Poppy Love The Series...รักใสๆ ของยัยกะเทยซ่าส์ ตอนที่ 19 Part 1/2 : 14/07/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Poppy Love The Series...รักใสๆ ของยัยกะเทยซ่าส์ ตอนที่ 19 Part 1/2 : 14/07/59  (อ่าน 33188 ครั้ง)

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
คนสวย...
เลยมีแต่ผู้ชายเข้าหา

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
@  ooomukooo  : 55555555  ไม่ต้องอิจฉาหรอกคะ เพราะความรักของกะเทย มันไม่ได้ราบรื่นเลยแม้แต่นิดเดียว ยังต้องเจอคลื่นลมและพายุโหมกระหน่ำอีกมากเลยคะ 

@ คนอ่าน : อยากบอกว่าตอนนั้นไม่ได้สวยอะไรเลยคะ ครีมบำรุงผิวไม่เคยโดนหน้า ยาคุมก็ยังไม่รู้จัก  55555  สงสัยผู้ชายพวกนี้จะชอบของแปลก  5555555

ออฟไลน์ pancakesexy

  • ~๐แพนด้าน้อย๐~
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
    • Rattiya Papaoay
อิจฉาพี่ฟิล์มจัง ไม่เคยมีโมเม้นต์นี้เลย 555 เหมือนชีวิตมัธยมหายไป ขนาดมหาลัยก็ยังมีแต่เพื่อน เศร้าใจ ไม่สวยและรวยมากนี่อยู่ยากหน่อย

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อยากมาต่อนิยายให้คนอ่านได้อ่านกันจังเลย แต่ช่วงนี้งานยุ่งๆ ไปหน่อย ก็เลยไม่มีเวลาเขียนสักเท่าไหร่ แต่คิดว่าตอนต่อไปน่าจะอัพวันเสาร์หรือวันอาทิตย์นี่หละคะ อย่าลืมติดตามกันนะคะ

ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตอนที่ 4 ระหว่างเพื่อนกับแฟน  Part 2/2

   ทุกๆ วันหลังเลิกเรียนเทยจะต้องอยู่แต่กับบ้านเป็นส่วนใหญ่  และวันนี้ก็เช่นกัน   เฮ้ออออ......   คิดไปแล้วมันก็น่าเบื่อนะคะ ชีวิตกะเทยวัยเจริญพันธ์ต้องมานั่งเฝ้าบ้านเนี่ย  ไม่ใช่แค่เฝ้าบ้านอย่างเดียว พอเลิกเรียนมาน้องเทยก็ต้องกวาดบ้าน ล้างจาน  หุงข้าว  ทำการบ้าน  เปิดทีวีดูกับน้องชาย โชคดีหน่อย อย่างน้อยก็ยังพอมีไอ้น้องชายนี่แหละที่คอยต่อปากต่อคำ   พอให้แก้เหงาได้บ้าง  แต่เห็นพวกเราสองคนจิกกัดกันแบบนี้ เราสองคนก็รักกันมากเลยนะคะ น้องเทยก็ออกแนวโหดๆ เถื่อนๆ ประเภทที่ว่า ใครทำอะไรมึงให้บอกกู  เดี๋ยวกูจะไปอัดมันเอง   แอร๊ยยยย......... ป่าเถื่อน ชอบใช้แต่กำลังเป็นที่สุด  แต่ก็ดูพึ่งพาได้นะค้า.....  เวลาล่วงเลยมาจนจะสามทุ่มแล้ว แปลกจัง วันนี้ทำไมรู้สึกเหนื่อยม้ากกก  เพลียร่างที่สุด  เทยจึงปลีกตัวออกจากหน้าจอทีวีก่อนคนอื่นๆ  แล้วเดินเข้าห้องนอน   ทิ้งตัวลงบนที่นอนด้วยร่างกายที่อิดโรย  และค่อยๆ หลับตาลง  กำลังจะเคลิ้มหลับอยู่แล้วเชียว  เสียงพ่อก็ดังขึ้น   “ ไอ้ฟิล์ม....”   พ่อตะโกนร้องเรียกชื่อเทยซะเสียงดัง  ทำให้เทยสะดุ้งตื่นขึ้นมา   และหอบสังขารอันสะลึมสะลือไปเปิดประตู  เห็นพ่อยืนหน้าตาเคร่งขรึมอยู่หน้าห้องพร้อมกับยื่นโทรสับมาให้  และพูดเสียงดุบอกว่าเพื่อนโทรมา   เทยรับโทรสับมาแบบงงๆ  ก่อนที่พ่อจะเดินลงบันไดไป ตึ้ม....เสียงปิดประตูดังขึ้น  เทยเดินกลับไปที่นอนแล้วค่อยๆ ทอดกายลงบนที่นอนอีกครั้ง แล้วยกมือถือขึ้นมาแนบที่ข้างหู  ได้แต่คิดในใจ  แมร่ง!!  อิเพื่อนคนไหนโทรมาวะ  เดี๋ยวแม่จะด่าให้ลืมตื่นเลย 
   
   “ ฮัลโหล...... ”  น้ำเสียงบ่งบอกว่าง่วงมากถูกเปล่งออกมาอย่างงัวเงีย   

   “ ................ ”  เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับ สงสัยจะกลัวโดนฉันด่าแน่ๆ เลย อย่าให้รู้นะว่าใคร แมร่งหนิ

   “ใครอะ พูดมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ”  เทยก็ยังคงงัวเงียอยู่เหมือนเดิม

   “ เราเอง.... ” น้ำเสียงที่แตกเนื้อหนุ่มของผู้ชายดังขึ้นมาจากหมายเลขปลายทาง   เอ๊ะ !!!  เมื่อกี้นี่มัน เสียงผู้ชายนี่หว่า  หรือกะเทยหน้าไหนโทรมาอำฉันเล่น  ชักจะเริ่มโมโห   

   “ เราเอง....  เราไหนหละ ไม่บอกชื่อแล้วฉันจะไปตรัสรู้ด้วยมั้ยยะ ”  บอกแล้วว่าอย่าให้เทยต้องโมโห 

   “ โห…..  วัยรุ่นใจร้อนจังเลยคร้าบ....... ผมโชคคร้าบ..... โชคเองคร้าบ..... ” น้ำเสียงที่ยียวนกวนประสาทดังมาจากเลขหมายปลายทางอีกครั้ง    มันน่า……นักเชียว 

   “ โชคหรอ  โทรมาไรดึกดื่นป่านนี้อะ  ไม่หลับไม่นอนรึ่ไง หรือเป็นโรคจิตชอบโทรมาหาล่าเหยื่อตอนกลางคืน ” เทยโมโหจึงเหวี่ยงไอ้โชคไปเบาๆ    โทษฐานที่นางมาขัดจังหวะการนอนของเทย

   “ ป่าวสักหน่อย  ก็แค่อยากคุยด้วย  อยากได้ยินเสียงหวานๆ ของฟิล์มก่อนนอน  ไม่ได้เลยหรอ.... ” เข้าใจพูดนะคะน้ำเสียงออดอ้อนเชียว

   “ อืมๆ  ได้ยินแล้วใช่ป่ะ ได้ยินแล้วก็ไปนอนดิ  งั้น.....แค่นี้นะ ” เทยกำลังจะวางสาย เสียงไอ้โชคก็ดังขึ้น 

   “ อย่าเพิ่งดิ  กว่าจะได้คุยกับฟิล์ม นี่ลำบากมากเลยนะรู้มั้ย  ” เทยเริ่มหงุดหงิดแล้วนะ ง่วงนอน จะวางสายก็ไม่ยอมให้วาง     

   “ ลำบากอะไร ??? ” เทยถามอย่างสงสัย

   “ ก็เราอะให้น้องสาวของเราเป็นคนคุยโทรสับกับพ่อฟิล์ม เพราะเรากลัวว่าถ้าเราพูดเอง  พ่อฟิล์มจะไม่ยอมให้เราคุยกัน  นี่ขนาดให้น้องบอกพ่อว่าเป็นเพื่อนนะ พ่อยังถามเซ้าซี้อีกตั้งหลายอย่างอะ พูดกับพ่ออยู่ตั้งนานสองนาน กว่าจะยอมให้คุยกับฟิล์ม  เห็นป่ะว่าลำบากมากแค่ไหน ” โอเครรร  สาทะยายเข้าไป  แต่คนที่ดูจะลำบากมากกว่าก็คือน้องของแกนะไอ้โชค ที่ต้องมาตกเป็นเครื่องมือของแกเนี่ย

   “ โอเคๆ คือเอาตามตรงนะ ตอนนี้เราง่วงมากๆ เลยอะ พรุ่งนี้ค่อยคุยกันแล้วกันนะ ”  พูดจบเทยก็รีบวางสายทันที  ตู๊ด..............  ไม่ไหวจะเคลียร์ตาจะปิดอยู่แล้วเนี่ย......    ยังจะมาชวนคุยอีก  ฉันไม่แคร์อะไรทั้งนั้นคะ เพราะ ณ ตอนนี้สิ่งที่ฉันต้องการมากที่สุดก็คือการหลับตานอน   เฮ้อ.... คงได้เวลานอนจริงๆ แล้วสินะ  น้องเทยค่อยๆ หลับตาลง  แล้วเวลาแห่งการพักผ่อนก็ดูจะราบรื่นดี  เพราะไม่มีเสียงเรียกหริอเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกเลย  เฮ้อ..... เทยได้นอนเต็มอิ่มจนถึงเช้าสักที

   ที่โรงเรียน  กรี๊ง.............. ( เสียงออดของโรงเรียนดังขึ้น )  เวลาพักเที่ยงมาถึงสักที  หิวข้าวจนไส้จะขาดเถอะ  กะเทยสามนางทานข้าวจนอิ่มหนำสำราญ  ก็ถึงเวลาเม้าท์มอยกันสิคะ หัวข้อในการเม้ามอยจะเป็นเรื่องอื่นไปไม่ได้เลย นอกจากเรื่องความสวยความงามกับเรื่องผู้ชาย........

   “ อิฟิล์ม.....  กูว่าไอ้โชคมันแปลกๆ นะมึง ” อยู่ดีๆ อิสายป่านก็พูดเรื่องไอ้โชคขึ้นมาและมองหน้าเทยอย่างสงสัย

   “ แปลก....  แปลกยังไงของมึงคะ ” เทยไม่เข้าใจที่อิสายป่านพูดเลยต้องถามกลับอย่างสงสัยในความหมายของคำว่าแปลก

   “ ก็อยู่ดีๆ มันก็อยากไปส่งมึงที่บ้าน แล้วก็อยากมานั่งทานข้าวกับมึง มึงว่ามันแปลกมั้ยหละคะ ”  หา.....  มึงพูดว่าไอ้โชคอยาก  แล้วมึงไปรู้กับมันได้ไงคะว่ามันอยาก  อินี่พูดไม่ทันไรก็โป๊ะแตกคะ

   “ มึงรู้  ว่ามันอยาก  นี่กูคิดว่าเหตุการณ์ทั้งหมดมันเกิดขึ้นโดยบังเอิญมาตลอดเลยนะ ที่แท้มึงก็อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี่เอง  ชั่วได้ใจกูมากเลยนะอิดอกทอง ” เทยพูดเหน็บแนมอิเพื่อนทรยศ 

   “ โอ้ย  อิห่า มึงจะด่าจะว่ากูให้มันได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาคะ กูจะบอกอะไรให้พวกมึงรู้ ตั้งแต่เรียนด้วยกันมา ม.1 จนถึงตอนนี้ ไอ้โชคมันยังไม่เคยจีบใครเลยนะเว้ย ” เอ้า!! อิห่าหนิ เสือกเรื่องของชาวบ้านอีกแระ

   “ มึงจะบอกว่า พฤติกรรมของไอ้โชคที่แสดงออกกับอิฟิล์ม คือการจีบ??? ” อิกระต่ายเองก็ดูจะสงสัยกับคำพูดของอิสายป่านเหมือนกัน

   “ ฉันก็แค่สงสัยยะ แต่ยังไม่ฟันธงหรอกนะ พวกหร่อนคอยดูต่อไปละกัน ”

   “ เออๆ ช่างเหอะ อิฟิล์ม เมื่อวานกูเจอไอ้เต้ เพื่อนไอ้โต๊ดด้วยคะ ” การเปลี่ยนเรื่องคุยของอิกระต่ายนี่ไม่ได้ทำให้อะไรๆ มันดีขึ้นเล้ยยยย  อิพวกนี้ พาฉันคุยแต่เรื่องผู้ชาย  ให้ตายสิ เบื่อพวกมันจริงๆ เลย

   “ ไอ้เต้ เพื่อนต่างโรงเรียนของไอ้โต๊ดใช่ป่ะ โห..... มึง..... สเป็คกูเลยอะ อยากได้อยากโดน ” แหม๋ อิสายป่าน ดูแกจะตื่นเต้นมากๆ เลยนะ กับอิแค่ผู้ชายคนเดียวเนี่ย  แต่เทยนี่สิ  ทั้งเบื่อทั้งเซ็งมันสองคน กะเทยอะไร บ้าผู้ชายจริงๆ

   น้องเทยหละเอือมระอากับอิเพื่อนสาวสองคนนี้เต็มที จะพูดเรื่องผู้ชายที่ไหนก็พูดไปสิยะ ทำไมต้องมาพูดเรื่องไอ้โชค ไอ้เต้ ไอ้โต๊ดด้วยหละหนิ  ถึงเวลาที่เทยต้องเบี่ยงประเด็นความสนใจของพวกมันออกจากเรื่องนี้สักที ก่อนที่เทยจะทนไม่ไหว   เทยจึงชวนคุยเรื่องความสวยความงาม พวกเราคุยกันเรื่องครีมทาผิวหน้าและผิวกาย คุยกันว่าจะซื้อยี่ห้อไหนดี  ถึงจะเหมาะกับผิวกายหยาบๆ และผิวหน้ามันๆ ของพวกเรา   และแล้วพายุที่เกรี้ยวกราดก็โหมกระหน่ำเข้ามาใส่ฝูงกะเทยสามนาง  แต่เอ๊ะ ดูเหมือนฉันจะโดนพายุเล่นงานอยู่คนเดียวนะเนี่ยย....

   “ ฟิล์ม !! ” เสียงเรียกที่คุ้นหูดังขึ้น เทยหันกลับไปมอง  เจอไอ้โชค ที่กำลังทำหน้าบึ้งตึงใส่เทยอยู่

   “ มีอะไรหรอโชค ” ฉันทำเป็นแอ๊บแบ้วไร้เดียงสาไป แต่ในใจลึกๆ ก็พอจะรู้แล้วแหละ ว่าสาเหตุที่ทำให้ไอ้โชคโกรธถึงขนาดนี้คงเป็นเรื่องที่ฉันตัดสายโทรศัพท์ของมันเมื่อคืนนี้แหง๋ๆ เลย

   “ เมื่อคืนตัดสายเราทำไม ” น่าน....ไงหละ ว่าแล้วเชียว เรื่องนี้จริงๆ ด้วย

   “ อ๋อ..... เราก็บอกโชคแล้วหนิ ว่าเราง่วงนอน ใจคอโชคจะไม่ให้ฟิล์มนอนเลยหรอ ” แหมะ ฉันนี่ก็แสดงละครเก่งจริงๆ เลยนะเนี่ย  ตีบทนางเอกผู้น่าสงสารจนแตกเปรี้ยงเลยหละคะ  เอาซี้  ถ้ามันไม่ใจอ่อนก็ให้มันรู้ไป
 
   “ โชคก็แค่  อยากคุยกับฟิล์มนานกว่านี้หน่อยเท่านั้นเอง ” ดูเหมือนว่าพายุจะเริ่มสงบลงแล้วสินะ ท่าทางดุดันเมื่อกี้มันหายไปไหนหมดคะ เหลือแต่ผู้ชายที่ดูสุภาพ อ่อนโยน

   “ ไว้คืนนี้โชคค่อยโทรมาใหม่แล้วกัน  เดี๋ยวเราจะขอโทรศัพท์กับพ่อไว้  แต่ขอเป็นหลังละครหลังข่าวจบนะ ”  อ๋อยผู้ชายไม่เป็นคะ ใสๆ วัยรุ่นชอบ  อิอิ

   “ แล้วไหนบอกว่าง่วง นอนดึกไม่ได้ไม่ใช่หรอ ”

   “ปกติก็นอนสี่ทุ่มห้าทุ่มนะ แต่เมื่อวานไม่รู้เป็นอะไร ง่วงมากเลยอะ ก็เลยนอนแต่หัวคำหน่อย ”

   “ ครับ งั้นโชคไปเตะบอลกับเพื่อนก่อนนะ เดี๋ยวคืนนี้โทรหา  ” ไอ้โชคพูดไปยิ้มไป ผสมกับท่าทางที่ดูเขินอาย  อย่าบอกนะว่า  มันจะคิดอะไรกับเราจริงๆ

   “ ว้ายยยย....  โป๊ะเช่ะ  กูว่าแล้วไงคะ  ชัวร์เลย  เรด้ากูจับสัญญาณได้คะ”  อิสายป่านดูท่าทางมั่นใจในความคิดของตัวเองมากคะอิดอกก.....

   “ เฮ้ย!! อิฟิล์ม มึงให้เบอร์โทรศัพท์กับมันตอนไหนยะ อิดอกก แรดมากกก แรดเงียบ แรดเรียกแม่เลยนะมึง ”  นี่มึงด่ากูแรงไปมั้ยคะอิกระต่าย  เดี๋ยวกูไม่ให้ลอกการบ้านเลยหนิ 

   “ หุบปากของพวกมึงได้แล้ว แล้วก็หยุดคิดอะไรอุบาทๆ สักที ”

   “เอ้า... อินี่ ” เสียงประสานของอิเพื่อนตัวแสบสองนางอุทานขึ้นเสียงดัง 

   “ อุบาทตรงไหนยะ แล้วมึงรู้หรอว่าพวกกูคิดอะไร  กูจะบอกให้นะ ว่าความคิดของกูนี่ สดใสงดงาม มากกว่าใบหน้าเน่าๆ ของมึงอีกคะ ”   สิ้นเสียงด่าของอิสาย  เสียงหัวเราะดังขึ้น 5555555  อิเพื่อนตัวแสบสองคนหัวเราะชอบใจเสียงดังอย่างไม่อายคนในโรงอาหารเลย  พวกมึงคงสนุกมากสินะได้ด่ากูเนี่ย  อิพวกเพื่อนเลว.....

   ใกล้ถึงเวลาที่จะต้องเข้าเรียนในภาคบ่ายแล้ว กะเทยสามนางก็พากันเดินบิดตูดกำลังจะขึ้นห้อง  ไม่ทันจะได้ขึ้นบันไดเลยซะด้วยซ้ำ   มีฝูงชะนีกลุ่มนึงมีกันประมาณสัก 6 คน เดินลงมาจากบันไดมาปะหน้ากับพวกเราทั้ง 3 คนพอดี ทั้ง 2 ฝ่ายจึงต้องหยุดเดินเพราะต่างฝ่ายก็ต่างขวางทางกัน และเหมือนจะไม่มีฝ่ายไหนยอมหลีกด้วย จะใครหนะหรอคะ ก็แฟนสาวของไอ้โต๊ดกับเพื่อนๆ ของมันอีก 5 คนน่ะแหละ  และหนึ่งในนั้นก็มีอีชะนีเตี้ยปากแดงซะด้วย ฉันจะมันได้ดีเลยแหละ  เพราะมันขัดขาฉันจนสะดุดล้ม  ถ้ามีโอกาส ฉันต้องเอาคืนมันแน่  ไม่รู้ว่าการเจอกันครั้งนี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ หรือจงใจกันแน่  แต่ถึงยังไง ฉันก็ไม่กลัวคะ
 
   “ อ้าววว นึกว่าใคร  ที่แท้ก็อิกระเทยหน้าด้าน ชอบแย่งผัวชาวบ้านนี่เอง ” อิแฟนสาวของไอ้โต๊ดที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าแก๊งค์พูดน้ำเสียงประชดประชัน แต่เสียใจคะ มันไม่สะทกสะท้านแม้แต่ปลายเล็บของฉันเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะสิ่งที่มันพูดกล่าวหาฉันมันไม่ใช่ความจริง  เพราะฉะนั้นเทยจึงไม่เป็นเดือดเป็นร้อนคะ

   “ ขอโทษ  ก็ผู้ชายมันให้ท่าฉันเอง  แล้วจะให้ฉันทำยังไงหละ”  ต้องพูดยั่วให้มันโมโหสักหน่อยแระจะได้สะใจเทย

   “ อิหน้าด้าน ผู้ชายหล่อๆ อย่างแฟนกู ไม่เอากะเทยอย่างมึงให้เสียชาติเกิดหรอกหวะ ” อุ้ย ด่าแรงนะเนี่ย  เทยสะแยะยิ้มมุมปากให้เบาๆ แล้วกัน 

   “ งั้นก็ไปบอกให้แฟนแกไปตายเกิดใหม่ซะเถอะ  เพราะถ้าไม่รีบ  มันอาจจะห้ามใจตัวเองไม่ไหว   แล้วมาจิ้มฉัน เดี๋ยวมันจะเสียชาติเกิดเอา  ”   55555555  คำพูดของฉันคงดูสะใจอินางเพื่อนสาวสองคนมาก ถึงกลับกั้นหัวเราะไว้ไม่ไหวเลยหรอคะเพื่อนสาว ฉันก็เช่นกันคะ  55555555  สะใจเบาๆๆ 

   “ สายป่าน  นี่มึงไปเข้าพวกกับมันตั้งแต่ตอนไหน มึงไม่กลัวเสนียดติดตัวมึงหรอ ” อิชะนีเตี้ยปากแดงที่เคยขัดขาเทยตั้งประโยคคำถามให้กับอิสายป่าน  ทีแรกเทยก็นึกว่าพวกนางเป็นเพื่อนสนิทกันซะอีก แต่ดูท่าทางจะไม่ใช่แระ เพราะอยู่กันคนละห้อง และอีกอย่างนางก็อยู่แก๊งค์เดียวกันกับแฟนไอ้โต๊ดอีก แล้วทำไมวันที่ไปแกล้งเทยถึงไปด้วยกันได้นะ  คำถามนี้วนเวียนเข้ามาในหัวของเทยทันที   

    “ กระเทยเป็นเพื่อนกัน มันแปลกตรงไหนคะอิเหม่ง  ถ้าจะให้กูกลัว กูกลัวติดเสนียดกับชะนีอย่างพวกมึงมากกว่า ”  กรี๊ดดดดด  สายป่านนน  นางพูดได้ถูกใจฉันมาก  และคำตอบที่อิเหม่งได้รับก็ค่อนข้างชัดเจนแล้วนะว่าอิสายป่านมันเลือกอยู่ข้างใคร  5555555

   “ สายป่าน  ตั้งแต่รู้จักกันมา เราไม่เคยมีเรื่องกันแม้แต่ครั้งเดียวเลยนะ หรือวันนี้เธออยากจะประกาศตัวเป็นศัตรูกับพวกฉัน ”  แฟนสาวไอ้โต๊ดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูจะไม่พอใจเอามากๆ 

   “ ฉันไม่เคยอยากมีเรื่องกับใครทั้งนั้น แต่ถ้ามีใครมาหาเรื่องฉันกับเพื่อนฉันก่อน โดยสัญชาตญาณของกะเทยแล้ว เพื่อนเจ็บ เท่ากับเราเจ็บ ใครทำเพื่อนกู  กูจะตามไปเอาคืน  ”  อิสายป่านเริ่ดมากกก  นางพูดน้ำเสียงหนักแน่น  อย่างไม่เกรงกลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น นี่สิ ถึงจะเหมาะเป็นเพื่อนกับเทย  อิสายป่านและแฟนสาวไอ้โต๊ดจ้องหน้ากันไม่กระพริบตา สีหน้าดุดันราวกับจะตบกันตรงนี้ให้ได้ 

   “ ทำอะไรกัน !!! ” เสียงชะนีที่ไหนเนี่ย ดังมาจากข้างหลังของเทย  แต่ก็เป็นเหมือนเสียงสวรรค์  ที่ทำให้ทุกคนเปลี่ยนประเด็นความสนใจออกจากตรงนี้ไปอยู่ที่เจ้าของเสียงเมื่อกี้ เทยเองก็หันหลังกลับไปมองเช่นกัน ถึงกับตกใจ เมื่อชะนีที่เจอก็คือเพื่อนสาวสุดเลิฟสมัยประถม  ไม่ค่อยได้เจอกันเลย เจอบ้างเป็นบางครั้งแต่ก็แค่ผ่านๆ ไม่ได้มีเวลาทักทายกันสักเท่าไหร่  และดูนางเองก็ตกใจอยู่ไม่ใช่น้อยที่เห็นหน้าเทย

   “ ฟิล์ม....... ”  นางอุทานชื่อฉันขึ้นมา

   “ พวง........”  ฉันอุทานชื่อนางขึ้นบ้าง ถือเป็นการทักทายกันในรอบ 2 ปีเลยทีเดียว

   “ พอได้ยินมาบ้าง  ว่ามีเด็กใหม่เข้ามาเรียนที่นี่  ไม่นึกว่าจะเป็นแก ดีใจจริงๆ เลย ” ท่าทางและน้ำเสียงที่ดูจะดีอกดีใจ ทำเอาอิแฟนสาวไอ้โต๊ดและแก๊งค์ของพวกมันถึงกับงง 

   “ ฉันก็รู้อยู่  ว่าแกเรียนที่นี่ ว่าจะไปหาอยู่ แต่ไม่รู้ว่าแกอยู่ห้องไหนนี่สิยะ เจอแกวันนี้ก็ดีแล้ว จะได้ถามไถ่ให้รู้สักที ว่างๆ จะได้ไปเล่นด้วย ” ท่าทีที่ดูเหมือนเป็นมิตรของเราสองคนยิ่งทำให้พวกนาง งง มากขึ้น

   “ พวง....  นี่เธอรู้จักกับอิกะเทยคนนี้ด้วยหรอ ” แฟนสาวของไอ้โต๊ดถามขึ้นอย่างสงสัย

   “ รู้สิ ก็เค้าเป็นเพื่อนสนิทของฉัน เราเรียนด้วยกันมาหกปี อยู่ห้องเดียวกันมาตลอด และก็สนิทกันมาก เธอมีปัญหาอะไรกับเพื่อนของฉันรึ่ป่าว ” แม่นางพวงพูดเสียงแข็ง เหมือนกับรู้ว่าเทยกับอิพวกนี้กำลังมีปัญหากัน  ท่าทางที่ดูก้าวร้าวเหมือนจะหาเรื่องเมื่อกี้หายไปไหนหมดแล้วหละ  ดูพวกนางคงจะกลัวแม่นางพวงไม่ใช่น้อย เพราะแม่นางพวงไม่ได้เดินมาคนเดียวแต่เดินมากับแก๊งค์ของนางอีก 6 คน รวมกับนางก็เป็น 7 คน และที่สำคัญคือเพื่อนในแก๊งค์ของนางแต่ละคนตัวโตๆ สันใหญ่ๆ กันทั้งนั้น เทียบกับแก๊งค์ของอิแฟนสาวไอ้โต๊ดหนะหรอ โอ้ยย ต่างกันราวฟ้ากับเหว เพราะแต่ละนางรูปร่างบอบบาง แต่งหน้าจัดๆ แถมยังมีอิเตี้ยปากแดงอีก  มันน่ากลัวซะที่ไหนหละคะ 

   “ เปล่า  ไม่มีไร  ป่ะพวกเรา ขึ้นห้อง ”  เสียงออกคำสั่งของนางแฟนสาวไอ้โต๊ดได้พาตัวมันและแก๊งค์ของมันเดินลากเท้าขึ้นบันไดไป 

   “ โอ้ยยย ใจหายใจคว่ำหมด ดีนะเนี่ยที่แกมาทัน ไม่งั้นตบกันมันแน่เลย  ” อิกระต่ายพูดพรางถอนหายใจเสียงดัง ฮืดดดดดดด 

   “ มีอะไรให้บอกฉัน ยังไงเราก็เพื่อนกัน เข้าใจใช่มั้ย ” แม่นางพวงท่าทางเป็นห่วงเป็นใยเทยเหลือเกิน เทยจึงพยัคหน้าตอบรับความช่วยเหลือจากนาง แล้วพวกเราก็เดินขึ้นอาคารเรียนพร้อมกัน  เทยและเพื่อนสาวสุดเลิฟเองก็ไม่ลืมที่จะคุยกัน ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ พูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน

   ตอนนี้ก็ค่ำแล้ว ถึงเวลาของครอบครัวที่อบอุ่น ได้มานั่งดูละครหลังข่าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน  ถ้าเป็นแบบนี้ทุกวันคงดีสิ เพราะบางวันเพื่อนพ่อก็จะชอบชวนพ่อออกนอกบ้านไปกินเลี้ยงสังสรรค์  แต่พักหลังมานี่ไม่ค่อยเห็นมาชวนเลยแฮะ  ทำให้ครอบครัวของเราได้มีช่วงเวลาที่อบอุ่นด้วยกัน  อ้าวววว  นี่เพิ่งจะสามทุ่มครึ่งเอง ละครช่องห้าพ่อจบ นี่พ่อจะไปนอนแล้วหรอเนี่ย  พ่อเอื้มมือไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ที่โต๊ะกระจกหน้าโซฟา  แล้วลุกเดินไปที่ประตูห้องนอนที่อยู่ชั้นล่าง  ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ดูทีวีมากนัก  เทยต้องชิงยืมโทรศัพท์ก่อน ไม่งั้นไอ้โชคโดนพ่อดุแน่ๆ เลย   ไม่ทันที่พ่อจะเดินไปถึงประตูห้องนอนหรอก  เทยจึงฉุดรั้งพ่อเอาไว้ก่อน
   
   “ พ่อ  เดี๋ยวก่อน ”   พ่อหยุดฝีก้าวและหันกลับมาถามเทย

   “ มีอะไร พ่อจะรีบไปนอน พรุ่งนี้ต้องตื่นไปทำงานแต่เช้า ”  พ่อพูดเสียงดุมาเชียว  แล้วอย่างนี้หนูจะกล้ายืมโทรศัพท์มั้ยเนี่ย  เอาวะ เทยจึงรวบรวมความกล้า  แล้วขอยืมโทรศัพท์กับพ่อ

   “ พ่อ.... หนูขอยืมโทรศัพท์หน่อยดิ  เพื่อนบอกว่าจะโทรมาหาหนะ ”  ขนาดว่ารวบรวบความกล้าแล้วนะเนี่ย น้องเทยยังกล้าๆ กลัวๆ พูดตะกุกตะกักอยู่เลย พ่อมองหน้าเทยสักพัก แต่เทยนี่สิสบตาพ่อแล้วก้มหน้าเป็นระยะๆ  บอกตามตรงเลยว่า  ณ จุดนั้น  กลัวโดนพ่อถามอีก แล้วจะตอบว่ายังไงดีหละทีนี้   แต่ผิดคาดคะ พ่อไม่ถามเซ้าซี้ 

   “ เดินมาเอาดิ พ่อจะรีบไปนอน ”  ว้าววว  พ่อใจดีจังเลยอ่า.....  ไม่รีรอคะ เทยรีบเดินไปเอาโทรศัพท์กับพ่อทันที  แล้วมานั่งดูทีวีกับแม่และน้องชายต่อ  นึกว่าจะรอด  ที่ไหนได้ ยังเหลือแม่อีกหนึ่งคน แม่จ้องมองหน้าเทยอย่างสงสัย  แต่คราวนี้เทยกลับไม่รู้สึกกลัวเลยแฮะ จะกลัวทำไมหละ ก็สายตาที่แม่มองเรามันช่างอบอุ่นเหลือเกิน  แล้วแม่ก็ยิ้มให้กับเทย และเทยเองก็ไม่พลาดที่ยิ้มตอบเหมือนทุกๆ ครั้ง   

   “ เพื่อนคนไหนจะโทรมาหาหรอลูก ” แม่ถามด้วยความเป็นห่วง ฉันรู้สึกและสัมผัสได้

   “ ก็เพื่อนใหม่ที่โรงเรียนใหม่นั่นแหละจ้ะ ”

   “ อย่ามัวแต่คุยกันจนดึกดื่นหละ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปโรงเรียนนะรู้มั้ย ”แม่ส่งความรู้สึกเดิมๆ มาให้กับเทย อุ่นไอรักนี้แผ่ปกคลุมไปทั่วหัวใจดวงน้อยๆ ของเทยแล้วคะคุณแม่

   “ ค่ะแม่ ” คำตอบสั้นๆ ที่ทำให้เราโอบกอดกันอย่างมีความสุข  ส่วนไอ้น้องชายของเทยหนะหรอ มันก็นั่งมองดูเราสองแม่ลูกกอดกันและยิ้มจนแก้มปริอยู่ข้างๆ แม่นี่หละคะ 

   หลังจากที่ละครหลังข่าวของช่อง 7 สี และช่อง 3 จบแล้ว  เทยจึงเดินขึ้นห้องมานอนรอรับโทรศัพท์ไอ้โชค  เมื่อไหร่มันจะโทรมานะ คงไม่โกหกเทย  ให้เทยรอเก้อหรอกนะ ไม่งั้นพรุ่งนี้เราจะได้เห็นดีกัน  พอความคิดจบลุงปุ๊บ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นปั๊บ   เทยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู หน้าจอโทรศัพท์โชว์หมายเลขที่คุ้นเคย เทยจึงแน่ใจว่าไอ้โชคโทรมาแน่นอน  เทยจึงกดรับโทรศัพท์ 

   “ ฮัลโหล....... ”
   “ ดีใจจังเลย ที่ได้ยินเสียงฟิล์ม นึกว่าจะได้ยินเสียงพ่อซะอีก ”  คำพูดที่ดูเหมือนจะเหน็บแนมเล็กน้อยดังขึ้นมาจากโทรศัพท์

   “ ถ้ารู้ว่าปากเก่งขนาดนี้  ให้พ่อรับสายแทนซะก็ดี ”  เทยพูดประชดประชันไอ้โชค

   “ โอ้ย......  อย่าเลยนะ  เราอยากคุยกับฟิล์มอะ ไม่ได้อยากคุยกับพ่อ ” แหม๋.... เลิกปากเก่งทันทีเลยนะคะไอ้โชค  น้ำเสียงออดอ้อนซะเหลือเกิน 

   “ หรอ...... ว่าแต่มีเรื่องไรจะคุยอะ รีบๆ พูดมาเลยนะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า  ”  เทยเริ่มชักนำให้เข้าประเด็นสักที

   “ ก็ไม่มีไรมากหรอก แค่อยากจะบอกว่า   ฟิล์มน่ารักมากเลยนะ!! ” กรี๊ดๆๆๆๆๆ  ไอ้โชคบ้า พูดอะไรออกมายะ  กะเทยก็เขินเป็นเหมือนกันนะ  เทยได้แต่นั่งยิ้ม ท่าทางเขินอาย บิดตัวจิกหมอนไปมา 

   “ ……………. ”  ไม่มีเสียงตอบรับจากฉันเป็นเวลาสักพักนึง 

   “ ฟิล์ม หลับแล้วหรอ ทำไมไม่เห็นคุยกับโชคเลยอะ ” คำถามของไอ้โชคสะกิดให้ฉันต้องหลุดออกจากภวังค์

   “ ป่ะป่าว........ ฟังอยู่  โชคมีอะไรอีกมั้ย  ” แอ๊บเนียนสิคะงานนี้ ต้องพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต้องไม่แสดงออกว่าเราเคลิบเคลิ้มกับชื่นชมของมันเป็นอันขาด

   “ ฟิล์ม.....  โชคเพิ่งชมว่าฟิล์มน่ารักไปเมื่อกี้เองนะ  ฟิล์มไม่รู้สึกอะไรเลยหรอ ” 

   “ ก็รู้ว่าโชคบอกว่าเค้าน่ารัก  ขอบใจนะ  ” เทยพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล

   “ ครับ  ฟิล์ม โชคมีอะไรจะบอก โชครู้ว่ามันอาจจะเร็วเกินไป   แต่โชคอยากจะบอกฟิล์มว่าโชครู้สึกแบบนี้กับฟิล์มจริงๆ ”

   “ โชคอยากจะบอกอะไรเค้าหรอ ”  เทยแกล้งถามออกไป ทั้งๆ ที่ในใจก็มีคำตอบให้กับตัวเองอยู่แล้ว 

   “ โชครักฟิล์มนะ!!  เป็นแฟนกันมั้ย!!! ” กรี๊ดดดดดดด  มันตอบตามที่ฉันคิดจริงๆ ด้วย  ช่างกล้าเน่าะไอ้โชค คำตอบของแกทำให้ฉันอึ้งตะลึงงันไปเลยคะ  เทยต้องรวบรวมสติ ก่อนจะตอบกลับไป 

   “ คือ............. ” ไม่ทันจะได้พูดอะไรหรอกคะ ไอ้โชคก็ตัดบทขึ้นมา

   “ คือไรหละฟิล์ม  ก็แค่ตอบโชคมาว่าจะคบหรือไม่คบ  ตอบมาดิ  ” ไอ้โชคเร่งรัดเอาคำตอบจากเทย

   “ คบ!!  คบเป็นเพื่อนกันไปก่อนได้มั้ย  เรายังไม่พร้อม ” เทยตอบกลับเสียงสั่น เอ๊ะ นี่ฉันกำลังกลัวอะไรอยู่กันแน่ ทำไมต้องเสียงสั่น  ใจเต้นระรัวถึงขนาดนี้ 

   “ …………… ” ไม่มีเสียงตอบกลับจากไอ้โชค 

   “ ขอเวลาเราหน่อยนะ เรายังไม่กล้าตัดสินใจอะไรตอนนี้ ขอเวลา  ให้เราได้รู้จักโชคมากกว่านี้ก่อน ถึงเวลานั้น เราจะให้คำตอบ  ว่าเราสองคน เหมาะที่จะเป็นอะไรกัน ” เทยรู้ว่าคนที่ถูกปฏิเสธคำขอก็คงจะเสียใจไม่ใช่น้อย  แต่สิ่งที่เทยพูดออกไป เทยคิดว่ามันคือคำปลอบโยนที่ดีที่สุดในตอนนั้นแล้ว 

   ตู๊ด.........  ตู๊ด............ ตู๊ด...........  ไอ้โชควางสายโทรศัพท์  โดยไม่มีคำพูดใดๆ ออกมาจากปากของมันเลยแม้แต่คำเดียว  หรือมิตรภาพระหว่างเราสองคนจะจบลงเพียงแค่นี้    --___--


***** ตอนต่อไป ตอนที่  5  Coming Soon.....     

           :katai2-1: :katai4: :mc4: :bye2:           


   
      


ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
อร้าย ชอบๆ เขิน  :hao7:
แต่สงสารโชคอ่ะ  :mew2:
มาต่ออีกน่ะค่ะ รอๆ :mew1:

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ฟิล์มก็สงสารโชคอยู่เหมือนกันนะ แต่ทำยังไงได้อะ ก็ตอนนั้น เค้ายังไม่ได้รู้สึกรักโชคแบบคนรักเลยนี่นา  :mew4: :mew6:

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตอนที่ 5  จุดเริ่มต้น.......ของการเปลี่ยนแปลง

   เช้าวันต่อมา  ฉันก็ไปเรียนตามเดิม  และแล้วการเรียนในช่วงเช้าก็ผ่านไป ทุกอย่างเป็นปกติดี ไม่มีเหตุการณ์พิสดารอะไรเกิดขึ้น  จนกระทั่งพวกเรา  4 คน  ฉัน อิกระต่าย อิสายป่าน และแม่นางมาย ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเราจะเป็นกลุ่มเป็นแก๊งค์เดียวกันแล้วนะเนี่ย  พวกเรา 4  นางเดินลงมาซื้อกับข้าวที่โรงอาหาร แต่ละคนก็แยกย้ายกันไปซื้อกับข้าวที่ตัวเองอยากกินเช่นเคย  วันนี้อยากกินข้าวไข่เจียวฟองใหญ่ๆ โตๆ จังเลยแฮะ ฉันจึงเดินดุ่มๆ ไปที่ร้านขายข้าวไข่เจียว  พอเดินไปถึงฉันก็ไม่รีรอเพราะหิวม้ากกกกกก

   “ ขอข้าวไข่เจียวแบบพิเศษ  ไข่เจียวฟองใหญ่ๆ โตๆ จานนึงคะ ”  พอสั่งกับข้าวเสร็จ ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าฉันมองจากข้างหลัง ทำไมรูปร่างมันดูคุ้นๆ ตาจังเลย  แล้วผู้ชายคนนั้นก็หันกลับมา   อะๆ  อะๆ  ไอ้โชค!!  มันกำลังมองหน้าเทย เฮ้ย!!  ดูเฉยชาไปมั้ย ไม่พูดไม่ทักทายยังไม่พอ นี่ทำหน้าตาเฉยเมย เหมือนคนไม่รู้จักกันเลยหรอวะ  สงสัยมันคงจะโกรธเทยเรื่องเมื่อคืนแน่ๆ เลย

   “ หวัดดี ”  ฉันเริ่มทักทายมันก่อน  ก็แน่สิ เล่นยืนนิ่ง  จ้องหน้าฉันหน้าตาเฉยแบบนั้นตั้งนาน ฉันก็เกร็งไปหมด ไม่รู้จะทำยังไงดี  ก็เลยต้องเป็นฝ่ายจำยอมทักทายมันก่อน

   “ หวัดดี ”  แหนะไอ้นี่  ตอบมาหน้าตาเฉยอีกแล้ว  ทักทายแค่สองคำเท่านั้นแหละ มันก็เดินออกไปจากลานสายตาของฉัน   ฉันถึงกับอึ้งกับการกระทำของมัน  ยืนอ้าปากค้างเลยคะ  แค่ไม่ตอบรับรัก นี่มันปลี่ยนไปถึงขนาดนี้เลยหรอเนี่ย เวอร์ไปป่ะไอ้โชค 

   เสียงแม่ค้าเรียกให้ฉันไปรับจานข้าว ทำให้ฉันหลุดจากอาการเอ๋อแดก  ก่อนที่จะไปรับเอาจานข้าว  ว้าว...  ข้าวไข่เจียว ไข่เจียวฟองใหญ่ สีเหลืองทอง น่ากินจังเลยอะ  แล้วฉันก็เดินไปนั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อน  ซึ่งมีเพื่อนสาว 3 นางของฉันนั่งรออยู่ก่อนแล้ว  ฉันจึงนั่งลงด้วยท่าทางหงุดหงิดเล็กน้อย 

   “ อ้าว อิห่า ไปเจออะไรมายะ หน้านี่งอเหมือนตูดเป็ดเชียว ” ช่างสังเกตจริงนะมรึงอิกระต่าย เรื่องสอดรู้สอดเห็นนี่ขอให้บอกนาง  คำถามของอิกระต่าย  ทำให้ เพื่อนฉันอีกสองนางหันมามองดูหน้าฉันทันที

   “ เออ.... จริงด้วย  แกไปเจออะไรมาหรอฟิล์ม ”  ถึงคราวที่แม่นางมายถามฉันบ้าง แต่ฉันก็ยังไม่ตอบทำหน้าเซ็งและก้มหน้าก้มตากินข้าวไข่เจียว

   “ เฮ้ย!!  อินี่  เพื่อนถาม มรึงไม่ได้ยินหรือไง  หรือหูหนวกไปซะและ ”  อิสายป่านเอามือตบโต๊ะและตะหวาดฉันเบาๆ  ทำเอาฉันถึงกับสะดุ้งตกใจ  เงยหน้าขึ้นมามองหน้ามันอย่างเร็ว  ดูมันทำหน้าทำตาสิอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อเทยอย่างงั้นแหละ  ข้าวนี่เกือบติดคอกูแล้วนะคะอิดอก   ฉันรีบเคี้ยวอาหารที่อยู่ในปากและกลืนลงคอ ก่อนจะเข้าสู่การสนทนา

   “ ไม่มีอะไรหรอก  ก็แค่....  เจอไอ้โชคที่ร้านข้าวไข่เจียว ” ฉันพูดน้ำเสียงนิ่งๆ ธรรามดาๆ เหมือนไม่แคร์อะไรเลย แต่ทำไมในใจของฉันถึงรู้สึกอึดอัดแบบนี้นะ 

   “ อ้าว อินี่ แล้วทำไมมึงไม่ชวนเค้ามากินข้าวด้วยวะ อดเลยมั้ยหละมึง  โง่แดกอีกแล้ว ” ด่ากูแรงจังเลยนะคะอิสายป่าน  โดนมันด่าแท้ๆ แต่ฉันก็ยังทำหน้าตาเฉย

   “ แต่กูว่า  มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น ไม่งั้นมึงคงไม่เดินหน้าหงิกหน้างอ  อารมณ์เสียมาแบบนี้หรอก ” แหม๋ ทำเป็นสู่รู้จังเลยนะมรึงอิกระต่าย  ฉันไม่สนใจกับคำพูดของพวกมันหรอก ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อดีกว่า 

   “ นี่ตกลง มรึงจะไม่บอกอะไรพวกกูเลยใช่มั้ย ” อิสายป่านถามฉัน ท่าทางซีเรียด   

   “ กูว่าพวกมรึงรีบๆ แดกไปเถอะ แมร่ง!!  บ่นหิวกันไม่ใช่หรอ จะมาซักไซ้ไล่เรียงอะไรกูนักวะ ” ฉันพูดท่าทางไม่พอใจ  ก็แหง๋หละ  ถ้าเทยไม่ทำแบบนี้  เรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆ แน่  เทยเลยจำเป็นต้องทำเป็นโมโหเพื่อกลบเกลื่อนสินะ

   “ ไม่บอกก็ไม่เป็นไร  ถ้าอย่างนั้นพวกกูก็จะสืบกันเอง  55555 ” อิกระต่ายจอมสอดพูด  พรางทำหน้าทำตาล้อเลียนฉัน  ไม่พอแค่นั้น มันยังหัวเราะเยาะฉันอีก ชวนให้อิสายป่านและแม่นางมายหัวเราะเยาะฉันตามไปด้วย  ฉันได้แต่ส่ายหน้า ไม่รู้จะพูดกับพวกมันยังไงดี  พูดถึงขนาดนี้ สักวันพวกมันต้องรู้เรื่องของเทยกับไอ้โชคแน่ๆ เลย เฮ้อออ.....

       แล้วช่วงเวลาที่แสนจะน่าเบื่อหน่ายก็มาถึง จะอะไรอีกหละ ก็คาบเรียนวิชาลูกเสือหนะสิ  เฮ้อออ  จะไม่ให้เบื่อได้ไงหละ นอกจากจะได้ไปหมกอยู่กับพวกผู้ชายแล้ว ยังต้องไปยืนตากแดดช่วงบ่ายสามโมง  ร้อนม้ากกกกก  นี่ผิวจะไหม้เกรียมด้วยมั้ยเนี่ย   หลังจากที่ยืนทำกิจกรรมหน้าเสาธงจนเสร็จ  พวกเราก็ได้เข้าร่มสักที  ที่โรงเรียนนี้จะเรียนวิชาลูกเสือแบบแยกชายหญิง และแยกระดับชั้น  ทำให้ฉันต้องมานั่งกองรวมกันกับพวกผู้ชาย  ม.3 ทุกห้อง  แต่โชคดีหน่อย ที่ครูให้เลือกกลุ่มกันเอง  พวกเราสามนางก็เลยได้มาอยู่กลุ่มเดียวกัน  ส่วนหัวหน้ากลุ่มและรองหัวหน้ากลุ่มก็เลือกกันตั้งแต่สัปดาห์แรกแล้วหละ  และแน่นอน  กลุ่มฉันได้ไอ้โต๊ดเป็นหัวหน้า และมีฉันเป็นรองหัวหน้าเอง  เรื่องหัวหน้าเนี่ย เพื่อนๆ ในกลุ่มเป็นคนเลือกคะ แต่ไอ้ตำแหน่งรองหัวหน้าเนี่ย ไอ้โต๊ดมันเป็นคนเลือกเอง  แต่ก็ดีนะ เพราะว่าหัวหน้าต้องไปอยู่หัวแถว ส่วนรองหัวหน้าก็ต้องมาอยู่ท้ายแถว  ทำให้ฉันไม่ต้องไปใกล้ชิดกับมัน  เลอค่ามากกก

   “ เอาหละนักเรียน เดี๋ยววันนี้ครูจะมาเล่าประวัติความเป็นมาของลูกเสือไทยให้ฟังกันนะ ”  พอเกริ่นนำเสร็จ ครูก็สาทะยาวซะยาวเหยียดเลย  ฮาบ้าง น่าเบื่อบ้าง  แต่ฟังไปนานๆ ก็ชักจะง่วงแล้วแฮะ  นั่งอยู่ท้ายแถวซะด้วย แอบงีบสักหน่อยครูจะเห็นมั้ยน้า......  ก็ได้แค่คิดเท่านั้นแหละ เพราะไม่กล้าหลับหรอก หลับไม่ลง กลัวโดนผู้ชายลวนลาม 55555 

   “ นี่ๆ อิฟิล์ม ” อิสายป่านที่นั่งอยู่ข้างหน้าฉันหันหน้ามาเรียกฉันเสียงเบา 

   “ มีไรวะ ” ฉันตอบกลับเสียงเบาเช่นกัน เพราะกลัวว่าครูจะได้ยินว่าเราคุยกันระหว่างเรียน  แหม่ แอ๊บมีมารยาทอีกแหละช้านนน   

   “ กูนั่งสังเกตดูมานานแล้ว  ไอ้โชคมันมองมึงบ่อยม้ากกกกก ” อิห่า ทำไมต้องลากเสียงยาวขนาดนี้ด้วยคะ 

   “ มรึงไม่มีอะไรทำรึ่ไง ว่างมากนักใช่มั้ย  ถึงได้มีเวลาไปนั่งมองดูพฤติกรรมของคนอื่นขนาดนั้น ” ฉันยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ อิสายป่านและกระซิบกระซาบมัน 

   “ เอ้า อินี่ อย่างกับมึงไม่ว่าง หรือว่ามึงสนใจประวัติศาสตร์ลูกเสือคะ กูเห็นนั่งตาเยิ้มจะหลับอยู่แระ” 

   “ เอาหละลูกเสือทุกนาย  สัปดาห์หน้าเราจะเรียนกันเรื่อง วิธีการผูกเงื่อนต่างๆ และประโยชน์ของเงื่อน  ต่อไปครูจะให้หัวหน้ากลุ่มแต่ละกลุ่มมาจับฉลาก ว่ากลุ่มพวกเธอจะได้เงื่อนอะไร และถ้ากลุ่มไหนได้เงื่อนอะไร ก็จะให้กลุ่มนั้นมาสอนเพื่อนทำ  เป็นการเรียนรู้ร่วมกัน เพราะครูอยากให้พวกเรามีส่วนร่วมในการเรียนให้มากๆ นะครับ ” ก็แน่สิคะ เพราะตอนนั้น เรื่องการเรียนการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางกำลังมาแรงแซงทางโค้ง 

   หลังจากจับสลากเลือกหัวข้อแล้ว  ไอ้โต๊ดก็แจ้งกับเพื่อนๆ ในกลุ่มว่าเราได้เงื่อนอะไร  จากนั้นครูก็ให้แต่ละหมู่พักผ่อนตามอัธยาศัย  อิกระต่ายกับอิสายป่านชวนฉันไปห้องน้ำ แต่ฉันไม่ไป  ก็เลยได้นั่งอยู่คนเดียว   นั่นมัน ไอ้โต๊ดนี่นา  มันกำลังเดินมาหาฉันสินะ   เบื่อขี้หน้ามันสุดๆ เห็นหน้ามันนี่ก็นึกถึงหน้าปลวกๆ ของแฟนมันแล้ว  นึกถึงทีไรก็อารมณ์เสีย  ชะนีอะไร มั่นหน้าเกิ้นนนน   

   “ ฟิล์ม   เดี๋ยวเรากับเพื่อนจะหาวิธีผูกเงื่อนนะ ถ้าทำได้แล้วเดี๋ยวจะมาสอน  ส่วนฟิล์มกับเพื่อนๆ ก็ช่วยไปหาประโยชน์ของเงื่อนมาด้วยนะ ”  ก็แน่สิ  แค่ผูกเงื่อนใครก็ผูกเป็น พวกแกเลือกเอาหัวข้อง่ายไปป่ะ

   “ อืม...  แล้วได้เงื่อนอะไรหละ ”  ฉันพูดน้ำเสียงประชดประชันเล็กน้อย 

   “ ก็..... เงื่อนบ่วงสายธนูอะ ”   ห๊า......  ฉันทำหน้าตกใจตาโตเล็กน้อย   อิเงื่อนบ้านี่แหละ  เทยโครตไม่ปลื้มเลย  ทำยากชิบ  ที่จริงแล้วอยากจะบอกว่า มันก็ยากทุกเงื่อนแหละ  เทยเองก็ทำเป็นแค่เงื่อนพิรอด  ขนาดว่าเงื่อนพิรอดเป็นเงื่อนที่ง่ายแล้วนะ  นี่ยังทำผิดๆ ถูกๆ เลยอะ  555555   คิดแล้วก็ขำตัวเอง 

   “ โอเคๆ  ทำได้แล้วก็มาสอนด้วยหละ ฉันทำไม่เป็นหรอกนะ  เดี๋ยวจะพาเพื่อนในกลุ่มซวยไปด้วย  ไม่อยากเป็นตัวถ่วงของใคร ”  ฉันพูดไม่มองหน้าไอ้โต๊ด  ก็แหง๋หละ เทยเกลียดขี้หน้ามันขนาดนี้  เรื่องอะไรจะไปมอง (ถ้าไม่จำเป็น)

   “ เย็นนี้ไปเล่นตะกร้อด้วยกันป่ะ ”  ฉันหันขวับไปมองหน้ามันทันที นึกไงมาชวนผู้หญิงอย่างฉันไปเล่นตะกร้อ  ท่าทางจะเพี้ยนไปแระมันหนิ 

   “ บ้า....  ฉันไม่เล่นกีฬาของผู้ชายยะ ” ฉันพูดน้ำเสียงไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไหร่  แล้วก็สะบัดหน้าสวยๆ หลบสายตาของมัน  คือต้องหลบคะ เพราะสายตาของมันออดอ้อนซะเหลือเกิน  เดี๋ยวห้ามใจเอาไว้ไม่ไหว  อ๊ากกกกก....

   “ ได้ยินครูบอกว่า  วิชาพละ ม.3  จะให้เตะตระกร้อนะ ”  ฉันหันขวับกลับมาอีกครั้ง  คราวนี้ทำหน้าตกใจสุดขีด ตาลุกโตเท่าไข่ห่าน อ้าปากค้างแบบพองาม 

   “ 5555555  ตกใจหละสิ ” ไอ้บ้าโต๊ดมันหัวเราะเยาะฉัน สงสัยจะไม่เคยเห็นฉันทำหน้าตกใจปนเอ๋อแดกแบบนี้ 

        “ อืม........ ” ฉันยังคงตกใจค้างกับคำพูดของไอ้โต๊ดอยู่   นี่มันโกหกเทยรึ่ป่าวนะ  ถ้าโกหกหละก็.....น่าดู

       “ งั้นเย็นนี้ไปเล่นตะกร้อด้วยกันนะ  เดี๋ยวเราสอนให้ ”  อิตาบ้าโต๊ดพูดแล้วก็ยิ้มหวานให้กับฉัน  บ้าๆๆๆ ทำแบบนี้ได้ไง  เทยก็เขินเป็นนะ   ก็เพราะว่ามันหล่อมากอะดิ  ความหล่อของมันทำให้เทยลืมเรื่องเชี่ยๆ ของมันไปเลย  ฉันอดที่จะยิ้มตอบไม่ได้  จึงต้องรีบหันหน้าหนีมายิ้มอยู่คนเดียว  และหันหลังสวยๆ ของฉันให้มันมองแทน   

       “ อืม....  ตกลงก็ได้  แล้วจะไปสอนที่ไหนหละ ”  ฉันยังคงยืนยิ้มและหันหลังให้กับมันอยู่  แบบว่า  เขินยังไม่หายเลยอะ 

       “ ฟิล์มก็หันหน้ามาคุยกับเราดีๆ ก่อนดิ  ”  อ้าว ไอ้บ้านี่ คนยิ่งเขินๆ อยู่ จะให้หันหน้าไปมองหน้าหล่อๆ ของแกงั้นเรอะ  เทยจะอดยิ้มให้มันได้มั้ยเนี่ย   แล้วเทยก็เก๊กหน้านิ่ง แอ๊บทำหน้าดุนิดนึง เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง  ก่อนจะหันหน้าไปคุยกับมันดีๆ 

       “ ว้า....  น่าดุจัง แบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ ”  แอร๊ยยยยย  ดูมันทำหน้าทำตาเข้าสิ  หน้าบ้องแบ้ว ตาใสปิ้ง กระพริบตาปริบๆ  อะไรจะน่ารักน่าชังขนาดนี้   ไม่ได้การซะแล้ว เทยต้องรีบจบการสนทนานี้โดยด่วน

       “ ก็รีบบอกมาดิ  ว่าจะให้ไปเจอที่ไหน เดี๋ยวครูก็เรียกประชุมปิดกองก่อนพอดี ”  ฉันยังทำหน้าดุเสียงแข็งได้อยู่  ชิส์  ไม่หลงคารมแกง่ายๆ หรอกยะ 

       “ ที่เดิมแล้วกัน  สนามกีฬาอำเภอ  เดี๋ยวเค้าจะรอฟิล์มที่สะนามตะกร้อนะ ”  มันพูดแล้วก็ยิ้มหวานแก้มปริอีกเหมือนเดิม  ให้ตายสิ นี่มันไปอารมณ์ดีมาจากไหนกันเนี่ย 

       “ ตกลงตามนั้น  แล้วเจอกัน ”  ฉันพูดเสียงแข็ง แล้วเดินเชิดไปหาอิเพื่อนสาวสองตัวนั่น 

       จะว่าไปแล้วทำไมพวกมันไปเข้าห้องน้ำนานจังเลยนะ  ฉันมองหาพวกมันสองคนอยู่พักนึง  แล้วก็เห็นพวกมันกำลังแรดอยู่กับพวกผู้ชายห้องอื่น  โอ้ยยยย  อิพวกนี้  เผลอเป็นไม่ได้เลยนะมรึง  เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อนจริง จริ๊งงงงง   ฉันกำลังเดินเข้าไปหาพวกมันสองคน กะว่าจะไปจิกกัดให้รู้สำนึกซะบ้าง โทษฐานทิ้งฉันเอาไว้ให้อยู่กับไอ้บ้าโต๊ด 2 ต่อ 2    อ๊ากๆๆๆๆ  หยุดๆๆๆๆ  ฉันหยุดเดินทันที  เพราะไอ้โชคอยู่ดีๆ มันก็เดินมาตัดหน้าฉัน  แถมยังยืนขวางทางอีก เป็นเชี่ยอะไรของมันอีกเนี่ย 

       “ มีอะไร  ฉันจะรีบไปหาเพื่อน ”  ฉันดุไอ้โชค  ก็มันน่าโมโหจริงๆ นี่นา  อยู่ดีๆ ก็โผล่มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง  นี่ถ้าเกิดเทยหยุดฝีก้าวเอาไว้ไม่ทัน  เทยไม่ต้องเดินชนมันหรอกเรอะ

       “ เรามีเรื่องจะคุยด้วย  ”  ทำหน้าจริงจังซะด้วย 

       “ ถ้าเป็นเรื่องเมื่อคืน ฉันคิดว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ ”  ฉันพูดเสียงแข็ง ยืนกรานคำตอบเดิมที่ให้กับมันเมื่อคืนนี้

       “ เย็นนี้ไปที่บ้านเราหน่อยดิ  ป้าเราอยากคุยด้วย  ”  ฉันถึงกับตกใจสิคะ อะไรกัน เรื่องของเด็กๆ ทำไมต้องให้ถึงหูป้าแกด้วย 

       “ นี่มันอะไรกัน โชคอย่าบอกนะว่า  โชคเอาเรื่องของเราไปเล่าให้ป้าของโชคฟัง ” ฉันถามอย่างสงสัย

       “ มันก็ไม่เชิงหรอก  พอดีป้าเห็นเราเศร้าๆ  ก็เลยเดินมาถาม เราก็เลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ป้าฟัง  ป้าเลยบอกว่า อยากขอคุยกับฟิล์มหน่อย ”  ไอ้โชคพูดจาอ่อนโยนขึ้นเยอะเลย  น้ำเสียงแบบนี้สิ ถึงจะค่อยน่าฟังหน่อย

       “ แล้วทำไมเราต้องไป  ”  ฉันยังคงเสียงแข็ง  ยังไงก็ไม่ไปเว้ย 

       “ โชคขอร้อง ”   น้ำเสียงออดอ้อน และสีหน้าแววตาที่ดูน่าสงสารของไอ้โชค มันชักจะเริ่มทำให้เทยใจอ่อนแล้วหละ  แล้วในที่สุด เทยก็ปฏิเสธไม่ลง 

       “ ก็ได้  เราจะไป  แต่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ ”  ฉันพูดเสียงอ่อน  เฮ้อออ...  ช่วงนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้ สงสัยจะเป็นโรคแพ้ผู้ชายน่าร้ากกก   เจอลูกอ้อนเข้าทีไร   จิตใจหวั่นไหวทุกทีเลย

       “ งั้นเดี๋ยวเย็นนี้  เราขออนุญาตไปรับไปส่งฟิล์มนะ ”  ไอ้โชคพูดแล้วก็ยิ้มมมม... มันดูมีความสุขมากกกก 

       “ เอิ่มมม....  คือ......  เย็นนี้เรามีนัดกับโต๊ดที่สนามกีฬาอำเภอแล้วอะ  ถ้ายังไง ก็ไปรับเราที่นั่นแล้วกัน สักหกโมงเย็นก็ได้ ”  ไอ้โชคทำหน้าสงสัย  มันคงจะสงสัยว่าเทยกับไอ้โต๊ดมีนัดอะไรกันมั้ง 

       “ นัดอะไรกันหรอ  ”  ว่าแล้วไง  สังสัยไม่พอ อยากรู้ซะด้วย  ตอบให้ก็ได้ยะ 

       “ ก็.... นัดซ้อมเล่นตะกร้อ  อะ ”  ฉันตอบไอ้โชคไปตามจริง

       “ อ๋อ.....  นี่โต๊ดจะสอนฟิล์มเล่นตะกร้อหรอ  เมื่อวานห้องเราก็เพิ่งเรียนพละไป  อาจารย์ก็ให้เรียนเตะตะกร้อนี่แหละ ฟิล์มนี่.... ขยันจังเลยเน่าะ  ”  ฉันอึ้งเบาๆ  คะ   ที่ไอ้โต๊ดพูดคือเรื่องจริงหรอเนี่ย    เทยกลุ้ม กลุ้ม กลุ้ม  เกิดมาไม่เคยเตะตะกร้อเลยเถอะ  แล้วจะสอบผ่านมั้ยเนี่ยยยย     

   “ นิดหน่อย  ไม่เคยเล่นด้วย  กลัวสอบไม่ผ่าน ก็ต้องขยันซ้อมบ่อยๆ แหละ อืม... งั้นค่อยเจอกันนะ ”  พูดแล้วฉันก็เดินหลบไอ้โชคและเดินไปหาอิเพื่อนทรยศสองตัวนั่น   มันน่าด่าให้หน้าแหกม้ากกก  เรื่องอะไร ปล่อยให้เทยต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายเพียงลำพังตั้ง 2 คน  อิเพื่อนเลว......

   เลิกเรียนแล้วฉันก็ขับมอไซต์กลับบ้าน  และเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ตัวโปรด  แล้วเดินไปบอกแม่ว่าวันนี้จะกลับบ้านค่ำหน่อย  แม่ดูเป็นห่วงฉันขึ้นมาทันที  พอฉันบอกว่าจะไปกับอิกระต่ายกับอิสายป่าน เพื่อนสาวกะเทยสองนาง ดูแม่ท่าทางเบาใจลงไปเยอะเลย  แม่ไม่เคยลืมที่จะแสดงความเป็นห่วงฉันเสมอ แม่บอกให้ฉันขับรถระวังๆ และอย่ากลับบ้านค่ำมาก  ฉันรับปากแม่ก่อนที่จะสวมกอดเบาๆ  จะกอดกี่ครั้งๆ มันก็ช่างเป็นกอดที่อบอุ่นจริงๆ  และแล้วเสียงบีบแตรของมอเตอร์ไซต์ก็ดังขึ้นมาจากหน้าบ้าน  ฉันบอกลาแม่แล้วรีบวิ่งไปหน้าบ้าน  เห็นหน้าระริกระรี้ของอิเพื่อนสาวสองคนนี้แล้วมันหน้าหมั่นไส้นัก  เอ่าะ เทยลืมบอกไป เรื่องอะไรจะไปกับไอ้โต๊ดสองคนหละ  งานนี้เทยจึงไม่พลาดที่จะชวนอิเพื่อนสาวสุดแรดสองนางนี้ไปด้วย  เอาไว้ไปเป็นไม้กันหมา  เผื่อไอ้โต๊ดมันหน้ามืดตามัวขึ้นมา  แล้วทำมิดีมิร้ายเทย  555555  คิดได้เนาะ  พอมาถึงหน้าบ้านอิสายป่านก็จ้องมองดูฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า   

   “ อิฟิล์ม  เมื่อไหร่มึงจะแต่งตัวเปรี้ยวๆ สักที เราเป็นกะเทยนะมึง  จะแต่งตัวแบบนี้ไม่ได้   หยี๋..... มันเหมือนผู้ชายหวะ ”  อิสายป่านถามฉัน  สีหน้าไม่พอใจ  ท่าทางรังเกียจการแต่งตัวของฉัน  ทำเอาฉันหน้าจืดไปเลยทีเดียว
   
   “ ก็กูยังไม่พร้อมหนิ ”  ฉันทำสีหน้าท่าทางไม่พอใจเล็กน้อย กับคำพูดดูถูกของอิสายป่าน

   “ นี่ๆ มึงดูอย่างอิกระต่ายสิ  วันนี้มาแบบสาวเปรี้ยวนะจ้ะ  ขาสั้น  จำแต*มาเลยจร้า ” อิสายป่านพรีเซ้นอิกระต่ายอย่างเต็มที่  อิกระต่ายก็นั่งเชิดหน้าจนคอจะหักอยู่แล้ว  เอออ  อิกระต่ายมันเริ่มใส่ขาสั้นตั้งแต่เมื่อไหร่วะ  เทยเริ่มสงสัย

   “ แล้วนี่มึงไปแอบซื้อกางเกงขาสั้นมาใส่ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ”  ฉันถามอิกระต่ายที่กำลังนั่งมั่นหน้า  เชิดหน้าชูคูอย่างกับนางพญาหงส์  ช่างไม่ดูเหง้าหน้ามรึงจริงๆ เล้ยยย  กูนึกว่าเป็ดบ้านคะอิดอก

   “ ป่าววว  อิสายป่านมันให้กูลองใส่ดู  กูก็เห็นว่ามันสวยดี ก็เลยขอยื้มมันใส่ซะเลย ”  555555 กะเทยเพื่อนสาวสองนางพากันหัวเราะชอบใจ  ฉันนี่หน้าเหว๋ออยู่คนเดียว  ตอนนั้นรู้สึกว่า  ตัวเองไม่เหมือนกะเทยเลย  แค่ขาสั้นก็ยังไม่กล้าใส่  รู้สึกน้อยใจตัวเองอยู่เหมือนกันนะ  แต่ก็ได้แต่ทำใจ เพราะตอนนั้นอะไรๆ มันก็ยังไม่พร้อมจริงๆ  เทยยังไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง 

   “ เออ!! ”  ฉันตะหวาดอิเพื่อนสองตัวที่กำลังหัวเราะคิกคัก  จนทำให้พวกนางสะดุ้งตกใจและหยุดหัวเราะไปตามๆ กัน  แถมยังมาหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่ฉันอีก  ดีจริงจริ๊งงงง มีเพื่อนแบบนี้  ( ประชดคะ )

   “ รีบไปกันเถอะ ขืนชักช้า  พวกแกอดกินผู้ชาย  ฉันไม่รู้ด้วยนะยะ ”  ฉันพูดประชดประชันพวกมัน  หมั่นไส้จริงๆ กับท่าทางระริกระรี้อย่างกับจะได้เกิดเนี่ย 

   “ คะ ใครจะไปใจเย็นเหมือนหร่อนได้หละยะ มีผู้ชายรอให้กินอยู่แล้ว ไม่ต้องไปควานหาเหมือนพวกฉัน ” อิกระต่ายพูดเหน็บฉัน  มั้นจี๊ดดดด  เข้าไปถึงขั้วหัวใจ  อิบ้า ฉันไม่ได้มีความคิดทุเรศๆ เหมือนพวกแกหรอกยะ

   “ โอ้ยยย  อิกระต่าย  ไม่ใช่ผู้ชายแค่คนเดียวนะมรึง ผู้ชายตั้ง 2 คนแหนะ  งานนี้ขบวนรถไฟชนกันตู้มแน่ๆ เลย ” 5555555  พวกมันหัวเราะเยาะฉันอีกแล้ว  นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนนะ จะตบสั่งสอนเลยเถอะ 

   ฉันขี้เกียจพูดกับอิพวกนี้แล้ว ไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืด  ฉันจึงเดินไปขึ้นมอไซต์กับพวกมัน  คันเดียว แต่ซ้อนสามคะ   ฉันนั่งหน้าสุด เพราะฉันตัวเล็ก  ส่วนอิสายป่านเป็นพลขับ ทำไมหนะหรอ ก็รถมอไซต์มัน มันก็เลยต้องขับคะ 555555  ส่วนที่นั่งซ้อนท้ายในท่านั่งเบี่ยงก็คืออิกระต่ายนั่นเอง  รู้สึกว่าตั้งแต่รู้จักกับอิสายป่านมาเนี่ย  มันจะอัพเลเวล ความแรงเหนือฉันขึ้นไปอีกเลเวลนึงแล้วนะเนี่ย 

   ที่สนามกีฬาอำเภอ  พวกเรา 3 คนกำลังเดินไปที่สนามตะกร้อ ซึ่งเป็นที่นัดหมายของฉันกับไอ้โต๊ด  ฉันเดินตั้งหน้าตั้งตามาที่สนามตะกร้อ  แต่อิเพื่อนสองตัวที่อยู่ข้างหลังนี่สิ  เฮ้อออ  สะดีดสะดิ้ง  แหกปากแซวผู้ชายปาวๆๆ ทำท่าอ่อยเค้าอีก  เทยหละเพลีย บอกตามตรงว่าอายมากกก  มองไปตรงหน้าคือสนามตะกร้อ ฉันเห็นไอ้โต๊ดกับเพื่อนกำลังเตะตะกร้อกันอย่างสนุก   เสื้อผ้าชุดนักเรียนก็ไม่ยอมถอด เลิกเรียนปุ๊บก็คงจะรีบมาปั๊บเลยสิท่า คงกลัวจะโดนแย่งสนามแน่ๆ เลย พอฉันและอิเพื่อนสาว 2 นาง  เดินมาถึงสนามตะกร้อ ฉันก็ขึ้นไปนั่งรอไอ้โต๊ดที่แสตนเชียร์  อิเพื่อนสาวสองตัวนี่ก็ยังสะดีดีสะดิ้งไม่หยุด  เทยหละเบื่อจริงจริ๊งงงง  นั่งรออยู่สักพักไอ้โต๊ดก็เดินออกมาจากสนาม และเดินมาที่แสตนเชียร์ที่พวกเรานั่งอยู่

   “ โทษทีนะฟิล์มที่ให้รอนาน พอดีต้องเล่นให้จบเกมส์หนะ ”  มารยาทดีขึ้นนะคะทุกวันนี้

   “ ไม่เป็นไรหรอก จะเริ่มกันได้รึยังหละ ฉันไม่มีตะกร้อหรอกนะ ยังไม่ได้ซื้อเลยอะ ” 

   “ ไม่เป็นไร ลงมาดิ เดี๋ยวเอาตะกร้อเราก็ได้ ”  แล้วฉันก็เดินลงไปหาไอ้โต๊ด 

   “ อิจฉาจังเลยเน่าะมรึง อยากมีผู้ชายมาสอนเตะตะกร้อบ้างจัง ”  อิกระต่ายพูดเหน็บฉัน อิเพื่อนเลว อยู่นิ่งๆ สงบปากสงบคำบ้างก็ไม่มีใครว่ามรึงเป็นใบ้หรอกนะคะ แหกปากเรียกผู้ชายตั้งแต่ลงจากรถแล้ว

   “ อิห่า เช็คเหง้าหน้ามึงด้วย  มึงไม่ได้สวยเหมือนอิฟิล์มหนิ ถึงจะได้มีหนุ่มๆ มาเอาอกเอาใจ ”  อิสายป่ายช่วยโหมโรงอีกแรง   พวกมรึงนี่เข้าขากันดีจริงๆ เลยนะคะ  ฉันหันหน้าไปมองอิสองตัวที่อยู่ข้างหลังและใช้สายตาจิกกัดพวกมัน  เป็นเชิงว่า  หุบปากได้แล้ว รำคาญคะ  ก่อนจะหันหน้ามาหาไอ้โต๊ด อ้ากกกก  ไอ้บ้า  ยิ้มหวานอีกแล้ว  ทำแบบนี้อีกแล้ว  เทยจะใจละลายอยู่แล้วนะ โอ้ยยย  รับตัวเองไม่ได้คะ เป็นโรคแพ้คนหล่อ  555555

   “ ยิ้มอะไร รีบสอนสิ ” ฉันพูดไปยิ้มไป  น่านนนน  ว่าแล้วไง ในที่สุดเทยก็หลุดยิ้มออกมาจนได้  เฮ้ออออ  ช่างมันเถอะ  ไหนๆ ก็ยิ้มออกมาและ  ยิ้มให้เต็มที่เลยละกัน  ฉันยิ้มจนแก้มปริ ยิ้มไปหลบสายตาของมันไป  นี่ฉันกำลังเขินป่าววะ 

   “ จะยิ้มก็มองหน้ากันหน่อยดิ  เขินเราหรอ ” ยิ่งพูดมันก็ยิ่งพยายามจ้องหน้าฉัน  โอ้ยยยย  เทยทำอะไรลงไปเนี่ย  พอนึกได้อย่างนี้ ฉันจึงรีบหุบยิ้มและปั้นหน้านิ่งทันที  ก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้โต๊ด  ไอ้บ้าเอ้ย เมื่อไหร่จะหยุดยิ้มสักทีเนี่ย

   “ รีบๆ สอนได้แล้ว  เดี๋ยววันนี้ก็ไม่ได้อะไรกันพอดี ” 

   “ แล้วฟิล์มอยากได้อะไรหละ  บอกมาดิ เผื่อเราให้ได้ ”  ฉันเอ๋อแดกคะ รับมุขมันไม่ทัน   กรี๊ดดดดด  ไอ้บ้า  ฉันไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น ไอ้นี่ กวนประสาทแระ 

   “ อ้วกกกกกกก....... ” ฉันหันไปมองอิเพื่อนสาวตัวแสบทั้งสองที่กำลังทำท่าเหมือนจะอ้วก  แหมะ  พวกมรึงช่างพร้อมใจกันขัดจังหวะจริงๆ เลยนะ  แต่ก็ดี เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้บรรยากาศเลื่อนๆ หายวับไปในทันที   

   “ ตกลงจะสอนมั้ย ถ้าไม่สอนจะได้กลับ ”  ฉันหันมาพูดกับไอ้โต๊ดน้ำเสียงหนักแน่นและดูจริงจัง  ต้องทำคะ ไม่งั้นมันคงไม่เลิกเล่นสักที

   “ โอเค  มะ  เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า ” ไอ้โต๊ดดูจริงจังขึ้นมาทันที   มันต้องอย่างนี้สิ  ฉันมาเรียนเตะตะกร้อนะยะ ไม่ได้มาออกเดทกับแก 

       แล้วไอ้โต๊ดก็เริ่มสอนวิธีการเตะตะกร้อให้กับฉัน  เราหัดเตะตะกร้อกันอยู่ซักพัก  ฉันก็ยังไม่สามารถเดาะตระกร้อ 2 ครั้งติดกันได้เลย  เดาะได้แค่ครั้งเดียว ลูกตะกร้อมันก็กระเด็นกระดอนไปไหนต่อไหนแล้ว  โชคดีหน่อยที่ไอ้โต๊ดมันวิ่งเก็บลูกให้ ส่วนฉันก็มีหน้าที่เดาะอย่างเดียว  555555  เดาะไปเดาะมาก็ชักจะสนุกแล้วสิ    แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น  เมื่อฉันเดาะตะกร้อแล้วลูกตะกร้อมันกระดอนไปข้างหลังฉัน  ฉันมองตามลูกตะกร้อ  กร๊ากกกกก......  ลูกตะกร้อมัน....  ลูกตะกร้อมันไปอยู่ในมือของไอ้เต้คะ  มือข้างนึงของมันจับลูกตะกร้อเอาไว้  ส่วนมืออีกข้างของมันกอดลูกบาสเอาไว้ที่ข้างเอว โธ่วววว  หล่อตายแหละยะ  หน้าตามันดุเอาเรื่องเลยแฮะ  นี่เทยจะโดนมันด่ามั้ยเนี่ยยย.....

     

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มาต่อกันเลยนะคะ 

       “ ตะกร้อมึงหรอวะไอ้โต๊ด ”  มันพูดแล้วก็เดินไปหาไอ้โต๊ด  และมองมาที่ฉันด้วยสาตาพิฆาต  น่ากลัวมาก  ฉันพยายามเมินเฉยกับหน้าดุๆ ของมัน  พอมันเดินผ่านฉันไปแล้ว  ฉันก็หันกลับไปหาไอ้โต๊ด  เห็นไอ้เต้กำลังคืนตะกร้อให้ไอ้โต๊ด  แล้วมันก็หันมาหาฉัน  หน้าตาเคร่งขึมตลอดเลยนะยะ  เกิดมาแกไม่เคยยิ้มเลยรึ่ไง 

       “ แมร่ง  มึงซ้อมตะกร้อให้ตุ๊ดด้วยหรอวะ  แล้วชาตินี้มันจะเล่นเป็นหรือป่าว ”  ไอ้เต้พูดแล้วยิ้มเยาะฉัน  มันน่าโมโหนัก  เรื่องอะไรเทยจะปล่อยให้มันดูถูกอยู่ฝ่ายเดียว 

       “ ฉันจะเล่นเป็นหรือไม่เป็น  มันก็คงไม่ไปหนักส่วนไหนของแกหรอก  เอาเวลาดูถูกคนอื่น ไปทำอะไรที่มันสร้างสรรค์ดีกว่ามั้ย  ”  ฉันพูดเย้ยหยันมันคืนบ้าง  น่านๆ  ว่าแล้วไง  มันโมโหหละสิท่า  หน้านิ่วคิ้วขมวด กัดปากกัดฟัน กำหมัดแน่นเลยเว้ย  555555  สะใจดี  เทยยั่วโมโหมันสำเร็จ

       “ อีกระเทย  พูดอย่างนี้มึงอยากปากแตกใช่มั้ย  ”  ไอ้เต้พูดตะโกนเสียงดัง จนคนที่อยู่ในบริเวณนั้นได้ยินกันหมด  ตายห่า  เทยอายคนนะ  แต่นี่หละได้โอกาสแล้ว  ต้องรีบยั่วโมโหมันให้มากๆ เพราะมันคงไม่กล้าเตะกะเทยในที่สาธารณะแน่นอน  ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆ มัน  และทำหน้าทำตายั่วโมโหมันสุดๆ  ตอนนี้เราอยู่ห่างกันไม่ถึงเมตร

       “ เก็บหมัดหนักๆ ของแกเอาไว้ชกกับผู้ชายป่าเถื่อนแบบแกเถอะ  มันคงจะสมน้ำสมเนื้อกันดี  อย่าเอามันมากระแทกหน้าสวยๆ ของฉันเลย   ”  พูดแล้วฉันก็ยิ้มเยาะมันทันที  มันคงโกรธมากจนหน้าแดง  อย่างนี้สินะที่เค้าเรียกว่าโกรธจนเลือดขึ้นหน้า 
 
       “ มึง..... ” ไอ้เต้ตะโกนขึ้นเสียงดัง พร้อมกับยกหมัดที่กำเอาไว้แน่นขึ้นมาจะชกเข้าที่ใบหน้าของฉัน  ฉันเองก็ไม่ได้เกรงกลัวมันสักนิด  ยืนตาขวางอยู่ต่อหน้ามันไม่ถอยหนีคะ  ไม่ทันที่มันจะได้ต่อยมาที่ใบหน้าสวยๆ ของเทยหรอกคะ  ไอ้โต๊ดก็เอื้อมมือมาจับแขนของมันเอาไว้ ก่อน

       “ เฮ้ย!! ถึงกับต้องลงไม้ลงมือกันเลยหรอวะไอ้เต้  ”  มันหันหน้าดุๆ ของมันไปหาไอ้โต๊ด  แล้วเหวี่ยงแขนอย่างแรง  จนมือของไอ้โต๊ดหลุดออกจากแขนของมัน  ไอ้นี่ แรงควา* จริงๆ เลย 

       “ มึงไม่เห็นหรอ ว่ามันกำลังด่ากูอยู่ ”  มันพูดคะคอกใส่ไอ้โต๊ด 

       “ ก็มึงไปหาเรื่องเขาก่อน  พอเถอะหวะไอ้เต้  แมร่ง  กูรู้นะว่ามึงไม่ชอบคนพวกนี้  แต่คนนี้กูขอ ” ไอ้โต๊ดดูสีหน้าจริงจังมาก 

       “ มึงออกตัวปกป้องมันขนาดนี้  มึงชอบมันหรือไงวะ ”  ไอ้บ้าเต้ยังไม่เลิกพูดจากระแทกแดกดัน

       “ เออ....  กูชอบเขา   มึงรู้แล้วมึงก็เลิกหาเรื่องเขาได้แล้ว ” ไอ้โต๊ดพูดน้ำเสียงหนักแน่น สีหน้าดูจริงจัง  กรี๊ดดดดด  นี่มันพูดบ้าอะไรออกมาเนี่ยยยย   ฉันตกใจกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อสักครู่นี้

       “ มึงมันบ้า  ผู้หญิงมีเยอะแยะไม่ชอบ ดันมาชอบกะเทยหน้าผีแบบนี้  แล้วเมียมึงมึงเอาเขาไปไว้ไหน ”  แอร๊ยยยยย  ทำไมตอนที่พูดว่ากะเทยหน้าผี มันต้องหันหน้ามาทางฉันด้วยหละคะ  อย่างกับมึงหล่อตายละ  ไอ้บ้าเอ้ยยยยย   

       “ พวกกูเลิกกันแล้ว ”  ไอ้โต๊ดพูดอย่างมั่นใจ  อารายนะ  นี่พวกมึงไปเลิกกันตอนไหน  วันก่อนอิแฟนสาวแกยังมาหาเรื่องฉันอยู่เลย  โอ้ยยย  เทยพลาดข่าวนี้ได้ไง เทยมัวแต่ไปมุดอยู่ในรูไหนมา 

       “ มึงเลิกกับเมียมึง เพื่อที่จะมาหาอิกะเทยนี่นะ ”  มันหันหน้ามามองฉันหน้าดุ   และเอานิ้วมาชี้หน้าฉันอีกด้วย  อยากเอาปืนไปเจาะกะบาลมันนัก  อยากฆ่ามันให้ตายซะตรงนี้เลย  ไอ้โต๊ดหันมามองหน้าฉันสีหน้ามันดูเศร้ามาก  แล้วพวกมันสองคนก็หันหน้ากลับไปคุยกันต่อ 

       “ มึงเลิกยุ่งเรื่องส่วนตัวของกูเถอะ แล้วก็อย่ามาหาเรื่องฟิล์มอีก  ถ้ามึงยังเห็นว่ากูเป็นเพื่อนของมึงอยู่ ”  ไอ้เต้ถึงกับอึ้ง  และพูดอะไรไม่ออก  คงไม่คิดหละสิว่าเพื่อนของตัวเองจะออกตัวปกป้องฉันถึงขนาดนี้  555555  คิดแล้วก็สะใจ   ไอ้เต้พยัตหน้าเบาๆ 2-3 ครั้ง  แล้วก็เดินฉุนเฉียวออกไป     ฉันหันไปมองไอ้โต๊ดที่กำลังยืนนิ่งเหมือนคนทำอะไรไม่ถูก  ฉันจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหามัน   มันจ้องหน้าฉันเหมือนกำลังจะร้องให้  ไม่นะ  เทยไม่อยากเห็นน้ำตาลูกผู้ชาย  ฉันจึงต้องรีบพูดอะไรสักอย่างขึ้นมา   ก่อนที่มันจะร้องไห้ออกมาจริงๆ 
     
       “ ขอบใจนะ  ที่ปกป้องฟิล์ม ” ฉัดพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน แล้วยิ้มให้กับไอ้โต๊ดที่กำลังยืนเศร้าอยู่ตรงหน้า  แล้วมันก็ยิ้มตอบเช่นกัน  เฮ้อ.....  เปลี่ยนน้ำตาเป็นรอยยิ้มได้แล้ว  โล่งอกไปที  ไม่งั้นฉันคงรู้สึกผิดเพราะเป็นต้นเหตุให้มันทะเลาะกับเพื่อนจนมีน้ำหูน้ำตา
 
       “ ขอบใจนะ ที่สอนเตะตะกร้อ วันนี้เอาไว้แค่นี้ก่อนละกันเน่าะ  โต๊ดคงเหนื่อยมากแล้ว จะได้กลับบ้านไปพักผ่อนด้วย  ” 

       “ ครับ ”  พูดแล้วมันก็ยิ้มหวานให้ฉัน  ไอ้บ้าหนิ  แต่เทยก็ยิ้มตอบนะ ก็กลัวมันจะร้องไห้ไง   (รึ่ป่าวนะ) 

       เทยและไอ้โต๊ดโบกมือลากัน  แล้วแยกกันตรงสนามตะกร้อ    ฉันเดินมาหาอิเพื่อนสาวสองตัวที่แสตนเชียร์  พวกมันกำลังนั่งหัวหดกันอยู่ คงจะกลัวมันมากสินะไอ้เต้หนิ  ถึงไม่ลงไปช่วยฉันเลย  ปล่อยให้ฉันโดนมันรังแกอยู่คนเดียว นี่ถ้าไม่มีไอ้โต๊ดนะ ป่านนี้ฉันคงโดนซ้อมกระอักเลือดไปแล้ว  มีเพื่อนกับเขาทั้งทีก็มีแต่เพื่อนดีๆ ทั้งน้านนนนน  เทยเพลีย  พอฉันเดินมาถึงแสตนเชียร์  มองดูหน้าอิเพื่อนสาวสองคนซีดอย่างกับไก่ต้ม  คงกลัวยังไม่หาย 

       “ ลงมาได้แล้ว  กูมีธุระต้องไปทำต่อ ”  ฉันออกคำสั่งกับอิเพื่อนสาวสองคนที่นั่งอยู่บนแสตนเชียร์

       “ มึงโอเคป่าววะ ”  พวกมันประสานเสียงกันถามสารทุกข์สุขดิบของฉัน  ก่อนที่ฉันจะพยัคหน้าเบาๆ เป็นการตอบกลับว่ากูโอเคค่ะ   แล้วพวกมันก็ยอมเดินลงมาจากแสตนเชียร์  พวกเรา 3  คนเดินไปที่จอดรถมอไซต์ซึ่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่อยู่ใกล้กับสนามกีฬาอำเภอ  ตรงนั้นมีรถจอดอยู่หลายคน และดูโดดเด่นมาก  ฉันตั้งใจจะมายืนรอไอ้โชคที่นี่  เพราะคิดว่าถ้ายืนอยู่ตรงนี้มันน่าจะหาฉันเจอได้ง่ายๆ  ฉันบอกให้อิเพื่อนสาวสองตัวกลับบ้านไปก่อน  และพวกมันก็ยอมกลับแต่โดยดี  เพราะฉันบอกพวกมันตั้งแต่ก่อนมาแล้วเรื่องไอ้โชค   พวกมันจึงไม่ซักไซ้อะไรฉันอีก  ยืนรออยู่ซักพักนึง  ไอ้โชคก็ขับมอไซต์มารับฉันถึงที่  ฉันขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายมอไซต์ของมันในท่านั่งเบี่ยงราวกับชะนี 5555  แล้วเราก็เดินทางไปที่บ้านของมัน

       เราสองคนมาถึงบ้านของไอ้โชคแล้ว  บ้านมันเป็นบ้านปูน 2 ชั้น  มีกำแพงล้อมรอบบ้าน  และมีประตูเลื่อนหน้าบ้าน  ภายในไม้มีสนามหญ้าญี่ปุ่นสีเขียวขจี    หน้าบ้านมีสวนดอกไม้  ซึ่งมีดอกไม้อยู่มากมายหลากหลายชนิด  และมีชิงช้าไม้หนึ่งตัวอยู่ใกล้สวนดอกไม้   คือ บ้านมันก็ดูดีกว่าบ้านฉันเยอะเลยหละ เราเดินเข้าไปในบ้าน  ภายในบ้านดูสะอาดสะอ้าน  ข้าวของทุกอย่างถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย   ฉันเดินชื่นชมบ้านของไอ้โชคอยู่ได้ไม่นาน  ก็มีเสียงแปลกๆ ดังขึ้น

       “ มากันแล้วหรอจ้ะ ”  ฉันหน้าไปตามเสียงเรียกนั้น  ถึงกับตกใจคะ ทำไมบ้านอิตาโชคถึงมีกะเทยรุ่นป้าหละคะ  อย่าบอกนะว่า  ไอ้โชคเกาะกะเทยคนนี้กิน  ตอนนี้ฉันอึ้งสุดขีดไปเลยคะ พูดอะไรไม่ออก  นางเดินเข้ามาหาฉัน  จ้องมองดูฉันอยู่สักพัก  ไอ้โชคก็เดินเข้ามา  และแนะนำให้ฉันรู้จักกับกะเทยรุ่นป้าคนนี้ 

       “ ป้าครับ  นี่ฟิล์ม  คนที่ผมเล่าให้ป้าฟัง  ฟิล์ม  นี่ป้าเบซี่  ป้าของเราเอง ”  ฉันถึงกับตกใจ  และหันไปมองหน้าไอ้โชค  มันพยัคหน้าให้กับฉัน  เป็นคำตอบว่า  ใช่แล้ว นี่หละป้าของมัน   ฉันจึงหันมาสวัสดีคุณป้าของมัน 

      “ สวัสดีคะ คุณป้าเบซี่  ”  ฉันยิ้มให้กับป้าเบซี่   และนางก็ยิ้มกลับเช่นกัน

      “ ไปทานข้าวกันเถอะจ้ะ ป้าทำกับข้าวเอาไว้ให้แล้ว ” ป้าเบซี่พูดท่าทางดีอกดีใจที่จะได้โชว์ฝีมือการทำอาหารของตนเอง

      “ ป้าครับ แล้วน้องนุ่นไปไหนอะ ”  ไอ้โชคถามหา.....  เทยคิดว่าน่าจะเป็นน้องสาวของมันนะ เพราะเทยจำได้ว่ามันเคยบอกว่ามันมีน้องสาว  ตอนที่โทรศัพท์มาหาเทยครั้งแรกไงหละ 

       “ โทรมาบอกป้าแล้ว ว่าออกไปทำรายงานที่บ้านเพื่อน  เสร็จค่ำๆ หน่อย   เดี๋ยวจะโทรมาบอกอีกที โชคค่อยไปรับน้องนะลูก  ” ป้าเบซี่พูดจาสุภาพ อ่อนหวาน  น่าฟังจังเลย

       “ ได้ครับ ” 

       “ ไปกันเถอะลูก เดี๋ยวอาหารจะเย็นซะก่อน  ”  ป้าเบซี่รีบเอ่ยปากชวนให้พวกเราไปทานข้าว 

        พอเดินมาถึงโต๊ะอาหาร  จานข้าวถูกจัดเอาไว้สามที่พอดี  ป้าเบซี่นั่งที่หัวโต๊ะ  และเราสองคนก็นั่งตรงข้ามกัน  ที่ตรงกลางโต๊ะมีอาหารอยู่ 3 อย่าง คือ ต้มยำรวม  คะน้าหมูกรอบ และทอดไข่เจียว  โหวว.... นี่ป้าเบซี่ทำเองหมดเลยหรอเนี่ย ท่าทางจะทำอาหารเก่งน่าดู ป้าเบซี่ถามว่าแนอยากกินอะไรมากที่สุดในนี้ ฉันก็ตอบว่าต้มยำรวม  ป้าเบซี่ก็ประเดิมด้วยการใช้ช้อนกลางตักต้มยำรวมมาให้ฉัน  ฉันกล่าวขอบคุณอย่างเกรงใจ  ป้าเบซี่ก็ยิ้มตอบกลับ  แล้วก็ตักต้มยำรวมอีกช้อนให้กับไอ้โชค  ไอ้โชคก้มารยาทดี  ขอบคุณป้าตัวเองเช่นกัน  เหอะ  มันเป็นแบบนี้ทุกวันเลยรึ่ป่าวนะ  พวกเราเริ่มลงมือรับประทานอาหารกัน  กินไปคุยไปสนุกดี   เห็นป้าเบซี่แกดูสุภาพ เรียบร้อย อ่อนโยนแบบนี้  ก็แอบมีมุมตลกๆ อยู่มากเลยนะ  ทำให้การทานอาหารมื้อนี้เป็นอีกมื้อนึงที่อร่อย และสนุกมากๆ  หลังจากที่เรากินอิ่มแล้ว เราก็ช่วยกันล้างจานจนเสร็จ  ป้าเบซี่ชวนพวกเราไปนั่งดูทีวีด้วย  เราสามคนนั่งดูทีวีบนโซฟาตัวยาว  ซักพักนึงป้าเบซี่ก็ถามฉันขึ้นมา 

       “ ตอนนี้...... หนูฟิล์มอยู่กับพ่อแม่มั้ยจ้ะ ”  ป้าเบซี่หันมาถามฉัน

       “ อยู่คะ ครอบครัวเราอยู่ด้วยกันสี่คน  พ่อ แม่ หนู แล้วก็น้องชายของหนูคะ ”  ฉันแจกแจงรายละเอียดให้ป้าเบซี่ฟัง

        “ หนูโชคดีกว่าโชคมากเลยนะรู้มั้ย ”  ป้าเบซี่พูดอะไร  เทยชักจะเริ่มงงแล้วนะ

        “ คือยังไงหรอคะ หนูไม่เข้าใจ ” ฉันถามป้าเบซี่ด้วยสีหน้าที่มึนงง 

       “ ก็โชคหนะ พ่อแม่เค้าประสบอุบัติเหตุ  เสียชีวิตทั้งคู่  ตั้งแต่โชคอายุได้ 7 ขวบ  ป้าจึงรับเอาโชคกับน้องสาวของเขามาเลี้ยงตั้งแต่ที่พ่อแม่เค้าเสีย  อย่างน้อย  หนูฟิล์มก็ยังมีพ่อแม่ที่คอยอยู่เคียงข้าง  แต่โชคนี่สิ  เค้าไม่มีใครเลย นอกจากป้ากะเทยคนนึง ” ป้าเบซี่พูดซะเศร้าเลยคะ  ตอนนี้เทยหดหู่ไปหมดแล้ว  หันไปมองหน้าไอ้โชค มันก็นั่งทำหน้าเศร้าอีก

       “ แต่คุณป้าก็สามารถเลี้ยงดูโชคกับน้องสาวของโชคมาได้เป็นอย่างดี  ป้าสามารถให้ความอบอุ่นกับพวกเขาได้  หนูเชื่ออย่างนั้น  เพราะหนูก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ออกมาจากตัวคุณป้า ”  ป้าเบซี่ยิ้มและกำลังจะร้องไห้ไปพร้อมๆ กัน  แล้วเธอก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้  เธอปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาแค่ไม่กี่หยด  แล้วใช้มือปาดน้ำตาทั้ง 2 ข้าง  ไอ้โชคมัวแต่นั่งก้มหน้าเศร้า ไม่ทันจะได้มองเห็นว่าป้าตัวเองร้องไห้หรอก มีแต่เทยนี่แหละที่เห็น  มันยิ่งทำให้เทยหดหู่มากขึ้น

       “ โชคไม่ค่อยมีเพื่อนสนิทหรอก  และหนูก็เป็นเพื่อนคนแรกที่เขาชวนมาทานข้าวที่บ้าน ”  ไอ้โชคเงยหน้าขึ้นมาและหันไปมองป้าเบซี่  ก่อนที่จะหันกลับมามองฉัน  ด้วยสีหน้าและแววตาที่เศร้าหมอง

       “ ป้าอยากให้เราสองคนเป็นเพื่อนกันได้มั้ย ป้าอยากจะให้โชคมีเพื่อนที่สามารถดูแลช่วยเหลือกันเวลาที่อีกฝ่ายมีปัญหา  อยากให้เค้าได้มีเพื่อนดีๆ สักคน ”  ป้าเบซี่พูดได้ซึ้งกินใจมาก  แต่แน่ใจแล้วหรอคะ ว่าหนูคือเพื่อนดีๆ ขนาดตัวหนูเองยังไม่มั่นใจเลยคะ ว่าหนูเป็นคนดีหรือป่าว 

       “ ได้สิคะ  ถ้าโชคเค้ายังอยากเป็นเพื่อนกับหนูอยู่ ” ฉันมองไปหาไอ้โชค ซึ่งมันก็ยังคงไม่ละสายตาจากฉัน 

       “ ว่าไงหละโชค  เพื่อนรับปากแล้วนะ ”  ป้าเบซี่ถามไอ้โชค  ก่อนที่มันจะหันกลับไปมองหน้าป้าเบซี่อีกครั้ง แล้วหันกลับมามองหน้าฉัน

       “ ได้สิ งั้นตั้งแต่วันนี้ไป เราเป็นเพื่อนกันนะ ” ไอ้โชคพูดด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส  ฉันจึงยิ้มกลับเพื่อเป็นการแสดงมิตรภาพที่บริสุทธิ์ ที่จะเกิดขึ้นกับเราสองคนตั้งแต่นี้เป็นต้นไป

       ป้าเบซี่มองดูฉันอยู่พักนึง  มองซ้าย มองขวา แล้วก็มองหน้า มองตั้งแต่หัวจรดเท้า  แล้วเธอก็เอ่ยถามฉันขึ้นมา

     “ หนูฟิล์มเทคฮอร์โมนตัวไหนอยู่หรอจ้ะตอนนี้ ” เทคฮอร์โมน  มันคืออะไร ฉันงงเป็นไก่ตาแตกอีกแล้วคะ 

     “ มันคืออะไรหรอคะ หนูไม่รู้จัก ” ฉันถามออกไปด้วยความที่ไม่รู้จริงๆ 

      “ นั่นไง ป้าคิดไว้แล้ว ว่าเรายังไม่รู้จักวิธีการเทคฮอร์โมนแน่ๆ เลย  ”  ป้าเบซี่ยิ่งพูดฉันก็ยิ่ง งง  เข้าไปใหญ่  สงสันอาการมึนงงมันจะแสดงออกมาทางสีหน้าของฉันมากเกินไป  ป้าเบซี่คงจะทนไม่ไหวกับความโง่ของฉันแน่ๆ เลย  เธอจึงลุกเดินไปหยิบกล่องอะไรซักอย่างนึง แล้วเอามายื่นให้กับฉัน 

ืื      “ รับไปสิจ้ะ  ป้าให้ ”  ฉันมองไปที่กล่องในมือของป้าเบซี่ มันเขียนว่า  OC-35 ฉันก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่ามันคืออะไร  แต่ในเมื่อผู้ใหญ่ให้มา เราเป็นเด็กก็ต้องรับเอาไว้ก่อนแล้วกัน  ฉันจึงยกมือไหว้ขอบคุณป้าเบซี่และหยิบเอากล่องที่อยู่ในมือของป้าเบซี่มา 

       “ สิ่งที่อยู่ในกล่องนี้เค้าเรียกว่ายาคุมกำเนิด ปกติจะใช้คุมกำเนิดในเพศหญิง  แต่เราจะเอามากินเพื่อเพิ่มความสวยให้กับพวกเรา  วิธีการกินส่วนมากก็จะกินวันละ 1 เม็ด  ตัวป้าเองก็จะกินวันละ 1 เม็ด ก่อนนอน และจะพยายามกินให้ตรงเวลามากที่สุด เช่น ปกติกินตอนสี่ทุ่ม ป้าก็จะพยายามกินให้ตรงเวลาหรือให้ใกล้เคียงกับสี่ทุ่มให้มากที่สุด  ง่ายๆ แค่นี้เอง  นี่แหละจ๊ะเคล็ดลับความสวยของพวกเรา   ”  ฉันพยัคหน้าตามเป็นระยะๆ  และดูเหมือนว่า  ฉันจะพอเข้าใจอยู่ ก็แน่นอน  เพราะฉันไม่ได้โง่ดักดานขนาดนั้นนี่นา   5555555

       “ ขอบคุณนะคะ  แล้ว..... หนูจะสวยขึ้นจริงๆ ใช่มั้ยคะ ” ฉันถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง  และป้าเบซี่ก็ยิ้มและพยัคหน้าเบาๆ  ฉันยิ้มดีใจ  และหันไปมองไอ้โชค  มันยิ้มแล้วก็ยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นมา  เหมือนกับจะบอกว่า มันเยี่ยมจริงๆ นะ โธ่วววว  ทำอย่างกับตัวเองเคยกิน  เอ๊ะ หรือมันก็กำลังกินอยู่เหมือนกัน  คงไม่มั้ง  นี่มันสำหรับให้ผู้หญิงกับกะเทยกินหนิ  มันคงไม่นึกอยากสวยขึ้นมาม้างงง  ออกจะแมนขนาดนั้น  เอาวะ เป็นไงเป็นกัน  ถ้าอยากสวยก็ต้องกล้าเสี่ยง  เริ่มคืนนี้วันแรกเลยแล้วกัน  รีบกิน จะได้รีบสวย.........เพราะความสวย  รอไม่ได้  อิอิ

...................................................................................   

***** ตอนต่อไป  ตอนที่  6  Coming Soon

 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
โถ่ เฮียโชคจ๊าาาา  :mew6:
ตอนนี้ไม่รู้จะเชียร์ใครดี ระหว่าง เฮียโชค กับ เฮียโต๊ด (เขาเลิกเมียแล้วไง  :laugh:)
แต่ เ-ี้ย เอ้ย เฮียเต้นี้เริ่มจะไม่ไหวแล้วน่ะ จะหยาบทรามไปไหน  :m16:

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
@ ooomukooo ตามมาเม้นให้เค้าทุกตอนเลย ขอบใจมากๆ เลยนะจ้ะ อยากบอกว่า ทุกๆ คอมเม้น จากทุกๆ คน คือแรงบันดาลใจให้เค้าอยากเขียนเรื่องนี้ต่อจนจบ จะพยายามเขียนให้จบ เพื่อผู้อ่านที่น่ารักทุกคนคะ  :mew1: :L1: :L2: :3123:

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
ขอบคุณมากค่ะที่จะมาต่อจนจบ
ขอโทษที่ไม่ได้เม้นท์น้าช่วงนี้ยุ่งมาก
แต่ถ้าว่างก็จะมาอ่าน+เม้นท์ให้
แต่เราเต้กับป้าเบซี่มากอ่า
โชคก็น่ารักน่าสงสาร
เอาเป็นว่าเชียร์โชคล่ะกัน

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คุณ คนอ่าน นึกว่าหายไปไหนแล้ว ดีใจ ที่ยังติดตามงานเขียนของฟิล์ม เรื่องนี้เพิ่งเริ่มต้น ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่อยากให้ได้อ่านกัน  เอาเป็นว่า พรุ่งนี้จะอัพตอนที่ 6 ให้ได้อ่านก็แล้วกันเน่าะ :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-09-2015 22:34:28 โดย Film-mii »

ออฟไลน์ tutatoomtam

  • รัก.................!
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
จะรอตอนไหม่นะคะ ตามอ่านตลอดแต่ไม่เคยได้เม้น ช่วงนี้รุ้สึกว่าอารมณ์ของเต้กำลังมาคุ (ความคิดส่วนตัว) ก็เลยอดไม่ได้ที่จะต้องระบาย ว่า เต้!!!!! แกจะจีบก็จีบ อย่าเล่นตัว เรามีความรุ้สึกว่าเต้นี่แหละตัวจริง ถ้าพลาดก้ยอมไห้คุณฟิมปาหัวด้วยตอนไหม่ทุกวัน  :ling2:

ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
จะรอตอนไหม่นะคะ ตามอ่านตลอดแต่ไม่เคยได้เม้น ช่วงนี้รุ้สึกว่าอารมณ์ของเต้กำลังมาคุ (ความคิดส่วนตัว) ก็เลยอดไม่ได้ที่จะต้องระบาย ว่า เต้!!!!! แกจะจีบก็จีบ อย่าเล่นตัว เรามีความรุ้สึกว่าเต้นี่แหละตัวจริง ถ้าพลาดก้ยอมไห้คุณฟิมปาหัวด้วยตอนไหม่ทุกวัน  :ling2:

ตามนั้นค่ะ  :z1: เห็นด้วยอย่างรุนแรง  :laugh:

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1758
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
เต้มันชอบฟิล์มจริง ๆ เหรอ
ดูหาเรื่องซะขนาดนั้น :mew2:

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขอบคุณนะคะที่ช่วยกันคอมเม้น  :mew1: น่ารักแบบนี้จะอัพตอนที่ 6 ให้อ่านกันเลยดีมั้ยเนี่ย อิอิ  :mew3: :katai2-1: :mc4:

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
     ตอนที่  6   การเปลี่ยนแปลง 

          ตอนนี้เป็นเวลาประมาณสองทุ่ม  ป้าเบซี่ให้ไอ้โชคมาส่งฉันก่อนแล้วค่อยแวะไปรับน้องสาว  ฉันให้ไอ้โชคส่งฉันที่สี่แยกทางเข้าบ้านฉัน   เพราะกลัวว่าพ่อกับแม่จะเห็น  ท่านคงไม่ชอบเท่าไหร่นัก ถ้าเห็นฉันกลับบ้านมากับผู้ชายตอนค่ำๆ แบบนี้  ฉันก็เข้าใจนะว่าท่านคงเป็นห่วงแหละ  ทำไงได้ ก็มีลูกสาวสวยทั้งคนนี่เน่าะ ( เหรอออ)   ฉันกับไอ้โชคล่ำลากันตรงนี้ แล้วมันก็ขับมอไซต์ไปรับน้องสาวมันกลับบ้านตามคำสั่งป้าเบซี่นั่นแหละ  ส่วนฉันก็เดินกลับบ้านคนเดียว  ถนนหนทางแถวนั้นไม่เปลี่ยวนะคะ  มีเสาไฟเปิดไฟสว่างจ้าตลอดทางจนถึงหน้าบ้านของฉันเลยหละ  แล้วอีกอย่างบ้านแถวนั้นก็มีแต่เพื่อนบ้านคนรู้จักกัน  ฉันเลยไม่กลัวที่จะต้องเดินกลับบ้านคนเดียว  ด้วยระยะทางไม่ถึง 500 เมตรฉันก็เดินมาถึงบ้าน  พอเข้าไปในบ้านก็เห็นพ่อ แม่ และน้องชายกำลังนั่งดูทีวีอยู่   

   “ กลับมาแล้วหรอลูก  กินข้าวมารึยัง ”  แม่ถามฉันด้วยความเป็นห่วงเสมอ

   “ กินกับเพื่อนมาแล้วหละแม่  แม่ วันนี้หนูเหนื่อยมากเลย ขอตัวไปอาบน้ำนอนก่อนนะจ๊ะ ” แม่มองดูฉัน  แม่คงจะเห็นสภาพที่อิดโรยของฉัน แม่จึงพยัคหน้าและบอกให้ฉันรีบอาบน้ำนอน  ฉันเดินขึ้นห้องไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วลงมาอาบน้ำข้างล่าง  เพราะที่บ้านมีห้องน้ำอยู่ห้องเดียวอยู่ชั้นล่าง  อยู่ในบ้านและติดกับห้องนอนของพ่อกับแม่เลยจ้ะ   

   ฉันอาบน้ำเสร็จแล้ว  ก็ขึ้นมาแต่งตัวที่ห้อง  ทาแป้งแคร์หอมๆ  ปิดไฟ และขึ้นเตียงนอน  ฉันนอนจนจะเคลิ้มหลับไปอยู่แล้วเชียว  ไอ้น้องบ้ามันก็เคาะประตูห้อง เรียกฉันซะเสียงดัง  จนฉันต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา   ฉันลุกไปเปิดไฟและกำลังจะเดินไปเปิดประตูห้อง  ไอ้น้องบ้า ถ้าไม่มีธุระสำคัญนะ เทยจะด่าให้หูชาเลยคอยดู  ฉันเปิดประตูออกไปเจอหน้ามัน

   “ มีอะไร  กูเพิ่งจะหลับไปเมื่อกี้นี่เอง  มึงจะปลุกกูเพื่อ ”  ถึงเราจะเป็นพี่กับน้องกันแต่เราก็อายุห่างกันแค่ปีเดียว พวกเราจึงสนิทกันมาก และพูดกูมึงกันเป็นประจำคะ  ไม่ต้องตกใจนะคะ 

   “ ก็เนี่ย  เพื่อนมึงโทรศัพท์มาหา คิดว่ากูอยากมาปลุกมึงนักรึไง ”  มันยื่นโทรศัพท์ขึ้นมาเกือบกระแทกหน้าฉัน  ทำให้ฉันตกใจเล็กน้อย   มันคงจงใจแกล้งเทยแน่ๆ เลย ไอ้น้องบ้า  ฉันมองดูเบอร์ที่โชว์บนหน้าจอ นี่มันเบอร์ไอ้โชคนี่นา 

   “ เออ  ขอบใจ ” ฉันรีบคว้าเอาโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของมัน  แล้วปิดประตูห้อง  ปิดไฟ  ก่อนจะเดินไปนอนที่เตียง  และยกโทรศัพท์ขึ้นมาคุย 

   “ ฮัลโหล  โชคหรอ ”  ก็แหงสิ จำเบอร์ได้นี่นา  ยังจะไปถามเขาอีก

   “ อืม.....  เมื่อกี้ฟิล์มคุยกับน้องหรอ  ดูสนิทกันมากเลยนะ คุยกันแบบนี้ประจำเลยหรอ ” มันคงจะมองว่าพวกฉันคุยกันไม่สุภาพหละสิ 

   “ ก็คุยกับแบบนี้ทุกวันแหละ เรากับน้องอายุห่างกันแค่ปีเดียวเอง  อีกอย่างมันก็เป็นผู้ชายด้วย จะให้พูดจาหวานๆ สุภาพๆ แบบพี่น้องบ้านอื่นมันก็ดูแปลกๆ อะ ”  ฉันบอกไอ้โชคไปตามความจริง ไม่ปิดบังอยู่แล้วคะ รับได้ก็ได้ รับไม่ได้ก็แล้วแต่ 

   “ อ๋อ.....  เราก็ไม่เคยมีน้องชายอะ มีแต่น้องสาว แต่แบบนี้ก็น่ารักดีนะ ดูสนิท รักใคร่กันดี ” น้ำเสียงที่พูดออกมาดูจริงใจดี   

   “ ว่าแต่โชคเหอะ  มีธุระอะไร  เมื่อกี้เราหลับไปแล้วรอบนึงนะ  นายเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันต้องตื่น  ถ้าไม่มีเหตุผลที่ดีพอหละก็  เห็นดีกันแน่ ”  ต้องขู่กันบ้าง ชอบโทรมาตอนที่ฉันง่วงดีนัก 

   “ ก็ฟิล์มไม่ให้เราไปส่งถึงหน้าบ้าน  เราเป็นห่วง  ก็เลยโทรมาถามว่าถึงบ้านยัง  เหตุผลแค่นี้ไม่รู้จะพอมั้ย ”  ไอ้โชคพูดน้ำเสียงกร่อยๆ  เล่นเอาฉันเคลิ้มตามเลยนะนายโชค เหตุผลก็พอฟังได้  แต่......

   “ แล้วทำไมไม่ถามพ่อกับแม่เราอะ ถามแค่นั้นก็น่าจะพอนี่นา  ” นั่น ยังหาเรื่องเขาไม่หยุดอีกฉัน

   “ ก็เค้าอยากได้ยินเสียงฟิล์มก่อนนอน  พรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียนนะ เดี๋ยวเราไปเล่นด้วยที่ห้อง  ฝันดีครับ ” 

   ตู๊ด......... ตุ๊ด......... ตู๊ด............  อ้าว วางสายไปแล้ว  ฉันยังไม่ได้ตอบตกลงอะไรเลยนะ  อย่างนี้มันมัดมือชกกันนี่หว่า  เฮ้อออ....  เทยเพลีย   อ้าว  นึกขึ้นได้พอดีเลย  ลืมกินยา  เหอะๆ ถือซะว่าไอ้โชคมันปลุกเราขึ้นมากินยาแล้วกัน  วันนี้ตั้งใจจะเริ่มกินเป็นวันแรกเลยนะเนี่ย  แล้วคืนนี้ก็ผ่านไปกับยาคุม 1 เม็ด  หลับปุ๋ยถึงเช้าเลยจร้า 

   เวลาพักเที่ยงที่โรงเรียน  พวกเรา 4 คนก็นั่งกินข้าวที่โต๊ะม้าหินอ่อนเหมือนเดิม  หลังจากกินข้าวกันอิ่มแล้วก็พากันไปซื้อขนมกรุบกรอบมานั่ง  นั่งกินไปคุยกันไปสนุกสนาน  แล้วอิสายป่านก็เปิดประเด็นเรื่องความสวยความงามขึ้นมา  ดูเหมือนมันกำลังจะพูดถึงเรื่องยาคุมนะ 
   “ อิฟิล์ม อิกระต่าย  พวกมึงรู้จักการเทคฮอร์โมนมั้ยยะ ” อิกระต่ายทำหน้างงสุดๆ ส่วนฉันก็ทำหน้าเฉยๆ เพราะรู้แล้ว  เพิ่งรู้มาสดๆ ร้อนๆ เลยนี่หละคะ   แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงจะทำหน้างงเป็นไก่ตาแตกเหมือนอิกระต่ายนั่นแหละ  โชคดีที่รู้ก่อน จะได้ไม่ต้องโง่เหมือนมัน  5555555

   “ อ้าว  อินี่ ทำหน้างง  ไม่รู้จักหละสิมึง ”  อิสายป่านมองหน้าอิกระต่าย  และแขวะนางไปหนึ่งฉาก  อิกระต่ายหันหน้ามาหาฉัน  มันคงเห็นฉันทำหน้าตาเฉย  มันก็เลยถามฉัน 

   “ อิฟิล์ม  มึงรู้จักการเทคฮอร์โมนด้วยหรอยะ ”  แน่สิคะ กูไม่ได้โง่เหมือนมรึงหนิ 

   “ ก็พอรู้ ”  ฉันตอบปัดๆ ไป  ไม่อยากพูดอะไรมาก  เพราะรู้ว่าตัวเองรู้แค่นิดเดียว

   “ มึงรู้วิธีการเทคฮอร์โมน  แล้วทำไมมึงไม่เทคคะ ปล่อยให้ตัวเองผอมแห้ง ผิวหยาบกร้าน  หน้าซูบเหมือนผู้ชายได้ไงยะ ”  จิกกัดฉันเป็นชุดเลยนะคะอิสายป่าน  ก็กูเพิ่งกินไปเมื่อคืนนี่หละจ้ะ  รอให้กูสวยก่อนเถอะมึง  จะด่าคืนให้หน้าหงายเลย 

   “ กูก็เพิ่งรู้เมื่อวานนี้แหละ  แล้วก็เพิ่งกินยาไปเม็ดนึงเมื่อคืนนี่เอง  มึงจะให้กูตื่นมาสวยเลยรึ่ไง ” ฉันพูดประชดประชันอิสายป่าน 

   “ เออ ดีแล้ว รีบแด* รีบสวย  ปล่อยให้อิกระต่ายมันขี้เหล่อยู่คนเดียวนั่นแหละ  55555 ”  อิสายป่านหัวเราะเยาะอิกระต่าย  ท่าทางมันคงจะพอใจมาก 

   “ หุบปากเน่าๆ ของมึงได้แล้วอิสายแดด ”  5555555  “ สายแดด”  ได้ยินชื่อนี้พวกเรา  3 คนก็หัวเราะจนท้องแข็งไปเลยสิคะ  ส่วนอิสายป่านนางก็หัวเราไม่ออกคะ  นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่คนเดียว  นางคงจะโกรธที่พวกเราเอาชื่อจริงนางมาล้อเล่นแบบนี้ 

   “ หยุด  ถ้าพวกมึงไม่หยุด  กูจะตบปากเรียงหน้ากระดานเดี๋ยวนี้เลย ”  อิสายป่านพูดท่าทางโมโห  กลัวโดนตบคะ พวกเราก็เลยหยุดหัวเราะ  แต่มองหน้ามันแล้ว ฉันก็ยังอดหัวเราะไม่ได้  ต้องเอามือมาปิดปากตัวเองเอาไว้ และพยายามกลั้นหัวเราะ  แล้วสถานการณ์ก็เข้าสู่ภาวะปกติ

   “ เออ ว่าแต่...  มึงกินยี่ห้อไหน ”  อิสายป่านถามฉันอย่างสงสัย 

   “ OC – 35 มึงรู้จักป่ะ ”  อิสายป่านตาลุกโต  ท่าทางดูตกใจนิดๆ 

   “ อินี่  กินของมียี่ห้อด้วย  แผงละร้อยกว่าบาทเลยนะนั่น  มึงเอาเงินที่ไหนไปซื้อคะ ”   

   “ เออ....  กูมีกินแล้วกัน  ”  ฉันพูดปัดๆ ไป  เพราะไม่อยากบอกพวกมันว่าได้มาฟรี  กลัวโดนพวกมันดูถูกว่าไม่มีเงินซื้อกิน จริงๆ ก็ไม่มีนั่นแหละ แล้วถ้าแผงนี้หมด จะเอาเงินที่ไหนซื้อหละเนี่ย 

   “ แล้วมึงหละอิสายป่าน กินยี่ห้ออะไร  ”  แนะ อิกระต่าย  ทำเป็นอยากมาร่วมวงสนทนากับพวกฉัน ถามอย่างกับรู้เรื่อง   

   “ กูก็กินยี่ห้อถูกๆ นี่หละ แผงละ 20 บาท  One day  ไม่มีเงินซื้อยี่ห้อแพงๆ กินเหมือนอิฟิล์มหรอก ”  มันพูดแล้วก็จิกสายตามาทางฉัน  นี่มันจงใจกัดฉันชัดๆ เลย 

   “ เออ  งั้นกูกินยี่ห้อเดียวกับมึงนี่แหละ  ถูกดี  เลิกเรียนแล้วพากูไปซื้อด้วยหละ ”  อิกระต่ายสั่งให้อิสายป่านพามันไปซื้อ 

   “ ได้เลยคะ กินแล้วมรึงก็จะสวย  ผู้ชายก็จะเข้าหามรึง  แล้วมึงก็จะได้เกิดไงหละคะอิดอก  ”  555555  อิพวกนี้หัวเราะน่าเกลียด  เสียงดังไปสามบ้านแปดบ้าน เทยกับแม่นางมายหละอายคนจริงจริ๊งงงง   

   และแล้วการเรียนช่วงบ่ายก็มาถึง วิชาสุดท้ายของวันนี้ก็คือวิชาพละ  ฉันว่ามันดีนะ ที่เราเรียนวิชาพละกันเป็บคาบสุดท้าย  เพราะวิชานี้เป็นวิชาที่ต้องเสียเหงื่อมาก  ขืนให้เรียนวิชาพละแล้วไปนั่งเรียนในห้องต่อ เหงื่อโชก  เหม็นเหงื่อตัวเองไม่พอ ต้องเหม็นเหงื่อเพื่อนข้างๆ อีก  ไม่เป็นอันเรียนแน่ๆ เลย   ในคาบวิชาพละนี้เราลงไปเรียนกันแถวะ สนามตระกร้อ ซึ่งอยู่กลางแจ้ง  และแดดก็ร้อนม้ากกก  และวิชาพละ ม.3 เทอมนี้  ก็เป็นการเรียนเตะตะกร้อจริงๆ ด้วย  คุณครูเอาลูกตระกร้อของโรงเรียนมาให้พวกเราเตะ แต่มันก็ไม่พอ  ต้องจับคู่กัน  สองคนต่อหนึ่งลูก  และคุณครูก็แนะนำให้พวกเราไปซื้อตะกร้อมาเอง  จะได้ไม่ต้องแย่งกันซ้อม  ฉันก็เห็นด้วยนะ  เพราะตะกร้อโรงเรียนนี่คงจะใช้มานานแล้ว ดูสภาพมันสิ  ยังใช้เตะได้อีกใช่มั้ยเนี่ย  แน่นอนว่าเรามีกันอยู่   3  คน  ต้องมีคนใดคนนึงแยกออกไป  พวกเรากำลังยืนปรึกษากันอยู่  ไอ้โต๊ดก็เดินมาและขอเสนอตัวคู่กับฉัน  มันก็มีตะกร้อของมันอยู่แล้ว ถ้าฉันคู่กับมัน ตะกร้อที่อาจารย์ให้ยืมก็จะเป็นของฉัน จะได้ไม่ต้องแย่งกับใคร  ก็ดีนะ  ฉันเลยตอบตกลงมันไป 

   คุณครูบอกว่าจะให้สอบเดาะตะกร้อ  คะแนนเต็มสิบ  เดาะตะกร้อให้ได้ 10 ครั้งติดต่อกัน   ครั้งละ 1 คะแนน  ใครทำได้แค่ไหนก็เอาไปแค่นั้น  ให้เวลาซ้อม 2 สัปดาห์  เดาะตะกร้อ 10 ครั้งติดต่อกัน   เรื่องแค่นี้งานหมูๆ สำหรับพวกผู้ชายเลยหละ แต่นี่มันงานช้างของสาวน้อยอย่างฉันเลยนะ  พอถึงเวลาซ้อมฉันก็ได้ครอบครองตะกร้อเพียงแค่คนเดียวจริงๆ แต่เป็นตะกร้อไอ้โต๊ดนะ มันดันไปบอกครูว่ามันมีตะกร้อแล้ว  ฉันก็เลยอดหนะสิ   ฉันก็เลยต้องลงโทษมันสักหน่อย  ด้วยการให้มันเป็นเด็กเก็บบอล ส่วนฉันมีหน้าที่เดาะตะกร้ออย่างเดียว  55555  เดาะไปเรื่อยๆ ก็สนุกดีนะ  เริ่มเดาะสองครั้งติดกันได้แล้วนะ  อิอิ   เผลอแปปเดียวก็ใกล้จะหมดเวลาแล้ว  ไอ้โต๊ดวิ่งไปเก็บลูกตะกร้อให้ฉัน  แต่คราวนี้ทำไมมันไม่ยอมส่งลูกตะกร้อมาให้ฉันหละ 

   “ ขอตะกร้อด้วย ”  ฉันยื่นมือออกไปขอตะกร้อที่อยู่ในมือของไอ้โต๊ด 

   “ ฟิล์ม  เรื่องที่เราพูดกับไอ้เต้เมื่อวาน  เราไม่ได้พูดเล่นนะ  เราพูดจริงๆ ”  มันดูท่าทางจริงจัง  ทำเอาฉันหน้าเหว๋อไปเลยคะ  ใครจะไปรู้ว่าอยู่ดีๆ มันจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมา 

   “ เรื่อง.....  เรื่องอะไรหรอ ”  ฉันอ้ำอึ้งถามมันออกไป  แต่จริงๆ ในใจ  ฉันก็พอจะเดาได้อยู่หรอกว่าเรื่องอะไร

   “ ก็เรื่องที่เราชอบฟิล์มไง ”  น้ำเสียงนุ่มๆ ที่ดูอ่อนโยน  ทำให้ฉันเคลิ้มตามอยู่พักนึง  แล้วฉันก็ดึงสติของตัวเองกลับมาได้ 

   “ เราว่า.....  เราเป็นเพื่อนกันดีกว่านะ ”  ฉันพูดบอกไอ้โต๊ดด้วยความจริงใจ  เพราะฉันรู้สึกว่า สิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกสบายใจและมีความสุขดี  ไอ้โต๊ดดูหน้าเศร้าลงไปทันที  และดูเหมือนมันกำลังจะฝืนยิ้มให้กับฉัน 

   “ ถ้าฟิล์มยังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร  แต่เราจะรอ  รอจนกว่าเธอจะพร้อมนะ ”  พูดซะหวานซึ้งเลยนะคะไอ้โต๊ด  ทำเอาฉันเคลิ้มตามอีกแล้วคะ  ฉันมองตามันอยู่ซักพัก  เห็นแววตาเหมือนกับกำลังขอร้องอ้อนวอน    ฉันกลัวว่าตัวเองจะใจอ่อน   จึงหันหน้าหนีเพื่อหลบสายออดอ้อนของมัน 

   “ ถ้าโต๊ดอยากรอก็ตามใจ  เราคงห้ามความรู้สึกของใครไม่ได้  ” ฉันพูดเสียงอ่อยๆ  และไม่กล้าสบตาของมัน   

   “ ขอบใจนะ ต่อไปเราจะปกป้องฟิล์มเอง ” ฉันหันมามองหน้ามันอีกครั้ง  เห็นมันกำลังยิ้มอย่างมีความสุข  ฉันเองก็แอบดีใจอยู่หรอกนะที่ได้ยินมันบอกว่าจะปกป้องฉัน  ถ้ามันทำได้จริงๆ   ฉันก็คงจะปลอดภัยจากสิ่งร้ายๆ หลายๆ อย่าง  เพราะดูเหมือนมันจะมีพวกเยอะ เหมือนเป็นเจ้าพ่อมาเฟียในโรงเรียนนี้เลยเหอะ     

   “ ขอบใจนะ ”  แล้วฉันก็ยิ้มตอบแทนในความมีน้ำใจของมันที่คิดจะปกป้องฉัน  ฉันก็ได้แต่หวังว่ามันคงจะทำอย่างที่ปากพูดจริงๆ  แต่เอ๊ะ  มันก็ทำมาแล้วนะ  โดยเฉพาะปกป้องฉันจากการโดนไอ้เต้กระทืบ 

   และแล้วก็ถึงเวลาเลิกเรียน  ที่นี่ไม่มีการเข้าแถวก่อนเลิกเรียนหรอกนะ  ห้องไหนเลิกก่อนก็กลับก่อน  แต่ยามที่อยู่หน้าโรงเรียนจะเปิดประตูให้ออกนอกโรงเรียนเมื่อถึงเวลาบ่ายสามโมงครึ่งแล้วเท่านั้น  ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ออดของโรงเรียนดังขึ้นนั่นเอง  พอเราเลิกเรียนแล้ว  พวกเรา  3 นาง  ก็กำลังจะเดินไปที่โรงจอดรถ วันนี้อิกระต่ายไม่ขึ้นรับรับส่งคะ เพราะมีนัดจะไปซื้อยาคุมกับอิสายป่าน พวกเราก็เลยได้เดินมาด้วยกันสามคน  เดินมาจนใกล้จะถึงโรงรถแล้วหละ  อยู่ๆ ก็มีคนเรียกชื่อฉันซะงั้น   

   “ ฟิล์ม..........  ”  เสียงร้องเรียกชื่อของฉันดังไปทั่วบริเวณนั้น  เสียงนี่มัน.....  ฉันกับอิเพื่อนสาวสองคนหยุดเดินแล้วหันกลับมามองดูเจ้าของเสียง  น่านนนน  ว่าแล้วไง  ไอ้โชคจริงๆ ด้วยคะ  มันกำลังวิ่งเข้ามาหาฉัน   และหยุดในระยะห่างกันประมาณ  2  เมตรได้ 

   “ มีอะไรรึ่ป่าวโชค  ”  ฉันถามไอ้โชคที่กำลังยืนหอบแฮกๆ อยู่ตรงหน้าฉัน   เล่นวิ่งมาแบบนี้คงจะเหนื่อยมากเลยสินะ 

   “ วันนี้ฟิล์มว่างรึ่ป่าว  ป้าเราชวนไปทานข้าวเย็นที่บ้าน ”  ไอ้โชคพูดทั้งๆ ที่ตัวเองยังหอบเหนื่อยอยู่  ฉันยังไม่ให้คำตอบมัน รอให้อาการหอบเหนื่อยของมันดีขึ้นก่อน  สักพักนึง ดูเหมือนมันจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ  ไม่หอบเหนื่อยเหมือนเดิมแล้ว  ฉันจึงให้คำตอบกับมัน

   “ พอดีวันนี้เรามีนัดกับอิสายป่าน กับอิกระต่ายแล้วอะ  ยังไงก็ฝากขอบคุณคุณป้าเบซี่ด้วยนะ  วันนี้เราคงไปไม่ได้จริงๆ  ไว้วันหลังแล้วกันนะโชค ”  ไอ้โชคมองหน้าอิกระต่าย และอิสายป่าน  ด้วยสีหน้างุนงง  มันคงจะสงสัยว่าพวกเรานัดอะไรกัน 

   “ จะไปทำอะไรกันหรอ ”  ไอ้โชคมองหน้าฉัน มันบ่งบอกว่าไอ้โชคกำลังถามฉันอยู่รึ่ป่าว  แต่อิกระต่ายก็ดันแหกปากตอบออกไปก่อนฉัน

   “ จะไปทำสวยกันหนะ  นี่โชค  อีกไม่นานพวกเราก็จะสวยกันแล้วนะ  ถึงเวลานั้นเมื่อไหร่  อย่ามาตามจีบฉันก็แล้วกัน  ถ้าจะจีบก็ต้องจีบตั้งแต่ตอนนี้   เพราะถ้าจีบตอนที่ฉันสวยแล้ว ฉันไม่รับปากนะจ้ะ  ว่าฉันจะอยากกินแกอยู่รึ่ป่าว ” มันพูดแล้วมันก็เชิดหน้า  คือมั่นมากคะอิดอก  ไว้มึงสวยก่อนเถอะคะค่อยมาพูดพรรณนา  กูหละอายแทนมึงจริงจริ๊งง

   “ เราว่า  ชาตินี้เราคงไม่จีบเธอหรอก  สบายใจได้  ” น้ำเสียงนิ่งๆ ของไอ้โชค มันยิ่งทำให้ฉันอดหัวเราะไม่ไหว  แล้วฉันกับอิสายป่านห็หัวเราะออกมา  555555555  ทำเอาหน้าเชิดๆ ของอิกระต่ายกลายเป็นหน้าแตก    เผ้ง!!!  นางคงจะอับอายแทบแทรกแผ่นดินหนี   

   “ จ๊ะ ไม่จีบฉันก็ไม่เป็นไร  แล้วอย่ามาจีบอิฟิล์มเพื่อนฉันก็แล้วกัน ”  มันพูดกระแทกแดกดันใส่ไอ้โชค  ดู้วๆๆๆ ดูมันพูด เอาฉันไปบังหน้าอีกแล้วอิเพื่อนเลว ฉันกับอิสายป่านนี่ขำไม่ออกเลยคะ   ส่วนไอ้โชคก็นิ่งเงียบไม่โต้ตอบอะไร   สถานการณ์ดูตรึงเครียด  เพราะปากเสียๆ ของมึงแท้ๆ อิกระต่าย   

   “ อิกระต่าย  กูว่ามึงกับกูไปรอที่รถดีกว่า  อิฟิล์ม พวกกูไปรอที่รถนะ รีบตามมาเร็วๆ หละ ”  พูดแล้วอิสายป่านก็เดินอ้อมมาจับแขนอิกระต่ายและลากมันออกไป

   “ โชคมีอะไรอีกรึป่าว  เราต้องรีบไปแล้วนะ ”  ฉันพูดเสียงเบา 

   “ มีสิ ”  ฉันตกใจเล็กน้อย  แล้วไอ้โชคมันมีเรื่องอะไรของมันอีกเนี่ย  ฉันจึงรีบถามให้หายสงสัย

   “ มีเรื่องอะไรหรอ ”  ไอ้โชคยืนนิ่งอยู่พักนึง  เอ้า รีบพูดมาเร็วๆ สิ เพื่อนฉันรออยู่นะ 

   “ ก็เรื่องซ้อมเตะตะกร้อหนะ  คือ..... เราก็เตะตะกร้อเป็นเหมือนกันนะ  ไม่ใช่มีแค่ไอ้โต๊ดคนเดียว  ถ้าฟิล์มจะให้เราช่วยซ้อมให้  เราก็ยินดีและเต็มใจนะ ”  พูดเสร็จมันก็ยิ้มหวานให้ฉัน  ทำไมผู้ชายพวกนี้เวลายิ้มถึงได้น่ารักน่าชังขนาดนี้นะ  แต่  มันพาดพิงถึงไอ้โต๊ดด้วยแฮะ  นึกแล้วฉันก็หัวเราะออกมาเบาๆ 

   “ ฟิล์มขำอะไรหรอ ”  ไอ้โชคทำหน้างง  ฉันค่อยๆ หยุดหัวเราะ  แล้วตอบมันออกไป

   “ ป่าววว  เราแค่ดีใจ  ที่มีคนอยากจะมาเป็นครูฝึกให้เราถึง 2 คน  ทั้งๆ ที่รู้ว่าเราเล่นไม่เป็นเลย  สอนไปก็ไม่รู้จะทำได้รึ่ป่าว กลัวพวกนายสอนเหนื่อยป่าวๆ อะดิ  ” 

   “ ไม่เป็นไร เราบอกแล้วไง ว่าเราเต็มใจ  นะๆ ให้เราสอนให้เถอะนะ น้า........ น้า.......”  น้ำเสียงออดอ้อนมาอีกแล้ว  ทำไมมันถึงขี้อ้อนขนาดนี้นะ   ฉันก็อายคนสิคะงานนี้  คนที่อยู่แถวๆ นั้นก็เริ่มจะจ้องมองกันใหญ่แล้ว 

   “ โอเคๆ  เอาไว้วันหลังนะ  วันนี้ฉันขอตัวก่อนแล้วกัน เพื่อนรอนานแล้ว  ”  มันทำท่าดีใจ ยิ้มแฉ่ง  แทบจะเห็นฟันทุกซี่เลยหละ 

   “ โอเค  วันหลังซ้อมกันนะ  บาย..... ”   มันโบกมือลาฉัน   ด้วยรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะมีความสุขมากๆ   

   “ บาย....... ”  ฉันยิ้มแล้วก็โบกมือลามันเช่นกัน 

   

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มาต่อกันเลยคะ   

...........................................................................

         พวกเรา 3 นางพากันขับมอไซต์ไปซื้อยาคุมที่ร้านขายยาในตัวอำเภอ  อิกระต่ายกับอิสายป่านก็พากันได้ยาคุมกันคนละแผง  เป็นยี่ห้อ one day นั่นเองคะ  อิกระต่ายดูดีอกดีใจมาก  อย่างกับได้รับตำแหน่ง miss tiffany univers  ส่วนอิสายป่านก็ดูเฉยๆ นะ ก็แน่หละ นางคงกินมาหลายแผงแล้วสิ แต่ไม่เห็นยักกะสวยเลยนะ  แถมยังดำอีกด้วย 555555  แต่ รูปร่างนางดูเหมือนชะนีมาก  หน้านางนี่แก้มยั้วยเลยคะ สะโพกเป็นสะโพก ก้นเป็นก้น  ดูอวบๆ นิดนึง  ผิวพรรณแลดูมีน้ำมีนวล  เส้นเลือดนี่ก็แทบจะมองไม่เห็น  กล้ามนี่ไม่มีเลยจ้ะ  อย่างกับแขนกับขาชะนี  ฉันก็จินตนาการไปนั่น ว่าถ้ากินไปนานๆ จะได้รูปร่างเหมือนชะนีแบบนี้มั้ยนะ  และแล้วภารกิจไปซื้อยาคุมของพวกเราก็เสร็จสิ้น  อิสายป่านขับมอไซต์กลับบ้าน  ส่วนฉันก็ไปส่งอิกระต่าย  แล้วก็กลับบ้าน  คืนนี้ฉันก็กินยาคุมไปอีก 1 เม็ด  แล้วหลับยาวจนถึงเช้า

   ช่วงแรกๆ  ที่กินยา  ฉันเริ่มรู้สึกว่า ร่างกายของฉันมีอาการผิดปกติไป  ฉันเริ่มเวียนหัวบ่อยๆ  เหนื่อยอ่อนเพลียเร็วกว่าปกติ  รู้สึกคลื่นไส้บ้างเป็นบางครั้ง  อาการแบบนี้จะเกิดขึ้นอยู่ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์  หลังจากนั้นฉันก็เริ่มรู้สึกว่าร่างกายของฉันเริ่มปรับตัวได้  อาการแย่ๆ ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับฉันก็เริ่มหายไป  แต่ตอนนั้นฉันเริ่มรู้สึกว่าฉันหิวข้าวบ่อยมาก  ฉันจึงกินข้าวบ่อยครั้ง  ครั้งละเยอะมาก จนพ่อ แม่ และเพื่อนๆ เริ่มทักว่าฉันกินเยอะ  และแล้วน้ำหนักของฉันก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น  ฉันเริ่มอ้วนขึ้นนั่นเอง  แก้มก็เริ่มมาสิคะ ตูดก็บานออก สะโพกก็เริ่มมี  และที่สำคัญคือหน้าอก  ฉันเริ่มมีหน้าอกนิดนึง  ไม่ใหญ่หวือหวามาก   ผิวพรรณฉันเริ่มเปล่งปลั่งคะ แลดูมีน้ำมีนวลมากขึ้น   ตอนนี้รูปร่างของฉันไม่ผอมแห้งเหมือนผู้ชายแล้วนะคะ  รูปร่างไม่ต่างจากชะนีหุ่นดีนี่เอง  55555  ( เวอร์ไปป่ะ )  ตอนนั้นหน้านี่ใสกิ๊ก ไม่มีสิวเลยแม้แต่เม็ดเดียวคะ  ตอนนั้นเรียกได้ว่าสวยขึ้นมาในระดับหนึ่งเลยหละคะ

   เหตุการณ์ทุกอย่างดำเนินไปเรื่อยๆ อย่างเป็นปกติสุขคะ  ชีวิตของฉันช่วงนี้มันดูราบเรียบเกินไปจนน่าเบื่อ  ไอ้โต๊ดกับไอ้โชคก็ยังซ้อมตะกร้อให้ฉันเป็นอย่างดี   วันนี้ซ้อมกับไอ้โต๊ด วันหน้าก็ซ้อมกับไอ้โชค อะไรประมาณนั้น  พวกมันก็ดูแลฉันเป็นอย่างดี เหมือนกับฉันเป็นชะนีอย่างนั้นแหละ  55555  ( หลงตัวเองเกินไปแล้วฉัน )   

   เวลาผ่านมา 2 เดือนแล้ว  ในที่สุดก็ถึงฤดูกาลแห่งการสอบ  จะสอบอะไรซะอีกหละคะ ก็สอบ midterm  ของภาคเรียนที่  1  ไงหละ  ช่วงนี้ฉันต้องขยันอ่านหนังสือหน่อย  และวันนี้เองไอ้โชคก็ชวนฉันไปที่บ้านของมัน  มันบอกว่ามันอยากให้ฉันไปช่วยติวหนังสือให้   ฉันจึงตอบตกลง  เพื่อเป็นการตอบแทนที่มันช่วยสอนตะกร้อให้   ฉันบอกแม่ว่าจะไปติวหนังสือให้เพื่อน แม่ก็อนุญาต  และบอกให้ฉันอย่ากลับบ้านดึก  ฉันรับปากแม่  แล้วขับมอไซต์ไปที่บ้านไอ้โชค  เราสองคนนั่งติวหนังสือกันอยู่ที่ชั้นล่าง   

   “ ฟิล์ม  ทุ่มนึงแล้วอะ  ฟิล์มหิวมั้ย  เดี๋ยวเราทำกับข้าวให้กิน ”  ฉันมองหน้าไอ้โชคและทำหน้างง

   “ ไม่รอน้องกับป้ากลับมาก่อนหรอ ”  ฉันสงสัย จึงถามมันออกไป   มันก็หัวเราะออกมาเบาๆ 

   “ ปกติแล้วทุกๆ วันสุกร์เราจะไปหายายที่ต่างอำเภอกัน แล้วก็ไปนอนค้างที่นั่น  วันอาทิตย์ค่อยจะกลับมาที่บ้านอะ  แต่วันนี้ฟิล์มมาติวหนังสือให้เรา  เราก็เลยบอกป้าว่าจะอยู่ติวหนังสือกับฟิล์ม  ป้าก็เลยไปกับน้องสองคน ”  มันบรรยายมาซะยาวเหยียดเลยคะ  ฉันจึงพยัคหน้าเบาๆ เป็นอันว่าเข้าใจ 

   “ ป้าปล่อยให้เด็ก ม.3 อยู่บ้านคนเดียวแบบนี้  ป้าไม่เป็นห่วงเลยหรอ ” ฉันก็ยังคงตั้งแง่สงสัยต่อไป

   “ ไม่หรอก  ตั้งแต่พ่อแม่เราเสีย  ป้าก็เอาพวกเราสองคนมาอยู่ด้วย ป้าสอนให้พวกเราทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เราก็เลยทำงานบ้านเป็นหลายอย่างเลยแหละ ป้าสอนให้พวกเรารู้จักเอาตัวรอด  เพราะถ้าวันนึงพวกเราไม่มีใคร  เราสองพี่น้องจะได้อยู่ดูแลกันได้  ”  มันพูดเรื่องเศร้า อีกแล้วคะ  ได้ยินแล้วฉันก็รู้สึกหดหู่ตามไปด้วย  ฉันก็เลยเปลี่ยนเรื่องคุย

   “ เอ่อออ......  เราหิวข้าวแล้วอะ  โชคจะทำอะไรให้เรากินหรอ ”  ฉันตื่นเต้นตาลุกโต  ลุ้นว่าไอ้โชคจะทำอะไรให้กิน  มันก็หันมามองหน้าฉัน  แล้วหัวเราะเบาๆ   ฉันนี่หน้าเอ๋อแด*เลยคะ  ไม่เคยเห็นคนสวยทำหน้าตื่นเต้นรึ่ไงยะ 

   “ แล้วฟิล์มอยากกินอะไรหละ ” มันถามฉันกลับบ้าง  ฉันถึงกับยิ้มดีใจแก้มปริเลยจ้ะ ก็แน่หละ มีคนทำอาหารให้กินนี่นา  ใครจะไม่ดีใจบ้างหละ 

   “ เอาอะไรก็ได้  เอาที่โชคคิดว่า ทำให้เรากินแล้ว ติดใจ และอยากกินอีก  ”  มันยิ้มดีใจ  แล้วก็ลุกเดินเข้าไปในครัว  ฉันเองจึงตามเข้าไปขออาสาเป็นลูกมือ

   อยากบอกว่าไอ้โชคทำอาหารเก่งมาก  มันบอกให้ฉันช่วยหยิบนั่นหยิบนี่ให้มัน และมันก็โชว์ฝีมือการทำอาหารให้ฉันเห็น  ฉันแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง  ไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้ชายคนนี้จะทำอาหารได้เก่งกว่ากะเทยอย่างฉัน  ซึ่งจะพูดไปแล้ว ฉันก็ทำเป็นอยู่แค่ไม่กี่อย่างเอง  และแล้วเมนูอาหารในวันนี้ก็เสร็จพร้อมเสริฟ   มีผัดคะน้าหมู  ผัดผักรวมมิตร  แล้วก็ทอดไข่เจียว  ไข่เจียวทอดได้สวยมาก สีเหลืองทองน่ากินเชียว ไม่ไหม้เหมือนที่ฉันทอดเลยงะ  ส่วนข้าวสวยร้อนๆ หนะหรอ  เป็นฝีมือการหุงข้าวของฉันเองแหละ หุงได้สุกพอดี  แล้วพวกเราก็ลงมือกินข้าวกันจนอิ่มและช่วยกันล้างถ้ายล้างจาน  แล้วกลับมานั่งย่อยที่โซฟาหน้าทีวี  พร้อมกับเปิดทีวีดู 

   “ ฟิล์ม.....  ดูเปลี่ยนไปเยอะมากเลยนะ ”  ฉันละสายตาจากทีวี แล้วหันไปคุยกับไอ้โชค 

   “ เปลี่ยนไปยังไงหรอ ”  ฉันทำหน้างง 

   “ ก็.....  ดูน่ารักขึ้นเยอะเลยอะ ”  มันพูดแล้วก็ทำท่าทางเขิน   แต่คำชมของมันก็ทำให้ฉันได้ยิ้มจนแก้มปริอีกครั้ง และฉันเองก็รู้สึกว่าตัวเองก็เขินไม่แพ้กัน 

   “ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก  เราก็แค่อ้วนขึ้นนิดหน่อยเอง ”  ฉันยังเขินและไม่กล้ามองหน้ามัน

   “ ก็เปลี่ยนไปหลายอย่างอยู่นะ แต่รวมๆ แล้ว  ก็ดูน่ารักขึ้นเยอะเลย  ”  แอร๊ยยย  อิตาบ้า  มาชมอะไรกันตอนนี้ยะ ฉันก็เขินแย่หนะสิ  ฉันเขินกับคำชมของไอ้โชคอยู่พักนึง  ก็นึกขึ้นได้ว่านี่มันดึกแล้ว ต้องรีบกลับบ้าน  อาการเขินหายจึงหายวับไปกับตา

   “ โชค นี่มันดึกแล้วอะ เราต้องกลับบ้านแล้วหละ ”  ฉันหันมาคุยกับไอ้โชคที่กำลังนั่งยิ้มหวาน

   “ เอ่อออ....  คือ......  วันจันทร์ก็จะสอบแล้วอะ  เรายังไม่เข้าใจวิชาคณิตศาสตร์เลยอะ คืนนี้ฟิล์มอยู่ติวให้เราหน่อยนะ  ตื่นมาพรุ่งนี้จะได้ติววิชาอื่นต่อ ”  ไอ้โชคพูดสีหน้าเป็นกังวล  แต่ฉันนี่สิ  ตกใจตาค้าง  หน้าซีดเผือดเลยคะ 

   “ นี่...... โชค......  หมายความว่ายังไงหรอ ”  ฉันพูดตะกุกตะกัก  ก็คนมันยังตกใจมันไม่หายนี่นา 

   “ ก็จะขอให้ฟิล์มนอนค้างคืนที่นี่ไง  ”  กร๊ากกกก  ฉันนี่อึ้งไปเลยคะ ไอ้โชคชวนฉันค้างคืนที่บ้านมัน  แน่ใจนะว่าแค่ติวหนังสือ   นี่ฉันคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วเนี่ย  พอฉันตั้งสติได้  ก็เลยนถามมันออกไป 

   “ บ้าหนะโชค  แล้วเราจะเอาเสื้อผ้าที่ไหนมาใส่ ” 

   “ ก็เสื้อผ้าเราไง  เราตัวโตกว่าฟิล์มไม่มากหรอก  น่าจะใส่ด้วยกันได้นะ ”  มันพูดหน้าตาเฉย  ถามฉันรึยังว่าฉันอยากใส่เสื้อแกมั้ย   

   “ แล้วจะให้เรานอนที่ไหนหละ  ”  ฉันยังคงตั้งคำถามต่อไป 

   “ ก็นอนห้องเราไง  ทำไมหรอ ” มันพูดแล้วก็ยิ้ม  แถมยังทำตาหวานใส่ฉันอีก  ฉันจะเป็นลม 

   “ เราว่า........... ”  ฉันกำลังจะขอมันกลับบ้าน แต่เหมือนมันจะรู้ว่าฉันจะพูดอะไร  มันจึงพูดสวนขึ้นมาก่อน   

   “ ตกลงนะ  แค่คืนเดียวเอง  นะครับ  นะๆๆๆ  น้า.........  เราขอร้อง ”  น้ำเสียงออดอ้อน  กับตาใสแป๋วของมันกำลังจะทำให้ฉันใจอ่อน  และแล้วฉันก็ปฏิเสธมันไม่ลง   

   “ ก็ได้  แค่คืนนี้คืนเดียวนะ ” ฉันพูดเสียงอ่อยๆ เหมือนจำยอมมากกว่าเต็มใจ  แต่มันนี่สิ   ร้องเย้  ขึ้นมาซะเสียงดังจนฉันตกใจ  ทำท่าทำทางดีอกดีใจสุดๆ  มันจะรู้มั้ยนะ ว่าฉันกำลังกลัวสุดๆ   หรือฉันคิดมากไปเอง  ก็ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยนอนกับผู้ชายสองต่อสองเลยนี่นา 

   เราสองคนผลัดกันอาบน้ำ  ฉันขอมันเข้าไปอาบน้ำก่อน เพราะฉันรู้เหนียวตัวมาก  พอฉันอาบเสร็จแล้ว  มันก็เข้าไปอาบ  หลังจากนั้นพวกเราก็มานั่งติวหนังสือกันต่อ  จนถึงเวลาประมาณห้าทุ่มได้  พวกเราจึงเลิกอ่านและขึ้นไปบนห้องนอนของไอ้โชค  ห้องนอนของมันถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อยดี  สะอาดสะอ้านน่าอยู่  ติดแอร์ด้วยแหละ  งานนี้เย็นสบายทั้งคืนแน่ๆ เลยฉัน  ชื่นชมห้องไอ้โชคอยู่สักพัก ฉันก็นึกขึ้นได้ว่าลืมกินยาคุม  ฉันจึงตั้งใจจะหันกลับไปบ่นกับไอ้โชคสักหน่อย โทษฐานที่มันชวนฉันนอนบ้าน  ทำให้ต้องขาดยาไป 1 วัน  พอฉันหันหลังกลับมาเท่านั้นแหละ  ไอ้โชคมัน........................................  กรี๊ดดดดดดดดดด 

..........................................................................

ฉันจะผ่านคืนนี้ไปได้ยังไง  อย่าลืมเป็นกำลังใจให้เทยด้วยนะคะ 

********  ตอนที่  7  Coming  Soon……...            
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-09-2015 02:10:31 โดย Film-mii »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
กรี๊ดดดดดดดด  :serius2:
ค้างค่ะ  :m25: กำลังฟินเลย  :heaven
พี่ฟิล์มมาต่อเร็วๆน่ะค่ะ  :hao5:
อย่าให้ชะนีน้อยรอนานน๊าาา  :impress2:
เดียวขาดใจตาย  :katai1:

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
ชอบมากๆ มาต่ออีกนะ กำลังสนุกเลย อยากให้ต่อวันละ 2 ตอนเลย อิอิ มาเร็วๆ นะะะะ

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มีกระแสตอบรับแบบนี้ คนเขียนก็แอบดีใจคะ  :pig4:

เดี๋ยวจะรีบมาต่อให้นะจ๊ะ  :mew1:


ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
โอ๊ยยยยยยยยยยยย
โชคมันทำอะไรเนี่ย
ชักอยากรู้แล้วสิ อิอิ

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ช่วงนี้ทำงานหนักไปหน่อย ไม่ค่อยมีเวลาเขียนเลย
แต่ !! พรุ่งนี้ก็จะมีเวลาว่างแล้ว เดี๋ยวมาเขียนต่อให้ได้อ่านกันนะจ้ะ  :mew1: :impress2:

ออฟไลน์ tutatoomtam

  • รัก.................!
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เราจะไม่ยกเธอให้โชคง่ายๆหรอกน่ะ คุณฟิมอย่ามาหลอกดาวคะ โชคมันไม่กวน  ต้องอิเต้บทน้อยนี่แหละ กวนตีนสุด 555555555555

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อวยกันจัง นายเต้หนิ ลุ้นกันต่อไป

 :hao4:   :impress2:   :o8:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2015 16:12:06 โดย Film-mii »

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตอนที่   7    ความเชื่อใจที่หายไป 

   อ้อ.....  ลืมบอกไปเลย  คือ.... หลังจากที่ฉันตอบตกลงนอนค้างบ้านไอ้โชค ฉันก็ขอยืมโทรศัพท์บ้านของมันโทรไปบอกพ่อว่าจะนอนค้างคืนที่บ้านเพื่อน  ส่วนเพื่อนที่ใช้อ้างพ่อก็คงจะหนีไม่พ้นอินางสายป่าน  เพราะมันอยู่คนละหมู่บ้านกับฉัน ถ้าจะอ้างอิกระต่ายก็ไม่ได้ เพราะมันอยู่หมู่บ้านเดียวกับฉัน  แถมบ้านยังอยู่ใกล้กันด้วย เดี๋ยวถ้าพ่อตามสืบ พ่อก็จับได้สิว่าฉันโกหก  ดังนั้น บ้านนางสายป่านจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดแล้ว  (โกหกพ่อ เพื่อจะได้นอนค้างคืนกับผู้ชาย  นี่เทยเลวมากไปมั้ยคะ)   
   ต่อกันเลยเน่าะ.......กรี๊ด...........ไอ้โชคมันมาอยู่ข้างหลังฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมฉันถึงไม่รู้สึกว่ามีคนมายืนอยู่ข้างหลังฉันเลยหละ ตอนนี้เราสองคนอยู่ใกล้กันมากกก  หน้าของฉันเกือบจะชนกับหน้าของมันอยู่แล้ว ฉันก็ตกใจแบบสุดขีดสิคะ  แต่สิ่งที่ทำให้ฉันตกใจและกลัวจนตัวสั่นก็คือ ไอ้โชคมันถอดเสื้อกับกางเกงออก  ใส่แต่บ็อกเซอร์ตัวเดียวคะ  แอร้ยย.....  มันหุ่นดีมากๆ เลยคะ เนื้อแน่นมากๆ  มองเห็นซิกแพ็คลางๆ  ฉันยืนตกใจกลัว ตัวสั่นริกๆ อยู่ต่อหน้ามัน แต่มันกลับยืนยิ้ม ทำตาหวานเยิ้มเชียวหละคะ น่าหมั่นไส้มากอะ  พอฉันดึงสติของตัวเองกลับมาได้ ฉันก็เริ่มเปิดฉากทันทีคะ ( ไม่ใช่ฉากแบบนั้นนะคะ  อย่าเพิ่งคิดไปไกล  อิอิ ) 
   “โชค  แกช่วยขยับห่างออกจากเรามากกว่านี้ได้มั้ย ”  ฉันพยายามควบคุมไม่ให้เสี่ยงสั่น 

   “……………….”   มันไม่ตอบอะไรฉันเลย   แต่แล้วมันก้ยอมเดินถอยหลังออกไป 1ก้าว

   “ ห่างแค่นี้ พอรึยัง ” เหมือนมันจะพูดประชดฉันเลยนะ

   “ ก็ยังดี  ดีกว่าเมื่อกี้อยู่ ” ฉันตอบออกไปสีหน้าเรียบเฉย  ไอ้โชคถึงกับหุบยิ้มหวานๆ ขอนมัน 

   “ ฟิล์มกลัวเราหรอ ” ดูมันทำหน้าทำตาเข้าสิ  กวนตรีนชะมัด 

   “ ป่าว  คือ.....  เราแค่ไม่ชินอะ ”  จริงๆ คือกลัวคะ กลัวมากด้วย  ใครจะไม่กลัวหละคะ ฉันยังเป็นสาวพรมจรรย์อยู่นะยะ 

   “ ไม่ชินกับอะไรหรอ ” มันถามหน้าตาดูจริงจังเอาเรื่อง  ฉันไม่กล้าที่จะสบตามัน จึงหันหลังให้มัน  แอบเสียวสันหลังนิดๆ   

    “ เราไม่เคยนอนกับผู้ชายสองต่อสองหนิ  แถมนี่ยัง  ถอดเสื้อผ้านอนอีก ” ฉันตอบไอ้โชคแบบกล้าๆ กลัวๆ 

   “ 555555555 ”  มันหัวเราะทำไมนะ  ท่าทางจะบ้า  ฉัน งง  ไปหมดแล้ว  จึงอดใจไม่ไหวที่จะหันกลับไปหามันอีกครั้ง   คราวนี้ฉันหันกลับมาพร้อมกับสีหน้าที่ไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่นัก

   “ ขำอะไร  เรื่องที่ฉันพูดมันมีอะไรน่าขำมากนักหรอ ”  ฉันชักจะเริ่มอารมณ์เสีย  มันเห็นท่าทางที่ไม่ค่อยดีของฉันมันจึงหยุดหัวเราะทันที

   “ ป่าว.....  คือ...... เราคิดว่า....... ”  มันตอบอ้ำๆ อึ้งๆ  ยิ่งทำให้ฉันโมโห  เพราะเหมือนฉันจะรู้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ และถ้ามันคิดอย่างนั้นจริงๆ มันกำลังดูถูกฉันมาก  ฉันจึงพูดสวนขึ้นมาทันที

   “ คิดว่าฉันเคยนอนกับผู้ชายมาก่อนใช่มั้ย ”  ฉันขึ้นเสียง  ไม่ไหวแล้วโว้ยยยยย  ฉันไม่พอใจอย่างแรง   มันตกใจ  ตาโต  หน้าซีดไปแล้วคะตอนนี้   

   “ ป่าวนะฟิล์ม  โชคแค่คิดว่า  ผู้ชายส่วนใหญ่เค้าก็ถอดเสื้อผ้านอนกันทั้งนั้น  แต่ถ้าเราทำให้ฟิล์มตกใจ เราต้องขอโทษด้วยนะ  เดี๋ยวเราจะไปใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้แหละ  ”  พูดแล้วมันก็เดินไปใส่เสื้อกับกางเกงที่อยู่ในตู้เสื้อผ้า  ส่วนฉันเองพอได้ฟังเหตุผลของมันก็เริ่มเย็นลง และก็หวนคิดไปถึงพ่อกับน้องชาย  เอ่ออ มันก็จริงนะ  พ่อกับน้องฉันยังถอดเสื้อนอนเลยนี่   พอมันใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้วก็เดินมาหาฉัน 

   “ แบบนี้โอเคป่ะ ”  ฉันยิ้มอ่อนๆ ให้กับมัน  แทนคำตอบ

   “ โชค  เมื่อกี้ฟิล์มขอโทษนะ ที่ขึ้นเสียงกับนาย ” ฉันกำลังสำนึกผิดคะ 

   “ ไม่เป็นไรหรอก  มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด  โชคว่า  ฟิล์มรีบไปนอนเถอะ  นอนดึกเดี๋ยวไม่สวยนะ ”  แอร้ยยย ไอ้บ้า

   “ ถ้าจะไม่สวย ก็คงจะเป็นเพราะวันนี้ไม่ได้กินยามากกว่า  ”  ฉันตอบออกไปแบบงอนๆ  ไอ้โชคเห็นฉันงอนเข้าหน่อย  ก็ขำฉันอีกแล้ว

   “ เวลาฟิล์มงอลเนี่ย  น่ารักจังเลยเน่าะ  เอาไว้โชคจะเลี้ยงข้าวเป็นการชดเชยนะครับ  ”  พูดแล้วมันก็ยิ้มหวาน ทำตาใสปิ้ง  แอะ! น่ารักตายแหละ  555555  และแล้วมันก็ทำให้ฉันอมยิ้มจนได้ 

   ฉันเดินไปนอนบนที่นอนของไอ้โชค  เตียงอะไร นุ้ม...นุ่ม.....  แถมยังห้อม... หอม....  เหมือนเพิ่งซักมาใหม่ๆ เลยอะ  ฉันนั่งอยู่บนเตียง ยังไม่นอนนะ กลัวๆ อยู่  ฉันมองไปหาไอ้โชค  เห็นมันกำลังเอาที่นอนปิกนิค ผ้าห่ม กับหมอน  ออกมาจากตู้เสื้อผ้า  แล้วหอบมาปูที่ข้างๆ เตียงนอนของมัน  ฉันรู้ทันทีว่ามันคงจะอาษานอนข้างล่าง แหม๋ ช่างเป็นสุภาพบุรุษอะไรขนาดนี้นะ  เสร็จแล้วมันก็เดินไปเปิดคอมพิวเตอร์  ไฮโซอะ ที่ห้องของมันมีคอมพิวเตอร์ด้วยคะ  ฉันมองดูว่ามันจะทำอะไร  อ๋อ....  มันกำลังเล่นเกมส์  ห้าทุ่มแล้วนะ มันยังไม่นอนอีกหรอ

   “ โชค  ไม่ง่วงหรอ ”  ฉันถามมันที่กำลังเล่นเกมส์อย่างเมามันส์ 

   “ อ๋อ  ยังเลยอะ ฟิล์มนอนก่อนเลยก็ได้นะ ”  มันพูดกับฉัน  แต่หน้ามันเนี่ยจ้องแต่จอคอมคะ

   “ อ้าว  ก็โชคเล่นเกมส์เสียงดังขนาดนี้ เราจะหลับได้ไงอะ ”  ต่อให้เงียบและปิดไฟก็นอนไม่หลับคะ ใครจะไปหลับลง  นอนกับผู้ชายสองต่อสอง 

   “ จริงดิ  โทษที  งั้นเดี๋ยวเราใส่หูฟังดีกว่า ”  คราวนี้มันหันหน้ามาพูดกับฉันสักที  และกำลังจะลุกไปเอาหูฟัง  ฉันจึงห้ามมันเอาไว้ก่อน 

   “ ไม่ต้องหรอก  ”  มันหยุดชะงักในท่ากึ่งนั่งกึ่งยืน  แล้วทรุดตัวลงไปนั่งกับเก้าอี้อีกครั้ง 

   “ ทำไมหละ ”  มันถามสีหน้าสงสัย 

   “ มันดึกแล้ว  เราว่าโชคน่าจะนอนได้แล้วนะ อีกอย่าง เปิดไฟแบบนี้เรานอนไม่หลับหรอก  ”  ฉันพยายามชักชวนให้มันนอนพร้อมกับฉันให้ได้  ต้องทำคะ  เพราะเกิดฉันนอนก่อน  แล้วฉันหลับไป  แล้วมันมาลวนลามฉันหละคะ  ฉะนั้น ฉันต้องให้มันนอนก่อนฉันให้ได้ เห็นมันหลับเมื่อไหร่ ฉันถึงจะหลับคะ 
   “ งั้นเอางี้  เดี๋ยวเราปิดไฟให้ฟิล์มนอนก็ได้  โอเคมั้ย  ”  มันยังไม่ละความพยายามที่จะเล่นเกมส์คะ 

   “ ไม่ได้  ถ้าโชคไม่นอนพร้อมฟิล์ม  พรุ่งนี้ฟิล์มจะกลับบ้านแต่เช้า  แล้วเราก็ไม่ต้องติวหนังสือกัน ”  ฉันงัดท่าไม้ตายออกมาใช้ด้วยการยื่นคำขาด  ทำเอาไอ้โชคสะดุ้งตกใจ 

   “ โอเคๆ  นอนก็นอนครับ  ปิดคอมแปปนึงนะ ”  เหมือนจะคุยกันรู้เรื่อง  มันปิดคอมแล้วก้เดินไปปิดไฟ 

   ท่ามกลางความมืด ยังพอมีแสงสลัวๆ  ฉันพอมองเห็นมันกำลังเดินมานอนที่นอนของมัน ซึ่งอยู่ข้างล่าง  ข้างๆ เตียงของฉันนี่เอง  มันสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอนด้วยคะ  เสร็จแล้วมันก็หันมายิ้มให้กับฉันพร้อมกับบอกฝันดีราตรีสวัสดิ์  ฉันก็บอกฝันดีมันกลับเหมือนกัน ( ตามมารยาท )  แล้วมันก็นอน  ฉันยังนั่งอยู่บนเตียง  ยื่นหน้าไปดูมัน  เออ... มันนอนจริงๆ ด้วย  หลับตาแล้วอะ  ฉันเองก็เป็นเด็กดีเหมือนกัน  ไม่ลืมที่จะสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน  เสร็จแล้วก็ล้มตัวลงนอน  ทั้งหมอนทั้งที่นอน  นุ่มจับใจเทยจริงๆ  ฉันยังคงไม่หลับตาหรอกนะ ยังคอยส่องดูมันเรื่อยๆ ว่ามันหลับจริงรึยัง   ทำแบบนี้อยู่ได้ไม่นาน ฉันก็ชักง่วงแล้วสิ  แล้วฉันก็ค่อยๆ เคลิ้มหลับ  และหลับไปในที่สุด  Zzzzzzz…….

   “ ฟิล์ม......  ฟิล์ม........ ”  มีเสียงเรียกและมือที่มาสะกิดที่แขนฉันเบาๆ  ฉันจึงตื่นและค่อยๆ ลืมตาขึ้น  กรี๊ดด....  ไอ้โชคมันขึ้นมานั่งบนเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่  ขึ้นมาทำไม   ฉันตกใจตาลุกโต และกลัวมากๆ เลยคะ 

   “ โชค นายขึ้นมาทำไม ” ฉันพูดติดๆ ขัดๆ คงเป็นเพราะความกลัวอีกตามเคย

   “ เรานอนไม่หลับเลยอะ  ไม่เคยลงไปนอนข้างล่าง กลัวๆ ยังไงก็ไม่รู้  ขอเรานอนบนเตียงด้วยนะ ”  มามุกนี้เลยหรอคะไอ้โชค  แหม๋ ไอ้เราก็นึกว่าจะเป็นสุภาพบุรุษ 

   “ จะนอนบนเตียงกับเราหรอ ”  ฉันลุกขึ้นมาถามมัน 

   “ เรานอนไม่หลับจริงๆ นะฟิล์ม  นะๆ  โชคสัญญา  ว่าจะไม่ทำอะไรฟิล์มแน่นอน ”  ฉันถอนหายใจไปหนึ่งฮืด  ทั้งกลัว กลัวมาก   หนักใจมาก  เพราะนี่มันที่นอนของเขา ถ้าไม่ให้เขานอนมันก็จะเกินไป  ฉันจึงตอบตกลง  มันยิ้มดีใจใหญ่เลย   ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบเอาหมอนที่อยู่ข้างล่างมานอนบนเตียง   แปลกแต่จริง ห้องนอนของมันไม่มีหมอนข้างเลยหรอ  เหมือนทุกอย่างถูกจัดฉากเอาไว้หมดแล้ว  อย่างกับละครน้ำเน่าในทีวี

   ฉันทอดกายลงบนที่นอนอีกครั้ง พอหัวถึงหมอนฉันก็หันหน้าไปมองไอ้โชคที่นอนอยู่ข้างๆ มันนอนตะแคงมาทางฉันด้วย  แถมยังยิ้มหวาน  ให้ฉันอีก  ทำเอาฉันสะดุ้งตกใจไปเลยทีเดียว   ฉันกลัวมาก  กลัวจนสั่นไปหมด  หัวใจเต้นระรัว  ตึกๆๆๆๆ  อากาศเริ่มร้อน  ทั้งๆ ที่ห้องนี้ก็เปิดแอร์  เหงิ่อเริ่มออกแล้วคะ  กลัวม้ากกก  ตอนนี้   เราสองคนนอนห่างกันไม่มากนะ  ก็ไอ้โชคหนะสิ  แทนที่มันจะเขยิบไปนอนขอบๆ เตียง  แต่มันดันมานอนตรงกลางกับฉัน  เฮ้อ.....

   “ จะมองอีกนานมั้ย  ”  ฉันถามเจ้าของสายตาคู่นั้นที่กำลังจ้องมองฉันอยู่

   “ อยากมองนานๆ  มองอย่างนี้ไปจนถึงเช้าเลยได้มั้ย ”  มันพูดเสียงอหวาน เล่นเอาฉันเคลิ้มไปเลยจ้ะ

   “ บ้าหรอ แล้วจะได้นอนมั้ย  ”  ฉันตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล

   “ ไม่นอนก็ได้  แค่ได้เห็นฟิล์มนอน  ก็เหมือนได้นอนไปด้วยแล้ว  ”  มันยังพูดเสียงหวานอีก  ฉันนี่เคลิ้มเข้าไปใหญ่เลยคะ  พอตั้งสติได้ก็โต้กลับทันที

   “ นอนได้แล้ว  ถ้าไม่นอน พรุ่งนี้ฟิล์มกลับ  แล้วถ้าทำอะไรฟิล์มแม้แต่นิดเดียว  เราจะได้เห็นดีกัน ”  ฉันพูดขู่มัน  ก่อนจะนอนหันหลังให้มัน  มันก็เสียวเหมือนกันนะ เหมือนนอนให้ท่ามันเลยอะ  แต่เปล่าให้ท่านะ แค่ไม่อยากนอนหันหน้าเข้าหามัน  กลัวมันจูบหนิ  นอนหงายก็กลัวมันหอมแก้ม  คิดไปได้นะเรา  เลือกท่านอนหันหลังให้แล้วกัน ท่านี้คงทำใจให้หลับได้ง่ายที่สุดและ  คืนนั้นฉันนอนกลัวอยู่นาน  แล้วความง่วงก็มาเยือน   ฉันจึงค่อยๆ เคลิ้มหลับไป   Zzzz….. 

   หลับรอบสองจร้า  คราวนี้หวังว่าคงจะถึงเช้านะ  อ้อ....ลืมบอกไป เค้าห่มผ้าห่มคนละผืนหกับไอ้โชคนะ  อิอิ  และแล้วฉันก็นอนหลับสบายจนถึงเช้า  พอฉันเริ่มตื่น  เริ่มจะรู้สึกตัว ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ที่เอวของฉัน ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองดูมัน  เอ้.... ไม่เห็นมีอะไรเลย  เห็นแต่ผ้าห่ม  แต่เอ๊ะ ความรู้สึกนี่มัน...... ฉันเปิดผ้าห่มทางด้านฉันออก  กรี๊ด.......  ไอ้โชค ไอ้คนฉวยโอกาส ไอ้บ้า ไม่รักษาสัญญา  มันเอาแขนของมันมากอดเอวฉันตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย   ฉันตกใจสุดๆ ไปเลยคะตอนนั้น  มองไปดูข้างหลัง เห็นไอ้โชคหลับปุ๋ย   โกรธมากคะบอกเลย  มันแอบมาใช้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับฉันตั้งแต่เมื่อไหร่  แถมยังมากอดฉันอีก  ตัวเราห่างกันแค่นิดเดียวคะ  ไม่งั้นหละก็  หน้าของมันคงซบกับหลังของฉัน และไอ้นั่นของมันคงชนกับตูดฉันแน่ๆ   ฉันจับแขนมันออกจากเอวของฉัน  แล้วลุกออกจากที่นอน มันยังไม่ตื่นอีกคะ  ฉันกลัวฉันอดทนไม่ไหวกลัวตัวเองจะปรี๊ดแตก  จึงเดินลงไปอาบน้ำข้างล่าง    ผ้าเช็ดตัวนี่ฉันใช้ผืนใหม่นะจ้ะ  พอดีมันมีผืนใหม่อยู่ผืนนึง เหมือนมันจะรู้ ว่าฉันจะได้มานอนที่บ้านมัน (คิดมากไปมั้ยเนี่ยเรา) 

   ฉันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็มานั่งรอมันชั้นล่างที่โซฟา หน้าทีวี  เสื้อผ้าฉันใส่ตัวเดิมเมื่อวาน  เพราะที่บ้านไอ้โชคมีเครื่องซักผ้า  ฉันจึงเอาลงไปซักและปั่นในเครื่อง มันจึงแห้งทันใส่ตอนเช้าพอดี  ไอ้โชคเดินลงมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัว กำลังจะไปอาบน้ำนั่นเอง  มันกำลังเดินมาทางฉัน  พอเดินเข้ามาใกล้ฉันมันก็หยุดชะงัก

   “ ฟิล์ม  เป็นอะไรรึ่ป่าว ”  มันคงจะสังเกตเห็นสีหน้าของฉันแปลกไป

   “ โชครู้รึป่าว ว่าโชคทำอะไรลงไป  ”  ฉันพยายามพูดเสียงนิ่ง  กำลังพยายามข่มอารมณ์โกรธของตัวเองเอาไว้  และไม่มองหน้ามัน เพราะกลัวว่าจะโมโหขึ้นมา

   “ รู้ ”  คำตอบสั้นๆ คำเดียว  ฉันถึงกับหันขวับ  โกรธมาก อารมณ์เริ่มมาแล้ว  มันกำลังแสดงออกทางสีหน้าและแววตา  ตอนนี้ฉันทำหน้าดุ ส่งสายตาพิฆาตไปให้ไอ้โชคอย่างเต็มที่  มันถึงกับหน้าซีดเผือด 

   “ รู้แล้วยังทำ  ไหนสัญญาแล้วไงว่าจะไม่ทำ  แล้วทำไมถึงทำ  ความเชื่อใจที่เราเคยมีให้แก  จะให้เอามันกลับคืนมายังไง ”  ฉันพูดเสียงดัง  ตอนนั้นโกรธมาก แทบจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ 

   “ ขอโทษนะฟิล์ม  เราผิดเอง  เราควบคุมตัวเองไม่ได้  เราขอโทษ  ”  ไอ้โชคเริ่มน้ำตาคลอเบ้า
   “ ไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วไปส่งฟิล์มที่บ้านอิสายป่าน ”  ฉันพยายามพูดเสียงเรียบ  พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง  พูดแล้วก็หันหน้าหนี  ไม่อยากมองหน้าเหี้*ๆ ของมัน 

   “ ฟิล์มก็รู้ใช่มั้ย ว่าโชคคิดยังไงกับฟิล์ม  โชคแค่ทำตามหัวใจของตัวเอง  แต่ถ้าความรักที่โชคพยายามแสดงออกและมอบให้กับฟิล์มมันทำให้ฟิล์มเสียใจขนาดนี้  โชคขอโทษ ” มันพูดเสียงสั่นๆ เหมือนมันกำลังร้องไห้ แต่ฉันก็ยังไม่ยอมจะหันหน้าไปมองดูหน้าของมันอยู่ดี  แล้วมันก็เดินเข้าห้องน้ำไป 

   หลังจากที่มันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ  ข้าวเช้าก็ไม่ได้กินกันเลย  มันขับมอไซต์ไปส่งฉันที่บ้านอิสายป่าน  โดยมีฉันเป็นคนบอกทาง  นอกจากเรื่องบอกทางแล้วเราก็ไม่ได้คุยกันเรื่องอื่นเลย  จนกระทั่งถึงบ้านอิสายป่าน  ฉันลงจากรถมอไซต์ของมัน  แล้วหันหลังกลับมามองหน้ามัน  ฉันทำหน้านิ่ง   เห็นมันที่กำลังจ้องมองดูฉันอยู่   สีหน้าแววตาดูเศร้ามาก   ฉันพูดขอบใจมันไปคำเดียว   แต่มันไม่พูดอะไรตอบกลับมาหาฉันเลย แล้วมันก็ขับมอไซต์ออกไป 

   ฉันมาหาอิสายป่าน เพราะบอกกับพ่อว่ามาค้างบ้านอิสายป่าน ฉันกะจะให้มันไปส่งฉันที่บ้าน  เพื่อให้พ่อเชื่อว่าฉันมานอนบ้านมันจริงๆ  ฉันเดินเข้าไปเคาะประตูบ้านมัน  แล้วมันก็ออกมาเปิดประตู 

   “ อ้าวมึง มาได้ไงวะเนี่ย  ”  อิสายป่านทำหน้าแปลกใจที่เห็นฉันยืนอยู่หน้าประตูบ้านมัน

   “ มึง ไปส่งกูที่บ้านหน่อย  ”  ฉันพูดเสียงเบา  เหมือนคนหมดเรี่ยวแรง

   “ เออๆ  แต่กูขออาบน้ำก่อนนะ จะเข้ามารอกูในบ้านก่อนมั้ยหละ ”  มันทำหน้า งงๆ   ฉันส่ายหัวเบาๆ 

   “ เดี๋ยวกูไปซื้อนมที่ร้านค้าก่อน  แล้วจะมานั่งรอมึงที่หน้าบ้านนะ มึงอาบน้ำเร็วๆ หละ กูอยากกลับบ้านแล้ว ”  ฉันพูดเสียงอ่อยๆ  อิสายป่านยิ่งทำหน้า งง เข้าไปใหญ่  มันจะสังเกตเห็นความไม่สบายใจบนสีหน้าของฉันมั้ยนะ 

   “ เออๆ  มีไรค่อยเล่าให้กูฟัง กูไปอาบน้ำแหละ ”  เหมือนมันจะรู้นะว่าฉันมีเรื่องไม่สบายใจ   ฉันพยัคหน้าเบาๆ  แล้วเดินไปที่ร้านค้าใกล้ๆ บ้านอิสายป่าน เพื่อไปซื้อนมมากิน เพราะตอนนั้นหิวข้าวมาก 

   ฉันหยิบนมโอวันติลมากล่องหนึ่ง  กับแซนวิสชิ้นหนึ่ง  แล้วมาจ่ายเงินที่เค้าเตอร์  ฉันเดินออกมาจากร้าน   และกำลังจะเดินกลับบ้านอิสายป่าน  แล้วเสียงเรียกนั้นก็ดังขึ้นมา  มันเป็นเสียงที่คุ้นหู  เป็นคำที่หยาบคายเอามากๆ 

   “ เฮ้ยๆ  ใช่มึงจริงๆ หรอวะ อีกะเทย ”  ฉันหยุดเดิน  โกรธมากที่มีไอ้บ้าที่ไหนมาเรียกแบบนี้  ฉันหันมาตามเสียงเรียก  ตกใจตาลุกโต  จะเป็นใครไม่ได้ที่อยู่ตรงหน้าฉัน  มันคือไอ้เต้นั่นเอง 

   ไอ้บ้า ไอ้ป่าเถื่อน  ฉันนี่ซวยจริงๆ เลย   หนีเสือปะจระเข้ชัดๆ  ให้ตายเถอะ   ฉันมาคนเดียวซะด้วย ไม่มีใครคอยปกป้องแบบนี้  มันจะทำอะไรฉันมั้ยเนี่ย    :katai1:

....................................................................

********  ตอนที่  8  Coming  Soon……            


ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
เฮียเต้โผล่มาแล้ว  :m29:
หวังว่าคงมาดีน่ะ เฮียเต้  o18
ตื่นเต้น ลุ้นๆ  :z2:

ออฟไลน์ Film-mii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด