ตอนที่ 02ว่านหวานหวาน @Wannwannwannn เมื่อสักครู่
ไปน่ารักไกล ๆ หน่อย
ผมแม่ง....ไม่รู้เพี้ยนอะไรว่ะ ตั้งแต่กลับมายังเพ้อไม่เลิก ไอ้พี่แคนแม่งเป็นคนดีอะ ดีมาก ๆ เลย ขนาดผมไม่เคยไปรู้จักมักจี่มันมาก่อนนะ ยังให้เงินติดกระเป๋าไว้ตั้งหนึ่งร้อย คนแบบนี้ควรคบไว้ครับ เวลาตกทุกข์ได้ยากจะได้พึ่งพาได้ แต่เงินนั่น ผมไม่เอาหรอก เดี๋ยวจะคืนมัน แม่เพิ่งโอนเงินค่าขนมของเดือนนี้มาให้ ไม่ได้ลำบากอะไร ไว้ตอนไม่มีจริง ๆ ค่อยไปขอยืมใหม่
นอนคิดไป ไล่อ่านทวิตเตอร์ไป วันนี้มีดราม่าคอนเสิร์ตเกาหลีเต็มไทม์ไลน์เลย มีเรื่องอะไรกันวะ กำลังจะไล่อ่านย้อนหลัง แต่หน้าจอเด้งชื่อของใครบางคนโพสข้อความใหม่ขึ้นมาก่อน
กวินทร์ @c8o9yl เมื่อสักครู่
แมท 2 https://youutu.be/x2AOjb9SDX2 ข้อมูลจาก @YouuTube
เฮ้ย เรียนตัวเดียวกันด้วยว่ะ วีดีโอที่อาจารย์สมเกียรติสอนวันนี้หรือเปล่าวะ บางทีอาจจะเรียนเซคเดียวกันก็ได้ ผมกดเข้าไปดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นส่วนตัว(เสือก)ล้วน ๆ สิ่งที่ปรากฏขึ้นเป็นภาพเคลื่อนไหวจากมุมบน เห็นเพียงกระดาษเอสี่สีขาวสะอาด ก่อนข้อมือใหญ่จะจับปากกาเมจิกมาเขียนสูตร กับวิธีทำโจทย์ช้า ๆ เรื่องที่ผมกำลังเรียนอยู่ตอนนี้พอดีครับ เป็นการสอนโดยไม่ใช้คำพูด แต่ตัดเลขให้ดูทีละขั้น ใช้วาดลูกศรว่าอันไหนมาจากอะไร เข้าใจง่ายกว่าไอ้โต๋ติวตั้งเยอะ
ว่านหวานหวาน @Wannwannwannn เมื่อสักครู่
@c8o9yl เฮ้ย คุณแมวดำ เอามาจากไหนอะ เจ๋งว่ะ
กวินท์ @c8o9yl เมื่อสักครู่
@Wannwannwannn รุ่นพี่
ว่านหวานหวาน @Wannwannwannn เมื่อสักครู่
@c8o9yl ขอFav.นะ ไว้ใกล้สอบจะดูอีกที
กวินท์ @c8o9yl เมื่อสักครู่
@Wannwannwannn ดูบ่อย ๆ ก็ได้ จะได้ฉลาด
ไอ้เจ้าของดิสเพลย์รูปแมวดำนี่มันด่ากูหรือเปล่าวะ ช่างแม่ง ผมรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่ามันเป็นคนประหลาด เลยไม่อยากใส่ใจ สักพักก็เห็นมันทวิตแชร์รูปจากไอจีมาครับ เข้าไปส่องเป็นรูปกระเป๋าสตางค์หลุยวิกตองค์แบบยาว ๆ ใส่เงินได้แบบไม่ต้องพับแบงค์ ของแท้ของปลอมไม่รู้ สมัยนี้ทำออกมาเหมือนกันเกินจนผมไม่กล้าซื้อของก็อปเลย เดี๋ยวโจรแม่งเข้าใจว่าใช้ของแท้มาปล้นตังค์กูไป ซวยอีก ยิ่งไม่ค่อยมีกินอยู่
กวินท์ @c8o9yl Is following you
สัญญาณเตือนใหม่จากข้อความทวิตเตอร์ดังขึ้น เจ้าของรูปแมวดำนั่นไม่ได้ฟอลผมไว้ก่อนหน้านี้เรอะ เคยเห็นมากด Favorite เพลงที่ลงใหม่ ๆ สองสามครั้งนึกว่าติดตามกันอยู่แล้วเสียอีก พอกดเข้าไปส่องหน้าฟีด(feed) มันใหม่ถึงได้รู้ว่าคนติดตามมันเยอะพอสมควรเลย ทั้ง ๆ ที่ดูเหมือนไม่ค่อยได้เล่นแท้ ๆ
ผมไล่อ่านทวิตอันเก่า ๆ มีแต่เพลง เพลง แล้วก็เพลง เป็นเพลงฟังค่อนข้างยาก ไม่ใช่เพลงตลาดทั่วไป มีทั้งเพลงไทยเพลงฝรั่ง ฟังไปฟังมาก็เพราะดีเหมือนกัน
ว่านหวานหวาน @Wannwannwannn เมื่อสักครู่
@c8o9yl คุณแมวดำ อยู่ชมรมอคูสติกหรือเปล่า เห็นชอบฟังเพลง
กวินท์ @c8o9yl เมื่อสักครู่
@Wannwannwannn เปล่า
แม่งถามคำตอบคำแบบนี้ใครจะไปชวนคุยต่อไหว ยอมใจเลย ว่าแต่รูปแมวนี่แม่งคล้าย ๆ กับใครวะ ต้องเป็นแมวเซเลปแน่ ๆ ไม่งั้นไม่คุ้นขนาดนี้หรอก
นอนกลิ้งไปกลิ้งมาสักพัก ไอ้โต๋ก็ทักมา ถามว่าได้กระเป๋าสตางค์คืนหรือยัง ผมตอบมันไปแล้วก็กดเลื่อนลงมาเรื่อย ๆ รู้แล้วว่าแมวดำนั่นเห็นที่ไหน ไอ้พี่แคนก็ใช้ตัวเดียวกันอยู่นี่หว่า
Wann: *ส่งสติ๊กเกอร์*
Cantus: ?
Wann: พรุ่งนี้เที่ยงว่างไหมพี่
Cantus: ไม่ว่าง
Cantus: มีไร
Wann: จะเอาเงินไปคืน
Wann: ตอนนี้ผมไม่ร้อนเงิน แม่โอนมาให้แล้ว
Wann: ผมเกรงใจ ไว้ถ้าไม่มีเดี๋ยวไปยืมใหม่
Cantus: ถ้าจะยืมกูอีกก็เก็บคำว่าเกรงใจของมึงไปเถอะ
Wann: เฮ้ย ผมเกรงใจจริง ๆ นะ
Cantus: เงินแค่นั้น
Wann: งั้นเอางี้ ผมเลี้ยงข้าวเที่ยงพี่ โอเคไหม
Cantus: วุ่นวาย
Cantus: มึงเลิกเรียนกี่โมง
Wann: เที่ยงครับ บ่ายไม่มีเรียน
Cantus: ที่?
Wann: ภาค
Cantus: เดี๋ยวกูไปรอใต้ตึกโยธา
Wann: ครับผม
Wann: อย่ากินของแพงนะพี่ ผมไม่มีเงิน
Cantus: นสน
นสน.อะไรวะ ไม่เข้าใจ ผมส่งสติ๊กเกอร์หมีงงกลับไป แป๊บเดียวมันก็ส่งกลับมาอีกครั้ง
Cantus: เปลี่ยนฟอนต์เป็นภาษาอังกฤษบนแป้นพิมพ์ดู
โอ้โฮ ชัด โอโล่(olo)มาเต็ม วันนี้ได้อวัยวะพี่แกมาสองรอบเลยครับ แหม พ่อแม่ให้ติดตัวมาคนละอัน ไม่ต้องแจกบ่อย ๆ ก็ได้พี่ หรือมีหลายอันผมจะพาไปออกงานวัด ได้แต่คิดครับ ไม่กล้าพูด วันนี้โดนมันทำหน้าดุใส่ก็หงอแล้ว จริงจังแค่ไหน แค่ไหนเรียกจริงจัง ทำหน้านิ่งหนึ่งครั้งผมนี่เยี่ยวแทบไหล ผมว่าที่มันไม่มีเอฟซีเพราะพี่โหดแบบนี้แหละ อย่าว่าไปนะครับ ที่จริงแล้วผมก็มีแฟนคลับกลุ่มเล็ก ๆ อยู่เหมือนกัน ก็ไม่เล็กเท่าไร เอาเป็นว่าไม่มีเพจเป็นของตัวเอง แต่พี่ ๆ cute boy ของมหาวิทยาลัยก็เอาผมไปลงบ่อย ๆ พูดแล้วจะหาว่าโม้ รูปผมลงแต่ละครั้งไลค์เป็นพันเชียวนะ ที่ไอ้โต๋ว่าผมหน่อมแน้มน่ะใช่ที่ไหน น่ารักก็บอกว่าน่ารัก ไม่เอาดิ ไม่ซึน
ผมนอนกลิ้งไปกลิ้งมาสักพักก็ลงไปร้านการ์ตูนใต้หอ โคตรว่างเลยครับ เพื่อนก็ติดเกม แฟนก็ไม่มี ใครมาเป็นผมแล้วจะรู้ว่าความเหงาเป็นยังไง
“อ้าว เจ้าประจำ”
พี่กรีน เจ้าของร้านการ์ตูนใต้หอทัก กำลังแสกนบาร์โค้ดคิดเงินเช่าหนังสือให้ลูกค้า ผมไปยืนเคาะนิ้วรอหน้าเคาน์เตอร์ว่างสักพัก ยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยขอยืมหนังสือฟรีเหมือนเคย นาน ๆ ทีพี่แกจะแถมมาสักเล่ม อดคิดไม่ได้ว่าเป็นเจ้าของร้านนี่ดีจังเลยน้า อ่านการ์ตูนได้มากเท่าที่ใจอยากเลย
“มายิ้มหลอกล่อเจ้อีกแล้ว จะเอาอะไรจ๊ะงานนี้”
“อยากอ่านวันพีช” ฉีกยิ้มลากช.ช้างยาว ๆ ให้อีกที พี่กรีนเอื้อมมือมาหยิกจมูกแล้วบอกให้พนักงานในร้านไปหยิบเล่มล่าสุดมาให้
“เล่มเดียวพี่ไม่แถมนะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเกรงใจ”
“ไอ้เด็กคนนี้มันน่ารักจริง” ใช่ม้า ใคร ๆ ก็คิดแบบนั้นแหละ รอไม่นานหนังสือใหม่ห่อปกใสกิ๊งก็มาถึงมือ พี่กรีนแสกนบาร์โค้ดเหมือนเดิม ชวนคุยไปด้วย
“วิศวะเขาว่ากินเหล้าเก่งจริงหรือเปล่า”
“ก็ไม่นะพี่” ผมแย้ง “แต่ส่วนใหญ่ก็พอกินได้”
“แล้วว่านล่ะ”
“คอแข็งเลยครับ แต่ไม่ค่อยกินหรอก ว่านชอบดื่มนมมากกว่า”
ฉีกยิ้มให้อีกที บางครั้งผมก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนพระเอกลิเกเลยว่ะ อ้อนแม่ยกเอา ๆ แต่ทำตัวน่าเอ็นดูดีที่สุดครับ เชื่อผม วันไหนลืมเอาหนังสือมาคืนจะได้ไม่โดนค่าปรับอาน
“เหรอ แล้วช่วงนี้น้องว่านเรียนหนักหรือเปล่า”
“ก็ปกติครับ หนักตั้งแต่ปีหนึ่ง ไม่รู้ผมหนักคนเดียวหรือเปล่า ไอ้โต๋ก็ยังชิว ๆ ติดเกมไม่เลิก”
“ก็เราติดการ์ตูน”
“ถ้ามีแฟนจะติดแฟนให้ดูอยู่หรอก พี่กรีนแนะนำให้ผมสักคนสิ ขออึ๋ม ๆ ผมชอบกินนม”
“ไอ้เด็กทะเล้น” โดนสันหนังสือเคาะหน้าผากอีกทีด้วยความรักล้วน ๆ “พี่มีเรื่องอยากให้ช่วยหน่อย แค่ชั่วคราวเท่านั้นแหละ”
“ว่ามาเลยครับพี่ พี่กรีนใจดีแบบนี้ผมเต็มที่อยู่แล้ว”
“ร้านแฟนพี่น่ะ เดือนที่แล้วลูกน้องลาออกไปสองคน ถ้าว่านไม่ติดอะไรพี่จะวานไปช่วยหน่อยได้ไหม แค่คืนวันศุกร์ เสาร์ ลูกค้าเยอะจริง ๆ หาคนมาทำไม่ทันด้วย ไม่เกินสองเดือนหรอก นี่ก็กำลังรับสมัครพนักงานใหม่อยู่”
แฟนพี่กรีนเปิดร้านเหล้าหน้ามหาวิทยาลัย ไม่ถึงกับเป็นผับ แต่ดึก ๆ คืนไหนคึกกันหน่อยก็มีลุกเต้นในร้านเหมือนกัน ผมเคยไปสอง-สามครั้งช่วงเลี้ยงน้อง เป็นร้านที่วิวดีมากครับ นักศึกษาสาว ๆ ก็ไปกันเยอะ
“แต่ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะ มีค่าขนมด้วย เลยลองมาถามดู”
“ไม่มีปัญหา” ผมฉีกยิ้มกว้าง “ต้องทำอะไรบ้างครับ”
“หลัก ๆ ก็เสิร์ฟเหล้านั่นแหละ พนักงานน้อย ลูกค้าเยอะ เดี๋ยวเมา ๆ แล้วจะพากันหงุดหงิด” ผมพยักหน้ารับคำ “ศุกร์นี้จะเร็วไปหรือเปล่าถ้าพี่อยากให้เข้าไปเลย”
“ไม่มีปัญหาเลยพี่” ผมว่า ได้ค่าขนมด้วย สบ๊าย “งั้นเดี๋ยววันศุกร์ผมเลิกเรียนสี่โมงจะมาหาพี่กรีนที่ร้านนะ”
“ไม่ต้อง ๆ ไปหาแฟนพี่เลย” มือขาวจดเบอร์โทรใส่กระดาษแล้วยื่นมาให้ “ชื่อพี่สิทธิ์ บอกว่าว่านเป็นคนที่พี่แนะนำไป ขอบใจมากนะว่าน”
“โธ่ พี่กรีนก็เหมือนพี่สาวผม”
เอาไปเลยคะแนนความประจบประแจงเต็มสิบ ถูกขยี้หัวมาหนึ่งครั้งแล้วได้ฝรั่งมากินหนึ่งถุง ค่ายืมเจ็ดบาท ของแถมสิบห้า คุ้มเสียยิ่งกว่าอะไร เดินกลับขึ้นหอพักมาเจอไอ้ปาล์ม เดือนมหาวิทยาลัยรอลิฟต์อยู่ มันอยู่หอเดียวกับผม แต่คนละชั้น โบกมือทักทายหล่อ ๆ สไตล์ของมันนั่นแหละ
“ไปไหนมาว่าน”
“ยืมการ์ตูน” ผมตอบ วันนี้ไอ้ปาล์มสวมเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น รองเท้ากีฬา “ไปฟิตเนสมาเหรอ”
“อืม ว่าง ๆ ไปด้วยกันสิ”
“ม่าย” ผมส่ายหน้าหวือ “ขี้เกียจ”
“ถึงได้ผอมกะหร่องแบบนี้ไง” คนตัวโตยิ้มให้หน้าระรื่น ลิฟต์มาพอดี ผมเลยขึ้นไปพร้อมมัน “ว่านอยู่ห้องไหนอะ”
“ทำไม”
“เผื่อเบื่อ ๆ จะไปนั่งเล่นด้วย”
“เล่นห้องกูน่ะนะ ไม่มีอะไรให้มึงเล่นหรอก”
“ไปคุยเล่นไง” ปาล์มว่า ทำตาวิบวับ “หรืออยู่กับแฟน?”
“แฟนอะไร หาไม่ได้เลยเนี่ย มีสาว ๆ บริหารแนะนำไหมล่ะ”
“มีแต่หนุ่ม ๆ สนใจหรือเปล่า”
ผมทำหน้าเหม็นเขียว พูดอย่างเดียวไม่เข้ามาใกล้ก็จะขำด้วยหรอก “ว่านไม่ชอบผู้ชายเหรอ”
“เปล่า” ถามอะไรของมันวะ “ทำไมต้องไม่ชอบวะ กูก็เป็นผู้ชาย พ่อกูก็ผู้ชาย”
“ไม่ได้หมายความแบบนั้นสิ” ไอ้ปาล์มพูดไปหัวเราะไป ไม่รู้มีอะไรขำ ผมจิ้มฝรั่งเข้าปาก มองตัวเลขลิฟต์ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ แล้วเหลือบมองตัวเลขที่กดชั้นไว้
“มึงไม่กดชั้นมึงอะปาล์ม”
“เดี๋ยวไปส่ง อุตส่าห์บังเอิญเจอ ตั้งแต่ประกวดดาวตอนนั้นก็ไม่ได้คุยเลย ว่านยังเหมือนตอนปี 1 เลยนะ คนอื่นเขาเปลี่ยนไปไหนต่อไหนแล้ว”
“เปลี่ยนนะ เขายาวขึ้น มึงรู้ปะ เกรดเทอมที่แล้วกูโคตรเหี้ยเลย ติดโปรด้วย”
“ให้เราติวให้ไหม”
“ติวอะไรวะ”
“ภาษาอังกฤษ อะไรแบบนี้” มันว่า ลิฟต์มาถึงพอดี ผมเดินนำมันมาที่หน้าประตูห้อง “เลขเดียวกันเลย แต่คนละชั้น อยากให้เราติวก็ลงไปหาได้นะ อยู่ชั้นหก”
“อือ ขอบใจมาก ถ้าไม่ไหวจริง ๆ จะขอความช่วยเหลือ มึงกลับไปได้แล้ว”
“โห ไม่ชวนเข้าไปกินน้ำกินท่าหน่อยเหรอ เพิ่งกลับจากฟิตเนสมาเหนื่อยมากเลย”
“เดินลงบันไดไปสองชั้นก็ถึงห้องมึงแล้วปะ” ผมว่า อย่ากวนกู กูจะอ่านการ์ตูน
ไอ้ปาล์มหัวเราะอีกที มันหน้าตาดีจริง แต่ถ้าเทียบกับพี่แคนแล้วคนละเรื่อง คนนั้นหล่อน่ามอง มีลักษณะเฉพาะ ไม่ได้หล่อการตลาดเหมือนไอ้ปาล์ม อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมปลื้มพี่แคนนักหนา มันเป็นแรร์ครับ เป็นแรร์(rare)
“งั้นเราไปนะ ไว้คุยกัน”
ผมพยักหน้าให้ แล้วปิดประตูลง ถลาตัวลงเตียงนอนหนานุ่มพร้อมหนังสือการ์ตูนเล่มใหม่ วันพีชชช พี่มาแล้วววว
“มึงจะไปทำงานร้านปลิ้นจริงเหรอวะ”
ท้ายคาบเรียน ผมกำลังเก็บหนังสือลงกระเป๋าเป้สะพายข้าง ไอ้โต๋ก็เหมือนกันอาจารย์เพิ่งเลิกสอน ผมเล่าเรื่องร้านเหล้าของแฟนพี่กรีนให้มันฟัง สองเดือนนี้น่าจะมีเงินใช้แบบราชาขึ้นมาหน่อย แต่ดูเพื่อนรักจะไม่ค่อยเห็นตรงกันเท่าไรนัก
“แทนที่จะอ่านหนังสือ”
“กูอ่านหมดร้านแล้ว”
“นั่นมันการ์ตูน”
“เออ ใช่”
ไอ้โต๋ถอนหายใจ ผลักหัวผมไปด้วย “เทอมที่แล้วมึงก็โปรมารอบหนึ่งแล้ว ถ้าเทอมนี้ต่ำกว่า 1.75 โดนไทร์(Retire)นะเว้ยไอ้ว่าน”
“แค่อาทิตย์ละสองวันเอง” ผมเถียง “แล้วก็ไม่ถึงสองเดือนด้วย เดี๋ยวพี่สิทธ์แกหาคนใหม่มาได้กูก็ไม่ทำแล้ว”
“นี่มึงบอกแม่ยัง”
“ยัง แม่ไม่ให้ทำหรอก” ไม่ใช่ว่ากลัวลูกเหนื่อย แต่กลัวผมเรียนไม่รอดมากกว่า ตอนเข้ามหาวิทยาลัยมาก็สอบได้คะแนนอันดับหนึ่ง หมายถึงถ้านับจากล่างนะครับ พอเข้ามาเรียนจริง ๆ เลยเหนื่อยมากกว่าคนอื่น ที่บ้านก็เป็นกังวลกลัวผมเรียนไม่รอด นี่ว่านขาซุยนะครับ ทำไมไม่เชื่อใจกันบ้าง
“แต่เชื่อดิ กูรอด รอดปี 1 มาแล้ว จะมาตายอะไรตอนนี้วะ”
“มันตายได้ตลอดเวลาแหละโว้ยถ้ามึงขี้เกียจแบบนี้”
“พูดเหมือนมึงขยัน มึงมานั่งอ่านหนังสือกับกูไหมล่ะ จะไม่ไปทำงานพิเศษเลย”
ไอ้โต๋ทำหน้าลำบากใจ คราวนี้พูดไม่ออก ถ้าเทียบกันแล้วไอ้ไปทำงานพิเศษของผมกับเล่นเกมของมันนี่คนละเรื่อง ของผมมีสาระกว่าเห็น ๆ ได้เงินด้วยอีกต่างหาก
“เกรดกูกับมึงคนละเรื่องเลยนะ”
“มึงก็เกือบ ๆ สอง”
“ถ้ากูได้ 1.74 ปีหน้ากูก็ไม่ไทร์ แต่มึงน่ะ...”
“คิดมากน่า” ตบบ่ามันไปหนึ่งที สอบเข้ามาได้แล้วมันจะเรียนไม่รอดเลยเหรอวะ กูไม่ได้จับฉลากมหาวิทยาลัยใกล้บ้านสอบเข้ามานะโว้ย
“เออ ๆ ตามใจมึงแล้วกัน กูไปละ”
“อ้าว ไปไหน”
“เล่นเกม” เพื่อนสนิทว่า มันโบกมือลาหย็อย ๆ แล้วเดินออกไปรอรถรางออกนอกมหาวิทยาลัย ผมพยักหน้าให้มันแล้วเดินมาโต๊ะไม้ใต้ตึกคณะ ไอดอลของผมนั่งกดมือถือเล่นอยู่ วันนี้สวมชุดนักศึกษา เสื้อสีขาววิงค์แขนยาว ปลดกระดุมเม็ดบน ชายเสื้อลุ่ยออกมานอกกางเกงเล็กน้อย น่าจะเข้าเรียนวิชาของมหาวิทยาลัยมา
“พี่แคน หวัดดี”
เขาพยักหน้า แต่ยังเล่นมือถืออยู่เหมือนเดิม “เดี๋ยวรอสักพัก เพิ่งเลิกเรียนโรงอาหารเต็ม”
“วันนี้มีเรียนวิชารวมเหรอพี่”
“อืม” ตอบสั้น ๆ ตามสไตล์คนหล่อ พูดน้อย ๆ เข้าไว กลัวตีนกาขึ้นรอบปาก “อิงค์”
“โห ผมนึกว่าพี่เก็บหมดแล้ว”
“ดองไว้ตั้งแต่ปี 1 ลงไม่ทันสักที ปีนี้เพิ่งขอแอดฯ ได้” ผมพยักหน้าหงึกหงัก ภาษาอังกฤษมหา’ลัยผมเป็นอะไรที่ลงเรียนยากโคตร เรียนทั้งโลก เปิด 3 เซคฯ ผมก็พูดให้เวอร์ไปแบบนั้นแหละครับ แต่มันเป็นตัวบังคับของมหาวิทยาลัยที่ทุกคนต้องผ่าน เรียน ๆ ดรอป ๆ ภาษาอังกฤษกับเคมีน่ะเป็นตัวที่ทำให้เด็กวิดวะจบช้ามากที่สุดตามสถิติที่รุ่นพี่ผมว่ามาเลย ชะรอยแล้วผมก็คงจัดไปอยู่ในพวกจบช้าเพราะตัวพวกนี้แหละ
“ผมเกลี๊ยดเกลียด เทอมที่แล้วกว่าจะผ่านมาด้วยดีได้”
“ได้ดีก็ดีแล้วนี่”
“ดีด็อกน่ะสิพี่ เกือบเอฟอยู่รอมร่อ” ผมว่า เขาขมวดคิ้วหนา ๆ ของตัวเองเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมอง
“อิงค์ไหน”
“สอง”
“อิงค์สอง มึงได้ด็อก?”
“ครับ”
“คิดจะฉลาดสักวิชาบ้างไหม การบ้านแมทกระจอก ๆ ก็ลอก อิงค์ก็กาก”
“เฮ้ย ๆ ผมไม่กากขนาดนั้นนะ” ถ้ากากจริงกูเอฟไปแล้ว “อย่างชื่อพี่ผมก็แปลออก”
“ชื่อไหน แคนหงวยของมึงน่ะเหรอ”
“ไม่ใช่ดิ” ผมหัวเราะลงคอ ยังโกรธอยู่อีกเหรอวะ “แคนตัส”
“เกี่ยวกับภาษาอังกฤษตรงไหนวะ”
“อ้าว ก็แปลว่ากระบองเพชร” อย่าดูถูกกูครับ ไม่อยากจะอวดภูมิเลยพับผ่า แต่พูดจาแบบนี้ต้องโชว์ของดีหน่อย “บ้านพี่คงชอบปลูกกระบองเพชรมากเลยดิ ผมก็ชอบนะ ดอกมันสวย แต่ซื้อมาเลี้ยงทีไรตายทุกที”
“ทีหลังมึงเลี้ยงพลูด่างดีกว่า เลี้ยงกระบองเพชรยังตายน่ะ” เขาถอนหายใจ “แล้วชื่อกกระบองเพชรมันแคคตัส C-a-c-t-u-s โง่แล้วหัดอยู่เงียบ ๆ บ้าง ใครเขาจะได้ไม่รู้ว่ามึงโง่”
“เฮ้ย อย่ามาอำ”
“มึงเปิดดิกเดี๋ยวนี้ แล้วถ้าCactus แปลว่ากระบองเพชรมึงต้องพิมพ์คำนี้ส่งมาให้กูสิบคำ ทุกเช้าจนกว่ากูจะบอกให้เลิก”
“ถ้าพี่ผิดพี่เลี้ยงข้าวผมทุกเช้า โอเคไหมล่ะ”
พี่แคนกระตุกยิ้มมุมปาก ยื่นหน้ามาใกล้ ไอ้เหี้ย ใจผมสั่นฉิบหาย “กูจะเลี้ยงสเต๊กอย่างดีมึงนานพอเท่าที่มึงจะเบื่อเลย”
ท้างี้เปิดเลยครับ รออะไร แต่เดี๋ยว กูเกิลทรานสเลทผมเอ๋อหรือเปล่าวะ คำว่า Cantus ไม่มีคำแปลในโปรแกรมว่ะ แต่แค่นั้นยังไม่พอ พอค้นคำว่าแคคตัสตามที่พี่แคนสะกดให้ฟัง เสือกแปลว่ากระบองเพชรจริง ๆ ด้วย ผมเงยหน้าขึ้นมองมัน รอยยิ้มหยัน ๆ กวนประสาทผุดขึ้นเด่นชัด ก้มลงมองโปรแกรมแปลภาษาในมือถือกูอีกที เด่นมาก ชัดมาก หน้าแตกเพล้งเป็นผุยผง
“หึ...มึงไปเอาความมั่นใจมาจากไหนนักหนาวะ ซื้อต่อได้ไหม”
“โหยพี่...ก็มันคล้าย ๆ กัน”
“อย่าลืมส่งคำว่าแคคตัสมาให้กูทุกเช้า” พี่แคนยิ้ม ฟันขาวโผล่จากกลีบปากหยักได้รูปดูเจิดจ้า กล้ามเนื้อตาผมเหมือนตายด้าน มันกะพริบไม่ลง นิ่งแข็งมองภาพตรงหน้าแล้วจู่ ๆ ก็ร้อนขึ้นมาบนหู
“เป็นเหี้ยอะไร”
“อ่า...เอ้อ....แล้ว แล้ว...ชื่อพี่แปลว่าอะไรอะ”
“เดา”
“ถ้าเดาถูกผมได้อะไร”
“เงินที่กูให้ไปเมื่อวาน กับเย็นนี้กูพาไปเลี้ยงข้าวเซ็นทรัล”
เหยดดด ขยันท้าจังวุ้ย
“พี่ไปเอาความมั่นใจว่าผมจะเดาผิดมาจากไหน ซื้อได้ปะ”
เล่นมุกเดิมกลับไป แล้วยิ้มตาหยี พี่แคนยักคิ้วตอบ ยืดตัวนั่งกอดอกโชว์ไหล่กว้างที่เมื่อยืดสุดตัวแล้วกล้ามเนื้อตึงขึ้นมาในเสื้อเชิ้ตเรียบสีขาว ผมยกมือขึ้นเกาหูที่ยังร้อนอยู่เบา ๆ สติสิมึง สติ วริทธิ์
“ว่าไง”
“ก็....” ผมมองหน้ามัน แววตากวน ๆ กึ่งท้าทายจับจ้องมานิ่ง “รู้ละ”
เรื่องแบบนี้ไม่เกินความสามารถ ใช่ สามารถ “มาจากชื่อจริงไง”
“มึงรู้ชื่อจริงกู?”
“นายสามารถ!”
พี่แคนอึ้ง เบิกตากว้างมองผม ช็อกล่ะสิ ให้เวลาตั้งสติก่อนนับเงินในกระเป๋ามาเลี้ยงซิสเลอร์กูสามเดือน ผมกระตุกยิ้มมุมปาก เอาท่าให้เหมือนมันมากที่สุดก่อนคู่สนทนาจะระเบิดหัวเราะลั่นจนคนรอบตัวหันมามองเป็นตาเดียว
“อุ๊บ...ฮ่า ๆๆ แม่งจี้ว่ะ ไปเอามาจากไหน ไอ้เหี้ยว่าน”
“แคนแปลว่าสามารถไง ชื่อจริงชื่อสามารถ ชื่อเล่นชื่อแคน แต่มันไม่เก๋ พี่เลยเติมให้ตัวเอง ผมรู้นะ คิดว่าผมโง่ไปหมดทุกเรื่องเลยหรือไง”
“เออ เรื่องเอามาจากชื่อจริงอะไรนั่นมึงเก่ง แต่ที่เดาชื่อกูมันผิดทั้งคู่เลยไอ้เอ๋อ”
รอยยิ้มสวยประดับบนใบหน้าหล่อ ค้างไว้อย่างนั้นหลังจากหัวเราะจนน้ำตาเล็ด พี่แคนส่ายหน้าเอือมระอา “มึงรู้จักคำว่า Canto ไหม”
“เหมือนCottoปะ ผลิตภัณฑ์สุขภัณฑ์”
“ไอ้ว่าน”
“ครับ”
พี่แคนมองหน้าผมนิ่ง ถอนหายใจหนัก ๆ
“ที่โง่นี่มุกหรือเรื่องจริงวะ” ผมเลิกคิ้วขึ้น ไม่ทันตอบคำถามมันก็พูดต่อ “Cantus เป็นรากศัพท์ภาษาละตินของ Canto แปลว่าบทกวี”
“อ้อออ” ผมพยักหน้าหงึกหงักแล้วอธิบายส่วนของตัวเองบ้าง “ชื่อผมเป็นพืชชนิดหนึ่ง”
“กูรู้ ไม่ได้โง่”
“พี่ชอบด่าคนอื่นว่าโง่ ไม่ดีเลย” จริง ๆ นะ ผมไม่ชอบเลย แค่ไม่รู้ไม่ได้แปลว่าโง่นะเว้ย
“มันเป็นคำจำกัดความของมึง ไม่ได้ด่า”
“งั้นพี่ก็สอนผมสิ”
“ธุระอะไรของกู”
“ใจดำ” เบะปากนิด ๆ แล้วเท้าคาง มองออกไปที่โรงอาหาร คนล้นเลยว่ะ “ไปกินข้าวข้างนอกกันไหมพี่แคน คนเยอะอะ ผมหิวแล้วด้วย”
“วุ่นวายจริง ๆ มึง เอาเงินคืนกูมาก็ได้ ขี้เกียจรอแล้ว”
“กินข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อยเด้” อยากอยู่ด้วยนานกว่านี้นี่หว่า เอาจริง ๆ นะ ผมไม่ค่อยเห็นเขายิ้มเท่าไร แต่ตั้งแต่ผมมานั่งด้วยเห็นเขาหัวเราะจนเหงือกแห้งไปหลายรอบแล้ว น่ามองกว่านั่งเก๊กตั้งเยอะ “นะนะ เนี่ยผมแยกกับไอ้โต๋มาหาพี่แล้ว พี่จะทิ้งให้ผมกินข้าวคนเดียวเหรอ เดี๋ยวคนอื่นเข้าใจว่าผมไม่มีเพื่อนคบทำไง”
“แล้วถ้าคนอื่นเข้าใจว่ากูเป็นเพื่อนมึง กูไม่เสียหายกว่าเหรอ”
“เป็นเพื่อนเดือนคณะมีอะไรจะเสียวะ” ผมถาม พี่แคนทำหน้าเหม็นเขียวใส่ นี่เรื่องจริงนะโว้ย เป็นความภูมิใจระดับที่ได้รางวัลแล้วผมเกือบทำป้ายไวนิลติดตรงทางเข้าหมู่บ้านเลย ดีที่แม่ห้ามไว้ก่อน ไม่งั้นป่านนี้ป้ายนั่นอาจกลายเป็นป้ายบังแดดให้ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นแถวนั้นไปแล้ว
“ผมขอร้องเลยก็ได้”
“แล้วกูต้องสนใจคำขอร้องมึงหรือไง”
ทำไมใจดำแบบนี้ว้า ผมหมอบลง เอาคางเกยกับโต๊ะเศร้า ๆ คนฝั่งตรงข้ามก็ไม่มีท่าทีเป็นห่วงเลยว่าผมจะบอบช้ำทางความรู้สึกมากแค่ไหน มันยังนั่งอยู่ที่เดิม ยกโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นอีกต่างหาก ไอ้สังคมก้มหน้านี่แม่งแย่จริง ๆ ผมอยู่ตรงหน้ามันแท้ ๆ ยังไม่สนใจกันบ้างเลย
ว่านหวานหวาน @Wannwannwannn เมื่อสักครู่
โอมจงเงย
เฮ้ย ได้ผลว่ะ พี่แคนเงยหน้าขึ้นมองผมวูบหนึ่งแล้วก้มลงไปใหม่
ว่านหวานหวาน @Wannwannwannn เมื่อสักครู่
ผมแค่ชอบพี่เท่านั้นเอง
พอเงยหน้าขึ้นมา จู่ ๆ พี่แคนก็อมยิ้มครับ มันยิ้มกับมือถือ สงสัยคุยกับกิ๊กแหงเลย เออว่ะ ถึงมันจะใจร้ายกับผมแบบนี้แต่หน้าตา โปรไฟล์ระดับนั้นยังไงก็ต้องมีแฟนเป็นธรรมดา พี่แคนแม่ง เป็นแคนเทวดาจริง ๆ ถ้าผมอยู่กับเขามาก ๆ ใช้ชีวิตเลียนแบบบ้างจะได้เป็นเทพว่านกับเขาหรือเปล่าวะ
“พี่แคนนน”
คนเรามันต้องรู้จักพยายามสิวะ สู้สิ ไอ้ว่าน ถ้าอยากมีชีวิตเลิศหรูน่าภูมิใจมึงจะนอนง่อยมองพี่เขาตาละห้อยแบบนี้ไม่ได้
“อะไร” เจ้าของชื่อตอบสั้น ๆ เลิกคิ้วมามองผม
“ผมมีเรื่องอยากปรึกษา ได้โปรด ไปกินข้าวกับน้องว่านนะครับ”
“ขนลุกไอ้เหี้ย”
“ผมยอมเป็นเหี้ยก็ได้ แต่ผมกลุ๊มกลุ้ม นะพี่นะ คอขาดบาดตายเลย ถ้าพี่ไม่ไปกับผมวันนี้พี่อาจจะไม่เห็นผมอีกก็ได้”
“แล้วทำไมถึงคิดว่ากูอยากเห็นหน้ามึงนัก”
“พี่แคน ผมจริงจังนะเว้ย”
ลุกขึ้นมานั่งทำท่าขึงขังเลยครับ ความจริงไม่ได้กังวลเรื่องนี้เท่าไรหรอก แต่ถ้าจะอธิบายเหมือนกับแฟนคลับได้เจอดาราที่ชอบน่ะครับ ผมยอมทำทุกอย่างเลย แต่ถ้าผมคืนเงินพี่แคนไปก็จบง่ายอะดิ ทั้ง ๆ ที่ผมอยากจับเขาใส่กระพุ้งแก้มอมเอาไว้คนเดียวแท้ ๆ
พี่แคนไม่สามารถรับรู้ถึงความซีเรียสผ่านสายตาของผมได้ มันยังยักยิ้มอารมณ์ดี แต่ยอมเก็บมือถือลงกระเป๋า พอลุกขึ้นยืดตัวยืนเต็มความสูงแล้วผมก็กระโดดขึ้นยืนตามเลย มันเอากุญแจบีเอ็มขึ้นมาโยนเล่น
“จะไปเมเจอร์”
“ผมไปด้วย”
“มีเงินเลี้ยงของขึ้นห้างกู?”
“หน้าเมเจอร์มีบะหมี่หมูแดง โคตรอร่อย พี่ต้องลอง”
“ไม่มีตังค์ก็บอก ไอ้กุ๊ย”
“พี่แม่งหยาบคาย” ถึงเป็นเรื่องจริงก็ห้ามพูดแบบนั้นโว้ย “เดี๋ยวผมทำงานพิเศษก็มีเงินแล้วเถอะ เงินพี่ขอพ่อขอแม่มาใช้ก็อย่าทำเป็นอวดรวยหน่อยเลย”
“มึงรู้ได้ไงว่ากูขอพ่อแม่” พี่แคนเลิกคิ้ว อย่าบอกนะว่าขายอาหารเสริม อกฟูรูฟิตแน่นอน เห็นเด้งมาบ่อยมากหน้าฟีด ไม่อยากจะเชื่อว่าไอด้อลของผมก็เป็นหนึ่งในเฟรนไชส์ประเภทนั้น
“คิดอะไรเสร่อ ๆ อีกแล้วล่ะสิ หัวมึงนี่ไม่น่าไว้ใจจริง ๆ”
“อะไรของพี่ ตบหัวผมอีกแล้ว เจ็บนะโว้ย” ผมลูบท้ายทอยตัวเองต้อย ๆ พี่แคนชอบเล่นหัวคนอื่นแบบนี้โคตรแย่ ผมลูกมีแม่นะครับ เกิดฉี่รดที่นอนจะมาเปลี่ยนผ้าปูให้ผมหรือไง
“พูดมาก จะปรึกษาอะไรก็ตาม ๆ มา”
“เย้” ผมร้อง เร่งฝีเท้าจนเดินขนาบข้าง จากตรงนี้สายตาผมเสมอกับคางพี่แคนพอดิบพอดี มีเคราขึ้นหรอมแหรม โกนหนวดครั้งล่าสุดเห็นทีจะเมื่อหลายวันก่อน รอยยิ้มเล็ก ๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก เมื่อเขาชำเลืองสายตากลับมาผมก็หลบแทบไม่ทัน
ใจ...เต้นแรงชะมัดยาก
ผมเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นติ่งก็วันนี้แหละครับ
ผมนี่แหละ ติ่งพี่แคนตัวจริง
TBC
กลับมาแล้วค่ะ โปรฯวันพุธสีเขียวไม่ให้สัปดาห์แห่งการทำงาน(ของตัวเอง)เหี่ยวเฉาเกินไป จะพยายามอัพสัปดาห์ละครั้งนะคะ ช่วงนี้ิทำงานแล้ว ไม่ได้ตกงานเหมือนตอนที่เขียนโอบตะวัน ไม่มีเวลาเขียนเท่าที่ใจอยาก ขอบคุณมากสำหรับทุกคอมเมนต์และคนที่กดเข้ามาอ่าน เรื่องนี้แต่งเพื่อความบันเทิงล้วน ๆ สาระเดียวที่มีในเรื่องคือความสาระแนของนังว่าน
ใครเล่นทวิตเตอร์ มีข้อความอยากส่งต่อ รบกวน#candynovel ด้วยนะคะ จะตามไปแฟบ เอ๊ย เฟป ค่ะ
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า *กอดแรงหนึ่งที*
ปล. ความหมายของคำว่าแคนตัสค่ะ TvT
cantus (ˈkæntəs)
n, pl -tus
1. (Classical Music) a medieval form of church singing; chant
2. (Classical Music) Also called: canto the highest part in a piece of choral music
3. (Classical Music) (in 15th- or 16th-century music) a piece of choral music, usually secular, in polyphonic style
