Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=  (อ่าน 228953 ครั้ง)

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
ตอนที่ 27 ครึ่งหลัง

 



“เตรียมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”

“ใช่ค่ะคุณจอม คุณจอมไปพักก่อนก็ได้นะคะ”

“ไม่เป็นไรหรอกแตง รอกลับพร้อมกันนี่แหละ” เจ้าจอมส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

“คุณจอมนี่ใจดีจังนะคะ พวกเราว่าคุณจอมเสียๆ หายๆ คุณจอมยังไม่ไล่เราออกเลย”

“เป็นธรรมดานั่นแหละ ถ้าให้ฉันมามัวนั่งไล่ออก ก็คงจะโดนกันหมดทั้งรีสอร์ทล่ะมั้ง ว่าแต่...แก้วไปไหนเหรอ อยากจะคุยด้วยหน่อย จะได้ไม่เข้าใจกันผิดอีก”

“กลับไปนานแล้วล่ะค่ะ” ส้มตอบ

“อ้าว? ทำไมได้กลับก่อน”

“คือพอดีมันไม่สบายก็เลยขอกลับไปพักก่อนค่ะ”

“งั้นเหรอ งั้นไปเยี่ยมหน่อยก็แล้วกัน”

“งั้นเดี๋ยวแตงกับส้มพาไปนะคะ”

เจ้าจอมพยักหน้าน้อยๆ เมื่อทำงานทุกอย่าง เก็บข้าวของเรียบร้อย เจ้าจอมพร้อมกับแตงและส้มที่จะพาไปเยี่ยมแก้วก็พากันเดินไปยังบ้านพักคนงานหญิงทันที ซึ่งก็มีคนงานหญิงที่กำลังกลับไปพักพ่วงมาด้วยอีกเกือบสิบกว่าคน

เดินขึ้นบันไดไปชั้นสองก่อนที่จะพากันหยุดอยู่ตรงหน้าห้องห้องหนึ่ง แตงทำท่าจะเคาะประตู แต่ว่าเจ้าจอมห้ามไว้ก่อนเนื่องจากได้ยินเสียงมาจากข้างในห้อง

“ทำไมคะ?”

“ฉันได้ยินเสียงผู้ชายในนั้น”

“เอ๋...แต่ผู้ชายจะมาทำอะไรที่นี่ตอนกลางคืนแบบนี้ล่ะคะ” ส้มถาม

“ลองฟังดู ฉันไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ถ้าไม่ใช่ ค่อยเคาะ”

เหล่าคนงานหญิงคนอื่นๆ ที่ทำท่าจะแยกย้ายเข้าห้องตัวเอง เห็นเจ้านายกับแดงและส้มกำลังยืนนิ่งหน้าห้องของแก้วก็เกิดความสงสัย เลยเดินมาสมทบด้วย เผื่อได้รู้เรื่องดีๆ

และมันก็เป็นอย่างนั้นเมื่อเสียงในห้องเริ่มดังขึ้นเพราะพวกเขาเงียบตั้งใจฟัง เจ้าจอมกำหมัดแน่น กัดปากล่าง ใจบีบรัดกัน เจ็บแบบหน่วงๆ

เสียงของจักร...เจ้าจอมจำได้ดี...

ทำไมไม่รักษาสัญญา...คิดจะลองดีกับฉันเหรอนายจักร!!


“ทำแบบนี้ต้องการอะไร?”

ร่างสูงหันไปเอาเรื่องหญิงสาวด้วยสีหน้าที่เกรี้ยวโกรธ แต่แก้วกลับทำในสิ่งที่ทำให้จักรตกใจเข้าไปอีก

หมับ!

“แก้วชอบพี่จักร” เธอกอดจักรจากข้างหน้าอย่างแน่น จักรพยายามดันหญิงสาวออกแต่ก็ไม่เป็นผล พยายามเบียดหน้าอกของเธอกับแผ่นอกของร่างสูง จักรพยายามแก่งออกอย่างที่ไม่ทำให้หญิงสาวต้องเจ็บมาก ใบหน้าที่ดูดุและเถื่อนยิ่งดูน่ากลัวเข้าไปอีก

จักรเกลียดคนโกหกที่สุด...และตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องรักษาน้ำใจอะไรหญิงสาวคนนี้อีก หากว่าเจ้าจอมให้เขาออกห่าง เขาก็จะออกห่าง

“ดูสิพี่จักร แก้วเป็นผู้หญิง แก้วมีนม แก้วมีทางข้างหน้า แล้วก็มีลูกให้พี่ได้ คุณจอมสู้อะไรแก้วไม่ได้หรอก ของแบบนั้นจะสู้ของแท้ได้ยังไง พี่จักรจับดูสิ” แก้วพยายามดึงมือจักรให้มาวางที่หน้าอกของเธอ แต่แรงผู้หญิงจะไปบังคับผู้ชายได้ยังไง พยายามเท่าไหร่ จักรก็ขืนมือตัวเอง พร้อมกับจับแขนหญิงสาวอีกข้างแล้วผลักไปไม่แรง แต่ก็ทำให้เธอหลุดจากตัวของจักรได้ และล้มไปนั่งกับพื้นได้

“กรี๊ด!! พี่ผลักแก้ว”

จักรทำหน้าขยะแขยง...เขาไม่ชอบคนแบบนี้ เขาไม่ชอบหญิงสาวที่กำลังพยายามยั่วยวนเขาโดยการเปรียบเจ้าจอมให้ต่ำกว่าเธอ

สำหรับจักร...เจ้าจอมคือคนที่แตะต้องไม่ได้!!!

“คุณจอมดีกว่าเธอทุกอย่าง...หยุดพูดจาน่ารังเกียจแบบนี้สักที!!” เสียงทุ้มต่ำของจักรตะโกนดังกร้าวพร้อมกับชี้หน้าแก้วที่กำลังมองจักรอย่างโกรธๆ และไม่พอใจ

ปัง!!!

“ใช่แล้ว!! คุณจอมดีกว่าแกทุกอย่างนังแพศยา” ส้มเปิดประตูอย่างแรงพร้อมกับตะโกนใส่แก้วที่มองคนมาใหม่ด้วยสายตาที่เบิกกว้างตกใจ

ไม่ใช่ตกใจที่เห็นคนงานหญิงเกือบสิบคน แต่ตกใจที่เห็น...

“ค่ะ คุณจอม...” สิ้นเสียงพึมพำของแก้ว จักรก็หันมามองทางประตูหน้าห้องอย่างตกใจไม่แพ้กัน พอเห็นเจ้าจอมก็รู้สึกชาวาบไปทั้งตัว

สายตาของเจ้าจอมเย็นชาสุดๆ

“คุณจอม...”

“เงียบไปจักร ฉันจะซักนาย แต่หลังจากนี้” เสียงของเจ้าจอมไม่มีทีท่าว่าจะล้อเล่นเลยสักนิด

“เอายังไงดีคะคุณจอม”

“เรื่องนี้ต้องถามพี่รามแล้วล่ะ ว่าคนงานหญิงทำพฤติกรรมแบบนี้จะโดนโทษแบบไหน” เจ้าจอมตอบ กอดอกเชิดหน้ามองหญิงสาวที่พื้น แววตาของแก้วสั่นระริก หาคำพูดตัวเองไม่เจอ

เจ้าจอมใช้สายตาที่เรียบเฉย เยือกเย็น ไม่แสดงอารมณ์อะไร และไม่มีแม้แต่ความรู้โกรธ ไม่พอใจ เป็นสายตาที่แก้วรู้สึกว่า...ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ก็ไม่อาจจะทำให้คนๆ นี้มีความรู้ได้

หรือในอีกความหมาย...ไม่มีทางชนะเจ้าจอมได้

“ก็คงไล่ออกอย่างเดียวแหละค่ะคุณจอม” แตงตอบ แล้วใช้สายตามองเพื่อนร่วมงานอย่างรังเกียจ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าผู้หญิงที่ดูซื่อๆ ต่อหน้าพวกเธอ จะกลาทำเรื่องบัดสีแบบนี้

“นี่ถ้าคุณจอมไม่อยากจะมาเยี่ยมไข้แก คงจะไม่ได้เห็นอะไรแบบนี้หรอก”

ได้ยินตั้งแต่แก้วพูดว่าเธอเป็นผู้หญิงแล้ว แตงกับส้มพยายามจะเปิดประตูเข้าไปแต่เจ้าจอมทำท่าให้หยุดฟังไปก่อน ส่วนหนึ่งเพราะเชื่อใจจักร แม้ว่าตอนนั้นจะกัดฟันแน่นมากก็ตาม

“ล่ะ แล้วทำไมมาโทษฉันคนเดียวล่ะ พี่จักรเข้ามาในห้องฉันนะ พี่จักรพยายามจะข่มเหงฉัน”

จักรเบิกตากว้าง หันมองเจ้าจอมแล้วเตรียมจะอธิบาย

“หยุด! ไม่ต้องพูด ถ้าฉันถาม นายค่อยพูด เข้าใจใช่ไหม” เจ้าจอมไม่สบตาจักรเลย ไม่แม้จะหันมาด้วยซ้ำ นั่นทำให้จักรกำหมัดแน่น แล้วมองหน้าเจ้าจอมแบบอ้อนวอนแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่เห็น

“แต่ที่พวกเราได้ยิน คือแกพยายามยั่วยวนพี่จักร และประโยคสุดท้ายบวกกับสภาพแกที่นั่งอยู่กับพื้นขนาดนี้ คิดเหรอว่าจะมีคนเชื่อว่าพี่จักรมาที่นี่เพราะพิศวาสแก” แตงตอบด้วยน้ำเสียงโกรธๆ แทบอยากจะถลาไปสั่งสอน

“นายมาที่นี่ทำไม” ร่างเล็กถามเสียงเรียบ ไม่มองหน้าจักรเหมือนเดิม เอาแต่มองร่างหญิงสาวที่ยังคงนั่งอยู่กับพื้นเพราะไม่กล้าลุกขึ้นยืน

“แก้วบอกว่าไฟที่ห้องเสีย ให้ผมมาซ่อมครับ”

“ไฟเสีย? หึ”

“นี่ขนาดโกหกว่าไฟเสียเลยเหรอ ตอแหลเกินไปไหมห๊ะนังแก้ว!!” แตงตะคอกแทรกขึ้นมา

“ช่างเถอะแตง”

“แต่คุณจอม...”

“ฉันจะไม่เอาเรื่องไปบอกพี่รามก็แล้วกัน ให้โอกาสทำงานต่อไปก็ได้” เพราะรู้ว่ายังไงก็คงไม่กล้าอยู่หรอก...

“ทำแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ!! ทำไมฉันถึงผิดคนเดียวล่ะ พี่จักร!! ฉันเป็นผู้หญิง ฉันเสียหายนะพี่!!” หันไปโวยวายใส่ร่างแกร่งที่เป็นผู้ชายคนเดียวในที่นี้แทน จักหันไปมองแก้วด้วยสายตาที่ดูสมเพชเวทนา แต่ก็ไม่อาจจะเอ่ยอะไรออกมาได้อีก เพราะสิ่งที่ทำกับเขามันยังไม่เลวร้ายเท่ากับที่แก้วพูดว่าตัวเองดีกว่าเจ้าจอม

เจ้าจอม...ที่เป็นนางฟ้าที่แสนสูงส่งของเขา

ต่อให้เป็นหน้าตัวเมีย ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ จักรไม่สนใจ เท่าความรู้สึกของเจ้าจอม...แล้วแก้วก็ผิดจริงอย่างที่ว่า ถ้าโทษมีว่าอย่างไรก็ควรจะเป็นไปตามนั้น

เพราะต่อให้ไม่มีการลงโทษและปล่อยผ่าน สำหรับจุลจักร ก็คงไม่อยากเข้าใกล้หรือมองหน้าหญิงสาวอีกแน่ๆ

“เสียหายตรงไหน ประเด็นนี้คนที่เสียหายคือพี่จักรเว้ย คิดว่าเป็นผู้หญิงแล้วจะทำงามหน้ายังไงก็ต้องมีคนไว้หน้ามันก็ไม่ใช่ป่ะวะ? ขนาดฉันเป็นผู้หญิงด้วยกันยังขยะแขยงเลย” แตงพูดขัดขึ้นมาอีก

“ใช่ๆ อย่างพี่จักรเนี่ย ถึงจะเป็นผู้ชาย แต่ก็เป็นผู้เสียหายตัวจริงเลยล่ะ ใครๆ ก็รู้ว่าพี่จักรเป็นคนยังไง เพราะฉะนั้นอย่าได้ฉุดพี่จักรมาตกต่ำกับคนแบบแก” ส้มสมทบ คนงานหญิงที่เหลือก็ต่างพากันพูดอย่างเห็นด้วยออกมา

แก้วรู้สึกทั้งเจ็บใจและรู้สึกว่าแทบอยากจะมุดแผ่นดินหนีเพราะอับอายเหลือเกิน มองเจ้าจอมอย่างเคียดแค้น ในเสี้ยวหนึ่งเจ้าจอมยิ้มมุมปากให้อย่างเย้ยหยัน

เพราะรู้ดีว่า...แก้วจะออกจากที่นี่ไปเอง ด้วยความอับอายด้วย

“แก!!!”

ไหนๆ ก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว แก้วเลยระเบิดอารมณ์ของตัวเองออกมา ที่ผ่านมาเธอทำเป็นแสนซื่อและเรียบร้อยต่อหน้าคนอื่น และคนอื่นก็หลงเชื่อ มีเพียงแค่กับเจ้าจอมนั่นแหละที่เธอไม่สามารถทำได้

เจ้าจอมมองเธอออก...ซึ่งความใจร้อนของเธอ ก็เป็นสิ่งที่ทำลายตัวเอง

“อย่ามาชี้หน้าคุณจอมนะ!!”

“ช่างเขาเถอะส้ม ปล่อยให้เขาทำ” เจ้าจอมว่า

“อีเกย์ อีผิดเพศ...แกกำลังฉุดให้พี่จักรมาเป็นตัวน่ารังเกียจแบบแก แกมัน...” ยังไม่ทันที่แก้วจะต่อว่าเจ้าจอมด้วยความโกรธจบ ร่างแกร่งก็ตะคอกแทรกขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

“หุบปาก!!!”

ทั้งหมดอยู่ในอาการนิ่งอึ้ง มองจักรเป็นตาเดียวเพราะไม่เคยเห็นคนๆ นี้โกรธมาก่อน ต่อให้หน้าของจักรจะดูโหด ดูดุ แต่นิสัยของจักรก็คือคนซื่อๆ และใจดีคนหนึ่งเท่านั้น

“หยุดพูดจาว่าคุณจอมเดี๋ยวนี้ พี่ไม่คิดว่าแก้วจะเป็นได้ขนาดนี้ พี่รักคุณจอมมานานหลายปีมาก คุณจอมไม่ได้ฉุดพี่มาชอบผู้ชาย แต่พี่รักแค่คุณจอม แค่คุณจอมเท่านั้น แล้วคนที่รักเพศเดียวกันไม่ได้น่ารังเกียจ เพราะเขาไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แล้วคนที่น่ารังเกียจจริงๆ คือคนแบบเธอ!!”

“ทำไมจะไม่เดือดร้อน!! เพราะไอ้จอมเนี่ยแหละที่ทำให้พี่ไม่สนใจฉัน ไม่สนใจผู้หญิง”

“แล้วมันยังไง...ฉันรักคุณจอมก่อนที่จะมาเจอกับเธอด้วยซ้ำ และต่อให้เจอเธอก่อน ก็ไม่มีทางรักเธอได้!!!” จักรเปลี่ยนสรรพนามในการเรียกและแทนตัวใหม่อย่างห่างเหิน ตัวสั่นระริกอย่างโกรธ

มีความรู้สึกอยากจะต่อยผู้หญิงก็ครั้งนี้แหละ... 

“ตอนนี้ฉันรักษาการแทนไอ้ขรรค์อยู่ ในฐานะที่มีสิทธิ์ตัดสินใจแทนมันได้ ฉันขอไล่เธอออก และรีบเก็บข้าวของออกไปให้เร็วที่สุดด้วย!!!” สิ้นเสียงของจักร ก็ทำให้คนงานที่ยืนดูเหตุการณ์ถึงกับอึ้งเข้าไปอีก

ส่วนเจ้าจอมก็ตีสีหน้าเรียบนิ่งไม่รู้สึกอะไรกับคำสั่งของจักร

เพราะต่อให้เขาไม่บอกรามินทร์ คนงานแถวนี้ก็ต้องบอก และแก้วก็ต้องถูกไล่ออกอยู่ดี

“เออ!! ไม่อยู่ก็ได้วะ ไอ้ที่ทำงานน่ารังเกียจแบบนี้น่ะ คนพี่ก็เป็นเกย์ คนน้องก็ตุ๊ดแอ๊บแมน ถุย!!” ถ่มน้ำลายลงพื้นห้องก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าคว้าเสื้อจากตู้ใส่ลวกๆ

จักรทำท่าว่าจะเข้าไปต่อว่าให้หายโกรธก็ต้องชะงักเมื่อเจ้าจอมสั่งสั้นๆ

“พอแล้ว...ตามฉันมา แตง ส้ม ฉันขอฝากตรงนี้ให้เรียบร้อยด้วยนะ” หันไปฝากฝังกับสองหญิงสาวที่ดูเป็นเหมือนคนที่อยู่ที่นี่มานานกว่าทุกคนให้จัดการกับแก้วต่อ

“ค่ะคุณจอม”

“ทำเป็นคนดี เสแสร้ง ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง!!” แก้วด่าตามหลัง

“เหรอ? ทำอย่างกับตัวเองไม่เสแสร้ง วันนั้นเธอพูดกับฉันว่าจักรไม่ชอบคนอย่างฉัน ฉันก็แค่บอกว่าเธอสั้นๆ ว่า มั่นใจได้ยังไง แต่เธอดันร้องไห้ออกมาว่าฉันจะไล่ออก ใครกันแน่ที่เสแสร้ง ใครกันแน่ที่ตอแหล!!!” เจ้าจอมไม่ชอบให้ใครมาว่าแล้วขึ้นเสียงใส่ และไม่คิดจะทนต่อไปด้วย

อาจจะบิดเบือนข้อความในวันนั้นบ้างแต่ก็ความจริง

“แล้วยังไง...ยังไงแกก็ชนะนี่ มีพรรคพวกมากเหลือเกินนี่” แก้วเหมือนเสียสติไปแล้ว

ก็คงเป็นวิธีของหมาจนตรอกที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองรอด อย่างแก้ว...ก็เถียงออกมาเพื่อให้ตัวเองสบายใจว่าที่ตัวเองทำมันไม่ได้ผิด..

“ฉันก็เตือนแล้ว...ว่าอย่าลองดีกับฉัน รู้ดีนี่ว่าฉันไม่ได้แมนเต็มร้อยแต่ก็ไม่คิดจะรังแกผู้หญิงหรอกนะ ถ้าถามว่าทำได้ไหม ก็ทำได้ อยากลองไหมล่ะ จะได้สงเคราะห์ให้” เจ้าจอมถามด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว

เหล่าคนงานและจักรในเวลาปกติอาจจะตกใจ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกชอบที่เห็นเจ้านายในโหมดร้ายกาจกับผู้หญิงเลวร้ายแบบนี้...

“ก็ทำเลยสิ!! คอยดูนะ ฉันออกไปจะประกาศให้ทั่วเลยว่าพวกแกทั้งพี่ชายแกเป็นพวกวิปริต คนพี่ก็จับใครก็ไม่รู้มาทำระยำตำบอน คนน้องก็คั่วคนงาน ทุเรศ!!”

“อ้อ! แล้วหลอกผู้ชายมาในห้องไม่ทุเรศเหรอ เชิญตามสบายเลยนะจะไปประกาศก็ได้ แต่คลิปที่คนงานถ่ายอยู่ตอนนี้ก็ต้องหลุดไป...แล้วฉัน ก็ไม่ใช่คนผิดอยู่ดี” เจ้าจอมยักไหล่อย่างไม่หยี่ระ

“แก!!!” แก้วถลาตัวจะมาหาเขาแต่โดนแตงกับส้มล็อกเอาไว้ได้ทัน พร้อมๆ กับจักรที่รีบมาบังร่างเพื่อปกป้องเจ้าจอมเอาไว้อย่างเร็ว

“ฝากด้วยนะ ส่วนนาย...ตามมา!” ร่างเล็กไม่อยากอยู่ตรงนั้นแล้ว เลยได้เอ่ยฝากกับแตงและส้มอีกครั้ง ก่อนจะเรียกให้จักรตามตนมา

“ครับ”

เจ้าจอมเดินออกจากห้องแคบๆ นั้นโดยมีจักรเดินตามหลังมาไม่ห่าง คนตัวโตหลังค่อมลงเพราะกำลังเหนื่อยและคิดมาก กลัว...กลัวเจ้าจอมจะโกรธแล้วเอาโอกาสที่ให้เขากลับคืน

และจักรก็ผิดสัญญาที่ว่าจะไม่ยุ่งกับหญิงสาวอีกด้วย...

“กลับไปนอน พรุ่งนี้มีงานแต่เช้า”

“แต่ว่า...”

“จะขัดคำสั่งเหรอ”

“ครับ...แต่ขอให้ผมได้ไปส่งคุณจอมที่บ้านนะครับ” ขอร้องเสียงอ่อน

“ไม่ต้อง ฉันเดินกลับเองได้”

“แต่ผมเป็นห่วง”

“ฉันดูแลตัวเองได้! ไปนอนซะ แล้วค่อยคุยกัน” เจ้าจอมสั่งเสียงเย็น หันหน้าแล้วเดินหนีร่างสูงทันที ปล่อยให้คนตัวใหญ่ยืนมองเจ้าจอมไปจนหายไปกับความมืด เขาก็เลยถอนหายใจแล้วขยี้ผมแรงๆ ด้วยความเครียดก่อนจะเดินกลับไปยังบ้านของตัวเอง

ให้ตายสิ!! มีแต่ปัญหา…








“หมอเงินถูกโจรขึ้นบ้าน พวกมันมากันสี่คน จับได้สอง หนีได้อีกสอง แต่ตำรวจกำลังตามจับอยู่ ส่วนหมอเงินไม่เป็นอะไรมาก บาดเจ็บนิดหน่อย ไอ้น้อยพาไปส่งโรงบาลให้แล้ว”

ทางด้านขรรค์ที่หลังจากฟังคนในหมู่บ้านบอกว่าบ้านพักของหมอเงินถูกขโมยขึ้นบ้านก็แทบจะล้มทั้งยืน หากแต่เมื่อมีสติก็ได้วิ่งไปยังที่รถเมื่อรู้ว่าคนรักอยู่ที่โรงพยาบาล เพราะบาดเจ็บเล็กน้อยเนื่องจากต่อสู้กับพวกโจร แต่ก็ไม่ถึงกับร้ายแรงมาก

ไม่เป็นอะไรก็เป็นห่วง...

อยากให้เห็นกับตาว่าเงินไม่ได้เป็นอะไรมากอย่างที่ว่าจริงๆ

“จะรีบไปไหนวะไอ้ขรรค์”

“ไปหาเมียฉันสิลุง”

“เฮ้ย! ขับรถระวังๆ หน่อย เดี๋ยวก็เป็นอะไรไปอีกคนหรอก” ลุงที่มาบอกข่าวตะโกนเตือนตามหลังของขรรค์ไป

“เงิน...ขรรค์กำลังไปหานะ”

ระหว่างทางที่ขับรถด้วยความเร็วเขาก็โทรไปหาเจ้านายของตนว่าขอลาวันพรุ่งนี้ และจะให้จักรรักษาการแทนไปก่อน ก่อนจะโทรไปฝากงานกับจักรทันทีหลังจากที่รามินทร์อนุญาตให้หยุด

ขรรค์รู้ดีว่าทำอะไรแบบไม่มีสติ ทั้งขับรถด้วยความเร็วแล้วก็โทรศัพท์ไปด้วยอีกแบบนี้ แต่ความเป็นห่วง อยากจะเห็นคนรักมันมีมากกว่า...

เหตุการณ์นี้ทำให้ขรรค์คิดได้เลยว่า...เราไม่รู้ว่าจะอยู่กันไปได้นานขนาดไหน ถ้ารู้ว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ขรรค์จะให้เงินมาอยู่ด้วย...ย้ายมาอยู่ด้วยกัน...

และโชคดี ที่มันไม่สายไป...






100%

 :ling2: :ling2: :ling2:

เดี๋ยวตามรีไรท์ทีหลังนะคะ บางประโยค บางเหตุการณ์ของตัวละครอาจจะแปลกๆ พอดียูกิเพิ่งมาอ่านดูก่อนอัพ แต่ยังไม่มีเวลานะคะ ฝากคอมเม้นท์ให้ยูกิด้วยนะคะ อย่าหายไปเลยน้า ^^

ไปติดตามการอัพเดทข่าวสาร นิยายได้ที่แฟนเพจ หรือไปพูดคุยกับยูกิได้ที่แฟนเพจนะคะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
อยากตบปากแก้ว!!

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :angry2:


แก้วคือควรตายหรือหายไปได้แล้ว ?

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
เอามันไปถ่วงน้ำเลยค่ะ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
เอานังแก้วถ่วงน้ำเลย!!!

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
คุณจอมเยี่ยมมาก..

ออฟไลน์ ASAMENG

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
มีแต่เรื่องนะคะ เงินปลอดภัย จะได้มาอยู่กับขรรค์สักที ถ้าไม่เกิดเรื่องก็ไม่ยอมนะ

เจ้าจอมแน่มากกค่ะ ให้คนรอบข้างจัดการ 5555
จักรถึงกับหงอยเลย

ผู้หญิงคนนั้นช่างกล้า อย่ากลับมาทำร้ายกันทีหลังนะ

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 28
มาอยู่ด้วยกันนะ






ตึก ตึก ตึก

“หมอเงินพักที่ห้องไหนครับ” ขรรค์ถามตรงประชาสัมพันธ์อย่างรีบร้อนเมื่อวิ่งเข้ามาในตัวโรงพยาบาลที่เป็นที่เดียวกับที่เงินทำงานอยู่ ใบหน้าคมเข้มเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ คิ้วขมวดจนพยาบาลกลัว

“คุณเป็นญาติของหมอเงินหรือเปล่าคะ?”

“ครับ”

“หมอเงินพักอยู่ที่ชั้นเก้า ห้องเก้าศูนย์ห้าค่ะ”

“ขอบคุณครับ”

สองเท้ายาวก้าวเร็วๆ ไปยังลิฟต์แล้วตรงไปชั้นเก้า ใจเขาไปอยู่กับคนรักแล้ว แต่ตัวยังไม่ไม่ถึง ขรรค์มองหาว่าห้องนั้นจะอยู่ตรงไหนก็ตรงไปทันที และเมื่อมาหยุดหน้าห้องที่มีชื่อเงินเป็นคนไข้ เขาก็เปิดประตูเข้าไปแบบไม่สนใจจะเคาะ เพราะไม่คิดว่าจะมีใครอยู่

ยังไม่ทันจะปิดประตูห้องเสร็จก็ได้ยินเสียงหวานของผู้หญิงพูดขึ้นมา เลยยืนแอบฟังอย่างเงียบๆ ไม่ให้คนในห้องรู้ตัว...

“ให้หวานอยู่เฝ้าไหมคะ”

“ไม่ดีกว่าครับ ผมอยู่คนเดียวได้”

“แต่แบบนี้คุณทำอะไรลำบากแน่ๆ เลยนะคะ”

“มีพยาบาลอยู่ครับ ไม่ต้องเป็นห่วง ขอบคุณในความหวังดีของหมอหวานนะครับ”

“แต่แผล...”

“แค่โดนมีดถากๆ ไม่ได้โดนแทงครับ ยังขยับได้อยู่”

“เฮ้อ...ทำไมเพื่อคุณคนนั้นไม่ยอมมาเฝ้าคุณล่ะคะ ปล่อยให้อยู่คนเดียวแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน หมอเงินไม่น่าไปคบกับคนอย่างนั้นเลย” ร่างแกร่งกัดฟันนิดๆ ที่โดนนินทาแบบนี้

ไม่ได้การแล้ว...

ขรรค์ไม่ยอมให้โดนว่าแล้ว ยิ่งเป็นห่วงคนรักมากๆ อยู่ ยังต้องมาฟังประโยคดูถูกแบบนี้อีก

“คนอย่างผมมันทำไมครับ” ขรรค์เดินเข้าไปแสดงตัวขัดการสนทนาของทั้งคู่ทันที หญิงสาวตัวแข็งทื่อ หน้าซีดเผือดทันที ไม่กล้าหันมามองร่างสูง ขรรค์เลยเดินไปอีกฝั่งหนึ่งของเตียงที่ยังว่างอยู่

คนรักของเขายิ้มบางๆ ให้ ส่วนขรรค์ก็ทำหน้าเรียบนิ่งจ้องนัยน์ตาคนรักอย่างดุๆ

“งั้น...หวานขอตัวนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเยี่ยมใหม่ค่ะ” หญิงสาวลาคนไข้บนเตียงทันที ไม่กล้าสู้หน้าของขรรค์ที่ไม่แม้จะสนใจเธอเลยสักนิด

เหมือนกับว่าไม่ได้แคร์คำพูดของเธอ และไม่รับรู้ว่ามีเธออยู่ตรงนี้

“ขอบคุณครับ” เงินยิ้มให้หญิงสาว ก่อนที่เธอจะเดินออกจากห้องไป คราวนี้ก็เหลือเพียงแค่เขาสองคนเท่านั้น...มือแกร่งเอื้อมไปลูบเบาๆ ที่แก้มเนียนขาวด้วยสายตาที่รู้สึกผิด

รู้สึกผิดที่ดูแลไม่ได้

รู้สึกผิดที่ปกป้องไม่ได้

และรู้สึกผิดที่ไม่ได้อยู่ข้างกายของเงินในตอนนั้น

“เจ็บมากไหม”

“ไม่เลย...แค่นี้จิ๊บๆ” ยิ้มบางๆ ให้คนรัก

“ไปสู้กับพวกมันทำไมเงิน ทำไมไม่ปล่อยให้มันเอาของไป พวกมันมีตั้งสี่คน ดีเท่าไหร่แล้วที่เงินไม่เป็นอะไรมาก” เสียงของขรรค์สั่นเครืออย่างชัดเจน ทำเอาร่างโปร่งบางบนเตียงรู้สึกผิดไปเลย

หมอเงินไม่ใช่คนที่งกหรือหวงของเท่าไหร่หรอก

แต่พวกมันจะเอากล่องที่มีของสำคัญทางใจไปด้วย เลยเข้าไปแย่งชิงมาคืน

“ในนั้นมีแหวนวงแรกที่ขรรค์ให้เงิน เงินไม่อยากให้มันเอาไป เพราะมันไม่ใช่ของมีค่าอะไร มันก็ต้องทิ้งอยู่ดี”

“เงินไม่น่าจะไปหวง แค่แหวนพลาสติกเด็กๆ วงเดียวเอง”

“แต่มันเป็นของแทนใจ...ที่ตอนนั้นขรรค์ตอบรับว่ารักเงินแล้วนะ”

“ชีวิตของเงินไม่สำคัญเหรอ ไม่คิดหรือว่าถ้าเป็นอะไรไปขรรค์จะอยู่ยังไง” ร่างสูงตัดพ้อจนเงินน้ำตาไหลออกมาจากหางตา

เขาก็คงจะเสียใจที่ต้องเห็นขรรค์ร้องไห้และเจ็บปวด

“จะไม่ทำอีกแล้ว ฮึก เงินขอโทษ จะไม่ทำอีกแล้ว”

“ขรรค์ไม่ปล่อยให้ทำอีกแน่ๆ ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่...มาอยู่ด้วยกันนะ”

เป็นคำขอที่เงินรอคอยมานานมาก ไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนี้ นึกขอบคุณโจรพวกนั้นในใจที่มาเลือกปล้นบ้านเขา เพราะฉะนั้นก็คงไม่มีเรื่องแบบนี้ ให้ขรรค์รู้สึกกลัว และเราต้องแยกกันอยู่ต่อไป

“จริงๆ นะ จะให้ไปอยู่ด้วยจริงๆ ใช่ไหม”

“ครับ...ขรรค์จะดูแลเงินเอง”

“ขอบคุณนะขรรค์ ขอบคุณ”

“ขรรค์สิต้องขอบคุณ ขอบคุณที่เงินไม่เป็นอะไร ขอบคุณที่เงินยังอยู่ตรงนี้ ขอบคุณนะ ขรรค์รักเงิน แค่คิดว่าไม่มีเงินแล้ว เหมือนจะตายให้ได้”

อาจจะฟังดูเวอร์ แต่ขรรค์ก็รู้สึกแบบนี้จริงๆ

“บ้าเหรอขรรค์ วันนี้พูดมากนะเรา” แอบแซวคนรักด้วยความเขินอาย

“หึหึ” ร่างสูงหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะดึงเก้าอี้มานั่ง

“ว่าแต่...ขรรค์จะกลับตอนไหนเนี่ย จะดึกแล้วนะ”

“ขรรค์จะเฝ้าเงิน”

“ไม่ต้องก็ได้ พรุ่งนี้มีงานสำคัญไม่ใช่เหรอ” ร่างโปร่งถาม

“ขรรค์ลาแล้ว ฝากพี่จักรดูแลแล้วด้วย”

คำตอบของขรรค์ทำให้เงินทำหน้ารู้สึกผิด

“เงินไม่น่าทำให้ขรรค์เสียงานเลย ขอโทษนะครับ” ขรรค์ชักสีหน้าดุทันทีที่คนรักพูดออกมาแบบนี้

คนที่ผิดต้องไม่ใช่เงิน ถ้าผิด ก็ผิดที่ขรรค์...

ที่ไม่ยอมเอ่ยปากชวนคนรักมาอยู่ด้วย จนเกิดเรื่องอันตรายแบบนี้ขึ้น

“คนที่ผิดคือขรรค์ เงินไม่ผิดอะไรเลย อย่าโทษตัวเองนะ” มือใหญ่ที่หยาบกร้านเพราะทำงานหนักเอื้อมไปลูบศีรษะของเงินเบาๆ

คนเย็นชาที่มักจะอ่อนโยนเสมอกับคนรัก

“อื้อ...”

“แล้วนี่...จะออกจากโรงพยาบาลวันไหน” ร่างแกร่งถาม

“พรุ่งนี้เช้าก็ออกได้แล้วล่ะ เงินไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก ที่จริงวันนี้ไม่ต้องนอนก็ได้ แต่ทางหมอกริชบอกว่าให้เงินนอนที่โรงพยาบาลดีกว่าเพราะกลับไปบ้านพักก็ไม่รู้ว่าพวกมันจะย้อนกลับมาไหม” หมอหนุ่มพูดบอก

“แล้วทำไมไม่คิดจะโทรมาบอกกัน ทำไมต้องรอให้คนอื่นบอกขรรค์”

“ก็เงินไม่อยากให้ขรรค์กังวล” ตอบเสียงอ่อย

“แล้วไม่คิดหรือว่า การที่ขรรค์มารู้ที่หลังแล้วจะไม่กังวล”

“อื้อ...อย่าดุเงินเลยนะ เงินขอโทษ” หมอหนุ่มอ้อนเสียงนุ่ม แม้มันจะไม่ได้หวานแบบผู้หญิง แต่ก็หวานในแบบผู้ชาย...

“โอเคๆ งั้นเงินนอนพักไป ขรรค์นอนที่โซฟาเอง เดี๋ยวตอนเช้าจะให้ลูกน้องเอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน”

“ครับ ขอบคุณนะขรรค์”

“เพื่อเงิน ขรรค์ทำได้”

ร่างแกร่งเดินไปปิดไฟห้องเพื่อให้คนรักพักผ่อน เพราะสีหน้าของหมอเงินดูอ่อนล้าและอ่อนเพลียมาก ควรจะพักผ่อนได้แล้ว...ส่วนขรรค์ก็ทิ้งตัวนอนลงบนโซฟามองไปยังเตียงคนไข้มองอยู่อย่างนั้น จนได้ยินเสียงหายใจของเงินสม่ำเสมอที่เข้าสู่นิทราไปแล้ว...


เช้ารุ่งขึ้นขรรค์ตื่นขึ้นมาจัดการโทรสั่งลูกน้องให้เอาเสื้อผ้ามาให้คนรักเปลี่ยน ซึ่งเจ้าตัวก็ยังไม่ตื่นเลย สงสัยทำงานเหนื่อยแล้วไม่ค่อยได้นอน

Rrrrrr

เสียงโทรศัพท์ของหมอเงินดังขึ้นมาเรียกความสนใจจากขรรค์ที่กำลังนั่งมองคนรักนอนทันที เขายืนเต็มความสูงไปหยิบโทรศัพท์ราคาแพงของคนรักมาดูก่อนจะตาเบิกกว้าง ตัวแข็งทื่อ หัวใจเต้นแรงด้วยความกลัว มือไม้อ่อนแรง

‘คุณแม่’

แม่...แม่ของเงินโทรมา ทำไงดี จะทำยังไงดี ถ้ามึงรับ แม่เงินไม่พอใจ แล้วสั่งให้มึงเลิกยุ่งกับเงินอีกแน่ๆ

ร่างสูงมีสีหน้าที่สับสนลังเล มองคนรักที่หลับพักผ่อนอยู่ก็ไม่กล้าที่จะปลุก แต่ทางฝั่งแม่ของหมอเงินก็คงจะเป็นห่วงคงปล่อยให้สายตัดก็คงจะไม่ดี

ขรรค์กำหมัดข้างที่ไม่ได้ถือโทรศัพท์แน่น สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะตัดสินใจรับสายแทนคนรัก

เอาวะ! ในเมื่อจะต่อสู้ไปกับเงินอีกครั้ง ก็ไม่เห็นจะต้องกลัวและหนีเลย

“สวัสดีครับ”

(สวัสดีจ้ะ...เอ๋ ไม่ใช่เสียงตาเงินนี่นา นั่นใครคะ? แล้วลูกชายของดิฉันเป็นยังไงบ้าง ทางโรงพยาบาลแจ้งมาว่าตาเงินได้รับบาดเจ็บเพราะขโมยขึ้นบ้าน) เสียงที่คุ้นเคยดีดังมาจากปลายสาย

เสียงที่เคยตอกย้ำว่าเขาคนนี้ไม่เหมาะสมกับเงิน...

เสียงที่เคยตอกย้ำว่าขรรค์คนนี้ต่ำต่อยไม่คู่ควร...

“เงินไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ ตอนนี้ยังไม่ตื่น”

(ฉันโทรไปเช้าไปสินะ แล้วใครกำลังพูดสายอยู่คะเนี่ย ขอบคุณที่ดูแลลูกชายให้นะคะ)

“ผม...ขรรค์ครับ” สิ้นคำพูดของเขา แม่ของเงินก็เงียบไปทันที ไม่รู้ว่าตกใจหรือกำลังคิดคำต่อว่าเขาอยู่กันแน่ ผ่านไปเกือบสองนาที ปลายสายก็ยังไม่พูดอะไร แต่ก็ไม่ได้ตัดสายจนเขานึกเป็นห่วง

“คุณสร้อยเป็นอะไรหรือเปล่าครับ”

(เปล่า...) ปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบทำเอาขรรค์โล่งออกไป

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมบอกเงินให้โทรกลับถ้าเงินตื่นนะครับ”

บางที...แม่ของเงิน อาจจะลืมเขาไปแล้วก็ได้

(ขรรค์...งั้นเหรอ)

“ครับ”

(ดูแลเงินด้วยก็แล้วกันนะ)

“คุณ...จำผมได้ด้วยหรือครับ” ขรรค์ถามออกไปอย่างแปลกใจ

(ทำไมจะจำไม่ได้ คนที่ตาเงิน...รัก ก็มีแค่คนเดียวนี่) ปลายสายตอบ แต่วรรคไว้ก่อนจะพูดคำว่ารักต่อ

“ครับ”

(เอาเถอะ...เดี๋ยวถ้าฉันว่างๆ จะขึ้นไปเยี่ยม บอกตาเงินให้ด้วยก็แล้วกันว่าเดี๋ยวพา ‘ลูก’ ไปหา) น้ำเสียงของปลายสายไม่บ่งบอกว่ารู้สึกอะไรอยู่ แต่เน้นคำว่าลูกจนขรรค์เผลอเม้มปากแน่น

ใช่...เงินเคยพูดไว้ว่าแม่ของเงินมีหลานสมดังที่หวังแล้ว นั่นก็หมายความว่า...นี่คงจะเป็นลูกของเงินกับอดีตภรรยาแน่ๆ

“ผมจะบอกให้ครับ” พอเขารับคำเสร็จไม่รอให้ขรรค์ลา แม่ของเงินก็วางสายไปทันที ทำเอาร่างสูงรู้สึกเสียหน้าไปเลยได้แต่มองโทรศัพท์เครียดๆ แต่ไม่โดนโวยวายใส่ก็ถือว่าดีแล้ว

พอเงินตื่นขึ้นมาก็พอดีกับเสื้อผ้าที่มาถึง หมอกริชเข้ามาตรวจดูอาการเล็กน้อยก็ให้กลับได้เลย เขาก็เลยให้ลูกน้องไปจัดการเรื่องยากับค่าใช้จ่าย แม้จะมีสวัสดิการของหมออยู่แต่ก็ยุ่งยากเลยขอจ่ายดีกว่า ส่วนหนึ่งขรรค์อยากจะทำอะไรให้คนรักบ้าง

เงินที่มีก็เอาออกมาใช้ได้สักที...

“ขรรค์จะพาเงินไปบ้านสวนนะ จะให้คนเอาข้าวของจากห้องของเงินไปไว้ที่บ้านพักของขรรค์ที่รีสอร์ท เล็กหน่อยแต่ก็อยู่ได้ วันหยุดก็ไปนอนบ้านสวนกัน แบบนี้ดีไหม”

“อื้อ...โอเคครับ เงินชอบทุกที่แหละที่มีขรรค์อยู่ด้วย”

ร่างสูงทำได้แค่เพียงยิ้มเบาๆ ก่อนจะประคองคนรักขึ้นไปนั่งบนรถที่เขาขับมาเมื่อคืน พาไปยังบ้านสวนของตัวเองทันทีโดยที่ยังไม่บอกเรื่องที่แม่ของเงินโทรมา...

ไม่ใช่ว่าลืม แต่จงใจไม่พูด...เพราะกลัวจะรู้ว่าเด็กคนนั้น เป็นลูกที่เกิดจากคนรักของเขากับคนอื่น

แบบนั้น...มันก็เจ็บนะ ถึงจะเข้าใจ แต่มันก็เจ็บอยู่ดี

ทางด้านร่างโปร่งก็จับสังเกตคนรักมาโดยตลอด ขรรค์เปลี่ยนไปทำไมจะดูไม่ออก แต่ก็ไม่อยากถามให้คนรักหนักใจ ถ้าพร้อมขรรค์ก็คงจะบอกเองนั่นแหละ

ถ้ามันเป็นเพราะเขาที่ทำให้ขรรค์ไม่สบายใจ เงินก็พร้อมที่จะอธิบายทุกอย่าง...


“เงินไปนอนพักไหม” ถามคนรักเมื่อเดินเข้าไปในตัวบ้านหลังพอดีท่ามกลางสวนผักผลไม้และธรรมชาติที่แสนจะร่มรื่นเย็นสบาย

“โห! นอนจนเบื่อแล้ว ไม่เอาอ่ะ เงินไม่เป็นอะไรสักหน่อย”

“งั้นจะนั่งเล่นข้างล่างก็ได้ กลัวเงินไม่มีอะไรทำจะเบื่อเอาน่ะ”

“นอนก็เบื่อเถอะ”

“ที่นี่ไม่มีอะไรให้เงินแก้เบื่อด้วยสิ” ขรรค์ทำหน้าเครียด

“ทำไมจะไม่มี แค่อยู่กับขรรค์เงินก็มีความสุขแล้วก็สนุกที่สุดแล้ว” พอเงินพูดจบ ขรรค์ก็ถอนหายใจแล้วเดินมาทรุดตัวนั่งลงข้างๆ กับร่างโปร่ง

“ขรรค์ก็มีความสุขที่ได้อยู่กับเงิน”

“แน่นอนอยู่แล้ว ก็ขรรค์รักเงินไง” ยักไหล่ขึ้นอย่างมั่นอกมั่นใจ เป็นท่าทางที่ดูจะน่ารักมากๆ สำหรับขรรค์

“หึหึ หลงตัวเอง”

“ก็หรือไม่จริงล่ะ ขรรค์ไม่รักเงินเหรอ”

“ก็รู้อยู่แล้วจะถามทำไม”

“อย่าเลี่ยงสิ น้าๆ เงินอยากฟังอีก ฟังบ่อยๆ เลย”

ร่างสูงโปร่งเขย่าแขนคนรักอย่างออดอ้อน ทั้งๆ ที่ตาก็สังเกตท่าทางของคนรักไปด้วย ขรรค์กำลังกลบเกลื่อน พยายามทำเป็นเหมือนไม่ได้คิดอะไร แต่ก็มีอะไรอยู่ในใจตลอด

นิสัยแบบนี้เมื่อไหร่จะหาย...

เมื่อไหร่จะเลิกคิดมาก คิดคนเดียวสักที

“ขรรค์...” ร่างสูงอึกอัก

“หืม?”

“คือว่า...” เกริ่นนำแล้วก็เงียบไป

ไม่กล้าพูด ไม่กล้าพูดออกไป กลัวคำตอบของคนรัก...จะหาว่าขี้ขลาดก็ได้ จะหาว่าใจเสาะก็ได้ แต่ใครไม่มาเป็นขรรค์ไม่มีทางเข้าใจได้หรอก ว่ามันรู้สึกยังไง

ขรรค์เองก็ไม่สบายใจที่ต้องปิดบัง แต่ก็กลัวว่าจะรับกับความจริงไม่ได้

เอาก็เอาวะ จะได้ยินเงินเล่าแบบนี้ ก็พร้อมล่ะวะ!

แต่ในเมื่อมาขนาดนี้แล้ว...เราก็ต้องรับในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเขาเป็นคนปล่อยเงินไปเอง เขาไม่คิดจะสู้ให้มากกว่านี้ ฉะนั้น ถ้ามันจะเจ็บปวด...เขาก็ยินดีรับ

“ขรรค์มีอะไรจะพูดหรือเปล่า” ร่างขาวสะอาดเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่ดูจริงจังผิดกับเมื่อสักครู่นี้ที่กำลังออดอ้อนให้คนรักบอกรักอยู่

เงินยังคงดูขรรค์ออกเสมอ...

“บอกเงินได้ไหม?”

ขรรค์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะถอนหายใจยาวๆ แล้วอ้าปากพูด

“เมื่อเช้า...แม่ของเงินโทรมาหา”







50%


 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

   เม้นท์หายอ่ะ ^^ เจอกันครึ่งหลังนะคะ ยังไงก็เม้นท์ให้ยูกิด้วยนะคะ ขอกำลังใจให้กับคนสวยด้วย แหะๆ หากมีอะไรจะพูดคุยกับยูกิ หรือสอบถาม หรือทวงนิยาย ไปหายูกิที่แฟนเพจได้เลยค่า https://www.facebook.com/sawachiyuki/

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ขออีก 50 น้าาาา ชอบหมอเงินอ่าาาา

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
หมอเงินรู้สึกขอบคุณพวกโจร555

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
โอ๊ยยยยยยย สรุปตอนนี้ยังไม่มีคู่ไหนลงเอยซักคู่ ยิ่งคู่หลักยังอีกยาวววววววว
ปักธงอ่านกันต่อไป ฮึบๆๆๆๆ

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
อื่อหือ..ดราม่าเบาๆ
ขรรค์เงิน ผ่านดราม่าไปให้ได้นะทั้งสองคน

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ขรรค์น่ารัก หมอเงินมีความอ้อน

ถ้าแม่จะห้ามอีก คงไม่ไหวละนะ หมอเงินคงหนีอะ

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
ตอนที่ 28 ครึ่งหลัง




UP


อ๋า...เรื่องนี้นี่เอง เงินพยักหน้าแล้วยิ้มเบาๆ ให้

“อ๋อ...แม่รู้เรื่องที่เงินเจ็บใช่ไหม แล้วแม่ว่ายังไงบ้าง” ร่างโปร่งไม่ได้มีทีท่าว่าจะตกใจเลยสักนิด กลับยิ้มๆ ออกมาด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่แต่ก่อนแม่ของเงินกับขรรค์ไม่ถูกกัน

ไม่สิ...แม่ของเงินไม่ชอบขรรค์แค่ฝ่ายเดียว

“แม่เงินบอกว่า ถ้าว่างจะมาเยี่ยมพร้อมกับ...พร้อมกับ เอ่อ...ลูก ของเงิน” ขรรค์พูดตะกุกตะกัก แต่ก็มันก็รู้เรื่องพอที่จะทำให้เงินร้องอ๋อในใจ

“หึหึ ขรรค์กำลังกังวลใช่ไหมว่าลูกคนนั้นจะเป็นลูกของเงินกับคุณสา”

ร่างแกร่งมองหน้าคนรักทันที ก็รู้อยู่แล้วถ้าพูดไป เงินจะรู้ได้เลย ไม่ต้องเล่าความรู้สึกให้ฟังเงินก็รับรู้ได้ ขรรค์มองรอยยิ้มของเงินอย่างโล่งใจขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

“มันก็ใช่...”

 ใจของขรรค์หล่นวูบไปอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อได้ยินประโยคถัดมา ดวงตาสะท้อนความเสียใจเอาไว้อย่างปิดไม่มิด แต่จะให้ทำยังไงได้

เขาทิ้งเงินมาเอง เขาไม่ยอมสู้เอง...

“แต่เราไม่ได้รักกัน และไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางกายกัน ขรรค์ก็รู้ว่าเงินทำเรื่องอย่างว่ากับคนที่ไม่รักไม่ได้”

“แล้วเงินมีลูกได้ยังไง...”

มันเป็นคำถามที่ทั้งอยากรู้และไม่อยากรู้ที่กำลังตีกันในหัวของร่างขาวตอนนี้

“เด็กคนนั้น เกิดจากความรักของเงินที่มีต่อขรรค์”

“ยังไงเหรอเงิน...” ขรรค์ทำหน้าสงสัย ไม่เข้าใจในสิ่งที่คนรักพูดออกมา

มันจะเป็นความรักของเงินที่มีต่อขรรค์ไดยังไง ในเมื่อเงินมีลูกกับคนอื่น...

“คุณสาอุ้มท้องเด็กคนนั้นที่เกิดจากการทำกิ๊ฟ เพราะแม่จะยอมให้เงินหย่าก็ต่อเมื่อคุณสาคลอด นั่นหมายความว่าเงินต้องมีลูก เราทั้งคู่ไม่ได้รักกัน คุณสาก็มีคนรักอยู่แล้วและมีลูกก่อนที่จะแต่งงานกับเงินอีก แต่เงินเก็บเป็นความลับไว้ไม่ให้ใครรู้ แล้วก็ทำข้อตกลงกันอย่างลับๆ เอาไว้ เงินพาคุณสาไปทำกิ๊ฟแต่สามีตัวจริงของเธอก็ไปด้วยนะ เขายอมรับได้ทุกอย่างแม้กระทั่งยอมให้น้ำเชื้อของเงินไปอยู่ในตัวคนรักของเขา เพราะการที่คุณสามีลูกกับเงิน คือทางออกเดียวที่จะทำให้เราทั้งสองเป็นอิสระ...” เงินเล่าไปพลางทำหน้าเศร้าๆ ไปด้วย

ตอนนั้นมันทั้งเจ็บปวด ทั้งทรมาน เขาและเธอต่างก็ทนอยู่กับความทุกข์เพราะไม่ได้รักกัน

ขรรค์พยักหน้าเข้าใจ รู้ดีว่าถ้าแม่ของเงินไม่ได้ตามที่ตัวเองต้องการ จะไม่ยอมให้ในสิ่งที่ลูกต้องการเช่นกัน เธอมีลูกชายคนเดียว และก็อยากจะให้เงินมีลูกไว้สืบทอดสกุลต่อไป

“แล้วพอคลอด เราก็ไปบอกแม่ของเงินกับคุณสาว่าเราไม่ได้รักกัน อยากจะหย่าตามที่สัญญากันไว้ ท่านทั้งสองก็ยอม แต่เด็กต้องอยู่กับครอบครัวเงิน พร้อมกับหนี้ที่ครอบครัวคุณสาที่เคยมีอยู่ ครอบครัวเราก็ช่วยจนหมดไปแล้ว แม้ว่าแม่จะรักคุณสามากขนาดไหน แต่พอรู้ว่ามีลูกมีสามีก่อนอยู่แล้วก็รับไม่ได้”

ขรรค์นั่งฟังเงียบๆ กำหมัดตัวเองแน่น

“แม่ก็สั่งห้ามไม่ให้คุณสามาเจอลูก เพราะไม่อยากให้หลานโตมารับรู้ว่าพ่อกับแม่ไม่ได้รักกัน...นั่นจะทำให้น้องรักษ์อาจรู้สึกไม่ดี เลยตกลงกันไว้ว่าถ้าน้องรักษ์ถามหาแม่ก็ให้บอกว่าเสียไปตั้งแต่คลอด และเงินก็เห็นด้วย แต่เงินก็ยังพาน้องรักษ์ไปเจอคุณสาตลอด เพราะรู้ดีว่าแม่รักลูกมากแค่ไหน ถึงจะเป็นลูกที่อุ้มให้เงิน แต่ยังไงเธออุ้มท้องมาตั้งเก้าเดือนไม่ผูกพันเลยก็ไม่ใช่ แล้วเราตกลงกันไว้ว่าคุณสาจะเป็นแค่อาเท่านั้น ซึ่งเธอก็ยอม...” พอพูดถึงตรงนี้ภาพใบหน้าที่แสนเจ็บปวดของอดีตภรรยาก็ขึ้นมา

เป็นคนให้กำเนิด แต่ไม่มีสิทธิ์ให้ลูกรู้ว่าเป็นแม่ มันเจ็บปวดนะ...แต่เพื่อคนที่เรารักและรออยู่ของทั้งสองฝ่าย เราจำเป็นที่จะต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยน

แม้ว่าสิ่งแลกเปลี่ยนจะเป็นอะไรที่ดูใจร้ายต่อเด็กมากก็ตามที

“น้องรักษ์…” ขรรค์ครางชื่อลูกของเงินออกมาเบาๆ

“อื้อ...น้องรักษ์ ลูกชายของเงิน แม้ว่าน้องรักจะไม่มีแม่ แต่ว่าก็ยังมีพ่อถึงสองคนเชียวนะ ขรรค์รับได้ไหม รับเด็กที่เกิดจากคนอื่น”

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”

“ขอบคุณนะขรรค์” เงินยิ้มบางเบา

“ขรรค์ต่างหากที่ต้องขอบคุณที่เงินพยายามทำอะไรแบบนี้ก็เพื่อเรา ยอมเจ็บปวด ยอมเสียใจ ในขณะที่ขรรค์ปอดแหกเอาแต่วิ่งหนี” ขรรค์พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย

เจ็บใจที่ไม่ยอมอยู่เป็นกำลังใจให้กับคนรัก...

เจ็บใจที่ไม่ได้สู้ไปกับคนรัก...

เจ็บใจ เจ็บใจ เจ็บใจตัวเองที่สุด

“เปล่าเลย ตอนนั้นก็น้อยใจอยู่หรอก แต่ว่านะ ถ้าขรรค์ไม่มา ขรรค์คงไม่ตั้งตัวได้ขนาดนี้จริงไหม”

เงินก็คือเงิน โกรธเขาได้ไม่นานหรอก...ไม่สิ ไม่เคยโกรธมากกว่า ยิ่งร่างโปร่งไม่โกรธ ร่างแกร่งก็ยิ่งรู้สึกละอายใจ ละอายมากๆ

ปากบอกว่ารัก...แต่ก็ไม่ได้แสดงออกทางการการกระทำ

“แล้วน้องรักษ์ อายุเท่าไหร่ แล้วเงินไม่คิดถึงลูกเหรอ”

“ตอนนี้น้องรักอายุได้ห้าเดือนแล้วล่ะ ส่วนคิดถึงไหม ก็คิดถึงแหละ ยิ่งน้องยังเป็นเด็กทารกอยู่ แต่เงินไม่มีเวลาเลี้ยงลูก เลยต้องฝากแม่เอาไว้ แล้วก็มาทำตามหัวใจก่อนน่ะ เงินหวังเอาไว้ว่าสักวัน เราจะเลี้ยงน้องรักษ์ด้วยกัน” เงินหันมายิ้มให้กับขรรค์ ซึ่งร่างสูงก็ยิ้มตอบกลับไป

“แน่นอน...เราจะเลี้ยงน้องรักษ์ไปด้วยกัน”

“ขอบคุณนะขรรค์ ขอบคุณที่เข้าใจ”

หมับ!

ทั้งสองร่างโผเข้ากอดกันแน่น เติมเต็มความรับความอบอุ่นให้กัน แม้ว่าหมอเงินจะมีแผลอยู่ แต่มันก็ไม่อาจจะทำให้รู้สึกเจ็บได้ ขอให้ได้อยู่ในอ้อมกอดนี้ จะเจ็บอีกเท่าไหร่ เงินก็ยอม...

“ขรรค์สัญญา...จากนี้ไป ขรรค์จะดูและเงินเอง”

จะไม่ทำให้เจ็บปวด จะไม่ทำให้ลำบาก

จะดูแล...จะไม่ปล่อยมือคู่นี้อีกแล้ว...

“สัญญาแล้วนะ”

น้องรักษ์...ไม่ได้เป็นเครื่องมือที่เอาไว้ทำลายกรงกักขังของเงิน แต่เป็นเทวดาน้อยที่ปลดปล่อยเขาให้ได้รับอิสระต่างหาก แม้ไม่ได้เกิดจากความรัก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รัก...


“ป้าไม่คิดว่าคุณหมอจะทำอาหารเป็นนะคะเนี่ย”

“แต่ก็ทำอร่อยสู้ป้าน้อยไม่ได้หรอกครับ ผมคิดว่าผู้ชายทำอาหารเป็นดูมีเสน่ห์ออก เลยหัดทำไว้น่ะครับ” ร่างสูงโปร่งตอบกลับป้าน้อยที่เป็นแม่บ้านดูแลบ้านให้กับขรรค์

“คุณหมอนี่ปากหวานกันทุกคนหรือเปล่าคะ”

“ไม่รู้สิครับ ผมไม่เคยลองชิมดู”

“ตายจริง! พูดแบบนี้ไม่ดีเลยนะคะคุณหมอ คนอื่นมาได้ยินมันไม่งามค่ะ” ป้าน้อยดุหมอเงินอย่างต้องการสอน แต่เป็นการสอนี่หวังดีไม่ใช่อยากจะตำหนิติเตียน

“ฮ่าๆ โอเคครับ ผมขอโทษด้วย แค่แซวๆ เล่นน่ะครับ”

“แซวก็ไม่ได้ค่ะ”

“งั้นไม่ทำแล้วครับป้าน้อย”

“ดีแล้วค่ะ เอาล่ะค่ะ คุณหมอใส่กระเทียมลงไปหรือยังคะ” ป้าน้อยถาม

“ใส่แล้วครับ”

“งั้นต่อไปก็ใส่พริกไทย แล้วก็ใส่กระดูหมูลงไปนะคะ”

“รับทราบครับ”

หมอเงินที่ตอนนี้กำลังบาดเจ็บ แต่ก็กำลังฝึกฝีมือการทำอาหารของตัวเองกับป้าน้อยอย่างตั้งใจ โดยที่ขรรค์ไปคุมลูกน้องปลูกผักรอบใหม่อยู่ คงจะวุ่นๆ แล้วกลับมาทีเดียวตอนอาหารเย็นพอดี

“คุณหมอกับขรรค์คบกันมานานแล้วหรือคะ”

“ก็คบกันเจ็ดปีน่ะครับ แต่ก็เลิกกันไปสามปี ตอนนี้ก็เป็นสิบปีกว่าแล้วล่ะครับ”

“ไม่น่าเชื่อนะคะเนี่ย”

“ทำไมล่ะครับ” เงินทำหน้าสงสัย

“ดูยังไงๆ ก็ไม่เห็นว่าคุณหมอกับขรรค์จะเข้ากันได้เลย ประมาณว่ามีนิสัยที่ไม่เหมือนกัน แต่คบกันได้ ป้าอยากรู้จริงๆ ค่ะว่าคนเย็นชาแบบขรรค์จะรักคนเป็นยังไง”

สิ้นคำพูดของป้าน้อย ร่างโปร่งบางก็หัวเราะออกมาอย่างตลก

“ฮ่าๆ”

“หัวเราะอะไรกับคะคุณหมอ” ป้าน้อยชักสีหน้าดุๆ แต่ไม่จริงจังเท่าไหร่นัก

“ฮะๆ จริงๆ แล้ว ขรรค์เขาเป็นคนที่เงียบๆ แบบนั้นแหละครับ ขนาดตอนเริ่มจีบกันผมยังเป็นคนจีบก่อนเลย เพราะขรรค์เขาเป็นคนไม่กล้า แต่ที่ไหนได้ เราใจตรงกัน เลยคบกันมาตั้งแต่เรียนเลยน่ะครับ”

“โห...สมัยไหนคะนั่น”

“ถ้านับจากอายุตอนนี้กลับไปสิบปี คงจะเป็นช่วงมอสามมอสี่น่ะครับ เราเรียนที่เดียวกัน พอผมเข้ามหาลัยไปก่อน จากนั้นขรรค์ก็ตามไปเรียนที่เดียวกัน เราเรียนกันคนละคณะ แต่ก็ยังเจอกันตลอด นั่นเป็นเพราะเราทั้งสองคนไม่เคยรักใคร แต่ดันรักกันนานมาจนถึงทุกวันนี้เลยล่ะครับ” เล่าไปก็ยิ้มอย่างมีความสุขไปด้วย

ป้าน้อยมองคนอายุน้อยกว่าที่อาจจะเป็นรุ่นลูกหลานแล้วยิ้มออกมา รู้สึกได้ว่าความรักของทั้งสองมีเต็มเปี่ยมจริงๆ แม้จะเป็นเพศเดียวกัน เธอก็ไม่ได้รังเกียจหรอก ที่สำคัญทั้งคุณหมอ ทั้งเจ้านายเธอก็ต่างผ่านเรื่องที่แสนเจ็บปวดมาด้วยแล้ว...

ความรักของทั้งคู่ต้องการกำลังใจและความเข้าใจ

“ไม่มีทะเลาะกันเหรอคะ”

“มีสิครับ แต่ขรรค์ก็ง้อผมตลอดเลย ทั้งๆ ที่บางครั้งผมก็เป็นฝ่ายผิดเอง”

“ขรรค์เขารักคุณหมอมากนะคะ วางรูปของคุณหมอไว้บนหัวนอนตลอดเลย” ป้าน้อยบอก เรียกรอยยิ้มบางเบาจากใบหน้าของเงินทันที

เรื่องนี้เขาก็รู้นานแล้ว เห็นตั้งแต่วันที่เขาประชดกระโดดน้ำแล้ว

ขรรค์ไม่เคยเลิกรัก ยังคิดถึงเขาอยู่ตลอดเวลา

“ผมรู้ครับ ผมถึงต้องมา”

“จากนี้ไปป้าก็ขอให้ชีวิตคู่มีแต่ความสุขนะคะ เรื่องราวร้ายๆ จะผ่านไปได้ ถ้าทั้งสองยังเชื่อมั่นเชื่อใจในกันและกันค่ะ” คนอายุมากกว่าหลายสิบปีอวยพรให้อย่างจริงใจ จนคนเป็นหมอต้องหันมาแล้วยกมือไหว้ขอบคุณอย่างนอบน้อม

“ขอบคุณครับ”

“ทำอาหารต่อเถอะค่ะ มีอีกหลายอย่างเลยที่ขรรค์ชอบทาน”

“งั้นคงต้องให้ป้าน้อยสอนบ่อยๆ แล้วล่ะครับ”

“ป้ายินดีค่ะ ว่าแต่มีเมนูไหนที่ขรรค์ชอบอีกบ้าคะ อยู่กันมาก็เห็นทานได้ทุกอย่างถามว่าชอบอะไรก็ไม่เคยจะตอบ เพิ่งจะมารู้เอาตอนที่คุณหมอบอกป้านี่แหละค่ะ”

“ขรรค์เป็นคนอยู่ง่าย กินง่าย ที่ผมรู้ ผมจะใช้วิธีสังเกตสีหน้าของขรรค์เวลาที่กินอะไรน่ะครับ คนเราสามารถแสร้งทำเป็นไม่รู้ ไม่เห็น ไม่รู้สึกอะไรได้แต่ไม่สามารถกลบเกลื่อนดวงตาที่สื่อออกมาได้หรอกครับ”

“ก็จริงแหละค่ะ”

“เวลาที่ขรรค์ได้กินของที่ชอบตาของขรรค์จะเป็นประกายเหมือนเด็กๆ เลยล่ะครับ”

“ฮ่าๆ ถ้าขรรค์มาได้ยินเข้าคงจะโกรธน่าดูเลย” ป้าน้อยหัวเราะ

“ป้าน้อยก็อย่าเอาไปบอกขรรค์นะครับ”

“ไม่บอกหรอกค่ะ ไม่บอก”

“แต่ถ้าขรรค์ได้ยินเองล่ะ!!” เสียงทุ้มถามขึ้นมาจากด้านหลังของหนึ่งหนุ่มกับอีกหนึ่งสาวที่กำลังยืนคุยกันอย่างออกรสชาติพลางทำอาหารไปด้วย

ขรรค์มานานแล้ว แอบฟังอยู่นานแล้วด้วย

“ข่ะ ขรรค์ ไมกลับมาไวจัง”

“พอดีขรรค์หิวน่ะ” ร่างสูงตอบสีหน้านิ่งๆ

“เหรอ แล้วมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ตั้งแต่ที่เงินบอกป้าน้อยว่าขรรค์เหมือนเด็กนั่นแหละ” ร่างสูงตอบไป พลางยืนกอดอกพิงประตูห้องครัว มองหน้าคนรักเรียบๆ ส่วนป้าน้อยก็ยิ้มๆ ส่ายหน้าไปมาแล้วสนใจอาหารต่อ

“โธ่...ก็มันจริงนี่นา”

 “เฮ้อ...ใครจะว่าอะไรเงินได้ล่ะ แล้วนี่ทำอะไรกินครับป้าน้อย” ร่างสูงก้าวไปหาคนรักข้างใน เอ่ยถามป้าน้อย แม่บ้านดูแลบ้านที่ตนจ้างมา

“ทำของโปรดของขรรค์นั่นแหละ ป้าเพิ่งจะรู้”

“ผมกินได้หมดแหละ ฝีมือป้าน้อยซะอย่าง”

“เดี๋ยวนี้พูดจาดแบบนี้ได้ด้วยเหรอจ้ะ ฮะๆ ป้าล่ะดีใจจริงๆ ที่ได้เห็นเจ้านายมีความสุข” ป้าน้อยแซว จนร่างสูงหน้าแดงซ่าน

เป็นคนเงียบๆ แต่ก็ขี้อายล่ะนะ

“ป้าน้อยอย่าแซวขรรค์สิครับ เขินจนหน้าดำไปหมดแล้ว อุ่ย! ไม่ได้ว่านะ” ร่างโปร่งบางที่ตอนแรกว่าร่างสูงซะอย่างดีก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้จนขรรค์หมั่นไส้

ที่ดำก็ดำมาตั้งแต่กำเนิดแล้วไหม

“ป้าว่าตอนนี้โกรธจนหน้าดำ อุ๊ย! ป้าไม่ได้ตั้งใจ” ทางป้าน้อยก็เอาบ้าง เรียกเสียงหัวเราะจากเงินได้เป็นอย่างดี ขรรค์เลยได้แต่ตีหน้านิ่งส่ายหน้าไปมา

ไม่ได้โกรธอะไรหรอก...

แค่อยากจะแกล้งบ้างเท่านั้นแหละ

“ครับๆ ขรรค์เขินหน้าดำ โกรธก็หน้าดำ แต่ชักอยกจะเห็นคนเขินจนหน้าแดงบ้างแล้วสิ หึหึ” สองเท้าเข้าประกบคนรักอย่างรวดเร็วก่อนที่ริมฝีปากจะฉกเข้าที่แก้มขาวเนียนอย่างรวดเร็วและสูดดังฟอดใหญ่

ฟอด!!!

ฟอด!!!

ไม่ใช่แค่ข้างเดียว แต่เป็นสองข้าง

ร่างโปร่งตกใจตาข้าง หน้าแดงซ่านขึ้นมาคิดได้ว่าคนรักหอมแก้มเขาต่อหน้าป้าน้อย...จนตอนนี้ไม่อยากจะมองหน้าป้าแกเลย ไม่รู้จะโดนแซวหรือเปล่า

“หึหึ แดงดีจริงๆ ขรรค์ไปอาบน้ำดีกว่า เดี๋ยวลงมากินข้าว วันนี้ป้าน้อยก็อยู่กินด้วยกันนะครับ”\

“ได้จ้าๆ”

“เดี๋ยวลงมากินข้าวนะ หึหึ” แล้วก็หัวเราะในลำคอก่อนจะเดินออกจากครัวไป ทิ้งให้ร่างโปร่งบางยืนเม้มปากด้วยความอาย หลบสายตาล้อเลียนของป้าน้อย

ขรรค์นะขรรค์...บ้าที่สุด อายเป็นเหมือนกันนะ!!







100%

 :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

   ลูกชายของหมอเงินจริงๆ นะคะ ^_^ ชื่อน้องรักษ์ เกิดจากการทำกิฟต์ (เขียนถูกหรือเปล่าเอาไว้แก้อีกที) เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ อ่านแล้วต้องเม้นท์น้า ถึงจะหายไปนานๆ มาทีแต่ก็จะพยายามอัพให้ มีเวลาแต่งแต่ไม่มีเวลาอัพ ต้องขอโทษจริงๆ นะคะ

พูดคุย สอบถาม หรือทวงนิยายก็เจอกันที่แฟนเพจเลยนะคะ https://www.facebook.com/sawachiyuki/

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-10-2016 09:23:08 โดย SawachiYuki »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
น้องรักษ์ๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
มีความหวาน ฟ้าหลังฝนสินะ ขรรค์เงิน

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 29
กักขัง





รามินทร์ตื่นในช่วงตีห้าของวันใหม่เพื่อจะเตรียมตัวไปร่วมงานแต่งงานของอภิหชัยบดินทร์ เพราะในฐานะที่เป็นเจ้าของรีสอร์ทจะไม่โผล่ไปงานเลยก็เห็นทีจะไม่ใช่เรื่อง เขาจัดการอาบน้ำแต่งตัวอย่างเงียบเชียบที่สุด โชคดีที่อินทัชหลับลึกมาก ไม่รู้ว่าเหนื่อย หรือไม่ระแวงกันแล้ว...

แต่มันก็เป็นเรื่องดี เพราะเขาจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาก

ที่สำคัญ...เขาไม่อยากเห็นสายตาที่แสดงถึงความผิดหวัง

ไม่ได้อยากทำ...แต่ก็ทำ

“กูขอโทษ...ที่ครั้งนี้ กูก็จำเป็นต้องใจร้ายอีก”

ร่างสูงเดินไปเช็คประตูหน้าต่างทุกบานของบ้านพักให้ดี ก่อนจะทำการล็อกกุญแจบ้านโดยขังร่างโปร่งบางจากด้านในเอาไว้ หน้าต่างก็ใส่กรงเล็กที่โทรมาสั่งก่อนจะพาอินทัชมาที่นี่แล้ว กันร่างโปร่งบางหนี แล้วก็สั่งห้ามไม่ให้ลูกน้องเข้ามายุ่มย่ามแถวนี้ด้วย

“แล้วจะรีบกลับ”

เขามองตัวบ้านพักที่เงียบสลัดก่อนจะตัดใจเดินจากตรงนั้นด้วยความรู้สึกผิด รู้สึกไม่ได้ แต่จะทำยังไงได้ล่ะ พามันกลับไปมันก็เจอเพื่อนของมัน แต่ถ้ามันอยู่นี่โดยไม่ขัง มันก็อาจจะหนี...

ถ้าอินทัชกลับไปแล้ว...ระหว่างเราจะกลายเป็นคนอื่นกันทันที เขาจะไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้ ไม่ได้พบ และนั่นรามินทร์ไม่ยอมเด็ดขาด!


แสงแดดแยงกระทบเปลือกตา ทำให้คนที่นอนหลับสบายอยู่ต้องขมวดคิ้วอย่างรำคาญแล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา หันมองข้างๆ ก็ไม่พบกับเจ้าของบ้านพักก็มองไปยังประตูห้องน้ำพบว่ามันไม่ได้ปิด ไม่มีเสียงน้ำไหลหรือเสียงน้ำกระทบกับพื้น ร่างขาวค่อยๆ หยัดตัวเองขึ้นนั่ง เหยียดแขนขาแล้วค่อยๆ ลุกออกจากเตียง เดินไปที่ห้องน้ำทำธุระส่วนตัวของตัวเองให้เรียนร้อยอย่างที่ทำเป็นปกติ

ยังไม่ได้รู้สึกเลยว่า...มีบางอย่างผิดปกติไป

“ไปไหนของมัน” พึมพำเบาๆ เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยจนออกมาข้างนอกห้องนอน เดินจนรอบบ้านก็ไม่เห็นรามินทร์อยู่เลยเดินไปที่ครัวแล้วทำอาหารเช้าทานแทน

ร่างโปร่งทำเผื่อรามินทร์ด้วยความเคยชิน พอกินส่วนของตัวเองเสร็จก็จัดการเอาอะไรมาปิดจานที่แบ่งไว้ให้รามินทร์เอาไว้ ก่อนจะเดินจากห้องครัวไปเพื่อไปเดินเล่นข้างนอก รามินทร์ไม่อยู่ตอนนี้ ก็ขอไปสูดอากาศหน่อยเถอะ

กึก!

“หือ...ทำไมเปิดประตูไม่ได้”

กึก!

ลองอีกครั้งก็ไม่เป็นผล ไม่ต้องให้ลองครั้งที่สามอินทัชก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

“มึงขังกู!! ไอ้ราม!!!” กัดฟันแน่นด้วยความโกรธ เดินไปที่หน้าต่างก็พบว่าทุกบานติดลูกกรงทั้งหมด ออกไม่ได้ แล้วประตูก็บานใหญ่เกินว่าที่แรงของเขาจะพังมันออกไป

เจ็บใจ!!!

เจ็บใจ...ที่มันไม่เชื่อใจเขาว่าไม่คิดหนีจริงๆ

และนอกจากความเจ็บใจแล้วเขายังเสียใจ...เสียใจที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องเสียใจ เพราะยังไงซะ มันก็เป็นเรื่องที่เขาต้องชินชาไปได้แล้ว...

“มึงมันใจร้าย...ที่ทำดีกับกูเมื่อวานนี้ก็เพราะว่ามึงจะทำแบบนี้ใช่ไหม”

ร่างโปร่งไม่มีทางรับรู้เลยว่า น้ำเสียงและดวงตาของตนมันตัดพ้อคนที่ขังเขาไว้ยังไงบ้าง...และถ้ารามินทร์เห็นมัน คงจะรู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างกันนัก

เอาคืนกันให้พอ...เพราะถ้าเขาไปแล้ว เขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับมันอีก

ทั้งๆ ที่คิดแบบนี้...แต่ทำไม ลึกๆ ในใจถึงรู้สึกว่าไม่อยากไปกันนะ

...

...

...


“พี่ราม...ถึงกับต้องพาพี่อินหนีเลยเหรอ” เจ้าจอมถามด้วยน้ำเสียงและใบหน้าตึงๆ บ่งบอกว่ายังไม่หายโกรธรามินทร์ แต่ที่คุยด้วยเพราะเป็นห่วงอินทัช

“พี่ไม่ได้พาหนี”

“งั้นทำไมถึงไม่ให้พี่อินอยู่ อ๋อ...เพราะถ้าพี่อินอยู่ พี่อินก็จะถูกพาตัวกลับไป พี่ก็จะไม่ได้แก้แค้นใช่ไหมล่ะ” เจ้าจอมประชดประชันพี่ชาย จนรามินทร์ทำหน้าไม่ถูก

“เจ้าจอม...มันไม่ใช่อย่างนั้น”

“แล้วมันยังไง ถ้าพี่บอกว่าพี่ไม่โกรธพี่อินแล้ว ไม่แค้นพี่อินแล้ว ทำไมไม่ปล่อยพี่อินไป ไอ้ที่พี่เคยบอกจอมน่ะ จอมไม่เชื่อหรอก” เจ้าจอมดูท่าจะยิ่งหัวเสีย

“พี่ก็ไม่ได้หวังให้เจ้าจอมเชื่อพี่”

“เฮอะ!!”

“ถ้าคุณธีรไนยถามถึงไอ้อิน ให้บอกไปว่ามันไม่อยู่แล้ว แค่มาพักผ่อนแล้วก็ไป”

“จอมต้องเชื่อพี่ด้วยเหรอ?”

“พี่แค่ขอร้อง…”

“ถ้าพี่รามไม่ใช่พี่ชายของจอมนะ...” ร่างเล็กพูดแค่นั้นก็เดินออกจากตรงจุดที่ร่างหนานั่งอยู่

“พี่รู้เจ้าจอม...”

งานกำลังจะเริ่มการเซอร์ไพรส์ แต่จิตใจของรามินทร์ไม่ได้อยู่ที่นี่

มันอยู่ที่ใครอีกคน คนที่เขาขังเอาไว้ในบ้านพักหลังเล็กๆ หลังนั้น มองดูนาฬิกาว่าจะออกไปได้ช่วงไหนอย่างกระวนกระวาย

“ดูคุณรีบๆ นะครับ” น้ำเสียงไม่คุ้นหูถามขึ้น เรียกสายตาของรามินทร์ให้หันไปมองคนที่เดินมาทักอย่างให้ความสนใจก่อนจะลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นว่าเป็นลูกค้า

“สวัสดีครับ เชิญนั่งก่อนสิครับ”

“ขอบคุณนะครับคุณรามินทร์ นั่งคนเดียวแบบนี้คงจะเหงาแย่เลยสินะครับ” ชายคนนั้นถามขณะนั่งลงไปด้วย ส่วนรามินทร์ก็นั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิมเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้านั่งลงแล้ว

“ก็ไม่เหงาเท่าไหร่หรอกครับคุณธีรไนย”

“เรียกธีร์สั้นๆ ก็ได้ครับ”

“ถ้าอย่างนั้นคุณธีร์ก็เรียกผมว่ารามสั้นๆ ก็ได้ครับ”

“โอเคครับ”

คนที่มาทักทายรามินทร์เป็นคนเดียวกันกับคนที่เขาต้องการพาอินทัชหนีออกไป เพื่อไม่ให้ทั้งสองคนเจอกัน...และเหมือนว่าจะชีวิตจะดูตลกร้ายเพราะธีรไนยดันเข้ามาหาเขาเอง

และจุดประสงค์ ทำไมเขาจะไม่รู้

“คุณธีร์มีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ” รามินทร์ปรับสีหน้าและน้ำเสียงให้ดูจริงจัง ยังไงซะ รีสอร์ทและโรงแรมของเขาก็ให้ทางบริษัทของอัคนีเป็นคนดูแล ฉะนั้นรามินทร์ก็ถือว่าเป็นลูกค้าคนสำคัญของอภิหชัยบดินทร์

“ผมแค่มาทักทายน่ะครับ ก็คุณรามเป็นลูกค้าของบริษัทเรา แต่ว่าผมยังไม่เคยเจอคุณรามเลย ก็เลยมาทักทายและพูดคุยด้วยก็เท่านั้นครับ” ร่างโปร่งบางยิ้มให้

สำหรับรามินทร์ ธีรไนยหล่อ หล่อมากๆ ตรงกันข้ามกับเพื่อนรักอย่างอินทัชที่น่าหวานและสวยสุดๆ แต่ในเชิงกายภาพแล้ว ธีรไนยดูจะผอมกว่า อินทัชจะมีกล้ามเนื้อมากกว่า ส่วนสูงก็คงจะพอๆ กัน แต่ธีรไนยน่าจะสูงกว่าอยู่นิดหน่อย

“งั้นหรือครับ” รามินทร์ยิ้มให้

“รีสอร์ทที่นี่สวยดีนะครับ ไม่ใช่แบบที่ทางเราออกแบบเสียด้วย ใครออกแบบรีสอร์ทให้คุณรามหรือครับ” ธีรไนยชมและสอบถามด้วยความสนใจส่วนตัวของตนล้วนๆ

“เป็นลูกน้องคนสนิทที่เก่งมากๆ ในด้านนี้น่ะครับ”

“สวยจริงๆ ครับ เข้ากับธรรมชาติได้ดีสุดๆ ไปเลย บรรยากาศก็ดี”

“ขอบคุณครับ ถ้าคุณธีร์ชอบก็มาพักบ่อยๆ สิครับ มาพักผ่อน แล้วผมจะให้ส่วนลดพิเศษเลยครับ”

“ฮะๆ ถ้าว่างผมจะมาพักผ่อนที่นี่ก็แล้วกันนะครับ”

“ยินดีเลยครับ”

สองหนุ่มคุยกันอย่างออกรส สนิทสนมกันเร็วกว่าที่คาด เพราะช่วงอายุที่ไล่เลี่ยกันทำให้ไลฟ์สไตล์ก็เหมือนๆ กัน ทางรามินทร์เองเมื่อคุยอยู่กับธีรไนยนานๆ เข้าก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้องมาทางเขาจนรู้สึกเย็นยะเยือก ก็พยายามมองหาสาเหตุ ก็พบกับดวงตาดุจราชสีห์ของพีรพัฒน์ที่จ้องเขาไม่วางตา

“มีอะไรหรือเปล่าครับคุณราม”

“เปล่าครับ ไม่มีอะไร”

แค่แฟนคุณจ้องผมอย่างกับจะกินหัวแล้วก็เท่านั้น

“ก็เห็นมองหาอะไรอยู่ นึกว่ารอคนเสียอีก”

“ฮ่าๆ เปล่าครับ ผมแค่มองบรรยากาศภายในงานไปรอบๆ น่ะครับ แล้วคุณธีร์กับคุณพัฒน์ออกมาแสดงตัวแบบนี้ไม่กลัวคุณดรีมเห็นครับ”

“ไม่หรอกครับ เดี๋ยวดรีมมาผมค่อยหลีกไป ว่าแต่ว่า ผมมีเรื่องอยากจะให้คุณรามช่วยเหลือหน่อยน่ะครับ” ร่างโปร่งเอ่ยขึ้น ทำเอาหัวใจของรามินทร์เต้นแรงด้วยความตื่นเต้นทันที

นี่สินะ ความรู้สึกกังวลของคนที่มีความผิดติดตัว

“อะไรหรือครับ”

“เพื่อนผมเขาหายไป...” ธีรไนยเกริ่น แต่เพียงแค่เกริ่นก็ทำเอาเหงื่อกาฬของรามินทร์ไหลลงมาอย่างรู้สึกกังวลและเครียดๆ เพราะสายตาของธีไนยดูเปลี่ยนไป

“ครับ…?” แสร้งทำสีหน้าสงสัยให้อย่างแนบเนียน

“เขาชื่ออินทัช เป็นนักธุรกิจ รู้จักไหมครับ”

“รู้จักครับ” จะบอกว่าไม่รู้จักก็คงจะพิรุธเกินไปสินะ

“ผมให้คนของผมตามหาเพื่อนของผม และหลายวันก่อนเพื่อนผมมันโทรไปหาแม่ของมัน ผมเลยให้คนตามว่าเบอร์นั้นโทรจากที่ไหน แล้วมันก็บอกว่าเป็นที่นี่”

กลัว...ความรู้สึกแรกที่ฟังจบ รามินทร์รู้สึกกลัว แต่ก็ตีหน้านิ่งได้อย่างเหมือนไม่รู้อะไรเลยจริงๆ

“ครับ...ที่จริงแล้วผมก็ไม่อยากจะผิดคำพูดกับคุณอินหรอกครับ แต่ในเมื่อทุกคนตามหาและเป็นห่วงขนาดนั้น ผมจะบอกเท่าที่ผมทราบนะครับ”

“ครับ” ดวงตาของธีรไนยมีประกายของความหวังเข้ามาจนรามินทร์รู้สึกผิด

รู้สึกผิดที่ต้องโกหก...

“คุณอินมาที่นี่จริงครับ มาพักอาทิตย์หนึ่งแล้วก็ไปแล้ว ซึ่งผมไม่ทราบจริงๆ ว่าคุณอินจะไปที่ไหนต่อ แต่จากการได้พูดคุยกับคุณอิน รู้สึกว่าเขาบอกว่าจะเที่ยวให้รอบประเทศก่อนก่อนจะกลับไปน่ะครับ”

“งั้นหรือครับ” ธีรไนยทำหน้าผิดหวังในทันที

“ขอโทษจริงๆ ครับที่บอกได้เท่านี้”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่รู้ว่าเพื่อนยังสบายดีก็สบายใจแล้วล่ะครับ ว่าแต่...มันไม่ได้พูดเกริ่นๆ บ้างหรือเปล่าครับว่าจะไปไหนต่อ”

“ไม่เลยครับ”

“งั้นหรือครับ” ธีรไนยพึมพำเบาๆ กับตัวเอง แล้วมองโต๊ะอย่างเหม่อลอย

“เอาเป็นว่าถ้าคุณอินกลับมาที่นี่ ผมจะติดต่อคุณธีร์ไปนะครับ”

“ขอบคุณนะครับ ยังไงขอรบกวนด้วย นี่เป็นนามบัตรของผม สามารถติดต่อได้ตลอดเวลานะครับ” ธีรไนยหยิบนามบัตรจะกระเป๋าเสื้อสูทที่พกติดตัวเสมอเผื่อเจอลูกค้าให้กับรามินทร์ไป ซึ่งรามินทร์เองก็เก้บมันไว้ในเสื้อสูทอย่างดีเช่นกัน

“ครับ ถ้าได้ข่าวผมจะรีบติดต่อไปทันทีเลย”

“ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณมากๆ เลยครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปก่อนนะครับ เดี๋ยวแผนเซอร์ไพรส์ดรีมจะแตกเสียก่อน”

“ครับ เชิญตามสบายเลยนะครับ”

รามินทร์มองร่างโปร่งที่เดินไปหาคนรักที่ยืนแอบๆ อยู่หลังต้นไม้เพื่อบังไม่ให้ปลายฝันที่กำลังเดินเข้ามาในตัวงานเห็นหรือจับสังเกตได้

พอพนักงานพาปลายฝันไปนั่งที่โต๊ะที่จัดไว้ให้ปลายฝันแต่เพียงผู้เดียว เขาก็ลอบมองสีหน้าที่แสนจะงงงวยของปลายฝันไปด้วย แม้ว่าคนตัวเล็กจะดูไม่เข้าใจและดูจะสับสนแต่ก็ยอมนั่งลงแต่โดยดี ไม่นานพิธีกรก็เริ่มพูด จวบจนการเปิดโปรเจคเตอร์ฉายภาพของปลายฝัน และฉากขอแต่งงานที่แสนอบอุ่นของทั้งสามคน

แน่นอนว่ามันเป็นภาพที่สวยงามมาก ทั้งสามคนดูเป็นครอบครัวเดียวกัน ไหนจะเด็กแฝดทั้งสองที่อยู่เคียงข้างกับปลายฝันอีก...เป็นงานแต่งงานที่สร้างความอิจฉาให้กับผู้หญิงทั้งประเทศไปแล้ว...

ขนาดรามินทร์เองยังคิดเลยว่า ปลายฝันนั้นช่างโชคดีจริงๆ

“ผมขอให้คุณดรีมกับคนรักมีความสุขมากๆ นะครับ ขอให้ชีวิตรักยั่งยืนยาวนาน” รามินทร์เดินไปอวยพรและแสดงความยินดีกับปลายฝันที่ยิ้มบานอย่างมึงความสุขตลอดทั้งงาน

“ขอบคุณคุณรามมากนะครับที่ช่วยเหลือผม ถ้าไม่มีคุณรามผมก็ไม่รู้จะไปที่ไหนเหมือนกัน”

“ยินดีอยู่แล้วล่ะครับ คราวหน้าก็คุยกันดีๆ ก่อนจะหนีมานะครับ แบบนี้ไม่ดีเลย” ร่างหนาตำหนิแบบจริงใจ ซึ่งร่างบางก็ยิ้มให้อย่างขอบคุณ ก่อนจะโดนคนรักของปลายฝันทั้งสองเรียกให้ไปหาแขกสำคัญ ซึ่งเจ้าของงานก็ขอตัวไป ปล่อยให้รามินทร์ยืนยิ้มอยู่ที่เดิม

ปลายฝันถือเป็นคนในอุดมคติของรามินทร์ ตอนที่เจอครั้งแรกก็คิดอยากจะจีบ แต่พอรู้ว่ามีเจ้าของเขาก็ไม่ได้คิดจะเดินหน้าอะไรอีก มันก็แค่การถูกใจในครั้งแรกที่ได้เห็นนั่นแหละ

ตอนนี้...เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แค่นั้นก็พอ

แต่สำหรับอินทัชคนที่ทำให้เขาทั้งกังวลใจ อยากจะกลับไปหาเต็มแก่อยู่ตอนนี้ รามินทร์ไม่มีทางรู้เลยว่าถ้าเขาปล่อยมันไปตอนนี้ เราจะเป็นเพื่อนกันได้ไหม...และดูเหมือนว่า คำว่าเพื่อน เขาไม่ได้อยากได้จากมันเหมือนกัน

“หึ...ไม่อยากเป็นเพื่อน”

แล้วจะเป็นอะไรล่ะ ในเมื่อ...ศัตรู เขาก็ไม่ใช่แบบนั้นแล้ว


งานดำเนินมาจนถึงช่วงเย็นรามินทร์อยู่ร่วมรับประทานอาหารความกังวลเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน เป็นห่วงความรู้สึกของคนที่เขาขังไว้ เรื่องอาหารอะไรไม่มีปัญหาเพราะเขาเตรียมไว้เต็มตู้เย็นแล้ว แต่ในขณะที่เขาจะเลิกร้ายและจะทำดีกับมัน มันก็มีเหตุจำเป็นให้เขาต้องดีแตก

“ผมขอตัวก่อนนะครับ พอดีมีธุระต้องไปทำต่อ”

แม้จะดูแปลกๆ ที่ดันมีธุระตอนใกล้จะค่ำแบบนี้ แต่รามินทร์จำเป็นต้องขอตัวแม้จะทานข้าวไปได้แค่คำสองคำเท่านั้น

“โอ้…เชิญเลยลุงไม่คิดว่ารามจะมีธุระต่อ” คุณอิสระพูด

“พอดีว่าต้องไปหาเพื่อนน่ะครับ ปล่อยให้รอนานแล้ว ยังไงผมจะบอกคุณพ่อว่าคุณลุงฝากความคิดถึงมาให้นะครับ” รามินทร์ยิ้มสุภาพ

แม้ว่าเขาจะรู้จักกับทางอิสระซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อเขา และพ่อของรามินทร์ก็ทำธุรกิจกับอิสระมานาน แต่เขาก็ไม่ได้สนิทสนมกับทางลูกชายของคุณอิสระมากนัก

ปฐพีกับอัคนี เป็นบุคคลที่เข้าหายาก ถ้าไม่มีอิทธิพลมากพอก็ตีสนิทอะไรไม่ได้ พอๆ กับพีรพัฒน์ที่มีความร้ายกาจและฉลาดเป็นกรดชนิดที่ว่าไม่สมควรคบเป็นเพื่อนอยู่อีก

อภิหชัยบดินทร์เป็นอะไรที่รามินทร์เลี่ยงได้ เขาก็จะเลี่ยง

“ดีๆ ลุงฝากรามด้วยนะ พ่อเราน่ะติดต่อยากเย็นเหลือเกิน”

“ได้ครับคุณลุง ยังไงผมขอตัวนะครับ”

“โชคดีๆ”

ร่างสูงยกมือไหว้อิสระกับคุณหญิงก่อนจะเดินไปสั่งงานกับจักรที่เดินไปมาภายในงาน จากนั้นเขาก็ตรงไปที่รถแล้วขับกลับจังหวัดเลยด้วยความเร่งรีบ

ไม่สนใจเลยว่ามันจะมืดและอันตรายขนาดไหน

ไม่สนใจเลยว่าฝนกำลังตกหนักแค่ไหน

ขอแค่ตอนนี้...เขาไปถึงรีสอร์ทที่เลยให้ได้เร็วที่สุดก็พอ

“ฝนมาตกอะไรตอนนี้วะ!!!” เขาสบถด่าอย่างหงุดหงิด แต่เท้าก็เหยียบคันเร่งไม่มีลดความเร็วเลยสักนิด รู้สึกว่าตัวเองใจร้อนสุดๆ ก็ตอนนี้แหละ






50%

 :mew4: :mew4: :mew4:

   สวัสดีค่ะ อัพเรื่องนี้ได้ค่อนข้างช้าเพราะยูกิเองก็เรียนเยอะ เรียนหนักขึ้นทุกวันๆ การบ้านและงานที่อาจารย์สั่งก็เยอะตามไปด้วย และช่วงนี้จะเป็นการสอบมิดเทอมของยูกินะคะ แจ้งไว้เผื่ออัพช้า จะได้ไม่โกรธกัน ^^ อ่านแล้วคอมเม้นท์ติชมหรือให้กำลังใจยูกิด้วยนะคะ

        มีปัญหาตรงไหน สอบถาม พูดคุยกับยูกิได้ที่แฟนเพจนะคะ หน้านิยายยูกิจะมาลงนิยายและอ่านคอมเม้นท์อย่างเดียว อาจจะมีไปตอบเม้นท์บ้างแต่ไม่ทุกอันเนาะ https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เมื่อไหร่น้อออออ ที่ทั้ง 2 จะเริ่มต้นใหม่กัน พูดคุยปรับความเข้าใจ แต่ตอนนี้ก็ถือว่าดีขึ้นมากแล้ว ขอแค่อินอย่าน้อยใจไปมากกว่านี้จนไม่ยอมอภัยให้รามเลย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ผิดไหมถ้าจะเชียร์ให้รถคว่ำ  555
ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวคุณอินถูกขังลืม

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
รามไม่น่าทำแบบนี้เลยยยย ความเชื่อใจที่สร้างมาพังหมดแล้ว

ออฟไลน์ Mynun

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
เมื่อไหร่จะได้ไปจากรามสักที ยืดเยื้อโครต :เฮ้อ:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด