“ไปเล่นบอลกันป่ะ”ไอ้เคนชวนขึ้นมาในบ่ายวันที่แดดจัดจนเหงื่อไหล ผมเหล่มองคนถาม
“แดดร้อน”
“กลัวอะไรกับอีแค่แดด กูอยากไปเตะว่ะ ไม่ได้ไปตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว มึงจำได้ป่ะฟิก ครั้งหลังสุดที่ลงเล่นคือตอนที่เจอพวกไอ้ภูที่สนามอ่ะ ที่มึงเพึ่งโดนมันทะลวงมาใหม่ๆ”มันเอาเรื่องเก่าๆมาตอกย้ำผมครับ
“จำได้ดิ แต่ก็นานจริงนั่นแหละ”
“สรุปว่าไปใช่ไหม กูจะได้ชวนไอ้เพชรเดือนคณะไปด้วย”ผมเบิกตากว้างทันที
“มึงรู้จักด้วยเหรอวะ”ไอ้ชายถามไอ้เคนทันควัน
“เออดิ กูใครครับ พี่ว้ากเคนซะอย่าง”มันทำเสียงป่วนประสาท ไอ้ชายยิ้มหมั่นไส้
“พวกมึงจะไปเตะบอลกันเหรอ”ไอ้ปลาถามทันที
“จะไปดูผู้ชายล่ะสิ”แขวะมันเล่น
“กูไม่ใช่มึงค่ะ”
“กูกะจะชวนมึงพอดีเลยนะ คนขาด เห็นว่าขามึงใหญ่ดีน่าจะเตะไหว”ผมเอาจุดอ่อนของผู้หญิงมาเล่นงานมัน ความจริงมันก็ไม่ได้ถึกมากหรอก แต่ด้วยความที่มันแรงควายเลยต้องเรียกว่าถึก ขนาดไอ้เคนยังยอมรับอ่ะคิดดู
“สัดฟิก นิสัยไม่ดี”ไอ้ปลามองค้อนผมแล้วเดินเหวี่ยงๆจากไป
“กูรู้นะ”ไอ้ชายหันมามองผมบ้าง สีหน้าเหมือนหาเรื่องมาล้อผมได้
“รู้อะไร”รับมุกมันครับ เดี๋ยวมันเล่นต่อไม่ได้ นี่ห่วงเพื่อนนะ
“ว่ามึงเบื่อไข่ไอ้ภูกับไอ้ตินแล้วถึงต้องไปดูไข่นักฟุตบอล”
พรูดดดดด
ทั้งผมทั้งไอ้เคนแทบพ่นน้ำปั่นในแก้วใส่หน้าไอ้ชาย
“ห่าราก พูดอะไรของมึงเนี่ย”ไอ้ชายนี่แม่งของโคตรเสื่อม ผมคบมันเป็นเพื่อนได้ไงวะเนี่ย
“เอ้า กูพูดจริงนะ มึงมีแบบ…เบื่อบ้างไหมวะ เจออะไรเดิมๆ…”ผมชักสีหน้าใส่ไอ้ตัวถาม
“ทีนมผู้หญิงทำไมมึงไม่เบื่อล่ะ มันก็เหมือนๆกันนั่นล่ะ”
“เหมือนตรงไหนวะ นมเล็ก นมใหญ่ นม…”
“พอๆ”ไอ้เคนรีบยกมือห้าม
“มึงไม่เคยเห็นนมมึงก็พูดมั่วๆ”
“มึงก็ไม่เคยเห็นไข่คนอื่นมึงก็พูดได้”
“เออ กูไม่เถียงกับมึงล่ะ”ไอ้ชายเงียบไปก่อนจะดูดน้ำในแก้วที่หมดแล้วของตัวเองเสียงดังฟูดๆ ประเด็นเรื่องใต้สะดือจบไป ตอนเย็นผมแวะไปสนามบอลกับพวกไอ้เคน ไม่ได้บอกไอ้สองตัวนั่นหรอก เพราะพวกมันบอกว่า
“จะไปไหนหลังเลิกเรียนก็ได้ไม่ว่า แต่ต้องกลับก่อนสองทุ่ม ถ้ายังไม่ถึง มึงโดน”นี่ผมอายุยี่สิบจะยี่สิบเอ็ดแล้วนะเฮ้ย ยังต้องกลับก่อนสองทุ่มอ่ะคิดดู
“มันพามาได้จริงด้วยว่ะ”ไอ้ชายพึมพำเมื่อเห็นร่างสูงๆของไอ้เพชรเดิมเข้ามาที่สนาม ผมกับพวกเพื่อนเปลี่ยนชุดแล้ว เนื่องด้วยมาเร็วจึงได้เล่นก่อนทีมแรก เล่นแบบข้างละเจ็ดคน มีผม ไอ้ชาย ไอ้เคน ไอ้เพชรสุดหล่อ และเพื่อนมันอีกสามคน ผมวอร์มอยู่นาน ช่วงหลังๆมาไม่ค่อยได้เล่นกีฬาแบบจริงๆจังๆสักที ผมเล่นปีกซ้าย ฝีเท้าก็ยังพอไปวัดไปวาได้อยู่ เล่นกันแบบเบาะๆไม่จริงจังมากเพราะมาแค่เรียกเหงื่อ
“พี่คนนั้นน่ะของกู”ได้ยินเสียงแว่วๆมาจากข้างสนาม
“คนไหนวะ”
“คนที่ใส่เสื้อสปอร์ตสีฟ้าไงมึง”อ้าว นั่นกูนี่หว่า ผมหันไปมองคนพูดเป็นเด็กผู้ชายปีสอง ใส่เสื้อยืดของนิเทศ พอผมหันไปกลุ่มนั้นก็กรี๊ดโบกมือไปมาให้ผมพร้อมกับชี้ไปที่เพื่อนตัวเอง ผมมองแล้วนึกถึงไอ้ป่านขึ้นมาทันที เพราะผิวขาวๆของมันนั่นล่ะ คิดแล้วก็กลัวครับ นิสัยอย่าแรดเหมือนไอ้ป่านเลยเถอะ ไม่งั้นรับมือยากน่าดู
ตุ้บ
ลูกบอลหนักๆเตะอัดมาโดนขาผมพอดี หันไปมองก็พบว่าคนที่เล่นอยู่ฝ่ายตรงข้ามคือไอ้ปั๊ม หลานรหัสไอ้ภูนั่นเอง เฮ้ย ตอนแรกทำไมผมไม่เห็นมันวะ
“มองใครๆ เดี๋ยวฟ้องพี่ภูหรอก”มันล้อระหว่างที่สวนกัน จะว่าไปผมก็สงสัยขึ้นมาทันทีว่ามันยังทำงานที่ร้านอาหารนั่นอยู่รึเปล่า เพราะครั้งสุดท้ายที่ผมเจอมันก็คือวันที่มันโดนยำ แล้วไม่ได้ติดต่อมันไปอีกเลย สงสัยคิดอะไรเพลินไปหน่อย ทีมผมเลยแพ้ ต้องเปลี่ยนให้อีกทีมเข้ามาเล่น
“มึงเล่นห่วยว่ะ”ไอ้เคนบ่น
“เออ กูเหม่อๆว่ะ โทษที”ก็รู้ตัวเองนั่นแหละ ผมมานั่งพักที่อัศจรรย์ตรงที่วางของไว้
“เด็กพวกนั้นแม่งมองมึงตาแทบถลนเลยว่ะ”ไอ้ชายพึมพำระหว่างที่ยกน้ำกระดกอึกๆ มองลูกกระเดือกมันขึ้นลงอยู่สักพักก่อนหันไปมองบ้าง
“ท่าทางแรงใช่ย่อย...”ไอ้เคนพูดเมื่อเด็กนิเทศเดินเข้ามาหาผมแล้ว ผมเหลือบมองพวกมันเหมือนกำลังปรึกษาว่าเอาไงดี
“เอ่อ หวัดดีครับ ผมชื่อเจมส์ครับ”แนะนำตัวพร้อมกับยิ้มโปรยเสน่ห์มาให้ พวกผมได้แต่ยิ้มแห้งๆตอบกลับไป
“หวัดดีครับน้อง”ผมทักตอบแต่ไม่ได้บอกชื่อ เช็ดเหงื่อไประหว่างที่สายตาจับจ้องอยู่ที่สนามบอล
“ว่าแต่พี่ชื่ออะไรเหรอ”ไอ้เจมส์นั่งลงข้างๆผม
“ชื่อฟิกครับ นู่นเคน ชายเพื่อนพี่”ผมบุ้ยใบ้ไปยังอีกสองคน ไอ้เคนทำหน้าเหมือนบอกว่าจะแนะนำมันทำไม
“ชื่อพี่ฟิกนี่เอง พี่เรียนอยู่ถาปัตย์ใช่เปล่าคุ้นๆหน้า”มันย่นคิ้วเหมือนกำลังนึกก
“คุ้นจริงเปล่าครับ”ไอ้ชายแทรกมา เหมือนจะแซวแต่ฟังดูประชดแปลกๆ
“คุ้นๆนะ …ผมเป็นน้องพี่ม่อนปีห้าอ่ะ เคยไปที่คณะอยู่สองสามครั้ง คงเคยเห็นพี่ฟิกผ่านๆ”น้องพี่ม่อนปีห้า…ผมไม่รู้จักหรอกว่าไอ้พี่ม่อนน่ะคนไหน ว่าแต่พี่ป้าห้ามีคนชื่อม่อนด้วยเหรอวะ ผมทำหน้ามึนๆ
“อ๋อ…..วันหลังเจอพวกพี่ก็ทักได้นะ”ผมเออออตอบกลับไป
“ผมขอไลน์พี่ได้ไหมอ่ะ แลกกัน”ไอ้น้องเจมส์เอาโทรศัพท์ออกมาแล้ว ไอ้เคนมองหน้าผมพลางเลิกคิ้วเหมือนถามว่าจะเอาไง
“พี่ไม่ค่อยได้เล่นไลน์อ่ะ มือถือพี่รุ่นเก่า ไม่ค่อยจะดีด้วย”ผมโกหกเพื่อตัดปัญหา ให้ไลน์ไปนี่เสี่ยงต่อการโดนเชือดมาก ถึงพวกมันไม่ค่อยได้เช็คโทรศัพท์ผมก็เถอะ แต่มันสองคนหูตาเยอะจริงๆ รู้ข่าวไวมาก
“งั้นขอเบอร์พี่ก็ได้ พี่ต้องมีแน่ๆ”
“มีครับ แต่ให้ไม่ได้”ผมบอกไม่ตรงๆ
“มันมีผัวแล้ว”ตามมาด้วยไอ้ชาย ผมเหลือกตามองมัน ถ้าจะช่วยพูดแบบนี้ก็เงียบๆไปเถ้อะ ไอ้น้องเจมส์ดูจะไม่ตกใจอะไร
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ถือ”อุแม่เจ้า ผมถึงกับทำหน้าเอ๋อๆ เหมือนได้เจอโคลนนิ่งตัวเองเลยว่ะ ไอ้เคนหัวเราะหึๆอยู่ข้างๆ
“พี่ว่าผัวมันถือนะ”ไอ้ชายพูดต่อ แต่เหมือนมันจะขำมากกว่า
“ก็อย่าให้ผัวพี่เขารู้สิ”ดูเหมือนไอ้น้องเจมส์จะหงุดหงิดไอ้ชายพอตัว ผมนี่แอบอึ้งเลย ไม่คิดว่าจะพูดแบบนี้ โอ้ เด็กสมัยนี้แรงดีจริงๆ ผมว่าตอนที่ผมคั่วกับแฟนคนอื่นก็ไม่เคยใช้คำพูดแบบนี้นะ ถ้าคนไหนไม่โอที่จะเล่นด้วย ผมก็บาย
“โหย แฟนพี่ดุมากกก น้องเจมส์ไม่ควรจะเอาตัวนุ่มๆขาวๆบอบบางมาเสี่ยง”อาจฟังดูเหมือนม่อ แต่ผมห่วงจริงๆรูปร่างแบบนี้โดนตีนไอ้สองคนนั่นขึ้นมา ผมว่าตับไตไส้พุงช้ำแน่นอน
“รู้ได้ไงว่าตัวเจมส์นุ่มเคยจับเหรอ”น้องเจมส์ดูอายๆแต่ดันขยับเข้ามาใกล้ผมมากไปอีก ไอ้ชายกลอกตาไปมาเหมือนเหนื่อยหน่าย ผมขยับออกห่างเนียนๆโดยการทำทีเป็นก้มหยิบขวดน้ำแล้วเลื่อนตัวออก ตอนนี้มีคนมาเยอะกว่าเดิมแล้ว ไฟสปอร์ตไลท์ถูกเปิดขึ้นเมื่อเริ่มมืด
“พี่ฟิกจะไม่ให้เบอร์จริงๆอ่ะ ๆ ไม่สงสารน้องเหรอ”ผมสงสารตัวเองมากกว่าว่ะ ไม่อยากตายไงก็เลยไม่ให้
“แฟนพี่ดุจริงๆนะ”ผมย้ำอีกรอบ
“เจมส์ไม่กลัวหรอก”
“จริงดิ”ผมเลิกคิ้วมอง
“จริง แฟนพี่ชื่ออะไรล่ะ”
“ชื่อภู วิศวะปีสี่…”
“น่าเสี่ยงนะพี่ฟิก ถ้ามาลองแอบคบกันดู”ผมพูดไม่ทันจบ ไอ้น้องเจมส์ก็แทรกขึ้นมาก่อน ผมนิ่งงันไปนาน นิสัยมันเหมือนผมเมื่อก่อนมากจริงๆ ยิ่งเห็นเรื่องเสี่ยงเป็นเรื่องท้าทายแบบนี้…ไอ้เคนเอนตัวมาใกล้ผม
“นิสัยเหมือนมึงเลยสัด”
“เออ”
“น่า พี่ฟิกลองคบดูก่อน ไม่เวิร์คค่อยว่ากัน”ผมกระพริบตาก่อนจะตบบ่าไอ้น้องเจมส์
“สนใจมาเป็นศิษย์น้องกูไหม”ไอ้น้องเจมส์ดูจะมึนๆ ไอ้เพื่อนสองตัวขำพรืดออกมา
“ศิษย์น้องอะไร ผมไม่เป็นหรอก”แล้วมันก็ทำสิ่งที่ผมไม่คิดว่ามันจะกล้า มันเข้ามาโอบคอผมพร้อมกับแตะริมฝีปากนุ่มๆมาที่ซอกคอผมเฉียดกกหูไปนิดเดียวเอง ไม่งั้นมีสยิวแน่
“ไอ้ฟิก…”
“ซวยสัด นั่นผัวมึง”
ซวยสัดจริงๆ เพราะไอ้คนที่มองตรงมาที่ผมคือไอ้ภูกับไอ้ตินแน่ๆ และพวกมันคงเห็นช็อตนั้นเข้าเต็มๆ เหมือนมีคนมากดปุ่มสต็อปสิ่งรอบตัวดูเหมือนนิ่งงัน เหมือนผมจ้องตามันสองคนนานมาก และโลกก็หมุนอีกครั้งเมื่อมันสองคนก้าวตรงมาหาผมแล้ว ผมรีบเลื่อนตัวลงจากอัศจรรย์ทันที ตอนนี้ผมไม่ขออยู่แถวนี้ดีกว่าเพราะเวลาพวกมันระเบิดมันไม่สนหน้าไหนทั้งนั้น ไอ้เคนกับไอ้ชายเองก็รีบลุกอย่างเข้าใจสถานการณ์
“มึงลองขยับสิ”เอี๊ยดด เสียงของไอ้ตินเบรกผมให้สงบนิ่งทันที ผมยังไม่ทันได้ขยับไปไหนเลย ตอนนี้รู้สึกเหมือนจะร้องไห้จริงๆเพราะมีสายตาหลายคู่หันมามองไอ้ภูกับไอ้ติน สีหน้ามันน่ากลัวแบบนั้นคงคิดว่ามันจะมากระทืบใครแน่ๆ ผมเห็นสายตาดุๆของไอ้ภูตวัดมองไอ้เจมส์ มันถึงกับเบียดตัวเข้ามาหาผมด้วยท่าทีกลัว
“อย่าจับกู”ผมสะบัดมันออก หาเรื่องให้กูแล้วไหมล่ะ
“มึงทำอะไรวะ”ไอ้ภูถามเสียงนิ่ง แต่สายตาจับจ้องอยู่ที่ไอ้เจมส์ ผมเหลือบมองเพื่อนที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล สัด มาอยู่ใกล้ๆกูหน่อยก็ไม่ได้ จำไว้เลยนะพวกมึง
“กูไม่มีอะไรในก่อไผ่นะเว้ย”ผมรีบตอบเสียงสั่นๆ ยกมือเหมือนผู้ร้ายโดนปืนข่มขู่ ไอ้ตินหันมามองผม
“จริงเหรอ”มันยกยิ้ม ผมเสียวหวาบไปทั่วสันหลัง รอยยิ้มแม่งน่ากลัวเชี่ยๆ
“มันมาขอเบอร์กู แต่กูไม่ให้ ถามเพื่อนกูได้ ถามเลย”ผมชี้ไปที่ไอ้สองตัวนั่น มันก็พยักหน้าหงึกหงักกลับมา
“ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่อยู่ที่ไอ้เด็กนี่มันซุกคอมึง”ไอ้ภูไม่พูดเปล่าแต่มันคว้าคอเสื้อไอ้น้องเจมส์ด้วย ผมกลัวแทนไอ้น้องเจมส์จริงๆครับ ณ เวลานั้น มันตกใจจนหน้าซีด แต่ผมไม่ช่วยมันหรอก ลำพังตัวผมยังเอาไม่รอด
“ผะ ผมแค่หยอกเล่น”ไอ้เจมส์ตอบเสียงตะกุกตะกัก ผมเลียริมฝีปากพลางนึกหาคำพูดดีๆ
“กิ๊กมึงเหรอ”ไอ้ตินถามขึ้นมาอีกครั้ง
“ไม่ใช่นะเว้ย”ผมรีบตอบ
“แล้วมึงนั่งนิ่งให้มันซุกทำไม ชอบล่ะสิ”ไอ้ภูสวนทันควัน ขึงตามองผมจนผมกลัวหัวหด
“ก็กูตกใจ”ตอนนั้นยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยด้วย
“หึ ไร้เดียงสามากเลยนะมึง ไอ้ฟิก”มันแดกดัน ตอนนี้เกือบครึ่งพุ่งความสนใจมาที่ผมกับพวกมัน ตายๆ ขอแค่พวกมันอย่าทำให้ผมอายมากกว่านี้ก็พอ
“มันไม่มีอะไรจริงๆนะพี่”ไอ้เคนเดินเข้ามาใกล้ สีหน้ามันนิ่งสงบ ดีมากเพื่อน กูรักมึงงง
“กูไม่ได้ขอความเห็นมึง”ไอ้ตินสวนกลับทันที ทำไมมันดุแบบนี้วะ ปกติไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย ผมแตะปลายข้อศอกไอ้เคน บอกให้มันเงียบๆ
“แต่กูแค่บอก เผื่อมึงจะพากันหน้ามืด ลืมพกสมอง คิดว่าไอ้ฟิกเล่นด้วย”ไอ้เคนเดินหน้าต่อจนผมใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม
“ไอ้เคน…”ผมกระซิบเตือนมันเบาๆ
“มึงด่ากูเหรอวะ”คราวนี้ไอ้ภูพูดขึ้นมา
“เปล่า อย่าร้อนตัว”
“ไอ้เคน มึงหุบปากเดี๋ยวนี้....มึงไม่เห็นหน้ามันเหรอ”มึงไปยั่วโมโหมันทำม๊ายยย
“พวกมึงมีเหตุผลบ้างดิว้า เพื่อนกูมันไม่นอกใจพวกมึงหรอก ไม่เห็นเหรอว่ามันกลัวเป็นลูกหมาแล้ว มันป๊อดจะตาย อย่าดุมันดิ”ไอ้ตินกับไอ้ภูพร้อมใจกันมองมาที่ผม ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆไปให้พวกมัน
“มึงออกไปก่อน กูไม่ฆ่าเพื่อนมึงหรอก”ไอ้ตินพยักหน้าให้ไอ้เคนถอยห่าง คราวนี้มันยอมโดยดี อ้าว ทิ้งกูอีกแล้ว
“มึงรู้ไหมว่าทำไมกูถึงโกรธ”ไอ้ภูถามด้วยเสียงนิ่งๆ มืออีกข้างยังกำคอเสื้อไอ้เจมส์แน่น สีหน้ามันเหมือนจะร้องไห้ออกมาได้ทุกเมื่อ
“กู…”ไม่รู้ ตอบไปจะตายไหมวะ เงียบดีกว่า
“หึ เพราะมึงไม่เห็นคิดจะห้ามมันจริงจังเลย กูมองอยู่นานล่ะ ดูว่ามึงจะทำยังไง”ไอ้ภูมองนิ่งๆ ทำผมใจเต้นไม่เป็นส่ำ นี่พวกมันมากันตั้งนานแล้วเหรอ
“ถามจริง ถ้ากูไม่เข้ามา มึงจะทำไงต่อ”
“กูก็ผลักมันออกไปไกลๆดิ มึงคิดว่ากูจับมันมาฟัดหรือไงวะ ถามโง่ๆ”ผมชักหงุดหงิดขึ้นมา
“มึงตอบดีๆ กูให้โอกาสพูดใหม่”เสียงเย็นมาจากไอ้ติน
“กูไม่นอกใจมึงหรอก”ผมพูดเสียงเบาลง เพราะมันสองคนไม่คิดจะลดเสียงเลย
“แต่ยอมให้มันแทะเล็ม”ก็แอบยอมรับนิดๆนะ…นิสัยบางอย่างที่ผมเคยใช้เหมือนจะผุดออกมาเวลาเจอคนด้านๆเหมือนกัน ยอมรับว่าพอใจไอ้เจมส์ แต่ไม่ใช่ในแบบชู้สาวอะไรทำนองนั้น ผมถึงออกปากให้มันเป็นศิษย์น้องผู้ช่ำชองของผมไง
“ผม …แค่ล้อพี่เขาเล่นเฉยๆครับ”ไอ้เจมส์ตะกุกตะกักตอบมา
“ล้อเล่นเหรอ…”ไอ้ภูก้มมอง สีหน้าเรียบนิ่งก่อนที่มันจะกระชากไอ้เจมส์ลงมาแล้วยกเข่าใส่ท้องน้อยไอ้เจมส์เต็มแรง จนมันร้องโอดโอย
“เฮ้ยๆ พี่หาเรื่องเด็กคณะผมเหรอ”คนที่เล่นบอลอยู่เข้ามาถาม แต่เมื่อไอ้ภูหันไปมองมันก็หัวหดทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
“พี่จะสั่งสอนแค่เบาะๆว่าคิดจะเป็นกิ๊กคนอื่นมันไม่ดี”ไอ้ตินยิ้มเหมือนกำลังสอนการบ้านเด็ก มันจัดการแทงเข่าไปที่จุดอ่อนของผู้ชายทันที ผมเบ้หน้า ภาวนาในใจขอให้มันไม่เป็นหมันก็พอ ไอ้ภูปล่อยคอเสื้อไอ้เจมส์ มันร่วงลงไปโอดโอยกับพื้นทันที มีคนมองอยู่ห่างๆแต่ไม่กล้าเข้ามา ผมกลัวยามจะเข้ามาตรวจมากๆ ถ้าเจอนี่แจ็คพ็อตแน่ๆ
“ส่วนมึงเคลียร์กันที่ห้อง”ไอ้ตินคว้าแขนผมได้ก็ลากออกมาทันที มันพาผมเดินตัดสนามบอลแบบไม่เกรงใจใครหน้าไหนทั้งนั้น
“กูบริสุทธิ์ใจนะ”ผมพูดทันทีเมื่ออยู่ในรถไอ้ภูแล้ว มันปิดประตูดังปังก่อนจะหันมามองหน้าผม
“มึงคงชอบใจล่ะสิ เจอคนสันดานเดียวกัน คบกันกูว่าคงมันส์น่าดู”มันพูดแดกดันผมอีกแล้ว
“คงต้องเลิกกับพวกมึงก่อนอ่ะ ถึงจะรู้ว่าคบกับมันแล้วจะมันส์รึเปล่า”ผมแดกดันกลับแบบไม่ยอมแพ้ ไอ้ภูถลึงตาใส่ผม
“อย่าประชดด้วยเรื่องนี้”
“มึงก็อย่าประชดกูด้วยเรื่องนั้นเหมือนกันดิ กูแค่เคย ตอนนี้ไม่แล้ว”ทั้งรถเงียบกริบ เหลือเพียงแค่ลมหายใจของผมกับพวกมัน
“กูไม่อนุญาตให้ใครแตะต้องมึง กูหวงมึงเข้าใจไหม”ไอ้ตินทำลายความเงียบขึ้นมาคนแรก
“เออ กูเข้าใจ แต่ช่วยฟังเหตุผลด้วยได้ไหม กูกลัวพวกมึงนะเว้ย มองอย่างกับจะฆ่ากู”กลัวจริงๆนะแม่งสายตาอำมหิตมองมาตั้งสองคน
“เคยบอกแล้วไงว่ากูไม่ฆ่ามึงหรอก”ไอ้ภูแทรกขึ้นมา
“แต่แค่ต้องเจ็บมากกว่ากูแค่นั้นเอง”
“ขู่กูอีก แค่นี้ก็หัวหดแล้ว”ผมทำใจกล้าหน้าด้านเข้าไปหอมแก้มพวกมันคนละฟอด
“คิดจะไถ่โทษเหรอ”ไอ้ตินปรายตามอง
“เออดิ พวกมึงเลิกทำโหดใส่กูได้แล้ว ไม่งั้นกูหนีไปนอนกับไอ้เคนแน่ๆ”
“มึงลองไปสิ”ไอ้ภูทำเสียงเข้ม
“เออๆ พวกมึงต้องการอะไรล่ะ”ไอ้ตินหันมามองหน้าผมด้วยสายตาจริงจัง
“ห้ามไว้หนวด”มันอะไรกับหนวดผมนักหนา…
“ก็ได้”กัดฟันพูด
“ห้ามกลับมาฮาร์ดคอ กูชอบนิสัยมึงตอนนี้ น่ารักกับกูนาน ๆมึงคงเข้าใจนะ น่ารักมาน่ารักกลับ เหี้ยมาเหี้ยกลับ ไม่โกง”มันยังยิ้มอ่อนราวเทพบุตรให้ผม สัดติน มึงมันไอ้ตัวโกงในคราบพระเอก
“ส่วนของกู มึงคัดลายมือสามร้อยจบ”
“อะไรของมึงวะ คัดลายมือเนี่ยนะ”ประสาทแดกแล้วแน่ๆ
“เออ หรือมึงอยากโดนอย่างอื่นแทน กูบอกเลยนะว่ามึงไม่ได้นอนแน่ แต่พวกกูสงสารเลยลดโทษให้”นี่โทษผมนักหนาเลยใช่ไหม ซึ้งใจจริงๆที่ยอมลดโทษให้ ไอ้เห็บหมาชื่อภู
“ด่ากูในใจเพิ่มอีกสองร้อยจบ รวมแล้วห้าร้อย คัดมาให้กูสวยๆแล้วจำใจให้ขึ้นใจ”ไอ้สัดดดดดดดดดดด
“คัดว่า”พวกมันสองคนมองหน้ากันเหมือนเตี๊ยมมาแล้ว
“มีผัวแล้ว”พวกมันนี่เหลือเกินจริงๆ!
TBC.
เอาตอนป่วงๆมาคั่นให้หายคิดถึง >_< ตอนนี้ยังไม่ค่อยว่างเลยค่ะ

ถ้าเป็นไทแล้วจะเอาเรื่องของตินมาต่อให้ทันทีน้าา
ปอลู.ของยังไม่มีโอกาสส่งเลย ไว้จะเร่งตัวเองให้ส่งเร็วๆนี้เน้อ
