Poppy Love The Series...รักใสๆ ของยัยกะเทยซ่าส์ ตอนที่ 19 Part 1/2 : 14/07/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Poppy Love The Series...รักใสๆ ของยัยกะเทยซ่าส์ ตอนที่ 19 Part 1/2 : 14/07/59  (อ่าน 33191 ครั้ง)

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
ค้างมากกกกกกกกกกกกก มาต่อด่วนนนนนนนนนน อย่าบอกนะว่าเป็นเต้อีกแล้ว เต้จะเอายังไง

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

        รอ  รอ  รอ   หน่อยนะ  ตอนต่อไปจะมาเร็วๆ นี้จร้า     :laugh:

        ดีใจที่ยังมีคนติดตามอยู่  นึกว่าจะหายไปหมดซะแล้ว     :hao5:

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
ใครอารายยังไงเอาฟิล์มไป

ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
ใครอ่ะ เต้หรอ :hao4:
ค้างค่ะ  :katai4:

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

         อัพดึกหน่อย  พอดีแฟนเค้าโทรมาปลุก  ไม่รู้จะโทรมาทำไมดึกๆ ดื่นๆ  ตาเบิกกว้าง  นอนไม่หลับซะงั้น   เลยเอานิยายมาลง  กลับไปข่มตานอนก่อนนะ  พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้า  บ๊ายยย บายยย   

...............................................................

ตอนที่  16 
 
   ฉันโดนไอ้เต้ลากมาที่ไหนก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ คือ  ที่นี่ดูเปลี่ยวมาก  เงียบและปลอดคน  แสงสว่างจากหลอดไฟส่องมาถึงแค่นิดเดียว   แต่ฉันก็ยังพอมองเห็นหน้าของอีกฝ่ายอย่างสลัวๆ   ถ้าแค่คุยกันทำไมต้องลากมาไกลผู้คนขนาดนี้ด้วย  อย่าบอกนะว่า  มันคิดจะทำอะไรมิดีมิร้าย  ม้ายยยนะ  ยังไงฉันก็ไม่ยอม คอยดู 

   “ มีอะไร  แล้วแกลากฉันมาที่นี่ทำไม  มืดก็มืด  คนก็ไม่มี  ฉันกลัวนะเว้ย ” ฉันทำท่าเอะอะโวยวาย

   “ กลัว  กลัวไร  กลัวผี  หรือกลัวว่ากูจะทำอะไรมึง  ”  ฉันถึงกับหน้าเหวอ  ในใจชักจะหวั่นๆ แล้วสิ  มันจะทำอะไรฉันหรือป่าวว้า   

   “ บ้าหรอ  ฉันก็กลัวผีสิยะ  แล้วทำไมฉันจะต้องกลัวแกด้วย ”

   “ กลัวทำไม  ดูสารรูปมึงก่อนเถอะ น่ากลัวกว่าผีอีก  กูว่าผีต้องกลัวมึงมากกว่า  ”  กรี๊ดด โดนผู้ชายปากสุนัขกัด เจ็บใจจริงๆ  คิดหาคำด่ามันไม่ออก   โมโหสุดๆ  แต่ก็ทำอะไรไม่ได้    เชิดใส่คะ  สะบัดหน้าหนีแรงๆ ไม่อยากเห็นหน้ามัน

   “ ที่กูลากมึงออกมานี่  กูมีเรื่องจะถาม ” 

   “ ก็พูดมาดิ ”  ฉันพูดน้ำเสียงไม่พอใจ   ก็แหงหละ  ลากออกมาด่าแบบนี้  เป็นใครก็คงไม่พอใจ 

   “ มึงก็หันหน้ามาคุยกับกูดีๆ หน่อยดิวะ  เออๆ  เมื่อกี้กูขอโทษละกัน  ไม่ได้ตั้งใจหวะ ”  ฉันหันกลับมาด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ  ก่อนจะต่อว่ามันออกไป 

   “ ไม่ได้ตั้งใจ  ด่ากันขนาดนั้น  ยังบอกว่าไม่ได้ตั้งใจอีกหรอ ”  ฉันเริ่มหัวเสียกับคำแก้ตัวของมัน 

   “ เออดิวะ  ก็กูหงุดหงิด  แล้วใครใช้ให้มึงไปยืนดูหมอลำกับไอ้นั่นสองต่อสอง  เห็นแล้วมันหงุดหงิดเว้ย ”  มันตะคอกเสียงดังใส่ฉัน  ทั้งตกใจ  ทั้งกลัว  แต่พอมันพูดจบ  ฉันกลับ งง  กับคำพูดของมัน 

   “ แล้วทำไมต้องหงุดหงิด ”  ฉันถามอย่างสงสัย   

   “ ไม่รู้โว้ยยย  ”  มันตะโกนใส่หน้าฉันซะเสียงดัง ทำเอาฉันตกใจไปอีกรอบ  ไอ้บ้าเอ้ย  อยากชกให้ปากแตกจริงๆ

   “ ช่างเหอะ  มีเรื่องที่จะคุยแค่นี้ใช่มั้ย  งั้นฉันขอตัวกลับก่อนหละ ”  ฉันหันหลังเดินห่างออกไปได้ไม่กี่ก้าว  ไอ้เต้ก็บอกให้หยุดซะก่อน 

   “ มึงหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ ”  จะอะไรกันนักกันหนาวะเนี่ย   ฉันหันกลับไป  แล้วมันก็เดินเข้ามาใกล้ฉันอีกครั้ง 

   “ มึงไม่ต้องกลับไปหามัน  แต่มึงต้องไปกับกู ”  พูดจบมันก็คว้าข้อมือฉันไปทันที 

   โดนมันลากไปอีกแล้ว  ฉันนี่ งง เป็นไก่ตาแตก  ตอนนี้เอ๋อแดกสุดๆ  ไอ้เต้มันทำบ้าอะไรของมันเนี่ย  ถ้าเกิดว่าเราไม่ได้เป็นเพื่อนกัน  ฉันต้องคิดว่ามันหึงฉันอยู่แน่ๆ เลย  โดนมันจับข้อมือเดินเข้าไปในงานแบบนี้  ก็อายคนอื่นเป็นเหมือนกันนะ  เดินเข้ามาในงานได้สักพักนึงแล้ว  ยังไม่มีวี่แววจะปล่อยมือฉันอีก 

   “ เฮ้ยแก  ปล่อยมือฉันได้แล้วมั้ง ” มันหยุดฝีเท้า  ทำเอาฉันหยุดเดินตามเกือบไม่ทัน  เกือบชนมันเข้าจังๆ แล้วมั้ยหละ  ไม่งั้นความซวยบังเกิดแน่ๆ   มันหันหน้ามาหาฉัน สีหน้าเคร่งขึม 

   “ ทำไม  มึงอายหรอที่เดินกับกู  แล้วตอนที่มึงเดินกับไอ้นั่น  มึงอายเหมือนตอนที่เดินกับกูมั้ย ”  ทำไมต้องทำหน้าตาจริงจังขนาดนั้นด้วยวะ 

   “ ถ้าเดินเฉยๆ  ก็ไม่อายหรอก  แต่เนี่ยเล่นจับมือถือแขนแบบนี้  ถามจริง  แกไม่อายคนอื่นบ้างหรอ ”  มันคงฉุกคิดขึ้นมาได้  มองดูมือที่กำลังกำข้อมือฉันแน่น  ก่อนจะค่อยๆ คลายมือที่กำอยู่แน่นออกอย่างช้าๆ    เง้ออ  เป็นอิสระซักที 

   “ เดินไปเป็นเพื่อนหน่อยดิ ” ประโยคขอร้องดูสมบูรณ์มากขึ้น เมื่อถูกพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน 

   “ ก็ได้  แต่เดินได้ไม่นานหรอกนะ  เพื่อนๆ ฉันรออยู่ ”  มันพยัคหน้าเบาๆ  เป็นอันรับทราบ 

   เราสองคนเดินเล่นกันในงาน  มีอะไรให้เล่นเยอะมาก ไอ้เต้พาฉันเดินไปดูร้านยิงปืน  ซักพักนึงก็บอกว่าอยากโชว์ฝีมือตัวเองให้ดูบ้าง  ไม่น่าเชื่อว่ามันจะยิงแม่นขนาดนี้  ได้ตุ๊กตามาตั้ง 5 ตัว  แล้วก็ให้ฉันหมดเลย  เห็นบอกว่าไม่รู้จะเอาไปทำอะไร  เพราะเป้าหมายจริงๆ คืออยากโชว์ยิงปืนให้ฉันดูมากกว่า  ต่อมาก็ไปปาลูกโป่ง  ได้ลูกดอกมา  3  ดอก  มันก็ปาโดนลูกโป่งแตกไป  3 ลูก  ได้รางวัลเป็นของที่ตั้งโชว์หน้าร้าน  มีให้เลือกเยอะแยะ  สุดท้ายมันก็ให้ฉันเลือกแหละ  ฉันก็เอาหมอนข้างสิจ้ะ  สวยดี  แถมยังมีประโยชน์มากกว่าตุ๊กตาด้วย  เดินกันจนขาลาก ฉันชักจะเริ่มปวดขา  พอดีเดินมาถึงร้านๆ นึง  เค้ากำลังเล่นเกมส์กันอย่างสนุกสนานเชียว  อยากเล่นบ้าง  แถมยังได้นั่งเล่นเกมส์อีกด้วย  ชวนไอ้เต้ดีกว่า 

   “ แก...  ฉันอยากเล่นบิงโก ”  ส่งสายตาอ้อนวอนเต็มที่
   
   “ เออ....  เอาดิ  น่าสนุกดี ”  ดีใจจังที่ไอ้เต้ยอมตามใจ  ฉันยิ้มแฉ่งจนปากเกือบฉีกแหนะ 

   เรายืนดูเขาเล่นจนจบเกมส์  พอเริ่มเกมส์ใหม่  เราก็เดินเข้าไปนั่งในร้าน  โห....  ไอ้เต้ซื้อแผ่นหมายเลขตั้ง  80  บาทแหนะ (  เค้าขาย  3 แผ่น 20 บาท )  งานนี้ได้ตั้ง 12  แผ่น  เราก็แบ่งกันคนละ  6  แผ่น  แล้วไอ้เต้ก็คิดอะไรพิเลนๆ อีกแระ  อยู่ดีๆ ก็ท้าพนันขึ้นมาซะงั้น  บอกว่าถ้าใครแพ้จะต้องทำตามใจคนที่ชนะ 1 อย่าง  ฉันก็ตอบตกลงไป  เพราะยังไงก็มั่นใจว่าโชคชะตาจะต้องเข้าข้างฉันแน่ๆ  แต่ถ้าคนอื่นบิงโกก่อน ก็ถือว่าเสมอกัน 

   เกมส์เริ่มขึ้นแล้ว  หมายเลขถูกประกาศขึ้นทีละตัวๆ  ว้าววว  อีกแค่หมายเลขเดียว ฉันก็จะบิงโกแล้ว  ประกาศหมายเลขนี้ทีเถอะ  โอมมมมม  เพี้ยงๆๆๆๆ   

   “ หมายเลข......  15  คะ ” 

   “ บิงโกครับ ” 

   กรี๊ดดดดดด   ไอ้เต้บิงโก   ไม่นะ  ทำไมเทพีแห่งโชคชะตาถึงไม่เข้าข้างฉันเลยเนี่ย   มันนั่งยิ่มแก้มปริอยู่ตรงหน้าฉัน  แล้วยังทำหน้ากวนตรีนล้อเลียนฉันอีก  แทนที่จะโกรธ  แต่มันกลับดูตลกมากกว่า  ฉันเลยอดขำไม่ได้  หัวเราะออกมาซะเลย  555555  ถึงจะแพ้ไอ้เต้  แต่ก็ชนะในเกมส์นะคร้าบบบบ  แลละเราก็ได้ของรางวัลเป็นตุ๊กตาตัวใหญ่มาก  ตัวใหญ่เกือบเท่าฉันอะ  แต่ตัวนี้ไอ้เต้เป็นคนเลือกนะ  มีศิลปะในการเลือกเหมือนกันนะเนี่ย  ตุ๊กตาน่ารักน่ากอดเชียว

   “ อะ   ให้ ”  ไอ้เต้ยื่นตุ๊กตาตัวโตมาให้ฉัน 

   “ ไม่เอา  ได้เยอะแล้ว  เห็นมั้ยหนิ ”  ฉันโชว์ตุ๊กตาตัวเล็ก  5 ตัวและหมอนข้างอีก 1 ใบ  ให้ดู 

   “ เออน่า  ฉันให้  ก็เอาๆ ไปเถอะ ”  ไรว้า  เมื่อกี้ยังใช้ภาษาพ่อขุนรามคำแหงอยู่เลย 

   “ เออ... ฉันนึกออกแล้ว  แกก็เอาตุ๊กตาตัวนี้ไปง้อแฟนแกสิ   แกเลือกเองกับมือเลยนะ  แล้วมันก็น่ารักมากด้วย  ถ้าแฟนแกเห็น  เค้าต้องใจอ่อนหายงอนแกแน่ๆ เลย  ฉันรับรอง ”  เอ๋.... ฉันพูดอะไรผิดหรอ  ทำไมมันทำหน้าบึ้งอย่างนั้นหละ   

   “ แล้วมึงรู้ได้ยังไงว่ากูมีแฟนแล้ว ” 

   “ อ้าวว   แล้วผู้หญิงที่แกพูดถึงเมื่อคืน  ไม่ใช่แฟนแกหรอกหรอ ”  ฉันถามอย่างสงสัย  มันหันหน้าหนีไปซักพักนึง  ก่อนจะหันกลับมา 

   “ อย่าขัดใจได้ป่ะ  กูให้  เพราะอยากให้  แล้วก็เต็มใจให้ด้วย  พูดถึงขนาดนี้แล้ว  จะเอาป๊ะ ” 

   “ เอาก็ได้  แต่...  ช่วยถือให้หน่อยนะ  ไม่มีมือถือแล้วอะ ”   แล้วมันก็พยัคหน้าตอบรับ

   “ แล้วอย่าลืมที่เราตกลงกันไว้หละ ”  ทวงกันจริ๊งงงง 

   “ รู้แล้ว  ไม่ลืมหรอก  นึกออกเมื่อไหร่ค่อยบอกแล้วกัน  แต่...  อย่าขออะไรที่มันแปลกๆ พิสดาร  หรือว่ายากเกินไปนะ  ขอมากไปก็ทำให้ไม่ได้นะ  บอกไว้ก่อนเลย  ”  มันก็เอาแต่ยิ้มอย่างมีเลศนัย  ไอ้บ้าเนี่ย  มันต้องหาเรื่องแกล้งฉันอีกแน่ๆ เลย  คราวนี้จะมาไม้ไหน  แต่ถึงยังไง ฉันก็ต้องรับมือมันให้ได้  สู้โว๊ยยยยยย   

   ไอ้เต้เดินมาส่งฉันที่เดิม  ฉันเห็นไอ้โชคยืนอยู่กับเพื่อนๆ ของมัน  และกำลังมองมาหาฉันและไอ้เต้ด้วยสีหน้าแววตาที่ดูเหมือนไม่ค่อยจะพอใจ   แต่กลับไม่เห็นอิกระต่ายกับอิสายป่าน  นัดกันแถวๆ นี้นี่นา  ทำไมถึงยังไม่มา  หาเหยื่อไม่ได้หรือยังไม่เสร็จภารกิจกันแน่นะ  ชักจะเริ่มเป็นห่วงอิเพื่อนสาวสองตัวนั่นแล้วสิเรา  แต่ก่อนอื่น ฉันคงต้องเคลียร์ปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นก่อน   งานนี้จะเกิดศึกชิงนางมั้ยวะ  55555  ( มึงสวยมากคะอิฟิล์ม  ผู้ชายเค้าคงจะต่อยกันแย่งมึงอยู่หรอก  อิมะโน   ตื่นๆ  ตื่นจากความฝันได้แล้วจ้ะ )

   “ ฟิล์ม  ฟิล์มไปไหนมา ” ไอ้โชคถามฉันเสียงแข็ง 

   “ พอดีเราเห็นโชคคุยกับเพื่อนอยู่   ก็เลยเดินไปหาของกิน  แล้วก็เจอเพื่อน  เราก็เลยเดินเล่นกันเพลินไปหน่อย  ขอโทษนะที่ไม่ได้บอก  เราไม่อยากรบกวน ” เอารางวัลตุ๊กตาทองไปเลยจ้ะ สาขาตอแหลยอดเยี่ยม  ไอ้เต้มันคงจะคิดแบบนี้   

   “ โชคขอโทษนะที่ปล่อยให้ฟิล์มอยู่คนเดียว  คิดว่ามาคุยกับเพื่อนแค่แปปเดียวเอง พอหันกลับไป  ก็ไม่เจอฟิล์มแล้ว  เราก็เลยออกตามหาเพราะเป็นห่วง  แต่พอไปเห็นฟิล์มอยู่กับเพื่อน  ดูท่าทางมีความสุขดี  ก็เลยไม่อยากเข้าไปหา  เลยกลับมารอที่เดิม ”  น้ำเสียงนั้นฟังดูประชดประชัน  และสิ่งที่ได้ยินก็ทำเอาฉันอึ้งไปพักนึง

   “ มึง  กูไปก่อนนะ  อะนี่   ตุ๊กตา ”  มันยื่นตุ๊กตาตัวใหญ่มาให้ฉัน แล้วจะเอามือที่ไหนถือวะเนี่ย 

   “ โชค  ช่วยถือตุ๊กตาให้เราหน่อยดิ ” ฉันรู้ ว่ามันคงไม่พอใจ  แต่ทำไงได้หละ  ไม่มีใครแล้วจริงๆ นี่นา  อิเพื่อนสาวสองตัวนั่นก็ยังไม่โผล่หัวมาสักที  เลยต้องแบกหน้าขอให้ไอ้โชคถือให้นี่แหละ 

   ไอ้โชคเดินเข้ามาเอาตุ๊กตาให้ฉัน  แต่ดูเหมือนไอ้เต้จะดึงมันเอาไว้และไม่ยอมปล่อยตุ๊กตาให้ไอ้โชค  ทำให้ไอ้โชคหันไปมองหน้าไอ้เต้   และทั้งสองคนก็มองหน้ากันอย่างดุเดือด  ต่างฝ่ายต่างส่งสายตาพิฆาตข่มขู่ซึ่งกันและกัน  ( อย่านะ  ไม่ต้องแย่งกัน  ใจเย็นๆ   เดี๋ยวให้ทั้งสองคนเลย  55555  มโนอีกแระ  แต่  คราวนี้เหมือนมันจะเกิดขึ้นจริงๆ นะ  ฉันต้องรีบทำอะไรสักอย่างแล้ว )   

   “ เต้  ไหนบอกว่าให้แล้ว  แต่ถ้าอยากเอาคืนก็ได้นะ  ตามใจ ”  คำพูดนี้ทำให้ไอ้เต้หันมามองหน้าฉันอย่างไม่สบอารมณ์

   “ มึงนี่เรื่องมากจริงๆ เลย  บอกว่าให้ก็ให้ดิวะ ”  พูดเสร็จไอ้เต้ก็หันกลับไปมองหน้าไอ้โชคอีกครั้ง  ก่อนจะปล่อยมืออกจากตุ๊กตา แล้วไอ้โชคก็รับเอามา  แต่ทั้งสองยังหน้าดุใส่กันไม่หยุด  มันจะตีกันให้ได้เลยรึไง  เฮ้ออ  เทยเพลียยย

   “ โชค  ไปกันเถอะ  เราเป็นห่วงเพื่อน  ออกตามหาพวกมันสองคนกันเถอะ ”  ไอ้โชคยอมละสายตาจากคู่อาฆาตและเดินเข้ามาหาฉัน  ส่วนไอ้เต้ก็มองตามหลัง สีหน้าท่าทางดูเอาเรื่องสุดๆ  มันคงอยากจะต่อยไอ้โชคเต็มที 

   “ เต้  ขอบใจนะ ฉันไปก่อนนะแก ” ไอ้เต้มองฉันด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ  ก่อนจะเมินหน้าหนี  แล้วเดินจากไป

เฮ้อ.......  พวกมันสองคนทำบ้าอะไรกันเนี่ย   ทำอย่างกับฉันเป็นนางเอกละคร  แล้วมีพระเอกสองคนทะเลาะกันแย่งนางเอกอย่างนั้นแหละ  ( มโนอีกแล้วจ้ะ 55555 )  ช่างมันเหอะ  ณ  จุดนี้  ฉันจะมามัวสนใจผู้ชายสองคนนี้ไม่ได้แล้ว  เพื่อนหายไปตั้งสองคน  เป็นห่วงพวกมันจริงๆ เลย  ต้องออกตามหาแล้วหละ   

   ฉันกับไอ้โชคเดินกลับไปที่บ้านอิสายป่าน  ยายของมันคงยังไม่นอน  เพราะเห็นไฟในบ้านเปิดอยู่  ฉันเลยตัดสินใจเคาะประตูเรียกยาย  ( อิสายป่านอยู่บ้านกับยายสองคน  พ่อกับแม่ของมันแยกทางกัน และไปทำงานต่างจังหวัดทั้งคู่  แต่ก็ยังส่งเงินมาให้ยายกับมันใช้จ่ายทุกเดือน )  พอยายเปิดประตู  ฉันก็ขอฝากตุ๊กตากับหมอนข้าง  ยายตกลงพวกเราเลยเดินเอาสัมภาระไปเก็บไว้ในบ้าน  แล้วเดินเข้าไปในงาน 

        ตามหาอิกระต่ายกับอิสายป่านอยู่ซักพักนึง  ก็เดินไปเจออิกระต่ายที่กำลังยืนอยู่ข้างๆ เวทีหมอลำ  แถวๆ ลำโพงด้านซ้าย  ให้ตายสิ อินี่เสนืห์แรงจริงๆ  ผู้ชายเกาะกันแจเลย  มันยืนนิ่งซะที่ไหนหละ  ส่ายเอวส่ายสะโพกไปมาตามจังหวะดนตรีที่กำลังบรรเลงอย่างเร่าร้อน  คงปลุกอารมณ์หื่นๆ ของพวกผู้ชายได้ดีเลยทีเดียว   ฉันหันหน้าไปถามไอ้โชค ว่าจะเอายังไงดี  ไอ้โชคบอกมันดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ฉันมีสอบ ต้องรีบกลับไปนอน  ฉันเลยตัดสินใจแปลงกายเป้นนางมารร้ายไปขัดขวางความสุขของอิเพื่อนสาว  และบอกให้ไอ้โชครออยู่ตรงนี้  ซึ่งอยุ่ไม่ห่างจากตำแหน่งที่อิกระต่ายกำลังเต้นยั่วผู้ชายอยู่ไม่มากนัก 

   ฉันเดินถลาเข้าไปหากะเทยที่กำลังวาดลวดลายยั่วยวนฝูงผู้ชาย  พอไปถึงตัว  ฉันกำแขนมันแน่นแล้วลากมันออกมาจากฝูงผู้ชายพวกนั้น  ขอโทษ  อดแล้วแหละพวกมึง  อิกระต่ายดูท่าทางตกใจ  แต่พอเห็นหน้าฉัน ถึงกับถอนหายใจไปเฮือกนึง  โล่งใจหละสิมึงที่เป็นกู  นึกว่าจะโดนผู้ชายฉุดไปปล้ำใช่มั้ยหละ 

   “ อิฟิล์ม  อิห่า  กูนึกว่าใคร  ตกใจหมดเลย ”  มันค้อนใส่ฉันเบาๆ 

   “ ดีเท่าไหร่แล้วที่กูลากมึงออกมาจากไอ้พวกผู้ชายหน้าหื่นพวกนั้น  เดี๋ยวก็โดนลงแขกหรอกมึง ” ฉันพูดเสียงดังหน่อย เพราะเสียงดนตรีบนเวทีหมอลำก็ดังเอาเรื่อง 

   “ แค่เต้นด้วยกันเฉยๆ  ไม่ได้ไปทำเรื่องอย่างว่าสักหน่อย  กูไม่ใช่อิสายป่านนะ ”  เออ  จริงด้วย  แล้วอิสายป่านไปไหนหละเนี่ย  ลืมไปเลย 

   “ เออ  แล้วอิสายป่านไปไหน  ทำไมมันปล่อยให้มึงโดนฝูงหมาบ้าห้อมล้อมอย่างนี้วะ ” ฉันใส่อารมณ์โมโหลงไปด้วย   เพื่อนกัน  ทำไมไม่ดูแลกัน ปล่อยให้เพื่อนโดนผู้ชายรุมแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน 

   “ โอ้ยยย  จะเหลือหรอมึง โน่นนน  ลากผู้ชายเข้าไปในป่าตั้งสองสามคน  แล้วบอกให้กูรออยู่ตรงนี้  กูรอมันนานแล้วเนี่ย   ยังไม่โผล่หัวมาสักที ” อิกระต่ายพูดท่าทางเซ็งๆ  แต่เฮ้ย  ไปกับผู้ชายสองสามคน  นานแล้วด้วย  มันจะไหวหรอวะ  มันคงไม่ตายคาป่าไปแล้วนะ  ฉันหละหวั่นใจจริงๆ 

   นั่นๆ  ฝูงหมาบ้าตามมาจนได้  พวกผู้ชายที่รุมล้อมอิกระต่ายเมื่อกี้  กำลังเดินมาทางเราแล้ว  พวกมันมีกันอยู่ประมาณ 5 คน  ตายๆ  งานนี้ฉันขอบาย  แต่ละคน  น่ากลัวๆ กันทั้งนั้น  พอเดินมาถึง  ก็เล่นพวกเราทันที

   “ คุยกันเสร็จรึยังครับ  ไปเต้นกันต่อเถอะ  กำลังสนุก  เต้นเสร็จเพลงนี้แล้ว  เราจะได้ไปขึ้นสวรรค์ชั้น 7 กัน ”  โถ....  ไอ้บ้ากาม  หน้าหื่นๆ ของมึงนี่  เหมาะกับความบ้ากามของมึงจริงๆ  กลิ่นเหล้าหึ่งเลย  สงสัยจะเมาได้ที่แล้วมั้งหนิ  ถึงได้คิดจะงาบเพื่อนกู  อิกระต่ายก็ยิ้มให้พวกมันใหญ่เลย  แถมยังชูไม้ชูมือให้พวกมันอีก   อินี่  กูกำลังช่วยมึงอยู่นะ  มึงจะไปอ่อยพวกมันทำซากอะไรคะ   

   “ แล้วน้องคนสวยหละครับ  สนใจไปมีความสุขกับพวกพี่มั้ย ”  ฮิ้ววววว  พวกมันพากันประโคมเสียงโห่แซวฉันกันใหญ่เลย   อยากจะบอกเหลือเกิน  ว่าพี่คะ  ช่วยเอากระจกบานใสๆ  ไม่มีฝุ่นเกาะสักเม็ด  มาส่องดูหน้าพวกพี่ด้วยนะคะ  หน้าแบบนี้ไม่เรียกว่าขึ้นสวรรค์หรือมีความสุขอะไรเลยคะ  เค้าเรียกว่าตกนรกและตายทั้งเป็นมากกว่า  ไอ้พวกบ้าเอ้ย  ช่างไม่ดูสารรูปตัวเอง  อิกระต่าย  มึงนี่รสนิยมต่ำมาก  อิห่าเอ้ย  หาความซวยมาให้กูแล้วมั้ยหละ 

   สถานการณ์เริ่มแย่ลงทุกที  เมื่อเสียงเชื้อเชิญให้ไปร่วมสวาทจากพวกมันพูดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คนแล้วคนเล่า ประกอบกับเสียงโห่แซว  ฉันนี่เกลียดพวกมันสุดๆ  เลย  ไอ้โชคคงเห็นสถานการณ์เริ่มไม่ดี มันเดินเข้ามายืนข้างๆ ฉัน  ก่อนจะเริ่มการช่วยเหลือเราสองคน  นายเท่ห์จริงๆ 

   “ ขอโทษนะครับ  พวกเธอคงไปไหนกับพวกพี่ไม่ได้หรอก  เพราะคนนี้   แฟนผม ”  ประโยคหลังนี่  ไอ้โชคพูดพรางหันมามองหน้าฉัน พอพูดจบ  ก็แอบจับมือฉันซะงั้น  อึ้งไปเลยคะงานนี้  มีส่งยิ้มให้กันด้วย  แหมจะมามุขนี้ก็ไม่บอก  เกือบตามไม่ทันเลยนะเนี่ย  ฉันก็ยิ้มหวานกลับ  เสมือนเราสองคนเป็นคู่รักแห่งปี   

   “ ไม่เป็นไร  งั้นพวกพี่ขอเพื่อนน้องคนนี้แทนแล้วกัน ” ไอ้ผู้ชายหน้าหื่นคนนึงชี้นิ้วไปหาเพื่อนสาวของฉัน  มันก็ยิ้มรับ ท่าทางสะดีดสะดิ้ง  มึงคงคันมากใช่มั้ย  กูไม่น่ามาช่วยมึงเล้ยย  ถ้ารู้ว่ามึงคันมากขนาดนี้   ฉันแสดงออกทางสีหน้าว่า  เอือมกับอิเพื่อนสาวคนนี้จริงๆ 

   “ คงไม่ได้เหมือนกันครับ  เพราะคนที่พี่กำลังพูดถึง  เค้าเป็นแฟนของเพื่อนผม  และเพื่อนผมก็บอกให้มาตามเค้ากลับ  ผมขอตัวก่อนนะครับ  เพื่อนผมรออยู่ ”  เอิ่มม  คิดได้ไงวะมุขนี้  อิกระต่ายเนี่ยนะมีแฟน  ก็ไม่ได้จะดูถูกเพื่อนสาวหรอกนะ  แต่ดูจากความน่าจะเป็น  มีเปอร์เซ็นน้อยม้ากกก  พวกมันจะเชื่อมั้ย

   ไอ้โชคชวนพวกเรากลับ  พวกเราก็อือ ออ  ไปตามนั้น  แล้วเราก็เดินออกไปจากพวกหื่นกาม  ไม่มีเสียงเรียกจากพวกนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว  สงสัยมุขนี้ของไอ้โชคจะได้ผลแฮะ  พวกมันเชื่อจริงๆ หรอ ว่ากะเทยอย่างพวกเรามีแฟนแล้วแต่ไอ้โชคก็เล่นสมบทบาทไปนะ  เดินออกมาไกลแล้วนะ  ยังไม่ปล่อยมือฉันอีก   มันจับมือฉันแน่น   ฉันหยุดสาวเท้าก่อนที่สองคนนั้นจะหยุดตาม 

   “ หยุดเดินทำไมหละฟิล์ม ”  ไอ้โชคทำหน้า งง  คงสงสัยมากเลยสินะ 

   “ เออ  หรือว่า  มึงเกิดเปลี่ยนใจ   เฮ้ยมึง ป่ะๆ  กูก็อยากได้อยากโดนเหมือนกัน ”  มันทำท่าตื่นเต้นดีใจ ตาลุกวาวเป็นประกาย  โถ..  อิห่า  ถ้าตัวต่อตัวกูจะไม่ขัดศรัทธามึงเลย  แต่นี่ห้าคนเลยนะเว้ย  มันหนักเกินไปสำหรับมือใหม่อย่างเรา 

   “ ไม่นะฟิล์ม  โชคไม่ยอม  ยังไงก็ไม่ให้ไป ” มันบีบมือฉันแรงขึ้น  ไอ้บ้าเอ้ย  เจ็บนะเว้ย 

   “ พอกันทั้งคู่เลย  อิกระต่าย  ถ้ามึงอยากโดนพวกมันรุมโทรม  มึงไปเลย   โชค  นี่เดินมาตั้งไกลแล้วนะ  เลิกตีบทแตกได้แล้ว  ปล่อยมือฉันได้แล้ว  ”  ฉันพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำในประโยคสุดท้าย  ก่อนที่ไอ้โชคจะค่อยๆ คลายมือออก  เหอะ  มือฉันเหงื่อเต็มเลยวุ้ย 

   เดินหาอิสายป่านอยู่นาน  สุดท้ายก็ไม่มีวี่แววว่าจะเจอ  พวกเราจึงกลับไปรอมันที่บ้าน  หวังว่าคงไม่เกิดเรื่องร้ายๆ กับเพื่อนสาวของฉันหรอกนะ  เรานั่งรออยู่ซักพัก  เห็นอิสายป่านเดินยิ้มมา  ท่าทางมีความสุขมากมาย   เหยื่อคืนนี้คงสมใจนาง  ถึงได้อารมณ์ดีขนาดนี้ 

   “ เป็นไงบ้างมึง  สบายรูสิท่า ” อิกระต่ายพูดไปยิ้มไป  มันคงยินดีกับอิสายป่าน 

   “ เออ  สามไม้  สบายรูม้ากกกกก  มีแต่ไม้ใหญ่ๆ  สบายรูสุดๆ ไปเลยแหละมึง ” อิสายป่านพูดซะได้ฟิวลิ่ง  พวกเราก็ขำกันใหญ่ 

   “ แต่มึงก็ทำให้พวกกูเป็นห่วงมากเลยนะ   พวกกูออกตามหามึงจนขาลาก  หาไม่เจอสักทีก็เลยมารอที่บ้าน  นึกว่ามึงจะโดนผู้ชายฆ่าข่มขืนซะแระ ” ฉันจิกเพื่อนสาวเบาๆ

   “ โอ้ยยยย  นี่มันเรื่องธรรมดาของกู  คราวหน้าไม่ต้องตามหานะจ๊ะ  เสร็จแล้วเดี๋ยวมาเอง  เพราะตามหายังไงก็ไม่เจอหรอกจ้ะ ”  พวกเราพยัคหน้างึกๆ  เป็นอันรู้กัน 

   ดึกมากแล้ว   ฉันลาอิสายป่านกับไอ้โชค  ก่อนจะขึ้นซ้อนท้ายมอไซต์อิกระต่าย  หอบหิ้วตุ๊กตากับหมอนข้างกลับบ้านพะรุงพะรัง  เยอะเกินไปแล้ว  เกือบเอากลับบ้านได้ไม่หมด  พอถึงบ้านอิกระต่ายก็ถือหมอนข้างช่วยฉัน  ส่วนฉันถือตุ๊กตา  ระหว่างเดินไปที่ประตู อิเพื่อนสาวก็แซวฉันใหญ่เลย  หาว่าของทั้งหมดนี้ไอ้โชคเป็นคนให้มา  เอาเถอะ  ให้มันคิดอย่างนั้นก็ดีแล้ว  ขี่เกียจพูดมาก   

        พอถึงประตูหน้าบ้านฉันเคาะประตู แม่เดินมาเปิดให้  เราสองคนหอบสัมภาระเข้าไปไว้ในบ้าน  จากนั้นอิกระต่ายก็ลาฉันกับแม่กลับบ้าน  ดึกป่านนี้แม่ยังไม่นอนเพราะรอฉันกลับบ้าน  แม่...หนูขอโทษนะ  แต่พ่อกับน้องเข้านอนแล้ว  โล่งใจไปที ไม่งั้นโดนพ่อบ่นให้แน่ๆ  แม่ถามฉันว่าจะอาบน้ำอีกมั้ย   เหนียวตัวขนาดนี้คงต้องอาบแหละแม่  คืนนั้นฉันอาบน้ำอีกรอบ  ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำ  แม่เข้าไปนอนแล้ว  ฉันหอบตุ๊กตากับหมอนข้างไปกองไว้ในห้องนอน  กองๆ มันไว้ตรงนี้ก่อนแล้วกัน คืนนี้เหนื่อยมากแล้ว  ขอนอนก่อน   Zzzzz……  หลับปุ๋ยจนถึงเช้า     

            ตื่นเช้ามาก็ไปโรงเรียนเหมือนเดิม  วันนี้มี  Test  วิชาภาษาอังกฤษ  พอถึงคาบวิชานี้  ก่อนที่ครูจะมา  เพื่อนๆ ก็เอาหนังสือขึ้นมาอ่านกันใหญ่   ฉันเองก็เอาขึ้นมาดูบ้างนิดหน่อย  อ่านมาเยอะแล้ว  ขี้เกียจอ่านอีก  ครูเดินเข้ามาพร้อมกับชีสต์ข้อสอบและกระดาษคำตอบ  ครูให้แยกโต๊ะห่างออกจากกัน  แล้วให้เรานั่งที่ของตัวเอง  การสอบเริ่มขึ้น  หลังจากที่กระดาษคำถามและกระดาษคำตอบถูกแจกให้นักเรียนครบทุกคนแล้ว  ข้อสอบคราวนี้ไม่ยากมากนัก  ฉันกลับรู้สึกว่ามันง่ายเกินไปซะด้วยซ้ำ  ฉันทำเสร็จเป็นคนแรก  แล้วเดินออกจากห้อง  ไปนั่งรอแม่นางมายด์กับอิกระต่ายข้างนอก

        ระหว่างที่นั่งรออยู่นั้นก็เหลือบไปเห็นเด็กผู้ชายคนนึง กำลังยืนอี๋อ๋อกับชะนีน้อยอยู่หน้าห้อง  จีบกันประเจิดประเจ้อจริงๆ เลยเด็กพวกนี้  น้องนีก็ใช่ย่อย  แรงเหมือนกันนะหนู   กระโปรงนี่สั่งตัดพิเศษรึป่าวคะ ทำไมมันถึงได้สั้นแล้วสั้นอีกขนาดนั้น  มีจับไม้จับมือกันซะด้วย  ดีนะที่พวกมันไม่จูบโชว์   เด็กผู้หญิงสมัยนี้  ไม่รักนวลสงวนตัวกันเลยหรอ  หรือฉันหัวโบราณมากเกินไป   

         ไม่มองมันแระ  เพราะจริงๆ  ก็แอบอิจฉาตาร้อนเหมือนกัน  ฉันนั่งรอจนเพื่อนๆ ค่อยๆ ทยอยออกมาเรื่อยๆ  แต่ทำไมเพื่อนสาวฉันยังไม่ออกมาสักที  ข้อสอบก็ไม่ได้ยากอะไรเลย  ทำนานจัง  ฉันนั่งของฉันอยู่ดีๆ  อินางพญากาดำที่ฉันเจอวันแรกตอนเข้าแถว  คงจำกันได้ใช่มะ  นางอยู่ห้องเดียวกับฉันนี่แหละ  และได้ข่าวว่านางเก่งซะด้วย สอบได้ที่หนึงกับที่สองมาตลอดตั้งแต่ ม. 1  แล้ว   อยู่ในห้องก็พูดคุยกันบ้างตามประสาเพื่อนร่วมห้อง  แต่ฉันรู้สึกไม่ค่อยจะถูกโฉลกกับมันเลย  มันชอบจิกกัดฉันด้วยคำพุดและสายตาอยู่บ่อยๆ  แต่ก็ไม่ได้กลัว   แรงมา  แรงกลับ  จบป๊ะ   

       “ เดินออกมาก่อนเพื่อน  ก็คงจะได้คะแนนเต็ม ”  ฉันมองหน้ามัน  สายตานี่จิกกัดฉันเต็มที่ 

       “ เต็มไม่เต็มไม่รู้  แต่ท็อปแน่ๆ ”  ฉันพูดใส่มันบ้าง  มันถึงกับตาเหลือกตาลานใส่ฉัน กลัวตายแหละมึง 

       “ อย่าคิดนะ  ว่าจะเอาชนะฉันได้ ”  นางกัดปากกัดฟันพูด  ฉันไม่อยากเสียน้ำลายโต้กลับ  ทำแค่เพียงมองหน้าและจ้องตากับมันอย่างดุเดือด  แล้วนางก็สะบัดบ็อบ  เดินเชิดไปหากลุ่มเพื่อน   แหมอินี่  อยากจิกหัวตบหน้าดำๆ ของมึงจริงๆ

        เที่ยงแล้ว  พวกเรานั่งกินข้าวกันที่เดิม  ในขณะที่มายด์กับอิกระต่ายออกไปซื้อข้าว  ฉันเห็นอิสายป่านซึมๆ  ตาจ้องมองไปข้างหน้า เหมือนกำลังมองอะไรอยู่  ฉันเลยหันไปมองบ้าง  ไอ้เด็กเวรนั่นนี่นา กำลังจู๋จี๋กับชะนีน้อยตัวเดิมอีกแระ  แล้วทำไมเพื่อนสาวต้องนั่งมองพวกนั้นตาละห้อยด้วยหละ  เฮ้ยๆ  อย่าบอกนะว่า 

       “ อิสายป่าน มึงกำลังมองผู้ชายกับน้องนีสองคนนั่นอยู่หรอ ”  ฉันโบ๊ยหน้าไปทางพวกมันสองคน  อิสายป่านค่อยๆ พยัคหน้า  ดูมันยึ่งซึมกว่าเดิมอีก 

       “ ผู้ชายคนนั้นแหละ คือคนที่กูชอบ ”  มันก้มหน้าเศร้าๆ แดกข้าวต่อไปอย่างช้าๆ  แต่ก็ไม่ได้ละสายตาจากพวกนั้นซะทีเดียว  ยังคงจ้องมองอยู่เป็นครั้งคราว 

         น่าสงสารนางจริงๆ  ใครจะเชื่อว่าสาวมั่นและแสนจะเพลเกิร์ลอย่างมันจะซึมเศร้ากับความรักได้ถึงขนาดนี้   ความรักกำลังทำให้เพื่อนฉันเจ็บปวด  ฉันไม่อยากเห็นมันเป็นแบบนี้เลย ก็นึกว่าตัดใจได้แล้ว  แต่ความรักมันตัดใจได้ง่ายๆ ซะที่ไหน ทุคนที่มีความรักคงจะเข้าใจดีสินะ   

         หลังจากกินข้าวเสร็จ  ก็ก็ต้องมาซ้อมพูดภาษาอังกฤษกับครูที่ห้องพักครู  ก่อนจะขึ้นห้อง  ครูก็แอบบอกฉันว่าสอบเมื่อเช้านี้ทำได้ดีมาก  ได้ท็อปของห้องเลย  ฉันนี่อดดีใจไม่ได้  ยิ้มหน้าบานออกจากห้องพักครู ยิ้มอยู่ได้คนเดียว  นึกว่าคนบ้า  55555  แต่มีความสุขเว้ยย  ทีนี้หละมึง  อีพญากาดำ  กูจะเย้ย  จะจิกกัดมึงให้เลือดออกท่วมตัว 

         ฉันมาถึงห้องด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส  และก่อนจะนั่งที่ฉันส่งสายตาพิฆาตไปหาอิดำนั่น  มันเองก็ไม่แคล้วที่จะส่งสายตาดุร้ายมาให้ฉันเช่นกัน  ฉันเบะปากใส่ไปทีนึงก่อนจะนั่งลง  เม้าท์มอยกับเหล่าเพื่อนสาวรอครูเข้าสอนอยู่พักนึง  เหลือบมองนาฬิกา  เหลืออีกตั้ง 5 นาทีกว่าจะถึงเวลาเรียน  และในขณะนั้นเอง  ไอ้โต๊ดก็เดินเข้ามาหาฉัน  เราทักทายกัน  เพราะวันนี้ทั้งวันยังไม่ได้คุยกันเลย  ไอ้โต๊ดยื่นโทรศัพท์มาให้พร้อมกับบอกว่าไอ้เต้โทรมา   ถึงแม้สีหน้าของมันจะไม่ได้ยินดี  แต่ก็ไม่ได้บูดบึ้ง  กลับเรียบเฉยเป็นปกติ   มันเลิกคิดอะไรกับฉันแล้วใช่มั้ย   ดีแระ  เป็นเพื่อนกันแหละดีที่สุด  ฉันรับโทรศัพท์มาและคุยกับไอ้เต้ 

         เนื้อหาการสนทนาระหว่างเรา  ก็มีอยู่ว่า...................มันทวงสัญญาตอนเล่นบิงโกกับฉันซะงั้น................. 

         บอกแล้วนะว่าอย่าขออะไรที่มันยากๆ หรือพิสดาร  ไม่เคยฟังกันเลยไอ้บ้าเอ้ยยยย........................... 

............................................................................




ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
เต้ขออะไรอ๊าาาา อยากรู้ๆ  :hao7:

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
ว้ายยย เต้มีแผนตลอดเลย สงสัยคราวนี้เสดแน่ๆ ว่าแต่มาต่อ สักอาทิตละ 2-3 ตอนไม่ได้หรอ ดีนะที่เปิดดมาเจอว่าลงตอนใหม่ ไม่งั้นลืมไปแล้วเนี่ย

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตอนที่  17   Part  1/2

   ว่ากันว่า  ที่ใดมีรัก  ที่นั่นมีทุกข์  คำกล่าวนี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงที่กำลังเกิดขึ้นกับเพื่อนสาวของฉันในขณะนี้  ก็อดคิดไม่ได้   ถ้าความรักมาเยือนตัวเองเข้าสักวัน  แล้วความทุกข์ก็จะตามมาเฉกเช่นกันงั้นหรือ

   ฉันนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย  จนกระทั่งความคิดนั้นมาบรรจบลงตรงเรื่องของความรัก  คิดแล้วก็เศร้าเคล้าหนักใจ  เฝ้าถามใจตัวเองว่าตอนนี้มีความรักกับเขาหรือยัง  คำตอบที่ได้  เห็นทีจะเป็น  “ ยัง....มั้ง ”  คำตอบนั้นบ่งบออกถึงความไม่แน่ใจและความสับสน  ว่าความรู้สึกหงุดหงิดและไม่ชอบใจที่มักจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่เห็นบรรดาสาวๆ ห้อมล้อมหนุ่มคนนั้น  มันเป็นความรู้สึกที่เรียกว่าอะไรกัน 

   “ พี่สาวคร้าบ  แม่เรียกไปกินข้าว ”   เสียงร้องตะโกนค่อนข้างดัง ทำให้ฉันตื่นจากภวังค์  เสียงนี้ไม่ใช่เสียงใคร  นอกจากน้องชายคนเก่งของฉันเอง

“ เออๆ  ไปเดี๋ยวนี้แหละ ”

ฉันรีบลุกจากโต๊ะไม้หน้าบ้านที่พ่อเพิ่งซื้อมาวันนี้  ( นั่งเจิมของใหม่สักหน่อย )  แล้ววิ่งพรวดเข้าไปในบ้านเพื่อร่วมรับประทานอาหารกับครอบครัวที่แสนน่ารักและอบอุ่นของฉัน

-----------------------------------------------------------

   เที่ยงของวันนี้  หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ  ก็ต้องมาเพียรพยายามกันต่อกับการอ่านภาษาอังกฤษ 1 หน้ากระดาษ A4  คุณครูท่านก็ขะมักขะเม้นซะจริง  บรรจงสอนเรื่องการออกเสียงให้ถูกต้องในแต่ละคำ  และการเน้นเสียงหนักเบา  ที่จะต้องให้เป๊ะในทุกๆ คำ  แล้วสมองน้อยๆ ของหนูจะจำได้ทั้งหมดหรอคะครู   อดไม่ได้ที่จะต้องถอนหายใจเบาๆ  อยู่หลายครั้ง  เมื่ออ่านไปได้สักพัก  แล้วครูสั่งให้เริ่มใหม่  เป็นแบบนี้จะอ่านจบซะเมื่อไหร่

   หลังจากที่เปล่งเสียงอยู่นาน  คุณครูก็ยอมปล่อยขึ้นห้องสักที  และในขณะที่ฉันกำลังเดินฉับๆ  เร่งฝีเท้า  มุ่งหน้าไปยังห้องเรียนนั้น  จู่ๆ  ไอ้นี่ก็โผล่พรวดพลาดออกมาจากประตูห้องเรียน  เข้ามาดักหน้าฉัน เล่นเอาสะดุ้งตกใจ  โชคดีที่โสตประสาทของฉันรับรู้ได้อย่างรวดเร็ว  ก็เลยหยุดฝีเท้าเอาไว้ได้ทันท่วงที   แต่ก็เกือบเดินชนมันเข้าอย่างจัง

   “ บ้าจริง  โผล่มาไม่ให้ซุ่มให้เสียงแบบนี้ได้ไง  ถ้าเมื่อกี้ฉันหยุดไม่ทัน  ไม่เดินชนแล้วหรอป่านนี้ ”  ฉันส่งเสียงเอะอะโวยวาย  บ่งบอกถึงความโกรธได้เป็นอย่างดี

   “ ขอโทษที  ว่าแต่  ไปซ้อมกับครูเพิ่งมาหรอ  ขยันแบบนี้ชนะเลิศแน่ๆ เลย ”

   “ ขอบใจ  คราวหน้า  ห้ามโผล่พรวดพราดเข้ามาแบบนี้อีกนะ  เราไม่ชอบ ”
   

ต้องปรามกันเอาไว้บ้าง  ไอ้นิสัยที่ชอบทำให้คนอื่นตกใจแบบนี้  เพราะมันเป็นนิสัยที่แย่มากๆ ในสายตาฉัน  และก็ไม่ชอบมากๆ ด้วย   ขนาดเพื่อนสนิทกันทำแบบนี้ บางทีก็ยังโกรธเลย  และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกอีกด้วย  ที่มันเข้ามาหาฉันแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง  จนสะดุ้งตกใจ  ถ้าฉันเป็นโรคหัวใจ คงไม่แคล้วหัวใจวายตาย                

   “ คร้าบบ....  ผมขอโทษน้า......  ปะกลับห้องกัน เดี๋ยวเดินไปส่ง ”  ไอ้โชคเปล่งเสียงออดอ้อนยกใหญ่ ทำตัวอย่างกับเด็กๆ  แต่ก็น่ารักดี 

   ฉันเหลือบมองไปยังประตูห้องที่มันเพิ่งกระโจนออกมาเมื่อสักครู่นี้  “ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2/3 ”  เกิดอาการสงสัย และคำถามผุดขึ้นมาในหัวทันที   “ มันมาทำอะไรที่นี่ ”   แต่ก็นึกได้ว่า  มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา  เขาจะทำอะไร  ไปไหนมาไหนมันก็เรื่องของเขา  ไม่เห็บต้องเก็บมาส่าใจเลยนี่  แล้วเราสองคนก็เดินกลับห้องกัน  ไอ้โชคไปส่งฉันที่ห้องก่อน แล้วค่อยเดินกลับห้องตัวเอง  แหม.... ถ้ามีคนมาส่งแบบนี้ทุกวัน  ก็ดีเหมือนกันนะ  เอ่อ.... ฉันกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย 

----------------------------------------------------------

   หลังเลิกเรียน  วันนี้คุณครูไม่ว่าง  มีประชุม   ฉันก็เลยเป็นอิสระ  ได้มานั่งสนทนากับเพื่อนสาวคนเดิม ที่เก่าที่เดิม  ก่อนกลับบ้าน  เพราะขี้เกียจไปเบียดเสียดกับคนหมู่มากที่ขับรถออกจากโรงจอดรถ  ก็เลยมานั่งเม้าท์มอยกัน   รอให้ฝูงคนบางเบาก่อน  จะได้ไม่ต้องเบียดเสียดกับใคร

   “ อิฟิล์ม  กูมีเรื่องจะบอกมึง ”  สีหน้า แววตาที่ดูเรียบเฉย  และน้ำเสียงอ่อยๆ  ของเพื่อนสาว  ชวนให้คนฟังรู้สึกได้ว่าเรื่องที่กำลังจะคุยกันนี้  คงไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่   การเปิดประเด็นสนทนาในครั้งนี้  ท่าทางจะไม่สนุกแล้วสิ

   “ เรื่องอะไร ”

   “ มันไม่น่าฟังนักหรอก  แต่กูคิดว่า  กูคงต้องบอกมึง  ไม่ว่ามึงจะคิดหรือรู้สึกยังไง  แต่กูอยากให้มึงรู้ไว้ ว่าเรื่องที่กูกำลังจะบอกมึง  กูไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายความรู้สึกของเพื่อน   แต่กูไม่อยากให้เพื่อนต้องเป็นเหมือนกู  ”

   ใบหน้าของอิสายป่านเริ่มเคล้าไปด้วยอารมณ์เศร้า  ใบหน้าแบบนี้  เห็นแล้วรู้สึกหดหู่  และเรื่องที่กำลังจะพูด คงไม่แคล้วเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตัวของฉันเอง   มันเรื่องอะไรกันนะ   แล้วที่บอกว่า ไม่อยากให้ฉันเป็นเหมือนนาง  คืออะไร

   “ พูดมาสิ  กูพร้อมจะฟังแล้ว ”  ฉันพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย  แต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมายังชัดเจนในทุกถ้อยคำ  เพื่อให้เพื่อนมั่นใจได้ว่า  ฉันพร้อมที่จะรับฟังแล้วจริงๆ 

   “ วันนี้.....  กูเห็นไอ้โชคนั่งจีบสาวอยู่ที่โรงอาหาร พอมึงไปซ้อมพูดภาษาอังกฤษกับครู  พวกกูก็นั่งเม้าท์กันต่ออยู่ที่โรงอาหาร ซักพักนึง  เห็นไอ้โชคเดินถือแก้วน้ำส้มเดินไปหาชะนีที่โต๊ะ แล้วก็เอาน้ำส้มให้ชะนีคนนั้น  แล้วพวกเขาก็นั่งคุยกัน  ท่าทางมีความสุข  ทั้งยิ้ม  ทั้งหัวเราะ  แบบนี้  เขาเรียกว่าจีบป่ะวะ ”

   อิสายป่านบรรยายได้เห็นภาพอย่างชัดเจน  ฉันรู้สึกเหมือนโดนฉีดยาชา  มันชาไปทั่วร่างกาย   ใจหวิวๆ  คล้ายหัวใจหลุดลอยออกไปจากร่างกาย   แปลกจัง  เรื่องแค่นี้เอง  ทำไมถึงทำให้ฉันมีอาการแบบนี้ได้นะ    ก่อนที่ฉันจะไปซ้อม ทำไมบอกว่าจะไปเตะบอลกับเพื่อน  แล้วมานั่งจีบสาวได้ไง  คิดไปถึงเรื่องเมื่อเที่ยงนี้  ที่ไอ้โชคเดินออกมาจากห้อง ม.2/3  อย่าบอกนะว่า  มันตามไปจีบสาวถึงในห้อง  เดินไปส่งเขาถึงห้อง  แล้วค่อยเดินไปส่งฉันด้วยความบังเอิญที่เจอกัน  มันน่าเจ็บใจนัก  ทั้งโดนหลอก เรื่องไปเตะบอล  แถมยังทำให้ฉันเข้าใจผิด คิดว่าตั้งใจจะเดินไปส่งที่ห้อง  ที่แท้ฉันก็เป็นแค่ความบังเอิญเท่านั้นเอง  ไม่ใช่ความตั้งใจดั่งใครเขา   

   “ อืม ”  ด้วยสมองที่กำลังคิดและประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมดอยู่  เลยทำได้เพียงส่งเสียง อือ ออ  ออกไปเท่านั้น

   “ กูรู้  ว่ามึงยังพอตัดใจจากมันได้  กูอยากให้มึงรีบตัดใจจากมันซะ  จะได้ไม่เจ็บเหมือนกู ”

   “ มึงพูดอย่างกับว่ากูรักมัน ”  ถึงจะรู้สึกเจ็บใจที่โดนหลอก  แต่ฉันก็ยังคงทีท่าที่ดูสงบ  ใบหน้าที่เรียบเฉย  และเปล่งเสียงที่ฟังดูเป็นปกติถามเพื่อนสาวออกไป

   “ กูไม่รู้หรอกว่ามึงรักมันหรือเปล่า  แต่หัวใจของมึงรู้ดี  แรกๆ  มึงอาจจะรู้สึกว่ามันเป็นแค่เพื่อนจริงๆ  แต่วันเวลาผ่านไป  ความใกล้ชิดสนิทสนมมากขึ้นทุกที   จนถึงตอนนี้    แม้ปากจะบอกว่าเพื่อน  แต่หัวใจอาจจะบอกไปอีกอย่างแล้วก็ได้   และตอนนี้หัวใจของมึงอาจกำลังเรียกร้องหาสิ่งนั้นอยู่  โดยที่มึงไม่รู้ตัว ”

   อิสายป่านพูดจนฉันอึ้งไปเลย  ไม่คิดว่าเพื่อนสาวของฉันคนนี้  จะพูดเรื่องราวความรักได้ลึกซึ้งกินใจขนาดนี้   แต่สิ่งที่ทำให้ฉันทึ่งไปมากกว่านั้นคือ  สิ่งที่นางพูด  อาจจะเป็นความจริงก็ได้   

   “ ขอบใจมึงมากนะ  ที่เป็นห่วงเพื่อนคนนี้  กูรู้แล้วหละ  ว่าควรจะทำยังไงต่อไป ”

   สิ่งที่ควรทำต่อจากนี้ไป  ฉันควรอยู่ห่างจากเขาให้มากที่สุด   อยู่ห่างจากความรักให้มากที่สุด  ก่อนที่มันจะทำร้ายหัวใจดวงน้อยดวงนี้   มันคงเป็นดั่งเขาว่าจริงๆ  ที่ใดมีรัก  ที่นั่นมีทุกข์

------------------------------------------------------------

   เสียงพูดที่ฟังดูไม่ใช่ภาษาบ้านเกิด  ถูกเปล่งออกมาอย่างต่อเนื่อง ราวกับท่องบทอานยาน  และยังคงดังอยู่เรื่อยๆ  แม้ตอนนี้จะเป็นเวลาสามทุ่มแล้วก็ตาม  นั่งท่องตั้งแต่หนึ่งทุ่ม  ผ่านมาสองชั่วโมงแล้ว  เสียงนั้นยังใสแจ๋ว  ไม่มีท่าทีว่าจะแหบแห้งลงแต่อย่างใด 

   ก๊อก......  ก๊อก.......  ก๊อก....... 

   เสียงเคาะประตูนั่น  ทำให้ฉันต้องหยุดท่องเรียงความภาษาอังกฤษ   เล่นมาเคาะห้องกันดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ คงไม่ใช่ใครที่ไหน  นอกจากไอ้น้องชายตัวดี  ฉันลุกจากเตียง  ไปเปิดประตูห้อง  เจอหน้าห่วยๆ  ของไอ้น้องชายตัวแสบ  ว่าแล้วไง 

   “ มีอะไร ”

   “ เพื่อนโทรมา  ตั้งแต่ย้ายโรงเรียน  เพื่อนโทรมาหาบ่อยจังเลยนะ  แทบจะทุกวัน ”

   “ ก็คนมันเฟรนลี่  อัธยาศัยดี   พูดเพราะ  ใครๆ ก็อยากคุยด้วย  ไม่เหมือนแก  ทำตัวอย่างกับนักเลง  พูดไม่เพราะ  หัดเอาฉันเป็นตัวอย่างบ้าง  เข้าใจมั้ย ” 

   “ เอามึงเป็นตัวอย่าง  ก็ก็ตุ๊ดสิวะ  มึงจะบ้ารึไง  อยู่ดีๆ มาบอกให้น้องเป็นตุ๊ดเหมือนตัวเอง ”

   “ ไอ้บ้า  ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น  ฉันหมายถึงให้ทำตัวดีๆ เลิกทำตัวเป็นนักเลง  แล้วก็พูดจาดีๆ เพราะๆ  ไม่ใช่พูดจาปากคอเราะร้ายแบบนี้  แล้วสาวที่ไหนเค้าจะกล้าเข้าใกล้วะ ”

   “ เออ....  แล้วจะคุยมั้ยโทรศัพท์หนิ ”

   ลืมไปสนิทเลย  มันแต่เถียงกับไอ้น้องชายตัวแสบ  ว่าแต่ ใครโทรมากันนะ  ดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้  คงไม่ใช่เพื่อนสาวอย่างแน่นอน  เห็นทีจะมีอยู่คนเดียว  ต้องเป็นไอ้โชคแน่ๆ เลย  เอาไงดีหละทีนี้

   “ แล้วไหนหละโทรศัพท์ ”  ฉันมองไม่เห็นโทรศัพท์ในมือของน้องชาย  เลยถามออกไปอย่างนั้น 
   
   “ ชาร์จแบตอยู่ข้างล่าง  ลงไปคุยข้างล่างแล้วกัน ”

   จะให้ฉันไปคุยข้างล่าง  บ้ารึไง  เกิดผู้ชายโทรมาจริงๆ  จะไม่โดนจับได้หรอกหรอ  มันเสี่ยงเกินไป  อีกอย่าง  ถ้าเป้นไอ้โชคโทรมาจริงๆ ฉันก็ไม่อยากคุยกับมันอยู่แล้ว  ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้  ฉันจึงตัดสินใจไม่ลงไปคุยโทรศัพท์

   “ ง่วง  จะนอนแล้ว  บอกมันไปว่าฉันหลับแล้ว  แค่นี้นะ  แล้วแกก็ไม่ต้องมาเคาะประตูอีก ”

   “ คร้าบบ  รับคำสั่งครับผม ”

   เพราะนิสัยขี้เล่นแบบนี้สินะ  ถึงทำให้ฉันรักน้องชายคนนี้เอามากๆ  ถ้าไม่มีแก  ชีวิตของฉันคงเหงาน่าดู   ฉันปิดประตูและเดินกลับมานั่งบนเตียง  ท่องเรียงความภาษาอังกฤษเหมือนเดิม  เพิ่งสามทุ่มเอง  เรื่องอะไรจะนอน  ขอท่องอีกสักสองชั่วโมงแล้วกัน  เนื้อหากำลังซึมซับเข้าสู่สมอง  จะแข่งสัปดาห์หน้าแล้ว  คงต้องขยันกันหน่อย   สู้โว๊ยยยยย......

---------------------------------------------------------------

   กรี๊งงงงงง.......... ( เสียงออดพักกลางวัน)

   “ พวกมึง  แดกยาคุมกันไปถึงไหนแล้วยะ ”  เสียงกังวานของอิสายป่านเอ่ยถามเราสองคน 

   “ แดกทุกวัน  วันละ 1 เม็ดก่อนนอน  กูเริ่มรู้สึกว่าผิวพรรณเปล่งปลั่ง  แลดูมีน้ำมีนวล  หน้าใสกิ๊ง  แก้มนูนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเจน  หน้าไม่ซูบเหมือนแต่ก่อนเลยจ้ะ  หน้าอกใหญ่ขึ้น  เห็นเป็นเต้าเล็กๆ  เหมือนนมเด็กผู้หญิงเลยอะแก ”  โทนเสียงสูงที่ได้ยินแล้วแสบเยื่อแก้วหูของอิกระต่าย  ร่ายพรรณนาถึงความเปลี่ยนแปลงทางสรีระร่างกายของตนเองให้พวกเราฟัง  อะไรมันจะขนาดนั้น  เวอร์ไปแล้วอินี่ 

   “ เริ่ดคะเพื่อนสาว  กินเข้าไปเยอะๆ  เดี๋ยวนมของแกก็จะใหญ่ขึ้นๆ  เท่ากับขอบนางมายด์เลยแหละ  ดีไม่ดี  อาจจะใหญ่กว่าของชีก็ได้จร้า ”   

     ฮ่า..............  พวกเรา  4  สาวหัวเราะเป็นเสียงเดียวกัน  นึกแล้วก็ขำ  ถ้าเกิดหน้าอกพวกเราใหญ่โตถึงขนาดนั้นจริง  คงต้องซื้อยกทรงมาใส่แล้วแหละ  แต่มันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ หรอ   หัวเรากันอย่างสนุกสนานได้ไม่ทันไร  เสียงที่ฉันไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น 

   “ หัวเราะอะไรกันอยู่หรอครับสาวๆ  ท่าทางสนุกเชียว  ขอนั่งหัวเราะด้วยคนได้ไหม ”

   ทุกคนเงียบกริบ  มองหน้ากันไปมา  ดูจากสีหน้าก็รับรู้ได้ว่าไม่ต้องการรับแขกคนนี้   เพื่อนสาวสามนางจึงส่งสายตามาที่ฉัน  เป็นสัญญาณบอกว่า  ช่วยไล่มันไปไกลๆ ที  พวกกูไม่ต้อนรับมันแล้ว   

   “ ฉันว่า....  นายไปนั่งกินข้าวกับเพื่อนนายเถอะ  หรือไม่ก็......  ไปนั่งกินกับคนที่นายอยากนั่งกินข้าวด้วย  ไม่ต้องมานั่งกับพวกเราหรอก ”  ฉันหันไปบอกไอ้โชค  และพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเย็นชา   มันยืนทำหน้า  งง  เห็นดังนั้นฉันเลยหันกลับมานั่งทานข้าวต่อ  ไม่อยากสนใจผู้ชายคนนี้อีกแล้ว     

   “ ก็ฟิล์มไง  คนที่โชคอยากนั่งทานข้าวด้วยมากที่สุด ” 

   หน้าด้าน  ยังกล้าโกหกฉันอีกหรอ   เจ็บใจจริงๆ  คงคิดว่าฉันโง่สินะ  แต่ขอโทษ  ฉันฉลาดกว่าที่แกคิด  อย่ามาหลอกฉันอีกเลย  อย่าทำให้ฉันรู้สึกรังเกียจในตัวของแกมากไปกว่านี้เลย  ขอให้ความทรงจำดีๆ มันเหลืออยู่บ้างเถอะ  หยุดพูดโกหกกันสักที   ฉันได้แต่นั่งทำหน้านิ่ง  และไม่ยอมหันกลับไปมองมันอีก 

   “ ฟิล์มเป็นอะไรไปหรือเปล่า  เมื่อวานยังดีๆ อยู่เลย ทำไมวันนี้ไล่โชคให้ไปนั่งที่อื่นหละ ”

   “ พวกมึง  กูอิ่มแล้ว  ขอตัวก่อนนะ  ต้องรีบไปซ้อมกับครู  ฝากเก็บจานข้าวด้วยนะ ”

   ฉันไม่อยากตอบคำถาม  และไม่ต้องการพูดกับไอ้โชคไปมากกว่านี้  เพราะถ้าจะให้พูดจริงๆ  คงไม่แคล้วต้องยกเรื่องเมื่อวานมาพูด  ฉันยังไม่พร้อมที่จะมีปากเสียงกลางโรงอาหาร  เลยต้องพูดตัดบทออกไปอย่างนั้น  แล้วลุกเดินออกไป 

-----------------------------------------------------------

   ขณะเดินไปห้องพักครู  เสียงเรียกชื่อฉันก็ดังขึ้น  จนต้องหยุดฝีเท้าแล้วหันกลับไปมองเจ้าของเสียงเรียก  ที่กำลังเดินเข้ามา  และหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน     

   “ โต๊ดมีอะไรหรือป่าว ” 

   “ เมื่อกี้ไอ้เต้โทรมา  มันฝากมาบอกว่า  วันนี้ห้าโมงเย็น  ให้ฟิล์มไปหามันที่สนามบาสอำเภอ ”

   “ ไปหาทำไมหรอ ”  ใบหน้าของฉันบ่งบอกว่าสงสัย  คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากัน

   “ ไม่รู้สิ  มันไม่ได้บอกไว้  แล้วฟิล์มจะไปมั้ยหละ ให้โต๊ดไปเป็นเพื่อนก็ได้นะ ”

   “ คงไม่ไปหรอก  ถ้าเย็นนี้โต๊ดไปสนามกีฬาอำเภอ  ฝากบอกเขาด้วยแล้วกัน  ว่าเราต้องท่องภาษาอังกฤษ  จะไปแข่งขันสัปดาห์หน้าแล้ว  ก็เลยไปหาไม่ได้  ฟิล์มไปก่อนนะ  ครูรออยู่ ”

   “ ครับ  เดี๋ยวโต๊ดจะบอกมันให้ ”

   ฉันยิ้มบางๆ ให้ไอ้โต๊ด เพื่อเป็นการขอบคุณที่จะช่วยส่งสารไปบอกไอ้เต้  ไอ้โต๊ดเองก็ไม่ลืมที่จะส่งยิ้มกลับคืนมาให้ฉันเหมือนดั่งเคย 

   โทษทีนะแก  ช่วงนี้ฉันคงออกไปหาแกไม่ได้หรอก  เอาไว้แข่งเสร็จก่อน  ค่อยเจอกันตามที่แกนัดฉันไว้แล้วกัน  นัดที่คุยกันไว้  เพื่อทำตามคำขอ  ในฐานะที่แกเป็นผู้ชนะ  และฉันเป็นผู้แพ้   

............................................................................


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-11-2015 01:05:46 โดย Film-mii »

ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
ถ้าโชคทำจริงๆนี้ มีเกลียดอ่ะ  :m16:

ออฟไลน์ Dominic

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
 :hao7: อยากอ่านต่อแล้ว โชค ทำจิงรึป่าวเนี่ย หายไปนานแล้ว ไม่มาต่อแล้วหรอ

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

 ก่อนอื่นต้องขอโทษที่หายไปนาน

ขอแจ้งข่าวให้ทราบว่า ตอนนี้กำลังเขียนนิยายเรื่องนี้อยู่ และอยากเขียนให้จลภาคมัธยมต้นก่อน จะได้เอามาอัพให้ได้อ่านกันวันละตอน เหมือนละครที่ออนแอร์ทุกวัน คนอ่านจะได้ไม่ไม่อารมณ์ค้าง ซึ่งคาดว่า จะเริ่มออนแอร์ตอนที่ 17 part 2/2 ในวันที่ 1 มกราคม 2559 นี้ และจะออนแอร์วันละ 1 ตอน จนจบภาคมัธยมต้น

หวังว่าคนอ่านทุกๆ คน จะรอติดตามกันนะจ้ะ

 :bye2:    :mew1:    :katai4:     :pig4:

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
ปีใหม่เลยหรอ มาอาทิตละตอนก่อนก้อยังดีนะ จะได้หายคิดถึง จะได้ไม้ลืมกันนะ

ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
ปีใหม่เลยหรอ มาอาทิตละตอนก่อนก้อยังดีนะ จะได้หายคิดถึง จะได้ไม้ลืมกันนะ

เห็นด้วยกับข้างบน  :hao5:
แต่ว่าแล้วแต่พี่ฟิล์มก็ได้ค่ะ รอได้เสมอ  :mew1:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
แล้วเจอกันปีหน้า
วันละตอน

ถ้าได้อ่านทุกตอน
ก็จะบวกให้ทุกตอน
เหมือนกัน

จะรอนะฟิล์ม

ออฟไลน์ fongbeer37

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ยังรอเรื่องนี้อยู่น้าาาา กลับมาเถ๊อะะะะ

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

  ขอโทษผู้อ่านทุกท่านที่หายไปซะนานเลย  ตอนนี้กลับมาแล้วนะ  และจะกลับมาเขียนต่อให้ได้อ่านกันจนจบเลยจร้า 

ตอนที่  17  part 2/2 

   เฮ้อ..... ซ้อมมาทั้งวี่ทั้งวัน  เหนื่อยจะตายชัก  วันหยุดแบบนี้หาอะไรๆ ผ่อนคลายสมองทำดีกว่า  ว่าแต่จะทำอะไรดีหละ  อ๋อ  รู้แระ ชวนไอ้น้องชายตัวแสบเล่นเกมส์ตลับดีกว่า  ว่าแล้วก็ชวนกันเล่นเกมส์   ที่บ้านมีเกมส์ตลับที่ต่อเข้ากับทีวีอยู่เครื่องนึง สมัยนั้นฮิตมาก  เห็นมีเล่นกันแทบทุกบ้าน แผ่นเกมส์นึงแผ่นก็จะมีเกมส์ให้เล่นอยู่หลายเกมส์  เล่นอยู่กับน้องทั้งวัน  เล่นจนเบื่อ  ชักง่วงๆ  ไปนอนงีบที่เปลหน้าบ้านสักหน่อยดีกว่า

   “ พี่สาวคร้าบบ  เพื่อนโทรมาหา ”  ไอ้น้องชายตัวแสบยื่นโทรศัพท์มาให้ฉันที่กำลังจะเคลิ้มหลับ  แต่ต้องตื่นเพราะเสียงปลุกของมันนี่แหละ  แล้วนั่นใครโทรมานะ  วันหยุดแบบนี้ อาจจะเป็นอิสายป่านก็ได้ คงเหงาหละสิท่า  เลยโทรมาชวนให้ไปเล่นด้วย  คิดได้แบบนั้นฉันเลยคว้าโทรศัพท์มา  แต่....ไม่ใช่เบอร์อิสายป่านนี่  เบอร์แปลกๆ 

   “ หวัดดีจ้ะ  นั่นใครอะ ”

   “ โชคเอง  ขอบใจนะที่ยอมรับสายเรา  ”  ถ้ารู้ว่าเป็นเบอร์แก  ฉันคงไม่รับหรอกยะ

   “ อืม  โชคมีธุระอะไรหรือเปล่า ”

   “ แค่อยากคุยด้วย พักนี้ฟิล์มเปลี่ยนไปมากเลยนะรู้มั้ย  ทำเหมือนกับไม่อยากคุยกับโชคเลย  โกรธอะไรกันหรือเปล่า  เราทำอะไรผิดหรือทำอะไรให้ไม่พอใจ  บอกได้นะ  ฟิล์มทำแบบนี้  โชครู้สึกไม่ดีเลย ”

   “ เปล่า  ไม่มีอะไร  ก็แค่เครียดๆ กับการแข่งภาษาอังกฤษ  ก็เลยไม่ค่อยมีอารมณ์จะคุยด้วยสักเท่าไหร่  ก็แค่นั้นเอง อย่าคิดมากเลย  ฟิล์มไม่ได้สำคัญกับโชคขนาดนั้นหรอก ”

   “ สำคัญสิ  ฟิล์มสำคัญกับโชคเสมอแหละ  มีอะไร  คุยกันดีๆ ได้ไหม ขอร้องนะครับ ”

   “ ได้....  ไว้คุยกันวันจันทร์นะ ”

   วางสายโทรสัพท์ไปแล้ว  แต่ใจยังคงครุ่นคิดถึงเรื่องนั้นอยู่  เรื่องที่ทำให้รู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่คิดถึง  คำถามมากมายที่ต้องการรู้คำตอบจากปากของเจ้าตัว  และหวังว่าคำตอบนั้นคงไม่ใช่อย่างที่คิด  เพราะในใจลึกๆ ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นเลย  วันพรุ่งนี้แล้วสินะ  จะได้รู้คำตอบจริงๆ สักที 

----------------------------------------------------------------------

   ในขณะที่ฉันกำลังนั่งกินข้าวกับเพื่อนๆ  แขกที่ไม่ได้รับเชิญก็มาขอร่วมแจมอีกตามเคย  ไม่ใช่ใครที่ไหน  ไอ้โชคนั่นเอง   วันนี้ครูติดธุระตอนเที่ยงพอดี  ก็เลยไม่ต้องไปซ้อม  แต่เย็นนี้ต้องซ้อมใหญ่  เพราะพรุ่งนี้จะแข่งแล้ว  ฉันจึงได้โอกาส  หลังจากกินข้าวเสร็จนี่แหละ  เรามีเรื่องต้องเคลียร์กัน 

   ฉันไม่ได้บอกเพื่อนๆ  ว่าจะไปเคลียร์เรื่องนั้นกับไอ้โชค บอกแค่ว่าจะไปเข้าห้องน้ำ  ไอ้โชคลุกเดินตามฉันมา   เหมือนมันจะรู้ ว่าฉันจะคุยหลังจากกินข้าวเสร็จ  ฉันเดินไปเรื่อยๆ  และมาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง  ม.2/2   ไอ้โชคท่าทางตกใจน่าดู  คงคาดไม่ถึงสินะ  ว่าสถานที่คุยกันของเราจะเป็นที่นี่  และที่สำคัญกว่านั้น  น้องนีคนนั้นกำลังนั่งอยู่ในห้องซะด้วย  เข้าทางฉันทั้งหมดเลย  ความจริงต้องถูกเปิดเผย    

   “ ฟิล์ม  ทำไม  เราต้องมาคุยกันที่นี่ด้วยหละ ”  ไอ้โชคพูดเสียงกร่อยๆ 

   “ ทำไมหละ  โชคไม่ชอบที่นี่หรอ   ช่วงนี้.....เห็นเข้าๆ อกๆ ห้อง ม.2/2 ออกจะบ่อย นึกว่าชอบที่นี่ซะอีก ”  ฉันไม่ได้แอบตามดูหรอกนะ  แต่สายลับปาปารัชซี่สองสาวเล่าเรื่อง  อิกระต่ายกับอิสายป่านนี่สิ  สอดรู้สอดเห็นตามดูอยู่ทุกวัน  แถมยังเอามาบอกฉันอีก  ได้ยินทีไรหงุดหงิดทุกที 

   “ เอ่อ.... ฟิล์ม  รู้ได้ยังไงอะ  อย่าบอกนะว่า  แอบตามดู ”  ดูมันพูดเข้า  ให้ตายเถอะ  ฉันต้องเสียเวลาอันมีค่ามาตามก้นผู้ชายต้อยๆ ด้วยหรอยะ  สำคัญตัวผิดไปหรือเปล่า 

   “ เสียเวลาหวะ  จะทำแบบนั้นไปทำไม  อย่าสำคัญตัวผิด ”

   “ แล้วรู้ได้ไง  ว่าโชคเข้าๆ ออกๆ ห้องนี้บ่อยๆ ”

   “ ไม่ได้อยากรู้หรอก  แต่เรื่องนี้  คงเป็น talk of the town  เขาถึงเม้าท์ให้แซด ”

   “ อ๋อ.... ที่แท้ก็รู้มาจากคนอื่นนี่เอง  ไอ้เราก็นึกว่าแอบตามดูทุกวัน  แอบดีใจหมดเลย  แต่ฝันกลับสลายซะงั้น ”

   “ เข้าเรื่องเลยแล้วกัน  ขอถามตรงๆ  นะ  กำลังจีบน้องห้องนี้อยู่ใช่มั้ย ”  ไอ้โชคทำหน้างง  ก่อนจะหัวเราะออกมา  ท่าทางจะบ้า  ทำแบบนี้มันยั่วโทสะกันชัดๆ อย่าให้ฉันต้องโมโหไปมากกว่านี้นะ  รีบตอบมาสักทีสิ 

   “ นี่อย่าบอกนะว่า......  ฟิล์ม....  กำลังหึงโชค ”  ไอ้บ้า  ทำหน้ากวนตีน แถมยังยิ้มจนแก้มจะฉีกอีก  เห็นแล้วโมโหสุดๆ  คิดได้ไง  หึง...  เป็นคำถามที่ปัญญาอ่อนมากๆ

   “ จะบ้าหรอ  เราไม่ได้เป็นแฟนกันนะ  แค่อยากรู้  ว่าเรื่องที่เขาเม้าท์กันมันเป็นเรื่องจริงไหม ”

   “ แล้ว..... ฟิล์มอยากให้มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ”

   ฉันยืนอึ้งกับคำถามนี้อยู่สักพัก  มันเป็นคำถามที่ฟังดูง่ายๆ  และถ้าคนที่โดนถามไม่ใช่ฉัน  แต่หากเป็นคนอื่น เขาคงตอบออกไปแล้ว  แต่สำหรับฉัน  ไม่เป็นอย่างนั้น  คำถามนี้ชวนให้ครุ่นคิดถึงคำตอบที่อยู่ในใจ  คำตอบที่ต้องการจริงๆ  คือ ไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง   แต่คำตอบกลับไม่ได้ถูกตอบออกมาจากใจ  แต่กลับถูกตอบออกมาจากสมองมากกว่า 

   “ จะยังไงก็ได้  เพราะยังไงเราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ดี ”  เพียงแค่คำตอบนี้  กลับทำให้ใบหน้าที่กำลังยิ้มแย้ม  ดูสดใส ซึมลงไปในพริบตา  แววตาที่ดูเศร้าคู่นั้น  บ่งบอกถึงความผิดหวังในคำตอบ 

   “ พี่โชค....  มาหาบิวหรอคะ ”  เราหันหน้าไปตามเสียงเรียก เจอน้องนีคนสวยที่ไอ้โชคกำลังจีบอยู่ยืนอยู่หน้าประตูห้อง   ก่อนที่เธอจะเดินเข้ามาหาชายในฝัน 

   “ วันนี้ไม่มีอะไรติดไม้ติดมือมาให้บิวหรอคะ ”  แหม  คงได้บ่อยหละสิ  ถามเอาอยู่นั่นแหละ หน้าด้าน

   “ ตอนนี้ยังไม่มี  แต่เลิกเรียนนี่มีแน่นอนครับ ”  พูดไม่พอ ยังยิ้มหวานให้กันอีก เห็นแล้วหมั่นไส้  ช่วยไปพอดรักกันให้ไกลๆ ลานสายตาของฉันหน่อยเถอะ 

   “ แล้วเมื่อไหร่ถึงจะเปิดตัวสักทีหละคะ  บิวอยากเห็นจนทนไม่ไหวแล้ว ” แอร๊ยยย   แรงจริงอะไรจริง   ถ้าได้เปิดตัวเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการแล้ว  คงชวนกันไปทำอย่างว่า  รีบๆ สนองให้นางหน่อยเถอะ  เดี๋ยวนางจะขาดใจตายก่อน  คงอยากเห็นไอ้นั่นของไอ้โชคมากเลยสินะ  ไม่ใช่แค่อยากเห็น  คงอยากได้อยากโดนด้วย   เฟียไอ้โชคจนตัวติดกันแล้วนั่น  ไอ้นี่ก็ยืนเฉยให้มันเฟียอยู่นั่นแหละ  ชักจะโมโหแล้วนะ 

   “ ขอโทษที่ขัดจังหวะ  ทำอะไรรู้จักให้เกียรติสถานที่ด้วย  ” ฉันพูดเสียงแข็ง  พยายามปรามการกระทำที่ไม่เหมาะสมของน้องนี   ก่อนที่นางจะเดินออกห่างจากไอ้โชค 

   “ บิวเข้าห้องก่อนนะคะ  เจอกันเย็นนี้คะ ”  ก่อนเข้าห้องยังส่งตาหวานมาให้  แถมอีกฝ่ายยังยิ้มรับยิ้มส่งอีกด้วย  ทนไม่ไหวแล้วโว้ยยยยย  บ้าเอ้ย  ถึงจะโกรธมากแค่ไหน  แต่ก็ต้องพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติให้มากที่สุด  หลังจากที่น้องนีเดินเข้าห้องไปแล้ว  เราจึงหันหน้ามาคุยกันอีกครั้ง

   “ ไม่ต้องพูดอะไรแล้วหละ  คำตอบมันชัดเจนอยู่แล้ว  ขอบใจนะ  สำหรับคำตอบ ” ฉันพยายามปรับน้ำเสียงให้ฟังดูราบเรียบเป็นปกติ  แต่เหมือนมันจะไม่เป็นอย่างนั้น  เพราะเสียงที่เปล่งออกมาเจือไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นครอเล็กน้อย 

   ฉันเดินเลี่ยงออกมา   เดินลงบันได  โดยมีไอ้โชคเดินตามมาพร้อมกับเรียกชื่อฉันอยู่เนียงๆ  แทนที่จะหยุดคุย  กลับไม่เป็นอย่างนั้น  ยังคงเดินต่อไป  รู้ว่าเพื่อนไปนั่งตากแอร์อยู่ที่ห้องสมุด  จุดหมายปลายทางเลยเป็นที่นั่น  พอไปถึงก็นั่งลง   และมันก็ตามมาถึงจนได้  แถมยังนั่งที่ข้างๆ ฉันอีก   มันหันหน้ามองมาที่ฉัน  ฉันมองเห็นได้โดยหางตา  ไม่ยอมหันหน้าไปคุยกับมันอีกแน่ๆ  พอแล้วสำหรับวันนี้   

   “ ฟิล์ม....  ฟิล์มกำลังเข้าใจผิดนะ ”

   “ พอทีเถอะโชค  ที่นี่เป็นห้องสมุดนะ  อย่าส่งเสียงดังน่ารำคาญอีกเลย  ”  ตอนนี้ฉันไม่ต่างอะไรจากคนที่กำลังเย็นชาคนหนึ่ง  เพราะตอนนี้ฉันกำลังรู้สึกชา  ชาไปทั้งตัว  จนถึงขั้วหัวใจ   ไม่แปลกที่ความเย็นชานั้นจะถูกส่งออกมาทางท่าทีและน้ำเสียงเพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ได้

   “ ก็ได้  แต่วันนี้เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง  หนีโชคไม่พ้นหรอก ”

   ฉันยังคงเฉยชา  ไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว  ไม่อยากได้ยินอะไรทั้งนั้น  น้ำตาจ๋า  อย่าเพิ่งไหลออกมาตอนนี้เลยนะจ้ะ  ฉันกวาดสายตามองดูเพื่อนๆ  พวกมันกำลังจ้องมองฉัน พร้อมกับสีหน้างุนงงสงสัย  ที่ซ่อนคำถามเอาไว้ว่า มันเกิดอะไรขึ้น   และฉันก็ยังไม่พร้อมที่จะพูดอะไรในตอนนี้   ได้แต่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะ  จะหนังสืออะไรก็ช่าง หยิบๆ มันขึ้นมาเถอะ อ่านๆ ไป  เมื่อไหร่จะถึงเวลาเรียนคาบบ่ายสักที  อยู่ตรงนี้รู้สึกอึดอัดเหลือเกิน

---------------------------------------------------------------------


   หลังเลิกเรียน  วันนี้ครูนัดซ้อมใหญ่  เพราะพรุ่งนี้ต้องไปแข่งขันแล้ว  เราซ้อมกันตั้งแต่บ่ายสามโมงครึ่งจนถึงห้าโมงครึ่ง  สองชั่วโมงเต็ม  เล่นเอาเสียงแหบเสียงแห้งไปเลยทีเดียว   พอซ้อมเสร็จก็เดินไปที่โรงจอดรถ   น่าน.... ท่าทางจะไม่ได้กลับบ้านง่ายๆ แล้วสิเรา  เย็นขนาดนี้แล้ว  ยังมานั่งทำไรอยู่วะเนี่ย  ไม่อยากคุยกับมันเลยจริงๆ   ฉันเดินเข้าไปในโรงจอดรถ และเดินไปที่รถของตัวเอง  โดยที่ไม่มอง  ไม่สนใจไอ้โชคเลย   แต่มันก็เดินตามมาจนได้   

   “ ทำไมต้องเดินหนีด้วย ” 

   เสียงของมันไล่หลังฉันมา   พร้อมกับฝีเท้าที่ก้าวตามมาอยู่ตลอด  จนกระทั่งถึงรถมอเตอร์ไซต์ของฉัน  รับรู้ได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับรถ  เฮ้ย  ยางแบน  เป็นไปได้ไง  ตอนนั้นในหัวคิดออกอยู่เรื่องเดียว และคิดว่ามันต้องใช่แน่ๆ  ฉันจึงหันไปหาไอ้คนที่คิดว่าเป็นต้นเหตุด้วยสีหน้าและอารมณ์ขุ่นเคือง

        “ นี่มันอะไรกันโชค  ทำแบบนี้ทำไม  ไม่คิดเลยนะว่านายจะเป็นคนแบบนี้ ”

   “ ใช่  ปกติก็ไม่ได้เป็นคนแบบนี้หรอก  แต่มีใครบางคนบังคับให้ผมต้องทำแบบนี้ ”

   “ ทำแบบนี้แล้วเราจะกลับยังไง  ไม่ต้องจอดรถทิ้งไว้อย่างนี้หรอ ”

   “ ก็จอดทิ้งไว้ตรงนี้แหละ  ยังไงก็มียามเฝ้าให้อยู่แล้ว มันไม่หายหรอก  พรุ่งนี้จะให้ช่างมาซ่อมให้  ส่วนเรื่องกลับบ้าน  เดี๋ยวผมไปส่งก็ได้ ”

   นี่มันเล่นมัดมือชกกันเลยนี่หว่า  เล่นแบบนี้แล้วฉันจะทำไงได้  ก็คงต้องยอมตามน้ำไป  อีกอย่าง  ตอนนี้ดูท่าทางไอ้โชคอารมณ์ไม่ดีด้วย   ลุงยามก็ไม่อยู่  หายไปไหนหละเนี่ยเวลาคับขันแบบนี้   เอาไงว้า....  ถ้ายังเสียงแข็งใส่มันแบบนี้  คงไม่ดีแน่   เอาเป็นว่า   คุยกับมันดีๆ  น่าจะรุ่งกว่า 

   “ โอเค  แล้วเราจะกลับบ้านกันได้หรือยัง  นี่มันก็เย็นมากแล้วนะ ”

   “ ยังกลับไม่ได้  เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน ”

   “ เรื่องเมื่อตอนเที่ยงหนะหรอ ”

   “ ใช่  ฟิล์มกำลังเข้าใจผิด  โชคไม่สบายใจ  ไม่อยากปล่อยให้มันเป็นแบบนี้  ฟังกันก่อนได้ไหม  ขอร้อง  อย่าเดินหนีกันอีก  ช่วยฟังที่จะพูดต่อจากนี้ให้จบก่อน  ถ้าฟังจบแล้ว  อยากจะด่าจะว่าอะไรก็ได้ ”

   “ อืม....  พูดมาสิ  กำลังฟังอยู่ ”

   “ เรื่องก็มีอยู่ว่า..............”  แล้วไอ้โชคก็บรรยายเรื่องราวต่างๆ ให้ฉันฟัง 

   คือ.... เรื่องทั้งหมดเป็นอย่างนี้  เพื่อนไอ้โชคคนนึง  แอบรักแอบชอบน้องเค้า  แต่ไม่กล้าจีบตรงๆ  ก็เลยให้ไอ้โชคเป็นพ่อสื่อให้  ซื้อน้ำ ซื้อขนม  ซื้อสิ่งของเล็กๆ น้อยไปให้น้องคนนั้น  แต่ทุกครั้งก็ฝากไอ้โชคเอาไปให้ตลอด  ส่วนน้องคนนั้นก็รู้นะว่าเพื่อนไอ้โชคฝากมาให้  ที่รู้ก็เพราะไอ้โชคเป็นคนบอกตั้งแต่ครั้งแรกและบอกทุกๆ ครั้งที่เอาของไปให้   จนกระทั่งถึงตอนนี้  เพื่อนไอ้โชคก็ยังไม่ยอมเปิดเผยตัวซักที  เรื่องราวทั้งหมดก็เป็นแบบนี้แหละ 

   งั้น.... ที่น้องนีบอกว่า  เมื่อไหร่จะเปิดตัว  อยากเห็นจนทนไม่ไหวแล้ว  ก็หมายถึงเพื่อนของไอ้โชคสินะ  แต่  ทำไมต้องออเซาะไอ้โชคขนาดนั้นด้วยหละ  แถมยังส่งตาหวานให้เขาอีก  คงจะแรดน่าดู  ถึงฝ่ายชายจะไม่ได้คิดอะไร  แต่นางชะนีนี่ไม่แน่  ฉันสัมผัสได้  ว่ามันอยากจะงาบไอ้โชคซะเต็มประดา    ช่างเหอะ  จะอะไรยังไงก็ช่าง ขอแค่อย่ามายุ่งกับฉันก็พอ  เพราะถ้ามาวุ่นวายกับชีวิตของฉัน บอกเลย  เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ แน่ 

   “ อื้ม  เข้าใจแระ  แล้วนายไม่กลัวน้องเขาชอบนายขึ้นมาจริงๆ หรอ  ”

   “ เฮ้ย!!   คงไม่มั้ง  ” ไอ้โชคทำท่าตกใจ   แหมๆ  อ่อนต่อโลกจริงๆ เลยนะพ่อคู้ณณ....

   “ หรอ  คิดงั้นจริงอะ  ระวังตัวไว้ดีๆ เถอะ  ”  คำพูดแค่นี้  กลับทำให้อีกฝ่ายยิ้มจนหน้าบาน  ยิ้มทำไม ท่าจะบ้า 

   “ เป็นห่วงหรอ  กลัวเราจะเสียเวอร์จิ้นอะดี๊  ใช่ป้ะ ”  ไม่ถามอย่างเดียว ทำหน้ากวนตีนอีก  บ้าบอที่สุด 

แต่คำถามนี้  ก็ทำเอาฉันอึ้งไปชั่วขณะ  ยอมรับว่ากลัวไอ้โชคจะโดนมารยาน้องนีจนเสียตัว  แต่ก็ไม่คิด  ว่าจะเสียเวอร์จิ้น  เพราะด้วยรูปร่างหน้าตาที่ดูดีขนาดนี้  ไม่น่าเชื่อ   ว่ายังไม่ผ่านมือใครมาก่อน

       “ เสียเวอร์จิ้น  นี่ยังเหลือให้เสียอีกหรอ  นึกว่าเสียไปตั้งนานแล้ว ”

       “ อ้าว  พูดแบบนี้ผมเสียหายนะครับ  แต่....  ก็อยากเสียอยู่เหมือนกันนะ  กำลังรอใครบางคนอยู่  ไม่รู้ว่าเขาอยากได้ความบริสุทธิ์ของผมรึเปล่า  ”  ทั้งพูดทั้งส่งสายตามาให้  รู้หรอกว่าหมายถึงใคร  ชักจะลามปามใหญ่แล้วนะอิตานี่ 

       “ ทะลึ่ง  แต่ถ้าอยากเสียมากนัก  ฉันก็พอช่วยได้นะ  เอาเปล่า ” แกล้งส่งตาหวานไปยั่วมันสักหน่อย

       “ เฮ้ย  จริงดิ  พูดจริงเปล่า  แต่....  มันจะดีหรอฟิล์ม  คือ... โชคยังไม่เคยเลยนะ  แล้วฟิล์มเคยยัง ”  เสียงอ่อยมาเชียว  เหยื่อกำลังติดกับแล้ว   5555555

       “ บ้าดิ  จะเคยได้ไง  เราก็ยังจิ้นอยู่เลยนะ ”

       “ แล้ว.....  เราจะเริ่มกันยังไงดี  คือ....โชค..... ต้องใช้ถุงยางเปล่า ”  บิดตัวไปมา  ท่าทางจะเขินหนัก  หน้าแดงอย่างกับลูกตำลึง  ไอ้บ้าเอ้ย  คิดไปถึงไหนแล้วยะ

       “ อันนั้นก็แล้วแต่โชคดิ  เดี๋ยวงานหมอลำคราวหน้า  เราจะเอาโชคไปฝากไว้กับกลุ่มเพื่อนสาว  อยากได้กลุ่มไหน คนไหน บอกได้นะ  เดี๋ยวเราติดต่อให้เป็นพิเศษ  ครั้งแรกของโชค  ต้องพิเศษสุดๆ และประทับใจมิรู้ลืม   บอกมาได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ    เดี๋ยวจัดให้ ”  ฉันพูดไปยิ้มไป   มีความสุขที่ได้แกล้ง  5555   แต่ทำไมมันถึงไม่ขำเลยแฮะ  แถมยังทำหน้าบึ้งตึงใส่ฉันอีก 

       “ ผมไม่ใช่คนแบบนั้นนะ  และถ้าผมจะเอาจริงๆ  ผมคงไม่เอาพวกกะเทยให้เสียบริสุทธิ์  และเสียความเป็นชายของผมหรอก  ขยะแขยง ” 

       ความรู้สึก  ณ ตอนนี้เหมือนโดนด่า  ด่าต่อหน้าต่อตา  ด่าได้เจ็บแสบและเจ็บปวดมากๆ  ไม่ชอบก็ไม่ชอบดิวะ  พูดกันดีๆ ก็ได้นี่หว่า  ทำไมต้องทำร้ายจิตใจกันขนาดนี้ด้วย   

       “ เออ  ไม่เอาก็ไม่เอาดิวะ  จะบอกอะไรให้  กะเทยอย่างฉัน  ก็ไม่เอานายเหมือนกัน  อย่าสำคัญตัวเองผิด  คิดว่าตัวเองเท่านั้นที่มีสิทธิ์เลือก  เพราะกะเทยก็ไม่ได้ง่ายทุกคน  เราเป็นคน  เรามีสิทธิ์เลือกเหมือนกัน ”  พูดจบก็หันหลังให้  ไม่อยากแม้แต่จะเห็นหน้า  ถ้าฉันเข้มแข็งพอคงต่อยมันปากแตกไปแล้ว

       “ ฟิล์ม  โชคขอโทษ  เมื่อกี้ยอมรับว่าโกรธมาก  ก็เลยพูดออกไปโดยไม่คิด  ขอโทษนะครับ  ต่อไปจะไม่พูดแบบนั้นอีกแล้ว  หันหน้ามาคุยกันเถอะนะ ”

       ฉันนิ่งอยู่ซักพัก  เพื่อทำใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น  ไม่คิดเลยว่าประโยคทุเรศๆ  แบบนั้น จะออกมาจากปากของผู้ชายคนนี้  มันทำให้ฉันผิดหวังมาก  ถึงมันจะออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ  ออกมาจากการบันดาลโทสะ  แต่บางที  คำพูดที่ออกมาในขณะที่กำลังโกรธ  มันอาจเป็นความรู้สึกจริงๆ ที่ซ่อนอยู่ข้างในก็ได้    ฉันพอทำใจได้บ้าง  ก่อนจะหันหน้ากลับมา

       “ อยากกลับบ้านแล้ว ”  ฉันก้มหน้าพูดเสียงเบา 

       “ ไปขึ้นรถกัน ”   

       เราสองคนเดินไปขึ้นรถ  ไอ้โชคขับรถไปส่งฉันที่บ้าน   ระหว่างทางยังเงียบกริบ  ไม่มีการพูดคุยอะไรกัน  สำหรับฉันแล้ว  ความเงียบนี่หละ คือคำตอบที่ดีที่สุดในตอนนี้           

…………………………………………………………………..



ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
เราชอบเต้
อยากให้เต้เป็นพระเอก
ชอบพระเอกเถื่อนๆ
ปากหมา รักจริง
รออ่านแต่ตอนที่มีเต้555

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เราชอบเต้
อยากให้เต้เป็นพระเอก
ชอบพระเอกเถื่อนๆ
ปากหมา รักจริง
รออ่านแต่ตอนที่มีเต้555

555555  เดี๋ยวเต้ก็มาจร้า 

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตอนที่  18  Part  1/2   

   คราวนี้ไม่เหมือนคราวที่แล้ว   ไอ้โชคขับรถมาส่งฉันถึงหน้าบ้าน  เล่นเอาฉันตกใจจนหัวใจไปอยู่ที่ตาตุ่ม  โชคดีหน่อย ที่หน้าบ้านไม่มีใครอยู่   เพราะถ้ามีใครสักคนเห็นเข้าหละก็  ได้เป็นเรื่องแน่ๆ  ฉันเดินลงมาจากรถมอเตอร์ไซค์  ก่อนจะหันกลับไปค้อนคนที่มาส่ง

   “ ทำบ้าอะไรหนิ  เคยบอกแล้วไม่ใช่หรอ  ว่าไม่ให้มาส่งถึงหน้าบ้าน  ถ้าพ่อเห็นเข้าจะทำยังไง  ” 

   “ โทษนะ  วันนี้เราอยากมาส่งถึงบ้านจริงๆ ”  คนพูด  พูดด้วยสีหน้าสำนึกผิด 

   “ ช่างเหอะ  ขอบใจนะที่มาส่ง  รีบกลับบ้านเถอะ ”

   พูดจบฉันก็หันหลังให้ไอ้โชคและกำลังจะเดินเข้าบ้าน  แต่โดนเรียกเอาไว้ซะก่อน  จึงต้องหยุดฝีก้าวที่เพิ่งจะเดินไปได้ไม่ไกล  แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อยากหันกลับไปอีกแล้ว  วันนี้ขอให้พอแค่นี้เถอะนะ  เหนื่อยแล้วจริงๆ  จึงได้แต่หันหลังให้คนที่เพิ่งเรียกชื่ออยู่อย่างนั้น

   “ พรุ่งนี้เช้าให้มารับไหม ”

   “ ไม่ต้อง  เดี๋ยวให้น้องไปส่ง  จัดการเรื่องรถให้ด้วยแล้วกัน  พรุ่งนี้ตอนเย็น  หวังว่าฉันคงได้ขับรถตัวเองกลับบ้านนะ  ไม่อยากนั่งซ้อนมอไซค์ใครอีก ”  ฉันพูดน้ำเสียงเรียบ  ที่ฟังดูเยือกเย็น   แล้วเดินเข้าบ้านไป
 
-----------------------------------------------------------------------


   เช้าวันรุ่งขึ้น  ฉันมาถึงโรงเรียนตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่ง  เพราะครูนัดให้มาแต่เช้า  พอมาถึงครูก็พาไปกินข้าวที่โรงอาหาร  และให้ฉันซ้อมพูดให้ครูฟังอีกสองสามรอบ  จนถึงเวลาเข้าแถวเคารพธงชาติ  พอเสร็จกิจกรรมหน้าเสาธงฉันก็ขึ้นรถไปกับครู   พอขึ้นรถไปก็เจอกับน้องคนนึง  ครูแนะนำให้เรารู้จักกัน  น้องเป็นเด็กผู้ชายน่าตาน่ารัก  อยู่ชั้น ป.6  เห็นบอกว่าเป็นตัวแทนของโรงเรียนในระดับประถม  และมีครูผู้หญิงอีกคนนึงที่เป็นครูฝึกให้กับเด็กคนนี้  เรานั่งคุยกันไปตลอดทาง ครูผู้หญิงคุยเก่งและคุยสนุกมาก  ทำให้ฉันลดอาการเกร็งไปได้เยอะเลยทีเดียว  ส่วนน้องผู้ชายที่นั่งข้างๆ ก็คุยเก่งมาก       ดูเฟรนลี่ดี  มีหันมาถามเราบ่อยๆ ด้วย  แอบชอบพี่หรือเปล่าจ้ะน้อง   55555   คิดเข้าข้างตัวเอง 

   เรามาถึงสนามแข่งแล้ว  ที่นี่เป็นโรงเรียนประจำอำเภอ  แต่ไม่ใช่อำเภอฉันนะ  เป็นอำเภอข้างๆ  โรงเรียนนี่ดูใหญ่กว่าโรงเรียนประจำอำเภอของเราซะอีก  รู้ได้ไงหนะหรอ  ก็เพราะตอนมอหนึ่ง มอสอง  ฉันก็โรงที่โรงเรียนประจำอำเภอนั่นแหละ เพิ่งย้ายมาเรียนเอกชนตอนเข้ามอสามนี่เอง  ด้วยเหตุผลบางประการ   ที่ขอยังไม่บอกตอนนี้แล้วกัน

   การแข่งขันแบ่งออกเป็นสองสาย  คือสายรัฐบาล  กับสายเอกชน  ผู้ชนะจากแต่ละสายจะได้ไปแข่งในระดับต่อไป  ซึ่งที่แข่งอยู่นี้เป็นการแข่งขันในระดับเขต   ถ้าจำไม่ผิด  จังหวัดของฉันแบ่งออกเป็น 3 เขต  และฉันก็อยู่ในเขต 2 

   ถึงจะแบ่งเป็นรัฐกับเอกชน  แต่กรรมการก็มีชุดเดียว   ทั้งรัฐและเอกชนเลยต้องแข่งที่เดียวกัน  ทำให้จำนวนผู้เข้าแข่งขันมีเยอะมาก   และต้องจับฉลากเพื่อหาลำดับในการแข่งขัน   ฉันได้แข่งในรอบบ่าย  ครูบอกว่าอยากให้นั่งดูคนอื่นพูดก่อน  ค่อยออกไปเดินเล่นข้างนอก  ก็นั่งดูนั่งฟังไปได้สักสี่ห้าคน  ก็เลยขออนุญาตครูออกมาข้างนอก

   “ อิฟิล์ม ”  เสียงร้องเรียกดังมาจากข้างหลัง  เสียงฟังดูคุ้นๆ  ฉันหันกลับไปมอง  แล้วก็เจอกับคนที่คิดไว้จริงๆ 

   “ อิมาร์ท ”  ฉันร้องเรียกชื่อเพื่อนสาวเสียงดังด้วยความดีใจเพราะไม่ได้เจอกันนาน 

   อิมาร์ท  เป็นเพื่อนสาวของฉัน เรารู้จักกันตั้งแต่  ม.1  เพราะตอนที่ฉันเรียนที่โรงเรียนเดิม  หมดทั้งห้องก็มีตุ๊ดอยู่สองนางนี่แหละคือฉันกับอิมาร์ท  เราอยู่กันคนละกลุ่ม แต่ด้วยที่เราเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน  จึงพูดคุยกันได้ดี และได้เป็นเพื่อนกัน  ถึงแม้จะไม่ใช่เพื่อนสนิท  แต่เราก็คุยกันได้เฮฮาตามประสาตุ๊ดเด็ก 

   เราสองคนยิ้มกว้างให้กัน ก่อนจะถลาเข้ากอดกันด้วยความดีใจ  อิดอก  กอดกูซะแน่นเชียว  หายใจไม่ออกจนต้องดันตัวนางออก  อิห่าเอ้ย  จะฆ่ากูหรือไงวะ

   “ กูไม่คิดเลยนะ  ว่าจะได้มาเจอมึงที่นี่ ” 

   “ กูก็ไม่คิดเหมือนกัน  ว่ามึงจะได้เป็นตัวแทนโรงเรียนมาแข่งกับเค้าด้วย  ”  ฉันพูดหยอกล้อเพื่อนสาว  แล้วเราสองคนก็หัวเราะเสียงดัง  จนคนแถวนั้นหันมามองกันใหญ่เลย  แต่โมเม้นนี้ คือดีใจมาก ไม่แคร์สายตาใครทั้งนั้นคะ

   “ มึงแข่งรอบบ่ายใช่ไหม  ”  ฉันพยัคหน้า 

   “ กูก็แข่งรอบบ่ายเหมือนกัน  ป่ะๆ  เราไปหาที่นั่งคุยกันดีกว่า  คิดถึงมึงมากคะ ”  ฉันพยัคหน้าหงึกๆ อีกครั้ง 

   เราสองคนเดินมานั่งโต๊ะม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่  ตรงนี้ร่มรื่นและเย็นสบายดี เหมาะกับการนั่งเม้าท์ของตุ๊ดน้อยสองนาง  นั่งลงก้นเพิ่งจะถึงพื้น  เพื่อนสาวก็เปิดประเด็นทันที 

   “ ได้ข่าวว่ามึงย้ายไปเรียนโรงเรียนเอกชนแถวบ้าน  เป็นไงบ้างวะ  ผู้ชายที่นั่นแซ่บเวอร์มั้ยจ้ะ ”

   “ แซ่บกับผีหนะสิมึง  มึงอยากได้ป่ะหละ  เดี่ยวกูติดต่อให้ ”

   “ เออ  เอาๆ  เอามาเยอะๆ เลยนะมึง  ขอหล่อๆ  หุ่นดีๆ เป้าเริ่ดๆ  นะยะ ”

   “ อิห่า  เก่งแต่ปากหละสิมึง  พอเอาเข้าจริงหน่อย  กูเห็นวิ่งหนีก่อนเพื่อน  อย่าทำมาเป็นปากดี ”

   “ ก็กูกลัวนี่หว่า  พูดอย่างกับมึงไม่กลัว  ไม่ต่างจากกูหรอก  ไม่งั้นเราสองคนจะเป็นเพื่อนกันได้หรอ ”

   5555555  ตุ๊ดน้อยสองนางหัวเราะชอบใจ   เราสองคนมีอะไรบางอย่างที่เหมือนกัน  คือ.... เราเป็นพวกกลัวผู้ชาย   ถ้าให้พูดด้วยพอได้  แต่ถ้าถึงขั้นโดนผู้ชายลวนลามนี่  เราสองคนวิ่งหนีหางจุกตูดกันเลยทีเดียว    ที่โดนลวนลามนี่ไม่ใช่เพราะสวยหรอกนะ  แต่คงเป็นเพราะเป็นตุ๊ดเด็ก  พวกผู้ชายเลยชอบแกล้ง  และเพราะเป็นตุ๊ดเด็กนี่แหละมั้ง  เลยทำให้เรากลัวผู้ชาย  แบบว่า  กลัวโดนแกล้งอะไรประมาณนี้  รอให้พวกฉันเป็นสาวก่อนเถอะยะ  พวกเราจะ.........  555555

   “ เออนี่อิฟิล์ม  มึงรู้มั้ย  ว่าไอ้ภูมิอะ  มันมาถามหามึงกับกูแทบจะทุกวันเลย  ถามจนกูรำคาญ  บอกว่าไม่รู้ๆ  ก็ถามอยู่นั่นแหละ  แล้วมึงหละ  อยากรู้เรื่องของมันไหม ” 

   ฉันนั่งนิ่ง  คิดถึงเรื่องระหว่างฉันกับภูมิ   ภูมิเป็นผู้ชายที่หล่อและค่อนข้างจะสำอางมาก  เขาเป็นเด็กผู้ชายที่ตัวสูงที่สุดในห้อง  หุ่นดี   นิสัยก็.....น่ารักดี   แต่............... ช่างมันเหอะ  ฉันเลือกเองนี่นา 

   “ ไม่หละ  ถ้ามันถามหากูอีก มึงก็ช่วยบอกมันหน่อยแล้วกัน  ว่ากูสบายดี   ไม่ต้องพยายามอะไรกับกูอีก  กูไม่ต้องการ ”

   “ เฮ้ย  แรงไปมั้ยวะมึง  กูไม่เข้าใจ  มันดีกับมึงทุกอย่าง  ทำไมมึงถึง ” 

   ฉันรู้ว่าสิ่งที่อิมาร์ทจะพูดออกมาคืออะไร  แต่ฉันตัดสินใจไปแล้ว   คิดทบทวนดีแล้ว  ไม่อยากฟังเรื่องนั้นอีก  ไม่อยากคิดทบทวนมันอีกครั้ง กลัวว่าตัวเองจะรู้สึกผิด  และคิดเสียดายขึ้นมาทีหลัง  ในเมื่อเลือกแล้วก็ต้องเดินหน้าต่อไป  ฉันจึงรีบตัดบทขึ้นมาทันที  ก่อนที่อิมาร์ทจะพูดถึงเรื่องนั้น

   “ หยุดเถอะ กูขอร้อง  ถ้ามึงยังอยากนั่งคุยกับกูต่อ  ก็หยุดพูดเรื่องมันซะ  ถ้ามึงยังพูดถึงมันอีก  ก็จะลุกขึ้นและเดินหนีมึงไปเดี๋ยวนี้ ”

   “ โอเคร  ไม่พูดแล้วก็ได้  ไว้กูจะไปบอกมันให้ ”

   “ อืม  ขอบใจมึงมากนะ ”

   เรื่องที่ไม่อยากฟังผ่านพ้นไป  เราสองคนก็จุดประเด็นใหม่ขึ้นมาเม้าท์มอยกันต่อ  คุยกันสนุกปากจนลืมเวลา  นึกขึ้นได้ก็เกือบเที่ยง  เราสองคนจึงแยกย้ายกันกลับไปหาครู   

------------------------------------------------------------------------


   หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ  ฉันก็ขออนุญาตครูไปซื้อน้ำอัดลม   ครูบอกให้ไปเจอกันที่สนามแข่งเลย  มาให้ตรงเวลาด้วย  บ่ายโมงตรง  ฉันรับปากแล้วเดินไปซื้อน้ำอัดลม   ระหว่างทางไอ้พวกผู้ชายนี่ก็จ้องกันจัง  จะจ้องอะไรกันนักกันหนา  ที่โรงเรียนไม่มีกะเทยให้มองรึไงยะ  มองอยู่ได้  หงุดหงิด  รำคาญจริงๆ เลย

   “ ขอโค้กแก้วนึงจ้ะป้า ”  ป้าแกก็กดน้ำโค้กใส่แก้ว  แล้ววางลงตรงหน้าฉัน 

   “ แก้วเท่าไหร่จ้ะ ”

   “ 5  บาทจ้ะ ”   ฉันก้มหน้า   ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบเงินมาจ่ายค่าน้ำ 

   “ นี่ครับป้า ”  ฉันเงยหน้าขึ้น  แล้วมองตรงไปข้างหน้า   เห็นใครบางคนยื่นแบงค์  20  ให้ป้าคนขายน้ำ  ป้าแกก็รับไปซะงั้น  ใครใจดีมาจ่ายค่าน้ำให้ฉันอ่า 

   ไม่รีรอ  เพื่อให้หายสงสัย  จึงหันหน้าไปหาคนจ่ายที่ยืนอยู่ข้างๆ  !!!!!!  ไอ้เต้   มาอยู่นี่ได้ไงวะ  ตกใจนิดนึง  ไม่คิดว่าจะมาเจอกันที่นี่   มันรับตังทอนเสร็จ  ก็หยิบแก้วน้ำส่งให้ฉัน   

   “ เอาไปดิ  ซื้อให้ ”

   “ เอ่อ....  ขอบใจ ”  ฉันรับแก้วน้ำมา  แล้วเดินออกจากหน้าร้าน   ในขณะที่ไอ้เต้ก็เดินตามหลังฉันมาติดๆ 

   “ รีบรึเปล่า  คุยกันหน่อยดิ ”  ฉันหยุดเดินและหันกลับมาหาไอ้เต้

    “ ต้องเข้าห้องก่อนบ่ายโมง  มีไรจะคุยหรอ ”  ฉันมองซ้าย  มองขวา   คนแถวนั้นกำลังมองมาที่เราสองคน  เหมือนกำลังเป็นจุดสนใจเลยแฮะ  ทำไมต้องมองเราด้วย  ก็แค่คนสองคนยืนคุยกัน 

   “ ลืมสัญญาที่ให้กันไว้รึยัง ”  ฉันส่ายหัวไปมา

   “ ทำไมไม่ออกมาเจอกัน  โทรไปหา  ที่บ้านก็บอกว่าหลับแล้ว  หลับตลอดเลย  เป็นเด็กอนามัยหรอ  ถึงได้หลับตั้งแต่สองทุ่ม  หลับจริง  หรือไม่อยากรับสายกันแน่ ”  ไอ้เต้พูดใส่อารมณ์  ท่าทางโมโห

   “ ขอโทษ  ช่วงนั้น  ฉันไม่อยากรับสายใครทั้งนั้น  ก็เลยบอกให้น้องบอกว่าหลับแล้ว ”

   “ ไม่อยากรับสายใครทั้งนั้น  ทำไมหรอ  จะบอกว่ามีผู้ชายโทรมาหาเยอะจนน่ารำคาญอย่างนั้นหรอ ”

   “ ใช่  น่ารำคาญ  ถ้าจะมาหาเรื่องกันแค่นี้  ฉันขอตัว  ต้องไปนั่งทำสมาธิก่อนแข่ง ”

   เพียงแค่หันหลังให้ ไม่ทันจะก้าวเดิน  มันก็แหกปากขึ้นเสียงดัง   “ เดี๋ยว ”  ฉันจึงหันกลับมา 

   “ วันเสาร์นี้ตอนเย็นว่างป่ะ  ช่วยทำตามสัญญาหน่อยสิ ”

   “ จะพยายามทำตัวให้ว่าง ”

   “ ได้ไง  ต้องทำตามสัญญานะ  ลืมไปแล้วหรอ ”

   “ ไม่ได้ลืม  แต่ถ้ามันไม่ว่าง  จะให้ทำยังไงได้ ”

   “ ไม่รู้แหละ  วันเสาร์  ห้าโมงเย็น  รออยู่สนามบาสอำเภอ  ถ้าไม่มานะโดนดีแน่ ”

   พูดขู่เสร็จ  ฉันยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ  ก็เดินหนีไปซะงั้น  เอาแต่ใจสุดๆ  ไม่ฟังเหตุผลกันเลย   อิคนมองก็มองกันจัง  จะมองหาพระแสงอะไรคะ  กะเทยอารมณ์เสีย  เดินดุ่ยๆ  เข้าห้องแข่งก่อนบ่ายโมง

   พอแข่งขันเสร็จ  เราก็นั่งรอฟังประกาศผลสอบ  และผลการแข่งขันก็คือ........  ฉันชนะเลิศ  ได้เป็นตัวแทนของเขต 2  ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น  ฝ่ายโรงเรียนเอกชน  และได้ไปแข่งต่อในระดับภูมิภาค  แต่เพื่อนสาวของฉันนี่สิ ได้แค่ที่สามเองอ่า  อดไปแข่งด้วยกันเลย  ก่อนกลับเราได้ล่ำลากัน  และสวมกอดกันเบาๆ  หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะ  สมาร์ท......

...........................................................................................


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
คิดถึงมากเลยค่ะ  :hao7: ดีใจที่พี่ฟิล์มกลับมาเเล้ว  :mew1:

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
ไหนบอกจะออนแอทุกวันไง คถ เรื่องนี้มาก มาลงบ่อยๆสิ รออ่านอยู่

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
ตาเต้จีบแบบเนียนๆอ่าดิ
อิอิ

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขออภัยท่านผู้อ่าน ที่ห่างหายไปนาน

กลับมาครั้งนี้ ตั้งใจจะมาต่อให้จบ

ขอบคุณสำหรับการติดตาม

คิดถึงคนอ่านทุกคนเหมือนกัน

 :mew1:  :o12:

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตอนที่  18  Part  2/2

   หลังจากที่คว้ารางวัลชนะเลิศมาให้โรงเรียน  ฉันก็โดนเรียกตัวออกไปหน้าเสาธง  ไปยืนข้างๆ ครูใหญ่  ท่านก็กล่าวชมฉันใหญ่  ดังเป็นพลุแตกเลยคราวนี้   ส่วนครูฝึกของฉันหนะหรอ  ได้รับคำชมจากครูใหญ่ไม่แพ้กัน  ครูนี่ยิ้มจนหน้าบานยิ่งกว่าจานดาวเทียมซะอีก   ส่วนน้องที่ไปแข่งกับฉัน  ได้แค่รางวัลชมเชย  น่าเสียดายจัง  รอบต่อไปไม่ได้ไปด้วยกันเลย    อดจีบพี่นะจ้ะ  5555555  เข้าข้างตัวเองอีกแระ

   “ ฟิล์ม  เก่งมากเลยนะ แข่งอีกทีวันไหนหรอ ”  ไอ้โชคพูดขึ้นในขณะที่เรากำลังนั่งทานข้าวเที่ยงกันที่เดิม 

   “ ยังไม่รู้เหมือนกัน  เดี๋ยวครูคงบอกอีกที ”

      “ วันเสาร์นี้ว่างป่ะ  ป้าชวนไปกินข้าวเย็นที่บ้าน ”  ฉันหันไปมองไอ้โชคที่นั่งอยู่ข้างๆ  อย่างสงสัย 

   “ ป้าเบซี่หนะหรอ ”  ไอ้โชคทำตาโต  เมมปากเล็กน้อย  แล้วพยัคหน้าหงึกๆ 

   “ คือ......  วันเสาร์ตอนเย็น  ฉัน..........  ”

   “ น้า...... นะ  ป้าเบซี่บอกว่าไม่ได้เจอฟิล์มมานานแล้ว  ไม่รู้ว่าเคล็ดลับความสวยที่ให้ไป  จะได้ผลดีแค่ไหน ป้าเราอยากเห็น  หวังว่าฟิล์มคงจะไม่ปฏิเสธคำชวนของป้าเราใช่ไหม ”

   ฉันหลบสายตาไอ้โชคที่จ้องมองฉันอย่างคาดหวัง  ฉันครุ่นคิดถึงนัดสำคัญอีกนัดนึง  ทำไมจะต้องเป็นวันเสาร์ตอนเย็นเหมือนกันด้วยนะ  แล้วฉันจะเอายังไงดีหละทีนี้  ป้าเบซี่ก็อยากเจอ  ไอ้เต้ก็ต้องทำตามสัญญา   งั้นก็เอาอย่างนี้

   “ ก็ได้  แต่ขอเป็นสักทุ่มนึ่งได้มั้ย  กินข้าวเย็นทุ่มนึง  ป้าจะว่าอะไรหรือเปล่า ”  ฉันหันกลับมาให้คำตอบไอ้โชค  และคำตอบนั้นก็เป็นไปตามที่มันคาดหวัง 

   “ ได้สิ  แต่ทุ่มนึงมันค่ำแล้วนะ  ฟิล์มจะมาได้หรอ  กว่าจะกินเสร็จ  กว่าจะกลับบ้านอีก  มันดึกมากนะ กลัวพ่อกับแม่ฟิล์มจะว่าเอา  ”

   “ ไม่เป็นไรหรอก  ฉันเคลียร์ได้  ”  ไอ้โชคพยัคหน้าเป็นอันตกลงตามนั้น 

----------------------------------------------------------------------


   ตอนเย็นหลังเลิกเรียน  อิสายป่าน  อิกระต่าย  และแม่นางมายด์  ทั้งสามนางเล่นจับตัวฉันเอาไว้  และเค้นเอาคำตอบเรื่องไอ้โชค  ฉันจึงเล่าความจริงให้พวกนางฟัง 

   “ กูว่าแล้ว  ไอ้โชคมันไม่เคยมีแฟน  ไม่เคยเห็นมันจีบใครเลย  นอกจาก........ ”  อิสายป่านเหล่ตามาทางฉัน

   “ นอกจากอะไร ”

   “ รู้ๆ กันอยู่  ไม่เห็นต้องพูดเลย  ” อิสายป่าน  กวนตีนจริงๆ เลยนะมึง 

   “ ปล่อยได้รึยังเนี่ย  บอกไปจนหมดแล้ว  อยากรู้อะไรอีกก็ไปตามสืบเอาแล้วกัน ”

   พวกนางยอมปล่อยฉันแต่โดยดี   อิกระต่ายกับมายด์ก็เดินไปขึ้นรถรับส่ง  ส่วนฉันกับอิสายป่านก็ไปนั่งเม้าท์กันต่อที่เดิม  พอคนกลับกันเยอะแล้วพวกเราค่อยเข้าไปเอารถมอไซค์   รถมอไซค์ของฉันกลับมาอยู่ในสภาพเดิมแล้ว  หันมองไปรอบๆ ตัว  ก็เจอไอ้คนที่เป็นต้นเหตุเมื่อวาน  มันโบกมือและยิ้มให้ฉัน   แต่ฉันกลับทำเฉยใส่  ก่อนจะหันกลับไปและขับมอไซค์กลับบ้าน 

--------------------------------------------------------------------------


   วันนี้เป็นวันหยุด  แต่ตอนเย็นดันมีอีเว้นซะงั้น  ไม่รู้ว่าไอ้เต้มันจะขออะไร  คิดๆ ดูแล้วก็ลุ้นอยู่เหมือนกัน    หลังจากไปเจอไอ้เต้แล้ว  ก็ต้องไปกินข้าวบ้านไอ้โชคอีก  คิวงานแน่นคะวันนี้  พอตอนเย็นมาถึงก็ได้เวลาแว้นมอไซค์คู่ใจออกไปหาไอ้เต้ตามที่นัดกันเอาไว้  พอไปถึงสนามบาสก็เห็นมันมารออยู่แล้ว 

   “ มาช้าเหมือนเดิม ”

   “ ช่วยงานบ้านแม่อยู่  ก็เลยมาช้า ”

   “ หรอ  ทำงานบ้านกับเค้าก็เป็นด้วย ”

    “ ขอโทษ  ฉันทำมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วยะ  พูดมากจริง  ว่าแต่แกเถอะมีไรก็รีบพูดมา  ฉันต้องรีบกลับบ้าน ”

   “ จะรีบกลับไปไหนวะ  เพิ่งมาเมื้อกี้  ถามกลับซะแระ  เรื่องอะไรจะปล่อยกลับง่ายๆ ”

    “ เออๆ  ตกลงมีเรื่องอะไรจะขอ  รีบๆ พูดมาสิ  ลีลาอยู่นั่นแหละ ”

   “ ก็....  ไม่มีอะไรมาก  แค่อยากขอให้แกมาเป็นแฟนฉัน  แค่นั้นเอง ”

   แค่นั้นเอง  พูดออกมาได้ไงวะ  จะบ้าหรือไง  อยู่ดีๆ จะให้ฉันไปเป็นแฟนแกเนี่ยนะ  ประสาทแดกหรือเปล่าวะ  ฉันยืนอึ้งกับคำขอที่เพิ่งหลุดออกมาจากปากไอ้เต้  ก่อนจะเรียกสติกลับคืนมาได้  และคิดว่ามันคงพูดเล่นแน่ๆ เลย 

    “ เฮ้ย  แก....  ล้อฉันเล่นใช่ไหมเนี่ย ”  มันทำหน้าจริงจังใส่พรางส่ายหน้าไปมา   ทำเอาฉันอึ้งไปอีกรอบ 

   “ แก.....  เอาจริงดิ ” ฉันถามแบบกล้าๆ กลัวๆ    ไอ้คนตอบก็พยัคหน้ารับ   ฉันทำตัวไม่ถูก   แต่ในใจมีคำตอบอยู่แล้ว  ฉันไม่เคยคิดเกินเลยคำว่าเพื่อนกับไอ้เต้เลย  ดังนั้นคำตอบที่ฉันจะบอกออกไป  คงเป็นการปฏิเสธคำขอของมัน 

   “ เต้....  เอาความจริงนะ  ฉันไม่เคยคิด ไม่เคยรู้สึกกับแก  มากเกินไปกว่าเพื่อนเลยนะ  ถ้าแกจะขอแบบนี้จริงๆ  ฉันก็ขอปฏิเสธ  ขอโทษนะ  ทำไม่ได้จริงๆ หวะ ”

    “ โอ้ยย  คิดไปถึงไหนวะ  ยังพูดไม่จบเว้ย  ”  มันเปลี่ยนโหมดอารมณ์ทันที  ไหนมาทำหน้าเซ็งๆ ใส่ฉันซะงั้น 

    “ แล้วมันยังไงวะ  ก็พูดให้มันจบๆ  พูดให้มันเคลียร์ๆ ดิวะ ”  ฉันเริ่มอารมณ์เสีย 

    “ ที่บอกว่าให้มาเป็นแฟน  ให้เป็นแฟนปลอมๆ แฟนหลอกๆ  ไม่ได้ให้มาเป็นแฟนจริงๆ  เข้าใจไหม ”

    “ แล้วทำไมต้องเป็นฉัน  ผู้หญิงมีเยอะแยะ เลือกเอาสักคนสิ  รูปร่างหน้าตาอย่างแกหาไม่ยากหรอก ”

    “ โธ่เว้ย  เรื่องมากจริงๆ  ตกลงจะเป็นไหม  เป็นก็ไป  ไม่เป็นโดนตีน  เลือกเอา ”

   กรี๊ดดดดด   มาแบบเถื่อนๆ อีกแล้ว  ไอ้บ้าเอ้ย  มีทางเลือกแค่นี้  มันเข้าข่ายบังคับกันชัดๆ เลยนี่หว่า  แล้วอิบ้าหน้าไหนจะเลือกโดนตีนคะ  เฮ้อออ....  สุดท้ายก็ยอมมันจนได้

    “ เออ  ตกลงก็ได้   แล้วที่บอกว่าไป  จะให้ไปไหนไม่ทราบ ”

    “ เดี๋ยวก็รู้เองแหละ  แกเอารถของแกจอดไว้ที่นี่แหละ  เสร็จธุระแล้วเดี๋ยวฉันมาส่ง  ป่ะไปกันได้แล้ว ”

------------------------------------------------------------------


   ฉันนั่งซ้อนท้ายมอไซต์ของไอ้เต้มาจนถึงบ้านหลังนึง  มันพาฉันขับรถเข้าไปในบ้านหลังนั้น  หลังจากจอดรถแล้วก็พาเดินเข้าไปในบ้าน  มีคนอยู่เยอะแยะเต็มไปหมด  ทันทีที่เราสองคนเดินเข้ามาในบ้าน  สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมาที่เรา ทุกๆ คนต่างทำหน้าแปลกใจ  คงจะสงสัยหละสิว่าฉันเป็นใคร  แต่ถ้าจะให้ฉันเดา คนพวกนี้คงเป็นเพื่อนไอ้เต้แน่ๆ เลย 

   “ เฮ้ย  ไอ้เต้   นี่ใครวะ ”  เพื่อนชายคนหนึ่งเอ่ยถาม  ทุกคนต่างมีสีหน้าและอาการเดียวกัน คือสงสัย และอยากรู้   ว่าฉันเป็นใคร

   “ อยู่กันเยอะๆ แบบนี้ก็ดี  กูขอถือโอกาสนี้เปิดตัวแฟนใหม่เลยแล้วกัน  นี่ฟิล์ม  แฟนใหม่ของกูเอง ”  ไอ้เต้พูดพรางมองหน้าและผายมือมาที่ฉัน   

   ทุกคนทำหน้าตกใจกันสุดๆ  ไม่ต่างจากฉัน  ที่ตกใจสุดๆ เหมือนกัน  ก็รู้อยู่หรอกนะว่าต้องเล่นเป็นแฟนกำมะลอ  แต่ไม่คิดว่าไอ้เต้จะเล่นเปิดตัวฉันต่อหน้าคนเยอะแยะแบบนี้  ตอนนี้ฉันทำตัวไม่ถูกเลย   ได้แต่มองหน้าไอ้คนที่ยืนอยู่ข้างๆ 

    “ เต้  แกทำอะไร  ทำไมไม่เตรี้ยมกันก่อน ”  ฉันพูดเบาๆ ให้ได้ยินเพียงแค่สองคน

    “ ขอโทษ  เป็นแฟนกันแล้ว  เนียนๆ หละ ”  ฉันพยัคหน้าตอบรับเบาๆ

    “ แล้วนี่แกพาฉันมาบ้านใคร ”

    “ อย่าเรียกแบบนี้อีกนะ  เรียกเต้สิ  จะได้ดูสนิทๆ กัน ”

    “ อืม  ตกลงนี่บ้านใคร ”

    “ บ้านเราเอง  วันนี้เป็นวันเกิดเรา ก็เลยชวนเพื่อนๆ มาเลี้ยงฉลองที่บ้าน   ป่ะ  เข้าไปในงานกันเถอะ ”

    “ อืม.... ”

   ฉันละสายตาจากคนข้างๆ  มองตรงไปข้างหน้ายังกลุ่มคนมากมายที่กำลังจับจ้องพวกเราสองคนอยู่  ก่อนจะก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า  ไอ้เต้เอื้อมมือมาจับมือของฉัน   ทำเอาฉันสะดุ้งตกใจจนต้องหันไปมอง  ไอ้เต้หันมายิ้มให้   ฉันเข้าใจในทันทีว่าการแสดงเริ่มขึ้นแล้ว  ฉันจึงยิ้มกลับ  แล้วเราสองคนก็เดินเข้าไปหากลุ่มเพื่อนของไอ้เต้  พวกเขาแหวกทางเดินออกให้เราสองคนได้เดินตรงไปยังเค้กก้อนโตที่อยู่เบื้องหน้า  ราวกับคู่บ่าวสาวจับมือกันเดินสู่ประตุวิวาห์อะไรยังไงอย่างงั้น  55555  มโนแปป    หมดเวลา  ละครฉากต่อไป  แอคชั่น ......

    “ ไอ้เต้  มึงพร้อมจะเป่าเค้กรึยังวะ ”

    “ พร้อมแล้วหวะ ”

   เทียนเล่มใหญ่ที่อยู่ตรงกลางเค้กถูกจุดขึ้น   แสงไฟถูกปิดลง  มีเพียงความมืด  และแสงสว่างจากเทียนเล่มเดียว  จากนั้นเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ก็ถูกร้องขึ้นจนจบเพลง   เจ้าของงานกุมมือทั้งสองข้างเข้าหากันและค่อยๆ หลับตาลงเพื่อขอพร  ก่อนจะเอื้อมตัวลงไปเป่าเทียนจนเปลวไฟดับลงในทันที  ทุกคนปรบมือกันรัวๆ   และภายใต้ความมืดนี้เอง  ไอ้เต้ก็ทำบางสิ่งที่เหนือความคาดหมาย  มันหันมาหอมแก้มฉัน  ฉันตกใจมาก   หันไปมองมันทันที  ไอ้เต้กำลังยิ้มให้ฉัน  แต่ฉันกลับยิ้มไม่ออก  เพราะตกใจและโกรธมากที่ไอ้เต้ทำแบบนี้  มันเล่นเกินจริงไปแล้วนะ  แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่มองค้อน  พอไฟถุกเปิดขึ้น แสงสว่างกลับมาอีกครั้ง  ฉันรีบพลิกบทบาททันที  ยิ้มสิคะยิ้ม  เราสองคนก็ยิ้มให้กันไปตามบทละคร 

    “ เมื่อกี้เต้อวยพรว่าอะไรหรอ  บอกเราได้หรือเปล่า ”  ทำตาหวานเยิ้มใส่มันสักหน่อย  จะได้ดูสมจริงมากขึ้น 

    “ ได้ดิ  ขอให้คนที่เต้รักอยู่กับเต้ไปนานๆ  และขอให้คนคนนั้น..... ”  ไม่ทันจะได้พูดต่อ  เสียงน้องนีก็แทรกขึ้นมา 

   “ เต้.... ”  ทุกคนหันไปมองเจ้าของเสียง รวมถึงฉันด้วย  เห็นผู้หญิงรูปร่างหน้าตาน่ารักยืนอยู่ตรงประตู   แล้วนางก็เดินเข้ามาหาไอ้เต้ 

    “ วันเกิดทั้งที  ไม่คิดจะชวนเราหน่อยหรอ ” 

   “ วันสำคัญ  มีไว้ให้คนสำคัญเท่านั้น  ส่วนคนที่ไม่สำคัญ  ไม่จำเป็นต้องอยู่ในวันสำคัญ ” ไอ้เต้พูดน้ำเสียงเฉยชาใส่น้องนีที่อยู่ตรงหน้า  ถ้าจะให้เดา  ฉันว่านางคงเป็นแฟนเก่าไอ้เต้แน่ๆ เลย 

    “ แล้วไหนหละ  คนสำคัญของเต้ ”  คำถามนี้ถูกถามด้วยน้ำเสียงดุดัน  นางคงร้ายไม่ใช่ย่อย 

   ไอ้เต้เอื้อมมือมาโอบเอวของฉัน ก่อนจะค่อยๆ ดึงร่างของฉันเข้าไปชิดกับร่างของตัวเอง   สถานการณ์  ณ  ตอนนี้ฉันทำอะไรไม่ได้เลย  ทำได้แต่มองหน้าไอ้คนที่กำลังโอบกอดฉันอยู่  แต่มันกลับไม่ได้มองมาที่ฉันเลยแม้แต่นิดเดียว  สายตาคู่นั้นกำลังจับจ้องไปที่หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา 

    “ นี่ไงหละ  คนสำคัญของเรา ”

   หญิงสาวมองมาที่ฉัน  นางแสยะยิ้ม   แล้วมองตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม  เห็นมันทำแบบนี้แล้วอยากจิกหัวตบมันนัก  แต่การใช้กำลังไม่ได้ช่วยให้เราเป็นผู้ชนะที่แท้จริง 

    “ คิดยังไงไปเอากะเทยมาเป็นแฟน  เต้บ้าไปแล้วหรอ หรือที่ทำไป  เพราะกำลังประชดเมย์อยู่ ”

   “ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องประชด  อย่าสำคัญตัวผิดไป  ถึงฟิล์มจะเป็นตุ๊ดเป็นกะเทย  แต่เขาก็จริงใจ  ไม่สำส่อนเหมือนผู้หญิงอย่างเธอ ” 

   “ เต้อย่าเอาผู้หญิงอย่างเมย์  ไปเปรียบเทียบกับกะเทยอย่างมัน  เพราะถึงมันจะสวยจะดีแค่ไหน สุดท้ายแล้วมันก็แค่ของปลอม   ไม่มีทางจะสู้ของจริงอย่างเมย์ได้หรอก ”  หญิงสาวขึ้นเสียงใส่อารมณ์โกรธอย่างเต็มที่

   ทั้งแววตา  สีหน้า  ท่าทาง  แถมยังคำพูดอีก  จะดูถูกเหยียดหยามกันมากเกินไปแล้ว  ว่าจะอยู่นิ่งๆ แล้วนะ  อินี่ทำให้กูตบะแตก  อย่ามึงต้องโดนสักชุดสองชุด  ทนไม่ไหวแล้วโว้ย  ขอเอาคืนบ้างแล้วกัน   

   “ ของจริงแล้วไง   ถ้าของจริงมันจะเละจะเน่า  ส่งกลิ่นคาวกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วแบบนี้  คนมีสติสัมปชัญญะ  เขาคงไม่เลือกเอามาทำพันธ์หรอก  สู้เลือกของปลอมที่ดูดี  มีคุณค่า  จะไม่ดีกว่าหรอกหรอ  ถึงจะเอามาทำพันธ์ไม่ได้  แต่ก็เอาไว้เชยชมให้สุขได้  ดีกว่าทนอยู่กับของเน่าๆ อย่างแก ”

    “ อิกะเทย  นี่มึงด่ากูหรอ ”  นางตะคอกเสียงดังใส่ฉัน

   “ เออ  ก็มีมึงอยู่คนเดียวเนี่ย  ถ้าไม่ให้กูด่ามึง จะให้ด่าแรดที่ไหน  สวยซะป่าว  สมองกลวง  โง่ได้อีกนะมึง ”  ฉันเอาบ้าง  ไม่สุภาพกับกูก่อนนะมึง  กับคนเหี้ยๆ อย่างมึง  ต้องใช้ภาษาดอกไม้อย่างนี้แหละ 

   กรี๊ดดดดดดด   นางกรี๊ดขึ้นเสียงดังจนฉันต้องเอามือมาปิดหูเอาไว้   หน้านางตอนนี้ดูโกรธสุดๆ  คงอยากเดินเข้ามาตบฉันเต็มที่  ลองเดินเข้ามาสิมึง  กูจะถีบให้หน้าหงายเลยอิดอก

   “ อิตุ๊ด  มึงอย่าคิดนะว่าผู้ชายเขาจะจริงใจกับมึง  ตุ๊ดอย่ามึงไม่มีผู้ชายคนไหนเขาจริงใจด้วยหรอก  จำใส่หัวสมองของมึงเอาไว้ซะ  สุดท้ายแล้วเต้เขาก็ต้องกลับไปหาผู้หญิงอยู่ดี  ตุ๊ดอย่างมึงก็อยู่ตัวคนเดียวไปจนตายเถอะ ”

   “ นั่นมันเรื่องของกู  มึงเอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ  ก่อนจะมาแช่งกูหนิ  ดูตัวเองบ้างมั้ย  ได้ข่าวว่าสำส่อน  ระวังจะท้องไม่มีพ่อนะมึง  โชคร้ายหน่อยก็คงเป็นเอดส์ตาย  เหมาะกับชะนีสำส่อนอย่างมึงมากก...... ”

    กรี๊ดดดดดดดดดดด   อิบ้า กรี๊ดทำไมวะ  แสบหูเว้ย 

    “ พอเถอะเมย์  กลับไปได้แล้ว  ที่นี่ไม่ต้อนรับเธอ ”  นางหันไปมองหน้าไอ้เต้ด้วยสีหน้าโกรธแค้น

   “ ได้  เมย์ไปก็ได้  ขอให้มีความสุขมากๆ นะเต้ ”  นางพูดน้ำสียงชิงชัง  ก่อนจะหันหน้ามาหาฉัน  และมองด้วยสีหน้าแววตาโกรธแค้น  แล้วเดินกระฟัดกระเฟือออกไป 

   ละครฉากนี้จบลงแล้วใช่ไหม  ทำไมฉันต้องมาเจออะไรบ้าๆ แบบนี้ด้วย  รู้สึกแย่มากๆ  กับการถูกใช้เป็นเครื่องมืออะไรแบบนี้  อาจเป็นเครื่องมือที่ใช้ประชดอีกฝ่าย หรือจะเป็นเครื่องมือที่ใช้กีดกันอีกฝ่ายให้ออกไปจากชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือแบบไหน  คนที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือก็รู้สึกไม่ดีกันทั้งนั้นแหละ 

    “ เต้ขอโทษนะ  ที่ทำให้ฟิล์มเจอเรื่องแย่ๆ แบบนี้ ”  ทำหน้าสำนักผิด 

    “ อืม.....  เราอยากกลับบ้านแล้ว   ไปส่งตอนนี้ได้ไหม ”
.
    “ ยังไม่อยากให้กลับเลย  อยู่ต่ออีกหน่อยได้ไหม ”  ทำหน้าออดอ้อนวิงวอน

    “ ก็ได้  ” 

   ไอ้เต้ยิ้มพอใจกับคำตอบที่ได้รับ  ส่วนฉันเองก็ต้องพยายามยิ้มออกไปให้ดูสดใสและมีความสุขมากที่สุด  เพราะนี่คือการแสดง   การแสดงของเราสองคน 

--------------------------------------------------------------------------
 

   ฉันอยู่ร่วมฉลองวันเกิดกับไอ้เต้   แอบถามว่าเมื่อไหร่จะให้เลิกแสดงละครสักที  คำตอบที่ได้มาคือไม่รู้  ให้เล่นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก่อน   วันเกิดทั้งที  ทำไมพ่อกับแม่ไม่อยู่บ้านจัดงานวันเกิดให้ลูกตัวเอง  ฉันสงสัยจึงถามออกไป  คำตอบที่ได้กลับมาคือพ่อกับแม่ติดงาน   แต่โทรมาสุขสันต์วันเกิดแล้ว  ถามแค่นี้ไม่อยากถามต่อ เดี๋ยวจะหาว่าละลาบละล้วง   

    “ แค่เล่นเป็นแฟนกัน   ถึงกับต้องหอมแก้มเลยหรอ  มืดก็มืด   ทำไปก็ไม่มีใครเห็น  ทำแบบนั้นทำไม ”

   “ เอ่อ.....คือ.....  ฟิล์มไม่ชอบหรอ  ถ้าไม่ชอบ   จะไม่ทำอีกแล้ว ”  พูดเสียงอ่อยๆ  ก่อนจะหันหน้าหนีสีหน้าเศร้า

   “ ก็ไม่ได้เป็นแฟนกันจริงๆ สักหน่อย  ทำแบบนี้  ใครจะชอบ ”

   “ อืม...  ก็แค่แฟนปลอมๆ  ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรทั้งนั้น  ขอโทษนะ ”  ไอ้เต้พูดเสียงเบา

       “ เออ....  ไม่เป็นไรหรอก  คราวหน้าอย่าทำอย่างนี้อีกก็แล้วกัน ”  มันผงกหัวรับคำโดยที่ไม่หันมามองหน้าฉันเลย

       อะไรกันวะ  ดุแค่นี้มาทำเป็นหงอย  ทำผิดแล้วจะเอาความเศร้ามาบังหน้าหรอยะ  หัวหมอจริงๆ เลยนะแก ยอมรับว่าเห็นแล้วสงสาร  ฉันจะยอมจบเรื่องนี้แค่นี้ก็ได้  แต่ถ้ามีครั้งหน้าอีก  ไม่จบง่ายๆ แค่นี้แน่  บอกเลย   

………………………………………………………………………..


ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
พรุ่งนี้มาอีกนะ รออ่านชอบมากกกกกก

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
เต้น่ารักน่ะแอบชอบฟิลห์มแน่เลย
ถึงขนาดเอาฟิล์มมาเป็นแฟนปลอมๆ
ขอให้แฟนคนปัจจุบันของฟิล์มเป็นเต้ด้วยพอะ สาธุ
แล้วตอนนี้ฟิล์มแปลงเพศยังค่ะ อยากรู้อิอิ

ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
เฮ้ย  :hao7:
เต้บ้า คนชอบฉวยโอกาศ  :katai4:
เขินแทนพี่ฟิล์ม  :laugh:

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
จะไม่มาต่อจริงๆหรอ
เราชอบอ่านเรื่องเล่าอ่ะ
อยากอ่านนนน

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขอโทษที่หายไปนาน  กลับมาต่อให้แล้วนะจ้ะ   :katai4: :katai2-1:

ตอนที่  19  Part  1/2 

   ไอ้เต้มาส่งฉันที่สนามกีฬา  เราสองคนล่ำลากัน  แล้วไอ้เต้ก็ขับรถกลับ  ส่วนฉันก็เดินมาขึ้นรถและขับไปที่บ้านของไอ้โชค  ให้ตายสิ  นี่แค่หกโมงครึ่งเอง  ทำไมมันมืดเร็วจังวะ  ฉันขับรถมาจนถึงจุดหมายและจอดรถมอไซต์เอาไว้ข้างๆ รถมอไซต์ไอ้โชค    เจ้าของบ้านเดินออกมาต้อนรับพอดี  เดินยิ้มมาเชียว 

   “ ยิ้มไร ” 

   “ เปล่า  ป่ะเข้าบ้านกัน ”

   “ ก็ไปดิ ”

   เจ้าบ้านที่ยังยิ้มไม่หุบเดินนำหน้าพาฉันเข้าไปในบ้านจนถึงโต๊ะอาหาร   เจอสาวน้อยน่าตาน่ารักคนนึงนั่งอยู่ก่อนแล้ว  น้องสาวยกมือไหว้พร้อมกับกล่าวสวัสดี และยิ้มให้  ฉันทักทายกลับและยิ้มให้เช่นกัน  อาหารบนโต๊ะมีอยู่สี่ห้าอย่าง  น่าตาน่ารับประทานทั้งนั้น  ทำเอากรดในกระเพาะอาหารเริ่มทำงานทันที   เพราะตอนอยู่ที่บ้านไอ้เต้ก็ไม่ได้กินอะไรรองท้องเลย  ความหิวมาเยือนสุดๆ เลยตอนนี้ 

   “ ป้าเบซี่ไปไหนอะ ”  ฉันมองดูรอบๆ บ้านไม่เจอป้าเบซี่  จึงถามออกไปแบบนั้น

   “ ทำกับข้าวเสร็จก็เลยขึ้นไปอาบน้ำ  สักพักคงลงมาแหละ  ฟิล์มหิวรึยัง  ป้าบอกถ้าหิวก็กินกันก่อนได้เลยนะ ”

   “ ไม่หละ  รอป้าเบซี่ก่อนสิ  ทำแบบนั้นเสียมารยาทแย่เลย ”

   “ พี่ฟิล์มนี่น่ารักจังเลยนะคะ  เห็นพี่โชคพูดถึงทุกวัน  เพิ่งจะได้เห็นตัวจริงก็วันนี้  หนูไม่แปลกใจเลยคะ  ว่าทำไมพี่ชายของหนูถึงได้ชอบพูดถึงพี่ทุกวัน ”  สาวน้อยพูดและยิ้มให้อย่างเป็นมิตร 

   “ ทุกวันเลยหรอจ้ะ ” ฉันถามอย่างสงสัย  อะไรจะเวอร์ขนาดนั้น

   “ ถ้าไม่เชื่อ  ลองถามพี่ชายหนูดูสิคะ ”  เด็กน้อยยิ้มและหันไปมองพี่ชายของตน  ก่อนที่ ฉันจะหันมามองคนข้างๆ 

   “ ก็.......  ไม่ทุกวันขนาดนั้นหรอก  แค่....เกือบทุกวันเอง ”  ไอ้โชคยิ้มอายๆ 

   เอาจริงๆ ก็รู้สึกดีใจนะ  ที่เขาพูดถึงเราบ่อยๆ  ไม่รู้สิ  มันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก  เรานั่งรอป้าเบซี่  นั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย  แต่ก็สนุกดี  เพราะทั้งไอ้โชคและน้องสาวพูดเก่ง คุยเก่งมาก   เข้ากับฉันที่เป็นคนชอบพูดได้เป็นอย่างดีเลยแหละ  ซักพักนึงป้าเบซี่ก็มาถึงโต๊ะอาหาร  ฉันยิ้มให้ป้าเบซี่  แล้วยกมือไหว้พร้อมกับกล่าวสวัสดี  ป้าเบซี่ยิ้มกลับ  สายตาที่ทอดมารู้สึกได้ถึงความรักความเอ็นดู   เราทักทายกันนิดหน่อย  แล้วรับประทานอาหารร่วมกันจนอิ่ม

   “ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน  ดูน่ารักขึ้นตั้งเยอะเลยนะเรา ”  ป้าเบซี่เอ่ยชม   ฉันยิ้มให้แล้วตอบออกไป 

   “ ไม่ขนาดนั้นหรอกคะ  แต่ก็ต้องขอบคุณป้าเบซี่มากๆ เลยนะคะ  ที่ให้เคล็ดลับความสวยความงามกับหนู ” 

   “ ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ  มันเป็นเคล็ดลับความสวยของพวกเราอยู่แล้ว  ถึงจะไม่รู้วันนี้  แต่วันข้างหน้าก็ต้องรู้จากคนอื่นอยู่ดี  ว่าแต่  น่ารักขนาดนี้  มีหนุ่มๆ มาจีบบ้างรึยัง ”

   “ เยอะครับ  คนสวยก็เงี๊ยะ ”  ฉันหันไปมองหน้าคนพูด   ที่ตอนนี้กำลังมองหน้าฉันอยู่เหมือนกัน

   “ แล้วคนหล่อ  ไม่มีสาวมาติดงอมงอมเลยรึไง ”  ฉันจิกกัดมันคืนบ้าง 

   “ ก็บอกแล้วไงว่าของเพื่อน  ไม่ใช่ของโชคสักหน่อย  หึงอะดิ ”

   “ เพื่อนนะ  ไม่ใช่แฟน  ทำไมต้องหึงด้วย ”

   “ พอเถอะจ้ะ  เดี๋ยวทะเลาะกันยาว  หนูฟิล์มไปนั่งดูทีวีกับป้าดีกว่า  ดูทีวีไปคุยกันไป  ป้าจะได้หายคิดถึง  โชคกับน้องล้างจานเสร็จแล้วค่อยตามไปนะ ”

   “ ครับ/คะ ”  สองพี่น้องขานรับเป็นเสียงเดียวกัน 

---------------------------------------------------------------------


   เราสองคนนั่งดูทีวีด้วยกันคุยกันไป  คุยกันหลายเรื่อง  แต่เรื่องหลักๆ ก็จะเป็นเรื่องความสวยความงามซะมากกว่า  ป้าเบซี่แนะนำให้ฉันบำรุงผิวกายด้วยโลชั่นและบำรุงผิวหน้าด้วยครีม  แนะนำมาหลายยี่ห้อ  คุยกันอยู่ไม่นานไอ้โชคกับน้องสาวก็มานั่งแจมร่วมสนทนาด้วย  ป้าเบซี่ก็เล่าเรื่องสมัยที่ตัวเองเด็กๆ เป็นกะเทยหัวโปกให้ฟัง  ฟังแล้วขำ  มีเรื่องฮาๆ ให้ได้หัวเราะไม่หยุด  เรานั่งคุยกันเพลินจนเวลาล่วงเลยไปนานเลยทีเดียว  เผลอมองดูนาฬิกาอีกที  เฮ้ย!!  สามทุ่มครึ่ง

   “ ป้าเบซี่คะ  คือ...  ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว  หนูขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ ”

   “ อ้าว  จริงสิ  ”  ป้าเบซี่มองดูเวลาบนนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ติดอยู่ที่ผนังบ้าน   

        “ สามทุ่มครึ่งแล้วหนิ  กลับบ้านค่ำๆ มืดๆ แบบนี้มันอันตรายนะ  ป้าเป็นห่วง  ค้างที่บ้านป้าก่อนไหม  พรุ่งนี้ค่อยกลับ ” 

        “ แต่ว่า...... ”  ฉันไม่ทันจะได้อธิบายอะไร เสียงของไอ้โชคก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ

        “ นอนนี่แหละฟิล์ม  เดี๋ยวพรุ่งนี้โชคไปส่ง ”

        ฉันยังไม่ตอบตกลง  เงียบไปสักพักนึง  ใช้เวลาครุ่นคิดว่าจะกลับบ้านหรือนอนค้างที่บ้านไอ้โชค  ถ้าเป็นเมื่อก่อน  ฉันคงตอบตกลงไปอย่างง่ายดาย  แล้วตอนนี้หละ  ฉันยังกลัวอยู่อีกหรือเปล่า  ตอนนี้ฉันรู้สึกกับไอ้โชคยังไงกันแน่  ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ 

        “ ถ้าฟิล์มไม่สบายใจ  นอนกับป้าก็ได้นะ ”

        “ ขอบคุณคะ  แต่.....หนูไม่รบกวนป้าหรอกคะ  หนูนอนกับโชคก็ได้ ”

        “ จริงหรอฟิล์ม ”  ไอ้โชคพูดสวนขึ้นและยิ้มอย่างพอใจ

        “ ทำไมหละ  เพื่อนกัน  นอนด้วยกัน  มันแปลกตรงไหน ”

        “ ไม่แปลก  ไม่แปลกเลย ”

        “ ป่ะ งั้นเราก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำนอนกันได้แล้ว  โชคหาเสื้อผ้าให้หนูฟิล์มใส่ด้วยนะ  ป่ะหลานสาวคนเก่งของป้า  เราไปกันเถอะ ”

-----------------------------------------------------------------

   หลังจากที่ฉันอาบน้ำเสร็จแล้ว   ก็ถึงคราวเจ้าของห้อง  ตอนนี้ฉันอยู่ในห้องไอ้โชคคนเดียว  ยังตาสว่างอยู่เลย  ไม่มีท่าทีจะง่วงนอนซะอย่างนั้น  เลยไปนั่งเล่นคอมพิวเตอร์  กดเล่นไปเรื่อย  จนกระทั่งเจ้าของห้องเดินเข้ามาในห้อง  ฉันหันไปดู  เฮ้อ....  โล่งอก  นึกว่าจะเป็นเหมือนคราวที่แล้ว   คนบ้าอะไร  ใส่แต่บ็อกเซอร์  ไม่เกรงใจกันบ้างเลย    คราวนี้ชุดนอนมาเป็นชุดเลยแฮะ  ดูๆ แล้ว  ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ   

   “ มองอะไรหรอ ” ไอ้โชคหันมาเห็นฉันที่กำลังมองดูมันอยู่พอดี

   “ เปล่า  ไม่มีอะไร ”  ปฏิเสธหน้าด้านๆ  แล้วหันกลับมาสนใจคอมพิวเตอร์ต่อ  ถึงแม้ในใจตอนนี้  จะสนใจอย่างอื่นมากกว่า 

   เสียงฝีเท้า  กำลังเดินดุ่มๆ เข้ามา  และหยุดอยู่ที่ด้านหลังของฉัน

   “ ดูอะไรอยู่หรอ ”

   “ ดูการ์ตูน  เรื่องนี้สนุกมากเลยนะ เคยดูป่ะ ”

   “ ไหน  เรื่องอะไร ”

   “ ก็เรื่อง..... ”  ฉันกะจะหันมาบอกไอ้โชคที่ยืนอยู่ข้างหลัง  แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น

   ไม่รู้มันยื่นหน้าเข้ามาตอนไหน  เมื่อไหร่  รู้ตัวอีกทีฉันก็เกือบจะหอมแก้มมัน  ปลายจมูกของฉันห่างจากแก้มของมันเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง  และสิ่งที่น่าตกใจมากกว่านั้นก็เกิดขึ้นเมื่อไอ้โชคหันหน้ามาหาฉัน  ทำเอาฉันสะดุ้งตกใจ  ตาเบิกกว้าง  ลมหายใจอุ่น  กระทบใบหน้าจนสัมผัสได้  หัวใจเริ่มเต้นแรงและเร็วขึ้น  ความรู้สึกร้อนผ่าวแผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าและหูทั้งสองข้าง  จนต้องหลบสายตาของอีกคน

   “ ไม่สบายหรอ  ทำไมหน้าแดงจัง ”     

   “ ป่าว  ช่วยเอาหน้าออกไปห่างๆ กว่านี้ได้ไหม ”

   “ ทำไมต้องหลบสายตากันด้วยหละ  เขินหรอ ”

   “ พูดมากจริง  รีบๆ เอาหน้าออกไปห่างๆ หน่อยได้ไหม ”

   “ ไม่ชอบหรอ  นึกว่าชอบซะอีก ”  ฉันเงยหน้าขึ้น  สบตากับคนที่อยู่ตรงหน้า 

   “ แล้วถ้าบอกว่าชอบ  จะทำยังไงต่อ ”

   “ อยากรู้จริงหรอ  ว่าจะทำยังไงต่อ ”

   “ เปล่า  ก็แค่ถามดูเล่นๆ  โชคเอาหน้าออกไปห่างๆ  ฟิล์มได้แล้ว ”  ไอ้โชคยิ้ม  ค่อยๆ ผละหน้าออกห่าง  และหันกลับไปที่หน้าจอคอมเหมือนเดิม   

   ความจริง ฉันก็ชอบนะ  ความรู้สึกแบบนี้  แต่ถ้าจะให้มีอะไรเกินเลยมากกว่านี้  บอกตามตรง  ยังไม่พร้อม  คนไม่เคย  มันก็ต้องกลัวเป็นธรรมดาแหละ  เฮ้อ.......  ฉันนี่มัน  อ่อนหัดจริงๆ เลย 

   เวลาล่วงเลยไปถึงเที่ยงคืน  การ์ตูนที่ดูก็จบพอดี  เราสองคนเริ่มง่วง  จึงพากันเข้านอน  ตอนนี้ในห้องมืดมากเพราะไฟในห้องถูกดับลงไปแล้ว  เราสองคนขึ้นนอนบนเตียงเดียวกัน  มีเพียงหมอนข้างที่คั่นกลางเอาไว้   

-------------------------------------------------------------
   
          เช้าวันจันทร์มาถึงอีกแระ  สิ่งที่ต้องทำคือเรียน  แล้วก็เรียน  แทนที่จะตั้งใจเรียน  ฉันกลับนั่งเหม่อลอย คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย  ก็เมื่อวานหนะสิ  ไอ้เต้โทรมาตอนสองทุ่ม  บอกพรุ่งนี้เจอกันที่สนามกีฬาอำเภอ  เฮ้อ... กลุ้ม กลุ้ม กลุ้ม  จะอะไรกันนักกันหนากับชีวิตฉันเนี่ย  แล้วฉัน ให้มันมาบงการชีวิตของตัวเองตั้งแต่ตอนไหน  ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจตัวเอง 

   ถึงเวลาพักเที่ยง  ได้มานั่งตากแอร์เย็นๆ ที่ห้องสมุดหน่อย  ช่วงนี้อากาศร้อนเป็นบ้า  ต้องหาที่เย็นๆ ดับร้อน  ก็ได้ที่นี่แหละ ทั้งเย็น ทั้งเงียบสงบ  แถมยังฟุบหลับได้ไม่มีใครว่า   กำลังจะเคลิ้มหลับอยู่แล้วเชียว  ตัวป่วนก็มาจนได้ 

   “ ฟิล์ม  ช่วยไรหน่อยดิ ”   ไอ้โชคนั่งลงตรงเก้าอี้ข้างๆ ฉัน 

   “ มีไร  ง่วง  จะงีบ ”  ฉันพูดน้ำเสียงัวเงีย  กึ่งหลับกึ่งตื่น 

   “ ช่วยทำโจทย์ข้อนี้หน่อย  ครูบอกให้ส่งก่อนเลิกเรียน  ช่วยหน่อยดิ  นะๆ ”

   “ มันยากขนาดนั้นเลยหรอ  ถึงต้องให้ช่วย  ปกติก็ทำได้ไม่ใช่หรอ ”

   “ ปกติก็พอทำได้ แต่ข้อนี้ทำไม่ได้จริงๆ  นะๆ  ช่วยหน่อยน้า.... ”

   ฉันเงยหน้าขึ้นมาดูโจทย์ในสมุดของไอ้โชค  กลับเจอประโยคคำถาม  ที่ทำเอาฉันถึงกับพูดไม่ออก  “ อยากคบกับฟิล์มมากกว่าเพื่อนได้มั้ย ”  ฉันหันกลับไปมองเจ้าของสมุดอีกครั้ง และต่อว่าทันที

   “ นายเล่นบ้าอะไรหนิ   ว่างมากขนาดนั้นเลย  ”

   “ ว่างหนะว่างคร้าบบบ...  แต่เนี่ย  ไม่ได้ล้อเล่น ”

   “ แบบนี้เนี่ยนะไม่ได้ล้อเล่น  แล้วเขาเรียกว่าอะไร ”

   “ ก็....  จริงจัง  จริงจังมากด้วย ”

   คำตอบที่ได้ทำเอาฉันอึ้งถึงขั้นเอ๋อแดเก  เบลอๆ  คิดอะไรไม่ออก  เหมือนสมองหยุดทำงานไปชั่วขณะ ก่อนจะดึงสติสตังค์กลับเข้าร่างได้  บ้าไปแล้ว  ก็ไหนตอนแรก  ตกลงจะเป็นเพื่อนกันแล้วไง  ทำไมถึงได้กล้าทำอะไรแบบนี้อีกนะ  ไอ้บ้า  บ้าจริงๆ เลย

   “ ได้ไหมฟิล์ม  โชคสัญญา  จะไม่ทำให้ฟิล์มเสียใจ ”

   ฉันละสายตาจากคนตรงหน้า   ก่อนจะส่ายหน้าไปมาเบาๆ  แต่การส่ายหน้าของฉัน กลับไม่ใช่การปฏิเสธคำขอของไอ้โชค  แต่หมายถึงความไม่แน่ใจ  ไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง 

   “ โชค  คือ.......... ”  ยังไม่ทันจะพูดประโยคต่อไป ไอ้โชคก็ตัดบทขึ้นมาก่อน

   “ ฟิล์มอย่าบอกนะ  ว่าที่ผ่านมา  ฟิล์มไม่รู้สึกอะไรกับโชคเลย  โชคไม่เชื่อหรอก ”

   “ ป่าว เราแค่ยังไม่แน่ใจในอะไรหลายๆ อย่าง   ขอเวลาฟิล์มหน่อยได้ไหม  ขอเวลาให้ฟิล์มได้รู้สึกมากกว่านี้  ให้ฟิล์มได้มั่นใจมากกว่านี้  แล้วฟิล์มจะให้คำตอบ  ”  เมื่อพูดเสร็จ ฉันจึงหันกลับมาสบตากับไอ้โชคอีกครั้ง

   “ ได้สิ  ฟิล์มขออะไร  โชคให้ได้หมดแหละ  แต่อย่าให้โชครอนานมากนะ  สัญญา ”

   “ อื้ม  ไม่นานหรอก  ก็แค่.. 2-3 ปี ”

   “ โห.... นานเวอร์อะ  ไม่เอา  อย่าแกล้งกันดิ  น้า......  นะ ” ดูมันทำหน้าเข้าสิ  เรียกคะแนนสงสารได้ดีเยี่ยมเลยแหละ  ไปเรียนการแสดงมาจากสำนักไหนหว่า  น้ำเสียงนี่ออดอ้อนสุดฤทธิ์  ทำให้ฉันเผลอยิ้มกับภาพน่ารักๆ ที่อยู่ตรงหน้า 

   “ รู้แล้ว  รู้แล้ว  ไม่นานหรอก ”  อีกฝ่ายได้คำตอบที่น่าพอใจ  จึงยิ้มออกมา 

   “ สัญญาก่อน  น้า....  นะ  สัญญากันก่อน ”  ประโยคขอร้องหรือเปล่าไม่รู้ มาพร้อมกับนิ้วก้อยที่รอเกี่ยวก้อยกับฉัน

   ฉันยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวรั้งกับนิ้วก้อยของไอ้โชค  ก่อนจะพูดออกไปว่า  “ สัญญาคะ ”   การทำสัญญาเสร็จสิ้นลงพร้อมกับรอยยิ้มของเราทั้ง 2 คน 

   การเรียนการสอนในสัปดาห์นี้ผ่านไปเร็วมาก  ช่วงนี้ไอ้โชคตามติดฉันอย่างกับปาท่องโก๋ จนอิสายป่าน อิกระต่าย และแม่นางมายด์ถึงกับแซวว่าพวกเราตกลงปลงใจเป็นแฟนกันแล้ว ทั้งๆ ที่ความจริง มันยังไม่ได้ไปถึงขนาดนั้นก็เหอะ  แต่ก็มีความสุขดี  ที่มีคนมาคอยดูแลเอาใจใส่ทุกวันแบบนี้  ไอ้โชคก็ไม่ได้ดูเลวร้ายอะไรหรอก  จัดอยู่ในระดับดีถึงดีมากด้วยซ้ำ  ทำให้ความรู้สึกดีๆ  ค่อยๆ ก่อตัวมากขึ้นทุกวัน

   ส่วนไอ้เต้หนะหรอ  หายเงียบไปทั้งอาทิตย์เลยแหละ  แต่ก็....ช่างมันเหอะ  แต่เสาร์นี้  ฉัน  อิกระต่าย  กับแม่นางมายด์  ต้องไปทำรายงานบ้านไอ้โต๊ดด้วยแหละ รายงานกลุ่มใหญ่  กลุ่มละ 8 คน  เพื่อนๆ จึงลงมติกันว่าอยากไปทำรายงานบ้านไอ้โต๊ด  ฉันก็เลยต้องไหลตามน้ำไปกับเค้าด้วย   

   แต่แล้ว  สิ่งที่ไม่คาดฝันก็มักจะเกิดขึ้นเสมอ...................

....................................................................................

ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามจร้า 

แล้ววันหลัง  จะเอาตอนต่อไปมาอัพให้อ่านกันอีกนะจ้ะ


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด