...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...จันทร์จ้าว...บทพิเศษ Christmas…again and again. (๒๔ ธ.ค. ๖๔/หน้าที่ ๖๙)  (อ่าน 743780 ครั้ง)

ออฟไลน์ insunhwen

  • FREEDOM!!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
ดาราห้ามจันทร์จ้าวไม่ได้หรอกจริงๆ5555

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook


นี่รออ่านเลยว่าจันทร์เจ้าจะมีวุฒิภาวะแค่ไหนกับเรื่องของเรย์และน้องสกาย
ส่วนเรื่องคุณหมอและน้องสตาร์ป้าไม่ห่วงค่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

จนแล้วจนรอด ป้าก็ยังเดาไม่ได้ว่าน้องสตาร์จะคู่กับใคร... อยากให้คู่คุณพงศ์มาก
รู้สึกเหมือนคุณพงศ์เอาอยู่ยังไงก็ไม่รู้ ฮ่า ฮ่า

เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :L1:


ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
ถ้าเรื่องนี้มีผู้จัดคนใดสนใจเอาไปทำเป็นละครหลังข่าวล่ะก็ เราคงต้องกลับไปเกาะติดทีวีอีกในรอบ 7 ปีเป็นแน่ 55
แต่คงยาก แต่ก็น่าจะมีการ สร้างสรรค์ผลงานละคนให้มันหลากหลายบ้าง น่าจะดีกว่านี้น่อ
ชอบจัง เรื่องนี้ เรื่อยๆ แต่น่าติดตาม
อ่านไปก็ไม่ต้องเครียดมาก เครียดนาน อบอุ่นหัวใจเบาๆ
รอตอนต่อไป
รอพฤหัสหน้าอย่างจดจ่อ (^.^)

ออฟไลน์ minchy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-0
เราเข้าใจดารานะที่จะยอมรับไม่ได้  อย่างที่เจอผู้หญิงมาอยู่กับพี่ยังดีกว่าเจอพี่ไปอยู่กับผู้ชาย  ก็จันทร์กับหมอเกิดเร็วไป

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
เรย์เละแน่ๆ สงสารรอไว้ก่อนเลย

จันทร์คือดี มั่นคงมาก
มีโมเม้นฟินๆกันสองคนด้วย จุ๊บแค่มือ เค้าก็ฟินนน

ออฟไลน์ รุ่งนภา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
 o22 o22 o22 o22  เตรียมเก็บศพ   คาดว่าตอนหน้าอาจมีคนตาย555555

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
เรย์โดนเรียกเข้าห้องดำ ขอให้ได้อยู่ต่อนะคะ

พี่จันทร์ หนักแน่นซื่อตรงต่อความรู้สึกมากจริง ๆ

ออฟไลน์ phrase

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ขอไว้อาลัยให้เรย์มอนด์ จงไปสู่สุคติเถิด :heaven

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
เอาใจช่วยเรย์

 :กอด1: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
เรย์ตายแน่
ลืมๆความน่าบ้องหูของดาราไปแป้บนึง
แล้ววิ่งไปรอดูจันทร์อาละวาดดีกว่า
ฮาฮา (เลียนแบบน้องบัว)
 :laugh: :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
พึ่งเข้ามาอ่านค่ะ แต่เห็นผ่านตามานานแล้ว

สนุกมากกกกค่ะ เราชอบจันทร์มากก นางสรองมากจริงๆ รักๆๆนายเอกแบบนี้

ติดตามตอนต่อไปนะคะ  :pig4:

ออฟไลน์ VICTORY

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 787
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
มารอคุณหมอ

ออฟไลน์ qilarsy39

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เข้ามารอ  :katai4:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
มารอด้วยจ้า

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
มารอค่าา

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
จันทร์จ้าว
By: Dezair
…………………….
บทที่ ๑๖



   เสียงโครมครามดังมาจากในห้องทำงานของจันทร์จ้าว ทำเอาหม่อมหลวงพงศ์ภราธรที่เพิ่งกลับเข้ามาในสำนักงานหลังจากไปส่งดารารัษมีที่โรงเรียนสตรีกัลยาณีถึงกับชะงัก



   “เกิดอะไรขึ้น?!” เขาร้องถามพนักงานที่ต่างผละจากงานของตนและทำสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริศ



   “คุณจันทร์เรียกมิสเตอร์อดัมส์เข้าไปในห้อง หายเงียบกันไปพักใหญ่ แล้วก็...” ใครสักคนอธิบาย แต่พูดไม่ทันจบดี เสียงโครมครามก็ดังมาอีกชุด ราชนิกูลหนุ่มแห่งวังฉัตรตาลีตาเหลือกรีบวิ่งไปเปิดประตูห้องทำงานของเพื่อนรักแต่ประตูถูกลงกลอนจากภายใน ซ้ำประตูที่นี่ยังเป็นกลอนแบบลงสลักด้วย สิ่งเดียวที่เขาพอจะทำได้คือการทุบประตูแล้วตะโกนเข้าไปภายในห้อง



   “จันทร์! จันทร์! แกทำอะไรน่ะ!!”



   ไม่มีเสียงตอบกลับมา มีแค่เสียงปึงปังอยู่ในห้องยิ่งทำให้หม่อมหลวงพงศ์ภราธรร้อนใจ หันรีหันขวางแต่ไม่รู้จะเปิดประตูเข้าไปอย่างไรก็ตัดสินใจใช้ไหล่กระแทก



   “มาช่วยเร็ว!” เขาร้องบอกพวกพนักงานหนุ่มๆ พวกนั้นก็รีบมาช่วยกันกระแทกประตูเป็นการใหญ่ พยายามอยู่หลายทีในที่สุดประตูทั้งบานก็พังเข้าไปภายในทันเวลาพอดีกับที่จันทร์จ้าวกำลังฉุดกระชากเพื่อนต่างชาติร่างใหญ่ที่นอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้นให้ลุกขึ้น



   “จันทร์!!” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรถลาเข้าไปจับแยก ด้วยคิดว่าเพื่อนรักของตนกำลังประทุษร้ายเรย์มอนด์ อดัมส์อยู่ พวกพนักงานหนุ่มเองก็รีบเข้าไปช่วยพยุงนายฝรั่งให้ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางทุลักทุเลเต็มทน ราชนิกูลหนุ่มกวาดตามองเรย์มอนด์ทีหนึ่ง เห็นว่ามีแค่แผลแตกที่หางคิ้ว แต่สีหน้าซีดเผือดเสียจนน่าใจหายก็รีบร้องบอก



   “พามิสเตอร์อดัมส์ไปโรงพยาบาล!” สั่งแล้วก็ถึงได้หันกลับมามองหน้าเพื่อนรักของตน จันทร์จ้าวหายใจฟืดฟาด ดูก็รู้ว่ากำลังโกรธจัด แต่โกรธเรื่องอะไรก็สุดแล้วแต่จะทราบ



   พวกพนักงานพยุงร่างอ่อนระโหยของเรย์มอนด์ อดัมส์พาออกจากห้องแต่ไม่ทันก้าวพ้นประตูเสียงของจันทร์จ้าวก็ดังขึ้น



   “เดี๋ยว!!” พวกพนักงานชะงักกึก ดวงตากลมใหญ่ของจันทร์จ้าวตวัดไปมองอย่างวาวโรจน์ “โรงพยาบาลน่ะ! หมายถึงโรงพยาบาลใกล้บ้านผม!”



   “แต่ที่นั่นไกลจากนี่...” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันมาแย้งแต่ดวงตากลมใหญ่วาววับกลับตวัดมาจ้องจนแม้แต่ราชนิกูลหนุ่มยังต้องเงียบ



   “เวลาลักลอบไปหาคนแถวนั้นยังไม่ยักคิดว่าไกล! แล้วจะมาบ่นอะไรเอาตอนนี้! พามิสเตอร์อดัมส์ไปส่งที่นั่น!!” ไม่ต้องให้สั่งรอบ ๒ พวกพนักงานก็พยุงฝรั่งตัวโตออกจากห้องเพื่อพาไปส่งโรงพยาบาลที่อยู่ไกลจากสำนักงานแห่งนี้ไม่น้อย ภายในห้องทำงานของจันทร์จ้าวเงียบลงแล้ว แต่เจ้าของห้องยังคงมีสีหน้าโกรธเคือง ราชนิกูลหนุ่มเหลือบมองไปรอบตัวก็พบว่าข้าวของกระจัดกระจายคงเกิดจากแรงอาละวาดของเพื่อนรักของตนนั่นเอง



   “เกิดอะไรขึ้น” เขาถาม หลังจากปล่อยให้เจ้าของห้องทำงานเละเทะได้สงบสติอารมณ์ตัวเอง จันทร์จ้าวตวัดสายตามามองคนถาม



   “เรย์คบกับนภา!!!! แต่ไม่มีใครบอกผมสักคน!! ยายนภาก็ผิดปากเงียบ!! แล้วเมื่อครู่นี้ผมถามมัน มันก็ไม่ตอบสักคำ!!!”



   “ก็แกเล่นอัดเสียขนาดนั้น...” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรแย้งตามที่เห็นจากสภาพอ่อนระโหยเหมือนคนเจ็บหนักของนายฝรั่ง ทว่าดวงตากลมใหญ่กลับถลึงใส่เขา



   “ไม่ได้อัดสักกระผีก!! แค่ผลักไหล่นิดเดียวก็เซลงไปกองกับพื้น!! อย่างนี้จะไปปกป้องใครเขาได้!! ผมไม่ยอมให้น้องสาวของผมคบกับคนที่แค่ผมผลักก็ล้มถลาลงไปกับพื้นหรอก!!! ถลาเท่านั้นไม่พอ ยังทะเล่อทะล่าไปชนขอบโต๊ะจนคิ้วแตก!! ซุ่มซ่ามไม่สู้คน ถ้ากับผมยังสู้ไม่ได้ ก็ไม่ต้องหวังไปสู้กับใครทั้งนั้น!!!” ราชนิกูลหนุ่มไม่อยากจะแย้งอีกหนว่าจันทร์จ้าวมีรูปร่างสูงโปร่ง ไม่หนาล่ำกำยำเหมือนเรย์มอนด์ อดัมส์ก็จริง แต่คนที่ออกกำลังกายป็นประจำ ซ้ำยังตีเทนนิสเก่งออกอย่างนี้ เรี่ยวแรงใช่จะน้อยเสียที่ไหน แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาพูดเรื่องเรี่ยวแรงของจันทร์จ้าว มีอีกเรื่องที่สำคัญกว่า



   “แกจะไม่ยอมได้ยังไร ก็ ๒ คนนั้นเขาคบหากันแล้ว”



   “คบแล้วก็เลิกกันได้!! จะไปยากอะไร! ก็ให้นภาเลือก ว่าจะเลือกผมหรือเลือกอ้ายฝรั่ง!!!”



   “แล้วถ้า...คุณนภาเลือก ‘อ้ายฝรั่ง’...”



   “ไม่มีทาง!!!”



   “ไม่มีทางอะไร ๒ คนนั้นเขารักกันจริง แกจะโยนให้คุณนภาเลือกระหว่างแกกับเรย์ จะไม่ใจไม้ไส้ระกำไปหน่อยหรือ” เขาเอ่ยเตือนสติ นับตั้งแต่เรย์มอนด์หลุดปากบอกเรื่องความสัมพันธ์ของตนเองและนภาสรวงให้เขารับรู้ หม่อมหลวงพงศ์ภราธรเป็นต้องได้ยินได้ฟังเรื่องราวของคนทั้งคู่จากปากของเรย์มอนด์เสมอๆ ทั้งๆที่บางครั้งเขาก็ไม่ได้อยากรู้เอาเสียเลย แต่ก็เห็นใจ เพราะเรย์มอนด์ที่กำลังมีความรัก ก็คงอยากจะนำความสุขมาเล่าสู่กันฟังเป็นธรรมดา



   “ใจร้ายก็ใจร้ายซี!! ผมก็ไม่ใช่คนใจบุญสุนทานอยู่แล้ว! พูดก็พูดเถอะคุณพงศ์! ขนาดพวกเศรษฐีบ้านนอกทำท่าจะมาดูตัวน้องสาวผม ผมยังไม่ยอม! เพราะกลัวว่ายายนภาเกิดถูกใจต้องแต่งงานออกไปอยู่ต่างจังหวัด ผมไม่ต้องเป็นห่วงแย่หรือ?! แล้วนี่!! เรย์น่ะเป็นอเมริกัน!! วันดีคืนดีคิดจะกลับอเมริกา ก็ต้องพานภาไปด้วยน่ะซี!! เรื่องอะไรผมจะปล่อยน้องผมไปไกลหูไกลตา อเมริกากับเมืองไทยไม่ใช่จะใกล้ๆเสียหน่อย เกิดน้องผมไปตกระกำลำบากที่นั่น ผมจะช่วยเหลือได้ยังไร!! ผมไม่ยอมหรอก!! ไม่ว่ายังไรก็ไม่ยอม!! ต่อให้คุณพงศ์ย้ำนักย้ำหนาว่า ๒ คนนั้นรักกันจริง!! ผมก็ยิ่งไม่...” จันทร์จ้าวพูดไม่ทัจบ ก็ฉุกคิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ เขาจับจ้องหม่อมหลวงพงศ์ภราธรเขม็ง



   “...เดี๋ยว...คุณพงศ์ทราบได้อย่างไรว่า ๒ คนนั้นรักกันจริง?”



   “เอ่อ...” คราวนี้คนตกที่นั่งลำบากคือราชนิกูลหนุ่มแห่งวังฉัตร



   “คุณพงศ์ทราบเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก?!!” ยิ่งเห็นเพื่อนเงียบ จันทร์จ้าวก็ตีความเอาว่าหม่อมหลวงพงศ์ภราธรทราบเรื่องนี้อยู่แล้ว และกลายเป็นว่าเขาคือคนที่รู้ทีหลังยิ่งกว่าทุกคน!!



   …นี่คนรอบข้างเห็นเขาเป็นตัวอะไร?!!...



   “กัน...กันเพิ่งทราบ...” หม่อมหลวงพงศ์ภราธรรีบแก้ตัว จันทร์จ้าวร้องลั่น



   “จะทราบเมื่อไรก็ต้องรีบบอกผม!! ทำไมไม่มีใครบอกผมสักคน!! เห็นผมเป็นพระอิฐพระปูนกันรึ?!! ไม่ได้เรื่อง!! น่าโมโหสิ้นดี!!” คนถูกเอ็ดเถียงไม่ออก แต่พอเห็นเพื่อนรักอารมณ์ร้อนหมุนตัวจะเดินออกจากห้องทำงานก็รีบร้องเรียกแต่ไว



   “แล้วนั่นจะไปไหน” จันทร์จ้าวตวัดสายตากลับมามอง หม่อมหลวงพงศ์ภราธรก็สะท้านวูบขึ้นมาอีกด้วยเพราะกลัวใจเพื่อน



   “ไปหานภา!!”



   “ไปทำไม?!!” ราชนิกูลหนุ่มหวั่นใจว่าเพื่อนรักจะก่อเรื่องมากกว่านี้ก็ถึงกับทำตาเหลือก



   “ก็ไปพานภาไปโรงพยาบาลน่ะซี!! คุณพงศ์มาขับรถให้ผมที!!”



   “ไปโรงพยาบาล?!!”



   “คุณพงศ์เข้าใจยากจริง!! ก็อ้ายเจ้าอเมริกันเมื่อกี้มันไปโรงพยาบาล!! ผมก็จะพานภาไปเจอมันน่ะซี!! จะได้รู้ดำรู้แดงกันไป!!” จันทร์จ้าวโวยวายแล้วรีบก้าวเท้าเดินออกจากห้อง ทิ้งให้ราชนิกูลหนุ่มมองตามแล้วยิ่งตาเหลือกมากกว่าเดิม



   “รู้ดำรู้แดง?! แกจะให้คุณนภาเลือกจริงหรือ?!!” ไม่มีคำตอบจากคนกำลังโมโห นอกจากจันทรืจ้าวที่ตะโกนย้ำคำเดิม



   “คุณพงศ์!! จะยืนอยู่อีกนานไหม!! ผมบอกว่าให้มาขับรถให้ผมที!!!”



   “ไปเดี๋ยวนี้ๆ!!” แล้วราชนิกูลหนุ่มก็รีบวิ่งออกจากห้องตามเสียงเพื่อนรัก เพราะเกรงว่าหากปล่อยให้จันทร์จ้าวรอนานกว่านี้ เขาอาจจะต้องเข้าโรงพยาบาลเป็นรายถัดไป



............................................


   กว่าเรย์มอนด์ อดัมส์จะมาถึงโรงพยาบาลซึ่งอยู่ไกลจากสำนักงานอันเป็นสถานที่เกิดเหตุ เลือดที่หางคิ้วอันเกิดจากการทะเล่อทะล่าถูกจันทร์จ้าวผลักจนล้มไปกระแทกกับขอบโต๊ะก็แห้งกรังไปแล้ว แต่ความเจ็บแสบยังเกิดยิบๆตามรอยแผลแตก สีหน้ายังซีดเซียวเพราะความจริงที่ควรปกปิดกลับล่วงรู้ไปถึงหูคนที่ไม่ควรให้รู้มากที่สุด



   จันทร์จ้าวกับหม่อมหลวงพงศ์ภราธรตามมาทีหลัง โดยคนอารมณ์ร้อนบังคับให้เพื่อนรักผู้รับหน้าที่ขับรถแวะไปรับนภาสรวงมาจากที่ทำงานของหล่อนก่อน



   “มาโรงพยาบาล? มาทำไมคะพี่จันทร์ มีใครเป็นอะไรหรือ” นภาสรวงออกจะแปลกใจที่พี่ชายของหล่อนไปรับหล่อนจากที่ทำงานก่อนเวลาเลิก ซ้ำถามสาเหตุจากเขา เขาก็ไม่ยอมบอก หล่อนเองก็ไม่ใช่คนเซ้าซี้จึงยอมนั่งรถมากับเขาจนกระทั่งมาถึงโรงพยาบาล ยิ่งทำให้หญิงสาวใจคอไม่สู้ดี



   “เข้าไปแล้วก็รู้เอง” จันทร์จ้าวตอบเสียงห้วนแล้วเปิดประตูลงจากรถ นภาสรวงอยากหันไปถามหม่อมหลวงพงศ์ภราธร แต่เพราะความร้อนใจด้วยเกรงว่าใครจะเป็นอะไรจึงไม่อาจรอถามได้อีก หล่อนเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินตามพี่ชายเข้าไปในโรงพยาบาลทันที ราชนิกูลหนุ่มได้แต่มองตามแล้วถอนหายใจอีกหนก่อนจะเดินเข้าไปเป็นคนสุดท้าย



   ภายในโรงพยาบาลยังคงคราคร่ำไปด้วยผู้คน แต่กระนั้นชายหนุ่มชาวต่างชาติผู้มีผมสีทองอร่ามผิดแผกไปจากคนไทยอื่นก็โดดเด่นสะดุดตาเป็นที่สุด



   “คุณเรย์!!!” นภาสรวงครางด้วยความตกตะลึงแล้วจึงรีบวิ่งเข้าไปหา เรย์มอนด์ อดัมส์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อพบว่านภาสรวงมาที่นี่



   “คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรคะ?! แล้วนั่น...” หญิงสาวกวาดตามองใบหน้าของชายคนรักที่มีผ้าปิดแผลติดอยู่ที่หางคิ้วแล้วก็ใจคอไม่สู้ดี รีบกวาดสายตาลงมองตามเนื้อตัว แต่ไม่มีร่องรอยใดๆให้ยิ่งใจหายกว่านี้



   “ผมไม่เป็นอะไร” เรย์มอนด์พูดด้วยรู้สึกผิด ที่ทำให้หญิงคู่รักของเขาต้องห่วงใยถึงเพียงนี้



   “ไม่เป็นอะไรได้อย่างไรคะ ก็นี่...” นภาสรวงพูดไม่ทันจบดี เสียงเข้มงวดก็ดังขึ้นเบื้องหลัง



   “ดูสนิทสนมกันดีนะ! เท่าที่จำได้ นภากับเรย์พบกันครั้งเดียวไม่ใช่รึ?!!” หญิงสาวตัวชาวาบด้วยความตกใจ หล่อนสบตากับชายคนรัก ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความสำนึกผิด ขอโทษ และเสียใจ แล้วพอหันมองไปยังต้นเสียงเมื่อครู่ เห็นสีหน้าถมึงทึงของจันทร์จ้าวและอาการกอดอกจ้องเขม็งมาที่พวกหล่อน นภาสรวงก็ทราบในวินาทีนั้นว่าเรย์มอนด์ อดัมส์ต้องการขอโทษเรื่องใด



   ...เขาเคยให้สัญญากับหล่อนว่าจะไม่บอกใคร นอกเสียจากจะให้หล่อนเป็นคนบอกเอง แต่กระนั้น...เวลานี้จันทร์จ้าวคงทราบเรื่องจากปากเขาแล้ว...



   หญิงสาวถอนหายใจแผ่วราวกับยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นได้ เห็นสีหน้าท่าทางของผู้เป็นพี่ก็พอจะทราบดีว่าเขาไม่พอใจเพียงไรกับเรื่องทีเกิดขึ้น แต่ความรู้สึกของหล่อนและเรย์มอนด์ไม่ใช่เรื่องผิด เหมือนที่ความรู้สึกของจันทร์จ้าวและหมอภวัตก็ไม่ใช่เรื่องผิดเช่นเดียวกัน



   “พี่จันทร์คะ...”



   “ไปคุยกันข้างนอกเถอะครับ” เสียงของหมอภวัตดังขึ้นก่อนที่นภาสรวงจะทันได้พูดอะไร ทั้งจันทร์จ้าว หม่อมหลวงพงศ์ภราธร เรย์มอนด์ นภาสรวงไม่เว้นแม้แต่พวกพนักงานที่พานายฝรั่งมาส่งก็ยังพากันหันมองไปตามเสียงนั้น



   “อย่าคุยกันในนี้เลยครับ ออกไปคุยกันที่สวนจะดีกว่า” ภวัตย้ำ เพราะตอนนี้ที่ทุกคนยืนอยู่คือโถงของโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยผู้คน และใครหลายคนก็กำลังมองตรงมาที่กลุ่มของจันทร์จ้าวด้วยความสนใจ



   ไม่มีใครกล้าออกความเห็นอะไร ดูเหมือนจะรอให้จันทร์จ้าวตัดสินใจว่าจะออกไปคุยนอกโรงพยาบาลตามที่หมอภวัตเสนอมาหรือทู่ซี้คุยกันในโถงต่อไป รออยู่ชั่วอึดใจ ร่างสูงของจันทร์จ้าวก็หมุนตัวเดินนำออกจากโรงพยาบาลออกไปยังสวนด้านช้าง หม่อมหลวงพงศ์ภราธรถอนหายใจยาวเหยียดอย่างโล่งอกไปเปราะ ก่อนจะหันไปทางหมอภวัต



   “ผมถือว่าหมอยินดีเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ เชิญเดินนำพวกผมไปเลยครับ” เขาว่าอย่างนั้น นายแพทย์หนุ่มจึงเป็นคนเดินตามจันทร์จ้าวออกไปเป็นคนที่ ๒ ตามหลังด้วยนภาสรวง และหม่อมหลวงพงศ์ภราธรที่สั่งให้พนักงานกลับไปก่อนแล้วจึงหันมาพยุงเรย์มอนด์ อดัมส์ผู้ยังมีสีหน้าซีดเซียวตามหลังไปเป็นคนสุดท้าย




...............................................


   สวนข้างตึกโรงพยาบาลยังคงเงียบสงบ ทว่าจิตใจของจันทร์จ้าวร้อนรุ่มและเต็มไปด้วยไฟโกรธ เรย์มอนด์ อดัมส์และนภาสรวงคบหากัน หากไม่ใช่เพราะเขาจับสังเกตได้เองและหลอกถามให้ดารารัษมีพูด ชาตินี้เขาคงไม่มีวันรู้!



   ยิ่งคิดว่าถูกปิดบังจากน้องสาวและเพื่อนรัก จันทร์จ้าวก็ยิ่งไม่พอใจ เขาหยุดยืนอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ รอจนฝีเท้าที่เดินตามมาเบื้องหลังหยุดลง เขาจึงหันกลับไป ทว่าคนที่ยืนบังนภาสรวงและเรย์มอนด์ อดัมส์ คือหมอภวัต



   “หลบไป เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับหมอ!”



   “แต่เรื่องนี้ทำให้คุณโมโห และเรื่องของคุณเกี่ยวกับผม” คำพูดของหมอภวัตทำเอาคนกำลังหัวเสียถึงกับชะงัก จันทร์จ้าวมองสบเข้าไปในดวงตานายแพทย์หนุ่มที่มองตรงมาอย่างมั่นคงแล้วก็ต้องหันหลังให้เพราะอารมณ์เขินกำลังตีขึ้นมาแทนที่ความโกรธ



   ...พูดอย่างนี้ในเวลาเช่นนี้มันใช่เสียที่ไหน!! เอาไว้พูดเวลาอยู่กัน ๒ คนสิ!!...



   นภาสรวงซึ่งยืนอยู่เบื้องหลังหมอภวัตมองพี่ชายผู้หันหลังให้และหมอภวัตที่พยายามช่วยขวางพายุอารมณ์ของจันทร์จ้าว ดวงตากลมของคนเป็นน้องมองแผ่นหลังของพี่ด้วยความเข้าใจและเมื่อเบือนมามองแผ่นหลังของภวัตหล่อนก็ซาบซึ้งในความมีน้ำจิตน้ำใจของเขา



   “คุณหมอ ไม่เป็นไรค่ะ นภาจะคุยกับพี่จันทร์เอง” หล่อนเดินมาพูดกับนายแพทย์หนุ่มก่อนจะหันไปมองแผ่นหลังของผู้เป็นพี่



   “พี่จันทร์คะ...” เจ้าของชื่อที่หล่อนเรียกยังคงยืนหันหลังให้ แต่กระนั้นนภาสรวงก็ทราบดีว่าพี่ชายของหล่อนกำลังตั้งใจฟังในสิ่งที่หล่อนจะพูดออกไป



   “นภากราบขอโทษพี่จันทร์ ที่นภาไม่ยอมบอกเรื่องของนภากับคุณเรย์” หล่อนพูดแล้วยกมือไหว้แม้เขาจะไม่หันมาก็ตาม



   “ถ้าพี่ไม่รู้เอง นภาคิดจะบอกพี่เมื่อไร!!” จันทร์จ้าวตั้งคำถามเสียงแข็ง ดวงตากลมโตจับจ้องไปที่ทิวไม้ไกลลิบเขม็งยังคงหันหลังให้นภาสรวงเพราะไม่อยากหันกลับไปมองหน้าน้องให้ช้ำใจที่หญิงสาวคบหากับเพื่อนของเขาโดยที่เขาไม่รู้ไม่เห็น



   “นภาขอโทษอีกครั้งค่ะ แต่นภาไม่คิดจะบอกพี่” คำตอบของนภาสรวงทำเอาคนสู้อุตส่าห์อดทนไม่หันมองต้องตวัดสายตากลับมาโดยพลัน ตกตะลึงเพราะไม่คิดว่านภาสรวงผู้หัวอ่อนจะกล้าตอบคำถามได้เข้มแข็งเช่นนี้



   หญิงสาวส่งยิ้มอ่อนหวานให้พี่ชาย แล้วหมุนตัวเดินกลับไปยืนเคียงข้างเรย์มอนด์ อดัมส์ที่ถูกพยุงโดยหม่อมหลวงพงศ์ภราธร ราวกับเป็นการบอกให้จันทร์จ้าวที่ยืนนิ่งอ้าปากค้างได้รับรู้ว่าไม่ว่าอย่างไร หล่อนก็เลือกเรย์มอนด์ อดัมส์มากกว่าพี่ชายอย่างเขา



   “นภากับคุณเรย์เคยคุยกันแล้ว ว่าเรื่องของเราไม่มีทางเป็นไปได้ หากคุณพ่อคุณแม่ทราบ นภาคงถูกบังคับให้แต่งงานกับใครสักคน ในเมื่อเรา ๒ คนแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามประเพณีไม่ได้ เราก็จะดูแลกันอย่างนี้ไปเรื่อยๆ”



   “รู้ว่าเป็นไปไม่ได้แล้วทำไมถึงยัง...!!” จันทร์จ้าวร้องถามแล้วก็พลันชะงักไปเมื่อเหลือบดวงตามามองที่หมอภวัต



   ...ใช่...เขาเองก็ทราบว่าเรื่องของเขาและหมอไม่มีทางเป็นไปได้ แต่กระนั้น...หัวใจของเขาก็ยัง...



   นภาสรวงมองพี่ชายแล้วส่งยิ้มจาง



   “พี่จันทร์เองก็ทราบ...ว่าเรื่องเช่นนี้บังคับไม่ได้...”



   ...ใช่...บังคับไม่ได้ เพราะหากบังคับได้ เขาคงบังคับหัวใจตัวเองให้ไม่ต้องรักหมอภวัตได้นานแล้ว...



   “แล้วถ้าวันหนึ่งเรย์กลับอเมริกา?! นภาจะทำอย่างไร?!!” จันทร์จ้าวตั้งคำถามเสียงห้วน



   “เฮ้! ผมไม่เคยคิดจะกลับ...” เรย์มอนด์ยกมือขอพูดแทรก แต่พูดไม่ทันจบเพื่อนโมโหร้ายของเขาก็หันมาดุ



   “ผมถามน้องผม! คุณไม่เกี่ยว!! เรย์มอนด์ อดัมส์!!” นายฝรั่งตัวโตปิดปากเงียบกริบ นภาสรวงหันไปมองชายคนรักแล้วยิ้มจางอย่างเอ็นดูเขา เรย์มอนด์ อดัมส์เป็นผู้ชายร่างใหญ่ แต่กระนั้นเขาก็อ่อนโยนและเป็นสุภาพบุรุษ



   “นภาตั้งใจเอาไว้แล้วค่ะ ว่าไม่ว่าอย่างไร นภาก็จะอยู่ที่นี่ นภาเป็นลูกสาวคนใหญ่ของคุณพ่อคุณแม่ นภามีหน้าที่ดูแลคุณพ่อคุณแม่ หากวันหนึ่งคุณเรย์ต้องกลับอเมริกา นภาก็จะเพียงไปส่งเขา หากเขากลับไปแล้ว และพบเจอผู้หญิงที่เขาต้องการแต่งงานด้วย นภาก็จะยินดี แล้วถือเสียว่าเราทำบุญมาด้วยกันเพียงเท่านี้”



   “Sky คุณอย่าได้กังวลเช่นนั้นเลย ผมไม่เคยคิดจะกลับอเมริกา ผมอยากอยู่กับคุณที่นี่ หรืออยู่ที่ไหนก็ได้ขอแค่มีคุณ” เรย์มอนด์ก้มหน้ามองหญิงคนรักที่ยืนอยู่เคียงข้างเขา ไม่มีการแตะเนื้อต้องตัวแต่ประการใด แต่สายตาที่ทอดมองกันและกัน แม้แต่จันทร์จ้าวที่กำลังโกรธเกรี้ยวก็ยังรับรู้ และยิ่งรู้...ก็ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดเป็นทวีคูณ



   “อย่าเพิ่งมองตากันตอนนี้ได้ไหม?!! คิดว่าทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็นพยานรักรึไร?!!!” คนหงุดหงิดอยากจะเข้าไปจับแยกหญิงชายทั้งคู่ออกจากกัน แต่อะไรบางอย่างกลับยึดขาเขาเอาไว้ราวกับตอกตะปู เลยทำได้เพียงโวยเสียงเบาแต่สีหน้าหงุดหงิดเหลือประมาณ



   ...หากเขากีดกันนภาสรวงและเรย์มอนด์ อดัมส์...น้องของเขาจะเสียใจ น้องของเขาจะเจ็บปวด...เขาที่เคยพูดกับดารารัษมีว่าหากไม่ยอมรับความรู้สึกของเขาและหมอภวัต ก็ให้วางเฉย มาบัดนี้เมื่อไม่ยอมรับความรู้สึกของนภาสรวงและเรย์มอนด์ อดัมส์ กลับจะตีโพยตีพายทำทุกวิถีทางเหมือนเช่นที่ดารารัษมีทำอย่างนั้นหรือ?...



   นภาสรวงหันไปมองจันทร์จ้าวผู้ที่ยังคงมีหัวคิ้วขมวดมุ่น แล้วจึงเดินกลับไปหาผู้เป็นพี่ ยื่นมือออกไปแตะแขนเขาเบาๆ ครั้งแรกแขนนั้นเบี่ยงหนี แต่เมื่อหล่อนพยายามแตะอีกหน เขาก็ยอมอยู่นิ่งให้หล่อนแตะแต่โดยดี



   “พี่จันทร์ อย่าโกรธคุณเรย์เลยนะคะ หากจะโกรธ ก็ขอให้โกรธนภา เพราะนภาเลือกที่จะตอบรับความรู้สึกของเขาเอง” ดวงตากลมใหญ่เหลือบมามองหญิงสาวด้วยความรักและห่วงหา



   “ทั้งๆที่รู้ว่านภาจะไม่มีวันได้แต่งงานมีครอบครัวเหมือนคนอื่นๆ นภาก็ยังเลือกเช่นนี้อย่างนั้นหรือ”



   “ค่ะ” คำตอบรับแสนมั่นคงของหญิงสาวร่างแบบบางทำเอาหัวใจของนายฝรั่งตัวใหญ่ยิ่งสั่นไหว เขาหันไปบอกหม่อมหลวงพงศ์ภราธรเบาๆให้ปล่อยเขาเดินเอง ก่อนจะก้าวเท้าไปยืนเคียงข้างหญิงคนรัก



   “จันทร์...ผมเองก็ผิด ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นน้องสาวของคุณ ทั้งๆที่รู้แก่ใจว่าความรู้สึกของผมจะทำให้ Sky ลำบาก แต่ผมก็ยังมุ่งมั่นที่จะรักเธอ” ไม่ใช่แค่จันทร์จ้าวที่รับรู้ความจริงใจของคนทั้ง ๒ ที่มีต่อความรักของกันและกัน แต่แม้กระทั่งหม่อมหลวงพงศ์ภราธรหรือภวัตก็ยังเห็นใจเรย์มอนด์และนภาสรวง จันทร์จ้าวไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ ยิ่งกับน้องสาวแท้ๆด้วยแล้ว มีหรือเขาจะทนขัดขวางได้ลง ยิ่งน้องสาวพูดเช่นนั้นว่ายินดีไม่แต่งงานไปชั่วชีวิตเพื่อให้ได้รักกับเรย์มอนด์ อดัมส์ เขาก็ยิ่งทั้งเป็นห่วง ทั้งสงสาร แต่ครั้นจะให้ยอมรับด้วยความยินดี ก็เห็นจะไม่ใช่คนดื้อแพ่งคนนี้



   “ใครให้คุณพูดภาษาอังกฤษ เรย์มอนด์ อดัมส์!!!” เขาหันมาตวาดใส่นายฝรั่ง “น้องสาวของผมชื่อนภาสรวง! หากไม่เรียกนภาสรวงก็เรียกนภา ไม่ใช่เรียก Sky!! หากยังอยากคุยกับนภาต่อไปก็ต้องเรียกให้ถูกต้อง!”



๒ หนุ่มสาวมองจันทร์จ้าวด้วยความฉงน ทว่าคนโมโหเป็นฟืนเป็นไฟกลับจับจ้องนายฝรั่งไม่วางตาด้วยสายตาแข็งกร้าว



   “ถ้าผมรู้ว่าคุณทำน้องสาวผมเสียใจ ผมจะส่งคุณกลับอเมริกา! แต่ถ้าคุณทิ้งน้องสาวผมกลับอเมริกา ผมจะลากคอคุณมาขอขมาแทบเท้าน้องสาวผม!! เข้าใจคำว่า ‘ขอขมา’ ใช่ไหม เรย์มอนด์ อดัมส์!! ขอขมาด้วยพานพุ่มธูปเทียน!!!” เป็นการเปิดทางที่ไม่มีคำอวยพรแต่ประการใด มีแต่คำขู่ทั้งขึ้นทั้งล่อง แต่กระนั้นก็เป็นประโยคที่นำความปิติยินดีมาให้ทุกคนที่ได้ยินเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเรย์มอนด์ อดัมส์นั้นถึงกับยิ้มกว้างด้วยความดีใจราวกับตายแล้วเกิดใหม่



   “ผมจะไม่ทำให้ Sky เอ้ย! คุณนภาเสียใจเป็นอันขาด” นายฝรั่งรับปากแน่วแน่

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-12-2015 19:58:54 โดย Dezair »

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8


“พี่จันทร์...” เสียงของนภาสรวงทำให้จันทร์จ้าวยอมละสายตาจากเพื่อนฝรั่งของตนเองมามองน้องสาว นภาสรวงส่งยิ้มให้เขาอย่างซาบซึ้งแล้วจึงยกมือไหว้



   “นภาขอบคุณพี่จันทร์ ที่เข้าใจนภากับคุณเรย์” จันทร์จ้าวไม่พูดกระไร เขาหันหน้าหนีไปอีกทางแล้วก็สบเข้ากับสายตาของหม่อมหลวงพงศ์ภราธรที่มองตรงมาอย่างขอบคุณพร้อมด้วยรอยยิ้มบาง 



ดูเหมือนจะมีแต่คนขอบคุณในความใจกว้างของเขาเสียจริง ยิ่งคิด จันทร์จ้าวก็ยิ่งหงุดหงิด เขาไม่ได้ใจกว้าง ถึงความรักของน้องสาวและเรย์มอนด์ อดัมส์จะเหมือนกับเขา แต่จันทร์จ้าวก็ยังอยากให้นภาสรวงคบหากับคนไทยด้วยกันมากกว่า เพราะสามารถแต่งงานอยู่กินกันได้อย่างเปิดเผย มีสามีเป็นหัวหน้าครอบครัวที่สามารถคุ้มครองดูแลได้ แต่หากคบกับนายฝรั่งต่อไป ให้อย่างไรก็แต่งงานไม่ได้เพราะท่านนายพลเดชและคุณหญิงผกาไม่มีวันยอม นภาสรวงจะต้องอยู่ในสถานะโสดไปจนชั่วชีวิต ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่าเรย์มอนด์ อดัมส์จะเคียงข้างไปจนแก่เฒ่า วันดีคืนดีอาจจะหนีกลับอเมริกา แล้วทิ้งน้องสาวของเขาให้อยู่กับความตรอมตรมก็เป็นได้



   จันทร์จ้าวหันหน้าหนีไปอีกทาง คราวนี้สายตาเจ้ากรรมไปสบเข้ากับสายตาอ่อนโยนของหมอภวัต ผู้ซึ่งทำให้เขารู้รสชาติของรักที่เกิดขึ้นบนพื้นฐานของคำว่า ‘เป็นไปไม่ได้’ และหากเขากับหมอภวัตไม่ได้รู้สึกต่อกันเช่นนั้น เขาจะไม่มีวันยอมให้นภาสรวงและเรย์มอนด์คบหากันเป็นอันขาด



   ภวัตกำลังจะยิ้มให้ แต่จันทร์จ้าวจ้องเขม็งแล้วขู่ฟ่อ



   “เพราะหมอคนเดียว!!” เขาว่าอย่างนั้นแล้วเดินกระแทกเท้ากลับเข้าไปในตึกโรงพยาบาล หม่อมหลวงพงศ์ภราธรมองตามหลังเพื่อนรักแล้วหัวเราะเบาๆ



   “ดูเหมือนจันทร์จะโกรธคุณหมอนะครับ” ภวัตถอนหายใจ แต่ก็ยังมีรอยยิ้มติดอยู่บนใบหน้า



   “เขาก็หาเรื่องโกรธผมเรื่อย ผมขอตามไปดูเขาก่อน ขอให้หายไวๆนะครับคุณเรย์” หมอภวัตพูดแล้วเดินตามคนรักไป ที่สวนของโรงพยาบาลจึงเหลือเพียงราชนิกูลแห่งวังฉัตร นภาสรวงและเรย์มอนด์ อดัมส์



   หม่อมหลวงพงศ์ภราธรหันมองเรย์มอนด์อดัมส์ที่ยืนเคียงข้างหญิงคนรักของเขา มีนภาสรวงก็คอยถามไถ่อาการว่าเจ็บมากเจ็บน้อยเพียงใด คนทั้งคู่คุยกันกระจุ๋งกระจิ๋ง ราชนิกูลหนุ่มจึงขอตัวเดินออกมาเงียบๆ เขาเงยหน้ามองท้องฟ้า กำลังจะสบายอกสบายใจที่ทุกอย่างดูจะคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่จู่ๆเม็ดฝนเล็กๆก็โปรยปรายลงมา เขาวิ่งเข้าไปหลบในตึกของโรงพยาบาล พอมองออกไปที่สวนก็ไม่พบนายฝรั่งและหญิงสาวแล้วก็พอจะเบาใจได้ว่าคนทั้ง ๒ คงหลบฝนได้ทัน แต่หลังจากนั้นเพียงอึดใจเดียว ฝนเม็ดเล็กก็กลายเป็นฝนเม็ดใหญ่ที่เซซัดสาดกระหน่ำลงมาพร้อมกับฟ้าร้องดังกระหึ่ม



   ราชนิกูลหนุ่มมองฟ้าฝนที่ตกหนักแล้วใจคอไม่สู้ดี หวังว่าเขาจะแค่ใจคอไม่ดีเพราะเห็นฝนและเมฆทะมึน อย่าได้เป็นลางบอกเหตุอันใดเลย



........................................



   นอกจากหม่อมหลวงพงศ์ภราธรและนภาสรวงกับเรย์มอนด์ อดัมส์จะติดฝนอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว จันทร์จ้าวที่ถูกหมอภวัตดึงให้เดินตามมาที่บ้านพักแพทย์ทางด้านหลังโรงพยาบาลก็กำลังติดฝนเช่นเดียวกัน



   “หมอจะพาผมมาทำไมก็ไม่รู้! มาแล้วก็ติดฝนอย่างนี้จะกลับออกไปอย่างไร!!” จันทร์จ้าวหันมาถามคนข้างกายอย่างเอาเรื่อง เมื่อพวกเขายืนอยู่ใต้ชายคาเฉลียงหน้าบ้านพัก มองดูน้ำที่ไหลเป็นทางลงมาจากหลังคา พอละสายตามองเลยออกไปก็เห็นแต่ม่านฝน ดูท่าจะเดินกลับไปที่ตึกโรงพยาบาลยาก เพราะฝนหนัก



   “ก็ไม่ต้องกลับสิครับ”



“พูดบ้าๆ!” ภวัตหัวเราะเบาๆ แล้วเอ่ยปากชวน “เข้าไปข้างในเถอะ ยืนตรงนี้โดนละอองฝนจะไม่สบายเอา”



เจ้าของบ้านพักเดินนำเข้าบ้าน มีจันทร์จ้าวเดินตามทั้งที่ยังขมวดคิ้วมุ่น พอบานประตูปิดลง แขกผู้มีเกียรติก็ยืนเคว้งอยู่กลางบ้านส่วนเจ้าของบ้านเดินหายลับเข้าไปในห้องหนึ่ง ก่อนจะกลับมาอีกครั้งพร้อมด้วยผ้าขนหนู



“เช็ดเสียก่อน”



“ขอบคุณ” ร่างโปร่งรับผ้าขนหนูไปเช็ด แต่เช็ดอย่างลวกๆจนในที่สุดหมอภวัตก็แย่งผ้าขนหนูคืนกลับมาแล้วเป็นฝ่ายเช็ดให้แทน



“ผมทำเองได้หน่าหมอ”



“คุณทำเองแล้วผมขัดใจ ผมทำให้จะดีกว่า”



“ใครๆก็ไม่ชอบใจผมทั้งนั้น ขนาดน้องสาวผมยังไม่คิดจะบอกผมเรื่องที่คบกับเพื่อนผมเลย!” จันทร์จ้าวชักพาลพาโล ดวงหน้ายับย่น คิ้วขมวดมุ่นจนภวัตอดใจไม่ไหวจูบเบาๆที่หน้าผากเสียทีหนึ่ง แต่นั่นทำเอาคนถูกจูบถึงกับรีบยกมือขึ้นปิดหน้าผากแล้วร้องลั่น



“หมอทำอะไรน่ะ?!!” หัวขโมยจูบหน้าผากหัวเราะเบาๆก้มเพียงน้อยก็สบตากับดวงตากลมใหญ่ที่จ้องมองเขาเขม็งได้อย่างง่ายดาย



“ให้รางวัลครับ เมื่อครู่นี้คุณเก่งมากที่ยอมรับเรื่องของคุณนภากับคุณเรย์ได้” จันทร์จ้าวหัวดื้อและหัวแข็ง การที่ยอมรับเรื่องของนภาสรวงและเรย์มอนด์ อดัมส์ได้โดยง่ายนั้น เป็นเรื่องแปลก



“ก็เพราะหมอน่ะซี!”



“หืม? เพราะผม?”



“ถ้าไม่มีเรื่องของผมกับหมอ ผมคงไม่มีวันยอมรับเรื่องนภากับเรย์ และผมอาจทำร้ายน้อง อาจสั่งให้นภาเลิกคบกับเรย์ อาจส่งเรย์กลับอเมริกา และอาจทำให้นภาเสียใจอย่างที่ผมเคยเป็น”



   “คุณจันทร์...” ภวัตครางอย่างคาดไม่ถึง เพราะความรู้สึกที่พวกเขามีต่อกัน จึงทำให้จันทร์จ้าวยอมเปิดใจให้กับเรื่องของนภาสรวงและเรย์มอนด์ อดัมส์อย่างนั้นหรือ แม้ความรู้สึกที่พวกเขามีต่อกันจะผิดแปลกไปจากสังคม ทว่าสำหรับจันทร์จ้าว มันกลับสร้างประโยชน์ให้อย่างนั้นหรือ ภวัตรู้สึกชุ่มชื้นไปทั้งอก



   “ที่ผมโทษว่าเป็นเพราะหมอ ผมขอโทษ แต่จริงๆแล้วก็เป็นเพราะหมอ ถ้าไม่ใช่เพราะหมอ ผมคงไม่รู้จักความรู้สึกอย่างนี้ และผมคงไม่ยอมรับนภากับเรย์” นายแพทย์หนุ่มมองสบเข้าไปในดวงตากลมใสแจ๋วราวลูกแก้วด้วยความรักใคร่ มือหนาใหญ่ลูบแก้มขาวแผ่วเบาอย่างอ่อนโยน ทว่าจู่ๆคนในอ้อมแขนของเขาก็ร้องเสียงดังลั่น



   “จริงสิ! ผมนึกออกแล้ว!!!” เขานึกออกแล้วว่าจะทำอย่างไรให้ดารารัษมียอมรับเรื่องของเขาและหมอภวัต



   “นึกออก?” ภวัตทวนด้วยความฉงน จันทร์จ้าวจึงนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่เคยบอกเรื่องดารารัษมีให้อีกฝ่ายทราบ จึงเสยิ้ม



   “เอ้อ...นึกออกว่าเย็นนี้อยากทานอะไร หมอรีบไปทำงานซี ออกเวรแล้วมาพาผมไปทานด้วย” นายแพทย์หนุ่มหัวเราะเบาๆ



   “แล้วอยากทานอะไรล่ะครับ”



   “ไว้หมอออกเวรก่อนแล้วผมค่อยบอก ไปได้แล้วหมอ ป่านนี้คนไข้ชะเง้อคอรอแย่แล้ว” จันทร์จ้าวดันร่างสูงให้เดินไปที่ประตู แต่ภวัตทำเป็นโยกโย้รั้งกายให้หนักแล้วเอี้ยวมามองคนที่พยายามดุนหลังเขา ดวงหน้าขาวยิ้มแย้มจนเห็นลักยิ้ม ดูก็รู้ว่าเจ้าตัวกำลังมีความสุข และยิ่งเห็นจันทร์จ้าวมีความสุข ภวัตก็ยิ่งอดใจไม่ไหว เขาหมุนตัวกะทันหันทำเอาคนดันหลังเต็มแรงเซถลาเกือบจะล้มแต่นายแพทย์หนุ่มคว้าร่างนั้นเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนเสียก่อน



   “หมอ!” คนอยู่ในอ้อมแขนร้องโวยเพราะอีกฝ่ายรัดร่างเขาแน่น ภวัตหัวเราะเบาๆ



   “ขอมัดจำก่อนแล้วจะไปทำงานนะครับ”



   “มัดจำอะไร...” ไม่มีคำตอบของคนขอมัดจำ เพราะนายแพทย์หนุ่มเจ้าของบ้านพักก้มลงมอบรสจูบหวานกับริมฝีปากสีจัดแล้ว จันทร์จ้าวหลับตาลงรับรอยจูบนั้นด้วยความเต็มใจ นอกจากจะมีความสุขเพราะอีกฝ่ายช่างเอาใจและดูแล เขายังมีความสุขเพราะนึกวิธีการดีๆที่จะจัดการน้องสาวคนเล็กได้อยู่หมัด



   ...คราวนี้ดารารัษมีจะไม่มีโอกาสขวางความรักของเขาและหมอภวัตอีก!...



......................................



    ฟ้าฝนยังตกหนัก อาณาบริเวณของเมฆฝนเป็นวงกว้าง นอกจากที่โรงพยาบาลแล้ว บ้านรักษพิพัฒน์ยังอยู่ในอาณาเขตของฝนด้วย ดารารัษมีกลับมาถึงบ้านก่อนที่ฝนจะตก หลังจากเมื่อตอนบ่ายได้หม่อมหลวงพงศ์ภราธรขับรถไปส่งหล่อนที่โรงเรียนสตรีกัลยาณี และได้สอน ๑ คาบอย่างไม่มีสมาธิ หลังจบคาบแล้วจึงกลับมาที่บ้านโดยไม่รออาทิตย์ไปรับพร้อมหม่อมหลวงพิมพัชราอย่างเคย



   หล่อนมีเรื่องติดค้างอยู่ในใจ และเป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกับมารดาเพียงลำพัง



   “โชคดีไปนะ กลับมาก่อนจะติดฝน ไม่อย่างนั้นคงต้องรอพี่เขาแย่” คุณหญิงผกาหันมาพูดกับธิดาคนเล็กที่นั่งอยู่ใต้ชายคาร่วมกับหล่อน แต่มือยังตัดก้านดอกไม้ให้พอดีกับแจกันที่อยู่ตรงหน้า พักหลังมานี้ คุณหญิงไม่ใคร่จะเจ้ากี้เจ้าการงานบ้านงานเรือนเสียเท่าไร หลังจากเป็นลมไปแล้ว ๒ ครั้ง งานในครัวยกให้นภาสรวงดูแล ส่วนงานบนเรือนเป็นหน้าที่ดารารัษมีและจรวยคนรับใช้ใกล้ชิด ส่วนคุณหญิงหากไม่แกะสลัก ทำงานฝีมือ ก็จัดดอกไม้ พอให้คลายเหงาได้บ้าง



   “ลูกมีเรื่องอยากจะเรียนคุณแม่...” คุณหญิงผกาหันมองธิดา ดารารัษมีนั่งเกร็งเสียจนแปลกใจ



   “มีเรื่องอะไรหรือ”



   “คุณแม่...คิดเห็นอย่างไรเรื่องคู่ครองของพี่จันทร์คะ” มารดาชะงักไปโดยพลัน พักหลังมานี้จันทร์จ้าวทำตัวดีไม่มีเรื่องให้หล่อนระแคะระคาย ไม่มีเรื่องบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนไปยุ่งเกี่ยวกับสตรีผู้ใดมาเข้าหู หญิงเลวที่หล่อนเกรงว่าจะทำให้จันทร์จ้าวตกร่องปล่องชิ้นก็ดูเหมือนจะเป็นที่เบื่อหน่ายของบุตรชายไปเสียแล้ว คุณหญิงผกาใจชื้นจนไม่ได้คิดจะหาคู่ให้อีก จนกระทั่งดารารัษมีเอ่ยปากวันนี้



   “คู่ครองของพ่อจันทร์?! แม่ดาราหมายความว่ากระไร!!”



   “เอ่อ...ลูกหมายถึง...หมายถึง...คุณแม่หาคู่ไว้ให้พี่จันทร์หรือยังคะ พี่จันทร์ก็อายุเหมาะสมจะออกเรือนแล้ว หากแต่งงานพร้อมพี่อาทิตย์ไปเสีย ก็คงจะดี แต่งทีเดียว ๒ คู่ยังไรล่ะคะ” ดารารัษมีเกรงว่ามารดาจะเป็นลมไปอีก จึงรีบอธิบายเพิ่มเติม คุณหญิงผกาถอนหายใจพรู



   “พุทโธ่! แม่ก็นึกว่าเรื่องอะไร จู่ๆแม่ดาราก็มาถามเรื่องคู่ครองพ่อจันทร์ แม่ก็นึกว่าแม่ดาราไปพบไปเห็นพ่อจันทร์กับผู้หญิงเลวที่ไหนเสียอีก” คำพูดของมารดาทำเอาดารารัษมีพูดไม่ออก ด้วยเพราะสิ่งที่หล่อนพบเห็นนั้นไม่ใช่จันทร์จ้าวกับผู้หญิงเลวคนใด แต่เป็นจันทร์จ้าวกับผู้ชายอย่างหมอภวัตต่างหาก



   “ลูก...ไม่ได้เห็นเรื่องเช่นนั้นหรอกค่ะ แต่...แต่ลูกอยากให้พี่จันทร์แต่งงานแต่งการเสียที คุณแม่พอจะมองใครไว้บ้างหรือยังคะ”



   “ก็พอจะมองอยู่หรอกนะ แต่...แม่ก็ไม่อยากจะบังคับพ่อจันทร์เขา...”



   “แต่ลูกคิดว่าคุณแม่ควรบังคับ!” ดารารัษมีร้องขึ้นมาอย่างร้อนรน และพอเห็นสายตาของคุณหญิงผกาที่หันมองมาด้วยความตกใจ หญิงสาวผู้เป็นธิดาก็ถึงได้รู้สึกตัวแล้วจึงยกมือขึ้นไหว้ขอลุแก่โทษ



   “ขอโทษค่ะคุณแม่ ลูกแค่...แค่อยากเห็นพี่จันทร์มีครอบครัว เอ่อ...ลูกมีเพื่อนครูที่โรงเรียนอยู่คนหนึ่ง ชื่อคุณอุไร เธอเรียนจบจากเมืองฝรั่งเชียวนะคะ ตอนนี้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ เป็นเพื่อนสนิทของคุณพิมด้วยค่ะ ลูกเคยเห็นพี่จันทร์มองเธออย่างสนใจ ลูกก็เลยคิดว่า...เอ่อ...หากเป็นคุณอุไร พี่จันทร์คงจะไม่คิดว่านี่คือการบังคับของคุณแม่...”



   “พ่อจันทร์สนใจด้วยหรือ” คุณหญิงผกาหันมาถามอย่างแปลกใจ ด้วยเพราะจันทร์จ้าวเป็นลูกรัก มีหรือที่คุณหญิงจะไม่รู้จักนิสัยดี หากจันทร์จ้าวสนใจ ไม่จำเป็นต้องให้ดารารัษมีมาพูดให้หล่อนฟังหรอก ป่านนี้เขาคงตามไปเฝ้าที่โรงเรียนสตรีกัลยาณีทั้งเช้า สาย บ่าย ค่ำแล้ว



   “ค่ะ...ลูกคิดว่าอย่างนั้น...” ดารารัษมีรับคำเสียงแผ่วแล้วได้แต่ก้มหน้า บีบมือประสานกันที่ตักอย่างอัดอั้น คุณหญิงผกามองธิดาคนเล็กด้วยสายตาสงสัย นอกจากหล่อนจะรู้จักนิสัยจันทร์จ้าวดีแล้ว หล่อนก็รู้จักนิสัยดารารัษมีดีเช่นกัน



   “ดารา แม่รู้ว่าลูกเป็นห่วงพี่เขา แต่พ่อจันทร์ไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาบังคับหรอก ยิ่งเป็นเรื่องคู่ครองด้วยแล้ว หากว่าเขาไม่เห็นชอบ ก็เห็นจะป่วยการแนะนำ หรือถ้าเขาชอบ เขาไม่ปล่อยให้แม่ดาราเป็นคนมาพูดกับแม่เองหรอก ป่านนี้เขาคงเทียวไล้เทียวขื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว” ดวงตากลมโตของธิดาเหลือบมองหล่อนด้วยความสิ้นหวัง ทำเอาหัวอกคนเป็นแม่ได้แต่สงสาร แต่เพราะอีกฝ่ายคือจันทร์จ้าวที่คุณหญิงผกาไม่เคยใจแข็งบังคับเขาได้เสียที ครั้งนี้จะสั่งให้เขาแต่งงาน คุณหญิงก็ทำไม่ลง



   “เอาเถอะ...ถ้าอย่างไรดาราพาเพื่อนมาเที่ยวเล่นที่นี่บ้างก็แล้วกัน หากแม่เห็นแล้วถูกชะตา ก็จะสนับสนุนกับพ่อจันทร์เขาอีกแรง” ดวงหน้าของธิดาคนเล็กมีรอยยิ้มราวกับมีความหวัง แล้วจึงยกมือพนมไหว้



   “ขอบคุณค่ะคุณแม่! ลูกจะพาคุณอุไรมาเที่ยวที่นี่ค่ะ! ถ้าอย่างไรเป็นวันเสาร์นี้นะคะ! ลูกจะพาคุณอุไรมา”    



   “จ้ะ” คุณหญิงได้แต่รับคำ แล้วเหลือบมองธิดาที่ดูจะกลับมามีชีวิตชีวาดังเก่าด้วยความประหลาดใจ



   ...ดารารัษมีคงรู้เห็นอะไรมา ถึงได้รีบเร่งจะให้จันทร์จ้าวแต่งงาน...คุณหญิงเป็นกังวล ด้วยเพราะไม่อาจคาดเดาว่าสิ่งที่ธิดารับรู้มานั้นคือเรื่องใด



.........................................................



   ตอนที่หมอภวัตออกเวร ฝนก็ซาลงไปมากแล้ว แต่กระนั้นเมื่อเขาวิ่งกลับมาที่บ้านพักทางด้านหลังโรงพยาบาล เสื้อผ้าก็ยังเปียกชื้นอยู่ดี ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปในบ้านพักก็พบว่าคนที่บอกว่าจะรอเขาออกเวรกลับนอนหลับอยู่ที่เก้าอี้ยาวไปเสียแล้ว ภวัตอมยิ้มบางด้วยความเอ็นดู ก่อนจะปิดประตูแล้วเดินเข้ามาหา จันทร์จ้าวยังคงนอนเอนหลับสบายเพราะอากาศในบ้านค่อนข้างเย็นเนื่องจากฝนตกและลมผ่านทางช่องหน้าต่าง เขาทรุดตัวลงนั่งยองข้างเก้าอี้ยาวแล้วเกลี่ยข้อนิ้วกับเส้นผมที่ตกลงมาละหน้า ก่อนจะก้มลงจูบเบาๆที่ข้างขมับ



   “ตื่นได้แล้ว คุณจันทร์” เขากระซิบ และราวกับเป็นเหล็กร้อน เพราะคนกำลังหลับถึงกับสะดุ้งโหยงลืมตาตื่นโดยพลัน ภวัตเห็นสีหน้าคนเพิ่งตื่นอยู่ในอาการตระหนกตกใจแล้วก็หัวเราะเบาๆ



   “เป็นอะไรไป ผมปลุกแค่นี้ทำเป็นตกใจ”



   “ก็ตกใจน่ะซี! ผมเคยถูกปลุกอย่างนี้เสียที่ไหน!” พอพูดออกไปแล้ว ก็ราวกับจันทร์จ้าวจะเห็นความดีอกดีใจฉายชัดอยู่ในดวงตาคมคู่นั้น



   “ผมก็ไม่เคยปลุกใครอย่างนี้เช่นกัน” น้ำเสียงทุ้มนั้นแสนอ่อนโยน ทำเอาหัวใจคนฟังสั่นสะท้านจนต้องเบือนสายตาหนีไปทางอื่น ภวัตมองดวงหน้าขาวที่เริ่มขึ้นสีเรื่อยแล้วได้แต่ยิ้มจาง คราวแรกๆเห็นเป็นนักรัก ไม่คิดว่าพอถึงเวลาจริงๆ จะกลายเป็นคนเขินอายเช่นนี้



   “จะว่าไปแล้ว ก็เหมือนเรื่อง Slepping Princess นะครับ ต้อง ‘ปลุก’ เสียก่อน...จึงจะตื่น...” คำว่าปลุกในประโยคของหมอภวัตราวกับจะเน้นย้ำว่านั่นคือการปลุกที่แสนวิเศษ จันทร์จ้าวรู้สึกหวามไหวไปทั้งอก เขาพบเจอผู้หญิงมาก็มาก เฟิล์ตผู้หญิงมาก็ไม่น้อย แต่ไม่เคยมีครั้งไหนในชีวิตจะทำให้หัวใจไหววูบได้เท่านี้มาก่อน



   “ผม...ผมไม่เห็นรู้จัก...” คนถูกปลุกอย่างวิเศษได้แต่อ้อมแอ้มเสียงแข็งพยายามผลักเรื่องเมื่อครู่ให้พ้นตัว เพราะชักรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นสาวน้อยแรกรักเข้าไปทุกที



   ภวัตมองใบหน้าที่ขึ้นสีเรื่อด้วยความรักใคร่และเอ็นดู เขารู้ดีว่าจันทร์จ้าวกำลังเขินอาย และหากปล่อยให้เขินมากกว่านี้ เห็นทีจันทร์จ้าวอาจจะหาเรื่องไม่มาเที่ยวเล่นที่นี่อีก



   “แล้วรู้จักเรื่องอะไรบ้างครับ ไกรทองรู้จักไหม”



   “รู้จักสิ”



   “สมัยเด็กๆ ผมเคยเล่นกับนายเภา นายเภามักจะขอเป็นไกรทองทุกที ผมก็ต้องเป็นชาละวันเรื่อย” จันทร์จ้าวหันมามองแล้วหัวเราะเบาๆ



   “ของผมกลับกัน พี่อาทิตย์มักจะขอเป็นชาละวัน เพราะอยากให้ผมเป็นไกรทอง ผมเป็นไกรทองเสียจนเบื่อ บางทีก็อยากเป็นชาละวันบ้าง แต่พี่อาทิตย์มักจะเสนอตัวขอเป็นชาละวันก่อนทุกที ผมก็รู้หรอกน่ะ ว่าพี่อาทิตย์อยากให้ผมเป็นพระเอก แต่ผมก็มีอารมณ์อยากเป็นผู้ร้ายกับเขาบ้าง พี่อาทิตย์ไม่ค่อยจะเข้าใจผมเสียเลย” ภวัตฟังแล้วหัวเราะ อารมณ์เขินอายเมื่อครู่จางหายไปแล้ว ที่เหลืออยู่ตรงนี้คือความสบายใจที่ได้คบหาพูดคุยกัน



   “แล้วที่ว่าเย็นนี้มีร้านที่อยากทาน คือที่ไหนหรือครับ” เขาถามไปอีกเรื่องเมื่อเห็นว่าจันทร์จ้าวไม่มีอารมณ์ขวยเขินเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว ชายหนุ่มเรียนรู้ที่จะอยู่เคียงข้างจันทร์จ้าวในฐานะคนรักทีละน้อย ด้วยการไม่สร้างบรรยากาศหวามไหวนานๆ แต่ทำบ่อยๆก็คงไม่ว่ากระไร



   ดวงตากลมใหญ่เหลือบมามองคนถามที่ขยับออกไปนั่งเก้าอี้เดี่ยวใกล้ๆ ภวัตเป็นคนฉลาด และอันที่จริงแล้วจันทร์จ้าวไม่ชอบอยู่กับคนที่ฉลาดมากกว่า แต่คนฉลาดอย่างหมอภวัตแกล้งโง่เพื่อเขาบ่อยๆ คนฉลาดน้อยกว่าอย่างจันทร์จ้าวจึงอยู่กับคนฉลาดมากกว่าอย่างหมอภวัตได้อย่างสบายอกสบายใจ



   “เยาวราช”



   “อ้อ...ร้านอาหารจีนที่เยาวราชน่ะหรือ”



   “ไม่ใช่ ผมจะไปโฮเต็ลของคุณวินิตต่างหาก”



   “โฮเต็ลของคุณวินิต?” วินิตที่ว่าคงไม่ใช่ใครอื่น นอกเสียจากนายวินิตเพื่อนร่วมตีเทนนิสที่สามารถตีโต้กับจันทร์จ้าวได้อย่างสนุก แม้จะเป็นฝ่ายจันทร์จ้าวที่ชนะทุกครั้งก็ตามที



   “ใช่ มีคนเคยบอกว่าคุณวินิตมีโฮเต็ลที่เยาวราช ตอนนี้กำลังชื่อดังเพราะเรสเตอร็องส์ในนั้นทำติ่มซำได้อร่อยมาก ผมก็เลยจะไปลองเสียหน่อย ขอผมใช้ห้องน้ำล้างหน้าล้างตาก่อน หมอก็เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยซี จะไปทั้งชุดนั้นหรือ” จันทร์จ้าวพูดแล้วลุกขึ้นจะเดินไปเข้าห้องน้ำทางด้านหลัง แต่ภวัตคว้าแขนเอาไว้ก่อนด้วยเพราะรู้สึกสงสัยที่จู่ๆอีกฝ่ายก็นึกอยากจะรับประทานติ่มซำที่โฮเต็ลของนายวินิต



   “คุณจะไปโฮเต็ลของคุณวินิตเพราะเรื่องติ่มซำอย่างเดียวหรือครับ” ดวงตากลมใหญ่มองสบเข้าไปดวงตาคมดุของเจ้าของคำถาม จันทร์จ้าวยกยิ้มที่มุมปาก



   “ไปถึงหมอก็รู้เองแหละหน่า” เขาเอ่ยก่อนจะหมุนตัวเดินไปทางด้านหลังบ้านพัก ภวัตมองตามด้วยความห่วงใยและเป็นกังวล



ติดตามตอนต่อไป (เจอกัน พฤหัสที่ 7 มกราค่ะ)
ตอนที่แล้ว เป็นไปตามคาด ทุกคนจะต้องโกรธเกลียดดารา แต่อยากให้รู้ไว้ ถึงวันนี้ทุกคนจะเกลียดดารา แต่วันหน้าทุกคนจะเลิกเกลียดนาง (นางสตรองเหมือนพี่นางนี่แหละค่ะ ฮาฮา)
 
เอาจริงๆแล้ว บัวเซ็ตนิสัยจันทร์กับดาราให้เหมือนกันเลยค่ะ เพราะว่าอยากให้เป็นกระจกของกันและกัน เหมือนที่เรามักจะนิสัยคล้ายคนในครอบครัวเราคนใดคนหนึ่งมากๆ จนเห็นการกระทำของคนคนนั้นเหมือนกับเรางี้แหละค่ะ

ขอบคุณพื้นที่บอร์ด คนอ่าน คนเม้นท์ คนรอ และทุกๆกำลังใจ

สำหรับวันนี้ เมอร์รี่ คริสต์มาสค่ะ

เจอกันใหม่ตอนหน้า ปีหน้า (ไม่ชัวร์ว่าปีนี้จะมีตอนพิเศษสิ้นปีมั้ยนะคะ ช่วงนี้บัวป่วยบ่อย ถ้าหายป่วยทันพิมพ์ทัน จะเอามาลงให้อ่านกันค่ะ)


ออฟไลน์ ï_Kiss_U♥

  • รักไม่ได้
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
จิ้มๆๆๆๆ อิอิ

ออฟไลน์ allegiant1994

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ยังไงก็ไม่ชอบดาราค่ะ อย่างน้อยจันทร์ยังไม่ดื้อเท่านาง
ขอให้นางได้คนรักที่ยากลำบากมากกว่าจันทร์กับนภาด้วยเหอะ คงได้รู้ความรู้สึกคนอื่นบ้าง

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เมอรีคริสมาส แอนด์ แฮปปี้นิวเยียรค่าาา
รอดูต่อไป เกลียดดาราไหม เราหมั่นไส้นางมากกว่า
หาคู่ให้นาง นางจะได้เลิกฟุ้งซ่านดีไหม ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
รอตอนพิเศษยาวๆจ้า เบื่อดารานะผ่อนบางก็ได้

ออฟไลน์ praewp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
หมอน่ารักมากคือมาแนวอบอุ่นใจดีสปอร์ตพระนครสุดๆ โหแล้วอย่างงี้จันทร์ไม่รักได้ไง
ขอให้คุณบัวหายป่วยไวๆนะคะ
เมอร์รี่คริสต์มาสค่ะ

ออฟไลน์ veeveevivien

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
 :katai1: :katai1: :katai1:

โอ๊ยเครียดดดด ดารา นางจะทำอะไรเนี้ยะะะ

ไม่อยากให้มีมาม่าชามโตเลย เราไม่ชอบกินมาม่าาาาา

 :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
ดาราจะจับคู่อะไรให้จันทร์เนี่ยย

หวานกันจริงหมอภวัตกับจันทร์ ส่วนคุณพงศ์ก็เป็นตัวกลางดีเยี่ยมมม o13

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณค่ะ 

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
รอติดตามดูว่าจันทร์จ้าวของเราจะทำยังไงต่อไป อิอิ

ขอบคุณพี่บัวมากนะคะ
รักษาสุขภาพด้วยค่ะ

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
เราคิดว่าความคิดแบบดาราและจันทร์เรื่องการคบคนในสมัยนั้นไม่แปลกนะ

แต่น่าหมั่นไส้ค่ะ 555555

ขอบคุณที่มาต่อค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ qilarsy39

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
จันทร์จะทำอะไรหนอออ
อยากให่ถึงพฤหัสหน้าแล้ววว


#ทีมรอการคืนกำไรสู่คุณหมอ  :hao7:

ออฟไลน์ naamsomm

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
โอ๊ยยยยย
พี่จันทร์ที่ไม่ยอมก็เพราะรักและห่วงน้องมากๆๆๆ
กลัวน้องจะเสียใจ
เหตุผลพอยอมได้ที่เธอเหวี่ยงนะ
ดีที่คุณหมอมาข่วยห้ามนะ
พอจะเหวี่ยงอะไร ก็นึกได้ว่าเรื่องของตัวเองไม่ต่างกัน

คุณหมอผู้ชายที่เฉยๆ  นิ่งๆ คนนั้นหายไปไหนคะ
เวลาจะหวานใส่กัน
ทำเอาจันทร์เจ้าปู้มากประสบการณ์เขิลม้วนไปเลย
ขอแบบนี้บ่อยๆนะคะ  ชอบๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด