วเอ่ยอย่างยิ้มๆ ไม่ได้สังเกตเห็นว่าเจ้าจอมยืนอยู่ด้านหลังของจักรเพราะตัวของจักรใหญ่เลยบังร่างที่บอบบางของเจ้าจอมได้มิดเลย

“อือ...ก็ไม่เท่าไหร่หรอก” ร่างสูงตอบน้อยๆ ไม่ได้ยิ้มหรืออะไรที่ทำให้แก้วมีความหวัง

เพราะจักรเชื่อที่อินทัชพูดทุกอย่าง ถ้าอินทัชบอกว่าแก้วชอบเขา เขาก็ควรที่จะไม่ยุ่งกับหญิงสาวมากนัก

“ถ้ามีอะไรให้ฉันช่วย บอกฉันได้นะ ฉันยินดี”






50%

 :mew2: :mew2: :mew2:

   บอกไว้ก่อนว่าแก้วไม่ได้มาเล่นๆ แล้วจอมก็ไม่ใช่ง่ายๆ นะคะ ^_^ อ่านแล้วเม้นท์ติชมกันได้ค่ะ ยูกิจะได้นำไปปรับปรุง และขออภัยสำหรับคำผิดเนื่องจากแต่งเสร็จก็ไม่ได้พิสูจน์อักษรก่อนลงน่ะค่ะ เพราะเพื่อนยูกิเป็นคนพิสูจน์อักษรให้น่ะค่ะ

   ติดตามข้อมูลการอัพนิยาย พูดคุย หรือทวงนิยายได้ที่แฟนเพจจ้า

   https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
น้องจอมจะแสดงอิทธิฤทธิ์แล้ววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
เจ้าจอม..แสดงควสมเป็นเจ้าของด่วน... :laugh:

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
ใช่ค่ะน้องจอม ใส่เลยลูก
จะไปยอมชะนีไม่ได้!

ออฟไลน์ K3n0

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ตามอ่านมาตั้งแต่เช้า.. ตื่นเต้นมากๆ
มาต่อไวไวนะครับ

ออฟไลน์ Konta45

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตามมาอ่านจนทันแล้วค่ะ แฮ่  :katai5:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
บอกเลย สงสารอินมาก เมื่อไหร่ธีร์จะหาเจอนะ
แล้วรามคิดได้แล้ว แต่ยังไม่แก้ไข ก็สมควรที่จะโดนน้องกับคนอื่นโกรธอะนะ

เจ้าจอมร้ายนะมีเดินตาม 5555 จักรก็บื้อ คนทั้งคนมองไม่เห็นสมควรแล้วที่ไม่รู้เรื่อง
เงินได้ใจไปเลยค่ะ สู้โลด


ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
ตอนที่ 19 ครึ่งหลัง





“ไม่มีหรอก งานพี่เป็นงานผู้ชาย เอ็งทำไม่ได้หรอก”

“ก็เอางานที่ผู้หญิงอย่าฉันทำได้มาสิจ้ะ ทำกับข้าวให้พี่ทุกเช้า เที่ยง เย็นก็ได้นะ ฉันยินดี” แก้วเอ่ยแบบทอดสะพานสุดๆ ไปให้ ซึ่งจักรก้มองว่าเป็นเรื่องที่หวังดีของผู้หญิงคนหนึ่ง

“ไม่ต้องลำบากเอ็งเลยแก้ว พี่หากินเองได้”

“ไม่เลย งานถนัดฉันเลย ฉันเต็มใจ”

“แต่พี่ว่ามันไม่เหมาะหรอก ขอบใจที่หวังดีนะแก้ว แต่ว่าพี่รับไม่ได้หรอก” เธอหน้าเสียไปเมื่อโดนปฏิเสธไปตรงๆ แบบนี้

ก็จักรเป็นซะแบบนี้ พูดอะไรก็พูดตรงๆ ไม่เคยรู้หรอกว่าอะไรมันทำร้ายจิตใจใครหรือเปล่า เพียงแต่สิ่งที่ตัวเองอยากจะพูดเขาก็จะพูด

ยอมรับไม่ได้ว่าแอบสะใจ...เจ้าจอมคิด

“เพราะคุณจอม...ใช่ไหมจ้ะ”

จักรนิ่ง ตัวแข็งทื่อ เพราะไม่คิดว่าจะมีคนรู้ นอกจากอินทัช ขรรค์ หมอเงิน และรามินทร์แล้ว ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดยังไงกับเจ้าจอม

สงสัยเพราะวันที่คุยกับอินทัชวันนั้นแน่ๆ

“ใช่!! เพราะฉันเอง ทำไม” เจ้าจอมแสดงตัวจากด้านหลังของจักรด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย แต่ดวงตามองหญิงสาวอย่างเหนือชั้นกว่า ทำเอาแก้วก้มหน้า แต่ไม่มีใครรู้ว่าขณะที่ก้มหน้าเธอทำหน้าแบบไหนอยู่

“คุณจอม...” จักรครางชื่อคนที่ตนรักเบาๆ

“เลิกเอาเวลาทำงานมา ‘อ่อย’ ผู้ชายได้แล้วล่ะมั้ง” ผู้ชายปากจัดหรือเปล่า อันนี้เจ้าจอมไม่รู้ แต่รู้ว่าผู้หญิงอย่างแก้วเรียบร้อยแค่ภายนอกเท่านั้น

“ข่ะ ขอโทษค่ะ” เธอเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยเสียงสั่นๆ ตัวสั่นๆ ด้วยความกลัว

“ขอโทษแล้วก็ไปทำงาน...ที่นี่คือที่ทำงาน ถ้าเวลาพักก็ควรที่จะพัก อย่าเอาเวลามาทำเรื่องไร้สาระ” เจ้าจอมเอ่ยตำหนิขึ้นมา

“เอ่อ...ค่ะ คุณจอม”

“ส่วนนาย เข้าไปในครัว...เอาข้าวไปวางที่โต๊ะแล้วนั่งรอซะ!” เจ้าจอมหันไปสั่งคนตัวสูง

“ครับ...” จักรรับคำสั่งแต่โดยดีโดยไม่คิดจะมองหรือสนใจอะไรแก้วอีก เนื่องจากกลัวคนน่ารักของเขาโกรธเอาเหมือนกับวันนั้น

แบบนั้นไอ้จักรทรมานแน่ๆ

“คิดว่าจักรเขาจะจะช่วยอีกหรือไง รู้ไว้ซะว่าหมอนั่นกลัวฉันโกรธยิ่งกว่าต้องมากลัวใครถูกตำหนิหรอก อยากอยู่ที่นี่ไปนานๆ ก็ทำตัวให้ดีๆ หน่อยนะแก้ว” เจ้าจอมพูดออกมาเสียงเบา ได้ยินกันแค่สองคน ซึ่งเธอก็ตัวสั่น โค้งขอโทษหลายครั้งจนเจ้าจอมรำคาญ

“ขอโทษค่ะ แก้วขอโทษจริงๆ อย่าไล่แก้วออกเลยนะคะ แก้วไม่มีที่ไปแล้ว ฮือ...” เธอร้องไห้ออกมาเสียงดัง เรียกสายตาจากคนงานแถวนั้นได้เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาหา มายุ่ง เพราะเจ้าจอมเป็นคนงาน

“ใครพูดว่าจะไล่เธอออก?”

“คุณจอม...ฮือ...แก้วจะไม่ทำแล้วค่ะ แก้วผิดไปแล้ว แก้วขอโทษ!!!”

นี่...จงใจทำให้เขาดูไม่ดีในสายตาคนอื่นใช่ไหม?

คิดจะเล่นกับเจ้าจอมคนนี้หรืออย่างไร!!

ไม่อยากทำงานที่นี่แล้วงั้นหรือ…

“เอาสิแก้ว...ทำไปเลย ถ้าคิดว่าจะเล่นงานฉันคนนี้ได้” เจ้าจอมกระซิบเสียงโหด ซึ่งแก้วก็เงยมองหน้าสบตาอย่างท้าทายโดยที่ไม่มีใครเห็น

นั่นมันทำให้เจ้าจอมยิ้มออกมาอย่างชอบใจ...

เรื่องชักสนุกแล้วสิ...

“พี่จักรเขาชอบคนเรียบร้อยนะคะ”

“แต่เขารักฉัน” เจ้าจอมตอบกลับในทันทีทำเอาแก้วสะอึก “ฉันไม่ใช่คนที่จะดูถูกใครหรอกนะ แต่ฉันน่ะชนะใสๆ เลยแก้ว ทั้งฐานะ หน้าตา และลีลา!!”

“ก่ะ...” เธอแทบจะหลุดกรี๊ดออกมา โชคดีที่ระงับเอาไว้ก่อน

“เฮ้อ...พี่รามเลี้ยงงูพิษเอาไว้เหรอเนี่ย อ้อ! นอกจากจักรจะรักฉัน ฉันยังเป็นน้องชายที่พี่รามรักมากด้วย ไม่เคยเลยสักครั้งที่ไม่ตามใจฉันมาก่อน”

“ไม่มีฝีมือจะสู้เองเหรอคะ” แก้วท้าทาย ทำเอาร่างบางแสยะยิ้มร้ายกาจไปให้ นั่นทำให้แก้วรู้สึกขนลุก...

“อยากโดนฉันจัดการเองก็บอกมา...เพราะคนนี้...ฉันสู้ขาดใจ จักรน่ะ เป็นของฉัน รู้เอาไว้ซะด้วย” เจ้าจอมพูดจบก็สะบัดหน้าหันกลับไป ร่างหญิงสายืนตัวสั่น คราวนี้ไม่ได้สั่นเพราะกลัว แต่สั่นเพราะโกรธ หากแต่คนงานด้วยกันเองกลับคิดไปในอย่างแรกแล้วก็พากันมาปลอบใจแก้วกันใหญ่ ซึ่งแก้วก็เล่าเรื่องเท็จออกไปเพื่อให้เจ้าจอมถูกพนักงานมองไม่ดีแล้วก็นินทาไปในทางที่เสียๆ

แต่คนงานธรรมดาๆ อย่างแก้ว จะสู้อะไรคนที่มีทุกอย่างอย่างเจ้าจอมได้

คิดผิดแล้วล่ะที่เป็นกบฏต่อเจ้านายตัวเอง...


“ทำไมไม่นั่งรอ”

“ผมรอคุณจอม”

“รอฉันก็นั่งรอได้ ทำไมต้องยืน” เจ้าจอมนั่งลงตรงที่เดิมจนร่างสูงต้องนั่งลงตามอย่างช่วยไม่ได้

“ผมอยากยืนรอ...ว่าแต่”

“ว่าแต่อะไร?” เจ้าจอมถาม เลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย

“คุณจอม...คุยอะไรกับแก้วหรือครับ”

“ผู้หญิงคนนั้นน่ะหรือ หึ! ถามทำไม เป็นห่วงงั้นสิ” เจ้าจอมประชดไม่พอใจ จนจักรรีบส่ายหน้าปฏิเสธ

“ไม่ใช่นะครับ ผมไม่ได้เป็นห่วงแก้ว”

“งั้นถามทำไม”

“ก็แค่อยากรู้” จักรตอบเบาๆ

ร่างเล็กถอนหายใจออกมาเบาๆ

“ฉันไม่อยากจะพูดหรอกนะ พูดไปนายก็ไม่เชื่อหรอก เอาเป็นว่าฉันแค่ตำหนิการทำงานนิดหน่อยล่ะมั้งแล้วก็มาเลย”

“แต่คุณจอมคุยนานมากเลยนะครับ แล้วผมจะไม่เชื่ออะไร ไม่ว่าคุณจอมจะพูดอะไร ไอ้จักรเชื่อทั้งนั้นแหละครับ”

ดี...เจ้าจอมหัวเราะในใจอย่างผู้ชนะ

คนที่เขาแคร์น่ะไม่ใช่ทุกคน แต่เจ้าจอมแคร์เฉพาะบางคนเท่านั้น...

“นายรู้ใช่ไหมว่าแก้วชอบนาย” พอเจ้าจอมถามออกมาตรงๆ แบบนี้ จักรก็ถึงกับสะอึกเพราะไม่คิดว่าเจ้าจอมจะรู้ กลัวโดนเข้าใจผิดอีกจริงๆ

“เอ่อ...พอรู้ครับ”

“รู้ไหมว่าแก้วอยากได้นายไปเป็นผัว!”

“เอ่อ...”

บางทีเจ้าจอมก็ตรงเกินไปจนจักรตอบไม่ถูก

“ไม่รู้ครับ”

“งั้นนายรู้ไหมว่าแก้วไม่ได้เรียบร้อยแสนดีอย่างที่นายคิด”

พอถึงประโยคนี้จักรถึงกับลังเล เพราะในสายตาเขาแก้วก็เป็นน้องสาวที่น่ารักเรียบร้อยๆ คนหนึ่งของเขา มันเลยยากที่จะตอบออกไป

“นายไม่เชื่อฉัน...เห็นไหมล่ะ เอาเถอะ ฉันไม่พูดหรอก เดี๋ยวจะกลายเป็นการใส่ร้ายแก้วที่แสนดีของนาย”

“แก้วไม่ใช่ของผม...ผมไม่ได้คิดอะไรกับแก้ว”

“แต่เธอบอกฉันว่านายต้องเป็นของเธอ เพราะเธอมีดีกว่า เรียบร้อยกว่าฉัน ทำอาหารเก่ง ทำงานบ้านเป็น มีลูกให้นายได้”

ใครว่าเจ้าจอมใส่สีตีไข่ไม่เป็น เจ้าจอมน่ะเป็นตัวร้าย...ขนานแท้เลยนะจะบอกให้

จักรไม่คิดว่าแก้วจะพูดแบบนี้ออกมาได้ แต่เจ้าจอมก็ไม่ใช่คนที่โกหกเหมือนกัน และเขาก็พร้อมที่จะเชื่อคนตรงหน้าเสมอ ไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นมายังไงก็ตาม

“ผมรักคุณจอม...”

“อืม...ฉันรู้ แต่ฉันก็คิดแบบเดียวกับแก้วนะ ถ้าหากวันใดวันหนึ่งที่ฉันรักนาย แต่มีลูกไม่ได้แบบนี้ นายอาจจะทิ้งฉันไปอยู่ดีก็ได้” เจ้าจอมตีหน้าเศร้า ทำเอาจักรถึงกับลนลานทำอะไรไม่ถูก

นึกโกรธแก้วที่พูดอะไรแบบนั้นออกมา

“โธ่! คุณจอม...ผมจริงจังมากนะครับ ผมเสียอีกที่ไม่มีอะไรดีพอสำหรับคุณจอมเลย”

ถ้าวันนั้นคุณจอมเลือกเขา...เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะพร้อมดูแลไหม แต่เขาอยากจะสู้...

“กินข้าวเถอะ แล้วค่อยคุยกัน ฉันหิว”

เจ้าจอมตัดบทด้วยสีหน้านิ่งๆ ที่แสร้งทำเป็นกำลังคิดมาก แสดงละครเก่งจนจักรเชื่อและตลอดกับรับประทานอาหารก็กระสับกระส่ายมองหน้าเจ้าจอมตลอด

พอทานข้าวเสร็จเจ้าจอมก็เดินหนีร่างสูงไปตามส่วนของสวน ซึ่งจักรมีจักรเดินตามอยู่ไม่ห่าง นั่งๆ เดินๆ จนกระทั่งตกเย็น เจ้าจอมก็เดินกลับบ้าน โดยที่หันไปสั่งให้จักรกลับไปเอาเสื้อผ้ามา

“ไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านนายมา”

“ครับ”

“นายมีกุญแจอยู่ใช่ไหม ไขเข้ามานะ” เจ้าจอมบอกก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านแล้วกดล็อกประตูจากข้างใน ส่วนร่างสูงก็เดินกลับบ้านพักของตนที่อยู่ห่างออกไป

ระหว่างทางก็มีเพื่อนๆ พี่ๆ คนงานด้วยกันทักทายตามประสาคนรู้จัก เขาเลยต้องหยุดคุยด้วย

“ไอ้จักรๆ เอ้า! ดื่มเว้ย สักแก้วสองแก้ว”

“ไม่ได้ๆ กูต้องไปนอนเป็นเพื่อนคุณจอม เดี๋ยวคุณจอมเหม็น” จักรปฏิเสธ

“เหยๆ เดี๋ยวนี้มีพัฒนานะมึง ไปถึงไหนกันแล้ววะ ได้กันยัง”

โป้ก!

“ไอ้สัตว์!! ได้เหี้ยอะไรล่ะ กูแค่ได้รับโอกาสเว้ย ดูพูดถึงเจ้านายสิ!” จักรด่าเพื่อน

“ฮ่าๆ กูล้อเล่น ขอให้สมหวังก็แล้วกัน แล้วทำไมต้องไปนอนเป็นเพื่อนคุณจอม”

“คุณจอมไม่สบายเลยให้กูไปนอนเป็นเพื่อน” จักรตอบนิ่งๆ พลางมองเพื่อนๆ กำลังนั่งดื่มเหล้าด้วยความอิจฉา เพราะอยากจะดื่มเหมือนกัน

แต่กลัวว่าเจ้าจอมจะไม่ชอบกลิ่น

“อ๋อ...เอ้อ! กูได้ยินคนเขาคุยกันมา ว่าคุณจอมต่อว่านังแก้วจนถึงขั้นจะไล่ออกเลยหรือวะ! แต่คุณจอมก็ไม่น่าทำแบบนั้นนา เวลานั้นก็เวลาพักด้วย แก้วมันก็ต้องพักเปล่าวะ” เพื่อนของจักรถามขึ้นมาทำเอาร่างสูงถึงกับขมวดคิ้วแน่น

“รู้มาจากไหน?”

“ก็เขาเล่าๆ กันมาว่านังแก้วมันร้องไห้หนักมากเพราะกลัวจะไล่ออก บอกอีกนะว่าคุณจอมขู่มันด้วย”

“ขู่? ขู่ว่าอะไรวะ”

“ไม่รู้ดิ นังแก้วไม่ได้เล่า เพราะกลัวว่าถ้าเล่าไปจะโดนไล่ออก” ชายคนนั้นว่าพลางยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม

จักรยืนนิ่งไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นมาเบาๆ ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไงแน่ชัด แต่เขาก็ไม่ยอมให้คนที่เขารักต้องถูกพูดถึงในทางไม่ดีแบบนี้

“คุณจอมบอกกูว่าแก้วไปพูดว่าคุณจอมในทางไม่ดี”

“เฮ้ย! นังแก้วมันเป็นลูกน้องนะเว้ย จะไปกล้าพูดว่าคุณจอมแบบนั้นได้ยังไงวะ”

สิ่งที่เพื่อนของจักรพูดมามันก็ถูก แก้วเป็นแค่ลูกน้อง และแสนขี้กลัวแบบนั้นจะกล้าต่อปากต่อคำกับเจ้านายได้ยังไง จักรเริ่มคิดหนัก

แต่คุณจอมจะใส่ร้ายแก้วเหรอ? ไม่มีทาง

“แล้วคุณจอมเขาจะโกหกทำไมวะ! คนเป็นเจ้านายนะเว้ย จะแกล้งลูกน้องทำไม ที่รู้จักกันมาคุณจอมเป็นคนแบบนั้นเหรอวะ” จักรเถียงกลับไป

“เออ!! มันก็จริงเว้ย...ไม่แน่ นังแก้วอาจจะผิดจริงๆ แต่ทำเป็นไม่ยอมพูดออกมาว่าไปทำอะไรหรือเปล่า เพราะไม่มีใครรู้เรื่องด้วย เห็นร้องไห้ก็เลยสงสาร”

“พูดแบบนี้แก้วมันก็เสียหายน่ะสิ”

“วะ!! ไอ้นี่ จะเอาไงแน่วะ”

“มึงไม่ควรจะพูดถึงคุณจอมและก็แก้วในทางที่ไม่ดี ก็แค่นั้น”

“เออๆ ไอ้คนดี! จะไปไหนก็ไป คุณจอมรอนานหรอกมึง”

“งั้นกูขอตัว”

ร่างสูงเดินออกจากวงเหล้าของเพื่อนแล้วเข้าไปเอาของใช้ของตัวเองในบ้านออกมาก่อนจะเดินไปยังบ้านพักของเจ้าจอม ในหัวก็คิดอะไรวุ่นวายเต็มไปหมด

แต่เรื่องนั้นมันก็ไม่สำคัญเท่ากับคืนนี้ต้องทรมานหรอก...


แกร๊ก!!

ร่างสูงไขประตูเข้าไปในบ้านแล้วก็ล็อกประตู ได้กลิ่นหอมๆ ของอาหารก็เอาของไปวางที่โต๊ะว่างๆ แล้วเดินไปที่ครัวตามที่ใจสั่ง เห็นร่างเล็กๆ ของเจ้าจอมกำลังสนใจอาหารหน้าตาโดยหันหลังให้เขาอยู่

ดวงตาคมจ้องมองด้วยความหลงใหล อยากจะเข้าไปโอบกอดข้างหลัง กอดรัด นัวเนียตามที่ใจต้องการ

ให้ตายสิ! เพราะมึงคิดอกุศลแบบนี้ไงถึงไม่ได้อยากอยู่ใกล้คุณจอมมาก

“ฮืม...” เจ้าจอมฮัมเพลงไปด้วยโดยไม่รู้สึกเลยว่าจักรกำลังยืนมองอยู่ด้วยสายตาที่แสดงชัดถึงความปรารถนาอย่างชัดเจน

สายตาคมดุมองด้านหลังของเจ้าจอมอย่างโลมเลียตั้งแต่ศีรษะ ลงมาที่หลังบาง เอวคอด แล้วก็หยุดที่สะโพกกลมงอนที่อยู่ในกางเกงขาสั้นโชว์เรียวขาอ่อน

รู้งี้กินมาสักสามสี่แก้วดีกว่า จะได้มีข้ออ้างถ้าเผลอลวนลามคุณจอมไป แม่งเสียดาย!

 เคร้ง!

“อ๊ะ!! ช้อนตก”

ไม่รู้ว่าเจ้าจอมเจตนาหรือว่ามันเป็นท่าของเจ้าตัวจริงๆ ถึงได้เก็บช้อนด้วยท่านั้น ในจังหวะที่ร่างเล็กโค้งตัวลงไปเพื่อจะเก็บช้อน สะโพกกลมก็งอนขึ้นต่อหน้าของจักรพอดิบพอดี เล่นทำเอาคนตัวสูงถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ตัวสั่นด้วยความรู้สึกต้องการที่พุ่งขึ้น

ไม่ไหวแล้ว!!!

จักรตัดสินใจ...เดินออกจากตรงนั้นแล้วไปนั่งรอเจ้าจอมดีๆ ที่โซฟาดีกว่า เพราะจะได้ระงับสติอารมณ์ด้วย ส่วนเจ้าจอมน่ะหรือ

“ฮ่าๆ ขึ้นง่ายจริงๆ”

ก็หัวเราะร่วนอยู่คนเดียวอย่างสะใจ






100%

 :ling2: :ling2: :ling2:

ไม่ต้องกังวลเรื่องแก้ว เพราะเจ้าจอมเอาอยู่แน่นอน

ติดตามข่าวสาร พูดคุย ทวงนิยายได้ที่แฟนเพจค่ะ https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
คุณจอมร้ายจัง ชอบๆๆ
ว่าแต่ชะนีแก้ว .. ต้องเห็นโรงศพถึงจะหลั่งน้ำตาใช่ไม๊
คุณติม จัดนางเลยจ่ะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
แบบนี้ต้องจัดเต็มให้นังแก้วมันรู้กันไปเลย!!!!
รอตอนต่อไปปปป

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ K3n0

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
รอต่อไปครับ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
เจ้าจอมเป็นคนช่างยั่วจริงๆ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
5555 จักรเจอของจริงเข้าแล้ว โดนแบบต้องยอมด้วยนะ แล้วเจอยั่วไป จักรแพ้ทางแรงมาก

เจ้าจอมจัดเต็มมากค่ะ แก้วร้ายนะ อย่าเนียนเป็นคนดีนะคะ เจ้าจอมไม่ยอมหรอก

อินทัชน่าสงสารมากเลย รามรู้ตัวแล้ว แต่ปล่อยอินไปเหอะ ทุกคนยังรู้เลยว่าอินเป็นคนยังไง

ธีร์เมื่อไหร่จะเจออินทัช

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 20
อีกบททดสอบ



หลังจากที่ขรรค์แยกกับจักรและเจ้าจอมก็ไปคุมงานของคนงานที่รามินทร์กำลังถมที่ทำสวนผลไม้ เพื่อสร้างให้ลูกค้าที่มาพักรีสอร์ทได้ชมวิวในหลายๆ แบบ แต่ก็อยู่ในขั้นของการเตรียมการ เสร็จแล้วร่างสูงก็เข้าไปในตัวเมืองเพื่อไปหาคนรักที่ได้นัดกันเอาไว้ว่าจะไปทานข้าวกัน

แต่ตอนนี้เที่ยงครึ่งกว่าๆ แล้ว คงไปไม่ทันแน่ๆ

(ว่าไงขรรค์ ถึงไหนแล้วอ่ะ)

“ขรรค์ไปไม่ทันแน่ๆ เลยเงิน เงินไปกินข้าวก่อนได้เลยนะ เดี๋ยวขรรค์จะตามไป”

(ให้เงินกินก่อนแล้วขรรค์จะมาทำไมเนี่ย)

“ก็...” ยังไม่ทันที่ขรรค์จะเอ่ยอะไรต่อ เสียงจากปลายสายก็ดังแทรกขึ้นมา แต่มันไม่ใช่เสียงคนรักของเขาเขาเลยต้องเงียบเพื่อฟัง

(หมอเงิน...ไปทานข้าวกับหวานไหมคะ หมอติดหวานเอาไว้อยู่นะ...เอ่อ...วันนี้ผมก็มีนัดแล้วสิครับ โอกาสหน้าจริงๆ นะครับ อ่า...ขรรค์ เดี๋ยวเงินไปรอที่ร้านหน้าโรงพยาบาลนะ เร็วๆ เลย) เสียงที่พูดกับเขาเป็นเสียงกระซิบก่อนจะวางสายไป

ขรรค์ที่ค่อนข้างกังวลกับเสียงผู้หญิงที่เข้ามาหาคนรักเขาอยู่ก็รีบเหยียบคันเร่งเพื่อไปยังจุดนัดพบให้เร็วที่สุด...

ไม่แปลกใจเลยไอ้ขรรค์ เงินจะมีผู้หญิงเข้ามาหาก็เป็นธรรมดาอยู่แล้ว คนที่เพียบพร้อมไปซะทุกอย่างแบบเงิน ผู้หญิงเขาก็ชอบกันทั้งนั้น...

ขรรค์กลัว...กลัวว่าตัวเองจะรู้สึกว่าไม่คู่ควรจนต้องทิ้งเงินไปอีก


“ขรรค์ ทำไมทำหน้าเครียดๆ” เงินที่นั่งทานข้าวตรงข้ามกับร่างสูงถามด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

“เปล่าหรอก...”

“อย่าโกหก คิดอะไรอยู่บอกเงินมาเลย”

“เงินรีบกินข้าวดีกว่านะ เดี๋ยวก็จะหมดเวลาพักแล้ว” ร่างโปร่งของหมอหนุ่มชักสีหน้าไม่พอใจที่คนรักเปลี่ยนเรื่อง หลบสายตา...

“ขรรค์”

“ไม่มีอะไรจริงๆ”

“ขรรค์โกหกเงิน ไหนสัญญาว่าจะไม่มีอะไรปิดบังกันไง” เงินถามด้วยสีหน้าที่ดูเสียใจ จนขรรค์เลิกลักทำตัวไม่ถูก

“เอ่อ...ขรรค์ขอโทษ ขรรค์แค่คิดงานเพลินๆ ไปน่ะ” เจ้าตัวตอบไม่สบสายตาคนตรงหน้าตัวเองด้วย

“ถ้าจะให้เงินเชื่อเงินก็เชื่อ ลืมไป...ว่าเงินคงสำคัญน้อยกว่าเมื่อก่อนแล้วสินะ” หมอหนุ่มตัดพ้ออย่างน้อยใจด้วยน้ำเสียงที่ติดสั่นๆ

จริงๆ หมอเงินเป็นคนเข้มแข็งนะ  แต่ถ้าอะไรที่มันเกี่ยวกับคนรักคนสำคัญ เขาจะกลายเป็นคนที่อ่อนไหวง่ายมากๆ เลยคนหนึ่ง

“ไม่จริงนะเงิน!! โอเคๆ เอาไว้ขรรค์จะบอกเงินนะ”

“เดี๋ยวนี้!”

“ไม่ได้ เงินมีตรวจคนไข้ต่อไม่ใช่หรือ”

“งั้นตอนเย็นก็ได้” ร่างโปร่งเอ่ยอย่างจำยอมเมื่อดูนาฬิกาที่ข้อมือพบว่าเวลามันไม่พอ

“ครับ”

“แต่เงินก็ขอโทษขรรค์ด้วยนะที่เร่งให้ขรรค์รีบมาน่ะ ทั้งๆ ที่เวลามันไม่ค่อยจะมี” หมอหนุ่มว่าอย่างรู้สึกผิด เพราะขรรค์ขับรถเร็วมากจนมาทันเขาได้อาหารที่สั่งพอดี

“ไม่หรอก รถมันไม่ติดน่ะ” ขรรค์ตอบไป

เมื่อทั้งสองทานอาหารกันเสร็จแล้ว ร่างสูงก็ขับรถพาคนรักไปส่งที่โรงพยาบาลแม้จะทานแค่หน้าโรงพยาบาลก็ตามที ร่างสูงเคาะนิ้วไปกับพวงมาลัยอย่างครุ่นคิด มองคนรักที่กำลังหยิบข้าวของที่ซื้อมาฝากเพื่อนร่วมงาน

“งั้นเงินไปแล้วนะ เจอกันเย็นนี้นะขรรค์” หมอหนุ่มพูดบอกยิ้มๆ

แต่ขรรค์กลับทำหน้านิ่งๆ เหมือนกับกำลังคิดวุ่นวายไปหมด

“ขรรค์!”

“หืม...” ร่างสูงสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อโดนเรียกเสียงดัง

ก็แค่เหม่อนิดเดียวเอง

“เหม่ออะไรน่ะ ขรรค์เป็นอะไรหรือเปล่า” หมอหนุ่มซึ่งเป็นคนรักมีสีหน้าที่ค่อนข้างกังวลเพราะหน้าของขรรค์ดูมีความกังวลตลอดเวลา

“เปล่า”

“ขรรค์ไม่สบายหรือเปล่า เข้าไปตรวจดูหน่อยไหม เงินเป็นห่วง”

“เราสบายดี แค่เครียดเรื่องงานนิดหน่อย”

“งั้นก็เลิกคิดมากซะ ขรรค์ทำงานออกมาได้ดีอยู่แล้ว” เงินยิ้มกว้างให้กำลังใจคนรัก ขรรค์ที่มัวแต่กังวลเรื่องเสียงผู้หญิงในโทรศัพท์ของเงินก็สบายใจขึ้น

มึงจะกังวลไปทำไมวะขรรค์ คนที่เงินรักก็คือมึง มึงได้รับความเป็นห่วงนี่ สายตาที่แสนจะรักคู่นี้ ร่างกาย และหัวใจเงินเป็นของมึง...

มีแต่มึงนั่นแหละที่ทิ้งเขามา เงินไม่มีทางทิ้งมึง จำเอาไว้

“ครับ”

“งั้นเจอกันเย็นนี้นะ เดี๋ยวเงินจะซื้ออาหารเข้าไปเอง ขรรค์หุงข้าวรอนะ”

“ครับ”

“ไปล่ะ”

“เงิน...” ร่างสูงเรียกคนรักที่กำลังจะเปิดประตูรถออกไปเอาไว้ก่อน ใบหน้าหล่อเหลาขาวใสของเงินหันมามองคนรักอย่างสงสัย ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อโดนคนรักคว้าตัวไปแล้วประกบริมฝีปากหยักเข้าที่ริมฝีปากของเขา

ปลายลิ้นใหญ่ร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของเขายามที่เขากำลังตกใจอยู่ ก่อนจะตอบสนองปลายลิ้นที่แสนจะคุ้นเคยของคนรักอย่างเต็มใจ ใบหน้าขาวใสแหงนรับเพราะคนรักตัวสูงมากกว่า มือก็ถือของฝากอยู่ไม่ปล่อยไม่ขยับไปไหน แต่เอียงหน้าไปมาให้ได้มุมองศาตอนที่จูบกัน

จริงๆ แล้วเขาสองคนควรจะกังวลเพราะนี่มันที่จอดรถของโรงพยาบาล คนผ่านไปผ่านมาค่อนข้างเยอะมาก แต่ดีที่วันนี้ขรรค์เอารถที่ติดฟิล์มค่อนข้างหนามา เลยไม่ต้องกังวลว่าใครจะเห็น แต่ต่อให้เห็นก็ไม่ได้สนใจ

“อืม...”

“ตั้งใจทำงานนะ” ขรรค์ผละริมฝีปากเอามาก่อนจะพูดกับคนรัก ส่วนหมอเงินก็หน้าแดงมองตาขรรค์อย่างไม่เข้าใจในการกระทำ

“ขรรค์...”

“ขรรค์รักเงินนะ”

“อื้อ...เงินก็รักขรรค์ ขรรค์เองก็ตั้งใจทำงานก็แล้วกัน เจอกันตอนเย็น”

“ครับ”

ร่างโปร่งลงจากรถด้วยสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข ไม่รู้ ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมจู่ๆ ขรรค์ถึงจูบตน แต่ก็ดีแล้วล่ะ...มันเริ่มจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมทีละนิดๆ แล้ว

แม้จะกังวลเพราะขรรค์ดูจะคิดมากกับเรื่องอะไรบางอย่างอยู่ แต่สัมผัสเมื่อกี้ก็ทำให้เขาสบายใจมากขึ้น

ขรรค์มองคนรักเข้าไปในตัวโรงพยาบาลแล้วก็ขับรถออกจากตรงนั้นมาไปยังสถานที่ที่ตัวเองต้องไปซื้อของต่อไป พยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปให้หมด แล้วเชื่อใจคนรักให้มากๆ


วันต่อมา

“หมอเงิน วันนี้ว่างหรือยังคะ หวานมีร้านแนะนำด้วยแหละ หมอเงินเพิ่งจะมาอยู่ได้เดือนเดียวเองคงยังไม่ได้เที่ยว หวานเป็นไกด์ให้เอาไหมคะ”

ร่างโปร่งที่เดินออกมาจากห้องพักแพทย์ก็พบกับหมอหวานคนสวยที่ยืนยิ้มหวานสมชื่อมาให้เขา

“ฮ่าๆ ผมเกรงใจครับ พอดีผมมีคนรู้จักอยู่ที่นี่น่ะ”

“ว้า...แอบเสียดาย นึกว่าจะได้เที่ยวกับหนุ่มหล่อ” หมอหวานแสร้งทำเป็นเสียดาย จนหมอเงินหัวเราะออกมาน้อยๆ

“หนุ่มหล่อๆ จังหวัดนี้มีเยอะครับ”

“หวานทำแต่งาน ไม่ค่อยได้ออกไปเห็นหนุ่มหล่อที่ว่าหรอกค่ะ” เธอตอบ

แล้วเมื่อกี้เสนอตัวเองจะเป็นไกด์ทำไมถ้าไม่ว่าง...

“นั่นสินะครับ”

“ว่าแต่วันนี้จะเบี้ยวหวานอีกไหม หมอเงินทำให้หวานรู้สึกเหมือนโดนปฏิเสธมาหลายครั้งแล้วนะคะ” เธอเอ่ยออกมาแบบทีเล่นทีจริง

“วันนี้ผมได้ครับ” เพราะขรรค์ไม่เข้าเมืองวันนี้เลยไม่ได้ทานข้าวด้วยกัน...เขาต่อประโยคในใจ

“ดีจัง...งั้นไปกันเลยไหมคะ”

“หืม...ชวนคนอื่นๆ ไปด้วยกันสิครับ คนเยอะๆ จะได้สนุก เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง” หญิงสาวทำหน้าหนักใจออกแวบหนึ่งแต่ก็ปรับสีหน้าอย่างรวดเร็ว

“งั้นก็ได้ค่ะ”

หมอหนุ่มพาหมอหวานกับเพื่อนร่วมงานผู้หญิงที่เป็นพยาบาลอีกสองคนไปด้วยเพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดถ้าไปกันสองคนกับหญิงสาวเพียงลำพัง

กับคนอื่นเงินจะวางตัวเองไม่ให้คนที่มองมามองแบบผิดๆ ถ้าการจะพาผู้ชายมาอีกคน ผู้หญิงสองคน คนอื่นก็จะมองว่าพวกเขาเป็นแฟนกันสองคู่ ฉะนั้นเงินเลยพาผู้หญิงมาถึงสามคนเลย คนอื่นจะได้มองว่าเป็นเพื่อนกันจริงๆ

“สั่งได้เลย ผมเลี้ยง”

“หมอเงินนี่หล่อแล้วยังไงดีอีกนะคะ” พยาบาลสาวที่มาด้วยกันเอ่ยยิ้มๆ

“ฮ่าๆ คุณเข็มก็ว่าไป” หมอเงินหัวเราะ

“ถ้าใครได้เป็นแฟนคงจะโชคดีมากแน่ๆ เลย น่าอิจฉาคนๆ นั้นจัง”

“หืม...คนที่เคยแต่งงานมาแล้วอย่างผมนี่นะคุณอ้อม” เงินถามพยาบาลอีกคนที่อายุมากที่สุดในที่นี่ ถือว่าเป็นรุ่นพี่ด้วย แต่เธอเป็นพยาบาล เขาเป็นหมอเท่านั้น

“แหม...ต่อให้เคยแต่งงานมาแล้ว แต่คุณหมอก็หล่อ รวย และแสนดีแบบนี้ สาวๆ เข้าคิวกันเยอะค่ะ ถ้าไม่ติดว่าอ้อมมีสามีมีลูกแล้ว คงจะตามจีบหมอเงินอีกคนแน่ๆ” เธอพูดขึ้นมายิ้มๆ

“มันก็ขึ้นอยู่ว่าหมอเงินจะเลือกใครอีกไม่ใช่หรือคะ” หมอหวานถามขึ้น ทำเอาอ้อมถึงกับหันไปมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างสงสัยทันที

“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงหรือคะหมอหวาน”

“ก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละค่ะคุณพยาบาลอ้อม” หวานฉีกยิ้มหวานให้กับอ้อม ซึ่งเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรหมอหวานอีก หันไปสั่งอาหารของตนแทน

“เข็มสั่งได้เลยใช่ไหมคะหมอเงิน? หญิงสาวที่นั่งข้างๆ กับหมอเงินถามขึ้น ซึ่งร่างสูงโปร่งก็ตอบด้วยรอยยิ้มกว้างที่ใครก็ตามจะต้องหลงเสน่ห์แน่นอน

“ครับ ตามสบายเลยครับ”

จากนั้นทั้งสี่คนก็เริ่มสั่งอาหาร ระหว่างที่รออาหารก็พูดคุยเรื่องทั่วๆ ไป โดยส่วนใหญ่หมอหวานจะถามนั่น ถามนี่หมอเงิน จนพยาบาลสองสาวถึงกับแอบเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้

“โห...ถ้าที่นั่นดีกว่าแล้วหมอเงินมาที่นี่ทำไมคะ”

“ผมชอบความสงบน่ะ”

“จริงเหรอหมอเงิน ไม่ใช่ว่าหัวใจอยู่ที่นี่เลยตามมาเหรอ” อ้อมแซว ทำเอาร่างสูงนั่งอมยิ้มน้อยๆ ไม่ตอบอะไร

และการไม่ตอบอะไรแบบนี้แสดงว่าจริง!!

“หมอเงินไม่ตอบ แต่ยิ้มแบบนี้แสดงว่าจริงเหรอคะ?” เข็มถามอย่างตื่นเต้น ไม่คิดว่ารุ่นพี่ตนจะเอาทางถูก ซึ่งพอเธอถามจบ เงินก็แค่ยิ้มออกมาเขินๆ เท่านั้น

คนอย่างหมอเงินเขิน!!

“งั้นแสดงว่าคนแถวนี้ก็หมดสิทธิ์น่ะสิ” อ้อมจงใจแขวะหมอหวานที่ตอนนี้ทำหน้าไม่สู้ดี

“ฮะๆ หมดสิทธิ์อะไรกันล่ะครับ จริงๆ แล้วต้องบอกว่าไม่มีสิทธิ์ต่างหาก”

“ทำไมหมอเงินพูดแบบนี้ล่ะคะ” หวานแสร้งถามยิ้มๆ

“แสดงว่าคนนี้หมอเงินรักมากเลยใช่ไหมคะ” เข็มถาม

“ฮะๆ ทานข้าวเถอะครับ อาหารมาเสิร์ฟแล้ว” ร่างสูงเลี่ยงที่จะไม่ตอบ แต่ทุกคนก็ต้องรู้แน่นอนอยู่แล้วว่าเขามีคนรักแล้ว เข้าใจแบบนี้ก็ดี...เขาจะได้ไม่ลำบากมากนัก

หญิงสาวทั้งสามพอโดนเลี่ยงก็ไม่ซักไซ้อะไรอีกเพราะมันเป็นการเสียมารยาท อ้อมกับเข็มไม่ได้รู้สึกอะไรหรอก แค่มีข่าวไปกระจายให้สาวๆ ที่หมายปองหนุ่มหล่อ โปรไฟล์ดีอย่างเงินให้อกหักกันเป็นแถวๆ ก็เท่านั้น

ส่วนหมอหวานที่หมายปองหัวใจของหมอเงินก็รู้สึกผิดหวังหนัก คิดว่าหย่ากับภรรยาไปแล้วจะโสดสนิท หัวใจไม่มีเจ้าของเสียอีก ที่ไหนได้ หมอเงินมีคนที่รักแล้ว...

ใครกันคือผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นนะ...

เธอสามารถสู้ได้หรือเปล่า...


ภาพที่เขาเห็นตรงหน้าบอกทีว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิดใช่ไหม...

ตัวสูงใหญ่ชาวาบ  ความกลัวกัดกินหัวใจ…

ทำไม...นี่มันอะไรกัน

“เฮ้ย!! ไอ้ขรรค์ มึงมองอะไรวะ ทำไมไม่เข้าไป หิวแล้วนะเว้ย!!” จักรที่เดินตามหลังร่างสูงมาบ่นหัวหน้าที่อายุน้อยกว่าตัวเองด้วยความโมโหหิว เพราะทั้งสองคนเพิ่งจะไปเดินดูดอกไม้ ต้นไม้มาอย่างเหน็ดเหนื่อย เลือกร้านอาหารดีๆ แล้วก็จะกินข้าวเสียหน่อย ดันมาเจอขรรค์ยืนนิ่งเหมือนโดนแช่แข็งขวางทางเป็นยักษ์วัดแจ้งอยู่แบบนี้

“...”

“เฮ้ย!! ไอ้ขรรค์ เข้าไปสิวะ อยากตากแอร์จะแย่แล้วเนี่ย ร้อน!”

“เปลี่ยนร้านกันไหมพี่”

“ทำไมวะ...” จักรทำหน้าสงสัย ก่อนจะมองทะลุกระจกร้านเข้าไปด้านไหน สอดส่องสายตาหาต้นเหตุที่ทำให้ขรรค์อยากจะหลบเลี่ยงด้วยความอยากรู้ปนอารมณ์โมโหหิวของตัวเอง

“นั่นมัน...หมอเงินนี่หว่า มากับใครวะ สวยเชียว” จักรถามขึ้นอย่างสงสัย

ส่วนขรรค์ตอนนี้เริ่มทำสีหน้าเย็นชาที่ดูน่ากลัวแบบที่จักรไม่เคยเห็นมาก่อน เห็นแล้วก็รู้สึกได้เลยว่า...คนตัวใหญ่ข้างๆ

“อย่าบอกนะว่ามึงหึง...เฮ้ยๆ เชื่อใจหมอเงินเขาหน่อย นั่นอาจจะเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน”

เขารู้ เขาเชื่อใจ แต่มันก็อดเครียด อดคิดมากไม่ได้อยู่ดี...

มองจากตรงนี้...ยังรู้สึกได้เลยว่าสองคนนั้นเหมาะสมกัน

“ฉันเชื่อใจเงินนะพี่จักร แต่ว่าฉันไม่อยากเห็นภาพแบบนี้ว่ะพี่”

“คนเรามันต้องมีสังคมป่ะวะ มึงต้องรับให้ได้ไอ้ขรรค์”

ภาพที่เงินยืนเคียงคู่กับอดีตภรรยาโผล่ขึ้นมาทับซ้อนกับภาพตรงหน้า...ถึงแม้จะไม่มีอะไรแต่ก็สร้างความเจ็บปวดให้กับบาดแผลที่มันยังไม่หาย

ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะกักขังคนรักเอาไว้ไม่ให้ไปไหน แต่ถ้าเขาทำแบบนั้นไม่ได้...ขรรค์จะทำอะไรที่เห็นแก่ตัวแบบนั้นไม่ได้

“มึงก็คิดมากไป ไม่มีอะไรหรอก”

“ทำไมต้องมากันสองคนวะพี่”

“โอ๊ย! ไอ้นี่...เออว่ะ มันก็จริงนะ ทำไมไม่พาคนอื่นๆ มาด้วย” จู่ๆ จักรก็เห็นด้วยและคิดตามที่ขรรค์พูด นั่นยิ่งทำให้ขรรค์รู้สึกดีเข้าไปใหญ่

การมีจักรอยู่ตรงนี้ ไม่ได้ช่วยให้จิตใจของขรรค์รู้สึกดีขึ้นมาเลยสักนิด

“เปลี่ยนร้านเถอะพี่”

“เออๆ ถ้ามึงสบายใจก็เปลี่ยน” จักรพยักหน้าเออออ ก่อนจะเดินตามหลังขรรค์ที่เดินหนีออกจากร้านมา ไม่ทันได้เห็นหญิงสาวอีกสองคนที่เดินมานั่งที่โต๊ะเลยสักนิด...






50%

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

   เหมือนว่าขรรค์จะเข้าใจหมอเงินของเราผิดจนคิดมากไปแล้วล่ะค่ะ แหะๆ

        ช่วยให้กำลังใจยูกิ หรือจะติชมตรงไหนก็ได้ค่ะ ยูกิจะได้นำไปปรับปรุงแก้ไขต่อไปจ้า

        ติดตามข่าวสารแบบชัวร์ สอบถาม พูดคุยกับคนเขียนได้ที่แฟนเพจนะคะ https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ Phenol

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รอตอนอินทัชกับราม นะคะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
อ่าวว ขรรค์ เข้าใจผิดแล้ววว

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
โอ๊ยยย ขรรค์จะมาเห็นตอนไหนไม่มา มาตอนเค้าอยู่กันสองคนอีก ปัดโธ่ๆๆๆๆ!
อร๊ายยยย เพลีย~

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด