ตอนที่ 4 ระหว่างเพื่อนกับแฟน Part 2/2 ทุกๆ วันหลังเลิกเรียนเทยจะต้องอยู่แต่กับบ้านเป็นส่วนใหญ่ และวันนี้ก็เช่นกัน เฮ้ออออ...... คิดไปแล้วมันก็น่าเบื่อนะคะ ชีวิตกะเทยวัยเจริญพันธ์ต้องมานั่งเฝ้าบ้านเนี่ย ไม่ใช่แค่เฝ้าบ้านอย่างเดียว พอเลิกเรียนมาน้องเทยก็ต้องกวาดบ้าน ล้างจาน หุงข้าว ทำการบ้าน เปิดทีวีดูกับน้องชาย โชคดีหน่อย อย่างน้อยก็ยังพอมีไอ้น้องชายนี่แหละที่คอยต่อปากต่อคำ พอให้แก้เหงาได้บ้าง แต่เห็นพวกเราสองคนจิกกัดกันแบบนี้ เราสองคนก็รักกันมากเลยนะคะ น้องเทยก็ออกแนวโหดๆ เถื่อนๆ ประเภทที่ว่า ใครทำอะไรมึงให้บอกกู เดี๋ยวกูจะไปอัดมันเอง แอร๊ยยยย......... ป่าเถื่อน ชอบใช้แต่กำลังเป็นที่สุด แต่ก็ดูพึ่งพาได้นะค้า..... เวลาล่วงเลยมาจนจะสามทุ่มแล้ว แปลกจัง วันนี้ทำไมรู้สึกเหนื่อยม้ากกก เพลียร่างที่สุด เทยจึงปลีกตัวออกจากหน้าจอทีวีก่อนคนอื่นๆ แล้วเดินเข้าห้องนอน ทิ้งตัวลงบนที่นอนด้วยร่างกายที่อิดโรย และค่อยๆ หลับตาลง กำลังจะเคลิ้มหลับอยู่แล้วเชียว เสียงพ่อก็ดังขึ้น “ ไอ้ฟิล์ม....” พ่อตะโกนร้องเรียกชื่อเทยซะเสียงดัง ทำให้เทยสะดุ้งตื่นขึ้นมา และหอบสังขารอันสะลึมสะลือไปเปิดประตู เห็นพ่อยืนหน้าตาเคร่งขรึมอยู่หน้าห้องพร้อมกับยื่นโทรสับมาให้ และพูดเสียงดุบอกว่าเพื่อนโทรมา เทยรับโทรสับมาแบบงงๆ ก่อนที่พ่อจะเดินลงบันไดไป ตึ้ม....เสียงปิดประตูดังขึ้น เทยเดินกลับไปที่นอนแล้วค่อยๆ ทอดกายลงบนที่นอนอีกครั้ง แล้วยกมือถือขึ้นมาแนบที่ข้างหู ได้แต่คิดในใจ แมร่ง!! อิเพื่อนคนไหนโทรมาวะ เดี๋ยวแม่จะด่าให้ลืมตื่นเลย
“ ฮัลโหล...... ” น้ำเสียงบ่งบอกว่าง่วงมากถูกเปล่งออกมาอย่างงัวเงีย
“ ................ ” เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับ สงสัยจะกลัวโดนฉันด่าแน่ๆ เลย อย่าให้รู้นะว่าใคร แมร่งหนิ
“ใครอะ พูดมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ” เทยก็ยังคงงัวเงียอยู่เหมือนเดิม
“ เราเอง.... ” น้ำเสียงที่แตกเนื้อหนุ่มของผู้ชายดังขึ้นมาจากหมายเลขปลายทาง เอ๊ะ !!! เมื่อกี้นี่มัน เสียงผู้ชายนี่หว่า หรือกะเทยหน้าไหนโทรมาอำฉันเล่น ชักจะเริ่มโมโห
“ เราเอง.... เราไหนหละ ไม่บอกชื่อแล้วฉันจะไปตรัสรู้ด้วยมั้ยยะ ” บอกแล้วว่าอย่าให้เทยต้องโมโห
“ โห….. วัยรุ่นใจร้อนจังเลยคร้าบ....... ผมโชคคร้าบ..... โชคเองคร้าบ..... ” น้ำเสียงที่ยียวนกวนประสาทดังมาจากเลขหมายปลายทางอีกครั้ง มันน่า……นักเชียว
“ โชคหรอ โทรมาไรดึกดื่นป่านนี้อะ ไม่หลับไม่นอนรึ่ไง หรือเป็นโรคจิตชอบโทรมาหาล่าเหยื่อตอนกลางคืน ” เทยโมโหจึงเหวี่ยงไอ้โชคไปเบาๆ โทษฐานที่นางมาขัดจังหวะการนอนของเทย
“ ป่าวสักหน่อย ก็แค่อยากคุยด้วย อยากได้ยินเสียงหวานๆ ของฟิล์มก่อนนอน ไม่ได้เลยหรอ.... ” เข้าใจพูดนะคะน้ำเสียงออดอ้อนเชียว
“ อืมๆ ได้ยินแล้วใช่ป่ะ ได้ยินแล้วก็ไปนอนดิ งั้น.....แค่นี้นะ ” เทยกำลังจะวางสาย เสียงไอ้โชคก็ดังขึ้น
“ อย่าเพิ่งดิ กว่าจะได้คุยกับฟิล์ม นี่ลำบากมากเลยนะรู้มั้ย ” เทยเริ่มหงุดหงิดแล้วนะ ง่วงนอน จะวางสายก็ไม่ยอมให้วาง
“ ลำบากอะไร ??? ” เทยถามอย่างสงสัย
“ ก็เราอะให้น้องสาวของเราเป็นคนคุยโทรสับกับพ่อฟิล์ม เพราะเรากลัวว่าถ้าเราพูดเอง พ่อฟิล์มจะไม่ยอมให้เราคุยกัน นี่ขนาดให้น้องบอกพ่อว่าเป็นเพื่อนนะ พ่อยังถามเซ้าซี้อีกตั้งหลายอย่างอะ พูดกับพ่ออยู่ตั้งนานสองนาน กว่าจะยอมให้คุยกับฟิล์ม เห็นป่ะว่าลำบากมากแค่ไหน ” โอเครรร สาทะยายเข้าไป แต่คนที่ดูจะลำบากมากกว่าก็คือน้องของแกนะไอ้โชค ที่ต้องมาตกเป็นเครื่องมือของแกเนี่ย
“ โอเคๆ คือเอาตามตรงนะ ตอนนี้เราง่วงมากๆ เลยอะ พรุ่งนี้ค่อยคุยกันแล้วกันนะ ” พูดจบเทยก็รีบวางสายทันที ตู๊ด.............. ไม่ไหวจะเคลียร์ตาจะปิดอยู่แล้วเนี่ย...... ยังจะมาชวนคุยอีก ฉันไม่แคร์อะไรทั้งนั้นคะ เพราะ ณ ตอนนี้สิ่งที่ฉันต้องการมากที่สุดก็คือการหลับตานอน เฮ้อ.... คงได้เวลานอนจริงๆ แล้วสินะ น้องเทยค่อยๆ หลับตาลง แล้วเวลาแห่งการพักผ่อนก็ดูจะราบรื่นดี เพราะไม่มีเสียงเรียกหริอเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกเลย เฮ้อ..... เทยได้นอนเต็มอิ่มจนถึงเช้าสักที
ที่โรงเรียน กรี๊ง.............. ( เสียงออดของโรงเรียนดังขึ้น ) เวลาพักเที่ยงมาถึงสักที หิวข้าวจนไส้จะขาดเถอะ กะเทยสามนางทานข้าวจนอิ่มหนำสำราญ ก็ถึงเวลาเม้าท์มอยกันสิคะ หัวข้อในการเม้ามอยจะเป็นเรื่องอื่นไปไม่ได้เลย นอกจากเรื่องความสวยความงามกับเรื่องผู้ชาย........
“ อิฟิล์ม..... กูว่าไอ้โชคมันแปลกๆ นะมึง ” อยู่ดีๆ อิสายป่านก็พูดเรื่องไอ้โชคขึ้นมาและมองหน้าเทยอย่างสงสัย
“ แปลก.... แปลกยังไงของมึงคะ ” เทยไม่เข้าใจที่อิสายป่านพูดเลยต้องถามกลับอย่างสงสัยในความหมายของคำว่าแปลก
“ ก็อยู่ดีๆ มันก็อยากไปส่งมึงที่บ้าน แล้วก็อยากมานั่งทานข้าวกับมึง มึงว่ามันแปลกมั้ยหละคะ ” หา..... มึงพูดว่าไอ้โชคอยาก แล้วมึงไปรู้กับมันได้ไงคะว่ามันอยาก อินี่พูดไม่ทันไรก็โป๊ะแตกคะ
“ มึงรู้ ว่ามันอยาก นี่กูคิดว่าเหตุการณ์ทั้งหมดมันเกิดขึ้นโดยบังเอิญมาตลอดเลยนะ ที่แท้มึงก็อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี่เอง ชั่วได้ใจกูมากเลยนะอิดอกทอง ” เทยพูดเหน็บแนมอิเพื่อนทรยศ
“ โอ้ย อิห่า มึงจะด่าจะว่ากูให้มันได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาคะ กูจะบอกอะไรให้พวกมึงรู้ ตั้งแต่เรียนด้วยกันมา ม.1 จนถึงตอนนี้ ไอ้โชคมันยังไม่เคยจีบใครเลยนะเว้ย ” เอ้า!! อิห่าหนิ เสือกเรื่องของชาวบ้านอีกแระ
“ มึงจะบอกว่า พฤติกรรมของไอ้โชคที่แสดงออกกับอิฟิล์ม คือการจีบ??? ” อิกระต่ายเองก็ดูจะสงสัยกับคำพูดของอิสายป่านเหมือนกัน
“ ฉันก็แค่สงสัยยะ แต่ยังไม่ฟันธงหรอกนะ พวกหร่อนคอยดูต่อไปละกัน ”
“ เออๆ ช่างเหอะ อิฟิล์ม เมื่อวานกูเจอไอ้เต้ เพื่อนไอ้โต๊ดด้วยคะ ” การเปลี่ยนเรื่องคุยของอิกระต่ายนี่ไม่ได้ทำให้อะไรๆ มันดีขึ้นเล้ยยยย อิพวกนี้ พาฉันคุยแต่เรื่องผู้ชาย ให้ตายสิ เบื่อพวกมันจริงๆ เลย
“ ไอ้เต้ เพื่อนต่างโรงเรียนของไอ้โต๊ดใช่ป่ะ โห..... มึง..... สเป็คกูเลยอะ อยากได้อยากโดน ” แหม๋ อิสายป่าน ดูแกจะตื่นเต้นมากๆ เลยนะ กับอิแค่ผู้ชายคนเดียวเนี่ย แต่เทยนี่สิ ทั้งเบื่อทั้งเซ็งมันสองคน กะเทยอะไร บ้าผู้ชายจริงๆ
น้องเทยหละเอือมระอากับอิเพื่อนสาวสองคนนี้เต็มที จะพูดเรื่องผู้ชายที่ไหนก็พูดไปสิยะ ทำไมต้องมาพูดเรื่องไอ้โชค ไอ้เต้ ไอ้โต๊ดด้วยหละหนิ ถึงเวลาที่เทยต้องเบี่ยงประเด็นความสนใจของพวกมันออกจากเรื่องนี้สักที ก่อนที่เทยจะทนไม่ไหว เทยจึงชวนคุยเรื่องความสวยความงาม พวกเราคุยกันเรื่องครีมทาผิวหน้าและผิวกาย คุยกันว่าจะซื้อยี่ห้อไหนดี ถึงจะเหมาะกับผิวกายหยาบๆ และผิวหน้ามันๆ ของพวกเรา และแล้วพายุที่เกรี้ยวกราดก็โหมกระหน่ำเข้ามาใส่ฝูงกะเทยสามนาง แต่เอ๊ะ ดูเหมือนฉันจะโดนพายุเล่นงานอยู่คนเดียวนะเนี่ยย....
“ ฟิล์ม !! ” เสียงเรียกที่คุ้นหูดังขึ้น เทยหันกลับไปมอง เจอไอ้โชค ที่กำลังทำหน้าบึ้งตึงใส่เทยอยู่
“ มีอะไรหรอโชค ” ฉันทำเป็นแอ๊บแบ้วไร้เดียงสาไป แต่ในใจลึกๆ ก็พอจะรู้แล้วแหละ ว่าสาเหตุที่ทำให้ไอ้โชคโกรธถึงขนาดนี้คงเป็นเรื่องที่ฉันตัดสายโทรศัพท์ของมันเมื่อคืนนี้แหง๋ๆ เลย
“ เมื่อคืนตัดสายเราทำไม ” น่าน....ไงหละ ว่าแล้วเชียว เรื่องนี้จริงๆ ด้วย
“ อ๋อ..... เราก็บอกโชคแล้วหนิ ว่าเราง่วงนอน ใจคอโชคจะไม่ให้ฟิล์มนอนเลยหรอ ” แหมะ ฉันนี่ก็แสดงละครเก่งจริงๆ เลยนะเนี่ย ตีบทนางเอกผู้น่าสงสารจนแตกเปรี้ยงเลยหละคะ เอาซี้ ถ้ามันไม่ใจอ่อนก็ให้มันรู้ไป
“ โชคก็แค่ อยากคุยกับฟิล์มนานกว่านี้หน่อยเท่านั้นเอง ” ดูเหมือนว่าพายุจะเริ่มสงบลงแล้วสินะ ท่าทางดุดันเมื่อกี้มันหายไปไหนหมดคะ เหลือแต่ผู้ชายที่ดูสุภาพ อ่อนโยน
“ ไว้คืนนี้โชคค่อยโทรมาใหม่แล้วกัน เดี๋ยวเราจะขอโทรศัพท์กับพ่อไว้ แต่ขอเป็นหลังละครหลังข่าวจบนะ ” อ๋อยผู้ชายไม่เป็นคะ ใสๆ วัยรุ่นชอบ อิอิ
“ แล้วไหนบอกว่าง่วง นอนดึกไม่ได้ไม่ใช่หรอ ”
“ปกติก็นอนสี่ทุ่มห้าทุ่มนะ แต่เมื่อวานไม่รู้เป็นอะไร ง่วงมากเลยอะ ก็เลยนอนแต่หัวคำหน่อย ”
“ ครับ งั้นโชคไปเตะบอลกับเพื่อนก่อนนะ เดี๋ยวคืนนี้โทรหา ” ไอ้โชคพูดไปยิ้มไป ผสมกับท่าทางที่ดูเขินอาย อย่าบอกนะว่า มันจะคิดอะไรกับเราจริงๆ
“ ว้ายยยย.... โป๊ะเช่ะ กูว่าแล้วไงคะ ชัวร์เลย เรด้ากูจับสัญญาณได้คะ” อิสายป่านดูท่าทางมั่นใจในความคิดของตัวเองมากคะอิดอกก.....
“ เฮ้ย!! อิฟิล์ม มึงให้เบอร์โทรศัพท์กับมันตอนไหนยะ อิดอกก แรดมากกก แรดเงียบ แรดเรียกแม่เลยนะมึง ” นี่มึงด่ากูแรงไปมั้ยคะอิกระต่าย เดี๋ยวกูไม่ให้ลอกการบ้านเลยหนิ
“ หุบปากของพวกมึงได้แล้ว แล้วก็หยุดคิดอะไรอุบาทๆ สักที ”
“เอ้า... อินี่ ” เสียงประสานของอิเพื่อนตัวแสบสองนางอุทานขึ้นเสียงดัง
“ อุบาทตรงไหนยะ แล้วมึงรู้หรอว่าพวกกูคิดอะไร กูจะบอกให้นะ ว่าความคิดของกูนี่ สดใสงดงาม มากกว่าใบหน้าเน่าๆ ของมึงอีกคะ ” สิ้นเสียงด่าของอิสาย เสียงหัวเราะดังขึ้น 5555555 อิเพื่อนตัวแสบสองคนหัวเราะชอบใจเสียงดังอย่างไม่อายคนในโรงอาหารเลย พวกมึงคงสนุกมากสินะได้ด่ากูเนี่ย อิพวกเพื่อนเลว.....
ใกล้ถึงเวลาที่จะต้องเข้าเรียนในภาคบ่ายแล้ว กะเทยสามนางก็พากันเดินบิดตูดกำลังจะขึ้นห้อง ไม่ทันจะได้ขึ้นบันไดเลยซะด้วยซ้ำ มีฝูงชะนีกลุ่มนึงมีกันประมาณสัก 6 คน เดินลงมาจากบันไดมาปะหน้ากับพวกเราทั้ง 3 คนพอดี ทั้ง 2 ฝ่ายจึงต้องหยุดเดินเพราะต่างฝ่ายก็ต่างขวางทางกัน และเหมือนจะไม่มีฝ่ายไหนยอมหลีกด้วย จะใครหนะหรอคะ ก็แฟนสาวของไอ้โต๊ดกับเพื่อนๆ ของมันอีก 5 คนน่ะแหละ และหนึ่งในนั้นก็มีอีชะนีเตี้ยปากแดงซะด้วย ฉันจะมันได้ดีเลยแหละ เพราะมันขัดขาฉันจนสะดุดล้ม ถ้ามีโอกาส ฉันต้องเอาคืนมันแน่ ไม่รู้ว่าการเจอกันครั้งนี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ หรือจงใจกันแน่ แต่ถึงยังไง ฉันก็ไม่กลัวคะ
“ อ้าววว นึกว่าใคร ที่แท้ก็อิกระเทยหน้าด้าน ชอบแย่งผัวชาวบ้านนี่เอง ” อิแฟนสาวของไอ้โต๊ดที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าแก๊งค์พูดน้ำเสียงประชดประชัน แต่เสียใจคะ มันไม่สะทกสะท้านแม้แต่ปลายเล็บของฉันเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะสิ่งที่มันพูดกล่าวหาฉันมันไม่ใช่ความจริง เพราะฉะนั้นเทยจึงไม่เป็นเดือดเป็นร้อนคะ
“ ขอโทษ ก็ผู้ชายมันให้ท่าฉันเอง แล้วจะให้ฉันทำยังไงหละ” ต้องพูดยั่วให้มันโมโหสักหน่อยแระจะได้สะใจเทย
“ อิหน้าด้าน ผู้ชายหล่อๆ อย่างแฟนกู ไม่เอากะเทยอย่างมึงให้เสียชาติเกิดหรอกหวะ ” อุ้ย ด่าแรงนะเนี่ย เทยสะแยะยิ้มมุมปากให้เบาๆ แล้วกัน
“ งั้นก็ไปบอกให้แฟนแกไปตายเกิดใหม่ซะเถอะ เพราะถ้าไม่รีบ มันอาจจะห้ามใจตัวเองไม่ไหว แล้วมาจิ้มฉัน เดี๋ยวมันจะเสียชาติเกิดเอา ” 55555555 คำพูดของฉันคงดูสะใจอินางเพื่อนสาวสองคนมาก ถึงกลับกั้นหัวเราะไว้ไม่ไหวเลยหรอคะเพื่อนสาว ฉันก็เช่นกันคะ 55555555 สะใจเบาๆๆ
“ สายป่าน นี่มึงไปเข้าพวกกับมันตั้งแต่ตอนไหน มึงไม่กลัวเสนียดติดตัวมึงหรอ ” อิชะนีเตี้ยปากแดงที่เคยขัดขาเทยตั้งประโยคคำถามให้กับอิสายป่าน ทีแรกเทยก็นึกว่าพวกนางเป็นเพื่อนสนิทกันซะอีก แต่ดูท่าทางจะไม่ใช่แระ เพราะอยู่กันคนละห้อง และอีกอย่างนางก็อยู่แก๊งค์เดียวกันกับแฟนไอ้โต๊ดอีก แล้วทำไมวันที่ไปแกล้งเทยถึงไปด้วยกันได้นะ คำถามนี้วนเวียนเข้ามาในหัวของเทยทันที
“ กระเทยเป็นเพื่อนกัน มันแปลกตรงไหนคะอิเหม่ง ถ้าจะให้กูกลัว กูกลัวติดเสนียดกับชะนีอย่างพวกมึงมากกว่า ” กรี๊ดดดดด สายป่านนน นางพูดได้ถูกใจฉันมาก และคำตอบที่อิเหม่งได้รับก็ค่อนข้างชัดเจนแล้วนะว่าอิสายป่านมันเลือกอยู่ข้างใคร 5555555
“ สายป่าน ตั้งแต่รู้จักกันมา เราไม่เคยมีเรื่องกันแม้แต่ครั้งเดียวเลยนะ หรือวันนี้เธออยากจะประกาศตัวเป็นศัตรูกับพวกฉัน ” แฟนสาวไอ้โต๊ดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูจะไม่พอใจเอามากๆ
“ ฉันไม่เคยอยากมีเรื่องกับใครทั้งนั้น แต่ถ้ามีใครมาหาเรื่องฉันกับเพื่อนฉันก่อน โดยสัญชาตญาณของกะเทยแล้ว เพื่อนเจ็บ เท่ากับเราเจ็บ ใครทำเพื่อนกู กูจะตามไปเอาคืน ” อิสายป่านเริ่ดมากกก นางพูดน้ำเสียงหนักแน่น อย่างไม่เกรงกลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น นี่สิ ถึงจะเหมาะเป็นเพื่อนกับเทย อิสายป่านและแฟนสาวไอ้โต๊ดจ้องหน้ากันไม่กระพริบตา สีหน้าดุดันราวกับจะตบกันตรงนี้ให้ได้
“ ทำอะไรกัน !!! ” เสียงชะนีที่ไหนเนี่ย ดังมาจากข้างหลังของเทย แต่ก็เป็นเหมือนเสียงสวรรค์ ที่ทำให้ทุกคนเปลี่ยนประเด็นความสนใจออกจากตรงนี้ไปอยู่ที่เจ้าของเสียงเมื่อกี้ เทยเองก็หันหลังกลับไปมองเช่นกัน ถึงกับตกใจ เมื่อชะนีที่เจอก็คือเพื่อนสาวสุดเลิฟสมัยประถม ไม่ค่อยได้เจอกันเลย เจอบ้างเป็นบางครั้งแต่ก็แค่ผ่านๆ ไม่ได้มีเวลาทักทายกันสักเท่าไหร่ และดูนางเองก็ตกใจอยู่ไม่ใช่น้อยที่เห็นหน้าเทย
“ ฟิล์ม....... ” นางอุทานชื่อฉันขึ้นมา
“ พวง........” ฉันอุทานชื่อนางขึ้นบ้าง ถือเป็นการทักทายกันในรอบ 2 ปีเลยทีเดียว
“ พอได้ยินมาบ้าง ว่ามีเด็กใหม่เข้ามาเรียนที่นี่ ไม่นึกว่าจะเป็นแก ดีใจจริงๆ เลย ” ท่าทางและน้ำเสียงที่ดูจะดีอกดีใจ ทำเอาอิแฟนสาวไอ้โต๊ดและแก๊งค์ของพวกมันถึงกับงง
“ ฉันก็รู้อยู่ ว่าแกเรียนที่นี่ ว่าจะไปหาอยู่ แต่ไม่รู้ว่าแกอยู่ห้องไหนนี่สิยะ เจอแกวันนี้ก็ดีแล้ว จะได้ถามไถ่ให้รู้สักที ว่างๆ จะได้ไปเล่นด้วย ” ท่าทีที่ดูเหมือนเป็นมิตรของเราสองคนยิ่งทำให้พวกนาง งง มากขึ้น
“ พวง.... นี่เธอรู้จักกับอิกะเทยคนนี้ด้วยหรอ ” แฟนสาวของไอ้โต๊ดถามขึ้นอย่างสงสัย
“ รู้สิ ก็เค้าเป็นเพื่อนสนิทของฉัน เราเรียนด้วยกันมาหกปี อยู่ห้องเดียวกันมาตลอด และก็สนิทกันมาก เธอมีปัญหาอะไรกับเพื่อนของฉันรึ่ป่าว ” แม่นางพวงพูดเสียงแข็ง เหมือนกับรู้ว่าเทยกับอิพวกนี้กำลังมีปัญหากัน ท่าทางที่ดูก้าวร้าวเหมือนจะหาเรื่องเมื่อกี้หายไปไหนหมดแล้วหละ ดูพวกนางคงจะกลัวแม่นางพวงไม่ใช่น้อย เพราะแม่นางพวงไม่ได้เดินมาคนเดียวแต่เดินมากับแก๊งค์ของนางอีก 6 คน รวมกับนางก็เป็น 7 คน และที่สำคัญคือเพื่อนในแก๊งค์ของนางแต่ละคนตัวโตๆ สันใหญ่ๆ กันทั้งนั้น เทียบกับแก๊งค์ของอิแฟนสาวไอ้โต๊ดหนะหรอ โอ้ยย ต่างกันราวฟ้ากับเหว เพราะแต่ละนางรูปร่างบอบบาง แต่งหน้าจัดๆ แถมยังมีอิเตี้ยปากแดงอีก มันน่ากลัวซะที่ไหนหละคะ
“ เปล่า ไม่มีไร ป่ะพวกเรา ขึ้นห้อง ” เสียงออกคำสั่งของนางแฟนสาวไอ้โต๊ดได้พาตัวมันและแก๊งค์ของมันเดินลากเท้าขึ้นบันไดไป
“ โอ้ยยย ใจหายใจคว่ำหมด ดีนะเนี่ยที่แกมาทัน ไม่งั้นตบกันมันแน่เลย ” อิกระต่ายพูดพรางถอนหายใจเสียงดัง ฮืดดดดดดด
“ มีอะไรให้บอกฉัน ยังไงเราก็เพื่อนกัน เข้าใจใช่มั้ย ” แม่นางพวงท่าทางเป็นห่วงเป็นใยเทยเหลือเกิน เทยจึงพยัคหน้าตอบรับความช่วยเหลือจากนาง แล้วพวกเราก็เดินขึ้นอาคารเรียนพร้อมกัน เทยและเพื่อนสาวสุดเลิฟเองก็ไม่ลืมที่จะคุยกัน ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ พูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน
ตอนนี้ก็ค่ำแล้ว ถึงเวลาของครอบครัวที่อบอุ่น ได้มานั่งดูละครหลังข่าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน ถ้าเป็นแบบนี้ทุกวันคงดีสิ เพราะบางวันเพื่อนพ่อก็จะชอบชวนพ่อออกนอกบ้านไปกินเลี้ยงสังสรรค์ แต่พักหลังมานี่ไม่ค่อยเห็นมาชวนเลยแฮะ ทำให้ครอบครัวของเราได้มีช่วงเวลาที่อบอุ่นด้วยกัน อ้าวววว นี่เพิ่งจะสามทุ่มครึ่งเอง ละครช่องห้าพ่อจบ นี่พ่อจะไปนอนแล้วหรอเนี่ย พ่อเอื้มมือไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ที่โต๊ะกระจกหน้าโซฟา แล้วลุกเดินไปที่ประตูห้องนอนที่อยู่ชั้นล่าง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ดูทีวีมากนัก เทยต้องชิงยืมโทรศัพท์ก่อน ไม่งั้นไอ้โชคโดนพ่อดุแน่ๆ เลย ไม่ทันที่พ่อจะเดินไปถึงประตูห้องนอนหรอก เทยจึงฉุดรั้งพ่อเอาไว้ก่อน
“ พ่อ เดี๋ยวก่อน ” พ่อหยุดฝีก้าวและหันกลับมาถามเทย
“ มีอะไร พ่อจะรีบไปนอน พรุ่งนี้ต้องตื่นไปทำงานแต่เช้า ” พ่อพูดเสียงดุมาเชียว แล้วอย่างนี้หนูจะกล้ายืมโทรศัพท์มั้ยเนี่ย เอาวะ เทยจึงรวบรวมความกล้า แล้วขอยืมโทรศัพท์กับพ่อ
“ พ่อ.... หนูขอยืมโทรศัพท์หน่อยดิ เพื่อนบอกว่าจะโทรมาหาหนะ ” ขนาดว่ารวบรวบความกล้าแล้วนะเนี่ย น้องเทยยังกล้าๆ กลัวๆ พูดตะกุกตะกักอยู่เลย พ่อมองหน้าเทยสักพัก แต่เทยนี่สิสบตาพ่อแล้วก้มหน้าเป็นระยะๆ บอกตามตรงเลยว่า ณ จุดนั้น กลัวโดนพ่อถามอีก แล้วจะตอบว่ายังไงดีหละทีนี้ แต่ผิดคาดคะ พ่อไม่ถามเซ้าซี้
“ เดินมาเอาดิ พ่อจะรีบไปนอน ” ว้าววว พ่อใจดีจังเลยอ่า..... ไม่รีรอคะ เทยรีบเดินไปเอาโทรศัพท์กับพ่อทันที แล้วมานั่งดูทีวีกับแม่และน้องชายต่อ นึกว่าจะรอด ที่ไหนได้ ยังเหลือแม่อีกหนึ่งคน แม่จ้องมองหน้าเทยอย่างสงสัย แต่คราวนี้เทยกลับไม่รู้สึกกลัวเลยแฮะ จะกลัวทำไมหละ ก็สายตาที่แม่มองเรามันช่างอบอุ่นเหลือเกิน แล้วแม่ก็ยิ้มให้กับเทย และเทยเองก็ไม่พลาดที่ยิ้มตอบเหมือนทุกๆ ครั้ง
“ เพื่อนคนไหนจะโทรมาหาหรอลูก ” แม่ถามด้วยความเป็นห่วง ฉันรู้สึกและสัมผัสได้
“ ก็เพื่อนใหม่ที่โรงเรียนใหม่นั่นแหละจ้ะ ”
“ อย่ามัวแต่คุยกันจนดึกดื่นหละ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปโรงเรียนนะรู้มั้ย ”แม่ส่งความรู้สึกเดิมๆ มาให้กับเทย อุ่นไอรักนี้แผ่ปกคลุมไปทั่วหัวใจดวงน้อยๆ ของเทยแล้วคะคุณแม่
“ ค่ะแม่ ” คำตอบสั้นๆ ที่ทำให้เราโอบกอดกันอย่างมีความสุข ส่วนไอ้น้องชายของเทยหนะหรอ มันก็นั่งมองดูเราสองแม่ลูกกอดกันและยิ้มจนแก้มปริอยู่ข้างๆ แม่นี่หละคะ
หลังจากที่ละครหลังข่าวของช่อง 7 สี และช่อง 3 จบแล้ว เทยจึงเดินขึ้นห้องมานอนรอรับโทรศัพท์ไอ้โชค เมื่อไหร่มันจะโทรมานะ คงไม่โกหกเทย ให้เทยรอเก้อหรอกนะ ไม่งั้นพรุ่งนี้เราจะได้เห็นดีกัน พอความคิดจบลุงปุ๊บ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นปั๊บ เทยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู หน้าจอโทรศัพท์โชว์หมายเลขที่คุ้นเคย เทยจึงแน่ใจว่าไอ้โชคโทรมาแน่นอน เทยจึงกดรับโทรศัพท์
“ ฮัลโหล....... ”
“ ดีใจจังเลย ที่ได้ยินเสียงฟิล์ม นึกว่าจะได้ยินเสียงพ่อซะอีก ” คำพูดที่ดูเหมือนจะเหน็บแนมเล็กน้อยดังขึ้นมาจากโทรศัพท์
“ ถ้ารู้ว่าปากเก่งขนาดนี้ ให้พ่อรับสายแทนซะก็ดี ” เทยพูดประชดประชันไอ้โชค
“ โอ้ย...... อย่าเลยนะ เราอยากคุยกับฟิล์มอะ ไม่ได้อยากคุยกับพ่อ ” แหม๋.... เลิกปากเก่งทันทีเลยนะคะไอ้โชค น้ำเสียงออดอ้อนซะเหลือเกิน
“ หรอ...... ว่าแต่มีเรื่องไรจะคุยอะ รีบๆ พูดมาเลยนะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า ” เทยเริ่มชักนำให้เข้าประเด็นสักที
“ ก็ไม่มีไรมากหรอก แค่อยากจะบอกว่า ฟิล์มน่ารักมากเลยนะ!! ” กรี๊ดๆๆๆๆๆ ไอ้โชคบ้า พูดอะไรออกมายะ กะเทยก็เขินเป็นเหมือนกันนะ เทยได้แต่นั่งยิ้ม ท่าทางเขินอาย บิดตัวจิกหมอนไปมา
“ ……………. ” ไม่มีเสียงตอบรับจากฉันเป็นเวลาสักพักนึง
“ ฟิล์ม หลับแล้วหรอ ทำไมไม่เห็นคุยกับโชคเลยอะ ” คำถามของไอ้โชคสะกิดให้ฉันต้องหลุดออกจากภวังค์
“ ป่ะป่าว........ ฟังอยู่ โชคมีอะไรอีกมั้ย ” แอ๊บเนียนสิคะงานนี้ ต้องพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต้องไม่แสดงออกว่าเราเคลิบเคลิ้มกับชื่นชมของมันเป็นอันขาด
“ ฟิล์ม..... โชคเพิ่งชมว่าฟิล์มน่ารักไปเมื่อกี้เองนะ ฟิล์มไม่รู้สึกอะไรเลยหรอ ”
“ ก็รู้ว่าโชคบอกว่าเค้าน่ารัก ขอบใจนะ ” เทยพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
“ ครับ ฟิล์ม โชคมีอะไรจะบอก โชครู้ว่ามันอาจจะเร็วเกินไป แต่โชคอยากจะบอกฟิล์มว่าโชครู้สึกแบบนี้กับฟิล์มจริงๆ ”
“ โชคอยากจะบอกอะไรเค้าหรอ ” เทยแกล้งถามออกไป ทั้งๆ ที่ในใจก็มีคำตอบให้กับตัวเองอยู่แล้ว
“ โชครักฟิล์มนะ!! เป็นแฟนกันมั้ย!!! ” กรี๊ดดดดดดด มันตอบตามที่ฉันคิดจริงๆ ด้วย ช่างกล้าเน่าะไอ้โชค คำตอบของแกทำให้ฉันอึ้งตะลึงงันไปเลยคะ เทยต้องรวบรวมสติ ก่อนจะตอบกลับไป
“ คือ............. ” ไม่ทันจะได้พูดอะไรหรอกคะ ไอ้โชคก็ตัดบทขึ้นมา
“ คือไรหละฟิล์ม ก็แค่ตอบโชคมาว่าจะคบหรือไม่คบ ตอบมาดิ ” ไอ้โชคเร่งรัดเอาคำตอบจากเทย
“ คบ!! คบเป็นเพื่อนกันไปก่อนได้มั้ย เรายังไม่พร้อม ” เทยตอบกลับเสียงสั่น เอ๊ะ นี่ฉันกำลังกลัวอะไรอยู่กันแน่ ทำไมต้องเสียงสั่น ใจเต้นระรัวถึงขนาดนี้
“ …………… ” ไม่มีเสียงตอบกลับจากไอ้โชค
“ ขอเวลาเราหน่อยนะ เรายังไม่กล้าตัดสินใจอะไรตอนนี้ ขอเวลา ให้เราได้รู้จักโชคมากกว่านี้ก่อน ถึงเวลานั้น เราจะให้คำตอบ ว่าเราสองคน เหมาะที่จะเป็นอะไรกัน ” เทยรู้ว่าคนที่ถูกปฏิเสธคำขอก็คงจะเสียใจไม่ใช่น้อย แต่สิ่งที่เทยพูดออกไป เทยคิดว่ามันคือคำปลอบโยนที่ดีที่สุดในตอนนั้นแล้ว
ตู๊ด......... ตู๊ด............ ตู๊ด........... ไอ้โชควางสายโทรศัพท์ โดยไม่มีคำพูดใดๆ ออกมาจากปากของมันเลยแม้แต่คำเดียว หรือมิตรภาพระหว่างเราสองคนจะจบลงเพียงแค่นี้ --___--
***** ตอนต่อไป ตอนที่ 5 Coming Soon.....