♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- SPECIAL TRACK : พรหมลิขิต+แจ้งข่าว P. 25
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ไหนๆ นิยายใกล้จะจบแล้ว เลยสอบถามความสนใจรวมเล่มค่ะ

สนใจ
ไม่สนใจ
รวมก็ดี ไม่รวมก็ได้

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- SPECIAL TRACK : พรหมลิขิต+แจ้งข่าว P. 25  (อ่าน 269017 ครั้ง)

ออฟไลน์ VarainDark

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
คู่นี้หวานกันมากจนน่าหมั่นไส้เบาๆนะเนี่ย
ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 29 [20.02.16]
«ตอบ #511 เมื่อ20-02-2016 18:57:44 »

TRACK 29



วันเกิดอลันด์ปีนี้ตรงกับวันเสาร์สิ้นเดือนพอดี ถ้าเป็นตอนอยู่ที่อังกฤษเขาจะจัดงานวันเกิดเล็กๆ ที่หอในโรงเรียนประจำกับเพื่อน พอสุดสัปดาห์ถึงทำเรื่องขอกลับบ้านไปฉลองอีกที

แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่เขาได้ฉลองวันเกิดที่เมืองไทยโดยไร้เงาของผู้ให้กำเนิดเนื่องจากทั้งคู่ติดประชุมสำคัญ กระนั้นก็ไม่ลืมจะหาไฟลท์บินมาหาทันทีเมื่อว่าง งานนี้คุณตาคุณยายจึงสวมรอยจัดการเหมาร้านกินดื่มย่านทองหล่อเนรมิตงานปาร์ตี้วันเกิดให้หลานคนโปรดเสียเลย ซึ่งถ้ามิสเตอร์และมาดามโอเนลล์รู้เข้าคงรีบห้ามทันทีเพราะแค่นี้ลูกชายคนเดียวก็ถูกคนแก่สปอยล์จะแย่แล้วเดี๋ยวจะกลายเป็นว่าส่งลูกมาผจญชีวิตต่างแดนคนเดียวจะเสียเที่ยว กลับไปกลายเป็นคุณหนูยิ่งกว่าเดิม ผิดจุดประสงค์แด๊ดดี้เขาหมด

เด็กหนุ่มลูกครึ่งวัยสิบเก้าปีลืมตาตื่นตอนหกโมงเช้าเป๊ะๆ ด้วยเสียงโทรศัพท์ไกลจากต่างแดน เจ้าตัวแสบกระพริบตาปริบๆ ฉีกยิ้มหวานกดรับเบิร์ธเดย์คอลจากแด๊ดดี้และมัมมี้เสียงใสแจ๋วไม่เหมือนคนเพิ่งตื่น แต่อย่าให้กดวิดีโอคอลเชียวจะได้เห็นหน้ายับๆ กับผมสีช็อกโกแลตนมยุ่งไม่เป็นทรง แถมด้วยหนุ่มหล่อห้องตรงข้ามที่เจ้าตัวใช้เป็นหมอนหนุนอีกต่างหาก

“Love you, mom. Love you, dad. Chups!” ปากอิ่มหยักเหมือนแมวทำท่าส่งจูบผ่านไอโฟนก่อนกดตัดสายแล้วโยนทิ้งบนผ้าห่ม ร่างผอมบางพลิกตัวนอนคว่ำเอื้อมแขนกอดหมอนมีชีวิตหมับ “Morning Honey”

“Happy Birthday”

ทิวากานต์ดึงคนรักขึ้นมาเกยบนอกป้อนจูบดูดดื่มรับอรุณ สองร่างนัวเนียบนเตียงกว้างจนเกือบได้ออกกำลังยามเช้า หากเป็นคุณหมอที่จำใจผละออกมาก่อนด้วยความเสียดาย

ร่างสูงลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำเตรียมตัวไปทำงาน มีเสียงอลันด์โวยวายใส่คุณลุงที่ไม่ยอมให้เขาหยุดงานวันนี้ พอถูกคนแก่กว่าย้อนว่างั้นทำไมไม่ไปทำงานด้วยกัน เจ้านักดนตรีอินดี้กลับบ่ายเบี่ยงบอกว่าวันนี้เป็นวันของเขาต้องได้หยุดพักแล้วไปผ่อนคลายน่ะถูกแล้ว

“อย่าอารมณ์เสียน่า เดี๋ยวไงเย็นนี้ก็เจอกันอยู่ดี”

“จะกลับมาที่นี่ก่อนหรือเจอกันที่ร้านเลย”

“ที่ร้านเลย” คุณหมอผลุบหายไปตรงส่วนตู้เสื้อผ้าก่อนชะโงกหน้ากลับออกมาเรียกเด็กหนุ่มบนเตียง “อัล”

“What?”

“เลือกชุดให้หน่อยสิ เอาแบบใส่แล้วหล่อกว่าเจ้าของงานน่ะ”

“เรื่องแน่ะ!” พอแหย่คนรักได้คนแก่กว่าถึงกับหัวเราะร่วน

ทิวากานต์เดินหายเข้าไปในห้องน้ำได้แป๊บเดียวคนที่บอกปัดไปก็ลุกจากเตียงมาเลือกชุดให้อยู่ดี ถึงจะบอกว่าเป็นงานปาร์ตี้วันเกิดแต่ในการ์ดเชิญบอกไว้ว่าให้แต่งกายสุภาพ งานนี้ทั้งผู้หญิงผู้ชายต่างต้องพากันจัดเต็ม แล้วคนรักของเขาจะหล่อน้อยกว่าคนอื่นได้ไง

นิ้วเรียวไล่ดูเสื้อเชิ้ตของคุณหมอทีละตัวก่อนตัดสินใจดึงเชิ้ตผ้าไหมสีถ่านแขนยาวของ DOLCE & GABBANA กับเสื้อกั๊กและสูทสองกระดุมพร้อมกางเกงเข้าชุดของ BOSS ออกมา เนคไทเลือกผ้าไหมสีแดงตัดกับสีสูทและสีผิวขาวน้ำนมของทิวากานต์ ส่วนรองเท้าเป็นรองเท้าทรงอ็อกฟอร์ดหนังผสมจาก Magnanni แล้วฉีด La Nuit de l’Homme ของ YSL ด้วยนะ แค่จินตนาการยังมั่นใจว่าวันนี้ทิวากานต์ต้องหล่อเซ็กซี่มีเสน่ห์เรียกแขกกว่าทุกคนในงานแน่นอน

“อัล หยิบมีดโกนหนวดให้หน่อย” คุณหมอตะโกนออกมาจากห้องน้ำเหมือนรู้ว่าอลันด์เลือกเสื้อผ้าให้อยู่ไม่ไกล เขาเปิดเก๊ะหยิบของที่ต้องการแล้วเอาเข้าไปให้ถึงข้างใน คนตัวสูงยืนพันผ้าเช็ดตัวเท้าแขนกับขอบอ่างล้างหน้า ขนาดหัวยังยุ่งหน้าซีดยังหล่อจนอยากเอามีดโกนไปกรีดให้เสียโฉม

“อ่ะ”

“โกนให้หน่อยสิ”

“นี่พูดจริงหรือพูดเล่น ไม่กลัวเสียโฉมหรือไง”

“หล่อน้อยลงก็ดีนะ เด็กขี้หึงแถวนี้จะได้เลิกคิดมากสักที มานี่มา” เขาอุ้มเด็กตัวเท่าไหล่นั่งบนขอบอ่างให้อ้าขากว้างพอที่ตัวเขาจะแทรกกลางได้ ก่อนจะรีบยัดขวดโฟมใส่มือเล็ก “โกนให้หน่อยเร็วๆ เดี๋ยวไปทำงานสาย”

“ไม่สบายป่ะเนี่ย อ้อนจัง วันนี้มันวันเกิดผมนะ ผมต้องเป็นฝ่ายอ้อนสิ”

“อ้าวเหรอ เพิ่งรู้นะเนี่ย ไม่เอาน่า โกนให้หน่อย เร็วๆ นะครับ”

เจอลูกอ้อนแบบนี้ใครจะทนไหว หากก่อนตามใจของเอานิ้วหนีบพุงย้วยๆ คุณหมอหน่อยเถอะ แต่ก่อนไม่เคยเห็นมีออกจะผอมแห้ง พอได้เป็นอาจารย์แล้วชีวิตสบายขึ้นมาหน่อยสินะ วันๆ เอาแต่ยืนผ่าไม่ลงพุงก็ไม่รู้จะว่าไง

มือเล็กจัดการบีบโฟมลงบนแก้มคร้านจนทิวากานต์กลายร่างเป็นซาตานครอส จัดการเปลี่ยนใบมีดโกนแล้วเอาแตะบนผิวบาง จังหวะลากไล้ลงมาเบามือเหมือนขนนกสัมผัสทั้งที่อลันด์กลั้นหายใจเกร็งไปทั้งตัวกลัวทำหน้าหล่อๆ ของคุณหมอเป็นแผลเข้า

เด็กหนุ่มถึงกับถอนหายใจยาวหลังปาดซ้ายสามทีขวาอีกสี่ทีเป็นอันเรียบร้อย หน้าคุณหมอกลับมาเกลี้ยงเกลาไร้หนวดเคราหล่อใสเหมือนเดิมไม่มีรอยแผลแถมมาด้วย

“ถ้าพลาดมีหมดหล่อจริงๆ นะเนี่ย วันหลังไม่เอาแล้วนะ น่ากลัวจะตาย” เสียงบ่นกระปอดกระแปดไม่ทำให้ทิวากานต์หยุดยิ้ม เขาส่งผ้าขนหนูชุบน้ำให้อีกฝ่ายช่วยเช็ดคราบโฟมบนหน้าออกให้จนเกลี้ยงแล้วมอบรางวัลเป็นจูบหวานๆ ให้

“จะกลัวอะไร มันก็เหมือนโกนหนวดตัวเองนั่นแหละน่า”

“วาก็รู้ผมไม่ค่อยมีขน ปีนึงๆ เคยโกนซะที่ไหน อัลเบิร์ตจัดการให้ทั้งนั้นแหละ”

“แสดงว่าพี่เพิ่งเอาคอไปพาดเขียงมาสินะ” นอกจากจะไม่สลดแล้วยังหัวเราะชอบใจ ทิวากานต์กวักน้ำล้างหน้าแล้วเอาผ้าขนหนูผืนใหม่มาซับพอหมาดค่อยหยิบอาฟเตอร์เชฟมาตบ กลิ่นหอมลอยฟุ้งจนเด็กฝรั่งอยากจะเอาจมูกไปดม

ผ่านช่วงชวนหวาดเสียวยามเช้ามาแล้ว ทิวากานต์จึงออกมาแต่งตัวเตรียมไปทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนต่อ ตั้งแต่ย้ายแผนกมาเขาไม่จำเป็นต้องไปทำงานแต่เช้าอย่างเคย งานก็เบาขึ้นเยอะในขณะที่รายได้สูงขึ้นแต่ถ้ามีเคสขึ้นมาความเครียดมักตามมากว่าตอนอยู่โรงเรียนแพทย์เสมอ อาจเป็นเพราะยังไม่คุ้นกับเพื่อนร่วมงานและสภาพแวดล้อมก็คงใช่ ไหนจะมีปัญหาการฟ้องร้องจากญาติผู้ป่วยที่ชักมากขึ้นทุกวัน ถึงตอนนี้จะไม่พลาดแต่ป้องกันไว้ก่อนดีกว่า

ช่วงเวลานั่งทานมื้อเช้ากับอลันด์ตอนเจ็ดถึงแปดโมงเช้าวันเสาร์อาทิตย์กลายเป็นการพักผ่อนหย่อนใจและช่วยชาร์จแบตเตอรี่จิตใจที่ได้ผลดีเกินคาด เจ้าเด็กตัวแสบหน้าตายสรรหาเรื่องมาพูดคุยกับเขาได้ไม่หยุดปาก เจอกันครั้งแรกเห็นนิ่งๆ กวนประสาทใครจะไปนึกว่าพูดมากขนาดนี้

“ไม่ได้เลือกนาฬิกาให้ด้วยเรอะ” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถามหลังก้มๆ เงยๆ แพคเสื้อผ้ารองเท้าสำหรับปาร์ตี้คืนนี้ใส่ถุงคลุม รองเท้ากับน้ำหอมก็ไปรื้อเอากล่องมาใส่หย่อนลงถุงกระดาษเรียบร้อย พร้อมแปลงร่างจากคุณหมอมาดดุเป็นหนุ่มสังคมสุดฮอตทันทีหลังเลิกงาน

“โอเมก้าเรือนที่ใช้ประจำนั่นแหละ”

ตาคมเลื่อนดูนาฬิกาที่ข้อมือแล้วยักไหล่ เขาหอบข้าวของพร้อมอุปกรณ์ทำมาหากินเดินไปที่ประตูมีเด็กฝรั่งในชุดนอนตามมาส่ง ล่ำลากันเล็กน้อยเหมือนเคยปิดท้ายด้วย Goodbye kiss ตอนแปดโมงสิบห้านาทีเป๊ะ คุณหมอรูปงามจึงได้ฤกษ์ออกไปทำมาหากินเสียที

ส่งคนรักไปทำงานแล้วถึงคราวแม่บ้าน เอ๊ย เด็กฝรั่งไปจัดการตัวเองบ้าง เขาอาบน้ำขัดตัวจนสะอาดออกมาแต่งตัวสบายๆ กึ่งทางการด้วยเสื้อโปโลกับกางเกงแสลคขายาว ฉีดโคโลญจน์ Happy for Men กลิ่นสะอาดชวนสดชื่นของ Clinique สักหน่อยถึงเดินไปหยิบเสื้อคลุมแขนยาวกับกระเป๋าเงินและโทรศัพท์มือถือออกจากห้องไป

นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้คอนโดไม่ถึงสิบห้านาทีดีรถแวนจำนวนหกที่นั่งก็มารับ อลันด์ยกมือไหว้คุณตาคุณยายก่อนพากันออกไปทำบุญวันเกิดกันที่โรงพยาบาล ไอเดียนี้มาจากคุณตาที่เห็นว่าหลานรักเพิ่งประสบเจอกับโรคหัวใจมาจึงเสนอให้บริจาคเงินสำหรับช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้และเงินวิจัยเกี่ยวกับโรคทรวงอกกับองค์กรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลรัฐชื่อดังหลายแห่ง

หลังตระเวนทำบุญก็พอดีกับมื้อเที่ยง สามชีวิตกับหนึ่งคนขับรถจึงพากันฝากท้องที่ห้องอาหารโรงแรมหรูติดแม่น้ำลิ้มรสอาหารไทยที่เคลมว่าเป็นสูตรชาววัง (แต่คนที่เคยอยู่ในรั้วในวังมาก่อนอย่างคุณหญิงถึงกับส่ายหน้าเพราะอาหารโรงแรมพวกนี้สู้รสมือเธอไม่ได้สักนิด) แล้วค่อยแยกย้ายกันกลับไปเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงเย็นนี้หลังละเลียดอาฟเตอร์นูนทีกันจนอิ่มหนำ

ก่อนจากอดีตเอกอัครชารทูตไม่ลืมเตือนหลานชายเรื่องงานเลี้ยงตอนเย็นที่จะให้คนรถมารับไปแต่งหน้าทำผมพร้อมบริการเบิร์ธเดย์บอยเต็มที่ไม่ต้องขับรถญี่ปุ่นทรงเหลี่ยมๆ แบกข้าวของไปเอง

งานนี้ยิ่งตอกย้ำว่ามิสเตอร์เอเดลมาร์คิดผิดสุดๆ ที่ส่งลูกชายมาอยู่คนเดียว นอกจากจะไม่ค่อยได้ช่วยเหลือตัวเองนอกจากงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ เรื่องเรียนและเรื่องดนตรีแล้วทุกสิ่งแทบจะมีคนประเคนให้ อยู่เมืองไทยโคตรสบ๊ายสบายยิ่งกว่าตอนอยู่อังกฤษ แถมยังได้สามี(?)หล่อเริ่ดชนิดอวดใครก็ไม่อายอีกต่างหาก (ถ้าแด๊ดรู้ข้อหลังมีหวังบ้านแตกแน่)

อลันด์กลับมาอาบน้ำทาครีมพิถีพิถันกว่าทุกครั้ง สักบ่ายสี่จึงยอมงัดตัวออกจากห้องน้ำมาเลือกชุดสำหรับใส่คืนนี้ ไหนๆ เลือกให้ทิวากานต์หล่อเนี้ยบไปแล้วเจ้าของจะด้อยกว่าได้ยังไง

ระหว่างนั้นก็เข้าไปเช็คข้อความในโซเชียลเน็ตเวิร์คสักหน่อย เพื่อนๆ ทั้งที่อังกฤษและไทยโพสข้อความอวยพรเต็มหน้าวอลล์เฟซบุ๊ค ในไอจีนภกับแฟนคลับกลุ่มเล็กๆ ก็แทครูปอวยพรมาให้ แค่นี้ก็ชื่นใจมากแล้วแม้จะขาดข้อความจากเพื่อนซี้อย่างโธมัสเหมือนเช่นปีก่อนๆ ถึงใจจะวูบโหวงแต่เขาต้องยอมรับการตัดสินใจของเพื่อน โธมัสอาจยังคงต้องการเวลาอีกมากกว่าจะกลับมารู้สึกได้เหมือนเดิม

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยพอดีกับคนรถของคุณตามารับเขาจึงให้ชายวัยกลางคนช่วยหิ้วเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวไปไว้ที่รถ ตาสีฟ้าอ่อนเป็นประกายวิบวับยามเห็นเบนท์ลีย์ มูซานรุ่นเดียวกับที่เขาใช้ตอนอยู่ลอนดอนแต่เป็นสีขาวจอดอยู่ในช่อง เขาจำทะเบียนได้ว่าเป็นของคุณยาย มิน่าถึงย้ำอยู่หลายทีให้คนมาขับรถให้กะเซอร์วิสหลานรักแบบสุดๆ นี่เอง

เขาบอกคนขับรถให้ตรงไปยังร้านทำผมที่นภแนะนำมา ตัดผมเล็มส่วนที่เริ่มยาวเกะกะให้เข้าทรงแล้วใส่มูสขย้ำให้เป็นทรงพองๆ ยุ่งนิดหน่อย ลงรองพื้นปะแป้งทาลิปมันอีกนิดเป็นอันเรียบร้อย แต่งองค์ทรงเครื่องด้วยชุดสูทที่หอบหิ้วมา ฉีด Creed - Green Irish Tweed ให้หอมฟุ้งเท่านี้ก็พร้อมออกงานแล้ว

เบนท์ลีย์ มูซานสีขาวจอดหน้าร้านตอนสิบแปดนาฬิกาสี่สิบห้านาทีสายเกินเวลาในการ์ดไปหน่อย มีบรรดาเพื่อนร่วมคณะที่ได้การ์ดรับเชิญมากันบ้างแล้วประปราย งานนี้ซี้คนไทยเพียงหนึ่งเดียวอย่างคนินทร์ไม่มีพลาด ร่างสูงใหญ่หน้าคมเข้มอยู่ในชุดสูทกึ่งทางการสีฟ้าอ่อนออกมาต้อนรับถึงประตูรถ เขาผิวปากหวือเมื่อเห็นเพื่อนฝรั่งตัวเล็กลงมาจากประตูหลังของ Luxury Car แบรนด์ดังจากอังกฤษ

“Happy Birthday!”

คนินทร์ปรบมือเป็นการต้อนรับรัวๆ แล้วแกล้งยื่นแขนให้อีกคนควงเลยถูกต่อยกลับมาก่อนพากันเดินเข้างาน คุณตาคุณยายและครอบครัวคุณลุงไอ้เด็กตัวแสบมาถึงแล้วตั้งแต่หกโมงครึ่งขาดแต่หมอกิตพี่ชายคนโตที่ยังเดินทางมาไม่ถึง

เด็กฝรั่งยิ้มตาหยีเดินรับคำอวยพรจากเพื่อนๆ ที่มาถึงแล้วจากหน้าประตูจนถึงโต๊ะที่ญาติๆ นั่งอยู่ด้านในสุด เขายกมือไหว้สวยงามจึงค่อยแตะจมูกหอมแก้มคุณยายให้คนแก่ชื่นใจ ร่างเล็กดึงเก้าอี้ว่างตัวข้างๆ ลงนั่งพูดคุยกับญาติพี่น้องสักพักจึงค่อยขอตัวออกมาต้อนรับเพื่อนอีกกลุ่มที่เพิ่งมา

งานนี้คุณหมอการันต์ไม่มีพลาดควงอักษราเข้ามาในร้านตอนทุ่มตรงเป๊ะ หมอศัลย์มือฉมังอวยพรวันเกิดแก่เจ้าของงานพร้อมของขวัญใส่กล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าผูกโบใบใหญ่ถึงค่อยพาหญิงสาวเข้าไปทักทายรวมกลุ่มผู้ใหญ่ที่โต๊ะด้านในสุด

เขาอุ้มกล่องที่การันต์ให้แนบอก ลองคะเนน้ำหนักน่าจะเกือบกิโล จะเขย่าก็ไม่กล้ากลัวเป็นของแพงแล้วพังขึ้นมาจะเสียดายเอาเปล่าๆ เลยถือไปวางบนโต๊ะรวมกับของเพื่อนคนอื่น แต่ระดับป๋าการันต์ไม่มีผิดหวังแน่นอน

อลันด์เดินไปนั่งรวมกลุ่มเพื่อนด้วยรอยยิ้มที่มีมากกว่าทุกวัน แม้จะรู้จักกันได้ไม่นานแต่ทุกคนล้วนคุยสนุกเฮฮาปาร์ตี้เป็นอย่างดี มือขาวจัดเหวี่ยงก้านแก้วไวน์ทรงสูงในมือเบาๆ พลางเคี้ยวอัลมอนด์แกล้ม Dom Pérignon Vintage ปี 2000 ที่มีเพียงสิบขวดในงานเท่านั้น ใครช้าจะได้ดื่มดอมปีอื่นๆ ที่ราคาถูกลงมาแทน นอกจากนี้ยังมี Moët & Chandon และ Krug รวมไปถึงแอลกอฮอล์ประเภทอื่นอย่างเหล้า เบียร์ ไวน์ให้เลือกดื่มไม่อั้นตามแต่จะสั่งบาร์เทนเลือกเอาแบบที่ชอบ งานนี้อลันด์ประกาศแก่เพื่อนทุกคนว่าไม่เมาไม่เลิกเด็ดขาด แต่กว่าทุกคนจะยอมเมากันก็คงต้องรอให้ผู้ใหญ่กลับกันไปก่อนอยู่ดี

พอมีเพื่อนกลุ่มใหม่เข้ามาก็ลุกไปต้อนรับอย่างเจ้าภาพที่ดี ตอนยัยสาวิตรีเห็นหน้าหนุ่มลูกครึ่งหน้ามนในชุดสูทแต่งหน้าทำผมเป็น English Gentleman ถึงกับกรีดร้องเสียงดังรีบพุ่งตัวฝ่าสาวคนอื่นเข้ามาควงแขนพร้อมประกาศกร้าวติ๊ต่างเป็นแฟนหลานท่านทูตสักวัน เล่นเอาเพื่อนๆ ขำกันทั้งร้าน

“วันเกิดตัวแท้ๆ ทำหน้าให้มันร่าเริงหน่อยซี้”

ตาสีซีดเหลือบขึ้นมองคนพูดกวาดตั้งแต่หัวจรดปลายรองเท้าหนังมันขลับ คนินทร์ยืนถือแก้วใส่ดอม เพอริญอง ปี 2000 เก๊กท่าเอาให้คล้ายพระเอกในหนังสายลับ ทั้งที่หน้าตาไม่ได้ด้อยแต่แอคติ้งที่มากไปนั่นแหละถึงทำให้ดูตลกมากกว่าจะหล่อ พออลันด์ขมวดคิ้วบอกว่าไม่เข้าใจ หนุ่มไทยถึงกับหลุดมาดเท้าเอวยั๊วะใส่เจ้าของงาน

“ทำหน้าเป็นแมวป่วยยังไม่รู้ตัวอีก ได้นับบ้างไหมว่ามองไปนอกร้านกี่ครั้งแล้วตั้งแต่เข้ามา”

“จะรู้ไหมล่ะ ไม่ได้นับสักหน่อย”

“เหอะ มาสนุกกันดีกว่าน่าเดี๋ยวเฮียก็มาเองแหละ”

“สนุกอยู่”

“งั้นชนกันหน่อย หมดแก้วนะเว้ย”

“เอาซี่” สองหนุ่มต่างเชื้อชาติพร้อมใจหลับตาปี๋ส่งเสียงอืออ้าด้วยความซาบซ่านขนหลังคอลุกซู่จากแอลกอฮอล์ขวดละหมื่นกว่าหลังยดซดหมดแก้วในทีเดียว จังหวะกระแทกแก้วเปล่าคืนบนโต๊ะตาสีฟ้าอ่อนเหลือบไปเห็นแขกคนใหม่เปิดประตูเข้ามาพอดี อลันด์ร้องกรี๊ดเสียงหลงพาลเอาคนินทร์ตกใจเกือบทำแก้วหลุดมือ กำลังจะออกปากด่าไอ้เพื่อนตัวเล็กดันวิ่งหนีไปยืนยิ้มกระทืบเท้าเหมือนเป็นบ้าหน้าหนุ่มต่างชาติในชุดสูทสุภาพเรียบร้อยแล้ว หนุ่มไทยสาบานว่ายังไม่เมาแต่เขามองยังไงฝรั่งคนนั้นก็ไม่เหมือนโธมัสซี้รักสักนิด

แขกเซอร์ไพรส์คนนี้ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นคนใกล้ชิดสุดรองจากครอบครัวและโธมัสส่งตรงมาจากเมย์แฟร์เพื่องานเลี้ยงวันเกิดนี้โดยเฉพาะ เจ้าของงานกระทืบเท้ารัวๆ ชอบอกชอบใจที่เห็นอัลเบิร์ตอยู่ตรงหน้า ในอ้อมแขนพ่อบ้านหนุ่มมีช่อดอกกุหลาบขาวช่อใหญ่ ด้านหลังเป็นคนขับรถชาวไทยถือกล่องของขวัญเต็มอ้อมแขน

“สุขสันต์วันเกิดครับคุณชาย”

“โอ้ - มาย - ก็อด นายมาได้ไงเนี่ย เซอร์ไพรส์ตาตั้งเลย”

“ผมนำของขวัญวันเกิดคุณชายจากมิสเตอร์กับมาดามโอเนลล์ คุณชายกริฟฟิธส์ และคุณชายสเปนเซอร์มามอบให้ครับ ช่อดอกไม้นี้คุณชายสเปนเซอร์สั่งให้คุณชายโดยเฉพาะ” อลันด์รับช่อดอกไม้มาถือแบบงงๆ ก่อนหลุดยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงหน้าคนให้ ไอ้เฮนรี่ที่สามสมองกลับไปแล้วหรือไงถึงสั่งดอกไม้ให้เขา

อัลเบิร์ตสั่งคนขับรถให้วางกล่องของขวัญไว้รวมกับของคนอื่นบนโต๊ะ ก่อนเดินตามแรงฉุดของมือเรียวเข้าไปยังโต๊ะด้านใน คุณชายวัยสิบเก้าหน้างอตามคาดเมื่อทุกคนเฉลยว่าเป็นแผนเซอร์ไพรส์พิเศษที่มาดามโอเนลล์คิดขึ้นมา ตอนนี้ถ้าให้พ่อแม่มาโผล่ตอนนี้เขาก็ไม่แปลกใจจนกรี๊ดลั่นเหมือนเด็กสามขวบแบบเมื่อกี้แล้วล่ะ

หลังจบการต้อนรับพ่อบ้านที่บินข้ามทวีปมาเซอร์ไพรส์เจ้านาย อลันด์ก็ต้องตอบคำถามเพื่อนๆ ปากแฉะว่าหนุ่มอังกฤษผมสีชาตาสีเขียวคนนี้เป็นใคร อายุเท่าไหร่ มีแฟนหรือยัง ทำไมมีดอกไม้มาให้ เขาเป็นอะไรกับเธอ พอทุกคนรู้ว่าเป็นพ่อบ้านส่วนตัวก็กรีดร้องกันใหญ่ โดยเฉพาะพวกผู้หญิงแย่งกันขอสมัครเป็นแม่บ้านขึ้นมาทันที

“ทำไมรอบตัวแสบถึงมีแต่ผู้ชายหน้าตาดีๆ น้า ทั้งพี่นภ ทั้งเพื่อนฝรั่งผมทองคนที่เคยมาจุ๊บหน้าตึก พี่หมอห้องตรงข้าม ขนาดพ่อบ้านยังหล่อเลยอ่ะ ถ้าเป็นฉันคงฟินตายไปแล้ว” สาวิตรีระบายออกมาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ แต่พอกระดกไวน์โรเซ่สีชมพูเข้าไปตาเรียวชั้นเดียวบอกชาติพันธุ์ก็ทอประกายมุ่งมั่นไฟลุกพรึ่บ “ไม่เป็นไร ฉันยังสาว ฉันยังโสด และสวยมาก มันต้องมีดีๆ แบบนี้ตกมาถึงท้อง เอ๊ย ถึงมือกันบ้างแหละ เออ แล้วคุณหมอสุดหล่อ next door แกหายไปไหนทำไมไม่มาอีกล่ะ จะสองทุ่มแล้วนะ ไอ้แสบโทรไปตามพี่หมอซิ ฉันจะได้มีอาหารตากินแกล้มไวน์แกล้มเหล้าให้เมาเผื่อพี่เขาใจดีพาไปส่ง”

“ฝันไปเถอะย่ะ” เพื่อนสาวคนหนึ่งทนฟังคำมโนสาวิตรีไม่ได้ถึงกับผลักหัวให้ผมที่เกล้ามวยมาอย่างดียุ่งเหยิง

สงครามของเหล่าสาวน้อยปะทุขึ้นท่ามกลางอารมณ์บูดที่ถูกกวนให้ขุ่นขึ้นมาอีกครั้งของเจ้าภาพ อลันด์นั่งเท้าคางเปลี่ยนมาจิบโมเอ็ท เอ ชองดงหรือที่เขาชอบเรียกกันว่าโมเอ้แก้เซ็ง คนที่บอกว่าเจอกันที่งานตั้งแต่เช้าจนป่านนี้ยังไม่โผล่หัวมาน่าเอาขวดแชมเปญฟาดให้ตายจริงๆ

“เดี๋ยววามันก็มาไม่ต้องชะเง้อมากคอได้ยืดเป็นยีราฟพอดี” คราวนี้คนที่มาชวนคุยเป็นนายแพทย์รุ่นพี่ของโจทก์หน้าหล่อที่ยังไม่โผล่หัวมา การันต์นั่งลงบนเก้าอี้สตูลตัวข้างๆ ก่อนยกแก้วน้ำส้มชนกับเด็กหนุ่ม

“น้องพี่รันช้าเกินไปแล้วนะ ถ้ามาไม่ทันเป่าเค้กล่ะน่าดู”

“เป่าตั้งสามทุ่มจะกลัวอะไร ให้เวลามันไปแต่งหล่อหน่อยซี่ สุดที่รักเขาอุตส่าห์เลือกชุดให้ทั้งทีจะแต่งลวกๆ ได้ไง”

“ไม่รู้ล่ะ ถ้ามาไม่ทันผมเอาดอมฟาดหัวแน่ เฮ้ แล้วไหงดื่มน้ำส้มล่ะ เอาดอมไหม เดี๋ยวผมเรียกบาร์เทนเดอร์ให้”

การันต์ดึงมือขาวลงแล้วส่ายหน้าปฏิเสธ “พี่ต้องขับรถกลับ คืนนี้งดเมา”

“อะไรกัน งานวันเกิดผมทั้งทีสนุกหน่อยสิ”

“แค่น้ำส้มก็สนุกได้น่า”

“อย่าหาว่าเจ้าภาพเลี้ยงไม่เต็มที่ล่ะ แต่...เดี๋ยวก่อนนะ ผมไม่เห็นรถพี่รันเลยอ่ะ ไม่ใช่ว่าตอนมามีคนมาส่งหรอกเหรอ” อลันด์หรี่ตาจ้องจับผิด คุ้นๆ เหมือนว่าตอนเดินออกไปต้อนรับการันต์กับอักษราจะเห็นอีกฝ่ายลงจากเบาะหลังเบนซ์ เอสคลาสมา

“เพลาๆ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ดีนะ พี่ว่าเราเมาจนจำผิดจำถูกแล้วล่ะ”

“ยังไม่เมาสักหน่อย” เจ้าตัวปฏิเสธทั้งที่รู้สึกร้อนๆ บนหน้า ไม่ได้ดื่มมานานตั้งแต่ตรวจพบโรคหัวใจจนถึงตอนนี้ก็เกือบครึ่งปีแล้ว ถ้าจะเมาเร็วก็ไม่น่าแปลกใจ “อ่อ ใช่ พี่รันผมขอถามอะไรหน่อยสิ”

“ว่ามาสิ”

“วาจะไม่ไปเรียนต่อแล้วเหรอครับ”

“อ้าว เรื่องนั้นทำไมไม่ถามเจ้าตัวเขาเองล่ะ พี่จะตอบแทนได้ไหมเนี่ย”

“ผมถามแล้วแต่วาบอกว่าจะไม่ไปเรียนต่อ ผมเลยอดคิดว่าเป็นเพราะผมไม่ได้”

“ก็อาจจะใช่” คุณหมอวัยสามสิบปลายตอบตามตรง “แต่ไม่ต้องห่วงคนอย่างมันหรอก วามันรู้ตัวเสมอว่ากำลังทำอะไรอยู่ เรามีหน้าที่ตั้งใจเรียนแล้วก็เลิกทำหน้ามึนเหมือนแมวเมาก็พอ”

การันต์หัวเราะยกมือขยี้ผมเด็กหนุ่มก่อนลุกกลับไปที่โต๊ะด้านในสุด ทิ้งเบิร์ธเดย์บอยนั่งหน้ายู่หน้ายับไว้คนเดียวหน้าเคาน์เตอร์บาร์ เขาไม่ได้คออ่อนขนาดนั้นสักหน่อย


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2016 17:25:28 โดย บัวน้อย ไร่แตงโม »

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 29 [20.02.16]
«ตอบ #512 เมื่อ20-02-2016 18:58:29 »

หลังจากรอแล้วรอเล่าจนจะสองทุ่มครึ่งแล้วคนที่รอก็ยังไม่โผล่มาเสียทีอลันด์จึงยอมตัดใจเลิกชะเง้อคอเดินไปบอกบาร์เทนเดอร์ให้ช่วยเก็บดอม ปี 2000 ไว้ฟาด เอ๊ย ให้ทิวากานต์ชิมหนึ่งขวดแล้วไปเฮฮากับเพื่อนๆ ดีกว่า

เด็กหนุ่มรวมกลุ่มเพื่อนนั่งกินนั่งดื่มจนอิ่ม คุยเรื่องสัมเพเหระไปเรื่อยทั้งเรื่องส่วนตัวเรื่องเรียน จนการันต์เดินมาร่วมวงเอ่ยชวนกันเล่นเกมดึงแบงค์พันออกจากหอคอยแก้วคอกเทล ใครทำได้โดยที่แก้วไม่ตกลงมาแตกเอาเงินไปเลย งานนี้ป๋ารันพร้อมแจกไม่อั้น เรียกเสียงฮือฮาจากเด็กหนุ่มเด็กสาวได้ทุกทิศ

เกมนี้เจ้าของวันเกิดต้องเป็นคนประเดิมตามธรรมเนียม คุณหมอคนต้นคิดเกมควักธนบัตรสีเทาจากกระเป๋ามาวางบนฐานแก้วคอกเทลที่ใส่เหล้าไว้ค่อนแก้วแล้วเอาอีกใบวางทับเป็นยอด งานนี้ถ้าดึงพลาดแก้วล้มนอกจากจะได้เก็บเศษแก้วเช็ดเหล้าแล้วเงินมูลค่าหนึ่งพันบาทยังเสี่ยงเปื่อยยับใช้ไม่ได้อีกด้วย เรียกได้ว่ามีแต่เสี่ยงกับเสี่ยง แต่เพราะเสี่ยงแบบนี้แหละถึงสนุก

อลันด์กลั้นหายใจเอานิ้วหนีบปลายธนบัตรทั้งสองด้านดึงไว้จนตึงเปรี๊ยะท่ามกลางสายตาลุ้นระทึกจากเพื่อนร่วมคณะ พอได้จังหวะเขาจัดการตวัดนิ้วเร็วๆ เพียงปริบตาเงินสดมูลค่าหนึ่งพันบาทก็ลอยออกมาอยู่ข้างนอกแล้ว เด็กแสบยักคิ้วเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ ให้คนต้นคิดเกม มีอัลเบิร์ตยืนปรบมือเชียร์เป็นแบ็คกราวด์ เกมนี้สำหรับคุณชายโอเนลล์แล้วถือว่าง่ายเหมือนปลอกกล้วย คุณอาคนหนึ่งทางฝ่ายพ่อเคยสอนเทคนิคนี้กับเขาตอนสิบสี่ หลังจากนั้นพอมีเกมแบบนี้ทีไรเขาได้กินเงินเจ้ามือตลอด

ถัดมาเป็นตาของเพื่อนผู้ชายที่อยากได้เงินกินขนมออกมาอาสา เด็กหนุ่มหมายมั่นปั้นมือเป็นอย่างดี ยิ่งมีตัวอย่างให้เห็นแล้วเขามั่นใจว่าจะไม่พลาด แต่เพราะเป็นมือใหม่แก้วค็อกเทลจึงตกลงมาหกเลอะเทอะ เสียงแก้วแตกดังไม่เท่าเสียงร้องกรี๊ดของพวกผู้หญิงที่ดังยาวนานจนหลายคนสงสัยโดยเฉพาะเสียงกรี๊ดของสาวิตรีทั้งที่อำนาจทำลายล้างของแก้วเป็นแค่วงสั้นๆ บนโต๊ะกลมตัวหนึ่งแถมกินเวลาไม่นานด้วยซ้ำ

“หละ...หละ หลบหน่อยพระเอกมา โหย มาก็สายยังแย่งซีนไอ้บู้อีกนะ” คนินทร์โผล่มาเกาะหลังเพื่อนซี้ตัวเล็กทันทีที่เห็นต้นตอเสียงกรี๊ดเป็นรถซูเปอร์คาร์สีขาวหลังคาดำคันคุ้นตา

ตาสีซีดจับจ้องชายหนุ่มร่างสูงเดินลงมาจากรถด้วยท่วงท่าเหมือนนายแบบโฆษณาโดยไม่ฝืนเก๊กจนไม่เป็นธรรมชาติเหมือนที่เพื่อนด้านหลังเคยลองทำ แม้แต่ตอนใช้นิ้วเรียวสวยกลัดกระดุมบนเสื้อสูทยังสมบูรณ์แบบจนหลายคนเคลิ้ม ริมฝีปากสีแดงเรื่อแต้มรอยยิ้มจางหากเด่นสะดุดตามากกว่าเนคไทสีเดียวกันบนชุดดำทั้งตัว

อลันด์กะไว้แล้วว่าทิวากานต์ในชุดสูทที่เขาเลือกให้จะต้องดูดีโดดเด่น แต่เหมือนเขาประเมินต่ำไปหน่อยเพราะตอนนี้คนรักเขามีเสน่ห์สะดุดตายิ่งกว่าโธมัสเสียอีก

“YOU - ARE - LATE!”

“But finally I’m here” คนมาสายยิ้มเหมือนไม่รู้ว่าตัวเองผิด เขาลูบผมอลันด์ลงมาถึงแก้มนุ่มก่อนดึงแขนอีกคนเข้าไปหาผู้ใหญ่เป็นเพื่อน

ชายหนุ่มยกมือไหว้ตั้งแต่คุณตาคุณยายจนถึงคุณลุงและภรรยาแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ว่าง เอ่ยขอโทษที่มาช้าแต่เหมือนไม่มีใครติดใจอะไร ตอนนั้นอลันด์เพิ่งสังเกตว่าพี่กิตมาถึงพร้อมกับทิวากานต์แต่ถูกแย่งซีนไปหมด

กานต์ถึงกับเก็บอาการไม่อยู่กรี๊ดกร๊าดกับความหล่อของนายแพทย์วัยสามสิบจนถูกคุณย่าเอ็ดเสียงเขียวกับความไม่เป็นกุลสตรี “โธ่ คุณย่าขา ขอกานต์กรี๊ดเหมือนพวกน้องๆ ให้สมกับความหล่อพี่วาหน่อยเถอะค่ะ เดินเข้ามาทีเหมือนโลกหยุดหมุน หล่อขนาดมาริโอ้ชิดซ้ายณเดชชิดขวา น้องแอฟก็คิดเหมือนพี่ใช่ไหมคะ”

หญิงสาวไม่ลืมหันไปหากองหนุนวัยใกล้เคียงกัน หากอักษราเอาแต่ยิ้มไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ ขืนลองบอกว่าทิวากานต์หล่อวัวตายควายล้มได้ถูกคนแก่งอนแน่ๆ เธอเงียบเก็บไปกรี๊ดคนเดียวในใจดีกว่า

“ดูพูดเข้า ไม่เกรงใจย่าก็เกรงใจคุณหมอเขาหน่อยเถอะ”

“ฮ่าๆ ไม่เป็นไรหรอกครับคุณยาย มีคนชมแบบนี้ผมค่อยมั่นใจหน่อยว่ายังหล่อเหมือนเดิม เห็นวันเกิดแบบนี้แล้วอดรู้สึกว่าตัวเองแก่ขึ้นทุกปีไม่ได้” ทิวากานต์ยิ้มรับไม่ถือสา เขาเบี่ยงตัวหันไปหาบริกรสั่งเครื่องดื่ม เห็นมีของดีอย่างดอม เพอริญองก็จัดมาเสียหน่อย คืนนี้ไม่เมาไม่เลิก

แต่กลายเป็นว่าถูกเด็กฝรั่งดึงชายเสื้อเอ็ดเข้าให้ “ดื่มแบบนี้แล้วจะขับรถกลับยังไง ขนาดพี่รันยังไม่ดื่มเลย”

“ไม่ต้องห่วง ระดับนี้เมาไม่ขับอยู่แล้ว”

“หมายความว่าไง” เสียงแหบเริ่มเหวี่ยง มาสายแล้วยังทำให้สงสัยอีกนะ

“เดี๋ยวก็รู้น่า ขอพี่กินอะไรก่อนนะหิวมากเลย”

“คุณลุงใช้งานพี่วามากไปแล้วนะ” พอเอาผิดกับคนข้างตัวไม่ได้เจ้าของวันเกิดจึงไปลงกับเจ้านายคนรักแทน พอเห็นพี่ชายแม่ทำหน้าตกใจเด็กหนุ่มจึงใส่ไม่หยุด “ก็เดือนนี้พี่วากลับดึกประจำเลย”

“พี่เขาต้องทำงานแล้วเราไปวุ่นวายอะไรกับเขาล่ะฮึไอ้ตัวยุ่ง”

“คุณยายยย...” พอถูกสกัดเจ้าตัวแสบถึงกับร้องโอดครวญหน้างอเดินปึงปังกลับไปรวมกลุ่มกับเพื่อนเล่นเกมต่อ คนที่หวังให้มาง้อก็ไม่มานั่งกินข้าวอยู่กับพวกคนแก่ตรงนั้นแหละ กระนั้นเขารู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากขนาดที่คนินทร์รีบเข้ามากระเซ้า

เกมดึงธนบัตรดำเนินต่อไปเรื่อยๆ มีคนทำได้บ้างไม่ได้บ้างแต่ส่วนใหญ่จะชวดเสียมาก เกมกินเงินป๋ารันไม่ใช่ง่ายๆ เลย

พอสามทุ่มจึงได้ฤกษ์เริ่มไฮไลท์สำคัญของงานวันเกิด เค้กปอนด์รูปทรงกีตาร์ปักเทียนเลขอายุถูกยกออกมาโดยฝีมือหมอกิตท่ามกลางไฟสลัวและเสียงร้องเพลงแฮปปี้ เบิร์ธเดย์

อลันด์หลับตาอธิษฐานก่อนก้มลงเป่าเทียนจนเปลวไฟมอดลงแสงนีออนจึงสว่างขึ้นมาอีกครั้ง เขายกมือไหว้ขอบคุณคุณตาคุณยายที่จัดงานวันเกิดนี้ให้ ตัดเค้กแจกผู้ใหญ่รับขวัญรับพรเป็นที่เรียบร้อยอดีตเอกอัครราชทูตกับภริยาถึงค่อยยื่นซองจดหมายสีครีมเรียบๆ ให้หลานชายคนโปรด ทีแรกเด็กหนุ่มคิดว่าคงได้เป็นเช็คเงินสดอย่างเคย หากคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอัตโนมัติเมื่อสัมผัสวัตถุนูนๆ ด้านใน

“เปิดดูเลยสิจ๊ะ ยายจะได้รู้ว่าเราชอบหรือเปล่า”

เมื่อได้รับอนุญาต เด็กฝรั่งตัวแสบจึงไม่รอช้าแกะซองแล้วเทของที่อยู่ข้างในออกมาดู เพียงแค่เห็นคีย์การ์ดกับกุญแจรถมินิก็อ้าปากกรี๊ดเป็นเด็กๆ อลันด์ดึงคุณตาคุณยายมากอดแถมจูบให้อีกคนละฟอดแล้ววิ่งออกไปดูมินิ คูเปอร์ เอสสีขาวล้วนคันใหม่เอี่ยมทะเบียนประมูลที่จอดโชว์อยู่หน้าร้าน เดินๆ ดมๆ อยู่สามรอบถึงกลับเข้ามาข้างในถามถึงคีย์การ์ดที่ได้เป็นของขวัญอีกชิ้น

“ชิ้นนี้งานเลิกแล้วค่อยไปดู” ทิวากานต์ฉวยคีย์การ์ดสอดใส่เสื้อสูทตัวเอง ก่อนเดินไปหาดีเจให้เริ่มปาร์ตี้เต็มรูปแบบได้เลย

คนตัวเท่าไหล่เบะปาก ของขวัญชิ้นนี้ดูท่าคุณหมอคงมีส่วนรู้เห็นด้วยไม่น้อย เมื่อกี้เห็นแวบๆ บนหน้าการ์ดเป็นชื่อโรงแรมหรือคอนโดอะไรสักอย่าง แสดงว่าราตรีนี้ยังอีกยาวไกลจะเมาหัวทิ่มไม่ได้เด็ดขาด

เสียงดนตรีอิเลคโทรนิคแนว EDM ดังขึ้นเป็นสัญญาณบอกเริ่มงานปาร์ตี้และหมดเวลาครอบครัวแล้ว เจ้าของวันเกิดเดินไปส่งคุณตาคุณยายขึ้นรถกลับบ้าน คุณลุงกับภรรยาเองก็ขอกลับไปพร้อมกันเหลือแค่พี่กิตพี่กานต์ไว้ ด้านหมอการันต์พอร่วมวงแดนซ์กับเด็กๆ ไปได้หน่อยก็ขอตัวพาอักษรากลับบ้าน คุณป๋าหน้าใหญ่ไม่ลืมอวยพรวันเกิดให้ศีลให้พรเบิร์ธเดย์บอยอีกรอบแล้วกระโดดขึ้นน้องกบของทิวากานต์ขับออกไป เด็กหนุ่มทำหน้างงคิดไปเองว่าคุณหมอคงเอารถฝากไว้กับการันต์แล้วขับมินิกลับห้องไปกับเขา

เด็กฝรั่งฝ่าเพื่อนๆ ที่เริ่มออกลวดลายขยับร่างกายไปหาทิวากานต์ท่ามกลางวงล้อมสาวน้อยหน้าตาดี ตั้งแต่เริ่มปาร์ตี้คนรักเขาฮอตปรอทแตกมีแต่คนเข้ามาสี ยิ่งเจ้าตัวสวมบทบาทแบดบอยรักสนุกพวกผู้หญิงยิ่งกรี๊ดเข้าไปใหญ่ ถ้าตาไม่ฝาดไปเหมือนจะเห็นเพื่อนชายออกสาวเข้าไปสีด้วย

“พี่รันไปแล้วไม่มีสปอนเซอร์จ่ายค่าเกมเลยอ่ะ” ใครสักคนร้องขึ้นมา กิตเห็นแบบนั้นเลยสวมรอยเป็นเสี่ยเล่นเกมแจกเงินบ้าง แต่จะให้ดึงแบงค์จากแก้วคอกเทลก็ดูจะเกิดความเสียหายมากไปเลยใช้ขวดแชมเปญเปล่าแทน เขาคว่ำปากขวดให้ทับธนบัตรมูลค่าหนึ่งพันบาทไว้แล้วขออาสาสมัคร งานนี้ดูเหมือนง่ายแต่ลองแล้วทำยังไงขวดก็ล้มทุกที

“อ่อน!” หนุ่มฮอตแย่งซีนเจ้าของงานตะโกนเสียงดังหลังคนินทร์เข้าไปลองแล้วทำขวดล้ม เสียงโห่ฮาดังขึ้นรอบทิศราวจะท้าให้คนพูดออกมาลองเองบ้าง “เดี๋ยวก็รู้ว่าเรามันคนละระดับกัน”

ทิวากานต์เข้าไปยืนหน้าโต๊ะกลมตัวที่ใช้เล่นเกม เสื้อสูทถูกโยนให้หนุ่มไทยที่เพิ่งแพ้เกมไปเป็นคนถือ เขาอวดหุ่นตึงแน่นสมส่วนใต้เสื้อกั๊กเรียกเสียงกรี๊ดได้อีกระลอก

“ของแค่นี้ กล้วยๆ” พูดจบปุ๊บเขากระทืบรองเท้าหนังบนพื้นแรงๆ แล้วใช้นิ้วนุ่มตวัดดึงธนบัตรออกมารวดเร็วง่ายดายทำเอาเสียงกรี๊ดดังขึ้นอีกเท่าตัว

“จะเด่นเกินหน้าเกินตาน้องชายพี่ไปแล้วไหมหมอวา แบบนี้อัลน้อยใจแย่”

ตาเรียวดุหันไปมองเชิงถามว่าแค่นี้งอนเหรอ เลยถูกคนเด็กกว่าสะบัดหน้าใส่ วันนี้ทิวากานต์ทำตัวน่าเอาขวดแชมเปญฟาดหัวจริงๆ อลันด์เดินไปหาบาร์เทนเดอร์สั่งมอคเทลมาดื่มให้อารมณ์เย็น พยายามไม่นับว่าตั้งแต่เริ่มงานปาร์ตี้มาเจ้าตัวทำให้เขาหงุดหงิดไปแล้วกี่ครั้ง

เสียงเพลงดังขึ้นเรื่อยๆ เท่ากับระดับแอลกอฮอล์ในร่าง งานปาร์ตี้ยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่เมื่อนักร้องหนุ่มชื่อดังขวัญใจหญิงไทยค่อนประเทศโผล่มาตอนสี่ทุ่ม เด็กหนุ่มหลายคนถอดสูทวาดลวดลายบนฟลอร์เต้นรำอย่างไม่มีใครยอมใคร สาวคนไหนหมายตาหนุ่มคนใดก็เข้าไปกระแซะใกล้ๆ เล่นเอาหนุ่มฮอตอย่างนภกับทิวากานต์เหงื่อท่วมตัวแต่กลับยิ่งน่ากินขึ้นอีกหลายเท่า สุดท้ายเป็นหนุ่มวัยสามสิบยอมแพ้ขอนั่งพักเหนื่อยสั่งบรั่นดีมาจิบเบาๆ ที่เคาน์เตอร์บาร์ พอมีสาวตามมานั่งด้วยเด็กฝรั่งขี้หึงจะรีบพุ่งมานั่งกันท่าส่งสายตาขวางๆ ใส่ทุกคนที่ทำท่าจะเข้ามา เล่นเอาถอยหลังกลับกันแทบไม่ทัน

ขอเวลาส่วนตัวให้คู่รักบ้างเถอะ!

“เป็นเจ้าของงานแท้ๆ ไปแยกเขี้ยวใส่แขกได้ไง นิสัยเสีย”

“วันนี้ฟีโรโมนฟุ้งยั่วแมลงเป็นพิเศษนะ” ไม่ต้องอารัมภบทกันมากมายเจ้าตัวแสบเปิดประเด็นตามนิสัยทันที หากคนปล่อยฟีโรโมนจะสลดสักนิดเป็นไม่มีแถมยังยกมุมปากยักไหล่บอกว่าเป็นเรื่องช่วยไม่ได้

“อัลเลือกชุดเองนะ” เจอย้อนแบบนี้คนตัวเล็กถึงกับออกอาการจิ๊จ๊ะจนทิวากานต์อยากจับมาตีปากด้วยปากเน้นๆ สักที

พวกเขานั่งดื่มกันเงียบๆ สักพักนภก็เดินมาสมทบพร้อมสาวสวยอีกสองคน ทิวากานต์เลยลุกกลับไปลงสมรภูมิแดนซ์อีกครั้ง ชายหนุ่มแทรกตัวเข้าไปกลางฟลอร์แล้วเริ่มขยับร่างกายตามจังหวะเพลง EDM จากเบาๆ จนกระทั่งหัวสั่นหัวคลอน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกส่งให้ดื่มจากแทบทุกทิศ ยิ่งเต้นยิ่งคึกร่างกายร้อนผ่าวโดยเฉพาะตอนสัมผัสเสียดสีเสื้อผ้ากับคนอื่น หน้าตาชื้นเหงื่อเซ็กซี่ยั่วยวนจนอลันด์ที่มองอยู่เผลอกัดปากด้วยความอยากกินหลายครั้งจนเลือดซิบ

หากก่อนจะตบะแตกไปลากคนกลางฟลอร์มาจูบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก็สั่นกราว ยกขึ้นมาดูเห็นเป็นชื่อคุณชายจากอังกฤษจึงเดินเลี่ยงออกมารับที่นอกร้าน

‘Happy Birthday หวังว่ายังทันนะ’ เสียงทุ้มนุ่มสำเนียงบริติชแบบผู้ประกาศข่าว BBC ดังผ่านลำโพงให้ได้ยินพลางจินตนาการถึงใบหน้าหล่อเหลาอย่างนักกีฬาโปโลทีมชาติขึ้นมาทันที

“ถ้าช้าไปกว่านี้สักชั่วโมงคงไม่ทัน”

‘อ่า...กะเวลาผิดจนได้ ฉันอยากอวยพรเป็นคนสุดท้ายน่ะ ได้รับของขวัญกับช่อดอกไม้หรือยัง’

“ขอทีเถอะเจมส์เรื่องดอกไม้เนี่ย ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนะ”

‘อย่าซีเรียสน่า’ หนุ่มอังกฤษหัวเราะชอบอกชอบใจ เขามีอะไรอีกมากที่อยากพูดแต่เลือกเก็บไว้กับตัวจะดีกว่า ‘อืม...ยังไงก็ขอให้มีความสุขแล้วกัน สุขสันต์วันเกิดนะอัล’

“ขอบใจ” เขาสอดโทรศัพท์เก็บที่เดิมหมุนตัวกลับเข้าไปในร้าน มือเรียวผลักบานประตูกระจกเข้าไปเจอทิวากานต์ยืนอยู่ตรงหน้า

“ใครโทรมา ทอม? เจมส์?”

“เจมส์โทรมาเบิร์ธเดย์ แล้ววาไม่เต้นต่อแล้วเหรอ”

“ไม่อ่ะ พอ เหนื่อย แก่แล้ว” เขาถลกแขนเสื้อดูเวลา อีกสี่สิบห้านาทีจะเที่ยงคืน “ได้เวลาล่ะ ไปนั่งรถเล่นกันเหอะ”

“หืม จะหนีปาร์ตี้ไปนั่งรถเล่น”

“ใช่ ไปกันเถอะ”

ถึงจะพูดอย่างนั้นทิวากานต์กลับจูงอลันด์เข้าไปด้านในบอกให้เด็กหนุ่มแต่งตัวใหม่ให้เรียบร้อย ส่วนคนสั่งก็เดินไปไปทั่วตามหาอัลเบิร์ตที่โดนนักศึกษาสาวล่อลวงอยู่มุมหนึ่งของร้านแล้วเอาเสื้อสูทที่ถอดทิ้งไว้ตั้งแต่ตอนสามทุ่มมาสวม เมื่อทิวากานต์เดินกลับมาหาเขาอีกครั้งพร้อมพี่กิตพี่กานต์ถึงได้รู้ว่าเซอร์ไพรส์วันเกิดเขายังไม่จบแค่นี้

“รีบไปกันเถอะเดี๋ยวไม่ทัน ตรงนี้พี่ดูต่อเอง” กิตเดินมาตบไหล่น้องชายคนเล็ก เขาอวยพรอีกฝ่ายอีกนิดหน่อยก็ปล่อยให้เดินตามทิวากานต์ออกมาข้างนอก ทิวากานต์ยืนหล่อข้างเบนท์ลีย์ มูซานสีขาวคันเดียวกับที่เขานั่งมา อัลเบิร์ตยืนอยู่ไม่ไกลรอเปิดประตูให้

ไม่มีใครพูดบอกให้ทำอะไรแค่เพียงอัลเบิร์ตเปิดประตูรถร่างกายก็ขยับไปโดยทันที ร่างเล็กสอดตัวเข้านั่งที่เบาะหลังเงียบๆ จนประตูปิดลงและรถเคลื่อนตัวออกจากร้านแล้วถึงเพิ่งรู้ว่าทิวากานต์นั่งอยู่ด้านข้างชูแก้วไวน์ที่รินดอมไว้ส่งให้

“คืนนี้ยังอีกยาวนานเบิร์ธเดย์บอย”

“ยังมีเซอร์ไพรส์อะไรอีกไหม” มือเล็กคว้าก้านแก้วมาถือเองแล้วชนกับอีกคนจนเกิดเสียงเคร้งเบาๆ เสียงดนตรีแจ๊สนุ่มละมุนดังคลอในห้องโดยสารไม่ให้เงียบเหงา

“หลังจากนี้ยังมีอีกเยอะ อย่าเพิ่งช็อคไปก่อนล่ะ”



รถซีดานสีขาวเคลื่อนที่ไปบนทางด่วนด้วยความเร็วสม่ำเสมออย่างไร้จุดหมายปลายทางให้ผู้โดยสารสองคนบนที่นั่งตอนหลังดื่มด่ำชมบรรยากาศแสงไฟยามค่ำเคล้าดอม เพอริญอง ปี 2002 หลายต่อหลายแก้วจนหน้าแดงแจ๋ทั้งคู่

กระทั่งรถวิ่งมาถึงสะพานเดียวกับตอนที่พวกเขาใช้เคาท์ดาวน์ปีใหม่ ทิวากานต์สอดนิ้วรูดปมเนคไทให้คลายลงช้าๆ เขากระซิบข้างหูเด็กหนุ่มให้หลับตาแล้วใช้ผ้าไหมผืนหนาสีแดงสดปิดทับเอาไว้ อลันด์หัวเราะคิกคักพึมพำภาษาบ้านเกิดออกมาจับใจความไม่ได้

ท่ามกลางความมืดเขารู้แต่รถยังแล่นไปอีกหลายนาทีก่อนหยุดนิ่ง เสียงเปิดปิดประตูรถดังสลับติดๆ กันก่อนตัวเขาจะถูกทิวากานต์ฉุดให้ลงจากรถพาเดินสะเปะสะปะเดี๋ยวเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวามึนหัวไปหมด ไม่นานเท่าไหร่คนจูงก็หยุดฝีเท้าลง มีเสียงติ๊งดังขึ้นเบาๆ เดาเอาว่าเป็นลิฟต์และน่าจะใช่เพราะต้องเดินเข้าไปไม่กี่ก้าวแล้วความรู้สึกเหมือนเท้าลอยจากพื้นก็เกิดขึ้น หูอื้อปวดไปถึงข้างในพยายามขยับกรามหลายๆ ทีให้หายกระทั่งลิฟต์จอดยังไม่ทันจะหายดีก็ถูกลากให้เดินออกไปอีกครั้ง

อลันด์สัมผัสได้ถึงไอร้อนและกลิ่นน้ำหอมชวนฟัดจากร่างกายซ้อนทับด้านหลังเมื่อถูกจับมาหยุดนิ่งอีกครั้ง เสียงก๊อกแก๊กเบาๆ ลอดเข้ามาให้ได้ยินพร้อมแรงโอบรัดรอบเอว

“Happy Birthday Naughty Boy”

เมื่อดวงตาเป็นอิสระอีกครั้งอลันด์จึงได้เห็นทางเข้าห้องเต็มไปด้วยลูกโป่งสีเงินสลับขาว พอเดินเข้าไปด้านในก็เจอลูกโป่งรูปตัวอักษรย่อภาษาอังกฤษว่า ‘HBD’ กล่องของขวัญทั้งหมดจากในงานปาร์ตี้ถูกยกมากองไว้ตรงกลางห้องแล้ว คงอาศัยช่วงเวลาที่เขานั่งรถเล่นจัดเตรียมไว้นั่นเอง แต่ลูกโป่งพวกนี้คงทำไว้ตั้งแต่เย็น และคนทำคงไม่พ้นผู้ชายตัวโตคนนี้แน่ เห็นแบบนี้แล้วเขาจะไม่คิดบัญชีเรื่องที่มาสายแล้วก็ได้

ทิวากานต์เดินตามเข้ามาหลังปิดประตูให้ เขาตรงเข้าไปจูงมือเด็กหนุ่มเดินดูรอบๆ ห้องและมาจบที่ผนังกระจกเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาโค้งตัวสวยงามอยู่ด้านล่าง ตอนนั้นเด็กฝรั่งถึงรู้ว่านี่ไม่ใช่ห้องชุดที่อโศก “ชอบไหม” เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบชิดใบหูขาวก่อนไล้ริมฝีปากลงมาถึงปลายคางมน

“Yes” เสียงแหบพร่าพึมพำตอบกลับไปเหมือนละเมอ ใบหน้าเล็กพลิกเข้าหาอีกคนมอบจูบดูดดื่มแทนคำขอบคุณที่ทำทุกอย่างให้เขาขนาดนี้

“ทันก่อนเที่ยงคืนพอดี” ทิวากานต์ว่า “มานี่มา ยังมีเซอร์ไพรส์อีก”

“ยังมีอีกเหรอ”

“แน่นอน มาเหอะพี่เชื่อว่าเราจะชอบ”

สถานที่ที่ทิวากานต์พามาคือห้องน้ำในมาสเตอร์เบดรูมชั้นบนของห้องชุดแบบ Duplex มีอ่างจากุซซี่ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ชิดริมกระจกเห็นทิวทัศน์กรุงเทพยามค่ำคืน น้ำร้อนผสมโฟมอาบน้ำถูกรองไว้เกือบเต็ม เทียนอโรมาถูกจุดให้ความสว่างส่งกลิ่นหอมไปทั่ว ถ้าบอกว่าไม่ตกใจเลยคงเป็นการโกหก คืนนี้เขาถูกเซอร์ไพรส์จนคร้านจะนับ

ร่างสูงใหญ่ยืนซ้อนด้านหลังปลดกระดุมก่อนไล่ปลายนิ้วเนียนนุ่มกว่าหญิงสาวรั้งช่วงปกให้เสื้อสูทตกลงพื้น เสื้อผ้าปกปิดร่างกายถูกเปลื้องไปกองด้านล่างออกทีละชิ้น แม้แต่กางเกงและชั้นในทิวากานต์ยังช่วยรูดลงให้เรียบร้อย

อลันด์ตัวสั่นขนลุกเกรียว ไม่แน่ใจสาเหตุว่าเกิดจากอากาศเย็นของแอร์คอนดิชั่นที่ลอดผ่านประตูห้องน้ำมาหรือเกิดจากอาการตื่นเต้นกันแน่ ในหูได้ยินแต่เสียงสะท้อนของหัวใจเต้นดังตุ้บๆ ปวดหน่วงไปทั้งอกน่ากลัวจะเป็นโรคหัวใจอีกรอบ เงาร่างขาวซีดสะท้อนแสงเทียนวูบวาบเหมือนภาพในจินตนาการมากกว่าความจริงทอดบนผนังกระเบื้อง เคลื่อนไหวเป็นริ้วแสงกระทั่งหายลงไปในอ่างอาบน้ำ

เปลือกตาบางหลุบลงยามแผ่นหลังเล็กเอนพิงผนังเซรามิคซึมซัมบรรยากาศแสนสบายในอ่างจากุซซี่ น้ำอุ่นกำลังดีโอบรอบกายค่อยๆ เปลี่ยนผิวขาวซีดเป็นสีแดงเรื่อ เขาปล่อยตัวจมในอ่างจนถึงสันจมูก รู้สึกสบายเหมือนตอนไปพักร้อนที่มอนเตเนโกรชะมัด

เสียงครืดคราดปลุกเด็กหนุ่มออกจากภาพฝันวันวาน เป็นทิวากานต์กลับมาอีกครั้งในสภาพสวมชุดคลุมอาบน้ำเข็นรถใส่ถังน้ำแข็งแช่ขวดแชมเปญกับแก้วไวน์ทรงสูงสองใบ มีตระกร้าใบเล็กๆ น่ารักใส่สตรอเบอรี่วางคู่มาด้วย

“Dom Pérignon Vintage 1996, your birthyear” ทิวากานต์หยิบขวดขึ้นจากถังแช่ เอาผ้าเช็ดจนแห้งแล้วยื่นให้เด็กหนุ่มอ่านฉลาก “เปิดเลยนะครับ”

“Whatcha doin’” เด็กฝรั่งผุดขึ้นจากน้ำโวยวายเคล้าเสียงหัวเราะดังลั่นกับมาดบริกรชุดอาบน้ำของคนรักที่ยังคงสวมบทบาทตีหน้านิ่งได้อย่างเหลือเชื่อ ตาสีอ่อนมองทิวากานต์จัดการเปิดจุกไม้คอร์กออกอย่างคล่องแคล่วแล้วรินส่งแก้วไวน์ให้ เขารับมาจิบเบาๆ กินคู่กับสตรอเบอรี่หวานฉ่ำแล้วยังแช่น้ำร้อนอยู่แบบนี้มีสิทธิ์เมาหัวทิ่มได้ง่าย “ไหนๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ให้ทีสิ”

“ได้ครับ”

บริกรจำเป็นก็บ้าจี้ล้วงโทรศัพท์มือถือจากกองเสื้อผ้าบนพื้นแล้วส่งให้อลันด์เอาไปถ่ายรูป เดี๋ยวเปลี่ยนมุมนั้นเปลี่ยนมุมนี้ถ่ายแล้วถ่ายอีก ลามมาถึงชายหนุ่มช่วยถ่ายให้อีก นิ้วขาวเลื่อนๆ จิ้มๆ เลือกรูปที่ถูกใจที่สุดโพสลงอินสตาแกรมพร้อมใส่แคปชั่น ‘Best B-day I ever had #bestbday #mybirthday #growingup #19’ เป็นที่พอใจถึงส่งโทรศัพท์ให้คนรักเอาไปเก็บพ้นน้ำ

“วาซื้อห้องนี้เหรอ” พอคนรักเดินกลับมายืนกอดอกข้างอ่างเขาถึงเงยหน้าขึ้นไปถาม หวนนึกไปถึงสัปดาห์ก่อนที่ทิวากานต์เคยแย็บๆ ถามว่าชอบคอนโดนี้ไหม

“บอกแล้วว่าจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อ ใครให้คีย์การ์ดมาก็คนนั้นแหละ ฉันแค่มาช่วยตกแต่งเฉยๆ ชอบไหม”

“ชอบมาก ไม่คิดว่าคุณตาจะซื้อให้อ่ะ ถ้าแด๊ดรู้นะ...หึหึ” มือขาวยื่นแก้วเปล่าไปตรงหน้าทิวากานต์ให้เติมแชมเปญแก้วที่สองแล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเพราะไม่อยากพูดถึงบิดาจอมเฮี้ยบ “ย้ายมาอยู่ที่นี่กันไหมวา ใกล้มหาลัยแล้วก็ใกล้ที่ทำงานวาด้วยนะ”

“ย้ายมาอยู่ในฐานะอะไรล่ะ”

“คนพิเศษของผมไง จะว่าไปผมยังไม่ได้ของขวัญวันเกิดจากวาเลยนะ”

“ฉันไงของขวัญ” ตาสีซีดกระพริบปริบก่อนสำลักแชมเปญลงอ่างเมื่อเห็นชายหนุ่มวัยสามสิบยังคงยืนยันคำพูดด้วยใบหน้าจริงจัง

“แค่กๆ ล้อกันเล่นป่ะเนี่ย”

“ล้อเล่นที่ไหนกัน นี่ไงโบว์ ปลดเลยสิ” อลันด์เลื่อนสายตาไปตามนิ้วยาวมองปมชุดคลุมอาบน้ำตรงช่วงเอวแล้วหน้าแดงนึกไปถึงไหนต่อไหนใต้ผ้าขนหนูเนื้อหนา ทิวากานต์ช่างขยันทำให้คนเป็นบ้าเสียจริง “ฉันรู้น่าว่าเธออยากได้ของขวัญชิ้นนี้จะแย่”

“SHUT - THE - FUCK - UP!”

บางทีอลันด์ก็อยากถามว่าพี่ไปเอาความมั่นหน้ามาจากไหน พูดมาได้ยังไงกันว่าเขาอยากได้ทิวากานต์จะแย่ ถึงมีส่วนเป็นจริงอยู่บ้างเถอะ!

“ไม่อยากได้เหรอ อะไรกัน คนอื่นยังอยากได้เยอะแยะ เพื่อนเธอแต่ละใช่ย่อยที่ไหนทิ้งเบอร์ไว้ให้เต็มเลย”

“วาอ้ะ มานี่เลยนะ” เด็กฝรั่งตีขาในอ่างแรงๆ จนน้ำกระจาย หน้าขาวง้ำงอเรียกให้คนสูงวัยกว่าเข้ามาใกล้ระยะเอื้อมแขนถึงแล้วจัดการกระตุกปมรัดชุดคลุมอาบน้ำออก ได้ยินเสียงหัวเราะดังแว่วมาเป็นอันรู้ว่าโดนหมอศัลย์จอมเจ้าเล่ห์ยั่วเข้าให้อีกแล้ว

“ล้อเล่นน่า อัลเหยิบหน่อยขอพี่วานั่งด้วยคนนะครับ”

ไม่ต้องรอคนเด็กกว่าอนุญาต ทิวากานต์จัดการเปลื้องเสื้อคลุมอาบน้ำออกพาร่างเปล่าเปลือยลงไปนั่งเบียดอีกคนในอ่าง เขาฉีกยิ้มกว้างพลางใช้มือเปียกน้ำลูบแก้มขาวเบาๆ เอาอกเอาใจเหมือนอลันด์เป็นแมวขี้หงุดหงิด แรงดันในอ่างจากุซซี่ทำหน้าที่ได้ดีสมราคาแป๊บเดียวคนหน้างอก็ผ่อนคลายยอมให้คุณหมอนั่งซ้อนเอนตัวพิงอกทิวากานต์จิบแชมเปญเคล้าสตรอเบอรี่เพลินๆ ผลัดกันชิมผลัดกันป้อนคุยกันหัวเราะคิกคัก

กระทั่งคุณหมอรวบเอวเด็กฝรั่งด้วยสองมือแล้วเกยคางบนไหล่อีกฝ่าย กระซิบเสียงแหบพร่าชิดใบหู หาประโยคบอกกล่าวนั้นหวานจับใจเล่นเอาคนฟังน้ำตาคลอ

“ของขวัญที่พี่จะให้เป็นของที่มีค่าที่สุด พรุ่งนี้... ไม่สิ วันนี้พี่วาจะมอบเวลาของพี่ให้อัลเป็นของขวัญ จะเป็นของอัลอยู่กับอัลตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง”

อลันด์ไม่ตอบอะไรนั่งเงียบฟังคนข้างหลังพูดต่อ แต่ไม่ลืมกระชับมือจับแขนอีกคนไว้แน่นๆ

“มีเด็กปากมากโทรมาฟ้องหาว่าพี่ละเลยอัลทำอัลร้องไห้ จะหาว่าแก้ตัวก็ได้แต่พี่ต้องวิ่งเตรียมของขวัญวันเกิดเราให้วุ่น มินินั่นคุณยายเขาก็ให้ไปช่วยเลือก ตอนแรกเขาจะซื้อรถแบบพี่ให้ด้วยซ้ำแต่พี่บอกว่าอัลไม่ชอบหรอก เคยให้ขับน้องกบแล้วขาเหยียบไม่ถึงคันเร่งอย่างอัลต้องคันเล็กๆ ดูเป็นอังกฤษมากกว่าก็เลยเอาคันนี้ ห้องนี้เขาก็มาถามว่าจะแต่งยังไงดี อยากให้เป็นของอัลคนเดียวเลย พี่เลยต้องหาอินทีเรียมาช่วย ทำทั้งห้องดูหนังทั้งห้องซ้อมดนตรี สั่งเก็บเสียงไม่รบกวนเพื่อนบ้าน แล้วก็เอาห้องนอนเล็กทำเป็นวอล์กอินโครเซ็ทให้เพราะรู้ว่าเราชอบช้อปปิ้ง ทำตั้งแต่หลังปีใหม่มีเวลาแค่สองเดือนรีบจนไม่รู้จะทันไหม พอใกล้แล้วยังไม่เสร็จเลยต้องมาคุมมาเร่งช่างกันสุดๆ พลอยกลับบ้านดึกประจำ วันนี้ทำเคสเสร็จก็รีบมาตรวจงานรอบสุดท้ายกับพี่กิตแล้วเตรียมลูกโป่งข้างนอกนั่นต่อ กว่าจะแต่งตัวหล่อให้สมกับที่มีคนเตรียมไว้ให้ สุดท้ายไปงานวันเกิดสายจนได้ ลืมไปเลยว่ามีเด็กขี้งอนไม่ชอบถูกทิ้งรออยู่ พี่ขอโทษ...แต่เชื่อเถอะว่าพี่ไม่เคยคิดจะเลิกกับเราเลยนะ”

ฟังประโยคสารภาพยาวเหยียดแล้วมีหลายคำพูดที่อลันด์อยากบอกออกไปแต่ลำคอกลับตีบตันเปล่งเสียงไปไม่ได้ เด็กหนุ่มอยากบอกขอโทษ...อยากบอกว่ารักวา... หากมีเพียงน้ำตาอุ่นๆ ที่ไหลอาบแก้มเป็นบทเรียนแก่การไม่เชื่อใจคนรักที่อลันด์จะจำจนตาย

เขาเชื่อแล้วจริงๆ ว่าบนโลกนี้จะหาใครรักเขาได้เท่าที่ทิวากานต์ทำนั้นคงไม่มี



TBC

ให้เขาหวานกันต่อไปพิเศษสำหรับเดือนแห่งความรัก
หุหุ

เจอกันตอนหน้าเมื่อพี่วาพาน้องไปไหว้แม่ค่า
จุ๊บๆ
 :mew1:

ปล. ฝากแท็ก #พี่วาน้องอัล ด้วยนะคะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เอ่อมมม.   ของขวัญแต่ละอย่างเลอค่ามาก. ว่าแต่หมอวาจะให้ไรอลันด์อะ   :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ง้อพี่วาหน่อยด้วยนะอัล
อย่าโกรธเลย พี่วาตั้งใจทำให้อัล
เบิร์ดเดย์นะจ๊ะน้องอัล

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
HBD น้องอัล    :L2:   พี่วาทำหวานจริงๆช่วงนี้ ชอบค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
โอ้ยยยย...อิจฉาน้องอัล


ออฟไลน์ minkey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
หมอวาคือให้เวลาน้องงี้อ่อ  :hao6:
งื้อออออ ของขวัญน้องแต่ละอย่างพี่วามีส่วนร่วมหมดเลยอ่ะ
น่าร๊ากกกกก
รีบเปิดตัวกับทางบ้านไวๆนะ


ละมุนอ่ะ หวานอ่ะ อิจฉาน้องอ่ะ
555555

แบบหมอวานี่หาได้จากไหนนนน :hao7:
 :ling1: :katai1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เซอร์ไพรส์หนักมากๆๆๆๆ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ก่อนหน้านี้ อย่าว่าแต่อัลงอนเลย คนอ่านก็แอบงอนคุณหมอ
พอเฉลย คุณหมอวาช่างเป็นแฟนที่แสนดีอะไรเช่นนี้
ต้องทำบุญด้วยอะไรคะถึงจะได้เกิดเป็นน้องอัล

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ itsbelle

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาแล้วววววว ดีใจมากเข้ามาเปิดดูทุกวัน รักนิยายเรื่องนี้มากกกก  :mew1:

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
หวานมากอ่ะ ฮื่ออออ หมอวาคนดีคนโซฮอต อิจอัลน้อยมากค่ะตอนนี้ 555555

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
ขอแบบหมอวาคนเถอะนะ  :mew1: :pig4:

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2

ออฟไลน์ Mokuchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
น้องอัลชีวิตดี๊ดีจริงๆค่ะ น่าอิจฉาเกินไปแล้ววว :-[

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ ren

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
    • " Welcome To Y Entertainment "
เจอเรื่องเครียดๆมาติดๆกันและเพิ่งมีโอกาสเเวะมาอ่านตอนวาเลนไลน์กับตอนล่าสุดนี้  ความเครียดเราหาไปเลยยนะ  อ่านไปยิ้มไปกับพี่หมอวาและน้องอัล  หวานๆและอบอุ่นมาก 

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
BD ที่อัลลืมไม่ลง พี่วารักน้องสุดๆ

ปล เรื่องนี้เต็มไปด้วยหนุ่มหล่อนานาชาติ แต่ที่สุดต้องสุดหล่อวัวตายควายล้ม ชอบคำนี้เจงๆ 555

ออฟไลน์ VarainDark

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อ๊าาาา อิจฉาตัวแสบเลย หมอวาแสนดีมากอ่าาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
กรี๊ดดดดดดดด  พี่วาขา  ขอยกตำแหน่งสามีดีเด่นให้เลยค่า   :mew1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ชีวิตอัลช่างน่าอิจฉาจริงๆเลย  :o8:

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
หลงรักหมอวาบอกเลย

ออฟไลน์ imac

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 30 [27.02.16]
«ตอบ #534 เมื่อ27-02-2016 17:26:40 »

TRACK 30



แดดยามสายสอดลอดผ่านกระจกหนาและผ้าม่านทอดเป็นแสงขาวจากปลายเตียงส่องให้เห็นปลีน่องขาวสองคู่โผล่พ้นผ้านวมหนาตวัดพันเกี่ยวกันไปมา เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นเป็นระยะตามแรงขยับขึ้นลงของผ้าห่ม อลันด์อ้าปากโชว์ฟันขาวงับเข้าที่คางคนรักเต็มแรงเมื่อมือนุ่มเหมือนมือเด็กเริ่มซุกซนล้วงเข้าส่วนลับด้านล่าง

“เป็นหมาเหรอเรา หืม...ไอ้ตัวแสบ” ทิวากานต์บี้ปลายจมูกเข้ากับอีกคนด้วยความมันเขี้ยวล้วนๆ มือขวาไม่หยุดสอดแทรกเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่ม เรียวนิ้วยาวตวัดกวาดไปทั่วโพรงอุ่นแคบ

“ไม่เอาน่าวา อื้อ...อา... อ๊ะ วา ไม่นะ... พอ... อืม... ผมไม่ อ๊า ไม่ไหวแล้ว” แผ่นอกบางสะท้านไม่เป็นจังหวะ จะอ้าปากพูดออกมาแต่ละคำแทบขาดใจตาย

“ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย แค่จะทำความสะอาดให้ ถ้าไม่ทำเดี๋ยวท้...”

“เดี๋ยวท้องเสีย” เด็กหนุ่มรีบแทรกขึ้นมา อาศัยจังหวะคุณหมอผู้ถนัดทำหัตถการชะงักตวัดขาขึ้นปัดท่อนแขนใหญ่ออกไปแล้วกลิ้งตัวลงจากเตียงไม่ลืมดึงผ้าห่มมาด้วย “พอเลย สต็อปปฺ ผมทำเองได้”

“ก็พี่อยากทำให้อ้ะ”

“เมื่อคืนก็พูดแบบนี้ แล้วมันจบแค่ล้วงไหมวา เป็นกระต่ายหรือไงเซ็กจัดชะมัด พี่วาไม่สงสารผมบ้างเหรอ”

พูดไปแล้วคนฟังไม่มีทีท่าสลดอลันด์จึงต้องงัดท่าไม้ตายเรียกพี่เสียงอ่อนแค่นี้คุณหมอกระต่ายหื่นก็ยอมแพ้สิ้นทุกสิ่งอย่าง รวมไปถึงไอ้นั่นที่ตั้งตรงเคารพธงชาติตอนแปดโมงเช้าเป๊ะก็หดลงด้วย แต่ไม่วายบ่นกระปอดกระแปดเอาแต่ใจเหมือนเด็กโทษอลันด์ว่าน่ารักน่ากินเกินไปจนเขาห้ามใจไม่ไหว

ถ้าจะบอกว่าทิวากานต์งี่เง่าตอนไหนที่สุดอลันด์บอกเลยว่าตอนอยู่บนเตียงนี่สุดๆ แล้ว สารพัดสารเพวิธีการตักตวงความสุข เอาแต่ใจเอาแต่ได้และเอาแต่...นั่นแหละ

เด็กหนุ่มพาส่วนสูงห้าฟุตกับอีกหกนิ้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำอันเป็นสถานที่ฉลองวันเกิดกับคนรักสองต่อสองเมื่อคืน ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงจึงกลับออกมาอีกครั้ง ร่างขาวสวมเสื้อคลุมอาบน้ำผ้าขนหนูเนื้อหนาและมีผ้าอีกผืนโพกไว้บนหัว ตาสีซีดตวัดมองไปบนเตียงยังเห็นทิวากานต์นอนเล่นโทรศัพท์จึงทำเป็นไม่สนใจเดินเลี้ยวไปยังห้องแต่งตัวที่สร้างขึ้นมาใหม่ให้เขาโดยเฉพาะ

เสื้อผ้าใหม่เอี่ยมรวมไปถึงเครื่องประดับบางชิ้นถูกจัดวางเป็นระเบียบเรียบร้อยพร้อมให้หยิบใช้งาน อลันด์เลือกเอาชุดลำลองสีเข้มมาใส่พลางคิดกิจกรรมวันนี้ว่าจะทำอะไรบ้าง แต่อย่างแรกเลยคงเป็นการสำรวจห้องชุดนี้เสียก่อน

ตอนออกมาจากห้องแต่งตัวก็พบว่าบนเตียงว่างเปล่าแล้ว ผ้าห่มกับผ้าปูเตียงถูกรื้อยัดใส่ตะกร้าไม้สานรวมกับเสื้อผ้าชุดเก่าตรงมุมห้อง พอกำลังคิดว่าทิวากานต์หายไปไหนก็ได้ยินเสียงน้ำแว่วมาจากด้านในพอดีอลันด์เลยถือโอกาสนี้หลบไปดูห้องอย่างที่ตั้งใจคนเดียว

ห้องชุด Duplex ที่ได้มาเหมือนจะเป็นตึกเดียวกับของการันต์แต่อยู่ชั้นต่ำลงมาสิบกว่าชั้น กระนั้นยังมองเห็นภาพทิวทัศน์โค้งแม่น้ำเจ้าพระยายามกลางวันสวยงามไม่แพ้ตอนกลางคืน ผิวน้ำสะท้อนแสงแดดเป็นประกายระยิบระยับ มองไกลออกไปจะเห็นชิงช้าสวรรค์อันโต อลันด์เชื่อว่าถ้ามีกล้องส่องทางไกลกำลังสูงสักอันคงมองเห็นถึงปากอ่าวไทยแน่ๆ

ส่วนกล่องของขวัญเมื่อคืนยังคงตั้งอยู่กลางห้องด้านล่างท่ามกลางลูกโป่งหลากสีอย่างเดิมด้วยถูกเจ้าของเมินเพราะตอนนี้เด็กฝรั่งตัวแสบอยากเห็นห้องซ้อมดนตรีที่ทิวากานต์บอกไว้มากกว่า เขาไล่เปิดดูทุกห้องบนชั้นสองแล้วก็ต้องผิดหวังเมื่อเจอแต่ห้องนอนกับห้องน้ำ

อลันด์ก้าวเร็วๆ ลงบันไดสำรวจด้านล่างต่อ กองของขวัญถูกเดินผ่านให้เด็กฝรั่งไปเปิดประตูห้องนู้นห้องนี้หาสิ่งที่ต้องการต่อ ที่นี่กว้างกว่าห้องที่อโศกมากพอดูเพราะมีทั้งห้องครัวไทยและชุดครัวฝรั่งแถมโต๊ะกินข้าวขนาดหกที่นั่ง มีห้องแม่บ้าน ห้องทำงาน และในที่สุดเขาก็เจอห้องซ้อมดนตรีที่ว่าเสียที

เหมือนว่าอินทีเรียจะเอาห้องนอนเล็กมาทำห้องเก็บเสียงให้เขา แต่บอกว่าเป็นห้องนอนเล็กก็ยังมีขนาดเกินครึ่งของห้องนอนทิวากานต์ที่คอนโดนู้นจนพอจะยัดกีตาร์กับเครื่องแอมป์รวมกับกลองชุดได้สักอันสบาย ตัวห้องยังโล่งมีแค่โซฟายาวตัวเดียวตั้งริมผนังด้านหนึ่ง คงรอให้เขาเอาลูกรักทั้งหลายย้ายจากที่อโศกมาไว้เอง ผนังห้องบุแผ่นกันเสียงสีเลือดหมูเรียบร้อย คราวนี้เขาจะเล่นดนตรีดังแค่ไหนก็ได้ตามใจ ไม่ต้องไปพึ่งห้องซ้อมของนภอีกเลยก็ได้ พอสำรวจละเอียดถึงเห็นว่ามีเครื่องฉายโปรเจกเตอร์กับจอผ้าม้วนเก็บไว้อยู่ กลายเป็นห้องทูอินวัน ซ้อมดนตรีก็ได้ดูหนังก็เพลิน

“ชอบไหม”

“มาก ขอกรี๊ดได้ไหม” เด็กหนุ่มหันไปมองคนที่โผล่มาเงียบๆ ทิวากานต์อยู่ในชุดเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ดูแปลกตา จะว่าไปตั้งแต่รู้จักกันมาแทบนับครั้งที่เห็นคุณหมอใส่ยีนส์ได้

“งั้นรอพี่ออกไปกินข้าวก่อนแล้วค่อยกรี๊ดนะ รีบตามมาล่ะเดี๋ยวข้าวเช้าเย็นหมด” เขาหัวเราะทิ้งท้าย ไม่ลืมปิดประตูให้เด็กฝรั่งกรี๊ดดีใจเต็มที่กับของขวัญชิ้นใหญ่



หลังกินมื้อเช้าค่อนไปทางสายอลันด์จึงมานั่งจัดการกับกองของขวัญ เขาไล่แกะทีละชิ้นพร้อมอ่านการ์ดของคนให้ ถ้าเป็นพวกเพื่อนสาวในชั้นเรียนก็จะให้ของใช้อย่างพวกน้ำหอม เข็มขัด กระเป๋าสตางค์ ไปจนถึงตุ๊กตาหรืออะไรที่กุ๊กกิ๊กน่ารัก ถ้าเป็นเพื่อนผู้ชายที่รู้รสนิยมกันก็จะให้ซีดีเพลงต่างประเทศบ้างไทยบ้างหลากหลายแนว ส่วนคนินทร์หุ้นเงินกับเพื่อนอีกสามคนให้หูฟัง Beats By Dr. Dre รุ่น Studio สีขาวสวยงามเป็นที่ถูกอกถูกใจคนรับมาก กล่องของขวัญของการันต์ที่เล็งมาตั้งแต่เมื่อคืนก็ไม่มีผิดหวังเมื่อป๋ารันใจป้ำซื้อกีตาร์ตัวเล็กรุ่น Little Martin LX1E ให้ พอทิวากานต์บอกว่าไม่เห็นต่างจากตัวที่ห้องเลยแค่เล็กกว่าหน่อยเดียวเลยโดนเด็กฝรั่งโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงใส่แต่หัววัน

มีของขวัญอีกสองห่อที่ยังไม่ได้แกะ อันหนึ่งเป็นของเจมส์อีกอันเป็นของโธมัส เด็กหนุ่มมองอย่างช่างใจก่อนเลือกของหนุ่มตาเขียวมาเปิดก่อน นิ้วเล็กพลิกการ์ดอ่านขอความอวยพรสั้นๆ แล้วค่อยแกะห่อสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวกว่าฝ่ามือออกดู ทีแรกนึกว่าจะเป็นปากกาหรือนาฬิกาหรูตามสไตล์คุณชาย แต่เมื่อเปิดออกมากลับพบแว่นกันแดดลายเสือดาวที่ทิวากานต์ให้ความเห็นว่าเป็นแว่นคุณป้า เลยถูกอลันด์ตีเข้าให้เพราะเขาชอบมันมากถึงขั้นลองสวมทันที

“ออกจะดูดี”

“จะจำไว้นะว่าชอบอะไรแบบนี้”

“เมมไว้เลย เอาล่ะ ชิ้นสุดท้ายแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าทอมคนดีให้อะไรมา”

“แผ่นเสียงแน่ๆ” คนแก่กว่าหลังหยิบมาลูบๆ คลำๆ แล้วส่งให้เจ้าของตัวจริงพิสูจน์เอง

เป็นแผ่นเสียงไวนิล(vinyl)อย่างที่ทิวากานต์ว่าจริงๆ ตอนที่กำลังกังวลว่าต้องสิ้นเปลืองเงินซื้อเครื่องเล่นแผ่นเสียงมาเพื่อเปิดโดยเฉพาะเขาก็พลิกดูปกอัลบั้ม Rubber Soul ของ The Beatles แล้วต้องตกใจที่เห็นลายเซ็นกำกับชื่ออยู่บนนั้นตรงรูปเซอร์พอล แมคคานีย์กับริงโก้ สตาร์ ขาดเพียงแค่สมาชิกสองคนที่ล่วงลับไปแล้วเท่านั้น!

“โอ้ ฉันยอมแพ้เพื่อนรักเธอเลย”

“โอ้ว - มาย - ก็อด แมคคานีย์เขียนว่าสุขสันต์วันเกิดผมด้วย อ๊ะ มีการ์ดด้วยแหะ” เขาหยิบการ์ดใบน้อยขึ้นมาจากบนพื้นหลังเห็นหล่นจากซองบรรจุแผ่นเสียงแวบๆ

‘In my life I love you more
Hillier Hermann
Your BEST’


ลายมือหวัดตวัดน้ำหมึกลงบนกลางกระดาษสั้นๆ และลงชื่อไว้แค่นั้นแต่อลันด์รู้ความหมายมันดี รอยยิ้มอ่อนจางปรากฏบนหน้าขาว โธมัสก็เป็นเสียแบบนี้เขาจะโกรธได้นานสักแค่ไหนกัน

“ฮิลลิเออร์? ใครน่ะ ไม่ใช่ทอมหรอกเหรอ”

“ชื่อทอมนั่นแหละแต่เป็นชื่อกลาง โธมัส ฮิลเลียร์ เฮอร์มานน์ กริฟฟิธส์ เป็นชื่อกับนามสกุลคุณตาที่เป็นเยอรมัน พี่น้องบ้านนี้ใช้นามสกุล Hermann กันทุกคนล่ะยกเว้นลียอน”

“ทำไมล่ะ”

“เพราะหมอนั่นเกิดที่อังกฤษไง”

“อาฮะ แล้วชื่อกลางของอัลล่ะชื่ออะไร”

“เอลเมอร์ ราวี่ หรือ เอลเมอร์ รวี จะออกเสียงแบบไหนก็ได้ เอามาจากชื่อแด๊ดกับนามสกุลเก่าคุณยาย”

“อลันด์ เอลเมอร์ รวี โอเนลล์ ชื่อยาวชะมัด”

“นี่สั้นแล้วนะ ถ้าเป็นพวกพี่ชายเจมส์ยาวกว่านี้อีก เฟเดอริค อเล็กซานเดอร์ที่หนึ่ง ชื่อทวดคนนู้นคนนี้ บลาๆๆ ใครจะไปจำได้ แล้ววาอ่ะ ไม่มีชื่อกลางอะไรแบบนี้เหรอ”

“ไม่มีหรอก แค่ชื่อกับนามสกุลก็ยาวเขียนมือหงิก”

“ทิวากานต์ เชาวกรกุล อืม...ถ้าเขียนเป็นภาษาอังกฤษคงลำบากน่าดู” เด็กฝรั่งให้ความเห็น ชื่อเขาถึงจะยาวแต่เขียนเป็นภาษาอังกฤษก็สั้นนิดเดียวแถมอ่านง่ายไม่เหมือนชื่อคนไทย “แล้วทิวากานต์แปลว่าอะไรเหรอ”

“เดี๋ยวก่อนๆ ไปรู้นามสกุลฉันมาจากไหน หือ? ไอ้ตัวแสบ”

“บนแฟ้มงานที่วาวางทิ้งไว้ทั่วห้องไง อ่านภาษาไทยออกนี่ไม่ได้โง่สักหน่อย ตาวาบอกแล้วว่าชื่อวาแปลว่าอะไร เร็วๆ อย่ามายวนกันนะ”

“เชื่อแล้วว่าอ่านภาษาไทยคล่อง ไม่ต้องใช้ศัพท์โบราณใส่ก็ได้” คุณหมอยกมือยอมแพ้ เวลาเห็นหน้าเด็กฝรั่งจ๋าแต่ใช้ภาษาเหมือนคนแก่สักสี่สิบห้าสิบปีขึ้นอดจั๊กกะเดี๊ยมไม่ได้ทุกที “ทิวาคือพระอาทิตย์ ส่วนกานต์คำนี้มีความหมายว่าคนที่เป็นที่รัก พอเอามารวมกันเลยกลายเป็นที่รักของพระอาทิตย์ไง เอาล่ะตาพี่ถามกลับมั้ง แล้วชื่อเราทำไมต้องมีตัว D ด้วย Alan เฉยๆ ไม่ได้เหรอ”

“ความจริงจะว่าไม่ต่างก็ไม่ต่างแต่จะว่าต่างก็ต่างนะ” เด็กหนุ่มทำท่านึกก่อนพูดชวนงง ร่างเล็กเริ่มไถลลงนอนกับพื้นพรม “มันเป็นชื่อเก่าโหลๆ เหมือนนามสกุลสมิธแหละ แต่พวกอังกฤษไม่ค่อยใช้แบบมีตัว D กันหรอก ถ้าเวลส์ล่ะก็มีใช้บ้าง แต่ที่ตั้งชื่อนี้เพราะแด๊ดกะมัมพบรักกันที่เกาะโอลันด์(Åland) สวีเดน เขาเลยเอามาตั้งเป็นชื่อผม ถ้าจะเอาความหมายก็ประมาณว่าสดใสเหมือนกับพระอาทิตย์ล่ะมั้ง”

“แด๊ดดี้คงรักเราน่าดู”

“แน่นอน อ๊ะ ผมจำได้ล่ะเรื่องนามสกุลคุณยาย” นอนเท้าคางยิ้มพอใจได้ไม่เท่าไหร่ร่างเล็กก็ผุดตัวลุกขึ้นนั่งทำตาโต

“รวีน่ะเหรอ”

“ใช่ ตอนเด็กๆ ผมเคยถามคุณยายว่ารวีแปลว่าอะไร วาอยากรู้ไหม”

“ว่ามาสิ”

“แปลว่าพระอาทิตย์”

“หึ จะบอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือพรหมลิขิตดีล่ะ”

เด็กแสบยิ้มหวานตาหยี คลานเข่ากระดึ๊บๆ หยิบเบบี้ กีตาร์ตัวใหม่มาตั้งสายแล้วตอบคำถามด้วยเสียงเพลงและภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำคมคายตามแบบฉบับเพลงของครูเอื้อ สุนทรสนาน

“พรหมลิขิตบันดาลชักพา ดลให้มาพบกันทันใด
ก่อนนี้อยู่กันแสนไกล พรหมลิขิตดลจิตใจ ฉันจึงได้มาใกล้กับเธอ”


“อย่าบอกนะว่าคุณตาชอบฟังสุนทราภรณ์เลยร้องได้”

“อันนี้คุณยายชอบต่างหาก” คนอันเป็นที่รักของพระอาทิตย์ได้ยินถึงกับยิ้มแป้น ดึงเด็กหนุ่มขึ้นนั่งตักก่อนมอบจูบหวานๆ ให้เป็นรางวัล ทิวากานต์ก็เชื่อว่ามันเป็นพรหมลิขิตดลให้คนที่อยู่กันคนละซีกโลกได้มาเจอกันแล้วก็รักกันอย่างไม่น่าเป็นไปได้ ทำให้เขาเปลี่ยนสายตาที่เอาแต่มองผู้หญิงหยุดอยู่ที่เด็กผู้ชายคนนี้ กามเทพช่างเล่นตลกเสียจริง



หลังแกะของขวัญเสร็จทิวากานต์ชวนอลันด์ออกไปหามื้อเที่ยงกินกันข้างนอก ตาสีฟ้ามองแผ่นโลหะสีเงินบอกระดับชั้นวันหลังมาจะได้หาห้องถูก หากอดคิดไม่ได้ว่าสูงน่าดู

น้องกบของคุณหมอจอดรออยู่ด้านล่างแล้ว ข้างๆ กันเป็นมินิคันใหม่เอี่ยมของขวัญอีกชิ้นที่อลันด์ชอบใจน่าดู พอให้เลือกว่าจะขับคันไหนก็ได้คำตอบตามคาดว่าเป็นมินิคันเล็ก คนตัวสูงขายาวจึงต้องทนนั่งงอเข่าเมื่อยๆ ขับรถวิ่งเข้าถนนราชพฤกษ์ออกบางบัวทองผ่านแยกนพวงศ์ไปถนน 346 แวะซื้อเป็ดพะโล้กับกุ้งเผาข้างทางแล้วก็น้ำดื่ม

ขับต่ออีกสามสิบนาทีมินิคันงามแล่นมาจนถึงสถานที่โล่งแจ้งแห่งหนึ่ง ปากทางเข้าคล้ายกับศาลจีน มองไกลออกไปจะเห็นเนินดินสูงเหมือนภูเขาขนาดย่อมเป็นแถวยาวตลอดแนวสายตา ทิวากานต์จอดรถที่หน้าทางเข้าบอกให้เด็กหนุ่มรออยู่ในนี้ส่วนตัวเองกระโดดลงไปซื้ออะไรบางอย่างแล้วกลับมาเดินทางต่อ

“เราจะมาปิกนิคกันที่นี่เหรอวา ที่ไหนกันอ่ะ ทำไมดูน่ากลัว”

ชายหนุ่มไม่ตอบแต่มุ่งมั่นขับรถผ่านตรอกแคบๆ ขรุขระ นึกในใจว่าดีเหลือเกินที่ไม่เอาน้องกบมาไม่งั้นคนรักรถเท่าชีวิตมีร้องแน่ๆ

ด้านคนเด็กกว่าพอไม่ได้คำตอบก็หันออกไปมองนอกรถ นอกจากเป็นเนินภูเขาขนาดย่อมแล้วบางอันมีหญ้าปกคลุมบ้างปลูกต้นไม้ไว้ข้างบน บางอันก็เป็นหน้าดินแตกแห้งบางอันรกร้างปล่อยต้นไม้แห้งตาย แต่ที่เหมือนกันทุกอันคือมีป้ายหินอยู่ด้านหน้าพร้อมรูปถ่ายและตัวหนังสือภาษาจีนที่อ่านไม่ออก ดูๆ ไปก็คล้ายกับ...

“เอ่อะ... อย่าบอกนะว่าที่นี่คือสุสานน่ะ”

“ทายถูกด้วย เก่งจัง”

“โอ้ว - มาย - ก็อด วาพามาเดทกันที่สุสานเนี่ยนะ หรือว่า...จะฆ่าผมหมกป่า”

“คิดไปไหนเนี่ย เรื่องไร้สาระนี่จินตนาการเก่งจังนะ พี่พามาไหว้แม่ต่างหาก”

“ก็วาไม่บอกก่อนผมมีสิทธิจะกลัวนะ แล้ว...เดี๋ยวก่อนสิ หลุมศพแม่วาไม่ได้อยู่ในวัดเหรอ”

“อันนี้เป็นสุสานแบบคนจีนเรียกว่าฮวงซุ้ย แม่ฉันเขาก็มีเชื้อจีนเสี้ยวนึงตอนเสียเลยทำพิธีแบบจีน ความจริงฉันไม่ค่อยชอบหรอกแพงแล้วยังต้องดูแลตลอดไม่มีเวลามากขนาดนั้น จ้างคนงานก็ช่วยอะไรไม่ค่อยได้ แต่วิคเตอร์เขาอยากให้ทำก็เออทำไปเหอะ เงินเขาจ่ายทั้งหมดนั่นแหละ”

“ไอ - ซี” เขาพยักหน้ารับ ตัดสินใจเลิกมองออกไปข้างนอกเพราะหันไปทางไหนก็เจอแต่สุสานคนตาย ทิวากานต์เลือกที่เดทหลังค่ำคืนอันเร่าร้อนได้เสียวสยิวชวนขนหัวลุกซู่มาก

น้องมินิแล่นผ่านหลุมแล้วหลุมเล่าจนถึงด้านหลังสุสานอันเป็นที่ตั้งหลุมศพขนาดใหญ่ก่อนจอดที่หน้าหลุมหนึ่ง อลันด์เห็นความแตกต่างของฮวงซุ้ยอันนี้กับอันอื่นได้ชัดตรงที่ป้ายหินมีแค่ชื่อแล้วก็รูปแค่คนเดียวในขณะที่ของคนอื่นแทบยกมาทั้งตระกูล ด้านข้างปลูกต้นลีลาวดีออกดอกขาวนวลสะพรั่งทั้งต้น

ทิวากานต์เอาอาหารที่ซื้อมาจัดวางด้านหน้าคล้ายตอนไหว้ตรุษจีนที่บ้านแล้วจุดธูปแบ่งกับอลันด์คนละดอก “อัลบอกหวัดดีหม่าม้านะ แล้วบอกว่าอัลเป็นใครเป็นอะไรกับพี่ เสร็จก็เอาธูปไปปัก”

เด็กหนุ่มพยักหน้า รับธูปมาถือไว้รอทิวากานต์ทำก่อนค่อยทำตาม เขาพนมมือพูดสวัสดีในใจแนะนำตัวสั้นๆ เหมือนที่อีกคนบอก เสร็จแล้วจึงเอาธูปปักบนกระถางดินเผาเก่าๆ เช่นเดียวกับทิวากานต์ที่พอเสร็จก็นำมาปักข้างกัน

“วาพูดอะไรกับแม่บ้างเหรอ” ระหว่างรอธูปไหม้หมดดอกเพื่อจะได้ลาแล้วลงมือกินมื้อเที่ยงตอนบ่ายสอง เด็กหนุ่มชาวต่างชาติจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่ามันจะเหมือนเวลาเขาไปเคารพหลุมศพคุณปู่คุณย่าหรือเปล่า

“ก็บอกหม่าม้าว่าพาแฟนมาแนะนำ แฟนน่ารักไหม หม่าม้าชอบหรือเปล่า ถ้าชอบคืนนี้มาบอกพร้อมเลขท้ายสองตัวด้วยจะเอาไปซื้อหวย”

“อันหลังผมว่าไม่ใช่ล่ะ”

พอถูกจับได้ชายหนุ่มถึงกับหัวเราะร่วน ร่างสูงใหญ่เอนหลังลงนอนบนพื้นหญ้ามองดูฟ้าใสไร้เมฆของเดือนมีนาคมช่วงปลายฤดูหนาว ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความสุขมาก

พอลาหม่าม้าแล้วทิวากานต์ก็ขนของกลับขึ้นรถจะพาไปที่บรรยากาศดีๆ กินมื้อเที่ยงกัน เขาขับออกมาจากสุสานอีกยี่สิบนาทีเลี้ยวเข้าไปในวัดไทย อลันด์กรอกตามองบน จากสุสานจีนพาเข้าวัดต่อ บรรยากาศดีมาก(กอ ไก่ล้านตัว) ถ้ายังไม่ได้เป็นแฟนกันรับรองว่าไม่มีเดทที่สองต่อแน่

สองหนุ่มต่างวัยขนของกินลงจากรถไปวางไว้บนเก้าอี้เหนือแพตรงท่าน้ำวัดล้อมรอบด้วยแปลงผักบุ้งเขียวขจี น้ำใสจนผิวน้ำส่วนไหนไม่ถูกบังจะเห็นปลาตัวเล็กตัวใหญ่ว่ายมารับอากาศด้านบนเต็มไปหมด ลมเย็นพัดโกรกชวนสดชื่นจนต้องยืนหลับตารับอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด หากเป็นช่วงเช้าจะเห็นไอหมอกขาวลอยเหมือนภาพฝันสวยงามตื่นตากว่านี้มาก

พวกเขานั่งจัดการมื้อเที่ยงกันเงียบๆ ไม่มีคำพูดมากมาย หากต่างรู้ดีถึงความสุขที่อวลอยู่ตรงช่องอกไหลเวียนหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณให้มีกำลังใจต่อไป

สักบ่ายสี่แดดเริ่มร่มทิวากานต์จึงชวนคนเด็กกว่ากลับกรุงเทพ ขับรถออกมายังไม่พ้นเขตนครปฐมดีเสียงโทรศัพท์อลันด์ก็ดังขึ้น ตาสีฟ้าอ่อนมองหมายเลขปริศนาขึ้นต้น +44 แสดงว่าโทรมาจากอังกฤษ เขามองคนด้านข้างก่อนตัดสินใจกดรับ

“Hello?”

.
.
.

ใครว่าคนเป็นหมอเจ็บป่วยไม่เป็นขอแนะนำให้ไปคิดใหม่ หมอก็คนมีเนื้อมีหนังมีกระดูกมีเลือดเหมือนกันกับมนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ ที่เกริ่นอย่างนี้ไม่ใช่อะไร ตอนนี้ทิวากานต์คุณหมอคนเก่งรูปหล่อกำลังมีอาการที่เรียกว่าไม่สบายนั่นเอง

หลังกลับจากพาอลันด์ไปไหว้แม่ที่ฮวงซุ้ยได้ไม่ถึงสัปดาห์เขาเริ่มมีไข้ ไม่เป็นไร...กินพาราแล้วไปทำงาน ทำเคสเหมือนเดิม

สองวันต่อมาไข้ลดเขาก็ออกตรวจ ราวนด์วอร์ด ทำเคสเหมือนเดิม สดใสร่างเริงแม้จะติดเพลียนิดหน่อย ถัดไปอีกวันอลันด์สังเกตเห็นว่าเขามีผื่นแดงขึ้นเต็มหลังตอนอาบน้ำก่อนไปทำงาน หากคุณหมอไม่ยักกะคันเลยปล่อยให้มันยุบเอง พอตกเย็นตัวมีอาการไข้สูงขับรถไม่ไหว เด็กฝรั่งต้องจัดการพาคุณหมอกลับคอนโดสภาพทุลักทุเล บอกให้ไปหาหมอ ศัลยแพทย์คนเก่งก็บอกว่าตัวเองเป็นหมออาการแบบนี้เดี๋ยวกินพารานอนพักก็หาย

หากเช้าวันต่อมานอกจากไข้ไม่ลดแล้วยังดูหนักกว่าเดิมแต่ยังพอลุกเดินไปเข้าห้องน้ำหรือหาอะไรกินได้ เขาลางานนอนแบ่บอยู่ที่ห้อง อลันด์จำใจทิ้งอีกคนไว้แล้วไปเรียนไม่ลืมกำชับว่าถ้าไม่ไหวให้โทรหาไม่ก็เรียกรถพยาบาลซะ เท่านั้นล่ะได้เรื่องเลย!

“ไปโรงบาลไหนดีวะ” คนินทร์หันไปถามเพื่อนตัวเล็กที่เบาะหลังระหว่างขับรถออกมาจากคอนโดย่านอโศก ทิวากานต์บนตักอลันด์หน้าซีดเอามือกุมท้องท่าทางทรมานมากเห็นแล้วชักใจเสีย แต่เขายังพอมีสติอยู่จึงตอบแทนคนเด็กกว่าที่คล้ายจะสติหลุดไปแล้ว

“ไป...”

“วาไปโรงบาลคุณลุงดีกว่า ใกล้กว่านะ”

“รถติดพอกันแหละ ไปที่...เถอะ” เขายังย้ำคำเดิมให้ไปส่งโรงพยาบาลรัฐที่ตนทำงาน คนินทร์จึงรีบเลี้ยวไปทางเดียวกับตอนขามาทันที รู้สึกตัดสินใจถูกที่โดดเรียนมาหาทิวากานต์กับอลันด์เพราะดูท่าให้แบกคุณหมอตัวโตไปโรงพยาบาลคนเดียวคงไม่ไหว

“อัลโทรบอกพี่รันยังอ่ะ”

“พี่รันไม่รับโทรศัพท์ สงสัยติดเคส แต่ฉันส่งข้อความไปแล้วล่ะถ้าเห็นคงติดต่อกลับมาเอง คิวเหยียบหน่อยดิ”

เด็กหนุ่มตอบเพื่อนรักแล้วบอกให้อีกคนเร่งความเร็วรถหน่อย เขาก็อยากทำให้หรอกนะแต่ย่านอโศกตอนบ่ายรถน้อยเสียที่ไหน คงต้องรอขึ้นทางด่วนก่อนนั่นแหละถึงทำความเร็วได้ กระนั้นเขาก็ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงพาทิวากานต์มาส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลได้

ทิวากานต์ถูกโยนขึ้นเตียงลากเข้าไปในห้อง ER ทันที เสียงหมอกับพยาบาลพูดรับส่งกันเร็วปร๋อเป็นศัพท์เฉพาะล้วนทำเอาคนมาส่งมึนงงและหน้าเสียไปเมื่อคิดว่าอาการคนป่วยคงหนักมากทุกคนถึงดูวุ่นวายกันอย่างกะในหนัง

“คิว... วาจะตายไหมอ่ะ”

“เฮ้ย ปากเฉีย!” หนุ่มไทยร้องเสียงหลงรีบเอามืออุดปากเพื่อนต่างชาติก่อนลากออกไปรอที่เก้าอี้ด้านนอก “อยู่กับหมอแล้วไม่เป็นอะไรหรอก”

“ขนาดวาเป็นหมอยังวินิจฉัยโรคตัวเองไม่ได้เลย วาจะเป็นโรคอะไรร้ายแรงหรือเปล่า หรือจะติดอีโบล่า เครียดว่ะ”

“อีโบลงอีโบล่าอะไรไปกันใหญ่แล้ว ไทยปลอดเชื้อเว้ย  ใจเย็นๆ ปกติเฮียแข็งแรงจะตาย ไม่เป็นไรง่ายๆ หรอกน่า”

อลันด์ถอนหายใจเฮือก นัยน์ตาสีอ่อนเต็มไปด้วยความกังวล กลัวคนรักจะเป็นอะไรไปจนเหงื่อออกทั้งหน้าทั้งฝ่ามือ ระหว่างนั่งรออยู่โทรศัพท์ก็ดังเป็นการันต์โทรกลับมาหลังอ่านข้อความ คุณหมอวัยใกล้สี่สิบเพิ่งสอนเสร็จเมื่อได้อ่านข้อความจึงรีบโทรมาถาม พอรู้ว่าตอนนี้ทิวากานต์อยู่ที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลก็บอกว่าจะรีบไป

ไม่ถึงสิบนาทีนายแพทย์การันต์ก็วิ่งหอบมาถึงหน้าห้องฉุกเฉิน เขาลูบหัวเด็กฝรั่งแล้วเข้าไปดูอาการทิวากานต์ด้านใน เพียงครู่เดียวจึงออกมาพร้อมใบหน้าที่เอาคนมองรู้สึกดีขึ้น

“เหมือนจะเป็นไข้เลือดออก ตอนนี้กำลังรอผลเลือดแต่จะย้ายวาไป ICU ก่อน ตัวแสบไม่ต้องห่วงนะ ไอ้วาไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องร้อง” ชายหนุ่มลูบหัวลูบหลังเด็กหนุ่มที่ปล่อยน้ำตาเม็ดโตหล่นเผาะทันทีที่เขาบอกว่านายแพทย์รุ่นน้องเป็นไข้เลือดออก เขานึกชมตัวเองที่ตัดสินใจถูกไม่บอกเรื่องทิวากานต์เกือบช็อกเพราะเกล็ดเลือดต่ำมากออกไป ร่วมถึงมีเปอร์เซ็นต์ที่เลือดออกในกระเพาะด้วย ไม่งั้นได้เห็นฝรั่งร้องไห้กลางโรงพยาบาลแน่ๆ

หลังเฝ้าดูอาการอยู่หลายชั่วโมงอาจารย์หมอเจ้าของไข้ก็ให้ทิวากานต์ดูอาการใน ICU ต่ออีกหนึ่งคืน ให้เลือดให้ยาทางสายยางและต้องเจาะเลือดตรวจทุกสี่ชั่วโมงจนกว่าค่าเกล็ดเลือดจะดีขึ้นเป็นที่น่าพอใจ (เขากะว่าจะเอาหมอศัลย์สุดฮอตของโรงพยาบาลเป็นเคสศึกษาให้พวกนักศึกษาซะ รับรองได้ว่าพวกนักศึกษาสาวและหนุ่มน้อยจะตั้งใจดูเคสนี้กันเต็มที่) แน่นอนว่าห้ามเยี่ยม แต่อลันด์ใช้เส้นการันต์แอบเข้าไปดูคนรักแป๊บๆ ก่อนกลับคอนโดไปพักตามคำสั่งของคนแก่

ระหว่างทางกลับคอนโดอลันด์นั่งเงียบมาตลอดมีคนินทร์ขับ BMW ซีรีส์ไฟว์ของทิวากานต์ให้ กระทั่งถึงที่พักเขาก็ตัดสินใจจะหอบเสื้อผ้าหนังสือเรียนไปนอนคอนโดริมแม่น้ำสำหรับคืนนี้และคืนต่อๆ ไปจนกว่าทิวากานต์จะออกจากโรงพยาบาล

หนุ่มไทยเห็นอาการใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวของเพื่อนสนิทจึงอาสาไปนอนเป็นเพื่อนด้วยคนและถือโอกาสนี้อ่านหนังสือเตรียมสอบไปด้วยเสียเลย

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
เช้าวันต่อมาก่อนเข้าเรียนเด็กหนุ่มแวะไปหาทิวากานต์ที่โรงพยาบาล ใช้เส้นการันต์เข้าไปหาคนรักในห้อง ICU อีกครั้ง อาการชายหนุ่มพ้นขีดอันตรายแล้วแต่อาจารย์หมอที่รักษายังอยากให้ดูอาการในนี้อีกคืน หลังจากนั้นถึงแจ้งข่าวการป่วยของทิวากานต์ให้เหล่าคนใกล้ชิดและแก๊งป้าทราบ ป้าอิงกับขัตติยาที่มาเฝ้าลุงเข้มอยู่แล้วพอรู้ข่าวว่าหลานคนเก่งล้มหมอนนอนเสื่อก็รีบมาหาทันที ถามไถ่อาการเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงค่อยโล่งอกกลับไปดูอาการสามีตัวเองต่อ

งานนี้คุณหมอรูปหล่อต้องอาศัยโรงพยาบาลยาวพอกับตอนอยู่เวรสมัยเรียน ไอ้ที่จะได้พักผ่อนรักษาตัวก็แค่ช่วงแรกที่อยู่ไอซียูเท่านั้น พอย้ายออกมาอยู่ห้องพักผู้ป่วยบรรดาเพื่อนร่วมงานทั้งอาจารย์ พยาบาล นักศึกษาต่างแวะเวียนกันมาเยี่ยมไม่ได้ขาดเรียกได้ว่าสะกดคำว่าเหงาไม่เป็นทีเดียว บางทีเรสสิเดนท์ที่อยู่ในความดูแลเขาก็มาขอคำปรึกษาทั้งที่อาจารย์มันนอนเดี้ยงอยู่บนเตียงนี่แหละ ดึกดื่นค่อนคืนไม่มีเว้น ไอ้ที่คิดว่าจะนอนแบ่บเบื่อๆ หายใจทิ้งเป็นอันคิดผิด

ด้านคนรักวัยกระเตาะก็แสนดีมาเฝ้าเช้า - เที่ยง - เย็น กลางคืนยังหอบหนังสือมาอ่านระหว่างเฝ้า เขาไล่กลับไปนอนเตียงที่คอนโดดีๆ บอกว่าโรงพยาบาลเชื้อโรคมันเยอะเดี๋ยวจะป่วยไปอีกคนดันทำปั้นปึ่งงอนใส่หาว่าไล่ไปไกลหูไกลตากะกุ๊กกิ๊กกะพวกพยาบาลหรือหมอสาวๆ อีกแน่ะ สภาพเขาแบบนี้จะเอาแรงที่ไหนไปกุ๊กกิ๊กได้ สุดท้ายหมดแรงจะดุยอมปล่อยเลยตามเลยให้มานอนเฝ้าบนโซฟาเล็กๆ เก่าๆ ให้เข็ด

“แล้วตอนนี้พี่วาเป็นไงบ้างอ่ะ” นภถามขึ้นหลังรู้จากปากอลันด์ว่านายแพทย์หนุ่มจอมโหดเป็นไข้เลือดออก (ไม่ยักรู้ว่าคนแบบนั้นก็เจ็บป่วยเหมือนมนุษย์ปกติได้) อลันด์เลยหายไปพยาบาลคนรักไม่โผล่ที่ห้องซ้อมตลอดทั้งสัปดาห์จนเขาต้องมาตาม

“ดีขึ้นมากแล้วครับ แต่หมอยังให้นอนโรงบาลต่อจนกว่าเกล็ดเลือดจะกลับมาเป็นปกติ พี่รันบอกว่าอีกสักสี่วันคงได้กลับบ้าน”

“นอนยาวเลยเนอะ” นักร้องหนุ่มให้ความเห็นก่อนเริ่มสอดส่ายสายตาสำรวจห้องคอนโดหรูริมแม่น้ำ สักพักคนินทร์ก็เดินถือจานขนมออกมาจากห้องครัวตั้งบนโต๊ะเตี้ยหน้าโทรทัศน์ “แล้วบอกวิคเตอร์หรือยัง”

“บอกแล้ว แต่วิคเตอร์ติดถ่ายหนังคงไม่มาหาหรอก”

“แล้วคืนนี้จะไปนอนเฝ้าเฮียอีกป่ะวะ” คนินทร์ถามดู กะไว้ถ้าอลันด์ไปนอนเฝ้าอีกคืนนี้เขาจะกลับไปนอนบ้านตัวเองบ้างหลังสิงอยู่ที่นี่ไม่ก็โรงพยาบาลปั่นรายงานกับเพื่อนตาน้ำข้าวมาแล้วหลายวัน จะสอบสัปดาห์หน้าแล้วแท้ๆ แต่อาจารย์ยังหางานมาให้ทำได้ไม่หยุดหย่อนจริงๆ

“ไม่แน่ใจอ่ะ วันนี้พวกคุณตากับคุณลุงจะไปเยี่ยมวาด้วย เจอกันที่โรงบาลตอนหกโมงนี่แหละ กลัวโดนลากไปนอนที่บ้านใหญ่ไม่อยากปล่อยวาไว้ที่โรงบาลคนเดียวเลย พี่นภไปหาวาด้วยกันไหม” ท้ายประโยคหันมาถามนักร้องหนุ่มที่นั่งอยู่ไม่ไกล

“ไม่ดีกว่า ลุงเราไม่ชอบหน้าพี่อยู่เดี๋ยวจะงานกร่อยกันซะเปล่า ไว้ค่อยไปเยี่ยมวันหลังแล้วกัน” เขาหยุดเงียบไปพักก่อนออกความเห็น “ตัวแสบดูรักพี่วาจังเนอะ”

“เปล่าพี่นภ อัลมันกลัวผู้หญิงเข้าไปแทะโลมเฮียวาหรอก วันก่อนยังแย่งคุณพยาบาลเช็ดตัวแทนเลย เฮียวางี้ตัวเปียกหวิดจะเป็นปอดบวมอีกอย่าง” แซะคนตัวเล็กแล้วก็หัวเราะร่าเลยถูกหมอนอิงใบเขื่องสำเร็จโทษบนหัวเข้าเต็มรัก

“ไว้ใจได้ที่ไหน ยิ่งหมอเมย์นะเห็นเราสนิทกับวาวันก่อนเลยเดินมาถามว่าวามีแฟนหรือยัง แล้วหลุดมาหมดเลยว่าถ้ายังจะได้ฉวยโอกาสนี้ไปปรนนิบัติพัดวีอาจารย์วาเผื่อจะเห็นความดีพิจารณาเธอบ้าง พอฉันตอกกลับไปว่ามีตัวจริงแล้วรักมากด้วยก็หน้าเสียไปเลย สมน้ำหน้า”

นักร้องหนุ่มฟังแล้วอ่อนใจ รู้ว่าอลันด์คบกับทิวากานต์แต่ไม่เคยเห็นทั้งสองคนทำตัวออกสาวสักครั้ง มีวันนี้แหละที่นภเห็นว่าอลันด์น่ะนิสัยผู้หญิงชัดๆ “ขี้หึงยิ่งกว่าผู้หญิงบางคนอีกนะเรา ไม่กลัวพี่วารำคาญบ้างหรือไง”

“หึ อย่างวาน่ะเหรอตัวดีเลยชอบยั่วให้หึงจะตาย เป็นอะไรไม่รู้หาเรื่องแกล้งตลอด แล้วถ้าจะบอกว่าผมขี้หึงน่ะน้อยไป ต้องเจอคนนั้นหึงยิ่งกว่าอะไรถ้าไม่ใช่พวกที่วารู้จักอย่างคิวหรือพี่นภอย่าคิดจะให้เห็นอยู่ด้วยกันสองต่อสองหรือแตะเนื้อต้องตัวเชียวมีทะเลาะบ้านแตก”

“ไม่ยักกะรู้แหะ”

“พี่นภอยากเห็นไหมล่ะ มาลองเล่นชู้กับผมดูสิจะได้รู้ว่านรกมีจริง”

“จ้ะ แต่ถ้ารายงานไม่เสร็จแกได้เจอนรกก่อนสอบแน่ มาช่วยพิมพ์รายงานต่อได้แล้ว ส่งมะรืนนี้นะเว้ย” คนินทร์ตบมือเรียกสติเพื่อนรักก่อนไฟนรกเพราะไม่มีงานส่งอาจารย์จะไหม้ห้องชุดสุดหรูไปเสียก่อน

อลันด์แอบเบ้ปากใส่คนหน้าเข้มก่อนยอมเดินหน้างอมานั่งหน้าแม็คบุ๊คโปรตัวใหม่เอี่ยมเริ่มพิมพ์รายงานต็อกๆ แต็กๆ ไปตามเรื่อง พอรู้สึกปากว่างก็หยิบขนมในจานมาเคี้ยวแทนชวนนภคุยจนงานไม่เดินอีก อีกอย่างถ้าวันนี้งานไม่เสร็จจริงๆ เขาต้องหอบงานไปปั่นที่โรงพยาบาลตอนเฝ้าทิวากานต์ตอนกลางคืนแล้วแบบนั้นคนป่วยจะพลอยไม่ได้พักผ่อนเต็มที่กันพอดี

 ด้านนักร้องหนุ่มพอไม่มีคนคุยด้วยก็นอนกลิ้งไปกลิ้งมาจนเบื่อได้ที่จึงลุกขึ้นเดินสำรวจห้องราคาหกสิบกว่าล้านดูพลางคิดว่าต้องทำงานในวงการหนักแค่ไหนถึงจะซื้อได้ ถึงอาชีพคนของประชาชนจะมีรายได้ดีแต่ใช่ว่าจะดีเท่าทำธุรกิจ มิน่าเพื่อนในวงการหลายคนพอเริ่มมีเงินเก็บก็หันมาเปิดกิจการทำธุรกิจส่วนตัวกันใหญ่ แต่อย่างว่าถ้าไม่แข็งจริงมีแต่เจ๊ง และเท่าที่เห็นก็มีไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ที่พากิจการรอด

เขาเดินกลับมานั่งที่เดิม วิสาสะหยิบเบบี้ กีตาร์มาดีดเล่นมองเหม่อออกไปยังโค้งน้ำเจ้าพระยาประหนึ่งกำลังถ่ายมิวสิควิดีโอจนคนินทร์เดินมาบอกให้ช่วยลงไปยกปริ้นเตอร์ที่รถเขาข้างล่างให้หน่อยเพราะงานจะเสร็จแล้ว นภจึงลุกขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลออกมาจากฟีลลิ่งรับคีย์การ์ดกับกุญแจรถบีเอ็มไปหยิบของ

“พี่นภแม่งไม่เต็มเปล่าวะดีดกีตาร์แล้วร้องไห้เฉย หรือมันเป็นอารมณ์ศิลปิน” ลับหลังศิลปินหนุ่มเด็กหนุ่มสองคนก็จับกลุ่มรวมหัวกันนินทาทันที

“แล้วมันมีคนดีๆ ที่ไหนยอมเซ็นสัญญาทาสแบบไม่คิดอะไรเลยบ้างล่ะ”

“เฮ้อ... ไม่น่าบ้าเลยเสียดายความหล่อว่ะ”

หายไปเกือบสิบห้านาทีนักร้องหนุ่มจึงกลับมาพร้อมปริ้นเตอร์ตัวใหญ่ เขาช่วยแบ่งเบาภาระเด็กหนุ่มรุ่นน้องต่อสายไฟให้ ไม่นานรายงานที่ต้องส่งวันมะรืนก็เสร็จเสียที แต่อลันด์บอกให้ปริ้นต์มาอ่านตรวจทานก่อนสักสองรอบแล้วค่อยส่ง เพราะฉะนั้นงานนี้ยังไม่จบลงง่ายๆ เขากดสั่งริ้นต์ออกมาสองชุดแบ่งกันอ่านหาจุดผิดแล้วค่อยมาแก้ต่อพรุ่งนี้

“เออ แล้วเรื่องที่บอกมีโปรดิวเซอร์ติดต่อมาอ่ะ ทำไมเหรอ” นักร้องหนุ่มคนดีแต่ไม่ค่อยเต็มเอ่ยขึ้นอย่างนึกได้ระหว่างช่วยสองหนุ่มน้อยจัดการขนมในจาน เมื่อเกือบสัปดาห์ก่อนอลันด์เมสเสจมากรี๊ดใส่เขาแต่ตอนนั้นเขายุ่งๆ กับคอนเสิร์ตเลยไม่ได้ถามต่อจนลืมไป

“อ๋อ ใช่ๆ ผมก็ลืมบอกไปมัวแต่ยุ่งเรื่องวาไม่สบาย คืองี้... พี่นภจำปีเตอร์ได้ไหม คนที่ผมเคยเล่าให้ฟังว่าเป็นโปรดิวเซอร์ของ BBC 1 น่ะ เขาโทรมาบอกว่ามีผู้บริหารของค่ายเพลงเห็นคลิปเพลงที่ผมอัดลงยูทิวบ์แล้วชอบมาก เขาจะหาทางให้ผมออกสื่อท้องถิ่นแล้วขึ้นเวที Introduce ที่กลาสตันเบอรี่อีกครั้งภายในปีสองปีนี้ ถ้ากระแสดีก็จะจับเซ็นสัญญาเลย เพราะตอนนี้ผมบรรลุนิติภาวะเรียบร้อยไม่มีปัญหาเรื่องเซ็นสัญญาแล้ว เพลงก็ให้เตรียมไว้เรื่อยๆ รอให้เรียนจบปุ๊บเดบิวต์เลย”

“ว้าว สุดยอด เห็นไหมล่ะพี่บอกแล้วว่าอัดคลิปลงยูทูปน่ะดีแล้ว”

“อืม ปีเตอร์ก็บอกให้ผมทำเพลงลงเรื่อยๆ ยิ่งเป็นเพลงที่แต่งเองยิ่งดี”

“ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวพี่ช่วยเอง อยากเห็นน้องชายได้ดิบได้ดีเหนื่อยแค่ไหนก็สู้ เป็นศิลปินต่างประเทศยังไงก็ดูดีมีอนาคตกว่าที่นี่เยอะ”

“เรื่องเป็นนักร้องนี่เอาจริงเหรอ ฉันนึกว่าทำเล่นๆ ซะอีก” จู่ๆ หนุ่มไทยหน้าเข้มก็ทะลุขึ้นมากลางปล้อง เล่นเอาสองพี่น้องต่างสายเลือดหันไปมองค้อน “อ้าว...ฉันผิดอีก ก็พูดตามจริงนี่หว่า เห็นตั้งใจเรียนทำเกรดดี ไหนจะลงทุนในตลาดหุ้นอีก”

“หาทุนสำรองไว้เผื่อถูกแด๊ดตัดออกจากกองมรดกไง”

“อืม... ก็ดีนะถึงฉันจะมั่นใจว่าต่อให้นายไปเป็นนักร้องที่ไหนก็คงไม่ตัดออกจากกองมรดกง่ายๆ หรอก อย่างน้อยครอบครัวทางแม่ก็ดูสปอยล์นายออกจะตาย”

“นั่นสิ” นภพยักหน้าเห็นด้วย

“แต่สุดท้ายฉันก็ต้องอยู่ด้วยตัวเองให้ได้อยู่ดี ฉันคงไม่ได้ทิ้งมหาวิทยาลัยดีๆ ที่อังกฤษเพื่อมาตามฝันเล่นๆ ที่เมืองไทยหรอกนะ” อลันด์ถอนหายใจฉุนๆ สองคนนี้ทำเหมือนเขาเป็นลูกคุณหนูหยิบจับอะไรไม่เป็น

“ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ถ้านายกลับไปเป็นนักร้องที่อังกฤษแล้วกับเฮียวาล่ะจะเอาไงต่อ”

“ก็...คบกันต่อไง”

“แต่เท่าที่เห็น นายกับพี่วาออกจะตัวติดกัน ถามจริงเถอะ ถ้าต้องแยกกันอยู่จริงๆ จะทนได้แค่ไหนเชียว”

นั่นสิ... แค่ไม่เจอหน้ากันแค่วันเดียวยังคิดถึงแทบบ้า แล้วถ้าต้องห่างกันจริงๆ จะทนได้แค่ไหนกัน

“มันเป็นเรื่องของอนาคต” อลันด์ตอบอย่างไม่มั่นใจนัก รักร่วมเพศว่ายากแล้วแต่รักทางไกลก็ยากยิ่งกว่า คนไม่ได้อยู่ใกล้กันใจมันจะหวั่นไหวบ้างไหมน้อ

“มันก็ใช่ แต่นายก็ต้องคิดไว้บ้างสิ ไม่ใช่ลอยไปวันๆ แบบนี้” คนินทร์ทำหน้าระอาใส่ มีนภมองสลับไปมาระหว่างสองเพื่อนสนิทคอยสังเกตการณ์ เผื่อว่าถ้าระเบิดลงเขาจะได้เอาจานขนมหลบไปก่อน

“เหอะน่า จะรีบคิดไปทำไม ยังมีเวลาอีกตั้งสองสามปี บางทีวาอาจจะตามไปอยู่อังกฤษกับฉันก็ได้” เจ้าตัวตอบคล้ายไม่ใส่ใจนัก มือขาวทำท่าจกขนมในจานมากินต่อ

“น่าสงสารเฮียแหะ”

“ทำไมวะ”

“มีแฟนแบบแกไง”

“แฟนประเสริฐแบบฉันหาไม่ได้ง่ายๆ นะ”

“แฟนที่เหมือนลูกน่ะเหรอ” คนินทร์หัวเราะก๊าก จนเจ้าของห้องหน้างอเท้าเอวจ้องตาเขียวปัด “เอ้าก็จริงนี่ ฉันว่าแกโชคดีที่ได้แฟนประเสริฐแบบเฮียวามากกว่า”

“แต่วาก็รักแฟนแบบฉันมากแล้วกัน”

“เพราะงี้ไงถึงน่าสงสาร แกก็รู้เรื่องทุนของเฮียแล้วไม่ใช่เหรอ” อลันด์เบิกกว้างมองคนินทร์ด้วยความตกใจหลังได้ยินประโยคนั้น ไม่คิดว่าเพื่อนจะรู้เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน ก่อนคนินทร์จะสารภาพตามตรง “ฉันแอบได้ยินที่นายคุยกับพี่รันตอนงานวันเกิด เลยไปหลอกถามมาอีกที แล้วก็ไปหาข้อมูลมาเพิ่มเติมเรื่องทุนนี้มา เฮียฉันที่เรียนหมอบอกว่าเป็นทุนที่ไม่ค่อยมีมาบ่อยๆ และใช่ว่าจะได้ใบสมัครกันทุกคน ถ้าไม่มีคนรับรองที่เชื่อถือได้ก็อด แล้วถ้าได้แต่สละสิทธิ์จะเสียเครดิตกันทั้งคนขอและคนรับรอง”

“ฉันไม่รู้ วาบอกแค่ว่ามันไม่สำคัญ และฉันก็เชื่อเขา”

“แล้วไม่ได้คิดหรือไงว่าทำไม จู่ๆ เขาถึงทิ้งโอกาสหายากแบบนี้ไป”

“ฉันไม่อยากคิด” เด็กฝรั่งถอนหายใจ ตาสีอ่อนมองออกไปด้านนอกดูท้องน้ำยามเย็นที่เป็นสีเหลืองทอง เหตุผลที่ทิวากานต์เรียนหมอเพราะหม่าม้าไม่สบายเวียนกลับเข้ามาในความคิดอีกครั้ง “ฉันมันโลภมากว่ะคิว อยากได้ทุกอย่างมาไว้ในมือ แล้วถ้าวาพูดว่าโอเค ฉันก็จะเชื่อว่าเขาโอเค ทั้งที่ฉันรู้สึกมันไม่โอเค”

“ลองคุยกับเฮียอีกทีเถอะ โอกาสแบบนี้ใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆ”

“แต่ถ้าวาได้ทุนนี้ เขาก็ต้องไปเรียนเลยนะ แล้วฉันล่ะ ต้องอยู่ที่ไทยคนเดียวเหรอ”

“อ้าว แล้วญาติตัวแสบจะไม่อยู่ที่ไทยกันแล้วเหรอ” นักร้องหนุ่มแทรกขึ้นมากลางวงทำเอาสองหนุ่มน้อยค้อนใส่ประหลับประเหลือก

“ผมหมายถึง...ผมจะถูกวาทิ้งให้อยู่เรียนต่อที่ไทยคนเดียวเหรอ”

“อ้าวเหรอ พี่ไม่รู้” นภสารภาพเสียงอ่อนก่อนหยิบขนมชิ้นใหม่ในจานมากินให้ปากไม่ว่าง

“คิดดูสิคิว ถ้าวาไปเรียนฉันก็ต้องอยู่นี่คนเดียวอีกสามปี พอวาเรียนจบกลับมาฉันก็เรียนเสร็จพอดีเหมือนกัน แต่ตอนนั้นฉันก็ต้องกลับไปเป็นนักร้องที่อังกฤษแล้วไหม ส่วนวาน่ะต้องอยู่ทำงานใช้ทุนอีกกี่ปีกัน”

“เฮียคงมีไอเดียดีๆ หรอกน่า ยังไงพ่อเขาก็มีเงินไม่ใช่เหรอ อาจจะจ่ายเงินแทนทำงานใช้ทุนก็ได้ แสบลองไปคุยอีกทีเถอะ ทุนจากมหาลัยดังแบบนั้น ถ้าไม่เอามันก็ออกจะน่าเสียดายนา”

“จะลองแล้วกัน แต่ถ้าวาโกรธฉันจะให้เขามากระทืบแก”

“อู๊ยยย เสียวแทน” นภที่เพิ่งกลืนขนมลงคอไปนั่งเอามือกุมเป้าทำหน้าแหยง พาให้เด็กสองคนหัวเราะออกมาเสียงดังลืมเรื่องเครียดๆ ได้ชะงัด

ทว่าภายใต้ความสดใสนั้นก็มีความไม่แน่ใจซ่อนอยู่เช่นกัน อลันด์ได้แต่หวัง... หวังว่าเขาจะสามารถเป็นคนโลภได้ต่อไป...

.
.
.

ครอบครัวของอดีตท่านทูตพากันยกโขยงมาที่โรงพยาบาลตอนเกือบหกโมงเย็นตามด้วยคนรถกับสาวใช้หอบกระเช้าของเยี่ยมกับช่อดอกไม้เต็มสองมือ หนำซ้ำยังมีนายแพทย์การันต์ไปทำการต้อนรับ สร้างความแตกตื่นแก่บุคลากรในโรงพยาบาลเป็นอย่างมากพาลให้สงสัยไปอีกว่าคนใหญ่คนโตที่ไหนมาทำอะไรแถวนี้ แต่พอเห็นหน้าเด็กฝรั่งที่ชักเริ่มคุ้นตาในตึกผู้ป่วยจึงพออนุมานกันได้ว่ามาเยี่ยมคุณหมอรูปหล่อขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่นี่เอง

ที่หน้าห้องพักเดี่ยวปรากฏร่างสาวน้อยในชุดกาวน์สองคนยืนด้อมๆ มองๆ อยู่หน้าประตูทางเข้า การันต์เห็นดังนั้นจึงกระแอมกะความดังพอให้นักศึกษาปีห้าสองคนรู้สึกตัว ว่าที่หมอเมย์และว่าที่หมอแตงกวาสะดุ้งโหยงมองหน้ากันเลิ่กลั่กก่อนจะเห็นรองหัวหน้าสาขาศัลยกรรมทรวงอกเดินหน้าดุเข้ามาใกล้

“มาทำอะไรแถวนี้ ผมจำไม่ได้ว่าพวกคุณมีธุระอะไรที่ตึกนี้นะ กลับไปเฝ้าเวรที่ตึกก่อนผมจะแจ้งละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของพวกคุณให้อาจารย์อดิศรทราบ”

“ขะ ขอโทษค่ะอาจารย์ พวกหนูแวบมาแค่เยี่ยมอาจารย์วาแป๊บเดียวเดี๋ยวจะไปแล้วค่า” สองสาวรีบค้อมศีรษะให้แล้วรีบเดินกลับตึกไปเฝ้าเวรต่อ อลันด์เพิ่งเคยเห็นการันต์โหมดอาจารย์ครั้งแรกถึงกับกลัวแทนสองสาวเพราะท่านรองศาสตราจารย์คนนี้ดุใช่ย่อย แต่เรื่องอะไรที่เขาต้องเห็นใจพวกหล่อนที่หวังมาแทะโลมคนรักเขากัน ถึงจะไม่สมกับเป็นสุภาพบุรุษแต่อดสมน้ำหน้าไม่ได้จริงๆ

พอสองสาวเดินผ่านหน้าไปเขาเลยยักคิ้วแสดงความเหนือกว่าให้สองจึ้ก หากริมฝีปากของหมอเมย์ที่ขยับพูดอะไรเร็วๆ และเบาจนได้ยินเป็นคำไม่ปะติดปะต่อก็ชวนให้ฉงนไม่น้อยจนต้องเอียงคอคิด ถ้าไม่หูฝาดคิดไปเองเขาว่าได้ยินหล่อนพูดอะไรตัวจริงๆ สักอย่าง แต่เอาเหอะจะสนใจทำไมขอแค่ไม่ได้ด่าเขาเป็นพอ

การันต์เปิดประตูเข้าไปก่อนแล้วตามด้วยผู้ใหญ่สองท่านจึงมีเพียงสามคนทันได้เห็นขัตติยายืนอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย ใช้มือข้างหนึ่งหนีบอยู่บนแก้มคุณหมอรูปหล่อ พอเห็นแขกมาเยี่ยมมือเล็กๆ ก็รีบดึงออกซ่อนไว้ด้านหลังขวับ

“พี่รัน สวัสดีค่ะ” หญิงสาวทักทายนายแพทย์รุ่นพี่ ตาโตกระพริบมองคนกลุ่มใหญ่ที่ทยอยกันเข้ามาในห้องอย่างสงสัยก่อนถึงบางอ้อเมื่อเห็นหน้าคุ้นตาของคนรักพี่ชายจึงหลบไปยืนด้านในสุดห้องพักให้ทุกคนอัดอยู่ในห้องเล็กๆ นี้ได้

“ยายมาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่าจ๊ะ”

“สวัสดีครับคุณตาคุณยาย ท่านผอ. ก็มาด้วย มากันหมดทุกคนเลย” คนป่วยไข้เลือดออกลุกนั่งยืดขาบนเตียง ทำเป็นทักทายแก้เก้อทำเหมือนไม่ได้ยินคำแซวเมื่อครู่

“อยากจะมาเยี่ยมหลายวันแล้วล่ะจ้ะ แต่บ้านตาชายเขาก็อยากมาด้วยเลยรอมาพร้อมกัน ผอมซูบลงไปเยอะเลยนะหมอวา ยายซื้อพวกของบำรุงมาให้กินได้ใช่ไหมจ๊ะ ตาศักดิ์ยัยนิภาเอาของฝากไปวางไว้บนโต๊ะสิ” ท้ายประโยคหันไปสั่งคนรถกับสาวใช้ รอจนทั้งคู่ทำตามคำสั่งจนเสร็จแล้วออกจากห้องไปทิวากานต์ถึงแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับขัตติยา

“นี่น้องสาวผมเองครับเป็นลูกพี่ลูกน้องกันชื่อขิง น้องขิงคะนี่คุณตาคุณยายของอัลค่ะ นั่นคุณลุงเป็นผอ. โรงพยาบาลเอกชนที่พี่ทำงานอยู่ด้วย แล้วที่ยืนหล่อยืนสวยอยู่นั่นก็พี่หมอกิตกับน้องกานต์ลูกพี่ลูกน้องอัล น้องกานต์เป็นหมอฟันน่าจะรุ่นเดียวกับขิงนะ ยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดใช่ไหม”

“รุ่นเดียวกันค่ะ” กานต์ส่งยิ้มหวานให้เพื่อนสาวรุ่นเดียวกันหลังรู้ว่าเป็นแค่น้องสาวไม่ใช่แฟนสาวของคุณหมอรูปหล่อ ไม่งั้นงานนี้มีหวังสาวๆ ได้ใจสลายกันเป็นแถบ

“ผมเพิ่งรู้ว่าหมอวามีน้องสาวด้วยแถมยังสวยน่ารักขนาดนี้ เจ้ากิตสนใจไหมเดี๋ยวพ่อช่วย” ท่านผอ. ว่าทีเล่นทีจริงแต่ทำเอาลูกชายคนโตหน้าแดงแจ๋พูดไม่ออกดูท่าคงชอบขัตติยาอยู่ไม่น้อย

“พ่อ...”

“แล้วนี่อาการเป็นอย่างไรบ้างคุณหมอ จะได้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่”

“ตอนนี้รอแค่เกล็ดเลือดกลับมาเป็นปกติก็กลับบ้านได้แล้วครับ อาจจะอีกสักสามสี่วัน” เขาหันไปตอบอดีตท่านทูตไม่ลืมส่งสายตาเลยไปหาเด็กหนุ่มด้านหลัง อลันด์ทำปากยู่ใส่เขาก่อนเดินมานั่งบนขอบเตียง มือหนาจัดการขยี้กลุ่มผมหนาสีอ่อนด้วยความเอ็นดูพลางเอ่ยชม  “แต่ตอนแอดมิทก็เกือบแย่เหมือนกันครับ ถ้าไม่ได้น้องอัลผมคงซี้ไปแล้ว”

“เป็นเพื่อนบ้านกันผลัดกันสอดส่องช่วยกันดูแลก็ดีแล้ว ตอนเจ้าตัวแสบนี่แย่ก็ได้หมอมาช่วยไว้หลายครั้งเหมือนกัน ถือเป็นโชคดีของเจ้าอัลเขาล่ะที่ได้รู้จักกับหมอวา”

“เป็นโชคดีของผมเหมือนกันครับที่ได้เจออัล” เขาระบายยิ้มอ่อนทำให้หน้าเซียวดูมีชีวิตชีวาขึ้นโข

พูดคุยกันได้สักพักขัตติยาก็ขอตัวกลับไปดูแลพ่อตนเองต่อ พอท่านผอ. รู้ว่าบิดาของหญิงสาวรักษาโรคมะเร็งอยู่ก็รีบดันตัวลูกชายซึ่งเป็นหมอเชี่ยวชาญด้านนี้ให้ตามไปช่วยดูด้วย ท่าทางอยากได้ขัตติยาเป็นสะใภ้จริงจัง แต่ทิวากานต์ว่าท่านผอ. อยากดองกับเขาเพื่อดึงตัวไปทำงานที่โรงพยาบาลมากกว่า

ด้านครอบครัวของอลันด์อยู่คุยกับศัลยแพทย์ทั้งสองจนได้เวลาจึงขอตัวกลับให้คุณหมอในคราบคนป่วยได้พักผ่อน เด็กตาฟ้าอ่อนเองต้องตามออกไปทานมื้อค่ำด้วย แต่ก็บอกไว้ว่าคืนนี้จะมานอนเฝ้าเหมือนเคยแค่อาจจะมาดึกหน่อยเท่านั้น ทิวากานต์ไม่ได้ว่าอะไรดีใจเสียอีกที่อลันด์จะได้ไปสังสรรค์บ้างหลังอยู่ดูแลเขามาหลายวัน

ตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลทิวากานต์พบเรื่องเซอร์ไพรส์จากคนรักได้แทบทุกวัน เขาไม่เคยคิดว่าลูกคุณหนูขนานแท้อย่างอลันด์จะทำอะไรแบบนี้ได้ แม้เรื่องเช็ดตัวจะหวิดทำเขาเป็นปอดบวมแต่เด็กหนุ่มตั้งใจทำอย่างดี ดึกดื่นเขาไข้ขึ้นก็ตามพยาบาลมาดูไม่เคยบ่นเหนื่อยให้ได้ยินสักครั้ง คงจริงอย่างเขาว่าถ้าอยากรู้ว่าใครรักเราแค่ไหนให้ดูตอนที่เราลำบาก และเด็กคนนี้ไม่ทำให้ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย

นับวันเขายิ่งมีแต่จะรักอลันด์มากขึ้นทุกที รักจนคิดว่าชีวิตนี้คงฝากไว้ในมือเล็กๆ หยาบกร้านคู่นั้น ยอมเป็นลูกไก่ตัวน้อยในกำมือทำตัวให้เด็กหนุ่มเอ็นดูจะได้อยู่ด้วยกันนานๆ และหวังว่าจะตลอดไป



TBC

ตอนที่เขียนตอนนี้คือเมื่อประมาณปีก่อน ก่อนที่จะมีข่าวของพี่ปอ ทฤษฎีป่วยเป็นไข้เลือดออกค่ะ
เคสตัวอย่างที่เราเอามาอ้างอิงก็เอามาจากคุณพ่อของเราเอง
ไม่น่าเชื่อนะคะว่าแค่ไข้เลือดออกจะทำให้คนตายได้
นี่ถ้าพี่วาไปโรงพยาบาลช้ากว่านี้อีกนิด นังน้องอัลเป็นหม้ายแน่นอน
เราๆ ก็คงอดแซ่บพระเอกหล่อวัวตายควายล้มคนนี้ด้วยเหมือนกัน ฮา
เพื่อลดการระบาดของโรคไข้เลือดอย่าลืมกำจัดแหล่งเพาะลูกน้ำยุงลายกันนะคะ

สปอยล์ตอนหน้า...
อีกบคู่แข่งหัวใจตัวฉกาจของน้องอัลปรากฏตัว เด็กฝรั่งตัวเท่าไหล่จะทำอย่างไร
โปรดติดตามตอนต่อไปค่า
#พี่วาน้องอัล

ปล. ตอนนี้เรารีไรท์ HEART ATTACK เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะเลยว่างไปเปิดนิยายเรื่องใหม่
ฝาก . . . ไม่รัก . . . กันด้วยนะคะ ^^

 :mew1:

ออฟไลน์ about

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พี่หมอวาหายไวๆน้า
อลันดูแลพี่วาดีๆนะ :mew1: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
หมอก็ป่วยเป็น หมอวาหายป่วยไวๆ
มีอัลเป็นกำลังใจอยู่ข้างๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ทึกๆอย่างหมอวาก็ป่วยเป็นเนอะแถมแฟนดูแลดีจนอิจฉา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด