...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)  (อ่าน 742872 ครั้ง)

ออฟไลน์ praewp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
มานอนรออออ :katai5:

ออฟไลน์ ์ำNeFuji

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :call: :call: :call: วันนี้จะมาไหมน๊าาาา  :ling2:

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8

ประกาศสำคัญ


เนื่องจากได้รับข้อความจากทางบอร์ด เกี่ยวกับชื่อ “ดารารัศมี” ไปซ้ำกับพระนามของพระชายาในรัชกาลที่ ๕

ถึงปัจจุบันจะมีคนสามัญใช้ชื่อนี้อยู่บ้าง แต่เพื่อความสบายใจของทุกๆฝ่าย บัวจะขอเปลี่ยนการสะกดจาก “ดารารัศมี” เป็น “ดารารัษมี” แทนนะคะ บัวตามแก้ตอนเก่าๆหมดแล้ว(และแก้ทุกที่ที่เอาเรื่องนี้ลงค่ะ) และนับตั้งแต่ตอนนี้ไป ก็จะใช้การสะกดแบบใหม่แทนค่ะ


ขอบคุณทุกๆคนและขอบคุณแอดมินบอร์ดมากๆค่ะ
Dezair


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-11-2015 20:39:54 โดย Dezair »

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๙



   เริ่มงานวันจันทร์ด้วยสภาพที่หุ้นส่วนรายหนึ่งของสำนักงานหงุดหงิด ไม่มีพนักงานคนใดกล้าเข้าไปใกล้ หากจำเป็นต้องพบหน้า เรย์มอนด์ อดัมส์และหม่อมหลวงพงศ์ภราธรที่เข้าสำนักงานมาพร้อมหน้าพร้อมตาจะต้องถูกร้องขอให้ไปเป็นเพื่อนเสมอ



   “เป็นอย่างไรบ้าง เรย์” ราชนิกูลหนุ่มตั้งคำถามเมื่อเพื่อนชาวต่างชาติออกจากห้องทำงานส่วนตัวของจันทร์จ้าวมาพร้อมกับพนักงานคนหนึ่งที่หน้าซีดเผือด เรย์มอนด์ยิ้มระโหยให้คนถามก่อนจะหันไปตบไหล่พนักงานที่ออกมาพร้อมตนราวกับจะให้กำลังใจ



   “ไปพักดื่มกาแฟสักหน่อยเถอะ แล้วค่อยแก้เอกสารใหม่” เขาพูดอย่างนั้น พนักงานดวงซวยประจำวันนี้ก็เดินคอตกจากไป เรย์มอนด์จึงหันมาทางหม่อมหลวงพงศ์ภราธรที่ยืนแกร่วรออยู่ที่ต๊ะเลขานุการของจันทร์จ้าว



   “ไม่ดีเลยคุณพงศ์ จันทร์หงุดหงิดมาก เมื่อครู่นี้เอกสารผิดนิดเดียว พ่อตะเพิดอย่างกับโดนโกงบัญชี” เรย์มอนด์ผู้ซึ่งเข้าไปร่วมรับรู้เหตุการณ์เมื่อครู่เอ่ยปาก ดีว่าเมื่อครู่เขาเข้าไปด้วย จึงพอจะช่วยห้ามปรามจันทร์จ้าวได้บ้าง ไม่อย่างนั้นไม่อยากจะคิดว่พนักงานคนนั้นจะถูกดุมากแค่ไหน หากเข้าไปเพียงลำพัง



   ราชนิกูลหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วมุ่น เขาพอจะรู้ว่าเหตุใดเพื่อนรักของเขาจึงหงุดหงิดถึงเพียงนี้ แต่ก็ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะหงุดหงิดยาวนานข้ามวันข้ามคืนเช่นนี้เลย



   “เอาอย่างไรดีคุณพงศ์ ขืนทิ้งไว้อย่างนี้ พนักงานของเราคงร้องไห้กันทั้งสำนักงาน” เรย์มอนด์ถามด้วยความห่วงใย เหลือบตามองไปเบื้องหลังยังโต๊ะทำงานของพนักงานทั้งหลายซึ่งวันนี้ไม่ครึกครื้นอย่างเคยแล้วก็นึกกังวล



   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรถอนหายใจยาว เวลานี้มีเขาเพียงคนเดียวที่รู้ตื้นลึกหนาบางความโกรธเคืองของจันทร์จ้าว เพราะฉะนั้น เขาก็เป็นเพียงคนเดียวที่จะจัดการได้



   “คุณอยู่ที่นี่คอยดูแลแล้วกัน ผมจะออกไปทำธุระหน่อย”



   “รีบไปรีบกลับนะ ผมล่ะกลัวใจว่าอาจจะเละไปพร้อมกับพนักงานคนใดคนหนึ่งในไม่ช้านี้” ชายชาวต่างชาติพูดด้วยความหวาดหวั่น หม่อมหลวงพงศ์ภราธรได้แต่พยักหน้ารับ ทั้งๆที่ไม่ทราบสักนิดว่าการไปทำธุระของตนเองจะสามารถกู้อารมณ์เพื่อนรักได้หรือไม่


.....................................




   นายแพทย์หนุ่มเพิ่งจะพักจากการตรวจคนไข้ ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงตรง ยังมีคนไข้รอตรวจสำหรับช่วงบ่ายอีกมาก แต่เมื่อพยาบาลมาแจ้งเขาว่าให้พักรับประทานอาหารก่อน ชายหนุ่มจึงลุกออกจากห้องตรวจไปทั้งที่ยังไม่หิวเลยแม้แต่น้อย เขากำลังจะออกไปเดินเล่นที่สวนด้านข้างตึก แต่สายตาเหลือบไปเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินตรงมาหาเขาอย่างเร่งรีบเสียก่อน



   “สวัสดีครับ คุณหมอ” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรทักทายเขาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ภวัตจึงค้อมศีรษะตอบ



   “ตอนนี้พักเที่ยงใช่ไหมครับ คุณหมอพอจะมีเวลาให้ผมสักหน่อยไหม” แม้จะประหลาดใจที่ราชนิกูลแห่งวังฉัตรมาหาเขาถึงที่นี่ แต่ภวัตก็ยังพยักหน้ารับ



   “เชิญทางนี้ครับ” นายแพทย์หนุ่มก้าวเท้าเดินนำออกไปยังสวนด้านข้างตึกโรงพยาบาล สวนเขียวขจี ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และพุ่มไม้ มีเก้าอี้ยาววางเอาไว้ประปรายให้คนที่มาใช้บริการโรงพยาบาลได้ใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ แม้นี่จะเป็นเวลาเที่ยง แต่ความร่มรื่นของที่นี่ก็ทำให้อากาศไม่ร้อนอบอ้าวนัก



   “คุณพงศ์มาถึงนี่ มีอะไรหรือครับ” ภวัตเอ่ยปากถาม สังเกตจากสีหน้าของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรแล้ว อีกฝ่ายคงมีเรื่องร้อนใจพอดู



   “เมื่อวานนี้...ที่จันทร์พูดไม่ดีกับคุณหมอ ผมต้องขอโทษด้วย...” ภวัตเพียงส่ายหน้าไปมา รอยยิ้มจางน้อยๆที่มุมปากดูไม่อ่อนโยนเหมือนเคย ทว่ามันดูเหมือนปลงตกกับอะไรสักอย่าง



   “ช่างเถอะครับ ผมก็ทำให้เขาโกรธจริงๆ” เขาพูดแล้วหวนคิดถึงเรื่องเมื่อวานที่ยังสู้อุตส่าห์กลับไปหาจันทร์จ้าวเพื่อถามให้รู้เรื่อง และสิ่งที่เขาได้กลับมาคือคำพูดเด็ดขาดของฝ่ายนั้นที่ร้องขอ ‘คุณพิม’ จากเขา



   ... ‘ยกคุณพิมให้ผม!!’ … ยามคิดถึงประโยคนี้ หัวใจของภวัตสั่นวูบ อย่างไม่ทราบสาเหตุ



   “คุณหมอทราบหรือครับว่าจันทร์โกรธคุณหมอเรื่องอะไร”



   “ทราบครับ...เพราะคุณจันทร์ชอบคุณพิม”



   “หา?!!! คุณหมอว่าอะไรนะครับ?!!!” คนเป็นพี่ชายหม่อมหลวงพิมพัชราถึงกับร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ



   “ก็...บอกว่าคุณจันทร์ชอบคุณพิม คุณจันทร์เธอบอกกับผมเอง ว่า...” ภวัตพูดไม่ออก เขาไม่เข้าใจว่าตนเองเป็นอะไรไปแล้ว เหตุใดจึงต้องเจ็บหน่วงไปทั้งอกขนาดนี้ ถ้าจันทร์จ้าวคบหากับหม่อมหลวงพิมพัชรา มันก็น่าจะดี  ๒ คนนั้นเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก หม่อมหลวงพิมพัชราเป็นสตรีผู้เพียบพร้อม เก่งทั้งงานในบ้านและนอกบ้าน จันทร์จ้าวคงจะมีความสุขเป็นไหนๆ ดีกว่าอยู่กับเขาที่วันดีคืนดีก็มีความสุข วันร้ายคืนร้ายก็โกรธเขาหัวฟัดหัวเหวี่ยง...



   ภวัตชะงักไปชั่วอึดใจเมื่อตั้งสติรู้เท่าทันความคิดชั่ววูบของตนเองขึ้นมา



   ...ทำไมเขาต้องเอาตนเองไปเปรียบเทียบกับหม่อมหลวงพิมพัชราด้วย...



   “คุณหมอ...คุณหมอ...” เสียงเรียกทำให้ภวัตได้สติ เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ราวกับจะพยายามเก็บกลั้นความรู้สึกที่พวยพุ่งในหัวใจ



   “ครับ คุณพงศ์ เมื่อครู่ว่าอย่างไร?” นายแพทย์ภวัตพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด แต่มันก็ไม่ปกติอย่างที่สุดนับตั้งแต่เขาใจลอยไม่ทันฟังคำพูดของคนที่ยืนอยู่ข้างๆ



   “ผมบอกว่าคุณหมอเข้าใจผิด จันทร์ไม่ได้ชอบยายพิมหรอก คนที่ชอบยายพิมคือคุณอาทิตย์”



   “คุณจันทร์ไม่ได้ชอบคุณพิมหรือครับ?” ภวัตทำหน้าตาเลิกลั่กด้วยคาดไม่ถึง เมื่อวานจันทร์จ้าวยังตะคอกใส่เขาอยู่เลยว่าให้ยกพิมพัชราให้กับตน เขาก็คิดเอาเองว่าจันทร์จ้าวต้องการเช่นนั้นเพราะชอบเธอ



   “ใช่ คุณอาทิตย์ต่างหากที่ชอบ จันทร์ก็เลยกลัวว่าคุณหมอจะพาน้องชายมาทำให้พี่ตัวเองหมดโอกาสน่ะซี มันก็เลยโกรธ”



   “อ้อ...อย่างนี้นี่เอง...” แค่ได้รู้ว่าจันทร์จ้าวไม่ได้รักชอบน้องสาวของหม่อมหลวงพงศ์ภราธร ก็ราวกับยกภูเขาออกจากอก ราชนิกูลหนุ่มเห็นสีหน้าโล่งอกโล่งใจของอีกฝ่ายแล้วก็พลันชะงัก



   ...เมื่อครู่นี้ยังดูอมทุกข์ แต่พอเขาบอกว่าจันทร์จ้าวไม่ได้ชอบ เหตุใดสีหน้าของหมอภวัตจึงเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน...จะว่าโล่งอกเพราะจันทร์จ้าวไม่ได้ได้มีใจให้แก่น้องสาวของเขาก็ไม่น่าใช่ เพราะเขาก็บอกอยู่แหม่บๆว่าคนที่มีใจคืออาทิตย์ หมอภวัตควรจะโล่งใจมากกว่า หากเขาพูดว่าไม่มีใครชอบน้องสาวของเขาทั้งนั้น เป็นทางสะดวกให้แก่นายเภา น้องชายคุณหมอเพียงผู้เดียว...



   “แล้วเวลานี้คุณจันทร์อยู่ที่ไหนหรือครับ” คำถามของหมอภวัตทำเอาหม่อมหลวงพงศ์ภราธรตื่นจากภวังค์ แล้วจึงรู้ตัวว่าตนคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องเอาเสียเลย หมอภวัตคงจะโล่งอกเพราะอีกฝ่ายที่ชอบน้องสาวของเขาไม่ใช่จันท์จ้าวกระมัง



   “ที่สำนักงานน่ะซีครับ โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงจนไม่มีพนักงานคนไหนเข้าหน้าติดสักคนเดียว นี่ผมต้องให้เรย์เฝ้าสำนักงานเอาไว้ แล้วมาหาคุณหมอนี่ล่ะ คุณหมอพอจะมีวิธีที่จะ...เอ่อ...ทำให้จันทร์พอใจบ้างไหม ผมรู้หรอก ว่าผมตามใจเพื่อนผมมากเกินไป แต่...ผมก็ไม่เคยขัดใจจันทร์เสียที” พอหม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูดอย่างนี้ คนที่เมื่อครู่ดูจะโล่งใจไปเปลาะก็กลับมามีสีหน้าลำบากใจอีกหน ฝั่งหนึ่งก็จันทร์จ้าวที่กำลังโกรธเขาอย่างบ้าคลั่ง อีกฝั่งก็น้องชายแท้ๆ ที่เขาอุตส่าห์พาเข้าไปฝากฝังกับคุณชายฉัตรด้วยตัวเอง



   “ผม...ไม่ทราบจะทำอย่างไรดี นายเภาเขาก็...ชอบน้องสาวของคุณพงศ์...” วันนั้นที่ภวัตพาน้องชายไปพบหม่อมราชวงศ์ฉัตร เภาไม่ยอมพูดเรื่องความรู้สึกของเขาที่มีต่อหญิงสาวเพียงคนเดียวของวังฉัตร แต่ชายหนุ่มก็พอจะดูออกว่าคุณชายฉัตรเข้าใจว่าเขาพาน้องชายเข้าพบเนื่องมาจากสาเหตุใด



   “น้องชายคุณหมอชอบยายพิมจริงหรือ ผมไม่ได้จะดูถูก แต่ว่า...ทั้งคุณหมอและจันทร์ก็เป็นคนที่ผมสนิท ผมไม่อยากให้ผิดใจกันเพราะเรื่องน้องสาวของผมเลย” คนกลางอย่างหม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็อยู่ในสภาวะไม่ต่างจากหมอภวัตเท่าไร กลืนไม่เข้าคายไม่ออกซ้ำยังต้องเจอมรสุมอารมณ์ของเพื่อนรักอีกต่างหาก



   “ผมพูดตามตรงนะครับคุณพงศ์ น้องชายผมเขามักจะเล่นกับเพื่อนผู้หญิงไปทั่ว แต่...ผมก็ไม่เคยเห็นเขาจะปักใจกับใครขนาดนี้ ปกติเขาไม่เข้าหาผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ แต่วันนั้นเขาก็ยินดีให้ผมพาไปพบคุณชาย ถึงเขาจะไม่ได้พูดเรื่องคุณพิมต่อหน้าคุณชายก็ตาม” เป็นว่าน้องชายของภวัตก็หมายมั่นปั้นมือกับหม่อมหลวงพิมพัชรา ส่วนจันทร์จ้าวก็คงไม่รามือเช่นกัน ราชนิกูลหนุ่มถึงกับนิ่วหน้าแล้วพึมพำ



   “วันเสาร์นี้คงแย่แน่ วังจะแตกเสียไหมล่ะหนอ”



   “วันเสาร์นี้เป็นงานเลี้ยงต้อนรับคุณจันทร์ซีนะครับ”



   “ใช่ คุณพ่อผมเชิญคุณหมอกับน้องชายคุณหมอแล้วใช่ไหม”



   “ครับ นายเภาก็ไปบอกคุณพ่อคุณแม่ของผมแล้วด้วย...” พร้อมหน้าพร้อมตาเช่นนี้ หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเห็นภายภาคหน้าว่าหากจันทร์จ้าวสำแดงอิทธิ์ฤทธิ์ใดๆเข้า ๓ ตระกูลคงมองหน้าไม่ติดไปอีกนาน



   “จะทำอย่างไรดีล่ะทีนี้...” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรได้แต่คราง ตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะมาขอให้ภวัตไปขอโทษจันทร์จ้าวเสีย รับปากไปก็ได้ว่าจะให้น้องชายเลิกชอบน้องสาวของเขา ให้จันทร์จ้าวหายโกรธหายเคือง แต่เมื่อฝ่ายนายแพทย์หนุ่มยืนยันว่าน้องชายของตนก็มีใจรักชอบน้องสาวของเขาจริง ราชนิกูลหนุ่มก็ไม่รู้ว่าจะทำเช่นไร



   “คุณพงศ์พาคุณจันทร์ไปตีเทนนิสวันนี้ได้ไหม” จู่ๆหมอภวัตก็เอ่ยปากขึ้นมา หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันมองด้วยความหวาดหวั่นราวกับจะบอกว่าแผนการนี้ของนายแพทย์หนุ่มช่างไม่ฉลาดเอาเสียเลยที่จะให้เขาหลอกเสืออารมณ์ร้ายที่กำลังโมโหจัดอย่างจันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์



   “คุณหมอจะให้ผมหลอกจันทร์ไปพบคุณหมอหรือ?!”



   “ผมไม่ได้จะให้หลอก แค่ให้คุณพงศ์พาเพื่อนของคุณพงศ์ไปสโมสรเท่านั้น”



   “แล้ว...แล้วคุณหมอจะทำอะไร”



   “เขาคงไม่ยอมพบหน้าผมที่อื่น หรือถึงพบก็คงอาละวาดตะพึดตะพือจนคุยกันไม่รู้เรื่อง เทนนิสเป็นทางเดียวที่จะทำให้เขาได้ออกแรงระบายอารมณ์เสียก่อน แล้วหลังจากนั้น...ผมจะคุยกับคุณจันทร์เอง”



คำว่า ‘คุยเอง’ ทำเอาหม่อมหลวงหนุ่มได้แต่ทำหน้าลำบากใจ หากจันทร์จ้าวรู้ว่าเขานัดให้ไปพบกับหมอภวัต มีหวังเขาคงโดนเพื่อนรักรายนั้นฆ่าเอาแน่



   “คุณพงศ์พาเขาไปให้ได้แล้วกัน ผมจะรีบออกจากที่นี่ทันทีที่ออกเวร...สนามเทนนิสน่าจะเป็นที่เดียวที่ผมจะคุยกับเขาได้”



หรือหากคุยไม่ได้ ภวัตก็ยินดีจะให้อีกฝ่ายหวดแรกเก็ตใส่เขาแรงๆ เอาให้หายโมโหเสียก่อนแล้วจะจับมานั่งคุยดีๆ ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขา ๒ คน ไม่ควรเอาเข้าไปเกี่ยวข้องกับ อาทิตย์ เภา และหม่อมหลวงพิมพัชราเลย



...............................



   ในขณะที่นายแพทย์ภวัตนัดแนะให้หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพาจันทร์จ้าวไปที่สนามเทนนิส วันเดียวกันนี้ดารารัษมีก็นัดแนะอาทิตย์ให้มารับตนที่โรงเรียนสตรีกัลยาณีเช่นกัน แต่หากอาทิตย์มาแล้วรับหล่อนกลับไปโดยง่าย ก็คงเป็นการเสียเวลาพอดู จันทร์จ้าวจึงคิดแผนการนี้ขึ้นมาเฉพาะและฝากฝังให้หล่อนจัดการ



   “คุณดารา เรียบร้อยหรือยังคะ” เสียงหวานของเพื่อนสาวราชนิกูลดังขึ้นที่หน้าประตูห้องพักครูภาษาไทย ดารารัษมีเงยหน้ามองแล้วยิ้มอ่อนระโหย



   “ยังเลยค่ะ คุณพิม ตายจริง! วันนี้ดาราคงกลับพร้อมคุณพิมไม่ได้ เพราะว่าวานพี่อาทิตย์ให้มารับ...” หล่อนพูดแล้วทำเป็นมองลงไปที่นอกหน้าต่าง เห็นรถโฟล์คสีดำคุ้นตาขับเข้ามาจอดที่หน้าตึกพอดี ครูสาวผู้รับหน้าที่สอนภาษาไทยจึงทำเป็นบ่นพึมพำกับตนเอง “...ตายแล้ว พี่อาทิตย์มาแล้ว ดารายังทำงานไม่เสร็จเลย” จากนั้นดารารัษมีจึงเงยหน้ามองหม่อมหลวงพิมพัชรา



   “ดาราวานคุณพิม รบกวนช่วยลงไปบอกพี่อาทิตย์ทีว่าให้รอสักหน่อย ดาราขอทำงานอีกครู่หนึ่ง เอ่อ...แล้ว...ถ้าหากว่าคุณพิมไม่รีบกลับ ดาราจะขอให้คุณพิมช่วยนั่งคุยเป็นเพื่อนพี่อาทิตย์จนกว่าดาราจะลงไปได้ไหมคะ พี่อาทิตย์เป็นคนขี้อาย ให้เธอยืนโด่เด่อยู่กลางโรงเรียนสตรีก็เห็นจะสงสาร ถ้าเป็นพี่จันทร์ ดาราไม่วานคุณพิมแน่ค่ะ”


ประโยคท้ายหล่อนกล่าวติดตลกเมื่อเห็นสีหน้าของราชนิกูลสาวที่ดูจะตกประหม่าอย่างไรชอบกลเมื่อหล่อนวานให้ไปนั่งคุยเป็นเพื่อนอาทิตย์ แต่พอหล่อนเปรียบเทียบกับจันทร์จ้าว ก็ดูเหมือนหม่อมหลวงพิมพัชราจะเข้าใจเป็นอันดี



   “ได้ค่ะ พิมจะลงไปบอกคุณอาทิตย์ให้”



   “ขอบคุณค่ะ ฝากด้วยนะคะคุณพิม” ดารารัษมีมองจนเพื่อนครูลับสายตา แล้วจึงเอนกายพิงพนักอย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะทำเป็นหยิบจับหนังสือ ๒-๓ เล่มขึ้นมาเปิดดูอย่างไม่รีบร้อนแต่ประการใด


..............................................




   อาทิตย์ยืนรออยู่ที่ข้างรถโฟล์คของตนเอง เฝ้ารอคอยน้องสาวที่เมื่อเช้าขอร้องให้เขาช่วยมารับ ด้วยเหตุผลที่ว่าวันนี้ดารารัษมีจะนำหนังสือกลับบ้านเป็นจำนวนมาก หากนั่งสามล้ออย่างทุกวันก็จะไม่สะดวก หรือหากขอติดรถเพื่อนครูที่มีรถมารับอย่างหม่อมหลวงพิมพัชราก็เกรงใจ อาทิตย์เห็นว่าตนไม่ลำบากอะไร จึงรับอาสา เขาออกจากกรมทันทีที่เลิกงานเพราะเกรงว่าน้องสาวจะคอย แต่กลายเป็นว่าพอมาถึง ดารารัษมีก็ยังไม่ลงมา ครั้นจะให้เขาเดินขึ้นตึกของโรงเรียนหญิงล้วนไปตาม ก็คิดว่าคงไม่เหมาะ นายทหารหนุ่มจึงทำได้เพียงยืนรออยู่ที่ข้างรถนั่นเอง



   “สวัสดีค่ะ คุณอาทิตย์”



เสียงคุ้นหูดังขึ้นทำให้อาทิตย์ต้องหันมอง แล้วพลันนั้นเขาก็ถึงกับนิ่งงันเมื่อพบว่าเจ้าของเสียงคือสตรีเพียงผู้เดียวที่อยู่ในใจชายหนุ่มอย่างเขา อาทิตย์ยิ้มจางตอบกลับไปเมื่อหล่อนยกมือไหว้เขาตามอาวุโส



   “คุณดาราเธอยังทำงานไม่เสร็จค่ะ เลยวานพิมลงมาบอก”



   “อ้อ ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มในเครื่องแบบนายทหารตอบแล้วจากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็พากันเงียบลงอีก หม่อมหลวงพิมพัชราลอบมองดวงหน้าของชายหนุ่มที่ดูจะไม่ยอมสบตาหล่อนเลยแล้วก็พลันนึกถึงเรื่องที่จันทร์จ้าวพูดกับหล่อนเมื่อวานที่เขาพาอาทิตย์ไปวังฉัตร



   ...อาทิตย์อาจจะกำลังรักใครอยู่ และใครคนนั้นอาจจะสูงส่งเสียจนเขาอาจจะตรอมใจ...



   “คุณอาทิตย์...เชิญนั่งที่ซุ้มนั้นก่อนดีไหมคะ ไม่ทราบว่าคุณดาราจะเสร็จงานสักกี่โมง”



   “ครับ” เขารับคำสั้น แล้วหมุนตัวเดินไปนั่งที่ซุ้มม้าหินใกล้ตึก ราชนิกูลสาวมองตามด้วยความห่วงใย แต่หากหล่อนยังคงเก็บความห่วงใยเอาไว้กับอก แล้ววันหนึ่งเขาจากไปโดยที่หล่อนไม่ทำอะไร วันนั้นหล่อนคงเสียใจยิ่งกว่าเห็นเขาเคียงคู่กับใครเสียอีก



   หม่อมหลวงพิมพัชราก้าวเดินตามแล้วทรุดตัวลงนั่งร่วมโต๊ะ อาทิตย์ออกจะประหม่าเล็กน้อย ที่จู่ๆสตรีผู้นี้ก็นั่งร่วมโต๊ะกับเขา



   “คุณอาทิตย์คะ...หากพิมพูดอะไรละลาบละล้วง พิมขอโทษนะคะ” หล่อนเอ่ย แล้วจับจ้องดวงหน้าคมของชายหนุ่ม อาทิตย์เองก็มองตอบดวงตาหวานซึ้งที่บัดนี้เต็มไปด้วยความจริงจังราวกับราชนิกูลสาวผู้บอบบางกลายเป็นหินผา “...หากคุณอาทิตย์มีเรื่องไม่สบายใจ และไม่ทราบว่าจะปรึกษาใคร พิมขอให้คุณอาทิตย์มองพิมเป็นเพื่อนเป็นน้องที่พอจะปรับทุกข์กันได้ อย่าเก็บเรื่องไม่สบายใจไว้แต่เพียงผู้เดียวเลยนะคะ”



   อาทิตย์ได้แต่มองสบดวงตาหวานคู่นั้นนิ่ง แล้วเหมือนถูกดลใจด้วยเวทมนต์ให้ตั้งคำถามกลับไป



   “คุณพิม...คิดอย่างไรกับผู้ชายที่ต่ำต้อยกว่าหรือครับ”



   คำถามของเขาทำให้หม่อมหลวงพิมพัชรานึกถึงเรื่องที่จันทร์จ้าวพูดขึ้นมาอีกหน อาทิตย์แอบรักใครบางคนอยู่ และเป็นใครบางคนที่สูงศักดิ์ราวดาวเดือน



   “ต่ำต้อยด้วยอะไรหรือคะ หากต่ำต้อยด้วยชาติกำเนิด พิมไม่คิดว่าเป็นเรื่องเสียหาย เพราะเราเลือกเกิดไม่ได้ หากต่ำต้อยด้วยการศึกษา พิมจะแนะนำให้เขาเรียนหนังสือให้มาก หรือมิเช่นนั้น พิมก็จะสอนหนังสือเขาเอง หากต่ำต้อยด้วยยศฐาบรรดาศักดิ์ พิมจะเป็นกำลังใจให้เขาตั้งใจทำงาน ไม่มีใครได้ยศศักดิ์มาโดยที่ไม่ทำมาหากิน แต่หากต่ำต้อยด้วยศีลธรรม พิมคงทำได้เพียงภาวนาให้เขาพบเห็นทางที่ถูกที่ควรแล้วปรับปรุงตัวเสียใหม่ก่อนจะสายเกินไป”



อาทิตย์ไม่คาดคิดว่าได้ยินคำพูดเหล่านี้จากสตรีเบื้องหน้า หม่อมหลวงพิมพัชราคือสตรีราชนิกูลผู้ถูกเลี้ยงดูอย่างประคบประหงมและอยู่ในกรอบจารีตประเพณี แต่กระนั้น เธอก็เข้มแข็งและแข็งแกร่งเสียจนชายชาตรีอย่างเขายังอยากจะศิโรราบแทบเท้าเธอ
 


   ...หัวใจของเขาช่างคัดช่างเลือกเสียจริง ถึงได้มอบใจให้กับสตรีผู้นี้...



   “หมายความว่า...หากมีชายใดมอบใจรักให้คุณพิม แม้เขาจะเป็นเพียงปุถุชน คุณพิมก็จะไม่รังเกียจอย่างนั้นหรือครับ”



   แม้หม่อมหลวงพิมพัชราจะไม่จัดเจนเรื่องรักใคร่ แต่กระนั้นหล่อนก็ไม่เบาปัญญาตีความหมายของคำถามนี้ไม่ออก หากอาทิตย์รักหญิงอื่น เหตุใดเขาจึงตั้งคำถามเจาะจงมาที่ตัวหล่อนเล่า? ไหนจะที่จันทร์จ้าวพูดอีก ว่าเขาน่าจะผูกใจกับใครสักคนที่วังฉัตร แต่วังฉัตรไม่มีเจ้านายผู้หญิงคนอื่นนอกจากหล่อน หากเขาจะผูกใจกับพวกคนรับใช้หญิง ก็เห็นจะไม่ตรงกับคำถามของเขาเสียเลย แต่ครั้นหล่อนจะตอบโดยเจาะจงมาที่ตนเอง ก็ไม่ใช่เรื่องควร



   “พิมคิดว่า...ไม่ว่าจะหญิงใด หากมีใครสักคนมอบใจรักและภักดี เธอไม่มีทางรังเกียจหัวใจของคนผู้นั้นหรอกค่ะ” ดวงตาคมของนายทหารหนุ่มมองสบเข้าไปในดวงตาหวานของหญิงสาวราชนิกูลอย่างซาบซึ้ง รอบกายคือความเงียบสงบ ทว่าเป็นความเงียบสงบที่ราวกับกำลังมีผีเสื้อขยับปีกบินนับร้อย มันทำให้หัวใจพลิ้วไหวอย่างเงียบๆ



    อาทิตย์จับจ้องดวงหน้าของสตรีที่นั่งร่วมโต๊ะด้วยหัวใจอิ่มเอิบ ราวกับหัวใจที่เคยหดหายเพราะรับรู้ว่าผู้ใหญ่หมายตาให้จันทร์จ้าวครองคู่กับหม่อมหลวงพิมพัชรากลับมามีความรู้สึกอีกหน



   “ขอบคุณครับคุณพิม...” เขาเอ่ยด้วยความรู้สึกเต็มตื้น ไม่มีคำพูดใดจากหม่อมหลวงพิมพัชรา ทว่าพวกเขาต่างเข้าอกเข้าใจกันดี ความรู้สึกบางอย่างที่ซุกซ่อนเอาไว้ลึกสุดหัวใจกำลังเกี่ยวสัมพันธ์กันและกันผ่านทางความเงียบสงบรอบกายและดวงตา ๒ คู่ที่มองสบกันราวกับสื่อสารด้วยหัวใจ



   ดารารัษมีแอบมองจากระเบียงชั้น ๒ ของอาคารเรียน แล้วได้แต่อมยิ้มกับตนเองอย่างมีความสุข



....................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-11-2015 20:36:16 โดย Dezair »

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8


นายวินิตขมวดคิ้วมุ่นขณะมองชายหนุ่ม ๒ คนที่กำลังตีโต้ใส่กันในคอร์ดเทนนิส แล้วก็ขยับเข้าไปยืนใกล้ชายชาวต่างชาติที่เขาสนิทสนมเป็นอันดี



   “วันนี้คุณจันทร์โมโหอะไรมาหรือมิสเตอร์อดัมส์” เรย์มอนด์ อดัมส์ผู้ติดสอยห้อยตามมาที่สโมสรเทนนิสแห่งนี้ด้วยถึงกับยิ้มจืดด้วยเพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าเพื่อนร่างโปร่งชาวไทยของเขาไปหงุดหงิดอะไรมา ตั้งแต่เช้าจนกระทั่งตอนนี้ ยังไม่ปรากฏรอยยิ้มให้ใครชมเลยสักครั้ง



   “ผมก็ไม่รู้...”



   “แต่อีหร็อบนี้คุณพงศ์เธอท่าทางจะแย่เอานา คุณจันทร์เล่นหวดใส่ไม่ยั้งเลย” นายวินิตวิเคราะห์การตีลูกของจันทร์จ้าวแล้วเขาก็พบว่านอกจากแรงมหาศาลที่หวดลงมายังมีอารมณ์โมโหผสมมาด้วย ในขณะที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรต้องคอยรับลูกบ้าระห่ำของเพื่อนรักโดยไม่ปริปากบ่นสักคำ



   “นั่นซี...ผมว่าผมลงไปช่วยคุณพงศ์ดีกว่า” เรย์มอนด์ตัดสินใจคว้าแรกเก็ตของตนเองไปยืนที่ข้างสนามกำลังจะตะโกนขอเปลี่ยนตัวกับราชนิกูลแห่งวังฉัตร ทว่าเสียงของนายวินิตดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา



   “คุณหมอภวัตมา!!” และเสียงนั้นไม่ใช่แค่เรย์มอนด์เท่านั้นที่ได้ยิน แต่คนในคอร์ดก็ได้ยินด้วย จันทร์จ้าวตีลูกทิ้งออกนอกสนามทันที แล้วเดินดุ่มๆออกจากคอร์ด



   “เฮ้! จันทร์! เลิกเล่นแล้วหรือ” ชาวต่างชาติผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวร้องถามเมื่อจันทร์จ้าวเดินไปที่เก้าอี้ยาวข้างคอร์ดแล้วโยนแรกเก็ตลงบนเก้าอี้ก่อนจะคว้าขวดน้ำมาดื่ม



   “เลิกแล้ว! จะกลับ!!”



   “จันทร์...อย่าเพิ่งกลับเลย คุณหมอเพิ่งมาเอง...” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรรีบตามมารั้ง และแทบจะในทันทีที่จันทร์จ้าวตวัดสายตาขุ่นๆไปมองเพื่อนรัก



   “คุณพงศ์นัดมันมาเจอผมหรือ?!!!”



   “ป...เปล่า...” พอถูกถามตวาด หม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็ได้แต่ละล่ำละลั่ก



   “ถ้าคุณพงศ์ไม่นัด แล้วมันจะมาได้ยังไร?!!!” จันทร์จ้าวกระแทกเสียงถามด้วยความหงุดหงิด



   “อย่าโทษคุณพงศ์เลย ผมขอให้คุณพงศ์นัดคุณเอง” หมอภวัตเอ่ยปากขึ้น ดวงตากลมใหญ่เหลือบไปมองคนพูดด้วยความขุ่นเคือง ก่อนจะคว้าแรกเก็ตแล้วหันไปพูดกับเพื่อนรักราวกับนายแพทย์หนุ่มที่ยืนอยู่ตรงนี้ไม่มีตัวตน



   “ผมจะกลับ! ถ้าจะอยู่กันต่อก็ตามสบาย!!! เฮ่ย!!!” กำลังจะก้าวเท้าเดินออกจากสนามเทนนิส แต่แขนถูกคว้าเอาไว้เสียก่อน จันทร์จ้าวร้องลั่นแล้วหันไปจ้องหน้าคนคว้าแขนเขาอย่างเอาเรื่อง ทว่าหมอภวัตยังคงมีท่าทีนิ่งสงบ



   “ไปตีเทนนิสกับผมก่อน...”



คำพูดของนายแพทย์หนุ่มทำเอาเรย์มอนด์อยากจะแนะนำให้พูดใหม่อีกหน เมื่อครู่นี้จันทร์จ้าวหวดเอาหวดเอา ถ้าไม่ทั้งเก่งทั้งอึด มีหวังคงถูกหวดใส่หัวเป็นสิบลูกไปแล้ว



   จันทร์จ้าวจ้องหน้าคนที่ยังคงจับแขนเขาไว้ราวกับจะไม่ยอมปล่อย ลองว่าถ้าดื้อดึง ภวัตคงทั้งฉุดทั้งกระชากเขาลงคอร์ดให้ได้อับอายกันทั้งสโมสร ยิ่งไปกว่านั้น การได้ตีเทนนิสใส่หัวใครสักคนในเวลาที่กำลังโมโหเช่นนี้ก็คงไม่มีหัวของใครจะน่าสะใจไปกว่าหัวของหมอภวัตอีกแล้ว!!



   “แล้วหมอจะรู้! ว่าหมอไม่ควรมาเจอผมที่นี่เวลาแบบนี้!!!!!” ร่างโปร่งพูดเสียงแข็งแล้วสะบัดแขนออกจากการกอบกุมก่อนจะเดินลงไปรอที่คอร์ด หมอภวัตมองตาม เขารู้ดีว่าเกมนี้จะเป็นเกมที่จันทร์จ้าวพยศที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเล่นด้วยกันมา



   “โชคดีนะหมอ” ชายหนุ่มได้ยินคำอวยพรเบาๆจากหม่อมหลวงพงศ์ภราธร ก่อนที่เขาจะเดินลงไปที่คอร์ดแล้วเริ่มตีเทนนิสกับจันทร์จ้าว



....................................



   กว่าดารารัษมีจะลงจากอาคารเรียน ก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว หม่อมหลวงพิมพัชราอยู่รอเป็นเพื่อนอาทิตย์จนกระทั่งหล่อนลงมา เมื่อนั้นราชนิกูลสาวจึงร่ำลาและขึ้นรถของวังฉัตรจากไป พ้นหลังรถของวังฉัตร ๒ พี่น้องรักษพิพัฒน์ก็ขับรถออกจากโรงเรียนสตรีกัลยาณีกลับมาที่บ้านเรือนไทยเช่นกัน ตอนที่รถจอดสนิทดีแล้ว สายตาของอาทิตย์ก็เหลือบไปเห็นต้นพุดซ้อนในกระถางที่วางอยู่ตีนบันไดขึ้นเรือน แล้วก็พลันนึกถึงใครบางคน



   “ดารา...” ผู้เป็นพี่เรียกเอาไว้ เมื่อดารารัษมีกำลังจะเปิดประตูรถลง



   “เอ่อ...ดารา...อยากได้ดอกไม้ไปปักแจกันที่โต๊ะทำงานบ้างไหม”



   “ดอกไม้ปักแจกันหรือคะ?”



   “ใช่...เอ่อ...พอดี...พี่ได้พุดซ้อนมาจากคุณชายฉัตรต้นหนึ่ง ตอนนี้ยังไม่ออกดอก แต่คิดว่าอีกไม่นานดอกคงงาม แล้ว...แล้วก็มีพวกกุหลาบ ที่ดอกกำลังตูม หากว่า...เอ่อ...ดาราอยากจะได้ไปปักแจกันที่โต๊ะทำงาน พี่จะได้ตัดให้ เอ่อ...แล้ว...แล้วเผื่อดาราจะเอาไปฝากเพื่อนๆครูที่โรงเรียนด้วย...” วาจาของเขาช่างวกวนไปมาเสียเหลือเกิน ดารารัษมีมองท่าทางตกประหม่าของพี่ชายคนใหญ่แล้วก็นึกไปถึงจันทร์จ้าว พี่ชายคนรองของหล่อนนั้น หากหมายจะมอบดอกไม้แทนใจให้ใครสักคน คงไม่มีทางใช้วิธีอ้อมค้อม พูดจาวกไปวนมาเช่นนี้แน่



   “จะให้ดารานำดอกไม้ของพี่อาทิตย์ไปแจกเพื่อนๆครูของดาราอย่างนั้นใช่ไหมคะ” หล่อนถามตรง อาทิตย์ยิ่งรู้สึกเก้อ อกอุ่นซ่านจนรู้สึกเหมือนหัวใจสูบฉีดเลือดไปแทบทั้งสรรพางค์



   “เอ่อ...ก็...ก็...ปล่อยเอาไว้กับต้น มันก็คงจะร่วงเสียหมด สู้ตัดไปแจกน่าจะดี...”



   “แต่เพื่อนครูของดารามีหลายคนนะคะ”



   “...เอ่อ...ก็...”



   “หรือให้คนใดคนหนึ่งก็พอคะ?”



   “ก็...แล้วแต่ดาราเถอะ...”



   “ถ้าอย่างนั้นดาราให้คุณพิมคนเดียวได้ไหมคะ?”



   “ก็...ก็ได้...แล้ว...แล้วคุณพิม...ชอบดอกไม้อะไรล่ะ”



   “เอ?...ดาราเคยเห็นคุณพิมนำพุดซ้อนมารวมเป็นกำปักแจกันอยู่นะคะ” ดารารัษมีโป้ปดต่อหน้า ด้วยเพราะหล่อนและหม่อมหลวงพิมพัชราอยู่กันคนละตึก ย่อมไม่เคยเห็นอีกฝ่ายปักดอกไม้ในแจกันอยู่แล้ว ซ้ำหล่อนก็ไม่ใช่คนสนอกสนใจเรื่องดอกไม้เสียด้วย แต่เพราะจำได้ว่าเมื่อวานบิดาถามเรื่องพุดซ้อนที่อาทิตย์นำกลับมาจากวังฉัตร พี่ชายคนใหญ่ของหล่อนยอมรับตามตรงว่าคุณชายฉัตรฝากให้ช่วยดูแล หนำซ้ำยังดูมีความสุขกว่าตอนก่อนจะไปวังฉัตรมากนัก ยามนั้นดารารัษมีนึกถึงจันทร์จ้าวขึ้นมา เพราะหากไม่ใช่เขาพาอาทิตย์เข้าวังฉัตร หล่อนก็คงไม่เห็นพี่ชายของหล่อนคนนี้มีความสุขถึงเพียงนี้



   “พุดซ้อนตอนนี้ยังไม่มีดอก ไว้มีดอกพี่จะตัดให้ เอ่อ...แล้ว...คุณพิมไม่มีดอกไม้อื่นที่ชอบบ้างหรือ”



   “คุณพิมเธอชอบหลายอย่างค่ะ เคยเห็นเธอพูดว่ากุหลาบก็ชอบ” ประโยคนี้หล่อนก็โกหกอีก แต่ถ้าเป็นการโกหกแล้วพี่ชายของหล่อนมีกำลังใจในการไขว่คว้าราชนิกูลสาวผู้นั้นมาได้ หล่อนก็ยินดี



   “ถ้าอย่างนั้น...พรุ่งนี้...ดาราอย่าเพิ่งรีบไปโรงเรียน พี่จะตัดดอกกุหลาบฝากไปให้...” เขาเคยคิดจะตัดใจเมื่อรับรู้ว่าบิดามารดาต้องการจับคู่น้องชายกับราชนิกูลสาว แต่เมื่อได้ยินจากปากของจันทร์จ้าวว่าเจ้าตัวไม่คิดจะแต่งงานกับหม่อมหลวงพิมพัชรา และได้ยินจากปากของสตรีผู้นั้นว่าเธอไม่เคยกังวลเรื่องฐานันดรแต่ประการใด หัวใจที่ซูบเซียวของชายหนุ่มนายทหารก็เหมือนจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกหน ยิ่งเมื่อได้พบหน้าหญิงสาวผู้เป็นที่รัก ได้พูดคุยกับเธอ ได้สบตา ได้มองหน้า ก็เหมือนกำลังใจที่มีจะเพิ่มพูนขึ้นมาอีกโข



   ดารารัษมียิ้มกว้างอย่างดีใจที่อย่างน้อยพี่ชายของหล่อนก็ริเริ่มจะทำอะไรบ้างแล้ว น่ายินดีจนอยากบอกเล่าให้จันทร์จ้าวรู้เสียจริง



   “ดาราจะถือดอกไม้ไปให้ค่ะ แต่ต้องมีค่าจ้าง”



   “ค่าจ้าง?” อาทิตย์ย้อนถามอย่างงุนงง



   “พรุ่งนี้ตอนเย็นไปรับดาราพาไปดูภาพยนตร์ได้ไหมคะ” ชายหนุ่มยิ้มรับด้วยไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ หากน้องขอร้อง มีหรือพี่ชายอย่างเขาจะพาไปไม่ได้



   “ได้สิ ชวนนภาด้วย”



   “ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้พี่อาทิตย์ไปรับนภาแล้วมารับดาราที่โรงเรียนนะคะ ดารากับคุณพิมจะคอย” หญิงสาวว่าอย่างนั้นแล้วยิ้ม ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถอย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้พี่ชายทวนคำพูดของหล่อนในใจ



   … ‘ดารากับคุณพิมจะคอย’ ...



   อาทิตย์ได้แต่ก้มหน้าลง วางหน้าผากกับพวงมาลัยแล้วยิ้มกว้างที่สุดเท่าที่เคยยิ้มมาด้วยหัวใจที่อิ่มเอิบเกินประมาณ




...................................


คนทั้งสโมสรเทนนิสแทบจะไม่เป็นอันตีกันอย่างสนุกเฉกเช่นทุกที วันนี้ที่คอร์ดหนึ่งในจำนวนทั้งหมดมีการตีเทนนิสที่ดุเดือดที่สุดเท่าที่ใครหลายคนจะเคยเห็นมา เสียงแรกเก็ตดังขวับๆทุกครั้งที่หวดผ่านอากาศ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแรงที่ตีลูกไปยังอีกฝั่งนั้นมหาศาลเพียงใด



“อู้ยยยยย...” เรย์มอนด์ยังอดร้องไม่ได้ เพราะลูกหนึ่งตีมาตรงหน้านายแพทย์หนุ่ม ถ้าภวัตยกไม้ขึ้นรับลูกไม่ทัน เขาเชื่อว่างานนี้มีเลือดตกยางออก



“ไม่ห้ามจะดีหรือคุณพงศ์...” นายวินิตเองก็อดไม่ไหว ดูจากสภาพแล้วจันทร์จ้าวฟาดเอาฟาดเอาราวกับมีพละกำลังมหาศาลไม่หมดสิ้น หม่อมหลวงพงศ์ภราธรยังยืนนิ่งอย่างชั่งใจ อยากเข้าไปห้ามแต่ก็เกรงว่าจันทร์จ้าวจะยิ่งโมโหมากกว่าเดิม แต่ถ้าปล่อยให้ตีเทนนิสแข่งกันอย่างนี้ต่อไป พรุ่งนี้นายแพทย์หนุ่มอาจต้องลางาน...



ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดีกับสถานการณ์ตรงหน้า จันทร์จ้าวที่วิ่งไปรับลูกซึ่งถูกตีมาจากภวัตก็ถลาลงกับพื้น หัวเข่ากระแทกจนเจ้าตัวหน้าเหยเก เกมเทนนิสจบในวินาทีนั้นเมื่อลูกกระดอนลงกับพื้นแล้วกระเด็นออกไป จันทร์จ้าวรับไม่ทันซ้ำยังหกล้มเป็นแผลถลอกที่หัวเข่าเลือดออกจนแดงแจ๋



“เฮ่ย!!!!!” ทั้งหม่อมหลวงพงศ์ภราธร เรย์มอนด์และนายวินิตร้องพร้อมกัน ก่อนจะรีบวิ่งลงไปดูในคอร์ด ตามมาด้วยภวัตที่ข้ามฝั่งมาดูอาการ แต่พอจันทร์จ้าวเห็นภวัตมายืนใกล้ๆ เจ้าตัวก็เขวี้ยงไม้แรกเก็ตในมือลงกับพื้นด้วยความโมโห
 


“จันทร์!” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรร้องดุ เพราะเพื่อนรักทำตัวไม่ดีหนักข้อ

 

“ลุกไปล้างแผลก่อนเถอะคุณจันทร์” นายวินิตเสนอ เพราะเห็นแผลถลอกของจันทร์จ้าวค่อนข้างสกปรกด้วยเศษฝุ่นบนพื้นสนาม กำลังจะเอื้อมมือไปช่วยพยุง แต่คนเป็นแผลกลับขยับกายลุกขึ้นเอง


 
“ผมลุกเองได้!!” ร่างโปร่งลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก อาการเจ็บแสบและปวดตึงที่แผลตรงหัวเข่าทำให้เขายิ่งหงุดหงิด ทว่ายังไม่ทันจะยืนได้สะดวก มือของหมอภวัตก็เอื้อมไปจับแขนจันทร์จ้าวเพื่อช่วยผยุง คนดื้อกำลังจะหันไปโวยวายแต่นายแพทย์หนุ่มกลับหันไปสั่งเสียงเด็ดขาดกับนายวินิตที่ยืนอยู่ไม่ไกล



“คุณวินิตไปขอกระเป๋ายาจากพนักงานให้ที เข่าเจ็บอย่างนี้คงเดินไปล้างแผลเองไม่สะดวก” นายวินิตรับคำแล้วรีบวิ่งจากไป จันทร์จ้าวจึงหันมาเตรียมเฉ่งคนที่เข้ามายุ่งวุ่นวายทั้งๆที่เขาไม่ได้ขอ ทว่าดวงตาคมที่เคยมองเขาด้วยความอ่อนโยนมาตลอดกลับแข็งกร้าวและไม่มีแววจะอ่อนข้อให้
 


“หายบ้าแล้วก็เงียบ ผมจะทำแผลให้”


หม่อมหลวงพงศ์ภราธรและเรย์มอนด์ถึงกับอ้าปากค้าง ตั้งแต่คบหากันมา ไม่เคยมีใครกล้าแหย่หนวดเสืออารมณ์เสียแบบจันทร์จ้าวตอนกำลังหงุดหงิดเช่นนี้เลย ๒ เพื่อนรักของคนเจ็บแต่อิทธิฤทธิ์มากล้นถึงกับผงะเพราะคิดว่าอีกไม่เกินเสี้ยววินาที จันทร์จ้าวที่กำลังหงุดหงิดจะต้องแผลงฤทธิ์อะไรแน่ ทว่า...ผิดคาด เพราะหมอภวัตไม่ยอมให้เพื่อนของพวกเขาทันพูดอะไร เจ้าตัวก็ลากแขนคนกำลังเจ็บให้เดินออกจากคอร์ดไปแล้ว คนถูกลากเลยเปลี่ยนเป็นร้องโวยวายด้วยความเจ็บปวดแทน



“โอ๊ย! หมอ!! ผมเจ็บ!!! เดินช้าๆ!! โอ๊ย!!!”



นอกจากจะร้องแล้ว มือข้างหนึ่งก็ทุบอั่กเข้าที่แผ่นหลังของนายแพทย์หนุ่มที่ลากเขาออกจากคอร์ด คราวนี้ทั้งราชนิกูลแห่งวังฉัตรและนายฝรั่งนามว่าเรย์มอนด์ถึงกับถลาตามเพื่อนรักเพราะเกรงว่าคนทั้งเจ็บและโมโหจะทำอย่างอื่นมากกว่าทุบหลังหมอ



โชคดีที่คอร์ดและเก้าอี้อยู่ห่างกันไม่มาก และนายวินิตได้กระเป๋ายามาอย่างว่องไว พอจันทร์จ้าวทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ก็พอดีกับที่นายวินิตวิ่งกลับมาพร้อมด้วยพนักงานของสโมสรที่ถือกระเป๋ายาตามมา



“ผมจัดการเอง” หมอภวัตหันไปพูดกับพนักงานของสโมสร ก่อนจะรับกระเป๋ายามาเปิด เขาจัดการทำความสะอาดแผลอย่างประณีต เพราะมีเศษดินเศษฝุ่นติดอยู่ที่แผลถลอกจำนวนมาก แต่แม้จะประณีตเพียงใดจันทร์จ้าวก็สะดุ้งทุกครั้งที่มือของอีกฝ่ายใช้อะไรก็ตามแตะโดนแผลเขา
 


รอบกายพวกเขามีแต่ความเงียบ พวกคนอื่นๆในสโมสรพากันกลับไปเล่นคอร์ดตัวเองแล้ว แม้จะมีหลายคนยังให้ความสนใจมาที่คอร์ดของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรอยู่ก็ตาม



ครู่หนึ่ง มือใหญ่ของนายแพทย์หนุ่มก็ติดผ้ากอซปิดแผลเป็นอันจบการรักษา อาการเจ็บแสบและปวดตึงยังมีอยู่ แต่ก็ไม่เท่ากับเมื่อครู่นี้ที่หมอภวัตล้างแผลให้ จันทร์จ้าวมองชายหนุ่มร่างสูงที่นั่งกับพื้นทำแผลให้เขา ใจหนึ่งก็ยังโกรธ แต่อีกใจก็รู้ว่าอีกฝ่ายห่วงใย



“เจ็บมากไหมจันทร์ ตีกับกันเป็นชั่วโมงแล้วมาตีกับคุณหมอต่อ ขาก็เลยอ่อนแรงล่ะซี” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรตั้งคำถามด้วยความเป็นห่วง ทว่าจันทร์จ้าวไม่ทันตอบอะไร หมอภวัตก็หันไปทางราชนิกูลแห่งวังฉัตร



“ผมจะพาเขาไปส่งเอง คุณพงศ์กับมิสเตอร์อดัมส์เล่นกันต่อเถอะ” นายแพทย์หนุ่มว่าอย่างนั้น แล้วคว้าแขนจันทร์จ้าวดึงให้ลุกขึ้นยืน คนถูกฉุดให้ลุกไม่ทันตั้งตัว ร่างจึงลอยหวือขึ้นยืนโดยไม่ทันรั้งกายเอาไว้ แต่แม้จะรั้งร่างตนไม่ทัน จันทร์จ้าวก็ยังปากไวพอจะปฏิเสธอย่างรวดเร็ว

 

“ผมไม่ไป!!!” ภวัตปรายสายตามามองคนดื้อดึงที่จ้องเขาด้วยดวงตากลมใหญ่
 


“ต้องไป! เราต้องคุยกัน! ขอตัวก่อน คุณพงศ์ คุณวินิต มิสเตอร์อดัมส์”



แล้วนายแพทย์ภวัตก็ค้อมศีรษะลาทุกคนที่ข้างคอร์ด ก่อนจะลากแขนคนเจ็บให้เดินตามเขาออกจากสโมสรทันที จันทร์จ้าวโวยวายเสียงดังลั่นเพราะถูกลากให้เดินทั้งที่เจ็บแผลถลอก หนำซ้ำเจ้าตัวก็ไม่อยากไปกับภวัตด้วย ทว่าอีกฝ่ายไม่ฟังเสียงประท้วงเลยแม้แต่นิดเดียว เพียงชั่วอึดใจ ชายหนุ่มทั้ง ๒ คนก็หายลับออกไปจากบริเวณสนามเทนนิสเสียแล้ว



“จะไม่เป็นไรแน่หรือ คุณพงศ์” เรย์มอนด์หันมาถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันมองแล้วย้อนถาม



“ใครล่ะที่จะเป็น ผมว่ารอบนี้ คนที่จะเป็น น่าจะเป็นจันทร์ไม่ใช่คุณหมอ” ราชนิกูลพนุ่มพูด แล้วมองตามหลังคนทั้งคู่ด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด



...อะไรบางอย่างบอกกับเขา ว่าระหว่างจันทร์จ้าวและภวัตมีความรู้สึกบางอย่างที่เขาไม่เข้าใจ...


....................................



ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8


ต้องขอบคุณแผลถลอกที่หัวเข่า เพราะภวัตไม่ต้องเหนื่อยมากนักกำลังการพยายามลากจันทร์จ้าวขึ้นรถ เจ้าตัวทั้งเจ็บทั้งเหนื่อย สุดท้ายก็ยอมกระแทกตัวลงนั่งบนเบาะในที่สุด และเมื่อนั้นหมอภวัตจึงขับรถออกจากสโมสร



“มีอะไรจะคุยกับผมอีก?! ผมนึกว่าเมื่อวานนี้พูดชัดแล้ว!! หรือหมอไม่ถนัดภาษาไทย จะให้ผมพูดภาษาอังกฤษให้ฟังด้วยไหม?!!!” นายแพทย์หนุ่มพยายามระงับอารมณ์อย่างถึงที่สุด เขาคิดว่าเขาเคยเป็นคนใจเย็นมาก แต่มารู้เอาก็วันนี้เองว่ายังใจเย็นไม่มากพอสำหรับจันทร์จ้าวผู้หัวเสีย เขาหมุนพวงมาลัยลงหักหัวรถเข้าจอดริมข้างทาง ก่อนจะหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างกาย 
 


“คุณจะพาลไปถึงไหน เรื่องที่คุณโกรธผมเพราะพี่ชายคุณชอบคุณพิมและน้องชายผมก็ชอบคุณพิมก็คราวหนึ่งแล้ว ครั้งนี้คุณก็ยังพาลว่าผมฟังคุณพูดไม่รู้เรื่องด้วยหรือ” จันทร์จ้าวชะงักไปในทันทีที่อีกฝ่ายพูดเรื่องอาทิตย์ขึ้นมา เขาไม่คิดว่าภวัตจะรู้ อันที่จริงแล้วก็ไม่น่าจะรู้เพราะภวัตไม่ได้สนิทสนมกับพี่ชายของเขาแต่ประการใด แต่...ภวัตสนิทกับหม่อมหลวงพงศ์ภราธร!!...



…คุณพงศ์ต้องเป็นคนบอกแน่ๆ!!!...

 

“ไม่ต้องคิดพาลไปโกรธคนอื่นด้วย” ภวัตเห็นสีหน้าของอีกฝ่าย เขาก็เดาได้ในทันทีว่าเจ้าตัวกำลังโทษคนอื่นให้วุ่นวาย จันทร์จ้าวอ้าปากค้าง เมื่อถูกดุพร้อมด้วยการชี้หน้าอย่างเอาจริงเอาจังของอีกฝ่าย เขากำลังจะโต้เถียงให้สาแก่อารมณ์ แต่สารถีชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน


 
“เอาเถอะ เรื่องที่คุณว่าผมว่าผมฟังคุณไม่รู้เรื่อง ผมจะเอาไว้ก่อน วันนี้ที่ผมอยากจะพูดกับคุณคือเรื่องคุณอาทิตย์” จันทร์จ้าวยังเงียบ แต่ดวงตากลมใหญ่จับจ้องคนพูดด้วยแววตาดื้อดึงและอวดดีเหมือนเมื่อครั้งแรกๆที่พบกันไม่มีผิด



“คุณอย่าเอาเรื่องคุณอาทิตย์ คุณพิมและน้องชายผมมาปนกับเรื่องของเราได้ไหม”



“เรื่องของเรา?! เดี๋ยวนะหมอ! เรื่องของเราหมายถึงเรื่องอะไร?!” จันทร์จ้าวร้องถามเสียงหลง คำพูดของภวัตสร้างความแปลกประหลาดในหัวใจของเขาจนรู้สึกอึกอักเลิ่กลั่กไปหมด

 

“ก็เรื่องของผมกับคุณ ก่อนหน้านี้เราดีกันแล้วไม่ใช่หรือ แต่พอคุณทราบว่าน้องชายผมชอบผู้หญิงคนเดียวกับพี่ชายของคุณ คุณก็โกรธผมขึ้นมาอีก”



คนฟังค่อยจะใจชื้นขึ้นมาบ้าง ที่ความหมายของคำว่า ‘เรื่องของเรา’ ไม่ได้ทำให้เขาใจหายใจคว่ำมากเกินไปนัก จันทร์จ้าวปรับสีหน้าให้เป็นปกติเหมือนตอนแรกที่นั่งรถมา ทว่าก็ยังไม่พูดอะไร ดวงตากลมใหญ่เบี่ยงออกไปมองกระจกหน้ารถแทนที่จะมองคนที่หันข้างมาคุยกับเขา
 


ภวัตมองท่าทางเหมือนจะไม่ใส่ใจฟังแต่ประการใดแล้วก็นึกอยากตี วันนี้เขามีเรื่องอยากจะพูดด้วยมากโขทีเดียว เรื่อง ๑ คือเรื่องที่อาทิตย์ หม่อมหลวงพิมพัชรา และเภาที่จันทร์จ้าวนำมาเป็นเหตุผลในการโกรธเขา เรื่อง ๒ คือเรื่องที่กล่าวหาว่าเขาพูดไม่รู้เรื่องเมื่อครู่นี้ และเรื่องที่ ๓ คือเรื่องที่หม่อมหลวงพงศ์ภราธรพูดเมื่อตอนก่อนที่เขาจะพาอีกฝ่ายออกจากสโมสร


 
“แล้วเมื่อครู่นี้ที่คุณพงศ์พูดเป็นเรื่องจริงใช่ไหม ที่ว่าคุณตีกับคุณพงศ์เป็นชั่วโมงก่อนหน้าที่ผมจะมา” หมอภวัตจัดการพูดเรื่องที่ ๓ ก่อน เพราะ ๒ เรื่องแรกนั้นหากนำมาพูดแต่แรกก็คงจะทำให้พวกเขาทะเลาะกันอีกพักใหญ่ๆ



“ใช่แล้วไง?!!” จันทร์จ้าวย้อนอย่างหงุดหงิด ทว่าคำตอบนั้นก็ทำให้อีกคนหงุดหงิดไม่แพ้กัน

 

“จะแล้วไง?! ก็เพราะคุณตีกับคุณพงศ์เป็นชั่วโมง แล้วคุณก็ยังมาตีกับผมอีก ผมทราบว่าคุณโกรธผม โมโหผม ไม่อยากพูดกับผม แต่แค่บอกว่าคุณเหนื่อยแล้ว ทำไมไม่พูด เราจะได้เลิกเล่น นี่คุณตีเอาตีเอา แล้วเป็นอย่างไรล่ะ! หกล้มได้แผลมาอย่างนี้ เจ็บดีไหม? นี่ยังดีหรอกที่แข้งขาไม่หักขึ้นมา ไม่อย่างนั้นคุณไม่มีทางได้มานั่งตีฝีปากแข่งกับผมอย่างนี้!!”



“กับอีแค่แข้งขาหัก ใส่เฝือกเสียก็จบ! ใส่เฝือกแล้วผมจะกลับมาตีฝีปากแข่งกับหมอก็ยังได้!!


“ปากดี!!”


“หมอ!!!!” จันทร์จ้าวหันขวับทันทีที่ถูกต่อว่า ภวัตเห็นความโกรธเคืองในดวงตากลมใหญ่คู่นั้นแล้วก็สูดลมหายใจเข้าลึกพยายามทำใจเย็น อุตส่าห์เลือกเรื่องพูดที่คิดว่าจะไม่ทำให้ต้องทะเลาะกันมากแล้ว แต่สุดท้ายพวกเขาก็ยังทะเลาะกันอยู่ดี และเวลานี้เขารู้ดีว่าจันทร์จ้าวพร้อมจะอาละวาดได้ทุกเมื่อ ชายหนุ่มพยายามปรับอารมณ์และพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบในประโยคต่อมา



“คุณจันทร์ คุณโกรธผม เพราะคุณอาทิตย์ชอบคุณพิมเหมือนที่น้องชายของผมชอบอย่างนั้นหรือ”



“ใช่!”



“เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลย” จันทร์จ้าวถลึงตาดุเมื่อถูกตราหน้าว่าเหตุผลของเขาช่างโง่เง่าสิ้นดี


 
“เหตุผลแค่นี้ ทำให้คุณโกรธผมเป็นวรรคเป็นเวร ทำให้คุณเอาอารมณ์ไปลงกับคนรอบข้าง และที่สำคัญทำให้คุณเลือดขึ้นหน้า ตีเทนนิสเป็นชั่วโมงโดยไม่สนใจร่างกายตัวเองจนหกล้มได้แผล ทั้งหมดนั่นคือเกิดจากเหตุผลที่ว่าพี่ชายคุณกับน้องชายผมชอบผู้หญิงคนเดียวกันอย่างนั้นหรือ”



“อีกเหตุผลหนึ่งคือหมอไม่ยอมบอกผม   !!!!!” จันทร์จ้าวตะเบ็งเสียงดังลั่น ภวัตขมวดคิ้วด้วยความฉงน มองสบเข้าไปในดวงตากลมใหญ่ที่จับจ้องเขาด้วยความโกรธเคืองและขุ่นข้องหมองใจ



“เราเจอกันแทบทุกวัน! เรามีเรื่องคุยกันเป็นร้อย!! แต่อะไร?!! หมอไม่เคยบอกเรื่องน้องชายของหมอชอบคุณพิมให้ผมรู้!! ผมเคยถามหมอใช่ไหม ว่าหมอคิดอย่างไรกับคุณพิม หมอบอกผมว่าหมอไม่ได้คิดกับคุณพิมอย่างคู่รัก! นั่นก็เพราะว่าน้องชายของหมอคิดอย่างไรล่ะ! แต่หมอไม่บอกผมเรื่องนี้!!! หมอคิดจะปิดผมไปถึงเมื่อไร?! ชาติหน้าตอนเราแข่งวิมเบิลดันด้วยกันรึไง?!! หึ! ขอโทษเถอะ!! คนอย่างผมน่ะฉลาด! ไม่ยอมให้หมอสนตะพายผมนานหรอก!!! เสียใจด้วยที่ปิดผมไม่สำเร็จ!!!” ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกถึงความโมโหที่พุ่งพล่านไปทั้งร่าง จันทร์จ้าวไม่ทราบว่าตนเองโกรธเรื่องใดมากกว่ากันระหว่างเภาชอบพอสตรีคนเดียวกับพี่ชายของเขา หรือเรื่องที่หมอภวัตไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเขา



“ไปกันใหญ่แล้ว ผมไม่ได้คิดจะปิดคุณ เพียงแต่ผมไม่คิดว่าเรื่องของพวกเขาจะเกี่ยวกับเรา...”



“แต่เรื่องของพี่อาทิตย์เกี่ยวกับผม!!“ จันทร์จ้าวเถียง ภวัตถอนหายใจกับความดื้อดึงของคนที่นั่งอยู่ข้างเขา



“แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของคุณอาทิตย์คนเดียว แต่มันเป็นเรื่องของคน ๓ คน และเรื่องของทั้ง ๓ คนไม่เกี่ยวกับคุณ”



“หมอ!!!!” ยิ่งภวัตพูด ก็ยิ่งดูเหมือนจะกลายเป็นลมที่โหมไฟในใจของจันทร์จ้าวให้ลุกโชน


 
“คุณจันทร์ ผมทราบว่าคุณรักพี่ชายคุณมาก ผมเองก็รักน้องผมมากเช่นกัน แต่คุณจะเอาอารมณ์ไปผูกกับเรื่องของพี่ชายคุณแล้วโยงมาโกรธผมอย่างนี้มันยุติธรรมแล้วหรือ ผมไม่ว่า หากคุณจะเกลียดผม ไม่ชอบหน้าผม เพราะตัวผม แต่ไม่ใช่คุณเกลียดผม โมโหผมเพราะเรื่องของคนอื่น”

 

“พี่อาทิตย์ไม่ใช่คนอื่น!!”
 


“ผมพูดผิด ขอโทษที คุณอาทิตย์ไม่ใช่คนอื่นสำหรับคุณ แต่เขาเป็นคนอื่นสำหรับผม เพราะเรื่องระหว่างคุณกับผม ก็มีแค่คุณกับผมเท่านั้น นอกเหนือจากนั้น ผมนับว่าเป็นคนอื่น” คำพูดตรงไปตรงมาของหมอภวัตทำให้จันทร์จ้าวนิ่งงันพูดไม่ออกและสุดท้ายก็ทำได้เพียงแต่หันมองออกไปนอกหน้าต่างรถ เมื่อไม่มีการตอบโต้ใดๆจากคนอารมณ์ร้อนที่กำลังโกรธเขาตะพึดตะพือ ภวัตก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจ

 

“เอาเถอะ ผมเข้าใจดีว่าคุณแยกเรื่องคุณอาทิตย์ออกจากชีวิตคุณไม่ได้ แต่ผมขอถามคุณเพียงข้อเดียว...ถ้าหากคุณอาทิตย์ไม่สมหวัง และเป็นเภาที่สมหวัง คุณจะโกรธผมไปตลอดใช่ไหม” คำถามของนายแพทย์หนุ่มทำเอาคนฟังชะงักไปในทันที แต่กระนั้นก็ยังมีสติสัมปัญชัญญะเพียงพอที่จะย้อนถาม



“แล้วถ้าน้องชายหมอไม่สมหวังแต่เป็นพี่ผมที่สมหวัง หมอจะโกรธผมไหมล่ะ!”
 


“ผมไม่เคยเอาเรื่องของนายเภามาปนกับเรื่องของผมและคุณ เรื่องความรักเป็นเรื่องของพรหมลิขิตและการกระทำของตนเอง ใครจะรักใครหรือไม่รักใคร เราทำอะไรไม่ได้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือหากเภาสมหวังผมก็จะยินดี หากเภาไม่สมหวัง ผมจะปลอบ ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเอาความสมหวังหรือไม่สมหวังของนายเภามาผูกกับเรื่องของเรา”



คำว่า ‘เรื่องของเรา’ ทำเอาจันทร์จ้าวหายใจลำบากขึ้นมาอีก มันฟังดูประหลาด เหมือนมีความหมายโดยนัยแฝงอยู่ แต่...เขาไม่กล้าหาคำตอบ



ภวัตมองคนที่นั่งเงียบไป ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเข้าใจที่เขาพูดหรือไม่ แต่ดูแล้วคงไม่ใช่เวลานี้ที่จะมาถามย้ำให้จันทร์จ้าวยอมเปลี่ยนใจกลับมาดีกับเขาเช่นเดิม ควรจะให้เวลาอีกฝ่ายได้ตรึกตรองดูบ้าง อย่างน้อย เวลาอาจจะทำให้จันทร์จ้าวใจเย็นขึ้น


 
“ผมจะพากลับไปส่งบ้าน วันนี้อย่าให้แผลโดนน้ำ แล้วพรุ่งนี้ผมจะแวะไปทำแผลให้”


“ไม่ต้อง!” ริมฝีปากสีจัดเถียงไว จนคนเสนอด้วยความหวังดีนึกอยากตีเด็กดื้อขึ้นมาเสียอย่างนั้น


“คุณคงไม่อยากให้แผลเน่าใช่ไหม คงไม่ต้องให้ผมบอกว่าหากแผลเน่า ผมในฐานะหมอจะต้องใช้วิธีอะไรกับแผลและขาของคุณ”



“นี่หมอขู่ผมหรือ?!!!!!” ร่างโปร่งหันกลับมาตวาดก้อง แต่ภวัตยังคงนิ่งเฉยดุจน้ำแข็ง


“ไม่ได้ขู่ แต่คนที่ต้องถูกตัดขาเพราะดื้อกับผมก็มีมาแล้วหลายราย และหวังว่ารายต่อไปจะไม่ใช่จันทร์จ้าว รักษพิพัฒน์” แล้วหลังจากนั้นชายหนุ่มผู้นั่งอยู่หลังพวงมาลัยก็หักหัวรถกลับเข้าสู่ถนนเส้นหลัก แล้วไม่ได้ยินเสียงคนที่นั่งข้างกายโต้เถียงอย่างเผ็ดร้อนกับเขาอีกเลย



...ถ้ารู้ว่าขู่ว่าจะตัดขาแล้วเงียบได้แบบนี้ รู้อย่างนี้เขาขู่ไปตั้งแต่แรกก็ดีแล้ว...


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)


ช่วงนี้กินลูกกวาดคู่พี่อาทิตย์กับคุณพิมไปก่อนเนอะ ส่วนคู่พ่อจันทร์กับคุณหมอซดมาม่ากันนิดๆหน่อยๆ แต่เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน เดี๋ยวได้อมลูกกวาดคู่นี้ใหม่


ขอเม้าส์ตอนที่แล้วนิดนึง เม้นท์จากทุกคนเมื่อตอนที่แล้วนี่แบบว่า...ดูอัดอั้นตันใจกับพ่อจันทร์มากกกกก คือทุกคนย้ายฝั่งไปยืนข้างคุณหมอกันหมดเลยยยยย ไม่มีใครยืนข้างพ่อจันทร์ของอิฉันสักคนเดียว ฮา


มีคนทักว่าพ่อจันทร์เหมือนจอมขวัญ แต่บัวว่าเขาเหมือนถ้วยฟูนะ แต่เป็นถ้วยฟูเวอร์ชั่นไม่พิศดารเท่าไร คือเอาแต่ใจเพราะรู้ว่าทุกคนรัก ส่วนจอมขวัญนั่นเรียกร้องความสนใจเพราะรู้สึกว่าขาดความรัก (ซับซ้อนเหมือนกันนะเนี่ย ฮาฮา)


อ้อ จริงๆแล้วมีคนถามเรื่องฝงซักฟอกที่คุณหมอใช้ซักเสื้อผ้าที่ได้มาจากเพื่อนฝรั่ง จริงๆแล้วสมัยนั้นมีผงซักฟอกแล้วแต่เป็นผงซักฟอกแบบไทย ส่วนผงซักฟอกฝรั่ง (เช่นยี่ห้อแฟ้บ) นำเข้ามาตอนปี 2497 (ตามที่หาข้อมูลมา) เพราะงั้น ถ้าตามเนื้อเรื่อง อีกแป๊บนึง คุณหมอกับพ่อจันทร์ก็จะได้ใช้แฟ้บกันแล้วล่ะค่ะ


ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ กำลังใจ และพื้นที่บอร์ดเช่นเคย เจอกันใหม่พฤหัสหน้าค่ะ

ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1


กรีดร้องก้องฟ้า  จันทร์จ้าวขา

  :เฮ้อ:    เมื่อไร จะเข้าใจคุณหมอ



” แค่ได้รู้ว่าจันทร์จ้าวไม่ได้รักชอบน้องสาวของหม่อมหลวงพงศ์ภราธร ก็ราวกับยกภูเขาออกจากอก"  :mew1:

:heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven

คำว่า ‘เรื่องของเรา’ ทำเอาจันทร์จ้าวหายใจลำบากขึ้นมาอีก มันฟังดูประหลาด เหมือนมีความหมายโดยนัยแฝงอยู่

แต่...เขา ""ก็ยังไม่ยอมรับหัวใจตัวเอง"" ชิมิ :hao3:

รอฉากงานเลี้ยง ลีลาศ พาเพลิน นะฮับ :กอด1:

 

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
รักคุณหมออออ 5555
จันทร์อย่าเอาแต่ใจมาก เดี๋ยวหมอจับฉีดยาเลยนี่

ขอบคุณพี่บัวมากนะคะ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
พ่อจันทร์เจ้าอารมณ์และจี้โมโห จนน่าตีจริงๆ อาละวาดเป็นเด็กๆเลย นี่ถ้าคุณหมอไม่ใจเย็น ไม่รัก นี่ คงมีฟาดปากกันบ้าง 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ praewp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อยากวารปไปวันพฤหัสหน้า :ling1:

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
จันทร์เจ้าดื้อแพ่งมาก น่าตีปากนัก คุณหมอทำดีมาเลยคร่า เด็กดื้อต้องจัดการ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เหนือจันทร์จ้าวยังมีหมอภวัต จะโมโหเดือดแค่ไหนพี่หมอเอาอยู่ เจอคนจริงมาปราบพยศแล้วลูกเอ๋ย

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ดุเดือดมากจันทร์เอ้ยยยยย

ออฟไลน์ Aomoto

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมาก ที่แท้ก็งอนหมอไม่บอกนี่เอง อยากให้หมอเล่นบทโหดนานๆ เผื่อมีตบจูบ 555

ออฟไลน์ Blue

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
จันทร์เอาแต่ใจอ่ะ รู้สึกเหนื่อยแทนหมอ

รอตอนต่อไปจ้าาาาาาา

คนเขียนสู้ๆๆ :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ:

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
สงสารคุณหมอ
จันทร์โกรธขิงโกรธขามาก

จันทร์ โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง มากไปไหม
หวังว่า จะเข้าใจกันเร็วๆ

ออฟไลน์ packy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ช่ายๆๆ เหมือนถ้วยฟูจริงๆ
ถ้วยฟูชอบแกล้ง ชอบเอาตัวเองเป็นหลัก
คิดเองเออเองก้เก่ง

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
ค่ะ คุณจันทร์แกเอาแต่ใจเพราะรู้ว่าทุกคนจะเอาใจแก ทีนี้พอคุณหมอไม่ตามใจแกทั้งที่แกอุตส่ห์ถูกอกถูกใจแกเลยโกรธเอาน่ะสิ5555

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เราว่าพ่อจันทร์เหมือนถ้วยฟูผสมจอมขวัญ  :hao7:

เด็กดื้อต้องเจอกำหราบนะคะ คนอื่นปราบไม่ลงแถมเจอองค์ลงอย่างใหญ่ แต่เจอหมอภวัตเข้าไปมีแอบเกรงบ้างหล่ะ

ขอมอบสโลแกนให้ค่ะ #หมอภวัตเอาอยู่  :laugh:

คู่พี่อาทิตย์กับคุณพิมพ์นี่หวานจังเลย ชอบบบบบ :m3: :m21: :m21:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
จันทร์โมโหหมอเพราะเรื่องพี่อาทิตย์เนี่ยหรือว่าโมโหหมอที่ไม่ยอมบอกทุกเรื่องกันแน่

จันทร์เจอหมอขู่ไปเงียบเลย 5555

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1379
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
55555555 หมอเอาอยู่จ้าาา แสบมานานแล้วเจอคนปราบหน่อยเป็นไร สุภาพแต่ไม่หงอนะ เถียงชนะด้วย เป็นไงล่ะ 55555

ออฟไลน์ mickymod

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
จันทร์ทั้งดื้อ ทั้งเหวี่ยงขนาดนี้ :m31: :m31:

 :katai1:พี่หมอจับตีสักสองสามทีเลยค่ะ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
เอาให้หลาบจำเลยนะ  :laugh3:

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
ชอบๆๆคุณหมอ เรื่องของเรา อิอิคุณหมอขี้ตู่เบาๆ ทำให้หัวใจน้องจันทร์จั๊กจี้

ออฟไลน์ qilarsy39

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เรื่องของเรา  :impress2:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
คุณจันทร์เอาแต่ใจเกินไปแล้วน้าาาา :z3:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
จันทร์เจ้าดื้อเกิ๊น คุณหมอน่าจะตีสักเพี้ยะสองเพี้ยะ

ออฟไลน์ valenna yy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
จันทร์น่ารักอะ หลงอะ 
คุนหมออย่าดุนักซี  เดี๋ยวคุนจันทร์งอนขึ้นมาอีกเรื่องง้อตายเลยนะหมอ
#ทีมจันทร์เจ้า เหวี่ยงก้ยังน่ารัก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-11-2015 10:26:36 โดย valenna yy »

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
พยศนักนะคุณจันทร์ มันน่านัก :angry2: :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด