♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- SPECIAL TRACK : พรหมลิขิต+แจ้งข่าว P. 25
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ไหนๆ นิยายใกล้จะจบแล้ว เลยสอบถามความสนใจรวมเล่มค่ะ

สนใจ
ไม่สนใจ
รวมก็ดี ไม่รวมก็ได้

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- SPECIAL TRACK : พรหมลิขิต+แจ้งข่าว P. 25  (อ่าน 269029 ครั้ง)

ออฟไลน์ iammilk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ร่วมยินดีกับความสำเร็จในครั้งนี้  :monkeysad: :sad11: ประทับใจมากค่ะ  :impress2: :man1:

ออฟไลน์ imac

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
แผนสูงแบบนี้หมอวาต้องจัดหนัก

ออฟไลน์ xirainx@gamil.com

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 23 [09.01.16]
«ตอบ #363 เมื่อ09-01-2016 20:52:11 »

TRACK 23



Rrrr... Rrrr...
ทิวากานต์สะดุ้งตื่นทั้งที่ยังไม่ลืมตา มือขวากวาดขึ้นไปหาต้นตอกำเนิดเสียงจนเจอโทรศัพท์สั่นอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงก็รีบจัดการพลิกเครื่องมือสื่อสาร เท่านั้นเสียงริงโทนเพลงโปรดก็เงียบลงทันที คุณหมอนึกขอบคุณฟังก์ชั่นเจ๋งๆ นี้ในใจที่ช่วยให้เด็กแสบตัวกระเปี๊ยกในอ้อมอกเขายังคงหลับสนิท

ตาคมหยีลงเมื่อแสงสาดขึ้นในความมืด เห็นชื่อนายแพทย์รุ่นพี่ที่เคารพรักโทรมาตอนเกือบเที่ยงคืนพลันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี คืนนี้การันต์อยู่เวรที่โรงพยาบาลและจะอยู่ยาวถึงวันจันทร์เพื่อดูเคสที่รับผิดชอบเป็นพิเศษ เขาขยับตัวลุกขึ้นนั่งพลางประคองอลันด์ให้นอนหนุนหมอนดีๆ แล้วค่อยกดรับสาย พูดเสียงเบา “ครับพี่”

‘นอนแล้วเหรอวา โทษทีว่ะ แต่ว่าอยากให้มาช่วยหน่อย อาการเขารอไม่ได้แล้วพี่ว่าจะผ่าเลย มาช่วยพี่นะ’

มาอีหรอบนี้ถึงจะออกแนวประโยคขอร้องแต่ก็บังคับกันชัดๆ แล้วน้องรักจะทำอย่างไรได้นอกจากยอม “กี่โมงครับ”

คนถูกโทรตามกลางดึกก้มหน้ากุมขมับมึนหัวเพราะนอนไปได้ไม่ถึงชั่วโมงดี เห็นคนรักยังหลับสนิทก็อิจฉา เอาหัวไปถูกับหน้าผากอีกคนเล่น เหมือนจะตัวร้อนแหะ

‘ตีสอง’

“เดี๋ยวอีกชั่วโมงเจอกันที่โรงบาลครับ จะรีบไป พี่มีอะไรบรีฟเป็นพิเศษก็ไลน์มาเลย”

‘ขอบใจมากเว้ย’

“อื้อ...” จะตอบปลายสายไปว่า ‘ไม่เป็นไรครับ’ กลับมีเสียงเด็กตัวแสบแทรกขึ้นมาเสียก่อน

ลูกแมวพลัดถิ่นบิดตัวนอนตะแคงกอดรัดเอวทิวากานต์แน่นเหมือนจะบอกไม่ให้ไป คิ้วเรียวขมวดทั้งที่ยังไม่ลืมตา น่ารักน่าเอ็นดูจนต้องหอมแก้มหนึ่งทีพอชื่นใจเสียงดังฟอดลอดลำโพงไปถึงการันต์

‘นอนอยู่ด้วยกันเหรอ’ เสียงการันต์ดูไม่แปลกใจ ออกแนวตั้งใจจะหยอกล้อรุ่นน้องเสียด้วยซ้ำ

“ประมาณนั้นครับ แค่นี้ก่อนนะพี่ แล้วเจอกัน” ทิวากานต์รีบกดตัดสายโยนโทรศัพท์ทิ้งบนผ้าห่ม ก้มหน้าลงไปมองตาสีฟ้าปรือขึ้นด้วยรำคาญ อลันด์ครางเบาๆ งึมงำภาษาแม่ออกมาจับใจความได้ว่าหนาว สองแขนเล็กๆ นั่นจึงพยายามกอดรัดหมอนข้างมีชีวิตไว้แน่น ซุกศีรษะเข้ากับหน้าท้องอีกคนอ้อนให้ลูบหัวลูบหน้าอยู่พักใหญ่คุณหมอถึงแข็งใจ แกะแขนอีกคนออกแล้วดันกลับให้ลงไปนอนหนุนหมอนเหมือนเดิม “ไม่สบายแน่ๆ นอนคนเดียวก่อนนะเดี๋ยวพี่ไปเอายามาให้กินกันไว้ก่อน”

คุณหมอลุกจากเตียงเปิดไฟผนังให้แสงสลัวแทนไฟดวงใหญ่ก่อนลงไปข้างล่างหยิบน้ำหยิบยา แล้วค่อยกลับขึ้นมาคุ้ยตู้เสื้อผ้าหาเสื้อแขนยาวมีฮู้ดเนื้อหนาผ้านิ่มติดมือกลับไปหาเด็กฝรั่งที่หลับไปอีกรอบ เขาตบแก้มขาวเบาๆ ปลุกให้อีกฝ่ายลุกขึ้นมากินยา “อัล อัลลุกขึ้นมานั่งก่อนเร็ว อ้าปากครับ อ้า...”

คนถูกปลุกให้ลุกทั้งตายังปิดอยู่แต่กลับเบะหน้าใส่ทิวากานต์ได้ถูกทิศ เจ้าตัวงอแงใช้หลังมือขยี้ตาแต่ก็ยอมอ้าปากให้คุณหมอประจำตัวป้อนยาป้อนน้ำแต่โดยดี เสร็จแล้วก็ถูกสั่งให้ชูแขนขึ้นสูงเอาเสื้อแขนยาวใส่ทับชุดนอน

“เก่งมาก อย่าเพิ่งนอนนะเดี๋ยวอ้วก รอพี่ไปอาบน้ำก่อน”

นิ้วขาวจัดที่โผล่พ้นแขนเสื้อคว้าหมับเข้าที่ชายเสื้อยืดคุณหมอรั้งไม่ให้ไปไหน ตาสีซีดลืมเต็มที่ช้อนมองหงอยๆ “วาจะไปไหน”

“ไปโรงบาล พี่รันโทรมาตามให้ไปช่วยเคสด่วนน่ะ”

“หระ... เหรอ”

เห็นเด็กตัวแสบซึมไปก็ใจอ่อนยวบ แต่จะไม่ไปทำงานก็ไม่ได้ ทิวากานต์ยอมเสียเวลาอีกนิดก้มลงจูบกลีบปากอิ่ม “เป็นแฟนหมอต้องอดทนหน่อยเนอะ”

เท่านั้นมือเล็กก็ยอมปล่อยให้ศัลยแพทย์งานยุ่งไปอาบน้ำอีกรอบทั้งที่เพิ่งอาบไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า นึกถึงตรงนี้คนป่วยก็หน้าแดงเหมือนไข้ขึ้น จะเรียกว่าอาบน้ำได้หรือเปล่านะในเมื่อพวกเขาทำอะไรๆ ในนั้นต่อเป็นรอบที่สองหลังเสร็จศึกตรงโซฟาชั้นล่างไปแล้ว แถมยกนี้ทิวากานต์ยังให้เด็กฝรั่งออนท็อปเสียอีก อลันด์เผลอหมั่นเขี้ยวคนมากประสบการณ์จนกัดคอกัดไหล่อีกคนไปตั้งหลายแผล ไม่รู้ตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเข้าห้องผ่าตัดจะเป็นอะไรไหม

ไม่ถึงสิบห้านาทีร่างสูงใหญ่เดินกลัดกระดุมออกมาจากส่วนห้องแต่งตัว กลิ่นครีมอาบน้ำหอมฟุ้งจนอลันด์ทำจมูกฟุดฟิดๆ แล้วจามออกมาสองทีติด

“นอนได้แล้วล่ะ ยังหนาวอยู่ไหม” ชายหนุ่มยิ้มหวาน ช่วยประคองอีกฝ่ายนอนลงกับเตียง ดึงผ้านวมขึ้นห่มให้ถึงคอ

“หนาว...”

เท่านั้นเขาก็เดินออกไปข้างนอกก่อนกลับมาอีกทีพร้อมตุ๊กตาหมีสูงห้าฟุต สอดเครื่องมือให้ความอบอุ่นชนิดยัดนุ่นเข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน แล้วเอาหมอนข้างที่ถูกเมินขนาบหลังอลันด์ไว้อีกข้าง เจ้าเด็กฝรั่งกอดตุ๊กตาหมับซุกหน้าเข้ากับขนนิ่มๆ แล้วยิ้มชอบใจ

ทิวากานต์นั่งคุกเข่าอยู่ข้างเตียงลูบแก้มคนรักเบาๆ คล้ายกล่อมให้หลับ “ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ด้วยตลอดคืนทั้งที่เป็นคืนแรก อัลกอดพี่คริสแทนพี่วาไปก่อนนะ แล้วพี่จะรีบกลับมาให้ทันก่อนเราตื่น”

“สู้ๆ วาช่วยคนไข้ให้ได้นะ”

“อือ นอนเถอะพี่ไม่กวนแล้ว” ฝ่ามือใหญ่เลื่อนขึ้นไปลูบหัวเป็นการทิ้งท้าย นั่งคุกเข่ารอจนเห็นว่าอีกฝ่ายหลับไปอีกรอบถึงยอมลุกขึ้นจากข้างเตียงเดินไปปิดไฟห้องนอน ออกไปทำหน้าที่ในชั่วโมงยามแห่งราตรีที่ค่อนประเทศตกอยู่ในนิทรา

.
.
.

การันต์ลุกขึ้นจากเก้าอี้ตอนที่เห็นน้องรักเดินเข้ามาในห้อง อีกสิบนาทีจะตีหนึ่งแสดงว่าทิวากานต์คงเหยียบคันเร่งแบบไม่กลัวใบสั่งมาแน่ๆ เขาส่งยิ้มเซี้ยวๆ ให้อีกฝ่ายพร้อมเรียกทีมแพทย์ที่จะเข้าผ่าตัดทั้งหมดเข้ามาประชุมแผนงานก่อนลงมือจริงทันที

ใช้เวลาบรีฟเกือบสิบห้านาที แจกแจงหน้าที่ก็บอกให้ทุกคนไปเตรียมตัวเข้าห้อง OR เคสด่วนคืนนี้จะมีการันต์เป็นมือหนึ่ง ทิวากานต์เป็นมือสอง เรสซิเดนท์ที่อยู่เวรเป็นมือสามกับสี่ แล้วก็มีนักศึกษาที่ขอเข้ามาดูเพื่อศึกษาอีกสองคน

“จะว่าไปก็นานแล้วเหมือนกันนะที่ไม่ได้ทำเคสกับพี่รัน ถึงสองปีไหม” ทิวากานต์เปรยขึ้นตอนพวกเขาเข้ามาล้างมือเตรียมเข้าห้องผ่าตัดหรือที่เรียกว่าสครับ ขั้นตอนฆ่าเชื้อนี้เป็นอีกเหตุผลที่ว่าทำไมมือคุณหมอถึงได้นุ่มอย่างกะนิ้วเด็ก เล่นทั้งล้างทั้งขัดอยู่สิบกว่านาทีทุกครั้งที่ทำเคสมันจะไม่นิ่มได้ไง

“น่าจะเกือบๆ” รองหัวหน้าสาขาศัลยกรรมทรวงอกว่าติดหัวเราะ หากกล้ามเนื้อบนใบหน้ายังคงเครียดเกร็งดูจริงจังเพราะนอกจากเป็นเคสใหญ่แล้วยังเกี่ยวพันกับหัวใจตัวเองด้วย งานนี้คนไข้จะรอดไม่ได้อยู่แค่หมอเท่านั้นแต่ผู้เข้ารับการรักษาก็ต้องสู้เหมือนกัน “ขอบคุณมากนะวาที่มาช่วยพี่ เรามันน้องที่พี่ไว้ใจสุดแล้ว”

“เฮ้ย อย่ามาทำซึ้งสิครับยังไม่ทันเริ่มเคสเลย รอเสร็จแล้วค่อยมาขอบคุณก็ยังไม่สายหรอกน่า”

“หึ แกนี่มัน... เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ นั่นรอยอะไรฟร่ะ” หัวหน้าทีมหรี่ตาจ้องต้นคอหนุ่มรุ่นน้อง แดงเป็นปื้นแบบนั้นแถมเหมือนจะมีรอยฟัน “เฮ้ย! อย่าบอกนะว่าเอ็ง... จัดการน้องแสบแล้วน่ะ” ท้ายประโยคหรี่เสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่การันต์คงลืมไปว่าห้องนี้มันเงียบนอกจากเสียงน้ำแล้วก็ไม่มีเสียงอะไรอีก แถมพวกที่จะเข้าเคสด้วยก็ยืนล้างมืออยู่ข้างๆ รับรองได้ว่าไม่เกินแปดโมงเช้าวันจันทร์คนทั้งโรงพยาบาลได้รู้กันหมดว่าหมอศัลย์หัวใจรูปหล่อแบดบอยไปฟัดกับสาวก่อนมาเข้าเคส งานนี้ทิวากานต์ถูกหัวหน้าอาคมเรียกเข้าไปด่าอีกแหง

หากแทนที่จะอาย คนหน้าหนากลับยักคิ้วให้อารมณ์สุนทรีย์เป็นที่สุด “ตามที่เข้าใจแหละพี่ แบบว่าช่วงนี้ ชีวิตดี๊ดี”

“จิ๊ โทษทีเว้ยพี่ไม่รู้ นึกว่าแค่นอนด้วยกันเฉยๆ เห็นแกบอกจะรอก่อน ไม่งั้นไม่ตามให้มาทำเคสหรอก คืนสำคัญทั้งที แล้วน้องไม่งอนเหรอวะ”

“หงอยนิดหน่อยแต่ตัวแสบมันเข้าใจ ให้กินยาไปแล้วด้วยคงหลับยาวไม่ตื่นมางอแงยันเช้านู่นแหละ”

“โธ่เอ๊ย แสบของพี่รัน”

“ของผมเว้ย ของพี่น่ะนอนรออยู่ใน OR แล้ว” หนุ่มรุ่นน้องดันเข่าปิดก๊อกพลางหัวเราะเสียงใส ไม่มีวี่แววของความง่วงทั้งที่ใกล้ตีสองเข้าไปทุกที “รีบไปทำงานกันเถอะครับ ผมจะได้รีบกลับไปนอนกอดแฟน”

“แกนี่มัน... ให้ตายเถอะ อิจฉาคนมีความสุขเว้ย”



เคสนี้คนไข้มีอาการผนังหัวใจห้องบนซ้ายรั่วขนาดเกินเจ็ดเซนติเมตรในตอนที่ถูกส่งตัวมาจากทางฝั่งอายุรกรรม มีการันต์เจ้าของเคสที่รับคอนซัลท์ต่อจากอาจารย์วุฒิมาอีกที

กำหนดผ่าตัดจริงๆ คือวันจันทร์ตอนเจ็ดโมงเช้า แต่เนื่องด้วยหลังจากคนไข้พักผ่อนช่วงเย็นไปแล้วเกิดอาการตัวเขียว เจ็บหน้าอก เริ่มหายใจลำบากจนในที่สุดหายใจเองไม่ได้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ คุณหมอที่รับผิดชอบจึงจับไปฉีดสีแล้วพบว่ารูรั่วขยายกว้างกว่าเดิม เลือดดำเข้าไปปนกับเลือดแดงจำนวนมาก มีโอกาสน้ำท่วมปอดพอๆ กับหัวใจวายเฉียบพลันจึงเป็นสาเหตุของการทำเคสผ่าเปลี่ยนลิ้นหัวใจปุบปับเอาตอนตีสองเช่นนี้

อากาศในห้อง OR ความจริงเย็นแสนเย็นแต่คุณหมอสี่คนที่ยืนรุมอยู่ข้างเตียงคนไข้ล้วนเหงื่อแตกด้วยไฟให้แสงด้านบนช่างสว่างร้อนแรงจนต้องเรียกพยาบาลให้ช่วยซับหน้าบ่อยๆ โดยเฉพาะหมอทิวากานต์ที่เหล่าพยาบาลประจำห้องผ่าตัดรู้กันดีว่าเป็นคนขี้ร้อน แถมพ่อคุณยังตัวสูงเกินชาวบ้านลำบากคุณพยาบาลต้องปีนเก้าอี้เอาผ้าไปซับ

ภายในห้องปลอดเชื้อเงียบกริบ ทั้งทีมสตาฟศัลย์ เรสสิเด้นท์เวร พยาบาล และนักศึกษาแพทย์ที่เข้ามาศึกษาล้วนดูเคร่งเครียดจนบรรยากาศวังเวงเพราะรู้ว่าแพทย์ผ่ามือหนึ่งไม่ชอบคุยหรือให้มีเสียงระหว่างทำการหัตถการ นานทีจะมีเสียงการันต์สั่งดังขึ้นสักหน นี่ถ้าทิวากานต์เป็นเจ้าของเคสเองดึกๆ แบบนี้เขาให้พยาบาลเปิดเพลง EDM เซิ้งไปแล้ว และเหมือนนายแพทย์รุ่นพี่จะรู้เท่าทันความคิดหนุ่มรุ่นน้อง เจ้าของเคสจึงเงยหน้าขึ้นมาดุด้วยสายตาผ่านแว่นให้หนึ่งที ศัลย์มือสองเลยได้แต่หัวหดก้มหน้าก้มตาช่วยการันต์รุมคนไข้ต่อไป

ส่วนวิสัญญีแพทย์เวรวันนี้ก็เติมยากันสนุกสนาน อะดรีนาลีนหมดกันไปหลายแอมป์ทำงานกันเพลินลืมโลกภายนอกชั่วคราว เป็นโชคดีที่ไม่เกิดภาวะเสี่ยงในระหว่างทำหัตถการ ประกอบกับฝีมือชั้นครูของการันต์ก็ทำให้การผ่าตัดครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

ออกมาอีกทีคือฟ้าสว่างจ้า สิริรวมเวลาทั้งหมดก็หกชั่วโมงกับอีกสามนาทีพอดี เรียกได้ว่างานนี้พวกตัวเปี๊ยกที่เข้ามาดูถึงกับขาแข็งร้องหายานวดกันใหญ่

“หน่อยไหมพี่” ทิวากานต์ยื่นขวดกระทิงแดงให้นายแพทย์รุ่นพี่ที่เพิ่งเดินออกจากห้องซีซียูดูอาการคนไข้ที่เพิ่งผ่าจนแน่ใจอีกรอบว่าจะไม่เกิดแอคซิเดนอะไรขึ้นมาอีก การันต์มองแทนคำถามว่าไปเอามาจากไหนเจ้าตัวก็บอกว่าไปขโมยในห้องพักแพทย์มา “ห่วงกันขนาดนี้ผมว่าพี่ต้องรีบจีบแล้วนะ เดี๋ยวพอเขาออกจากโรงบาลถูกคนอื่นคาบไปกินไม่รู้ด้วย ก็รู้ๆ อยู่ว่าหมออย่างเรามันมีเวลาสักที่ไหน”

“ความจริงก็คิดๆ ไว้อยู่ว่ะ แต่...เข้าใจไหมวา เขาเพิ่งยี่สิบห้า พี่จะสี่สิบแล้ว ห่างกันตั้งสิบห้าปี เขาจะชอบพี่เหรอวะ” คิดเรื่องนี้แล้วมันกลุ้มยิ่งกว่าตอนทำเคสอีกนะจะบอกให้

“แคร์อะไรกันครับ ดูผมกับไอ้ตัวแสบสิ ห่างกันสิบสองปีเบๆ แถมคบเด็กดีจะตาย เหมือนได้ย้อนวัย ชีวิตกระชุ่มกระชวยยิ่งกว่าดื่มชวนป๋วยปี่แป่กออีก”

“นั่นมันแก้ไอไม่ใช่เหรอวะ”

“พูดเพราะมันคล้องจองเฉยๆ ครับ” หนุ่มสามสิบยิ้มหวาน ยื่นขวดกระทิงแดงไปตรงหน้าการันต์ยักคิ้วให้กวนๆ “ยินดีต้อนรับสู่สมาคมกินเด็กนะพี่รัน”

หนุ่มรุ่นพี่แทบอยากกุมขมับ แต่เขาก็ขำเกินกว่าจะทำแบบนั้น กระทิงแดงสองขวดกระแทกกันเบาๆ จนเกิดเสียงเคร้ง “แด่คนรักเด็กทุกคน”

ทิวากานต์ยืนซดกระทิงแดงเป็นเพื่อนการันต์ต่อจนหมดขวดก็อาสาเอาไปทิ้ง “แล้วนี่จะอยู่เฝ้าต่อเลยไหมครับ หรือจะกลับไปพักก่อน”

“คงงั้นล่ะ สายขนาดนี้แล้วคงนอนไม่ไหว แล้วเอ็งไม่มีงานที่นู่นต่อเหรอถึงมาโอ้เอ้อยู่แถวนี้”

“ได้หยุดพอดีอ่ะพี่ ช่วงนี้ว่างเหลือแค่เคลียร์คนไข้อีกไม่กี่เคส หลังปีใหม่ลุงไอ้ตัวแสบก็จะให้ย้ายทำ CVT (Cardiovascular and Thoracic surgery - ศัลยกรรมหัวใจ หลอดเลือดและทรวงอก) เต็มตัวแล้ว แต่นี่จะไปแล้วล่ะครับ บอกไอ้ตัวแสบไว้แล้วว่าจะกลับก่อนเขาตื่น ไม่อยากผิดคำพูด”

“งั้นก็ไปเถอะ ตรงนี้พี่ดูต่อคนเดียวได้ โชคดีเว้ย” คนแก่กว่าตบบ่ากว้างสองสามที “ถ้าไม่อยากถูกทิ้งอย่างพี่ต้องดูแลคนที่บ้านให้เหมือนดูแลคนไข้ จำไว้นะวา...พวกเขาคือคนสำคัญ”

“ขอบคุณครับพี่ ผมไปล่ะ แล้วเจอกัน” ทิวากานต์ยกมือไหว้อีกฝ่ายด้วยความเคารพแทนการโค้งอย่างทุกที ร่างสูงใหญ่ก้าวเท้ามุ่งหน้าตามป้ายที่เขียนไว้ว่าทางออกอย่างมั่นคง รอยยิ้มแห่งความสุขระบายเต็มใบหน้าเมื่อคิดถึงเด็กฝรั่งที่ป่านนี้น่าจะยังนอนกอด ‘พี่คริส’ ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ของแม่เขาอยู่บนเตียงไม่ไปไหน รอให้เขาไปหาเพื่อจะได้ตื่นลืมตาขึ้นมาเจอหน้ากันเป็นคนแรกของวัน



พอร์เช่ 911 Turbo S สีขาวกลับมาถึงคอนโดตอนเกือบเก้าโมงเช้า สายป่านนี้แล้วบางทีอลันด์อาจจะตื่นก่อนเขาไปถึง ไม่รู้จะงอแงหรือเปล่าแต่เขาก็รีบที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว

ก่อนเข้าห้อง 2111 คุณหมอตัวสูงไม่ลืมกดกริ่งห้องเมษาขอหนังสือที่ฝากไว้เมื่อคืนกลับมาด้วย นายธนาคารเพื่อนบ้านทำหน้าอิหลักอิเหลื่อเล็กน้อยตอนเดินกลับไปเอาของมาให้ สุดท้ายก็อดเปิดปากถามสิ่งที่ติดใจมาตั้งแต่เมื่อคืนไม่ได้

“สรุปว่าคบกันจริงๆ เหรอครับ ขอโทษนะครับ แต่หมอวาดูไม่เหมือนเกย์เลยอ่ะ”

“สักพักแล้วล่ะครับ แบบว่า...อะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้ายังมีปาปริก้าขายน่ะนะ” ทิวากานต์หัวเราะท่าทางอารมณ์ดีไม่มีแววง่วงงุนแม้อดนอนมาทั้งคืน เอ่ยขอบคุณอีกฝ่ายจึงถอยออกมา ได้ยินเมษาอวยพรให้เบาๆ แม้จะพูดตามมารยาทแต่เขาก็ดีใจที่เพื่อนบ้านคนนี้รับได้

หนังสือเรียนตั้งใหญ่ถูกวางบนโต๊ะทำงานใต้บันได ภายในห้องยังเหมือนเดิมกับตอนที่เขาออกไป ไม่แน่ใจว่าอลันด์หนีออกไปแล้วหรือยังนอนอยู่บนเตียง

ทิวากานต์หัวเราะตัวเองตอนเดินขึ้นบันไดไปหาเด็กตัวแสบ ขายาวๆ ดันสั่นขึ้นมาซะได้เอาตอนนี้ ไม่รู้เป็นเพราะผลข้างเคียงจากการยืนผ่าตัดหกชั่วโมงหรือกลัวที่จะเดินขึ้นไปพบความว่างเปล่าบนนั้นกันแน่ แม้แต่มือก็ยังสั่นตอนเปิดประตูเข้าไป แต่ทุกอย่างหายวับในพริบตาเมื่อเห็นกลุ่มผมสีช็อกโกแลตนมโผล่พ้นออกมาจากผ้านวมผืนหนา

ร่างสูงใหญ่ทรุดลงนั่งบนพื้นข้างเตียง เท้าแขนเกยคางมองเด็กฝรั่งขี้เซา สายโด่งป่านนี้ยังไม่ตื่นอีกมือใหญ่เอื้อมแตะหน้าผากกว้างแล้วไล้ลงมาลูบผิวแก้มเช็ดคราบน้ำตาเบาๆ ตัวยังอุ่นอยู่ตื่นมากินข้าวกินยานอนพักอีกทีน่าจะหาย แต่ไม่รู้จะร้องไห้ทำไมหรือว่าจะฝันร้ายตอนที่เขาไม่อยู่

จู่ๆ ก็ง่วงขึ้นมาซะได้ เขาเอียงหน้าซบแขนตัวเองหาวน้ำตาเล็ด ในหัวเกิดเสียงดนตรีเพลงสากลของหลายปีก่อนที่ได้ฟังตอนขับรถกลับบ้าน ช่างเข้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าเสียหลุดยิ้มออกมาก่อนตามเด็กขี้เซาเข้าห้วงนิทราไปอีกคน

The sweetest thing is what you are
From you I'll never be too far
Please say, forever you will stay beside me
สิ่งที่หอมหวานที่สุดก็คือสิ่งที่เธอเป็น
ฉันไม่มีวันไปไหนได้ไกลจากตัวเธอเลย
พูดออกมาเถอะนะว่าจะอยู่เคียงข้างฉันตลอดไป

You're my past, my future, my all, my everything
My six in the morning when the clock rings
And I open up my eyes to a new day
My laughs, my frowns, my ups, my downs
It's the feeling that you get
When you know that something's true
When I think of love, I think of you
เธอเป็นทั้งอดีต อนาคต ทุกสิ่งและทุกอย่างของฉัน
เหมือนยามเช้าที่ฉันลืมตาตื่นขึ้นมา
ตอนนาฬิการ้องทุกหกโมงเช้าของวันใหม่
เป็นทั้งรอยยิ้ม ทั้งรอยเครียด โชคดีและโชคร้ายของฉัน 
มั่นใจเถอะว่าความรู้สึกที่เธอสัมผัสได้เธอเข้าใจมันถูกแล้ว
ตอนที่ฉันนึกถึงความรัก ฉันนึกถึงเธอนั่นแหละ




อลันด์รู้สึกตัวตอนที่กระเพาะส่งเสียงโครกคราก น้ำย่อยในท้องร้องหาอาหารจนต้องยอมลืมตาแม้ยังอยากนอนต่อ แต่ภาพแรกที่เห็นตอนตื่นกลับเป็นหน้าทิวากานต์ที่นอนฟุ่บอยู่ข้างเตียงทั้งชุดทำงาน สมองน้อยๆ รำลึกความหลังได้ทันทีว่าเมื่อคืนคุณหมอโดนโทรตามไปปฏิบัติหน้าที่ทิ้งเขาไว้กับตุ๊กตาหมี หากสุดท้ายยังทำตามที่บอกไว้ว่าจะกลับมาก่อนเขาตื่น

เด็กฝรั่งอมยิ้มจนแก้มตุ่ย หันไปดูนาฬิกาเพิ่งจะเก้าโมงครึ่ง ไม่รู้ว่าทิวากานต์กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ดูสภาพหลับไปทั้งชุดทำงานคงเหนื่อยมากเลยฟุ่บไปทั้งอย่างนั้น เห็นแล้วสงสารไม่อยากกวนคุณหมอคนเก่ง ยอมทนหิวมองหน้าคนรักแก้ขัดจนหลับไปอีกรอบ



ลืมตาขึ้นมาอีกทีเห็นตาคมๆ สีน้ำตาลเข้มจ้องมาอยู่ก่อนแล้ว หัวใจเต้นดังตึกตักพาลเอาหูอื้อ นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้กับใคร

“Good morning”

“Moring ไม่สิ เที่ยงแล้วนี่หว่า” ทิวากานต์หัวเราะจนตาปิด ยื่นมือออกมาแตะหน้าผากเด็กฝรั่งไล้ลงมาถึงแก้มนิ่ม “ไข้ลดแล้ว หิวข้าวยัง”

“อือ แล้ววากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ เมื่อเช้าผมตื่นไปรอบนึงเจอวานอนฟุ่บอยู่ตรงนี้แล้ว ทำไมไม่ขึ้นมานอนบนเตียง ไม่เมื่อยหรือไง” ถามเป็นชุดไม่เปิดโอกาสให้จำเลยได้ตอบข้อสงสัย แต่วันนี้คุณหมออารมณ์ดีฟังไปยิ้มไป ค่อยๆ ตอบข้อสงสัยทีละข้อ

“มาตอนแปดโมงกว่า มาก็เจอคนขี้เซาหลับไม่รู้เรื่อง เห็นแล้วสงสารไม่อยากปลุก นั่งมองไปมองมาดันง่วงเลยหลับอยู่ตรงนั้นแหละเพราะอยากให้อัลตื่นมาเจอพี่เป็นคนแรก”

คำตอบจากจำเลยเรียกเลือกสูบฉีดขึ้นหน้าตั้งแต่ตื่นนอน มือขาวดึงผ้าห่มปิดถึงจมูกเหลือแต่ตาสีอ่อนโผล่พ้นออกมา

เล่นเกมจ้องตากันสักพักก็ถูกทิวากานต์ไล่ให้ไปอาบน้ำ มีปัญหานิดหน่อยตรงที่ไอ้ตัวแสบปวดหลังปวดเอวลุกเดินไม่ค่อยจะไหว คุณหมอเจ้าระเบียบเลยยอมให้แค่เดินไปแปรงฟันแล้วนั่งรอกินข้าวข้างบน เรื่องติวกับคนินทร์เป็นอันต้องยกเลิกไปโดยปริยาย อลันด์ถูกบ่นนิดหน่อยที่เพิ่งโทรไปบอกเพราะหนุ่มไทยหน้าคมขับรถมาได้ครึ่งทางแล้ว

หลังกินข้าวเสร็จถูกจับกินยาเรียบร้อย เด็กฝรั่งให้ทิวากานต์ยกหนังสือขึ้นมาทบทวนบทเรียนคนเดียวเงียบๆ ส่วนคุณหมอคนเก่งหลับเป็นตาย (หลับเหมือนตายจริงๆ หลับเงียบแทบไม่ได้ยินเสียงหายใจ ตอนนอนลงท่าไหนตื่นมาท่านั้น)

พวกเขาใช้เวลาช่วงบ่ายแบบตัวใครตัวมันเงียบๆ สักสี่โมงเย็นทิวากานต์ตื่นจึงค่อยลุกกันมาช่วยทำข้าวเย็น (แม้อลันด์ทำเป็นแค่ช่วยปลอกหัวหอมก็เหอะ) นั่งกินสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า บัพฟาโล่วิงค์ ขนมปังอบกระเทียมและซีซ่าร์สลัดชามใหญ่หน้าทีวี ต่อด้วยไอศครีมถ้วยใหญ่ เป็นมื้อที่หนุ่มวัยสามสิบมีความสุขมากที่เห็นอลันด์กลับมาเอ็นจอยอีทติ้งอีกครั้ง นอนกลิ้งดูละครน้ำเน่า ก่อนช่วยกันอาบน้ำ กอดหอมจนชื่นใจ เผลอแป๊บๆ เวลาหนึ่งวันที่เหลือใกล้หมดลงทุกที

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเวลาที่ผ่านมาพวกเขาไม่มีความสุข และต่อให้ในอนาคตพวกเขายังใช้ชีวิตเรียบง่ายแบบนี้ ไม่ต้องมีเหตุการณ์หวือหวาเหมือนในนิยาย ความสุขก็ไม่มีวันจากไปไหนเพียงถ้ายังได้อยู่เคียงข้างกันแบบนี้ต่อไป

.
.
.

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 23 [09.01.16]
«ตอบ #364 เมื่อ09-01-2016 20:57:36 »

อลันด์สอบเสร็จก่อนปิดเทอมตั้งแต่วันพุธ ทิวากานต์ถึงกับหงุดหงิดอิจฉาเด็กนักเรียนที่ได้หยุดพัก ส่วนคนวัยทำงานอย่างเขามีภารกิจยาวถึงวันสิ้นปี ถึงอย่างนั้นเด็กแสบไม่ได้นอนกลิ้งไปกลิ้งมาเฉยๆ หรือไปห้องซ้อมทุกวันอย่างที่ต้องการ แต่มิสเตอร์เอเดลมาร์โทรศัพท์ข้ามทวีปสั่งงานให้ทำเรียบร้อย มีของขวัญคริสต์มาสล่อใจด้วยถ้าหากทำภารกิจสำเร็จ

งานที่ว่าคือช่วยรับรองลูกค้าคนสำคัญและทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้าคนนั้นยอมเซ็นสัญญาซื้อห้องชุดคอนโดมิเนียมสุดหรูมูลค่าห้าสิบกว่าล้านบาท งานนี้ไม่ง่าย เด็กหนุ่มต้องเตรียมข้อมูลของสิ่งที่จะเสนอ หาข้อดีข้อเสียของโครงการ โดยได้รับความช่วยเหลือจากบริษัทสาขาของบิดาในประเทศไทย และมีเวลาเตรียมตัวทั้งหมดเพียงแค่คืนเดียว!

“นัดไว้กี่โมงล่ะ”

“เที่ยงนู่นแน่ะ แด๊ดให้ไปกินข้าวกับเขาก่อน แต่ยังสรุปข้อมูลไม่เสร็จเลยอ่ะ” เด็กฝรั่งบ่นงึมงำ หยิบกระดาษเอสี่ปึกใหญ่ขึ้นมาเปิดอ่านผ่านๆ อีกมือตักซีเรียลเข้าปากเคี้ยวงุบๆ

“น่าจะนอนอีกหน่อย ช่วงสอบก็อ่านหนังสือจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ตาดำเป็นหมีแพนด้าหมดแล้ว ถ้าเสร็จงานแล้วเหนื่อยก็ไม่ต้องไปซ้อมดนตรีนะกลับมาห้องเลยรู้ไหม” คุณหมอว่าพลางเหลือบดูนาฬิกา เพิ่งจะตีห้ากว่าแต่อีกไม่กี่นาทีเขาก็ต้องรีบออกไปทำงานแล้วเช่นกัน “วันนี้พี่มีตรวจนอกเวลานะ กินข้าวบ้านนภไปเลย ถ้ามีอะไรให้ช่วยโทรมาแล้วกัน”

“ขอบคุณครับ วาไปทำงานเหอะเดี๋ยวจัดการเอง”

“อ่าฮะ อย่าลืมที่บอกล่ะ”

“รับทราบ” ไอ้ตัวแสบรับคำแข็งขันพร้อมเอียงแก้มให้คนรักจุ๊บเติมกำลังอย่างรู้งาน

พอทิวากานต์ไปก็กลับมามุ่งมั่นกับการย่อยข้อมูลมหาศาลนี้อีกครั้ง แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่ของขวัญคริสต์มาสที่ล่อตาล่อใจ เงินค่านายหน้า 10% ตอนทำสัญญานั่นน้อยเสียเมื่อไหร่ ซื้อเบนซ์เอสคลาสได้คันเลยนะไม่อยากจะบอก!

สักสิบโมงอลันด์ที่นั่งเตรียมข้อมูลทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยจึงค่อยลุกจากโต๊ะกินข้าวเดินกลับไปอาบน้ำที่ห้องตัวเอง เขาส่งยิ้มให้แม่บ้านจากบ้านคุณยายที่เงยหน้ามองเขางงๆ ระหว่างดูดฝุ่นตรงห้องนั่งเล่น หล่อนคงสงสัยว่าเขาหายไปในแต่เช้าถึงได้กลับมาในชุดนอน

แหงล่ะ เธอไม่รู้เรื่องที่อลันด์ย้ายตัวเองเข้าไปอาศัยนอนห้องฝั่งตรงข้ามมาหลายเดือนแล้ว คุณแม่บ้านวัยสามสิบปลายรู้เพียงแต่ถูกลดหน้าที่ลงให้เหลือเข้ามาทำความสะอาดตอนช่วงสายๆ สามวันครั้งเท่านั้นพอ ส่วนเรื่องอาหารการกินค่อยจัดการตามแต่เด็กหนุ่มจะแจ้งล่วงหน้า ซึ่งนานๆ จะมีสักที และมักเป็นช่วงที่ทิวากานต์อยู่เวรข้ามคืนนั่นแหละ

“อ่อ คุณอันคะ มีพัสดุส่งมาจากอังกฤษค่ะ ฉันวางไว้บนโต๊ะในห้องนอนนะคะ” เธอเรียกชื่อคุณหนูเล็กทื่อๆ เหมือนแม่บ้านคนอื่นที่คิดว่าหลานชายคนโปรดเจ้าของบ้านมีชื่อเล่นน่ารักว่าน้องอัน

“ขอบคุณครับ” อลันด์ยิ้มอีกรอบแทนคำขอบคุณก่อนเดินขึ้นไปบนห้องนอน

ตาสีซีดหันมองพัสดุกล่องใหญ่บนโต๊ะหนังสือ หน้ากล่องจ่าชื่อพ่อบ้านส่วนตัวของตน เท่านั้นร่างผอมรีบหยิบคัตเตอร์มากรีด เสื้อผ้ามากมายที่เขาลิสต์รายชื่อไว้เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนถูกอัลเบิร์ตรวบรวมไว้หมดแล้วในนี้ ลองหยิบกางเกงยีนส์สกินนี่มาสวมก็พบว่าพอดีตัวเป๊ะ เด็กฝรั่งจัดการยัดของที่รื้อออกมายัดกลับลงกล่องแล้ววิ่งลงไปให้คุณแม่บ้านเอาไปซักรีดให้เรียบร้อย แน่นอนว่าเรื่องนี้ห้ามให้ทิวากานต์รู้เด็ดขาดถ้าไม่อยากหูชาโดนเทศนาเรื่องการใช้เงินไปสามวันสามคืน!

กับเข้าห้องนอนมาอีกรอบเขาถึงมองหาชุดที่แม่บ้านจัดเตรียมไว้ให้ ปกติเด็กหนุ่มแต่งตัวค่อนข้างเรียบร้อยอยู่แล้ว หากวันนี้ต้องทำหน้าที่คล้ายตัวแทนบิดาในการทำธุรกิจจึงต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษ เสื้อสูทสีดำเข้ารูปกับเชิ้ตสีขาวและเนคไทสีเดียวกับดวงตาถูกแม่บ้านนำมาเตรียมไว้ที่หน้าตู้เสื้อผ้าเสร็จสรรพ งานเนี้ยบสมกับที่ทำงานบ้านคุณยายมาหลายสิบปี

อลันด์ออกจากที่พักย่านอโศกไปยังจุดมุ่งหมายของวันที่คอนโดมิเนียมติดโรงแรมหรูย่านสาทรใต้โดยรถจากบ้านคุณตา เจ้าตัวไปถึงก่อนเวลานัดเกือบสิบห้านาที ส่วนลูกค้าที่นัดก็มาตรงเวลาเป๊ะๆ

เอาจริงๆ แล้วลูกค้าคนสำคัญของมิสเตอร์เอเดลมาร์คนนี้อลันด์รู้จักดีเพราะเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของครอบครัว ประกอบธุรกิจด้านนำเข้า-ส่งออกมีสาขาไปทั่วโลกรวมไปถึงที่ประเทศไทย แต่เบื่อที่จะต้องนอนเปลี่ยนโรงแรมไปเรื่อยๆ ยามมาติดต่องานที่สาขาเมืองไทยจึงได้ให้เพื่อนรักเจ้าของธุรกิจอสังหายักษ์ใหญ่ของโลกช่วยจัดหาให้

เด็กหนุ่มร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับเพื่อนรักบิดาพลางคุยสัพเพเหระถามไถ่ถึงความเป็นอยู่ก่อนค่อยแนะนำตัวห้องที่จะเสนอให้วันนี้ เป็นห้องขนาดสองห้องนอน เนื้อที่ 163 ตารางเมตร มูลค่าตอนที่เอเดลมาร์สอยมาได้นั้นอยู่ที่ห้าสิบเกือบหกสิบล้านบาท ได้รถเฟี๊ยตรุ่นพิเศษแถมมาคัน (ปัจจุบันยกให้พี่กานต์เอาไปใช้แล้ว) แต่ราคาขายให้เพื่อนคือเพิ่มมาอีก 20% จากราคาจริง เรียกได้ว่าต่อให้เป็นเพื่อนรักกันก็ไม่ยอมขาดทุนเด็ดขาด สมกับเป็นนักธุรกิจมาก

“อืม... เท่าที่ดูก็น่าสนใจดี ฉันก็ไม่คิดหรอกว่าเอเดลมาร์จะแนะนำที่ห่วยๆ ให้ แต่คงดีกว่าถ้าได้ดูของจริงนอกจากรูปกระดาษพวกนี้”

“ผมตั้งใจจะพาคุณลุงขึ้นไปดูห้องอยู่แล้วครับ เดี๋ยวเราเดินทะลุตัวโรงแรมไปเลยแล้วกัน ผมจะได้แนะนำส่วนประกอบอื่นๆ ของโครงการไปด้วย”

หลังจบมื้ออาหารที่อลันด์เป็นเจ้ามือ เจ้าเด็กแสบในมาดนักธุรกิจวัยกระเตาะก็พาแขกของบิดาเดินผ่านส่วนของโรงแรมเข้าสู่ตัวโครงการคอนโดมิเนียม เสียงทุ้มต่ำบรรยายถึงสิ่งอำนวยความสะดวกสบายและส่วนต่างๆ ไปเรื่อยพร้อมบอกถึงข้อดีข้อเสียอย่างตรงไปตรงมา

โชคดีเขาเคยมาที่นี่อยู่ครั้งตอนหาที่พักระหว่างเรียนต่อในเมืองไทย มาดามโอเนลล์พาเขาตระเวนดูห้องชุดทั้งหลายที่เป็นของบริษัทบิดาไปทั่วกรุงเทพโดยมีพนักงานสาขาคอยให้คำแนะนำ ก่อนสุดท้ายจะไปจบลงที่คอนโดระดับกลางค่อนไปทางสูงใจกลางเมือง

เด็กหนุ่มรู้สึกตื้อในอกขึ้นมาทันทีเมื่อคิดถึงตรงนี้ ถ้าเขากับมัมเลือกคอนโดมิเนียมอื่นที่หรูหราสะดวกสบายกว่า เขาคงไม่มีโอกาสได้เจอกับทิวากานต์และคบเป็นคนรักกันแบบนี้แน่นอน

“ความจริงคุณพ่อเลือกห้องชุดตามสเปคที่คุณลุงรีเควสต์ไว้แล้วครับ แต่ผมเห็นว่าไหนๆ ก็มาดูทั้งทีเลยขอกุญแจห้องแบบ duplex มาเป็นตัวเลือกเพิ่มเติมด้วย” เจ้าตัวว่าก่อนพาเพื่อนบิดาขึ้นไปยังชั้นบนหลังพาเที่ยวชมรอบๆ โครงการจนทั่วแล้ว

ห้องแรกที่พาไปเป็นห้องที่มิสเตอร์เอเดลมาร์ตั้งใจไว้ เพดานห้องสูงให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบายเหมือนอยู่บ้านหลังใหญ่ เมื่อออกไปที่ระเบียงจะเจอสระว่ายน้ำของโครงการอยู่ด้านล่าง มองออกไปจะเจอตึกน้อยใหญ่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร ทั้งที่อยู่ใจกลางเมืองกลับให้ความเงียบสงบไร้ความวุ่นวาย

เมื่อดูรอบๆ ห้องจนครบแล้วลูกค้าคนนี้ดูจะถูกใจห้องนี้ไม่น้อย เขาเปรยกับเด็กหนุ่มคราวลูกว่าชอบที่นี่มาก ตัวโครงการก็ดี แถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ไกลจากที่ทำงานและเดินทางง่าย

จนมาถึงห้องที่อลันด์เลือกเป็นตัวสำรอง แม้ดูเนื้อที่จะคับแคบกว่าเล็กน้อยหากทดแทนด้วยเพดานรับแสงที่สูงกว่าห้องอื่นเนื่องด้วยเป็นห้องที่มีสองชั้น ให้ความรู้สึกเป็นบ้านมากกว่าอีกห้อง

หลังเดินดูเปรียบเทียบจนพอใจแล้วเหมือนเพื่อนบิดาคนนี้เหมือนจะได้คำตอบในใจ อลันด์พาเขากลับมาดื่มกาแฟเพื่อคุยสรุปกันเรื่องห้องและราคา โดยที่ชายวัยห้าสิบปลายเลือกห้องแรกด้วยเหตุผลของพื้นที่ที่มากกว่าในราคาที่พอรับได้ ส่วนเรื่องทำสัญญาจะให้พนักงานของบริษัทและฝ่ายกฎหมายเป็นคนจัดการต่อ

“ฉันพอรู้เรื่องที่เธออยากเป็นนักดนตรีอยู่บ้าง เอาจริงๆ ฉันชื่นชมเด็กหนุ่มที่มีความฝันนะ แต่หลังจากได้คุยกับเธอวันนี้แล้วฉันคิดว่าเธอตั้งใจช่วยกิจการครอบครัวจะดีกว่า เธอเก่งนะอัล ในอนาคตเธอจะเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จไม่แพ้พ่อเธอ เอเดลมาร์จะภูมิใจที่มีทายาทอย่างเธอรับช่วงดูแลกิจการ” เขาตบไหล่หนุ่มน้อยคราวลูกก่อนก้าวขึ้นรถที่มารอรับ

เด็กหนุ่มยิ้มรับคำชมฝืนๆ มองรถซีดานสีดำแล่นจากไป เขาเดินกลับมาที่เล้าจ์นั่งจิบน้ำส้มแก้เซ็ง ชักไม่แน่ใจว่าการตัดสินใจรับงานนี้ด้วยเห็นแก่เงินส่วนแบ่งนั้นคุ้มหรือไม่กับเส้นทางในอนาคต เหมือนพ่อเขาจะไม่ยอมตัดใจเรื่องอยากให้เขาเป็นนักธุรกิจง่ายๆ

อลันด์ส่งข้อความหานภให้มารับที่โรงแรมเพื่อจะไปซ้อมดนตรีกันต่อ ก่อนต่อสายทางไกลหามิสเตอร์เอเดลมาร์รายงานผลงาน แด็ดดี้ดูจะพอใจกับผลงานชิ้นนี้มาก ส่วนเรื่องเงินค่านายหน้าจะโอนให้เมื่อมีการทำสัญญาซื้อขายเสร็จเรียบร้อยภายในหนึ่งสัปดาห์ ทิ้งท้ายด้วยคำชมสั้นๆ ไม่ยกยอลูกชายตามสไตล์ก่อนวางสาย

นั่งรอไม่ถึงสิบห้านาทีนภก็โทรมาบอกให้ออกไปรอตรงจุด drop off อีกไม่ถึงสามนาทีจะวนรถเข้าไปรับเด็กฝรั่งจัดการจ่ายค่าเครื่องดื่มหอบแฟ้มเอกสารเดินไปยังจุดนัดพบ เพียงไม่นานมินิคูเปอร์คันคุ้นตาก็จอดเทียบตรงหน้า

“หน้ามึนกว่าปกตินะ จะไปซ้อมไหวเร้อออ” นักร้องหนุ่มทักพลางมองถนนหาจังหวะเลี้ยวออกจากตัวโรงแรมห้าดาว

“เพลียนิดหน่อยครับ เมื่อคืนได้นอนแค่แป๊บเดียว” พูดจบเจ้าตัวก็หาวอ้าปากกว้าง กาแฟที่ดื่มเมื่อครู่ไม่ได้ช่วยอะไร

“งั้นวันนี้ไม่ต้องไปซ้อมหรอก ปิดเทอมแล้วมีเวลาว่างอีกตั้งหลายวัน วันนี้ไปเดทกับพี่ดีกว่า”

“หือ เดท?” ตาสีฟ้าซีดหันมองคนพูดงงๆ เขาเห็นนภหยิบหมวกแก๊ปกับแว่นตากันแดดที่ไม่รู้ไปเอามาจากไหนขึ้นมาโชว์ ใบหน้าหล่อเหลาตามเทรนนิยมฉีกยิ้มกว้างละลายใจแฟนคลับส่งมาให้ ท่าทางแบบนี้ใครปฏิเสธลงก็ใจร้ายแย่



สถานที่เดทกับซูเปอร์สตาร์หนุ่มสุดหล่อขวัญใจสาวน้อยยันสาวแก่ทั้งประเทศคือห้างเปิดใหม่อายุไม่ครบขวบปีดีตรงที่ตั้งสถานทูตสหราชอาณาจักรเก่า ด้วยการตั้งเกณฑ์กลุ่มลูกค้าระดับบนชัดเจนบวกกับวันนี้เป็นวันธรรมดาคนในห้างจึงมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย อุปกรณ์พรางตัวของนักร้องหนุ่มกลายเป็นหมันไปแทบจะทันที

ถึงอย่างนั้นใช่ว่าจะไม่มีใครสนใจนภ ยิ่งเดินคู่มากับอลันด์ที่ถอดสูทกับเนคไททิ้งไว้ในรถและพับแขนเสื้อขึ้นมาถึงข้อศอกกระนั้นก็ยังดูสุภาพมาก ผิดกับเจ้าตัวที่แต่งกายสบายๆ จึงเกิดความโดดเด่นดูดสายตาได้เป็นอย่างดี

“มีหนังอยากดูพอดี พี่ว่าเราดูหนังก่อนแล้วค่อยมาหาอะไรกินกัน โอเคไหม”

“ยังไงก็ได้”

“โรงหนังที่นี่เจ๋งมาก มีเตียงด้วย นอนดูอย่างกะอยู่ที่บ้าน พี่เลยชอบมาดูที่นี่บ่อยๆ” เจ้าตัวโฆษณาระหว่างเดินนำอลันด์ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นบนสุด แม้จะเป็นชั้นโรงหนังหากคนก็ยังบางตา เท่าที่เห็นนอกจากพนักงานแล้วลูกค้าก็มีเพียงแค่เด็กหนุ่มนักดนตรีสองคนเท่านั้น ตั๋วก็ไม่ต้องยืนซื้อเดินเข้าไปนั่งรอในเล้าจ์สบายๆ พนักงานจะเดินมาบริการให้ถึงที่

ตาสีฟ้ากวาดมองไปรอบๆ ดูความเงียบสงบเกือบถึงขั้นวังเวง แลดูเป็นส่วนตัวแบบสุดๆ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมนักร้องหนุ่มสุดฮอตถึงชอบมาดูหนังที่นี่

นภเลือกภาพยนตร์อะนิเมชั่นซูเปอร์ฮีโร่จากค่ายการ์ตูนชื่อดังเสร็จก็จิ้มที่นั่งแบบเตียงใหญ่สำหรับผู้ชายสองคนนอนดูสบายๆ พนักงานสาวลอบมองนักร้องหนุ่มเป็นระยะพลางอมยิ้มหน้าแดง เธอรับบัตรเครดิตไปจัดการเพียงครู่เดียวก็กลับมาพร้อมสลิปและตั๋วหนังสองใบใส่ซองกระดาษอย่างดี พอนภเซ็นชื่อเสร็จเธอก็เอ่ยกล้าๆ กลัวๆ ขอลายเซ็นแม้รู้ว่าถ้าเรื่องนี้หลุดถึงหูผู้จัดการจะต้องโดนตำหนิถึงขั้นไล่ออกก็ตาม หากคนของประชาชนกลับไม่ถือสาฉีกยิ้มกว้างเซ็นลายเซ็นอีกแบบให้เธอใส่หลังซองตั๋วหนังไป

“นี่ถ้าไม่มีเหตุการณ์เมื่อกี้ผมคงลืมไปแล้วว่าพี่นภดังมากกก” เด็กแสบแกล้งลากเสียงยาว ร่างผอมบางเอนตัวพิงพนักโซฟาบุนวมนุ่มพลางดึงหมอนอิงทรงสี่เหลี่ยมมากอด หน้าขาวซับสีเลือดเล็กน้อยหลังได้จิบน้ำผลไม้เย็นๆ เข้าไป ตรงหน้ามีอาหารว่างแบบคอกเทลวางยั่วน้ำลาย

“อะไรกัน พี่ดูไม่มีออร่าขนาดนั้นเลยเหรอ”

“เปล่าครับ แค่เห็นจนชินแล้วเฉยๆ อีกอย่างก็เจอแต่ที่บ้าน ถ้าไม่นับตอนครั้งแรกที่พี่นภพาไปกินสเต๊กนี่ก็เป็นครั้งที่สองเองมั้งที่เรามากันแค่สองคน”

“เออเนอะ” นักร้องหนุ่มยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวเรียงเป็นระเบียบ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปคู่ตัวเองกับเด็กฝรั่ง “เดทครั้งที่สองทั้งที อย่างนี้ต้องอวดหน่อย”

“ถ้าวามางับหัวผมไม่ช่วยนะ”

“พี่วาไม่เล่นไอจีไม่รู้หรอกน่า” เด็กฝรั่งส่ายหัวให้กับความรั้นของคนแก่กว่า โดนจับเซ็นสัญญาทาสไปแล้วยังไม่เข็ดสงสัยต้องให้โดนตีนก่อนจริงๆ ถึงเลิกจะสำนึก

ระหว่างรอก็มีลูกค้าคนอื่นทยอยตามมา ถึงอย่างนั้นก็นับหัวได้ไม่เกินสองมือ แต่ละคนล้วนดูต้องการความเป็นส่วนตัวจึงไม่มีใครสนใจใครกันนัก

เมื่อใกล้เวลาฉายสองหนุ่มจึงเคลื่อนตัวจากเล้าจ์รับรองด้านหน้าเข้าไปในโรงหนัง มีพนักงานเดินไปส่งถึงที่ พอเห็นเตียงเด็กฝรั่งแทบจะถลาตัวเข้าไปนอน ร่างเล็กปีนขึ้นเตียงทั้งรองเท้าหนังดึงผ้าห่มคลี่ลวกๆ คลุมถึงปลายคาง สภาพพร้อมหลับจนคนมาด้วยถึงกับแซว

“ค่าตั๋วแพงนะเว้ย ห้ามหลับ”

“ไม่หลับหรอกน่า” เด็กฝรั่งงึมงำตอบอีกคนที่ล้มตัวลงนอนใกล้ๆ แต่นภไม่ได้ล้มนอนทั้งตัวเหมือนอลันด์ เขาเอาหมอนอิงใบเล็กๆ ซ้อนไว้ด้านหลังตะแคงตัวมาทางเด็กฝรั่งเล็กน้อยจนได้ท่าที่สบายตัวที่สุด

ตัวหนังสนุกสมกับชื่อค่ายผู้สร้างยักษ์ใหญ่ เพลงประกอบก็เพราะ มีเสียงระเบิดตูมตามเป็นระยะ ถึงอย่างนั้นเด็กหนุ่มตัวเล็กกลับเข้าสู่ห้วงนิทราตั้งแต่หนังเริ่มได้แค่ครึ่งชั่วโมง นภที่จดจ่ออยู่กับจอสกรีนตรงหน้าเพิ่งรู้ตัวก็ตอนที่เพื่อนอ่อนวัยซุกตัวเข้าหาเอามือขาวๆ ปลายนิ้วเย็นเฉียบจับท่อนแขนเขาไว้หวังไออุ่นนี่แหละ

นักร้องหนุ่มถึงกับหายใจสะดุดตอนก้มมองหน้าขาวใสแนบแก้มชิดผิวเนื้อเขาด้วยท่าทางไร้เดียงสา ขนาดเขาที่ไม่ได้ชอบผู้ชายมองอย่างไรก็เห็นแต่ความน่ารัก จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทิวากานต์ถึงหวงนักหวงหนา และเพื่อนเวรของเขาถึงได้ลงมือทำกระทำสิ่งเรียกตีนแบบนั้น

ปลายนิ้วหยาบอย่างคนเล่นดนตรีแตะแก้มนุ่มเกลี่ยเบาๆ กระซิบกับตัวเอง “จะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับให้นะ รับรองว่าจะไม่ฟ้องพี่วาว่าเรามาทำน่ารักใส่พี่แบบนี้ ไอ้ตัวแสบ”

อลันด์ถูกล้อไปตามระเบียบเมื่อออกจากโรงแล้วจำไม่ได้สักนิดว่าหนังที่ดูมีเนื้อเรื่องยังไงบ้าง หากเด็กหนุ่มยืนทำเฉยปล่อยให้นภแซวไปส่วนตัวเองก็มองหาร้านฝากท้องเย็นนี้

ร้านอาหารซีฟู้ดชื่อดังมีโลโก้สีแดงตัดปูก้ามใหญ่สีขาวถูกเลือกโดยนักร้องหนุ่มผู้อาสาเป็นเจ้ามือตลอดทริปเดท สั่งมาทั้งปลากะพงนึ่งมะนาว กุ้งอบวุ้นเส้น ผัดผักสี่สหาย และที่ขาดไม่ได้ถ้ามาร้านนี้คือปูผัดผงกะหรี่ที่อร่อยเสียจนสองหนุ่มตักน้ำซอสราดคลุกข้าวสวยร้อนๆ กินเปล่าไม่มีกับไปคนละจานสองจาน เด็กฝรั่งมีความสุขกับกินเสียจนถ้าทิวากานต์มาเห็นคงดีใจคะยั้นคะยอให้กินอีกเรื่อยๆ จนท้องแตกแน่

พอจบการกินตรงนี้นภก็พาเด็กฝรั่งเปลี่ยนบรรยากาศเงียบๆ เป็นส่วนตัวไปสู่ความวุ่นวายเล็กๆ ด้วยการไปหาของหวานต่อที่ร้านไอศกรีมผสมกับเบเกอรี่สไตล์ญี่ปุ่นอันเต็มไปด้วยนักเรียนและครอบครัวที่พาลูกหลานมาหาของกินนอกบ้าน

เสียงกรี๊ดเบาๆ ดังมาจากโต๊ะของเด็กนักเรียนคอนแวนต์โต๊ะหน้าติดทางเข้าร้านเมื่อเธอเห็นนักร้องหนุ่มขวัญใจเดินตามหลังพนักงานร้านมา

นภยิ้มฝืดๆ ให้เด็กหนุ่มเมื่อเก้าอี้ที่ถูกจัดให้ดันเป็นจุดที่มีคนเดินผ่านไปผ่านมาตลอดเวลาเนื่องด้วยตัวร้านตั้งอยู่บริเวณกลางลานเปิดโล่งมีเพียงรั้วขอบเตี้ยๆ กั้นพื้นที่เอาไว้เท่านั้น ชายหนุ่มเลือกนั่งชิดรั้วหันหลังให้ด้านนอก ก่อนมือใหญ่จะหยิบเอาหมวกแก็ปขึ้นสวมก่อนรับเมนูมาเปิด “ไอติมที่นี่อร่อยนะ ไม่หวานมากด้วย แคลอรี่น้อย รับรองว่ากินแล้วไม่อ้วน”

“วาจะดีใจกว่านี้ถ้าผมกินอะไรที่มันทำให้อ้วนขึ้นมาสักนิด” เด็กหนุ่มว่าติดตลก เขาเปิดดูซอฟต์ครีมผสมถ่านและชาเขียวจัดคู่มากับเค้กโรลแบบต่างๆ ในเมนู มีอยู่อันสะดุดตามากเพราะเป็นลายวัวเหมือนเจ้าเหมียวมิวมิวที่ลอนดอน และสุดท้ายนิ้วขาวจัดอย่างชาติตะวันตกก็จิ้มสั่งอันนี้ไป ส่วนนักร้องหนุ่มเลือกโรลสตรอเบอรี่สีชมพูหวานไม่เข้ากับหน้าตา

ระหว่างนั่งรอมีเด็กนักเรียนสาวใจกล้าสองคนเดินมาประชิดที่โต๊ะ ในมือถือสมุดโน้ตกับโทรศัพท์ติดแนบอก หน้าใสแดงจัดก่อนที่ใครคนหนึ่งจะเป็นหน่วยกล้าตายพูดขึ้นมาก่อน

“พี่นภใช่ไหมคะ พี่คะเชอร์เบทเป็นแฟนคลับพี่นภมาตั้งแต่ม. สาม คอนเสิร์ตครั้งที่แล้วก็ไปดู พี่นภเท่มากเลยค่ะ”

“ใช่ค่ะ เท่สุดๆ เลย” สาวน้อยเพื่อนรักขึ้นเป็นลูกคู่ ก่อนจะพากันกรี๊ดเมื่อนักร้องหนุ่มเงยหน้าส่งยิ้มให้พร้อมคำขอบคุณอย่างสุภาพ

“เชอร์เบทขอถ่ายรูปกับลายเซ็นได้ไหมคะ”

“ได้ครับ ไหนครับ ให้พี่เซ็นตรงไหน”

พอนักร้องหนุ่มอนุญาตสมุดโน้ตสีหวานจึงถูกยื่นมาแทบจะในทันทีพร้อมเสียงกรี๊ดด้วยความกระตือรือร้น “ตรงนี้ค่ะ”

“ให้น้องเชอร์เบทเนอะ เอ้า เสร็จแล้วครับ” เขายื่นสมุดคืนให้ แล้วก็รับของอีกคนมาทำเหมือนกันก่อนให้เด็กสาวเข้ามาถ่ายรูปข้างๆ ตอนสลับกันถ่ายคนละทีก็ไม่เท่าไหร่ แต่พออยากจะถ่ายคู่อลันด์ที่นั่งเท้าคางมองอยู่นานก็ถูกเด็กสาวไหว้วานจนได้

อลันด์รับสมาร์ทโฟนรุ่นเดียวกับที่เขาใช้มาถือไว้ในมือ ตั้งใจถ่ายให้สวยๆ รอบเดียวจบค่อยคืนพวกเธอไป สาวน้อยทั้งสองกล่าวขอบคุณพลางรับโทรศัพท์กลับ จนเมื่อมองหน้าคนที่ช่วยถ่ายรูปให้เต็มๆ ก็พากันหลุดกรี๊ดออกมาอีกรอบ

“นี่พี่แสบตัวจริงใช่ไหมคะเนี่ย ว้าย ตัวจริงน่ารักกว่าในรูปเยอะเลย”

เด็กหนุ่มพยักหน้ารับมึนๆ ว่าจะนั่งเงียบจนกว่าพวกเธอจะไปดันกลายเป็นเป้าเสียเอง เท้าใต้รองเท้าหนังเบอร์เจ็ดเตะหน้าแข้งคนฝั่งตรงข้ามไม่เบานักบอกให้นักร้องหนุ่มจัดการอะไรสักอย่างกับแฟนคลับสองคนนี้ที

“อืม...ไอติมมาแล้ว พี่ขอเวลาส่วนตัวกับเพื่อนหน่อยเนอะ”

ต้องขอบคุณไอศกรีมที่มาถูกเวลาช่วยให้สองสาวน้อยคอนแวนต์ยอมล่าถอยไปแต่โดยดี หากไม่วายก่อนจากยังมือเป็นรูปหัวใจบอกนักร้องหนุ่มกับเพื่อนฝรั่งคู่จิ้น เล่นเอาอลันด์หน้าม้านได้แต่กัดปากทำอะไรไม่ถูก

“ค่ะๆ ขอบคุณพี่นภกับพี่แสบมากนะคะ เชอร์เบทกับจุ๊บจิ๊บไม่รบกวนเวลาเดทของพี่สองคนแล้วค่ะ ขอให้มีความสุขกันมากๆ นะคะ ฮิฮิ”

อลันด์มองหน้านภอระอักกระอ่วน โชคดีที่พนักงานร้านนำไอศครีมใส่ถาดไม้ทรงสี่เหลี่ยมวางบนโต๊ะพอดี ฝ่ายเด็กฝรั่งจึงไม่พูดพร่ำทำเพลงรีบเลี่ยงสถานการณ์ชวนอึดอัดคว้าช้อนขึ้นตักซอฟต์ครีมสีเทาเข้าปาก ด้วยรสชาติไม่หวานจัดและออกกลิ่นเป็นนมจางๆ ทำให้มีคำที่สองต่อแทบจะในทันที

“บอกแล้วว่าอร่อย” นภยิ้มตาปิด เขานั่งเท้าแขนบนโต๊ะแกล้งโน้มตัวไปข้างหน้าจนใบหน้าห่างกันไม่มาก “ขอโทษนะ อึดอัดหรือเปล่า อุตส่าห์มาเดทกันสองคนแท้ๆ ดันมีคนมาขัดจนได้ บรรยากาศเสียหมดเลย”

“ช่างมันเถอะ พี่นภรีบกินดีกว่าเดี๋ยวติมละลาย”

“อืม แต่วันนี้พี่สนุกมากนะ ความจริงก็นานแล้วล่ะที่ไม่ได้เที่ยวเงียบๆ แบบนี้ ไว้เราแก้ตัวกันวันหลังเนอะ”

“หึหึ อยากเห็นพี่นภลองเดทกับวาสองต่อสองบ้างจัง เชื่อเลยว่าต้องมีคนมองตลอดทางแต่คงไม่มีใครกล้าเข้ามาทักสักคน” ฟังแล้วซุปตาร์ดังถึงกับกุมขมับผิดกับคนพูดที่ยิ้มจนตาหยี ให้เขา เดทกับทิวากานต์แทบไม่ต่างจากส่งเข้าหลักประหารเลยเหอะ

ตลอดเวลาที่นั่งอยู่ในร้านขนม นภรับรู้ตลอดว่ามีคนคอยถ่ายรูปเขากับอลันด์ไว้ เป็นพวกแฟนคลับหรือคนที่จำนักร้องหนุ่มได้นั่นแหละ แต่กับเด็กฝรั่งที่ไม่ใช่คนมีชื่อเสียงคงรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง หมวกแก็ปสีกรมจึงย้ายไปครอบผมสีช็อกโกแลตนมแทน ส่วนตัวเขาก็หยิบแว่นกันแดดขึ้นมาสวมทั้งที่อยู่ในอาคารแม้จะช่วยอะไรไม่ได้เลยก็ตาม

ใช้เวลาตั้งแต่ก้าวเข้ามานั่งไม่ถึงครึ่งชั่วโมงสองหนุ่มก็ลุกออกจากร้าน ตอนแรกนภว่าจะชวนอีกคนเดินซื้อของต่อ แต่พอเห็นกลุ่มเด็กนักเรียนกลุ่มใหม่เดินตามจึงตัดสินใจกลับทันที

“พี่นภไม่รู้สึกรำคาญหรือหงุดหงิดบ้างเหรอ พวกนี้มันละเมิดสิทธิส่วนบุคคลชัดๆ” เด็กหนุ่มว่าเข้าให้เมื่อขึ้นนั่งประจำที่บนรถมินิคาดเข็มขัดเรียบร้อย

“แรกๆ ก็มีบ้างหรอก แต่ทำไงได้ อยากเป็นคนสาธารณะเองต้องทำใจ ถ้าไม่มีเขาเราก็ไม่มีงาน อาชีพเรามันก็เหมือนหากินกับความชอบของคนนั่นแหละต้องทำให้เขารักเราดีกว่าเกลียดเรา ถึงบางทีเราจะอยากมาเงียบๆ เป็นส่วนตัว แต่ถ้าเขาขอมาจะปฏิเสธก็ลำบาก ยิ่งเดี๋ยวนี้คนเรามีสื่ออยู่ในมือการแพร่กระจายข่าวมันง่าย ทำพลาดครั้งเดียวหรือต่อให้มีคนเข้าใจผิดเอาไปเขียนป่าวประกาศเสียๆ หายๆ คนเขาก็จำฝังใจว่าเราเป็นอย่างนั้นไปกันหมดแล้ว”

เหมือนได้ระบายความอัดอั้นตันใจออกมา นักร้องหนุ่มรูปหล่อถึงพูดยาวเหยียดพลางไถใบหน้ากับพวงมาลัยรถ เพียงแป๊บเดียวก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้

“โฟกัสแค่งานเราไม่ได้หรือไง”

“การมีชื่อเสียงเท่ากับเป็นจุดสนใจ เราบังคับให้เขามองแค่งานเราไม่ได้หรอก มันต้องมีคนที่สนใจส่วนอื่นนอกจากงานบ้างแหละ เป็นคนดังต้องทำใจว่ะ”

“มีแต่ทางเลือกยากๆ นะ” ไม่ว่าจะเป็นนักร้องหรือนักธุรกิจ

“อย่างนั้นแหละ ถ้าง่ายคนอื่นเขาก็เป็นกันได้หมดโลกแล้ว” นักร้องหนุ่มทิ้งท้ายไว้อย่างน่าฟังและชวนให้คิดพร้อมตบท้ายด้วยรอยยิ้มหวานออดอ้อนแม่ยก แน่ล่ะว่าเอามาใช้กับอลันด์ไม่ได้ผลจนกว่าชายหนุ่มจะมีหน้าเหมือนทิวากานต์



TBC

เซอร์ไพรส์อีกแล้ว มาเร็วไหมคะ ฮ่าๆๆๆ
มาลงเนื่องในวันเด็กค่ะ ตอนนี้เลยมีแต่คุณหมอกิน เอ๊ย รักเด็ก #ผิดๆ
ความจริงกลัวพรุ่งนี้ไม่ว่างมาลงค่ะ ไม่ใช่อะไร แหะๆ

แอบสปอยล์ตอนหน้าด้วยรูปนี้ พร้อมแคปชั่น
'when ur girl is mad at u & u tell her to calm down'


น้องอัลตบพี่วาทำไม พี่วาทำอัลไลผิด
โปรดติดตามตอนต่อไปค่า

 :mew1:

ปล. สุขสันต์วัน(คนรัก)เด็กค่า

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
แสบเอ้ยยยย เด็กอะไรอ่อยเรี่ยราดไม่รู้ตัว

ตบหมอของเค้าทำไมมมมมมมมมม เดาๆ มันต้องเกี่ยวกับงานแต่งคราวนั้น นี่เราติดใจงานแต่งจริงๆ นะ 555555

ออฟไลน์ pim-lovemj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :L1: อยากเข้าสมาคมคนรักเด็กบ้างง่ะ แต่กลัวพี่วางับหัว
รอติดตามตอนต่อไปครัช

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
พี่วาต้องหึงเลือดขึ้นหน้าแน่ๆเลย

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เด็กแสบฟีโรโมนฟุ้งแบบนี้ชักจะหวงแทนหมอวาแล้วนะ

ออฟไลน์ DKTime

  • ขอบเขตความรู้สึกยิ่งใหญ่ ความเสียใจอาจแฝงไว้ในความเฉยชา....
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-2
    • https://twitter.com/UKnowJJTime_DK
ยิ่งอ่านยิ่งติด ต้องรวมเล่มนะ ต้องร่วมเล่ม!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ขอให้รักเด็กหลงเด็กคนนี้ไปนานๆนะหมอวา

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
เดี๋ยวหมอวาตามหึงตามหวงน้องแสบจนประสาทจะกินแน่ 555555+ ก็น้องน่ารักขนาดนี้ใครๆก็ชอบเนอะหมอวา  :hao3: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Mokuchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เด๊ะๆ เจ้าทาสนภ เดี๋ยวจะโดนมิใช่น้อย
ถ้าหมอวารู้นี่ ศพไม่สวยแน่นอน 55555  :hao3:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
น้องอัลวันนี้มีความผิดสองกระทงนะ 5555  แอบออเดอร์สินค้าและไปเดทกะชายอื่น

ออฟไลน์ Ryu7801

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
พี่นภไม่กลัวตาย เดี๋ยวหมอวาจัดให้ :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-4
มาตามอ่านหลายตอนเลย ช่วงนี้อัพไวชอบค่ะ 555

อืม อัลนี้เซ็กแอพพีลสูงมากเนอะ โดยเฉพาะกับผู้ชาย อีพี่นพ ตอนแรกก็สงสารนะแต่ตอนนี้ น่าหมั่นไส้มากอ่ะ น่าหาสามีให้นางสักคนเนอะ :laugh:
ตอนหน้าจะเป็นไงจะรออ่านนะคะ

ออฟไลน์ iammilk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ Jadeite

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ไล่อ่านมาจนทันตอนล่าสุดแล้วค่าาา
โอ้ยยยยย ชอบมากกกกกกกกกกกกกกก ชอบแบบไม่รู้จะพูดยังไง ชอบอลันด์ ชอบพี่วา โอ้ยยยย ชอบทุกตัวละครในเรื่องนี้เลยค่ะะ

พี่วานี่น่ารักมากกกกกก ถึงจะดูดุแต่แบบเป็นคนที่ดูอบอุ่นที่สุด ชอบผู้ชายแนวนี้จังเลยค่ะ เป็นผู้ชายในฝันเลย ชอบมาก

ส่วนน้องอลันด์ ชอบมากกกกกกกก นางกวน นางเจ้าเล่ห์ นางน่ารัก นางขี้อ้อนอีกด้วยยย โอ้ยย อยากจับฟัดๆๆๆ เหมือนแมวเลยค่ะ น่ารักมากกกกกกกกกกกกกก ไม่แปลกใจที่พี่วาหลงขนาดนี้

ว่าแต่ตอนนี้พี่นภชวนน้องอัลเดทแบบนี้ไม่กวนพี่วาหรอคะ 555555555 แต่เอ...สปอยล์ตอนหน้าพี่วาโดนตบแฮะ ทำอะไรให้น้อง
อัลโมโหกันคะเนี่ย รอดูกันต่อไปค่ะ
ขอติดตามเป็นแฟนคลับเรื่องนี้ เป็นแฟนคลับพี่วากับน้องอลันด์ด้วยนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ VarainDark

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ถ้าหมอวารู้ นพได้ตายแน่ๆ คึหึหึๆ

ออฟไลน์ LetGet

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนหน้าคืออะไร มาสปอยแบบนี้ เค้าอยากรู้!!  :katai1:  :katai1:  :hao5:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น้องอัลจะน่ารักไปไหน  แค่นี้พี่วาก็หลงจะแย่แล้ว

ออฟไลน์ san

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ meeoldly

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 24 [17.01.16]
«ตอบ #385 เมื่อ17-01-2016 14:26:07 »

TRACK 24



“ถ้าวาอธิบายไม่ได้ว่าชุดพยาบาลพวกนี้มาอยู่ในตู้เสื้อผ้าได้ยังไง ผมจะหนีไปนอนบ้านคุณตาไม่กลับมาที่นี่อีก!!!”

ประโยคข่มขู่จากเจ้าลูกแมวตัวกระเปี๊ยกเมื่อครู่ไม่ทำให้ศัลยแพทย์หนุ่มยืนหน้าซีดอ้าปากพะงาบๆ พูดอะไรไม่ออกได้เท่าตอนถูกโยนชุดนางพยาบาลกับถุงน่องดำพร้อมสายรัดใส่อกทันทีที่เปิดประตูห้องพักเข้ามา

ทิวากานต์พับคอมองชุดเจ้าปัญหาค่อยๆ ร่วงลงไปกองที่พื้นแทบรองเท้าหนังวัวคู่เก่งราวภาพสโลว์ หน้าขาวซีดเผือดไร้สีเลือดตอนเห็นของกลางเต็มตา คำว่า ‘เหยดแม่...’ ผุดขึ้นมาในหัวพร้อมๆ กับคำว่า ‘ซวยนรก’

หากกิริยาอย่างคนทำผิดแล้วถูกจับได้ยิ่งทำให้คนรักอ่อนวัยปรี๊ดแตกความดันพุ่งจนหน้าขาวแดงจัด อยากพุ่งเข้าไปทุบอกอีกคน เอาหัวโหม่งให้สมองเสื่อม อลันด์เสียงดังโวยวายลั่นห้องแบบไม่กลัวเพื่อนบ้านร้องเรียนใส่คุณหมอรูปหล่อรัวๆ “ไหนบอกว่าไม่ชอบพวกนางพยาบาล ไม่อยากยุ่งกับคนที่ทำงาน แต่นี่เสื้อผ้ามาครบ แถมยังซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าลึกสุดอีก บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าของใคร ซ่อนไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เคลียร์มีเลิก!”

ไม่เคยสักครั้งในชีวิตที่ผู้ชายหน้าดุจะหงอได้ขนาดนี้ถ้าไม่ใช่กับแม่ ทิวากานต์ยกหลังมือปาดเหงื่อบนหน้าผากสวย สาบานได้ว่าไม่เคยกลัวเมีย(เด็ก)แต่เกรงใจคนบ้านคุณตาถ้าเกิดเด็กแสบนี่จะหนีไปอาศัยที่นั่นจริงๆ “อัลจ๋าใจเย็นๆ ก่อน ฟังพี่ก่อน”

เจ้าเด็กตัวแสบสูงเท่าไหล่ฮึดฮัดกับตัวเอง “วาก็บอกมาสิว่านี่มันเสื้อผ้าใคร ถ้าวันนี้ผมไม่ไปบังเอิญเจอคงโง่ให้วาหลอกสวมเขาไปเรื่อยๆ ใช่ไหม” ตาสีฟ้าซีดจ้องคนรักเขม็ง อลันด์ยืนเท้าเอวรอทิวากานต์สารภาพพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงซุกกิ๊กด้วยความอดทน แต่ใจคิดถึงกีตาร์รุ่นในตำนานที่วางทิ้งไว้ในห้องนั่งเล่นแล้ว งานนี้ตอบไม่ถูกใจได้เอาเลือดหัวคุณหมอออกแน่ๆ

“แน่ใจนะว่าบังเอิญเจอไม่ได้แอบค้นห้องอ่ะ” พูดไปแล้วปิดปากตัวเองแทบไม่ทัน เขาลืมไปว่าตัวเองอยู่ในฐานะจำเลยไม่มีสิทธิถามกลับ ตาคมเหลือบมองคนตรงหน้ากล้าๆ กลัวๆ แล้วนึกอยากตบปากตัวเองสามครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายตาแดงคล้ายจะร้องไห้ ถามว่าตอนนี้ทิวากานต์กลัวอะไรมากที่สุดในโลกก็น้ำตาไอ้เด็กแสบนี่แหละที่ไม่อยากเห็น และต้นเหตุก็มาจากความสะเพร่าของเขาเองที่ไม่เก็บของให้ดีจนอลันด์ไปบังเอิญเจอ

ใช่...เรื่องมันเริ่มจากความบังเอิญแท้ๆ ไม่มีเผือกปนสักนิด



หลังจากวันที่ทำงานให้เอเดลมาร์เรียบร้อยอลันด์ได้ใช้ช่วงวันหยุดปิดเทอมไปกับการซ้อมดนตรีที่บ้านนภ ขลุกอยู่ห้องซ้อมใต้ดินกับนักร้องหนุ่มทุกวันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ด้วยเมื่อนภปิดเทอมนักร้องหนุ่มมีคิวออกทัวร์คอนเสิร์ตตั้งแต่ช่วงสิ้นปียาวไปถึงปีหน้าทำให้ไม่มีเวลามาเล่น(ดนตรี)ด้วยกันอีก

ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมคือเจ้าเด็กฝรั่งตัวแสบจะติดรถทิวากานต์ไปโรงพยาบาลคุณลุง ดีดกีตาร์ร้องเพลงหาเงินค่าขนมอย่างเคย เสร็จงานจึงกลับก่อนตามแต่จะไปไหน

วันแรกไม่มีอะไร เด็กแสบออกโรงพยาบาลมาก็มุ่งตรงไปบ้านนภซ้อมดนตรีรอคนรักมารับกลับ

เรื่องมันเกิดเอาวันที่สอง อลันด์ไม่มีธุระไปไหนต่อ นภก็ไปติวหนังสือกับเพื่อน เจ้าตัวเลยตรงกลับคอนโดหวังเปิดแอร์นอนเป่าพุงสบายใจ ตอนที่แท็กซี่เลี้ยวเข้าซอยเจ้าของห้อง 2111 เสียงข้อความเข้าเป็นคำสั่งจากคุณหมอที่รักบอกให้เขาเอาเสื้อผ้าที่ร้านซักรีดให้ด้วย

ปกติแล้วเรื่องเสื้อผ้าจะมีแม่บ้านที่คุณหมอจ้างไว้เป็นคนจัดการส่งซักรีดให้ แต่บางครั้งทิวากานต์จะเป็นคนส่งซักและรับขึ้นมาเอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชุดทำงานกับชุดไพรเวททั่วไป พวกชุดนอนกับชั้นในและถุงเท้าคุณหมอจะทำเองเท่าที่เวลาอำนวย ถ้าช่วงไหนไม่ว่างจริงๆ อย่างช่วงเป็นเรสซิเดนท์ดองไว้เป็นเดือนค่อยซักก็เคยมาแล้ว แต่วันนี้คงเห็นเจ้าตัวยุ่งอยู่ว่างๆ เลยใช้งานเสียเลย

ปากสีสดเบะออกหลังอ่านข้อความจบ ตาสีฟ้าซีดเหลือบมองกล่องใส่กีตาร์อันเบ่อเร้อของตัวเอง ดูท่าแล้วคงต้องเอาขึ้นไปเก็บก่อนแล้วค่อยลงมาเอาชุดที่ซักรีดให้คนรักอีกที

เมื่อถึงห้องเด็กฝรั่งจึงผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดเป็นเสื้อมีฮู้ดเนื้อนุ่มแขนยาวกับกางเกงขาสั้นเสมอเข่า ส่วนชุดที่ใส่แล้วจะเอาใส่ตะกร้าของตัวเองรอยกไปเทรวมกับที่ห้องนู้นให้แม่บ้านจัดการอีกที เขาเคยมีความคิดให้ทิวากานต์ใช้แม่บ้านคนเดียวกับเขาเป็นการตอบแทนที่ช่วยดูแลเขาให้อยู่เหมือนกัน แต่พอมานั่งคิดดีๆ แล้วว่าถ้าไม่อยากให้เรื่องคบกันไปถึงหูผู้ใหญ่โดยไม่ตั้งใจก็อย่าเลยดีกว่า เขายังไม่พร้อมเปิดตัวคนรักกับที่บ้านตอนนี้หรอกนะเดี๋ยวได้มีช็อคตาตั้งกันพอดี

ระหว่างพักให้หายเหนื่อย อลันด์เดินไปเปิดตู้เย็นรินนมใส่แก้วดื่มกินคู่กับธัญพืชอัดแท่งที่คุณหมอซื้อมาให้เจ้าตัวแสบไว้เป็นของว่างแต่เจ้าตัวดันเอามากินเป็นมื้อเที่ยงแบบง่ายๆ แทน ส่วนมืออีกข้างสไลด์หน้าจอโทรศัพท์อ่านข้อความจากโธมัส เจ้าหมาบ้าขนฟูสีทองนั่นกำลังจะสอบวิชาสุดท้ายเสร็จพร้อมขึ้นเครื่องบินมาหาเขาได้ทุกเมื่อ ดีใจน้ำตาแทบไหลที่อย่างน้อยปิดเทอมนี้ก็มีคนให้เล่นด้วย แม้มีลางสังหรณ์ว่าเขาจะต้องปวดหัวกับปัญหาล้านแปดที่ตามมาก็เหอะ

สักบ่ายโมงครึ่งเด็กฝรั่งตัวกระเปี๊ยกจึงลงไปเอาผ้าที่ซักรีดด้านล่างตามคำสั่ง อลันด์หิ้วเสื้อผ้าของทิวากานต์เข้าห้องด้วยความระมัดระวังไม่ให้ผ้ายับ

เห็นบ้านรวยเป็นคุณหนูแบบนี้ใช่ว่าจะทำอะไรไม่เป็น ต้องขอบคุณแด๊ดที่ส่งไปอยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่เด็กทำให้ได้ทักษะการใช้ชีวิตติดตัวมาเยอะทีเดียว แม้จะรีดผ้าไม่เก่ง ซักผ้าเองไม่ได้(แพ้ผงซักฟอก) ทำอาหารได้แค่ปิ้งขนมปัง ทอดไข่ดาว ชงกาแฟ(ตอนนี้มีสกิลปอกหัวหอมกับหั่นแครอทแล้วนะรู้หรือยัง) แต่เรื่องอื่นก็พอทำได้ถูไถอยู่บ้าง

เด็กฝรั่งตัวเท่าไหล่คุณหมอเอาหอบผ้าคนรักวางบนโซฟากะให้เจ้าของมาเก็บใส่ตู้เอง แต่พอนึกหน้าทิวากานต์กลับห้องมาเหนื่อยๆ ทำมื้อเย็นให้กิน ดูแลปรนนิบัติพัดวีเขาอย่างดีประหนึ่งเป็นเมียแก่รับใช้ผัวหนุ่มแล้วยังต้องมาเก็บเสื้อผ้าพวกนี้อีก อลันด์ในฐานะคนรักจะไม่ช่วยเบาแรงอีกฝ่ายเลยหรือไง

ตัดสินใจแน่วแน่แล้วจึงลุกขึ้นหอบเสื้อผ้าขึ้นชั้นบน จัดการเปิดตู้จับเรียงผ้าแขวนแยกประเภทไล่สีสวยงามประหนึ่งแม่บ้านมืออาชีพ ส่วนเนคไทจับม้วนใส่ลิ้นชัก ทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที

“Good job, Al! เก่งเหมือนกันนะเนี่ยเรา” ชมตัวเองพอเป็นพิธี เอามือขยี้หัวติ๊ต่างว่าเป็นทิวากานต์ทำให้ด้วยความเอ็นดูแล้วก็ยืมยิ้มเหมือนคนบ้าอยู่คนเดียว “where where is where where ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ช่วยจัดตู้ให้วาด้วยดีกว่า”

และไม่รู้คึกมาจากไหน จู่ๆ เด็กขี้เกียจทำงานบ้านก็อยากจะช่วยคนรักขึ้นมา เขาเริ่มรื้อตู้เสื้อผ้าที่เก็บเป็นระเบียบเรียบร้อยดีอยู่แล้วเอาออกมากองข้างนอก โดยเริ่มจากลิ้นชักเก็บชุดชั้นในเป็นที่แรก...

ไม่ได้ทะลึ่งหรือคิดอะไรลามกจริงๆ นะสาบานได้ แค่คุ้นๆ ว่าเคยเห็นคุณหมอโยนๆ ยัดๆ เก็บไม่เป็นระเบียบ เวลาจะใช้ต้องเสียเวลาคุ้ยอยู่นานสองนาน สู้ของเขาก็ไม่ได้มีแม่บ้านพับเก็บให้เรียบร้อยเลือกหยิบใช้ง่าย เห็นข้อแตกต่างไหม นั่นแหละเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องรื้อมาจัดใหม่ คิดในแง่ดีสิ นี่เขายังเป็นแค่เด็กอายุสิบแปดไร้เดียงสา(ที่ถูกทิวากานต์ทำให้ใจแตก)เองนะ

เด็กฝรั่งคุ้ยชุดชั้นในจนหมดตู้แล้วหยิบแต่ละอันมาพับวางเรียงเป็นแถว ทำไปปากอิ่มสีสดขยับมุบมิบบ่นทิวากานต์ไปเหมือนแม่บ้านแก่ๆ “ว่าแต่เราฟุ่มเฟือย วาก็ชอบซื้อของแพงใช่เหมือนกันนั่นแหละ กะแค่กางเกงในยังใช้อาร์มานี่ เสื้อทำงานก็ตัวตั้งสองสามพัน เข็มขัดเส้นละหมื่นกว่า ชิชะ”

แต่อลันด์คงลืมไปว่าตัวเองก็ใช้กางเกงในของเบอเบอร์รี่และทิวากานต์ไม่ได้ช้อปปิ้งบ่อยเท่าตัวเอง

แต่จัดไปจัดมา ทำไม... “มีถุงน่องได้เนี่ย nylons? What the f*ck?!”

อลันด์ใช้สองนิ้วคีบวัตถุตกสงสัยขึ้นส่องให้เห็นกันจะๆ ถุงน่องของผู้หญิงสีดำลายลูกไม้สุดเซ็กซี่พร้อมสายรัด ทำไมมาอยู่ในตู้ชุดชั้นในของชายโสดที่เพิ่งปลุกปล้ำกับผู้ชายด้วยกันไปเมื่อสัปดาห์ก่อน

“หรือกิ๊กเก่าจะลืมไว้” อลันด์พยายามสันนิษฐานในแง่ดีไปก่อน ทว่าตอนนั้นเองที่ตาสีฟ้าซีดเหลือบไปเห็นชายผ้าผืนหนาสีขาวแผล่มออกมาจากลิ้นชักชั้นล่างสุด แม้จะเริ่มสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้แต่เด็กฝรั่งก็ทำใจกล้าเอื้อมมือสั่นเทาออกไปหาวัตถุต้องสงสัยชิ้นที่สอง

“อืม...มาเป็นชุดนางพยาบาลเลย” หลังจับจ้องผ้าสีขาวผืนหนาพับเรียบร้อยวางอยู่ในนั้นแล้วรื้อออกมาดูก็นับได้ถึงสามตัว “แบบนี้ไม่ลืมแล้วมั้ง คนบ้าที่ไหนจะลืมชุดทำมาหากินได้ตั้งสามครั้งสามครา”

พูดไปหน้าขาวก็บูดเป็นตูดตามอารมณ์ไป ในสมองเริ่มทำการมโนแจ่มจงจินตนาการเกิดนิมิตขึ้นมาทันที

หนอยแน่ะคุณหมอตัวดี! แอบซุกกิ๊กไว้ลับหลังเขาเรอะ ไหนบอกไม่คบกับคนในที่ทำงานไง หรือว่าเป็นพยาบาลจากที่อื่น(เพราะชุดไม่คุ้น)เลยคบได้ แถมยังพากันมาหาความสำเริงสำราญกันถึงที่นี่ ทิ้งเสื้อผ้าไว้เป็นหลักฐานทิ่มลูกตา คงอาศัยช่วงที่เขาไปนอนบ้านคุณตาสินะ

ยิ่งคิดยิ่งโมโห มั่นใจว่าถ้าทิวากานต์อยู่ต่อหน้าคงถูกเจ้าเหมียวจับข่วนเสียโฉมแน่ๆ แต่ตอนนี้จำเลยตัวดียังไม่กลับมารับฟังข้อกล่าวหาอลันด์เลยจัดการขย้ำชุดคุณพยาบาลสีขาวสะอาดจนยับคามือ ร่างเล็กเดินกระแทกส้นเท้าลงไปด้านล่าง เกากีตาร์กล่อมตัวเองให้ใจเย็นแต่ทำอิท่าไหนไม่รู้ทำสายขาดไปสองตัวตัวละเส้น จนคุณหมอเปิดประตูกลับมาเจอระเบิดลูกโตอย่างที่อ่านไปแล้วก่อนหน้านั่นแหละ

“ว่าไง จะบอกไหมว่าชุดของใคร มาอยู่ในตู้วาได้ไง ซุกกิ๊กก็บอก จะได้เลิก!”

“ไปกันใหญ่แล้ว ไม่มีกิ๊ก ไม่เลิกอะไรทั้งนั้น ไม่ยอมให้เลิกด้วยเคยบอกแล้วไง” จำเลยตัวโตถอนหายใจ ก้มลงเก็บชุดนางพยาบาลกับถุงน่องสีดำลายลูกไม้สุดเซ็กซี่พร้อมสายรัดถือแนบไว้กับอก

“หรือจะบอกว่าของคุณแม่พี่วา” ถามโง่ๆ ออกไปทั้งที่หน้าเบะเตรียมปล่อยก็อกน้ำตาเต็มที่ถ้าทิวากานต์ยังไม่อธิบายอีก

“เอ่อะ ไม่ใช่ แม่ฉันไม่ชอบแต่งคอสเพลย์ เอ่อ... เฮ้ย อัลอย่าร้องนะ ไม่ร้องนะครับ ไม่ร้องน้า พี่ไม่ได้ซุกกิ๊กจริงๆ ก็ชุดนี้มันของอัล...” คำสารภาพท้ายประโยคเสียงเบาจนแทบต้องเงี่ยหูฟัง หากเด็กตัวแสบกลับได้ยินชัดเต็มสองรูหู น้ำตาที่กำลังไหลอาบแก้มหยุดกึกราวสั่งได้ “พี่สั่งตัดให้... อัล”

เดี๋ยวนะ... “ของ...เอ่อ...ผม สั่ง...ตัด...ด้วย”

ทิวากานต์ค่อยๆ เลื่อนสายตาขึ้นมองฝ้าเพดานข่มความอายก่อนเดินเข้าไปกอดอีกคน จับศีรษะทุยซุกกับหน้าอกตัดปัญหามองหน้าไม่ติด “อือ ฝากเพื่อนที่ญี่ปุ่นตัด แก้ตั้งหลายรอบกว่าจะได้ไซส์”

“เอิ่มมม... วา - ชอบ - แบบ - นี้ - เหรอ” เด็กตัวเท่าไหล่ผละตัวออกมา หยิบชุดนางพยาบาลอีกสองตัวบนพื้นขึ้นชูให้อีกฝ่ายเห็นเต็มสองตาแล้วเอาตัวหนึ่งมาทาบกับตัวเองตอนพูดคำว่า ‘นี้’ เอามาทาบแล้ววางทาบแล้ววางอยู่สองที “ชอบแบบนี้?”

นึกๆ ไปไม่กี่วันก่อนทิวากานต์กลับบ้านมาพร้อมกล่องพัสดุกล่องใหญ่ เอิ่ม... นั่นคงเป็นลังบรรจุชุดปัญหาพวกนี้สินะ

“ลองแบบแปลกๆ บ้างชีวิตจะได้ไม่จำเจไง”

“แค่มีเซ็กส์กับผู้ชายนี่ยังแปลกไม่พอ”

“โทษที พูดผิดไปหน่อย แบบว่าสร้างความตื่นเต้นน่ะ”

“มียาดมไหมขอสักหลอด ให้ตายเถอะวา ผมไม่ยักรู้ว่าคุณมีรสนิยมแบบนี้ กับคนอื่นก็ทำแบบนี้เหรอ? เอาชุดพยาบาลให้ใส่?”

“แค่หูแมวเท่านั้นแหละ อืม...ใส่หางด้วย”

ฟังแล้วลมจะขึ้น ทำไมผู้ชายรอบตัวเขาแต่ละคนไม่ค่อยจะปกติกันสักคน ให้ตายเถอะ ชอบสาวดุ้นทำไมไม่บอก มาลวงมาหลอกฉันเล่นทำไม!

“น่ารักดีออก อัลไม่คิดอย่างนั้นเหรอ” คุณหมอวัยสามสิบผู้มีรสนิยมแปลกประหลาดว่าหน้าตาย เหมือนความเขินอายก่อนหน้านั้นจะหายเกลี้ยงไม่มีเหลือเพราะย้ายมาอยู่กับอลันด์แทน “อัลลองใส่สิ พี่จะได้รู้ว่าพอดีไหม เราตัวเล็กลงอยู่เรื่อย สั่งแก้จนเพื่อนบ่นหูชา อ๊ะ! เดี๋ยวนะ รอนี่ก่อน ขาดวิกกับหมวก”

ศัลยแพทย์ตัวโตยัดชุดคอสเพลย์นางพยาบาลกับถุงน่องดำใส่แขนคนเด็กกว่าแล้วรีบวิ่งปรู้ดขึ้นไปบนห้อง ไม่ถึงนาทีก็กลับมาพร้อมกล่องกระดาษสีน้ำตาลอ่อนเรียบๆ หนึ่งใบ ซึ่งเปิดออกมาแล้วได้แต่ตาโตเพราะมีทั้งวิกผม หมวกนางพยาบาล หูแมว ปลอกคอห้อยกระดิ่งดังกรุ๋งกริ๋งทุกครั้งที่ขยับ!!!

“อ้ะ อัลไปลองเปลี่ยนมาให้พี่ดูหน่อย” เขายัดวิกสีเดียวกับผมบนหัวเด็กฝรั่งพร้อมหมวกนางพยาบาลใส่รวมไปกับเสื้อผ้าในอ้อมแขนเล็ก อลันด์ได้แต่ยืนอ้าปากค้างพูดไม่ออก แม้ตอนนี้จะถูกทิวากานต์รุนหลังให้เข้าไปในห้องน้ำก็มึนจนหมดแรงต้านทาน สุดท้ายเลยเข้ามายืนงงในห้องน้ำ สองแขนเต็มไปด้วยอุปกรณ์คอสเพลย์

เด็กหนุ่มหายเข้าไปเกือบครึ่งชั่วโมงจนคุณหมอต้องไปเคาะประตูถามว่ามีอะไรให้ช่วยไหมถึงยอมเปิดประตูออกมา ไม่รู้ทิวากานต์ไปวัดขนาดตัวเขาตอนไหนยังไง แต่ชุดนางพยาบาลนี่โคตรจะเป๊ะกับหุ่น(นมไม่มีคือไม่มีจริงๆ) เด็กหนุ่มยืนหนีบขา มือหนึ่งคอยดึงกระโปรงทรงสอบแสนสั้นไว้ตลอดเวลา อีกมือปัดวิกผมปลอมที่เคลียแก้มไปด้านหลัง แล้วถ้าถามว่าใครบ้ากว่ากัน อลันด์ขอเลือกตัวเองเป็นคำตอบสุดท้ายที่บ้าจี้ทำตามทิวากานต์นี่แหละ!!!

“น่าร้ากกก” หมอโรคจิตแทบจะกรีดร้องตอนเห็นหนุ่มลูกครึ่งในชุดนางฟ้าแห่งโรงพยาบาลขนาดพอดีตัว แม้อลันด์จะไม่ได้หน้าหวานหยดย้อยเหมือนผู้หญิง แต่ก็พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าน่ารักมาก

ทิวากานต์กระตุกยิ้มมุมปาก มือข้างหนึ่งแกะเนคไทออกมาก่อนตวัดอ้อมหลังคอเด็กหนุ่มรั้งให้อีกคนเข้ามาใกล้ๆ ภาพที่เคยวาดฝันไว้เป็นจริงก็คราวนี้ แม้จะผิดแผนไปหน่อยตรงที่ไม่ใช่คืนแรกระหว่างเขากับอลันด์ หากก็ไม่สำคัญตราบเท่าที่คนใส่ยังทำหน้าประดักประเดิดเขินอาย ท่าทางแบบนี้แหละที่น่ารังแกให้ร้องไห้เป็นที่สุด!

“วา... ไม่เอาแล้ว”

“ไม่เอาอะไร หืออัลอ่า...ทำไมน่ารักอย่างนี้นะ” เขาก้มหน้าแตะปลายจมูกเข้ากับของอีกฝ่ายถูไปมา เจ้าเด็กตัวแสบยืนเม้มปากนิ่ง แก้มใสขึ้นสีแดงจนกลัวจะมีไอร้อนพุ่งออกมา “แบบนี้ต้องจัดหนักเอาให้ร้องแง้ๆ เลยดีไหม”

“โรคจิตเหรอ”

“เคยไปตรวจแล้วหมอบอกว่าปกตินะ เขาบอกว่ามันเป็นรสนิยมส่วนตัว ถ้าไม่ทำให้เกิดปัญหากับการใช้ชีวิตประจำวันก็โอเค”

“เอ่อะ...” ฟังแล้วก็พูดไม่ออก ไม่รู้จะทำหน้ายังไงดีด้วย รู้แต่ไม่เคยอายเท่านี้มาก่อนในชีวิต อลันด์หลับหูหลับตาก้าวเท้าตามแต่ผ้าไหมสีน้ำเงินเส้นเล็กบนหลังคอจะนำไป ทุกครั้งที่ขยับต้นขาจะเสียดสีเข้ากับท่อนขาอีกคนใต้กางเกงแสล็ค ใบหน้าขาวร้อนผ่าวเมื่อส่วนกลางตัวคุณหมอที่กำลังบดเบียดบนหน้าท้องเขาแข็งขึ้นทุกที

ร่างสูงใหญ่ปัดหนังสือบนโต๊ะทำงานใต้บันไดออกไปข้างๆ อย่างไม่ใส่ใจนักก่อนขึ้นไปนั่งเอนหลังพิงผนังกระจกหลังผ้าม่านผืนหนา ฝ่ามือร้อนปล่อยปลายเนคไททิ้งแล้วเลื่อนลูบผ่านหน้าอกแบนราบลงไปถึงเอวเล็กขนาดยี่สิบสี่นิ้ว เล็กเหมือนผู้หญิงที่ใช้เพียงสองมือก็รวบได้หมด จับอุ้มให้เด็กหนุ่มตัวกระเปี๊ยกขึ้นนั่งคร่อมบนหน้าขากว้าง

คนถูกอุ้มตกใจเกือบร้องวี้ดออกมา หากมือทั้งสองไวเท่าความคิดรีบจับชายกระโปรงดึงรั้งไว้ก่อนมันจะถลกขึ้นเปิดให้เห็นอะไรต่อมิอะไรใต้นั้น แต่กลายเป็นว่าถูกทิวากานต์รวบเอวดึงเข้าไปชิดกว่าเดิมจนผิวเนื้อที่โผล่พ้นชั้นในกับถุงน่องสัมผัสเข้ากับผ้ากางเกงอีกคนให้รู้สึกแปลกๆ

ทิวากานต์ก้มหน้าแนบหน้าผากเข้ากับอีกคนก่อนแตะปากกับนางพยาบาลจำเป็นบนตัก ปลายนิ้วนุ่มนิ่มเหมือนผู้หญิงไต่เข้าใต้ชายกระโปรงลูบผิวเนื้อเนียนเบาๆ จับขอบชั้นในดึงลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปเรียกเลือดลมคนถูกถอดมากองบนใบหน้า ชักเข้าใจเหตุผลที่ทิวากานต์รอให้เขารักษาโรคหัวใจเสร็จก่อนก็ตอนนี้ ถ้าเป็นสักเมื่อสองเดือนก่อนมีหวังเขาหัวใจวายตายคาอกคุณหมอแน่!

ร่างเล็กถูกอุ้มก้นลอยพ้นหน้าขากว้างพร้อมกับชั้นในถูกดึงออกปลดปล่อยอวัยวะอ่อนนุ่มที่ถูกห่อหุ้มไว้ห้อยลงมา ทิวากานต์กระซิบบอกอีกฝ่ายให้ขยับร่างกายตามคำสั่งจนรูดชั้นในสีเข้มหลุดจากท่อนขาขาว แล้วเหวี่ยงมันทิ้งแถวพื้นหน้าโต๊ะทำงานไม่ใส่ใจอีก

“หน้าแดงขนาดนี้...ไม่สบายหรือเปล่าน้า”

น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ ไม่ต้องมีความสามารถพิเศษอ่านใจก็เดาได้ว่าคุณหมอกำลังคิดอะไรแผลงๆ อยู่ เด็กฝรั่งเม้มปากเป็นเส้นตรง ให้ตายก็จะไม่ตอบโต้อะไรให้เข้าตัว ปล่อยร่างกายให้คนแก่กว่าจัดการตามแต่จะพอใจ

เสียงครางผะแผ่วดังเป็นระลอกเมื่อมือนุ่มสัมผัสต้นขาด้านใน จับอวัยวะไวสัมผัสคลึงเคล้าตั้งแต่ด้านล่างขึ้นถึงส่วนปลาย ทำซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่เพียงไม่นานส่วนนั้นของคนเด็กกว่าจึงแข็งสู้มือ

ไหนบอกไม่ชอบเล้าโลม แล้วที่ทำอยู่นี่คืออะไร เด็กหนุ่มกรีดร้องในใจในขณะที่ปากจริงได้แต่อ้าออกน้อยๆ ครางเสียงแหบแทบไม่เป็นจังหวะ ทิวากานต์ใช้เวลาลูบไล้ส่วนนั้นอยู่นานจนคนถูกปรนเปรอแทบก้าวเท้าสู่สวรรค์อีกเพียงไม่กี่ก้าว ถ้าเป็นเวลาปกติคงไม่ใช้เวลารวดเร็วขนาดนี้ต้องบอกว่าชุดคอสเพลย์พวกนี้มีส่วนกระตุ้นเพิ่มความหรรษาในเพศรสจริงๆ

“อืม...อัล ชอบหรือเปล่า” ทิวากานต์ถามเสียงแตกพร่า ตาคมสีน้ำตาลเข้มจับจ้องใบหน้าน่ารักแดงจัดทั้งที่มือยังขยับทำงานด้านล่างไม่หยุด

“อะ อื้อ ชอบ ชอบมาก”

“เด็กดี” เขาป้อนจูบหวานๆ แทนของรางวัล ดึงลิ้นเกี่ยวพันกันในโพรงปากเล็กเหมือนจะสู้กัน

อลันด์หลุดครางเสียงหลงเมื่อรู้สึกเหมือนมีอะไรเฉอะแฉะสอดเข้ามาในร่างกาย สะโพกเล็กกระถดหนีได้แค่นิดเดียวสิ่งนั้นก็ขยับออกก่อนสอดเข้ามาอีกครั้ง ทำแบบนี้ช้าๆ อยู่สามสี่ทีก็สวนเข้ามาพรวดเดียวจนเอวกระเด้ง ตอนแรกนึกว่าเป็นของเล่นที่คุณหมอเตรียมไว้แต่พอมันขยับไต่ในร่างกายก็รู้ทันทีว่าเป็นนิ้วของอีกฝ่าย

ร่างเล็กสะดุ้งเป็นระยะเมื่อนิ้วซุกซนจี้ถูกจุด บางครั้งย้ำถี่เล่นเอาตัวลอย วี้ดเสียงหลงปล่อยน้ำลายไหลย้อยเปื้อนคางอย่างควบคุมไม่ได้ อวัยวะส่วนหน้าแข็งตึงพร้อมปล่อยความทรมานเพียงแค่คนขี้แกล้งจะปราณีลูบมันต่ออีกสักหน่อย หากทิวากานต์หยุดไว้ตรงนั้น ถอดมือทั้งสองข้างออกมากอดเอวบางไว้หลวมๆ อยากบอกอีกฝ่ายให้รักเขามากกว่านี้ ทว่าอับอายเกินจะร้องขอตาสีซีดจึงลืมขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาร้ายกาจหากยั่วเย้าเหลือเกินในความรู้สึกด้วยอารามขัดใจและเว้าวอนในที

“ไม่ไหวแล้วมั้งอัล หน้าแดงแจ๋เลย ตัวก็ร้อนๆ ทำไงดีนะ”

หัวทุยส่ายช้าๆ น้ำใสคลอตา ไม่ชอบความรู้สึกถูกทิ้งค้างเช่นนี้ อยากให้อีกฝ่ายเติมเต็มเขาด้วยความรักรุนแรงเหมือนค่ำคืนแรกที่สร้างร่วมกัน

“วะ ไหว... วา please... I really need you so bad. Don’t tease me”

“พูดสิ คุณหมอคะ หนูเป็นอะไรไม่รู้ คุณหมอช่วยฉีดยาหนูทีนะคะ”

ได้ยินน้ำเสียงชั่วร้ายพูดแล้วน้ำตาแทบไหลด้วยความอับอาย ถูกจับแต่งตัวเป็นผู้หญิงว่าแย่แล้วยังต้องเอ่ยคำร้องขอเหมือนนางเอกหนังเอวีแบบนั้นมันอับอายยิ่งกว่า

เขาส่ายหน้าปฏิเสธแม้รู้สึกวูบวาบไปทั่วท้องน้อย ปากอิ่มเม้มเข้าหากันอีกครั้งเมื่อสองมือของคุณหมอลูบช่วงเอวไปมา น้ำเสียงแหบพร่าพ่นคำพูดหยาบโลนคล้ายยั่วให้เขาสติแตก “หมอช่วยไม่ได้หรอกนะถ้าคุณพยาบาลปฏิเสธการรักษาแบบนี้... หมอรู้ว่าเธอกำลังทรมานและหมอช่วยเธอได้นะ ร้องขอสิ...บอกหมอให้ช่วย ไม่อยากหายเหรออัล แค่บอกว่าเธอต้องการฉัน อยากให้ฉันช่วย... ฉีดยาฉันสิคะ...ฉีดยาฉันแรงๆ

“No”

“Tell me what you want”

“No way”

อลันด์ได้ยินเสียงหัวเราะต่ำท่ามกลางเสียงหอบหายใจแรงของตัวเอง เขาผ่อนตัวลงนั่งบนตักทิวากานต์ ขยับส่วนล่างโล่งโจ้งใต้กระโปรงทรงสอบถูไถกับร่างกายอีกฝ่ายผ่านกางเกงแสลคเนื้อหนาหวังบรรเทาอาการปวดหน่วง

“แค่นี้พอเหรอ... หืม... I know isn’t enough”

“It’s OK”

“You’re not OK, trust and follow me”

“N... no! Wa stop trying tease me, please!”

“what’s you say, I’m not doing anything” ชายหนุ่มยกสองมือเสมอบ่า กดยิ้มมุมปากทำหน้าเจ้าเล่ห์ขณะที่บอกว่าไม่ได้ทำอะไรอีกคน หลักฐานก็เห็นๆ กันอยู่ “ฉันหยุดแล้วนะ แต่อัลเถอะเมื่อไหร่จะหยุดถูไอ้นั่นกับหน้าขาฉันสักที”

“F*ck!” ถูกด่าหยาบคายหากคุณหมอยังยิ้มหน้าระรื่น ในขณะที่อีกคนอารมณ์ยิ่งขึ้นแดงไปทั้งตัวหายใจแรง

ตาสองสีจ้องกันเงียบราวกับรอเวลาที่ใครจะหมดความอดทนก่อนกัน และเป็นคุณหมอตัวโตทำท่าขยับจะลุกเด็กฝรั่งถึงกับผวารีบกอดคออีกคนไว้แน่น หน้าขาวซุกกับซอกคออีกฝ่ายคล้ายจะไม่ยอมปล่อยไป

“เฮ้อ... อัล จะเอาไงแน่ หือ? เมื่อกี้พูดว่าไงนะ อะไรฟักๆ นะ ถ้าไม่อยากให้ทำก็ปล่อยสิจะไปอาบน้ำนอนแล้ว พรุ่งนี้ทำงานเช้านะ”

“...”

“อัล...”

“ฉะ...ฉีดยา”

“หืม ว่าอะไรนะ หมอไม่ได้ยินเลยครับ”

“ฉะ ฉีดยา...ก็ได้” พูดจบทิวากานต์ก็ได้ยินเสียงสูดลมหายใจดังฟืด “คุณหมอฉีดยาให้อัลทีนะ อัลไม่ไหวแล้ว”

เป็นโชคดีของศัลยแพทย์เจ้าเล่ห์ที่อลันด์กอดคอตัวเองไว้จนไม่เห็นรอยยิ้มสมใจน่าตบ ทิวากานต์แกล้งถามกลับว่าแน่ใจเหรอ เอาจริงอ่ะ อยู่สามสี่รอบจนเด็กฝรั่งตะโกนใส่หน้าเสียงดัง

“ก็บอกให้ฉีดยาให้ไงเล่า ทำมาเล่นตัวเดี๋ยวก็หนีไปให้หมอคนอื่นช่วยแทนซะเลยนี่!”

เท่านั้นคุณหมอก็จัดการจับนางพยาบาลจำเป็นฉีดยาเข็มแล้วเข็มเล่าคลอเสียงครางด้วยความเจ็บปวดผสมกับความพอใจค่อนคืน จากบนโต๊ะทำงาน ขึ้นไปบนบันได ต่อกันที่เตียงนอน โดยที่พร็อบประกอบบนร่างกายอลันด์ทุกชิ้นยังอยู่ครบถ้วน มีแต่ทิวากานต์ที่ปลดกระดุมเสื้อและถอดกางเกงออกให้เด็กหนุ่มฝากรอยเล็บทิ้งไว้บนหน้าอกจนถึงหน้าขา เรียกได้ว่าเอาคืนจากครั้งที่แล้วได้ครบถ้วน แต่ความอับอายครั้งนี้จะเก็บทบไปไว้ครั้งหน้า มั่นใจได้ว่าทิวากานต์ต้องอับอายไม่แพ้เขาในครั้งนี้แน่

.
.
.

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 24 [17.01.16]
«ตอบ #386 เมื่อ17-01-2016 14:32:42 »


เสียงโทรศัพท์บ้านกรีดร้องขึ้นท่ามกลางความเงียบและอากาศเย็นเฉียบจากแอร์คอนดิชั่น กองผ้านวมบนเตียง ขยับหยุกหยิกก่อนที่กลุ่มผมสีช็อกโกแลตนมจะโผล่ออกมาพร้อมท่อนแขนขาวเพรียว มือหยาบปัดป่ายไปทั่วจนจับวัตถุส่งเสียงรบกวนการนอนขึ้นมาได้แล้วดึงมันตามเข้าไปในผ้านวม อลันด์รับสายด้วยเสียงแหบแห้งจนตัวเองยังรู้สึก ไม่รู้เป็นเพราะเพิ่งตื่นหรือเพราะเมื่อคืนร้องมากไป

“Hello?”

‘สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นรีเชปชั่นของคอนโดนะคะ ขออนุญาตเรียนลูกบ้านห้อง 2111 ให้ทราบว่ามีแขกชาวต่างชาติสองท่านมาติดต่อขอพบค่ะ’

“อะแฮ่มๆ อ่า...ครับ ใครหรือครับ” เจ้าตัวกระแอมเล็กน้อย แต่เสียงก็ยังแหบอยู่ดีเลยปล่อยช่างแม่ง

‘สักครู่นะคะ’ อลันด์พาตัวเองตะกายขึ้นมาจากกองผ้าห่ม มือข้างหนึ่งขยี้ตาเบาๆ พลางอ้าปากหาวหวอดระหว่างรอคำตอบก่อนจะตาโตเท่าไข่ห่านเมื่อนามสกุลเพื่อนสองคนลอยเข้าหู ‘มิสเตอร์กริฟฟิธส์และมิสเตอร์สเปนเซอร์ค่ะ’

“Holy shit!!! Oops! So sorry” ไอ้ที่สะลึมสะลือเมื่อครู่กลายเป็นตื่นเต็มตา กระเด้งขึ้นมานั่งลืมดูสภาพบั้นเอวตัวเอง หลุดร้องโอ๊ยลอดหูโทรศัพท์ดังลั่น “บอกเขาทีว่ารอสิบนาทีเดี๋ยวผมลงไปรับ”

‘ได้ค่ะ’

อลันด์แทบเขวี้ยงหูโทรศัพท์คืนแป้น ร่างผอมกลิ้งลงจากเตียงสภาพล้มลุกคลุกคลาน พอลุกได้ก็รีบวิ่งเขย่งขาเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเองแบบเร่งด่วนทั้งที่ยังเจ็บสะโพกและก้นจากการเล่นเพลย์เป็นคุณหมอจอมหื่นกับพยาบาลสาว(?)ยั่วสวาทค่อนคืน บวกกับตอนตีสี่ทิวากานต์เกิดคึกขึ้นมาตั้งแต่ตื่นนอนจับเด็กฝรั่งหม่ำเป็นอาหารเช้าทั้งที่ตาสีฟ้ายังลืมไม่ขึ้นด้วยซ้ำ พอกินเสร็จหมอศัลย์โรคจิตต้องรีบออกไปทำงาน ปล่อยซากอาหารหมดแรงสลบคาเตียงไว้สภาพไหนสภาพนั้น ทิ้งอลันด์นอนล่อนจ้อนท่อนล่างเสื้อไม่ติดกระดุมตั้งแต่ตีสี่! ไม่เป็นหวัดไปก่อนก็บุญแค่ไหนแล้ว!!!

ยังดีว่าเมื่อเช้าคุณหมอใส่ถุงไม่ต้องเสียเวลามาล้วงมาล้างข้างล่างอีกรอบ เขาอาบน้ำสระผมถูสบู่จนมั่นใจว่าสะอาดเอี่ยม ก่อนวิ่งออกมาเช็ดตัวลวกๆ เลือกเสื้อแขนยาวมีฮู้ดรูดซิปปิดถึงคอกับกางเกงขาสั้นตัวหนึ่งใส่ได้ก็วิ่งหัวเปียกลงไปรับเพื่อนซี้ที่ล็อบบี้ด้านล่าง ทิ้งอุปกรณ์ประกอบกิจกรรมเล่นเพลย์เรี่ยราดไว้ทั่วห้องนอน กะไว้ว่าค่อยหาเวลาแอบมาเก็บไม่ก็พาเพื่อนไปที่อื่นจนกว่าทิวากานต์จะเลิกงานกลับมาจัดการเอง

โธมัสและเจมส์ยังคงดูดีระดับวัวตายควายล้มแม้จะใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงสามส่วนและรองเท้าแตะธรรมดามากถึงมากที่สุด แต่อลันด์แอบเทคะแนนให้เพื่อนซี้มากกว่าเพราะนับตั้งแต่รับจ๊อบเป็นนายแบบเจ้าตัวดูจะมีออร่าเซเลปฟุ้งกระจาย ผมสีทองที่เคยไว้ยาวถึงบ่าปล่อยตามมีตามเกิดก็ถูกตัดแต่งเป็นทรงวินเทจอันเดอร์คัตเหมือนทิวากานต์อย่างกับถอดแบบกันมา(และดูเหมือนจะสีเข้มขึ้นคงไปทำสีมาแน่ๆ) ถึงอย่างนั้นเจ้าหมาขนทองรูปหล่อตัวโตดูหงุดหงิดและปล่อยรังสีน่ากลัวออกมาระหว่างใช้ตาสีฟ้าเข้มตวัดมองเด็กตัวเปี๊ยกเขม็ง เล่นเอาเจ้าบ้านชะงักเท้าไม่กล้าเข้าไปหา

“สวัสดีอัล”

คนถูกเรียกหันไปมองตาสีเขียวๆ ของเจมส์ก่อนยกมือโบก อลันด์เดินห่อไหล่เข้าไปหาทั้งคู่เหมือนคนทำผิด เขากระแอมเรียกเสียงในคอสองสามทีแล้วทักกลับแหบแห้ง “หวัดดี”

“ รีบมากใช่ไหม หัวนายยังเปียกอยู่เลย”

“กลัวพวกนายรอนานน่ะ แบบว่าเพิ่งตื่น แล้ว...พวกนายมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่บอกก่อน ฉันเลยไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย”

“สอบเสร็จเมื่อเย็นก็ตีตั๋วมาเลย กะว่าจะเซอร์ไพรส์ไม่คิดว่าจะได้เจอเอง” อดีตกัปตันรักบี้กอดอกว่าเสียงเรียบ เขากดสายตาลงต่ำดูเพื่อนซี้ตั้งแต่หัวจรดเท้า “แอร์ที่ห้องเสียอีกหรือไงถึงต้องไปนอนห้องด็อกเตอร์วา”

“เฮ้...เดี๋ยวสิ พวกนายรู้ได้ไงว่าฉันไปนอนห้องเขา” เด็กหนุ่มถามเสียงตื่นพยายามทำตัวไม่ให้มีพิรุธแต่กลับกรอกตามองเจมส์ทีโธมัสที

เหมือนจะถามโง่ไปหน่อยหนุ่มผมทองจึงมีท่าทีจะกินหัวเสียให้ได้

“พวกฉันมาถึงนี่ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า โทรเข้ามือถือนายไม่ติด ให้รีเชปชั่นโทรขึ้นไปบนห้องนายก็ไม่มีคนรับ นึกว่านายหายตัวไปด้วยซ้ำ แต่เจมส์บอกให้ไปเก็บของที่โรงแรมก่อนเผื่อบางทีนายอาจจะยังไม่ตื่น ฉันโทรไปหาด็อกจะถามเรื่องนายเขาก็บอกนายว่ายังนอนอยู่ที่ห้องนั่นแหละ พอสิบเอ็ดโมงฉันกลับมาก็ยังเหมือนเดิมเลยลองให้เขาโทรเข้าห้องด็อกดูถึงได้รู้ไงล่ะว่านายไปสิงอยู่ห้องเขาตั้งแต่เมื่อคืน!”

โดนจับได้ขนาดนี้อลันด์ได้แต่ยืนสะอึกทำเป็นโมโหกลบเกลื่อน “ก็มือถือมันแบตหมด อีกอย่างฉันจะไปนอนห้องใครแล้วมันยังไงกันเล่า”

“ไม่อะไร แค่ได้รู้ว่านายกับด็อกสนิทกันดีนี่ ไปนอนด้วยกันกี่ครั้งแล้วล่ะ”

“ทอม!”

“เอาน่าๆ สนิทกันก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง อัลต้องอยู่ที่นี่อีกนาน จะมีเพื่อนสนิทเพิ่มบ้างจะเป็นไรไป” เป็นเจมส์ที่เอ่ยขัดขึ้นมาก่อนสองเพื่อนรักต่างไซส์จะตีกัน แน่นอนว่าโธมัสมีท่าทีฮึดฮัดแต่ยอมหุบปากมองหนุ่มโปโลทีมชาติยิ้มหวานดึงมือคนตัวเล็กสุดมาจับ “ฉันหิวแล้วไปหาอะไรกินกันดีกว่า อัลมีร้านอะไรแนะนำไหม ชักเบื่ออาหารไทยแบบในโรงแรม อยากลองใช้ชีวิตแบบคนพื้นที่บ้าง พาฉันไปหน่อยนะ”

“อ่า ได้ งั้นรอแป๊บนะ เดี๋ยวฉันขับรถพาเที่ยวเอง” อลันด์กระชากมือกลับหาตัวเนียนๆ เอามาเกาแก้มแก้เขินไม่ให้ดูเสียมารยาท เกือบลืมไปแล้วว่าเจมส์แอบชอบตัวเองอยู่ เห็นดีด้วยหน่อยทำเนียนหลอกจับเนื้อจับตัวอยู่เรื่อย

คนตัวเล็กสุดสั่งทั้งคู่ให้รออยู่ที่เดิมก่อนวิ่งขึ้นลิฟต์ไปเอากระเป๋าเงิน โทรศัพท์กับกุญแจรถ แล้วยังเปลี่ยนกางเกงเป็นขายาวทั้งที่เพิ่งใส่ตัวเดิมได้ไม่ถึงสิบนาทีดี

ลงมาอีกทีก็พาเพื่อนจากอังกฤษทั้งสองคนขึ้นรถขับพาไปหาร้านอาหารอร่อยๆ ที่ห้างเก่าไม่ไกลมหาวิทยาลัยเป็นมื้อเที่ยง เด็กลูกครึ่งแนะนำให้สองหนุ่มลองชิมก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่กินคู่กับซอสพริกรสหวานอมเปรี้ยวเป็นอันถูกอกถูกใจชาวต่างชาติแท้ๆ ทั้งคู่จนร้องขอจานสองกันเสียงดังลั่น แต่กระนั้นยังไม่พอเติมเต็มกระเพาะนักกีฬาตัวใหญ่ได้ เมนูผัดกะเพราไข่ดาวแบบเผ็ดน้อยจึงถูกเสิร์ฟเป็นจานถัดมา

โธมัสหน้าแดงแจ๋ตอนตักกะเพราคลุกข้าวมีไข่แดงเยิ้มๆ เข้าปากเคี้ยวตุ้ย อลันด์อมยิ้มมองหากระดาษทิชชูมาช่วยซับเหงื่อบนหน้าแล้วค่อยเอานิ้วเขี่ยเศษข้าวที่ติดเคราสีอ่อนให้

“เผ็ดแต่อร่อยมาก” หนุ่มฝรั่งที่ปัจจุบันมัดผมเป็นจุกไว้กลางศีรษะคอมเมนต์ เขาทำท่าจะสั่งเพิ่มอีกจานแต่โดนเบรกไว้เก็บท้องไปกินขนมหวานบ้าง

ตาสีซีดหันมามองดูเจมส์ หนุ่มนักกีฬาคนนี้มีสภาพไม่ต่างจากคนแรกเท่าไหร่ ปากบางสวยบวมเป่งและขึ้นสีจัด ดูท่าเผ็ดเอาเรื่องแต่เจ้าตัวไม่บ่นว่าอะไรสักคำเห็นยังกินเอร็ดอร่อย จะมีก็แต่ตาสีเขียวมรกตที่มองสบกลับมาสลับกับกระดาษทิชชูในมือคล้ายจะอ้อนให้อลันด์ทำเหมือนกับโธมัสบ้าง แล้วเรื่องอะไรที่อลันด์จะหาเรื่องใส่ตัวเพิ่มให้ปวดหัว มือเล็กแค่จับยัดทิชชูใส่มืออีกฝ่ายให้ไปเช็ดดูแลตัวเองตามมีตามเกิด

เสร็จจากตรงนี้คนตัวเล็กสุดก็พาทั้งคู่ไปเดินดูขนมหวานที่ชั้นล่าง โธมัสดูอารมณ์ดีขึ้นมากเมื่อเห็นอลันด์เอาอกเอาใจเขาด้วยการแนะนำให้ลองชิมขนมไทยหลายๆ อย่าง ทั้งลูกชุบ อาลัว ขนมตระกูลทอง ขนมชั้น กลีบลำดวน อื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าลองหมดทุกร้านที่เดินผ่าน สองมือหิ้วถุงขนมจนล้น

สักบ่ายสองอลันด์จึงชวนเพื่อนไปเดินเล่นที่ห้างใจกลางเมืองเป็นการย่อย ตอนแรกว่าจะให้กินมื้อเย็นกันที่นี่เลยแต่คิดไปคิดมาให้พวกนี้ได้ลองอาหารไทยแบบครอบครัวฝีมือทิวากานต์น่าจะดีกว่าจึงหยิบโทรศัพท์ที่ชาร์จไฟเรียบร้อยแล้วส่งข้อความไปบอกอีกฝ่าย

ระหว่างรอข้อความตอบกลับ อลันด์พาสองหน่อเดินเรื่อยเปื่อยก่อนไปจบที่ร้านน้ำแข็งไสสไตล์เกาหลีหวานเย็นสดชื่นถึงใจดับร้อนได้ดีนัก ทำเอาสองหนุ่มที่ใส่เสื้อกล้ามแทบร้องไห้ด้วยความดีใจ อากาศเมืองไทยไม่ปราณีฝรั่งตัวโตๆ มีพื้นที่ผิวหนังมากกว่าชาวบ้านสองคนเลย

“แน่ใจนะว่านี่ฤดูหนาวแล้ว โกหกกันชัดๆ” หนุ่มผมทองวิจารณ์ตรงไปตรงมา มือตักมะม่วงสุกผสมกับน้ำแข็งไสรสนมเข้าปากเคี้ยวแล้วทำหน้าเคลิ้ม “นอกจากโนมเยนแล้วก็มีไอ้นี่แหละที่ฉันรักมากที่สุด”

เด็กลูกครึ่งเงยหน้ามองคนพูดก่อนแค่นยิ้ม อดเห็นด้วยกับอีกคนไม่ได้แม้ว่าตอนนี้จะรู้สึกหนาวจนต้องห่อตัวกับเสื้อแขนยาว ไม่รู้แอร์ในร้านเย็นไปหรือเขากำลังไม่สบายกันแน่

“อัลหนาวเหรอ” คนถูกถามส่ายหัวพึมพำตอบกลับเสียงเบาว่านิดหน่อย แต่คนถามนิ่วหน้าไปแล้ว “หน้าซีดด้วยนะ ไม่สบายหรือเปล่า เสียงก็ไม่ค่อยมี แล้วฉันก็สังเกตมาสักพักแล้วว่านายเดินแปลกๆ เป็นอะไรหรือเปล่า”

“นั่นสิ นายตื่นซะเกือบเที่ยง ฉันจำได้นะว่านายไม่ใช่คนขี้เกียจนอนติดเตียง หรือว่าอาการโรคหัวใจนั่นไม่ค่อยดี ไปหาหมอไหม”

“ไม่ๆ ทุกอย่างโอเค แค่เพลีย แบบว่า...เมื่อคืนไม่ค่อยได้นอน มัวแต่ทำนู่นทำนี่รู้ตัวอีกทีก็จะเช้าแล้ว แถมตอนตื่นยังรีบลงไปหาพวกนายเลยเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย...กลิ้งตกเตียงน่ะ” คนตัวเล็กสุดทำเป็นพูดไปหัวเราะไปขณะมองโธมัสกลับไปจ้วงกินน้ำแข็งถ้วยใหญ่คนเดียวแทบไม่แบ่งใคร หันไปข้างๆ เจอเจมส์ยิ้มหวานมองมาด้วยสายเป็นห่วงก็ต้องรีบดึงสายตาหนีก่อนจะออกอาการเขินให้อีกคนจับได้ แต่ก่อนกัดกันแทบตายตอนนี้แค่มองหน้ายังรู้สึกเขิน ไม่ได้เขินแบบที่เป็นกับทิวากานต์แต่ออกแนววางตัวไม่ถูกมากกว่า

“แล้วตอนนี้อาการเป็นไงบ้าง ยังต้องไปหาหมออยู่หรือเปล่า” หนุ่มอังกฤษถามพลางลูบหลังมือขาวที่วางอยู่บนโต๊ะ อลันด์แอบเห็นโธมัสเหลือบมามองนิดหน่อยก่อนกลับไปสนใจน้ำแข็งไสต่อ

“ปกติดีแล้วล่ะ แต่หมอนัดเรื่อยๆ ก่อนปีใหม่ก็มีนัดอีก คงพักใหญ่เลยกว่าจะเดินทางไกลได้”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันมาหาเอง นี่นัดกับทอมไว้ว่าสอบเสร็จให้มาเจอกันที่ลอนดอนก่อนค่อยบินมาหานาย แต่หมอนั่นเป็นห่วงนายมากกว่าฉันเสียอีก ตอนแรกจะบินตรงจากมิวนิคมาก่อนด้วยซ้ำ”

หมอนั่นเงยหน้าขึ้นจากถ้วยน้ำแข็งไสใช้ตาสีฟ้าสวยมองเพื่อนสองคนคนละที “อยากรีบมาหาไง ตอนนั้นผิดสัญญาไปทีที่ไม่ได้อยู่ด้วยตอนผ่าตัด แต่ตอนนี้เห็นมีความสุขดีก็...โอเค๊”

“อ่า ขอบคุณ...ทั้งสองคนนั่นแหละ” เด็กหนุ่มลูกครึ่งอ้อมแอ้มบอก

อลันด์งับช้อนเงินเงาวับขณะลอบมองเพื่อนซี้กินน้ำแข็งไสเหมือนสูบ จู่ๆ ก็มีความคิดว่าถ้าบรรยากาศดูเป็นใจแบบนี้จะลองบอกความสัมพันธ์ระหว่างเขากับทิวากานต์ให้รู้ดีไหมนะ โธมัสคงโกรธเขานิดหน่อย แต่สู้บอกไปตอนนี้ดีกว่าเก็บไว้จนอีกฝ่ายมารู้อีกทีหลังน่าจะดีกว่า อีกอย่างอยู่ในที่สาธารณะอย่างนี้เพื่อนซี้เขาคงไม่กล้าอาละวาดหรอกมั้ง

“เอ่อ...ทอม ฉันมีเรื่องจะบอกล่ะ” พอตัดสินใจได้แล้วจึงทำเป็นหยั่งเชิงเรียกเพื่อนซี้ดู อีกฝ่ายก็เงยหน้าจากน้ำแข็งไสสุดรักขึ้นมาจ้องตา

“อะไรล่ะ”

“เอ่อ...” พอจะพูดดันพูดไม่ออกซะงั้น เด็กหนุ่มเอ่ออ่าอยู่นานจนเจ้าของคิ้วสีทองขมวดเข้าหากันบอกอารมณ์เจ้าตัวที่เริ่มขุ่นมัวจนอลันด์กลืนน้ำลายลงคอดังอึก

“ว่าไง มีอะไรก็พูดสิ อ้ำอึ้งไม่สมเป็นนายเลยนะ”

“คือว่าฉันกับวา... เอ่อจะช่วยกันทำอาหารเย็น ใช่ ฉันเป็นลูกมือเขาเสมอนั่นแหละ ชอบโดนใช้ให้ปลอกหอมน้ำตาไหลพรากทุกที เดี๋ยวนี้อัพเกรดได้หั่นแครอทแล้วนะ หั่นเป็นลูกเต๋าได้ด้วย อะเมซิ่งไหม”

“สำหรับคนที่ทำเป็นแค่ทอดไข่ดาวอย่างนายก็น่าแปลกใจอยู่ล่ะ” โธมัสให้ความเห็นเรียบๆ ก่อนพูดขึ้นมาอีกประโยค “จะเป็นอะไรไหมถ้าฉันจะสั่งไอ้นี่อีกสักถ้วย”

“เดี๋ยวก็ท้องเสียหรอก นายคงไม่อยากใช้วันหยุดปิดเทอมไปกับห้องน้ำใช่ไหมทอม” เจมส์ปราบเสียงเรียบ แม้ใจเขาอยากสั่งมาอีกถ้วยเหมือนกันก็ตาม

“นั่นดิ กินหรือสูบวะเนี่ย ไม่กลัวหุ่นสวยๆ จะเสียบ้างหรือไง เห็นว่าอาชีพนายแบบกำลังรุ่งไม่ใช่เหรอ” อลันด์แกล้งทำเป็นต่อยไปที่หน้าท้องขึ้นกล้ามแข็งเป็นลอนโชว์สัดส่วนชัดเจนผ่านเสื้อกล้ามสีขาวตัวบาง แค่สัมผัสเบาๆ ยังรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งอย่างเพศชายทะลักออกมาเต็มเปี่ยม

“แค่นี้ไม่สะเทือนหรอกน่า อัลอิจฉาหุ่นสวยๆ ของฉันล่ะสิ บอกแล้วว่าให้หัดเข้ายิมบ้างไม่ใช่เข้าแต่สตูดิโอ”

“ไม่ใช่พวกบ้ากล้ามสักหน่อย อ๊ะ วาส่งข้อความมา แป๊บนึงนะ วาบอกให้พวกเราช่วยกันซื้อของสดไปที่ห้องด้วย เดี๋ยวตอนเย็นเขากลับมาจะได้ทำเลย”

“ดีสิ ว่าแต่นายเคยจ่ายตลาดไหมเจมส์”

“คิดว่าเคยไหมล่ะ”

คุณชายนักกีฬาสบตากันเงียบๆ แล้วพร้อมใจกันหันมองคนตัวเล็กสุดในกลุ่ม รู้จักกันมาหลายปีทำไมจะไม่รู้ว่าคุณหนูของแท้ตั้งแต่เกิดสกิลงานบ้านงานครัวต่ำเตี้ยสุดก็คนตาสีฟ้าซีดนี่แหละ

“ไหงมองกันอย่างนั้นล่ะ ฉันบอกแล้วไงว่าอัพเกรดแล้ว เรื่องจ่ายตลาดน่ะจิ๊บๆ วาเทรนมาดี นี่เข็นรถตามตลอด รู้หมดแหละว่าใช้อะไรบ้าง” ทั้งที่บอกไปด้วยความมั่นใจแต่ไหงถึงได้สายตาไม่ไว้วางใจแบบนั้นกลับมา “เฮ้ๆ เชื่อใจกันหน่อยดิ๊ นี่ลูกมือเชฟวาเลยนะ ไม่อยากจะอวด”

“อ่านะ...จะพยายามเชื่อก็ได้” โธมัสพูดเสียงขึ้นจมูกก่อนหันไปหัวเราะกับเจมส์ ปล่อยให้ลูกมือเชฟวานั่งฮึดฮัดขัดใจคาดโทษสองหน่ออยู่คนเดียว เดี๋ยวเถอะจะโดนพริกยัดปาก!



เมนูที่ทิวากานต์หมายมั่นจะให้แขกต่างชาติจากเกาะอังกฤษเป็นอาหารบ้านๆ อย่างที่ทำกินกับอลันด์ทุกเย็นแต่มั่นใจได้ว่าตามโรงแรมชื่อดังไม่มีแนะนำให้นักท่องเที่ยวได้ลองหรอกเพราะง่ายเกินไป ใครๆ ก็ทำกินกัน มีทั้งผัดผักน้ำมันหอยพื้นๆ ไข่ตุ๋นฟักทอง ปลาทูทอดราดขิง หมูสามชั้นผักพริกขิง ต้มจับฉ่ายกะหล่ำปลี และปลาเก๋าต้มยำ

รายการอาหารยาวน่ากลัวจะกินกันไม่หมดด้วยเยอะกว่าปริมาณปกติถึงสามเท่า หากเมื่อนึกถึงขนาดตัวและกระเพาะของโธมัสและเจมส์ที่พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วหลายครั้ง อลันด์เชื่อว่าแค่นี้ไม่ทำให้นักกีฬาบ้าพลังอิ่มกันได้หรอก ตอนที่เข็นรถซื้อของกันจึงแอบหยิบไส้กรอกรมควันหนักหนึ่งกิโลติดมือมาด้วย

เกือบห้าโมงเย็นเด็กฝรั่งสามคนถึงฝ่าการจราจรอันติดขัดกลับมาถึงคอนโดมิเนียมย่านใจกลางธุรกิจของกรุงเทพได้สักที สองมือหิ้วของสดเดินพูดคุยกันมาตลอดทางตั้งแต่ลานจอดรถถึงชั้นที่ 21 ต้องขอบคุณพนักงานของห้างที่ช่วยให้คำแนะนำเลือกซื้อของ พวกเขาเลยได้ทุกอย่างสำหรับมื้อเย็นนี้ครบถ้วน รวมไปถึงข้าวสารหอมมะลิแท้ 100% ขนาดห้ากิโลกรัมบนบ่าโธมัส

“ให้ตายเถอะ ฉันรู้สึกเหมือนเป็นกรรมกรยังไงชอบกล ด็อกต้องหาเรื่องแกล้งกันแหงๆ ถึงให้ซื้อของเยอะแบบนี้” หนุ่มผมทองตาสีฟ้าเข้มบ่นเป็นหมีกินผึ้งตั้งแต่ลงจากรถ มองไปมองมาก็เหมือนกรรมกรแบกหามอย่างที่เจ้าตัวว่าจริงๆ เพียงแต่คงเป็นกรรมกรที่หล่อที่สุดในโลกก็เท่านั้น

“ใครใช้ให้พวกนายกินกันเยอะล่ะ ถ้ากินเหมือนที่คนปกติกินกันก็ไม่ต้องซื้อของเยอะขนาดนี้หรอก”

“เรามันวัยกำลังโตต้องใช้พลังงานเยอะนะอัล จะให้กินเท่าอาหารแมวหนึ่งซองอย่างนายได้ยังไงกัน”

“จะบอกว่าฉันหยุดโตแล้วงั้นสิ ใช่ไหมเจมส์?”

“ฉันยังไม่ได้พูดแบบนั้นสักคำ นายร้อนตัวไปเองนะ” เจมส์หัวเราะคิกใช้ตาสีมรกตมองคนเดินนำหน้าตัวเท่าอกด้วยความเอ็นดู อยากจะบอกว่าไม่ต้องโตแล้วตัวแค่นี้กำลังดี อุ้มง่ายน่ากอดสุดๆ

หนุ่มนักกีฬาหันมายิ้มสบตากันเงียบๆ อย่างรู้กันก่อนรีบสาวเท้าตามเจ้าถิ่นที่งอนเดินหนีไปแล้ว

“เราไม่ใช้ครัวห้องนายหรอกเหรอ” คนตัวโตสุดถามด้วยความสงสัยหลังเดินตามอลันด์มาหยุดที่ห้อง 2111 ฝั่งตรงข้าม

“เอ่อ... ครัวห้องวาดีกว่านะ ครัวที่ห้องฉันไม่ค่อยได้ใช้น่ะ อีกอย่างห้องวามีของครบกว่า” เจ้าตัวตอบอย่างนั้นก่อนจิ้มรหัสเข้าห้องเร็วๆ วิ่งตื๋อเอาถุงของสดไปวางบนโต๊ะกินข้าวแล้วตะโกนบอกให้เพื่อนเอาของไปไว้ในครัว ส่วนตัวเองก็วิ่งขึ้นไปบนห้องนอน จัดการล็อคประตูลงกลอนเรียบร้อยแล้วเริ่มจัดการเก็บกวาดอุปกรณ์ประกอบการเล่นรักเมื่อคืน

เพียงห้านาทีอลันด์ก็เดินหอบแฮ่กหน้าแดงลงมาจากชั้นบน ไม่รู้ว่าทิวากานต์เก็บกล่องใส่พวกบรรดาหูแมวต่างๆ ไปหรือยัง ก่อนพบคำตอบชวนเป็นลมล้มกลิ้งลงบันไดเมื่อเจอเพื่อนทั้งสองหยิบเอาที่คาดผมหูแมวมาสวมเล่นกันสนุกสนาน

จะบ้าตาย... “ทำอะไรกันน่ะ”

“อ้าวอัล ดูนี่ดิ น่ารักป่ะ” โธมัสที่สวมหูแมวสีส้มหันมาทำหน้าตาบ๊องแบ๊วใส่ คงน่ารักดีอยู่หรอกถ้าเปลี่ยนจากหนุ่มกล้ามล่ำหัวเกรียนเป็นสาวน้อยบอบบางสักคน

“ทุเรศลูกตามาก ถอดออกเหอะ”

“ร้ายกาจ” หนุ่มร่างยักษ์เบ้ปาก ไม่ยอมถอดหูแมวออกแถมยังหยิบสีดำจากในกล่องมาอันหนึ่งเดินตรงดิ่งมาหาอลันด์ “นายก็ใส่ด้วยสิ”

“ไม่เอาน่า แล้วนี่ไปเอามาจากไหน รื้อของวาเล่นเดี๋ยวก็โดนกินหัวหรอก”

“เห็นวางอยู่ใต้บันได ไม่ยักรู้ว่าด็อกมีรสนิยมแบบนี้แหะ ฮ่าๆๆ”

“ของมัมมี้วาล่ะมั้ง วาจะเอาหูแมวพวกนี้ไปทำอะไร ไม่ใช่พวกบ้าการ์ตูนสักหน่อย” อลันด์แก้ตัวแทนคนรักทั้งที่สิ่งที่โธมัสพูดมาล้วนเป็นความจริงทุกอย่าง

ร่างเล็กดิ้นปัดๆ ย่นคอหนีมือใหญ่ที่พยายามยัดเยียดหูแมวสีดำแม้จะถูกอีกฝ่ายจับล็อคคอแน่น แต่แล้วคนตัวบางแรงน้อยจะไปสู้อะไรกับอดีตกัปตันรักบี้ได้ เด็กหนุ่มหน้ายู่ตอนเห็นหูแมวบนหัวตัวเองผ่านเงาสะท้อนกระจกนึกดีใจที่ไม่ถูกรัดคอตายไปก่อน

“อา... ไอ - ซี” เจมส์ครางเบาๆ บนหัวสีน้ำตาลเข้มก็มีหูแมวสีเดียวกันประดับอยู่ กลายเป็นแก๊งแมวเหมียวสามตัวไปเสียได้

หลังเล่นกันจนพอใจแมวยุโรปสามตัวจึงไปช่วยกันเรียงของสดใส่ตู้เย็น ของแห้งวางบนชั้นตามที่เก็บ รอคุณหมอกลับมาจัดการมื้อเย็นให้

“ด็อกจะกลับมาถึงกี่โมงน่ะ”

“ถ้ารถไม่ติดก็สักหกโมงครึ่ง อย่าบอกนะว่าพวกนายหิวกันอีกแล้ว” อลันด์บ่นปอดแปด ตาสีฟ้าซีดมองเพื่อนตัวใหญ่เอือมๆ ทำไมเวลาเขากินเยอะไม่เห็นจะตัวยืดตัวใหญ่แบบนี้บ้าง มีแต่ออกข้างออกพุง ไม่ยุติธรรมที่สุด

“ถ้ามีขนมกินรองท้องไว้น่าจะดีกว่าไม่ใช่หรือไง ฉันบอกแล้วว่าเราอยู่ในช่วงกำลังโตน่ะ”

โธมัสให้เหตุผลได้น่าเอาเท้าไปยันสักที สุดท้ายก็พากันกระเตงลงไปหาซื้อขนมถุงกันที่ร้านสะดวกซื้อด้านล่างทั้งที่ยังมีหูแมวบนหัว เพราะโธมัสขู่ทุกคนห้ามถอดเด็ดขาดถ้าไม่อยากโดนอัดเข้ากับกำแพง รู้ทั้งรู้ว่าไอ้หมายักษ์พูดไปงั้นแต่ไม่มีใครกล้าเสี่ยงขัดใจ

สองหนุ่มผู้มาเยือนหอบเลย์รสชาติที่มีเฉพาะในไทยเต็มสองแขน ไม่นับรวมพวกขนมยี่ห้ออื่น ช็อกโกแลตแปรรูปแบบต่างๆ รวมไปถึงโคอาล่ามาร์ชกล่องใหญ่ ซื้อทีกะว่าตุนไว้กินถึงเดือนหน้าแต่เชื่อเหอะไม่พ้นพรุ่งนี้ก็หมดเกลี้ยง

หากแทนที่จะเดินกลับขึ้นห้องเลยเจมส์ออกไอเดียชวนทุกคนไปนั่งกินขนมตรงสระน้ำที่อลันด์กับทิวากานต์เคยลงไปเล่นมาแล้ว ดอกบัวชูช่ออวดดอกสวยทั้งที่ฟ้าใกล้มืดเต็มที ลมพัดโกรกเป็นระยะช่วยเด็กฝรั่งทั้งสามไม่ร้อนอบอ้าวจนเกินไป

“อากาศดีเนอะ” หนุ่มตาสีเขียวเปรยเบาๆ เอนร่างสูงใหญ่ลงนอนบนขอบปูน “ถ้ามีดนตรีสักหน่อยคงดีไม่น้อย”

“นั่นสินะ เดี๋ยวฉันขึ้นไปเอาแล้วกัน นายสองคนรอนี่ล่ะ” อลันด์พยักหน้าเห็นด้วยก่อนลุกขึ้น เขาหันไปมองเพื่อนซี้งงๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายลุกตาม

“เดี๋ยวไปช่วยยก”

“ฉันถือเองได้ นายอยู่นี่กับเจมส์เถอะ”

“จะไปด้วย” โธมัสตัดบทด้วยการเดินนำหน้าคนตัวเล็กกลับเข้าไปในตึก ทิ้งเจ้าถิ่นยืนถอดหายใจหน่ายๆ อลันด์สบตากับเจมส์คล้ายขอความเห็น พออีกคนบุ้ยคางบอกให้รีบตามอดีตกัปตันชมรมรักบี้ไป ร่างเล็กถึงยอมก้าวเท้าเดินตามแผ่นหลังกว้าง

สองเพื่อนรักต่างไซส์เดินเคียงกันออกมาจากลิฟต์เงียบๆ จนถึงโถงทางเดินระหว่างหน้าห้อง 2111 กับห้อง 2112 อลันด์ชะงักเท้ายืนนิ่งไปครู่นึกในใจว่าเก็บกีตาร์มาร์ติน รุ่น M36 ไว้ที่ห้องไหนแล้วค่อยยื่นนิ้วจิ้มรหัสปลดล็อคที่หน้าห้องตัวเอง “ไม่ต้องเข้ามาก็ได้นะ ฉันเข้าไปหยิบแป๊บเดียว” บอกแบบนั้นแล้วเดินเข้าห้องแต่เปิดประตูทิ้งไว้

ของที่ต้องการวางอยู่ในกล่องใต้บันได ร่างเล็กจึงย่อตัวนั่งคุกเข่าหยิบเพียงเครื่องดนตรีออกมา เมื่อได้ของที่ต้องการจึงปิดฝากล่องเรียบร้อย หากกำลังจะลุกขึ้นยืนเป็นอันต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำคุ้นหูดังไม่ไกลจากด้านหลัง

“ห้องสะอาดเหมือนไม่ค่อยได้ใช้งานเลยนะ”

“แม่บ้านเพิ่งมาทำความสะอาดไปเมื่อวาน แล้วแม่บ้านของคุณยายก็ทำงานเนี้ยบที่หนึ่งเลยล่ะ” คนตัวเล็กกว่าตอบไปตามจริง

“อืม...” โธมัสขยับศีรษะรับก่อนเอนไปทางขวา เขาใช้ดวงตาจับจ้องเพื่อนรักตัวเล็กด้วยความรู้สึกที่เอาคนถูกมองร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมา “มีอะไรอยากบอกฉันหรือเปล่าอัล”

จู่ๆ โธมัสก็โพล่งขึ้นมาท่ามกลางความสับสนของคนถูกถาม ตาสีฟ้าอ่อนซีดมองใบหน้าหล่อเหลากระพริบปริบคล้ายไม่เข้าใจในคำถาม หากประกายบางอย่างในนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มทำให้อาการวัวสันหลังหวะครอบคลุมร่างกายจนไม่กล้าสบสายตาอีกต่อไป

“หือ? ไม่นิ” เขาปฏิเสธเสียงสั่น แม้แต่มือที่จับกีตาร์ยังเกร็งจนรู้สึกเจ็บ อลันด์กลั้นหายใจก่อนหันไปเผชิญหน้ากับเพื่อน กำลังคิดว่าควรบอกเรื่องที่คบกับทิวากานต์ตอนนี้เลยดีไหม หากได้สบกับดวงตาสีฟ้าเข้มเป็นอันต้องหุบปากสนิท

“ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหมว่านายโกหกไม่เก่งเอาเสียเลย” โธมัสยกหลังมือแตะแก้มขาวไล้เบาๆ ลงมาถึงปลายคางมน “วันนี้ถ้าให้นับว่าตอนไหนที่นายพูดความจริงคงง่ายกว่า”

“นายกำลังหาเรื่องนะ ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ”

อลันด์เบี่ยงหน้าหนี ในหัวพยายามนึกหาทางหนีทีไล่ หากเพียงพริบตาที่เห็นดวงตาคู่สวยวาวโรจน์ขึ้นเด็กหนุ่มจำต้องรีบปล่อยเครื่องดนตรีสุดรักทิ้ง เสียงตึงดังขึ้นพร้อมๆ กับใช้สองมือดึงคอเสื้อตัวเองยื้อกับคนตัวใหญ่กว่าที่พุ่งเข้ามากระชากคอเข้าไปหา เสียงอึกอักหลุดลอดลำคอออกมาด้วยความลำบาก ไม่ว่าพยายามดิ้นให้ตัวเองหลุดจากการประทุษร้ายแค่ไหนโธมัสกลับไม่เขยื้อนแม้แต่น้อย

“เห็นฉันเป็นแค่หมาหน้าโง่หรือไง จะโกหกกันไปถึงไหนอัล!!!” โธมัสตะคอกเสียงดังพลางจับอีกฝ่ายเขย่าหัวสั่นหัวคลอน เท้าเล็กลอยจากพื้นเป็นช่วงๆ “นายนอนกับมันใช่ไหม นอนกับด็อกเตอร์วาใช่ไหม”

“ชะ อึก! ฉัน จะนอนกับใคร แล้วมันหนักหัวนายหรือไง! แค่กๆ”

อลันด์ไม่ตอบรับแต่ประโยคเมื่อครู่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ซ้ำยังเหมือนน้ำมันราดลงบนกองเพลิงให้คนฟังร้อนรนจนไม่อาจอยู่เฉยต่อไปได้ โธมัสดึงร่างเล็กชิดตัวก่อนก้มใบหน้าชิดใบหูเล็ก “เพราะนายเป็นของฉัน! นายเป็นของฉันไม่เข้าใจหรือไง!!!”

“ฉันเป็นของของฉันไม่ใช่ของใคร ฉันมีสิทธิเลือกคนที่จะขึ้นเตียงเองเว้ย”

โธมัสปล่อยมือออกจากคอเสื้อเพื่อนรักแทบจะทันที คนที่ได้อิสระอย่างไม่ทันตั้งตัวถึงกับสำลักอากาศ คู้ตัวไอค่อกแค่กหน้าแดงแจ๋

“ทำไมอัล ทำไมถึงนอนกับมันได้ทั้งที่ปฏิเสธฉันแทบตาย ทำไม! ทำไม!!” ตาสีฟ้าเข้มมองคนตรงหน้าด้วยความผิดหวัง

“ฉันคบกับเขา...สักพักแล้ว”

หนุ่มผมทองเม้มปากเน้นเมื่อได้ฟังคำตอบ นัยน์ตาสีสวยกรอกมองไปทั่วอย่างหาจุดโฟกัสไม่ได้ก่อนวกกลับมาจบยังอลันด์ที่ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเขาช้าๆ “ประชดฉันเหรอ”

“ฉันจะทำอย่างนั้นทำไม ไร้สาระ”

“แล้วทำไมถึงไม่ใช่ฉัน...หรือเจมส์ก็ได้”

สิ้นคำถามนั้นดวงตาต่างเฉดสองคู่จึงได้สบกันอีกครั้งท่ามกลางความอึดอัด ทั้งที่โธมัสอยากรู้คำตอบจากปากเพื่อนสนิทแทบขาดใจ หากอีกด้านหนึ่งกลับไม่ต้องการให้อลันด์พูดมันออกมา เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกลัวอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น กลัวถึงขั้นสั่นไปทั้งร่างอย่างควบคุมไม่ได้

“เพราะฉันไม่ได้รักนาย ไม่ได้รักเจมส์ แต่ฉันรักวา เรารักกัน นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงนอนกับเขาไม่ใช่กับนาย”



TBC

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์จากคนอ่านทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่นะคะ ยินดีที่ยังอยู่อ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน
พี่วากับน้องอัลมี FC เพิ่มขึ้นเรื่อยเลยโดยเฉพาะคุณหมอ
มีคนเดาถูกด้วยค่ะว่าพี่วาสั่งอะไรมาเล่นกะนุ้งอัล
พี่แกฝากมาบอกว่าไม่ได้โรคจิตนะแต่ใช้แค่เพื่อความสนุกบนเตียงเท่านั้น (ฮา)
เคยบอกไปหรือยังคะว่าเรื่องพระเอกเป็นโรคจิต นายเอกเป็น M เพื่อนนายเอกเป็น S และมีพระรองเป็นตัวประกอบ

และแล้วพ่อโกลเด้นสุดหล่อของเราก็กลับมาอีกครั้ง(พร้อมพระรองค่ะ)
คราวนี้ทอมจะทำอะไร เลือดจะสาดกระจายเต็มหน้าจอหรือไม่ อัลจะเอาตัวรอดได้อีกหรือไม่
โปรดติดตามตอนต่อไปค่า


โธมัสคนหล่อคัมแบค!!!

ออฟไลน์ iammilk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
โอ้ยยยยยยย หมอแซ่บบอกต่อด้วย แซ่บลืมมมม 555555
เคลียร์กะหมาตัวโตหัวทองให้ดีๆ นะนุ้งอัล สู้ๆๆๆๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด