♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- SPECIAL TRACK : พรหมลิขิต+แจ้งข่าว P. 25
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ไหนๆ นิยายใกล้จะจบแล้ว เลยสอบถามความสนใจรวมเล่มค่ะ

สนใจ
ไม่สนใจ
รวมก็ดี ไม่รวมก็ได้

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- SPECIAL TRACK : พรหมลิขิต+แจ้งข่าว P. 25  (อ่าน 269021 ครั้ง)

ออฟไลน์ misskimji

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0

ออฟไลน์ san

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
โล่งไปเปราะหนึ่งแล้ว ทางฝั่งพี่หมอผลตอบรับดีเกินคาด
ป้าๆคงคิดว่าความสุขของเขาก็คือความสุขของเราสินะ
ถึงจะยังไม่รู้ว่าทางครอบรัวหนูอัลจะรับได้หรือไม่
มันเป็นเรื่องของอนาคตล่ะนะ มีความสุขกับทุกวันนี้ก็พอ
พี่หมอวาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าหนูอัลคือครอบครัว
ไม่ว่าจะเป็นยังไงเราเป็นกำลังใจให้ทั้งคู่เหมือนเดิมจ้า
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่ะ

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 28 [12.02.16]
«ตอบ #483 เมื่อ12-02-2016 17:21:47 »

TRACK 28



เย็นนั้นทิวากานต์พาอลันด์หาข้าวกินที่ร้านอาหารใกล้ๆ คอนโด ไอ้ตัวแสบคงเห็นเขาซึมไปนิดหน่อยหลังจากไปเยี่ยมลุงเข้ม เจ้าตัวเลยอาสาขับน้องกบให้ตอนขากลับแถมยังแหกปากร้องเพลงเสียงดังลั่นรถ เล่นเอาคุณหมอปวดหัวตุ้บๆ อยากหาอะไรอุดปากซะเดี๋ยวนั้น

“เอ๊ะ! เมื่อเช้าวาลืมปิดไฟเหรอ” เดินเข้าห้องมาแล้วคิ้วสีน้ำตาลเข้มถึงกับขมวดเข้าหากัน เท้าเบอร์เจ็ดหยุดอยู่กับที่ไม่กล้าเข้าไปเลยถูกคนเดินตามหลังเตะก้น

“เกะกะขวางทาง เข้าไปได้แล้ว”

“เดี๋ยวสิวา!” คนตัวเท่าไหล่กระซิบเสียงสูง เขย่งปลายเท้าเอานิ้วชี้ทาบปิดริมฝีปากบาง “ไฟที่ห้องเปิดอยู่ล่ะ”

“เมื่อเช้าลืมปิดมั้ง” เขาว่าก่อนผลักอลันด์ให้เปิดทางแล้วเดินเข้าไปข้างใน โยนกุญแจรถใส่ชาม รองเท้าหนังสองคู่ถอดเก็บบนชั้นเรียบร้อย หากไอเย็นจากแอร์คอนดิชั่นพาลให้คุณหมอหนุ่มรูปหล่อขมวดคิ้วไปด้วยอีกคน ช่วงนี้เขามีเรื่องให้คิดมากจนถึงขั้นลืมปิดไฟปิดแอร์เลยเหรอวะ

“อ้าว ทำไมเพิ่งกลับกันมาล่ะ”

ดวงตาสองคู่เงยขึ้นมาตามเสียงถึงได้เห็นวิคเตอร์กำลังลากหมีพี่คริสลงมาจากชั้นบน เท่านั้นคิ้วที่ขยับเข้าหากันอยู่ถึงกับชนกันเป็นเส้นเดียว

“เข้ามาได้ไง มาทำไม ไม่ต้อนรับ ออกไป!”

“ห้องนี้เงินฉันซื้อ มาเที่ยวตรุษจีน ฉันจะอยู่ ไม่ไปไหนเฟ้ย”

“แต่ตอนนี้ห้องนี้เป็นชื่อผม ถ้าไม่อยากโดนข้อหาบุกรุกก็รีบๆ ออกไป แล้วปล่อยมือจากพี่คริสเดี๋ยวนี้นะ”

“หวงจังเว้ย หมีตัวนี้ฉันก็ซื้อให้หม่าม้าแกนะ!” วิคเตอร์กระทืบเท้าลงมาข้างล่างก่อนเอาตุ๊กตาหมีตัวโตนั่งบนโซฟาหน้าทีวี “อ้าว อลันด์ ว่าไงทำไมไปยืนแอบอยู่หลังวาอย่างนั้นล่ะ ไม่เจอกันตั้งนานโตขึ้นเยอะเลยนะ เอ๊ะ ตัวเล็กลงมากกว่าแหะ”

แหงล่ะ...ไม่ได้เจอกันเกือบปี ตอนที่เจอคราวนู้นเขากำลังอ้วนเป็นลูกหมูเลย แต่นับถือความจำของผู้ชายวัยครึ่งร้อยเลยแหะ

“หวัดดีฮะ” ทักไปแล้วจึงค่อยหันมาสบตากับคนรักว่าเอายังไงต่อ หากทิวากานต์ทำเหมือนวิคเตอร์ไม่มีตัวตนแล้วบอกให้เขาขึ้นไปเก็บของอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ ตาสีฟ้าเหลือบมองแขกไม่ได้รับเชิญแวบเดียวก่อนทำตามที่คนรักสั่ง สองพ่อลูกรอจนได้ยินเสียงปิดประตูห้องนอนถึงยอมเปิดปากทะเลาะกันอีกรอบ

“ย้ายมาอยู่ด้วยกันนานหรือยัง”

“สี่ห้าเดือนได้แล้วมั้ง”

“ฉันควรตกใจใช่ไหมที่ลูกชายเพลย์บอยผันตัวไปเป็นเกย์เนี่ย”

“นั่นก็เรื่องของคุณ” ฝ่ายลูกชายว่าเหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญ เขาเดินไปที่โต๊ะทำงานใต้บันไดถอดเนคไทพับวางไว้บนเก้าอี้ ตามด้วยกระเป๋าเงิน และโทรศัพท์ แขนเสื้อถูกรั้งขึ้นมากองบนข้อศอกลวกๆ ทำทุกอย่างเหมือนทุกวันคล้ายกับว่าการปรากฏตัวของบิดาผู้ให้กำเนิดไม่ใช่ที่ต้องใส่ใจ

“แล้วฉันจะว่าอะไรแกได้ นอกจากเป็นห่วงเท่านั้นแหละ”

“เป็นห่วงผิดเวลาไปหน่อยนะ คุณว่างั้นไหม”

“สำหรับคนเป็นพ่อแม่เขาห่วงลูกได้ตลอดนั่นแหละ”

“เก็บความหวังดีคุณไปเถอะ” ชายหนุ่มหมุนตัวเดินผ่านหน้าวิคเตอร์ไปยังห้องครัว เปิดตู้เย็นหยิบเบียร์ออกมาสองกระป๋องก่อนโยนให้คนเป็นพ่อ เขารับมาแบบงงๆ ก่อนเปิดฝายกซด

“ปากร้ายแต่ใจดีนะเนี่ยลูกชายฉัน” นักแสดงชื่อดังยิ้มกริ่ม เขาเขยิบตัวไปนั่งเบียดพี่คริสให้มีที่พอสำหรับลูกชายตัวโตมานั่งข้างๆ แต่กลับถูกทิวากานต์ขมวดคิ้วใส่ก่อนเดินไปนั่งที่โซฟาเดี่ยวอีกตัวแทน “แต่ยังเย็นชากับพ่อมันเหมือนเดิม”

“แล้วที่บอกมาเที่ยวตรุษจีนนี่คืออะไร บอกไว้ก่อนนะว่าที่นี่ไม่ใช่โรงแรม ผมต้องการความเป็นส่วนตัวกับแฟน

“เต็มปากเต็มคำนะ ฉันนอนห้องหม่าม้าแกก็ได้ไม่รบกวนอะไรมากหรอก ไม่ใช้เตียงซะบ้างเดี๋ยวพัง” บางทีวิคเตอร์คงจำสลับกันระหว่างเครื่องใช้ไฟฟ้ากับเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน

“กี่วัน”

“สามสี่วัน เสร็จธุระก็ไป”

“เช่น?”

“ซื้อของ ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้เมีย แจกซองแดงแล้วก็เที่ยวไง”

ฟังแล้วคนลูกถึงกับมองบน เขาหยิบรีโมทมาเปิดทีวีดูรายการข่าวภาคค่ำแทนการบอกตัดบทสนทนา ไม่ถึงสิบนาทีเด็กผมหัวสีอ่อนสวมชุดนอนสีเข้มก็เดินกระหย่องกระเหย่งหอบการบ้านลงมาจากชั้นบน วิคเตอร์หันไปเจอพอดีเลยเรียกให้มานั่งด้วยกันแทนที่จะไปทำงานบนโต๊ะหนังสือ

“เรียนอะไรอยู่ฮึ แล้วเรียนอยู่ชั้นไหนแล้ว”

“เรียนไฟแนนซ์ปีแรกครับ”

“อ๋อ เข้ามหาลัยแล้วนี่เอง มิน่าอาถึงไม่เห็นเธอใส่ชุดนักเรียนน่ารักๆ เลย ยี่สิบหรือยัง”

“จะสิบเก้าสิ้นเดือนนี้ครับ”

ได้ยินอายุแฟนลูกชายแล้วคุณพ่อรูปหล่อถึงกับอ้าปากค้างหันไปมองไอ้คนเอาขาตัวเองไปเสี่ยงตะรางคดีพรากผู้เยาว์ ถึงสิบเก้าจะไม่เด็กแล้วและเขากับคนรักก็มีลูกตอนอายุประมาณเท่านี้ แต่ว่า... “ฉันไม่ยักรู้ว่าแกชอบเด็ก”

“แล้วจำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องไหมล่ะ อัล...พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ ถ้าตาลุงนี่ถามอะไรก็ไม่ต้องตอบพูดอะไรไม่ต้องฟังนะ”

“อื้อ” เด็กหนุ่มอมยิ้มแล้วค่อยก้มหน้าทำการบ้านต่อ ลับหลังทิวากานต์ได้ไม่เท่าไหร่คนพ่อจึงเริ่มพูดไปเรื่อยเปื่อย เห็นเขานิ่งไม่ตอบโต้ก็แซะว่าเชื่อฟังกันดีเหลือเกิน สักพักเหนื่อยถึงยอมหยุดปากไปเอง

“แล้วเรื่องดนตรีเป็นไงบ้าง เห็นนภบอกว่าไปซ้อมเรื่อยๆ เลยนิใช่ไหม”

“ครับ” เมื่อถูกคุยเรื่องดนตรีเลยตอบไปแบบไม่รู้ตัว

“ขยันดีจัง ทั้งเรียน ทั้งเล่นดนตรี ฉันได้ดูคลิปที่เธอร้องเพลงหลายอันเลยล่ะ เก่งมากจริงๆ”

“ขอบคุณครับ”

“สนใจทำอัลบั้มไหม ฉันช่วยได้นะ ฉันมีเพื่อนเป็นโปรดิวเซอร์เก่งๆ เยอะเลย ทั้งจีน เกาหลี อเมริกา เห็นอย่างนี้แต่ฉันก็เคยออกอัลบั้มมาก่อนเหมือนกันนะเว้ย”

“ฮ่าๆ ผมเคยฟังล่ะ พี่นภเปิดให้ดู ผมดีใจนะที่คุณอาสาเรื่องนี้แต่พอดีผมมีสัญญากับเพื่อนโปรดิวเซอร์ที่อังกฤษไว้แล้วล่ะ”

“หมายถึงสัญญา license หรือ promise”

“promise สัญญาปากเปล่าน่ะ ปีเตอร์เป็นโปรดิวเซอร์ของ BBC เขาบอกว่ารอผมเรียนจบได้ นี่แป๊บเดียวก็ผ่านมาจะปีแล้ว อีกแค่สามปีก็ไม่เท่าไหร่หรอก ช่วงนี้ผมจะยิ่งขัดฝีมือให้ดีกว่าเดิมไม่ให้ปีเตอร์เสียใจที่ตัดสินใจรอ”

“นักร้องเนี่ยเป็นเป้าหมายสูงสุดในชีวิตเลยใช่ไหม”

“มันคือความฝันที่อยู่กับผมมาตั้งแต่เด็ก”

“แล้ว...” เด็กหนุ่มหันไปสบตากับพ่อของคนรักที่ทำเสียงมีเล่ห์นัย ดวงตาแบบเดียวกันกับลูกชายหรี่มองมาที่เขาอย่างไม่ค่อยน่าไว้ใจนัก “ถ้าระหว่างความฝันกับความรักมันไปด้วยกันไม่ได้ เธอจะเลือกอันไหนดีล่ะหนุ่มน้อย”

“...”

“ฉันแค่ล้อเล่นน่า อย่าทำหน้าตาน่ากลัวอย่างนั้นสิฉันกลัวนะ”

วิคเตอร์ทำเสียงหัวเราะตลกๆ ออกมาแต่บรรยากาศในห้องไม่ได้ดีขึ้นสักนิด หากนักแสดงชื่อดังคิดไว้แล้วว่าคงต้องเป็นอย่างนี้เขาจึงหยุดทำเสียงประหลาดๆ แล้วเหยียดริมปากยิ้มเยาะ กระนั้นอลันด์กลับคิดว่าวิคเตอร์ทำแบบนั้นให้ตัวเองมากกว่า

“บางทีนะ... ทั้งที่เราคิดว่ามันเป็นเรื่องของเราแต่สุดท้ายคนที่ตัดสินใจกลับไม่ใช่เรา ไม่ยุติธรรมเลยใช่ไหมล่ะ”

“ถ้ามันเรื่องของเราก็ต้องเป็นเราที่ต้องตัดสินใจเลือกไม่ใช่เหรอครับ”

“แล้วถ้าเป็นเรื่องของคนสองคนล่ะ”

เจอย้อนแบบนี้อลันด์เองก็ไปไม่เป็น แต่ความคิดอ่านกับประสบการณ์ชีวิตของเด็กอายุสิบแปดยังไงก็ไม่เท่ากับคนอายุห้าสิบอยู่แล้ว ผมสีน้ำตาลเข้มสะบัดเบาๆ ตามแรงเหวี่ยงของศีรษะ

“วาเคยบอกไหมว่าทำไมถึงมาเป็นหมอหัวใจ”

“เพราะรวย” เจ้าตัวยังจำช่วงเวลาที่เขากับทิวากานต์คุยกันเรื่องนี้ที่กลาสตันเบอรี่ได้ดี มีอย่างที่ไหนหมอบอกว่ามาเป็นหมอเพราะรวย ขวานฝ่าซากสุดๆ

“ฮ่าๆ งั้นเหรอ” วิคเตอร์หัวเราะชอบอกชอบใจ ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะหยุดได้ “แต่ความจริงน่ะนะ เพราะคนรักของฉัน หม่าม้าของวาน่ะเขาเป็นโรคหัวใจ”

ตาสีฟ้าซีดเงยหน้าจากการะดาษรายงานมองหน้าคนพูดทันที ทิวากานต์ไม่เคยบอกและเขาไม่เคยถาม เขานึกมาตลอดว่าที่เจ้าตัวทำงานหนักทุกวันนี้เพียงเพื่อเงินอย่างที่เคยบอกจริงๆ แต่ไม่คิดว่า...

“รู้ว่าเป็นตอนวามันสิบห้าพอดี ตอนนั้นมันเลยไปขอให้โบช่วยติวให้จนติดหมอตอนสิบหก ทั้งๆ ที่เคยมีความฝันอยากทำอย่างอื่นแท้ๆ เมียฉันพูดเกลี่ยกล่อมยังไงก็ไม่ฟัง บอกแต่ว่าวาจะเลือกทางนี้และวามีความสุขดีที่ได้เลือก วารักหม่าม้ามากที่สุดในโลก เพราะฉะนั้นถ้าทำอะไรเพื่อหม่าม้าได้วาก็จะทำ”

ไม่รู้ว่าความหนักอึ้งในหัวใจมาจากไหน แต่อลันด์รู้สึกได้ว่าความมุ่งมั่นของทิวากานต์ต่ออาชีพที่ทำอยู่แรงกล้ากว่าความฝันที่อยากเป็นนักร้องของเขาเสียอีก

.
.
.

วิคเตอร์มาไหว้ตรุษจีนจริงตามปากว่า วันถัดมาซึ่งเป็นวันจ่ายดาราดังก็ตื่นแต่เช้าไปเยาวราชซื้อของสำหรับไหว้มาเต็มบ้าน เดือดร้อนทิวากานต์กับอลันด์ต้องมาเป็นลูกมือช่วยเตรียมของ แล้วระดับนี้ไม่มีความคิดจะซื้อของสำเร็จหรอก ต้มไก่ต้มเป็ดนี่ต้มเองหมด ยังดีพวกขนมเทียนขนมเข่งนี่ซื้อเอา

ทั้งผัดหมี่ ต้มจับฉ่าย ต้มไก่ ต้มเป็ดพะโล้ ต้มหมูสามชั้น และกับข้าวอื่นๆ อีกหลายอย่างล้วนรังสรรค์ผ่านฝีมือหมอผ่าตัดที่ใช้มีดเก่งเป็นส่วนใหญ่ อลันด์มีหน้าที่ช่วยล้างผักเตรียมของจะคอยแอบลอบมองคนรักในชุดผ้ากันเปื้อนบ่อยๆ นี่ถ้าทิวากานต์หน้าตามีอายุสักหน่อยเขาจะส่งไปแคสต์ติ้งบทคุณหมอฮันนิบาลแข่งกับพี่แมดส์ มิคเคิลเซนที่ช่อง NBC ซะเลย

กว่าจะเตรียมของเสร็จคืนนั้นเกือบเที่ยงคืน พอถึงวันไหว้วิคเตอร์ก็ลุกมาจัดของเตรียมไหว้ตั้งแต่ตีสาม ทิวากานต์ตื่นมาอาบน้ำตอนตีสี่เห็นคนพ่อกำลังไหว้เจ้าที่ประหลกๆ

ตีสี่ครึ่งเป็นคิวเด็กฝรั่งตื่นไปอาบน้ำ ผ่านไปครึ่งชั่วโมงอลันด์ที่ไม่มีเชื้อจีนสักเสี้ยวแต่ถูกวิคเตอร์บังคับจึงแต่งตัวเรียบร้อยมานั่งคุกเข่าถือธูปอยู่หน้าป้ายวิญญาณบรรพบุรุษ(ไม่รู้วิคเตอร์ไปเอามาจากไหน แต่น่าจะขนมาจากฮ่องกง)รวมกับป้ายวิญญาณแม่ของทิวากานต์ทำพิธีตามที่สองพ่อลูกบอก

เด็กฝรั่งแพ้ควันธูปจามฮัดชิ้วไปหลายรอบน้ำหูน้ำตาไหลพรากแต่ว่าที่พ่อสามีไม่มีทีท่าจะเห็นใจสักนิด มีแต่บอกว่าจะเป็นสะใภ้บ้านนี้ให้รอดก็ต้องฝึกกันตั้งแต่ตอนนี้แหละ ฟังจบทิวากานต์แทบกระโดดถีบพ่อตัวเอง

ตาสีฟ้าซีดมองป้ายวิญญาณสลับของไหว้วางบนโต๊ะหน้าทีวีเต็มจนล้นออกมาวางบนพื้นไปปากขมุบขมิบทำความเคารพเทือกเขาเหล่ากอคนรักไป ปักธูปลงกระถางข้าวสารได้ก็รีบเดินเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาแล้วหนีขึ้นห้องนอนไม่ลงมาอีกจนกว่าธูปจะหมดดอก

พอชุดแรกหมดก็ต้องจุดธูปไหว้ลาอีกรอบก่อนยกของเก็บ ส่วนหนึ่งทิวากานต์แยกไว้เป็นมื้อเช้าก่อนไปทำงาน อีกส่วนทำใส่กล่องเป็นมื้อเที่ยง แล้วก็ยัดที่เหลือแบ่งแช่ตู้เย็นไว้กินต่อมื้ออื่นกับแบ่งไปแจกชาวบ้าน ส่วนใหญ่เป็นขนมไหว้กับพวกผลไม้อย่างแอปเปิ้ล สาลี่ เชอร์รี่ ส้ม

ก่อนออกไปทำงานวิคเตอร์แจกซองแดงบางๆ ให้คนละซอง เปิดดูทีหลังถึงเห็นเป็นเช็คเงินสด ทิวากานต์ได้ไปหนึ่งล้านบาทถ้วน อลันด์ได้แค่หมื่นเดียว เล่นเอาเด็กขี้งกโหยหวน ความยุติธรรมอยู่ตรงไหนลูกสะใภ้ต้องได้เท่าสามีสิ!

กว่าจะได้ฤกษ์ออกมาเจ้าของบ้านตัวจริงหน้าบูดเดินกระทืบเท้าออกมาจากห้องสองมือหิ้วถุงใส่ของไหว้พะรุงพะรังจะเอาไปแจกคนที่โรงพยาบาล อลันด์เองมีสภาพไม่ต่างกัน ก็รู้ว่าอยู่กันแค่สามคนแต่วิคเตอร์ซื้อของไหว้มาเหมือนจะเลี้ยงทั้งหมู่บ้าน โชคดีเจอเมษาที่หน้าลิฟต์เลยยัดใส่มือไปสองถุง ปลดภาระไปได้หน่อย

เพื่อนที่มหาวิทยาลัยอลันด์เองออกจะงงไม่น้อยที่เห็นเด็กลูกครึ่งหน้าฝรั่งจ๋าหิ้วของไหว้มาให้กิน พอบอกว่าทิวากานต์ไหว้แล้วแบ่งมาให้เลยเอาไปกินกันแบบไม่สงสัย คนินทร์ถึงกับเหมาแอปเปิ้ลไปห้าลูก พอเที่ยงก็ยังมาช่วยกินผัดหมี่ซั่วกับเป็ดต้มพะโล้ในปิ่นโตเถาน้อยเสียเกลี้ยงพลางชมฝีมือการทำอาหารของคุณหมอตลอดเวลา

“ความจริงที่บ้านฉันก็ไหว้นะแต่กินทุกปีก็เบื่อว่ะ” ปากบ่นแต่ไม่หยุดขยับตักเส้นหมี่ซั่วเข้าปาก พอถูกแซะกลับก็แก้ตัวหน้าตาย “มันต้องเปลี่ยนรสชาติกันบ้าง อย่างเฮียวาเนี่ยทำอาหารอร่อยเว่อร์ ใครจะเบื่อได้ง่ายๆ ว่าม่ะ”

หากนอกจากการมาทำให้ห้อง 2111 ที่สงบวุ่นวายไปพักใหญ่แล้ววิคเตอร์ใช้โอกาสนี้มาเยี่ยมลุงเข้มและยังเจ้ากี้เจ้าการย้ายอีกฝ่ายไปรักษาตัวในส่วนเอกชนของโรงพยาบาลแทน ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายเขาจะเป็นคนจัดการให้ทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์รวมไปถึงค่ารักษาก่อนหน้านี้ด้วย ถึงไม่บอกออกมาเป็นคำพูดแต่ทุกคนรู้ว่าวิคเตอร์ทำเพื่อตอบแทนที่ลุงเข้มและป้าอิงที่ช่วยดูแลลูกชายมาให้ตั้งแต่ทิวากานต์ยังอยู่ในท้องแม่ จะว่าไปแล้วดาราฮ่องกงชื่อดังแทบยกอีกฝ่ายมีศักดิ์เป็นพ่ออีกคนของทิวากานต์ด้วยซ้ำ

“มีอะไรให้ช่วยบอกได้เลยไม่ต้องเกรงใจ เฮียเคยช่วยผมกับเมียมาตั้งเท่าไหร่ เรื่องแค่นี้ทำไมผมจะทำให้พี่ไม่ได้”

วิคเตอร์อยู่เยี่ยมลุงเข้มต่ออีกวันจึงยอมกลับไปทำงานต่อ เห็นว่ามีโปรเจคต์ถ่ายหนังเรื่องใหม่ที่อเมริกา หากก่อนกลับเขาขอร้องให้ลูกชายเอาน้องกบขับไปส่งที่สนามบินหน่อย ทิวากานต์เห็นแก่เงินคนซื้อเลยยอมไปแบบไม่อิดออด

“เห็นวามีความสุขฉันก็ดีใจ” ออกจากคอนโดมาได้สักพักวิคเตอร์จึงเริ่มเกริ่นเรื่องที่ต้องการคุยกับลูกชายสองต่อสอง เหมือนทิวากานต์จะรู้ตลอดหลายวันที่มาอยู่ด้วยจึงหาทางเลี่ยงโดยเอาคนรักมาเป็นกันชนตลอด สุดท้ายเมื่อเลี่ยงไม่ได้จึงต้องเปิดอกคุยกันจริงๆ จังๆ เสียที

“ขอบคุณ”

“แต่เรื่องอลันด์ฉันอยากให้วา...”

“ผมไม่มีความคิดจะเปลี่ยนใจอะไรทั้งนั้น” ชายหนุ่มสวนกลับในทันที เขาเข้าใจวิคเตอร์อยู่บ้างว่าอีกฝ่ายมีความเป็นห่วง แต่วิคเตอร์ไม่ได้มีอิทธิพลในชีวิตเขามากพอที่จะทำให้เขาเชื่อฟัง

“ฉันไม่ได้จะพูดอย่างนั้น แต่ถ้าลูกคิดอย่างนั้นก็ดี อลันด์ยังเด็กแต่เขาก็รักเรามาก ถ้าเลือกจะรับเขามาดูแลแล้วก็ต้องทำให้ตลอดรอดฝั่ง ถ้าเจอทางที่ต้องเลือกก็จงเลือกเขาไว้อย่าทิ้งเขาเหมือนกับ...”

“เหมือนที่คุณทำกับหม่าม้าใช่ไหม”

แทนที่จะโกรธเพราะถูกลูกชายจี้ใจดำใส่วิคเตอร์กลับหัวเราะ “ฉันยังไม่ได้พูดแบบนั้นสักคำ”

“ก็คุณ...”

“รู้ไหม...” เขารีบแทรกก่อนลูกชายเพียงคนเดียวจะพูดไปมากกว่านี้ น้ำเสียงเขาแผ่วเบาเหมือนคนไม่มีแรงผิดกับภาพลักษณ์ภายนอก “ถ้าเลือกได้ฉันก็ไม่อยากเป็นดาราดังแบบนี้หรอกนะ”

“แต่คุณก็เลือกทางนั้น”

“ตอนนั้นฉันเคยคิดว่าความฝันจะเดินคู่ไปกับความรักได้ แต่สุดท้ายหม่าม้าของลูกก็ทำให้รู้ว่ามันไม่ใช่ บางเรื่องมันตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ ฉันไม่โทษม้าแกหรอกนะแต่ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่าที่ครอบครัวเราขาดๆ เกินๆ อย่างทุกวันนี้เป็นเพราะหม่าม้าเรา”

“อย่ามาโทษม้าแบบนี้นะ ทุกอย่างมันเป็นเพราะคุณต่างหากที่เลือกจะทิ้งไปน่ะ ถามจริงเถอะมีใครบังคับให้คุณไปเป็นดาราหรือไง!” ทิวากานต์ทุบพวงมาลัยรถอย่างไม่กลัวว่ารถที่กำลังวิ่งด้วยความเร็วเกือบร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงจะเลี้ยวลงข้างทาง หากคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนกลับหลับตาส่ายหน้าไปมาและไม่ช่วยไขข้อข้องใจอะไรไปมากกว่าการบอกให้ลูกชายที่กำลังคลั่งไปหาคำตอบเอาเอง

“พูดไปกี่ครั้งแกคงไม่เข้าใจ ตอนนั้นทั้งฉันและม้าแกยังเด็ก เราตัดสินใจกันแบบเด็กๆ แต่วาที่โตแล้วฉันหวังแค่ว่าจะเลือกทางที่ตัวเองมีความสุข วาไม่ใช่คนดีที่จำเป็นต้องเสียสละไปซะทุกเรื่อง วาเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง เห็นแก่ตัวเรื่องความรักซะบ้างคงไม่มีใครมาด่าหรอก”

“...”

“อีกอย่างนะ ถ้าฉันไม่ได้เป็นดาราก็คงไม่ได้เจอกับหม่าม้าแกแล้วคงไม่มีแกโผล่ออกมารักกับเด็กฝรั่งนั่นหรอก บางทีวันนี้เลือกผิดไป แต่ใช่ว่าในอนาคตจะไม่มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นเลยนี่นา”

.
.
.

ทิวากานต์ไม่ได้ฟังเรื่องที่อลันด์โม้หลังไปรับกลับจากว่ายน้ำที่คอนโดของการันต์สักเท่าไหร่ อีกคนหยุดพูดไปตอนไหนยังไม่รู้ด้วยซ้ำ จนมือเย็นแตะเข้าที่แขนเขาถึงได้รู้สึกตัวละสายตาจากถนนหันไปมอง

“ผมไม่อยากก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของวานะ แต่ช่วงนี้วาเครียดมากไปหรือเปล่า” เด็กหนุ่มเลือกที่จะพูดสิ่งที่คิดออกไปตรงๆ อย่างทุกครั้ง ใบหน้าขาวนิ่งเฉยไม่แสดงอารมณ์ทว่านัยน์ตาสีอ่อนบอกความกังวลออกมาชัดเจน

“โทษที อึดอัดเหรอ”

“ไม่ๆ ผมแค่เป็นห่วง”

แค่ไม่กี่คำกลับมีอำนาจทำให้ทิวากานต์ยิ้มออกได้ เขาอาศัยช่วงการจราจรตรงหน้าชะงักโน้มคอลงไปแตะปลายจมูกเข้ากับแก้มใส เพราะอลันด์น่ารักแบบนี้ไงเขายอมให้อีกฝ่ายมาอยู่ใกล้ๆ จนกลายเป็นคนรักกันในที่สุด แล้วเขาจะคิดมากเรื่องที่วิคเตอร์พูดอีกทำไม เขามั่นใจว่าเขาเลือกดีแล้วและไม่มีอะไรให้ต้องตัดสินใจอีก

ที่มีความสุขอยู่ทุกวันนี้เพราะมีอลันด์อยู่ด้วยกันนี่แหละ

“มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยแต่ตอนนี้ไม่ล่ะ”

“เรื่องลุงเข้มเหรอ” ลองเดาดูแต่ทิวากานต์ส่ายหัว

“เปล่าหรอก เรื่องไร้สาระ”

“จะพยายามเชื่อนะ” เด็กแสบทำหน้าทะเล้นเหมือนรู้ทัน เห็นหน้ากันมาเกือบปีถ้าเป็นเรื่องไร้สาระจริงทิวากานต์คงโวยวายออกมาแล้วไม่ใช่เก็บไปคิดเงียบๆ คนเดียวแบบนี้ แต่ถ้ายิ้มออกมาได้แล้วคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง “เอ้อ แล้วเมื่อกี้วาจำได้ไหมที่ผมเล่าน่ะ สระว่ายน้ำที่คอนโดพี่รันนะว่ายไปหวาดเสียวไปแถมหนาวอีกต่างหาก แต่วิวพาโนรามานี้ยอมจริงๆ เห็นเวิ้งแม่น้ำคดอย่างกะงู แต่ผมกับพี่แอฟคิดไว้แล้วล่ะว่าคราวหน้าจะลงไปว่ายสระของส่วนกลางลองว่ายขนานไปกับแม่น้ำเจ้าพระยาดูบ้างบรรยากาศคงดีไม่หยอกแถมไม่ต้องเจอลมหนาวๆ อีก”

“อ่าฮะ ชั้นเจ็ดสิบ ไม่หนาวก็บ้าล่ะ แล้วชอบที่นั่นไหม”

“ก็ดีนะ วิวสวยบรรยากาศดี เงียบๆ เป็นส่วนตัวดี”

“อืม...งั้นเหรอ”

“วาอยากซื้อห้องใหม่เหรอ” อลันด์โพล่งขึ้นมา มือขาวเอื้อมไปเปิดเพลงหลังรู้สึกว่าในรถชักจะเงียบไปหน่อย

“จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อ คอนโดนั่นห้องนึงไม่ใช่ถูกๆ”

“อะไรกันทีพี่รันยังมีเพนท์เฮ้าส์ที่ชั้นบนสุดได้เลย”

“ห้องนั่นซื้อมาแบบลดราคายังตั้งสองร้อยล้าน เงินพี่แกคนเดียวไม่มีเงินพ่อแม่มาเอี่ยวสักบาท เห็นเป็นหมอโรงบาลรัฐก็เหอะแต่บ้านพี่แกรวยจะตาย แค่นอนกินเงินปันผลจากหุ้นโรงพยาบาลที่ถืออยู่ก็รวยไม่รู้เรื่องแล้ว”

“โอ้ว - มาย - ก็อด เพิ่งรู้นะเนี่ย มิน่าเพื่อนวาถึงเรียกป๋ากันเป็นแถว งั้นวันหลังผมเรียกบ้างดีกว่าเผื่อจะได้เงินกินขนมอีก รวยแล้วไม่ขี้งกเหมือนพ่อใครบางคน นี่สิคนจริง  ป๋า...ป๋าขา ป๋าสั่งอะไรหรือยัง แหมรู้ใจจังสั่งที่หนูชอบ

คุณหมอถึงกับร้องเหอะใส่คนหน้าเป็นที่เริ่มร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดังเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน หนำซ้ำยังมีหน้ามาแขวะพ่อเขาอีกนะ สงสัยยังเจ็บใจเรื่องเงินแต๊ะเอียไม่หาย เขาว่าคนรวยขี้งกน่ะน่าจะเป็นตัวอลันด์เองเสียมากกว่า ที่บ้านมีทรัพย์สินเยอะกว่าวิคเตอร์กว่าการันต์ตั้งเท่าไหร่ยังอยากได้เงินค่าขนมฟรีอีกนะ!

“อ๊ะ! วาฟัง Damien Rice ด้วยเหรอ” ก่อนจะได้แซวกลับเจ้าเด็กขี้งกก็โพล่งขึ้นมาเสียก่อน คิ้วหนายกขึ้นเงี่ยหูฟังเสียงเพลงจากในลำโพง

“เพลงไหนชอบถูกใจก็ฟังหมด”

I don’t want to change you, I don't want to change your mind” เด็กหนุ่มร้องคลอตามเสียงจากลำโพง “ช่างเป็นผู้ชายที่ไม่มีความมั่นใจในความรักเอาซะเลย”

“บางทีความรักของเขาอาจจะแค่ต้องการเห็นคนที่ตัวเองรักมีความสุขกับสิ่งที่เป็นมากกว่าได้อยู่ด้วยกันนะ เขาตกหลุมรักเพราะสิ่งที่คนนั้นเป็นไม่ใช่หรือไง”

“งั้นสมมติว่าอีกคนอยากอยู่ด้วยกันโดยยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองล่ะ” เด็กหนุ่มถามกลับ สำหรับอลันด์ตั้งแต่ได้คุยกับวิคเตอร์วันนั้นเขาก็เริ่มคิดได้ว่าความรักเป็นเรื่องของคนสองคนที่ต้องตัดสินใจร่วมกันมากกว่าใครคนใดคนเดียว การคบกับใครโดยที่ยังเป็นตัวของตัวเองได้คือสิ่งดี แต่ไม่มีใครไม่เปลี่ยนแปลงหรอกขนาดลมยังมีเปลี่ยนทิศเลย มันอยู่ที่ว่าจะปรับตัวยังไงให้ความรักไปได้ตลอดรอดฝั่งมากกว่า

“ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง แบบนั้นยังมีความสุขอยู่อีกเหรอ”

“แบบไหนล่ะวา”

“แบบที่ต้องเลือกระหว่างความฝันกับความรักน่ะ”

ไม่มีคำตอบออกมาจากปากของอลันด์นอกจากเสียงร้องอันชวนหดหู่ของนักร้องชาวไอริชที่ขับกล่อมคนทั้งคู่ไปตลอดทาง ต่างคนต่างจมอยู่กับความคิดของตัวเองโดยไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งคู่กำลังคิดในสิ่งเดียวกัน

ถ้าหากวันหนึ่งความรักเดินทางมาถึงจุดที่ต้องเลือก แน่นอน...ไม่ว่าอย่างไรทุกคนย่อมอยากให้คนที่ตนเองรักมีความสุขกับสิ่งที่มาดหมาย แต่ความสุขของตนเองเล่าจะทำเป็นหลงลืมไปได้อย่างไร

I've never been with anyone
In the way I've been with you
But if love is not for fun


ท่ามกลางดนตรีเพลงใหม่ที่เปลี่ยนผ่านใครสักคนในรถพึมพำขึ้นมาเบาเสียจนแทบไม่ได้ยิน หากกลับแทรกลึกลงไปถึงกลางใจ...

“KEEP YOUR PROMISE”

.
.
.

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 28 [12.02.16]
«ตอบ #484 เมื่อ12-02-2016 17:22:42 »

เพลงอกหักรักคุดโดนเขาทิ้งถูกเด็กฝรั่งหน้างอเล่นตั้งแต่ย่างเท้าเข้ามายังสตูดิโอใต้ดินแห่งนี้ ทั้ง All I Want ของ Kodaline เพลง Dancing On My Own เวอร์ชั่นของ Kings of Leon หรือเพลงจากนักร้องคนโปรดอย่าง Someone Told Me ทำเอานภที่วันนี้ว่างมาซ้อมด้วยมองตาปริบๆ

นักร้องหนุ่มก้มหน้าก้มตาเช็ดกีตาร์ของตัวเองไปเงียบๆ เอาเป็นว่าเรื่องนี้นภจะไม่ยุ่ง ไม่ใช่เขาไม่คิดจะถามไถ่ห่วงใยตามประสาคนรู้จัก หากตั้งแต่ทิวากานต์รู้ว่าเขามีกระแสจิ้นกับอลันด์ในอินสตาแกรมเขาก็ถูกเขม่นหนักกว่าเดิม เกิดถามไปแล้วน้องแสบร้องไห้ขึ้นมาแล้วทิวากานต์คิดว่าถูกเขาแกล้งความซวยตกลงมาที่เขาอย่างไม่ต้องสงสัย งานนี้ไอ้นภคงตายหยังเขียด แฟนคลับทั้งประเทศก็ช่วยไม่ได้

“พี่นภ”

“ห๊ะ หา?” นั่นไง ไม่ทันไรลางมรณะเริ่มมาเยือน เขาหมุนคอขวับกระดูกแทบหลุดหันไปมองเด็กลูกครึ่งที่ถูกชะตาตั้งแต่แรกเจอ แต่ตอนนี้ชักไม่อยากถูกชะตาด้วยแล้วสิ

“ผม...รู้สึกเหมือนใกล้จะบ้า”

“ทำไมเหรอ มี... เอ่อะ มีอะไรหรือเปล่า ถ้าเป็นเรื่องเรียนละก็พี่บอกเลยว่าขยันอ่านหนังสือเข้าไว้เดี๋ยวมันก็ผ่านไป”

“ไม่ เรื่องวา”

“เอ่อะ...” ทำไมเดาอะไรไม่เคยถูกเหมือนเรื่องนี้เลยแหะ นภแทบเอาหัวโขกผนัง เค้าลางความวุ่นวายก่อตัวอยู่เหนือหัว “พี่วาทำไมเหรอ”

“ฮึก... วา... เหมือนวากำลังหาเรื่องเลิกกับผมเลย” พูดจบเจ้าเด็กแสบก็เป่าปี่ปล่อยโฮออกมาเสียงดังลั่นห้องซ้อมทำเอาเจ้าของสถานที่ลนลานรีบกระโดดไปปลอบเก้ๆ กังๆ

อีเหี้ยเอ๊ย...ร้องไห้แบบนี้ถ้าหมอวารู้เข้า เขานี่แหละจะตายก่อนใครเพื่อน

ถึงในใจพ่อนักร้องจะคิดแบบนั้นแต่มือหนาก็ลูบหลังลูบไหล่ นึกคำแก้ตัวแทนคุณหมอหน้าดุจ้าละหวั่น “ไม่หรอกน่าตัวแสบ พี่วาทั้งรักทั้งหวงเราจะตาย เขาจะทิ้งเราไปทำไมกัน คิดมากไปแล้ว”

“จะไม่ให้คิดมากได้ไงอ่ะพี่นภ หลังปีใหม่วาเล่นทำงานทุกวัน ยิ่งช่วงนี้ยิ่งกลับดึกทุกคืนไม่รวมเวรที่โรงพยาบาลถี่ๆ อีกนะ แล้วตั้งแต่แด๊ดดี้วามาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังมาพูดเป็นนัยๆ ว่าวาจะทิ้งผมอีก วันก่อนก็เพิ่งพูดเรื่องเลือกๆ เหมือนจะหาทางทิ้งผมงั้นแหละ เนี่ย...แล้วดูอย่างวันนี้สิให้ผมขับรถกลับเอง แต่ผมโทรไปถามพี่รันเขาบอกว่าวันนี้วาไม่มีทั้งเวรคลีนิกพิเศษหรือเวรกลางคืนที่โรงพยาบาล ที่โรงพยาบาลลุงผมก็ไม่มีเคสให้ไปช่วย เขาว่างแต่เขาไม่มารับผม เขาให้ผมกลับเอง!”

พอได้พูดแล้วหยุดไม่อยู่ หลายเรื่องที่อัดอั้นในใจไหลบ่าราวน้ำป่าทะลัก ดีอย่างเดียวคือหยุดร้องไห้เสียที

“คิดมากน่าแสบ พี่เขาอาจจะมีธุระอย่างอื่นก็ได้”

“มันสำคัญมากกว่ามารับแฟนกลับบ้านเหรอ”

“พี่ว่าเรากำลังพาลนะ”

“พี่นภ!”

“ตัวแสบ อย่าเพิ่งโวยวายแล้วฟังพี่นะ” เขากดบ่าคนเด็กกว่าไว้ป้องกันอีกฝ่ายลุกขึ้นมาซัดหน้า

เห็นตัวเล็กแบบนี้ไอ้เพื่อนเลวอย่างซาโตชิกับเก่งเคยเจออิทธิฤทธิ์หลานท่านทูตหน้าตาปวดบูดมาแล้วนะ ประมาทได้สักที่ไหนกัน

พออลันด์ยอมนิ่งลงตามที่บอกนภจึงนั่งลงบนพื้นตรงหน้าเด็กหนุ่มรุ่นน้อง เกิดมาไม่เคยเป็นศิราณีให้ใคร เคสแรกก็ได้เป็นความรักของเพศเดียวกันซะแล้ว แต่เขาคิดว่าเพศไม่ใช่ประเด็นเท่ากับความรักที่ชักจะเริ่มจูนกันไม่ติดของคู่รักต่างวัยคู่นี้มากกว่า ประสบการณ์ พื้นฐานการใช้ชีวิต อาชีพ อายุ ปัจจัยพวกนี้คือตัวแปรสำคัญที่ทำให้หลายคู่ไปไม่รอด เขาถึงว่าความรักต้องมีการปรับการหาตัวเข้าหากัน

“ที่พี่บอกว่าเรากำลังพาลเพราะพี่เห็นว่าแต่ก่อนพี่วาไม่มารับเรายังขับรถกลับห้องคนเดียวได้นี่นา ใช่ไหม”

“ชะ ใช่”

“เห็นไหมล่ะ พี่ไม่ได้เข้าข้างพี่วาเพราะพี่เป็นทาสเขาหรืออะไรแต่พี่กำลังพูดตามที่พี่เห็นและคิดนะ พี่ว่าพี่วาไม่ได้กำลังตีตัวออกห่างเราสักนิด ถึงเขาไม่มีงานของโรงพยาบาลก็ใช่ว่าเขาจะมีธุระส่วนตัวอย่างอื่นบ้างไม่ได้นี่ แล้วทำไมตัวแสบไม่ลองถามพี่วาตรงๆ เก็บมาน้อยใจแบบนี้ไม่ใช่นิสัยเรานะ”

“ผมเห็นวาทำงานเยอะ ไหนจะดูแลผมอีก ไม่อยากไปเซ้าซี้ แต่...วันนั้นวาก็พูดเหมือนจะเลิกกัน”

“แน่ใจเหรอ”

“ก็...วาพูดเหมือนว่าถ้าเลือกระหว่างความรักกับความฝันจะยอมทิ้งความรักไปตามฝันเลยอ่ะ”

“แต่ไม่ได้พูดว่าจะทำแบบนั้นนิ”

“ชะ ใช่”

นภฉีกยิ้มหวานก่อนดึงมืออีกคนมาจับ เขารู้สึกว่าอลันด์เวอร์ชั่นไร้ความมั่นใจในตัวเองอย่างเคยดูน่ารักกว่าเวลาปกติเป็นกอง ทิวากานต์คงได้เห็นด้านนี้หลายครั้งแล้วแน่ๆ ถึงตกหลุมรักจนหวงออกนอกหน้าขนาดนั้น

“พี่วาเขาอายุมากกว่าพวกเราตั้งเยอะเขาก็คงมีมุมมองมีความคิดในแบบเขานั่นแหละ เหมือนเวลาเราทำเพลงไง บางทีเราทะเลาะกับทีมงานกับโปรดิวเซอร์เพราะเห็นไม่ตรงกันบ่อยๆ แต่เพราะเขามีประสบการณ์มากกว่าเขาถึงเห็นอะไรมากกว่าแล้วเอามาช่วยปรับแก้ให้ ตัวแสบลองคิดดูดีๆ นะว่าตั้งแต่คบกับพี่วามา พี่วาเคยทำให้เสียใจมากๆ ไหม”

“ไม่”

“นั่นไง เพราะงั้นคราวนี้ก็มั่นใจในตัวพี่วาอีกครั้งนะ แล้วถ้ามีอะไรพี่ว่าเราพูดกับพี่วาตรงๆ ไปเลย รับรองเขาต้องมีเหตุผลมาอธิบายแน่ๆ”

“อืม”

“ดีมาก วันนี้ไม่ต้องซ้อมแล้ว ขึ้นไปกินข้าวกันดีกว่า ถ้ายังกินข้าวแค่แมวดมอีกพี่จะฟ้องพี่วาให้จัดการ”

“เฮ้ย ห้ามฟ้องนะพี่นภ” เจ้าเด็กแสบแทบจะถลาลงไปบีบคอคนขู่ จะฟ้องเรื่องอะไรฟ้องไปเถอะเขามั่นใจว่าเอาตัวรอดได้แต่เรื่องกินข้าวนี่ขอที คุณหมอรู้ได้ถูกบ่นไปทั้งวัน บ่นเพราะความเป็นห่วงล้วนๆ ...แล้วแบบนี้เขายังคิดว่าทิวากานต์จะทิ้งตัวเองไปได้อย่างไร

อลันด์กับนภขึ้นจากห้องใต้ดินมากินมื้อเย็นฝีมือคุณแม่พี่นภ วันนี้ก็ทำอาหารแกงใส่กะทิอร่อยๆ อีกแล้ว เด็กฝรั่งอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยกินข้าวไปพูนจานเป็นที่ชอบอกชอบใจคนทำ แถมก่อนกลับคุณแม่ยังเอาแกงไก่กับสังขยาฟักทองแพคใส่กล่องให้เอากลับไปอุ่นกินเป็นมื้อเช้าพรุ่งนี้ที่ห้องด้วย

พอตอนจะกลับนภออกปากอาสาจะขับรถไปส่ง นักร้องหนุ่มพูดตรงๆ ว่าไม่ไว้ใจจะปล่อยคนที่เพิ่งนอยด์ขับรถกลับคนเดียว กลัวอีกฝ่ายเกิดอาการคิดมากจนเตลิดขับรถเข้าข้างทางแล้วถูกทิวากานต์มากินหัวทีหลังเอาได้

น้องมิ้ลค์แล่นมาถึงหน้าทางเข้าคอนโดตอนสามทุ่มครึ่ง ทีแรกอลันด์ชวนนภขึ้นไปบนห้องด้วยตามมารยาท แต่อีกฝ่ายบอกปัดไปแล้วขอลงตรงหน้าทางเข้าเพื่อโบกแท็กซี่กลับบ้านย่านทองหล่อ

“เฮ้ ผมลืมเอานี่ให้ ต้องมาให้ได้นะ” นี่ ของอลันด์เป็นการ์ดดีไซน์รูปกีตาร์ เด็กฝรั่งหยิบมาให้ตอนย้ายที่นั่งไปฝั่งคนขับแล้ว นภเอื้อมมือรับจากกระจกด้านข้างคนขับ เขาพลิกดูแล้วร้องอ๋อและให้คำตอบในทันทีว่าจะไปร่วมงานฉลองวันเกิดครบรอบสิบเก้าปีของไอ้ตัวแสบแน่นอน

“พี่มีงานคงไปดึกหน่อย ยังไงอย่าเพิ่งหนีกลับก่อนล่ะ” นักร้องหนุ่มขยิบตาให้แม้ในใจจะหวั่นกับการเผชิญหน้าครอบครัวของอีกฝ่ายไม่น้อย แหงล่ะ...คุณลุงเจ้าของโรงพยาบาลต้องเกลียดขี้หน้าเขาอยู่แน่นอน เขายังจำสายตาไม่พอใจตอนไปเยี่ยมอลันด์ที่โรงพยาบาลคราวนั้นได้อยู่เลย

“ถ้าไม่เมาไปซะก่อนนะ งานนี้วาให้ดื่มได้ไม่อั้นล่ะ”

“See ya!”

“See ya~ จุ๊บ” ท่าทางอารมณ์ดีขึ้นมาแล้วเด็กฝรั่งตัวแสบถึงได้ทำหน้าทะเล้นส่งจูบไปให้ก่อนขับรถเข้าไปในคอนโด

ห้อง 2111 มืดสนิทและไร้สัญญาณของสิ่งมีชีวิตตอนที่อลันด์เปิดประตูเข้าไป เจ้าตัวถอนหายใจเร็วๆ ก่อนเดินขึ้นห้องนอนไปจัดการตัวเองแล้วลงมานั่งอ่านหนังสือที่ชุดโซฟาด้านล่าง ตอนอาบน้ำทิวากานต์ส่งข้อความมาบอกแล้วว่าให้นอนไปก่อนเลยไม่ต้องรอ แต่เขายังแอบหวังเล็กๆ ว่าระหว่างทบทวนบทเรียนอยู่ตอนนี้คนรักจะกลับมาเพื่อเข้านอนไปพร้อมกัน



ตาสีซีดเปิดขึ้นพร้อมอาการมึนหัวจากแรงสั่นสะเทือนเบาๆ ไออุ่นและกลิ่นน้ำหอม Creed  Aventus อันแสนคุ้นเคยในอ้อมแขนเรียกให้อลันด์ซุกศีรษะเข้ากับซอกคอคนตรงหน้า “วา... you’re home”

“I’m home”

“miss you so bad”

ผู้ชายตัวโตหัวเราะจนตัวอลันด์เขย่าไปด้วย ทิวากานต์ก้าวเท้ามั่นคงเดินขึ้นบันไดมีเด็กฝรั่งห้อยอยู่บนหลัง ไฟชั้นล่างปิดมืดหมดแล้วเหลือเพียงไฟส่องทางตรงผนัง

“ไปทำอะไรผิดมาถึงได้อ้อน”

“No แค่คิดถึง จริงๆ นะ”

“เจอหน้ากันทุกวันยังคิดถึงอีกเหรอ นึกว่าเบื่อหน้ากันซะแล้วอีก”

“ไม่เบื่อหรอก เบื่อได้ไง...รักวาจะตาย”

“รักแล้วทำไมบอกอะไรไม่ฟังเลย บอกว่าไม่ต้องรอก็ยังรอ แทนที่จะรอบนเตียงดีๆ” เขาเปิดประตูห้องนอน เดินผ่านตู้เสื้อผ้าเลี้ยวเข้าไปข้างในแล้วหันหลังโยนลูกแมวลงเตียง เจ้าเหมียวตาฟ้าร้องตะแง้วๆ ดีดขาขัดใจแต่ยิ้มโชว์ฟันกระต่าย

“ไม่ได้รอ นั่งอ่านหนังสือแล้วเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ต่างหาก”

“จ้าๆ” คุณหมอให้จูบบนปลายจมูกโด่งแทนรางวัลหนึ่งที แล้วดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเด็กตัวแสบ “นอนซะไอ้ดื้อ Goodnight ครับ”

“Nite Nite” ทิวากานต์เป็นเหมือน safe zone ของเขาที่พออยู่ใกล้แล้วลืมความกังวลทุกอย่างหมดสิ้น เด็กหนุ่มหลับตาเตรียมเข้าสู่นิทรา แต่เดี๋ยวนะ... “เดี๋ยวก่อนวา!”

“หือ? มีอะไร” หนุ่มสามสิบเลิกคิ้วพลางปลดกระดุมเสื้อเตรียมไปอาบน้ำ

“ทำไมช่วงนี้กลับบ้านดึก แอบมีอีหนูเหรอ”

“จะ - บ้า - เหรอ”  ได้ยินแล้วถึงกับกุมขมับก่อนหลุดหัวเราะก๊ากชุดใหญ่ “จะเอาเวลาที่ไหนไปมีกิ๊กห๊ะ! แค่มีไอ้ตัวเนี๊ยะตัวเดียวก็ไปไหนไม่รอดแล้ว”

“ไม่ต้องปากหวานเลย แต่ไม่ได้แอบไปมีกิ๊กจริงๆ แน่นะ”

“จริงครับที่รัก” เขาโถมตัวลงบนเตียงลงไปกอดรัดเด็กขี้ระแวงจับฟัดแก้มไปให้ชื่นใจหลายๆ ฟอด “พอดีมีธุระหลายเรื่องต้องไปทำน่ะ ทั้งเรื่องลุงเข้ม เรื่องงานวิจัยรุ่นน้อง ก็...แค่สัปดาห์นี้แหละหลังจากนี้ไม่มีแล้ว”

“อืม... ไม่มีกลิ่นบุหรี่ ไม่มีกลิ่นน้ำหอมผู้หญิง จะเชื่อก็ได้”

“อัล” ทิวากานต์แกล้งกดเสียงต่ำบอกให้รู้ว่าเรื่องที่จะพูดนี่เอาจริง “ไม่เชื่อใจพี่เหรอ”

“ปะ เปล่า แต่...อดคิดไม่ได้นี่ วาเสน่ห์แรงจะตายไป ถ้าเกิดมีผู้หญิงมาจีบอีกแบบตอนนั้นแล้วเขาตื๊อมากๆ เข้าล่ะ ผมกลัวบ้างไม่ได้เลยหรือไง”

“งั้นพี่บอกตรงนี้ว่าอัลไม่ต้องกลัว keep calm because I love only you”

เด็กหนุ่มพยักหน้ารับเบาๆ หลับตาพริ้มตอนทิวากานต์จูบหน้าผาก ความหนักอกหนักใจมลายหายไปเมื่อได้เปิดอกพูดกับคนรักตรงๆ อย่างเช่นทุกที ดวงตาคมดุคู่นั้นยังมีเพียงแต่ภาพเขาและไม่เคยหลบสายตา ความจริงใจของทิวากานต์นั้นไร้ข้อกังขาโดยสิ้นเชิง



TBC

สวัสดีตรุษจีนย้อนหลังค่ะ
วันก่อนไปเจอกระทู้นึงมาในพันทิป อดคิดไม่ได้ว่านังน้องอัลแอบไปตั้งมาหรือเปล่า
อ้างถึง
18+ใส่ชุดนอน ไม่ได้นอน เซอร์ไพส์แฟน http://pantip.com/topic/33588436
55555

ตอนหน้าพบกับพาร์ธี่วันเกิดน้องอัลและหนุ่มฮอตปรอทแตก
คราวนี้จะสวมบทบาทอะไร รอติดตามตอนต่อไปเลยจ้า ^^

จุ๊บๆ

 :mew1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
นั้นสินะ ความฝันกับความรักจะเลือกอะไร โดนอย่างแรง เฮ้อออ นี้แอบคิดเหมือนกันนะ ว่าแต่เรากะแฟนต้องเลือกจริงๆจะเลือกอะไร  :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ misskimji

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
พี่วาน้องอัลสู้ๆ รักกันๆ
 :กอด1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
เหมือนจะมีลางดราม่าอะไรรึเปล่าาาา :ling3:
มันดูอึดอัดใจชอบกล ไม่สบายใจเลยยยย  :katai1:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
น้อววาโหมดนอยแดกทำเราใจหายอะ หมอวาคนดีช่วยที..

ตอนหน้าขอแบบหวีทหวานสะท้านทรวงทีน๊าาาาาา อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Mokuchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รู้สึกตอนนี้มันอึมครึมอึดอัดชอบกล จะมีเรื่องดราม่าอีกหรือเปล่าคะเนี้ย
เรายังไม่พร้อม เราชอบหวานๆ :ling3:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
เข้าใจพ่อวิคแฮะ แต่ก็เข้าใจว่าหมอวารักแม่มาก เลยเลือกไม่ฟัง ไม่รู้ดีกว่า

ออฟไลน์ san

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
อ้างถึง
อย่าลืมกดฟังเพลง 'ที่แห่งนี้' ระหว่างอ่านด้วยนะคะ






“วาเลนไทน์?”

“อื้อ”

ถ้าทิวากานต์ตาไม่ฝาดไปละก็เขาว่าเขาเห็นพวงหางฟูๆ กวัดแกว่งอยู่หลังอลันด์พร้อมกับหูแหลมๆ กระดิกดุกดิ๊กบนกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้ม อย่างกะถูกแมวตัวโตมาอ้อนยังไงยังงั้น

“สิบสี่กุมภาใช่ไหม” เขาเริ่มทบทวนความทรงจำ “วันเสาร์นี้แล้วนี่”

“ใช่ ไปเดทกันนะ”

“หึ” คุณหมอหนุ่มส่ายศีรษะช้าๆ ตีหน้าเศร้า “เสียใจด้วย พี่มีเคสที่โรงบาลลุงเราตอนทุ่มนึงพอดี กว่าจะเสร็จคงเกือบเที่ยงคืนนู่นแน่ะ”

“อะไรกัน! ไม่ได้นะ วันแห่งความรักต้องใช้เวลากับแฟนซี่” เจ้าเด็กตัวเท่าไหล่กระทืบเท้ารัวๆ จนพื้นสั่น

“พี่ขอโทษ แต่วันนั้นไม่ได้จริงๆ มีงานทั้งวันเลย ไว้ไปเดทกันวันหลังนะ จะชดใช้ให้ทบต้นทบดอกเลย”

ถึงบอกไปอย่างนั้นแต่ใช่ว่าอลันด์ยอมฟังเสียที่ไหน ไอ้ตัวแสบวิ่งหนีขึ้นไปบนห้องนอนคว้าโทรศัพท์ต่อสายถึงคุณลุงสุดที่รักถามถึงตารางงานคุณหมอรูปหล่อด้วยตนเอง ก่อนเดินลงบันไดกลับมาพร้อมใบหน้าเงื่องหงอยเพราะเช็คแล้วพบว่าทิวากานต์มีงานที่โรงพยาบาลทั้งวันจริงๆ แถมเคสตอนเย็นนั้นยังเป็นเคสสำคัญมาก คนรักของเขาจะได้ถือมีดเป็นมือหนึ่งครั้งแรกในการผ่าตัดของโรงพยาบาลเอกชน

“เอาน่า เดี๋ยววันอาทิตย์พี่พาไปกินข้าวที่หัวหินเลย ช้าไปวันเดียวไม่เป็นไรหรอกเนอะ”

“อือ...” อลันด์ครางรับคำเสืยงอ่อน ตั้งใจว่าวันนั้นจะไปเล่นดนตรีที่โรงพยาบาลให้เห็นหน้าคนรักเพิ่มอีกสักสิบยี่สิบนาทีก็ยังดี

เป็นวาเลนไทน์ที่เหงาชะมัด...ให้ตายเถอะ

.
.
.

“วันวาเลนไทน์พี่แอฟไปเดทกับพี่รันที่ไหนเหรอ”

“ไม่ได้ไปไหนหรอก พี่รันติดงานที่โรงพยาบาล” อักษรายิ้มหวานส่งไปให้เด็กลูกครึ่งฝรั่งตรงหน้า วันนี้เธอมีนัดตรวจที่โรงพยาบาลพอดี เสร็จแล้วเลยนั่งเรือข้ามฟากมากินข้าวเที่ยงกับอลันด์เม้าท์กันตามประสาสาวๆ(?)

“อะไรกัน หมอพวกนี้ใช้ไม่ได้เลย วันสำคัญทั้งทีต้องใช้กับแฟนสิ” เด็กตัวแสบทำท่าโมโหแทนพี่สาวคนสนิท ไม่นึกว่าทั้งศิษย์พี่ศิษย์น้องจะบ้างานถอดแบบกันมาแบบนี้

“จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ถูกน้าน้องอัล มันเป็นงานนี่นา อย่างพวกเรายังมีเวลารอได้แต่ผู้ป่วยน่ะรอได้ที่ไหนกัน”

“ก็จริง แต่...”

“วันสำคัญไม่ได้มีแค่วันเดียวสักหน่อย เอาเข้าจริงแล้ววันวาเลนไทน์มันก็แค่วันหนึ่งที่คนอุปโลกน์ขึ้นมาเอง ที่สำคัญคือทุกวันที่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันต่างหาก ทำไมเราไม่ทำให้มันเป็นวันสำคัญล่ะ” หญิงสาวยิ้มอีกหนส่งให้ใบหน้าเรียบๆ ดูน่ามองมากกว่าเดิมหลายเท่าจนอลันด์ชักเข้าใจว่าทำไมการันต์ถึงตกหลุมรักเธอ อักษราเป็นหญิงสาวที่มองโลกในแง่ดีแต่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความจริง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่เป็นเสน่ห์ของเธอ

“งั้นวันวาเลยไทน์เราสองคนหนีไปเดทกันเองไหม ผมน่ะอยากไปกินน้ำแข็งไสที่สยามอีกแล้วล่ะ แต่ว่าไม่มีใครว่างไปด้วยสักที”

“น่าสนใจจัง แต่ไว้วันหลังน้าน้องอัล วันนั้นพี่มีภารกิจแล้วล่ะ”

“ภารกิจอะไรเหรอครับ”

“ส่งเสบียงให้พี่รันน่ะ แหะๆ”

แล้วอักษราก็เล่าความเป็นมาให้เด็กฟังว่าตัวเองได้เข้าไปสวัสดีคุณพ่อคุณแม่ของการันต์ที่บ้านแล้ว คุณแม่ของศัลยแพทย์วัยใกล้หลักสี่ก็สั่งสอนเรื่องการเป็นคนรักที่ดีของหมอให้ฟัง เพราะศัลยแพทย์มักทำงานไม่เป็นเวลา ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีคนไข้ให้ไปรักษา โดนเรียกตัวตอนดึกดื่นค่อนคืนก็มีบ่อยไป ฉะนั้นสิ่งเดียวที่คนอยู่ด้านหลังจะทำได้คือเข้าใจและเป็นกำลังใจให้คนรักทุกครั้งที่เขาต้องการ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับแพทย์ทุกคน

อลันด์ฟังแล้วอดรู้สึกแย่กับตัวเองไม่ได้ เขาไม่เคยดูแลทิวากานต์เลย หนำซ้ำยังเป็นคนที่ถูกอีกฝ่ายดูแลบ่อยๆ ด้วย ทั้งที่รู้ดีว่าอีกฝ่ายทำงานมาเหนื่อยแต่เขายังเอาแต่ใจเสมอ ถ้าวันหนึ่งทิวากานต์จะนึกเบื่อขึ้นมาคงไม่แปลกใจ

“ดูทำหน้าเข้า เดี๋ยวพี่วามาเห็นเข้าใจผิดว่าถูกพี่แกล้งกันพอดี”

“ผมแค่คิดว่าตัวเองทำไมเป็นคนรักที่แย่จัง ไม่เคยช่วยแบ่งเบาภาระอะไรวาเลย”

“โธ่ หมอใช่ว่าจะเหมือนกันทุกคนเสียเมื่อไหร่ บางทีพี่วาเขาอาจจะชอบดูแลก็ได้ แค่น้องอัลอยู่ดีมีสุขคอยยิ้มหวานให้กำลังใจพี่วา พี่ว่าพี่วาก็คงพอใจแล้วล่ะ”

“หระ เหรอครับ”

“อื้อ เชื่อพี่เถอะ หรือถ้าอยากจะทำอะไรพิเศษวันวาเลนไทน์ล่ะก็มาช่วยพี่ทำเสบียงก็ได้นะ”

เด็กฝรั่งหูตั้งขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำชวน หากก็หูตกเมื่อนึกได้ว่าตนเองมีหน้าที่ที่ต้องไปรับผิดชอบเช่นกัน “คงไม่ได้หรอกครับ วันนั้นผมมีเล่นดนตรีที่โรงพยาบาลตั้งแต่เช้า”

“แย่จัง แต่ไม่เป็นไร ร้องเพลงเพราะๆ ก็พอ พี่ว่าถ้าพี่วาได้ยินคงมีกำลังใจพร้อมลุยงานทั้งวันแน่ๆ”

“อื้อ แต่ผมคิดไว้แล้วล่ะ ถ้าไม่มีเวลาทำเดี๋ยวสั่งข้าวกล่องมาให้วาดีกว่า วาน่ะชอบบ่นแต่ผมเรื่องไม่ยอมกินข้าวแต่ตัวเองก็ทำงานแล้วลืมกินข้าวทุกที เห็นว่าชอบกินเป็ดเอ็มเค เดี๋ยวผมจะสั่งมาให้หนึ่งตัวเลย”

“สู้ๆ นะ ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกมาได้เลยไม่ต้องเกรงใจ”

“ครับ ขอบคุณพี่แอฟมากนะครับ พี่แอฟน่ารักแบบนี้รับรองพี่รันหนีไปไหนไม่รอดหรอก”

“พี่ก็ว่าพี่วาหนีน้องแสบไปไหนไม่รอดเหมือนกัน ก็เราเล่นน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้ ใครไม่รักก็โง่เต็มทีล่ะจ้ะ”

ผลัดกันอวยก่อนต่างคนต่างหัวเราะแล้วแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง อลันด์เดินกลับมาเรียนพร้อมกับแผนการต่างๆ ในหัว มีบางอย่างที่อาจต้องให้เพื่อนรักชาวไทยอย่างคนินทร์ช่วยสักหน่อย แต่เชื่อว่าถ้าทิวากานต์ได้รับจะต้องรักเขามากขึ้นแน่ๆ

.
.
.

ทิวากานต์เลิกคิ้วสงสัยเล็กน้อยเมื่อไม่เห็นคนรักวัยกระเต๊าะแสดงอาการงอแงใส่ แถมอลันด์ยังอารมณ์ดีขนาดที่ฮัมเพลงไปพลางแบกกระเป๋ากีตาร์ใส่หลังรถไปพลาง

“อัล”

“หือ?”

“ไม่สบายหรือเปล่า ไหนมาวัดไข้หน่อยซิ” พูดจบคุณหมอก็ดึงเจ้าเด็กตัวเท่าไหล่เข้ามาจูบเหม่งก่อนหัวเราะชอบใจเมื่อถูกสะบัดตัวออก “สุขสันต์วันแห่งความรักครับ”

“หึ เก็บไว้พูดพรุ่งนี้ดีกว่าไหม ไหนใครบอกว่าจะพาไปกินข้าวที่หัวหิน ผมไม่ลืมหรอกนะ”

“โทรจองโต๊ะไว้แล้วน่า” เขาใช้นิ้วหัวแม่มือลูบแก้มอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนเลื่อนลงมาตรงสะโพกแล้วตบให้อลันด์เอาของไปเก็บหลังรถ

ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีคู่รักต่างวัยก็มาถึงโรงพยาบาล ทิวากานต์ไปลงชื่อเข้าเวร ส่วนอลันด์ก็แยกไปเตรียมตัวเล่นดนตรีกล่อมเกลาจิตใจผู้เข้ามารับบริการ ต่างฝ่ายต่างแยกไปทำหน้าที่ของตนเองจวบจนถึงเวลาพักเที่ยงทิวากานต์จึงออกมาจากห้องตรวจเพื่อไปพักทานข้าวจะได้กลับมาทำตรวจคนไข้ต่อในตอนบ่าย

“คุณหมอคะ ช่วยรับนี่ไว้ด้วยค่ะ”

ทิวากานต์เลิกคิ้วสูงเมื่อจู่ๆ เลขานุการของท่านผอ.ยื่นถุงกระดาษมาให้ตรงหน้าหลังเขาเปิดประตูออกมาจากห้องพักแพทย์ได้ไม่ถึงสามวินาที “อะไรกันครับ”

“คุณหนูอลันด์ฝากให้ดิฉันนำมาให้คุณหมอค่ะ”

“หือ ขอบคุณครับ” ถึงจะงงๆ แต่เขาก็รับมันมาถือไว้ ยังไม่ทันได้ถามอะไรเพิ่มเติมเลขานุการวัยสามสิบปลายก็เดินจากไปแล้ว เขาเปิดถุงออกส่องดูข้างในเห็นโพสอิสใบหนึ่งแปะไว้เป็นภาษาไทยโย้เย้เหมือนเด็กอนุบาล ลายมืออ่อานอยากยิ่งกว่าหมอบางคนเสียอีก กระนั้นเขาก็ตั้งใจอ่านทีละตัวพร้อมกับรอยยิ้มที่ฉีกกว้างขึ้นทุกทีๆ น่ารักเสียจนอยากมอบรางวัลให้เป็นจูบเน้นๆ

‘อย่าลืมทานข้าวเที่ยงนะครับ
อัล’

คุณหมอจัดการข้าวหน้าเป็ดจากร้านสุกี้ชื่อดังสองกล่องจนหมดเกลี้ยงก่อนเดินไปยังห้องโถงของโรงพยาบาล มั่นใจว่าเวลานี้ไอ้ตัวแสบต้องทำงานอยู่แน่ๆ กะจะสั่งช็อคโกแลตปั่นของโปรดให้แก้วหนึ่งเป็นการตอบแทน หากโผล่หน้าไปให้อีกคนเห็นไม่ทันไรอลันด์ที่กำลังร้องเพลงอยู่ก็วางกีตาร์ลงแล้วเดินไปยังแกรนด์เปียโนหลังใหญ่ เริ่มพรมนิ้วบนลิ่มขาวดำบรรเลงดนตรีบทใหม่ขึ้นพร้อมเสียงร้องแหบห้าว

“ที่แห่งนี้มีความรักอยู่ คอยรับรู้และคอยเข้าใจ
แม้ข้างนอกจะเป็นอย่างไร จะร้อนหรือหนาวแค่ไหน ก็ไม่สำคัญ
จะเตรียมความรักไว้ให้เธอพักผ่อน ลืมความร้อนเรื่องราวที่ไหวหวั่น
และรอยยิ้มที่มาจากใจ เพื่อเพิ่มเติมความสดใส เมื่อไหร่ที่พบกัน”


อย่า... อย่าถามทิวากานต์เลยว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไร เขาบอกไม่ถูกหรอก รู้แต่มันคับอยู่ในอกจนจะแตกอยู่แล้ว ใครจะคิดว่าแค่ง่ายๆ แบบนี้จะทำให้มีความสุขได้ถึงเพียงนี้ แค่การเอาใจใส่เล็กๆ น้อยๆ ที่อลันด์ไม่เคยทำกลับทำให้เขารึ้กรักอีกฝ่ายมากขึ้นเป็นเท่าตัว

“ไม่ว่าวันเวลาจะหมุนจะเวียนเปลี่ยนไปแค่ไหน จะเป็นกำลังใจให้เธอได้รู้สึกดี
เป็นที่พักที่ให้ความเข้าใจ นานเท่าไรก็จะมี ให้กับเธอ อยู่ตรงนี้”


ถึงวันวาเลนไทน์จะไม่ได้ใช้เวลาร่วมกันกับคนรัก แต่อย่างน้อยการคอยซัพพอร์ทอยู่ใกล้ๆ ก็ทำให้เห็นถึงความรักและเอาใจใส่ได้ชัดเจนยิ่งกว่าการแสดงความรักตรงๆ เสียอีก

พวกเขาแอบสบตากันเงียบๆ ก่อนคุณหมอจะปลีกตัวเข้าไปในร้านกาแฟ สั่งเครื่องดื่มที่คนรักของชอบแล้วสั่งให้พนักงานเอาไปให้เมื่อเจ้าตัวเสร็จงาน ส่วนตัวเองก็กลับไปทำหน้าที่หลังเวลาพักหมดลง สงสัยพรุ่งนี้ทิวากานต์คงต้องให้รางวัลอลันด์เป็นสองเท่าเสียแล้วเนื่องในโอกาสที่ทำตัวน่ารักเกินขนาด

มีแฟนเด็กมันกระชุ่มกระชวยแบบนี้เองสินะ เง้อ...

.
.
.








สุขสันต์วันแห่งความรักค่ะ
แอบเอาตอนพิเศษมาลง แต่งสดๆ ร้อนๆ เลย แหะๆ
อย่าลืมกดฟังเพลงที่แห่งนี้ระหว่างอ่านด้วยนะคะ
แล้วเจอกันตอนหน้าค่า

ปล. ทำไมถึงเป็นวาเลนไทน์วันเสาร์ เพราะเหตุการณ์ตามทล.คือปีที่แล้วค่ะ ไม่ใช่ปีนี้

 :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2016 20:21:02 โดย บัวน้อย ไร่แตงโม »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
แบ่งปันความหวานให้แก่กัน น่ารัก~~~

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
น้องอัลน่ารักกกกกก  :L2:  :กอด1:

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
อัลน่ารักงี้ หมอวาจะเหลือรอดเหรอจ๊ะ 5555

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
อัลนี่..น่าร๊าก~~~

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
เลิฟพี่หมอของน้องอัล
หวานสม่ำเสมอตลอด

ออฟไลน์ san

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ Mokuchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 เรียบๆแต่หวานละมุน :-[

ออฟไลน์ Petalkiss

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 307
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
หวานมากกกกกกกกกกก น้องอัลน่ารักแบบนี้คุณหมอรักตายเลย
นั่งอ่านไปด้วย ฟังเพลงไปด้วย ฟินจนหยุดยิ้มไม่ได้เลยค่ะ ความหมายของเพลงดีมากๆ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
งือออออ..น่ารักอะ

ออฟไลน์ misskimji

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
หวานละมุนละไม
 :L1:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
มีแฟนเด็กต้องมั่นเอาใจ เดี๋ยวเด็กงอแง

ส่วนเด็กที่มีแฟนแก่ก็ต้องมั่นดูแลนะจ๊ะ จะได้รักได้หลงเราไปไหนไม่รอด

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
วิ่งผลัดสี่คูนร้อยตามอ่านอีกเช่นเคย ยุ่งจริงๆช่วงนี้
พอได้เข้ามาอ่านไอ้ที่เหนื่อยๆหายเป็นปลิดทิ้งเลย
อยากจะเข้าไปหยิกแก้มเด็กฝรั่งสักทีสองทีให้หายหมั่นเขี้ยว
ขยันทำให้พี่หมอวารักนัก แค่นี้ก็โงหัวไม่ขึ้นแล้วล่ะ
ตอนนี้มีความสุขกับทุกวันก็พอแล้ว อนาคตอย่าเพิ่งไปกังวล
ถ้าวันที่ต้องเลือกมาถึงจริงๆ เชื่อว่าทั้งสองก็จะยังมีความสุขแน่นอน
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ไม่น่ารักธรรมดานะ แฟนเด็กน่ารักมากด้วย  :mew3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด