♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- SPECIAL TRACK : พรหมลิขิต+แจ้งข่าว P. 25
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ไหนๆ นิยายใกล้จะจบแล้ว เลยสอบถามความสนใจรวมเล่มค่ะ

สนใจ
ไม่สนใจ
รวมก็ดี ไม่รวมก็ได้

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- SPECIAL TRACK : พรหมลิขิต+แจ้งข่าว P. 25  (อ่าน 269043 ครั้ง)

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
โหยยย...อ่านสปอยแล้วอยากให้เสาร์หน้ามาถึงเร็วๆ

ออฟไลน์ Mokuchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
คุณหมอแอบวางแผนไว้แล้ว น้องอัลไม่ต้องกังวลเรื่องทุนหรอก
ว่าแต่คู่แข่งจะเป็นใครนะ รอตอนหน้าค่ะ  :L2:

ออฟไลน์ cinnsin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อลันด์งานเข้าแล้วหล่ะสิตอนหน้า...

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
รอดูหน้าคู่แข่ง จะเป็นยังไงมาแบบไหน :hao4:

โอ๊ยยยย หมอวาหายไวๆนะ น้องอัลดูๆพี่วาหน่อยนะลูก

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ไม่คิดว่าหมอวาจะป่วยเป็นเหม่อนกันนะเนี่ย  แต่ขนาดป่วยก็ยังฮอตเหมือนเดิม 5555

ออฟไลน์ VarainDark

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อิจฉาหมอวาแปป
อยากได้แฟนแบบอัลอ่ะ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ถึงอัลจะเด็กแต่เป็นแฟนที่ดีนะ ไม่อยากนึกถึงตอนสองคนนนี้ห่างกัน อย่าให้มีเลยดีกว่า

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- HIDDEN TRACK 04 [05.03.16]
«ตอบ #548 เมื่อ05-03-2016 15:39:07 »

HIDDEN TRACK 04



ทิวากานต์เป็นคนรักที่ดีมากจริงๆ แต่ก็มีข้อเสียอยู่ไม่กี่อย่างที่อลันด์รับไม่ค่อยจะได้ โดยเฉพาะข้อที่ว่ารักรถมากเกินความจำเป็นและคราวนี้ก็รักเกินจนเขาทนไม่ไหว

หลังกลับมาจากโรงพยาบาล คุณหมอที่กลายเป็นคนป่วยชั่วคราวจำต้องพักฟื้นต่ออีกสองวันเป็นอย่างน้อย(และต่อให้กลับไปทำงานก็ใช่ว่าจะได้ทำเคสผ่าเลยเพราะสภาพร่างกายที่ทำให้ยืนนานๆ ยังไม่ค่อยได้ แก่แล้วก็งี้) แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบอยู่เฉยๆ กลับรู้สึกเบื่อแทบแย่ เขาเลยตั้งใจว่าจะใช้ช่วงนี้ไปรับส่งเจ้าตัวแสบที่มหาวิทยาลัยช่วงมีสอบกลางภาค ซึ่งก็เหลืออีกแค่วันเดียวคือวันพรุ่งนี้แล้วต่อด้วยมื้อค่ำแสนโรแมนติก

แต่กลายเป็นว่าที่สัญญากันเป็นมั่นเป็นเหมาะมีอันต้องยกเลิกเพราะคุณหมอที่บอกว่าจะตื่นไปส่งตอนเก้าโมงเช้าดันหายหัวไปทิ้งไว้แต่โน้ตพร้อมลายมือยุ่งๆ ที่อ่านแทบไม่ออกว่าจะพาน้องกบไปเช็คสภาพ เจ้าตัวอ่านแล้วจี๊ดใจถึงกับร้องกรี๊ดๆ ออกมาเหมือนนางร้ายช่องหลายสีลั่นห้องนอน

เด็กหนุ่มอาบน้ำแต่งตัวหอบหนังสือขับน้องมินิออกจากคอนโดด้วยความเร็วราวพายุหมุนลูกย่อม ถึงอารมณ์บูดสุดชีดแต่ใช่เหตุที่จะมาเสียการเรียนหรือ สำหรับอลันด์แล้วไม่มีทางแน่นอน

เขาอาศัยความโกรธมุตัวเองให้อ่านหนังสือฟาดงวงฟาดงากับเนื้อหาที่จดสรุปไว้จนเพื่อนคนไหนก็ไม่กล้าเข้าใกล้ ทุ่มความโกรธลงไปในโจทย์ทุกข้อที่อาจารย์ให้มา และออกจากห้องสอบเป็นคนแรกหลังจรดปากกาเขียนอย่างเร็วจนมือแทบหงิก (ซึ่งในภายหลังอลันด์อยากขอบคุณทิวากานต์มากที่ทิ้งกันไปในเช้าวันนั้นเพราะเขาได้คะแนนเต็มเพียงคนเดียวของจำนวนนักศึกษาทั้งหมดที่ลงวิชานี้)

สอบเสร็จเดินออกมาตอนบ่ายสาม โทรศัพท์รุ่นใหม่ยังคงนิ่งเงียบไร้สัญญาณการติดต่อจากทิวากานต์ ถามว่างอนไหม... หึ ริมฝีปากอิ่มหยักบิดเบ้อยากตอกหน้าคนถามว่ามันเลยคำว่างอนไปไกลแล้ว

THIS IS A WAR!!! นี่มันคือสงครามระหว่างเขากับคนรักต่างหาก!!!

อลันด์ไม่ได้ตรงกลับคอนโดในทันที เขาไปกินข้าวฉลองสอบเสร็จกับเพื่อนร่วมชั้นแถวสยาม พอแยกย้ายกันก็ตรงไปที่ห้องซ้อม ระบายอารมณ์กับกีตาร์อยู่พักใหญ่นภเลิกงานกลับมาพอดีทั้งที่แม่นักร้องหนุ่มบอกเขาไว้ก่อนหน้านั้นว่าคืนนี้ลูกชายมีงานถ่ายละครข้ามคืน ถามไถ่ได้ความมาว่านางเอกที่เป็นตัวหลักวันนี้ประสบอุบัติเหตุจำเป็นต้องยกกองกะทันหัน ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของชายหนุ่มวัยยี่สิบสองที่ต้องมานั่งรับฟังคำบ่นของเด็กฝรั่งตัวแสบแทน

“วาโกหก กระล่อน ตอแหล เชื่อไม่ได้ บอกรักเราแทบตายพอรถเป็นอะไรนิดหน่อยก็ทิ้งเราไปหารถก่อน  ใช่สิ อีกบมันแพงนิ คันตั้งเกือบสามสิบล้าน อยากรู้นักว่าถ้าวาป่วยอีกอีกบมันไปช่วยเฝ้าช่วยพยาบาลได้ไหม”

  ถ้าไม่ได้รู้จักกันมาก่อนนภคงคิดว่าไอ้ฝรั่งนี่ต้องแอบเปิดลำโพงแล้วลิปซิงค์แน่ๆ ขนาดรู้จักกันมาเกือบปียังรู้สึกแปลกตาทุกครั้งที่เห็นอลันด์พูดภาษาไทยด้วยท่าทางเหมือนคนพื้นที่ไม่ผิดเพี้ยน ยิ่งตอนด่านะ...อย่าให้บรรยาย เจ็บสุดๆ แล้วเรียกรถพอร์เช่ว่า ‘อีกบ’ แม่งคิดได้ไงวะ

“แล้วไมไม่โทรหาพี่วาก่อนล่ะ”

“โทรไปให้จี๊ดเหรอว่ามัวแต่ดูอีกบอยู่จนลืมเมีย มะ เอ้ย ลืมผมไปแล้วน่ะ”

นักร้องหนุ่มนั่งฟังตาปริบๆ ดูเด็กฝรั่งหยิบกีตาร์ไม้มาดีดแก้เก้อ ดูท่าแบบนี้ไม่น่าจะไหว พาไปกินข้าวให้อารมณ์ดีดีกว่า

สามสิบนาทีต่อมาสองหนุ่มนักดนตรีพาตัวเองมานั่งจุมปุ๊กร้านสเต๊กร้านแรกที่เคยมาด้วยกัน นภว่าถ้าทิวากานต์ได้มาเห็นอลันด์ตอนนี้ต้องยิ้มหน้าบานแน่ๆ เพราะเจ้าของความสูงห้าฟุตหกนิ้วกำลังยัดเนื้อทีโบนเข้าปากเอาเป็นเอาตาย ไม่นับรวมซีซาร์สลัด มันบด และบัฟฟาโล่วิงค์ที่วางเรียงเต็มโต๊ะ

แต่แทนที่กินเสร็จจะแยกกลับทางใครทางมันหนุ่มน้อยตาสีฟ้าดันเปรยขึ้นมาว่ามีดอม เพอริญอง ปี 2002 เหลืออยู่สองขวดที่คอนโด ถ้าไม่รีบกินภายในปีนี้เชมเปญขวดเป็นหมื่นจะเสียไปซะก่อน นภไม่อยากคิดภาพตอนทิวากานต์มาเจอเขาเมาแอ๋อยู่กับอลันด์สองต่อสองในห้อง ใช้คำว่านรกบรรยายอาจจะน้อยไป แต่อาการเปรี้ยวปากอยากของแพงมันห้ามกันได้ที่ไหน สุดท้ายเลยยอมขับรถตามอีกฝ่ายไปที่คอนโดย่านอโศกง่ายๆ เหมือนหมาถูกจูงจมูก

ริมฝีปากหยักเหมือนแมวของอลันด์เบะจนน่าเกลียดยามเห็น ‘อีกบ’ ลูกรักจอดอยู่ที่ช่องในสภาพวิ้งวับใสปิ๊ง แบบนี้แสดงว่าทิวากานต์กลับมาแล้วและแทนที่จะติดต่อเขาก็ไม่มี ชวนน้อยใจยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ที่คนรักเห็นรถดีกว่าตัวเอง

เป็นไปตามคาดว่าจะเจอทิวากานต์ที่ห้อง 2111 ชายหนุ่มวัยสามสิบปีนั่งไขว้ห้างกดโทรศัพท์ท่าทางสบายอารมณ์ เห็นแบบนี้แล้วยิ่งโมโห เขาเดินนำนภเข้าไปในห้องเสียงดังให้อีกฝ่ายรู้สึกตัวและดวงตาคมดุสีน้ำตาลเข้มแทบจะมองมาทันทีตามคาด

“ไปเถลไถลที่ไหนมา พี่ไปรับที่มหาลัยตอนบ่ายสี่ก็ไม่เจอเราแล้ว” เป็นคุณหมอคนหล่อเริ่มเปิดวอร์ก่อนโดยไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัวด้วยน้ำเสียงดุไม่แพ้ใบหน้า หากคนที่วอร์มเครื่องมาตลอดทางขึ้นลิฟต์เองก็โต้กลับได้รวดเร็วไม่แพ้กัน

“เก็บประโยคนั้นไปถามตัวเองดีกว่าไหม ใครกันที่หายไปตั้งแต่ตื่นทั้งที่บอกว่าจะไปส่ง”

“ก็เขียนโน้ตบอกแล้วว่าน้องกบเสียจะให้ขับรถไปส่งได้ไงต้องเอาไปเข้าอู่ก่อนดิ”

“พอเข้าอู่แล้วเลยไร้การติดต่อไปทั้งวันงั้นสิ”

“โทรศัพท์พังพอดีสุดวิสัยจริงๆ เนี่ยเครื่องใหม่เพิ่งซื้อมาเมื่อกี้เอง ก็เรานั่นแหละไปหาแล้วไม่อยู่ว่าจะชวนไปซื้อเครื่องใหม่ด้วยกัน” เขาชูโทรศัพท์เครื่องใหม่เอี่ยมให้ดูเป็นหลักฐาน แต่คิดว่าแค่นั้นจะทำให้แมวเหมียวขี้โมโหพอใจหรือไง คิดตื้นๆ

“อ่อ โอเค ผมผิดที่ไม่รอ แล้ววาไม่คิดว่าผมจะมีธุระของผมบ้างหรือไงทำไมต้องง้อรอวาอยู่คนเดียว”

“อย่างี่เง่าน่า” คนแก่กว่าปราม ตาสีน้ำตาลเข้มกวาดมองไปรอบห้องก่อนสังเกตเห็นนักร้องหนุ่มยืนอยู่ด้านหลังอลันด์ ถึงจะสงสัยเล็กน้อยแต่ถ้ามีคนนอกอยู่ด้วยคงทำให้อลันด์ใจเย็นกับเขามากกว่านี้ “อ้าวนภก็มาด้วยเหรอช่วยส่งเสียงแสดงการมีตัวตนได้ไหมตกใจหมดนึกว่าวิญญาณตามติดที่ไหน แล้วนี่มาทำอะไร มาส่งอัลเหรอ? เมื่อเช้าอัลขับรถไปเองนิตอนกลับมาไม่เห็นมินิจอดที่ช่อง”

“ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่องเลยวา มาคุยเรื่องนี้กันให้จบก่อน”

“ไม่เอาน่า ไม่ทะเลาะนะ พี่ผิดพี่ขอโทษแล้วไง”

“อ๋อ ขอโทษแบบขอไปที แสดงว่าสัญญาที่ให้ไว้ไม่สำคัญเลยใช่ไหม ถ้าไอ้คันนั้นเสียทำไมไม่เอาอีกคันไปส่งผม แก้ตัวเหมือนตัวเองมีรถแค่คันเดียว ทุเรศมาก นี่ไม่อยากจะงี่เง่าเหมือนผู้หญิงหรอกนะแต่ถามหน่อยเหอะว่าความจริงวารักผมหรืออีกบมากกว่ากัน”

“อีกบ? ว้อท - เดอะ - เฮล? หยาบคายมาก” ศัลย์แพทย์ยังหนุ่มทำหน้าตกใจ ไม่ได้ตกใจที่อลันด์เรียกรถเขาว่าอีกบแต่ตกใจที่เด็กหนุ่มพูดไม่สุภาพแบบนี้มากกว่า แต่เหมือนอีกฝ่ายจะเข้าใจผิดไปถึงเท้าสะเอวทำหน้ายักษ์

“แตะไม่ได้เลยสินะ ใช่ซี่ อีกบมันเมียหลวงส่วนนี่อ่ะเมียน้อย ใครจะไปสวยโฉบเฉี่ยว เซ็กซี่ ดีงาม ราคาสามสิบล้าน ขับง่ายขี่คล่องแบบอีกบล่ะ” เขาอยากเอากระเป๋าเป้บนหลังเขวี้ยงใส่หน้าหล่อๆ นั่นสักที แค่เรียกลูกรักว่าอีกบถึงกับทำหน้ารับไม่ได้ ดัดจริตที่สุด!

“อัล... ไม่คิดว่ามันไร้สาระเหรอที่เอาตัวเองไปเทียบกับรถน่ะ” ทิวากานต์กรอกตามองบนครางเสียงอ่อนเมื่อเห็นท่าทีคนรักอ่อนวัย เริ่มรู้สึกว่าอลันด์ชักพาลเข้าไปทุกทีแม้คนผิดจะเป็นเขาก็เหอะ ชายหนุ่มสบตากับบุคคลที่สามก่อนพูดหาพวก “นภ นายก็คิดใช่ไหมว่ามันไร้สาระมากที่เอาตัวเองไปเทียบกับรถ “

“เฮ้ย ผมไม่เกี๊ยววว” นักร้องหนุ่มแก้ตัวเสียงสูง ขายาวก้าวถอยไปข้างหลังอัตโนมัติหนึ่งก้าว หมอคนนี้นี่ยังไง เขาอยู่เฉยๆ ดันหาเรื่องให้ถูกกินหัวไปด้วย นี่มาหวังดื่มของแพงฟรีนะไม่ได้อยากดูผัวเมียตีกัน

“พี่นภก็คิดเหมือนวาล่ะสิ ใช่ไหมล่ะ”

“ยังไม่ได้พูดแบบนั้นสักคำ”

“อัลชักพาลใหญ่แล้วนะ ไม่น่ารักเลยรู้ตัวไหม!” เมื่อเห็นคนอ่อนกว่าชักมีพฤติกรรมไม่เข้าตาคนที่แก่กว่าทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิจึงต้องปรามไม่ให้เสียนิสัย แต่นั่นแหละ...ตอนนี้เรื่องเขาเองยังเคลียร์ไม่เรียบร้อย พูดอะไรออกไปตอนนี้มีแต่ทำให้คนฟังเข้าใจผิดยิ่งขึ้น

เด็กฝรั่งเบะปากหน้างอน้ำตาคลอก่อนเขวี้ยงกระเป๋าเป้ในมือใส่คนรักแล้วผลุนผลันออกจากห้องไป พร้อมตะโกนทิ้งท้ายไว้เสียงดังให้สองหนุ่มหน้าตาตื่น

“ในเมื่อรักอีกบมากขนาดนั้นก็เชิญอยู่กับอีกบไปเลย ผมไม่อยู่กับวาแล้ว!!!”

ปัง!!!

“เฮ้อ... ปกติทะเลาะกันแบบนี้บ่อยไหมครับเนี่ย” นภเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อความเงียบกลับเข้ามาในห้อง เขามองทิวากานต์ถอนหายใจเอนหลังพิงกับโซฟา

“ไม่หรอก น่าๆ จะงี่เง่าที อัลขี้น้อยใจไม่ชอบถูกทิ้งน่ะ”

“แล้วไม่ตามไปจะดีเหรอครับ เห็นหยิบกุญแจรถไปด้วย ขับรถอารมณ์แบบนี้เดี๋ยวเกิดอุบติเหตุเข้าจะแย่เอานะ”

“คงไปอยู่คอนโดใหม่เขาละมั้ง ไม่ต้องห่วงหรอกเด็กนั่นขับรถช้าจะตาย” ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่ทิวากานต์ก็เดินมาดูชามใส่กุญแจรถที่วางไว้บนชั้นรองเท้าตรงทางเข้าห้อง เขามองกุญแจรถที่นอนเอ้งเม้งอยู่ในนั้นสามอัน พยายามดูให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาด แต่ขยี้ตาดูสองครั้งก็เห็นแค่กุญแจยี่ห้อมินิ นิสสัน แล้วก็บีเอ็มดับบลิว “ฉิบ - หาย - แล้ว”

“อะไรหายเหรอพี่วา”

“เรือหายสิวะ อัลหยิบกุญแจน้องกบไป”

“หา?”

ทิวากานต์ไม่ได้ขยายความต่อ เขาวิ่งออกไปข้างนอกพุ่งไปห้อง 2112 ดูจนแน่ใจว่าอลันด์ไม่อยู่ในนั้นก็กลับมาหานภที่เหมือนจะยังไม่เข้าใจว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น “นภไปกับพี่ อัลเอากุญแจน้องกบไป”

“นี่พี่ห่วงรถมากกว่าตัวแสบจริงๆ สินะ” นักร้องหนุ่มชักฉุนแทนหนุ่มรุ่นน้อง เมื่อกี้ตอนอลันด์หุนหันเดินออกไปเจ้าตัวยังนั่งเฉยไม่รีบร้อนตามออกไป แต่พอเห็นว่ารถสุดที่รักถูกเอาไปเท่านั้นแหละร้อนรนจะเป็นจะตายขึ้นมาทันที

คุณหมอหน้าหล่อฟังแล้วถึงกับกุมขมับ เขาเดินกลับเข้าไปในห้องหยิบกระเป๋าเงินแล้วออกมาคว้ากุญแจรถลากนภออกไปข้างนอกด้วยกัน “จะคิดยังไงก็ช่างเหอะนะ แต่เด็กนั่นเคยลองขับน้องกบไม่กี่ครั้งแล้วไม่ชินกับเครื่องวางกลางด้วย ภาวนาให้หาอลันด์กับรถเจอก่อนจะเกิดอุบัติเหตุแล้วกัน!”

.
.
.

“งี่ - เง่า - ชะ - มัด”

เสียงแหบพูดกับตัวเองขณะใช้ดวงตาสีอ่อนกวาดไปทั่วกระจกใสมีไอฝ้าขึ้นจนแทบมองไม่เห็นขวดน้ำด้านใน เด็กหนุ่มตัดสินใจเปิดประตูตู้แช่หยิบน้ำแร่ออกมาหนึ่งขวดแล้วเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ ระหว่างที่รอเงินทอนไม่ลืมจะถามพนักงานร้านสะดวกซื้อว่าตอนนี้เขาอยู่ส่วนไหนของประเทศไทยหลังขับรถมั่วมาเรื่อย

“ถนนเลี่ยงเมืองชลบุรี อีกนิดก็ระยอง”

น้ำเสียงตอบกลับเหมือนซอมบี้ไม่ทำให้ตกใจได้เท่ากับความงี่เง่าของตัวเองที่ขับรถเตลิดออกจากกรุงเทพมาไกล อลันด์เดินลากขาออกมาจากร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน เห็นอีกบจอดอยู่ไม่ไกลถึงกับถอนหายใจที่พามันมาร่วมชะตากรรมหนีออกจากบ้านด้วย

จะเอายังไงต่อกับชีวิตก็ไม่รู้ ขับรถกลับกรุงเทพไปหาทิวากานต์ตอนนี้มีหวังถูกโกรธแน่ๆ ทำงี่เง่าไว้เยอะแถมยังขโมยรถสุดที่รักเขามาอีก ถ้าถูกขอเลิกเขาจะไม่แปลกใจเลย ดีไม่ดีถูกแจ้งความขึ้นมาแด๊ดคงรีบบินมาลากตัวกลับลอนดอนแน่ๆ แต่จะโทษใครได้นอกจากตัวเองที่ปล่อยอารมณ์เป็นใหญ่

“ยังไงก็กลับกรุงเทพก่อนแล้วกัน เรื่องอื่นค่อยคิด” เขาตัดสินใจหลังดื่มน้ำเข้าไปอึกใหญ่ เท้าเบอร์เจ็ดก้าวเข้าหาพอร์เช่ 911 เทอร์โบ เอสที่ให้กินน้ำมันจนอิ่มเรียบร้อยแล้ว

หากจู่ๆ เสียงเร่งเครื่องยนต์ไม่ไกลจากกันเท่าไหร่ทำเอาคนตัวเล็กชะงักเอามืออุดหู ตาสีอ่อนหันมองต้นเหตุฉับก่อนเจอมอเตอร์ไซค์แต่งเครื่องกลุ่มใหญ่ส่องไฟมาทางตน บางคันยังทำเสียงดังน่ารำคาญคล้ายจะข่มขวัญหนุ่มน้อยชาวต่างชาติ และค่อนข้างได้ผลไม่น้อยเมื่อใบหน้าขาวซีดมีร่องรอยตื่นตระหนก

“ไนซ์ คาร์!” คนที่ยืนคร่อมจักรยานยนต์คันหน้าสุดตะโกนฝ่าเสียงเครื่องยนต์มาให้ได้ยิน พอพวกมันเห็นเด็กหนุ่มชาวต่างชาติสะดุ้งก็พากันหัวเราะชอบใจ

อลันด์เหลียวซ้ายแลขวา เขามั่นใจว่าปั๊มน้ำมันแห่งนี้พลุกพล่านพอที่จะช่วยปรามการก่ออาชญากรรมได้ระดับหนึ่ง หากแต่มองไปล้วนเจอรถบรรทุกคันใหญ่และเด็กปั๊มที่ดูขี้ขลาดแล้วเขาจึงเริ่มชักไม่แน่ใจ หัวสมองคิดหาทางรอดเร็วจี๋ อย่างน้อยถ้าอยู่ในรถพวกนั้นจะทำอะไรเขาไม่ได้ ระยะห่างแค่สิบห้าเมตรสับขาหน่อยน่าจะทัน

“เฮ้ๆ ยัวร์ คาร์ เวรี่ บิวตี้ฟลู ไอ ว้อท อิท”

ร่างเล็กหยุดนิ่งตัวแข็งทื่อหลับตาปี๋เมื่อมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งปาดมาจอดตรงหน้าด้วยความเร็วก่อนที่เข้าจะทันได้ขยับตัววิ่งด้วยซ้ำ พอลืมตาขึ้นมองเขาก็เห็นไอ้ตัวหัวโจกยิ้มแสยะใส่ ด้านหลังไกลออกไปเป็นเด็กปั๊มที่ทำเหมือนไม่เห็นเหตุการณ์

“G... Go away”

“ตัวสั่นเป็นลูกหมายังกล้าไล่อีกเหรอ นึกว่ากูฟังภาษาอังกฤษไม่ออกหรือไง แค่จะขอดูรถใกล้ๆ นิดเดียวเอง ไม่ต้องกลัวน่า”

“กะ กลัวพ่อมึงสิ”

“อ้าวพูดไทยได้นี่หว่า”

“มันด่ามึงด้วยอ่ะ โคตรจี้” ไอ้พวกที่อยู่ด้านหลังเป่าปากหัวเราะกันเป็นที่สนุกสนาน แต่ได้แค่แป๊บเดียวเป็นต้องเงียบเมื่อมีเสียงล้อยางบดกับถนนดังลั่นเข้ามาใกล้ กลุ่มมอเตอร์ไซค์รวมทั้งเด็กฝรั่งพากันหันไปมองบีเอ็มดับบริวสีขาวคันโตดริฟต์เข้ามาจอดนิ่งในปั๊มน้ำมันอย่างพร้อมเพรียง

อลันด์ถึงกับหยุดหายใจเมื่อรถคันคุ้นตาจอดสนิทและปรากฏร่างของทิวากานต์กับนภก้าวลงมาจากรถ ชายหนุ่มหันไปตบหัวนักร้องชื่อดังพร้อมกระซิบอะไรบางอย่างใส่ เท่านั้นนภก็รีบหันมาโบกมือพร้อมยิ้มให้กำลังใจโจรขโมยรถหน้าละอ่อนก่อนกระโดดขึ้นรถคันโตและขับออกไปด้วยความรวดเร็วพอกับขามาทิ้งไว้เพียงความงุนงงท่ามกลางสายตาของทุกคนในปั๊มน้ำมันที่เห็นนักร้องขวัญใจโผล่มาแบบไม่ให้ทันตั้งตัวและจากไปราวพายุ

“นั่นใช่พี่นภที่เล่นละครหัวใจภูผาเปล่าวะ”

“ไม่แน่ใจว่ะ แต่ถ้าใช่คือหล่อโคตร สิ้นเดือนเขามาร้องเพลงที่พัทยาด้วยนี่หว่า แม่ง...แบบนี้กูต้องไปดะ...”

“ไอ้ - ตัว - แสบ”

เสียงคุณหมอตัวโตตะโกนย้ำทีละคำทำแก๊งมอเตอร์ไซค์ที่เริ่มจับกลุ่มซุบซิบพากันหุบปากฉับเบี่ยงสายตามองร่างสูงใหญ่เดินฝ่าวงช้าๆ โดยที่ทุกคนไม่กล้าขยับไปไหนได้แต่มองเงียบไร้ปากเสียงแล้วสะดุ้งกันอีกหนเมื่อเสียงตวาดดังขึ้น

“ทำไมถึงกล้าหนีออกจากบ้านมาที่แบบนี้ห๊ะ!!!”

“ผะ ผม...” ผมผิดไปแย้ววว เด็กหนุ่มเกิดอาการติดอ่าง แทบจะร้องไห้กอดขาอ้อนวอนคนตัวโตว่าอย่าฆ่าหนูเลย หนูผิดไปแล้วจะให้ทำอะไรก็ได้ ดูทิวากานต์ตอนนี้สิน่ากลัวกว่าพวกแก๊งมอเตอร์ไซค์พวกนี้หลายร้อยเท่าอีกอ่ะ ทุกย่างก้าวอย่างกับนับเวลาถอยหลังชีวิตเขาอย่างนั้นแหละ

“มา - นี่” ปากบอกให้มาหาแต่คุณหมอกลับเข้าประชิดตัวและคว้าแขนอลันด์ลากผ่านหน้าหัวโจกแก๊งมอเตอร์ไซค์ให้เดินไปหาน้องกบด้วยกันท่ามกลางความมึนงงอีกครั้งของทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์

มือใหญ่เปิดประตูรถฝั่งคนขับออกง่ายดายแล้วดันเด็กหนุ่มเข้าไปข้างใน ไม่ลืมสั่งคนตัวเท่าไหล่ให้ย้ายก้นไปนั่งอีกฝั่ง ร่างสูงค้อมตัวหาอะไรบางอย่างใต้เบาะคนขับก่อนล้วงเอาปืนพกขนาดพอดีมือออกมาถือไว้ อลันด์ถึงกับลืมหายใจยามเห็นอาวุธฆ่าคนในมือคุณหมอรักษาคน ทั้งที่รู้มาก่อนแล้วว่าคนรักมีดีกรีเป็นอดีตนักกีฬายิงปืนแต่ไม่เคยได้เห็นไอ้อุปกรณ์ที่ว่าหรือภาพเขาจับอาวุธชนิดนี้สักครั้ง

ที่สำคัญคือเขานั่งทับไอ้ของที่ว่านี่มาตั้งแต่กรุงเทพเลยหรือเนี่ย!

ทิวากานต์เหน็บกระบอกปืนไว้ตรงเอวกางเกงด้านหลัง จงใจโชว์ให้พวกแก๊งเด็กแว้นซ์เห็นชัดๆ แล้วก้าวขึ้นรถสุดที่รัก เขาปิดประตูเสียงดังอย่างที่ไม่เคยทำและกระชากตัวออกจากปั๊มโดยทิ้งเหล่าคนที่ยังมึนงงไว้ด้านหลังคล้ายกับว่าไม่เคยมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นที่ปั๊มน้ำมันแห่งนั้นมาก่อน

.
.
.

“ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้วแวะเที่ยวต่อเลยแล้วกัน” เสียงทุ้มต่ำพูดขึ้นในความเงียบเรียกดวงตาสีอ่อนให้หันไปมองกล้าๆ กลัวๆ และยิ่งกลัวไปอีกตอนเห็นคุณหมอล้วงปืนจากด้านหลังมาเสียบตรงเกียร์รถ

อีหรอบนี้จะพาเขาไปฆ่าทิ้งทะเลหรือเปล่าวะ

“แล้วพี่นภล่ะ”

“ให้กลับไปแล้ว คนอะไรโง่จริงโง่จัง รู้ก็รู้ว่าตัวเองเป็นคนดังเสือกโผล่หน้ามาให้ไอ้พวกนั้นเห็นอีก ถ้าเป็นข่าวขึ้นมาจะไม่ช่วยแม่ง”

“งะ งั้นเราก็กลับบ้านกันดีกว่า วาไม่ห่วงพี่ขาวเหรอ” เด็กฝรั่งยกเอารถอีกคันที่ทิวากานต์ให้นภขับกลับกรุงเทพไปขึ้นมาอ้าง แต่คุณหมอรูปหล่อกลับแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้

“เดี๋ยวคนแถวนี้หาว่ารักรถมากกว่าตัวอีก แล้วอยากหนีออกจากบ้านไม่ใช่หรือไง เนี่ยขับไปไม่เกินชั่วโมงก็ถึงจันท์แล้ว มีร้านอาหารทะเลอร่อยเยอะแยะ ไหนจะสวนผลไม้อีก ทุเรียนเคยกินไหม ทุเรียนที่นี่อร่อยนะ อากาศก็ดี”

“เคยกินแต่ก้านยาวของนนท์”

“ไม่มีปัญญาซื้อให้กินหรอก แม่งแพงไร้สาระ”

“วา...วาไม่โกรธผมเหรอ” กลั้นใจถามออกไปแล้วรีบกัดปากตัวเองที่พูดไม่ดูสี่ดูแปด ทิวากานต์ที่เหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยเมื่อกี้กลับมาทำหน้าเหี้ยมอีกแล้ว “ขอโทษ”

“เฮ้อ... มันจะดีถ้าอัลเลิกทำให้พี่เป็นบ้าน้อยลงสักนิดนะ ทั้งโกรธทั้งโมโหทั้งปวดหัวเลย หนีออกจากบ้านก็น่าตีอยู่แล้วดันหยิบกุญแจรถผิดเอาคันที่ขับไม่คล่องออกมาอีก แล้วแทนที่จะกลับบ้านคุณตาหรือไปคอนโดดันขับรถออกมานอกกรุงเทพ ถ้าเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์อย่างเมื่อกี้แต่พี่มาช่วยไม่ทันจะว่าไง ทำไมทำอะไรไม่คิดถึงใจคนอื่นบ้างเลยว่าจะเป็นห่วงแค่ไหน”

“ผม...ผมขอโทษ ผมมันงี่เง่าเองแหละ”

“รู้ตัวก็ดี จะได้ไม่ต้องเทศนามาก นั่งเงียบๆ สำนึกผิดไป ถึงที่แล้วจะบอกเอง”

“โอเค” เจ้าตัวแสบรับคำเสียงหงอย รู้สึกแย่ไม่น้อยที่ทำให้คนรักร้อนรน ตอนนี้ไม่มีคำถามแล้วว่าระหว่างตัวเขากับรถคันนี้ทิวากานต์รักใครมากกว่ากัน เพราะความห่วงใยที่ส่งผ่านมาชัดเจนมากพอที่เขาจะยอมรับมันได้ง่ายและหมดข้อกังขาต่อความรักที่มีให้ไป แต่นั่งเงียบได้ไม่นานเจ้าตัวแสบก็เงยหน้าขึ้นมาถามอีกจนได้ “แล้ววารู้ได้ไงอ่ะว่าผมอยู่ไหน”

ตาเรียวดุเหลือบมองคนถามประหนึ่งว่าโง่เสียเหลือเกินที่เรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้ก่อนตอบให้หายข้อข้องใจ “ฉันไม่โง่ขนาดปล่อยรถราคาเป็นสิบล้านทิ้งไว้เฉยๆ ไม่ติดสัญญาณกันขโมยล่อตาโจรหรอกนะ หึ เพิ่งจะได้ใช้ประโยชน์สมกับที่จ่ายรายเดือนเป็นร้อยสักที”

“แล้วเครื่องมือที่ว่ามันคืออะไรอ่ะ”

“GPS Tracking ตามหาตำแหน่งรถได้จากดาวเทียม เช็คดูได้ด้วยว่าขับไปไหนมาไหนบ้าง”

“เอ๋? มันมีอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ แล้ววาติดทุกคันเลยใช่เปล่า” พออีกคนตอบกลับมาน้ำเสียงดีๆ อลันด์ก็กล้าชวนคุยมากขึ้น บรรยากาศเดิมๆ เริ่มกลับมาถ้าไม่สนใจมองปืนที่ยังวางกั้นพวกเขาสองคนอยู่

“ติดหมดนั่นแหละ”

“ของผมด้วยเหรอ”

“แล้วคิดว่าไงล่ะ”

เด็กฝรั่งหุบปากฉับเลิกถามต่อ ใจหนึ่งคิดว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างทิวากานต์ต้องแอบติดไอ้ตัวส่งสัญญาณที่ว่าในรถทั้งสองคันของตัวเองแน่ แต่อีกใจก็คิดว่าคนรักคงไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวกันขนาดนั้นหรอก

“ทำเป็นเครียด ไม่ได้ติดหรอก ถ้าติดก็รู้หมดแล้วว่าวันนี้เราเถลไถลที่ไหนมาไม่ยอมกลับห้อง”

“จะติดก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง แล้วถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกวาจะได้มาช่วยอย่างเมื่อกี้ไง”

“หึหึ ไม่ใช่ซุปเปอร์แมนนะถึงจะช่วยได้ทุกครั้งน่ะ ขอแค่เลิกทำตัวให้เป็นห่วง จะทำอะไรคิดถึงคนรอบข้างให้มากก็เป็นพระคุณแล้ว”

“คะ ครับ”

ทิวากานต์หันไปมองแมวหงอยก่อนลอบถอนหายใจเบาๆ เท้าผ่อนคันเร่งเมื่อสัญญาณไฟจราจรด้านหน้าฉายแสงสีแดง รอจนรถนิ่งสนิทถึงเอื้อมมือไปลูบหัวทุย “พี่เองก็ต้องขอโทษเหมือนกันที่ผิดสัญญา ไม่ได้เอาใจใส่มากเท่าที่ควร คืนดีกันนะ”

มือซ้ายพร้อมนิ้วก้อยชูออกมาถูกยื่นไปตรงหน้าฝรั่งให้ตาสีน้ำข้าวมองด้วยความแปลกใจระคนดีใจ ใบหน้าอย่างคนตะวันตกกลั้นยิ้มจนแก้มตึงพลางเอานิ้วของตัวเองไปเกี่ยวเข้ากับอีกคนไว้หลวมๆ

“คืนดีกันแล้วเนอะ”

อลันด์ว่า ยึดเอามือใหญ่มาจูบหลังมือเบาๆ ตอนที่คนแก่กว่ารับคำกลับมาว่า ‘เนอะ’ เหมือนกัน แล้วปล่อยให้อีกคนเอาไปจับเกียร์ขับรถต่อเมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนสีระหว่างทำเป็นลืมปืนสีดำมันขลับที่ยังวางนิ่งอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเขา เชื่อขนมกินได้ว่าถ้าไม่มีมันอลันด์คงไม่ยอมคืนดีกับทิวากานต์ง่ายแบบนี้แน่ๆ

เด็กฝรั่งคิดในใจแล้วว่ากลับกรุงเทพไปคราวนี้เขาคงต้องไปสำรวจทั้งพี่ขาว น้องมิ้ลค์ และน้องมินิดูแล้วว่ามีไอ้ของอันตรายแบบนี้ซ่อนไว้ใต้เบาะอีกหรือเปล่า จะได้เอาไปโยนทิ้งให้หมดไม่ต้องเอามาไว้ใช้ขู่ทั้งเขาหรือทั้งใครคนอื่นอีกเลย!



TBC

โฉมหน้า อีกบ ต้นเหตุแห่งความร้าวฉานค่ะ


สวยแบบนี้ก็น่าอิจฉาล่ะเนอะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ส่วนสปอยล์ตอนหน้า...
ไม่มีค่ะ ของดสปอยล์ไว้ไปอ่านกันเองดีกว่า
แต่จะมาก่อนวันเสาร์นะคะเพราะเราจะหนีไปเที่ยวจันท์ตามพี่วาน้องอัลเหมือนกัน หุหุ

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์และบวกเป็ดค่ะ
แล้วเจอกันค่า ^^

ปล. ฝากแท็ก #พี่วาน้องอัล ด้วยนะคะ
ปล. 2 ไหนๆ เหลืออีกไม่ถึงสามตอนก็จะจบแล้ว มีใครสนใจรวมเล่มไหมคะ
เราทำโพลไว้ข้างบน ฝากรบกวนช่วยโหวตด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ

 :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-03-2016 11:29:50 โดย บัวน้อย ไร่แตงโม »

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- HIDDEN TRACK 04 [05.03.16]
«ตอบ #549 เมื่อ05-03-2016 18:12:43 »

อัลน้อยใจพี่หมอวา พี่แกรักคนมากกว่ารถอยู่แล้ว
ไม่งั้นคงไม่ร้อนลนออกตามหาหรอก

แต่เรียกเมียน้อยพี่วาว่าอีกบเลยเหรอ 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- HIDDEN TRACK 04 [05.03.16]
« ตอบ #549 เมื่อ: 05-03-2016 18:12:43 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- HIDDEN TRACK 04 [05.03.16]
«ตอบ #550 เมื่อ05-03-2016 18:22:03 »

กระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- HIDDEN TRACK 04 [05.03.16]
«ตอบ #551 เมื่อ05-03-2016 20:11:45 »

ถ้าน้องกบมันพูดได้มันคงบอกว่าอย่าเอาหนูไปเป็นต้นเหตุความร้าวฉานของพี่เลยหนู555

ออฟไลน์ Mokuchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- HIDDEN TRACK 04 [05.03.16]
«ตอบ #552 เมื่อ05-03-2016 20:39:23 »

ต่างวัยกันมาก มันก็ต้องทะเลาะกันบ่อยเป็นธรรมดา(หรือเปล่า?)ล่ะนะ 555
ว่าแต่ นับวันน้องอัลเหมือนจะปากคอเราะร้ายขึ้นเรื่อยๆนะคะเนี้ย  :hao3:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- HIDDEN TRACK 04 [05.03.16]
«ตอบ #553 เมื่อ05-03-2016 20:42:27 »

อลันเรียกน้องกบได้เจ็บมากกกกกกก 555555
พี่หมอวาใส่ใจน้องอัลมากๆหน่อยเดี๋ยวน้องน้อยใจอีกนะ
ยังเราก็ทีมน้องอัลนะขอบอก :mew1: :pig4:

ออฟไลน์ itsbelle

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- HIDDEN TRACK 04 [05.03.16]
«ตอบ #554 เมื่อ05-03-2016 22:55:33 »

อีกบ 55555555555

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- HIDDEN TRACK 04 [05.03.16]
«ตอบ #555 เมื่อ05-03-2016 23:20:49 »

มีเมียเด็กก็ต้องเอาใจเยอะๆ หน่อยนะพี่วา

ว่าแต่พี่วาเป็นหมอจริงๆ หรือเปล่าเนี่ย  พี่เป็นมาเฟียปลอมตัวมาหรือเปล่าฮะ

ออฟไลน์ san

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- HIDDEN TRACK 04 [05.03.16]
«ตอบ #556 เมื่อ06-03-2016 00:01:11 »

 :L2: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Wereena

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
    • facebook
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- HIDDEN TRACK 04 [05.03.16]
«ตอบ #557 เมื่อ06-03-2016 12:16:28 »

ฮา....อีกบ.....มากกกก 5555  :m20: :m20: :m20:

ออฟไลน์ misskimji

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- HIDDEN TRACK 04 [05.03.16]
«ตอบ #558 เมื่อ06-03-2016 23:12:06 »

 :hao7: :hao7: :hao7:

 :pig4:

ออฟไลน์ VarainDark

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- HIDDEN TRACK 04 [05.03.16]
«ตอบ #559 เมื่อ08-03-2016 00:22:46 »

ย๊าาาา หมอวาแอบโหดมากอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- HIDDEN TRACK 04 [05.03.16]
« ตอบ #559 เมื่อ: 08-03-2016 00:22:46 »





ออฟไลน์ pim-lovemj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- HIDDEN TRACK 04 [05.03.16]
«ตอบ #560 เมื่อ08-03-2016 07:57:47 »

 :laugh: ต้นเหตุของความร้าวฉานคือ อีกบ นี่เอง น้องอัลปากคอเราะร้ายจริง ๆ พี่วาต้องงดละครหลังข่าวของน้องอัลแล้วล่ะ

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- HIDDEN TRACK 04 [05.03.16]
«ตอบ #561 เมื่อ08-03-2016 11:49:11 »

อัลนี่เรียกอีกบเอาซะเงิบเลย!!! แบบให้อารมณ์หึงหวงจริงๆ 555

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- HIDDEN TRACK 04 [05.03.16]
«ตอบ #562 เมื่อ09-03-2016 15:27:38 »

ไม่ได้เจอคู่รักต่างวัยคู่นี้ซะนาน กลับมาอีกทีเด็กน้อยเราดื้อซะแล้ว
เล่นเอาคุณหมอเกือบหัวใจวายสองรอบในวันเดียว
แต่หนูอัลเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่ายอยู่แล้ว อธิบายดีๆก็เข้าใจ (เหรอ)
แต่ครั้งนี้มันเหลืออดเด็กน้อยก็เลยงอแงมากกว่าปกติไปหน่อย :laugh:
ไหนๆก็คืนดีกันแล้วตอนหน้าตามไปดูเขามุ้งมิ้งกันดีกว่า :hao3:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่ะ

ออฟไลน์ nijikii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- HIDDEN TRACK 04 [05.03.16]
«ตอบ #563 เมื่อ10-03-2016 09:22:30 »

ตาม-อ่าน-ตั้ง-แต่-ตอน-แรก-ถึง-ตอน-ปัจจุบัน-แล้ว-ค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาา
(ปาดเหงื่อหนักมาก)
 :katai5:

จะเริ่มว่าอะไรดี
ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
คือทุกตัวละครมีมิติทุกด้านเลยอะ
ไม่ใช่ว่าคนนี้ดีเลิศประเสริฐศรีหมด เพอร์เฟคแมนอะไรแบบนี้
แต่ยังมีด้านแต่ละด้านที่ทำให้รู้จักและรักตัวละครมากขึ้นมากขึ้นในแต่ละตอน
แม้ว่าแต่ละครจะมีทั้งด้านดีและไม่ดี
โดยเฉพาะคุณหมอวา ช่างเป็นหมอที่อยากให้จับมีดมาผ่าลงกลางใจซะเหลือเกิน
คนอะไรทำไมช่างหล่อร้าย แล้วการที่คิดจะให้โดนเสียบตูดทำเราอึ้งมาก เป็นพระเอกที่โคตรของโคตรบ้า ให้ตายเถอะ ดีที่ป๋ารันของเรา(เดี๋ยวๆ)ช่วยไว้ไม่ให้เสียซิงเนอะ
5555555555
ส่วนน้องอัล เราไม่คิดเลยว่าจะมีประเด็นเรื่องเซ็กเมทเซ็กเฟรน ตอนแรกก็อยากจะจับน้องมาตีอยู่หรอกค่ะ แต่อ่านไปอ่านมาเข้าใจทั้งทอมและอัลเลย แอบสงสารด้วยนะโดยเฉพาะอัล ยังดีที่ว่ามาเจอคุณหมอเถื่อนเข้าซะก่อน (ที่แอบสงสารเพราะตอนแรกลุ้นจะตายว่าน้องจะสมยอมมั้ย กลัวว่าถ้าน้องยอมทอมไปแล้วคุณหมอวาของเราจะเป็นยังไง เพราะอัลเหมือนไม่เข็ด เหมือนใจอ่อนตลอดเลยกะทอมเนี่ย)

ส่วนที่ชอบที่สุดเลยคือความสัมพันธ์ของหมอวากับน้องอัล
คือมันมีการพัฒนาในทุกตอน
ถ้าจะพูดคือพระเอกไม่งี่เง่านายเอกก็ไม่ได้เอาแต่ใจเว่อวัง(ส่วนจะมีงอแงบ้างตามประสาเด็กนี่เข้าใจค่ะ)
เลยเหมือนอ่านไปก็เห็นการพัฒนาของตัวละครไป
เห็นถึงความรักที่แท้จริง
แถมต่อไปอาจจะได้เสียน้ำตาด้วยรึเปล่า
เพราะมีประเด็นในเล่นทั้งนั้น ทั้งทุนเรียนต่อ ความฝันของอัล ผู้ใหญ่ทางบ้าน
แต่เราก็คิดว่าทั้งสองจะจับมือกันเดินฝ่าฟันอุปสรรคไปได้
แอบหวังเหมือนกันเรื่องทุนหมอว่าคงไม่มีดราม่ายืดยาวนะ เพราะที่หมอวาวางแผนไว้มันอาจจะตอบโจทย์หมดแล้วก็ได้ ถ้าความฝันมันต้องสวนทางกับความรัก ก็เอาความฝันกับความรักเดินทางไปพร้อมกันเลย
ไปค่ะ
ไปอังกฤษบ้านเกิดน้อง
ไปโดนลูกซองพ่อน้องอัลกินเล่นซะดีๆ
55555555555555

เป็นกำลังใจให้คนแต่งน้า
สู้ๆนะคะ
จะติดตามอ่านต่อไปค่า
(ป.ล.เห็นเรื่องใหม่ชื่อเรื่องดูดราม่ามากเลยค่ะ นี่ไม่ค่อยนิยมดราม่า กลัวอ่านไปมีแต่น้ำตาหยดลงหน้าจอ เลยยังไม่ได้อ่านเลย งั้นขอติดตามเรื่องนี้ก่อนแล้วกันนะคะ แต่ถ้าเปิดเรื่องใหม่ขอแนวหวานมดขึ้นมีรสขมนิดๆแล้วกันนะคะ พอดีชีวิตขาดความหวาน อิอิ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-03-2016 09:26:10 โดย nijikii »

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- HIDDEN TRACK 04 [05.03.16]
«ตอบ #564 เมื่อ10-03-2016 12:50:34 »

อารมณ์แปรปรวนแท้เด็กน้อย โกรธหมอวาก็ตีกันที่ห้องดีกว่าขับรถเตลิดแบบนั้น อันตรายโคตร อย่าทำอีกนะ

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 31 [11.03.16]
«ตอบ #565 เมื่อ11-03-2016 13:47:39 »

TRACK 31



วันหนึ่งหลังสอบกลางภาคตัวสุดท้ายเสร็จเพื่อนชาวไทยเชื้อสายจีนแต่หน้าคมก็ออกปากมีเรื่องให้ช่วย เขาฟังแล้วเห็นว่าไม่เหนือบ่ากว่าแรงจึงยอมตกลง ลูกเศรษฐีอังกฤษเลยได้ไปเยือนบ้านเศรษฐีไทยคนอื่นนอกจากบ้านคุณตาตนเองเป็นครั้งแรกเพื่อมาพบกับอาเจ็กหรือคุณอาของคนินทร์ผู้เป็นคนร้องขอความช่วยเหลือจากเด็กฝรั่งตัวจริง

“ได้ยินวีรกรรมเราจากปากคิวกับพี่รันมาเยอะ ตัวจริงน่ารักกว่าที่คิดนะเนี่ย” ชนกานต์หรือคุณอายี่หวายิ้มพลางลูบหัวอีกคนเล่นเหมือนลูกหมาตัวเล็กๆ ซึ่งไม่ต่างไปจากความจริงเสียเท่าไหร่เพราะอลันด์สูงเลยไหล่อีกฝ่ายมานิดเดียวเท่านั้น

“คุณอารู้จักกับพี่รันด้วยเหรอครับ”

“หูยยย รู้จักซี่ รู้จักตั้งแต่เกิดแหละ ซี้กันจะตาย แล้วอย่าเรียกอาเหมือนคิวมันเลย เรียกพี่ดีกว่า”

“ผมก็ว่างั้นแหละ” อลันด์หัวเราะเบาๆ เพราะคุณอายี่หวาเพิ่งจะอายุยี่สิบสองเท่านั้น และยังเป็นนิสิตปีสามอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับนภอีกด้วย ได้ยินคนินทร์เล่าให้ฟังว่าเป็นลูกหลง แม้จะงงๆ ไม่ค่อยเข้าใจคำศัพท์นี้แต่ไว้เดี๋ยวค่อยถามทิวากานต์เอาทีหลังก็ได้

“แล้วเราเล่นอะไรเป็นอีกไหมนอกจากกีตาร์”

“ก็เปียโนกับกลองครับ เบสก็ได้นะ ไวโอลินได้นิดนึง”

เรื่องให้ช่วยของคนินทร์ก็คือมาช่วยเล่นดนตรีให้ชนกานต์ในงานเปิดตัวสินค้าการกุศลงานหนึ่งให้หน่อย อลันด์เห็นว่างานง่าย แค่ไปดีดกีตาร์เล่นเปียโนสองสามเพลงก็ได้ค่าจ้างหลายบาทแล้ว แถมงานนี้คุณยายยังเป็นหนึ่งในแขกของงานตั้งใจใช้เขาเปิดตัวกับสังคมด้วย มีแต่ได้กับได้จึงไม่เห็นว่าจะปฏิเสธไปทำไม

พวกเขาใช้เวลาหลังเลิกเรียนซ้อมอยู่ห้าวันก็ได้ฤกษ์ออกงาน งานนี้จัดที่ห้างสรรพสินค้าหรูกลางใจเมืองแห่งหนึ่งเป็นงานเปิด มีนักแสดงและเซเลปของเมืองไทยมาร่วมงานมากมาย พร้อมกับกองทัพนักข่าวและแฟนคลับที่ขนมาให้กำลังใจกันแน่นขนัด อลันด์ตื่นเต้นเล็กน้อยเพราะเป็นงานแสดงต่อหน้าสื่ออย่างเป็นทางการครั้งแรก แต่มีคุณยายกับพี่กานต์คอยให้กำลังใจเป็นเงินสดล่อตาเลยขอสู้แค่ตาย

หลังท่านประธานมูลนิธิซึ่งเป็นพี่สะใภ้ของชนกานต์(หรือแม่ของคนินทร์)กล่าวเปิดงาน อลันด์กับคุณอายังหนุ่มก็ก้าวเท้าขึ้นเวทีประจำตำแหน่งของแต่ละคน เด็กฝรั่งนั่งบนเก้าอี้สตูลวางกีตาร์คู่ใจไว้บนตัก นิ้วเรียวจับคอร์ดดีดเส้นสายให้เสียงก้องกังวานไปทั่วบริเวณเป็นทำนองหวานเศร้าก่อนที่ชนกานต์จะเปล่งเสียงร้องตามออกมา

“Here am I, a lifetime away from you
The blood of Christ, or the beat of my heart
My love wears forbidden colours
My life believes”1


อลันด์เล่นเพลงนี้ไปก็อดจี๊ดในใจไม่ได้เพราะเนื้อหาหมายถึงรักร่วมเพศว่าเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างชัดเจน ไม่รู้ว่าที่ชนกานต์เลือกเพลงนี้มาแสดงจะมีเหตุผลอะไรหรือเปล่า หากเสียงทุ้มหวานเศร้าที่ขับร้องออกมานั้นไพเราะเสียจนสะกดผู้ฟังทุกคนไว้ได้อยู่หมัด

เมื่อจบเพลงแรกพวกเขาก็ต่อกันเพลงถัดไปทันที คราวนี้จังหวะเร็วมีความสดใสมากขึ้นและยังคงเป็นเพลงสากลเช่นเดิม คุณอายังหนุ่มร้องไปยิ้มหวานไปเรียกเสียงกรี๊ดกระจาย อย่าเห็นเป็นแค่เซเลปไฮโซรุ่นเยาว์เชียวเพราะชนกานต์มีคนตามอินสตาแกรมเกือบล้านคน เรียกได้ว่าโด่งดังจนได้รับเชิญไปออกสื่อบ่อยๆ แถมหน้าตายังดีขนาดเป็นพระเอกหนังได้สบาย ติดที่เจ้าตัวไม่อยากทำเองนี่แหละ

หลังจบการแสดงสองหนุ่มบนเวทีก็แยกย้ายไปหาผู้ปกครอง อลันด์ถูกคุณยายพาไปแนะนำให้คนอื่นรู้จัก ปั้นยิ้มพูดคุยกับคนนู้นคนนี้อยู่นานจึงหาทางหนีออกมานั่งร้านกาแฟกับคนินทร์ สักพักชนกานต์ก็ตามมาสมทบพร้อมชายหนุ่มวัยไล่เลี่ยกันอีกคน

“นี่สิงห์ หลานพี่รัน เพื่อนพี่เอง”

“สวัสดีครับ” เด็กฝรั่งยกมือไหว้อีกคนผิดกับคนินทร์ที่ลุกขอตัวไปเข้าห้องน้ำทันทีที่เพื่อนของชนกานต์นั่งลง ดูจากอากัปกิริยาแล้วเหมือนว่าเพื่อนเขาจะไม่ค่อยชอบพี่สิงห์นี่เสียเท่าไหร่ คนถูกลากก็หน้าบูดหน้าบึ้งผิดกับคนลากมา

“สิงห์เอาอะไรไหม เดี๋ยวฉันไปสั่งให้ สิงห์ชอบอเมริกาโน่นี่เนอะ” ชนกานต์พูดเองตัดสินใจเองเสร็จก็ลุกไปอีกคน

อลันด์ลอบกลืนน้ำลายเมื่อถูกทิ้งให้นั่งกับคำแปลกหน้า หากสักพักอีกฝ่ายก็เปิดปากชวนคุยก่อน “รู้จักกับอารันด้วยเหรอ”

“ครับ พี่รันเป็นรุ่นพี่คนรู้จักผม พี่วาน่ะครับ พี่สิงห์รู้จักไหม”

“อืม เคยเจออยู่สองสามครั้ง โลกกลมดีนะ”

“นั่นสิครับ” เขารับคำเบาๆ ก่อนพากันนั่งเงียบเมื่อไม่รู้จะพูดอะไรต่อ กระทั่งชนกานต์กลับมาพร้อมแก้วกาแฟร้อนในมือ

“คุยอะไรกันอยู่เอ่ย”

“คุยเรื่องโลกลกมน่ะครับ ไม่คิดว่าสุดท้ายจะรู้จักกันหมด” อลันด์ตอบแทนเพื่อนของคนถามที่ทำนิ่งเงียบไม่แม้แต่จะหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาดื่ม หากชนกานต์ก็ทำเหมือนไม่มีอะไร เขานั่งลงที่เดิมแล้วเริ่มชวนคนอื่นคุย หากสังเกตเพียงนิดเดียวจะรู้ว่าเจ้าตัวพยายามเอาใจคนที่นั่งข้างๆ เกินปกติ จนทำให้สิงหารู้สึกรำคาญจนต้องจับข้อมือขาวไว้เมื่ออีกฝ่ายชักจะลามปามมาเล่นหัวเขา

“อย่าทำตัววุ่นวายได้ไหมหวา น่ารำคาญ”

“ขอโทษ เราเห็นผมมันปรกตาสิงห์ แค่จะช่วยปัดออก”

“เรื่องของเรา เราทำเองได้ ไม่ต้องยุ่ง” นอกจากพูดห้วนห้าวแล้วสีหน้าของสิงหายังบอกความรำคาญเต็มทน หากก่อนสถานการณ์จะอึดอัดไปมากกว่านี้เสียงดนตรีจากเครื่องมือสื่อสารของใครสักคนก็ดังขึ้น หลานของการันต์หยิบโทรศัพท์ขึ้นดูชื่อคนโทรเข้าก่อนปล่อยมือชนกานต์ทิ้งไว้แล้วลุกออกไปคุยที่อื่น

อลันด์ลอบสังเกตชนกานต์ที่มองตามแผ่นหลังกว้างตาละห้อยแล้วอดสงสารไม่ได้ “พี่หวาชอบพี่สิงห์เหรอครับ”

หนุ่มไทยเชื้อสายจีนยิ้มเศร้าแทนคำตอบ พวกเขานั่งดื่มเครื่องดื่มกันโดยไร้บทสนทนาอยู่อีกพักใหญ่แต่ทั้งสิงหาและคนินทร์ก็ไม่ท่าทีจะกลับมาสักที สุดท้ายชนกานต์จึงทำลายความเงียบลง “ขนาดเจอกันแป๊บเดียวน้องอัลยังดูออก ทำไมสิงห์ไม่เคยรู้เลยนะ แต่บางทีสิงห์อาจจะรู้แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ก็ได้ หมอนั่นไม่ได้ชอบผู้ชายนี่นา”

“เพลงที่เล่นวันนี้ก็เล่นให้พี่สิงห์สินะครับ” คนินทร์เคยบอกว่าทั้งชื่อจริงและชื่อเล่นของคุณอาล้วนแปลว่าผู้อันเป็นที่รักของทุกคน แต่ทำไมกลับมีแค่คนเพียงคนเดียวที่ไม่รักนะ หรือเพราะไม่ได้ชอบผู้ชายเหมือนกันจริงๆ เจ้าตัวถึงได้บรรยายผ่านบทเพลงได้เศร้ากินใจใครหลายๆ คน

“เปล่าหรอก เล่นให้ตัวเองต่างหาก” ชายหนุ่มปฏิเสธด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ถึงวันหนึ่งเกิดปาฏิหาริย์เราสองคนใจตรงกันขึ้นมา พี่ก็ไม่คิดว่าเราจะได้คบกันหรอก”

“ทำไมล่ะครับ” เด็กฝรั่งตาโต ไม่ว่ามองอย่างไรชนกานต์ก็รักสิงหามากถึงยอมถูกทำให้เจ็บช้ำน้ำใจหลายอย่าง ถ้าใจตรงกันขึ้นมาก็น่าจะดีใจไม่ใช่หรือ

“มันเป็นเรื่องของครอบครัวน่ะ ที่บ้านพี่ไม่ได้เปิดเสรีเหมือนครอบครัวอื่นเท่าไหร่ อีกอย่าง...พี่ก็ทำใจทำให้คนที่บ้านเสียใจไม่ได้เหมือนกัน แค่นี้เขาก็เหนื่อยกับพี่มากพอแล้ว ถึงอยากจะเลือกจับไว้ทั้งสองมือแต่สุดท้ายเพื่อคนที่เรารักก็ต้องยอมปล่อยมือไปข้างหนึ่งอยู่ดี ดีกว่าเสียไปทั้งสองอย่างเพราะความโลภ”

แม้ไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดนักหากอลันด์กลับรับรู้ได้ถึงสิ่งที่ชนกานต์สื่อ ตาสีฟ้าอ่อนสบกับตาสีน้ำผึ้งคล้ายจะบอกว่าเขาเองก็เข้าใจและกำลังเผชิญสิ่งที่ว่าอยู่เช่นกัน

และก่อนจากชนกานต์ได้ทิ้งท้ายประโยคหนึ่งเป็นคำถามสลักไว้ในใจอลันด์ด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยชวนใจหาย

“ถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ความรักมันก็อยู่กับคนที่รักเสมอนี่นา จริงไหมน้องแสบ”

.
.
.

วันนี้เป็นเช้าวันจันทร์ที่ต้องตื่นมาทำงานแต่เช้าอย่างเคย หลังส่งอลันด์ที่มหาวิทยาลัยทิวากานต์ก็พาตัวเองนั่งเรือข้ามฟากไปทำงาน  ทักทายเหล่าพยาบาลเจ้าของสถานที่ตัวจริง รับไหว้คนไข้ที่มานั่งรอหมอกันตั้งแต่ตีสี่ตีห้า โค้งให้อาจารย์ที่เคยชิงชังสมัยเรียนว่าทำไมออกข้อสอบยากชิบหายแต่ปัจจุบันเปลี่ยนสถานะเป็นรุ่นพี่ในที่ทำงานที่แสนใจดีแต่บางทีก็ยังมีกินหัวบ้างเป็นบางครั้งเมื่อเขาทำไม่ถูกใจหรือมีข้อผิดพลาดในการทำงาน

ชายหนุ่มเข้าห้องพักหยิบแฟ้มรายงานของนักศึกษาที่ราวน์ตอนเช้ามาดูว่ามีเคสไหนมีปัญหาไหม เขียนคอมเม้นต์เพิ่มเติมส่งกลับไปแล้วเข้าประชุมก่อนเริ่มงานอย่างเช่นทุกวัน แต่ถ้าจะมีอะไรแปลกไปก็คงเป็น...

“พี่รันเมาเนื้อเปล่าวะ” นายแพทย์รุ่นน้องเอามือป้องปากหันไปกระซิบกับหมอศัลย์หลอดเลือดข้างตัวระหว่างประชุม เอะใจตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องแล้วเห็นพี่ชายสุดที่รักยิ้มตาเยิ้มอย่างกับคนพี้กัญชามา

“ไม่รู้ว่ะ แต่เห็นพยาบาลบอกเป็นงี้ตั้งแต่เข้ามาแล้ว”

“เฮ้ย เอ็งสองตัวพูดไรได้ยินนะเว้ย สงสัยทำไมไม่ถาม นินทาอยู่ได้ นี่อยากจะบอกจะแย่” แทนที่จะด่าการันต์กลับยิ้มหวานกว่าเดิมทำเอาเหล่าสตาฟขนลุกชันกันถ้วนหน้า ยังดีที่อาจารย์อาคมไม่ได้เข้าประชุมเคสเช้านี้ด้วย ไม่งั้นการันต์ก็การันต์เถอะมีโดนเฉ่งยกห้อง

“งั้นก็บอกพวกมาเลยสิ ไหนๆ ก็คุยเสร็จแล้วนี่” หนึ่งในกลุ่มสตาฟอาวุโสบ่น เขาเองก็อยากรู้ไม่ต่างจากคนอื่นในห้องเท่าไหร่นัก

ชายหนุ่มวัยใกล้สี่สิบหัวเราะในลำคอท่าทางมีเลศนัยมองนายแพทย์รุ่นพี่ที่ได้ตำแหน่งศาสตรจารย์นำหน้าไปแล้วแต่ยังโสดไร้สาวเหลียวแลเพราะมัวแต่ทำงานจนไม่ได้ออกไปดูเดือนดูตะวันอย่างคนอื่นเขา ก่อนปรายตามองทิวากานต์เป็นรายถัดมาประหนึ่งเยาะเย้ยวางมาดเป็นป๋าได้น่าหมั่นไส้กว่าทุกวัน

การันต์แสร้งวางท่ากระแอมเรียกเสียงในลำคอสองสามทีถึงค่อยเปิดปากให้พวกอยากรู้อยากเห็นหายข้อข้องใจ “คืองี้ ผม...กำลังจะแต่งงานล่ะ”

“หา?!” ไม่ใช่แค่ทิวากานต์ตกใจ แต่นายแพทย์ทุกคนก็มีอาการตาโตอ้าปากค้างไม่ต่างกัน บางคนช็อคถึงขั้นทำแฟ้มตกพื้นที่ได้ยินว่ารองศาสตราจารย์การันต์คนโก้กำลังแต่งเมียรอบสอง

“แต่งงาน? แต่งกับใครครับ น้องแอฟเหรอ” เป็นคุณหมอรูปหล่อดึงสติกลับมาได้ก่อนใครเพื่อนถามสิ่งที่ทุกคนอยากรู้ออกมา งานนี้ถ้าเกาะขาเป็นลูกหมาได้คงทำกันแล้ว

“ไม่แต่งกับแอฟให้แต่งกับแมวที่ไหนล่ะคร้าบพี่น้อง มีอยู่คนเดียวเนี่ย”

“เดี๋ยวๆ แล้วไปทำอีท่าไหนเขาถึงยอมแต่งด้วยเนี่ย ได้ข่าวว่ายังไม่ได้คบเป็นแฟนจริงจังเลยด้วยซ้ำไม่ใช่เหรอวะ” สตาฟอาวุโสอีกรายรีบแทรกขึ้น งานแต่งหมอกวินเขาก็ไปร่วมทำให้พอรู้ข่าวคราวชีวิตรักนายแพทย์คนนี้อยู่บ้าง แต่เท่าที่ได้ยินเขาเม้าท์กันมายังไม่เรียกว่าแฟนเลยนี่

“พี่ถามอะไรอย่างนั้น ก็ขอเขาแต่งงานสิครับเขาถึงยอมแต่งด้วย แฟนไม่ต้องเป็นหรอกเป็นเมียเลยนี่แหละ คนนี้จริงจังมาก ถึงไม่ใช่คนแรกแต่จะเป็นคนสุดท้ายของชีวิต ให้แม่ไปหาฤกษ์มาแล้ว ยี่หกเมษาก่อนวันเกิดไอ้วาสองวัน เดี๋ยวสัปดาห์หน้าเอาการ์ดมาแจก รวดเร็วทันใจวัยรุ่นสุดๆ”

“โห่!!!”

“ปูนนี้ไม่วัยสะรุ่นแล้วพี่ ใกล้ฝั่งแล้วมากกว่า”

ฟังท่านรองหัวหน้าภาคพูดแล้วทุกคนถึงกับพากันโห่ใส่บ้างก็แซวเรื่องอายุเลยโดนการันต์ไล่เตะไปคนละทีสองทีก่อนแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ใครหน้าที่มัน ทิวากานต์เดินคู่รุ่นพี่คนสนิทออกมาจากห้องไม่วายถามไถ่ให้ได้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อเอาไปเม้าท์กับคนรักวัยกระเตาะต่อ

“เดือนหน้าเองนี่พี่ ไม่เร็วไปเหรอครับ แล้วทำไมจู่ๆ น้องแอฟเขายอมแต่งงานกับพี่ง่ายจังอ่ะ ทำเขาท้องเหรอพี่” ประโยคหลังหนุ่มรุ่นน้องเอามือป้องปากกระซิบถามเสียงเบาเลยถูกโบกไปหนึ่งที

“เอ็งพูดเหมือนแอฟใจง่ายเลย” การันต์แกล้งทำหน้าไม่พอใจใส่รุ่นน้องรูปหล่อ “ความจริงเขาไม่อยากแต่งหรอก ฉันกึ่งบังคับเขาด้วยซ้ำ โชคดีพาเข้าบ้านมาหลายหน พ่อแม่เขาเอ็นดูอยากได้เป็นสะใภ้เหมือนกัน เมื่อวานเลยให้พ่อกับแม่ช่วยพูดให้ ตะล่อมนิดตะล่อมหน่อยบอกว่าฉันแก่แล้วไม่มีคนดูแลเดี๋ยวมีลูกไม่ทันได้เล่นด้วยก็ยอมแบบงงๆ นี่ยังรู้สึกเหมือนหลอกเด็กอยู่เลย ดีนะแอฟยี่สิบห้าแล้วไม่ใช่สิบเจ็ดสิบแปด”

“แหม่... ถ้าจะแซะกันแบบนี้นะ” ไปๆ มาๆ ดันเข้าตัวซะได้ ทิวากานต์ทำหน้างอ “แต่คนนี้พี่รักจริงใช่ไหมล่ะ”

“อืม รักมากเลยล่ะ ไม่อยากปล่อยให้ไกลหูไกลตา อยากอยู่ใกล้ๆ แบบนี้จนกว่าจะหมดลมหายใจ พี่เนี่ย...อย่างกับเด็กหัดรักเลยเนอะ”

“ผมก็ไม่ต่างจากพี่หรอกน่า เอาเป็นว่ามีอะไรให้ช่วยก็บอกแล้วกัน อีกอย่างผมว่าแอฟเป็นเด็กน่ารักดีเขาจะไม่มีวันทำให้พี่ชายผมเสียใจแน่นอน ยินดีด้วยนะพี่รัน”

“ขอบใจเว้ยวา” เขาตบไหล่หนุ่มรุ่นน้องไม่เบานักแล้วแยกตัวไปสอนนักศึกษาแพทย์ตัวน้อย



เมื่อทิวากานต์กลับมาเจออลันด์อีกครั้งในตอนเย็นและแจ้งเรื่องนี้ให้คนรักรับรู้ เจ้าตัวแสบก็มีปฏิกิริยาไม่ต่างจากคนอื่นเลยสักนิด แต่แปลกใจได้ไม่ทันไรเจ้าตัวกลับยิ้มเผล่เอามือลูบคาง “ผมว่าอยู่แล้วล่ะ ตอนไปว่ายน้ำด้วยกันสายตาพี่แอฟดูรักพี่รันไม่น้อยเลย ที่ทำนิ่งๆ เพราะพี่รันไม่ยอมพูดอะไรให้มันชัดเจนก่อน แต่ไม่นึกว่าพูดทีจะขอแต่งงานเลยแบบนี้ หึหึ ใจร้อนไม่เบานะพ่อเสือเฒ่า”

คนตาดุฟังประโยคโบราณจากเด็กหนุ่มหน้าฝรั่งแล้วถึงกับส่ายหน้าพาเปลี่ยนไปอีกเรื่อง “สนใจไปเล่นดนตรีงานพี่รันไหม เดี๋ยวพี่จ้างเอง”

“งานนี้เล่นให้ฟรีเลยเอ้า ว่าแต่...เดือนหน้าสินะ ซื้ออะไรเป็นของขวัญแต่งงานให้พี่รันดีล่ะ แพคเกจฮันนีมูน เหล้า แชมเปญ อ่า...ต้องไปบอกพวกคุณยายด้วย”

“ค่อยๆ คิดก็ได้มีเวลาอีกตั้งเดือน ตอนนี้มาเรื่องของเราดีกว่าว่าเย็นนี้จะกินอะไรดี?”

“ต้มมะระยัดไส้ใส่กระดูกหมู ปีกไก่ทอดกระเทียม แล้วก็ผัดผักน้ำมันหอย”

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่ซ้ำยังเป็นต่างชาติจะชอบกินมะระ แล้วมีการบอกด้วยนะว่ามะระที่ไม่ขมก็เหมือนจิมมี่ เฮนดริกซ์ที่เกิดมาไม่รู้จักกีตาร์ ดูเขาเปรียบเข้า

ทั้งคู่แวะซื้อของสดที่ซูเปอร์ มาร์เก็ตแถวคอนโดไว้ทำมื้อเย็น ระหว่างที่ทำอลันด์ก็เข้ามาเป็นลูกมือช่วยหยิบจับนู่นนี่ สกิลงานครัวพัฒนาขึ้นมากหลังจากที่เคยปอกเป็นแต่หัวหอม ตอนนี้ถึงขั้นล้วงไส้มะระออกเพื่อยัดไส้หมูสับปรุงรสได้แล้ว

“แม้มีปีก...โผบินได้เหมือนนก อก...จะต้อง...ธนูเจ็บปวดนัก
ฉันจะบินมาตายตรงหน้าตัก ให้ยอดรัก...เช็ดเลือดและน้ำตา”


“คุณยายไม่เคยสอนหรือว่าร้องเพลงตอนทำอาหารจะได้ผัวแก่” ทิวากานต์เงยหน้าขึ้นจากหม้อ ปากบางยักยิ้มน้อยๆ เอ่ยแซวคนตัวเท่าไหล่ที่ร้องเพลงสมัยคุณยายยังสาวขณะเอามือคลุกปีกไก่กับเครื่องปรุงรสอยู่ตรงโต๊ะเตรียมอาหาร

“ก็ได้แล้วไง จะสามสิบเอ็ดเนี่ยใกล้แก่แล้ว”

“เด็กบ้า สามสิบเอ็ดนี่วัยกำลังหล่อน่ากินเลยนะเว้ย แก่ตรงไหนกัน” คนใกล้แก่โวยวายแก้ตัว คิดไปคิดมาในขณะที่เขาขึ้นเลขสามแล้วอลันด์ยังไม่ถึงเลขสองเลย ช่องว่างระหว่างตัวเลขเยอะจนน่าใจหาย “เหอะ แก่แล้วไงวะ อัลยกไก่มาทอดได้แล้วป่ะ” เขากระดิกนิ้วเรียกคนรักให้ยกอ่างใส่ปีกไก่มาไว้ใกล้กระทะตั้งน้ำมันเดือดปุดๆ ตัดบทงดคุยเรื่องอายุ

“เรื่องของขวัญให้พี่รันกับพี่แอฟเดี๋ยวผมว่าไปดูให้ที่ลอนดอนดีกว่า ให้มัมกับอัลเบิร์ตช่วยดูให้ด้วยยังไงช่วงสงกรานต์ก็กลับบ้านอยู่แล้ว วาได้หยุดกี่วัน ไปด้วยกันไหม” คนตัวเล็กวกกลับมาคุยเรื่องของขวัญ หลังจากนัดตรวจรอบล่าสุดคุณหมอบอกว่าสุขภาพร่างกายของอลันด์ดีมากและพร้อมสำหรับเดินทางไกลแล้ว ในช่วงมหาวิทยาลัยหยุดยาววันสงกรานต์ที่จะถึงนี้เด็กหนุ่มจึงตั้งใจกลับบ้านที่เมย์แฟร์ไปกอดแมวอ้วนลายวัวชื่อเหมือนแบรนด์เสื้อผ้าให้หายคิดถึง

“อยากไปด้วยหรอกนะแต่ปีนี้อยู่เวรยาวชดเชยที่หยุดนอนป่วยไง งั้นของขวัญให้พี่รันพี่ฝากเราดูแล้วกัน ราคาเท่าไหร่ค่อยมาหารกันคนละครึ่ง”

“โอเค” เด็กหนุ่มรับคำก่อนเดินไปหลบหลังร่างสูงเมื่อทิวากานต์เริ่มหย่อนปีกไก่ลงในกระทะที่มีน้ำมันร้อนๆ

“แล้วแด๊ดดี้กับมัมมี้เราจะมาเมื่อไหร่ หรือไม่มาแล้วไปเจอกันที่ลอนดอนเลย”

“มาช่วงหยุดอีสเตอร์ ก็ประมาณวันที่สี่ที่ห้านี่แหละแล้วอยู่ด้วยยาวรอกลับไปลอนดอนพร้อมกัน แต่ไม่ให้ไปนอนที่คอนโดใหม่หรอกเดี๋ยวแด๊ดบ่นคุณตาที่ซื้อให้ ขี้เกียจฟัง นอนนี่ดีกว่าใกล้วาดีด้วย เออใช่! คุณตาคุณยายก็ไปลอนดอนด้วยนะคราวนี้ เห็นว่าจะไปคุยกับป้าของชาร์ล หมอนั่นไปก่อเรื่องไว้ที่ฮ่องกงล่ะ”

“หืม? ท่าทางเรียบร้อยอย่างนั้นน่ะเหรอจะก่อเรื่อง” เขาพยามนึกภาพชายหนุ่มหน้าสวยหวานขนาดผู้หญิงยังอายที่เคยเจอกันแป๊บๆ และจบด้วยการบอกว่าเป็นแฟนคลับตัวยงของพ่อเขา

“เห็นว่าเรื่องใหญ่อยู่เหมือนกัน ได้ยินมัมบ่นๆ ว่าชาร์ลไปปั่นหัวท่านประธานจนเกิดศึกแย่งตัวกันกับมือขวา”

“หือ? ขนาดนั้นเลย แล้วท่านประธานนี่ผู้หญิงหรือผู้ชายกัน”

“ผู้ชายน่ะสิ มือขวานั่นก็ผู้ชายนะ แต่อันนั้นไม่มีใครเขาตกใจกันเท่าไหร่หรอก ชาร์ลน่ะออกสาวตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ป้าอรก็ทำใจมานานว่าถ้าชาร์ลจะหาหลานเขยให้ก็จะยอมรับ แต่ที่เขาวุ่นวายกันเพราะทางท่านประธานนั่นคิดว่าคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดคือบริษัทของแด๊ด พวกผู้ใหญ่เขาเลยวุ่นวายหาหลักฐานมาแย้งกันใหญ่ กลัวทางนั้นเขาฟ้องกลับมาจะซวยกันไปหมด” เจ้าตัวเล่าไปทำน้ำเสียงอิดหนาระอาใจใส่ลูกพี่ลูกน้องผู้พี่ไป มองแล้วเกิดอาการมันเขี้ยวไม่น้อย คุณหมอผู้ผันตัวมาเป็นพ่อครัวชั่วคราวจึงดีดนิ้วใส่ปลายจมูกโด่งหนึ่งที

“ว่าแต่พี่เขาออกสาว ตัวเองก็สาวขึ้นทุกวันเหอะ ไอ้นิสัยชอบกรี๊ดๆ นี่เลิกได้ไหม ได้ยินแล้วตกใจทุกที วันก่อนก็กรี๊ดดังลั่นท่าน้ำกะอีแค่แมลงสาบตัวเดียว ไม่อายคนอื่นบ้างหรือไง” เขาพูดหน้านิ่วนึกไปถึงเรื่องเมื่อหลายวันก่อนที่อลันด์เหลือบตาไปเห็นเจ้าปีเตอร์ตัวสีน้ำตาลขนาดเท่าสองนิ้วทิวากานต์รวบติดกัน เด็กฝรั่งนี่ร้องกรี๊ดลั่นสาวแตกวิ่งกระโดดขึ้นหลังคุณหมอเกาะแน่นเป็นลูกแมว ในขณะที่คนฟังทำหน้าสยดสยองราวกับมีไอ้แมลงสกปรกอยู่แถวนี้

“แค่แมลงสาบที่ไหนวา แมลงสาบเลยนะ มะ - แลง - สาบ น่ากลัวจะตายไป ถ้ามันบินขึ้นมาล่ะ ไม่อยากจะคิด”

“ถอดรองเท้าฟาดมันซะสิ”

“จะบ้าเหรอ แค่ให้เข้าใกล้ก็จะอ้วกล่ะ พอๆ เลิกพูดเดี๋ยวกินข้าวไม่ลงวาก็มาว่าอีก”

“บอกให้ทำเยอะขนาดนี้กินไม่หมดละน่าดู” เขาขู่ก่อนใช้ตะเกียบคีบชิ้นไก่ในกระทะพลิกอีกด้าน ส่วนลูกแมวขนฟูสีน้ำตาลอ่อนก็วิ่งไปหยิบจานกระเบื้องใบใหญ่มารออย่างรู้งาน

กับข้าวทั้งสามอย่างจัดวางบนโต๊ะตอนสองทุ่มพอดิบพอดี อลันด์คดข้าวสวยร้อนๆ ใส่จานกระเบื้องสองใบรอพ่อครัวใหญ่ล้างหน้าล้างมือมากินพร้อมกัน ตลอดเวลามื้อค่ำไม่ใช่ทิวากานต์ไม่ได้สังเกตคนรักว่าเหลือบมองตนบ่อยแค่ไหน เขาสัมผัสได้ว่าอลันด์มีอะไรในใจอยากพูดกับเขาตั้งแต่เจอกันเมื่อตอนเย็นแล้ว เขาจึงรอให้อีกฝ่ายเปิดปากพูดขึ้นมาเองตามประสาคนตรงๆ ไม่คาดคั้นเช่นทุกที

“วา...”  นั่นประไร... ข้าวพร่องยังไม่ถึงครึ่งจานเจ้าตัวเล็กก็ยอมเปิดปาก เขาเหลือบตามองอีกฝ่ายบุ้ยคางเป็นเชิงบอกให้พูดต่อ

“คือจำตอนที่ปีเตอร์โทรมาหลังวันเกิดผมได้ไหม” เจ้าตัวเกริ่นนำรอจนอีกฝ่ายตอบรับจึงพูดต่อ “คืองี้...เมื่อตอนเที่ยงเขาติดต่อมาอีก บอกว่าเอาเดโมที่ผมเคยส่งไปลองเปิดในวิทยุท้องถิ่นแล้วได้ผลตอบรับค่อนข้างดี ช่วงหยุดยาวที่ผมจะกลับลอนดอนคราวนี้เลยว่าให้ผมลองไปคุยกับทางค่ายเพลงดู คือ...มันมีโอกาสที่ผมจะได้เซ็นสัญญากับทางนั้นสูงมากภายในปีสองปีนี้”

“ฟังดูเป็นข่าวดีนี่ แล้วมีอะไรน่าหนักใจงั้นเหรอ”

“ไม่เชิงเรื่องหนักใจหรอก แต่เพราะคิวมันพูดมาน่ะผมเลยอยากถามวาว่า... ถ้าเกิดผมได้เป็นนักร้องจริงๆ ต้องกลับไปอยู่อังกฤษแล้วก็ออกทัวร์ไปทั่วโลก วาจะทำยังไง แต่อย่างวาก็คงคิดไว้แล้วใช่ม้า” เด็กหนุ่มฉีกยิ้มแหย มั่นใจว่าหนุ่มคนรักต้องคิดถึงวางแผนไว้แล้วอย่างเช่นทุกครั้ง

“มันยังไม่ถึงเวลาไม่ใช่เหรอจะรีบคิดไปทำไม” คำตอบของคุณหมอจอมเจ้าเล่ห์ออกจะผิดคาดและทำให้เด็กหนุ่มใจเสียไม่น้อย เหมือนว่าทิวากานต์ไม่เคยคิดถึงอนาคตที่มีเขาร่วมอยู่ไว้เลย อารมณ์น้อยใจปะทุขึ้นมาเงียบๆ หากลองคิดในอีกแง่เขายังต้องอยู่ที่เมืองไทยอีกสามปีเป็นอย่างต่ำไว้ค่อยคิดหลังจากนี้ก็ยังไม่สายเสียหน่อย

“ก็เผื่อไว้ก่อน เฮ้อ... ความจริงผมไม่ได้คิดหรอกนะ แต่คิวมันพูดมากน่ะ ทำเอาผมสับสนไปพักใหญ่”

“คิวพูดอะไร” ชายหนุ่มวางช้อนส้อม เอามือกอดอกเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ มองดูแล้วทำท่าราวกับกำลังสอบสวนผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมีแววไม่สบอารมณ์ ความจริงเขาเคยคิดๆ เรื่องนี้อยู่เหมือนกันตั้งแต่ตัดสินใจคบกับคนอายุอ่อนกว่ารอบและกลับมาคิดทบทวนอีกครั้งเมื่อครั้งที่วิคเตอร์มาหารอบล่าสุดจนได้คำตอบที่แน่ใจ แต่เขาไม่คิดจะบอกออกไปตอนนี้ เขายังอยากรู้ความคิดอีกคนก่อนว่าจะคิดเหมือนเขาหรือไม่

ตอนนี้อลันด์ชักอยากเอาข้าวยัดปากจะได้ไม่ต้องพูด เขาเดาความคิดคนรักไม่ถูกว่าตอนนี้มีความเห็นอย่างไรและกำลังรู้สึกเช่นไหน การมีเรื่องผิดใจกับทิวากานต์ไม่เคยทำให้เขารู้สึกดีสักครั้ง

“เด็กนั่นพูดอะไรกับเธอ จะบอกพี่เองหรือให้พี่ไปเค้นคอเอากับคิว” เสียงทุ้มเค้นต่ำกดดันพร้อมกับแววตาคมดุจ้องเขม็งไม่รามือง่ายๆ สุดท้ายคนเปิดประเด็นจึงต้องสานต่อให้จบ

 “เรื่องทุนของวาน่ะ”

“แล้ว...?”

“วาจะไม่ไปเรียนต่อจริงๆ เหรอ”

“เราพูดกันจบไปแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ก็ใช่ แต่วาคิดดีแล้วเหรอ ผมน่ะดีใจนะที่วาไม่ไปเรียนต่อเพราะผมจะได้อยู่กับวาอีกตั้งสามปี แต่ผมเห็นแก่ตัวไม่ได้หรอกในเมื่อมันเป็นอนาคตของวา”

“ขอบคุณที่คิดถึงอนาคตของฉัน แล้วไง...ถามความสมัครใจฉันหรือยัง”

“ขอโทษ” เด็กหนุ่มเสียงอ่อย ในใจนึกคาดโทษเพื่อนตัวดีไปแล้ว

“ถามหน่อยถ้าพี่ไปเรียน สามปีข้างหน้าอัลจะอยู่ใคร”

“อยู่รอวาไง”

“ทั้งที่พอครบกำหนดอัลก็จะกลับไปนักร้องที่ลอนดอนใช่ไหม แล้วพี่กลับมาใช้ทุนพี่จะอยู่กับใคร อัลจะเลิกเป็นนักร้องมาอยู่กับพี่ที่ประเทศนี้ไหม ทำไม...แค่พี่เสียโอกาสตอนนี้เพื่อให้เราได้อยู่ด้วยกันในอนาคตมันแย่มากเลยเหรอ”

“ไม่ๆ แต่ถ้าถึงวันนั้นวาจะทำยังไง เราต้องทำยังไงถึงจะได้อยู่ด้วยกัน ผมไม่อยากอยู่แยกจากวาจริงๆ นะ แต่ถ้าเป็นนักร้องผมคงไม่ได้อยู่ติดที่แบบนี้ วาจะตามผมไปได้ทุกที่หรือเปล่า จะอยู่กับผมตลอดไปได้หรือเปล่า”

“พี่ทำได้ทุกอย่าง”

“แม้ไม่ได้เรียนต่อทางหัวใจตามที่ตั้งใจน่ะเหรอ”

“พูดแบบนี้กำลังหาเรื่องเลิกกันเหรอ”

“ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น อย่าคิดไปเองได้ไหม”

“ถ้าไม่ได้คิดแบบนั้นทำไมถึงพูดเหมือนกับว่าไม่ช้าไม่เร็วเราก็ต้องเลิกกัน! ต่อให้ต้องเลิกเป็นหมอตามเธอไปตะลอนทั่วโลกฉันก็ทำได้ เพราะงั้นหุบปากแล้วกินข้าวซะ” เขาตัดบทสนทนาชวนทะเลาะด้วยการหยิบช้อนส้อมขึ้นมาอีกรอบ แต่เจ้าของดวงตาสีอ่อนไม่เหลือความอยากอาหารแล้ว

อลันด์นั่งเท้าคางมองชายหนุ่มตรงหน้า “ถ้าวาทำอย่างนั้นผมจะรู้สึกแย่ ผมไม่รู้หรอกว่าการเป็นหมอใช่ความฝันของวาหรือเปล่าแต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าจะก้าวมาถึงตรงนี้”

“แล้วจะให้ทำยังไง หึ?” เสียงทุ้มกดต่ำ “ไม่มีใครได้อะไรไปทุกอย่างโดยไม่มีการเสียสละหรอก!”

“ใช่ วาพูดถูก แต่ผมเห็นแก่ตัวไม่ได้ ผมรู้แล้วที่วามาเป็นหมอน่ะไม่ใช่เพราะเงินบ้าบออะไรทั้งนั้น แต่วาเป็นหมอเพราะอยากให้หม่าม้าหาย ถึงตอนนี้หม่าม้าจะไม่อยู่แล้ว แต่วาเคยพูดเองนี่เรื่องหน้าที่ของมือคนเราน่ะ มือของวาใช้ช่วยเหลือชีวิตคนมามาก จะทิ้งมันไปง่ายๆ เพราะผมอย่างนั้นเหรอ”

“ขอร้องล่ะอัล อย่าพูดแบบนี้อีก อย่าทำเหมือนจะเลิกกัน” เขาถอนหายใจ เปลือกตาหนาปิดซ่อนดวงตาไว้ไม่ให้อ่านความรู้สึกได้ “พี่เสียอะไรก็เสียได้ แต่พี่ไม่อยากเสียคนที่พี่รักอีกแล้ว พี่เต็มใจเลือกอัลเองไม่ได้มีใครบังคับให้ทำ สัญญาไว้ว่าจะไม่ปล่อยมือก็คือไม่ - ปล่อย - มือ หมายความตรงตามตัวอักษรทุกคำ ถ้าเราจะเลิกกันขอให้เป็นเพราะเราไม่ได้รักกันแล้วเท่านั้นได้ไหม ทุกวันนี้ที่คบกันพี่มีความสุขดี ไม่สิ...พี่มีความสุขมาก”

มือเล็กเอื้อมแตะหลังมืออีกฝ่ายบนโต๊ะทานข้าว “ผมรักวานะ แต่...”


-------------
1 - Sylvian & Sakamoto - Forbidden Colours

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 31 [11.03.16]
«ตอบ #566 เมื่อ11-03-2016 13:54:56 »

“ถ้าอัลไม่ชอบถูกทิ้ง พี่เองก็ไม่ชอบถูกทิ้งเหมือนกัน!” ชายหนุ่มรีบแทรกขึ้นมาก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดต่อให้จบประโยค ตอนนี้เขาไม่อยากรับรู้อีกแล้วว่าอลันด์จะพูดอะไร เขาขอแค่อีกฝ่ายไม่ทิ้งกันไปก็พอ

ถึงทิวากานต์จะเติบโตมาคล้ายไม่ขาดแต่ใช่ว่าไม่ขาด ท่ามกลางฉากหน้าของชายหนุ่มหัวสมัยใหม่มีความมั่นใจในตนเองสูง รักความเร็ว และไม่เคยแคร์ใคร หากความไม่มั่นคงในชีวิตคู่ของพ่อแม่ในวัยเด็กได้ทิ้งเมล็ดความกลัวซุกซ่อนอยู่ในใจลูกชายเงียบๆ และเลือกเติบโตช่วงที่เขาอยู่ในวัยกำลังตามหาความรักจริงจังยั่งยืนเพื่อลงหลักปักฐานกับใครสักคน กำแพงความรู้สึกที่สร้างขึ้นมาตลอดช่วงเวลาของการเป็นวัยรุ่นกำลังถูกรากแห่งความกลัวซอนไซจากภายในให้หินหนาปริแตกทีละน้อย เขากลัวจะกลายเป็นคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังเหมือนที่แม่ของเขาเคยถูกวิคเตอร์ทิ้งเพื่อไปเป็นนักแสดงไขว่คว้าอนาคตสดใสข้างหน้าโดยที่พวกเขาแม่ลูก กลายเป็นสิ่งที่ไม่เป็นที่ต้องการของคนรักอีกต่อไป...

ฉะนั้นเขาจึงคิด...คิดตั้งแต่เมื่อครั้งที่วิคเตอร์มาหาเมื่อคราวนั้นแล้วว่าถ้าเกิดอลันด์จะไปเป็นนักร้องจริงๆ เขาจะยอมทุกอย่างทำยังไงก็ได้ให้ได้อยู่กับอีกคน ต่อให้ต้องเลิกเป็นหมอต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ เขาก็จะทำขอเพียงแค่อีกฝ่ายไม่ทิ้งกัน

“อย่าทิ้งกันนะ...”

“ผมจะทิ้งวาได้ยังไงในเมื่อเราจับมือกันแน่นขนาดนี้” คุณหมอคนเก่งคงไม่รู้ว่าทุกครั้งที่เขาเกิดอาการกลัวหรือรู้สึกไม่มั่นใจ ปลายนิ้วและเล็บจะกลายเป็นสีขาวซีดทุกที อลันด์ที่สังเกตเห็นจึงบีบกระชับหลังมืออีกฝ่ายไว้แน่นราวกับคนที่กลัวถูกทิ้งคือตัวเขาเอง ตาสีอ่อนสั่นระริกพร้อมกับหยาดอารมณ์เริ่มเอ่อคลอจนภาพตรงหน้าพร่ามัวเมื่อเขากำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง “แต่ที่ผมกำลังจะพูดคือผม... ผมอยากให้วาเป็นหมอต่อไปนะ มือของวามีประโยชน์กว่ามือของผมเยอะ  เพราะงั้นให้ผมทิ้งความฝันดีกว่า”

“อัล!” ตาเรียวคมเบิกกว้างตกใจไม่น้อยกับการตัดสินใจของคนอ่อนวัยกว่า

ทิวากานต์ขยับปากจะค้านก็พอดีกับโทรศัพท์ของเด็กหนุ่มดังขึ้น เด็กหนุ่มใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้จับมือทิวากานต์ไว้ล้วงอุปกรณ์สื่อสารจากกระเป๋ากางเกง เขากลืนก้อนสะอื้นเมื่อเห็นชื่อปีเตอร์เป็นคนโทรมาก่อนกดรับสาย

“ฮัลโหลด ปีเตอร์ มีอะไรหรือเปล่า อ่าฮะ...ไม่ๆ ผมโอเค พูดมาเลย” เขาเงียบฟังปลายสายพูดพลางเหลือบตามองทิวากานต์เป็นระยะ ฟันขาวขบริมฝีปากล่างแน่นขึ้นทุกขณะเมื่อเวลาผ่านไปช้าๆ ไม่ทันไรหยดน้ำใสก็กลิ้งลงจากดวงตาสีอ่อนแดงช้ำ “รีดดิ้งเหรอ ดีนี่... ผมดีใจมากเลย ไม่ใช่กลาสตันเบอรี่แต่เป็นที่รีดดิ้งมันก็โอเค ใช่... ใช่...ปีเตอร์...ผม....”

เสียงแหบหยุดชะงักไปเมื่อมือใหญ่นุ่นนิ่มที่เขาจับมาตลอดดึงออกไป อลันด์เงยหน้ามองทิวากานต์ที่กำลังทำหน้าเจ็บปวดก่อนเปลี่ยนเป็นโกรธขึ้งทีละน้อย

“ปีเตอร์ ค่อยกลับไปคุยกันที่ลอนดอนนะ บางทีผม...ผมก็ไม่อยากทำมันแล้ว”

อลันด์กดวางสายก่อนสะดุ้งสุดตัวเมื่อทิวากานต์จัดการคว่ำโต๊ะอาหาร เศษจานชามแตะกระจาย มื้อเย็นที่ช่วยกันทำหกเลอะเทอะเต็มพื้นพรม เด็กหนุ่มตัวสั่นด้วยความกลัว เขาไม่เคยเห็นทิวากานต์โมโหขนาดนี้มาก่อน น้ำตาอีกหนึ่งหยดกลิ้งผ่านแก้มใสสะท้อนแสงไฟก่อนหายวับไปบนปกเสื้อเชิ้ตสีขาว เด็กหนุ่มเม้นปากแน่นพยายามกลั้นสะอื้น ที่ผ่านมาเขาทะเลาะกับทิวากานต์ออกจะบ่อย แต่ส่วนใหญ่ก็ทะเลาะกันเรื่องไร้สาระที่ไม่ใครก็ใครงี่เง่า ขอโทษกันแล้วก็หาย แต่เหมือนครั้งนี้นอกจากจะงี่เง่ากันทั้งสองฝ่ายยังทะเลาะกันแรงถึงขั้นเขากลัวจนร้องไห้

เกิดความเงียบครอบคลุมไปทั่วห้องเมื่อไม่มีใครพูดอะไรออกมาจนเป็นคนที่ระเบิดออกมาก่อนเปิดปาก

“ลืมสัญญาระหว่างเราที่กลาสตันเบอรี่ไปแล้วเหรอ ไอ้เด็กคนไหนวะที่บอกว่าจะเป็นนักร้องดังตอกหน้าพ่อมันน่ะ ไอ้ที่บอกว่ามีความฝันมุ่งมั่นนั่นก็แค่คำพูดเอาเท่ของเด็กๆ ใช่ไหม”

“งั้นจะให้ผมทำยังไง! ผมไม่อยากให้เรารักกันโดยไม่สนใจอะไร ผมไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัว วาทำให้ผมมาหลายอย่างแล้วทำไมผมจะทำอะไรให้วาบ้างไม่ได้”

“ไอ้ความหวังดีแบบนี้ฉันไม่ต้องการ!”

“วา... วาฟังหน่อยสิ ถ้าผมเป็นนักร้องมันจะลำบากทั้งผมทั้งวานะ ถ้าให้พูดตามตรงเลย...มันยากมากนะถ้าจะเป็นคนดังแล้วมีคนรักเป็นเพศเดียวกัน ถึงสังคมโลกเขาจะยอมรับแต่แฟนเพลงใช่ว่าจะยอมรับได้ทุกคน ผมรักวาเกินกว่าจะทำร้ายวาแบบนั้น ผมก็ไม่อยากพูดแบบนี้หรอกนะเพราะไม่รู้ว่าวาถือเรื่องอายุมากไหม แต่เด็กอย่างผมคิดว่าวากำลังหลงอยู่กับความรักมากเกินไปหรือเปล่า ปกติวาเป็นผู้ใหญ่มีเหตุผลมากกว่านี้นี่ อย่าให้ความรักบังตาซี่”

“นั่นสินะ... เป็นคนดังมันต้องแคร์สายตาคนอื่น ยิ่งมีชื่อเสียงก็ยิ่งต้องแคร์ ลืมไปได้ไงนะ ทำไมถึงคิดว่าถ้าคบแล้วเราแค่ไม่ยอมปล่อยมือจากกันอุปสรรคอะไรมันก็ง่ายดาย โลกความจริงมันไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย”

“ใช่วา... ผมรู้แล้ว โลกมันไม่ง่าย”

ทิวากานต์ฟังแล้วเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็เงียบไป ร่างสูงใหญ่เดินผ่านอลันด์ขึ้นบันไดไปชั้นบนทิ้งอีกคนไว้ด้านล่าง มีดวงตาสีฟ้าซีดมองตามแผ่นหลังกว้างจนลับสายตาก่อนเบนมองผ่านผนังกระจกออกไปด้านนอก ใจกลางเมืองที่ถูกย้อมไปด้วยสีดำมีแสงไฟตามจุดต่างๆ ประดับประดาทอดยาวเหมือนดาวบนดิน อยู่มาตั้งหนึ่งปีเพิ่งจะสังเกตเห็นความสวยเอาวันนี้เพราะทุกทีเขาจะมีทิวากานต์คอยดึงความสนใจตลอด หากมีเวลาให้ชื่นชมได้ไม่นานเสียงตึงตังก็บอกให้รู้ว่าเจ้าของห้องตัวจริงกำลังเดินลงมา ในอ้อมแขนคุณหมอตัวสูงมีกระเป๋าเดินทางขนาดเล็กหนึ่งใบ เขาถือมันไปวางไว้หน้าห้องทำอะไรกุกกักเสียงดังก่อนเดินกลับเข้ามาหาอลันด์

“ในเมื่อโลกนี้มันยากนัก เราก็...เลิกกันเถอะ โอกาสเป็นนักร้องของเธอมาแล้วรีบคว้ามันไว้ซะ จะได้เป็นเล่นที่งาน Reading ใช่ไหม อวยพรล่วงหน้าเลยแล้วกัน ส่วนพี่... ฉัน... ขอเป็นคนผิดสัญญายอมปล่อยมือก่อน กลับไปมีชีวิตเป็นของตัวเองทางใครทางมัน อย่างน้อยทั้งฉันและเธอจะได้ใช้ชีวิตบนโลกนี้ได้ง่ายขึ้น”

“What? อะ... อะไรนะวา”

“เลิก - กัน - เถอะ” เขาพูดช้าๆ เน้นย้ำทีละคำแล้วพูดเร็วขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเก็บอารมณ์คุกรุ่นไม่ไหวแล้ว “ชัดไหม ให้พูดอีกทีหรือเปล่า ไปทางใครทางมันเลยแล้วกัน ยังไงทางของเราคงมีแต่จะแยกไปคนละทาง เพื่อไม่ให้เสียเวลาก็เลิกกันแม่งตั้งแต่ตอนนี้เลย เสื้อผ้าข้าวของเธอฉันเก็บให้หมดแล้ว ส่วนกระเป๋านั่นแถมให้แลกมาฟรีจากแต้มเครดิตการ์ดจะได้ไม่ต้องคิดเป็นบุญคุณเอามาคืน พวกกีตาร์ก็หิ้วไปด้วยล่ะ ไม่งั้นจะเอาไปกองไว้หน้าห้อง ส่งแค่นี้นะ บาย”

“พูดเล่นหรือเปล่าวา”

“จริงทุกคำเลย”

“อย่ามาประชดกันนะ!”

“ไม่ได้ประชด พูดจริง ทำจริง คิดว่าเสียใจเป็นคนเดียวหรือไงวะ!” เขาสะบัดแขนที่เด็กหนุ่มจับไว้อย่างแรงจนร่างเล็กๆ นั่นเซไปด้านข้างหลายก้าว ทิวากานต์กลืนก้อนสะอื้นลงคอช้าๆ ชี้ไปหน้าห้อง “ออกไป! ไปทำตามความฝันการเป็นนักร้องของเธอซะ ฉันไม่อยากเห็นเธอเป็นเด็กเหลาะแหละดีแต่ปาก เธอเองก็มีพรสวรรค์ไม่ต่างกันไม่จำเป็นต้องมาเสียสละให้ฉัน ที่ผ่านจะถือว่าเป็นความทรงจำที่ดี จากนี้เป็นแค่คนรู้จักกันเหมือนเดิมก็พอ”

“You - dick” เด็กหนุ่มสบถใส่หน้าอีกคนไม่ไว้หน้า เลิกกันว่าเจ็บแล้วยังไม่เท่าถูกไล่เหมือนหมูเหมือนหมาแบบนี้ อารมณ์ทั้งโกรธทั้งโมโหทั้งน้อยใจผสมปนเปไปหมดจนตัวสั่น

“ใหญ่ด้วย” คุณหมอโต้กลับหน้าตาย เขายืนกอดอกมองอลันด์คว้ากล่องกีตาร์สุดที่รักแนบอกเดินกระทืบเท้าตรงไปคว้ากุญแจรถที่ใส่อยู่ในชามแก้วบนชั้นวางรองเท้า “อ่อ คราวนี้อย่าหยิบกุญแจรถไปผิดคันอีกล่ะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งความ”

“เหอะ ถ้าไม่เพราะรีบร้อนโมโหใครอยากจะหยิบผิดเอาอีกบนั่นไปกัน มีปัญญาซื้อดีกว่านี้เว้ย” เด็กหนุ่มจงใจแกล้งยืนล้วงกุญแจรถเหมือนจริงจังมาก พอคว้ากุญแจรถมินิกับคิวบ์ได้ก็หันไปชูนิ้วกลางใส่เจ้าของห้องเดินจากไปไม่หันหลังกลับมามอง ไม่ลืมปิดประตูห้องให้เสียงดังสนั่นลั่นโถงทางเดิน

อลันด์เอาตัวพิงบานประตูที่เพิ่งปิดลงคล้ายคนหมดแรง พยายามสูดลมหายใจเข้าลึกแต่มันเจ็บจนชาไปทั้งอกแทบหายใจไม่ออก ไม่คิดว่ามันจะจบแบบไม่ทันได้ตั้งตัวและรวมเร็วอย่างนี้ ไม่เคยคิดมาก่อนเลย...

ริมฝีปากอิ่มหยักสั่นระริก แต่เขาจะไม่ร้องไห้ให้กับผู้ชายเผด็จการคนนั้น ในเมื่อทิวากานต์คิดว่าความรักระหว่างกันเป็นตัวถ่วงความเจริญในชีวิตของพวกเขาทั้งคู่ เขาจะยอมรับทางเลือกที่อีกฝ่ายตัดสินใจก็ได้ จะกลับไปเป็นแค่คนรู้จักกันตามที่อีกฝ่ายต้องการ จะไม่...จะไม่รักใครอีกแล้วถ้ามันจะเจ็บแบบนี้ “FUCK!!! fuck fuck fuck fuck... fuck you”

เด็กหนุ่มยัดตัวออกมาจากบานประตูตะโกนเสียงดังหวังให้คนในห้องได้ยินก่อนลดเสียงลงเรื่อยๆ ด้วยตะโกนจนหมดแรง มือเล็กตบอกปลอบใจตัวเองเบาๆ ตั้งขาแข็งลากกระเป๋าเดินทางหอบลูกรักเดินไปขึ้นลิฟต์ ถึงจะทำใจได้เร็วแต่ใช่ว่าจะทนอยู่ใกล้เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นได้ ยังไงเสียตอนนี้ขอหลบไปเลียแผลก่อนแล้วกัน

“Don’t cry, you do not cry for him anymore”

.
.
.

“พี่ครับ เดี๋ยวไปที่โรงพยาบาล...ต่อเลยนะครับ” ทิวากานต์บอกคนขับแท็กซี่ที่เขาโบกจากหน้าคอนโดย่านอโศกมาจนถึงคอนโดหรูริมแม่น้ำแห่งนี้ รอจนเห็นรถคิวบ์สีขาวคุ้นตาเลี้ยวหายเข้าไปในอาคารจอดรถเขาจึงแจ้งที่หมายต่อไป

“ไม่สบายเหรอน้อง ไปโรงบาล...ดีกว่าไหม ใกล้กว่านะ สีหน้าแย่นะเนี่ยไหวเปล่า”

“สบายดีพี่แค่มีเรื่องให้คิดหน่อย ไปที่ผมบอกเหอะผมทำงานที่นั่น”

“อ้าวเหรอ เป็นอะไรล่ะ”

“เป็นหมอครับ”

“ว่าแล้วเชียวเห็นหน้าตาดูมีความรู้ นี่ดึกแล้วยังต้องไปทำงานอีกเรอะ ถึงพี่จะเรียนมาน้อยแต่พอจะรู้นะว่าหมองานหนักจะตาย วันนึงต้องดูคนไข้กี่คนกัน พวกคนไข้บางคนก็ไม่เข้าใจเล้ยเรียกร้องกับหมออยู่นั่นแหละ แต่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นหมอได้นี่เนอะ ต้องเก่งต้องขยัน แล้วก็หล่อแบบน้องด้วย ฮ่าๆ”

คนขับแท็กซี่ป้อยอลูกค้าทิ้งท้าย ทิวากานต์ฟังแล้วอมยิ้มเอนหลังพิงเบาะฟังพี่แกโม้ไปจนถึงโรงพยาบาลมีเสียงเพลงวิทยุขับกล่อมชวนให้น้ำตาไหลอยู่หลายหน หากคงไม่มีเพลงใดกระแทกใจได้เท่าเพลงที่เพิ่งมีใครบางคนร้องให้ฟังเมื่อชั่วโมงก่อน

ฉันรักเธอ...รักเธอด้วยความไหวหวั่น   ว่า...สักวันฉันคงถูกทอดทิ้ง
ไม่นานเท่าไหร่แล้วเธอก็ไปจากฉันจริงๆ   เธอ...ทอดทิ้งให้อาลัยรักอยู่กับความรัก
แม้มีปีกโผบินได้เหมือนนก   อกจะต้อง...ธนูเจ็บปวดนัก
ฉันจะบินมาตาย...ตรงหน้าตัก   ให้ยอดรักเช็ดเลือดและน้ำตา

หลังจ่ายค่าโดยสารแล้วเขาก็เดินเข้าไปในตึก หลายคนที่เห็นหน้าเขาถึงกับเข้ามาถามไถ่ว่าทำไมโผล่มาตอนสามทุ่มแบบนี้ วันนี้ไม่มีเวรไม่ใช่หรือไง เขาก็ตอบไปว่าว่างไม่อยากอยู่ห้องคนเดียวขอมาช่วยงานแถวนี้ดีกว่า

“เลิกกับแฟนเหรอพี่” เรสสิเด้นท์อยู่เวรคนหนึ่งที่คุ้นเคยกันเอ่ยเข้ามากระแซะไม่จริงจังนัก ชายหนุ่มพอจะรู้มาว่าทิวากานต์มีแฟนแล้ว ตอนงานแต่งหมอกวินก็พาไปเปิดตัวกับเพื่อน ก่อนหน้านั้นก็ดูมีความสุขดี คืนนี้ดันเดินหน้าซีดเข้ามาแย่งงานนักศึกษาซะงั้นจึงเดาเป็นอื่นไม่ได้

“เออ”

“เฮ้ย จริงเหรอพี่”

“เออ รู้แล้วก็หุบปาก รำคาญว่ะ ไหนเอาแฟ้มมาดูดิมีอะไรให้ช่วยไหม” ทิวากานต์แกล้งพาล พยายามทำตัวเป็นปกติคือดุ เขี้ยว แล้วก็โหดใส่พวกรุ่นน้อง ทั้งที่ตอนนี้อยากร้องไห้เป็นบ้า แต่เขาเลือกแล้ว... เลือกเป็นคนผิดสัญญาปล่อยมืออลันด์ไปให้อีกฝ่ายได้เติบโตในเส้นทางที่มุ่งหมายมาตลอด

เขาเคยจมอยู่กับความสับสนและไม่เข้าใจว่าทำไมวิคเตอร์ถึงทิ้งแม่และเขาไป แต่เหมือนตอนนี้จะเข้าใจขึ้นมาอีกนิด ที่วิคเตอร์เคยบอกว่าไม่ได้ทิ้งแต่แม่เขาต่างหากที่เป็นคนทิ้งอีกฝ่ายน่าจะจริง ทิ้งเพื่อให้คนที่รักที่สุดได้ทำตามความฝันเจิดจรัสบนเวทีและมีคนรักอีกมากมาย

เชื่อเถอะว่าใช้เวลาไม่นานอลันด์ก็จะกลับมายืนหยัดเป็นตัวของตัวเองได้เหมือนเดิม ส่วนคนผิดสัญญาอย่างเขาก็ต้องยอมรับผลแห่งการกระทำห้ามปริปากบ่นเพราะตัดสินใจเลือกเดินทางนี้ด้วยตนเอง

.
.
.

“วาว่างไหม มาคุยกันหน่อย” ตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบขึ้นมองนายแพทย์รุ่นพี่คนสนิทก่อนดูนาฬิกาบนฝาผนัง เพิ่งจะตีห้าครึ่งแต่การันต์ก็มาทำงานแล้ว ช่างเป็นคุณหมอดีเด่นจริงๆ

“ครับ” เขาขานรับสั้นๆ ลุกจากเก้าอี้ในห้องพักเดินตามชายหนุ่มรุ่นพี่ออกไปข้างนอก

“ยังพอมีเวลาหน่อย น้ำเต้าหู้ร้อนๆ น่าจะดี หรือกาแฟ เมื่อคืนได้นอนบ้างไหม หน้าซีดหน้าเซียวเชียว”

“จะเอาเวลาที่ไหนไปนอนครับ มีอุบัติเหตุมาพอดีเลยไปช่วยเขาเซิ้งทั้งคืน เพิ่งเสร็จก่อนพี่รันมาชั่วโมงเดียวเอง แต่แค่นี้จิ๊บๆ เปิดเครื่องห้าวันติดยังทำมาแล้วเลย"

“แต่กับอกหักมันไม่เหมือนกันนะเว้ย” เขาหันกลับมาดูรุ่นน้องที่ชะงักเท้าไปเล็กน้อยก่อนเดินตามต่อเหมือนไม่มีอะไรไปสะกิดใจเข้า “ไม่ต้องฟอร์มน่า เจ้าธีบอกหมดแล้วว่าเอ็งเพิ่งเลิกกับน้องแสบ ทำหน้าตาดูไม่ได้เข้ามาแย่งงานพวกมัน คิดดีแล้วเหรอวะ”

“ไม่รู้สิครับ ตอนตัดสินใจก็คิดว่าดี แต่ตอนนี้รู้สึกเหมือนจะตาย อยาก... ช่างมันเถอะ ผมเลือกปล่อยเขาไปแล้ว จะมางอแงคงไม่ใช่”

“พูดเหมือนแกไปกักขังหน่วงเหนี่ยวเขาไว้งั้นแหละ ถามจริง...แกปล่อยเขาหรือบังคับให้เขาออกไปจากชีวิตวะ”

“...” คำพูดของนายแพทย์คนสนิททำเอาคนฟังสะอึกเถียงไม่ออก

“โตแล้วนะวา อย่าปล่อยความรักทำให้เรากลายเป็นบ้า อยู่กับมัน เรียนรู้มัน ใช้ความรักทำให้ตัวเองมีความสุขไม่ใช่เอามาผูกมัดตัวเอง บางทีที่เราคิดว่าดีอีกคนอาจไม่คิดเหมือนกัน พี่สอนได้เพราะพี่เคยผ่านมันมาก่อน สำหรับความรักถึงบอกว่าไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันแต่การที่มีใครสักคนอยู่เคียงข้างตลอดเวลา แชร์ความรู้สึกร่วมไปกับเรา มันไม่ใช่เรื่องดีหรอกเหรอ”

“แต่...”

“อย่ามาแก้ตัวกับพี่ เอาไปคุยกับตัวเองให้ดี คิดให้ตก แล้วเอาไปบอกกับตัวแสบก่อนจะไม่มีโอกาสเหลืออีก” ชายหนุ่มทิ้งท้ายไว้เท่านั้นก่อนเดินนำรุ่นน้องไปซื้อปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้รองท้องเป็นมื้อเช้า

ทิวากานต์เม้มปากกั้นคำพูดที่อยากบอกการันต์เหลือเกินว่าในเมื่อความรักจากเขาไปแล้ว เขาจะยังเรียกมันกลับคืนมาได้อีกหรือ และที่ยากกว่าคือเขา...คนที่ไม่เคยเลือกหันหลังกลับให้กับทางที่เคยเลือกจะยอมลดทิฐิตัวเองกลับไปเลือกใหม่ได้ไหม



ข่าวคราวการเลิกรากันของคู่รักต่างวัยแพร่สะพัดไวและไปไกลยิ่งกว่าไฟลามทุ่งในหมู่เพื่อนฝูงใกล้ชิด เร็วและไกลขนาดไหนพิสูจน์ได้จากการที่อลันด์เดินลงมาจากอาคารแล้วเจอหนุ่มนักกีฬาโปโลทีมชาติอังกฤษยืนรอในสองวันถัดมาที่เลิกกับทิวากานต์

“ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ” เขาถามมึนๆ เหมือนไม่มีสติอยู่กับตัวมองเจมส์ทีเอ็ดเวิร์ดพ่อบ้านส่วนตัวคุณชายเขาที สองคืนที่ผ่านมานี้เขาแทบไม่ได้นอนจนขอบตาช้ำ สภาพโทรมเหมือนซอมบี้

“มารับไปทานมื้อเที่ยงน่ะ อืม...คาบบ่ายนายว่างนิใช่ไหม ฉันจองโต๊ะที่โรงแรมไว้แล้วล่ะ” หนุ่มอังกฤษไม่รอคำตอบ เขาเข้ามาโอบไหล่พาคนตัวเล็กเข้าไปนั่งที่เบาะหลัง รอพ่อบ้านปิดประตูรถให้แล้วขึ้นนั่งข้างคนขับจากโรงแรม ทิ้งคนินทร์และเพื่อนๆ ยืนงงว่ามีคุณชายชาวต่างชาติที่ไหนมาพาตัวอลันด์ไป

พวกเขากินมื้อเที่ยงกันที่ห้องอาหารของโรงแรมที่เจมส์พักแล้วค่อยขึ้นมาคุยกันบนห้อง อลันด์นอนหนุนแขนเหยียดตัวบนเตียงใหญ่ระหว่างที่อดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียนเดินไปเดินมาอย่างไม่มีอะไรทำ สุดท้ายก็เป็นคนที่บินตรงมาจากลอนดอนเปิดปากถามสิ่งข้องใจก่อน

“นายเลิกกับด็อกเตอร์วาแล้วจริงๆ น่ะเหรอ”

“ใช่” เขายอมรับง่ายๆ “ข่าวไปไวจังนะ ใครบอกล่ะ”

“ใครบอกมันไม่สำคัญหรอกแต่ตอนนี้ฉันเป็นห่วงนาย นายดูผอมลงไปมากจากตอนล่าสุดที่เราเจอกันเสียอีก เมื่อกี้ก็กินนิดเดียว เขาไม่รักนายแล้วก็ไม่เป็นไรแต่นายต้องรักตัวเอง”

“ฉันพยายามอยู่ มันอาจต้องใช้เวลาสักระยะ”

“Poor Al” หนุ่มหล่อคราง เขาเอื้อมมือไปปัดปอยผมสีอ่อนให้พ้นจากใบหน้าขาวซีด ไม่ทันไรน้ำตาก็ไหลจากนัยน์ตาสีฟ้าซีด เจมส์ไม่รีรอจะรั้งตัวอลันด์ขึ้นมากอดแนบอก “ร้องซะอัล ร้องเสียให้พอ เขาไม่รักเราแล้วก็ช่าง นายยังมีฉัน มีทอมที่รักนาย”

“ฉันเสียใจ... ทำไมฉันรักษาความรักกับความฝันไปด้วยกันไม่ได้ มันเจ็บมากเลยเจมส์ที่ต้องเลิกกันทั้งที่เราก็ยังรักกันอยู่”

“หมอนั่นมันโง่ต่างหากอัล อัลน่ะพยายามทำดีที่สุดแล้ว คนที่ยอมแพ้คนที่ไม่สู้ก็คือด็อกเตอร์วา เขามันขี้ขลาด ในขณะที่นาย...” เขายิ้มอ่อนให้คนในอ้อมแขน “นายโตขึ้นมานะอัล ถ้าเป็นเมื่อปีก่อนนายคงโวยวายหาเรื่องกับเขาไปแล้ว แต่ดูนายตอนนี้สิ นายมีเหตุผลมากขึ้น นายทำตามอารมณ์ตัวเองน้อยลง พ่อนายต้องภูมิใจในตัวนายสมกับที่ลงทุนส่งนายมาอยู่ที่นี่แน่ๆ”

“ไม่หรอก ฉันยังไม่โตหรอกเจมส์ ฉันแค่คิดว่าโวยวายไปมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ยอมรับมันแล้วเดินหน้าต่อไปดีกว่า”

“นั่นแหละ การยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ก็ถือว่าโตขึ้นแล้ว” นิ้วหัวแม่มือปาดน้ำตาบนแก้มใส ไม่ลืมยิ้มให้กำลังใจอีกคน เขานั่งกอดอลันด์อยู่บนเตียงอย่างนั้นจนคนเล็กถามขึ้นมา

“แล้วนายจะกลับลอนดอนวันไหนเหรอ มานี่ไม่มีเรียนหรือไง”

“โดดเรียนมาสิ แต่ก็แค่สองวันล่ะ ฉันจะกลับคืนพรุ่งนี้”

“เหรอ...” อลันด์ฟังแล้วนิ่งเงียบไปก่อนตัดสินใจอะไรบางอย่าง “งั้น...ช่วยจองตั๋วเพิ่มให้สักใบได้ไหม ฉันอยากกลับไปชาร์จแบตที่บ้านสักหน่อย”

“กลับไปกะทันหันแบบนี้จะไม่เป็นไรเหรอ”

“ไม่ต้องห่วง ฉันจัดการได้ จะว่าไปคืนนี้ขอนอนที่นี่ด้วยแล้วกัน นายไม่ว่าอะไรใช่ไหม”

“ไม่แน่นอน ยินดีต้อนรับนายเสมอ” เจมส์ฉีกยิ้มรับด้วยความเต็มใจ มือหนาเชยคางมนขึ้นมาก่อนจูบลงบนกลีบปากอิ่มหยักเบาๆ แม้รู้ดีว่ากำลังฉวยโอกาสอาศัยตอนที่อีกฝ่ายกำลังอ่อนแอ แต่ในเมื่อทิวากานต์เลือกทิ้งอลันด์ไปแล้ว คนที่แอบรักมานานอย่างเขาก็ควรมีสิทธิสักทีไม่ใช่หรืออย่างไร



TBC

และแล้วพระรองของเราก็มาทำหน้าที่พระรองสักทีค่ะ มีใครคิดถึงเจมส์บ้างคะ
แขกรับเชิญก็เพียบค่ะ มาจากทั้งเรื่อง LOVE | HATE และ . . . ไม่รัก . . . (แอบโปรโมตหน่อย)
ตอนนี้ FC พี่วาหลายคนคงอยากตบหน้าอิพี่รัวๆ เราก็อนุญาตให้ด่าพี่วาได้เต็มที่ค่ะ ทำตัวสมควรโดนมาก

ส่วนตอนหน้าจะเป็นยังไง อัลจะหนีไปซบอกล่ำๆ ของหนุ่มโปโลหรือไม่
โปรดติดตามตอนต่อไปค่า

แล้วเจอกันนะคะ จุ๊บๆ
 :mew1:

ออฟไลน์ Jitsupa_milk

  • Just Milky('s) Way
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 31 [11.03.16]
«ตอบ #567 เมื่อ11-03-2016 14:39:18 »

เอากีต้าร์ขว้างใส่หน้าหมอวาไปเลย  :m16:

ออฟไลน์ AuyAaiz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 31 [11.03.16]
«ตอบ #568 เมื่อ11-03-2016 15:01:20 »

 เลิกกันทำม้ายยยยยยยย ไอ้หมอบ้า!!!

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 31 [11.03.16]
«ตอบ #569 เมื่อ11-03-2016 15:09:54 »

หมอวาใจร้ายยย
ทำร้ายอัลได้ลงคอ
อัลหาสามีใหม่เลยลูก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด