Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก >> ตอนพิเศษ 3 60% => (05/10/61) P.34 <=  (อ่าน 228534 ครั้ง)

ออฟไลน์ viewier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
ให้เค้าไปเถอะอินเอ้ย :hao6:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ถึงจะแกร่งแค่ไหน ก็แพ้ใจตัวเองนะอิน  :mew1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ยอมได้แล้วอิน :mew2:

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
อ๊ายยยย ธีร์นี่เป็นตัวเชื่อมที่ดีจิงๆ
ปล. เป็นจูบที่หวานมากในความรู้สึก
หัวใจเต้นแรงอะ ราวกับรอคอยสิ่งนี้มานาน
งื้ออออ รักรามอิน

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เหอเหอ... จะยังไงดี..

ออฟไลน์ ASAMENG

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เจ็บแล้วจำ มันก็ดี แต่เจ็บแล้วเจ็บอีก มันจะไม่จบนะ

อินน่าสงสารนะ เจ็บมาเยอะ จะให้ยอมรับว่ารัก ก็ทำใจยาก แล้วยังไม่อยากให้รามไปวุ่นวายกับคนที่เข้าหาอินด้วย
รักก็รัก ห่วงก็ห่วง แต่ก็ยังเจ็บอยู่ เลยปากแข็งไปงั้น

รามก็รุกจริง รุกจัง ดีแล้ว ต้องแก้ตัวนะ ถ้ารักจริง ต้องยอมให้ช้ำกันไปข้าง

ธีร์กวนประสาท สนิทมากก็รู้ใจมาก แต่ชอบอะ รักกันดี

ขรรค์เอ้ยย เกือบไม่รอดไหมล่ะ เงินเกือบล้มนะ
แม่เงินคงได้บทเรียนเยอะกว่าเดิม แล้วตอนนี้คงเคลียร์กันไปบ้างแล้วใช่ไหมคะ

จักรจอม ถ้ายอมพูดกันแต่แรกว่า เจอปัญหา คงหวานชื่นไปนานละ เรียนรู้กันไปนะ
แต่ตอนนี้พอหวานกันแล้ว คือยอมใจ จักรทำตัวเลี่ยนได้อีก 5555


ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 51
เรื่องของเจ้าจอม




เวลาผ่านไปสองชั่วโมงกว่าตอนนี้ก็เลยมาวันใหม่แล้ว รามินทร์ปล่อยให้อินทัชนอนอยู่นิ่งๆ ในอ้อมกอดของเขา เพราะเจ้าตัวร้องไห้หนักมาก จนเหนื่อยแล้วก็หลับไป

แต่ดูเหมือนตอนนี้...อินทัชจะรู้สึกตัวแล้ว

“อื้อ...”

ตอนนี้เป็นเวลาเกือบหกโมงเช้าแล้ว รามินทร์รู้สึกว่าไม่อยากให้อินทัชตื่นขึ้นมาเลย อยากจะให้นอนนานกว่านี้อีก จะได้อยู่กับเขาให้ได้นานที่สุด

อินทัชค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับลุกจากอ้อมแขนของรามินทร์ที่เขาจำได้ว่าเผลอหลับไปตอนที่กำลังร้องไห้อยู่ และก็เป็นการนอนที่หลับสนิทที่สุดในรอบหนึ่งเดือนเลย

“กี่โมงแล้ว”

“ยังไม่เช้าเลย มึงนอนต่อไปก็ได้”

“ไม่เอา...กูมีงานต้องทำ” อินทัชตอบเสียงเบา มองหาทาง จะเดินลงจากเตียงเพราะมันยังมืดอยู่ก็เลยลำบากที่จะหาทางจะออกไปที่นี่

อินทัชเผยความอ่อนแอไปแล้ว และไม่อยากจะให้รามินทร์รู้ว่าเขารู้สึกยังไง..ต่อให้รู้แล้ว อินทัชก็จะไม่ยอมรับอะไรทั้งนั้น...

“งานอะไรนักหนา ต้องไปแต่เช้า”

“กูจะไปนอนต่อที่คอนโด”

“แล้วนอนที่นี่ต่างจากคอนโดมึงตรงไหน” ร่างสูงคว้าร่างของอินทัชเอาไว้ ไม่ยอมปล่อยให้ขยับหนีได้อีก อินทัชรู้สึกถึงความเครียดที่เล่นงานตนเองแต่เช้า

“ต่างสิ อยู่ที่นี่กูนอนไม่หลับ มันจะทำให้กูพักผ่อนได้ไม่เพียงพอ”

“กูเห็นว่ามึงหลับสบายดี”

“มึงจะมารู้ดีกว่ากูได้ยังไงไอ้ราม ปล่อย กูจะกลับคอนโดกู”

“ไม่ปล่อย มึงนอนที่นี่แหละ แล้วจะตื่นกี่โมงก็บอก กูจะปลุกมึงให้ รับรองว่ามึงไปทำงานไม่สายหรอก กูจะไม่ทำให้เจ้าของบริษัทไปสายแน่ๆ โอเคนะ”

อินทัชเห็นว่าคงไม่มีทางที่เขาจะได้กลับไปอย่างที่หวังก็ได้แต่ถอนหายใจแรงๆ แต่ก็ยอมทิ้งตัวนอนลงบนที่นอนด้วยความเพลีย อินทัชไม่มีพลังจะมาเถียงหรือขัดขืนอะไรรามินทร์แล้ว...ถ้าการได้อยู่ใกล้กับรามินทร์มันทำให้เขานอนหลับสบาย ก็ขอกอบโกยเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน

“จะให้ปลุกกี่โมงครับ ท่านนักธุรกิจใหญ่”

“กูจะเข้าบริษัทสิบโมง”

“งั้นสักเก้าโมงกูจะปลุกก็แล้วกัน โรงแรมกูไม่ได้อยู่ไกลจากที่ทำงานมึงมากนัก”

“อือ...ห้ามรบกวนด้วย”

“ไม่รบกวนหรอกน่า เพราะกูจะนอนด้วย”

“เรื่องของมึงเถอะ แต่อย่าทำอะไรกูก็พอ ถ้ามึงทำ อย่าหวังเลยว่าจะมีครั้งหน้าที่เราจะเจอกันอีก” อินทัชคาดโทษเอาไว้ก่อนล่วงหน้า เผื่อว่ารามินทร์มันคิดจะแตะต้องตัวของเขา

โดยไม่ได้ไตร่ตรองคำพูดของตัวเองเลยสักนิดว่ามันเป็นการสัญญาหากรามินทร์ไม่ทำอะไรอินทัชก็จะมีโอกาสได้เจอในครั้งต่อไป...

“มึงพูดแล้วนะ”

“พูดอะไร”

“ถ้ากูไม่ทำอะไรมึง คราวหน้าเราจะเจอกันอีก”

“ไม่ได้พูดเว้ย!!”

“มึงลองคิดดีๆ ที่มึงขู่กูเมื่อกี้น่ะ มันหมายความว่าแบบนั้น”

ร่างโปร่งรู้สึกพูดอะไรไม่ออกเป็นครั้งที่สอง เลยหายใจฮึดฮัดเอาผ้าห่มขึ้นคลุมโปงหนีไป เสียงหัวเราะเบาๆ เลยออกมาจากรามินทร์อย่างชอบใจ

รามินทร์นั่งพิงหัวเตียงมองร่างที่ถูกผ้าห่มคลุมจนมองไม่เห็นแม้แต่ปลายเท้าหรือเส้นผมด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความสุข

“กูไม่นอนหรอก กูจะนั่งมองมึงแบบนี้แหละ เพราะกูไม่รู้ว่าจะมีโอกาสหน้าไหม...ที่จะได้นั่งมองมึงแบบนี้”

กลัวว่าจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว…

รามินทร์รู้...ว่าอินทัชยังไม่หลับในทันทีหรอก ทางด้านร่างโปร่งที่ได้ยินประโยคนั้นอย่างชัดเจนก็ไม่สามารถควบคุมความรู้ของตัวเองได้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้สึก ไม่ใช่ว่าไม่เจ็บ

แต่เราไปกันไม่ได้หรอกยังไงก็ไม่มีทางที่จะไปกันรอดเลย เจ็บกันตอนนี้ดีกว่า





 

“ดีนะที่ไอ้ขรรค์มันฟื้นแล้ว ไม่งั้นนะ หมอเงินคงได้ล้ม เป็นอะไรไปอีกคนแน่ๆ” จุลจักรเอ่ยขึ้นมาขณะที่เขากับคนรักเดินออกจากโรงพยาบาลหลังเยี่ยมขรรค์เสร็จแล้ว

“ฉันก็คิดว่าแบบนั้น แต่พี่ขรรค์ดีขึ้นแล้ว ฉันก็คงจะต้องกลับแล้วล่ะ”

“คุณจอมจะกลับวันไหนครับ”

“ฉันคุยโทรศัพท์กับพี่รามเมื่อเช้า พี่รามบอกว่าจะขออยู่ที่นี่ต่ออีกหน่อยเลยให้ฉันกลับไปก่อน ฉันก็จำเป็นต้องกลับไปล่ะนะ เพราะช่วงนี้ลูกค้าเยอะมาก คุณภพคงจะดูแลคนเดียวไม่ไหวแน่ๆ”

“แต่ว่า...ตั้งแต่คุณจอมมา เรายังไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันเลยนะครับ มีแค่วันที่ไปดื่มวันเดียวเท่านั้นเอง”

“ก็นายมีงานต้องทำนี่” เจ้าจอมพูด

ร่างบางเองก็รู้สึกเสียดายที่ได้อยู่กับจุลจักรแค่ช่วงตอนกลางคืนไม่กี่ช่วงโมง เพราะจุลจักรต้องทำงาน และมันเป็นช่วงฝึกงานกับทดลองงาน อินทัชก็บอกเหตุผลกับเจ้าจอมแล้วว่าช่วงสามเดือนก็จะเป็นแบบนี้แหละ

“ขอโทษนะครับ แต่คุณจอมต้องอดทนนะครับ ผมก็จะอดทนเหมือนกัน แล้ววันของเราจะมาถึง อีกไม่นานหรอกครับ อีกไม่นาน”

“ฉันเพิ่งจะมารู้นะจักร ว่าการที่ไม่มีอยู่ด้วยทำให้ฉันเหงากว่าที่คิดอีก” เจ้าจอมพูดออกมาตามที่ตัวเองรู้สึก ในแต่ละวันที่อยู่คนเดียวตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เจ้าจอมไม่มีความสุขเลย มันมีความสุขแค่ช่วงเวลาเดียวคือตอนที่จุลจักรโทรศัพท์มาหา

เจ้าจอมจะไม่เป็นคนที่โทรไปหา เพราะกลัวจะไปรบกวนเวลาทำงาน เลยให้จุลจักรเป็นฝ่ายโทรมาหาเอง

“ผมเป็นยิ่งกว่าอีกครับ”

“ทำไงดีจักร...ฉันยังไม่อยากกลับเลย”

“คุณจอมจะกลับวันไหนครับ”

“พรุ่งนี้”

ร่างแกร่งนิ่งไปเมื่อได้รับคำตอบที่มันค่อนข้างจะกะทันหัน ร่างทั้งร่างเลยชะงักอยู่กับที่แบบนี้จนเจ้าจอมเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน หากแต่เขาก็ต้องทำเป็นเข้มแข็งเข้าไว้

ยังซะ!! มันก็เป็นเรื่องเราต้องผ่านมันไปให้ได้

“ทำไมเร็วล่ะครับ”

“ลูกค้าเยอะมากนะจักร ฉันในฐานะน้องก็ต้องทำหน้าที่แทนพี่ชาย ในขณะที่พี่รามยังตามง้อพี่อินอยู่” เจ้าจอมไม่ได้โกรธรามินทร์ที่ให้เหตุผลว่าจะอยู่ที่นี่ต่อเพราะต้องการง้ออินทัช เพราะอย่างน้อยเจ้าจอมกับจุลจักรก็รักกัน คบกันเป็นคนรัก แต่รามินทร์กับอินทัชมันยังคงคลุมเครือ

เจ้าจอมรู้จักพี่ชายตัวเองดี ว่าถ้ารักใครไปแล้ว ก็จะรักคนนั้นมากๆ รักจนยอมทำทุกอย่าง...

“นั่นสินะครับ ผมขอโทษนะคุณจอม”

“ไม่เป็นไรหรอก”

“งั้นวันนี้คุณจอมไปนอนกับผมที่คอนโดนะครับ”

ร่างเล็กยิ้มให้แล้วพยักหน้าเป็นการตอบรับ

“ตอนนี้นายควรไปทำงานได้แล้วจักร ขอเข้าช้าไปแล้วก็ไม่ควรที่จะสายเกินไปนะ”

“ครับคุณจอม”

“เดี๋ยวฉันไปส่ง”

“ครับ”

...

...

...


 
“ไง! หาบ้านเจอด้วยเหรอ”

กึก!!

สองเท้าชะงักกึกอยู่กับที่เมื่อเจอคำทักทายที่ไม่สมควรที่จะออกมาจากปากของคนที่เพิ่งเจอกันในรอบหลายปี แต่ก็อย่างว่าแหละถึงเจอกันบ่อยๆ ก็ไม่ได้ดีไปกว่านี้ ขนาดโทรศัพท์คุยกัน ก็ยังทะเลาะกันตลอด

“ก็ไม่ได้อยากจะมานักหรอก แต่มาตามหน้าที่ สวัสดีครับพ่อ แม่” เจ้าจอมยกมือไหว้พ่อกับแม่ของตนเอง ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะพูดดีๆ กับท่านทั้งสอง แต่ระหว่างเราสามคน มันมีบรรยากาศแย่ๆ ร่วมกันมาหลายปีแล้วตั้งแต่วันที่เจ้าจอมสารภาพว่าไม่ได้ชอบผู้หญิง จนโดนไล่ออกจากบ้านไป

“ดูมันพูดซิ!!”

“งั้นจอมลานะครับ” เจ้าจอมที่เห็นว่าพ่อกำลังหัวเสีย เขาก็ไม่อยากอยู่ให้ต้องทะเลาะกัน ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน การที่เขาเป็น ‘เกย์’ ก็เป็นที่น่ารังเกียจของพ่อแม่อยู่ดี

มันเสียใจ จนด้านชาไปหมดแล้ว

“เดี๋ยว!!! แกยังคบอยู่กับไอ้บ้านนอกนั่นอยู่หรือเปล่า”

“พ่อจะอยากรู้ไปทำไม”

“ฉันก็ต้องรู้สิว่าลูกมันไปเกลือกกลั้วกับพวกกระจอกหรือเปล่า ฉันจะบอกไว้ให้เลยนะ ว่าถ้าแกจะเป็นพวกร่วมเพศ แกก็ต้องเอาคนที่ฉันหามาให้เท่านั้น”

“ทำไมจอมต้องทำตามที่พ่อบอกด้วย ทั้งๆ ที่ผ่านมาพ่อไม่ใยดีอะไรลูกชายคนนี้เลย”

“ก็ใครให้แกเกิดมาผิดเพศล่ะ!!!”

“แล้วให้จอมเกิดมาทำไม!!!”

เจ้าจอมตะโกนกลับไปอย่างอัดอั้นใจ มองหน้าพ่อกับแม่อย่างตัดพ้อ น้อยใจ แต่คนเป็นพ่อแม่ก็ไม่เข้าใจ มองหน้าลูกชายคนเดียวด้วยความโทสะ

บางทีเจ้าจอมก็อยากรู้...พ่อกับแม่รักเขาบ้างไหม...

หรือแค่รักตัวเอง...

“จอมบอกไว้เลยว่าจอมเลือกจักร จอมจะใช้ชีวิตกับเขา!! จอมจะไม่เอาผู้ชายที่พ่อกับแม่หามาให้เด็ดขาด จอมมีชีวิตเป็นของตัวเองมานานแล้ว”

“นี่เจ้าจอม...ลูกกำลังขึ้นเสียงกับพ่อและแม่อยู่นะ” หญิงสาวที่เป็นแม่ของเจ้าจอมพูดอย่างไม่พอใจ

“แล้วแม่จะให้จอมทำยังไง พ่อกับแม่ไม่เคยถูกบังคับเหรอ ถึงไม่รู้ว่ามันทรมานยังไง” คำถามของเจ้าจอมทำเอาสองสามีภรรยามองหน้ากันนิ่งๆ

“แต่แกเป็นลูก แกต้องเชื่อฟังพ่อแม่ ที่ให้กำเนิดแกมา”

“นั่นหมายถึงความกตัญญูใช่ไหมครับพ่อ” ร่างเล็กถามเสียงสั่น

“ใช่!!”

“แล้วความรัก...ที่พ่อกับแม่ควรมีให้ลูกล่ะครับ จอมมีโอกาสหรือมีสิทธิ์ได้ไหม”

สองสามีภรรยามองหน้ากันอีกครั้ง เพราะไม่รู้จะตอบคำถามนี้ยังไง ถ้าถามว่ารักลูกไหม พ่อแม่ที่ไหนบ้างจะไม่รักลูก แต่การรักลูกของคนเรามันต่างกัน

อย่างพวกเขาก็ต้องการให้ลูกได้คนที่เหมาะสมที่สุด ไม่ใช่จะไปคว้าใครที่พวกเขาเห็นว่าไม่สามารถดูแลลูกของพวกเขาได้...

“จอมจะกลับแล้ว แค่แวะมาทักทาย เห็นพ่อกับแม่สบายดีก็หมดห่วงแล้ว สวัสดีครับ” ร่างบางยกมือไหว้พ่อแม่ของตนแล้วเดินออกจากบ้านแห่งนี้ไปทันที ไม่ได้โกรธ ไม่ได้โมโห แต่ก็เป็นอารมณ์เดิมๆ ที่ถาโถมเข้ามา

น้อยใจ...

รามินทร์สอนให้เจ้าจอมแวะมาหาพ่อกับแม่บ้าง ถ้าครั้งไหนมากรุงเทพก็ให้มา แม้ว่าจะต้องมาทะเลาะกันตลอด ก็ต้องมา ยังไงท่าก็เป็นพ่อแม่ แต่แล้วยังไง มาทุกครั้ง ท่านก็ยังไม่รู้ว่าอะไรที่จะทำให้ลูกคนนี้มีความสุข

“เพราะจอมไม่ได้เกิดจากความรัก พ่อกับแม่เลยไม่รักจอมใช่ไหมฮะ”
               
เจ้าจอมพูดกับตัวเองเบาๆ มองภาพบ้านของตัวเองจากด้านนอกประตูรั้ว ที่ตอนเด็กๆ นั้น เขาเคยอยู่ที่นี่อย่างมีความสุข และอบอุ่น แต่วันนี้ เจ้าจอมกลับมองมันด้วยความเศร้า..ไม่ใช่ความสุข
 
               


ทางด้านของจุลจักรที่ตอนนี้กำลังคุยกับรามินทร์อยู่ เนื่องจากเจ้านายมาหาเขาถึงแผนกเพราะได้ขออนุญาตจากอินทัชแล้วเรียบร้อยหลังจากที่รามินทร์ไปส่งถึงห้องทำงานชั้นบน

ต่อให้จุลจักรจะออกจากการทำงานให้รามินทร์แล้ว แต่เขาก็นับถือรามินทร์เป็นเจ้านายอยู่ดี

รามินทร์เล่าเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวของเจ้าจอมให้จุลจักรฟัง เพราะถ้ารอให้เจ้าตัวเล่าเอง คงไม่มีวันนั้นแน่ๆ ไม่มีใครอยากจะเล่าเรื่องแบบนี้ของครอบครัวที่มีแต่ปัญหาให้คนอื่นฟังได้หรอก

“พ่อกับแม่คุณจอม แต่งงานกันเพราะถูกบังคับงั้นหรือครับ”

“ใช่...และท่านก็พลาดทำให้เจ้าจอมเกิดมาเพราะแผนการของคุณย่าฉัน ก็คุณยายของจอมนั้นแหละ”

“ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะครับ”

“ท่านเห็นว่าเหมาะสมกันล่ะมั้ง แต่โชคดีหน่อยที่แม่ของฉันเกิดมาเพียบพร้อมเลยได้แต่งงานกับพ่อโดยไม่มีปัญหาอะไร แต่เพราะแม่ของเจ้าจอมเป็นคนสุดท้องด้วยนั่นแหละ คุณย่าเลยอยากให้เจอคนที่ดีและเหมาะสม ถึงแม้จะแต่งงานกันโดยไม่ได้เต็มใจ แต่คุณอาทั้งสองท่านก็รักเจ้าจอมมากนะ จากตอนแรกจะหย่ากันทันทีที่คลอดเจ้าจอม แต่เป็นเพราะความรักความผูกพันที่มี คุณอาไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กมีปัญหา ท่านก็เลยตกลงไม่หย่ากัน และอยู่กันมาจนถึงทุกวันนี้...”

ความสัมพันธ์ของพ่อกับแม่เจ้าจอมอาจจะไม่ได้มีความรักเข้ามาเกี่ยวข้องแต่ท่านทั้งสองมีความผูกพันกันและอยู่ด้วยกันอย่างเข้าใจซึ่งกันและกัน เหมือนเป็นเพื่อนที่จะอยู่กันจนวันตาย ไม่มีปัญหาบ้านเล็ก บ้านน้อย

“ถ้าอย่างนั้นพวกท่านก็ต้องทราบสิครับว่าการถูกบังคับมันทรมานขนาดไหน” จุลจักรถามรามินทร์ ซึ่งร่างสูงใหญ่ก็พยักหน้าตอบ

“แต่ว่า...การที่ท่านทั้งสองอยู่ด้วยกันโดยไม่มีปัญหาอะไรเนี่ยแหละ มันทำให้พวกท่านคิดจะให้เจ้าจอมอยู่กับคนที่พวกท่านเลือก เพราะสักวัน ก็จะเป็นแบบท่านทั้งสอง ที่อยู่กันได้โดยไม่ต้องรักกัน”

เมื่อได้รู้แบบนี้แล้ว จุลจักรก็ยิ่งเป็นห่วงความรู้สึกของเจ้าจอมจนอยากจะหายตัวไปหาเสียเดี๋ยวนี้ แต่มันก็ทำไม่ได้ เขามีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ...

“ที่ฉันมาเล่าให้แกฟัง หากแกเจอเจ้าจอมเย็นนี้ แล้วอารมณ์ของจอมดูไม่มีความสุข นั่นเป็นเพราะไปหาพ่อกับแม่มานั่นแหละ แกก็ช่วยพูดกับเจ้าจอมบ่อยๆ นะ ถึงท่านจะไม่รักกัน แต่ใช่ว่าไม่ได้รักเจ้าจอม”

“ครับคุณราม ผมจะดูแลคุณจอมให้เองครับ”

“เชื่อเถอะ ว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไปได้ด้วยดีสำหรับคุณอาน่ะ ความดีเป็นเรื่องรอง แต่เรื่องความเหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญ...แกจำเอาไว้ แล้วสร้างตัวให้เร็วที่สุด ฉันฝากน้องชายของฉันด้วย”

“ผมจะดูแลคุณจอม ด้วยชีวิตเลยครับ”

รามินทร์เชื่อใจและมั่นใจในตัวของจุลจักรว่าจะต้องทำให้น้องชายที่เขารักมากคนนี้มีความสุขที่สุดและจะไม่พาเจ้าจอมไปเจอกับเรื่องลำบากแน่นอน เพราะจุลจักรจะเป็นคนแบกรับมันเอาไว้ทั้งหมด...

คนอย่างจุลจักร รักใครแล้ว...ก็จะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้คนที่ตนรักต้องมาลำบากเพราะตัวเอง

...

...






50%

==============================================

   อัพจ้าที่ร้าก อย่าลืมเม้นท์ให้ยูกิด้วยนะคะ ^^ ฝันดีจ้าาาาา เจอกันใหม่อีกครึ่งหนึ่งน้าาาา มีอะไรเข้าไป พูดคุย สอบถาม หรือทวงนิยายกับยูกิได้ที่แฟนเพจเลยจ้า (ทวงตลอด อัพช้าตลอด ฮ่าๆ) เรื่องนี้มี 65 ตอนจบนะคะ แล้วก็บทส่งท้าย จากนั้นก้ลงตอนพิเศษให้ (กี่ตอนหว่า จำไม่ได้และ แหะๆ)

https://www.facebook.com/sawachiyuki/

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: เฮ้อออ แต่ละคู่ก็มีปัญหาต่างกันไปเนาะ

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
มันเศร้าใจจ เมื่อไหร่จะสุขน้าา

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
เรื่องของจอมทำเอาน้ำตาไหล
แต่เรื่องของราม ก็ใช่ว่าตะทำให้ยิ้มได้ตอนนี้เหมือนกัน
ทุกเรื่อง รอเวลาที่เหมาะสมหมดเลย

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
ตอนที่ 51 ครึ่งหลัง





“คุณจอมทานน้อยจังเลยครับ”

“ฉันไม่ค่อยหิวน่ะ…ว่าแต่ห้องของนายก็ใหญ่ดีเนอะ พี่อินใจดีจัง” เจ้าจอมเปลี่ยนเรื่องมองรอบๆ ห้องคอนโดอย่างสนอกสนใจ

ได้อยู่ในห้องสวยๆ ได้อยู่กับจุลจักร มันก็ทำให้อารมณ์ที่คุกรุ่นตลอดทั้งวันลดลงได้จนเกือบจะหายดีแล้ว แต่คงต้องขึ้นอยู่กับจิตใจของตัวของเจ้าจอมเองด้วยว่าจะยอมคลายออกมากน้อยขนาดไหน

“ผมอยู่คนเดียวในนี้แบบเหงามากครับ มันใหญ่ไป แต่พอได้ทำงาน เวลาอยู่ในห้องน้อยกว่าอยู่ที่บริษัทอีกครับ มาถึงที่นี่ก็หลับเป็นตาย ตื่นเช้าไปทำงาน”

“แล้วเรื่องเสื้อผ้าล่ะ”

“จะมีแม่บ้านมาเอาไปซักให้ทุกสองวันครับ”

“พี่อินดูแลดีจัง แบบนี้ก็หมดห่วงแล้วล่ะ”

“ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอกครับคุณจอม”

เจ้าจอมลุกขึ้นหยิบจานที่ทานข้าวกันเสร็จแล้วไปล้าง บอกให้ร่างแกร่งไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า พอจุลจักรออกมาจากห้องนอนก็เห็นว่าเจ้าจอมกำลังนั่งดูทีวีอยู่นิ่งๆ สายตาเหมือนไม่ได้โฟกัสที่หน้าจอเลย ร่างแกร่งเลยเดินไปนั่งข้างๆ แต่เจ้าจอมก็ไม่ได้สนใจ

“ผมรักคุณจอมนะครับ”

เป็นประโยคที่ทำให้เจ้าจอมหันมามองหน้าทันทีด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ จุลจักรถึงได้มาบอกรักกันแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยแบบนี้

แต่รู้สึกดีนะ...

“ทำไมจู่ๆ ถึงบอกล่ะ”

“คุณจอมดูเหมือนไม่สบายใจ ไปพบคุณพ่อ คุณแม่มาใช่ไหมครับ”

“ทำไมรู้ล่ะ”

“คุณรามบอกผมว่าถ้าคุณจอมมากรุงเทพจะต้องเข้าไปที่บ้าน”

“อืม...ฉันไปหาพวกท่านมาน่ะ แล้วก็...ทะเลาะกันเหมือนเดิม จักร...ฉันสงสัยนะ ว่าถ้าท่านไม่รักฉันท่านจะให้ฉันเกิดมาทำไม ฉันทำอะไรผิด ฉันแค่ชอบผู้ชาย...ฉันผิดมากเหรอ ฉันผิดเหรอที่เลือกเกิดไม่ได้” เจ้าจอมระบายเสียงสั่นเครือ แต่ไม่ได้ร้องไห้ แค่พยายามกลั้นมันเอาไว้ ไม่อยากให้ร่างสูงต้องมากังวลด้วย

“คุณจอมไม่ผิดหรอกครับ...”

“แล้วทำไมท่านไม่เข้าใจฉัน ท่านไม่รักฉัน”

จุลจักรรู้สึกเห็นใจคนรักของตนมาก ใครที่เจอแบบนี้ก็คงต้องคิดแบบเดียวกับเจ้าจอม ต้องรู้สึกเจ็บปวดมากแน่ๆ จุลจักรไม่สามารถที่จะเอาความเจ็บปวดนั่นมาเป็นของตัวเองได้ แต่เขาสามารถที่จะช่วยให้ความเจ็บปวดนี้ลดลงไปได้

“ท่านรักคุณจอม...ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักลูกของตัวเองหรอกครับ ใช่...มันอาจจะมี แต่สำหรับคุณพ่อ คุณแม่ของคุณจอมน่ะ ท่านรักคุณจอมมากนะครับ ท่านเลยอยากให้คุณจอมได้เจอคนที่ดีๆ สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต ท่านแค่ไม่เข้าใจครับ ไม่ใช่ไม่รักคุณจอม”

ศีรษะเล็กพิงลงบนไหล่แกร่งอย่างต้องการที่พึ่งพิงและหลับตาซึมซับความอบอุ่นของคนรักเอาไว้

“ฉันจะเชื่อนาย”

“เชื่อผมเถอะครับ”

“อื้อ...ฉันรักนายนะจักร รักมานานแล้วด้วย”

“หมายความว่ายังไงครับ”

“รู้อะไรไหม ความลับที่ฉันบอกว่าถ้าพร้อมฉันบอกนาย” เจ้าจอมนั่งตัวตรง หันหน้ามามองคนรักของตัวเองอย่างจริงจัง จนร่างแกร่งเองก็หันมาสบตากับร่างบางด้วยความอยากรู้เต็มที่ “ฉันพร้อมที่จะบอกแล้วนะ”

อย่างน้อย...ก็แค่อยากให้รู้เอาไว้ว่าใครกันที่เป็นฝ่ายรักก่อน

“ครับ...ผมเองก็พร้อมที่จะฟังแล้ว”

“นายตามจีบฉันมาสองปีใช่ไหม”

“ครับ?”

แล้วมันยังไงอ่ะ เกี่ยวกันงั้นเหรอ

แม้ว่าจุลจักรจะมีคำถามในหัวอยู่ก็ตามแต่ก็ไม่คิดจะถามออกไป รอฟังจากร่างบางอย่างตั้งใจแทน

“นายก็เจอฉันในปีนั้นเป็นครั้งแรกใช่ไหม”

“ครับ...”

“นายคงจำไม่ได้ว่าเราเคยเจอกันก่อนหน้านั้นอีก”

“อะไรนะครับ! ตอนไหน ทำไมผมไม่รู้”

“ตอนนั้นนายคงจำหน้าฉันไม่ได้หรอก เพราะฉันเอาแต่ร้องไห้ วันวาเลนไทน์ปีนั้น ปีก่อนที่เราจะเจอกันในฐานะเจ้านายกับลูกน้องน่ะ ฉันโดนแฟนบอกเลิก สาเหตุที่โดนบอกเลิกก็เพราะพ่อแม่ฉันเนี่ยแหละ นายพอจะนึกออกไหมว่าคนที่นายพยายามปลอบวันนั้นคือฉันเอง”

จุลจักรคิดตามกลับไปเมื่อประมาณสามปีที่แล้ว ก่อนจะเบิกตากว้างมองหน้าคนรักอย่างเหลือเชื่อ เด็กผู้ชายที่ร้องไห้จะเป็นจะตายวันนั้นคือเจ้าจอมเองหรือ

‘น้อง...ร้องไห้ทำไม แฟนทิ้งเหรอ ก็แบบนี้แหละน้องผู้หญิงอ่ะ พอเจอใครดีกว่าก็ไป พี่เคยเจอมาแล้วเว้ย...ทางที่ดีอย่าร้องไห้เลยน้อง คิดซะว่ามันไม่มีค่าพอสำหรับเรา’

‘ฮึก...ฮือ...’

‘งั้นก็ร้องไปให้พอเลยน้อง ถ้ามันหยุดไม่ได้อ่ะ แล้วจากนี้ไปต้องเข้มแข็ง ไม่ต้องไปนึกถึงแล้วเสียน้ำตาคนที่ไม่เห็นค่าเรา จำเอาไว้นะ...ไม่มีใครรักเราไปมากกว่าพ่อกับแม่อีกแล้ว’

“คนอะไรไม่รู้ พูดเองเออเองคนเดียวอยู่ได้ แต่ยอมรับนะว่านายทำให้ฉันหายเศร้าเลย แต่ที่ยังร้องไห้อยู่เพราะอารมณ์มันค้างน่ะ”

“บังเอิญจังนะครับ”

“ใช่...ฉันไม่คิดว่าฉันจะได้เจอนายอีกด้วยซ้ำ รู้อะไรไหม ฉันน่ะ ตกหลุมรักนายตั้งแต่วันนั้นเลยนะ มันก็ดูเหมือนใจง่ายที่เพิ่งอกหักแท้ๆ ดันมารักคนใหม่ได้ง่ายๆ”

“ผมดีใจนะครับ ที่ได้ยินเรื่องนี้จากปากคุณจอม เพราะมันทำให้ผมดีใจและมีกำลังใจมากยิ่งขึ้น”

เจ้าจอมยิ้มเขินๆ หันหน้าแดงๆ ของตนหลบสายตาคมของจุลจักรที่มองอย่างหยาดเยิ้ม

“เอาล่ะ ฉันก็บอกความจริงไปแล้ว ขอตัวไปอาบน้ำก่อนก็แล้วกัน”

“เชิญครับ”

ร่างสูงมองตามแผ่นหลังบางไปอย่างมีความสุข ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้เป็นคนที่ถูกรักก่อน ถ้าอย่างนั้นที่ผ่านมาตลอดสองปีที่เจ้าจอมทำเป็นไม่สนใจ มันเป็นแผนการสินะ

“ร้ายกาจจริงๆ แต่แบบนี้แหละที่ผมชอบ”

โง่อย่างที่ไอ้อินมันบอกจริงๆ

“ผมจะไม่เกรงใจอะไรคุณจอมแล้วนะ”

ร่างสูงพึมพำแล้วลุกเดินตามร่างบางเข้าไปอย่างมาดมั่น ยังไงคืนนี้ก็เป็นคืนของเราสองคนก่อนที่พรุ่งนี้ร่างบางจะกลับไปเพชรบูรณ์แล้วเราจะไม่ได้เจอกันอีกนาน

“นาย...” เจ้าจอมอุทานอย่างตกใจที่เห็นร่างคนรักเข้ามาในห้องน้ำขณะที่ตนเองกำลังอาบน้ำอยู่

ไม่ทันที่เจ้าจอมจะตั้งตัวอะไร ร่างแกร่งก็เข้าประชิดตัวจู่โจมเจ้าจอมทันที เสียงครวญครางดังของทั้งคู่ทั้งก้องไปทั่วทั้งห้องน้ำ ห้องนอน...ร่างทั้งสองตระกองกอดกันผลัดกันมอบความรักให้แก่กัน

ความสุขช่วงเวลาสั้นๆ แต่ตราตรึงนาน...
 

“มาถึงแล้ว อย่างปลอดภัย นายไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า”

(ได้ยินแบบนี้ก็หมดห่วงแล้วครับ)

“ไม่ต้องมาห่วงฉันหรอกน่า เป็นห่วงตัวเองเถอะ กินข้าวให้ครบห้าหมู่นะ แล้วก็ให้ครบทุกมื้อด้วย) เจ้าจอมที่กำลังเก็บของเข้าตู้และแยกของเตรียมไปซัก ใช้หูกับไหล่เหน็บโทรศัพท์คุยกับคนรัก

(รับทราบครับคุณจอม)

“แค่นี้ก็แล้วกัน ฉันจะไปทำงานต่อ ลูกค้าเยอะมาก”

(ครับ ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ)

“อื้อ”

 
สามวันผ่านไป

“เป็นไงบ้างฮะพี่ราม เรื่องพี่กับพี่อินเป็นยังไงบ้าง” เจ้าจอมถามพี่ชายที่พอมาถึงก็ทำงานทันทีด้วยความอยากรู้ และลุ้นให้คู่นี้สมหวัง

“ก็ไม่มีอะไร”

“ไม่มีอะไรได้ยังไงล่ะพี่ราม”

“ก็ใช่ไงจอม หลังจากวันนั้นพี่ก็เข้าไม่ถึงไอ้อินอีกเลย สรุปว่าสามวันที่พี่อยู่ต่อ พี่ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย โอเคแล้วนะ รู้เรื่อง” คนเป็นพี่ชายตอบออกมาด้วยความไม่พอใจและอารมณ์ไม่พร้อมที่จะคุยกับใครตอนนี้สุดๆ

อยากจะอยู่คนเดียว...

“เข้าใจแล้วใช่ไหม ถ้าเข้าใจขอพี่อยู่คนเดียว”

เจ้าจอมเดินออกจากห้องทำงานของพี่ชายไปเมื่อเห็นว่ารามินทร์กำลังอารมณ์ไม่ดี และคงจะต้องเป็นแบบนี้อีกนาน อีกนานเลยล่ะ...

“พี่อินนี่ก็ใจแข็งจังเลยนะ”

เจ้าจอมอยากจะทำอะไรสักอย่างให้พี่ชายที่ตนเองรักและเคารพทั้งสองคนลงเอยกันเสียที ถ้าหากว่ารามินทร์จะต้องมีชีวิตคู่ก็ขอให้เป็นอินทัชเถอะ

ไม่มีใครเอาพี่รามอยู่ถ้าไม่ใช่พี่อิน

ตื๊อดึง…

“ข้อความอะไรเข้านะ”

เจ้าจอมที่นั่งลงประจำโต๊ะทำงานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเช็คข้อความเข้า คิดว่าคงจะเป็นคนรักอย่างปกติ แต่ก็ไม่ใช่ เพราะนี่เป็นข้อความจากพ่อกับแม่ของเขาเอง

‘ฉันขอสั่งให้แกมาที่กรุงเทพให้เร็วที่สุด กำหนดเวลาไม่เกินหนึ่งอาทิตย์ ฉันต้องเห็นแกที่บ้าน แล้วอย่าคิดว่าจะไม่มา เพราะถ้าแกไม่มา ฉันจะไปหาแกถึงที่นั่น แล้วอย่าคิดว่าตารามจะช่วยอะไรแกได้’

“เรื่องบ้าอะไรอีกเนี่ย คงไม่ใช่นัดดูตัวอะไรแบบนั้นหรอกใช่ไหม” เจ้าจอมคิดหนักที่เห็นข้อความบังคับกันขนาดนี้ อยากจะทำเป็นไม่เห็นไม่สนใจ แต่ก็ทำไม่ได้

ยังไงก็เป็นพ่อกับแม่ การตอบแทนพระคุณที่ให้กำเนิดเขามายังไงก็เป็นสิ่งที่เจ้าจอมต้องทำ เขาทำได้หมดทุกเรื่อง แต่ยกเว้นเรื่องไว้เรื่องหนี่งเถอะ

คนรักของเขา…ก็ขอเป็นคนเลือกเองเถอะ

“เห็นใจกันบ้างเถอะนะ”

เจ้าจอมนั่งคิดหน้าเครียดอยู่อย่างนั้น จะทำยังไงดี...พาจุลจักรไปแนะนำให้รู้จักตรงๆ เลยดีไหม หรือว่าจะไปคนเดียว แต่ถ้าไปคนเดียวแล้วเกิดโดนจับขังขึ้นมาล่ะ จะทำยังไง

“มันเสี่ยงมากถ้าไปคนเดียว...คงต้องให้พี่อินช่วยแล้วล่ะ”

เท่าที่เจ้าจอมคิดได้ตอนนี้คงมีแค่อินทัชคนเดียวเท่านั้นที่จะพอช่วยกันเจ้าจอมได้...และหวังว่าวันนั้นอินทัชจะว่างมาช่วยเขาในวันนั้นได้นะ...

เรื่องนี้มันยืดเยื้อมานานมากแล้ว และมันก็ควรจะจบเสียที...

และต้องจบแบบที่เขากับจุลจักรต้องได้รักกันด้วย

“ฮัลโหล...พี่อินครับ จอมมีเรื่องอยากให้ช่วยหน่อย...”

...

...

...
 

อาการของขรรค์ดีวันดีคืนจนหิรัญที่ทำหน้าที่ดูแลตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงก็หน้าตาสดใสขึ้นทุกวันๆ เกือบหนึ่งอาทิตย์ที่ร่างแกร่งต้องใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาล แต่เพื่อให้ตัวเองหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว ขรรค์ก็จำเป็นต้องอดทนอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมๆ แบบนี้ และมีบ้างที่หิรัญพาออกไปเดินเล่น

“ขรรค์อยากกลับไปรักษาที่บ้านสวน”

“แต่ว่าขรรค์ยังไม่หายดีเลยนะ”

“ไม่เป็นไรหรอก ขรรค์มีคนรักเป็นหมอนี่ ยังไงก็ไม่น่าจะเป็นอันตรายแล้วล่ะ”

ขรรค์จริงจังมากที่อยากจะกลับไปรักษาที่บ้าน เพราะอย่างน้อยที่นั่นก็มีอากาศที่บริสุทธิ์ที่สำคัญนะ ที่นนั่นไม่ค่อยมีใครมารบกวนเท่าที่นี่

ขรรค์ไม่ชอบที่พยาบาลเดินเข้าออกเป็นว่าเล่น

“เงินรู้ ยังไงเงินก็ต้องดูแลขรรค์อยู่แล้ว แต่ที่เงินยังไม่อยากให้ขรรค์กลับเพราะอยากให้ดูอาการก่อนว่ามันคงตัวแล้ว มันจะไม่ทรุดลงแล้ว เงินถึงจะวางใจ ยังไงรักษาที่นี่ก็ดีกว่าต่างจังหวัดนะ” หิรัญให้เหตุผล ทำเอาขรรค์เถียงไม่ได้ ทำได้เพียงยิ้มออกมาบางๆ

“เพราะขรรค์แท้ๆ เลยที่ทำให้เงินไม่ได้สัมมนาครั้งนี้” ร่างสูงเอ่ยอย่างรู้สึกผิด และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ขรรค์พูดออกมาแบบนี้ แต่มันนับครั้งไม่ถ้วนแล้วต่างหาก

“ไม่เป็นไรหรอก เงินมีเหตุผลนี่นา”

ร่างโปร่งพูดให้คนรักสบายใจทั้งๆ ที่ตนเองโดนตำหนิเรื่องนี้ไปแล้ว แต่ว่ามันจำเป็นที่ต้องทำจริงๆ ร่างโปร่งก็เลยใช้เส้นสายของพ่อตนเองเล็กน้อย เพื่อให้ได้มาเฝ้าดูแลคนรักของตัวเองแบบนี้

“ขรรค์ทำให้เงินลำบากแท้ๆ”

“แค่ขรรค์ไม่เป็นอะไรไป เงินก็ยอมลำบากมากกว่านี้เพื่อขรรค์ได้ สัญญากับเงินนะว่าจะไม่คิดทำอะไรวู่วามอย่างครั้งนี้อีก แต่เงินก็รู้สึกขอบคุณนะที่ขรรค์เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยแม่ของเงิน ถ้าไม่มีขรรค์เงินเองก็ไม่รู้ว่าแม่จะเป็นยังไงเหมือนกัน”

“ดีแล้วที่เป็นขรรค์...”

ไม่ดีเลย...ไม่ดีทั้งกับแม่และกับขรรค์นั่นแหละ

“พอเถอะ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เราเลิกพูดถึงเรื่องนี้กันเถอะนะ” หิรัญขอร้องคนรักว่าให้เลิกพูดเรื่องโดนยิงนั่นเสียที ปล่อยให้มันเป็นความทรงจำไป แค่เห็นว่าขรรค์ปลอดภัย หิรัญก็ดีใจมากแล้ว

“อื้อ...แล้วสรุปคดีเป็นยังไงบ้าง”

“พวกมันเส้นใหญ่จะตาย ไอ้พวกที่โดนจับก็โดนปล่อยตัวไปตามที่คาดไว้แล้ว ส่วนไอ้คนที่ยิงขรรค์น่ะ มันก็ไม่โดนอะไรเลย หนี้...เงินก็เอาไปจ่ายแล้ว เรียบร้อย...”

“คุณสร้อยเป็นยังไงบ้างครับ” ขรรค์ถามถึงแม่ของคนรักที่ช่วงนี้มาเยี่ยมบ่อยเหมือนกัน แต่สีหน้าของเธอรู้สึกผิดมาก...ไม่มีความสุขเอาเสียเลย

“ท่านเอาแต่โทษตัวเอง จนตอนนี้ก็ซึมๆ เงินกับพ่อก็บอกแล้วว่าไม่ได้โกรธอะไร และทำตัวเหมือนเดิมทุกอย่าง แม่ก็ไม่ดีขึ้นเลย” หิรัญมีสีหน้าที่ไม่สบายใจยามนึกถึงอาการของผู้เป็นแม่

“ท่านคงจะขวัญเสียน่ะเงิน เห็นคนโดนยิงต่อหน้าต่อตาแบบนั้น”

“เงินเข้าใจ ขรรค์อย่าโกรธแม่เงินเลยนะ”

“ขรรค์ไม่เคยโกรธท่านหรอก ขรรค์เคารพท่านเหมือนเป็นแม่ของขรรค์ด้วยซ้ำ”

“ถามจริงๆ นะขรรค์...ตอนนั้นคิดยังไง ถึงได้เอาตัวเองไปรับกระสุน คงไม่ใช่เหตุผลเพราะเป็นแม่ของเงินหรอกใช่ไหม?” หิรัญถาม

“ขรรค์ไม่มีพ่อกับแม่...ตอนนั้น ขรรค์แค่ทำหน้าที่ลูกกับแม่ของคนที่ขรรค์รักก็เท่านั้น” ร่างสูงใหญ่ตอบเสียงสั่นเครือ...หิรัญได้ยินคำตอบแบบนั้นก็น้ำตาไหล... ลูบมือของคนรักอย่างปลอบประโลม ทั้งคู้ยิ้มให้กัน มองตากัน ซึมซับความรู้สึกนี้เอาไว้...

หากวันไหนทะเลาะกัน ก็ให้นำเหตุการณ์และความรู้สึกในครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจ ว่าเราผ่านอะไรกันมาบ้าง...
 






100%
============================

ครบร้อยแล้ว เม้นท์ให้กันด้วยนะคะ แล้วก็ฝากเรื่องใหม่ด้วยน้า ตอนนี้เริ่มอัพบทนำไปแล้วค่ะ
Fall in love ติด...ตาม...รัก [คู่ : พีช x ธิน]
He is mine ที่ร้าย เพราะนายเป็นของฉัน! [คู่ : พุฒิ x เจ็ม]
   มีอะไรพูดคุย สอบถาม ทวงนิยายได้ที่แฟนเพจนะคะ https://www.facebook.com/sawachiyuki/ 

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
คู่จอมนี่ อุปสรรค์เยอะมาก
แต่เยอัสุดนี่คู่รามอินใช่ไม๊

ออฟไลน์ chaaem

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอๆๆ คิดถึงรามอินแล้วอ่าาา  :hao5:

ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 52
ด้ายแดงของเรา





วันนี้เป็นวันที่หมออนุญาตให้ขรรค์กลับบ้านได้ พอเคลียร์ค่าใช้จ่ายก็สูงมากแต่รามินทร์เขียนเช็คเอาไว้ให้แล้ว และจำนวนเงินที่รามินทร์ให้ก็ยังเหลือด้วยซ้ำ แต่หิรัญจะเอาไว้ซื้อของกิน ของใช้ให้กับคนรักต่อไป

ขรรค์อยากจะกลับบ้านของตัวเองมากๆ เพราะไม่มีที่ไหนจะสบายใจเท่าที่ที่เป็นบ้านของตนอีก แต่สร้อยฟ้ากับพ่อของหิรัญอยากจะให้ขรรค์พักที่บ้านก่อนจะเดินทางกลับเพชรบูรณ์ ร่างแกร่งอยากจะปฏิเสธมากๆ เพราะเขารู้สึกแปลกๆ ที่จะต้องมานั่งนอนอยู่ในบ้านของคนรัก

ไม่เคย...ก็เลยประหม่า แต่ดีที่มีหิรัญอยู่ด้วย

“สงสัยกลับไปคราวนี้ ขรรค์ต้องทำงานแบบไม่เอาเงินเดือนแล้วล่ะ” ร่างสูงพูดขึ้นมาขณะที่นั่งดูใบเสร็จค่าใช้จ่ายทั้งหมดตอนที่ตนนอนอยู่โรงพยาบาล

“ไม่ขนาดนั้นมั้งขรรค์ คุณรามเขารับผิดชอบในฐานะเจ้านายและขรรค์ก็เป็นเหมือนครอบครัว เงินดีใจนะที่ขรรค์ได้ทำงานกับคุณรามน่ะ แม้ว่าตอนแรกๆ เงินจะไม่ค่อยชอบคุณรามก็ตาม”

“แต่แม่ว่า...ค่าใช้จ่ายทั้งหมดแม่ควรจะเป็นคนจ่ายมากกว่านะ”

เสียงของสร้อยฟ้าดังมาก่อนที่ตัวจะปรากฏต่อหน้าของลูกชายกับขรรค์ แต่ไม่ได้มีเพียงแค่สร้อยฟ้าแต่ยังมีเหรียญชัยสามีของตนเดินมาด้วย กลายเป็นว่าในห้องนั่งเล่นมีผู้ใหญ่สองท่านมานั่งด้วย

“เป็นไงบ้างขรรค์ พ่อไม่ได้ค่อยได้ไปเยี่ยมเท่าไหร่ ไม่ว่างเลยแต่ก็ตามอาการจากหมอตลอด ดีแล้วนะที่ไม่เป็นอะไรมาก”

“ขอบคุณที่เป็นห่วงนะครับ” ร่างแกร่งยกมือไหว้ขอบคุณด้วยความซึ้งใจ

กับพ่อของหิรัญน่ะ ขรรค์ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับท่านหรอก เพราะท่านรับได้ที่ลูกชายมีคนรักเป็นผู้ชายและท่านยังเอ็นดูเขามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วด้วย หากแต่ท่านมีความเกรงใจภรรยา ไม่อยากขัดใจ เพราะเขาเชื่อว่าแม่ทุกคนทำเพื่อลูก โดยลืมนึกไปว่าลูกชายต้องทรมานขนาดไหน แต่ตอนที่เขาจะช่วยลูกชายมันก็ไม่ทันเสียแล้ว

ทุกวันนี้เขาก็รู้สึกผิดที่ช่วยลูกได้ไม่มากพอแล้วปล่อยให้ภรรยาทำอะไรผิดๆ เพราะนอกจากจะทำร้ายลูกชายแล้ว ยังทำร้ายนิสาอดีตลูกสะใภ้ด้วย...

“ขอบคุณคุณสร้อยด้วยนะครับ ที่ไปเยี่ยมและไปดูแลผมที่โรงพยาบาล” ขรรค์หันมาไหว้ขอบคุณมารดาของหิรัญที่นั่งข้างๆ กับสามี

“คุณสร้อยอะไรกัน…เรียกฉันว่าแม่สิ ให้ฉันเป็นแม่ของนายนะขรรค์ แม้ว่าจะเป็นแม่ที่ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ฉันก็อยากจะมีนายเป็นลูกนะ ขอโทษสำหรับที่ผ่านมานะ ขอโทษที่ฉันทำให้นายต้องเจ็บปวด อภัยให้ฉันได้ไหม”

ร่างแกร่งนั่งนิ่ง ช็อกกับสิ่งที่ได้ยินจนไม่เชื่อว่านี่เป็นความจริง ท่าทางของขรรค์ทำให้สร้อยฟ้าใจหาย คิดว่าขรรค์จะโกรธและเกลียดเธอไปแล้ว แต่เปล่าเลย ขรรค์กำลังคิดว่านี่เป็นความฝัน

ต้องฝันไปแน่ๆ

“ขรรค์...นายโกรธฉัน เกลียดฉันใช่ไหม ก็แน่ล่ะ ฉันทำเรื่องไว้เยอะนี่ ฮึก มันก็ถูกแล้วที่นายจะเกลียด ฮือ” สร้อยฟ้าพูดเสียงสั่นจนกระทั่งร้องไห้ออกมา

“แม่ครับ ใจเย็นๆ ก่อน ขรรค์แค่ตกใจน่ะครับ มันกะทันหัน” หิรัญลุกจากที่นั่งข้างกายของขรรค์ไปหาแม่ของตนเพื่อปลอบโยน ซึ่งสามีของเธอก็ช่วยลูกชายปลอบผู้เป็นภรรยาเหมือนกัน

“ฮือ...ความผิดของแม่เอง แม่ทำร้ายเงิน ทำร้ายขรรค์มาเยอะ แบบนี้ก็สมควรแล้ว”

“คือว่า คุณสร้อยครับ ผมไม่ได้เกลียดคุณสร้อยเลยนะครับ แล้วก็ไม่ได้โกรธคุณสร้อยด้วย ผมแค่ตกใจ ไม่คิดมาก่อนว่าจะได้รับเกียรติแบบนี้”

“มันไม่ใช่การให้เกียรติ แต่มันเป็นสิ่งที่ฉันควรทำต่างหาก ฉันควรจะรับสิ่งที่ลูกชายฉันเป็นตั้งแต่แรก เพราะยังไงตาเงินก็เป็นลูกชายของฉัน แม่ขอโทษนะลูก แม่ขอโทษนะขรรค์”

“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่โกรธ ไม่ถือสา ผมเข้าใจว่าคุณสร้อยรักเงินมาก ถ้าผมเป็นแม่ ผมก็คงต้องทำแบบเดียวกับคุณ เรื่องที่ผ่านก็ให้มันผ่านไปเถอะครับ เราเปลี่ยนอดีตไม่ได้ แต่เราสามารถสร้างอนาคตได้นะครับ”

ยิ่งขรรค์พูดแบบนี้ ยิ่งทำให้สร้อยฟ้าร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เธอเสียใจที่ทำผิดพลาดไป เธอเสียใจที่ทำร้ายคนดีๆ ไปตั้งหลายคน เพราะความคิดบ้าๆ ของเธอเอง สร้อยฟ้ามั่นใจว่าความคิดของตัวเองถูกที่สุด จนลืมไปว่า บางครั้งคนเราก็ทำตามความถูกต้องไม่ได้หมดทุกเรื่อง

“นายเป็นคนดีจริงๆ ฮึก ให้ฉันเป็นแม่ของนาย ให้ฉันทำหน้าที่แทนแม่ของนายได้ไหมขรรค์”

“ด้วยความยินดีเลยครับ” ร่างสูงตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ไม่เคยได้รับของขวัญพิเศษเท่านี้มาก่อนในชีวิต

มันเป็นของขวัญที่ดีที่สุดของเขาเลย การที่แม่ของคนรักยอมรับในตัวของเขามันก็มากเกินกว่าที่คิดเอาไว้แล้วนะ แต่การที่ได้ที่จะได้มีแม่กับเขาบ้างมันก็ทำให้ขรรค์แทบอยากจะร้องไห้ออกมา

ดีใจจริงๆ

“งั้นต่อไปนี้เรียกแม่ว่าแม่นะลูก”

“ครับ...คุณแม่” ขรรค์เรียกสร้อยฟ้าด้วยสรรพนามที่เปลี่ยนไปอย่างประหม่า

“แม่จะไม่ขัดขวางอะไรลูกทั้งสองคนอีกแล้ว ยังไงก็ประคับประคองกันไปนะลูก กว่าลูกจะได้อยู่ด้วยกันต้องผ่านอะไรมาเยอะมาก แต่พวกลูกก็ทำให้แม่เห็นว่าทั้งสองมั่นคงกับความรักขนาดไหน”

เธอยอมรับแล้ว...

เธอจะไม่ขัดขวางอะไรทั้งคู่อีกต่อไปแล้ว...

“ขอบคุณครับ”

ขรรค์ขยับตัวลวมานั่งข้างล่างและคลานเข่าไปหาผู้ใหญ่ทั้งสอง หิรัญเห็นคนรักทำแบบนั้นเขาเองก็ทำบ้าง ก่อนที่ทั้งคู่จะก้มกราบแทบเท้ากับสร้อยฟ้าและเหรียญชัย

น้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม ปีติยินดีแสดงบนใบหน้าหน้าของทุกคน ในที่สุดเรื่องร้ายๆ มันก็ผ่านไป จากนี้ครอบครัวของเราจะมีแต่ความสุขและเข้าใจซึ่งกันและกันเสียที

“ฝากตาเงินด้วยนะขรรค์” สร้อยฟ้าพูดฝากฝังลูกชายให้ขรรค์ดูแล เพราะคราวนี้เธอมอบลูกชายของเธอเองให้กับขรรค์ไปด้วยความเต็มใจอย่างที่สุด

“ด้วยชีวิตครับ”

“ส่วนพ่อก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วนะขรรค์ เพราะเราเคยคุยกันแล้ว พ่อยังยืนยันเหมือนเดิมนะลูก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าปล่อยมือกันอีก”

“ผมสัญญาครับคุณพ่อ...คุณ...แม่” สร้อยฟ้ายิ้มออกทันทีที่ขรรค์พูดจบ

ส่วนหิรัญเองก็ยิ้มอย่างมีความสุข กอดขาของคุณพ่อตัวเองด้วยความรักและดีใจ...ส่วนสร้อยฟ้าก็ใช้มือของเธอลูบผมของขรรค์อย่างเอ็นดู

ในที่สุดความฝันของผมก็เป็นจริง ผมได้แม่ของเงินมาเป็นแม่อีกคนของผมแล้วนะครับ

“ผมดีใจที่จะได้มีพ่อกับแม่”

“ไม่ใช่จะมีนะ แต่ขรรค์มีแล้ว เราคือพ่อแม่ของขรรค์นะ มีอะไรก็พูดคุยกับพวกเราได้ แม้ว่าเราอาจจะช่วยไม่ได้มาก แต่ก็ขอให้รู้ว่าพ่อกับแม่รับฟังลูกเสมอนะ” เหรียญชัยพูด รอยยิ้มของชายคนนี้ยังคงอ่อนโยนเหมือนเดิม และขรรค์ก็ได้รับความอบอุ่นจากผู้ชายคนนี้เหมือนเดิม และอาจจะมากขึ้นด้วยซ้ำ

“ถ้าแม่ใช้ใจดู เปิดใจรับ แม่คงจะเห็นความดีของขรรค์ตั้งนานแล้ว”

“อย่าคิดมากกับอดีตที่ผ่านมาเลยครับแม่” หิรัญบอกกับแม่ตัวเอง

“นั่นสินะ เอางี้ไหมลูก วันนี้เรามาฉลองกันหน่อยดีกว่า ชวนเพื่อนของลูกมาด้วย อินกับจักรน่ะ”

“ดีเหมือนกันครับแม่ เดี๋ยวผมจะโทรถามนักธุรกิจใหญ่ก่อนนะครับ”

“จ้ะ!” หิรัญลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องนั่งเล่นไปเพื่อโทรศัพท์ไปชวนอินทัชกับจุลจักรมาร่วมฉลองด้วย เพราะยังไงคนเยอะๆ ก็ย่อมดีกว่า

“ส่วนขรรค์ก็อยู่นิ่งๆ นะ”

“แต่ผมอยากช่วยนี่ครับคุณ...แม่”

“พักไปเถอะจ้ะ นี่มันเป็นงานเลี้ยงให้กับขรรค์นะ ไปค่ะคุณ...พาฉันไปซื้อของ”

 “อ้าว? นี่มันวันหยุดผมนะคุณ” เหรียญชัยค้านผู้เป็นภรรยาแต่ก็ไม่ได้จริงจังนัก

“ก็ใช่ไงคะ เป็นวันหยุดคุณ เพราะเป็นวันหยุดนี่แหละค่ะ สร้อยถึงใช้ให้คุณพาไป”

“โอเคๆ”

คนเป็นสามีรับคำอย่างเซ็งๆ แต่ก็ยอมลุกขึ้นยืนแต่โดยดี

เป็นอันรู้ว่าช้างเท้าหน้าที่แท้จริงน่ะคือใคร...แม้ว่าตอนแรกเหรียญชัยจะโกรธภรรยามากที่เล่นการพนันจนเป็นหนี้เป็นสิน นำพาความเดือดร้อนมาสู่ครอบครัว แต่ก็ต้องเข้าใจว่าลูกชายคนเดียวก็ไม่อยู่ เขาก็ทำงานยุ่ง เลี้ยงหลานกับอยู่บ้านอย่างเดียวคงจะเบื่อ

คนเราก็ผิดพลาดกันได้ อยู่ที่ว่าเขาจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจก็เท่านั้น

“เดี๋ยวแม่กับพ่อกลับมานะลูก”

“ครับ” ร่างสูงยิ้มกว้างมองภาพคนอายุมากกว่าทั้งสองด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข หัวใจเต้นแรงกว่าที่เคยเต้น เหมือนว่าตอนนี้ ทุกอย่างในชีวิตมันถูกเติมเต็มแล้ว

เต็มจนล้น...

เกินกว่าที่คาดฝัน...

เหมือนความฝัน แต่มันคือความจริง...

ขรรค์ค่อยๆ ลุกจากพื้นแล้วไปเดินเล่นในสวนที่มีต้นไม้มาลงสวนแล้วเรียบร้อย คิดว่าสร้อยฟ้าคงจะให้คนมาลงดอกไม้ต้นไม้ที่เขาเป็นคนเลือกแล้วเพราะถ้าไว้อยู่อย่างนั้นก็คงไม่ใช่นิสัยของสร้อยฟ้าเท่าไหร่

“อากาศที่นี่ก็ดี...แต่ถ้าเป็นบ้านเราดีกว่า”

สวบ!!

“ใช่! บ้านของ ‘เรา’ อากาศดีกว่า” ร่างโปร่งของหมอหนุ่มที่เดินมาทางด้านหลังตอบ พร้อมๆ กับแขนขาวที่โอบรอบเอวหนาของขรรค์เบาๆ ไม่ต้องการให้กระทบแผลที่ยังไม่หายดี

“เงิน...คุยโทรศัพท์เสร็จแล้วเหรอ?”

“อืม...เงินโทรไปหาอินมา”

“แล้วสรุปพี่จักรกับอินจะมาหรือเปล่า?”

“มาแน่นอนอยู่แล้ว มาฉลองให้ขรรค์ที่ได้ออกจากโรงพยาบาล แล้วก็เลี้ยงส่ง เพราะอีกสองวันเราจะกลับบ้านสวนของเราแล้ว”

“อื้อ...ขรรค์อยากจะกลับไปที่บ้านจะแย่แล้ว”

“อยู่ที่นี่ไม่ดีหรือไง”

“ก็ดี...แต่มันจะดีกว่านี้ถ้ามันเป็นบ้านของเรา”

มือแกร่งจับแขนบางแล้วดึงให้มาเผชิญหน้ากับเขา นิ้วแข็งแรงไล้ไปตามสันกราม ดวงตาคมดุติดเย็นชาทอประกายอ่อนโยน ขรรค์เลื่อนนิ้วไปที่ปลายคางแล้วเชยคางของหิรัญขึ้น

“จะทำอะไรขรรค์ จูบเหรอ?” ยักคิ้วกวนๆ ให้คนรักไป

“หรือทำไม่ได้ล่ะ”

“ก็แล้วแต่สิ ตอนนี้ไม่มีคนอยู่บ้านเลย”

เมื่อหิรัญอนุญาตขนาดนั้นแล้ว ขรรค์ก็ไม่รอช้า ก้มลงเอาอวัยวะเดียวกันประกบกัน ทั้งสองค่อยๆ ขยับริมฝีปากตอบโต้กันอย่างช้าๆ อ่อนโยนซึมซับความหอมหวาน เหมือนตอนที่ทานไอศกรีมที่เราค่อยละเลียดชิมมันอย่างช้าๆ เพื่อที่จะได้กินของอร่อยๆ หวานๆ ให้นานที่สุด

เมื่อทั้งคู่ผละออกมา ร่างที่สูงน้อยกว่าอย่างหิรัญก็เอนตัวซบกับอกแกร่งของคนรักเบาๆ ขรรค์เองก็ใช้แขนแกร่งโอบรอบกายของคนรักเอาไว้

“เงินมีความสุขจัง”

“ขรรค์ก็เหมือนกัน”







 
สามวันผ่านไป ขรรค์กับหิรัญก็เดินทางกลับมาถึงบ้านสวนอย่างปลอดภัยโดยที่หิรัญเป็นคนนับรถเองตลอดทั้งการเดินทาง แม้ว่าขรรค์จะขอช่วยขับ แต่คนรักก็ไม่ยอม ก็เลยกลายเป็นว่าขรรค์นอนหลับมาตลอดทางเพราะฤทธิ์ยา

“ให้ตายสิขรรค์ เป็นอะไรทำไมไม่คิดจะบอกป้าเลย เป็นอะไรมากไหมเนี่ย”

ทันทีที่มาถึงบ้านสวนของขรรค์ ป้าน้อยที่เป็นคนเฝ้าบ้านให้ก็สอบปากคำทันทีหลังจากที่หิรัญเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

“สบายดีครับป้าน้อย หายดีแล้ว”

“โถ่...ถือว่าฟาดเคราะห์ไปนะลูก” ป้าน้อยว่า สีหน้าของเธอก็ยังไม่คลายความเป็นห่วง มองตามร่างกายเผื่อเห็นว่ายังไม่หายดีจะได้ระมัดระวังกันมากกว่านี้

“ฟาดแรงมาเลยครับ กระสุนฝังในสองนัด ฮะๆ”

“หมอเงินก็...หัวเราะอยู่ได้ เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องตลกเลยนะคะ” ป้าน้อยดุหมอหนุ่ม

“ก็เพราะว่าขรรค์ไม่เป็นอะไรแล้วไงครับ ผมถึงได้มีความสุขแบบนี้”

“นั่นสินะ ป้านี่ก็ตื่นตูมไปเอง”

“ป้าก็แค่เป็นห่วงผมนี่ครับ ขอบคุณที่ดูแลบ้านให้นะครับป้าน้อย วันนี้ป้าน้อยกลับบ้านไปได้เลยก็ได้นะครับ ไปพักผ่อน...เฝ้าบ้านผมมาตั้งเกือบสองอาทิตย์กว่าแล้ว” ขรรค์บอกให้ป้าน้อยกลับไปพักผ่อนเพราะเป็นห่วงสุขภาพของแก ยังไงท่านก็แก่ตัวลงมากแล้ว ทำงานหนักๆ มากก็ไม่ดีหรอก

“โอเคจ้ะ ป้ากลับก่อนนะ แล้วก็เรื่องที่ป้าขอลาไว้ล่ะขรรค์”

“ครับ ป้าน้อยไปเที่ยวกับลูกๆ หลานๆ ตามสบายเลยครับ”

“แล้วป้าจะซื้อของมาฝากนะขรรค์”

“ครับ”

“อย่าลืมของคุณหมอสุดหล่อคนนี้ด้วยนะครับ” หิรัญแหย่คนอายุมากกว่าที่เดินห่างออกจากประตูบ้านไปแล้ว แต่เธอก็หันมายิ้มแล้วพยักหน้ารับน้อยๆ โบกไม้โบกมือล่ำลา ส่วนร่างโปร่งเองก็โบกมือกลับไปด้วยเช่นกัน

เมื่อมองส่งป้าน้อยกลับบ้านไปแล้ว หิรัญก็หันมาถามขรรค์ว่าต้องการอะไรไหม

“ไม่ดีกว่า ขรรค์อยากนั่งอยู่ที่นี่แหละ”

“งั้นขอเงินไปเคลียร์กระเป๋ากับเสื้อผ้าก่อนนะ”

“ครับ”

“อย่าดื้ออย่าซนนะขรรค์” ชี้หน้าคนรักแบบปรามๆ แต่มันเป็นการแหย่เล่นมากกว่า

“ขรรค์โตแล้วนะเงิน หยุดล้อว่าเด็กได้แล้วน่า”

“เอ้า! ก็มันจริงไหมล่ะ”

“ไม่จริงไง” สวนกลับทันทีแบบไม่ยอมรับ

“งั้นไง ถ้าไม่จริงขรรค์ก็อย่าร้อนตัวสิครับที่รัก” พูดจบก็ยกกระเป๋าหนีไปเลย ปล่อยให้ขรรค์มองตามอย่างคาดโทษแต่ใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข

ขรรค์ยืนมองรอบๆ บ้านด้วยความคิดถึง...การที่เราต้องจากบ้านที่ทุ่มทั้งชีวิตสร้างมันขึ้นมาไปนานๆ เนี่ย มันทำให้เขาคิดถึงได้มากขนาดนี้ได้เชียวหรือ...นอกจากนี้นะ มันเป็นสถานที่แห่งความฝันของหิรัญ ผู้ชายที่รักเขาและเขาก็รักหิรัญมากที่สุดอยากจะได้ อยากอยู่บ้านสวนไปด้วยกันจนตาย

วันนี้...เราเหยียบบ้านหลังนี้ ด้วยความรู้สึกที่ต่างกันออกไป

คราวก่อนนั้น เราอยู่ด้วยความกังวล หวาดระแวงว่าประวัติจะซ้ำรอยเดิม...แต่มาคราวนี้ เราอยู่ด้วยกันด้วยความรู้สึกที่ไม่มีอะไรต้องกังวลหรือติดค้างอะไรอีก...

“กลับมาแล้วครับ”








//////// :katai4: :katai4: :katai4:


มีต่อค่ะ ลงทีเดียวครบ 100 เปอร์เซ็นเลย


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ SawachiYuki

  • แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +261/-38
    • Fanpage
ตอนที่ 52 (ต่อ)






 
ร่างโปร่งบางหนุนศีรษะของตนอยู่บนตักแกร่งของขรรค์ที่นั่งพิงต้นไม้ใหญ่ ลำตัวของร่างโปร่งนอนราบไปกับพื้นหญ้ายามค่ำคืนโดยไม่กลัวสัตว์อันตรายตัวเล็กและน้ำค้างที่เริ่มหยดลงสู่พื้นดิน

เพราะพระจันทร์คืนนี้เต็มดวงพวกเขาสองคนก็เลยออกมานอนดูพระจันทร์กัน

“หนาวไหมเงิน”

“ไม่อ่ะ อากาศกำลังดี แต่ลมหนาวก็ใกล้จะมาแล้วสินะ”

“จริงๆ มันเป็นหน้าหนาวแล้วล่ะ แต่มันยังไม่ค่อยหนาวเท่านั้นเอง อากาศประเทศไทยเดาใจยากนะ”

“แต่ที่นี่ก็เย็นกว่าที่กรุงเทพเยอะเลยเนอะขรรค์ ไม่ต้องเปิดแอร์เลย” สบตากับขรรค์ขณะที่พูดไปด้วย ขรรค์เองก็ก้มหน้ามองคนรัก เพราะยังไงแล้ว ดวงจันทร์ก็น่าดูน้อยกว่าใบหน้าของคนรักอยู่ดี

“ใช่! ที่นี่สบายและเงียบสงบทีนี้เราก็จะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแล้วนะเงิน ขอบคุณที่เงินไม่ทิ้งขรรค์ ขอบคุณที่ไม่เลิกรักกัน ขอบคุณที่มาหาขรรค์ที่นี่ ขอบคุณนะครับ”

ร่างโปร่งส่ายหน้าไปมา เอื้อมมือไปสัมผัสที่ใบหน้าคมเข้มด้านบนอย่างอ่อนโยน

“ไม่ใช่เรื่องที่ขรรค์ต้องขอบคุณหรอก เพราะยังไงเงินก็รักใครไม่ได้อีกแล้ว ถ้าคนๆ นั้นไม่ใช่ขรรค์ แต่ก็ขอบคุณขรรค์เหมือนกันที่ยังรักและไม่ลืมเงิน”

“ขรรค์ไม่มีทางลืม และไม่คิดจะเลิกรักเลยสักนิด ต่อให้เงินไม่มา ขรรค์ก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะรักแค่เงินไปคนเดียวตลอดชีวิต แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตาม”

“เลี่ยนเนอะ!!”

“ขรรค์อุตส่าห์จะทำโรแมนติก” ร่างแกร่งบ่นอุบอิบ ที่คนรักทำเสียเรื่องทั้งๆ ที่ขรรค์พยายามจะทำตัวโรแมนติที่ไม่เคยได้ทำเลยสักครั้ง

จะให้ผู้ชายแมนๆ หน้าไม่ให้อย่างขรรค์มาทำเรื่องหวานๆ กับแฟน มันก็ดูแปลกๆ ใช่ไหมล่ะ เพราะงั้นขรรค์เลยไม่ค่อยทำอะไรแบบนั้นเท่าไหร่ เพราะยังไงขรรค์ก็เสมอต้นเสมอปลาย แสดงออกความรักอยู่ทุกวันอยู่แล้ว

“ฮ่าๆ ไม่ต้องหรอก แค่มีขรรค์อยู่ตรงนี้ก็พอแล้วล่ะ”

“หึหึ...เราจะไม่จากกันอีกแล้ว ขรรค์สัญญา จะไม่ปล่อยมือเงินเป็นครั้งสองแน่ๆ”

“เงินถามจริงๆ ขรรค์ตัดสินใจนานไหมที่พูดบอกเลิกกันน่ะ” หิรัญถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้ สบตาคนรักอย่างจริงจัง เพราะคิดกลับไปวันนั้นทีไร หัวใจมันก็บีบรัดจนแทบตายทุกที

“นานสิ ขรรค์ทำใจนานมาก ขรรค์ไม่อยากอยู่ห่างจากเงิน ไม่อยากอยู่ในที่ที่มองไม่เห็นเงิน แต่มันก็ต้องทำ”

“เราเลิกพูดเรื่องอดีตเถอะนะ ไม่ต้องลืมมัน ไม่ต้องทิ้งมัน แต่เอาไว้เตือนสติเราก็พอ” หิรัญจับมือแกร่งมาวางไว้บนอกของตนแล้วคลึงเล่นนิ้วแกร่ง สลับกับมองดวงจันทร์ไปด้วย

“ขรรค์มีอะไรจะให้”

“หืม”

ขรรค์ใช้มือซื้อล้วงกระเป๋ากางเกงเอาของที่ตนเองเตรียมไว้ออกมา ร่างที่นอนอยู่ก็พยายามมองว่าของที่คนรักของตนจะให้คืออะไร ขรรค์ไม่พูดอะไรดึงมือซ้ายของหิรัญไปหาตนเองก่อนจะเอาเชือกเส้นเล็กสีแดงมันที่นิ้วก้อย พอมัดให้หิรัญเสร็จแล้วก็มัดให้ตัวเองบ้าง หิรัญมองตามความยาวของเชือกที่มันไปสิ้นสุดที่นิ้วของขรรค์ด้วยความรู้สึกอธิบายไม่ถูก เขารู้สึกแสบตาเหมือนน้ำตาจะไหล เงยหน้ามองสบกับดวงตาของขรรค์ ร่างสูงก็ยิ้มออกมาน้อยๆ ใช้มือขวาจับประสานกับเรียวนิ้วสวยของคุณหมอหนุ่ม

“รู้ไหมว่าเงินดีใจกว่าการได้แหวนสักวงอีก ด้ายแดงงั้นเหรอ”

“ใช่ ตามตำนานมันบอกว่า ชายหญิงจะมีด้ายสีแดงที่มองไม่เห็นเชื่อมกับเนื้อคู่ของตนเอาไว้ ไม่ว่าจะอยู่ไกลกันคนละซีกโลก มันจะบันดาลให้ทั้งสองมาเจอกันในที่สุด แต่เราสองคนเป็นผู้ชายทั้งคู่ ขรรค์ก็เลยจะสร้างตำนานใหม่โดยอ้างอิงจากตำนานด้ายแดงเปลี่ยนมาเป็นเชือกสีแดงแทนไง เป็นตำนานเฉพาะของเรา”

“โรแมนติกจัง”

“ชอบหรือเปล่า”

“อื้อ...ชอบมากๆ เลย ด้ายแดงของเรามันมาบรรจบกันแล้วนะขรรค์”

“และมันจะไม่มีวันขาดจากกัน”

ร่างโปร่งลุกขึ้นนั่ง แล้วจู่โจมจูบที่ริมฝีปากนาของขรรค์ทันทีไม่ให้เจ้าตัวได้ตั้งตัวเลย ร่างแกร่งเองก็ประคองศีรษะบางบังคับเข้าหาตัวเองเพื่อให้แนบชิดกันกว่านี้

หิรัญนั่งคร่อมหน้าตักของขรรค์ ปล่อยตัวปล่อยใจให้ไปตามอารมณ์ที่ตัวเองรู้สึก ขรรค์เองก็ปล่อยให้คนรักทำตามที่ใจต้องการ ปลายลิ้นของทั้งสองพันเกี่ยวแลกสัมผัสวาบหวาม มือหยาบลูบไล้ไปตามร่างกายของหมอหนุ่ม ก่อนจะล้วงเข้าไปใต้เสื้อผ้า สัมผัสความเนียนสะอาดของร่างกายคนรัก

ทั้งสองคนไม่กลัวว่าจะมีใครเข้ามาเห็น เพราะมันเป็นที่ส่วนตัวในเขตตัวบ้านของขรรค์เอง ฉะนั้นแล้ว นอกจากพวกเขาสองคนก็ไม่มีใครเข้ามาที่นี่ในเวลาอย่างนี้แน่นอน

“อื้อ...ตรงนี้จะดีเหรอ”

“ก็ถือว่าเปลี่ยนสถานที่บ้างไงเงิน” ร่างสูงตอบพลางซุกไซ้ไปตามแนวความยาวของคอขาวเนียน

“หื่นจัง”

“ขรรค์เป็น อืม...กับเงินคนเดียวเท่านั้น”

“รู้หรอกน่า อ่ะ...”

“เงินตัวหอม”

“ไม่เจ็บแผลเหรอ อื้อ จะทำแบบนี้น่ะ”

“เงินเริ่มเองนะ ตอนนี้ต่อให้เจ็บก็ยอม”

ขรรค์ขบเม้มซอกคอขาวจนเกิดเป็นรอยคิสมาร์กแสดงความเป็นเจ้าของเอาไว้อยู่หลายรอย ฝ่ามือก็ทำหน้าที่อยู่ใต้เสื้อยืดของหมอร่างบาง หิรัญนั่งทับบนหน้าตักแกร่ง เอาแขนกอดรอบคอของขรรค์เอาไว้ แล้วเอียงคอให้คนรักสัมผัสได้ง่ายกว่าเดิม นอกจากต้นไม้ที่คนรักใช้เป็นที่พิงแล้ว หิรัญก็มองไม่เห็นอะไรเลย หากแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกดี

เขาหลับตาเคลิบเคลิ้มกับสัมผัสที่ค่อยเป็นค่อยไปของขรรค์ มันไม่ได้มูมมามราวกับคนอดอยากเหมือนที่ผ่านๆ มา แต่ครั้งนี้มันเต็มไปด้วยความอ่อนโยน และค่อยเป็นค่อยไป ยิ่งทำให้หิรัญรู้สึกมากกว่าที่เคยรู้สึกไปอีก

“อื้อ...ขรรค์”

“ขรรค์จะทำให้วันนี้เป็นความทรงจำที่ดีของเรา”

ร่างสูงกระซิบข้างหูเบาๆ มือก็เอื้อมไปถอดกางเกงของคนรักแล้วดึงลงไปกองไว้ที่หัวเข่า ส่วนหิรัญก็รู้หน้าที่ดีว่าจะต้องทำยังไงต่อไป

มือร้อนคว้าที่จุดสำคัญกลางลำตัวของหิรัญแล้วทำการขยับชักนำอารมณ์ของคนรักให้ประทุมากยิ่งขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาของหมอหนุ่มแหงนหน้าขึ้นด้วยความเสียวซ่าน กัดปากตัวเองแล้วครางในลำคอเบาๆ อย่างพึงพอใจ

“ไม่มีเจล...”

“อื้อ...ไม่เป็นไร ขรรค์จัดการเถอะ”

“งั้นขรรค์จะพยายามเบาๆ นะ”

“อื้อ”

นิ้วแข็งแรงค่อยๆ สอดเข้าไปในช่องทางคับแคบที่ฝืดเคืองมากเพราะเราไม่ได้มีกิจกรรมร่วมกันบ่อยนัก นานๆ ทีจะมีบ้าง ยิ่งเกือบสามอาทิตย์ที่ผ่านมาเราสองคนห่างหายไป แต่มันก็ไม่ได้เข้ายากเข้าเย็นมากนัก ขรรค์กัดแฟนกรอด พยายามระงับอารมณ์ที่ถูกปลุกอย่างอดทน

มือนุ่มของคนเป็นหมอกอบกุมที่แก่นกายใหญ่ของคนรักแล้วขยับขึ้นลงเป็นจังวะ เรียกเสียงหอบหายใจอย่างหนักหน่วงจากคนรักได้อย่างทีเนื่องจากว่ากำลังพยายามอดทนไม่ให้ตัวเองปลดปล่อยออกมาตามการแกล้งของหิรัญ

“ฮืม...เงิน”

“อะไรเหรอ” ถามเสียงหวาน เห็นสีหน้าทรมานของขรรค์ร่างโปร่งบางก็ยิ้มอย่างพออกพอใจ แต่ตัวเองเป็นต่อไม่เท่าไหร่ ร่างสูงก็พบจุดกระสันของหิรัญที่พอเขากดเน้นๆ เข้าไป ก็เรียกเสียงครางจากหิรัญได้ จนกลายเป็นว่าคนที่เป็นต่อตอนนี้คือขรรค์

“อ๊ะ! ย่ะ อย่าแกล้ง”

“งั้นไม่แกล้งแล้ว”

ไม่รอให้ร่างเล็กกว่าเตรียมพร้อม ร่างแกร่งก็จัดการถอดนิ้วออกมาจกช่องทางแล้วนำส่วนกลางลำตัวเข้าไปแทนอย่างค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ยิ่งทำให้รู้สึกมากเข้าไปอีก

“อ๊ะ!! ขรรค์ อื้อ...มันอึดอัด”

“ใจเย็นๆ นะ มันกำลังจะสุดแล้ว อื้ม”

เมื่อขรรค์เข้าไปจนสุดแล้ว ก็เริ่มขยับช้าๆ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหิรัญเองก็ตอบสนองสัมผัสและขยับกายเป็นจังหวะเดียวกันกับร่างแกร่ง

เพลงรักท่ามกลางพระจันทร์เต็มดวง บวกกับด้ายแดงที่ผูกนิ้วก้อยของทั้งสองคนนั้นทำให้ทั้งคู่รู้สึกอบอุ่นมากกว่าความรู้สึกร้อนแรงของการร่วมรัก

เสียงครางของทั้งคู่ดังระงมไปทั่วบริเวณ เสียงของสัตว์ตอนกลางคืน เสียงลม เสียงของใบไหม้ เสียงของธรรมชาติรอบๆ สถานที่นี้ เป็นเหมือนดนตรีที่ช่วยขับเคลื่อนบทเพลงรักนี้ให้ตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น แต่ตอนนี้ ทั้งขรรค์และหิรัญก็ไม่ได้สนใจอะไรรอบข้างเลยนอกจากกันและกัน

ไม่สนใจเลยว่าตรงนี้มันเป็นข้างนอก เป็นที่โล่ง...

“อ๊า...เงิน ขรรค์รักเงิน อื้อ รักเงินมาก”

“อ๊ะ อ๊ะ อื้อ...เงินก็ อึก รักขรรค์”

“เหลือเชื่อเลย อึก...ตอนนี้เรากำลังมีอะไรกันข้างนอก อ๊า...ได้มองพระจันทร์ไปด้วย อื้อ มองหน้าเงินไปด้วย”
ร่างโปร่งยิ้มออกมาน้อยๆ แล้วก้มจูบริมฝีปากของร่างแกร่งอย่างร้อนแรง เผื่อว่าการจูบนี้จะช่วยคลายความรู้สึกเสี่ยวซ่านที่มีอยู่เต็มเปี่ยมได้

เสียงครางของหิรัญยิ่งหนักขึ้นเมื่อร่างแกร่งรัวจังหวะเร็วแรง ไม่ปล่อยให้ได้พัก ภาพตรงหน้าที่ขรรค์เห็นมันดูเซ็กซี่ ร้อนแรงมากยิ่งแสงจันทร์กระทบร่างเห็นเป็นเพียงเงาของหิรัญบนตัวเขาเท่านั้น เพราะแบบนี้ขรรค์จึงเร่งจังหวะเพราะต้านทานอารมณ์ของตนเองไม่ไหวแล้ว

“ไม่ไหวแล้ว อื้อ...อ๊ะ ขรรค์”

“พร้อมกันนะ อืม...”

ทั้งสองเร่งเครื่องกันอีกครั้ง ไม่นานก็ร่างเกร็งกระตุกออกมาเป็นเวลาไล่เลี่ยกัน แก่นกายใหญ่แช่อยู่ในลำตัวของหิรัญอยู่แบบนั้นแล้วกดเน้นย้ำๆ เข้าไปจนปล่อยออกหมด จากนั้นจึงถอนแก่นกายตนออกมาพร้อมกับยกร่างคนรักออกจากตัก

“ข่ะ...ขรรค์” หิรัญเรียกชื่อคนรักสั่นๆ เมื่อเห็นแววตาที่ไม่น่าไว้วางใจของคนรัก

“หันหลังให้ขรรค์หน่อย”

ยังไม่ทันที่ร่างโปร่งจะหายเหนื่อยกับบทรักบทแรก ขรรค์ก็ยังมีที่ท่าไม่เหนื่อยเลยสักนิด แต่ด้านของหิรัญที่หมดแรงไปแล้ว แข็งขาอ่อนไปแล้วก็ไม่อยากให้คนรักรีบร้อยต่อรอบที่สอง

“คือ...เงินเหนื่อย”

“อีกรอบนะเงิน เดี๋ยวขรรค์จะพาไปพักบนห้อง”

“อ่ะ...อื้อ ก็ได้”

สุดท้ายหิรัญก็แพ้ลูกอ้อนของคนรักอยู่ดี ไม่ว่าจะยังไง ร่างโปร่งบางก็ไม่เคยปฏิเสธคนรักได้เลยสักครั้ง ยิ่งขอร้องอ้อนวอนมา หิรัญยิ่งปฏิเสธไม่ได้

ร่างขาวค่อยๆ หันหลังให้คนรักแล้วทำท่าคลานโก่งสะโพกของตนขึ้น พร้อมกับกัดริมฝีปากตัวเองด้วยความอาย เพราะการกระทำอันน่าอายของตัวเอง

ขรรค์เห็นท่าทางที่ต้องการก็ลูบก้มกลมเนียนของหิรัญอย่างหลงใหล เลียริมฝีปากตัวเองราวกับเห็นอาหารอันโอชะอยู่ตรงหน้า มือแกร่งกอบกุมแก่นกายของตัวเอง อีกข้างหนึ่งก็ใช้นิ้วเขี่ยที่ปากทางนุ่มของหิรัญจนร่างตรงหน้าสั่นสะท้านอย่างเห็นได้ชัด

“ขรรค์อยากให้เงินเห็นพระจันทร์ตอนมีอะไรกัน”

“ขรรค์แอบโรคจิตเบาๆ นะ”

“หึหึ...ขรรค์ก็เป็นเพราะเงินนั่นแหละ”

“แต่ว่า...อ๊า!!” หมอหนุ่มร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆ แก่นกายใหญ่โตก็แทรกเข้าไปโดยไม่บอกไม่กล่าวกันก่อน ใบหน้าขาวเชิดขึ้นจนสุด หลับตาพริ้มด้วยความเสียวซ่าน ก่อนจะค่อยๆ เปิดตามองพระจันทร์ยามที่ร่างของคนรักเริ่มขยับแก่นกายกระแทกกระทั้นบั้นท้ายเขาอย่างรุนแรง

สุดท้ายที่บอกว่าจะเบาๆ ก็ทำไม่ได้อยู่ดี...

หิรัญบอกความรู้สึกตัวเองไม่ถูก เพราะรอบนี้มันรู้สึกมากกว่ารอบที่แล้ว หรือครั้งก่อนๆ ที่เคยมีอะไรกัน อาจจะเป็นเพราะว่าตอนนี้เขากำลังมองพระจันทร์อยู่ มองเห็นบรรยากาศรอบๆ ที่มีแต่ต้นไม้กับหญ้า นั่นทำให้หิรัญโกหกตัวเองไม่ได้ว่าตนเองไม่ได้อยู่ข้างนอก...

ใบหน้าหล่อก้มหน้าลงมองมือตัวเองที่หยัดอยู่กับพื้นหญ้า เห็นนิ้วก้อยยังคงมีด้ายสีแดงอยู่ก็น้ำตาคลอ...

ขรรค์บอกว่ามันจะไม่มีทางขาด

มันจะไม่มีวันขาดอีกเป็นครั้งที่สอง...

“อ๊ะ...อ๊ะ อ๊า”

“อืม...อ๊า เงิน...รัดแน่นจัง อ้า...ดี”

ต่อให้มีใครอีกหลายคนจะบอกว่าความรักของเรามันผิดหรือน่ารังเกียจ ขรรค์ก็จะไม่มีทางหวั่นไหวไปกับมันอีกแล้ว เพราะสิ่งเดียวที่เขาอยากได้คือการที่ครอบครัวของหิรัญยอมรับในความรักของเรา แค่นั้นมันก็เพียงพอแล้ว

และตอนนี้เขาก็ได้มันมา

ได้โอกาสดูแลหิรัญไปตลอดทั้งชีวิต...

“ขรรค์สัญญา...ทั้งชีวิตนี้ ให้เงินคนเดียว”

“อื้อ...อ่ะ เงินก็สัญญา”

จากนี้เป็นต้นไป...ไม่ว่าจะเจออุปสรรคอะไร พวกเขาสองคนจะจับมือกันให้แน่นและก้าวผ่านมันไปได้ เพราะไม่มีอุปสรรคไหนจะหนักหนาเท่ากับสิ่งที่พวกเขาเคยผ่านมาอีกแล้ว

สิบกว่าปีที่รักกัน มันก็เป็นเครื่องพิสูจน์มากพอแล้วกับความรักของพวกเขา...

ต่อแต่นี้ไป...เราสองคนจะมีแต่ความสุข...
 









100%

=================================================

วันนี้ยูกิสวยมากกกกก (ฮ่าๆ) ลงให้ครบร้อยเลย

แต่จะมาต่อให้วันไหนอันนี้ไม่รับปากนะคะ

เม้นท์ให้ยูกิด้วยน่อออออ ใกล้จบแล้ว รอความกรุณานิดนึง คือลงให้แบบเต็มๆ

ก็ขอเม้นท์เยอะๆ นะคะ T^T เรียกร้องนิดนึง อย่ารำคาญกันเลยนะเธอจ๋าาาา

(แม้ว่ายูกิจะหายบ่อยก็เถอะ แหะๆ)

https://www.facebook.com/sawachiyuki/

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
หู้ยย.. ขรรค์กะเงิน.. เอาท์ดอร์ กันไป..  :hao6:
หวานไปหรือเปล่าหึ...  :katai2-1:
วงวารคู่พี่รามกะอิน นะ..  :katai1:
ไรท์... รีบมานะคะ..  :katai4:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
มุ้งมิ้งจังเลยตอนนี้ ฟิน ๆ ๆ ๆๆ  ๆ
 :hao6:

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
ว๊ายยยยย
เอ้าท์ดอร์เคียงจันทร์
โรเมนติกสุดและหื่นสุดด้วย
กริ๊บกริ้ว

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
แฮปปี้กันไปอีกคู่  :pig4:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
แฮปปี้ สมบูรณ์ไปหนึ่งคู่ ขรรค์เงิน มีความอบอุ่น มีความรัก ความห่วงใย
ขรรค์โรแมนติกนะ แต่ชอบแบบเอาท์ดอร์ก็ไม่บอก 55555
เงินน่ารักค่ะ ยอมให้ขรรค์จนหมดใจ เงินมาตามหาขรรค์ ทำให้ทุกอย่างมีวันนี้

รามก็รอไปก่อนนะ อินแค่สับสน

จักรจอม สู้ๆ นะคะ
จอมฉลาดพาอินไปด้วย หวังว่าอินจะแก้เกมส์ได้

ยูกิสวยจริงๆ ค่ะ 55555 ต่อจบตอนแบบสมใจเลยค่ะ

ออฟไลน์ chaaem

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เงินกะขรรค์เร่าร้อนมากก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด