ขอโทษที่หายไปนาน กลับมาต่อให้แล้วนะจ้ะ
ตอนที่ 19 Part 1/2 ไอ้เต้มาส่งฉันที่สนามกีฬา เราสองคนล่ำลากัน แล้วไอ้เต้ก็ขับรถกลับ ส่วนฉันก็เดินมาขึ้นรถและขับไปที่บ้านของไอ้โชค ให้ตายสิ นี่แค่หกโมงครึ่งเอง ทำไมมันมืดเร็วจังวะ ฉันขับรถมาจนถึงจุดหมายและจอดรถมอไซต์เอาไว้ข้างๆ รถมอไซต์ไอ้โชค เจ้าของบ้านเดินออกมาต้อนรับพอดี เดินยิ้มมาเชียว
“ ยิ้มไร ”
“ เปล่า ป่ะเข้าบ้านกัน ”
“ ก็ไปดิ ”
เจ้าบ้านที่ยังยิ้มไม่หุบเดินนำหน้าพาฉันเข้าไปในบ้านจนถึงโต๊ะอาหาร เจอสาวน้อยน่าตาน่ารักคนนึงนั่งอยู่ก่อนแล้ว น้องสาวยกมือไหว้พร้อมกับกล่าวสวัสดี และยิ้มให้ ฉันทักทายกลับและยิ้มให้เช่นกัน อาหารบนโต๊ะมีอยู่สี่ห้าอย่าง น่าตาน่ารับประทานทั้งนั้น ทำเอากรดในกระเพาะอาหารเริ่มทำงานทันที เพราะตอนอยู่ที่บ้านไอ้เต้ก็ไม่ได้กินอะไรรองท้องเลย ความหิวมาเยือนสุดๆ เลยตอนนี้
“ ป้าเบซี่ไปไหนอะ ” ฉันมองดูรอบๆ บ้านไม่เจอป้าเบซี่ จึงถามออกไปแบบนั้น
“ ทำกับข้าวเสร็จก็เลยขึ้นไปอาบน้ำ สักพักคงลงมาแหละ ฟิล์มหิวรึยัง ป้าบอกถ้าหิวก็กินกันก่อนได้เลยนะ ”
“ ไม่หละ รอป้าเบซี่ก่อนสิ ทำแบบนั้นเสียมารยาทแย่เลย ”
“ พี่ฟิล์มนี่น่ารักจังเลยนะคะ เห็นพี่โชคพูดถึงทุกวัน เพิ่งจะได้เห็นตัวจริงก็วันนี้ หนูไม่แปลกใจเลยคะ ว่าทำไมพี่ชายของหนูถึงได้ชอบพูดถึงพี่ทุกวัน ” สาวน้อยพูดและยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ ทุกวันเลยหรอจ้ะ ” ฉันถามอย่างสงสัย อะไรจะเวอร์ขนาดนั้น
“ ถ้าไม่เชื่อ ลองถามพี่ชายหนูดูสิคะ ” เด็กน้อยยิ้มและหันไปมองพี่ชายของตน ก่อนที่ ฉันจะหันมามองคนข้างๆ
“ ก็....... ไม่ทุกวันขนาดนั้นหรอก แค่....เกือบทุกวันเอง ” ไอ้โชคยิ้มอายๆ
เอาจริงๆ ก็รู้สึกดีใจนะ ที่เขาพูดถึงเราบ่อยๆ ไม่รู้สิ มันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เรานั่งรอป้าเบซี่ นั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย แต่ก็สนุกดี เพราะทั้งไอ้โชคและน้องสาวพูดเก่ง คุยเก่งมาก เข้ากับฉันที่เป็นคนชอบพูดได้เป็นอย่างดีเลยแหละ ซักพักนึงป้าเบซี่ก็มาถึงโต๊ะอาหาร ฉันยิ้มให้ป้าเบซี่ แล้วยกมือไหว้พร้อมกับกล่าวสวัสดี ป้าเบซี่ยิ้มกลับ สายตาที่ทอดมารู้สึกได้ถึงความรักความเอ็นดู เราทักทายกันนิดหน่อย แล้วรับประทานอาหารร่วมกันจนอิ่ม
“ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ดูน่ารักขึ้นตั้งเยอะเลยนะเรา ” ป้าเบซี่เอ่ยชม ฉันยิ้มให้แล้วตอบออกไป
“ ไม่ขนาดนั้นหรอกคะ แต่ก็ต้องขอบคุณป้าเบซี่มากๆ เลยนะคะ ที่ให้เคล็ดลับความสวยความงามกับหนู ”
“ ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ มันเป็นเคล็ดลับความสวยของพวกเราอยู่แล้ว ถึงจะไม่รู้วันนี้ แต่วันข้างหน้าก็ต้องรู้จากคนอื่นอยู่ดี ว่าแต่ น่ารักขนาดนี้ มีหนุ่มๆ มาจีบบ้างรึยัง ”
“ เยอะครับ คนสวยก็เงี๊ยะ ” ฉันหันไปมองหน้าคนพูด ที่ตอนนี้กำลังมองหน้าฉันอยู่เหมือนกัน
“ แล้วคนหล่อ ไม่มีสาวมาติดงอมงอมเลยรึไง ” ฉันจิกกัดมันคืนบ้าง
“ ก็บอกแล้วไงว่าของเพื่อน ไม่ใช่ของโชคสักหน่อย หึงอะดิ ”
“ เพื่อนนะ ไม่ใช่แฟน ทำไมต้องหึงด้วย ”
“ พอเถอะจ้ะ เดี๋ยวทะเลาะกันยาว หนูฟิล์มไปนั่งดูทีวีกับป้าดีกว่า ดูทีวีไปคุยกันไป ป้าจะได้หายคิดถึง โชคกับน้องล้างจานเสร็จแล้วค่อยตามไปนะ ”
“ ครับ/คะ ” สองพี่น้องขานรับเป็นเสียงเดียวกัน
---------------------------------------------------------------------
เราสองคนนั่งดูทีวีด้วยกันคุยกันไป คุยกันหลายเรื่อง แต่เรื่องหลักๆ ก็จะเป็นเรื่องความสวยความงามซะมากกว่า ป้าเบซี่แนะนำให้ฉันบำรุงผิวกายด้วยโลชั่นและบำรุงผิวหน้าด้วยครีม แนะนำมาหลายยี่ห้อ คุยกันอยู่ไม่นานไอ้โชคกับน้องสาวก็มานั่งแจมร่วมสนทนาด้วย ป้าเบซี่ก็เล่าเรื่องสมัยที่ตัวเองเด็กๆ เป็นกะเทยหัวโปกให้ฟัง ฟังแล้วขำ มีเรื่องฮาๆ ให้ได้หัวเราะไม่หยุด เรานั่งคุยกันเพลินจนเวลาล่วงเลยไปนานเลยทีเดียว เผลอมองดูนาฬิกาอีกที เฮ้ย!! สามทุ่มครึ่ง
“ ป้าเบซี่คะ คือ... ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว หนูขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ ”
“ อ้าว จริงสิ ” ป้าเบซี่มองดูเวลาบนนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ติดอยู่ที่ผนังบ้าน
“ สามทุ่มครึ่งแล้วหนิ กลับบ้านค่ำๆ มืดๆ แบบนี้มันอันตรายนะ ป้าเป็นห่วง ค้างที่บ้านป้าก่อนไหม พรุ่งนี้ค่อยกลับ ”
“ แต่ว่า...... ” ฉันไม่ทันจะได้อธิบายอะไร เสียงของไอ้โชคก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ
“ นอนนี่แหละฟิล์ม เดี๋ยวพรุ่งนี้โชคไปส่ง ”
ฉันยังไม่ตอบตกลง เงียบไปสักพักนึง ใช้เวลาครุ่นคิดว่าจะกลับบ้านหรือนอนค้างที่บ้านไอ้โชค ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฉันคงตอบตกลงไปอย่างง่ายดาย แล้วตอนนี้หละ ฉันยังกลัวอยู่อีกหรือเปล่า ตอนนี้ฉันรู้สึกกับไอ้โชคยังไงกันแน่ ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ
“ ถ้าฟิล์มไม่สบายใจ นอนกับป้าก็ได้นะ ”
“ ขอบคุณคะ แต่.....หนูไม่รบกวนป้าหรอกคะ หนูนอนกับโชคก็ได้ ”
“ จริงหรอฟิล์ม ” ไอ้โชคพูดสวนขึ้นและยิ้มอย่างพอใจ
“ ทำไมหละ เพื่อนกัน นอนด้วยกัน มันแปลกตรงไหน ”
“ ไม่แปลก ไม่แปลกเลย ”
“ ป่ะ งั้นเราก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำนอนกันได้แล้ว โชคหาเสื้อผ้าให้หนูฟิล์มใส่ด้วยนะ ป่ะหลานสาวคนเก่งของป้า เราไปกันเถอะ ”
-----------------------------------------------------------------
หลังจากที่ฉันอาบน้ำเสร็จแล้ว ก็ถึงคราวเจ้าของห้อง ตอนนี้ฉันอยู่ในห้องไอ้โชคคนเดียว ยังตาสว่างอยู่เลย ไม่มีท่าทีจะง่วงนอนซะอย่างนั้น เลยไปนั่งเล่นคอมพิวเตอร์ กดเล่นไปเรื่อย จนกระทั่งเจ้าของห้องเดินเข้ามาในห้อง ฉันหันไปดู เฮ้อ.... โล่งอก นึกว่าจะเป็นเหมือนคราวที่แล้ว คนบ้าอะไร ใส่แต่บ็อกเซอร์ ไม่เกรงใจกันบ้างเลย คราวนี้ชุดนอนมาเป็นชุดเลยแฮะ ดูๆ แล้ว ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ
“ มองอะไรหรอ ” ไอ้โชคหันมาเห็นฉันที่กำลังมองดูมันอยู่พอดี
“ เปล่า ไม่มีอะไร ” ปฏิเสธหน้าด้านๆ แล้วหันกลับมาสนใจคอมพิวเตอร์ต่อ ถึงแม้ในใจตอนนี้ จะสนใจอย่างอื่นมากกว่า
เสียงฝีเท้า กำลังเดินดุ่มๆ เข้ามา และหยุดอยู่ที่ด้านหลังของฉัน
“ ดูอะไรอยู่หรอ ”
“ ดูการ์ตูน เรื่องนี้สนุกมากเลยนะ เคยดูป่ะ ”
“ ไหน เรื่องอะไร ”
“ ก็เรื่อง..... ” ฉันกะจะหันมาบอกไอ้โชคที่ยืนอยู่ข้างหลัง แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น
ไม่รู้มันยื่นหน้าเข้ามาตอนไหน เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีฉันก็เกือบจะหอมแก้มมัน ปลายจมูกของฉันห่างจากแก้มของมันเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง และสิ่งที่น่าตกใจมากกว่านั้นก็เกิดขึ้นเมื่อไอ้โชคหันหน้ามาหาฉัน ทำเอาฉันสะดุ้งตกใจ ตาเบิกกว้าง ลมหายใจอุ่น กระทบใบหน้าจนสัมผัสได้ หัวใจเริ่มเต้นแรงและเร็วขึ้น ความรู้สึกร้อนผ่าวแผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าและหูทั้งสองข้าง จนต้องหลบสายตาของอีกคน
“ ไม่สบายหรอ ทำไมหน้าแดงจัง ”
“ ป่าว ช่วยเอาหน้าออกไปห่างๆ กว่านี้ได้ไหม ”
“ ทำไมต้องหลบสายตากันด้วยหละ เขินหรอ ”
“ พูดมากจริง รีบๆ เอาหน้าออกไปห่างๆ หน่อยได้ไหม ”
“ ไม่ชอบหรอ นึกว่าชอบซะอีก ” ฉันเงยหน้าขึ้น สบตากับคนที่อยู่ตรงหน้า
“ แล้วถ้าบอกว่าชอบ จะทำยังไงต่อ ”
“ อยากรู้จริงหรอ ว่าจะทำยังไงต่อ ”
“ เปล่า ก็แค่ถามดูเล่นๆ โชคเอาหน้าออกไปห่างๆ ฟิล์มได้แล้ว ” ไอ้โชคยิ้ม ค่อยๆ ผละหน้าออกห่าง และหันกลับไปที่หน้าจอคอมเหมือนเดิม
ความจริง ฉันก็ชอบนะ ความรู้สึกแบบนี้ แต่ถ้าจะให้มีอะไรเกินเลยมากกว่านี้ บอกตามตรง ยังไม่พร้อม คนไม่เคย มันก็ต้องกลัวเป็นธรรมดาแหละ เฮ้อ....... ฉันนี่มัน อ่อนหัดจริงๆ เลย
เวลาล่วงเลยไปถึงเที่ยงคืน การ์ตูนที่ดูก็จบพอดี เราสองคนเริ่มง่วง จึงพากันเข้านอน ตอนนี้ในห้องมืดมากเพราะไฟในห้องถูกดับลงไปแล้ว เราสองคนขึ้นนอนบนเตียงเดียวกัน มีเพียงหมอนข้างที่คั่นกลางเอาไว้
-------------------------------------------------------------
เช้าวันจันทร์มาถึงอีกแระ สิ่งที่ต้องทำคือเรียน แล้วก็เรียน แทนที่จะตั้งใจเรียน ฉันกลับนั่งเหม่อลอย คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ก็เมื่อวานหนะสิ ไอ้เต้โทรมาตอนสองทุ่ม บอกพรุ่งนี้เจอกันที่สนามกีฬาอำเภอ เฮ้อ... กลุ้ม กลุ้ม กลุ้ม จะอะไรกันนักกันหนากับชีวิตฉันเนี่ย แล้วฉัน ให้มันมาบงการชีวิตของตัวเองตั้งแต่ตอนไหน ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจตัวเอง
ถึงเวลาพักเที่ยง ได้มานั่งตากแอร์เย็นๆ ที่ห้องสมุดหน่อย ช่วงนี้อากาศร้อนเป็นบ้า ต้องหาที่เย็นๆ ดับร้อน ก็ได้ที่นี่แหละ ทั้งเย็น ทั้งเงียบสงบ แถมยังฟุบหลับได้ไม่มีใครว่า กำลังจะเคลิ้มหลับอยู่แล้วเชียว ตัวป่วนก็มาจนได้
“ ฟิล์ม ช่วยไรหน่อยดิ ” ไอ้โชคนั่งลงตรงเก้าอี้ข้างๆ ฉัน
“ มีไร ง่วง จะงีบ ” ฉันพูดน้ำเสียงัวเงีย กึ่งหลับกึ่งตื่น
“ ช่วยทำโจทย์ข้อนี้หน่อย ครูบอกให้ส่งก่อนเลิกเรียน ช่วยหน่อยดิ นะๆ ”
“ มันยากขนาดนั้นเลยหรอ ถึงต้องให้ช่วย ปกติก็ทำได้ไม่ใช่หรอ ”
“ ปกติก็พอทำได้ แต่ข้อนี้ทำไม่ได้จริงๆ นะๆ ช่วยหน่อยน้า.... ”
ฉันเงยหน้าขึ้นมาดูโจทย์ในสมุดของไอ้โชค กลับเจอประโยคคำถาม ที่ทำเอาฉันถึงกับพูดไม่ออก “ อยากคบกับฟิล์มมากกว่าเพื่อนได้มั้ย ” ฉันหันกลับไปมองเจ้าของสมุดอีกครั้ง และต่อว่าทันที
“ นายเล่นบ้าอะไรหนิ ว่างมากขนาดนั้นเลย ”
“ ว่างหนะว่างคร้าบบบ... แต่เนี่ย ไม่ได้ล้อเล่น ”
“ แบบนี้เนี่ยนะไม่ได้ล้อเล่น แล้วเขาเรียกว่าอะไร ”
“ ก็.... จริงจัง จริงจังมากด้วย ”
คำตอบที่ได้ทำเอาฉันอึ้งถึงขั้นเอ๋อแดเก เบลอๆ คิดอะไรไม่ออก เหมือนสมองหยุดทำงานไปชั่วขณะ ก่อนจะดึงสติสตังค์กลับเข้าร่างได้ บ้าไปแล้ว ก็ไหนตอนแรก ตกลงจะเป็นเพื่อนกันแล้วไง ทำไมถึงได้กล้าทำอะไรแบบนี้อีกนะ ไอ้บ้า บ้าจริงๆ เลย
“ ได้ไหมฟิล์ม โชคสัญญา จะไม่ทำให้ฟิล์มเสียใจ ”
ฉันละสายตาจากคนตรงหน้า ก่อนจะส่ายหน้าไปมาเบาๆ แต่การส่ายหน้าของฉัน กลับไม่ใช่การปฏิเสธคำขอของไอ้โชค แต่หมายถึงความไม่แน่ใจ ไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง
“ โชค คือ.......... ” ยังไม่ทันจะพูดประโยคต่อไป ไอ้โชคก็ตัดบทขึ้นมาก่อน
“ ฟิล์มอย่าบอกนะ ว่าที่ผ่านมา ฟิล์มไม่รู้สึกอะไรกับโชคเลย โชคไม่เชื่อหรอก ”
“ ป่าว เราแค่ยังไม่แน่ใจในอะไรหลายๆ อย่าง ขอเวลาฟิล์มหน่อยได้ไหม ขอเวลาให้ฟิล์มได้รู้สึกมากกว่านี้ ให้ฟิล์มได้มั่นใจมากกว่านี้ แล้วฟิล์มจะให้คำตอบ ” เมื่อพูดเสร็จ ฉันจึงหันกลับมาสบตากับไอ้โชคอีกครั้ง
“ ได้สิ ฟิล์มขออะไร โชคให้ได้หมดแหละ แต่อย่าให้โชครอนานมากนะ สัญญา ”
“ อื้ม ไม่นานหรอก ก็แค่.. 2-3 ปี ”
“ โห.... นานเวอร์อะ ไม่เอา อย่าแกล้งกันดิ น้า...... นะ ” ดูมันทำหน้าเข้าสิ เรียกคะแนนสงสารได้ดีเยี่ยมเลยแหละ ไปเรียนการแสดงมาจากสำนักไหนหว่า น้ำเสียงนี่ออดอ้อนสุดฤทธิ์ ทำให้ฉันเผลอยิ้มกับภาพน่ารักๆ ที่อยู่ตรงหน้า
“ รู้แล้ว รู้แล้ว ไม่นานหรอก ” อีกฝ่ายได้คำตอบที่น่าพอใจ จึงยิ้มออกมา
“ สัญญาก่อน น้า.... นะ สัญญากันก่อน ” ประโยคขอร้องหรือเปล่าไม่รู้ มาพร้อมกับนิ้วก้อยที่รอเกี่ยวก้อยกับฉัน
ฉันยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวรั้งกับนิ้วก้อยของไอ้โชค ก่อนจะพูดออกไปว่า “ สัญญาคะ ” การทำสัญญาเสร็จสิ้นลงพร้อมกับรอยยิ้มของเราทั้ง 2 คน
การเรียนการสอนในสัปดาห์นี้ผ่านไปเร็วมาก ช่วงนี้ไอ้โชคตามติดฉันอย่างกับปาท่องโก๋ จนอิสายป่าน อิกระต่าย และแม่นางมายด์ถึงกับแซวว่าพวกเราตกลงปลงใจเป็นแฟนกันแล้ว ทั้งๆ ที่ความจริง มันยังไม่ได้ไปถึงขนาดนั้นก็เหอะ แต่ก็มีความสุขดี ที่มีคนมาคอยดูแลเอาใจใส่ทุกวันแบบนี้ ไอ้โชคก็ไม่ได้ดูเลวร้ายอะไรหรอก จัดอยู่ในระดับดีถึงดีมากด้วยซ้ำ ทำให้ความรู้สึกดีๆ ค่อยๆ ก่อตัวมากขึ้นทุกวัน
ส่วนไอ้เต้หนะหรอ หายเงียบไปทั้งอาทิตย์เลยแหละ แต่ก็....ช่างมันเหอะ แต่เสาร์นี้ ฉัน อิกระต่าย กับแม่นางมายด์ ต้องไปทำรายงานบ้านไอ้โต๊ดด้วยแหละ รายงานกลุ่มใหญ่ กลุ่มละ 8 คน เพื่อนๆ จึงลงมติกันว่าอยากไปทำรายงานบ้านไอ้โต๊ด ฉันก็เลยต้องไหลตามน้ำไปกับเค้าด้วย
แต่แล้ว สิ่งที่ไม่คาดฝันก็มักจะเกิดขึ้นเสมอ...................
....................................................................................
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามจร้า
แล้ววันหลัง จะเอาตอนต่อไปมาอัพให้อ่านกันอีกนะจ้ะ