Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=  (อ่าน 228253 ครั้ง)

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
อินจะไหวหรือเปล่าน้า

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เปลี่ยนพี่ ขรรค์เป็นพระเอก ได้ไหมคะ เหมาะสมทุกอย่าง :-[

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
โทรหาธีร์เลยจอม
พาอินกลับไปพักกายพักใจ
ให้รามสูญเสียและเจ็บปวดหน่อย
อยากได้ดราม่ารามมมมมมมมมม!

ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :pig4: รออ่านตอนต่อไป

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
คิดถึงรามอินทร์แล้วอะ

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
ตอนที่ 32 ครึ่งหลัง





UP


โชคดีที่เตรียมเปลหามมาด้วยเผื่อต้องใช้ และก็เป็นอย่างนั้นเมื่อคนที่ได้ใช้คือรามินทร์ที่นอนหน้าซีด ตัวสั่นไม่ได้สติอยู่แบบนั้น อินทัชสวมเสื้อคลุมของจักรที่สละให้แทนเสื้อที่สภาพขาดวิ่นและยังไม่แห้งเพราะต้องใช้เช็ดตัวให้กับรามินทร์อยู่ตลอด ร่างกายที่แสนอ่อนล้าฝืนเดินตามเพื่อนอย่างจักรไป โดยที่ข้างหน้าก็มีลูกน้องแบกร่างของรามินทร์เดินไป

“นายไหวแน่นะ” ขรรค์ถามขึ้น

“อืม...ไหว”

“แต่กูว่าหน้ามึงซีดๆ นะอิน ให้กูแบกไหม” จักรถามอย่างเป็นห่วง

“ไม่เป็นไร กูเดินเองได้”

อินทัชยังคงฝืนบออกไปเช่นนั้น ทั้งๆ ที่ตาก็พร่ามัว ร่างก็เริ่มโงนเงน ความอ่อนเพลียที่สั่งสมมาหลายวันก็ทำให้ร่างโปร่งหมดสติไปทั้งๆ ที่เดินได้ไม่ทันเท่าไหร่

ขรรค์เห็นว่าร่างของอินทัชกำลังหงายหลังลงไปเพราะตรงนี้มันเป็นทางเดินขึ้น ถ้าล้มลงไปในท่าหงายหลักมีหวังได้รับอันตรายมากแน่ๆ ร่างกายเลยไปก่อนความคิด ขรรค์รีบคว้าแขนของอินทัชเอาไว้ก่อนที่ร่างโปร่งบางจะล้มไป แต่ขาของขรรค์กลับยึดเอาไว้ไม่ได้เพราะพื้นมันลื่นเลยทำให้ร่วงลงไปทั้งคู่ แต่ร่างแกร่งกว่าเอาร่างตัวเองรองไว้ด้านล่างเพื่อไม่ให้อินทัชได้รับบาดเจ็บ จนศีรษะกระแทกกับต้นไม้ใหญ่เข้าอย่างแรง

“โอ๊ย!!”

“เฮ้ย!! ไอ้ขรรค์ ไอ้อิน!!!” จักรร้องเรียกอย่างตกใจก่อนจะวิ่งลงไปช่วยด้วยความระมัดระวัง เหล่าลูกน้องที่ไม่ได้แบกรามินทร์เองก็รีบลงไปช่วยทันที

“เป็นไรไหมวะ”

“ช่วยยกอินขึ้นไปหน่อยพี่” ขรรค์ร้องขอ

“เออๆ พวกมึง มาช่วยยกไอ้อินหน่อยดิวะ เดี๋ยวกูจะดูไอ้ขรรค์มัน”

“ได้พี่!!”

ร่างของอินทัชที่นอนหมดสติอยู่ถูกคนงานยกขึ้นมาแล้วให้ขึ้นขี่หลังของคนงานคนหนึ่ง แล้วค่อยสลับกันเมื่อเหนื่อย

“หัวมึงแตกว่ะขรรค์” จักรบอกเสียงเครียด มือแกร่งของขรรค์เอามือแตะตรงจุดที่เจ็บเบาๆ ก่อนจะชักกลับมาดูก็พบว่ามีเลือดไหลค่อนข้างเยอะ ความเจ็บแล่นไปทั่วศีรษะ

“เจ็บว่ะ!!”

“ไม่เจ็บก็แปลกแล้ว มา กูช่วยประคอง” จักรช่วยประคองร่างของขรรค์ให้ลุกขึ้นมายืนอย่างยากเย็นเพราะน้ำหนักตัวที่เยอะของขรรค์เอง

“ต้องห้ามเลือดอะไรไหมวะเนี่ย”

“จริงๆ มันก็ต้องทำแหละพี่ แต่ว่ารีบไปเถอะ ค่อยให้หมอดูให้ทีเดียวเลย” ขรรค์ว่า

“งั้นก็เดินต่อ พวกมึง!! เดินต่อเลย ระวังๆ นะเว้ย เดี่ยวลื่นกันอีก” จักรตะโกนสั่งทุกคน ซึ่งด้านหน้าขบวนก็ออกเดินกันอีกครั้ง

เดินไปได้ประมาณห้านาที ทุกคนก็เริ่มเหนื่อย เนื่องจากมันเดินขึ้นไม่ใช่เดินลง แถมยังมีบางคนต้องแบกรามินทร์กับอินทัชอีก ก็เลยหยุดพักตามจุดที่พอพักได้เรื่อยๆ

“เลือดมึงไม่หยุดเลยว่ะ ไหลจะหมดตัวแล้วเนี่ย”

“งั้นก็รีบเดินเถอะพี่ คุณรามกับอินก็ต้องเจอหมอนะ”

“เออๆ งั้นมึงมาประคองไอ้ขรรค์ เดี๋ยวกูไปแบกไอ้อินต่อเอง” จักรหันไปพูดกับคนที่แบกอินทัชอยู่ ซึ่งลูกน้องคนนั้นก็พยักหน้ารับอย่างไม่ขัด

จักรเอาร่างของเพื่อนขึ้นบนหลัง ก่อนจะเดินทางกันต่อ ซึ่งใช้เวลาเกือบชั่วโมงในการขึ้นไปถึง พอไปถึงเจ้าจอมกับหมอเงินก็วิ่งมาทันทีตามด้วยทีมแพทย์ที่มาด้วย

“พี่ราม!!! พี่รามเป็นอะไร” เจ้าจอมถามอย่างกังวลที่เห็นร่างของพี่ชายนอนแน่นิ่ง ใจเริ่มเสีย คิดไปต่างๆ นาๆ ว่าพี่ชายเสียชีวิตแล้ว

“คุณรามไม่สบายครับ หมอครับ ช่วยดูอาการหน่อยนะครับ”

“ได้ครับๆ เดี๋ยวนำคุณรามไปที่ห้องได้เลยนะครับ ตามหมอมาเลย” หมอจากโรงพยาบาลคนหนึ่งพูดบอกก่อนจะเดินนำลูกน้องที่ทำหน้าที่แบกรามินทร์ตามไปในตัวบ้าน ส่วนหมอเงินรอดูอินทัช เพราะหมอมาที่นี่เพียงสองคน นอกนั้นจะมีพยาบาลอีกสี่คน

“พี่อินล่ะ อยู่ไหน”

“พี่จักรกำลังพามาครับ”

“นายจักร พี่อิน!!!” ร่างเล็กเห็นว่าจักรมาพร้อมกับอินทัชที่อยู่บนหลังก็เดินเข้าไปหาอย่างเป็นห่วง

“อินเป็นอะไรน่ะจักร” หมอเงินถาม

“หมดสติน่ะครับ คิดว่าน่าจะเพลีย และมีไข้หน่อยๆ ด้วย” จักรตอบไป

“งั้นพาไปที่ห้องเล็กได้เลยนะจักร เดี๋ยวหมอตามไป” เงินบอกให้จักรพาอินทัชไปที่ห้อง โดยมีเจ้าจอมเดินนำไป ส่วนเงินก็รอคนรักเพื่อรอดูว่าขรรค์ปลอดภัยหรือเปล่า

“เงิน...”

“ขรรค์!! หัวเป็นอะไร ทำไมเลือดไหล” ร่างโปร่งวิ่งไปหาคนรักทันทีที่เห็นว่ามีคนประคองขึ้นมา เมื่อเห็นว่าศีรษะเต็มไปด้วยเลือดก็ถามอย่างกังวลและเป็นห่วง

“หัวแตกน่ะ”

“พาไปในบ้านเลย เดี๋ยวเงินจะดูแผลให้” เงินบอกคนงานอย่างเร่งรีบ ลืมไปเลยว่าตัวเองต้องไปดูอาการของอินทัชที่จักรพาไปที่ห้องแล้ว

“เงินไปดูคุณรามกับอินเถอะ เดี๋ยวแผลนี่ให้พยาบาลดูก็ได้” จักรที่พอนั่งลงบนโซฟาในตัวบ้านพักของรามินทร์ก็บอกคนรักไปทันที ซึ่งร่างโปร่งก็มีทีท่าลังเล เพราะอยากจะดูแผลให้คนรักเองมากกว่า แต่อินทัชที่อยู่ในห้องก็น่าเป็นห่วงพอๆ กัน

“หมอเงินคะ คนไข้ห้องเล็กดาได้ให้น้ำเกลือแล้วค่ะ คนไข้แค่ร่างกายอ่อนเพลียกับไข้ขึ้นค่ะ รอให้หมอเข้าไปตรวจเพิ่มเติมเผื่อเจออะไรแทรกซ้อนค่ะ” พยาบาลเดินออกมาพูดกับหมอเงิน ซึ่งร่างโปร่งก็พยักหน้ารับน้อยๆ

“ตอนที่ไปเจอกับทั้งสองคน อินยังมีสติใช่ไหมขรรค์” เงินถามคนรัก

“ใช่ ยังมีสติอยู่”

“งั้นคุณดาเข้าไปดูคนไข้นะครับ เดี๋ยวผมตามเข้าไป ขอดูแผลคนนี้ก่อน”

“ได้ค่ะ”

“เดี๋ยวเงินดูแผลให้” ขรรค์พยักหน้ารับน้อยๆ ก่อนจะหันไปบอกลูกน้องที่ยืนมองอยู่ใกล้ๆ “มึงออกไปบอกให้คนอื่นๆ ไปกินข้าวแล้วก็กลับไปพักผ่อนได้เลย พรุ่งนี้ก็ทำงานปกติ”

“ครับพี่ขรรค์”

เมื่ออยู่กันสองคนในห้อง เงินก็เดินไปหยิบอุปกรณ์มาแล้วเริ่มดูแผลของขรรค์ด้วยสายตาที่เรียบเฉย แต่ในใจกลับรู้สึกเจ็บแทนจนอยากจะร้องไห้ หากแต่เขาเขาคือหมอ เพราะฉะนั้นจะอ่อนแอไม่ได้

“ไปทำท่าไหนให้ได้แผลขนาดนี้ ต้องเย็บรู้ไหมขรรค์”

“ก็ดีแล้วนี่นาที่ไม่เป็นอะไรมากกว่านี้ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะครับ”

“ขรรค์สัญญาแล้วว่าจะดูแลตัวเองดีๆ แต่ทำไมถึงเป็นแบบนี้”

“มันเป็นอุบัติเหตุ แล้วถ้าขรรค์ไม่ช่วยเอาไว้ อินจะได้รับบาดเจ็บนะ แค่นั้นร่างกายของอินก็แทบจะไม่ไหวแล้ว ถ้าต้องมาเจ็บตัวแบบนี้อีก คงจะบาดเจ็บหนักเลย”

“เงินดีใจนะ...ที่ขรรค์เป็นคนแบบนี้” เงินยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจในความในกว้างและเสียสละของคนรัก แม้ว่าจะเจ็บตัวกลับ หากแต่เป็นการช่วยเหลือผู้อื่น เงินก็ยินดี

“เจ็บมากไหม”

“เจ็บ...” ตอบออกไปเบาๆ ว่าเจ็บ แต่สีหน้าก็ยังคงเรียบนิ่งอยู่ดี ราวกับว่ารู้สึกเฉยๆ กับความเจ็บปวดนี้

“ถ้าเงินทำแผลเสร็จแล้ว พรุ่งนี้จะพาไปเอ็กซเรย์สมอง ว่ามีอะไรกระทบกระเทือนหรือเปล่านะ”

“ไม่ต้องก็ได้ ขรรค์ว่ามันไม่น่าจะเป็นอะไรมากหรอก” ร่างแกร่งปฏิเสธ

“ไม่ได้! อย่างน้อยก็เพื่อความสบายใจของเงินนะ” หมอเงินเอ่ยขอร้องด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่ค่อนข้างกังวล เพราะกลัวว่าสมองจะได้รับกระทบกระเทือนหนัก

“ก็ได้ๆ เพื่อความสบายใจของเงิน ขรรค์จะไปให้หมอตรวจก็แล้วกัน”

“ขอบคุณนะ”

มือขาวของหมอเงินพยายามเช็ดเลือดออกจากบาดแผลเบาๆ เพื่อที่จะทำการเย็บปากแผลต่อไป

“งั้นเดี๋ยวเงินขอฉีดยาชาให้จะได้เย็บแผล”

เงินระมัดระวังมากกับการทำแผลให้คนรัก โชคดีที่แผลไม่ใหญ่มาก และเมื่อเสร็จแล้วก็พันผ้ารอบศีรษะเอาไว้เพื่อป้องกันน้ำและฝุ่นละออง

“เสร็จแล้ว แต่เดี๋ยวขรรค์นอนพักตรงนี้ก่อนก็ได้ เงินจะเข้าไปดูอาการของอินกับคุณรามก่อน แล้วจะให้คุณดาเอายาแก้ปวดมาให้กินด้วย”

“อืม...ขรรค์จะรออยู่ตรงนี้ก็แล้วกัน”

“ครับ”

ขรรค์เห็นคนรักเดินเข้าไปในห้องนอนเล็กก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ การแสร้งทำเป็นเฉยๆ เหมือนไม่เจ็บต่อหน้าคนรักเป็นอะไรที่ทรมานมาก ตอนนี้เขาเลยได้แต่นั่งทำหน้าเจ็บปวดสุดๆ


วันต่อมา ขรรค์เข้ามาในตัวโรงพยาบาลพร้อมกับหมอเงินคนรักที่มีเวรตอนเช้าพอดี ส่วนรามินทร์กับอินทัชก็มีเจ้าจอมกับจักรคอยดูแลอยู่

“อ้าวหมอเงิน ทำไมวันนี้มาก่อนเวลาล่ะคะ”

“พอดีพาคนมาเอ็กซเรย์สมองน่ะครับ เมื่อวานเอาหัวไปกระแทกกับต้นไม้มา” หมอเงินตอบพยาบาลที่นั่งประจำที่เคาท์เตอร์

“ตายจริง ทำไมซนล่ะคะ”

“ฮ่าๆ ขอตัวนะครับ” เงินหัวเราะออกมาเมื่อเห็นว่าขรรค์เริ่มชักสีหน้ากับคำว่า ‘ซน’ ของพยาบาลคนนั้น เพราะนั่นมันหมายความว่าเขาเป็นเด็กคนหนึ่งเลยนะ

และขรรค์ไม่ชอบให้ใครมาว่าตัวเองเด็กเท่าไหร่

“ต้องรอหมอเข้าตอนสิบเอ็ดโมงน่ะ บอกแล้วว่าไม่ต้องมา ถ้ารอก็อีกหลายชั่วโมงเลยนะ ไปนั่งรอที่ห้องพักเงินไหมล่ะ”

“ได้เหรอ”

“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”

“งั้นก็ไปรอที่ห้องของเงินก็ได้”

“ครับ ตามมาเลย”

ร่างโปร่งพาคนรักไปยังห้องพักแพทย์ของตน ซึ่งจะเอาไว้ใช้ยามที่ตัวเองอยากจะพักระหว่างไม่มีเคสหรือไม่มีตรวจคนไข้ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้ใช้พักเท่าไหร่ ส่วนมากจะไว้เปลี่ยนชุดกับไว้ของเท่านั้น

“ห้องดูธรรมดามาก”

“ก็ธรรมดาน่ะสิ โรงพยาบาลนะ ไม่ใช่โรงแรม ขรรค์นี่ก็ถามแปลกๆ เอาเป็นว่าขรรค์นั่งรอตรงนี้แหละ เดี๋ยวประมาณสิบโมงเงินจะมาหาโอเคนะขรรค์”

ร่างโปร่งหยิบเสื้อกาวน์มาสวม ส่องกระจกตรวจดูความพร้อมของตัวเองแล้วหันมามองคนรักที่ยืนมองตนอยู่ก่อนจะยิ้มให้คนตัวสูง

“มองเงินทำไม”

“เปล่า...”

“หึหึ อยากถอดเสื้อกาวน์เงินออกหรือ” ยักคิ้วถามกวนๆ

“อืม...ก็อยาก”

“ตอบตรงไปแล้วขรรค์” ร่างโปร่งส่ายหน้าไปมา ก่อนจะเดินเข้าไปหาคนรักที่อยู่ในชุดธรรมดาๆ ที่ดูแตกต่างกับชุดฟอร์มของเขาเหลือเกิน

“เอาไว้หัวหายดีก่อนเถอะ ค่อยมาถอด”

ตอนที่เคยอยู่ด้วยกันเมื่อตอนเรียน เงินมักจะไม่ชอบเอาเสื้อกาวน์กลับมาที่ห้องเท่าไหร่ถ้าไม่ต้องซัก เพราะขรรค์จะชอบขอร้องให้ใส่ชุดกาวน์ให้ดูแล้วก็ถอดออกจนไปเรียนแทบจะไม่ไหวตลอดเลย ตอนแรกก็ไม่รู้หรอก หลังๆ ก็เพิ่งจะมารู้ว่าคนรักของตัวเองชอบเขาตอนอยู่ในชุดกาวน์แบบนี้

กับคนอื่นไม่เป็นหรอก เป็นแต่กับเงินคนเดียว

“ไม่เอาน่า อย่ามองเงินด้วยสายตาแบบนี้สิ”

“ขรรค์...”

“งั้นเดี๋ยวเงินรีบออกไปดีกว่า อยู่ตรงนี้เริ่มจะไม่ปลอดภัยแล้ว” ร่างโปร่งว่าด้วยสีหน้าทะเล้นๆ ก่อนจะเดินผ่านร่างคนรักเพื่อจะออกไปจากห้องนี้ แต่ดูเหมือนว่าร่างแกร่งจะไม่ยอมให้ไป เพราะทันทีที่เงินเดินผ่านไป เขาก็หันหลังกลับแล้วกอดร่างนั้นจากข้างหลังทันที

หมับ!!

“อ๊ะ ขรรค์...อย่าสิ”

“เงิน...” เสียงทุ้มแหบพร่าดังเบาๆ ที่ข้างหูทำเอาขนลุกชันไปด้วยความสยิว

“เดี๋ยวก่อนขรรค์...เงินจะไปทำงาน ขรรค์อย่าดื้อสิ” มือขาวแกะแขนแกร่งที่โอบรอบเอวออกแต่ก็ไม่สำเร็จ และเหมือนว่าขรรค์จะไม่มีสติอะไรหลงเหลืออยู่แล้ว ในเมื่อภาพที่เขาไม่ได้เห็นมานานมันกลับได้เห็นอีก

ที่ผ่านมาก็เห็นคนรักในชุดกาวน์บ่อยๆ แต่นั่นไม่ได้เห็นตอนใส่นี่นา ขรรค์จะมีอารมณ์แบบนี้ก็ตอนที่เห็นตอนใส่เท่านั้น เพราะมันกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอยากจะเป็นคนถอดมันออกจากตัวคนรัก แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วเขาก็รู้สึกกับเงินตลอดเวลานั่นแหละ แต่ก็ทำเอาแต่ใจเหมือนแต่ก่อนมากไม่ได้ ด้วยหน้าที่การงานของเงินแล้ว

“ขรรค์อยากทำ”

“ขรรค์...หยุดก่อน โอเคๆ เรามาตกลงกันก่อนดีกว่านะ เย็นนี้นะขรรค์ อื้อ...ตอนเย็น เงินจะกลับไปใส่ให้ดูที่บ้านนะ แต่ตอนนี้ปล่อยก่อน นี่มันที่ทำงานของเงินนะขรรค์” เหมือนว่าร่างแกร่งไม่ได้ฟังคนรักพูดเลย ใบหน้าซุกไซ้ที่ซอกคอของคนรัก ส่วนมือก็พยายามที่จะสอดเข้าไปในเสื้อเชิ้ตด้านในให้ได้

“นิดเดียวนะ แป๊บเดียวจริงๆ”

ตอนที่ขรรค์มีอารมณ์แบบนี้มันยากที่จะบอกให้เจ้าตัวหยุด เพราะขรรค์เป็นเหมือนสัตว์ป่าที่ห่างหายจากเรื่องพวกนี้มานาน และตั้งแต่กลับมาพบกันเราก็เพิ่งมีอะไรกันไปได้แค่ครั้งเดียว และนั่นมันก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของขรรค์หรอก เงินรู้ แต่ว่าเราเองก็โตๆ กันแล้ว ฉะนั้น มันยังมีหน้าที่การงานที่เราต้องนึกถึง

“ขรรค์อย่าต่อรองสิ นะๆ ทำที่นี่ไม่เหมาะจริงๆ”

“แต่ว่า...”

“ถ้าขรรค์ยอม ตอนเย็นเงินยอมตามใจขรรค์ทุกอย่างเลย” ร่างโปร่งยื่นเอ่ย ทำเอาร่างสูงกระตุกยิ้มอย่างพอใจ ขรรค์ถอนหายใจแล้วค่อยๆ ปล่อยคนรักให้เป็นอิสระ

ก็ไม่ได้จะทำที่นี่อยู่แล้ว แต่กำลังรอประโยคเมื่อกี้อยู่ต่างหาก

ใครว่าขรรค์เจ้าเล่ห์ไม่ได้ ความเจ้าเล่ห์ของขรรค์มีมาก แต่แค่ไม่เคยแสดงออกมาให้ใครได้รับรู้เท่านั้น แม้แต่คนรักอย่างเงินเองก็ไม่เคยรู้หรอกว่าคนนิ่งๆ อย่างขรรค์ก็ร้ายลึกเช่นกัน

“ไปทำงานก่อนนะ”

พอคนรักออกไปแล้ว ขรรค์ก็ยิ้มออกมาอย่างสุขใจ

“อย่าลืมสัญญาก็แล้วกัน”

ผ่านงานเหนื่อยๆ มา อย่างช่วงพายุเข้า ไหนจะตามหาเจ้านายอีก แม้ยังไม่ถึงวันหยุดก็อยากจะทำมันจริงๆ จะได้เรียกพลังในการทำงานกลับคืนมาด้วย...

“หึหึ”






100%


 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:


   ช่วงนี้อัพช้า แล้วก็อาจจะหายไปบ่อยๆ หน่อยนะคะ งานเยอะมากจริงๆ ค่ะ ทั้งงานที่ต้องส่งอาจารย์ ทั้งเดี่ยว ทั้งกลุ่ม แล้วก็ต้องทำรูปเล่มด้วย ทุกวันนี้ยูกิได้นอนวันละสามถึงสี่ชั่วโมงเอง เพราะฉะนั้นยูกิจะมาอัพก็ต่อเมื่ออยากรีแลกซ์จริงๆ เพราะยูกิจะเป็นคนที่ถ้างานไม่เสร็จจะไม่ไปยุ่งกับอะไรเลย ขอให้เข้าใจกันนะคะ
   


ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
กร๊ด เค้าก้ออยากเห็นขรรค์ถอดชุดกาวน์เงินเหมือนกันนะ
แค่คิดก้อเขิลละเนี่ย 555+
ปล.รามกับอินทร์หายป่วยไวๆนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ก็นึกว่าจะเจ้าเล่ห์ไม่เป็นซะอีก  o13

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ขรรค์ ชอบคนในยูนิฟอร์มก็ไม่บอกนะ
หื่นได้น่ากลัวมากนะ ถ้าเราเป็นเงินก็ยอมอะ อิอิอิ
 :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สู้ๆนะ ยูกิ เรารอเสมอ5555

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
อื้ออออออศึกครั้งหน้าฟ้าเหลืองแน่หมอเงิน หู้ววว!!คึกในเครื่องแบบนี้หว๊า!ทำเอาตรูหื่นตามเลย!! *สำรองเลือดด่วนๆ* 555555  //เอออออออโล่งที่พา #อินราม กลับมาได้สักที ต่างเพลียต่างสลบ รอฟื้นต่อไป ค่อยว่ากันนะ

ออฟไลน์ ASAMENG

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :hao7: ไม่เจ้มจ้น เร้ามายนอน  :jul3: เอาอีกๆ ๆ ๆ ๆ ล้านตัวไปเบย  :กอด1:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
ว่าแต่พระเอก

กับนายเอกเป็นยังไงบ้าง


ปลอดภัยแล้วหรือยัง

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
แอบมานั่งรอยูกิจ้าาาา

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 33
ตกหลุมรัก




อินทัชได้นอนหลับเต็มอิ่มถึงสองวันจนหมอเงิน ขรรค์ จักร และเจ้าจอมถึงกับเป็นกังวล เพราะขนาดคนที่ป่วยหนักมากๆ อย่างรามินทร์ยังมีสติตื่นมากินข้าว กินยาได้ แต่อินทัชหลับยาวไปสองวันเต็มๆ แบบไม่ตื่นขึ้นมาเลยสักครั้ง เล่นเอาทุกคนต้องจัดเวรมาเฝ้า

ร่างสูงที่ได้พักผ่อน ได้ทานยาและได้รับการดูแลที่ดีจากหมอก็ฟื้นไข้ไวแต่ก็ยังคงรุมๆ อยู่แต่ไม่มากแล้วพอลุกขึ้นมาช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว

“อินมันเป็นยังไงบ้าง”

“ก็ยังไม่ตื่นเลยฮะ” เจ้าจอมตอบ พลางยื่นยาหลังอาหารให้กับพี่ชาย

ร่างสูงขมวดคิ้วเมื่อได้ยินแบบนั้น เมื่อวานก็ถามหารอบหนึ่งแต่ก็ยังไม่ตื่น วันนี้ก็ยังไม่ตื่น

“มันไม่ได้เป็นอะไรมากแน่นะ”

“ฮะ...ก็แค่ร่างกายอ่อนเพลีย ทำไมครับ พี่รามเป็นห่วงเหรอ” เจ้าจอมถามนิ่งๆ

“อืม...ก็มันเป็นคนที่ดูแลพี่ตลอดเลยนี่ พี่ก็ต้องเป็นห่วงมัน...”

“ดีแล้วที่พี่รามคิดได้ จอมคิดว่าวันนี้พี่อินคงจะตื่นแล้วล่ะ อ้อ! จริงสิฮะ รู้สึกจะมีเอกสารจากโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่พี่รามร่วมหุ้นมาเมื่อวานด้วย”

“เอกสารอะไร”

“เป็นเอกสารเชิญประชุมนี่แหละ จอมเปิดอ่านให้แล้ว วันนี้ตอนบ่าย แต่พี่รามคงไปไม่ไหวหรอก โทรไปลาได้ไหมฮะ” ร่างเล็กถามพี่ชาย

“จอมช่วยเป็นธุระให้พี่หน่อยได้ไหม มันเป็นการประชุมที่ขาดไม่ได้ แล้วพี่จะบอกเพื่อนพี่ให้ว่าจะให้เราไปแทน พาจักรมันไปด้วยก็ได้ สรุปวาระที่ประชุมมาให้พี่ด้วยนะ”

“ก็ได้ฮะ เดี๋ยวจอมไปให้ แล้วแบบนี้ใครจะดูแลพี่อินล่ะ วันนี้พี่ขรรค์กับพี่เงินก็ไม่อยู่ด้วย”

“เดี๋ยวพี่ไปดูให้ พี่ดีขึ้นแล้วล่ะ”

เจ้าจอมหรี่ตามองรามินทร์พลางพิจารณาไปด้วยว่าจะยอมให้รามินทร์เป็นคนดูแลอินทัชดีไหม เพราะยังไงก็ไม่ไหวใจในตัวพี่ชายอยู่ดี

“พี่ไม่ทำอะไรมันหรอกน่า คิดว่าพี่จะเลวกับคนที่ช่วยชีวิตพี่เหรอ”

“เปล่า จอมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”

“เชื่อใจพี่เถอะน่า พี่ไม่ทำอะไรมันแล้ว”

“สัญญานะ”

“ครับ...พี่สัญญา”

“งั้นจอมไปก่อนนะครับ แล้วจะสรุปเรื่องที่เขาประชุมมาให้ ส่วนพี่รามก็อย่าเดินมากนะฮะ เป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาเดี่ยวไม่มีใครช่วยทัน”

“ครับน้องรักของพี่”

เจ้าจอมยิ้มออกมาอย่างมีความสุขที่ได้เห็นพี่ชายที่แสนอ่อนโยนของตัวเองกลับมาอีกครั้งแล้ว และเขาก็เชื่อใจได้ว่า อะไรที่เป็นสัญญาจากพี่ชายคนนี้ รามินทร์จะทำตามสัญญาเสมอ

พอเจ้าจอมออกไปจากห้อง ร่างสูงก็ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำอย่างยากลำบากเพราะยังเจ็บแผลที่โดนไม้เสียบ อาบน้ำทันทีเพราะทนไม่ไหวกับสภาพเน่าๆ ของตัวเอง เพราะตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลาสี่วันที่เขายังไม่ได้อาบน้ำเลย พอร่างกายโดนน้ำก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที

รามินทร์เดินออกจากห้องนอนของตัวเองตรงไปยังห้องข้างๆ ที่มีร่างของอินทัชนอนอยู่ด้านใน ร่างโปร่งยังคงนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง เขาเลยเดินไปนั่งบนเตียงเบาๆ มองใบหน้าหวานสวยของอินทัชด้วยความรู้สึกบางอย่างมันเปลี่ยนไป ซึ่งรู้ดีแก่ใจว่ามันคืออะไร แต่ก็ปฏิเสธมาตลอด

“อิน...มึงนอนไปนานแล้วนะ ตื่นขึ้นมากินข้าวกินปลาเถอะ” ร่างสูงเรียก แต่ร่างโปร่งก็ยังนอนนิ่งไม่ขยับตัว ดวงตาคมที่เคยจ้องมองอีกคนด้วยความเกลียดและเคียดแค้น บัดนี้กลับมองด้วยความเป็นห่วงสุดหัวใจ

“ตื่นเถอะ...ถ้ามึงไม่ตื่น กูจะจูบมึงนะ” ร่างสูงโน้มใบหน้าเข้าไปหาใบหน้าขาวจนจมูกชนกัน

“ไม่ตื่นเหรอ...งั้นกูจูบ” สิ้นเสียงของเขา ริมฝีปากก็ประทับลงที่กลีบปากบางที่ซีดเซียวไม่เป็นธรรมชาติของอินทัชทันที มันไม่ใช่จูบที่ลึกซึ้งอะไร แค่ริมฝีปากสัมผัสกับริมฝีปาก ราวกับว่าตัวเองเป็นเจ้าชายและกำลังจุมพิตปลุกเจ้าหญิงนิทราอยู่

เนิ่นนานกว่าจะผละออกมา มือแกร่งลูบไล้ใบหน้าของอินทัชเบาๆ และไม่รู้ว่าเป็นเพราะจูบจากเขาหรือเปล่า ร่างของอินทัชค่อยๆ ขยับ พร้อมๆ กับเปลือกตาที่พยายามจะเปิดออก รามินทร์ดีใจที่เห็นว่าอินทัชตื่นขึ้นมาแล้ว เลยเรียกเพื่อเป็นการปลุกให้ตื่นเต็มตา

“อิน...มึงได้ยินกูไหม”

“อือ...น่ะ น้ำ” รามินทร์รีบเทน้ำใส่แก้วแล้วประคองร่างบางให้ลุกขึ้นนั่งก่อนจะป้อนน้ำที่ริมฝีปากบาง อินทัชที่เห็นสิ่งที่ตนอยากได้ก็ดื่มทันทีจนหมดแก้ว

“เป็นไง เอาอีกไหม”

“พอแล้ว” ส่ายหน้าไปด้วย

อินทัชขยับตัวไปมาไล่ความเมื่อยล้าออกไป หันซ้ายหันขวา ก่อนจะหันมามองหน้ารามินทร์อีกครั้ง ก่อนที่เสียงแหบๆ จะถามขึ้นมา

“มึงเป็นไงบ้าง หายแล้วใช่ไหม”

เป็นคำถามที่ทำเอาใจของรามินทร์เต้นแรงสุดๆ แทนที่จะห่วงตัวเองก่อนแต่มันกลับถามเขาก่อนว่าเขาเป้นยังไงบ้าง หายหรือยัง...

ที่ผ่านมามึงทำร้ายคนดีๆ แบบนี้ได้ยังไง

ที่ผ่านมามึงมองไม่เห็นความดีของมันได้ยังไง...

“กูหายแล้ว แต่มึงนั่นแหละ หลับไปสองวันเต็มๆ เลย รู้บ้างไหม” ได้ยินเช่นนั้นตาของอินทัชก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าตัวเองจะนอนนานขนาดนั้น

“หา!! นี่กูนอนหลับนานขนาดนั้นเลยหรือวะ”

“เออ...สองวัน แบบไม่ตื่นมาด้วย ข้าวปลาก็ยังไม่กิน ว่าแต่มึงหิวหรือยัง เจ้าจอมเอาอาหารมาไว้ให้มึง เดี๋ยวจะไปอุ่นให้”

กรอกกกก...

พอโดนถามว่าหิวไหม เหมือนท้องจะทำงานทันทีโดยการร้องออกมาเสียงดัง ทำเอารามินทร์ถึงกับหลุดหัวเราะออกมา ส่วนอินทัชก็ได้แต่หน้าแดงด้วยความอับอาย

“หิว!! ไปทำมาไป”

“เออๆ รอกูแป๊บหนึ่ง”

“อือ...”

อินทัชมองตามร่างของรามินทร์ที่เดินออกไปจากห้องด้วยสายตาที่ฉงนและเกิดความรู้สึกสงสัย ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือว่าตาของเขาจะฝาดไป

สายตาของรามินทร์...มันดูแปลกไปกว่าเดิม

มันมองเขาด้วยสายตาที่แปลกไปกว่าเดิม มันไม่แข็งกร้าว มันไม่เฉยชา แต่กลับกันมันยังดูอบอุ่น ที่สำคัญ...มันมองเขาด้วยสายตาของคน...ที่มีความรัก

รามินทร์มีความรัก...

“มันรักใคร” ได้แต่สงสัยบวกกับความรู้สึกแปล๊บๆ ที่อกข้างซ้าย

หรือระหว่างที่เขาหลับอยู่ จะมีใครบางคนเข้ามาดูแลมัน...


“กินเสร็จแล้วก็กินยาด้วย และนี่เกลือแร่ นอนเยอะมากๆ ก็กินให้หมดล่ะ กูจะยืนดู”

“กูไม่กินเกลือแร่ได้ไหม ก็ใส่น้ำเกลือให้แล้วนี่”

“มึงรู้ได้ไงว่าเขาใส่น้ำเกลือให้มึง” รามินทร์ถาม

“กูไม่ได้โง่นะที่จะไม่รู้ว่าหลังมือกูโดนอะไรเสียบมา” ตอบพลางยกมือที่รู้สึกเจ็บๆ ให้ดู อินทัชพยายามลุกขึ้นออกจากเตียงเพราะต้องการจะยืดเส้นยืดสายและจะไปอาบน้ำ

“มึงจะทำอะไร”

“อาบน้ำไง ถามได้”

“เออๆ ถ้ามีอะไรก็เรียกแล้วกัน กูจะได้เข้าไปช่วย” รามินทร์บอก ทำเอาอินทัชถึงกับขมวดคิ้วไม่เข้าใจ

“กูไม่ได้ป่วย กูแค่เพิ่งตื่น อย่าเวอร์ได้ไหม”

“ก็แค่เป็นห่วง” รามินทร์ตอบเสียงเบา ทำเอาอินทัชต้องถามซ้ำเพราะไม่ได้ยินประโยคเมื่อกี้นี้

“มึงว่าไงนะ!”

“เปล่าๆ มึงเข้าไปอาบน้ำเถอะ จะได้สดชื่นๆ”

“เออๆ”

ร่างโปร่งเดินเข้าห้องน้ำไปโดยที่ลืมหยิบเสื้อผ้าเข้าไปด้วย เนื่องจากเคยตัวจากการอยู่คนเดียว เขาก็มักที่จะออกมาแต่งตัวด้านนอกเสมอ

ร่างโปร่งอาบน้ำเสร็จ จังหวะที่หยิบผ้าเช็ดตัวซึ่งมันอยู่ในห้องน้ำอยู่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองลืมหยิบเสื้อผ้าเข้ามาด้วย แล้วจะให้นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกไปให้รามินทร์เห็นก็ไม่น่าเป็นเรื่องที่ดี

หากเป็นคนอื่นเขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรหรอก แต่นี่รามินทร์ และเรา...ก็เคยมีอะไรกันมาแล้ว

“ราม...”

“อะไร”

อินทัชสะดุ้ง เพราะไม่คิดว่าคนตัวสูงจะอยู่ใกล้ประตูห้องน้ำแบบนี้ ทันทีที่เขาเรียกชื่ออีกคน เจ้าตัวก็ขานกลับมาทันที จนน่าตกใจ

“กูไม่ได้เอาเสื้อผ้าเข้ามา เอามาให้หน่อย”

“ก็ออกมาเลย มึงจะอายอะไร ผู้ชายด้วยกัน”

ถ้ากูไม่ใช่ผู้ชายที่เคยโดนมึงเอา กูก็ไม่กังวลหรอก ไอ้ควายเผือก

“งั้นมึงออกจากห้องไปก่อนเลย กูไม่ไว้ใจมึง”

“กูไม่ทำอะไรมึงหรอกน่า”

ร่างโปร่งยืนลังเลอยู่นานก่อนจะเปิดประตูออกไป สองเท้าก้าวไปที่ตู้เสื้อผ้าที่มีชุดอยู่ไม่กี่ชุด ซึ่งมีแต่ชุดแบบเดิมๆ คือเสื้อยืดสีขาวกับสีดำ แล้วก็กางเกงขายาว อินทัชพยายามไม่สนใจรามินทร์ที่ยืนมองตัวเองอยู่ รีบหยิบชุดออกมาแล้วสมใส่ทันที...

รามินทร์ยืนมองคนตัวบางที่ออกมาด้วยสภาพที่มีผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่าง เผยสัดส่วนที่เคยเห็นมาแล้ว เอวที่ดูคอดลง หน้าท้องแบนเรียบมีกล้ามเนื้อน้อยๆ กับเม็ดทับทิมสีชมพูที่ดูเย้ายวนมาก ภาพที่เคยกอดร่างนั้นเข้ามาพร้อมกับเสียงที่เคยได้ยินยามที่เรามีความสัมพันธ์กัน ทำเอารามินทร์รู้สึกต้องการและมองร่างขาวนั่นด้วยสายตาที่ดูหื่นกระหาย อยากจะสัมผัสเหลือเกิน

เคยเฉยๆ กับร่างกายตรงหน้า เพราะที่ผ่านมาเขาก็ทำแบบไม่มีสติ แต่ตอนนี้ความรู้มันเปลี่ยนไป ไม่แปลกเลยที่เขาจะต้องการอินทัช

ร่างโปร่งหันกลับมาเมื่อสมเสื้อผ้าเสร็จ ก็ต้องชะงักกับสายตาที่มองของรามินทร์ จนรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งร่าง

“ทำไมมึง...มองกูด้วยสายตาแบบนั้น” อินทัชไม่ได้เป็นคนอ่อนต่อโลก เพราะที่ผ่านมาเขาก็ใช้ชีวิตกลางคืนมาโดยตลอด สายตาที่รามินทร์มองเขา เขาก็เคยใช้มองคนอื่นๆ ด้วย

“หึหึ ถ้ามองออกขนาดนั้น แล้วรู้หรือเปล่าว่านอกจากอยากจะเอามึงกูรู้สึกอะไรอีก” รามินทร์ยอมรับออกมาแต่ก็ตรงเสียอินทัชไม่ทันตั้งตัว ขยับถอยหลังเข้าหาตู้เสื้อผ้าเพื่อปกป้องตัวเอง

“ย่ะ อย่ามาล้อเล่นนะไอ้ราม”

“กูไม่ได้ล้อเล่น” รามินทร์ตอบด้วยสีหน้าที่จริงจัง ทำเอาร่างโปร่งลอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความประหม่า มองรามินทร์อย่างไม่ไว้ใจ

“อย่าเข้ามา!!!”

“เรื่องที่ผ่านมากูขอโทษนะอิน กูขอโทษ” รามินทร์ชะงักตัวเองอยู่กับที่เอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิดจริงๆ แต่อินทัชก็ไม่อยากจะเชื่อ เพราะที่ผ่านมามันไม่เคยฟังอะไรเขาเลย

แล้ววันนี้มันเป็นอะไร!!

“มึงขอโทษกู มึงต้องการอะไร ถ้าอยากได้คำพูดว่ากูให้อภัยมึง มึงก็ต้องรอหน่อย เพราะมันต้องใช้เวลามากที่จะลืมเรื่องพวกนั้นไป กูบอกว่ากูไม่เอาเรื่องมึงก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่ากูไม่โกรธมึง”

“กูเข้าใจ...แต่กูอยากขอโอกาสจากมึง”

“โอกาสอะไร”

“กูอยากไถ่โทษ กูอยากดูแลมึง”

“ไม่จำเป็น กูเป็นผู้ชาย ดูแลตัวเองได้ แล้วถ้ามึงอยากไถ่โทษจริงๆ มึงก็ควรปล่อยกูไป อย่าขังกูไว้ให้ทรมานอยู่ที่นี่ ปล่อยกูกลับบ้าน”

เหมือนโดนกระชากหัวใจอย่างแรง รามินทร์ก็รู้ตัวเองอยู่แล้วว่ามันคงไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะสิ่งที่ตนทำอีกคนมันช่างเลวร้ายมาก

“มึงอย่ามาตลกไอ้ราม มุกนี้กูไม่โอเคจริงๆ”

“มันไม่ใช่มุก”

“แล้วจะให้กูเชื่ออะไรกับคนอย่างมึงวะราม ออกไปเถอะ กูขออยู่คนเดียว”

“กู...”

“ไม่ต้องพูดมันออกมา!!!” อินทัชตะโกนแทรกเสียงดังลั่น หันหน้าหนีร่างสูงอย่างไม่อยากจะมองหน้าเพราะกลัวว่าถ้าเห็นสายตานั่นของรามินทร์

เขาอาจจะหลงกล และนั่น อาจจะเป็นแค่แผนการแผนหนึ่งของมันก็ได้...

“กูขอโทษ”

“กูบอกให้ออกไปไง!!!”

“อืม...แล้วกูจะมาใหม่ก็แล้วกัน” รามินทร์ไม่ทู่ซี้ต่อเพราะจะอธิบายยังไง จะพูดยังไง จะพยายามให้อินทัชเห็นความจริงใจแค่ไหน

ก็เหมือนว่ามันจะไร้ค่าในสายตาของอินทัช เพราะร่างโปร่งไม่คิดที่จะให้โอกาสและไม่คิดจะรับฟังความรู้สึกของเขาเลยสักนิด

ร่างแกร่งเดินออกมาจากห้องเล็กแล้วตรงไปยังโซฟาหน้าทีวี ทิ้งตัวนอนลงเพราะยังรู้สึกเวียนหัวอยู่หน่อยๆ เนื่องจากก็ยังไม่หายจากไข้หวัดดีเท่าไหร่นัก และวัตถุประสงค์หลักก็คือเฝ้าอินทัชไว้ เผื่อว่าร่างโปร่งจะออกไปข้างนอก

“มึงพลาดเองราม มึงไม่น่ารีบร้อนเลย”

เกลียดความใจร้อนไม่คิดไม่คิดหลังของตัวเองจริงๆ ถ้ารอให้เรื่องมันผ่านไปมากกว่านี้หน่อยๆ แล้วค่อยบอกความรู้สึกไปก็คงดี แต่ประเด็นคือเขากลัวว่าจะไม่มีวันนั้น...

รามินทร์เป็นคนหนึ่งที่มักจะพ่ายแพ้ให้กับความดีเสมอ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยเห็นความดี ความอ่อนโยน และความเสียสละของอินทัชเลย จนกระทั่งวันที่เกิดเรื่อง ยอมรับว่าที่ลงไปช่วยก็ไม่ได้คิดว่าจะช่วยอินทัชได้ แต่เขาทำใจไม่ได้ที่จะเห็นร่างโปร่งไหลห่างไปเรื่อยๆ เขาไม่ได้ต้องการให้มันตาย แต่กลายเป็นว่าคนเจ็บคือเขา รามินทร์ยังจำได้ดีถึงความรู้สึกที่ขาดอากาศหายใจตอนอยู่ในน้ำ แต่ตอนที่ฟื้นขึ้นมาก็รู้ว่าใครเป็นคนช่วยเขาเอาไว้ สีหน้าที่เป็นห่วงเขาจากใจจริงยังติดอยู่ในความทรงจำ ไม่อาจจะลบเลือนออกไปได้ และจะไม่มีทางลบมันไป

อินทัชเสียสละฉีกเสื้อมาพันแผลให้กับเขา ประคองเขาไปที่บ้าน ดูแลเขาตลอดเวลา ไหนจะไปหาอะไรมาให้กิน เสียสละให้เขากินก่อน หาน้ำให้ดื่ม ซักผ้า เช็ดตัว ทำทุกอย่างไม่ได้หลับไม่ได้นอน อากาศก็เย็น แต่อินทัชก็เสียสละผ้าห่มให้เขาห่มคนเดียวเพราะว่าเขาไม่สบาย ยอมรับว่าเขาพ่ายแพ้ให้กับทั้งหมดที่เป็นอินทัชไปแล้ว

เข้าใจแล้วว่าทำไมใครๆ ก็รักอินทัช

เข้าใจแล้วว่าทำไมเจ้าจอมถึงย้ำนักย้ำหนาว่าอินทัชเป็นคนดี...

แล้วก็รู้ซึ้งเลยที่เจ้าจอมเคยบอกว่าเขาจะเสียใจทีหลัง มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ รามินทร์กำลังเสียใจที่ความแค้นของตัวเองทำร้ายอินทัชแบบนี้...เพียงเพราะรักน้องอย่างไม่ลืมหูลืมตา

“ขอโทษ...กูขอโทษ”

จากความรู้สึกเกลียด...แปลเปลี่ยนเป็น...รัก

รามินทร์ตกหลุมรักคนที่ ‘เคย’ เกลียดแบบเต็มเปา แล้วมันก็เป็นหลุมที่ค่อนข้างลึกมาก ที่ต่อให้อยากจะปีนขึ้นออกจากหลุมคงทำได้ยาก...

“มันเป็นผลที่ต้องยอมรับใช่ไหม”

ความรู้สึกทุกอย่างมันรุมกัดกินรามินทร์จนแทบจะบ้า อินทัชมองออกว่าตาเขาสื่อถึงอะไร แต่มันไม่เชื่อ และไม่อยากจะรับรู้ถึงความรู้สึกที่มาจากเขาเลยสักนิด...

...

...

...







50%

 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

   เรื่องนี้หายไป 2 อาทิตย์เลย ขอโทษด้วยค่า ยูกิอยู่ช่วงสอบไฟนอล ต้องเคลียร์งานเยอะมาก ไหนจะต้นฉบับรามอินอีก วุ่นวายมากเลยค่ะ ไหนจะป่วยเป็นอาทิตย์อีก ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงแล้ว ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ

   อ่านแล้วคอมเม้นท์ให้ยูกิด้วยน้า ขอบคุณค่ะ

   พูดคุย สอบถาม ติดตามข่าวสารได้ทางแฟนเพจเลยค่ะ https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
สมน้ำหน้าอีราม.   แค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
สมน้ำหน้ามันจริงๆเวลาทีรอก็มาถึง เราว่าคนระดับอินถ้าอยากจะตัดรามออกไปคงทำได้ง่ายๆเลยมีทั้งเงิน อำนาจ หน้าตาก็ดีเราว่ารามคงต้องทำใจอ่ะนะ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
เข้ามาเปิดดูบ่อยๆ ดีใจที่กลับมาต่อจ๊ะ
ตอนนี้ สะใจกับรามที่ต้องเจ็บเสียเอง
แต่ก็นะ เราเป็นคนขี้สงสาร ให้อภัยละกัน
 :ling3:

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
ลุ้นๆๆๆๆๆ..ลุ้นต่อไป :katai1:

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เข้าใจนะว่า เจ็บ แต่อินทัชก็เจ็บมามากกว่านี้เยอะเลย

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
ก็นะ มันต้องใช้เวลาว่ะราม รออีก 50% ค่ะ จะเอายังไงละทีนี้

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :laugh:


วันนี้ที่รอคอย

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
เจ็บนี้...อีกนาน..ค่ะพี่ราม
ทนให้ได้นะ
ให้อินเอาคืนก่อน
พี่ทำเค้าไว้เยอะอะ
ยอมรับมันซ่ะ

ปล.ดราม่าเอยจงมา 555+

ออฟไลน์ Jessiebier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
 :mew2: :mew1: :mew3: :mew4: :mew5: :mew6:


รอไรท์ๆๆๆ อยากอ่านจักรกะจอมแล้ว :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
ตอนที่ 33

ครึ่งหลัง





“ไม่ตลกเลยนะ มันไม่ตลกเลยสักนิด” ร่างโปร่งเดินวนเวียนไปมาในห้องอย่างครุ่นคิดหนัก ภาวนาให้ตัวเองอ่านความหมายจากสายตานั่นผิดไป

ต้องไม่ใช่อย่างที่คิดแน่ๆ

อินทัชไม่รู้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกยังไงกันแน่ แต่ใจเต้นแรงมาก เต้นด้วยความรู้สึกแบบไหนอินทัชก็ไม่รู้ เป็นครั้งแรกที่เขาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดหรือรู้สึกยังไง เพราะอยากจะคิดแบบนั้น แต่ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างปิดกั้นเอาไว้ไม่ให้คิด ไม่ให้ยอมรับ เสียใจ ดีใจ หรือว่ากลัว ตอนนี้มันก็ปะปนมั่วไปหมดในความรู้สึก

เขาเคยเป็นแบบนี้อยู่ครั้งหนึ่งตอนที่จะตัดสินใจเรื่องเรียนว่าจะเรียนด้านไหน เพราะพ่อกับแม่คาดหวังให้เขาสืบทอดธุรกิจ จะให้เรียนอย่างที่อยากก็ไม่ได้ ถ้าเขาอยากจะทำที่ตัวเองอยากทำ พี่สาวก็จะหมดอิสระในการเลือกใช้ชีวิตของตัวเองไป แต่ความรักที่มีต่อพี่สาวที่เสียสละเพื่ออินทัชมาโดยตลอด ตอนนั้น เขาก็เลยยอมรับมันและเสียสละให้พี่ได้ทำในสิ่งที่ชอบ ส่วนเขาก็เรียนบริหารด้วยความภาคภูมิใจ

แต่ปัญหาที่เผชิญอยู่ตอนนี้มันไม่มีเหมือนตอนนั้น เพราะตอนนี้ ไม่มีทางเลือกให้เลย

“ทำไมชีวิตกูถึงได้เจออะไรแบบนี้วะ!!!”

อินทัชใช้เวลาอยู่ในห้องนอนครึ่งวัน จนบ่ายกว่าๆ ก็เปิดประตูออกไปจากห้องเพราะคิดว่าตัวเองพร้อมเผชิญหน้ากับรามินทร์แล้ว พอเดินออกมาก็เห็นร่างสูงนอนอยู่บนโซฟาตัวยาวเลยเดินเข้าไปดูเพราะคิดว่าไข้จะกำเริบขึ้นมาคืนหรือเปล่า อยากจะทำเป็นไม่สนใจนะ แต่ทำไมถึงทำไม่ได้ก็ไม่รู้

“ไอ้ราม...มานอนอะไรตรงนี้วะ”

“อืม...”

“ถ้าง่วงก็ไปนอนในห้องดีๆ ดิ อยู่ตรงนี้อากาศมันเย็น ฝนก็จะตกแล้วด้วย”

“อิน...” ร่างแกร่งลืมตาขึ้นมา ครางชื่ออินทัชเบาๆ

“เออ กูเอง ทำไมมึงถึงมานอนตรงนี้ ไปนอนในห้องดีๆ สิวะ”

“ไม่เป็นไร อึก...” ในจังหวะที่ลุกขึ้นนั่ง ร่างสูงก็รู้สึกว่าตัวเองหน้ามืดเพราะพรวดพราดลุกขึ้นมา ร่างโปร่งบางเข้าไปประคองตามสัญชาตญาณ

“ไข้กลับหรือเปล่าวะ”

“ไม่รู้ อาจจะ...”

“ลุกขึ้น!!” อินทัชสั่งเสียงเข้ม “กูจะพาไปนอนในห้อง แล้วนี่กินข้าวเที่ยงกับยาหรือยัง” รามินทร์ส่ายหน้าเป็นคำตอบ ทำเอาอินทัชถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายใจ

“งั้นก็ไปที่ห้อง เดี๋ยวจะไปหาอะไรให้กิน”

“อืม...”

อินทัชช่วยพยุงรามินทร์เข้าห้องนอนใหญ่ของเจ้าตัวไป ร่างสูงรู้สึกว่าไข้กลับมา ทั้งเวียนหัว แล้วก็หนาวนิดๆ เลยนอนลงบนเตียงอย่างไม่อิดออด อาจจะเป็นเพราะอินทัชมาดูแลเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขายอมนอนแต่โดยดีด้วย

ถ้าอินทัชไม่อยากให้พูด เขาก็จะไม่พูด แต่จะแสดงออกทางการกระทำแทน

“จะกินอะไร”

“อะไรก็ได้”

“งั้นก็ข้าวต้มก็แล้วกัน”

“อืม...มึงเอาอะไรมากูก็กินหมดแหละ”

“นอนรอไป เดี๋ยวกลับมา”

“อือ”

ดวงตาคมมองแผ่นหลังบางออกจากห้องไปแล้วก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักสายตา รู้สึกว่าตัวเองร่างกายอ่อนแอทั้งๆ ที่เป็นคนป่วยยากมาก แต่ป่วยทีหนึ่งก็หนักเอาการ

อย่างตอนนี้ไง…

ดูเป็นพวกอ่อนแอจริงๆ มันน่าขายหน้าไหมล่ะ อยากจะขอโอกาสเป็นคนดูแลอินทัช แต่ตอนนี้กลับให้อีกคนเป็นดูแลแทน

“กินเองได้ใช่ไหม” อินทัชถามเมื่อกลับมาที่ห้องอีกครั้งพร้อมข้าวต้มร้อนๆ ที่เขาอุตส่าห์เดินไปถึงครัวของรีสอร์ทเพื่อให้แม่ครัวทำอาหารให้เจ้านายที่นอนป่วยได้ทาน ส่วนตัวเองค่อยไปกินที่โรงครัวของคนงานเอาก็ได้ เพราะยังไงตัวเองก็ไม่ใช่ลูกค้า แล้วก็ไม่ใช่เจ้านายด้วย

“ถ้าบอกว่าไม่ได้ล่ะ”

“มึงแค่ไม่สบาย ไม่ได้เป็นง่อย กินเองไปเลย กูไปเอามาให้ขนาดนี้แล้ว”

“มือกูไม่มีแรง”

“สำออย!!! เดี๋ยวไปเรียกลูกน้องมึงมาป้อนก็แล้วกัน”

“กูอยากให้มึงป้อน”

“ว่าไงนะ!!!” ถามเสียงดังทั้งๆ ที่ตัวเองก็ได้ยินอยู่เต็มๆ สองหูว่ารามินทร์ต้องการให้เขาเป็นคนช่วยป้อนข้าวให้กับร่างสูง

และแน่นอนว่าเขาไม่ทำเด็ดขาด เพราะถ้าการที่เขาทำดีกับมัน ดูแลมัน จะทำให้มันรู้สึกอะไรเกินกว่าที่ควรจะเป็น อินทัชก็ไม่อยากจะทำ เขาไม่อยากให้เรื่องมันวุ่นวายไปมากกว่านี้แล้ว

มันไม่ควรจะวุ่นวายไปมากกว่านี้แล้ว...

มันควรจะหยุดอยู่แค่นี้ เราสองคนควรจะเป็นแค่คนที่เกลียดกัน อยากจะให้มันแค้นเขาอยู่เหมือนเดิม ไม่ต้องทำดีกับเขา จะทำร้ายเขาขนาดไหนก็ได้ จะทำให้เจ็บปวดแค่ไหนก็ได้ แต่อย่ารู้สึกดีๆ ต่อกันเลย

เพราะนั่น...มันอาจจะทำให้เราทั้งคู่ เจ็บปวดมากกว่านี้ก็ได้

“ป้อนกูหน่อย” ขอร้องเสียงอ่อน

ริมฝีปากบางเม้มแน่น รู้สึกเกลียดความขี้ใจอ่อนของตัวเองที่ไม่ว่ามันจะทำเลวกับเขาไว้ขนาดไหน เขาก็ยังเกลียดมันไม่ลง เพราะที่มันทำไปมันก็มีเหตุผลของมัน แต่ถ้าถามว่าอยากจะญาติดีกันไหม อินทัชตอบได้เลยว่าไม่อยาก ถ้าปล่อยเขาไปแล้ว ก็ต่างคนต่างอยู่เถอะ

แต่รามินทร์กำลังเอาตัวเองมาผูกมัดไว้กับเขา...เราสองคนไม่มีทางรักกันได้หรอก แค่เส้นทางของเรามันก็ไม่ได้มีอะไรดีแล้ว เริ่มจากเกลียด ลงท้ายด้วยรัก มันไม่น้ำเน่านิยายไปหน่อยหรือ...

“ถ้ากูป้อนมึง มึงต้องสัญญามาก่อนว่าจะไม่ทำให้กูลำบากใจอีก อย่าให้กูลำบากใจเพราะคำพูดนั้น...”

คำว่า...รัก ได้โปรดอย่าพูดออกมา

อย่าทำให้กูลำบากใจ กูไม่อยากได้ความรักจากมึง ที่กูอยากได้จากมึงคืออิสระ ไม่ใช่ความรัก เพราะการที่มึงรักกูมันจะเป็นการกักขังกูเอาไว้ เพราะกูรู้ว่ามึงรักใครมึงรักจริงๆ และพร้อมจะเห็นแก่ตัวเพื่อตัวเอง

“อืม...กูสัญญา” รามินทร์ตอบรับเสียงแผ่วพร่า

รู้สึกเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะดันหลงรัก...คนที่ไม่ควรจะรัก ไม่ใช่ว่าฐานะเราแตกต่างกัน แต่เป็นเพราะว่าจุดเริ่มต้นของเรามันไม่ได้สวยงาม การที่จะให้คนที่ตัวเองไปทำเลวกับเขาไว้หันมารักตัวเองนั้น มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สุดๆ

มันเป็นไปไม่ได้...แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีทางที่จะเป็นไปไม่ได้

“ถามจริงๆ ถ้ากูไม่ดีกับมึง ไม่ดูแลมึง มึงจะยังเกลียดกูอยู่ไหม” ถามขณะที่ป้อนข้าวต้มอีกคนไปด้วย รามินทร์ชะงักมองหน้าอินทัชทันที

ตอบไม่ถูกเหมือนกัน แต่ที่รู้

“กูเกลียดมึง แต่ก็มันก็ยิ่งจางหายไปในความรู้สึก ไม่ว่ากูจะพยายามทำร้ายหรือกลั่นแกล้งมึงแค่ไหน แต่มึงก็ไม่เคยต่อต้าน ยอมให้กูโขกสับ มันทำให้กูรู้ว่ากูแม่งงี่เง่า ที่ทำบ้าบออะไรไม่เข้าท่ากับชีวิตของมึง กับความรู้สึกของมึง กูเสียใจที่ข่มเหงมึง ตั้งแต่วันนั้นก็ก็ตั้งใจว่าจะหยุดทุกอย่าง...”

“แต่มึงก็ยังทำ...มึงยังใจร้าย ทำร้ายความรู้สึกกูอยู่” อินทัชสวนกลับทันทีเพราะคิดย้อนกลับไปในวันนั้นและหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น พร้อมทั้งป้อนข้าวให้กับรามินทร์ไปด้วย

ส่วนร่างสูงเองก็กลายเป็นคนละคนที่ไม่ว่าอินทัชอยากจะรู้อะไรก็ยอมตอบอย่างว่าง่าย
“เพราะกูไม่รู้ว่ากูจะดีกับมึงยังไง มึงต้องเข้าใจว่าที่ผ่านมากูร้ายมาตลอด จู่ๆ จะให้ทำดีกับมึง กูก็รู้สึกเสียฟอร์มเหมือนกัน ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะต้องกลัว”

“แค่มึงปล่อยกูไปราม แต่ปล่อยกูกลับบ้าน...”

“กูทำไม่ได้ ไม่ใช่ว่ากูกลัวว่ามึงจะเอาตำรวจมาจับกู แต่ที่กูกลัว...กลัวที่จะไม่ได้อยู่ใกล้มึงอีก มึงก็รู้ว่ามึงกับกูต่างกันแค่ไหน”

“แล้วทำไมต้องอยู่อยู่ใกล้กู เราตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือไงว่าถ้ากูยอมให้มึงแก้แค้นจนพอใจ มึงจะปล่อยกูไป จากนั้นเราจะกลายเป็นคนอื่น ไม่ใช่แม้แต่คนรู้จัก”

“ก็ใช่”

“จะผิดสัญญาหรือไง” อินทัชถาม

“เปล่า...ไม่ได้จะผิดสัญญา”

“อิ่มหรือยัง...” อินทัชเปลี่ยนเรื่องเมื่ออ่านแววตาที่แสนจริงจังแล้วก็แฝงไปด้วยคามเจ้าเล่ห์ของรามินทร์ เขาก็เลยเรื่องที่จะไม่พูดถึงมันอีก

ยังไงก็แล้วแต่...คงต้องยอมให้มันปล่อยเขากลับไปก็พอ

“ยัง...”

“งั้นก็กินไป เงียบด้วย กูไม่อยากรู้เหี้ยอะไรอีกแล้ว”

“หึ...”

รามินทร์หัวเราะน้อยๆ ที่เห็นว่าอินทัชพยายามจะหลีกเลี่ยงจากเขา สิ่งที่เขาเรียนรู้ได้อย่างหนึ่งคืออินทัชเป็นคนขี้ใจอ่อน แต่ว่าหายโกรธยาก และการขอโอกาสก็คงจะยากตามด้วย เพราะฉะนั้นแล้ว สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือแสดงความความใจทั้งหมดที่มีให้กับอินทัชได้รับรู้

ถ้าพูดไม่ได้ ก็แสดงออกทางการกระทำแทนก็แล้วกัน

“ยิ้มทำไม”

“อะไร ปากก็ปากกู กูจะยิ้มมันเรื่องของกูไม่ได้หรือไง”

“ถ้างั้นกูขอตัวก็แล้วกัน”

“เดี๋ยวสิ” รามินทร์เรียกเอาไว้ก่อนที่ร่างโปร่งบางจะลุกขึ้นจากเตียงไป

“อะไรอีก”

“ยาหลังอาหารกูล่ะ”

“เออ!! ลืมไปว่ากูมันขี้ข้า!! รอเดี๋ยว เดี๋ยวไปเอาน้ำมาให้” อินทัชประชดประชันแล้วยกถาดจานเปล่าออกไปด้วย ที่มีสายตาของรามินทร์มองตามไปด้วยสายตาที่ฉายแววถึงความรักความเอ็นดูที่ไม่เคยใช้มองอีกคนมาก่อน

เกลียดอย่างไหน มักได้อย่างนั้น...

“หึ!”

ไอ้คำพูดพวกนี้ที่เขาไม่เคยคิดจะเชื่อ วันนี้กลับตรงกับชีวิตของเขาสุดๆ จนอยากจะหัวเราะดังๆ ให้สมกับความรู้สึกที่สมเพชตัวเองอยู่ในตอนนี้...

...

...

...


ในอีกฟากหนึ่งของโลก

หญิงสาวร่างโอดสะองสมส่วน ใบหน้าสวยหวานแอบคมเข้มแบบไทยกำลังนั่งต่อโทรศัพท์หาใครสักคนที่อยู่อีกฟากหนึ่งของโลกเช่นกัน

“ฮัลโหล...พี่รามเป็นยังไงบ้างจอม”

(ก็เกือบหายดีแล้วล่ะ แต่ตอนนี้จอมอยู่ข้างนอกทำธุระให้พี่รามน่ะ แล้วนี่โทรมามีอะไรเหรอ)

“ก็แค่จะมาบอกน่ะว่าจันทร์หน้าให้คนมารับเราด้วยนะ เราเป็นห่วงพี่ราม เราจะกลับไทย”

(ห๊ะ!!! ทำไมเร็วขนาดนั้นล่ะ จอมเพิ่งโทรไปบอกเมื่อวานเองนะ รินไม่เห็นต้องรีบร้อนเดินทางมาเลย คุณลุงคุณป้าจะมาด้วยหรือเปล่า) เจ้าจอมถามกลับมาอย่างตกใจ

หญิงสาวหัวเราะเสียงใส

“จริงๆ แล้วรินเองก็วางแผนเอาไว้แล้วล่ะ ช่วงนี้มันว่างพอดีเลย ก็เลยเลื่อนกำหนดเข้ามาน่ะ พอดีกับที่จอมโทรมาบอกข่าวเมื่อวานเลย แล้วจะพาแฟนไปให้พี่รามแสกนด้วย”

(มีแฟนแล้วเหรอ? คราวนี้ไม่ใช่เล่นๆ แน่นะ)

“จอมล่ะก็...รินเลิกนิสัยแบบนั้นแล้วเถอะ คนนี้รินจริงจังนะ เป็นคนที่ทำให้รินรู้ว่าที่ผ่านมา รินแย่ขนาดไหน ส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณจอมมากๆ ที่ช่วยปิดบังนิสัยแย่ๆ ของรินกับคุณพ่อ คุณแม่แล้วก็พี่รามมาโดยตลอด” หญิงสาวพูดออกไปอย่างรู้สึกขอบคุณจริงๆ

(เฮ้อ...จอมก็ดีใจที่รินคิดได้นะ ถ้าอย่างนั้นจอมมีเรื่องอยากจะเล่าให้ฟัง เอาอย่างนี้ เราไปเจอกันที่กรุงเทพก่อนนะ แล้วค่อยมาที่นี่)

“มีอะไรเหรอ?”

(รินจำเรื่องผู้ชายที่ชื่อ ‘อินทัช’ ได้ไหม)

รินลณีนิ่งไป ใบหน้าสวยดูสับสนและครุ่นคิด ก่อนจะจำได้ว่าคุ้นๆ ชื่อผู้ชายคนนี้ที่ไหน เธอเลยถามออกไปอย่างเป็นกังวล เพราะผู้ชายคนนี้คือคนที่ปฏิเสธเธอคนแรกและคนเดียวในชีวิตผู้หญิงรักสนุก

“จำได้ อย่าบอกนะว่า...”

(อือ...คนที่ทำให้รินเสียหน้าน่ะ อยู่ที่นี่…อยู่กับพี่ราม)

“หมายความว่ายังไง”

(รายละเอียดค่อยคุยกันนะ รินวางสายเถอะ โทรจากต่างประเทศมันแพงนะ)

“ก็ได้ แล้วจะโทรหานะ”

(โอเค แล้วเจอกันนะริน)

“แล้วเจอกันจอม”

หญิงสาวยืนนิ่งมองโทรศัพท์ตัวเองด้วยสายตาที่เรียบนิ่ง ไม่มีแววกังวลและความกลัวที่จะต้องเล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่ชายได้รับรู้ เธอรู้จักพี่ชายของเธอดี

รามินทร์รักเธอมาก ใครแตะเธอไม่ได้ หากใครทำเธอร้องไห้ พี่ชายจะจัดการให้เธอทุกครั้ง นั่นทำให้เธอใช้ชีวิตที่ผ่านมาแบบไม่กังวลใจอะไร อยากจะสนุกก็สนุก อยากจะคบใครก็คบ อยากเที่ยวก็เที่ยว

แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว...

และจะเปลี่ยนไปตลอดกาล

“นี่จะเป็นเรื่องสุดท้าย ที่เราก่อไว้สินะ”

เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้...

นี่คือสิ่งที่รินลณีได้เรียนรู้จากความรักที่เคยพานพบเป็นครั้งแรก จากผู้ชายที่เธอรักและทำให้เธอตาสว่างและเปลี่ยนตัวเองจากความเอาแต่ใจ





100%


 :katai4: :katai4: :katai4:


   สวัสดีค่า อาทิตย์ที่แล้วหายไปเพราะเป็นอาทิตย์สอบไฟนอล ว่าจะมาแต่ก็ต้องเคลียร์งานกลุ่ม งานเดี่ยว แล้วก็อ่านหนังสือสอบ ตอนนี้เหลือแค่วิชาเดียวกับพรีเซ้นท์งานกลุ่มค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ ^^

   อ่านแล้วเม้นท์ติ ชม ให้กำลังใจได้ค่ะ ยูกิจะนำไปปรับปรุงในเรื่องต่อๆ ไป

   สอบถาม พูดคุย แนะนำ หรือติดตามข่าวสาร การอัพเดทนิยายต่างๆ ก็แอด Favorite เอาไว้หรือติดตามที่แฟนเพจนะคะ ^^ https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ต่ออีกตอนได้ไหม กำลังลุ้นเลยรามจะรู้ความจริงแล้ววววว แล้วถ้านี่รินรู้ว่าอินโดนพี่ชายตัวเองทำอะไรไว้บ้างจะรู้สึกผิดมั้ยที่ทำให้คนๆ นึงเหมือนตายทั้งเป็นที่โดนจับมาทั้งๆ ที่ไม่มีความผิดเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด