♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- SPECIAL TRACK : พรหมลิขิต+แจ้งข่าว P. 25
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ไหนๆ นิยายใกล้จะจบแล้ว เลยสอบถามความสนใจรวมเล่มค่ะ

สนใจ
ไม่สนใจ
รวมก็ดี ไม่รวมก็ได้

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- SPECIAL TRACK : พรหมลิขิต+แจ้งข่าว P. 25  (อ่าน 268986 ครั้ง)

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 20 [27.12.15]
«ตอบ #300 เมื่อ27-12-2015 19:33:08 »

อ้างถึง
อยากให้กดฟังเพลงธีมประจำตัวพี่วาระหว่างที่อ่านพาร์ทนี้ไปด้วยค่ะ ^^
Cigarette After Sex - Nothing's Gonna Hurt You Baby


เช้าวันถัดมาอลันด์หยุดเรียนเตรียมตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ความจริงจะมาวันสวนหัวใจเลยก็ได้แต่ตามประสาพ่อแม่มีเงินอยากให้ลูกชายได้รับแต่สิ่งที่ดีที่สุดเลยจับมาส่งล่วงหน้าหนึ่งวันเพื่อเช็คร่างกายให้แน่ใจ เด็กหนุ่มมาถึงโรงพยาบาลตอนบ่ายๆ นั่งโรลส์-รอยซ์มากับคุณตาคุณยายส่วนพ่อแม่นั่งรถตามมาอีกคัน

เด็กฝรั่งต้องนอนโรงพยาบาลอย่างต่ำก็สองคืน ห้องที่เลือกไว้ก็เป็นห้องพักขนาดใหญ่สุด มีห้องนั่งเล่นกับห้องพักสำหรับญาติไว้อย่างละห้อง สามารถมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาประหนึ่งนอนอยู่โรงแรมห้าดาว มิสเตอร์เอเดลมาร์กับอัลเบิร์ตจะมานอนเฝ้าช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่ ให้อารมณ์เหมือนแค่เปลี่ยนที่นอนมากกว่ามารักษาตัว

เด็กหนุ่มดูซึมไปถนัดตา นอกจากจะไม่ได้เจอทิวากานต์เหมือนอย่างเคย เมื่อคืนโธมัสโทรข้ามประเทศมาบอกว่าไม่สามารถมาอยู่เป็นเพื่อนได้เพราะติดทำรายงานกับสอบ เขาเข้าใจดีว่าเพื่อนรักมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ แต่เพราะสัญญากันไว้แล้วจึงอดรู้สึกเสียใจไม่ได้

เมื่อทำการแอดมิทเรียบร้อย อลันด์ถูกพยาบาลจับเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดคนป่วย พาไปตรวจร่างกาย ทำเอคโค่ เอกซเรย์ กว่าจะเสร็จได้เวลาอาหารเย็นพอดี พยาบาลแจ้งแล้วว่ามื้อนี้จะเป็นมื้อสุดท้ายก่อนทำการรักษาในวันพรุ่งนี้ ด้วยกลัวลูกชายหิวมาดามโอเนลล์จึงบังคับอดีตลูกหมูให้กินข้าวเย็นไปเสียสองจาน มีสมาชิกครอบครัวฝั่งแม่ที่เจอกันเมื่อวานพร้อมใจกันมาร่วมรับประทานอาหารกะไม่ให้เหงา

“ดูซิ ผอมลงไปตั้งเยอะ ตอนนั้นยังอ้วนกลมเป็นลูกหมูอยู่เลย ไม่ค่อยกินข้าวเหรออัล” เธอลูบแขนลูกชายพลางทำหน้าไม่สบายใจ ตอนที่เจอกันครั้งล่าสุดอลันด์ยังดูมีเนื้อหนังมากกว่านี้ พอห่างหูห่างตารอบล่าสุดน้ำหนักที่เพิ่มก่อนหน้าหายเรียบจนน่าตกใจ

“กินครบทุกมื้อแหละมัม แต่วาบอกให้งดอาหารพวกที่ทำให้อ้วน มัมรู้ไหมวาทำอาหารอร่อยมาก ทำให้ผมกินทุกวันเลยนะ ทั้งมื้อเช้ามื้อเย็น อิ่มแปร้แถมยังผอมด้วย”

“ตายล่ะ รบกวนคุณหมอเขาแย่ แล้วนี่เงินค่าขนมที่แม่ให้ก็ไม่ได้ใช้เลยล่ะสิเนี่ย” พอรู้ว่าเพื่อนบ้านที่ฝากฝังไว้ดูแลลูกชายตัวเองเป็นอย่างดีก็โล่งใจ แต่อีกใจกลัวจะไปทำให้เขารำคาญ

“ก็พอจะจ่ายวาไม่ให้จ่ายนี่นา วาบอกเด็กคนเดียวเลี้ยงได้สบาย” เด็กฝรั่งเล่าไปยิ้มไป ไม่ทันสังเกตว่าคนเป็นพ่อหน้าบูดขึ้นทุกที

ลูกเขาเลี้ยงมาเองกับมือไม่ยกให้คนอื่นเลี้ยงง่ายๆ หรอกเว้ย!

“เพิ่งรู้ว่าพี่วาทำอาหารเก่งด้วย ถ้ากานต์เอาไปเล่าให้เพื่อนฟังทุกคนต้องกรี๊ดกร๊าดกันมากกว่าเดิมแน่เลยค่ะ”

“พี่กานต์ก็อย่าเล่าสิ”

“หวงเหรอยะ”

“เออ”

“น้องอัลพูดไม่เพราะเลย ต้องบอกว่าครับสิคะ แล้วนี่ทำไมเรียกชื่อคุณหมอเขาเฉยๆ ยายได้ยินแล้วขัดหู เขาแก่กว่าเราตั้งรอบเป็นถึงมดเป็นถึงหมอมีคนนับหน้าถือตาเรายิ่งต้องให้เกียรติเขารู้ไหม น้องอัลคิดดูนะคะถ้าสมมติน้องอัลอยู่ข้างนอกกับคุณหมอแล้วเรียกชื่อเขาห้วนๆ ทั้งที่เด็กกว่าคนอื่นจะมองน้องอัลยังไง แล้วถ้ามีคนรู้จักคุณหมอมาเจออีกล่ะเขาจะมองคุณหมอยังไง ยังมีความนับถืออีกไหมให้เด็กมาเรียกชื่อแบบนั้น น้องอัลโตแล้วยายจะไม่ดุแต่จะให้ลองกลับเอาคิดดูนะคะ”

ได้ยินหลานๆ คุยกันสนิทสนมมันก็ดี แต่เจ้าหลานคนเล็กอายุห่างกับพี่ๆ ตั้งเยอะก็ควรพูดจาให้เกียรติกันบ้าง คุณยายเจ้าระเบียบเลยอบรมเสียยกใหญ่ นี่ถ้าไม่ติดว่าป่วยอยู่จะหาไม้เรียวมาฟาดเข้าสักที ฝ่ายหลานรักถูกดุก็หน้าจ๋อย รับคำในลำคอสั้นๆ นั่งคอตกเขี่ยข้าวในจานเล่นเลยถูกตีมือเสียเลย

พ่อเด็กลูกครึ่งไม่รู้หรอกว่าแม่ยายพูดอะไรกับลูกชายเขา แต่เห็นลูกรักซึมแถมยังโดนตีเลยเข้าไปโอบไหล่ไว้เงียบๆ ถึงจะไม่พอใจแต่ก็ไม่กล้าโวยใส่คุณแม่ยาย ปล่อยให้พ่อภรรยาออกหน้าแทน

“คุณจะมาดุหลานอะไรกันตอนนี้ อัลอยู่ต่างประเทศมากกว่าเมืองไทยจะให้มีมารยาททุกอย่างเหมือนคนไทยได้ยังไงกัน ดูซิ หลานตาหงอยหมดแล้ว คนกำลังป่วยแทนที่จะให้กำลังใจกัน”

“เพราะคุณชอบให้ท้ายหลานแบบนี้นี่แหละน้องอัลถึงได้ดื้อนัก” ในเมื่อคุณตาเถียงมาอย่างนั้นคุณยายจะยอมได้อย่างไร เป็นอดีตทูตแล้วยังไงคิดว่าเธอจะกลัว ไม่มีเสียหรอก! ให้รู้กันไปเลยว่าในบ้านใครมีอำนาจที่สุด เธอน่ะใหญ่กว่าท่านทูตอีกนะจะบอกให้

ก็อก! ก็อก!
หากก่อนจะเกิดสงครามระหว่างอดีตเอกอัครราชทูตและอดีตภริยาเอกอัครราชทูตเสียงเคาะประตูดั่งระฆังดังห้ามศึกกลับดังขึ้นขัด คนที่มาห้ามก็ไม่ใช่ใครเป็นคุณหมอในประเด็นนั่นเอง

ทิวากานต์โผล่เข้ามาในห้องพร้อมนายแพทย์รุ่นพี่ สองมือของสองหนุ่มหิ้วถุงขนมถุงใหญ่เอามาวางบนเคาน์เตอร์แล้วค่อยยกมือไหว้ผู้ใหญ่ในห้องถึงแนะนำการันต์ให้ทุกคนรู้จัก

“นี่รองศาสตราจารย์นายแพทย์การันต์ครับ เป็นรุ่นพี่ผมที่โรงพยาบาล”

“สวัสดีครับ”

“ไหว้พระเถอะลูก อืม ใช่ลูกคุณพิชัยเจ้าของโรงพยาบาล...รึเปล่า”

“ครับ” การันต์ยิ้มรับสีหน้ายิ้มแย้ม ส่งถุงขนมในมือตนเองให้ทิวากานต์เอาไปวางด้วย “คุณลุงรู้จักคุณพ่อด้วยหรือครับ”

“คนบ้านใกล้เรือนเคียงกันนี่แหละ เจอพ่อเราตอนไปวิ่งบ่อยๆ จำได้ว่าเคยเล่าให้ฟังว่ามีลูกชายคนเล็กเป็นหมออยู่ที่นี่แหละ ไม่ยอมกลับไปช่วยงานที่บ้านสักที นี่ก็ยังทำอยู่ที่นี่สินะ”

“ที่บ้านเขามีคนช่วยเยอะแล้วครับ ผมขอตามใจตัวเองเป็นอาจารย์อยู่ที่นี่กว่า ไม่อยากเครียดเรื่องบริหารน่ะครับ”

“เป็นลูกคนเล็กก็ดีอย่างนี้ล่ะนะ แล้วนี่รู้จักน้องอัลด้วยเรอะ โลกมันกลมจริงๆ”

“รู้จักผ่านเจ้าวานี่แหละครับ”

การันต์ตอบแล้วหันไปยิ้มให้รุ่นน้องสุดหล่อ เห็นหน้าญาติพี่น้องไอ้เด็กแสบแต่ละคนชักเข้าใจว่าทำไมทิวากานต์ถึงได้ป๊อด อย่างคุณตาคนที่ทักเขาถ้าเป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียงที่เดียวกับที่คิดก็เป็นข้าราชการระดับสูงมีชื่อเสียงพอตัว ส่วนผู้ชายที่อยู่ด้านหลังนั่นก็เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนที่มีเครือข่ายใหญ่ที่สุดในประเทศ แล้วฝรั่งตาฟ้าสองคนนั่นคงเป็นพ่อกับพ่อบ้านที่ตามมาดูแล แค่คิดว่าเป็นชาวต่างชาติที่ถึงขั้นมีพ่อบ้านคอยดูแลแม้มาต่างประเทศก็บอกได้ว่าไม่ธรรมดา

“แล้วนี่ซื้ออะไรกันมาเยอะแยะล่ะจ๊ะ”

“ขนมปังอบครับคุณยาย ร้านดังฝั่งนู้นการันตีรสชาติอร่อยสมชื่อร้าน วาให้คนช่วยไปซื้อให้ตั้งแต่เที่ยงกลัวหมดก่อน” ทิวากานต์รีบเสนอหน้าเอากล่องใส่ขนมปังเปิดห่อเรียบร้อยยื่นให้ผู้ใหญ่ชิม แป๊บเดียวขนมก็หมดกล่องด้วยทุกคนเข้ามาหยิบไปลองคนละชิ้นสองชิ้น แม้แต่มิสเตอร์เอเดลมาร์ที่ไม่อยากแตะต้องยังถูกภรรยายัดใส่มือไปสองชิ้นถ้วน

“ใช่ร้านใกล้มหาลัยเจ้าอัลหรือเปล่าคะคุณหมอ”

“ครับ”

“เดี๋ยวนี้เขามีแพคเกจจิ้งแล้วหรือเนี่ย สมัยก่อนตอนน้ายังเรียนอยู่ที่นั่นก็ชอบซื้อทานบ่อยๆ ค่ะ รสชาติยังเหมือนเดิมเลย”

“ถ้าคุณน้าอยากได้กลับไปกินที่นู่น เดี๋ยวก่อนกลับผมไปซื้อไว้ให้นะครับ”

“ขอบใจมากจ้ะ นี่ก็หิ้วมาเยอะแยะเชียว”

ทิวากานต์ยิ้มแต้ประจบผู้ใหญ่แล้วเดินกลับไปเปิดกล่องขนมอีกสองกล่องมาให้ลูกพี่ลูกน้องอลันด์ชิม ส่วนอีกกล่องก็ยกให้เจ้าตัวแสบเหมาคนเดียว

“กินซะ”

“เขาให้งดอาหารกับน้ำแล้วอ่ะ...ครับ”

ชายหนุ่มเลิกคิ้วกับคำลงท้ายแสนสุภาพ สงสัยแต่ไม่เก็บเอามาใส่ใจ “ตอนนี้ยังกินได้อยู่ หลังเที่ยงคืนแล้วค่อยอด มาลอง อันนี้อร่อย” เขาหักขนมปังอบกรอบเป็นชิ้นเล็กพอดีคำยื่นให้เจ้าตัวถึงปาก อลันด์ในโหมดต่อหน้าผู้ใหญ่ก็ว่าง่ายยอมอ้าปากให้เขาป้อน พอลิ้นสัมผัสรสหวานถึงได้ยิ้มออก

“อร่อย”

“ซื้อมาให้กินแล้วก็กินเยอะๆ”

“อือ...ครับ” ตอนแรกจะพูดแค่อือ แต่พอถูกคุณยายตวัดสายตามองก็รีบเปลี่ยนเป็น ‘ครับ’ ทันที “ทำไมวา เอ้อ พี่วามาช้าอ่ะ อ่า ครับ วันนี้ไม่มีเวรคลีนิคนอกเวลานี่นา”

“มีเคสน่ะเลยเลิกช้า อืม...แล้วนี่เป็นไงบ้าง โอเคไหม”

“โอเคสุดๆ”

“แต่ฉันว่าไม่โอเคนะ ทำไมวันนี้เรียบร้อยผิดปกติ” ทิวากานต์กระซิบเสียงเบา เด็กฝรั่งเลยบุ้ยปากไปที่คุณยายเท่านั้นปริศนาก็เฉลย “อ๋อ เข้าใจล่ะ แบบนี้ก็น่ารักดี”

คำว่า ‘น่ารักดี’ ผนวกกับรอยยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวทำเด็กฝรั่งใจเต้นตึกตัก คิดเล่นๆ ว่าถ้าเรียกพี่วาทุกคำ คนถูกเรียกจะรักเขามากกว่านี้ไหมนะ

อลันด์แก้มแดงอ้าปากรอคุณหมอป้อนขนมปังชิ้นถัดไปเหมือนปลาฮุบเหยื่อ คราวนี้ว่าจะลองแกล้งงับนิ้วทิวากานต์ดูคงจั๊กจี้ไม่หยอก แต่ความตั้งใจกลังพังลงเมื่อมิสเตอร์เอเดลมาร์ยื่นหน้าเข้ามาคว้าชิ้นนั้นไปแทนท่ามกลางความตกใจของทุกคน

“อร๊อยอร่อย” ชายอังกฤษวัยห้าสิบสองพูดเป็นภาษาไทยแปร่งๆ แล้วเบียดตัวเองนั่งลงแทรกกลางระหว่างทั้งคู่หน้าตาเฉย “เห็นกำลังคุยกันสนุกเลย ให้แด๊ดฟังด้วยสิ”

หมอศัลย์รูปหล่อคิ้วกระตุก ถ้าไม่โง่ใครก็ดูออกว่าจงใจแกล้งกันชัดๆ จะแกล้งกลับทำเป็นคุยภาษาไทยกับอลันด์ก็ดูจะเสียมารยาทเลยบอกเลี่ยงอีกคนไปว่าไม่มีอะไร

“จะว่าไปสองคนนี้ก็สนิทกันดีเนอะ ถ้าหน้าตาไปแนวเดียวกันคงคิดว่าเป็นพี่น้องกันแน่ๆ”

“นั่นสิคะพี่ชาย เจ้าอัลกับหมอวาก็ลูกคนเดียวทั้งคู่ พอมาเจอกันเลยลงตัวพอดี คนนึงคงดีใจที่มีน้องให้ดูแล อีกคนคงชอบที่มีพี่ให้อ้อน” โชคดีที่ไม่มีใครแปลประโยคนั้นให้คุณพ่อหวงลูกชายฟัง ไม่งั้นอาจมีการกีดกันพี่น้องต่างสายเลือดกันขึ้น

พอสองทุ่มกลุ่มญาติก็ทยอยกันกลับให้คนป่วยได้พักผ่อนเสียที ทิวากานต์กับการันต์อาสาอยู่เป็นเพื่อนเด็กหนุ่มช่วงที่บ่าวนายชาวอังกฤษลงไปส่งครอบครัว เมื่อเหลือกันแค่สามคนคุ้นเคยคุณหมอรุ่นน้องถึงกับถอนหายใจ บ่นกระปอดกระแปดเรื่องมิสเตอร์เอเดลมาร์คอยกันท่าเขาตลอดเวลา

“เขาคงรู้มั้งว่ามีไอ้ตัวร้ายจ้องจะงาบลูกชายเขาอยู่”

“ร้ายตรงไหนครับ ออกจะคนดี” ทิวากานต์แก้ตัว เขาเพิ่งพาอลันด์เข้าไปแปรงฟันล้างหน้าในห้องน้ำแล้วค่อยพาออกมาขึ้นเตียงเตรียมให้นอนพักผ่อนสำหรับการสวนหัวใจในวันพรุ่งนี้

“วาน่ะตัวร้ายเลย”

“ไม่เรียกพี่วาแล้วหรือไง พอคุณยายไม่อยู่ก็ซ่าเหมือนเดิมนะเรา” ปากว่าแต่มือถือผ้าขนหนูซับหน้าให้เบาๆ ดูแลเหมือนเป็นลูกเป็นหลาน อลันด์นั่งขัดขาบนเตียงหลับตาพริ้ม ตั้งแต่อยู่ด้วยกันอีกคนคอยดูแลเขาตลอด สบายจนเริ่มเคยตัวกับการมีคนเอาใจใส่ จนบางทีรู้สึกเหมือนตัวเองใกล้เป็นง่อยไปทุกที

“แล้วชอบให้เรียกแบบไหนมากกว่า”

“อยากเรียกแบบไหนเรียกๆ ไปเถอะ เหมือนกันนั่นแหละ”

“พี่แนะนำนะ เวลาจะอ้อนค่อยเรียกพี่วา รับรองอยากได้อะไรไอ้วายอมให้หมด” คำแนะนำกลั้วเสียงหัวเราะจากคนแก่สุดดูเข้าท่า อลันด์ยิ้มเจ้าเล่ห์ขณะมองทิวากานต์ทำหน้าบูดเหมือนถูกเอาความลับมาเผย

“พี่วา...” เด็กฝรั่งลองเรียกดู คุณหมอทำหน้าบึ้ง หันหน้าไปหาแต่กลับไม่ยอมสบตา แถมยังสวนกลับห้วนๆ ว่าอะไร “พรุ่งนี้พี่วามาหาแต่เช้าได้ไหม”

ถ้าตาไม่ฝาดเหมือนจะเห็นอีกคนทำท่ากลืนน้ำลายลงคอ จู่ๆ อลันด์ได้ความคิดว่าช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มกำลังนัวเนียกันอยู่ครั้งต่อไปเขาจะลองเรียกพี่วาแบบนี้ดู คนใจแข็งที่ไม่ยอมทำอะไรเขาสักทีต้องหลุดปล้ำกันขึ้นมาบ้างล่ะน่า

“คิดอะไรไม่ดีอยู่หรือเปล่า ทำหน้าน่าเกลียด” เสียงทุ้มว่าเข้าให้พร้อมดีดหน้าผากแถมอีกที ไอ้ตัวแสบต้องวางแผนทำอะไรแผลงๆ อยู่แน่ เขายืนกอดอกมองอลันด์ปฏิเสธเสียงสูงมีการันต์ยืนกลั้นขำจนตัวงอเป็นแบ็คกราวด์ หลังจากคาดโทษรุ่นพี่ไว้ในใจทิวากานต์ถึงยอมให้คำตอบคำร้องขอนั้นเสียที “โทษที แต่พรุ่งนี้ต้องทำงาน”

“เดี๋ยวลาคุณลุงให้เอาไหม” หลานเจ้าของโรงพยาบาลเสนอให้ แต่เหมือนไม่มีอะไรสามารถหยุดความขยันของคุณหมอรูปหล่อได้

“เสียใจ ไม่ใช่งานที่โรงพยาบาลนั้น”

“จิ๊”

“เอาน่า เดี๋ยวเลิกงานแล้วจะมาหา” เขากระซิบบอกอีกคนชิดใบหูขาวก่อนเลื่อนริมฝีปากประทับจูบให้อีกคนเบาๆ ต่อหน้าพยานบุคคลที่สามในห้อง

การันต์ถึงกับถอนหายใจ จะช่วยเกรงใจพ่อหม้ายแบบเขาสักนิดก็ไม่มี ดีว่าพอทิวากานต์ผละหน้าออกมามิสเตอร์เอเดลมาร์กับอัลเบิร์ตก็เปิดประตูโพล่ง การกระทำอุกอาจอย่างแสดงความรักต่อหน้าคนโสดจึงหยุดลงโดยไม่ต้องออกปากห้าม หมอศัลย์หัวใจทั้งสองคนเลยถือโอกาสเอ่ยลาให้คนป่วยได้พักจริงๆ จังๆ กันเสียที บอกเพียงว่าเจอกันพรุ่งนี้

.
.
.

เช้าวันสวนหัวใจมาถึงอย่างรวดเร็ว ไอ้ที่เตรียมใจมาแล้วก็รู้สึกเหมือนยังไม่ได้ทำ เด็กฝรั่งหน้าซีดไม่สดใสแต่เช้าแม้ว่าครอบครัวจะอยู่เคียงข้างและคุณลุงที่เป็นหมอคอยย้ำบอกว่าไม่มีอะไรน่ากังวล แต่กับคนที่ไม่มีความรู้ด้านการแพทย์ย่อมวิตกเป็นธรรมดา

นี่มันหัวใจเลยนะ! อวัยวะสำคัญที่สุดในร่างกาย ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมามีแต่ตายกับตายเท่านั้น!!!

สักเจ็ดโมงเช้าพยาบาลก็เข้ามาเจาะสายน้ำเกลือ ตอนนี้เองที่เด็กหนุ่มวัยสิบแปดเริ่มงอแงเหมือนเด็กเล็กๆ ไม่ถึงกับร้องไห้แค่น้ำตาซึมแต่เดือดร้อนถึงคนเป็นพ่อต้องรีบมากอดปลอบโอ๋ลูกชายสุดที่รักพักใหญ่ จนบอกว่าจะซื้อกีตาร์ไฟฟ้าตัวใหม่ให้ถึงยอมหยุดร้อง เลยถูกภรรยาค่อนขอดเอาว่าโดนเจ้าลูกชายตัวแสบหลอกเข้าให้

หลังจากน้ำเกลือหมดขวดเด็กฝรั่งจึงถูกพยาบาลพาไปทำความสะอาดร่างกายเป็นลำดับถัดไป รวมถึงจัดการโกนขนบริเวณที่ต้องเปิดร่างกาย ซึ่งบริเวณที่ว่าคือ ขาหนีบ...

แม้ไม่ค่อยมีแถมยังเป็นสีทองอ่อนๆ ยังโดนคุณพยาบาลผู้หญิงจัดโกนเสียเรียบเนียน ในชีวิตนี้นอกจากแม่กับยัยซาร่าแล้วไม่เคยเปิดให้ผู้หญิงไหนอื่นดูอีก(ส่วนเปิดให้ผู้ชายดูขอเป็นข้อยกเว้น อยู่โรงเรียนชายล้วนมาตลอดเห็นกันจนเบื่อ) นี่ต้องมาโดนคนไม่รู้จักสำรวจแล้วเอามีดมาไถๆ โคตรของโคตรอาย แต่พูดอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยให้ตัวแดงหน้าแดงฟ้องความในใจ

หลังเสร็จขั้นตอนนั้นแล้วจึงพากลับมาที่ห้องพักเตรียมตัวขึ้นเขียงเป็นรายการต่อไป ตอนนี้เด็กแสบหัวใจห่อเหี่ยว อยากโทรหาทิวากานต์ขอกำลังใจสักนิดแต่พอคิดว่าอีกฝ่ายทำงานอยู่ก็โยนโทรศัพท์ทิ้งสักพักถึงหยิบขึ้นมาใหม่ ทำแบบนี้หลายรอบเข้าจนมารดาสังเกตเห็น

“จะโทรหาใครก็โทรสิอัล โยนโทรศัพท์ทิ้งอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวก็ทำตกเตียงพังแม่ไม่ซื้อให้ใหม่หรอกนะ ถ้าจะโทรหาทอมก็โทรไปเถอะ ทอมไม่ว่าอะไรหรอกถ้าเป็นเรา” มาดามโอเนลล์เข้าใจไปว่าลูกชายคงอยากได้กำลังใจจากเพื่อนรักที่บินมาหาไม่ได้ เสียดายที่เธอเข้าใจผิดไปโขทั้งเรื่องโทรศัพท์และคนที่โทรหา เจ้าไอโฟนโฟร์เอสที่ใช้อยู่ต่อให้ไม่ตกเตียงมันก็ใกล้พังอยู่ดี ส่วนคนที่จะโทรหาน่ะเป็นคุณหมอรูปหล่อหน้าดุต่างหาก

เด็กหนุ่มย่นปากใส่โทรศัพท์ พาลเอาว่าเป็นหน้าทิวากานต์ตัวต้นเหตุที่ทำให้ถูกมัมเข้าใจผิดและดุ เขาตัดสินใจอยู่อีกครู่ใหญ่คราวนี้เลยกลายเป็นว่าทุกคนในห้องหันมามองอลันด์เป็นตาเดียว รอดูเจ้าน้องเล็กต่อสายหาคนที่ต้องการเสียที หากยังไม่ทันได้ทำอะไรไอโฟนเครื่องเก่ากึ้กกลับดังขึ้นมาเสียก่อน เสียงดนตรีเร้าใจของวง Muse ทำเอาทั้งห้องสะดุ้งโหยง

อลันด์ลนลานเกือบทำโทรศัพท์หลุดมือ เขารีบไสนิ้วบนหน้าจอกดรับสายพลางคาดโทษเพื่อนรักที่ตั้งเสียงเรียกเข้านี้ไว้และตัวเขาที่ลืมเปลี่ยนก่อนที่เสียงเพลงจะทำให้คุณยายตกใจไปมากกว่านี้

“ฮะ ไฮล์”

‘พระเจ้า ดีจริง ฉันไม่ได้โทรมารบกวนใช่ไหม’ เสียงทอมดูโล่งใจมาก ดูจากเวลาแล้วที่มิวนิคน่าจะเป็นเวลาสักตีหนึ่งได้

“ไม่”

‘นึกว่าจะไม่ทันซะแล้ว เป็นไงบ้าง โอเคไหม กลัวหรือเปล่า’

“โอเคดี กลัวนิดหน่อย แต่คุณลุงก็บอกว่าไม่มีอะไรต้องกังวล”

‘คิดถึงนายมากนะ ฉันอยากไปอยู่กับนายตอนนี้เลย เสียใจจริงๆ ที่ทำตามสัญญาไม่ได้’

“ช่างมันเถอะ ฉันไม่ซีเรียส ยังไงเรื่องสอบก็ต้องสำคัญกว่าอยู่แล้ว” เขาคิดอย่างนั้นจริงๆ ไม่ได้น้อยใจอะไรอีกคน ถ้าจะรู้สึกคงเป็นกับทิวากานต์มากกว่า ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเขามีกำหนดรักษาวันไหนยังไม่ยอมลางานมาดูแลกัน มันน่าโมโหสุดๆ

‘โอเค คริสต์มาสจะรีบไปหา’

“อ่าฮะ เอ่อ แค่นี้ก่อนนะทอม ได้แล้วเวลาไปห้องผ่าตัดแล้วล่ะ”

‘ไอ - ซี ดูแลตัวเองนะ รักนายเสมอ’

“รักเหมือนกัน” พยาบาลกับบุรุษพยาบาลมารอพร้อมกับรถเข็นแล้ว ดูท่าจะไม่มีเวลาให้โทรหาทิวากานต์อย่างใจต้องการ เลยรีบกดส่งข้อความไปหาอีกคนว่าเขากำลังจะผ่าตัดแล้วนะจึงค่อยปีนลงจากเตียงเตรียมเข้ารับการรักษาเสียที มือขาวกำโทรศัพท์แน่นกะรอข้อความตอบกลับจากคนรักจนกว่าจะถึงหน้าห้องผ่าตัด

“เดี๋ยวแม่กับแด๊ดจะเดินไปส่งนะจ๊ะ” มาดามโอเนลล์หยุดยืนอยู่ข้างรถเข็น เธอลูบกลุ่มผมสีน้ำตาลเบาๆ ด้วยความรัก ปกติแม่ของอลันด์ตัวเล็กอยู่แล้วและวันนี้ดูจะตัวเล็กยิ่งกว่าเดิมคงเพราะกังวลเรื่องลูกชาย

อลันด์ซึมไปอีกครั้งแม้จะคุยกับเพื่อนซี้แล้วก็ตาม จนออกจากลิฟต์มาถึงชั้นที่ใช้ทำการรักษาโทรศัพท์ก็สั่นแจ้งข้อความเข้า ทิวากานต์ตอบกลับมา ‘Nothing’s gonna hurt you Baby as long as you’re with me, you’ll be just fine. C U XOXO’ หากแค่นั้นก็มากพอให้คนป่วยยิ้มออกได้ เขาอ่านทวนอีกสองรอบก่อนปิดเครื่องแล้วส่งให้มารดาตอนถึงหน้าห้องผ่าตัด

“ญาติกลับไปรอที่ห้องได้เลยนะคะ ไม่ต้องกังวลค่ะ เดี๋ยวรักษาเสร็จแล้วดิฉันจะพาน้องกลับไปพักฟื้นต่อที่ห้องค่ะ”

“ค่ะ อัล แม่ไปแล้วนะจ๊ะ” เด็กหนุ่มเอียงแก้มให้มารดาจูบ รอจนเธอถอยออกไปคุณบุรุษพยาบาลจึงค่อยเข็นเขาเข้าไปในห้องผ่าตัด

นับเป็นครั้งที่สองในชีวิตที่ได้เข้ามายังสถานที่แบบนี้ ครั้งแรกตอนแขนหักที่อังกฤษ เขาถูกหมอจับฉีดยาชาแล้วรักษาทั้งที่ยังมีสติ หวังว่าครั้งนี้เขาคงไม่ถูกทำอะไรกับหัวใจทั้งที่ยังลืมตาอยู่แบบนี้หรอกนะ บวกกับอากาศเย็นเฉียบเหมือนอยู่ในห้องแช่มันน่าสยองน้อยเสียเมื่อไหร่ล่ะ

พออลันด์ขึ้นไปนอนบนเตียงเรียบร้อยถึงมีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ใส่ชุดเขียวท่าทางอารมณ์ดีเข้ามาหา ถามว่าพูดไทยได้ไหม วันนี้มาทำอะไร กลัวหรือเปล่า บลาๆๆ แล้วบอกให้เขาทำใจให้สบายๆ ตอนนั้นเองเขาถูกหน้ากากอ็อกซิเจนจากไหนไม่รู้ครอบเข้าที่หน้า

“เดี๋ยวหมอจะดมยาสลบนะครับ ให้น้องนับหนึ่งถึงสิบช้าๆ ในใจเอาไว้นะ”

คุณหมอที่ชวนคุยสั่งไว้อย่างนั้น เด็กฝรั่งสูดลมหายใจเข้าปอดลึกโดยไม่ทันรู้ตัว เขาลืมตามองเพดานห้องที่เปิดไฟสว่างจ้า นับเลขตามที่คุณหมอคนนั้นบอก หนึ่ง สอง สาม ตอนที่กำลังจะนับถึงสี่มีหมออีกคนชะโงกหน้าเข้ามา เป็นต้นเหตุให้เขาลืมที่คุณหมอคนนั้นบอกให้นับไปเสียสนิทใจ เพราะแม้จะใส่หมวกคลุมผมมีมาส์กปิดปากคาดบังใบหน้าไปเกินครึ่งแต่อลันด์คิดว่าเขาจำดวงตาคู่นั้นได้แม่น

ทิวากานต์ ชื่อนี้ผุดขึ้นมาในความคิดเป็นสิ่งสุดท้ายก่อนโลกจะดับไป...



TBC

เย้ ได้หยุดยาวแล้วค่ะ หยุดเก้าวันเลย จะขยันมาลงนิยายถี่ๆ นะคะ
ขอสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าตรงนี้เลยนะคะ
ใครไปเที่ยวไหนขอให้เที่ยวอย่างสนุก เดินทางปลอดภัยค่า

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์และทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ
ชอบคอมเม้นต์ของทุกคนมากเลย อ่านแล้วแอบขำ สงสารน้องอัลไม่มีใครเข้าข้างนางเลยอ้ะ ฮ่าๆๆๆ

พี่วาทำอะไร ไม่มาดูดีดูดำน้องอัลจริงหรือไม่
น้องอัลขึ้นเขียงแล้วจะออกออกฤทธิ์ได้อีกไหม
โปรดติดตามตอนต่อไปค่า

จุ๊บๆ
 :mew1:

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
พี่วาก็มา แอร๊ยยย ยิ่งอ่านยิ่งหลงพี่วาจริงๆ เลิฟฟๆๆๆ
สู้ๆ นะจ๊ะอัลน้อย  ปลอดภัยแน่นอน มีหมอวาอยู่ทั้งคน
เปิดเพลงฟังตามฟินแท้ๆ
ลงถี่ๆ เลยค่ะ นี่ก็จะมาอ่านถี่ๆ เหมือนกัน เกี่ยวมั้ย? 55555
ขอให้มีความสุขนะคะคุณคนเขียน  :-[

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
พี่หมอวามาเอง อัลมีกำลังใจแน่นอน

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
"พี่วา"......  โอ๊ย!!! หัวใจคนแก่กระตุก........

ฝรั่งน้อยได้ทีเด็ดมายั่วหมอวาอีกแระ   พอรักษาหัวใจแข็งแรงแล้ว

พี่หมอวาไม่รอดฝรั่งน้อยแน่ๆ  :laugh5:

ออฟไลน์ minkey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ขอแบบหมอวาสักที่ได้ไหมคะ
เขินตอนเอาสเตธเสียบหูให้น้องฟัง
เขินจริงเขินจัง :-[

พี่หมอวาต้องเป็นคนทำให้น้องแน่เลยย

รอตอนต่อไปนะคะ
 :mew1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
หมอวาต้องห่วงน้องอัลมากแน่ๆอ่ะ
ก็หมอวามาเองเลยนี่ หมอวาน่ารัก :กอด1:
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
‘Nothing’s gonna hurt you Baby as long as you’re with me, you’ll be just fine. C U XOXO’
หมอวาลงมือเองเลยใช่ไหม เท่จังเลย อัลต้องหายดีแน่ ๆ

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
อร้ายยยอิ C U XOXO คืออัลไลค่ะพี่วาาาาา
งานอ่อยให้เด็กใจแตกก็มาาาา

ออฟไลน์ VarainDark

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อ๊ากกกกกก เขินแทนไอตัวแสบอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ DKTime

  • ขอบเขตความรู้สึกยิ่งใหญ่ ความเสียใจอาจแฝงไว้ในความเฉยชา....
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-2
    • https://twitter.com/UKnowJJTime_DK
หมอเถื่อนถึงกับเข้ามาให้กำลังใจถึงเตียงกันเลยทีเดียว ฮ่ะๆๆๆๆ  :hao7: :hao7: :hao7:

รอๆๆๆ รอตอนต่อไปไวๆเลยครับ

ถ้าอย่างหมอเถื่อนใสๆ เห็นทีเจ้าเด็กลูกครึ่งก็เบบี๋เพิ่งเกิดล่ะครับ 5555+

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
แหม่ แหม่ แหม่ แหม่  :hao3:

ออฟไลน์ Mokuchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตอนนี้หวานจัง ทั้งหมอวาทั้งอัลน่ารักมากก :-[
แด๊ดก็น่ารักนะคะ ตอนหวงลูกนี่ทำตัวเหมือนเด็กเลย นั่งแทรกงี้ 5555

ออฟไลน์ san

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-4
น่ารักจัง ดูเหมือนน้องจะติดพี่มากเหมือนกันนะคะเนี้ย ครอบครัวก็อบอุ่นน่ารัก

หมอวาชอบกั๊กเนอะ มาทำงานแหม...ไม่บอกกล่าวน่าตีจริง

แอบกระซิบบอกน้องอัล ว่าวาอยากถูกกดล่ะ 555 หมอวาก็รอน้องอัลกดล่ะกันเนอะ  หึหึ

แอบสงสัยที่หมอวายังไม่ได้กดน้องอีกเหตุผลหนึ่งคือเรื่องเรียนต่อหรือเปล่าหนอ เหตุผลเยอะเนอะ ต้องให้น้องอ่อยบ่อย ๆ

ออฟไลน์ Imunspoken

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ แล้วก็ติดทันที อ่านยาวตั้งแต่เมื่อคืนเกือบไม่ได้นอน ไม่ได้เจอนิยายที่ชอบแบบนี้มานานละค่ะ

เราชอบเรื่องนี้มากค่ะ มีความดีงามหลายอย่างเลย อย่างแรกคือหมอวา 555555555 อ่านๆไปก็อยากได้แบบนี้บ้าง และภาษาดีมากเลยค่ะ อ่านง่าย ลื่น ตลกด้วย แต่ละตอนยาวจุใจมาก จะรอตอนต่อไปนะคะ เดี๋ยวกลับไปอ่านตอนเก่าๆ รอ 55555

ออฟไลน์ LetGet

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากบอกนะว่าพี่หมอวาเป็นคนลงมีด สุดยอดอ่ะ!! รออ่านตอนต่อไปนะ //เราก็ยังคงรอฉากที่พี่หมอจะเคี้ยวเด็ก  :hao6:  :hao6:  :hao6:

ออฟไลน์ Ryu7801

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
รอพี่หมอวากับน้องอัน :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 21 [02.01.16]
«ตอบ #319 เมื่อ02-01-2016 19:24:34 »

TRACK 21


อลันด์รู้สึกตัวอีกทีเพราะอาการเจ็บคอ เขาปรือตามองเพดานสีขาวนวลด้วยความมึนงง ตอนกำลังสงสัยว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน กี่โมงแล้ว พยาบาลกับหมอก็เดินเข้ามาดูพอดี ถามไถ่อาการว่ามีคลื่นไส้เวียนหัวบ้างไหม หลังจากให้เขาได้จิบน้ำไปอึกใหญ่อาการเจ็บคอจึงค่อยทุเลาจนตอบคำถามได้

“วา...”

“ครับ?” คุณหมอทำหน้าแปลกๆ เหมือนไม่แน่ใจว่าได้ยินที่เด็กฝรั่งพูดถูกหรือเปล่า “ตอนนี้รู้สึกยังไงนะครับ”

“วา... หมอวา” ฤทธิ์ยาสลบคงค้างอยู่ในตัวเยอะไปหน่อยอลันด์จึงดูมึนงงนึกอะไรไม่ออกนอกจากชื่อทิวากานต์และภาพสุดท้ายที่ได้เห็นก่อนหมดสติ

“อ๋อ” วิสัญญีแพทย์หัวเราะในคอก่อนอาศัยจังหวะคนไข้กำลังมึนเฉไฉไปเรื่องอื่น “เหมือนจะซึม เดี๋ยวนอนรอในห้องนี้ให้หมอดูอาการก่อนเนอะแล้วค่อยย้าย ขาข้างนี้อย่าขยับนะครับ ทนรำคาญไว้ก่อน”

เด็กฝรั่งครางฮือเริ่มรู้สึกปวดหัวอยากจะอ้วกหลังจากนั้นก็หมดสติไปอีกรอบ คราวนี้พอตื่นมาเจอหน้าพ่อเลยร้องไห้โฮๆ ครางเรียกแด๊ดท่าทางน่าสงสารพาตกใจกันยกครอบครัว มะรุมมะตุ้มโอ๋น้องกันเสียงขรม ตามหมอเจ้าของไข้มาดูแล้วก็ยังไม่หยุดร้อง เรียกได้ว่าเป็นคนไข้ที่ทำให้อ่อนอกอ่อนใจกันทุกฝ่าย โชคดีว่าคุณหมอถนัดเคสเด็กเล็กอยู่แล้วเลยเอาของเล่นกับของกินมาล่อ ไม่กี่นาทีลูกครึ่งตัวป่วนจึงเลิกงอแงยอมให้หมอตรวจดูแผลแต่โดยดี

ฟังหมออธิบายคร่าวๆ ก็คือแผลเรียบร้อยดี ปิดรูรั่วสนิท หัวใจแข็งแรงเต้นเป็นปกติ ที่งอแงน่าจะเป็นผลต่อเนื่องมาจากอาการมึนยาสลบนิดหน่อย โดยรวมไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ไร้ภาวะแทรกซ้อน ระหว่างนี้จำเป็นต้องเอาถุงทรายดามขาข้างขวาที่ทำการสวนหัวใจไว้อีกสักหกชั่วโมงหรือถ้าให้ดีก็ทั้งคืน งดขยับเขยื้อนโดยเด็ดขาด แล้วถ้าหิวค่อยเรียกพยาบาล มีอาหารอ่อนเตรียมไว้ให้แล้ว

เมื่อคุณหมอกลับออกไปทุกคนในครอบครัวจึงเดินมาถามไถ่อาการคนเจ็บกันอีกรอบ คราวนี้ตอบดีๆ ไม่ร้องไห้แล้วแต่ตากับจมูกยังแดงก่ำท่าทางดูน่าสงสาร พี่สาวพี่ชายถึงกับลูกหัวลูบหางน้องคนเล็กด้วยความเอ็นดู

เหมือนเวลาผ่านไปนานเหลือเกินในความรู้สึกแต่ที่จริงแล้วเพิ่งจะบ่ายสองเท่านั้น คุณลุงบอกว่าเขาเข้าไปในห้องผ่าตัดแค่ชั่วโมงครึ่งแล้วนอนพักฟื้นดูอาการอยู่อีกเกือบสามชั่วโมงเพราะแพ้ยา พอกลับเข้าห้องมาไม่ทันไรก็ตื่นแล้วร้องไห้นี่แหละ กานต์กระเซ้าถามว่าร้องไห้ทำไมก็ไม่ตอบ ปล่อยให้มาดามโอเนลล์เข้าใจไปว่าลูกชายคงเครียดเลยร้องออกมา

“น้องอัลทำคนแก่ตกอกตกใจเสียยกใหญ่ ยายเราจะไปบนกับพระอยู่แล้วดีว่าหมอเข้ามาซะก่อน” อดีตเอกอัครราชทูตถึงกับถอนหายใจยาว เขาเดินมาลูบหัวหลานชาย ว่าแต่ยายในใจเขาเองก็เตรียมของรับขวัญหลานไว้แล้ว ยิ่งเห็นตื่นมาร้องไห้ของที่จะให้ก็ยิ่งต้องมีราคาสมกับค่าน้ำตาที่เสียไป

อลันด์นอนให้ครอบครัวเอาใจอยู่สักพักคนที่อดอาหารตั้งแต่เมื่อคืนก็เริ่มหิว มื้อแรกของวันเป็นโจ๊กรสอ่อนที่มิสเตอร์เอเดลมาร์ลงทุนป้อนด้วยตนเอง มีคุณยายสำทับอยู่ข้างหลังว่ากลับบ้านไปแล้วจะจัดอาหารมื้อใหญ่อีกที กะขุนหลานชายให้กลับมาอ้วนกลมเหมือนเดิมให้ได้

ตอนโจ๊กหมดชามมีคนเข้ามาในห้อง หนแรกอลันด์นึกว่าเป็นทิวากานต์มาหาหากเมื่อไม่ใช่หน้าขาวถึงกับออกอาการเซ็งอย่างเห็นได้ชัดแล้วกลายเป็นหงุดหงิดทันควันเมื่อพบว่าคนที่มาเป็นลูกพี่ลูกน้องคู่กัดอย่างฌาน รวี ได้ข่าวว่าตอนนี้ทำงานอยู่ที่ฮ่องกงไหงโผล่มาอยู่นี่ได้

“หมดสภาพ ดูไม่ได้จริงๆ” ชายหนุ่มว่าอย่างนั้นหลังกราบสวัสดีผู้ใหญ่หมดแล้ว ร่างสูงโปร่งหยุดยืนอยู่ข้างเตียงคนป่วยเพียงคนเดียว ปล่อยให้คนแก่ไปนั่งพักกันที่ส่วนห้องนั่งเล่นหมด ตากลมโตสวยเหมือนหงส์มองใบหน้าขาวซีดเซียวน่าสงสาร คิดในใจจะยอมไม่ชวนตีด้วยสักวันเพราะดูท่าให้ทะเลาะกันตรงนี้เขาชนะอย่างไม่ต้องสืบ

“หึ ไม่ได้อยู่ฮ่องกงหรอกเหรอ”

“พอดีมาทำงานที่นี่เลยแวะมาดูอาการเสียหน่อย เห็นป้าอรบอกว่าเป็นโรคหัวใจ ตอนนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ”

“อย่างที่เห็น”

“น้องอัล พูดไม่เพราะอีกแล้ว” คำปรามจากห้องนั่งเล่นอีกฝั่งทำเอาหลานรักหน้างอ อลันด์ห่างกับฌานแค่สี่ปี เรียกได้ว่าอายุใกล้เคียงกันที่สุดแล้ว แถมอีกฝ่ายยังเติบโตที่อังกฤษความสนิทจึงมีมากพอให้เป็นคู่กัดตลอดกาลได้ จะให้เรียกพี่ฌาน พี่ชาร์ลบอกตามตรงกระดากปากเหลือเกิน หลังจากนั้นทั้งคู่เลยเลือกจะพูดคุยกันด้วยภาษาอังกฤษแทนเสียจะได้ไม่ต้องมีคำแทนตัวคำลงท้ายให้วุ่นวาย

ลูกพี่ลูกน้องของเขาดูเหมือนจะคล้ำขึ้นเล็กน้อย คุยกันสักพักถึงรู้ว่าเจ้าตัวเพิ่งบินมาจากภูเก็ตเมื่อเช้า พอถึงกำหนดกลับฮ่องกงเลยขออนุญาตเจ้านายแวะมาดูอลันด์เสียหน่อยแล้วค่อยบินกลับพรุ่งนี้เช้า ตอนนี้ท่านประธานก็รออยู่ที่โรงแรมคงจะอยู่คุยด้วยได้ไม่นานนัก

ในระหว่างที่กำลังซาบซึ้งน้ำใจของคู่กัดที่เสียเวลาแวะมาหาเขา เสียงทักทายจากฝั่งห้องนั่งเล่นพร้อมเสียงทุ้มเป็นเอกลักษณ์ของทิวากานต์ก็ดังลอดเข้ามาในหู เด็กฝรั่งตัวแสบตาวาวหูกระดิกดิ๊กๆ สะบัดหางไปมา พยายามชะเง้อหน้าออกไปดูว่าใช้คุณหมอสุดที่รักมาหาแล้วหรือเปล่า ติดแต่ขาขวาที่ถูกจับดามห้อยไว้เหมือนผู้ป่วยกระดูกหักนี่แหละจึงขยับตัวไม่ได้อย่างใจนึก

“เป็นบ้าอะไรน่ะ ใครมาหรือไง”

“ยุ่ง” ปากว่าอย่างนั้นแต่สีหน้าเหมือนอยากอวดให้ศัตรูรู้ คงเป็นเพื่อนสักคนของเจ้าหนูนี่และไม่น่าจะธรรมดา อาจจะรูปหล่อเป็นพิเศษ มีคุณสมบัติครบถ้วนแบบโธมัสกระมัง

หนุ่มลูกครึ่งไทย-ฮ่องกงยักไหล่ทำท่าไม่สนใจ เขามานี่ไม่ได้กะพูดคุยกับใครอยู่แล้ว แค่มาดูเด็กบ้าให้เห็นกับตาเท่านั้นว่ายังสบายดี และเท่าที่ดูก็ออกจะสบายดีเกินไปเพราะต่อปากต่อคำได้เหมือนเดิม ฌานแสร้งยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาเตรียมตัวจะขอกลับเป็นจังหวะเดียวกับคนมาใหม่เสนอหน้าเข้ามาในห้อง

ทิวากานต์เดินยิ้มหน้าแป้นมาจากฝั่งห้องนั่งเล่นท่าทางอารมณ์ดี เขาทักอลันด์ก่อนเห็นว่ามีใครคนอื่นอยู่ด้วยซ้ำ “เป็นไงบ้าง ปวดแผลไหม”

เด็กฝรั่งส่ายศีรษะบนหมอนใบโต “ไม่อ่ะ วาไม่ต้องทำงานแล้วหรือไง”

“ยัง แต่แวบมาดูก่อน นี่จำอะไรไม่ได้เลยล่ะสิเนี่ย” คุณหมอหนุ่มเดินมายืนข้างเตียงฝั่งตรงข้ามกับฌาน เอื้อมมือไปลูบผมอีกคนเล่นเบาๆ ก่อนเงยหน้ามองคนไม่รู้จัก พลันทิวากานต์คนกล้าถึงกับชะงักเมื่อมองหน้าอีกฝ่ายเต็มตา เสียงที่เอ่ยออกมาก็ตะกุกตะกักอย่างที่ไม่เคยเป็น “เอ่อ สะ สวัสดีครับ ปะ เป็นเพื่อนอัลเหรอครับ”

“ญาติน่ะครับ ญาติห่างๆ”

“ห่างมากกก” เด็กฝรั่งสวนเสียงเขียว ตาสีซีดจ้องคุณหมอกับญาติตัวเองเขม็ง หนอย...เจอคนหน้าตาดีหน่อยไม่ได้ทิวากานต์มองตาเยิ้มเลย แล้วฌานเนี่ยสเปคตรงกับคู่ควงคนก่อนๆ ของคุณหมอเป๊ะ ทั้งสูง ผอม หุ่นดีและแม้จะเป็นผู้ชายแต่ก็ต้องยอมรับว่าลูกครึ่งไทย-ฮ่องกงคนนี้สวยกว่าผู้หญิงเสียอีก!

“ทิวากานต์ครับ เรียกพี่วาก็ได้ เป็นหมออยู่โรงบาลเครือเดียวกันนี่เอง” เขายื่นมือออกไปตรงหน้า ข้ามตัวอลันด์ที่นอนแบ่บไปเฉย ฌานเหมือนจะลังเลเล็กน้อยแต่ก็ยื่นมือไปจับตามมารยาท

“ฌานครับ เรียกชาร์ลก็ได้” แก้มอิ่มขึ้นสีแดงเรื่ออย่างน่ารัก ตากลมโตเมียงมองคุณหมอเหมือนไม่แน่ใจจนทิวากานต์เลิกคิ้วเป็นเชิงถามถึงได้เอ่ยปาก “คุณหมอหน้าคุ้นจังเลย เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าครับ”

ถ้าบอกว่าเป็นมุกจีบอลันด์บอกเลยว่าโคตรเชย แต่เพราะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้เด็กฝรั่งตัวแสบถึงกับตาเหลือกนอนไม่ติดเตียง เขาลืมไปได้ยังไงกันว่าฌานเป็นแฟนคลับตัวยงของวิคเตอร์ แล้วทิวากานต์น่ะหน้าตาแทบจะถอดแบบพ่อมาเป๊ะๆ จะปล่อยให้สองคนนี้มาสปาร์คกันทั้งที่เขายังนอนป่วยอยู่แบบนี้ไม่ได้นะเฮ้ย! นี่แฟนเขา เขาหวงเขาจะทวงของเขาคืน!!!

“อ๊ะ โอ๊ย!” ร้องออกไปไวเท่าความคิด อลันด์แกล้งตีสีหน้าเจ็บปวดเต็มประดา เท่านั้นทิวากานต์ก็เลิกสนใจหนุ่มหน้าสวย ก้มลงมาถามไถ่อาการคนป่วย

“อัล เป็นอะไร เจ็บตรงไหน”

“จะ เจ็บ...” เจ็บตรงไหนดีวะ “เจ็บ ไม่รู้อ่ะพี่วา โอ๊ยๆ”

“เดี๋ยวอัล หายใจเข้าลึกๆ นะ อ๊ะ!” ทิวากานต์หลุดร้องเสียงหลงตามคนเจ็บไปติดๆ ก็ตอนก้มหน้าลงไปดูอาการอีกคน มือขาวๆ กลับคว้าหูเขาแน่นไม่พอแถมยังจับบิดเหมือนกะให้หลุดซะงั้น

“อัลเป็นอะไรน่ะ คุณหมอครับ เกิดอะไรขึ้น”

“อะ อัล... อ๊ะ ไม่มี ไม่มีอะไรครับ สงสัยเจ็บแผล โอ๊ะ!” หมอศัลย์รูปหล่อละล่ำละลั่กตอบหน้าแดงก่ำ ตาคมมองไอ้ตัวแสบเขม็ง ถ้าไม่ติดว่าเพิ่งออกจาก OR เขาจะไล่เตะตูดให้นั่งไม่ได้เลย แม่งเอ๊ย! เขาก็นึกว่าเป็นอะไรที่ไหนได้มารยาหลอกเขาไปทำร้ายร่างกาย แล้วดูอลันด์นะมองเขาตาเขียวปั๊ด ถามจริงเถอะว่าทำผิดอะไรถึงต้องลงโทษกันแบบนี้!!!

“หนอย เห็นคนสวยหน่อยไม่ได้เลยนะวา”

“อะไรเล่า ขอมองหน่อยไม่ได้หรือไง”

“มองก็แค่มองสิ จับมือทำไม”

คู่รักต่างวัยผลัดกันโต้ตอบด้วยเสียงลอดไรฟัน คนนอกฟังแล้วเหมือนเสียงแมวขู่กันมากกว่า ฌาน รวีเห็นท่าไม่ค่อยดีจะเรียกผู้ใหญ่ฝั่งนั้นมาช่วยดูทิวากานต์ดันดึงหัวขึ้นมาเสียก่อน หน้าหล่อเหลาอย่างกับถอดแบบพระเอกหนังในดวงใจแดงก่ำโดยเฉพาะส่วนหู หากยังมีรอยยิ้มกว้างยังประดับเหมือนไม่มีอะไรทั้งที่คิ้วกระตุก

“น้องน่าจะตึงแผลตรงที่โดนเจาะ นอนเฉยๆ เดี๋ยวก็หายครับ แต่ถ้ายังปวดอยู่เดี๋ยวให้พยาบาลเอายาแก้ปวดมาให้”

“เอ่อ... แน่ใจนะครับว่าแค่นั้น” ถามกลับไม่ค่อยจะแน่ใจ เมื่อกี้คุณหมอก้มหน้าลงไปเกือบชิด นึกว่ามีปัญหาอะไรเสียอีก แน่นอนว่าเขาไม่ได้เอะใจเรื่องที่อลันด์เอามือตะบปหน้าอีกฝ่ายสักนิด ติ๊ต่างไปเองว่าน้องเจ็บเลยดิ้นจนมือฟาดหน้าทิวากานต์

“ครับ อัลแข็งแรงดี แข็งแรงมากกก” ชายหนุ่มจงใจเน้นเสียงท้ายประโยค ไม่แน่ใจว่าย้ำให้ญาติผู้ป่วยเบาใจหรือประชดไอ้ตัวแสบ แต่ดูท่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า

“โอเคครับ งั้นผมกลับก่อนดีกว่า ไม่อยากกวนคนป่วย” เห็นเป็นแบบนี้แล้วฌานเลยว่าทำตามความตั้งใจเดิม ขืนอยู่นานกว่านี้แล้วเด็กนี่เป็นอะไรขึ้นมาเขาจะรู้สึกแย่เอาได้

ชายหนุ่มเดินไปหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นสะพายก่อนเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นลาผู้ใหญ่ มีทิวากานต์อาสาไปส่งเพราะมีเคสต้องไปดูต่อพอดีทำเป็นไม่สนใจอาการหน้างอตาเขียวปั๊ดของแฟนเด็ก คิดเสียว่าเอาคืนที่บิดหูเขาเกือบหลุด ตอนนี้ยังเจ็บจี๊ดๆ อยู่เลย เกิดมาสามสิบปีเพิ่งเคยโดนก็วันนี้ ดีว่ารักมากนะ ถ้าไม่รักมีจับเชือดไปแล้ว!

ทิวากานต์เดินเคียงกันออกมากับฌาน บอกผู้ใหญ่ในห้องไว้ว่าเดี๋ยวเย็นๆ จะมาอีกที มีสายตาไม่ต้อนรับจากมิสเตอร์เอเดลมาร์ไล่หลังแต่ who cares? ริจะกินลูกเขาแล้วอย่าได้กลัวว่าที่พ่อตา เพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่งเคยว่าไว้เช่นนั้น

“น้องฌานตัวสูงจังเลยนะครับ ไม่เหมือนอัลเลย รายนั้นเตี้ยซะอย่างกะไม่ได้มีพ่อเป็นฝรั่ง” เดินออกมาได้หน่อยทิวากานต์ก็ชวนอีกฝ่ายคุย เอาจุดเด่นอย่างส่วนสูงที่เกือบจะเท่าเขามาเป็นประเด็น  บอกตรงๆ ถ้าไม่ได้คบกับอัลเขาอาจจะจีบญาติผู้พี่เด็กฝรั่งไปแล้ว หน้าสวย ตัวสูง หุ่นดี สเปคสุดๆ

“สูงเหมือนพ่อน่ะครับ พ่อผมพอจะมีเชื้ออังกฤษอยู่หน่อย แต่เอาจริงก็มีเชื้อจีนมากกว่า”

“เป็นลูกครึ่งเหรอครับ มิน่า หน้ามีเสน่ห์มากเลย”

“ฮ่องกง-ไทยน่ะครับ”

“เหมือนพี่เลย!” ถ้าทิวากานต์มีหางคงเห็นมันส่ายริกๆ ถือโอกาสสร้างความสนิทสนมแทนตัวว่าพี่ซะ “พี่ก็ลูกครึ่งฮ่องกง-ไทย พ่อเป็นฮ่องกงน่ะ แต่พูดจีนไม่ได้สักคำ ได้แค่หนีฮ่าว พี่ออกเสียงถูกไหม”

“ได้อยู่นะครับ คิก จะว่าไปพี่วาก็หน้าเหมือนคนฮ่องกงจริงๆ ด้วย เหมือนวิคเตอร์ที่เป็นดาราน่ะครับ” ชายหนุ่มหัวเราะ

“เอ่อะ เหมือนขนาดนั้นเลยเหรอครับ” คุณหมอหนุ่มถึงกับอ้าปากค้าง เพิ่งจะเคยโดนบอกว่าหน้าเหมือนพ่อก็วันนี้แหละ

“ครับ เหมือนมาก ผมเป็นแฟนคลับวิคเตอร์ตัวยงเลย พอเห็นหน้าพี่วาครั้งแรกยังนึกในใจทำไมผู้ชายคนนี้หน้าเหมือนเขาจังอย่างกับเป็นพ่อลูกกันแน่ะ อ่อ จะว่าไปเหมือนจะเคยมีข่าวว่าวิคเตอร์มีลูกลับๆ อยู่ด้วย ตอนผมรู้ข่าวนะเหมือนหัวใจสลาย อย่างกับโดนหลอกให้รักมาตั้งหลายสิบปี รู้ตัวอีกทีเขามีลูกเมียอยู่แล้ว” พอเป็นเรื่องที่ชอบฌานก็คุยไม่เปิดโอกาสให้อีกคนพูด พาลทำให้ไม่ทันสังเกตสีหน้าอีกคนที่ตึงๆ ไป

ทิวากานต์พยายามระงับอาการแปลกๆ ที่เกิดขึ้นในใจ ย้ำกับตนเองว่าอีกฝ่ายไม่รู้เรื่องถึงพูดออกมาแบบนั้น เขาแกล้งเฉไฉไปเรื่องอื่น “เหรอครับ แล้วน้องฌานสนใจผู้ชายที่หน้าเหมือนคนในดวงใจบ้างไหมละครับ”

“ฮ่าๆ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้สักปีสองปีผมอาจจะคิดนะครับ แต่ว่าตอนนี้ผมมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ...ไม่มีสิทธิคิดถึงความรักหรอกครับ” ฌาน รวีหลุบสายตาต่ำซ่อนความรู้สึกไว้ หากน้ำเสียงเบาหวิวทำให้คุณหมอรู้ว่าอีกฝ่ายคงมีเรื่องหนักใจอยู่ไม่น้อย คุณหมอรูปหล่อจึงอดแหย่ให้อีกฝ่ายอารมณ์ดีไม่ได้

“เสียดายจัง น้องฌานเนี่ยสเปคพี่เลย”

“ฮ่าๆ เหมือนถูกวิคเตอร์สารภาพรักเลยแหะ” แก้มใสแดงจัด ยิ้มตาหยี โดยไม่รู้ว่าประโยคนั้นทำร้ายทิวากานต์อีกครั้ง ตอกย้ำด้วยการบอกว่าเขาเหมือนผู้ชายคนนั้นแค่ไหน ความโด่งดังของผู้เป็นพ่อทำให้ครอบครัวเขาบิดเบี้ยวเพียงใด และไม่ว่าจะหลีกหนีแค่ไหนหลักฐานบนใบหน้าก็บอกว่าเขาเกี่ยวข้องกับวิคเตอร์อย่างไม่มีทางเป็นอื่น

ถ้าเพียงแต่...ถ้าเพียงแต่วิคเตอร์จะไม่ได้เป็นดารา...

เขาส่งหนุ่มน้อยที่ชั้นหนึ่งก่อนขอตัวไปทำงานต่อไม่ใส่ใจหัวใจที่ถูกข่วนเป็นรอยถลอกเลือนราง หนักหนากว่านี้ยังผ่านมาได้กะอีแค่คำพูดของคนเพิ่งเจอกันเขาจะเก็บมาใส่ใจทำไม เรื่องทุกอย่างมันผ่านมานานมากแล้วพอกับอายุของเขา ทุกวันนี้เขาก็มีความสุขดี การเก็บเอาปมขาดพ่อตอนเด็กมาแสดงอาการอ่อนแอมันไม่ใช่เรื่องที่คนอายุสามสิบจะทำกันแล้ว สู้กลับไปตั้งใจทำงานให้สมกับที่อาจารย์หมอจากฝั่งนี้ยอมให้เขาเข้าไปดูการทำเคสของอลันด์ดีกว่า

แม้แผลไม่ว่าจะเล็กจะใหญ่อย่างไร ในความจริงก็ทำให้เจ็บอยู่ดี...

.
.
.

“As the clouds roll by, I can see the sunshine mmhm…”

ฟ้าหลังฝนใครก็ว่าสดใส อลันด์เองก็คิดแบบนั้น เด็กฝรั่งตัวแสบฮัมเพลงงุ้งงิ้ง ตาสีซีดจับจ้องหน้าจอแมคบุ๊คแอร์เครื่องใหม่กิ๊กเลื่อนนิ้วดูเสื้อผ้าจากเว็บเซลล์เลอร์ชื่อดังอย่าง Mr. Porter รู้สึกอากาศเมืองไทยเริ่มหนาวขึ้นมานิดๆ ถ้าได้สเว็ตเตอร์สวยๆ สักตัวใส่ตอนไปเรียนคงดีไม่น้อย

ว่าแต่ถ้าของมาส่งทิวากานต์ต้องบ่นว่าเขาฟุ่มเฟือยอีกแหง แค่แมคบุ๊คที่ใช้อยู่ตอนนี้ ไหนจะไอโฟนหกใหม่เอี่ยมข้างตัว ไอแมคจอเรติน่า 5K ในห้องนอน กล้อง DSLR พร้อมเลนส์สามแบบและแอคชั่นคาเมร่าอย่าง GoPro Hero4 ที่ขนกลับคอนโดมา คุณหมอหน้ายักษ์ก็แทบจะกินหัวเขาแล้ว ยังดีนะที่เขาไม่บอกไปว่าได้กระเป๋าหนังจระเข้ฟอกสีขาวของเดลโว (delvaux) มาอีกใบ(แถมยังชอบม้ากมากจนอยากได้อีกใบสองใบให้ครบสามสี) ไม่งั้นมีหวังทิวากานต์ได้เทศน์ยาวจนหมดปีแน่

อยากจะถอนหายใจดังๆ แล้วบอกคนรักสูงวัยว่าเขาไม่เสียเงินสักบาท ทั้งหมดนี่เป็นเงินคุณตาที่ให้เป็นค่าเรียกขวัญหลังผ่าตัดทั้งนั้น เรื่องอะไรเขาจะเสียเงินเป็นล้านกับของที่ใช้บ้างไม่ใช้บ้างล่ะ

เชื่อเถอะว่าวินาทีที่คุณตาถามว่าอยากได้อะไรเป็นของขวัญออกจากโรงพยาบาล ต่อให้บอกไปว่าอยากได้เบนท์ลีย์ มูซานมาใช้เหมือนตอนอยู่อังกฤษคุณตาคงรีบไปหามาให้จริงๆ นี่ยังดีนะที่เขาบอกว่าไม่อยากได้รถคันใหม่เพราะรักน้องมิ้ลค์ม๊ากมาก ไม่เหมือนคนบางคนหรอกที่พอเอารถใหม่มาล่อก็รีบตะครุบไว้

เรื่องแค่นี้ทิวากานต์น่าจะเข้าใจ ไม่รู้จะบ่นไปทำไม หรือว่าเริ่มเข้าใกล้วัยทองแล้วเลยขี้บ่น แต่สามสิบไม่น่าจะวัยทองเร็วขนาดนั้น “อ๊ะ! ยีนส์ตัวนี้สวยจัง เท่าไหร่เนี่ย... สองร้อยเก้าปอนด์ ถูกเว่อร์”

“กางเกงตัวละหมื่นกับอีกสามสิบสองบาท1ถูกเว่อร์ๆ” เสียงทุ้มคุ้นหูดังเหนือหัวเรียกให้อลันด์เงยหน้าขึ้นไปส่งยิ้มหวานๆ ให้คุณหมอตัวสูงเหมือนเสาไฟฟ้า

“โอ๊ะ กลับมาแล้วเหรอวา” แทนที่จะตกใจที่ถูกจับได้ว่าแอบช้อปปิ้งเด็กหนุ่มกลับทึ่งกับการคิดเลขในใจได้อย่างรวดเร็วของอีกคนมากกว่า ตอนเด็กๆ แม่ให้กินเครื่องคิดเลขเข้าไปหรือไงนะ

“ยืนหัวโด่อยู่นี่ยังไม่กลับมามั้ง เอาแต่ช้อปอยู่นั่นแหละเดินเข้ามาเสียงดังยังไม่ได้ยิน ถ้าเป็นโจรเข้ามาคงโดนยิงตายไปแล้ว กินข้าวยัง?” ทิวากานต์ใช้มือรูดเนคไทลงพลางปลดกระดุมคอบนสุดแล้วเดินเอาหน้าไปจ่อช่องแอร์ วันนี้อากาศร้อนอย่างกับอยู่กลางเดือนเมษาทั้งที่เข้าหน้าหนาวไปทุกที สงสัยปีนี้กรุงเทพจะไม่หนาวแล้วซะละมัง

“ยังอ่ะ รอกินพร้อมวา”

“ก็บอกให้กินไปเลยไม่ต้องรอ วันนี้กินยาครบหรือเปล่า”

“ครบทุกเม็ด!”

อลันด์ออกจากโรงพยาบาลมาได้สองสัปดาห์แล้วแต่เพิ่งจะกลับคอนโดตอนเย็นวันศุกร์เมื่อวานหลังจากอยู่ให้คนแก่โอ๋จนพอใจพร้อมหอบของขวัญสูงท่วมหัวกลับมาให้ทิวากานต์ตกใจด้วย! ส่วนพ่อแม่เด็กแสบกลับลอนดอนไปตั้งแต่ตอนที่เด็กหนุ่มพักฟื้นที่บ้านคุณตาได้สองวัน

การรักษาผ่านไปด้วยดี หัวใจกลับมาเต้นเป็นปกติเรียบร้อยไร้เสียงฟู่ๆ ตอนนี้อาจต้องกินยาบางตัวไปสักระยะและพบหมอตามนัด แต่บอกได้เต็มปากเต็มคำว่าไอ้ตัวแสบสามารถกลับมาซ่าได้เหมือนเดิมไม่มีอะไรต้องห่วงอีก

ยืนให้แอร์เป่าจนหายร้อนคุณหมอตัวสูงค่อยเดินเข้าห้องครัว เมื่อเช้าก่อนไปทำงานเขาทำแซนด์วิชกับสลัดเป็นมื้อเช้า แกงจืดหมูสับสาหร่าย ไก่กระเทียม กับไข่ตุ๋นไว้ให้เด็กฝรั่งอุ่นกินมื้อเที่ยงกับมื้อเย็น แต่หลังเปิดตู้เย็นดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะกินไปแค่นิดหน่อย ข้าวในหม้อก็เหลือเกินครึ่ง ไม่ทันรู้ตัวคิ้วหนาเป็นปื้นของทิวากานต์เริ่มขมวดเข้าหากัน

“วันนี้กินข้าวบ้างรึเปล่า ทำไมข้าวเหลือเยอะ หรือฉันทำไม่อร่อยถูกปาก”

“เปล่าน้า วาทำอาหารอร่อยจะตาย” เด็กฝรั่งทำหน้าเชื่อง เอียงคอเอาใจพ่อครัวคนเก่ง “แต่ว่า...มันไม่ค่อยหิวอ่ะเลยกินไปนิดเดียว”

ทิวากานต์เอานิ้วเขี่ยแก้มตอบของแมวอิมพอร์ทที่เดินมาเกาะเอวอ้อนกลัวถูกดุ ใจนึงอยากทำแบบนั้นอยู่หรอกแต่ทำไปใช่ว่าอีกฝ่ายจะกลัวจริงจัง ถ้าไม่ใช่เรื่องที่สนใจหรือเป็นเรื่องคอขาดบาดตายแป๊บๆ เดี๋ยวก็ลืม

“ไปชั่งน้ำหนัก”

“หือ?”

“บอกให้ทำก็ทำเหอะน่า” ทิวากานต์กอดอกตีหน้ายักษ์ขู่ทางอ้อม อลันด์จึงยอมเดินคอตกไปขึ้นตาชั่งหน้าห้องน้ำแต่โดยดี “ห้าสิบจุดสี่ อืม... ตอนอยู่บ้านนู้นก็ไม่ค่อยกินข้าวหรือไง น้ำหนักลงตั้งสองโล”

ก่อนหน้าตรวจเจอเป็นโรคหัวใจคือเจ็ดสิบเก้า ตอนแอดมิทน้ำหนักอยู่ที่ห้าสิบสาม นับเวลาเกือบสามเดือนลดไปได้ประมาณสามสิบกิโลทั้งที่ไม่ได้ออกกำลังกายทำแค่ควบคุมอาหารอย่างเดียว พออนุมานได้ว่าก่อนมีปัญหาเจ้าตัวมีระบบการเผาผลาญที่ดีอยู่แล้ว เมื่อหัวใจกลับมาทำงานได้ปกติระบบต่างๆ ในร่างกายจึงกลับมาทำงานได้มีประสิทธิภาพตามเดิม

จะว่าดีมันก็ดี แต่ถ้ายังเบื่ออาหารอีกแบบนี้ไม่น่าจะไหว ผอมจนเขาแทบจับอุ้มได้แล้ว

“โอ๊ะ น้ำหนักลงอีกแล้วเหรอเนี่ย มิน่าล่ะกางเกงที่อัลเบิร์ตเพิ่งส่งมาให้ใหม่ถึงได้หลวม สงสัยต้องสั่งตัวใหม่ วาไม่ว่าอะไรใช่ไหมถ้าผมจะซื้อกางเกงเพิ่มอีกสักหน่อย”

ทิวากานต์แทบจะทึ้งหัวตัวเอง เด็กนี่ก็ไม่ได้คิดอะไรเล้ยยย ถ้าสนใจเรื่องตัวเองพอๆ กับเรื่องกีตาร์หรือช้อปปิ้งคงดีหรอก เขาดีดหน้าผากอีกคนแล้วเรียกมากินข้าว บริการอย่างดีตักข้าวตักกับให้กะขุนน้ำหนักขึ้นอีกหน่อยสักห้าโลกำลังดี แต่เด็กฝรั่งดันกินเท่าแมวดมก่อนวางช้อนส้อมแล้วยกน้ำดื่ม

“อิ่มแล้ว”

“กินไปไม่ถึงครึ่งจานเลย กินอีกหน่อย” ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีวันได้พูดคำนี้กับเด็กที่เคยขดข้าวกินหมดหม้อคนเดียวมาแล้ว

“ไม่เอาแล้ว วากินเหอะ”

ได้ยินแบบนี้แล้วไอ้ที่หิวๆ ก็หมดอารมณ์กินได้เหมือนกัน ทิวากานต์วางช้อนบ้าง “ถ้าอัลไม่กินฉันก็ไม่กิน กินไม่ลงเหมือนกัน”

“ได้ไงอ่ะ วันนี้วาได้กินข้าวบ้างหรือเปล่าเหอะ กินดิ ไม่หิวหรือไง”

“ถ้าอยากให้กินก็กินเป็นเพื่อนกัน ไหนว่ารอกินข้าวเป็นเพื่อนไงทำไมทิ้งกันกลางทาง”

หน้าขาวหงอหน่อยๆ ก่อนยอมหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวกินอีกครั้ง เขารอจนอลันด์เคี้ยวหมดคำแรกถึงตักกินบ้าง พอคำต่อไปก็รอเหมือนเดิม คราวนี้ถึงกินไม่หมดจานแต่ก็มากจนเป็นที่น่าพอใจ

ทีแรกคุณหมอคิดว่าจะเริ่มกลับมาตุนขนมในห้อง แต่เมื่อคิดดีๆ แล้วว่าให้อ้วนเพราะน้ำตาลคงไม่ดีกับสุขภาพเลยหาอย่างอื่นเสริมแทนดีกว่า บางทีเขาคงต้องปรึกษาเรื่องนี้กับอาจารย์เจ้าของไข้อลันด์ตอนนัดครั้งถัดไป

“จะว่าไป...เวลาผ่านไปเร็วเหมือนกันเนอะ อีกไม่เท่าไหร่ก็จะอยู่ที่นี่ครบปีแล้ว” เด็กตัวแสบว่าหลังยกแก้วดื่มนมอุ่นๆ ก่อนนอน คราบขาวเป็นรอยโค้งปรากฏขึ้นเหนือริมฝีปากหยักสีแดงจัดให้คนมองอมยิ้ม

“นั่นสินะ เร็วจริงๆ”

“ตอนมาอยู่ที่นี่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนี้เหมือนกัน”

“อย่างไหน” ทิวากานต์หันหน้าไปดูคนข้างๆ ตวัดลิ้นเลียคราบนมบนปาก กริยายั่วไม่รู้ตัวกระตุ้นคุณหมอให้ก้มลงไปดูดลิ้นอีกคนในทันที “หือ ว่าไง เป็นอย่างไหน”

“มีแฟนเป็นผู้ชาย แก่กว่า แล้วก็เป็นหมอด้วย”

“หึหึ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ยังอยากให้เป็นอย่างนี้หรือเปล่า”

“ยังไงดีน้า...” ไอ้ตัวแสบแกล้งกรอกตาทำหน้าเจ้าเล่ห์พลางจิบนมในแก้วไปเรื่อย “ไม่รู้ดิ รู้แต่ตอนนี้มีความสุขเป็นบ้า”

“อยากอยู่กันแบบนี้ไปเรื่อยๆ เนอะ”

“อื้อ” อลันด์วางแก้วนมบนโต๊ะเตี้ยก่อนกอดแขนคนข้างกายแน่น “รักพี่วานะ”

“รู้แล้วน่า รักเหมือนกัน” คุณหมอรวบเอวอีกคนขึ้นมานั่งกอดบนตัก น้ำหนักตัวที่ลดลงไปยังคงทำให้เขาใจหายได้ทุกครั้งที่รู้ กระนั้นกลับอดพอใจกับสภาพนี้ไม่ได้ อลันด์เหมือนเป็นตุ๊กตาตัวเล็กๆ จะจับนั่งจับนอนหรือหิ้วไปที่ไหนก็ได้ น่ารักน่าฟัดเป็นที่สุด คิดแล้วก็ลงมือทำทันที เขาหอมแก้มใสซ้ายทีขวาทีสูดกลิ่นสบู่อ่อนๆ เข้าเต็มปอด อยากกลืนกินอีกฝ่ายเข้าไปทั้งตัวไม่ให้ใครได้เห็นอีก

“อ๊ะๆ พอเลย ให้แค่นี้พอ”

“หา?” ชายหนุ่มร้องเสียงหลง เขาผละหน้าออกจากซอกคออีกคนเลยถูกฝ่ามือขาวจัดปิดปาก

“รู้หรอกว่าเดี๋ยวก็หยุด เรื่องอะไรจะปล่อยให้นัวเนียจนค้างอีก พอเลยนะ! จะเล่นตัวบ้างแล้ว รู้ไหมว่าหมอบอกให้งดมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อยหนึ่งเดือน นี่เพิ่งผ่านมาได้แค่สองสัปดาห์เอง เพราะงั้น...รอ - ไป - ก่อน - เถอะ!!!” ได้ยินคนเด็กกว่าพูดพูดเน้นตอกหน้าทีละคำทิวากานต์ก็ทำได้แค่กรอกตาขึ้นฟ้า

เขาจับโยนอีกคนกลับไปนั่งที่เดิม เด็กแสบก็รีบทำตัวเป็นเด็กดีหยิบแก้วนมขึ้นมาจิบต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ซ้ำยังผิวปากอารมณ์ดีจนน่าหมั่นไส้



------------------------------------
1 - ค่าเงินปอนด์ ณ ตอนที่เขียนคือประมาณ 48 บาทต่อ 1 ปอนด์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 21 [02.01.16]
« ตอบ #319 เมื่อ: 02-01-2016 19:24:34 »





ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 21 [02.01.16]
«ตอบ #320 เมื่อ02-01-2016 19:29:10 »

สักสามทุ่มครึ่งอลันด์ถึงเตรียมตัวเข้านอน เด็กฝรั่งเดินเอาแก้วกระเบื้องไปล้างเก็บ ก่อนเดินนำหน้าทิวากานต์ที่รอปิดไฟชั้นล่างขึ้นไปข้างบน คุณหมอส่งอีกฝ่ายเข้านอนเป็นอย่างแรกแล้วค่อยไปจัดการตัวเอง

ร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากห้องน้ำพลางปรายสายตาดูเวลาบนผนัง บวกเวลาไปอีกสองชั่วโมงคนที่อยู่แดนปลาดิบคงยังไม่นอน คิดแบบนั้นแล้วก็รีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายไปหาคนที่นึกถึงทันที

‘คุณชายวาโทรมาตอนนี้ได้ดูนาฬิกาก่อนหรือเปล่าครับว่ามันกี่โมงกี่ยามแล้ว’ รออยู่ไม่นานเสียงจากคนไกลจึงดังขึ้นพร้อมวาจาประชดประชันตามนิสัย เขาได้ยินเสียงขยับหน้ากระดาษแสดงว่าอีกคนยังไม่นอนและอ่านหนังสืออยู่ตามประสาคนบ้าเรียน

“ดูแล้ว เฮ้ยไอ้ฟ้า เมื่อไหร่ของที่ข้าสั่งถึงจะได้วะ นี่รอมาหลายเดือนแล้วนะเว้ย”

‘คุณชายครับ คุณมึงเล่นปรับไซส์ทุกสัปดาห์แล้วเมื่อไหร่ของมันจะเสร็จครับ นี่งานทำมือนะครับไม่ใช่ของโรงงาน แล้วช่างก็ฮอตเหลือเกิน กูไปขอเขาแก้แล้วแก้อีกจนเขาจะกระทืบอยู่แล้ว นี่โทรมาไม่ใช่ว่าจะขอแก้ไซส์อีกล่ะ คราวนี้เหลือเท่าไหร่ 24? 23?’

“24 คราวนี้ครั้งสุดท้ายแล้ว เล็กกว่านี้ไม่ไหว กอดไม่เต็มมือ”

‘มึงคิดผิดตั้งแต่เลือกแฟนแล้ว อุตริเปลี่ยนสเปคซะงั้น คิดไงวะเปลี่ยนจากไซส์ฝรั่งเป็นเอเชียตัวมินิ’

“คนชอบเสือกขอให้ไอ้หนึ่งหนีไปมีกิ๊ก”

‘หนอยไอ้คุณชายริอาจกินเด็ก คอยดูเถอะกูกลับไทยเมื่อไหร่จะฟ้องตำรวจให้มาจับมึงข้อหาพรากผู้เยาว์’

“สิบแปดแล้วเว้ย” เขาหัวเราะเสียงต่ำลอดลำโพง “เอาเป็นว่ามึงรีบๆ เอาไปแก้แล้วส่งมาให้กูได้แล้ว กูจะรีบใช้งาน เข้าใจไหม”

‘ให้กูส่งแอร์ดอลล์ไปแก้ขัดก่อนน่าจะเร็วกว่านะ’

“เก็บไว้ใช้เองเถอะ กูเข้าใจนะคนอยู่ห่างไกลกันต้องมีเหงามีเปลี่ยวมีเงี่ยนกันบ้าง แล้วถ้ามึงยังไม่หยุดพูดมากกูขอให้ไอ้หนึ่งมีกิ๊กจริงๆ”

‘เออๆ ไอ้ห่านิ เอะอะหาเรื่องทำครอบครัวคนอื่นเขาแตกแยกตลอด  กูจะรีบเท่าที่จะทำได้แล้วกัน รับรองไม่เกินปีใหม่มึงได้ใช้แน่ๆ’

“ดี ถ้าปีใหม่แล้วของมึงยังไม่มากูจะโทรไปยุไอ้หนึ่งให้หาเมียแหม่ม แค่นี้นะ เปลืองค่าโทรศัพท์ว่ะ” ทิวากานต์กดตัดสายทันทีไม่รอฟังคนปลายสายโวยวายกลับมาให้รำคาญหู

ใช้เวลาปะแป้งแต่งตัวครู่เดียวทิวากานต์ก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงข้างเด็กฝรั่ง คนที่คิดว่าหลับไปแล้วกลับพลิกตัวตะแคงกอดเขาหมับ คางมนเกยอยู่บนอกให้รู้สึกจั๊กจี้

“นิสัยไม่ดี”

คิ้วหนาเลิกขึ้นกับคำต่อว่าไร้ที่มาพลางขยับตัวอลันด์ให้กอดถนัดๆ หน่อย “อะไรกัน”

“ที่แช่งให้แฟนเพื่อนตัวเองนอกใจอ่ะ ทำไมเป็นคนงี้วะ แย่...แย่จริงๆ” อลันด์แกล้งทำหน้าระอาได้กวนตีนเจ้าของห้องสุดๆ พาลนึกไปถึงช่วงแรกที่เจอกัน เห็นน่ารักขึ้นนึกว่าจะเปลี่ยนไปบ้างที่ไหนได้ไอ้นิสัยชอบแกล้งยังอยู่ครบแค่เก็บมันไว้ไม่ให้เขาเห็นสินะ

“ไอ้เด็กแก่แดด นอนได้แล้ว”

“เฮ้อ...พอว่าเข้าหน่อยละเปลี่ยนเรื่องตัลหลอด เบื๊อเบื่อ”

“จ้ะ” คนแก่กว่าแค่นยิ้ม ตาคมมองเด็กฝรั่งหลับตาซุกหน้ากับอกเขาหลับตาพริ้มเหมือนเด็กตัวเล็กๆ เพราะน่ารักแบบนี้ไงเล่าถึงต่อให้กวนตีนแค่ไหนก็ทำใจร้ายใส่ไม่ลง รู้สึกเสียเปรียบชะมัดที่ต้องยอมอีกคนตลอด แต่ทำไงได้...เขาดันไปหลงรักเด็กนี่เองนี่นา

.
.
.

ทิวากานต์เช็คตัวเองกับกระจกรถอีกครั้งจนแน่ใจว่าหล่อเนี้ยบพร้อมออกงานแล้วถึงหันไปยิ้มหวานให้สาวสวยข้างกาย วันนี้ขัตติยาอยู่ในชุดกระโปรงสีหวานพาสเทล ผมยาวย้อมสีน้ำตาลอ่อนถึงกลางหลังมัดครึ่งศีรษะม้วนเป็นลอนหลวมๆ ปล่อยบางส่วนเคลียหน้ารูปไข่

“หล่อแล้วค่ะ” เธอยิ้มให้ยืนยันคำพูดอีกที เมื่อทิวากานต์ส่องกระจกอีกหนพลางจับผมหน้าเสยไปด้านหลัง

“จะไปกะสาวสวยทั้งทีพี่ขอเนี้ยบหน่อยเถอะค่ะ ถ้าไม่ติดงานพี่วาจะแต่งหล่อกว่านี้จนเจ้าสาวอิจฉาน้องขิงอยากเปลี่ยนตัวเจ้าบ่าวเลยด้วยซ้ำ” คุณหมอหัวเราะตาปิดพลางถอยรถออกจากบ้านหลังใหญ่ที่ใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งด้านข้างเปิดเป็นคาร์แคร์

“โธ่ ทำครอบครัวเขาแตกแยก บาปกรรมนะคะ”

ชายหนุ่มอมยิ้มไม่แก้ตัวก่อนเฉไฉไปเรื่องอื่น “ต้องไปถึงงานสักกี่โมงคะ พี่จะได้คำนวณเวลาถูก”

“สักห้าโมงเย็นค่ะ”

“งั้นพี่ขอซิ่งหน่อยนะคะเดี๋ยวไม่ทัน น้องขิงรัดเข็มขัดให้แน่นเลย”

“รับทราบค่ะกัปตัน” ขัตติยารับมุกที่อีกคนโยนมาให้แล้วพากันหัวเราะร่วน

เกือบห้าโมงเย็นพอร์เช่ 911 Turbo S ของศัลยแพทย์รูปหล่อก็จอดเทียบอยู่หน้าสถานที่จัดงานฉลองมงคลสมรสหลังทำหน้าที่ได้ดีสมความตั้งใจผู้ขับ

เพราะมีพิธีตามประเพณีดั่งเดิมในช่วงเช้าไปแล้ว ตอนเย็นจึงเป็นปาร์ตี้ฉลองริมหาดแบบเป็นกันเองไม่เน้นพิธีการ ของกินในงานเน้นเป็นอาหารคอกเทลแบบสมัยใหม่ให้ผู้ร่วมงานส่วนใหญ่ซึ้งล้วนเป็นคนวัยไล่เลี่ยกันกับเจ้าสาวจากออฟฟิซเก่าของขิง ส่วนเจ้าบ่าวเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงที่รู้จักกันตอนติดต่อประสานงาน

ออกจะชวนเมื่อยไปบ้างทว่าทิวากานต์คิดว่าดีกว่าต้องทนนั่งอึดอัดท่ามกลางคนไม่รู้จักนานๆ ถึงจะเบื่อที่ต้องเดินตามหญิงสาวไปคุยกับกลุ่มคนรู้จัก หากเพื่อนของขิงแต่ละคนก็สวยน่ามองพอสร้างความเพลิดเพลินทดแทนได้ เสียอย่างเดียวก็สายตาวิบวับสอดรู้สอดเห็นของพวกสาวๆ นั่นแหละ แนะนำตัวไปแล้วว่าเป็นพี่ชายทำไมผู้หญิงพวกนี้ไม่ยอมเชื่อกัน จ้องจะยัดเยียดสถานะแฟนหนุ่มให้น้องสาวเขาอยู่ได้

ทนอยู่ในงานจนเกือบทุ่มทิวากานต์ก็ขอตัวออกมาโทรศัพท์ข้างนอก ตาคมปรายไปด้านหลังเห็นขิงถูกเพื่อนสาวรุมประหนึ่งถูกแร้งทึ้งสอบสวนความสัมพันธ์ก็ได้แต่ขอโทษน้องอยู่ในใจที่ตัวเองหนีเอาตัวรอดออกมา

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจุดบุหรี่สูบสักตัวสองตัวแก้เซ็ง พอละนิโคตินแบบถาวรไปแล้วกลับไม่มีอะไรทดแทนได้เท่าการคุยกับตัวต้นเหตุอย่างอลันด์ ทิวากานต์หยิบโทรศัพท์ขึ้นต่อสาย ปล่อยให้สัญญาณดังอยู่ไม่กี่ทีเสียงทุ้มต่ำติดจะแหบก็โพล่งขึ้นมาเรียกรอยยิ้มจุดตรงมุมปาก

‘เฮลโหล่ ไม่ทราบว่าใครโทรมาคร้าบ’

“โอ๊ะ สงสัยจะโทรผิด งั้นแค่นี้นะครับ ขอโทษด้วย”

‘เฮ้ย! เดี๋ยวสิวา’

“อ้าว รู้แล้วเหรอว่าใครโทรมา”

‘ชื่อโชว์หราขนาดนี้ไม่รู้มั้ง อ๊ะ!’ พอรู้ว่าหลุดที่แกล้งอีกคนไว้ออกมาเองเด็กฝรั่งปลายสายก็ทำเสียงตกใจแล้วเงียบให้ทิวากานต์หัวเราะอารมณ์ดีคนเดียว เขาหลับตาเอนตัวพิงกำแพงหนีบโทรศัพท์ไว้กับซอกคอฟังอลันด์หาเสียงตัวเองจนเจอโวยวายใส่เขาจนพอใจ

“กินข้าวยัง”

‘เรียบร้อย วันนี้แม่พี่นภทำต้มจับฉ่ายใส่หมูสามชั้นติดมันตุ๋นนุ่มละลายในปากกินกับข้าวต้มกุ๊ยใส่ใบเตยหอมอร๊อยอร่อย’

“หึ อร่อยแล้วกินไปกี่ชาม ห้ามโกหกนะ”

‘ก็...เกือบๆ หมดชาม แต่ว่าชามใหญ่มากเลยกินไม่หมด วาอ่ะ! อย่าโกรธนะ คนไม่หิวทำไมชอบบังคับให้กิน อยากให้กลับไปอ้วนเป็นวัวอีกเหรอ’

“ไม่ได้หมายความอย่างนั้น แค่อยากให้กินอิ่มๆ ผอมเกินไปแล้วนะ รู้หรือเปล่า” วิญญาณคุณหมอชอบดุคนไข้เข้าสิงทันที ช่วงนี้ไม่บังคับให้กินเป็นต้องแอบเขี่ยทิ้งตลอด น่าจับมาฟาดสักที

‘ก็อิ่มนี่ ไม่ได้ใช้แรงไปทำอะไรสักหน่อย ช่วงนี้หมองดออกกำลังนะรู้ไหม จะกินมากมายสะลมแคลอรี่ไว้ทำไมกัน นี่...ถามจริงเหอะ วาไม่ได้ชอบแบบผอมแห้งแรงน้อยหุ่นนางแบบอย่างชาร์ลหรอกเหรอ’

“ชาร์ล... ชาร์ลไหนวะ” คิ้วเข้มขมวดหากันงงๆ ก่อนร้องอ๋อเมื่อปลายสายพูดถึงลูกพี่ลูกน้องหนุ่มหน้าสวยชะนีอายที่มาเยี่ยมไข้เมื่อคราวนั้น “แบบน้องฌานก็ชอบ แต่ตอนนี้ชอบอัลมากที่สุด จะเป็นยังไงก็ชอบไม่ต้องผอมหรอก อวบหน่อยๆ กอดเต็มไม้เต็มมือดี”

‘ละ เหรอ... เอ่อ... แน่นะ แล้วที่คุยกับเพื่อนเมื่อคืนคืออะไรอ่ะ ไซส์ 24 23 ไซส์ตุ๊กตายางใช่ไหม บอกก่อนว่าไม่ตั้งใจแอบฟังนะวาพูดเสียงดังเองเลยได้ยิน’ ทิวากานต์ได้ยินแล้วจะขำก็ขำไม่ออกจะโมโหก็ไม่ใช่ ทั้งตลกปนระอาเด็กแสบหน้ามึน พอจินตนาการว่าอีกคนกำลังทำหน้าจริงจังพูดเรื่องไซส์ตุ๊กตายางก็หัวเราะก๊ากออกมา

“ไปกันใหญ่แล้ว ไม่ใช่ๆ”

‘ไม่ใช่แล้วมันอะไรกันเล่า หัวเราะอยู่ได้จะรู้เรื่องไหม’

“ขำนี่หว่า คิดได้ไงตุ๊กตายาง”

‘ไม่รู้ดิ แบบ...ฟังแล้วอย่าขำนะ ผมกำลังคิดว่าวาฝากเพื่อนซื้อตุ๊กตายางมาทดลองก่อนลงสนามจริงกับผู้ชายอ่ะ’

“จริงจังป่ะเนี่ย” ฟังอลันด์กระซิบมาตามสายแล้วได้แต่กลั้นขำจนตัวงอ หน้าหล่อแดงจัดถึงใบหู ไม่ต้องตอบก็รู้ว่าอีกฝ่ายคิดจริงจังไปแปดสิบเปอร์เซ็นต์

‘มันน่าคิดไม่ใช่เหรอ อ่อยแทบตายวาไม่ยอมทำอะไรสักที ถ้าไม่ใช่เพราะงี้ก็เดาไม่ถูกแล้วอ่ะ’

“ไว้เดี๋ยวค่อยเฉลยเมื่อถึงเวลานะ แต่ที่บอกมาน่ะขอเหอะอย่าไปเล่าให้ใครฟังล่ะ ตลกว่ะ คิดได้ไงเนี่ย”

‘Albert Einstein said Imagination is more important than knowledge.   And I think so! เพราะงั้นที่ผมคิดใช่ว่าจะไร้ความเป็นไปได้เสียเมื่อไหร่’

คุณหมอถึงกับกุมขมับให้เด็กที่ออกเสียงเรียกชื่ออัลแบร์ท ไอน์ชไตน์นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกตามสำเนียงเยอรมันเป๊ะแบบหมดคำพูด เกิดมาชาตินี้เจอใครแถเก่งกว่าเขาก็อลันด์นี่แหละ

‘จะว่าไป...ก็น่าลองกับตุ๊กตายางสักครั้งนะ คงเย็นๆ เสียวพิลึก ว่าแต่มันจะมีเสียงร้องด้วยป่ะ อ๊ะ อ๊าย อะไรแบบนี้อ่ะ’ ไม่วายตบท้ายให้คุณหมอกุมขมับอีกรอบ ก็เสียงคนพูดจริงจังน้อยเสียเมื่อไหร่

“อัล... พอเถอะ ฉันจะตายแล้ว โอ๊ยยย เด็กบ๊อง”

แทนที่จะสลดบ้างอลันด์กลับหัวเราะเสียงต่ำมาตามสาย สุดท้ายก็กลายเป็นเขาเองที่กลั้นขำไม่ได้อีกต่อไปหลุดก๊ากดังลั่นจนพนักงานโรงแรมที่เดินผ่านไปหันมามองหวาดๆ เกือบนาทีกว่าทั้งคู่จะหยุดหัวเราะ ปลายนิ้วเนียนนุ่มยกขึ้นปาดน้ำที่หางตา หัวเราะจนท้องแข็งซิกแพคขึ้นโดยไม่ต้องเข้ายิมก็งานนี้

‘เฮ้ วาจะกลับกี่โมง’

ทิวากานต์รอปรับลมหายใจพยายามกรอกเสียงลงไปให้ปกติที่สุด แต่ก็มีบางช่วงที่ลมหายใจสะดุดอยู่ดี นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้หัวเราะมากขนาดนี้ “เดี๋ยวจะกลับแล้วล่ะ อ่า... เราก็รอที่บ้านนภนั่นแหละเดี๋ยวไปรับ”

‘รับทราบ ขับรถดีๆ ล่ะ’

“จ้ะ ไปซ้อมต่อเถอะไม่กวนแล้ว อ่อ ไอ้นภอยู่บ้านหรือเปล่า ถ้าอยู่ก็บอกมันด้วยว่าห้ามหนี ฉันจะกลับไปคิดบัญชี”

‘โอ๊ะเคร เดี๋ยวบอกให้ love you ม๊วบ’

“Love you” เสียงทุ้มติดหัวเราะนิดหน่อย ขำกับอาการทะลึ่งทะเล้นจนเหมือนล้นของอลันด์ เห็นหน้านิ่งแบบนั้นแต่ถ้าอารมณ์ดีได้อยู่กับอะไรที่ชอบก็เปิดเผยตัวเองเหมือนเด็กๆ เป็นอีกด้านที่ทิวากานต์ชอบและไม่ค่อยอยากให้คนอื่นได้เห็นสักเท่าไหร่

เขากลัว... กลัวว่าคนอื่นจะเห็นเด็กของเขาน่ารักแล้วมาแย่งไป

“อะแฮ่มๆ”

ตาคมหันไปหาต้นเสียงเห็นขัตติยายืนเก๊กหน้าขรึมกลั้นหัวเราะ ดูท่าเธอจะได้ยินบทสนทนาเมื่อกี้ไม่มากก็น้อย นึกแล้วได้แต่อายยกมือเกาท้ายทอยแก้เก้อที่ทำตัวเหมือนเด็กน้อยวัยใสมีปั๊บปี้เลิฟ เขาเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกงตามเดิมก่อนถามหญิงสาว “จะกลับแล้วเหรอคะ”

“ยังหรอกค่ะ แต่เห็นพี่วาหายไปนานขิงเลยมาตาม มีสาวๆ ในงานสนใจจะจีบพี่วาเต็มเลยนะคะ แต่ขิงว่า...อกหักกันตั้งแต่ยังไม่เริ่ม หัวใจพี่ชายสุดหล่อของขิงมีเจ้าของซะแล้วเสียดายแทนเลยค่ะ คิกๆ”

“อ่า...”

“เดือนก่อนยังบอกว่าไม่มีโอกาสแต่งงาน แต่ตอนนี้ขิงว่าไม่ใช่แล้วนะพี่วา ไม่เคยเห็นพี่วาคุยกับสาวคนไหนมุ้งมิ้งขนาดนี้มาก่อนเลยอ่ะ สารภาพมาซะดีๆ ว่าสาวผู้โชคดีคนนั้นคือใคร”

“สารภาพอะไรกัน พี่ไม่ได้ทำผิดซะหน่อยทำไมต้องสารภาพด้วย น้องขิงพูดไม่รู้เรื่องล่ะ”

“อย่ามาทำเฉไฉหน่อยเลยค่า ปากแข็งแบบนี้ขิงจะเอาไปฟ้องแก๊งป้าว่าพี่วามีแฟนแล้ว คราวนี้โดยซักจนขาวขิงก็ไม่ช่วยนะคะ”

“ขู่พี่เหรอคะ”

“เปล่านะคะ” ขัตติยายิ้มหน้าแป้น สอดแขนควงชายหนุ่มลากกลับเข้าไปในงานตามจุดประสงค์หลักที่ออกมาตาม อีกไม่กี่นาทีเจ้าสาวจะโยนช่อดอกไม้แล้ว พอเสร็จตรงนี้จะได้กลับกรุงเทพกันเสียที “พี่วาจะไม่บอกขิงจริงๆ เหรอว่าคนนั้นของพี่เป็นใคร ขิงอยากรู้ม๊ากมาก”

“รู้ไปแล้วจะทำไมเหรอคะ”

“จะได้ช่วยพิจารณาไงคะว่าคนนี้เหมาะจะมาเป็นพี่สะใภ้ให้หนูไหม ว่าไงคะ สวยเหมือนนางแบบที่เคยควงหรือเปล่า”

“ไม่สวยหรอกค่ะ” ทิวากานต์บอกตามตรง แหงล่ะ...อลันด์เป็นเด็กผู้ชาย แม้จะค่อนข้างดูดีแต่ใช่ว่าจะดูดีมากจนบอกได้ว่าสวยหล่อจัดๆ อย่างเขาหรือญาติผู้พี่แบบฌาน รวี

เขาเดินตามแรงดึงของขัตติยาที่ดูจะผิดหวังหน่อยๆ ไปบริเวณหน้าเวที เสียงพูดคุยวี้ดว้ายทำให้เขามองไปรอบตัวจึงเห็นว่าตนเองเป็นชายหนุ่มเพียงคนเดียวท่ามกลางสาวน้อยสาวใหญ่ รู้แล้วว่าอยู่ผิดที่ผิดทางทว่าพอจะเดินออกกลับติดแขนน้องสาวคนสวยดึงไว้

“ขิงคะ ปล่อยพี่เถอะค่ะ ตรงนี้มีแต่ผู้หญิง” พี่อาย... เขาเก็บประโยคสุดท้ายไว้ในใจ ไม่กล้าออกเสียงไปให้เสียฟอร์ม แต่สาวน้อยน่ารักของเขาไม่ยอมปล่อยไปเสียทีแถมยังกอดแน่นกว่าเดิมเสียอีก

“ขิงจะไม่ปล่อยพี่วาจนกว่าจะบอกว่าแฟนพี่คือใคร ไม่รู้ล่ะ ถ้าวันนี้ขิงไม่รู้พี่วาก็ต้องอยู่รอรับดอกไม้กับขิงตรงนี้” จะว่าหล่อนใจร้ายก็ได้ แต่พลังความเผือกมันมีมากกว่า พี่ชายเธอหล่อเหลาออกปานนี้ หญิงสาวที่คบหาต้องผ่านมาให้แสกนก่อนสิ!

“โธ่...น้องขิง” ทิวากานต์ได้แต่ครางเสียงอ่อน เขาน่าจะรู้ดีที่สุดว่าแก๊งป้าเป็นยังไงลูกไม้ใต้ต้นแบบขัตติยาย่อมถอดแบบออกมาได้ครบทุกกระเบียดนิ้วยังงั้น เรื่องชาวบ้านให้เผือกไม่เคยปล่อยรอดหูรอดตาไปง่ายๆ หรอก

คุณหมอถอนหายใจเฮือกใจตัดสินใจยอมแพ้แก่แรงเผือก แต่ให้มาพูดตอนนี้ที่นี่คงไม่ใช่เรื่อง เขาหันหน้าสบตากับหญิงสาวตั้งใจว่าจะบอกทุกเรื่องที่อยากรู้บนรถขากลับ ช่อดอกไฮเดรนเยียสีฟ้าอมม่วงเจ้ากรรมกลับลอยลิ่วลงปุ๊มาตรงหน้าพอดี สองคนมือไวรีบคว้าไว้ก่อนจะตกพื้นเลยกลายเป็นว่าทิวากานต์กับขัตติยารับช่อดอกไม้ได้พร้อมกัน!

ตาคมสบสายตากับหญิงสาวแล้วยิ้มให้เหมือนเคยท่ามกลางเสียงกรีดร้องชอบใจดังขึ้นรอบตัวสอดแทรกเสียงแซวว่าพวกเขาคงได้เป็นคู่แต่งงานคู่ถัดไปแน่ๆ จากที่ไม่รู้สึกก็เริ่มอายเอาตอนนี้ ขัตติยาก้มหน้าหัวเราะเบาแก้เขิน ทิวากานต์เองก็เงยหน้าหลบสายตาคนทั้งงาน ตอนนี้จะให้แก้ตัวปากเปียกปากแฉะคงไม่มีใครเชื่ออีกแล้วว่าพวกเขาเป็นแค่พี่น้อง ปล่อยให้เข้าใจผิดไปแบบนั้นจนเรื่องเงียบคงจะดีกว่า

“กลับบ้านกันเถอะค่ะ เดี๋ยวจะดึก”

“อืม” เขาผงกหัวแข็งๆ ไม่หือไม่อืออะไรอีก ปล่อยให้หญิงสาวจูงมือที่จับช่อดอกไม้ไว้ด้วยกันลากไปลาเพื่อนๆ และเจ้าของงานเตรียมตัวกลับกรุงเทพกันเสียที

ตลอดทางขากลับกรุงเทพทิวากานต์ชักไม่แน่ใจว่าที่ยอมเล่าเรื่องแฟนให้ขัตติยาฟังเป็นเรื่องดีหรือไม่ เพราะตอนนี้เขาได้แต่ขับรถเงียบๆ ปล่อยให้หญิงสาวล้อมาตลอดทาง ยังดียั้งปากไว้ทันไม่ได้บอกไปว่าไม่ใช่เด็กผู้หญิงน่ารักๆ แต่เป็นเด็กผู้ชายหน้าตายอิมพอร์ทตรงมาจากลอนดอน

เขาไม่น่าแพ้ลูกอ้อนของน้องสาวหน้ากลมคนนี้เลยจริงๆ ระดับการซักฟอกแทบไม่ต่างจากแก๊งป้าสักนิด

“โห ใครจะไปคิดว่าพี่วาคาสโนว่าฆ่าไม่ตายจะกลายเป็นโคแก่กินหญ้าอ่อน แถมยังอ่อนขนาดที่ว่าแหย่เท้าเข้าไปในตะรางแล้วข้างนึง ถ้าพวกหม่าม้ารู้นะมีหวังพี่วาโดนล้อยิ่งกว่านี้แน่ๆ แล้วไงคะ นอกจากอายุห่างกันรอบนึงแล้วยังเป็นยังไงอีก”

“น่ารักดีค่ะแต่ชอบกวนตีนทั้งที่ตัวเท่าลูกแมว ขู่ฟ่อๆ ใส่ไม่กลัวพี่เลย บางทีอดคิดไม่ได้ว่าทำไมต้องหลงรักเด็กนี่ด้วยมีแต่เรื่องปวดหัวให้ต้องคอยดูแล”

“เพราะว่าเป็นแบบนี้ละมั้งคะพี่วาถึงตกหลุมรัก”

“ยังไงกันคะ” เขาเลิกคิ้วประกอบคำถาม แวบหันไปมองหน้าคนพูดพักหนึ่งก่อนมองถนนต่อ

“พี่วาคงไม่รู้ตัวว่าเป็นพวกชอบดูแล ยิ่งเป็นคนที่ถูกชะตานะเอาใจตามใจทำนู่นทำนี่ให้ตลอด ดูอย่างแฟนเก่าพี่วาแต่ละคนสิคะ ทั้งที่พี่วาเรียนหนักจะตายยังมีเจียดเวลาพาไปเที่ยวพาไปกินข้าวตลอด สุดยอดแฟนตัวอย่างเลยค่ะ”

“หืม? พี่ดีขนาดนั้น?”

“สุดๆ ค่ะ เพื่อนขิงสมัยเรียนแต่ละคนนะอยากได้พี่วามาเป็นแฟนกันจะตาย อวดไปได้เป็นปี”

“เว่อร์ไปล่ะค่ะ พี่ก็คนธรรมดามีด้านแย่ๆ เยอะไป แต่เพราะขิงเป็นน้องที่พี่รักพี่เลยให้เราเห็นแต่ด้านดีๆ ยังไงล่ะคะ”

“แล้วกับแฟนคนนี้พี่วาให้เขาเห็นแต่ด้านดีๆ ด้วยหรือเปล่าคะ”

“เห็นด้านแย่ๆ กันตั้งแต่แรกเลยค่ะ first impression ติดลบทั้งคู่” เขาพูดไปพลางนึกไปถึงครั้งที่ที่เจอกัน อลันด์โคตรจะกวนตีนอ้อนส้นเท้า เขาเองก็ขี้โมโหโวยวายทำตัวเหมือนเด็กๆ “แต่พอได้ใช้เวลาด้วยกันบ่อยๆ มองไปมองมาก็น่ารักดี แล้วเขาค่อนข้างรับมือพี่ได้ รู้สึกเหมือนเจอคู่ต่อสู้สมน้ำสมเนื้อกันดี”

“หายากนะเนี่ยคนที่ไม่กลัวพี่วา เวลาพี่วาอารมณ์ไม่ดีบางทีขิงยังแอบเกรงๆ ไม่กล้าเข้าไปหาเลยค่ะ”

“เขาก็กลัวพี่บ้างบางครั้งค่ะ แต่ถ้าเขาไม่ผิดจะเถียงกันจนพี่ยอมนั่นแหละ”

“คึคึ ขิงชักอยากเห็นคนที่กุมหัวใจพี่วาแล้วสิคะ”

“พี่กำลังคิดว่าปีใหม่จะพาไปไหว้พวกป้าๆ อยู่เหมือนกัน ถ้าน้องขิงอยากเจอก็ตามป้าอิงมาแล้วกันนะคะ รับรองเซอร์ไพรส์สุดๆ”

พูดไปแล้วทิวากานต์ก็หัวเราะเสียงชั่วอยู่ในใจ แน่นอนว่าเซอร์ไพรส์กันหมดแน่ถ้าคนรักที่เขาพาไปเปิดตัวเป็นผู้ชาย หากแต่เพราะเขาจริงจังกับอลันด์ถึงตัดสินใจแบบนี้หรอก เขามั่นใจว่าป้าๆ จะไม่ว่าอะไรเขาสักคำและจะคอยเอาใจช่วยความรักครั้งนี้ของเขา ห่วงแต่เด็กฝรั่งนี่แหละ หวังว่าคงไม่กลัวจนหนีไปก่อนนะไอ้ตัวแสบ



TBC

ตอนนี้มีน้องฌาน รวีคนสวยโผล่มาแจมด้วยค่ะ
ถ้าอยากรู้ว่าน้องฌานสวยจนพี่วาเคลิ้มขนาดไหน แนะนำให้อ่าน LOVE|HATE ค่ะ (ขายของกันโต้งๆ เลย 555)

น้องอัลก็พัฒนาแล้วนะคะ เดี๋ยวนี้มีหัดเล่นตัว
แต่ความลับของพี่วาคืออะไร สั่งของอะไรที่จาปอง หรือจะสั่งตุ๊กตายางมาลองก่อนจริงๆ?
โปรดติดตามตอนต่อไปค่า ><

จุ๊บๆ

 :mew1:

ออฟไลน์ cinnsin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อลันด์เอ้ยยย คิดไปได้นะ 555555

ออฟไลน์ LetGet

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อะไร ยังไง หมอวาสั่งอะไร?? มาต่อไวๆน๊าาาาา  :hao7:  :hao7:  :hao7:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Mokuchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ไม่รู้จะเม้นอะไร เอาเป็นว่า#ติ่งหมอวาเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือรอตอนต่อไปนะคะ
 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
สามสิบโล  พระเจ้าาาา อิจฉา ลงมาทั้งชีวิตยังไม่กระเตื้องเลยอิชั้น  เศร้าแปป

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เวลาหมอวาอยู่กับแสบน้อย ช่างต่างจากเวลาอยู่กับน้องสาวลิบลับ ดูเป็นคุณหมอสองหน้าจริงๆ

ตอนเปิดตัวแฟนกับเดอะแก้งส์คุณป้าน่าสนุกเนอะ คงถูกทั้งซักทั้งฟอกทั้งคู่จนขาวหมดจดแน่ๆ   o18


ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
โอ๊ยยย ขำ หมอ หมอออออ เด็กมันแหย่หมอนะหมอ 555555

กลัวเรื่องขิงจะจุดประเด็นดราม่าจัง หมอวาแม่งคือออออ ดีงามมมมมมมมมม #เอฟซีหมอวา  :laugh:

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
ขำเด็ก....รอตอนสนุก

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด