♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- SPECIAL TRACK : พรหมลิขิต+แจ้งข่าว P. 25
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ไหนๆ นิยายใกล้จะจบแล้ว เลยสอบถามความสนใจรวมเล่มค่ะ

สนใจ
ไม่สนใจ
รวมก็ดี ไม่รวมก็ได้

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- SPECIAL TRACK : พรหมลิขิต+แจ้งข่าว P. 25  (อ่าน 269023 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จะเอาฮาใช่ไหมคิว  คุณหมอคะหมาขนทองโผล่มาแล้วน่ะ มาระวังให้อัลด้วยเร็วๆ

ออฟไลน์ Mokuchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
'เห็นหัวตรูบ้าง ไอ้พวกฝรั่ง' คิวคงคิดแบบนี้  555555555

หมอวาเตรียมปวดหัวได้เลยค่ะ อิหมาขนทองมันมาแล้วว

ออฟไลน์ ★KVH™★

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
หมอวา มาเก็บแมวอ้วนนี่ด่วนเลย
ทอมมาตอนเดียวแย่งซีนหมอไปหมดแล้วเนี่ย  :hao5:
ปล.อลันจ๋าห่างๆหมาขนทองนี่ไว้นะ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
คิวทำหน้าที่ไม้กันหมาได้ดีมาก ขนาดมีบุคคลที่สามอัลกะทอมยังหวานไม่แคร์สื่อ
อัลชัดเจนกะทอม แต่ทอมจะรับได้ไหมถึงความเปลี่ยนแปลง
หมอวากลายเป็นอากาศไปเลยตอนนี้

ออฟไลน์ igaga

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-4
อ่านแล้วคิดถึงหมอวา 555+

ออฟไลน์ pim-lovemj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :m16: อิหมาทอม จะมาทำไมเนี่ย กลัวน้องอัลหวั่นไหวอ่ะ ยิ่งช่วงนี้พี่วาไม่ค่อยมีเวลาด้วย
น้องอัลอย่าใจอ่อนให้หมาทอมรังแกเอานะลูก

ออฟไลน์ VarainDark

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อ้อนเยอะไปแล้วนะไอตัวแสบ
ระวังหมอวาโกรธน้าาาาาา

ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 16 [23.11.15]
«ตอบ #190 เมื่อ23-11-2015 13:00:52 »

TRACK 16



“Holy shit! ชิบลอส ฉิบหาย หายนะสุดๆ”

“บ่นเหี้ยอะไรของมึงเนี่ย” การันต์ขออนุญาตไม่สุภาพด่ารุ่นน้องไปที หลังทิวากานต์ทำหน้าเหมือนเห็นผีแล้วงึมงำพ่นคำหยาบออกมาเป็นชุดตอนใกล้จะถึงหอประชุมอันเป็นจุดหมายจนต้องชะงักเท้าตามอีกคนไปด้วย

“ไอ้หมานั่น”

คุณหมอวัยสามสิบชี้นิ้วไปที่ฝรั่งตัวโตผมทองหน้าตาหล่อจัดสวมสูทผูกไทเรียบร้อยยืนพ่นควันอยู่หน้าทางเข้าหอประชุมที่ใช้จัดการประกวดดนตรีวันนี้ การันต์มองยังไงก็คนไม่ใช่หมาแน่ๆ

“จะพูดว่าไอ้หมอนั่นหรือเปล่า” เขาช่วยแก้ให้

“หมาถูกแล้วครับ นั่นอะหมาส่วนนี่อ่าหมอ” ทิวากานต์ยังยืนยันคำเดิมด้วยการชี้นิ้วไปที่ชายหนุ่มคนเดิมและชี้นิ้วมาที่ตัวเองไม่ลืมชี้ไปที่การันต์ด้วยตอนพูดคำว่าหมอ

“รู้จักเหรอ หล่อดีนะ เด็กๆ มองกันตาเยิ้มเลย”

“นิดหน่อยครับ เป็นเพื่อนซี้ไอ้ตัวแสบมัน อยู่คฤหาสน์หลังโตชานเมืองลอนดอน มีน้องอีกหกคน เป็นผู้หญิงหนึ่ง ฝาแฝดคู่ ผมทองตาสีฟ้าหน้าตาเหมือนกันทั้งบ้าน เลี้ยงโกลเด้นอีกเจ็ดตัว ขับบีเอ็มเอ็กซ์ไฟว์ เป็นอดีตกัปตันชมรมรักบี้ ตอนนี้เรียนวิศวะการบินอยู่ที่มิวนิค อนาคตจะเข้ากองทัพอากาศตามบรรพบุรุษ ว่างๆ รับจ๊อบเป็นนายแบบ เพิ่งเสียซิงไปเมื่อเดือนมิถุนาที่ผ่านมากับสาวลูกครึ่งจีน - อังกฤษนางหนึ่ง”

“ไม่นิดแล้วมั้งนี่มันยิ่งกว่ารู้จักอีกนะ” นายแพทย์รุ่นพี่ฟังแล้วถึงกับมองแรงใส่รุ่นน้อง “แต่ฟังมาก็โปรไฟล์ดีนี่ทำไมถึงไม่ชอบล่ะ”

“เด็กนั่นเพอร์เฟ็กต์ทุกอย่าง เสียอย่างเดียว...”

“เป็นพวกล่มปากอ่าวหรือไง” นายแพทย์รุ่นพี่ให้ความเห็นกวนๆ แต่ก็แอบคิดจริงจังเพราะมีหลายคนที่เขารู้จักเป็นแบบนี้จริงๆ หากคำตอบจากปากทิวากานต์พาลพาให้เขานึกไปถึงนิยายน้ำเน่ากล่อมใจสาวเปลี่ยวหาสาระไม่เจอของอี แอล เจมส์

“เป็นซาดิสม์ครับ ยังไม่แสดงออกชัดบนเตียงและไม่รู้ตัวเองว่าเป็น”

“เดี๋ยว... แล้วเอ็งไปรู้กะเขาได้ไงวะ หรือว่า...”

“ไม่ใช่ผม” ทิวากานต์รีบปฏิเสธพลางเสยผมขึ้นเปิดหน้าผาก ตาคู่คมจ้องโธมัสเขม็ง ทั้งตกใจและประหลาดใจพอสมควรที่เห็นไอ้หมาสองขามาโผล่อยู่แถวนี้ เขากับการันต์เดินต่อเข้าไปใกล้พอให้อีกฝ่ายสังเกตเห็น

“ไฮล์ ด็อก เป็นไงบ้าง” โธมัสฉีกยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวซี่โตเรียงเป็นระเบียบ ชูมือข้างที่คีบบุหรี่อยู่ขึ้นโบก

“แปลกใจนิดหน่อยที่เห็นนายที่นี่ตอนนี้แทนที่จะเป็นห้องเลคเชอร์ที่ไหนสักแห่งในมิวนิค” เขายื่นมือไปจับก่อนถูกโธมัสดึงไปกอดแบบไม่ออมแรง ช่วงไหล่ลงมาถึงหน้าอกกระแทกเข้ากับกล้ามล่ำๆ ของอีกคนจนเจ็บไปหมด แม่ง...ต้องการประกาศสงครามกันชัดๆ

“เซอร์ไพรส์น่ะ มาให้กำลังใจอัล”

“พยายามดีมาก” คุณหมอหนุ่มว่าประชดหน้าซื่อตาใส

“ลียอนมาฟ้องว่าด็อกมีคนรักแล้ว เขาเสียใจมาก แต่นั่นแหละ...เขาต้องรู้จักการอกหักบ้างเป็นสีสันชีวิต ว่าแต่ไม่พาคนรักของด็อกมาด้วยกันเหรอ หรือว่า...” ตาสีฟ้าสดปรายมองไปยังชายหนุ่มด้านข้างการันต์

“นี่รองศาสตราจารย์นายแพทย์การันต์เป็นรุ่นพี่ฉันที่โรงพยาบาล”

“โอ - ไอ - ซี ผมโธมัส กริฟฟิสธ์ เรียกทอมก็ได้ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” โธมัสยื่นขาหน้า เอ๊ย มือออกไปจับกับคุณหมออีกคนพร้อมฉีกยิ้มสดใสเหมือนพระอาทิตย์ให้อีกฝ่าย

“ยินดีที่ได้รู้จัก เรียกฉันว่ารันก็ได้”

“แล้วนายเจออัลหรือยังล่ะ” ทิวากานต์รีบแทรกขึ้นมาก่อนที่การันต์จะหลุดอะไรเกี่ยวกับเขาและอลันด์ออกไป

“เจอแล้วครับ อัลกำลังเช็คเสียงอยู่ข้างในกับคุณนภ ผมว่างเลยเดินออกมาสูบบุหรี่ เอาสักหน่อยไหมด็อก” เด็กหนุ่มทำท่าล้วงบุหรี่ออกมาจากเสื้อสูทแต่ถูกทิวากานต์ห้ามไว้ก่อน

“ไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันพยายามเลิกบุหรี่อยู่”

“อ่อ... เหมือนอัลเลยนะ หมอนั่นก็กำลังเลิก หักดิบเสียด้วย”

“เราสัญญากันไว้” ทิวากานต์ยักไหล่ ไม่อธิบายขยายความอะไรเพิ่มปล่อยให้คนฟังคิดไปเอง แน่นอนว่าโธมัสคิ้วกระตุกทันทีที่ได้ยิน

“ดีจริงๆ ผมกลายเป็นแบดบอยคนเดียวเลย”

“สาวๆ ชอบแบดบอยนี่ ได้ข่าวมาเหมือนกันว่านายเพิ่งคบกับนางแบบสาวสวยสุดเซ็กซี่ ไม่พาเธอมาด้วยล่ะ”

“เธอติดงานน่ะ อีกอย่างผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับที่กลาสตันเบอรี่ ด็อกรู้ดีนี่นาว่าอัลหวงผมมากกก”

ถ้าส่งไฟฟ้าผ่านสายตากันได้ คงได้เห็นแสงไฟแล่นแปลบปลาบระหว่างสองหนุ่มหล่อต่างวัยกันแน่ ทิวากานต์จ้องตากับโธมัสเขม็ง บรรยากาศมาคุจนเรียกได้ว่าเป็นการพบกันของศัตรูมากกว่ามิตร

“เอ่อ...ข้างนอกแดดมันร้อนนะว่าไหม ฉันว่าเราเข้าไปข้างในกันเถอะ” คนอาวุโสสุดเสนอขึ้นทั้งที่ตอนนี้เมฆฝนกำลังตั้งเค้าอยู่เหนือหัว แต่เป็นโชคดีที่สองหนุ่มเห็นด้วยกับเขา

โธมัสดับบุหรี่ในมือเดินนำคุณหมอทั้งสองเข้าไปหาแอร์เย็นเฉียบในหอประชุมจนการันต์ต้องห่อไหล่ บนเวทีมีนักศึกษากลุ่มใหญ่กำลังทำการซาวนด์เช็ค ที่นั่งด้านล่างมีนักศึกษาทั้งคนดู กองเชียร์ และนักดนตรีมาจับจองพื้นที่กัน มองซ้ายมองขวาครู่เดียวก็เจออลันด์นั่งอยู่กลางวงชายหนุ่มหน้าเดิมๆ ที่มาเป็นกำลังใจให้ตั้งแต่การประกวดครั้งที่แล้ว

ทั้งสามเดินเข้าไปหาเด็กลูกครึ่ง ได้ยินเสียงพูดคุยสลับเสียงหัวเราะมาแต่ไกล เด็กหนุ่มดูสบายๆ ไร้ความตื่นเต้นแม้ว่าวันนี้จะเป็นการแข่งครั้งสุดท้ายก็ตามที บนตักมีกีตาร์ไฟฟ้าที่จะใช้เย็นนี้วางอยู่พลางขยับนิ้วไล่ฟังเสียงไปทีละโน้ต เช็คแล้วเช็คอีกกับนภจนมั่นใจว่าเพื่อนรักจะไม่ทำขายหน้าบนเวทีจึงยอมปล่อยมือ พอดีกับเงยหน้าขึ้นมาเจอทิวากานต์ใบหน้าขาวถึงเผยรอยยิ้มกว้าง

“ไง ไม่ตื่นเต้นเลยนี่หว่า” คุณหมอยื่นมือออกไปขยี้หัวสีช็อกโกแลตนมจนยุ่ง เขากับการันต์ยกมือรับไหว้จากนภและเพื่อนอีกสองคนของเจ้าตัว

“โหย แค่นี้ ธรรมดามาก” ไอ้ตัวแสบปัดมือทิวากานต์ออกจากหัวแล้วรีบสางผมจัดทรงให้เข้าที่ก่อนหันไปยกมือไหว้การันต์ “พี่รันสวัสดีครับ นั่นทอมเพื่อมผม รู้จักกันแล้วใช่ไหมครับ”

“อืม เจอกันข้างหน้านี่เอง แล้วเจ้าคิวไปไหนล่ะ วันนี้ไม่มาเชียร์หรือไง”

“วิ่งไปซื้อน้ำข้างนอกน่ะครับเดี๋ยวคงมา” การันต์พยักหน้ารับรู้ มองดูคนตอบถูกทิวากานต์จับล็อคคอกระซิบกระซาบคุยเป็นภาษาไทยกันสองคน แค่นี้ก็รู้แล้วว่าไม่ต้องการให้หนุ่มผมทองรับรู้ด้วย

“ทำไมไม่บอกก่อนว่าไอ้หมาขนทองนั่นมาด้วย”

“ใครจะไปคิดว่าทอมจะมา ผมเองก็ตกใจเหมือนกันนั่นแหละ”

“อย่างน้อยส่งข้อความมาบอกกันหน่อยก็ยังดีเฟ้ย”

อลันด์ยกมือลูบหัวตรงที่ถูกคุณหมอโตแต่ตัวเขกเอา ปากอิ่มเบะออก สงสัยเขม่นกับทอมแล้วหงุดหงิดพาลมาลงกับเขาแหง

ก่อนได้โวยวายเอาเรื่องคนินทร์ก็เดินหิ้วถุงใส่แก้วน้ำกลับเข้ามาพอดี เขายกมือไหว้ทิวากานต์กับการันต์ปะหลกๆ แล้วค่อยส่งน้ำให้แต่ละคนตามที่สั่ง เสียงพูดคุยดังขึ้นอีกหนจนเกือบเป็นความวุ่นวายกระทั่งนักศึกษาที่เป็นเฮดจัดงานครั้งนี้ประกาศออกไมค์เรียกให้เหล่าผู้เข้าประกวดไปเตรียมตัวแสตนด์บายหลังเวทีถึงได้สงบลง

กลุ่มของนภกับอลันด์ลุกขึ้นหิ้วอุปกรณ์ดนตรีทยอยกันเข้าไปด้านใน (ถ้าทิวากานต์จำไม่ผิดเหมือนว่าวันนี้เพื่อนๆ ของนภจะมาช่วยเล่นแบ็คอัพให้ไอ้ตัวแสบในเพลงสุดท้าย)

“พี่อุตส่าห์โดดงานมาเชียร์อย่าทำให้พี่ผิดหวังนะน้องแสบ ถ้าวันนี้ชนะเดี๋ยวพาไปเลี้ยงซูชิ” พวกเด็กๆ โห่ร้องทันทีที่ป๋าการันต์พูดจบ แต่ละคนสีหน้าแช่มชื่นขึ้นมาทันทีหมายมาดจะฟาดซูชิราคาแพงกันเต็มที่ จากประสบการณ์ครั้งที่แล้วก็บอกอยู่ว่ารสนิยมคุณหมอคนนี้ดีแค่ไหน ถ้าไม่ใช่ร้านเด็ดร้านดังป๋าการันต์ไม่พาไปเลี้ยงแน่นอน

ทิวากานต์กลั้นยิ้ม พอได้มาคลุกคลีกับเด็กๆ แล้วก็พลอยกระชุ่มกระชวยขึ้นมาเหมือนกัน แม้ปกติจะต้องคลุกคลีกับเด็กนักศึกษาอยู่แล้ว แต่เด็กพวกนั้นวันๆ เอาแต่ก้มหน้าอ่านหนังสือ มีแหกคอกมาบ้างก็ยังไม่สดใสเท่าเด็กพวกนี้ คิดแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนแก่ แต่จะแคร์อะไรขนาดการันต์ที่พอจะเป็นพ่อเด็กพวกนี้ได้ยังไม่คิดเลย

คุณหมอวัยสามสิบดึงมือขาวไว้ตอนที่ทั้งหมดหันหน้าเดินไปทางเวที เขาบีบมือกระชับให้กำลังใจขยับปากพูดแบบไร้เสียงออกมาเป็นประโยคเดียวกับเมื่อเช้า เท่านั้นนักร้องหนุ่มลูกครึ่งก็มีกำลังใจเต็มเปี่ยม ฉีกยิ้มกลับมาให้

“วันนี้จะแรดอีกไหม”

“ถ้าแรด อาร์ - เอ - ดี ล่ะแน่นอน แอม โซ แรดอยู่แล้ว ยูก็รู้นี่” พูดไทยคำอังกฤษคำ เห็นนิ่งๆ แบบนี้ความจริงตื่นเต้นสุดๆ

“อย่าเห็นว่าไปแรดใส่ใครก็แล้วกัน ฉันงับหัวแน่”

“ช่วยไม่ได้นะ คนมัน RAD อ่ะ” พูดจบก็หัวเราะคิกคักกับมุกของตัวเอง อลันด์ฉีกยิ้มกว้างมองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครมองอยู่ก็รีบเขย่งเท้าหอมปลายคางคนตัวโตกว่าไวๆ “ขอบคุณนะ สำหรับทุกอย่างเลย”

“เก็บไว้ขอบคุณคืนนี้ดีกว่า” เขาตบก้นไล่อีกคนให้เดินเข้าไปเตรียมตัวหลังเวทีสักที ตาสีน้ำตาลเข้มมองเด็กฝรั่งเดินหันหลังให้เพลินๆ กำลังอารมณ์ดีกลับต้องสะดุดกึกตอนเห็นไอ้หมาขนทองฉุดแขนอลันด์ไว้ก่อน เขาอยู่ไกลเกินกว่าจะได้ยินสองคนนั้นคุยกัน แต่แค่เห็นโธมัสดึงปกคอเสื้อให้ตั้งขึ้นแล้วก้มหน้าลงไปจูบปากกับเด็กของเขาเท่านั้นก็มากพอให้คุณหมอขี้หวงอารมณ์บูด

ถึงจะห้ามให้อลันด์ไม่ไปแรดใส่ใครแต่เขาคงลืมไปว่ามีหมาอยู่อีกตัวที่จ้องจะงาบเด็กเขาอยู่ทุกวินาที!

ศัลยแพทย์สองคนมองดูโธมัสรับแก้วพลาสติกใบที่สองจากคนินทร์ไปดูดจ๊วบๆ เหมือนเด็กสามขวบทั้งที่เมื่อกี้เพิ่งจูบเพื่อนผู้ชายไปต่อหน้านักศึกษานับสิบให้สาวน้อยสาวใหญ่กรีดร้องกันประหนึ่งเพิ่งเห็นโศกนาฏกรรมของโลกมนุษย์เกิดขึ้นตรงหน้า

“ฉันเข้าใจล่ะ” ตอนนี้การันต์ชักเข้าใจแล้วว่าทำไมรุ่นน้องถึงสบถออกมายาวเหยียดตอนที่เห็นหนุ่มผมทองคนนี้ เขาตบบ่าหนุ่มรุ่นน้องปุๆ พูดเพียงเท่านั้นก่อนส่ายสายตาหาที่นั่งชมการประกวดพร้อมกับคนินทร์ แน่นอนว่าเรื่องนี้เสี่ยจะไม่ยุ่ง!

ทิวากานต์ยืนกอดอกรอจนโธมัสเดินเข้ามาใกล้ยักคิ้วล่อตีนและทำการยั่วโทสะเขาอีกระลอกด้วยการชูแก้วในมือขึ้นตรงหน้า “ด็อกดื่มโนมเยนหน่อยไหม หวาน มัน หอมเหมือนอัลเลย แบ่งๆ กัน”

“ขอบคุณแต่ไม่ต้อง ฉันไม่ชอบแชร์ของร่วมกับใคร”

หนุ่มลูกเสี้ยวเยอรมันแสร้งทำหน้าตกใจโอเว่อร์แอคติ้ง ก่อนหรี่ตาลงแล้วยักคิ้วให้คุณหมอหน้าดุ “โอ้ว... ไอ - ซี จะจำไว้”



การแสดงของอลันด์เริ่มขึ้นหลังจากวงดนตรีที่เข้ารอบสองวงแรกแสดงจบไป เด็กหนุ่มเดินขึ้นมาบนเวทีพร้อมกีตาร์ไม้ตัวใหญ่ของมาร์ติน แอนด์ โค รอจนพิธีกรคู่เดิมกับวันแรกแนะนำตัวให้เสร็จเขาถึงกล่าวสวัสดีกับคนดูสั้นๆ เช่นเคย

ไฟในหอประชุมค่อยๆ หรี่ลงจนมืดสนิทมีเพียงแสงไฟจากสปอร์ตไลท์เพียงดวงเดียวเท่านั้นที่ฉายลงมากลางศีรษะเด็กหนุ่มช่วยขับโครงหน้าชัดเจนอย่างคนตะวันตกให้ยิ่งน่ามอง ไหนจะปกคอเสื้อที่ดึงตั้งขึ้นมานั่นอีก วันนี้เจ้าหนูจากเมย์แฟร์หล่อร้ายจนสาวๆ กรี๊ดกร๊าดกันน่าดู

ทิวากานต์สบสายตากับคนบนเวทีเงียบๆ เขาเชื่อว่าเด็กตัวแสบของเขาจะต้องทำได้และทำได้ดีมากในการประกวดวันนี้ ต่อให้มิสเตอร์เอเดลมาร์ไม่ชอบใจแต่ต้องยอมรับเลยว่าไม่มีอะไรจะหยุดยั้งพรสวรรค์ของอลันด์ได้อีกแล้ว เด็กหนุ่มคนนี้เกิดมาพร้อมความสามารถในการเป็นศิลปินเต็มตัว

‘I'll wait here for you for I'm broken down.
I'm coming down this town for my heart lies
Far and away where they took you down.
Led them over to your house where I'm broken.’

ทั้งที่ฉันจะรออยู่ตรงนี้เพื่อเธอเพื่อฉันที่แตกสลาย
ฉันกลับต้องลงมายังเมืองไกลแสนไกล ณ ที่เธอถูกทำลายไร้ค่า
ฝังกลบใจฉันไว้ที่นี้
ให้พาพวกเขาไปยังบ้านของเธอที่ที่ทำฉันปวดร้าว

‘Down by the people if they let you breathe.
Don't give a damn if you still can't see, still my heart beats for you.’

รู้สึกแย่เพราะผู้คนเหล่านั้นยังปล่อยให้เธอมีชีวิตใช่ไหม
เช่นนั้นอย่าได้โทษใครเลยถ้าเธอยังไม่เห็นว่าฉันมีชีวิตอยู่เพื่อเธอ

‘Have become all I lost and all I hoped for.
But I must carry on always one
Never broken.’

ถึงฉันจะต้องสูญเสียทุกอย่างกับสิ่งที่เคยหวังไว้
แต่ฉันจะยืนหยัดต่อไปเพื่อเป็นที่หนึ่ง
จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด

‘Down in the valley where the church bells cry,
I'll lead them over to your eyes!
Whoa, oh, I am one
I am one.’

ณ หุบเขาที่ระฆังโบสถ์กังวานก้อง
ฉันจะพาเหล่าผู้คนไปแสดงให้เธอเห็น!
ฉันนี่แหละ
ฉันที่จะไม่มีวันยอมแพ้

เสียงปรบมือดังกึกก้องทันทีที่บนเวทีเงียบลง วันนี้เจ้าเด็กลูกครึ่งมีเสน่ห์มากกับกีตาร์อะคูสติกขนาดใหญ่กว่าตัว ฟันกระต่ายที่โผล่ออกมายามอ้าปากร้องทำให้เจ้าตัวดูน่ารักขึ้นมาหน่อย กระนั้นกลับกดคอร์ดและเคลื่อนไหวนิ้วทั้งสิบดีดสายกีตาร์ออกมาได้หนักแน่นชัดเจนสลักลึกเข้าไปในใจคนฟัง ไหนจะสปอร์ตไลท์ฉายลงมาที่เจ้าตัวให้เจิดจรัสเพียงคนเดียวทั้งหอประชุมอีกนั่น

หากชื่นชมกับเนื้อเพลงให้กำลังใจแบบหยิ่งยโสนั่นได้ไม่ทันไหร่ บรรยากาศบนเวทีก็เปลี่ยนไป กีตาร์ไฟฟ้าถูกหยิบมาใช้แทนตัวเดิม มีนักดนตรีแบ็คอัพอีกสองคนประจำตำแหน่งกลองกับเบส(เพื่อนนภนั่นแหละ)

เสียงกีตาร์แหลมหูดังขึ้นพร้อมกับเสียงกลองเป็นจังหวะตุบๆ ยามเสียงแหบห้าวของอลันด์ตะคอกผ่านลำคอออกมาประสานกับดนตรีเหล่าผู้ชมที่เพิ่งนั่งนิ่งซาบซึ้งกับเพลงเมื่อครู่ทุกคนในหอประชุมก็เริ่มขยับตัวตามจังหวะเพลงที่เร้าขึ้นมา พอหมดช่วงฮุคแรกเด็กลูกครึ่งไม่ให้ทุกคนปล่อยหยุดพักหายใจ เขาจงใจตีคนดูต่อด้วยโซโล่กีตาร์อันแพรวพราวที่เอาทุกคนเฮลั่นกรีดร้องและตบมือเกรียวกราว โธมัสกับคนินทร์ถึงขั้นลุกขึ้นมาเป่าปาก และจบการแสดงไปอย่างสวยงามด้วยเสียงเชียร์ดังอยู่เกือบนาที

ทิวากานต์กับโธมัสใจตรงกันขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นอลันด์กำลังเดินลงจากเวทีหลีกทางให้ผู้เข้าประกวดรายอื่นทำการแสดงต่อไป ทั้งคู่รีบลุกขึ้นวิ่งไปด้านหลังเวทีจะเข้าไปแสดงความยินดีด้วยแต่ก็ยังช้ากว่านภที่อยู่ข้างเวที นักร้องหนุ่มกอดรัดเด็กฝรั่งเสียจมอก

“เก่งมากแสบ ทำได้ดีมาก วันนี้ต้องได้รางวัลกลับบ้านสักอันแน่ๆ”

“ขอบคุณครับ” แขนขาวยกขึ้นกอดตอบอีกฝ่าย ตื่นเต้นจนหน้าแดงไปหมด บนเวทีเมื่อกี้มันสุดๆ ไปเลย

“วันนี้ถึงไม่ได้รางวัลก็ต้องฉลอง” หนุ่มไฮโซเดินมาขยี้หัวสีน้ำตาลเล่นจนยุ่งไปหมด ส่วนหนุ่มครึ่งญี่ปุ่นอีกคนก็เข้ามากอดรัดนัวเนีย

ทิวากานต์พยายามไม่คิดมาก มันก็แค่การแสดงความยินดีของเพื่อน ถึงอย่างนั้นก็ไม่ชอบใจอยู่ดี เป็นอีกครั้งที่เขาใจตรงกับโธมัส อดีตกัปตันรักบี้เองก็หน้าบูดหน้าบึ้งรีบแทรกเข้าไปดึงอลันด์ออกมาฟัด และด้วยขนาดตัวที่ใหญ่เกินชาวบ้านเขาไปหลายไซส์จึงไม่มีใครสามารถเข้าคลุกวงในเด็กเมย์แฟร์ได้อีกแม้แต่คนเดียว

.
.
.

การประกวดดนตรีจบไปแล้วตอนสามทุ่มเวลาเดิม ผู้ชนะการประกวดครั้งนี้เป็นวงโฟร์แบนด์จากคณะศิลปศาสตร์ ส่วนเด็กลูกครึ่งจากพาณิชยศาสตร์และการบัญชีได้ที่สอง แต่แค่นั้นเจ้าตัวแสบก็ยิ้มแก้มปริยืนถือซองเงินรางวัลพลางลูบคางแก้เขินบอกว่าความจริงที่ประกวดไม่ได้หวังรางวี่รางวัลอะไรแค่อยากร้องเพลงบนเวทีอีกแค่นั้นเอง

นภได้ยินแบบนั้นเชื้อนักดนตรีจากพ่อก็ลุกโชนตั้งใจวางแผนปลุกปั้นอลันด์เต็มที่ เตรียมหางานให้เด็กฝรั่งได้แสดงฝีมือกันรัวๆ

การันต์เองก็เปรยขึ้นมาเหมือนกันว่าเพื่อนร่วมรุ่นเทรนคนหนึ่งของทิวากานต์(หมอกวินไงจำได้ไหม)กำลังจะแต่งงาน ตอนนี้มองหานักดนตรีอยู่ และแนวดนตรีแบบที่เจ้าตัวเล่นก็เหมาะกับงานแต่งแบบนี้พอดี ถ้าเจ้าบ่าวเจ้าสาวเขาโอเคเดี๋ยวป๋ารันจะจ้างเองถือว่าให้เป็นของขวัญแต่งงาน เรียกว่าคุณหมอวัยเกือบสี่สิบคนนี้ทั้งรักทั้งหลงพร้อมดันน้องรุ่นลูกเต็มที่ไม่ให้น้อยหน้าใคร

หลังจากนัดกันเรียบร้อยว่าจะแยกกันขับรถไปเจอกันที่ร้านอาหารเลย หนุ่มลูกเสี้ยวเยอรมันตัวโตก็จับเพื่อนรักขึ้นคอวิ่งเหยาะๆ เรียกสายตาคนแถวนั้นได้เป็นกระบุง อลันด์ใช้สองมือขยุ้มผมสีทองยึดไว้หัวเราะคิกคักถูกใจสั่งให้หมาที่กลายร่างเป็นม้าชั่วคราววิ่งไปนู่นมานี่ทั่วสนามบอล ปล่อยทิวากานต์ยืนกอดอกอยู่ที่รถมองดูเด็กสองคนสร้างโลกส่วนตัวหมาแมว ทั้งหวงทั้งฉุนแต่มีความสุขมากกว่า ถ้าไม่มีเรื่องที่โธมัสจ้องจะงาบเพื่อนตัวเองเขาต้องยอมแพ้ในมิตรภาพของสองคนนี้จริงๆ

เกือบห้านาทีที่โธมัสวิ่งแบกอลันด์จนหมดแรงถึงยอมกลับมาที่รถ แต่ชายหนุ่มยังคงยึดเพื่อนตัวเท่าอกไว้แน่น เดินกระเตงๆ อุ้มอลันด์เข้าเอวมาหาทิวากานต์ในสภาพเหนื่อยหอบหากรอยยิ้มฉาบเต็มใบหน้า คุณหมอแซวสองเพื่อนซี้นิดหน่อยลูบหัวลูบหางเด็กทั้งคู่อีกนิดก็ต้อนขึ้นรถตามคนอื่นไปหาอะไรใส่ท้องเสียที

ร้านที่การันต์จองไว้อยู่ย่านทองหล่อ เพราะฉะนั้นกว่าจะมากันครบองค์ก็จวนใกล้ร้านจะปิดเต็มที พรุ่งนี้เด็กๆ ก็มีเรียนกันต่ออีกจึงทำได้แค่รีบกินแล้วแยกย้ายกันบ้านใครบ้านมัน

มื้อนี้ป๋าการันต์บอกแล้วว่าตั้งใจเลี้ยงเลยไม่ยอมให้ใครช่วยหารเด็ดขาด แม้แต่อลันด์ที่จะเอาเงินรางวัลมาช่วยก็ถูกบอกให้เก็บเงินไว้ซื้อขนมกิน คุณป๋าเลยจ่ายเน้นๆ ราคาซื้อสมาร์ทโฟนค่ายดังรุ่นเรือธงได้สองเครื่อง

โธมัสขอตัวออกไปสูบบุหรี่ข้างนอกหลังจากล้มเหลวกับความพยายามใช้ตะเกียบบนโต๊ะอาหาร เจ้าตัวแค้นจัดถึงขั้นประกาศกร้าวว่าจะกลับไปซ้อมจนกว่าจะใช้ตะเกียบคีบลูกปิงปองให้ได้ สมกับเป็นพวกบ้าจริงๆ หลังหนุ่มอังกฤษหายไปสักพักเพื่อนของนภก็ตามออกไปด้วยอีกสองคน บนโต๊ะเลยเหลือกันแค่ห้า

“อืม แล้วนี่เป็นไงบ้างเรา วามันมาฟ้องบอกว่าช่วงสอบเราน้ำหนักลงฮวบเลย เครียดเหรอ” การันต์เท้าคางกับโต๊ะเอียงหน้ามองดูเด็กฝรั่งตักไอติมชาเขียวเข้าปากหลังทิวากานต์ยอมให้กินได้สองลูก

“นิดหน่อยครับ อ่านหนังสือหนักด้วยเลยกลายเป็นไม่ค่อยอยากกินอะไร”

“ไม่อ้วนก็ดีอยู่หรอกแต่ถ้าจะลดลงขนาดนี้พี่ว่ามันจะแย่เอานา วาไม่ต้องให้น้องคุมอาหารแล้วมั้ง”

“ช่วงนี้ก็ไม่คุมแล้วนะครับ ไม่งั้นจะยอมให้กินติมตั้งสองลูกเหรอ” คุณหมอรุ่นน้องว่ายิ้มๆ มองอลันด์ตักไอติมเข้าปากอีกคำใหญ่ๆ

“อืม เราก็อย่าเครียดมากล่ะไอ้ตัวแสบ มันส่งผลต่อการทำงานของหัวใจรู้ไหม น่ากลัวว่าช่วงนี้หัวใจจะทำงานหนัก เดี๋ยวไงก่อนวันนัดสวนหัวใจสักสัปดาห์ไปให้อาจารย์เขาส่องอีกทีแล้วกัน”

“ครับ” ทิวากานต์รับคำแทนก่อนเอื้อมมือไปหยิบทิชชูยื่นให้เด็กหนุ่มเช็ดคราบชาเขียวบนแก้ม “กินยังไงเลอะไปถึงแก้ม สามขวบเหรอ”

“สิบแปดบรรลุนิติภาวะแล้วเถอะ”

“พูดงี้ต้องการอะไรหรือเปล่าวะ” คนินทร์แซวมาจากอีกฝั่งของโต๊ะ หนุ่มไทยเชื้อสายจีนหน้าเข้มยิ้มตาหยี เล่นเอาผู้ใหญ่อีกสองคนหัวเราะก๊าก จะมีก็แต่นภที่กระพริบตาปริบๆ ไม่เข้าใจกะคนบรรลุนิติภาวะแล้วที่หน้าแดงแปร๊ด

“ตอนน้องแสบมาบอกว่าเป็นโรคหัวใจแต่ไม่หนักมากผมก็ตกใจอยู่หรอก แต่พอฟังพี่วากับพี่รันคุยกันแล้วเหมือนอาการจะหนักเลยนะครับ” นักร้องหนุ่มหน้าใสขวัญใจวัยรุ่นถามซื่อๆ วันนี้พอออกจากมหาวิทยาลัยเขาก็ถอดแว่นกรอบดำไร้เลนส์กับหมวกแก็ปที่ใช้พรางตัวออก หลังจากตอนมาเชียร์อลันด์ประกวดเมื่อคราวที่แล้วมีนักศึกษาหลายคนจำได้แล้วถ่ายรูปเขากับไอ้ตัวแสบไปโพสต์ว่อนเน็ตปลุกกระแสคู่จิ้นขึ้นมาอีกรอบ เล่นเอาเขาต้องตอบคำถามนักข่าวไปหลายสำนักเลยทีเดียวว่าเขาไม่ได้เป็นเกย์

“ไม่ได้หนักอะไร แค่อยากให้รักษาสุขภาพไว้ก่อน ถ้าไม่ลดเสียบ้างนะวันนี้ทอมแบกขึ้นคอไม่ไหวหรอก อ้วนเป็นลูกหมูขนาดนั้น”

“ต่อให้อ้วนเป็นช้างทอมก็แบกไหว” อดีตลูกหมูเถียงหน้าแดง “ไม่เหมือนบางคน แบกได้หน่อยหลังจะหัก แก่แล้วก็งี้”

“ไม่หนุ่มล่ำกล้ามใหญ่บ้างให้มันรู้ไป”

ทั้งโต๊ะหัวเราะครืน แม้แต่คนที่โดนหาว่าแก่แล้วยังหัวเราะ คุยกันอีกพักใหญ่การันต์จึงเรียกเก็บเงิน อลันด์ทำท่าจะเดินไปตามเพื่อนกลับเข้ามาแต่ถูกทิวากานต์ยกมือห้ามไว้แล้วบอกว่าเดี๋ยวจะไปตามเอง ไหนๆ หักดิบเลิกบุหรี่ได้แล้วทั้งทีไม่อยากให้ไอ้ตัวแสบไปรมควันอีก แล้วเขาก็ว่าจะคุยเรื่องนี้กับโธมัสด้วยช่วงที่อยู่นี่

ลับหลังคุณหมออลันด์เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ เขาดึงช้อนตักไอติมออกจากปากหันไปมองเพื่อนชาวไทยที่คุยกับนภเรื่องดนตรีติดพัน “คิว”

“มีอะไร”

“นายรู้ได้ไงวะว่าฉันเป็นโรคหัวใจ จำได้ว่าไม่เคยบอกใครนอกจากพี่นภ” ตาสีซีดเหลือบมองอีกคนที่โผล่มาในประโยค นักร้องหนุ่มเลยรีบส่ายหน้าบอกว่าพี่ไม่รู้เรื่องด้วยน้า

“นึกว่าอะไร” คนินทร์หัวเราะ ชะเง้อหน้ามองไปทางประตูเห็นทิวากานต์ยังไม่เข้ามาเลยดึงคอเด็กฝรั่งเข้าไปใกล้ “ก็ตอนไปกินสเต๊กคราวนั้นพี่วาเขาขอมาว่าตอนอยู่กับนายช่วยอย่าสูบบุหรี่ได้ไหม ไอ้ฉันก็สงสัยอยู่แล้วว่าทำไมตัวดูดควันแบบเอ็งเลิกกะทันหันเลยซอกแซกถามมาจนรู้นี่แหละ"

“งะ งั้นเหรอ”

“เออดิ อิจฉาว่ะมีคนดูแลดี ดูพี่เขาเป็นห่วงมากเลย”

“วามันเป็นคนงี้แหละ กับคนอื่นมันก็ร่าเริงกับเขาไปเรื่อยแต่ถ้าถูกใจใครขึ้นมาจะเทคแคร์ดีเว่อร์โอ๋ยิ่งกว่าไข่ในหิน บอกไว้ก่อนนะว่าวามันไม่ได้ถูกใจใครง่ายๆ พี่รู้จักมันมาสิบปีนับได้ไม่เกินมือข้างเดียว” การันต์เสริมขึ้นมาเมื่อได้ยินสิ่งที่สองหนุ่มแอบคุยกัน

“เป็นพวกรักแรงเกลียดแรงสินะครับ” นภว่า สำหรับเขาตั้งแต่เจอคุณหมอครั้งแรกก็รู้สึกได้ว่าน่ากลัว บวกกับคำบอกเล่าของพ่อที่บอกว่าหมอวาเป็นคนใจแข็งมากไม่ยอมรับวิคเตอร์เป็นพ่อสักทีทำเอาเขาไม่ค่อยกล้าคุยเล่นด้วย ยิ่งเห็นว่าคุณหมอรับดูแลอลันด์ช่วงอยู่ไทยเขายิ่งไม่กล้าพาอลันด์ออกนอกลู่นอกทางเลย

“ถ้าเกลียดคงดีกว่าเพราะยังรู้ว่ามีเยื่อใย แต่วามันเฉยใส่ไม่สนไม่แคร์นี่สิเจ็บยิ่งกว่าถูกเกลียดอีก เคยมีแฟนเก่ามันอยู่คนนอกใจไอ้วา พอรู้วันถัดมามันลืมไปเลยว่าเคยรู้จักคนๆ นั้น หางตายังไม่แลไม่สนใจยิ่งกว่าเป็นอากาศธาตุ เย็นชาจนผู้หญิงมายืนร้องไห้จะเป็นจะตายยังเดินผ่านไปได้เฉยๆ มาแล้ว เรื่องกระฉ่อนทั้งโรงบาลเลยล่ะตอนนั้น”

ทันทีที่พูดจบประโยคก็เกิดเสียงอืออึงขึ้นจากเด็กหนุ่มทั้งสามคน เด็กลูกครึ่งถึงกับหน้าซึม เขารู้สึกชอบทิวากานต์จริงๆ และทิวากานต์ก็ดีกับเขามาก คงทำใจรับไม่ได้แน่ๆ ถ้าวันหนึ่งจะต้องถูกผู้ชายคนนั้นหมางเมิน

“กลัวหรือไงเรา” การันต์วางมือบนหัวสีช็อกโกแลตนมจับโยกไปมาเบาๆ “ไม่ต้องกลัวหรอก วาไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยโมโหง่ายขนาดนั้นเสียหน่อยต้องทำให้เหลืออดจริงๆ นั่นแหละถึงจะเป็นแบบนั้น อีกอย่างมันอ่ะแพ้คนน่ารัก อย่างเราอ้อนเข้าหน่อยเดี๋ยวก็ใจอ่อน ขออย่างเดียวเวลามีเรื่องอย่าโกหก ไม่หมกเม็ด ต้องพูดความจริงเท่านั้นและบอกให้หมด เข้าใจหรือเปล่า”

“เข้าใจครับ”

“แหม พี่รันก็ขู่น้องเขาซะเหมือนว่าแสบเป็นแฟนหมอวางั้นแหละครับ” นภแซวแบบไม่คิดอะไรซ้ำยังตบโต๊ะเบาๆ เหมือนเป็นเรื่องตลก แต่พอเห็นรุ่นน้องคนสนิทหน้าแดงขึ้นมาแถมการันต์ยังอมยิ้มมีเล่ห์นัยนักร้องหนุ่มก็ถึงกับอ้าปากค้าง “เอ่อ... เดี๋ยวนะ นี่คงไม่...”

“แหม...ไอ้กระผมก็ว่าแล้วเชียวว่าสองคนนี้ยังไงๆ กันอยู่ ที่แท้ก็นะ...” คนินทร์ตบมือดังฉาด ยักไหล่ส่งยิ้มกรุ้มกริ่มไปทางคนตัวเล็กสุด เล่นเอาคนถูกแซวอายม้วนขดตัวก้มซ่อนหน้าแดงๆ กับโต๊ะเท่านั้นนภก็แทบลมจับ

เห็นแมนๆ เตะบอลกันครับแบบนั้นทั้งคู่ ใครมันจะไปคิดล่ะว่าคุณหมอรูปหล่อกิตติศัพท์เลื่องลือจะหันมากิน(ตับ)เด็กผู้ชาย!



ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
ทิวากานต์ปะกับโธมัสพอดีตอนที่เปิดประตูออกไป อดีตกัปตันชมรมรักบี้มีกลิ่นบุหรี่ติดตัวอยู่นิดหน่อยจนแทบไม่ได้กลิ่น แต่เผอิญคุณหมอดันจมูกดีไปหน่อยเลยทำจมูกฟุดฟิดส่งสายตาบอกว่ามีเรื่องจะคุยให้เด็กหนุ่มแทนคำพูดพลางบุ้ยปากไปตรงลานจอดรถร้างผู้คน โธมัสเองก็เห็นด้วย ดีเหมือนกันเผื่อมีเรื่องซัดปากขึ้นมาจะได้ไม่มีใครเห็น

“รู้แล้วใช่ไหมว่าอัลเป็นโรคหัวใจ” คุณหมอเปิดประเด็นทันทีไม่มีกล่าวความเป็นมาให้เสียเวลา

“อืม เขาเพิ่งบอกผมเมื่อบ่าย มันไม่อันตรายจริงๆ ใช่ไหม”

“ใช่ เล็กน้อยมากถ้าเทียบกับคนไข้รายอื่น แต่การรักษาจะยากขึ้นถ้าเขายังใช้ชีวิตแบบเดิม สูบบุหรี่เหมือนสูดอากาศ กินเหมือนคนกระเพาะรั่ว”

“ไอ - ซี”

“เข้าใจก็ดี เพราะฉะนั้นฉันมีเรื่องจะขอร้องแค่เรื่องเดียวช่วงที่อยู่ที่นี่อย่าสูบบุหรี่ต่อหน้าอัลทำได้ไหม”

เด็กหนุ่มแค่นยิ้มเหมือนกับเรื่องที่ทิวากานต์พูดออกมานั้นไร้สาระ “เพื่ออัลผมทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว ด็อกไม่ต้องมาบอกผมก็รู้ว่าควรปฏิบัติกับเขายังไง”

“ดีนี่ งั้นระหว่างอยู่นี่ก็อย่าทำให้เขาลำบากใจด้วยแล้วกัน”

“ล้อผมเล่นเหรอ ผมนี่นะจะทำให้อัลลำบาก เรารู้จักกันมานานแค่มองตาก็รู้ใจ ไม่มีใครเข้าใจอัลได้ดีเท่าผมอีกแล้ว”

“บางทีใกล้กันมากเกินไปก็ทำให้มองข้ามอะไรสำคัญๆ ไปได้เหมือนกันนะพ่อหนุ่มน้อย” คุณหมอกอดอกเชิดหน้าพูดแสดงชัดว่าเหนือกว่าแม้จะต้องเงยหน้าเพื่อสบตากับอีกคนก็ตาม เหมือนว่าพ่อหนุ่มขนทองตาสีฟ้าจะสูงขึ้นอีกหน่อยแถมยังเลี้ยงเครา ดูผ่านๆ จะบอกว่าอายุเท่ากับเขาก็ไม่กระดากปาก

“หึ คอยดูแล้วกันเถอะ”

“จะจำไว้ แล้วนี่จะมาอยู่กี่วัน”

“สักสามสี่วัน ใจอยากอยู่นานกว่านี้แต่เสาร์นี้ผมมีเทสคงขาดไม่ได้ แต่คริสต์มาสผมจะมาแน่ๆ แล้วก็จะอยู่กับอัลจนเบื่อกันไปข้างเลย”

“ดี แล้วสองคนนั้นล่ะ พี่รันเรียกเก็บเงินแล้วจะได้กลับกันสักที” โชคดีที่การคุยกับโธมัสไม่ยุ่งยากเท่าที่คิด เขาเริ่มส่ายสายตามองหาเพื่อนของนภที่ขอตัวออกมาสูบบุหรี่ก่อนหน้านี้

“เห็นเดินไปแถวหลังร้านอ่ะ”

“โอเค งั้นไปตามสองคนนั้นกันเถอะจะได้กลับไปนอนสักที พรุ่งนี้ต้องตื่นไปทำงานแต่เช้าอีก”

โธมัสยักไหล่เดินนำคุณหมอไปตามหนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่นกับไฮโซวัยกระเตาะตรงจุดที่เห็นสองคนนั้นหายเข้าไป ความจริงก็น่าจะยืนสูบอยู่ด้วยกันเพราะไหนๆ ก็ถือว่าเป็นเพื่อนกันแล้ว แต่เหมือนสองคนนั้นจะเกร็งๆ เลยปล่อยเขาไว้คนเดียว

“กูว่าไอ้ฝรั่งนั่นต้องเป็นผัวมันแน่เลยวะ” เสียงพูดไม่เบานักจากประโยคเมื่อครู่ทำเอาทิวากานต์ชะงักเท้า เขาดึงไหล่โธมัสไว้จนเด็กหนุ่มหันมาเลิกคิ้วใส่แล้วต้องหุบปากที่กำลังจะถามเมื่อคุณหมอเอานิ้วแตะปากให้เงียบ เขาเอียงหูตั้งใจฟังเพื่อนของนภคุยกันเป็นภาษาไทย

“กอดจูบหวงกันขนาดนั้นคงเพื่อนธรรมดาหรอกมั้ง ก็คิดอยู่หรอกว่าเด็กมันไม่ใสแต่ใครจะคิดว่าเอาผัวมาเปิดตัว”

“แค่มีผู้ปกครองคอยคุมรับส่งเช้าเย็นก็หาทางแดกยากอยู่แล้ว เสือกพาผัวมาอีกกูละเซ็ง ไอ้นภก็ไม่ช่วยอะไรเล้ยยย ว่าวันพุธน้องมันเข้าไปซ้อมจะตามไปหยอดสักหน่อย เซ็งชิบหาย”

“เอาน่าเดี๋ยวผัวน้องมันก็กลับไปแล้ว คืนศุกร์นี้เลยเป็นไงไอ้นภมันจะพาน้องไปเลี้ยง ถ้าทางสะดวกก็จัดเลยมึง”

“เออ เหี้ย! มึงนี่ฉลาดเหมือนกันนี่หว่า”

“หึๆ ขอกูด้วยนะ ตัวเล็กๆ น่ารักแบบนั้นสเป็คเลยว่ะ”

“เพื่อเพื่อนให้ได้เสมอเว้ย กูเพิ่งได้ของใหม่มาพอดีน่าเอามาลองใช้ชิบหาย”

“จัดไปอย่าให้เสีย”

โธมัสต้องหุบปากไปแบบงงๆ อีกครั้งเมื่อทิวากานต์ทำหน้าดุสั่งให้เงียบแล้วลากเขาออกไปทั้งที่ยังไม่ได้เรียกเพื่อนนภสองคนนั้นออกมาตามความตั้งใจ เขาไม่เข้าใจหรอกว่าสองคนนั้นคุยอะไรกันแต่ฟังเสียงแล้วน่าสนุกไม่น้อย ไม่รู้ทำไมทิวากาต์ต้องทำหน้าเหี้ยมด้วย

“ด็อกเดินออกมาทำไมเนี่ย ไหนว่าจะไปตามสองคนนั้นไง แล้วนี่อะไร ทำหน้าน่ากลัวซะ”

“ช่วงที่นายยังอยู่ที่กรุงเทพช่วยทำตัวให้เป็นประโยชน์ด้วยการทำตัวเป็นหมาเฝ้าบ้านที่ดีที ฉันต้องเข้าเวรที่โรงพยาบาลคืนวันพุธนี้ เพราะงั้นอัลจะอยู่คนเดียวที่คอนโด เขามีซ้อมดนตรีตอนเย็น หลังจากนั้นฉันอนุญาตให้นายลากเขาไปนอนที่โรงแรมด้วยหรือนายจะอัญเชิญตัวเองไปนอนกับเขาที่ห้องยังไงก็ได้ขอแค่อย่าปล่อยให้อัลคาดสายตาตลอดทั้งวัน ทำได้ไหม”

“เฮ้ๆ ยังไงผมก็ต้องอยู่กับอัลอยู่แล้ว แต่ผมไม่เข้าใจทำไมต้องจับตาอัลด้วย สองคนนั่นวางแผนอะไรไม่ดีอยู่หรือไง” สมกับเป็นหมาเกรดพรีเมี่ยม แม้จะฟังไม่ออกแต่สัญชาตญาณแรงจนจับความไม่ชอบมาพากลได้

“ช่างมันเถอะน่า รับปากฉัน”

“ได้ ตกลง”

“แล้วช่วงระหว่างวันก็อยู่กับเขา”

“มันแน่นอนอยู่แล้ว”

“สัญญาลูกผู้ชาย”

โธมัสมองกำปั้นของทิวากานต์ตรงหน้าก่อนชกกลับไปไม่เบานัก “ด้วยเกียรติของตระกูลกริฟฟิธส์เลย”

“ดีมาก” คุณหมอพยักหน้ารับอย่างพึงพอใจ เขาตัดสินใจไม่บอกว่าได้ยินเด็กสองคนนั่นพูดอะไรกันทั้งๆ ที่เขาก็โกรธ แต่จะโวยวายให้เป็นเรื่องก็ใช่ที่เพราะสองคนนั้นยังไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำแถมเมื่อครู่ก็ไม่มีหลุดชื่ออลันด์ออกมาอีกต่างหากมันจะกลายเป็นว่าเขาตีตนไปเอง แล้วถ้าบอกโธมัสไปรับรองว่าได้มีการละเลงเลือดเกิดขึ้นแน่นอน

หลังสัญญากันเรียบร้อยเขาก็ไล่ให้โธมัสไปตามสองหนุ่มนั่น ส่วนเขาขอเข้าไปข้างในสงบอารมณ์ก่อนได้ซัดหน้าไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนั่น ให้ตายเถอะนภออกจะดูเรียบร้อยแต่ทำไมเพื่อนมันเหี้ยงี้วะ!!!

“อ้าว หายไปตั้งนานทำไมกลับมาคนเดียววะ” การันต์ถามงงๆ เขาเพิ่งเซ็นชื่อในใบเสร็จไปเมื่อกี้ส่วนคนที่บอกว่าจะไปตามเด็กๆ กลับเข้ามาก็ดันเดินมาคนเดียว

“เดี๋ยวมา” ทิวากานต์ตอบเสียงเซ็งจัด เขาดึงเก้าอี้ตัวข้างอลันด์ออกมานั่งก่อนชะโงกไปถามนภที่นั่งอยู่เกือบท้ายโต๊ะ “นภจะพาอัลไปเลี้ยงวันไหน ที่ไหน ยังไง กี่โมง”

“กะว่าจะพาน้องไปเจอเพื่อนฝรั่งที่เขาเรียนดนตรีอยู่อีกม. ก็คงศุกร์นี้เย็นๆ อ่าครับ คงไปหาร้านนั่งกินดื่มแถวนั้นฉลอง”

“ไปวันอื่นได้ไหม วันนั้นพี่ไม่ว่าง พี่อยากไปด้วย”

“คิวเพื่อนผมได้แค่ศุกร์นี้ด้วยสิครับ พี่วาไม่ว่าอะไรใช่ไหมอ่าครับ”

“ถ้าบอกว่าไม่อยากให้ไปล่ะ”

“ได้ไงอ่ะ” เด็กฝรั่งร้องเสียงหลง ตาสีซีดจ้องคุณหมอเขม็งรอทิวากานต์อ้าปากอธิบายโธมัสก็เดินนำเกมกับชิเข้ามาเสียก่อน เลยถูกตัดบทว่าค่อยไปคุยกันที่ห้อง

ทิวากานต์จัดการฝากฝังโธมัสให้ขึ้นซีรีส์ทรีกลับไปกับคิวหลังถามไถ่ได้ความว่าเจ้าตัวนอนโรงแรมเดิมกับคราวที่แล้ว หนุ่มน้อยหน้าเข้มกับหมาขนทองตัวโตเลยออกจากร้านไปพร้อมๆ กับนภและเพื่อนตัวร้ายอีกสองคนที่จะไปหาร้านต่อกันแถวอาร์ซีเอ

เขากับอลันด์ยกมือไหว้ขอบคุณคุณหมอใจป๋าที่พามาเลี้ยงฉลองเป็นครั้งที่สอง คุยกันอีกนิดหน่อยถึงแยกย้ายขึ้นรถใครรถมัน พออยู่กันสองคนอลันด์ก็หน้างอใส่ทันที ทิวากานต์เข้าใจอยู่หรอกว่าทำไมแต่จะให้เขาพูดก็เหมือนใส่ร้ายเพื่อนเจ้าตัวจึงเลือกเงียบมาตลอดทาง

“ทำไมวาพูดแบบนั้นกับพี่นภล่ะ พี่นภกลัววาจะตายแบบนี้เขาก็ไม่พาผมไปเลี้ยงสิ”

“แล้วเลี้ยงข้าวมันสำคัญขนาดนั้นเลยหรือไง ที่กินอยู่ทุกวันนี้ฉันไม่ได้เลี้ยงเหรอ” เขาเถียงกลับ หงุดหงิดขึ้นมาขึ้นจนอยากหาบุหรี่ดับอาการเพราะไอ้คนที่คอยให้ฟัดเวลาเครียดดันพองขนขู่ใส่อยู่นี่

“มันไม่เหมือนกันนี่ พี่นภเขาจะพาไปเจอเพื่อนเขาที่เป็นนักดนตรีด้วย”

“ไม่เห็นต้องรีบเลย รอฉันว่างก่อนแล้วค่อยไปพร้อมกันทีหลังก็ได้นี่นา”

“เห็นแก่ตัวว่ะ” เด็กฝรั่งใส่ไม่ไว้หน้าหลังทิวากานต์ทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาวหยิบหมากฝรั่งขึ้นมาเคี้ยว

“คิดหรือยังถึงพูดออกมาน่ะห๊ะ”

“คิดดีแล้วสิถึงพูด ทีตัวเองไปกินเหล้ากับพี่รันกลับบ้านดึกๆ ผมยังไม่ว่าอะไรเลย ผมจะไปบ้างก็มาห้าม วันศุกร์วาก็ไม่อยู่จะให้ผมนอนเหงาคนเดียวหรือไง โคตรเห็นแก่ตัว so fucking fucking selfish ถ้าจะเป็นห่วงก็ขอทีเถอะผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ บรรลุนิติภาวะแล้ว มีใบขับขี่ด้วยทำไมจะเที่ยวบ้างไม่ได้”

“เอ๊าะเหรอ” ทิวากานต์ว่าเสียงสูง เขาต้องกลั้นหายใจนับหนึ่งถึงสิบไม่ให้ทำรุนแรงกับคนข้างตัวที่มาทำหยาบคายใส่ สงสัยอลันด์จะไม่รู้หรือแกล้งลืมไปแล้วว่าเขาโคตรเกลียดเด็กไร้มารยาท “แล้วไปเที่ยวกับเขาน่ะไว้ใจได้หรือไง”

“วา! วาเป็นคนพาผมไปเจอพี่นภเองนะแถมวันนั้นวายังทิ้งผมให้อยู่กับเขาอีก วาจะบอกว่าคนที่วาแนะนำให้ผมรู้จักเป็นคนไม่ดีงั้นสิ”

“ฉันไม่ได้หมายความถึงนภแต่ฉันหมายถึงเพื่อนนภสองคนนั้นต่างหาก” เขาเชื่อตามลางสังหรณ์ตัวเองว่านภเป็นเด็กดีแม้จะอยู่ท่ามกลางสิ่งยั่วยุก็ไม่ไขว้เขว้ และถ้าเกิดลางสังหรณ์เขามันพลาดเขามั่นใจอีกนั่นแหละว่านภจะไม่กล้าทำอะไรอลันด์แน่ๆ เพราะพ่อมันกู้เงินวิคเตอร์ไปเปิดบริษัทตั้งหลายล้าน ไม่งั้นจู่ๆ จะยอมให้คนอื่นเข้าไปใช้ห้องซ้อมส่วนตัวได้เหมือนบ้านตัวเองแบบนี้หรือไง

“พี่ชิกับพี่เก่งเขาเป็นเพื่อนพี่นภนะ วาคิดว่าพี่นภจะคบเพื่อนนิสัยไม่ดีหรือไง ผมเจอเขามาหลายครั้งเขาก็มาช่วยผมซ้อมดนตรีตลอด ผมยืนยันเลยว่าทั้งคู่ไว้ใจได้”

“หึ เด็กที่คิดว่าตัวเองโตแล้วมักคิดง่ายๆ แบบนี้แหละ”

“บางทีผู้ใหญ่แก่กะโหลกกะลาก็ควรจะเปิดตาดูบ้างว่าเด็กเดี๋ยวนี้มันโตเร็ว”

ทิวากานต์คันปากยิบๆ อยากถามกลับไปเหลือเกินว่าไปเอาสำนวนภาษาโบราณอย่างแก่กะโหลกกะลาจากไหนมาใช้ หากด้วยความโมโหทำให้เขาเลือกจะหุบปากสร้างสงครามเย็นใส่กันจนถึงคอนโด

คนแก่กว่าลงมาจากรถยืนกอดอกรออลันด์เปิดท้ายหิ้วกล่องกีตาร์สองตัวลงมาไม่เข้าไปช่วยอย่างเคย ตอนขับรถกลับมาเขาคิดหลักสูตรสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตให้ไอ้ตัวแสบเรียบร้อย ไม่ว่าผลจะออกมาแย่แค่ไหนเขาจะยอมรับมัน ขอเพียงอลันด์เข็ดไม่กล้ามาเถียงเขาอีกนานก็โคตรคุ้มแล้ว

“โตแล้วใช่ไหมอัล”

“...”

“โอเค ฉันผิดเองที่เห็นแก่ตัวและคิดว่าเธอยังเด็ก จะไปเที่ยวไหนก็ไปฉันไม่ห้ามแล้วแต่สัญญากับฉันก่อน”

เด็กลูกครึ่งเอียงคอมองงคนพูดแววตาเคลือบแคลง เมื่อกี้ยังทำหน้าเหี้ยมทำท่าจะเข้ามาบีบคอเขาอยู่เลย จะมาไม้ไหนอีกล่ะ “สัญญาอะไร”

“โตแล้วก็ต้องดูแลตัวเองได้ โอเคไหม”

“ถ้าดูแลตัวเองไม่ได้แด๊ดจะยอมให้มาอยู่คนเดียวไกลขนาดนี้เหรอ” มันต้องเถียงสักหน่อยสิน่า

“ถ้าเกิดปัญหาจำไว้นะว่าต้องแก้เองฉันจะไม่ช่วย”

เจ้าตัวอึกอักไปครู่หนึ่งแค่มองก็รู้แล้วว่าเริ่มไม่มั่นใจกับความคิดตัวเอง แต่ทิฐิทำให้ยอมตกลงไป “อ่าฮะ”

“งั้นสัญญานะว่าจะดูแลตัวเองให้ดีรักตัวเองให้มากๆ” เขาชูกำปั้นขึ้นพลางเหลือบตาดูเด็กตัวเท่าไหล่ชูกำปั้นขึ้นมาเก้ๆ กังๆ ลังเลก่อนชกเข้าใส่เบาๆ

“สัญญา”

“ดีมาก”

เท่านั้นทิวากานต์ก็ยิ้มออกให้อลันด์รู้สึกดีขึ้นและใจชื้นขึ้นมาอีกนิด ยิ่งเห็นคุณหมอก้มลงไปช่วยหยิบกล่องใส่กีตาร์มาถือก็โล่งไปได้เยอะ ที่เห็นเถียงฉอดๆ นี่ไม่ใช่ไม่กลัวโดนโกรธ ยิ่งฟังที่การันต์เล่ามายิ่งกลัวโคตรๆ แต่แค่อยากให้อีกคนเข้าใจว่าเขาก็ต้องมีสังคมและโลกส่วนตัวของเขาบ้าง จะให้ติดอยู่กับทิวากานต์ตลอดเวลาคงเป็นไปไม่ได้

“ไปเถอะ จะได้นอนกันสักที เหนื่อยจะแย่แล้ว”

“อื้อ” เขาจงใจยิ้มกว้างโชว์ฟันส่งไปให้คุณหมอ เมื่อกี้กวนตีนไว้เยอะตอนนี้ต้องรีบอ้อนก่อนถูกคิดบัญชีคืนย้อนหลัง แต่อลันด์ยังเด็กและอ่อนประสบการณ์กว่าทิวากานต์เยอะถึงไม่รู้ว่าถูกคิดบัญชีทบต้นทบดอกเป็นบทเรียนราคาแพงไว้ให้ล่วงหน้าแล้ว เล่นเอาจากนี้ไปเจ้าตัวแสบจะไม่มีวันกล้าดื้อกับทิวากานต์อีกเลย



TBC

มาลงตั้งแต่เมื่อวาน แต่ถูกพี่ลากไปนู่นมานี่ทั้งวันเลยขอยกมาเป็นวันนี้แทนค่ะ
ทอมมี่รอบนี้นางมาดีนะคะ อย่าไปตั้งแง่กับนางนักเลย
ดูซิทุกคนพร้อมใจเรียกว่าหมาขนทอง นางออกจะหล่อออก
มารอดูกันนะคะว่าพี่วาเขียนบทเรียนวิชาสปช.(สร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต)ให้น้องอัลแบบไหน
ว่าแต่มีใครทันเรียนวิชาสปช.กันบ้างคะ ดักอายุกันไหม 5555

แล้วเจอกันตอนหน้าค่า ^^

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
หมออออออออออออออ  ติ่งหมอวารายงานตัวค่ะ

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
รออ่านบทเรียนราคาแพงของอลันน้อย

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
อัลล์จะรอดแบบทดสอบนี้ไหม  บางทีเด็กก็คิดน้อยไป
ต้องให้เจอกับตัว ประสบการณ์ชีวิต
ปล. ยกมือด้วยคน (เค้าทัน)หลังรุ่นเขา2ปี
ไม่มีแล้ว บ่งบอกถึงอายุ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
นึกแล้วโมโห น่าจะกระทืบให้จมดิน ระวังเถอะแกแล้วจะรู้ว่านรกนะมีจริง

ออฟไลน์ VarainDark

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
หมอวาเจ้าเล่ห์ หมอวาโหดร้าย
จะปล่อยตัวแสบไปกพพวกนั้นจริงๆหรอเนี่ย

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
รออ่านบทเรียนราคาแพงของอัล  555

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เด็กดื้อบอกดี ๆ ไม่มีฟังหรอก ต้องให้เจอเองแต่ต้องสอนวิธีเอาตัวรอดด้วยนะ
ไม่ว่าจะในฐานะผู้ปกครองหรือแฟนก็มีแต่เหนื่อยกับเหนื่อย ก็เด็กแสบ so hot นี่เนอะ

ออฟไลน์ sweetyswtcou

  • R.Chek SwtCou
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ค้างเลยอ่ะ  :serius2:
ทอมคงดูแลอัลได้และไม่ทำอะไรอัลนะ
 :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Mokuchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
นับว่าทอมมาถูกช่วงจริงๆ รับหน้าที่หมาเฝ้าบ้านไปซะ
หมอวาคือดีนะ ไม่ห้ามแต่ให้เรียนรู้บทเรียนเอง เด็กจะได้หายดื้อซะที #ติ่งหมอวา 555  :hao3:
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
พลาดเรื่องสนุกๆแบบนี้ไปได้ยังไงกันนะ

ออฟไลน์ pim-lovemj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :เฮ้อ: เหนื่อยใจแทนหมอวา น้องอัลดื้ออ่ะ
 :hao3: แต่หมอวาคงมีวิธีจัดการเด็กดื้อได้นะคะ
รอติดตามการทบต้นทบดอกของหมอวาละกันค่ะ

ออฟไลน์ LetGet

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องตัวเล็กลงแล้ว ดีกับใจเรามากเลย น่าทะนุถนอมที่สุด พี่หมอวาต้องดูแลน้องดีดีนะ ถ้าน้องดื้อก็จัดการเลย ทบต้นทบดอกให้เสร็จสรรพ  :hao6:  :hao6:  :hao6:

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 17 [29.11.15]
«ตอบ #205 เมื่อ29-11-2015 12:57:29 »

TRACK 17



กี่เดือนแล้วนะตั้งแต่ทิวากานต์ถูกกวนตอนนอนถ้าไม่นับถูกปลุกเพราะมีเคสตอนกลางคืน นับว่านานพอดูตั้งแต่ตอนที่อลันด์ย้ายมาใหม่ๆ และตอนนี้เขากำลังถูกไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้รัวกริ่งใส่จนต้องแหกขี้ตาตื่นขึ้นมาตอนตีสอง แม่งบ้าไปแล้ว!

“อือ...”

“ชู่ว...” เขาก้มไปจูบเหม่งอลันด์เบาๆ กล่อมให้อีกคนหลับต่อหลังสะดุ้งขึ้นมาเพราะเสียงกริ่งเหมือนกัน พอคนร่วมเตียงหลับลงไปอีกครั้งคุณหมอก็รีบย่ำเท้าลงมาจากห้องนอนไปเปิดประตู หากปากที่อ้าเตรียมจะด่ากลับต้องหุบฉับเพราะไอ้หมาขนทองตัวยักษ์ยืนโวยวายใส่เขาเป็นชุดไม่เปิดโอกาสให้ต่อว่าได้เลย

“ด็อก! พระเจ้าช่วย! ผมกดออดตั้งนานนึกว่าคุณหายไปอีกคน ให้ตายเถอะอัลหายไปไหนไม่รู้ ผมกดกริ่งห้องเขาอยู่ครึ่งชั่วโมง โทรหาแล้วแต่ติดต่อเขาไม่ได้เลย อัลไม่ใช่พวกขี้เซาซะหน่อย หรือว่าอาการโรคหัวใจเขากำเริบ ด็อกรู้รหัสเข้าห้องอัลไหม ผมไปติดต่อเจ้าหน้าที่ข้างล่างเขาก็ไม่รู้เหมือนกันบอกต้องรอช่างมางัดตอนเช้า”

“ให้ตายเถอะทอม! นายเป็นบ้าอะไรมาหาอัลตอนตีสอง แล้วนี่ขึ้นมาได้ยังไง”

“ผมมาตั้งแต่ตีหนึ่ง เดินขึ้นบันไดหนีไฟมา”

คุณหมอแทบทึ้งหัวตัวเองทิ้งหลังได้ยินไอ้หมาขนทองมันบอกหน้าซื่อ ไม่รู้จะชมหรือด่าดีกับความอุตสาหะเดินบันไดขึ้นมาตั้ง 21 ชั้น! “นั่นแหละ ไม่คิดว่ามันดึกเกินไปหรือไง แล้วบุกรุกยามวิกาลมันผิดกฎหมายเว้ย”

“ก็ด็อกบอกให้ผมมาอยู่กับเขา”

“ฉันหมายความแค่วันพุธวันเดียว” ชายหนุ่มหน้ามุ่ย สมองใกล้ระเบิดเต็มทีที่ต้องมายืนเถียงกับชาวต่างชาติตอนตีสอง

“อยู่ทุกวันไม่ดีกว่าหรือไง เดี๋ยวสิอย่าเพิ่งเถียงกันเรื่องไร้สาระนี่ อัลหายไป เราต้องตามหาเขานะด็อก!”

ทิวากานต์อยากจะตบหน้าผากโชว์มันเสียตอนนี้ จะเจออลันด์ได้ไงในเมื่อเด็กนั่นมานอนห้องเขาแถมปิดเสียงปิดสั่นโทรศัพท์อีกต่างหาก ตะโกนเรียกหาให้ตายก็ไม่เจอหรอก

“วา...ใครมาอ่ะ” นั่นไง! ไม่ทันไรตัวต้นเหตุก็เดินตาปรือมาจากในห้องเขาพอดี คุณหมอนึกว่าเจ้าตัวหลับสนิทไปอีกรอบแล้วเสียอีก สงสัยเห็นเขาหายไปนานเลยออกมาหา ตาปิดขนาดนั้นโชคดีที่ไม่ตกบันไดลงมาคอหักตายไปก่อน

“อัล!”

“หือ ทอม?”

“ทำไมนายมาอยู่ห้องด็อกล่ะ” โธมัสโวยวายเสียงดังลั่นกลัวห้องอื่นเขาเดินออกมาด่าจริงๆ ทิวากานต์เลยจำใจเบี่ยงตัวให้ไอ้หมายักษ์เขามาในห้องแล้วปิดประตูให้เรียบร้อย “ฉันไปเคาะเรียกนายที่ห้องตั้งนานนึกว่านายหายไปหรือเป็นอะไรไปแล้วซะอีก”

“หะ หือ... เอ่อ คือว่า...” จากที่จวนเจียนจะหลับไปอีกรอบเมื่อครู่ก็กลายเป็นตาสว่าง เอียงหน้าหนีเพื่อนตัวโตที่ทำท่าจะกินเขาเข้าไปทั้งตัว

“OH - MY - GOD - ! YOU MAKE ME FUCKING CRAZY!!!”

“เดี๋ยวสิ แล้วนายมาทำบ้าอะไรตอนนี้” เด็กลูกครึ่งรีบเอามือยันหน้าโธมัสออกสุดแรงก่อนถูกกินเข้าไปจริงๆ

“ฉันจะมานอนกับนายไง”

“แล้วโรงแรม?”

“ไว้อาบน้ำ” หนุ่มผมทองตาฟ้าตอบชัดถ้อยชัดคำ เจ้าของโรงแรมห้าดาวมาได้ยินคงน้ำตาไหลพรากที่ห้องสวีทราคาคืนเป็นแสนมีค่าไว้เพียงอาบน้ำ “ว่าแต่นายเถอะ ทำไมมานอนห้องด็อกได้”

พอถูกย้อนคำถามเข้าบ้างก็อ้ำอึ้ง จะให้ตอบว่ามานอนห้องแฟนผิดตรงไหนก็ไม่ได้อีก อโศกได้ลุกเป็นไฟแน่ๆ

“คือว่าแอร์ที่ห้องมันเสียน่ะ เสียหมดทุกตัวเลย ไม่รู้เป็นอะไรฉันเลยขอมานอนห้องวาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วล่ะ นี่ก็ยุ่งๆ เรื่องแข่งดนตรีเลยยังไม่ได้เรียกช่างมันดู ใช่ไหมวา” พอถูกจ้องกลับมาเหมือนจะไม่เชื่ออลันด์ก็รีบขุดเรื่องโกหกขึ้นมาบอก ไม่ลืมหันไปหาตัวช่วยหน้าบูด

“ใช่ เพราะงั้นกลับโรงแรมไปซะ คืนนี้ยังไม่มีที่ให้เธอนอนหรอก” ทิวากานต์ก็รับลูก พยักหน้ายืนยันเสียงนิ่งไม่ปรากฏพิรุธ

“อะไรกัน ทีอัลยังนอนกับด็อกได้เลยอ่ะ ผมขอนอนด้วยคนสิ”

“คิดว่าเตียงฉันจะพอยัดผู้ชายสามคนได้หรือไง”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวให้อัลนอนบนตัวผมก็ได้ ยิ่งตอนนี้อัลผอมแล้ว สบายมาก”

ทิวากานต์ตาเหลือกเหมือนได้ยินเสียงเส้นเลือดข้างขมับเต้นตุบๆ ตาคมมองเด็กยักษ์ขนาดหกฟุตกับอีกห้านิ้วตั้งแต่หัวจรดเท้า ชุดพร้อมนอนมากแบกเป้มาด้วยอีกใบเหมือนหนีออกจากบ้าน อยากซัดหน้าไอ้หมาขนทองสักทีแต่เพลียเกินจะกล่าว “แค่คืนนี้คืนเดียว!”

“ทุกคืนก็ไหว”

“แต่นี่มันห้องฉัน ไม่งั้นก็นอนห้องรับแขก”

“โอเค คืนเดียวก็คืนเดียว” โธมัสยักไหล่ยอมแพ้ รอให้เจ้าของห้องเดินนำขึ้นไปชั้นบนถึงค่อยตามไป แต่ก็ยังโวยวายตอนที่เห็นเตียงขนาดใหญ่พิเศษของทิวากานต์ว่าใหญ่ขนาดนี้ให้เอาเจมส์มานอนด้วยอีกคนก็ยังไหว

คุณหมอศัลย์รูปหล่ออยากจะลับฝีปากด้วยอยู่หรอกถ้าไม่ติดว่านี่จะตีสองครึ่งแล้วและเขาต้องตื่นตีห้าไปทำงาน พอเจอเตียงก็รีบทิ้งร่างทันที ไอ้คนมาแย่งที่ก็กลัวโดนไล่เลยรีบล้มตัวเบียดนอนข้างๆ ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเรียบร้อย เหลือที่ตรงกลางนิดเดียวแต่ข้างเตียงสองด้านโล่งโจ้งให้อลันด์ที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำขยี้ตามองมึนๆ

ถ้าไปนอนฝั่งทิวากานต์โธมัสโวยวายแน่ๆ แต่ถ้าไปนอนฝั่งโธมัสคนแก่ขี้หวงอย่างทิวากานต์น่ะแหละจะหาเรื่องมาทะเลาะกับเขาทีหลัง เพื่อเป็นการตัดปัญหาเด็กลูกครึ่งเลยให้สองคนนี้มาเจอกันคนละครึ่งทาง มุดผ้าห่มไปแทรกกลางเสียเลย

“เขยิบหน่อย ทั้งคู่เลย” มือขาวตีแขนผู้ชายตัวโตสองคนคนละทีถึงยอมแยกจากกันให้เขามีที่นอน แต่เกิดปัญหาหมอนไม่พออีก อลันด์รีบตัดปัญหาไม่หนุนหมอนแม่งก่อนคุณอัลเซเชียนกับคุณโกลเด้นจะตีกันจนไม่ได้นอน แล้วต้องนอนหงายตรงๆ ด้วยนะจะได้ไม่มีใครได้กอดเท่าเทียมกันทุกฝ่าย

เจ้าเหมียวตัวแสบได้ยินเสียงคู่กัดกล่าวราตรีสวัสดิ์งำงึมเหมือนไม่พอใจ จนเขาขู่ว่าถ้ายังเรื่องมากเดี๋ยวเขาจะลงไปนอนที่ห้องนั่งเล่นเองถึงยอมหุบปากเงียบนอนกันได้เสียที



อลันด์สะลึมสะลือขึ้นมาตอนรู้สึกมีอะไรเย็นๆ แตะแก้ม ปรือตามองหน้าหล่อเหมือนพระเอกหนังฮ่องกงของทิวากานต์ที่ลอยอยู่ตรงหน้าจนภาพเบลอในตอนแรกแจ่มชัด จิตสำนึกบอกว่าถึงเวลาตื่นไปอาบน้ำแต่งตัวไปเรียนได้แล้ว หากพอเขาจะลุกขึ้นกลับถูกคนโตกว่ากดไหล่ไว้ซ้ำช่วงเอวยังถูกอะไรไม่รู้รัดแน่นจนขยับไม่ได้ ไหนจะเสียงกรนสนั่นเหมือนหวูดรถไฟแต่คุ้นหูนั่นอีก

“ชู่ว... นอนต่อเถอะไม่กวนแล้ว”

“วันนี้วันอังคารไม่ใช่เหรอ” งงอยู่หรอกแต่ก็ยอมทิ้งหัวแตะหมอนอีกครั้ง

“เดี๋ยวฉันไปก่อน วันนี้เราก็ขับรถไปเรียนเองแล้วกันอย่าลืมพาทอมไปด้วยล่ะ ฉันทำมื้อเช้าไว้ให้แล้ว หลับซะหกเจ็ดโมงค่อยตื่นใหม่” พอได้ยินชื่อเพื่อนรักถึงระลึกได้ว่าไม่ได้นอนอยู่คนเดียว แต่มีเจ้าของอ้อมกอดแน่นๆ และเสียงกรนร่วมเตียงอยู่ด้วย

เปลือกตาขาวซีดหย่อนลงอีกหนพร้อมจะหลับได้อีกครั้งทุกเมื่อ “อือ ขับรถดีๆ นะ”

“ครับ” คุณหมอฉีกยิ้มมาให้แถมจูบบนหน้าผากหนึ่งที อลันด์ถึงรู้ว่าไอ้เย็นๆ ที่ปลุกเขาขึ้นมาก็คือริมฝีปากของทิวากานต์นั่นเอง

เด็กหนุ่มกระพริบตามองตามหลังเจ้าของห้องตัวจริงในชุดทำงานผูกไทเรียบร้อยฉีด Creed  Aventus หอมฟุ้งจนอยากดึงมานอนซุกไม่ปล่อยให้ไปทำงานเจอพยาบาลหรือคนไข้ที่ไหนอีกเลย หากตอนนี้เขาถูกเสียงกรนของโธมัสกล่อมจนเผลอหลับไปอีกรอบอย่างง่ายดาย

เด็กฝรั่งรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีตอนใกล้จะเจ็ดโมงเช้า วันนี้มีเรียนสิบโมงถ้าออกตอนสายหน่อยรถคงไม่ติดเท่าไหร่ ร่างเล็กลุกขึ้นจากเตียงเดินลากขาเข้าไปในห้องน้ำจัดการล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็ออกมาใช้ตีนเตะไอ้หมาขนทองที่นอนแผ่เต็มเตียงให้ลุกขึ้นมาหากิน

“ด็อกล่ะ” โธมัสถามเสียงง่วง นั่งคอพับคองอตาปรือ

“ไปทำงานตั้งนานแล้ว”

“ขยันจังแหะ”

“ฉันต้องออกไปเรียนตอนเก้าโมงและนายคงฝังตัวอยู่ที่นี่ทั้งวันไม่ได้ เพราะงั้น...”

“ฉันจะไปนั่งเรียนด้วย” หนุ่มนักกีฬารีบเสนอตัวทันที ไอ้ท่าทางพร้อมล้มตัวลงนอนทุกเมื่อหายวับ หันไปมองอีกทีอลันด์ก็เห็นแต่หลังอีกฝ่ายคว้าเป้วิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำแล้ว

ระหว่างนั้นแฟนเจ้าของห้องที่ดีก็ผลัดชุดนอนเป็นชุดนักศึกษาก่อนเดินลงไปดูมื้อเช้าที่ทิวากานต์เตรียมไว้ให้ มีซีเรียลโฮลวีทกับเบอร์รี่รวมที่ทำความสะอาดแล้วกล่องใหญ่  กีวี่หันแว่น นมจืดพร่องมันเนย (ช่วงไดเอตแรกๆ เป็นนมขาดมันเนยรสชาติเหมือนน้ำล้างจาน แต่กินสักพักแล้วติดหนุบหนับจนทิวากานต์บอกว่าไม่ต้องควบคุมอาหารเท่าตอนแรกแล้วเอานมจืดธรรมดามาให้กิน กลายเป็นว่าเด็กฝรั่งเกิดอาการเหม็นคาวกินไม่ได้ขึ้นมาซะงั้น เลยต้องค่อยๆ เปลี่ยนกลับมาเป็นแบบครึ่งๆ ไปก่อน) กับไข่ต้มอีกสองฟอง

อลันด์จัดมื้อเช้าให้ตัวเอง เทซีเรียลกับผลไม้ใส่ชามตามด้วยนมจนท่วมก่อนอุ้มออกมานั่งตรงห้องนั่งเล่นเปิดทีวีดูรายการข่าวเช้า ตักซีเรียลเข้าปากไม่ถึงสิบสามคำโธมัสก็วิ่งตึงตังลงมาจากข้างบนหน้าตาตื่น โวยวายเสียงดังหาว่าเขาจะทิ้งอีกคนไว้ที่นี่

“ให้มันน้อยๆ หน่อย มื้อเช้าอยู่ในครัว ชามอยู่ในตู้ข้างบนซิงค์ จัดการเอาเองนะ”

“ฉันนึกว่านายกินมื้อเช้าที่ห้องซะอีก แม่บ้านเขาไม่ได้มาทำให้กินหรือไง” หนุ่มผมทองในสภาพแตกต่างจากเมื่อวานราวกับเป็นคนละคนด้วยเสื้อยืดแขนสั้นกับกางเกงยีนส์ขายาวเลิกคิ้วฉงน เท้าสาวตรงเข้าไปในส่วนครัวหยิบอุปกรณ์การกินออกมาจัดการตามที่อลันด์บอก จนเสร็จถึงเดินกลับมานั่งเบียดเพื่อนรักบนโซฟาตัวใหญ่

“แล้วแต่บางวันจะสั่ง ส่วนใหญ่กินกับวานี่แหละง่ายดีไม่เสียเวลาดี ไงก็ออกไปพร้อมกันอยู่แล้ว”

“โฮ่ ไอ - ซี คงจะบ่อยมากจนรู้จักห้องนี้ทุกซอกทุกมุมเลยสินะ”

ตาสีซีดเหลือบมองคนข้างตัวแล้วยักไหล่ตักซีเรียลกินเหมือนไม่ได้ยินประโยคเมื่อครู่แกล้งเปลี่ยนไปเรื่องอื่นแทน “มีไข่ต้มบนโต๊ะด้วยนะ แต่ฉันไม่อยากกินยกให้นายสองฟองเลย”

“Thanks! ไม่เกรงใจล่ะ”

อยากจะตอกกลับไปเหลือเกินว่าเอ็งไม่เกรงใจตั้งแต่มากดกริ่งตอนตีสองแล้ว แต่เพื่อไม่ให้อะไรๆ มันมัดตัวอลันด์จึงทำเฉยไปซะ

พอจัดการมื้อเช้าล้างจานเก็บเสร็จเรียบร้อยอลันด์ก็พาโธมัสออกจากคอนโดเสียที ตอนแรกชายหนุ่มเสนอให้เรียกรถของโรงแรมมารับไปส่งเพราะไหนๆ จ่ายค่าที่พักไปแพงแล้วแต่ไม่ได้ใช้บริการอะไรเลยดูจะไม่คุ้ม แต่ทั้งหมดนั่นถูกอลันด์ปัดตกไปเพราะกว่ารถของโรงแรมจะฝ่าการจราจรจากแถวสาทรมาถึงอโศกเพื่อวนกลับไปส่งเขาที่มหาวิทยาลัยอีกทีคงได้เข้าคลาสสายแน่ๆ

สาวๆ ที่คณะดูจะตื่นเต้นที่ได้เจอชายหนุ่มรูปหล่อผมทองอีกครั้งในรูปแบบที่เอื้อมถึงมากกว่าเดิม ทว่าเป็นที่น่าเสียดายของพวกหล่อนที่ดวงตาสีฟ้าสดไม่สนใจมองใครเลยนอกจากเพื่อนซี้ตัวเล็กเพศชายแม้ว่าพยายามเดินอ่อยไปมาแล้วก็ตาม

“อ้าว มาแต่เช้าเลยนะ” คนินทร์ทักโธมัสที่นั่งหาวอยู่ข้างอลันด์บนโต๊ะใกล้ลิฟต์ จะว่าแปลกใจก็ใช่แต่ไม่แปลกใจที่เห็นหนุ่มฝรั่งตัวโตที่นี่ก็ใช่อีก คือคิดแหละว่าต้องมาแต่ไม่ใช่เช้าแบบนี้

“จะเป็นหมาที่ดีต้องคอยเฝ้าอัลตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง”

“หืม?” หนุ่มไทยเลิกคิ้วหรี่ตามองคนพูดเหมือนไม่แน่ใจเท่าไหร่ เขาแคะหูทำเหมือนได้ยินที่อีกฝ่ายพูดไม่ชัด อะไรหมาๆ นะ หรือเขาเกิดอาการไม่เข้าใจภาษาอังกฤษขึ้นมากะทันหันกัน “นายว่าอะไรนะทอม”

“ถ้านายให้ราคากับกัปตันชมรมรักบี้ที่สนใจแต่ว่าจะทำยังไงให้ทำแต้มโปโลได้มากกว่านักกีฬาโปโลทีมชาติ ขอบอกเลยว่าไปทำอะไรที่มีสาระกว่านี้เถอะ” เป็นอลันด์ที่แทรกขึ้นมาเพราะชักจะเอือมกับเพื่อนซี้ขนทอง ไม่รู้อยู่กับฝูงโกลเด้นที่บ้านมากเกินไปหรือไงถึงได้เพี้ยนจนนึกว่าเป็นพวกเดียวกันไปแล้วจริงๆ

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ แต่มาหาอัลแต่เช้าเลยนะ นึกว่าจะเจ็ทแลคนอนซมอยู่ที่โรงแรมซะอีก”

“เคยได้ยินไหม คนบ้าไม่ป่วยน่ะ”

“ฉันไม่บ้านะอัล” โธมัสทำท่าครางหงิงๆ ถูคางกับไหล่เพื่อนตัวเล็กเหมือนหมาอ้อนเจ้าของ คนินทร์ถึงกับขยี้ตาเพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้ตาฟาดไปที่เห็นหูกับหางงอกออกมาจากตัวหนุ่มฝรั่งรูปหล่อ

“คงไม่มีคนปกติที่ไหนบุกมาบ้านคนอื่นตอนตีสองหรอก”

“อย่าบอกนะว่าเมื่อคืน...”

“ใช่ ไอ้หมานี่มาหาฉันตอนตีสองเพื่อจะบอกว่านอนเตียงโรงแรมไม่ได้” หนุ่มไทยแทบจะทำหน้าหมีใส่คนนอนเตียงโรงแรมห้าดาวไม่ได้ พ่อคุณนอนได้แต่เตียงยัดขนห่านหรือยังไง

“เพราะไม่มีอัลนอนด้วยต่างหาก”

“เข้าใจล่ะ” คนินทร์ชักเข้าใจความรู้สึกอลันด์ที่มีเพื่อนแบบนี้แล้ว ถ้าเป็นเขาคงขอชกสักที อัลเองคงอยากทำแบบนั้นเหมือนกันแต่ขนาดตัวไม่อำนวยให้ เกรงว่าก่อนได้ชกคงถูกดีดออกไปนอกโลกซะก่อน

เมื่อคลาสเรียนเริ่มโธมัสจำต้องระเห็จตัวเองออกจากเพื่อนตัวเล็กชั่วคราวเพราะอาจารย์ประจำวิชาไม่อนุญาตให้นักศึกษาต่างชาติและต่างมหาวิทยาลัยเข้าซิทอินด้วยได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกที่เรียนวิศวกรรมศาสตร์หน้าหล่อที่เข้ามาฟังแล้วคงไม่เข้าใจและพลอยทำเอานักศึกษาสาวทั้งคลาสเรียนไม่รู้เรื่องไปด้วย หนุ่มลูกเสี้ยวเยอรมันเลยพาตัวเองเดินเล่นอยู่แถวนั้นแทนการไปฝังตัวอาบแอร์คอนดิชั่นเย็นๆ อยู่ในห้องสมุดของมหาวิทยาลัย อย่าได้กลัวหลงเพราะเขามีกูเกิ้ลและอินเตอร์เน็ทพร้อมอยู่ในมือ แถมทุกอย่างยังสะดวกสบายสอบถามทางกับใครก็มีแต่คนรีบวิ่งเข้ามาให้ความช่วยเหลือ บางคนถึงขั้นอาสาจะพาเขาเที่ยวด้วยซ้ำ ก็อยากอยู่หรอกนะแต่ไม่เอาล่ะเดี๋ยวอัลจะน้อยใจ

โธมัสใช้เวลาสองชั่วโมงเดินไปตามทางเลียบริมแม่น้ำหาของขึ้นชื่อแถวนั้นกิน ขอบอกตรงนี้เลยว่าอาหารเช้าที่ทิวากานต์เตรียมไว้ให้นั้นไม่พอเยียวยากระเพาะเขาให้หายหิวได้เลยแม้แต่นิดเดียว ดูแต่ละอย่างสิ นม ผลไม้ ซีเรียล เพราะงี้ไงถึงได้ตัวผอมแห้งไร้กล้ามเนื้อกันทั้งคู่ ถ้าอยากหุ่นดีแบบเขาต้องกินไข่ลวกสักสองฟอง ไส้กรอกสักสามชิ้น กับอกไก่ต้มครึ่งโลเป็นมื้อเช้าและออกกำลังกายต่างหาก!

หาอะไรกินจนอิ่มแปล้ก็เดินไปนอนอาบแดดฟังเสียงเรือวิ่งไปวิ่งมาจนถึงเวลาพักเที่ยง เขาเดินกลับไปมหาวิทยาลัยก่อนถูกเพื่อนคนไทยของอัลพาไปกินมื้อเที่ยงแบบไทยๆ ตามด้วยขนมหวานละลานตา

อลันด์ซื้อคุ้กกี้รูปดอกไม้ให้ถุงหนึ่ง บอกว่าเป็นคุ้กกี้แบบไทยมีกลิ่นหอมและรสชาติหวานละมุนลิ้นเรียกว่ากลีบลำดวน โธมัสลองแล้วติดใจซื้อกลับไปอีกห้าถุงบอกจะเก็บไว้เป็นเสบียงกรังตอนรอเพื่อนซี้เรียนช่วงบ่าย ส่วนคนแนะนำกลับกินแค่ชิ้นเดียวแล้วบ่นอุบว่าหวานทั้งที่ก่อนหน้านี้ชอบมากจนคะยั้นคะยอให้ทิวากานต์ทำให้กินที่คอนโดมาแล้ว

พอเพื่อนรักกลับไปเรียนคราวนี้โธมัสหอบถุงขนมใส่กระเป๋าเป้ ทดลองทำตัวเป็นแบคแพคเกอร์นั่งเรือกลับโรงแรมไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

แม้ใจจะอยากอยู่กับอลันด์ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงตามที่ให้สัญญากับคุณหมอ แต่อลันด์มีคนินทร์อยู่ด้วยดูยังไงก็ไม่น่าจะเป็นห่วง แถมมหาวิทยาลัยอยู่ใกล้โรงพยาบาลแค่แม่น้ำกั้นเกิดอาการโรคหัวใจกำเริบขึ้นมายังไงก็ส่งถึงมือหมอทันแน่ๆ โธมัสคิดถึงเมื่อวานที่ไปตามเพื่อนนภสองคนนั้นกลับเข้าไปในร้าน ตอนนั้นทิวากานต์เริ่มทำตัวแปลกๆ ทำไมคุณหมอต้องให้เขาอยู่ตัวติดกับอัลด้วยนะ โดยเฉพาะวันพุธที่เจ้าตัวต้องเข้าเวรที่โรงพยาบาล มันแปลก...

“หรือว่าด็อกอยากให้เราใช้เวลานั้นปรับความเข้าใจกับอัล” หนุ่มขนทองสรุปเข้าข้างตัวเองหน้าซื่อ ยิ้มร่าเมื่อคิดว่าจะใช้เวลาทั้งคืนทำอะไรกับอลันด์ผู้น่ารักดี

.
.
.

และแล้ววันพุธหรรษาก็มาถึง อลันด์รู้สึกใจหายหวิวๆ ในช่วงอกเมื่อตอนต้องจากกับทิวากานต์ในช่วงเช้าและจะไม่ได้เจอกันอีกจนกว่าจะถึงพรุ่งนี้ ความจริงช่วงเย็นพอจะมีเวลานั่งกินข้าวด้วยกันที่โรงพยาบาลสักหน่อยแต่คุณหมอเป็นคนปฏิเสธข้อเสนอนั้นด้วยการต้องอยู่ดูแลคนไข้เคสหนึ่งตามที่การันต์ฝากฝังไว้เป็นพิเศษ เด็กฝรั่งรู้สึกอยากจะงอแงเป็นเด็กสามขวบใส่การันต์ขึ้นมาเสียเดี๋ยวนั้น ไม่รู้ทำไมต้องไปสัมมนาตอนนี้ด้วยนะ!

“ทอมกลับวันไหนกี่โมงนะ”

“พฤหัสค่ำๆ” เขาตอบเอื่อยๆ แกล้งทำเป็นหยิบกระเป๋าเป้ช้าๆ แต่เหมือนทิวากานต์จะรู้ทันเลยเอี้ยวตัวไปหยิบจากเบาะหลังมาให้

“จะไปส่งหรือเปล่า”

“ไม่รู้สิ นี่วา ถามจริงเถอะคิดไงให้โธมัสมานอนเป็นเพื่อนผมคืนนี้น่ะ” เด็กหนุ่มกอดกระเป๋าเป้แน่นทำหน้างอ ทิวากานต์เพิ่งบอกเมื่อคืนว่าจะให้โธมัสมานอนด้วยนี่เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เขารู้สึกมวนในท้อง มันต้องเกิดอะไรขึ้นกับความคิดของคุณหมอแน่ๆ “ไม่กลัวเขาไล่ปล้ำผมอีกหรือไง ไหนบอกหวง”

“แล้วใครบอกให้เธอนอนเฉยรอไอ้หมานั่นมาปล้ำล่ะ” ทิวากานต์ทำหน้าฉุน “ฉันแค่อยากให้เธอได้ใช้เวลากับเพื่อน เข้าใจไหม เพื่อน พอ - เอือ - นอ - เพือน - ไม้เอก - เพื่อนอ่ะ”

“เพื่อนที่จ้องจะงาบผมตลอดยี่สิบชั่วโมง ขอบคุณมาก วาลืมไปแล้วเหรอว่าผมกลัวเขา ผมสู้เขาไม่ได้หรอกถ้าจู่ๆ หมอนั่นอยากจะเล่นมวยปล้ำบนเตียงกับผมขึ้นมา”

“เธอทำได้” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง หันใบหน้ามาทางอลันด์ จดจ้องจนหน้าขาวผงะไปด้านหลัง “ฉันเชื่อว่าเธอมีวิธีจัดการกับทอมได้ ทอมไม่ใช่คนโง่แต่เป็นหมาฉลาดระดับพรีเมี่ยมที่ฟาร์มเพาะต้องการไปเป็นพ่อพันธุ์ คืนนี้เธอต้องพูดกับเขาให้เข้าใจว่าเธอขีดเส้นกั้นให้เขาได้แค่เพื่อน เข้าใจไหม ถ้าเธอเคลียร์ความสัมพันธ์ยุ่งเหยิงนี่ไม่ได้ด้วยตัวเองใครก็เข้าไปจัดการให้ไม่ได้หรอก แล้วพวกเธอก็จะเป็นแบบนี้ วนเวียนทะเลาะคืนดีกันเป็นวงจรอุบาทว์”

หากเหตุผลมากกว่านั้นที่ทิวากานต์ไม่บอกออกไปคือเขาตั้งใจใช้โธมัสเป็นคู่ซ้อมมือการเอาตัวรอดจากการถูกข่มขืนฉบับทดลองจริงแบบไร้ตัวช่วยสำหรับคืนวันศุกร์ที่จะถึงนี้ต่างหาก เขาไม่หวังอยู่แล้วว่าอลันด์จะชกหน้าโธมัสคว่ำ แต่แค่อลันด์ได้ฝึกรบกับโธมัสคงดีกว่าไปตัวเปล่าแบบไม่มีประสบการณ์เอาตัวรอดเสียเลย เจ้าพวกเพื่อนเลวของนภคงไม่ยอมรามือง่ายๆ เพียงแค่เจ้าเด็กแสบนี่ร้องไห้หรือสลบอย่างที่โธมัสทำแน่นอน

ถึงจะมั่นใจว่าโธมัสคงไม่เลวร้ายถึงขั้นขืนใจเพื่อนรักถ้าเพื่อนไม่สมยอม แต่เรื่องอะไรที่เขาจะไม่ป้องกันอะไรเลย เขาลูบหัวสีช็อกโกแลตนมเบาๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายหน้าซีด “ไม่ต้องกลัวน่า”

“วาไม่ต้องไปรบกับไอ้หมาบ้าที่ยกเบนช์เพรสได้สามร้อยสามสิบปอนด์(ประมาณร้อยห้าสิบกิโลกรัม)นี่!”

ทิวากานต์ทำตาโตมองอลันด์ที่ทำหน้างอไปแล้ว ยอมรับว่าตกใจที่ได้ยินสถิติยกเหล็กของไอ้หมาบ้านั่นอยู่บ้าง (ไม่ตกใจก็ไม่ใช่คนล่ะ นี่มันยกน้ำหนักได้เท่าน้ำหนักตัวเขาถึงสองเท่าเลยนะ!) ทิวากานต์กลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อกก่อนกระแอมเก๊กเสียงเข้ม “ต่อให้กล้ามใหญ่แค่ไหนยังไงก็คงไม่กันไฟฟ้าหรอกมั้ง”

“หือ?”

“เอ้านี่ เก็บไว้ใกล้ๆ ตัว ถ้าไม่ไหวก็ช็อตแม่งเลยเข้าใจไหม”

ตาสีซีดก้มมองเครื่องช็อตไฟฟ้าในมือทึ่งๆ ทิวากานต์เพิ่งหยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงเมื่อกี้ ให้ตายเถอะ! หมอเถื่อนมาก “วา... ทอมจะตายไหมเนี่ย”

“ห่วงจังนะ มันไม่ตายหรอกน่าแค่พอสลบสักชั่วโมงสองชั่วโมง ค่อยหนีตอนนั้นออกมาแล้วกัน”

“โอ้ - มาย - ก็อด นี่วาเป็นหมอจริงๆ ใช่ไหม”

“เห็นเป็นหมาหรือไงล่ะ” อลันด์บุ้ยหน้า เก็บเครื่องช็อตไฟฟ้าใส่กระเป๋าเป้ เอียงหูฟังทิวากานต์เทศนาต่อ “แล้วจำไว้นะ อย่าหยิบมาใช่สุ่มสี่สุ่มห้ารู้ไหม ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วทอมพยายามใช้กำลังค่อยเอาออกมา”

“อ่าฮะ”

“ดี วันนี้พาทอมไปซ้อมด้วย เป็นเด็กดีล่ะแล้วเจอกันพรุ่งนี้”

.
.
.

นภไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เห็นโธมัสตามอลันด์มาซ้อมดนตรีด้วย แต่สงสัยเพื่อนทั้งสองคนของเขาที่ทำหน้าเบื่อแล้วขอตัวกลับก่อนเมื่อตอนหนุ่มผมทองเอาตัวใหญ่ๆ เบียดเพื่อนตัวเล็กบนเก้าอี้เล่นเปียโนมากกว่า คู่ซี้ต่างไซส์ออกจะเล่นเปียโนได้เข้าขาบรรเลงดนตรีออกมาไพเราะขนาดนี้ ทำไมเพื่อนเขามันไม่ชอบนะ

เขาไม่แปลกใจถ้าอลันด์จะพอเล่นเปียโนได้ แต่กลับหนุ่มนักกีฬาอย่างโธมัสต้องบอกว่าน่าประหลาดใจมากทีเดียวที่เล่น Marche Militaire Duet ของชูแบร์ทได้เข้าขากับเพื่อนออกมาน่าประทับใจจนนภต้องปรบมือให้ดังๆ ตอนที่เสียงเพลงจบลง

นอกจากนั้นหนุ่มเจ้าของความสูงหกฟุตห้านิ้วยังแสดงฝีมือการเล่นกีตาร์และร้องเพลงได้อย่างน่าทึ่ง เขาหยิบกีตาร์ไม้ตัวหนึ่งของอลันด์ขึ้นมาวางบนตัก เอานิ้วแตะปากให้ทั้งห้องเงียบพลางทำหน้าทะเล้น บอกกับทุกคนด้วยเสียงทุ้มต่ำ

“Surprise performance for my immortal beloved”

‘Oh no no don't leave me lonely now
If you loved me how'd you never learn
Ooh, coloured crimson in my eyes
One or two could free my mind’

โปรดเถอะ อย่างทิ้งฉันไว้คนเดียวตอนนี้เลย
ถ้าคุณเคยรักฉันอยู่บ้างแสดงว่าคุณไม่เคยจะเรียนรู้เลยสินะ
เส้นเลือดฝอยในตาฉันแตกแดงเถือก
แต่เอามาอีกเถอะ สักเม็ดสองเม็ดเผื่อมันจะช่วยปลดปล่อยฉันได้

‘This is how it ends, I feel the chemicals burn in my bloodstream
Fading out again, I feel the chemicals burn in my bloodstream’
1
มันจบลงแบบนี้แหละ ฉีดสารพวกนี้เข้าไปแผดเผาในกระแสเลือด
สารเคมีที่แผดเผาอยู่ในกระแสเลือดมันค่อยๆ จางหายไปอีกแล้ว

“นายไม่เหมาะกับอะไรแบบนี้เลย” อลันด์ว่า ไม่ได้หมายถึงการที่โธมัสลุกขึ้นมาดีดกีตาร์ครวญเพลงแต่หมายถึงเพลงเนื้อหาแบบนี้ ผู้ชายอกหักแล้วเป็นบ้าพึ่งยาเสพติดดับความทุกข์ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นการตอกย้ำความเจ็บปวดให้กับตัวเอง เพื่อนเขาน่ะต้องแบบหนุ่มหล่อผู้ไม่มีวันแพ้ซี่

“ออกจะเท่ สาวๆ ชอบผู้ชายมีปมกันจะตาย”

“ฉันคิดถึงวันที่นายอกหักแล้วเป็นบ้าไม่ออกเลย”

“คงมีสักวันถ้าฉันได้เจอคนที่ฉันรักมากจริงๆ แต่เขาไม่รักฉัน ถึงตอนนั้นนายอย่าทิ้งฉันนะอัล”

“ไม่มีทางอยู่แล้ว” เด็กตัวเล็กยักไหล่ หยิบกีตาร์อีกตัวขึ้นมาตั้งสาย ไม่ได้บอกออกไปอีกว่าถ้านายไม่คิดจะงาบฉันทั้งตัวก็จะอยู่เป็นเพื่อนแบบนี้ไปตลอดนั่นแหละ

“สองคนนี้สนิทกันดีจัง รู้จักกันนานแล้วเหรอ” คำถามซื่อๆ ของนักร้องหนุ่มเรียกใบหน้าของเด็กทั้งคู่ให้หันไปหาพร้อมกัน ก่อนจะกลับมามองตากันเองแล้วหัวเราะ

“ก็ตั้งแต่สามสี่ขวบได้เนอะ”

“ตั้งแต่อัลยังตัวเท่าแมลง” โธมัสเอานิ้วโป้งกับนิ้วชี้ประกบกันบอกขนาดตัวเพื่อนครั้งแรกที่พบกัน “ตัวนิดเดียว ผมยังเป็นสีทอง”

“สิบห้าจะสิบหกปีได้แล้วมั้ง เกินครึ่งชีวิตแล้ว”

“นานจัง ฉันก็อยากมีเพื่อนแบบนี้บ้างนะ” นภทำหน้าเพ้อๆ สายตาบอกชัดว่าอิจฉาแต่ก็ชื่นชม ขนาดแค่แข่งดนตรีเล็กๆ ในมหาวิทยาลัยยังลงทุนบินจากเยอรมันมาเชียร์ นอกจากรักเพื่อนมากแล้วยังรวยอีกด้วยนะเนี่ย ตอนเขาไปหาอลันด์ที่ลอนดอนก็พอรู้อยู่หรอกว่าลูกศิษย์เขารวยพอสมควรแต่กับเพื่อนแบบโธมัสก็เพิ่งจะรู้นี่แหละ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-11-2015 13:07:03 โดย บัวน้อย ไร่แตงโม »

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 17 [29.11.15]
«ตอบ #206 เมื่อ29-11-2015 13:04:14 »

อลันด์ถอนหายใจหนักพลางจ้องหน้าตัวเองผ่านกระจกในห้องน้ำของที่คอนโด ตอนนี้สี่ทุ่มกว่าแล้วเขากับโธมัสเพิ่งกลับมาจากการถ่วงเวลา เอ๊ย แวะกินมื้อเย็นแถวบ้านนภ

ตอนแรกเขาบอกโธมัสไปว่าอยากนอนพักที่โรงแรมริมแม่น้ำดูบ้าง โดยมีเหตุผลลับๆ คือที่โรงแรมต่อให้ดึกแค่ไหนก็มีคนเยอะ ถ้าเกิดอะไรไม่คาดฝันขึ้นมามีคนช่วยแน่ๆ แต่ไอ้หมาทอมน่ะสิบอกว่าอยากนอนห้องเขา จะแกล้งบอกว่าแอร์ยังไม่ซ่อมก็ไม่ได้อีกเพราะวันอังคารโธมัสตามมากินมื้อเย็นด้วยที่ห้องและพบว่าแอร์ทุกตัวกลับมาใช้งานได้ดีเหมือนเดิม (แหงล่ะ มันไม่ได้เสียตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่!)

ตาสีฟ้าซีดก้มมองเครื่องช็อตไฟฟ้าในมือ ทำใจไว้อาลัยให้พ่อโกลเด้นในห้องนอนที่อาจจะเป็นหมาเกรียมได้ทุกเมื่อ ครู่เดียวจึงค่อยยัดวัตถุอันตรายใส่กระเป๋ากางเกงนอน

ตอนที่เขากลับเข้าไปข้างในโธมัสนอนแผ่เต็มเตียงเล็กๆ ของเขา ปล่อยฟูกและอุปกรณ์การนอนบนพื้นไว้ไม่ไยดี พ่อหนุ่มอดีตกัปตันชมรมรักบี้เปลือยท่อนบนโชว์ขนสีทองรกครึ้มและแผงอกที่ฟิตแน่นกว่าครั้งล่าสุดที่เห็นเมื่อสามสี่เดือนที่แล้ว พอบวกรวมกับหนวดเคราบนใบหน้าแล้วดูยุ่งเหยิงแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีเสน่ห์ชวนน้ำลายหยดติ๋งๆ

เขาเอียงคอพิจารณาเพื่อนรักเล่นโทรศัพท์เงียบๆ ครั้งหนึ่งเขาเคยชอบโธมัสที่สัมผัสเขาแบบนั้น มันดีมากจนเหมือนลอยขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เปลี่ยนเป็นความกลัว

“โอ้ อัล!” หนุ่มผมทองสังเกตเห็นเพื่อนตัวเล็ก เขารีบโยนโทรศัพท์ทิ้งก่อนเบี่ยงตัวให้เกิดที่ว่างบนเตียงแค่พอแมวมุดไปนอนได้ “มานอนข้างฉันสิ”

“ถ้านายต้องการเตียงเดี๋ยวฉันนอนฟูกเอง”

“นอนด้วยกันก็ได้น่า ถ้าที่มันไม่พอก็นอนบนตัวฉันเลย”

“ไม่เอาน่าทอม นายไม่อึดอัดหรือไง”

“ทีนายนอนกอดกับด็อกกลมดิกฉันยังไม่เห็นนายบ่นเลย อย่าให้ฉันหงุดหงิดน่าเรากอดกันออกบ่อยจะมาหวงตัวอะไรกันตอนนี้”

“แค่ - นอน - กอด” เขายื่นคำขาด ทิวากานต์บอกว่าเขาต้องคุยกับโธมัสให้รู้เรื่องและจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวคนเดียว ผู้ชายคนนั้นทั้งที่ไม่ชอบหน้าเพื่อนเขาเท่าไหร่แต่ก็ให้โอกาสเขาจัดการปัญหาเรื่องนี้เอง เพราะฉะนั้นเขาไม่อยากทำให้ทิวากานต์ผิดหวังกับการทำตัวอ่อนแอซ้ำซาก

“อย่าตัดรอนกันแบบนั้นสิ นายไม่คิดถึงฉันอย่างที่ฉันคิดถึงนายบ้างอย่างนั้นเหรอ”

โธมัสลุกขึ้นจากเตียงตรงเข้ามาจูงมือเพื่อนไปนั่งด้วยกัน เขาแตะนิ้วบนแก้มใสขึ้นสีแดงฝาดเพราะน้ำอุ่น เจ้าตัวดูน่ารักน่ากินเอามากๆ ตอนอยู่ในเสื้อนอนผ้าฝ้ายนุ่มนิ่มเหมือนปุยนุ่น ไม่รอให้สมองสั่งการเขาก้มลงฝังจมูกกับริมฝีปากเข้าหาก้อนเนื้อนุ่ม สูดกลิ่นหอมจากครีมอาบน้ำเข้าเต็มปอด

“อื๊อ ไม่นะ...ทอม” อลันด์ร้องเสียงหลงเมื่อโธมัสจับเขากดลงกับเตียงและเริ่มปล้ำจูบไปตามใบหน้าเขา มือหนาหยาบกร้านล้วงเข้ามาใต้เสื้อนอนลูบไล้กักขฬะ

“คิดถึง... คิดถึงอัลมากๆ อยากจูบ อยากกอด อยากทำกับนาย”

“อย่าทอม!” เด็กหนุ่มตัวเล็กร้องเสียงหลง สองมือพยายามดันหน้ากับมือของโธมัสออกจากตัว เหมือนไม้ซีกงัดไม้ซุงอย่าว่าแต่จะขยับเขายังถูกเจ้าของความสูงหกฟุตกว่าทับลงมามากกว่าเดิมอีกต่างหาก

“I need you” แล้วโธมัสก็จัดการปิดเสียงร้องประท้วงของอลันด์ด้วยจูบร้อนแรงราวกับเผาร่างกายอีกคนให้ไร้แรงต่อต้านได้อีก เขาสอดลิ้นเข้าควานลึก ดูดดึงลิ้นน้อยๆ นั้นให้เจ้าของเสียววาบไปทั่วท้องน้อย รู้ดีว่าอีกคนชอบให้สัมผัสตรงไหนยังไง รับรองว่าคืนนี้อลันด์ไม่มีทางหลุดรอดมือเขาไปได้หรอก เขาจะใช้ทุกเทคนิคที่เรียนรู้มาตลอดช่วงเรียนมหาวิทยาลัยทำให้อัลยอมเป็นของเขาให้ได้!

แน่นอนว่าถ้าพ่อเขารู้ความคิดเมื่อครู่นี้โธมัสคงโดนตบหัวเน้นๆ พร้อมกับคำถามว่า ‘กูส่งมึงไปเรียนวิศวะหรือวิชาบนเตียงกันแน่วะ’ แต่พ่อคงกำลังนั่งด่าลูกน้องป่าวๆ อยู่ที่ลอนดอนจะตามมาตบเขาถึงนี่ไม่มีทางแน่ๆ

แป๊บเดียวเขาก็จับอลันด์ลอกคราบทั้งตัว เจ้าตัวน้อยหน้าซีดเผือดคงหนาว ไม่เป็นไรเขาจะกอดให้ความอบอุ่นเอง หนาวเนื้อต้องห่มเนื้อ! โธมัสกระชากกางเกงนอนทิ้งแล้วโถมตัวเข้ากอดรัดฟัดอีกฝ่ายจนน้ำลายเปรอะทั่วหน้า ถดตัวลงไปจูบอีกฝ่ายตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาถึงต้นขาด้านในจนอลันด์ร้องเสียงหลง

“ไม่! ไม่ๆ ไม่ทำแบบนี้นะทอม ไม่!!!”

“แต่ฉันอยากทำนี่ ตามใจฉันหน่อยซี่ ทีแต่ก่อนนายยังไม่ว่าอะไรเลยทำไมตอนนี้ดื้อจังห๊ะ”

“มันไม่เหมือนกันนี่!” อลันด์ตะโกนหน้าแดง “ตอนนั้นฉันยังไม่รู้แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าคนที่เป็นเพื่อนกันเขาไม่ทำแบบนี้หรอก ไม่มีเพื่อนคนไหนที่ฉันรู้จักอยากจูบอยากมีเซ็กส์กับฉันสักคน”

“ก็เพื่อนแบบฉันไง!!!”

“ถ้านายทำฉันก็จะไม่คิดว่านายเป็นเพื่อนอีกแล้ว!!!” เสียงแหบสั่นตลอดเวลาที่พูดน้ำตาคลอดูน่าสงสาร แต่โธมัสหงุดหงิดที่เพื่อนเขาไม่ว่าง่ายเหมือนเดิม

“มันสำคัญเหรอว่าเพื่อนจะมีอะไรกับเพื่อนไม่ได้น่ะในเมื่อถ้าเราทำแล้วเราต่างมีความสุขด้วยกันทั้งคู่”

“ฉัน - ไม่ - มี - ความ - สุข - ทอม!” เด็กหนุ่มย้ำช้าชัดทีละคำ ก่อนน้ำเสียงจะอ่อนลงเมื่อเห็นใบหน้าหล่อตรงหน้าหงอยลงไป “เมื่อก่อนฉันมีความสุขนะทอม ฉันชอบให้นายกอดฉันแน่นๆ จูบฉัน ทำเหมือนฉันเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตนาย แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว... นายมีคนรักของนาย ถ้านายยังทำกับฉันแบบนี้นายจะกลายเป็นผู้ชายเลวๆ คนหนึ่งที่ทำร้ายทั้งฉันและผู้หญิงคนนั้น”

“ฉันยินดีเลิกกับเขาตอนนี้เพื่อนายเลย”

อลันด์ส่ายหน้าอาศัยช่วงที่โธมัสสับสนลุกไปหยิบกางเกงมาใส่ แอบแตะตรงกระเป๋าดูว่าเครื่องช็อตไฟฟ้ายังอยู่ดี “ต่อให้นายเลิกกับเขาตอนนี้ฉันก็จะไม่นอนกับนาย”

“ทำไม”

“ตอนนี้ฉันแค่อยากเป็นเพื่อนกับนาย...ตลอดไป”

“ฉันไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจสิ่งที่นายพูดมาเลยแม้แต่นิดเดียวอัล ไม่ยอมให้ฉันกอดถ้าฉันยังมีแฟนอยู่ แต่จะให้ฉันเลิกกับเขานายก็ไม่เอา นายต้องการอะไรกันแน่”

“ความรัก ฉันอยากได้ความรักแบบที่ไม่ใช่สำหรับเพื่อน นายให้ฉันได้ไหมล่ะ”

“ฉัน...”

“ขนาดนายยังไม่รู้ตัวเองเลย แล้วเราจะทำทั้งที่เราไม่รักกันงั้นเหรอ ฉันรักนายนะ นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตฉันและฉันพร้อมจะรักนายในแบบอื่นถ้านายรักแบบนั้นบ้าง ตอนนี้ฉันมีอะไรกับนายไม่ได้เพราะสิ่งที่ฉันอยากได้คือความรักไม่ใช่แค่ร่างกาย”

“งั้นเหรอ... แต่ฉันรักนายนะ ฉันรู้แค่นั้น แต่ถ้านายบอกว่ารักของฉันไม่เหมือนกับของนาย... ก็คงเป็นฉันที่บ้าไปคนเดียว”

“ทอม...”

“ขอโทษนะที่ทำให้ลำบากใจ” เขาแตะนิ้วบนริมฝีปากอิ่มจิ้มลิ้มห้ามไม่ให้อีกคนพูดอะไรออกมาอีก แม้รู้ว่าคำเหล่านั้นคือคำปลอบใจแต่ตอนนี้เขาไม่ต้องการ “นอนซะ ฉันไม่มีอารมณ์จะทำอะไรนายแล้ว”

ร่างสูงใหญ่ลุกออกไปจากเตียง โธมัสก้มลงหยิบกางเกงนอนมาสวมไม่ลืมคว้าเสื้อผ้าฝ้ายตัวนุ่มโยนใส่หัวอลันด์งึมงำบอกให้ใส่ซะ ก่อนรวบฟูกกับหมอนขึ้น

“จะไปไหนน่ะ”

“ไปนอนข้างนอก ใต้บันไดดีไหม เวลานายเดินลงมาฉันจะได้รู้ไง”

“ทำไมไม่นอนในนี้ล่ะ”

“อยากให้ฉันเป็นบ้าลุกขึ้นมาปล้ำนายอีกทีหรือไง” เขาว่าติดฉุนแต่ใบหน้ากำลังเผยรอยยิ้ม “ตอนนี้ฉันจะปล่อยนายไปก่อน จนกว่าความรักของฉันกับนายจะตรงกัน ตอนนั้นนายไม่รอดแน่”

อลันด์สวมเสื้อแล้วยกนิ้วเกาแก้มแก้เขินมองโธมัสอุ้มอุปกรณ์การนอนออกไปจากห้องนอนไป ได้ยินเสียงอีกคนตะโกนมาว่าราตรีสวัสดิ์ก็รีบเปิดหน้าต่างชะโงกหน้าออกไปดูตรงบันไดเห็นเพื่อนตัวโตกำลังเดินอยู่

“ราตรีสวัสดิ์ทอม” หมอนั่นไม่คิดจะเงยหน้ากลับขึ้นมามองเขาด้วยซ้ำ แต่อลันด์คิดว่าเป็นแบบนั้นน่ะดีแล้ว

เขารีบปิดหน้าต่างเหมือนเดิมเมื่อเพื่อนรักลับสายตา ร่างเล็กหงายหลังกับเตียงเสียงดังกลบเสียงหัวเราะไปจนหมด อลันด์ยิ้มกว้างขณะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มากดส่งข้อความไปหาทิวากานต์ ต้องบอกคุณหมอเสียหน่อยว่าไอ้วัตถุอันตรายที่ให้มาเป็นหมันเสียแล้ว โดยลืมไปสนิทว่าหนนี้โธมัสแค่ยอมรามือแต่ไม่ได้บอกว่าจะถอดใจจากเจ้าตัวสักนิดเดียว

.
.
.

คุณหมอวัยสามสิบค่อนข้างอารมณ์ดีไปถึงดีมากแม้จะผ่านช่วงอดนอนเพราะอยู่เวรมาทั้งคืนก็ตาม อารมณ์ดีถึงขึ้นนักศึกษาแพทย์กับนางพยาบาลจับกลุ่มปรึกษาหาสาเหตุกันเลยทีเดียว เป็นที่รู้กันทั่วว่าคุณหมอทิวากานต์เป็นพวกร้ายหน้าตาย เห็นยิ้มๆ แบบนี้แค่ปล่อยให้นักศึกษาตายใจแต่เชือดพวกทำงานไม่ได้ดั่งใจมาแล้วหลายราย บางคนถึงขั้นอยากเลิกเป็นหมอไปเลยก็มี

“อาจารย์รันไม่อยู่เลยไม่มีใครรู้ว่าอาจารย์วาเป็นอะไรกันแน่ บางทีอาจารย์อาจจะแค่ถูกหวยก็ได้นะ” เรสสิเดนท์นายหนึ่งกล่าวไว้หลังนักศึกษาตัวเปี๊ยกตามที่ทิวากานต์นิยามผ่านช่วงวัดใจตอนเช้ามาได้แบบประสาทเสียกันทั้งกรุ๊ป

ส่วนเป้าสนทนาวันนี้ยังคงยิ้มแย้มอารมณ์ดีพูดคุยกับคนไข้โปรยรอยยิ้มจนสาวน้อยสาวใหญ่สาววัยใกล้ฝั่งเดินหน้าแดงออกจากห้องตรวจมาเป็นแถว แน่นอนว่าไม่มีใครรู้นอกจากเจ้าตัว และต่อให้การันต์มาถามก็คงไม่เข้าใจ เพราะถ้าบอกว่าอลันด์เพิ่งฝึกหมาที่บ้านให้เชื่องได้ทุกคนคงหาว่าเขาบ้า

พอเลิกงานเขาก็นั่งเรือข้ามฟากไปหาอลันด์ ไอ้หมาขนทองก็นั่งรออยู่ด้วย อยากจะทักเหลือเกินว่าไม่เจอกันแค่คืนเดียวเชื่องขึ้นเยอะนะแต่เก็บปากไว้กินข้าวเย็นนี้ดีกว่า โดนต่อยมาดั้งหักไม่คุ้มกัน ที่มีอยู่นี่ของแท้พ่อให้มาเสียด้วย

เขาพาหนุ่มลูกเสี้ยวเยอรมันไปเลี้ยงสุกี้แบบพรีเมี่ยมเป็นการส่งท้ายก่อนที่อีกคนจะต้องกลับไปมิวนิคคืนนี้ ลงทุนสั่งเนื้ออย่างดีมาให้โดยเฉพาะแม้หนุ่มน้อยนักกีฬาจะขอเพิ่มแบบไม่บันยะบันยังเลยก็ตาม แต่เงินแค่นี้แลกกับการไม่ต้องเจอหน้าอีกคนไปนานๆ ถือว่าคุ้มมาก

“อัลรู้ไหม เจมส์ได้เป็นสมาชิกบูลลิงดอนคลับด้วยนะ” หนุ่มผมทองเม้าท์เพื่อนอีกคนที่สถิตอยู่อังกฤษขึ้นมากลางวงสุกี้ เด็กลูกครึ่งพยักหน้ารับรู้ก่อนคีบชิ้นเนื้อเข้าปากเคี้ยวตุ้ยเหมือนไม่ได้สนใจ

“โฮ่ เขารับเด็กโรงเรียนเราด้วยหรือไง ฉันนึกว่าเขาจะเอาแต่พวกอีตั้น เวสต์มินสเตอร์ หรือเซนต์พอลซะอีก”

“นั่นเป็นเหตุผลที่แด๊ดดี้ของนายกับแด๊ดดี้ของฉันเห็นพ้องต้องกันในการเลือกโรงเรียนมัธยมให้เราไงล่ะ”

โธมัสหัวเราะเบาๆ ตักลูกชิ้นกุ้งแสนอร่อยใส่ถ้วยใบเล็กแล้วค่อยเอาส้อมจิ้มเข้าปาก ตาสีน้ำเงินเข้มมองเลยไปหาทิวากานต์ที่เคี้ยวเนื้อจนแก้มตุ่ย ไม่อยากยอมรับเลยว่าสภาพคุณหมอตอนเอ็นจอยอีทติ้งมีแสงไฟสีเหลืองนวลอาบใบหน้าจะมีเสน่ห์เย้ายวนสวยเซ็กซี่มากจนน่าขย้ำพอๆ กับเนื้อในหม้อ แต่ก่อนความคิดจะไปไกลกว่านั้นเขาก็ดึงสายตากลับมาหาคนตัวเล็กข้างๆ

“เจมส์มีครบทุกอย่างที่พวกนั้นต้องการ เขาไม่สนใจหรอกว่าเจมส์จะจบมาจากโรงเรียนไหน”

“นั่นก็เหมาะกับเขาดี” อลันด์สรุปสั้นๆ ปากเล็กอ้าออกกว้างรองรับเกี๊ยวปลาชิ้นใหญ่เข้าไปทั้งอัน “นายเองถ้าไปเรียนอ็อกฟอร์ดก็ต้องได้อยู่ชมรมปัญญาอ่อนนั่นเหมือนกันแน่ๆ บางทีคงได้เป็นถึงประธานและขึ้นเป็นตำนาน คึคึ”

“ฉันถือว่านั่นคือคำชมนะ” หนุ่มผมทองกลั้วหัวเราะเบาๆ ในลำคอ เอื้อมมือข้างหนึ่งวางบนหัวเพื่อนตัวเล็กขยี้เบาๆ “แต่ไฮโซวัยกระเตาะที่ขอเงินพ่อแม่เที่ยวเตร่เบ่งใส่คนอื่นไปทั่วไม่ใช่สไตล์ฉันหรอกนะ”

“ไอซี... อย่างนายคงได้เป็นกัปตันชมรมเรือพายมากกว่า”

“พวกบ้าพลังกล้ามโตเท่าก้ามปู” เสียงกระเซ้ามาจากคนแก่สุด ทิวากานต์แกล้งเอามืออุดปากทำท่ากลั้นหัวเราะ

“เทรนด์สาวนิยมเดี๋ยวนี้เขาชอบหนุ่มล่ำมีซิกแพกไม่ใช่หนุ่มหน้าละอ่อนผอมแห้งกันแล้วด็อก”

“นิยมทั้งสาวๆ และกลุ่มไม้ป่าเดียวกัน”

“วา!” อลันด์ต้องรีบปรามคนแก่สุดให้เลิกยั่วเพื่อนรักเขาเป็นเด็กๆ เสียทีก่อนถูกพ่อนักกีฬาหุ่นทรมานใจสาวคว่ำโต๊ะสุกี้เสียก่อน กระนั้นเด็กลูกครึ่งกลับอมยิ้มกับตัวเอง เขาชอบบรรยากาศแบบนี้ อยากเก็บความรู้สึกนี้ไปนานๆ มีคนรักอยู่ข้างหนึ่งและเพื่อนรักอยู่อีกข้าง พูดคุยกันได้เรื่อยๆ เหมือนไม่มีวันจบ แต่เขารู้ดีว่าทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา

เที่ยวบินตรงไปมิวนิคมีเพียงเที่ยวเดียวต่อวันและเป็นเวลาเที่ยงคืนเพื่อถึงที่นู่นตอนเช้าพอดี ตอนออกจากร้านสุกี้หนุ่มลูกเสี้ยวเยอรมันต้องกลับไปอาบน้ำเตรียมตัวเดินทางกลับที่โรงแรมเสียก่อน พวกเขาเลยนัดแนะให้ไปเจอกันอีกทีที่สนามบินตอนห้าทุ่ม

อลันด์ดูหงอยตอนนั่งรถกลับคอนโด ไม่ต้องหาสาเหตุมากก็รู้ว่ามาจากการที่เพื่อนตัวโตจะต้องกลับไปเรียนต่อ ทิวากานต์มองแล้วทั้งห่วงทั้งหมั่นไส้ ไม่รู้จะอาลัยอาวรณ์อะไรกันนักหนา แต่พอเห็นอีกคนทำหน้าซึมเป็นแมวป่วยก็อดดึงมากอดมาลูบหัวไม่ได้ “เดี๋ยวก็ได้เจอกันอีกน่า”

“ไอ - ซี แต่แบบว่า...ไม่อยากให้ทอมกลับไปเลยอ่ะ”

“รักกันมากใช่ไหม” คุณหมอแกล้งทำเสียงเข้มขู่ฟ่อๆ สองมือขยุ้มผมตรงกกหูอีกคนจนยุ่ง ก่อนบดจูบบนหน้าผากแรงๆ จนเจ็บปากไปหมด “นี่แน่ะๆ ริรักคนอื่นมากกว่าฉันงั้นเหรอ”

“โอ๊ย ไม่ได้รักแบบเดียวกันสักหน่อย มันแค่ใจหายอ่ะ เข้าใจม่ะ”

ทิวากานต์เลื่อนริมฝีปากลงจนชิดกับปากอีกฝ่าย กระซิบบอกเสียงแหบ “รู้น่า แกล้งเล่นหรอก”

อลันด์สอดแขนเข้ากอดช่วงเอวสอบได้รูปของคุณหมอแล้วซุกหน้าลงบนอกกว้างหวังช่วยถมช่องว่างในใจ กลิ่นน้ำหอมราคาแพงผสมกับกลิ่นมื้อเย็นที่เพิ่งกินเข้าไปลอยเข้ามาในจมูก ไม่มีกลิ่นบุหรี่ติดตามตัวเหมือนเช่นทุกวันนับแต่ตอนที่สัญญาว่าจะเลิกบุหรี่เป็นเพื่อนเขา จะว่าไปพอตั้งใจเลิกบุหรี่มันทรมานแค่สามวันแรกเท่านั้น หลังจากนั้นก็ไม่รู้สึกอยากอะไรอีก แต่ช่วงที่ทรมานนั่นแหละอยากจนมือสั่นรู้สึกปากว่างต้องรีบหาของกินยัดเข้าปากตลอดเวลา

“ไปล้างหน้าล้างตาป่ะจะได้เตรียมไปส่งทอม” มือใหญ่ตบก้นอีกคนเบาๆ ไล่ไปทางห้องน้ำหลังเห็นนาฬิกาบนผนังว่าใกล้จะได้เวลานัดกันแล้ว



พวกเขามาถึงสนามบินก็เห็นโธมัสยืนอยู่ข้างรถของโรงแรมรอพนักงานยกกระเป๋าเดินทางใส่รถเข็นอยู่พอดี หนุ่มผมทองเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสูททางการสีดำสนิทของฮิวโก้ บอสเข้ากับรองเท้าหนังแก้วมันขลับแบบอ็อกฟอร์ดเหมือนตอนมา ดูเป็นไฮโซวัยกระเตาะแม้เมื่อตอนมื้อเย็นจะพูดว่าไม่ใช่สไตล์ของตัวเองก็ตาม แต่เพราะถูกอบรมมาแบบนี้ต่อให้ใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์หากกริยาท่าทางทุกอย่างก็บอกได้อยู่ดี เรียกได้ว่าเป็นผู้ดีอังกฤษจากกมลสันดานโดยแท้

โธมัสหรี่ตาสีฟ้าสดมองดูพอร์เช่ 911 Turbo S เปิดหลังคาที่แล่นเข้ามาจอดท้ายรถของโรงแรมด้วยความสงสัยก่อนคลี่ยิ้มออกกว้างเมื่อเห็นเพื่อนรักเอี้ยวตัวโบกมือมาให้จากในรถ ประหลาดใจไม่น้อยหากไม่หยุดขายาวๆ ให้ก้าวเข้าไปหาคนทั้งคู่ได้ ตาสีฟ้ามองคนขับสลับกับรถซูเปอร์คาร์คันหรูพลางกัดปากครุ่นคิด มั่นใจว่าตอนมาไทยครั้งที่แล้วทิวากานต์ไม่มีรถคันนี้แน่ๆ

“นี่มันรถคันที่จอดอยู่ข้างๆ รถอัลเมื่อเช้านี่”

“น้องกบ ลูกสาวคนสวยของฉันเอง ทำความรู้จักไว้สิ” คนขับที่กระแดะใส่แว่นกันแดดทั้งที่เป็นตอนกลางคืนยักไหล่ตอบท่าทางไม่ยี่หระ

“สวยมาก โฮ่ ผมคงต้องขอพ่อให้เปลี่ยน M6 เป็นเจ้าตัวนี้บ้างแล้ว”

“ไหนบอกไม่ชอบขอเงินพ่อแม่ไงวะ”

“พูดมากน่า คันนี้พ่อก็ซื้อให้วาไม่ใช่หรือไง” เจออลันด์ขายแบบนี้เล่นเอาคุณหมออยากเตะโด่งไอ้เด็กข้างตัวออกไปให้พ้นๆ ทิวากานต์เกาหัวแก้เก้อบ่นอุบอิบว่าโดนยัดเยียดให้ต่างหากแล้วรีบถีบอลันด์ลงไปหาโธมัสเขาจะได้รีบเอารถไปจอดก่อนถูกตำรวจมาไล่ แต่ความจริงคือเปิดโอกาสให้สองเพื่อนซี้หมาแมวเขาได้ลากันแบบเป็นส่วนตัวมากกว่า

เด็กฝรั่งสองคนเดินเคียงกันข้ามสะพานคอนกรีตเข้าสู่ตัวอาคารเงียบๆ มีพนักงานของสายการบินบริการเข็นสัมภาระตามหลังมาให้ประสาคนใช้บริการที่นั่งโดยสารชั้นหนึ่ง

“กว่าจะได้เจอกันอีกทีก็คริสต์มาสเลยมั้งเนี่ย” โธมัสเปรยขึ้นเบาๆ ตาสีฟ้าสดเหลือบมองเพื่อนตัวเท่าอกข้างกาย หน้าขาวติดเรียบนิ่งไม่แสดงอาการอะไร แต่กับคนที่คบกันมานานก็ดูออกว่าเจ้าตัวกำลังหงอย

“คริสต์มาสนี้ฉันคงไม่ได้กลับลอนดอน”

“ไม่ต้องห่วง นายไม่กลับบ้านเดี๋ยวฉันมาหาเอง สอบเสร็จจะรีบบินมาหาเลย ตอนนายผ่าตัดฉันก็จะมาหานายด้วยไง เราจะได้เจอกันเร็วขึ้น อีกแค่เดือนเดียวเอง”

“ให้มันจริงเถอะ”

“ฉันเคยโกหกนายด้วยเหรออัล” อลันด์ส่ายหน้าแทนคำตอบ โธมัสเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา เจ้าตัวไม่เคยทำให้เขาผิดหวังเลย(ยกเว้นเรื่องผู้หญิงที่กลาสตันเบอรี่ แน่นอนว่าเด็กหนุ่มจดจำฝังใจไปจนวันตาย)

“ฉันคงคิดถึงนายน่าดู”

“อีกไม่กี่เดือนก็เจอกันแล้ว ฉันจะใช้เวลาช่วงนั้นทำความเข้าใจกับตัวเองอีกที นายจะได้ไม่ลำบากใจเพราะฉันอีก หวังว่าจะยังพอมีโอกาสให้ฉันบ้างนะ”

ตาสีซีดมองรอยยิ้มของผู้ชายตรงหน้าแล้วลอบถอนหายใจ อยากจะบอกอีกฝ่ายว่าโอกาสนั้นถูกคุณหมอศัลยกรรมที่แก่กว่าเขารอบหนึ่งคว้าไปแล้ว สิ่งที่เขาจะมีให้กับอีกคนต่อจากนี้ไปเหลือแค่คำว่าเพื่อนเท่านั้น แต่พอเห็นอีกคนมองมาด้วยประกายความหวังในสายตาเขาก็ใจร้ายบอกตัดไม่ลง

“ฉันรักนายนะทอม นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเลย”

“ไอ - ซี”

หนุ่มผมทองหุ่นทรมานใจสาวแค่นยิ้ม พอจะเข้าใจที่อีกคนพูดแต่ไม่อยากรับรู้ เขาชักเกลียดตัวเองที่เหมือนจะเป็นคนฉลาดแต่สุดท้ายก็โง่อยู่ดี แขนแข็งแรงดึงไหล่อีกคนเข้ามากอดซุกกับตัว หวงแหนไม่อยากปล่อยไปไหนแต่เวลาบีบให้เขาต้องจากอีกคนไปเสียที ตาสีฟ้าสดมองทิวากานต์หยุดฝีเท้าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลคล้ายจะต่อเวลาให้เขาได้ร่ำลาเพื่อนรักอีกหน่อย

“ดูแลตัวเองด้วยนะ”

“นายก็เหมือนกัน อย่าใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงเกินไปล่ะ”

“ฉันรักนาย” โธมัสพูดเร็วพอกับการฉกลงไปขโมยจูบจากเพื่อนตัวเล็ก เขาบดปากหนักๆ ดูดดึงเนื้ออ่อนบางด้านล่างจนขึ้นสีแดงถึงผละออกมา “แล้วเจอกัน อัล”

“อะ อื้อ” เด็กหนุ่มรับคำงงๆ รู้สึกตัวอีกทีตอนทิวากานต์โผล่มาจากด้านหลังกอดลากับโธมัสตบหลังตบไหล่แรงๆ ใส่กัน เขารีบเอามือปิดปากหวังว่าเมื่อกี้ทิวากานต์จะไม่เห็นหรอกนะ

“โชคดี เดินทางปลอดภัย”

“ฝากดูอัลด้วยนะด็อก”

“ไม่ต้องห่วง จะดูแลอย่างดียุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมหมาไม่ให้กัด” คุณหมอหนุ่มจงใจเน้นหนักเป็นพิเศษตรงคำว่าหมา เขากอดฟัดกับโธมัสตบกันดังตุ้บตั้บอีกครู่ใหญ่ถึงยอมผละออกจากกัน ให้ตายเถอะโธมัสมือหนักชะมัดเขาช้ำไปแทบทั้งตัวแล้วมั้งเนี่ย

เมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกันจริงๆ โธมัสก็ฉีกยิ้มกว้างออกมา เขาโบกมือให้เพื่อนเผื่อไปถึงคุณหมอหน้าดุ นัยน์ตาสีฟ้าสดหมองลงเพียงครู่เดียวจนไม่มีใครสังเกตเห็น “บายอัล”

“บาย เดินทางปลอดภัย”



ซูเปอร์คาร์เปิดประทุนจากเมืองชตุทท์การ์ทแล่นไปตามถนนพระรามเก้าเพื่อกลับที่พักตอนเวลาเที่ยงคืน ทิวากานต์เห็นว่ายังพอมีเวลาอีกสักหน่อยบวกกับถนนกรุงเทพยามนี้ก็น่าซิ่งเหลือเกินเลยชวนคนข้างๆ นั่งรถเล่นรับลมเสียเลย

ช่วงสมัยที่ยังไม่เจอกับเด็กตัวแสบห้องตรงข้ามทิวากานต์ชอบทำแบบนี้บ่อยๆ เวลาออกเวรหรือเพิ่งเสร็จเศสหนักๆ ขับรถไปรอบกรุงจุดบุหรี่เผาปอดให้ร้อนรุ่ม ก่อนจบลงที่ร้านเหล้าสักร้าน หาสาวถูกใจสักคนไปช่วยคลายเหงาต่อที่ห้องนอน หากวันนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป... เขาไม่เหงาอีกแล้ว ไม่ต้องวิ่งไปไกลๆ หาที่พักใจตั้งแต่มีคนข้างตัวโผล่เข้ามาในชีวิต ไม่จำเป็นต้องตัวติดกันตลอดเวลาแค่ตื่นมาเจอหน้ากัน ยิ้มให้ หัวเราะ แลกเปลี่ยนเรื่องราวในแต่ละวัน ล้มตัวลงนอนเคียงกันบนเตียงกว้างแค่นี้จริงๆ

คิดแล้วก็ขำ ตอนแรกรำคาญไอ้เด็กนี่แทบตาย สุดท้ายกลับเป็นเขาเองที่หวงอีกคนยิ่งกว่าอะไร อยากให้อยู่กับเขาไปเรื่อยๆ ไม่ต้องจากไปไหน ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าวันหนึ่งเจ้าตัวต้องกลับไปในที่ที่จากมา

ทิวากานต์มองอลันด์ชูแขนหงายไปด้านหลัง ลมพัดเส้นผมสีช็อกโกแลตนมจนปลิวยุ่ง ใบหน้าที่มักเรียบนิ่งปรากฏรอยยิ้มกว้างจนเห็นฟันกระต่าย พอเห็นอะไรน่าสนใจก็ชวนเขาคุยต่อบทสนทนาไปเรื่อยไม่ปล่อยให้หูว่าง อาการซึมเพราะจากเพื่อนแทบไม่เหลือ นับว่าคุ้มจริงๆ ที่ยอมเสียสละเวลานอนพาเด็กนั่งรถเล่น

น้องกบขาวอายุไม่ครบขวบปีดีพาสองหนุ่มตระเวนตั้งแต่ทางด่วนพระรามเก้าไปพญาไท ข้ามไปสาทรแล้ววกมาลงทางด่วนที่คลองเตยวิ่งเข้ารัชดาภิเษกกลับคอนโดย่านอโศก

คุณหมอล้มตัวลงนอนหลังแนบพื้นเตียงยังไม่สนิทดีไอ้เด็กแสบก็กลิ้งเข้ามากอด ทำหน้ากระเง้ากระงอดใส่ให้จับฟัดไปที “พรุ่งนี้ต้องนอนคนเดียวอีกล่ะ”

“พูดดี ไปปาร์ตี้ไม่ใช่หรือไง”

“วาห้ามกลับเกินสี่ทุ่มนี่”

“กลับเกินฉันก็ไม่รู้หรอก”

“ถือว่าอนุญาตแล้วนะ”

เด็กตัวแสบยิ้มแป้นคิดว่าหลอกคุณหมอได้ แต่ทิวากานต์ตั้งใจพูดแบบนั้นจริงๆ เขาอยู่เวรทั้งคืนไม่มีเวลาโทรเช็คหรอกว่าอีกคนทำอะไร ที่ไหน นอนหรือยั ง

“จะทำอะไรก็ทำเถอะ”

“งอนเหรอ”

“ตลก” พูดจบก็ได้กำปั้นเขกให้ทีจนร้องโอย แต่ร่างสูงแค่ห้าฟุตกับอีกหกนิ้วไม่ได้กลิ้งหนีกลับยิ่งกระแซะหน้าเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นยาสีฟันรสมิ้นต์ ทิวากานต์ดึงคออีกคนให้โน้มลงมารับกู๊ดไนท์คิสเบาๆ จะว่าไปเขาห่างหายเรื่องบนเตียงนานพอดู เจอเด็กอ้อนใส่แบบนี้มีของขึ้นบ้างก็ได้แต่ท่องคุกๆ ในใจ รอเด็กมันโตอีกหน่อยเขาได้ลองประสบการณ์ใหม่แน่ๆ แต่เด็กสิบแปดช่างไม่ให้ความร่วมมือเลยเหอะ

“อืม... วา” ปลายนิ้วเล็กสากจนแข็งไต่ตามท่อนแขนแข็งตึงของคุณหมอศัลยกรรมคนเก่ง ปากยังมุ่งมั่นจูบอีกคนจนพาร่างขึ้นมานอนคร่อมคนโตกว่า ไม่รู้ทำไมวันนี้ทิวากานต์น่ากินกว่าทุกวัน พอคิดว่าถ้าคืนนี้จะต้องเสียตัวก็ยอมง่ายๆ ผิดกับตอนอยู่กับโธมัสเพื่อนซี้ แสดงถึงข้อแตกต่างระหว่างเพื่อนรักกับคนรักชัดเจน

เสียงจูบดังจ๊วบจ๊าบอยู่นานจนคนเด็กกว่ายอมแพ้ถอนหน้าออกมาเพราะหายใจไม่ทัน ไฟหัวเตียงบอกชัดว่าอลันด์หน้าแดงจัดน้ำตาคลอ เด็กแสบเผยอปากหอบหายใจน้อยๆ ดูน่าแกล้งให้ร้องไห้งอแง

“พรุ่งนี้ทำงาน”

ประโยคปฏิเสธห้วนสั้นจากปากคุณหมอดูดพลังออกจากร่างเด็กฝรั่งเสียเกลี้ยง ร่างเล็กๆ กลิ้งหล่นจากตัวทิวากานต์ลงไปนอนแผ่ อยากจะดีดเท้าโวยวายให้อีกคนเลิกทำงานแล้วหัดมาทำการบ้านกับเขาบ้าง นอนกอดกันมาเป็นเดือนๆ แล้วยังไม่มีอะไรมากกว่าเฟรนช์คิส คิดว่าที่นัวเนียใส่กันทุกวันนี้จะไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไง เขาก็เป็นผู้ชายวัยเจริญพันธุ์มีอารมณ์ความรู้สึกคนหนึ่งนะเว้ย

ทิวากานต์ทำแบบนี้จนเขาชักคิดแล้วนะว่าอีกฝ่ายไม่กล้ามีอะไรกับผู้ชายจริงๆ เขาเองพอจะเข้าใจในฐานะเคยนอนแต่กับผู้หญิงมาก่อน จู่ๆ จะให้มีอะไรกับผู้ชายมันทำใจยาก ขนาดเขายังมีอะไรกับโธมัสไม่ลงเลย แต่แบบ...นี่มันคนรักกันนะ ทำไมรับไม่ได้ล่ะ!

“วาอ่ะ” หากประโยคต่อว่ากลับมีสั้นๆ แค่นี้ เอาจริงอลันด์กลัวชายหนุ่มวัยสามสิบหงอ ไม่กล้าโวยวายมากหรอกเดี๋ยวถูกถีบตกเตียง

“ถ้าไม่ไหวไปห้องน้ำซะ” แล้วดูอีกคนพูดตัดรอนไร้เยื่อใยเย็นชาประหนึ่งน้ำแข็งในขั้วโลกใต้ เด็กหนุ่มฟังแล้วขัดใจพลิกตัวนอนหันหลังดึงผ้าห่มคลุมหัวให้ซะเลย ไม่วายได้ยินเสียงคุณหมอหัวเราะคิกคักอีกจงใจแกล้งกันชัดๆ

งอนได้ไม่นานก็ถูกอีกคนดึงไปกอดแนบเข้ากับอก ชิดสนิทกันจนรู้ว่าชายหนุ่มเองมีอาการตื่นตัวไม่ต่างจากเขา เป็นอย่างนี้ทุกทีจนต้องยอมแพ้พลิกตัวกลับมาซุกหน้าเข้ากับอกกว้างฟังเสียงหัวใจเต้นขับกล่อมจนหลับสนิทอีกคืน



TBC

เห็นไหมคะว่าทอมออกจะเป็นหมา เอ๊ย คนที่ดี พี่วาต่างหากที่เป็นตัวร้ายน่ะ! #เดี๋ยวนะ
แต่ FC พี่เขาเยอะพี่เขาจะแคร์อะไร คนแก่ตายด้าน(?)ย่อมเร้าใจกว่าหนุ่มหล่อล่ำกล้ามโตอยู่แล้ว
ตอนหน้าเตรียมพบกับบทเรียนแสนแพงของน้องอัลที่แม้แต่นาฬิกาปาเต๊ะ ฟิลลิปก็สู้ราคาและช่วยอะไรไม่ได้
ปาเต๊ะเกี่ยวอะไร พี่วาจะใจร้ายกับน้องอัล(?)ได้ถึงขั้นไหน
เจอกันตอนหน้าค่า

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์นะคะ เอฟซีพี่วาแสดงตัวกันหลายคนเลย หุหุ

ปล. เราลงเรื่อง Love|Hate ไปเมื่อวาน ฝากตามอ่านได้ที่ลิงค์ด้านล่างตรงลายเซ็นได้เลยค่ะ
ตัวละครจากเรื่องนั้นใกล้จะมาโชว์(แวบๆ)ในนี้แล้วอีกไม่นาน ><

 :mew1:

------------------

1 Bloodstream - Ed Sheeran
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-11-2015 13:08:10 โดย บัวน้อย ไร่แตงโม »

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Mokuchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รอบทเรียนราคาแพงของอัลตอนหน้าค่ะ
#ติ่งหมอวา #ทีมคนแก่  :laugh:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
  :mew1: :mew1::mew1: :mew1: :mew1: หมากับแมวมันคนละสายพันธุ์มันไปกันไม่ได้หรอกทอม ตัดใจเป็นแค่เพื่อนนะดีแล้ว ให้แมวเขาเป็นของหมอดีกว่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด