10 CM : รักที่ส่วนต่าง 10 CM 3/5/2016 จบแล้วครับ + มีเวบตูนแล้วครับ ลิ่งอยู่เม้นสุดท้าย
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 10 CM : รักที่ส่วนต่าง 10 CM 3/5/2016 จบแล้วครับ + มีเวบตูนแล้วครับ ลิ่งอยู่เม้นสุดท้าย  (อ่าน 83750 ครั้ง)

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
ขอแค่ 5 นาที : จุดเริ่มต้น

ม.3/5 เป็นห้องเรียนที่ไม่ได้อยู่ติดกลุ่มท๊อป ไม่ใกล้เคียงเลย แม้ว่าเลขห้องจะเป็นเลข 5 จาก 8 ห้องก็เถอะ โดยตัวเลขเองจะกลางๆก็ไม่ ห้องที่เรียนเก่งที่สุดจะเป็นห้องหมายเลข 1 นอกจากนั้นเด็กจะถูกจับคละๆกันแล้วแยกไปตามห้องต่างๆ แต่ละปีจะได้ห้องไม่ซ้ำกัน

ยกเว้นแค่ห้อง 1 ที่เป็นห้องเรียนดี เด็กในห้องจะไม่ได้สลับหรือย้ายไปไหนยกเว้นสอบได้ผลแย่กว่าคนที่จะมาแทน พูดง่ายๆคือโดนเขี่ยออกนั่นเอง

พี่ต้องอยู่ห้อง 1 มาตลอด

วันนี้แต่เช้าแม่งก็น่าเบื่อเหมือนเคย ที่นั่งหลังห้องโดนจับจองไปแล้ว จะเว้นว่างไว้ทำไมนี่นะ

ต่อนั่งอยู่หลังห้องมุมริมหน้าต่าง ในแถวนั้นที่ว่าง 2 ที่ริมหน้าต่างโดนต่อนั่งไป 1 เหลืออีก 1

“เฮ้ย ต่อ” เสียงตะโกนโหวกเหวกมาจากหน้าห้อง

“มึงก็ได้ห้องนี้เรอะ”

อาท เพื่อนเก่าตั้งแต่สมัย ม.2

“ไงวะ อาท มึงได้เจอกูอีกจนได้ น่าเบื่อ”

อาทเป็นคนรูปร่างท้วมนิดๆ ไม่สิตอนนี้คงใช้คำนี้ไม่ได้ มันผอมลงแล้ว ตัวใหญ่ ผิวคล้ำ มีกล้าม ผิดกับเด็กม.3 ทั่วไป ถ้าจะต้องมีเรื่องละก็ คนนี้เป็นคนที่ต่อหนักใจที่สุด

มันเป็นนักกีฬาว่ายน้ำด้วย ทุกครั้งที่มีกิจกรรมในน้ำ ต่อจะพยายามอยู่ให้ห่างเอาไว้ เพราะรู้ว่าไม่มีทางสู้ได้แน่ๆ

อาทเป็นนักกีฬาโรงเรียนเลยนะ

ไอ้ที่อ้วนนั่นมันคือความผิดช่วงหนึ่งในชีวิตของมัน และมันไม่อยากให้ใครพูดถึง

เสื้อผ้าที่อาทใส่คับติ้ว มันไม่คิดจะซื้อใหม่รึไง

“คนอื่นละ”

“ไม่เห็นนะ คิดว่าน่าจะยังวุ่นอยู่ที่กระดานบอกห้องข้างล่าง”

มันหยิบเก้าอี้ นั่งถัดจากผมไปหนึ่งตัว

เป็นแถวกลางที่อยู่ข้างที่ว่างข้างต่ออีกที

“เฮ้ย มึงได้โทรศัพท์ใหม่เหรอ”

มันชอบเหรอวะ ไอ้พวกแอนดรอยเนี่ย

“พ่อให้มา” มันอวด

“โอ้ กะปิมาแล้ว ปีซวยของมันอีกปีสินะ”

ต่อไม่ชอบคำพูดอาทเลย

“ไอ้ขี้แหง่นี่ได้ห้องนี้เหรอ” อาททำหน้ายิ้มกริ่ม

กะปิยังเดินวนหาที่นั่ง ท่าทางมันไม่รู้จักคนในห้องนี้เลย

ปีซวยของมันจริงๆด้วย

“เออดิ แม่งน่าจับมันเตะออกไปจริงๆ ไอ้จั๊มอะไม่ได้คนนึงละ ไปอยู่ห้อง 6 เรียบร้อย”

ในกลุ่ม 7 คนรวมกะปิด้วย ตอนนี้จะเหลือแค่กี่คนนะ

“อา .. สวัสดี ต่อ อาท”

ปิทำท่าจะลงไปนั่งข้างอาท

“ค วยเหรอ ไอ้กะปิ ไปนั่งข้างต่อเลยไป อย่ามาเกะกะกู”

ต่อลุกให้ขยับไปนั่งข้างๆ

“กะปิ มึงไปนั่งข้างในไป”

“อือ ฝากตัวด้วยนะ” กะปิตอบ

พลัก

สายตาทั้งห้องหันมามอง

ต่อดึงเก้าอี้กะปิดออกก่อนที่มันจะนั่ง ทำให้มันทิ้งตัวลงใส่อากาศ มันจึงล้มลงกับพื้น

“สมน้ำหน้า”

“แหะๆ”​ กะปิหัวเราะหน้าแดง

โดนเข้าไปยังหัวเราะได้อีก

มุมในสุดหลังห้อง มีกะปิกับต่อนั่งอยู่

ช่วยไม่ได้ ถ้ามันนั่งข้างไอ้อาทมีหวังโดนซ้อมตายก่อนเรียนจบแน่

ให้มันนั่งข้างในน่ะดีแล้ว

“ใครรับไอ้กระจอกนี้มาเข้ากลุ่มวะ”

“กูเองแหละ มีไรมั้ย” ผมหันไปมองหน้าอาทตรงๆ

อาทหลบหน้า

อย่างน้อยตอนนี้พวกมันก็ยังกลัวต่ออยู่บ้าง

“คนที่จะแกล้งกะปิได้ มีกูคนเดียวเว้ย”

"ค วยเหอะ ทำอย่างกับพวกกูไม่เคยแกล้ง”

ใช่ พวกมันเคย แล้วก็แกล้งหนักมากด้วย หนักเกินไปจนต้องเข้าไปห้าม หลังจากนั้นมา จะคอยแกล้งมันเป็นระยะๆ ให้พวกนั้นสะใจ แต่ก็ดีกว่าไปโดนพวกนั้นทำเอง

 ขืนปล่อยไว้มีหวังเฉาตายคามือ

ที่ข้างๆ

ปิค่อยๆดันตัวเองขึ้นมานั่งบนเก้าอี้

เฮ้อ

ต่อจับแขนกะปิดึงขึ้นมา แล้วก็ปัดๆกางเกงให้
   
ตัวผอมแห้ง ไม่ได้กินข้าวหรือยังไงนะ มันไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปจากปีที่แล้วเลย ไม่สิ มีอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไป แต่ต่อยังนึกไม่ออกว่าอะไร ที่ทำให้ต่อรู้สึกแปลกๆต่อกะปิ อะไรสักอย่าง

วันนี้เมื่อปีที่แล้ว วันที่ต่อเจอกับกะปิครั้งแรก

เด็กรูปร่างผอมสูง ตัวสูงเท่าต่อ เวลาเดินกอดคอกันจะได้สัดส่วนที่พอ แค่ต่ออ้วนแล้วดูมีกล้ามเนื้อกว่า ปิไม่ชอบเล่นกีฬา

ร่างผอมนั้นผิวขาวอมชมพู ท่าทางเหมือนไม่เคยโดนแดด แขนขาผอมยาว เดินมาทางที่ต่อนั่งอยู่

ปิเดินเข้าห้องเรียนชั้น ม.2 มาด้วยอาการเก้กัง มองซ้ายขวาอยู่นานราวกับหาอะไรบางอย่างอยู่ บางอย่างที่ไม่อยู่ตรงนั้น แล้วกะปิก็หาไม่เจอ

ที่หน้าห้องมีกลุ่มเด็ก 2-3 คน จับกลุ่มกันอยู่ ยืนยิ้มโบกมือให้ ราวกับว่าจะมาส่งกะปิ

ท่าทางจะโดนย้ายห้องเรียนมาห้องนี้คนเดียว คงแยกกับเพื่อนมาสินะ

เมื่อปิเดินเข้ามาใกล้ๆ

“ตรงนี้มีคนนั่งมั้ยครับ”

ผมสั่นหัว

ปิทำท่าจะนั่งลง

“ใครให้มึงนั่งวะ”

ปิทำหน้างงๆ หันหน้ามามอง

หน้าปิขาวๆ แก้มแดง เส้นผมสีดำเข้มตรง ตรงจนราวกับมีใครมาดึงให้ตกลงมาตลอดเวลา เพราะผมเส้นเล็กจึงบางติดหัว 

มีสิ่งหนึ่งที่บดบังทุกอย่างบนใบหน้าเอาไว้ คือ แว่น

แว่นดำหนา ปิ ท่าทางจะสายตาสั้นมาก

ถอดแว่นออกมา คงจะตาหยีเป็นเมล็ดแตงโม

“ขอโทษ” ปิทำหน้าเศร้า

กำลังจะเดินออกไปหาที่นั่งอื่น

“ข้างนั้นไม่ว่าง แต่ข้างนี้ยังว่างอยู่” ต่อบอกปิ

ใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มสดใส มันเป้นรอยยิ้มที่จริงใจที่สุดตั้งแต่ต่อเคยเห็นมา

นับจากวันนั้นปิก็ได้เข้ามาอยู่ในกลุ่มต่อ คนอื่นๆในกลุ่มจึงรุมแกล้งมัน ดูท่าว่าไอ้โรคแหยๆ นี่จะดึงดูดคนอื่นๆให้เข้ามาแกล้ง ตัวปิเองก็ไม่มีปัญญาอะไรจะไปช่วยตัวเองจากพวกนั้นได้

ต่อทนไม่ไหวจนต้องประกาศออกไปว่า

‘คนที่แกล้งมันได้มีแค่ต่อเพียงคนเดียว’

ถ้ามีกราฟชี้ ความสัมพันธ์ผมกับปิ ก็เลยดูจะเข้าใกล้กันมากขึ้น กราฟแนวตั้งเป็นความสัมพันธ์แนวนอนเป็นเวลา มันชี้โด่เด่สูงขึ้นไป แต่กับคนอื่นตกฮวบลงไปอย่างหนัก พวกมันรู้สึกว่า ต่อมีอะไรไม่ชอบมาพากลกับกะปิ

ปิมันเลยตามติดต่อแจยังกับลูกหมา

ใช่ เวลามันทำหน้าปกติ จะเหมือนหมาหงอยๆ

หลังจาก ปิ เข้ามาแล้วก็มี ทีม ตามมาอีกคน

ไอ้ทีมนี่ ปีนี้ดูสูงขึ้นมาก มันไล่ต่อมาทันแล้ว ตัวก็ใหญ่ แย่แล้วสิ

ปีหน้าคงจะเลยหน้าต่อไปแน่

ต่อจะไม่สามารถคุมพวกมันได้อีกต่อไป ช่วงนี้แข่งกันโตแล้วสินะ

ทีมเป็นเด็กนิสัยชอบแย่งของชาวบ้าน ปีที่แล้วก็แย่งขนม แย่งของเล่นเด็กประถมไปโยนทิ้งโยนขว้าง  ไม่รู้มีปมอะไรกับของเล่นหนักหนา

กลุ่มเรา เหลือกันแค่นี้สินะ 4 จาก 7 ถ้าไม่นับกะปิ ก็ 3 โชคดีของมันที่เหลือน้อยหน่อย ดูท่าเป็นอย่างนี้ต่อเองจะห้ามพวกมันไม่ให้รุมกะปิได้อีกกี่ทีกัน

ต่อได้แต่แอบมองหน้าใสๆของกะปิ มันชอบนั่งหันข้างมองหนังสือเรียนที่จะเรียนในขั่วโมงต่อไป ไม่รู้ว่าจะตั้งใจไปไหน

แก้มใสดึงดูดสายตา แก้มขาวที่มีเลือดฝาดตัดกับผมสีดำตรง จะขัดตาก็แค่แว่นหนาๆของมันนี่แหละ

อะไรบางอย่างในตัวปิมันเปลี่ยนไปนะ

คำถามลอยวนเวียน

ครูประจำชั้นเดินเข้ามา

“วันนี้จะเริ่มเรียนวันแรก ......” อะไรสักอย่างที่ต่อไม่ได้ตั้งใจจะฟัง

ครูยังคงพูดต่อไป

ปีนี้ ม.3 ปีหน้าต้องเลือกสายที่จะเรียน เอ... สายอะไรดีน้า คงต้องสายเดียวกับพี่ต้องละนะ เดินตามรอยพี่ต้องดีกว่า

นั่งคิดอะไรไปเพลิน

“……เวรทำวันละแถวเรียน 5 แถว 5 วันพอดี เริ่มจากหลังห้อง”

หือ อะไรนะ

“เฮ้ย แถวพวกเราวะ”

เหี้ยเอ้ย

ทำเวรโรงเรียนเนี่ยเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก

เริ่มต้นด้วย ลบกระดาน จัดโต๊ะเก้าอี้ กวาดพื้น ถูพื้น เหนืออื่นใดที่ลำบากที่สุด คงจะเป็นเพราะว่า ต้องมาไล่คนออกไปจากห้องให้หมด ไม่งั้นทำยังไงก็ไม่เสร็จ ถ้าทำไม่สะอาดไม่รู้ว่าจะโดนให้ทำใหม่มั้ย แล้วแต่ความเฮี๊ยบของครูประจำชั้นละนะ แล้วกว่าผู้คนจะยอมกลับออกไปนอกห้อง บางทีก็เย็นมากอยู่

ถ้าแถวต่อเริ่มก่อนละ เย็นนี้คิดว่าพวกไอ้อาทมันจะอยู่ทำกันเหรอ

ไอ้กะปิ มันตายแหงๆ

วันนี้การเรียนจบลงด้วยการบ้านที่มีถาโถมเข้ามา ถาโถมก็เว่อร์ไป แค่วิชาเลขแค่นั้นแหละ วันแรกก็มาแล้ว แบบฝึกหัดบทที่ 1

เอาเหอะ เดี๋ยวให้พี่ต้องสอนก็ได้วะ ไม่งั้นลอกไอ้กะปิมัน ไอ้นี่เรียนก็ใช้ได้นะ

ต่อ อาท ทีม กำลังจะเก็บของกลับบ้านกัน

“เฮ้ย วันนี้มีทำเวรนี่”

อาทพูดเสียงดังแต่ถือกระเป๋าออกจากห้อง

“เออ อาทมึงอย่าหนีสิวะ” ทีมคว้ากระเป๋าแล้ววิ่งออกจากห้อง
   
“เออใช่ๆๆ พวกมึงกลับให้หมด ปล่อยไอ้ปิพนธ์ไว้คนเดียว ห้ามช่วยมัน เข้าใจ๋” ไอ้อาทยังมีหน้ากลับมาสั่งเสียไว้อีก

ต่อมองหาปิ ไม่อยู่ เหลือแต่กระเป๋านักเรียนแบบเป้ ห้อยอยู่ที่เก้าอี้

เป้สีดำห่อเหี่ยว เจ้าของเองก็คงจะสภาพใกล้เคียงแบบนี้แน่ๆ

กะปิเดินล้างมือ เสื้อเปียก เข้ามาในห้อง แถวชายเสื้อ

คงไปล้างคราบอาหารกลางวัน แต่ก็ไม่ออก
   
เปิดมามันก็โดนเข้าไปเต็มๆเลย

นี่จะโดนตอนเย็นอีกเหรอวะ แค่วันแรกนะ

“พวกนั้นกลับหมดแล้ว เหลือ มึงคนเดียว ทำให้หมดละ”

“อะ อือ” เสียงอ่อย

แม่งเอ้ย ทำเสียงยังงี้อีกแล้ว

ต่อบอกลา แล้วถือกระเป๋ากำลังจะกลับบ้าน

แวะไปหาพี่ต้องดีกว่า

ที่หน้าห้องมีใครบางคนมายืนรออยู่

เพื่อนไอ้กะปิรึยังไงนะ

กดโทศัพท์ออกที่ชื่อพี่ต้อง

“พี่ต้อง กลับบ้านกันมั้ย”

“ต่อ วันนี้พี่กลับกับพวกเพื่อนเหมือนเดิมนะ”

“อะไรอะ ปีที่แล้วก็งี้นะ จะกลับกับไอ้เก้าใช่มั้ย”

“..... นี่ต่อ โตแล้วนะ”

ชิ

แม่งเอ้ย น่าเบื่อ

อากาศเย็นๆอย่างนี้พวกอาทออกไปดูดบุหรี่กันสบายใจแล้วละสิ

เอาไงดีวะ

แหงนหน้าขึ้นไปมองบนตึกเรียน แม่ง ป่านนี้ไอ้กะปิ ...

ป่านนี้ไอ้คนซื่อบื้ออย่างมันต้องยังทำเวรอยู่คนเดียวแน่ๆ

เฮ้อ

ต่อตัดสินใจเดินกลับขึ้นไปบนตึก

สวนทางกลับคนอื่นที่เดินลงมา สวนทางกับความคิดตัวเอง แต่ไปตามความรู้สึก

เวลาเลิกเรียนคนเหลือน้อย เด็กที่เดินสวนมาเริ่มบางตา ส่วนใหญ่คงกลับกันไปหมดแล้ว ชั้นเรียนเริ่มมืด ไฟในห้องเรียนก็ไม่ได้เปิด พื้นทางเดินเปียกเป็นหย่อมๆ

แม่งห้องไหนถูพื้นแต่ไม่บิดผ้าให้แห้งวะ

เดินตรงตามทางเดินที่มืดและเปียกแฉะไป

ไฟห้อง 3/5 ยังเปิดสว่างอยู่
   
ปิน่าจะเพิ่งลบกระดานดำเสร็จ เห็นตอนนี้โต๊ะครึ่งแรกของห้องโดนจัดเข้าที่เรียบร้อย เสียงลากเก้าอี้เอี๊ยดอ๊าดดังออกมา

ตัวก็มีอยู่แค่นั้นจะทำไหวเหรอวะ

“ปิ ไหวมั้ยเนี่ย” ต่อตะโกนเข้าไป

ปิสะดุ้ง หันมาส่งยิ้มแหยๆให้เหมือนเดิม ใบหน้าชื้นเหงื่อ

ในห้องมีอีกคนอยู่ด้วย

น่าจะเป็นเพื่อนเก่าปิ มองมาทางต่อ แล้วมองหน้าปิ

“เดี๋ยวกูช่วย” ต่อบอกปิ

“งั้นเราไปนะ"

คนนั้นเดินออกไป

ก่อนออกหันมามองต่ออย่างไม่ไว้ใจ

เดี๋ยวซัดแม่งเลยนี่

“ใครวะ”

“อ้อ เพื่อนน่ะ เค้ามาอยู่เป็นเพื่อน”

“ห้องอื่นเหรอ” ถามโง่ๆนะต่อ

“อือ ห้อง 4 น่ะ ชื่อ ... “

ต่อตัดบท

“เอาเหอะ มาเดี๋ยวไม่ได้กลับ”

ต่อช่วยจัดแถวครึ่งหลังให้ ปล่อยให้ปิกวาดห้องไป

ส่วนใหญ่ของห้องถูกทำความสะอาดไปแล้ว คนนั้นสินะ ไอ้กะปิทำช้าอย่างกับอะไร

“ทำไมกลับมาละ” ปิถามเสียงหงอยๆขึ้น

ไม่มีคำตอบ

สภาพเสื้อของปิ ยังดูเลอะเทอะ เมื่อตอนกลางวันอาหารเป็นราดหน้า ต่างคนเข้าแถวต่อคิวรับอาหาร ไอ้ปิ กับ อาท ถึงจะสูงไล่กันแต่ขนาดตัวคนละเรื่อง พออาทหยิบเสร็จหันมาชนปิเข้าเต็มแรง ราดหน้าหกรดใส่เสื้อ

เด็กนักเรียนแถวนั้นจ้องมอง น้ำเหนียวหยดติ๋งลงจากชายเสื้อ เมื่ออยู่ในห้องเรียนก็ส่งกลิ่นเหม็นหืนของน้ำมัน

มันเลยเวลาอาหารไปแล้ว

ปิเลยต้องทนเรียนไปทั้งเสื้อเหม็นๆ

มันเองก็คงรู้ว่า ถ้าไปล้างละก็ กลับมามันจะโดนพวกต่อทิ้งให้อยู่คนเดียว มันเลยตามเรื่องปล่อยให้เลอะเอาไว้อย่างนั้นจนเลิกเรียน

ปีที่แล้วก็โดนเอาน้ำแดงราดหัวฝีมือพวกไอ้อาทอีกเหมือนกัน แต่แย่กว่าปีนั้น มีกัน 7 คนพวกไอ้เหี้ยนี่เลยได้ใจ ยิ่งเล่นหนักมือ แต่มาปีนี้เหลือ แค่ 3 มันคงไม่กล้ามาก คราวนี้น่าจะอุบัติเหตุจริงๆ

ตอนนั้นพอปิโดนน้ำแดงราดเสร็จมันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แต่ป่าวมันยิ้มแหยๆ ยิ้มเหมือนทุกทีที่มันเคยทำ ไอ้อาทดูจะยิ่งไปพอใจมากขึ้น เข้าไปกระชากเสื้อปิ

เพื่อนกะปิบางคนเห็นเข้า ร้องเรียกคนอื่น

เสียงฝีเท้าของเพื่อนกะปิมันรีบวิ่งกรูเข้ามา

ใช่แล้ว

ปิเองก็มีเพื่อนที่รักมันอยู่ กลุ่มเพื่อนมันที่กรูกันเข้ามาดูแลกะปิ กลายเป็นว่า ทั้ง 2 ฝ่ายต่างมีเรื่องกัน แน่นอนว่า ต่อไม่ยุ่ง ปล่อยให้พวกเหี้ยนี่โดนซะบ้างก็ดี เพื่อนปิเองไม่ใช่น้อย มากันเป็นฝูงเลย ทั้งคนรู้จัก แล้วก็เพื่อนของเพื่อน

ผู้พิทักษ์กะปิ

หึ กะปิและผองเพื่อน เพื่อนที่ปีนี้โดนแยก

ไอ้อาทคงจะยิ่งเคืองละนะ

เมื่อต่อเข้าไปห้ามทัพ พวกอาทดูจะเคืองต่อมากกว่าแก๊งผู้พิทักษ์ซะอีก

สุดท้ายปิก็ยังไปไหนมาไหนกับพวกต่อบ้าง เวลารวมกันใหญ่ๆก็จะมีมา แต่มักจะหลบหลังต่อซะมากกว่า ไม่เฉียดเข้าไปใกล้ไอ้อาทเหี้ยอีกเลย

มาปีนี้ มันโดนแยกมาคนเดียว เดอะแก๊งจะมาช่วยทันมั้ย

มาโดดเดี่ยวอยู่กับพวกต่อนี่

เสียงลากเก้าอี้ดังเสียดสีกับพื้นกระเบื้อง

เมื่อมันรู้ว่าต่อไม่ตอบ ปิ จึงทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปเงียบๆ

ไม่คิดจะหันกลับไปถามอะไรอีก

แผ่นหลังปิเริ่มมีเหงื่อซึม

“ปิ มึงไปนั่งเหอะ”

มันหันมาทำหน้างงๆ

“ไปนั่งไป”

ต่อหงุดหงิด

ในห้องที่เงียบเหงา กระเบื้องพื้นสีส้มอ่อนๆ มีเด็กอยู่สองเสียงลากโต๊ะกับเสียงไม้กวาดเหวี่ยงไปมาโดนขาเก้าอี้

“พอละ”

“เดี๋ยวจะโดนว่าเอาเปล่า”

“เออน่า ดูไม่ออกหรอกวันแรกยังไม่เลอะ เชื่อกูเหอะ แต่ถ้ามึงไม่กลับ มึงจะโดนกู”

ปิ เดินไปหยิบกระเป๋านักเรียนมาสะพายหลัง

เป้ใบห่อเหี่ยวคล้ายสภาพเจ้าของ ขึ้นไปขี่บนหลังเปียกๆ

ท่าทางจำยอม

ยืนรออยู่หน้าห้อง

เฮ้อ ยังกะมีน้องเลยเว้ย

ต่อจัดโต๊ะสุดท้ายให้เข้าที่อีกทีแล้วหนีบกระเป๋านักเรียนสีดำไว้ข้างตัว

ความรู้สึกของพี่ต้องที่มีให้ต่อจะเป็นคล้ายๆอย่างนี้มั้ยนะ

ต่อกับกะปิเดินกอดคอกันออกไป เดินกลับลงไปที่ชั้นล่าง ปล่อยให้แสงสาดส่องเข้ามา ทะลุผ่านห้องเรียน เป็นร่างขาวๆ อยู่ท่ามกลางเงาสลับกับแสงเป็นช่วงๆ

ทนเห็นหน้าแหยๆของมันไม่ได้จริงๆ

“ปิ เสื้อมึงแข็งเป็นคราบน้ำราดหน้าเลยวะ”

มันหัวเราะ

“เดี๋ยวกลับไปค่อยซัก”

เออ ดี...

           
   

   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-01-2016 17:01:58 โดย Monet »

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เดี๋ยวก็คงจะดีขึ้นเอง
เพื่อนช่วยเพื่อน..มันก็งี้ล่ะ

รักกันยังไม่ทันจะรู้ตัว
หุหุ

ป้อล่อ..จะลืมความร้ายกาจของต่อในตอนก่อนหน้านี้เลยนะ
เดี๋ยวจะเม้นท์ไม่สนุก ไม่สมกับเป็นตอนของต่อกับกะปิ

(แอบบอก)ว่าชอบง่ะ
ฟิลด์นี้คุ้นๆอยู่นะ อิอิ

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook


อาห์... ตอนของต่อที่ต่อจะเป็นคนดีแล้วสินะ
(บร้า! นี่ป้าต้องล้างความทรงจำเดิม ๆ ที่มีกับน้องต่อแล้วใช่ไหม?)
เอาเถอะ... เก็บปิไว้ให้ต่อรังแกคนเดียวก็ดี ต่อมันจะได้ไม่ไปตามราวีพี่สะใภ้ให้ต้องมันเหนื่อย ฮ่า ฮ่า ฮ่า
รอติดตามตอนต่อไป และสวัสดีปีใหม่ค่ะ ^^  :L1:


ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0


อาห์... ตอนของต่อที่ต่อจะเป็นคนดีแล้วสินะ
(บร้า! นี่ป้าต้องล้างความทรงจำเดิม ๆ ที่มีกับน้องต่อแล้วใช่ไหม?)
เอาเถอะ... เก็บปิไว้ให้ต่อรังแกคนเดียวก็ดี ต่อมันจะได้ไม่ไปตามราวีพี่สะใภ้ให้ต้องมันเหนื่อย ฮ่า ฮ่า ฮ่า
รอติดตามตอนต่อไป และสวัสดีปีใหม่ค่ะ ^^  :L1:

สวัสดีปีใหม่ครับ ^ ^

เดี๋ยวก็คงจะดีขึ้นเอง
เพื่อนช่วยเพื่อน..มันก็งี้ล่ะ

รักกันยังไม่ทันจะรู้ตัว
หุหุ

ป้อล่อ..จะลืมความร้ายกาจของต่อในตอนก่อนหน้านี้เลยนะ
เดี๋ยวจะเม้นท์ไม่สนุก ไม่สมกับเป็นตอนของต่อกับกะปิ

(แอบบอก)ว่าชอบง่ะ
ฟิลด์นี้คุ้นๆอยู่นะ อิอิ

บ้าาาา ต่อไม่ร้ายซะหน่อย 555

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
แค่หวงพี่ชาย
ยังกับเป็นแฟนตัวเอง

อะ..ไม่ร้ายก็ไม่ร้าย
แค่ต่อ แรว๊งงงงงงงงงงง
ฮ่าฮ่า

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
ขอแค่ 5 นาที : เคมีกับการ์ตูน

สูตรเคมีประหลาดๆถูกเขียนขึ้นบนกระดาน เป็นสมการกับตัวเลขภาษาอังกฤษปนเปกัน ที่อ่านไม่รู้เรื่อง พยายามดูยังไงก็ไม่เข้าใจ

ตัวอักษรสีขาวจากผงชอล์กอัดแท่ง บนพื้นกระดานสีเขียว ดูราวกับมีชีวิต ครูผู้สอนหน้าห้องพูดราวกับว่ามันเป็นสิ่งของจับต้องได้

ต่อทำใจให้เข้าใจได้ลำบาก คนขวามือจะเข้าใจมันบ้างรึเปล่านะ

ครูผู้สอนร่างผอมเล็กผมหยิก ใส่แว่นหนาท่าทางมีอายุ แต่ผมยังดำอยู่ เวลาสอนจะใช้ไมโครโฟนที่มีลำโพงเล็กส่วนตัวมาด้วย สายห้อยรุ่มร่ามลากโยงไปมา ลำโพงเสียงแตกๆจากการใช้งานมานาน

เรื่องตลกที่ว่า... เวลาจะด่าเด็กกลับปิดไมค์แล้วตะโกนลั่นห้อง ตัวเล็กแต่เสียงดัง ทำไมไม่ตะโกนสอนไปซะเลยละ

ไอ้กะปิจดตามบนกระดานยิกๆอยู่ด้านขวามือ ในสมุดเปล่าๆ ที่เพิ่งจะได้ใช้ไปไม่กี่หน้ามีลายมือกลมๆแต่ไม่หวัด เพียงแค่อ่านไม่ออกเพราะว่าหมึกสีน้ำเงินจากปากกาที่มันใช้นั้นสีซีดจางจนแทบจะกลายเป็นสีฟ้า

สมุดของต่อแทบจะว่างเปล่า นี่ไม่ใช่ชั่วโมงเรียนครั้งแรก แต่เนื้อที่ในสมุดทำราวกับว่าไม่เคยได้เรียนมาก่อน

ที่โรงเรียน เมื่อขึ้นมัธยมถึงจะได้รับอนุญาตให้ใช้ปากกาลูกลื่นเขียน ถ้าเป็นก่อนหน้านั้นจะบังคับให้ใช้ปากกาหมึกซึม แล้วมันก็ซึมไปทั่วถ้าไม่ระวัง รอยด่างดวงบนโต๊ะ มือ ชายเสื้อนักเรียนจะถูกย้อมด้วยสีน้ำเงินเข้มเป็นจุดกลมๆ

ถ้าแย่หน่อย ขวดหมึกถูกปัดหกเรี่ยราด พื้นห้องก็จะนองไปด้วยสี

ไม่มีใครคิดจะเติมหมึกก่อนมาเรียนหรืออย่างไรนะ

เวลาเขียนถ้าไม่ระวังเผลอสะบัดข้อมือเพราะความเมื่อยจะได้หมึกที่กระเด็นออกมาจากปลายปากกาเป็นของแถม

มัธยมต้นเหมือนสวรรค์ของพวกแม่บ้านที่เกลียดวิธีการขยี้ผ้านักเรียนที่เปรอะคราบ

ไอ้กะปิท่าทางยุกยิกอย่างนี้ มันก็เป็นคนเรียบร้อยคงจะไม่เลอะเหมือนเด็กคนอื่น ผิวขาวๆของมันถ้าเลอะนี่คงจะยิ่งชัด ตอนประถมนี่มันไปอยู่ที่ไหนนะ

ไม่เคยเห็นหน้ามันเลย ตอนเด็กคงยิ่งน่าแกล้ง

วันนี้อากาศหนาว น่านอน

ต่อหันไปมองข้างๆ

ไอ้กะปินั่งชิดหน้าต่างตั้งใจจด บางครั้งแว่นหนาๆมันจะเลื่อนลงมาจนเจ้าของใบหน้าต้องใช้นิ้วดันกลับเข้าที่

ริมฝีปากแดงโดดเด่น

วิชาเคมีเนี่ยก็ไม่ใช่วิชาม.ต้นเลยนะ ที่ต้องเรียนเพราะว่าเป็นหลักสูตรสั้นก่อนจะเรียนจริงเมื่อขึ้นมัธยมปลาย เดี๋ยวก็มีวิชาภาษาฝรั่งเศส ไรพวกนั้นตามมาอีก

ไม่ต้องให้ลองเรียนก็รู้อยู่แล้วว่าจะเลือกสายไหน

"ปิ มึงจะเข้าสายไรวะ"

มันหันมาทำหน้าแหยๆ

"คงจะสายวิทย์ละมั้ง"

"ห้อง?"

"ไม่รู้เลย"

มันก้มหน้าก้มตาจดต่อ

เลขห้องเรียนเป็นตัวกำหนดสาย วิทย์ คณิต ศิลป์ ภาษา ไม่มีห้องเรียนดี หรือห้องบ๊วยอีกต่อไป จบกันทีกับการแบ่งวรรณะจากเกรด ... เออ แม่งแบ่งจากแผนที่เรียนแทน ห้องวิทย์1 สำหรับสอบหมอ ดูจะเป็นห้องเรียนดีพิเศษ

ห้องเชิดหน้าชูตาโรงเรียนด้วยการสอบติดยกห้อง

ไอ้พี่ต้องก็ห้องนี้แค่ไม่คิดจะสอบหมอ

แต่ไม่ว่าตัวเลขจะเป็นเท่าไร ทุกห้องก็หน้าตาเหมือนกัน พัดลมเก่าบนเพดานแบบหมุนรอบ แอร์หนึ่งเครื่องใหญ่บนเพดานที่เพิ่งมาติด หน้าต่างไม้ 8 บานที่มีที่บังแดดทำจากโปสเตอร์ดศิลปินนักร้อง

ต่อกำลังหน่ายสุดๆ

แม่งอากาศเย็นๆงี้ต้องมาฟังภาษาประหลาดออกไมค์เสียงแตกๆ รู้เรื่องที่ไหน นี่ไม่ใช่ห้อง 1 แบบพี่ต้องซะหน่อย

อี๋ นี่ปีหน้าต้องเจอวิชาพวกนี้เหรอวะ เปลี่ยนใจทันมั้ยอะ

ตัวของต่อเริ่มสไลด์ไปตามเก้าอี้ ขายาวเลื่อนไหลออกไปใต้โต๊ะ

"ขออนุญาตนะครับ"

เสียงใครสักคนเรียกต่อขึ้นมา

"ห้องน้องได้สีฟ้านะครับ พี่เป็นตัวแทนสี ห้องน้องกับห้อง 4 แล้วก็จะมีพี่ๆชั้นม.5 ห้อง 1 ด้วย"

เอ๋ ห้องพี่ต้องนี่

ในใจลิงโลด

ต่อเผลอทำหน้ายิ้มออกไป

ปีนี้จะได้ทำกิจกรรมพร้อมพี่ต้องเหรอเนี่ย ลากพี่ต้องลงบอลดีกว่า

"ใครจะลงสมัครอะไรให้มาบอกพี่ที่ห้อง 6/4 นะครับ"

ดูครูเคมีไม่ยี่หระอะไรกับเวลาที่เสียไป ปล่อยให้พี่คนนั้นพูดได้เต็มที่

"เห่ยวะ" อาทพูดขึ้น

"ไรวะ"

"สีฟ้าน่ะ เป็นสีที่แพ้บ่อยที่สุด"

"เกี่ยวไรวะ มึงก็ทำให้ชนะดิ" พี่ต้องสอนเสมอ อย่าเขื่ออะไรที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์

แต่เอะ เรื่องสีก็ดูเป็นวิทย์นะ มากกว่าพวกเชื่อดวงประจำวันแล้วกัน

"แล้วมึงลงไรวะต่อ"

"เดี๋ยวดูวะ บอลมั้ง มึงละทีม" ทีมหันมา

"กูเหรอ อืมมมมม ไม่ลงไม่ทำ โดดโลด โดดแม่งทุกวันนี่แหละ"

เหี้ย ตลอด

"งี้ก็เหลือแค่กะปิขึ้นแสตนด์คนเดียวสิเนี่ย"

ไอ้อาทนี่ไม่ต้องถาม ถ้ามันไม่ลงว่ายน้ำนะ ยอมแก้ผ้าวิ่งรอบโรงเรียน คนอย่างมันเล่นอะไรอย่างอื่นเป็นที่ไหน

งานใช้กำลังยิ่งในน้ำ มันถนัดนัก

หึหึ กิจกรรมใช้สมองว่ามันแย่แล้ว สันดานมันน่าจะแย่กว่า

'แพ้ไม่เป็น ยอมไม่ได้'

มันถึงขั้นพูดว่าถ้ามันแพ้มันจะทำให้กลัวมาชนะให้ได้ ถ้าไม่ได้แม่งจะโกง ถ้าโกงแล้วยังไม่ได้อีกก็ฆ่าคู่แข่งทิ้งเลย

คนอย่างนี้เป็นนักกีฬาได้ไงวะ

"หา...  อะ คงยังงั้นแหละ" มันยังรีบตามจดบนกระดานอีก

ระหว่างที่ครูพักเบรคไปพูดคุยเรื่องกีฬากับพี่คนนั้น

"เฮ้ย สัสกะปิ เอาการ์ตูนออกใหม่มาดูดิ" อาทถามข้ามไป

ต่อต้องเอาขาสะกิดไอ้ห่านั่น พูดซะเสียงดัง

เมื่อหันไปกลับเห็นปิเอามือล้วงยุกยิกที่เป้พาดที่พาดอยู่ข้างหลัง มันไม่หันไปมองจะรู้มั้ยวะว่าอันไหน

คลำอยู่นาน มันก็แอบส่งลอดผ่านหน้าขาต่อ ไปทางอาท แต่ไม่ถึง มีทางเดินคั่นกลาง

ต่อเลยช่วยส่งต่อไปให้

บ้ากะปิมีตาหลังเหรอ หาเจอด้วย

ไอ้อาทได้นั่งอ่านอยู่ใต้โต๊ะสบายใจมันไปละ เดี๋ยวโดนจับได้ขึ้นมากูจะสมน้ำหน้าให้

ชั่วโมงเคมียังเดินหน้าต่อไป เดี๋ยวตามด้วยวิชาไรวะ เปิดตารางดูดิ

กำลังควานหาตาราง

"เอ้า การบ้าน อีก 1 เดือนส่ง"

"ครูจะให้ไปท่องตารางธาตุมาให้ฟัง"

ครูชูหนังสือขึ้นมาชี้ให้ดูตารางหน้าตาสีเหลี่ยมยาว คล้ายตารางแข่งบอลพรีเมี่ยมากกว่า

โห ไรวะ ใครจะไปจำได้วะตั้งกี่ตัว แถมต้องจำอีกชื่อจริง ของมันคืออะไรอีกด้วย

"งานนี้มีคะแนนด้วย"

ไม่มีคะแนนเด็กที่ไหนมันจะท่องวะ ป้า

โว้ย เซ็งวุ้ย

นึ่แค่วิชาเคมีนะ ขอให้วิชาอื่นอย่าเอาการบ้านมาเพิ่มเลย

"เฮ้ยๆ มึงขำไรวะ อาท" ทีมที่อยู่ข้างๆกำลังสะกิด

เสียงอาทดังขึ้นเรื่อย

"ฮ่าๆๆๆๆๆ" เฮ้ย เป็นเหี้ยไร

ทีมเริ่มหน้าเสีย

ต่อคิดว่า ความซวยกำลังมาเยือนอีกแล้ว

"ขำมากเหรอ มันง่ายไปใช่มั้ย"

"ป่าวครับ" อาทยืนขึ้นตอบ

"แล้วขำอะไร" ครูยืนกอดอกชี้ไมค์มาทางหลังห้อง

อาทไม่ตอบ แต่ก็ไม่มีทีท่าสลด ตัวล่ำๆผิวสีแทนของมันเวลายืนค้ำหัวต่ออย่างนี้รู้สึกไม่ดีเอาเลย

มันจะรู้ตัวมั้ยว่าที่มันโดนเรียกให้ยืนเนี่ย มึงกำลังโดนเชือดไม่ได้ให้มายืนขำ

มองหน้ามัน แม่งยังยิ้มอยู่อีก

ความเงียบเกิดขึ้นไม่เกิน 2 นาที ในห้องบรรยากาศเปลี่ยน แต่ไอ้ควายน้ำข้างๆต่อนี้ท่าทางจะไม่รู้ร้อน

ผู้สอนไม่พูดอะไรอีก

แล้วเลื่อนมือปิดลำโพง

เอาแล้วไง

"ก็ๆ ฮ่าๆๆ ไอ้กะปิ มันส่งการ์ตูนมาให้ผมอ่าน ผมก็ขำสิครับ"

สันดานแล้วไง ไอ้ชั่วนี่ แม่งตั้งใจชัดๆ ไม่สิสมองมันหยักน้อยเกิน คงเพิ่งคิดออก

โคตรระยำอะมึง

ผมเห็นปิหน้าซีดคอตก มันสะบัดหน้ากลับมามองโต๊ะทันทีที่ได้ยินไอ้อาทเอ่ยชื่อมันออกมา

"ใครชื่อกะปิ"

คนในห้องหัวเราะเสียงดัง ฉายานี้เฉพาะพวกต่อเท่านั้นที่เรียก

คนข้างๆผมยกมือ

"เธอชื่อกะปิเหรอ"

"เอ่อ ปิพนธ์ครับ"

แก้มแดงตอนนี้แดงขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่ใช่เพราะอายแน่ๆ มันก้มหน้านิ่ง

"เพื่อนเรียกกะปิก็ให้เรียกเหรอ ชื่อเธอพ่อแม่ตั้งให้ ทำไมยอมให้คนอื่นเรียก เป็นหมูเป็นหมาเหรอเธอใครจะเรียกอะไรก็ได้น่ะ"

ปิก้มหน้า

ครูพูดถูกครึ่งเดียว อีกครึ่งคือ มันจะห้ามอะไรได้ ลับหลังพวกเรายังเรียกครูว่า ป้าหัวฟูเลย เพียงแค่ครูสามารถข่มพวกเราได้ อำนาจที่เหนือกว่ามันช่วยได้

เพียงเพราะปิมันไม่มีหรอก ไม่ใช่มันยอม

"เธอเป็นคนเอามาใช่มั้ย"

ปิ แอบหันไปมองหน้าอาท

ไอ้อาทตอบกลับด้วรอยยิ้มกวนประสาท ... กวนส้นตีนถึงจะถูก

"ออกมานี่"

"เอาการ์ตูนออกมาด้วย"

ปิรับการ์ตูนจากอาทแล้วค่อยๆเดินออกไป

"ครับ"

ครูรับการ์ตูนมาพลิกๆดูแล้ว......

ฉีก ฉีกออกเป็นชิ้นๆ

เสียงกระดาษดังแควก ยาว รัว

"กินเข้าไป"

ปิหน้าแดง

"เอ่อ"

ปิยืนถือเศษการ์ตูนที่เป็นชิ้นๆ กำขยำอยู่ในมือ

ครูจ้องหน้าเขม็ง

มือปิสั่น

จ้องมองนิ่งๆ

ผิวขาวซีดที่ตอนนี้นอกจากแก้มแดงผิดวิสัยแล้ว ส่วนอื่นดูจะซีดลงกว่าเดิม

'อย่านะเว้ย ไอ้บ้ากะปิ'

ต่อได้แต่คิดไม่กล้าตะโกน

ปิยังยืนจ้องทำหน้าสลด

เพียะๆๆๆ

ครูเอาเศษที่เหลือ ปาใส่หน้าแล้วเอาการ์ตูนที่ยังเป็นเล่มตีหัวกะปิ ตีแบบคอมโบไม่นับ

"กลับไปนั่งที่ พักบ่ายมาหาชั้นที่ห้องด้วย"

ต่อถอนหายใจโดยไม่รู้ตัว

ปิกำลังหันหลังเดินกลับ

คอตก หน้าแดง

"เดี๋ยว" ครูยังกรีดเสียงร้อง

ปิหันไปช้าๆยกมือไหว้

"ขอบคุณครับ"

"ไปได้"

ปิเดินกลับมานั่งที่

"น่าสงสารวะ สงสัยผัวคงไม่เอา"

"กูว่าผัวเอาแล้วทิ้งมากกว่า"

อาทกับทีมร่วมกันเสริม

ต่อหันไปมองปิ มันหันมามองตอบหน้าเศร้าๆ

แล้วต่อหันไปอีกข้าง จ้องอาทกับทีม

จ้องจนพวก มันเงียบลง

‘เดี๋ยวพวกมึงจะโดน’

รู้สึกจี๊ดขึ้นมาเมื่อเห็นปิทำหน้าอย่างนั้น

แต่ทำไมละ???

ทำไมวะ เวลาเห็นปิเป็นอย่างนี้ รู้สึกไม่ดีทุกทีเลย

ช่างหัวคำตอบแม่งก่อน

สงสัยตกบ่ายนี่งานเข้ากูอีกแล้วสิ

เฮ้อ

ไปทำไรไอ้กะปิมันไว้วะไอ้ต่อ ต้องมาตามช่วยมันอยู่เนี่ย

เมื่อถึงเวลาพักกลางวันพวกต่อกำลังเดินขึ้นไปบนโรงอาหาร

“มึงอย่าทำอย่างนั้นอีก กูไม่ชอบ” ต่อกระชากเสื้อาทที่ตัวสูงหนากว่าดันเข้าไปติดประตูห้อง

“ไรวะ แค่แกล้งเพื่อนเล่นเอง”

“เพื่อนกู มันไม่ใช่เพื่อนมึง”

“เออๆๆ ก็ได้ หวงนักนะ จะไว้ทำคนเดียวอะดิ”

“เสือกกูน่ะ กูไม่ชั่วเหมือนมึงแน่”

อาทดันมือออก มีทีมเจ้ามาช่วยห้าม

ก่อนมัน 2 ตัวจะเดินหัวเราะขึ้นชั้นบนไป

อาหารกลางวันบนโรงอาหารสชาติไม่ได้เรื่องเลย เป็นเมนูเดียวที่ต่อเกลียดใน 5 วันที่ต้องขึ้นมากิน

ผัดกระเพรา.....

ไอ้พวกบ้าพวกนั้นนี่ยังวนเวียนอยู่แถวนี้แหละ แต่ต่อไม่มีอารมณ์คุยด้วย

พี่ต้องนี่นา เดินเข้าไปทักหน่อยดีกว่า แม่งอยู่แถวนี้มีแต่เรื่องเซ็งๆ

“ต่อไปไหนวะ”

นั่นไง มาเกาะหนึบละ

“ทำไมละมึง”

“เห้ย อย่าโมโหเดะวะ”

“มึงอาทมันบอกเมื่อวานแม่งเอาหญิงแถวสาทรมาวะ แม่งอย่างสวยอะ แต่เสียดายแบนไปไหน”

“เฮ้ย ทีมมึงก็เล่าไป ไม่แบนได้ไง ม.ต้นเองนี่หว่า”

“ชั่วครบสูตรจริงๆ”

“ไรนะ ต่อ”

“ป๊าว” ทำเป็นหูไวนะไอ้อาท

ยิ่งโตยิ่งชั่ว ปีที่แล้วมันยังไม่ขนาดนี้นี่หว่า

ไอ้อาทมันเป็นนักกีฬา ดังนั้นเหล้า บุหรี่มันไม่ยุ่ง อ้อ ถอนคำพูดนั่นมันเมื่อก่อน แต่ยังไงการเป็นนักกีฬาเนี่ยช่วยให้ภาพพจน์ที่ออกมาดูเป็นคนดี เป็นขวัญใจสาวๆ อารมณ์ชอบพวกนักกีฬาว่ายน้ำ ผิวแทนๆ มีกล้าม ท่าทางสุภาพ ถุย แค่ตอแหลภายนอกละวะ

เป็นไงละ โดนฟันแล้วทิ้งไปกี่รายแล้ว

‘ต่อๆ กูชักว่า.. ไม่เป็นวะ ทำไงวะ’ จำได้ว่ามันถามเมื่อต้นปีที่แล้ว

‘K ของงี้ใครเค้าสอนกันละ’

‘ก็บอกหน่อยดิ ไอ้ทีมบอกสนุกอะ’

‘มึงก็ไปถามไอ้ทีมของมึงสิวะ’

ใครจะบอกมึงว่า พี่ต้องยังไม่เคยสอนกูเลย กูทำเป็นก่อน ฮ่าๆ

‘อ้าว ของแบบนี้ไปถามสุ่มๆก็โดนเตะออกมาสิวะ นะๆๆๆๆ สอนกูหน่อย’

‘โอ้ย ไอ้นี่ กูถามจริงขนมึงขึ้นยัง น่าจะชักเองเป็นแล้วนะ’

‘นิดนึงอะ’

ไอ้อาทมันถลกกางเกงออกมาให้ดู ส่วนนั้นชี้ตรงขึ้นมาทางหน้าต่อ

แม่ง ถ้าจะกลัดมันมาเต็มที่ ฮอโมนพลุ่งพล่านเลยสินะมึง หน้าด้านชิบหาย

‘ไปไกลกูไป กูไม่ชอบดูK’

‘เออ งั้นกูไปถามไอ้ทีมก็ได้ แล้วจะบอกทุกคนว่ามึงทำไม่เป็น’

‘.. มึงก็จับกำมันไว้นะ เหมือนจับไม้กวาดนะ แล้วรูดขึ้นลง รู้จักมั้ย รูดน่ะ ทำไปเรื่อยเดี๋ยวก็รู้เอง เวลามีอะไรพุ่งออกมาน่ะ’

‘เอออ เดี๋ยวกูจะรีบกลับไปลองเลย’

ห่า แม่งไปเล่าต่อกูได้อายพอดี แต่ให้มันบอกกูทำไม่เป็นยิ่งอายกว่า

นี่กูสอนมันไปไม่นาน มันเอาหญิงแทนเลยเหรอ ก้าวหน้าเร็วไปมั้ย

ก็ยังดีที่มันไม่ได้ไปลองกับผู้ชายแล้วเสือกติดใจแบบไอ้พี่บูม แม่งสมน้ำหน้า เป็นไงละ ถึงตอนนี้จะเปลี่ยนใจแล้วก็เหอะ

พูดไป ไอ้กะปิไม่เคยพูดถึงเรื่องอย่างว่าเลยนี่หว่า

นั่นสิ มันกับกูก็ไม่ได้สนิทอะไรขนาดนั้นนี่ ไอ้หน้าตาจิ้มลิ้มเนี่ยถ้าอยู่ในกลุ่มคุยเรื่องอย่างนี้กันจะเป็นยังไงนะ มันจะทำหน้าแบบไหนกัน

“ต่อ ต่อ”

อะไรของมันอีก

“มึงมีไรกับไอ้กะปิป่าววะ” ทีมนั่งมองผม แต่คนที่ถามไม่ใช่ทีม

สายตาช่างเสือกนักนะ

“ไม่มี กูไม่เคยได้กับมัน พวกมึงบ้าเหรอ ไอ้อาท”

“มึงกับไอ้กะปิ เป็นคู่เกย์กันป่าววะ”

ยังจะหน้าด้านถามอีก

“จะแดกดีๆหรือจะให้กูเอาข้าวราดหน้ามึง”

ต่อลุกขึ้นยืนถือจานไว้ในมือขวา

“แหม กูล้อเล่นหรอก”

เออ ไอ้ตัวต้นเรื่องมันหายไปไหนวะ

วันนี้กะปิไม่ขึ้นมากินข้าวด้วย

ต่อ ลองมองหาในโรงอาหารที่กว้าง แล้วก็มีแต่คนวุ่นวาย เป็นโรงอาหารกลางวันที่วุ่นวายสุดๆ พวกม.ปลายปีสุดท้ายเปิดเทอมก่อนก็จริงแต่เวลากินข้าวเนี่ย มันก็ทับกันอยู่ดี ไม่ได้ช่วยอะไรเลย

มันหายไปไหนวะ

รูปร่างอย่างไอ้กะปิ ก็ใช่ว่าจะหายาก หรือว่ามันหาที่นั่งไม่ได้เลยลงไปกินข้างล่าง

แม่ง คงไม่ใช่ไปโดนใครแกล้งอีกนะ

เอาเหอะ เรื่องของมัน

ต่อก้มหน้ากินข้าวต่อ

แต่ตาชำเลืองมองหาไปด้วย



---------------------------------------------------------------------

แถวหน้าๆ ติดกับ ที่รับอาหาร นักเรียนยืนต่อแถวเรียงราย

เด็กหน้าคุ้นตา 2 คนนั่งอยู่ที่โต๊ะแถวหน้าติดกับที่รับอาหาร

ปิ นั่งคุยกับใครคนหนึ่งอยู่

“ปิ เป็นไงมั่งวะ”

“ก็ดีอะ” เสียงหงอยเป็นเอกลักษณ์

“โดนแกล้งอีกป่าว”

กะปิสั่นหัว

“พวกนั้นเกเรจะตาย แกล้งแกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนนี้มันจะปล่อยแกไปเหรอ”

“ไม่เป็นไรหรอก ต่ออยู่ด้วย”

ต่อ?

“ไอ้ต่อเนี่ยนะ มันจะช่วย? แค่วันนั้นมันเข้ามาช่วยปิทำเวรก็น่าแปลกใจพอแล้ว”

แหะ กะปิยิ้มกว้าง

“เอ็มละ ห้องใหม่เป็นไงมั่ง”

เอ็มทำหน้าไม่เชื่อใจอยู่ดี เหมือนต่อตั้งใจจะเปลี่ยนเรื่อง

“ก็ดีนะ มีเพื่อนใหม่บ้าง พวกกลุ่มเราปีที่แล้วมันกระจายหมดเลยนี่”


ใช่ และมีต่อมาที่ห้องนี้คนเดียว ไม่ใช่คนเดียว แต่มากับกลุ่มที่ไม่ถูกด้วย

เอ็มเป็นเด็กป๊อปปูล่าในโรงเรียน ผมดำเสยเปิดหน้าผาก ผมที่ไม่สั้นและไม่ยาว ผิวกลางๆแบบคนเล่นกีฬาแต่ไม่ดำแบบอาท รูปร่างกำลังดี เคยเป็นตัวแทนนักเรียนชั้น ม.2 ด้วย แต่งตัวเรียบร้อย เสื้อผ้าถูกระเบียบเสมอ

ปีนี้ดูเหมือนจะได้เป็นอีกแน่ๆ

พวกครูชื่นชอบ เด็กนักเรียนในฝัน

“เฮ้อ เราละเป็นห่วงแกจริงๆ มีไรมาบอกนะ ปีที่แล้วเวลาโดนแกล้งพวกเรายังเข้าไปช่วยได้ ถึงจะไม่ทุกครั้งก็เหอะ”

“ขอบใจนะ”

ปิ ยิ้มกว้างให้

ไอ้เรื่องบ่ายนี้ถ้าบอกเอ็มไป มันต้องลงไปคุยกับครูแน่ๆ แล้วเรื่องมันจะลุกลามไปถึงพวกอาท เดี๋ยวก็ย้อนกลับมาหาต่ออยู่ดี....

เอ็มพูดอะไรครูเชื่ออยู่แล้ว

“ไปรีบกิน”

“อือ”

ข้าวสองจานที่วางอยู่บนโต๊ะ ถูกตักเข้าคำต่อคำ จานหนึ่งว่างเปล่า อีกจานเหลืออยู่ 1 ใน 3

 ปิ กินน้อยเป็นนิสัย

“อิ่ม?”

“อือ”

ปิกำลังลุกเอาจานไปวาง

“ไม่ต้อง เดี๋ยวเราเอาไปให้เอง”

ต่อ ไหงอยู่ๆมาเห็นใจปิได้ละเนี่ย

“มีไรเรียกกูนะ ปิ สัญญาแล้วนะ”

ปิยิ้มแห้งๆ โบกมือให้

เอ็มเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของปิ ถ้าปิยึกถึงใครไม่ออก เอ็มจะเป็นใบหน้าแรกที่ปินึกถึง ประธานนักเรียนที่ทำตัวแสนจะอบอุ่น

ยิ่งหลังจากวันนั้นเอ็มก็ยิ่งจะดูเป็นห่วงปิมากขึ้น

ห่วงจนบางครั้งปิเองก็ทำตัวไม่ถูก....

-------------------------------------------------------------------------
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2016 19:46:23 โดย Monet »

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
ยังไงก็ไม่ชอบต่ออยู่ดี :katai4:

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
(10 CM) ขอแค่ 5 นาที : พี่บูม [pg8] 9/1/2016
«ตอบ #217 เมื่อ08-01-2016 19:38:22 »

ขอแค่ 5 นาที : พี่บูม

คำถามของไอ้บ้า 2 ตัวนั่นทำเอาความอยากอาหารลดลงไปอีก ไม่รู้มันไปเอาส่วนไหนมาคิดที่ดันเสือกมาถามว่า เป็นคู่เกย์กับปิรึเปล่า สงสัยแค่คำว่าส้นตีนคิดยังไม่พอ

อาหารมื้อเที้ยงวันนี้นอกจากจะไม่อร่อยแล้ว เจองี้เล่นเอาไม่อยากจะกลืนลงไปเลย

ในเมื่อต่อไม่รู้จะไปหากะปิที่ไหนจึงนั่งรออยู่แต่ในห้องเรียน

เดี๋ยวก็คงมา

“ไม่ไปเล่นไหนเหรอต่อ” เสียงน่ารักทักขึ้นมา

นั่นไง

“หายหัวไปไหนมาละมึง”

“ก็ กินข้าวกับเพื่อนข้างห้องน่ะ ต่อก็เคยเจอนี่ที่ชื่อ....”

“เออๆๆ ไปหายัยป้าหัวหยิกยัง”

กะปิสั่นหัว

“ยังอะ”  เสียงอ่อย

“งั้นพักบ่ายก็ไปซะ”

ชั่วโมงคาบบ่ายต่อก็ปล่อยผ่านไปอย่างนั้น เฝ้ารอแค่ให้เสียงสัญญาณดัง ปิลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปเงียบๆ ไอ้ห่า2ตัวนั่นดูเริงร่า

เบรคบ่ายมาแล้ว

แม่งเวลาเชือดชัดๆ หลังจากเก็บของลงกระเป๋าแล้ว เอาละ ได้เวลาออกเดินตามตัวไอ้กะปิได้แล้ว แม่งพอออดดังปุ๊บก็เหมือนจะรู้ตัว รีบลุกเดินออกไปเงียบๆ ไม่ทันให้พวกไอ้อาทมันได้โอกาสแซวเลย

เอาวะ ไม่มีทางเลือก

จะหลบสายตาพวกไอ้ทีมก็ไม่ได้แล้ว ถึงจะต่อหน้าพวกมันก็เถอะ

น่าอายเป็นบ้า

“ไปไหนอะมึง” อาทแซวต่อขึ้นมา

“ไปตามเก็บผลงานมึงไง” ต่อพูดไม่สบอารมณ์

“นี่ กูว่าห่วงไอ้ไก่อ่อนนั้นมากไปป่าววะ” ทีมสะกิดหลังต่อ

“เพราะพวกมึงไง เลิกทำตัวมีปมด้อยซะที”

หน้าอาทดูสลดลงแวบหนึ่ง

“ชอบมันก็บอกเหอะ”

แน่ะยังเถียง

“มึงอยากโดนกูต่อยปากใช่มั้ย”

“ป๊าว เก็บปากสวยๆของกูไว้ไล่กัดนมผู้หญิงดีกว่า”

สันดานอาทแม่ง ถ่อยลงทุกวัน

ชอบเหี้ยไรละ

กูไม่ได้ชอบผู้ชาย ถึงไอ้ง่อยนี่จะน่ารักก็เหอะ

ว่าจะแวะไปหาพี่ต้องที่ห้องแสดงความยินดีที่ได้อยู่สีเดียวกันสักหน่อย กลายเป็นว่าไม่ได้ไปเลย ต้องวิ่งตามไอ้กะปิมัน

คิดแล้วเซ็งจิต

ต่อลงบันไดข้างแคบๆไป บันไดที่มันแคบขนาดแค่เดินสวนกันขึ้นลงได้ทีละคน ขึ้น 1 ลง 1 ไม่รู้จะทำไว้ทำไม แทบไม่ได้ใช้ ที่ติดกันก็เป็นลิฟต์ขนอาหาร ขนขึ้นลงชั้น 6 ชั้นล่างของลิฟต์ออกไปอยู่ข้างเวทีการแสดงย่อย ที่ๆใช้อบรมเช้า เข้าแถว ลูกเสือ อีกสารพัด

ที่พี่ต้องนั่งยกฉากนั่นแหละ คิดว่าจะได้เป็นพระเอกซะอีก อุตส่าห์พาหญิงมาดูพี่ต้องเล่นละครเมื่อปีที่แล้วกลายเป็นหลังฉากซะงั้น ที่เดียวกับที่เจอพวกเก้าครั้งแรกด้วย

รีบลงไปดีกว่า ช้าเดี๋ยวไอ้ปิโดนนังครูนั่นยำขึ้นมา

ชักจะเห็นด้วยแล้วสิ ผัวไม่เอารึไงนะ

บันไดข้างแคบๆ นี่ไม่มีคนใช้ เพราะมันเหม็นกลิ่นอาหารสด ต่อเลือกลงทางนี้เพราะอยู่หลังห้องติดกับห้องวิทย์ที่เป็นที่พักครูสายวิทยาศาสตร์พอดี

ขายาวๆกระโดดลงบันไดไป

“ต่อไปไหนนน่ะ”

เสียงทักมาจากข้างบน

“พี่บูม มาทำไรเนี่ย”

“ครูห้องวิทย์ตามน่ะ”

บังเอิญจริงนะ

บูมกำลังค่อยๆลงบันไดตามมา

“พี่ ไปทำไรไว้ละ ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ”

“นี่ แค่มาหาครูเค้า”

ไอ้นี่อีกคน คงไม่ไปให้ครูสอนการบ้านแน่

“ครูเค้ามาถามเรื่องสินค้าน่ะ”

สินค้า????

อ้อ

นึกได้ละ ใครๆก็รู้ว่าไอ้พี่บูม มีงานเสริมเอาสินค้าขายตรงมาขายให้ครูที่โรงเรียน เค้าเรียกว่าไรนะ ลูกหม้อเหรอ ไม่ใช่  เอ่อ ลูกข่าย เงินดีขนาดถอยมอเตอร์ไซค์คันใหม่ได้เลย แถมพาเมียไปเที่ยวอีก

ตั้งแต่ปีที่แล้วก็ไม่ค่อยได้เจอในสนามบอลอีกเลย คงเป็นเพราะเงินดีเลยเอาไปเที่ยวกับเมียหมดละสินะ

วันที่พี่บูมที่เข้ามาทักต่อ ตอนแรกคงคิดว่าจะให้ซื้อไปใช้สินะ เห็นเล่าให้ฟังอยู่ได้ว่าทำแล้วดียังไง

แม่งชวนเชื่อเห็นๆ

พอบอกไปว่าที่บ้านไม่มีตังค์ อาศัยเค้าอยู่มันก็เลยหน้าจ๋อยลงไป สงสัยจะเสียดายเครือข่าย

หลังๆเห็นเงียบไปคิดว่าเลิกทำแล้วซะอีก

อ้อ ไอ้ที่มาคิดว่าเลิกทำก็เพราะว่าเจอกันตอนปิดเทอมนั่นแหละ พี่บูมแม่งนัดเมียไว้แล้วเสือกสวนกันที่สยาม เลยถามซะหน่อยว่าทำไมไม่เห็นพูดเรื่องขายตรงแล้ว

‘ใช้เงินสิ ใช้เงิน’

นั่นคือคำตอบของพี่บูม

เอะ แล้ววันนั้นเค้ามากับเมีย ชื่ออะไรน้า.....

อ้อ

เจน

บทสนทนาสั้นๆของต่อกับบูมก็โผล่ขึ้นมาในหัว

‘ต่อ มาทำไรอะ’

‘เตะบอลมั้งพี่’

พี่บูมตั้งท่าจะไล่เตะ

ต่อเลยชี้ไปที่เมีย

‘เก็บอาการหน่อยพี่’

‘เดี๋ยวนี้ได้เตะบอลมั้ย ไม่ชวนเลย’

แหม ควงสาวมาละคุยเรื่องแมนเชียวนะ ตอนเตะด้วยกันเวลาคลุกวงในเนี่ยยังทำเหมือนจะลวนลามกูอยู่แหมบๆ

‘ได้พี่’

‘เมื่อกี้เจอพี่เก้าด้วย’ พี่บูมชี้ไปทางลานกว้าง

ต่อหันตาม

‘นัดเพื่อนไว้ละมั้ง’

พี่บูมพูดอารมณ์ดี แหม คิดว่าจะตามไปหึงเค้าอีกคนซะอีก

‘เพื่อนอะไรพี่ ผู้ชายละสิไม่ว่า กินไม่เลือก ระวังเป็นเอดส์ จะเอาไปประจานทั้งรร.เลย’

‘ต่อ มึงจะเกลียดอะไรมันหนักหนา’

‘เออน่า ไม่ชอบขี้หน้ามัน’

‘พี่บูมแหละ ไปเกิดชอบอะไรมัน’

พี่บูมสวนกลับมาด้วยคำถาม

‘เพราะต้องอะดิ๊’

บูมยักคิ้วให้

‘พี่บูม จะให้ต่อเล่าเรื่อง ....อุบ’

‘ไปละ’ บูมโบกมือลาต่อ จูงมือแฟนเดินหนีไปเฉยๆ

พี่ห่านี่ เอาขาสะกิดซะแรงเลย กลัวเมียรู้เหรอไง ว่าได้กับไอ้เก้ามาแล้วน่ะ

ทำไมต้องมานึกถึงเรื่องที่ไม่มีสาระเอาตอนนี้ด้วยนะ พี่บูมนี่แหละที่เป็นคนเล่าเรื่องของเก้าให้ฟัง แค่ถามนิดหน่อยก็หลุดพล่ามมายาวเลย สงสัยจะภูมิใจ

แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาจะมานั่งนึกเรื่องเก่าๆแบบนั้นแล้ว

“อย่าลืมนะสัญญาไรไว้”

“เออน่าพี่ ต่อไม่เบี้ยวหรอก จัดการแยกพวกนั้นให้ได้เหอะ”

พี่บูมเดินตามมาไวๆ

แย่ละไอ้กะปิ ไปถึงไหนแล้วเนี่ย

แม่ง เกือบลืมเรื่องกะปิไปเลย

เดินตรงไปแล้วเลี้ยวขวาก็จะเจอห้องวิทย์แล้ว เอาไงดีวะ

ตรงหน้าต่อ ในห้องที่ติดกับห้องวิทย์ที่เป็นห้องพักครูสายวิทยาศาสตร์ ห้องด้านที่ติดกับทางเดินที่ต่อเดินมานั้นทำด้วยกระจกกั้น กระจกใสที่เลื่อนเปิดได้ และมันก็ถูกเปิดอยู่

จากบันไดลงมาจะเจอพวกครูนั่งหันหลังพอดี

คิดถูกที่มาด้านนี้

ตอนนี้ภายในห้อง ร่างขาวซีดของกะปิดูจะขาวขึ้นไปอีก มองเข้าไปเห็นแค่ผมดำตรงปรกหน้า กะปิกำลังก้มหน้ามองพื้นห้องอยู่ แต่ถึงจะก้มหน้ายังงี้  แว่นหนาดำของมันก็ยังเป็นตัวดึงดูดสายตาให้มองอยู่ดี

หนักมั้ยนั่น

มันกำลังทำหน้าแบบไหนนะ

กะปิ กำลังโดนครูเทศนาอยู่ ยืนแว๊ดๆ เสียงดังลอดออกมาจากในห้อง อยากรู้จัง นี่เมนส์ไม่มาหรือมา กันแน่วะ ดูอารมณ์บูดชิบหาย จะเข้าไปก็ไม่ทันแล้ว

ถือว่าเป็นคราวซวยของมันไปแล้วกัน

คงต้องยืนรออยู่หน้าห้องจนกว่าจะโดนด่าเสร็จละนะ

“พี่บูม รู้จักไอ้ครูนี่ยืนด่าอยู่นั่นปะ”

ต่อคว้าแขนบูมไว้ก่อนบูมจะเข้าห้อง

“หือ อ้อ รู้ รัชนีน่ะเหรอ ปากยังกะอะไร” บูมพูดเสียงเบา

“พี่ ทำให้แกหยุดได้มั้ย”

“ทำไมวะ”

พี่บูมมองหน้าต่องงๆ แล้วมองเข้าไปในห้องอย่างสำรวจ

“อ๋อ ขอมั่งดิ”

“ขอไร”

“ก็น่ารักดี คนนั้นอะ ได้ยังแบ่งมั่งดิ”

หน้าบูมเริ่มหื่นละ

“อย่าทำให้ต่อเกลียดพี่ได้มั้ย” ต่อพูดช้าๆชัดๆ

ไอ้นี่คิดว่าทุกคนจะเหมือนมันหรือยังไงนะ

“เออ ล้อเล่นเดี๋ยวจัดการให้”

“มึงต้องตอบแทนกูนะ”

พี่บูมเอาหน้ายื่นเข้ามา 

ตอนกับเก้าก็ใช้มุกนี้ปล่าววะ

ชักไม่แน่ใจว่า ใครมันมั่วกันแน่แล้ว

“ทวงบุญคุญจริง” ต่อพูดไล่หลัง

พี่บูมเดินเข้าไป ทำตัวอ้อล้อเชียว เดินเข้าไปคุยอะไรบางอย่างกับครูคนนั้น ชื่อไรนะ ชะนีเหรอ เกาะแขนอี๋อ๋อ แล้วสักพัก ครูคนนั้นก็หยุดว่า ปล่อยกะปิ ออกมา พี่บูมหันมายักคิ้วให้

เก่งจริงวุ้ย

“เป็นไงละมึง”

ต่อเดินเข้าไปทักกะปิ

“แหะๆ”

หัวเราะงี้อีกแล้ว

“มึงจะหัวเราะอะไรหนักหนาโดนด่ามานะ”

จะยังงั้น มันก็กลบสีหน้าไม่มิด มันยังดูไม่ดีอยู่ ท่าทางมันคงเสียใจ

“ก็... ทำไงได้อะ”

“มึงได้บอกป่าวว่าโดนแกล้ง”

กะปิส่ายหัว

“ทำไมวะ”

“บอกไม่ทัน ครูด่าเป็นชุดเลย”

เออ อันนี้เห็นด้วย เป็นกูก็ไม่ทันชะนีปากเปราะ

“นี่กะปิ กูดูจากข้างนอกนะ แม่งยืนด่าไฟแลบยังกับเมนส์ไม่มา ผัวไม่ทำการบ้าน แถมให้โดนฝนตกจนหัวยุ่งกระบังเชิดๆ ของแกฟีบเลยเอ้า”

กะปิ เดินหัวเราะ

“พูดไรของต่ออะ ฟังไม่รู้เรื่อง”

กูก็ไม่รู้เรื่อง ทุกวันนี้กูก็ชักไม่เข้าใจตัวเองขึ้นทุกวันแล้ว

“เออ มึงไม่ต้องเข้าใจหรอก”

หันหลังไป ไอ้พี่บูมกำลังดูสินค้าบางอย่างบนโต๊ะครูแล้วก็เอามือจิ้มๆเครื่องคิดเลข ทำอะไรเป็นเงินเป็นทองสินะ มันถึงได้เป็นคนขี้งกแบบนี้ ทวงบุญคุญคนอื่นตลอด

แต่คราวนี้ก็ได้พี่บูมช่วยไว้ละนะ ส่วนความหื่นอีกเรื่องหนึ่ง

ถึงบูมจะเป็นอย่างนั้น ไอ้เก้าก็เป็นคนผิดอยู่ดี

ต่อมั่นใจ

“เวลาพักยังเหลือ ไปกินขนมมั้ย”

กะปิทำหน้างง

“กินน้อยผอมนะ”

ต่อเดินนำลงไปที่สวนข้างล่าง มีกะปิเดินตามห่างๆไปข้างหลัง

มันเป็นลูกเป็ดหรือยังไง

เด็กบางส่วนเริ่มเดินกลับขึ้นมาบนตึกแล้ว มีแค่เราสองคนที่เดินสวนลงข้างล่าง

ที่เดิม ที่ปิโดนราดน้ำแดงใส่เมื่อปีที่แล้ว แต่คราวนี้ไม่มีพวกนั้นมาด้วย

“ไปนั่งรอกูตรงนั้น”

ก่อนจะหายวับเข้าไปทางเบเกอรี่ปล่อยให้ไอ้กะปิลอยหน้าลอยตาอยู่ตรงนั้น

“เอ้า กูเลี้ยง” ต่อยื่นโดนัทให้

“โห คนงกอย่างต่ออะนะ”

ไอ้นี่ อย่าเอาคำเดียวกับที่ว่าบูมมาว่ากูนะ

เออ กูกับพี่ต้องใครงกกว่ากันวะ

“มึงอยากโดนกูต่อยใช่มั้ย”

นั่น ยิ้มอีกแล้ว

ยิ้มกว้างเห็นฟันของกะปิ

แก้มแดง ปากแดง พออ้าปากกกว้างๆกัดโดนัทนี่ดูน่ารักพิลึกยังกับเด็กเลย

พี่ต้องจะเห็นเราเป็นแบบนี้มั้ยเนี่ย

ต่อเล่าเรื่องในร้านโดนัทให้ปิฟัง

.
.
.
เมื่อกี้ ในร้านเบเกอรี่คนเยอะแยะ คิดว่าใกล้หมดเวลาจะพักแล้ว คนน่าจะไม่เยอะ ที่ไหนได้ ต่อเลยให้ปิมันนั่งรออยู่ด้านนอก ผอมๆอย่างมันขืนให้เข้ามาด้วยมีหวังแบนกลายเป็นกระดาษแน่ๆ

แค่โดนัท 2 ชิ้นนี่ แย่งมาได้ยากได้เย็นจริง

‘ป้า โดนัทน้ำตาล 2 อัน’

‘น้องแซง’

‘ป่าว ไอ้นี่มันยังเลือกไม่เสร็จ’

จะหมดเวลาแล้วขืนมารอไอ้ชักช้านี่มีหวังไม่ต้องไปกินกับมันพอดี

ไอ้นั่นท่าทางฮึดฮัด

ต่อยังยืนยันจะเอาให้ได้

จะวางมวยในร้านก็ได้นะ

“ป้า เพื่อนผมรีบ”

“กูมาก่อน”

“หุบปากมึง เดี๋ยวคนสำคัญนั่งรอ”

คนนั้นทำหน้างง

“ป้าตังค์วางแล้ว ของมาเร็ว”

ระหว่างที่ไอ้นั่นเอ๋อ เสร็จ ต่อ

สุดท้ายท่าทางป้าคงจะรำคาญ หยิบโดนัท 2  ชิ้นมาใส่ซองใส่ให้ แยกกัน

ต่อกับกะปิเลยได้นั่งกิน รับลมหนาวอยู่ที่สวนสบายใจ
.
.
.

“กว่าจะเบียดเข้าไปเอามาได้ แทบจะเสียตัว”

ต่อหัวเราะร่วน ว่าไปก็เสียวเหมือนกันเบียดทั้งหน้าหลังเลย

ปิสีหน้าดีขึ้น แต่ก็ยังก้มหน้าเงียบ

ต่อปิดส่วนที่เผลอปากออกไปว่า คนสำคัญ สำคัญตายหา ถุย หลุดปากออกมาได้

“ต่อ ขอบใจนะ” ปิทำลายความเงียบขึ้น

“เอออ จะดีกว่านี้ถ้าทำตัวให้เลิกโดนแกล้งซะที”

“ของแบบนี้เลิกกันได้ด้วยเหรอ” ปิหันมาพูดเสียงซื่อๆ

เออ จริงของมัน

ทำไมมันช่างดึงดดูดคนเข้ามาแกล้งมันได้นักวะ

“นี่เสาร์นี้เค้าคัดตัวนักกีฬาแล้วนะ จะมามั้ย”

ต่อก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้ถามออกไป

“เออ เราไม่ลงอะไรนี่”

ปิทำท่าสงสัย

“ก็มาเล่นๆ อยู่บ้านไม่เบื่อมั่งเหรอ”

กะปิส่ายหัว

เด็กติดบ้านเหรอไงวะ ตรงข้ามกับต่อเลย ถ้าเลือกได้ขอออกจากบ้านดีกว่า

“อยู่บ้านทำไรอะ”

“ก็ ... เล่น psp กับอ่านการ์ตูน”

พอพูดถึงการ์ตูนนี่ดูร่าเริงขึ้นมาเลยนะ

ท่าทางหัวข้อนี้จะถูกใจปิ

“แม่ง โอตาคุจริง”

ไอ้การเล่นเกมกับอ่านการ์ตูนน่ะ มันสนุกอย่างนั้นเลย

“นี่ๆ ต่อได้เล่นมั่งป่าวอะ”

ต่อสั่นหัว จ้องกลับไปที่คนถาม

นี่ ปิเลอะหน้าเลอะปากหมดแล้ว กินยังไงน่ะ

“หึ บ้านเราไม่มีเกมอะ ไอ้พี่ต้อง กับน้า เอ่อ แม่น่ะ งกยังกับอะไรดี”

กะปิทำหน้างงๆ

“เฮ้อ ก็ไม่มีตังค์ซื้อหรอก นี่เดี๋ยวก็วันเกิดพี่ต้องอีกแล้ว”

“เออวะ ยังไม่ได้คืนเงินมึงเลย ปีก่อนที่ให้ยืมมาค่าไอพอดน่ะ”

เจ้าของเงินทำหน้าเหมือนนึกไม่ออก

ใช่ เมื่อต้นปีที่แล้วนั้น ต่อไม่มีเงินเก็บเหลือพอจะซื้อไอพอดให้ต้อง รุ่นที่ต้องอยากได้ก็ไม่ใช่รุ่นใหม่อะไร แต่ก็ยังขาดเงินอีกพอสมควร ต่อเลยเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือจากกะปิ ไม่สิ พูดให้ชัดๆ คือ ต่อเข้าไปไถตังค์ต่างหาก

กับกะปิ เป็นการไถตังค์ที่ดูน่าละอายที่สุด เพราะความเป็นคนอย่างนี้ของมันละมั้ง

‘คือ กูอยากได้ไอพอดเป็นของขวัญพี่กูน่ะ พอมีให้ยืมมั้ย’

เป็นวิธีไถตังค์ที่อุบาทว์ที่สุดตั้งแต่เคยทำมาเลย

เงินบางส่วนต่อพอมี เอ่อ ส่วนน้อยมากๆ

จริงๆ เกือบทั้งหมดที่มีก็ไถตังค์คนอื่นเค้ามา แล้วของกะปิกก็กองใหญ่ที่สุด

‘แล้วต่อจะเอาไปทำไรอะ’

พอปิถามว่าจะเอาไปทำไม ต่อก็เลยเล่าให้ฟัง คงเพราะเห็นว่าเป็นคนใกล้ตัวไม่อยากไถเอาดื้อๆแบบคนอื่น ก็เลยเล่าให้ฟัง

พอปิได้ฟังแล้ว วันรุ่งขึ้นก็เอาเงินมาสบทบให้

‘อะ มีแล้วค่อยเอามาคืนก็ได้นะ’

ปิ ไม่มีท่าทีเข้าใจเลยว่าเงินก้อนนี้จะไม่ได้คืน

เมื่อได้เงินจะปิมาผสมกับก้อนสุดท้ายที่ลงไป เป็นเงินน้อยนิดของต่อ แต่ก็เป็นเงินที่เก็บสะสมมาตลอด

‘ก็ไว้ต่อมีค่อยคืนเราก็ได้’ ปิตอบปัด

ไม่คืนเลยได้มั้ยอะ กะปิ

ต่อเองก็รู้สึกละอายไม่กล้าพูดออกไป

แล้วเหมือนปิจะนึกออก แต่คำถามกลับเป็นว่า

“แล้วปีนี้จะให้ไรอะ”

“ไม่รู้วะ ไม่มีก็ไม่ให้ พี่ต้องไม่ซีเรียสหรอก”

ทำไงได้ จะให้ไปขอใครได้ละ บ้านก็ยังไม่มีเลย อาศัยเค้าอยู่แท้ๆ แล้วจะทำตัวอันธพาลไปไถคนอื่นอีกก็ไม่เอาแล้วละ

ไม่กล้าไถไอ้กะปิแล้วด้วย อาย หน้าไม่ด้านพอ

งั้นปีนี้ก็ช่างมันแล้วกัน

“เออ ต่อ ชอบเล่นเกมแนวไหนอะ”

อือ ถ้าให้เลือกเหรอ... เอาเท่าที่เคยหนีไปเล่นตามห้างแล้วกัน

“ก็อะไรก็ได้ยิงๆ ฟันๆ”

“เหรอๆๆ เรามีอะ เล่นมั้ย วันเสาร์จะเอามาด้วย” เสียงปิเปลี่ยนไป

เหมือนมันเองก็ไม่แน่ใจว่าข้อเสนอนี้ดีแล้วหรือไม่

“เอาดิ อยากเล่นเหมือนกัน”

ได้เล่นเกม หลังคัดตัวเหนื่อยๆก็คงไม่เลวนัก

ปิยิ้มกว้างตอบกลับ

“งั้นวันเสาร์อย่าลืมเอามาละ เราคงมาแต่เช้า”

“เราคงมาสายๆนะ ขึ้เกียจตื่น”

ปิก้มหน้าตอบเสียงอ่อย

ต่อมองหน้ากะปิ แล้วหรี่ตา

“ก็ .... เราคงเล่นเกมแล้วคงนอนดึกน่ะ”

หน้าปิแเดงขึ้น

“เออ ตามสบาย สายๆก็ได้ เดี๋ยวกูรอ ขอให้มาเหอะ”

ปิหันมายิ้ม

ไม่ต้องออกเสียงก็รู้ จะบอกว่า ‘อื้อ’ สินะ

“งั้น.... ขอเบอร์ปินะ”

“อื้อ”

ปิเอาโทรศัพทพ์ต่อมากดเลอร์แลิวพิมพ์ชื่อลงไป ปิพนธ์

คิดว่าจะเมมกะปิซะอีก

“นี่ของเรา”

ต่อทำแบบเดี๋ยวกันแต่ใช้ชื่อว่า หัวหน้าแก๊ง

ปิหันมามองสายตารังเกียจ

ต่อหัวเราะ

“ไปขึ้นห้องกันเหอะ”

ต่อตบหลังกะปิ

ซองใส่โดนัทใสๆปลิวไปลงถังขยะ เด็กในสวนเริ่มเหลือน้อยลง ถ้าขึ้นไปช้านี่น่าจะโดนครูด่าอีกแหงๆ วันนี้มากพอแล้วสำหรับปัญหากับครูบาอาจารย์ทั้งหลาย

เอ้า ก็ยังดีวะ ท่าทางกะปิจะไม่คิดมากแล้ว โดนด่าถือว่าคุ้ม

นี่ก็คงเป็นสิ่งน้อยนิดที่ทำให้ปิได้ละนะ ไอ้นิสัยทนไม่ได้เวลาเห็นคนโดนรังแกเนี่ย มันคงได้มาจากพี่ต้องแน่ๆ

ต่อวิ่งขึ้นห้องไปก่อน มีปิเดินเร็วๆตามหลังมา

“รอด้วยยยยยย”

ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ


เสาร์นี้ค่อยว่ากันอีกที
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2016 19:47:35 โดย Monet »

ออฟไลน์ thunderA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: (10 CM) ขอแค่ 5 นาที : พี่บูม [pg8] 9/1/2016
«ตอบ #218 เมื่อ08-01-2016 21:27:24 »

ชอบเรื่องนี้มากคับ...ธรรมดาแอบอ่านอยู่ในเล้า..มานานแล้ว พออ่านเรื่องต้องสมัครสมาชิกมาขอบคุณคนแต่งเลยนะเนี่ยย...สนุกมากคับ..

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: (10 CM) ขอแค่ 5 นาที : พี่บูม [pg8] 9/1/2016
«ตอบ #219 เมื่อ08-01-2016 23:01:58 »

ดูเหมือนต้องกับต่อ จะเป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องกัน
ต่อถึงคิดเกินเลยกับต้องในความสัมพันธ์แบบนั้นได้

ส่วนต่อกับกะปิ
กว่าจะรู้ใจกัน ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง
คงจะไม่ง่าย น่าจะมีคนเจ็บซักคนหรือทั้งคู่ก็ได้

ชักจะชอบต่อแล้วอ่ะ
โดยเฉพาะตอนที่ช่วยเหลือเพื่อนที่ชื่อ "กะปิ"

ปิเสร็จต่อ
แน่รุย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: (10 CM) ขอแค่ 5 นาที : พี่บูม [pg8] 9/1/2016
« ตอบ #219 เมื่อ: 08-01-2016 23:01:58 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
Re: (10 CM) ขอแค่ 5 นาที : พี่บูม [pg8] 9/1/2016
«ตอบ #220 เมื่อ11-01-2016 09:42:35 »

ชอบเรื่องนี้มากคับ...ธรรมดาแอบอ่านอยู่ในเล้า..มานานแล้ว พออ่านเรื่องต้องสมัครสมาชิกมาขอบคุณคนแต่งเลยนะเนี่ยย...สนุกมากคับ..

ขอบคุณมากๆครับ ได้ฟังงี้แล้วรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย   :-[

ดูเหมือนต้องกับต่อ จะเป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องกัน
ต่อถึงคิดเกินเลยกับต้องในความสัมพันธ์แบบนั้นได้

ส่วนต่อกับกะปิ
กว่าจะรู้ใจกัน ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง
คงจะไม่ง่าย น่าจะมีคนเจ็บซักคนหรือทั้งคู่ก็ได้

ชักจะชอบต่อแล้วอ่ะ
โดยเฉพาะตอนที่ช่วยเหลือเพื่อนที่ชื่อ "กะปิ"

ปิเสร็จต่อ
แน่รุย

ต่อเสร็จปิไปละเหอะ 555 ...

เอ นั่นสิ ต่อกับต้องเป็นอะไรกันนะ ตอนหน้ามีแพลมๆออกมาละ


ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: (10 CM) ขอแค่ 5 นาที : พี่บูม [pg8] 9/1/2016
«ตอบ #221 เมื่อ11-01-2016 11:41:41 »

 :pig4:  :pig4:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: (10 CM) ขอแค่ 5 นาที : พี่บูม [pg8] 9/1/2016
«ตอบ #222 เมื่อ11-01-2016 20:05:29 »

อ้างถึง
ต่อเสร็จปิไปละเหอะ 555 ...
^
โอ้ววววววววว.วว ม่ายยยยยยยย
 :serius2:


ไม่จริงเหอะ
 :ling1:

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
Re: (10 CM) ขอแค่ 5 นาที : พี่บูม [pg8] 9/1/2016
«ตอบ #223 เมื่อ11-01-2016 22:06:52 »

อ้างถึง
ต่อเสร็จปิไปละเหอะ 555 ...
^
โอ้ววววววววว.วว ม่ายยยยยยยย
 :serius2:


ไม่จริงเหอะ
 :ling1:

เอะ... ก็ตอนที่บ้านไง -*- หรือเราลงข้าม ชิหายละ

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook
Re: (10 CM) ขอแค่ 5 นาที : พี่บูม [pg8] 9/1/2016
«ตอบ #224 เมื่อ12-01-2016 09:59:10 »



เรายืนยันได้ว่าเราอ่านปิกินตับต่อเป็นกรณีพิเศษแล้วค่ะ
แต่เรากำลังงงไทม์ไลน์ของเรื่องนิดหน่อย...

ที่เล่าอยู่ตอนนี้ คือก่อนที่ต่อกับปิจะได้กันใช่เปล่าคะ?
เพราะมันเหมือนย้อนไปตอนที่ต่อกับปิมาเจอกันใหม่ ๆ ?
หรือเราเข้าใจผิด? สงสัยต้องย้อนกลับไปอ่านอีกรอบแฮะ

แต่ที่ประทับใจก็คือ พอได้มาอ่านเรื่องของต่อแล้ว
รู้สึกว่าความเคะของต่อที่อ่านตอนต้องเก้านี่ลดลงเยอะเลย
รู้สึกเหมือนต่อคือต้องในเวอร์ชันเกเรนี่แหละ (จริง ๆ ต้องมันคงมีมุมนี้เหมือนกัน ไม่งั้นคงไม่มีใครจัดการไอ้เพื่อนเลวในห้องที่ทำร้ายจิตใจเก้าตอนเรียนหรอกเนอะ) เพราะต่อมันน่ารักและดูแลปิดีมากทีเดียว แถมยังซึนเหมือนกันเสียอีก (เฮ่อ! ป้าก็เพลียกับพี่น้องคู่นี้ในบางครั้งนะ) 

รออ่านตอนต่อไปด้วยความหวังว่าปิพนธ์จะโดนแกล้งน้อยลง - แต่คงเป็นไปไม่ได้ใช่ไหมคะ? ฮ่า ฮ่า ฮ่า  :L2:




ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
Re: (10 CM) ขอแค่ 5 นาที : พี่บูม [pg8] 9/1/2016
«ตอบ #225 เมื่อ12-01-2016 10:33:20 »



เรายืนยันได้ว่าเราอ่านปิกินตับต่อเป็นกรณีพิเศษแล้วค่ะ
แต่เรากำลังงงไทม์ไลน์ของเรื่องนิดหน่อย...

ที่เล่าอยู่ตอนนี้ คือก่อนที่ต่อกับปิจะได้กันใช่เปล่าคะ?
เพราะมันเหมือนย้อนไปตอนที่ต่อกับปิมาเจอกันใหม่ ๆ ?
หรือเราเข้าใจผิด? สงสัยต้องย้อนกลับไปอ่านอีกรอบแฮะ

แต่ที่ประทับใจก็คือ พอได้มาอ่านเรื่องของต่อแล้ว
รู้สึกว่าความเคะของต่อที่อ่านตอนต้องเก้านี่ลดลงเยอะเลย
รู้สึกเหมือนต่อคือต้องในเวอร์ชันเกเรนี่แหละ (จริง ๆ ต้องมันคงมีมุมนี้เหมือนกัน ไม่งั้นคงไม่มีใครจัดการไอ้เพื่อนเลวในห้องที่ทำร้ายจิตใจเก้าตอนเรียนหรอกเนอะ) เพราะต่อมันน่ารักและดูแลปิดีมากทีเดียว แถมยังซึนเหมือนกันเสียอีก (เฮ่อ! ป้าก็เพลียกับพี่น้องคู่นี้ในบางครั้งนะ) 

รออ่านตอนต่อไปด้วยความหวังว่าปิพนธ์จะโดนแกล้งน้อยลง - แต่คงเป็นไปไม่ได้ใช่ไหมคะ? ฮ่า ฮ่า ฮ่า  :L2:

ใจร้าย!!! (จุ๊ๆ คือ ตอบไม่ได้สักคำถามเลยอะ...)

พี่น้องกันนี่เนอะ มันก็ต้องมีมุมคล้ายกันบ้าง มุมที่ต่างบ้าง ที่แน่ๆ ต่อไม่ป๊อดเหมือนต้องแน่นอน มันมีความเป็นตัวเองสูงกว่าต้องเยอะ ไม่มานั่งอมสากแบบต้อง

ปิเองก็ไม่ได้เหมือนเก้าเลยซะทีเดียว เจองี้เก้าคงโดกชกไปแล้ว ไม่มานั่งหลบมุมทำหน้าซึม

อีกนิด ส่วนตัวคนแล้วคิดว่า เก้ากับต่อ คล้ายกันมากกว่าอีกนะ 555

เรื่องทามไลน์ ถูกแล้วครับ 5555 บอกได้แค่นี้ จริงๆ อย่าโกรธกันเลยนะ เพระาเรื่องแต่งจบแล้ว 555 เลยยิ่งไม่อยากบอก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-01-2016 10:43:31 โดย Monet »

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
(10 CM) ขอแค่ 5 นาที : โดดรถ [pg8] 12/1/2016
«ตอบ #226 เมื่อ12-01-2016 16:55:35 »

ขอแค่ 5 นาที : โดดรถ

ตี๊ดๆๆๆๆๆๆ

เสียงอุปกรณ์ไฟฟ้าในห้องดังรัวขึ้น

นาฬิกา ไม่ใช่สิ มือถือ ส่งเสียงดัง แล้วก็ไฟสว่างวาบที่หน้าจอ มันทำตามหน้าที่ของมัน ปลุกเจ้าของ

ฟ้าข้างนอกหน้าต่างที่อยู่ติดกับที่นอนยังไม่มีแสงใดหลุดรอดฉายแสงเข้ามาบนที่นอน ยกเว้นไฟนีออนสีส้มบนท้องถนนที่ถูกเปิดทิ้งไว้ทั้งคืน เป็นธรรมดาที่ฟ้าหน้าหนาวจะสว่างช้ากว่าฤดูอื่น แต่นี่มันทั้งมืดและหนาว

ลมเย็นวูบใหญ่พัดเข้ามาในห้อง ทำเอาผ้าม่านสีอ่อนที่หน้าต่างปลิวลอยขึ้นไปตามแรงลม

ลมเย็นเข้าปะทะหน้าต่อ เหมือนมีใครเอาน้ำเย็นมาลูบ

'กี่โมงแล้ววะ'

ต่อหยิบนาฬิกาหัวเตียงขึ้นมาดู

เพิ่งจะ 6 โมงพอดี

“พี่ต้องๆ” เสียงแหบพร่า

ไม่มีเสียงตอบกลับ

ต่อจึงพลิกร่าง หันไปทางที่พี่ชายนอนอยู่แล้วกอดเข้าเต็มตัว แทนหมอนข้าง

ตัวพี่ต้องที่อยู่ใต้ผ้าห่ม ช่างอุ่นสบาย น่านอนกอดยิ่งนัก ดูแล้วท่าทางจะยังหลับสนิทอยู่

ขอนอนต่อแล้วกัน

“ต่อๆ ลุกเหอะ” ยังไม่ทันได้หลับ

“ต่อ”

ต้องเอามือปัดขาต่อที่พาดผ่านทับกลางตัวต้องออก เช้าๆมันคงจะอึดอัดสินะ

“วันนี้จะไปโรงเรียนด้วยไม่ใช่เหรอ” ต้องพูดเสียงงัวเงีย

“อือ วันนี้วันเสาร์นะพี่” ต่อยังไม่ยอมหลบตัวออก

“ก็วันนี้คัดตัวไง” ต้องค่อยๆพลิกตัวออก

ดันตัวขึ้นมานั่งเกาหัว ช้าๆ

“ไม่อาบน้ำได้มั้ยพี่ต้อง” ต่อยังไม่ยอม ยังตามเกาะแขนต้องต่อไป

“แล้วแต่เลย หนาวๆยังงี้พี่ก็ไม่อาบ” ต้องหัวเราะ

เอามือลูบผมต่อเบาๆ

ตามมาด้วยเสียงหาวนอน

หึหึ ต่อนอนหัวเราะเมื่อได้ยินว่า ต้องเองก็ไม่อาบ

ผมต่อเป็นสีดำตรง ตรงข้ามกับต้องที่ดำแต่หยักนิดหน่อย จนถึงป่านนี้นอกจากแม่ของต้องแล้ว ต่อยังไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าแม่ของตัวเองเลยสักครั้ง ก่อนที่พ่อจะตายก็แค่ฝากต้องให้ช่วยเลี้ยงต่อให้ด้วย

น้าเองก็น้อยครั้งจนเหมือนไม่ได้สนใจอะไรต่อ คงคิดแค่ว่า เด็กผู้ชายตัวเล็กๆอีกคนที่เข้ามาอยู่ในบ้าน

และเป็นตัวเพิ่มค่าใช้จ่ายหลังจากที่พ่อตายไป

สองพี่น้องล้างหน้าล้างตาเสร็จ ค่อยๆเดินเงียบๆลงไปที่ชั้นล่าง บ้านยังมืดอยู่ ในห้องครัวก็เช่นกัน ทั้งมืดและเงียบ แปลว่าน้ายังไม่ตื่น

บ้านหลังเล็กๆนี้ที่มีแค่ 2 ห้องนอน ห้องพ่อที่ตอนนี้เหลือแค่น้านอนคนเดียว แล้วก็ห้องของต้องที่แต่เดิมก็วางแผนไว้สำหรับต้องนอนคนเดียว ตอนนี้ถูกหารสองด้วยเด็กชายตัวเล็กๆ

พี่ชายอย่างต้องที่เคยปรารถนาจะมีน้องชาย จนถึงขนาดสบเร้าแม่ตั้งแต่ประถมว่า ให้มีน้องอีกคน แต่ด้วยเหตุผลที่เด็กอย่างต้องในตอนนั้นก็ไม่เข้าใจ ความปรารถนานั้นก็ไม่เคยเป็นจริง

วันหนึ่งที่เรื่องมันกลับกลายเป็นว่า ต่อ ถูกเอามาฝาก ต่อที่เป็นเหมือนน้องชายที่ต้องอยากได้มาตลอด สำหรับผู้เป็นแม่ น้องชายต่างแม่ดูจะไม่เป็นที่น่าพึงใจนัก นานวันเข้า ต่อผู้เป็นน้องชายก็ยิ่งจะติดต้องแจ ดูเหมือนทุกวันนี้ ต้องจะคิดว่าต่อเป็นลูกชายไปซะมากกว่าแล้ว

“แม่ยังไม่ตื่นแน่ๆ” ต้องจุ๊ปากไปทางต่อ

ทั้ง 2 คนค่อยๆลงบ้านเงียบๆ

ปิดบ้าน เสียงกลไกในลูกบิดประตูส่งเสียงร้องเบาๆ

แสงที่ปลายฟ้าเริ่มปรากฎให้เห็น แสงสีเหลืองส้มแรกของวัน

'เอาไงดี เช้าอย่างนี้จะรอรถเมล์ดีมั้ยหรือจะแท๊กซี่ไปเลยดี'

ราวกับรู้ความคิดต้อง

“พี่ต้องไปรถเมล์ก็ได้ ไม่ต้องรีบหรอก”

“อือ” พี่ชายลูบหัว

คนที่เป็นน้องชายจะดีใจทุกครั้งที่ถูกพี่ชายอย่างต้องลูบหัว

“พี่ต้องจะลงอะไรอะ”

“บอลแหละ ต่อเองก็ลงเหมือนกันนี่”

“อือ ต่อเล่นเก่งอยู่อย่างเดียวนี่”

ถึงต่อจะบอกว่าเก่งอยู่อย่างเดียว ในความเป็นจริงแล้วต่อสามารถเล่นกีฬาได้ทุกอย่าง แต่เก่งมากน้อยก็ตามแต่กันไป ยกเว้นว่ายน้ำ มันเป็นสิ่งเดียวที่ต่อเกลียดไม่ใช่ว่าว่ายไม่เป็น แต่ไม่ถนัด แล้วก็ไม่ชอบลงไปแช่น้ำด้วย ยิ่งพอนึกภาพแบบไอ้อาทที่ต้องมาใส่ชุดว่ายน้ำตัวเล็กนิดเดียว รัดปลิ้น ตัวดำเป็นรอยแว่นตา

ไม่เอาดีกว่า

สองพี่น้องที่ความสามารถสลับกัน พี่เรียนเก่งกีฬาดี น้องชาย กีฬาเก่ง (ตีต่อยยิ่งเก่งกว่า) ส่วนเรียนก็พอใช้ได้

มาถึงโรงเรียน ลมพัดแรงช่วยเร่งเสียงใบไม้ที่เสียดสีกันให้ดังๆกันไปทั่ว

ด้านกำแพงริมของโรงเรียนปลูกต้นไผ่เยอะมาก ใบมันดกหนา พอหน้าหนาวก็ปล่อยใบที่แห้งร่วงหล่นปลิวว่อน

ยังไม่ค่อยเห็นคนมากันเท่าไร

ต่อมุดตัวหลบเข้าไปกอดพี่ชายใต้เสื้อหนาว

“นี่ ไม่อายเพื่อนเหรอ”

“แฮะๆ ไม่” ต่อรู้ยังไม่มีใครมา

ขนมปังที่แวะซื้อกันมาอยู่ในมือคนละชิ้น เช้านี้ก็กินกันแค่นี้พอ ถ้ากินไปเยอะเดี๋ยวพอไปถึงสนามกีฬาแล้วจะจุก

“เดี๋ยวก็เลอะเสื้อหรอก”

อีกปี สองปี ก็คงไม่มีโอกาสได้ทำอย่างนี้แล้ว

ปีหน้าต่อก็จะขึ้นม.ปลาย ถ้าต้องยังเรียนอยู่ก็จะอยู่ชั้นม.6 แล้วอีกสองปี ก็แยกย้ายกันไปคนละที่ คนหนึ่งมหาลัย อีกคนยังอยู่แค่ ม.5 แทนที่ต้องในตอนนี้

'เดี๋ยวอะไรๆ มันก็คงจะเปลี่ยนไป' มีอีกเรื่องหนึ่งที่ต่อกำลังหนักใจมากกว่า

สนามกีฬาข้างหน้ามีเด็กเริ่มจับกลุ่มซ้อมบอลกันเป็นวงย่อยๆ เริ่มส่งบอลวนกันไปมา พวกรุ่นพี่ก็ยืนจับกลุ่มกันอยู่อีกปลายสนามเตรียมความพร้อมที่จะคัดตัวนักกีฬา อีกเดี๋ยวก็คงจะเริ่ม

“งั้นพี่แยกตรงนี้นะ จะไปวิ่งวอร์มซะหน่อย”

“โอเค ต่อก็จะไปหาเพื่อนเหมือนกัน”

ต่อโบกมือให้ตามหลังต้อง

แล้วล้วงเอาโทรศัพท์มาโทรออก

“สัส มึงอยู่ไหน”  น้ำเสียงเปลี่ยน

“อะไรมึง กูยังไม่ออกจากบ้านเลย หนาว ขี้เกียจ”

 อีกฝ่ายทำม่าไม่อยากจะตอบหลังปล่อยให้เสียงรอสายดังอยู่นาน

“นี่มึง ของมึงเค้านัดกี่โมง”

“ไม่รู้ สายๆมั้ง น้ำเย็นงี้ใครจะไปโดดลงวะ ไม่มาซะดีมั้ย ให้แม่งหาคนอื่นเลย”

ไอ้หอกนี่เล่นตัว รู้ว่าเป็นนักกีฬาใครๆก็ต้องมาง้อสินะ

“เออ ทีมละ”

“มันไม่ลง มันจะมาทำไมวะ”

จริงของมัน

“เดี๋ยวคัดเสร็จไปสยามมะเดินจีบสาวกันดีกว่า”

“กูมาชุดบอลเนี่ย”

“เออ อย่าอาย จีบได้ตอนจะเอาก็ถอดเสื้อผ้าเหมือนกันแหละ”

พูดงี้ยิ่งไม่อยากไปใหญ่

“ค่อยว่ากัน”

ต่อตัดสาย

“เฮ้ ต่อ จะวอร์มมั้ย” เสียงคุ้นๆ

“นี่พี่บูมมาด้วยเหรอเนี่ย” เจอกันอีกแล้ว ขักยังไงละเนี่ย

พี่บูมยืนยักคิ้วให้

“สีพี่คัดวันนี้?”

“ไม่รู้ แต่สีฟ้าพี่รู้จักพวกรุ่นพี่เยอะเลยมาเล่นๆน่ะ”

จะมาโชว์พาวมากกว่าอะดิ ไม่ว่า

“มาๆ เดี๋ยวเตะส่งให้”

บูมวิ่งไปหยิบลูกบอลแล้ว มาตั้งหลักที่ถนนข้างสนาม เริ่มเตะจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง เตะส่งยาวไปให้ต่อ

ต่อรับบอลด้วยขา พักแล้วเตะส่งกลับไปทันที ของแค่นี้เป็นเรื่องง่ายๆ  สำหรับฝีมือระดับต่อ

คนเริ่มมาหนาตาขึ้น บนแสตนด์ด้านหลังต่อมีประตูกับคนที่จะคัดตำแหน่งผู้รักษาประตูยืนเฝ้ารออยู่ อีกด้านของสนามมีพวกนักบอลที่กำลังวอร์มด้วยการวิ่ง สลับกันไปมาบ้าง ส่งบอลเป็นวงกลมบ้าง

พี่ต้องคงอยู่แถวนั้น

“ต่อจะเป็นกองหน้าเหรอ”

“แม่น”

บอลถูกยิงส่งกลับไปให้บูม

“งั้นไปลองยิงประตูดิ”

บูมชี้ไปแสตนด์ด้านที่มีประตูตั้งอยู่

“อีกเดี๋ยวก็ได้พี่”

ต่อส่งบอลแรงเกินไปให้บูม

บูมโดดพักอกแต่ไม่ถึง บอลกระดอนออกไปจนต้องตามไปเก็บ

ระหว่างรอบูมวิ่งเก็บลูก ต่อหันหลังไปมองแสตนด์

บนแสตนด์นั่นพวกเพื่อนพี่ต้องนี่นา ไอ้เก้าก็มาด้วยเหรอเนี่ย ดูชุดแล้วไม่ได้กะจะลงกีฬาสินะ ไม่ต้องบอกเลย ต่อยืนๆมองอยู่ เดี๋ยวเดียวก็มีร่างสูงคุ้นตาวิ่งหยอยๆเข้าไปสมทบ

ไอ้พี่ต้อง ไปโผล่นั่นแล้ว ไปเห็นกันตอนไหนละ เรื่องดมกลิ่นเก้าเนี่ยละไวนักนะ คนอย่างนั้นมีดีอะไรวะ

“พี่บูม ต่ออยากยิงประตูแล้ว”

บูมส่งบอลให้ต่อ

พักลูกแล้วเตะ ลอยขึ้นไปลงกลางสนาม

สงคนวิ่งตามลูกบอลไป

ต่อจับบอลแล้ว วางลงตรงกึ่งกลางของประตูพอดี

ผู้รักษาประตูยังไม่สังเกตุ เพราะต่อตั้งนอกเขตโทษ เค้าคงคิดว่าแค่เด็กกำลังจะซ้อมบอลกัน

ต่อเตรียมตั้งท่า

แล้วเตะ เต็มข้อเท้า เล็งตรงไปที่... เหนือคานประตู ลูกลอยหักลง กระแทกแสตนด์ดังตึง

เฉียดหัวเก้าไปหน่อยเดียว

ทุกคนบนแสตนด์หันมามองทางต่อ รวมถึงพี่ต้องด้วย หน้าพี่ต้องแสดงอาการประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“ต่อ เค้าจะเริ่มแล้ว ไปเหอะ” บูมรีบมาคว้าแขนลากตัวต่อไป

“ทำไมเอาที่มีคนนั่งวะ ด้านโน้นก็มี”

“ก็อันนี้มันใกล้นี่” บูมยังไม่ปล่อยแขน

“มึงตั้งใจเหรอ”

“ป๊าว เตะพลาดน่ะพี่” ต่อสะบัดแขนบูมออก

'ไม่น่าเล่าเรื่องเก้าให้มันฟังเลย ไม่คิดว่าจะออกมาเป็นแบบนี้' บูมนึกสงสัยว่าตัวเองกำลังทำผิดที่ตอบคำถามของต่อเมื่อตอนที่ต่อถามเรื่องของเก้า เผลอเล่าไปหมดเลยด้วย

แม่งเอ้ย

'เฮ้อ ซวยมึงละไอ้เก้า ใครจะไปคิดว่าไอ้บ้านี่จะเกลียดมึงได้ขนาดนี้'

มือสัมผัสเข้าที่หลังต่อ

`ใครวะ'

อ้าวพี่เจ

“หวัดดีพี่ มาลงบอลด้วยเหรอ”

เจที่เพิ่งลงผละจากการยืดเส้นสาย เดินเข้ามาทักท่าทางเก้กัง

พวกรุ่นพี่กำลังเริ่มไล่เช็ครายชื่อ แล้วก็เรียกหาน้องๆที่ยังไม่มาลงรายชื่อให้เรียบร้อย เป็นเสียงดังประกอบมาจากด้านหลัง

ต่อแอบฟังไปด้วยว่าจะมีชื่อต่อมั้ย

“เออดิ”

“เมื่อกี้ต่อทำไรวะ” ถามเข้าประเด็น

“ทำไร.. อ้อ ซ้อมยิงประตูไง”

“ต่อ คนอื่นเค้ารู้นะไม่ใช่ไม่รู้ ต้องมันเองก็รู้อยู่ แค่มันยังไม่อยากพูด”

ไม่อยากพูด โถ พี่ต้องไม่กล้าหรอก อ้อนหน่อยก็หายแล้ว

“เหรอ แล้วไง” ต่อเดินจากออกไป

แม่ง ไร้สาระ ไม่ได้ยินชื่อเลย เดินเข้าไปถามเค้าดีกว่า

“บูม มึงก็อยู่ไม่ดูมันหน่อยวะ”

“ดูไร น้องมันก็แค่ยิงเล่น” บูมไม่สน มองตามหลังต่อไป

“มึงก็รู้ ว่าไอ้นี่มันแม่นแค่ไหน พลาดไปโดนหัวทำไง”

“นี่มึง กูไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็กนะ”

“อ้อ คำแนะนำที่กูให้มึงไปเนี่ย ดูจะได้ผลเกินคาดนะ ไปถึงขั้นไหนกับเก้าแล้วละ กูแค่บอกว่ามันง่าย นี่มึงติดใจเลยเหรอ” บูมทำหน้าทะเล้นจ้องไปที่ต่อ

“มึง” เจ กำมือขึ้น

“อาราย ไหนมึงบอกอยากให้กูหยุดต่อไง ด้วยวิธีใช้กำลังเนี่ยน่ะเหรอ”

บูมเดินออกไปนอกสนาม สีนี้ไม่ใช่สีของบูม จะอยู่ช่วยก็คงไม่ได้

“หลังนี้มึงทำไรวะ”

บูมทำหน้างง

“กูมาคัดตัวว่ายน้ำ กูก็ต้องไปที่สระสิวะ”

บูมเปิดขอบกางเกงบอลออก ให้เจเห็นถึงกางเกงว่ายน้ำสีดำข้างใน

“มึงจะชนะเหรอ” วันนี้สีแดงใช้สระด้วยเหรอ

โชคเข้าข้างเจ

“สีกูมีนักกีฬาอยู่นะ อาทน่ะ รู้จักมั้ย”

บูมไม่พูดอะไร

“อยากชนะมั้ยละ” เจหันไปส่งยิ้มให้

บูมยังงงอยู่ไม่เข้าใจความหมายของประโยคเมื่อกี้ ไอ้บูมมันไม่ใช่เด็กฉลาดอยู่แล้ว ไม่แปลกที่จะเข้าใจอะไรยาก

“ไว้ว่ากันละกันมึง บางประเภทที่ไอ้นักกีฬานั่นไม่ลงกูอาจช่วยได้” เจบอกลาแล้วเดินไปเข้าแถว

หลังจากเช็คชื่อเสร็จ ทุกคนกำลังเตรียมความพร้อม

กรวยสีส้มถูกรุ่นพี่หยิบมาวางเว้นระยะห่างกันเป็นช่วงๆ เรียงเป็นเส้นตรง ผู้เล่นทั้งหมดนั่งลงกับพื้นแล้วรอ เมื่อทุกอย่างพร้อมรุ่นพี่จะให้สัญญาณ

การคัดตัวไม่มีอะไรยาก แค่วิ่งหลบกรวยโดยไม่ให้ชน และทำเวลาให้เร็วที่สุด 

'ท่าทางจะแย่'

ต่อเริ่มคิดว่าการคัดตัวนี้ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย ดูจากหน้าคนที่มานั่งกันแล้ว มีกี่คนที่เคยเล่นบอลหลังเลิกเรียน  จะมีสักกี่คนที่เคยเห็นมาเล่นในวันเสาร์ สีฟ้าดูแล้วมีคนประเภทนั้นน้อยมากๆ จะคัดทำไม สงสัยจะหวังเหรียญจากบอลเนี่ย น่าจะยาก

ต่อได้แต่นั่งรออยู่ด้านหลัง

พวก ม.5 คัดไปหมดก่อนแล้ว ตามมาด้วยม.4  ทุกคนต้องนั่งรอ แม่งกว่าจะถึง  ม.3

เวลาผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง พระอาทิตย์เริ่มสูง อากาศกำลังจะอุ่นขึ้น ไม่สิ พอต้องวิ่งไปมามันกลายเป็นร้อนไปแล้วเหลือแค่ยิงลูกโทษก็จะหมดการคัดตัว

'กะปิมันมาถึงรึยังวะ' ม.3 เป็นชั้นสุดท้ายแล้ว

ปี๊ดดดดดดดดดด

เสียงนกหวีดดัง

เริ่มแล้ว

ต่อยิงสบายๆ แต่ติดผู้รักษาประตู

ผู้รักษาประตูคนนี้เป็นเพื่อนกับกลุ่มพี่ต้องนี่นา ฝีมือไม่เบาเลย แต่ มีแต่ผู้รักษาประตูคงจะช่วยอะไรไม่ได้ละนะ

ต่อยิงเต็มแรงอีกที ก็ยังติด

ชิ

ช่างมันเหอะ ไม่ได้ลงก็ไม่ได้ลง ถ้าต่อยังยิงไม่ได้ แล้วใครมันจะไปทำได้อีก

“พี่ครับเสร็จแล้วนะ”

“ครับน้อง กลับได้เลย”

ต่อยกมือไหว้ แล้วเดินออกไปทางสระว่ายน้ำ

'พวกแม่งจะมากันรึยังนะ'

ที่สระว่ายน้ำมีเสียงตีน้ำกระจายดังขึ้น ท่าทางจะยังไม่เรียบร้อย มันคัดสายจริงๆด้วย พวกพี่ต้องก็ไม่รู้หายไปไหนแล้ว

“เฮ้ย มึง เสร็จแล้วๆ รอกูแป๊บ”

“เออ รีบไปอาบน้ำอย่ามัวชักว่า.... นานละ”

“เหี้ยไรละ รอไว้เอาออกกับสาวโน่น”

อาทที่ยืนในกางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วสีดำ รัดจนปลิ้น พูดออกมาจากบนริมสระ มันยืนเกาะราวกั้นที่เป็นม้านั่งสีฟ้าอยู่ ขอบสระอยู่สูงจากพื้นเกือบ 2 เมตรได้ ไม่มีที่กั้นนี่ถือว่าอันตราย

และดูแล้ว มันจะภูมิใจในหุ่นของมันมากๆ

ยิ่งโตกล้ามยิ่งแน่น ไม่ว่าจะเป็น อก ท้อง แขน หลัง ขา ดูเป็นมัดไปหมด ผิวสีแทน

`ไอ้เหี้ยนี่ ยิ่งโตยิ่งใหญ่เว้ย ต่อไปกูจะเอามันอยู่มั้ยวะ'

ทั้งหมดนั่นไม่ใช่สิ่งที่ต่ออยากเห็น

'ทำไมกะปิยังไม่มา'

ตู๊ดดดดดด

“ต่อ ไหนวะ”

เสียงแปร่งๆ

“สัสทีม ว่าไง”

คิดว่าไอ้กะปิ จะด่าให้

“เออ กูถึงแล้ว ไอ้เชี่ยอาทนัดจะไปสยามน่ะ มึงไปมั้ย”

ถึงไหนวะ

“กูรอมันเปลี่ยนชุดอยู่เนี่ย แม่งกูมาชุดบอลเลย”

“เออ งั้นเจอกันทางออกสโมสรเลยมึง”

ต่อหยิบเสื้อมาดมๆดู แม่งเหมือนเหงื่อชิบหาย

สโมสร เป็นตึกทรงประหลาดมี สองชั้น ข้างนอกมองเข้าไปจะเห็นหลังคาทรงแปดเปลี่ยน  แต่ตัวตึกเป็นกลมๆ ยังกับท่อน้ำ ทางขึ้นเป็นช่องกว้างราวกับปากคนอ้า ที่มีขั้นบันได 5-6 ขั้น กว้างขนาด คนนอนได้สามคน เป็นที่ประจำที่พวกครูพละ ชอบใช้นอนเล่นคุยกัน

ชั้น 2 เป็นร้านอาหารสำหรับผู้ปกครองเท่านั้น ตึกนี้จึงได้รับการดูแลให้สะอาดเป็นพิเศษ

เมื่อเดินตรงทะลุเข้าไปจะเจอสนามเทนนิสขนาด 4 คอร์ท เรียงรายอยู่ ถ้าตัดออกไปทางขวาจะเจอกับ สระว่ายขนาดแข่งขัน 25 เมตร ส่วนลึกสุดอยู่ที่ 3.5 ได้ (กะเอา) ใช้สำหรับโดดน้ำ

ห้องน้ำที่สระว่ายน้ำมี 2 แบบ แบบแรกเป็นแบบยืนเรียงอาบตามกำแพง สำหรับเด็ก (จริงๆแล้วสำหรับทุกคนแหละ) แต่ถ้าใครรักสะอาดอยากล้างหมดจนเกลี้ยง จะมีห้องอยู่ด้านหลัง ที่มืดกว่า เพราะมีหลอดไฟนีออนแค่สองดวง ไม่รู้จะประหยัดไปไหน

ส่วนใหญ่คนจะอาบกันริมกำแพง โรงเรียนชายล้วนมันก็ไม่ค่อยจะมีเหตุผลจะอายอะไรกัน แล้วยิ่งถ้าเดินไปด้านหลังมันก็จะเลอะขา ไหนจะน้ำที่นองอยู่บนพื้น เศษทราย ดิน เดินกลับมาก็ต้องล้างขาใหม่อยู่ดี พื้นก็น้ำนองก็ดูแฉะๆ น่าสกปรกกว่าอีก

ต่อยืนรออาทที่ทางออก

แม่งช้าจิง

“ชักว่า..เหรอมึง ไปได้แล้ว”

ต่อไม่รอคำเถียงจากมัน ทุกทีไอ้บ้านี่มันก็อาบตรงกำแพงนั่นแหละ ล้วงแคะกันตรงนั้นเลย เคยอายใครที่ไหน

ใช่ เพราะอย่างนี้ละมั้ง มันถึงได้เกลียดไอ้ปิมาก

เฮ้อ สงสารไอ้กะปิแฮะ

เทอมที่แล้วมีเรียนว่ายน้ำ ไอ้กะปิมันก็ว่ายน้ำพอได้ แต่ไม่ได้เก่ง สู้อาทไม่ได้อยู่แล้ว ในโรงเรียนเนี่ยไม่มีใครสู้มันได้ทั้งนั้นแหละ

ตอนเรียนเสร็จ มันเป็นคนเดียวที่ใส่กางเกงว่ายน้ำเล็กมาก คือ คนอื่นก็ใส่แบบมันนะ แต่ไม่รัดปลิ้นครึ่งตูดขนาดนี้ ไม่รู้อะไรดลบันดาลใจให้เอาแฟชั่นนี้มาใส่ แล้วไปยืนอาบน้ำล้วงควักตรงกำแพงที่มีฝักบัวติดผนัง

มีใครสักคนตะโกนขึ้นมา

‘เชี่ย ของอาทแม่งเล็กวะ กูมองไปแทบไม่เห็น’

เด็กคนอื่นรีบเข้ามามุงกันใหญ่

ต้นเสียงคงเป็นใครสักตัวในหมู่พวกต่อ 7 คนนี่แหละ ตอนนี้มันไปอยู่ห้องอื่นแล้ว

‘ดูดิ ขนแม่งเพิ่งขึ้นหรอมแหรม แต่ยาวกว่าไอ้นั่นของมันอีกวะ’

ไอ้อาทหน้าแดง รีบปิดกางเกงหุบเข้าไป

ประโยคที่ทำให้ดวงไอ้ปิถึงฆาตก็มา

‘แม่ง ดูๆแล้วของไอ้ปิยังใหญ่กว่าเลย’

ปิรีบเอามือปิด

มันไม่กล้าใส่แบบไอ้อาทหรอก อย่าว่าแต่จะโชว์เลย มันเล่นใส่ขาสั้นมาเลย แถวตัวก็ผอม กางเกงหลวมโพรก มันมองไม่เห็นหรอก ปิคงบังมิด คงมีใครสักคนพูดขึ้นมาเล่นๆ แล้วบังเอิญคราวซวยตกลงที่ปิ เพราะมันท่าทางเป็นเด็กที่เห่ยที่สุดในห้องเรียน

เห่ย คำพูดติดปากไอ้อาทที่พูดใส่กระปิประจำ ไม่ว่ามันจะทำอะไรก็แล้วแต่

ต่อสังเกตว่าหลังจากวันนั้นอาทจงใจเล่นงานปิเป็นพิเศษ ทุกทีปิจะเหมือนพวกนอกสายตา แต่หลังจากนั้นโฟกัสของอาทตกไปอยู่ที่มันเต็มๆ

“ไปยัง” เสียงนั้นทำลายความคิดต่อ

โห ไอ้นี่มันแต่งมาซะหล่อเลย ใจคอมันคิดจะบอกกูมั่งมั้ยอะ ที่ช้าคือนี่สินะ

“มึงตั้งใจไว้แล้วใช่มั้ย”

“เค้าเรียกว่าตัดคู่แข่งเว้ย”

เออ เอากะมัน

“เฮ้ๆ มาแล้วๆ”

“ไอ้ทีม มึงอีกตัวเหรอ” ทีมที่เดินเหนื่อยหอบ แสดงว่าเพิ่งเข้ามาถึง ไอ้ที่บอกถึงแล้วนี่ปากทางเข้าโรงเรียนใช่มั้ย

“ปะๆ จะไปไหนวะมึง” ต่อหันไปถาม

“อืมมมม หล่อๆงี้ ต้องสยามสิวะ”

“สัส กูไม่ไป ดูชุดกู เหม็นเน่าขนาดนี้ ให้ไปสยาม หัวก็ยุ่ง”

“น่าๆๆๆๆ นานๆพี่ต่อจะยอมลดตัวมาทุเรศกว่าพวกผมซักที”

อาททำท่าอารมณ์ดีเดินออกนำไป

ไอ้กางเกงรัดรูปมึงน่ะ ไม่ได้ดูดีนักหรอกนะขาโตมีแต่กล้ามมันใส่ไม่สวยเว้ย

ไปปิมันหายไปจริงเหรอเนี่ย

แม่งเบี้ยวกูสินะ

“แท๊กซี่มั้ยมึง”

“ม่าย ประหยัด ไว้ไปแดกกาแฟหรูๆที่ สยาม”

ถุย ไม่มีจะจ่ายเสือกงกนั่งรถเมล์ไปแดกกาแฟแพง

รถเมล์ก็รถเมล์

จากที่นี่ไปต้องไปแวะเปลี่ยนรถที่แถวบ้านนี่นา สายที่จะขึ้นเป็นสายเดียวกับที่ใช้กลับบ้านทุกที แวะลงตรงหัวโค้ง

หลังๆไม่เห็นพี่ต้องที่หัวโค้งนั้นอีกเลย พอถามก็บอกว่านั่งแท๊กซี่เลยไปส่งเพื่อนก่อน

ไอ้เก้าอีกแล้วสินะ

แอบหยิบมือถือมากดดู

13.45 น.

ไม่มีโทรศัพท์เข้า

รถเมล์มาถึง

ทั้ง 3 คนโดดขึ้นรถไป

“แล้วไอ้พวกนั้นอะ ไม่ชวนมันเหรอ” ต่อหมายถึงเพื่อนกลุ่มเก่า

“บอกให้พวกมันไปเจอที่สยามแล้ว”

พอคิดๆดีแล้วที่ปิ ไม่ได้มาด้วย ดงหมาป่าชัดๆ

รถเมล์แล่นส่ายๆ วันเสาร์เป็นช่วยหารายได้ของรถร่วมขนาดเล็กสีเขียว ที่ชอบขับอย่างกับว่าตัวเองเป็นรถจักรยานยนต์ จะวิ่งเร็วไปไหน คนแน่นขนัด จนเราสามคนต้องยืนเกาะราวกันเอาไว้ ลมเย็นของหน้าหนาวที่ตีเข้ามาตามความเร็วรถเนี่ยไม่ได้ช่วยอะไร

ร้อนเป็นบ้า

“ต่อ วันนี้มึงนัดเจอใครป่าววะ”

“หือ พูดไรของมึง”

“กูเห็นไอ้กะปิ มันเดินเหมือนหาใครอยู่ เลยแกล้งมันบอกไปว่า มึงลืมของไว้บนห้องเรียน ให้มันช่วยไปหาให้หน่อย เดี๋ยวมึงรอ”

ต่อตาโต

ไอ้พวกเหี้ยนี่ เอาอีกแล้ว ป่านนี้ไอ้ควายกะปิ มันคงหาตาแตกแล้วมั้ง

“มึงไปบอกมันตอนไหนอะ”

“เกือบๆเที่ยงได้” ทีมตอบสบายๆ

“ไอ้ห่วยกะปิกับมึงนัดกันเหรอ”

นี่จะบ่ายสอง

“กูลงนี่แหละ”

“เฮ้ยไรมึง”

“ชุดกูไม่หล่อ กูหมดรมละ พวกมึงแม่งแกล้งกู กูไปละ”

ไอ้ทีมนี่ก็อีกตัว โกหกหน้าตายได้ตลอด

รถเมล์กำลังเข้าเทียบป้ายก่อนหน้า บ้านแมค

ต่อโดดลงไม่สนใจเสียงเรียกของเพื่อน และกระเป๋ารถเมล์ รถยังจอดไม่สนิท แต่ไม่เป็นไร ใกล้ฟุตบาทพอ ไม่มีรถวิ่งแทรกเลนมา

ตุบ

ต่อรีบซอยเท้าวิ่งย้อนกลับเพื่อไปขึ้นสะพานลอยไปฝั่งตรงข้าม

ปล่อยเสียงก่นด่าของเพื่อนๆ และกระเป๋ารถเมล์ ไว้ข้างหลัง

แว่วๆมาว่าต่อขี้แตก

กูน่ะไม่ แต่ไอ้กะปิน่ะ มันได้ร้องไห้ขี้มูกโป่งกลัวจนขี้แตกแน่ๆ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: (10 CM) ขอแค่ 5 นาที : โดดรถ [pg8] 12/1/2016
«ตอบ #227 เมื่อ12-01-2016 22:03:11 »

 :pig4:   :pig4:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: (10 CM) ขอแค่ 5 นาที : โดดรถ [pg8] 12/1/2016
«ตอบ #228 เมื่อ12-01-2016 22:12:46 »

คุณ Malimaru ช่วยยืนยันว่าได้อ่านแล้ว
ก็เลยไปไล่อ่านดูใหม่ โอ้วววว..มีจริงด้วยแหะ
ก็คุณ Monet มาลงให้อ่านวันสิ้นปี..เค้าดาวน์อยู่อ่ะ เลยอ่านข้าม พลาดไปเฉยเลย
ตอนคืนสิ้นปี อิอิ


ขอยืมคำของทนายวันชัยมาใช้โหน่ยยยย
"คดีพลิก"
ฮ่าฮ่า

อ่านแล้วอ่านอีก ทวนแล้วก็ทวนอีก
โอ๊ยยยยย ไม่อยากจะเชื่อ มียังงี้ดัวะ
จริงอ่ะ ตอนนี้ก็ยังมึนๆงงๆอยู่ ง่ะ

คนออกโรงปกป้อง ดูแลโอบอุ้มอีกคนนึงที่ดูอ่อนแอกว่า
แต่คนดูแข็งกว่า กลับโดน!!!!! ฮ่าฮ่า อุ๊บสสสส

เชื่อแล้ว..โลกใบนี้ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัว
อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น อิอิ ไอ่ต่อ

คงอยากโดนจากพี่ต้อม..มากไปล่ะมั้ง
เลยมโนให้ปิผสมพันธ์ให้ซะเองเลย
กร๊ากกกกกกกกก

ป้อล่อ..ขอโทษที่แสดงกิริยาออกนอกหน้ามากไปหน่อย
ก็คนมันแปลกใจอ่ะ วู้ววววววววว

ป้อล่อ 2..ตอนใหม่ล่าสุดยังไม่ได้อ่านอ่ะ
กลัวเซอร์ไพสสสสสสสสส
มากกว่าเดิม
 :hao7:

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
(10 CM) ขอแค่ 5 นาที : 2 คน [pg8] 15/1/2016
«ตอบ #229 เมื่อ15-01-2016 16:59:17 »

ขอแค่ 5 นาที : 2 คน

แม่งเอ้ย

ต่อสบถคำนี้ในใจเป็นรอบที่เท่าไรแล้วเนี่ย

เร่งซอยฝีเท้าให้เร็วขึ้น

ใจมันร้อนกว่าตัวอีก อยากจะไปให้ถึงเร็วๆ คนรอบข้างหันมามองแปลกๆ ป้ายรถเมล์อยู่ตรงหน้า

เวลาบนนาฬิกาข้อมือกำลังแสดงให้ต่อเห็นว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ต่อจ้องสลับไปมากับรถบนถนน ตัวเลขเพิ่มขึ้นมันเร่งความร้อนในใจปิไปด้วย

เกือบ 20 นาทีหลังจากขึ้นรถเมล์ออกมาจากโรงเรียน กว่าจะกลับเข้าไปอย่างเร็วก็ไม่น่าต่ำกว่าอีก 20 นาที พอดี 2 โมงครึ่ง

นี่กะปิมาถึงกี่โมงนะ เที่ยงยังงั้นเหรอ ก็หมายความว่าเกือบ 2 ชั่วโมงแล้วสิงั้น มันต้องอยุ่คนเดียวนานอย่างนั้นเลย

มือกดโทรศัพท์หาปิ

ชื่อ ปิพนธ์สว่างวาบขึ้นมาบนหน้าจอ

มันเมมชื่อเป็นภาษาไทย เออลืมถามไม่เมมนามสกุลด้วยเลยละ เล่นมาซะเต็มยศ

แบตยังเต็ม วันนี้ไม่ได้ใช้  ไม่น่ากังวลเรื่องแบตเตอรี่จะหมดก่อน

แม่ง กระเป๋ากางเกงก็กว้าง ต่อเลยเอากระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์มาถือไว้ เดินเร็วๆแกว่งไปมาตลกเป็นบ้า กางเกงก็ผ้าลื่นๆเงาๆ ใส่แล้วตลกชิบเป๋ง คิดยังไงมากับพี่ต้องในชุดนี้วะ พลาดจริงด้วยไม่คิดว่าจะต้องมาวิ่งไปมาทำอะไรแบบนี้

ถึงว่าพี่ต้องแม่งห่วย แต่งตัวก็ไม่เป็นสาวที่ไหนจะเอา ได้หนุ่มมาแทนเลยไง นี่ขนาดไอ้เก้ามายังไม่รู้จักทำตัวเลย หึ เก้าเห็นคงจะเปลี่ยนใจ

โอ๊ย คิดแล้วหงุดหงิดไปหมด

เสียงรอสายดังขึ้น

&|€#}+|%.**~#!~\|\\_\\••{¥ เฮ้ย อะไรวะ

เสียงเพลงแปลกๆ

ต่อ หันจอโทรศัพท์มาดู

‘ก็ไม่ผิดนี่’

เฮ้ย เพลงไรวะ

“อะ ต่อเหรอ” เสียงสูงๆ แหยๆ รับขึ้น

ต่อนึกหน้ามันออกแทบจะทันที

“ยังหาไม่เจอเลยอะ โทษที”

กูไม่ได้ถามเลย

“อยู่ไหนนนนนนนนนนนน”

“เอ่อ ..  อยู่บนห้องเรียนอะ ขอโทษนะ”

“ปิ ไอ้กะปิ มึงขึ้นไปหาตั้งแต่ตอนไหน”

แล้วมันจะขอโทษทำไมวะ

“ขอโทษอะต่อ เราแวะไปกินข้าวก่อนค่อยขึ้นไป เห็นทีมบอกว่าต่อน่าจะอีกนานให้ไปหารอ เราเลยไม่รีบอะ รีบเหรอ-ขอโทษนะ โกรธเหรอ”

เฮ้ออออออออออ แล้วไป

แสดงว่าน่าจะยังไม่เป็นไร แดกข้าวไปแล้วก็ดีไป

“แล้วมันว่าไรอีก” ต่อถาม

ใจเย็นลง

“ก็มันว่าถ้าหาไม่เจอต่อจะโกรธมาก จะ เอ่อ.. จะไล่กระทืบเรา ขอโทษนะ”

สัส ทีมตอแหลได้เป็นเรื่องราวดีมาก

“กะปิ มึงฟังกูนะ”

ปลายสายเงียบไปแปลกๆ

“ไอ้กะปิ๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มึงเลิกขอโทษกูซะที”

ไม่มีเสียงตอบรับ แต่ต่อมั่นใจว่า มันยังฟังอยู่แน่ๆ

“ปิ มึงลงจากตึก ไปหาน้ำหาไรกินซะ แต่ถ้าหิวอย่าเพิ่งแดกรอกูด้วย อีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงกูจะไปหา บนตึกมันมืดมาก เดินลงระวังตัวด้วย” ต่อพูดใจเย็นลง

พูดย้ำช้าๆชัดๆ

“….”

มันยังเงียบ ไอ้นี่

“ไอ้กะปิ๊ๆๆๆๆๆ ได้ยินมั้ย”

มึงโดนผีหลอกช็อคตายไปแล้วเหรอไงวะ

“อะ อือๆๆ แล้วของละ”

“ไม่ต้องหา ไม่มีไรหายทั้งนั้น ลงไปรอที่สวนถ้าว่างเข้าใจมั้ย”

“อือ”

ปลายสายทำเสียงงงๆ

“แล้วกูก็ไม่ได้โกรธอะไรด้วยของมันไม่ได้หาย!!!”

“ไปนั่งรอที่สวนนะ”

ต่อหันหน้ากลับมามองบนถนน รถเมล์ที่อยากให้มาก็ยังไม่มาถึงซักทีเวลารีบๆอะไรก็ดูจะชักช้าไม่ได้ดั่งใจไปหมด

นึกไปถึงสภาพกะปิอยู่บนห้องเรียนตอนนี้คนเดียวแล้วมันน่าซัดไอ้ทีมนัก

แม่ง บนตึกมืดชิบหาย มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นบ่อยๆ ใครเค้าขึ้นไปกันคนเดียววะ ไอ้สัสทีมก็ทำได้ เอาชื่อกูมาอ้าง

ถึงต่อไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ แต่ทุกโรงเรียนมันก็มีเรื่องเล่าลือกันเสมอ กันไว้ก่อนก็ไม่เสียหายอะไร ไม่ใช่เข้าไปเจอมันยืนตัวสั่นหัวฟู ร้องไห้แบบในหนังผีหรอกนะ

ไอ้โรงเรียนนี้เรื่องเล่าผีๆก็เยอะซะจริง มีแทบจะทุกจุดจนไม่รู้ว่าอันไปนจริงอันไหนโม้ แต่ที่ต่อมั่นใจคือวันเสาร์อย่างนี้ไม่มีเรียน ฉะนั้นบนตึกไม่เปิดไฟให้แน่ๆ

แล้วมันจะไปอยู่ยังไงคนเดียววะ

ไอ้ของที่หาคืออะไรก็ไม่รู้อีก ไอ้ซื่อบื้อเอ้ย กูควรจะโกรธใครดีวะ

กว่ารถเมล์จะมาถึง บนถนนฝั่งนี้ก็มีการจราจรที่ห่วยแตกพอๆกัน วันเสาร์นี่ทำไมรถมันติดกว่าวันทำงานอีกวะ ต่อยืนชะโงกหน้ารอรถ

‘เอาวะ ยังไงมันก็ลงจากตึกมาแล้ว นั่งอยู่ในสวนน่าจะดีกว่า’

ไม่อยากนึกภาพ หน้าตาแหยๆ ของมันหาของที่ไม่มีบนห้องเรียนมืดๆ คนเดียวเวลานี้เลย

เป็นไปตามที่ต่อพูด ครึ่งชั่วโมง

แต่เป็นครึ่งชั่วโมงของสองคนไม่เท่ากัน

สำหรับต่อ แล้วทำไมเวลามันเดินเร็วจังวะ ช้าๆหน่อย จะเดินไม่ทันแล้ว แทบจะอยากหยุดเวลาเอาไว้ไม่ให้กะปิต้องเจอเรื่องอย่างนี้คนเดียว

บนรถเมล์ที่ว่างเยอะแยะ แต่ต่อนั่งไม่ลงยืนโหนราวใกล้ประตูไว้อย่างนั้น พร้อมวิ่งทันทีเมื่อรถจอดถึงป้าย ในหัววนเวียนแต่เรื่องตึกมืดๆ กับไอ้กะปิที่นั่งตากลมเหงาอยู่คนเดียวที่สวน

รถเมล์ยังไม่ทันถึงป้ายต่อรีบโดดลงวิ่งข้ามสะพานไปปากซอยแล้วขึ้น 2 แถวที่พร้อมจะออก ยืนเกาะบนบันไดทางขึ้น

มันอันตราย แต่ต่อรีบ

แดดเริ่มร่มขึ้น ลมเริ่มกลับมาพัดแรงขึ้นอีก เสียงใบไผ่ยังปลิวดังแกรกกรากอยู่ตลอด ทางเดินเดียวกับเมื่อเช้า ที่สองพี่น้องพากันเดินเกาะแกะ เมื่อเช้ายังดูมีการเคลื่อนไหวมากกว่านี้ ตอนนี้นอกจากใบไม้กับเสียงลม แล้ว ทุกอย่างดูสงบนิ่งไปหมด

ทุกคนคงกลับไปหมดแล้วสินะ

ต่อรีบโทรออก

“ปิ กูถึงแล้ว มึงนั่งอยู่ตรงไหนอะ” เสียงเหนื่อยหอบ

“ก็ที่เดิมที่ต่อพามากินโดนัทอะ”

นี่คำพูดเด็กม.3 เหรอวะ ยังกับเด็กประถม

“เออ นั่งเล่นเกมไป”

“เล่นอยู่”

ไอ้บ้านี่

มันรู้สึกอะไรมั่งมั้ยวะ หรือกูบ้าไปเอง

นี่กูต้องวิ่งมาหาผู้ชายเหรอเนี่ย ถ้าเป็นสาวน่ารักๆจากโรงเรียนแถวนี้ก็จะไม่ว่าเลยนะ นี่แม่งไอ้กะปิ ผู้ชายนะเว้ย มีตอนะเว้ย

เหี้ย... ภาพปิหันมามองหน้าต่อสะท้อนแวบขึ้นมา

เสือกน่ารัก....

กลางสวนมีเด็กผมตรงดำสนิทนั่งหลังค่อม อยู่ตรงโต๊ะม้าหิน ตัวเดียวกับเมื่อวันนั้น กำลังนั่งก้มหน้าก้มตากดอะไรสักอย่างในมือ

เสื้อผ้าสีสดมาก เหมาะกับมันจริงๆ เสื้อยืดสีส้ม กางเกงยืนส์ แล้วก็เสื้อหนาวสีฟ้า ตัวมันผอมขนาดนี้เลยเหรอ ยังกับมีกองเสื้อผ้าวางอยู่ มันดูหลวมมาก ทำไมซื้อซะใหญ่เลยวะ

มองไปรอบๆ ร้านอาหารในสวนตอนนี้ปิดหมด เบเกอรี่วันนั้นก็ด้วย วันเสาร์ที่สวนนี้ไม่มีขายอาหาร

แต่บนโต๊ะยังมีน้ำเปล่ากับซองของกินอะไรซักอย่างขยับปลิวอยู่

‘ยังดีที่มันเอาตัวรอดได้’

“เป็นไงมึง เล่นเกมไรวะ” ต่อยืนท้าวเอวถาม แต่หายใจหอบ

เมื่อได้ยินคำถามดังขึ้น

ปิเงยหน้า ดันแหวนหนาๆ ให้เข้าที่บนดั้งจมูก จมูกเล็กๆ

แล้วยิ้มให้

“ก็ RE : 0”

“นี่มึงเล่นเกมแบบนี้ด้วยเหรอ”

ต่อคว้าน้ำเปล่าบนโต๊ะมาดื่ม ยังเย็นอยู่เลย

ปิมองหน้าต่ออึ้งๆ คงสงสัยต่อไปทำอะไรมาเหนื่อยขนาดนี้

“ต่อรู้จักมั้ย”

เหมือนจะเคยได้ยินพวกเกมยิงๆผีๆอะไรแบบนั้น

มิน่ามันถึงไม่กลัว

“ใช่ สนุกออก”

“เก็บกดป่าวเนี่ย” ต่อล้มลงนั่งข้างๆ

“ต่อไปทำไรมาอะ ทำไมดูเหนื่อย”

“ไปวิ่งรอบสนามโรงเรียนมา ฟิตซ้อมน่ะ”

“ขอนะ”
 
มือเอื้อมไปหยิบน้ำเปล่าขึ้นมายกระดกอีกรอบ อึกๆ จนหมด ไหนๆครั้งแรกก็ครึ่งขวดละ งั้นคราวนี้เอาให้หมดเลย

“ทำไมเราแวะไปที่สนามไม่เจอ”

ต่อยักไหล่

“ตาไม่ดีอะดิ”

….. มันคงไม่เชื่อสินะ

“สงสัย”

หลังจากปิทำหน้างง เสียงหัวเราะดังขึ้นในที่สุด

“แล้วไม่โทรมาหาละ”

“ก็คิดว่าต่อคงซ้อมอยู่ พวกทีมก็บอกว่าอย่างนั้น”

ไปที่สนามไม่เจอก็น่าจะถามได้แล้ว เสือกเชื่อไอ้บ้าทีม ไอ้สัสทีม ไอ้ตอแหล ไอ้ชั่ว

“แล้วขึ้นไปหาของอะไรไม่รู้เนี่ยนะ”

“แหะๆ”

“มันบอกต่อลืมของสำคัญไว้”

“แล้วมันบอกมั้ยอะไร”

ปิส่ายหัว

ต่อนิ่งไปสักพัก ตอนนี้หายเหนื่อยแล้ว

ท่าทางมันเหมือนรู้ตัวแล้วว่าโดนแกล้ง

“เกิดเราไม่มาทำไง”

ปิเงียบไป

“เราเชื่อใจต่อไง” รอยยิ้มซื้อๆปรากฏขึ้น รอยยิ้มที่พร้อมจะฆ่าต่อทุกครั้งที่เห็น

มันกดหยุดเกมแล้วหันมายิ้มให้ ฟันขาวริมฝีปากแดง แม่งคนอะไรวะ น่ารักกว่าผู้หญิงที่กูแนะนำให้พี่ต้องซะอีก

เฮ้อ ต่อเอามือตบหลังปิสองที

ไม่ต้องให้บอกก็รู้ว่า ปิ คิดอย่างนั้นจริงๆ

‘เชื่อใจยังงั้นเหรอ’

มันเป็นความอบอุ่นอย่างประหลาด ในเมื่อโลกนี้ต่อเชื่อใจแค่พี่ต้อง และคนที่เห็นค่าในตัวต่อก็มีแค่พี่ต้อง

ปิเป็นคนอื่น

และเป็นคนอื่นที่รู้สึกเชื่อใจในตัวต่อ พึ่งพาในตัวต่อ ทำให้ต่อรู้สึกว่าในโลกนี้ตัวเองยังมีตัวตนอยู่ บนโลกใบนี้ต่อไม่เคยใส่ใจอะไร เพราะว่าตัวต่อเองก็โตมาแบบไม่ถูกใส่ใจเช่นกัน ไม่ว่า พ่อ แม่ หรือ น้า

“เอ้า เล่นมั้ย”

หือ????

ปิส่งเครื่องเกมส์สีขาวขนาดพกพาให้ มันไม่ใหญ่ไกว่าฝ่ามือต่อสองมือรวมกัน

“เล่นไงอะ”

เกมนี้ต่อยังไม่เคยเล่น

“นี่ไงเอานิ้วโป้งวางตรงไอ้ที่บังคับที่เป็นไม้นั้นอะ หมุนเอา 4 ปุ่มนี้เป็นปุ่มกด ข้างบนมีอีก 2 เป็นหก เดี๋ยวเริ่มเกมให้ใหม่นะ มันจะได้สอนต่อเล่น เกมมันจะแนะนำผู้เล่นใหม่ให้เริ่มเล่นได้ง่าย สอนว่าแต่ละปุ่มจะต้องใช้ยังไง ทำอะไรได้บ้าง แล้ว....”

“พอ!!!!! กดรีสตาร์ทเลย เดี๋ยวลองเอง”

แม่ง ยิ่งฟังยิ่งงง

ปิรับไปแล้วกดสัญลักษณ์อะไรสักอย่างบนเครื่อง จอดับวูบ แล้วก็มีสีสดใสสว่างวาบขึ้นมาใหม่ พร้อมกับเสียงเพลงดังขึ้นมาเบาๆ

ขยับๆไอ้ตัวบังคับอยู่สองสามที กดอีกหน่อย

ปิก็ส่งมาให้

“เอ้า”

“เอาละนะ” ต่อรับไป

หน้าจอเริ่มแสดงภาพ กำลังเข้าเกมอยู่ แสงโลโก้สว่างวาบขึ้นมา

ปุ่ม START เรืองแสงเชื้อเชิญ

เพลงประกอบส่งเสียงดัง แต่ไม่เป็นไรไม่มีคนอยู่แล้ว

ต่อใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับเกม เครื่องเกมที่ต่อไม่มีวันจะได้มีเป็นของตัวเอง ถ้าโชคดีจะได้เล่นจากเครื่องคล้ายๆกันแบบนี้ที่ขอให้พี่ต้องช่วยยืมคนอื่นมาให้เล่น ต่อไม่มีสิทธิ์ที่จะขอน้าให้ซื้อเครื่องเกมให้

ไม่กล้าแม้แต่จะเดินเข้าไปด้วยซ้ำ

ใช้เวลาสักพักในการศึกษาวิธีเล่น

ต่อเริ่มเล่นได้เรื่อยๆ

“นั่นๆ ตรงนั้นๆระวัง”

เสียงกะปิคอยกำกับอยู่ข้างๆ

“นี่ กดตรงนี้มันจะได้กระสุนเพิ่ม”

มันเอานิ้วมาจิ้วปุ่มวงกลมสีแดง

ตัวละครก้มลงไปเก็บของ

“เดี๋ยวหลบนะ จะมีสัตว์ประหลาดวิ่งเข้ามา จะได้ไม่ต้องสู้”

“นี่ต่อ ทำไมไม่เก็บของนั้นด้วยละ”

ปิเขย่าตัวต่อ เครื่องเกมในมือสั่น

โอ้ยยยยยยยยยยยยย!!!!!

ต่อหยุดเกมหันไปมองหน้ากระปิ

ทำตาหยี

“ต่อเล่นเอง ปิ”

ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้เล่นแน่ แม่งคุมกูยังกับจะเล่นเองเลยนะ

ไอ้โอตาคุแว่น

ถึงจะโดนว่าไปอย่างนั้น มันก็ยังหัวเราะสดใส

เป็นครั้งแรกที่ต่อได้เห็นปิหัวเราะแบบนี้

รู้สึกใจชื้น

“ไปนั่งอ่านการ์ตูนไป”

“อือ”

ไอ้คนที่คอยกวนเมื่อกี้มันหลังไปเปิดกระเป๋าสะพาย คว้าเอาหนังสือการ์ตูรายสัปดาห์ออกมาด้วย

กูพูดเล่นมันเอาการ์ตูนมาด้วยจริงๆเหรอเนี่ย ไอ้นี่มันโอตาคุของแท้เลย วันนั้นที่โดนครูยัดเยียดการ์ตูนให้กินนี่มันดูน่าสงสาร ทำหน้าเหมือนกับจะร้องไห้ มันเองก็คงไม่เข้าใจตัวเองละมั้งว่าทำไมใครๆก็รุมแกล้งมัน

แล้วไอ้นี่ก็ทนให้คนอื่นแกล้งอยู่ได้

พอเห็นอย่างนั้นแล้วก็ทนไม่ไหว ช่วยทีหนึ่งก็ต้องช่วยตลอดไป ไอ้นี่มันมีออร่าอะไรนะ ทำไมเวลาเห็นหน้ามันยิ้มแล้วรู้สึกดีตลอดเลย

หมั่นไส้ อยากจะเก็บไว้แกล้งเองเหมือนกันแฮะ

ปิหันหลังเปิดเป้ออก หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน

ลมเย็นของหน้าหนาวยังพัดมาเอื่อยๆ แดดยามเย็นสีส้มอ่อน กำลังพาดส่องเข้ามาที่สวน

บนโต๊ะม้าหินตัวหนึ่งกลางสนามมีเด็กคนหนึ่งกำลังนั่งเล่นเกมวางแขนอยู่บนโต๊ะ ส่วนอีกคนนอนอยู่ตรงข้าม นอนยาวหงายอยู่บนที่นั่งมือถือการ์ตูนขึ้นอ่าน

เสียงปืนในเกมดังขึ้นตามจังหวะกด ยิ่งเล่นยิ่งติดใจ บางทีก็ตามมาด้วยเสียงต่อร้องโวยวาย ทุกครั้งปิจะลุกขึ้นมาดูแล้วหัวเราะเสมอ มีบางทีที่ต่อนั่งไม่ได้ต้องยืนเล่น หลบเข้าออก

เกมไรวะ น่ากลัวชิบหาย

“ปิ มีไรให้กินมั้ยอะ”

มันลุกขึ้นมาล้วงกระเป๋าแล้วส่งพายมาให้ 1 ชิ้น

ต่อพยายามแกะมันด้วยความยากลำบาก อยากเล่นก็เล่นจะหยุดก็ไม่ได้

“เอ้า” พายถูกแกะแล้วยื่นมาที่ปาก

ต่อก้มลงไปกัด

“เข้าใจทำนะ”

“ตอนเราเล่นก็ยังงี้แหละ เล่นไปกินไปลำบาก”

เอะ... นี่จะบอกว่าเราบ้าเหมือนมันแล้วเหรอ

ต่อก้มลงไปกัดเองกับมือปิ ชิ้นแค่นี้ 2 คำก็หมด

เออ มันก็ไม่รู้สึกอายอะไรเลยเนอะ ไอ้นี่

“ปิ วันนี้มึงอยู่คนเดียวมาตลอดเหรอ”

“อ้อ เปล่าหรอก เอ็มมาอยู่เป็นเพื่อนน่ะ”

หือ

“ใครวะ” ต่อยังไม่เงยหน้าขึ้นมาจากจอเกม

“เพื่อนสมัยม.1 เค้าอยู่สีเดียวกับเราน่ะ ห้อง 5 ไง”

“อ้อ”

จริงๆจำไม่ได้หรอก ต่อไม่คิดจะจำอยู่แล้ว

“พอดีเจอ เลยไปกินข้าวด้วย เค้าอยู่เป็นเพื่อนก่อนต่อจะมาน่ะ”

“อือ ดีแล้ว”

จะดีกว่านี้ถ้ามึงบอกกูก่อน กูรีบแทบตาย

เอ้า แล้วทำไมกูรู้สึกหงุดหงิดวะ กูไม่พอใจอะไรขึ้นมาเนี่ย....

เอาเหอะ

ยังดีที่มันยังมีเพื่อนคนอื่นคอยช่วย

อะ น้ำหนักของแรงกดที่ปุ่มดูจะมากเกินไป เดี๋ยวพังขึ้นมาจะไม่มีตังค์ซื้อคืนไอ้กะปิมันนะ

ตั้งแต่ปิโดนย้ายมาห้องนี้ มันก็อยู่คนเดียวมากขึ้น ไอ้เพื่อนๆที่เคยแวะเวียนมาหา ค่อยๆหายไป คงได้กลุ่มใหม่กันหมดแล้วสินะ

เหลือแต่คนชื่อ เอ็ม

ใครวะแม่ง

ปิผลิกตัวลงไปนอนคว่ำบนเก้าอี้หินมีโต๊ะกลมกั้นกลางระหว่างสองคน

ช่างมัน เล่นต่อ....

ใครวะ....

เหี้ยเอ้ย

“นี่เย็นแล้วกลับกันมั้ย”

ต่อทนไม่ได้พูดขึ้น

“ต่อเล่นเสร็จยังละ”

“ก็....อือ”

ว่าไปแล้วก็เสียดายแฮะ ยังอยากเล่นอีกหน่อย แต่เย็นแล้ว ไม่หยุดนี่จะแย่

“ต่อเอาไปเล่นที่บ้านก็ได้นะ”

นี่เป็นคำถามที่ต่อไม่นึกฝันว่าจะได้ยินมาก่อน

เครื่องเกมราคาไม่ใช่ถูก

“อ้าวแล้วแกจะเล่นอะไร”

“เราเล่นเพลย์เอาก็ได้”

ปิดูเหมือนไม่ได้เดือนร้อนอะไร

ดีวุ้ย บ้านมีพร้อม

มันนั่งทำหน้าสลอนอยู่ตรงข้าม หน้าขาวๆ แห้งๆจากอากาศหน้าหนาว ปากยังแดงเหมือนเดิม

“อือ งั้นต่อยืมก่อนนะ”

“อือ”

ปิยิ้ม

“เดี๋ยวเย็นต่อเลี้ยงข้าวแทนค่ายืมละกัน”

“ได้เลย” ปิลุกขึ้นยืน

ต่อกำลังเก็บของ ลุกขึ้นมาดูรอบโต๊ะอีกทีว่าไม่ลืมอะไรนะ นิสัยนี้ได้มาจากพี่ต้องที่คอยสอนเสมอให้มองดูรอบๆก่อนจะไปจากที่ไหน ไม่ทิ้งอะไรไว้

“ต่อ ... คิดยังไงกับปิเหรอ”

ไม่เข้าใจคำถาม มันจะถามอะไรวะ

“หือ ยังไงก็... เป็นเพื่อนเราไง จะให้คิดไร”

“อื้อ”

ปิยิ้มให้

“ไอ้บ้า ถามยังกับเป็นเกย์ ผู้ชายเค้าไม่ถามกันยังงี้หรอกนะ ถามจริงเคยพูดมึงกูมั้ยอะ”

“เคยดิ เวลาโมโหไง”

“พูดให้ติดปากสิ” ต่อท้าวเอว คำพูดคิขุแบบนั้นยังจะใช้อยู่ได้

เวลาไอ้กะปิพูดแบบนี้จะเป็นยังไงนะ

“แล้ว เมื่อกี้ต่อยังแทนตัวเองว่าต่อเลย”

ปิยักคิ้วให้ๆ

“… ไม่จริง กูไม่เคย กูไม่หน่อมแน้มยังงั้น ไปเลยไอ้กะปิ เดินนำไปเลย”

ต่อหน้าแดง

‘ปกติไม่เคยพูดแทนตัวเองอย่างนี้นี่หว่า นอกจากเวลาอยู่บ้าน หรืออยู่กับพี่ต้อง’

นี่กูหลุดปากออกไปเหรอเนี่ย

แม่ง รัศมีบ้องแบ๊วของมันกำลังมีผลกับกูสินะ

กูๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ท่องไว้

เมื่อกำลังเดินออกจากโรงเรียนนั้น ไม่รู้ต่อนึกอะไร เอามือไปโอบไหล่ไอ้กะปิไว้ ความรู้สึกมันแปลกๆ มันไม่เห็นเหมือนตอนเพื่อนทำเลย จะรู้สึกแบบที่ทำกับพี่ต้องก็ไม่ใช่

ยิ่งปิหันมันมองหน้างงๆ

หน้าแดง ทำให้ใจต่อเต้นแรงขึ้น

บ้าแล้ว นี่กูมีอารมณ์กับผู้ชายเหรอ

ไปกันใหญ่แล้ว

“นี่ เลือกร้านได้ยังมึง”

“ได้แล้วววววว”

ตัวปิผอมๆตัดกับแสงสีส้มริมถนน เสื้อนอกที่ปลิวตามแรงลม เป้เขย่าขึ้นลงอยู่ที่หลัง ร่างผอมๆของกะปิในเวลานี้ดูเหมือนเป็นแสงขาวๆจางๆอยู่ตรงหน้าต่อ เป็นแสงสว่างที่ดึงดูดสายตาต่อไว้ คล้ายกับทั้งถนนมีแค่ปิคนเดียวที่เดินอยู่ข้างหน้า

แสงสีขาวจางที่เจิดจ้า

ลบเอาทุกอย่างที่อยู่รอบตัวออกไป สายลมเย็นมันทำให้รู้สึกหนาว แต่ทำไมข้างในมันอุ่นอย่างประหลาด

แล้วภาพนี้จะติดตาต่อไปอีกนาน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

(10 CM) ขอแค่ 5 นาที : 2 คน [pg8] 15/1/2016
« ตอบ #229 เมื่อ: 15-01-2016 16:59:17 »





ออฟไลน์ thunderA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: (10 CM) ขอแค่ 5 นาที : 2 คน [pg8] 15/1/2016
«ตอบ #230 เมื่อ15-01-2016 23:06:51 »

ฮื่อ....น่ารัก

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: (10 CM) ขอแค่ 5 นาที : 2 คน [pg8] 15/1/2016
«ตอบ #231 เมื่อ15-01-2016 23:18:43 »

ชักจะสงสัยขึ้นมาแล้ว
ตกลงต่อกับปิ

ใครล่อลวงใคร
เพราะดูเหมือนต่อจะตกหลุมล่อของปิ

ดูซื่อๆแต่มือถือปุ่มบังคับ
ฮ่าฮ่า ต่อเอ๊ยยยยยย

หลงกลเค้าให้แล้ว
อิอิ


ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
(10 CM) ขอแค่ 5 นาที : กระดาษ [pg8] 19/1/2016
«ตอบ #232 เมื่อ19-01-2016 21:01:57 »

ขอแค่ 5 นาที : กระดาษ

เวลาหนึ่งเดือนหลังจากที่ต่อกับปินั่งเล่นเกมกันในสวน มันผ่านไปเร็วมาก พร้อมๆกับเวลาปลายปีที่งวดใกล้เข้ามา กิจกรรมสำคัญ การแข่งขันกีฬาสี

ในห้องเรียนชั้น ม.3 นี้ ต่อกับปิที่จะดูสนิทกันมากขึ้นท่ามกลางสายตาที่เริ่มไม่พอใจของพวกอาท พวกนั้นคิดว่าต่อเปลี่ยนไป มีบางอย่างไม่ชอบใจ และมีบางอย่างที่พวกนั้นรู้สึกว่า

มันแปลก ต่อกับปิ

พวกอาทยังไม่กล้าทำอะไรต่อมากนัก

มีสิ่งหนึ่งที่ต่อกำลังจะลืมไปสนิท

กำหนดส่งการบ้านวิชาเคมีที่กำลังจะมาเยือน ในชั่วโมงเรียนวันนี้

ชั่วโมงเรียนวิชาเคมีกำลังจะเริ่มหลังพักเที่ยง

ต่อยังไม่ได้ท่องเลย เกมที่ปิให้มาดูจะทำร้ายความสามารถในการเรียนต่อให้แย่ลง

บรรยากาศดูกดดัน สภาพห้องเรียนห่วยๆที่ไม่เป็นที่น่าดึงดูดเด็กให้มาเรียน

ตอนนี้ทุกคนกำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือวิชาเคมีกันอยู่

ในห้องที่มีนักเรียนทั้งเก่งบ้างไม่เก่งบ้าง ปนๆกันนี้ บางคนจับคู่แล้วผลัดกันท่องตารางให้อีกคนช่วยดูให้ บางคนก็ถือสมุดแล้วเอามือปิดเป็นช่วงๆ ตอนไหนที่จำไม่ได้ก็จะเปิดดู บางคนก็เดินพูดกับอากาศ

เพื่อนร่วมห้องดูว่ากำลังเหมือนจะเป็นบ้ากันไปหมด ทุกคนพูดเป็นภาษาเดียวกันที่ไม่รู้เรื่อง ซ้ำๆ วนเวียนไปมา

ข้างๆต่อ กะปิ ก็กำลังตั้งอกตั้งใจท่องอยู่เหมือนกัน

ช่วงนี้ตามันคล้ำขึ้น

“ปิ แกอ่านหนังสือดึกหรือเล่นเกมกันแน่วะ”

“ก็ทั้งสองอย่าง”

มันหันมาดันแว่น ทำท่าภาคภูมิใจอย่างเด็กโอตาคุ มั่นใจเหมือนน้ำเสียงมันที่ตอบเมื่อกี้

สงสัยจะมีอะไรดีๆมาอวดละสิ คงจะได้อะไรใหม่มา

แต่ไว้ค่อยถามมัน ถามตอนนี้ไม่ต้องท่องพอดี

“โอ้ย เยอะเป็นบ้า”

ใครมันจะไปจำได้วะเนี่ย

ปิหัวเราะ

“ต่อไม่ได้ท่องมาก่อนเลยใช่มั้ยละ”

“ท่องเทิ่งไรละ ถ้าท่องมาก่อนจะโวยวายอยู่นี่เหรอ”

“ได้ถึงไหนแล้วอะ” ปิหันมาถาม

น้ำเสียงใสจนน่าบีบคอเขย่าๆนัก

“Rh โรเดียม”

ต่อตอบเสียงขุ่น

“มึงละ”

“Os ออสเมียม” เสียงสูงจนเกือบจะเป็นเสียงหัวเราะ

เฮ้ย!!! อะไรวะ มีตัวนี้ด้วยเหรอ

ต่อรีบเปิดหนังสือดู

ไอ้บ้ากะปิ มันจะจบหมดทุกตัวแล้วนี่หว่า

มิน่า ไอ้ท่าเมื่อกี้มันคือท่าภาคภูมิใจมากสินะ ขอกูบีบคอมันจริงๆเหอะวะ

“เฮ้ย สัสต่อ มึงท่องได้ยังวะ”

“มึงคิดว่ากูจะจำได้หมดมั้ยละ หัวกูเนี่ย” ถามมาได้ไอ้อาท

“แล้วมึงงะ”
   
นักว่ายน้ำอย่างมัน ต้องโง่แน่ๆ

“ก็ได้แค่ เดี๋ยวนับก่อนนะ เอ่อ ตัวที่ 5 วะ หรือ 6 วะ” อาททำท่านับนิ้ว

“แล้วมันชื่ออะไรละ ลองบอกดิ”

“Cr ไง ที่ทำแว่นอะ เอ่อโครเมียม”

ใช่เหรอวะ แล้วนั่นตัวที่ 4

ต่อเอาขาสะกิดกะปิ อย่าให้มันหัวเราะ เดี๋ยวไอ้อาทได้ลุกมาเอาเรื่องจนได้

แม่งหน้าตามีความสุขนะ ไอ้นี่ก็ร้าย แอบซ้ำเติมคนอื่น

“ทีม มึงอะ” ต่อตะโกนข้ามไปถาม

“ความลับวะ เอาเป็นว่า กูได้เกินครึ่งแล้วละกัน”

“ยัยหัวฟูมันเอาหมดเลยเหรอ” อาทถาม

“เห็นคนที่ลงไปท่องมา ได้เกินครึ่งแกก็ให้ผ่านแล้วนะ” ทีมบอก

“พวกที่ไม่ผ่านทำไงอะ”

“ก็ยังไม่มีวะ สงสัยมึงจะคนแรกว่าอาท”

“Kเหอะะะะะะ กูไปเก็บตัวละ อย่ามายุ่งกับกู”

อาทถือหนังสือลุก ปึงปังออกไป

เฮ้ย นี่จะเริ่มเข้าชั่วโมงเคมีแล้ว มันจะไปเก็บตัวที่ไหนทัน

พอหมดพักเที่ยง เข้าคาบบ่ายปุ๊บ ก็จะเริ่มเชือดกันเลย

ยัยป้าหัวหยิกนั่งอยู่ที่ห้องวิทย์ชั้น 4 คงจะรอกินหัวตามเคยสินะ

เสียงออดดังขึ้น

เอาละ ทุกคนเงยหน้ามองนาฬิกา รู้กัน ได้เวลาหายนะแล้ว

ประหารชีวิต นักโทษเลเวลน้อย

เสียงออดวันนี้น่ากลัว เหมือนออดในโรงพยาบาลโรคจิต ถ้ามีปืนสักอันนะมันจะน่าสนุกมากเลย

เฮ้ย ต่อ แกเพ้อเจ้อแล้ว กลับมาๆ สงสัยเล่นเกมไอ้กะปิมากไปแล้ว

ทุกคนเข้ามานั่งประจำที่

เด็กคนแรกลุกเดินออกไป

เอาละ เริ่มแล้ว

ถ้าเรียงตามเลขที่ ไอ้อาทกับไอ้ทีมจะออกไปก่อน สมน้ำหน้ามัน กะปิเองก็เลขที่ก่อนต่อเหมือนกัน แต่ห่างกันไม่เยอะ

เอาละ รีบท่องๆ ตั้งใจๆ ถ้าเรียงผิดแค่ตัวเดียวก็ถือว่าผิดแล้ว ขายหน้าพี่ต้องแน่เลยถ้ารุ้ว่าแค่นี้ก็สอบไม่ผ่าน

ไอ้พี่ต้องนี่ท่องไปได้หมดนี่จริงๆเหรอวะ

ใช่ๆ เคยเห็นพี่ต้องมันท่องอะไรสักอย่างสี่เหลี่ยวยาวๆ เป็นช่องๆ ก่อนนอนอยู่ สงสัยมันคือไอ้นี่สินะ ตอนนั้นก็คิดว่าพี่ต้องเล่นเกมอะไรอยู่ คิดว่าไปได้อะไรมาแล้วไม่ยอมแบ่งให้เล่น

ดีที่ไม่ได้ขอเล่นด้วย ไม่งั้นคงได้ท่องตั้งแต่ ม. 1 อี๋ คิดแล้วก็ขนลุก

ชักสงสัย นอกจากเรื่องจีบหหญิงแล้วอะไรที่มันทำไมได้บ้างเนี่ย ดีแล้วที่มีเรื่องห่วยๆบ้าง แต่.. เรื่องจีบหญิงนี่ห่วยหนักจริงนะ แม่ง นอกจากเก๊กเป็นอย่างเดียวแล้วจะทำอะไรเป็นอีกวะ ใครจะหน้าโง่ไปเอาคนแบบนั้น

เฮ้ย กลับมาๆ

ทำไมอ่านหนังสือ มันหาสมาธิยากนักวะ มีกดน้ำยาไรช่วยมั้ยเนี่ย

ไอ้อาทเดินคอตกกลับ

ในห้องเสียงจ๊อกแจ๊ก พอมันเป็นเสียงชื่อธาตุแล้วมันแปลกๆ ราวกับเสียงกระซิบที่ฟังไม่ออกทั้งๆที่อยู่ไม่ไกล แถมยังได้ยินชัดอีกด้วย

“เป็นไงวะมึง”

“ได้แค่นั้นแหละมึง 6 ตัว”

“แล้วยัยป้าแกว่าไงวะ”  ทีมถาม

“ก็ด่ากูซะไม่มีชิ้นดีไง ด่าจนกูอายไปถึงไหนไม่รู้ คนแถวนั้นใครเดินผ่านหันมาขำกันหมด แม่งครูห้องวิทย์ก็หันมาร่วมวงด้วย”

“แล้วไงอะ ตกเหรอมึง” ทีมถามต่อ

“แม่งให้ไปท่องแล้วมาใหม่ อีกอาทิตย์มาสอบซ่อม”

“โห”

“กูเลยกะว่าปล่อยละ ยอมตัดคะแนนไปเลย ไม่ท่องแล้ว”

“ได้มะ”

“ได้เตี่ยดิ แกให้มส”

ไอ้ทีมหัวเราะกราวเลย

แม่งโหดจริง กูรีบๆท่องดีกว่า

“ปิ มึงไม่ท่องแล้วเรอะ” ต่อหันไปถาม

มันส่ายหัว

“ขี้เกียจแล้วอะ”

นั่น พ่อคนความจำดี เล่นเกมเยอะๆมันช่วยได้สินะ

เอาเหอะ

ไอ้ทีมลงไปแล้ว ออกจากห้องไปเงียบๆเลยนะมึง

เวลาเดินผ่านไปอีกจะเกือบครึ่งชั่วโมง ชักจะขี้เกียจแล้วดิ เอาวะ ใช้ความจำเฮือกสุดท้าย

ทีมเดินกลับขึ้นมา

“เป็นไงวะมึง”

“มส”

“ฮ่าๆๆๆๆๆ” ต่อขำ

ไอ้อาทลุกขึ้นไปกอดคอ แสดงความยินดี

“ดีเหี้ยไรละไอ้สัส กูได้เกือบจะถึงครึ่งอยู่แล้ว”

“อยู่เป็นเพื่อนกูก่อนมึง ฮ่าๆๆๆๆๆ”

“เหลือแต่มึงแล้วนะ ไอ้ต่อ คว.. มึงอย่าผ่านนะมึง สัส ทิ้งเพื่อน”

อาทกับทีมร่วมกันชี้หน้าผม

“สุดท้ายมึงสองตัวก็ต้องไปท่องอยู่ดีละวะ งานนี้กูว่าแกไม่ปล่อยหรอก”

“แม่งจำได้ด้วยนะ ว่าพวกกูอยู่กลุ่มหลังห้องที่นั่งอ่านการ์ตูนน่ะ”

“เพราะมึงน่ะแหละ อาทเสือกขำออกมา มึงจะอ่านเงียบๆ หรือจะอ่านไปชักว่าวไปก็เรื่องของมึง เสือกไปทำให้ป้าแกหมายหัวพวกกูเลยไง”

พอคำว่าการ์ตูนหลุดออกมาจากปากทีม ดูปิจะสะดุ้งน้อยๆ

“ต่อ เราไปละนะ”

ปิลุกขึ้นเดินออกไป เออใกล้คิวมันแล้วนี่

เดี๋ยวพอคนก่อนปิกลับขึ้นมา ค่อยลงไปแล้วกัน

ต่อปล่อยให้พวกอาทกับทีมโวยวายกันอยู่อย่างนั้น สมาธิที่จะท่องโดนขัดจังหวะดู นมสาวๆ ขนาดอะไรสักอย่างที่พวกมันแข่งกันใหญ่ เบอร์หญิงที่ได้มา และอีกสารพัดที่ทำให้ต่อไม่อยากจะมานั่งท่อง ไม่ใช่ว่าอยากจะฟังพวกมันพูด

เสียงที่คุยกันดังขนาดนี้ไม่จำเป็นต้องพูดมันก็ได้ยิน ขนาดพวกหน้าห้องยังหันมามองเลยแต่ไม่กล้าทำอะไรมาก

ต่อเลยปิดหนังสือ นั่งกระดิกขารอเวลาไป

เอะ แปลก เลขที่หลังปิ มันก็ขึ้นมาแล้วนี่หว่า

ทำไมไม่เห็นร่างเล็กคุ้นตาในแว่นหนาปากแดงๆเลย 

หายไปไหนอีกแล้ววะ

“ไปละ”

“โชคดีมึง หึหึ”

“มสเป็นเพื่อนพวกกูนะ”

ต่อชูนิ้วกลางให้มัน

ยัยหัวฟูนั่งหันหลังให้กระจก ห้องเดียวกับวันนั้นที่ใช้ด่าไอ้กะปิ วันนี้สลับที่กัน กลายเป็นต่อมายืนอยู่ตรงหน้าบ้าง

เก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าว่างเปล่า

คนก่อนหน้าเพิ่งยกมือไหว้ยัยป้าแล้วเดินสวนออกมา ดูท่าทางหน้าตาพอจะแช่มชื่น แสดงว่าน่าจะผ่าน

สูดลมหายใจเข้า

เคาะประตูไม้ที่เปิดอยู่ สองสาม ที

โรงเรียนนี้สอนมารยาทมาดี เพราะว่าครูแต่ละคนเข้มเรื่องนี้เหลือเกินไม่ว่าจะเรื่องคลานเข่า เคาะประตู พูดขอบคุณ ยกมือไหว้

แหวะ นี่มันยุคอะไรแล้ว

“เข้ามาได้” เสียงยัยป้าตอบรับ

ต่อยกมือไหว้

“สวัสดีครับ เลขที่ 28 ครับ”

“เพื่อนนายเลขที่ 23 นั่นใช่มั้ย”

หมายถึงปิน่ะเหรอ

“ครับ”

“ดูดิว่าจะมีปัญญาทำได้มั้ย โดนมสกันถ้วนหน้าเลยนี่”

“ปิพนธ์ก็โดนเหรอครับ”

“ยุ่งเรื่องคนอื่นทำไม รีบๆเข้า ไม่งั้นจะให้มสเลยนะ”

ชิบหายละ นี่เล็งกันไว้เลยเหรอเนี่ย

แค่ถามถึงแค่นี้นี่ก็เริ่มจะด่ากูละ อีป้าเอ้ย

เอาวะ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ

“H He Li Be …..”

“ช้าๆ แปลด้วย”

ยัยป้าไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออะไรสักอย่าง นี่ถ้าท่องผิดไปแกจะรู้มั้ยวะ จะลองดูดีมั้ยหว่า เพื่อแกไม่รู้จะได้มั่วๆเอา

แต่มั่วเคมีเนี่ยนะ จะไปตั้งชื่อธาตุเองได้ด้วยเหรอ ไม่ใช่ชื่อหุ่นยนต์นะเว้ย

ผมหยิกๆของแกกำลังขยับไปตามจังหวะขึ้นลงที่แกอ่านหนังสือ พอดูดีๆผมแกชักเริ่มเปลี่ยนสีไปบ้างแล้วเหมือนกันแฮะ

ต่อค่อยๆไล่ไปเรื่อย เหลือบตามองนาฬิกา แม่ง นึกไม่ออกแล้วเว้ย ทำไงดีวะ

“Hg”

ยัยป้า เงยหน้ามามอง

“เลยไปแล้วนี่ ท่องไม่ได้แล้วใช่มั้ย”

เอาดดดดดดด ยัยป้าแกรู้ด้วย ไวชิบหายเลย นี่แกนั่งอ่านอย่างอื่นจริงรึเปล่าวะเนี่ย แม่ง หรือมี 4 หูกันแน่วะ

“ป่าวครับ เผลอ”

ไม่มีคำตอบออกมา

สายตาเฉียบคมใต้แว่นกำลังมองสำรวจ

ซวยละกู ถึงครึ่งยังวะ

หือ

อะไรดุกดิกวะนั่น อะไรอยู่ข้างหลังครูวะ กระดาษแผ่นขาวๆ ถูกยกขึ้น มีตัวอักษรสีแดงเขียนอยู่บนนั้น

‘ถึงไหนแล้ว’

ต่อนิ่งไป

กระดาษถูกเขียนด้วยปากกาเมจิกสีแดง เน้นเส้นใต้ที่คำว่า “ไหน”

“ไม่ได้แล้วเหรอ”

“ป่าวครับ พักหายใจ”

“ต่อไป เร็วๆ ยังไม่ถึงครึ่ง”

“Zn สังกะสี”

ต่อพูดเสียงดัง ดังมาก

“จะท่องทำไมดังๆ”

เกือบจะทันที มีกระดาษใบใหม่โผล่ขึ้นมา

Ga แกลเลียม ข้างๆเป็นมือกำลังชี้นิ้วไปที่ธาตุ วาดด้วยปากกาสีแดง

นี่มึงมีเวลาวาดเหรอ ใจเย็นไปมั้ย ชีวิตกูอยู่ในมือมึงนะ

หึ ยังไงก็ขอบใจนะปิ คนที่ทำอย่างนี้ได้มีแต่มันแน่ๆ

การท่องยังไล่ต่อไป กระดาษก็ขึ้นมาเรื่อย จนแผ่นสุดท้าย มีข้อความว่า

‘จำไม่ได้แล้ว’

ตัวโตมาก มีคำว่า “ขอโทษ” อยู่ใต้นั้นด้วย

ต่อเกือบหลุดขำ

“เอ่อ ไม่ได้แล้วครับ”

หัวหยิกๆขยับขึ้นมามอง

“เกินครึ่งโอเค ผ่าน”

“ตั้งใจก็ทำได้นี่ เพื่อนเธอเองก็ผ่านเหมือนกัน ผิดกับไอ้สองคนแรกนั้น ไปได้หน่อยเดียวก็ท่องไม่ได้แล้ว ไอ้เพื่อนเธอที่ยืนหัวเราะในห้องเรียนนั่นแหละ อีกคนเกือบถึงครึ่ง เธอเองคบใครก็เลือกๆหน่อย แทนที่จะพากันไปดี จะพากันร่วง สายวิทย์เรียนวิชาเคมีหมดนะ นอกจากเธอจะหนีไปสายศิลป์”

“ตารางธาตุมันใช้เวลาเรียนเคมีด้วย ชั้นไม่ได้ว่างให้พวกเธอมาท่องเล่น ถ้ารู้ว่าไม่ชอบ ไม่ถนัดแบบนี้จะได้ไปเลือกสายอื่น”

“ไปถามเพื่อนเธอที่เหลือจะเลือกอะไร ยังไงขึ้น ม.4 ก็ต้องท่อง”

หือ... น้ำเสียงแกดูไม่ดุร้ายเหมือนตอนแรก แต่มายาวเลยวุ้ย

“ครับ ผมจะไปบอกพวกมัน”

วันนี้มาแปลก พูดดีแฮะ สงสัยผัวทำการบ้านแล้ว

“ผ่าน ไปได้”

ต่อยกมือไหว้

“ขอบคุณครับ”

เมื่อเดินออกจากห้องต่อหันไปมองหนังกระจกที่ก่อนหน้านี้มีกระดาษขาวๆลอยขึ้นมา แต่ไม่เห็นปิที่ซ่อนตัวอยู่ ต่อเลยตัดสินใจเปลี่ยนทางกลับ ไปใช้บันไดตรงซอกแทน อันเดียวกับที่มาหาปิวันที่โดนครูคนนี้ด่า

“ปิ อยู่แถวนี้สินะ”

ต่อพูดเบาๆ ก่อนจะหันหลังไป

เจ้าของกรดาษแสนจะใจดี ทำหน้ายิ้มแฮะๆอยู่

“ขอบใจนะ”

ต่อเอามือขยี้หัวจนแว่นบนหน้าสั่นไปมา

กลิ่นแชมพูฟุ้งขึ้นเตะจมูก

“อื้อ”

อื้อ อีกแล้ว

แม่งน่ารักจริงๆ จับทำเมียซะเลยดีมั้ยเนี่ย

“ต่อ หัวเรายุ่งหมดแล้ว”

ฮ่าๆๆๆ

ขอกอดมันอีกทีเหรอ

"นี่หายใจไม่ออกนะ"

ปิหน้าแดงแป๊ดเลยทีนี้

แปลกแฮะ อย่างต่อกลายเป็นว่า ต้องให้ไอ้แหย อย่างปิมาช่วย มันรู้สึกแปลกๆเหมือนกัน

ทว่ามันเองก็เข้มแข็งขึ้นแล้วนี่นา

รู้สึกเหมือนพ่อที่เห็นลูกยืนได้เลย

“ปิ กลับขึ้นห้องไปก่อน เดี๋ยวเราตามไป ขืนเข้าไปพร้อมกันไอ้พวกนั้นรู้แน่”

“ได้เลย”

เสียงดีใจ

ปิเดินขึ้นบันไดไปเงียบๆ ส่วนต่อวกกลับแล้วรีบวิ่งไปออกทางขึ้นบันไดกลาง ไปดักรอที่หน้าห้องด้วยอาการลิงโลด พอเห็นปิเข้าไปได้สักพักจึงเดินตามเข้าไป

“เป็นไงวะ”

“ผ่านวะ”

ต่อทำหน้ากวนตีนใส่ จริงๆอยากจะดันแว่น แต่ต่อไม่ได้สายตาสั้น

“อย่างมึงเนี่ยนะ” ทีมยังงง

“กูเก่งอะ ไม่เหมือนพวกมึงนี่”

“ถุย เล่นของรึเปล่าวะมึงน่ะ หรือเอาตัวเข้าแลกยัยป้านั่นมา สงสัยป้าแกจะติดใจของต่อวะ ฮ่าๆๆๆๆ”

“ใครมันจะทำยัยป้าลงวะ ไม่ใช่มึงนะเว้ย” ต่อมองลงไปที่เป้าอาท
   
อาททำท่าทางไม่พอใจ

“เออออ ดูไม่ใช่มึงขึ้นทุกวัน นับวันยิ่งดูเหมือนตุ๊ดขึ้นเรื่อยๆ”

“มึงก็เหมือนกันละวะ”

บรรยากาศเริ่มไม่ดี พักหลังมานี่ ต่อกับอาท เขม่นกันด้วยเรื่องแบบนี้บ่อยขึ้น บ่อยครั้งที่ไม่ได้เริ่มมากจากการหาเรื่องกะปิ แต่เป็นการเล่นงาน ต่อ ตรงๆ

อาทเริ่มไม่พอใจต่อด้วยเรื่องอะไรสักเรื่อง

“กูว่าแม่งมีคนช่วย”

ทีมพูดลอยๆ

“เออ ไอ้ปิ แน่ๆ แม่งคู่เกย์ชัว”

สองคนนั้นยังนั่งพูดกันลับหลัง ไม่ยอมรับผลที่ออกมา

ต่อได้แต่ทำเป็นไม่ได้ยิน

‘พอเข้าใจแล้ว ที่พี่บูมทำกับเก้า เก้าจะรู้สึกยังไง นี่ละมั้งสาเหตุที่พี่บูมไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องของพี่ต้องกับไอ้เก้า’

‘ชีวิตม.ต้นของเก้าจบลงด้วยเรื่องแบบนี้ไปตลอด เพราะพี่บูม’

มิน่า แม่งดูพี่บูมรู้สึกผิดทุกทีที่ไปยุ่งกับไอ้เก้ามัน

เมื่อเด็กคนสุดท้ายเดินเข้ามา ก็แปลว่าการสอบเสร็จสิ้น พอดีกับชั่วโมงเคมี

ด่านนี้ ต่อก็เคีลยร์มันออกไปได้ดี ด้วยไอเทมพิเศษที่ชื่อกะปิ

ไว้เบรค ค่อยไปขอบใจไอ้กะปิมันอีกที

รู้สึกอยากจะกระโดดเข้าไปหอมแก้มมันจริงๆเลยเว้ย



====================================================================

นอกเรื่องนิดหน่อย

HBD นะ ต้อง ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-01-2016 21:44:35 โดย Monet »

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: (10 CM) ขอแค่ 5 นาที : กระดาษ [pg8] 19/1/2016
«ตอบ #233 เมื่อ20-01-2016 00:35:18 »

 :a13:
มีความสุขมากๆๆๆๆ นะต้อง


ต่อเริ่มเข้าใจความรู้สึกนั้นแล้ว
คงจะคิดได้..ไม่หาเรื่องกับเก้าอีก

ฮ่าฮ่า..อยากจะจับปิทำเมีย
แต่ไงกลายไปเป็นเมียปิซะล่ะ
ต่อเอ๊ยยยย
 :laugh:


หรือว่าต่อยอมปิไปแค่ครั้งนั้นครั้งเดียว
ที่เหลือ..จากนั้นต่อเป็นปั๋วตลอด
 :jul3:

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook
Re: (10 CM) ขอแค่ 5 นาที : กระดาษ [pg8] 19/1/2016
«ตอบ #234 เมื่อ20-01-2016 12:39:40 »



เรามาแล้วนะคุณ Monet!! 
อย่าหงอยเหงา อย่าอ้างว้างหรือเดียวดายนะคะ
ถึงเราจะเป็นพวกนาน ๆ มาเมนท์ที แต่เราติดตามทุก ๆ บทตลอด ๆ

ตอนล่าสุดนี้ทำให้เราเข้าใจแจ่มแจ๋วเลยว่าทำไมต่อมันถึงหลง และตกหลุมปิได้ในท้ายที่สุด
เพราะปิน่ารักจริง ๆ ทั้งนิสัย ทั้งหน้าตา... เป็นเราเราก็คงชอบแกล้งปิเหมือนกัน
อ่านทุก ๆ ตอนที่ต้องเล่าเรื่องปิทีไร เรารู้สึกเหมือนปิเป็นลูกแมวตัวขาวขนปุย ๆ ขี้อ้อน ๆ คอยมาเดินพันแข้งพันขาอยู่ใกล้ ๆ พอจะไล่ มันก็ไม่ยอมไป แค่อาจจะทำท่าจ๋อยนิดหน่อย แต่เดี๋ยวสักพักก็กลับมาคลอเคลียใหม่อยู่ดี

คือ ถ้าต่อคิดอะไรกับต้องจริง ๆ เราว่ามันอาจจะเป็นผลมาจากความคลุมเครือเพราะรู้สึกปลื้มที่ต้องคอยดูแลและทำดีด้วยสารพัด ซึ่งตีคู่มากับความชื่นชมในตัวพี่ชายต่างมารดาผู้ที่เติบโตมาพร้อม ๆ กัน แต่ดันมีคุณสมบัติโน่นนี่ที่ดีงามจนต้องมองตามหลังเต็มไปหมด

แต่กับปิ... เราว่ามันคือการเติมเต็มความรู้สึกของการได้กลายเป็นที่พึ่งพิงของใครสักคน มันคือการสร้างความเชื่อมั่นและรากฐานของการเป็นผู้ใหญ่ และคือการผ่านปัญหาเดียวกัน (bullying) ไปพร้อม ๆ กับอีกฝ่าย (แม้จะอยู่คนละขั้วอำนาจก็เถอะ) แน่นอน... ความเห็นอกเห็นใจ และรู้ซึ้งในน้ำใจของอีกฝ่ายย่อมมีมากกว่าตอนอยู่กับต้องอยู่แล้วล่ะ

อย่างไรก็ดี เราจะรออ่านตอนต่อ ๆ ไปเรื่อย ๆ นะคะ ดีใจมากเลยที่รู้ว่าเรื่องนี้เขียนจบแล้ว
และถ้าคุณ Monet ยังสนุกกับการเขียนอยู่ จะเจอเราคอยติดตามเป็นเงาแน่ ๆ ค่ะ (ถ้าเรื่องมันไม่โหดร้ายจนเกินไปนะคะ - แหม่... กล้าพูด ทีเรื่องต้องเก้ายังผ่านมาได้เลยนี่หว่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า) 

อ้อ! HBD ต้องด้วยค่ะ ขอให้เลิกซึน ขอให้ได้กินเก้าเท่าที่ต้องการ และขอให้ต้องมีความสุขมาก ๆ ไปทุก ๆ วันเลยนะ
เป็นกำลังใจให้นะคะคุณ Monet!  :L2:


ปล. แอบใช้พื้นที่ตรงท้ายนี้หวัดดีคุณ broke-back ด้วยค่ะ เราชอบอ่านกลอนของคุณมากเลย คนอะไรเก้งเก่ง เมนท์นิยายเป็นกลอนตลอด ๆ (นี่คุณติดอยู่ในรายชื่อนักอ่านในดวงใจเราไปแล้วนะคะ... รู้ตัวไหม? - ไม่ได้ยอนะเอ้อ เราว่าบทกลอนของคุณสะท้อนความใส่ใจต่อนิยายที่ได้อ่านดีอ่ะค่ะ ^^)

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
Re: (10 CM) ขอแค่ 5 นาที : กระดาษ [pg8] 19/1/2016
«ตอบ #235 เมื่อ21-01-2016 23:07:20 »



เรามาแล้วนะคุณ Monet!! 
อย่าหงอยเหงา อย่าอ้างว้างหรือเดียวดายนะคะ
ถึงเราจะเป็นพวกนาน ๆ มาเมนท์ที แต่เราติดตามทุก ๆ บทตลอด ๆ

ตอนล่าสุดนี้ทำให้เราเข้าใจแจ่มแจ๋วเลยว่าทำไมต่อมันถึงหลง และตกหลุมปิได้ในท้ายที่สุด
เพราะปิน่ารักจริง ๆ ทั้งนิสัย ทั้งหน้าตา... เป็นเราเราก็คงชอบแกล้งปิเหมือนกัน
อ่านทุก ๆ ตอนที่ต้องเล่าเรื่องปิทีไร เรารู้สึกเหมือนปิเป็นลูกแมวตัวขาวขนปุย ๆ ขี้อ้อน ๆ คอยมาเดินพันแข้งพันขาอยู่ใกล้ ๆ พอจะไล่ มันก็ไม่ยอมไป แค่อาจจะทำท่าจ๋อยนิดหน่อย แต่เดี๋ยวสักพักก็กลับมาคลอเคลียใหม่อยู่ดี

คือ ถ้าต่อคิดอะไรกับต้องจริง ๆ เราว่ามันอาจจะเป็นผลมาจากความคลุมเครือเพราะรู้สึกปลื้มที่ต้องคอยดูแลและทำดีด้วยสารพัด ซึ่งตีคู่มากับความชื่นชมในตัวพี่ชายต่างมารดาผู้ที่เติบโตมาพร้อม ๆ กัน แต่ดันมีคุณสมบัติโน่นนี่ที่ดีงามจนต้องมองตามหลังเต็มไปหมด

แต่กับปิ... เราว่ามันคือการเติมเต็มความรู้สึกของการได้กลายเป็นที่พึ่งพิงของใครสักคน มันคือการสร้างความเชื่อมั่นและรากฐานของการเป็นผู้ใหญ่ และคือการผ่านปัญหาเดียวกัน (bullying) ไปพร้อม ๆ กับอีกฝ่าย (แม้จะอยู่คนละขั้วอำนาจก็เถอะ) แน่นอน... ความเห็นอกเห็นใจ และรู้ซึ้งในน้ำใจของอีกฝ่ายย่อมมีมากกว่าตอนอยู่กับต้องอยู่แล้วล่ะ

อย่างไรก็ดี เราจะรออ่านตอนต่อ ๆ ไปเรื่อย ๆ นะคะ ดีใจมากเลยที่รู้ว่าเรื่องนี้เขียนจบแล้ว
และถ้าคุณ Monet ยังสนุกกับการเขียนอยู่ จะเจอเราคอยติดตามเป็นเงาแน่ ๆ ค่ะ (ถ้าเรื่องมันไม่โหดร้ายจนเกินไปนะคะ - แหม่... กล้าพูด ทีเรื่องต้องเก้ายังผ่านมาได้เลยนี่หว่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า) 

อ้อ! HBD ต้องด้วยค่ะ ขอให้เลิกซึน ขอให้ได้กินเก้าเท่าที่ต้องการ และขอให้ต้องมีความสุขมาก ๆ ไปทุก ๆ วันเลยนะ
เป็นกำลังใจให้นะคะคุณ Monet!  :L2:


ปล. แอบใช้พื้นที่ตรงท้ายนี้หวัดดีคุณ broke-back ด้วยค่ะ เราชอบอ่านกลอนของคุณมากเลย คนอะไรเก้งเก่ง เมนท์นิยายเป็นกลอนตลอด ๆ (นี่คุณติดอยู่ในรายชื่อนักอ่านในดวงใจเราไปแล้วนะคะ... รู้ตัวไหม? - ไม่ได้ยอนะเอ้อ เราว่าบทกลอนของคุณสะท้อนความใส่ใจต่อนิยายที่ได้อ่านดีอ่ะค่ะ ^^)

ขอบคุณมากนะครับ จริงๆนะไม่ใช่ขอบคุณเพราะมารยาท

ยอมรับเลยว่าตอนแรกก็เหงาหงอยไปแล้วละ คือ ก็รู้ว่า มันอาจจะไม่ได้โดนใจคนอ่าน (ก่อนเอามาลงก็มีเพื่อนคอมเม้นว่า มันไม่ค่อยมีคนอ่านแน่ ไม่ใช่แนว) ยังไงก็พยายามจะ EDIT ต่อให้จบให้ดีที่สุด ไม่อยากจะทำลวกๆลงไปเพราะคิดแค่ว่า คนอ่านน้อย

ถ้าจะพูดถึงเรื่องแล้วละก็ คุณอ่านเรื่องได้ทะลุมาก ... เก่งมากครับ ขอชมเลย จะมีรางวัลให้ก็ ... ขอให้ทำใจตอนจบนะครับ

พอมาเห็นคอมเม้นนี้ ก็มีกำลังใจจะเอาลงแล้วละครับ

ป.ล. ผมเชื่อว่าจากประสบการณ์สมัยเรียนที่ผ่านมา ถ้าเรื่องมันใกล้เคียงความจริง คนจะเข้าถึงและอยู่กับมันได้นานกว่า (อย่างน้อยเรื่องพวกนี้ก็เกิดในสมัยผมละนะ)

ป.ป.ล. คุณ Brok-Back ขอบคุณมากนะครับ เป็นคนอ่านที่น่ารักที่สุด มาเม้นทุกตอนเลย


อ้อ ก่อนเอาลงก็พยายามอ่านแล้วอ่านอีกแก้อีกถ้ามีเวลา โปรแกรมที่ใช้ไม่มีสะกดคำให้ ดังนั้นทั้งหมดต้องอ่านเองแก้เอง มีพิมพ์ผิดไปบ้างก็ขออภัยนะครับ

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
(10 CM) ขอแค่ 5 นาที : พี่ต้อง [pg8] 22/1/2016
«ตอบ #236 เมื่อ21-01-2016 23:08:34 »

ขอแค่ 5 นาที : พี่ต้อง

จบเรื่องสอบไป ต่อยังรู้สึกติดหนี้ไอ้กะปิอยู่  หลังจากวันนั้นมาต่อยังไม่ได้กระโดดหอมแก้มกะปิอย่างที่คิดไว้

วันนี้เป็นครั้งแรกที่ต่อได้ทำกิจกรรมคนละอย่างกับปิ

ไอ้ปิที่กลายเป็นเหมือนลูกเป็ดเดินตามต่อต้อยๆ คราวนี้ตามมาไม่ได้ ชั่วโมงพละได้เอามาใช้เป็นชั่วโมงซ้อมกีฬาสีไปซะแล้ว ปิซึ่งไม่ลงกีฬาอะไรจึงต้องแยกไป

ต่อที่ไปลงชื่อลงคัดบอลเอาไว้ ผลออกมาเป็นอย่างที่คิด ยังไงต่อก็ต้องได้ลง

รู้สึกแปลกๆสักหน่อยที่เงาหายไป แต่เอาวะ ยังดี ได้เป็นอิสระบ้าง

แล้วไอ้วิชาพละหน้าหนาวเนี่ย ทำไมมันถึงเป็นวิชาว่ายน้ำไปได้วะ ใครคิดเนี่ย เดาว่าไอ้คนสอนกะอู้แน่ๆ ถึงได้เอาว่ายน้ำมาลงตาราง เพราะรู้กันว่าไม่มีใครจะเรียนหรอก อากาศอย่างนี้ แล้วก็มีซ้อมกีฬาสีอีก เหมือนแค่ใส่ชื่อวิชาเอาไว้เฉยๆ

ครูพละแม่งชอบอู้ชิบหาย

เป็นที่รู้กันทุกโรงเรียน ครูพละเก่งวิชาพละแต่อย่าให้ไปทำอย่างอื่น กล้ามเนื้อมันฝ่อลีบหมดโดยเฉพาะสมอง

อากาศวันนี้ไม่หนาวเท่าวันก่อนๆ ออกจะร้อนด้วยซ้ำ พอตกบ่ายจะเริ่มแยกกันไปทำกิจกรรมตามที่ลงชื่อเอาไว้

ชื่อนักกีฬาบอล มีชื่อพี่ต้องด้วย

อีกเดี๋ยวก็จะได้เจอแล้วสิ

สองพี่น้องแทคทีมเล่นบอล หึหึ

ไอ้อาทคงจะขึ้นสระไปเตรียมซ้อมว่ายน้ำ เอะ มันเริ่มแข่งวันไหนหว่า นอกจากเรื่องบอลเรื่องอื่นก็ไม่ค่อยได้สนใจ ว่ายน้ำเนี่ยเป็นถิ่นของไอ้อาทมัน ไม่เข้าไปให้มันแหย่ได้หรอก มองจากตรงนี้ขึ้นไปเห็นน้ำแตกเป็นฟองหยอยๆ สงสัยเริ่มกันแล้ว

ทีมคงไปอยู่ที่เค้าซ้อมร้องเพลงกัน มันคงจ้องหาโอกาสโดดอยู่แน่

เจ้าปิคงจะโชคดีเดี๋ยวก็คงได้เจอกับเอ็ม เพื่อนต่างห้องที่อยู่สีเดียวกัน อย่างน้อยก็คงมีคนช่วยมันละ ไม่น่าจะต้องเป็นห่วงมันมาก

ต่อเองก็มีโอกาสได้พักสบายๆจาก งานเสริมที่คอยเป็นบอดี้การ์ดให้ปิมันด้วย

ทางเดินที่ผ่านมา แม่ง วุ่นวายโคตรๆ คนอะไรมันจะเยอะกันขนาดนี้วะเนี่ย เรียกว่าทั้งโรงเรียนลงมาวุ่นวายกันอยู่ตามลานต่างๆไปหมด

ป๊องงง

ใครโยนบอลมาวะ

หันไปเห็นร่างสูงๆ ยืนยิ้มให้อยู่

“พี่ต้อง” สองมือยังคลำหัวที่โดนบอลโยนใส่อยู่

“ต่อมาเลย อย่าอู้”

ผู้เป็นพี่กวักมือตามน้องชายลงสนาม

คนในสนามมีทั้งผู้เล่นหลัก ตัวสำรอง กับพี่ๆ ที่มาช่วยกันซ้อม ในสนามเล็กๆ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม แล้วแต่ละกลุ่มก็จะมี 2 ฝ่าย

“มาเจอกันเลยพี่ต้อง”

ต่อเลือกที่จะไม่อยู่ฝั่งเดียวกับต้อง

ข้างละ 3 คน ชุดนักเรียนเหมือนกันแยกออกยาก

บอลถูกเขี่ยออกจากกลางลาน ส่งไปทางต่อ

ต่อชี้นิ้วไปทางต้อง แล้วเลี้ยงบอลขึ้นไป

ต้องยิ้มแสยะ

วิ่งถาโถมเอาตัวเข้าขวาง พยายามเอาขากันบอลออก

ต่อหลบได้

‘ง่ายไปพี่ต้อง’

ต่อเลี้ยงหลบออก แล้วเลี้ยงยาวขึ้นไปเพื่อจะทำประตู

“น้อง ส่งมา” ใครสักคนทักขึ้น

‘ฝันไปเหอะ กระจอกๆอย่างพวกมึงกูคนเดียวก็พอ’

อยู่ๆ ลมวูบมา

พี่ต้องวิ่งขึ้นตามมาติดๆ

‘เล่นสนามเล็กสินะ วิ่งง่าย’
   
ต่อพยายามหลบอีก แต่คราวนี้ไม่ง่าย

“แพ้ อาบน้ำพร้อมต่อนะ”

“หา...”
   
ต้องชะงักไปครู่หนึ่ง

ต่อจะฉากหลบออกขวาแล้ววิ่ง แต่..

“พี่ต้องขี้โกง”

ต้องอุ้มตัวต่อออกไปวางนอกสนาม

“นี่เล่นบอลนะ ไม่ได้เล่นซูโม่”

ต่อไม่ยอมแพ้โวยวาย ดิ้นไปมาในอ้อมแขนส่งเสียงดังลั่น

ฮ่าๆๆๆๆ เสียงคนในสนามหัวเราะ

“พี่ต้องโกง ต่อไม่ยอมนะ”

“อะไรละ ก็แค่ฟาล์ว แจกใบเหลืองพี่สิ แต่กรรมการก็ไม่เห็นมีนะ”

“พี่ต้อง ต่อไม่ยอมนะเย็นนี้โดนแน่”

“อะไร ใครบอกว่าจะยอม โตแล้วนะ”

“หือ เดี๋ยวนี้หือต่อเหรอ”

“เอะ นักเลงนะเราน่ะ”

“พี่ต้อง” ต่อทำเสียงต่ำ

“นี่ พี่น้องคู่นั้นน่ะ ทำไรกันน่ะ”  พี่คนหนึ่งทักขึ้นมา

ต้องหัวเราะเขินๆ

บอลถูกนำกลับมาวางกลางสนาม กำลังจะเริ่มใหม่

ความสุขมักจะอยู่ไม่นาน เรื่องนี้ต่อเห็นด้วย ยังไม่ทันได้เล่นกันต่ออีก ต่อเงยหน้าขึ้นไปมองเห็น

‘เก้านี่เดินมาทำไมแถวนี้’

   แม่งชักไม่สบอารมณ์แล้ว

   เอาแล้วไง พอเห็นต่อมองพี่ต้องก็เงยหน้าตาม

   พี่ต้องเห็นมันแล้ว หันไปโบกมือแล้วกวักให้เข้ามาหา

   จะไปเรียกมาทำไมน่ะ
.
.
.

   ‘มึงมาทำไรวะ ไม่โดนจับไปร้องเพลงเรอะ’ พี่ต้องพูดพร้อมสะบัดชายเสื้อ

   ‘กูมาดูพวกมึงน่ะ แอบอู้ด้วย’

   ‘ไอ้ซันแม่ง เสล่อวะ นั่งร้องเพลงอยู่ได้ ไม่ยอมมา’  เก้าเล่าให้ต้องฟัง

   ‘เออกูก็ว่า แม่งประตูหายไปไหนวะ’
.
.
นี่คุยกันน่ะ สนใจหน่อยว่ากูอยู่ตรงนี้
.
.
   ‘แล้วมึงละ โดนจับทำไร’

   ‘พี่ก้องจะเอากูเป็นลีด’ ผมตอบไม่มองหน้ามัน
.
.
เก้า มึงเปลี่ยนจากเกย์เป็นตุ๊ดเลยเหรอ โรงเรียนชายล้วนน่ะ พวกที่เป็นหลีดมีแต่ตุ๊ดนะ
.


“ตัวแค่นี้อะนะ ลีดผู้หญิงเหรอ” ต่อตะโกนเข้าไปกลางวง

“ต่อ...” รีบปกป้องเชียวนะ

พี่ต้องจะห้ามทำไม แค่ประโยคเดียว มันไม่ลงไปดิ้นพลาดๆหรอก

“กูไม่ลงอะ ไม่ชอบ ลงศิลป์กับไอ้แมคแทน” เก้าพูดต่อ

“คู่ขาใหม่เหรอ” ประโยคนี้กูแถมให้

“ต่อ พอได้แล้ว”

เรื่องไรจะพอ มาให้ด่าถึงที่

“นี่ๆๆ น้องคนนั้นอะ เป็นดรัมมั้ย” เสียงพี่คนนึงดังขึ้นมา ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้

“ผมเล่นแต่กีต้าร์พี่ ไม่เล่นกลอง” พี่ต้องตอบ

พี่คนนั้นเดินมาเตะพี่ต้องไปเต็มแรง

โห เล่นเอาตัวเอนเลย

“เพื่อนเล่นมึงเหรอ”  พี่เดินเข้าไปจับคอไอ้ต้อง

แม่งคนไรวะ ดุชิบหาย

“กวนตีนมาก มาเป็นเลยมา”

“ไม่ได้ ผมเป็นหอบ ผมไม่แข็งแรง”

เพิ่งเคยเห็นพี่ต้องหน้าเสีย ท่าทางไม่มั่นใจสินะ

“แล้วมึงลงบอลทำซากอะไร” พี่คนนั้นยังไม่ยอม

“ผมโยนไม้ไม่ได้หรอกพี่ โยนก็รับไม่ได้”

พี่ต้องพยายามบ่ายเบี่ยง

“เดี๋ยวมีคนสอน”

เอาเลยพี่ อยากให้พี่ต้องเป็นเหมือนกัน

พี่ต้องหันมามอง

‘ไม่ต้องมอง ไม่ช่วย’ เรื่องดีๆแบบนี้ใครจะปล่อยให้หลุดมือไป

“ต่อ...” พี่ต้องขอความช่วยเหลือ

“เป็นเหอะพี่ พี่เล่นบอลสู้ต่อไม่ได้หรอก”

การเป็นดรัมโรงเรียนชายล้วนเนี่ย หมายถึงเป็นดาวโรงเรียนเลยนะพี่ เท่จะตาย เป็นๆไปเหอะ ดีกว่าไปเต้นแร้งเต้นกาแบบไอ้เก้าเยอะ อย่างพี่จะมาเล่นบอลทำไมให้โทรมๆ ไปเดินเท่ๆโชว์เค้าโน่น

“สู้ๆนะพี่ต้อง ดร้มเบอร์ 1”

ฮ่าๆๆๆๆ

“ไอ้ต่อ...” พี่ต้องคำรามในคอ

ทำเป็นไม่ได้ยิน

ไปดีกว่า

“ไปๆกลับไปซ้อมกันได้แล้ว” พี่คนนั้นโวยวาย

ขี้โวยวายจริงๆ

ไว้ซ้อมเสร็จไปดูดิ ไอ้ปิ ทำอะไร คงไม่ใช่โดนจับลงหลีดอีกคนนะ ถ้าเป็นนะจะเข้าไปโวยวายให้

เวลาผ่านไปนาน เวลาเรียนสองคาบเต็มที่เสียไปกับการเอามาซ้อมกีฬาสี พอดีกว่าจะได้กลับขึ้นห้อง กว่าจะล้างหน้าล้างตา ก็จะหมดคาบสุดท้าย เดี๋ยวก็เก็บของกลับบ้านอีกแล้ว

“เป็นไง ปิ”

“อ้อ ก็ดี ร้อนอะ นั่งตบมือร้องเพลง”

หน้าแดง ปลายผมเปียกเหงื่ออยู่เลย

“เออ เบื่อมั้ย”

“ก็ถ้ามีการ์ตูนไปด้วยก็ไม่เบื่อนะ”

แม่ง โอตาคุ

“เออนี่ วันนี้เจอพี่ต้องด้วย แม่งโดนจับเป็นดรัมเฉยเลย”

ต่อพูดยิ้มๆ

“ใครอะ”

เออ ยังไม่เคยเล่าให้ไอ้ปิมันฟังนี่หว่า

“ก็พี่ต้องไง พี่ชาย เอ่อ พี่ชายคนละแม่น่ะ”

“เฮ้ย มึงสองตัว นั่งจีบกันเหรอไง สาดดดด”

ไอ้อาท อะไรของมัน

ทำตัวน่ารำคาญ

“อะไร้ๆๆๆๆ มึง” ต่อลากเสียงยาว

“กลับบ้าน แทงสนุ๊ก ไปป่าวต่อ”

“มึงไม่ไปซ้อมว่ายน้ำเหรอ”

“พอแล้วเหนื่อย หนาว” สภาพของอาทยังสั่นเล็กๆ มันกลับมาในชุดพละเรียบร้อย

“แล้วไอ้ทีมละ”

“เดี๋ยวมันตามไป ไปมั้ย”

“ไม่อะ กูขี้เกียจ” เสียงถอนหายใจออกมาในที่สุด

“แหมจะนั่งจีบกันอะดิ”

“จีบห่าไร” ต่อลุกขึ้นมาโวยวาย

“ไม่จีบก็แล้วไป กูไปละ”
   
อาทมันคว้ากระเป๋าที่ไม่เคยใส่อะไรมาเรียนแล้วเดินออกจากห้อง

“แม่ง พวกเหี้ยนี่” กูทนคบมันมาได้ไงวะ

“เอ่อ ต่อเรื่องที่ต่อเล่าเมื่อกี้อะ”

“ไม่มีรมแล้ว”

ปิ ก้มหน้า

อ้าว กูพูดไรผิดอีกเนี่ย ไอ้นี่ก็กลัวกูซะจริง จับทำเมียซะเลย

“ปิ เอาการ์ตูนใหม่มาป่าว”
   
มันพยักหน้า

“ยืมหน่อยดิ”

มันส่งมาให้ เล่มนี้เพิ่งออกเมื่อวานเอง มันไม่ยอมบอกใครอีกเลยว่าเอามา คงกลัวจะโดนอีก

ยืนอ่านในห้องรอเวลาไปก่อนละกัน ขี้เกียจกลับตอนนี้ จะไปนั่งข้างล่างก็คนคงเยอะ

“รีบกลับป่าว”

“ป่าวอะ”

“งั้นต่อนั่งอ่านในห้องนะ”

“เอาเลย”

ปิ เอา psp ขึ้นมากดเล่น แม่งพกมาโรงเรียนด้วยเว้ย เพิ่งจะคืนมันให้มันไปลงเกมใหม่มาให้

“ปิพนธ์ๆ”

“อ้าว เอ็ม”

ปิเดินออกไปคุยอะไรสักอย่างกับคนนั้น ที่หน้าห้อง

บทสนทนาที่ต่อไม่ได้ยิน

คนนี้น่ะเหรอ เอ็ม

ปิส่ายหัวก่อนจะเดินกลับเข้าห้อง

“มีไรป่าววะ”

“ป่าว”

ท่าทางเหมือนปิปฎิเสธอะไรสักอย่างที่รำคาญใจ

“ต่ออะเล่าต่อดิ”

อา ... อยากรู้จริงนะ

ในห้องที่ตอนนี้เด็กคนอื่นกลับไปหมดแล้ว

ตกเย็นอากาศก็เริ่มเย็นอีกแล้ว

ที่ห้องเหลือแค่ ต่อกับปิ สองคน นั่งอยู่มุมในสุดหลังห้อง โต๊ะเรียนตัวเดิมที่ใช้เรียนตั้งแต่เปิดเทอมมา ความเงียบเริ่มเข้าครอบคลุมชั้นนี้

“พี่ต้องเป็นพี่ชายคนละแม่น่ะ......”

ต่อเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้กล้าเปิดปากเล่าเรื่องนี้ให้กับคนนอกอย่างปิ ไอ้กะปิฟัง ต่อที่ไม่เคยจะสนใจ แม้แต่จะคิดว่าการเล่าแบ่งปันเรื่องส่วนตัวออกไปกับใครเป็นเรื่องปกติธรรมา ถึงแม้ว่าจะหนักหนาแค่ไหน

ชีวิตต่อมีแค่ ต่อกับพี่ต้องเท่านั้น

การปิดปากเงียบ เป็นวิธีที่ใช้ได้ผลเสมอ โดยเฉพาะกับน้า

สิ่งที่ต่อจะปิดบังคือเรื่องที่ทำให้พวกเค้าไม่สบายใจ ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก นานๆครั้งที่พี่ต้องจะได้ฟังจากการหลุดปากของต่อ มันก็แค่นั้น

“ต่อจำได้ว่า ตอนที่อยู่ป.1 พ่อเอาตัวเรามาฝากไว้กับแม่ของพี่ต้อง ....”

“ไม่รู้เหตุผลหรอกนะว่าทำไม มาถึงตอนนี้ถ้าจะให้กลับไปถามก็คงไม่แล้วละ พอหลังจากนั้นไม่ถึงปี พ่อก็ป่วยตาย เดาได้ว่าคงเป็นปัญหาเรื่องสุขภาพละนะ”

“ทั้ง 2 คน แม่ เอ่อ น้ากับพี่ต้องน่ะ ยอมรับเรามาดูแลเหมือนอย่างเสียไม่ได้ แรกๆเค้าก็ไม่ได้ชอบเท่าไรหรอกนะ มีเด็กที่ไหนก็ไม่รู้โผล่ออกมาเป็นภาระอีกคน พอพ่อตายไป ก็มีพี่ต้องรับอาสาจะดูแลให้ ถ้าไม่ได้เค้าพูดละก็ น้าเค้าก็คงจะไม่เอาต่อเหมือนกัน”

“หลังจากนั้นมาพี่ต้องที่เพิ่งจะ ป.4 ป.5 ก็รับบทบาทเป็นพี่ชายที่คอยดูแลมาตลอด จนตอนนี้ดูเหมือนพี่ต้องจะเป็นมากกว่าแค่พี่ชายไปแล้ว”

ทั้ง 2 คนนั่งเงียบไป ปล่อยให้เสียงเอะอะสุดท้าย ที่อยู่นอกห้อง เสียงของเด็กที่ยังนั่งเล่นอยู่ เงียบลงไปอีก

“ต่อนี่เก่งน้า ....”

“หือ...”

“ก็ถ้าเป็นเรา เราคงไม่รู้ว่าจะจัดการกับปัญหานี้ยังไงเลย ปิคงทนไม่ได้หรอก”

ขาปิเตะขึ้นลงอยู่ใต้โต๊ะ

“ปิเองก็โดนแกล้งมาตลอดไม่ใช่เหรอ.. เป็นเรา เราคงทนให้คงแกล้งไม่ได้หรอก”

ปิ หัวเราะ

“หัวเราะไร”

“ป่าวๆ ขอโทษนะต่อ”

“ขอโทษทำไมอะ”

“ก็ปิคิดว่า ปิเป็นปัญหาให้ต่ออะ ต่อต้องมาช่วยตลอดเลย แล้วก็ขอโทษที่ช่วยไรต่อไม่ได้.... ปิว่าแต่ละคนก็คงมีสิ่งที่ทนได้และไม่ได้ไม่เหมือนกันละมั้งนะ”

“หึ ก็คงงั้นมั้ง”

ต่อเอามือขยี้หัวปิ ผมตรงสีดำดูยุ่งเหยิง แว่นหนาๆขยับขึ้นลงไปมาตามจังหวะขยี้

นิ้วโป้งที่ไม่รู้ว่าเคลื่อนมาจากไหน มาสัมผัสกับหน้าปิ และหยุดลงอยู่ที่แก้มนุ่มๆ

นิ้วโป้งต่อ ปาดใต้ตาปิ ราวกับว่าปิกำลังร้องไห้อยู่ แต่เปล่า

แล้วเกินกว่าที่ต่อจะทันได้คิด

หน้าของต่อค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ๆ เข้าไปมองหน้าของปิผ่านแว่นหนาๆให้ใกล้ยิ่งขึ้น

รู้สึกได้ถึงลมแผ่วออกมาจากจมูก

ใกล้จน...

ต่อเกือบจะหยุดไม่ไหว

“เอ่อ .. ปิ เย็นแล้วกลับกันเหอะ”

เฮ้ย เมื่อกี้กูจะทำอะไรมันวะ

ห่าเอ้ย

จะเอามันเป็นเมียจริงเหรอเนี่ย

“....อือ”

ปิก้มหน้าเก็บของลงกระเป๋า

ต่อกับปิเดินออกจากห้อง ทั้ง 2 คนเดินใกล้กันแค่ขยับข้อมือ ถ้าหากฝ่ายไหนขยับก่อนก็คงจะโดนมืออีกฝ่ายทันที

...แต่ไม่มีใครเริ่ม

เมื่อต่อแอบหันไปมอง

เห็นปิเดินก้มหน้าไปตลอดทาง ไม่แม้แต่จะเงยหน้ามามอง

แย่ละ ชักอึดอัด

“ปิ คราวหน้า ลองไปเล่นที่สวนนะ น่าจะอากาศดี”

“อื้อ”

เอาวะ เอานิ้วก้อยเกี่ยวๆมันไว้หน่อยนึงก็ได้ ...

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: (10 CM) ขอแค่ 5 นาที : พี่ต้อง [pg8] 22/1/2016
«ตอบ #237 เมื่อ22-01-2016 00:03:47 »

เห็นชื่อตอนพี่ต้อง..รีบถลาเข้ามาอ่านเลย
แต่บทพี่ต้องมีนิดเดียวเอง อยากอ่านมากกว่านี้อีก

ท้ายๆมีต่อกับปิ แอบจะมีใจให้กัน แต่กล้าๆกลัวๆ ยังไม่ค่อยจะเปิดใจโดยเฉพาะต่อ

เล่าถึงเรื่องต่อกับพี่ต้องอีกซักหน่อยดิ
อยากอ่าน อยากรู้เพิ่ม
เพราะพี่น้องคู่นี้รู้สึกยังจะมุมมุ้งมิ้งกันมากกว่านี้น่ะ

+1 ให้
เป็นค่านำจับ เอาต้องมาเล่า ลงตอนหน้า(อีก)
อิอิ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: (10 CM) ขอแค่ 5 นาที : พี่ต้อง [pg8] 22/1/2016
«ตอบ #238 เมื่อ22-01-2016 21:39:41 »

จับน้องอาบน้ำ
ล้างกระจู๋..ถูไข่

อิอิ..พี่
นู๋เสียววว

ฮ่าฮ่า..น้อง
ล้อเล่ง

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
(10 CM) ขอแค่ 5 นาที : โกหก [pg8] 24/1/2016
«ตอบ #239 เมื่อ24-01-2016 21:12:45 »

ขอแค่ 5 นาที : โกหก

ต่อรู้สึกแปลกใจที่ปิไม่ได้ถามเรื่องวันนั้นเลย ทั้งๆที่ในใจก็สรรหาคำอ้างมาเตรียมเอาไว้ ข้อแก้ตัวอะไรก็ได้ที่ทำให้ยังทำให้ต่อเก็บซ่อนความรู้สึกต่อไปได้อีกหน่อย

ตอนนี้ต่อยังไม่พร้อม

การเดินเกี่ยวก้อยกันที่ทางเดินหน้าห้องเรียน มันไม่ได้มีผลให้ความสัมพันธ์ของสองคนนี้เปลี่ยนไป ยังก่อนในตอนนี้

ต่อรู้สึกโล่งใจ ที่ปิยังไม่ถาม เพราะเอาเข้าจริงๆไม่รู้จะตอบออกไปยังไง ใจนึงก็ไม่อยากห่วยอย่างพี่ต้อง แต่อีกใจก็รับไม่ได้ ไปด่าคนอื่นไว้เยอะ

ง่ายกว่าที่ต่อจะเบนความสนใจกลับไปที่เรื่องเดิมๆ

เกมและการ์ตูน

เครื่อง psp ที่ต่อให้ปิเอากลับไปเล่นเมื่อคราวที่แล้ว วันนี้ต่อตั้งใจจะเอามาคืนให้เจ้าของ เกมที่เล่นอยู่จะกำลังจะจบหมดทุกเกมแล้ว แต่กว่าจะทำได้ก็นานอยู่

มันนานไปแล้ว นานจนพี่ต้องเองก็ชักจะสงสัย
.
.
.
‘ต่อไปเอามาจากไหนน่ะ’ ต้องถามขึ้นมาในวันหนึ่ง

‘เพื่อน’

ต่อกำลังนอนเล่นเพลินๆอยุ่บนที่นอน ไม่อยากให้พี่ชายคนพิเศษมายุ่งเรื่องนี้

‘เค้าไม่ทวงเหรอ นานแล้วนะ’

‘ก็ไม่ได้ไปตบของเค้ามาแล้วกันน่า’

นอนอ่านหนังสือไปสิ ยุ่งไรด้วย

‘งั้นพี่ขอเล่นมั่งดิ’

นั่นไง

‘ไม่เอา เดี๋ยวพัง’

ต่อตะแคงข้างหันหลังเข้าใส่

‘หันหลังให้พี่เหรอ’

เกมนี้ใช้พลังสมาธิของต่อไปมากอยู่ มันเป็นเกมที่เล่นค่อนข้างยาก แล้วต่ออยากจะให้มันจบก่อนจะเอาไปเปลี่ยนเกมอื่นมา หรือถ้าปิจะเอาไปเล่นบ้าง เกิดมันลบไปจะได้ไม่เสียดาย

พี่ต้องชะโงกข้ามหัวมาจากข้างหลัง

นี่แน่ะ

‘เฮ้ยต่อ’

อยากเอาตัวมาเบียดดีนัก จะจับหำให้ร้องเลย

‘เออๆๆ ไม่ดูแล้วก็ได้’

ไอ้พี่ต้องเลยถอยตัวออก หันตัวกลับไปด้านตัวเอง

‘พี่ต้องกับเก้าไปถึงไหนแล้ว’

คำถามคาใจต่อเปล่งออกมากลบเสียงเกมหนวกหู

‘สนใจด้วยเหรอ ไหนว่ารับไม่ได้ไง’

‘แค่สงสัย’ 

ใครจะไปยอมรับว่าพี่ตัวเองชอบผู้ชายลงวะ

‘ก้ไม่รู้สิ ดูเหมือนเก้าจะไม่รู้เลยว่าพี่กำลังพยายามเข้าหามันอยู่ มีแต่คนขัดขวาง’

เหรอออออ ขอจับอีกรอบสิ ต้องวูบตัวหลบ

ขอบคุณฟ้าที่พี่ต้องมันโง่เรื่องจีบคนอื่น มันถึงไม่ไปไหนซะที นี่แหละน้า ไม่ต้องพยายามทำอะไรก็มีคนเข้ามาหานี่ พอตอนนี้จะเข้าหาคนอื่นเลยทำไม่เป็น

ต่อพลิกตัวกลับมานอนทับต้อง เอาตัวถูไถจนของต้องแข็ง

‘ทำไรอะต่อ’

‘ป๊าว แกล้งเล่น’

ถ้าพี่ต้องเป็นเกย์จริง ก็น่าจะมีอารมณ์กับผู้ชายด้วยกัน แต่ดูจากตอนนี้แล้วพี่ต้องไม่ได้อยากทำกับผู้ชายคนไหนเลยนี่หว่า ยกเว้นไอ้เก้าคนเดียว

‘พี่ต้องชอบเก้าตรงไหน’

‘ไม่รู้สิ.... ก็อยู่ด้วยแล้วไม่เบื่อเลยมั้ง เหมือนทำไมไม่ว่าจะเจอกันกี่ทีมันก็เหมือนเพิ่งเจอกันซะทุกครั้ง คงเพราะออร่าอะไรบางอย่างละมั้ง ก็มันเหมือนเพื่อนก็ไม่ใช่... จะบอกว่าไม่สนใจเลยก็ไม่ใช่อีก ถึงเก้ามันจะเป็นผู้ชายแต่ ไม่รู้สิ ก็อยากอยู่ใกล้ๆอะนะ แล้วก็นะ.... นี่ต่อเวลาเก้ามัน.....”

ทำไมกูเห็นหน้าไอ้กะปิลอยออกมาเลยวะ

นั่นสิ อยู่ด้วยแล้วไม่เบื่อเลยเนอะ อยากเห็นหน้ามันตลอด

หึหึ

อีพี่ต้องนี่พล่ามไม่หยุดเลยวุ้ย ไม่รู้รึไงว่าไม่มีใครฟังแล้ว
.
.
.

เย็นวันนี้ในสวนก็คนยังบางตาเหมือนเดิม

ใกล้สิ้นปีแล้ว อากาศเย็นๆมันทำให้ดูน่าเหงาเหลือเกิน

"ปิ จะเอากลับไปเล่นป่าว"

“ไม่เป็นไร"

ปิยังนั่งลอยหน้าลอยตาอยู่ข้าง

“ต่อเล่นหมดรึยังละ”

หน้าขาว แก้มแดงในแว่นดำนี่ มันดูยังไงก็ไม่เบื่อเลย

“เหลือเกมนี้สุดท้ายแล้ว”

เย็นนี้ทั้ง 2 คนมานั่งเล่นอยู่ที่เดิม โต๊ะในสวนข้างล่าง สถานที่ๆทั้ง 2 คนใช้เวลาร่วมกันหลังเลิกเรียน วันไหนที่ไม่ติดซ็อมก็จะมานั่งกันที่นี่ เพื่อหลบเลี่ยงครูที่จะมาเห็นเครื่องเกม แล้วก็ไอ้ 2 เจ้าตัวปัญหา

ไอ้อาทกับไอ้ทีม

อีกอย่าง... ต่อคิดว่าการที่อยู่ในที่เปิดโล่งมันจะดีกับตัวต่อเองมากกว่าด้วย

ส่วนกลุ่มเพื่อนที่โชคร้ายมารวมกันในห้องนี้ ยิ่งผ่านไปนานวันช่องว่างระหว่างพวกเขาก็ยิ่งถ่างขาอ้ากว้างขึ้น ไอ้อาทมักจะจับคู่กับทีมหายตัวไปหลังเลิกเรียน ต่อเองก็แยกตัวออกมา พวกน่ารังเกียจ

เวลาอยู่กับกะปิ 2 คน หลังเลิกเรียน ดูจะมีค่ามากกว่าพวกนั้นซะอีก แม้ว่าเรื่องที่คุยกันมีน้อยลง แต่หัวข้อเริ่มมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ปิกล้าที่จะถามต่อมากกว่าแต่ก่อน

ตัวปิเองก็หลบฉากออกมาจากพวกนั้นให้บ่อย ดูมันเองก็พยายามจะไม่ให้เป็นภาระต่อมากไปกว่านี้

อยู่กันสองคนอย่างนี้ก็ดี จะไปให้พวกนั้นหาเรื่องนินทาทำไม แค่นี้ต่อก็ฟังจนเบื่อแล้ว

 "นี่ตรงนี้ผ่านยังไงอะ"

"อะไรอะ เล่นมาหลายวันยังไม่รู้เหรอ”

เออ กูไม่รู้

ปิเอาเครื่องไปจิ้มๆ ก่อนจะส่งคืน

ฉากนั้นผ่านไปอย่างง่ายได้

แม่ง ทำได้ยังไงวะ

"ช่วงนี้เอ็มเป็นไงมั่ง"

“ป่าวนะ ก็สบายดี"

เอ็มเองเป็นอีกคนที่ห่างหายไปจากปิเช่นกัน ในชั้นเรียนม.3นี้ราวกับ 2 คนถูกวางคู่กันแยกห่างไว้อย่างโดดเดี่ยว จากเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นกันตัวเองเอาไว้ให้ห่างจากโลกอันโหดร้าย

ทุกมื้อกลางวันปิจะหลบไปกินข้าวกับเอ็ม เพื่อหลีกปัญหาราดหน้าไม่ให้เกิดขึ้นอีก

ดังนั้นหนึ่งชั่วโมงที่กะปิหายไปต่อจะใช้เวลาทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ อะไรหลายๆอย่างที่ไม่อยากให้ปิรู้ อย่างเช่นว่า... เกิดวันไหนต่ออยากแอบไปดูดบุหรี่หลังตึกเรียน หรือจะไปรีดไถเงินเด็กม.ต้นที่อ่อนแอกว่า

ปิมันก็เคยเตือนต่อว่า เลิกๆบุหรี่ได้แล้ว
.
.

"นาย ต่อ รึเปล่า”

"ว่าไง" ต่อตอบสายตาไม่เป็นมิตร

"เรื่องปิน่ะ"

ต่อถอนหายใจแรง

ไอ้กะปิมันไปทำไรอีกละ

“นายเป็นเพื่อนปิรึเปล่า"

นั่นสินะ....

"ถามแปลกมึง"

"ไอ้เห่ยนั่นน่ะเหรอ"

เสียงถอนหายใจจากเอ็มถูกพ่นออกมาเบาๆ

"ขอบใจนะที่ดูแลมันมาตลอด ต่อไปฝากดูมันด้วย"

ไม่บอกต่อก็ทำอยู่แล้ว ทำไมต้องมาฝากกันด้วยไม่ใช่เด็กแล้วนะ ห่วงกันจริงงงงงงเว้ย

“แล้วแกเป็นไรกับมัน"

ขอกูรู้มั่งสิ ยุ่งกับพวกกูเหลือเกิน

"เพื่อน"

เอ็มตอบเรียบๆแล้วเดินจาก

ไอ้เด็กตัวแทนนักเรียนนี่ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูดีไปหมดเลยนะ ท่าฝากไอ้กะปิยังเท่
.
.
.

“มีไรป่าว"

ปิเอานิ้วจิ้มๆแขนต่อ

"แกนี่ดีนะ ขนาดมาอยู่ห้องนี้ยังมีคนเป็นห่วง"

ยิ้มแหย ปรากฏขึ้นบนใบหน้า

“หมายถึงเอ็มอะเหรอ"

รู้เลยเหรอหมายถึงใคร

"เอ็มก็ .... คล้ายๆต่อน่ะแหละ"

ตาถั่วรึเปล่าเนี่ย ทำไมถึงว่าคล้ายกันวะ ไอ้ประธานนักเรียนนั่น กับ เด็กเกเรอย่างต่อมันคล้ายกันตรงไหน

เดี๋ยวมันจะบอกว่า ไอ้ที่ทำๆกันทุกวันนี้ก็คล้ายเหรอ เฮ้ย ไอ้กะปิ อย่าบอกนะว่า มันไปล่อลวงเอ็มไว้อีกคนเหรอไงวะ

…​ เหี้ยละ แล้วกูจะไปรุ้สึกไม่ดีทำไมวะเนี่ย สังหรณ์ทะแม่งๆแล้ววะ

ไม่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กูไม่หึงผู้ชาย

อย่าคิดมากดีกว่า เรื่องลางสังหรณ์อะไรเนี่ย ต่อไม่เคยจะเชื่ออยู่แล้ว

"โอ้ย"

แว่นดำหนาถูกเลื่อนขึ้นไปติดดั้งเล็ก

"ทำไรน่ะต่อ"

"แว่นหลวมน่ะ"

ใบหน้าแหยคุ้นเคยเริ่มมีกลับมาให้เห็น ใบหน้าที่ต่อไม่ได้เห็นมาสักพัก ถึงจะไม่ต้องพูดออกมาปิเองก็ไม่ได้ทำตัวปกติซะทีเดียว เลี่ยงที่จะมองหน้าต่อตรงๆ ตั้งแต่วันเมื่อเย็นวันนั้น อย่างน้อยก็ไม่มีการจ้องหน้ากันอีกแน่ๆ

"ทำไมอยู่ๆ ต่อถามเรื่องเอ็มละ”

ปิถามเป็นครั้งที่ 2

"ก็ ... สงสัย การที่มีคนห่วงเรามันเป็นยังไงนะ”

แล้วถ้าเกิดไม่มีขึ้นมาละ

".... ต่อ เป็นไรรึเปล่า"

"เปล่าๆ"

ตูม

"ต่อ เล่าให้ฟังหน่อยดิ"

“ไม่มีไรหรอก"

“พี่ต้องก็ห่วงต่อไง”

“ก็ใช่ แต่... ไม่มีไรหรอก”

ปิเขย่าๆตัวต่อ

โอ้ย จะเขย่าทำไม

“บอกว่าไม่มีไรไง”

ไม่มีคำถามออกมาอีก ให้ต่อได้จดจ่ออยู่กับเกมสักพัก

“แล้วที่เล่นจนตายแล้วยังกดๆอยู่น่ะอะไร จอมันขึ้นเล่นใหม่ไปตั้งนานแล้ว"

เออ จริงด้วย ตายแล้วนี่หว่า

"พี่ต้องน่ะ .... " ต่อโยน psp คืนปิ

"เค้าไม่กลับบ้านเมื่อวาน"

"แล้ว... ?"

“ปกติเค้าไม่เป็นอย่างนี้นะ”

เล่าไปจะดีมั้ยวะ

“พี่ต้องม.ปลายแล้วไม่กลับบ้านแปลกตรงไหนอะต่อ อาจจะไปบ้านเพื่อนก็ได้นี่”

"ทุกปีเค้าไม่เคยลืมที่จะกลับ แต่คราวนี้แปลกอะ ทำไมไม่กลับมาก็ไม่รู้ แถมยังปิดมือถือด้วย"

“เมื่อวาน... มีไรเหรอ”

"วันเกิดเราน่ะ"

"อะ .... ขอโทษ”

แว่นบนหน้าขยับ มันคงตกใจ

ปิเงยหน้าจาก psp ขึ้นมาทางต่อ

เจ้าตัวไม่รู้แม้กระทั่งวันเกิดของต่อ มันคงคิดว่าจะดูไม่ดีมากที่ลืมวันเกิดของคนที่เคยช่วยเอาไว้

"หึ ปิแกไม่รู้วันเกิดเราหรอก"

ต่อไม่เคยบอก

"ผู้ไม่รู้ยอมไม่ผิด"

“หนังจีนชัดๆอะ ยุคนี้ใครเค้าใช้หนังจีนแบบนี้มาพูดกัน ทั้งๆที่อุตส่าทำหน้าน่ารักแบบตัวการ์ตูนในเกมแล้วนะ"

ปิเข้ามาเบียดเกาะแขนต่อ พยายามเสนอหน้าบ้องแบ๊วมาหา

“เยอะไปละ แต่ถ้ากวนตีนอะ จะผิดละ"

เสียงหัวเราะน้อยๆออกมา

"ต่อ อยากเล่นเกมไรรึเปล่า"

“ไม่มีอะ"

ปิ เงียบไป

"นี่ psp มันดูหนังได้นะ"

"จริงดิ ทำไงอะ”

"ก็ทำหนังเป็นไฟล์แล้วเอาลงน่ะ มีไฟล์หนังที่อยากดูมั้ยอะ"

เอ.... หนังที่เป็นไฟล์ ว่าไปก็พอนึกออกนะ

"หนังโป๊อะ เต็มเลยเป็นไฟล์"

ปิคว้า psp กลับไปกอด ทำหน้าตาสงสารของเล่นในมือ

“ล้อเล่นน่า”

ใครมันจะหื่นขนาดเอาลงละ

“ต่อหื่นอะ”

อย่ามาพูดใส่หน้าด้วยน้ำเสียงกับหน้าตาแบบนี้นะ

"นี่ปิ สอนตรงนี้หน่อยดิผ่านยังไง”

"นี่ไง"

ปิโน้มตัวมาใกล้ ชะโงกหน้าข้ามไปมองหน้าเล็กจอๆของเครื่องเกมที่วางอยู่บนตักของต่อ เอานิ้วเล็กๆจิ้มๆตรงนั้นตรงนี้ แรงกดลงไปโดนส่วนสำคัญ แย่ละ ไอ้ต่อน้อยทำไมมีปฏิกริยาวะ

"เอ่อ ปิ"

ต่อค่อยๆพลิกตัวหลบ

แย่ละ

ในสวนตอนนี้เหลือกันอยู่ไม่กี่คน เด็กที่ยังรอผู้ปกครองมารับ ที่นั่งเดิมที่จับจองโดยทั้งสองคนกลายเป็นมุมประจำที่ต่อใช้นั่งเป็นเพื่อนปิ เวลารถที่บ้านยังไม่มารับ

ต่อโยนเครื่องไปให้ปิมันถือ หันไปคิดเรื่องอื่นดีกว่า เดี๋ยวมันไม่ลง

ไอ้พี่ต้องแม่งหนีไปไหนวะ บ้านเก้าแน่ๆ แม่งเลือกผู้หญิง เอ่อ ผู้ชายดีกว่าน้อง กลับมาจะด่าให้

"ปิ นายมีพี่น้องมั้ย"

“เปล่านะ เราลูกคนเดียว"

ปิก้มหน้า

"แล้วถ้าวันสำคัญของเรา คนที่เราอยากให้อยู่ไม่อยู่ละ"

"ไม่รู้สิ ต่อ หมายถึง... แฟนเหรอ"

“เปล่าไม่ใช่ แฟนเรายังยังไม่มีหรอก”

เหี้ยละ ทำไมกูต้องบอกมันวะ

“พี่ต้องน่ะ”

“แล้วทำไมเหรอ พี่ต้องไม่อยู่เหรอ”

นั่นดิทำไมวะ

“งั้นมั้ง”

“ก็เค้าคงมีอะไรจำเป็นแหละ ถึงได้ไม่อยู่ ต่อบอกเองนี่ว่าเค้ารักต่อมาก ดังนั้นเค้าคงไม่หนีไปไหนหรอกมั้ง ต่อไปทำไรให้เค้าไม่พอใจเปล่าละ”

ต่อยักไหล่ ... ก็อาจจะมีบ้างอะนะ แค่บอกไปว่าห่วย จีบงี้ไม่มีทางติดหรอก ... กับ เอ่อ... สงสัยจะเรื่องนั้นมากกว่า

“ต่อชอบใครอยู่เปล่าละ”

… ชอบเหรอ

“คนที่อยากอยู่ด้วยน่ะ”

… พี่ต้องไง แล้วก็...

“เอ่อ....”

"เฮ้ย มึง 2 ตัวทำไรกันอยู่วะ"

"ไอ้อาท มึงยังไม่กล้บอีก"

"เพิ่งขึ้นจากสระมาจะหาอะไรแดก"

หลบมาอยู่แถวนี้ดันมาเจอเข้าอีกจนได้ ทำไมมันซวยได้ขนาดนี้วะ

ปิยังนั่งเล่นก้มหน้าไม่เงยขึ้นมามอง

"นั่นไรน่ะ"

อาทเอื้อมมือจะคว้าเอาเครื่องเกมไป

"เอ่อ...."

“มึงเล่นเป็นรึไง"

ต่อลุกขึ้นไปเอาตัวบัง

"ทำไมละ ก็ลองๆดู เล่นไม่เป็นก็เอากลับไปเล่นบ้านดิ"

"เฮ้ยกูเล่นค้างอยู่"

"น่าๆ มึงจะงกทำไมวะ ต่อ ของมึงก็ไม่ใช่" อาทกระชากเกมแล้วถือเกมชูขึ้นสุดมือ

"มึง"

ก่อนต่อจะทำอะไร อาทคว้าคอเสื้อไว้ได้ทันแล้วใช้ตัวที่ใหญ่กว่าดันต่อเข้ากระแทกกับตู้กดน้ำแถวนั้น

“อยากได้มากเหรอ"

อาทโน้วตัวเข้าไปใกล้ ใช้ร่างกายที่ใหญ่กว่ากดทับต่อเอาไว้ แรงที่สู้ไม่ได้ของต่อถึงจะดันจนสุดก็ยังแทบไม่ขยับ

ช่วยไม่ได้

ต่อยกขาจะถีบอาท แต่...

ภาพสโลโมชั่นเกิดขึ้นในหัวของต่อและปิพร้อมกัน เครื่องเกมค่อยๆลอยจากมืออาท หมุนกลางอากาศ ก่อนจะไปหล่นลงในถังน้ำแข็งที่เปิดอ้าอยู่ข้างหลังต่อ

ดังแกร๊ก

ถังน้ำแข็งสีแดงขนาดใหญ่ น้ำแข็งยังเหลืออยู่ในนั้น บางส่วนละลายกลายเป็นน้ำไปแล้ว

ปิรีบวิ่งไปล้วงขึ้นมา

"เหี้ยต่อ มึงเป็นคู่เกย์กับไอ้ปิจริงเหรอวะ"

หน้ากวนๆของต่อ ส่งไปทางอาท

ตามด้วยหมัดยาวๆเข้าที่ปลายคาง

อาทเซไป 

"ตอนนี้ไม่เหมือนก่อนแล้วนะ"

อาทที่ผงะถอยหลังไป คว้าแขนไว้ได้ แล้วสวนกลับเข้ามาที่ท้อง

ต่อก้มลงตัวงอ

"เอาเหอะ กูถือว่านั่นคือคำตอบ"

อาทเดินจากไป ความแค้นที่อยู่ในใจต่อประทุขึ้นรุนแรง

เป็นความรุนแรงที่สับสนระหว่าง โกรธที่โดนว่าเป็นเกย์หรือโกรธที่ปิถูกแกล้งกันแน่

"ต่อเป็นไรรึเปล่า"

ต่อสะบัดมือปิออก

“ไม่ !!!”

สักวันกูจะเอาคืนมัน

"ขอโทษนะ"

มาแล้วประโยคเด็ด

"กูแล้วแล้วเลิกขอโทษสักที!!!!"

ปิสะดุ้ง โดดถอยหลังไป

“กูบอกแล้ว อะไรที่กูทำให้ เพราะอยากทำ ไม่ได้ทำเพื่อมึงเลย ไม่ต้องขอโทษ"

 ไอ้ที่ต่อทำให้ปิถอยหลังไป ยิ่งเพิ่มความรู้สึกผิดให้กับตัวเองเข้าไปอีก

ปิไปนั่งจ๋อยอยู่ที่โต๊ะตัวเดิม

"เครื่องเป็นไง"

"นะ น้ำแข็งมันเยอะ เลยโดนน้ำไปหน่อยหนึ่ง แต่ปิดไว้แล้ว เดี๋ยวกลับไปบ้านตากให้แห้งก็คงใช้ได้มั้ง’"

สีหน้าปิสลด เหมือนเด็กที่โดนขยี้ของเล่นลงต่อหน้า เสียงสั่นเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ แถมท่าทางหวาดกลัว

"แฮะๆ ตะ...  ตอนแรกว่าถ้าต่อ เอ่อ ชอบคิดว่าจะยกให้ต่อ เป็นของขวัญวันเกิด ซะหน่อย แฮะ ท่า ท่าทางต่อจะโกรธ แฮะ ... ปิ ขอ.. เอ่อ..”

แค่ประโยคเดียว มันทำให้ต่อรู้สึกผิดยิ่งกว่าอะไรทุกอย่างที่เคยทำมารวมกัน เสียงสั่นๆของปิ มันรู้สึกเจ็บปวดยิ่งกว่าหมัดของไอ้อาทเมื่อกี้รวมกันสิบทีซะอีก

ปิกำลังกลัวต่อ

"งั้นเอามา ต่อจะเอาไปซ่อมให้"

"แต่เราไม่เอานะ ของแพง"

"ต่อซ่อมเป็นเหรอ?"

เออวะ ชีวิตนี้เคยมีเกมกับเค้าที่ไหน

“ไม่เป็นก็ต้องเป็น”

ปิดูหายตกใจบ้างแล้ว

ต่อขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆ

"ปิ ทำไมเอ็มเป็นห่วงนายนักละ"

คำถามนี้คิดออกมาได้อย่างไรไม่รู้

"เอ่อ... ไม่รู้เล่าไงดี เอ็มไปเล่าไรให้ต่อฟังเหรอ"

“ป่าว ช่างมันเหอะ"

"เอ็มเล่าใช่มั้ย"

หือ มาแปลก ปกติปิจะไม่รบเร้าเอาคำตอบเด็ดขาดไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ เอ็มมีความสำคัญยังไงนะ

ต่อส่ายหัว

“ช่างเหอะ”

"ป่าว แค่ถามไม่มีไรหรอก"

ปิเก็บของใส่กระเป๋า ตัวยังสั่นอยู่น้อยๆ

5.30 pm

นาฬิกาบนมือถือต่อบอกเวลา

"เดี๋ยวต่อไปส่งละกัน"

“รถอยู่ตรงนี้เองนะ"

“อือ เดี๋ยวต่อจะไปส่งที่รถ” พูดจบเอามือกอดคอปิไว้

เพื่อว่าทำอย่างนี้แล้วปิมันจะดีขึ้นบ้าง อยากย้อนเวลากลับไปแก้เรื่องเมื่อกี้จริงวุ้ย

“กลับด้วยกันมั้ย”

"ต่อยังไม่อยากรีบกลับน่ะ"

คนขับรถจะมารับปิ ลูกชายหัวแก้วคนเดียวของที่บ้านกลับ ในเวลาเดียวกันของทุกวันที่เดิม ห้าโมงครึ่ง

บางครั้งต่อจะติดรถกลับไปด้วย แต่วันนี้ตั้งใจว่าจะไม่

"ต่อ คิดยังไงกับเราเหรอ"

"ก็ ...." นั่นสินะ

นั่น หมัดนี้ก็หนัก แถมมาไม่ให้ตั้งตัว

ไอ้ความรู้สึกเหมือนมีพายุอยู่ในท้องนี่มันอะไร

“ปิก็...เป็น เพื่อน เราไง"

“อื้อ”

ปิ ขยับสะพายกระเป๋าเป้ไว้ที่หลัง

"สุขสันต์วันเกิดนะ"

รอยยิ้มจางบนใบหน้าขาวที่ตัดกับแสงแดดสีส้ม มันแดงเพราะแสงอาทิตย์หรือหน้าของปิกำลังแดงเรื่อกันแน่นะ

"ปะกัน"

รถสีดำจอดอยู่กลางลานจอดโล่งๆ

พี่คนขับรถยังทักทายต่อเหมือนทุกที ก่อนปิจะโดขึ้นไปนั่งข้างหลัง

"ต่อไม่ไปเหรอ"

ต่อสั่นหัว

"กลับดีๆ"

ต่อปิดประตู แล้วออกเดินนำหน้าไปก่อน ไม่นานรถสีดำวิ่งเลยผ่านไป

ลมเย็นพัดวูบมาจากการเคลื่อนที่ของรถ

ต่อปลดกระดุมเสื้อออก คลายเสื้อหนาวให้เปิดกว้าง

ปล่อยความอึดอัดนี้ออกไป ให้ลมเย็นๆที่ทำหน้าที่แทนน้ำ พัดตีเข้าที่หน้า

เด็กในโรงเรียนเริ่มเหลือน้อย

"ไม่อะ เราเริ่มคิดกับนายมากกว่าเพื่อนแล้ว” มือต่อกำแน่น

คำพูดเปรยออกมาราวกับผู้ฟังยังอยู่ตรงหน้า การระบายความในใจเพื่อลดความผิดที่โกหกกับคำถามนั้น

'คิดยังไงกับปิเหรอ'

ต่อไม่เคยแน่ใจ จนเมื่อประโยคคำถามนั้นสะกิดให้ต่อกลับมาลองถามใจตัวเอง

โกหกออกไปแล้ววะ

…จะต้องบอกมัน จะโกหกปิอย่างนี้ต่อเองก็ไม่ชอบ

‘ไม่อยากจะห่วยเพื่อนพี่ต้องมัน แค่บอกชอบยังไม่กล้า’

แต่ยังก่อนมีเรื่องใหญ่กว่าที่ต้องทำ

'สัส อาท เดี๋ยวกูจะเอาคืนมึง'

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด