Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=  (อ่าน 228243 ครั้ง)

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
เหมือนจะดีกัน แต่ก็กลับมาทำแบบนี้อีก
ทำใจเชียร์รามยากเหมือนกัน
ของให้มีคนสกดรอยตามไปจนเจอนะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
เมื่อไหร่ ?



 :mew5:

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
รอๆ สงสารอินจัง ดูแล้วจริงๆเป้นคนดีมากๆ

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
ตื่นเต้น.... อยากรู้จัง..
ทางของรามอินทร์จะเดินต่อยังไง

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
โอ้ยยยย ตอนท้ายบีบหัวใจนะคะ รามจะเป็นไรไหม
สงสารอิน ดีขึ้นมาบ้างยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีก ช้ำใจกันไปอีก

รามทำไรไม่คิด บอกก่อนก็ได้ แล้วแบบนี้จะหวังเป็นเพื่อนยังยากเลย

ธีร์น่าจะเดาทางได้นะ แล้วพัฒน์ดันฉลาดเข้าไปอีก ขอให้เจอเร็วๆนะคะ

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
ตอนที่ 29 ครึ่งหลัง








รามินทร์มาถึงตอนสี่ทุ่มกว่าๆ เพราะฝ่าทั้งฝน ทั้งรถ ทั้งอุบัติเหตุระหว่างทาง แต่ก็นับว่าเร็วสุดๆ แล้วในสถานการณ์ที่อุปสรรคในการเดินทางเยอะแบบนี้

“ยังไม่นอนอีกหรือวะ” รามินทร์ถามเสียงอ่อน อินทัชที่นั่งดูทีวีอยู่หันมามองนิดเดียวก่อนจะหันกลับไปดูละครต่อไม่สนใจรามินทร์ จนร่างสูงทำตัวไม่ถูก

“ทำไมไม่ตอบ” แม้ว่าใจจะโอนอ่อนขนาดไหน แต่ความปากแข็งมันก็ไม่หายง่ายๆ รามินทร์เลยใช้น้ำเสียงเข้มๆ แกมบังคับออกไป

“ก็เห็นอยู่ว่ายังไม่นอน จะเอาคำตอบอะไรอีก”

ก็จริงของมันนะ...คำถามของเขาก็ช่างเป็นคำถามที่โง่เง่าเต็มที

“มึงก็ควรจะพูดกับกู หรือถามอะไรกูก็ได้”

“แล้วทำไมกูต้องพูด ต้องถามมึงด้วย ปกติเราก็ไม่ค่อยจะคุยอะไรกันอยู่แล้วนี่”

“มึงกำลังทำให้กูหงุดหงิดนะอิน” ร่างสูงเดินตรงไปหาอินทัช ยืนค้ำหัวอีกคนแล้วมองลงไปยังร่างที่นั่งดูทีวีอยู่ด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย

ทั้งๆ ที่เขารีบกลับมาหามัน เสี่ยงอันตรายแทบตาย ต้องมาเจออินทัชกวนประสาทแบบนี้บอกตรงๆ ว่าโมโห หงุดหงิด...

มันไม่ได้สนใจเขาเลย...ไม่โกรธ ไม่หาเรื่อง ไม่โวยวาย

“ฮึ! ไม่ว่าจะยังไง กูก็ทำให้มึงหงุดหงิด ไม่ชอบใจตลอดนั่นแหละ” รามินทร์กำหมัดแน่น กัดฟันกรอด ดวงตาคมมองใบหน้าสวย ฉายชัดถึงความไม่พอใจ

มันก็ดีแล้วนี่...มันไม่โกรธ ไม่โวยวาย ไม่ถามมาก นั่นเป็นสิ่งที่มึงควรต้องการราม แล้วนี่...มึงจะไม่พอใจอะไร มึงต้องการอะไรจากมัน!!!

“รู้ตัวก็ดี”

“ทีหลังมึงก็ล่ามกูไว้ด้วยเลยก็ได้นะ”

ตอนแรกคิดว่ามันจะจบ ที่ไหนได้ อินทัชก็หาเรื่องขึ้นมาเพราะอดไม่ได้

“ไม่ต้องบอกหรอก ถ้ามึงคิดหนีเมื่อไหร่ กูล่ามเมื่อนั้นแหละ แต่พอดีกูไม่ได้เอามันมาด้วยไง เลยไม่ได้ล่ามมึงไว้” รามินทร์ตอบแบบประชดประชันกลับไปเช่นกัน

ร่างบางกัดริมฝีปากล่างอย่างเจ็บใจ

นึกถึงวันแรกที่เขารู้ตัวว่าถูกจับมา ขาเขาถูกล่ามเอาไว้ด้วยโซ่ราวกับนักโทษ ภาพทรงจำอันเลวร้ายก็ฉายขึ้นมาราวกับเปิดหนัง ทั้งโดนทำร้าย ก่นด่า ต่อว่า ทำกับเขาเยี่ยงทาส ย่ำยีเขาอย่างไม่ใช่คน...

แค่คิด น้ำตาก็ไหลลงมา ไร้เสียงสะอื้น ไร้เสียงร้องไห้ มีเพียงแค่หยาดน้ำตาที่รินไหล

“มึง...” รามินทร์ทำท่าจะเข้าไปปลอบ แต่ก็ต้องชะงักตัวเองเอาไว้ กลืนน้ำลายอึกใหญ่ แล้วหันหน้าหนีภาพใบหน้าที่นองไปด้วยน้ำตา

“ตอนแรกกูคิดว่ามึง...จะดีแล้ว แต่มาวันนี้ มึงก็เหมือนเดิม” เสียงสั่นเครือของอินทัชมันบาดลึกเข้าไปในหัวใจของรามินทร์เหลือเกิน

มันใจร้ายเหมือนเดิม...มันเห็นว่าเขาเป็นแค่นักโทษของมัน

เพราะมึงหวั่นไหวไงอิน เพราะหวั่นไหว มึงถึงคาดหวังว่ามันจะดีกับมึง แล้วเป็นยังไง ความใจร้ายของมัน ทำให้มึงนั่งเสียใจอยู่แบบนี้

พอกันที จะไม่เชื่ออะไรจากปากของมันอีกแล้ว!!!

“หึ! สมเพชกูล่ะสิ สะใจมากสินะ ที่เห็นกูเป็นแบบนี้”

“มึงอย่ามาดราม่าไอ้อิน อย่าคิดไปเอง!!” ร่างสูงตะคอก ทำเอาร่างโปร่งถึงกับปาดน้ำตาออกด้วยความคับแค้นใจ แล้วหันหลังให้กับรามินทร์

อย่าคิดไปเอง...ใช่ กูคิดเองไปเอง

“กูอยากรู้จริงๆ” เสียงทุ้มสั่นของอินทัชเอ่ยขึ้นมาเบาๆ “ว่ามึงถูกเลี้ยงมายังไง จิตใจถึงได้โหดเหี้ยม ใจร้ายได้ขนาดนี้!!!” ก่อนจะตะโกนออกมาสุดเสียง

ปัง!!!

ร่างโปร่งหยัดกายลุกขึ้นยืน เดินเข้าห้องนอนแล้วล็อกประตูอย่างแน่นหนา

“โถ่เว้ย!!” ส่วนรามินทร์ก็สบถแล้วทิ้งตัวบนโซฟาอย่างหัวเสีย หลับตาทั้งๆ ที่คิ้วก็ยังขมวดแน่นไม่คลาย...รามินทร์ที่เหนื่อยมาทั้งวันจากการเดินทางไป อยู่ร่วมงานจนเดินทางกลับ ไหนจะยังมามีเรื่องกับอินทัชอีก ความล้าที่มีก็ทำให้เขาหลับไปทั้งๆ ที่ยังเครียดอยู่

...

...



เฮือก!!!

ร่างแกร่งสะดุ้งพรวดขึ้นมาเมื่อรับรู้ได้ว่าตอนนี้เช้าแล้ว อะไรบางอย่างทำให้เขาต้องลุกขึ้นเดินไปยังห้องนอนทันทีและทันทีที่เปิดประตูได้ คิ้วเข้มก็ผูกกันแน่น ใจเต้นแรงคาดหวังว่าจะเจออินทัชในห้อง แต่แล้วก็ต้องรู้สึกผิดหวังเมื่อทั้งห้องนอนและในห้องน้ำ ไม่มีคนที่ตามหาอยู่แล้ว

“หรือว่ามัน...หนี” รามินทร์สันนิษฐานหน้าเครียด วิ่งไปยังห้องครัวแต่ก็ไม่พบใครอยู่

สองเท้ายาววิ่งออกไปยังข้างนอกเพื่อไปตามหาอินทัช เสื้อผ้าก็ยังอยู่ในชุดสูทตัวเดิมกับเมื่อวาน น้ำท่าก็ไม่ได้อาบ สายตาคมมองหาไปรอบๆ ใจก็เต้นแรงเพราะความกังวล

“มันไปไหนของมันวะ!!”

“คุณราม หาใครหรือครับ” ลูกน้องที่เห้นว่าเจ้านายกำลังวิ่งตามหาใครสักคนอยู่เดินเข้ามาถามเพราะอยากจะให้ความช่วยเหลือ

“คนที่มากับฉันน่ะ เป็นผู้ชายๆ สูงเกือบเท่าฉัน หน้าสวยๆ เหมือนผู้หญิง เห็นบ้างไหม”

“ไม่เห็นนะครับ ผมอยู่แถวนี้ตั้งแต่ตอนเช้าแล้วก็ยังไม่เห็นใครเลย”

“ถ้างั้นก็ช่วยตามหาหน่อยนะ”

“ได้ครับคุณราม”

เขามองตามลูกน้องที่วิ่งไปเพื่อช่วยตามหาอินทัช รามินทร์ก็รู้สึกโกรธและโมโหตัวเองที่ดันสะเพร่าหลับสนิทปล่อยให้อินทัชหนีไป

ร่างสูงใช้เวลาเดินหาทั่วรีสอร์ทก่อนจะกลับไปที่บ้านพักและที่จอดรถก็ยังมีรถของเขาจอดอยู่ เช็คกล้องวงจรปิดก็ไม่มีอินทัชเดินออกจากรีสอร์ทไป แต่ในตัวของรีสอร์ทไม่มีกล้องไหนจับอินทัชได้เลย เนื่องจากกล้องตรงบ้านพักเขามันเสีย เลยไม่ได้คิดเอาไว้ว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้

“ไปอยู่ที่ไหนวะ!!”

รามินทร์เชื่อ เชื่อว่าอินทัชยังอยู่ในรีสอร์ท เพียงแต่เขาไม่รู้เท่านั้นเองว่าร่างโปร่งอยู่ส่วนไหนของรีสอร์ท แต่นั่นก็ยังสบายใจไม่ได้ถ้าไม่ได้เห็นกับตาว่าอีกคนยังอยู่

มันก็มีหลายวิธีที่จะออกจากที่นี่ได้...

“มีที่ไหนอีกบ้างที่ยังไม่ได้หาวะ” พูดกับตัวเองเบาๆ รามินทร์คิดระหว่างที่เดินกลับบ้านพัก และเมื่อถึงหน้าบ้าน ก็ไม่เห้นรองเท้าของอินทัชวางอยู่ก็คิดได้ว่ามันยังไม่กลับมา สายตาเขามองตรงไปยังข้างหน้าที่เลยบ้านไปอีก ที่ที่เขายังไม่ได้หา...

“จริงสิ!”

มันมีศาลาชมวิวที่เขาสร้างเอาไว้นั่งเล่น นั่งพักผ่อนอยู่ถัดจากบ้านพักไปอีก ที่เขากับลูกน้องไม่ได้มาหาที่นี่เพราะรามินทร์เองก็ลืมไปแล้ว ส่วนลูกน้องก็คิดไม่ถึง ขายาวๆ รีบก้าวเดินไปยังสถานที่นั้นทันที

“เฮ้อ...” แล้วพอเห็นตัวศาลาเขาก็พบแผ่นหลังที่คุ้นเคยนั่งมองไปยังวิวที่มีเทือกเขามากมายอยู่เงียบๆ นิ่งๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ

รอยยิ้มจุดประกายที่มุมปากนิดๆ

อินมันไม่ได้หนี...มันรักษาสัญญาทั้งๆ ที่มันจะหนีก็ได้

ต้องเป็นคนยังไงนะ มีโอกาสหนี แต่ไม่ยอมหนี...

 
“มึงรู้ไหมว่ากูให้ลูกน้องออกตามหามึงซะวุ่นวายไปทั่วรีสอร์ท” เสียงของรามินทร์ทำให้ร่างที่นั่งนิ่งอยู่สะดุ้งนิดๆ และก็เรียกร้องความสนใจจากอินทัชไม่ได้

รามินทร์เดินเข้าไปหาแล้วนั่งลงข้างๆ กับร่างเล็กกว่าอย่างเงียบๆ ดวงตาก็มองไปยังวิวธรรมชาติเบื้องหน้าด้วยเช่นเดียวกัน จนบรรยากาศรอบตัวปกคลุมไปด้วยความเงียบ ราวกับว่าอยู่ตัวคนเดียว

“กูจำเป็นที่ต้องขังมึง” รามินทร์เอ่ยทำลายความเงียบ

“เออ! กูเข้าใจ มึงกลัวกูหนีไง”

“มันก็ไม่ใช่ทั้งหมด”

“เฮอะ! นอกจากเหตุผลนี้แล้วยังจะมีอะไรอีกไม่ทราบ”

อีกเหตุผลก็คือ...เขาไม่อยากให้อินทัชกลับไปตอนนี้

“แล้วแต่มึงจะคิดก็แล้วกัน”

อินทัชที่อารมณ์ดีแล้วก็ไม่ได้ใส่ใจมากมาย เพราะรู้ว่าเหตุผลที่โดนขังคืออะไร แต่อย่างไรก็ตาม คำว่า ‘คน’ ย่อมไม่ชอบถูกกักขัง หรือแม้แต่ ‘สัตว์’ เอง ก็ยังต้องการอิสระ

มันไม่ผิดที่เขาจะโกรธ

มันไม่ผิดที่เขาจะเสียใจ

“พรุ่งนี้กลับเพชรบูรณ์นะ” รามินทร์บอก

“ทำไมต้องบอก ตอนมา ก็ไม่เห็นจะพูดอะไรมากมาย”

“เมื่อวาน กูได้คุยกับเพื่อนมึงด้วย เขามาถามหามึงกับกู” รามินทร์เล่าบอกไปตามความจริง

“ไอ้ธีร์น่ะหรือ? หึ! แล้วมึงตอแหลไปว่ายังไงล่ะ”

“มึงไม่ต้องรู้หรอก”

“ถึงมึงไม่บอก กูก็รู้ว่าคนเหี้ยๆ อย่างมึงพูดบอกเพื่อนกูไปว่ายังไง”

“จะบอกว่ารู้ใจกูว่างั้น”

“คนละเรื่องแล้วไหม? ตรงไหนที่บ่งบอกว่ากูรู้ใจมึง” หันมาถามอย่างเอาเรื่อง

“แล้วทำไมต้องร้อนตัว กูก็พูดไปงั้น”

“ไอ้!!!”

อินทัชหงุดหงิด ไม่รู้จะด่าร่างแกร่งยังไงถึงจะสะเทือนมัน แล้วต้องด่ายังไงถึงจะสะใจตัวเอง ในเมื่อคำหยาบใช้ไม่ได้ผล อะไรก็ไม่ได้ผล สุดท้ายก็หมดอารมณ์ที่จะดูวิว ร่างโปร่งบางลุกขึ้นยืนแล้วเดินหน้าบึ้งกลับบ้านพักไป โดยที่รามินทร์ก็ตามไม่ห่างด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่งดั่งเดิม

มีโอกาสให้หนีได้แล้ว...ทำไมถึงเลือกที่จะทิ้งมันไป

ถ้าจะเอาคำตอบจากอินทัช เขาก็บอกได้อย่างเดียว คือ...ไม่รู้

ไม่รู้ว่าทำไมถึงโง่ ที่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือไป

“กูไม่รู้หรอกนะว่าทำไมมึงถึงอยู่ แทนที่จะหนีไปเพราะมีโอกาสแล้ว แต่ยังไงซะ จากนี้ไปกูจะพยายามทำตัวดีๆ ไถ่โทษที่ร้ายกาจกับมึง ก่อนจะปล่อยมึงกลับไป” รามินทร์พึมพำมองตามหลังที่อยู่ข้างหน้าตนเอง

เสียงมันเบามาก ไม่ได้พูดกับอินทัช แต่เป้นการย้ำเตือนตัวเอง

อย่างน้อย ก็อยากให้อินทัชมีความทรงจำดีๆ กลับไปบ้าง

และที่สำคัญ นอกจากความเลวร้ายที่รามินทร์ทำกับอินทัชแล้ว เขาอยากจะให้อินทัชเชื่ออย่างสนิทใจว่าเขา...รู้สึกผิดและอยากจะขอโทษจริงๆ

...

...

...


“ไอ้อิน ทำยังไงดีวะ คุณจอมเขาโกรธกูอ่ะ”

“เรื่อง?”

“มานั่งๆ เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง ว่าแต่มึงหายหัวไปไหนมาวะ” ร่างโปร่งโดนเพื่อนหน้าเถื่อนลากไปนั่งยังร่มไม้เมื่อเดินทางมาถึงรีสอร์ทที่เขาค้อได้ไม่ถึงชั่วโมง ส่วนรามินทร์พอมาถึงก็สั่งให้เขาไปทำงานของตัวเอง แล้วมันก็หายไปกับผู้จัดการรีสอร์ท จักรที่ยืนกระวนกระวายอยู่แถวนั้น เห็นร่างโปร่งของอินทัชกำลังทำงานอยู่ก็ตรงเข้าไปทันที

“ถามเจ้านายมึงดิ”

“เออช่างมันเถอะ ตอนนี้เรื่องกูก็หนักใจพออยู่แล้ว”

“ว่ามาๆ”

ไม่นานร่างแกร่งของจักรก็เล่าทุกอย่างออกไปตามความจริงทั้งหมด ซึ่งพอเห็นใบหน้าสวยของเพื่อนขมวดคิ้วแน่นไม่รู้ว่าโกรธเขาไปอีกคนหรือกำลังไม่พอใจแก้วที่ทำให้เกิดเรื่องกันแน่

“เรื่องก็มีเท่านี้แหละ”

“ไม่เห็นจะยาก มึงก็ไม่ได้ผิดอะไรนี่ แค่อาจจะโง่เชื่อคนง่ายไปหน่อย”

“นี่จะช่วยให้กำลังใจหรือกำลังหลอกด่ากูกันแน่”

“กูไม่ได้หลอกด่า อย่าเข้าใจผิด กูด่ามึงตรงๆ เลย มึงก็รู้ว่าไม่ควรไปห้องผู้หญิงตอนค่ำๆ มืดๆ แบบนั้นป่ะ เมื่อไหร่ไอ้ความใจดีพร่ำเพรื่อของมึงจะหมดไปวะ กูเป็นน้องจอมกูก็โกรธ” จากที่ขอคำปรึกษากลับต้องมารู้สึกไม่ดีซ้ำเข้าไปอีก

แต่ทำยังไงได้ เพราะความใจดีของเขาเองนั่นแหละที่ทำให้เจ้าจอมโกรธ

ไอ้จักรคนนี้กลายเป็นคนไม่รักษาคำพูด ไม่รักษาสัญญา

“กูจะทำยังไงดีวะ”

“สิ่งที่มึงทำได้นะไอ้จักร คือตามตื๊อเหมือนอย่างที่มึงเคยตามจีบ ทำหน้าเหงาหงอยเหมือนหมาโดนเจ้านายทิ้งยามที่ตัดพ้อคิดว่าเจ้าจอมไม่มีทางหันมาสนใจ แล้วก็ทำตัวโง่เง่าซื่อบื้อต่อไปพอ อ้อ! ทำหน้าเศร้าๆ หงอยๆ เข้าไว้ เดี๋ยวน้องจอมก็ใจอ่อนเอง”

เพราะแค่มึงตามตื๊อเข้าหน่อย เจ้าจอมก็ใจอ่อนเองแหละ ไอ้นี่ก็โง่ คิดว่าเจ้าจอมจะโกรธจริงจังมากมาย ไอ้โกรธน่ะโกรธจริง แต่ก็ไม่ได้มากมายขนาดนั้น

“จะได้ผลเหรอวะ แม่งคำปรึกษาของมึงเหมือนโดนด่าไปด้วยเลยว่ะ”

อินทัชส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอา

“งั้นกูต้องตื๊อยังไง”

“คิดเองบ้างนะมึง ถ้ามึงมาให้แต่กูช่วยแบบนี้ น้องจอมรู้เข้าว่าไม่ใช่ความคิดของมึงเอง มึงจะซวยอีกไม่ใช่น้อยเลยล่ะ”

“เออว่ะ จริงด้วย!!” คนผิวเข้มทำหน้าเหมือนเพิ่งจะคิดได้ ก่อนจะใช้สายตาที่แสนจะขอบคุณให้กับร่างบาง จนอินทัชยิ้มให้น้อยๆ

“มีอะไรอีกไหม จะไปทำงานต่อ”

“ไปไหนวะ?”

“ว่าจะไปดูผักหน่อยน่ะ”

“ด้านล่างนั่นน่ะเหรอ” จักรถามโดยนิ้วก็ชี้ไปยังด้านล่างที่เป็นแอ่งเขาซึ่งจำได้ว่าอินทัชเคยพักอยู่ที่นั่นด้วย

“อือ”

“กูว่าอย่าดีกว่า ช่วงนี้มึงอย่าลงไปที่นั่นเลยนะ” จักรทำหน้าเครียดๆ จนอินทัชอดสงสัยไม่ได้

“ทำไม?”







100%

 :mew6: :mew6: :mew6:


   ขอโทษที่ให้รอนานนะคะ หลังจากนี้จะพยายามมาอัพให้บ่อยขึ้นค่ะ อ่านแล้วคอมเม้นท์ให้ยูกิด้วยนะคะ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับคนเขียนต่อไปค่ะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

   หากต้องการสอบถาม พูดคุย ติดตามข่าวสาร ทวงนิยาย ก็ไปหายูกิได้ที่แฟนเพจนะคะ https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มาบ่อยๆนะคะ รอเสมอ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Jessiebier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
สนุกมาก ชอบจอมกะจักร ขรรค์กะเงินด้วย มาต่อบ่อยๆน้าาา

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
มาบ่อยๆนะคนแต่ง

จะรอสมน้ำหน้าอีพระเอก


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
รอส้มน้ำหน้าไอ้เลวนั้น

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
นั่นสิ ทำไม ลงไปไม่ได้หละ
มีอะไร
รามทำอะไรไว้ปะ?
รื้อทิ้งไปแล้ว? หรืออะไร
อยากรู้ๆ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เมื่อไหร่จะเข้าใจกันสักที สงสารอิน
รามจะแก้ไข จะทำไรก็ให้รีบนะ ถ้าธีร์ยังตามอยู่ ไม่มีโอกาสแล้วนะ

จักรก็บื้อเหมือนอินทัชว่าน่ะแหละ 5555

แล้วแปลงผักมีอะไร

ออฟไลน์ Mynun

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
เมื่อไหร่จะได้ไปๆสักที ยิ่งอ่านยิ่งอยากเบ้ปากเรื่อยๆ
มันดูยืดๆไปป่ะคะ
:ling1:

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 30
วินาทีเป็น วินาทีตาย




ช่วงนี้ฝนตกหนักมาก ตกทั้งวันทั้งคืนไม่มีหยุด กรมอุตุฯ ก็พยากรณ์ว่าจะโดนพายุอย่างหนักเสี่ยงต่อน้ำป่าไหลหลาก ชาวบ้านบางส่วนที่ทราบข่าวก่อนก็ต่างอพยพไปอยู่ในตัวเมืองที่ปลอดภัยๆ ส่วนทางรีสอร์ทเองก็เตรียมรับมือเต็มที่ คนงานทำงานก็ทำงานกันอย่างขยันขันแข็งแม้จะต้องตากฝนก็ตามที เผื่อมีน้ำป่ามาอย่างน้อยมันจะไม่ไหลมาทางรีสอร์ท มาก ขรรค์เองก็ต้องทำงานตากฝนทุกๆ วัน

ซึ่งในวันนั้นที่อินทัชได้กลับมาที่นี่ก็เป็นวันที่สามแล้วที่ฝนยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่อง เข้าใจในทันทีเลยว่าการที่ฝนตกหนักมากแบบนี้สำหรับคนที่นี่มันน่ากลัวขนาดไหน เพราะเขาแค่ยืนมองดูฝนกับลมแรงๆ นี่แล้วยังรู้สึกไม่ปลอดภัยเลย

“นี่คือสิ่งที่มึงบอกกูใช่ไหม”

ร่างโปร่งมองฝนที่กำลังตกกระทบพื้นดินแล้วนึกถึงวันที่คุยกับจักรวันนั้น...

‘กูว่าอย่าดีกว่า ช่วงนี้มึงอย่าลงไปที่นั่นเลยนะ’

‘ทำไม?’

‘มึงสังเกตดูฟ้าดิ ครึ้มขนาดนี้ อีกไม่นานก็คงจะเทลงมา’

‘ก็มันหน้าฝน ฝนจะตกก็ไม่เห็นแปลกนี่’

‘เออ! มันหน้าฝน แต่กรมอุตุฯ เพิ่งจะพยากรณ์ไปเองว่าที่นี่จะได้รับผลกระทบจากพายุหนักเลยล่ะ แล้วข้างล่างนั่นก็เป็นทางไหลของน้ำป่า ถ้าไม่อยากตายก็อย่าลงไปตอนที่ฝนกำลังตกหนัก ไม่ใช่แค่ผักของมึงที่จะหายไป แต่อาจจะเป็นมึงด้วย’

‘เรื่องอะไรวะ กูปลูกมันมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของกู ไม่ยอมนะเว้ย’

‘มึงห้ามธรรมชาติได้เหรอวะไอ้อิน’

‘กูห้ามไม่ได้หรอก แต่นั่นผักกูนะ กูปลูกมันมาทั้งๆ ที่ไม่เคยปลูกแล้วมันกำลังโตพอจะเก็บได้แล้ว มึงจะให้กูทำใจปล่อยไปง่ายๆ อ่ะนะ’

‘ทำไงได้วะอิน’

‘ชีวิตกูนี่มัน เจอแต่เรื่องน่าผิดหวังเนอะ’

‘แล้วกูจะช่วยปลูกใหม่นะ’

‘ขอบใจว่ะจักร’


อินทัชยอมตัดใจจากผักพวกนั้นโดยไม่ลงไปที่นั่นตามคำเตือนของเพื่อน เพราะหลังจากที่เขากับจักรแยกย้ายกันไปทำงานกันคนละทาง ฝนก็เทลงมาอย่างหนัก ไม่หยุดเลย ตกมาจนถึงวันนี้นี่แหละ ยังไม่ทันจะได้ชื่นชมผลงานของตัวเองได้เท่าไหร่เลย ก็ต้องเสียมันไปแบบนี้ อินทัชรู้สึกผิดหวังกับโชคชะตาตัวเองมาก หลายคนไม่เข้าใจคิดว่าก็แค่ผักจะอะไรนักหนา แต่สำหรับเขามันคือผลงาน...ที่นักธุรกิจวันๆ เอาแต่จับแต่ปากกากับกระดาษ ประชุมแล้วก็พบลูกค้าจะทำมันได้สักครั้งในชีวิต...

“เฮ้อ...พึ่งจะเคยเก็บมากินได้ไม่กี่ครั้งเอง”

เสียดาย...คนที่มีเงินจะซื้ออะไรก็ได้อย่างอินทัชก็พึ่งจะรู้จักกับคำว่าเสียดายก็ครั้งนี้แหละ ความยากลำบากมันสอนเขาหลายอย่างจริงๆ

“ผักน้อยของฉัน” อาจจะเป็นคำพูดที่ดูตลกแต่ใบหน้าและดวงตาของคนพูดไม่ได้แสดงตามประโยคของตนเลยแม้แต่น้อย ยืนมองไปยังทางที่จะลงไปยังบ้านพักเก่าๆ ที่เคยใช้อาศัย

ส่วนรามินทร์ก็ไปเตรียมรับมือกับผลกระทบของพายุที่ดูจะทำให้บางส่วนเสียหายกับพวกจักรและขรรค์

“เงินของฉัน ที่อุตส่าห์ทำงานก่อสร้างมาก็อยู่ที่นั่น จริงสิ!! เงิน...”

พอนึกได้ว่าเงินที่เพียรทำงานอย่างหนักเขาเก็บไว้ใต้หมอนที่บ้านหลังเก่าก็รู้สึกว่าทิ้งไปไม่ได้ ถ้าหากว่าเขาได้ไปจากที่นี่ เงินเหล่านั้นจะเป็นค่ารถ ค่าเดินทางกลับของเขา

อินทัชไม่อยากโทรให้ใครมารับกลับ ในเมื่อบอกทุกคนไปว่าเขาหนีมาเที่ยวเอง เขาก็ต้องกลับไปเอง ฉะนั้น เรื่องที่ถูกจับตัวมาแก้แค้นเพราะเป็นต้นเหตุที่ทำน้องสาวของรามินทร์ตาย อินทัชจะไม่เล่ามันบอกใครเด็ดขาด จะเก็บเอาไว้เป็นบทเรียน และก็จะลืมรามินทร์ออกมาจากสมองแล้วก็หัวใจด้วย

“ลมแรงชะมัด” พูดกับตัวเองแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงของตัวเองหรอกเพราะเสียงฝนมันดังมาก

ร่างโปร่งที่พยายามจะฝ่าพายุออกไปถึงกับรำคาญและหงุดหงิดเพราะร่มเหมือนจะเป็นอุปสรรคของการเดินมาก แต่ก็ดันทุรังเดินไปจนถึงทางลง แต่มองไปยังด้านหน้าก็ตกใจเพราะน้ำมันท่วมแล้วถึงจะไม่สูงมากก็ตาม น้ำเองก็ไหลแรง เชี่ยวสุดๆ เพราะน้ำจากบนเขามันไหลลงมาสมทบกับน้ำข้างล่างด้วย

‘มันเป็นทางไหลผ่านของน้ำ’

ตอนแรกที่ได้ยินบอกเลยว่าคิดภาพไม่ออก แต่พอเห็นตอนนี้ก็เข้าใจทันทีว่ามันเป็นยังไง ถ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเอง ก็คงจะไม่เชื่อหรอก

ลงไปคงโดนซัดพาไปกับกระแสน้ำแน่ๆ

“ลงไปนี่ก็ฆ่าตัวตายชัดๆ” ร่างโปร่งชะโงกหน้าลงไปดู ก่อนจะหันหลังเตรียมเดินกลับเพราะยังไงก็ลงไปไม่ได้อยู่แล้ว

เฮือก!!!

“เหี้ย!! ตกใจหมด”

หากแต่ว่าพอหันกลับมาดันเจอกับร่างแกร่งที่ยืนมองเขาด้วยสีหน้าเครียดๆ ในสภาพที่เปียกโชกไปทั้งตัวก็ทำให้อุทานออกมาเสียงดัง แต่รามินทร์ก็ไม่ได้ยิน

ร่างสูงเดินจ้ำอ้าวเข้ามาหา ใบหน้าเครียดๆ ของคนตัวใหญ่กว่าทำให้อินทัชรู้สึกหวาดหวั่นเล็กน้อยเพราะกลัวจะไปทำอะไรผิดเข้า

“จะไปไหน!!!”

“กูแค่มาดูเฉยๆ”

“แล้วมาดูทำไม”

“มีของที่ต้องไปเอาที่บ้านหลังนั้น”

“นี่ถ้ากูไม่มาตาม มึงคงลงไปสินะ”

“จะบ้าหรือไง ลงไปฆ่าตัวตายเหรอวะ น้ำเชี่ยวขนาดนั้น”

ทั้งคู่ตะโกนคุยกันจนแทบจะเจ็บคอ รามินทร์โมโหคนตรงหน้ามากมายเหลือเกิน ถามว่าทำไมเขาถึงมาหาอินทัชได้ถูก นั่นก็เพราะว่าเขาจะมาอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วนอนพักสักหน่อย ก็เจอกับอินทัชที่เดินออกจากตัวบ้านพักพอดีเลยเดินตามมา พอเห็นว่าอินทัชทำท่าจะลงไปเขาก็แทบจะวิ่งไปหา แต่ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่มันหันกลับมาไม่ได้ลงไปอย่างที่คิด

รามินทร์เกณฑ์คนงานมาดูแล้วแต่ว่าน้ำจากเขามันทะลักก่อนเลยท่วมมาถึงนี่ หากแต่มันก็ไม่ขึ้นมาถึงด้านบนนี้หรอก เพราะตรงนี้มันอยู่สูงจากฝั่งน้ำตกด้านล่างมาก

“แล้วของอะไรที่มึงจะไปเอา”

“เรื่องของกูน่า”

“ไอ้อิน!!!”

“อ๊ะ!”

ในจังหวะที่โดนตะคอกเสียงดัง อินทัชขยับขาไปด้านหลังเล็กน้อยเพราะรู้สึกเหมือนโดนคุกคาม จนทำให้ลื่นพลาดท่าตกลงไป

ตุ้ม!!!

“ไอ้อิน!!!” เสียงเรียกของรามินทร์ฟังดูตกใจ รู้สึกใจหายที่เห็นร่างของอินทัชตกลงไปต่อหน้าต่อตาโดยที่เขาคว้าเอาไว้ไม่ทัน

ถ้าให้คาดคะเนความสูงของน้ำคงอยู่ที่ระดับเอวของเขา ซึ่งอินทัชตกลงไปแบบหงายหลัง มันเลยยากต่อการควบคุมและทรงตัว อินทัชสำลักแล้วก็พยายามลูบน้ำที่ใบหน้า ร่างกายไหลไปตามแรงของน้ำขณะที่ฝนก็ยังตกไม่หยุด สายตาของเขามองร่างสูงที่ยืนมองอยู่อย่างอึ้งๆ ในใจก็รู้สึกอยากจะให้มันลงมาช่วย

ช่วยกูด้วย ราม ด้วยกูด้วย...

ไม่รู้ว่าหวังมากไปหรือเปล่า แต่เขายังไม่อยากตาย ร่างโปร่งเห็นว่ารามินทร์ยืนมองอยู่ไม่คิดจะมาช่วยก็รู้สึกสมเพชตัวเอง

หวังมากไปหรือเปล่าอิน ลงมามันก็ตาย...ใครมันจะเอาชีวิตมาเสี่ยงเพื่อช่วยมึง

ใครจะช่วยคนที่มันเกลียดอย่างมึง...

“ชิ!!!”

ร่างแกร่งไม่รอให้ร่างโปร่งถูกน้ำพาไปไกล เขาก็ลงไปตามทันทีเพื่อช่วยเหลือ หากแต่กระแสน้ำยิ่งรุนแรง ยิ่งควบคุมทิศทางยาก เขาพยายามว่ายไปหาอินทัชที่ตอนนี้ตะเกียกตะกายตัวเองจนทรงตัวได้ แต่ก็ต้านแรงน้ำไม่ไหวเช่นกัน

“เหี้ย!!”

รามินทร์สบถ เพราะข้างหน้าจะเป็นหน้าผาน้ำตก ซึ่งด้านล่างเต็มไปด้วยโขดหินมากมาย ถ้าตกลงไปแล้วไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต...

“ไอ้อิน!!! ได้ยินกูไหม!!!”

“อึก...ราม!!!”

“ชิ!!!”

มันไม่ไหวแล้ว รามินทร์รู้สึกได้ แม้ว่าจะมองยากเพราะฝนมันตกใจบดบังการมองเห็น แต่เขาก็รู้ว่าอินทัชไม่ไหวแล้ว มันต้านทานน้ำเชี่ยวขนาดนี้ไม่ไหวหรอก เขายังยอมแพ้เลย

ถ้ากระแสน้ำมันไม่บังคับมาฝั่งนี้ รามินทร์จะไม่กังวลเลย

“ว่ายกลับมาหากู ทนอีกนิด ว่ายกลับมา!!!” ร่างสูงตะคอก ซึ่งอินทัชก็พยายามที่จะว่ายทวนกระแสน้ำเพื่อให้ตัวเองอยู่กับที่ รามินทร์ไม่รอช้ารีบเร่งให้ตัวเองไปถึงอินทัชที่กำลังจะต้านไม่อยู่ เขายื่นมือไปหาร่างโปร่ง ซึ่งมือขาวก็ยื่นมาหาเขา จนกระทั่งปลายนิ้วเราทั้งคู่สัมผัสกัน รามินทร์คว้าข้อมือเล็กแล้วดึงเข้ามาหาตัว เขาโอบรอบกายของอินทัชไว้ มองหาทางที่จะไปแต่ก็ไม่มี

มันเลือกไม่ได้ จำเป็นต้องไหลไปกับกระแสของน้ำ จนรามินทร์เห็นว่าด้านหน้าใกล้ถึงที่น้ำจะตกลงไปด้านล่างใจก็เริ่มสั่นกลัว

“อิน...เราต้องตกไปแล้วจริงๆ ว่ะ”

“อึก...ข้างล่างเป็นอะไร” ถามสั่นๆ

“มันไม่มีอะไร ก็แค่น้ำตก มึงไม่ต้องกลัวนะ” พยายามบอกให้อินทัชไม่ต้องกลัว จริงๆ แล้วก็แค่ปลอบขวัญตัวเองนั่นแหละ

ใครกำลังเจอเหตุการณ์แบบนี้ไม่กลัวก็คงเป็นไปไม่ได้

อินทัชหลับตาลง ไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว ถ้าหากจะต้องตายอย่างน้อยรามินทร์ก็ไม่ได้ทิ้งให้เขาไหลไปกับน้ำตามลำพัง สองแขนขาวโอบรอบตัวของรามินทร์แน่น เช่นเดียวกับร่างสูงที่กอดเขาแน่นเช่นกัน

ความหวาดเสียวแล่นริ้วไปที่ท้องน้อยยามที่ทั้งคู่กำลังหล่นจากที่สูง จนแทบจะลืมหายใจ หลับตายอมรับจะตากรรม โดยลืมไปเลยว่า...

ที่ร่างสูงกำลังกอดอยู่นั้น คือคนที่เกลียด คือคนที่เกือบทำให้เสียน้องสาวไป คือคนที่เขาอยากจะแก้แค้นให้มันตายทั้งเป็น คือคนที่เขาครหามันว่ามันเป็นคนเลว ชั่ว สำส่อน คนที่เขาย่ำยีศักดิ์ศรีไปอย่างเลวร้าย เป็นคนๆ เดียวที่เขาใจร้ายและได้เห็นมุมนี้ของเขา ทั้งๆ ที่เกลียด แต่ก็กลับหวั่นไหวและสนุกที่ได้อยู่ด้วยกัน แม้เป็นเพียงเวลาสั้นๆ ก็ตามที

ตู้ม!!!!!

มันดูตลกไปหน่อยไหมที่คนเกลียดกันจะมากอดกันตายแบบนี้น่ะ

อิน...

เรียกชื่อสุดท้ายในห้วงความคิดก่อนจะไม่รับรู้อะไรอีกเลย


“แค่กๆ เชี่ย...เจ็บฉิบหาย อึก” อินทัชที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำได้ก็สำลักอย่างทรมาน ก่อนจะมองสำรวจไปรอบๆ ก็พบว่าข้างล่างนี้เป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับน้ำได้จำนวนมหาศาล แต่ก็ยังทำให้น้ำขึ้นกินพื้นที่ป่าด้วยเพราะมันระบายไม่ทัน

ฝันยังคงตกอย่างต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะหยุด อินทัชมองหาร่างสูงของคนที่ตกมาด้วยกันอย่างเป็นกังวล ใจเต้นแรงอย่างหวาดกลัว

“ไอ้ราม!!!” ตะโกนเรียกเสียงดังแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่ตามหา ไม่รอช้าอินทัชก็ดำลงไปในน้ำเพื่อหาดูว่ารามินทร์ยังอยู่ในน้ำหรือเปล่า ก่อนจะโผล่ขึ้นมาหายใจแล้วก็ดำลงไปใหม่ สามถึงสี่ครั้งก็ยังหาไม่เจอจนใจเสีย

“อย่าทำแบบนี้สิวะ กูไม่ตลกนะเว้ย!”

รามินทร์มันช่วยเขานี่คือสิ่งที่เขาไม่สามารถทำเป็นไม่รู้ได้ ความจริงแล้วมันจะทิ้งเขาไว้คนเดียวก็ได้ แต่มันก็ตามลงมา...แล้วมันจะมาหายไปแบบนี้ไม่ได้

ร่างขาวที่ตอนนี้ซีดดำลงไปใหม่ จนสัมผัสได้กับความนุ่มนิ่มบ่งบอกว่าเป็นสิ่งมีชีวิต พอเพิ่งดีๆ ก็พบว่าเป็นรามินทร์ที่ไม่ได้สติอยู่ มันทั้งดีใจพอๆ กับความรู้สึกกลัว ดีใจที่เจอแต่ก็กลัวว่าจะช้าไป เขาแหวกว่ายพาร่างสูงใหญ่ขึ้นไปเหนือน้ำ ก่อนจะดึงคนตัวใหญ่กว่าไปยังทางที่ใกล้กับพื้นดินมากที่สุด

“ไอ้รามๆ ตื่นสิวะ” มือขาวตบที่ใบหน้าของรามินทร์อย่างร้อนใจเมื่อดึงร่างใหญ่มานอนราบบนพื้นดินได้สำเร็จ

ไม่รอช้าร่างโปร่งก็ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่เคยได้เข้าคอร์สเรียนมาด้วยการปั๊มหัวใจสลับกับการผายปอดเพื่อช่วยชีวิตรามินทร์ เขาทำไปเรื่อยๆ อย่างไม่ยอมแพ้แม้ว่ารามินทร์จะนอนแน่นิ่งขนาดไหน ริมฝีปากของมันซีด ร่างกายมันก็ไม่ได้ข่าวแต่ว่าตอนนี้กลับซีดจนอินทัชกลัว

“มึงห้ามเป็นอะไรเด็ดขาด ฮึก...มึงห้ามเป็นอะไรเด็ดขาด” น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ขณะที่ปั๊มหัวใจก็พูดกับคนที่ไม่มีสติไปด้วย

“มึงต้องมารู้ความจริงก่อน...มึงต้องได้รู้ว่ากูบริสุทธิ์ มึงต้องได้รู้ว่ากูไม่ผิด” จบประโยคก็เปาปากให้อีก แล้วก็สลับมาปั๊มหัวใจต่อ

“มึงต้องรู้สึกผิด มึงต้องชดใช้ให้กูก่อน ฮึก ฟื้นสิวะแม่ง...เหี้ยเอ้ย!”

ตุ้บ!!

ด้วยความเหนื่อยและถอดใจเลยทุบลงที่อกแกร่งแรงๆ อย่างคับแค้นที่ไม่สามารถช่วยชีวิตมันได้ น้ำตาไหลออกมาอย่างเสียใจ แต่แล้วหัวใจก็ต้องเต้นแรงอย่างมีความหวังเมื่อรามินทร์สำลักน้ำออกมา

“แค่กๆ”

“ราม!!”

แต่แล้วหัวใจก็ต้องเต้นแรงอย่างมีความหวังเมื่อรามินทร์สำลักน้ำออกมา แพขนตาของร่างสูงขยับ ร่างผอมบางเลยประคองให้รามินทร์ลุกขึ้นนั่ง ลูบแผ่นหลังช่วย ร้องไห้ออกมาอย่างดีใจ

“เป็นไงบ้างวะ”

“แค่กๆ อึก...เจ็บ”

“เจ็บ? เจ็บตรงไหน เจ็บอะไร” อินทัชร้อนรนมองหาบาดแผลตามร่างกายของร่างสูงทันที ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจเพราะมีไม้ขนาดไม่ใหญ่มากเสียบอยู่ที่ตนขาแกร่ง มือไม้ของอินทัชอ่อนแรงทันทีที่เจอเรื่องน่ากลัวต่อหน้าต่อตา ทำไมตอนที่เอามันขึ้นมาถึงไม่เห็น

ดีเท่าไหร่แล้วที่ไม้มันไม่หักแล้วทิ้งส่วนที่อยู่ในขาเอาไว้น่ะ

“โอ๊ย! เจ็บ...แสบคอด้วย ขอน้ำ มีน้ำไหม?” เสียงแหบบ่งบอกบอกได้เป็นอย่างดีว่ารามินทร์ต้องการน้ำดื่มจริงๆ

“แล้วกูจะไปหาน้ำที่ไหนให้มึงล่ะวะ”

“ช่างน้ำก่อน...ตอนนี้ มึงช่วยดึงไม้จากขากูได้ไหม แล้วห้ามเลือดเอาไว้”

“ด่ะ ดึง”

“เออ ดึงออกเลย”

“มึงจะไม่เจ็บเหรอวะ?”

“เจ็บ...” เขาตอบอินทัชสั้นๆ “เพราะฉะนั้น ช่วยดึงทีเดียวให้ออกมาเลยนะ”

ร่างผอมถอนหายใจยาว กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ก่อนจะจับไม้ที่พาจะดึงออกได้ด้วยความสั่น รามินทร์หันหน้าหนีไปอีกทางเพื่อไม่ให้อินทัชเห็นใบหน้ายามเจ็บปวด

“ไม่ต้องบอกกูว่าจะดึงตอนไหน ถ้าจะดึงก็ดึงเลย”

“เออ...”

ร่างโปร่งหลับตาแล้วนับ...หนึ่ง สอง สาม...ดึง!!!

“อ๊ากกกกก!!!” เสียงร้องของรามินทร์ดังลั่นด้วยความเจ็บ ก่อนจะกัดปากเอาไว้แล้วหายใจแรงๆ เพื่อระงับความเจ็บที่ขา

“เลือดมึงไหลไม่หยุดเลย”

“เออ...มึงช่วยห้ามเลือดให้กูที”

“มึงต้องไปหาหมอนะเว้ย จะมีใครมาช่วยเราไหมวะ” อินทัชถาม มองใบหน้าซีดเซียวของรามินทร์ด้วยความเป็นห่วงจนคนที่เจ็บรู้สึกได้

“ไม่รู้...”

“ชิ!!”

แควก!!!

อินทัชฉีกเสื้อของตัวเองจนขาดเป็นเศษผ้าที่พอจะมัดห้ามเลือดให้รามินทร์ได้อย่างไม่ลังเล เจ้าของใบหน้าสวยยกขาของรามินทร์มาวางพาดบนตักตัวเองแล้วก็มัดห้ามเลือดตรงปากแผลเอาไว้ ทุกการกระทำอยู่ในสายตารามินทร์ทั้งหมดจนดวงตาที่เคยมองอินทัชอย่างแข็งกร้าว ส่อประกายอะไรบางอย่าง

เหมือนกับหัวใจที่รู้สึกอบอุ่นอย่างไม่ทราบสาเหตุ








50%

 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

มาแล้วค่า สำหรับครึ่งหลังถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดจะลงให้วันอาทิตย์นะคะ  ส่วนพวกรูปประโยคถ้ามีแปลกๆ บ้างยูกิก็ต้องขอโทษด้วย ตอนนี้ยังไม่ได้ทำการรีไรท์เลยแต่ให้เพื่อนเอาไปพิสูจน์อักษรแล้วนะคะ

อัพเดทเรื่องหนังสือนิดนึงนะคะ ตอนนี้ยูกิกำลังเร่งปั่นเล่มสามอยู่ค่ะ ถ้าหากว่าล่าช้ายังไงจะแจ้งอีกที ตอนนี้ยังคงเป็นกำหนดการเดิมคือส่งประมาณต้นปี จะพยายามไม่ขอบวกเวลาเพิ่มเพราะรู้ว่ายูกิเปิดจองนานแล้ว ยอมรับว่าแต่งนิยายไม่ตามแพลนที่วางไว้ แต่ก็พยายามเร่งให้ตามทันกำหนดที่ยูกิทำตารางไว้ ^^

มีอะไรสอบถาม พูดคุยกับยูกิได้ที่แฟนเพจเลยนะคะ https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
มันจะโรแมนติกมากเลยถ้าไม่ใช่หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้
รู้สึกเหมืนรามต้องมีไข้ตามมา นอนในป่ากอดกันแล้วเพ้อแล้วก้อไข้ขึ้น!!
เรารออ่านอยู่นะยูกิ~

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4

ออฟไลน์ sextoythailand

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
    • ควยปลอม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kobyp_lu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
คิดว่ารามจะไข้ขึ้นแน่ ๆ  โอ้ยตอนนี้แหละพวกเขาขะเข้าใจกันใช่ไหม

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
เชื่อว่าหลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไป

ทั้งสองจะรักกันมากยิ่งขึ้นแน่นอน

แล้วจะมีใครมาช่วยอะ จักร กับ ขรรณ์ใช่ไหม

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :ruready


จะใจร้ายไปไหมถ้าปล่อยให้เจ็บกว่านี้ !!!

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
เห็นความดีของกันและกันแล้ว
เปิดใจเถอะนะ อย่าเจ็บปวดอีกเลย

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
หวังงว่าอุบัติเหตุครั้งงนีนี้จะทำให้ทั้งสองขยับความสัมพันธ์กันดีขึ้ึ้นนะ

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
หวังว่าหลังจากเหตุการณ์นี้ อะไรๆจะดีขึ้นนะ
 :hao5:

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
ใครก็ได้มาช่วยสองคนนี้ที ติดแง๊กในป่า ขาเจ็บอีก ไปรักษาให้ทันนะ อย่าติดเชื้อละ เห็นความเป็นห่วงเป็นใยกันก็ปรับความเข้าใจปรับทัศนคติใหม่นะ เวลาและโอกาสไม่มีมาเสมออย่างตอนนี้ดีที่รอดทั้งคู่ โคตรเสียวตอนตกหน้าผาอ่ะคิดภาพตามน้ำตกสูงๆแรงๆไรงี้ อูยยยยยย ลุ้นนนชิบหาย!!!!555 รออีก 50%  ชอบรามอิน แม้รามมันจะอารมณ์ขึ้้นๆลงก็เถอะ แต่ก็ชอบนะ 555

ปล.ก่อนหน้านี้อ่านรวดเดียวไม่ค่อยได้เม้นท์เลยแต่ก็ตามอ่านและ +เป็ดเหลือง สนุกดีค่ะ ชอบบบบบ  :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-10-2016 04:14:16 โดย blove »

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
ตอนที่ 30 ครึ่งหลัง





“แถวนี้พอจะมีที่หลบฝนไหม”

“มี...มันจะมีบ้านเก่าๆ หลังหนึ่งอยู่ฝั่งนั้น” รามินทร์ชี้ไปยังทางที่จะไปบ้านที่ว่า

“ทำไมมึงรู้”

“กูเคยมาเล่นน้ำที่นี่บ่อยๆ เลยสร้างเอาไว้เป็นที่พักตอนที่มาเล่นน้ำ”

“ไกลไหม”

“ไม่ไกลหรอกห้าร้อยเมตรได้”

“งั้นก็ไปเถอะ เดี๋ยวกูประคองไป มึงเดินไหวไหม” อินทัชถาม

“ไหว”

“งั้นก็ค่อยๆ ลุกนะมึง”

ร่างโปร่งค่อยๆ ประคองร่างสูงให้ลุกขึ้นยืน ซึ่งมันเจ็บระบมไปจนแทบจะล้มลงไปที่พื้น หากแต่อินทัชก็ช่วยประคองเอาไว้ ก่อนจะกอดเอวแล้วรับน้ำหนักบางส่วนของรามินทร์ไปเพื่อให้ขาข้างขวาที่เป็นแผลอยู่ใช้น้อยที่สุด

“ค่อยๆ เดิน”

“อืม...”

“มีบ้านจริงๆ ด้วย”

อินทัชพาร่างสูงขึ้นไปบนกระท่อมด้วยความยากลำบาก แต่ก็สำเร็จ อินทัชสำรวจในตัวบ้านไม้ ที่เปิดเข้าไปก็เป็นห้องนอนเลย แล้วเอาหมอนเก่าๆ มาให้รามินทร์หนุนนอน

“มึงถอดเสื้อผ้าออกก่อนไป กูจะเอาไปซักตากให้ เดี๋ยวปอดบวมตายห่าอีก” โชคดีที่มันมีผ้าห่มเก่าๆ ที่เต็มไปด้วยฝุ่นอยู่ อินทัชเลยเอามันไปสะบัดๆ ข้างนอกก่อนจะเดินเอามาให้ร่างสูง “ห่มผ้านี้แทนไปก่อนก็แล้วกัน กูจะหันหลังให้ เสร็จแล้วก็บอก” ว่าแล้วก็หันหลังให้ทันที

“อืม...”

ร่างสูงค่อยๆ ถอดเสื้อออกอย่างง่ายดาย แต่ปัญหามันอยู่ที่กางเกงขายาวของเขาที่มีผ้าพันแผลมัดทับเอาไว้อยู่เนี่ยสิ

“อ่ะ ซี้ด...” เสียงครางอย่างเจ็บปวดดังจากด้านหลัง

“เป็นอะไร เจ็บแผลเหรอ”

“อือ...กูถอดกางเกงไม่ได้”

“ห๊ะ!”

“กูเจ็บ”

“เฮ้อ...” ร่างโปร่งหันกลับมาแล้วนั่งลง เขาแก้มัดผ้าที่ห้ามเลือดเอาไว้ออกไป ก่อนจะเอาผ้ามาคลุมท่อนล่างของรามินทร์ไว้ “ปลดตะขอ เดี๋ยวกูช่วยดึงออกให้”

“เสร็จแล้ว”

“ถ้าเจ็บก็บอก”

“อืม...”

ใบหน้าที่แสนจะจริงจังของอินทัชที่พยายามจะถอดกางเกงโดยไม่มองและต้องระวังไม่ให้โดนแผลทำให้รามินทร์จ้องมองด้วยความเพลิน

“อึก”

“เจ็บเหรอ โทษที”

ในที่สุดกางเกงตัวยาวก็หลุดออกจากร่างกายของรามินทร์ ส่วนชั้นในอีกตัวอินทัชก็บอกให้มันถอดออกมาด้วย ไม่ได้รู้สึกกระดากอายที่จะต้องเห็นหรอก เพราะเสื้อผ้าทุกตัวขงมันอินทัชก็เป็นคนซัก รวมถึงกางเกงในด้วย

เขาเห็นมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว

“กูเห็นมีโอ่งอยู่ด้านล่าง เดี๋ยวจะไปล้างเพื่อรองน้ำฝนให้มึงดื่ม และกูจะไปซักเสื้อมึงที่น้ำตกด้วย มึงนอนไปเถอะ”

“อือ”

ร่างโปร่งจับเสื้อผ้าของรามินทร์รวมกันแล้วถือออกไปข้างนอกโดยมีสายตาคมมองตามตลอด รามินทร์ทิ้งตัวนอนลงเมื่อเห็นว่าอินทัชถือครุเก่าๆ ลงไปจากบ้านแล้ว

ความรู้สึกมากมายมันตีตื้นขึ้นมาจนสับสนไปหมด ยิ่งเห็นว่าอินทัชเป็นห่วงและดูแลเขาขนาดนี้ เขาก็ยิ่งรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง

“กูทำกับมึงไว้ขนาดนั้น ทำไมมึงถึงยังช่วยคนอย่างกูอีก”

ไม่เข้าใจจริงๆ กูไม่เข้าใจมึงเลยอิน...

มึงทำให้กูรู้สึกดี...ดีจนกลัวใจตัวเอง


ทางด้านอินทัชลงมาตากฝนอีกครั้งกับการล้างโอ่งดินปั้นเก่าๆ ที่มีอยู่ด้านหน้าทางเข้าบ้านเป็นหลักฐานว่าเคยมีคนมาอยู่อาศัยที่นี่ เขาล้างโดยใช้น้ำจากฝนที่กำลังตกหนักอยู่จนสะอาด ก่อนจะปล่อยให้น้ำที่ไหลจากรางน้ำไหลงลงไปในโอ่ง ส่วนตัวเองก็เดินถือครุที่ใส่เสื้อผ้ารามินทร์ไปยังน้ำตกเพื่อล้างผ้าให้กับคนที่นอนเจ็บอยู่

แม้จะหนาวและอยากนอนพักแค่ไหน แต่ว่ารามินทร์เจ็บหนักขนาดนั้นเขาก็พักไม่ได้ด้วย จะไปตามหาคนมาช่วยก็ไม่ได้เพราะดูจากความสูงที่ตกลงมาก็ค่อนข้างสูงมากเลยทีเดียว และทางขึ้นไปยังด้านบนไปทางไหนก็ไม่รู้ ที่สำคัญ จะให้ทิ้งรามินทร์ไว้ที่นี่เขาก็ทำไม่ได้

“เฮ้อ...ฟ้ารั่วรึไง ทำไมตกไม่หยุดเลยนะ”

ร่างโปร่งบางเดินตัวสั่นขึ้นไปตัวบ้าน จัดการตากเสื้อผ้าของรามินทร์ไว้บนราวไม้ที่วางพาดเอาไว้ ก่อนจะเดินตัวสั่นเข้าไปด้านในบ้านทั้งๆ ที่สภาพเปียกปอนแบบนั้น เห็นว่ารามินทร์หลับไปแล้วก็ออกมาด้านนอกเหมือนเดิม ร่างโปร่งถอดเสื้อของตนออกมาแล้วบิดน้ำออก สลัดๆ แล้วก็ผึ่งไว้ใกล้ๆ กับเสื้อผ้าของรามินทร์ ส่วนท่อนล่างเขาก็ใส่ไว้อย่างนั้น

“หนาวชะมัด! ถ้าไม่มีบ้านหลังนี้มีหวังตากฝนอยู่ด้านนอกสินะ ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดี ขอบคุณจริงๆ ครับ” อินทัชยกมือไหว้ อย่างน้อยเขาก็เชื่อว่าเป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าป่าเจ้าเขาที่ช่วยคุ้มครองให้ทั้งเขาและรามินทร์รอดปลอดภัยไม่ถึงแก่ชีวิต

มันคือปาฏิหาริย์...

เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงจนใกล้เย็นเต็มที ฝนเองก็ซาลงแล้ว แต่ยังตกเป็นละอองเล็กๆ อยู่ ความหิวเริ่มประท้วงจนอินทัชนิ่วหน้า ลืมสนิทเลยว่ารามินทร์เองก็คงจะหิวเหมือนกัน

“ราม...ไอ้ราม”

เมื่อเรียกแล้วไม่ยอมตื่นมือก็เลยเอื้อมเข้าไปแตะที่ผิวของรามินทร์แต่ก็ต้องชักกลับอย่างไวเพราะความร้อนจากร่างกายของร่างสูงมันช่างสูงเหลือเกิน

“ร้อนมาก...นี่ไข้ขึ้นเหรอวะเนี่ย ซวยแล้ว จะมีอะไรให้กินไหมวะแถวนี้” ขยี้ผมตัวเองอย่างเครียดๆ หันไปมองข้างนอกก็เจอแต่ป่ากับป่า จะหาอะไรให้คนป่วยกิน ใบไม้เหรอ?

“เอาวะ!! ไม่ลองไปหาก็ไม่รู้หรอก ราม...มึงรอกูนะ เดี๋ยวกูจะกลับมา” รู้ทั้งรู้ว่าคนที่นอนอยู่ไม่ได้ยินไม่รับรู้อะไรทั้งนั้นแต่ก็ยังจะบอกเอาไว้ อย่างน้อยก็ถือว่าบอกก่อนออกไปแล้ว

อินทัชไปหยิบเสื้อที่เริ่มแห้งแต่ก็ยังหมาดๆ อยู่เพราะไม่มีแดดส่องเลยมาใส่ก่อนจะวิ่งออกจากบ้านไป ทิ้งให้รามินทร์นอนอยู่บนบ้านคนเดียว โดยไม่รู้เลยว่าในนาทีต่อมาร่างสูงลืมตาขึ้นมานิดๆ ก่อนจะหลับไปคืนเพราะฝืนตัวเองไม่ไหว


“ให้ตายสิวะ มีแต่อะไรก็ไม่รู้ น่าจะมีต้นผลไม้ที่กินได้หน่อยสิ”

ขอร้องเถอะครับ...ขอให้ผมได้เจออะไรที่สามารถกินได้ด้วยเถอะ

ลองขอพรในใจดูแล้วเดินต่อไปได้อีกร้อยเมตร อินทัชก็ยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจตรงหน้าเขามีต้นกล้วยป่าอยู่และมันก็มีผลที่สุกบ้างไม่สุกบ้างอยู่บนต้นและมันก็มากพอที่เขาจะใช้เป็นเสบียงเพื่อรอคนมาช่วย นอกจากนี้รอบๆ ก็ยังมีผลจากต้นไม้ต่างๆ ที่เขาไม่รู้จักอยู่ด้วย แต่ก็คิดว่าน่าจะกินได้ ไม่รอช้าเขาก็เดินไปที่ต้นกล้วยนั้นแล้วก็ดึงมันให้หักมาทั้งเครือด้วยมือเนื่องจากเขาไม่มีมีดอะไรเลย เลยค่อนข้างจะลำบากไปหน่อย

“ขอบคุณมากครับ”

อินทัชพูดออกไปลอยๆ ให้เสียงมันหายไปตามสายลม

ร่างโปร่งเดินถือเครือกล้วยป่าสองเครือและใบของมันกลับไปยังบ้านเก่าๆ ที่รามินทร์นอนอยู่ ซึ่งก็เดินตามรอยเท้าของตนกลับไปทำให้ไม่หลงทาง เขาเอากล้วยวางไว้ข้างนอกก่อนแล้วแกะอันที่กินได้ออกมาหวีหนึ่ง ก่อนจะใช้ใบกล้วยทำเป็นกรวยยาวๆ ใช้เศษไม้เสียบให้มันอยู่แล้วไปตักน้ำฝนในโอ่งเพื่อเอาไปให้คนไม่สบายดื่มและกิน

“ราม...ราม ตื่นขึ้นมากินอะไรหน่อยเถอะ แล้วค่อยนอนต่อ มึงต้องกินนะ” ร่างโปร่งวางกล้วยไว้ข้างๆ แต่มือข้างหนึ่งยังถือกรวยใส่น้ำเอาไว้เพราะวางไม่ได้ มือที่ว่างเลยทำหน้าที่เขย่าร่างสูงเพื่อปลุก

“รามๆ มึงลุกขึ้นมากินกล้วยก่อนเถอะ”

คิ้วเข้มขมวดอย่างรำคาญ แต่ก็พยายามเปิดตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก ความร้อนที่ดวงตาส่งผลให้น้ำตาไหล ร่างกายที่ร้อนผ่าวกับใบหน้าที่ซีดเผือด บ่งบอกถึงความทรมานทางร่างกายได้เป็นอย่างดีจนอินทัชเห็นใจ

“อื้อ...ปวดหัว เวียนหัว”

“เพราะแผลอักเสบกับตากฝนนานน่ะสิ ลุกขึ้นมากินกล้วยก่อน กูออกไปหามาได้”

“ไม่ไหว” บอกเสียงแหบแห้ง

“ฝืนลุกขึ้นมาก่อนไอ้ราม เพื่อตัวมึงเองนะ”

“อือ...” ร่างสูงพยายามยันตัวอันหนักอึ้งของตัวเองขึ้นมาโดยมีมือข้างหนึ่งของอินทัชช่วยดันหลังประคองให้นั่ง มือที่ถือกรวยใส่น้ำยื่นให้รามินทร์ดื่ม ซึ่งร่างสูงก็ก้มลงดื่มอย่างไม่ปฏิเสธ

“อันนี้กล้วย กูไปเจอมา โชคดีชะมัด กินซะ”

“ไม่อยากกิน”

“แต่มึงต้องกิน สักลูกก็ยังดี”

“ลูกเดียวนะ”

“เออๆ” ร่างขาวเข้าใจว่าตอนที่ไม่สบายหนักอะไรก็ไม่อยากกิน กินอะไรก็ไม่ลงหรอก อยากนอนพักอย่างเดียว จริงๆ แล้วมันควรจะต้องไปหาหมอ แต่ว่าจะมีคนมาช่วยหรือเปล่ายังไม่รู้เลย

มือขาวปอกกล้วยให้รวมถึงป้อนถึงปากด้วย รามินทร์เองก็กัดเข้าปากไปทีละคำทีละคำจนหมด ก่อนที่อินทัชจะค่อยๆ ประคองให้ร่างสูงนอนลงไปเหมือนเดิม

“เดี๋ยวจะไปเอาน้ำมาให้อีก”

“กูหนาว”

“ทำไงได้ล่ะ มีแค่ผ้าห่มผืนนี้ผืนเดียว เสื้อผ้าก็ยังไม่แห้ง มึงอดทนไปก่อนนะ”

“อืม...”

อินทัชเอาน้ำมาให้ดื่มอีกครั้ง ก่อนจะนั่งพิงกำแพงอยู่เหนือศีรษะของรามินทร์นิ่งๆ ปล่อยให้ร่างสูงนอนพักผ่อนไป แต่ดูเหมือนว่าคนไม่สบายจะยังไม่หลับ

“มึง...กินหรือยังวะ”

“ยังไม่หิว เดี๋ยวค่อยไปกิน มึงนอนไปเถอะ”

“อืม...ขอบคุณ”

ไม่เป็นไร...เพราะตอนที่มึงลงมาช่วยกูจนตกมาด้วยกัน กูยังไม่ขอบคุณมึงเลย

“ถือว่าหายกัน”

“อือ”

รามินทร์หลับตาอีกครั้ง น้ำตากลิ้งลงจากหางตา อาจจะเป็นเพราะแสบตาด้วย แต่สิ่งที่รามินทร์รู้ตัวเองดีที่สุดคือกำลังซาบซึ้งใจ...ซาบซึ้ง ปลื้มปริ่ม จนน้ำตาไหล

คนที่เขาตราหน้าว่าเลว ว่าชั่ว...ดูแลเขาโดยไม่สนใจเลยว่าเขาจะเคยทำร้ายมันมามากขนาดไหน มันช่วยชีวิตเขา มันประคองเขา มันฉีกเสื้อทำแผลให้เขา มันซักผ้า มันหาน้ำ หาผลไม้มาให้เขากิน โดยที่ตัวเองยังไม่ได้กินเลยสักนิด...

‘แล้วพี่จะเสียใจพี่ราม ที่ทำกับพี่อินแบบนี้’

ใช่...ตอนนี้พี่กำลังเสียใจเจ้าจอม พี่กำลังเสียใจเอามากๆ พี่รู้สึกแล้วเจ้าจอม พี่รู้แล้ว ว่ามันเป็นคนดีขนาดไหน ไอ้อิน...มันแสนดีขนาดไหน

พี่รับรู้ได้ด้วยตัวเองแล้วจริงๆ

“ปวดตรงไหนหรือเปล่า” ยิ่งร่างโปร่งแสดงถึงความเป็นห่วงมากขนาดไหน ก็ยิ่งตอกย้ำว่าที่ผ่านมาเขาใจร้ายจนไม่อยากจะให้อภัยตัวเอง

มันต้องทรมานมากๆ แน่นอนเลย ไม่งั้นไม่น้ำตาไหลแบบนี้หรอก

“ปวด...”

“ปวดอะไร ปวดตรงไหน ปวดหัวหรือว่าปวดแผล” น้ำเสียงร้อนรนกับการขยับร่างมาดูเขาทันทีที่บอกว่าปวด เป็นเครื่องยืนยัน ว่ามัน...เป็นห่วงเขาจากใจจริง

กูปวดใจว่ะอิน กูปวดใจ

“ข่ะ ขอโทษ...กูขอโทษ”

“มึงจะขอโทษกูทำไม กูหล่นของกูเอง มึงไม่ได้ทำอะไรกูสักหน่อย” อินทัชขมวดคิ้วแน่น

ราม...ถ้าเป็นคนอื่นที่มึงทำกับเขาไว้อย่างโหดร้าย เขาจะพูดยอมรับผิดให้ตัวเองแบบนี้ไหม เขาจะโทษตัวเองแบบนี้หรือเปล่า คนที่มีแต่ความเกลียดน่ะ ต่อให้ ‘ไม่ผิด’ ยังไง มันก็จะ ‘ยัดเยียด’ ความผิดนั้นให้มึงแน่ๆ เหมือนกับที่มึงทำกับมันไงราม

แต่มึงดูสิ...มันบอกว่ามันหล่นมาเอง มันไม่ได้โทษมึงเลยสักคำ

ไม่มีคำไหนที่จะโทษมึงเลยราม...

“ขอโทษ”

“พอแล้ว ขอโทษอยู่นั่นแหละ นอนไปซะ จะได้รีบหาย”

“มึงก็...พ่ะ พักด้วยสิ” เขาพยายามจะเอ่ยด้วยเสียงขาดๆ หายๆ

“ไม่ต้องห่วงกูหรอก กูไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอก หนักกว่านี้ก็ผ่านมาแล้ว ห่วงตัวเองเถอะ” อินทัชไม่ได้เจตนาจะทำให้รามินทร์รู้สึกไม่ดีหรอกนะ แต่ว่าประโยคที่สื่อออกมามันทำให้รามินทร์รู้สึกผิด

รู้สึกผิดเหลือเกิน...

เจ็บปวดใจเหลือเกิน...

เพราะทนกับความเหนื่อยล้าและพิษไข้ไม่ไหว รามินทร์ก็หลับไปพร้อมๆ กับความรู้สึกไม่ดีอยู่เต็มอก....อินทัชส่ายหน้าไปมาก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปด้านนอก เริ่มกินกล้วยที่ตัวเองเก็บมาทันที

เขารอให้มันหลับก่อนนั่นแหละถึงจะมากิน...


ท้องฟ้าเปลี่ยนสี ความมืดครอบคลุมทุกพื้นที่ อินทัชเดินสำรวจบ้านไว้แล้ว เจอตะเกียงกับน้ำมันก๊าดที่สามารถจุดไฟในค่ำคืนนี้ได้ แต่ปัญหามันติดอยู่ที่ว่า

“จะใช้อะไรจุดวะเนี่ย”

อากาศก็เย็นชื้น ฟ้าร้อง ฟ้าแลบ บ่งบอกว่าฝนจะตกหนักอีกครั้งในไม่ช้านี้ ไม่มีแสงก็ลำบากแน่ๆ เพราะแค่นี้ก็แทบคลำทางเดินแล้ว

“จริงสิ ในกระเป๋ากางเกงไอ้รามจะมีไฟแช็กไหมวะ มันก็ต้องสูบบุหรี่แหละน่า ขอทีเถอะ มีด้วยเถอะนะ” ร่างโปร่งเดินไปที่ตากเสื้อผ้าของรามินทร์ล้วงมือหาตามกระเป๋ากางเกงอย่างมีความหวัง ซึ่งล้วงไปมาก็เจอจริงๆ

“เยส!! ขอบคุณพระเจ้า”

อย่างน้อย คืนนี้ก็มีไฟให้พอมองอะไรเห็นแล้วล่ะ...





100%


 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

   อ่านแล้วเม้นท์ด้วยนะคะ เม้นท์ตกไปเยอะเลย ^^ แล้วเจอกันตอนต่อไปนะคะ

ไปพูดคุย ติดตามข่าวสาร หรือทวงนิยายได้ที่แฟนเพจนะคะ https://www.facebook.com/sawachiyuki/


ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :z3:


ไม่อยากให้ช่วยเลย จริงๆ

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
จะมีคนมาช่วยตอนไหนอ่ะ... :ling1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด