เสียงพลุกับวงเหล้า : ตอนที่ 2.0 ห้องมืดหลังจากนั้นมา อีกหลายที ที่ไอ้เจพยายามปลุกอารมณ์ผมขึ้นมาให้ได้ มันใช้ตั้งแต่นิ้วมือ ขา คำพูด เอาตัวเข้าถู สารพัดวิธีที่จะให้ผมทนไม่ได้ แล้วก็มีส่วนร่วมกับมัน
มันไม่ได้ผล
ทุกครั้งที่ผมปฏิเสธมัน มันจะดูหงุดหงิดอารมณ์เสีย แต่มันก็ไม่ได้มาลงไม้ลงมือกับผมเลยสักครั้ง ในหลายๆ ทีที่ผมรอดตัวไปได้เพราะต้อง มันเลยลงกับต้องซะมากกว่า ไอ้สองคนนั้นมันทะเลาะกันประจำอยู่แล้ว ดัง นั้นถึงมันจะตีกันเพิ่ม ก็คงไม่หนักไปกว่านี้เท่าไร
ต้องก็รับเคราะห์จากความหื่นของไอ้เจไป
มานึกดูทุกวันนี้ผมเห็นเจ เป็น ประเภทแบบเดียวกับบูมไปแล้ว
ตอนนั้น บูม มันก็เป็นคล้ายๆกับเจแบบนี้ ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงอยากจะ 'ทำอย่างว่ากับผม' ยิ่งเด็กอย่างนั้นก็ไม่ใช่ ว่าจะทำกันจนเสร็จ จะเรียกว่าอะไรดี เหมือนกับทำให้แต่ละฝ่ายพอจะรู้สึกดีมากกว่า
นิสัยบูมมันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว เพื่อนร่วมห้องร่วมชั้นมีเยอะแยะ แต่ทำไมมันต้องมาเจาะจงที่ผมด้วย ตอนนั้นที่อยู่ห้องเดียวกัน มันก็พยายามทำยังไงก็ได้ให้เห็นว่ามันเหนือกว่าผม แต่ถ้าพอมีเวลาว่างมันกลับ เปลี่ยนไป
ใช้เวลาที่ลับตาคน เข้าหาเพื่อให้ผมลูบคลำของมัน มันพึงพอใจแค่นั้น ตอนนั้นมันยังขนไม่ขึ้นเลย ของมันก็เล็กจะใช้ทำอะไรได้
ย้อนไป สมัย ม.ต้น ผมเองต้องไปอยู่ห้องบ๊วยที่มีแต่เด็กเกเร ผมเลยเอาตัวรอดด้วยการเป็นหนึ่งในบรรดาพวกนั้นไปซะเลย ยกเว้นเรื่องเรียนที่ทำยังไงดูผลจะออกมาดีกว่าพวกนั้น
บูมเนี่ยอยู่ในกลุ่มเดียวกับผมและคนอื่นอีก 2-3 คน ซึ่งนอกจากกีฬาแล้ว มันไม่มีอะไรโดดเด่นแค่เด็กที่ทำตัวหล่อไปวันๆ
สำหรับม.ต้นที่เพิ่งเริ่มจะเป็นวัยรุ่น ไอ้บูมมันพยายามทำทุกอย่างให้เป็นคนที่เด่นดังให้ได้ เริ่มจากเข้าหาครูประจำชั้น แล้วไปพูดให้ครูประจำ ชั้น ลงโทษผมเสมอๆ (สมัยนั้นครูก็หูโคตรเบา) แล้วไม่รู้ยังไง มันติดใจเรื่องอย่างว่าที่ได้ยินได้ฟังคนอื่นคุยกันมา มันก็เลยมาลงกับผม (ผมเองก็ผิดที่ไปยอมมันเรื่องนี้)
'ครั้งสุดท้ายตอนไหนนะ' ผมต้องนึกอยู่สักหน่อย
อา.. ครั้งสุดท้ายที่ผมยอมมัน คือ ถัดจากนั้นไปอีก 1 ปี รูปร่างมันเปลี่ยนไปแล้ว ท่อนล่างของมันก็โตขึ้น เป็นแบบของผู้ใหญ่ คราวนี้เป็นครั้งแรกที่มันให้ผมใช้มือให้ จนกระทั่ง .. มันเกือบจะเสร็จ
ของผมดันเสร็จไปก่อนนหน้ามัน มันเลยรีบให้ผมทำให้มันบ้าง ความรู้สึกผิดที่มาจากไหนไม่รู้เข้ามาเคาะหัวผม ผมหันหลังกลับสะบัดตัว วิ่งออกจากห้องน้ำไป
ความรู้สึกผมบอกว่า ผู้ชายกับผู้ชายไม่ควรจะมีอะไรกับแบบนี้ ผมกลับขึ้นไปเรียนเหมือนไม่มีอะไร แล้วมันก็คงจะต้องการแก้แค้นผม ด้วยการที่ไปป่าวประกาศกลางห้องเรียนวิชาอะไรสักอย่าง ที่ดันมาสอนการไหว้ แล้วครูให้ผมออกไปทำทีละคนหน้าห้อง
'ครูครับ ผู้หญิงไหว้อย่างนี้เหรอ'
'ทำไมว่าเพื่อนเธอเป็นผู้หญิง'
'ก็มันชอบผู้ชาย ก็ต้องเป็นผู้หญิงสิ'
แล้วเรื่องก็ดังไปทั่วโรงเรียน
มันจบชีวิตม.ต้น ผมด้วยการออกไปบอกว่า ผมเป็นนักเรียนหญิงบ้าเซ็กของโรงเรียน ตั้งแต่นั้นมาก็รู้กันไปทั่วทุกห้อง คนก็ยิ่งเข้ามาหามันเพื่อถามเรื่องราว มันเลยได้ใจ ยิ่งพูดหนักขึ้นๆ
‘เก้า แม่งของใหญ่วะ’
‘แม่งลีลาดีนะเว้ย ชอบทำให้ผู้ชายด้วย’
‘กูได้มาแล้วนะ พวกมึงลองรึยัง’
รู้กันไปทั่วจนถึงหูพวกครู มันเลยยิ่งกระจายกันเข้าไปอีก
“เก้า พักแล้ว หาไรกินป่าว”
ผมสะดุ้ง เสียงต้องเรียกเอาสติผมที่ไปวนเวียนอยู่แถวห้องน้ำกลับมา
“ไม่วะ วันนี้ไม่หิวอะ มึงไปก่อนเลย กูกะรอกินเที่ยงทีเดียว” ต้องออกไปกับแมค
ผมนั่งคิดอะไรต่อไปอีกหน่อย
พี ไม่สิ เจ มันเคยเป็นคนที่ช่วยเหลือผมมาตลอด ตั้งแต่เข้าม.4 มา ไม่รู้ว่ามันคิดเอาไว้แล้วหรือไม่ แต่ถ้าวันนั้นมันไม่ทักผมก่อน ผมก็คงไม่ทักใครแล้วก็ไม่ได้คุยกับใครอีกเลย ที่จริงผมตั้งใจจะไม่ยุ่งกับใครเลยต่างหากคงเป็นเพราะความคุ้นหน้าของมันที่ทำให้ผมอยากพูดคุยด้วย
แล้วก็กลายเป็นเพื่อนกัน
เดี๋ยวนี้มันก็ดูแปลกไป ผมไม่รู้ว่ามันมีเรื่องอะไร หลายๆครั้งที่โทรเข้าไปหา มันมักจะปิดโทรศัพท์ ช่วงหลังๆนี้ กลิ่นบุหรี่จากตัวมันมาแทนที่กลิ่นตัวที่ผมจดจำและได้กลิ่นเป็นประจำไปแล้ว
แฟนมันที่มันเคยแอบไปหาบ่อยๆ จนพวกแมคยังแซวตอนนี้หายไปแล้ว มันไม่ได้พูดให้ฟังอีกเลยว่า ไปทำไรกันมาบ้าง อันที่จริงมันก็ซักพักนึงแล้วที่มันไม่พูดถึงและก็ไม่มีโทรศัพท์มาให้เห็น
น่าจะเป็นช่วงเดียวกับที่มันเริ่มพาผมไปตามที่ต่างๆในโรงเรียน ยิ่งทำเหมือนมันก็ยิ่งจะติดใจ จนกระทั่งผมอดคิดไม่ได้ว่า 'หรือว่ามันจะเปลี่ยนใจมาชอบผู้ชายแล้วจริงๆ' คืนนั้นถ้ามันไม่เมาแล้วพูดออกมา ผมก็คงจะคิดว่า มันเป็นเหมือนแฟนผู้ชายของผมไปแล้ว
เมื่อผมรู้ ผมก็ยิ่งจะหาทางเลี่ยงออกจากมัน เพื่อตัวมันและตัวผมเอง ไม่ให้มันถลำลึกลงไปกว่านี้
“เฮ้ย ไม่ไปกินข้าวเหรอ”
กลิ่นน้ำหอมฉุนกึก
“มึง ฉีดเยอะไปแล้ว เดี๋ยวครูก็ว่าหรอก”
ไอ้เจ ขยับเสื้อไปมา ยกขึ้นมาดม
“ทำไงได้”
ผมมองขึ้นไป ไอ้เจยืนอยู่ข้างโต๊ะผม เอาเป้านูนดันขึ้น มาวางบนโต๊ะ
“งั้นไปห้องน้ำกันมั้ย”
ัมันถามขึ้นเมื่อเห็นว่าผมจ้องลงไปที่เป้าของมัน
“มึง กูไม่อยากวะ”
แน่นอน มันไม่ชวนไปฉี่แน่ๆ
“อะไรวะ”
เสียงมันเกินคำว่าอารมณ์เสียไปแล้ว หน้าตาเริ่มดูไม่สบอารมณ์
ผมแหงนมองหน้ามัน มันทำหน้าอย่างกับว่า ผมไปทำเรื่องอะไรไม่ดีมา มันทั้งเสียใจแล้วก็รู้สึก เหมือนโดนคนขัดใจ ปนๆกัน เด็กที่โดนแย่งของเล่นจะเป็นแบบนี้มั้ยนะ
มันเอื้อมมือมาดึงแขนผม
“เฮ้ย”
ผมสะบัด มันยังไม่หยุดดึง
ผมออกเดินไปหน้าห้อง
“ต้อง มีไรกินมั่งวะ กูหิว”
ผมตะโกนออกไปหาร่างสูง ที่กำลังเดินมา
คนที่ผมรู้สึกพึ่งได้ที่สุดในยามนี้
“วิ่งหน้าตั้ง มีไรวะ”
ไอ้ต้องคว้าตัวผมเอาไว้ มันเหวี่ยงตัวผมเข้าไปใกล้จนเกือบจะเป็นกอด
“กูหิวมึง พากูไปกินหน่อย”
ผมพยายามทำหน้าอ้อนมัน
“กินไรวะ กูเหรอ” ต้องเอานิ้วชี้หน้าตัวเอง
“ไอ้บ้า”
ผมคว้าแขนมันแล้วออกเดินไปข้างล่าง
ทิ้งเจไว้เบื้องหลัง
“เป็นไรไป”
“พากูไปไหนก็ได้ ไป”
“ปะ ห้องกู” ไอ้บ้าต้องก็พูดเล่นอยู่ได้
เจไม่ได้ตามมา ที่จริงแล้วไม่ได้ไปไหนเพราะว่ามันจะหมดเวลาพักอยู่แล้ว เดินลงไปตอนนี้ก็ไม่ทัน ผมกับต้องก็เลยเดินวนเวียนไปมา อยู่แถวชั้น 2 แล้วกลับห้องเรียน
มันก็คงสงสัย แต่ผมไม่อยากเล่าอะไรให้มันฟัง ไม่ควรจะเล่าอะไรให้มันฟังทั้งนั้น ผมไม่อยากเป็นไอ้บูมคนที่ 2 คนปากหมาอย่างมันมีในรร.นี้คนเดียวก็พอแล้ว
ผมได้แต่ทนนั่งเรียนทำเป็นไม่สนใจไป เมื่อถึงพักเบรคช่วงบ่าย
“เก้า มีคนมาหามึงแน่ะ”
เด็กห้องอื่น
“ครูให้มึงลงไปห้องวิทย์น่ะ เค้าถามเรื่องการบ้าน มึงไปลอกใครมา”
เฮ้ย มันก็ลอกกันทั้งนั้นป่าววะ ทำไมเรียกกูคนเดียวละ
วันซวยอะไรวะเนี่ย
'โดนด่าแน่กู'
ผมเดินลงบันไดไปชั้นหนึ่ง ในใจก็คิดหาคำแก้ตัวเอาไว้ด้วย จะบอกว่ามันลอกกันทั้งห้องดีมั้ยหรือจะอ้างไปเลยว่าต้นฉบับมาจากใคร จะได้ชิบหายกันให้หมด ไหนๆวันนี้มันก็เฮงซวยแล้ว เพิ่มเข้าไปอีกจะเป็นอะไรไป
ตอนนี้พักบ่าย คนเริ่มทะยอยออกมาเดินหาขนมกินกัน โดนด่าต่อหน้าประชาชีแน่ๆ
“เก้า มานี่ก่อน”
เสียงคุ้นๆ
“เฮ้ย มึงมาทำเหี้ยไรตรงนี้วะ ครูเรียกกูไปด่าอยู่ มีไรไว้ทีหลัง”
“เออน่ามาเหอะ”
ผมสู้แรงมันไม่ไหว
“เฮ้ย เหี้ยมืด”
มันผลักหลังผมเข้าไปในห้องที่มืดสนิท พอสายตาเริ่มชินกับความืดได้สักพัก ก็เริ่มเห็นแสงที่ลอดเข้า มาทางหน้าต่าง นี่มันหลังเวทีห้องประชุมใหญ่นี่
“เจ มึงทำห่าไร”
ไม่มีคำตอบ มือเย็นๆ ชื้นเหงื่อของมันค่อยลูบผ่านต้นขาผม ล้วงเข้าไปในกางเกง ตอนนี้มือนั้นวนเล่นอยู่แถวๆส่วนปลายแท่งที่ยังไม่ตื่นเต็มที่ มีเพียงกางเกงชั้นในเท่านั้นที่กั้นอยู่
“มึง ครูเรียกไง”
ผมผลักมันออก
“กูนี่แหละเรียก”
“สัส มึงหลอกกูเหรอ”
ผมอยากรู้ว่ามันจะทำหน้ายังไง แต่ในความืดแบบนี้ช่างสังเกตุได้ยาก
“ไม่หลอกมึงจะมาเหรอ”
ผมว่าไอ้เจมันชักจะเลยเถิดไปแล้วนะ ผมไม่ใช่เมียมันนะ
ผมพยายามดันมือมันกลับไป แต่ไม่เป็นผล คราวนี้มันถาโถมมาที่คอเริ่มจากประทับรอยจูบเบาๆที่ ซอกคอ ไล่ไปถึงหลังหู ลิ้นเปียกชื้นนิดๆ ได้ปลุกอารมณ์ในตัวผมขึ้นมา จริงๆอารมณ์มันก็มีมาตั้งแต่เช้าแล้ว
“อา...”
ผมกำลังเคลิ้มได้ที่ การกระทำทั้งหมดก็หยุด
ผมสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันท่อนล่างก็แทบจะชี้ทะลุออกมาจากกางเกง อะไรบางอย่างเปียกลื่นที่กางเกงในผม แสดงว่าของผม มันถึงจุดที่ต้องการเต็มที่แล้วสินะ ถึงได้เริ่มมีน้ำออกมา
ไอ้คนทำถอยห่างไป
'อะไรของมันวะ'
เงาดำๆวูบไหวเร็วๆ
คราวนี้มันเข้ามาใหม่ ผมเห็นร่างนั้นเลือนลาง ร่างขาวๆโชว์ให้เห็นจางๆตั้งแต่ตัวจนถึงขา
เฮ้ย พอผมมองดีๆ มันถอดเสื้อผ้าออกหมดเลย ผมทำตาโต
มันถาโถมเข้ามา
การจู่โจมครั้งที่สองกำลังเริ่ม
มันปลดเข็มขัดผมออกอย่างรวดเร็ว ใช้มือรูดลงทีเดียวไปทั้งกางเกงและกางเกงใน เหลือแต่ส่วนนั้นที่ชี้หน้ามันอยู่ พอเจลูบคลำส่วนนั้นของผมมันก็ตอบสนองด้วยการปล่อยน้ำลื่นๆเหนียวๆออกมา
มันทำเสียงได้ใจ
“อยากแล้วนี่"
เจ เอามือสาวขึ้นลงอย่างรวดเร็ว
“ช้าๆดิวะ”
มือมันถึงยอมแผ่วลงบ้าง แต่ยังคงวนเวียนเล่นอยู่แถวส่วนนั้น ส่วนที่ให้ความรู้สึกที่สุดของผม ไอ้เจมันรู้ว่าผมชอบตรงไหน
ปากมันก็ลามเลียจากคอลงมาถึงซอกอก ท้อง ข้ามไปที่ต้นขา มันจับผมหันหลัง
แล้วเรื่มไล่ใหม่จากหลังลงมาที่เอว แล้วกัดก้นผมทีนึง มันเริ่มพยายามจะเอามือมาอ้าก้นผมออก
'ไม่'
ไม่มีทางแล้วก็ไม่ใช่ที่นี่ด้วย ผมขยับตัวเดินขึ้นไปข้างหน้า
มันดันตาม แต่ไม่ใช่นิ้ว เอาตรงนั้นกระแทกเข้าก้นผมอย่างจัง
ยังครับ มันไม่ได้เข้าง่ายๆ
ถึงยังงั้นเจมันก็ไม่หยุด โยกเข้าออกอยู่อย่างนั้น ทำเหมือนกับว่ามันจะทะลุเข้าไปได้ มือมันก็โอบเอว ผมไว้ไม่ยอมปล่อย เสียงหายใจหอบไม่เป็นจังหวะ เข้ามาที่ข้างหูเป็นช่วง
“เดี๋ยวออดดังแล้วนะมึง”
มันค่อยๆเอามือลูบหัวผม (หัวจริงๆ) ลูบไล้อยู่พักนึง มันเริ่มออกแรงกดลงหัวผมให้ก้มลงไป มันอยากให้ทำแบบนี้สินะ ทำไงได้ มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ได้แต่ก้มหัวอ้าปากละนะ
เริ่มจากขยับขึ้นลงช้า เสียงเจ เริ่มเปลี่ยนไป จากที่ผมต้องขยับเอง มันเป็นฝ่ายขยับเข้าออกเร็วขึ้นๆ
มันหยุดส่ายเอวแล้วดึงหัวผมขึ้นมา จากนั้นเริ่มไซร้ที่ซอกคอ หู ลามลงมาที่หน้าอก มันพยายามใช้ มือ บีบเค้น เนื้อขึ้นมาแล้วละเลงลิ้น
ผมไม่มีนม!!!
วิธีนี้ที่ใช้ทำกับผู้หญิง
ตอนนี้ตัวผมชื้นไปด้วยน้ำลายเจ แล้วก็กลิ่นบุหรี่จากมัน มันไปแอบสูบที่ไหนมา
“เจ... มึงว่า ผู้ชายมันทำกันยังงี้ มันเรียกว่าอะไรวะ”
ความกล้าที่รวมมาเพื่อพูดประโยคปัญญาอ่อนนี้
“... คู่ขาไงมึง มึงคงไม่ใช่เกย์จริงๆหรอกนะ” มันหัวเราะ
คำพูดนี้ตอกย้ำเข้าไปอีก เหมือนเอาตะปูทิ่มเข้ามากลางหัว
“อือ ป่าว” ผมตอบไป
มันยังวนรอบหน้าอกผมไม่ยอมหยุด
“ยังไงผู้ชายมันก็เป็นแฟนกันไม่ได้อยู่แล้ว”
ใช่ มึงพูดถูก
มันดูหยุดนิดนึง ท่าทีลังเลแปลกๆ
"มึงจะเป็นเกย์เหรอเก้า กูว่าคิดดีๆนะ เรื่องอย่างว่าก็เรื่องอย่างว่า แต่ถ้ามึงชอบด้านนี้จริงๆกูรับไม่ได้วะ"
ความอยากผมแทบจะหดหายทันที ถ้าไม่ใช่มือมันยังจับรูดรั้งไว้
กับผม เจมันคงคิดว่าเป็นแค่เรื่องอย่างว่า บ่อยๆเข้าผมเริ่มชินกับมันแล้วก็ยอมรับในตัวผม วันนี้ในเมื่อมันกล้ายอมรับว่าไม่มีอะไรเกินเลยไปนอกจากเรื่องเซ็ก
ผมก็กล้ารับความรู้สึกตัวเองตรงๆ ความรู้สึกที่ผมคิดว่าผมลังเลมาตลอด มันอาจจะแค่ที่ผ่านมาผมไม่ยอมรับ ผมแยกไม่ได้ว่า เพื่อน แฟน คนรัก คู่ขา เซ็ก มันต่างกันยังไง
'ผมก็ไม่ได้ชอบมัน'
ตอนนี้ผมแน่ใจ
'แค่คู่ขาสินะ'
“จะหมดเวลาแล้ว” ผมบอก
ผมเร่งทำให้มัน ขยับหัวขึ้นลงเร็วๆ
มันใช้มือรีบจัดการให้ผมอย่างเร็วไปด้วย พร้อมๆกับเอามือผมไปช่วยมัน ผมทำให้มันทั้งมือและปาก
เราขยับรัวของกันและกัน เร็วขึ้น แน่นขึ้น
ไม่นาน ส่วนนั้นแข็งเกร็งร้อนผ่าว และน้ำลื่นๆ ไหลเยิ้มจนแทบละล้นมือผม เสียงเจที่เปล่งออกมาเบาๆอยู่ข้างหู เสียงมันสั่นจนผมแทบฟังไม่ออกว่ามันพูดอะไร
“เก้า ลึกลงมาหน่อย” ผมทำตามอย่างว่าง่าย
มันใกล้จะจบแล้ว
ตัวเจแข็งเกร็ง ส่วนนั้นตึงแน่น มือเคลื่อนไหวเร็ว เล่นเอาผมเจ็บปากเลย เอาตัวขึ้นดีกว่า มันคงใกล้แล้ว
มันกดหัวผมต่อไป
แย่ละ ส่วนนั้นกระตุกอยู่ในปากผม ผมสะบัดหัวออก แต่ไม่ทัน เลอะเต็มหน้าผมไปหมด บางส่วนพุ่งเข้าไปในปาก รสชาติฝาดแปลกๆจนต้องรีบคายออก
ในห้องประชุมที่มืด และเงียบนี้ ไม่รู้ว่าใครจะได้ยินมั้ย เสียงตอนที่เจเสร็จนั้นมันฟังชัดมาก มันครางกระเส่าราวกับไม่ได้ทำมานานเป็นเดือน
ไม่รู้เลยว่าน้ำขาวๆของมันจะเลอะไปถึงไหนบ้าง แต่ที่หน้าและผมของผมรู้สึกอุ่นๆ หนืดๆไปหมด
"ผ้าเช็ดหน้ามีมั้ย” เจถามเสียงเหนื่อยหอบ
“มึงเคยเห็นกูใช้มั้ยละ”
'จะออกไปยังไงละเนี่ย'
“แล้วของมึงละเก้า”
มือเจยังพยายามขยับอยู่ แต่มันเหมือนหมดแรงจะทำให้อีกฝ่ายแล้ว มันขยับช้าลงจนแทบจะเป็นกำนิ่งแทน ปล่อยให้น้ำใสๆเหนียวละเลงเลอะมือมันไว้อย่างนั้น
“ไม่เป็นไร ช่างเหอะ”
เราสองคนจึงรีบแต่งตัวเท่าที่ความมืดจะอำนวย ชั้นนี้ยังไงคนก็น้อย เสี่ยงดวงเอาละกันวะ ออกไปจะเจอใครหรือไม่ ขอให้ไม่ใช่ครูก็แล้วกัน ไม่งั้นดังแน่
เจ แต่งตัวเสร็จคนแรก เห็นแวบๆเป็นเงาดำๆ ว่ามันเอามือไปลูบตามกำแพง
เช็ดมือกันยังงี้เลย
ส่วนผมไม่รู้จะเอาไปป้ายตรงไหน เลอะไปหมดทั้งมือ ปาก หน้า ผม ที่ก้นผมยังมีน้ำอะไรลื่นๆของมัน ถึงเสื้อผ้าจะใส่เสร็จแล้วแต่มันก็ไม่เหมือนตอนก่อนถอด มันรู้สึกไม่เข้าที่
แสงลอดเข้ามา
มันเปิดประตู ช้าๆ เงียบๆ ค่อยๆโผล่หน้าออกไปมอง ซ้ายขวา
ผมกำลังเดินตามออกไป มือมันดันที่ท้องให้ผมถอยกลับเข้าไปในห้องมืด
เห็นเงาคนแรกเดินเร็วๆผ่านไป ผมมองไม่ทัน ผมผงะถอยกลับเข้าไป แต่ไม่ทันได้ถอยเข้าไปดีคนที่สองที่เดินผ่านมาหันมามองทางผมเต็มๆ ไม่ทันแล้ว
สายตาประสานกัน รู้แน่ว่าต่างฝ่ายต่างเห็นกันแล้ว
“หึ... เลอะหัวมึงแน่ะ”
เสียงที่ผมรู้จักดี ถึงจะไม่ได้ยินมานานแล้ว แล้วก็ไม่อยากได้ยินด้วย … สัสบูม
เจ ดึงตัวผมออกจากหลังห้องประชุมแล้ว รีบกอดคอเดินพาผมลงไปห้องน้ำชั้นล่างอย่างรวดเร็ว ปล่อยไอ้บูมไว้อย่างนั้น มันจะพูดอะไรไล่หลังมาผมก็ไม่สนใจแล้ว เจทำท่ากอดคอแนบสนิทก้มหัวเข้ามาใกล้ เพื่อบังเอาไว้ ไม่ให้คนอื่นสังเกตุ
พอเข้าห้องน้ำไปได้ ที่หน้ามันเลอะนิดหน่อยดูไม่ออก หน้าผมตอนนี้ที่ขาวอยุ่แล้ว ยิ่งซีดลงไปอีก ดีแล้ว มันเลยดูออกยาก แต่ที่หัวผมนี่สิ มันมีอะไรขาวๆเลอะอยู่ที่ปลายผม
ความคิดมันกำลังเตลิด คนทำผิดแล้วโดนจับได้
คนที่เห็นเหตุการณ์อย่างบูมก็คงเดาได้ว่ามันคืออะไร ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากล้างออก มือสั่นๆค่อยๆลูบผมที่ละปื้น ดึงน้ำขาวๆออก
เสียงออดดังขึ้น คาบสุดท้ายมาแล้ว
“เฮ้ย เก้า คือ กู...”
คำพูดหดหายไป
“ล้างออกหมดรึยัง”
มันเปลี่ยนประโยคใหม่
“อือ หมดแล้ว”
มันเดินเข้ามาเอามือปัดๆผมของผมให้เข้าที่ แล้วถาเข้ามากอด
“กูขอโทษ”
“ช่างมันเหอะ”
ผมดันมันออกจากตัว ชี้ให้มันขึ้นเรียนไปก่อน ส่วนผมได้แต่ขยี้ผมให้หมาดๆแล้วหันหลังเดินออกจากห้องน้ำตามมันไป
บันไดลงชั้น 3 มันแค่ชั้นเดียว มันชั้นละ 13 ขั้นรวมชานพักเป็น 27 ขั้น จากชั้น 3 ไปชั้น 5 ไม่น่าเกิน 100 แต่ทำไมผมนับได้รวมกันมี 300 ขั้นบันได ทุกครั้งที่ยกขาขึ้น แล้ววางลงบนขั้นแต่ละขั้น มันเบาหวิวอย่างบอกไม่ถูก หลังผมเปียกชื้น อาจจะรู้สึกไปเอง เพราะเสื้อยังแห้ง
เมื่อผมหันหลังกลับไปก็เจอทางเข้าห้องประชุมเปล่าที่ตอนนี้ถูกปิดไว้ ไม่มีคนมาใช้ ไม่มีวี่แววของไอ้เจ มันคงจะขึ้นอีกบันไดนึงเพื่อไม่ให้คนเห็นว่าเข้ามาพร้อมกัน จากทางเดียวกัน
เด็กที่กำลังจะเข้าเรียนสาย คงจะไปพักที่สวนฝั่งตึกประถมมา รีบวิ่งขึ้นบันไดผ่านผมไปอย่างรวดเร็ว ผมหันหน้าหลบ
สูดหายใจเข้าลึก
‘ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว สำหรับผมและเจ’
ถึงที่ผ่านมามันจะดีกับผมมากแค่ไหน
แต่... ต่อไปนี้ คงต้องหยุดแล้ว
----------------------------------
อันนี้เคยหลุดสปอยส์ไปเพราะหยิบผิดมาลง ได้ทีเลยแก้ไขใหม่ซะด้วยเลย
ตอนที่ 1 ต้องมีไรผิดแน่ๆ ทำไมมันลงวันที่ 11/11 รู้สึกเหมือนลงมานานก่อนหน้านั้นมาก
หรือจะเบลอแล้ว...
