Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 33
ตกหลุมรัก
อินทัชได้นอนหลับเต็มอิ่มถึงสองวันจนหมอเงิน ขรรค์ จักร และเจ้าจอมถึงกับเป็นกังวล เพราะขนาดคนที่ป่วยหนักมากๆ อย่างรามินทร์ยังมีสติตื่นมากินข้าว กินยาได้ แต่อินทัชหลับยาวไปสองวันเต็มๆ แบบไม่ตื่นขึ้นมาเลยสักครั้ง เล่นเอาทุกคนต้องจัดเวรมาเฝ้า
ร่างสูงที่ได้พักผ่อน ได้ทานยาและได้รับการดูแลที่ดีจากหมอก็ฟื้นไข้ไวแต่ก็ยังคงรุมๆ อยู่แต่ไม่มากแล้วพอลุกขึ้นมาช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว
“อินมันเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ยังไม่ตื่นเลยฮะ” เจ้าจอมตอบ พลางยื่นยาหลังอาหารให้กับพี่ชาย
ร่างสูงขมวดคิ้วเมื่อได้ยินแบบนั้น เมื่อวานก็ถามหารอบหนึ่งแต่ก็ยังไม่ตื่น วันนี้ก็ยังไม่ตื่น
“มันไม่ได้เป็นอะไรมากแน่นะ”
“ฮะ...ก็แค่ร่างกายอ่อนเพลีย ทำไมครับ พี่รามเป็นห่วงเหรอ” เจ้าจอมถามนิ่งๆ
“อืม...ก็มันเป็นคนที่ดูแลพี่ตลอดเลยนี่ พี่ก็ต้องเป็นห่วงมัน...”
“ดีแล้วที่พี่รามคิดได้ จอมคิดว่าวันนี้พี่อินคงจะตื่นแล้วล่ะ อ้อ! จริงสิฮะ รู้สึกจะมีเอกสารจากโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่พี่รามร่วมหุ้นมาเมื่อวานด้วย”
“เอกสารอะไร”
“เป็นเอกสารเชิญประชุมนี่แหละ จอมเปิดอ่านให้แล้ว วันนี้ตอนบ่าย แต่พี่รามคงไปไม่ไหวหรอก โทรไปลาได้ไหมฮะ” ร่างเล็กถามพี่ชาย
“จอมช่วยเป็นธุระให้พี่หน่อยได้ไหม มันเป็นการประชุมที่ขาดไม่ได้ แล้วพี่จะบอกเพื่อนพี่ให้ว่าจะให้เราไปแทน พาจักรมันไปด้วยก็ได้ สรุปวาระที่ประชุมมาให้พี่ด้วยนะ”
“ก็ได้ฮะ เดี๋ยวจอมไปให้ แล้วแบบนี้ใครจะดูแลพี่อินล่ะ วันนี้พี่ขรรค์กับพี่เงินก็ไม่อยู่ด้วย”
“เดี๋ยวพี่ไปดูให้ พี่ดีขึ้นแล้วล่ะ”
เจ้าจอมหรี่ตามองรามินทร์พลางพิจารณาไปด้วยว่าจะยอมให้รามินทร์เป็นคนดูแลอินทัชดีไหม เพราะยังไงก็ไม่ไหวใจในตัวพี่ชายอยู่ดี
“พี่ไม่ทำอะไรมันหรอกน่า คิดว่าพี่จะเลวกับคนที่ช่วยชีวิตพี่เหรอ”
“เปล่า จอมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
“เชื่อใจพี่เถอะน่า พี่ไม่ทำอะไรมันแล้ว”
“สัญญานะ”
“ครับ...พี่สัญญา”
“งั้นจอมไปก่อนนะครับ แล้วจะสรุปเรื่องที่เขาประชุมมาให้ ส่วนพี่รามก็อย่าเดินมากนะฮะ เป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาเดี่ยวไม่มีใครช่วยทัน”
“ครับน้องรักของพี่”
เจ้าจอมยิ้มออกมาอย่างมีความสุขที่ได้เห็นพี่ชายที่แสนอ่อนโยนของตัวเองกลับมาอีกครั้งแล้ว และเขาก็เชื่อใจได้ว่า อะไรที่เป็นสัญญาจากพี่ชายคนนี้ รามินทร์จะทำตามสัญญาเสมอ
พอเจ้าจอมออกไปจากห้อง ร่างสูงก็ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำอย่างยากลำบากเพราะยังเจ็บแผลที่โดนไม้เสียบ อาบน้ำทันทีเพราะทนไม่ไหวกับสภาพเน่าๆ ของตัวเอง เพราะตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลาสี่วันที่เขายังไม่ได้อาบน้ำเลย พอร่างกายโดนน้ำก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที
รามินทร์เดินออกจากห้องนอนของตัวเองตรงไปยังห้องข้างๆ ที่มีร่างของอินทัชนอนอยู่ด้านใน ร่างโปร่งยังคงนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง เขาเลยเดินไปนั่งบนเตียงเบาๆ มองใบหน้าหวานสวยของอินทัชด้วยความรู้สึกบางอย่างมันเปลี่ยนไป ซึ่งรู้ดีแก่ใจว่ามันคืออะไร แต่ก็ปฏิเสธมาตลอด
“อิน...มึงนอนไปนานแล้วนะ ตื่นขึ้นมากินข้าวกินปลาเถอะ” ร่างสูงเรียก แต่ร่างโปร่งก็ยังนอนนิ่งไม่ขยับตัว ดวงตาคมที่เคยจ้องมองอีกคนด้วยความเกลียดและเคียดแค้น บัดนี้กลับมองด้วยความเป็นห่วงสุดหัวใจ
“ตื่นเถอะ...ถ้ามึงไม่ตื่น กูจะจูบมึงนะ” ร่างสูงโน้มใบหน้าเข้าไปหาใบหน้าขาวจนจมูกชนกัน
“ไม่ตื่นเหรอ...งั้นกูจูบ” สิ้นเสียงของเขา ริมฝีปากก็ประทับลงที่กลีบปากบางที่ซีดเซียวไม่เป็นธรรมชาติของอินทัชทันที มันไม่ใช่จูบที่ลึกซึ้งอะไร แค่ริมฝีปากสัมผัสกับริมฝีปาก ราวกับว่าตัวเองเป็นเจ้าชายและกำลังจุมพิตปลุกเจ้าหญิงนิทราอยู่
เนิ่นนานกว่าจะผละออกมา มือแกร่งลูบไล้ใบหน้าของอินทัชเบาๆ และไม่รู้ว่าเป็นเพราะจูบจากเขาหรือเปล่า ร่างของอินทัชค่อยๆ ขยับ พร้อมๆ กับเปลือกตาที่พยายามจะเปิดออก รามินทร์ดีใจที่เห็นว่าอินทัชตื่นขึ้นมาแล้ว เลยเรียกเพื่อเป็นการปลุกให้ตื่นเต็มตา
“อิน...มึงได้ยินกูไหม”
“อือ...น่ะ น้ำ” รามินทร์รีบเทน้ำใส่แก้วแล้วประคองร่างบางให้ลุกขึ้นนั่งก่อนจะป้อนน้ำที่ริมฝีปากบาง อินทัชที่เห็นสิ่งที่ตนอยากได้ก็ดื่มทันทีจนหมดแก้ว
“เป็นไง เอาอีกไหม”
“พอแล้ว” ส่ายหน้าไปด้วย
อินทัชขยับตัวไปมาไล่ความเมื่อยล้าออกไป หันซ้ายหันขวา ก่อนจะหันมามองหน้ารามินทร์อีกครั้ง ก่อนที่เสียงแหบๆ จะถามขึ้นมา
“มึงเป็นไงบ้าง หายแล้วใช่ไหม”
เป็นคำถามที่ทำเอาใจของรามินทร์เต้นแรงสุดๆ แทนที่จะห่วงตัวเองก่อนแต่มันกลับถามเขาก่อนว่าเขาเป้นยังไงบ้าง หายหรือยัง...
ที่ผ่านมามึงทำร้ายคนดีๆ แบบนี้ได้ยังไง
ที่ผ่านมามึงมองไม่เห็นความดีของมันได้ยังไง...
“กูหายแล้ว แต่มึงนั่นแหละ หลับไปสองวันเต็มๆ เลย รู้บ้างไหม” ได้ยินเช่นนั้นตาของอินทัชก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าตัวเองจะนอนนานขนาดนั้น
“หา!! นี่กูนอนหลับนานขนาดนั้นเลยหรือวะ”
“เออ...สองวัน แบบไม่ตื่นมาด้วย ข้าวปลาก็ยังไม่กิน ว่าแต่มึงหิวหรือยัง เจ้าจอมเอาอาหารมาไว้ให้มึง เดี๋ยวจะไปอุ่นให้”
กรอกกกก...
พอโดนถามว่าหิวไหม เหมือนท้องจะทำงานทันทีโดยการร้องออกมาเสียงดัง ทำเอารามินทร์ถึงกับหลุดหัวเราะออกมา ส่วนอินทัชก็ได้แต่หน้าแดงด้วยความอับอาย
“หิว!! ไปทำมาไป”
“เออๆ รอกูแป๊บหนึ่ง”
“อือ...”
อินทัชมองตามร่างของรามินทร์ที่เดินออกไปจากห้องด้วยสายตาที่ฉงนและเกิดความรู้สึกสงสัย ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือว่าตาของเขาจะฝาดไป
สายตาของรามินทร์...มันดูแปลกไปกว่าเดิม
มันมองเขาด้วยสายตาที่แปลกไปกว่าเดิม มันไม่แข็งกร้าว มันไม่เฉยชา แต่กลับกันมันยังดูอบอุ่น ที่สำคัญ...มันมองเขาด้วยสายตาของคน...ที่มีความรัก
รามินทร์มีความรัก...
“มันรักใคร” ได้แต่สงสัยบวกกับความรู้สึกแปล๊บๆ ที่อกข้างซ้าย
หรือระหว่างที่เขาหลับอยู่ จะมีใครบางคนเข้ามาดูแลมัน...
“กินเสร็จแล้วก็กินยาด้วย และนี่เกลือแร่ นอนเยอะมากๆ ก็กินให้หมดล่ะ กูจะยืนดู”
“กูไม่กินเกลือแร่ได้ไหม ก็ใส่น้ำเกลือให้แล้วนี่”
“มึงรู้ได้ไงว่าเขาใส่น้ำเกลือให้มึง” รามินทร์ถาม
“กูไม่ได้โง่นะที่จะไม่รู้ว่าหลังมือกูโดนอะไรเสียบมา” ตอบพลางยกมือที่รู้สึกเจ็บๆ ให้ดู อินทัชพยายามลุกขึ้นออกจากเตียงเพราะต้องการจะยืดเส้นยืดสายและจะไปอาบน้ำ
“มึงจะทำอะไร”
“อาบน้ำไง ถามได้”
“เออๆ ถ้ามีอะไรก็เรียกแล้วกัน กูจะได้เข้าไปช่วย” รามินทร์บอก ทำเอาอินทัชถึงกับขมวดคิ้วไม่เข้าใจ
“กูไม่ได้ป่วย กูแค่เพิ่งตื่น อย่าเวอร์ได้ไหม”
“ก็แค่เป็นห่วง” รามินทร์ตอบเสียงเบา ทำเอาอินทัชต้องถามซ้ำเพราะไม่ได้ยินประโยคเมื่อกี้นี้
“มึงว่าไงนะ!”
“เปล่าๆ มึงเข้าไปอาบน้ำเถอะ จะได้สดชื่นๆ”
“เออๆ”
ร่างโปร่งเดินเข้าห้องน้ำไปโดยที่ลืมหยิบเสื้อผ้าเข้าไปด้วย เนื่องจากเคยตัวจากการอยู่คนเดียว เขาก็มักที่จะออกมาแต่งตัวด้านนอกเสมอ
ร่างโปร่งอาบน้ำเสร็จ จังหวะที่หยิบผ้าเช็ดตัวซึ่งมันอยู่ในห้องน้ำอยู่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองลืมหยิบเสื้อผ้าเข้ามาด้วย แล้วจะให้นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกไปให้รามินทร์เห็นก็ไม่น่าเป็นเรื่องที่ดี
หากเป็นคนอื่นเขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรหรอก แต่นี่รามินทร์ และเรา...ก็เคยมีอะไรกันมาแล้ว
“ราม...”
“อะไร”
อินทัชสะดุ้ง เพราะไม่คิดว่าคนตัวสูงจะอยู่ใกล้ประตูห้องน้ำแบบนี้ ทันทีที่เขาเรียกชื่ออีกคน เจ้าตัวก็ขานกลับมาทันที จนน่าตกใจ
“กูไม่ได้เอาเสื้อผ้าเข้ามา เอามาให้หน่อย”
“ก็ออกมาเลย มึงจะอายอะไร ผู้ชายด้วยกัน”
ถ้ากูไม่ใช่ผู้ชายที่เคยโดนมึงเอา กูก็ไม่กังวลหรอก ไอ้ควายเผือก
“งั้นมึงออกจากห้องไปก่อนเลย กูไม่ไว้ใจมึง”
“กูไม่ทำอะไรมึงหรอกน่า”
ร่างโปร่งยืนลังเลอยู่นานก่อนจะเปิดประตูออกไป สองเท้าก้าวไปที่ตู้เสื้อผ้าที่มีชุดอยู่ไม่กี่ชุด ซึ่งมีแต่ชุดแบบเดิมๆ คือเสื้อยืดสีขาวกับสีดำ แล้วก็กางเกงขายาว อินทัชพยายามไม่สนใจรามินทร์ที่ยืนมองตัวเองอยู่ รีบหยิบชุดออกมาแล้วสมใส่ทันที...
รามินทร์ยืนมองคนตัวบางที่ออกมาด้วยสภาพที่มีผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่าง เผยสัดส่วนที่เคยเห็นมาแล้ว เอวที่ดูคอดลง หน้าท้องแบนเรียบมีกล้ามเนื้อน้อยๆ กับเม็ดทับทิมสีชมพูที่ดูเย้ายวนมาก ภาพที่เคยกอดร่างนั้นเข้ามาพร้อมกับเสียงที่เคยได้ยินยามที่เรามีความสัมพันธ์กัน ทำเอารามินทร์รู้สึกต้องการและมองร่างขาวนั่นด้วยสายตาที่ดูหื่นกระหาย อยากจะสัมผัสเหลือเกิน
เคยเฉยๆ กับร่างกายตรงหน้า เพราะที่ผ่านมาเขาก็ทำแบบไม่มีสติ แต่ตอนนี้ความรู้มันเปลี่ยนไป ไม่แปลกเลยที่เขาจะต้องการอินทัช
ร่างโปร่งหันกลับมาเมื่อสมเสื้อผ้าเสร็จ ก็ต้องชะงักกับสายตาที่มองของรามินทร์ จนรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งร่าง
“ทำไมมึง...มองกูด้วยสายตาแบบนั้น” อินทัชไม่ได้เป็นคนอ่อนต่อโลก เพราะที่ผ่านมาเขาก็ใช้ชีวิตกลางคืนมาโดยตลอด สายตาที่รามินทร์มองเขา เขาก็เคยใช้มองคนอื่นๆ ด้วย
“หึหึ ถ้ามองออกขนาดนั้น แล้วรู้หรือเปล่าว่านอกจากอยากจะเอามึงกูรู้สึกอะไรอีก” รามินทร์ยอมรับออกมาแต่ก็ตรงเสียอินทัชไม่ทันตั้งตัว ขยับถอยหลังเข้าหาตู้เสื้อผ้าเพื่อปกป้องตัวเอง
“ย่ะ อย่ามาล้อเล่นนะไอ้ราม”
“กูไม่ได้ล้อเล่น” รามินทร์ตอบด้วยสีหน้าที่จริงจัง ทำเอาร่างโปร่งลอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความประหม่า มองรามินทร์อย่างไม่ไว้ใจ
“อย่าเข้ามา!!!”
“เรื่องที่ผ่านมากูขอโทษนะอิน กูขอโทษ” รามินทร์ชะงักตัวเองอยู่กับที่เอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิดจริงๆ แต่อินทัชก็ไม่อยากจะเชื่อ เพราะที่ผ่านมามันไม่เคยฟังอะไรเขาเลย
แล้ววันนี้มันเป็นอะไร!!
“มึงขอโทษกู มึงต้องการอะไร ถ้าอยากได้คำพูดว่ากูให้อภัยมึง มึงก็ต้องรอหน่อย เพราะมันต้องใช้เวลามากที่จะลืมเรื่องพวกนั้นไป กูบอกว่ากูไม่เอาเรื่องมึงก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่ากูไม่โกรธมึง”
“กูเข้าใจ...แต่กูอยากขอโอกาสจากมึง”
“โอกาสอะไร”
“กูอยากไถ่โทษ กูอยากดูแลมึง”
“ไม่จำเป็น กูเป็นผู้ชาย ดูแลตัวเองได้ แล้วถ้ามึงอยากไถ่โทษจริงๆ มึงก็ควรปล่อยกูไป อย่าขังกูไว้ให้ทรมานอยู่ที่นี่ ปล่อยกูกลับบ้าน”
เหมือนโดนกระชากหัวใจอย่างแรง รามินทร์ก็รู้ตัวเองอยู่แล้วว่ามันคงไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะสิ่งที่ตนทำอีกคนมันช่างเลวร้ายมาก
“มึงอย่ามาตลกไอ้ราม มุกนี้กูไม่โอเคจริงๆ”
“มันไม่ใช่มุก”
“แล้วจะให้กูเชื่ออะไรกับคนอย่างมึงวะราม ออกไปเถอะ กูขออยู่คนเดียว”
“กู...”
“ไม่ต้องพูดมันออกมา!!!” อินทัชตะโกนแทรกเสียงดังลั่น หันหน้าหนีร่างสูงอย่างไม่อยากจะมองหน้าเพราะกลัวว่าถ้าเห็นสายตานั่นของรามินทร์
เขาอาจจะหลงกล และนั่น อาจจะเป็นแค่แผนการแผนหนึ่งของมันก็ได้...
“กูขอโทษ”
“กูบอกให้ออกไปไง!!!”
“อืม...แล้วกูจะมาใหม่ก็แล้วกัน” รามินทร์ไม่ทู่ซี้ต่อเพราะจะอธิบายยังไง จะพูดยังไง จะพยายามให้อินทัชเห็นความจริงใจแค่ไหน
ก็เหมือนว่ามันจะไร้ค่าในสายตาของอินทัช เพราะร่างโปร่งไม่คิดที่จะให้โอกาสและไม่คิดจะรับฟังความรู้สึกของเขาเลยสักนิด
ร่างแกร่งเดินออกมาจากห้องเล็กแล้วตรงไปยังโซฟาหน้าทีวี ทิ้งตัวนอนลงเพราะยังรู้สึกเวียนหัวอยู่หน่อยๆ เนื่องจากก็ยังไม่หายจากไข้หวัดดีเท่าไหร่นัก และวัตถุประสงค์หลักก็คือเฝ้าอินทัชไว้ เผื่อว่าร่างโปร่งจะออกไปข้างนอก
“มึงพลาดเองราม มึงไม่น่ารีบร้อนเลย”
เกลียดความใจร้อนไม่คิดไม่คิดหลังของตัวเองจริงๆ ถ้ารอให้เรื่องมันผ่านไปมากกว่านี้หน่อยๆ แล้วค่อยบอกความรู้สึกไปก็คงดี แต่ประเด็นคือเขากลัวว่าจะไม่มีวันนั้น...
รามินทร์เป็นคนหนึ่งที่มักจะพ่ายแพ้ให้กับความดีเสมอ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยเห็นความดี ความอ่อนโยน และความเสียสละของอินทัชเลย จนกระทั่งวันที่เกิดเรื่อง ยอมรับว่าที่ลงไปช่วยก็ไม่ได้คิดว่าจะช่วยอินทัชได้ แต่เขาทำใจไม่ได้ที่จะเห็นร่างโปร่งไหลห่างไปเรื่อยๆ เขาไม่ได้ต้องการให้มันตาย แต่กลายเป็นว่าคนเจ็บคือเขา รามินทร์ยังจำได้ดีถึงความรู้สึกที่ขาดอากาศหายใจตอนอยู่ในน้ำ แต่ตอนที่ฟื้นขึ้นมาก็รู้ว่าใครเป็นคนช่วยเขาเอาไว้ สีหน้าที่เป็นห่วงเขาจากใจจริงยังติดอยู่ในความทรงจำ ไม่อาจจะลบเลือนออกไปได้ และจะไม่มีทางลบมันไป
อินทัชเสียสละฉีกเสื้อมาพันแผลให้กับเขา ประคองเขาไปที่บ้าน ดูแลเขาตลอดเวลา ไหนจะไปหาอะไรมาให้กิน เสียสละให้เขากินก่อน หาน้ำให้ดื่ม ซักผ้า เช็ดตัว ทำทุกอย่างไม่ได้หลับไม่ได้นอน อากาศก็เย็น แต่อินทัชก็เสียสละผ้าห่มให้เขาห่มคนเดียวเพราะว่าเขาไม่สบาย ยอมรับว่าเขาพ่ายแพ้ให้กับทั้งหมดที่เป็นอินทัชไปแล้ว
เข้าใจแล้วว่าทำไมใครๆ ก็รักอินทัช
เข้าใจแล้วว่าทำไมเจ้าจอมถึงย้ำนักย้ำหนาว่าอินทัชเป็นคนดี...
แล้วก็รู้ซึ้งเลยที่เจ้าจอมเคยบอกว่าเขาจะเสียใจทีหลัง มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ รามินทร์กำลังเสียใจที่ความแค้นของตัวเองทำร้ายอินทัชแบบนี้...เพียงเพราะรักน้องอย่างไม่ลืมหูลืมตา
“ขอโทษ...กูขอโทษ”
จากความรู้สึกเกลียด...แปลเปลี่ยนเป็น...รัก
รามินทร์ตกหลุมรักคนที่ ‘เคย’ เกลียดแบบเต็มเปา แล้วมันก็เป็นหลุมที่ค่อนข้างลึกมาก ที่ต่อให้อยากจะปีนขึ้นออกจากหลุมคงทำได้ยาก...
“มันเป็นผลที่ต้องยอมรับใช่ไหม”
ความรู้สึกทุกอย่างมันรุมกัดกินรามินทร์จนแทบจะบ้า อินทัชมองออกว่าตาเขาสื่อถึงอะไร แต่มันไม่เชื่อ และไม่อยากจะรับรู้ถึงความรู้สึกที่มาจากเขาเลยสักนิด...
...
...
...
50%
เรื่องนี้หายไป 2 อาทิตย์เลย ขอโทษด้วยค่า ยูกิอยู่ช่วงสอบไฟนอล ต้องเคลียร์งานเยอะมาก ไหนจะต้นฉบับรามอินอีก วุ่นวายมากเลยค่ะ ไหนจะป่วยเป็นอาทิตย์อีก ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงแล้ว ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
อ่านแล้วคอมเม้นท์ให้ยูกิด้วยน้า ขอบคุณค่ะ
พูดคุย สอบถาม ติดตามข่าวสารได้ทางแฟนเพจเลยค่ะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki/