3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ชอบใครมากที่สุด (ถามอีกแล้ว 55)

พี่ภูคนโหด เรื่องหื่นไว้ใจได้
61 (25.2%)
น้องเกรียนฟิก ผู้มีสามี2คน
98 (40.5%)
พี่ตินคน(แอบ)โหด อย่าให้โมโหเชียว
83 (34.3%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 242

ผู้เขียน หัวข้อ: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46  (อ่าน 294302 ครั้ง)

ออฟไลน์ patoya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
เหมือยเฮียแกจะให้ไปเที่ยวกลางคืนซะให้ได้

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
เข้าใจอ่ะ สามหน่อต้องอยู่กับคนเจ้าระเบียยคงอึดอัด 5555
แต่แอบสงสารภูนะ มาเมืองนอกคราวนั้นคงเหงามากแน่ๆ

ออฟไลน์ NB

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่ภักมีซัมติงอะไรรึเปล่าาา

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
มาเปลี่ยนบรรยากาศกันใช่มั๊ยยยยยยย
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ คุณลิ้นจี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ภูกับตินนี่สามัคคีกันจริงๆ  :hao7: รอตอนต่อไปป

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4

ตอนที่29.2









ไอ้ตินมันอยากออกไปเดินยืดเส้นยืดสาย แต่ผมรู้สึกเพลียๆเลยตัดสินใจนอนพักอยู่ที่ห้อง ไอ้ภูต้องอ่านเอกสารอะไรสักอย่าง ไม่ได้ไปเหมือนกัน มันเลยไปคนเดียว

“มึงไปได้แน่เหรอ”แอบเป็นห่วงมันเหมือนกัน ไอ้ตินเหล่มองระหว่างสวมเสื้อกันหนาว

“ไม่ต้องห่วงหรอก มึงน่ะพักซะ อีกอย่างกูไม่ได้โง่เหมือนมึง”มันเน้นคำว่าโง่ใส่หน้าผมเต็มๆ

“จ้า พ่อคนฉลาด”

“เดี๋ยวซื้อขนมมาให้”มันยิ้มจาง ก่อนคว้ากระเป๋าเป้ออกไปจากห้อง ความจริงแล้วไอ้ตินมันก็มีอารมณ์ศิลปินเหมือนกันนะ หลังจากมันออกไปไม่นาน ในห้องก็เหลือเพียงเสียงพลิกกระดาษกรอบแกรบดังมาจากไอ้ภูที่นอนอ่านเอกสารอยู่บนเตียง ผมย้ายไปนอนข้างๆมัน เจ้าตัวเหลือบมองก่อนจะกลับไปจ้องกระดาษตามเดิม นอนมองหน้ามันจนเผลอหลับไป ลืมตามาอีกครั้งไอ้ภูก็ยังนอนอ่านเอกสารอยู่เหมือนเดิม คิ้วของมันขมวดมุ่นเข้าหากันเวลาที่มันตั้งใจแบบนี้มันดูโตขึ้นเป็นกอง ผมขยับตัวเข้าไปนอนเกยไหล่อีกฝ่าย ยื่นหน้าไปดูว่ามันอ่านอะไรอยู่ ไอ้ภูเหลียวมองด้วยสายตาแปลกใจ

“เป็นไร อยู่ๆก็มาออเซาะ”มันพึมพำก้มมาจุ๊บหน้าผากเบาๆ

“เปล่า...แล้วมึงไม่เพลียเหรอ”เป็นห่วงมันน่ะครับ ผมยังไม่เห็นมันพักเลย

“กูถึก สบายหายห่วง ไม่เหมือนมึงหรอก”มันบิดจมูกผมเบาๆ ก้มมากัดขย้ำต้นคอให้ผมเสียวเล่น แล้วมันก็หันไปอ่านเอกสารภาษาอังกฤษยาวเป็นพรืดต่อ นับถือมันเหมือนกันที่พยายามอ่าน เพราะไอ้ภูเปิดกูเกิ้ลแปลภาษาเป็นพักๆ ผมนึกอยากแกล้งมันขึ้นมาจึงพลิกตัวกอดเอวอีกฝ่ายหลวมๆ วางมือลงบนหน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรง มันยังคงจ้องเอกสารตามเดิม ผมไล่มือลงต่ำเรื่อยๆจนถึงจุดสำคัญ

“ทำไร...”ไอ้ภูละสายตาจากเอกสาร มองผมด้วยรอยยิ้ม แต่ผมไม่ตอบ แนบหน้ากับแผ่นอกแน่นๆของมันต่อ ส่วนมือก็ซุกซนต่อไป ลมหายใจของอีกฝ่ายเริ่มถี่กระชั้น รับรู้ได้ถึงอัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วขึ้น แต่มันก็อดทนใช้ได้ ไม่หือไม่อือสักแอะ ต่างจากลูกชายมันที่เริ่มกบฏ คิดไม่ซื่อซะแล้ว

“จะแกล้งกูรึไง”ผมแค่ยิ้มให้กับเสียงที่สั่นน้อยๆของมันเท่านั้น อยากรู้ว่าคนอย่างไอ้ภูจะทนได้นานแค่ไหน ผมลงมือทำร้ายลูกชายมันต่อ ร่างกายมันกระตุกเป็นบางครั้งเวลาที่ผมบดขยี้อ้อยอิ่ง ไอ้ภูวางเอกสารลงจนได้

“นึกว่าจะเก่ง”ผมหัวเราะ มันมองด้วยสายตาขุ่นๆ ก่อนขยับมาเอาคืนผมด้วยการกัดปากแรงๆ

“อย่าแกล้ง ถ้ากูทนไม่ไหวแล้วจะหนาว”มันกระซิบเสียงกระเส่า ผมร้อนวูบวาบทันที พอจะปล่อยมือออกจากลูกชายมัน ไอ้ภูก็คว้ามือผมไว้เหมือนบอกว่าต่อให้จบ ผมมองหน้ามันครู่นึง เห็นสีหน้าทรมานของมันแล้วก็สะใจ อย่างน้อยผมก็เอาคืนมันได้

“เร็วๆ”มันเร่ง

“ขอร้องกูดีๆก่อน”ผมต่อรอง

“ไอ้ฟิก...”

“งั้นมึงก็พึ่งตัวเองต่อไป”ผมเลื่อนตัวลงจากเตียง ความจริงก็เพลียๆแหละ แต่ตอนนี้อยากแกล้งมันมากกว่า ไอ้ภูคว้าเอวผมไว้ จรดปากแตะกกหูแรงๆเหมือนหมั่นเขี้ยว

“เออ ก็ได้ ช่วยกูหน่อย”นี่คือดีของมันแล้วเหรอ

“....นะ....”มาตกม้าตายเพราะคำนี้ของมันนี่ล่ะ หูร้อนขึ้นมาวูบวาบเลย ผมผลักให้มันนอนลงอีกครั้ง ก่อนจะก้มใช้ปากทำร้ายลูกมึนต่อ มันหลุดเสียงครางมาเป็นระยะๆ จนเมื่อใกล้ถึงฝั่งมันก็รีบกดหัวผมไว้เหมือนกลัวว่าผมจะแกล้งให้มันค้างเติ่งแบบเมื่อกี้ ผลคือผมต้องกล้ำกลืนของเหลวที่มันปลดปล่อยออกมา

“รีบๆออกไปเลย เดี๋ยวกูตบะแตกอยากทำอย่างอื่น”ไอ้ภูใช้เท้าเขี่ยผมลงจากเตียง ผมกลัวจะเป็นแบบนั้นเหมือนกันจึงรีบชิ่งออกจากห้อง

ห้องโถงด้านนอกเงียบสนิท พี่ภักคงออกไปเช็คงานแล้ว หลังจากหาน้ำล้างคอได้ ผมก็เปิดทีวีดูแก้เซ็ง ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ เหมือนดูหนังใบ้ ดูอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนไอ้ตินกลับมา มันหิ้วของพะรุงพะรังมาด้วย ส่วนใหญ่เป็นหนังสือ

“ขนมของกูอ่ะ”ผมทวงเมื่อมันวางของลงบนโซฟา

“ไม่ลืมหรอกน่า”มันส่งกล่องขนมปังอะไรสักอย่างมาให้ แล้วก็พวกลูกกวาด ช็อกโกแลต ทำเหมือนผมเป็นเด็กไปได้

“พี่ภูล่ะ”มันถามเมื่อไม่เห็นเงาหัว วางถุงกระดาษที่บรรจุด้วยแฮมเบอร์เกอร์และเฟรนช์ฟรายหอมๆลงบนโต๊ะ

“นอน”มั้ง

“มึงพักบ้างยังเนี่ย สีหน้ายังดูแย่ๆอยู่เลย”ไอ้ตินมองสำรวจใบหน้าของผม

“กูถึกพอๆกับพวกมึงนั่นล่ะ”ผมแกะถุงขนมปังออก ไอ้ตินเอาหนังสือออกมาดมๆ โรคจิตจริงๆ มันบอกว่าชอบกลิ่นหนังสือใหม่ๆ มันหายเอาของเข้าไปเก็บในห้อง

“พี่ภูหลับจริงๆด้วย”มันปิดประตูตามหลังเบาๆ ผมนึกอะไรดีๆได้พอดี นี่อาจเป็นวิธีทำให้ผมมีข้ออ้างในการกดไอ้ตินก็เป็นได้ ผมมองมันสำรวจนู่นนี่ด้วยสายตาครุ่นคิด

“จ้องกูแบบนี้ กินกูเลยไหม”มันพูดโดยไม่หันมามอง เจ้าตัวกำลังสนใจแจกันลวดลายสวยงามจากจีน ประเมินแล้วท่าจะแพง

“ให้กินรึเปล่าล่ะ”ไม่รู้ว่าผมทำสีหน้าแบบไหนไอ้ตินถึงได้หันมามองด้วยสีหน้าแปลกๆ”

“คิดอะไรชั่วๆอยู่รึเปล่าเนี่ย”มันย่นหน้า

“เปล่า”ผมเดินเข้าไปหามัน ไอ้ตินดูระแวดระวังขึ้นมาทันที

“มีอะไรก็พูดมาตรงๆ”ถ้าผมดูไม่ผิด คิดว่ามันมีอาการกลัวอยู่เหมือนกัน ผมเข้าไปออเซาะมันด้วยการกอด

“กูว่ามึงสมองกระทบกระเทือนแน่ๆ”มันยังดูงงๆอยู่แต่ก็ยอมให้ผมกอดต่อไป ผมเริ่มใช้แผนเดียวกับไอ้ภูค่อยๆลดระดับลงช้าๆ กดจมูกลงที่ซอกคอของอีกฝ่าย

“เฮ้ย จะทำอะไร”ไอ้ตินดึงมือผมออกจากลูกชายมัน ไอ้นี่หลงกลยากจัง

“มึงนะ....ทีไอ้ภูยังยอมกูเลย”ผมเริ่มใส่สีตีไข่

“ยอม?”มันดูงงๆ

“เออ มันเสร็จกูแล้ว”ไอ้ตินนิ่งไปอย่างมึนงง

“คนอย่างมันยังยอมกูเลย เพราะมันรักกู มึงไม่รักกูเหรอ”ประโยคเบสิกในการเสียตัวก็มา ไอ้ตินยังนิ่งอยู่ แต่ผมว่ามันกำลังมึนและตกใจมากกว่า ผมกอดมันอีกครั้ง มันยืนนิ่งเป็นท่อนไม้เลย

“แต่ถ้ามึงไม่โอเค กูก็ไม่บังคับหรอก”ทำเสียงเศร้าๆประกอบ

“ฟิก...เรื่องนี้มัน…”ไอ้ตินหันมาเผชิญหน้ากับผม สีหน้าดูลำบากใจและสับสน ผมรอให้มันพูดอะไรสักอย่าง ความจริงเรื่องนี้ผมไม่ซีเรียสอะไรหรอก ถ้าได้ก็ดีไป   

“มึงตามกูมา”ไอ้ติเดินนำผมไปยังห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องของพี่ภัก  อย่าบอกนะว่ามันยอม? ผมใจเต้นตึกตักเหมือนจะกระเด็นออกมาจากอกให้ได้

“กูยอมก็ได้ แต่ถ้าหากว่ามึงทำกูเจ็บ...”สีหน้าของมันไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ ผมล็อคห้องน้ำอย่างว่องไว

“เออๆ สัญญาว่าจะเบาๆ”ผมรีบพูด ไม่คิดว่ามันจะยอมง่ายขนาดนี้ หรือคำพูดเมื่อกี้ไปสะกิดใจมันเข้า ไอ้ตินดูกล้าๆกลัวๆ เพิ่งเคยเห็นมันเป็นแบบนี้ครั้งแรก 

“รีบๆทำเลย เร็วๆ”มันหลับหูหลับตาพูด ผมจัดการดันมันติดกับผนังห้องน้ำ ความจริงมันก็ยาก ถ้าจะทำในพื้นที่แคบๆแบบนี้ แทนที่ครั้งแรกของผมกับมันน่าจะดีกว่านี้หน่อย แต่ก็เอาเถอะ เดี๋ยวมันจะเปลี่ยนใจ ผมขบจูบไปตามแผ่นอกเปลือยเปล่า กวาดตาหาตัวช่วยในห้องน้ำ ก็มีแค่ครีมอาบน้ำ แต่เริ่มได้ไม่เท่าไหร่มันก็ฟาดผมเสียงดัง

“พอๆ กูแสบว่ะ”มันบอกว่ามันแสบทั้งๆที่ผมเพิ่งลองแค่นิ้วเดียวเอง ไอ้สาดดดด

“มาถึงขั้นนี้แล้ว...”

“รอกูพร้อมก่อนได้ไหม”มันทำสีหน้าจริงจัง ก่อนจะถอยไปยืนอีกฝั่ง ทิ้งให้ผมเคว้งคว้างกับอารมณ์ค้างๆคาๆ 

“เดี๋ยวกูช่วย”มันเข้ามากอดปลอบใจเหมือนปลอบเด็กน้อยที่ลูกโป่งลอยหลุดจากมือไปต่อหน้าต่อตา แต่ตอนนี้อารมณ์หื่นหดหายไปนานแล้ว   

“เอาน่า ยังอยู่ด้วยกันอีกนาน มีเวลาอีกเยอะ”มันกระซิบบอกเมื่อหัวเราะเบาๆ ก่อนจะออกไปจากห้องน้ำ โธ่ ไอ้ทำได้แค่พ่นน้ำอย่างเดียวจริงๆ ผมสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ ทำใจได้แล้วก็ออกมาจากห้องน้ำ ใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อเห็นว่าใครนั่งอยู่ที่โซฟา

…พี่ภัก

เขาดูตกใจมากที่เห็นผมกับไอ้ตินออกมาจากห้องน้ำด้วยกัน

“บอกแล้วว่าให้กดแรงๆ”ไอ้ตินหันมามองผมก่อนจะหัวเราะ

“คือพอดีเมื่อกี้ชักโครกมันกดไม่ค่อยลงน่ะครับ ผมเลยต้องเข้าไปดู”มันหันไปพูดกับเจ้าของห้องที่พยักหน้ารับงงๆ ไม่รู้ว่าพี่แกจะ
เชื่อไหม ผมสำรวจตัวเองว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ โล่งหน่อยที่มันสงบหมดแล้ว

“ตอนแรกผมคิดว่าพี่จะกลับตอนเย็นๆซะอีก งานไม่เยอะเหรอครับ”ผมชวนคุย นั่งลงที่โซฟาว่างๆ

“พี่แค่เข้าไปเช็คอะไรนิดหน่อยน่ะ อีกอย่างกลัวพวกเราจะหิว แถวนี้ไม่ค่อยมีร้านอาหารถูกปากด้วย พี่เลยซื้อมาฝาก”พี่ภักชี้ไปที่กล่องข้าวสวยและพวกแกงเขียวหวานหอมๆบนโต๊ะ

“ขอบคุณมากครับ”ไอ้ตินยิ้มรับ จะว่าไปพี่ภักนี่ก็ใจดีเหมือนกันแฮะ

“คือผมขอถามเรื่องส่วนตัวหน่อยนะครับ คือพี่มีแฟนหรือยังอ่ะ หล่อแบบนี้มันต้องมีสาวมาติดบ้างแหละ”ผมลองถาม ไอ้ตินย่นคิ้วใส่ผม ไม่รู้ว่าไม่ชอบใจอะไร พี่ภักหัวเราะเสียงดัง แก้มขึ้นเลือดฝาดเล็กน้อย

“พี่สนใจเรื่องงานมากกว่าน่ะ เรื่องผู้หญิงก็ห่างไปนานแล้ว”ผมพยักหน้าเข้าใจ พอดีกับที่ไอ้ภูออกมาด้วยสภาพผมยุ่งๆ

“กลิ่นอะไร…แกงเขียวหวานเหรอ”มันทำจมูกฟุดฟิด เข้ามาค้นถุงบนโต๊ะดู 

“พี่แวะซื้อมา คิดว่าพวกเราคงชอบ ความจริงพี่ดีใจนะที่พวกเรามา ปกติพี่อยู่คนเดียวตลอด”ผมสัมผัสได้ว่าพี่ภักค่อนข้างจะเหงาอยู่เหมือนกัน เดาว่าคงไม่ค่อยมีเพื่อน

“ผมบอกแล้วว่าให้หาเวลาพักผ่อนบ้าง แค่นี้ก็รวยอยู่แล้ว”ไอ้ภูเข้านั่งข้างๆพร้อมกับเอาหัวพิงๆไหล่ผมไปด้วย

“พี่ภักเขาไม่ใช่คนขี้เกียจแบบมึงนี่”ผมดันหัวไอ้ภูออกแบบเนียนๆกลัวพี่เขาจะสงสัย

มื้อกลางวันก็เลยผ่านไปแบบกระอักกระอ่วน ผมกับไอ้ตินมองหน้ากันก็พลอยจะหัวเราะออกมาตลอดเพราะเรื่องในห้องน้ำ ผมว่าพี่ภักเขาไม่เชื่อที่ไอ้ตินพูดหรอก เพราะเจ้าตัวลอบมองมาบ่อยๆ

“แล้วฟิกกับตินมีแฟนกันหรือยังล่ะ”พี่ภักเบนเข็มมาทางผมกับไอ้ตินแทน ไอ้ภูเหลือบมอง ก่อนก้มหน้าก้มตาพุ้ยข้าวต่อไป

“มีแล้วครับ”ไอ้ตินตอบ

“ผมก็มีแล้วครับ สวยมากกก”ผมลากเสียงยาว ไอ้ภูถึงกับไอค่อกแค่ก 

“แต่แฟนผมสวยกว่าครับ”ไอ้ตินนึกบ้าอะไรไม่รู้ พี่ภักหันไปมองพร้อมรอยยิ้ม

“เวลาปกติอาจจะไม่ค่อยสวย”เมื่อเห็นพี่ภักทำหน้างง มันก็ขยายความต่อ

“แต่จะสวยมากๆเวลา….”มันเงียบเสียงลง ก่อนจะหัวเราะ ถ้าผมมองไม่ผิด ผมว่ามันแอบเขิน พี่ภักก็เช่นกัน ไอ้บ้านี่พูดอะไรก็ไม่รู้

“พี่ต้องทำใจหน่อยนะ ช่วงอวดเมียมักโหดร้ายกับคนโสดเสมอ”ไอ้ภูมองหน้าผมด้วยรอยยิ้มที่ผมไม่กล้ามอง  ทำแบบนี้ผมล่ะกลัวพี่ภักเดาอะไรได้จริงๆ

“พี่น่าจะหาแฟนได้แล้วนะ”ไอ้ภูวกกลับมาที่พี่ภัก

“รอให้พร้อมกว่านี้ก่อนค่อยมี”ผมแปลกใจจริงๆ หรือชอบอยู่คนเดียว แต่ดูจากอาการเหงาๆคงไม่น่าใช่

“เออว่าแต่ภูเล่นกล์อฟเป็นรึเปล่า”

“ไม่เป็นครับ ทำไมอ่ะ อย่าบอกนะว่าผมต้องไปออกรอบกับพวกรุ่นใหญ่ที่ทำงาน”มันทำหน้าหมองเมื่อญาติรุ่นพี่พยักหน้าตอบ

“ว่างๆค่อยฝึกก็ได้ ไปด้วยกันหมดนี่แหละ สนุกดี”พี่ภักหันมามองรอบโต๊ะ ก็แน่อยู่แล้วล่ะ ไอ้ภูคงไม่ยอมไปฝึกคนเดียวแน่
หลังจากอิ่มท้อง ไอ้ตินก็ช่วยพี่ภักล้างจาน พี่เขาเนี้ยบมากจริงๆครับ ขนาดไอ้ตินยังขอยอมแพ้  ผมกับไอ้ภูนั่งดูหนังอยู่ที่โซฟา เมื่อไอ้ตินเข้ามาร่วมวงผมก็หาเรื่องมันทันที

“มึงพูดแบบนั้นได้ไง พี่เขายิ่งสงสัยอยู่”

“เขาไม่รู้หรอกน่า”มันกระซิบตอบ หยิบเฟรนช์ฟรายเหี่ยวๆเข้าปาก

“มึงไม่เห็นที่พี่เขายิ้มเหรอ”ผมว่าพี่แกคงรู้แล้วล่ะว่าผมกับไอ้ตินมีซัมติงกัน ไอ้ภูหยิบรีโมทเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ เหมือนมัน
พยายามหาอะไรทำ

“เอ๊ะ มึงหงุดหงิดอะไรเนี่ย”มันมองหน้าผมก่อนจะยิ้ม

“หรือว่าโกรธที่กูบอกว่ามึงสวย มึงพูดก่อนนะ”ผมหน้าร้อนวูบวาบ ไอ้ภูหันมองแค่แว๊บเดียวก่อนจะยื่นหน้าไปหาไอ้ติน

“แต่กูเห็นด้วยกับที่มึงพูดนะ”ไอ้เลว

“พวกมึงไม่ต้องเลย”ผมเหลือบมองที่เคาน์เตอร์ครัว พี่ภักยังคงง่วนอยู่กับการล้างจานให้สะอาดเอี่ยมอ่อง

“ถ้ามึงไม่ได้เป็นแบบนั้นก็เงียบๆไป มาร้อนตัวทำไม ดูซิ หน้าแดงหูแดงหมดแล้ว”ไอ้ตินยื่นมือมาบิดหูผมเบาๆ

“ว่าแต่เข้าไปทำอะไรกันในห้องน้ำ”ไอ้ภูถามทั้งๆที่มันน่าจะเดาได้อยู่แล้ว

“ทำไมหมู่นี้มึงหื่นบ่อยจังวะ จู่โจมกูก่อนตลอด”มันกระซิบถาม

“กูยังหื่นไม่ถึงครึ่งของพวกมึงเลย”

“เออ พี่ภู ผมมีคำถาม”ไอ้ตินกระแอม ก่อนจะย้ายมานั่งข้างๆไอ้ภู ผมขมวดคิ้วเมื่อนึกได้ว่าใส่ไข่เรื่องไอ้ภูไว้นี่นา

“ไอ้ฟิกมันบอกว่าพี่เสร็จมันแล้ว”ไอ้ตินพยายามกลั้นยิ้มระหว่างที่ถาม ไอ้ภูหันมามองผม แต่ก่อนที่มันจะได้ด่า พี่ภักก็เข้ามาช่วย
ชีวิตพอดี

“ตอนเย็นพี่ต้องจัดงานวันเกิดให้ลูกค้าพิเศษที่คลับ อยากไปด้วยกันรึเปล่า”พี่ภักไล่สายตามองเรียงคน ผมกับพวกมันมองหน้ากัน ต่างคนต่างคิดว่าจะไปดีหรือไม่ ผมก็อยากลองไปเปิดหูเปิดตาบ้าง แต่พวกมันจะอนุญาตไหม ผมจึงรอให้มันสองคนตอบก่อน 

“ก็…โอเค ไปครับ”พอไอ้ภูตอบตกลงผมถอนหายใจเบาๆ นึกว่าจะไม่ได้ไปซะแล้ว พยายามเก็บอาการเนื้อเต้นไว้เดี๋ยวพวกมันจะด่าเอา

เชื่อไหมครับว่าคุณพ่อทูนหัวของผมถึงกับเป็นคนเลือกเสื้อผ้าให้ผมเลยครับ

“แค่ไปเที่ยวเอง”ผมเกาหน้าผาก นั่งมองไอ้ภูกับไอ้ตินเลือกเสื้อเหมาะๆให้ผม ไอ้ภูหันมามองก่อนจะโยนเสื้อเชิ้ตแขนยาวมาให้

“อย่าพูดมาก ให้ไปก็บุญเท่าไหร่แล้ว”ผมทำเสียงอู้หูใส่พวกมัน

“เป็นพระคุณจริงๆที่ให้กูไป”

“อย่ากวน นี่กูเป็นห่วงนะ”ไอ้ตินทำหน้าเคร่ง 

“บอกตัวเองเถอะ ไม่ใช่ว่าเมาแล้วสร้างเรื่อง กูก็ไม่ปล่อยพวกมึงเหมือนกัน”ผมเอาเรื่องเก่าๆมาแขวะ น่าแปลกที่พวกมันสองคน
สงบปากสงบคำแต่โดยดี   


คลับที่ว่าเป็นคลับชื่อดังของย่านนี้ ผมสังเกตกลุ่มคนที่มาต่อแถวรอเข้าคลับส่วนใหญ่จะเป็นพวกเงินหนา แต่งตัวมีระดับ บางกลุ่มก็สวมสูทจัดเต็มมาเลย พี่ภักเองก็เช่นกัน ลูกค้าพิเศษมาด้วยกันสามคน หญิงหนึ่ง ชายสอง เป็นคนฟิลิปปินส์ทั้งหมด พี่ภักแนะนำไอ้ภูก่อนตามระเบียบ ผมไม่ค่อยได้ใส่ใจฟัง(เพราะฟังไม่ค่อยออก)

“เอานี่ติดตัวไว้”ไอ้ตินยัดกระดาษอะไรสักอย่างใส่กระเป๋ากางเกงของผม หยิบออกมาดูคือชื่อที่อยู่และเบอร์โทรของมันและพี่ภัก

“มึงทำเหมือนกูเป็นเด็กน้อยเลย”ผมหัวเราะหึๆ แต่ก็ยัดไว้ที่เดิม กันไว้เผื่อว่าเมาแล้วหลง ผมยิ่งไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ด้วย ผมกับ
ไอ้ตินทักทายลูกค้าของพี่ภักตามมารยาท ผมงูๆปลาๆเยสโนโอเคไป ผู้หญิงชื่ออะไรไม่รู้จำไม่ค่อยได้ แต่ผู้ชายหน้าตาพอไปวัดไปวาชื่อเดรก ส่วนอีกคนอ้วนๆหน่อยชื่อแฮร์รี่ คุยกันเป็นวรรคเป็นเวรระหว่างที่รอให้คลับเปิด มีการ์ดตัวใหญ่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู
คอยตรวจบัตร

“มึงว่า…ไอ้คนนั้นมันแปลกๆรึเปล่าวะ”ผมกระซิบเบาๆกับไอ้ติน มันหันมามองผมเหมือนไม่รู้ว่าคนนั้นที่ผมหมายถึงคือใคร

“ไอ้คนที่ชื่อเดรกอ่ะ”ผมขยายความ ผมว่าผมได้รังสีแปลกๆมาจากมัน รู้สึกจะมองพี่ภักบ่อยไปนะ หรือผมคิดมากไปเอง ส่วนเจ้า
ตัวก็ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก จิ้มโทรศัพท์บ้างหรือไม่ก็คุยกับลูกค้าผู้หญิงคนนั้น ไอ้ตินเดาะลิ้นเบาๆคอยจับผิดไปกับผมด้วย ส่วนไอ้ภูน่าสงสารหน่อยที่ต้องคุยกับนายแฮร์รี่เรื่องรถนี่ล่ะ มันดูเบื่อหน่าย ขยับสูทนอกไปมาเหมือนอึดอัด แต่ก็ต้องทำเหมือนว่าฟัง ผมยกนิ้วโป้งให้เมื่ออีกฝ่ายหันมาเจอ ให้กำลังใจมันหน่อย เดี๋ยวจะหมดแรงซะก่อน   

ภายในคลับแบ่งเป็นหลายโซน โซนที่พี่ภักจองไว้คือโซนวีไอพี โซฟาและม่านประดับหรูหราเชียว เครื่องดื่มราคาแพงมาบริการทีหลัง ผมเห็นไอ้ภูจ้องขวดวอดก้าตาเป็นมัน แต่พอมันเหลือบมาเห็นสายตาของผมมันก็ทำเป็นเสมองทางอื่น

“จะออกไปโซนด้านนอกก็ได้นะ เดี๋ยวตรงนี้พี่จัดการเอง ส่วนภู พอดีคุณแฮร์รี่เขาอยากคุยด้วย เขามีหุ้นเหมือนกัน อยู่คุยอีกแป๊ปเดียว”พี่ภักหันไปหาไอ้ภู มันทำหน้าเซ็ง

“ฝากดูมันด้วยนะ คุยเสร็จเดี๋ยวตามไป”ไอ้ภูโน้มมาคุยกับไอ้ติน

“ไม่ต้องห่วงหรอก พี่เอาตัวเองให้รอดเถอะ”ไอ้ตินกระตุกมือผม เห็นใจไอ้ภูเหมือนกัน มันคงกะมาเที่ยวเต็มที่ ตอนที่เดินผ่าน ผมเอื้อมบีบมือมันเบาๆ

“สู้ๆ”เห็นมันยังยิ้มได้ ไอ้ตินพาผมเดินลัดเลาะหาโต๊ะว่าง ส่วนใหญ่ถูกจับจองไว้แล้ว ผมเริ่มตาลายกับแสงสีม่วงๆที่หมุนวนไปทางนู้นทางนี้ที มีฟลอร์สำหรับเต้นรูดเสาด้วย แต่เป็นโชว์ของคลับ สาวๆก็สะบึ้มๆทั้งนั้น ไอ้ตินพาผมมานั่งที่โต๊ะแถวๆเคาน์เตอร์บาร์ ผมกับมันไม่ค่อยมีอารมณ์อยากเมาเท่าไหร่จึงสั่งแค่เบียร์บลูมูนมา เพราะยี่ห้ออื่นไม่ค่อยได้แตะกลัวจะเมาปลิ้นไปก่อน 

“ห้ามเมานะ”ไอ้ตินเตือน เมื่อเห็นผมกระดกทีเดียวค่อนแก้ว 

“ไม่เมาหรอก กูรู้น่า ไม่ทำให้พวกมึงเป็นห่วงหรอก”มันอมยิ้มกับคำตอบของผม

“เออ หัดเป็นเด็กดีซะบ้าง”

ผมนั่งมองกลุ่มคนเต้นอยู่ที่ฟลอร์ จังหวะเพลงน่าดิ้น แต่ผมไม่กล้าลุกไปเพราะไอ้คนข้างๆนี่ล่ะ

“ไปเต้นกันป่ะ”ผมชวน

“ไม่เอา”มันตอบแบบไม่ต้องคิด

“มึงไปเพื่อนกูหน่อย”เวลาไปเที่ยวผับอะไรเทือกนี้ ผมไม่เคยเห็นไอ้ตินมันเต้นเลย รักษามาดตลอด

“เต้นตรงนี้ก็ได้”มันพยักเพยิดไปที่โต๊ะข้างๆมีกลุ่มคนขยับตามจังวะเพลงอยู่

“กูเต้นคนเดียวก็เหมือนคนบ้าดิ มึงไปยืนเป็นเพื่อนกูเฉยๆก็ได้นะ”ผมใช้ลูกอ้อนกวนไม้กวนมือมันอยู่นาน สุดท้ายมันก็ทนรบเร้าไม่ไหว จึงได้แต่ทำหน้าบูดตามผมมา ผมคว้าขวดเบียร์แนบตัว เบียดแทรกกลุ่มผู้หญิงเมาไปที่ว่าง เหลือบมองไอ้ตินทำตัวไม่ถูกท่ามกลางขาแดนซ์

“มึงมาเต้นกับกู”ผมดึงชายเสื้อให้มันตามมา

“มึงเคยเห็นกูเต้นด้วยเหรอ”มันบ่นอุบอิบ

“เต้นตามกูก็พอ”มันทำหน้าระอาเมื่อผมออกสเต็ปให้มันดู

“ไม่มีคนสนใจหรอกน่า”มีเสียงปรบมือโห่ร้องรอบตัวเมื่อดีเจคนใหม่ขึ้นมาเล่นเพลง ไอ้ตินเหมือนอยากเดินหนี แต่มันก็ไม่กล้าทิ้งให้ผมอยู่คนเดียว แต่เอาจริงๆไม่มีใครลากผมไปปล้ำหรอก แถวนี้มีแต่มาดแมนแฮนด์ซั่มทั้งนั้น เมื่อซาวด์เพลงมันส์ๆเริ่ม ขาแดนซ์ก็เริ่มออกสเต็ป ผมตั้งใจจะคว้าไหล่ไอ้ติน แต่ก็เจอไหล่ใครเข้าไม่รู้ มองอีกทีก็เห็นมันโดนสาวๆกลุ่มข้างๆลากไปเต้นด้วย หรือ
จะพูดให้ถูกมันเป็นเสาให้สาวๆผมสั้นคนนั้นเลื้อย ไม่รู้จะขำหรือสงสารดี

“ds;li9e[‘][t]ynnu-7-=o8yr”เอาแล้วครับ มีหนุ่มนอกเข้ามาคุยกับผม ซึ่งแน่นอนว่าผมฟังไม่ออก ผมได้แต่โบกมือไปมา

“No No”ปฏิเสธไปก่อน

“fdklfkoi54v-bvrreurwea”รู้สึกเหมือนเป็นมนุษย์ต่างดาวเลยว่ะ ผมเหลียวมองไอ้ตินมันพยายามดึงมือของแม่ผมสั้นออก เมื่อเห็นชัดว่าคุยกันไม่รู้เรื่องฝ่ายนั้นก็ถอยทัพไปขอคนอื่นเต้นแทน ผมมองไปที่ไอ้ตินอีกครั้ง มันยังถูกรุมล้อมอยู่ ไม่รู้ทำไมผมขำมากกว่าจะหึง ผมปล่อยให้สาวคนนั้นสอนสเต็ปการเต้นให้มันโดยที่ผมคอยดูอยู่ใกล้ๆ ยังไงเสียผมก็ไม่กล้าปล่อยให้มันหลุดสายตาหรอก

หมับ!

ผมสะดุ้งโหยงเมื่อมีมือดีมาคว้าเข้าที่สะโพกของตัวเอง

“ไอ้ภู”ผมพ่นลมหายใจพรืดใหญ่ มันยิ้มขำเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของผม

“กูตกใจหมด”มันถอดสูทออกจนเหลือแต่เสื้อเชิ้ต 

“ไม่มีใครตาถั่วอยากจับของมึงหรอก”เหมือนมันด่าตัวเองกลายๆ ไอ้ภูมองไปรอบๆก่อนจะเจอไอ้ตินแล้วกลับมามองผม 

“ระริกระรี้เป็นปลากระดี่ได้น้ำเลยนะ”มันดึงขวดเบียร์ไปจากมือผมอย่างรวดเร็ว

“เฮ้ย ภู ของกูนะ”ไม่ทันแล้ว มันยัดขวดเปล่าคืนผม

“แค่นี้เอง หวงเหรอ”มันมองซ้ายมองขวา คว้าผมไปจุ๊บปากเบาๆก่อนจะปล่อยแล้วพาผมไปร่วมกลุ่มกับสาวๆที่เต้นอยู่กับไอ้ติน
ไปๆมาๆ เลยได้ออกสเต็ปกับสาวๆพวกนี้ไปปริยาย ใครเป็นใครบ้างก็ไม่รู้แต่ผมได้จับคู่เต้นกับทุกคนในกลุ่มเลย เต้นกับคนแปลกหน้าแบบไม่คิดอะไรมากก็มันส์ดี ไม่รู้ว่ามันสองคนจะสุดเหวี่ยงเหมือนผมไหม  เหมือนสาวกลุ่มนี้จะอยากไปต่อกับพวกผม แต่ก็ปฏิเสธไปตามระเบียบ เพราะผมกับพวกมันจะไปต่อกันเองต่างหาก คึๆ

“กูว่ามึงใกล้เมาแล้วนะ”ไอ้ตินเข้ามายื้อผมให้มายืนใกล้ๆ ตอนนี้ดีเจเล่นเพลงช้าแล้ว

“มึนนิดหน่อย สงสัยกูเต้นมากไป”ผมยืนพิงพวกมันสองคน ไอ้ภูผลักหน้าผากผมแรงๆ

“สนุกอยู่คนเดียว เก็บกดมาจากไหนวะ”มันยิ้มขำ

“ปกติพวกมึงไม่ค่อยให้กูออกไปเที่ยวนี่หว่า เออ แล้วทำไมพวกมึงไม่ออกอาการหวงกูเหมือนทุกทีอ่ะ”วันนี้พวกมันมาแปลกแฮะ

“ไม่รู้ดิ สงสัยมึงเต้นกับผู้หญิงล่ะมั้ง”ไอ้ตินตอบ มันส่งแก้วโค้กให้ผม “เรื่องไหนปล่อยได้ก็ปล่อย”

“อนุญาตให้มึงปล่อยผีได้หนึ่งวันไง กลัวมึงอกแตกตายไปซะก่อน”ไอ้ภูหยิบเอาผ้าเช็ดหน้ายัดใส่มือ ผมรับมาดมๆ มีกลิ่นของไอ้
ภูติดอยู่ หอมดี น้ำหอมตัวที่ผมเคยซื้อให้มัน จนวันนี้มันก็ยังใช้แบบเดิมอยู่เลย

“โรคจิตเข้าไปทุกที”มันพึมพำอยู่ใกล้ๆ ผมเริ่มหมดแรงเลยได้แต่มองคนอื่นเต้นท่ามกลางแสงสลัวๆ ไอ้ตินเลยกล้าสอดมือมากอดเอวผมไว้หลวมๆ

“แล้วพี่ภักล่ะ”ไอ้ตินถาม

“ยังคุยกับลูกค้าอยู่เลย เอาเรื่องอะไรมาคุยกันเยอะแยะก็ไม่รู้ แต่จะกลับก่อนก็ได้ มีป้ายรถเมล์อยู่แถวนี้พอดี”ตอนนี้ผมก็เริ่ม
เหนื่อยแล้วเหมือนกัน หิวข้าวด้วย ผมกับพวกมันเลยตกลงกันว่าจะกลับเพราะเริ่มหมดแรง

ออกมาสูดอากาศด้านนอกได้แล้วสดชื่นกว่าด้านในตั้งเยอะ ระหว่างที่เดินไปรอที่ป้ายรถเมล์ก็ผ่านโรงแรมสามดาวเข้าพอดี ผมกับอีกสองคนหยุดเดินอัตโนมัติ

“ต่อไหม หรือจะกินข้าวก่อน”ไอ้ตินถาม แต่ก็อย่างว่าแหละครับ แค่มองตาก็รู้ไส้รู้พุง สรุปข้าวไม่ต้องกิน กินอย่างอื่นแทน ไหนๆก็ไหนๆแล้วกลับไปอพาร์ทเม้นต์ตอนนี้เกรงว่าจะไม่สะดวก เดี๋ยวพี่ภักกลับมาจ๊ะเอ๊เข้าคงสยองน่าดู









*************************************


ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4
*************************************





ตอนสายๆผมกับพวกมันเข้าไปหาพี่ภักที่โชว์รูม อากาศค่อนข้างแย่เพราะฝนตกตั้งแต่เมื่อเช้ามืด ถนนหนทางเฉอะแฉะไปหมด หนาวอีก ผมจามไปสามทีติดเพราะต้องมานั่งตากแอร์ตั้งนาน เพราะไอ้ภูมัวแต่สนใจรถพวกรถสปอร์ตรุ่นใหม่ ผมเองก็สนใจนะ แต่เดินดูรอบเดียวก็เบื่อแล้ว ต่างจากไอ้ภูวนแล้ววนอีก 

“พอดีเลย พนักงานพี่พกยามาด้วย”พี่ภักส่งแผงยากับขวดน้ำให้ผม ตอนนี้ผมย้ายมานั่งที่ห้องรับรอง เพราะไม่อยากตากแอร์ ปล่อยให้ไอ้ภูกับไอ้ตินบ้าอยู่สองคน ไอ้ภูบ้ารถ ส่วนไอ้ตินมันไปเล่นเกมส์ในแท็ปแล็ตที่โชว์อยู่ด้านนอก พอๆกันเลย แทนที่จะเอาเวลามาสนใจผม ต้องเป็นพี่ภักที่เอายามาให้ผมซะงั้น มันสลับกันไม่ใช่เรอะ

“ขอบคุณครับ”ผมกลืนขนมปังลงท้อง ก่อนรับยามา พี่ภักขยับเสื้อก่อนนั่งลงข้างๆผม ใบหน้าเต็มไปด้วยคำถาม

“เมื่อคืนพี่ตกใจหมดที่ไม่เห็นพวกเราที่ห้อง”

“โทษทีครับที่ไม่ได้โทรบอก พอดีพวกผมเมามาก เลยค้างที่โรงแรมแถวนั้น”ไม่ได้เมาเหล้า แต่เมาอย่างอื่น พูดแล้วก็นึกถึงเมื่อคืนเลย ผมมึนๆด้วย ไม่รูทำอะไรไปบ้าง หวังว่าคงไม่หื่นมากไป อายไอ้สองตัวนั่นมัน

“พี่แค่เป็นห่วงน่ะ กลัวว่าจะหลงแล้วโดนจี้โดนปล้น แถวนี้มีพวกคนดำเยอะด้วย คราวหน้าคราวหลังก็ระวังด้วยล่ะ”พี่ภักให้ความรู้สึกเหมือนคุณพ่อเลย

“ว่าแต่เมื่อคืนพี่ภักกลับดึกไหมครับ คงเหนื่อยแย่เลย”อย่าบอกนะว่าเรียนจบแล้วไอ้ภูต้องมาทำงานแบบนี้ ผมสงสารมันขึ้นมาเลย

“ก็ไม่เท่าไหร่หรอก พี่แค่คุย เป็นผู้ฟังที่ดี”แอบเห็นอีกฝ่ายทำหน้าเบื่อ

“พี่ขอถามอะไรหน่อยสิ คือ…แค่สงสัยน่ะนะ”พี่ภักเลียริมฝีปากเหมือนไม่มั่นใจ ผมเองก็พอจะรู้ว่าท่าทางแบบนี้หมายถึงอะไร สายตาของคนตรงหน้าอ้อยอิ่งอยู่ที่คอของผม จนผมเริ่มรู้สึกร้อนตัว

“ครับ”ผมยิ้มซื่อ

“คือ….”พี่ภักมองหน้าผมแล้วมุ่ยปาก ก่อนจะฉีกยิ้มอีกรอบ

“ไม่มีอะไรหรอก พอดีพี่ลืมไปแล้วว่าจะถามอะไร ไว้นึกออกจะมาถามใหม่นะ”พี่ภักทำผมงงไปพักใหญ่ แม้ว่าอีกฝ่ายจะออกไปจากห้องแล้วก็ตาม ไอ้ตินโผล่เข้ามาหาผมคนแรก มันเอามืออิงหน้าผากเพื่อวัดไข้   

“นึกว่าลืมไปแล้วว่ามีมะ--”ไอ้ตินเลิกคิ้วมอง ผมกลืนคำพูดที่เกือบหลุดออกมาลงคอตามเดิม

“เล่นเกมส์สนุกไหมล่ะ”ผมเปลี่ยนคำถาม มันหัวเราะทันที

“ก็งั้นๆแหละ คงไม่เท่ามึงเมื่อวานหรอก”

“เออ กูก็ว่า ปวดเนื้อปวดตัวเหมือนกัน กูเต้นท่าแปลกๆบ้างรึเปล่า”ผมบิดเอวไปมาแก้เมื่อย มันทำหน้าเจ้าเล่ห์

“ปวดเพราะกิจกรรมอย่างอื่นรึเปล่า”พอมันทักขึ้นมา ผมก็เริ่มจำรายละเอียดปลีกย่อยได้ ไม่อยากจะพูดเลยว่าบ้าพอๆกับตอนเต้นในคลับ

“วันหลังสงสัยต้องกรอกเหล้าให้มึงเยอะๆ จะได้อึดๆแรงดีไม่มีตกแบบเมื่อคืน แถมยัง…”ผมเอามืออุดปากมันเพราะไม่อยากจะฟังต่อ แสลงใจจริงๆ

“เออ กูรู้แล้ว มึงไม่ต้องพูดหรอก”

“เมื่อกี้พี่ภักว่าไงบ้าง เข้ามานานจัง”ยังอุตส่าห์สังเกตอีกนะ

“อืมก็ กูว่าพี่เขาเริ่มสงสัยพวกเราแล้วว่ะ ทำอะไรก็ระวังๆบ้างนะ”

“บอกตัวเองด้วยสิ”เสียงกวนประสาทแบบนี้มีแค่ไอ้ภู ผมเหลือบมองเห็นว่าที่ซอกคอมันมีรอยกัดจางๆ นั่นฝีมือผมเหรอ… 

“มันไม่กล้าพูดหรอก”ไอ้ภูพูดอย่างมั่นใจ ผมก็ว่างั้นแหละ เหตุการณ์เมื่อครู่บอกได้ชัดเจน

“แล้วอาการดีขึ้นหรือยัง”มันเปลี่ยนมาใช้สีหน้าจริงจัง

“อืม ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แค่ไอนิดหน่อยเพราะอากาศเปลี่ยน”ผมแตะคอตัวเองไปด้วย

“นี่ถ้ากูไม่กลัวพ่อด่านะ กูจะลองเอารถออกไปขับซะหน่อย คันไม้คืนมือว่ะ”ดีแล้วที่ไอ้ภูไม่หาเรื่องให้ตัวเอง วันพรุ่งนี้แล้วที่มัน
ต้องไปทำงานที่โรงงานนอกเมือง มันดูไม่ค่อยเครียดแล้ว คงเพราะมันปรับตัวได้เร็ว ไอ้ภูไม่อยากอยู่รบกวนเวลางานของพี่ภักจึงขอตัวกลับ แต่เพราะผมป่วยด้วยนั่นแหละ

“พวกมึงห้ามเข้าใกล้กูนะ เดี๋ยวติดหวัด ไม่อยากให้ป่วย”ผมพูดด้วยเสียงจริงจัง มันสองคนเลยหยุดกวนประสาท ยิ่งไอ้ภูมันมีหน้าที่ต้องทำ ถ้าป่วยเดี๋ยวเสียเรื่องหมด ระยะทางจากศูนย์โชว์รูมและอพาร์ทเพนท์เดินแค่สิบห้านาทีก็ถึง พวกผมเลยตัดสินใจเดินมากกว่าขึ้นรถเมล์ ได้ยืดแข้งยืดขาไปในตัว

“อย่าลืมนะว่าพรุ่งนี้พวกมึงต้องไปเป็นเพื่อนกูก่อน กูกลัวทำอะไรไม่ถูก”ไอ้ภูพูดขึ้นมา

“แต่ความจริงพี่ควรไปคนเดียวนะ คือหมายถึงว่าเอาคนนอกไปด้วยมันก็ดูแปลกๆ”ไอ้ตินถูจมูกไปมา

“กูไม่ได้มองพวกมึงเป็นคนนอกนี่”มันหยุดเดินมองหน้าไอ้ตินแทน

“อย่าเพิ่งหัวเสียดิ ผมหมายถึงในเรื่องงานน่ะ”ความจริงผมก็คิดแบบไอ้ติน แต่ไม่อยากพูด กลัวไอ้ภูฟุ้งซ่านเดี๋ยวจะคิดว่าผมไม่อยากไป ไอ้ภูขมวดคิ้วมุ่นเมื่อนึกถึงข้อนี้ก่อนจะถอนหายใจ

“แค่ไปส่งกูที่ทำงานก็พอ โอเคไหม”มันมองหน้าผมกับไอ้ตินสลับไปมา

“โอเค”ผมยกมือตกลง ระหว่างเดินผ่านเจอร้านจำพวก Fish & chip พอดี ผมเลยแวะซื้อ เห็นไอ้ตินกับไอ้ภูทำหน้าเอียน

“ไปรอตรงนู้นนะ”ไอ้ตินบุ้ยใบ้ไปทางเก้าอี้ที่อยู่ห่างออกไป ผมพยักหน้ารับรู้ ขยับเข้าไปต่อคิว ที่กล้ามาซื้อคนเดียวเพราะมันมีเมนูให้ ผมจิ้มๆใช้ภาษามือก็พอ

“เชี่ยเอ้ย ไม่ได้มาแถวนี้ตั้งนานโคตรคิดถึง มึงรอกูที่ร้านเลยนะ กูแวะซื้อของกินอยู่”เสียงคนคุยโทรศัพท์ดังมาจากด้านหลังผมนี่เอง ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองฉลาดฟังออก ที่แท้ก็ภาษาไทยนี่เอง ผมลองเหลียวมองรอบๆเพื่อมองคนด้านหลังแบบเนียนๆ ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็น อีกฝ่ายกำลังยืนหันข้างคุยโทรศัพท์ ผมใจเต้นตึกตัก เพราะไอ้คนด้านหลังที่ว่ามันหน้าตาคล้ายๆผมเลย ยิ่งหันข้างแบบนี้ก็ยิ่งคล้าย ผมเหลือบมองไอ้ภูกับไอ้ตินมันนั่งหมกมุ่นกับโทรศัพท์ด้วยกันทั้งคู่ ผมจำได้ลางๆว่าเคยเห็นหน้าไอ้เด็กคนนี้ เมื่อนานมาแล้ว ไม่หรอกมั้ง อาจจะแค่คนที่บังเอิญหน้าเหมือนผมก็ได้ 

“แค่นี้แหละ”มันวางสาย ขยับเข้ามาใกล้ผมอีกหน่อย ผมอยากมองอีกครั้งให้แน่ใจ จึงตัดสินใจหันไปมองอีกรอบ ครั้งนี้เห็นชัดมากขึ้น ผมค่อนข้างมั่นใจว่าผมเคยเห็นหน้ามันมาแล้ว ครั้งนึงไอ้ภูเคยเอารูปให้ดู ผมมองไปที่ไอ้สองคนนั่นอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากแถว ไม่กงไม่กินมันแล้วเพราะมีความรู้สึกบางอย่างที่ชัดเจนมากๆ


ผมไม่อยากให้ไอ้ภูกับไอ้ตินเจอไอ้เด็กหน้าเหมือนผมเลย










TBC.
มาอัพแล้วววว ออกตัวก่อนว่าไม่มีมาม่าอะไรทั้งนั้นค่ะ ตอนนี้น่าจะมีอีกสองพาร์ท(มั้ง) อาจไม่ได้จบที่สามสิบเพราะยังเก็บประเด็นไม่หมดเลย(ไม่ใช่ประเด็นมาม่านะ) 

ไม่แน่อาจเขียนตอนพิเศ๊บพิเศษ?มาให้อ่านพอดีเคยคิดแผลงๆว่าถ้าหากฟิกคนเดิมจีบภูกับตินก่อนจะเป็นยังไง ฮ่าๆ อาจเขียนมุมมองจากคนอื่นเรื่องสามหน่อด้วย ติดตามกันต่อเนอะ  :z2:
ขอบคุณที่ติดตามค่ะทั้งนักอ่านหน้าเก่าและหน้าใหม่หลายๆคนเราชอบอ่านความเห็นของทุกคนมาก เพราะเหมือนได้แลกเปลี่ยนความคิดเลย :กอด1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
คนนนั้นสินะตอนที่พี่ภูโดนบังคับให้ย้ายมาอังกฤษอะ แต่จำชื่อไม่ได้แล้ว จริงๆไม่อยากให้ฟิกเดินหนีนะอยากให้เจอหน้ากันจังๆเลยจะได้รู้ว่าเหมือนกันมากแค่ไหน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sindy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เด็กหน้าเหมือนฟิกที่ภูเจอแน่ๆเลย ตอนนี้แอบหื่นนะสามหน่อ :hao7:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
น่ารักค่ะ. ตินป๊อดอะ อิอิ
รอปมเด็กคนนั้น

ออฟไลน์ LSK

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
อ๋อ เด็กคนนั้นนี่เอง ฟิกหวงภูกับตินสินะเลยไม่อยากให้เจอ

ออฟไลน์ NB

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ DKTime

  • ขอบเขตความรู้สึกยิ่งใหญ่ ความเสียใจอาจแฝงไว้ในความเฉยชา....
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-2
    • https://twitter.com/UKnowJJTime_DK
อยากรู้ว่าฟิกทำอะไร 5555544+
ตัดฉากนั้นของเราทามมายยยยยยย~
เลยอดเห็นฟิกขึ้นคร่อมเลย

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
เด็กนั่นเป็นใครกันนะ

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
แล้วเด็กคนนี้จะเป็นตัวแปรอะไรหรือเปล่า

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
อ้าว แล้วไง พี่ภูจะงานเข้าเปล่าเนี่ย
ภรรยาโมโหหึงแล้ว 555+

ออฟไลน์ Yundori

  • From where I stand...
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
จำไม่ได้แล้วว่าเคยมีตอนที่ฟิกมีคนหน้าเหมือน  :ling1:
ความจำสั้นมาก ๆ 55555555555
สงสารพี่ภักที่แบบ ต้องมาอยู่ท่ามกลางสามผัวเมีย
ละพูดอะไรไม่ได้ด้วยนะ อึดอัดแน่ๆ
แต่ใครจะรู้ สามคนนี้ก็ยังหาทางได้อยู่นะ  :katai5:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
โธ่ ๆ ๆ ๆ ๆ
อดเลยฟิก   นี่ถ้าตินรู้ว่าถูกอำ....ไม่อยากจะคิดเลยว่า ฟิกจะโดนอะไร  :laugh:

ว่าแต่ เด็กนั่นใคร

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ imfckwn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
โลกกลมจริงๆ!

เจอกับภูตั้งแต่ภูโดนเด้งนี่ ยังมาเจอกันอีก โถ่ๆ ฟิกรีบพาหนีเลย

ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
แหม่ ๆๆๆๆ เดี๋ยวนี้ หนูฟิกมันสกิลความเป็นเมียเยอะจริงๆเลย  :laugh: มียั่ว มีอ่อย มีหลอก แถมจะล่อ คุณสามีอีก  :m20: เกือบแล้วตินเอ้ย เกือบเป็นเมียฟิกซะแล้ว ตินก็คงเอะใจบ้างแหละ พี่ภูนี่นะ จะยอมง่ายๆ ถึงจะรู้ว่ารักฟิกมากก็เถอะ แต่จะมายอมอะไรเร็วนัก  :katai2-1:  เอาล่ะสิ เจอฟิกสองเข้าให้แล้ว อีหนูฟิกนี่มันก็หูดี ตาดี ความจำดีจริงๆเลยนะว่า เคยเห็นตอนภูส่งรูปมาให้ดู จะบอกว่าหนูฟิกหน้าโหลป่ะ  :jul3: ล้อเล่นนะฟิก แต่อยากให้เจอกันอ่ะ รู้ว่าหนูฟิกหวงผัวๆ แต่ก็อยากเห็นหนูออกอาการจังเลย ว่าเป็นยังไง  :z2:

ออฟไลน์ คุณลิ้นจี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
พี่ภักไม่สงสัยไม่ได้แล้วแหละ
ออกจากห้องน้ำมากับติน วันต่อมาคอพี่ภูมีรอย โอ้ย 5555555555555
แต่พี่ภักคงไม่กล้าพูดอะไร..

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ฟิกเวลาเมาแซ่บตลอดดดด :z1:

ออฟไลน์ Sweettemp

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ฟิกกกกกกกก คิดถึงมากกกก ไม่อยากให้จบเลย  :hao5:

ประเด็นคนหน้าเหมือนน่าเล่นแฮะ หึหึ แต่ถ้าจะให้เท่าเทียมอยากให้มีคนมาจีบฟิกอีก จะได้หึงทั้งสามคนเลย :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4





Piw: ดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆ






ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ไอ้ปั้นยังคงวนเวียนมาหาผมอยู่เสมอ ไม่ได้หายหน้าหายตาไปไหนแบบที่ผมกังวล ส่วนเรื่องบนเตียง...ตั้งแต่วันนั้นมันก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรอีก ซึ่งทำให้ผมโล่งใจไปหลายเปาะ ผมเองก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม ทำงานเก็บเงินพยายามประหยัดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะผมไม่อยากใช้คอนโดของพี่ภูนาน ถึงเจ้าตัวจะบอกว่าไม่เป็นไรแต่ผมก็เกรงใจอย่างบอกไม่ถูก อาจเพราะไม่ค่อยสนิทกันด้วยล่ะ

ส่วนไอ้โต...มันก็โทรมาคุยกับผมบ้างบางครั้ง มันแค่อยากเช็คให้แน่ใจว่าผมสบายดีจริงไหม ยิ่งมันทำแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้ผมตัดใจยากกว่าเก่า ได้แต่บอกตัวเองว่ามันก็แค่เป็นห่วงตามประสาคนที่เคยอยู่ด้วยกัน เพราะผมรู้อยู่เต็มอกว่ามันน่ะ...ยังรักไอ้ป่าน ช่างเถอะ มันจะโง่ก็ไม่ใช่เรื่องของผมอีกต่อไปแล้ว

ผมเลิกงานเวลาเที่ยงคืนทุกวัน แต่วันนี้ไม่เห็นเงาหัวของไอ้ปั้นเลย ไอ้เด็กที่เหมือนจะแมนมักจะมารอผมบ่อยๆหากวันไหนมันมาไม่ได้ มันจะทิ้งข้อความไว้ แต่วันนี้มันหายไปเสียเฉยๆ จนเกิดคำถามในใจว่ามันหายไปไหน มาทำให้ผมเคยตัวแล้วก็หายหัวไปไม่บอกกล่าวได้ไง

“มันคงติดสอบล่ะมั้ง”ผมบอกตัวเองเบาๆ อยากให้ตัวเองเชื่อแบบนั้นด้วย ชั่งใจว่าจะลองโทรหาไอ้ปั้นดีไหม

เอาวะ โทรก็โทร

ผมเลื่อนกดเบอร์ที่โทรเข้ามามากที่สุด รอสายอย่างลุ้นระทึก

ตู้ด ตู้ดด ตู้ดดด

ผมรออย่างใจเย็น หรือว่าหลับไปแล้ว ช่วงที่ผมกะจะวางสาย มันก็รับพอดี

[ฮัลโหลลลล] เสียงนั้นงัวเงียเหมือนคนเพิ่งตื่น หรือว่ามันจะหลับจริงๆ

“หลับอยู่เหรอ”

[ห๊ะ...เออ อืม] เสียงของมันดูรนๆขึ้นมาจนผมต้องขมวดคิ้ว ความรู้สึกอะไรสักอย่างทำให้ผมเริ่มเอะใจ สกิลการจับผิดของผมเริ่มทำงาน

“มึงทำอะไรอยู่”ผมถามเสียงเข้ม เริ่มใจเสีย

[ก็นอนหลับ เพิ่งสะดุ้งตื่นตอนที่พี่โทรมาเนี่ยแหละ]

“เออ ให้มันจริง”ผมกำลังจะเชื่ออยู่แล้วเชียว ถ้าหากไม่ได้ยินเสียงจามของใครบางคน ซึ่งผมมั่นใจว่าไม่ใช่เสียงไอ้ปั้นแน่ๆ

“มึงอยู่กับใครวะปั้น ตอบกูมาตรงๆ”ผมถามเสียงเคร่ง ไม่ได้ตกใจมากนัก น่าแปลกจริงๆหรือเพราะเรื่องที่ผ่านๆมาทำให้ผมตาย
ด้านไปแล้ว

[กับ...กับเพื่อนอ่ะ พี่อย่าโกรธผมนะ] น้ำเสียงสำนึกผิดของมันยิ่งทำให้ผมคิดว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆ

“เหรอ เออ ช่างเถอะ กูจะนอนแล้ว แค่แปลกใจที่ไม่เห็นมึง”

[คือพี่ปลิว เดี๋ยวผมไปหา] ได้ยินเสียงกุกกักๆลอดมา

“เฮ้ย ไม่ต้อง ดึกแล้ว มึงนอนเถอะ มีเรียนไม่ใช่เหรอ”ผมชิงวางสายก่อน มองโทรศัพท์ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก จะเศร้าก็ไม่
เชิง มันเองมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ ผมกับมันไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย แฟนก็ไม่ใช่ กิ๊กก็ไม่เชิง มันแค่ทำเหมือนว่าจีบผมอยู่ ก็แค่นั้น แต่ไม่รู้ทำไม ผมถึงได้ตาค้างนอนไม่หลับแบบนี้ ถ้าหัวใจผมมันตายด้านก็ดีสิ จะได้ไม่ต้องรู้สึกอะไรอีก

ผมใช้เวลาอาบน้ำอยู่นานสองนานเพราะเอาแต่คิดเรื่องของไอ้เด็กปั้น แต่เสียงเคาะประตูก็ดังขัดจังหวะซะก่อน ผมย่นคิ้ว ดึกขนาดนี้ใครที่ไหนมา...พี่ภูเหรอ...คงไม่ใช่ ข้อที่เป็นไปได้มากสุดคือไอ้ปั้น ผมจัดการคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวม ก่อนออกไปเปิดประตูให้คนที่รออยู่ด้านนอก

“บอกแล้วว่าไม่ต้องมา”ผมมองไอ้ปั้นยืนหอบอยู่หน้าห้อง สงสัยมันจะรีบมา

“ผมไม่ค่อยสบายใจ”ผมหัวเราะทันที

“ไม่สบายใจเรื่อง?”ที่ไม่ได้มาหาผมแบบทุกทีหรือเพราะมันหลับเพลินกับเพื่อนของมันน่ะเหรอ

“ก็...”มันเกาต้นคอ ก่อนจะเบียดเข้ามาในห้องโดยที่ไม่ตอบคำถามอะไรทั้งนั้น ผมถอนหายใจปิดประตูตามหลัง

“คือผมไม่ได้นอกใจพี่ปลิวนะ”มันรีบออกตัว จนผมเผลอยิ้ม

“กูยังไม่ได้ว่าอะไรเลย”

“หน้าตาพี่มันฟ้อง”ผมยืนจ้องหน้าไอ้เด็กตัวโตอยู่นานสองนาน อยากรู้ว่ามันคิดอะไรอยู่

“เหรอ”ผมไหวไหล่

“เมื่อเย็นผมออกไปเมากับลูกพี่มา ฟื้นมาอีกทีก็มาอยู่ที่ห้องแล้ว แต่ที่ตกใจกว่าคือเพื่อนผมมันนอนอยู่ด้วย”มันอธิบายด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง มันดูไม่ค่อยสบายใจ

“กูไม่ได้ติดใจอะไรสักหน่อย”ถึงจะสงสัยว่าเพื่อนประเภทไหนก็เถอะ

“จริงอ่ะ แน่นะ ผมรู้สึกไม่ค่อยดียังไงก็ไม่รู้”ไอ้ปั้นเงยหน้ามองผมเหมือนต้องการมองให้ทะลุว่าผมคิดยังไงกันแน่

“เออ กูง่วงจะนอนแล้ว”

“ผมขอค้างด้วยนะ”มันทำหน้าอ้อนไม้อ้อนมือ

“ตามใจ”เชื่อว่าถ้าผมไล่ มันก็คงไม่ไปอยู่ดี ระหว่างที่กำลังใส่เสื้อผ้ามันก็เข้ามาสวมกอดจากด้านหลัง

“พี่ปลิว ผมรู้ว่าพี่ไม่โอเคกับเรื่องนี้...แต่ผมจะพยายาม”ไอ้ปั้นกระซิบเบาๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเรื่องนี้ที่มันว่าหมายถึงเรื่องไหน ผม
ได้แต่ปล่อยให้มันซุกหน้ากับแผ่นหลังอยู่นานจนเริ่มเมื่อย

“กูง่วงแล้ว”นั่นแหละ มันถึงได้ปล่อย

ผมพาตัวเองมาที่เตียงนอน จ้องมองความมืดอย่างไร้จุดหมายในขณะที่ไอ้ปั้นเข้าไปอาบน้ำ นอนฟังเสียงน้ำไหลจนเผลองีบไป สะดุ้งตื่นอีกทีก็พบว่าไอ้ปั้นกำลังนอนกอดผมอยู่ สัมผัสได้ชัดเจนว่ามันกำลังเปลือยเปล่า

“มึงมาหากูเพราะเรื่องนี้เหรอ”

“คือ...”ไอ้ปั้นอึกอัก

“แต่ช่างเถอะ กูชินแล้ว”ผมกะจะมองข้ามแล้วเชียว ไอ้เรื่องแบบนี้ผมเจอมาตั้งแต่สมัยคบกับแฟนเก่าแล้ว   ไม่รู้ทำไมถึงได้เจอแต่คนแบบนี้ ดวงผมไม่ดีเอาซะเลย จู่ๆผมก็เจ็บแปลบในอกเมื่อคิดได้ว่ามันก็หวังแค่เซ็กซ์เหมือนคนอื่นๆ

“เฮ้ย พี่ปลิว ผมขอโทษ”มันพึมพำตอบกลับมา ไม่รู้ว่ามันทำสีหน้าแบบไหน แต่เสียงของมันไม่ดีเอาซะเลย

“กูไม่คิดมากหรอก”ผมพลิกตัวไปหาอีกฝ่าย มันดูเหมือนเด็กๆที่กำลังทำผิด

“พี่เจอคนไม่ค่อยดีมาเหรอ”

“ก็ไม่เชิง แต่กูผิดที่ง่ายเอง”

“พี่อย่าพูดแบบนี้สิ ผมไม่ชอบเลยว่ะ”ไอ้ปั้นขมวดคิ้วมุ่นประกอบ มันเงียบไปอึดใจหนึ่ง

“พี่ปลิว...ความจริงแล้วผมโกหกพี่”ผมเลิกคิ้ว ไม่รู้สึกแปลกใจเท่าไหร่

“เรื่องไหนล่ะ”

“เมื่อคืน...ผม...ออฟเด็กมา”มันบอกเสียงสั่น แต่ผมใจแกว่งอย่างแรง อืม.....

“ผมอยากพิสูจน์ตัวเอง...”

“....”ผมเงียบไปเพราะอับจนคำพูด ทำไมผมถึงเสียใจนักก็ไม่รู้

“แต่ผมก็ทำไม่ได้ กลัวเสียหน้า มันก็เลยแค่ เอ่อ...แค่อมให้”ผมควรจะรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ดี ใจหนึ่งก็อยากขำ แต่ก็ขำไม่ออก จู่ๆความรู้สึกหวงเป็นเจ้าเข้าเจ้าของก็รุนแรงขึ้นมาดื้อๆ

มันทำบ้าอะไรของมัน

“พี่โกรธผมไหม”ไอ้ปั้นยกมือมาลูบใบหน้าของผมอย่างเบามือ

“เออ กูโกรธ”ผมบอกไปตามตรง

“แต่มึงจะทำอะไรก็เรื่องของมึงเถอะ กูไม่ใช่แฟนมึงนี่ คงไม่มีสิทธิ์ห้าม”

“งั้นพี่มาเป็นแฟนผมสิ ผมสัญญาจะดูแลพี่เอง”มันพูดเสียงเด็ดเดี่ยว แววตามุ่งมั่น จนผมนึกว่ามันจะไปออกรบหรืออะไรสักอย่าง

“กูไม่แน่ใจ”ผมปอดแหกขึ้นมากะทันหัน กลัวเจ็บแบบที่แล้วๆมา

“ผมไม่ทำให้พี่เสียใจหรอก สัญญา”มันขยับเข้ามาใกล้สีหน้าอ้อนวอน

“อย่าสัญญา ถ้าวันไหนมึงทำไม่ได้จะเสียหมาเอา”เชี่ยโตก็เคยสัญญาว่าจะดูแลผมเหมือนกัน แล้วเป็นไง

“นะ เป็นแฟนกับผมนะพี่ปลิว”ไอ้ปั้นเขย่าแขนผมเบาๆ ตั้งแต่เกิดมา...ผมเพิ่งเคยโดนขอเป็นแฟนแบบนี้ สรุปไอ้ปั้น...มันกู่ไม่กลับแล้วรึไง? ผมจะได้ทำใจ

“ผมพยายามฝึกอยู่ จะเป็นแบบที่พี่ชอบ”มันพึมพำ เมื่อผมหันไปมองมันก็หน้าแดงน้อยๆ ผมขำหึ เออ จะว่าไปก็น่ารัก แต่ชมได้ไม่เต็มปากเท่าไหร่

“ไอ้ปั้น...ถ้ามึงจะฝึก...มาฝึกกับกูนี่ อย่าไปฝึกกับคนอื่น”ผมว่าผมหวงมันว่ะ อาจจะหวงก้างก็ได้

“ผมไม่อยากให้พี่คิดอะไรแย่ๆอีก”

“กูไม่คิดหรอก มึงเชื่อกู ถ้ากูรู้ว่ามึงไปออฟเด็กมาอีก มึงไสหัวไปไกลๆตีนกูได้เลย กูอยากได้ความซื่อสัตย์”ที่ผ่านมาผมไม่เคยได้รับเลย

“จะดีแน่เหรอ...”ไอ้ปั้นดูลังเล แต่ผมมองออกว่ามันกำลังเนื้อเต้น

“กูจะเป็นแฟนมึงก็ได้แต่...”ผมหรี่ตามองไอ้เด็กตัวโต

“ครับ?”มันทำหน้าสงสัย

“มึงต้องแมนเพื่อกู”ก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบไหนแต่...ถ้ามันถึงเวลาที่ผมต้องมาดูแลใครสักคน ผมจะพยายามก็แล้วกัน เอาเถอะ
มันชื่อไอ้ปั้นนี่นะ ผมก็ต้องปั้นมันให้ได้สิ!

“เอ่อ ครับ”มันตอบเสียงไม่มั่นใจ ไอ้ปั้นดูเก้ๆกังๆเงอะๆงะๆ ไม่ทันใจเอาซะเลยจนผมต้องทำอะไรสักอย่าง ไอ้ปั้นนอนหงายมอง
ความมืดอย่างเลื่อนลอย สีหน้าดูเป็นกังวล

“ที่ผมทำเมื่อกี้ พี่รู้สึกดีรึเปล่า”มันตัดสินใจถามในที่สุด

“ก็…ดี”ผมโกหก หรือผมตั้งมาตรฐานสูงไป ก็อย่างว่าแหละ แฟนเก่าแต่ล่ะคนก็แซ่บๆทั้งนั้น ไอ้ปั้นเลยดูเหมือนแกงจืดเย็นชืด พูดยั่วให้มันโกรธดีไหม เพื่อมันจะหน้ามืดจับผมปล้ำ เผื่อจะเร้าใจขึ้นมาบ้าง ผมเหลือบมองมันอีกครั้งก่อนจะพึมพำพอให้มันได้ยิน

“ไร้น้ำยา”ผมกลั้นใจพูดออกไป ไม่กล้ามองหน้ามันเลย เกิดความเงียบขึ้นอย่างน่ากลัว ผมค่อยๆหันมอง ไอ้ปั้นนิ่งเงียบไปแล้ว มันพลิกตัวนอนหันหลังให้ผม ถึงมันจะตัวใหญ่ แต่ตอนนี้มันดูตัวหดเล็กลง ผมขยับตัวอย่างไม่สบายใจ

“ปั้น กูพูดเล่น”ผมโน้มตัวไปใกล้ๆมัน เห็นมันนอนนิ่งแบบนี้แล้วสงสาร

“…”

“ไอ้ปั้น กูแค่แซวขำๆ…”คำพูดขาดหายไปเมื่อผมเห็นชัดว่าอีกฝ่ายถึงกับน้ำตาตก อ้าวเฮ้ย…ผมทำตัวไม่ถูก

“กูขอโทษ”ผมเขย่าไหล่มัน ไอ้ปั้นแค่สูดจมูกฟืดฟาด ผมเอื้อมไปหยิบทิชชูส่งให้มัน ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสามารถทำให้ผู้ชาย
ตัวโตๆร้องไห้ได้ แต่เรื่องนี้มันก็ค่อนข้างอ่อนไหว ผมเกาต้นคออย่างว้าวุ่น

“ปั้น”ผมดึงให้มันนอนหงาย มันขืนตัวนิดหน่อย

“ผมมันไร้น้ำยาจริงๆนั่นแหละ”มันพึมพำเบาๆ ผมมองหน้าของไอ้เด็กตัวโตแล้วถอนหายใจ ผมชอบนิสัยบางอย่างของมันนะ และ
ก็ไม่อยากให้เรื่องของผมกับมันจบลงเพราะเรื่องบนเตียง ถึงผมจะเคยพูดขู่มันไปก็เถอะ ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะก้มไปจูบไอ้ปั้นเบาๆ มันรั้งต้นคอเข้าหา ตะโบมจูบเหมือนต้องการบอกว่ามันไม่ไร้น้ำยา ไหนๆก็ไหนๆ…ผมจะลองอีกสักครั้งก็แล้วกัน ผมขยับมาทาบทับอีกฝ่ายอีกครั้ง ไอ้ปั้นทำหน้าตื่นๆ

“พี่จะทำอะไร”

“มึงชอบไม่ใช่เหรอ”คือผมก็ดูออกว่าที่มันทำให้ผมมันไม่ค่อยสุดเท่าไหร่ มันอาจจะชอบแบบนี้…..

“ไม่เอาหรอก ถ้าพี่ไม่มีความสุข ผมก็ไม่อยาก--”

“กูจะลอง”ผมพูดขัดมัน ลองดูอีกสักตั้งถ้าผมปิ๋วกลางคัน ก็เป็นอันว่าจบ ผมกับมันอาจเข้ากันไม่ได้ จู่ๆผมก็นึกไปถึงไอ้ฟิก สภาพ
มันจะเหมือนไอ้ปั้นรึเปล่า… ไม่…ผมจะไม่ทำลายภาพไอ้ฟิกที่ผมเคยเห็นเด็ดขาด ครั้งนี้ไอ้ปั้นมันพยายามช่วยผมเต็มที่ ไม่รู้ว่าอยากให้ผมรู้สึกดีไปด้วยหรืออยากโดนกันแน่

“พี่ปลิวไม่ต้องห่วงนะ ผม…”มันดูเขินอายก่อนจะยกตัวมากระซิบใกล้ๆใบหูของผม

“ผมก็จะทำให้พี่มีความสุขเหมือนกัน พี่จะได้คบกับผมอย่างสบายใจ” 

สรุปสถานะของผมกับไอ้ปั้นก็ดูป่วงๆ ผลัดกันบางเวลา บอกแล้วว่าดวงของผมเจอแต่คนแปลกๆจริงๆ ไม่คิดว่าชีวิตจะกลับตาลปัตรขนาดนี้







************************************







หลังจากที่ตกลงกันได้แล้ว(คิดว่างั้นนะ) ไอ้ปั้นก็พยายามทำคะแนนอย่างสม่ำเสมอ มันคะยั้นคะยอให้ผมย้ายไปอยู่กับมันที่หอ

“พี่ไปอยู่กับผมดีกว่า”

“กูไม่อยากเกาะมึง”รู้สึกแบบนั้นจริงๆ

“ไม่เกี่ยว เราเป็นผัวเมียกันแล้วนี่”ผมเหลียวมองคนพูด มันทำหน้าซื่อๆจนผมอ่อนใจ ต้องถหามมันอีกรอบ

“แล้วใครผัวใครเมีย”สิ้นคำถามมันก็เขิน

“ก็...โหย พี่ปลิวถามตรงๆแบบนี้ผมก็อายเป็นนะ”

“อายอะไรล่ะ”

“เออๆ พี่ปลิวเป็นเมียผม พอใจยัง”มันพูดอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่บางทีมันไม่ค่อยได้ทำหน้าที่เท่าไหร่ ผมไม่ค่อยชินเวลาที่เห็นมันเขินเท่าไหร่ หน้ามันจะแดง มือไม้อยู่ไม่สุข คิดไปคิดมาก็อยากได้ยาปลูกผมจริงๆ สงสัยผมต้องลดนิสัยห้าวๆลงบ้าง แต่นึกภาพไอ้ป่านแล้วก็ไม่ไหว ให้ผมจริตจกร้านแบบมัน ก็ทำไม่ได้อีก

“งั้นเอาแบบนี้...ค่าห้อง หารกันคนล่ะครึ่ง พี่โอเคไหม”ไอ้ปั้นกลับมาเกลี้ยกล่อมผมอีกรอบ

“ถ้าแบบนี้ก็โอเค”ผมเองก็ไม่ค่อยอยากอยู่คอนโดของพี่ภูสักเท่าไหร่ วันนั้นก็เลยจัดการย้ายของออกจากห้องพี่ภู หอของไอ้ปั้น
ไม่ใหญ่มาก รวมข้าวของของผมด้วยห้องก็เลยดูคับแคบ อาจเพราะของที่ไม่เป็นระเบียบของเจ้าของห้องด้วย

“มึงเคยเก็บกวาดห้องไหมเนี่ย”ผมมองหาไม้กวาด ไอ้ปั้นวางกระเป๋าของผมลงบนเตียงที่มุมห้อง ก่อนจะส่ายหน้า

“ผมไม่ค่อยมีเวลาอ่ะ”

“ยุ่งอะไรนักหนา”ก็พอจะรู้นอกจากเรียน มันก็ชอบไปเมาบ่อยๆ แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ผมทนได้ ถ้ามากกว่านี้ก็ต้องคุยกันอีกที

“พี่ไม่ต้องทำหรอก เดี๋ยวผมทำเอง”มันรีบปรี่มาหาเมื่อเห็นว่าผมกำลังเก็บกวาดห้องให้มัน

“กูไม่ชอบอยู่ห้องรกๆ”ผมดันตัวมันออก

“พี่ไปนั่งเถอะ เดี๋ยวผมทำเอง”มันแย่งไม้กวาดไปจากมือของผม

“เออ กูจะช่วยก็ไม่ชอบ”ผมจึงย้ายตัวเองไปเก็บกระเป๋า

“ผมพูดไว้แล้วว่าจะดูแลพี่ให้ดี”มันหันมายิ้มให้ผม ระหว่างที่กวาดห้องจนเศษฝุ่นฟุ้ง ผมล้วงเจอกุญแจคอนโดของพี่ภูพอดี ยังไม่ได้เอาไปคืนเลย เบอร์พี่ภูก็ไม่มี  ผมเลยโทรหาไอ้ฟิกแทน ปลีกตัวออกไปคุยนอกระเบียง ปล่อยให้ไอ้ปั้นจัดห้องต่อไป

[ว่าไง ปลิว] มันรับสายด้วยเสียงแช่มชื่น

“คือกูจะเอากุญแจห้องคืนพี่ภู ตอนนี้มึงอยู่หอรึเปล่า”

[อ้าว แล้วมึงหาที่อยู่ใหม่ได้แล้วเหรอ] มันถามเสียงแปลกใจ

“อืม ได้แล้ว”

[เสียงมึงแช่มชื่นแบบนี้ แสดงว่ามีอะไรดีๆล่ะสิ] ผมยิ้มเมื่อหน้าไอ้ปั้นลอยเด่นมา

“ก็นิดหน่อย”จะดีกว่าถ้ามันแซ่บกว่านี้ แต่ไม่เป็นไรค่อยฝึกๆมันไป แต่กลัวมันจะกู่ไม่กลับ ผมก็ไม่กล้าถามอีกรอบว่ามันชอบแบบไหนมากกว่ากัน กลัวคำตอบของมันจริงๆ

[เออ เดี๋ยวมึงเอากุญแจมาให้กูเลยก็ได้ กูว่าง]

“โอเค”นัดแนะมันเสร็จสรรพ ก็วาง เจอเข้ากับสายตาจดจ้องของไอ้ปั้นพอดี

“คุยกับใคร”มันถามเสียงห้วนๆ จนผมหัวเราะ

“ไอ้ฟิก”มันย่นคิ้วทันที

“โทรหาทำไมอ่ะ”

“จะเอากุญแจห้องไปคืน”ผมเก็บโทรศัพท์ เบียดมันเพื่อกลับเข้าไปในห้อง

“อ้อ…เดี๋ยวผมไปส่ง”ผมมองสีหน้าของมันแล้วก็อยากขำ ไม่รู้ว่าคิดอะไรของมันอยู่

ระหว่างที่ลงมาจากห้องก็เจอเข้ากับเพื่อนไอ้ปั้นพอดี

“อ้าว ใครวะ”เพื่อนมันมองผมงงๆ ไอ้ปั้นยิ้มกว้าง

“แฟนกูเอง”มันตอบด้วยเสียงภูมิใจเหมือนเด็กที่มีของเล่นดีๆอวดเพื่อน ผมส่งยิ้มให้เพื่อนมัน

“แหม ใช่คนที่มึงคอยไปเฝ้ารึเปล่า”

“เออ นั่นแหละ”ผมถูจมูกไปมาพวกมันคุยกันเหมือนผมไม่ได้ยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้

“ดีใจด้วยเพื่อน”เพื่อนไอ้ปั้นตบบ่ามันเสียงดัง ทำไมต้องทำท่าทางดีใจกันขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้ เล่นเอาผมทำตัวไม่ถูกเลย


ไอ้ปั้นพาผมมาส่งที่หอของไอ้ฟิก เจ้าตัวนั่งรออยู่ที่ม้าหินอ่อนแล้ว มันมองผมกับไอ้ปั้นด้วยสายตาสงสัย เมื่อผมเข้าไปใกล้มันก็ยิงคำถามทันที

“มันเป็นแฟนใหม่มึงเหรอ”ไอ้ฟิกหันมองไอ้ปั้นที่นั่งรออยู่ที่รถ ก่อนจะกลับมามองหน้าผม

“อืม เพิ่งคบได้ไม่นาน”ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง ผมส่งกุญแจคืนให้มัน

“กูดีใจนะที่มึงเปิดใจอีกครั้ง ไอ้ปั้นก็ดูใช้ได้ แต่มึงต้องระวังๆไว้หน่อย มันอยู่แก๊งอันธพาลด้วย”ไอ้ฟิกเตือน

“เออน่า ไม่ต้องห่วงหรอก”ผมมองหน้าอดีตกิ๊ก มีคำถามผุดขึ้นมามากมาย แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง ไอ้ฟิกเลิกคิ้วมองผมเหมือนจับ
สังเกตุได้

“เป็นไร มีอะไรก็พูดมา ตอนนี้กูกำลังว่างๆ”มันดูอารมณ์ดี

“ก็…คือ กูแค่ถามเฉยๆนะ อย่าโกรธกู”ผมออกตัวไว้ก่อนจนไอ้ฟิกย่นคิ้ว

“เออ แล้วมึงจะถามอะไรล่ะ”

“มึงรู้สึกยังไงที่ เอ่อ…”ผมเหลียวมองไอ้ปั้น ก่อนกลับมามองไอ้ฟิก

“มึงเปลี่ยนตำแหน่งแล้วรู้สึกดีไหม”ผมกลั้นใจถามออกไป ไอ้ฟิกชะงักไปทันที ถ้าหน้ามันสามารถระเบิดออกมาได้ ป่านนี้คง
ตูมตามไปแล้ว มันขึงตามองผม

“ถามเชี่ยไรของมึงเนี่ย เดี๋ยวยันโครมเลย”ไอ้ฟิกมองหน้าผมอย่างหงุดหงิด ก่อนที่มันจะเร่งรีบกลับเข้าไปในหอ ผมหัวเราะไล่หลัง รู้สึกว่ามันน่ารักขึ้น ไม่ได้ห่ามแบบแต่ก่อนแล้ว ….ผมกลับไปมองไอ้ปั้นอีกครั้ง

โอเค ผมจะพยายามปรับตัวและทำใจให้ชินก็แล้วกันว่าไอ้หมีตัวโตของผมมันไม่แมน 











TBC.
ดูๆไปปั้นมันก็น่ารักนะ  :laugh: เรื่องของคู่นี้พยายามไม่ยัดNCเยอะ ไว้ค่อยจัดเต็มทีหลัง ขอบคุณที่ติดตามค่ะ   :กอด1:




ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ในที่สุดก็ลงตัวเนอะ. ลุ้นคู่นี้มาตลอดเลย
แมนเพื่อพี่ อิอิ เอาเหอะ เอาเท่าที่สบายใจ
สุดท้ายมันก็เป็นเรื่องของคนสองคนที่จะตกลงกันเนอะ  :pig4:    :L2:   
ฟิกเขินอีกแล้ว 555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ภาพและบรรยากาศแปลกๆนั้นลอยมาเลย

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด