Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=  (อ่าน 228173 ครั้ง)

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ค่ะ พอดีอะไรขนาดนั้น ตอนอยู่หลายคนก็ไม่เห็นอีก

เงินไม่รู้ตัวเลย น่าสงสาร ทั้งที่ทำทุกทางให้คนอื่นรู้
ขรรค์อย่าบื้อค่ะ กลับมาคบกันใหม่ไม่ง่ายนะ แต่อย่าทำตัวนอยด์ง่ายเลย เงินจะน้อยใจ

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
ตอนที่ 20 ครึ่งหลัง





ตลอดทั้งวันขรรค์มีแต่ความคิดฟุ้งซ่านเต็มไปหมด จากที่ตอนแรกๆ ไม่อยากจะคิดแล้ว แต่ภาพวันนี้มันทำให้เขาคิดหนัก...

ไม่มีสมาธิที่จะทำงานจนลูกน้องต้องไล่ให้กลับไปพัก

จนกระทั่งเย็น เงินกลับมาจากทำงานเหนื่อยๆ แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มและกับข้าวเต็มไม้เต็มมือเหมือนกับทุกๆ วัน

“เนี่ย! วันนี้มีของอร่อยมาด้วยล่ะ รับรองว่าขรรค์ต้องชอบ”

ร่างสูงไม่มีปฏิกิริยาตอบรับอะไรเงินเลย ได้แต่ช่วยคนรักแกะกับข้าวใส่จานเงียบๆ แล้วก็เอาแต่เหม่อจนเงินขมวดคิ้วสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามออกไป

ขนาดเมื่อวานตอนเย็นบอกว่าจะเล่าว่าตัวเองเป็นอะไร แต่ก็ยังโกหกออกมาเพื่อให้เขาสบายใจ แต่ถ้าลามมาถึงวันนี้วันนี้ เงินก็เริ่มจะไม่โอเคแล้วนะ

ทั้งสองนั่งทานอาหารเย็นกันไปตามปกติโดยที่เงินก็ชวนคุยเหมือนไม่ได้เอะใจกับท่าทางของคนรักเลยสักนิด...ส่วนขรรค์เองก็ตอบกลับบ้าง ฝืนยิ้มออกมาบ้าง

“วันนี้ขรรค์ไปไหนมาบ้างเหรอ ดูต้นไม้เป็นไงบ้าง” ร่างโปร่งบางถามพลางนั่งลงข้างๆ กับคนรักบนโซหาตัวเก่า

หลังจากที่ทั้งสองทานอาหารเย็นและล้างจานเสร็จเรียบร้อยก็มานั่งคุยกันที่โซฟาตามปกติที่นั่งทำกันเป็นประจำ แต่คราวนี้ วันนี้เงินต้องซักคนรักให้ได้ว่ามีเรื่องอะไรในใจอยู่

ถ้าไม่ได้รู้ความจริงวันนี้ เขาจะไม่กลับบ้าน!!

“ก็ดีนะ...มีต้นไม้ที่อยากจะลงในสวนเยอะเลย”

“หืม...ปกติขรรค์พูดถึงเรื่องต้นไม้จะมีความสุขไม่ใช่หรือ” หมอเงินถามด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่เริ่มจริงจัง ทำเอาร่างใหญ่ต้องหันไปมองด้วยความแปลกใจ

แต่พอเห็นสายตาที่มองตนราวกับจะเสาะหาความจริงนั้นทำให้เขาต้องหันหน้าหนี

เขามันตัวใหญ่ ใจเสาะอย่างที่อินทัชว่าจริงๆ นั่นแหละ...

“มีอะไรไม่สบายใจ บอกเงินมาเถอะ” ใบหน้าขาวใสทำสีหน้าอ้อนวอนออกมา

ขรรค์อยากจะถามออกไปตรงๆ นะ แต่ก็กลัวจะทำให้คนรักผิดหวังที่เขาไม่เชื่อใจ

“ไม่มีหรอก”

“เมื่อวานขรรค์ก็พูดแบบนี้มารอบหนึ่ง เรารู้จักกันมาเกือบสิบปีนะขรรค์ ทำไมเงินจะไม่รู้ว่าขรรค์กำลังมีเรื่องทุกข์ใจอะไรอยู่ เกี่ยวกับงานหรือเกี่ยวกับเงิน”

“เงิน...” ครางชื่อคนรักเสียงแผ่ว

ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ขรรค์ก็ไม่เคยโกหกคนๆ นี้ได้เลยสินะ

“ถ้ายังเห็นเงินเป็นคนรักอยู่ล่ะก็...บอกมาเถอะนะ”

ต่อให้เข้มแข็งมากขนาดไหนก็มีสิทธิ์อ่อนแอได้

ทั้งเงินและขรรค์ก็เป็นเช่นนั้น

“ขรรค์ขอโทษ...ขรรค์กลัว...เมื่อวานขรรค์ได้ยินเสียงของผู้หญิงดังมาจากโทรศัพท์ของเงิน แต่เงินก็ไม่อธิบายว่าใครก็เลยคิดมาก วันนี้...ขรรค์ไปเห็นเงินนั่งกินข้าวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ร้านอาหารเมื่อตอนกลางวันด้วย ขรรค์...หึง” รางสูงก้มหน้าก้มตาสารภาพออกมาอย่างอัดอั้นตันใจ

ร่างโปร่งตัวแข็งไม่คิดว่าสาเหตุมาจากตนจริงๆ

ที่เขาไม่พูด ไม่อธิบายก็เพราะว่าขรรค์ไม่ถาม

“เงินขอโทษที่ทำให้ขรรค์ไม่สบายใจ เธอเป็นหมอหวาน เพื่อนร่วมของเงินเอง และจะเป็นแค่ร่วมงานด้วย แล้ววันนี้เงินไปกันสี่คนนะขรรค์ ตอนที่ขรรค์ไปเห็นอาจจะเป็นตอนที่คุณอ้อมกับคุณเข็มไปเข้าห้องน้ำก็ได้” หมอหนุ่มอธิบายออกมาเพื่อไม่ให้คนรักเข้าใจผิด

ขรรค์ที่ได้ยินแบบนั้นแล้วก็ถึงกับโทษตัวเองในใจที่คิดอะไรบ้าบอไปคนเดียว

ทำไมถึงไม่เชื่อใจเงินวะไอ้ขรรค์ แล้วแบบนี้เงินจะโกรธมึงไหม?

“ขรรค์ขอโทษ ขรรค์แค่กลัว...เงินมีดี มีพร้อมทุกอย่าง แล้วเธอคนนั้นก็เหมาะสมกับเงินทุกอย่างเลย...”

“ขรรค์...เงินเลือกคนที่รักนะ ไม่ใช่คนที่เหมาะสม ดูอย่างคุณสาสิ เขาดีขนาดไหนเงินยังรักเขาไม่ได้เลย” ร่างโปร่งพูดถึงอดีตภรรยาของตน

“ขอโทษ ขอโทษที่ไม่เชื่อใจ”

“ไม่เป็นไร เงินไม่โกรธขรรค์หรอก เงินเข้าใจ” ร่างโปร่งยิ้มออกมาก่อนจะโอบกอดร่างใหญ่เอาไว้แน่นเพื่อตอกย้ำว่าคนที่เขารักคือคนที่เขากำลังกอดตอนนี้

รักตลอดมาและจะรักตลอดไป...

“มีอะไรก็บอกเงินนะ เงินพร้อมจะอธิบายไม่โกหกขรรค์อยู่แล้ว”

“ครับ...ขรรค์รักเงินนะ” ร่างสูงหันมาโอบกอดกลับแล้วกระซิบคำรักข้างหูของร่างเล็กกว่า ส่วนคนที่ได้ยินคำว่ารักก็ออกแรงกอดรัดร่างหนามากยิ่งขึ้น

“อื้อ...เราก็รักขรรค์”

“พรุ่งนี้วันหยุด...ไปบ้านกับขรรค์นะ”

“ได้สิ...เงินอยากไปอยู่แล้ว” ร่างเล็กกว่าตอบรับอย่างดีใจ

เขาชอบที่นั่น ชอบบรรยากาศ ชอบทิวทัศน์ ชอบความสงบ ชอบคนงาน ชอบทุกๆ อย่างขอแค่ได้อยู่กับคนๆ นี้ก็พอ แค่ได้อยู่ข้างๆ กับขรรค์ แค่นั้นก็พอ

“วันนี้เงินนอนกับขรรค์ที่นี่นะ”

ร่างสูงสร้างความแลปกใจให้กับหมอเงินเข้าไปอีกโดยการชวนให้นอนค้างคืนที่นี่ ทั้งๆ ที่ปกติพยายามที่จะไล่ให้เขากลับบ้านอยู่เรื่อย...

เงินรู้ดี...เวลาขรรค์หึง มักจะชอบกอด ชอบอยู่ใกล้ๆ เขา เพื่อตอกย้ำว่าเขาอยู่กับใคร

เงินก็ไม่ได้ว่าอะไร กลับชอบใจด้วยซ้ำ

“วันนี้มาแปลก”

“นะครับ” ใครไม่เคยเห็นคนตัวใหญ่ร่างยักษ์อ้อนก็เห็นเอาไว้ได้เลย ผู้ชายคนนี้จะทำมันกํบเงินแค่คนเดียวเท่านั้น มุมนี้ของขรรค์ มีเงินได้เห็นคนเดียวเท่านั้น

“ทำไมวันนี้ขรรค์งอแงจัง”

“อยากกอด อยากนอนกอดเงิน”

ไม่บ่อยนักหรอกที่ขรรค์จะทำตัวเด็กๆ แม้ว่าตัวเองจะอายุน้อยกว่าเงินก็ตาม นั่นเป็นเพราะใบหน้าที่ดูโต จึงไม่สามารถทำอะไรแบบเด็กๆ ได้ เลยมอบหน้าที่นี้ให้คนรักหน้าเด็กแทน

“กอดอย่างเดียว ไม่ลามกนะครับ” เงินพูด

“ครับ กอดอย่างเดียว”

“โอเคๆ เดี๋ยววันนี้หมอจะนอนเป็นเพื่อนเด็กดีเองนะครับ” มือขาวลูบกลุ่มผมหนาของขรรค์เบาๆ ประกอบท่าทางเหมือนกล่อมเด็ก ทำเอาขรรค์รีบผละตัวออกมาด้วยสีหน้าติดไม่พอใจนิดๆ

“ขรรค์ไม่ใช่เด็กแล้วนะเงิน”

“แต่ก็อายุน้อยกว่าเงินอยู่ดีนี่”

“ไม่ต้องเอาอายุมาพูดเลยนะเงิน”

“ฮ่าๆ โอเคๆ เงินไม่ล้อแล้วก็ได้ จะให้เงินไปเอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนไหม? จะได้รีบกลับไปเอา” หมอหนุ่มถามคนรัก เพราะถ้าจะให้ค้างพรุ่งนี้ก็เดินทางไปบ้านสวนอีก คงต้องมีชุดเตรียมเอาไว้

“ไม่ต้องหรอก ขรรค์ให้คนซื้อชุดเตรียมไว้ที่บ้านสวนแล้ว ส่วนวันนี้ใส่เสื้อขรรค์ไปก่อนได้ไหม”

“ตัวใหญ่ๆ เนี่ยนะ แก้ผ้านอนยังดีกว่าอีก” เงินพูดกลั้วเสียงหัวเราะ

ก็ดูตัวเขากับตัวของขรรค์สิ ต่างกันลิบลับแบบนี้

“ใส่ได้น่า”

“ครับๆ ใส่ได้ก็ใส่ได้”

ทั้งสองนั่งคุย นั่งดูทีวีกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงสี่ทุ่มกว่าๆ เงินเริ่มหาวนอนแล้ว ส่วนขรรค์ที่มักจะนอนดึกเสมอก็ไม่ได้รู้สึกอะไร

“ฮ้าววว”

“ไปอาบน้ำนอนเถอะ”

“หืม...ไม่ดูหนังต่อเหรอ”

“ไม่เป็นไรหรอก ขรรค์ไม่ติดละคร เงินคงเหนื่อย ไปอาบน้ำนอนกันเถอะ”

ร่างสูงปิดทีวีแล้วจูงมือพาคนรักไปที่ห้องนอนที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้เนื่องจากที่นี่เป็นบ้านพักชั้นเดียว เลยไม่ต้องเดินไกล มี่ก้าวก็เจอห้องนอนแล้ว

พอเปิดประตูเข้าไป เงินถึงกับร้องว้าวด้วยความตกตะลึง

“ขรรค์...ทำไมมันรกขนาดนี้เนี่ย”

ที่จริงมันก็ไม่ได้รกมาก ส่วนใหญ่จะมีแต่กระดาษแบบแปลนเกลื่อนห้องไปหมด แต่โชคยังดีที่เตียงค่อนข้างใหญ่ และไม่มีอะไรรกบนเตียงเลย ทำให้เงินคนสะอาดไม่กังวลมาก

“ขอโทษ เอาไว้เดี๋ยวขรรค์ค่อยเก็บนะ”

“ครับๆ เก็บห้องบ้าง ทำความสะอาดบ้าง เดี๋ยวก็เป็นภูมิแพ้หรอก”

“ครับคุณหมอ...”

“ฮ่าๆ เบื่อขรรค์จริงๆ ไปอาบน้ำดีกว่านะ”

“ชุดอยู่ในตู้เลือกเอานะ เดี๋ยวขรรค์จะเก็บของรอ”

“อื้อ...”

ร่างสูงเริ่มเก็บกระดาษมาม้วนๆ ไว้ให้เป็นระเบียบ ส่วนคุณหมอก็เข้าไปอาบน้ำก่อนจะออกมาด้วยเสื้อยืดตัวใหญ่ตัวเดียวของขรรค์ที่ไม่ต้องใส่กางเกงเลยก็ยาวเกือบถึงหัวเข่า

เป็นภาพที่ขรรค์ค่อนข้างจะคิดถึง...

“ขรรค์ ไปอาบน้ำมานอนได้แล้วไป ไม่ต้องเก็บแล้ว” เงินบอกแล้วเดินไปเปิดพัดลมก่อนจะเดินไปที่เตียงแล้วขึ้นนอนรอเจ้าของบ้าน

ระหว่างรอก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข...

“ดีจริงๆ ที่เราไม่ตัดใจไปก่อน”

ที่จริงแล้วตอนที่มีตื๊อขรรค์ใหม่ๆ เขาเกือบจะตัดใจแล้วนะ...เกือบจะยอมแพ้แล้ว แต่เพราะตัวเองอยากมีความสุข อยากอยู่กับคนๆ นี้ก็เลยสู้

“ไม่คิดว่าจะมีวันนี้อีกครั้ง”

คราวนี้...จะไม่ให้มีอะไรมาทำให้เราผิดใจกันอีกแล้ว

แปะ แปะ แปะ

ซ่า!!!!

“อ่า...ฝนตกเหรอเนี่ย จริงสิ เดือนนี้มันฤดูฝนแล้วนี่นา” คนตัวบางนอนพึมพำก่อนจะหลับไปเพราะเสียงฝนกล่อม ความเหนื่อยล้าจากการทำงานเองก็มีส่วนทำให้หลับไปก่อนโดยไม่รอเจ้าของบ้าน

แต่นั้นมันคงไม่เป็นอะไรหรอก

ทางขรรค์เมื่ออกมาก็พบว่าคนรักหลับไปแล้ว...

“ให้ตายสิเงิน ยังแพ้เสียงฝนเหมือนเดิมเลยนะ ได้ยินเสียงฝนทีไร หลับง่ายทุกที” ขรรค์ส่ายหน้าไปมา วางผ้าเช็ดตัวพาดไว้แถวๆ นั้นก่อนจะเดินไปปิดไฟแล้วขึ้นเตียงไปนอนกอดคนรักเอาไว้ในอ้อมแขนทันที

ถ้าถามขรรค์ว่าไม่อยากกอดคนรักทุกๆ วันเหรอ...ทำไมไม่ชวนเงินมาอยู่ด้วย คำตอบน่ะเขามี...เพราะเขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ห่างหายการสัมผัสกายกับคนรักมานาน ถ้าคนรักอยู่ข้างๆ ใกล้ๆ เขาต้องรังแกเงินหนักแน่ๆ

และดูตัวเขากับตัวเงินสิ...

มีหวังลุกไม่ขึ้นไปหลายวัน เขาไม่อยากให้เงินเสียงานเสียการเพราะเขา

“ขรรค์รักเงินนะ สัญญาว่าจะจับมือของเงิน ไม่ปล่อยไปอีกแล้ว”

คนตัวสูงค่อยๆ จุมพิตที่หน้าผากมนของหมอหนุ่มเบาๆ ก่อนจะตระกองกอดร่างบอบบางนี้เอาไว้ในอ้อมแขนแข็งแรงนี้ด้วยความรักและอยากปกป้อง

การได้อยู่ด้วยกันมันมีความสุขกว่าการที่จะต้องเสียสละให้เงินไปเจอคนที่ดีกว่าเสียอีก

เขาเป็นคนเห็นแก่ตัวได้นะ...ในเมื่อเงินเลือกที่จะกลับมาหาเขาอีกครั้ง และเขาก็ยอมที่จะกลับไปหาคนที่เป็นเจ้าของหัวใจมาโดยตลอดอย่างเงิน

คนในอ้อมแขนนี้...ไม่มีทางหนีไปจากการกักขังไปได้

ไม่มีใครพรากเงินไปจากเขาได้ แม้กระทั่งแม่แท้ๆ ของเงินเองก็ไม่มีทางทำได้...








ทางด้านอินทัช

“ฝนตก...หนักด้วย บ้าจริง คงไม่สาดบ้านจนที่นอนเปียกหรอกนะ” ร่างสูงโปร่งที่ยังอาศัยอยู่ในห้องนอนของรามินทร์ในบ้านพักของเจ้าตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนมามองไปยังด้านนอก

เขายังไม่หายดี...คนบ้าอำนาจก็ไม่ยอมให้เขากลับไปที่บ้านพักโทรมๆ หลังนั้น

หลายวันมานี้หมอเงินไม่ค่อยมาเท่าไหร่ เพราะงานคงเยอะ แต่รามินทร์เองมันก็เปลี่ยนไป มาป้อนข้าวป้อนยา พาไปทำธุระในห้องน้ำทุกวันโดยที่ไม่หาเรื่องด่า เรื่องว่า หรือถากถางเขาอีกจนน่าแปลกใจ

แต่คิดหรือว่าเรื่องพวกนี้จะลบล้างความผิดไปได้ ไม่มีทาง

“จะลุกไปไหน...” เสียงที่อินทัชคิดว่าเป็นพวกสัมภเวสีไม่ที่อยู่ดังขึ้นมาจากทางหน้าประตูห้อง

“เรื่องของกู”

“เจียมสังขารบ้างเถอะ”

“มึงกลับไปนอนไป”

“ไม่...ถ้ามึงล้มแล้วคอหักตายในบ้านกูขึ้นมาทำยังไง” รามินทร์ยังคงปากร้ายอยู่เหมือนเดิม สวนทางกับการกระทำที่อ่อนโยนขึ้นจนอินทัชกลัวใจ

กลัวใจอ่อนเข้าสักวัน

“มึงก็ดีใจไง”

“ใครบอก…”

“ว่าไงนะ” อินทัชถามเสียงดังเมื่อได้ยินสิ่งที่รามินทร์พึมพำไม่ถนัด

“ไม่มีอะไร จะไปไหนบอกมา กูจะพาไป”

“กูเดินเองได้แล้ว”

“เหรอ...เก่งเนอะ งั้นก็เดินสิ” ร่างสูงยืนกอดอกมองร่างเล็กกว่าที่พยายามยันตัวเองขึ้นจากเตียงแต่ก็ไม่ไหว จนรามินทร์ส่ายหน้าไปมา

“ไงล่ะ...ก็ไม่ได้”

“ใครบอกล่ะ กูจะไม่ลุกแล้วต่างหาก ปิดไฟด้วย กูจะนอนแล้ว!!” ร่างโปร่งสั่งเสียงไม่พอใจ ก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นคลุมโปง รามินทร์เองก็ส่ายหน้าไปมากับความดื้อของอินทัชแต่ก็ไม่คิดจะตื๊อ

ร่างสูงเดินกลับไปที่ประตูแล้วปิดไฟห้องใหญ่ให้ ส่วนตัวเองก็เดินกลับห้องเล็กไป...

ที่จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะเดินมาดูอินทัชหรอก ก็แค่มาเช็คให้แน่ใจว่าอินทัชหลับแล้ว...ไม่คิดว่าจะได้ต่อปากต่อคำกันก่อนนอน

รามินทร์รู้กระทั่งว่าเมื่อกี้อินทัชจะลุกเพื่อกลับไปบ้านหลังนั้น แต่นั่นแหละ คงลุกไม่ได้อีกหลายวันเพราะแผลค่อนข้างจะอักเสบรุนแรง...

ก็ดีแล้วที่ไปไม่ได้ การกลับไปที่บ้านหลังนั้นในช่วงหน้าฝนเป็นอะไรที่อันตรายมากๆ





100%


 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

   อัพครึ่งหลังจ้า...
   ขอบคุณที่กำลังใจและคำติชมนะคะ จะนำไปปรับปรุงแก้ไขจ้า
   https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
ธีร์มาช่วยอินเร็วๆๆนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :katai1:


เอาคืนๆๆๆ

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
กรี๊ดดดดด คิดถึงรามอินทร์
อย่าเพิ่งใจอ่อนนะอินทร์

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
นั่น มีหึง แล้วไม่บอก ขรรค์โหมดนี้ เงินปลื้ม ยังไงก็แพ้ทางเงิน
เงินน่ารัก รู้ทันตลอด เงินเหมือนเด็กกว่าขันอีก มีแซว 5555

อินทัชน่าสงสาร รามทำดีด้วยแต่ก็ไม่ช่วยนะ โดนขนาดนั้นใครจะลืม

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
เมื่อไรรามจะรู้ใจตัวเอง..เดี๋ยวอินก็หนีไปหรอก..ชิชิ

ออฟไลน์ K3n0

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
มาแล้วๆๆๆ ตื่นเต้นๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 21
ไม้กันหมา



“นั่นมึงจะไปไหน”

เสียงทุ้มต่ำของรามินทร์ดังขึ้นจากทางด้านหลังของอินทัชที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้านพักของร่างสูงที่เตรียมจะเปิดประตูออกไปจากที่นี่

คนตัวเล็กกว่ายืนอยู่นิ่งๆ แต่ก็ไม่ได้หันหน้ามามองคนถามเลยสักนิด

“กลับไปที่บ้านพักเก่าๆ นั่นไง”

“กลับไปทำไม”

“กูอยากกลับ...อยู่ที่นั่น อย่างน้อยก็ปลอดภัยกว่าอยู่ใกล้มึง”

“พอหายแล้ว ก็ออกฤทธิ์เลยนะ ไม่ต้องกลับไปที่นั่นแล้ว มึงนอนที่นี่แหละ” ร่างสูงสั่ง

“เพื่อ?” ร่างโปร่งหมุนตัวกลับมาจ้องตากับรามินทร์อย่างไม่เข้าใจ

“ไม่ได้เพื่ออะไร แต่ไม่ต้องกลับไปที่บ้านหลังนั้นแล้ว กูให้คนไปขนของออกหมดแล้ว และเตรียมจะรื้อที่นั่นทิ้ง”

“ทำไม?”

“ก็มันเก่าแล้ว และตรงนั้นมันก็เป็นทางไหลของน้ำถ้าหากว่าน้ำมันหลากน่ะนะ ช่วงนี้หน้าฝน อยู่ที่นั่นอันตราย” รามินทร์พูดบอกออกมา ทำเอาใบหน้าสวยอย่างผู้หญิงของอินทัชถึงกับเบะปาก

“ทำเหมือนว่าอยู่ที่นี่ไม่อันตรายนั่นแหละ”

“แล้วมันอันตรายตรงไหน?”

“...” อินทัชไม่ตอบ

“ตลอดสองอาทิตย์ที่มึงอยู่ที่นี่กูก็ไม่ได้ทำอะไรมึง ไม่ได้ใช้งานหนักด้วย มึงยังจะกลัวอะไรอีก” รามินทร์ถาม

มันก็จริงที่ว่าผ่านมาสองอาทิตย์นับจากวันที่เขาโดนหามมารักษาตัวที่นี่อีกคนไม่ได้ทำอะไรเขาเลย อาจจะมีเผลอๆ สัมผัสกันบ้าง นั่นก็ไม่คิดว่าจะนับเป็นส่วนอันตราย เพราะเขาเองก็ไม่ได้ว่าอะไร

“อยู่กับมึงแล้วกูอึดอัด หายใจไม่ออก ไม่อยากจะมองหน้า”

“นั่นก็เรื่องของมึง แต่ยังไงมึงก็ต้องอยู่ที่นี่!”

“แล้วจะให้กูอยู่ตรงไหนของที่นี่”

“ห้องเล็กที่กูนอนมาตลอดสองอาทิตย์ไง”

“แล้วเรื่องงาน?”

“มึงก็ทำงานบ้าน ซักผ้าเหมือนเดิม แล้วก็งานในครัวด้วย งานใช้แรงอื่นๆ ไม่ต้อง”

มันไม่คิดจะปล่อยเขาไปจริงๆ สินะ...

“เพิ่มเติมคือเตรียมอาหารเช้าเย็นให้กูที่นี่ ทุกวัน! แล้วก็เอาข้าวไปให้กูที่ห้องทำงานทุกเที่ยงด้วย” สิ้นเสียงคำสั่งนี้ ร่างโปร่งถึงกับปฏิเสธทันทีเสียงแข็ง

“ไม่!! เรื่องอะไรที่กูจะต้องเตรียมอาหาร ใช่เรื่องหรือไง”

“ทำไม? มึงไม่อยากกลับบ้านแล้วหรือไง? นี่กูอุตส่าห์ลดโทษให้กับมึงแล้วนะ แค่ทำอาหารให้อร่อยก็แค่นั้นยากตรงไหน”

ยากตรงที่หน้าที่นี้มันเหมือนหน้าที่ของเมียไงวะ!!

“เออ!!! กูเลือกเหี้ยอะไรไม่ได้อยู่แล้วนี่”

“เริ่มจากวันพรุ่งนี้ละกัน วันนี้ฝนยังตกหนักอยู่ มึงก็ไปนอนพักอีกสักวันไป”

นี่นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของพวกเราสองคนเลยก็ได้ อะไรที่ทำให้คนใจร้ายอย่างรามินทร์อ่อนโยนและใจดีได้ขนาดนี้

หรือจะเป็นเพราะรู้สึกผิด...

“นอนอะไร น่าเบื่อจะตาย”

“งั้นก็อยู่ในนี้ จะทำอะไรก็ทำ แต่ห้ามใช้คอมพิวเตอร์เด็ดขาด ถึงจะเปิดก็เปิดไม่ได้เพราะมันต้องใส่รหัส”

“เออ...ไม่ใช้หรอก”

รามินทร์ทำท่าจะพูดต่อแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเสียงโทรศัพท์ของเขาดัง เมื่อเห็นเบอร์ของประชาสัมพันธ์ก็ได้แต่ขมวดคิ้วเพราะอาจจะมีปัญหาเรื่องงานมา

“ครับ…ใครนะครับ! โอเคงั้นบอกให้เขารอผมแถวนั้นแหละ สักพักผมจะไป”

ร่างสูงเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าด้วยสีหน้าเครียดๆ ใบหน้าแสดงถึงความกังวลและกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง จนอินทัชอดจะถามไม่ได้

“ทำหน้าเครียดทำไมวะ!!”

ก็ไม่ได้เป็นห่วงอะไรหรอก แค่อยากรู้ เห็นรับโทรศัพท์บอกว่าจะตามไป แต่กลับยืนคิดอะไรตั้งนานไม่ยอมไปสักทีก็เลยสงสัย

ร่างสูงที่ได้ยินเสียงอินทัชก็ทำหน้าเหมือนคิดอะไรบางอย่างออก...

“มึงไปกับกู”

“ไปไหน?”

“ทำงานไง”

“ก็ไหนว่าวันนี้ให้พัก” อินทัชถามอย่างเอาเรื่อง

เชื่อคนอย่างมันไม่ได้จริงๆ สินะ

“ไม่ต้องพักแล้ว มีงานด่วนเลย”

“งานเหี้ยอะไร ไม่เอาไม่ทำ!” ร่างโปร่งปฏิเสธ เดินหนีกลับเข้าไปในตัวบ้าน แต่ร่างสูงก็คว้าแขนเรียวเอาไว้ก่อนด้วยสีหน้าที่บังคับกันสุดๆ

“แต่มึงต้องทำ”

“งั้นก็บอกกูมาก่อนว่าจะให้ไปทำอะไร” รามินทร์แสดงสีหน้าหงุดหงิดออกมาเมื่ออินทัชไม่ยอมไปกับตนง่ายๆ แถมยังพยายามที่จะบิดแขนออกจากการเกาะกุมอีก

“เออๆ พอดีแฟนเก่ากูมา”

“ทำไม? เขามาตื๊อขอคืนดีหรือไง”

“เออ!!” ร่างสุงตอบสั้นๆ

“แล้วเกี่ยวอะไรกับกู”

“กูไม่อยากคืนดีกับเขา...กูไม่ได้รักเขาแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ยอมง่ายๆ มึงก็เลยต้องไปช่วยกู แสดงเป็นคนรักของกู”

“ห๊ะ!! ไม่เอาอ่ะ ให้กูเล่นไม่เนียนหรอกเชื่อกู เราสองคนเกลียดขี้หน้ากันจะตาย แค่มองหน้าก็จะอ้วกแล้ว นี่จะให้ไปแสดงเป็นคนรักกัน ไอ้สัตว์พูดแล้วขนลุก” ร่างบางส่ายหน้าไปมา

แค่คิดก็ไม่ไหวแล้ว

“แต่มึงต้องทำ!! หน้ามึงเหมาะ”

“มึงไปหาคนอื่นเถอะ ผู้หญิงสวยๆ ในรีสอร์ทมึงก็มีเยอะแยะ”

“ประเด็นคือกูเป็นเกย์ มีแฟนเป็นผู้ชายมาตลอด เอาผู้หญิงไปเขาคงจะเชื่อหรอก!!” รามินทร์ตะคอกเสียงดัง ทำเอาอินทัชเบ้หน้าอย่างไม่พอใจ

“คือจะให้กูทำให้ได้เลยว่างั้น”

“เออ!!”

“งั้นต้องมีข้อแลกเปลี่ยน” อินทัชเสนอขึ้นมา

“มึงอย่ามาเจ้าเล่ห์ มีข้อต่อรองไอ้อิน” รามินทร์ว่า

“ได้ยังไง...กูเป็นนักธุรกิจนะเว้ย อะไรที่ทำแล้วเสียผลประโยชน์กูไม่ทำ”

“เหี้ยเอ้ย!! ก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่การปล่อยมึงกลับไปนะ กูไม่ให้” ร่างแกร่งดักทาง ทำเอาอินทัชถึงกับส่งเสียงหึเบาๆ

กลัวเขาจะกลับไปขนาดนั้นเลยหรือไง....

“เออ!!”

“งั้นก็ว่ามา” รามินทร์จำยอม

ยอมรับว่าอินทัชฉลาดมาก ถ้าเป็นเขา เขาก็ไม่อยากจะเสี่ยงกับคนๆ นี้สักเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่ใช่อินทัชเขาก็หาใครมาไม่ทันแล้ว

“กูขอคิดก่อนก็แล้วกัน”

“งั้นก็ไปทำงานก่อน”

“จะแน่ใจได้ยังไงว่ามึงจะไม่โกงกู” อินทัชถาม

ไม่ใช่พอทำหน้าที่เสร็จแล้วก็ทำเป็นลืมข้อเสนอนะ ไม่งั้นเขาฆ่ามันให้ตายแน่ๆ

“เออ!! ไม่โกหก ไม่เบี้ยว กูมีสัจจะมากพอ พอใจยัง”

“อือ”

“งั้นก็ไปเอาร่มมา”

อินทัชยอมเดินไปหาร่มให้กับร่างสูง ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกจากบ้านพักไปยังสถานที่ที่รามินทรืให้แฟนเก่าตัวเองรออยู่ที่นั่น...

ถ้าถามว่าคนรักเก่าเขามาตอนไหนก็คงจะเป็นสามวันก่อน คนๆ นั้นมาขอคืนดี ด้วยเหตุผลที่ว่าตนเองถูกทิ้ง และเพิ่งจะรู้ใจว่าขาดรามินทร์ไม่ได้ เพิ่งรู้ว่าคนที่ดีและให้ทุกอย่างได้จริงๆ คือรามินทร์ ทางร่างสูงก็ปฏิเสธไปแล้วนะ แต่อีกคนดูเหมือนจะไม่ยอม

ถึงรามินทร์จะเคยอกหัก ร้องไห้ เสียน้ำตากับคนๆ นี้มาแล้ว ก็ใช่ว่าจะเลิกรักไม่ได้ ยิ่งคำพูดของคนที่ทิ้งเขาไปหาคนใหม่ ไม่มีอะไรที่น่ากลับไปเลยสักนิด พอเขาทิ้งไปก็ซมซานกลับมา คนอย่างรามินทร์เจ็บแล้วจำ!!

ไม่ยอมโง่ซ้ำสองแน่ๆ


“ราม...มิวรอตั้งนานแหนะ ทำไมไม่รีบมา” หนุ่มตัวเล็กน่ารักคนนั้นเดินเข้ามากอดแขนของรามินทร์อย่างสนิทสนมเป็นกันเอง ไม่ทันเห็นอินทัชที่เดินตามมาด้วย

“ก็ฝนมันตก”

“จริงด้วยสิ มิวขอโทษนะราม ดูสิ เปียกหมดเลย” ชายหนุ่มตัวเล็กชื่อว่ามิวนั้นพูดอย่างตกใจก่อนจะเช็ดน้ำที่เกาะตามผมของรามินทร์ออก

“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวมันก็แห้ง” เขาจับมือของมิวออกไปอย่างสุภาพแล้วยิ้มเบาๆ

เพราะมันทำเหมือนยังแคร์เขาอยู่ไงเลยสลัดไม่หลุด จนต้องให้เขามาเป็นไม้กันหมา...อินทัชที่กอดอกมองอยู่คิดแล้วส่ายหน้าอย่างระอา

จะว่าไปมันก็เข้ากันดีนะสองคนนี้...

คนหนึ่งดูตอแหล หลอกลวง ส่วนอีกคนก็เหี้ย!!

“งั้นรามนั่งก่อนดีกว่านะ มิวมีเรื่องจะคุยกับรามเยอะแยะเลย วันนี้เราค้างด้วยได้ไหม ไม่ได้มานานแล้ว คิดถึง” มิวพยายามส่งสายตาหวานซึ้งให้กับรามินทร์ที่นั่งลงตรงข้ามกับตน จับมือของร่างสูงที่วางบนโต๊ะแล้วลูบเบาๆ หากแต่ร่างสูงก็ค่อยๆ ชักมือกลับอย่างสุภาพที่สุด

ใบหน้าหล่อเหลาของรามินทร์ทำให้แค่ยิ้มบางๆ กลับไป ทำเอาอินทัชขมวดคิ้ว...ให้มาเป็นไม้กันหมา เพราะไม่อยากคืนดี แต่ทำเหมือนให้ความหวังเนี่ยนะ

ไอ้นี่มันโง่หรือว่าอะไร?

“ที่จริงมิวจะมาเที่ยวบ่อยๆ ก็ได้ รามไม่ว่า เดี๋ยวจะให้คนจัดห้องให้”

“มิวอยู่ที่บ้านพักของรามไม่ได้เหรอ”

“บ้านหลังนั้นเราทิ้งไปแล้วน่ะ พอดีว่ามันมีปัญหา”

อินทัชแอบพยักหน้าเบาๆ อย่างเข้าใจ ว่าบ้านเก่าๆ ที่อินทัชให้เขาอยู่หลังนั้น ที่แท้ก็เป็นรังรักเก่าของทั้งคู่นั่นเอง...สงสัยที่ทิ้งไม่ใช่เพราะมันท่วมบ่อยอย่างเดียวล่ะมั้ง

“ว้า...เสียดาย ว่าแต่ก็พักที่บ้านใหม่รามก็ได้นี่”

“คงไม่ได้หรอกมิว เราอยู่กับคนรักน่ะ”

“หือ? คนรัก...รามมีแฟนใหม่แล้วเหรอ” ใบหน้าน่ารักขมวดคิ้วอย่างสงสัย

“ขอโทษนะมิวที่ไม่ได้บอกแต่แรก แต่เรามีคนรักใหม่แล้วจริงๆ” สิ้นคำพูดของอินทัช ร่างโปร่งก็ถึงกับสะดุ้งไม่คิดว่าจะถึงคิวของเขาแล้ว

แต่ว่าคำว่าคนรักนั่น...

มึงจะใจเต้นทำไมวะอิน มันแค่คำโกหก มันเป็นแค่คำลวง

“ที่รัก...มานี่สิ” ร่าสูงกวักมือเรียกร่างสูงเพรียวของอินทัช ซึ่งเจ้าตัวก็เนเข้าไปหาด้วยใบหน้าที่ปั้นยิ้มเต็มที่

เออ...กูก็เก่งเนอะ ทำเป็นญาติดีกับคนที่ทำร้ายตัวเองได้แนบเนียนมาก

“นี่คืออินทัชนะมิว เรียกว่าอินสั้นๆ ก็ได้ เป็นคนรักของเรา” ร่างสูงเพรียวของอินทัชเดินเข้าไปหารามินทร์ก่อนจะนั่งลงข้างๆ กับร่างสูง แอบเบะปากด้วยความเอียนกับคำว่าที่รักของรามินทร์

ขนลุกฉิบหายเลยตอนนี้!!

“สวัสดีครับคุณมิว” รามินทร์ฉีกยิ้มหวานทรงเสน่ห์ไป ทำเอาร่างเล็กของมิวกระตุกเล็กน้อย

“สวัสดีครับ...ไม่จริงใช่ไหมราม ก็ไหนตอนนั้นรามบอกว่ารักมิวมากไง” หันไปถามร่างสูงอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไรออกมา ทั้งๆ ที่ในใจเดือดพล่าน

“มันก็หลายปีแล้วนี่ครับคุณมิว ไม่มีใครทนจมปลักรักคนๆ เดียวได้นานขนาดนั้นหรอกครับ ใช่ไหมอ่ะ...เอ่อ ราม” เกือบจะหลุดคำว่าไอ้ออกไปแล้วเชียว ดีนะที่ชะงักได้ทันเมื่อสายตาดุๆ ของรามินทร์ส่งมา

“ใช่ครับที่รัก...”

ไอ้เหี้ยราม...มึงจะเล่นเนียนไปแล้ว

บอกตามตรงว่าการที่เขาต้องมาทำเป็นพูดดีกับรามินทร์นั้นมันทำให้เขารู้สึกประหม่ามาก ทำตัวไม่ถูกไปเลย...แต่เพราะถ้าเขาทำแผนนี้ล่ม ต้องโดนมันดูถูกและโขกสับต่อไปอีกแน่

และเขา...ก็มีข้อแลกเปลี่ยนกับมันอยู่...

“อ่ะ...ไม่จริงน่า” เหมือนสติของมิวจะไปแล้ว

จากที่คิดว่าตัวเองมีความหวังเต็มเปี่ยมเพราะคนตรงหน้านั้น ตอนคบกันเขาอยากได้อะไรก็หามาให้ตลอด บอกว่ารักเขามาก รักคนเดียว

สงสัยเราจะกลับมาช้าไปสินะ

“จริงครับมิว รามต้องขอโทษด้วยนะ”

“แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้นี่ราม” มิวฉีกยิ้มหวานกลับไป

“ถ้าเพื่อนรามก็ยินดี ไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับที่รัก” รามินทร์หันมาขอร่างโปร่ง แสดงเป็นคนกลัวเมียได้สมจริงจนร่างโปร่งบางแอบรู้สึกไปด้วยขณะหนึ่ง

“ก็แล้วแต่รามเลย อินไม่ว่า ถ้าแค่เพื่อนนะ”

รามินทร์ยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ ที่ได้เห็นมุมนี้ของอินทัช

ยอมรับว่าชอบ...จนลืมเรื่องความแค้นนั้นไป

“คุณอินนี่ใจกว้างจังเลยนะครับ”

“ก็ธรรมดาแหละครับ ถ้าอย่างนั้นจะกุมหัวใจของรามได้เหรอ จริงไหม?” หันไปยิ้มให้รามินทร์อย่างต้องการคำตอบ ซึ่งร่างสูงก็เอื้อมมือมาขยี้กลุ่มผมของอินทัชเล่นด้วยความหมั่นเขี้ยว

“จริงสิครับคนดี”

เหี้ย!!! มันแอทแทคใส่กูอีกแล้วนะ...เข้าใจแล้วทำไมคนๆ นี้ถึงกลับมาขอคืนดี เพราะมันน่ารักกับแฟนมันอย่างนี้นี่เอง ผิดกับการกระทำที่อยู่กับเขาลิบลับเลย

พอคิดว่านี่เป็นแค่ละครฉากหนึ่ง พอจบเรื่องมันก็จะกลับมาพูดจาแย่ๆ กับเขาคืนก็รู้สึกไม่ดีและน้อยใจขึ้นมา อินทัชไม่รู้ว่าจะเรียกน้อยใจได้ไหม...แต่มันรู้สึกไม่ดีสุดๆ ต่างจากร่างสูงที่ดูเหมือนว่าประโยคพวกนี้มันจะออกมาจากใจมากกว่าเป็นการแสดงละคร

ไม่รู้ว่าเนียนพอหรือเปล่า เพราะตอนที่คบกับมิว รามไม่เคยเรียกมิวว่าที่รักเลยสักครั้ง...

“น่ารัก! แล้วนี่ให้อินมาแนะนำตัวแค่นี้เหรอ”

“เปล่าหรอก เดี๋ยวก็จะพากลับไปพักแล้วไง” ร่างสูงยิ้มกว้างออกมาให้กับอินทัช

ดวงตาของทั้งคู่สบประสานกัน ไม่มีแววความเกลียดชังอยู่ในดวงตาของทั้งสองเลย มีแต่ความรู้สึกแปลกๆ ที่ก่อขึ้นมาในหัวใจแทน





50%

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

   ในตอนนี้รามเริ่มที่จะกลับมาเป็นรามคนเดิมนั่นคือนางเป็นคนอ่อนโยน สุภาพ (ไม่เชื่อกลับไปอ่านน้องดรีมดู) เพราะนางฉลาดแล้ว คิดว่าการแก้แค้นที่ผ่านมารังแต่จะทำให้เสียใจกันทั้งคู่

ติดตามข่าวสารการลงนิยายของยูกิได้ที่แฟนเพจนะคะ https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ boommerang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
เค้ารออ่านเฉพาะคู่หลักจริงๆนะ คู่รองขอผ่าน
รอนานจริงๆๆๆๆ แต่ก็รอ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
เกลียดกันจะตายมาเล่นเป็นคนรักกัน ก็เนียนกันดีเนาะ

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อร๊ายย.  หวานกันในรอบสามชาติ อิอิ แม้จะแสดงก็เถอะ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
อินหวั่นไหวง่ายไปป่ะ เป็นมาโซหรือชอบให้เขาทำรุนแรงแล้วชอบเนี่ย ถามจริงทำดีแค่นี้แค่ 2 อาทิตย์เกิดหวั่นไหวซะแล้ว แล้วที่แล้วๆมาล่ะจะลืมไปง่ายๆ หรือ ไหนจะโดนข่มขืนไป 3 ครั้งล่ะ อ่ะเราไม่นับครั้งที่เมาก็ได้ มันจะไม่หวั่นไหวง่ายไปหน่อยเหรอค่ะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :katai1:



ไม่ยอมๆๆๆ  ยังไม่หายแค้นเลย

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ค่ะ รักเค้าแล้วล่ะสิ ถึงอยากให้อยู่ใกล้
รามมีลดงานให้ด้วย มีส่งข้าวส่งน้ำ

อินสู้ๆนะ รามแค่หลงผิด อินก็มีอาการแล้ว
จะจริงจังกันตอนไหนนะ ลุ้นมาก

ออฟไลน์ viewier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
เค้าเริ่มรู้สึกกันแล้ว เคมีเริ่มมาแล้วค่ะ
แต่ว่ายังหมั่นใส้รามอยู่มาก หมั่นมากทุกตอน
จะมาเป็นคนดีตอนนี้ ก็ยังแก้ตัวไม่ขึ้นค่ะ
ยังไม่ให้อภัยพระเอก อยากให้อินหนี
ปล่อยให้น้ำตาเช็ดหัวเข่า ทำกับเค้าไว้เยอะ
ใครเตือนก็ไม่ฟัง นิสัยไม่ดีเลย

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
อ๊ายยยยยยย..น่ารัก..อ่านไปยิ้มไป...จะขำหรือฟินดีเนี่ยะ...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
อิน..ไม่เอาไม่ใจง่ายค่ะลูกกกก
เล่นตัวนะคะ ยิ่งไว้นะคะ อย่าแสดงให้รามเห็นค่ะว่าเราใจอ่อน
รามมันต้องโดนสั่งสอนค่ะ เอาให้หลาบจำ เข็ดกับสิ่งที่มันทำไว้กับอินทร์

ออฟไลน์ Mynun

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
หวั่นไหวง่ายไปนะคือรักลงจริงดิคนแบบราม? ถึงเนื้อแท้รามจะน่ารักก็เหอะแต่สิ่งที่กระทำมาทั้งหมดมันไม่น่าลบล้างกับแค่แกล้งเป็นแฟนได้นะ
ไม่อินแล้วอ่ะแง้งเมื่อไหร่อินจะได้ไปสักทียืดเกิน

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
ตอนที่ 21 ครึ่งหลัง







“งั้นรามขอตัวพาอินไปพักก่อนนะ พอดีว่าอินเพิ่งจะหายจากไข้ มิวอยากจะพักที่นี่ก็ได้ เดี๋ยวเราให้คนเตรียมห้องให้” รามินทร์พูดกับคนตรงหน้า ซึ่งมีท่าทางไม่สู้ดีนักจนรามินทร์ชักจะใจอ่อน

“มิวขอพักที่นี่ก็แล้วกันนะ แล้วแบบนี้ตอนเย็นเราจะได้ทานข้าวด้วยกันไหม” มิวถาม

“ก็คงต้องดูอาการของอินก่อนน่ะ แล้วก็รออินอนุญาตด้วย”

“อะไรกัน...แต่ก่อนรามไม่เห็นต้องถามความเห็นอะไรใครเลย”

“เพราะคนนี้ราม ‘จริงจัง’ ไง” ร่างสูงตอบออกมายิ้มๆ

ร่างโปร่งบางสติหลุดไปแล้วหลังจากประโยคนี้...

“ทำเหมือนกับว่าตอนคบกับมิวรามไม่จริงจัง” มิวถามขึ้นมา

“ตอนนั้นก็จริงจัง...ถ้าไม่ติดว่าโดนหักหลังก็จะจริงจังแบบนั้นแหละ แต่เราเจ็บแล้วจำนะมิว เรื่องอื่นเราให้อภัยได้ทุกอย่าง แต่เรื่องนอกใจ...เราไม่มีโอกาสให้จริงๆ” ร่างสูงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นๆ สีหน้าเรียบนิ่งจนมิวอดจะขนลุกไม่ได้เพราะตนไม่เคยเจอรามินทร์โหมดนี้

“แต่...”

“การนอกใจ...ก็เหมือนกับเป็นการบอกว่า ไม่ได้รักกันแล้ว”

“ราม...มิวก็ขอโทษแล้วไง”

“ครับ รามรับคำขอโทษไว้ แต่ก็ขอตัวก่อน พอดีว่าอินต้องการพักผ่อน” ร่างสูงฉุดแขนของอินทัชให้ยืนขึ้น ซึ่งเรียกสติของคนตัวบางกว่าให้กลับเข้ามา

เห็นเพียงใบหน้าบูดบึ้งของมิวกับใบหน้าที่เรียบนิ่งของรามินทร์เท่านั้น

เขาถูกพาให้เดินออกมาจากตรงนั้น ก่อนจะพากลับไปยังบ้านพักด้วยการเดินกางร่มกลับไปเพราะฝนยังไม่หยุดตก...พอถึงตัวบ้าน รามินทร์ก็เดินไปทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟามีอินทัชที่ยืนนิ่งอยู่ไม่รู้จะทำอะไร ได้แต่มองร่างสูงนิ่งๆ

“ถ้ามึงยังรักเขาอยู่...ก็น่าจะให้โอกาสนะ”

“หึ...มึงจะไปรู้อะไร มิวทำกับกูไว้เยอะขนาดไหน ที่กลับมาเพราะอะไรทำไมกูจะไม่รู้”

“เอาเถอะ...ไม่ใช่เรื่องของกู”

“นั่นมึงจะไปไหน”

“ไม่มีอะไรทำ กูจะไปนอน...” อินทัชตอบคำถามด้วยสีหน้านิ่งๆ

เขาไม่อยากจะมองหน้ารามินทร์มากเท่าไหร่ เพราะมองไปก็คิดถึงการเล่นละครเมื่อครู่จนใบหน้าร้อนผ่าวราวกับเป็นไข้ทุกที...

“แล้วเรื่องข้อเสนอของมึงล่ะ”

“กูอยากคุยโทรศัพท์กับแม่” ร่างโปร่งขอขึ้นมาเบาๆ แต่ก็ดังพอที่จะทำให้รามินทร์ได้ยิน

คนตัวใหญ่นั่งนิ่ง ไม่ตอบรับคำขอของอินทัชเพราะกำลังใช้ความคิดอยู่

“ถ้ากูปล่อยมึงไป มึงจะแจ้งตำรวจจับกูไหม”

“ถามทำไม...”

“กูก็แค่อยากรู้”

“แค่มึงปล่อยกูไปก็พอ กูจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับมึงอีก” อินทัชตอบ

แต่เป็นคำตอบที่รามินทร์รู้สึกไม่พอใจเอามากๆ

ไม่ยุ่งเกี่ยวงั้นหรือ? ไม่มีทาง!!!

“มึงนี่ใจดีนะ” รามินทร์ยิ้มเยาะ

“ถือว่าชดใช้กรรม ไม่ได้ใจดีอะไร ชาติก่อนกูคงทำกับมึงไว้เยอะล่ะมั้ง เลยโดนทำคืนแบบนี้”

“หึ!!”

“แล้วสรุปว่าไง จะให้กูคุยกับแม่ได้ไหม”

“ก็ได้ แต่ต้องเปิดลำโพงให้กูได้ยินด้วย”

“อือ...” ร่างโปร่งพยักหน้า

เขาไม่ได้คิดจะบอกให้ใครมาช่วยเพราะเชื่อฝีมือเพื่อนของตัวเองว่าต้องหาเขาเจอ แต่ที่อยากจะคุยกับแม่เพราะเป็นห่วงก็เท่านั้น

กลัวท่านจะเครียดเรื่องเขาจนป่วยไป

“วันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน กูจะให้คนจัดการเรื่องโทรศัพท์มาให้”

“เออ... นับว่าเป็นกรุณาอย่างสูงยิ่ง”

“หึหึ” รามินทร์หัวเราะออกมากับท่าทางของอินทัช

ไม่รู้ว่าเขาสองคนมาพูดกันแบบธรรมดาๆ ปกติๆ แบบที่คนเขาคุยกันตอนไหน แต่รามินทร์รู้สึกว่ามันดีกว่าเมื่อก่อนเยอะ

ไม่น่าเชื่อว่าแค่หนึ่งเดือนกว่าๆ...ความรู้สึกของเขาก็เปลี่ยนไปจากเดิมตั้งมากขนาดนี้

ตอนนั้น...อย่าว่าแต่เห็นหน้าเลย แค่ได้ยินเสียงก็แทบอยากจะทำลายให้ตายคามือ แต่หลังจากวันนั้น...เขากลับรู้สึกผิดที่ทำลายอีกคนลงไป เขารู้เลยว่า การแก้แค้นมันไม่ได้ทำให้เขามีความสุข

เขาเสียใจ เขารู้สึกผิด...

และเขาก็อยากจะไถ่โทษอินทัชถึงความเลวร้ายที่เขาทำไปทั้งหมด...

นี่เป็นเหตุผล...ที่ทำไมเขาไม่ยอมปล่อยอินทัชกลับบ้านไป

...

...

...


“อ่ะ! โทรซะ!!” รามินทร์ยื่นโทรศัพท์ให้กับอินทัชที่กำลังทำความสะอาดบ้านพักของรามินทร์อยู่ “โทรเสร็จแล้วก็ช่วยทำงานให้เสร็จจนมิวกลับไปด้วย เข้าใจนะ”

“เออน่า...”

“วันนี้คงต้องไปกินข้าวกับมิว เมื่อวานก็เบี้ยวมาแล้ว”

“ทำไงได้ กูไม่อยากไปนี่หว่า”

“กูก็ไม่ได้บอกว่าตัวเองอยากไป เอ้า! รีบโทรสิวะ กูจะได้รีบเอาซิมไปทิ้ง!!!”

“เออๆ” อินทัชรับโทรศัพท์มาด้วยมือที่สั่นอย่างตื่นเต้น กดเบอร์โทรของมารดาที่ตนจำได้อย่างขึ้นใจไปอย่างช้าๆ โดยมีรามินทร์ยืนมองอยู่ใกล้ๆ

พอกดโทรออกเขาก็เปิดสปีกเกอร์โฟนทันทีโดยให้รามินทร์อ้าปากขึ้นมาสั่งอีก

[สวัสดีค่ะ] เสียงที่รับโทรศัพท์เป็นเสียงที่เขาคิดถึงมาตลอดหนึ่งเดือนมานี้

“ม่ะ...แม่ครับ” เสียงของเขาสั่น เขารู้

ตาของเขาแสบพร่าไปหมดจนอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ ให้แม่ปลอบ

[อ่ะ อินเหรอลูก ฮึก อินใช่ไหม ฮึก...อินอยู่ไหน ทำไมไม่กลับบ้าน ทำไมไม่ติดต่อมา รู้ไหมว่าทางนี้เป็นห่วงมากขนาดไหน ฮือ...แม่จะขาดใจทุกครั้งเมื่อคิดว่าลูกจะเป็นตายร้ายดียังไง]

เขาบอกตัวเองว่าอย่าร้องไห้...แต่มันก็ห้ามไม่ไหวจริงๆ

อินทัชไม่ได้อยากอ่อนแอ...แต่การที่ได้ยินเสียงแม่มันทำให้น้ำตาของเขาไหลลงมาอย่างดีใจ

“อินสบายดี...พ่อ แม่ พี่แอนไม่ต้องเป็นห่วงนะ”

[แล้วทำไมไม่ติดต่อมาเลย แม่ทุกข์รู้บ้างไหมลูก]

“อินขอโทษ...อินแค่เหนื่อย เลยมาพัก ถ้าอินพร้อม...อินจะกลับไปหาแม่นะครับ”

[งานมันหนักไปใช่ไหมลูก...ถ้างั้นอินก็พักเถอะแม่ไม่ว่า แค่แม่ได้รู้ว่าลูกมีชีวิตอยู่ แม่ก็ดีใจแล้ว]

“อินมาแบบนี้ ใครดูแลบริษัทและงานของอินครับ”

[พ่อกับพี่แอนลูก แล้วมีตาธีร์เข้ามาช่วยบ้าง ทำไมไม่ติดต่อเพื่อนบ้าง รู้ไหมว่าตาธีร์ก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ ตามหาเราเสียวุ่นวายทั้งๆ ที่งานตัวเองก็เยอะ]

“ฝากขอโทษธีร์มันด้วยนะครับแม่”

[ทำไมไม่โทรไปบอกเองล่ะลูก]

“อินไม่พร้อมจะคุยกับมันตอนนี้ บอกมันไม่ต้องเป็นห่วงผม แล้วผมจะกลับไป”

[ได้จ้ะ แม่จะบอกให้ รีบกลับมาให้แม่กอดนะลูก แม่คิดถึงอินมากๆ เลยนะคะ]

“อินก็คิดถึงแม่”

มือขาวกำแน่นอย่างต้องการข่มความทรมานนี้ ทรมานเพราะคิดถึง...

[แม่กับพ่อรักอินนะลูก มีอะไรพูดกับแม่ได้ ยังไงอินก็เป็นลูกของแม่ ไม่มีใครรักลูกได้เท่ากับที่พ่อแม่รักลูกหรอกนะอิน] ปลายสายเอ่ยเสียงสั่นไม่หาย

“อินก็รักพ่อกับแม่ ฝากขอโทษพ่อกับพี่แอนด้วยที่ต้องเข้ามายุ่งกับงานจนได้ ทั้งๆ ที่อินสัญญาแล้วว่าจะเป็นดูแลทุกคนเอง”

[ไม่เป็นไรลูก งานที่มีอยู่มันหนักเกินไป ขนาดที่ทำกันสองคนยังไม่ไว้ ไม่แปลกที่ลูกจะไม่ไหวเลยอิน]

ไม่ใช่...อินทำทุกอย่างไหวเพื่อครอบครัว แต่ที่อินต้องทิ้งมาเพราะต้องชดใช้กรรมของอินเอง

“ขอโทษครับ”

[ไม่มีใครโกรธอินเลย แค่อินกลับมา พวกเราก็ดีใจแล้ว]

“อีกไม่นานครับ รออีกไม่นานนะครับ”

[จ้ะ...แม่จะรอ]

“งั้นอินต้องวางแล้วล่ะครับ อินรักแม่นะ”

[โชคดีนะลูก ขอให้พระคุ้มครอง แม่จะสวดมนต์ให้ลูกหายดีและปลอดภัย…]

อินทัชแทบจะหมดแรงที่ต้องวางสายจากแม่ที่แสนจะคิดถึง ส่วนรามินทร์เองก็ทำหน้านิ่งไม่รู้สึกอะไร หยิบโทรศัพท์มา แล้วก็ทำลายซิมจนไม่สามารถใช้ได้อีก

“ขอบใจ” อินทัชพูดแค่นั้นก็เดินเลี่ยงออกไปทำงานต่อ

รามินทร์ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้แรงๆ ด้วยความเหนื่อยล้า...น้ำเสียงปานจะขาดใจของแม่อินทัชยังติดหูเขาอยู่ เขาเพิ่งจะมาคิดได้เอาตอนนี้ว่าไม่ได้ทำให้อินทัชเจ็บปวดคนเดียว

แต่คนที่อยู่รอบข้างอินทัชก็เจ็บปวดด้วย โดยเฉพาะพ่อกับแม่ของอินทัช

ทำไมมึงจะมาคิดได้เอาป่านนี้ ถ้าเกิดเป็นพ่อแม่มึงก็คงจะเจ็บปววดแบบนี้เหมือนกัน

“โธ่เว้ย!!!”



Rrrrrrr…

“สวัสดีครับคุณแม่”

[ตาธีร์ เมื่อกี้ตาอินโทรมาหาแม่] ไม่มีการทักทาย ปลายสายบอกเล่าเรื่องเมื่อกี้ให้กับร่างโปร่งที่กำลังทำงานอยู่อย่างตื่นเต้นดีใจ

“จริงหรือครับคุณแม่” ธีร์วางทุกอย่างลงบนโต๊ะ แล้วหันมาคุยโทรศัพท์อย่างเดียว

เพราะเพื่อนรักเพียงคนเดียวติดต่อมาแล้ว...นั่นมันทำให้เขารู้ว่า อินทัชยังไม่ตาย

[จริงจ้ะ...] แล้วปลายสายก็เล่าสิ่งที่พูดกับอินทัชทั้งหมดให้กับเพื่อนลูกชายฟัง ซึ่งร่างโปร่งก็ถึงกับขมวดคิ้วเพราะไม่เชื่อว่าอินทัชจะหายไปด้วยเหตุผลนี้

“มีแค่นี้หรือครับ”

[จ้ะ]

“คุณแม่มีเบอร์ที่โทรมาไหมครับ” ธีร์ถามออกไป

[มีนะ...จะเอาเหรอตาธีร์ แต่แม่โทรไปอีกรอบก็ไม่ติดแล้วนะ]

“ครับ ผมขอหน่อย”

[งั้นเดี๋ยวแม่ส่งให้ทางไลน์นะจ้ะ]

“ขอบคุณครับ”

สายถูกตัดไปแล้ว ธีร์เลยเคาะนิ้วกับโต๊ะรอแม่ของอินทัชส่งหมายเลขนั้นมาอย่างร้อนใจ เขาไม่เชื่อว่าอินจะมีเหตุผลแบบนั้น นั่นเพราะเขารู้จักมันดีกว่าใคร

อินทัชไม่ใช่คนหนีปัญหา งานหนักแค่ไหนมันก็สู้ไม่เคยถอย!!

“มันต้องมีอะไรอยู่แน่ๆ”

ไม่นานนัก ไลน์ของเขาก็ดังขึ้น พร้อมกับเบอร์ที่แม่ของอินทัชส่งมา เขาพิมพ์ขอบคุณกลับไปแล้วกดที่หมายเลขนั้นจนมันเด้งมาที่หน้าจอโทร

ธีร์ลองโทรดูก็พบว่าติดต่อไม่ได้แล้วจริงๆ อย่างที่แม่เพื่อนรักบอก

“ให้ตายสิ มันแปลกเกินไปแล้ว”

ในเมื่อโทรไม่ได้ เขาก็ต้องทำอย่างอื่นแล้วล่ะ

“ฮัลโหล...เห็นหมายเลขโทรศัพท์ที่ฉันส่งไปให้ไหม หาข้อมูลของเจ้าของเบอร์มาให้ฉัน แล้วก็บันทึกรายการโทรทั้งหมดมาด้วย ถ้าเช็คสถานที่ที่โทรออกแต่ละเบอร์ได้ก็จะดีมาก ฉันจะได้ในกี่วัน โอเค...หนึ่งอาทิตย์ก็หนึ่งอาทิตย์ แต่ว่าอาทิตย์หน้าฉันไปต่างประเทศ เอาไว้หลังจากนั้นก็ได้”

เพราะรู้ว่าเพื่อนปลอดภัยดีเลยไม่รีบร้อนเท่าไหร่ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เป็นห่วง

“อือ...ขอบใจมาก”

ธีร์วางสายจากลูกน้องที่ให้ไปตามสืบข้อมูล แล้วก็นั่งครุ่นคิดถึงข้อมูลต่างๆ ที่ได้มาจากกล้องวงจรปิดที่สุดท้ายที่อินทัชอยู่ก่อนจะหายไป ถ้ามีข้อมูลจากเบอร์เมื่อกี้ มันคงจะช่วยอะไรเขาได้มากกว่านี้

Rrrrrrr….

“อือ...ว่าไง”

[กินข้าวหรือยัง] เสียงทุ้มต่ำดังออกมาเรียกพลังจากธีร์ได้อย่างเต็มเปี่ยม

“ยังเลย...นี่พัฒน์”

[อืม...มีอะไร]

“เมื่อกี้แม่ไอ้อินโทรมาบอกว่าไอ้อินติดต่อไปทางนั้น”

[ก็ดีแล้วนี่ แสดงว่าเพื่อนมึงปลอดภัย]

“ก็ใช่!”

[มึงยังกังวลใจอะไรอีก]

“กูคิดว่ามันแปลกๆ”

ร่างโปร่งเล่าที่ฟังจากแม่ของอินทัชให้คนรักฟัง ซึ่งพัฒน์ก็ได้แต่เงียบๆ ฟังคนรักพูดเท่านั้น

[แล้วมันยังไง]

“กูรู้จักมันมานานมาก มันไม่ใช่คนหนีปัญหาพัฒน์ กูว่ามันแปลกๆ”

[ก็แค่สืบต่อไป จะได้รู้ว่าที่มึงคิดถูกหรือผิด] พัฒน์ว่า

“ก็ว่างั้น”

[รีบไปหาอะไรกิน เดี๋ยวโรคกระเพาะก็กำเริบ]

“โอเคครับแฟน”

[หึหึ...อย่าให้รู้ว่าไม่กินข้าวนะ]

“รู้แล้วล่ะน่า”

เขาวางสายคนรักที่มักจะโทรมาเตือนให้เขาทานอาหารให้ตรงเวลาด้วยรอยยิ้มนิดๆ ก่อนจะกลับมาตึงเครียดเหมือนเดิมเพราะเรื่องของเพื่อนรัก

“มึงคงไม่ได้จะกลับมาเร็วๆ นี้หรอกใช่ไหม...ถ้าอย่างนั้น กูจะไปรับมึงกลับมาเอง”

เพราะธีร์เชื่อ...

เชื่อว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เพื่อนรักของเขากลับมาไม่ได้...





100%

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

   แอบมีพี่ธีร์เข้ามาแจมนิดหน่อย ฮ่าๆ ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะคะ
   มีอะไรพูดคุยกับยูกิได้ที่แฟนเพจ หรือสอบถาม ติดตามข่าวสารการลงนิยายได้ที่เพจนะคะ ^_^
   https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ viewier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
เริ่มแล้วค่ะ เดี๋ยวก็คงดราม่าอีกยาวๆ แน่เลย
เอาใจช่วยอินนะ หวั่นไหวแล้วเนี่ย

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
น้องธีร์ของเจ้ ฉลาดล้ำเลิศค่ะลูกกกก ตามเพื่อนให้เจอนะคะ

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
สนุกแน่วันที่ฉันรอคอยใกล้มาถึงแล้ว

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
หาอินให้เจอเร็วๆนะธีร์...

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ K3n0

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ใกล้จะไคลแมกซ์แล้วสินะ สู้ๆพี่อิน

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
รามอยากขอโทษก็ปล่อยไปเหอะ
แต่ที่ปล่อยไม่ได้เพราะกลัวใจตัวเอง
กลัวไม่ได้อีกล่ะสิ อยากผูกมัดก็บอก คิดได้ช้าไปนะ

สงสารอินทัช รับผิดแบบไม่รู้ตัว

ธีร์ช่วยอินให้ได้นะ อยากรู้ว่ารามจะทำยังไง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด