Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=  (อ่าน 228104 ครั้ง)

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ Jessiebier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
รอวันที่ทั้งสองคนรักกัน ได้คบกัน

ตอนนี้เป้นความทรงจำที่ดีมากจริงๆ :mew1:

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไมัรุ็จะเม้นอะไร จะสมน้ำหน้ารามก็สมน้ำหน้าไม่เต็มปาก เพราะนางกำลังเก็บเกี่ยวความสุขของนางไว้เป็นความทรงจำ ให้กำลังใจคนเขียนละกัน

สู้ๆคะ

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
น้ำตาคลอเลยแฮะ สงสัยว่ารามจะอยู่ต่อไหวได้ยังไง

ออฟไลน์ K3n0

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
มาแล้วววว

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
อีกครึ่ง จะมา ศุกร หรือเสาร อ่อ วันนี้ยังวันเสารอยู่ เดี่ยวเข้ามาดูใหม่ค่า

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
ตอนที่ 42 ครึ่งหลัง





UP


“เรื่องแบบนี้ต้องให้สองคนพูดกันเองหรือเปล่า”

“แล้วมึงคิดว่าคนอย่างไอ้จักรจะพูด? ชาติหน้ามั้งเหอะ ที่จะให้มันพูดน่ะ”

“แต่กูว่าการที่มึงจะให้ไอ้จักรไปกรุงเทพกับมึงด้วยมันจะทำให้เจ้าจอมเสียใจหรือเปล่า” เพราะการที่ตัวเองเป็นพี่ชาย รามินทร์เลยเป็นห่วงความรู้สึกของเจ้าจอมเมื่อฟังเรื่องทั้งหมดจากปากของอินทัช

ตอนนี้พวกเขายังไม่ถึงรีสอร์ทหรอก เพราะมัวแต่แวะทานอาหารเย็นอยู่ที่หล่มสัก พอขึ้นรถจะกลับรีสอร์ท อินทัชก็เลยพูดเรื่องของจักรกับเจ้าจอมที่ค้างไว้ไม่ให้บรรยากาศมันเงียบ

“แล้วมันมีวิธีอื่นที่จะทำให้พ่อแม่เจ้าจอมยอมรับคนจนไหมล่ะ”

“เฮ้อ...” รามินทร์ถอนหายใจ รู้ดีว่าพ่อแม่ของเจ้าจอมเป็นยังไง คิดถึงวันที่พ่อแม่ของเจ้าจอมรู้ว่าลูกชายชอบผู้ชายด้วยกัน คราวนั้นก็ตัดออกจากกองมรดกจนรามินทร์ต้องเป็นคนรับผิดชอบส่งให้น้องเรียน และดูแลน้องจนจบจวบจนให้น้องทำงานในรีสอร์ทของตน แต่ทางครอบครัวก็ใช้สิทธิ์ในความเป็นพ่อแม่จับคู่กับเจ้าจอมกับลูกชายของเพื่อนตนเองที่ชอบผู้ชายเหมือนกัน...

ตอนแรกก็บอกว่าจะไม่สนใจอะไรแล้ว แต่พอคิดได้ว่าถ้าแต่งกับผู้หญิงไม่ได้ ผู้ชายที่ลูกชายจะใช้ชีวิตด้วยต้องดีพร้อมทุกอย่างในเรื่องฐานะ ที่ไม่ว่ายังไงก็ยังคงบังคับและไม่ยอมปล่อยให้เจ้าจอมเลือกคนที่ไม่มีอะไรเลยมาเป็นแฟนแน่ ที่ผ่านมาเจ้าจอมเลยไม่ค่อยมีแฟนเท่าไหร่

“เอาไงล่ะ”

“ก็ต้องเรียกทั้งสองคนมาคุยนั่นแหละ จะได้หาทางรับมือด้วย”

“อืม...แต่ให้ไอ้จักรไปกับกูดีที่สุด คนมีความสามารถอย่างมันบอกตรงๆ ว่ากูเสียดาย อยู่กับมึงก็ไม่ได้ใช้อะไร แต่บริษัทกูต้องการคนอย่างมันว่ะ” อินทัชพูดออกมาตามความรู้สึกของตัวเอง

ตั้งแต่ที่รู้จักกันมาจักรเป็นคนที่ทำงานได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้าง งานจัดสวนแล้วก็เขียนแบบ แล้วทุกอย่างที่จักรทำมันดูมืออาชีพมาก เสียดายที่ต้องอยู่แบบนี้

“กูเองก็เคยคิดเหมือนกัน แต่ทำไงได้มันไม่ยอมไป กูเลยอนุญาตให้มันรับงานข้างนอกได้ตามที่มันอยากทำเลย แล้วก็หางานมาให้มันบ่อยๆ แต่ว่ามันจะยอมไปหรือไง” ถามทั้งๆ ที่ตาก็มองถนนอยู่อย่างไม่ประมาท

“กูว่ายอม...แค่ไปทำงานกับกู ไม่ได้ให้เลิกกัน อย่างไอ้จักรน่ะ ถ้าฝึกมันหน่อยน่ะมันจะเก่งมาก มันไม่ใช่คนโง่ แต่มันแค่ไม่รับ อาจะเป็นเพราะการใช้ชีวิตแบบเรื่อยๆ มาตลอดก็ได้”

“ก่อนหน้านั้นกูก็ไม่รู้นะว่ามันแบบไหน แต่ว่าตอนที่มันมาทำงานกับกูมันก็เป็นแบบที่มึงพูดนั่นแหละ” รามินทร์อดทึ่งกับความสามารถด้านการสังเกตคนของอินทัชไม่ได้

มันสุดยอดจริงๆ ขนาดเขาก็เพิ่งมาคิดตามตอนที่อินทัชพูดนี่แหละ

“เอาเป็นว่าดูสถานการณ์พรุ่งนี้ก่อนก็แล้วกัน ถ้าพวกนั้นไม่ยอมพูดอะไร เดี๋ยวกูจะเรียกมาคุย” รามินทร์ว่า

“อืม...ก็ดี มึงไม่ได้มีแผนจะพากูไปที่ไหนอีกใช่ไหม”

“ช่วงบ่ายๆ นั่นแหละ”

“อืม...” อินทัชพยักหน้า

“ถ้ามึงง่วงมึงนอนไปเลยก็ได้ ถ้าถึงแล้วกูจะปลุกมึงเอง”

รามินทร์บอกให้ร่างโปร่งนอนได้เพราะดูท่าทางของอินทัชแล้วเหมือนจะเพลียสุดๆ แน่นอนอยู่แล้วก็พวกเราเล่นเดินทั้งวันเลยนี่นะ

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวมึงหลับใน กูยังไม่อยากตายด้วย”

“ปากดีจริงๆ”

รามินทร์พึมพำเบาๆ หากแต่คนโดนว่าก็ยังได้ยินอยู่ดีเพราะเรามีกันแค่สองคน บนรถก็เงียบด้วย ฉะนั้นต่อให้เบาขนาดไหนอินทัชก็ได้ยิน ร่างโปร่งเลยเปิดเพลงดังๆ แทน แล้วปรับเบาะนอนไปเลย เรียกเสียงหัวเราะเบาๆ จากคนขับรถได้อย่างนึกเอ็นดู

“หึหึ”


“ฝันดีนะ”

เพราะถึงห้องของอินทัชก่อน ร่างสูงที่เดินตามหลังก็เลยบอกฝันดีขึ้นมาเพราะคนตรงหน้าไม่คิดจะสนใจหันมามองกันหรือบอกกล่าวอะไรกันก่อนเข้าห้องเลยสักนิด

เย็นชาอะไรแบบนี้...

“อืม...”

“ไม่คิดจะบอกกลับหน่อยหรือไง”

“มันจำเป็นด้วยเหรอ” หันมาถามอย่างกวนๆ “กูไม่เห็นว่ามันจะสำคัญอะไรตรงไหนเลยนี่”

“ก็อาจจะไม่จำเป็นสำหรับมึง แต่มันจำเป็นสำหรับกู มึงก็รู้ว่าตอนนี้ อะไรที่กูทำได้กูก็จะทำหมดนั่นแหละ” อินทัชยิ้มมุมปาก ช้อนตาขึ้นสบกับดวงตาคมอย่างท้าทาย ทำเอารามินทร์ถึงกับสงสัยในท่าทีที่เปลี่ยนไป

“ทำไม...คลั่งกูขนาดนั้นเลยหรือไง”

เป็นคำถามที่รามินทร์พอจะเข้าใจแล้วว่าอินทัชกำลังคิดจะทำอะไร…มันก็รู้ว่าเขาคิดยังไงกับมัน แล้วทำไมมันถึงได้กล้าส่งสายตาท้าทาย ทำท่าเชื้อชวนจนรามินทร์หายใจไม่ทั่วท้อง

เริ่มจะเข้าใจแล้ว ว่าทำไมอินทัชถึงได้เสน่ห์แรงมาก เพราะเจ้าตัวมีท่าทางน่าเข้าหาแบบนี้ไง แม้จะเป็นเพราะอินทัชทำให้มันเป็น แต่มันก็เป็นธรรมชาติขนาดที่เขายังยอมรับเลย

“กำลังเอาคืนอยู่หรือไง ไหนว่าจะไม่เอาคืน”

“งั้นมึงก็คิดว่ากูไม่ได้เอาคืน แต่ใช้คำว่า ‘แกล้ง’ แทนก็ได้นี่” ยักคิ้วให้ร่างแกร่งพร้อมกับกอดอกอย่างเป็นต่อ แสยะยิ้มมุมปากให้ดูน่าค้นหาเข้าไปอีก

ที่ผ่านมารามินทร์ก็เคยเห็นอินทัชในรูปแบบน่าค้นหามาก่อนแต่ก็สลัดมันออกไปได้ เพราะตัวเองไม่อยากจะให้ความสนใจอินทัชไปมากกว่าคนที่เกลียด แต่เพราะอินทัชนั่นแหละ ที่ชอบทำให้สายตาของเขามองหาอยู่ตลอดเวลาโดยไม่รู้ว่าจะจ้องจับผิดหรือแค่อยากให้อินทัชอยู่ในสายตากันแน่

แต่เหมือนตอนนี้จะเข้าใจแล้ว...

“ร้ายกายว่ะ” รามินทร์ว่าอินทัชแต่ก็ไม่ได้จริงจังนัก ส่วนคนที่ถูกว่าก็ยังทำหน้านิ่งๆ ไม่รู้สึกอะไร แต่ก็หัวเราะอยู่ในใจกับท่าทีของคนตรงหน้า

“เอาไง จะให้กูไปอาบน้ำนอน หรือว่ามึงจะพูดอะไรกับกูอีก”

“มึงแม่ง...”

“เร็วๆ เลย กูง่วงมากแล้ว” อินทัชเร่ง

“มึงให้เวลากูอีกไม่ได้หรือไง เพิ่งจะสี่ทุ่มเองนะเว้ย” รามินทร์แย้ง

“ก็วันนี้กูเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว กูอยากนอน”

“งั้นขอนอนด้วยได้ไหม?”

เป็นคำถามที่ทำให้อินทัชเบิกตากว้างรู้สึกเกิดเพราะไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะกล้าขอนอนด้วยแบบนี้ สงสัยชักเหลิงใหญ่แล้วสินะ...

“มากไปหรือเปล่าวะ”

“แค่นอนเอง กูนอนพื้นก็ได้”

“อย่าโง่น่า เตียงในห้องมึงใหญ่กว่า สบายกว่า มึงก็ไปนอนสบายๆ ในห้องของมึงนู่น กูเองก็อยากนอนสบายๆ เหมือนกัน” เป็นอันเข้าใจว่า การที่รามินทร์จะไปนอนด้วยนั้นเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดสุดๆ

เขาไม่ต้องการที่จะทำให้อินทัชลำบากใจอะไรหรอก แต่ที่ขอก็เพราะว่าอยากจะลองดูเท่านั้น เผื่อจะฟลุ๊คได้ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางได้แน่นอน ร่างสูงเลยหัวเราะออกมา

“ฮ่าๆ กูก็ขอไปงั้นแหละ แต่ล็อกห้องด้วยล่ะ ไม่แน่ว่ากูอาจจะย่องมา”

“ย่องมา ข้อตกลงของเราก็จบทันที ตามนั้น”

เป็นคำขู่ที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่เคยเจอมาเลยก็ว่าได้ ขนาดโดนขู่ทำร้าย รามินทร์ยังไม่กังวลเท่านี้มาก่อนเลย

“โอเคๆ กูยอมแล้ว ยังไงก็ฝันดีนะ”

“อืม...ฝันดี”

ปัง!!

อินทัชยอมบอกฝันดีด้วยสีหน้านิ่งๆ และใช้น้ำเสียงราบเรียบเหมือนกับว่าพูดมันไปส่งๆ แล้วก็เปิดประตูเข้าไปในห้องทันที...

รามินทร์เองก็ยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าประตูห้องเล็กแบบนั้นอีกสักพักก่อนจะเดินเข้าห้องของตัวเองไป ด้วยหัวใจที่มีแต่ความสุข...

แม้ว่าจะเหลือเวลาแค่พรุ่งนี้อีกวันเดียวก็ตาม...






บรรยากาศตอนเช้ามักจะทำให้ใครหลายๆ คนที่ตื่นมารับอากาศบริสุทธิ์นั้นจะรู้สึกผ่อนคลายและมีพลังในการทำงาน แต่วันนี้ฝนกลับตกตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ก็ยังตกอยู่ ทำให้อินทัชไปไหนไม่ได้นอกจากจะเดินอยู่แถวๆ รีสอร์ทแล้วก็ช่วยพนักงานคนงานทำงานแก้เซ็งแทน

“พี่อิน” ในขณะที่กำลังเดินผ่านสำนักงานของรีสอร์ท เจ้าจอมที่เปิดประตูออกมาก็เรียกเอาไว้ทันทีด้วยสีหน้าที่ดูร้อนอกร้อนใจ

“อ้าว? น้องจอม มีอะไรหรือเปล่า”

“คือว่า...พี่อินว่าหรือเปล่าครับ จอมมีเรื่องจะปรึกษา” สีหน้าของเจ้าจอมดูไม่ดีเลยสักนิด มีแต่ความเครียดความกังวลเต็มไปหมด

“ว่างครับ พี่ไม่ได้ไปไหน ตอนนี้ฝนก็ตกด้วย”

“งั้นมาคุยกับจอมที่ห้องทำงานของพี่รามหน่อยนะครับ”

“ครับ”

อินทัชเดินเข้าไปในสำนักงานแล้วตามเจ้าจอมที่หน้าเครียดๆ เข้าไปในห้องทำงานของรามินทร์ที่เจ้าของห้องไม่อยู่ เพราะออกไปทำธุระในตัวเมือง

“มีอะไรหรือเปล่าครับน้องจอม ทำไมดูเครียดๆ”

เมื่อร่างสูงโปร่งนั่งลงข้างๆ กับเจ้าจอม เขาก็ถามทันที เจ้าจอมมองหน้าอินทัช

“จักรมีท่าทางแปลกๆ มาสองวันแล้วครับ วันนี้ก็ไม่เจอเลย โทรไปก็ไม่รับ ปิดเครื่องด้วย จักรได้มาปรึกษาอะไรพี่อินไหมครับ”

อินทัชคิดไม่ผิดเลยว่าจะต้องเกี่ยวกับเรื่องของจักรแน่ๆ

“เมื่อวานพี่เจอมันอยู่นะ จริงๆ ก็มีปรึกษาบ้างแหละ” อินทัชตอบออกไปตามความจริง

“งั้นหรือครับ จักรปรึกษาเรื่องอะไรกับพี่อินหรือครับ”

“จริงๆ แล้วพี่อยากจะให้จักรมันพูดอง แต่ดูเหมือนว่ามันคงจะไม่พูดหรอก” อินทัชพูด เจ้าจอมเองก็มีสีหน้าที่อยากรู้สุดๆ

“เกี่ยวกับจอมใช่ไหมครับ”

“ครับ”

“แล้วมันเรื่องอะไรนะ จอมก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนี่นา” ร่างเล็กพึมพำแล้วพยายามนึกว่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้จักรดูไม่สบายใจแบบนั้น แล้วการหายไปทั้งวันแบบนี้มันยิ่งทำให้เจ้าจอมรู้สึกไม่ดี

“น้องจอมไม่รู้หรอก มันรู้ของมันอยู่คนเดียวนั่นแหละ”

“พี่อินบอกจอมได้ไหมครับ” เจ้าจอมขอร้อง

“ก็ได้ครับพี่จะบอกน้องจอมเรื่องที่ไอ้จักรมันมาปรึกษา แต่พี่จะบอกให้น้องจอมเข้าใจก่อนว่าจักรมันไม่ได้หนีหน้าน้องจอมแต่มันรับงานข้างนอก ไอ้รามมันบอกพี่ว่าไอ้จักรมันรับงานเยอะมาก ก็เลยไปคุยงานข้างนอกน่ะ”

“จริงแล้วๆ เรื่องรับงานจักรน่าจะบอกจอมตรงๆ นะ ยังไงจอมก็ไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้ว แต่ว่าทำไมถึงได้รับงานเยอะขนาดนั้นล่ะครับ”

“เหตุผลที่รับงานนี้ก็มาจากน้องจอมนั่นแหละครับ”

“ยังไงเหรอครับ” ขมวดคิ้วสวยแน่น สบตากับอินทัชอย่างไม่เข้าใจสุดๆ

“มันได้ยินน้องจอมคุยโทรศัพท์กับคุณพ่อน่ะ มันก็เลยคิดว่าความจนของมันต้องทำให้น้องจอมลำบากทีหลัง ก็เลยจะรับงานเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว” อินทัชเล่า

เหตุผลของจักรที่อินทัชบอกเจ้าจอมไป แม้ว่าเพื่อนตัวใหญ่คนนั้นจะไม่ได้บอกเขา แต่อินทัชก็เข้าใจในวัตถุประสงค์ของการไปรับงานข้างนอกในครั้งนี้ของจักรได้

“จริงหรือครับ แสดงว่าวัน...” เจ้าจอมเงียบไปเมื่อคิดถึงวันนั้น... “ได้ยินหมดเลยสินะ”

วันนั้นเจ้าจอมเถียงกับพ่อเสียงดังมาก ทุกเรื่องล้วนเป็นเรื่องที่เขาคบกับจักรทั้งนั้น ถ้าจักรได้ยินเขาคุย แสดงว่าก็ต้องรู้เรื่องหมดแล้วว่าพ่อแม่ของเขาไม่ยอมให้คบกันง่ายๆ แน่

“ไม่น่าจะหมดหรอก มันได้ยินแค่ที่น้องจอมพูดว่า ‘ถึงจักรจะจน’ แค่นั้นแหละที่มันเล่าให้ฟัง”

“ทำไงดีครับพี่อิน จักรต้องกังวลมากแน่ๆ แล้วพ่อแม่จอมก็ไม่ยอมง่ายๆ ด้วย”

“มันก็รู้แหละ เลยจะทำงานเก็บเงินเยอะๆ”

“เพราะจอมแท้ๆ เลย”

“ไม่หรอกครับน้องจอม จะโทษตัวเองไม่ได้ครับ มันเป็นเรื่องของคนสองคน จักรมันก็ทำถูกแล้วเพราะนั่นคือการต่อสู้ของมัน ไม่ได้หนี แต่มันสู้เพื่อความรักของมันกับน้องจอมอยู่นะ”

เจ้าจอมน้ำตาคลอด้วยความตื้นตันใจที่จักรให้ความรักกับตนมากขนาดนี้ แล้วที่เจ้าจอมไม่เคยบอกว่ามีปัญหาเรื่องนี้กับครอบครัวก็เพราะว่ากลัวจักรจะทิ้งเขาไป ไม่สู้ ไม่อยู่ข้างๆ กับเขา เจ้าจอมก็เลยคิดจะแกปัญหานี้ด้วยตัวเอง แต่เมื่อรู้แบบนี้แล้วความรักที่มีต่อจักรยิ่งเพิ่มมากขึ้นจนแสดงออกมาผ่านน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างซาบซึ้ง ไม่ได้เสียใจแต่กำลังดีใจ...

จะมีใครที่จะทำอะไรแบบลับหลังเพื่อเจ้าจอมได้อย่างจักรบ้าง...

“จอมทำอะไรไม่ได้เลย จอมต้องปล่อยให้จักรเหนื่อยคนเดียวหรือครับ มีทางเดียวที่จะผ่านพ่อกับแม่จอมไปได้ ก็คือต้องรวยอย่างเดียวเท่านั้น” มันเป็นเรื่องที่เจ้าจอมพูดบอกคนอื่นได้ลำบากมากที่จะต้องมาบอกว่าพ่อแม่ของตนเป็นบุคคลที่ไม่ยอมรับและดูถูกคนมีฐานะต่ำกว่าสุดๆ

เปลี่ยนพ่อแม่ไม่ได้หรอก เขาลองทำมาตลอดทั้งชีวิตแล้ว...

“พี่ช่วยได้นะ...” เจ้าจอมหันมามองหน้าให้ความสนใจอินทัชที่พูดเสนอตัวขึ้นมาทันที รู้สึกว่าตัวเองมีความหวังขึ้นมาทั้งๆ ที่ยังไม่ได้รู้ด้วยซ้ำว่าอินทัชจะช่วยเหลือเจ้าจอมกับจักรเรื่องนี้ได้ยังไง

“ยังไงครับ”

อินทัชยิ้มหวานให้เจ้าจอม...แล้วพูดบอกไปว่า...

“รอไอ้รามกับไอ้จักรก่อนนะ ค่อยพูดทีเดียว”






100%

:katai5: :katai5: :katai5:

สวัสดีค่า เอาครึ่งหลังมาลงให้ดึกๆ ของวันเสาร์เสาร์เลย ไม่รู้ว่าจะมีใครอยู่อ่านกันหรือเปล่า หรือว่าใครที่อ่านช่วงวันใหม่หรือวันอื่นก็ไม่เป็นไรค่ะ เข้าใจว่าทุกคนมีหน้าที่กันหมด ยังไงก็สู้ๆ กับงานนะคะ ^_^

อ่านแล้วคอมเม้นท์ให้กำลังใจคนเขียนด้วยนะคะ ขอบคุณค่า

มีอะไรสอบถาม พูดคุย ติดตามข่าวสารการอัพนิยายของยูกิได้ที่แฟนเพจเลยนะคะ https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1600
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ขอบคุณค่า

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
ลุ้นคู่จักรจอมไม่เท่าคู่รามอินทร์
ก็จักรจอมมีรามอินทร์ช่วย
แต่รามอินทร์นี่...อุปสรรค์เยอะอะ
#เอาใจช่วยนะพี่ราม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
อย่างน้อยวันนี้รามก็ได้ยิ้ม เหลืออีกหนึ่งวัน ทำให้ดีนะ

อินทัชตอนเปิดใจ อะไรก็ดีงาม ยิ้มได้แล้วด้วย ปล่อยวางไปเยอะ
อินปากแข็ง ใจแข็ง

จะรอดูว่าวันที่สาม รามจะทำยังไง จะมีเรื่อง surprise ไหม

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
เดี๋ยวนะ อ่านจากตอนที่แล้ว เจ้าจอมโดนพ่อแม่ตัดขาดทำให้รามต้องรับมาส่งเสียเลี้ยงดู แล้วพอเรียนจบทำงานใช้ชีวิตเองคบกับจักรก็อยู่กับราม แล้วพ่อแม่มาวุ่นวายหาสามีให้ลูกอีกได้ไง ไหนว่าตัดขาดกันแล้ว พ่อแม่ประเภทไหนกัน เลี้ยงก็ไม่เลี้ยงแล้วอยู่ๆ ก็กลับมาบอกว่าเป็นลูก แล้วบังคับหาผัวนี่นะ โอวว งง

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
คิดถึง ราม อินทร์

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 43
เพื่อคำว่า ‘เรา’




จักรเดินไปตามทางอย่างเหนื่อยล้าเพราะคุยกับลูกค้ารายใหญ่อยู่นานมากกว่ากว่าจะตกลงรูปแบบสวนลงตัวก็ปาไปหลายชั่วโมง และตอนนี้เขากำลังเดินตรงไปยังห้องทำงานของรามินทร์เพราะทันทีที่เขาเปิดโทรศัพท์ก็มีเบอร์ของเจ้าจอมโทรมาอยู่ยี่สิบกว่าสาย พอโทรกลับเขาก็โดนนัดให้มาที่นี่ เสียงของเจ้าจอมจริงจังจนจักรใจคอไม่ดีเท่าไหร่นัก ตลอดการเดินทางกลับมาที่นี่จักรกังวล คิดนั่นนี่ไปต่างๆ นาๆ เลย

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“มาแล้วเหรอ”

พอเขาเข้าไปในห้องทำงานหลังเคาะประตูเสร็จคนที่ทักก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นรามินทร์เจ้านายของเขาเอง แต่ว่าในห้องไม่ได้มีแค่รามินทร์กับเจ้าจอมแต่มีอินทัชที่นั่งกอดอกนิ่งๆ มองมาที่เขา จนจักรคิดไปเองแล้วว่าเพื่อนคนนี้ยังคงโกรธเขาอยู่แน่ๆ

“ครับ”

“มานั่งสิ วันนี้กลับช้านะ คุยงานนานเหรอ” รามินทร์ชวนก่อนจะถามเหตุผลที่ทำให้ร่างสูงกลับมาเย็นขนาดนี้ ส่วนคนที่โดนถามก็หันหน้าไปมองท่าทีของเจ้าจอมด้วยความกังวลทันที

คุณจอมรู้แล้วเหรอ...

แต่ร่างแกร่งได้รอยยิ้มบางๆ กลับมาเล่นทำเอาความเหนื่อยล้าที่มีอยู่ตามร่างกายมลายหายไปราวกับได้ยาวิเศษ

คุณจอมไม่ว่าอะไร แถมยังยิ้มให้ด้วย...

“ครับ...เพราะผมมันพวกสมองช้าด้วยแหละเลยไม่ค่อยเข้าใจที่เขาพูดเท่าไหร่” จักรตอบกลับไปอย่างถ่อมตัวเอง ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วลูกค้าเรื่องมากต่างหาก

กับเรื่องอื่นจักรอาจจะช้าและเข้าใจอะไรยาก แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ตัวเองเก่งและชำนาญ เจ้าจอม รามินทร์และอินทัชรู้ดีว่ามันไม่ใช่แบบนั้น

“บางครั้งมึงก็ถ่อมตัวเองเกินไปจนกลายเป็นการดูถูกตัวเอง” อินทัชพูดขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

ถึงแม้ว่าเราจะรู้ตัวเองว่าเราไม่เก่งเรื่องไหนก็ตาม ก็ไม่ควรที่จะดูถูกตัวเอง เพราะถ้าขนาดเรายังดูถูกตัวของเราเองเลย แล้วจะมีใครที่ไหนมาชื่นชมมาภาคภูมิใจ

“เอาล่ะ เข้าเรื่องเลยดีกว่า” เจ้าจอมแทรกขึ้น เมื่อรู้สึกว่าบรรยากาศระหว่างอินทัชกับจักรมันดูแปลกๆ อินทัชทำท่าเหมือนโกรธจักรมาก ส่วนจักรตอนนี้ทำหน้าเศร้าไปแล้ว

ที่นั่งของจักรคือข้างๆ กับเจ้าจอม อินทัชนั่งคนเดียว ส่วนรามินทร์ก็นั่งบนโต๊ะทำงานของตัวเองเพราะมีโซฟาจำกัด

“ตอนนี้ฉันรู้ปัญหาของนายแล้วนะ แต่ฉันไม่ได้โกรธหรอกที่นายรับงานข้างนอก แต่ที่ฉันโกรธคือนายไม่ยอมบอกเหตุผล ไม่ยอมถาม ไม่ยอมพูดเรื่องที่ตัวเองไม่สบายใจ ก็จริงอยู่ที่นายไม่อยากให้ฉันต้องลำบากใจ ไม่สบายใจ หรือเพราะว่าฉันอายุน้อยกว่านาย เลยคิดว่าฉันจะช่วยนายไม่ได้?”

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับคุณจอม”

“แล้วทำไมถึงไม่พูด...มันเป็นเรื่องของเรานะจักร ถ้าฉันไม่ถามพี่อิน ฉันจะรู้เรื่องไหม? มันเป็นเรื่องของเราแต่นายกลับบอกคนอื่นได้ แต่บอกฉันไม่ได้ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ”

เจ้าจอมน้อยใจ แม้ว่าทุกอย่างที่จักรทำไปเพราะไม่อยากให้เขาต้องรู้สึกไม่ดี แต่ถ้ามันกลายเป็นว่าเจ้าจอมต้องเป็นคนรับอยู่ฝ่ายเดียวมันจะไปแฟร์กับจักรเหรอ นี่มันเรื่องของ ‘เรา’ นะ ความรักของเรา จะให้คนหนึ่งมีความสุขและอีกคนหนึ่งลำบากไปทำไม

มีทุกข์ ก็ต้องร่วมทุกข์ไปด้วยกัน

มีความสุข ก็ต้องสุขไปด้วยกัน...

“ผมขอโทษครับ” จักรก้มหน้าสำนึกผิด

“แต่ฉันดีใจนะ ที่นายทำเพื่อเราน่ะ” จักรเศร้าไม่นานก็กลับมายิ้มออกเมื่อได้ยินประโยคที่แสนอ่อนโยนของคนรักตัวเล็ก ที่นอกจะพูดแบบนั้นแล้ว เจ้าจอมยังยิ้มหวานให้เป็นรางวัลอีกครั้งด้วย

อ่า...’คนรัก’ คุณจอมเป็นคนรักของเราสินะ เราสองคนรักกัน เพราะอย่างนี้ไง ผมถึงอยากทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้คุณจอมต้องลำบาก

“ฉันไม่มีความสุขหรอกนะที่ต้องให้นายมาเหนื่อยคนเดียวโดยที่ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย”

“ผมแค่อยากให้คุณจอมสบายอย่างที่เคยเป็น ไม่ต้องมาลำบากกับผม”

“แล้วถ้าการที่ฉันสบายแล้วเห็น ‘คนรัก’ ของตัวเองต้องเหนื่อยแบบนี้ นายเห็นฉันเป็นคนรักแบบไหนกันจักร ฉันไม่ได้เห็นแก่ตัว และฉันก็ไม่ได้เป็นคุณหนูขนาดนั้นนะ” เจ้าจอมพูดด้วยสีหน้าจริงจังอีกครั้ง ทำให้จักรรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ที่คิดเองเออเองไปคนเดียว

“ขอโทษครับ”

“บอกแล้วไงว่าไม่โกรธ เลิกทำหน้าแบบนี้แล้วยิ้มซะ” มือนุ่มเอื้อมไปจับที่แก้มทั้งสองแล้วบังคับให้หันมาสบตากับตน ก่อนที่คนน่ารักของจักรจะยิ้มหวานให้อีกครั้ง จักรเลยยิ้มตามอีก

“ขอบคุณครับ”

“แฮ่ม! ขอโทษที่ต้องขัดจังหวะ แต่พี่ยังอยู่นะครับเจ้าจอม” รามินทร์กระแอมขึ้นขัดจังหวะการสวีทหวานของทั้งสองคน ทำให้เจ้าจอมกับจักรผละออกจากกันไม่ทัน

“ขอโทษครับ ว่าแต่พี่อินบอกว่าจะช่วยพวกเรา ช่วยยังไงหรือครับ ตอนนี้จักรก็มาแล้ว”

เจ้าจอมเข้าเรื่องทันที อินทัชหันไปสบตากับรามินทร์ก่อนจะร่างสูงจะพยักหน้าเป็นการบอกให้อินทัชพูดได้เลย ร่างโปร่งเลยหันมามองหน้าเจ้าจอมกับจักร

“ปัญหาอยู่ที่พ่อแม่ของน้องจอมไม่ยอมรับอยู่แล้ว เรื่องนี้พี่ช่วยได้นะ”

“ยังไงหรือครับ”

“พี่จะพาไอ้จักรไปทำงานที่บริษัทพี่ เรียนรู้เพิ่มเติมและจะพาไปดูงานที่ต่างประเทศด้วย แต่ว่าน้องจอมกับจักรก็ยังเจอกันได้ตลอดนะ เรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอกใช่ไหม”

“มึงเอาจริง?” จักรถาม

“ก็เอาจริงดิ”

“แต่คนอย่างกู…”

“คนอย่างมึงทำไม” อินทัชสวนทันทีไม่ปล่อยให้จักรพูดจบ

“ทำงานบริษัทมึงแบบนั้น มันไม่เหมาะกับกูว่ะ”

“ไม่เหมาะยังไง ลองแล้วหรือไง หรือว่ามึงมีวิธีอื่นที่จะทำให้มึงหาเงินได้เยอะๆ แบบง่ายกว่าไปอยู่กับกู?” คำถามของอินทัชทำให้จักรถึงกับไปไม่เป็น

ก็จริงอย่างที่อินทัชว่า

“แล้วมึงจะให้กูไปอยู่ในตำแหน่งอะไร”

“บริษัทของกูทำเกี่ยวกับการตกแต่งอสังหาริมทรัพย์ทั้งภายใน ภายนอกและเป็นพันธมิตรกับบริษัทของคุณอัคนีคนรักของดรีมที่เคยมาจัดงานแต่งที่นี่” เจ้าจอมเบิกตากว้างอย่างตกใจกับประวัติที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน รู้ว่าอินทัชคือนักธุรกิจดังแต่ไม่รู้ว่าบริษัทอะไร ตอนนี้ก็รู้แล้วล่ะ

ส่วนจักรก็มองหน้าคนพูดอย่างตกตะลึงไม่แพ้กัน เขาก็แค่ตกใจที่ไม่คิดว่าเราสองคนจะแตกต่างกันถึงขนาดนี้ นี่อินทัชกล้ามาเป็นเพื่อนกับเขาได้ยังไงกัน

“กูไม่ได้พูดเพราะอวดตัวเองหรอกนะ แล้วมึงก็ไม่ต้องมาทำท่าทางเหมือนว่าเราแตกต่างกันขนาดนั้นด้วย กูจะมีเพื่อนสักคนกูไม่เน้นรวย ไม่เน้นดัง แต่เพื่อนสำหรับกูคือคนที่อยู่ข้างกู ไม่ทิ้งกู ช่วยเหลือกู ซึ่งแต่ก่อนกูก็มีแค่ไอ้ธีร์คนเดียว เดี๋ยวมึงไปกรุงเทพมึงจะได้รู้จักเองแหละ แต่ตอนนี้กูมีมึง มีหมอเงินเป็นเพื่อนเพิ่มมาอีกสองคน มันอาจจะยังไม่ใช่เพื่อนตายเหมือนที่กูกับไอ้ธีร์ แต่มึงก็เป็นเพื่อนที่กูต้องช่วยเหลือถ้าเพื่อนลำบากหรือเดือดร้อน”

“มันจะไม่มากไปหน่อยหรือวะ”

“จะมากไปยังไง กูเป็นผู้บริหารนะเว้ย กูเลือกคนเข้าทำงานโดยเลือกจากความไว้วางใจและความซื่อสัตย์เป็นอันแรก ส่วนความสามารถ เรื่องพวกนี้มันฝึกกันได้”

อินทัชตอบอย่างจริงจัง จักรซึ้งใจมากที่อินทัชช่วยเหลือเขามากขนาดนี้

“มึงจะให้กูไปทำอะไรที่บริษัทมึง”

“มึงถนัดอะไรที่สุด ก็ทำอันนั้นแหละ”

“จริงหรือวะ” คราวนี้จักรมีประกายความยินดีขึ้นมาอย่างมาก ทำเอาเจ้าจอมยิ้มกว้างที่ได้เห็นความดีใจที่จะได้ทำงานที่จักรรักอย่างเต็มที่และจริงจังเสียที

เจ้าจอมไม่ได้รู้สึกอะไรเลยที่จักรจะไปกรุงเทพ เพราะยังไงแล้ว เจ้าจอมก็ยังไปหาได้ เราโทรคุยกันได้...ไม่เห็นจะมีอะไรน่ากังวลหรอก

“อืม...มึงอาจจะต้องฝึกงานอย่างเต็มที่ภายในหกเดือน ถ้ามึงผ่านทดสอบทุกเดือนๆ ไปได้ เดือนที่เจ็ดมึงจะได้บรรจุเป็นหัวหน้าทันที ส่วนหัวหน้าคนก่อนกูมีแผนเลื่อนตำแหน่งเขานานแล้ว มึงไม่ต้องกลัวว่าจะไปแย่งใคร ส่วนคนงานอื่นๆ ที่เขาทำมานานกว่ามึงกูยังไม่เห็นว่ามีใครมีศักยภาพพอจะเป็นหัวหน้าได้ ก็เลยยังไม่มีการเลื่อนตำแหน่งอะไรเสียที คราวนี้ก็จะได้โอกาสแล้วล่ะ”

ทั้งนี้...รวมถึงว่า เขาต้องกลับไปจัดการความเรียบร้อยของกรรมการบริษัทก่อนล่ะนะ เพราะเขาหายตัวมาหลายเดือนแบบนี้...มันเป็นเรื่องที่ทำให้บริษัทสั่นคลอนอย่างมหาศาล

“ขอบคุณนะ กูขอบคุณมึงจริงๆ ไอ้อิน”

“เออน่า...ว่ายังไงครับน้องจอม แบบนี้โอเคไหม” ทั้งจักรทั้งอินทัชหันมาสนใจเจ้าจอมที่นั่งเงียบอยู่ตั้งนานทันที คนรักอย่างจักรพอคิดได้ก็เครียดขึ้นมาอีกแล้ว เขาไม่อยากห่างเจ้าจอม

ไม่อยากห่าง แต่ก็ต้องห่าง...

“ไม่มีอะไรที่จอมจะไม่โอเคครับ ดีเสียอีก คราวนี้เรื่องงานก็หมดปัญหาไปแล้ว เดี๋ยวปัญหาอื่นๆ จอมจัดการเองครับ พ่อแม่จอม จอมรู้ดีที่สุดว่าต้องรับมือยังไง ระหว่างนี้ก็ตั้งใจทำงานล่ะ” ประโยคสุดท้ายหันมาสั่งจักรอย่างจริงจัง

“ครับ...ผมจะรีบสร้างเนื้อสร้างตัว”

“ว่าแต่ไปวันไหนครับ”

“จักร...ว่าไงมึง”

“กูรับงานมาแล้ว ขอเคลียร์งานให้เสร็จก่อนได้ไหมวะ” จักรถาม

“งั้นก็ได้ จะใช้เวลากี่เดือนล่ะ”

“ประมาณหนึ่งเดือนน่ะ เดี๋ยวกูจะโทรไปก็แล้วกัน กูจะออกแบบแล้วให้คนที่บริษัทพี่ที่รู้จักจัดไป”

โชคดีที่เขายังรับงานได้ไม่ครบทุกคน เพิ่งจะคุยไปไม่กี่รายเอง ก็เลยมีโอกาสได้เคลียร์งานไว...

“เออๆ กูจะทิ้งเบอร์ไว้ให้”

“สรุปกันได้แล้ว ก็ตามนี้ แยกย้ายกันพักผ่อนได้แล้วไป” รามินทร์ลุกจากโต๊ะทำงานมาหาทั้งสามคนเมื่อเห็นว่าทุกอย่างผ่านไปอย่างเรียบร้อยดีแล้ว

เจ้าจอมก็โอเค จักรก็เหมือนว่าจะดีใจและมีความสุขที่จู่ๆ ก็มีโอกาสดีๆ แบบนี้มาหาตน ส่วนรามินทร์ก็ยอมรับได้เพราะรู้ดีว่าไม่มีทางทำให้จักรได้ดีไปมากกว่านี้แล้ว เพราะธุรกิจของรามินทร์คือรีสอร์ท โรงแรม ซึ่งแม้ตอนนี้กำลังจะร่วมลงทุนธุรกิจกับเพื่อนก็ตามที ก็ไม่มีงานไหนที่จะเหมาะกับจักรเลยสักงาน

อินทัชเหมือนเป็นเทวดาเลยนะแบบนี้...

“รีบไล่จังเลยนะฮะ” เจ้าจอมแขวะพี่ชาย

“แล้วจะนอนที่นี่กันหรือไง”

“งั้นจอมกับจักรกลับบ้านก็ได้ ขอตัวก่อนนะครับพี่อิน ฝันดีนะครับ พรุ่งนี้เจอกันครับ โชคดีนะฮะที่วันนี้ฝนตกทั้งวันเลยยื้อพี่อินอยู่ต่อได้อีกหนึ่งวันแหนะ” เจ้าจอมพูดอย่างดีใจ ทำเอาอินทัชได้แต่หัวเราะน้อยๆ ออกมา ซึ่งมันก็เป็นความจริง จริงๆ วันนี้ควรจะเป็นวันสุดท้ายของอินทัช แต่ว่าฝนตกทั้งวันเลย เลยออกไปข้างนอกอย่างที่รามินทร์อยากจะพาไปไม่ได้ เจ้าจอมเองก็เลยขอให้อนยู่ต่ออีกวัน

ถามว่าทำไมเขาไม่ปฏิเสธ เขาปฏิเสธแล้วนะ แต่เจ้าจอมให้เหตุผลว่า...

‘อันนั้นพี่รามเป็นคนขอ อันนี้จอมขอร้อง นะครับ พี่อินอยู่อีกวันน้า’

ฉลาดมาก แล้วอินทัชจะทนกับลูกอ้อนของเจ้าจอมได้หรือ แน่นอนว่าไม่ แต่คนที่ดีใจจนออกนอกหน้าไม่ได้มีแค่เจ้าจอมคนเดียว พี่ชายสุดที่รักของเจ้าจอมเองก็แสดงความดีใจออกนอกหน้าเช่นกันที่น้องชายตนเองทำอะไรได้ถูกใจเขามากๆ

‘ได้ครับๆ’

ไม่รู้อะไรดลใจให้ยอม แค่รู้สึกว่าอยากจะพูดออกไปแบบนั้น

“เจอกันครับ ฝันดีนะครับน้องจอม”

“ฝันดีครับ”

จักรกับอินทัชมองตากัน ไม่ต้องพูดอะไรก็เหมือนจะเข้าใจว่าจักรอยากจะพูดอะไร แต่มันเป็นพวกปากแข็ง ฉะนั้นไม่ต้องพูดหรอก...

แค่นี้ก็ดีแล้ว เป็นเพื่อนกัน...มันก็ดีแล้ว

“เอาล่ะ ตอนนี้ทุ่มกว่าๆ ไปกินข้าวได้แล้ว” พอจักรกับเจ้าจอมออกจากห้องทำงานของรามินทร์ไป ร่างสูงของเจ้าของห้องเอ่ยชวน อาหารที่เตรียมไว้คงจะพร้อมแล้วล่ะ

“อืม...ไปสิ”

ทั้งสองตรงไปยังห้องอาหารและไปนั่งที่โต๊ะที่ถูกจัดไว้ ก่อนจะเริ่มทานอาหารเย็น อินทัชที่สงสัยในอะไรบางอย่างก็เลยถามร่างสูงขึ้น

“ราม...น้องสาวมึงกับฟรองซัวกลับไปแล้วหรือวะ”

“ยังไม่กลับหรอก สองคนนั้นไปเที่ยวอยู่น่ะ ก่อนจะกลับจะมาค้างที่นี่อีกคืนแล้วค่อยเดินทางกลับกรุงเทพ”

“เหรอ...แล้วก็กลับฝรั่งเศสเลยหรือเปล่า”

“ก็คิดว่าน่าจะเป็นแบบนั้น คุณฟรองซัวบอกว่าลามาจำกัด แค่จะมาเยี่ยมกูเพราะเจ้าจอมโทรไปบอกว่ากูตกจากน้ำตกน่ะ” รามินทร์ตอบ

“อืม...งั้นเหรอ”

“ทำไมเหรอ มึงมีอะไรจะคุยกับคุณฟรองซัวหรือไง”

“เปล่าหรอก แค่ไม่เห็นมาลาเฉยๆ”

ร่างโปร่งไม่ได้ต้องการที่จะให้รินลณีมาล่ำลาอะไรหรอก แต่อย่างน้อยเพื่อนต่างชาติอย่างฟรองซัวควรจะมาลากันก่อนกลับสิ เพราะมันก็เป็นแบบนั้นเสมอ เมื่อตอนที่เขาไปธุระที่ฝรั่งเศสต่อให้วันนั้นฟรองซัวจะมีประชุมสำคัญก็จะปลีกตัวมาลาเสมอ...

“อีกสองวันล่ะมั้ง มึงจะรอไหมล่ะ”

“อย่ามาแผนสูง กูไปรอมันที่กรุงเทพได้”

“เกลียดจริง รู้ทันอีก”

“แล้วทำไมกูจะไม่รู้ทันมึง มองตาก็รู้แล้ว”

“งั้นรู้หรือเปล่าว่ากูต้องการอะไรอีก”

รามินทร์จ้องตากับอินทัชอย่างจริงจัง แววตาสะท้อนความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้อินทัชต้องหลบวูบเพราะไม่อาจจะสู้สายตานั่นได้

หัวใจของร่างโปร่งบางสั่นไหวรุนแรงราวกับว่ามันจะทะลุออกมาข้างนอก เจ้าตัวไม่รู้หรอกว่าใบหน้าของตัวเองจะแดงหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ คืออินทัชรู้สึกร้อนหน้ามาก ร้อนจนไม่อยากมองหน้ารามินทร์เลย ซึ่งมันเป็นท่าทางที่ทำให้รามินทร์มีความหวัง

เขามั่นใจว่าอินทัชต้องมีความรู้สึกดีๆ กับเขาบ้างแน่ๆ ไม่งั้นไม่มานั่ง ‘เขินอาย’ หลบหน้า หลบสายตาที่เขามองอย่างจาบจ้วงแบบนี้หรอก ใช่! รามินทร์มองอย่างจาบจ้วงชิดที่ไม่เคยใช้มองใครแบบนี้มาก่อน เพราะเขาจะให้เกียรติคนเสมอ

“มึงหิว มึงก็ควรรีบกิน”

“หึหึ วันนี้มีไวน์นะ”

“ไม่กิน!” ปฏิเสธทันที

“ทำไม? คออ่อนเหรอ”

อินทัชรู้สึกเหมือนโดนท้าทาย ผู้ชายนอกจากเรื่องหยามศักดิ์ศรีโดยการท้าทายเรื่องต่างๆ แล้ว ยังมีเรื่อง ‘คออ่อน’ ที่ถือเป็นการหยามกันมากในความเป็นผู้ชาย ยิ่งกับอินทัชที่ใช้ชีวิตที่ผ่านมากับแอลกอฮอล์ทุกคืนแล้ว ยิ่งรู้สึกเหมือนโดนดูถูกและท้าทาย เรื่องแบบนี้ยอมได้ที่ไหนกัน

“งั้นก็มาดูกัน!!!”

เข้าทางรามินทร์แล้วสิ…

ทางด้านจักรที่เดินไปส่งเจ้าจอมที่บ้านก็คิดว่าตัวเองควรจะกลับบ้านไปทำงานที่รับมาต่อทันที แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้จักรเดินเข้าบ้านไปกับเจ้าจอม

“มีงานไม่ใช่หรือไง”

“ก็มีครับ”

“ก็กลับไปทำสิ จะได้ไม่ต้องนอนดึกมาก” จริงๆ แล้วเขาก็อยากอยู่กับจักรต่อนั่นแหละ แต่เจ้าจอมมีเหตุผลมากพอ ในเมื่อจักรเลือกที่จะรับงานก็ควรให้จักรได้จัดการงานของตัวเองไป และที่รีบไล่ทั้งๆ ที่เพิ่งทุ่มกว่าๆ นั่นเป็นเพราะเขาไม่อยากให้จักรต้องกลับดึกแล้วอยู่ทำงานดึกดื่นอีก

แบบนี้ไม่ดีต่อร่างกายแน่ๆ

“ผมขออยู่กับคุณจอมสักพักไม่ได้หรือครับ” คนตัวใหญ่ถามเสียงออดอ้อนที่ไม่บ่อยครั้งหรอกที่เจ้าจอมจะได้ยินอะไรแบบนี้

“เป็นอะไร”

“ตอนแรกผมคิดว่าคุณจอมจะโกรธ”

“แล้วมีเหตุผลอะไรที่ฉันจะต้องโกรธนายด้วย นายทำงาน ฉันเข้าใจ ฉันไม่ได้งี่เง่าขนาดนั้น ถ้ามีอะไรก็พูด ก็บอกกันตรงๆ ถ้าคิดจะคบกันนายไม่ควรปิดบังอะไรฉัน”

“แล้วคุณจอมล่ะครับ มีอะไรปิดบังผมหรือเปล่า” จักรถามยิ้มๆ

“ไปรู้อะไรมา” เจ้าจอมเริ่มไม่ไว้ใจกับรอยยิ้มของจักรเสียแล้ว

“มีจริงๆ ด้วยสินะครับ”

“นี่นาย!! หลอกถามฉันเหรอ เดี๋ยวนี้เจ้าเล่ห์นักนะ” คนตัวเล็กชี้หนี้ร่างสูงอย่างคาดโทษ แต่ก็แอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ยังปิดความลับนั้นไว้ได้

ความลับที่เจ้าจอมเป็นฝ่ายที่รักจักรก่อน...






50%

:katai5: :katai5: :katai5: :katai5:


   ไม่ได้ลงเรื่องนี้มาสองอาทิตย์เลย ไม่ได้ตั้งใจหายจริงๆ นะคะ แต่ยูกิว่างแค่เสาร์กับอาทิตย์ (ฝึกงานอยู่) แล้วสองอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ วันเสาร์ยูกิติดธุระตลอดเลย วันจันทร์นี้ ช่วงดึกๆ ถ้าไม่มีอะไร ยูกิจะอัพครึ่งหลังให้นะคะ แล้ววันพฤหัสจะอัพตอนถัดไปให้ ยูกิจะอัพวันเว้นวัน ถ้าตอนไหนครอบร้อยเปอร์เซ็นจะเว้นสองวันแล้วค่อยอัพตอนใหม่ หากคิดว่ายูกิหายไป ทักท้วงได้เลยนะคะ
   อ่านแล้วเม้นท์ให้กำลังใจกันด้วยน้า ^_^
   สามารถพูดคุย ติดตามข่าวสารได้ทางแฟนเจนะจ้ะ https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
ตื่นเต้นนน ยูกิมาแล้วว
เหมือนรามได้ต่อลมหายใจเลย
หลังจากไวน์มื้อเย็น จะเป็นไงน้าาาา
จักรเจ้าเล่ห์ขึ้น ชอบนะ
มีเส่น์ดี 55+

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ลุ้นอีกครึ่งนึงอยู่ค่า

ออฟไลน์ K3n0

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ค่อยยังชั่วหน่อยไม่ดราม่าเท่าไหร่ มุ้งมิ้งดีต่อใจนะ  :mew1:

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
มานั่งรอครึ่งหลังค่าา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
ตอนที่ 43 ครึ่งหลัง






“คุณจอมมีความลับสินะครับ”

“ก็...ไม่มีหรอกน่า”

“ยิ่งคุณจอมพูดแบบนี้ ผมก็ยิ่งอยากรู้นะครับ ไหนว่าเราเป็นคนรักกัน ไม่ควรที่จะปิดบังอะไรกันไงครับ แล้วคุณจอมจะปิดบังผมทำไม”

“เอาน่า มันก็ไม่ใช่ความลับอะไรที่มันเลวร้ายหรอก ยังไงสักวันนายก็คงรู้”

ดูเหมือนว่าจักรจะค่อยๆ ตามเจ้าจอมทันขึ้นมาทีละน้อยๆ จนตอนนี้คนที่เริ่มหวั่นใจเป็นฝั่งของเจ้าจอมเองเสียแล้ว

“ครับ...ยังไงผมก็ไม่บังคับจิตใจของคุณจอมหรอกน่า”

“ดีมาก...ทำตัวดี” เจ้าจอมชมยิ้มๆ หากแต่คนถูกชมก็ส่งยิ้มกลับมาแต่เป็นรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ยังไงชอบกล

พอจักรกับเจ้าจอมคบกัน ดูเหมือนว่าจักรจะกล้ากลับร่างกายของเจ้าจอมมากขึ้น อาจจะมากสุดๆ แล้วก็ได้ เพราะจากที่ขออนุญาตก่อน เดี๋ยวนี้อยากจับก็จับ อยากกอดก็กอด

แต่เจ้าจอมชอบนะ อย่างน้อยจักรก็มีความกล้าที่จะแสดงความรักกับเขา

“ไม่มีรางวัลเหรอครับ” ร่างแกร่งถามพลางลูบหลังมือของเจ้าจอมไปด้วย

จุ๊บ!

ก่อนจะยกขึ้นมาใช้ริมฝีปากตัวเองจรดลงบนหลังมือนั่น ทำเอาเจ้าจอมหันหน้าหนีด้วยความเขิน

ถึงว่าเจ้าจอมจะใจกล้า แต่ก็ใช่ว่าจะอายไม่เป็น…

“ก็นี่ไง นายเอาไปแล้ว” ทำเป็นเฉไฉ เตรียมเดินหนี หากแต่ก็ถูกคนตัวใหญ่กว่าสมกอดจากทางด้านหลังแน่น ทำเอาเจ้าจอมต้องซบศีรษะกับแผ่นอกกว้างเพื่อซึมซับความอบอุ่นที่ตนชอบ

หมับ!!

เขาชอบที่ซบอกของจักร มันแข็งแรงและอบอุ่นมาก

“อย่าหนีสิครับ งั้นผมขอกำลังใจก่อนไปทำงานก็ได้”

“หึ! จะเอาอะไรล่ะ”

“จูบเดียวนะครับ นะ...”

“อ้อนจริงๆ เฮ้อ...” คนในอ้อมแขนแกร่งขยับตัวทำท่าจะพลิกมาหาจักร ซึ่งคนตัวสูงจำเป็นต้องคลายการกอดรัดออกเพื่อให้คนน่ารักของเขาหันมาหาได้อย่างง่ายดาย

“ผมรักคุณจอม...”

“ปากหวาน”

ว่าแล้วก็เอาแขนคล้องคอแล้วดึงใบหน้าให้ก้มต่ำลงมาแล้วก็ประทับริมฝีปากบางสวยของตนไปที่ปากหหยักของจักรอย่างต้องการจะชิมว่าจะหวานสมกับคำพูดที่พูดออกมาไหม

จักรรุกล้ำกลับ พลิกมาเป็นฝ่ายรุกจนเจ้าจอมที่รุกในตอนแรกต้องมาเป็นผู้ตามอย่างที่ไม่สามารถห้ามอะไรได้ ใบหน้าสวยเอียงซ้ายคว้าตอบรับจังหวะการจูบเพื่อให้ปากของทั้งคู่สัมผัสมากขึ้นและเร่าร้อน

พอจูบแล้วจักรก็เกิดอาการที่ความต้องการพุ่งสูงขึ้นมา จนต้องผละริมฝีปากออกมาเพื่อหักห้ามใจตัวเองไม่ให้ทำรุ่มร่าม ล่วงเกินเจ้าจอม

“อืม...พอใจหรือยัง”

“มากครับ”

มันไม่พอหรอก...เขาต้องการอีก แต่คงต้องรอว่างกว่านี้ก่อนถึงจะทำได้สินะ

“ดูเหมือนหน้านายจะไม่เหมือนอย่างที่นายว่าเลยนะ” เจ้าจอมแหย่ ดูก็รู้แล้วว่าคนรักกำลังอยากมากแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะจักรเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง

ส่วนเจ้าจอมเองก็ยังอยากจะอยู่กับจักรต่อด้วย...

“ผมกลับแล้วดีกว่าครับ”

“เดี๋ยว...รอก่อนนะ ขอไปเตรียมของก่อน” หากแต่เจ้าจอมกลับเรียกเอาไว้ก่อนจะสั่งให้ เพราะเจ้าจอมจะไปเก็บเสื้อผ้าและข้าวของบางส่วนเพื่อนจะไปกับจักรด้วย

“เอ๋...คุณจอมจะทำอะไรครับ”

“ไปนอนกับนายไง นอนเฉยๆ นะ แล้วจะไปคุมนายไม่ให้ทำงานดึกเกินไปด้วย” จักรแสดงสีหน้าลำบากใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่ไม่อยากนอนกับเจ้าจอม แต่กลัวว่าเขาจะเกเรไม่ทำงานมากกว่า

มีอย่างที่ไหนที่ของหวานอยู่ตรงหน้าแต่ทำได้แค่มอง

ทรมานยิ่งกว่าการไม่ได้เห็นหน้ากันอีกนะ

“ไม่เป็นไรครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำดึกเกินไป”

“ไม่! ฉันจะไปนอนด้วย หรือนายไม่อยากให้ฉันไป”

“อยากสิครับ แต่...” จักรตอบกลับทันที หากแต่ก็ยังมีความลังเลอยู่ จนเจ้าจอมต้องตัดบทอย่างเด็ดขาดว่า

“ไม่มีแต่ ฉันจะไป รอเดี๋ยว”

จักรจะทำอะไรได้ นอกจากยืนรอคนรักตามที่เจ้าตัวสั่ง และเมื่อเจ้าจอมเตรียมเสื้อผ้า ของที่ต้องใช้เสร็จ พวกเขาก็ออกจากบ้านพักของเจ้าจอมแล้วตรงไปที่บ้านหลังเล็กของจักรทันที

เจ้าจอมให้ร่างสูงอาบน้ำก่อนเพื่อจะได้มานั่งทำงานของตน ส่วนเขาก็เข้าไปอาบน้ำเป็นคนที่สอง และออกมาในชุดนอนตัวเก่งที่เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่กับกางเกงขาสั้นตัวเดียว เล่นทำเอาคนที่นั่งทำงานอยู่ถึงกับมองตาม ไม่อาจมีสมาธิจดจ่อกับงานเลย

“ทำงานไปซะ ฉันจะนอนเล่นรอก็แล้วกัน ถ้าฉันเผลอหลับไปนายก็ดูเวลาด้วยก็แล้วกัน บอกฉันไว้กี่โมงแล้วปิดไฟนอนให้ตรงเวลาด้วย อ้อ!! ถ้างานเสร็จไว นายจะได้นอนกอดฉันนานขึ้นนะ”

นับว่าเป็นกำลังใจที่จะทำให้สมาธิและความตั้งใจของจักรกลับมาคืนอย่างเต็มเปี่ยม ชนิดที่สนใจร่างแบบโดยไม่คิดจะมองเจ้าจอมอีกเลย...

ส่วนคนตัวเล็กก็ได้แต่นอนเล่นโซเชียลมีเดียทางโทรศัพท์ยี่ห้อดัง กระดิกขารอเวลานอนหลับของตัวเอง โดยมีความเชื่อว่าจักร ต้องทำงานเสร็จภายในไม่กี่ชั่วโมงนี้แน่ๆ


ตีหนึ่งกว่าๆ ตัวแบบสวนของลูกค้าก็เสร็จ แม้จะเลยเวลาที่บอกเจ้าจอมเอาไว้มาหลายนาทีแล้วก็ตาม แต่ร่างเล็กไม่รู้หรอกเพราะตอนนี้เจ้าตัวนอนหลับไปแล้ว แม้ว่าแสงไฟจะสว่างจ้าเพราะจักรต้องทำงานก็ตามแต่เจ้าจอมที่ง่วงก็ไม่อาจที่จะฝืนเปลือกตาตัวเองได้ ก็เลยหลับไป

ส่วนจักรก็รีบเก็บของก่อนจะเดินไปปิดไฟแล้วขึ้นไปแทรกบนเตียงขนาดไม่ใหญ่มากของตนที่มีคนรักนอนอยู่บนนั้นอยู่แล้ว เพื่อให้บนเตียงมีพื้นที่จักรก็รวบร่างที่บอบบางกว่าผู้ชายทั่วไปมากอดไว้ในอ้อมแขนด้วยความรักและหวงแหน เจ้าจอมเองก็เบียดกายเข้าหาอย่างเคยชิน

“คุณจอม...”

ฟอด!!

จักรหอมแก้มนุ่มๆ ของเจ้าจอมโดยไม่ขออนุญาต เพราะเขาเรียกเจ้าตัวแล้วแต่ร่างบางไม่ตอบรับ นั่นแสดงว่าเจ้าจอมหลับลึกไปแล้ว จักรก็เลยแอบจูบ แอบหอมได้ จริงๆ อยากทำมากกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่มันคงดีกว่าถ้าทำตอนที่เจ้าจอมมีสติดีอยู่...จักรไม่ชอบเอาเปรียบใคร โดยเฉพาะคนที่ตัวเองรัก

จุ๊บ!!

ริมฝีปากของจักรจูบไปทั่วทั้งใบหน้าเพื่อสัมผัสหาว่าริมฝีปากของเจ้าจอมอยู่ตรงไหน เพราะเขาปิดไฟไปหมดแล้ว แสงสว่างมีเพียงแสงจากไฟข้างนอกที่ไม่สามารถส่องผ่านม่านสีทึบของห้องได้ หากแต่สัมผัสก็เหมือนจะเป็นการปลุกคนที่หลับไปแล้วให้ตื่นขึ้นมา

“อือ...กี่โมงแล้ว” เจ้าจอมถามเสียงงัวเงีย จักรเลยหยุดการกระทำทุกอย่างลง แต่มือก็เปลี่ยนมาลูบไปทั่วแผ่นหลังบางแทนเพื่อกล่อมให้ร่างบางสบาย

“ตีหนึ่งครับ” เกือบครึ่งแล้วล่ะครับ...แน่นอนว่าเขาไม่พูดออกไป ถ้าหากเจ้าจอมรู้คงจะต้องไม่พอใจแล้วต้องมาคุมความประพฤติของเขาทุกวันแน่ๆ

จักรไม่อยากให้เจ้าจอมลำบาก ต้องมานอนเตียงเล็กๆ แบบนี้ ถึงแม้ว่าร่างบางจะไม่รู้สึกลำบากอะไร แต่ในฐานะคนรักจักรก็ทนไม่ได้ที่จะเจ้าจอมต้องมานอนอึดอัด

“ดีมาก” เจ้าจอมชมเบาๆ เหมือนละเมอ แต่เจ้าตัวยังมีสติอยู่

“นอนเถอะครับ”

“อื้อ...นายเองก็เหมือนกัน ฝันดีนะ”

“ฝันดีเช่นกันครับ” ถ้าจะให้ดีฝันถึงผมด้วยจะดีมากเลย...จักรคิดในใจ ไม่กล้าพูดออกไป เพราะกลัวว่าจะทำให้เจ้าจอมนอนฝันร้ายเอาได้ หากแต่ประโยคต่อมาของเจ้าจอมทำให้จักรยิ้มมาด้วยความดีใจไม่ได้

คุณจอมรู้ใจไอ้จักรเสมอเลย

“ฉันจะฝันถึงนาย”

“ไอ้จักรก็จะฝันถึงคุณจอม”

หมับ!!

ร่างแกร่งกระชับอ้อมแขนกอดคนตัวเล็กแน่นกว่าเดิมแต่ไม่มากจนทำให้เจ้าจอมอึดอัด จูบเข้าที่ปากบางอีกครั้ง และเน้นย้ำอยู่อย่างนั้นเพื่อนเติมพลังให้ตนเอง แล้วก็หลับตานอนตามเจ้าจอมไปอย่างมีความสุข








ทางด้านของรามินทร์กับอินทัชที่ตอนนี้เปลี่ยนจากประลองไวน์ มาประลองเหล้าต่างประเทศที่รามินทร์พอจะมีอยู่แทน จากที่แข่งอยู่ที่ห้องอาหาร ก็ย้ายมาที่บ้านพักตรงโซฟา

ร่างโปร่งนั่งดื่มแก้วแล้วแก้วเล่าด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย เพราะคุ้นเคยกับมันดี ก่อนที่อินทัชกับเพื่อนรักจะทำงานกันอย่างจริงจัง และก่อนที่เพื่อนเขาจะมีสามีเป็นตัวเป็นตน เขากับธีรไนยเพื่อนรัก ใช้ชีวิตในตอนกลางคืนตั้งแต่เรียนจนถึงทำงาน ดื่มเที่ยวด้วยกันประจำ ดวลเหล้ากันประจำ นับว่าเขากับธีรไนยค่อนข้างคอแข็งเลยทีเดียว แต่ถ้าดื่มเพียวๆ ก็จอดไวเหมือนกัน

“มึงเมามากแล้วว่ะราม พอเถอะ” อินทัชที่ยังมีสติดีอยู่เอ่ยกับร่างสูงที่กำลังดื่มเอาๆ ใบหน้าแดงก่ำ ตาหยาดเยิ้มเพราะเมาไปแล้ว ส่วนอินทัชก็ดื่มเยอะมากพอๆ กับรามินทร์นั่นแหละ ก็เมาเหมือนกัน มึนเหมือนกัน แต่ก็รู้ตัวและมีสติอยู่ ยังไม่ถึงกับจะฟุบเหมือนรามินทร์

“อึก...อิน...กูร้ากกเมิง อึก” ร่างสูงบอกรักเสียงยานคาง พูดไม่รู้เรื่อง ประโยคก็ฟังไม่ได้ศัพท์ แต่อินทัชก็เข้าใจดีว่ารามินทร์กำลังบอกรักตน

“เมาแล้วเรื้อนฉิบหาย”

“ครายมาว อย่ามั่วนะเว้ย” มีการเถียงมาอีก

ยังจะฟังรู้เรื่องอีกนะ...นับว่ายังมีสติอยู่บ้าง

“มึงนั่นแหละราม พอได้แล้ว กูมึนหัว กูอยากนอนแล้ว มึงเองก็ควรจะลากตัวเองไปนอนที่ห้องได้แล้ว ไม่งั้นกูจะทิ้งให้มึงนอนอยู่ตรงนี้นะ” อินทัชสั่ง ก่อนจะสะบัดหน้าไปมาเพื่อเรียกสติที่พร้อมจะดับทุกเมื่อ

ถ่างตาสู้กับความง่วงเพราะตอนนี้ก็ตีหนึ่งกว่าๆ แล้ว พวกเราดื่มมันมาตั้งหลายชั่วโมงแล้ว รู้เลยว่าตอนเช้ามาจะต้องมีอาการยังไง แค่คิดก็ทรมานรอแล้ว

“อือ....พากูไปด้วย” คนเมากว่าขอร้อง

“จะให้กูพาไปไง?”

“ลากกูไปก็ได้”

“วิธีเหี้ยมาก มึงคิดว่ามึงตัวบางร่างน้อยที่กูสามารถแบก สามารถลากได้ง่ายๆ งั้นสิ ตลก”

“ฮ่าๆ” คนเมากว่าหัวเราะชอบใจ

“เหี้ย...กูมึน กูไม่น่าบ้าจี้จริงๆ”

อินทัชรู้ตัวเองดีว่าตอนนี้ตัวเองก็ไม่ไหวแล้ว ทั้งสีหน้า ทั้งสายตามันดูเบลอๆ ไปหมด แต่เขาไม่ใช่คนเมาแล้วพูดมาก พูดไม่รู้เรื่อง เพราะถ้าเขาจะเป็นอย่างนั้นได้มันต้องมาสุดๆ อย่างรามินทร์ ที่ก่อนจะเมาเละ ซัดเหล้าเข้าปากแก้วแล้วแก้วเล่า ส่วนอินทัชค่อยๆ ดื่มทีละนิดในช่วงหลังๆ

กลัวว่าความเมาจะทำให้เราสองคนทำอะไรกันลงไปอีกน่ะสิ

“น้า...” อ้อนตอนเมาได้น่าถีบฉิบหาย

คิดว่าน่ารักตายล่ะ

“เรื่องมากจริงๆ มา!”

หมับ!!

ว่าแล้วก็ค่อยๆ ประคองร่างสูงให้ยืนขึ้น แล้วรามินทร์ที่ตัวสูงกว่าไม่กี่เซ็นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับอินทัชหากแต่เป็นน้ำหนักตัวที่แตกต่างของคนตัวใหญ่คนนี้ต่างหาก

แดกช้างเข้าไปหรือไง หรือว่ากูเมาจนไม่มีแรงวะ

“เดินดิวะ แล้วหน้าไม่ต้องซุกคอได้ไหม” ร่างโปร่งบางพูดสั่งเสียงหงุดหงิด ที่ใบหน้าหล่อของรามินทร์ซุกอยู่ตรงซอกคอเหมือนจงใจ

“กู...ยกหัวม่ายหวาย” ตอบเสียงอู้อี้ พ่นลมหายใจใส่ซอกคอขาวจนอินทัชขนลุกซู่ไปทั้งร่าง แทบจะโยนมันลงที่พื้นแต่เขาก็ไม่ทำ เพราะมองหน้าที่ฟุบอยู่ตรงคอแล้ว มันก็แค่คนเมาไม่มีสติอะไร

อินทัชไม่รังแกคนไม่มีทางสู้หรอกน่า

“เฮ้อ...งั้นเดิน”

“อือ”

อินทัชได้แต่เดินประคองอีกคนเข้าห้องนอนของรามินทร์ไป โดยที่ตนก็พยายามทำให้ตัวเองมองเห็นชัดๆ เหมือนกัน...รู้สึกว่าตัวเองไม่ควรบ้าจี้ทำตามคำพูดท้าทายของมันเลย

 ตุบ!!!

ร่างสูงบางผลักรามินทร์ลงบนเตียงของเจ้าตัวก่อนจะยกแขนยกขาขึ้นไปอยู่บนเตียงให้หมด ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อและถอดเข้มขัดให้จะได้นอนหลับสบาย พอทุกอย่างเรียบร้อย อินทัชก็หันหลังเตรียมกลับห้องเพราะทนไม่ไหวอีกต่อไป เห็นเตียงนอนของรามินทร์แล้วก็คิดถึงที่นอนของตัวเองบ้าง แต่ไม่ทันได้ก้าวเท้า เขาก็ถูกคนที่เพิ่งผลักลงเตียงเมื่อกี้คว้าข้อมือเอาไว้ แล้วกระชากตัวเขาให้ขึ้นไปยังบนเตียงด้วยกัน

หมับ!!

พรึ่บ!!!

“อ๊ะ...ไอ้เชี่ย ปล่อยกูเลยนะ”

เรี่ยวแรงของรามินทร์เหมือนคนที่ไม่ได้เมาเลยสักนิด แต่นั่นคงไม่ใช่...เพราะท่าทางของรามินทร์ถ้าโกหกหรือเสแสร้งแกล้งทำ มีหรือที่คนอย่างอินทัชจะดูไม่ออก

“เอาแรงมาจากไหนวะเนี่ย” ร่างบางบ่นเบาๆ ทั้งพยายามที่จะดิ้นออกจากอ้อมแขนที่รัดแน่นของรามินทร์ที่ดูยังไงก็ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยเขาเลย

“…” ไม่มีสัญญาณตอบรับนอกจากความแน่นิ่งของรามินทร์

“ปล่อยดิวะ”

เขาโดนคนเมาหลับไปแล้วกอดเอาไว้แน่นอนจนไม่สามารถที่จะออกจากอ้อมแขนไปได้ ดิ้นไปก็เหนื่อยเปล่าๆ เพราะขยับตัวมากๆ จะอาเจียนออกมาได้ บวกกับตอนนี้ง่วงและมึนหัวมาก อยากนอนสุดๆ เขาก็เลยขี้เกียจที่จะต่อต้านอะไรอีก ปิดตาหลับไปอย่างไม่คิดจะสนใจเรื่องโดนกอดหรือนอนที่นอนเดียวกันอีก

ไม่ใช่ว่าไว้ใจ...แต่คนเมาน่ะ ไม่มีปัญญาปล้ำใครได้หรอก แล้วยิ่งคนที่มีความผิดอยู่หลายๆ เรื่องอย่างรามินทร์ มันคงไม่ใช่คนที่จะทำร้ายคนที่มันบอกว่า ‘รัก’ ได้หรอก

ถือว่าเป็นกำไรให้เล็กๆ น้อยๆ ก็แล้วกัน...

อินทัชไม่ได้รู้เลยว่าการที่ตนคิดแบบนั้น มันก็เหมือนว่าตัวเองไว้เนื้อเชื่อใจรามินทร์ในระดับหนึ่งแล้ว เพียงแต่ยังไม่รู้ตัวเองเท่านั้นเอง...หรือรู้ตัว แต่ไม่อยากยอมรับ





100%

:katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


   ดึกไปหน่อยแต่ก็ดีกว่าไม่มาเลยนะจ้ะ อ่านแล้วเม้นท์ให้ด้วยน้า...แล้วเจอกันตอนต่อไปนะคะ วันนี้เหนื่อยมากกก (กอไก่ล้านตัว) ฮ่าๆ งานวันนี้ของที่ที่ยูกิฝึกงานอยู่ยุ่งมาก นี่ก็อยู่เลยเวลาเลิกตั้งชั่วโมงครึ่ง ไม่ได้เงินเดือนก็อย่าหวังโอทีเลยค่ะ ใช้งานคุ้มเกิ๊นนนน ฮ่าๆ

ถ้าอยากพูดคุยกับยูกิ หรือติดตามข่าวสารของยูกิ ก็ไปที่แฟนเพจเลยนะคะ ^_^ https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
รอตอนตื่น อย่างใจจรดจ่อออ

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1600
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ดีงามอ่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
หึๆๆๆๆๆ
รามเอ๊ยยยย
ตื่นมาเจอว่าได้นอนกอดอิน เมิงกรี๊ดแน่
ฮ่าาาๆ
สู้ๆนะยูกิ

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 44
จำใจปล่อยมือ

 

ช่วงสายของวันใหม่ รามินทร์รู้สึกถึงแดดที่ส่องกระทบบนใบหน้าเลยตื่นขึ้นมาพร้อมๆ กับความรู้สึกปวดหัวจนแทบระเบิด แล้วก็อยากจะอาเจียนสุดๆ

แฮงค์...

นี่เป็นความรู้สึกแรกที่รามินทร์เข้าใจได้ แต่ยังไม่ทันที่ตนจะทำอะไรกับตัวเอง อะไรบางอย่างที่อยู่ใต้ผ้าห่มก็ขยับยุกยิกเรียกร้องความสนใจจากร่างสูงได้อย่างดี มือกร้านค่อยๆ เอื้อมมาเปิดผ้าห่มออก ก็พบคนตัวบางกำลังนอนขนตัวอยู่ข้างๆ กับเขาโดยที่ไม่ใช้หมอนหนุนศีรษะ มือข้างหนึ่งของอินทัชวางทับที่หน้าท้องของรามินทร์

“อิน…” นับว่าเป็นเช้าที่ดีและมีความสุขที่สุดตั้งแร่รามินทร์เกิดมาเลย

ตอนที่ตื่นมาบอกเลยว่าไม่รู้สึกว่ามีคนนอนอยู่ด้วย ไม่รู้สึกว่ามีแขนวางบนหน้าท้อง แต่พอได้เห็นเท่านั้นแหละ ความรู้สึกที่ควรจะรู้ก็เข้ามาแทนที่ความมึน ความปวดหัวของตนไป

“ทำไมถึงมานอนที่นี่ได้นะ...สงสัยมึงรั้งมันไว้แน่ๆ เลยราม” เขาคิดว่าเป็นตัวเองนั่นแหละอันแรก เพราะถ้าจะให้อินทัชมานอนด้วยความรู้สึกของตัวเองมีความเป็นไปได้ยากกว่าที่ตนจะเป็นคนรั้งให้อินทัชนอนด้วยกัน

“หลับลึกซะด้วย”

จากตอนแรกรามินทร์คิดว่าเขาควรจะลุกขึ้นไปอาบน้ำแปรงฟันให้ตัวเองตื่นเต็มตา แต่ถ้ามีคนนอนอยู่ข้างๆ แบบนี้แล้วก็ขอกอบโกยเอาไว้ให้ถึงที่สุดก็แล้วกัน

ร่างแกร่งจัดท่าทางตัวเองแล้วยกศีรษะของอินทัชให้มานอนทับบนต้นแขนของตน ส่วนคนหลับก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยไม่ว่าจะถูกจัดท่าทางแบบไหนก็เหมือนว่าจะหับลึกเอามากๆ นั่นทำให้รามินทร์พอจะเข้าใจแล้วว่า แอลกอฮอล์สำหรับอินทัชถือเป็นยานอนหลับชั้นดีเลย

“อยากหยุดเวลาเอาไว้ตรงนี้จริงๆ”

พรึ่บ!

อินทัชพลิกตัวนอนตะแคงข้างโดยที่หันใบหน้าสวยหวานราวกับผู้หญิงมาหารามินทร์โดยไม่รู้ตัว  ร่างสูงเองก็นอนมองหน้าหวานนั่นยิ้มๆ  ใช้นิ้วเกลี่ยผมที่ปรกหน้าของอินทัชออก แล้วก็ลูบไล้ใบหน้าคนหลับเบาๆ รามินทร์มีความรู้สึกอยากจะสัมผัสมากกว่านี้ ยิ่งคิดไปถึงเวลาเรามีอะไรกัน ถึงแม้ว่าตอนนั้นเขาจะทำไปด้วยความรู้สึกแบบไหนก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไร

อินทัชเป็นของเขาในทางพฤตินัย ถ้าพูดภาษาชาวบ้านๆ อินทัชเป็นเมียของเขา

“ฮื่อ...” ร่างบางครางอย่างรู้สึกรำคาญเมื่อโดนก่อกวน

รามินทร์ที่กำลังพรมจูบไปทั่วดวงหน้าหวานก็ถึงกับหยุดชะงัก มองคนที่ตัวเองกำลังแอบแต๊ะอั๋งอย่างตื่นเต้น แต่แล้วอินทัชก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมาแค่ขยับตัวเล็กน้อยนั่นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเขาล่ะนะ เพราะนี่เป็นโอกาสที่จะได้แตะต้องตัวของอินทัชโดยที่เจ้าตัวไม่ปริปากว่า

จะหาว่าฉวยโอกาสได้ แต่ก็ช่างหัวมัน เพราะนอกจากเขาแล้วก็ไม่มีใครรู้

“อืม...”

รามินทร์ถูกอารมณ์ชักพาให้รุกล้ำร่างบางอีก ตามความรู้สึกที่ฉุดรั้งตัวเองไว้ไม่อยู่ เขาขบเม้มริมฝีปากของอินทัชก่อนค่อยๆ สอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปอย่างที่ใจต้องการ แต่การจูบกับคนหลับอยู่ก็ไม่ได้เร้าใจอะไรหรอก แต่สำหรับเขาแล้วมีความสุข

สุขที่จะได้ทำ...เพราะพรุ่งนี้ อินทัชก็กลับแล้ว วันนี้เป็นวันสุดท้าย

รามินทร์ที่ขบเม้มริมฝีปากสวยของอินทัชอย่างพอใจก็ผละออกมาดูผลงานของตน ปากบางสวยของอินทัชแดงช้ำจากการขบเม้มของเขา ถ้าหากว่าอินทัชตื่นมาแล้วเห็นคงจะต้องสงสัยแน่ๆ ว่าตัวเองไปโดนอะไรมา

ฟอด ฟอด ฟอด ฟอด...

เปลี่ยนมาเป็นหอมแก้มซ้ำๆ หลายทีเพื่อซึมซับความรู้สึก จับมือของอินทัชมาลูบที่หลังมือเบาๆ ก่อนจะประทับริมฝีปากของตัวเองบนนั้น

จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ...

การกระทำของรามินทร์ตอนนี้ไม่ต่างไปจากคนคลั่งไคล้ในตัวของคนๆ หนึ่งเท่าไหร่ ถ้าเกิดว่าไม่มีคดีติดตัวรับรองว่าอินทัชจะไม่ได้นอนให้เขากอดให้เขาลวนลามแบบนี้แน่ๆ

อย่างน้อยก็จนกว่าใครสักคนจะ ‘สลบ’ หรือว่า ‘หมดแรง’ ไปนั่นแหละ

“กูจะไปเตรียมข้าวเช้าให้มึงดีกว่า ฝันดีนะ” ร่างสูงกระซิบที่ข้างหูของอินทัชเบาๆ ทั้งๆ ที่อยู่กันแค่สองคนไม่จำเป็นต้องกระซิบกระซาบก็ตามที

ร่างโปร่งบางขยับเล็กน้อย คิ้วสวยขมวดแน่นราวกับหงุดหงิดก่อนที่อินทัชจะพลิกตัวหันหลังให้กับรามินทร์

พรึ่บ!!

“รักมึงนะอิน” ร่างสูงเองตามมาบอกรักแล้วก็หอมแก้มอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไป...

ปัง!!

เมื่อเสียงปิดประตูห้องน้ำดังขึ้น อินทัชที่นอนหลับอยู่ก็เม้มริมฝีปากตัวเองอย่างประหม่า เปลือกตาค่อยๆ เปิดรับแสงอรุณยามสาย ยกมือขึ้นสัมผัสที่แก้มของตนเบาๆ สลับกับจับที่หัวใจของตัวเองเพื่อจับจังหวะอัตราการเต้นของหัวใจ ถ้าถามว่าอินทัชรู้สึกตัวตอนไหน ก็คงจะเป็นตอนที่ถูกหอมแก้มครั้งแรกก่อนจะจูบนั่นแหละ

ช่วงที่เขาส่งเสียงครางเหมือนรำคาญ ตอนนั้นคือกำลังรู้สึกตัว แต่พอรู้ว่าตัวเองกำลังโดนลวนลามก็เลยทำเป็นหลับต่อไม่ลืมตาอย่างที่ใจอยากทำ ไม่คิดว่ารามินทร์จะกล้าทำถึงขั้นจูบ

มันกล้ามาก กล้าที่ทำกับเขาแบบนี้...

“เฮ้อ...” ถอนหายใจออกมา ก่อนจะปิดเปลือกตาตัวเองหลับไปอีกครั้ง เพราะยังง่วงอยู่ ที่ตื่นมาเพราะรู้สึกเหมือนรบกวน ไหนๆ มันก็ทำไปแล้ว

จะทำเป็นไม่รู้ก็แล้วกัน...


เกือบชั่วโมง อินทัชตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยความรู้สึกที่นอนต่อไปไม่ไหว ความร้อนและเหนียวตัวอยากจะอาบน้ำ เนื่องจากเมื่อคืนก็ไม่ได้อาบน้ำก่อนนอน ก็นอนไปทั้งที่ตัวเองเน่าๆ อย่างนั้นแหละ

“จะสิบโมงแล้วหรือเนี่ย” อินทัชพึมพำขณะที่มองนาฬิกาในห้องนอนของรามินทร์ เขาเลยรีบออกจากห้องของเจ้าของรีสอร์ทไปยังห้องเล็กของตัวเองทันที

อินทัชใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานเป็นพิเศษ และนานมากจนเจ้าของบ้านต้องถือวิสาสะเข้ามาตามในห้อง

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“อิน...มึงอยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า”

ร่างโปร่งที่กำลังยืนล้างตัวหันไปมองที่หน้าประตูทันที

“เออ!! กูอยู่ในห้องน้ำ”

“รีบออกมานะ ข้าวเช้าพร้อมแล้ว”

ต้องพูดว่าเป็นข้าวเช้าที่น่าจะควบข้าวเที่ยงเลยเพราะมันอยู่กึ่งเช้ากึ่งเที่ยงไปแล้ว ก็พวกเขาเล่นนอนตื่นสายกันทั้งคู่นี่นา ทำไงได้ เพราะมัวแต่ดวลเหล้ากัน

ตื่นมาก็แฮงค์กันไปตามระเบียบ อย่างอินทัชนี่ก็มีอาการ แต่ก็ไม่ถึงกับหนักมาก เพราะร่างกายชินกับการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากๆ แล้ว

“เออๆ อีกห้านาทีกูจะออกไป”

“อย่านานล่ะ”

“เออ!!”

รามินทร์ออกไปจากห้องนอนเล็กแล้วก็ไปนั่งรออินทัชที่โต๊ะอาหารที่มีข้าวต้มร้อนๆ กับน้ำส้ม ไม่นานอินทัชก็ออกมาสีหน้าของร่างโปร่งดูยังคงมึนๆ อยู่เลย

“รู้สึกไงบ้าง”

“ก็มึนๆ” เขาตอบพลางเลื่อนเก้าอี้นั่งฝั่งตรงข้ามกับรามินทร์ ไม่ต้องให้ใครบอกให้เริ่มทาน อินทัชก็จัดการตักข้ามต้มตรงหน้าตัวเองทานด้วยความหิว

ส่วนรามินทร์เองที่เห็นแบบนั้นก็เริ่มทานตามอย่างเงียบๆ เขาปล่อยให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารไปอย่างเงียบเชียบแบบนี้แหละ เพราะรามินทร์เองก้ใช่ว่าจะสดชื่นเต็มร้อยนัก เพราะเขารู้ตัวเองดีว่าดื่มหนักกว่าอินทัชเยอะเลย ไม่งั้นก็คงจะพอจำเหตุการณ์ต่างๆ ตอนกลางคืนได้บ้าง

ไม่ใช่มาเห็นเอาตอนเช้าเลย

“เดี๋ยวกูล้างเอง” รามินทร์อาสาเมื่อเห็นว่าอินทัชกำลังยกจานไปล้าง

“ตามใจ”

คนตัวบางก็ไม่คิดจะปฏิเสธความหวังดีนั่น วางจานลงที่เดิมแล้วออกจากตรงนี้ไปนั่งเล่นที่โซฟา เปิดโทรทัศน์ดูรายการทีวีไปด้วยเพื่อฆ่าเวลาว่าง

ฟุบ!!

รามินทร์ที่ล้างจานเสร็จแล้วเดินมานั่งลงข้างๆ กับอินทัชที่นั่งมองทีวีไม่สนใจอะไรเขาเลยสักนิด

“อิน...ไปข้างนอกกันไหม”

“ไปไหน”

“กูจะพาไปเที่ยวแถวๆ นี้แหละ เขาค้อมึงยังเที่ยวไม่ครบเลยนี่”

“อืม...ตอนนี้กูกำลังขี้เกียจอ่ะ”

“งั้นเหรอ…” ครางรับเสียงเบา

ยอมรับว่ากำลังคิดมาก กลัวว่าวันนี้จะไม่ได้ไปไหนหรือทำอะไรกับอินทัชอย่างที่ควรเป็นตั้งแต่เมื่อวานที่เขาวางแผนเอาไว้ แต่ฝนไม่เป็นใจ ตกทั้งวันแบบนั้น วันนี้เขาก็ยังได้รับโอกาสที่อินทัชให้มันกับเจ้าจอม ด้วยการอยู่ต่ออีกวัน ทั้งๆ ที่วันนี้...ควรเป็นวันที่เราจากกัน

“ถามหน่อยสิ หลังจากวันนี้ไปแล้ว ถ้าเกิดกูบังเอิญเจอมึงตามข้างทาง กูสามารถเข้าไปทักมึงได้ไหม” ร่างสูงถามขึ้นมา

“ก็คิดว่าไงล่ะ ขอตกลงของเราคือจะไม่รู้จักกันอีก เราจะเป็นแค่คนแปลกหน้าต่อกัน”

“ไม่ได้สินะ”

ในขณะที่ร่างสูงก้มหน้าก้มตาเพราะเศร้าใจ อินทัชก็หันมามองคนตัวสูงกว่าแล้วยิ้มมุมปากน้อยๆ ส่ายหน้าไปมากับความขี้น้อยใจของรามินทร์

มันดูตลกดีนะ...

“ก็แน่ล่ะ”

“เฮ้อ...ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว กูเจ็บ” คำว่าเจ็บของรามินทร์ทำให้อินทัชรู้สึกใจสั่นแปลกๆ เหมือนกัน แต่ก็ทำเป็นใจแข็งไม่รู้สึกอะไรกับมัน

“มีแผนจะพาไปไหนก็ว่ามา กูจะไปด้วยก็ได้”

“จริงนะ!”

“เออ...”

“เดี๋ยวนี้ ทันทีเลยนะ”

“เออ...”

“มึงไม่ได้หลอกกูนะ”

“เออ...”

“อย่า...”

“ไอ้ราม!! นี่มึงอายุกี่ขวบแล้ววะ กูบอกว่าไปก็คือไป จะถามมากๆ เป็นเด็กอยู่ทำไม” อินทัชแทรกขึ้นมาก่อนที่รามินทร์จะถามประโยคต่อไปที่เป็นคำถามเหมือนพวกย้ำคิดย้ำทำ ถามซ้ำๆ ซากๆ ย้ำอยู่นั่นแหละ

ที่ผ่านมาเขาเคยผิดสัญญาหรือไง...

“ขอโทษ...กูแค่ดีใจ” ร่างสูงทำหน้าสำนึกผิดจนอินทัชถอนหายใจอย่างระอา

มุมแบบนี้เขาก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ มันดูเป็นเด็กปัญญาอ่อน...

“เฮ้อ...”

เพลีย...

...

...

...


“วัด?”

อินทัชมองไปรอบๆ สถานที่ที่รามินทร์พามาด้วยความฉงนใจ เพราะคิดว่าเจ้าตัวแผนการพาอินทัชมาที่วัด...เป็นวัดที่สวยมากๆ ด้วย ไม่คิดว่าจะอยู่ห่างจากตัวรีสอร์ทไม่เท่าไหร่

“อืม...กูคิดว่าเราควรจะมาไหว้พระ ทำบุญ แล้วก็อโหสิกรรมให้กัน”

“ทำไม? ไม่ได้โอกาสแต่จะเอาอโหสิแทนสินะ หัวหมอนะมึง”

“แน่นอนสิ...อย่าคิดว่ามึงฉลาดเป็นคนเดียวนะอิน”

“กูก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองฉลาดคนเดียว แต่กูคิดว่ากูฉลาดกว่ามึง”

“อ้าว? ไหงพูดงี้อ่ะ”

รามินทร์วิ่งตามอินทัชที่ทิ้งประโยคที่ไม่รู้ด่าหรืออะไรไปทันที จนได้เดินคู่กันไปในตัววัด ในฐานะเจ้าบ้านที่ดี รามินทร์เลยพาไปยังที่ต่างๆ เพื่อไหว้สักการบูชา

ยอมรับว่าอินทัชสบายใจมากที่ได้มาที่นี่ มันรู้สึกสงบจิตสงบใจ อะไรที่ที่เคืองข้องหมองใจก็มลายหายไปทันที เหมือนกับว่าเขาได้เจอทางแห่งสวรรค์ แม้จะไม่ได้มาเพื่อเรียนรู้ธรรมะ แต่เขาก็เข้ามาด้วยจิตที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาคนหนึ่ง อินทัชไม่รู้หรอกว่าธรรมะคืออะไรเป็นยังไง แต่ตอนนี้...จิตใจของเขาสงบก็พอ

“เป็นไงบ้าง”

“กูรู้สึกสงบมาก”

“ที่นี่ดีนะ กูมาบ่อยๆ เวลากูมีเรื่องทุกข์ใจ กูจะมาที่นี่ มาไหว้พระ มาทำบุญ แล้วก็มาคุยกับหลวงพ่อให้ท่านช่วยสอนอะไรต่างๆ ให้...”

“มึงมีมุมแบบนี้ด้วย?” อินทัชทำหน้าไม่เชื่อ

“กูก็เป็นคนมีธรรมะในหัวใจนะเว้ย”

“เหรอ...” ลากเสียงยาวแบบไม่เชื่อ

เพราะสิ่งที่เขาเจอมา มันตรงข้ามกับสิ่งที่รามินทร์พูดน่ะสิ

“จริงดิวะ ที่กูทำทั้งหมดกับมึงนั่นน่ะ ไม่ใช่นิสัยจริงๆ ของกูนะ นิสัยจริงๆ ของกูนี่โคตรของต้นแบบความดีเลยนะเว้ย อ่อนโยน พูดเพราะ ใครๆ ก็รักกูนะ”

อวดซะดูกลายเป็นคนหลงตัวเองเลยทีเดียว อินทัชเบะปากด้วยความหมั่นไส้ เอาเข้าจริงๆ ความรู้สึกโกรธ โมโหจนไม่สามารถให้อภัยได้มันกลับมีแต่ความรู้สึกเฉยๆ ไม่รู้ว่าจะให้อภัยได้ไหม แต่รู้สึกว่ามันเฉยๆ แล้ว

“พอๆ กูจะอ้วกกับความดีของมึงจริงๆ”

“หึหึ”

“ในวัดในวาก็ยังไม่เว้น พูดโกหกในวัดมันบาปนะ มึงไม่รู้หรือไง”

“กูไม่ได้โกหกเสียหน่อย”

“พอๆ พูดไปยังไงกูก็ไม่เชื่อ”

ระหว่างที่พวกเขาสองคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ ก็มีเด็กวัดคนหนึ่งเดินเข้ามาหารามินทร์ด้วยท่าทางที่สนิทสนม

“พี่ราม สวัสดีครับ”

“อืม...เป็นไงบ้าง พี่ไม่ได้มาเดือนเดียว ดูอ้วนขึ้นนะเนี่ย”

“โหย...พี่ราม ช่วงนี้คนทำบุญเยอะมากเลย แล้วก็มีขนมมาถวายเยอะมาก ก็เลยตกมาถึงเด็กวัดเยอะมากๆ ด้วย ผมก็เลยกินจนพุงกางเลย อิอิ”

“มิน่าล่ะ หัดออกกำลังกายบ้างนะ ไม่งั้นเอ็งไม่หล่อเหมือนพี่นะเว้ย”

“โหย ถึงผมจะผอมก็หล่อสู้พี่รามไม่ได้หรอก”

“ว่าแต่มาหาพี่มีอะไรหรือเปล่า” รามินทร์ถาม

“เมื่อกี้ไอ้แคนมันเห็นพี่มาวัดเลยไปบอกหลวงพ่อ หลวงพ่อก็เลยใช้ให้ผมมาตามพี่ไปพบท่าน ท่านมีเรื่องจะพูดกับพี่รามแหนะ”

“งั้นเหรอ โอเคๆ เดี๋ยวพี่จะไปหาท่าน มึงอ่ะ จะไปกับกูไหม” ร่างสูงหันมาถามอินทัชที่นั่งมองอยู่ แต่ได้รับคำตอบเป็นการส่ายหน้าไปมาแทน

“กูอยู่แถวนี้แหละ อยากเดินเล่นรอบๆ ดู”

“เอางั้นหรือ งั้นลี่พี่ฝากพี่ชายคนนี้หน่อยนะ” รามินทร์หันไปฝากฝังอินทัชกับเด็กวัดวัยรุ่นที่ดูว่าอายุไม่น่าจะเกินเด็กมอต้น

“สวัสดีครับ โหยพี่...เพื่อนพี่รามหล่อมากอ่ะ” เด็กหนุ่มยกมือไหว้อินทัชก่อนจะขยับไปกระซิบกับรามินทร์อย่างตะลึง เรียกเสียงหัวเราะจากรามินทร์และอินทัชได้ทันที

เด็กๆ ก็แบบนี้แหละ จะหล่อจะสวย แต่ถ้าเป็นผู้ชายก็ว่าหล่อหมด แต่ถ้าเป็นผู้หญิงก็จะว่าสวยหรือไม่ก็เท่ห์ ยังแยกไม่ออกว่าอะไรเรียกสวยหรือหล่อจริงๆ

อย่างน้อยก็เป็นคำชมที่ทำให้อินทัชดีใจล่ะนะ






50%

 o13 o13 o13 o13


   สวัสดีค่า มาลงต่อให้แล้วนะคะ เป็นยังไงกันบ้าง สนุกหรือไม่สนุกยังไง บอกยูกิได้นะคะ เม้นท์บอกได้เลยค่ะ ^_^ อย่าลืมช่วยกันเม้นท์น้า เจอกันอีกทีวันเสาร์จ้า ^^

   พูดคุย สอบถาม ติดตามข่าวสารการอัพนิยาย ให้ไปที่แฟนเพจของยูกิได้เลยนะคะ https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
รู้สึกว่า อิน อ่อนลงมากเลย ไม่ใช่ใจอ่อนนะ เหมือนหมดคำจะด่าล่ะ กลายเปนเฉยๆไปล่ะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
มีแอบจุ๊บตอนหลับด้วย
 :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด