♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- SPECIAL TRACK : พรหมลิขิต+แจ้งข่าว P. 25
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ไหนๆ นิยายใกล้จะจบแล้ว เลยสอบถามความสนใจรวมเล่มค่ะ

สนใจ
ไม่สนใจ
รวมก็ดี ไม่รวมก็ได้

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- SPECIAL TRACK : พรหมลิขิต+แจ้งข่าว P. 25  (อ่าน 268984 ครั้ง)

ออฟไลน์ itsbelle

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สมกับที่รอคอย เปิดเข้ามาดูทุกวัน ดีใจจะมีรวมเล่ม สัญญาว่าจะไม่พลาดค่ะ

ออฟไลน์ Screen168

  • รับสกรีนเสื้อ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
    • สกรีนเสื้อ
เล้าเป็ดก๊าบๆ  :katai2-1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
งานนี้หมอวาตายแน่บอกตรง  :katai2-1:
เอาพ่อแม่อัลรู้แล้วจะทำไงล่ะที่นี้  :a5:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ misskimji

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
 :impress2: :-[

 :pig4:

 :L1:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
พ่อแม่จับได้คาหนังคาเขาแบบนี้หมอวาอ่วมแน่ โทษฐานรับฝากดูแลลูกชายเขาแล้วกินเสียเอง

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
 :hao7: เอาอีกกกกก :ling1:

ออฟไลน์ cinnsin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ขุ่นพ่อขาใจเย็นเย๊นนนนนนนน  :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ ้Sin.7

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai1: ค้างงงงงงงงงง โอ้ยชอบบบบบบ มาต่อไวๆนะคุณคนดี :-[

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ม่ายยยยย  จะจบแล้วเหรอ เรื่องกำลังสนุกเลย คู่นี้ไม่น่าจะผ่านด่านสุดโหด สุดหินจากคุณแด๊ดสุดโหดได้ยังงัย แต่ฉากนี้พี่วาเป็นฝ่ายถูกกด อาจจะพอแถเนียนเป็นผู้เสียหาย เรียกร้องให้น้องอัลรับผิดชอบได้     :laugh:

พี่วา FC นี่ทีมเวอคดีจริงๆ 

สุดท้ายพี่วาก็เลือกน้องอัลมากกว่าอีกบล่ะนะ  5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 32 [20.03.16] + แจ้งข่าว
« ตอบ #609 เมื่อ: 22-03-2016 22:11:02 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 33 [27.03.16]
«ตอบ #610 เมื่อ27-03-2016 10:16:53 »

TRACK 32



สองสามีภรรยาครอบครัวโอเนลล์ก้าวลงจากรถลีมูซีนของสนามบินเมื่อมาถึงคอนโดมิเนียมระดับไฮคลาสที่ซื้อไว้ให้ลูกชายอาศัย เอเดลมาร์ยื่นศอกออกไปให้คนรักจับขณะพากันเดินเข้าไปในอาคาร ยามนี้เริ่มมีผู้พักอาศัยบางส่วนทยอยเดินออกมาจากลิฟต์ บ้างก็รอกลับขึ้นไปพร้อมด้วยอาหารเช้าเต็มสองมือ

“ป่านนี้เจ้าอัลน่าจะยังไม่ตื่น เรามากันเช้าไปหรือเปล่าคะเนี่ย”

“ดีสิ ผมจะได้เซอร์ไพรส์ไอ้ตัวแสบตั้งแต่ตื่นนอนเลย อัลลี่ต้องดีใจมากแน่ๆ ที่รู้ว่าแด๊ดดี้กับมัมมี้บินมาหาล่วงหน้าตั้งหลายวัน”

“ต้องขอบคุณกัปตันที่ทำเวลาดี แลนด์ก่อนเวลาตั้งครึ่งชั่วโมงแน่ะ” มาดามโอเนลล์หัวเราะคิกคัก ควงแขนสามีออกจากลิฟต์เมื่อถึงชั้น 21

มือเนียนนุ่มอย่างได้รับการดูแลมาอย่างดีบรรจงจิ้มรหัสปลดล็อคหน้าประตูสี่ตัว หากเมื่อเข้าไปแล้วทั้งคู่กลับประหลาดใจที่เห็นไฟในห้องเปิดสว่างโร่ เธอหันมองหน้าสามีก็เจออีกฝ่ายกำลังก้มมองรองเท้าหนังเบอร์เก้าครึ่งด้วยความฉงน

“ตาอัลพาเพื่อนมาค้างทำรายงานหรือเปล่าคะ”

“น่าจะอย่างนั้น แต่ห้องเงียบขนาดนี้สงสัยจะเผลอหลับกัน” จบประโยคจากปากหัวหน้าครอบครัวเสียงตึงตังจากชั้นบนก็ลอยเข้าหูให้ได้ยินปั๊บ ทั้งคู่มองตากันเชิงปรึกษาและเป็นเอเดลมาร์ที่เดินนำไปก่อนจนถึงตีนบันไดจึงได้ยินบทสนทนาชวนสงสัยแว่วมา

“จะลงโทษให้สมกับความผิดจนวาต้องร้องขอความเมตตาเลย”

“เอาเลยค่ะ ลงโทษพี่เลย”

ถ้าเขาหูไม่ฝาดไปเสียงแรกนั่นคือไอ้ลูกชายตัวดี ส่วนอีกเสียงเนี่ยโคตรคุ้น คุ้นมากเหมือนเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน หากเป็นโชคร้ายของเอเดลมาร์ที่เป็นเขยคนไทยทั้งทีแต่ดันรู้ภาษาไทยน้อยมาก ไม่พอจะสื่อสารได้เขาจึงไม่อาจเข้าใจว่าคนบนห้องพูดคุยอะไรกัน ผิดกับภรรยาที่ได้ยินชัดเจนเข้าใจแจ่มแจ้ง หล่อนช็อกถึงขั้นอ้าปากค้างแล้วตั้งสติตัดสินใจฉุดแขนสามีให้ถอยไปตั้งหลักที่อื่นก่อนโผล่ไปเห็นฉากเด็ดลูกชายสุดที่รักกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกับแฟนหนุ่ม(?) หากโชคชะตาไม่เป็นใจบรรดาลให้สามีเธอเหลือบตาสีฟ้าซีดเหมือนบุตรชายเงยหน้าขึ้นไปมองแล้วมีเสื้อเชิ้ตลอยละลิ่วลงมาแปะบนหน้าพอดิบพอดี

เอเดลมาร์ตัวสั่นด้วยความโกรธ เขาย่องนำคู่ชีวิตขึ้นไปยืนหน้าห้องนอนเล็กก่อนพบภาพลูกชายสุดที่รักเปลือยท่อนบนนั่งคล่อมไอ้หมอผ่าตัดห้องตรงข้าม

What - the - HELL!!!
นี่มันเกิดบ้าอะไรวะ!!!


สังหรณ์แล้วเชียวว่าไอ้หมอผ่าตัดมันไว้ใจไม่ได้ หน้าตาท่าทางเจ้าเล่ห์แบบนั้นไม่รู้มาแอบล่อลวงอัลลี่ของแด๊ดดี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ นี่ก็ไม่รู้ไปถึงขั้นไหนแล้ว ถึงจะเห็นว่าฝ่ายคุกคามจะเป็นลูกชายตัวน้อยของตัวเองก็เหอะแต่เขาต้องลากทิวากานต์เข้าตะรางให้ได้!

คิดแล้วเขาจึงเตรียมเข้าตะครุบตัวไอ้คนร้ายพรากผู้เยาว์ เสียแต่เจ้าลูกชายตัวดีดันช่วยชายหนุ่มห้องตรงข้ามกระโดดหนีออกหน้าต่างไปเสียก่อน พอจะวิ่งลงบันไดตามไปกลับถูกแขนเล็กกอดเอวหมับรั้งไว้หน้าประตู ยื้อยุดฉุดกระชากกันน่ากลัวว่าจะกลิ้งตกลงไปข้างล่างให้หัวร้างข้างแตก สุดท้ายเอเดลมาร์ยอมแพ้ไม่ตามไปเพราะหน้าตาน่ารักที่ถอดแบบเขามาไม่น้อยกำลังถูไถออดอ้อนชวนอ่อนใจและใจอ่อน ที่สำคัญคือภรรยาคู่ชีวิตที่เหมือนจะเป็นลมไปแล้วนั่นเอง



เจ็ดโมงตรงไม่ขาดไม่เกิน อลันด์ในสภาพสวมชุดนักศึกษาสะพายกระเป๋าเป้เรียบร้อยเดินออกมาจากห้องนอนหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยม พ่อยืนกอดอกหลังตรงอกผ่ายไหล่ผึ่งประหนึ่งนายทหารหน้าห้องครัว ส่วนแม่เดี๋ยวหน้าซีดเดี๋ยวหยิบยาดมมาสูดเป็นพักๆ อยู่บนโซฟา พอทั้งคู่เห็นบุตรชายคนเดียวเดินลงมาก็หันไปมอง

เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอ เดินย่องมานั่งบนโซฟาเดี่ยวเมื่อเอเดลมาร์ชี้นิ้วสั่ง ชักเริ่มรู้สึกอยากเป็นลมตามมัมไปอีกคน บรรยากาศในครอบครัวตึงเครียดและน่ากลัวยิ่งกว่าตอนเขาบอกว่าจะออกจากโรงเรียนไปเป็นนักดนตรีเสียอีก

“อัล” คนถูกเรียกกระพริบตามองบิดาปริบๆ เอเดลมาร์กำลังหลับตาสูดลมเรียกขวัญกำลังใจแล้วจ้องหน้าเขากลับ“วันนี้ลูกไม่ต้องไปเรียน เราจะไปแจ้งความกัน”

“เอ่อะ... แจ้งความอะไร”

“แจ้งความจับไอ้หมอผ่าตัดข้อหาพรากผู้เยาว์ยังไงล่ะ”

“แด๊ด!” ฝ่ายโจทก์ถึงกับร้องเรียกพ่อเสียงหลง “พรากผู้เยาว์อะไรกัน ผมเกินสิบแปดแล้วนะ แล้ววาไม่ได้พรากด้วย ผมเต็มใจนอนกับเขาเอง”

“โอ๊ยตาย ฉันจะเป็นลม” ฟังไอ้ตัวแสบพูดแล้วคนเป็นแม่ถึงกับควักหายาดมกันอีกรอบ ถึงจะไม่แปลกใจที่เด็กสมัยนี้แก่นแก้วแก่แดดชิงสุกก่อนห่ามกันเท่าไหร่ แต่คำยืนยันเต็มปากเต็มคำว่า ‘ลูกชาย’ นอนกับ ‘ผู้ชาย’ ก็ชวนช็อคอยู่ดี “แม่... แม่เลี้ยงเราดีเกินไปหรือลูกถึงเป็นตุ๊ด”

“มัม!!! อัลไม่ได้เป็นตุ๊ด”

“งั้นก็เป็นเกย์” เอเดลมาร์แทรกขึ้นมา

“ตายล่ะ หรือว่าหมอวาเป็นเกย์ ทำไมไม่เห็นมีใครบอกแม่ก่อนเลย เห็นหน้าหล่อขนาดนั้น ไม่น่าเลย...”

“มัม... แด๊ด... ไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้นแหละ ผมกับวาแค่รักกันเฉยๆ ผมไม่ได้ชอบผู้ชายคนอื่นนอกจากวา วาก็ไม่ได้ชอบผู้ชายคนอื่นนอกจากผม เอาเป็นว่าถ้าไม่ใช่คนนี้ผมก็ไม่คิดไปนอนกับผู้ชายที่ไหนอีก เข้าใจไหม?”

“ไม่จ้ะ แม่ไม่เข้าใจ ขอเวลาแม่ตั้งสติแป๊บนะลูก”

“เรื่องนั้นช่างมันก่อน แต่พ่อจะเอาไอ้หมอเข้าคุกให้ได้” บิดายังคงยืนยันคำเดิม อลันด์จึงต้องอธิบายอีกรอบว่าเขาเต็มใจไม่ได้ถูกพราก หรือต่อให้พรากเขาก็อายุเกิน 18 ปีบริบูรณ์แล้วจะเอาข้อหาอะไรไปจับทิวากานต์ได้ ปกติพ่อแม่เขาไม่ใช่คนพูดอะไรเข้าใจยากแบบนี้หรอกแต่วันนี้คงช็อคสติหลุดมากกว่าถึงอธิบายไปยังไงก็ไม่เข้าใจ

เด็กหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ลุกจากที่นั่งจนเอเดลมาร์ถามว่าจะไปไหน

“ไปเรียนสิครับ ออกสายเดี๋ยวรถติดเข้าเรียนไม่ทัน”

“เดี๋ยวพ่อไปด้วย”

“เอ่อ...ไม่ดีกว่า ผมขับรถไปเองไม่รบกวนแด๊ดหรอก เดินทางมาเหนื่อยๆ นี่นา นอนหลับสักงีบนะเผื่อจะดีขึ้น มัม...ไปนอนนะ พาแด๊ดไปนอนด้วยอ่ะแหละ ไปทั้งคู่เลย ผมไปแล้วนะ บาย” พูดจบปุ๊บเด็กฝรั่งตัวแสบก็วิ่งออกจากห้องปั๊บ เอเดลมาร์วิ่งตามออกมาก็ไม่เจอตัวแล้ว หารู้ไม่ว่าไอ้ตัวดีเข้าไปแอบที่ห้องฝั่งตรงข้าม

วันนี้มีเรียนตอนบ่ายจะรีบออกไปเรียนทำไม แถมฝากสาวิตรีขาดเรียนไปแล้วด้วยยังไงวันนี้ก็โดดเรียนนั่นแหละ แต่จะให้ฝังตัวอยู่ห้องทิวากานต์ทั้งวันคงไม่ดี ตอนนี้แด๊ดกับมัมยังตกใจอยู่มากจึงไม่โวยวายใหญ่โต แต่ถ้าสติกลับมาเมื่อไหร่ทั้งเขาและคนรักนี่แหละที่จะเป็นฝ่ายเครียดแทน เขาคงต้องเตรียมวางแผนรับมือหาทางทำอะไรสักอย่าง แต่จะโทรไปปรึกษาคนตัวโตก็โทรไม่ติด คาดว่ายังไม่ได้ชาร์จแบตโทรศัพท์และดูจากเวลาก็น่าจะเริ่มงานรักษาคนไข้แล้ว

ด้วยความที่ไม่รู้จะทำอะไรดีอลันด์จึงเดินขึ้นไปนอนพักเอาแรงข้างบน เมื่อคืนใช่ว่าเขาจะได้นอนเยอะ พอเห็นเตียงคุ้นตากับกลิ่นคุ้นจมูกจึงรีบโถมตัวเข้าใส่และหลับไปในเวลาไม่นาน

อลันด์ตื่นขึ้นมาอีกทีตอนเที่ยงกว่าจากเสียงโทรศัพท์เข้า เบอร์คุณตาโชว์หราหน้าจอทำเอาเขาลังเลอยู่นานว่าจะรับไม่รับดี อีหรอบนี้แสดงว่าแด๊ดกับมัมเอาไปฟ้องแล้วเป็นแน่ เพิ่มความเครียดให้คนตัวเล็กอีกหลายเท่า หากสุดท้ายก็กดรับโทรศัพท์เมื่อคุณตาที่รักโทรเข้ามาเป็นรอบที่สี่

การพูดคุยผ่านโทรศัพท์ไม่น่ากลัวเท่าที่คิด คุณตาถามแค่ว่าเขาอยู่ที่ไหนเพราะให้คนไปถามเพื่อนที่มหาวิทยาลัยจึงรู้ว่าวันนี้หลานชายขอลาตั้งแต่เมื่อวานซืน ไปตามที่คอนโดริมแม่น้ำก็ไม่เจอตัว อยากจะให้มาคุยด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาที่บ้านใหญ่ ซึ่งพร้อมหน้าพร้อมตาที่ว่านั้นรวมถึงทิวากานต์ด้วย เขาจึงบอกไปว่าจะเข้าไปพร้อมกับคุณหมอตอนหัวค่ำหลังอีกฝ่ายเลิกงาน ส่วนตอนนี้ยังอยู่ที่คอนโดแต่สักพักจะออกไปแล้ว

‘เอาเถอะ ยังไม่เตลิดไปไหนก็ดี มีปัญหาแล้วอย่าหนี คืนนี้มาพูดคุยกันให้รู้เรื่องไปเลย’

“ครับ”

‘เฮ้อ...อัลเอ๊ย ตารักหลานมากแค่ไหนหลานก็รู้ใช่ไหม’

“รู้ครับ ผม...ผมขอโท...”

‘ไม่ต้องขอโทษ ไม่ว่าหลานจะเป็นยังไง หลานก็ยังเป็นหลานที่น่ารักของตากับยายอยู่ดี ขอแค่อย่าทำให้ผู้ใหญ่เป็นห่วงแล้วกัน ตาจะรอเรากับหมอวาที่บ้านนะ’

“ครับคุณตา อัลรักตานะ” เขายิ้มให้คนปลายสายก่อนกดวางไป ในอกกำลังฟู่ฟ่องที่อย่างน้อยยังมีคนยอมรับเขาได้ไม่ว่าเขาจะคบกับใครที่ไหน

เมื่อรู้เป้าหมายของวัน เด็กหนุ่มจึงเตรียมตัวออกไปหาอะไรใส่ท้องข้างนอกแล้วแวะแจ้งข่าวทิวากานต์ที่โรงพยาบาลเสียเลย เขาลุกไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ แอบหยิบ Creed Aventus ของทิวากานต์มาฉีด จัดแต่งทรงผมดูเสื้อผ้าเรียบร้อยจึงคว้ากระเป๋าเป้ลงไปหยิบกุญแจรถที่ตู้รองเท้า แต่อลันด์ลืมไปว่าตอนโดนไล่ออกจากห้องเขาหยิบกุญแจรถกลับไปด้วยทั้งหมดและทิ้งไว้ที่ห้องคอนโดริมแม่น้ำหนำซ้ำยังจอดน้องมิ้ลค์ทิ้งไว้ที่มหาวิทยาลัยอีก ตอนนี้ในชามใส่กุญแจรถจึงเหลือเพียงอีกบ เอ๊ย น้องกบคันเดียวเพราะคุณหมอคนรักขับซีรีส์ไฟว์ไปทำงานแล้ว

“ถึงฉันจะไม่ค่อยชอบเธอแต่ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ขอควงไปด้วยสักวันแล้วกัน” พูดกับโลโก้พอร์เช่แล้วมือเล็กก็รีบคว้ากุญแจรถติดมือไปแบบไม่ลังเล ว่าจะลองเอาไปขูดกับเสาเอาคืนที่ทำให้เขาเสียใจสักหน่อย ดูซิทิวากานต์จะทำหน้ายังไงตอนเห็นสภาพเมียรัก

.
.
.

“ผลการผ่าตัดออกมาดีมาก ตอนนี้ร่างกายผู้ป่วยยังไม่มีอาการปฏิเสธอวัยวะใหม่ พี่สุเมธฝากชมมาด้วยว่าวาเก่งมาก คราวหน้าถ้ามีเคสอีกจะยกให้ทำคนเดียว แล้ว...เมื่อคืนเป็นไงบ้างวะ” การันต์สรุปผลที่รับมาจากแพทย์เวรอีกคนให้หนุ่มรุ่นน้องฟังทันทีที่เห็นหน้าตอนเช้าและไม่ลืมตามผลที่นอนลุ้นมาตลอดทั้งคืน

“ดีครับ เข้าใจกันแล้ว”

“หือ? แค่นั้นเองเหรอวะ ทำไมเอ็งทำหน้าเหมือนไม่ดีใจ มีปัญหาอะไรหรือไง หรือว่าน้องแสบไม่ยอมให้จิ๊จ๊ะด้วย”

ทิวากานต์ถอนหายใจเฮือก หน้าซีดเซียวรอบตาดำคล้ำเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ เดินห่อไหล่ท่าทางดูอมทุกข์ มองยังไงก็ไม่เหมือนคนเพิ่งคืนดีกับแฟนมาสักนิดเดียวจนคนถามชักใจเสียเอง

“มีอะไรวะ”

“คืนดีกันเรียบร้อยแล้วนั่นแหละครับสวีทหวานได้ที่ เมื่อเช้าเลยว่าจะทำกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์สักยกสองยก พอดี๊แด๊ดดี้กับมัมมี้ไอ้ตัวแสบโผล่มาเจอตอนกำลังคร่อมพอดี แจ็คพอตแตกสิ ผมนี่หนีออกมาแทบไม่ทัน กระโดดออกหน้าต่างห้องนอนอัลมาเลย อย่างกับเป็นชู้เมียชาวบ้านงั้นแหละ”

“ว้าว น้องฉัน” เรื่องพลิกไปแบบนี้การันต์ก็พูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน “แล้วตัวแสบล่ะ”

“ไม่รู้เหมือนกันครับ ตอนผมหนีออกมาอัลก็ช่วยรั้งพ่อเขาให้อยู่ นี่เพิ่งเอาโทรศัพท์ไปชาร์จยังเปิดเครื่องไม่ติดเลย ว่าเที่ยงๆ จะลองโทรไปดู หวังว่าจะไม่โดนลากกลับลอนดอนไปก่อนนะ พ่อเขารักมากอยู่ อ้อนๆ หน่อยน่าจะเอาตัวรอดมาได้”

“เรื่องนี้ฉันไม่รู้จะช่วยยังไงเหมือนกันว่ะ แบบว่าเด็กพี่มันก็โตแล้วไม่ใช่พวกเพิ่งสลัดแพมเพิร์สแบบแฟนแกอ่านะ เอาเป็นว่าเรื่องใกล้คุกใกล้ตะรางอาจารย์การันต์ไม่ยุ่ง” เหมือนจะปลอบใจแต่ไม่วายแซะและเยาะเย้ยหนุ่มรุ่นน้องเนียนๆการันต์ตบไหล่รุ่นน้องปุ๊ๆ แล้วแยกย้ายกันไปทำงานของใครของมัน ทิ้งคุณหมอรูปหล่อไว้กับปัญหาใหม่ที่ดูจะแก้ยากกว่าโจทย์เก่าหลายเท่า

หากอย่างน้อยในความโชคร้ายยังมีโชคดี ไม่มีเคสในวันศุกร์นอกจากดูแฟ้มรายงานที่เรสสิเดนท์ส่งมาให้ อ่านวิจัย เคลียร์เอกสาร ให้คะแนนเด็ก แถมยังมีนักศึกษาหิ้วขนมมาฝากถึงห้องไม่ได้หวังคะแนนพิศวาสแต่ประจบอาจารย์ให้ช่วยเอ็นดูขึ้นอีกสักนิดตอนทำเคสด้วยกันก็ยังดี

ทิวากานต์กินคุกกี้ตูเล่เพลินๆ ระหว่างทำงานจนหมดกระปุก ไม้เบื่อไม้เมาอย่างท่านรองศาสตราจารย์อาคมก็ให้เกียรติมาเยี่ยมถึงห้องบอกว่าจะพาไปเลี้ยงข้าวที่บอกไว้เมื่อคืน ถึงรู้ว่าคงเป็นร้านข้าวถูกๆ ในโรงพยาบาลตามสไตล์หมอขี้เหนียวแต่ข้าวฟรียังไงก็อร่อยกว่าจ่ายเงินเองสตาฟผู้น้อยจึงตกปากรับคำไม่ลังเล

สองหนุ่มต่างวัยเดินตีคู่กันมาให้เป็นที่ประหลาดใจของบุคลากรในโรงพยาบาล ร้อยวันพันปีจะเห็นคู่นี้อยู่ด้วยกันจึงไม่แปลกที่จะมีหน่วยกล้าตายบางคนแกล้งทำท่าขยี้ตาเหมือนไม่เชื่อตอนเห็นทั้งคู่เดินผ่านหน้าไป

“อ้าว จะไปไหนกันล่ะสองคนนี้” คนทักคือแพทย์อายุรกรรมหัวใจที่ติดต่อกันบ่อยๆ เวลามีคอนซัลท์คนไข้อาการหนักจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัดหากไม่ค่อยเห็นหน้ากันเท่าไหร่นักเพราะทำงานคนละตึกคนละชั้น การปรากฏตัวของอาจารย์วุฒิที่นี่จึงน่าแปลกใจไม่น้อย

“ไปหาอะไรกิน หมอนั่นแหละทำไมถึงมาแถวนี้” อาคมตอบกลับ

“มาส่งคอนซัลท์น่ะซี่ พอดีที่นู่นกำลังยุ่งๆ ไม่มีใครว่างเลย เราเพิ่งตรวจเสร็จเลยเดินเอาใบคอนมาส่งเองดีกว่า ถึงเร็วดีด้วยไม่ต้องรอใคร ไงหมอวาสบายดีนะ ได้ข่าวเมื่อวานทำเคสเปลี่ยนหัวใจเหรอ หมอเขาลือกันทั้งโรงพยาบาลว่างานเนี้ยบเหลือเกินจนอยากชมสักหน พอจะมีเคสให้พาเด็กเข้าไปดูหน่อยไหม เอาเคสเล็กๆ ไม่ยุ่งยากก็ได้”

“ผมพร้อมเสมอล่ะครับอาจารย์ ยินดีต้อนรับทุกเมื่อ”

“ดีๆ กลัวแต่นักศึกษาจะเอาแต่มองหน้าหล่อๆ ของหมอแทนคนไข้”

“จะเห็นอะไรกันปิดหน้าปิดตาแบบนั้นใครเป็นใครยังไม่รู้เลย” อาจารย์อาคมเริ่มขัดเมื่อเห็นไอ้ศิษย์รุ่นน้องเริ่มหน้าบาน “แล้วหมอวุฒิเสร็จแล้วไปไหนไหม กินข้าวด้วยกันสิ”

“ไม่ล่ะๆ แม่บ้านเขาทำมาให้แล้ว นี่จะออกไปกินข้างนอกกันหรือเปล่า เออ แต่เมื่อกี้ตอนเดินมาผมว่าผมเห็นรถหมอวาเพิ่งขับเข้ามาในโรงบาลนี่นะ ไอ้รถสปอร์ตสีขาวหลังคาผ้าใบทะเบียนประมูล 28 ใช่ไหม คันนี้ทั้งโรงบาลมีหมอขับคนเดียว ผมว่าผมจำไม่ผิดนะ”

“หือ ใช่ครับ แต่ผมยังไม่ได้ออกไปไหนแต่เช้าเลยนะ แล้ววันนี้ก็ขับรถอีกคันมาด้วย”

“เอ... หรือจะเป็นของญาติคนไข้” อาจารย์วุฒิคิดแล้วก็ตาโตนึกได้ว่าเอาใบคอนซัลท์มาส่งจึงตาลีตาเหลือกเดินหายไปทิ้งความสงสัยไว้แก่ชายสองคน

อาคมมองหน้าศิษย์น้องเจ้าของรถก่อนก้าวขานำตรงไปโรงอาหารตามเจตนาเดิม นึกหาคำพูดไม่ให้ทิวากานต์ประสาทเสียเพราะรถไปก่อน “คงเป็นของคนอื่นที่ทะเบียนเหมือนกันละมัง”

“ผมขอเช็คก่อนแล้วกันครับ ติด GPS tracking ไว้” พูดจบก็หยิบโทรศัพท์ที่กลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วยไฟฟ้าเต็มเปี่ยมขึ้นกดเข้าแอพดูตำแหน่งรถ ขายาวชะงักกึกทันทีที่ตาเห็นตำแหน่งรถปัจจุบันเป็นที่โรงพยาบาลจริงๆ

“ทำไมรึ”

“รถผมอยู่นี่”

“หือ? มาอยู่ที่นี่ได้ไง”

“ไม่รู้เหมือนกันครับ” ชายหนุ่มพยายามนึกถึงความเป็นไปได้ต่างๆ เขาว่ารถเขาก็ติดสัญญากันขโมยอย่างดี หนำซ้ำโจรที่ไหนมันจะขโมยรถมาจอดที่ที่เจ้าของทำงานอยู่ หรือจะเป็น...

“แฟนแกเอามาขับหรือเปล่า ได้ข่าวจากรันว่าเมื่อคืนไปง้อมานิ เป็นไงง้อสำเร็จไหม”

ยังไม่ได้ทันได้พูดคำตอบที่อาคมต้องการก็มาโผล่อยู่ตรงหน้า ไอ้เด็กแสบตัวเท่าไหล่ยืนถือโทรศัพท์กับกุญแจรถพอร์เช่โบกอยู่ตรงหน้าอาคาร ผมสีน้ำตาลช็อกโกแลตนมสะท้อนแสงแดดยามบ่ายวิบวับส่งให้ใบหน้าขาวดูกระจ่างตาประหนึ่งกินโอโม่เข้าไป เจ้าโจรขโมยมามอบตัวถึงที่ไม่ต้องตามจับ แหม่...ดีจริงๆ



รองศาสตราจารย์อาคมแห่งสาขาศัลยกรรมหัวใจและทรวงอกพยักหน้ารับไหว้จากเด็กฝรั่งตัวเล็กหน้าตามึนๆ อายุไม่น่าเกินสิบแปดเมื่อมีคนกลางแนะนำให้รู้จัก รู้สึกคุ้นอยู่บ้างคล้ายเคยเห็นแถวนี้แวบๆ หากไม่คิดมาก่อนว่าจะรู้จักกับหมอในโรงพยาบาลนี้ โดยเฉพาะหมอประเภทเกลียดเด็กเข้าไส้อย่างทิวากานต์

“ไหนๆ แล้วก็ไปกินข้าวด้วยเลยแล้วกัน กินอาหารไทยได้ไหม” เขาว่าไม่ลืมหันไปถามเด็กหนุ่มหน้าต่างชาติแต่พูดไทยชัดแจ๋ว

“ได้ครับถ้าไม่เผ็ดมาก”

“ดีๆ” อาจารย์อาคมฉีกยิ้มจาง เดินนำสองหนุ่มไปโรงอาหาร ตอนแรกว่าจะไปโรงร้อนแต่เห็นแก่แขกหน้าใหม่กลัวจะทนอากาศเมืองไทยไม่ได้จึงพาไปโรงอาหารใหม่ติดแอร์ สั่งอาหารกันมาคนละจานนั่งกินรวมกับคนในโรงพยาบาล บ้านๆ สมถะตามสไตล์ จากที่ว่าจะมานั่งกินให้จบมื้อไปก็กลายเป็นคุยติดลมกับเด็กหนุ่มตาฟ้าจนรู้ประวัติกันคร่าวๆ

“...แล้วก็เลยถูกแด๊ดเตะโด่งมาเรียนที่เมืองไทยนี่แหละครับ” ไอ้ตัวแสบเองคุยกับอาคมถูกคอไม่เบา สมแล้วกับที่เป็นที่เอ็นดูของคนสูงวัย แม้แต่อาจารย์จอมเฮี้ยบยังมีรอยยิ้มติดหน้าตลอดการสนทนา

“ฮืม... แล้วมารู้จักกับเจ้าวาได้ไงกันล่ะลูก ดูท่าเจ้านี่ไม่น่าจะเป็นพวกรักเด็กได้เลย”

“อยู่ห้องตรงข้ามกันครับ ได้วา เอ๊ย พี่วาช่วยเหลือมากเลย ตอนแรกที่รู้จักกันพี่วาดุมาก ชอบขู่ ชอบแกล้ง แต่ความจริงเป็นพวกปากร้ายใจดีนะครับ แล้วก็รักเด็กมากด้วย” ท้ายประโยคจงใจแซะคนข้างตัวเต็มที่ ทิวากานต์เกือบสำลักน้ำซุปข้าวมันไก่ออกทางจมูก

“หึหึ ลุงเห็นหน้ามันตั้งแต่ยังละอ่อนไม่ยักรู้ วันๆ เอาแต่กวนประสาทหาเรื่องปวดหัวให้ทุกวัน ถ้าไม่ประจบเก่ง เอ๊ย เก่งจริงคงอยู่ไม่รอดถึงทุกวันนี้หรอก”

“จะพูดอะไรก็เอาเถอะครับตามสบาย ผมลาออกไปอยู่เอกชนจริงแล้วอย่ามาเกาะขาขอร้องอ้อนวอนแล้วกัน พี่คมไม่รู้อะไรซะแล้วว่าเด็กนี่เป็นไส้ศึกถูกจ้างมาตามจีบผม ลุงเค้าเป็นผอ.โรงบาลเอกชนเครือใหญ่กว่าบ้านพี่รันอีกนะ”

“หลานพี่หมอชายหรอกหรือเนี่ย”

“ครับ ลุงคมก็รู้จักลุงชายด้วยเหรอครับ”

“รู้จักซี่ เขาเป็นรุ่นพี่ลุงเอง งั้นฝากไปบอกลุงเราด้วยแล้วกันว่าถ้าจะเอาไอ้วามันไปก็มาเอาไปเลยที่นี่ไม่ได้รั้งไว้หรอก มันน่ะรั้งตัวเองไว้ เทรนจบก็ไม่ยอมไปเกาะแข้งเกาะขาของานทำจนเขาใจอ่อนโยนตำแหน่งให้”

“พูดซะผมเสียเลยนะพี่คม ถึงมันจะจริงบ้างบางส่วนก็เหอะ”

เพราะทิวากานต์เข้ามาเรียนต่อด้วยทุนตัวเองไร้สังกัดที่ต้องกลับไปทำงานชดใช้เงินการศึกษา เมื่อสอบได้วุฒิบัติเป็นแพทย์ชำนาญการจึงเปรียบเสมือนคนตกงานกลายๆ ต้องไปหาสมัครงานตามโรงพยาบาลทั่วไป เรื่องฝีมือไม่เป็นที่กังขาอยู่แล้วโรงพยาบาลไหนก็อยากรับ แต่ทิวากานต์ไม่ชอบโรงพยาบาลเอกชน จึงรับราชการทำงานที่โรงพยาบาลเดิมตั้งแต่ตนเริ่มเรียนทางสายแพทย์ตามคำชวนของรุ่นพี่คนสนิทอย่างการันต์เพื่อรอหาทุนไปเรียนต่อต่างประเทศดีกว่า

“พอเอาทุนมาให้มันก็ไม่เอาอีก”

“ลุงคมเป็นเอาใบทุนมาให้พี่วาเหรอครับ แล้วตอนนี้ยังสมัครทันอยู่ไหม”

“หมดเขตไปตั้งแต่สิ้นเดือนที่แล้วแล้วล่ะ”

อลันด์ตาโตก่อนหันไปค้อนปะหลับปะเหลือกใส่คนรัก เพราะถ้าบอกว่าสิ้นเดือนที่แล้วก็หมายความว่าหมดตั้งแต่วันเกิดเขา ทิวากานต์ก็ไม่บอกปล่อยให้ทะเลาะกันใหญ่โตอยู่ได้ตั้งนาน ถ้าไม่ติดว่าอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่แล้วก็โรงพยาบาลล่ะก็ทิวากานต์ได้ถูกทุบเป็นกระท้อนไปแล้ว

ตอนนี้ทุนก็หมดเขตไปแล้วจะทำยังไงต่อล่ะเนี่ย!

“แล้วเราน่ะขโมยรถพี่มาหาถึงที่เนี่ยมีอะไร แด๊ดดี้กับมัมมี้ยอมปล่อยตัวมาแล้วเหรอ” เมื่อบทสนทนาเริ่มเข้าตัวเขาจึงชวนเปลี่ยนหัวข้อ แต่ดูท่าจะคิดผิดเพราะประโยคถัดมาจากปากอลันด์มันเข้าตัวยิ่งกว่าเดิม เด็กลูกครึ่งตัวแสบทำท่าตกใจลืมเรื่องทุนไปชั่วคราว

“ใช่! ผมเกือบลืมไปแล้วนะเนี่ย แย่แล้วล่ะวา แด๊ดกับมัมไปฟ้องคุณตาเรื่องของเราเรียบร้อยแล้ว!”

“มีเรื่องอะไรกันรึ” เสียงตกอกตกใจประหนึ่งมีเรื่องร้ายแรงทำให้อาคมอดถามไม่ได้ แต่เขาเพิ่มมารู้ว่าคิดผิดที่ถามก็เมื่อดวงตาตื่นๆ ต่างสีสองคู่หันมามองโดยไม่ได้นัดกัน



ข่าวสตาฟศัลย์คาร์ดิโออาวุโสเกิดอาการเป็นลมหน้ามืดระหว่างกินข้าวแพร่สะบัดไปทั่วโรงพยาบาลรู้ตั้งแต่รปภ. ยันอธิการบดีภายในเวลาแค่ชั่วโมงด้วยความเป็นห่วงใยสุขภาพอาจารย์หมอคนเก่าแก่ พร้อมกันนั้นก็มีข่าวอีกชุดตามคู่กันไปถึงสาเหตุที่ทำให้รองศาสตราจารย์อาคมเป็นลมล้มตึงคาโต๊ะกินข้าวเพราะหมอรุ่นน้องคู่ปรับพาแฟนมาเปิดตัว

“พี่วาพาแฟนมาเปิดตัว?” นักศึกษาสาวหน้าใสชั้นคลินิกอ้าปากค้างระหว่างฟังเพื่อนรักคาบข่าวมาบอก หากเธอติดใจที่อาจารย์อาคมเป็นลมกะเรื่องแค่นี้มากกว่า เพราะคนที่น่าจะเป็นลมหัวใจสลายน่ะคือพวกหล่อนที่แอบชอบมานานไม่น่าจะใช่อาจารย์หมออายุห้าสิบอัพ

“เขาว่ากันว่าแฟนพี่วาเป็นเด็กผู้ชายลูกครึ่งหน้าตาน่ารักอายุห่างกันรอบนึงน่ะสิยัยเม!”

“เด็กผู้ชาย... ลูกครึ่ง”

“ใช่” สาวน้อยแตงกวายืนยันคำบอกเล่าที่ได้ยินมาจากพี่พยาบาลที่ฟังมาจากเรสสิเดนท์ออโธฯ ที่ฟังมาจากแม่ค้าร้านข้าวที่อยู่ในเหตุการณ์อีกที เธอมองเพื่อนรักกระพริบตาปริบๆ ราวกำลังนึกอะไรบางอย่างจึงนึกเอะใจ “เดี๋ยวนะ ลูกครึ่ง ผู้ชาย”

“คุ้นๆ นะว่าไหม”

“เอ่อะ คงไม่ใช่ เอ่อ... น้องคนนั้นหรอกใช่ไหม”

“เหอะๆ คงไม่ใช่หรอกน่า อย่างพี่วาเนี่ยต้องสาว สวย ตัวสูง หุ่นดี เป็นผู้ใหญ่ต่างหากเนอะ พี่แกคงไม่โอเพ่นนิ่งตอนอายุสามสิบหรอกน่า” พูดปลอบใจตัวเองแล้วพากันถอนหายใจ งานนี้มีน้ำตาท่วมโรงพยาบาลแน่ๆ ถ้าหนุ่มหล่อแห่งยุคจะเปิดตัวว่าชอบเพศเดียวขึ้นมาหลังปล่อยให้สาวน้อยสาวใหญ่หลงรักมาตั้งนาน

ส่วนหนุ่มน้อย หน้ามึน ตัวเล็ก ผอมแห้ง ท่าทางเหมือนเด็กซนๆ ตรงข้ามสเปคทิวากานต์ทุกประการในบทสนทนาเมื่อครู่กำลังนั่งหาวอยู่ร้านกาแฟตราแมงดาวระหว่างรอคนรักทำงาน ในหัวพยายามคิดหาทางเอาตัวรอดกับการซักฟอกที่บ้านใหญ่เย็นนี้ยังไงดี ขนาดลุงอาคมที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้รู้เข้ายังเป็นลมล้มพับ อลันด์ล่ะนับถือคุณตาคุณยายตัวเองเหลือเกินที่รู้แล้วยังยอมรับในตัวเขาได้ สงสัยก่อนเข้าบ้านต้องแวะซื้อพวงมาลัยงามๆ ไปกราบเสียหน่อย

สี่โมงครึ่งทิวากานต์จึงโผล่หน้ามาพร้อมการันต์ ว่าที่เจ้าบ่าวแซวสองหนุ่มรุ่นน้องพอเป็นพิธีก่อนแนะแนวทางและให้กำลังใจไปสู้ศึกใหญ่เย็นนี้ “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จำไว้นะเวลาคุยกับผู้ใหญ่ให้ใช้เหตุผลอย่าใช้อารมณ์ เขาจะใช้อารมณ์ตีกลับมาก็อย่าไปสน อดทนไว้เราต้องมีสติ เมื่อสติมาปัญญาจะเกิด”

“ครับ” เด็กฝรั่งพยักหน้ารับคำสอนก่อนยกมือไหว้อีกฝ่ายด้วยความเคารพ “ขอบคุณครับพี่รัน”

“ส่วนวา ในฐานะเอ็งเป็นผู้ใหญ่กว่าเอ็งต้องเป็นที่พึ่งให้น้องไม่ใช่ทำให้น้องลำบากใจ ครอบครัวเขาครอบครัวเรามันไม่เหมือนกัน ไม่มีใครยอมรับกับสิ่งที่เราเลือกได้ทั้งหมดหรอก พี่พูดเข้าใจใช่ไหม”

“ครับพี่”

“ถึงอัลจะไม่เด็กแล้วแต่ใช่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ ใครมองเขาก็คิดแหละว่าเราไปหลอกน้องมา พิสูจน์ตัวเองให้เขาเห็นว่าเราจะดูแลน้องได้ คบกันแล้วพากันได้ดี ให้ผู้ใหญ่เขาไว้ใจ เดี๋ยวเขาจะวางใจให้เราคบกันเอง แล้วอย่าลืมไปขอขมาครอบครัวน้องด้วยรู้ไหม”

“ครับ ขอบคุณมากครับพี่” ทิวากานต์ไหว้การันต์ทั้งที่ในใจอยากก้มลงไปกราบแทบเท้า การันต์นั้นเป็นเหมือนพี่ชายเป็นเหมือนพ่อของเขาไปแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่ชายหนุ่มรุ่นพี่ทำให้เขานั้นตอบแทนเท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมด

“ไป ไปสู้ มีความหวังได้แต่อย่าลืมเผื่อใจ แต่พี่เชื่อว่าเราสองคนจะผ่านมันไปได้ถ้ารักกันจริง”

.
.
.

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 33 [27.03.16]
«ตอบ #611 เมื่อ27-03-2016 10:19:51 »

บีเอ็มดับบริว ซีรีส์ ไฟว์คันใหญ่เลี้ยวเข้ามาจอดบนลานหน้าบ้านอดีตเอกอัครราชทูตตอนทุ่มครึ่ง ทิวากานต์กับอลันด์ถอนหายใจออกมาแทบจะพร้อมกัน หากเสียงเพลงจากวิทยุที่เปิดทิ้งไว้ในรถก็ช่วยดับความกลัดกลุ้มลงไปได้มากจนเปลี่ยนเสียงถอนใจเป็นเสียงหัวเราะ พวกเขาจ้องตากันเงียบๆ ก่อนจับมือให้กำลังใจอีกฝ่ายแล้วเปิดประตูรถลงไป

จะยังกลัวอะไรอีกในเมื่อได้เจอกับคนดีที่พร้อมจะจับมือเราเดินไปข้างหน้า...

หากว่าเธอนั้นคือความรัก...ก็เป็นรักที่ดีจนไม่มีคำบรรยาย
ฉันโชคดีเหลือเกินที่มีเธอเดินข้างกาย...ชีวิตนั้นได้เติมเต็มสิ่งที่ขาดหาย


ทั้งคู่เดินเคียงข้างรักษาระยะห่างไม่ให้ดูใกล้ชิดหรือห่างกันจนน่าเกลียดเข้าไปด้านใน ที่ห้องรับรองครอบครัวโอเนลล์และญาติพี่น้องทางฝั่งแม่นั่งกันอยู่ครบถ้วน สายตาแปดคู่จับจ้องยังแขกผู้มาเยือนพร้อมกันในทันที บรรยากาศในห้องตึงเครียดขึ้นมาอัตโนมัติ แม้แต่ทิวากานต์ที่ว่ามั่นใจในตัวเองมากยังอดเกร็งไม่ได้ เขายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกคนในห้องแล้วยืนนิ่งรอกับอลันด์ราวกำลังถูกผู้ใหญ่พิพากษาความผิด

“มากันช้าไปหน่อยยายเลยให้เขาเก็บโต๊ะไปแล้ว ทานมื้อเย็นมากันหรือยังล่ะ” คนแรกที่ทำลายความเงียบคือคุณยาย แม้หน้าตาเรียบเฉยหากสายตาทอดความห่วงใยให้หลานชายก็พอทำเอาทั้งคู่ใจชื้นขึ้นมาบ้าง

“ยังครับ แต่...” ทิวากานต์กำลังปฏิเสธเพราะอยากเข้าเรื่องคุยให้จบๆ กันไปกลับถูกแทรกขึ้นมา

“งั้นไปทานอะไรกันในครัวก่อนแล้วค่อยออกมาคุยกัน ไปบอกให้ยายน้อมอุ่นพะแนงแล้วเจียวไข่กินนะ” เมื่อถูกคนใหญ่สุดในบ้านสั่งเช่นนั้น สองหนุ่มต่างวัยจึงรับคำแล้วพากันเข้าไปในครัวโดยมีสายตาของเอเดลมาร์จ้องเขม็งตามหลัง

ที่ครัวใหญ่เหล่าแม่บ้านกำลังช่วยกันทำความสะอาดครัว พอเห็นคุณหนูคนเล็กกับคุณหมอรูปหล่อเข้ามาหาของกินจึงรีบจัดการหากับข้าวกับปลาให้ พอดีกับทำความสะอาดเสร็จจึงพากันออกไปให้เจ้านายอยู่เป็นส่วนตัวเมื่อทิวากานต์บอกว่าจะจัดการล้างจานที่กินเสร็จแล้วนี่เอง

อลันด์แสดงความเครียดออกมาด้วยการกินข้าวไปได้เพียงหนึ่งในสามของจานก็รวบช้อน ทิวากานต์จนใจจะดุเพราะเขาเองมีอาการไม่ต่างกันนัก เมื่อไม่มีอารมณ์จะกินต่อแล้วชายหนุ่มจึงลุกขึ้นเก็บจานชามไปล้าง มีเด็กหนุ่มลุกเดินตามมาสวมกอดคนรักจากทางด้านหลัง แม้จะถูกคนแก่กว่าดุที่ทำอะไรประเจิดประเจ้อในบ้านแต่ใบหน้าเล็กกลับยิ่งซุกเข้าหาแผ่นหลังกว้างราวออดอ้อนขอความเอ็นดู

“วา...ถ้าผมถูกตัดออกจากตระกูลจะทำไงดี”

“หือ? อย่างเราเนี่ยนะจะถูกตัดออกจากตระกูล พ่อแม่ตายายเขารักเราจะตายไม่มีวันทำอย่างนั้นหรอกน่า” เสียงทุ้มติดจะขึ้นจมูกหน่อยๆ ด้วยความขบขันกับความคิดแบบเด็กแล้วเล่นมุกต่อผ่อนคลายบรรยากาศ “แต่ถ้าเขาไม่รักอัลแล้วก็ไม่เป็นไร พี่จะดูแลอัลเอง... เดี๋ยวจะเป็นเสี่ยเลี้ยงเด็กส่งเสียให้เรียน จ่ายค่าเทอม ค่าขนม ค่าเสื้อผ้ากระเป๋าให้ หึหึ คงใช้เงินเยอะน่าดูเพราะอีหนูเล่นใช้แต่ของแบรนด์เนม”

“มีเงินซื้อของเองหรอกน่า รู้อยู่หรอกว่าใช้เงินเก่ง”

ทิวากานต์คลี่ยิ้มอ่อน เขาเอามือเปื้อนฟองสบู่ล้างน้ำเปล่าแล้วจับกับแขนเล็กที่โอบรอบเอวไว้ “เก็บเอาไว้ใช้ตอนฉุกเฉินเถอะ พี่มีปัญญาเลี้ยงเราอยู่แล้ว แค่เด็กคนเดียวจะไปยากอะไร ตอนนี้ก็ทำอยู่นี่นา... รับรองว่าจะไม่ปล่อยให้อัลลำบาก แต่ตอนนี้ยังไม่มีปัญญาถอยเบนท์ลีย์ทนนั่งบีเอ็มไปก่อนแล้วกันเนอะ อีกสักห้าปีคงเก็บเงินซื้อได้”

“นั่งบีเอ็มก็สบายก้นเหมือนกันแหละน่า ไม่ต้องเลี้ยงผมดีนักหรอก ได้อยู่กับวามันดีอยู่แล้วแค่อย่าทิ้งกันอีกก็พอ”

“อืม จะไม่ทิ้งอีกแล้ว จะไม่ปล่อยมืออีกแล้ว ไม่มีวัน...” ชายหนุ่มพลิกตัวดึงอลันด์เข้ามาซุกกับอก ปลายจมูกแตะดมกลิ่นแชมพูบนเส้นผมสีอ่อน คำพูดที่ว่าคนเราจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อมีคนให้ปกป้องนั้นดูท่าจะจริง เพราะจากที่หวั่นใจในทีแรก ตอนนี้ทิวากานต์กลับมาฮึดเรียกความมั่นใจคืนมาได้เหมือนเดิมและน่าจะมากกว่าเก่าสองสามเท่า

เมื่อจัดการทำความสะอาดในครัวเสร็จชายหนุ่มจึงเดินนำอลันด์กลับมาที่ห้องรับรอง เสียงพูดคุยหยุดลงพร้อมกับทุกสายตาที่จ้องมองไปยังชายหนุ่มทั้งสอง

เจ้าของบ้านถอนใจน้อยๆ แล้วบอกให้ทั้งคู่นั่งลงบนเก้าอี้แยกไปคนละมุมกันพลางขยับแว่นสายตาที่ใส่มองหลานชายตัวดีสลับกับคุณหมอ เคยนึกแปลกใจอยู่บ้างว่าทำไมคนที่ต่างกันราวอยู่คนละขั้วจึงสนิทสนมกันได้ถึงเพียงนี้แต่ไม่เคยเอามาใส่ใจ ทั้งที่มีเหตุการณ์หลายอย่างบ่งชี้ ตั้งแต่ตอนที่อลันด์ผ่าตัด วันปีใหม่ หรือแม้แต่วันเกิดที่เขาให้คุณหมอรูปหล่อเป็นคนจัดการเซอร์ไพรส์หลานชายสองต่อสองด้วยของขวัญวันเกิดชิ้นใหญ่ และวันนี้เขาก็ได้คำตอบเสียที ดูแค่สายตาตอนที่สองคนนั้นมองกันตอนนี้สิแทบไม่เคยปิดบังความรักที่มีให้กันเลย ถ้าเขาสังเกตสักหน่อยคงรู้ด้วยตนเองนานแล้วไม่ต้องรอให้ลูกเขยตาน้ำข้าววิ่งโร่มาฟ้องแบบนี้

เขาเองคงแก่มากจริงๆ หูตาถึงได้ฝ้าฟางมองข้ามสิ่งสำคัญไปได้

เมื่อเห็นว่าทั้งหมดพร้อมจะคุยแล้ว ประมุขของบ้านจึงเปิดปากคุยเรื่องสำคัญ  “ก่อนที่ทั้งคู่จะมาที่นี่พวกตาตกลงคุยกันแล้ว ตาแค่จะบอกให้อัลรู้ว่าตากับยายยังยืนยันคำเดิมที่บอกหลานไป แต่ส่วนเรื่องพ่อแม่ของหลานนั้นเรากับคุณหมอต้องจัดการกันเอง”

“ขอบคุณครับคุณตา”

ได้ยินแค่นั้นเด็กฝรั่งก็น้ำตาไหล เขาเดินเข่าเข้ามากราบเท้าคุณตาคุณยายก่อนกอดคนทั้งคู่ แต่พอทิวากานต์จะลงมากราบบ้างท่านก็เบรกไว้ก่อน

“คุณหมอยังไม่ต้อง ผมรับแค่หลานผมก่อน ส่วนคุณมีหน้าที่อธิบายในฐานะที่โตกว่าว่าทำไมถึงมาคบกับหลานผมได้”

ศัลยแพทย์คนเก่งถึงกับมือสั่นเหงื่อซึม อารมณ์คล้ายมาขอสาวแต่งงานแต่พ่อตาดุ๊ดุ “เรื่องนั้นผม... ผมก็บอกไม่ถูกครับ เรา...หมายถึงผมกับน้อง คือ... เอ่อ...”

“หมอวาใจเย็นๆ ไม่ต้องตื่นเต้น พ่อผมท่านไม่ลุกเอาปืนมาไล่หรอกครับ” ทิวากานต์ถอนหายใจเฮือกกับคำปลอบกึ่งแซวจากท่านผอ. โรงพยาบาล อีหรอบนี้เขาคงผ่านด่านญาติแฟนได้แล้วเหลือก็แต่ตายายกับพ่อแม่สินะ เขาเม้มปากแล้วปล่อยอยู่สองสามรอบระหว่างเรียบเรียงคำพูดในหัวแล้วพูดออกมาช้าๆ

“ตอนแรกผมกับน้องก็คบกันตามประสาคนรู้จักครับ แต่ว่ามีช่วงหนึ่งน้องมีปัญหากับเพื่อนแล้วก็กับที่บ้านมาปรึกษา เราก็เริ่มสนิทกันตอนนั้น ยิ่งได้พูดคุยทำความรู้จักกันผมก็ชอบน้อง น้องอัลน่ารัก...น่ารักมากครับ ถึงจะดื้อไปบ้างแต่เขาก็ยอมรับฟังเหตุผลของผมแล้วยอมปรับตัว อยู่กับเขาแล้วผมมีความสุขมาก” ชายหนุ่มยืนยันคำพูดด้วยรอยยิ้มเขินอายบนใบหน้า “เราก็เลยคบกัน”

“แล้วคบกันมานานเท่าไหร่แล้วฮึ”

“เลยครึ่งปีได้แล้วครับ” ทิวากานต์ตอบฉะฉาน คราวนี้สบตากับอดีตท่านเอกอัครราชทูตไม่มีหลบ

“อืม... พอสมควรอยู่ แล้วไม่คิดจะบอกให้ใครรู้เลยหรือไง”

“ถึงไม่ได้ป่าวประกาศไปทั่วแต่ผมไม่เคยปิดบังอยู่แล้วครับ คนใกล้ชิดผม เพื่อนร่วมงานทุกคนรับรู้ความสัมพันธ์นี้หมดและยอมรับได้ แต่ที่ไม่ได้บอกทางนี้เพราะอัลขอไว้ เขาอยากได้เวลาค่อยๆ ทำให้ทุกคนเข้าใจแล้วจะเป็นคนบอกเอง”

“อย่างนี้แม้แต่หมอการันต์ก็รู้ด้วยสินะ หึ รู้กันหมดแล้วช่วยปิดบังตา งั้นอัลไม่ต้องรอจนตาตายก่อนเลยหรือไงถึงจะบอกได้ หลานเห็นตาเป็นคนยังไงกันฮึ”

“คุณตา! ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะครับ” เจ้าตัวเล็กรีบโผกอดเอวอ้อนคุณตาก่อนแบคอัพอันแข็งแกร่งจะน้อยใจแล้วพลันเปลี่ยนข้าง “แต่ผม...ผมยอมรับว่าผมขี้ขลาดด้วยส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนเพราะผมเป็นห่วง ผมรู้ว่าทุกคนค่อนข้างไปทางขวาคงยอมรับกันไม่ได้ ดูอย่างแด๊ดกับมัมสิ”

“ใช่... พ่อไม่เห็นด้วย” เอเดลมาร์ยอมรับตามตรง เขานั่งเงียบฟังมานาน ยิ่งได้ฟังคำสารภาพรักของไอ้หมอหน้าหล่อยิ่งหงุดหงิด ตาสีฟ้าอ่อนเหมือนอย่างลูกชายปรายมองไปที่ทิวากานต์ด้วยความดูแคลน “ลูกเป็นผู้ชายจะรักกับผู้ชายได้ยังไงกัน พ่อเคยเห็นลูกคบกับผู้หญิงมาก่อน จู่ๆ ก็เปลี่ยนมาคบกับผู้ชายแบบนี้จะให้พ่อคิดยังไงกันฮึ หมอนี่ก็เหมือนกันได้ข่าวว่าเป็นเพลย์บอยควงหญิงไม่ซ้ำหน้า ทำไมจู่ๆ ถึงเปลี่ยนมาลองคบกับเด็กผู้ชาย หน้าตาก็เจ้าเล่ห์ดูยังไงก็มีเจตนาไม่ดี”

“แด๊ด แค่ผมอยู่กับเขาแล้วมีความสุขแล้วทำไมผมจะคบกับเขาไม่ได้ สารภาพตรงนี้เลยนะว่าคบกับผู้ชายสบายใจกว่าผู้หญิงเยอะ แด๊ดไม่รู้หรอกตอนที่ผมคบกับซาร่ามันน่าปวดหัวแค่ไหน แต่กับวาแค่มองตาก็รู้ใจกันทุกเรื่องแล้ว อีกอย่าง...หึ ถึงผมไม่ได้คบกับวาแต่แด๊ดอย่าคิดเลยว่าผมจะได้แต่งงานกับผู้หญิงในเมื่อทอมจ้องงาบผมอยู่ ถ้าตอนนั้นไม่ได้วาช่วยไว้ตอนนี้แด๊ดคงเห็นผมเป็นคู่ผัวตัวเมียกับไอ้หมาขนทองนั่นอยู่ดี”

“What the hell? ลูกกำลังจะบอกว่าทอมเนี่ยนะจะ...ลูก”

อลันด์ยักไหล่ให้คนเป็นพ่อด้วยใบหน้าเรียบเฉย “เราเกือบมีอะไรกันตั้งหลายครั้งตั้งแต่สมัยอยู่โรงเรียนประจำ”

“โอ๊ยตาย ฉันจะเป็นลม” มาดามโอเนลล์ทำท่าจะล้มพับไปอีกหน กานต์ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ จึงรีบหยิบยาดมยื่นไปให้

“ลูกอย่าใส่ร้ายเพื่อนนะ มันไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย”

“งั้นแด๊ดโทรไปถามเจมส์ตอนนี้เลยไหมว่าทำไมเพื่อนผมทั้งสองคนที่ควรอยู่ฉลองปีใหม่ด้วยกันที่ไทยถึงได้บินกลับอังกฤษกะทันหันทั้งที่เพิ่งมาถึงไทยได้ไม่ครบยี่สิบสี่ชั่วโมง หรือถ้ากลัวว่าผมเตี๊ยมกับเจมส์ไปลองถามคนที่คอนโดก็ได้ว่าวันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น อ่อ แล้วเจมส์ก็เป็นอีกคนที่จ้องจะงาบผมเหมือนกัน หมอนั่นแอบขโมยจูบผมด้วยล่ะ” ตั้งสองครั้งแน่ะ!

“อัล... พอ... ขอพ่อพักแป๊บ” เอเดลมาร์ถึงขั้นยกมือขอเวลาทำใจ พบว่าลูกชายเป็นเกย์มันน่าช็อคแล้ว ยิ่งรู้ว่าลูกเกือบถูกเพื่อนสนิทท่าทางแมนๆ ปล้ำอีก ในสายตาเขามองยังไงอลันด์ก็เป็นเด็กผู้ชาย ถึงจะหน้าตาน่ารักแต่ปกติพวกเกย์เขาชอบแบบมีกล้ามเนื้อสวยงามไม่ใช่ขี้ก้างแบบนี้ไม่ใช่เหรอ

“หลานฉันฮอตเหมือนกันนะเนี่ย” คุณยายถึงกับหลุดพึมพำออกมา ไม่ต่างกับกานต์ที่นั่งอ้าปากค้างจ้องน้องชายด้วยความอิจฉา เธอเป็นผู้หญิงแท้ๆ ยังไม่เคยมีหนุ่มหล่อวัวตายควายล้มมารุมแย่งกันแบบนี้เลย แม้แต่หมอทิวากานต์ขวัญใจสาววงการแพทย์ยังถูกคาบ เอ๊ย ถูกขโมยหัวใจไปได้ น้องชายเธอทำบุญมาด้วยอะไรเนี่ย!

“เอาล่ะ เรื่องนั้นช่างมัน แล้วลูกแน่ใจได้ยังไงว่าจะคบกับหมอนี่ได้ตลอดรอดฝั่ง ลูกจะเป็นนักร้องไม่ใช่เหรอ นักร้องเพลงร็อคเขาไม่เป็นเกย์กันหรอกนะ”

“เฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ไม่ได้เป็นเกย์หรอกเหรอครับ”

เจอลูกชายเอานักร้องนำวงร็อคในตำนานอย่าง QUEEN ที่เป็นเกย์มาตอกเอเดลมาร์ถึงกับสะอึก แต่คนอย่างเขาไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆ หรอก “แต่มีกี่คนกันที่ยอมรับเฟรดดี้ได้ เขาปกปิดมันจนตายนั่นแหละทุกคนถึงได้รู้ แล้วลูกคิดว่าจะทนปกปิดความลับได้นานหรือไง สักวันก็ต้องเลิกกันอยู่แล้ว สู้เลิกกันไปตั้งแต่ตอนนี้เลยดีกว่า”

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมกับอัลเพิ่งตกลงเรื่องนี้กัน เราจะไม่เลิกกันแน่นอน ผมยินดีปกปิดเป็นความลับเพื่อเขา และถึงแม้อนาคตเราจะเลิกกันมันก็เป็นเรื่องของอนาคตที่เราไม่รักกันอีกแล้ว ผมยอมรับนะครับว่าผมไม่ใช่คนดีมากมายอะไร บางทีก็งี่เง่าต้องให้อัลคอยเตือนสติอยู่บ้าง แต่ถ้าตอนนี้เรายังรักกันเราจะไม่มีวันปล่อยมือจากกันเด็ดขาด”

“มั่นใจมากนะคุณหมอ”

“ถ้าไม่มั่นใจผมไม่พูดหรอกครับ”

เหมือนมีกระแสไฟฟ้าส่งเสียงเปรี๊ยะๆ แล่นออกมาจากดวงตาของทั้งคู่ คนดูข้างสนามถึงกับต้องเอามือป้องตากันโดยอัตโนมัติ เป็นการปะทะกันของพ่อตากับว่าที่ลูกเขยที่ดุเดือดเลือดพล่านที่สุด

“หึ แล้วเธอมั่นใจด้วยใช่ไหมว่าจะดูแลลูกชายฉันได้ดีน่ะ ถ้าอัลยังยืนยันจะเป็นนักร้องฉันก็ตั้งใจไว้นานแล้วว่าจะตัดออกจากการมีส่วนร่วมในทรัพย์สินทุกอย่างของตระกูลโอเนลล์ แม้แต่เพนนีเดียวก็จะไม่ได้  อัลไม่เคยลำบากเธอจะดูแลเขาได้ดีสักแค่ไหนเชียว”

“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลยครับ ต่อให้เขามาตัวเปล่าผมก็รับรองได้ว่าดูแลเขาได้ดีไม่แพ้คุณ ทุกวันนี้พวกเราก็อยู่ด้วยกัน ค่ากินค่าอยู่ผมเป็นคนออกเองหมด ผมตั้งใจไว้แล้วว่าถ้าเราย้ายมาอยู่ด้วยกันจริงจังผมจะยกเงินเดือนทั้งหมดให้เขาดูแล ถึงทรัพย์สินที่ผมมีจะไม่ได้มากมายแต่ก็มั่นใจได้ว่าอัลจะไม่ลำบาก ถ้าหากเขาอยากได้เบนท์ลีย์ โรลส์-รอยซ์ก็ขอเวลาผมทำงานเก็บเงินสักห้าปีจะซื้อให้เขานั่งแน่ๆ ต่อให้ต้องทำงานหนักออกจากโรงพยาบาลรัฐไปทำเอกชนก็ยอม”

“หือ ถ้าได้สามีแบบนี้คือประเสริฐมากค่ะ หนูยอมแต่งแถมที่พร้อมข้าวสารให้อีกสามกระสอบเลย” หญิงสาววัยรุ่นคนเดียวในห้องหลุดปากอุทานเสียงดัง ส่วนพ่อเธอที่เป็นผอ. โรงพยาบาลเอกชนก็ยิ้มหน้าบาน อยากดึงตัวหมอมาทำงานด้วยนานแล้ว ถ้างานนี้หลานชายตัวได้กับทิวากานต์จริงๆ ความฝันของเขาก็ดูจะไม่ไกล

“มั่นใจเหลือเกินนะคุณหมอ ให้มันจริงเถอะไม่ใช่พอคบกันแล้วพบว่าอัลตัวเปล่าไม่มีสมบัติอะไรก็ทิ้ง”

“แด๊ดไม่มีเหตุผลแย้งที่สร้างสรรค์กว่านี้แล้วเหรอ!” เจ้าตัวแสบยืนเท้าเอวจ้องพ่อหน้านื่ง เดือนร้อนคุณยายต้องปรามหลานรักเสียงเขียว

“อัล! พูดกับคุณพ่อไม่เพราะเลยนะคะ”

อลันด์ยังคงจ้องพ่อตัวเองตาเขียว เขาไม่เคยโมโหเอเดลมาร์เท่าวันนี้มาก่อนจริงๆ กระนั้นก็ยอมเอ่ยปากขอโทษ “ขอโทษครับ แต่ผมไม่ชอบคนที่ดูถูกคนอื่น โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้รู้เรื่องราวจริงๆ อะไรเลยดีแต่วิจารณ์”

ไม่วายจิกกัดบิดาให้คนแก่อ่อนอกอ่อนใจ ครอบครัวคนไทยอาจไม่ชินกับการทะเลาะกันของครอบครัวต่างชาติ มาดามโอเนลล์ที่เห็นฉากสองพ่อลูกปะทะคารมกันมาหลายหนแล้วจึงรู้สึกเฉยๆ และดึงแขนมารดามาจับให้ใจเย็นๆ ไม่ต้องดุหลาน แม้หล่อนจะไม่ชอบที่เห็นลูกชายขึ้นเสียงกับบิดาแต่สามีเธอเองก็พูดจาไม่เข้าหูจึงสมควรแล้ว

“ก็เพราะฉันไม่รู้น่ะสิถึงระแวง หมอนี่เป็นใครมาจากไหนฉันยังไม่รู้เลย จู่ๆ ก็โผล่มาแบบนี้คิดว่าจะยอมรับได้หรือไง”

“ถ้าคุณคิดว่าผมคบกับอัลเพื่อหวังอะไรแบบนั้นขอให้สบายใจได้เลยว่าไม่มีวันเป็นแบบนั้นแน่ๆ เอาเป็นว่าเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าผมก็ไม่ใช่คนสิ้นไร้อะไรขนาดนั้นผมอยากให้ทุกคนรู้จักกับพ่อของผมสักหน่อย แต่...ผมว่าทุกคนน่าจะรู้จักเขานะ”

“พ่อแกชื่อตู่หรือไง”

ทิวากานต์ทำเป็นหูทวนลมไม่ใส่ใจคำหาเรื่องชวนถูกเรียกไปปรับทัศนะคติของเอเดลมาร์ เขาบอกให้อลันด์ช่วยเฟซไทม์ไปหาพ่อเขาหน่อย เด็กตัวแสบที่เข้าใจความคิดเขาก็รีบจัดให้ตามคำขอ รอสายไม่นานวิคเตอร์ก็กดรับโชว์ใบหน้าที่ยังแต่งไม่เสร็จดีขึ้นมาบนหน้าจอไอโฟน

‘ไง คืนดีกับวาแล้วใช่ไหม’

“ใช่ คืองี้นะวิคเตอร์ มีคนอยากทำความรู้จักกับคุณในฐานะพ่อของวาน่ะ ช่วยแนะนำตัวหน่อยนะ”

‘ได้เลย ใครล่ะ’

“ครอบครัวผมเอง เริ่มที่คุณตาคุณยายก่อนแล้วกัน” พูดจบอลันด์ก็หันหน้าจอโทรศัพท์ไปทางคุณตาคุณยาย วิคเตอร์กล่าวทักทายคนทั้งคู่เป็นภาษาไทยง่ายๆ แล้วแนะนำตัว

‘สวัสดีครับ ผมวิคเตอร์ เหลียงเป็นพ่อของทิวากานต์ครับ เจ้านั่นไปก่อเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ’

“ไม่ค่ะ คือว่า...นี่ใช่วิคเตอร์ที่เล่นหนังเรื่องเทพบุตรเฉือนคมหรือเปล่าคะ ตายแล้ว ยายชอบหนังเรื่องนั้นมากเลย วิคเตอร์เนี่ยตั้งแต่ตอนเล่นเรื่องนั้นจนถึงตอนนี้หน้าตาไม่เปลี่ยนเลยนะคะเนี่ย” คุณยายของเด็กฝรั่งถึงขั้นกรี๊ดกร๊าดจิกแขนสามีแน่นเมื่อได้เจอพระเอกหนังในดวงใจ เสียดายเธอเกิดเร็วไปหน่อย ไม่งั้นคงไม่ได้เป็นภริยาท่านทูตอย่างทุกวันนี้แน่

“หา? พ่อหมอวาคือวิคเตอร์ที่เป็นดาราฮ่องกงน่ะหรือคะ” มาดามโอเนลล์ถึงขั้นวางหลอดยาดมกระโดดไปร่วมเฟรมดูหน้าดาราคนโปรดด้วยคน พอเห็นเท่านั้นก็กรี๊ดเหมือนสาวๆ “ตายแล้ว มิน่าหมอวาทำไมถึงหล่อนัก ถอดแบบพ่อมานี่เอง”

‘ฮ่าๆ สวัสดีครับคุณผู้หญิง ผมว่าผมหล่อกว่าเจ้าวานะ’

“แน่นอนค่ะ หล่อกว่ามากๆ เลย คุณคะคนนี้ฉันให้ผ่านค่ะ” ท้ายประโยคเธอหันไปหาสามี ตั้งมั่นแล้วว่ายังไงก็จะต้องให้ลูกชายดองกับทิวากานต์ให้ได้เพื่อที่เธอจะได้เกี่ยวกับดาราขวัญใจแม้จะในฐานะพ่อของลูกเขยก็ตาม

บรรยากาศในห้องเปลี่ยนไปแทบไม่เหลือความตึงเครียด โทรศัพท์ของอลันด์ถูกเวียนไปให้วิคเตอร์ได้แนะนำตัวจนครบและหยุดที่เอเดลมาร์เป็นคนสุดท้าย ชายอังกฤษกับชายจีนจ้องตากันเงียบๆ ก่อนที่วิคเตอร์จะยิ้ม

‘คุณพ่อน้องอัลก็หน้าเหมือนน้องอัลเลยนะครับเนี่ย แต่เหมือนลูกชายคุณจะน่ารักกว่ามากแล้วก็ป่วนมากด้วย เก่งนะครับที่ทำลูกชายใจยักษ์ของผมเสียน้ำตาได้ แต่เอาเถอะเห็นว่ารักกันผมจะยอมยกลูกชายผมให้ไปเป็นเขยบ้านคุณ ถึงบรรพบุรุษจะเสียใจที่ตระกูลเราจะไร้ทายาทสืบสกุลก็ตาม’

“ผมต้องเป็นคนพูดประโยคนั้นมากกว่านะคุณวิคเตอร์”

‘งี้แสดงว่าคุณยอมรับวาให้เป็นลูกเขยคุณแล้วใช่ไหมครับ ดีจัง งั้นผมวางสายล่ะ ผู้กำกับเรียกแล้ว ไว้คุยกันนะครับ’

“อ๊ะ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย” เอเดลมาร์หน้าหลุดเก๊กพลาดท่าเสียทีความเจ้าเล่ห์ของนักแสดงชื่อดังเข้าแล้ว ยังไม่ทันได้โวยวายกลับอีกฝ่ายก็ชิงตัดสัญญาณไปก่อนทิ้งไว้เพียงหน้าจอดำมืด

ชายชาวอังกฤษถึงกับหน้ากระตุกจะปาโทรศัพท์ทิ้งเจ้าลูกชายตัวดีก็วิ่งมาแย่งไปเสียก่อน ทีนี้พอมองไปรอบห้องก็เห็นสายตาทุกคนยอมรับในตัวคุณหมอหนุ่มโดยไร้ข้อกังขา เพราะถึงจะเป็นนักแสดง แต่วิคเตอร์ เหลียงก็เป็นนักแสดงจีนที่มีทรัพย์สินติดอันดับหนึ่งในสิบของประเทศจีนมาหลายสิบปีแล้ว

“หมอวามีพ่อเป็นคนดังระดับนี้ทำไมไม่รีบแนะนำให้รู้จักล่ะจ๊ะ เนี่ยๆ สาวบ้านนี้เขาเป็นแฟนคลับพ่อเรากันทั้งนั้น” คนพูดขึ้นมาคือมาดามโอเนลล์ที่เข้าโหมดเพ้อไปแล้ว ตอนนั้นถ้าพ่อเธอไปประจำที่ฮ่องกงเธอคงได้รู้จักกับนักแสดงในดวงใจนานแล้วและอลันด์คงไม่ได้เกิดขึ้นมาหรอก

“ผมกับพ่อไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่น่ะครับ อีกอย่างเรื่องที่เขามีลูกก็เป็นความลับ”

“จริงด้วยสิ อย่างนี้พ่อเราก็หักหลังแฟนคลับมาตั้งสามสิบกว่าปี แต่ไม่เป็นไรจ๊ะ น้ารับได้ วามาเป็นเขยบ้านน้าเถอะ”

“นี่คุณ แค่เห็นหน้าพ่อก็เปลี่ยนใจปุบปับเลยเหรอ”

“แล้วจะให้ฉันตั้งเงื่อนไขอะไรขึ้นมาอีกล่ะคะ ในเมื่อฉันเห็นว่าลูกของเรามีความสุข หมอวาก็พึ่งพาดูแลได้ ฉันก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะค่ะ”

“แต่...” เอเดลมาร์ถอนหายใจ “แต่พ่อยังยอมรับไม่ได้ พ่อมีลูกของพ่อคนเดียว เลี้ยงดูมาด้วยความรัก เลือกแต่สิ่งที่ดีให้มาตลอด พ่อทำใจไม่ได้ถ้าเกิดว่าสิ่งที่ลูกเลือกจะทำให้ลูกต้องเจอกับปัญหาใหญ่ๆ อีกมากมายข้างหน้า แค่เป็นนักร้องก็ยากแล้ว ลูกยังมีคนรักเป็นผู้ชายมันยิ่งยากเข้าไปอีก พ่อรักอัล...ไม่อยากเห็นอัลต้องเจ็บปวด”

“แด๊ด...”

“พ่อคงทำใจไม่ได้ถ้าเห็นลูกจะเลือกเดินทางยากๆ สองทางไปพร้อมกัน คนเราถ้าโลภมากจะเอาทุกสิ่งสุดท้ายมักไม่เหลืออะไรเลย”

“ผมดีใจนะที่ได้เกิดมาในครอบครัวของแด๊ดกับมัม ผมรู้ว่าทั้งคู่รักผมมาก ผมเองก็รักแด๊ดกับมัมมากเหมือนกัน แต่ว่าชีวิตนี้เป็นของผมไม่ใช่ของใคร ผมก็อยากเลือกทางเดินในชีวิตผมเองบ้างแม้เส้นทางที่เลือกเดินมันจะขรุขระไปบ้างก็เถอะ”

เด็กหนุ่มเดินเข้าไปกอดเอเดลมาร์ ซุกใบหน้ากับอกอุ่นๆ ของพ่อที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็รู้สึกปลอดภัย อลันด์ยอมรับว่าทุกอย่างที่พ่อเลือกให้ตั้งแต่เด็กจนปัจจุบันล้วนดีกับตัวเขาทั้งนั้น แต่เขาคงปล่อยให้เป็นแบบนั้นต่อไปไม่ได้ หากว่าวันหนึ่งแด๊ดไม่อยู่กับเขาแล้วเขาจะทำอย่างไร ถ้าอยากเติบโตก็ต้องหัดขาแข็งยืนด้วยตนเองตั้งแต่เสียตอนนี้

“ผมอยากโต อยากลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง อยากเจออุปสรรคบ้าง อยากเป็นคนที่เข้มแข็งได้แม้แด๊ดจะไม่ได้อยู่กับผมแล้ว”

“ลูกดูถูกความรักความเป็นห่วงของพ่อมากไปนะ ต่อให้ลูกจะไปเป็นของคนอื่น มีครอบครัวของตัวเอง เดินตามเส้นทางที่ตัวเองสร้างขึ้นมาก็หยุดความห่วงใยของพ่อแม่ไม่ได้หรอก เอเดลมาร์ก้มหน้าจูบกระหม่อมลูกชายสุดที่รัก แน่นอนว่าเขาอยากให้ลูกมีความสุข ถ้าการบังคับจะทำให้คนที่เขารักต้องทุกข์เขาก็จะยอมลงให้ “ก็ได้... ในเมื่อลูกอยากสร้างอนาคตกับหมอ งั้นเรามาเจอกันคนละครึ่งทางเอาไหม”

“ยังไงครับ”

“พ่อจะเสนอทางเลือกให้ลูกสองทาง ลูกต้องตัดสินใจเลือกดีๆ แน่นอนว่าทางเลือกของพ่อดีกับลูกแต่ไม่ที่สุดทั้งสอง ลูกจะได้เจออุปสรรคแต่ก็แค่ครึ่งเดียวของที่ลูกเลือกไว้ทั้งหมดเพราะพ่อคงทำใจไม่ได้ถ้าต้องเห็นลูกเสียใจ ตกลงไหม”

“ครับ”

“ดี ทางเลือกแรกคือกลับไปเรียนที่เดิมตามสัญญาแรกของเรา ระหว่างนั้นลูกจะไปขึ้นเวทีเป็นนักร้องที่ไหนก็ได้แต่ลูกต้องเรียนให้จบ แน่นอนว่าถ้าลูกกลับมาเป็นนักร้องที่อังกฤษลูกต้องหาทางแก้ปัญหาเรื่องความรักทางไกลของลูกกับคุณหมอเอง พ่อและแม่จะไม่เข้าไปยุ่งด้วยเด็ดขาด”

“ครับ”

“กับอย่างที่สองคือพ่อจะให้เรากลับไปเรียนเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยในอังกฤษให้จบ หลังจากนั้นพ่อจะให้เรากลับไทยมาอยู่ที่นี่กับหมอเขาโดยที่พ่อจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตลูกอีก ที่พ่อตั้งข้อเสนอแบบนี้เพราะพ่อถือว่าการศึกษาเป็นเรื่องสุดท้ายที่พ่อจะส่งเสริมให้ลูกได้ เข้าใจใช่ไหม”

ทางหนึ่งก็คนที่รักอีกทางก็ความฝันที่หมายมาทั้งชีวิต

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 33 [27.03.16]
«ตอบ #612 เมื่อ27-03-2016 10:21:02 »

เด็กลูกครึ่งพยักหน้ารับในข้อตกลงที่เสนอมา ทางเลือกข้อเอเดลมาร์นั้นเหมือนให้เลือกระหว่างคนรักกับความฝัน เป็นหัวข้อที่เขาและทิวากานต์เคยผ่านมันมาก่อนหน้านี้แล้วจนเกือบจะเลิกกัน แน่นอนว่าคำตอบนั้นอลันด์เลือกให้กับตัวเองได้ทันทีและนึกขอบคุณแด๊ดที่ช่วยให้อะไรๆ มันง่ายขึ้น

“เอาล่ะ...ถึงเวลาที่ลูกต้องเลือกแล้ว เลือกดีๆ นะอัล เรายังเด็กยังมีเวลาและโอกาสอีกมากที่จะได้เจอคนใหม่ๆ บางทีความรักที่ลูกมีตอนนี้อาจไม่ใช่ความรักที่แท้จริงก็ได้”

ส่วนทิวากานต์นั้นฟังแล้วก็มั่นใจว่าคนรักคงเลือกเส้นทางดนตรีตามความฝันแต่แรกเพราะเรื่องทุนของเขานั้นยังไงมันก็เอากลับมาไม่ได้แล้ว

เขาหันไปยิ้มให้คนรัก บอกความนัยผ่านดวงตาว่าเขาพร้อมยอมรับทุกเส้นทางที่อีกฝ่ายเลือก

 “ไม่เห็นยากเลยแด๊ด...” เจ้าเด็กลูกครึ่งตัวแสบยักไหล่ ทำหน้ามึนกวนๆ ใส่คนเป็นพ่อก่อนเดินมาควงแขนกับทิวากานต์ “ยังไงผมต้องเลือก ‘วา’ อยู่แล้ว ไม่งั้นผมจะมาเถียงกับแด๊ดให้เหนื่อยเหรอ เดี๋ยวให้อัลเบิร์ตสมัครสอบที่อ็อกฟอร์ดเลย ผมจะกลับไปเรียนที่อังกฤษเทอมหน้า”

“อัล!” ดูเหมือนคำตอบของอลันด์จะไม่ได้ทำให้แค่เอเดลมาร์ช็อคเพราะคนที่ถูกเลือกเองก็ตกใจ ทิวากานต์ทำหน้าเหมือนเด็กหนุ่มเพิ่งเอาน้องกบไปขูดเสามางั้นแหละ

“นี่ลูกกำลังทิ้งความฝันและอนาคตการเป็นนักร้องดังที่รออยู่ข้างหน้าเลยนะ”

“แด๊ด ผมไม่ได้ทิ้งอนาคตนะ แต่ผมกำลังเลือกสร้างอนาคตกับวาต่างหาก”

“อัล คิดใหม่อีกทีได้นะ” ทิวากานต์เองก็แย้งขึ้นมา เขาเห็นความตั้งใจในการเป็นนักดนตรีของอลันด์มาตลอด ไม่อยากให้ทิ้งความฝันไปเพียงเพราะตัวเขาเลย เขาน่ะมันไม่มีความฝันอะไรตั้งนานแล้ว จะให้เปลี่ยนไปทำอะไรก็คงไม่รู้สึกไปมากกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ แต่กับอัลน่ะสิ...

“ผมคิดดีแล้ววา เคยมีคนบอกกับผมว่าไม่จำเป็นหรอกที่ต้องชอบทำอะไรมากๆ แล้วต้องจบลงด้วยอาชีพนั้นๆ ตอนนี้เมื่อถึงทางแยกผมก็แค่เลือกทางเดินที่ดีที่สุดให้ตัวเอง ควบคู่ไปกับการได้ทำสิ่งที่ผมรัก ดนตรีน่ะ...ถึงไม่ได้เป็นนักร้องแต่ใช่ว่าจะไม่ได้ร้องเพลงอีกนี่นา อยู่ที่ไหนก็ร้องเพลงได้ขอแค่มีกีตาร์สักตัวกับตัวผม จริงไหม”

ถ้าต้องเดินตามความฝันแต่ต้องอยู่กับคนรักแบบหลบๆ ซ่อนๆ เขาคงทำไม่ได้ เขาอยากให้เกียรติคนรัก อยากอยู่กับเขาทุกที่โดยไม่ต้องแคร์สายตาใครมากมาย แค่ในชีวิตหนึ่งของคนธรรมดาการได้เจอกับความรักแสนพิเศษแบบนี้นับว่าเป็นโชคดีมากแล้ว

มือเล็กของอลันด์เลื่อนลงสอดประสานกับฝ่ามือใหญ่ของทิวากานต์ ก่อนเจ้าตัวจะเงยหน้าขึ้นสบสายตาคนรักแล้วยิ้มให้จนตาปิด

“แต่วามีคนเดียวผมไม่สามารถหาคนแบบวาได้ที่ไหนบนโลกใบนี้ได้อีกแล้ว คนที่ผมพยายามแทบตายเพื่อให้เขายอมมีอะไรด้วย คนที่ดุผมแต่ก็ปลอบใจผม คนที่สอนให้ผมใจเย็นขึ้นเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เป็นคนที่ผมเชื่อได้ว่าถ้าอยู่กับเขาแล้วจะมีความสุข แม้แต่ตอนทะเลาะกันก็ยังชอบที่เราเถียงกัน ที่สำคัญคือเขาเป็นผู้ชายที่ผมรัก แค่ตอนที่วายอมทิ้งรถเพื่อมาตามผมที่สนามบิน ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับวามันก็เลยคำว่ารักไปแล้ว และจากนี้ไปผมก็อยากให้วาเป็นชีวิตที่เหลือทั้งหมดของผม อยู่กับผมไปด้วยกันตลอดนะ”

เธอเป็นมากกว่ารัก เพราะเธอนั้นคือครึ่งชีวิต
ฉันใช้เวลาทั้งชีวิต เพื่อตามหาและรอคอยเธอมาแสนนาน
และสุดท้ายก็เจอ ว่าเธอคือทุกอย่างที่เติมเต็มหัวใจ
จากนี้ทุกลมหายใจฉันคือเธอ...

ทิวากานต์กลั้นยิ้มจนแก้มตึง ความรู้สึกเป็นคนที่ถูกเลือกเนี่ยไม่ว่ากี่ครั้งก็รู้สึกดีจริงๆ แต่ก็ไม่วายแซวคนรักที่ยืนเขินหน้าแดงเป็นลูกตำลึง “งั้นพี่ควรขายน้องกบทิ้งสินะ”

“ไม่ได้พูดนะ” เด็กฝรั่งทำหน้านิ่งยักคิ้วกวนๆ ก่อนคลี่ยิ้มสว่างสดใสออกมาพร้อมประโยคน่ารักน่าหยิกให้คนฟังอยากเข้าไปฟาดสักที “แต่ขายทิ้งก็สงสารน้องกบแย่น่ะสิ ถ้าไม่ได้น้องกบเราจะรักกันแบบนี้เหรอวา สำนึกบุญคุณน้องกบบ้างนะ”

“โธ่เอ๊ย! ไอ้ตัวแสบ” คุณหมอดึงอีกคนมากอดซุกอก เพราะว่ารักหรอกนะจะไม่เตะก้นหนึ่งวันโทษฐานเล่นไม่รู้จักเด็กรู้จักแก่ก็แล้วกัน แต่ในอนาคตไม่แน่ ถ้าดื้อเมื่อไหร่เขาจะจับลงโทษจนเข็ดเลย คอยดูสิ!

“อยากลืมนะที่สัญญากันว่าจะไม่ปล่อยมืออีกแล้วน่ะ”

“แน่นอน สัญญาด้วยชีวิตทั้งชีวิตเลย”

ทิวากานต์ดึงคนตัวเท่าไหล่มาจูบปากโชว์ครอบครัวของอลันด์ให้เห็นกันจะๆ เล่นเอาคุณพ่อติดลูกถึงกับดิ้นเร่าๆ อยากสิ่งเข้าไปกระชากออกมา ผิดกับคนแม่ที่ได้แต่ซับน้ำตาที่ลูกชายเป็นเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ส่งลูกมาเรียนที่เมืองไทยรอบนี้เกินคุ้มจริงๆ เพราะนอกจากลูกชายจะเติบโตขึ้นยังได้ลูกเขยแถมกลับมาตั้งหนึ่งคนแน่ะ!



TBC

มีบทส่งท้ายอีกนิดค่ะ
รออ่านได้เร็วๆ นี้ ^^

ตอนนี้พี่วารอดตีนพ่อตานะคะ เพราะได้เตี่ยมาช่วยไว้
ส่วนการตัดสินใจของน้องอัล ยกหน้าที่ให้คนอ่านพิจารณากันเองเลยค่ะ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-03-2016 10:24:52 โดย บัวน้อย ไร่แตงโม »

ออฟไลน์ Mokuchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 33 [27.03.16]
«ตอบ #613 เมื่อ27-03-2016 12:45:40 »

ควรจะสงสารคุณพ่อตาดีมั้ย
โดนแย่งลูกชายแถมยังไม่มีใครเข้าข้างอีก 555 :laugh:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 33 [27.03.16]
«ตอบ #614 เมื่อ27-03-2016 14:33:43 »

 :pig4: :3123: :3123:

ออฟไลน์ AllStaRK

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 33 [27.03.16]
«ตอบ #615 เมื่อ27-03-2016 14:36:14 »

งืมมมมมมมมมมมมมม โดนแย่งลูกชาย :a5:

ออฟไลน์ imac

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 33 [27.03.16]
«ตอบ #616 เมื่อ27-03-2016 14:57:01 »

อ่านไปยิ้มไป ตอนนี้ตัวแสบกับหมอวาโชว์หวานไม่แคร์สื่อ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 33 [27.03.16]
«ตอบ #617 เมื่อ27-03-2016 15:27:56 »

คุยกันดีๆ ก็เข้าใจ ความรักของพ่อแม่ยิ่งใหญ่เสมอ
มีโชว์ท้ายด้วย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 33 [27.03.16]
«ตอบ #618 เมื่อ27-03-2016 16:03:34 »

ทั้งซึ่งทั้งฮาและสงสารคุณพ่อตามากๆ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 33 [27.03.16]
«ตอบ #619 เมื่อ27-03-2016 20:46:13 »

สงสารแต่พ่อตาโดนแย่งลูกชายสุดที่รักไป

ตอนนี้ทั้งอบอุ่นทั้งฮาเลยค่ะ ชอบบบบ  :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 33 [27.03.16]
« ตอบ #619 เมื่อ: 27-03-2016 20:46:13 »





ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 33 [27.03.16]
«ตอบ #620 เมื่อ28-03-2016 00:44:37 »

คุณพ่อตาหัวเดียวกระเทียมลีบเลยทีนี้
ปรบมือให้กับทั้งหมอวาและอัลที่เลือกกันและกันแทนที่จะเลือกทำตามความฝัน
ซึ่งคนส่วนใหญ่มักเลือกจะทิ้งคนรักแล้วไปตามล่าฝัน
พ่อหมอวาช่วยได้เยอะเลยงานนี้ มี fc เป็นคุณแม่และคุณยาย

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 33 [27.03.16]
«ตอบ #621 เมื่อ28-03-2016 06:49:47 »

หมอวาต้องรักเตี่ยให้มากๆ นะ บอกเลยงานนี้รอดได้เพราะความฮอตของเตี่ยช่วยไว้ 555

ออฟไลน์ Autonomyz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 33 [27.03.16]
«ตอบ #622 เมื่อ28-03-2016 11:27:52 »

ต้องขอบคุณเตี่ยนะวา ที่ทำให้มีวันนี้ 5555

ออฟไลน์ misskimji

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 33 [27.03.16]
«ตอบ #623 เมื่อ29-03-2016 03:55:37 »

อ่านไปยิ้มไปเลยค่ะ
ตอนนี้ดีงามมากกกกก
รักพี่วาน้องอัล และคนเขียนนะคะ

 :กอด1: :L1:


ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 33 [27.03.16]
«ตอบ #624 เมื่อ29-03-2016 06:07:12 »

คือมันดีอะ...

แต่งานนี้คงต้องบอกว่ายกความดีความชอบให้อิตาคุณพ่อของพี่วาปะ มีตำแหน่งดาราดังการันตรีลูกชายเลยได้คะแนนความพึงพอใจจากครอบครัวหนูอัลมาเต็ม 555

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- EPILOGUE [31.03.16]
«ตอบ #625 เมื่อ31-03-2016 17:08:01 »

EPILOGUE



แปดเดือนต่อมา...
ลอนดอน สหราชอาณาจักร


“คุณหมอว่ายังไงบ้างครับคุณชาย” อัลเบิร์ตเอ่ยถามเจ้านายร่างเล็กที่เดินออกมาจากห้องตรวจ เขายื่นเสื้อโค้ทให้อีกฝ่ายสวมเมื่อการตรวจหัวใจที่ทำเป็นประจำทุกเดือนหลังจากการรักษาเสร็จสิ้น

“ทุกอย่างโอเคเหมือนเดิมยกเว้นน้ำหนัก ตาแก่นั่นอยากให้ฉันเพิ่มสักสิบปอนด์ ให้ตายเถอะใครจะไปทำได้” เขาบ่นเป็นหมีกินผึ้งระหว่างให้พ่อบ้านส่วนตัวจัดการเรื่องค่าใช้จ่าย

“แต่ถ้าคุณชายยังไม่เพิ่มน้ำหนักให้มากกว่านี้ เกรงว่าคุณท่านจะให้ผมตามไปอยู่ที่หอด้วย”

“แด๊ดเพี้ยนหรือไง มีใครบ้างเอาพ่อบ้านไปอยู่ด้วยที่หอมหาวิทยาลัย ขนาดเจมส์ยังไม่เอาเอ็ดเวิร์ดไปอยู่ด้วยเลยนะ” อลันด์ระบายอารมณ์หงุดหงิดด้วยการกระแทกก้นนั่งกับเบาะหลังของเบนท์ลีย์ มูซานแรงๆ

รถยนต์คันหรูแล่นข้ามแม่น้ำเทมส์มุ่งสู่เขตเมย์แฟร์อันเป็นที่ตั้งบ้านของเด็กหนุ่มด้วยความเร็วคงที่ เมื่อใกล้ถึงที่หมายคุณชายจึงบอกให้พ่อบ้านส่วนตัวจอดรถที่สวนสาธารณะไฮด์ปาร์ค “อากาศกำลังดีฉันจะแวะเดินเล่นสักหน่อย นายกลับไปที่บ้านเลยนะไม่ต้องรอ”

“ให้ผมมารับไหมครับ”

“ไม่ได้ไกลฉันเดินกลับเองได้ อ่อ บอกลินดาด้วยนะว่ามื้อเย็นฉันขอเนื้อชิ้นเล็กหน่อยแล้วหัวหอมก็ขอสุกๆ สุกแบบนิ่มเลยนะถ้ามันแข็งจะเหม็นเขียวฉันไม่ชอบ อย่าลืมให้ขนมมิวมิวด้วยล่ะ” เขาสั่งพ่อบ้านยาวๆ แล้วเปิดประตูรถลงไป

ตอนนี้ลอนดอนเข้าสู่ช่วงใบไม้ร่วงเตรียมเข้าฤดูหนาวแล้ว ลมเย็นพัดมาทำให้เด็กหนุ่มต้องห่อตัวเองเข้ากับเสื้อโค้ท เขาเดินไปเรื่อยพลางรำลึกความหลังที่เคยใช้เวลาช่วงฤดูร้อนกับทิวากานต์ที่นี่

อลันด์ไม่ได้เจอกับทิวากานต์อีกเลยหลังงานแต่งงานของการันต์กับอักษราเพราะเสร็จงานคืนนั้นเขาก็ต้องรีบบินกลับอังกฤษเพื่อมาเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยตามคำพูดที่ให้ไว้กับเอเดลมาร์ แม้กระทั่งของขวัญวันเกิดยังทำได้เพียงฝากคนินทร์ไปให้ทั้งที่อยากเป็นคนมอบให้ด้วยตนเอง ไม่รู้คนขี้เหงานั้นจะเป็นยังไงบ้าง เหงาจนลืมเขาไปมีคนอื่นหรือยัง

แรงสั่นเบาๆ ของโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อเรียกสติกลับคืนมา นั่น...ตายยากจริงๆ พอบ่นคิดถึงหน่อยก็ส่งเมสเสจมาเชียว

P’ Wa:    ทำอะไรอยู่ ไปหาหมอมาเป็นไงบ้าง
AL:    เหมือนเดิม เบื่อๆ เลยมาเดินเล่น
P’ Wa:    ยังไม่กลับหอเหรอ
AL:    ไม่อ่ะ
ไม่มีการบ้าน ทำรายงานเสร็จแล้วด้วย
ค่อยกลับวันจันทร์ให้อัลเบิร์ตไปส่ง
P’ Wa:    I C
   ตอนนี้ที่นั่นใบไม้เปลี่ยนสีหรือยัง
AL:    เริ่มแล้วล่ะ
   อยากให้วามาอยู่ที่นี่ด้วยจัง
P’ Wa:    อดทนหน่อยน่า อีกแค่แป๊บเดียว
AL:    แป๊บเดียวน่ะอีกเท่าไหร่กัน กว่าจะเรียนจบ ตั้งสามปีนะ!
P’ Wa:    เชื่อพี่เหอะน่า แป๊บเดียวจริงๆ
AL:    ก็ได้
   แล้วนี่ไม่หลับไม่นอน จะเที่ยงคืนแล้วนะ หรือมีงาน
P’ Wa:    กำลังวิ่งอยู่
AL:    หือ?
   วาเนี่ยนะจะวิ่ง เพิ่งสำนึกได้เหรอว่าลงพุงแล้วควรได้เวลาฟิตสักทีน่ะ
P’ Wa:    บร๊ะ! ก่อนอัลจะมาอยู่กับพี่พี่ออกกำลังกายตลอดนะ
AL:    ฮ่าๆ
P’ Wa:    อัล
AL:    หือ?
P’ Wa:    ได้ยินเสียงอะไรไหม
AL:    เสียงอะไร

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์มองไปรอบๆ พยายามเงี่ยหูฟังเสียงที่ทิวากานต์บอก แต่นึกเอะใจขึ้นได้ว่าพวกเขาอยู่คนละซีกโลกกันจะไปได้ยินเหมือนกันได้ไง

AL:    จะบ้าเหรอวา ผมจะไปได้ยินได้ยังไงล่ะ อยู่คนละที่กันนะ
   ผีหลอกแล้ว
P’ Wa:    เฮ้ย ได้ยินจริงๆ นะ อัลลองฟังดีๆ ดิ
AL:    อย่ามาอำกันเสียให้ยาก
P’ Wa:    ไม่ได้อำ
อัลลองตั้งใจฟังดีๆ เหมือนจะเป็นเพลงนะ

หน้าขาวบิดเบ้ ไม่รู้คราวนี้ทิวากานต์หาอะไรมาแกล้งเขาอีกเหมือนเมื่อครั้งร่วมมือกับเจมส์เซอร์ไพรส์เขาตอนที่สอบเข้าอ็อกฟอร์ดได้ด้วยการให้เจมส์หิ้วพี่คริส ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ของหม่าม้ามาให้ในวันย้ายเข้าหอ กระนั้นอลันด์ยอมหลับตาเงี่ยหูฟังเสียงที่ทิวากานต์ว่า... นอกจากเสียงลมแล้วก็เหมือนจะได้ยินเสียงกีตาร์เบาๆ ลอยมาจากที่ไหนสักที่

When I wake up, well I know I'm gonna be
I'm gonna be the man who wakes up next to you
And when I go out, yeah I know I'm gonna be
I'm gonna be the man who goes along with you


P’ Wa:    ได้ยินยัง
AL:    ได้ยินแล้ว
P’ Wa:    บอกแล้ว
   
But I would walk 500 miles and I would walk 500 more

P’ Wa:    Just to be the man who walked 1000 miles to fall down at your door

“จับได้แล้ว”

“อ๊ะ!” อลันด์หวีดร้องเสียงหลงเมื่อถูกจู่โจมจากด้านหลัง หน้าแทบคว่ำล้มขมำไปกับพื้นหญ้า มือเล็กแตะที่หน้าอกตัวเองได้ยินเสียงหัวใจเต้นแรงผสานเสียงหัวเราะร่วนที่ไม่ได้ยินกับหูมานาน พอตั้งสติได้จึงหันไปแว้ดใส่คนที่ทำเอาเขาตกใจจนเกือบช็อคตาย มือเล็กทุบเข้าหัวไหล่ทิวากานต์ดังอั้กเรียกความสนใจจากคนที่เดินอยู่แถวนั้นได้หลายคน

“อู๊ย ตัวแค่นี้ทำไมแรงเยอะจัง”

“จะทุบให้นุ่มเลย เล่นบ้าอะไรเนี่ยวา หัวใจวายขึ้นมาจะว่ายังไง”

“หัวใจวายก็ทำ CPR ดิ ไงเซอร์ไพรส์ไหม นี่วิ่งมาเหนื่อยๆ เลยนะเนี่ย”

“เซอร์ไพรส์อะไรที่มันเข้าท่ากว่านี้หน่อยไหม นี่นึกว่าถูกผีหลอกแล้วนะ แล้วเดี๋ยวนะ... วามาอยู่ที่นี่ได้ไง”

“นั่งอันเดอร์กราวน์มาน่ะสิ” เขาตอบเหมือนที่อีกคนถามช่างไร้สาระ “เธอต่างหาก แทนที่จะกลับบ้านเลยมาเดินโต๋เต๋แถวนี้ คนเขาไปรอที่บ้านตั้งนาน นี่วิ่งมาจากบ้านอัลเลยนะ เหนื่อยชะมัด”

“ไม่ใช่สิ ผมหมายถึงทำไมวามาอยู่ที่อังกฤษได้ล่ะ ลาพักร้อนมาเหรอ”

ทิวากานต์ส่ายหัว เขาโอบแผ่นหลังเด็กตัวเท่าไหล่พาเดินออกไปหาที่เงียบๆ คุย ตาสีฟ้าลอบสังเกตคนข้างกายไม่หือไม่อือเหมือนยังมึนๆ ทิวากานต์ยังดูหล่อเหมือนเดิมแม้จะอายุสามสิบเอ็ดแล้ว เป็นวัยกำลังน่ากินอย่างที่เจ้าตัวเคยว่านั่นแหละ ผมก็กลับไปยาวเป็นทรงสิงโตยุ่งๆ เหมือนเดิม ไม่มีอะไรแปลกไปเลย...ทิวากานต์ของเขายังเหมือนเดิมทุกอย่าง

พวกเขาได้ม้านั่งว่างตัวหนึ่งใกล้ทะเลสาบเป็นที่นั่งคุยกัน คุณหมอหนุ่มอาศัยช่วงที่ไม่มีใครมองก้มลงหอมแก้มใสเร็วๆ พอให้หายคิดถึงก่อนดึงอลันด์เข้ามากอด

“คิดถึงจัง คิดถึงมากๆ ฟังแค่เสียงหัวใจเต้นที่อัดไว้ก็นอนไม่ค่อยหลับเลย”

“แต่นี่นอนกอดพี่คริสหลับสนิททุกคืนเลยนะ”

“เชอะ กอดคนเป็นๆ ดีกว่ากอดหมีนะ” เขาว่า “อัลจ๋า...อัล คิดถึงอัลที่สุด”

“วาเป็นเอามากนะเนี่ย” เด็กหนุ่มหัวเราะเก้อๆ เพิ่งเคยเจอทิวากานต์โหมดนี้ โหมดปัญญาอ่อนผิดหน้าตาโหดๆ

“คนแก่ก็งี้แหละ กลัวโดนทิ้งจะตายต้องขยันอ้อนหน่อยกลัวเด็กลืม”

“ลิมิเต็ดขนาดนี้ลืมได้ไง แล้ววาจะบอกได้หรือยังว่ามาอยู่แถวนี้ได้ไง”

“ไม่ได้อยู่แถวนี้หรอก ความจริงอยู่ถัดบ้านอัลไปสี่สถานีน่ะ อยู่มาจะสองเดือนแล้ว”

“หือ? หมายความว่าไง” เด็กหนุ่มเงยหน้ามองคนรักแทบจะในทันทีเมื่อได้ยินคำว่าสองเดือน ดวงตาสีอ่อนเต็มไปด้วยความสับสน ประหลาดใจ และน้อยใจหน่อยๆ ที่ทิวากานต์มาอยู่ลอนดอนตั้งนานแล้วเพิ่งจะโผล่มาหาเขา

เหมือนจะรู้ว่าคนรักกำลังงอนมือใหญ่จึงจับแก้มขาวไล้นิ้วโป้งเบาๆ เป็นการง้อ “ขอโทษที่ไม่ได้บอกก่อน อยากเซอร์ไพรส์น่ะ ก็แด๊ดดี้เราไม่มีข้อห้ามไม่ให้พี่ตามมาอยู่ที่นี่ด้วยสักหน่อย พี่ก็เลย...หาทุนมาเรียนต่อที่นี่ ความจริงที่ตอนนั้นไม่เอาทุนของอาจารย์อาคมก็เพราะรอทุนที่อังกฤษนี่แหละ แล้วพอดีติดเด็กก่อนเลยชะลอไป แต่ไหนๆ ตอนนี้ได้โอกาสพอดีเลยมาเรียนที่นี่ด้วยจนกว่าอัลจะจบกลับไทยพร้อมกัน”

“ฮ่ะ ฮ่า... จริงเหรอเนี่ย”

“จริงซี่ อัลอ่า...จะร้องไห้ทำไมกัน ไม่ดีใจเหรอ”

“ดีใจสิ ดีใจมากเลย ไม่คิดว่าวาจะทำขนาดนี้”

“พี่ก็ทำเพื่อตัวเองด้วยนั่นแหละ มีแต่ได้ทั้งนั้น”

“แด๊ดรู้เข้าต้องเต้นแน่ๆ เลย แต่ช่างเหอะ...ผมก็ดีใจที่วามาอยู่ใกล้ๆ ดีใจมากจริงๆ นะ” เขาพูดเสียงอู้อี้ก่อนซุกหน้าบนอกคนตัวโต “ขอบคุณนะวา ขอบคุณที่ทำให้ผมขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำให้ผมรู้ว่าผมเลือกไม่ผิด”

ความรักของพวกเขาเพิ่งจะเริ่มต้น แต่สิ่งที่ทั้งทิวากานต์และอลันด์สนใจไม่ใช่อนาคตว่ามันจะจบลงเมื่อไหร่หรือความรักครั้งนี้จะยืดยาวแค่ไหน สิ่งที่พวกเขาใส่ใจคือการทำปัจจุบันให้มีความสุขที่สุด บางครั้งเราอาจเลือกพลาด บางทีต้องตัดใจเลือกอีกอย่างเพื่อทิ้งอีกอย่าง แต่เมื่อตัดสินใจเลือกแล้วก็ต้องอยู่กับสิ่งที่เลือกให้ดีที่สุดไม่ให้กลับมาเสียใจในสิ่งที่ทิ้งไปได้ ซึ่งทั้งคู่ไม่เคยเสียใจเลยที่เลือกจะมีคนรักเป็นผู้ชายเหมือนกันถ้ามันจะทำให้ยิ้มและหัวใจพองโตได้ขนาดนี้

ไม่ว่าจะเป็นเพราะพรหมลิขิตบันดาลหรือเรื่องบังเอิญ แต่ต้องขอบคุณจริงๆ ที่ทำให้พวกเขาได้รู้จักกัน ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน และตกหลุมรักกันในที่สุด

“I told you I’m gonna be the man who takes care your heart forever and ever”

.
.
.



















เห็นหรือเปล่าคะว่ายังไม่มีคำว่า END (ฮา)
เพราะเดี๋ยวเราจะแถมตอนพิเศษที่เป็น real ending ให้อีกหนึ่งตอนค่ะ
แต่ไม่ว่ายังไงบทสรุปของคู่รักต่างวัยคู่นี้ก็มาถึงตอนจบแล้วจริงๆ

เราเริ่มเขียนเรื่องนี้ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2014 หลังจากไปตกหลุมรักเด็กอังกฤษคนนึงมา
บวกกับ passion ส่วนตัวที่อยากเขียนเรื่องราวที่ว่าด้วยคำสัญญา ความรักและความฝัน ว่าถ้าต้องเลือกจริงๆ จะเลือกอะไร
ผ่านไปหนึ่งปีพอดีเรื่องนี้ก็เขียนจบได้ฤกษ์ลงเล้า ใช้เวลาอีกห้าหกเดือนลงจนจบและเป็นฉบับสมบูรณ์

ต้องขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ทุกคอมเม้นต์ที่ทำให้เราหัวเราะและยิ้มได้
ขอบคุณคนอ่านที่ให้กำลังใจกันมาตลอด เราจำชื่อหน้าประจำได้เกือบทุกคนเลย(ทั้งที่ปกติจำชื่อใครไม่ค่อยได้)
ขอบคุณคุณหมอที่ให้ข้อมูลโดยไม่บ่นเวลาเราไปถามเอามาเขียนนิยาย
ขอบคุณคุณพี่สาวท่านหนึ่งที่ให้ยืมเคสโรคผนังหัวใจรั่วมาใส่น้องอัล
ขอบคุณตัวเองด้วยที่แต่งจบ นานๆ จะแต่จบสักเรื่อง ฮา

แล้วเจอกันตอนหน้าที่มีชื่อตอนว่า รัก ค่ะ

ปล. ติดตามรายละเอียดการรวมเล่มได้ที่เพจเฟซบุ๊คของเราหรือของทาง rainy night นะคะ ^^

สวัสดีค่ะ

 :mew1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- EPILOGUE [31.03.16] END
«ตอบ #626 เมื่อ31-03-2016 17:45:44 »

   o13:heaven :heaven

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- EPILOGUE [31.03.16] END
«ตอบ #627 เมื่อ31-03-2016 18:14:31 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- EPILOGUE [31.03.16] END
«ตอบ #628 เมื่อ31-03-2016 18:29:53 »

พี่หมอวา น่ารัก สุดๆ



หนูอัลต้องไปใหนไม่รอดแน่

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- EPILOGUE [31.03.16] END
«ตอบ #629 เมื่อ31-03-2016 19:46:47 »

 :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด